ซึ่งหากมีสามขา จะล้มยาก มั่นคง แข็งแรง โดยมี อบต.เป็นเสาที่หนึ่ง เสาที่สองคือประชาชน และเสาที่ สามคือราชการ นอกจากนั้นท่านยังเปรียบเทียบพัฒนากรว่าเป็น “วิศวกรสังคม” แต่ถ้าไปแบกหาม ทำงานเองทุกเรื่องก็เป็นเหมือน “กรรมกร” หรือ ทฤษฎีโปรยรำล่อปลา เปรียบเทียบกับใส่งบประมาณไป ให้บ้างในช่วงแรกๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากสังคมทั่วไป เราไม่ได้หวังแค่ปลาตัวเล็ก แต่ต้องการได้ปลา ตัวใหญ่ หรือประโยชนที่จะเกิดขึ้นในระยะยามมากกว่า ในวันที่ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น “รองอธิบดี” ลูกน้องทุกคนดีใจมากที่สุด ว่าในที่สุดวันของท่านก็ มาถึง แม้กระทั่งท่านได้รับตำแหน่งสูงขึ้นเป็นถึงรองอธิบดีท่านก็ยังเป็นท่านคนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ท่านยังคงเป็นทั้งผู้บังคับบัญชาระดับสูง และเป็นกัลยาณมิตรของน้องๆ ทุกคนเสมอ แต่พวกเรากลับ รักษาระยะห่างจากท่าน จนท่านบ่นว่า “ทุกวันนี้ จะหาเพื่อนกินยังยากเลย” เห็นท่านที่ไหนก็มีการเดิน ห่างๆ หลบๆ ด้วยเกรงบารมีของท่าน แต่ถึงแม้ระยะห่างระหว่างมดงานอย่างพวกเรา กับผู้บริหารระดับ สูงอย่าง “รองอธิบดี” นับวันจะห่างไกลกัน แต่ทุกครั้งที่พบเจอท่าน หรืออ่านข่าวคราวของท่าน ยังจำคำที่ ท่านเคยบอกไว้ตั้งแต่วันแรกว่า “...มาช่วยกันทำงาน...” วันนี้ ถึงแม้ท่านสรรค์ชัย อินหว่าง จะส่งไม้ต่อให้น้องๆรุ่นหลังรับภารกิจในการสร้างสรรค์ สังคม แต่จะเป็นผู้บังคับบัญชาที่อยู่ในใจของมดงานอย่างพวกเราตลอดไป
มุมมองที่แลเห็น ท่านรองสรรค์ชัย อินหว่าง
เพ็ญแข ศรีสุทธิกุล พัฒนาการจังหวัดเลย
“แมคไกเวอร์” ทำได้ทุกอย่าง “เจ้านายที่ลูกน้องทุกคนรัก” “ผู้บริหารที่เข้าถึงชีวิตจิตใจของผู้นำชุมชนมากที่สุด” “เพื่อนที่ดีของเพื่อนทุกคน” “หัวหน้าครอบครัวที่สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้กับสังคม” “มนุษย์ที่มีจิตใจดีที่สุดคนหนึ่ง” ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่มีอะไรเกินจริง จากมุมมองที่มีโอกาสได้รู้จักได้ทำงานกับท่านรองสรรค์ ชัย อินหว่าง ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านมาเป็นเวลา ยาวนาน 2 รอบ นับรวมได้ประมาณ 7 ปีภาพ ที่เห็นมาโดยตลอด ท่านรองฯ... บุกงาน... ต่อสู้... เรียนรู้... เพื่อสร้างงานที่มีคุณค่าให้แก่กรมฯ ท่านใช้ เวลาของชีวิตอย่างคุ้มค่าเพื่อกรมฯ 106 ประติมากร : งานพัฒนาชุุมชน
ศึกษาอดีต วิเคราะห์ประสบการณ์ รังสรรค์งานชุมชน