O-N magazine | 10

Page 1


A cartoO-Nist enjoys not a great man but a ridiculous man.

10

นักวาดการ์ตูนไม่ได้สนุกไปกับเรื่องคนยิ่งใหญ่แต่เพลิดเพลินไปกับบรรดามนุษย์ที่น่าขัน - R.K. LAXMAN -

ชอื่ O-N Magazine เกิดจากอักษรตัวแรก-ตัวสุดทายของชือ่ จริงนิตยสาร คือ OWNERATION ซึง่ เปนการนำคำ 2 คำมาประกอบกัน ไดแก Owner+Generation เราตองการสื่อวา ยคุ นี้เปนยุคที่คนปลดปลอยความเปน ตัวเองออกมาอยางสรางสรรค โดยเราเชือ่ วาคนที่เปนนักสรางสรรคลวนเปนนักฝน มากกอน จึงเกิดเปนคำโปรยบนปกที่วา 'All Creators Are Dreamers'

(1921-2015) นักวาดการ์ตูนสะท้อนสังคมและการเมืองชาวอินเดีย

2

วาดสังคม เบื้องหลังการ์ตูนสะท้อนสังคม คือนักวาด ที่ ใส่ ใจสังคม แต่เดี๋ยวก่อนจะมี ใครสักกี่คนที่สนใจใน เรื่องราวของการ์ตูน? ฉันคือหนึ่งในคนที่เคยคิดว่าหนังสือการ์ตูนไม่ น่าสนใจ แอบคิดว่าการอ่านการ์ตูนมันคือนิสัยของเด็ก ไม่เอาไหนด้วยซ�้ำ ต้องอ่านหนังสือมีสาระ หรือหนังสือ เรียนสิ อะไรท�ำนองนั้น แต่นั่นมันท�ำให้ฉันคิดผิดทันใด เมื่อหลังเลิกเรียนวันหนึ่งในสมัยเรียนมัธยมปลายฉัน ได้ตัดสินใจย่างเท้าก้าวเข้าไปในร้านเช่าการ์ตูนที่อยู่ ระหว่างทางกลับบ้านร้านหนึ่ง แล้วฉันก็เจอโลกอีกใบ ที่ฉันไม่เคยเข้าใจมาก่อน ฉันเริ่มยืมหนังสือการ์ตูนไป แอบอ่านที่บ้าน และนั่นคือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ท�ำให้ฉัน พบว่าในการ์ตูนมีข้อคิด ในการ์ตูนมีเรื่องราวให้แรง บันดาลใจ ในการ์ตูนมีเรื่องราวสะท้อนสังคม อาจนับ ไปถึงขั้นยกระดับจิตใจของคนในสังคมนั้นๆ หากพูดถึงนักวาดการ์ตูนรุ่นใหม่แต่มาก ประสบการณ์ของไทย คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จักชาย หนุ่มเจ้าของนามปากกาว่า 'สะอาด' และหากใครได้ ติดตามงานของเขา จะพบว่า งานของเขามีแง่มุมใน การสะท้อนเรื่องราวความเป็นไปของชีวิตผู้คนในสังคม อยู่สูง เป็นการหยิบยกเอาเรื่องเล็กๆ มาเล่าในเชิงตลก ขบขัน ทว่าแฝงไปด้วยความจริงที่แสนโหดร้ายซึ่งเรา กลับท�ำเป็นมองข้ามกันไป สังคมที่ดี ช่วยกันสร้างได้หลายวิธี หน้าที่ของ นักวาดการ์ตูนก็คงเป็นการวาดการ์ตูนที่ช่วยจรรโลง สังคม ปลายดินสอหรือปากกาของพวกเขาสามารถ 'วาดสังคม' ในจินตนาการได้ และสุดท้ายเราอาจพบ ว่า 'ความจริง' เป็นผลสะท้อนจาก 'จินตนาการ' พิชญา เพ็งจันทร์ บรรณาธิการ waylaway1990@gmail.com

contact us

facebook.com/ownerationmag ownerationmag@gmail.com

READ O-N

www.ebooks.in.th/ownerationmag issuu.com/ownerationmag


C O N T E N T 22

04 Events from now on 05 พื้นที่เล็กๆ : จุดหมาย

06 Biography :

ผูที่หันหลังใหสรวงสวรรค

07 Moreover :

23 A Thing I Dream : ครีมทำใหหนาว

22

A Short Story I Write :

แพ

26

The wind is rising

8

A Photo I Shoot : Unconfused

Scope O-N : ศิลปนสรางงานในทิศทางที่ตัวเองเชื่อ

Away From Thailand : เที่ยวถ้ำทำมือ (India) / "มาจากเมืองไทย" (Japan) 28 Pick-Up

30 อานเอาเองเอย :

10 Bear-Blur : เชย

วิวาหกระตายสามขา 31 How To Be O-N Members

11 A Poem I Feel : สังคมคนคอยาว

12

The Owner : Sa-art | สะอาด

3


Events from now on หยิบมาบอกต่อ : กอง บ.ก. O-N

3

4

E V E N T

5

1

¹Ô·ÃÃÈ¡ÒÃ “ÁÒ¡¡Ç‹Ò¤ÓÇ‹ÒÊÁØ´ DO MORE FOR THE GREATNESS”

¹Ô·ÃÃÈ¡ÒÃ 'EQUABLE'

3

ผลงานโดย Soichiro Shimizu, Natanel Gluska, Wal Chirachaisakul, Mongkontuch Sittaโดยบริษัท ซีนิธ เอ็นเตอร ไพรส จำกัด (ZEQUENZ) รวมกับ TCDC จัดโดยโฟโตบางกอก tanakorn, Manee Mejai, Lili Taechaจัดแสดงระหวางวันที่ 4 - 23 สิงหาคม 2558 รวมกับฝายนิทรรศการ mongkalapiwat, Navin Tantanadaณ บริเวณโถงทางเขา TCDC (กรุงเทพ) หอศิลปวัฒนธรรมแหงacha, Aphipol Techamangkhกรุงเทพมหานคร ( bacc ) alanon จัดแสดงระหวาง จัดแสดงระหวางวันที่ 30 กรกฎาคม วันที่ 1 สิงหาคม - 3 ¹Ô·ÃÃÈ¡ÒèԵáÃÃÁä·Â “¤ÃØÏ ÈÔÅ»Ðä·Â" - 1 พฤศจิกายน 2558 ตุลาคม 2558 ณ หองนิทรรศการหลัก ชั้น 9 ณ Kalwit Studio ผลงานโดยนิสิตทุน ในระดับปริญญาและระดับปริญญามหาบัณฑิต หอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร & Gallery สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร จุฬาฯ จัดแสดงระหวางวันที่ 4 - 20 สิงหาคม 2558 ณ หองนิทรรศการหมุนเวียนชั้น1 อาคารพิพิธภัณฑจุฬาฯ ¹Ô·ÃÃÈ¡Òà "PAUSE"

2

4

4

2

1

5

¹Ô·ÃÃÈ¡Òà ÀÒ¾ÇÒ´ “ ´Í¡äÁŒàÃÔ§ÃÐºÓ : Floral Choreography ”

ผลงานโดย กฤติกา บัวบุศย (Kritika Buabusya) จัดแสดงระหวางวันที่ 27 กรกฎาคม - 16 สิงหาคม 2558 ณ ชั้นลาง Alliance française de Bangkok : สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ


พื้นที่เล็กๆ วาด : Petch Sukplum

จุดหมาย

5

5


Biography เรื่อง : ภัทรานิษฐ์ พัฒน์ธนพร

6


Moreover เรื่อง : นิรัติศัย บุญจันทร์

/ The wind is rising / ผมยั ง จ� ำ วั น เสาร์ ที่ ต้องตื่นก่อนแปดโมงเพื่อมาเปิด ช่ อ งเก้ า ค้ า งไว้ สั ก ครึ่ ง ชั่ ว โมง และรอจนกว่ า นั ก ซิ่ ง สายฟ้ า หรือโดเรมอนจะเริ่มฉาย ผม ไม่ รู ้ ห รอกว่ า ท� ำ ไมเด็ ก ต้ อ งดู การ์ตูน แต่รู้ตัวอีกทีผมก็ดูมัน ไปซะแล้ว แน่นอนว่าโลก จินตนาการวัยเด็กช่างต่างกับ โลกความเป็ น จริ ง เมื่ อ โตขึ้ น อย่ า งสิ้ น เชิ ง ก็ เ มื่ อ ผมเริ่ ม ท� ำ ตามแบบผู้ ใหญ่ จ�ำพวกกิน กาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ผม ก็ ไม่เห็นอะไรนอกจากบทความ วิเคราะห์การเมืองที่อีกไม่กี่ปี ข้ า งหน้ า มั น จะกลายเป็ น ขยะ กองอยู ่ ในระบบของส� ำ นั ก พิมพ์ หรือไม่ก็คดีแปลกๆ ตามฉบับไทยๆ แต่ ในนั้นยัง มี ภ าพการ์ ตู น ล้ อ การเมื อ งอยู ่ ตรงหน้าใดหน้าหนึ่งที่ซึ่งตอน เป็นเด็กผมไม่เข้าใจอนุสาวรีย์ ประชาธิ ป ไตยซึ่ ง ตอนนั้ น ผม เรียกว่าขวดยาคูลยักษ์เลย ผม คลั่งถึงขนาดบอกแม่ว่าจะถ่าย รูปกับขวดนมนั่นให้ ได้ แล้ว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ผมเริ่มท�ำ ตามแบบผู้ ใหญ่ ผมเลยเริ่ม เข้าใจว่าตัวละครเล็กๆ หรือค�ำ ย่อประเภทจุดเยอะๆ น่ะคือ อะไร หรือประโยคเว้าแหว่ง นั่นหมายความว่าอะไร และ แน่ น อนมุ ม มองที่ เ ปลี่ ย นไปมา พร้อมอะไรบางอย่างนั้น จะว่า ดีก็ดี จะว่าแย่ก็แย่สุดๆ ไปเลย

เรามาถึ ง จุ ด นี้ ตั้ ง แต่

ผมไม่ มั่ น ใจว่ า หลั ง จากดูเรื่องนี้เสร็จผมหยิบแผ่น เรื่องอะไรมาดูต่อ แต่น่าจะเป็น เรื่องเกี่ยวกับแร็กคูน เรื่องนี้ชื่อ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก เจ็บ มาก เจ็บจริงๆ กับภาพที่เอารถ แทร็กเตอร์ รถตัก มาท�ำเป็น เหมือนหนอนที่ก�ำลังแทะใบไม้ ซึ่งสะท้อนหลายอย่าง และ อย่างหนึ่งที่ผมคิดเสมอ และ ยิ่งคิดมากขึ้นขณะที่ดูคือ “มีคน ที่ ไหน ชิบหายที่นั่น”

เมื่อไร? ผมคิดระหว่างมอง ภาพปกการ์ ตู น หมิ่ น ศาสนา อิ ส ลามของหนั ง สื อ พิ ม พ์ ร าย เดือนนาม “ชาร์ลี เอ็บโด” ซึ่ง ผมไม่ขออธิบายรูปร่างรูปทรง หรือข้อความ ที่ผมได้เห็นมัน ก็เพราะมีมือปืนสามคนบุกยิง ถล่ ม ส� ำ นั ก พิ ม พ์ แ ละมี ค นตาย นับสิบ ตอนแรกที่เห็นข่าวก็ อดสงสัยไม่ ได้ว่าหนังสือพิมพ์ มี พ ลั ง ขนาดท� ำ ให้ ใครตายได้ เลยหรือ? แต่เมื่อผมเห็นรูปนั่น ค�ำถามหรือความสงสัยก็หมด ไปและไม่คิดจะหาเหตุผลใดๆ อีก

โลกการ์ ตู น ของผม ไม่มีแค่เรื่องสั้นจบในตอนแบบ โดราเอมอน หรือเรื่องที่ยาว เป็นซีรี่ย์อย่างเดียวแล้ว ผมมี ภาพยนตร์การ์ตูน และแน่นอน ว่าเรื่องนั้นต้องมาจาก สตูดิโอ จีบลิ (Gibli) อันเลื่องชื่อ ก็คน ไทยดันสปอยล์จนยิ่งใหญ่กันใน พันทิป แล้วผมดันเป็นพวกเชื่อ คนง่ายด้วยสิ

และนั่นท�ำให้การ์ตูน ของผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การ์ ตู น ท� ำ ให้ ค นตายได้ จ ริ ง และอี ก ด้ า นมั น ก็ ท� ำ ให้ ค นลุ ่ ม หลงจนอดรักไม่ ได้ ดาบสอง ทางที่พุ่งออกจากฝักเดียวช่าง น่าสนใจไม่น้อย ผมเลยกลับ มาดูการ์ตูนอีกครั้งหลังท�ำตาม แบบผู้ ใหญ่อยู่หลายปี

ถึ ง ตอนนี้ ผ มเองยั ง ไม่รู้ว่าการ์ตูนคืออะไร เช่น เดียวกับค�ำถามบางอย่างที่ค�ำ ตอบขึ้นอยู่กับจริตของคนตอบ แต่อย่างน้อยการ์ตูนก็เป็นสื่อ หนึ่งที่สร้างความสนุกให้กับทุก เพศทุกวัยเหมือนไอศกรีม แต่ นั่นไม่ ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะ บางครั้งการ์ตูนก็เอาลูกระเบิด มาวางใต้ โต๊ะคนเขียนได้เหมือน กัน ทั้งหมดนี้คงเป็นเพียงการ แบ่งปันเล็กๆ น้อยๆ ส�ำหรับ ฉบับที่เหมือนจะตลก แต่ก็ ไม่ ตลกเสียทีเดียว นั่นละการ์ตูน “The wind is ris- และนั่นละ ศิลปะ ing! We must try to live.” “เพราะลมพัดแรง เราจึง “The wind is risอยู่ท้ามัน” แรงบันดาลใจจาก ing! We must try to live.” เรื่องเปี่ยมล้นออกมา และ ไม่ แ ปลกใจเลยที่ เ ขาจะสร้ า ง “เมือ่ มีผนู้ ำ� เราจึงต้องเงียบ” การ์ตูนดีๆ เพื่อให้เห็นความ จริงอะไรบางอย่าง ผิดกับบาง ให้ตายเถอะ แมวพิมพ์! ประเทศที่ ส ร้ า งศิ ล ปะเพื่ อ ให้ ลบเลือนความจริงบางอย่าง

ภาพยนตร์ ก าร์ ตู น ญี่ปุ่นมันเป็นที่นิยมในไทย จน นั ก วาดไทยได้ รั บ อิ ท ธิ พ ลเส้ น สายจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ปฏิเสธไม่ ได้ แต่นั่นคงไม่ ใช่การ ลอกเลียนแบบโดยเจตนาเสียที เดียว จริงๆ ก็คงเหมือนการ ซึมซับทางวัฒนธรรม คล้ายๆ กับกางเกงยีนส์ หรือเสื้อเชิ้ต นั่นแหละ พอรู้ตัวอีกทีเราก็ ใส่ มันไปแล้ว เอาละ ตัดกลับมา เรื่องภาพยนตร์การ์ตูนที่ผมดู เป็นเรื่องแรกๆ ดีกว่า

เรื่อง The Wind Rises ท�ำผมอึ้งเลย ผมไม่ ได้ เวอร์นะ แต่คุณน่าจะเข้าใจ ว่ า คนไทยคนหนึ่ ง ที่ เ คยเห็ น แค่การ์ตูนของช่องเก้า และ การ์ตูนเสียดสี ในไทยรัฐ มติ ชนน่ะ มันจะรู้สึกยังไงกับฉาก ที่ค่อยๆ เรียบเรียงพร้อมมุม กล้องเหมือนภาพยนตร์ ซึ่ง เนื้อหาเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ของวิศวกรออกแบบเครื่องบิน ชื่อ ดร.จิโร โฮะริโกะชิ ที่มัน ต่างออกไปจากเรื่องอื่นๆ คือ มันสะท้อนถึงเหตุแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ สงคราม ความ สั ม พั น ธ ์ ร ะ ห ว ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ จินตนาการ และความรัก

ผมสรุปสั้นๆ ได้เพียงนี้


Scope on สัมภาษณ์ : พิขญา เพ็งจันทร์ ภาพ : ธนวรรณ แสงวิสุทธิ์

'ต้องการ' - วลัยกร สมรรถกร

ศิลปินสร้างงาน

ในทิศทางที่ตัวเองเชื่อ

'ต้องการ' เธอคือศิลปินวาดภาพผู้ออกตัวว่าพยายามเป็นสื่อให้กับวงการออร์แกนิค โดยใช้สีน�้ำที่ ได้จาก ธรรมชาติ อะไรกันที่เป็นจุดพลิกผันให้เธอเลือกใช้ชีวิตแบบออร์แกนิค แล้วท�ำไมงานของเธอถึงแสดงออก มาแต่ ในแง่ดี ทุกเรื่องราวมีที่ ไปที่มา แบบไม่ต้องเร่งรีบ ไปอ่านความคิดและชีวิตของเธอกัน วาดรูปเพื่อสื่ออะไร งานช่วงเริ่มต้นอยากสื่อสารถึงชีวิตประจ�ำวัน ในแบบ อารมณ์สบายๆ ช่วงหลังมานี้เราวาดเพื่อเน้นสื่อถึงชีวิตออร์แกนิคเป็นหลัก สีน�้ำจากธรรมชาติ เราใช้สีน�้ำที่บดจากดอกไม้ ใบไม้ เป็นพวกพืชทั้งหมด ตอนนี้ทดลองมา 2 ปีแล้ว แต่คิดว่ายังต้องทดลองต่อไปอีก ตอนนี้สีที่ ใช้ ได้คล้ายๆ สีน�้ำจากกล่องเลย ขาดไปบ้างบางสี จุดเริ่มต้นคือดอกอัญชัน

8

เรากินชาที่บ้านแบบชาสด เอาอัญชันมาละลายกับน�้ำ ร้อน แล้วเราก็เห็นสีจากอัญชันมันติดมา ก็เลยคิดว่ามันคงไม่ ต่างจากสีน�้ำ มันละลายน�้ำเหมือนกัน เพราะสีน�้ำคือสีที่ละลาย

ในน�้ำ พอชาอัญชันถูกทิ้งไว้ ในจานแล้วมันเข้มขึ้น ก็เลยกลายเป็น จุดเริ่มต้น ตอนหลังเลยเริ่มทดลองสีอื่นบ้าง แล้วมีคนเชียร์ ให้เรา ทดลองให้ ได้ครบทุกสีด้วย แสดงงานภาพวาดสีน�้ำจากธรรมชาติครั้งแรก เมื่อปลายปีที่แล้วเรามี โอกาสแสดงงานเล็กๆ ครั้งแรก โอเคนะ แต่งานขายได้ ไม่เยอะ ข้อจ�ำกัดใหญ่ของภาพคือสีมัน จะซีดลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา คนที่ซื้อคือคนที่เข้าใจงานและ ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของมันได้ เลือกวาดรูป ในแง่ดี เรามีความตั้งใจส่วนหนึ่ง เรารู้ว่าชีวิตมีทั้งดีและแย่ แต่เราไม่รู้จะแสดงออกทางด้านแย่ท�ำไม คิดว่าไม่ ใช่หน้าที่เรา เนื่องจากตัวตนเราไม่ ใช่อย่างนั้น และเราคิดว่าไม่ว่าจะดีจะร้ายยัง ไงถ้าเรามองในแง่ดี มันอาจจะพบค�ำตอบที่ท�ำให้ชีวิตดีขึ้น แต่ถ้า


เรารับมือกับปัญหาด้วยการมองโลกในแง่ร้าย เราก็ ไม่รู้เลยว่า ชีวิตมันจะเป็นอย่างไรต่อ จุดเปลี่ยนให้หันมาใช้ชีวิตออร์แกนิค ประมาณ 6 ปีที่แล้ว มะเร็งคือจุดเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้น ท�ำให้สงบจิตสงบใจมากขึ้น หันมาใช้ชีวิตออร์แกนิค ตอนนั้น เรากินแต่ผลไม้อยู่เก้าเดือน ไม่กินอย่างอื่นเลย แล้วเราก็คิดได้ ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสุขภาพเราดีเราจะท�ำได้ทุกอย่าง เทรนด์สโลว์ ไลฟ์กับการวาดรูป จริงๆ เราไม่ค่อยมีเวลาสโลว์เลยนะ (หัวเราะ) วิ่ง ไปวิ่งมาตลอด ถ้าเป็นการวาดรูปเล่นน่ะใช่ แต่ถ้าเป็นการวาด รูปจากโจทย์มันก็ ไม่เชิง คือเราว่านักวาดการ์ตูนแทบทุกคนพัก ผ่อนด้วยการวาดรูปเล่นนะ

ภาพจากหนังสือเกี่ยวกับออร์แกนิค ตีพิมพ์กับส�ำนักพิมพ์ Fullstop Book

อะไรท�ำให้คนติดตามผลงาน เราว่างานเรามันใสๆ ง่ายๆ ท�ำให้คนเห็นแล้ว สบายใจ เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย คนเลยติดตาม นักวาดภาพประกอบ เราต้องสวมหมวกอีกใบ คือเราต้องอธิบายงานของ เขาให้ ได้ เราต้องสื่อรูปออกมาให้แทนเนื้อเรื่องของเขาทั้งเรื่อง เลย เอกลักษณ์ของการ์ตูนไทย ถ้าถามก่อนหน้านี้สักหนึ่งปี เราก็จะตอบว่ามันดีนะ มันเติบโตไปในทิศทางที่แตกต่างจากญี่ปุ่นหรือเกาหลี แต่ถ้า ให้ตอบตอนนี้เราตอบไม่ถูก แต่เรารู้สึกได้ว่านักวาดเยอะขึ้น งานหลากหลายขึ้น มีเอกลักษณ์กันมากขึ้น เล่าเรื่องเองวาดรูป เอง มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง หรืองานของบางคนก็กลับกันคือ คล้ายกับงานจากต่างประเทศ เราเลยจับทิศทางได้ ไม่ชัด และ บางทีปีหน้าค�ำตอบก็อาจเปลี่ยนไปอีก

ภาพจากคอลัมน์ Going with the flow ในนิตยสาร a day 178

การ์ตูนกับการพัฒนาความคิดของคน มีนักวาดการ์ตูนบางคนท�ำหน้าที่นี้อยู่ มันก็เหมือนกับนัก เขียนนะ ที่งานของบางคนอ่านแล้วบันเทิงใจแล้วจบ แค่นั้นก็ โอเค แล้ว แต่บางคนที่ท�ำให้คนอื่นคิดต่อได้ก็ยิ่งดี ใหญ่เลย ซึ่งคุณสมบัติ นี้ ไม่ ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่เราเชื่อว่าวงการการ์ตูนไทยคงไม่ ขาดแคลนสิ่งดีๆ ถ้าให้พูดถึงนักวาดที่ชื่อ ‘สะอาด’

มี ไอเดีย มีความคิด เสียดสี แล้วก็ข�ำๆ ด้วย ศิลปินที่ดี ซื่อสัตย์กับผลงานตัวเอง เราอยากจะ ถ่ายทอดอะไรก็ถ่ายทอด และเราต้องนึกถึงคนอ่าน ด้วย คือท�ำมันให้ดีที่สุด ไม่ท�ำสั่วๆ ไม่หยุดนิ่ง

“เรารู้ว่าชีวิตมีทั้ง ดีและแย่ แต่เรา ไม่รู้จะแสดงออก ทางด้านแย่ทำ�ไม”

ไม่ต้องแข่งกับใคร มีแนวทางของตัวเองให้ชัดเจน แล้วก็ พัฒนางานตัวเองไปตามแนวทางนั้น ท�ำหน้าที่ของ เราให้ดี ในส่วนแนวทางของเราคืออยากให้คนดู แล้วสบายใจ อีกอย่างคือพยายามเป็นปากเสียงให้ ออร์แกนิค เกษตรอินทรีย์อยู่ด้วย เห็นมั้ยงานของ เรามีสาระมากเลยนะ (หัวเราะ) ติดตามงานออร์แกนิคของต้องการได้ที่ : www.facebook.com/organic101workshop 9


BEAR-BLUR! ฺBY : ดามันสกี้ / ivan.damansky@gmail.com

10

เชย


A Poem I Feel กลอนและภาพ : แก้วเกล้า

Êѧ¤Á¤¹¤ÍÂÒÇ ฝุนตระหลบอบอวนไปทุกทิศ ควันพิษบมเมืองจนคุมคลั่ง เสียงแตรก็แปรแปรนสนั่นดัง ปายบิลบอรดก็ลนหลั่งไปทุกทาง

คอยาวมากยาวนอยจะคอยบอก คอยาวคืบยาวศอกตามรากเหงา คอยาวเซ็นยาวนิ้วก็ โซเซา ที่ยาวกวาวาเลาสูงศักดา

ในรถยาวสิบกวาวาคนหนาแนน ทั้งคัดแคนจดสองวาของความกวาง มองมุมเงยเห็นมือรอยหอยโยงยาง เปนโมงยามอางวางแม ไหลชน

มีเงินนับเปนนองทองเปนพี่ มีที่ดินมากนอยกี่ ไมถือคา ถึงเวลาขายออกทั้งไรนา มาเสริมคอเพื่อเสริมคาภาษีตน

ในจำนวนคนนับรอยมีหนอยหนึ่ง ที่มองเห็นจากฝูงชนคนทุกหน เพราะเขามีหัวสูงแทบจะชน เพดานของยานยนตที่นำพา

ดูดาราในทีวีนี่ยาวยิ่ง ถาสามีรวยจริงยิ่งยาวพน เมื่อคอเปนเครื่องวัดจำกัดคน ถึงเวลาตองอดทนเพื่อทำคอ

ถือเปนจุดสนใจใครนับรอย ยให ไหลลา เพราะไมตองใชมือหอยให แคอิงหัวพิงราวก็ผอนพา ทุกสายตาก็อิจฉาไปตามกัน

เมื่อตำรวจไมกลาจับคนคอยาว ก็ถึงทีตองอดขาวเพื่อเสริมศอ จะเสริมกี่เซ็นตเลาเขาคิวรอ ตองยอมผานมีดหมอเพื่อคองาม

ถือเปนความนิยมสังคมนี้ ใครไดดีก็อวดดี ไปตามขั้น มองไมรูดูไมออกจะบอกกัน ผูดีเมืองนี้นั้นตองคอยาว

หนุมคอยาวสาวรุมมะตุมทึ้ง เปนที่งายดูดดึงหญิงหลงถาม บางจึงจัดเสริมคอเพื่อรอกาม หนุมคอสั้นถูกมองขามตามธรรมดา

11


The Owner สัมภาษณ์และเรียบเรียง : นิรัติศัย บุญจันทร์ , พิชญา เพ็งจันทร์ ภาพถ่าย : 9chaballoon

'สะอาด' นักวาดการ์ตูนวัยยี่สิบกลางๆ พร้อมประสบการณ์การวาดการ์ตูนเกือบครึ่งชีวิต มัน ไม่น่าสนใจหรอก ถ้าเขาแค่วาดการ์ตูนเพื่อความสนุกไปวันๆ แต่การ์ตูนของเขากลับเปิดโลกการท�ำงาน ให้กับตัวเขาเอง และผลงานของเขายังท�ำให้เขาได้เดินทางไปรับรางวัลถึงประเทศต้นแบบของการเขียน การ์ตูนอย่างญี่ปุ่น เพราะเหตุใดเขาถึงเลือกอาชีพนักวาดการ์ตูน ครอบครัวยอมรับได้ไหม สิ่งที่เขาได้ เรียนรู้ตลอดเส้นทางของนักวาดการ์ตูนที่ผ่านมา เแล้วเขามองอนาคตตัวเองอย่างไร ในตอนท้ายหนังสือทุกเล่มของเขา เขียนเอาไว้ว่า 'บ้านเกิดคือปากช่อง' เราเล็งเห็นความผูกพัน อะไรบางอย่างต่อสถานในชีวิตของคนๆ หนึ่ง O-N ฉบับนี้เลยถือโอกาสพิเศษในการขอสัมภาษณ์เจ้าตัว สองครั้ง ครั้งแรกคือในเมืองกรุง และอีกครั้งคือที่ปากช่อง บ้านเกิดของเขานั่นเอง

PART 1 : ในเมืองกรุง O-N : มันเป็นปกติของทุกคนที่วัน หนึ่ ง จะลุ ก ขึ้ น มาท� ำ อะไรเป็ น ชิ้ น เป็ น อันวันนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ จึงเอาตัว เองเข้ามาสู่วงการการเขียนการ์ตูน สะอาด : ไม่ ได้มีวันเป็นจุดเปลี่ยนขนาด นั้น มีแต่ท�ำไปเรื่อยๆ เป็นกิจวัตร เขียน การ์ตูนทุกวัน อ่านการ์ตูนทุกวัน เป็น ชีวิตประจ�ำวันของเราเหมือนอาบน�้ำ พอ ท�ำออกมา ผลตอบรับโอเค เราก็เลย คิดว่าสิ่งที่เราท�ำทุกวันมันก็ โอเคกับคน อื่น หลังจากนั้นจึงเห็นทิศทางเป็นอาชีพ แล้วก็ต่อยอดมา

O-N : ไม่ ใช่ว่าความเป็นไทยแบบนั้น แต่พูดเรื่องการผสมผสาน เพราะ ความเป็ น ไทยมั น ไม่ ต ายตั ว อยู ่ แ ล้ ว แต่เรามีอะไรที่เชื่อมโยงกัน ท�ำให้เขา อินกับเรา เขาดูแล้วรู้ว่าเป็นเรา สะอาด : มันก็เชื่อมโยงกันนะ วงการ การ์ ตู น ไทยยุ ค หลั ง มั น เกิ ด จากการ์ ตู น ญี่ปุ่นเข้ามาตีตลาด การ์ตูนที่เคยได้รับ จากอเมริกาเลยตายไป ตอนนี้งานของ 12 เราเลยรับมาจากญี่ปุ่นเต็มๆ จนถึงจุด

O-N : พูดถึงเสียงตอบรับที่มีผลต่อการ เราไม่รู้จักตายก็ ได้ พอมันใหญ่ขึ้น งานก็ ต่อยอด แล้วเรื่องการพัฒนา มีวัตถุดิบ เชื่อมโยงไปถึงสิ่งอื่นๆ เราก็ ไม่รู้ว่ามันดีหรือ อะไรบ้าง ไม่ ดี ท่ี งานของเรากลายเป็ นการเล่า เรื่อง ใหญ่ๆ ทั้งที่เราชอบเรื่องเล็กๆ แต่มันก็คือ สะอาด : เป็นช่วงๆ ไป ทีแรกก็เป็นชีวิต การสื่อสารในเรื่องที่เรารู้สึก ประจ�ำวัน สื่อที่เราเสพ การ์ตูนบ้าง หรือ จิ น ตนาการของเราเองที่ เ ราคิ ด ว่ า มั น น่ า O-N : นักวาดการ์ตูนไทยได้รับอิทธิพล สนุก นักเขียนการ์ตูนไทยส่วนมากถ้าไม่ ใช่ จากญี่ปุ่นมาก แล้วเอกลักษณ์ของ ตามหนั ง สื อ พิ ม พ์ ก็ ต ้ อ งคิ ด ถึ ง ความสนุ ก การ์ตูนไทยคืออะไร ก่อน ร้อยละ 99 ต้องคิดถึงการเอนเตอร์ เทนคนอ่านก่อน แล้วถ้าคนอ่านสนุก อิน สะอาด : เข้าใจว่า ค�ำถามที่ว่า “ความเป็น กับเรา มันก็ดี แต่พอโตขึ้นเราก็อินเรื่องอื่น ไทยคืออะไร?” มันวนเวียนมาสัก 20 ปีแล้ว ที่ ใหญ่กว่าเดิม ตอนเด็กๆ อาจจะเศร้าที่ เพื่อนตาย แต่พอโตเราอาจจะเศร้าที่คนที่

หนึ่งที่ตัวละครทุกตัวเป็นตัวละครหัวทอง ตาโต แฟนตาซี ดูไม่ออกว่างานคนไทยหรือ คนญี่ปุ่น มันท�ำให้คนตั้งค�ำถามว่าอ่านแล้ว ไม่รู้เลยว่าเป็นการ์ตูนไทย แล้วก็ถามต่อว่า ความเป็นการ์ตูนไทยคืออะไร แต่ค�ำถาม นี้มันก็ยาก คือต้องเป็นสไตล์ไหน ฟอร์ม ไหน ต้องมีลายกนกเหรอ เหมือนที่เคยคิด จะเขียนรามเกียรติ์เป็นแฟนตาซี หรือพระ อภัยมณีซาก้า แต่มันก็ยังออกเป็นแฟนตาซี ญี่ปุ่น แล้วก็กลัวว่าไม่เป็นไทย เลยหาอะไร ที่ ไทยมากๆ มาโยนใส่งานตัวเอง บางคน ก็ท�ำได้ลงตัว แต่ส่วนใหญ่ท�ำให้เราอึดอัด เพราะเราก็ ไม่ ได้รังเกียจความเป็นญี่ปุ่น ถ้า

เขาวาดอย่างที่เขาชอบมันก็ โอเค ไม่ต้องดู ว่าเป็นไทยก็ ได้ แต่คนบางส่วนก็ยังไม่ โอเค เขาเลยอยากหาความเป็ น ไทยจากการ ร�ำ ชฏา ความเป็นชาวบ้าน ท้องทุ่งไทย วัดวาอาราม ใส่เข้าไปมันก็ดูไทยแล้วรึเปล่า เขาพยายามปรับกัน โดยตัวฟอร์มแล้วมัน กระจัดกระจายมาก แต่ด้วยความที่เราไม่ ได้มีรากฐานต่อยอดด้านนี้เหมือนที่การ์ตูน ญี่ปุ่นมีระบบผู้ช่วยที่ต้องลอกลายเส้นอยู่ ตลอด ลายเส้นมันก็มีความเชื่อมโยงกัน แต่ เราโตมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน นัก เขี ย นที่ จ ะมี เ อกลั ก ษณ์ ท างลายเส้ น ฉี ก ไป จากญี่ปุ่น ก็กลายเป็นยุโรปหรืออเมริกาไป


ชื่อ : ธนิสร์ วีระศักดิ์วงศ์ ชื่อเล่น : ภูมิ นามปากกา : สะอาด จบจากคณะวารสารศาสตร์และ สื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์

O-N : แล้วส�ำหรับตัวเอง มีสัญลักษณ์ อะไรบ้างที่บ่งบอกว่าเป็นสะอาด สะอาด : เราจะเล่าเรื่องคนไทย เราเขียน ให้คนไทยอ่าน ไม่ ได้คิดจะเขียนให้คนต่าง วัฒนธรรม บางอย่างก็มีแต่คนไทยที่จะ เข้าใจมุก แต่ด้านลายเส้นเรารู้สึกว่าเรา เป็นญี่ปุ่นมากๆ เรารู้สึกตลอดจนกระทั่งมี คนบอกว่าเราเป็นเอกลักษณ์ แต่เราคิดมา ตลอดว่าเราเป็นแบบญี่ปุ่น ทั้งที่คนญี่ปุ่นก็ บอกว่าเรามีเอกลักษณ์ของตัวเอง เราเลย ไม่รู้ว่าเอกลักษณ์จริงๆ แล้วคือยังไง แต่ เราว่างานเราเป็นการผสมผสานของญี่ปุ่น อาจจะมียุโรปบ้าง แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือ เรา ถ้าจะให้นิยามก็นิยามไม่ถูก ให้คนอ่าน มองดีกว่า

ตอนเด็กๆ เราอาจจะเศร้า ที่เพื่อนตาย แต่พอโตเรา อาจจะเศร้าที่คนที่เราไม่ รู้จักตายก็ได้ 13


O-N : สัญลักษณ์ที่สอดแทรกอยู่ ใน การ์ตูนแต่ละแก๊ก คนอ่านรับรู้ ได้หรือ เปล่าว่าสิ่งที่เราอยากสื่อสารคืออะไรกัน แน่ เช่น การเสียดสี คนอ่านเขารู้หรือ เปล่าว่าเราจะสื่อสารแบบนี้ ผลตอบรับ มันเป็นยังไง มันดีหรือเปล่า หรือว่าเขา ด่าหรือเปล่า สะอาด : ว่าตามทฤษฎีการสื่อสารน่ะ เรา เป็นผู้สื่อสาร การ์ตูนเป็นสารของเรา แล้ว ผู้รับสารเขาจะตีความ จะถอดรหัสยังไงมัน ก็ต้องแล้วแต่เขา เราควบคุมมันไม่ ได้ แล้ว ในแง่กระบวนการท�ำงาน เรารู้สึกว่ายิ่ง ผู้รับสารตีความสารไปหลากหลายแค่ ไหน หรือว่าเขาเกิดการถกเถียงด้วยสารนี้มาก แค่ ไหน มันก็ยิ่งเป็นงานที่ดี เรารู้สึกว่าสาร ที่สามารถตีความได้ชัดเป๊ะและเข้าใจตรง กัน มันจะเป็นสไตล์งานที่เราไม่ชอบ แบบ ”นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...” ซึ่งเรารู้สึกว่า อยากให้งานเราไม่ชี้น�ำ ไม่ ได้ ให้ค�ำตอบ แต่ เป็นการตั้งค�ำถาม O-N : การที่หยิบยกเรื่องจริงในสังคม ที่บางทีคนไทยก็รู้ แต่บางอย่างก็รับไม่ ได้ แล้ววาดการ์ตูนออกมาสะท้อนความ จริงแบบนี้ มีการตอบรับอย่างไร เช่น เวลาทิ้งขยะ เขียนออกมาแล้วคนอ่าน รู้สึก เออ ต่อไปจะไม่ทิ้งขยะ หรือมีคน มาต่อว่าว่า เฮ้ย ดราม่าไปหรือเปล่า มัน เป็นแค่เรื่องเล็กๆ เองนะ มีแบบนี้บ้าง ไหม สะอาด : เรื่องการทิ้งขยะเนี่ย เคยลงใน นิตยสารสารคดี แล้วทีมงานก็มาบอกว่า หลั ง จากได้ อ ่ า นแล้ ว เวลาจะท� ำอะไรก็ จ ะ ระวังตัวมากเลย O-N : แสดงว่าที่เราสื่อสารไปมันได้ ประโยชน์ ถูกไหม สะอาด : เราคิดว่า.. เราก็ ไม่รู้ผลลัพธ์ สุดท้ายว่ามันท�ำให้เขาดีขึ้นจริงไหม แต่ เขาอาจจะระวังตัวมากขึ้นจริง เรารู้สึกว่า การ์ ตู น ชิ้ น หนึ่ ง เปลี่ ย นอะไรใครยากมาก เทียบกับตัวเราเอง เราไม่มีค�ำคมเปลี่ยน ชีวิตหรือแก๊กเปลี่ยนชีวิต เราเลยรู้สึกว่าไม่ คาดหวังหรือคิดถึงมันมากเกินไปดีกว่า เรา แค่ท�ำในสิ่งที่เราคิดว่ามันได้ต้ังค�ำถามหรือ อะไรที่เราคิดว่ามันน่าสนใจ แต่เรื่องที่ว่า มีคนมาด่าก็แล้วแต่ประเด็น บางประเด็น 14

เช่น แก๊กนักศึกษาที่เด็กม.รัฐดูถูกม.เอกชน เอกชนดูถูกรัฐ ก็จะมีคนออกมาท้วงว่า ความจริงไม่ ได้ขนาดนั้น แล้วเดี๋ยวนี้ม.รัฐ ก็ออกนอกระบบหมดแล้ว เราก็เพิ่งเคย เจอผลตอบรับแบบนี้ ประสาทแดกไปช่วง หนึ่ง กดรีเฟรชอยู่หน้าจอว่าเค้าจะด่าอะไร บ้าง อันนี้ตอบดีมั้ย หรือว่าเงียบดี ก็มีบอก ว่าเราอคติเกินไปหรือเปล่า แล้วก็มีคนมา กดไลค์ กดแชร์ ถกเถียงกัน

O-N : แล้วท�ำไมถึงเลือกวาดการ์ตูน แก๊กเสียดสีสังคม สะท้อนสังคม สะอาด : เราว่ามันมาจากความสนใจ ของเราที่พอเราโตขึ้นอารมณ์ขันก็เปลี่ยน ไป เราเริ่มไม่ค่อยรู้สึกว่ามุกเอาถาดตี หัวมันตลก แต่ตลกร้ายในชีวิตเรามันน่า สนใจกว่า พอเราโตขึ้น อ่านงานประเภท นั้นมากขึ้น งานของเราที่ออกมาเลยก ลายเป็นเรื่องสะท้อนสังคม

O-N : พอเจอแบบนี้ ท�ำอย่างไร มี กระบวนการอะไรที่จะสร้างงานชิ้นต่อ O-N : การยึดอ�ำนาจมีผลกระทบต่อ ไอเดียไหม หมายถึงต้องเซ็นเซอร์ชิ้น ไปบ้าง งานจากสมองหรือเปล่า แล้วมีเรื่อง สะอาด : เราจะตรวจสอบมากขึ้น จากแต่ ที่อยากจะพูดโดยไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ ก่อนที่เราท�ำอะไรง่ายๆ อย่างงานนี้เราได้ จากสมองไหม ไอเดียมาจากอาจารย์ที่บอก “พวกคุณต้อง ตั้งใจเรียนกันสิ ที่ค่าเทอมคุณถูกเพราะเงิน สะอาด : ย้อนกลับไปช่วงรัฐประหาร เราฝันถึง ภาษีของประชาชนนะ” เราก็เอามาต่อย ความรู้สึกเราแรงมาก อด แต่เราไม่ ได้คิดว่าจะมีเด็ก ม.เอกชนมา รัฐประหารเป็นอาทิตย์ มันเป็นช่วงที่เรา ดูถูกม.รัฐ แบบในการ์ตูนจริงๆ รุ่นพี่ที่เรา ท�ำทีสิสด้วย เกี่ยวกับการเมือง ความ เคารพคนหนึ่งก็บอกว่ามันไม่ ใช่งานที่ดี มัน เป็นไทย แล้วพอเจอเหตุการณ์แบบนี้เรา ท�ำให้เราต้องกลับมาตรวจสอบตัวเองใน ยิ่งรู้สึกว่าเราต้องท�ำอะไรบางอย่าง แต่ ระดับหนึ่งว่า สุดท้ายแล้วมันเป็นงานที่ควร ก็ยังไม่รู้นะว่าต้องท�ำอะไร ถึงจุดหนึ่งที่ ปรับปรุงหรือควรระวังมากกว่านี้มั้ย ต้อง เราเรียนวารสารฯ มา เราก็ ได้อ่านงาน เซ็นเซอร์มากกว่านี้มั้ย เราเลยได้ข้อสรุปว่า พวกกุหลาบ สายประดิษฐ์ที่เขาต่อสู้กับ งานแก๊กไม่ควรอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เผด็จการ เราก็ซึมซับเข้ามา แล้วเรา เสมอไป งานแก๊กไม่จ�ำเป็นต้องเอาชีวิตจริง ก็ เ ห็ น ว่ า ท� ำ ไมคณะเราที่ พ ร�่ ำ สอนเรื่ อ ง มาวาด เราจะเขียนขึ้นมาเองก็ ได้ ขึ้นอยู่กับ จรรยาบรรณว่าการไม่ ให้เสรีภาพกับสื่อ ว่าเราจะคิดว่างานแก๊กคืออะไร และการที่ เป็นเรื่องเลวร้ายมาก เราต้องเปิดพื้นที่ ท�ำให้คนมาถกเถียงกันก็ ไม่ ใช่เรื่องแย่ มัน ให้สื่อ สอนตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ แต่พอรัฐ อาจเป็นเรื่องดีก็ ได้ เราได้ตรวจสอบตัวเรา ออกมาออกกฎอัยการศึกห้ามสื่อท�ำอะไร เอง เขาก็ ได้ตรวจสอบตัวเขาว่ามีความคิด เขาก็ ไม่ออกแถลงการณ์ ไม่พยายามท�ำ อะไรเลยแล้วก็สอนนักศึกษาได้ตามปกติ แบบนี้อยู่ มันมีคนที่เห็นต่างอยู่ เราก็ ไม่เข้าใจว่าท�ำไมมันเป็นแบบนี้


งานแก๊กไม่ควรอยู่ บนพื้นฐานความ เป็นจริงเสมอไป งานแก๊กไม่จำ�เป็น ต้องเอาชีวิตจริงมา วาด เราจะเขียนขึ้น มาเองก็ได้

O-N : มันมีความสงสัยเกี่ยวกับระบบ การศึกษาใช่ ไหม เพราะตัวความรู้ เขาสอนมาว่าเสรีภาพเป็นสิ่งที่ดี แต่ ว่าการกระท�ำกลายเป็นว่า ‘ช่างแม่ง!’ สะอาด : อื้ม แล้วเขาสอนลูกศิษย์ด้วย ความรู้สึกไหน? แล้วเด็กมันจะเชื่อเห รอ? แล้วเด็กเรียนด้วยความรู้สึกไหน? เขาสอนเรื่ อ งจรรยาบรรณสื่ อ ไปด้ ว ย พร้อมกับบอกว่าการเซ็นเซอร์สื่อเป็นสิ่ง ที่ถูกแล้วได้ด้วยเหรอ เรางงมากท�ำไม มหาวิทยาลัยไม่ออกมาท�ำอะไรเลย แต่ เขาอาจจะมีเหตุจ�ำเป็น แบบการเมือง ในคณะ หรือโดนอธิการกดดัน เราเลย รู้สึกว่าเราก็มีข้อดีนะ เราเป็นฟรีแลนซ์ มี อิสระ ในฐานะสื่ออิสระเราเลยท�ำอะไร ก็ ได้ ช่วงแรกที่เราเขียนเราไม่ ได้เอาไป ลงมติชนด้วยทั้งที่เขาเปิด เราเอาไปลง ในเว็บเลย เราคิดว่าพอเป็นสื่อหลักแล้ว ต้องเงียบ พูดแต่ ในด้านที่ดี เราก็เลย ต้องออกมาพูดอีกด้านหนึ่ง O-N : คือแทนที่จะเซ็นเซอร์ กลาย เป็นเสนออีกด้านออกมาเลย สะอาด : ใช่ มันยิ่งท�ำให้เราต้องท�ำ อะไรบางอย่าง เพราะเราอิสระกว่า เขา แต่แน่นอนว่าก็มีบางประเด็นที่เรา ต้องเซ็นเซอร์ตัวเอง ต้องระมัดระวังใน ระดับหนึ่ง แต่เราก็ปลอบใจตัวเองว่า เขาคงไม่มาจับนักเขียนการ์ตูนหรอก แม่ เราเองยังบอกเลยว่าให้เลิกเขียนการ์ตูน การเมืองเถอะ แต่นอกจากนั้นก็มีหลาย ชิ้นที่เรารู้สึกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ความคิด

เห็นทุกอย่างในสังคมมันเปราะบางมาก ยิ่ ง ปิ ด กั้ น เสรี ภ าพในการพู ด ในหลายๆ เรื่อง คนก็ยิ่งพร้อมที่ออกมาแสดงความ เห็น เหมือนคนเก็บอั้น สังเกตช่วงแรกๆ จะมีดราม่าสารพัดเรื่องมาก เหมือนคน หั น ไปตี กั น เรื่ อ งอื่ น ที่ ไม่ เ รื่ อ งการเมื อ ง เพราะงั้นเวลาเราน�ำเสนอ เราก็จะคิดว่า อยากจะสื่อสารกับฝ่ายที่ ไม่เห็นด้วย เรา อยากโน้มน้าว ตั้งค�ำถามกับเขามากกว่า ฝ่ายที่เห็นด้วยกับเราอยู่แล้ว อันนี้เลย เป็นเหตุผลที่เราไม่รู้สึกว่าอยากลงมติชน มากนัก เพราะมันมีคนอ่านกลุ่มหนึ่ง ใน ขณะที่ ค นอ่ า นอี ก กลุ ่ ม ไม่ เ อามติ ช นเลย แต่ ข ณะที่ แ ฟนคลั บ เรามั น เป็ น อี ก แบบ แล้วเราก็อยากคุยกับคนกว้างๆ อยาก ให้เขาออกมาคุยกัน ออกมาถกเถียงกัน บางทีมันก็ โอเค แต่บางทีก็ ไม่ เพราะ มันก็ยังมีบางประเด็นที่เรารู้สึกว่าเราคิด ให้มันก�้ำกึ่งไม่ ได้ เราคิดว่าทุกสีควรจะ ฉุกใจบ้าง เช่นเรื่องจับนักศึกษาขัง เรา ว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกสีเข้าใจได้ว่ามันไม่ โอเค ถ้าตั้งสติหน่อยหนึ่ง มันเป็นเรื่องคอม มอนเซ้นส์มากๆ แต่ยิ่งเป็นเรื่องคอมมอน เซ้นส์ งานเราก็อาจจะออกมาเป็นเชิงด่า เขา เพราะงั้นเรายิ่งต้องระวัง เพราะ เราเคยถูกสอนมาว่าเวลาจะโน้มน้าวใคร เราต้องไม่ ไปด่าเขา เพราะเขาจะปิดหู ทันที ตราบใดที่เราไปด่าเขาว่าคุณโง่ ทั้งที่จบดอกเตอร์ มันก็ยิ่งยากที่เขาจะ ยอมรับ

O-N : ตอนนี้มันก็เหมือนกับเป็น การ์ตูนการเมืองบ้าง แล้วอย่าง ประโยคที่ โดนคอมเม้ น ท์ ว ่ า ไม่ ใ ช่ ค น ไทย มันมีผลกระเทือนยังไงบ้าง มี แรงกระเพื่อมอะไรไหมอยากพูดอะไร กับคนที่เห็นต่างหรือเปล่า สะอาด : ไม่ถึงขนาดมาบอกว่าไม่ ใช่คน ไทยนะ แต่ก็มีคนที่ ไม่เห็นด้วย เช่นเรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญที่เราเห็นว่ามันพิสดาร มาก เราว่าไม่ โอเค เลยพยายามน�ำเสนอ ออกมาแล้วก็แปะลิ้งค์ ทีนี้ก็มีคนออกมาบ อกว่าเราเป็นฝ่ายโน้นนี้ จนตอนนี้เราเริ่ม ตลกแล้ว เพราะพอเราตัดสินใจจะพูด ประเด็นนี้ มันก็ต้องเตรียมใจว่าจะต้อง มีข้อหาควายแดงเกิดขึ้น อย่างพี่นิ้วกลม ก็คงเตรียมใจแล้วเหมือนกัน แต่สุดท้าย เราว่าเราก็ต้องท�ำ งานเขียนชิ้นของพี่เอ๋ ชิ้นนั้นเราว่าทั้งสุภาพ มีวาทศิลป์ การ โน้มน้าว ตรงตามหลักการทุกอย่าง เป็น งานที่ดีมาก แต่มันก็ยังโดนแบบนั้น เรา เลยรู้ว่าเราไม่มีทางหลีกเลี่ยงผลตอบรับ ในทางลบพ้นหรอก O-N : เปลี่ยนเรื่อง ไม่เอาเรื่อง การเมืองแล้ว มาเรื่องที่ โดนถาม บ่อยๆ ละกัน เรื่องรางวัลญี่ปุ่น มี เอกลักษณ์อะไรที่ท�ำให้ ได้รางวัล สะอาด : จริงๆ เขาห้ามบอก แต่เราก็ บอกทุกสื่อนะ (หัวเราะ) เขาบอกว่างาน เรามีกลิ่นอายของยุค 70 หรือ 80 นี่ แหละ คือลายเส้นเราค่อนข้างเก่า มุม กล้องก็ ไม่ค่อยเปลี่ยน ไม่ค่อยหวือหวา แม้แต่การวางช่อง อย่างช่องการ์ตูนสมัย ใหม่จะชอบให้ตกขอบ เขาเรียกตัดตก แต่อย่างเราจะตีกรอบรอบๆ ไว้อยู่


มาทางสิ่งพิมพ์ เราชอบงานเขียนมาก ชอบเขียนด้วย เราว่าเราเป็นนักเขียน การ์ ตู น ไม่ กี่ ค นที่ มี ค วามเป็ น สายงาน เขียนสูง ชอบอ่านการท�ำงานของนัก เขียน อย่างงานของกนกพงศ์นี่เราอิน มาก รงษ์ วงสวรรค์ก็ ใช่ เราอ่านของ เขาแล้วเราก็เอามาปรับเรื่องการท�ำงาน เรื่ อ งสั ง คมมั น ก็ แ ตกยอดมาจากตรงนี้ อย่างประวัติของกุหลาบ อาจารย์เสก สรรค์ เพราะมันเป็นเรื่องสังคมด้วย มี วรรณศิลป์ด้วย เริ่มสนใจไปทางงาน วิชาการ ประวัติศาสตร์ แล้วสุดท้าย ข้อมูลพวกนี้พอเอามาปรับเป็นการ์ตูนเชิง ขบขันแล้วเราโอเคกับมัน O-N : ดูเหมือนการ์ตูนยุคเก่า สะอาด : ใช่ มันเป็นความรู้สึกย้อนยุค หน่อย บวกกับเขาบอกว่าคอนเท้นต์เรา เป็นคอนเท้นต์ที่ ให้ความหวังก�ำลังใจ ซึ่ง เหมาะกับคนญี่ปุ่นตอนนี้ เพราะมันพูด ถึงคนที่ท�ำสิ่งที่ตัวเองชอบมากๆ แล้ว ล้มเหลว แล้วก็มองโลกในแง่ดีว่าเราล้ม เหลวแล้วได้อะไรจากมันบ้าง เขาบอก ว่าคนญี่ปุ่นน่ะมีฟีลนี้ คือเขาเป็นคนที่ พยายามท�ำอะไรมากๆ ตลอดเวลา แล้ว บางคนล้มเหลวก็ฆ่าตัวตาย แต่งานนี้มัน ไปตอบโจทย์เรื่องการให้ก�ำลังใจ แล้วอีก อย่างหนึ่งที่เราคิดเอง ตัวคอนเท้นต์มัน เกี่ยวกับญี่ปุ่นหลายอย่างที่อาจถูกจริต เขา เช่น เรื่องกินจุที่เราเอามาจากทีวี แชมป์เปี้ยน แม่ค้าร้านเช่าการ์ตูนญี่ปุ่น ดราก้อนบอล ล้อเลียน แข่งฟุตบอล เด็กที่อยากเป็นตลกคาเฟ่ ซึ่งญี่ปุ่นเป็น ประเทศที่จริงจังกับอาชีพตลกมากๆ มัน ก็อาจเข้ากับรสนิยมเขา O-N : ในเพจเห็นอยู่รูปหนึ่งที่เป็น โต๊ะท�ำงาน มีหนังสือหลายแนวมาก หนั ง สื อ พวกนั้ น มี อิ ท ธิ พ ลต่ อ การวา ดการ์ตูนมั้ย

O-N : สรุปก็คือการอ่านมันก็คือ วั ต ถุ ดิ บ ชั้ น ดี ที่ ท� ำ ให้ เ รากลั่ น ออกมา เป็นการ์ตูน สะอาด : ใช่ เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้เป็นคน ได้อย่างทุกวันนี้เพราะการอ่าน คือถ้าไม่ อ่านมันก็อาจจะออกมาเป็นอีกแบบหนึ่ง O-N : นอกเหนือจากการอ่านแล้วมี อย่างอื่นอีกไหมที่ส่งผลต่องานวาดรูป สะอาด : จริงๆ ก็ศิลปะทุกประเภท เพลง หนัง การ์ตูน หนังสือ และออก เดินทางบ้าง O-N : แล้วนอกจากวาดการ์ตูนแล้ว มีผลงานที่ผนวกกับศาสตร์อื่นได้ ไหม เช่นมีรูปวาดอยู่บนเสื้อยืด มันเป็นการ น� ำ เสนอไอเดี ย ของงานอี ก ช่ อ งทาง หรือเปล่า สะอาด : สมมุติว่าเราสะท้อนสังคม คนก็จะมองว่าเออ สะอาดเป็นคนแบบนี้ เป็นคนคิดถึงสังคม แต่พอเราขายของ ปุ๊บ อ้าว มึงทุนนิยมนี่ เราเลยว่าเราไม่ สุดโต่งขนาดนั้น เราท�ำในระดับที่เรารู้ สึกโอเคกับมัน มันก็ต้องมีเส้นบางอย่าง คื อ เราไม่ รั บ โฆษณาของคนอื่ น ที่ แ บบ เขียนการ์ตูนแก๊กสี่ช่องให้หน่อย เราไม่

เอาแบบนั้น แต่อันนี้ที่มาขายของเพราะ มันเป็นบริษัทพี่เรา แต่เราก็ ไม่ ได้ซีเรียส นะว่าคนจะมองเรายังไง O-N : การเอาเรื่องเครียดๆ มา ย่อยเป็นเชิงสัญลักษณ์เนี่ยเพื่ออะไร จรรโลงใจหรื อ ว่ า ท� ำ ให้ ใครบางคน เปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม สะอาด : นึกไม่ออกนะ มีช่วงหนึ่ง เหมือนกัน ปีที่แล้วที่เราจบใหม่ๆ เราเคย คิดว่าเราจะไม่เป็นแค่นักเขียนการ์ตูนแต่ เราอยากเป็นคนสื่อสารที่เกี่ยวกับสังคม มากขึ้น เราอยากโฟกัสไปสู่ทิศทางนั้น มากขึ้น เราคาดหวังกับมันมาก เราถึงขั้น ที่ว่าเราอยากดัง อยากเป็นคนที่พูดแล้ว มีคนเชื่อ แบบถ้าเรามีชื่อเสียงคนก็จะฟัง เหมือนถ้าให้ณเดชช์มาพูดเรื่องภาคใต้ ว่ามันซับซ้อนกว่าที่รัฐบาลเสนอ คนก็น่า จะสนใจใช่ ไหม แต่พอมาถึงจุดหนึ่งเรา ก็เริ่มไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราจะพูดมันจะดีต่อ สังคมทั้งหมด ถึงตอนนี้เราก็ท�ำโดยไม่ ได้ คาดหวังถึงผลตอบรับว่างานเราจะต้อง ไปเปลี่ยนอะไรใคร เราท�ำด้วยความรู้สึก ที่ว่า “แค่มันตอบอะไรในตัวเราบางอย่าง ว่าเราต้องท�ำอะไรบางอย่าง” แต่ถ้าถาม ว่ามันเปลี่ยนอะไรใครไหม เรายังไม่เจอ คนอ่านที่มาพูดว่า “ขอบคุณการ์ตูนพี่ มากที่ช่วยให้เราฉุกคิด การ์ตูนพี่เปลี่ยน ชีวิตหนูเลย” ส่วนมากก็แค่บอกว่าการ์ตูน พี่ตลกดี O-N : แล้วต่อไปในอนาคตจะพัฒนา ตัวเอง สื่อสารผลงานออกมายังไงต่อ สะอาด : เราอยากเก่งกว่านี้เยอะๆ เพื่อ ที่จะน�ำเสนองานได้สนุกกว่านี้ ซึ่งในแง่ การด�ำรงชีวิตมันก็ยาก เพราะเราก็ต้อง เขียนงานเลี้ยงชีพบ้าง ถึงเราจะมีความ ฝันแบบนักเขียนการ์ตูนเช่นว่าเราอยาก เขียนซีรีย์มันๆ อยากเขียนการ์ตูนบาส เราชอบบาส แล้วมันก็ตีกันว่าเราจะเอน เตอร์เทนขนาดไหน ซีเรียสขนาดไหน

สะอาด:โห สุดๆ O-N : แล้วมันมีแบบที่อ่านเสร็จแล้ว ต้องเอามาวาดทันทีเลยไหม สะอาด : ไม่มีนะ แต่มีแบบอ่านๆ แล้ว ปิ๊ง ที่เราว่ามีอิทธิพลสูงเพราะเราเรียน 16

ถึงตอนนี้เราก็ทำ�โดยไม่ได้คาดหวังถึงผลตอบ รับว่างานเราจะต้องไปเปลี่ยนอะไรใคร เราทำ� ด้วยความรู้สึกที่ว่า “แค่มันตอบอะไรในตัวเรา บางอย่าง ว่าเราต้องทำ�อะไรบางอย่าง”


อย่างงานช่วงหนึ่งเราจะแข็งมาก เหมือน งานยุควรรณกรรมเพื่อชีวิต พยายามจะ สอนเขา แต่พอมองกลับมาเรารู้สึกว่า เราอวดฉลาด แล้วเราก็คิดว่ามันไม่ค่อย มีประโยชน์ทั้งที่เราเจตนาดี และเราก็ วกกลับมาว่างานศิลปะที่เป็นที่สะเทือน หรือถกเถียงกัน มันคิดถึงสังคมเป็นหลัก มั้ย อย่างฮอร์ โมนคิดเรื่องสังคมตอน เขียนบทมั้ย คิดถึงประเด็นเรื่องเพศหรือ เปล่า ว่าการน�ำเสนอแบบนี้มันจะท�ำให้ คนเปิดกว้างเรื่องเพศ หรือว่าคิดว่ามัน แรงดี เล่นแบบนี้เลย เราเริ่มตั้งค�ำถาม ว่าถ้าเราเริ่มคิดถึงคอนเท้นต์มาก ว่ามัน จะท�ำให้ผลลัพธ์สุทธิดีหรือว่าแย่ลงกัน แน่ มันจึงเป็นช่วงที่เราตั้งค�ำถามกับตัว เองว่าเราจะท�ำยังไงกับตัวเอง ต้องเก่ง ขนาดไหน จะน�ำเสนอเป็นสารคดีที่สนุก มากๆ มั้ย แต่ว่ามีศิลปะบางอย่าง หรือ ว่าเราจะน�ำเสนอเรื่องสั้นที่เรารู้สึกกับ มันมากแต่เรื่องสั้นมันจะชี้น�ำเกินไปหรือ ว่าตั้งค�ำถามไม่ดีหรือเปล่า ถ้าจะให้ตอบ ในแง่ว่าโฟกัสที่ตรงไหน เส้นทางก็คง ประมาณนี้ครับ ให้ประเด็นมันเข้มข้นขึ้น แล้วเราก็เก่งในการน�ำเสนอมันมากขึ้น O-N : ระหว่างงานตามโจทย์กับงาน ที่เราสื่อความเป็นตัวเอง มันต่างกัน ยังไงบ้าง ความคิด ความรู้สึก สะอาด : อย่างงานตามโจทย์มันก็ต้อง มีลูกค้า ก็มี โดนบ.ก. แก้ ไขว่างานไม่ตาม คอนเซปต์ เราจะโดนเรื่องนี้เยอะ อย่าง เราเคยโฟกั ส ตอนเขี ย นเรื่ อ งสั้ น ว่ า เรา ต้องเขียนตามโจทย์เป๊ะๆ ให้รับกับคอน เซปต์นั้น เราเหนื่อยเรื่องกระบวนการ เวลาต้องวาดตามคอนเซปต์ แต่ถ้างาน กับลูกค้าจะเหนื่อยเรื่องโดนแก้เรื่องที่ ไม่ เกี่ยวกับคอนเท้นต์หรือคุณภาพ เราก็ พยายามจะลดมันเพราะเราไม่ค่อยชอบ เราเลยไม่ค่อยท�ำงานโฆษณาที่เกี่ยวกับ สินค้าถ้ารับเราก็จะยังวาดในแบบที่เป็น ตัวเองอยู่ O-N : แล้วอนาคตการเป็นนักวาด การ์ตูนไทย ควรมีหลักมีเกณฑ์ มากกว่านี้ มีเอเจนซี่ มีส�ำนักพิมพ์ที่ เป็นกิจจะลักษณะโดยตรง หรือว่ามี แนวทางพัฒนาอาชีพนี้ยังไงให้มั่นคง สะอาด : ตอนนี้ก็มีหลายเจ้านะ แต่

ถามว่ามั่นคงเป็นระบบมั้ย ขายหัวเราะ น่าจะดีสุด มีหอพักให้ มีสวัสดิการดูแล นักเขียน สร้างระบบที่ดูแลนักเขียน แต่ ถ้าจะท�ำแบบนั้นได้ต้องเอางานเข้าระบบ อุตสาหกรรมแล้วผลตอบรับโอเค แต่ เดี๋ ย วนี้ อิ น เตอร์ เ น็ ต ก็ มี บ ทบาทมากขึ้ น เว็บไซต์ออนไลน์ก็มีเยอะขึ้น คนที่อยาก เขียนซีรีย์มันมาเยอะ แต่มันไม่มีที่ลง พอ มีต ลาดออนไลน์ แ บบนี้ ค นเลยแห่ กันมา แต่ทิศทางคงยังไม่แน่ชัด ก็เลยยังดูไม่ มั่นคง O-N : คิดว่าการ์ตูนนี่เป็นศิลปะที่ ทั ด เที ย มกั บ ศิ ล ปะกระแสหลั ก ได้ มั้ ย พวกงานเขียน วรรณกรรม วาดรูป สะอาด : จะพูดยังไงดี เราว่าการ์ตูน บางเรื่องก็ดีกว่าหนังสือหลายๆ เรื่อง แต่ โลกสากลหรือโลกศิลปะไม่ ได้ยอมรับ มัน เหมือนที่มีช่วงหนึ่งหนังไม่ ได้รับการ ยอมรับว่าเป็นศิลปะ จนคนท�ำหนังต้อง ออกมาต่อรองว่ามันเป็นศิลปะ เป็นอาร์ต แขนงหนึ่ง ตอนนี้การ์ตูนก็คงอยู่ ในช่วงที่ ถูกดูถูกและต้องต่อสู้แบบนั้น O-N : แล้วในอนาคต อยากให้มีศิลปิน แห่งชาติสาขานักวาดการ์ตูนไหม สะอาด : ส่วนตัวเราเฉยๆ แต่เรารู้สึก ว่าถ้ามีมันก็ดี ตรงที่ท�ำให้เป็นทางการ เป็ น การต่ อ รองในการท� ำ มาหากิ น มากกว่า เราไม่ ได้รู้สึกอยากได้รับการ ยอมรั บ ว่ า นั ก เขี ย นการ์ ตู น เป็ น อาชี พ ที่ ส�ำคัญ เป็นอาชีพที่ทรงภูมิ มีคุณค่า จะ มองว่าปัญญาอ่อนเราก็ ไม่ซีเรียส แต่ ใน แง่ที่ท�ำให้มันเป็นกิจจะลักษณะ คนใน วงการยอมรับ พ่อแม่เข้าใจนั่นเป็นเรื่อง ส�ำคัญ ช่วงหลังก็เคยมีคนจากองค์กร อะไรสักอย่างพยายามจะให้จัดสอบวัด ระดับวิชาชีพนักวาดภาพประกอบ คือ เขาพยายามจะผลักดันให้รัฐรู้ว่ามีอาชีพ แบบนี้นะ มันเป็นประโยชน์ ในแง่ชีวิตทาง สังคมมากกว่า O-N : พ่อกับแม่ว่าอะไรไหมที่มาวาด การ์ตูนเต็มตัว สะอาด : มันมีหลายระดับ ตั้งแต่ ไม่เห็น ด้วย ญาติดูถูก เราเคยขนาดจะไม่เรียน จะเขียนการ์ตูนอย่างเดียว แต่สุดท้าย

ก็เรียนแล้วก็เขียนไปด้วย ท�ำให้เขาเห็น รางวัลเลยส�ำคัญ การยอมรับมันมาจาก รางวัล มันไม่ ได้วัดอะไรแต่ท�ำให้คนรอบ ข้างเข้าใจเรามากขึ้น ค่อยๆ ยอมรับสิ่ง ที่เราท�ำ O-N : รางวัลนี่เหมือนใบเบิกทาง สะอาด : บางคนก็ดี ใจมาก แต่เรา พยายามจะไม่ดี ใจไปกับมัน เพราะเรา รู้สึกว่ามีคนเก่งกว่าเราแต่ ไม่ ได้ และตอน นั้นเราก็ยังเด็กมาก เราไม่อยากเหลิงไป กับมัน พอเราดี ใจเสร็จ เราก็เอารางวัล เก็บไว้ ไม่เปิดมาดูอีกเลย เราพยายามจะ จัดการกับความรู้สึกตัวเอง เราอยากอยู่ ในวงการนี้นานๆ เราเลยต้องอ่อนหน่อย ไม่เหลิง ต้องฝึกรับฟังคนอ่าน หรือถ้า มีคนสนใจมากๆ เราก็ต้องคิดเผื่อว่าวัน หนึ่งชื่อเสียงมันต้องลดลง ถ้าวันหนึ่งไม่ ได้มีคนมาสัมภาษณ์แบบนี้เราจะอยู่ ใน วงการยังไง เขียนงานแบบไหน O-N : ตั้งใจจะวาดการ์ตูนตลอดชีวิต เลยหรือเปล่า สะอาด : ก็ถ้าวันหนึ่งมีคนบอกว่าเลิก เหอะสะอาด มันเอ้าท์แล้ว เราก็อาจจะ เลิก เพราะถึงเราจะโฟกัสกับตัวเองสูง แต่ถ้าไม่มีคนอ่าน เราก็เลิกได้ ไม่ ได้รู้สึก ว่าจะเป็นจะตายถ้าไม่ ได้เขียนการ์ตูน O-N : เรื่องปี๊บคลุมหัวนี่ เป็น เอกลักษณ์ของงานวาดหรือเปล่า สะอาด : เราอยากเล่าเรื่องตัวเอง แต่ เราไม่อยากวาดหน้าตัวเอง เราว่ามัน จั๊กจี้มาก จริงๆ มีการ์ตูนฝรั่งหลายเรื่อง ที่เล่าเรื่องชีวิตของคนเขียนที่ ไปเดินทาง ไปพื้นที่สงคราม ไปโน่นนี่ แต่การ์ตูนไทย จะไม่ค่อยมี เรารู้สึกว่าเราไม่ ใช่คนดังที่ ใครจะมาสนใจ เลยเอาปี๊บคลุมไว้ ให้มัน เป็นใครคนหนึ่งที่เหมือนไม่ ใช่เรา ให้เล่า เรื่องเราไป เพราะการ์ตูนมันอนุญาตให้ เราเว่อร์ได้อยู่แล้ว คงไม่มี ใครใช้ชีวิตโดย การเอาปี๊บคลุมหัวตลอดใช่มั้ย แต่มันก็ มีปัญหา คือเวลาอยากวาดให้มันแสดง สีหน้า เราก็วาดไม่ ได้ ก็ต้องใช้เอฟเฟค ภายนอกไป แล้วมันก็เป็นสัญลักษณ์ของ คนไม่มีค่าด้วย คนที่เอาปี๊บคลุมหัวเนี่ย มันเป็นคาแร็กเตอร์ที่ดูกระจอกๆ เรา ชอบแบบนั้นก็เลยวาดมันออกมา

17


O-N : เคยอ่านบทสัมภาษณ์ว่าอยาก ให้งานตัวเองดูไม่เท่ที่สุด สะอาด : ใช่ สังเกตงานเราถ้าช็อต ไหนเท่ ได้ เราจะเบรกมันด้วยความ ปัญญาอ่อนหรืออะไรสักอย่าง เรารู้สึก ว่าเราไม่ชอบอะไรที่เท่เกินไป มันน่าหมั่น ไส้ เรากลัวโดนหมั่นไส้ เพราะเป็นเรา เราก็จะหมั่นไส้พวกที่เขียนอะไรคมๆ อยู่ ตลอดเวลา เราว่าเป็นคนปัญญาอ่อน ปลอดภัย ไม่มีคนหมั่นไส้ คนโง่น่ะ ปลอดภัย ท�ำอะไรก็ ไม่มีคนว่า...ซึ่งก็ ไม่ จริง เพราะก็มีคนว่าอยู่ดี (หัวเราะ) O-N : แล้วนามปากกาว่า ‘สะอาด’ ล่ะ สะอาด : มันมาจากที่เราอยากได้ชื่อ ภาษาไทย อยากได้เรียบๆ เราเคยมีชื่อที่ ใช้แรกๆ นะ Toblin เป็นชื่อเราภาษาไทย (ธนิสร์) แต่กดแป้นเป็นภาษาอังกฤษ ดู เป็นเด็กเกรียนเกม เขียนลงเว็บ Exteen ทีนี้เราเลยอยากได้ชื่อภาษาไทยที่มันจืดๆ หน่อย เราจะได้ ไม่เบื่อมันเร็ว แต่เราก็ เบื่อมันนะ สะอาดเนี่ย แต่คนดันจ�ำได้ แล้วเราเลยใช้ต่อ (หัวเราะ)

เพราะเราไม่ฝืนมัน ต่อให้มันจะงานหนัก แค่ ไหน พอจบเหตุการณ์นี้ก็เลยไม่มีอีก เลย O-N : อยากฝากถึงคนที่อยากเป็นนัก วาดการ์ตูนไหม สะอาด : ล้มเลิกเหอะ ล�ำบาก (หัวเราะ) ความจริงคนอ่านการ์ตูนเยอะนะ การ์ตูน ญี่ปุ่น แต่คนไทยที่พร้อมจะอ่านการ์ตูน ไทยที่สนุกหรือมีฝีมือก็มี ยุคนี้ โลก ออนไลน์ มั น ก็ เ ปิ ด ให้ นั ก เขี ย นสามารถ เปิดตัวได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านบ.ก. มี คนให้ก�ำลังใจโดยการกดไลค์ นักเขียน ยุคหลังๆ จึงเกิดจากเว็บไซต์ เราก็เป็น หนึ่งในนั้นที่ลงงานตามเว็บ แล้วเราก็ส่ง นิตยสารไปด้วย ไม่ผ่านก็เยอะ ตลาดมัน เปิด ถ้าชอบก็เป็นอาชีพที่สนุกดี ได้สร้าง โลกในจินตนาการของเราเอง ฝึกฝนให้ เยอะ เสพงานให้เยอะ ศึกษางานต่าง ประเทศด้วย จะได้พัฒนางานของตัวเอง ต่อไปได้

ถึงเราจะโฟกัสกับตัวเองสูง แต่ถ้าไม่มีคนอ่าน เราก็เลิกได้ ไม่ได้รู้สึกว่าจะเป็นจะตายถ้า ไม่ได้เขียนการ์ตูน ที่เราเขียนการ์ตูนได้ตลอด เวลาเพราะเราไม่ฝืนมัน

O-N : เวลาสร้างงานเนี่ย มีมั้ยที่เคย คิดว่าตอนนั้นสร้างมันเข้าไปได้ยังไง สะอาด : เคยมีครั้งเดียว ตอนเขียนงาน ส่งบันลือสาส์นครั้งแรก เหมือนเราต้อง เร่ง เขียนสตอรี่บอร์ดเสร็จส่งให้บ.ก. ดู แล้วผ่านหมด เรารู้สึกไม่ โอเคกับมัน แต่ เราก็ต้องมาเขียนต้นฉบับให้เสร็จ เราว่า นั่นเป็นครั้งเดียวที่ทรมานมากๆ เราท�ำ มันด้วยความฝืน พอเสร็จเราก็เลยไม่ส่ง แล้วเอามารวมเล่มอื่นทีหลัง มาอ่านตอน นี้มันก็ โอเค แต่ตอนนั้นเราไม่ชอบมัน เรา เลยคิดว่าจะไม่ฝืนตัวเอง ไม่ท�ำงานที่เรา ไม่ชอบอีก เพราะมันจะเป็นผลต่องาน ของเรา มันไม่คุ้มกัน อย่างเราเคยเรียน ดรออิ้งติวเข้าจิตรกรรม เรายื่นพอร์ทไป พี่ติวก็บอกว่าเส้นเรามีฟีลลิ่ง เขาให้เรา ก๊อปงาน แล้วเราอึดอัดมาก ท�ำไมเรา ต้องเสียเวลาไปก๊อปงานคนอื่น เราเลย คิดเองวาดเองไปบางจุด แต่พอพี่ติวดู เขาก็บอกว่าท�ำไมเราไม่ท�ำให้เหมือน เรา เลยถอยออกมา แต่มันก็ท�ำให้เราตอบตัว เองได้ว่าที่เราเขียนการ์ตูนได้ตลอดเวลา 18

PART 2 : ปากช่อง O-N : การใช้ชีวิตอยู่ ในสังคมเมืองกับ นอนริมถนน ปากช่องไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ หรือว่าบริบทของโครงสร้าง เช่น ตรงข้ามเซ็น ปากช่อง ส่งผลต่อผลงานไหม ทรัลเวิด์ลสุดหรู จะเป็นสลัม แล้วเราก็ชอบไป สะอาด : ส่งผลเยอะครับ เราว่า เดินดูน�้ำเน่าแถวคลองแสนแสบ ส่วนปากช่อง กรุงเทพมันซับซ้อนกว่า วุ่นวายกว่า มี จะเงียบๆ เรียบง่าย เราว่ามันเป็นจุดบรรจบ ค�ำถามเยอะกว่า เช่น เดินๆ อยู่เจอคน ของสองอย่าง คือ อยู่ปากช่องมันท�ำให้เรา


อินกับธรรมชาติ ในขณะเดียวกันการ อยู่เมืองท�ำให้เรามีความคิดเยอะ มีการ ตั้งค�ำถาม ความไม่ชอบมาพากลต่างๆ นาๆ ในการใช้ชีวิต ด้วยความที่กรุงเทพ มีคนหลากหลายอาศัยอยู่ งานช่วงหลัง ของเราจึงเป็นสิ่งที่ ได้จากกรุงเทพแทบ ทั้งหมดนั่นคือ ‘สยามยิ้มแสยะ’ เป็นการ พูดถึงวัฒนธรรมคนเมือง ความซับซ้อน ของเขา สรุปคือปากช่องท�ำให้เรารู้สึก รู้สา ส่วนในกรุงเทพท�ำให้เราเป็นนัก คิดมากขึ้น O-N : คิดอย่างไรกับค�ำพูดที่ว่า “การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน” สะอาด : จริงครับ เพราะมันกระทบ กับทุกคนอยู่แล้วแหละ อยู่ที่ว่าเราจะ ยอมรับมันว่าเกี่ยวกับการเมืองไหม ชีวิต ประจ�ำวันของเราทุกคนมันเชื่อมโยงกับ การเมืองอยู่แล้วเช่น ข่าวคนอเมริการัก ร่วมเพศได้แต่งงานกัน แล้วคนก็เปลี่ยน รูปโปรไฟล์ ในเฟสบุ๊คเป็นสีรุ้ง การที่จะ มีกฎหมายให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกัน ได้ กับความเป็นประชาธิปไตยมันต้องมา ด้วยกัน เป็นต้น O-N : สะอาด

ชีวิตนักเขียนการ์ตูนของ

สะอาด : มันจะเป็นช่วงๆ ครับ ถ้าช่วงท�ำ ต้นฉบับ การ์ตูนเรื่องสั้น ชีวิตจะเหมือน เข้าสู่ โรงงานนรก ก็จะโฟกัสไปเรื่องเดียว ตื่นมาเขียนการ์ตูน แดก ขี้ นอน ตื่นมา เขียนการ์ตูน วนกันไป เหมือนเข้าค่าย ถ้าเป็นช่วงว่างๆ ก็จะอ่านหนังสือบ้าง ดู หนังบ้าง เที่ยวบ้าง แต่ระหว่างนี้เราก็ ต้องพยายามสต๊อกการ์ตูนไว้ ถ้าเป็น แก๊กเราจะไม่รอเดดไลน์ แต่ถ้าเป็นเรื่อง สั้นจะเป็นอีกแบบหนึ่ง เราจะค่อนข้างให้ ความส�ำคัญกับมันมาก เพราะเราอยาก ให้มันออกมาดีกว่างานชิ้นก่อนๆ แล้วมัน จะชนเดดไลน์ตลอด เรื่องนึงอย่างเก่ง ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่งถึงสองเดือน เคยใช้เวลาเขียนมากสุดใช้เวลาห้าเดือน คือ เรื่องเด็กเล่นตลกนั่นน่ะ แล้วก็จะมี เขียนงานสลับบ้าง แต่เดี๋ยวนี้จะแม่นขึ้น ไม่เสียเวลาไปกับการฝืนตัวเองแล้ว และ ถ้าเป็นช่วงปิดเล่มการตัดสินใจจะเกิดขึ้น เร็วมาก ภาพจะมีความดิบเถื่อนสูงมาก

O-N : จ�ำการ์ตูนชิ้นแรกที่วาดแล้วภูมิ ใจมากๆ ได้ ไหม สะอาด : นึกไม่ออกเลย เราจะมีความ รู้สึกนี้ ที่เวลาเขียนการ์ตูนเสร็จทุกครั้ง เราจะไม่มั่นใจมากๆ ไม่เคยมีชิ้นไหน เลยว่า โดนแน่ ต้องถาม บ.ก. เพื่อเช็ค ความมั่นใจ แล้วเวลาคนชมเราจะไม่ ค่อยรับด้วย แต่ถ้าคนด่าเนี่ยฟังเลยนะ (หัวเราะ) เรากลัวเหลิงมากๆ มั้ง เลย ต้องคิดอย่างนี้แหละ และเราก็ค่อนข้าง เข้มแข็งต่อค�ำติด้วย เราเพิ่งมาสังเกต ตัวเองว่า เราไม่ค่อยท้อเลยอะ อาจเป็น เพราะเราได้รางวัลมาด้วยมั้ง มันเหมือน เป็นก�ำลังใจบางอย่างอยู่ O-N : ครอบครัวเลี้ยงมาอย่างไร สะอาด : ไม่ตามใจครับ อยากให้เรียน สายวิทย์ อยากให้เป็นหมอ เราไม่ ได้ อิทธิพลครอบครัวจากแบบโดนป้อน แต่ ได้จากสิ่งที่พวกเราเจอ แล้วได้คิด ตอน นั้นเราอยู่มัธยม พ่อเราเจออุบัติเหตุรถ มอเตอร์ไซค์ ท�ำให้มีปัญหาด้านสมอง ช่วงนั้นแม่ก็จะเครียดมาก ร้องไห้กับ เราบ่อยๆ เป็นช่วงมรสุมของแม่ แล้ว เราก็ พ ยายามจะแสดงความเข้ ม แข็ ง บางอย่าง “ท�ำไมแม่ต้องร้องไห้” เรา พยายามจะโต เราเลยมีความรู้สึกว่าเรา ต้องท�ำงานตั้งแต่เด็กๆ เพราะเห็นว่าแม่ ท�ำงานอยู่คนเดียว พอครอบครัวเราเป็น แบบนี้มันก็ท�ำให้เราสู้ขึ้น แล้วที่เราโดน ด่าแล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะพ่อเรา ด่าเราบ่อยนี่แหละ จนแข็งแกร่ง เพราะ เขาด่าแล้วเขาก็หาย มีอยู่วันหนึ่งพ่อเข้า มาตบบ่า แล้วบอกว่า “ป๊า ไม่ ได้ตั้งใจ ให้ภูมิเกิดมานะ” แล้วบอกอีกว่า “ภูมิไม่ ต้องเสียใจนะ” เราก็เลยมีความรู้สึกว่า ในเมื่อเกิดมาแล้ว เราก็อยากท�ำตัวให้ เป็นประโยชน์ มันเลยเป็นฐานในชีวิตที่ ซึมอยู่ลึกๆ

^ ร่างการ์ตูน

^ ภายในห้องนอนที่ปากช่อง อุปกรณ์และตัวช่วยในการวาดการ์ตูน v


O-N : เมื่อตัดสินใจเลือกอาชีพนัก เขียนการ์ตูน สะอาด : เรารู้ว่าอาชีพเขียนการ์ตูนเป็น อาชีพที่ต้นทุนต�่ำมาก เราเลยลุยให้มาก ที่สุดตอนที่เรายังเรียนอยู่ คือเราท�ำโดย ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เพราะแม่เราให้ เงินอยู่ ประกอบกับเราอ่านชีวิต วิธีการ ท�ำงาน วิธีคิดของนักเขียนเยอะ มันเลย จุดประกายให้เราไม่รู้ตัว รู้สึกว่าเริ่มจาก อ่านงานของรงษ์ วงค์สวรรค์ แล้วก็งาน ของกนกพงศ์ เราหลงใหลวิธีการท�ำงาน แบบเขา เราอยากเก่งแบบเขา มันท�ำให้ เราอยากลองของ อยากใช้ชีวิตแบบเขา ดู วิธีการท�ำงานอาจไม่เหมือนกันแต่เรา ได้สปีริตมา เราจริงจังกับการหาข้อมูล ลงพื้นที่ ซึ่งมันจะได้บรรยากาศบาง อย่างที่จินตนาการมันเอื้อมไม่ถึง O-N : เคยส่งผลงานไปที่ ไหนบ้างไหม สะอาด : ส่งไปนิตยสาร ได้ลง MUD เล่มแรก ได้ลง abc ของส�ำนักพิมพ์ a book ซึ่งทุกอย่างมันเริ่มมาจากเว็บ exteen นั่นแหละ O-N : มืออาชีพ กับมือสมัครเล่นต่าง กันอย่างไร

O-N : คิดอย่างไรกับการได้ท�ำตาม ความฝัน

O-N : แล้วตอนนี้แม่มีความคิดเห็น ต่ออาชีพการ์ตูนอย่างไรบ้าง

สะอาด : เรารู้สึกว่าต้องเกี่ยวกับวินัย ต้องหมั่นฝึกฝน หมั่นพัฒนาตัวเอง รับ ผิดชอบ ไม่หยุดอยู่กับที่ ขี้เกียจได้บาง เวลา แต่ว่าถ้าขี้เกียจเป็นหลักเราก็รู้สึก ว่าไม่ ใช่มืออาชีพ

สะอาด : เราไม่ ได้ภูมิใจกับการได้ท�ำ ตามความฝัน เพราะรู้สึกชีวิตของคนมัน มีหลากหลาย แล้วที่เรามาเขียนการ์ตูนก็ เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเราเป็นแบบอื่นยาก เราเขียนการ์ตูนมาระดับหนึ่ง พอคนอ่าน โอเค เราเลยมีช่องทางให้งานมันไปต่อได้ ถ้าเราขยันมากกว่านี้หน่อย มันเป็นการ เปิดโอกาสให้ตัวเอง ในขณะเดียวกันยิ่ง เราโตขึ้น เราก็ ไม่สามารถเลือกท�ำงานที่ ไม่ต้องตั้งค�ำถามกับชีวิต

สะอาด : ตอนนี้แม่เป็นคนติดตามคน หนึ่งแล้ว ในเรื่องความเป็นอาชีพ เขา ไม่สงสัยอะไรเราแล้วมันค่อยๆ เก็บเล็ก ผสมน้อยนะ ความยอมรับของคน ด้วย อะไรหลายๆ อย่าง พอถึงจุดๆ หนึ่ง แม่ เราคงคิดว่า “เราไปห้ามลูกไม่ ได้หรอก มันเป็นคนแบบนี้” เรารู้สึกว่าแม่ ไว้ ใจใน การตัดสินใจของเราในทุกๆ เรื่อง ในสิ่ง ที่เราจะท�ำ ทั้งเรื่องแฟน เรื่องเพื่อน เขา ไม่ ได้มาเป็นห่วง มันเป็นบทพิสูจน์ที่มา พร้อมกันว่า “ไอนี่มันใช้ชีวิตได้แล้ว” ไม่ ใช่ แค่เรื่องงาน

O-N : การใช้ชีวิตล�ำบากมันส่งผลกับ งานไหม สะอาด : เกี่ยวสุดๆ ยิ่งเราโตขึ้น ยิ่ง ท�ำงานมากขึ้น เราจะสังเกตได้ว่า ศิลปิน เป็นคนแบบไหน อ่านมาแบบไหน งาน ก็จะออกมาแบบนั้น เพราะฉะนั้นถ้า คนไหนใช้ชีวิตอย่างเข้มข้น รันทดอดสู งานก็อาจจะออกมาเป็นแบบนั้น หรือ ว่าอาจจะดีดออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง เลย เพราะว่าทนความเข้มข้นไม่ ไหว แต่ แน่นอนว่าความเข้มข้นนี่มันสะท้อนงาน เหล่านั้น

20

O-N : มีวิธีการจัดการกับความขี้ เกียจไหม สะอาด : เรามีสมุดบันทึกความขี้เกียจ ช่วยเยอะนะ โดยเราบันทึกว่าเราใช้เวลา ไร้สาระไปกับอะไรบ้าง แล้วเราก็รู้สึกผิด ท�ำให้เรามีสติ ในการท�ำงานในแต่ละวัน มากขึ้น

O-N : มีความภูมิ ใจในผลงานการ์ตูน หรือรางวัลที่ ได้รับไหม สะอาด : ดี ใจ ตื่นเต้น ตกใจ แบบ รู้สึกว่า “จริงเหรอวะ?” แต่ ไม่ ได้ภูมิใจ เพราะว่ า เราเคยเป็ น กรรมการตั ด สิ น แล้วเรารู้ว่ารางวัลมันต้องผ่านรสนิยม ผ่านกระบวนการต่างๆ มันไม่ ใช่สิ่งที่ พิสูจน์ ได้แน่ชัดว่างานชิ้นนั้นจะดีหรือไม่


เราจริงจังกับการหา ข้อมูล ลงพื้นที่ ซึ่งมันจะ ได้บรรยากาศบางอย่างที่ จินตนาการมันเอื้อมไม่ถึง

ดี แล้วก็เวลาผลงานเราออกมาเป็นเล่ม เราไม่เปิดดูด้วยซ�้ำ เรากลัวเปิดแล้วเจอ จุดผิด (หัวเราะ) อ้อ! รู้แล้ว ความภูมิใจ ของเรามั น เกิ ด ขึ้ น ตอนเขี ย นงานเสร็ จ ตอนนั้นเป็นความอิ่มเอิบมาก สามเดือน ห้าเดือนที่ผ่านมาในที่สุดงานก็เสร็จแล้ว แล้วตอนนั้นฝนตก เราก็มองฟ้า “ท้องฟ้า สวยจังเลย” (หัวเราะ) แล้วก็นิตยสาร ท�ำมือที่เราท�ำตอน ม.ปลาย เราภูมิใจกับ มันมากๆ ไม่รู้ท�ำไม รีบเอาไปอวดเพื่อน ในห้อง เราเป็นคนอินกับอะไรเล็กๆ มั้ง พองานมันผ่านกระบวนการต่างๆ เรา เลยรู้สึกเฉยๆ เราอินกับต้นฉบับที่อยู่ตรง หน้ามากกว่า ความเป็ น คนอิ น กั บ เรื่ อ งเล็ ก ๆ ของสะอาดหรือภูมิท�ำให้ผลงานของเขา สัมผัสถึงคนทั่วไปได้ง่าย และนอกเหนือ จากนั้นคือความเป็นธรรมชาติ ความ จริงใจ และความเอาจริงเอาจังในชีวิตของ เขา ดั่งที่เพิ่งได้อ่านบทสัมภาษณ์จบไป

ผลงานหนังสือของสะอาด : - ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง (2554) - นิทานโลก (2555) - ชายผู้ออกเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยการ์ตูนของตัวเอง (2556) - คน / การ์ตูน / หมา (2557) - สยามยิ้มแสยะ (2558) ติดตามผลงานของสะอาดได้ที่ : www.facebook.com/saartanis


A Photo I Shoot ค�ำและภาพ : มนุษย์ห้องใต้หลังคา.

22


A Thing I Dream เรื่อง : วานิลลา ภาพ : รอหัน

ครีมทำ�ให้หนาว จากฉบับที่เเล้วที่เขียนเกี่ยวกับ ‘ครีมกันหนาว’ ไป ก็มีหลายๆ เสียงทักมาว่า อากาศร้อนๆ อย่างเมือง ไทยเนี่ยถ้าใครท�ำครีมกันหนาวขายคนนั้นคงล้มละลายเป็นแน่!! มาฉบับนี้เราจึงจัดครีมที่เหมาะกับอากาศบ้านเราให้ค่า ^^ ซึ่งนั่นก็คือ ‘ครีมท�ำให้หนาว’ เเค่เพื่อนๆ ลูบไล้ครีมนี้ ให้ทั่วตัว อุณหภูมิในร่างกายของเพื่อนๆ ก็จะเย็นขึ้นตามที่ต้องการเเล้วล่ะค่ะ ทีนี้จะเย็นขนาดไหนก็ ขึ้นกับเลข CTF (Coldness Trigger Factor) หรือสารกระตุ้นความเย็นที่เขียนก�ำกับอยู่บนหน้าหลอด ยิ่งเลข CTF สูงก็จะยิ่งเย็นมากขึ้นเท่านั้นไงล่ะคะ 23


A Short Story I Write เรื่อง : นิรัติศัย บุญจันทร์ ภาพ : Kamonnut Kamda facebook.com/khidwad

24


25


Away From Thailand อินเดีย & ญี่ปุ่น

เที่ยวถ�้ำทำ�มือ Ajanta caves

INDIA

เรื่องและภาพ : Wirada Kaoey

“เจาะภูเขาให้เป็นถ�้ำ ฝนทั่งให้เป็นเข็ม” แค่ลองจินตนาการว่าในพุทธศตวรรษที่ 3 หรือ ประมาณสองพันสองร้อยกว่าปีมาแล้ว มีพระและมนุษย์ พุทธช่วยกันเอาค้อนกับสิ่วเจาะภูเขาทั้งลูกด้วยมือ ย�้ำว่าทั้ง ลูก ที่ยาวเป็นวงรี ให้เป็นถ�้ำ! ไม่รู้เจาะกันเข้าไปท่าไหนยังไง ยุคนั้นไม่ ได้มีเลเซอร์เหมือนหน้าผาเขาชีจันทน์ของไทย แล้ว ไม่ ใช่แค่ถ�้ำเดียวนะจ๊ะ แรงเหลือเฟือเลยเจาะมาทั้งสิ้น 30 ถ�้ำ อึ้งพอรึยัง ยังไม่หมดนะ ภายในก็งานละเอียด ทั้งเสาทั้ง โครงสร้างทั้งพระพุทธรูปจะนูนต�่ำนูนสูงก็งานเจาะงานแกะ จากภูเขาทั้งสิ้น คาดว่าคงแกะกันจนนิ้วล็อกเลยทีเดียว เราก�ำลังพูดถึงถ�้ำอชันตา (Ajanta caves) ซึ่ง เป็ น ถ�้ ำ พุ ท ธที่ เ กิ ด จากการเจาะภู เ ขาขนาดใหญ่ ใ ห้ ก ลาย เป็นถ�้ำ จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่อยู่ที่นอนให้พระสงฆ์มาจ�ำ พรรษามาปลีกวิเวก และใช้ประกอบพิธีกรรม จะสวดมนต์ จะร�่ำเรียนจะใช้สนทนาธรรมอะไรก็ว่าไป ที่แน่ๆ คงไม่มี ไว้ ท�ำบุญสะเดาะเคราะห์กับสังฆทานเวียนกระมัง โดยการก่อสร้างเริ่มราวพุทธศตวรรษที่ 3 หรือ ราวสองพันสองร้อยปีมาแล้วในสมัยพระเจ้าอโศกฯ ผู้ โด่ง ดังยิ่งกว่าผู้ ใดในชมพูทวีปสร้างโดยพระสงฆ์และชาวบ้านที่ ศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าในยุคนั้น ใช้เวลาสร้าง ทั้งสิ้นสองช่วงเวลา ช่วงแรกตั้งแต่พุทธศตวรรษที่สามจนถึง ห้า ราวๆ สองร้อยปี ได้มาหกถ�้ำแรก แล้วก็พักการสร้างไป 400 ปี จากนั้นก็กลับมาสร้างต่อในพุทธศตวรรษที่ 10 จน เสร็จ รวมเวลาสร้างทั้งสิ้นประมาณ 850 ปี แล้วกองทัพ มุสลิมก็เข้ายึด ศาสนาพุทธก็ค่อยๆ เสื่อมสลายไปตั้งแต่ยุค นั้น

26

ถ�้ำอชันตา (Ajanta caves) นี้ถูกปล่อยทิ้งร้างโดย ไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์เลยเป็นเวลากว่า 800 ปี ถ้าไม่ ใช่ เพราะวันหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2362 ทหารอังกฤษที่ชื่อ จอห์น สมิธ ดันออกมาล่าเสือในป่าแถวนั้นพอดี นางจึงค้นพบถ�้ำ นี้ด้วยความบังเอิญ แน่นอน นางอึ้ง โลกก็อึ้งไปกับนางจน ยกให้เป็นมรดกโลก ที่น่าทึ่งคือการสร้างถ�้ำอชันตานี้ต้องใช้ ทั้งภูมิปัญญาตั้งแต่เลือกโลเคชั่นที่เงียบสงบ ห่างไกลผู้คน เป็นภูเขาโค้งเป็นแนวยาว อยู่ ในป่าลึกเปลี่ยวเหมาะแก่การ วิปัสสนาศึกษาพระธรรม แถมห่างออกไปจากตรงนั้นไม่กี่ กิโลเมตร ก็ยังมีอีกถ�้ำที่เกิดจากการเจาะภูเขาทั้งลูกเหมือน กัน แต่ที่นั่นมี 34 ถ�้ำ เก๋ๆ และมีตั้ง 3 ศาสนาในภูเขาลูก เดียวกัน! คราวหน้าจะพาชม อย่างไรก็ตาม อยากให้มาเห็น ด้วยตาตัวเอง อินเดียส�ำหรับมนุษย์พุทธไม่ ได้มีแค่สี่สังเวช นียสถานนะคะคุณ ยังมีอชันตา กับแอลโรลาด้วย


Japan

เรื่องและภาพ : P.Alphabet

เฮเซ 27/7/4 เขียนที่ ฮาโกซากิ จังหวัดฟุกุโอกะ

ถึง .. คุณที่รัก

ขณะที่พิมพ์จดหมายที่คุณก�ำลังอ่านอยู่นี้ เราพาตัวเองออก มาไกลถึงเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับตรงๆ ว่ายังไม่มั่นใจ เหมือนกันว่า จะอยู่ ในเมืองน่ารักแต่แอบเหงาแห่งนี้ ไปได้อีกกี่ปี เรา พูดกับใจตัวเองตลอดว่า ‘ถึงจะสุขใจไม่ ได้เท่าทิ่อยู่บ้าน แต่ ในทุกวัน เราต้องมองหาความสบายใจ’ ดังนั้นในทุกวัน เราจึงมีภารกิจที่ต้องท�ำ คือ หาแง่มุมสุขสบายใจในชีวิตประจ�ำวัน ไม่ว่าจะเป็นการได้พูดคุยกับ ผู้คนแล้วเจอเรื่องราวชวนอมยิ้ม การได้ปั่นจักรยานผ่านพ่อแม่ลูกที่มา ออกก�ำลังกายในที่เดิมทุกเช้า หรือการอ่านตัวคันจิแล้วเข้าใจความ หมาย เราคิดว่าเรื่องพวกนี้ส�ำคัญมากพอต่อการด�ำรงชีวิตในวันที่ ไกล บ้าน

タイからきました.. "มาจากเมืองไทย"

เมื่อวานเรา Away from Fukuoka ไปจังหวัดเล็กๆ ใกล้ๆ เมืองนั้นชื่อว่า ’ซากะ’ ซากะได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในเกาะ คิวชู และเล็กเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น แต่ขนาดพื้นที่ ไม่ ได้ ท�ำให้ความมีเสน่ห์ของเมืองเล็กน้อยตามลงไปด้วย ด้วยธรรมชาติที่ สวยงาม บ้านเมืองอันเป็นระเบียบ และรอยยิ้มของผู้คนที่ยังคงส่ง ผ่านให้แขกผู้มาเยือนอย่างเรา จังหวัดซากะแห่งนี้จึงเป็น ‘ที่รัก’ ของ เราได้ ไม่ยาก หลังจากการนั่งรถไฟสาย JR Kyushu ออกไปทางตอน เหนือของจังหวัดฟุกุโอกะราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงเมือง ‘คาราซึ’ เมือง ไซส์จิ๋วในจังหวัดไซส์เล็กอย่างซากะ ถ้าได้เห็นภาพคาราซึอาจเป็น เมืองที่มี โลเคชั่นคุ้นตาบรรดาคอละครไทยไม่มากก็น้อย เพราะละคร และภาพยนตร์หลายเรื่อง เลือกใช้ที่นี่ ในการถ่ายท�ำ ไม่ว่าจะเป็น Stay Saga ฉันจะคิดถึงเธอ, Timeline จดหมายความทรงจ�ำ หรือ กลกิโมโน ที่มีพี่เบิร์ด ธงไชย เป็นพระเอกแต่เราไม่ ได้มาตามรอยละคร และภาพยนตร์เหล่านั้น เรามาตามหาอาหารทะเลสดๆ ปลาหมึกซาซิ มิอันชื่อที่ว่าถ้ามาซากะแล้วไม่ ได้กิน ก็เหมือนมาไม่ถึง กินไปค�ำเดียว เท่านั้น เราก็พบว่านอกจากจะพาตัวเองมาถึงซากะแล้ว มีแววว่าคง ต้องพาตัวเองและเพื่อนพี่น้อง มาอีกหลายครั้งหลายคราวaแน่นอน วันที่เรามาเยี่ยมซากะเป็นวันฝนตก แม้ว่าจะท�ำให้การเดิน เล่นชมเมืองมันจะล�ำบากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็เป็นอีกบรรยากาศที่เรา ประทับใจ เพื่อนร่วมเดินทางของเรา ช่วยเติมเต็มการท่องเที่ยวของ เราให้สนุกสนานได้มาก มุกตลกเฮฮาแบบเพื่อนคนไทย ชวนให้รู้สึก เหมือนว่าพวกเราไม่ ได้อยู่ ไกลบ้าน ถ้าการมาเยี่ยมเยือนซากะจะท�ำให้ ภารกิจมองหาแง่มุมสบายใจในชีวิตประจ�ำวันของเราส�ำเร็จ เพื่อน ร่วมทางในวันนี้ของเรา ก็คงเป็นบุคคลส�ำคัญในชีวิตประจ�ำวันของเรา เช่นกัน ไม่รู้ว่าจะหวังมากไปไหม แต่หวังว่าเราคงได้มาที่นี่ด้วยกันใน สักวันหนึ่ง

ด้วยรักจากฉัน / Your P.

หมายเหตุ : เฮเซ คือระบบเรียกปีแบบเป็นทางการของญี่ปุ่น โดยนับตาม รัชสมัยขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิและพระนามของพระองค์ เช่น ใน ปัจจุบัน คือ เฮเซที่ 27 เริ่มนับตั้งแต่สมเด็จพระจักรพรรดิองค์ปัจจุบันขึ้น ครองราชย์ ในปี ค.ศ.1989


Pick-Up Reviews >

Movie : GUMBEAR

Song : Wallfolwer T.

Book : Boymeng

Page fb : waylaway

Song : Hailstorms / Hugo Moive : Wolfpack - ก้าวแรกสู่ โลกกว้าง (2015) ผู้ก�ำกับ : Crystal Moselle / ความยาว : 80 นาที คุณเคยโดนลงโทษด้วยการกักบริเวณมั้ยครับ? เคยถูกห้าม ออกจากบ้านนานที่สุดกี่วัน? เป็นเรื่องที่ ใครๆ ก็รู้ว่าหากถูกปฏิบัติเช่นนั้นก็คงต้องรู้สึก อึดอัด ร้อนรน และหดหู่ ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนอยากถูกจ�ำกัดอิสระให้อยู่ แต่ ในพื้นที่ที่ ใดพื้นที่หนึ่ง แม้สถานที่นั้นจะเป็นบ้านก็ตาม ยิ่งส�ำหรับ มนุษย์อย่างเราๆ ที่เดินทางไปไหนมาไหนอยู่เนืองๆ ได้พบปะผู้คนและ มีสังคมเป็นของตัวเองนั้น การพรากสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงมี ไป จะเรียก ว่าทรมานก็ยังน้อยไป แต่ถ้าคุณไม่เคยเห็นโลกภายนอก ไม่เคยคุยกับมนุษย์คนอื่น ไม่เคยรู้ว่าอิสระคืออะไร ไม่ ได้คิดว่านี่คือการถูกท�ำโทษ อยู่แต่ ในห้อง เช่าตั้งแต่เกิดจนถึงวัยที่ควรจะเรียนอยู่ ในระดับมัธยมตอนต้น แล้ว ภาพยนตร์คือแหล่งเรียนรู้เดียวที่ท�ำให้คุณรู้จักโลกภายนอกล่ะครับ คุณจะใช้ชีวิตแบบไหน และคิดว่าก้าวแรกที่คุณได้ออกมา คุณจะท�ำ อะไรเป็นอย่างแรก. . . Wolfpack คือ ภาพยนตร์สารคดีที่ว่าด้วยพี่น้อง 6 คน ที่ ใช้ชีวิตอยู่ ในอพาร์ทเมนต์มาตลอดชีวิตกับก้าวแรกที่พวกเขาจะได้เห็น โลกภายนอก แค่พล็อตเรื่องก็กินขาด เมื่อไปดูจริงๆ ก็ ไม่ผิดหวัง แต่ ด้วยความที่เป็นหนังสารคดี ส�ำหรับคนไทยที่ ไม่เคยดูแนวนี้มาก่อน ก็อาจจะไม่คุ้นชินกับการด�ำเนินเรื่องที่ ไม่หวือหวา แต่สิ่งที่คนดูน่าจะ รู้สึกเหมือนกัน คือ อิสระของพี่น้องบ้านนี้มันหอมหวานกว่าที่พวกเรา เคยสัมผัส 28

Hailstorms เป็นซิงเกิ้ลที่ 2 จากอัลบั้ม Deep In the Long Glass ของ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ เนื้อหาพูดถึงคนที่ตัดสินใจจะออกเดินทาง แต่ก่อนจะก้าวออกไปเขาก็ ได้มองย้อนไปถึงตนเองใน อดีต และได้มองเห็นบาดแผล อุปสรรค และความ โดดเดี่ยวในช่วงชีวิตที่ผ่านมา แต่ถึงแม้จะรู้ดีว่ามีมรสุม ครั้งใหม่รออยู่ ในหนทางข้างหน้า เขาก็ยังพร้อมจะเดิน ตรงเข้าไปในพายุด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง เรียกได้ว่า เป็ น การน� ำ ปรั ช ญาชี วิ ต มาถ่ า ยทอดในเพลงโฟล์ ค ได้ อย่างลงตัว ส่วนพาร์ทดนตรีนั้นก็เสริมพลังให้กับเนื้อ ร้องได้เป็นอย่างดี นอกจากเสียงเบสและกลองที่ โดด เด่นแล้ว คอรัสก็ยังเป็นอีกส่วนที่แต่งแต้มความดุดัน น่าเกรงขามให้กับเพลง นอกจากตัวเพลงแล้ว อีกเรื่องที่ต้องหยิบยก มารีวิวให้ ได้ ก็คือ MV เพราะมันเป็นอะไรที่ โคตร เทพ! MV Hailstorms ถูกน�ำเสนอในรูปแบบของแอน นิเมชั่นภาพสีน�้ำ โดยเป็นผลงานของผู้ก�ำกับเอ็มวีมือ รางวัลอย่าง ต้น-ยศศิริ ใบศรี เขาได้ ใช้เทคนิคสุด สร้างสรรค์อย่างการพรินต์ฟุตเทจออกมาสี่พันใบ แล้ว ใช้ฟองน�้ำละเลงภาพให้เลือน ก่อนจะวาดเส้นทับลง ไปใหม่ทั้งสี่พันใบ แล้วก็น�ำภาพไปเติมลายเส้นกราฟ ฟิคในคอมพิวเตอร์ นอกจากเอ็มวีจะสร้างขึ้นอย่าง ละเมียดละไมแล้ว มันยังเข้ากันได้ดีกับจังหวะดนตรี และเนื้อหาของเพลงอีกด้วย ทุกองค์ประกอบของเอ็ม วีนั้นน่าทึ่งชนิดที่ท�ำให้เพลงนี้กลายเป็นกระแสในต่าง ประเทศ จนได้รับคัดเลือกให้เป็นวิดี โอ Staff Picks ในเว็บไซต์รวมผลงานวิดี โอระดับโลกอย่าง Vimeo เลย ทีเดียว ขอแนะน�ำให้ทุกคนลองไปดูเอ็มวีนี้ค่ะ เพราะ ฝีมือคนไทยเจ๋งมากจริงๆ!


Page fb : TUNA Dunn Book : จักรวาลในโพรงไม้ / องอาจ ชัยชาญชีพ เคยไหม บางทีเราสับสนว่าเราเป็นใคร? เป็นคนอย่างไร? กระทั่งเราเกิดมาท�ำไม?

www.facebook.com/tunadunn

เพจของนักวาดการ์ตูนสาวชาวไทยที่มีลายเส้น เป็นเอกลักษณ์และสไตล์การเล่าเรื่องแบบฝรั่ง บอกเล่า เรื่องราวรอบๆ ตัว ในชีวิตประจ�ำวันในแบบเฮฮา สะท้อน สังคมอย่างกระแทกใจคนในยุคนี้

บางทีหนังสือเล่มเล็กๆ ปกสีด�ำขลิบเงินนี้ อาจตอบคุณได้

อัศจรรย์นิทานว่าด้วยการค้นหาความหมายแห่งชีวิตและ การค้นพบจิตวิญญาณ ผลงานล่าสุดจากนักเล่าเรื่องหลากรูปแบบ คุณ องอาจ ชัยชาญชีพ เจ้าของผลงานชื่อดัง หัวแตงโม, หมูบิน ได้, ปีศาจหัวโต และเทพเจ้าแมวแพนดาด้า ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหญิงแสนเศร้าที่สวมหน้ากาก ปิดบังความรู้สึกตนเองไว้ตลอดเวลา กระทั่งวันหนึ่งเธอได้ปกป้อง ลูกของปีศาจในอุโมงค์ หลังจากนั้นเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต เธอไปตลอดกาล การ์ตูนลายเส้นเอกลักษณ์เรียบง่าย แฝงไว้ซึ่งความน่า รัก ทว่าปนความหม่นจากเรื่องราวเชิงปรัชญาแสวงหาตัวตน ว่า เราล้วนเป็นสิ่งชีวิตเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ผ่าน ตัวละครหญิงสาวดังกล่าว ที่เปลี่ยนตัวตนไปเรื่อยๆ สะท้อนบุคลิก มนุษย์ตามแต่ช่วงวัย หรือบุคคลแล้วแต่จะคิด สนุกในระดับมาตรฐาน กระตุกสมองในระดับสูง กระทั่งอ่านจบเกิดค�ำถามที่ว่า ตัวตน เราคือใคร? แล้วชีวิตหนึ่งเรามีกี่ตัวตน? ร่วมเดินทางไปพบโลกอัศจรรย์ ในอีกจักรวาลกับหนังสือ สะท้อนตัวตนเล่มนี้กัน รับรองไม่ผิดหวังที่ ได้อ่าน 29


อ่านเอาเองเอย เรื่อง : ธนกฤต เตียวกุล

วิ ว

1. ถางานวิวาหพอจะมีความสำคัญบางประการ สิ่งนั้นมันนาจะอยูที่การเจาบาวแสดงออก...และออกมาแสดง เจตจำนงวาไดพยายาม เพื่อที่จะใหมีการประกาศใหคนรู สิ่งที่มอบใหแกกันและกันในคูรักของตน

าห ก

ระ

ต า

ยส

ถามันจะสามารถแสดงเจตนารมณ ความสมประสงคแหงรักในแรงปรารถนาเทาที่มี การสรางเหตุการณวันวิวาห ในวันนั้น ตองควรมาจากผูที่ ไดชื่อวาเปนเจาบาว ใชหรือไม 2. มันเปนสิ่งที่นายินดีแลวหรือ? ที่จะใหผูหญิงอีกคนหนึ่งมาปลุกปนงานที่ฝนขึ้นมาเอง เพื่อเปนตัวแทนในมิติซอนทับวันวิวาหเพื่อเจาสาว จะดวยเหตุผลใดก็ตาม การคิดที่จะอาศัยใหผูหญิงอีกคน มาเปนตัวแทนแหงความรัก เพื่อใหเกิดงานวิวาหเพื่อผูหญิงอีกคนหนึ่ง เจาบาวผูมักงาย และเห็นแกตัว ใชหรือไม 3. งานวิวาหที่ ไม ไดเกิดจากความคิด...ความรูสึกของคนสองคน เชื่อมั่นศรัทธาในความรัก ประกอบมันขึ้นทีละลำดับเพื่อไปสูวันวิวาห มันก็ ไมตางอะไรกันกับเปนพิธีกรรมที่ซ้ำซาก ทำเพื่อใหผานพนไป ตามขนบธรรมเนียม พอไมอายชาวบานชาวเมือง ยิ่งไมตองพูดถึง...การเตรียมงานวิวาหที่อาศัยคนที่แอบรัก มาทำแทนให กระทั่งเจาบาวไดแตนั่งหาว แลวรอเวลางานวิวาห ดวยอาการตื่นเตนดี ใจ ยินดีที่มีแขกผูมีเกียรติทั้งหลายมารวมงาน ความนายินดีงานวิวาหนี้ อยูที่ตรงไหน -------------------------------------------------------------------

30

[บทความนี้ มิไดเจตนากลาวถึงผู ใด เปนเพียงการเขียนขึ้น จากจิตนาการชั่วครั้งชั่วคราว]

าม

ขา




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.