O-N magazine | 07

Page 1


"Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imaginatio-n and life to everything." - Plato -

' ดนตรีให้จิตวิญญาณแก่โลก ให้จิตใจได้ติดปีก ให้จินตนาการได้โบยบิน และให้ชีวิตแก่ทุกสิ่ง ' เพลโต (นักปรัชญากรีก) | 427-347 ปี ก่อน ค.ศ.

บรรณาธิการ

พิชญา เพ็งจันทร์

กองบรรณาธิการ

แก้วเกล้า แก้วบรรจง ธนวรรณ แสงวิสุทธิ์ สุภชาวัลย์ ชนะศักดิ์

บรรณาธิการศิลปกรรม

ปาริฉัตร แทนบุญ

ช่างภาพ

ชยุตม์ พระสงฆ์

พิสูจน์อักษร

ภูษิต ชนพิมาย สินิทธ์ ปนุตติกร

ออกแบบปกหน้า / หลัง

กมนนัทธ์ คำ�ดา

FONTs : supermarket / Quark / TH Baijam EDPenSook / Arabica / WDB Bangna Little Lord Fontleroy NF / Junegull

นักเขียน / นักวาด

กิตติพงษ์ หาญเจริญ ไชยยันต์ ชูสกุลธนะชัย ภัทรานิษฐ์ พัฒน์ธนพร ภัณฑิรา ทรงกิจทรัพย์ สุธรรม จีระศิลป์ ชิดชนก บุญมุสิก ศานนท์ หวังสร้างบุญ ณัชฎา คงศรี สรพงศ์ อ่องแสงคุณ นิรัติศัย บุญจันทร์ กมนนัทธ์ คำ�ดา ปาริฉัตร แทนบุญ

แก้วเกล้า แก้วบรรจง สินิทธ์ ปนุตติกร สหธร เพชรวิโรจน์ชัย ธีรภัทร์ เจนใจ สุพิชญ์ รักสกุล ชนิกา สุธัมมสภา เจนวริน นฤขัตพิชัย นภกาญจน์ เชาวลิต กษมา ยาโกะ นิภาพร กอบกุลกังสดาล ธนวรรณ แสงวิสุทธิ์ ณัฐกาญจน์ สัตยากวี

นักเขียนจากทางบ้าน

จรณ์หมีขาว

contact us

facebook.com/ownerationmag ownerationmag@gmail.com

READ O-N

www.ebooks.in.th/ownerationmag issuu.com/ownerationmag


ใต้ผืนดิน

เคยท�ำอะไรแบบเล่นๆ แล้วรู้สึกมี ความสุขที่ ได้ท�ำมันไหม? เด็กๆ ทุกคนคงมีความรู้สึกแบบนี้ แหละ ถึงได้หัวเราะบ่อย และยิ้มง่ายกว่า ผู้ ใหญ่ O-N ฉบับนี้เลยขอพาผู้อ่านย้อนกลับ ไปมีความสุขง่ายๆ แบบเด็กๆ โดยการลงมือท�ำ ในสิ่งที่อยากท�ำ โดยปราศจากความคาดหวัง ใดๆ ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง { วั น ข อ ง ติ๋ ว } = Tue’sday คือ วงดนตรีที่รวมตัวกันเพราะแค่อยากมีวงดนตรี กับเขาบ้าง ในวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง จึงเกิดวงที่ ใช้ ‘ใจบันดาลแรง’ ในการเล่นดนตรี ถึงแม้จะไม่ค่อยมี ใครชื่นชมว่าพวกเขา เล่นดนตรีเก่ง แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือหัวใจที่เขาใส่

ลงไปในการเล่นทุกๆ ครั้ง ความผิดพลาดในการเล่นแทบทุก ครั้ง บอกคนดูเป็นนัยๆ ว่า “เพราะชีวิตมันไม่ ได้ ต้องการความสมบูรณ์แบบ แค่มีความสุขในสิ่ง ที่ท�ำก็พอมั้ง” และการได้ลงมือท�ำในสิ่งที่รัก แม้จะ รู้สึกเหนื่อยในบางที แต่ก็มีความสุข ถ้าเรารู้ว่า เราท�ำเพื่ออะไร แม้จะเหนื่อยแค่ ไหน เราก็จะ ท�ำมันต่อ ถึงแม้บางครั้งเราเองก็ ไม่รู้ด้วยซ�้ำว่า ตกลงเราท�ำมันไปเพื่ออะไร แต่ ใจมันก็สั่งให้ท�ำ ไปอยู่ดี ใต้ผืนดินยังมีรากที่เป็นสิ่งส�ำคัญของ ต้นไม้ทุกต้นที่เจริญงอกงาม และการกระท�ำทุก การกระท�ำที่ส่งเสริมให้ชีวิตงดงาม ก็คือ ความ รู้สึกจากหัวใจ ที่ ใส่ลงไปในการท�ำสิ่งนั้นจริงๆ พิชญา เพ็งจันทร์ บรรณาธิการ waylaway1990@gmail.com




เป็นวัยรุ่นห้ามสบาย บทความ : sorsala

ถ้าไม่ลองทำ�ตามหัวใจ จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปไกล ได้สักเท่าไหร่ ว่าด้วยเรื่องของการเขียน

ส�ำนักพิมพ์ ใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า อ่านให้เยอะ

บทความ... คงไม่ ใช่เรื่องยากเท่าไรนัก หากเรา

ท�ำจนเค้าเขียนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งทุกคน

ไปถามนักเขียนมืออาชีพที่มีผลงานเป็นหนังสือ

ก็เห็น และเค้าจึงมีวันที่ประสบความส�ำเร็จ จนถึงวันนี้

Best seller

ตามร้านหนังสือแนวหน้า แต่ ส�ำหรับนักเขียนมือใหม่ที่มีประสบการณ์ไม่มาก อย่างผม การเขียนบทความหนึ่งให้จบนั้นใช้

พลังงานมหาศาล เขียนแล้วลบใหม่ ไม่รู้กี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง ถ้าจะเอาให้ยิ่งเห็นภาพชัดขึ้น เชื่อมั้ย ครับว่าบทความที่ทุกท่านก�ำลังอ่านอยู่นี้เอง ผม ใช้เวลาเขียนมากกว่าสิบครั้งด้วยกัน มันมักจะ มีสิ่งมารบกวนท�ำให้สิ่งที่เราอยากสื่อสาร มัน

ไม่มี ใครเกิดมาเก่งตั้งแต่เกิดหรอก ครับ และก็ ไม่มี ใครไม่เคยหลงทางเช่นกัน เรา แค่ต้องมั่นใจ ซื่อสัตย์ ในความฝัน และไม่หยุด ที่จะ “พยายาม” อาจมีเขวบ้าง อาจมีสับสน บ้าง แต่นั่นแหละครับที่ท�ำให้เราชัดเจนกับสิ่งที่ เราฝันมากขึ้น ตัวผมเอง ผมก็ ไม่รู้ว่าผมจะได้เขียน

ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีที่สุด สิ่งเร้า ภายนอกที่ชวนให้เราเสียความมั่นใจ สิ่งเร้า ภายนอกที่มักสร้างเสียงภายในท�ำให้เราไม่กล้า จะเขียนสิ่งที่เราเชื่อออกมา ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนัก เขียนชื่อดังหลายท่าน สิ่งที่ผมค้นพบก็คือ จริงๆ แล้ว “ไม่มี ใครเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียน” และ ก็ “ไม่มี ใครเขียนดีตั้งแต่ครั้งแรก” แต่สิ่งที่ทุก คนมีก็คือ “ความมั่นใจ” และ “ความพยายาม” พยายามฝึก พยายามเขียน ส่งต้นฉบับเข้า

6

อีกนานแค่ ไหน ผมไม่รู้ด้วยซ�้ำว่าผมเขียนดีหรือ ยัง แต่ผมรู้แน่ๆ ว่าผมไม่อยากให้สิ่งที่ผมคิดเป็น เพียงความฝัน ผมอยากเห็นวัยรุ่นลุกขึ้น และ กล้าที่จะท้าทายสิ่งที่ตัวเองกลัว ถ้าไม่เคยลองท�ำตามหัวใจ จะรู้ ได้ ไหมว่าเราจะไปได้ ไกลสักเท่าไหร่

จริงมั้ยครับ?


A Life I See เรื่อง : ภัทรานิษฐ์ พัฒน์ธนพร

7


A Thing I Dream เรื่อง : วานิลลา ภาพ : รอหัน

ปุ่มเปลี่ยนภาษา

เคยหงุดหงิดกันบ้างหรือเปล่าเวลาก้มหน้า ก้มตาพิมพ์งานอยู่ตรงแป้นคีย์บอร์ด พิมพ์ไปเรื่อยๆ ขาดอีกไม่กี่ประโยคก็จะเสร็จแล้ว แต่พอเงยหน้าขึ้น มาดูหน้าจออีกที อ่าว! ไหงที่พิมพ์มาทั้งหมดกลาย เป็นภาษาอังกฤษไปซะงั้น แบบนี้ที่นั่งจิ้มมาตั้งนานก็ คือสูญเปล่าเลยเหรอ T_T ม่ายยน้า!!!! ใช่ค่ะ ต่อไปนี้จะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว แค่ เพียงแป้นคีย์บอร์ดของคุณมีปุ่มเสริมพิเศษหรือเรียก 8

อีกอย่างว่า ‘ปุ่มเปลี่ยนภาษา’ เพียงคุณลากเมาส์ เพื่อไฮไลท์ ส่วนที่พิมพ์ผิดพลาดไป จากนั้นก็กดปุ่ม นี้เพียงหนึ่งครั้ง แล้วเลือกให้เป็นภาษาไทยหรือจะ ภาษาใดๆ ก็ ได้ที่มีตัวอักษรของมันสลักอยู่ตรงแป้น คีย์บอร์ด เพียงแค่นี้สิ่งที่คุณพิมพ์ก็จะไม่สูญเปล่า แล้วแหละ


A Poem I Feel กลอนและภาพ : แก้วเกล้า

9


'ใต้ดิน l บนฟ้า'

( คอลัมน์จากทางบ้าน )

กลั่นตัว

เรื่อง : จรณ์หมีขาว www.facebook.com/chornmheekaw

มวลเมฆสีด�ำผืนหนาปกคลุมไปทั่ว...

ผมก�ำลังนั่งทอดสายตามองดูปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติ ผ่านทางระเบียงในห้องเล็ก ๆ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง มุมเดียวกับใครบาง คนในบริเวณนี้ที่อาจก�ำลังเงยหน้ามองดูอยู่เช่นเดียวกัน ความมืดที่ค่อย ๆ กลืนกินท้องฟ้าและแสงตะวัน กับความเงียบภายใต้เสียงลมคลั่งนั้น ท�ำให้เมืองทั้งเมืองดู เหมือนจะตกอยู่ภายใต้ความหม่นหมอง บ่อยครั้งที่สภาพ อากาศมีผลต่อจิตใจของคนเรา อีกทั้งอารมณ์และความคิด ราวกับเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายของผู้ ให้ บริการรายใหญ่ มันอาจเป็นเพราะสภาพอากาศมิต่างจาก อารมณ์ของธรรมชาติ ที่แสดงออกมาในห้วงยามที่ ไม่ สามารถกักเก็บความรู้สึกไว้ภายใน ธรรมชาติยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ เกรี้ยวกราด ไม่ยินดียินร้าย ผ่านทางท้องฟ้า สายลม สายน�้ำ ผืนดิน ทุ่งดอกไม้ และทุก ๆ สิ่งที่ธรรมชาติ สร้างขึ้น แน่นอนว่ามนุษย์ก็คือหนึ่งในนั้น หากทว่าธรรมชาติ ก็สร้างมนุษย์ ให้เป็นสิ่งที่ก�ำหนดอารมณ์และความรู้สึกของ ตนเองได้เช่นเดียวกัน จึงท�ำให้บางห้วงเวลา อารมณ์และ ความรู้สึกของคนเราถูกกระตุ้นโดยอารมณ์และความรู้สึก ของธรรมชาติที่ส่งต่อมา หลายครั้งช่วยให้รอยยิ้มและเสียง หัวเราะสดใสกว่าที่เป็น แต่บางครั้งก็เพิ่มความหม่นหมองให้ มืดมิดกว่าที่เป็นเช่นกัน

10

ผมนั่ ง มองมวลเมฆบนท้ อ งฟ้ า มื ด ครึ้ ม อยู ่ สั ก พั ก หนึ่ง เสียงฟ้าร้องคร�่ำครวญคล้ายเสียงสะอึกสะอื้นคลื่น ใหญ่ก็ชวนให้คิดไปว่า หากเหตุผลที่เมฆสีขาวที่เราคุ้นเคย แปรเปลี่ยนมาเป็นสีด�ำบดบังแสงตะวันอย่างในเวลานี้ นั่น เป็นเพราะมันผ่านการสะสมไอน�้ำที่เกิดจากความร้อนระอุ ของโลก และมลพิษต่าง ๆ ที่ผู้อาศัยไม่เคยหยุดผลิตให้แก่ ชั้นบรรยากาศมาตั้งแต่เริ่มสะกดค�ำว่า ‘พัฒนา’ ลอยขึ้นมา รวมกันบนท้องฟ้าต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายวัน บางที่นาน หลายสัปดาห์ บางที่นานเป็นแรมเดือน จนถึงวันที่ท้องฟ้า แบกรับไว้ ไม่ ไหว ก้อนเมฆทุกก้อนหนักอึ้งและเริ่มเปลี่ยนสี ก่อนรอคอยการควบแน่นและกลั่นตัวกลายเป็นหยดน�้ำฝนนั้น เปรียบเทียบกับความรู้สึกของคนเราที่รับผลกระทบมาจาก เรื่องต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ยินดีหรือเศร้าโศก และไม่ว่าจะเป็นครั้งคราวหรือถูกสะสมต่อเนื่องมาเป็นเวลา นาน จนถึงวันที่ความรู้สึกแบกรับไว้ ไม่ ไหว ล้นออกมาทาง สีหน้าและแววตา ก่อนรอคอยการควบแน่นทางอารมณ์และ กลั่นตัวกลายเป็นหยดน�้ำตา ก็คงมิต่างกันเท่าใดนัก

ถึงกระนั้น สภาพอากาศก็มีจุดที่แตกต่างจากความ รู้สึกของคนเราอยู่บ้าง ตรงที่สภาพอากาศแสดงออกอย่าง เปิดเผย ขณะที่คนเรามีความเชื่อว่า การร้องไห้เป็นเรื่องของ ความอ่อนแอ ซึ่งควรปกปิด หากไม่จ�ำเป็น ใครเล่าจะอยากแสดงความอ่อนแอ ให้ผู้อื่นได้รับรู้ แต่ ไม่ว่าจะพยายามซ่อนเร้นไว้อย่างไร คนทุกคน ย่อมมีคืนวันที่อ่อนแอ แม้แต่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุดในโลก ก็ต้องเคยหลั่งน�้ำตาให้กับความเศร้าโศกหรือเจ็บปวดในชีวิต กันมาแล้วทั้งนั้น เหตุผลที่กล้ายืนยันเช่นนี้ ก็เพราะตราบใด ที่จิตใจของคนเรายังเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกและร่างกายยัง เต็มไปด้วยเลือดเนื้อ นั่นก็คือหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เรายังคงเป็น สิ่งมีชีวิตที่ยิ้มเป็นและร้องไห้ ได้ ซึ่งต่อให้ ไม่มี ใครรู้ ไม่มี ใคร เห็น ทว่าตัวเราเองนั่นแหละที่รู้และสัมผัสได้ดี ถึงความอ่อน ไหวที่สั่นคลอนอยู่ภายใน หยดน�้ำตาที่ ไหลรินออกมาจากสองตา เมื่อความ รู้สึกถูกกระทบกระเทือนจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งของชีวิต อาจ มิใช่หยดน�้ำตาแห่งความอ่อนแอเสมอไป และถึงอาจจะใช่ ความอ่อนแอก็มิได้เลวร้ายเท่าไรนัก เพราะการกล้ายอมรับ กับตัวเอง ปล่อยให้ความหนักอึ้งภายในจิตใจได้ถูกระบาย ออกอย่างเปิดเผย และกล้าปล่อยให้หยดน�้ำตาได้ท�ำหน้าที่ ของตัวมันเอง ท้ายที่สุดฟ้าหลังฝนยังคงสดใสกว่าเวลาฟ้า มืดครึ้มเสมอ เมื่อน�้ำตาหยดสุดท้ายแห้งเหือดไป ความเข็มแข็ง ที่เคยจางหายก็มักกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง อย่ากลัวความมืดครึ้ม หากมวลเมฆแห่งความรู้สึก ภายในจิตใจหนักอึ้งเกินจะรับไหว อย่าฝืนแบกหยดน�้ำตา เอาไว้ เมื่อความทุกข์ที่สะสมมีมากจนเกินไป เราควรปล่อย ให้มันเป็นไปตามอย่างที่มันควรเป็น ความผิดหวังและความ เสียใจมิใช่เรื่องแปลกอะไรบนโลกใบนี้ มันเป็นไปไม่ ได้หากจะ ห้ามไม่ ให้ฝนตก และเป็นไปไม่ ได้หากจะห้ามน�้ำตาไม่ ให้ ไหล ริน ใช่แล้ว มวลเมฆสีด�ำผืนหนาปกคลุมไปทั่ว...ท้องฟ้า ก�ำลังจะร้องไห้


' ใต้ดิน l บนฟ้า ' เป็นคอลัมน์เปิดพื้นที่ ให้นัก(อยาก)เขียนทั้งหลายได้ประลองฝีมือกัน ฉบับนี้ เราได้คัดเลือกผลงานของเพื่อนๆ มาลงจ�ำนวน 1 คน นั่นคือผลงานของ จรณ์หมีขาว ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แล้วเราจะส่งนิตยสารฉบับจริงที่มีผลงานพวกคุณกลับไปให้นะ :) 11


The Owner สัมภาษณ์ & เรียบเรียง : O-N Team ภาพ : 9chaballoon, วงวันของติ๋ว

ในโลก ที่ใ

ใจบันด

4 ปี กับวงวันของติ๋ว ในบรรยากาศการสัมภาษณ์เกือบ 2 ชั่วโมง ที่ทำ�ให้พ ตัวจริงของพวกเขา แล้วจะรู้ว่ามีอะไรที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากบทสัม ที่ชื่อว่า “วันของติ๋ว” เราอยากให้เพื่อนได้รู้จักที่ไปที่มาของวงและเร


กอีกใบ ใช้

ดาลแรง

พวกเรารู้ว่าการเล่นดนตรีมันเป็นอะไรได้มากกว่าที่คิด อยากให้ทุกคนได้เจอกับ มภาษณ์ชิ้นนี้อีกมากมาย แต่ก่อนไปเจอตัวจริงของพวกเขาในโลกอีกใบ รื่องราวน่าสนใจต่างๆ ของพวกเขา ผ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้กันก่อน


คิงคอง

O-N : ให้วงวันของติ๋วแนะน�ำตัวเอง พี่ปุ๊ก : ปุ๊ก อรธิดา โกมลภิส ตอนนี้ ท�ำงานทางด้านการตลาด ที่บริษัท CMG Central Marketing Group ค่ะ พี่เปิ้ลหน่อย : ชื่อเปิ้ลหน่อย วรัษฐา พงษ์ธนานิกร ชื่อเล่นเต็มๆ แอปเปิ้ลหน่อย (ยาวไปไม๊!) หลักๆ จัดรายการวิทยุที่ Cat Radio สอนบัลเล่ต์ และเป็นหุ้นส่วนที่ร้าน Stu-fe’ ค่ะ O-N : พี่ๆ สองคนมาเจอกันได้ยังไง พี่ปุ๊ก : เพราะดนตรีนี่แหล่ะ เคยได้ยิน เทศกาลดนตรีชื่อ Melody Of Life รึ เปล่า พี่เต้ง (พิชัย จิราธิวัฒน์) เป็นคน จัด พี่เต้งจะพูดถึงพี่ตั้ม โมโนโทน กับพี่ เปิ้ลหน่อย บ่อยๆ อยู่แล้ว ท�ำให้เราได้ยิน ชื่อพี่เปิ้ลหน่อยตลอด แต่ตอนแรกก็ ไม่รู้ว่า คือใครหน่ะ ที่คิดว่าแปลกดีและมารู้ทีหลัง คือ ณ เวลาเดียวกัน เราอยู่ ในสถานที่ เดียวกันบ่อยมาก แต่ว่าตอนนั้นเราไม่รู้จัก กัน อย่างเช่นตอนไปเรียนที่ออสเตรเลีย เราอยู่เมืองเดียวกัน มหาวิทยาลัยของ

ตั้ม

น�้ำเชื่อม

เราทั้งคู่อยู่ ใกล้กันมาก ต้องเคยเดินสวน กันแน่นอน (หัวเราะ) แล้วพอจบกลับมา ท�ำงาน พี่เปิ้ลหน่อยก็ ไปตึกออฟฟิศปุ๊ก ณ ตอนนั้นบ่อยๆ ส่วนระหว่างท�ำงาน นาย ปุ๊กก็ชอบเปิดวิทยุฟังกันในออฟฟิศก็ ได้ยิน เสียง ดีเจเปิ้ลหน่อย เราก็..อีกแระ พวก มีชื่อในวงการอีกแระ (หัวเราะ) ก็ ใครเค้า จะชื่อ แอปเปิ้ลหน่อย กัน!

O-N : อะไรดลใจให้ท�ำวงวันของติ๋ว พี่เปิ้ลหน่อย : ความขี้อิจฉา! (หัวเราะ) เพราะว่าที่ Stu-fe’ คนมาเยอะ นักดนตรี มาเยอะ เราอยู่ตรงนี้ ทุกคนเป็นนักดนตรี หมด ที่ว่าทุกคนเนี่ย มี สิงโต น�ำโชค พี่ บอย ตรัย พี่ โต้ง P.O.P รวมอยู่ด้วย เรา ก็เลยมีปม (หัวเราะ) อยากเล่นบ้าง ก็เลย ตั้งวงบ้างซะเลย ฮ่าๆๆ

พี่เปิ้ลหน่อย : ตอนแรกจัดรายการวิทยุ พี่ที่ท�ำงานก็แซวเหมือนกันว่า ใช้ชื่ออื่นได้ ป๊ะ เดี๋ยวคนฟังหมั่นไส้ เห็นมะ มีจริงๆ ด้วย! (หัวเราะ)

พี่ปุ๊ก : สรุปง่ายๆ คือ ประมาณ พฤติกรรมเลียนแบบนั่นเอง

พี่ปุ๊ก : สุดท้ายก็ ได้เจอกัน ได้ลองคุย กัน ปุ๊กรู้สึกว่า ปุ๊กคุยกับพี่เปิ้ลหน่อยนิด เดียวเอง แต่ท�ำไมเข้าใจกันมากก็ ไม่รู้ (หัวเราะ) และมันมีความเหมือนในความ ต่าง แต่งตัวก็แมตช์กันตลอดโดยไม่ ได้นัด หมาย แล้ว Stu-fe’ อยู่ ใกล้ออฟฟิศเรา พี่เปิ้ลหน่อยก็ต้องมาร้านบ่อยๆ ท�ำงาน เสร็จเราก็เลยเจอกัน คุยกันที่นี่

พี่เปิ้ลหน่อย : ใช่เลย เลียนแบบการเป็น นักดนตรี ตอนแรกสมมติก่อนว่าเป็นวง ดนตรีจริงจัง และตั้งแฟนเพจเลย แต่ยัง ไม่ ได้เล่นดนตรีกันเป็นหรอกนะ (หัวเราะ) มีชื่อวง มีปกอัลบั้ม เอาไว้อวดเพื่อน บันเทิงมาก! พี่ปุ๊ก : วันนั้นที่เริ่ม มันเป็นกองถ่ายที่มี เครื่องดนตรีเพื่อเซ็ตถ่ายรายการโทรทัศน์ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน�้ำท่วม เขาถ่ายเสร็จ


คิท

เปิ้ลหน่อย

ปุ๊ก

^ สมาชิกทั้ง 6 คนในวงวันของติ๋ว

เรียบร้อยแล้ว ทิ้งของไว้ แล้วเราบังเอิญ เป็นคนที่ชอบแต่งตัวเหมือนกันมาโดยไม่ ได้ ตั้งใจ เราก็ ไปเอาเครื่องดนตรีมาโพสท่า ถ่ายรูป ท�ำหน้าซีเรียสกัน ถ่ายไปทั้งหมด 6 รูป โพสลงเฟสบุ้คทันที เพื่อนที่เห็นก็ ถามว่าอะไรยังไงเพราะดูจริงจังเกินไปมาก (หัวเราะ) ก็เลยตีมึนไปเลยว่า อ๋อ ท�ำวง หน่ะ! อย่างที่ท�ำแฟนเพจก่อนอย่างอื่นก็ เพราะมันดูข้ามขั้นดี ฮ่าๆๆ ตอนนั้นในเฟส บุคยังไม่ค่อยมี ใครมีแฟนเพจยกเว้นศิลปิน ดังๆ แล้วก็ตั้งชื่อวง นี่ ไง ศิลปิน ใครก็เป็น ได้ (หัวเราะ) จริงๆ ตั้งใจกวนๆ หน่ะ แล้ว ก็เอาไว้แซวกับเพื่อนเล่น แต่เป็นการเล่น แบบขั้นซีเรียส แต่บังเอิญพร๊อพเยอะ ของ เล่นเยอะ เครื่องดนตรีเพียบเลย ก็ ใช้ ให็ เป็นประโยชน์ (หัวเราะ) O-N : ที่มาของชื่อวง พี่ปุ๊ก : วันนั้นเป็นวันที่ ไปบอกพี่เปิ้ลหน่อย ว่า “เห้ยพี่เปิ้ลหน่อย ไม่ ไหวกับความจ�ำเจ แล้วอะ ชีวิตมันคาดเดาได้เกินไป ไม่เท่เลย

อะ คนคูลๆ มันต้องท�ำงานประจ�ำไปด้วย เล่นดนตรีกลางคืนไปด้วย แบบเนี้ยะ จะ คูลมาก!” (หัวเราะ) พี่เปิ้ลหน่อยก็บอกว่า “เล่นเล้ย!” พี่เปิ้ลหน่อย : เราอยากเล่นดนตรีที่ Stu-fe’ กันแต่ตอนนั้นยังไม่มีชื่อวง ส่วน ณ เวลานั้น คนที่เล่นดนตรีประจ�ำที่ Stufe’ ก็มีสิงโตเล่นวันพุธ พี่อาร์ต Vacation เล่นวันศุกร์ เราก็แบบ เราจะเล่นบ้าง ท�ำไมจะเล่นไม่ ได้ เราเป็นหุ้น! เราจะเล่น! (หัวเราะสนุก) หลังจากเออออกันเองเสร็จ เราก็เดินไปถามว่าวันไหนมีสล๊อตว่างบ้าง เราจะได้ลงวันนั้น ผู้จัดการร้านก็อ�้ำอึ้ง มาก “เอ่อ คือ เอ่อ วันอาทิตย์เปิดแผ่น วันจันทร์หยุด วันอังคารไม่ค่อยมีลูกค้า อย่างมากก็ โต๊ะนึง เล่นวันอังคารละกัน จะได้ ไม่กวนลูกค้ามาก” (หัวเราะ) ก็เลย ชื่อ Tuesday ก็แล้วกัน พี่เปิ้ลหน่อย : วันนั้นพี่บอย ตรัย วง Friday ก็อยู่แถวๆ นั้นด้วย เราก็กลัวเค้า

คิดว่าเราไปลอกชื่อวง Friday รึเปล่า ฮ่าๆๆ ก็เลยเปลี่ยนให้เป็นชื่อไทย เติม เครื่องหมาย ’ เข้าไป ก็เป็น Tue’sday แปลตรงตัวว่า วันของทิวส์ แต่ก็อยาก ไทยกว่านั้นอีก เลยกลายเป็น วันของติ๋ว ตอนหลังคนชอบเรียกแบบย่อ เหลือเป็น ชื่อเล่นว่า ติ๋วเดย์ O-N : ฝึกดนตรีกันเอง หรือมีคนสอน พี่ปุ๊ก : ต้องบอกก่อนว่าพี่ปุ๊กเล่นเปีย โนตอนเด็กๆ แต่พอเป็นวง มันเป็นการ เล่นอีกแบบหน่ะ เหมือนเริ่มใหม่เลยก็ ว่าได้ ก็มีคนมาไกด์ ให้ด้วย ฝึกกันเอง ด้วย ก่อนจะท�ำวง เราต้องเลือกเครื่อง ดนตรีกันคนละชิ้นอยู่แล้ว ของพี่ปุ๊กเสิร์จ ใน Youtube แล้วเจอคนเล่น คีย์ต้าร์ (Keytar) เราก็แบบ เครื่องดนตรีนี้แหละ เหมาะกับเรา แล้วตามหาจนซื้อมาได้ ส่วนพี่เปิ้ลหน่อยก็จะเป็นกลอง พี่เปิ้ลหน่อย : ที่เล่นกลองเพราะคิดว่า 15


ผู้หญิงตีกลองแล้วเท่ดี อิอิ แล้วพอเริ่มตี กลอง มีคนบอกว่า “โห เก่งนะ นี่มันพรสวรรค์ชัดๆ” คิดในใจ “ใช่ๆๆ” ก็เลยเล่น ต่อมา แต่ว่าคนที่พูด หลังจากนั้นก็เลิก พูดถึงมันอีกเลยนะ (หัวเราะ) จะว่าไปติ๋ว เดย์อยู่มาได้ เกิดได้ เพราะมีคนข้างๆ ที่ ช่วยสนับสนุน ช่วยกันสปอยล์! O-N : ตอนที่เล่นวันอังคารตอนนั้นเป็น ยังไงบ้าง พี่ปุ๊ก : วันอังคารมาเล้ย แต่ ไม่ ได้เล่น ดนตรีนะ ตอนนั้นเพิ่งซื้อคอมพ์ ก็สนุกกับ การอัดคลิป ไม่ ใช่คลิปซ้อมดนตรีนะ ออก แนวสวัสดี social cam (หัวเราะ) แบบ คุยเพ้อเจ้อไปเรื่อยอ่ะ

เทปด�ำไปแปะเพิ่มใต้สติ๊กเกอร์หน้ายิ้มเป็น ค�ำว่า TUE’SDAY พร้อมวาดเม็ดเหงื่อ ที่หน้า Smiley เพื่อเป็นสัญลักษณ์ “ใจ บันดาลแรง” หลังจากนั้นเราก็ขอให้เพื่อน ใจดีชื่อตูนให้ช่วยออกแบบโลโก้ของวง อย่างเป็นทางการให้ เพื่อนพิจารณาจาก ทุกอย่างแล้วท�ำโลโก้ส่งกลับมา ก็เป็นอัน นี้แหล่ะ ใช่เราที่สุดแล้ว! O-N : เริ่มวงยังไง เล่นที่ ไหนจริงจัง เป็นที่แรก พี่เปิ้ลหน่อย : ก็คุยกันเล่นๆ และสร้าง แฟนเพจกระทันหัน ก็เริ่มจากตรงนั้น แหละ

O-N : ณ ขณะซ้อม เพื่อออกงานแรก พี่เปิ้ลหน่อย : ตัดสินใจเล่นเพลง ขอบคุณของ Moderndog ฟังและก็แกะ ในห้องซ้อม คือเปิดเพลงแล้วก็เล่นตามกัน ทั้งสองคน ผ่านไป 2 ชั่วโมง ไม่ ได้คุยกัน เลย หน้าเสียกันทั้งคู่ นี่เราเล่นดนตรีกัน ไม่ ได้?! บ้าเหรอ! เล่นไม่ ได้อะ! พี่ปุ๊ก : เหมือนน�้ำกับเส้นมันไม่เข้ากันหน่ะ มันไม่เหมือนวงของคนอื่นเพราะไม่มีคน เรียบเรียงให้ (arrange) ฟังเสียงดนตรี ของตัวเองแล้วเราทั้งสองคนถึงกับเหวอ

พี่เปิ้ลหน่อย : เหวอมาก ตกใจ พี่ตั้ม โมโนโทนผ่านมาพอดี เลยถามว่าพวกเรา ท�ำอะไรกันอยู่เหรอ เราก็บอกว่าเล่นไม่ ได้ พี่ปุ๊ก : รุ่นน้องของพี่เปิ้ลหน่อยเขาเห็น พี่ตั้มเลยช่วยเรียบเรียงใหม่ เราก็วิ่งออก พี่เปิ้ลหน่อย : “สวัสดีเพื่อนติ๋ว วันนี้เรา แฟนเพจ เขาก็เลยคิดว่าจริงจัง เค้าก็ถาม มาข้างหน้าห้องซ้อม ก็มาชวนคิทไปช่วย จะมาตัดผมโชว์” ไม่เล่นเลย ท�ำคลิป มาว่า สนใจไปเล่น music fest ไหมล่ะ เล่นคีย์บอร์ด คิงคองไปช่วยเล่นกีต้าร์ ตลอด จนผ่านไปประมาณเป็นเดือน เลย เราก็คิดแค่ว่า ถ้าได้ขึ้นบน status ในเฟ และน�้ำเชื่อมมาช่วยร้อง ก็เข้าไปซ้อมด้วย ตัดสินใจเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันสองคน เรา ซบุคว่าจะได้ ไปเปิดตัววงในเทศกาลดนตรี กันเป็นวง เราก็เลยได้ซ้อมกันแบบเต็มที่ เล่นกีตาร์ ได้ ก็หัดเล่น ปุ๊กร้อง ตอนนั้นมี ก็คงเท่เว่อร์! คือคิดถึงการอวดเพื่อนใน สุดๆ แต่ก็เครียดนะตอนนั้น ลูกค้าสามคนอยู่ ในร้าน หลับไปสอง อีก facebook อย่างเดียวเบย (ฮา) เทศกาล คนเดินออกไปข้างนอกเลย ไปสูบบุหรี่ ดนตรีที่ว่าคือ Big Mountain มัน ใหญ่ พี่ปุ๊ก : เป็นเพลงขอบคุณ version สั้น สงสัยเครียดมาก (หัวเราะ) มาก แต่เราไปเล่นเวทีเล็กนะ เวทีอโคจร มาก แต่ก็เข้มข้นมาก (ฮา) เวลาตีสาม! พี่ปุ๊ก : เห้ย มันเกิดขึ้นได้จริง! ในชีวิตเรา ไม่คิดว่าจะมีเหมือนในละครตลกเนอะ แต่ พี่เปิ้ลหน่อย : เราก็ถามคนที่ชวนว่า ไป O-N : บรรยากาศของวันที่ขึ้นเวที หลับจริงๆ คาตาเลย ประทับใจมาก (ฮา) เล่นได้จริงๆ เหรอ เขาก็บอก ได้สิพี่ ใส่ แสดงสดครั้งแรก ชื่อเลยมั้ย ไม่ ได้คิดมาก ก็พิมพ์ชื่อส่ง พี่เปิ้ลหน่อย : วันเล่นจริงมีคนกระโดด ไปเลย สรุปลงจริง! ลงไทยรัฐ มีชื่อวง ขึ้นไปเล่นบนเวทีด้วยเต็มเลยโดยไม่ ได้เคย O-N : เลือกเล่นเพลงอะไร Bodyslam แล้วก็มีชื่อวงเราอยู่ด้วยนะ ซ้อมกับเรา กลองเปิ้ลหน่อย มีคนยืนอยู่ พี่เปิ้ลหน่อย : เน้นง่าย เพลงอะไรก็ ได้ (หัวเราะ) 4 คน ช่วยกันตีอะ แล้วข้างหลังมีคนช่วย ที่อยู่ ในคีย์ C เปิดหาคอร์ดเอาเดี๋ยวนั้น เชียร์เป็นแผง เราเล่นต่อจากวง Better แล้วก็ร้อง เล่น พี่ปุ๊ก : โหยยย คือ ฟิน! Weather สนุกมากเลย ฝั่งของปุ๊กก็ขน เพื่อนที่ท�ำงานไปเพียบ พี่ปุ๊ก : เล่นไม่จบเพลงก็ช่างมัน เปลี่ยน ใหม่กลางคัน เล่นเพลงเดิมซ�้ำวนไปวนมา O-N : สมาชิกในวงอีก 4 คน พี่ปุ๊ก : เพื่อนก็ตกใจอะ อารมณ์ประมาณ ก็ท�ำประจ�ำ ปล่อยเซอร์ (หัวเราะ) พี่เปิ้ลหน่อย : ทุกคนเก่งหมดเลย ถ้ามี ว่า นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย! แล้วเพื่อนก็เขียน แค่เราสองคนคงไม่รอดอะ แล้วทุกคนคือ ชื่อ วันของติ๋ว ไว้บนเสื้อ แล้วก็ชูๆ เล่น เคมีที่พอมาเจอกัน มันเจ๋งมาก คิงคองกับ บทแฟนคลับเนียน คุ้มค่าเดินทางมาก O-N : LOGO ของวง น�้ำเชื่อมมีออร่ามากบนเวที เก่งมากๆ (ฮาาา) พี่ปุ๊ก : อย่างที่บอกว่าเราเจอกันเพราะ คิทก็เก่งมาก เล่นคีย์บอร์ดให้ละอองฟอง ได้ท�ำงานที่เทศกาลดนตรี Melody of ท�ำเพลงประกอบหนัง แล้วก็ช่วยพี่ตั้ม พี่เปิ้ลหน่อย : กรี๊ดเสียงดังมาก จน Life ด้วยกัน ปีนั้นมันเป็นธีมฮิปปี้ พี่ตั้ม โมโนโทนท�ำเพลงโฆษณา พี่ตั้มก็เก่งมาก ทุกคนแถวนั้นเป็นแบบ “นี่มันวงอะไร?” โมโนโทนเลยปริ้นท์สติ๊กเกอร์ Smiley เป็นสายครีเอทีฟ คือเพื่อนทุกคนเก่งหมด (หัวเราะร่วน) (หน้ายิ้ม) ไปตกแต่งที่งาน และได้แปะ 1 มาอยู่ด้วยกัน แล้วอุ้มเราไปด้วยกัน เย่ๆๆ อันไว้ที่กลอง หลังจากงานจบ เราก็ตัดสิน (ฮา) พี่ปุ๊ก : และตอนที่เราเล่น เพื่อนหลายๆ ใจจะมีวง แล้วเราก็มีช่ือวง พี่ตั้มก็เลยเอา คนที่ถ่ายวิดี โอได้ ก็กระโดดขึ้นไปบนเวที


ด้วย แล้วก็เก็บภาพจากทุกมุม อย่างเว่อ รรรร์ เพื่อนคงคิดว่าถ่ายไว้เยอะๆ เพราะ ไม่รู้จะมี โอกาสได้เล่นอีกทีรึเปล่า(ฮา) O-N : เล่นไปกี่นาที พี่ปุ๊ก : นานมากอะ ประมาณ 1 นาที! พี่เปิ้ลหน่อย : เล่นซะเร็วเลย เพราะตื่น เต้นพีค (หัวเราะ) O-N : ไม่ ได้อยากเป็นนักร้อง พี่เปิ้ลหน่อย : อยากเป็นนักดนตรี ไม่ ได้ อยากเป็นนักร้องอะ ไม่อยากอยู่ข้างหน้า อยากอยู่ข้างหลัง พี่ปุ๊ก : อยากเล่นคีย์ต้าร์ (คีย์บอร์ด สะพาย) ความฟินของเราคือได้แบกกระ เป๋าคีย์ต้าร์เดินไปเดินมา มันเป็นฟีลลิ่ง ฮาๆๆ O-N : พี่ๆ ไป featuring กับศิลปินชื่อ ดังเยอะๆ ได้ยังไง พี่ปุ๊ก : ศิลปินหลายคนที่เห็นว่าได้ ไป featuring ด้วย เป็นพี่เป็นเพื่อนกันอยู่ แล้ว เขาเข้าใจเลยสนับสนุนการเพ้อเจ้อ ของเรา (หัวเราะ) แล้วเขาน่าจะอยาก เล่นด้วย หนุกๆ ที่จริงแล้วท�ำเอาดูกันเอง เล่นๆ เอาไว้อวดเพื่อนเฮฮา พี่เปิ้ลหน่อย : ทุกคนก็เลยเลยตามเลย (หัวเราะ) พี่ก้อ P.O.P เป็นคนแรกที่พูด โฆษณาให้ติ๋วนะ! มีพี่บอล สครับบ์ เคย พูดถึงเราว่า “วงนี้น้องใหม่มาแรง ต้อง จับตามอง” ส่วนมาริ โอ้บอกว่า “ผมฟัง ตั้งแต่สมัยเขาแร๊ป featuring กับดาจิม” ไปถามแป้งโกะ แป้งโกะบอกว่า “หนูฟัง ตั้งแต่สมัยอยู่ออสเตรเลีย เพื่อนเกาหลี แนะน�ำ เขาดังที่เกาหลี” คือทุกคนก็จะมี เรื่องราว(เพ้อเจ้อ)ของติ๋วที่แตกต่างกัน ออกไป พี่ปุ๊ก : เหมือนความเพ้อเจ้อจะติอต่อกัน ได้เนอะ (หัวเราะ) พี่เปิ้ลหน่อย : มันเหมือนเป็นเคมีที่อยู่ ด้วยกัน แล้วมันระเบิดเป็นอะไรก็ ได้อะ (ยิ้ม)

O-N : ดนตรี ไม่ ใช่ทั้งหมด พี่ปุ๊ก : จริงๆ แล้วดนตรีเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่ง หลักๆ คือ ได้เจอ ได้คุย กับเพื่อนๆ เป็นการสนทนาแบบเพ้อเจ้อ พี่เปิ้ลหน่อย : อยู่ด้วยกันแล้วสนุกมาก ที่สุด คือท�ำอะไรทุกอย่างมันใหม่ ไป หมด ขึ้นเวทีก็ฟินเพราะตื่นเต้น (ยิ้ม) O-N : เจอกันทุกวันไหม พี่ปุ๊ก : จะเจอกันบ่อยตอนมีภารกิจ เช่นมีต้องไปเล่นคอนเสิร์ตหรือเทศกาล

งานรื่นเริงต่างๆ ไปเล่นโชว์ ก็ต้องซ้อม พี่เปิ้ลหน่อย : จะซ้อมกันบ่อยก็ตอนจะ ไปเล่นนี่แหละ แหะๆ

อยู่ด้วยกันแล้วสนุก มากที่สุด คือทำ�อะไร ทุกอย่างมันใหม่ไปหมด / พี่เปิ้ลหน่อย 17


O-N : งาน T-shirt ของ Fat Radio ตอนเล่นกับพี่ โต้ง & พี่เจอร์รี่ P.O.P พี่เปิ้ลหน่อย : เราขึ้นจังหวะเพลงผิด (แววตาดูส�ำนึกผิด)

แรกก�ำลังจะจบ ในใจแอบดี ใจนิดๆ คนก็ เริ่มเข้ามา จากที่ ไม่มีคนเลย ฝนตกได้ผล แฮะ พอเพลงที่สองผ่านไปได้ครึ่งเพลง เอง ฟ้าผ่าเปรี้ยง! ไฟดับ! คือมันเป็นพา ยุเลยอะ แล้วเขาก็เลยไล่เราลง และเก็บ พี่ปุ๊ก : คือเหมือนการเปลี่ยนสัญชาติ เครื่องเสียง เราก็แบบ “เง้ออ ยังเล่นไม่ เพลงเขาไปเลย! มหัศจรรย์! เสร็จเลย!” ตัดภาพกลับไปคนเต็มเต้นท์ เลย เรายังอยากเล่นอยู่ ก็เลยคว้าเครื่อง พี่เปิ้ลหน่อย : พี่ โต้งก็หันมา "พอ! เอา พี่ปุ๊ก : เวลาศิลปินมืออาชีพเค้าซาวน์เช็ค ดนตรีที่ ไม่ต้องใช้ ไฟฟ้า แล้วตะโกนบอก ใหม่! เริ่มใหม่ทั้งหมด!" คนดูก็ข�ำกัน ฮาๆ กัน ก็จะแค่กดๆ เทสต์เสียง เคาะๆ แล้ว คนดูว่า “เราจะร้องเพลง ร้องด้วยกัน พัก จะไม่เล่นทั้งเพลงเหมือนเรา พวกเรา นะ!” ก็ร้องกัน เหมือนตอนเข้าค่ายเลย นี่เล่นเหมือนจริงหมดเลย เราบอกคนที่ (ฮา) เดินผ่านไปมาว่า เดี๋ยวมาใหม่นะคะ เล่น เหมือนเดิมเป๊ะ! (หัวเราะ) แล้วเราก็หัน พี่ปุ๊ก : มีคนในแฟนเพจหลายคน ที่ตาม ไปบอกกับพี่เปิ้ลหน่อยเล่นๆ ว่า ถ้าสมมติ มาจากงานนั้นนะ เหตุการณ์มันเหมือน ฝนตกก็คงดีนะ เพราะคนก็คงเข้าเต้นท์ เซ็ตเลยอะ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง ทีม หลบฝน ดีๆ จะได้มาดูเราเยอะ ฮี่ๆๆ เครื่องเสียมีแซวว่ามี ใครในวงลืมแก้บนรึ เปล่า (หัวเราะ) พี ่ เ ปิ ้ ล หน่ อ ย : เวที เ ป็ น ที ่ เ ดี ย วที ่ อ ยู ่ ใ นร่ ม / พี่ปุ๊ก กลางวันแดดเปรี้ยงเลย ส่วนตอนเล่นจริง ตอนเย็น ฝนก็เริ่มตกตอนที่เราเล่นเพลง

ตอนทำ�เพลงเพลงวัน ธรรมดา (เพลงแรกแบบ จริงจังของเรา) มันเป็น จุดเปลี่ยน 18

O-N : แสดงดนตรี ในสวนสนุกในวันที่ ฝนตก พี่เปิ้ลหน่อย : เราคิดว่าวงเราเหมาะกับ สวนสนุก เราเลยขอเขาไปเล่น เป็นครั้ง แรกที่เล่นต่อเนื่องถึง 6 เพลง ไปตั้งแต่ เที่ยงเลย ซาวน์เช็คไป 6 เพลงรวด! ก็ ทั้งหมดทุกเพลงนั่นแหล่ะ!


O-N : เหตุการณ์ประทับใจ พี่ปุ๊ก : คือตอนท�ำเพลงเพลงวันธรรมดา (เพลงแรกแบบจริงจังของเรา) มันเป็น จุดเปลี่ยน ทุกคนก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมี เพลงๆๆ ตอนนั้นไปอินเดีย แล้วพี่บูม (ผู้ แต่งเพลง) เขียน e-mail มาบอกว่าร้อง เพลงนี้ ให้หน่อยได้ ไหม เป็นเพลงแรกใน ชีวิตที่เขาแต่งเองและมี บอล จารุลักษณ์ ร้องไกด์ ให้แล้ว ตอนนั้นก็ ไม่มั่นใจอย่าง มากว่าจะท�ำได้รึเปล่า เพราะเป็นคน ความจ�ำไม่ดีมากถึงมากที่สุด ในชีวิตจ�ำ เนื้อเพลงได้แค่ 2 เพลง คือเพลงชาติ กับเพลงหมอกหรือควัน เราก็พยายาม จ�ำเนื้อเพลง แล้วตอนนั้นมันมีเดดไลน์ที่ กระชั้น เพราะเราตั้งใจเอาไปเล่นที่งาน The Last Fat Fest เราเลยรู้สึกกดดัน เพราะหลังจากนี้มันไม่มี โอกาสแล้ว แล้ว วันที่ต้องอัดเพลงดันงอนกับพี่เปิ้ลหน่อย ไม่คุยกันด้วยเรื่องอะไรก็ ไม่รู้ มาตั้งแต่ สามทุ่ม จะตีสามแล้วก็ยังท�ำไม่ ได้ซักที จนในที่สุดพี่ตั้ม โมโนโทนต้องเข้าไปช่วย โค้ชในห้องอัด พี่เปิ้ลหน่อย : พี่ตั้ม โมโนโทนบอก ให้ปุ๊กร้องแบบสบายๆ ยิ้มๆ ให้ปุ๊ก จินตนาการเหมือนตอนมีความรัก แอบ รักใครช่วงมหาลัย มันสวยงาม ไกด์ทุก อย่าง พยายามอธิบายทุกอย่าง ปุ๊กไม่ เข้าใจ ยังท�ำไม่ ได้ พี่ปุ๊ก : น�้ำตาเริ่มมาแตะขอบตาละ ท�ำไมมันเครียดและทรมานขนาดเน้!! จะ ทิ้งก็ทิ้งไม่ ได้ คือมันมีเดดไลน์ ต้องวันนี้ เท่านั้น กดดันมาก

เชื่อมยังไม่เคยฟังเพลง เปิ้ลหน่อยเลย ต้องเล่นเมโลเดี้ยนเอง แล้วที่ตลกคือ มันเป็นเพลงสนุกใช่ ไหม เปิ้ลหน่อยกะจัง หวะพลาด เล่นช้าไป ขึ้นมาเป็นเพลง เศร้าเฉย! (ฮา) พี่ปุ๊ก : มันช้า แล้วเสียงเครื่องเป่าอีก ฟี ลดาร์กเลยคราวนี้ แล้วเราก็กลัว กลัว ว่าเราจะร้องผิด แล้วก็ผิดจริงๆ! ตอน นั้นความคิดแล่นในหัวเร็วมาก “แล้วถ้าพี่ เจ้าของเพลง เขาอยู่แถวนี้ เขาอุตส่าห์ แต่งเพลงให้เรา เราร้องผิด แล้วเขาจะ เสียใจไหม…”โน่นนี่นู่นนั่น สรุปรู้สึกผิด มากกกกที่ร้องผิดตั้งแต่ต้น เสียใจ ตกใจ น�้ำตาไหลเลย ยั้งไม่อยู่ พี่เปิ้ลหน่อย : เราหันไป “เฮ้ย! ร้อง ท�ำไม!?!” แบบร้องจริงจังเลยอะ ร้อง โฮอะ แล้วเราก็จบกันแค่นั้นเลย พี่ปุ๊ก : คนดูน่าจะคิดว่าเราซึ้งเรื่อง มิตรภาพ แต่จริงๆ คือตกใจที่ร้องผิด! (หัวเราะ) แต่จะว่าไปครั้งนี้ ส�ำหรับปุ๊ ก มันถือว่าเป็นการเล่นที่ประทับใจที่สุด เลยนะ ดราม่าดี ฮ่าๆๆ แล้วพี่เปิ้ลหน่อย หล่ะ? พี่เปิ้ลหน่อย : โอ้ โห ประทับใจทุกครั้ง เลยอะ เพราะว่าทุกครั้งมันเล่นไม่เหมือน กันเลย (หัวเราะ) ถ้าต้องเลือกงานเดียว ที่ประทับใจที่สุด มันคือการแสดงครั้ง แรก ที่ Big Mountain มันเหมือนเป็น

ไปไม่ ได้ มันไม่มีทางที่เราจะได้ขึ้นไปเล่น ดนตรีอะ จ�ำได้ตอนขึ้นไปเล่น แล้วลง มา เราบอกกับทุกคนว่า "ตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลยในชีวิต ความรู้สึกนี้มันคืออะไรว้าาา" O-N : ข้อความที่ส่งเข้ามาใน inbox เพจ facebook/band.tuesday พี่ปุ๊ก : ช่วงแรกๆ จะมีคนชอบอินบ๊อกซ์ เข้ามาให้ช่วยแนะน�ำวิธีการเลือกซื้อเมโล เดี้ยน (หัวเราะ) พี่เปิ้ลหน่อย : มีน้องผู้ชายคนหนึ่งส่ง ข้อความมา บอกว่า “พี่ครับ ผมมีวง ครับ ชื่อวงของผมคือ Thur’sday” วัน ของเธอ หรืออีกแบบนึงก็จะบอกว่า “พี่ ซ้อมบ้างนะ ซ้อมยังเนี่ย” (หัวเราะ) พี่ปุ๊ก : เหมือนเขาห่วงใยอะ อารมณ์ แบบ ไหวนะติ๋ว ให้ ไหวนะติ๋ว ฮ่าๆๆ ตลกดี ในอินสตาแกรม @tuesday5678 ก็มีนะแนวนี้

ประโยคสุดท้ายที่พี่ตั้ม บอกปุ๊กคือ “เอางี้ปุ๊ก ลองคิดว่าตัวเองเป็นหมา ที่วิ่งเล่นในทุ่งหญ้านะ” / พี่เปิ้ลหน่อย

พี่เปิ้ลหน่อย : ประโยคสุดท้ายที่พี่ตั้ม บอกปุ๊กคือ “เอางี้ปุ๊ก ลองคิดว่าตัวเอง เป็นหมาที่วิ่งเล่นในทุ่งหญ้านะ” พี่ปุ๊ก : ท�ำได้เลย! (หัวเราะพร้อมกัน) อัดไม่กี่ทีจบ! บอกให้เป็นหมาตั้งแต่แรก ก็ง่ายละ! เปิ้ลหน่อย : ส่วนพาร์ทดนตรี ตอน นั้นไม่ ได้อัดเครื่องดนตรีกันเอง แต่หลัง จากนั้นที่เห็นเล่นโชว์ เราเล่นเองนะ มา หัดกันทีหลัง (หัวเราะ) แต่วันงานที่ แสดง (The Last Fat Fest) มันยัง ไม่สามารถเล่นได้ครบวงเพราะคองกับ

พี่ตั้ม โมโนโทน


O-N : ‘วันธรรมดา’ เพลงแรกของวง พี่เปิ้ลหน่อย : ไม่คิดว่าจะมีเพลงตัวเอง เลย พี่ปุ๊ก : มีคนมาถามเยอะมาก คือเราไม่ ได้คิดถึงเรื่องการมีเพลงของตัวเองกันเลย จนคนข้างนอกมาบอกว่า “สักทีเหอะๆ” ก็ เลยเริ่มคิด พี่เปิ้ลหน่อย : เพลงวันธรรมดามัน ส�ำเนียงประหลาดมาก เพราะค�ำไม่ลง เมโลดี้ มันเพี้ยนๆ มันเลยมีความพิเศษอยู่ ในนั้น พี่เจอร์รี่ P.O.P เป็นคนแต่งท�ำนอง พี่บูมแต่งค�ำร้อง ซึ่งเป็นเป็นการแต่งเพลง ครั้งแรกในชีวิตของพี่บูมเลย ส่วนพี่ตั้ม โมโนโทนช่วยเรียบเรียงทั้งหมด ถ้าวันนั้น พี่บูมไม่แต่งเพลง เราก็คงไม่มีเพลงของ เรา ทุกอย่างมันลงตัวดีมาก (ยิ้ม) พี่ปุ๊ก : ใช่ ตอนนั้นอยู่คนละที่ เลยได้คุย กันน้อย ไม่ชัวร์กับอะไรหลายๆ อย่าง แต่ เราก็ลุยท�ำๆ ไปก่อน แต่ก็ออกมาเป็นที่ พอใจของทุกคน :) O-N : ตอนที่เพลงวันธรรมดา ขึ้น อันดับ 1 ของ FAT Radio พี่เปิ้ลหน่อย : โหย! ฟิน ตกกะใจมาก เลยนะ

ปุ๊ก! ขึ้นอันดับหนึ่งหลายอาทิตย์อะ จน เราไปถามพี่ที่ Fat นั่นแหละ ว่าจริงๆ ใช่ ไหม พี่เขาก็บอกว่า จริงๆ เป็นเพลงที่ถูก พี่ปุ๊ก : ขอเล่าตอนส่งเพลงนี้เข้าคลื่น เรา เปิดเยอะที่สุดในช่วงนั้น เป็นเพลงที่คนขอ เข้ามาเยอะที่สุด ได้ยินเพลงครั้งแรกโดยบังเอิญตอนเย็น หลังเลิกงานตอนที่ขึ้นรถแล้วเปิดวิทยุ พี่ปุ๊ก : พี่ต้องขอบคุณมากเลยคือ พี่ตั้ม ตอนได้ยิน ตกใจมาก มือเด้งไปปิดวิทยุ ซะงั้น “เฮ่ย! เพลงเรานี่!” แล้วพอสติคืน มิกซ์เพลงนี้ ไว้ 3 เวอร์ชั่น มีเวอร์ชั่นเต็ม อคูสติก แล้วก็อิเล็กโทรนิก แล้วคลื่นก็ มาก็เปิดวิทยุใหม่อีกรอบหนึ่ง (หัวเราะ) สลับเปิดทั้ง 3 เวอร์ชั่นเลย พี่ที่ Fat เล่า คือดี ใจขั้นสุด ดี ใจมาก ภูมิใจ เขินมาก ให้ฟังว่า ตอนที่เปิดเวอร์ชั่นอคูซติกเนี่ย มี ด้วย ผู้ ใหญ่ของค่ายเพลงค่ายนึงโทรมาถาม ด้วยว่า เพลงนี้ของใคร แค่นี้เราก็ดี ใจ พี่เปิ้ลหน่อย : ตอนอันดับ 1 ตอนแรก แล้วอะ (อมยิ้ม) คิดว่าโดนอ�ำ โหย ไม่จริงหรอกมั้ง พี่ปุ๊ก : อวดก่อนตามสไตล์ ฮ่าๆๆ ขึ้น facebook เล้ย! “ครั้งแรกที่เพลงของตัว เองได้ขึ้นอันดับหนึ่งของสถานีวิทยุ” แล้ว แชร์ ให้เพื่อนเพื่อชื่นชม (หัวเราะ)

O-N : แล้วเพลง ‘วุ่นวาย’ พี่ปุ๊ก : เป็นโจทย์ ในรายการทีวีที่เราเคย ท�ำ

พี่เปิ้ลหน่อย : ปกติขึ้นอันดับหนึ่งมันจะ ประมาณ 2 อาทิตย์ แต่เห้ย ยังอยู่หวะ

พี่เปิ้ลหน่อย : ตอนนั้นของรายการมีคิง คองลองเล่นคอร์ดมา แล้วพี่บอย ตรัย

สอนแต่งเพลง สอนว่าให้เปิดหนังสือดู เจอหน้าอะไรก็ตาม ให้อ่าน อ่านให้ มันเป็นเพลง วันนั้นก็เปิดเจอโฆษณา สุขภัณฑ์ อ่าวไม่ ใช่ละ แต่งไม่ ได้ เปิด ใหม่ เจอค�ำว่าปล่อยมันไป อารมณ์แบบ แกงสเตอร์ก�ำลังจะฆ่ากันอะ ปล่อยมัน ไปก่อน ก็เลยเอามาแต่ง เวลามี โชว์ติ๋วก็ ยังเล่นอยู่ มี 2 เพลง วุ่นวาย กับ วัน ธรรมดา ที่เป็นของตัวเอง O-N : เพลงใหม่ (เพลงที่ 2) ของวง วันของติ๋ว พี่เปิ้ลหน่อย : วันนั้นมีสิงโต มีพี่ตั้ม โมโนโทน มีพี่กอล์ฟ ซูเปอร์เบเกอร์ เขา แต่งเพลงโฆษณากัน เขาก็อวดเราว่า วันนี้แต่งได้ตั้ง 5 เพลงแหนะ เราก็บอก ว่า ไม่เชื่อหรอก โห ถ้าแต่งเร็วขนาดนั้น แต่งให้ติ๋วสักเพลงเด่ะ! พูดเล่นๆ แต่เขา แต่งให้จริง แล้วก็เคยไปร้องมาแล้วทีนึง ที่ Melody Of Life ก็ล่มตอนแรก สนุ๊ก สนุก ฮ่าๆๆๆ


O-N : ติ๋วเหมือนโลกอีกใบ พี่ปุ๊ก : มันเหมือนเรามี โลก 2 ใบอะ เรา ไปมาระหว่าง 2 โลกนี้ คาแรคเตอร์ที่ ท�ำงานเราก็อีกอย่างหนึ่ง ที่ท�ำงานมีเจ้า นาย ลูกน้อง ท�ำงานมันต้องชัดเจน ส่วน เพื่อนไม่ ใช่คนที่ท�ำงาน ตอนแรกในโลก ติ๋ว เราเคยเอาวิธีของที่ท�ำงานมาใช้ พี่ เปิ้ลหน่อยก็สอนว่ามันคนละอย่างกันนะ เพราะฉนั้น เวลาเราเข้าโลกใบนึง เราจะ ไม่ยึดติดกับโลกอีกใบนึง งงไม๊ (หัวเราะ) โลกในการท�ำหน้าที่มันต้องคาดหวังต้อง เก่งต้องชัดเจน มันตรงข้ามกับสิ่งที่ติ๋ว เดย์เป็นทุกอย่าง ซ้ายกับขวาเลย พี่เปิ้ลหน่อย : ส่วนเราเคยเป็นคนที่ขี้ กลัวที่สุดในโลก ขี้ตื่นเต้น ประหม่า เป็น คนเครียด จะท�ำอะไรสักอย่างหนึ่ง ต้อง รู้รายละเอียดก่อน ถึงจะลงมือท�ำได้ แต่ มาเป็นโลกของติ๋ว มันกลับหมดทุกอย่าง เลยอะ เราเปลี่ยนหนักเลย ก็แค่ลองไง แค่ลองเฉยๆ ท�ำไม่ ได้ก็ ไม่เป็นไร ตั้งแต่ นั้นเราก็ลองทุกอย่างในโลก ตอนเด็กๆ

อะไรที่ ไม่เคยท�ำ อย่างเช่นตีลังหาล้อ เกวียน ก็หัด สนุกๆ เราจะฟินมากตอนที่ เราเริ่มท�ำได้อะ มันเหมือนเสริมพลังชีวิต แล้วเราจะภูมิใจกับมันมากว่าเราท�ำได้ “ฉันอยากท�ำอะไร ฉันต้องท�ำได้ดิ” แล้ว ตรรกะแบบนี้ก็ ไม่เคยมีเลยนะตั้งแต่เล็ก จนโต เพิ่งมีตอนมี โลกของติ๋วเนี่ย O-N : ใจบันดาลแรง พี่เปิ้ลหน่อย : มันคือค�ำว่าแรงบันดาลใจ “ใจบันดาลแรง” ค�ำนี้จริงๆ มาจากพี่ตั้ม โมโนโทน พี่ตั้มเคยบอกว่า คาแรคเตอร์ ของติ๋วคือการใช้ ใจให้มาก่อนทุกอย่าง ตอนเราเด็กๆ เราอยากท�ำอะไรก็ท�ำ เลย ไม่คิดมาก มันเลยสนุก แต่พอตอน โตแล้ว เราจะได้ยินค�ำว่าแรงบันดาลใจ บ่อยๆ คิดอะไรไม่ออกก็ ไปหาแรงบันดาล ใจสิ เรากลับไปตอนเด็กก็ ได้นะ เอาใจมา ก่อน ชอบมันก่อน แล้วค่อยท�ำ เหนื่อย แค่ ไหนมันก็ ไม่เป็นไร เพราะใจมันมาก่อน ตอนท�ำติ๋วมันเหมือนมีสองร่าง เหนื่อย

มาก แต่อยากท�ำ มันสนุก ก็เลยไม่คิด แล้วว่ามันเหนื่อย ถ้าใจมันมา แล้วมันท�ำ อะไรก็ ได้อะ พี่ปุ๊ก : มีตั้มมีเวอร์ชั่นสองด้วยนะ ใจ บันดาลแรง มาเป็นใจดันบานแรง ฮ่าๆๆ

โลกในการทำ�หน้าที่ มันต้องคาดหวัง ต้องเก่ง ต้องชัดเจน มันตรงข้ามกับสิ่งที่ ติ๋วเดย์เป็นทุกอย่าง / พี่ปุ๊ก

21


O-N : มี ใครเป็น Idol พี่ปุ๊ก : มีคนที่ชื่นชมหลายคนเลย แต่ ไม่ ใช่แนวไอดอล เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมี เหตุผลและเป้าหมายไม่เหมือนกัน วิธีการ ดีลกับชีวิตเลยไม่ต้องเหมือนกัน พี่เปิ้ลหน่อย : ไม่ ได้มองว่าจะต้องเป็น เหมือนใคร (ยิ้ม) O-N : อยากเก่งเพื่อคนที่มาดู พี่ปุ๊ก : บางทีก็จะมีความคิดแว้บเข้ามา ในสมองว่าอยากจะเก่งกว่านี้ อยากจะ เก่งให้คนที่มาดูเราเล่นดนตรีจัง เพราะ รู้สึกว่าถ้าเราเก่งขึ้น เราจะเล่นเพลงได้ หลากหลายขึ้น ท�ำให้เขาสนุกในการดู มากขึ้น ให้เขาไม่เสียเวลาที่เขามาเจอเรา เวลาเห็นหน้าคนที่มาเชียร์ก็จะคิดแบบนี้ แหล่ะ พอเล่นเสร็จ กลับมาก็เหมือนเดิม (หัวเราะฮา)

O-N : เคยอยากหยุด ไม่ท�ำวงต่อไหม พี่เปิ้ลหน่อย : คือตอนที่มันรู้สึกท�ำไมมัน จริงจังจังเลยนะ จริงจังแล้วไม่สนุกเลย นะ รู้สึกแบบ ไม่เอาแล้วก็ ได้ คือไม่สนุก แล้วก็ ไม่อยากเล่น O-N : แล้วอะไรที่ท�ำให้ท�ำต่อ พี่เปิ้ลหน่อย : ก็คุยกัน แล้วก็พัก แล้ว ค่อยกลับมาเล่นใหม่ตอนที่ ใจอยาก

O-N : ยกตัวอย่างความต่างระหว่าง กัน พี่ปุ๊ก : ยกตัวอย่างเช่น เรื่องฟัง คือพี่ เปิ้ลหน่อยเป็นดีเจ เป็นพิธีกร ต้องฟัง เยอะ แต่เราไม่ค่อยฟัง ได้ยินแต่เสียง ตัวเอง พอมารู้ตัวอีกที จ�ำได้เลย พี่เปิ้ล หน่อยค่อยๆ สอนว่า การที่เราจะตอบ เราต้องฟังอีกคนนึงก่อน เราเลยรู้จักตัว เองจากการที่อยู่กับพี่เปิ้ลหน่อย นี่คือสิ่ง ที่ชอบ

พี่ปุ๊ก : เราไม่ฝืนอะ สักพักมองกลับไป พี่เปิ้ลหน่อย : ปุ๊กเป็นคนที่สมมติเอา ตอนที่ ไม่แฮปปี้ ก็เห็นว่าไม่ ได้อะไรเยอะนี่ กระดาษมาวางข้างหน้า ให้วาดอะไรก็ ได้ นา ก็แค่นี่เอง ก็กลับมาเล่นใหม่ (ยิ้ม) ปุ๊กจะวาดเลยทันที แต่เราจะยังไม่วาด ปุ๊กจะแบบ “ไม่เห็นยากเลย” ส่วนเราจะ แนว “เดี๋ยวมันไม่สวย” คิดเยอะ แล้วปุ๊ก เป็นคนที่พูดตรงๆ ได้ คุย เคลียร์ จบ O-N : พูดถึงกันและกัน แล้วก็คิดเรื่องใหม่ พี่ปุ๊ก : พี่เปิ้ลหน่อยถือว่าเป็น ‘ฟีล ลิ่ง’ ส�ำหรับปุ๊ก เพราะว่าพูดกันน้อยแต่ รู้สึกมาก (หัวเราะ) อย่างแรกเขาท�ำให้ พี่ปุ๊ก : เปล่าหรอก ปุ๊กแค่เป็นคนไม่เซ็น ซิทีฟและขี้ลืมหน่ะ เลยอ่านอาการไม่ค่อย รู้ว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่เราไม่ต้อง พี่เปิ้ลหน่อย : จริงๆ ก็อยากเก่งขึ้นนะ พยายามจะสื่อสารเยอะ แล้วเข้าใจเอง เป็น แหะๆ ต่อให้เขางอน เราก็จะดูไม่ จะได้ท�ำอะไรหลายๆ อย่าง ที่ยังไม่ ได้ท�ำ อะ มันสบายมากแค่ ไหน แล้วก็ ในความ ค่อยออก ไม่เข้าใจ ถึงถ้าดูออก ในใจก็ คิดว่า เดี๋ยวเขาอยากบอก เขาก็บอกเอง เหมือน เขาช่างไม่เหมือนเราเลย! มัน ท�ำให้เรารู้ว่าอีกมุมหนึ่งเขาคิดแบบนี้ เช่น แหละ (หัวเราะ) O-N : เคยท้อบ้างไหม? ปุ๊กจะไม่ค่อยเป็นคนเซ็นสิทีฟเท่าไหร่ แต่ พี่เปิ้ลหน่อย : มี ตอนจริงจังเคร่งเครียด พี่เปิ้ลหน่อยจะเป็นมุมตรงกันข้าม ท�ำให้ O-N : ถ้าเปรียบวงวันของติ๋วเป็นหนัง ไม่สนุกเลย ท้อตอนที่ต้องจริงจังนั่นแหละ เรารู้ว่า มันมีความแตกต่างที่อยู่กันได้ สัก 1 เรื่อง ก็แบบ “อ้าว ไม่หนุกนี่นา” มันเรื่องเยอะ เข้าใจได้ พี่ปุ๊ก : มี 2 เรื่องอะ คือ เถียนมี่มี่ ที่ อะ มันไม่สนุกเลย ทุกอย่างมันต้องคาด หวัง เพราะเริ่มคาดหวัง แล้วมันเครียด พี่เปิ้ลหน่อย : ตอบเหมือนกันได้ปะ ฮ่าๆ ตอนหลังมาเฉลยว่า ก่อนที่ตัวละครจะมา ปุ๊กเหมือนเป็นแสงสว่างในชีวิตของเรา! เจอกัน เขาอยู่ที่ๆ เดียวกันมาตลอด อีก พี่ปุ๊ก : อย่างจะเพ้อเจ้อ ติ๋วก็ท�ำเต็มที่ (หัวเราะ) คือปุ๊กจะมีพลังงานบางอย่างที่ เรื่องหนึ่งคือเรื่อง Butterfly Effect เป็น เพราะเราไม่รู้สึกว่ามันเป็นงาน แต่พอค�ำ เราไม่มี ด้วยความที่ปุ๊กเป็นสายคิดบวก จังหวะของชีวิต บางทีถ้าเราก้าวช้า หรือ ว่าจริงจังปุ๊บ มันเหมือนมีค�ำว่า ‘สัญญา’ มันเลยแบบสนุกๆๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ มาเจอ ก้าวเร็วกว่านี้ มันจะเปลี่ยนไปจากนี้ แต่ เราก็เลยสรุปเราท�ำมันเพื่ออะไร เส้นมัน กันแล้วความสนุกมันฟูขึ้นตลอด เจอกัน ท้ายที่สุดมันก็อาจจะไม่เปลี่ยนก็ ได้ งงไม๊ เบลอ สรุปเราก็ต้องชัดเจนกับตัวเองว่า แล้วอยากท�ำเรื่องใหม่ๆ ตลอด มีคนแบบ ฮ่าๆๆ นี่เล่นนะ ตอนท�ำงานต้องจริงจัง ตอนเล่น นี้ ในชีวิตเรากี่คนอะ แล้วทุกคนก็สนับสนุน ต้องเพ้อเจ้อ! กัน มีความสุขง่าย อยู่กับปุ๊กมีความสุข พี่เปิ้ลหน่อย : God Helps the Girl มัน น่ารักมาก จริงๆ แล้วน่ารักมากกว่าติ๋ว ง่ายมาก (ยิ้ม) มันเป็นเรื่องของคนมาตั้งวงกัน นางเอก พี่ปุ๊ก : บางครั้ง อะไรที่คนอื่นไม่มองว่า เพี้ยน จิตหน่อยๆ มันมีตอนนึงที่บอกว่า เป็นความส�ำเร็จ เราดันมองว่าเป็นความ “เล่นดิ ท�ำไมไม่เล่นอะ แต่งเพลงก็แต่งดิ แต่งได้” ดูแล้วนึกถึงปุ๊กอะ ส�ำเร็จ มันต้องมึความเข้าใจแหละท้าย ที่สุด มันต้องยอมรับว่าทุกคนไม่ ได้เหมือน เรา มันมีความแตกต่างที่อยู่ด้วยกันได้ O-N : ถ้าวงวันของติ๋ว เป็นของเล่นได้ 1 อย่าง / พี่เปิ้ลหน่อย พี่ปุ๊ก : เราก็คงเหมือนเมโลเดี้ยนมั้ง ต้อง

จริงจังแล้วไม่สนุก เลยนะ รู้สึกแบบ ไม่เอาแล้วก็ได้ คือ ไม่สนุกแล้วก็ไม่ อยากเล่น


ใช้แรงเพื่อเล่น มี ไม่กี่คีย์ โน้ตง่ายๆ พก ง่าย เอาไปแจมกับคนอื่นสะดวก! พี่เปิ้ลหน่อย : เป็น LEGO เพราะอยู่ตัว คนเดียวไม่ ได้ ต้องมีเพื่อนมาด้วย O-N : ถ้าเปรียบติ๋วเดย์เป็นโลกอีกใบ อยากให้ โลกนี้ ไม่มี... พี่ปุ๊ก : การโกงและคอรัปชั่น! สิ่งนี้ ไม่มี ประโยชน์กับโลก เลยไม่ต้องมี! พี่เปิ้ลหน่อย : ยุง O-N : อยากฝากถึงคนที่มัวแต่รอแรง บันดาลใจ จนไม่ ได้ลงมือท�ำสักที พี่เปิ้ลหน่อย : ก็ลองคิดให้น้อยลง บางที เราโตขึ้นแล้วกังวลเยอะเกินไป คิดแล้วท�ำ เลย แล้วก็ค่อยๆ ขยับไปเรื่อยๆ มันจะได้ ท�ำ ถ้าเกิดว่าคิด ลังเลอยู่นั่นแหละ มันก็ จะไม่ ได้ท�ำสักที แล้วก็จ�ำความรู้สึกของ การท�ำได้ครั้งแรกเอาไว้ เราว่ามันเจ๋ง มากเลย พี่ปุ๊ก : ทุกวันมันคือโอกาส แล้วการที่เรา ปฏิเสธหรือพลาดโอกาส ก็เพราะตัวเรา เองนั่นแหล่ะ บางทีเราก็แคร์ความคิดของ คนอื่นเยอะเกินไป อดท�ำ อดลองเลย O-N : สิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ จากแรง บันดาลใจที่ส่งออกไป แล้วได้รับกลับ มา พี่เปิ้ลหน่อย : แรงใจ ความตั้งใจ ของ ขวัญท�ำมือ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ที่ส่ง กลับมาหาเรา….. มัน อธิบายไม่ถูกอะ (สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกอันท่วมท้น) พี่ปุ๊ก : เข้าใจพี่เปิ้ลหน่อยนะ คือเราไม่ เคยคาดคิดว่า การเล่นเพ้อเจ้อของเรา มันจะสามารถมีอิมแพ็คกับใครสักคนได้ บางทีเราก็เล่นไปโดยไม่ ได้คิดว่า มันแรง พอที่จะสามารถผลักดันให้คนหนึ่งคนไป หัดเล่นดนตรี หรือแต่งเพลง หรือวาด การ์ตูนได้ แต่เวลาใครกลับมาบอกเรา ว่า เค้าได้ลองท�ำโน่น เริ่มท�ำนี่ ได้เพราะ คิดถึงเรา เราก็ดี ใจมากมากมากมากทุกที (ยิ้ม)

ติดตามผลงานเพลง (และเสื้อยืด) ของวง { วั น ข อ ง ติ๋ ว } = Tue’sday ได้ที่ www.facebook.com/BAND.TUESDAY 23


A Plant I Love เรื่องและภาพ : กิตติพงษ์ หาญเจริญ

BANANA กล้วย

หวัดดีจ้ะเธอ เป็นไงมั่ง หวังว่าเธอจะสบายดีนะ

วันนี้ฉันจะมาโม้เรื่องกล้วยๆ ให้เธอฟังน่ะ เปิด เพลงค้างคาวกินกล้วยฟังประกอบได้เลยจ้ะ แม่กล้วยเป็นสุดยอดพืชที่วัฒนธรรมตามแนว เส้นศูนย์สูตรโดยเฉพาะไทยเรา ชอบเขยิ๊บ เขยิบเข้ามา อิงหน้าตักของแก ทั้งลอยกระทง ไหว้ครู แห่ขันหมาก ขันโตก ขนมหวาน อาหารคาว เรื่องผี ม้าก้านกล้วย (ที่เด็กพ.ศ.นี้อาจจะเข้าใจ เป็น “ช้างก้านกล้วย” ไปแล้ว) ลามไปถึงเพลงรั่วๆ วิน เทจๆ ที่ ได้แกมาเป็นพรีเซนเตอร์เพลงนี้ ว่าแล้วก็ . . .กรู้....กล้วยตานี. . . ปลายหวีเหี่ยว เอิ้ว. . . น�้ำไหล เชี่ยว . . .ปลายหวีหัก เอ้า . . .หิ้วหวี ไป. . . หิ้วหวีมา . .. รั่วกันแต่พองามจ้ะ ต่อๆ ...เธอสงสัยมั้ยว่า ท�ำไมแม่กล้วยแกถึงทรงอิทธิพลางกูรขนาดนี้ เรามาดูกัน ตั้งแต่ ใบก่อนเลย ด้วยความที่ ใบของแกทั้งใหญ่เบ้อเริ่ม และเหนียวจริงจัง ฉีกให้เป็นริ้วได้ แต่ดึงให้ขาดออกจาก กันยากมาก (ถ้าไม่เคย แนะน�ำให้ลองจ่ะ) คนก็เลยชอบ เอามาห่อกัน ทั้งขันครู ห่อหมก ข้าวต้มมัด ยาสูบ... เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ส่วนล�ำต้นนี่ก็ ไม่ ได้มีดีแค่ทานกระทงนะ บางคน เอาไว้เป็นที่ปลูกผักกันเลย ที่ล�้ำกว่านั้น คือ เอามากินเลย

ผัดต้นกล้วยนี่แหละ! มีพี่คนนึงเคยผัดให้ฉันกิน แต่เอ่อ...ฉัน ไม่ค่อยอินเท่าไหร่น่ะ แล้วก็ดอก ที่เรียกกันว่าหัวปลี ที่ห้อย ตามลูกลงมานี่แหละ เอามาย�ำหัวปลีรสจัด กินกับผัดไทย ชุบแป้งทอดจิ้มน�้ำจิ้ม แต่ที่เด็ดสุด คือ ทอดมันหัวปลี ฮั่น แน่...ไม่เคยกินล่ะสิ มาแอบดูสูตรได้ที่พันพรรณนะ ตามด้วยผล ที่รอซักปีนึง ลูกของแม่กล้วยแกก็ จะแทงออกมาให้รอตัดกันได้เลย แม้จะเป็นผลไม้ที่ดูธร รมด๊า ธรรมดา แต่จริงๆ แล้วเป็นผลไม้ ไฮโซของหลายๆ ที่ นะ หลายประเทศเค้าไม่ ได้ขายเป็นหวี แต่ขายเป็นลูกนะจ๊ะ แพงหลายๆ คือเราโชคดีจริงๆ ที่ ได้เกิดมาในดินแดนที่หาลูก กล้วยกินได้ง่ายๆ เพราะกล้วยอุดมด้วยสารอาหารจนต้อง เอาไว้เป็นอาหารเด็กอ่อนกันเลยทีเดียว

ว่าแต่เธอสงสัยม้า ....ท�ำไมลูกกล้วยถึงไม่มีเม็ด?

มโนกันเล่นไปก่อนเนอะ เดี๋ยวงวดหน้ามาว่ากัน ต่อจ้ะ บ๊ายบาย


เพราะชีวิตคือการเดินทาง บทความ : IMATOMS

สำ�รวจโลก(ภายใน) : ภาคจบ

“ตานอกใส–ตาในมืด” อาการของโลกภายนอกกับโลก (โรค) ภายในที่ตางไมสัมพันธกัน บอยครั้งเรามักเขาใจวาสิ่งที่เราเห็นกับสิ่งที่ตาเห็นเปนสิ่งเดียวกัน และแทบจะเปนธรรมดาที่ ในชีวิตประจำวันเราจะไมสนใจ ความสัมพันธของสองสิ่งนี้ ตนทุนความซับซอนในชีวิตที่มีอยูเปนทุนเดิมนั้น มักทำใหเราหลบเลี่ยงที่จะเผชิญหนากับมันเปนปกติไปเสียแลว แตแนหละในความเงียบ...มีความเคลื่อนไหว ลองหลับตา...อยูกับมันอยางตั้งใจ ยิ่งตาในทำงานไดชัดเทาไหร ตานอกจะสวางสดใสเพียงไร ก็อาจเห็นไมชัดเทาตาในเสียแลว...

25


BEAR-BLUR! ฺBY : ดามันสกี้ / ivan.damansky@gmail.com

แรงบันดาลใจ?

26



A Short Story I Write เรื่อง : นิรัติศัย บุญจันทร์ ภาพ : Kamonnut Kamda facebook.com/khidwad

คุณครับ คุณครับ คุณคงรู้ดีว่าผมแทบจะไม่มีเพื่อนเลย นอกจากคุณ แต่เรื่องนั้นมันไม่ ใช่เรื่องที่มีเหตุผลส�ำหรับ การสนทนาระหว่างเราทั้งสอง ผมแค่อยากจะบอกว่า ความเงียบก�ำลังแพร่กระจายไปทั่วตัวผม มันเริ่มจากวัน หนึ่งที่ผมได้สัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่พูดโกหก และวัน นั้นเองที่ท�ำให้ทุกคนมองผมแปลกๆ และเริ่มปล่อยให้ผม อยู่กับความเงียบ “อาจารย์รู้ความหมายว่าของค�ำอาจารย์หรือ เปล่า หรือต้องการแค่เงินเอาไปซื้อหลุยส์ วิตตอง” เขา ไม่พูดกับผมอีก และผมก็ ไม่คิดจะพูดเช่นกัน เหตุการณ์ ครั้งนั้นท�ำให้ผมต้องได้เกรดที่ห่วยบรม และค�ำต่อว่าจาก โซเชียลเน็ตเวิร์คของเขาอยู่หลายวัน แต่คุณรู้อะไรมั้ย ว่าตอนที่ผมพูดไปน่ะ มันท�ำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและสดชื่น อย่างที่ ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนกระโดดน�้ำลงสระครั้ง แรกกับคุณสมัยประถมไง จ�ำได้หรือเปล่า? แต่ยังไม่หมด หรอก

ในหัวผมมีค�ำถามตลอดเวลา ท�ำไมรถเมล์ต้อง จอดเลนกลาง และท�ำไมป้ายโฆษณาผู้ว่าต้องแปะตาม คลองและบอกว่า “คลองใสสะอาด” ทั้งที่เมื่อวานผมยัง เห็นลูกแมวลายโคนมนอนอืดลอยติดท่าเทียบเรืออยู่เลย หรือว่านี่คือความสะอาดอันพึงประสงค์ของคนกรุงกันนะ เพราะดูท่าทางที่พวกเขาก�ำลังเล่นมือถือในเรือโดยสารที่ ขึ้นลงด้วยความล�ำบากและเสี่ยงตกเรือได้ทุกเมื่อจะเป็น เรื่องปกติ คุณครับ พวกเขาชอบแบบนี้จริงๆ หรือ บางที ถ้าคุณมี ใครใกล้ชิดที่มีสติปัญญาฉลาดเป็นเลิศพอที่จะ ตอบปัญหานี้ ได้ละก็ โปรดกรุณาบอกมาเถิด ผมนึกถึงเวลาที่เสียไปของคน ใช่ล่ะ มันคุ้มค่า เสมอถ้าเทียบกับกระเป๋าแบรนด์เนมหรือสมาร์ทโฟน แต่ คุณเคยรู้สึกมั้ยว่า ประเทศเราช่างล้าหลังเสียจริง ไม่ว่า คนจะท�ำงานเท่าไรก็ ไม่เห็นจะใกล้กับประเทศในเพลงที่ ถูกประพันธ์ไว้สักเพลง ท�ำไมกัน ท�ำไมเพลงพวกนั้นต้อง หลอกผมด้วย ไม่สิ ทุกคนเต็มใจให้หลอก เช่นเดียวกับคน


อื่นๆ ที่ผมรู้ว่าไม่มี ใครสบอารมณ์กับน�้ำคลองที่เห็นและ เรือที่เสี่ยงตายนั่นหรอก แต่เขายอม...คุณครับ คุณเคย ยอมอะไรพวกนี้มั้ย ถ้าเคยล่ะก็ โปรดบอกวิธีการยอมที เถอะ ผมอยากมีชีวิตไปวันๆ บ้าง นี่เป็นเวลาเกือบจะบ่ายสองโมงแล้ว คุณทาน ข้าวหรือยัง ถ้ายังคงจะดี ไม่น้อย เพราะวันนี้หมาแก่ ที่บ้านได้ตายลง ผมยินดีกับความตายเพราะมันเป็น ธรรมชาติ และผมรักธรรมชาติเสมอ เรี่ยวแรงจะขุดหลุม ให้ ใหญ่พอจะบรรจุร่างมันลงไปคงเป็นไปไม่ ได้ เลยไปวัด แถวๆ บ้านเพื่อให้เขาเผา ราคาพันห้าส�ำหรับหมาไทย ตัวไม่ ใหญ่นัก และมีพระสงฆ์หน้าละอ่อนมาสวด แต่บท สวดผมไม่ ได้ยินหรอก เพราะเสียงเตาเผาช่างดังเหลือ เกิน วันวันหนึ่งคงรับบริการเกินสิบตัวแน่ๆ และมีกระดูก ให้เจ้าของเก็บไว้ร�ำลึกอีกต่างหาก ผมอยากถามความ เห็นคุณว่า ถ้าผมจะซื้อเตาเผาหมามาสักอันและบริการ เผา จะมีคนมาใช้บริการเหมือนที่วัดหรือเปล่า อ้อ! ผม คิดราคาเพียงแปดร้อยบาทนะ แต่ ไม่มีพระสวด หรือคน เขาต้องการพระสวดมากกว่าเผาหมากันนะ น่าคิดๆ โถ่...ผมเกือบลืมไปเลยว่า ผมก�ำลังจะส�ำเร็จ การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ว้าว... แต่เดี๋ยวก่อน สิ คุณอย่าเพิ่งแสดงความยินดี เพราะผมยังไม่มีงาน ที่หาเงินได้เลย นี้เป็นการเริ่มต้น และชีวิตจะมีแต่การ เริ่มต้นเสมอ ทั้งตอนตายก็ต้องเริ่มต้นตายเหมือนกัน ผมสงสัยว่าท�ำไมคนที่เรียนจบต้องแสดงความยินดีกัน เหมือนได้รับรางวัลโนเบลอะไรแบบนั้น ทั้งที่เรายังเด็ก และโง่มาก เพราะความรู้ที่เราได้มาเป็นความรู้ทื่อๆ ไม่มี ใครเอาสู ต รคณิ ต สาสตร์ ไ ปใช้ ในชี วิ ต ประจ�ำ วั น หรอก หรื อ ถ้ า มี ก็ คงจะเป็น การสอนพิเศษให้พ ่อแม่เด็ก ภู มิ ใจ ว่าลูกตัวเองได้เรียนอะไรยากๆ อย่างกับไอสไตน์ แต่ คุณครับ ผมรู้คุณก็รู้สึกว่าท�ำไม บ้านเรายังย�่ำอยู่กับที่ หรือบางทีถึงขนาดถอยหลังลงปล่องภูเขาไฟไปเสียด้วย ซ�้ำ หรือว่าการเรียนไม่ ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องกันนะ... ผมรู้มาว่าประเทศตะวันตกเขามีกิจกรรมสุดแสนธรรมดา ให้เด็กท�ำกันในวันหยุดที่ต่างกันสุดขั้วกับบ้านเรา คุณ เขาเดินป่า เก็บเห็ด และปิกนิคที่สวนสาธารณะ ผมรู้ถ้า คิดไปถึงว่าวันหยุดท�ำอะไรธรรมดาๆ เช่นนี้ประเทศเขา คงด้อยพัฒนาไปแล้ว และประเทศเราที่มีลูกเรียนเป็น บ้าเป็นหลังคงจะครองโลกในไม่ช้า แต่พระคุณเจ้าช่วย ด้วยเถิด ประเทศเราเอาตามแบบเทคโนโลยี เศรษฐกิจ ภาษา วิถีชีวิต บ้านเรือน อาหาร เครื่องประดับ รถยนต์ ภาพยนตร์หรือแม้แต่ศิลปะ ท�ำไมเป็นแบบนั้นกัน ไม่มี เหตุผลเลย จริงๆ ประเทศเขาควรจะเอากิจวัตรวันหยุด ของบ้านเราไปพัฒนาประเทศเขาแท้ๆ แสดงว่าประเทศ เราคิดผิดหรือ จริงๆ น่าจะรู้มาตั้งนานแล้วสิ แต่ช่าง เถอะ เรื่องเงินเรื่องยาก

คุณพอจะจ�ำได้ ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกเมื่อไร ถ้าถามผมล่ะก็คงจะจ�ำไม่ ได้เพราะมีความจ�ำใหม่ๆเข้ามา ในหัวผมตลอดเวลาจนเรื่องเก่าๆ บางเรื่องหล่นหาย แต่ เมื่อนึกๆ ดูแล้วคุณอาจจะเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวเสียด้วย ซ�้ำ แต่ส�ำหรับผมคงไม่น้อยใจเท่ากับการก้มหน้าก้มตาถูก คนชี้นิ้วว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดีหรอก หากเป็นเช่นนั้นผมคงจะ เสียใจที่ ได้เกิดมาและเสียดายที่จะต้องเขียนจดหมายรัก ให้คุณแทนจดหมายแห่งความสงสัยนี้ แต่คุณครับ จริงๆ คุณมีเฟสบุ๊คกับไลน์ที่เอาไว้ติดต่อกับเพื่อนเกลอคุณแล้ว และจดหมายนี้อาจจะไม่มีค่าใดๆ ส�ำหรับคุณ แต่ ไม่ เป็นไร ผมเพียงอยากแบ่งปันความสงสัยนี้ เผื่อคุณจะ ตอบผมในบางข้อได้กระจ่างชัด ล่าสุดผมเห็นคุณใช้สมาร์ทโฟนราคาสามหมื่น เลยนี่ ว้าว คุณยังเรียนไม่จบ เอาเงินมาจากไหนมากมาย ขนาดนั้น ผมเองยังใช้ฟีเจอร์ โฟนเครื่องละแปดร้อยบาท เช่นเดิม หากรังเกียจกรุณาต่อว่าถึงความล้าหลังของ ผมด้วย ตอนนั้นผมจ�ำได้ดี อาจจะเป็นการเจอกันครั้ง สุดท้ายก็ ได้ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ คุณเอาแต่ก้มหน้า พิมพ์ข้อความหยอกล้อกับชายหนุ่มและเพื่อนฝูง ปล่อย ผมให้กินข้าวขาหมูในโรงอาหาร ตอนนั้นผมเหมือนอยู่คน เดียว และต่อมาความเงียบก็ ได้ครอบคลุมไปรอบตัวผม คุณจะยอมให้ความสงสัยของคุณถูกสังคมอุด ปากอุดใจไว้หรือเปล่า คุณอยากให้พื้นถนนไม่มีท่อน�้ำ หรือเปล่านะ หรืออยากให้เสาไฟฟ้าแถวอโศกดูดีเป็น ระเบียบไม่ต้องตั้งตรงที่ข้ามทางม้าลาย หรือตั้งกลาง ฟุตบาทหรือเปล่า แล้วเรือล่ะ คุณเคยโดยสารด้วยเรือ นี่ อยากให้มันมีความปลอดภัยมั้ย และถ้ามันยังสกปรก แล้วคุณอยากจะเอาป้ายของนักการเมืองที่เขาว่าว่าคลอง ใสสะอาดออกหรือเปล่า บางทีถ้าเจอกันอีกคุณจะยอม ละสายตาจากสมาร์ทโฟนเพื่อมองตาผมหรือไม่ เรื่องนั้น ผมไม่รู้หรอก แต่ค�ำถามหรือความสงสัยในจดหมายฉบับ นี้ เกิดมาจากความต้องการของผมเพื่อให้ทุกอย่างใน ประเทศนี้ดีขึ้น เพื่อผมจะไม่ต้องเหนื่อยเพราะคอยสงสัย และคนทุกคนจะได้ ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินตามประเทศ อื่นต้อยๆ เหมือนเด็กเวลาเจอหมา ทั้งหวาดกลัวและ เกลียดชังในคราเดียว หากคุณมี ใครพอจะตอบค�ำถาม ของผมได้สักข้อหนึ่ง โปรดตอบกลับยังที่อยู่นี้ และผมจะ คอยสงสัยต่อไป เพราะความรู้สึกของผมบอกว่าอีกสิบ ชาติก็คงต้องสงสัยอยู่อย่างนี้ ท�ำไมผมคิดแบบนั้นนะ? แต่ผมรู้...บางทีคุณก็คิดเหมือนผมนั่นแหละ

ขอแสดงความนับถือ

29


To Books BY : Boymang

30


A Photo I Shoot ค�ำและภาพ : มนุษย์ห้องใต้หลังคา.

31


Personal Font ข้อความ : สินิทธ์ ปนุตติกร ลายมือ : Lalin N.

Just Do It!


My Idol

TK Band

Idol : YIRUMA “นักเปยโนและนักแตงเพลงบรรเลง ที่เอาเพลงคลาสสิคกับปอบมาผสมกัน ตนหลิวชื่นชมการแตงเพลงของเคาที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถฟงไดคะ”

ธรพชรพรรณ

พูลศรี (ตนหลวิ ) TK Band 5

Idol : แสตมป อภิวัชร เอื้อถาวรสุข “พี่เขาสามารถสงผานความรูสึกผานเสียงเพลงเขาไปในใจคนฟง ไดอยางเปนธรรมชาติมากที่สุดคนหนึ่งครับ”

รฐั ภัทร ธนาฤทธวิ ราภัค (เจยี๋ ) TK Band 4

Idol : โต ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร “พี่ โตเปนนักดนตรีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเรียนจบในอีกดาน และทำใหทั้งสองคูขนานสานกันไปได เราเชื่อวา แตละคนมีกลองสมบัติตามแตความสนใจที่ ไดสะสมมาซอนอยู ในตัว บางคนอาจพบมันอยางงายดาย บางใชเวลายาวนาน พี่ โตจึงคลายแผนที่ ใหเราเดินตามหากลองสมบัติของตัวเอง และสรางสรรค ใหสวยงาม” จุฑามาศ บุญเย็น (จนู ) TK Band 4

เสียงดนตรีนำพาใหพบเพื่อนผูมีความฝน ขอบคุณโอกาสที่ ใหฉันเปนสวนหนึ่งที่รวมแบงปนแรงบันดาลใจของพวกเขา มุสิก (กฟ ิ๊ ท) TK Band 5 ชดิ ชนก บุญ

MOTTO:

"And, in the end The love you take is equal to the love you make." - Paul McCartney ทายที่สุด รักทีค่ ุณไดรับ = รักที่คุณไดให

33


To Movies เรื่อง : GUMBEAR facebook.com/optimistic.note

34


To Songs BY : Wallflower T.


Away From Thailand อินเดีย & อเมริกา

INDIA

เรื่องและภาพ : Wirada Kaoey

ตีแขก ให้ตาย ก่อนจะตาย ก่อนตี ________________________ 1 จำ�นวนประชากรที่มีชื่อใน ทะเบียนอย่างเป็นทางการของ อินเดีย ว่ากันว่ายังมีอีก300ล้าน คนที่ไม่ได้มีหลักฐานแสดงตัวตน 2

หมายถึงอุปนิสัยที่มีมาแต่กำ�เนิด เป็นคำ�สุภาพระรื่นหู

จะด้วยจ�ำนวนประชากรที่ ล้นหลามกว่า 1,200 ล้านคน1 หรือ โอกาสในการเข้ า ถึ ง ทรั พ ยากรที่ ยากเย็นของอินเดีย หรืออะไรก็ แล้วแต่ ที่แน่ๆ การเป็นคนอินเดีย ในสายตาของคนชาติ อื่ น ก็ ก ลาย เป็น Stereotype ที่คุ้นเคยร่วมกัน ในด้านความฉลาดที่มาพร้อมความ ขี้ โกงอย่างร้ายกาจ ชนิดที่ว่าต้อง ตีแขกให้ตายก่อนตีงูอย่างที่ส�ำนวน ว่าไว้ ไม่มีผิด แน่นอน ใครมาอินเดียแล้ว ไม่ ถู ก แขกโกงถื อ ว่ า คุ ณ ยั ง มาไม่ ถึง การจะรอดพ้นเงื้อมมือแขกไป ได้นี่ โอกาสแทบจะเป็นศูนย์ พวก เขาสามารถโกงคุ ณ ได้ ทุ ก ที่ ทุ ก เวลา แถมยังมีการอัพเดทกลวิธี ใหม่ๆ มาใช้กับชาวต่างชาติอย่าง เราๆอยู่เสมอ เอาเป็นว่าเรื่องกล โกงธรรมดาๆ ระดับเบสิกเช่นผิด สัญญา, ตกลงอะไรกันไว้ก็ผัดวัน ประกันพรุ่ง, ทอนเงินไม่ครบ ไม่มี เศษเหรียญ, โกงค่าโดยสารด้วย การพาอ้อม…ฯลฯ อะไรแบบนี้

เราจะไม่เล่าเพราะถือว่าเป็นเรื่อง ธรรมดา อย่างไรเสียก็ ไม่มี ใคร หนีสิ่งเหล่านี้พ้นอยู่แล้วเมื่อมาอยู่ อินเดีย (อ่าว!) แต่ล่าสุดที่เราเจอ เป็นเคส การโกงที่น่าสนใจมาก เหตุเกิดที่ สนามบินมุมไบ ขณะที่เราก�ำลังจะ จ่ายเงินค่า Prepaid Taxi หลัก การของมันคือเราจะต้องบอกพิกัด ที่เราจะไปก่อน จากนั้นเค้าก็จะ ค�ำนวณค่าโดยสารตามระยะทาง มาให้เรา อ่ะ! อิตาแขกที่นั่งประจ�ำ ที่เคาน์เตอร์ก็ค�ำนวณราคามาให้ เราเสร็จสรรพ “670 รูปี” เราก็ หยิบแบงก์พัน ที่เราแยกเอาไว้ ใน กระเป๋ากางเกงจ่ายให้นางไป ชั่ว วินาทีเดียวที่เราก้มลงหยิบกระเป๋า สตางค์จากกระเป๋ากางเกงอีกข้าง นึงนั้นเอง พนักงานคนเดิมก็บอก เราว่า “ซอรี่มาดาม ค่ารถ 670 รูปี ท�ำไมยูให้แบงก์ 50 ไอมา ล่ะ” ด้วยความชุลมุน เพื่อนเราที่ ไปด้วยกันรีบขอโทษพนักงานแล้ว ท�ำท่าจะหยิบเงินส่งให้พนักงานอีก

รอบ แต่ด้วยบุญญาธิการของเรา ที่สั่งสมมา (จริงๆ เพราะโดนแขก หลอกบ่อย รู้เซินเดิ้น2พวกเค้าดี) เรารีบยั้งเงินในมือเพื่อนเราไว้ก่อน พร้อมกับแอ๊บองค์ลงเอาเรื่อง ถาม พนั ก งานไปแบบนิ่ ง ๆแต่ ท รงพลั ง ว่า “คุณแน่ ใจเหรอว่าฉันให้แบงก์นี้ คุณไป ฉันมีแค่แบงก์พัน ไม่มีแบงก์ 50 แน่นอน” …ทายซิพนักงานตัว แสบท�ำอย่างไรต่อไป ก. ยืนกราน ว่าได้รับแบงก์ 50 มา โวยวาย จะเอาเงิน 670 และไม่ยอมรับ ผิดง่ายๆ หรือ ข. ยอมรับผิดโดย ส�ำนึก …เอาล่ะ ไม่ว่าคุณเลือกข้อ ไหนมันก็ผิดทั้งคู่ เพราะความจริง แล้ ว สิ่ ง ที่ น างท� ำ เมื่ อ ถู ก จั บ ได้ คื อ ท�ำหน้านิ่ง ส่ายหัวรัวๆ พร้อมกับ หยิบเงินทอนคืนให้เรามา 330 รูปี หน้าตาเฉย โดยที่ ไม่มีแม้แต่ค�ำขอ โทษหรือสบตาใดๆ ครั้งนี้เราโชค ดีที่รู้ตัวว่าจ่ายแบงก์อะไรไป ลอง คิดถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มีธนบัตร หลายราคาอยู่ ในกระเป๋าสิ ต้อง เป็นเหยื่อชั้นดี ให้ โจรแขกหลอกกิน นิ่มๆ เคี้ยวง่ายๆ ได้แน่นอน

อย่าเพิ่งคิดว่าวันนี้จะจบลง แบบ Happy ending นะ เพราะ หลังจากขึ้นรถแท็กซี่แล้ว ทาง กลั บ ที่ พั ก ต้ อ งขึ้ น ทางด่ ว นเชื่ อ ม แผ่ น ดิ น บนทะเลหรื อ ที่ เ รี ย กว่ า Sea link ว่าแล้วคนขับรถแท็กซี่ก็ หันมาขอค่าทางด่วน 82 รูปี แต่ ทั น ใดนั้ น องค์ เ ดิ ม ที่ ล งที่ ส นามบิ น ก็ ต ามมาลงบนทางด่ ว นอี ก รอบ เราตอบคนขั บ ด้ ว ยระดั บ เสี ย ง ที่เป็นอันตรายต่อหูว่า “82 มัน ราคาไป-กลับ คือฉันไปอย่างเดียว แต่ ต ้ อ งจ่ า ยขากลั บ ให้ คุ ณ ด้ ว ยรึ ไง? มันแค่ 55 เท่านั้นแหละ ฉัน ไม่ ใช่นักท่องเที่ยวนะ ฉันอยู่ที่ นี่ อย่าคิดจะหลอกฉัน บลาๆๆๆ %^&^=8!@#?$#&9)$2/.... ” พู ด จบนางก็ ส ่ า ยหั ว เป็ น จั ง หวะ เดียวกันกับพนักงาน Prepaid Taxi ที่สนามบินพร้อมกับพูดว่า “โอเคๆ ห้าสิบห้าก็ห้าสิบห้า” วันนี้ชัยชนะเป็นของเรา แต่ ที่ผ่านมาเป็นยังไงอย่าไปรู้มันเลย!


USA

เรื่องและภาพ : Rin Jenwarin

กระรอก น้อย ท้าลม หนาว

ห๊ะ! เมื่อกี้ ใครพูดว่าข้าวฟรีนะ? แฮ่ สวัสดีค่ะ ถ้ า ใครได้ อ ่ า นคอลั ม น์ ข องริ น เดือนที่แล้ว ก็จะได้เห็นรินบ่นถึงความ ล� ำ บากในการใช้ ชี วิ ต เมื องหนาวกับพายุ หิมะกัน แต่วันนี้รินจะมาพูดถึงอีกผล กระทบหนึ่งของความหนาวลึกถึงกระดูก ที่ Penn State ซึ่งก็คือ กระรอกที่นี่อ้วน มากค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ในพื้นที่รอบๆ มหาลัยที่รินอยู่มี ต้นไม้ ใหญ่จ�ำนวนพอประมาณ บางต้นน่า จะอายุเกิน 100 ปี ถ้าช่วงฤดูใบไม้ผลินี่นับ ว่าร่มรื่นมากๆ เลยทีเดียวค่ะ (ขอบ่นว่า ในเวลาเดียวกัน การที่ ไม่มีตึกสูง ไม่ ได้อยู่ ในเมืองใหญ่ มันก็กันดารบ้างในบางคราว) พอพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ก็มีสัตว์ ต่างๆ มาอาศัยตามต้นไม้บ่อน�้ำ มีทั้ง นก กา เป็ด กระต่าย กระแต รวมทั้งเจ้า กระรอกหน้าตาจ�้ำม�่ำตัวนี้ด้วย

พอช่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วง นักเรียน ที่เดินไปเดินมาก็จะเริ่มเห็นเจ้ากระรอกทั้ง หลายไล่เก็บถั่วเอาไว้ และเริ่มขุนตัวเองจน อ้วน รอจ�ำศีลตอนหน้าหนาว สังเกตได้ชัด เลยว่าตัวมันจะกลมมาก!! แต่ อี ก อย่ า งหนึ่ ง ที่ แ ปลกของ กระรอกที่รินเจอที่นี่ก็คือ มันจะมีบางตัว ที่ชอบคุ้ยถังขยะและเอาอาหารคนมากิน (อ้วนเหมือนกัน) บางคนจะเรียกเจ้าพวก นี้ว่า Scavenger Squirrels รินว่าที่ ไทย ก็น่าจะมีเหมือนกันนะคะ แค่ ไม่เคยเห็น เท่านั้นเอง ช่ ว งวั น สองวั น ที่ ผ ่ า นมาอากาศ อุ่นขึ้นมาหน่อย จากที่อาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศ - 20 องศา มาถึงมือคุณ (โฆษณา พรานทะเลใครทันบ้าง) กระรอกบางตัวก็ เลยตื่นจากจ�ำศีลมาหาของกินต่อ รินเลย ได้รูปตัวนี้มา น่ารักมากๆ เลย ไม่กลัวคน ด้วย แถมท�ำท่าจะเดินตามอีกต่างหาก สงสัยมันคิดว่ารินเอาของฟรีมาให้กิน ฮ่าๆ 37


Another Language ภาษาอังกฤษ & มลายู

Sing A Song

Sawasdee English Sing me a sad song and make me feel better. Sing me a happy song and I might start to cry. Because everything feel like it’s g…

อะอาววววสวัสดีคุณผูอานนิตยสาร O-N ทุกคน แหมๆๆ เกือบรองเพลงเพลิน (เสียดายไม ไดยินเสียงจะไดยินเสียงอันไพเราะของผูเขียนฮิๆๆๆ) สองประโยคบนนี้เปนทอนฮุคของเพลง Sad Song ของเจ Lenka นั่นเองคะ

T IP

Listen Hear Sing Lyrics

e Music Genr

= ฟง = ไดย ิน = รองเพลง = เนอื้ เพลง = แนวเพลง

อยากเขาใจฟลวาเพลงนี้เพราะแค ไหนเปดเพลงนี้ ไปดวยอานคอลัมน วันนี้ ไปดวยนะคะ ^___^ เพราะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง Music and Song กันคะ ในภาษาอังกฤษถาอยากถามวาคุณชอบฟงเพลงไหมก็แคถามวา Do you like listening to music? Listen แปลวา ฟง จะตางกับ Hear ที่แปลวา ไดยิน เพราะไดยินไม ใชการตั้งใจฟง ฝรั่งจะถาม Do you hear me? กรณีย้ำวาเราไดยินที่เขาพูดหรือเปลา แตถาคุณครูในหองบอกเด็กๆ วา Listen to me. เปนคำสั่งเมื่อไหรคือบอกใหเด็กๆ ตั้งใจฟงที่ครูสอนนั่นเองคะ สวนถาอยากถามฝรั่งวาชอบรองเพลงมั๊ยก็แคถามวา Do you like singing? Sing แปลวา รองเพลง ไมตอง Sing a song นะคะ เพราะมันเวิ่นเวอซ้ำซอนไปแค singing ก็เขาใจแลวสวน Like แปลวา ชอบ ถาตามดวย Ving จะใหความหมายวาชอบทำอะไร เปนนิสัยคะ เชน I like cooking. ชอบทำอาหาร He likes dancing. ชอบเตนเปนตนคะ สวนแนวเพลง Music Genre [Genre ที่ถูกอานวา (ชองระห) ไม ใช เจนรี่ หรือ เจนเรอ หรือ เจนเรนะคะ ^^] มีหลายประเภทที่เรารูจักกันดี เชน Pop ปอป, Rock ร็อก, R&B Rhythm and Blue, Classical คลาสสิค, Easy Listening เพลงฟงสบายๆ, Jazz แจส เปนตน

Faraway ถาเราตองการถามวา ชอบฟงเพลงแนวไหน ก็แคถามวา What kind of music do you like to listen? / What kind of song do you like most? ถาชอบทุกแนวก็บอกวา I like listening every kind of them. แตถาชอบแนวไหนเปนพิเศษก็ระบุไปเลยคะ เชน I like pop / jazz / classical etc. ถาเราไมรูจะชวนฝรั่งคุยเรื่องอะไรก็สามารถยกเรื่องนี้มาพูดไดคะ ถือวาเปนการเริ่มตนที่ดีทีเดียว สวนการฝกภาษาดวยการฟงเพลงยิ่งเปนเรื่องที่ควรทำอยางยิ่งแต อยาฟงเฉยๆ หา Lyrics ‘ลิริก’ เนื้อเพลง มาแปล หาความหมายดวยนะคะมันถึงจะพัฒนาภาษาเราไดจริงๆ คะ^__^


มาจากที่ไหนคะ? T IP

Kamudatang dari อานวา กามู mana / Kamudarimana (ดาตัง) ดาร ี มานา แปลวา คณ ุ มาจากที่ ไห น Sayadatang dari อานวา ซายา ดา แปลวา ผมม ตัง ดารี ... าจ Dan kamub าก... erasaldarim ana อานวา ดาน กามูเบอรอาซ าล ดารี มาน แปลวา แลว ค า ณ ุ ล  ะ มีภูมิลำเนาเด Selamatber ม ิ มาจากที่ ไหน ke อานวา เซอล nalan าม แปลวา ยินด ตั เบอรเกอนาลัน ีที่ ไ Sampaijump ดร ูจัก alag อานวา ซัมไป จ แปลวา จนก ุมปะ ลากี วาจะพบกันใ หม

ณ ทรายขาว Sama-Sama อานมา ซามา ซามา แปลวา เชนเดียวกันคะ Terimakasih.SelamattinggaldanNantijumpalagi. อานวา เตอรีมา กาซิหฺเซอลามัต ติงกัล ดาน นันตี จุมปะ ลากี. แปลวา ขอบคุณครับ ลากอนและคอยเจอกันใหม Ok Bye Bye.sampaijumpalagi อานวา โอเค บายบาย ซัมไป จุมปะ ลากี แปลวา โอเคคะ ลากอน จนกวาจะพบกันใหมคะ

หรรษาภาษามลายู วันนี้หรรษาภาษามลายูขอนำเสนอบทสนทนาภาษามลายูงายๆ ใหเพื่อนลองนำไปใชดูนะคะ เปนเรื่องเกี่ยวกับการถาม-ตอบวาคุณเปนคนที่ ไหน หรือมาจากไหนคะ เผื่อเพื่อนๆ จะลองนำไปใชถามคนขางๆ ดูวา เขาเหลานั้นมีภูมิลำเนาหรือมีบานเกิด หรือเปนคนจังหวัดไหน เปนตนคะ หวังวาเพื่อนๆ คงจะสนุกกับการไดเรียนรูบนสนทนาในตอนนี้นะคะ Selamatpagi,Namasaya Mari.Siapanamakamu? อานวา เซอลามัตปากี, นามา ซายา มารี. ซีอาปา นามา กามู แปลวา สวัสดีตอนเชาคะ, ชื่อฉันมารีคะ คุณมีชื่อวาอะไรคะ? Selamatpagi, NamasayaHaris. อานวา เซอลามัตปากี, นามา ซายาฮารีส แปลวา สวัสดีตอนเชาครับ, ชื่อผมฮารีสครับ Kamudatangdarimana? หรือจะใชวา Kamudarimana ก็ ได อานวา กามู (ดาตัง) ดารี มานา แปลวา คุณมาจากที่ ไหนคะ? Sayadatangdari Bangkok. Dan kamuberasaldarimana? อานวา ซายา ดาตัง ดารี บางกอก ดาน กามูเบอรอาซาล ดารี มานา? แปลวา ผมมาจากกรุงเทพครับ แลวคุณละมีภูมิลำเนาเดิมมาจากที่ ไหนครับ? SayaberasaldariwilayahPattani. อานวา ซายา เบอรอาซาล ดารี วีลายะ ปตตานี. แปลวา ฉันมาจากจังหวัดปตตานีคะ Ok. SelamatberkenalanMari. อานวา โอเคเซอลามัตเบอรเกอนาลัน แปลวา โอเคครับ ยินดีที่ ไดรูจักครับมารี

39


พื้นที่เล็กๆ รูปและเรื่อง : nropapin

ใจ ชู กำ�ลัง ข อ เ พี ย ง แ ค่ ไ ด้ เ ริ่ ม แรง..จะน�ำไปสู่การกระท�ำ การลงมือท�ำ..จะน�ำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี หรือร้าย แม้มีอุปสรรค ขวากหนามใดๆ อย่างน้อยในใจ ก็รู้ว่าได้ลงมือท�ำอย่างเต็มที่ ฉันลืมความเกียจคร้าน แม้จะเพลียกับการร�่ำเรียนมาตลอดทั้งสัปดาห์ ในใจฉันคงเหมือนฝนที่ตกหนักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในตอนนี้ ฉันตื่นลุกขึ้นแต่เช้า รีบบึ่งไปโบกแท๊กซี่บอกจุดหมายปลายทาง ลุ้นตัวโก่งว่าจะไปทันเวลาไหม ทั้งที่ ในใจก็รู้ว่า ตัวเลขในหน้าปัดมิเตอร์ตอนรถติด อาจมากว่าค่าแรงการสอนศิลปะทั้งวัน แต่ฉันก็ท�ำ..ท�ำลงไป โดยลืมคิดถึงความคุ้มค่าของก�ำไร ขาดทุน อาจเป็นความรับผิดชอบ หน้าที่ ที่ท�ำให้ฉันมีก�ำลัง พยายามและท�ำมากขนาดนี้ บางที อาจเป็นแค่ หั ว ใ จ หัวใจที่อยากเห็นรอยยิ้มอันเดียงสาของเด็กน้อย วิ่งเข้ามา แล้วพูดว่า “สวัสดี..วันนี้คุณครูจะสอนหนูวาดอะไร”

40


A Picture I Draw ภาพ : เงาเมฆ

HEART. 41



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.