DIE BEFORE DIE

Page 1

CON-

ฝึกตาย
2
มรณสติ
ENTS 14 18 ประโยชน์มรณสติ

ขึ้นชื่อว่า ความตาย ผู้คนส่วนใหญ่ย่อมไม่อยาก

นึกถึงเพราะเข้าใจว่าความตายนั้นเป็นปฏิปักษ์กับ ชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตกับความตายหา ได้อยู่ตรงข้ามกันอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจไม่หากเป็น เรื่องเดียวกันเรามีชีวิตอย่างไรก็ตายอย่างนั้น ถ้า อยู่ด้วยความหลงก็ต้อง "หลงตาย" อย่างหลีกเลี่ยง

ไม่ได้คือตายอย่างทุรนทุรายไร้สติแต่ถ้ามีชีวิตด้วย ความตื่นรู้อยู่อย่างผู้ไม่ประมาทหมั่นสร้างความดี อยู่เสมอเมื่อถึงเวลาก็สามารถจากโลกนี้ไปด้วยใจ สงบโดยมีสติจวบ จนวาระสุดท้าย สิ่งหนึ่งที่ช่วย

อบรมจิตให้พร้อมเผชิญความตายและกระตุ้นใจ ให้ขวนขวายทำาหน้าที่อย่างดีที่สุดได้แก่ “มรณสติ”

1

มรณสติ คือการระลึกถึงความตายควบคู่ไป กับการเตรียมใจให้พร้อมเผชิญความตาย หากทำ า อย่างถูกต้องและสม่าเสมอจะช่วย ให้เรามองความตายด้วยสายตาที่เป็นมิตร มากขึ้นและมีทัศนคติอย่างใหม่ต่อชีวิตชนิด ที่ช่วยให้เราไม่หวั่นไหวต่อความผันผวน ปรวนแปรที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่ได้ท่าม

กลางความขึ้นลงของโลกรอบตัวในทุกขณะ

ไม่ว่าจะหลีกหนีให้ไกลเพียงใด เราทุกคน

ก็หนีความตายไม่พ้น ในเมื่อจะต้องเจอกับ

ความตายอย่างแน่นอน แทนที่จะวิ่งหนีความ

ตายอย่างไร้ผล จะไม่ดีกว่าหรือ หากเราหันมา

เตรียมใจรับมือกับความตาย ในเรื่องนี้ มอง

แตญปราชญ์ชาวฝรั่งเศสได้กล่าวแนะนำ า ว่า

“เราไม่รู้ว่าความตายคอยเราอยู่ ณ ที่ใด

ดังนั้นขอให้เราคอยความตายทุกหนแห่ง”

2

การทำามรณสติทำาได้หลายวิธีเพียงแค่นึกถึง ความไม่เที่ยงของชีวิตว่าเราจะต้องตายไม่ช้าก็

เร็ว จึงควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์ อย่างเต็มที่เท่านี้ก็ถือว่าเป็นมรณสติอย่างหนึ่งแต่ สำาหรับคนทั่วไปการระลึกเพียงเท่านี้อาจกระตุ้น ให้เกิดความตื่นตัวได้ไม่มากพอ เพราะเป็นเพียง แค่การคิดอย่างย่นย่อ อีกทั้งเป็นการรับรู้ในระดับ สมองแต่ยังไม่ได้ส่งผลไปถึงอารมณ์ความรู้สึก มากนักอาจทำ า ให้เกิดความตื่นตัวอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานก็เลือนหายไป ผลก็คือชีวิตหวน

กลับไปสู่แบบแผนเดิมๆ หลงวนอยู่กับงาน

เฉพาะหน้าหรือเพลินกับความสนุกสนาน จนลืมทำ า สิ่งสำ า คัญสำ า หรับชีวิตไปเสีย

พระพุทธเจ้าจึงเปรียบคน 4 กลุ่ม

ข้างต้นดังม้า 4 ประเภท ประเภทแรกเพียง แค่เห็นเงาปฏักก็รู้ว่าสารถีต้องการให้ทำาอะไร ประเภทที่ 2 ต้องถูกปฏักแทงที่ขุมขนก่อน

ถึงรู้ว่าต้องทำาอะบ้างประเภทที่ 3 จะรู้ตัวก็ต่อ เมื่อถูกปฏักแทงที่ผิวหนัง ประเภทสุดท้ายต้อง

ถูกปฏักแทงถึงกระดูกจึงค่อยรู้ตัวว่าจะต้อง ทำ า อะไร กล่าวอีกนัยหนึ่งคนส่วนใหญ่นั้นแค่ รู้หรือเห็นความจริงยังไม่พียงพอต้องรู้สึกเจ็บ ปวดเสียก่อนจึงจะกระตือรือร้น เตรียมรับมือ กับด้วยเหตุนี้สำาหรับคนทั่วไป การทำามรณสติ

ที่จะช่วยให้เกิดความไม่ประมาทได้เป็นอย่างดี

4
6

ช่วงเวลาก่อนนอนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่ การทำามรณสติสำาหรับคนทั่วไปเนื่องจากได้ ทำาภารกิจประจำาวันเสร็จสิ้น บรรยากาศรอบ ตัวมีความสงบมากขึ้น ร่างกายและจิตใจเข้าสู่ ช่วงแห่งการพักผ่อนและ เป็นโอกาสดีสำาหรับ การน้อมจิตพิจารณาถึงความเป็นไปของชีวิต ซึ่งมีความตายเป็นเบื้องหน้า วิธีที่ดีที่สุดคือ การน้อมจิตอย่างจริงจังประหนึ่งว่าความ ตายกำาลังเกิดขึ้นกับเรา นั่นคือ “ ฝึกตาย “

ท่าที่เหมาะแก่การทำามรณสติคือนอนราบกับพื้น

แขนแนบกับลำาตัว ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ไม่มีอาการหน้านิ่วคิ้วขมวดทิ้งน้าหนักทั้งตัวลง

ไปกับพื้น ไม่มีส่วนใดที่เกร็งหรือเหนี่ยวรั้งไว้ หายใจอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับน้อมใจมา

ไว้ที่ปลายจมูก รู้ถึงสัมผัสบางเบาของลมหายใจ

ทั้งเข้าและออกปล่อยวางความนึกคิดต่างๆ การพิจารณาดังกล่าวจะช่วยให้เราตระหนัก

ที่สำ า คัญก็คืออย่าหวังว่าผู้คนจะยังแซ่ซร้อง สรรเสริญเราหลังจากสิ้นลมเพราะแม้แต่ชื่อของ เราสักวันหนึ่งก็ต้องถูกลืมไร้คนจดจำาระหว่างที่ พิจารณาไปทีละขั้นๆ ให้สังเกตความรู้สึกของเรา

ว่าเป็นอย่างไร มีความตระหนก เศร้าโศกเสียใจ

ห่วงหาอาลัยหรือไม่ เราพร้อมทำาใจกับการ

พลัดพรากสูญเสียสิ่งเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด ถ้าหากยังไม่พร้อม อะไรทำ า ให้เราไม่

พร้อม และทำ า อย่างไรเราจึงจะพร้อม

ว่ายังมีบางสิ่งหรือหลายสิ่งที่เราสมควรทำาแต่ ยังไม่ได้ทำาหรือทำาไม่มากพอ ขณะเดียวกัน

ก็ยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่เรายังตัดใจ ไม่ได้ ความตระหนักดังกล่าวจะช่วยให้เรา

เกิดความขวนขวายที่จะทำาสิ่งสำาคัญที่ละเลย ไป พร้อมกับเรียนรู้ที่จะฝึกใจปล่อยวางด้วย

ที่กล่าวมาเป็นการฝึกตายอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถทำ า ไปได้อีกหลายรูปแบบเช่น

จินตนาการว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของเรา จาก

นั้นให้นึกต่อไปว่าเมื่อหมดลม ร่างกายของเรา ถูกนำาไปดำาเนินการตามประเพณี บัดนี้ร่าง ของเราถูกบรรจุอยู่ในหีบตั้งโดดเด่น ผู้คนมาก หน้าหลายตาเดินทางมาร่วมพิธีศพเพื่ออำาลา เราเป็นครั้งสุดท้ายมีทั้งลูกหลานญาติมิตร เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น

คนเหล่านี้ต่างพูดถึงเราในวงสนทนาบ้าง พูดต่อ หน้าผู้คนที่มาร่วมพิธีศพบ้างทีนี้ให้ถามตัวเองว่า อยากให้ผู้คนเหล่านี้พูดหรือเขียนถึงเราว่าอย่างไร อยากให้เขาจดจำาเราในลักษณะใด อยากให้

เขาประทับใจในเรื่องอะไรบ้างที่เกี่ยวกับตัวเรา จากนั้นให้ถามต่อไปว่าเมื่อยังมีชีวิตอยู่

เราได้ทำ า อะไรบ้างที่ชวนให้เขารำ า ลึกถึงเรา

ในแง่นั้นมีความดีอะไรบ้างที่เราได้ทำ า อัน ควรแก่การชื่นชมสรรเสริญการพิจารณา ในแง่นี้จะช่วยเตือนใจให้ใคร่ครวญว่า ที่ ผ่านมาเราได้ทำ า ความดีมากน้อยเพียงใด มีความดีอะไรบ้างที่เรายังทำาไม่มากพอ และ ควรทำาให้มากกว่านั้น มีหลายครั้งที่เราปล่อย

ชีวิตไปตามความพึงพอใจส่วนตัว โดยไม่สนใจ ผลกระทบที่มีต่อผู้อื่นเราอยากได้ชื่อว่าเป็น คนเสียสละ เอื้อเฟื้อ มีเมตตา เป็นพ่อหรือแม่

ที่ดีแต่เรากลับดำาเนินชีวิตไปทางตรงกันข้าม เพราะมัวแต่แสวงหาเงินทองและชื่อเสียง มรณ

สติในลักษณะดังกล่าวจะช่วยเตือนสติเรา ให้ หันกลับมาดำาเนินชีวิตในทิศทางที่พึงปรารถนา

9

เมื่อน้อมใจจินตนาการว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย

ของเรา ใ ห พิจารณา ว่าเ มื่ อความตายมา ถึง

แ ล้ว เ กิดอะไร ขึ้ น กับ ร่างกายของเราห ลัง

จากหมดลมแ ล้ว ที่ เคย อ่อน อุ่ น ก็ก ลับแข็ง

เ ย็น ที่ เคยเ ดินเ หินเค ลื่ อนข ยับไ ด ก็ก ลับ

แ น นิ่ ง ช่วยตนเองไ ม่ไ ด ไ ม ช้าไ ม่นาน ก็เริ่ ม

สกปรกเพราะน้ำเหลืองน้ำหนองที่ไหลออก มาตามตัวร่างกายที่เคยสวยงามก็เริ่มขึ้นอืดผิว

พรรณ ที่ เคยขาวนวล ก็กลายเ ป็นเขียว ซ้ำ ที่

เคยประ ทิน ด้วยก ลิ่ นหอม ก็ก ลับเ น่าเห ม็น

ทุกอ ย่าง ผันแปรแ ม้แ ต ตัวเอง ก็จำไ ม่ไ ด

พิจารณา

ความ

ไม่

เที่ยง

ของ

ร่าง

การพิจารณาความตายด้วยวธนี้ มุ่งหมายให เราคลายความยึดติดในร่างกาย มิใช่เพราะม ความน่าเกลียดแฝงอยู่ภายใต้ความสวยงาม เท่านั้น หากยังเป็นเพราะร่างกายหาใช่ของ เราไม ไมว่าเราจะพยายามควบคุมปรุงแต่ง อย่างไร มันก็ไม่อาจเป็นไปดังใจได นอกจาก จะช่วยบรรเทาความทุกข์เมื่อร่างกายเกิดการ ผันแปร เช่น เจ็บป่วย แก่ชรา พิการ ยังช่วย เตือนใจไม่ให้เราหมกมุ่นลุ่มหลงกับร่างกาย มากเกินไปจนลืมที่จะทำสิ่งที่มีความสำคัญ

กาย

ปล่อยวาง

ยามใกล

ตาย

การพิจารณาถึงความสูญเสียพลัดพรากนานา ประการที่จะเกิดขึ้นหลังความตาย ไม่ว่า ทรัพย์สิน บุคคล งานการ ชื่อเสียงเกียรติยศ

ตามที่กล่าวมาข้างต้น อาจนำามาใช้เพื่อฝึก การปล่อยวางโดยเฉพาะ กล่าวคือพิจารณา ว่าหากจะต้องตายจริงๆในอีกไม่กี่นาทีข้าง หน้า ไม่มีเวลาเหลือพอที่จะทำาอะไรกับสิ่ง เหล่านั้นนอกจากทำาใจปล่อยวางอย่างเดียว เราสามารถจะทำาเช่นนั้นได้หรือไม่ บางคน อาจพบว่าตนสามารถปล่อยวางสิ่งต่างๆ ได้ หมดแต่ยังอาลัยลูกหลานหรือเป็นห่วงพ่อ แม่ ส่วนบางคนเป็นห่วงก็แต่งานการเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการฝึกเช่นนี้บ่อยๆ จะช่วยให้

ตัดใจได้เร็วขึ้น เพราะตระหนักว่าหากความ

ตายมาประชิดตัวจริงๆ ไม่ว่าจะอาลัยใคร

หรือห่วงใยอะไรก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะเป็น โทษคือทำาให้เป็นทุกข์สถานเดียว ในภาวะ

เช่นนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือปล่อยวางอย่างสิ้นเชิง การฝึกปล่อยวางด้วยวิธีนี้จะเป็นประโยชน์ มากในกรณีที่เกิดเหตุปัจจุบันทันด่วนซึ่ง บั่นทอนชีวิตอย่างกะทันหัน การฝึกวิธีนี้อยู่

เสมอจะช่วยให้สามารถปล่อยวางได้อย่าง รวดเร็ว ซึ่งพุทธศาสนาถือว่ามีความสำาคัญมาก

ฝึก

ก่อนเดินทางไมว่า ขึ้นรถ ลงเรือ นั่งเครื่อง

บิน พึงระลึกอยู่เสมอว่าความตายสามารถ

เ กิด ขึ้ นไ ด้ตลอดเวลา โดยเฉพาะจาก

อบติเหต ดังนั้นจึงควรเตรียมใจไว้เสมอ ลองนึกว่าหากเหตร้ายกำลังจะเกิดขึ้นใน อีกไมกี่วินาทข้างหน้า เราจะทำใจอย่างไร นึกถึงอะไรก่อน และพร้อมจะปล่อยวาง ทุกสิ่งที่เคย ผูกพันหรือไม จะน้อมระลึก ถึงอะไรเพื่อทำใจให้สงบและพร้อมรับกับ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นโดยไมตื่นตระหนก

ผู้ป่วย ที่ กำ ลัง ล้มหมอนนอนเ สื่ อ ค รั้ ง

ห นึ่ ง ก็เคย ม สุขภาพ ดีเช่นเ ดียว กับเรา

เ มื่ อไปเ ยี่ ยมเขา จึงควรระ ลึก ว่า สัก วัน

ห นึ่ ง ร่างกายของเรา ก ต้องเ สื่ อมท รุดไ ม

ต่างจากเขา แ ม้จะ มีโอกาส รักษาหาย

แตก็ไม่ควรประมาท เพราะความเจ็บป่วย

จะมาเป็นระลอก ๆ และมีแต่จะรุนแรง

ขึ้น สุดท้ายก็ตามมาด้วยความตาย ดังนั้น

เมื่อไปเยี่ยมผู้ป่วยจึงควรถือเป็นโอกาส

เตือนใจตนเองด้วยว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง

ก่อนเดิน เยี่ยมผู้ป่วย

เมื่อไป

งานศพ

ศพที่อยู่เบื้องหน้าเราคือครูสอนธรรมที่ ดที่สุด สามารถปลุกให้เราตื่นจากความ หลงและความประมาทใน ช วิต ใคร

ที่ยัง มัวเมาในความส นุกห รือหมก มุ่ น

กับการทำมาหา กิน ก็อาจไ ด คิด ว่าตน

กำ ลัง ม ช วิตอ ยู่ อ ย่าง ลืมตายไ ม ว่าให ญ

โตแ ค่ไหน สุด ท้าย ก ยังเ ล็กก ว่าโลงเ มื่ อ

เ ปิดใจ รับ รู้สัจธรรม ที่ ประกาศอ ยู่ เ บื้ อง

ห น้าเรา ก็จะพบคำตอบเอง ว่าพ ร้อมจะ

ไปห รือ ยังและควรจะ ม ช วิตอ ยู่ อ ย่างไร

ช่วงเวลาที่อ่านหนังสือพิมพ์หรือดข่าวเป็น อีกช่วงหนึ่งที่เหมาะแก่การเจริญมรณสต โดยเฉพาะเมื่อมข่าวอบติเหตุหรือวินาศภัย แทนที่จะรับรู้แบบผ่าน ๆ หรือเห็นเป็นเรื่อง น่าตื่นเต้น ควรใชข่าวดังกล่าวเป็นเครื่อง

เตือนใจตนเองว่าชวิตนี้ไม่เที่ยงอย่างยิ่ง

จู่ ๆ ก็มาตายไปอ ย่างกะ ทัน หันไ ม่ม

สัญญาณ ล่วงห น้าเลยไ ม ว่าอ ยู่ที่ ไหน

เวลาใดก็ตายไดทั้งนั้นจะใหดีกว่านั้นลอง

โยงเห ตุการ ณ ดังก ล่าวเข้ามาหา ตัวเอง

เมื่อรับรู้ ข่าวสาร
ทำให้้ขวนขวายใส่่ใจในส่งที่ชอบผััดผั่อน
ทำให้้ปล่อยวางส่งที่ชอบยึดติด
ทำให้้เห้็นคุณค่าของส่งที่มีอยในปัจจบัน

ตายก่่อนตาย

อา นิสง ส์ของการเจ ริญมรณส ต ๓ ประการ ข้าง ต้น

คือการขวนขวายใ ส่ใจใน สิ่ ง ที่ ชอบ ผัด ผ่อนการ

ป ล่อยวาง สิ่ ง ที่ ชอบ ติด ยึด และการเ ห็น คุณ ค่าของ

สิ่ ง ที่มีอ ยู่ ใน ปัจ จ บัน ใน ด้านห นึ่ ง ช่วยใ ห้เราอ ยู่ อ ย่าง

มีความ สุขและใช ช วิตอ ย่าง ม คุณ ค่า ใน อีก ด้านห นึ่ ง

ก็เ ป็นการเต รียม ตัวใ ห้พ ร้อมสำห รับความตาย ที่ จะ

มา ถึง เพราะเ มื่ อไ ด้ทำ สิ่ ง ที่ สมควรทำเส ร็จ สิ้ นแ ล้ว ไ ม ม สิ่ ง คั่ ง ค้าง กังวลใจ ไร้ความ ห่วงหาอา ลัย อีก ทั้ ง

ละเว้น สิ่ ง ที่ ส ร้างความเ ดือดเ นื้ อ ร้อนใจ ก็พ ร้อมจะ จากโลก นี้ ไป ด้วยใจสงบ การอ ยู่ อ ย่าง มีความ สุข และมคุณค่า กับการเตรียมตัวตายอย่างสงบจึงเป็น เรื่องเดียวกัน หาได้แยกจากกันไม กล่าวอีกนัยหนึ่ง

หากต้องการตายเป็นกต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้เป็นด้วย

23

ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากหนังสือ

“ระลึกถึงความตายสบายนัก” ของพระไพศาล วิสาโล

KIATTISAK T.

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.