one year o-n | เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย

Page 1

one year o-n

เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย [ It's not easy to be teenager ] เขียน : sorsala

{ September 2014 - August 2015 }


one year o-n

[ one year o-n ] คือ โปรเจกต์เล็กๆ ที่รวบรวมเนื้อหาแต่ละคอลัมน์ของนิตยสาร o-n ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาให้มาอยู่ ในที่แห่งเดียวกัน


เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย คือ คอลัมน์บทความที่เขียนถึงแรงผลักดันในการใช้ชีวิต อธิบายไม่ถูก แล้วจะรู้ว่า ท�ำไม "เป็นวัยรุ่น(จึงต้อง)ห้ามสบาย" กันนะ


สิ่งที่ไม่ควรลืม

ชีวติ คือการหาสมดุลระหว่ าง ‘สิ่งที่ชอบ’ กับ ‘สิ่งที่ต้องรั บผิดชอบ’ ผมได้ ยินค�ำนี ้มาเมื่อนานมา แล้ วและทุกครัง้ ที่ได้ อา่ นอีกครัง้ มันจริ งชะมัด ความสุข ความเศร้ า ความส�ำเร็ จ และความผิดหวังในชีวิตเรา มันเกิดจากการหาสมดุลของสองสิง่ นี ้ทัง้ นัน้ หากเราลองมองไปรอบๆ ตัวเราอาจแบ่งคนออกได้ เป็ นสามประเภทใหญ่ๆ ดังนี ้ (1) คนกลุม่ แรก ‘ผู้โชคดี’ เขาโชคดีที่เขาสามารถท�ำสิง่ ที่ชอบ และสิง่ ที่ต้องรับผิดชอบ ให้ เป็ นสิง่ เดียวกันได้ (2) คนกลุม่ ที่สอง ‘ผู้โชคร้ าย’ เขาใช้ เวลาส่วนใหญ่ไปกับสิง่ ที่ต้องรับผิดชอบจนหมด จนเหลือเวลาท�ำสิง่ ที่ชอบได้ น้อยเหลือเกิน หากโชคร้ ายสุดๆ ก็อาจจะไม่ได้ ท�ำสิง่ ที่ชอบเลย (3) คนกลุม่ ที่สาม ‘ผู้แสวงหาโชค’ คนกลุม่ นี ้ก�ำลังแสวงหาโชค บางคนแบ่งชีวิตออก เป็ นสองส่วน ใช้ เวลาท�ำสิง่ ที่ชอบเวลาหนึง่ และสิง่ ที่ต้องรับผิดชอบอีกเวลาหนึง่ ต้ องจัดสรรและ แบ่งเวลาให้ ดี บางคนกาลังมุง่ มัน่ ในการท�ำ ‘สิ่งที่ต้องรับผิดชอบ’ ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมแบ่ง


เวลามาเสาะแสวงหา ‘สิง่ ที่ชอบ’ ไปกับการทากิจกรรมใหม่ๆ ต่างๆ แน่นอน วันนี ้เราอาจไม่ได้ เป็ น ‘ผู้โชคดี’ กันทุกคนครับ เพราะมีหลากหลายปั จจัยและ ข้ อจ�ำกัดที่ต้องค�ำนึงถึงมากมาย บางคนต้ องดูแลคนในครอบครัว บางคนก็มีรายจ่ายมากมายที่ ต้ องรับผิดชอบ บางคนก็ตดิ อยูก่ บั ค่านิยมที่ปิดกันไม่ ้ ให้ เขาเหล่านันเปลี ้ ่ยนแปลง

ไม่มีอะไรผิดและถูกทังนั ้ น้

แต่ผมอยากถามทุกคนอีกครัง้ เราคือ ‘ผู้โชคร้ าย’ จริ งๆ หรอครับ? สิง่ เหล่านันคื ้ อ ‘ข้ อ จ�ำกัด’ หรื อ ‘ข้ ออ้ าง’ ผมว่าทุกคนคงรู้ดีและมีเราเท่านันที ้ ่ตอบได้ ดีที่สดุ เราอาจมีหน้ าที่ มีภาระ มีความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน กลุม่ คนที่หนึง่ อาจโชคดีที่เขาสามารถใช้ ชีวติ ท�ำสิง่ ที่ชอบและสิง่ ที่รับผิดชอบให้ เป็ นสิง่ เดียวกันได้ แล้ ว แต่หากวันนี ้เราเป็ นกลุม่ คนที่สอง หรื อกลุม่ คนที่สาม ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่สาย ไป ขอเพียงอย่างเดียวว่า หากเรายังไม่ลืม ‘ความฝั น’ หากเรายังไม่ลืมที่จะท�ำใน ‘สิง่ ที่เรารัก’ ไม่ ลืม ‘สิง่ ที่เราชอบ’ ผมเชื่อเหลือเกินว่าสักวันเราจะต้ องเป็ น ‘ผู้โชคดี’ ได้ แน่ๆ มีพี่คนหนึง่ บอกผมไว้ วา ่ “วันที่สาคัญที่สดุ ในชีวิตของเรามีอยู่ 2 วัน คือ วันที่เราเกิดมา (When we born) และ วันที่เรารู้วา่ เราเกิดมาท�ำไม (Why we born)” ทุกคนได้ ผา่ นวันสาคัญวันแรกมาแล้ วแน่นอน แต่หลายคนอาจจะยังเดินทางไม่ถงึ วัน ที่สอง สิง่ สาคัญไม่ใช่วา่ เราเดินทางถึงวันที่สองเร็วหรื อช้ า แต่มนั สาคัญที่วา่ เรายังคงเดินอยูแ่ ละ เรายังไม่ลืมมัน

ผมขอให้ เราไม่ ลืมมัน และนี่แหละครั บคือ ‘สิงทีเ่ ราไม่ ควรลืม’ ในชีวติ นี้

ที่มา : O-N issue 01 | เราไม่ ใช่คนกู้ โลก


พรีเซนต์ | ชีวิต

วันก่อนเป็ นวันเลี ้ยงรวมรุ่นของเพือ่ นทีม่ หาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบมีหลายคนทีเดียว ครับที่ผมไม่ได้ เจอหน้ าเจอตากันเลย การไม่เจอกันนานๆ นี ้เองท�ำให้ เห็นการพัฒนาของเพื่อนได้ ชัดเจนมากๆ มีหลายคนเลยที่เปลี่ยนไปจนผมจ�ำแทบไม่ได้ บางคนเติบโตเป็ นเจ้ าของธุรกิจใหญ่ ส่วนอีกหลายต่อหลายคนก็ก�ำลังค้ นหาตัวเองอยู่ผา่ นการท�ำงานประจ�ำงานแล้ วงานเล่า หรื อ ผ่านการเรี ยนต่อปริ ญญาโทในสาขาหรื อแขนงที่สนใจ การค้ นหาตัวเองนี ้เองท�ำให้ ผมนึกย้ อนไปถึงเรื่องหนึง่ ทีพ่ งึ่ ได้ เรียนจากทีท่ ำ� งาน ทีบ่ ริษทั ผมเปิ ดคอร์ สหนึง่ สอนเรื่ อง How to make an effective presentation คอร์ สนี ้นอกจากจะสอน tactic ต่างๆ ให้ เราได้ น�ำไปปรับใช้ ในการท�ำ presentation ให้ ดีขึ ้นแล้ ว ยังเปลี่ยนความคิดผม เรื่ องหนึง่ ไปโดยสิ ้นเชิง เค้ าสอนผมโดยยกตัวอย่างการท�ำ presentation ของ director ที่เก่งที่สดุ ให้ ฟังแบบนี ้ครับ หากเค้ าใช้ เวลาในการท�ำ presentation ทังหมด ้ 10 ชัว่ โมง director คนนี ้จะ ใช้ เวลาทังหมด ้ 8 ชัว่ โมงในคิดและเตรี ยมข้ อมูล ส่วนที่เหลืออีก 2 ชัว่ โมงคือการท�ำ presentation


จริ ง ฟั งแล้ วผมอดน�ำมาเทียบกับสิง่ ที่ตวั เองท�ำปกติไม่ได้ เพราะสิง่ แรกในการท�ำ presentation ของผมโดยปกตินนคื ั ้ อ การเปิ ด powerpoint และลุยสร้ าง slide เลยทุกครัง้ ... ชีวิตเราก็คล้ ายกันครับ หากเราเปรี ยบเทียบชีวิตของคนที่ประสบความส�ำเร็ จหลายๆ คนกับการท�ำ presentation ข้ างต้ นนี ้ เราจะเห็นได้ ชดั ครับว่า เค้ าใช้ เวลาส่วนใหญ่ไปกับการ ค้ นหาตัวเองทังสิ ้ ้น บางคนเจอเร็วก็อาจประสบความส�ำเร็จได้ เร็ว แต่บางคนเจอช้ าก็ประสบความ ส�ำเร็ จช้ า ผมขออนุญาตยกตัวอย่างของผู้ที่ใช้ เวลาค้ นหาตัวเองมากๆ ก่อนจะดังเปรี ย้ งปร้ างพลุ แตกในท้ ายที่สดุ (1) ร้ านอาหารฟาสฟู้ดชื่อดัง ‘แมคโดนัล’ ที่มีหลายสาขามากมายทัว่ โลก Ray Kroc ผู้ก่อตังแมคโดนั ้ ลเองนันเริ ้ ่ มสร้ างธุรกิจแมคโดนัลในวัยเกือบๆ 52 ปี !! (2) J.K. Rolling นัก เขียนนิยายชื่อดังก้ องโลก เขียนหนังสือเล่มแล้ ว เล่มเล่า ลองผิดลองถูก และพึง่ จะมาส�ำเร็ จใน วัย 31 ปี (3) Mary Kay ผู้ก่อตังแบรนด์ ้ cosmetic ที่ขายดิบขายดีในต่างประเทศก็สร้ างธุรกิจนี ้ ตอนอายุ 45 ปี ตลอดชีวิตพวกเค้ าเหล่านี ้เค้ าใช้ เวลาในการค้ นหาตัวเอง ลองผิดลองถูก ท�ำงาน ในบริษทั แล้ วบริษทั เล่า จนวันหนึง่ ทีส่ งิ่ ทีเ่ ค้ าท�ำเริ่มผลิดอกออกผลและดังเปรีย้ งปร้ างในท้ ายทีส่ ดุ จริงอยูท่ ี่ความรวดเร็วในความส�ำเร็จนันเป็ ้ นสิง่ หนึง่ ที่เราอยากได้ แต่อย่าน�ำมันมาเป็ น ปั จจัยหลักจนท�ำให้ เราขาดความสุขในการใช้ ชวี ติ เลยครับ ผมอยากให้ พวกเราทุกคนใช้ เวลาใส่ใจ กับการค้ นหาตัวเอง มากกว่าการมุ่งหน้ าวิ่งเพื่อค้ นหาความส�ำเร็ จ มีหลายคนที่ประสบความ ส�ำเร็ จเร็ วในชีวิต แต่เค้ าเหล่านันกลั ้ บไม่มีความสุขในบันปลายชี ้ วิต หลายคนสุขภาพไม่ดีตงแต่ ั้ หนุม่ ๆ หลายคนก็มีปัญหาครอบครัว และปั ญหาต่างๆ รุมเร้ า ผมเชื่อเสมอว่า ‘ความส�ำเร็ จ’ ที่แท้ จริ งนันไม่ ้ ได้ วดั กันที่ ‘ความรวดเร็ว’ แต่วดั กันที่ ‘ความสุข’ ที่เรารักที่จะท�ำมันจนวันสุดท้ ายของ ชีวิตต่างหาก เห็นดังนันแล้ ้ วใช่มยครั ั ้ บ ในวันนี ้ที่เรายังเป็ นวัยรุ่น ผมเชื่อเหลือเกินว่าเรายังมีเวลาอีก มากโขเลยที่จะได้ ลองผิดลองถูก ขอเพียงแต่เราไม่ขี ้เกียจที่จะตื่นขึ ้นมาลุยกับวันใหม่ในวันพรุ่ง นี ้อีกครัง้ ผมขอเป็ นก�ำลังใจให้เพือ่ นๆ ทุกคน อย่าหยุดค้นหาตัวเอง ค้นหามันให้เจอ และอย่า ลืมออกมาเล่ าเรื่ องราวของคุณ ออกมาเขียน presentation ของคุณ ให้ โลกใบนี้ได้ อ่าน กันนะครั บ ผมคนหนึ่งทีร่ ออ่ านเรื่ องราวของคุณอยู่

ที่มา : O-N issue 02 | ส�ำรวจความคิดผ่านการเดินทาง


เพราะเป็นความเหนื่อยที่ 'ใช้พลัง' และ 'สร้างพลัง' ไปพร้อมๆ กัน

ช่วงนี ้เป็ นช่วงที่ผมวุน่ วายมากที่สดุ ช่วงหนึง่ เลยก็วา่ ได้ ครับ เหตุเพราะงานประจ�ำ งาน ไม่ประจ�ำ งานอาสาสมัคร ฯลฯ มันถาโถมเข้ ามาพร้ อมๆ กัน สมาธิ การบริ หารจัดการเวลา และ การบริ หารจัดการพลังงานเป็ นเรื่ องส�ำคัญมาก หากผมหลุดไปสักนิดเดียว อาจท�ำให้ งานหนึง่ เสียและพลอยท�ำให้ งานที่สอง สาม และสี่เสียไปด้ วยก็เป็ นได้ การรักษาไฟและยืนระยะท�ำสิง่ ต่างๆให้ มนั ส�ำเร็จลุลว่ งไปได้ นี ้ผมรู้สกึ ได้ วา่ มันจะต้ อง มีจดุ ร่วมบางอย่างที่จะท�ำให้ เราท�ำมันจนส�ำเร็จและไม่ทิ ้งมันกลางทาง ส�ำหรับผมแล้ วผมคิดว่า มันมีอยูส่ องอย่างครับที่จะพยุงเราให้ ไปถึงฝั่ ง อย่างแรกคือ ‘ความรัก’ อย่างที่สองคือ ‘ความเชื่อ’ ผมขอพูดถึงมันไปทีละอย่างนะครับ


‘ความรั ก’ อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ โรแมนติกทีพ่ ดู ถึงความรักในแบบชู้สาวระหว่างพระเอกกับนางเอก ‘ความรัก’ ที่วา่ นี ้พูดถึงความรักที่เกิดจากความหลงใหล (passion) ความหลงใหลมักเค้ นความ สามารถที่เราไม่คาดคิดออกมาได้ อย่างน่าฉงน หากเรารักและหลงใหลมันพอ เราก็จะสามารถ สร้ างสรรค์สงิ่ มหัศจรรย์ออกมาได้ ‘ความเชื่อ’ ความเชื่อหรื อเรี ยกอีกอย่างว่า ‘ความศรัทธา’ ความเชื่อคือสิง่ ที่มกั มองไม่เห็นในวันนี ้ แต่คือภาพความส�ำเร็ จในอนาคตที่คนที่มีความเชื่อเท่านันจะเข้ ้ าใจ มีค�ำกล่าวที่วา่ “ความรั ก ท�ำให้ งานออกมาดี แต่ ความเชื่อท�ำให้ งานประสบความส�ำเร็จ” ความเชื่อจะคอยพยุงเรา ให้ เราท�ำสิง่ ที่รักไปจนวันสุดท้ าย สองสิ่งนี ้ไม่ได้ บอกว่าอะไรต้ องมาก่อนและอะไรต้ องมาทีหลัง ในวันที่เราสับสน บาง ครัง้ เราก็ตอบตัวเองไม่ได้ วา่ เรา ‘รัก’ หรื อว่าเรา ‘ชอบ’ อะไร? เราจะเดินไปทางซ้ ายหรื อเราจะเดิน ไปทางขวาดี? ‘ความเชื่อ’ เท่านันครั ้ บที่มกั น�ำทางให้ เราไปเจอสิง่ ที่เรารัก แต่ในวันที่เรารู้แล้ วว่า เราชอบอะไร เรารักและเราหลงใหลอะไร ‘ความเชื่อ’ ก็จะน�ำทางให้ เราตังใจท� ้ ำมันไปจนส�ำเร็ จ เมือ่ เรามี ‘ความรัก’ และ ‘ความเชือ่ ’ เกิ ดขึ้นพร้อมๆ กันเมือ่ ใด ผมกล้าเอาหัวเป็ นประกัน ครับว่า ‘ความเหนือ่ ยล้า’ นัน้ แทบจะหายไปจากพจนานุกรมของชีวิตเราสนิทเลยทีเดียว เพราะ… มันเป็ นความเหนื่อยที่ ‘ใช้ พลัง’ และ ‘สร้ างพลัง’ ไปพร้ อมๆ กัน

ที่มา : O-N issue 03 | เพราะเราคือเรา


อาบน�้ำเย็นมาก่อน

ว่ากันว่า “การเรียนรู้จะเริ่มต้ นขึน้ เมือ่ เราเอาตัวเองไปอยู่ในทีท่ ไ่ี ม่ สะดวกสบาย”

หากใครที่ก�ำลังอยูท่ า่ มกลางสภาวะความล�ำบากที่ต้องดิ ้นรนและใช้ วิชาความอดทน ระดับสูง คงจะเข้ าใจค�ำที่ผมยกมานี ้อย่างถ่องแท้ ทีเดียวครับ การเอาตัวเองไปอยูใ่ นที่ที่ไม่สบาย นี ้เอง คือการสอนให้ เรารู้ จกั ‘อดทน’ ความอดทนจะสร้ างภูมิค้ มุ กัน สร้ างเกราะป้องกันที่ช่วย ท�ำให้ เราแข็งแรงและแข็งแกร่งขึ ้น และเราก็จะพัฒนาตนเองขึ ้นโดยอัตโนมัติ ผมเคยอ่านบทความอยูเ่ รื่ องหนึง่ เขาบอกว่า “สิง่ ที่อยูน่ อก Comfort zone คือ Knowledge zone ทังนั ้ น” ้ นักเขียนคนนี ้ยังเล่าอีกว่า เขาต้ องอาบน� ้ำเย็นจัดทุกเช้ า ถึงแม้ ตอ่ ให้ เป็ นฤดู หนาวทีไ่ ม่วา่ จะหนาวแค่ไหน เขาก็ต้องอาบน� ้ำเย็นจัด เขาบอกว่า “คนเรา ถ้ าหากสามารถกระโจน เข้ าไปในน� ้ำเย็นจัดตอนเช้ าได้ แปลว่าตลอดทังวั ้ นหลังจากนัน้ ไม่วา่ จะตัดสินใจท�ำอะไร มันไม่ใช่ เรื่ องยากอีกต่อไปแล้ ว การท�ำกิจกรรมที่ยากที่สดุ เป็ นกิจกรรมแรกสุดของทุกๆ วัน เป็ นการฝึ กให้ เขาเอาชนะ ตนเอง เอาชนะสิง่ ที่ไม่ชอบ สิง่ ที่ไม่สบาย พอท�ำเรื่ องนี ้ได้ ทกุ วันจนเป็ นนิสยั หลังจากนี ้ไม่วา่ จะ


เจออะไรที่ยากล�ำบาก เราก็จะมีนิสยั เอาชนะสิง่ นัน้ อย่างที่เราเอาชนะน� ้ำเย็นจัดทุกเช้ าได้ ประกอบกับช่วงนี ้ การวิ่ง(มินิ)มาราธอน ถือเป็ นกระแสที่คนกรุงหันมาสนใจกันอย่าง มาก ส�ำหรับผมแล้ ว การวิ่งถือเป็ นกิจกรรมที่แสดงออกถึงการเอาชนะตนเองได้ ดีที่สดุ กิจกรรม หนึ่ง การเอาชนะตนเองเริ่ มต้ นตังแต่ ้ การลุกขึน้ จากเตียงกันเลยทีเดียว เพราะโปรแกรมวิ่ง มาราธอนส่วนใหญ่จะจัดช่วงเช้ าตรู่และการตืน่ เช้ าในวันหยุดสุดสัปดาห์คงไม่ใช่เรื่ องทีน่ า่ พิศมัย ส�ำหรับพวกเราทุกคนนัก ขันต่ ้ อไปคือการวิ่ง ศัตรูตวั ฉกาจคือความเหนื่อยครับ เราจะวิ่งได้ สกั เท่าไร เราจะหยุดแล้ วเดินมัย้ ความท้ อแท้ เริ่ มปรากฏ เราจะวิง่ ได้ ถงึ เป้าหมายที่วางไว้ มยหรื ั ้ อเรา จะหยุดยอมแพ้ แล้ วพอแค่นี ้ดี แค่เรื่ องการวิ่งนี ้เองก็ท�ำให้ เห็นได้ ชดั แล้ วครับว่า มีบททดสอบใน การต่อสู้กบั Comfort zone ของเราตังหลายขั ้ น้ หากเราฝึ กเอาชนะตัวเองได้จนเป็ นนิ สยั วิ่ งเป็ นประจ� ำ อาบน�้ำเย็นทุกเช้า เมื อ่ เราเจอ ปั ญหาและอุปสรรคในอนาคต ผมเชื ่อว่าเราจะมัน่ ใจว่าเราจะเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน ว่า แล้ว...ผมก็ขอตัวลุกจากเตียงออกไปอาบน�้ำเย็นจัดๆ ก่อนนะครับ

ที่มา : O-N issue 04 | จังหวะชีวิตในห้องสมุด


Happy New Year 2015

\ \ “ปี นี้ผ่านไปไวจัง...” ผมได้ ยินค�ำนี ้เสมอเมื่อถึงวันปี ใหม่ มันเป็ นเรื่ องปกติที่เราอาจจะใช้ ชีวิตเพลินไปสัก หน่อย พอมาดูอีกทีมนั ก็กลายเป็ นเดือนสุดท้ ายของปี ไปซะแล้ ว จริงๆ แล้ วเราสามารถตังเป ้ ้ าหมายหรื อเริ่มท�ำอะไรใหม่ๆ ได้ ทกุ เมื่อ แต่ปีใหม่นา่ จะเป็ น นิมิตหมายในรอบปี ที่ดีที่สดุ ครัง้ หนึง่ ของทุกคนที่จะเริ่ มท�ำอะไรยังไม่ได้ ท�ำ และน่าจะเป็ นนิมิต หมายอันดีที่สดุ ที่จะเริ่ มตังเป ้ ้ าหมายต่างๆ ให้ ชีวิตอีกครัง้ ปี ใหม่อาจเป็ นจุดเปลีย่ นชีวติ ที่เราตังเป ้ ้ าว่าจะเปลีย่ นแปลงตนเองเป็ นคนใหม่ไปเลยก็ เป็ นได้ ผมได้ อา่ นเป้าหมายประจ�ำปี (New Year Resolution) ที่เพื่อนหลายคนเขียนและแชร์ ลงในเฟสบุ๊ก บ้ างส�ำเร็จ บ้ างล้ มเหลว ผมเชื่อว่าการเขียนอะไรแบบนี ้มีประโยชน์ทงสองฝ่ ั้ าย ฝ่ าย เขียนก็ได้ ทบทวนตัวเองในสิง่ ที่เกิดขึ ้นตลอดทังปี ้ ส่วนฝ่ ายคนอ่านก็มีพลังมากขึ ้นและได้ รับแรง


บันดาลใจชันดี ้ ที่จะตังใจท� ้ ำอะไรใหม่ๆ ให้ ชีวติ บ้ างเช่นกัน มันเป็ นเรื่ องน่ายินดีมากๆ ที่หลายคน สามารถพิชิตเป้าหมายอะไรที่ใหญ่มากๆ ได้ ความส�ำเร็จนี ้ไม่มีทางเกิดขึ ้นแน่ถ้าเราไม่เริ่ มตังเป ้ ้ าหมาย แต่มนั ไม่ใช่เรื่ องน่าอายเลย ครับที่จะบอกว่าเราท�ำอะไร ‘ไม่ส�ำเร็จ’ บ้ าง “Shoot for the moon. Even if you miss, you will land among the stars” ค�ำกล่าวนี ้น่าจะอธิบายทุกอย่างได้ เป็ นอย่างดี ผมเชื่อเสมอครับว่า เมื่อไรที่เราได้ ตงเป ั ้ ้ าหมายแล้ ว ไม่วา่ เป้าหมายนันมั ้ นจะดูใหญ่เกินไปและยิ่งดูเหมือนว่าจะเป็ น ไปไม่ได้ เท่าไรก็ตาม ทุกสิง่ ที่เกิดขึ ้นตามมานันไม่ ้ มีอะไรต้ องเสียใจเลยสักนิด การท�ำไม่ได้ ตาม เป้าหมายไม่ได้ หมายความว่าเราล้ มเหลว แต่มนั คือจุดเริ่ มต้ นของความส�ำเร็ จที่ก�ำลังจะเกิดขึ ้น ต่างหาก

คงไม่มีชว่ งเวลาไหนที่ดีกว่านี ้แล้ วครับ มาเริ่ มตังเป ้ ้ าหมายกันเถอะ :)

เราอาจไม่ต้องเริ่ มอะไรที่ใหญ่มากก็ได้ ครับ เริ่ มที่อะไรเล็กๆ สักวันมันย่อมเป็ นสิง่ ใหญ่ ดังค�ำกล่าวที่วา่

“A journey of a thousand miles begins with a small step.”

หากเริ่ มเขียนแล้ ว มาเล่าให้ กนั ฟั งในเพจได้ นะครับ

HAPPY NEW YEAR 2015 ครับวัยรุ่นทุกคน!

ที่มา : O-N issue 05 | ไปดีมาดี


เค้าคนนั้น

ใครเคยเป็ นเหมือนกันบ้ างครับ ในเวลาที่เราเครี ยดและท้ อแท้ บางครัง้ เราแค่ต้องการใครสักคน มาอยูข่ ้ างๆ เป็ นเพื่อน คอยฟั งเราบ่น คอยฟั งเราระบายความอัดอันในใจ ้

มันช่างน่าแปลกที่จริ งๆ แล้ ว... เค้ าคนนัน...อาจไม่ ้ ใช่คนที่ปลอบใจคนเก่ง เค้ าคนนัน...อาจไม่ ้ ใช่คนที่พดู เก่งจนท�ำให้ เราดีขึ ้นได้ ทนั ทีทนั ใด เค้ าคนนัน...อาจไม่ ้ ใช่คนที่เสียงหวานไพเราะน่าหลงใหล


เค้ าคนนัน...อาจเป็ ้ นแค่คนธรรมดาคนหนึง่ ที่ไม่ได้ แตกต่างจากคนอื่นทัว่ ไปเลยสักนิด

แต่ ความทีร่ ้ ู สึกแตกต่ างไปนั้น อาจเป็ นเพราะ ‘ตัวเราเอง’ ต่ างหาก ทีร่ ้ ู สึกว่ าเค้ าคนนั้น ‘พิเศษ’ กว่ าคนอื่น

ความพิเศษนี ้เองครับ ที่ท�ำให้ เวลาเราอยูด่ ้ วยแล้ ว เรารู้สกึ ‘สบายใจ’ เราสามารถปลดปล่อยความเครี ยดและความอัดอันทุ ้ กอย่าง จนเรากลับไปมีสติ และเป็ นคนสนุกเฮฮาเหมือนเดิมได้

ถึงเดือนแห่งความรักแล้ วครับ ‘เค้ าคนนัน’้ คงก�ำลังรอให้ คณ ุ ท�ำอะไรดีๆ ให้ เค้ าอยูแ่ น่ๆ ยังพอมีเวลาเหลืออยูบ่ ้ างครับ คงเป็ นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้ ท�ำอะไรกลับคืนไปให้ เค้ าบ้ าง

ส�ำหรับคนที่โสด ไม่ต้องน้ อยใจไปนะครับ ไม่ต้องมองไปที่ไหนไกลเลย เพราะ ‘เค้ าคนนัน’้ อาจเป็ นคนที่ใกล้ ตวั เราที่สดุ คุณพ่อ คุณแม่ เราไงหละครับ :)

ที่มา : O-N issue 06 | with love, girl band, you rock!


ถ้าไม่ลองทำ�ตามหัวใจ แล้วจะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปไกล ได้สักเท่าไหร่

ว่าด้ วยเรื่ องของการเขียนบทความ...

คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรนัก หากเราไปถามนักเขียนมืออาชีพทีม่ ผี ลงานเป็ นหนังสือ Best seller ขึ ้นชันตามร้ ้ านหนังสือแนวหน้ า แต่ส�ำหรับนักเขียนมือใหม่ที่มีประสบการณ์ไม่มากอย่าง ผม การเขียนบทความชิ ้นหนึง่ ให้ จบนันใช้ ้ พลังงานมหาศาล เขียนแล้ วลบใหม่ไม่ร้ ูกี่ครัง้ ต่อกี่ครัง้ ถ้ าจะเอาให้ ยิ่งเห็นภาพชัดขึ ้น เชื่อมัยครั ้ บว่าบทความที่ทกุ ท่านก�ำลังอ่านอยูน่ ี ้เอง ผม ใช้ เวลาเขียนมากกว่าสิบครัง้ ด้ วยกัน มันมักจะมีสิ่งมารบกวนท�ำให้ สิ่งที่เราอยากสื่อสาร ไม่ สามารถถ่ายทอดออกมาได้ ดีที่สดุ สิง่ เร้ าภายนอกที่ชวนให้ เราเสียความมัน่ ใจ สิง่ เร้ าภายนอกที่ มักรบกวนเสียงภายในจนท�ำให้ เราไม่กล้ าจะเขียนสิง่ ที่เราเชื่อออกมา

ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนักเขียนชื่อดังหลายท่าน สิง่ ที่ผมค้ นพบก็คือ จริ งๆ แล้ ว


“ไม่มีใครเกิ ดมาเพือ่ เป็ นนักเขี ยน” และก็ “ไม่มีใครเขี ยนดีตงั้ แต่ครัง้ แรก” แต่สงิ่ ที่ทกุ คนมีเหมือน กันก็คือ ‘ความมัน่ ใจ’ และ ‘ความพยายาม’ พยายามฝึ ก พยายามเขียน ส่งต้ นฉบับเข้ าส�ำนัก พิมพ์ใหญ่ครัง้ แล้ วครัง้ เล่า อ่านให้ เยอะ ท�ำแบบนี ้จนเขียนได้ ดีขึ ้นเรื่ อยๆ จนวันหนึง่ ทุกคนก็เห็น และเค้ าจึงมีวนั ที่ประสบความส�ำเร็จแบบวันนี ้ ไม่มีใครเกิดมาเก่งตังแต่ ้ เกิดหรอกครับ และก็ไม่มีใครไม่เคยหลงทางเช่นกัน เราก็แค่ ต้ องมัน่ ใจ ซื่อสัตย์ในความฝั น และไม่หยุดที่จะ ‘พยายาม’ อาจจะมีเขวบ้ าง อาจจะมีสบั สนบ้ าง แต่นนั่ แหละครับที่ท�ำให้ เราชัดเจนกับสิง่ ที่เราฝั นมากขึ ้น ตัวผมเอง ผมก็ไม่ร้ ูวา่ ผมจะได้ เขียนอีกนานแค่ไหน ผมไม่ร้ ูด้วยซ� ้ำว่าผมเขียนดีหรื อยัง แต่ผมรู้แน่ๆ ว่าผมไม่อยากให้ สงิ่ ที่ผมคิดเป็ นเพียงความฝั น ผมอยากเห็นวัยรุ่นทุกคนลุกขึ ้น และ กล้ าที่จะท้ าทายสิง่ ที่ตวั เองกลัว

ถ้าไม่เคยลองท�ำตามหัวใจ จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไหร่

จริ งมัยครั ้ บ?

ที่มา : O-N issue 07 | ในโลกอีกใบที่ ใช้ ใจบันดาลแรง


/// ผมเชื่อเสมอว่า ‘ความส�ำเร็ จ’ ที่แท้ จริ งนัน้ ไม่ได้ วดั กันที่ ‘ความรวดเร็ว’ แต่วดั กันที่ ‘ความสุข’ ที่เรารักที่จะท�ำมันจนวันสุดท้ ายของชีวิตต่างหาก ///

- sorsala [ Columnist : เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย ]


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.