หนังสือแนะแนวหลักสูตรค.อ.ม. สาขาเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน

การศึกษาต่อในหลักสูตร ค.อ.ม. สาขาเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน

จัดท�ำโดย นางสาวธันยพร ขาวโชติช่วง ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

คำ�นำ�

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผสานคิวอาร์โค้ดเล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์เรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผสานคิวอาร์โค้ด ร่วมกับการแนะแนวออนไลน์ เรื่องการ ศึกษาต่อในหลักสูตร ค.อ.ม. (เทคโ นโลยีการเรียนรูแ้ ละสือ่ สารมวลชน) จัดท�ำขึน้ เพือ่ แนะแนว หลักสูตรดังกล่าว รวบรวมข้อมูลและเนือ้ หาเกีย่ วกับหลักสูตร ค.อ.ม. เช่น รายวิชา โครงสร้าง หลักสูตร ค่าใช้จา่ ย ขัน้ ตอนการสมัครเพือ่ เข้าศึกษาต่อ รวมไปถึงมารยาทในการแต่งกายใน สถานศึกษา นอกจากนีย้ งั รวบรวมอาชีพทีส่ ามารถประกอบได้หลังจบการศึกษา เพือ่ น�ำมา เป็นข้อมูลส�ำหรับนักศึกษาที่สนใจศึกษาต่อในหลักสูตรดังกล่าว

ทั้งนี้หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

นางสาวธันยพร ขาวโชติชว่ ง

ผ ู้จัดท�ำ

สารบัญ This is หลักสูตร.

เราเรียนอะไร?

อยากเรียน... เริ่มอย่างไร

How to แต่งกายอย่างไร?

“ Will I be.... ”

Page 1

หลักสูตร ค.อ.ม.

บทที่ 1 What is THIS?

This is หลักสูตร.

scan QR code เพื่อรับชมวิดีทัศน์หลักสูตรค.อ.ม.

Page 2

ชื่อหลักสูตร ภาษาไทย : หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต

สาขาวิชาเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสาร

มวลชน ภาษาอังกฤษ : Master of Science in Industrial Education

Program in Learning Technology and Mass Communication

หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน

Page 3

หลักสูตร ค.อ.ม.

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต (เทคโนโลยีการเรียนรู่้และสื่อสารมวลชน) / ค.อ.ม.

Master of Science in Industrial Education (Learning Technology and Mass Communication) / M.S.Ind.Ed.

Page 4

การดำ�เนินการหลักสูตร เป็นหลักสูตรใช้ระยะเวลาการศึกษา : 2 ปี จำ�นวนหน่วยกิตที่เรียนตลอดหลักสูตร : 40 หน่วยกิต วัน - เวลาดำ�เนินการเรียนการสอน : นอกวัน-เวลา ราชการ ( เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น. )

Page 5

หลักสูตร ค.อ.ม.

ข้อมูลเฉพาะของหลักสูตร

ปรัชญา ผลิตนักเทคโนโลยีการเรียนรู้ และนักเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพและคุณธรรม

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

ด้วยความเจริญทางเทคโนโลยีของสังคมโลกาภิวตั น์ทำ� ให้เกิดความต้องการของบุคลากรทีเ่ พียบ พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ และทักษะทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร สื่อสารมวลชน และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ตามแนวปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเป็นลักษณะวิชาแบบสหวิทยาการโดยศาสตร์ นี้เป็นศาสตร์ประยุกต์ที่ยังต้องมีการศึกษาวิจัยและพัฒนา เพื่อเพิ่มพูนความสมบูรณ์และสนองตอบต่อ การศึกษาแบบยั่งยืน

ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ได้ตระหนัก ถึงบทบาทนี้ จึงได้จัดให้มีการเรียนการสอนระดับมหาบัณฑิตศึกษาทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสาร มวลชน ด้วยวัตถุประสงค์ ดังนี้

Page 6

เพื่อสร้าง การวิจัย ทางด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้และ เทคโนโลยีสื่อสารมวลชน

เพื่อพัฒนา องค์ความรู้ ในสหวิทยาการต่างๆทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และเทคโนโลยีสื่อสาร มวลชนโดยผ่านระบบการจัดการและการบริหารที่ดี เพื่อตอบสนองต่อ ความต้องการของ ตลาดแรงงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลิตบัณฑิตที่มีประสิทธิภาพทั้งเป็นผู้น�ำ ทางวิชาการควบคู่คุณธรรม

Page 7

หลักสูตร ค.อ.ม.

ความสำ�คัญ

จากสถานการณ์ ห รื อ การพั ฒ นาทางสั ง คมและวั ฒ นธรรม ที่ มี ต ่ อ พั น ธกิ จ มหาวิทยาลัยโดยมุ่งสู่ความเป็นเลิศในเทคโนโลยีและการวิจัย และมุ่งธ�ำรง ปณิธานในการ สร้างบัณฑิตที่เก่งและดี โดยการผลิตบัณฑิตที่มีจิตส�ำนึกในการใฝ่เรียนรู้ สามารถเรียน รู้ ได้ด้วยตนเอง และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ปลูกฝังให้บัณฑิตมีความยึดมั่นใน จริยธรรม และคุณธรรม มีจติ ส�ำนึกทีจ่ ะประพฤติปฏิบตั ิ ในสิง่ ทีด่ มี จี รรยาบรรณในวิชาชีพ มีวนิ ยั รูจ้ กั หน้าที่ มีความรับผิดชอบสนใจ และมีใจเปิดกว้างทีจ่ ะรับวิทยาการใหม่ๆ ส่งเสริม การบูรณาการทางความคิด เน้นผลิตบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ และความช�ำนาญ ซึ่ง สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล ได้อย่างมีเหตุผล สภาพโลกาภิวัฒน์ที่มีความเชื่อม โยงได้ทุกด้านร่วมกันทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมในปัจจุบันเป็นผลให้ ความรูค้ วามสามารถของบุคคล ซึง่ เป็นผลผลิตของสถาบันอุดมศึกษามีสภาพทีล่ า้ หลลัง ไม่สอดคล้องกับการด�ำรงชีวิตและความต้องการของสังคมมากขึ้นอย่างยิ่ง ประกอบกับ ปัจจัยกระตุ้นที่มาจากการเปิดเสรีทางการศึกษา ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายองค์ความรู้ กฎกติกา การด�ำเนินการด้านต่างๆ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เชื่อมต่อถึงกัน ส่งผลให้การศึกษาในระดับต่างๆต้องมีการพัฒนาสู่ความ เป็นสากลมากขึ้น จึงจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในด้านหลักสูตร การสอน และเพื่อให้เป็นไปตามอิทธิพลชักน�ำของวิทยาการและเทคโนโลยีซึ่งเป็นผลิตผล ของสังคม

การผลิตบุคลากรทีม่ คี วามช�ำนายด้านเทคโนโลยีการเรียนรูแ้ ละสือ่ สารมวลชนเป็น ปัจจัยหนึ่งที่มีความจ�ำเป็นและส�ำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนา ชาติได้ทงั้ ทางตรงและทางอ้อม เป็นส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางการศึกษาของประเทศ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยด้านการเรียน การสอน การวิจัย ซึ่งเป็นสินทรัพย์ทางปัญญาที่ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

Page 8

รูปแบบของหลักสูตร : เป็นหลักสูตรระดับปริญญาโท : หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทย โดยใช้ เอกสารประกอบการเรียนการสอนและตำ�รา เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ : รับนักศึกษาไทยหรือนักศึกษาต่างประเทศที่ สามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร พูด อ่าน เขียนได้

Page 9

หลักสูตร ค.อ.ม.

สถานที่จัดการเรียนการสอน ห้องปฏิบัติการการถ่ายภาพ ส� ำ หรั บ การเรี ย นการสอน ด้ า นการ ถ่ า ยภาพขั้ นสู ง ซึ่ งภายในจะประกอบไป ด้วยอุปกรณ์ด้านการถ่ายภาพพื้นฐาน เช่น กล้อง ไฟสตูดิโอ ห้องส�ำหรับแต่งตัว ห้องส�ำหรับอัดภาพ เป็นต้น

ห้องคอมพิวเตอร์

ห้องคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 3 ห้อง 2 ประเภท คือ ห้องระบบปฏิบัติการ MAC OS 1 ห้อง และห้องปฏิบัติการระบบ Windows 1 ห้อง ส�ำหรับการเรียนการสอนด้านการจัดท�ำ โปรแกรมการเรียนการสอนรูปแบบต่างๆ

Page 10

ห้องปฏิบัติการวิทยุกระจายเสียง ส� ำ หรั บ ทดลองออกอากาศจริ ง บนคลืน่ วิทยุกระจายเสียง FM101.25 การฝึ ก เขี ย นสคริ ป ท์ การควบคุ ม ระบบเสียง ในการกระจายเสียงต่างๆ

ห้องผลิตรายการโทรทัศน์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ห้องส�ำหรับบผลิต รายการโทรทัศน์ และห้องบันทึกเสียง โดย ภายในจะจ�ำลองการผลิตรายการโทรทัศน์ ไว้ อย่างเหมือนจริง ทัง้ Switcher / Green Screen การจัดไฟ และอุปกรณ์โดยรวม

ห้องเรียนอเนกประสงค์ ห้องส�ำหรับจัดกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เช่น ซ้อมการแสดง หรือการฉายภาพยนต์ โดยมี อุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ส�ำหรับ กิจกรรมของนักศึกษา

Page 11

หลักสูตร ค.อ.ม.

บทที่ 2 เราเรียนอะไร?

Page 12

หลักสูตร โครงสร้างหลักสูตร

แผน ก. แบบ ก.2 (วิทยานิพนธ์) ก. หมวดวิชาบังคับ ข. หมวดวิชาเลือก ค. วิทยานิพนธ์

แผน ข. (การค้นคว้าอิสระ) ก. หมวดวิชาบังคับ ข. หมวดวิชาเลือก ค. การค้นคว้าอิสระ

Page 13

หลักสูตร ค.อ.ม.

ความหมายของรหัสรายวิชา รหัสวิชาประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขสามหลัก

รหัสตัวอักษร

LNG หมายถึง วิชาภาษาอังกฤษ FEM หมายถึง วิชาทางการศึกษาและการจัดการ LTM

หมายถึง วิชาทางการศึกษาประยุกต์ / ทางเทคโนโลยี การเรียนรู้ และสื่อสารมวลชน

Page 14

รหัสตัวเลข รหัสตัวเลขหลักร้อย เลข 1-4 หมายถึง วิชาระดับปริญญาตรี

เลข 5

เลข 6

หมายถึง วิชาระดับบัณฑิตศึกษา แต่นักศึกษา ระดับปริญญาตรีสามารถเลือกเรียนได้

หมายถึง รายวิชาระดับบัณฑิตศึกษา

รหัสตัวเลขหลักสิบ เลข 2-3

เลข 4

หมายถึง วิชาทางการศึกษา และการจัดการ

หมายถึง วิชาทางการศึกษาประยุกต์

เลข 5-6 หมายถึง วิชาทางเทคโนโลยีการ เรียนรู้และสื่อสารมวลชน

เลข 7 หมายถึง วิทยานิพนธ์ / การค้นคว้าอิสระ

เลข 8 หมายถึง วิชาด้านหัวข้อพิเศษเกี่ยวกับการศึกษาและการจัดการ

รหัสตัวเลขหลักหน่วย หมายถึง วิชาด้านหัวข้อพิเศษเกี่ยวกับการศึกษาและการจัดการ

Page 15

หลักสูตร ค.อ.ม.

รายวิชาในหลักสูตร ก. หมวดวิชาบังคับ FEM 621

ระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา (Educational Research Methodology)

FEM 622

สัมนา (Seminar)

ข. หมวดวิชาเลือก ข.1 วิชาทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาทางการศึกษาประยุกต์

วิชาทางการศึกษาและการจัดการ FEM 623

หลักสูตรและการประกันคุณภาพการศึกษา (Curriculum and Quarity Assurance in Education)

FEM 624

จิตวิทยาและการจัดการเรียนรู้ (Psychology and Learning Management)

FEM 625

การวัดและการประเมินผลการศึกษาขั้นสูง (Advanced Measurement and Evaluation in Education)

FEM 626

หลักการและทฤษฎีทางครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี (Principles and Theories of Industrial Education and Technology)

Page 16

FEM 627

พัฒนาระบบการเรียนการสอนและการออกแบบ คอมพิวเตอร์การสอน (Instructional Systems Development and Computer Instructional Design)

FEM 628

สถิติวิจัย (Research Statistics)

FEM 629

การบริหารจัดการในห้องเรียน (Classroom Management)

FEM 630

นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา (Innovation and Information Technology in Education)

FEM 631

การวัดและการประเมินผลการศึกษาขั้นสูง (Advanced Measurement and Evaluation in Education)

FEM 632

จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กร (Industrial and Organizational Psychology)

FEM 633

การบริหารและการวางแผนโครงการ (Project Management and Planing)

FEM 634

การออกแบบการสอน (Instructional Design)

FEM 635

การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน (Practicum)

Page 17

หลักสูตร ค.อ.ม.

FEM 636

การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 (Teaching practices in schools I )

FEM 637

การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 (Teaching practices in schools II )

FEM 680 - 683

หัวข้อพิเศษ 1-4 (Special Topic I-IV )

วิชาทางการศึกษาประยุกต์ LTM 641

ระบบการเรียนรู้และการสื่อสารผ่านระบบเครือข่าย (Learning System and Communication Through Networking)

LTM 642

การวางแผนและการบริหารแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ (Planning and Learning Resources Management)

LTM 643

การวิจัยเชิงคุณภาพด้านการเรียนรู้และการสื่อสารมวลชน (Quality Research for Learning and mass Communication)

LTM 644

สื่อกับกระบวนการทางพุทธิปัญญา (Media and Cognitive Process)

Page 18

ข. หมวดวิชาเลือก ข.2 วิชาทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน LTM 651

เทคโนโลยี​ีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน (Learning Technology and Mass Communication)

LTM 652

หลักและทฤษฎีการสื่อสารมวลชน (Principles and Theories of Mass Communication)

LTM 653

กราฟิกส์ขั้นสูงและแอนิเมชั่นเพื่อการสื่อสาร (Advanced Graphics and Animation for Communication)

LTM 654

การถ่ายภาพขั้นสูง (Advanced Photography)

LTM 655

คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาและสื่อสารมวลชน (Computers for Education and Mass Communication)

LTM 656

การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ขั้นสูง (Advanced Advertising and Public Relations)

LTM 657

การผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์ขั้นสูง (Advanced Radio and Television Production)

Page 19

หลักสูตร ค.อ.ม.

LTM 658

เทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูง (Advanced Printing Technology)

LTM 659

การวางแผนกลยุทธ์เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (Strategic Planning for Advertising and Public Relations)

LTM 660

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้ทางการศึกษา และสื่อสารมวลชน (Information Technology for Knowledge Management in Education and Mass Communication)

LTM 661

สื่อกับกระบวนการคิด (Media and Thinking Process)

LTM 652

เกมคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ (Computer Games for Learning)

ข. หมวดวิชาเลือก ข.3 วิชาเลือก

เราสามารถเลือกเรียนได้จากรายวิชาใน หมวดวิชา ข.1 หรือ ข.2

Page 20

ค. วิทยานิพนธ์ / การค้นคว้าอิสระ LTM 671

โครงงานวิจัย (Research Study)

LTM 672

วิทยานิพนธ์ (Thesis)

หมวดวิชาปรับพื้นฐาน LNG 550

ปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษสำ�หรับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา (Remedial English Course for Post Graduate Students)

LNG 600

ภาษาอังกฤษระหว่างการเรียนในหลักสูตรสำ�หรับนักศึกษา (In Sessional English Course for Post Graduate Students)

นักศึกษาต้องเรียนวิชา LNG 550 และ/หรือ LNG 600 และ/หรือ ได้รับการยกเว้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับระดับคะแนนการทดสอบและเงื่อนไขตามคณะศิลปศาสตร์กำ�หนด

Page 21

หลักสูตร ค.อ.ม.

REGISTER

การลงทะเบียนเรียน แผนการศึกษา ก แบบ ก.2 (วิทยานิพนธ์) ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

FEM 621 ระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา

3 (3-0-9)

XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 1

3 (X-X-X)

LTM XXX วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 1

3 (X-X-X)

LTM XXX วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 2

3 (X-X-X)

รวม

12 (3+X-X-9+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 12+X

ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

FEM 622

สัมนา

1 (0-3-3)

XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 2

3 (X-X-X)

LTM XXX

วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 3

3 (X-X-X)

LTM XXX

วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 4

3 (X-X-X)

LTM 672

วิทยานิพนธ์

2 (0-4-8)

รวม

12 (X-7+X-11+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 18+X

Page 22

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 1 XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 3

3 (X-X-X)

LTM 672

วิทยานิพนธ์

3 (X-X-X)

รวม

7 (X-8+X-16+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 24+X

ชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2 XXX XXX

วิชาเลือก

LTM 672

วิทยานิพนธ์

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง) 3 (X-X-X) 6 (0-12-24)

รวม

9 (X-12+X-24+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 36+X

Page 23

หลักสูตร ค.อ.ม.

แผนการศึกษา ข (การค้นคว้าอิสระ) ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

FEM 621 ระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา

3 (3-0-9)

XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 1

3 (X-X-X)

LTM XXX วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 1

3 (X-X-X)

LTM XXX วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 2

3 (X-X-X)

รวม

12 (3+X-X-9+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 12+X

ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 2

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

FEM 622

สัมนา

1 (0-3-3)

XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 2

3 (X-X-X)

LTM XXX

วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน 3

3 (X-X-X)

LTM XXX

วิชาเลือก 1

3 (X-X-X)

LTM 672

โครงงานวิจัย

1 (0-2-4)

รวม

11 (X-5+X-7+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 12+X

Page 24

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

ชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 1 XXX XXX

วิชาเลือกทางการศึกษาและการจัดการ / วิชาเลือกทางการศึกษาประยุกต์ 3

3 (X-X-X)

LTM XXX

วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้ และสื่อสารมวลชน 4

3 (X-X-X)

LTM 672

โครงงานวิจัย

2 (0-4-8)

รวม

8 (X-4+X-8+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 12+X

ชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 2

จำ�นวนหน่วยกิต (ทฤษฎี-ปฏิบัติ-ศึกษาด้วยตนเอง)

LTM XXX

วิชาเลือกทางเทคโนโลยีการเรียนรู้ และสื่อสารมวลชน 5

3 (X-X-X)

XXX XXX

วิชาเลือก 2

3 (X-X-X)

LTM 671

โครงงานวิจัย

3 (0-6-12)

รวม

9 (X-6+X-12+X) ชั่วโมง/สัปดาห์ = 18+X

Page 25

หลักสูตร ค.อ.ม.

การทำ�โครงงานหรืองานวิจัย ข้อก�ำหนดในการท�ำโครงงานวิจัย ต้องเป็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน หรือประยุกต์การวิจัยสู่การศึกษา การ ท�ำนุบ�ำรุงศิลปะ วัฒนธรรม หรือเพื่อการบริการสังคม โดยมีจ�ำนวนผู้จัดท�ำโครงงาน 1 คน มีรายงานที่ต้อง น�ำส่งตามรูปแบบและระยะเวลาทีห่ ลักสูตรก�ำหนด อย่างเคร่งครัด หรือเป็นโครงงานทีม่ งุ่ เน้นการสร้างผลงาน วิจัยเพื่อพัฒนางานด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสารมวลชน

ช่วงเวลา แผน ก แบบ ก.2 (วิทยานิพนธ์) : ภาคการศึกษาที่ 2 ของชั้นปีที่ 1 แผน ข (การค้นคว้าอิสระ) : ภาคการศึกษาที่ 2 ของชั้นปีที่ 1

จ�ำนวนหน่วยกิต แผน ก แบบ ก.2 (วิทยานิพนธ์) : 12 หน่วยกิต แผน ข (การค้นคว้าอิสระ) : 6 หน่วยกิต

การประเมินผล

แผน ก แบบ ก.2 (วิทยานิพนธ์) : มีการสอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ ในภาคการศึกษาแรก ทั้งนี้จะมีคณะ กรรมการสอบ 3 ท่าน เป็นผู้พิจารณา จากนั้นนักศึกษามีการแจ้งรายงานความก้าวหน้าในแต่ละภาคภาร ศึกษาต่ออาจารย์ทปี่ รึกษาวิทยานิพนธ์ โดยนักศึกษาทีท่ ำ� วิทยานิพนธ์ 12 หน่วยกิต ต้องได้รบั การตอบรับผล งานเผยแพร่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งซึ่งไม่ใช่รูปเล่มที่เป็นวิทยานิพนธ์ ทั้งนี้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 1 ท่าน และคณะกรรมการภายใน 3 ท่าน

แผน ข (การค้นคว้าอิสระ) : มีการรายงานความก้าวหน้าการท�ำการศึกษาโครงการเฉพาะเรื่องต่อ อาจารย์ที่ปรึกษาทุกภาคการศึกษา กระทั่งเสร็จสิ้นการท�ำโครงงาน โดยคณะกรรมการที่ ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้ประเมินผล

Page 26

ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร ค่าบำ�รุงการศึกษา 12,000 บาท/คน/ภาคการศึกษา

24,000 บาท/คน/ปี

ค่าลงทะเบียน 1,500 บาท/คน/ภาคการศึกษา

30,000 บาท/คน/ปี

ค่าเล่าเรียนรวม 54,000 บาท/คน/ปี

ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร

108,000 บาท/คน

Page 27

หลักสูตร ค.อ.ม.

ทุนการศึกษา

ทุนการศึกษาเพชรพระจอมเกล้าสนับสนุนหลักสูตรและทุนการศึกษาเพชร พระจอมเกล้าสนับสนุนกลุ่มวิจัยระดับปริญญาโท ทุนการศึกษาเพชร พระจอมเกล้าส�ำหรับนักศึกษาระดับปริญญาโท ที่มีศักยภาพและความ สามารถ มีความพึงพอใจใฝ่รู้ โดยให้การสนับสนุนตามระยะเวลาการศึกษาที่ ระบุไว้ในหลักสูตร และภายใต้เงือ่ นไขทีก่ ำ� หนด แบ่งการจัดสรรทุนการศึกษา เพชรพระจอมเกล้ามหาบัณฑิตเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ทุนสนับสนุนหลักสูตร เป็นทุนการศึกษาตามการพิจารณาของภาควิชา เพื่อ ช่วยเสริมให้เกิดความเข้มแข็งในภาควิชา และพัฒนาเป็นกลุ่มวิจัยได้ในอนาคต

ทุนสนับสนุนกลุ่มวิจัย เป็นการจัดสรรภายใต้คลัสเตอร์วิจัยของมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมกลุ่มวิจัยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

Page 28

จำ�นวนเงินจัดสรร

- ค่าเล่าเรียนตามหลักสูตร - ค่าครองชีพรายเดือน 8,000 บาท/เดือน

ขั้นตอนการสมัคร กรณีทุนสนับสนุนหลักสูตร

สมัครขอรับทุนพร้อมสมัคร เข้ารับการศึกษาที่ admission.kmutt.ac.th

คณะ/ภาควิชาเสนอชื่อ และหลักฐานประกอบการ พิจารณา ที่กลุ่มงานช่วยเหลือ ทางการเงินแก่นักศึกษา

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ และผู้มีสิทธิ์ ได้รับทุน ที่ admission.kmutt.ac.th ทางการเงินแก่นักศึกษา

กรณีทุนสนับสนุนงานวิจัย สมัครและส่งหลักฐานการสมัคร ที่สำ�นักงานวิจัย นวัตกรรมและ พันธมิตร สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ คุณมลฤดี สุคนธทรัพย์ โทรศัพท์ 02 470 9627

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ ได้รับทุนที่ admission.kmutt.ac.th ติดตามกำ�หนดการรับสมัครได้ที่ admission.kmutt.ac.th

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://sfa.kmutt.ac.th/ทุน-active-recruitment/#

Page 29

หลักสูตร ค.อ.ม.

บทที่ 3 อยากเรียน... เริ่มอย่างไร

CHECK LIST CHECK LIST

CHECK CHECK LIST LIST CHECK CHECK เตรียมเอกสาร LIST LIST

CHECK LIST CHECK LIST

CHECK LIST CHECK LIST CHECK LIST

CHECK CHECK ใบรับรองนักศึกษา และ/หรือ LIST LIST ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) CHECK CHECK สำ�เนาใบชำ�ระเงิน LIST LIST รูปถ่ายขนาด 3x4 ซม. จำ�นวน 1 รูป CHECK CHECK หนังสือรับรอง บศ.2 จำ�นวน 2 ท่าน LIST LIST (รับรองโดยอาจารย์ผู้เคยสอน 2 ท่าน

CHECK LIST CHECK LIST CHECK LIST

ใบสมัคร (Application form)

Page 30

CHECK CHECK CHECK CHECK LIST LIST LIST LIST หรือผู้บังคับบัญชาในสายงาน ของผู้สมัคร 2 ท่าน หรืออย่างละท่าน) อื่นๆ ตามความต้องการที่ ได้แจ้งไว้ ของแต่ละสาขา

CHECK CHECK CHECK CHECK LIST LIST LIST LIST

Page 31

หลักสูตร ค.อ.ม.

ขั้นตอนการสมัครเข้าศึกษ

STEP 1 เข้าสู่เว็บไซต์ http://admission.kmutt.ac.th

STEP 2 กรอกใบสมัคร ให้ถูกต้องครบถ้วน

p f

d k = r

m

STEP 7 ประกาศผลสอบคัดเลือกทางเว็บไซต์

COMPLETE

Page 32

ษาต่อในระดับปริญญาโท STEP 3 พิมพ์ ใบชำ�ระเงิน นำ�ไปชำ�ระเงินที่ ธนาคาร กรุงเทพ / ธนาคารกรุงไทย / ธนาคาร กรุงศรีอยุธยาฯ / ธนาคารไทยพาณิชย์ / ธนาคารกสิกรไทย / ธนาคารทหารไทย

STEP 4 ส่งหลักฐานการสมัคร (ออนไลน์ / ด้วยตนเอง / ทางไปรษณีย์)

STEP 6 สอบข้อเขียน/สัมภาษณ์

STEP 5 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ข้อเขียน/สัมภาษณ์ทางเว็บไซต์ ไปรษณีย์)

Page 33

หลักสูตร ค.อ.ม.

สอบถามเพิ่มเติม สำ�นักงานคัดเลือกและสรรหานักศึกษา (Admission and Recruitment Office) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อาคารสำ�นักงานอธิการบดี ชั้น 2 เวลาทำ�การ: วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 น. - 16.30 น. โทรศัพท์: 0-2470-8333 โทรสาร: 0-2470-8367 เว็บไซต์: https://admission.kmutt.ac.th/ อีเมล์: admission@kmutt.ac.th สอบถามข้อมูล: https://www.facebook.com/KMUTT2ADMISSION

Page 34

สอบถามภาควิชา ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ชั้น 9 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

เพจ Facebook : ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

เว็บไซต์ชั่วคราว : https://sites.google.com/view/ect-kmutt?fbclid=IwAR0qAihIjgyWe20UzCmYDI-Cv5Ty78j3vB8JKzvVYA6bnVIZRGAiC6oXE80

โทร.02-4708565-6 โทรสาร.02-4708561 อีเมล์ : kmutt.ect@gmail.com

Page 35

หลักสูตร ค.อ.ม.

บทที่ 4 How to แต่งกายอย่างไร?

Page 36

TEST

การแต่งกายในการเข้าสอบ ผม : ควรมัดรวบ หรือจัดทรงให้ เรียบร้อย สีสุภาพ

เสื้อสูท : สีดำ�หรือสีกรมท่า

ควรมีตรามหาวิทยาลัย หรือ เข็มกลัดติดบริเวณหน้าอก

เสื้อ : ควรเป็นเสื้อเชิ้ต หรือโปโลสีขาวด้านใน

กางเกง : กางเกงขายาว สีสุภาพ ไม่ยีนส์ ไม่วอร์ม ไม่สั้น ไม่รัด

รองเท้า : รองเท้าหุ้มส้นมิดชิด สีสุภาพ ทั้งนี้มารยาทในการแต่งกายขึ้นอยู่กับสถานที่และสถานการณ์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

Page 37

หลักสูตร ค.อ.ม.

MAN

การแต่งกายในการมาเรียน เสื้อ : ควรเป็นเสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล หรือ

เสื้อสุภาพ โดยไม่ควรใส่เสื้อยืด หรือ เสื้อแขนกุดมาเรียน เนื่องจากไม่ เหมาะสมและอาจทำ�ให้นักศึกษาหนาว

กางเกง : กางเกงขายาว สีสุภาพ ไม่ยีนส์ ไม่วอร์ม ไม่สั้น ไม่รัด

รองเท้า : รองเท้าผ้าใบ (งดกลิ่น) หรือ

รองเท้าหุ้มส้น สีสุภาพ ไม่แตะ ไม่เท้าเปล่า

Page 38

women

การแต่งกายในการมาเรียน

เสื้อ : เสื้อเชิ้ตสุภาพ คอปก หรือ

คอกลม ไม่ควรใส่คอวี หรือคอกว้าง หรือไม่ควรใส่เสื้อที่มองทะลุได้ หรือเสื้อรัดรูป

กางเกง : เช่นเดียวกัน

กับผู้ชาย เน้นความสุภาพ

กระโปรง : ควรเป็นกระโปรงความยาวเลย เข่าลงมา ไม่สั้น ไม่รัดรูป และควรมีกางเกง ซัพพอร์ตด้านในอีกชั้น

รองเท้า : รองเท้าสีสุภาพ ปิดปลายเท้า หรือหุ้มส้น

Page 39

หลักสูตร ค.อ.ม.

บทที่ 5 “ Will I be.... ”

Page 40

อาชีพที่สามารถประกอบได้ นักเทคโนโลยีการศึกษา

ครู/อาจารย์

นักวิจัยทางด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้ และการสื่อสารมวลชน นักพัฒนาสื่อ e-Learning นักฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นักพัฒนาสื่อ Application เพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร นักสื่อสารมวลชน / นักประชาสัมพันธ์ นักผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ นักพัฒนาสื่อเพื่อการเรียนรู้ หัวหน้าศูนย์/เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ในแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้

Page 41

หลักสูตร ค.อ.ม.

นักเทคโนโลยีการศึกษา นักวิจัยทางด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้และการสื่อสารมวลชน บทบาทของนักเทคโนโลยีการศึกษา เดล (Dale 1946 : 485-486) ได้กล่าวถึงบทบาทของ งานบริหารของนักเทคโนโลยีการศึกษา ที่ท�ำ หน้าที่ เป็นหัวหน้าศูนย์โสตทัศนศึกษา ไว้ดังนี้

1. ศึกษาการขยายตัวของงานบริการโดยวิเคราะห์ความต้องการต่างๆ ของผู้ใช้และประเมินผล 2. ท�ำรายงานการคาดการณ์ต่างๆ เสนอต่อหัวหน้าหน่วยงานที่สูงขึ้นไป 3. จัดท�ำคู่มือการนิเทศ แคตตาล็อกและวิธีการใช้โสตทัศนูปกรณ์ต่างๆกับ บทเรียน 4. จัดวางกฏ ระเบียบ ในการยืม รับคืน แจกจ่ายหมุนเวียนโสตทัศนูปกรณ์ 5. จัดเตรียมการจัดนิทรรศการ 6. เสริ ม สร้ า งความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งศู น ย์ โ สตทั ศ นู ป กรณ์ กั บ ชุ ม ชน เช่น พิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงงานศิลป์ โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น 7. เสนอข่าวสารใหม่ๆ แก่คณาจารย์ เช่น วัสดุใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆ และเทคโนโลยี ใ หม่ ๆ ในวงการศึ ก ษาที่ ดี และเป็ น ผู ้ มี จิ ต ใจที่ พ ร้ อ มจะ เป็นผู้ให้บริการ

Page 42

บทบาทในฐานะบุคลกรประจ�ำศูนย์โสตทัศนศึกษา ชัย ยงค์ (2523 : 40) ได้กล่าวไว้วา่ บทบาทของนักเทคโนโลยีการ ศึกษาจะอยู่ที่การช่วยก�ำหนดระบบ การวางแผนการผลิต และการใช้สื่อการสอน และพิจารณาคุณภาพของเนื้อหา และประสบการณ์ ที่จะถ่ายทอดไปให้แก่ผู้เรียน เพื่อที่จะให้ ผู้เรียนรับความรู้ ได้มากที่สุด นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น แล้ว บทบาทของนักเทคโนโลยีการศึกษาควรจะเป็นผูน้ ำ� ทาง ความคิดเกีย่ วกับการ น�ำเทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม มาใช้ในโรงเรียน หน่วยงานและชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคิดในเชิงระบบ เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์

บทบาทของนักเทคโนโลยีการศึกษาดังกล่าว มิ ใช่สูตรส�ำเร็จของการเป็นนักเทคโนโลยีการศึกษาที่พึง ประสงค์เท่านั้น การแสวงหาความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อน�ำมาประยุกต์ ใช้ก็ย่อมมีความจ�ำเป็น เช่นกันบทบาทของนักเทคโนโลยีการศึกษาคงจะไม่จ�ำกัดเฉพาะในโรงเรียนหรือสถานศึกษาเท่านั้น การ พัฒนาการศึกษาในองค์รวมระดับชาติ จ�ำเป็นต้องมีนักการศึกษาที่หลากหลายสาขาวิชา เพื่อร่วมกันขับ เคลื่อน จึงจะท�ำให้การศึกษาของชาติประสบผลส�ำเร็จ นักเทคโนโลยีการศึกษาจึงควรมีส่วนร่วมในการ ก�ำหนดนโยบายและกระบวนการในการจัดการเรียนการสอนและกระบวนการเรียนรู้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.kroobannok.com/134 (ครูบ้านนอก.คอม)

Page 43

หลักสูตร ค.อ.ม.

ครู / อาจารย์ เด็กๆทุกคนมีความแตกต่างกัน เป้าหมายของการเป็นครูคอื ท�ำอย่างไรให้ความแตกต่างนี้ สามารถอยูร่ ว่ ม กันในสังคมได้ ประสบความส�ำเร็จในชีวิต มีแนวความคิดที่ดี และมีอาชีพการงานที่ดีต่อไปในอนาคต โดย ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นเด็กที่เรียนเก่งเท่านั้น เด็กๆทุกคนก็สามารถมีชีวิตที่ดี ได้ ถ้าเลือกแนวทางที่ถูกต้องของ ตัวเอง ครูจึงมีหน้าที่ ชี้แนะแนวทางเหล่านั้นตามความถนัดและความชอบของนักเรียน

บุคลิก นิสัยของคนที่เหมาะจะท�ำอาชีพนี้ 1. เป็นคนใจเย็น เพราะต้องอยู่กับเด็กๆตลอดเวลา ในบางครั้งที่ต้องดุหรือ เตือนเด็กๆ ก็ควรใช้เหตุผลเพื่ออธิบายให้เด็กเข้าใจในเรื่องนั้นๆ 2. รักในการสอน ไม่หวงวิชา และมีความสุขในการได้ถ่ายทอดความรู้ให้ นักเรียน 3. มีความรับผิดชอบในอาชีพ ครูแทบจะไม่มีวันหยุด เพราะการลาหยุด หนึ่งครั้งส่งผลต่อการเรียนของนักเรียน 4. เป็นคนจิตใจดี มีการดูแลเอาใจใส่เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน 5. เป็นคนมีประสบการณ์ ในหลายๆด้าน ในการบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาก หรือประสบการณ์ชีวิตให้เด็กๆฟัง เพื่อเป็นแนวทางที่ดีให้กับเด็กๆ 6. มีความรู้ความช�ำนาญในวิชาที่จะสอน มีการคิดค้นเทคนิคให้เข้าใจในวิ ชานั้นๆได้ง่ายขึ้น สามารถพัฒนาความสามารถของเด็กให้ดีขึ้นได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://sites.google.com/site/webnasenxxachiphkhru/khru-xachiph-laea-xachiph-khru

Page 44

นักฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เจ้าหน้าทีฝ่ กึ อบรม คือ ผูท้ ำ� หน้าที่ในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและ ทัศนคติที่ดีค่องค์กร หลักสูตรเทคนิคการเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรม หรือ หลักสูตร TO (Training Officer) จึงเป็นการอบรมเพื่อให้องค์ความรู้ในวิชาชีพของการเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมที่ดี หรือ Training Officer เพื่อให้มีคุณสมบัติเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมและการเป็นเจ้าหน้าที่พัฒนาทรัพยากรบุคคล หรือ HRD Officer ที่ดี ให้ความรู้ในการเป็น เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมมืออาชีพ เข้าใจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมและพัฒนา การ จัดท�ำโครงการฝึกอบรม การหาความจ�ำเป็นในการฝึกอบรม การจัดท�ำหลักสูตร การประสานงาน การ จัดฝึกอบรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามกระบวนการฝึกอบรม (Training & HRD Process) เพื่อ ให้สามารถด�ำเนินการจัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานให้เป็นบุคลากรตามวัตถุประสงค์ของ แผนการฝึกอบรมในหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.xn--12c7b7afq2el.net/index.php/using-course/exten/mod/uti-mod/syndi

Page 45

หลักสูตร ค.อ.ม.

นักพัฒนาสื่อ e-Learning นักพัฒนาสื่อ Application เพื่อการเรียนรู้และการสื่อสาร นักพัฒนาสื่อเพื่อการเรียน ในศตวรรษที่ 21 มีการเปลี่ยนแปลงบทบาทของการศึกษา โดยพบว่ามีบทบาทที่ส�ำคัญ 4 ด้าน คือ 1. บทบาทเพื่อการท�ำงานและเพื่อสังคม โดยมีบทบาทต่อสารสนเทศของโลกและการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสนองต่อความต้องการและการแก้ปัญหา รวมถึงบทบาทในเศรษฐกิจโลก 2. บทบาทเพือ่ ฝึกฝนสติปญ ั ญาของตนเอง มีการพัฒนาตนเองด้วยความรูผ้ า่ นเทคโนโลยี การได้รบั ผลจาก การท�ำงานบนฐานความรู้ และท�ำให้ผู้ประกอบการมีการขยายตัวแล้วสามารถเชื่อมโยงไปทั่วโลก โดยมีการ ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมืออ�ำนวยความสะดวกในเรียนรู้ตลอดชีวิต 3. บทบาทเพือ่ ท�ำหน้าทีพ ่ ลเมือง โดยมีสว่ นร่วมในการตัดสินใจของชุมชนและทางการเมืองผ่านทางออนไลน์ และเข้าร่วมกิจกรรมของโลกผ่านทางชุมชนออนไลน์และเครือข่ายสังคม 4. บทบาทเพื่อสืบทอดจารีตและคุณค่า เกิดการเรียนรู้ความรู้ในสาขาอย่างรวดเร็วและประยุกต์ ใช้หลัก วิชาการข้ามสาขาเพื่อสร้างความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ และการสร้างเอกลักษณ์ของตนเองจากจารีต วัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายรวมทั้งเคารพจารีตและวัฒนธรรมอื่นๆ

จากบทบาทการศึกษาทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป ท�ำให้พบว่าบทบาทของสือ่ และเทคโนโลยีมคี วามส�ำคัญต่อการจัดการ เรียนการสอนสมัยใหม่และในชีวิตประจ�ำวัน ซึ่งในด้านการพัฒนาการศึกษาของไทย ถือได้ว่าการพัฒนา สื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาเพื่อการเรียนการสอนเป็นสิ่งส�ำคัญต่อการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้น กระบวนการเรียนรู้ในปัจจุบนั เป็นการเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนสามารถเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ตามศักยภาพของตนเอง และความสะดวกของตนเองสามารถสร้างสถานการณ์จริง ซึ่งจากประสบการณ์ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์กับสื่อท�ำให้เกิดการเรียนรู้ด้วย

Page 46

สื่อการเรียนการสอน หมายถึงสิ่งต่างๆ ที่ผู้สอนและผู้เรียนน�ำมาใช้ในระบบการเรียนการสอนเพื่อช่วยให้ผู้ เรียนเกิดการเรียนรูต้ ามจุดประสงค์การเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึน้ โดยสือ่ อาจมีหลายรูป แบบทีแ่ ตกต่างกันอย่างเช่น วัสดุการเรียนการสอนทีเ่ ป็นสิง่ ต่างๆทีเ่ ป็นชิน้ หรือเป็นอันน�ำมาใช้ในการเรียนการ สอน และโสตทัศนวัสดุที่เป็นวัสดุ อุปกรณ์และกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นมาเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสาท สัมผัส ดังนั้น สามารถจ�ำแนกประเภทของสื่อการเรียนการสอนออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. สื่อประเภทวัสดุ ได้แก่ สไลด์ แผ่นใส เอกสาร ต�ำรา สารเคมี สิ่งพิมพ์ต่างๆ และคู่มือการฝึกปฏิบัติ 2. สื่อประเภทอุปกรณ์ ได้แก่ของจริง หุ่นจ�ำลอง เครื่องเล่นเทปเสียง เครื่องเล่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายแผ่นใส อุปกรณ์และเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ 3. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ ได้แก่ การสาธิต การอภิปรายกลุ่ม การฝึกปฏิบัติ การฝึกงาน การจัด นิทรรศการ และสถานการณ์จ�ำลอง 4. สื่อประเภทคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การน�ำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer presentation) การใช้ Intranet และ Internet เพือ่ การสือ่ สาร(Electronic mail: E-mail) และการใช้ WWW (World Wide Web)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://sites.google.com/site/websitessthid/kar-phathna-sux-laea-thekhnoloyi-thangkar-suksa

Page 47

หลักสูตร ค.อ.ม.

นักสื่อสารมวลชน / นักประชาสัมพันธ์

การท�ำงานของนักประชาสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่วางแผน และด�ำเนินการประชาสัมพันธ์ ทั้งภายใน และ ภายนอก องค์กร เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ด้วยการเผยแพร่ ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ และจัดท�ำสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น ข่าวสารประชาสัมพันธ์ บทความ ภาพถ่าย วิดโี อ และสไลด์ รวมถึงบทความสัมภาษณ์ผบู้ ริหาร หรือบุคคล พิเศษในโอกาสพิเศษ ซึ่งรวมถึงการเผยแพร่กิจกรรมพิเศษเพื่อสังคมต่างๆ หน้าที่ความรับผิดชอบของนักประชาสัมพันธ์ – จัดท�ำสื่อประชาสัมพันธ์ภายนอก และภายใน – ศึกษานโยบาย เป้าหมาย และพันธกิจของหน่วยงาน เพื่อน�ำข้อมูลมาใช้ในการ วางแผน และด�ำเนินงาน – จัดท�ำสือ่ ทีเ่ หมาะสม ประกอบข้อมูลทีถ่ กู ต้อง และน่าสนใจเพือ่ สร้างความน่าสนใจ ให้กับการประชาสัมพันธ์ – ประชาสัมพันธ์ ให้ ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจด้วยแผ่นพับ ใบปลิว ติดบอร์ด หรือ ผ่าน สื่อมวลชนต่าง ๆ – จัดเก็บข้อมูลจากการประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมา – พิจารณา ประเมินผลการท�ำงาน และรายงานผลสรุปข้อมูล – หากเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานทีน่ นั้ ๆ อาจจะต้องเตรียมข้อมูลส�ำหรับการ สอบถามจากลูกค้า ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://th.jobsdb.com/th-th/articles/งานประชาสัมพันธ์ท�ำอะไร/

Page 48

ลักษณะของสื่อมวลชน ซึ่งใช้เป็นสื่อสารมวลชนนั้น มีลักษณะดังต่อไปนี้คือ (Roger & Shoemaker, 1971, p. 252) 1. สามารถเข้าถึงผู้รับสารจ�ำนวนมาก 2. ความรวดเร็วในการสื่อสารกับคนจ�ำนวนมาก 3. บรรจุเนื้อหาหลากหลาย 4. น�ำสารไปสู่ประสาทสัมผัสของผู้รับสารได้จ�ำกัด 5. ได้รับการสื่อสารกลับที่จ�ำกัด 6. เป็นการสื่อสารทางเดียว 7. ความถูกต้องของสารมีมาก 8. ไม่สามารถเลือกผู้รับสารได้ 9. ประสิทธิผลของการสื่อสารมีอยู่จ�ำกัด 10. การไม่สามารถก�ำจัดการเลือกของผู้รับสาร 11. การให้ข่าวสารความรู้สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือพฤติกรรมของผู้รับสาร