日本留学 ¤Ù‹Á×Í¡ÒÃÈÖ¡ÉÒµ‹Í»ÃÐà·ÈÞÕ่»Ø†¹
ปลดปล อยจ�นตนาการ สร างสรรค งานแฟชั่น
ห อมล อมด วยบรรยากาศนานาชาติ เร�ยนรู ภาษาญี่ปุ นอย างมีสไตล มุ งศึกษาต อในระดับมหาว�ทยาลัย บัณฑิตว�ทยาลัย และ ว�ทยาลัยว�ชาชีพ โดยศึกษาภาษาญี่ปุ นในหลักสูตรที่เน นการฝ ก ทั้ง 4 ทักษะ(การอ าน การฟ�ง การพ�ดและการเข�ยน) อย างสมดุล โรงเร�ยนก อตั้งข�้นในเดือนเมษายนป ค.ศ.1980 ในแต ละป จะมีนักเร�ยนจากชาติต างๆ ทั้งทว�ปเอเชีย แอฟร�กา อเมร�กาใต และอื่นๆเข าศึกษา ได รับการยอมรับในระดับสูงในฐานะที่เป นองค กรที่มี ประสิทธิภาพด านการศึกษาภาษาญี่ปุ น และในเดือนเมษายนป นี้ มีนักเร�ยน ต างชาติเข าศึกษาทั้งหมด 37 ชาติด วยกัน ในภาคว�ชาภาษาญี่ปุ นนั้น จะมีหลักสูตรที่เน นการฝ กทักษะการอ าน การฟ�ง การพ�ด และการเข�ยน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีหลักสูตรภาษาญี่ปุ นเพ�่อศึกษาต อ โดยสอนตั้งแต ระดับพ�้นฐานจนถึงระดับที่สามารถนำไปใช จร�งได ที่จบการศึกษาที่ สิทธิพ�เศษ ในกรณี Bunka Institute of Language แล ว เข าศึกษาต อที่ Bunka Fashion College
ลดค าสมัครสอบคร�่งราคา 33,000 เยน 16,500 เยน ลดค าแรกเข า 120,000 เยน
JASSO 日本学生支援機構 องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น
日本は、アジアの一番東にある島国で、最先端技術と伝統文化
が融合した世界の経済大国であることはよく知られています。日本の 皇室とタイの王室とは、古くから親密な関係を築いていることもあり、 日本とタイは様々な分野で盛んに交流が行われています。タイ国内 には日本製の自動車、家電製品、食品などが溢れ、また、日本料理の レストランも賑わうなど、タイのみなさんにとって「日本」という国 は身近な存在ではないでしょうか?
日本の高等教育機関で勉強するタイ人留学生は、2013年5月1日
現在、2,383名で、世界中で7番目に日本への留学生が多い国となって います。また、日本の大学とタイの大学との交流協定等により、タイ の高等教育機関に約1,900名の日本人学生が留学するなど日本人学生 の留学先国としても人気があり、教育の分野でも交流が盛んです。
日本には質が高く多様で豊富な教育機関があります。日本語教
育機関では日本語を学ぶことができるし、大学院、大学、専門学校 などの高等教育機関では、様々な分野で最先端の教育を受けることが できます。最近、世界各国でブームとなっている、日本のマンガ、 アニメ、料理などについても専門に学ぶことができます。
さらに、伝統に基づく文化と現代的な文化の両方を体験できる
など、留学先として選択するのに十分な魅力を備えており、多くの 先輩方も日本への留学に満足しています。きっとあなたの希望に沿っ た学校が見つかることと思いますので、留学先として日本を選んで みませんか。
日本学生支援機構(JASSO)では、バンコクにある事務所で、
学校選択や留学手続きの方法など、日本留学に関する様々な情報提供 や留学相談を行っています。事務所への来訪以外にも、Eメールや 電話でも質問や相談に対応しており、Facebookでは日本の大学の奨学 金など様々な情報を発信していますので、ぜひ一度、利用して みてください。
また、JASSOでは日本留学フェアを実施しています。日本留学
フェアには日本の学校が数多く参加し、日本留学希望者に対して情報 提供や個別相談を行います。2014年は、8月29日(金)にチェンマイ で、31日(日)にバンコクで実施します。日本の学校から直接、 最新かつ詳細な情報を得られる絶好の機会ですので、
ดังที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะซึ่งอยู่สุดด้านตะวันออกของทวีป เอเชีย และยังเป็นประเทศมหาอ�ำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งผสมผสาน ระหว่างวัฒนธรรมเก่าแก่และเทคโนโลยีอันล�้ำสมัยได้อย่างลงตัว ประเทศ ญี่ปุ่นกับประเทศไทยด�ำรงสัมพันธภาพอันดีต่อกันระหว่างราชวงศ์ญี่ปุ่นและ ราชวงศ์ไทยมาช้านานตั้งแต่สมัยอดีตกาล ทั้งยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนความ สัมพันธ์กันอีกหลายด้านด้วยกัน อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นยังถือว่าเป็นประเทศที่ ใกล้ชิดกับการด�ำเนินชีวิตของคนไทย ดังที่จะสามารถพบเห็นร้านอาหาร ญี่ปุ่น หรือ ผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่น อาทิ สินค้าบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้าและ รถยนต์ เป็นต้น จากผลส�ำรวจเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 นักศึกษาไทยที่ศึกษาใน มหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาระดับสูงในประเทศญี่ปุ่น มีจ�ำนวน 2,383 คน นับว่าเป็นประเทศที่มีนักศึกษามาศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ ที่ 7 นอกจากนั้นแล้ว ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นและไทย ท�ำให้มีนักศึกษาญี่ปุ่นมาศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของไทยปีละประมาณ 1,900 คน ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่นักศึกษาญี่ปุ่นนิยมมาศึกษาต่อ รวมทั้งมี การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาจ�ำนวนมาก การศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว นักเรียน ต่างชาติยังสามารถศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หลากหลายสาขาวิชาในสถาบัน การศึกษาระดับสูง เช่น มหาวิทยาลัย บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษา ได้ดว้ ย อีกทัง้ ในปัจจุบนั การศึกษาหลักสูตรวิชาชีพทัง้ ด้านการ์ตนู อนิเมชัน่ หรือ ท�ำอาหาร ก�ำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลกเช่นกัน นอกจาก สถาบันการศึกษาที่เพียบพร้อมแล้ว ยังสามารถเรียนรู้ ทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่สืบทอดต่อกันมาและวัฒนธรรมสมัยใหม่ไปพร้อมกันได้อีกด้วย นักเรียนที่ จบการศึกษาจ�ำนวนมาก กลับไปด้วยความพึงพอใจ เรามั่นใจว่าท่านจะได้ พบโรงเรียนที่ตรงความต้องการของท่านอย่างแน่นอน เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เลือกไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นกันดีไหม องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญีป่ นุ่ (JASSO) มีสำ� นักงานตัง้ อยูท่ ี่ กรุงเทพมหานคร มีวตั ถุประสงค์เพือ่ สนับสนุนและส่งเสริมนักศึกษาต่างชาติที่ ต้องการไปศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยการให้ข้อมูลและค�ำปรึกษาด้าน ต่างๆ เช่น การเลือกสถาบันการศึกษา ขั้นตอนการเตรียมตัวไปศึกษาต่อ เป็นต้น สามารถสอบถามได้ทั้งทางอีเมล์ โทรศัพท์ มาปรึกษาโดยตรงที่ ส�ำนักงาน หรือรับข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อญี่ปุ่น อาทิ ข้อมูลทุนการศึกษา ต่างๆ ได้จาก Facebook ทั้งนี้ องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO) ก�ำลังจะจัด งานแนะแนวการศึกษาขึ้น โดยมีสถาบันการศึกษาจ�ำนวนมากเข้าร่วมงาน ผู้ สนใจศึกษาต่อสามารถรับข้อมูลและสอบถามได้เป็นรายบุคคล งานจะจัดขึ้น ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2557 ที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2557 ที่กรุงเทพฯ ขอให้มางานนี้เพราะถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ ปรึกษาและสอบถามข้อมูลโดยตรงจากทางสถาบันของญี่ปุ่น
ぜひご来場ください。
JAPAN STUDENT SERVICES ORGANIZATION องค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น กรุงเทพฯ 159 อาคารเสริมมิตรชั้น10 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 เปิดทำ�การจันทร์ ถึง ศุกร์ เวลา 9.00-11.30น./12.30-17.00น. โทร./แฟกซ์: 02-661-7057, 02-661-7058 อีเมล์: info@jeic-bangkok.org เว็บไซต์: www.jeic-bangkok.org Facebook: https://www.facebook.com/JASSO.Thailand
ʶҺѹÊ͹ÀÒÉÒÞÕ่»Ø†¹ - Èٹ á¹Ðá¹ÇÈÖ¡ÉÒµ‹Í»ÃÐà·ÈÞÕ่»Ø†¹ à¨àÍ็´´ÙपÑ่¹ / ºÃÔÉÑ·¨Ñ´ËÒ§Ò¹ à¨á¤àÃÕÂà à«Íà ÇÔÊ ¨Ó¡Ñ´
ÊÒ¢ÒÊÕÅÁ: 287 ÍÒ¤ÒÃÅÔàºÍà µÕ้Êá¤Çà ªÑ้¹ 23 ˌͧ 2303 ¶.ÊÕÅÁ á¢Ç§ÊÕÅÁ ࢵºÒ§ÃÑ¡ ¡ÃØ§à·¾Ï 10500 (ʶҹÕö俿‡Ò BTS ÈÒÅÒá´§) ÊÒ¢ÒÍâÈ¡: 2 ÍÒ¤ÒèÑÊÁÔ¹«ÔµÕ้ ªÑ้¹ 27 áÅÐ 28 «.ÊØ¢ØÁÇÔ· 23 ¶.ÊØ¢ØÁÇÔ· á¢Ç§¤ÅͧàµÂà˹×Í à¢µÇѲ¹Ò ¡ÃØ§à·¾Ï 10110 (ʶҹÕö俿‡Ò BTS ÍâÈ¡) â·Ã 02-267-7726 â·ÃÊÒà 02-631-2040 : E-mail ask@jeducation.com
6
JEDUCATION CENTER
เป็นสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรสอนภาษา ญี่ปุ่นให้กับนักเรียนต่างชาติมาโดยเฉพาะ การเรียนการสอนเน้นทักษะทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การเขียน และการอ่าน เพื่อให้นักเรียน สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งบรรยากาศและสถานที่ยังเอื้อต่อการเรียนรู้ และยังมีสื่อการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นต่างๆ เช่น นิตยสาร การ์ตูน รายการทีวีญี่ปุ่น ที่เตรียมไว้ให้นักเรียนได้ใช้เพื่อพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะอีกด้วย
JEDUCATION CENTER
日本語を勉強して良かったと思って もらえるよう、一生懸命お手伝いします。
日本語勉強したい人、Jセンターに 集まれー! !
ถ้าคิดจะเรียนภาษาญี่ปุ่น แล้วล่ะก็ เราจะช่วยคุณอย่างเต็มที่ Fujikawa Sensei
ใครที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมา เรียนที่ Jcenter เลย!! Kato Sensei
寄り道しない人生に、出会いは訪れない! ! いろいろ学ぼう、大切な時間
日本語を勉強して、 あなたの世界を 広げよう。
ชีวิตที่ไม่เคยแวะข้างทางก็จะ ไม่มีการพบเจอสิ่งใหม่ๆ!! เรามาใช้เวลาที่มีค่าเรียนรู้สิ่งต่างๆ กันเถอะ Kitajima Sensei
การเรียนภาษาญี่ปุ่นจะท�ำให้โลก ของคุณเปิดกว้างขึ้น Okubo Sensei
上達へのかぎは勉強 だけじゃない! ! 好きなら伸ばそう。
人は鑑、たくさんの人に会って 自分をきたえよう。
กุญแจในการพัฒนาภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้มีแค่การท่องหนังสือเท่านั้น แค่มีความชอบก็สามารถพัฒนา Kubota Sensei
ผู้คนที่ได้พบเจอเปรียบเสมือน ภาพสะท้อน ที่ท�ำให้เรา แข็งแกร่งขึ้น Kobayashi Sensei
日本への扉、開けゴマ!
いつはじめるの?今でしょ! 一緒に楽しくにほんごを勉強しましょう。
“open se-sa-me !!“ ประตูสู่ญี่ปุ่น Sakamoto Sensei
จะเริ่มเมื่อไหร่ดีล่ะ? ก็ต้องตอนนี้สิ! มาสนุกกับการเรียน ภาษาญี่ปุ่นด้วยกันเถอะ Watabe Sensei
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jeducation Center
สาขาสีลม 287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2303 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 สาขาอโศก ชั้น 27 และ 28 อาคารจัสมินซิตี้ เลขที่ 2 ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร 02-267-7726 ต่อ 111-112
JEDUCATION CENTER
7
บรรยากาศการเรียนการสอน ในชั่วโมงเรียนนั้นอาจารย์จะเน้นสอนทักษะทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การเขียน และการอ่าน นอกจากการเรียนไวยากรณ์ในหนังสือเรียนแล้ว ในชั้นเรียนยังเน้นการสนทนาเพื่อให้นักเรียนสามารถพูดและฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมเสริมพิเศษ
Jeducation Center มีกิจกรรมเสริมพิเศษส�ำหรับนักเรียนทุกเดือน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง และยังมีกิจกรรม Exchange Corner เป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนญี่ปุ่น เพื่อให้นักเรียนได้พบปะ พูดคุยกับชาวญี่ปุ่นจริงๆอย่างใกล้ชิด
8
คุณเต๋า นักศึกษา
JEDUCATION CENTER
คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับต้น Basic 1 การเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นที่นี่ท�ำให้สามารถฟังและเขียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นได้ ชอบการสอน ของที่นี่มากครับ ถึงแม้ว่าเวลาจะสอนด้วยภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น เราก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่ อาจารย์สอนได้ครับ และสามารถน�ำไปพัฒนาในระดับชั้นที่สูงขึ้นไปได้
คุณน้ำหวาน นักศึกษา คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับกลาง Intermediate 2 สิ่งที่ได้จากการเรียนภาษาญี่ปุ่นที่นี่คือ ท�ำให้เรากล้าพูดภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นค่ะ เพราะเรียนกับ อาจารย์ชาวญี่ปุ่นทุกชั่วโมง และยังได้เรียนรู้การใช้ชีวิตและมารยาทในประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ เพื่อนๆในห้องก็เป็นกันเองดีค่ะ คอยพูดคุยช่วยเหลือกันในเรื่องเรียนเป็นอย่างดีค่ะ
คุณหน่อย
Marketing Consultant
คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับเตรียมสูง Pre Advance 4 การเรียนภาษาญี่ปุ่นที่นี่ ท�ำให้เราได้รับความรู้เพิ่มเติมนอกจากบทเรียน ถ้าเราไม่เข้าใจหรือ อยากถามอะไรเพิ่มเติม สามารถถามอาจารย์ได้เลย การได้เรียนกับเจ้าของภาษาทุกวันท�ำให้ เราชินกับส�ำเนียงของชาวญี่ปุ่น ทั้งการฟังและการพูด ท�ำให้เราใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเป็น ธรรมชาติขึ้นค่ะ
คุณอาร์ม นักศึกษา คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นหลักสูตรเร่งรัดเพื่อการท�ำงาน เรียนภาษาญี่ปุ่นที่นี่ดีครับ โดยเฉพาะการได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นในห้องเรียนกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นไวยากรณ์ ค�ำศัพท์ การสนทนา อีกทั้งอาจารย์ผู้สอนยังกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ใช้ ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
คุณนนท์, คุณอั้ม ได้รับเลือกให้ท�ำงานในบริษัท ( Toyo Ink ) ที่ประเทศญี่ปุ่น คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นหลักสูตรเร่งรัดเพื่อการศึกษาต่อ คอร์สเรียนที่นี่ได้สนทนากับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นทุกชั่วโมง จึงท�ำให้เราได้ฝึกทักษะการฟังและการ พูดเสมอๆ อีกทั้งยังเน้นค�ำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน นอกจากนี้ยังสอนเรื่องการใช้ค�ำให้ เหมาะสมกับผู้พูดด้วยว่าควรสื่อสารแบบไหนกับใคร
ศึกษาต่อ ณ ประเทศญี่ปุ่น 本気留学
9 มุ่งมั่น...สู่ความส�ำเร็จที่แตกต่าง ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น Jeducation ให้บริการแนะแนว การศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นที่ครบวงจร โดยให้ความส�ำคัญกับเป้าหมาย ของนักเรียนแต่ละคนที่มีความสนใจ มุ่งหวังและสร้างฝันที่แตกต่าง เพื่อให้ทุกคนได้ค้นหาตัวตนของตนเอง และได้รับข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อการเลือกเส้นทางสู่อนาคตอย่างมีทิศทาง
แนะแนวการศึกษา แนะแนวการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นทุกระดับ เช่น หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น มัธยมปลาย วิทยาลัยอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย เป็นต้นซึ่ง การแนะแนวจะค�ำนึงถึงความ ต้องการ และจุดมุ่งหมายของผู้เรียนเป็นหลัก โดยมีข้อมูล และเอกสารต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ประสานงานการศึกษา บริการติดต่อสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่นด�ำเนินการสมัครเรียนช่วยประสานงาน และติดตามผลในทุกขั้นตอน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการใด ๆ และ จัดการสอบเข้าศึกษาต่อญี่ปุ่นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย วิทยาลัยอาชีว-ศึกษา และมหาวิทยาลัย ที่มีการจัดสอบในประเทศไทยโดยไม่ต้องเดินทางไปสอบที่ญี่ปุ่น ข้อมูลและการบริการพร้อมสรรพ ส�ำหรับการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น - ให้ค�ำแนะน�ำการจัดเตรียมเอกสารเพื่อขอวีซ่า - จัดหาที่พักตามความต้องการ เช่น พักกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น (Homestay) หอพักหรืออพาร์ทเมนท์ - จองตั๋วเครื่องบินราคานักเรียน และบริการอื่น ๆ ที่จ�ำเป็น เช่น การท�ำ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุการเดินทาง และการรับ ส่งที่สนามบินที่ญี่ปุ่น - จัดปฐมนิเทศก่อนเดินทางให้ค�ำแนะน�ำในการเตรียมความพร้อมก่อนการ เดินทาง และการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น พร้อมแจกคู่มือการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นที่จัดท�ำ ขึ้นส�ำหรับนักเรียนเจเอ็ดดูเคชั่นโดยเฉพาะ - ประสานงานระหว่างผู้ปกครองและสถาบันการศึกษา เพื่อให้เกิด ความไว้วางใจในขณะที่นักเรียนศึกษาอยู่ที่ญี่ปุ่น จัดหางานหลากหลาย ต�ำแหน่งส�ำหรับผู้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่น โดย JCareer Recruitment
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น สาขาสีลม 287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2303 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 สาขาอโศก 2 อาคารจัสมินซิตี้ ชั้น 27 และ 28 ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์: 02-267-7726 ต่อ 101 – 104 แฟกซ์: 02-631-2040 Website : www.jeducation.com Email : ask@jeducation.com เวลาท�ำการ วันจันทร์ – เสาร์ เวลา 9:00 – 18:00 น. สมาชิกสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติ Thai International Education Consultants Association (TIECA)
JEDUCATION
JEDUCATION
10
ข้อดีในการสมัครเรียนกับ JEDUCATION การติดต่อกับสถาบันการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถติดต่อได้โดยตรงหรือให้เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทนในการติดต่อให้โดยเจเอ็ดดูเคชั่นเป็น ส�ำนักงานตัวแทนอย่างเป็นทางการของสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นกว่า 30 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยท�ำหน้าที่แนะแนวศึกษาต่อและประสานงานกับ ทางสถาบันที่ญี่ปุ่นให้กับนักเรียน และยังมีบริการเสริมต่างๆให้อีกด้วย การติดต่อผ่านเจเอ็ดดูเคชั่นจะต่างจากการติดต่อสถาบันเองโดยตรง อย่างไร เรามาลองดูตารางด้านล่างกันเลยดีกว่าค่ะ
JEDUCATION
ติดต่อผ่านเจเอ็ดดูเคชั่น
ติดต่อเอง
- เจเอ็ดดูเคชั่นเป็นตัวแทนของสถาบันสอนภาษาที่ญี่ปุ่น จึงมีข้อมูลที่ครบถ้วนและอัพเดท เนื่องจากมีการติดต่อกับทาง สถาบันตลอดเวลา และเจ้าหน้าที่ได้ไปดูสถาบันเองโดยตรงถึง ญี่ปุ่น และหากนักเรียนข้อสงสัยเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สามารถ สอบถามกับทางสถาบันให้ได้โดยตรง
- ต้องค้นหาข้อมูลทางเว็บไซต์ สอบถามคนรู้จัก และตัดสินใจด้วย ตนเอง ซึ่งข้อมูลอาจจะไม่ครบถ้วน ไม่อัพเดท ในกรณีที่ต้องการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ต้องติดต่อกับสถาบันซึ่งอาจจะไม่ได้รับ การติดต่อกลับหรือใช้เวลานาน
- เจ้าหน้าที่ของเจเอ็ดดูเคชั่นมีประสบการณ์ในการเรียนและ ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น สามารถให้ค�ำแนะน�ำและช่วยวางแผนระยะเวลา ในการเรียน โดยค�ำนึงถึงเป้าหมายทางการศึกษาและความ ต้องการของนักเรียนอย่างเหมาะสม - ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี เจเอ็ดดูเคชั่นสามารถให้ค�ำแนะน�ำ เกี่ยวกับการเตรียมเอกสารได้อย่างรอบคอบ มีการเตรียมใบสมัคร และตัวอย่างของแต่ละสถาบันไว้อย่างครบถ้วน อีกทั้งตรวจเช็ค ความถูกต้องอย่างละเอียดก่อนส่งไปญี่ปุ่น
- หากไม่มีคนรู้จักเคยเรียนที่ญี่ปุ่นอาจท�ำให้การตัดสินใจเลือก สถาบันค่อนข้างยาก ในกรณีที่จะศึกษาต่อระดับสูง หากวางแผน ระยะเวลาผิด ท�ำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ
- เจเอ็ดดูเคชั่นด�ำเนินการส่งเอกสารไปญี่ปุ่นให้โดยนักเรียนไม่ ต้องช�ำระค่าส่งเอกสารแต่อย่างใด
- ต้องช�ำระเงินค่าส่งเอกสารระหว่างประเทศเองหากเตรียม เอกสารประกอบการสมัครไม่ครบต้องส่งใหม่อีกหลายครั้ง (ค่าส่งเอกสาร ครั้งละประมาณ 700-1,500 บาท)
- นักเรียนสามารถช�ำระค่าสมัครเรียนของแต่ละสถาบันได้ ที่เจเอ็ดดูเคชั่น ท�ำให้ไม่ต้องเสียค่าโอนเงินระหว่างประเทศ - เมื่อกองตรวจคนเข้าเมืองประกาศผลเอกสารที่ยื่นไปแล้ว เจเอ็ดดูเคชั่นจะแจ้งผลให้กับนักเรียนทราบทันที พร้อมแนะน�ำ ขั้นตอนที่ต้องด�ำเนินการล�ำดับต่อๆไปอย่างละเอียดจนกระทั่ง ขอวีซ่าเสร็จเรียบร้อย - เจเอ็ดดูเคชั่นด�ำเนินการจองหอพัก จองตั๋วเครื่องบินที่เหมาะสม รวมถึงการประสานงานเที่ยวบินขากลับ
โอนเงินค่าสมัครผ่านธนาคารด้วยบริการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมการโอนเงินครั้งละ1,500-2,500 บาท
- เจเอ็ดดูเคชั่นจัดปฐมนิเทศเพื่อแนะน�ำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ผู้ปกครองเข้าฟังข้อมูลพร้อมกับนักเรียนท�ำให้มีความเข้าใจและ วางใจได้ว่าเจเอ็ดดูเคชั่นยังคงท�ำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง นักเรียน สถาบันและผู้ปกครองจนกระทั่งส�ำเร็จการศึกษา
- หากไม่เคยเดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศนานๆ จะไม่รู้ว่าควร เตรียมอะไรไปบ้าง อาจจะเสียเวลาไปกับการเตรียมตัวที่เปล่า ประโยชน์ และในระหว่างที่อยู่ที่ญี่ปุ่นหากมีปัญหาเกิดขึ้น ผู้ปกครองไม่รู้จะติดต่อประสานงานกับใคร
- การติดต่อขอใบสมัครจากสถาบันอาจใช้เวลานานแม้จะสามารถ สั่งพิมพ์ใบสมัครจากทางเว็บไซท์ แต่หากกรอกเอกสารผิดหรือ หรือเตรียมเอกสารประกอบการสมัครไม่ถูกต้องและขาดความ รอบคอบ อาจส่งผลต่อการพิจารณาขอใบพ�ำนักระยะยาวจากกอง ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น
- ต้องรอเช็คอีเมล์จากทางโรงเรียน รอใบแจ้งค่าเล่าเรียน และ เอกสารของหลายสถาบันเป็นภาษาญี่ปุ่น อาจท�ำให้ไม่เข้าใจ ขั้นตอนต่างๆที่จ�ำเป็นทั้งหมด - หากหาหอพักเอง อาจได้หอพักที่ไม่น่าไว้ใจ ข้อมูลไม่เพียงพอ และหากประสานงานกับทางสถาบันล่าช้า ยังไม่ทราบว่าต้องจอง สายการบินไหน วันและเวลาใด อาจท�ำให้จองช้าและตั๋วเครื่องบิน อาจจะเต็ม
JEDUCATION SUPPORT DESK IN JAPAN
11
こん にち は 、J e d u c a t i o n の 南 で す。 私 は 以 前 タイで 仕 事して い ました が 、 例 えば 、日 本 に 来 てわ からな いこと・・・ これ はどういう意 味 で す か?日 本 語 が 読 めませ ん!!とか 、 自 分 が 住 んで い る 地 区 の 市 役 所 はどこに ある の??・・・とか 、 そん な 生 活 情 報 を 教 えることから、 学 校 へ はちょっと言 い づらいことも 相 談 に のりますよ ! ! M a i l・L i n e で 、い つ で も 連 絡 で きるようにして い ます。 これ か ら日 本 に 来 る 学 生 さんも 安 心して 来 てくだ さ い ね 。 日 本 で 会 い ましょう! !
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อมินามิเป็นเจ้าหน้าที่ Jeducation ประจ�ำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูแลนักเรียนของ Jeducation ที่ญี่ปุ่นค่ะ ส�ำหรับนักเรียนที่เพิ่งเดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น อาจจะยังไม่เข้าใจภาษา ญี่ปุ่นดี เวลาไปพบเจออะไรที่ไม่เข้าใจความหมายหรือมีเรื่องที่ไม่รู้จะท�ำอย่างไรดีก็สามารถ สอบถามได้ ตัวอย่างเช่น ส�ำนักงานเขตที่เราต้องไปติดต่อเพื่อรายงานตัวหลังจากไปถึงประเทศ ญี่ปุ่นอยู่ที่ไหนกัน? บางเรื่องที่เราไม่กล้าพูดตรงๆกับโรงเรียนก็สามารถปรึกษาได้ หรือปรึกษา เรื่องการศึกษาต่อระดับสูง เช่น มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยวิชาชีพ ก็สามารถท�ำได้ค่ะ
サ ポ ートの 一 例 市 役 所で の 諸 届 け手 続き同 行 銀行口座開設補佐 宿 舎 の 紹 介 、アパ ート契 約 補 佐 日 本 で の 就 職・進 学 案 内 など
ตัวอย่างของการบริการ พาไปที่ส�ำนักงานเขตเพื่อยื่นเอกสารต่างๆ ช่วยเปิดบัญชีธนาคาร แนะน�ำที่พักและการช่วยท�ำสัญญา แนะน�ำการศึกษาต่อและสมัครงานที่ญี่ปุ่น เป็นต้น
JEDUCATION
現 在 は 日 本 で 皆 さん の 留 学 生 活 サ ポ ートをして い ます。
12
J CAREER RECRUITMENT SERVICE CO., LTD. บริษัทจัดหางานส�ำหรับผู้ที่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
JCAREER
บริษัทจัดหางาน เจ แคเรียร์ เซอร์วิส จ�ำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไล้ท์เฮาส์ อินโฟ เซอร์วิส จ�ำกัด ที่มีบริการครบวงจรทั้งการเรียน ภาษาญี่ปุ่น (Jeducation Center) แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (Jeducation) และจัดหางานให้กับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ (J Career) J Career มีบุคลากรที่พร้อมให้ค�ำปรึกษาด้านการสมัครงานและเตรียมตัวส�ำหรับการสัมภาษณ์งาน เช่น การแต่งกาย มารยาทธุรกิจแบบญี่ปุ่น เป็นต้น หากท่านใดประสงค์ที่จะให้ทาง J Career ช่วยหางาน สามารถดูรายละเอียดของต�ำแหน่งงานที่ก�ำลังเปิดรับสมัครและ ฝากประวัติสมัครงานได้ที่ www.jeducation.com/job ซึ่งการสมัครงานผ่านทาง J Career นั้น ผู้สมัครไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น กิจกรรมสมัครงานพร้อมสัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย (N2-JOB Interview Day) ในเดือนเมษายน ปี 2557 ทาง J Career ได้จัดกิจกรรมสัมภาษณ์งานกับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ส�ำหรับผู้ที่เคยไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น และมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 ขึ้นไป ครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทท่องเที่ยว และบริษัทผู้ผลิตสินค้าอาหาร เป็นต้น ภายในงานผู้เข้าร่วมสัมภาษณ์งานกับบริษัทต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นใน ระดับสูง ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากบริษัทที่มาเข้าร่วมสัมภาษณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนี้ อุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นยังต้องการ ผู้ที่สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างดีร่วมงาน ซึ่งจากนี้ไป J Career จะได้รับโอกาสจัดกิจกรรมสมัครงานพร้อมสัมภาษณ์แบบนี้มากขึ้นอีก
4 ขั้นตอนการสมัครงานกับบริษัทจัดหางาน เจ แคเรียร์ เซอร์วิส จ�ำกัด
13
1. บันทึกประวัติผู้สมัคร ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารในการสมัครงาน เช่น Resume, Transcript, ประกาศนียบัตรต่างๆ,ส�ำเนาทะเบียนบ้าน, ส�ำเนาบัตรประชาชน, รูปถ่ายหน้าตรง 1 ใบ ฯลฯ มาในวันเวลา ที่นัดหมาย และท�ำการบันทึกประวัติผู้สมัคร
2. ทดสอบความรู้ภาษาญี่ปุ่นด้านการพูดและฟัง ทดสอบทักษะด้านการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น ด้านการพูดและการฟังโดย การสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่น
3. ให้ค�ำปรึกษาและแนะน�ำต�ำแหน่งงานที่สนใจ ผู้สมัครงานสามารถพูดคุยและปรึกษากับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับต�ำแหน่ง งานที่สนใจ และสถานที่ท�ำงานที่ผู้สมัครสามารถเดินทางไปได้ อีกทั้งยังสามารถขอค�ำแนะน�ำเรื่องการเตรียมตัวก่อนไปสัมภาษณ์งาน ได้อีกด้วย
4. เจ้าหน้าที่จะแนะน�ำงานที่ตรงกับคุณสมบัติ และความต้องการของผู้สมัครงานเจ้าหน้าที่จะเสนองานที่เหมาะสม ให้อย่างสม�่ำเสมอ พร้อมทั้งดูแลผู้สมัครงานให้เข้าท�ำงาน ในบริษัทญี่ปุ่นตามที่ต้องการและคอยให้ค�ำปรึกษาเรื่องการท�ำงาน อย่างต่อเนื่อง
J Career Recruitment Service Co., Ltd. บริษัทจัดหางาน เจ แคเรียร์ เซอร์วิส จ�ำกัด 287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2301 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
JCAREER
ผู้สนใจสามารถฝากประวัติเพื่อสมัครงานผ่าน www.jeducation.com/job โดยกรอกข้อมูลเบื้องต้น แล้วกด Submit จากนั้นจะมี เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป เพื่อนัดเข้ามาฝากประวัติพร้อมยื่นเอกสารการสมัครงานต่อไปโดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
14
ALL ABOUT
JAPAN
ALL ABOUT JAPAN
สภาพภูมิประเทศ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก มีขนาด 377,961 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะหลักๆ 4 เกาะ ได้แก่ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และ คิวชู นอกจากนี้ยังมีเกาะต่างๆ กว่า 6,847 เกาะ โดยมีพื้นที่เป็นภูเขามากถึงร้อยละ 73 และมีพนื้ ที่ ราบเพียงร้อยละ 27 เท่านัน้ มีจงั หวัดทัง้ หมด 47 จังหวัด โดยมี จังหวัดที่ส�ำคัญเช่น โตเกียว โอซากา ไอจิ และฟุคุโอกะ เป็นต้น
ภูมิภาค
1. ภูมิภาคฮอกไกโด 2. ภูมิภาคโทโฮคุ 3. ภูมิภาคคันโต 4. ภูมิภาคจูบุ
5. ภูมิภาคคิงกิ (คันไซ) 6. ภูมิภาคชูโกคุ 7. ภูมิภาคชิโกกุ 8. ภูมิภาคคิวชู
ลักษณะภูมิอากาศ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ ทำ�ให้โดยทั่วไปมีอากาศอบอุ่น และจากลักษณะของประเทศที่เป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ จึงทำ�ให้ อากาศในภาคเหนือและใต้มีความแตกต่างกัน จังหวัดที่อยู่ริมชายฝั่ง มหาสมุทรแปซิฟิกจะมีอากาศอบอุ่นและมีหิมะตกน้อยกว่า แต่จังหวัด ที่อยู่ริมฝั่งทะเลญี่ปุ่นจะมีหิมะตกมาก
ฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) มีอากาศอบอุน่ ทำ�ให้มดี อกไม้ผลิบานสวยงามในช่วงฤดูนโ้ี ดยเฉพาะ ดอกซากุระ จึงมีกจิ กรรมชมดอกซากุระตามสวนสาธารณะหรือที่ๆ มีดอกซากุระขึน้ สวยงาม เดือนเมษายนเป็นช่วงของการเปิดปีการศึกษา และเข้าทำ�งานของญี่ปุ่น ซากุระจึงเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่ง การเริ่มต้นของชาวญี่ปุ่น ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) จะมีอากาศร้อนและมีฝนตก เป็นฤดูกาลแห่งงานเทศกาลและดอกไม้ ไฟ ชาวญีป่ นุ่ จะนิยมออกมาท�ำกิจกรรมต่างๆในฤดูนี้ เช่น ไปพัก ผ่อนตากอากาศ และยังนิยมจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ เช่น การแข่ง เบสบอลในระดับมัธยมปลาย ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อากาศจะเริม่ เย็น ใบไม้ไม้จะเปลีย่ นเป็นสีแดงและเริม่ ร่วง ชาวญีป่ นุ่ มักจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี (Kouyougari) ในช่วงนี้ ซึ่งมีทิวทัศน์ที่ สวยงามมาก ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) มีอากาศหนาวเย็น และมีหมิ ะตก ชาวญีป่ นุ่ จะนิยมเล่นสกี และดูไฟ ประดับต่างๆของงานเทศกาล อย่างคริสต์มาส ปีใหม่
เวลา
เวลาของประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าของประเทศไทย 2 ชั่วโมง
ประชากร
ประเทศญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 128 ล้านคน แต่เนื่องจาก ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยูใ่ นแถบพืน้ ทีร่ าบและตามเมืองใหญ่ จึงท�ำให้ เมืองใหญ่อย่างโตเกียวหรือโอซาก้านั้นมีประชากรค่อนข้างหนาแน่น ความหนาแน่นของประชากรในโตเกียวมี 14,389 คนต่อตารางกิโลเมตร (อันดับ 8 ของโลก)
ภาษา
ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าชาวญี่ปุ่นใน สมัยนี้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้นก็ตาม แต่ในชนบทนั้นยังคง มีคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้คอ่ นข้างเยอะ นอกจากนีใ้ นภูมภิ าคต่างๆยัง มีภาษาท้องถิน่ ต่างๆมากมาย ซึง่ มีภาษาท้องถิน่ ทีส่ ำ� คัญเช่น ภาษาคันไซ ภาษาโทโฮคุ และภาษาฮากาตะ เป็นต้น
ธงชาติและเพลงชาติ
ธงชาติญี่ปุ่นมีชื่อว่าธง “Hinomaru” เป็นรูปวงกลมสีแดงซึ่งแทนดวง อาทิตย์ และมีสีขาวเป็นพื้น เพลงชาติญี่ปุ่นมีชื่อว่าเพลง “Kimigayo” เป็นเพลงชาติทสี่ นั้ ทีส่ ดุ ในโลก โดยมีเนือ้ หาให้ชาติดำ� รงไว้ซงึ่ ความเจริญ รุ่งเรืองและสันติสุขชั่วกาลนาน
สกุลเงิน
ญี่ปุ่นจะใช้สกุลเงินเยน( Yen, 円 ) แบ่งประเภทเงินเป็นเหรียญและ ธนบัตร โดยมีเหรียญตั้งแต่ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน ส่วน ธนบัตรจะมีตั้งแต่ 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน ปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยนอยู่ที่ประมาณ 32-35 บาท
โทรศัพท์
รหัสประเทศของประเทศญีป่ นุ่ คือ 81 หากต้องการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ จากไทยไปญีป่ น่ ุ จะต้องกด 001 + รหัสประเทศ (81)+ รหัสเมืองหรือรหัส ขึน้ ต้นหมายเลยโทรศัพท์มอื ถือ(ให้ตัด 0 ตัวหน้า)+หมายเลขโทรศัพท์ 8 หลัก นอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังมีโทรศัพท์สาธารณะซึ่ง อัตราค่าบริการนั้นอยู่ที่ประมาณ 10 เยนต่อนาที
ระบบสาธารณูปโภค
ไฟฟ้าของญี่ปุ่นใช้ไฟกระแสสลับขนาด 100 โวลต์ ซึ่งแตกต่างจาก เมืองไทยที่มีกระแสไฟ 220 โวลต์ ดังนั้นจ�ำเป็นต้องใช้เครือ่ งแปลง ้ ไฟฟ้า และปลัก๊ ของญีป่ นุ่ จะเป็นแบบสองขาหัวแบน นำประปาของประเทศ ญีป่ นุ่ นั้นมีมาตรฐานการบ�ำบัดระดับสามารถดื่มได้ทันทีโดยไม่ ต ้ อ ง กรองหรือต้มฆ่าเชื้อ แก๊สของประเทศญี่ปุ่นใช้ระบบจ่ายแก๊สเหมือน ระบบการประปา โดยจะใช้ท่อส่งไปตามบ้านหรือห้องต่างๆ
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่เป็นที่สุดของโลก
2
3
1
4
• ประชากรอายุขัยเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก (อายุ 87 ปี) • มีหอคอยสื่อสารที่สูงที่สุดในโลก (หอคอย Tokyo Sky Tree 634 เมตร)1 • มีสถานีรถไฟที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในโลก (สถานีชินจุกุ:เฉลี่ย 3,470,000 คนต่อวัน)2 • มีอุโมงค์ใต้น�้ำที่ยาวที่สุดในโลก (อุโมงค์เซกัง เชื่อมต่อระหว่าง เกาะฮอนชูกับฮอกไกโด มีระยะทาง 53.85 กิโลเมตร)3 • มีการใช้เครื่องจ�ำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็นจ�ำนวนมากที่สุดในโลก (ปี2013: 5,094,000 เครื่อง)4
ALL ABOUT JAPAN
15
16
ระบบการศึกษา และการวางแผนการศึกษา
แนะนำ�ระบบการศึกษา
?
*
ถามใจตัวเองว่าเหตุใดถึงอยากไปศึกษาในประเทศญีป่ นุ่
เรือ่ งทีค่ วรรูส้ ำ� หรับผูท้ ตี่ งั้ ใจจะไปศึกษาต่อทีป่ ระเทศญีป่ นุ่
ไม่ว่าจะท�ำอะไรทุกคนย่อมต้องมีจุดมุ่งหมาย นักศึกษาชาติต่างๆ ทีไ่ ปศึกษาในญีป่ นุ่ นัน้ แต่ละคนมีแรงบันดาลใจและเป้าหมายแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ไปเพื่อหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น ความรู้ เฉพาะด้าน เพือ่ เปิดโอกาสทีด่ กี ว่าให้ชวี ติ ในอนาคตโดยเฉพาะความ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดังนั้นส�ำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อควร ค�ำนึงถึงเป้าหมายในอนาคตของตัวเราเองเป็นหลัก เมือ่ มีคำ� ตอบนัน้ แล้วจึงค่อยมองหาสถานศึกษาทีต่ อบโจทย์กบั วัตถุประสงค์ โดยศึกษา หาข้อมูล รายละเอียดของสถาบันทีต่ อ้ งการศึกษา เนือ่ งจากคุณสมบัติ เกณฑ์ในการสอบ และระยะเวลาการเปิดรับสมัครของสถาบันแต่ ละแห่งนั้นอาจแตกต่างกันไป
• ผูท้ ตี่ อ้ งการศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาระดับสูงนัน้ จ�ำเป็นต้อง มีความรูภ้ าษาญีป่ นุ่ ซึง่ การเตรียมพืน้ ฐานทางด้านภาษาในสถาบัน สอนภาษาญี่ปุ่นก่อนที่จะเข้าศึกษาในระดับสูงเป็นที่นิยมและ ได้ผลต่อผู้เรียนมากที่สุด แต่ในกรณีที่ผู้สมัครมีความรู้ทางด้าน ภาษาญีป่ น่ ุ อยูใ่ นเกณฑ์ทสี่ ถาบันการศึกษาระดับสูงนัน้ ๆ ก�ำหนดแล้ว ก็ไม่จ�ำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางด้านภาษาจากสถาบัน สอนภาษาญี่ปุ่นก่อนก็ได้
การวางแผนการศึกษาต่อ เมื่อทราบเป้าหมายของตนเองที่จะไปศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ทุกคนก็คงเกิดค�ำถามตามมาอีกมากมาย บางคนอาจจับต้นชนปลาย ไม่ถูกไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน ดังนั้นเพื่อวางแผนการ ศึกษาและเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม ควรค่อยๆ หาข้อมูล ต่างๆ เป็นล�ำดับ ดังนี้
วางแผนการศึกษาต่อ ท�ำไมถึงอยากไปเรียนต่อ (จุดประสงค์) เรียนด้านไหน จะไปเรียนที่ไหน (สถาบัน) ต้องใช้เวลาในการเรียนนานเท่าไร
• ผู้ที่จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ต้องการเข้าศึกษาต่อใน วิทยาลัยอาชีวศึกษาหรือมหาวิทยาลัย ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ 2 (N2) ขึน้ ไปหรือเทียบเท่า หรือมีผลสอบ EJU ตั้งแต่ 150 - 200 คะแนนขึ้นไป (แล้วแต่คณะและสาขาวิชา) • ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหลักสูตรภาคภาษา อังกฤษ ไม่จ�ำเป็นต้องใช้คะแนนภาษาญี่ปุ่นในการสอบเข้า โดย สามารถยื่นคะแนน TOEFL หรือ IELTS หรือคะแนนอื่นๆที่ มหาวิทยาลัยก�ำหนดได้ • ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ต้องการศึกษาต่อในระดับ ปริญญาโท บางคณะคาดหวังให้นกั ศึกษาผ่านหลักสูตรนักศึกษา วิจัยมาก่อนอย่างน้อย 6 เดือน–1 ปี จึงจะเข้าเป็นนักศึกษา ปริญญาโทได้
แล้วเราสามารถไปเรียนในระดับใดได้บา้ ง และมีขนั้ ตอน การด�ำเนินการอย่างไร ส�ำหรับผูท้ จ่ี บการศึกษาจากประเทศไทยทีม่ คี วามประสงค์จะเข้าศึกษา ต่อในสถาบันการศึกษาของญี่ปุ่นที่ Jeducation เป็นตัวแทน และ ต้องการทราบว่าตนสามารถไปศึกษาต่อในระดับใดและมีขั้นตอนใน การสมัครอย่างไรบ้างได้บ้างนั้น พิจารณาได้ดังนี้
ต้องใช้เงินเท่าไร
สัญลักษณ์แต่ละระดับชัน้ (ดูแผนการศึกษาต่อหน้าถัดไป)
ควรไปเรียนเมื่อไร
จบมััธยมต้น
จบมััธยมปลาย
จบปริญญาตรี
จบปริญญาโท
ศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัย
ศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
ศึกษาวิทยาลัยอาชีพ
ศึกษาระดับมัธยมปลาย
ภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
ภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
จ�ำเป็นต้องมีความรู้ ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 ขึ้นไป ผู้ที่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่น สามารถสมัครเรียนที่โรงเรียน สอนภาษาญี่ปุ่นในญี่ปุ่นก่อน เป็นระยะเวลา 1- 2 ปี
ระยะเวลาเรียน 3ปี/ 3ปีครึ่ง
สามารถเรียนได้ตั้งแต่ 6เดือน – 2ปี
สามารถเรียนได้ตั้งแต่ 1 อาทิตย์ – 3เดือน
ก�ำหนดการ เริ่มหาข้อมูลสถาบัน > สมัครเรียน > สอบเข้า > ด�ำเนินเรื่องวีซ่า > เข้าศึกษาต่อ
แนะนำ�ระบบการศึกษา
สิ่งน่ารู้
บางสถาบันอาจคัดเลือกผู้สมัครโดยพิจารณาเพียงแค่เอกสาร แต่ส่วนใหญ่แล้วจ�ำเป็นต้องเข้าสอบที่ประเทศญี่ปุ่น
สิ่งน่ารู้
มีหลักสูตรที่เป็นภาษาอังกฤษ เว็บไซต์ค้นหามหาลัย http://www.shingakunavi.ne.jp
สิ่งน่ารู้
วีซ่าประเภทนักเรียน ระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป
วีซ่าประเภท ท่องเที่ยว 90 วัน
การเข้าเลือกสถาบันในแต่ละที่จะมีการจัด Open campus ให้ ได้เข้าชมสถาบันรวมถึงการเข้าทดลองเรียนในชัน้ เรียนได้อกี ด้วย
เลือกช่วงเวลา เข้าเรียนในภาคเรียนเดือน ม.ค/เม.ย/ก.ค/ต.ค
ยื่นใบสมัคร/ส่งเอกสาร ล่วงหน้า 1 – 2 เดือน
ก�ำหนดการ (แตกต่างกันไปแล้วแต่มหาวิทยาลัย) เริ่มหาข้อมูลสถาบัน > สอบ EJU > ส่งเอกสารสมัคร > เข้าสอบ > รอประกาศผล > ด�ำเนินการเรื่องวีซ่า > เข้าศึกษาต่อ
ก�ำหนดการ เริ่มหาข้อมูลสถาบัน > สมัครเรียน > สอบเข้า > ด�ำเนินเรื่องวีซ่า > เข้าศึกษาต่อ
เลือกช่วงเวลาเข้าเรียน ในภาคเรียนเดือน เม.ย/ต.ค.
เลือกช่วงเวลา เข้าเรียนในภาคเรียนเดือน ม.ค/เม.ย/ก.ค/ต.ค เลือกสถาบันที่ต้องการเข้าเรียน
แผนการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 24
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 22
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 20
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 18
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 30
อ่านรายละเอียดการสมัคร เพิ่มเติม หน้า 29
17
18
มัธยมศึกษาตอนปลาย HIGH SCHOOL
(高等学校)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
การเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายส�ำหรับผู้ที่ยัง ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือมีเพียงเล็กน้อยจะต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ โรงเรียนนั้นๆเป็นระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่จะเข้าเรียนร่วมกับนักเรียน ญี่ปุ่น เมื่อเข้าเรียนหลักสูตรมัธยมปลายจะได้เรียนวิชาต่างๆที่เป็น พืน้ ฐานส�ำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในญีป่ นุ่ เมือ่ จบการศึกษา (3ปี) จะได้รับใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่เปิดรับนักเรียนต่างชาตินั้นมี จ�ำนวนไม่มาก ส่วนมากจะเป็นโรงเรียนประจ�ำ ซึง่ นักเรียนจะได้มโี อกาส ได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างเต็มที่ และจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับนักเรียน ญี่ปุ่นตลอดเวลา ดังนั้น นักเรียนจ�ำเป็นต้องมีความพร้อมที่จะปรับตัว ปรับใจให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่าง
ก�ำหนดการเปิด-ปิดภาคเรียน ประโยชน์ของการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ญี่ปุ่น 1. ท�ำให้สามารถเรียนรู้ พร้อมกับฝึกฝนการใช้ภาษาได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง 2. นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้วนักเรียนยังได้เรียนวิชาความรู้ทั่วไปเพื่อ เตรียมตัวส�ำหรับเข้ามหาวิทยาลัยท�ำให้เพิ่มโอกาสในการสอบเข้า มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น 3. มีคณาจารย์ที่ให้ค�ำปรึกษา และแนะแนวเป็นรายบุคคล เพื่อใช้ ประกอบการตัดสินใจ ส�ำหรับการเรียนต่อระดับมหาลัยหรือ วิทยาลัยอาชีพ 4. ได้ประสบการณ์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม กับนักเรียนชาวญี่ปุ่นและ นักเรียนต่างชาติและเปิดมุมมองความคิดต่างๆให้กว้างไกลขึ้น 5. ฝึกฝนให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย รู้จักการปรับ ตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และสามารถพึ่งพาช่วยเหลือตนเองได้
การศึกษาต่อหลังจบการศึกษา เมื่อจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อ ในระดับอุดมศึกษาของญีป่ นุ่ ได้หลายวิธี ขึน้ อยูก่ บั เงือ่ นไขการรับสมัคร ของมหาวิทยาลัย เช่น คัดเลือกโดยวิธีการสอบคัดเลือกเช่นเดียวกับ นักเรียนญี่ปุ่น คัดเลือกโดยใช้ยื่นผลการสอบ EJU หรือ เข้าโดยใช้ ระบบการเสนอชื่อนักเรียนเพื่อเข้าสัมภาษณ์ในมหาวิทยาลัยที่ทาง โรงเรียนมีการติดต่ออยู่โดยไม่ต้องสอบข้อเขียน
คุณสมบัติของผู้สมัคร • ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป • จบการศึกษาหรือคาดว่าจะจบการศึกษาระดับมัธยมต้น (9 ปี)
เปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ
เมษายน
ปิดเทอมฤดูร้อน
สิงหาคม (1เดือน)
เปิดเทอมฤดูใบไม้ร่วง
กันยายน
ปิดเทอมฤดูหนาว
กลางเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม (2สัปดาห์)
เปิดเทอมฤดูหนาว
มกราคม
ปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ
กลางเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
ขั้นตอนการสมัครและก�ำหนดการ
19
1. เปิดรับสมัคร เข้าเรียนในภาคเรียนเดือนเมษายน
ตุลาคม
2. สอบข้อเขียนและสัมภาษณ์
ตุลาคม - พฤศจิกายน
3. ประกาศผลการผ่านคัดเลือก
พฤศจิกายน
4. ส่งเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่า
พฤศจิกายน
5. กองตรวจคนเข้าเมืองประกาศผลการยื่นขอสถานภาพพ�ำนัก 6. น�ำใบรับรองสถานภาพพ�ำนักไปขอวีซ่า
มีนาคม
7. เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
สิ้นเดือนมีนาคม
8. เปิดภาคเรียน
เมษายน
• วิชาที่ใช้ในการสอบนั้น มีการสอบข้อเขียนวิชาพื้นฐาน ได้แก่ ภาษา อังกฤษ คณิตศาสตร์ (โจทย์ภาษาอังกฤษ) การเขียนเรียงความ ภาษาอังกฤษ และการสัมภาษณ์นกั เรียนพร้อมผูป้ กครอง โดยพิจารณา จากเป้าหมายและความตั้งใจของนักเรียน รวมถึงความพร้อมและการ สนับสนุนของผู้ปกครอง (วิชาที่ใช้สอบ แล้วแต่โรงเรียนก�ำหนด)
การสอบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
การสมัครในประเทศไทยกับ Jeducation นักเรียนสามารถสมัครเข้าเรียนได้ ซึ่งโรงเรียนที่ Jeducation เป็น ตัวแทนในประเทศไทยได้แก่ • Meitoku Gijuku High School (เปิดรับภาคเรียนเมษายน และ ตุลาคม) • Oisca Senior High School (เปิดรับเฉพาะภาคเรียนเมษายน) • Sendai Ikuei Gakuen High School (เปิดรับภาคเรียนเมษายน และตุลาคม) โดยสมัครล่วงหน้า 5-6 เดือน ติดตามข่าวสารรับสมัครได้ทางเว็บไซต์
www.jeducation.com
ข้อดีของการสมัครไปเรียนกับเจเอ็ดดูเคชั่น 1. วางใจในคุณภาพการเรียน การสอนของโรงเรียน ว่าได้มาตรฐาน ปลอดภัย และมีทีมอาจารย์ที่คอยดูแลบุตรหลาน และให้ค�ำ ปรึกษาได้เป็นอย่างดี 2. สะดวก เพราะไม่จำ� เป็นต้องเดินทางไปสมัครและสอบถึงประเทศญีป่ นุ่ 3. ไม่จ�ำเป็นต้องมีผู้ค�้ำประกันที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น 4. มีทีมงานดูแล ประสานงานระหว่างผู้ปกครอง และโรงเรียนขณะ นักเรียนศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น 5. จัดปฐมนิเทศก่อนเดินทาง ให้ค�ำแนะน�ำในการเตรียมพร้อมก่อน เดินทาง และการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อแจ้งความจ�ำนงในการสอบ และรับใบสมัคร ได้ที่ Jeducation นอกจากนี้ สามารถสอบถามรายละเอียด เช่น แผนการเรียน สถานที่ ข้อบังคับ ค่าใช้จ่าย และชมรูปถ่ายหรือวิดีโอที่ ถ่ายจากสถานที่จริงประกอบการตัดสินใจ และในแต่ละปีโรงเรียนจะมี การจัดสัมมนาในประเทศไทย ซึ่งผู้ปกครองสามารถคุยกับอาจารย์ผู้ สอนหรือผู้ปกครองที่ส่งลูกไปเรียนแล้วโดยตรงได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
กุมภาพันธ์ ปีถัดไป
วิทยาลัยอาชีวศึกษา
20
PROFESSIONAL TRAINING COLLEGE (SENMON)(専門学校)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
วิทยาลัยอาชีวศึกษาหรือเรียกว่า “Senmon Gakkou” (専門学校) เป็นสถาบันที่ให้ผู้เรียนได้รับความรู้ เทคนิคและทักษะที่จ�ำเป็นในการ ประกอบอาชีพ เพื่อผลิตบุคลากรทางด้านเทคนิคอุตสาหกรรมและ ธุรกิจในภาคปฏิบัติ ซึ่งมีให้เลือกศึกษาเฉพาะทางที่หลากหลาย แม้ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางสาขาวิชานั้นก็สามารถเข้าเรียนได้ตามความถนัด และความสนใจ ระยะเวลาเรียนจะไม่เท่ากันในแต่ละหลักสูตรมีตั้งแต่ 1–4 ปี ส่วนใหญ่จะเรียน 2 ปี แล้วหลังจากเรียนจบจะได้รับใบอนุญาต ประกอบอาชีพ
สาขาวิชาที่เปิดสอน
คุณสมบัติทางความรู้ภาษาญี่ปุ่น
การแพทย์ อุตสาหกรรม ภาษาและวัฒนธรรม ธุรกิจการค้า สาธารณสุข การสอน สังคมสงเคราะห์ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ คหกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งผู้เรียนจะได้ เรียนรูส้ งิ่ ทีจ่ ำ� เป็นในการประกอบอาชีพต่างๆดังต่อไปนี้ นักออกแบบ การ์ตนู อนิเมชัน่ ผู้ก�ำกับภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ นักสร้างเกม นักออกแบบตกแต่งภายใน สถาปนิก วิศวกรระบบ ช่างเทคนิค รถยนต์ พยาบาล นักโภชนาการ เชฟ เชฟท�ำขนม ช่างเสริมสวย พนักงานบัญชีรัฐ นักแปล/ล่าม พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานโรงแรม ผู้ดูแลเด็กอ่อนหรือผู้สูงอายุ แม่บ้าน แฟชั่นดีไซน์ เนอร์ นักออกแบบอัญมณี เป็นต้น
1. เป็นผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่น 6 เดือนขึ้นไป ในสถาบันสอนภาษาใน ประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองจากสมาคมสนับสนุนการศึกษา ภาษาญี่ปุ่น 2. เป็นผู้ที่ผ่านการสอบวัดระดับ JLPT ระดับN1 หรือ N2 หรือได้ คะแนนสอบ EJU ในวิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไป หรือได้ คะแนน BJT ภาษาญี่ปุ่นธุรกิจมากกว่า 400 คะแนนขึ้นไป 3. เป็นผู้ที่เคยศึกษาในระดับประถมศึกษาหรือมัธยมต้นหรือมัธยม ปลายในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา1ปีขึ้นไป
คุณสมบัติผู้สมัคร 1. เป็นผูท้ สี่ ำ� เร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปีจากโรงเรียนในต่างประเทศ 2. เป็นผู้ที่ผ่านการรับรองในต่างประเทศว่ามีวุฒิเทียบเท่าการศึกษา หลักสูตร 12 ปี 3. เป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศญี่ปุ่นที่ได้ รับการรับรองแล้วว่าเทียบเท่าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย 4. เป็นผู้ที่มีใบรับรอง International Baccalaureate, Abitur หรือ Baccalaureate 5. เป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปี จากโรงเรียนนานาชาติที่ได้ รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างประเทศ (WASC, CSI, ACSI) 6. เป็นผู้ที่มหาวิทยาลัยได้พิจารณาคุณสมบัติให้เข้าศึกษา
• ในข้อ1-3นั้น กรณีศึกษาไม่ครบระยะเวลา 12 ปี จ�ำเป็นต้องศึกษาในหลักสูตร ภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมศึกษาต่อที่ได้การรับรอง เช่น หลักสูตรของโรงเรียนสอนภาษา ญี่ปุ่น The Naganuma School, ABK และ Sendagaya)
การพิจารณาคัดเลือกของระดับวิทยาลัยอาชีวศึกษา 1. การพิจารณาเอกสารสมัครเรียน 2. การสอบตามสาขาวิชา 3. การสอบสัมภาษณ์ 4. การเขียนเรียงความ 5. การทดสอบความถนัด 6. การสอบภาคปฏิบัติ 7. การสอบภาษาญี่ปุ่นและความสามารถทางวิชาการ
ส�ำหรับผูท้ สี่ อบวัดระดับความรูภ้ าษาญีป่ นุ่ ผ่านระดับ N2 แล้ว หากต้องการ เข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น Jeducation เป็นส�ำนักงานตัวแทน สามารถติดต่อสมัครสอบเข้าเรียน ได้ที่เจเอ็ดดูเคชั่น ซึ่งถ้าหากสามารถจัดสอบในประเทศไทยได้ ทาง เจเอ็ดดูเคชั่นจะเป็นผู้ด�ำเนินการสอบคัดเลือกในประเทศไทยตาม ระเบียบการทีท่ างสถาบันก�ำหนด และประสานงานในทุกขัน้ ตอน โดยที่ ผู้สมัครไม่ต้องบินไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น
ขั้นตอนการสมัครและก�ำหนดการ
SENMON
KOSEN
1. หาข้อมูลมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้า
พฤษภาคม
2. ขอรับเอกสารเงื่อนไขการสมัครจากมหาวิทยาลัย
มิถุนายน
3. ส่งเอกสารการสมัคร
กรกฎาคม - สิงหาคม
กันยายน - ธันวาคม
4. ทางวิทยาลัยพิจารณาเอกสารการสมัคร บางแห่งมีการสอบสัมภาษณ์ด้วย
สิงหาคม
มกราคม
5. มหาวิทยาลัยประกาศผล แจ้งรายละเอียดการรับเข้าศึกษา
สิงหาคม
กุมภาพันธ์
6. ยื่นเอกสารขอใบรับรองสถานภาพพ�ำนัก
กันยายน
กุมภาพันธ์
7. กองตรวจคนเข้าเมืองประกาศผลการยื่นขอสถานภาพพ�ำนัก
ตุลาคม
มีนาคม
กุมภาพันธ์ ปีถัดไป
มีนาคม
มีนาคม
มีนาคม
8. ช�ำระค่าเล่าเรียนและค่าหอพัก 9. น�ำใบรับรองสถานภาพพ�ำนักไปขอวีซ่า 10. เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
สิ้นเดือน มีนาคม
11. เปิดภาคเรียน
•
เมษายน
เมษายน
ก�ำหนดการเปิดรับสมัครขอแต่ละมหาวิทยาลัยไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงจ�ำเป็นที่จะต้องติดต่อสอบถามข้อมูลการสมัครของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าอย่างละเอียด
วิทยาลัยเทคนิค 高等専門学校 COLLEGES OF TECHNOLOGY (KOSEN)
เป็นการศึกษาระดับสูงเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย หลักสูตรการเรียน จะใช้เวลา 5 ปี โดยเน้นการสอนแบบการฝึกอบรมทักษะและเรียนรู้ เทคนิคขั้นสูงมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะที่จ�ำเป็นส�ำหรับการท�ำงาน ในด้ า นอุ ต สาหกรรมโดยเฉพาะจึ ง เปิ ด สอนในภาควิ ศ วกรรมและ อุตสาหกรรมเท่านั้น การเรี ย นการสอนทั้ ง หมดจะมี เ ฉพาะหลั ก สู ต รภาษาญี่ ปุ ่ น โดยนักเรียนที่จะเข้าเรียนได้จะต้องจบมัธยมปลายปีที่ 3 (ม.6) จาก ประเทศของตน นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าเรียนต่อในชั้นปีที่ 3 ของ โรงเรียนโคเซนได้เลยและเรียนต่อไปอีก 3 ปี จะเรียนจบชั้นปีที่ 5 ของโรงเรียนโคเซน และจะได้รับวุฒิการศึกษา “อนุปริญญา” และ นักเรียนสามารถเทียบโอนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเทียบเท่าชั้นปี ที่ 3 หรือเรียนต่อสาขาเฉพาะทาง 2 ปี ก็จะได้รับวุฒิการศึกษา “ปริญญาตรี” ซึ่งสามารถศึกษาต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัยได้ ในทุกๆ ปีมีผู้ส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคนิคได้งานท�ำเกือบ 100%
คุณสมบัติผู้สมัคร 1. ผลการสอบ EJU (วิชาภาษาญีป่ นุ่ , วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ 2) 2. ผลการสอบ TOEFL หรือ TOEIC รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Kosen http://www.kosen-k.go.jp/english/index.html ขอขอบคุณข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO)
21
แนะนำ�ระบบการศึกษา
การสมัครในประเทศไทยกับ Jeducation
วิ ท ยาลั ย อาชี ว ศึ ก ษาที่ ท างเจเอ็ ด ดู ชั่ น เป็ น ส� ำ นั ก งานตั ว แทนใน ประเทศไทย ได้แก่ • College of Business and Communication • Nihon Kogakuin College • TOHO Gakuen Institute • Kyoto Institute of Design • ECC College of Beauty &Style • ECC College of Computer & Multimedia
มหาวิทยาลัย
22
UNIVERSITY แนะนำ�ระบบการศึกษา
มหาวิทยาลัยที่ประเทศญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามองค์กร ทีจ่ ดั ตัง้ คือ มหาวิทยาลัยรัฐบาล มหาวิทยาลัยท้องถิน่ และมหาวิทยาลัย เอกชน แม้จะเป็นการแบ่งตามองค์กรจัดตั้ง แต่ก็มีมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาในระดับเดียวกัน ต่างกันที่ค่าเล่าเรียน การศึกษาระดับ ปริญญาตรีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาเรียน 4 ปีเช่น เดียวกับประเทศไทย ยกเว้นคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ (บางภาควิชา) และสัตวแพทยศาสตร์จะใช้เวลาเรียน 6 ปี ระบบการศึกษาจะมีทงั้ การฟังบรรยายวิชาพืน้ ฐาน วิชาเอก มีการสัมมนา กลุ่มย่อย รวมถึงการท�ำปริญญานิพนธ์เพื่อจบการศึกษา นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้นซึ่งจะใช้เวลาเรียน 2 ปี แต่ในหลักสูตรอย่างเช่น เทคนิคการแพทย์หรือพยาบาลจะใช้เวลา 3 ปี การเรียนวิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้นจะเน้นทักษะ การปฏิบัติที่น�ำ ไปใช้ได้จริงในสังคม ในคณะที่การเรียนในมหาวิทยาลัยจะเน้นหนักใน ทางทฤษฎีและงานวิจัยต่างๆ 1ใน3ของวิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้นนั้น เป็นวิทยาลัยสตรีและหลักสูตรกว่าครึ่งนั้นจะเป็นหลักสูตรทางสาย มนุษยศาสตร์ คหกรรมศาสตร์ และศึกษาศาสตร์
คุณสมบัติผู้สมัคร ผู้สมัครโดยทั่วไป ต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ และมีคุณสมบัติตาม ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 1. เป็นผูท้ สี่ ำ� เร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปีจากโรงเรียนในต่างประเทศ 2. เป็นผู้ที่ผ่านการรับรองในต่างประเทศว่ามีวุฒิเทียบเท่าการศึกษา หลักสูตร 12 ปี 3. เป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศญี่ปุ่นที่ได้ รับการรับรองแล้วว่าเทียบเท่าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย 4. เป็นผู้ที่มีใบรับรอง International Baccalaureate, Abitur หรือ Baccalaureate 5. เป็นผู้ส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตร 12 ปี จากโรงเรียนนานาชาติที่ได้ รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรต่างประเทศ (WASC, CSI, ACSI) 6. เป็นผู้ที่มหาวิทยาลัยได้พิจารณาคุณสมบัติให้เข้าศึกษา
•
ในข้อ1-3นั้น กรณีศึกษาไม่ครบระยะเวลา 12 ปี จ�ำเป็นต้องศึกษาในหลักสูตร ภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมศึกษาต่อที่ได้การรับรอง เช่น หลักสูตรของโรงเรียนสอนภาษา ญี่ปุ่น The Naganuma School, ABK และ Sendagaya)
คุณสมบัติทางด้านความรู้ภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นส่วนใหญ่ด�ำเนินการสอนเป็นภาษาญี่ปุ่น นักศึกษาต่างชาติจึงจ�ำเป็นต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ 1. มีผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ N2 ขึ้นไป 2. มีผลการสอบเพื่อศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (EJU) วิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไป ดังนั้น นักศึกษาต่างชาติส่วนใหญ่จึงเริ่มจากการเรียนปรับพื้นฐานทาง ภาษาในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นก่อนอย่างน้อย 1 -2 ปี
(大学)
ขั้นตอนการสมัครและก�ำหนดการ 1. หาข้อมูลมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้า (สามารถค้นหารายชื่อมหาวิทยาลัยได้จาก http://www.g-studyinjapan.jasso.go.jp/univ_search/ หรือ http://www.jpss.jp/en/)
พฤษภาคม
2. สอบ EJU (อ่านรายละเอียดEJUที่หน้า37)
มิถุนายน
3. ขอรับเอกสารเงื่อนไขการสมัครจากมหาวิทยาลัย
สิงหาคม
5. มหาวิทยาลัยพิจารณาเอกสารการสมัคร บางแห่งมีการสอบสัมภาษณ์ด้วย
สิงหาคม
6. มหาวิทยาลัยประกาศผล แจ้งรายละเอียดการรับเข้าศึกษา และการช�ำระค่าเล่าเรียน
กันยายน
7. ยื่นเอกสารขอใบรับรองสถานภาพพ�ำนัก
ตุลาคม
8. กองตรวจคนเข้าเมืองประกาศผลการยื่นขอสถานภาพพ�ำนัก
กุมภาพันธ์ ปีถัดไป
9. น�ำใบรับรองสถานภาพพ�ำนักไปขอวีซ่า
มีนาคม
10. เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
สินเดือน มีนาคม
11. เปิดภาคเรียน
เมษายน
• ก�ำหนดการเปิดรับสมัครขอแต่ละมหาวิทยาลัยไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงจ�ำเป็นที่จะต้องติดต่อสอบถามข้อมูลการสมัครของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าอย่างละเอียด การพิจารณาคัดเลือกของระดับมหาวิทยาลัย การเปิด-ปิดภาคเรียน
วิธีการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น การเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถท�ำได้ หลายทางได้แก่ 1.เข้าเรียนในโรงเรียนสอนภาษาญีป่ นุ่ และสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่ญี่ปุ่น เหมาะส�ำหรับนักศึกษาที่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือพื้นฐาน ยังไม่เพียงพอ โดยเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น 1-2 ปี หรือใน โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ญี่ปุ่น ซึ่งสถาบันจะมีระบบแนะน�ำ นักเรียนที่มีผลการเรียนดีและต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่ ง การสอบด้ ว ยระบบนี้ ส ่ ว นใหญ่ จ ะไม่ ต ้ อ งสอบข้ อ เขี ย นของ มหาวิทยาลัย แค่สอบสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น 2. สมัครจากประเทศไทยแล้วไปสอบที่ญี่ปุ่น ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัย จ�ำนวนมากที่จัดให้มีการสอบคัดเลือกพิเศษส�ำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผู้สมัครต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากสอบ เสร็จแล้ว หากยังไม่ทราบผลจะต้องบินกลับมาประเทศไทย เมื่อ ทราบผลตอบรับจากมหาวิทยาลัยแล้วจึงด�ำเนินเรื่องเพื่อยื่นขอวีซ่า นักศึกษาเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง 3. สมัครโดยตรงจากประเทศไทยและได้รบั อนุญาตเข้าศึกษาโดยไม่ตอ้ ง ไปสอบทีญ ่ ปี่ นุ่ ข้อมูลในเดือนมิถุนายนปี 2014 มีมหาวิทยาลัย 74 แห่งที่ใช้ผลสอบ EJU เป็นเกณฑ์ในการอนุญาตให้เข้าศึกษาต่อใน ระดับปริญญาตรีโดยไม่ต้องไปสมัครหรือไปที่ญี่ปุ่น (ดูรายชื่อได้ที่ http://www.jasso.go.jp/eju/baij_e.html) การสมั ค รวิ ธี นี้ จ ะเหมาะ ส�ำหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว โดยทั่วไปควรจะสอบผ่านการ สอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ N2 ขึ้นไป หรือมีผลการสอบเพื่อศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น (EJU) วิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไป
ใน 1 ปีการศึกษา มหาวิทยาลัยจะเปิดภาคเรียนในเดือนเมษายน และ ปิดภาคเรียนในเดือนมีนาคมปีถดั ไป นอกจากนีบ้ างมหาวิทยาลัย ยังเปิด รับนักศึกษาเข้าเรียนภาคเรียนเดือนตุลาคมด้วย
การเทียบโอนเพื่อศึกษาต่อ มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่มีระบบการเทียบโอนนี้ แต่ถึงกระนั้นก็มีข้อ ก�ำหนดต่างกันไป • ไม่สามารถเทียบโอนได้ทุกชั้นปี • ไม่ได้รับเทียบโอนในทุกคณะหรือทุกสาขาวิชา • จ�ำนวนรับเข้ามีจ�ำกัด • อาจไม่ได้พิจารณาตามหน่วยกิตและจ�ำนวนปีที่เรียนมา เนื่องจากปริมาณข้อมูลเรื่องการเทียบโอนมีน้อยกว่าการสอบเข้าทั่วไป จึงควรตรวจสอบจากมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าศึกษาโดยตรงแต่เนิ่นๆ ค้นหารายชื่อมหาวิทยาลัยที่มีระบบโอนหน่วยกิตได้ที่ http://www.jasso.go.jp/study_j/documents/hennyudaigaku.pdf ผู้ที่สามารถเทียบโอนเพื่อศึกษาต่อได้จะต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาจาก วิทยาลัยหลักสูตรระยะสั้น จากวิทยาลัยเทคนิค หรือจากวิทยาลัย อาชีวศึกษา หรือเป็นผู้จบการศึกษาชั้นปีที่ 1 และ 2 ในระดับ มหาวิทยาลัย หรือเป็นผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี
หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่การเรียนการสอนเป็น ภาษาญีป่ นุ่ แต่ในปัจจุบนั มีการเปิดหลักสูตรนานาชาติซงึ่ สอนเป็นภาษา อังกฤษมากขึ้น เพื่อเพิ่มจ�ำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นตาม โครงการ Global 30 และเป็นการเปิดประเทศให้นานาชาติได้รู้จัก ญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ถึงกระนั้นมหาวิทยาลัยที่จัดการเรียนการสอนใน ระดับปริญญาตรีเป็นภาษาอังกฤษนั้น ยังถือว่ามีอยู่ค่อนข้างน้อย ส่วน ใหญ่จะเป็นหลักสูตรระดับบัณฑิตวิทยาลัย ส�ำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jasso.go.jp/study_j/documents/degree_english. pdf หรือ http://www.uni.international.mext.go.jp/course ขอขอบคุณข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
กรกฎาคม - สิงหาคม
4. ส่งเอกสารการสมัครพร้อมช�ำระค่าสมัคร
การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นนั้น มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมี วิธีการคัดเลือกนักศึกษาแตกต่างกันไปตามแต่ละคณะซึ่งประกอบ ด้วยขั้นตอนต่างๆ เช่น การพิจารณาจากเอกสาร การทดสอบความรู้ ทางวิชาการ การสอบสัมภาษณ์ การเขียนเรียงความ การทดสอบ ความถนัดและความสามารถอื่นๆ การสอบเพื่อศึกษาต่อในประเทศ ญี่ปุ่น (EJU) (รายละเอียดหน้า37) การสอบวัดระดับความสามารถ ทางภาษาญี่ปุ่น(JLPT)(รายละเอียดหน้า38-39) การสอบของศูนย์ การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย(ส�ำหรับบางคณะเช่นแพทย์ศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์)
23
บัณฑิตวิทยาลัย
24
GRADUATE SCHOOL
(大学院)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
การเข้ า ศึ ก ษาต่ อ ในระดั บ บั ณ ฑิ ต วิ ท ยาลั ย ที่ ญี่ ปุ ่ น จะมี ร ะบบ แตกต่างไปจากประเทศไทยเพราะจะเน้นการท�ำวิจยั มากกว่าการนัง่ ฟัง บรรยายแบบการเรียนในระดับปริญญาตรีและผู้ที่สามารถเข้าศึกษา ในระดับปริญญาโทนั้น บัณฑิตวิทยาลัยหลายแห่งคาดหวังให้นักศึกษา สมัครเข้าเป็นนักศึกษาวิจัยก่อนที่จะเข้าเรียนในชั้นเรียนระดับปริญญา โท
การเลือกมหาวิทยาลัย ในการเลือกมหาวิทยาลัยที่จะสอบเข้านั้นต้องเริ่มจากสาขาวิชาที่เรา ต้องการจะเข้าเรียน ซึ่งควรจะเป็นสาขาเดียวกับในระดับปริญญาตรี เนื่ อ งจากเราต้ อ งน� ำ ความรู ้ เ ดิ ม มาใช้ ใ นการท� ำ วิ จั ย อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ก�ำหนดหัวข้อที่เราจะน�ำมาท�ำวิจัย และศึกษาว่าอาจารย์ท่านใดที่เป็นผู้ ดูแลหรือเคยมีผลงานวิจัยในด้านที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อในการท�ำวิจัย ของเรา และดูว่าอาจารย์ท่านนั้นสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยใด ค้นหารายชื่อมหาวิทยาลัยได้จาก http://www.jasso.go.jp/study_j/schinfo_e.html http://www.jpss.jp
อาจารย์ที่ปรึกษา คืออาจารย์ที่คอยให้ค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับแผนการเรียนและแผนงานวิจัย บัณฑิตวิทยาลัยหลายแห่งก�ำหนดให้นักศึกษาติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพือ่ ให้อาจารย์ตกลงยินยอมรับเข้าศึกษาก่อนจึงสามารถยืน่ ใบสมัครได้
วิธีการหาอาจารย์ที่ปรึกษา 1. ขอให้อาจารย์ที่ปรึกษาในสถาบันที่ก�ำลังศึกษาอยู่แนะน�ำให้ 2. หาข้อมูลจากวารสารทางวิชาการ นักเรียนเก่าญี่ปุ่น และจากนัก วิจัยในประเทศตนเอง 3. หาอาจารย์ที่ตรงกับเนื้อหาของสาขาวิชาของตนเอง ค้นหาได้จาก เว็บไซต์ http://researchmap.jp/search/ หรือ http://jglobal.jst.go.jp
การติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษา ส่งผลงานวิจัยที่ผ่านมาและแผนงานวิจัยที่จะท�ำต่อไป รวมถึง เหตุผลที่เลือกอาจารย์ท่านนั้นให้ชัดเจน เป็นไปได้ควรแนบหนังสือ รับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษาของเราไปด้วย และเนื่องจากอาจารย์ไม่ สามารถพิจารณาได้จากเพียงเอกสารที่ส่งไปเท่านั้น ดังนั้นจ�ำเป็นที่จะ ต้องติดต่อหลายครั้งเพื่อให้อาจารย์ได้รับรู้ถึงความตั้งใจจริงของเรา
การเขียนแผนงานวิจัย แผนงานวิจัยจ�ำเป็นต้องใช้ในการยื่นสมัครเข้าเรียนในบัณฑิตวิทยาลัย โดยเขียนสรุปว่าจะไปท�ำวิจัยเรื่องอะไรและท�ำอย่างไร นอกจากนี้สิ่งที่ ควรมีในแผนงานวิจัยได้แก่ หัวข้อวิจัย วัตถุประสงค์ ที่มาและความ ส�ำคัญ วิธีวิจัย หนังสืออ้างอิง ฯลฯ โดยทั่วไปจะก�ำหนดวิธีเขียนและ จ�ำนวนตัวอักษร (ปกติประมาณ 2,000ตัว) สิ่งส�ำคัญในการเขียน แผนงานวิจัยคือ การลองหางานวิจัยในสาขาที่ตนเองอยากท�ำ ดูว่ามี การท�ำวิจยั ไปถึงไหน และมีหวั ข้อไหนทีย่ งั ไม่ได้มกี ารวิจยั บ้าง สามารถ ค้นหางานวิจัยในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ CiNii (ไซนี) – http://ci.nii.ac.jp หรือขอดูหนังสือ 実践研究計画作成法 เพื่ออ้างอิงวิธีการเขียนแผนงาน วิจัยและวิธีการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์
การสมัครและการสอบเข้า การสอบเข้าเรียนส่วนใหญ่จ�ำเป็นต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งวิธี การคัดเลือกจะแตกต่างกันไปตามแต่คณะ เช่น การสอบสัมภาษณ์ การพิจารณาจากรายละเอียดสรุปของวิทยานิพนธ์ การสอบข้อเขียน ในวิชาเอก มีมหาวิทยาลัยบางแห่งอาจคัดเลือกผู้สมัคร และอนุญาต ให้เข้าศึกษาโดยพิจารณาจากเอกสาร แต่โดยทั่วไปต้องไปสอบที่ญี่ปุ่น สามารถดูรายชื่อบัณฑิตวิทยาลัยที่อนุญาตให้เข้าศึกษาก่อนมาที่ ญี่ปุ่นได้ที่ http://www.jasso.go.jp/study_j/documents/tonichimae.pdf
การพิจารณาคัดเลือกของระดับบัณฑิตวิทยาลัย 1. การพิจารณาเอกสาร 2. การพิจารณาความสามารถทางวิชาการ (มหาวิทยาลัยเป็นผูจ้ ดั การ ทดสอบ) 3. การสอบสัมภาษณ์ 4. การเขียนบทความสั้น / เรียงความ 5. การสอบปากเปล่าเกี่ยวกับวิชาเอก
ขั้นตอนการสมัครและก�ำหนดการ 1. ก�ำหนดหัวข้อและเขียนแผนงานวิจัย
พฤษภาคม
2. ติดต่อหาอาจารย์ที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับคณะและสาขาที่จะเข้าเรียน
มิถุนายน
3. อาจารย์ที่ปรึกษาตอบรับ
กรกฎาคม - สิงหาคม
4. ติดตามข้อมูลการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยและยื่นเอกสารสมัคร
สิงหาคม - พฤศจิกายน
5. สอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัย
ธันวาคม - มกราคม ปีถัดไป
6. มหาวิทยาลัยประกาศผลการสอบ
มกราคม
7. ยื่นเอกสารขอใบรับรองสถานภาพพ�ำนัก
กุมภาพันธ์
8. น�ำใบรับรองสถานภาพพ�ำนักไปขอวีซ่า
มีนาคม
9. เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
สิ้นเดือน มีนาคม
10. เปิดภาคเรียน
•
เมษายน
ก�ำหนดการเปิดรับสมัครขอแต่ละมหาวิทยาลัยไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงจ�ำเป็นที่จะต้องติดต่อสอบถามข้อมูลการสมัครของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าอย่างละเอียด
คุณสมบัติผู้สมัคร เงื่อนไขในการเข้าศึกษาอาจแตกต่างกันไปตามหลักสูตร แต่ส่วนใหญ่ จ�ำเป็นต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ หลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก(ภาคต้น) 1. เป็นผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น 2. เป็นผู้ที่ได้รับวุฒิปริญญาตรีตามที่องค์กรพิจารณารับรองคุณวุฒิ พิจารณาออกให้ 3. เป็นผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาในต่างประเทศด้วยระยะเวลา 16 ปี 4. เป็นผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่นที่ได้รับการ รับรองว่ามีหลักสูตรเดียวกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ 5. เป็นผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตรอาชีวศึกษาจากวิทยาลัยที่กระ ทรวงศึกษาฯญี่ปุ่นระบุไว้ 6. เป็นผู้ที่ได้รับการรับรองคุณสมบัติจากบัณฑิตวิทยาลัยที่ประสงค์ จะเข้าศึกษาว่ามีความรู้เทียบเท่าหรือสูงกว่าระดับปริญญาตรีและ มีอายุไม่ต�่ำกว่า 22 ปี หลักสูตรปริญญาเอก(ภาคปลาย) 1. เป็นผู้ท่ีได้รับวุฒิปริญญาโทหรือปริญญาโทวิชาชีพเฉพาะทางจาก ประเทศญี่ปุ่น 2. เป็นผู้ที่ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่าปริญญาโทหรือปริญญาโท วิชาชีพเฉพาะทางจากต่างประเทศ 3. เป็นผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาและได้รับวุฒิปริญญาโทหรือปริญญาโท วิชาชีพเฉพาะทางจากบัณฑิตวิทยาลัยของต่างประเทศในประเทศ ญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรอง 4. เป็ น ผู ้ ที่ ส� ำ เร็ จ การศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาตรี แ ละท� ำ งานวิ จั ย ใน สถาบันวิจัยหรือมหาวิทยาลัย (รวมถึงสถาบันในต่างประเทศ) เป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี และได้รบั การรับรองจากบัณฑิตวิทยาลัย ว่ามีความรู้เทียบเท่าระดับปริญญาโท 5. เป็นผู้ที่ได้รับการพิจารณาจากบัณฑิตวิทยาลัยว่ามีความรู้เทียบ เท่าหรือสูงกว่าระดับปริญญาโทหรือปริญญาโทวิชาชีพเฉพาะทาง และมีอายุไม่ต�่ำกว่า 22 ปี
นักศึกษาวิจัย(Kenkyusei) นักศึกษาวิจัยมีลักษณะดังต่อไปนี้ 1. เป็ น ผู ้ ที่ เ ข้ า ศึ ก ษาเพื่ อ ท� ำ วิ จั ย ระยะสั้ น โดยไม่ ป ระสงค์ จ ะรั บ วุฒิการศึกษา 2. เป็นผู้ที่เข้าศึกษาในฐานะนักเรียนต่างชาติระยะสั้น โดยขึ้นอยู่กับ ข้อตกลงของการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัย 3. เป็นผู้ที่ใช้เวลาเตรียมความพร้อมกันเข้าศึกษาต่อบัณฑิตวิทยาลัย
การรับสมัครนักศึกษาวิจัย ส่วนใหญ่พิจารณาจากเอกสารก็อนุญาตให้เข้าศึกษาได้ นักศึกษาวิจัย เข้าฟังบรรยายจ�ำเป็นต้องเข้าชั้นเรียนมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงจะได้รับสถานภาพการพ�ำนักเป็น “นักศึกษาวิทยาลัย”
หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ ในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรนานาชาติในระดับบัณฑิต วิทยาลัยหลายแห่ง ตามโครงการ Global 30 ส�ำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jasso.go.jp/study_j/documents/degree_english. pdf หรือ http://www.uni.international.mext.go.jp/course/ ขอขอบคุณข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO)
แนะนำ�ระบบการศึกษา
25
27
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น
ผู้ที่จะไปเรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น ความรู้ภาษาญี่ปุ่นมีความ จ�ำเป็ น และถื อ เป็ น ก้ า วแรกของการไปศึ ก ษาต่ อ ในระดั บ ที่ สู ง ขึ้ น เนื่องจากสถาบันการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้ภาษาญี่ปุ่น ในการเรียนการสอน ดังนัน้ นักเรียนต่างชาติจำ� เป็นจะต้องรูภ้ าษาญีป่ นุ่ เพียงพอที่จะเข้าใจการเรียนการสอนในสถาบันระดับอุดมศึกษาได้ การเรียนภาษาทีญ ่ ปี่ นุ่ จะท�ำให้ภาษาพัฒนาได้เร็ว เนือ่ งจากได้ ฝึกฝนการพูดในสถานการณ์จริง และยังได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น แบบใกล้ชิดอีกด้วย
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น แบ่งได้ 2 ประเภท คือ สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น เน้นสอนภาษาญี่ปุ่นให้นักเรียนต่างชาติเป็นหลัก มีทั้งหลักสูตรภาษา ญี่ปุ่นทั่วไปแบบระยะสั้น(1-3เดือน)และระยะยาว(1-2ปี) เรียนวัน จันทร์ – ศุกร์ แบ่งชั้นเรียนตั้งแต่ระดับเบื้องต้นจนถึงระดับสูง ใช้ ภาษาญี่ปุ่นในการสอน เพื่อปูพื้นฐานและเสริมสร้างทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง พูด อ่าน และเขียน และยังมีหลักสูตรเพื่อเตรียมเข้า ศึกษาต่อในสถาบันระดับสูงของญี่ปุ่น โดยสอนวิชาพื้นฐานที่จ�ำเป็น ต่อการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย หลักสูตรภาษาญีป่ นุ่ ในมหาวิทยาลัยหรือเบกกะ (Bekka) เหมาะส�ำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิต วิทยาลัยในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ แต่ยังไม่มีความสามารถทางภาษา ญี่ปุ่นเพียงพอ ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาในการเรียน 1 ปี และต้องเป็น ผู้ที่มีพื้นความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาก่อน หลักสูตรนี้จะเน้นการสอนเพื่อ ให้ นั ก เรี ย นสามารถเข้ า ใจภาษาญี่ ปุ ่ น เพื่ อ ใช้ ส� ำ หรั บ การเรี ย นใน มหาวิทยาลัยได้
ปั จ จั ย ในการตั ด สิ น ใจเลื อ กที่ เ รี ย นสามารถพิ จ ารณาได้ จ าก หัวข้อต่อไปนี้ 1. เนื้อหาของหลักสูตร เป็นหลักสูตรที่มีเนื้อหาอย่างไร เหมาะสม กับจุดมุ่งหมายในการเรียนของตนหรือไม่ เช่น หลักสูตรภาษา ญี่ปุ่นทั่วไป หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อ หลักสูตรภาษา ญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ เป็นต้น 2. ชัว่ โมงเรียน สถาบันสอนภาษาญีป่ นุ่ ทัว่ ไปจะมีการเรียนการสอน วันละ 4 ชั่วโมง และในบางสถาบันมีการเรียนการสอนวันละ 5-6 ชั่วโมง 3. การแบ่งระดับชัน้ เรียน ระดับชัน้ เรียนมีมากน้อยแค่ไหน เหมาะสม กับระดับความรูข้ องตนเองหรือไม่ มีครูผสู้ อนและจ�ำนวนนักเรียน อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม 4. สภาพแวดล้อมและสถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ในเมือง ชานเมือง หรือ ชนบท มีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร อยู่ในย่านที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวายเหมาะแก่การศึกษา หรือในย่านใจกลางเมืองที่สะดวก สบาย 5. หอพักของสถาบัน มีที่พักของสถาบันเองหรือไม่ ค่าใช้จ่ายอยู่ใน งบประมาณทีต่ งั้ ไว้หรือไม่ การเดินทางระหว่างหอพักถึงสถาบัน ต้องเดินทางอย่างไร กรณีที่ไม่มีที่พักของสถาบัน มีการแนะน�ำ หรือติดต่อพาร์ทเมนท์หรือหอพักอื่น ๆ ให้ด้วยหรือไม่ 6. การสนับสนุนและการช่วยเหลือ มีทุนการศึกษาหรือไม่ การให้ ค�ำแนะน�ำ หรือปรึกษาในด้านความเป็นอยู่ หรือการศึกษาต่อใน ระดับสูงขอญี่ปุ่นหรือไม่ 7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าเล่าเรียนเหมาะสมกับจ�ำนวนชั่วโมงเรียนหรือ ไม่ สามารถแบ่งช�ำระได้หรือไม่ ค่าครองชีพในเมืองที่จะไปเรียน นั้นสูงมากน้อยแค่ไหนพอกับงบประมาณที่เรามีหรือไม่
การเลือกสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น ควรเลือกให้เหมาะกับความชอบหรือสไตล์การใช้ชีวิต เพื่อให้ใช้ชีวิต ได้อย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ศึกษาเล่าเรียนได้อย่าง มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมถึงประสบการณ์ที่ดีจากการเรียนต่อ อีกด้วย ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกที่เรียน ซึ่งแต่ละคนอาจจัดล�ำดับ ความส�ำคัญก่อนหลังตามเงื่อนไขของตน สิ่งแรกที่ต้องท�ำคือ ตรวจสอบว่า สถาบันนั้นได้รับการรับรองจาก สมาคมส่งเสริมการศึกษาภาษาญีป่ นุ่ (Association for the Promotion of Japanese Education) หรือไม่ เพราะหากสถาบันนั้นไม่ได้รับการ รับรอง จะไม่สามารถเป็นตัวแทนในการยื่นขอสถานภาพการพ�ำนัก ให้นักเรียนได้
การพิจารณาตามข้อต่างๆเหล่านี้ คิดว่าคงจะมีค�ำตอบให้กับตัวเองได้ ในระดับหนึง่ นอกเหนือจากข้อมูลทีเ่ ป็นเอกสารแล้ว ทาง Jeducation ยังมีภาพถ่ายจากสถานที่จริงของสถาบัน หอพัก สภาพแวดล้อมให้ ได้ชมเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย พร้อมให้ค�ำปรึกษาตรงตามเป้า หมายของนักเรียนมากที่สุด
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL 日本語学校
28
JEDUCATION
STUDY TRIP
JEDUCATION STUDY TRIP
เจเอ็ดดูเคชั่นร่วมกับสถาบันสอนภาษาที่ญี่ปุ่น จัดโปรแกรม เรียนภาษาระยะสัน้ พร้อมทัศนศึกษา ในช่วงปิดภาคเรียนของไทยและ ทุกฤดูกาลของญีป่ นุ่ ด้วยความเอาใจใส่ของคณาจารย์และเจ้าหน้าทีผ่ ู้ ดูแล มุ่งเน้นการเรียนรู้ที่ไม่จ�ำกัดเพียงแค่ในห้องเรียน แต่ยังได้ สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เลือกสรรกิจกรรมให้นักเรียนได้ รับประสบการณ์ที่แตกต่าง สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แค่แหล่งช้อปปิ้ง ปลูกฝังความมีวินัย การรู้จักช่วยเหลือตนเอง สร้างมิตรภาพระหว่าง เพื่อนร่วมทริป
จัดโปรแกรมทัศนศึกษาเป็นหมู่คณะ เยี่ยมชมสถาบัน สถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการจัดโปรแกรมเรียน ภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่น พร้อมทัศนศึกษาเป็นหมู่คณะ เจเอ็ดดูเคชั่นมี บริการจัดโปรแกรมตามวัตถุประสงค์ด้วยบริการที่ครบวงจร ส�ำหรับผู้ที่สนใจจะไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นในอนาคต หรือท่านผู้ปกครอง หากต้องการเยี่ยมชมสถาบันการศึกษาการตัดสินใจเข้าศึกษาใน อนาคต เจเอ็ดดูเคชั่นพร้อมเป็นผู้ประสานงานในการขอเข้าเยี่ยมชม สถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น วิทยาลัยวิชาชีพ มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เจเอ็ดดูเคชั่น เป็นตัวแทนในประเทศไทย บริการเพิ่มเติม
เจเอ็ดดูเคชั่นยินดีให้ค�ำแนะน�ำอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้การเดินทางไป ประเทศญี่ปุ่นของคุณคุ้มค่าและประทับใจยิ่งขึ้น อาทิ แนะน�ำ นักเรียนไทยเป็นผูน้ ำ� เทีย่ วในประเทศญีป่ นุ่ ให้คณ ุ ได้เทีย่ วอย่างสนุกสนาน เป็นกันเอง
ติดต่อสอบถามที่ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น โทร. 0-2267-7726 Email : ask@jeducation.com
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น ระยะเวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ถึง 3 เดือน หลักสูตรนี้ผู้เรียนสามารถ ปรับเวลาการเข้าเรียนได้ตามความต้องการ จึงเหมาะส�ำหรับผูท้ ที่ ำ� งานใน บริษทั ญี่ปุ่น บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาทักษะทางภาษาญี่ปุ่นในช่วง เวลาที่จ�ำกัด หรือนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการฝึกทักษะด้านภาษา ของตนเองเพิม่ เติมในช่วงปิดเทอม พร้อมกับการได้สมั ผัสกับวัฒนธรรม ที่แตกต่าง เพิ่มพูนประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดน และยังได้ ท�ำความรู้จักกับเพื่อนใหม่จากทั่วทุกมุมโลก บางสถาบันจะจัดให้เข้าเรียนร่วมกับหลักสูตรระยะยาวตามปกติ แต่บางสถาบันจะจัดชั้นเรี ยนส�ำ หรั บนั กเรีย นระยะสั้ น โดยเฉพาะ โดยเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วจะมีการทดสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น เพื่อจัดให้เข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ของนักเรียน
ประเภทวีซ่า วีซ่าระยะสั้น (Temporary Visitor) เป็นประเภทเดียวกันกับวีซ่า ประเภทการพ�ำนักระยะสั้น เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมเพื่อน หรือคน รู้จัก สามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 90 วัน ไม่สามารถต่อ อายุวีซ่า และไม่สามารถท�ำงานพิเศษได้
คุณสมบัติ การเรียนหลักสูตรระยะสั้น มักจะไม่จ�ำกัดอายุหรือวุฒิการศึกษาของ ผู้เรียน แต่ควรจะมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เนื่องจากผู้เรียนจ�ำเป็นต้อง มีความรับผิดชอบ และมีวินัยในตนเองระดับหนึ่ง เพราะการใช้ชีวิต ในญี่ปุ่นนั้น จะต้องดูแลตัวเองทั้งในด้านการเรียน การเดินทาง และ การใช้ชีวิตประจ�ำวัน
การรับสมัคร ควรสมัครล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนก่อนเปิดภาคเรียน สถาบัน ส่วนใหญ่จะเปิดภาคเรียนในเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และ ตุลาคม แต่มีบางสถาบันสามารถสมัครเข้าเรียนได้ตลอดเวลา แต่ เปิดรับผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาพอสมควรแล้ว (ไม่ต�่ำกว่า 150 ชั่วโมง)
หลักสูตรระยะสั้นที่ญี่ปุ่น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น เน้นการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่าง จริงจัง ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ - 3 เดือน การเรียนการสอนเป็นแบบ หลักสูตรภาษาญีป่ นุ่ ทัว่ ไป คือ เรียนทุกวันจันทร์–วันศุกร์ ประมาณ 4 ชัว่ โมงต่อวัน ซึง่ จะมีเวลาว่างส�ำหรับไปท�ำกิจกรรมอย่างอืน่ ด้วย 2. โปรแกรมทัศนศึกษา (Study trip) ส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียน ภาษาญี่ปุ่นไปพร้อมกับการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ที่มีชื่อเสียง หรือการท�ำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาและ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยมีระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือน โดยเน้นการปูพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นส�ำหรับการ ใช้ชีวิตประจ�ำวันแบบง่ายๆ ควบกับกิจกรรมที่น่าสนใจตามความ เหมาะสม
ที่พัก สามารถเลือกพักได้ 2 แบบ คือ 1. หอพักของโรงเรียน มีหลายประเภท บางแห่งเป็นหอพักของ ทางโรงเรียนโดยตรง บางแห่งเป็นหอพักเอกชน ที่ทางสถาบันได้ ติดต่อไว้ให้นักเรียน การพักที่หอพักของโรงเรียนนั้น เป็นทาง เลือกที่ดีในการสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนชาวต่างชาติ หอพัก อาจเป็นแบบหอพักแยกชายหญิง หรือหอพักแบบพักรวม และ ยังเลือกได้ว่าจะพักคนเดียวหรือพักร่วมกับนักเรียนอีกคนหนึ่ง บางที่มีอาหารให้แต่ส่วนใหญ่ต้องท�ำหรือซื้อทานเอง 2. การพักอาศัยกับครอบครัวชาวญี่ปุ่น (Homestay) ซึ่งเป็นทาง เลือกทีไ่ ด้รบั ความนิยม เนือ่ งจากนักเรียนมีโอกาสได้ฝกึ ฝนทักษะ ภาษา เพื่อการพัฒนาภาษาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังได้เรียนรู้วิถี ชีวิตของชาวญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง เพื่อเข้าใจวัฒนธรรมและ ประเพณีของญี่ปุ่นได้มากขึ้นด้วย และยังมีอาหารให้พร้อมทั้งมื้อ เช้าและเย็น
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร • ใบสมัครของสถาบัน (ติดต่อขอรับได้ที่ Jeducation) • ส�ำเนาหนังสือเดินทาง หน้าแรก ส�ำหรับผู้ที่เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่น ต้องใช้หน้าวีซ่าญี่ปุ่น รวมถึงหน้าที่มีตราประทับเข้าออกญี่ปุ่นทุก หน้าประกอบด้วย • ส�ำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย • รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง จ�ำนวน 5 ใบ
ขั้นตอนการสมัคร 1. รับข้อมูล – ปรึกษากับเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นเพื่อเลือกสถาบันที่ เหมาะสม 2. กรอกใบสมัครพร้อมยื่นเอกสารประกอบการสมัคร 3. เจ้าหน้าทีเ่ จเอ็ดดูเคชัน่ ตรวจเช็คเอกสาร และจัดส่งให้ทางสถาบัน 4. สถาบันยืนยันการตอบรับและส่งใบแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้ นักเรียน 5. ผู้สมัครช�ำระค่าเล่าเรียนโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ โรงเรียนโดยตรง 6. สถาบันส่งใบตอบรับเพื่อให้ผู้สมัครน�ำไปยื่นขอวีซ่าระยะสั้น 7. ปฐมนิเทศ ออกเดินทางไปญี่ปุ่น
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
หลักสูตรภาษาญีป่ นุ่ ระยะสัน้ คือ การศึกษาภาษาญีป่ นุ่
29
30
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาวเป็นหลักสูตรส�ำหรับผู้ที่ต้องการ เรียนภาษาญีป่ นุ่ อย่างจริงจัง เพือ่ ใช้ในการท�ำงานในอนาคต หรือเพือ่ ศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น โดยมีลักษณะดังนี้ 1. ใช้เวลาในการเรียนตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี โดยมีชั้นเรียนตั้งแต่ เริ่มต้น ส�ำหรับผู้เริ่มเรียนหรือไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ไปจนถึงระดับสูงส�ำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ 2. เน้นพัฒนาความสามารถทางภาษาญีป่ นุ่ ได้ครบทุกทักษะ ทัง้ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน 3. การเรียนการสอน จะมีเรียนทุกวันจันทร์-วันศุกร์ วันละ 4 ชัว่ โมง หรือ วันละ 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับโรงเรียน 4. การเรียนการสอนแบ่งเป็นรอบเช้าหรือรอบบ่าย ขึ้นอยู่กับระดับ ความสามารถทางด้านภาษา หรือบางโรงเรียนอาจมีการเรียน การสอนทั้งวัน ประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง 5. จ�ำนวนนักเรียนต่อห้องจะไม่เกิน 20 คน 6. สอนโดยอาจารย์ชาวญี่ปุ่นทั้งหมด ด้วยวิธีการสอนที่ท�ำให้เข้าใจ ได้ง่าย 7. ก่อนเข้าเรียนจะมีการทดสอบวัดระดับ เพื่อที่จะได้จัดชั้นเรียนให้ เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน
ประเภทของหลักสูตรที่เปิดสอนมีดังนี้
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป เน้นพัฒนาความเข้าใจและทักษะการใช้ภาษาของผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง พูด อ่าน และเขียน ให้มีประสิทธิภาพและความมั่นใจใน การใช้มากขึ้น ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุม ตั้งแต่ระดับต้นถึงระดับสูง เหมาะส�ำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้สื่อสารในชีวิต ประจ�ำวัน หรือเพื่อประโยชน์ต่อการท�ำงานในอนาคต รวมถึงเพื่อ การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญีป่ นุ่ สถาบันบางแห่งอาจมี วิชาเลือกให้เลือกเรียนตามความสนใจ เช่น คันจิ การออกเสียง เป็นต้น
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง เป็นหลักสูตรที่ช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษาเชิงวิชาการ เพื่อเตรียม ความพร้อมส�ำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี โท หรือเอก หรือเข้า ศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึง่ โรงเรียนจะมีจดั สอนวิชาอืน่ ๆ ทีจ่ ำ� เป็น ส�ำหรับการศึกษาระดับสูงให้ด้วย เช่น วิชาที่ใช้สอบ EJU หรือ เสริม ทักษะการเขียนเรียงความและรายงาน การจดบันทึก การถกประเด็น ในชั้นเรียนกลุ่มย่อย การฝึกฝนท�ำข้อสอบและฝึกสัมภาษณ์ ทั้งยังมี การแนะแนวการศึกษาต่อให้นกั เรียนอย่างใกล้ชดิ อีกด้วย และสถาบัน บางแห่งมีข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่ง จะช่วยท�ำให้สามารถเข้าศึกษาต่อในสถาบันนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อธุรกิจ เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาษาญี่ปุ่น เพื่อสามารถน�ำไปใช้ได้ จริงในการท�ำงานกับบริษทั ญีป่ นุ่ ทัง้ ในญีป่ นุ่ และต่างประเทศ เน้นเกีย่ วกับ ภาษาทางธุรกิจ การอ่านเชิงธุรกิจ และการเขียนจดหมายโต้ตอบทาง ธุรกิจ ทั้งยังสอนทักษะต่างๆ ที่จ�ำเป็นต่อการท�ำงานอีกด้วย เช่น มารยาททางธุรกิจ การเขียนรายงานการประชุม การรับโทรศัพท์ การน�ำเสนอรายงาน เป็นต้น หลักสูตรนี้ผู้เรียนจ�ำเป็นต้องมีพื้นฐาน ความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นระดับกลางขึ้นไป
การรับสมัคร
ผูท้ ไี่ ปเรียนภาษาญีป่ นุ่ ระยะยาวจะได้รบั วีซา่ ประเภทนักเรียน (Student) สิทธิส�ำหรับผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ • สามารถท�ำงานพิเศษได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ • ในกรณีทตี่ อ้ งการกลับประเทศชัว่ คราว ไม่จำ� เป็นต้องท�ำ Re-entry แต่สามารถแสดง Residence Card และแจ้งความจ�ำนงที่สนาม บินได้เลยว่าจะกลับเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง
• จะต้องยืน่ เอกสารสมัครเรียนล่วงหน้าประมาณ 5 - 6 เดือน ก่อน เปิดภาคเรียน เนือ่ งจากต้องด�ำเนินการยืน่ ขอใบรับรองสถานภาพ การพ�ำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเข้าเมือง ประเทศญี่ปุ่น เพื่อน�ำไปประกอบการขอวีซ่านักเรียน
คุณสมบัติ • ผู้สมัครต้องส�ำเร็จการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี หรือเทียบเท่า ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป • ผู้ที่ส�ำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภายในระยะ เวลา 10 หรือ 11 ปี และมีเป้าหมายที่จะศึกษาต่อระดับปริญญา ตรีที่ญี่ปุ่น จะต้องเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น ที่เปิดสอน “หลักสูตรเตรียมเข้าศึกษาต่อ 1 - 2 ปี” ซึ่งได้รับ การรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการฯ ญี่ปุ่นเท่านั้น (โรงเรียนที่ เจเอ็ดดูเคชั่นสามารถติดต่อให้ได้คือ The Naganuma School, ABK College และ Sendagaya Japanese School)
ก�ำหนดการสมัครและประกาศผล ภาคเรียน
ช่วงรับสมัคร
ประกาศผลจากกองตรวจคนเข้าเมือง
เดือนมกราคม (ฤดูหนาว)
เดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนกันยายนปีก่อนหน้า
ปลายเดือนพฤศจิกายน
เดือนเมษายน (ฤดูใบไม้ผลิ)
เดือนกันยายน - กลางเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้า
ปลายเดือนกุมภาพันธ์
เดือนกรกฎาคม (ฤดูร้อน)
เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์
กลางเดือนพฤษภาคม
เดือนตุลาคม (ฤดูใบไม้ร่วง)
เดือนกุมภาพันธ์ - สิ้นเดือนเมษายน
ปลายเดือนสิงหาคม
• โดยปรกติภาคเรียนของโรงเรียนที่ญี่ปุ่นแบ่งเป็น 4 ภาคเรียน คือภาคเรียนเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม • ภาคเรียนเดือนมกราคม และกรกฎาคม จะเปิดรับเฉพาะบาง โรงเรียนเท่านัน้ สามารถตรวจสอบได้ทาง www.jeducation.com หรือสอบถามกับเจ้าหน้าที่เจเอ็ดดูเคชั่นโดยตรง • ก�ำหนดการปิดรับสมัครในแต่ละภูมิภาคจะช้าเร็วต่างกัน ดังนั้น ควรเช็คเวลาปิดรับสมัครกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
31
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
ประเภทวีซ่า
NOTE การย้ายโรงเรียนระหว่างโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันนั้น โดยหลักการแล้วไม่สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ดังนัน้ ควรเลือกโรงเรียน อย่างรอบคอบ โดยรวบรวมข้อมูลให้มากทีส่ ดุ เช่นการสอบถาม โดยตรงจากนักเรียนปัจจุบันหรือผู้ที่เรียนจบแล้ว
32
ขั้นตอนการสมัครเรียน
กับสถาบันที่ Jeducation เป็นส�ำนักงานตัวแทนในประเทศไทย หลักสูตรระยะยาว (วีซ่านักเรียน) ขั้นตอนการสมัครเรียน
การสมัครเรียนกับทาง Jeducation มีเจ้าหน้าที่มีประสบการณ์การเรียนและการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น คอยให้ค�ำปรึกษา พร้อมให้ความช่วยเหลือ อย่างเป็นกันเอง ตั้งแต่การให้ข้อมูลของสถาบัน เอกสารต่างๆ และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่ญี่ปุ่น รวมถึงการตรวจสอบ ความเรียบร้อยของเอกสารต่างๆอย่างละเอียด ก่อนส่งถึงญี่ปุ่น ส่วนขั้นตอนการสมัครจะเป็นแบบไหนนั้น มาดูกันเลยค่ะ
1. สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แนะแนวของ Jeducation เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกันเพื่อให้รู้ถึงเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อจะได้ เตรียมตัววางแผนการเรียนให้เหมาะสม มีการแนะน�ำรายละเอียด ของสถาบันต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการ มีรูปประกอบจาก สถานที่จริงให้ดูก่อนตัดสินใจด้วย
2. ยื่นใบสมัคร/ช�ำระค่าสมัครเรียน เมื่อเลือกสถาบันได้แล้วสามารถขอใบสมัครได้จากเจ้าหน้าที่ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะให้ค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับการกรอกใบสมัครให้ถูกต้อง และ การเตรียมเอกสารต่างๆ ในขั้นตอนนี้ต้องช�ำระค่าสมัครด้วยค่ะ
3. ตรวจเช็คเอกสาร-ส่งเอกสารไปญี่ปุ่น เมื่อเตรียมเอกสารต่าง ๆ พร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูก ต้องอีกครั้ง หากเอกสารมีปัญหา จะรีบติดต่อกลับทันที ถ้าเรียบร้อย แล้วจะจัดส่งไปยังสถาบันที่น้องสมัครเรียน เพื่อด�ำเนินการยื่นขอ ใบรับรองสถานภาพการพ�ำนัก (สถานภาพนักเรียน) ที่กองตรวจคน เข้าเมืองญี่ปุ่น
4. แจ้งผลการตอบรับ จองที่พัก และจองตั๋วเครื่องบิน หลังจากรอลุ้นผลได้ประมาณ 4 เดือน เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลให้ทราบ ทันทีโดยการโทรศัพท์และอีเมล์ ว่าได้รับใบรับรองสถานภาพการ พ�ำนัก (Certificate of Eligibility) จากกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็ จะด�ำเนินการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินให้
5. ช�ำระค่าเล่าเรียนและที่พัก
33
ขั้นตอนการสมัครเรียน
ทางสถาบันจะส่งใบแจ้งค่าเล่าเรียน (และหอพัก) มาให้ เพื่อน�ำไปใช้ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของสถาบันทีญ ่ ปี่ นุ่ โดยตรง จากนัน้ ทางสถาบัน จะส่ง Certificate of Eligibility ฉบับจริงมาให้ที่ Jeducation และ ให้นักเรียนมารับเพื่อน�ำไปใช้ในการขอวีซ่า
6. ยื่นขอวีซ่านักเรียน (College Student Visa) น�ำใบ Certificate of Eligibility พร้อมใบรับรองจากสถาบันและ เอกสารทีจ่ ำ� เป็นต่างๆไปใช้ในการยืน่ ประกอบการขอวีซา่ นักเรียนได้เลย ส�ำหรับขัน้ ตอนนีข้ อบอกว่าสบายมาก หลังจากยืน่ ขอวีซา่ แล้วอีก 5 วัน ก็สามารถไปรับวีซ่า และกลับมาจัดกระเป๋าเตรียมพร้อมกันได้เลย
7. ปฐมนิเทศก่อนเดินทาง ทางเจเอ็ดดูเคชั่น จะจัดปฐมนิเทศให้ข้อมูลที่จ�ำเป็นก่อนก่ารเดินทาง เพื่อให้น้องๆเตรียมตัวเตรียมใจก่อนบินสู่ญี่ปุ่น แถมมีคู่มือแนะน�ำ การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นฉบับพกพา ให้พวกเราน�ำติดตัวไปอ่านที่ญี่ปุ่นด้วย
สอบถามข้อมูล-สมัครเรียนได้ที่
หมายเหตุ
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น สาขาสีลม 287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2303 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 • โทร. 02-2677726 ต่อ 101-104 • แฟกซ์. 02-6312040 • Email : ask@jeducation.com สาขาอโศก 2 อาคารจัสมินซิตี้ ชั้น 27 และ 28 ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 • โทร : 02-267-7726 ต่อ 111-112
• สมัครเรียนกับสถาบันที่ Jeducation เป็นส�ำนักงานตัวแทนใน ประเทศไทย ไม่ตอ้ งเสียค่าด�ำเนินการใดๆ ทัง้ สิน้ รวมทัง้ ค่าส่ง เอกสารไปญีป่ นุ่ ด้วย เรียกว่าสะดวกสบายแถมไม่ตอ้ งจ่ายเงินเพิม่ • หลังจากช�ำระค่าสมัครเรียนแล้วจะไม่ได้รับคืนไม่ว่ากรณีใดๆ • ทาง Jeducation จะจองตัว๋ เครือ่ งบินให้นอ้ งๆตรงตามก�ำหนดการ ของโรงเรียนเท่านั้น หากมีผู้ปกครองไปด้วย ทางJeducation ก็ ช่วยบริการให้ได้เช่นกัน • ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ของสถาบันไปรับที่สนามบิน นักเรียน ต้องเสียค่าบริการและค่าพาหนะเอง (ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป แล้วแต่ทางสถาบัน)
เอกสารประกอบการสมัครเรียน
34
หลักสูตรระยะยาว
เอกสารของผู้สมัคร
หมายเหตุ
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว
ใบสมัครของสถาบันที่ต้องการสมัคร สามารถขอรับได้ที่ เจเอ็ดดูเคชั่นหรือทางอีเมล์ ask@jeducation.com
กรอกลายมือตัวบรรจงด้วยปากกาด�ำ ห้ามใช้ น�้ำยาลบค�ำผิด และห้ามใช้ปากกาลบได้
หลักฐานการศึกษาระดับสูงสุด (ฉบับจริง)
กรณีจบการศึกษาแล้ว • หนังสือรับรองจบการศึกษา / ประกาศนียบัตร ของสถาบันการศึกษาระดับสูงสุด กรณีที่กำ�ลังจะจบการศึกษา • หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนหรือ นักศึกษา ระบุช่วงเวลาที่คาดว่าจะส�ำเร็จการศึกษา • หากก�ำลังศึกษาอยู่ในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ให้ใช้หลักฐานของระดับมัธยมศึกษาตอนปลายยื่นด้วย
กรณีที่จบการศึกษามานานกว่า 5 ปี ต้องมี จดหมายชี้ แ จงประวั ติ ก ารท� ำ งานโดย ละเอียด รวมถึงความจ�ำเป็นในการไปศึกษา ต่อที่ญี่ปุ่นและเป้าหมายหลังจบการศึกษาที่ ชัดเจน
หลักฐานแสดงผลการเรียน (ฉบับจริง)
ใบแสดงผลการเรียนระดับสูงสุดจากสถาบันการศึกษา ระดับสูงสุด • ใบร.บ.
ใบรับรองการศึกษาภาษาญี่ปุ่น (ฉบับจริง)
หนังสือรับรองหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันที่ท่าน ศึกษาภาษาญี่ปุ่น
หนังสือรับรองการท�ำงาน (ฉบับจริง)
หนังสือรับรองการทำ�งานจากที่ทำ�งาน • ระบุต�ำแหน่งงาน ระยะเวลาการท�ำงานและเงินเดือน
หนังสือเดินทาง (ส�ำเนา)
สำ�เนาหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน และเล่มเก่าที่เคยเข้า ประเทศญี่ปุ่น • หน้าแรกที่มีรูปถ่ายผู้ถือหนังสือเดินทาง • หน้าที่มีการต่ออายุ หรือมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ชื่อ – นามสกุล • หน้าวีซ่าญี่ปุ่น และหน้าที่มีประทับวันที่เข้า-ออก ประเทศญี่ปุ่นทุกหน้า (โดยต้องเห็นตัวเลขที่ระบุไว้อย่างชัดเจน) • หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานมากกว่า 1 ปี
รูปถ่าย 9 ใบ
รูปถ่ายหน้าตรง สีหรือขาวดำ� ขนาด 1 นิ้วครึ่ง • แต่งกายสุภาพ ไม่ต้องใส่ชุดครุย ถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน • เขียนชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษให้ตรงตาม หนังสือเดินทางไว้หลังรูปทุกใบ • กรุณาดูขนาดรูปที่ถูกต้องในช่องหมายเหตุ
ใบเปลี่ยนชื่อ- นามสกุล (ส�ำเนา)
เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล
ใบสมัคร
หมายเหตุ • • • •
เอกสารทุกฉบับนอกจากที่ระบุว่าเป็นส�ำเนา จะต้องเป็นฉบับจริงเท่านั้น เอกสารที่ยื่นเข้ากองตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นจะไม่ได้รับคืน เอกสารทั้งหมดต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน เอกสารที่สามารถขอต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษได้ กรุณาใช้ฉบับภาษาอังกฤษ เช่นหนังสือรับรองการศึกษา
• •
กรณีทเี่ คยสอบวัดระดับ ต้องแสดงประกาศนียบัตรพร้อมผลคะแนน ด้วย
กรณีที่หนังสือเดินทางเล่มที่มีประทับวันที่ เข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นสูญหาย จะต้องเขียน หนังสืออธิบายประวัติการเข้า-ออกประเทศ ญี่ปุ่น
เอกสารที่เป็นภาษาไทย จะต้องแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น (บางสถาบันต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น) ทางโรงเรียนอาจขอเอกสารหรือจดหมายชี้แจงเพิ่มเติม ในกรณีที่จ�ำเป็น
หมายเหตุ
หนังสือรับรองการท�ำงาน (ฉบับจริง)
กรณีพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ • ใช้จดหมายรับรองการท�ำงานออกโดยหน่วยงาน ระบุต�ำแหน่งงาน ระยะเวลา • การท�ำงาน เงินเดือนและรายได้ กรณีผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว • ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือ ส�ำเนาทะเบียน การค้า ซึ่งออกโดยหน่วยงานราชการ
เอกสารแสดงรายได้ (ส�ำเนา)
• แบบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจ�ำปี (ภงด. 90 หรือ 91) พร้อมส�ำเนาใบเสร็จ หรือส�ำเนาหนังสือรับรองการหักภาษีจากที่ท�ำงาน
หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน (ไม่ใช่ Bank Statement) (ฉบับจริง)
หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน (บัญชีออมทรัพย์หรือ ฝากประจำ�)/หนังสือรับรองพันธบัตรรัฐบาล/สลาก ออมสิน ออกโดยธนาคาร • จ�ำนวนเงินไม่ต�่ำกว่า 8 แสนบาท ต้องระบุจ�ำนวน เงินเป็นตัวเลขที่ชัดเจน ต้องระบุจำ�นวนเงินเป็นตัวเลขที่ชัดเจน
ต้องเป็นชื่อบัญชีของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย (กรณีเป็นชื่อบุคคลอื่นหรือชื่อร่วมต้องเขียน จดหมายชี้แจง)
สมุดบัญชีเงินฝาก (ส�ำเนา)
สมุดบัญชีเงินฝากทุกหน้า หรือ สำ�เนาสลากออมสิน หรือ สำ�เนาพันธบัตร
ส�ำเนารายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ กับผู้สมัคร (ฉบับจริง)
พ่อแม่ พี่น้อง หรือญาติซึ่งห่างไม่เกิน 2 ลำ�ดับชั้น • คัดแบบรายการทะเบียนราษฏร จากที่ว่าการอ�ำเภอ หรือที่ว่าการเขต (ทร.14/1) ของผู้สมัครและผู้รับผิด ชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหรือส�ำเนาเอกสาร ที่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์กันได้ เช่น สูติบัตร
ส�ำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ส�ำเนา)
เฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล
เอกสารเพิ่มเติมกรณีผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอยู่ในประเทศญี่ปุ่น สำ�เนาทะเบียนบ้านที่ญี่ปุ่น
ผูร้ บั ผิดชอบค่าใช้จา่ ยควรเป็นบุคคลทีม่ รี ายได้ ต่อปีมากกกว่า 500,000 บาท (รายได้ตอ่ เดือนมากกว่า 45,000 บาท)
หมายเหตุ
แสดงรายชื่อสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด
สำ�เนาบัตรประจำ�ตัวคนต่างชาติ สำ�เนาหนังสือเดินทาง สำ�เนาหนังสือจดทะเบียนสมรส สำ�เนาใบรับรองตราประทับ หากต้องการเอกสารอธิบายหลักฐานของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเป็นภาษาญี่ปุ่น กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น เป็นตัวแทนในประเทศไทยของสถาบันการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ผู้สมัครจึงไม่ต้องเสียค่าดำ�เนินการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงค่าจัดส่งเอกสารไปญี่ปุ่น สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น – ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่นเจเอ็ดดูเคชั่น สาขาสีลม 287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 23 ห้อง 2303 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 สาขาอโศก 2 อาคารจัสมินซิตี้ ชั้น 27 และ 28 ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร : 02-267-7726 ต่อ 101-104
35
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเอกสารการสมัคร กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ โทร. 0-2267-7726 ต่อ 101-104
ขั้นตอนการสมัครเรียน
เอกสารของผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อยู่ในประเทศไทย
E x a m i n a t i o n f o r Jap an e se U niv er s i t y A d m i s sio n f o r I nte r n a t i o n a l St u de n t s การสอบเพื่อศึกษาต่อ ประเทศญี่ปุ่น
37
การจัดสอบ : จัดสอบปีละ 2 ครั้ง คือในเดือนมิถุนายนและเดือนพฤศจิกายน ช่วงเวลาการรับสมัคร : ครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคม การแจ้งผลการสอบ : จะแจ้งภายหลังการสอบ 1 เดือน หลักฐานการสมัคร : รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 ใบ ค่าสมัครสอบ : 370 บาท
การสอบ EJU
EJU
เป็นการสอบเพื่อวัดความรู้พื้นฐานวิชาสามัญและความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น สำ�หรั บ นั ก ศึ ก ษาต่ า งชาติ ที่ ป ระสงค์ จ ะเข้ า ศึ ก ษาต่ อ ในระดั บ อุ ด มศึ ก ษาของประเทศญี่ ปุ่ น (คล้ายการสอบO-NETของประเทศไทย) ซึ่งสามารถเข้าสอบได้ 17 แห่งจาก 14 ประเทศ โดยไม่ต้องไปสอบที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ สามารถจองทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรายเดือนผ่าน การสอบ EJU ได้สำ�หรับผู้ที่ประสงค์จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี และสำ�หรับประเทศไทย ผลคะแนน EJU ยังสามารถนำ�ไปประกอบการรับสมัครทุนรัฐบาลญีป่ นุ่ (Monbukagakusho : MEXT) ประเภทนักศึกษาปริญญาตรีและนักศึกษาวิจัยในกรณีที่ผู้สมัครมีคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ถึงเกณฑ์ ที่กำ�หนดไว้
วิชา
จุดมุ่งหมาย
เวลา
ระดับ
ภาษาญี่ปุ่น
พือ่ วัดความสารถภาษาญีป่ นุ่ ทีจ่ ำ�เป็น ในการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ของญี่ปุ่น (Academic Japanese)
125 นาที
การอ่าน – ฟัง 0 – 400
การเลือกวิชา
การเขียน 0 – 50 วิทยาศาสตร์ เพื่อวัดความรู้พื้นฐานด้าน วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา) ที่จำ�เป็นต่อการศึกษาใน คณะทางวิทยาศาสตร์
80 นาที
0 - 200
ความรู้ทั่วไป เพื่อวัดความรู้พื้นฐานสาย มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่ จำ�เป็นในการศึกษาในมหาวิทยาลัย ของญี่ปุ่นโดยเฉพาะความสามารถ ทางด้านตรรกะและการใช้ความคิด หาเหตุผล
80 นาที
0 – 200
คณิตศาสตร์ การวัดความรู้พื้นฐานด้าน คณิตศาสตร์ที่จำ�เป็นในการศึกษา มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น
80 นาที
0 - 200
เลือก 2 วิชา จากวิชาฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา ขึ้น อยู่กับข้อกำ�หนดของสถาบันการศึกษาที่ผู้สมัคร สอบต้องการจะเข้าศึกษาต่อ
เลือกคอร์ส 1 (คณะสายศิลป์หรือคณะสาย วิทยาศาสตร์ที่ใช้คณิตศาสตร์ระดับต้น) หรือ คอร์ส 2 (คณะที่ต้องใช้คณิตศาสตร์ระดับสูง)
หมายเหตุ 1. วิชาภาษาญี่ปุ่นมีการสอบทั้ง 4 ทักษะ คือ การอ่าน การฟัง ความเข้าใจในการฟัง การเขียน 2. ภาษาของโจทย์มี 2 ภาษาให้เลือก คือ ภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่น 3. การเลือกวิชาที่สอบและภาษาของโจทย์ขึ้นอยู่กับข้อกำ�หนดของสถาบันการศึกษาที่ผู้สมัครสอบต้องการเข้าศึกษาต่อ ยกเว้น วิชาภาษาญี่ปุ่นจะมีโจทย์เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
สมัครได้ที่ สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ 408 อาคารพหลโยธินเพลส ชั้นที่ 16 ห้องเลขที่ 408/65 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 โทร 02-357-1241-5 (สาขาพหลโยธิน) 1/7 ชั้น 2 อาคารสีบุญเรือง 2 ถนนคอนแวนต์ สีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทร 02-234-6951 (สาขาสีลม) องค์การสนับสนุนการศึกษาต่อแห่งประเทศญี่ปุ่น ชั้น 10 อาคารเสริมมิตร 159 ถนนอโศก(สุขุมวิท 21) กรุงเทพมหานคร 10110โทร 02-661-7057-8
38
JLPT
เป็นการสอบเพื่อวัดผลและรับรองความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของนักศึกษาต่าง ชาติที่ศึกษาภาษาญี่ปุ่นภายในและนอกประเทศ เนื้อหาข้อสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 読む試験(よむしけん)เป็นการสอบคำ�ศัพท์ คันจิ ไวยากรณ์และการอ่าน 聞く試験(きくしけん) เป็นการสอบการฟัง
J a p a n es e L a n g uage Pr o fi c i en c y T es t
การจัดสอบ จัดสอบปีละ 2 ครั้ง ในวันอาทิตย์แรกของเดือนกรกฎาคมและเดือนธันวาคม การสมัครสอบ ในประเทศไทยสามารถสมัครได้ประมาณช่วงเดือนเมษายน(รอบแรก) และเดือนสิงหาคม (รอบสอง)ของทุกปี การแจ้งผลสอบ ในใบแจ้งผลคะแนนจะมีรายการ JLPT Can-do (ชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการ) บันทึกเป็น ตัวอย่างให้ทราบ ผู้ที่สอบผ่านระดับนั้นๆมีความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นแต่ละทักษะในทาง ปฏิบัติจริงอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้สอบและบุคคลทั่วไปที่ดูผลสอบนี้มีความเข้าใจ ผลการสอบใน แต่ละระดับได้ชัดเจนมากขึ้น
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น การสอบ JLPT
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ojsat.or.th และ www.jlpt.jp
ระดับ
รายละเอียด ข้อสอบ
เวลา(นาที)
เกณฑ์มาตรฐานที่กำ�หนด คะแนน 60
คำ�ศัพท์ และ ไวยากรณ์ 110 การอ่าน
60
N1 การฟัง
รวม
60
170
คำ�ศัพท์ และ ไวยากรณ์
60
180
60 105
การอ่าน
สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในวงกว้างได้ (การอ่าน) - อ่านบทความ บทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ที่เขียนเกี่ยวกับหัวเรื่องต่าง ๆ ในวง กว้างหรือข้อความที่เป็นแนวตรรกะ มีความซับซ้อน มีความเป็นนามธรรมสูง แล้วสามารถเข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาได้ - อ่านเรื่องที่มีหัวข้อหลากหลายและมีเนื้อหาลึกซึ้งแล้วสามารถเข้าใจลำ�ดับเนื้อ เรื่อง และรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการสื่อในสำ�นวน
60
N2 การฟัง
50
60
รวม
155
180
(การฟัง) - ฟังบทสนทนา ข่าว การบรรยายที่มีเรื่องราวในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยมีระดับ ความเร็วในการพูดที่เป็นธรรมชาติ แล้วสามารถเข้าใจลำ�ดับเนื้อเรื่อง เนื้อหา ความสัมพันธ์ของบุคคลและโครงสร้างความเป็นมาของเนื้อหาอย่างละเอียดและ จับประเด็นได้ สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ชีวิตประจำ�วันได้ และสามารถ เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ในวงกว้างได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) - อ่านบทความที่มีประเด็นชัดเจนอย่างเช่น บทความในหนังสือพิมพ์หรือ นิตยสารที่เขียนเกี่ยวกับหัวเรื่องต่าง ๆ ในวงกว้าง หรือคำ�อธิบายหรือบท วิจารณ์ง่าย ๆ และสามารถเข้าใจเนื้อหาของบทความได้ (การฟัง) - ฟังบทสนทนา ข่าว ที่มีเรื่องราวในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งสถานการณ์ที่ใช้ ในชีวิตประจำ�วันโดยมีระดับความเร็วในการพูดที่เป็น ธรรมชาติ แล้วสามารถ เข้าใจลำ�ดับเนื้อเรื่อง เนื้อหา ความสัมพันธ์ของบุคคลและจับประเด็นได้
N3
รายละเอียด
เกณฑ์มาตรฐานที่กำ�หนด
ข้อสอบ
เวลา(นาที)
คะแนน
คำ�ศัพท์
30
60
การอ่าน และ ไวยากรณ์
70
60
การฟัง
40
60
รวม
140
180
คำ�ศัพท์
30 120
การอ่าน และ ไวยากรณ์
(การฟัง) - ฟังบทสนทนาที่เป็นเรื่องราวในชีวิตประจำ�วัน โดยมีระดับความเร็วในการ พูดใกล้เคียงกับระดับธรรมชาติ แล้วสามารถพอจะเข้าใจเนื้อหารวมทั้งความ สัมพันธ์ของบุคคลได้ สามารถเข้าใจพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น (การอ่าน) - อ่านเรื่องที่ใกล้ตัวในชีวิตประจำ�วันที่เขียนด้วยคำ�ศัพท์ และคันจิขั้นพื้นฐาน แล้วเข้าใจ
60 (การฟัง) - ฟังบทสนทนาในชีวิตประจำ�วันที่พูดอย่างช้าๆ แล้วพอจะเข้าใจ
N4
N5
สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตประจำ�วันได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) - อ่านบทความที่มีเนื้อหาเป็นรูปธรรมที่เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำ�วัน แล้วสามารถเข้าใจได้ - สามารถจับใจความคร่าว ๆ ของข้อมูลที่มาจากหัวข้อข่าว เป็นต้น - หากให้ข้อความที่ใช้สำ�นวนอีกแบบหนึ่ง จะสามารถเข้าใจความสำ�คัญของ ข้อความ ที่พบเห็นในชีวิตประจำ�วันที่ค่อนข้างมีความยากได้
การฟัง
35
60
รวม
125
180
คำ�ศัพท์
25
การอ่าน และ ไวยกรณ์
50
120
การฟัง
30
60
รวม
105
180
สามารถเข้าใจพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นได้ในระดับหนึ่ง (การอ่าน) -อ่านวลี ประโยคหรือข้อความที่เขียนด้วยฮิรางานะ คาตาคานะและคันจิขั้น พื้นฐานใช้ในชีวิตประจำ�วัน แล้วเข้าใจ (การฟัง) - ฟังบทสนทนาสั้นๆ ที่พูดอย่างช้าๆ ในสถานการณ์ที่มักพบเห็นในชีวิตประจำ� วัน อย่างเช่น ในห้องเรียนหรือสถานการณ์ใกล้ตัว แล้วพอจะจับข้อมูลที่ สำ�คัญได้
หมายเหตุ
1. เนื้อหาที่จัดสอบในส่วนของการฟังคิดเป็น1ใน3ของข้อสอบทั้งหมด 2. จะต้องสอบผ่านทุกส่วนจึงจะถือว่าสอบผ่าน แม้ว่าได้คะแนนรวมถึงเกณฑ์แต่ถ้ามีส่วนใดส่วนหนึ่งได้คะแนนไม่ถึงก็ถือว่าไม่ผ่าน 3. การสอบในรูปแบบใหม่จะไม่มีการนำ�ข้อสอบมาเผยแพร่ เพื่อเป็นการรักษาระดับมาตรฐานการสอบ
สมัครได้ที่ สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ 408 อาคารพหลโยธินเพลส ชั้นที่ 16 ห้องเลขที่ 408/65 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 โทร 02-357-1241-5 (สาขาพหลโยธิน) 1/7 ชั้น 2 อาคารสีบุญเรือง 2 ถนนคอนแวนต์ สีลม บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทร 02-234-6951 (สาขาสีลม)
39
การสอบ JLPT
ระดับ
MAP OF JAPAN
1. Hokkaido 2. Aomori 3. Iwate 4. Miyagi 5. Akita 6. Yamagata 7. Fukushima 31. Tottori 32. Shimane 33. Okayama 34. Hiroshima 35. Yamaguchi
8. Ibaraki 9. Tochigi 10. Gunma 11. Saitama 12. Chiba 13. Tokyo 14. Kanagawa 19. Yamanashi
15. Niigata 16. Toyama 17. Ishikawa 18. Fukui 20. Nagano 21. Gifu 22. Shizuoka 23. Aichi
36. Tokushima 37. Kagawa 38. Ehime 39. Kochi
40. Fukuoka 41. Saga 42. Nagasaki 43. Kumamoto 44. Oita 45. Miyazaki 46. Kagoshima 47. Okinawa
24. Mie 25. Shiga 26. Kyoto 27. Osaka 28. Hyogo 29. Nara 30. Wakayama
SCHOOL INDEX
AICHI
I.c.nagoya Japanese Language School
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL HIGH SCHOOL COLLEGE UNIVERSITY
FUKUI Fukui University Of Technology
HOKKAIDO
44
Japanese Language Institute Of Sapporo Tomakomai Komazawa University
SAITAMA
Yono-Gakuin Japanese Language School
TOKYO
46 -
48 50
52
Aoyama International Education Institute 54 Intercultural Institute Of Japan 56 The Naganuma School (Tokyo School of 58 Japanese Language) Tokyo Galaxy Japanese Language School 60 Toyo Language School 62 Abk College 64 Sendagaya Japanese School 66 Nihon Kogakuin College 68 Toho Gakuen College 70 Japanese Language School affiliated with Tokyo University of Technology Japanese Language School of the Tokyo Foreign Language Academy (TGN) Meros Language School Japan Electronics College Tokyo School of Business Tokyo Institute of Tourism Tokyo Tokyo Designer Gakuin College Tokyo Tokyo Visual Arts Tokyo Tokyo Net Wave -
KANAGAWA
72
College Of Business And Communication 74 Yokohama International Education Academy 76 Tokai University -
YAMANASHI
Unitas Japanese Language School
SHIZUOKA
Oisca Senior High School
78 80
82 84
86 88
90 92
KYOTO
94
OSAKA
98
HYOGO
104
Kyoto Kyoto Kyoto Kyoto Kyoto
Institute of Culture and Language Institute of Design College Gakuen University Notre Dame University University of Art and Design
ECC Kokusai College Of Foreign Languages Ehle Institute Japanese Language School ECC College of Beauty & Style ECC College of Computer & Multimedia Nihon Riko-Jyoho Institute
Interculture Language Academy Kobe International University
KOCHI
Meitoku Gijuku Senior High School
96 -
100 102 -
106 108
110 112
FUKUOKA
114
NAGASAKI
118
Fukuoka Ymca Japanese Language School Asia Japanese Academy
Kwassui Women’s University
116 -
120
OKINAWA Sci. Tec. College department of Japanese
-
OKAYAMA Okayama Institute of Languages
-
HIROSHIMA Hiroshima YMCA College
-
44
แนะนำ�จังหวัด
HOKKAIDO 北海道
Mascot : Putchiina
ฮอกไกโด เป็นชือ่ จังหวัดและภูมภิ าคทีอ่ ยูเ่ หนือสุดของประเทศญีป่ นุ่
โดยมีเมืองหลวงคือเมืองซัปโปโร นอกจากนีเ้ กาะฮอกไกโดยังเป็นเกาะ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น โดยระหว่างเกาะฮอนชูและ เกาะฮอกไกโดจะมีทางเชือ่ มถึงด้วยอุโมงค์ทางรถไฟ อุตสาหกรรมหลัก ของจังหวัดคืออุตสาหกรรมเบียร์ และการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์
สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของฮอกไกโดอยู่ที่ 12 องศาเซลเซียส แต่เดือน มกราคมมีช่วงอุณหภูมิต�่ำมากประมาณ -4 องศาเซลเซียส ถึง -12 องศาเซลเซียส ในหน้าร้อนอากาศจะเย็นสบายไม่รอ้ นเท่ากับภูมภิ าคอืน่
แนะนำ�จังหวัด
45
จากซ้ายไปขวา • พิพิธภัณฑ์และโรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ • พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร • บุฟเฟต์ปูเมืองฮาโกดาเตะ • คุ้กกี้ช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. พิพิธภัณฑ์และโรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi koibito park) ภายในสวนแห่งนี้ ถูกตกแต่งในสไตล์ยุโรปผสม ผสานกับเมืองในเทพนิยาย สามารถเยี่ยมชมอุปกรณ์การผลิต ช็อกโกแลตในยุคแรกเริม่ รวมทัง้ แบบจ�ำลองของโรงงานและขัน้ ตอน การผลิตต่างๆ โดยเปิดให้บริการตลอดทั้งปี
งานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เป็นงานเทศกาล ประจ�ำปีที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก ในตัวงานเทศกาลก็จะมี การโชว์ผลงานทางด้านประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่ และมีหลากหลาย ประเทศเข้ามาร่วมประกวดงานประติมากรรมจากหิมะ ประเทศไทย ของเราก็เป็นหนึ่งประเทศที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในงานนี้มาด้วย เช่นกัน
2. พิพิธภัณฑ์เบียร์ ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งแรกและแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เปิดด�ำเนิน การมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1876 และเป็นโรงงานแห่งแรกของญี่ปุ่น ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์โดยไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ใครอยากจะลองชิมเบียร์สดก็จะมีเป็นเช็ตเบียร์เซ็ตละ 3 แก้ว 400 เยน และที่ได้รับความนิยมเห็นจะเป็นเบียร์ Black Label 3. เมืองฮาโกดาเตะ (Hokodate) เป็นเมืองที่มีจุดชมวิวที่สวยติด อันดับ 1 ใน 3 ของโลก และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอาหาร ทะเลโดยเฉพาะปู ซึ่งจะมีบุฟเฟต์ขาปูยักษ์ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้ม ลองรสอร่อยของขาปู ปูที่นี่ไม่ต้องปิ้งก็สามารถทานสดๆได้เลย
ของฝาก
คุ้กกี้ช็อกโกแล็ตชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito)
จิรพล จันทรัตน์ (ซัน)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 เนื่องจากซับโปโรตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด ด้วยอากาศที่เย็นสบาย ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทำ� ให้ผลผลิตทางการ เกษตรต่างๆรวมไปถึงปศุสัตว์นั้นมีคุณภาพมาก อาหารการกินของซับโปโรจึงอร่อยมากกว่าที่อื่นของญี่ปุ่นขึ้นมาอีกเท่านึง เลยทีเดียวครับ หลายคนจะรู้จักความเด่นของฮอกไกโดในหน้าหนาว หิมะที่ตกตลอดเกือบระยะเวลา6เดือน งานเทศกาล หิมะ สกีและสโนว์บอร์ด ทะเลสาบที่เป็นน�้ำแข็ง และอีกหลายๆอย่างในฤดูหนาว แต่จริงๆแล้วช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโดก็ เป็นอีกช่วงที่ธรรมชาติสวยงามมากเหมือนกัน ทั้งภูเขา ป่าไม้ ต้นไม้ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และวิวทิวทัศน์นั้นสวยงาม มากจริงๆครับ ตลอดเกือบ1ปีที่อยู่ที่ซับโปโรนั้น นอกจากความประทับใจต่อคนญี่ปุ่นแล้ว ซับโปโรเป็นเมืองที่อยู่สบายมาก ไม่แออัด อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร เหมาะแก่การอยู่อาศัย และสามารถให้สมาธิกับการเรียนได้เป็นอย่างดีครับ ขอบคุณภาพประกอบจาก JNTO (japan-photo.jnto.go.th)
JAPANESE LANGUAGE INSTITUTE OF SAPPORO
46
札幌国際日本語学院 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 2-7 Nishi 26-Chome, Minami 6 Jo, Chuo-Ku, Sapporo 064-0806 ปีที่ก่อตั้ง 1986 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 11 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 140 คน (32 สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น มีนักเรียนมากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ต่างคน ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม แต่ทุกคนได้มาใช้ภาษา ญี่ปุ่นร่วมกันภายในห้องเรียน
1. มีนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลก มากถึง 25 ประเทศทั่วโลก 2. อาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นผ่านการอบรมมากกว่า 2 สถาบัน และนักเรียนมีโอกาสแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนักเรียนญี่ปุ่นได้ 3. ทีมอาจารย์ที่มีคุณภาพ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครัน พร้อม กับเนื้อหาการเรียนที่เข้มข้น
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Japanese Language Institute of Sapporo เป็นสถาบันสอนภาษา ญี่ปุ่น ที่ได้รับการรับรองโดย Association for the Promotion of Japanese Language Education (Nisshinkyo) และได้รับอนุญาต อย่างเป็นทางการจากกองตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นในการเป็นตัวแทนยื่น ธุรกรรมต่างๆ แทนนักเรียนได้ สถาบันตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร ที่เป็น หนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดล�ำดับที่ 5 ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ยัง สามารถรักษาระหว่างความเป็นเมืองและธรรมชาติได้อย่างสมดุล นักเรียนสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมผ่านฤดูกาลทั้ง 4 ที่สวยงาม ได้ตลอดทั้งปี
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นให้มี ความเชี่ยวชาญทั้ง 4 ด้านอย่างสมดุลและเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อใช้ ในชีวิตประจ�ำวัน หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ เพื่อสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับN1, EJU และเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมค่าอุปกรณ์ การเรียน ค่ากิจกรรมและ ค่าสิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:25 น. หรือ รอบบ่าย 13:00 – 16:25 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก บริเวณนั่งพักส�ำหรับนักเรียน (สามารถใช้คอมพิวเตอร์และWifiได้) ห้องเรียน ส�ำนักงาน ห้องพยาบาล
กิจกรรมพิเศษ คริสต์มาสปาร์ตี้ การแข่งขันถ่ายรูป ทัศนศึกษาฤดูใบไม้ผลิและ ฤดูใบไม้ร่วง แข่งขันปาร์คกอล์ฟ พิธีชงชา ใส่ยูกาตะ ทัศนศึกษา โรงงานผลิตเบียร์ ทัศนศึกษาโรงงานช็อกโกแล็ต ฝึกนั่งสมาธิแบบ ญี่ปุ่น เขียนพู่กัน กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหิมะ ปีนเขามารุยามะ
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน เมืองซัปโปโรเป็นเมืองที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมสูงมีสถานที่เรียนรู้ วัฒนธรรมได้หลายแห่ง เช่น Sapporo Art Park, Concert Hall, พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น เมืองซัปโปโรเป็นเมืองที่สวยงามและยังสามารถ รักษาความเป็นเมืองและธรรมชาติได้อย่างสมดุล และยังเป็นเมืองที่ คนนิยมมาหลบร้อนในหน้าร้อน ส่วนหน้าหนาวก็มีรีสอร์ตเล่นสกี ใน ระหว่างปีมีงานเทศกาลที่สามารถเข้าร่วมอย่างสนุกสนานมากมาย เช่น เทศกาลหิมะ เทศกาลYosakoi เป็นที่ใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวจาก ทั่วโลก
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Maruyama Kouen (รถไฟใต้ดนิ ) เดิน 7 นาทีถงึ โรงเรียน
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าด�ำเนินการจัดหาหอพัก 5000 เยน • ค่าใช้จ่ายครั้งแรกจะขึ้นอยู่กับวันเข้า หอพักด้วย • ระบบอินเตอร์เน็ตเป็นระบบสายแลน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
47
48
แนะนำ�จังหวัด
SAITAMA 埼玉
Mascot : Kobaton จังหวัดไซตามะ ตัง้ อยูภ่ ายในภูมภิ าคคันโตของเกาะฮอนชู จึงไม่มี พื้นที่ติดกับทะเล มีเมืองหลวงคือเมืองไซตามะ มีความเจริญมาก เพราะอยู่ใกล้กับโตเกียว จังหวัดไซตามะมีสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ ทั้งเทือกเขา ทิวทัศน์ที่สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งยังคง อนุรักษ์ความเป็นญีป่ นุ่ ไว้ ท�ำให้ผคู้ นทีอ่ าศัยอยูใ่ นโตเกียวชอบมาเทีย่ วที่ ไซตามะเพราะเดินทางเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็สามารถสัมผัสกับ ความเป็นธรรมชาติได้แล้ว
สภาพภูมิอากาศ อากาศในจั ง หวั ด ไซตามะส่ ว นใหญ่ ใ นหน้ า ร้ อ นจะมี ฝ นตกมาก อุณหภูมิตอนกลางวันค่อนข้างสูงและในฤดูหนาวจะมีลมแห้งพัดตาม ฤดูกาล
แนะนำ�จังหวัด
49
จากซ้ายไปขวา • เมืองโบราณ ลิตเติ้ล เอโดะ • สวนฮิซึจิยามะ • ไซตามะซูเปอร์อารีนา • มันหวานเมืองคาวาโกเอะ
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. เมืองโบราณ ลิตเติ้ล เอโดะ (Little Edo Ancient City) เมืองโบราณลิตเติล้ เอโดะ ตัง้ อยูใ่ นเมืองคาวาโกเอะ ซึง่ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีบรรยากาศย้อนยุค ภูมิทัศน์ สถาปัตยกรรมต่างๆ ถูกอนุรักษ์ ไว้เหมือนสมัยเอโดะดั้งเดิม 2. สวนฮิซึจิยามะ (Hitsujiyama Park) เป็นสถานที่ที่มีทุ่ง ชิบะซากุระ หรือ พิ้งค์มอส ปลูกไว้อย่างสวยงาม สวนนี้ตั้งอยู่ที่ เมืองชิชบิ ุ (Chichibu) ในเมืองไซตามะ ดอกไม้ในสวนนีจ้ ะบานสะพรัง่ ช่วงกลางเดือนเมษายนซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวแห่มาชมกันทุกปี
เทศกาลโคมไฟชิชิบุ โยมัทสึริ (Chichibu Night Festival) เทศกาลโคมไฟชิชบิ ุ โยมัทสึริ มีชอื่ เสียงติด 1 ใน 3 ของเทศกาลโคมไฟ ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นโดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–3 ธันวาคมของ ทุกปี มีโคมไฟประดับประดายาวตลอดถนนในเมืองชิชบิ แุ ละยังมีไฮไลท์ เป็นการจุดดอกไม้ไฟนานกว่า2ชั่วโมงด้วย
3. ไซตามะซูเปอร์อารีนา (Saitama Super Arena) เป็นสถานที่ จัดงานส�ำคัญๆตลอดทัง้ ปีเพราะอยูใ่ กล้จงั หวัดโตเกียว แต่ทจี่ ดั มาก ที่สุดคือ งานแสดงดนตรีคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังทั้งศิลปินญี่ปุ่น และศิลปินต่างชาติ
ของฝาก
มันหวานเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoeimo)
ศศิวิมล จุลศิริวัฒนกุล (มน)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2014 จังหวัดไซตามะอยูต่ ดิ กับโตเกียวเลยค่ะ ถ้าอยากไปโตเกียวก็ไม่ยากค่ะ นัง่ รถไฟไปใช้เวลาไม่นาน สะดวกมากๆ การคมนาคมของทีน่ ดี่ มี ากค่ะ ไซตามะเป็นเมืองทีส่ วย ผูค้ นไม่พลุกพล่านเหมือนทีโ่ ตเกียว แถมยังมีหา้ งสรรพสินค้า ร้านอาหารมากมายให้เลือกสรร ทีจ่ งั หวัดไซตามะยังมีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีน่ า่ สนใจอยูห่ ลายทีค่ ะ่ ทัง้ แหล่งท่องเทีย่ ว ทางประวัติศาสตร์และทางธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นให้นักเรียนได้เข้า ร่วมด้วยค่ะ ท�ำให้เราได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ได้พบเพื่อนใหม่ๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยค่ะ
YONO-GAKUIN JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
50
与野学院日本語学校 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 4-78 Kishikicho, Omiya-ku, Saitama-shi, Saitama 330-0843 ปีที่ก่อตั้ง 1988 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 8 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 210 คน (14สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น Yono-Gakuin มีช่ัวโมงเรียนที่มีประสิทธิภาพ และกิจกรรมที่หลากหลาย
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน โรงเรียนอยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองโตเกียว 30 นาทีโดยรถไฟ มีค่า ครองชีพทีถ่ กู กว่าเมือ่ เทียบกับเมืองหลวง เป็นเมืองทีเ่ งียบสงบ อยูส่ บาย เหมาะต่อการเรียน โรงเรียนใช้วิธีการสอนแบบ Direct คือสื่อสารกับ นักเรียนโดยใช้ภาษาญีป่ นุ่ เท่านัน้ เพือ่ ให้นกั เรียนสามารถซึมซับความรู้ ภาษาญีป่ นุ่ อย่างเป็นธรรมชาติ เพือ่ เตรียมตัวศึกษาต่อในสถาบันระดับสูง ที่ญปี่ นุ่ โรงเรียนยังดูแลเกีย่ วกับการใช้ชวี ติ ของนักเรียน โดยสามารถ จั ด หาที่ พั ก แบบโฮมสเตย์ ส� ำ หรั บ นั ก เรี ย นที่ต้องการใช้ชีวิตในแบบ ญีป่ นุ่ อย่างแท้จริง เพือ่ การพัฒนาทักษะทางภาษาได้อย่างรวดเร็วยิง่ ขึน้
1. จัดการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น และ EJU เสมือนจริง เพื่อ ให้นักเรียนสามารถเรียนและตรวจสอบความพร้อม ความคืบ หน้าในความสามารถของตนเองได้ในเวลาเดียวกัน 2. จั ด สั ม มนาและจ� ำ ลองการสอบสั ม ภาษณ์ ก ารท� ำ งานพิ เ ศษ รวมถึ ง แนะน� ำ บริ ษั ท ที่ ส ามารถรั บ นั ก เรี ย นต่ า งชาติ เ ข้ า ท� ำ งาน พิเศษ โดยโรงเรียนจะคอยสนับสนุนข้อมูลส�ำหรับการหางาน พิเศษด้วย 3. จากการร่วมมือกับจังหวัดไซตามะ มีการจัดการสนับสนุน และให้ค�ำปรึกษาเกี่ยวกับการท�ำงานในจังหวัด ให้แก่นักเรียน ระยะยาว
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ เหมาะส�ำหรับผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันระดับสูง หรือผู้ที่ต้องการ เรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มทักษะทางภาษาญี่ปุ่น หรือเพื่อ ประโยชน์ต่อการท�ำงานในอนาคต
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในหลักสูตรเพื่อ
ศึกษาต่อ จะรวมค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าประกันสุขภาพแล้ว
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:30 – 17:00 น.
สิ่งอำ�นวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด ห้องพักผ่อน ฟรีอินเตอร์เน็ต
กิจกรรมพิเศษ
เทศกาลชมดอกซากุระ ทัศนศึกษาที่คามาคุระและเอโนะชิมะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ พิธีการ ชงชา ทดลองการปลูกข้าว ปีนภูเขาไฟ ฟูจิ เทศกาลฤดูร้อน สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ บ่อน้ำ�พุร้อน ทดลอง การ เกี่ยวข้าว เที่ยวชมเมืองโทไคจิ ทัศนศึกษาโรงงานผลิตขนม LOTTE สกี ปาร์ตี้บาร์บีคิวกับนักศึกษาชาวญี่ปุ่น เป็นต้น
สิทธิพิเศษสำ�หรับนักเรียน
โรงเรียนตั้งอยู่ใจกลางเมืองไซตามะซึ่งเป็นเมืองใหม่ ทำ�ให้สัมผัสได้ ถึงความทันสมัยของญี่ปุ่น มีทั้ง ห้างสรรพสินค้า ศาลากลางจังหวัด ร้านหนังสือ โรงละคร สวนสาธารณะ ศูนย์แสดงกิจกรรม และ สาธารณูปโภคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยใกล้ ๆ ที่ นักเรียนสามารถหางานพิเศษทำ�ได้ง่าย
สถานีที่อยู่ใกล้
อยูห่ า่ งจากสถานี Saitama - Shintoshin เพียง 7 นาที โดยการเดิน
แนะแนวการหางาน แนะนำ�งานพิเศษ
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าเช่าไม่รวมค่าไฟและค่าแก๊ส ค่าใช้จ่าย ต่อเดือนประมาณ 5,000 -10,000 เยน และค่าอินเตอร์เน็ทประมาณ 1,050 – 3,570 เยน
-
-
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
51
52
แนะนำ�จังหวัด
TOKYO 東京
Mascot : Sorakarachan กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญีป่ นุ่ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศ โดยมีเขตทีส่ ำ� คัญ เช่น ชินจุกุ อุเอโนะ ชิบยุ า่ อาซากุสะ และอื่นๆ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่อย่างไรก็ตามชานเมืองโตเกียวก็มีความสงบ และบางที่แทบไม่ แตกต่างจากชนบทเลย นอกจากนีก้ รุงโตเกียวได้เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก ในปี 2020 ท�ำให้หน่วยงานต่างๆได้ร่วมมือกันพัฒนากรุงโตเกียวเพื่อ รับมือกับมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่นี้
สภาพภูมิอากาศ กรุงโตเกียวอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเมืองใหญ่จึงท�ำให้ กรุงโตเกียวมีอากาศอบอุน่ และมีฤดูหนาวทีไ่ ม่หนาวจนเกินไปอุณหภูมิ จะอยูในช่วงประมาณ 2-33 องศาเซลเซียส และส่วนชานเมืองนัน้ จะมี อากาศเย็นลงอีกประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส
จากซ้ายไปขวา • ชินจุกุ • โอไดบะ • ย่านอาซากุซะ
• Baum Kuchen Cake
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ชินจุกุ (Shinjuku) ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของกรุงโตเกียว โดยมีอาคารส�ำนักงาน ย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมี ตึกระฟ้ามากมาย โดยเฉพาะอาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว ซึ่ง ประชนชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมทิวทัศน์มุมสูงของโตเกียวได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีห้างร้านที่สามารถจับจ่ายซื้อ ของได้มากมาย
อาซากุสะ แซมบ้า เฟสติวัล (Asakusa Samba Festival) เป็นงาน ขบวนแซมบ้าพาเหรดและงานประกวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จะจัด ขึน้ ช่วงวันเสาร์สดุ ท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปี มีคนแสดงและผูเ้ ข้า ประกวดกว่า 5 แสนคน ผู้เข้าร่วมนั้นมีตั้งแต่นักเรียนประถมจนถึง ผู้ใหญ่ แต่ละกลุ่มจะแต่งกาย และเต้นระบ�ำแซมบ้าคู่กับรถพาเรตที่ ตกแต่งอย่างสวยงาม
2. ย่านอาซากุสะ (Asakusa) เป็นย่านเมืองเก่าทางตะวันออกของ กลางเมืองโตเกียว ซึ่งมีวัดที่เลื่องชื่ออย่างวัดเซนโซจิ นอกจากนี้ สามารถขึ้นรถไฟอีกสองสถานีเพื่อไปหอคอยโตเกียวสกายทรี ซึ่ง เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น 3. โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยการถมทะเล ขนาดใหญ่ โดยในบริเวณจะมีสะพานที่เชื่อมต่อกับเกาะชื่อว่า สะพานเรนโบว์บริดจ์ ในรอบๆบริเวณนั้นถือได้ว่ามีทิวทัศน์ที่ สวยงามแห่งหนึ่งของโตเกียว
ของฝาก
เค้กบามคูเฮงของร้านเนนรินยะ Baum Kuchen Cake by Nenrinya
จิรเมธ ทวีศักดิ์เจริญผล (แม็ก)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 ผมมาเรียนที่โตเกียวจะครบ 1 ปีแล้วครับ การใช้ชีวิตสนุกดีครับ สิ่งที่ผมประทับใจในโตเกียวก็มีเยอะครับ อย่างเช่น การเดินทางที่สะดวกมาก ไปไหนมาไหนก็สามารถค�ำนวณเวลาเดินทางได้ง่าย อาหารที่นี่ก็อร่อยครับ ราคาแพงไปหน่อยแต่โอเคครับ ทีโ่ ตเกียวตอนเช้าๆหรือเย็นๆ คนจะเยอะมาก โดยรวมแล้วบรรยากาศในโตเกียว ถือว่าดีมากครับ อาจจะวุ่นวายไปนิดแต่อยู่แล้วมีความสุขแน่นอน ของก็หาซื้อง่ายครับทุกที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ต กับร้านสะดวกซื้อครับ
แนะนำ�จังหวัด
53
AOYAMA INTERNATIONAL EDUCATION INSTITUTE
54
青山国際教育学院 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 3-8-40 Minami Aoyama, Minato-ku, Tokyo 107-0062 ปีที่ก่อตั้ง 1988 ระดับชั้นเรียน 12 ระดับ ห้องเรียน 11 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 256 คน (11 สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น มีชั้นเรียนหลากหลายที่ตรงกับเป้าหมาย ของนักเรียนแต่ละคน และยังมีนักเรียนจากนานาประเทศ ท�ำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพกับเพื่อน ชาวต่างชาติได้ อาจารย์ที่ปรึกษานอกจากจะสอนภาษา ญี่ปุ่นแล้วยังให้ค�ำปรึกษาแนะแนวการศึกษาต่อได้อีกด้วย
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Aoyama International Education Institute มีเป้าหมายที่ไม่ได้มีเพียงแค่การสอนภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังเน้นวิธี การสื่อสารภาษาญีป่ นุ่ ในระดับนานาชาติ นอกจากนีน้ กั เรียนยังสามารถ เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นและการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นได้อีกด้วย ส�ำหรับ นักเรียนที่เรียนดีจะได้รับการแนะน�ำเข้าศึกษาต่อในสถาบันในเครือ โดยทีไ่ ม่ตอ้ งสอบหรือช�ำระค่าแรกเข้าใดๆ นอกจากนีน้ กั เรียนสามารถ ปรึกษากับอาจารย์ด้านการเรียน รวมถึงได้รับการแนะน�ำหลักสูตร ให้เข้ากับระดับภาษาญี่ปุ่น และเป้าหมายในการเรียนของนักเรียน Aoyama International Education Institute มี 4 หลักสูตร คือ หลักสูตร เพื่อศึกษาต่อ หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป หลักสูตรการสนทนา ภาษาญี่ปุ่น และหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
1. ตั้งอยู่ในย่านทันสมัย ปลอดภัยและสะดวกที่สุดในโตเกียว สภาพ แวดล้อมเหมาะกับการเรียนและการท�ำงานพิเศษ 2. นั ก เรี ย นในระดั บ ชั้ น สู ง ของโรงเรี ย นสามารถผ่ า นการสอบวั ด ระดับ 1 ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มีอตั รานักเรียนทีศ่ กึ ษาต่อได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และมีนกั เรียนจ�ำนวนมากทีส่ ามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่ เข้ายากทั้งเอกชนและรัฐบาลได้ 3. มีวิชาเลือกทั้งรูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์หรือรูปแบบ เน้นการสอบ JLPT ที่สามารถเลือกเรียนตามความสนใจของ แต่ละบุคคลได้
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรเพือ่ ศึกษาต่อมหาวิทยาลัย ส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการเข้ามหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยวิชาชีพ หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียนเพื่อเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ทางภาษาญี่ปุ่นให้มีความเชี่ยวชาญ และไม่มีเป้าหมายที่จะ ศึกษาต่อ
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
55
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในหลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ จะรวมค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าประกันสุขภาพแล้ว
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:00 –16:30 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด ห้องพักรับประทานอาหาร ห้องสูบบุหรี่ ห้องพยาบาล
ตัง้ อยูบ่ นถนนอาโอยามะย่านทีส่ ะดวกทีส่ ดุ ใจกลางกรุงโตเกียว แวดล้อมไป ด้วยอาคารส�ำนักงานทันสมัย อาคารที่พักหรูหรา ย่านธุรกิจ และ แหล่งแฟชั่นชั้นน�ำของดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นเขตพื้นที่สีเขียว ของโตเกียว บริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งของสถานทูตอเมริกา แคนาดา และเกาหลี มหาวิทยาลัย Aoyama Gakuin The National Athletic Stadium และ The Yoyogi Olympic Park
กิจกรรมพิเศษ งานต้อนรับนักเรียนใหม่ เทศกาลทานาบาตะ ทัศนศึกษานอกสถานที่ ประกวดสุนทรพจน์ คริสต์มาสปาร์ตี้ ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน ส� ำ หรั บ นั ก เรี ย นที่ มี อั ต ราการเข้ า เรี ย นในช่ ว งสามเดื อ นมากกว่ า 95% จะได้รับบัตรของขวัญ QUO card มูลค่า 5,000 เยน ส�ำหรับ ค่าเดินทาง
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Omotesando (รถไฟใต้ดนิ สาย Chiyoda, Ginza, Hansomon) ใช้เวลาเดินไปโรงเรียน 5 นาที
INTERCULTURAL INSTITUTE OF JAPAN
56
インターカルト日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่ตั้ง 2-20-9 Taito, Taito-ku, Tokyo 110-0016 ก่อตั้งเมื่อปี 1977 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 25 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียน 300 คน (35 เชื้อชาติ)
แนะน�ำเรื่องการหางานและมีหลักสูตรพิเศษ E-learning ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน ตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันในปี1977มีนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนและส�ำเร็จ การศึกษาไปแล้วมากกว่า 20,000 คนจาก 50 กว่าประเทศทั่วโลก ในแต่ ล ะปี นั ก เรี ย นสามารถเข้ า ศึ ก ษาต่ อ ในมหาวิ ท ยาลั ย ญี่ ปุ ่ น ทั้ ง รัฐบาลและเอกชน ทางโรงเรียนมีระบบการให้ความช่วยเหลือและ สนับสนุนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียนอย่างเต็มที่ INTERCULTURAL INSTITUTE OF JAPAN เป็นโรงเรียนอันดับต้นๆ ที่เปิดหลักสูตรอบรมครูสอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น คณาจารย์ ของสถาบันจึงจะต้องผ่านการสอบที่เข้มงวดก่อนจะมาเป็นอาจารย์ ของสถาบัน อีกทั้งจะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักการสอนในระดับสูง
ลักษณะที่โดดเด่น 1. การเรียนการสอนมีคณ ุ ภาพสูง วิธกี ารสอนทีม่ ปี ระสิทธิภาพ สนุก และน่าสนใจ โรงเรียนตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยใจกลางกรุงโตเกียว สะดวกและมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการศึกษา 2. เป็นหนึ่งในสถาบันสอนภาษาระดับแนวหน้าของญี่ปุ่นที่มีขนาด ใหญ่ที่สุด มีนักเรียนมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกเข้าศึกษา 3. มีหลักสูตรอบรมการเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ภาษาญี่ปุ่นทั่วไป • แบ่งชั้นเรียนให้เหมาะสมตามระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น • เพื่อเสริมทักษะความรู้ทั่วไป เช่น ไวยากรณ์ การใช้ส�ำนวน และ ทักษะภาษาญี่ปุ่นทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียน • ชั้นเรียนระดับกลางขึ้นไป จะแบ่งชั้นเรียนเป็น ภาษาญี่ปุ่นทั่วไป และเพื่อศึกษาต่อ ชั้นเรียนแบ่งตามวัตถุประสงค์ • เป้าหมายการเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลาย เช่น นักเรียนที่ ต้องการสอบ EJU เรียนรูว้ ฒ ั นธรรมญีป่ นุ่ เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เรียนภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ เป็นต้น • นักเรียนแต่ละคนสามารถเลือกเรียนวิชาที่เหมาะสมกับเป้าหมาย ของตนเองได้ เริ่มตั้งแต่ชั้นเรียนระดับกลางเป็นต้นไป ชั้นเรียนคันจิ จะถูกแบ่งตามระดับความรูข้ องผูเ้ รียน (ผูท้ มี่ าจากประเทศที่ใช้คันจิ และ ประเทศที่ไม่ได้ใช้คันจิ)
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าเรียนยังไม่รวมค่าหนังสือ
(ช�ำระค่าเล่าเรียนทีละ 6 เดือน) • ค่าอื่นๆรวมค่ากิจกรรม ค่าประกัน ค่าใช้จ่ายส่วนกลางแล้ว
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:20 – 13:05น. หรือ รอบบ่าย 13:25 – 17:10 น.
สิง่ อ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
คอมพิวเตอร์พร้อมอินเตอร์เน็ต ห้องสมุด ห้องทบทวนบทเรียน เลานจ์
สามารถเดินจากอากิฮาบาระไปโรงเรียนได้ คลาย และอยู่ในย่านพักอาศัยที่เงียบสงบ
กิจกรรมพิเศษ ชมโรงละครคาบูกิ ทัศนศึกษา One day trip การแข่งขันพูดสุนทรพจน์ ปาร์ตคี้ ริสต์มาส สกี
มีสภาพแวดล้อมที่ผ่อน
สถานีที่อยู่ใกล้ • ห่างจากสถานี Shin-Okachimachi 5 นาที(รถไฟใต้ดนิ สายToei Oedo) • ห่างจากสถานี Shin-Okachimachi5 นาที(สาย Tsukuba Express) • ห่างจากสถานีNaka-Okachimachi 8 นาที(รถไฟใต้ดินสาย Hibiya) • ห่างจากสถานี JR Okachimachi 9 นาที (สาย Yamanote)
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ ช�ำระค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือนและต่อสัญญาทุก 3 เดือน โดยมีค่าใช้จ่ายในการต่อสัญญาครั้งละ 10,000 เยน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
57
THE NAGANUMA SCHOOL
58
(TOKYO SCHOOL OF JAPANESE LANGUAGE) 学校法人長沼スクール東京日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 16-26, Nampeidaicho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0036 ปีที่ก่อตั้ง 1948 ระดับชั้นเรียน 4 ระดับ ห้องเรียน 48 ห้อง ชั่วโมงเรียน ภาษาญี่ปุ่นทั่วไป 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ / เพื่อศึกษาต่อ 20-25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 512 คน (มากกว่า 20 สัญชาติ)
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน The Naganuma School ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เปิดสอนภาษา ญี่ปุ่นมานานถึง 66 ปี มีนักเรียนต่างชาติเข้าศึกษาจาก 50 ประเทศ ทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นโรงเรียนที่มีความเป็นนานาชาติ มีหลักสูตร และเทคนิคการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเรียกว่า “Naganuma Method” สรรค์สร้างโดย Naoe Naganuma ผู้ซึ่งก่อตั้ง The Naganuma School ในปี 1940 ด้วยความเชื่อมั่นว่าการพัฒนา ทักษะทางด้านการสื่อสารส�ำคัญมากกว่าการพัฒนาด้านไวยากรณ์ หรือทางด้านการแปล การเรียนการสอนของทางโรงเรียนได้มีการ พัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดโดยยึด หลักตามแนวคิดนี้
ลักษณะที่โดดเด่น 1. หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป เป็นการปูพนื้ ฐานทักษะทางภาษาอย่าง ครบถ้วนพร้อมทั้งเน้นทักษะการสนทนา 2. มีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติมากกว่า 50 ประเทศ มีโอกาสได้ แลกเปลี่ยนและเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน 3. โรงเรียนมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยม รวมทั้งคณาจารย์ที่พร้อมให้การสนับสนุนนักเรียนอย่างเต็มที่
นักเรียนที่เรียนจบหลักสูตร เพื่อศึกษาต่อของสถาบันสามารถสอบเข้าศึกษาต่อ ระดับสูงที่ประเทศญี่ปุ่นได้จ�ำนวนมาก หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป (4 คาบเรียน) เป็นหลักสูตรส�ำหรับผู้ที่ ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย พัฒนาทักษะทางภาษาญี่ปุ่นอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการท�ำงานหรือ ศึกษาต่อ เปิดสอนตั้งแต่ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดย นักเรียนสามารถเข้าเรียนตามระดับที่เหมาะสมกับตนเองได้ หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ (4-6 คาบเรียน) เป็นหลักสูตรส�ำหรับผู้ที่ ต้องการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยหรือบัณฑิตวิทยาลัย โดยมีระยะ เวลาในการเรียน 1 ปี, 1ปี 6 เดือน และ 2 ปี นอกจากการเรียน ภาษาญี่ปุ่นที่จ�ำเป็นส�ำหรับการศึกษาต่อแล้ว ยังเตรียมความพร้อม ส�ำหรับการสอบเพื่อศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น (EJU) รวมถึงการสอบ ที่จ�ำเป็นอื่น ๆ เช่น การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) นักเรียน ยังสามารถลงเรียนวิชาอื่น ๆ ที่จ�ำเป็นส�ำหรับการสอบ EJU (ภาษา อังกฤษ คณิตศาสตร์ ความรู้ทั่วไป และวิทยาศาสตร์) อีกทั้งยังมีการ ให้ค�ำปรึกษาแนะแนวเป็ น รายบุ ค คลส� ำ หรั บ นั ก เรี ย นที่ ต ้ อ งการเข้า ศึกษาต่อระดับสูงในประเทศญีป่ นุ่ รวมถึงการฝึกการสอบสัมภาษณ์ดว้ ย
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
59
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:30 – 17:00 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องแบบญี่ปุ่น Language Laboratory Room ห้องคอมพิวเตอร์และ อินเตอร์เน็ตWifi ห้องประชุม คาเฟ่เลาจน์ห้องสมุด ห้องเรียนด้วยตัว เอง ห้องพยาบาล
กิจกรรมพิเศษ
โรงเรียนตั้งอยู่ในย่านชิบุยะใจกลางกรุงโตเกียว มีความสะดวกสบาย ทันสมัย ชิบยุ ะเป็นทีร่ จู้ กั กันดีในฐานะของย่านธุรกิจและศูนย์กลางของ วัฒนธรรมสมัยใหม่ในโตเกียว เช่นเดียวกับชินจูกุ ฮาราจูกุ และอากิฮาบาระ จึงเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะแต่เพียงการเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นย่าน การค้าและความบันเทิงที่ครบครันอีกด้วย
กิจกรรมชมรมของ Naganuma (กิจกรรมด้านวัฒนธรรม การพบปะ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนอกชั้นเรียน
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Shibuya ใช้เวลาเดินถึงโรงเรียนประมาณ 15 นาที
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ ไม่มีค่าแรกเข้าและค่ามัดจ�ำ ค่าเช่าห้องรวมค่าน�้ำค่าไฟ และค่าอินเตอร์เนตแล้ว
TOKYO GALAXY JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
60
学校法人 東京ギャラクシー日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 5-10-10 Shiba, Minato–ku, Tokyo 108-0014 ปีที่ก่อตั้ง 1986 ระดับชั้นเรียน 11 ระดับ ห้องเรียน 12 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 320 คน (13สัญชาติ)
โรงเรียนมีวิชาเลือกตามความสนใจที่หลากหลาย จึงสามารถจัดคอร์สให้ตรงตามความสนใจของ นักเรียนแต่ละคน ตั้งแต่เข้าเรียนจนถึงเรียนจบ ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Tokyo Galaxy ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1986 เป็นหนึ่งในโรงเรียนสอนภาษาที่ มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของโตเกียว ค�ำว่า “Galaxy” สื่อถึงความมุ่ง มั่นของโรงเรีย น ที่จะท�ำ ให้ อนาคตของนั ก เรี ย นสุ ก สว่ า งสดใสดั่ ง ดวงดาวในจักรวาล ไม่วา่ จุดมุง่ หมายในการเรียนภาษาญีป่ นุ่ จะเป็นเช่นไร ทางโรงเรียนพยายามอย่างเต็มทีท่ จี่ ะสนับสนุนให้นกั เรียนประสบความ ส�ำเร็จ และสมหวังดังที่ตั้งใจ ด้วยคณาจารย์ที่มีความกระตือรือร้น ในการสอน ให้ความเอาใจใส่ดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี ทั้งในด้านชีวิต ความเป็นอยู่ การศึกษาและการท�ำงาน นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรฉพาะ ตัวคือ “วิชาเลือก” ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการใช้ ภาษาได้อย่างสมบูรณ์
ลักษณะที่โดดเด่น 1. การเรียนในระดับชั้นกลางขึ้นไป ในแต่ละวันจะเรียนวิชาบังคับ 2 ชั่วโมงแรก อีก 2 ชั่วโมงหลัง เรียนวิชาเลือกตามความสนใจ 2. นักเรียนที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย มีคลาสเรียนพิเศษ พร้อมทั้งการแนะแนว ตั้งแต่การเข้าสอบจนถึงการจดโน้ตใน วิช าบรรยาย อี ก ทั้ ง ยั ง มี วิ ช าเรี ย นพิ เ ศษ ทั้ ง ภาษาอั ง กฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เพื่อการสอบ EJU 3. เพื่ อ สร้ า งความพร้ อ มให้ กั บ นั ก เรี ย นที่ จ ะสมั ค รงานในบริ ษั ท ญี่ปุ่นหลังจบการศึกษา มีชั้นเรียนวิชา “ญี่ปุ่นธุรกิจ” ซึ่งสอน ตั้งแต่การสัมภาษณ์ไปจนถึงการติดต่อธุรกิจ เพื่อให้สื่อสาร ทางธุรกิจกับคนญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ชั้นเรียนแบ่งเป็น 11 ระดับ และมีวิชาเลือก หลากหลายจุดประสงค์ เช่น การสอบ EJU หรือ JLPT เป็นต้น
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
61
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:20 – 12:40 น. (ชั้นกลาง-สูง) หรือ รอบบ่าย 13:10 – 16:30 น. (ชั้นต้น)
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องคอมพิวเตอร์พร้อมอินเตอร์เน็ตฟรี ห้องสมุด ห้องทบทวนบทเรียน ห้องปรึกษาเรื่องเรียนต่อ
อยู่ใจกลางเมืองโตเกียวแต่เงียบสงบและปลอดภัย บริเวณใกล้เคียง เป็นที่ตั้งของโตเกียวทาวเวอร์ มหาวิทยาลัยเคโอ และสถาบันอื่นๆรวม ถึงส�ำนักงานใหญ่ของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น NEC มีห้องสมุด และศูนย์กีฬา ฯลฯ
กิจกรรมพิเศษ ดิสนียแ์ ลนด์ บาร์บคี วิ ปาร์ตี้ คริสต์มาสปาร์ตี้ กีฬาสี และยังมีกิจกรรม อื่นที่จัดขึ้นในทุกๆภาคเรียนรวมถึงกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยเคโอด้วย
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี JR Tamachi เดิน 5 นาทีถงึ โรงเรียน หรือ สถานีรถไฟใต้ดนิ Mita (Toei) เดิน 3 นาทีถงึ โรงเรียน
เมือ่ สมัครเรียนกับทางโรงเรียน Tokyo Galaxy (หลักสูตรระยะยาว) สถาบันมอบทุนเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อนเดินทางที่สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น เจเอ็ดดูเคชั่นเซ็นเตอร์ มูลค่าสูงสุด 20,000 เยน
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหอพัก
ประเภทห้อง
ค่าเช่าห้อง/เดือน
ค่าแรกเข้า
ค่ามัดจ�ำ
อุปกรณ์ในหอพัก
จากโรงเรียนไป หอพัก
Galaxy Magome Domitory
ห้องเดี่ยว
56,00065,000 39,000
10,000 (ส�ำหรับพัก ไม่เกิน 3เดือน) 20,000 (ส�ำหรับพัก เกิน 3เดือน)
20,000(ส�ำหรับพัก ไม่เกิน 3เดือน) 30,000(ส�ำหรับพัก เกิน 3เดือน)
ห้องน�ำ้ ห้องอาบน�ำ้ ครัวใช้ร่วมกัน มีอินเตอร์เนตฟรี
รถไฟ 20 นาที
ห้องคู่
หมายเหตุ • มีค่าที่นอน 8,000 - 13,000 เยน(จ่ายครั้งเดียว) • ค่าน�้ำ ไฟ แก๊สห้องเดี่ยว 9,000เยน/เดือน ห้องคู่ 8,000เยน/เดือน
TOYO LANGUAGE SCHOOL
62
東洋言語学院
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 7-6-3 Nishi Kasai, Edogawa-ku, Tokyo 134-0088 ปีที่ก่อตั้ง 1987 ระดับชั้นเรียน 7 ระดับ ห้องเรียน 9 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 309 คน (14 สัญชาติ)
สถาบันอยู่ในเครือ JIKEI GROUP ที่เปิดสอน หลักสูตรวิชาชีพที่หลากหลาย ท�ำให้นักเรียน สามารถเข้าเรียนวิทยาลัยอาชีพได้ง่ายหลังจาก เรียนจบหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นโทโย (TLS) ไม่เพียงสอนภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่มีหลักสูตรที่หลากหลายเหมาะสมกับเป้าหมายทางการศึกษาของ นักเรียน เช่น หลักสูตรเพือ่ เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษา เป็นต้น นอกจากนีย้ งั มีวชิ าเสริมพิเศษ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิชาอื่นๆ ที่ใช้ส�ำหรับการสอบเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยมี การจัดระบบการสอนแบบเฉพาะตัวคือ JCT
หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อเป็นหลักสูตรส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อใน ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยรัฐบาลมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียง และวิทยาลัยอาชีวศึกษา
ลักษณะที่โดดเด่น 1. มี ร ะบบเฉพาะตั ว ที่ จ ะพั ฒ นาศั ก ยภาพของนั ก เรี ย นให้ เ กิ ด ประสิทธิภาพสูงสุด เรียกว่า “ระบบการศึกษาJCT“ ประกอบด้วย 3 ขัน้ ตอน คือ JJM (Monitoring) การสอบวัดความรูท้ างภาษาญีป่ นุ่ Counseling วิเคราะห์ผลของตัวเองกับอาจารย์ และ Target-setting ตั้งเป้าหมายของตนเองทุกๆ 3 เดือน 2. เป็นหนึ่งในสถาบันภายใต้การบริหารของ Jikei Group ซึ่งเป็น กลุม่ สถาบันการศึกษาระดับแนวหน้า มีเครือข่ายสถาบันการศึกษา ระดับสูงทัง้ สิน้ 53 แห่ง สถาบันในเครือ JIKEI เปิดสอนหลักสูตร วิชาชีพที่หลากหลาย เช่น การแพทย์ สวัสดิการสังคม บันเทิง ดนตรี ศิลปะออกแบบ การ์ตูน อนิเมชั่น ท�ำอาหาร ขนม สัตว์ เลี้ยงและความงาม 3. ให้ความส�ำคัญกับกิจกรรมเสริมพิเศษ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ ญี่ปุ่นในมุมมองที่แตกต่าง
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมค่าหนังสือเรียน แล้ว
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:10 -12:25 น. หรือ รอบบ่าย 13:10 -16:25 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน
Student Hall (สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้) ห้องสมุด ห้องศึกษาหา ข้อมูลการศึกษาต่อ ห้องพยาบาล มุมสูบบุหรี่ ห้องเรียนสตูดิโอ (เป็น ห้องเรียนส�ำหรับการเรียนโดยผ่านระบบ Skype) ห้องศิลปะ ห้อง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถใช้อินเตอร์เน็ต WiFi ได้เปิดให้ใช้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 9:00-21:00 น. และวันเสาร์ 9:00-18:00น.
ส่วนลดในการซือ้ ตัว๋ รถไฟรายเดือน ตัว๋ ภาพยนตร์ บัตรเข้าชมพิพธิ ภัณฑ์ ศิลปะ เป็นต้น
กิจกรรมพิเศษ การแข่งขันกีฬา ทัศนศึกษาโตเกียวดิสนียแ์ ลนด์ การออกร้านในเทศกาล นิตตะ งานแนะแนวศึกษาต่อฝึกซ้อมประสบการณ์ แผ่นดินไหวและ อัคคีภยั โฮมสเตย์ ดูละครเวที การประกวดเขียนเรียงความ งานประกาศ ผลการศึกษา ทัศนศึกษากับโรงเรียน และ งานเลีย้ งคริสต์มาส เป็นต้น
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน โรงเรียนอยู่ทางตะวันออกของโตเกียว เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองเพียง 15 นาที และใช้เวลา 40 นาทีถึงย่าน Shinjuku และ Shibuya นับ เป็นสถานศึกษาที่เหมาะสมทั้งการเรียนและการใช้ชีวิต นักเรียน มากกว่า 200 คน พักอยู่ที่หอพักในย่านที่สงบร่มรื่น เป็นธรรมชาติ มี ความสะดวกสบาย ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Nishi Kasai ใช้เวลาเดินจากโรงเรียนเพียง 10 นาที
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าน�้ำค่าไฟจ่ายล่วงหน้า 3 เดือน
หากใช้ไม่ถึงสามารถน�ำไปใช้ในเดือน ถัดไปได้ แต่หากใช้เกินจะถูกเรียกเก็บ ทุก 3 เดือน • ทุกหอพักรวมค่าอินเตอร์เน็ตแล้ว (ระบบ LAN) • ไม่คืนค่าแรกเข้า • ค่าน�้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส เดือนละ 5000 - 7000 เยน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
63
ABK COLLEGE
64
学校法人ABK学館 ABK学館日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 12-12, Honkomagome 2 Chome, Bunkyo-ku, Tokyo 113-0021 ปีที่ก่อตั้ง 2014 (เป็นโรงเรียนในเครือสมาคมวัฒนธรรมนักศึกษาแห่ง เอเชียซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1957) ระดับชั้นเรียน 4 ระดับ (ระดับต้นช่วงแรก ระดับต้นช่วงหลัง ระดับ กลางช่วงแรก ระดับกลางช่วงหลัง) ห้องเรียน 8 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 100 คน (10 สัญชาติ)
ABK เป็นโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น ส�ำหรับนักเรียนที่อยาก จะเรียนต่อปริญญาโทหรือโรงเรียนวิชาชีพ นักเรียนที่อยาก จะสอบJLPT และนักเรียนที่อยากแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับ คนญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่มีความผูกพันกับคนไทย และมีนักเรียนไทยเรียนอยู่ด้วย
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน ABK ตั้งขึ้นโดยมีสมาคมวัฒนธรรมนักศึกษาแห่งเอเชีย ซึ่งก่อตั้งมา ตั้งแต่ปี 1957 เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนนี้ ตลอด 50 กว่าปีที่ผ่านมา เรา รับและให้การสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติและผู้ฝึกงานจากเอเชียมา ตลอด ในปี 1983 สมาคมวัฒนธรรมนักศึกษาแห่งเอเชียได้เปิดหลักสูตร ภาษาญีป่ นุ่ ขึน้ และได้เปิดสอนให้แก่นกั ศึกษาต่างชาติมาเป็นเวลา 30 กว่าปีแล้ว นอกจากนีส้ มาคมวัฒนธรรมศึกษาแห่งเอเชียยังมีความสัมพันธ์ กับประเทศไทยอย่างแน่นแฟ้น โดยได้กอ่ ตัง้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น (ส.ส.ท.) และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) ขึ้นใน ประเทศไทยด้วย
ลักษณะที่โดดเด่น 1. เป็นโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นที่มีเทคนิคการสอนกว่า 30 ปี โดยมี การเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่นและแนะแนวศึกษาต่อระดับสูง 2. เป็นโรงเรียนสอนภาษาญีป่ นุ่ ทีม่ หี ลักสูตรภาษาญีป่ นุ่ แบบหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ 3. อาคารหอพักของโรงเรียนไม่ได้ตงั้ อยูใ่ กล้กนั อย่างเดียวเท่านัน้ รุน่ พี่ และรุ่นน้องเองก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันด้วย
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว 1 ปี, 1 ปีครึ่ง, 2 ปี หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นส�ำหรับผู้ท่ีต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาโท หรือวิทยาลัยอาชีพ ผู้ที่ต้องการสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น และ ผู้ที่ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น หลักสูตร 1 ปี เหมาะส�ำหรับผูท้ เี่ คยเรียนภาษาญีป่ นุ่ หรือมี ความรูภ้ าษาญี่ปุ่นระดับกลางหรือระดับกลางสูงขึ้นไป หลักสูตร 1 ปีครึ่ง และ 2 ปี เหมาะส�ำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ภาษา ญี่ปุ่นมาก่อน และต้องการเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ระดับต้น
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ
• ค่าเล่าเรียน รวมค่าหนังสือเรียน ค่า
กิจกรรม และค่าอ�ำนวยความสะดวกแล้ว • ค่าเล่าเรียนสามารถแบ่งจ่ายได้ครั้งละ 6 เดือน
เวลาเรียน รอบเช้า 9:00 - 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:30 –17:00 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด ห้องพยาบาล สนามปิงปอง มุมคอมพิวเตอร์ ห้องอ่านหนังสือ มุมเอกสาร
โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตบุงเคียวซึ่งอยู่ในใจกลางเมืองโตเกียว เป็นย่านที่ มี แ หล่ ง ศึ ก ษาตั้ ง อยู ่ ม ากมายท� ำ ให้ ส ภาพแวดล้ อ มเหมาะสมต่ อ นักศึกษา และยังมีความปลอดภัยในการใช้ชีวิตอยู่อีกด้วย
กิจกรรมพิเศษ งานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในเครือABK กิจกรรมเรียนนอกห้องเรียน งานเลี้ยงเนื้อย่างส่งท้ายปีเก่า เทศกาลต�ำโมจิ งานแข่งขันประกวด สุนทรพจน์ ทัศนศึกษา โฮมสเตย์
สถานีที่อยู่ใกล้ เดิน 3 นาที ถึงสถานีรถไฟใต้ดินสาย Mita สถานี Sengoku หรือ เดิน 10 นาที ไปถึงรถไฟสาย JRYamato สถานี Sugamo และ Komagome
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน ส่วนลดค่าตั๋วรถไฟ
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ
• ทุกหอพักมีค่าใช้จ่ายครั้งแรก
คือค่าแรกเข้าและค่าเช่าห้อง6เดือน • หอ ABK Fujimae Dormitory ทุกๆ6เดือน หากมีค่าไฟเกิน 20000 เยน จะเก็บค่าส่วนเกินเพิ่ม • หอ ABK Yamabuki Dormitory ค่าน�้ำรวมในค่าเช่าแล้ว แต่ค่าไฟและค่า แก๊สจ่ายตามจริง • หอ ABK Sugamo Dormitory ค่าน�้ำไฟแก๊ส 10000เยน (คิดส่วนที่ขาด เกินทุกๆ6เดือน) • หอ ABK Komagome Dormitory ค่าน�้ำไฟแก๊ส 10000เยน (คิดส่วนที่ขาด เกินทุกๆ6เดือน)
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
65
YOSHIOKA EDUCATIONAL FOUNDATION
66
SENDAGAYA JAPANESE SCHOOL 学校法人 吉岡教育学園 千駄ヶ谷日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 1-1-6 Shimoochiai, Shinjuku-ku, Tokyo 161-0033 ปีที่ก่อตั้ง 1975 ระดับชั้นเรียน หลักสูตรการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยA 9 ระดับ, หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป 4 ระดับ ห้องเรียน 24 ห้อง ชั่วโมงเรียน • หลักสูตรการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย A 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ • หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ • หลักสูตรการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย B 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 592 คน (25 สัญชาติ)
มีอัตราการสอบติดปริญญาโทอันดับ 1 ของญี่ปุ่น มีหอพัก นักเรียนจ�ำนวนมาก จึงสามารถรองรับได้ท้ังนักเรียนระยะสั้นและ นักเรียนระยะยาวได้ทั้งหมด และที่ตั้งของโรงเรียน อยู่ในเขตชินจูกุ ทาคาดะโนบาบะซึ่งเป็นเขตที่สะดวกและน่าอยู่ ค่าอาหารถูก มีนักศึกษามหาวิทยาลัยอาศัยอยู่จึงได้บรรยากาศของการศึกษา และยังมีแหล่งช้อปปิ้งอีกด้วย
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Sendagaya Japanese School และ Sendagaya Japanese Institute (S.J.I.) Group เป็นสถาบันสอนภาษาญีป่ นุ่ ทีม่ ปี ระวัตศิ าสตร์ยาวนาน ถึง 40 ปี มีพนักงานหลายสัญชาติ และมีนกั เรียนเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้สามารถตอบสนองความต้องการทางการเรียนได้อย่างหลากหลาย รร.ของเรา มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของ คนทุ ก เชื้ อ ชาติ ใ ห้ ไ ด้ เ รี ย นภาษาญี่ ปุ ่ น ด้ ว ยความสนุ ก สนานและมี ประสิทธิภาพ โดยใช้ภาษาญี่ปุ่นที่เข้าใจง่าย เพื่อพัฒนาทักษะ และ ความสามารถ ให้เกิดความเข้าใจตรงกันในสังคมสากลที่มีความ หลากหลาย ส่งเสริมให้มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้ามเชื้อชาติ
ลักษณะที่โดดเด่น 1. มีเจ้าหน้าที่คนไทยดูแล 2. โรงเรียนมีหลักสูตรอบรมครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้คนต่างชาติ ท�ำให้ มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนญี่ปุ่นมากขึ้น 3. อาจารย์ทุกท่านจบหลักสูตรอบรมครูสอนภาษาญี่ปุ่นของโรงเรียน เอง จึงท�ำให้อาจารย์มีวิธีการสอนที่เหมือนกัน
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย A
แผนการเรียนที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น ส�ำหรับผู้ที่ ต้องการเรียนรูท้ กั ษะทีจ่ ำ� เป็นต่อการศึกษาต่อในประเทศญีป่ นุ่ มีวชิ าเลือก ส�ำหรับคนที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยป.ตรี ป.โท และคนที่ไม่ต้องการ เรียนต่อ ก็สามารถเลือกวิชาอื่นได้ เวลาเรียน รอบเช้า 8:50 - 13:00น. หรือ รอบบ่าย 13.30 - 17:40น.
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป
แผนการเรียนส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการเรียนรูท้ กั ษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนทั่วไป เน้นสนทนาภาษาญี่ปุ่นไม่มีวิชาเลือกพิเศษ เวลาเรียน 8:50 – 12:10 น.
หลักสูตรการเตรียมตัวสอบเข้าปริญญาโท
มีชั่วโมงเรียนที่สอนให้เตรียมตัวส�ำหรับการสอบเข้า และชั่วโมง เรียนหลังเข้าปริญญาโท มีจดั งานสัมมนาให้นกั เรียนเกีย่ วกับการเรียน ต่อปริญญาโท และวิชาเลือกส�ำหรับคนที่ต้องการเข้าเรียนต่อปริญญา โท เช่น คอร์สติว JLPT หรือ EJU เวลาเรียน รอบเช้า 9:00 - 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:30 – 17:00 น.
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าเล่าเรียนรวมค่าประกัน ค่ากิจกรรม และค่าอ�ำนวยความสะดวกแล้ว • ค่าเล่าเรียน สามารถแบ่งจ่ายได้ครั้ง ละ6เดือน
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องทบทวนบทเรียน Free-Wifi ตู้กดน�้ำอัตโนมัติ ห้องรับรอง ห้องพระ ห้องพยาบาล
Takadanobaba เป็นทีร่ จู้ กั กันดีวา่ เป็นเมืองของนักเรียน และมีโรงเรียน ที่โด่งดังอยู่ที่นี่หลายแห่ง เช่น Waseda University มีสิ่งอ�ำนวยความ สะดวก และร้านค้าใน Takadanobaba มากมาย เช่น ธนาคาร ไปรษณีย์ ร้านหนังสือขนาดใหญ่ ร้านขายอุปกรณ์การเขียน Donki Hote ห้างสรรพสินค้า Uniqlo ร้าน100เยน นอกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาด ใหญ่อย่าง Seiyu และ Peacock แล้ว ยังมีร้านสะดวกซื้อเปิดตลอด 24 ชัว่ โมงจ�ำนวนมาก มีรา้ นอาหารไทย 5-6 ร้าน และร้านอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ท�ำให้การอยู่ที่นี่มีความสะดวกมาก นอกจากนี้ ยังมีโรง พยาบาลหลายแห่งอยู่ใกล้สถานี โรงพยาบาล Ushigome มีบริการ เป็นภาษาอังกฤษ
กิจกรรมพิเศษ ปาร์ตี้บาร์บีคิว ทัศนศึกษาโตเกียวดิสนีย์แลนด์ กิจกรรม Odaiba Adventure Game
โตเกียวดิสนีย์ซี
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน ส่วนลดค่ารถไฟ ส่วนลดค่าแรกเข้าส�ำหรับนักเรียนเก่า เข้าร่วมงาน สัมมนาเกีย่ วกับการเรียนต่อมหาวิทยาลัย ปริญญาตรี โท และวิทยาลัย วิชาชีพ
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
สถานีทอี่ ยูใ่ กล้ เดิน 3 นาที จากสถานี Takadanobaba (JRYamanote Line, Seibushinjuku Line, Tokyo Metro Tozai Line) หมายเหตุ
• ทุกหอพักมีค่าใช้จ่ายครั้งแรก คือค่าแรก
*
*
เข้า ค่าประกัน และค่าเช่าห้อง 3 เดือน • อุปกรณ์ในหอพัก Takadanobaba Dormitory และ Maison Dormitory มี เตียง แอร์ โต๊ะ เก้าอี้ โทรทัศน์ หม้อหุง ข้าว และตู้เสื้อผ้าอยู่ในห้องส่วนตัว ส่วน ห้องน�้ำ ห้องอาบน�้ำ ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น ภาชนะ และเครื่องซักผ้าใช้รวม • ทุกหอมีอินเตอร์เนตทั้ง Wifi และ LAN
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
67
NIHON KOGAKUIN COLLEGE
68
日本工学院専門学校 日本工学院専門学校 NIHON KOGAKUIN COLLEGE ที่อยู่ 5-23-22 Nishikamata, Ota-ku, Tokyo 144-8655
COLLEGE
日本工学院八王子専門学校 NIHON KOGAKUIN COLLEGE OF HACHIOJI ที่อยู่ 1401-1 Katakuramachi, Hachioji-shi, Tokyo 192-0983 日本工学院北海道専門学校 NIHON KOGAKUIN COLLEGE OF HOKKAIDO ที่อยู่ 184-3 Satsunaicho, Noboribetsu-shi, Hokkaido 059-8601 ปีที่ก่อตั้ง 1947 ชั่วโมงเรียน 27-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียนต่างชาติ 317 คน (ทั้ง 3 แห่งรวมกัน)
NIHON KOGAKUIN COLLEGE มีทั้งหมด 100 สาขาวิชา ให้เลือกเรียนตามความต้องการ เพื่อสานความฝันของนักเรียนทุกคนให้เป็นจริงได้ ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน สถาบันในกลุ่ม Katayanagi Institute ประกอบไปด้วย มหาวิทยาลัย Tokyo University of Technology และวิทยาลัยวิชาชีพ 3 แห่งคือ Nihon Kogakuin College, Nihon Kogakuin College of Hachioji , Nihon Kogakuin College of Hokkaido ซึ่งได้แยกลักษณะเด่นของ แต่ละสถาบันไว้อย่างชัดเจน เปิดกว้างทางความรู้จากประสบการณ์ที่ สะสมมา เพือ่ สานฝันให้กบั กลุม่ คนรุน่ ใหม่ทตี่ อ้ งการเพิม่ ทักษะความรู้ และเทคนิคต่างๆ ในการเรียน จึงมีสาขาวิชาที่หลากหลายครอบคลุม และผสมผสานศาสตร์ในแขนงต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และธุรกิจ พร้อมไปด้วยคณาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิ และสถานที่ เรียนซึ่งพรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อ�ำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อ รองรับความต้องการของนักเรียนและสนับสนุนให้พวกเขาก้าวออกไป สู่สังคมโลกด้วยความมั่นคง
ลักษณะที่โดดเด่น
1. ทางโรงเรียนมีความเชี่ยวชาญด้านการสอนเฉพาะทางมาเป็น ระยะเวลา 67 ปี 2. สามารถโอนหน่วยกิตของ 2 ปี จากวิทยาลัยวิชาชีพในเครือ เดียวกัน เข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย Tokyo University of Technology ในปีที่ 2 หรือ ปีที่ 3 ได้ 3. ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทชั้นน�ำของ ประเทศญี่ปุ่น ท�ำให้นักเรียนที่จบมามีประสิทธิภาพและมีโอกาส ในการเข้าท�ำงานสูง
สถาบันในเครือ มี ร ะบบแนะน� ำ นั ก เรี ย นที่ เ รี ย นจบจากโรงเรี ย นให้ เ ข้ า ศึ ก ษาต่ อ ที่ Tokyo University of Technology โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นในเครือ Tokyo University of Technology เปิดสอนภาษาญี่ปุ่นส�ำหรับผู้ที่ ต้องการเข้าศึกษาต่อที่สถาบันในเครือ เปิดรับ 3 ภาคเรียนคือ เดือน เมษายน หลักสูตร 2 ปี เดือนกรกฎาคม หลักสูตร 1 ปี 9 เดือน และ เดือนตุลาคม หลักสูตร 1 ปี ครึ่ง สอนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ถึงระดับสูง
CREATOR COLLEGE • Broadcasting and Film • Voice Acting & Stage Acting • Manga & Animation (หลักสูตร 2ปี / 4ปี) • CG Creator (หลักสูตร 3 ปี) • Game Creation (หลักสูตร 2ปี / 4ปี) DESIGN COLLEGE • Graphic Design (หลักสูตร 3 ปี) • Web Design (หลักสูตร 3 ปี) • Interior Design (หลักสูตร 3 ปี) • Product Design (หลักสูตร 3 ปี) MUSIC COLLEGE • Music Artist • Recording Creator • Dance Performance
• Concert Event IT COLLEGE • IT Specialist (หลักสูตร 4 ปี) • Information Technology (หลักสูตร 2 ปี) • PC/Network • Information Business TECHONOLOGY COLLEGE • Electronics, Electric Engineering • Architectural Design (หลักสูตร 2 ปี / 4 ปี) • Robot Technology • Environment Bionics (Kamata campus) & Applied Bionics (Hachioji campus) • Civil Engineering & Landscape gardening • CAD Design Drawing • Automobile maintenance (Hachioji Campus หลักสูตร 2 ปี และ 4 ปี)
MEDICAL COLLEGE • Clinical Engineering (หลักสูตร 3 ปี) • Medical Information • Acupuncture & Moxibustion (Hachioji campus หลักสูตร 3 ปี) • Judo Therapy (Hachioji campus หลักสูตร 3 ปี) SPORTS COLLEGE • Sports Training (Hachioji campus หลักสูตร 2 ปี และ 3 ปี) • Health and Sports Science (หลักสูตร 2 ปี และ 3 ปี) • Child Care (Hachioji campus)
ค่าเล่าเรียน Creators College : 2,665,650เยน/2 ปี Music College : 2,665,650 เยน/2 ปี IT College : 2,455,650 เยน/2 ปี Technology College : 2,285,650 เยน/2ปี Sports College : 2,485,650 เยน/2 ปี
วิธีการคัดเลือก พิจารณาจากเอกสารการสมัคร สอบสัมภาษณ์และการสอบวัดระดับ ความรู้ภาษาญี่ปุ่น
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก หอพักนักเรียน (ที่ Kamata 5 แห่ง Hachioji 3 แห่ง, Hokkaido 3 แห่ง) โรงอาหารนักศึกษา หอสมุด โรงยิม อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ Medial Hall และลานโบว์ลิ่ง (ที่ Hachioji campus)
กิจกรรมพิเศษ งานแข่งขันกีฬา งานโรงเรียนและงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมส�ำหรับ นักศึกษาชาวต่างชาติ
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
สภาพแวดล้อมของโรงเรียนและสถานีที่อยู่ใกล้ Nihon Kogakuin College, Kamata Campus ตั้งอยู่กลางเมือง ใหญ่การเดินทางสะดวกสบาย จากสถานีรถไฟ JR Kamata เดิน 2 นาที Nihon Kogakuin College of Hachioji อยู่ในเขตนอกเมืองโตเกียว สะอาด สวยงาม ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวิทยาการ มีทั้งห้องทดลอง สาธารณูปโภคทางกีฬาและสาธารณสุข มีขนาดใหญ่เป็น 8 เท่าของ Tokyo Dome ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว ห่างไกลความวุ่นวาย เหมาะต่อการเรียนจากสถานี Hachioji นั่งรถบัสประมาณ 20 นาที Nihon Kogakuin College of Hokkaido อยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สามารถเรียนได้อย่างสบายๆ อยู่ใกล้ กับออนเซ็น
69
COLLEGE
สาขาวิชาที่เปิดสอน
TOHO GAKUEN COLLEGE
70
学校法人 東放学園
COLLEGE
ที่อยู่ 4-5-2 Nishi-Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo (สำ�นักงานฝ่ายรับเข้าศึกษา) ปีที่ก่อตั้ง 1979 จำ�นวนนักเรียน 3000คน จำ�นวนนักเรียนต่างชาติ 161 คน
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน TOHO GAKUEN COLLEGE แรกเริ่มถูกก่อตั้งโดยเป็นโรงเรียน คอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ TBS (Tokyo Broadcasting of Corporation) ในปี1969 และได้รับการรับรองหลักสูตรโดยกระทรวง ศึกษาในปี 1979 มีบทบาทในการสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิง และ สร้างบุคลากรมากมายในด้านการสื่อสาร ดนตรี วงการบันเทิงทั้งใน และต่างประเทศ และได้รับการยกย่องจากหน่วยงานต่างๆมากมาย TOHO GAKUEN COLLEGE ประกอบด้วยสถาบัน 4 สถาบันย่อย ได้แก่ 1. TOHO GAKUEN Professional Training College of Media 2. TOHO GAKUEN Professional Training College of Film 3. TOHO GAKUEN Professional Training College of Acoustic Technique 4. TOKYO ANNOUNCE GAKUIN Professional Training College of Performing Arts
ลักษณะที่โดดเด่น 1. TOHO GAKUEN COLLEGE ได้รับการรับรองว่า เป็นวิทยาลัยที่ มี จ� ำ นวนชั่ ว โมงเรี ย นและระยะเวลาในการศึ ก ษาเป็ น ไปตาม มาตรฐานที่ก�ำหนด อีกทั้งยังได้รับรองว่าหลังจบการศึกษาจาก สถาบันแล้วจะได้รับอนุปริญญาบัตรและสามารถหางานที่ประเทศ ญี่ปุ่นได้ 2. TOHO GAKUEN COLLEGE มีการเรียนการสอนที่เน้นเพื่ออาชีพ สายบันเทิง เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ อนิเมชั่น นักพากษ์ จัดคอนเสิร์ต ท�ำเพลง ท�ำเสียงประกอบ เป็นต้น สอนโดย อาจารย์ที่ท�ำงานในสายงานนั้น และมีสื่อการสอน สถานที่ และ สตูดิโอระดับมืออาชีพ สร้างนักเรียนให้เป็นบุคลากรที่สามารถ ท�ำงานได้ทันที 3. มีนักเรียนที่จบจากสถาบันไปแล้วมากกว่า 5 หมื่นคน และ ท�ำงานในสายงานบันเทิงมากมาย ส่วนนักศึกษาต่างชาติที่จบไป ส่วนใหญ่ทำ� งานเป็นผูช้ ว่ ยผูก้ ำ� กับ ตากล้อง ตัดต่อ จัดแสง เจ้าหน้าที่ จัดคอนเสิร์ต ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ
สถาบันย่อยต่างๆจะรับนักเรียนญี่ปุ่นและนักเรียนต่างชาติ หลักสูตร ระยะเวลา 2 ปี และจะได้รับวุฒิปวส. สาขาด้านเทคนิค นักศึกษา มากมายได้ท�ำงานในวงการบันเทิงและได้รับการประเมินระดับสูงใน วงการอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนอีกด้วย วิทยาลัยวิชาชีพนั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนเรียนจบและมีงานท�ำ ไม่เพียงแค่สามารถเข้าท�ำงานได้ แต่ยังสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อเป็น จุดเริม่ ต้นในการสร้างผลงานให้กบั ตัวเองและองค์กร โดยโรงเรียนได้ตงั้ แนวทางการศึกษานี้และเรียกกิจกรรมนี้ว่า “Career Focus”
สาขาวิชาที่เปิดสอน
71
TOHO GAKUEN Film Techniques Training College ภาพยนตร์ Music Video โฆษณา อนิเมชั่น นวนิยาย สาขาที่เปิดสอน • Film Production Department • Promotion Movie Department • Animated Image Department • Creative Writing Department TOHO GAKUEN Sound Technology College การจัดคอนเสิรต์ การบันทึกเสียง การจัดระบบเสียงประกาศสาธารณะ (PA) Multimedia Audio (MA) หนังสือดนตรี สาขาที่เปิดสอน • Acoustic Technology Department • Acoustic Media Department TOKYO ANNOUNCE GAKUIN Performing Arts College การแสดงตลก การแสดง การเต้น ผู้ประกาศข่าว ผู้บรรยาย นักพากษ์ สาขาที่เปิดสอน • Broadcasting Voice Actor Department • Acting Performance Department • Announcing Department • Variety Show Department • Dance & Performing Art Department
COLLEGE
TOHO GAKUEN Media Training College โทรทัศน์ วิทยุ การจัดแสง การสร้างฉาก เสียงประกอบการ์ตนู อนิเมชัน่ สาขาที่เปิดสอน • Broadcasting Arts Department • Broadcasting Engineering Department • Event Lighting Department • TV Art Design Department • Broadcasting Acoustic Technology Department
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก สตูดโิ อถ่ายท�ำรายการโทรทัศน์ กล้องเครน กล้องถ่ายท�ำโทรทัศน์ สตูดโิ อ ตัดต่อภาพยนตร์ สตูดิโอจัดรายการวิทยุ Pro Tools Room สตูดิโอ ส�ำหรับจัดไฟ สตูดิโอถ่ายท�ำภาพยนตร์และPromotion Video กล้อง ระบบดิจติ อลระดับ HD กล้องฟิลม์ ห้องฉายผลงาน ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องอัด ระบบ PA โพสต์โปรดักชัน่ สตูดิโอ Live Hall ห้องอัดเสียงพูด ห้องก�ำกับเสียง ห้องเรียนการเต้นและอื่นๆ
กิจกรรมพิเศษ จะมีการจัดกิจกรรมการผลิตร่วมกับบริษทั ต่างๆ เช่น การจัดคอนเสิรต์ กลางแจ้งเช่น “SUMMER SONIC” และ “HASUNUMA” การถ่าย ภาพสาธารณะ การสร้างอนิเมชั่น การจัดรายการตลก และอื่นๆ
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน สถาบันในเครือ TOHO GAKUEN ทัง้ 4 สถาบันตัง้ อยูท่ ชี่ นิ จุกุ กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่ๆสะดวกต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Nishi-Shinjuku-Gochome ของสาย Toei Oedo Line
หอพัก ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) ปืที่ 1 1,423,610 เยน (รวมค่าแรกเข้า ค่าอุปกรณ์ ค่าสถานที่ ค่าเล่าเรียน ค่าประกัน ค่าสมาชิกToho ค่าทริปค้างแรม)
ปีที่ 2 1,170,000 เยน (รวมค่าแรกเข้า ค่าอุปกรณ์ ค่าสถานที่ ค่าเล่าเรียน ค่าประกัน ค่าสมาชิกToho)
สถาบันมีหอพักนักเรียนหลายแห่ง โดยราคาอยู่ที่ 53,000 เยน/เดือน รวมอาหารเช้าและเย็น การเดินทางจากหอพักไปโรงเรียนขึ้นอยู่กับ แต่ละหอพัก
72
แนะนำ�จังหวัด
KANAGAWA 神奈川
Mascot : Kintarou จังหวัดคานากาว่า ตัง้ อยูท่ างทิศใต้ของจังหวัดโตเกียว มีเมืองหลวงคือ เมืองโยโกฮาม่า ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม จังหวัด คานากาว่าเป็นจังหวัดที่มีทัศนียภาพอันงดงาม และมีโบราณสถาน ทางประวัตศิ าสตร์ทไี่ ด้รบั การบูรณะและรักษาเป็นอย่างดี มีการคมนาคม ที่ทันสมัยและสะดวกสบายอีกด้วย เพราะมีสนามบินฮาเนดะซึ่งได้รับ การพัฒนาจากสนามบินภายในประเทศมาเป็นสนามบินนานาชาติ ซึง่ สะดวก ต่อการเดินทางมาก
สภาพภูมิอากาศ มีอากาศก�ำลังสบายเนื่องจากมีกระแสน�้ำอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกไหล ผ่านเมืองโยโกฮาม่าซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัด มีอุณหภูมิเฉลี่ย 16 องศาเซลเซียส
แนะนำ�จังหวัด
73
จากซ้ายไปขวา • มินาโตะมิไร • คามาคุระ • พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า • ขนมคุกกี้นกพิราบ Hato Sabure
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. มินาโตะ มิไร 21 (Minato Mirai 21) เป็นเมืองที่แสดงถึง อนาคตและประวั ติ ศ าสตร์ ข องโยโกฮาม่ า โดยเป็ น แหล่ ง ศูนย์การค้า ตึกระฟ้า ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของผู้ที่มาเยือนจังหวัด คานากาว่าเลยทีเดียว
ศาลเจ้าล้างเงิน เซนิอาราอิ เบนเทน (Zeniarai Bensaiten Ugafuku Jinja) เป็นศาลเจ้าทางศาสนาชินโตที่ตั้งอยู่ในเขตคามาคุระ เป็นที่ที่ คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเพื่อ “ล้างเงิน” โดยมีความเชื่อว่าถ้าได้ล้าง เงินที่ศาลเจ้านี้แล้ว จะช่วยเพิ่มเงินทองให้ทวีคูณมากขึ้นได้ เมื่อล้าง เสร็จแล้ว ต้องน�ำเงินไปใช้ด้วย จึงจะได้คืนกลับมาจริง
2. คามาคุระ (Kamakura) เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมา ก่อน ในอดีตโชกุนและผู้มีอ�ำนาจสร้างวัดและศาลเจ้าทั่วเมือง และยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไดบุทซึที่มีชื่อเสียง ซึ่งใครที่มา คามาคุระจะต้องไปสักการะบูชากันทุกคน 3. พิพธิ ภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shin Yokohama Ramen Museum) คื อ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ท่ี ร วบรวมร้ า นราเมงเด็ ด ๆทั่ ว ประเทศมาไว้ ที่ นี่ ภายในพิพธิ ภัณฑ์ตกแต่งบรรยากาศแบบญีป่ นุ่ สมัยปี 1958 มีขนม ของเล่น ร้านอาหารที่เป็นแบบสมัยเก่า ได้ไปแล้วจะรู้สึกเหมือน เข้าไปอยู่ในบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยก่อนจริงๆเลย
ของฝาก ขนมคุกกี้รูปนกพิราบ Hato Sabure
อลิษา ตันติสิริวัฒน์ (แก้ม)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 โรงเรียนที่แก้มเรียนอยู่จังหวัดคานากาว่าค่ะ ตอนแรกที่มาค่อนข้างตกใจ คิดว่าเมืองที่อยู่นั้นจะเหมือนต่าง จังหวัด แต่พอมาถึงแล้ว สะดวกมากๆค่ะ อยู่ติดกับโตเกียวเลย แถมใกล้สนามบินฮาเนดะด้วยค่ะ เวลาเดินทาง สะดวกมาก ใช้เวลาไม่มากในการเดินทางไปโตเกียวหรือโยโกฮาม่า มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านขายของ มากมาย คนที่นี่ใจดีมากค่ะ ตอนมาแรกๆยังไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นมาก เค้าจะพยายามอธิบายให้เราเข้าใจ พนักงาน ร้านทุกคนจะให้เกียรติมากๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ เค้าก็จะพยายามช่วยเต็มที่ค่ะ
COLLEGE OF BUSINESS AND COMMUNICATION
74
外語ビジネス専門学校 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 22-9 Ekimae-honcho, Kawasaki-ku, Kawasaki-shi, Kanagawa 210-0007 ปีที่ก่อตั้ง 1987 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 37 ห้อง ชั่วโมงเรียน 23 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (รวมชั่วโมงเรียนคันจิ 1 ชั่วโมง) จำ�นวนนักเรียน 231 คน (20 สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น สถาบัน CBC มีการจัดงานกิจกรรมแลกเปลี่ยน ระหว่างนักศึกษาชาวญี่ปุ่นในวิทยาลัยวิชาชีพ นักศึกษามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น และนักเรียนประถมญี่ปุ่นอย่างสม�่ำเสมอ
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน CBC ตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี ค.ศ.1948 โดยได้รบั การสนับสนุนจากอ�ำเภอคาวาซากิ ก่อตั้งเป็นโรงเรียนภาษาอังกฤษประชาชนชาวคาวาซากิ และเมื่อปี ค.ศ.1987 เป็นวิทยาลัยวิชาชีพแห่งแรกในจังหวัด Kanagawa ที่เปิด ภาควิชาภาษาญี่ปุ่นที่รับนักศึกษาจากต่างชาติ หลังจากส�ำเร็จการ ศึกษาภาษาญี่ปุ่นแล้วยังสามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง ของสถาบัน ซึ่งจะเรียนร่วมกับนักศึกษาญี่ปุ่น ทางสถาบันยังมีระบบ โควต้าเข้าศึกษาต่อและระบบการลดค่าเล่าเรียนอีกด้วย
1. มีโอกาสที่จะได้รับทุนการศึกษาสูง และได้สิทธิพิเศษส่วนลดราคา ค่ารถไฟและรถบัส 2. เปิดคอร์สติวเข้มส�ำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับสูง และนักเรียนที่ต้องการสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น โดยไม่ เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 3. นักเรียนที่ท�ำงานพิเศษมีสิทธิ์ได้รับการลดการเสียภาษีจากการ ท�ำงาน
หลักสูตรวิชาชีพที่เปิดสอน
• Department of Comprehensive International Business หลักสูตร 2 ปี • Department of Intensive International Business หลักสูตร 1 ปี • Department of International Hotel, Tourism, and Bridal Service หลักสูตร 2 ปี • Department of International Hotel, Tourism, and Bridal Management หลักสูตร 1 ปี • Department of Global Information Communication Technology หลักสูตร 1-2 ปี • Department of Business Japanese หลักสูตร 2 ปี
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังไม่รวมค่าหนังสือเรียน ซึ่งขึ้นอยู่กับ ระดับชั้นเรียน
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นที่เปิดสอน ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น (Department of Japanese) สําหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในขั้นต้น เป็นการเรียนภาษาเพื่อการ ใช้ชีวิตในญี่ปุ่น และปูพื้นโครงสร้างของภาษา เช่น ไวยากรณ์และการ สร้างประโยค ฝึกเขียนเรียงความ เพื่อที่จะสามารถรองรับการเรียน ภาษาขั้นสูงต่อไปได้
เวลาเรียน
จันทร์ พุธ เวลา 9:40 - 15:20 น.และ อังคาร พฤหัส ศุกร์ เวลา 9:40 - 13:25 น. ภาควิชาภาษาญี่ปุ่นชั้นสูง (Department of Advanced Studies in Japanese) สําหรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับกลางถึงสูง สามารถศึกษาความรู้ เฉพาะทางในหลายๆ สาขาวิชา ฝึกให้มีความสามารถในการใช้ภาษา ญี่ปุ่นชั้นสูงได้อย่างคล่องแคล่วเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาใน การก้าวออกไปสู่อนาคต รวมไปถึงการเตรียมพร้อมในการเข้าท�ำงาน หรือการเข้าศึกษาต่อในระดับสูงของญี่ปุ่น
เวลาเรียน
จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 9:40 – 13:25 น. และ อังคาร พฤหัส เวลา 9:40 – 15:20 น.
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ข้อมูลของมหาวิทยาลัยต่างๆ มุมพัก ผ่อนบนสวนดาดฟ้า ห้องสมุด ห้องอาหาร โต๊ะปิงปอง ห้องเรียน ด้วยตนเอง หอประชุม เครื่องโปรเจคเตอร์ ห้องแบบญี่ปุ่น
กิจกรรมพิเศษ งานแบกศาลเจ้าเทศกาลซันโน ประกวดสุนทรพจน์ แข่งขันโบว์ลิ่ง แข่งคารุตะ ทัศนศึกษานอกสถานที่ เช่น คามาคุระ อาซะคุสะ โยโกฮาม่า วัดที่มีชื่อเสียง (Kawasakidaishi) ร่วมเทศกาลส�ำคัญๆ กับศูนย์ แลกเปลีย่ นนานาชาติอำ� เภอคาวาซากิ เยีย่ มชมและแลกเปลีย่ นวัฒนธรรม กับนักเรียนในโรงเรียนประถมมัธยม และมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น การแข่งขันกีฬา
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน โรงเรียนตั้งอยู่ในเมืองคาวาซากิ ซึ่งอยู่ติดกับโตเกียวและโยโกฮาม่า เป็นเมืองใหญ่ที่สะดวกสบายทั้งการศึกษา การท�ำงานและการใช้ชีวิต อยู่ห่างจากโตเกียวโดยรถไฟประมาณ 20 นาที
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานีรถไฟ JR Kawasaki ทางประตูตะวันออก เดิน 5 นาที ถึงโรงเรียน สถานีรถไฟ Keikyu Kawasaki เดิน 1 นาทีถึงโรงเรียน
หมายเหตุ
• ทุกหอพักมีค่าแรกเข้า ค่าประกันห้อง ค่าบ�ำรุงหอพัก ค่าประกันอัคคีภัย และค่าที่นอนรวม 110,000 เยน จ่ายครั้งแรกครั้งเดียว และเมื่อย้ายออก จะได้รับค่ามัดจ�ำห้องคืน 20,000 เยน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
75
76
YOKOHAMA INTERNATIONAL EDUCATION ACADEMY 横浜国際教育学院
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่ตั้ง 43 Miyazaki-cho, Nishi–ku, Yokohama-shi, Kanagawa 220 –0031 ปีที่ก่อตั้ง 1988 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 18 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 421 คน (18สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น 1. มีจดุ มุง่ หมายทีจ่ ะช่วยให้นกั เรียนทุกคนสามารถสอบผ่าน การสอบ EJU การสอบวัดระดับ N1 รวมถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือ วิทยาลัยอาชีวศึกษาในญี่ปุ่น
สถาบัน YIEA สามารถแนะน�ำนักเรียน ที่มีผลการเรียนโดดเด่นให้กับมหาวิทยาลัยหรือ วิทยาลัยอาชีพได้ ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน ในยุคโลกาภิวัฒน์ที่ทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทาง โรงเรี ย นไม่ ห ยุ ด นิ่ ง ที่ จ ะสร้ า งสรรค์ ค วามรู ้ ใ ห้ แ ก่ นั ก เรี ย นที่ มี ค วาม กระตือรือร้นในการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนจึงให้ความส�ำคัญ กับเนื้อหาหลักสูตร รวมทั้งวิธีการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียน สามารถพั ฒ นาความสามารถทางภาษาญี่ ปุ ่ น และความเข้ า ใจใน วั ฒ นธรรมญี่ ปุ ่ น ได้ อ ย่ า งเต็ ม ที่ โ ดยอาจารย์ ผู ้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ แ ละมี ประสบการณ์การสอนมานาน ซึ่งทุกท่านล้วนให้ความดูแลเอาใจใส่ นักเรียนทุกคนอย่างเต็มที่
2. คัดสรรอาจารย์ที่มีคุณภาพ ใช้วิธีการสอนแบบสอนตรงเพื่อ ประสิทธิภาพและการบรรลุผลสูงสุด 3. หอพักอยู่ใกล้โรงเรียน สะดวกสบายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง
หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป เป็นหลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบ EJU และการสอบ วัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับN1 หรือเตรียมพร้อมเพื่อเข้าศึกษา ต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา เพื่อฝึกฝนทักษะภาษาญี่ปุ่นให้ใช้สนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีทั้ง คาบเช้าและบ่าย หลักสูตรอื่นๆ หลักสูตรวัฒนธรรม ชั้นเรียนพัฒนาด้านสนทนา ชั้นเรียนทบทวนเพื่อ การสอบ JLPT การสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าเล่าเรียนรวม ค่าประกันสุขภาพส�ำหรับ
นักศึกษาต่างชาติ ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และค่า หนังสือแล้ว
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:10 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:10 - 16:30 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สามารถใช้อินเตอร์เน็ตในหอพักได้ตลอด 24 ชม.
กิจกรรมพิเศษ
การประกวดสุนทรพจน์ ตรวจสุขภาพ ทัศนศึกษานอกสถานที่ แข่งขันกีฬา งานเทศกาลของโรงเรียน งานจบการศึกษา งานแนะแนว College Day
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน ตั๋วรถไฟราคานักเรียน
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
อยูใ่ นเมืองโยโกฮาม่า ใกล้กบั มินาโตะ-มิไร 21 (เมืองใหม่สำ� หรับ ศตวรรษที่ 21) บริ เ วณใกล้ เ คี ย งยั ง มี ห ้ อ งสมุ ด โรงละครโนห์ คอนเสิร์ตฮอลล์ ศูนย์การศึกษาและศูนย์เยาวชน เมืองโยโกฮาม่านั้น อยู่ติดกับโตเกียว เครือข่ายการคมนาคม และเศรษฐกิจจึงขยายมา จากโตเกียว ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่านานาชาติซึ่งมีผสมผสานทั้ง ความเก่าแก่และทันสมัย
สถานีที่อยู่ใกล้
สถานี Sakuragicho (รถไฟ JR สาย Keihin Tohoku) เดิน 4 นาที ถึงโรงเรียน
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าหอพักจ่ายครั้งละ 6 เดือน และราคา ห้องพักยังไม่รวม ค่าประกันภัย 12,000 เยน และค่าน�้ำค่าไฟต่อ 6 เดือน 36,000 เยน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
77
78
แนะนำ�จังหวัด
YAMANASHI 山梨
Mascot : Torimotsukun จังหวัดยามานาชิ ตัง้ อยูใ่ นภูมภิ าคจูบขุ องประเทศญีป่ นุ่ มีเมืองหลวง
คือเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิเป็นจังหวัดที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา โดย เฉพาะภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก เมือง โคฟุมีชื่อเสียงมากในอุตสาหกรรมอัญมณี และมีทิวทัศน์ธรรมชาติ อันงดงาม
สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13.9 องศาเซลเซียส อากาศค่อนข้างเย็น สบาย ฤดูหนาวอากาศหนาวเย็น และเนื่องจากจังหวัดยามานาชิไม่มี ส่วนใดติดกับทะเลและล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงท�ำให้เกิดปรากฏการณ์ เงาฝนอยู่บ่อยครั้ง
จากซ้ายไปขวา • ไวน์ • ฟูจิคิวไฮแลนด์ • ทะเลสาบคาวากุจิโกะ • ฮตตาราคาชิออนเซน
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji Q Highland) เป็นสวนสนุกที่อยู่ใกล้ภูเขา ฟูจิ อยูใ่ นเมืองฟูจโิ ยชิดะ เป็นสวนสนุกทีร่ วมเครือ่ งเล่นหวาดเสียว โดยมีรถไฟเหาะที่เร็วอันดับ3ของโลก และรถไฟเหาะที่สูงอันดับ 8 ของโลก นอกจากนี้ยังมีบ้านผีสิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีความ ยาวถึง900เมตร ใช้เวลาในการเดินกว่า 1ชั่วโมง ว่ากันว่าเคยเป็น โรงพยาบาลเก่าที่ขาดทุนและปิดตัวลง ก่อนถูกสร้างให้เป็นบ้านผี สิงในปัจจุบัน
“โฮโต” อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดยามานาชิ ลักษณะเป็นเส้นอุด้งชนิด หนา ปรุงพร้อมกับผักสดตามฤดูกาล และน�้ำซุปเต้าเจี้ยวเข้มข้น หรือ “โทริโมะซึนิ” เครื่องในไก่ต้มในน�้ำซอสโชยุเข้มข้น เป็นอาหารที่มีชื่อ เสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ
2. ทะเลสาบคาวากุจโิ กะ (Kawaguchiko) เป็นทะเลสาบทีม่ ชี อื่ เสียง เพราะมีจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามมากเหมาะแก่การถ่ายภาพ ภูเขาไฟฟูจิ 3. ฮตตาราคาชิ ออนเซ็น (Hottarakashi Onsen) อยู่ในเขตโคฟุ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน�้ำพุร้อนกลางแจ้ง พร้อมทัศนียภาพ อันน่าทึ่งของแอ่งโคฟุ และภูเขาไฟฟูจิในตอนกลางวัน พร้อมดื่มด�่ำ กับท้องฟ้าที่ประดับด้วยดวงดาวนับร้อยพันในตอนกลางคืน
ของฝาก ไวน์ (Wine)
เขมสุดา ภักดีประพฤทธิ์ (เขม)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนกรกฎาคม 2013 เขมมาอยู่ที่จังหวัดยามานาชิได้ปีนึงแล้วค่ะ ตอนที่มาเป็นช่วงเทศกาลทานาบาตะของปีที่แล้วพอดี ท�ำให้ได้เห็น ด้านสนุกๆของเมืองนี้ เป็นความประทับใจแรกเลยค่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ก็เป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆ เหมาะกับการ เรียนค่ะ บวกกับการที่มีภูเขาล้อมรอบ ท�ำให้ไม่ค่อยเจอภัยธรรมชาติแรงๆอย่างจังหวัดอื่นเขา สิ่งที่ท�ำให้ตกใจ คือเมืองนี้ไม่ค่อยมีรสบัสวิ่งเท่าไหร่ค่ะ ท�ำให้ต้องมีจักรยานเป็นของตัวเอง รับรองได้ว่ามาอยู่ที่นี่แล้วแข็งแรงขึ้น แน่นอน เพราะต้องปั่นจักรยานทุกวันค่ะ (ฮา)
แนะนำ�จังหวัด
79
80
UNITAS JAPANESE LANGUAGE SCHOOL ユニタス日本語学校
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 3-6-11 Marunouchi, Kofu – shi, Yamanashi 400-0031 ปีที่ก่อตั้ง 1970 ระดับชั้นเรียน 9 ระดับ ห้องเรียน 16 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 208 คน (13สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น 1. สอนโดยคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์ ด้วยระบบการสอนที่มี ประสิทธิภาพ และสามารถแนะน�ำการศึกษาต่อได้ ทั้งการสอบ EJU เขียนวิทยานิพนธ์ สอบสัมภาษณ์ มีนักเรียนที่เรียนสามารถ เข้าศึกษาต่อได้จ�ำนวนมาก 2. ค่าเล่าเรียนถูก 3. โรงเรียนยังเปิดสอนภาษาต่างประเทศส�ำหรับคนญี่ปุ่น โดยมีค่า เล่าเรียนถูกและยังได้เรียนกับอาจารย์เจ้าของภาษาโดยตรง
สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นUnitas อยู่ในเครือของ มหาวิทยาลัย Teikyo ซึ่งหลังจบการศึกษา ที่ Unitas นักเรียนสามารถเข้ามหาวิทยาลัย ได้โดยไม่ต้องสอบเข้า ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Unitas เป็นโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นและภาษาต่างประเทศอื่นๆด้วย โดยก่อตั้งในปี1970 มีนักเรียนจบการศึกษาไปแล้วกว่า 10,000 คน ปัจจุบันมีนักเรียนมาจาก 15 ประเทศทั่วโลก โดยนักเรียนจะได้เรียน รู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่นพร้อมทั้งมีโอกาสได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเพื่อน อีกหลากหลายชาติอีกด้วย
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ส�ำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ภาษา ญี่ปุ่นเพื่อกลับมาท�ำงานในประเทศของตน โดยไม่มีเป้าหมายที่จะ ศึกษาต่อระดับสูง หลักสูตรศึกษาต่อ ส�ำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อการ ศึกษาต่อในสถาบันระดับสูงของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นระดับมหาวิทยาลัย บัณฑิตวิทยาลัย หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ
• หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไปและ หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ ค่าใช้จ่าย อื่นๆรวมค่าประกันภัยไว้แล้ว
เวลาเรียน
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:00 –16:30 น. อินเตอร์เน็ต Wifi ภายในโรงเรียน
ตั้งอยู่ในเมืองโคฟุ เมืองหลวงของจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นเมืองแห่ง ภูเขาไฟฟูจิ สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติทุกฤดูของญี่ปุ่น ในสภาพ แวดล้อมที่ดี ปลอดภัย และค่าครองชีพที่ถูกกว่าโตเกียวถึง 2 ใน 3 สามารถเดินทางสู่โตเกียวด้วยเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ
กิจกรรมพิเศษ
สถานีที่อยู่ใกล้
ทัศนศึกษาค้างคืน บาร์บีคิว กีฬาสี งานโต้วาที งานคริสตมาส เที่ยวดิสนีย์แลนด์ หรือฟูจิคิวไฮแลนด์
สถานีโคฟุอยู่ห่างจากโรงเรียน เพียง 10 นาที โดยการเดิน
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ
• หอพักLa Residence de Gloire
-
มีค่าบริการจัดหาห้องพัก 8,720 เยน ใน ครั้งแรกและค่าประกัน20,000เยนต่อปี • หอพัก Sunlife Hagiwara21, Paircoat Misaki และViewflat Kamiishida มีค่าประกันห้องพักและท�ำความสะอาด 34,000เยน • หอพัก Marunouchi Mansion มีค่าประกันห้องพัก 4,000 เยน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
81
82
แนะนำ�จังหวัด
SHIZUOKA 静岡
Mascot : Ieyasukun จังหวัดชิซโึ อกะ ตัง้ อยูใ่ นภูมภิ าคจูบุ บนเกาะฮอนชู เมืองหลวงใช้ชื่อ
เดียวกันคือเมืองชิซึโอกะ จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาฟูจิ และมีชื่อใน ด้านการปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่มี ทัศนียภาพสวยงาม และผู้คนใจดีด้วย
สภาพภูมิอากาศ เมืองนีเ้ ป็นเมืองทีม่ สี ภาพอากาศอบอุน่ เพราะมีแสงแดดตลอดปี ในช่วง ฤดูหนาวจะมีลมมรสุมพัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จึงท�ำให้ รูส้ กึ เย็นกว่าอุณหภูมทิ เ่ี ป็น ในช่วงฤดูรอ้ นทางด้านภูเขาบางทีจ่ ะมีอณ ุ หภูมิ สูงสุดในญี่ปุ่น
จากซ้ายไปขวา • ปราสาทฮามะมัตสึ • สวนผลไม้ฮามะมัตสึ • ไร่ชาเขียวชิซึโอกะ • พายปลาไหล
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ปราสาทฮามะมัตสึ (Hamamatsu Castle) เป็นปราสาทที่ โชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสึ ใช้ชีวิตอยู่เป็นเวลานานถึง 17 ปี รอบๆ ปราสาทมีต้นซากุระ ประมาณ 370 ต้น และจะบานเต็มที่ ประมาณปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ในแต่ละปีจะมี ผู้คนเดินทางเข้ามาชมดอกซากุระทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ในสวนแห่งนี้มีสวนญี่ปุ่นและสนามหญ้า ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะ ส�ำหรับเดินเล่นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ จะกลาย เป็นพื้นที่สันทนาการส�ำหรับครอบครัว
Hamamatsu Festival เทศกาลเล่นว่าวบริเวณเนินทรายใน เมืองฮามามัตสึ ที่ท�ำให้ท้องฟ้าดูสดใสขึ้นด้วยว่าวหลากสีขนาดใหญ่ กว่าร้อยตัว เรียกได้วา่ เป็นตัวแทนของเมืองฮามามัตสึ เพือ่ เป็นการขอให้ เหล่าเด็กๆ มีสขุ ภาพทีแ่ ข็งแรง โดยงานจะจัดขึน้ ในวันที่ 3-5 พฤษภาคม ของทุกปี ในเวลากลางวันจะเป็นกิจกรรมแข่งขันต่อสู้ของว่าวที่เปรียบ เหมือนนักรบ และในยามค�่ำคืนจะมีการจัดแสงไฟจากปราสาทหลาก สีสันมากมายส่องไปทั่วทั้งเมื่อง
2. สวนผลไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Fruit Park) เป็นธีมปาร์ค ของสวนผลไม้ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่า 430,000 ตร.ม. และใน สวนผลไม้นี้มีผลไม้จ�ำนวนมากที่มาจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี เรือนกระจก สนามหญ้า อุปกรณ์สนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่ให้ บริการฟรี ยังมีแคมป์ปิ้งในตอนกลางวัน ร้านอาหารและร้านค้า ต่างๆ และยังสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ต่างๆตาม ฤดูกาลได้อีกด้วย 3. ไร่ชาเขียวชิซึโอกะ (Shizuoka Grinpea) เป็นไรชาเขียวที่เปิด โอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถลองเก็บใบชาเพื่อเป็น ประสบการณ์ และยังสามารถเดินชมโรงงานเพื่อดูขั้นตอนในการ ผลิตชาได้อีกด้วย เปิดท�ำการตั้งแต่ 10.00-17.00 น.
นันทินี บุญคงชื่น (บิ๊ง)
ของฝาก พายปลาไหล (Unagi Pie)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2012 บิ๊งเลือกมาเรียนที่ชิซึโอกะเพราะคิดว่าคนที่นี่นิสัยดีกว่าที่อื่น เวลาเดินออกไปข้างนอกทุกคนก็จะทักทายสวัสดี กัน ยิ้มแย้มให้กันทั้งๆที่เป็นคนแปลกหน้า บิ๊งคิดว่าเป็นนิสัยหนึ่งอย่างที่น่ารักมากๆส�ำหรับคนเมืองนี้ค่ะ เรื่องที่ แปลกใจคือ คนที่นี่เห็นว่าการเป็นอาสาสมัครเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เวลาที่เมืองจัดกิจกรรมอะไร ถ้าคนไม่พอ เค้าก็จะเรียกเด็กนักเรียนให้ไปช่วย ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ก็เต็มใจ บางครั้งสมัครมากไปจนเค้าต้องคัดคนออกด้วยซ�้ำ ทั้งๆที่เด็กเหล่านี้ไม่ได้อะไรตอบแทน แต่กลับไปช่วยอย่างสมัครใจ นอกจากนั้น คนที่นี่ยังไม่รังเกียจคนต่างชาติ ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ คนญี่ปุ่นที่นี่ก็จะช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ
แนะนำ�จังหวัด
83
OISCA SENIOR HIGH SCHOOL
84
オイスカ高等学校
HIGH SCHOOL
ที่อยู่ 5835 Waji-cho, Hamamatsu-shi, Shizuoka 431-1115 ปีที่ก่อตั้ง 1983 ห้องเรียน 15 ห้อง ชั่วโมงเรียน 35 คาบต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 300 คน (รวมนักเรียนต่างชาติแล้ว) จำ�นวนนักเรียนต่างชาติ 37 คน (6 สัญชาติ)
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน OISCA Academy เป็นโรงเรียนมัธยมปลายซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี1983 โดยยึดหลักอุดมการณ์ขององค์กร นานาชาติที่ไม่แสวงหาผลก�ำไร OISCA International (องค์กรความร่วมมือระหว่างชาติของเอกชน) ทีม่ งุ่ แก้ปญ ั หาเกีย่ วกับปัญหาสิง่ แวดล้อมโลก และความร่วมมือระหว่าง ชาติ ภายใต้แนวคิดของสถาบันทีม่ งุ่ เน้นการปลูกฝังให้เยาวชนมีระเบียบ วินัย สามารถพึ่งพาตนเองได้ ส�ำนึกในบุญคุณของธรรมชาติ อนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม มีความภูมิใจในชนชาติของตนเองไม่ว่าจะมาจากส่วนไหน ของโลก เรียนรู้ที่จะปรับตัวและอยู่ร่วมกับเพื่อนจากนานาชาติทั่วโลก
วัตถุประสงค์หลักของโรงเรียน
เพื่อเป็นการสนับสนุนการศึกษาและปลูกฝังให้นักเรียนต่างชาติทั้ง ทีเ่ ดินทางมาจากต่างประเทศ และผูท้ อ่ี าศัยอยูใ่ นประเทศญีป่ นุ่ มีความ เข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสอนให้นักเรียน มีความกล้าและภูมิใจที่จะแนะน�ำประเทศของตนให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้จัก เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
อาจารย์พร้อมให้ค�ำปรึกษากับนักเรียน ที่จะศึกษาต่อวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย มีการจัดชั้นเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน และระหว่างปิดเทอม ฝึกฝนการท�ำข้อสอบ ภายในห้องแนะแนวจะมีรายละเอียด และข้อสอบเก่าของทั้งทางวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรมัธยมปลาย 3 ปี แบ่งออกเป็นสายมนุษยศาสตร์กับ วิทยาศาสตร์ โดยในปีแรกนักเรียนต่างชาติจะเรียนภาษาญีป่ นุ่ และวิชา ที่ไม่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเช่น คณิตศาสตร์และพละ เมื่อขึ้นปีที่ 2 นักเรียนต่าง ชาติจะได้เข้าเรียนกับนักเรียนชาวญี่ปุ่น โดยจะเรียนวิชาทั่วไป ได้แก่ คณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ สังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ ภาษา อังกฤษ ศิลปะ งานบ้าน พลศึกษา โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความ ร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นต้น และจะมีวิชาพิเศษเกี่ยวกับปัญหา สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ภาคเรียน • เทอมที่ 1 เดือนเมษายน - เดือนกรกฎาคม • เทอมที่ 2 เดือนกันยายน - เดือนธันวาคม • เทอมที่ 3 เดือนมกราคม - เดือนมีนาคม
HIGH SCHOOL
85
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ ค่าสมัคร 25,000 เยนจ่ายครั้งเดียวตอนสมัครเรียน และค่าแรกเข้า 70,000 เยน จ่ายครั้งเดียวพร้อมกับค่าเล่าเรียน
เวลาเรียน
8:25 – 16:05 น.
คุณสมบัติผู้สมัคร (หลักสูตร 3 ปี)
กิจกรรมพิเศษ
1. อายุ 15 ปี - 16 ปีบริบูรณ์ 3. ต้องมีความรูภ้ าษาญีป่ นุ่ ประมาณระดับ 4 (หรือระดับ N5 ระบบใหม่)
การร่ายร�ำแบบญี่ปุ่น ตีกลองญี่ปุ่น ทัศนศึกษาในประเทศแถบเอเชีย กิจกรรมทางการเกษตร ปลูกต้นไม้ แข่งขันกีฬา งานโรงเรียน ประจ�ำปี งานสังสรรค์ระหว่างนักเรียนต่างชาติและนักเรียนญี่ปุ่น เป็นต้น
4. การก�ำหนดระยะเวลาในการเรียนภาษาญีป่ นุ่ ขึน้ อยูก่ บั ความสามารถ ทางภาษาญี่ปุ่นของนักเรียน
กิจกรรมชมรม
5. นักเรียนที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่พอสมควรแล้ว จะจัดวิชาเรียน ให้เหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ที่มี
ฟุตบอล เทนนิส แบดมินตัน บาสเกตบอล กลองญี่ปุ่น วิทยาศาสตร์ บรรณารักษ์ พิธีชงชา จัดดอกไม้ วงดนตรี ปิงปอง คอมพิวเตอร์ แนะแนว คารุตะ (เกมส์ทายไพ่ของญี่ปุ่น)
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
โรงยิม โรงอาหาร ห้องสมุด ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ห้อง คหกรรม ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องโสตทัศนศึกษา ห้องพยาบาล ห้องแนะแนว ห้องประชุม
ตัง้ อยูท่ า่ มกลางธรรมชาติ ทิศตะวันตกติดกับทะเลสาบฮานามะ ทิศเหนือ ติดกับเทือกเขา และทิศใต้ตดิ กับแม่นำ�้ ฮานาคาวะ ส่วนด้านทิศตะวันออก ติดกับทุ่งนา ซึ่งนักเรียนจะได้ร่วมท�ำกิจกรรมปลูกข้าว ปลูกผัก และ น�ำมารับประทานเองได้
2. ต้องจบการศึกษาในประเทศของตัวเองอย่างน้อย 9 ปี (จบมัธยมต้น)
หอพัก หอพักภายในโรงเรียน แยกชาย - หญิง มีอาจารย์ดแู ลตลอด 24 ชัว่ โมง ส�ำหรับนักเรียนหลักสูตร 3 ปี ค่าหอพักปีที่ 1 และปีที่ 2 ราคา 675,000 เยน ค่าหอพักปีที่ 3 ราคา 615,000 เยน (ราคาดังกล่าว รวมอาหาร 3 มื้อ และค่าจัดกิจกรรมแล้ว)
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี Hamamatsu ตั้งอยู่ในตัวเมือง สามารถเดินทางจากโรงเรียน เข้าสู่ตัวเมืองฮามามัตสึได้โดยรถบัสใช้เวลาประมาณ 45 นาที
86
แนะนำ�จังหวัด
AICHI 愛知
Mascot : Okewanko จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุของเกาะฮอนชู มีเมืองหลวงคือเมือง
นาโกย่า เป็นแหล่งอุตสาหกรรมการผลิตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องการประดิษฐ์ โดยเฉพาะยานยนต์และอุตสาหกรรม เครื่องบินพาณิชย์ จึงมีส�ำนักงานใหญ่ของบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Toyota Honda Sony ฯลฯ ตั้งอยู่ในจังหวัดนี้มากมาย
สภาพภูมิอากาศ จังหวัดไอจิมีอุณหภูมิเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่นสบาย ตลอดทั้งปี แต่ทางตะวันออกเฉียงเหนือมีลักษณะเป็นภูเขาท�ำให้ฤดู หนาวมีอากาศหนาวจัด
จากซ้ายไปขวา • ปราสาทนาโกย่า • วัดนิตไทยจิ • ย่านซากาเอะ • ขนมโมจิ
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) หนึ่งในปราสาทที่ดังเป็น ล�ำดับต้นๆ ของประเทศญีป่ น่ ุ ถูกสร้างขึน้ ตัง้ แต่สมัยเอโดะในปี ค.ศ. 1612 มีการจ�ำลองรูปแบบดัง้ เดิมออกมาเกือบทัง้ หมด พร้อมกับเล่าเรือ่ งราว ของผู้คนในยุคสมัยนั้น
ร้านอาหารเซไกโนะยามะจัง (Sekai no Yamachan) ร้านนี้ขึ้นชื่อ เรื่องปีกไก่ทอดที่อร่อยมีให้เลือกหลากหลายเมนู มีขายทั่วไปในเมือง นาโกย่า
2. วัดนิตไทยจิ (Kakuozan Nittaiji Temple) วัดแห่งนี้สร้างขึ้นมา เพื่ อ ประดิ ษ ฐานพระบรมสารี ริ ก ธาตุ ที่ ไ ด้ รั บ พระราชทานจาก ประเทศไทย เมื่อปีค.ศ.1900 ปัจจุบันมีร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ หลายแห่งอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ได้รับความนิยมแห่ง หนึ่ง 3. ย่านซากาเอะ (Sakae) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า และเป็นที่ตั้ง ของ TV Tower ซึ่งเป็นต้นแบบของ Tokyo Tower ในเมือง โตเกียว ย่านซากาเอะเป็นแหล่งช้อปปิง้ ทีค่ กึ คักแห่งหนึง่ ของนาโกย่า มักจะมีงานอีเวนท์จัดบ่อยครั้งและมีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ใหญ่ๆ มากมายให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกัน
ของฝาก ขนมโมจิ Uirou
เกษณีย์ ปัญเจริญ (ดาว)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2014 จังหวัดไอจิเป็นจังหวัดทึ่อยู่ระหว่างโตเกียวกับเกียวโตท�ำให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งสองที่ได้อย่างสบาย และไอจิเป็นเมืองที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งทางประวัติศาสตร์และทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งมีแหล่งช็อปปิ้งทั้งราคาถูก ราคาปกติ และสินค้าแบรนด์เนม สิ่งที่ประทับใจคือการคมนาคม การเดินทาง ที่นี่สะดวกมาก รถไฟตรงต่อเวลาท�ำให้สามารถวางแผนการเดินทางได้เป็นอย่างดีและการใช้ชีวิตไม่เร่งรีบเท่า เมืองใหญ่ค่ะ
แนะนำ�จังหวัด
87
I.C.NAGOYA
88
I.C.NAGOYA JAPANESE LANGUAGE SCHOOL JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ Meieki-Nagata Bldg, 3-26-19, Meieki, Nakamura-ku, Nagoya 450-0002 ปีที่ก่อตั้ง 1982 ระดับชั้นเรียน 8 ระดับ ห้องเรียน 14 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 168 คน (17 สัญชาติ)
บริเวณโรงเรียนเป็นย่านร้านค้าและย่านธุรกิจ ท�ำให้นักเรียนสามารถพบเจอ ผู้คนจาก หลากหลายประเทศ รวมถึงคนญี่ปุ่นที่หลากหลาย
ลักษณะที่โดดเด่น
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน
1. เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญในการสอนภาษาโดย เฉพาะ ชั้นเรียนที่มีจ�ำนวนนักเรียนไม่มากท�ำให้เรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
I.C.NAGOYA ก่อตั้งมากว่า 30 ปี โดยมีนักเรียนจากหลากหลาย ประเทศทั่วโลกเข้าเรียนที่นี่ ผู้ที่เรียนจบจากที่นี่ก็ท�ำหน้าที่ของตนใน หลายๆทีท่ วั่ โลก ตัว “I.C.” ย่อมาจาก “International Communication” ในปัจจุบนั จากการแพร่หลายของอินเตอร์เน็ต ท�ำให้คนทัว่ โลกสามารถ สื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้อย่างอิสระ แต่การสื่อความนึกคิดของตน เป็นค�ำพูดนั้นส�ำคัญที่สุด ดังนั้นจุดมุ่งหมายหลักของโรงเรียนจึง มุ่งที่การขจัดอุปสรรคทางภาษาเพื่อการสื่อสารที่สัมฤทธิ์ผล ด้วย คณาจารย์ทมี่ คี วามรูค้ วามสามารถ พร้อมให้คำ� ปรึกษาแนะแนวโดย มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาความสามารถทางการสื่อสารไปพร้อมๆ กับ สอดแทรกบทเรียนภายนอกห้องเรียนที่หลากหลาย
2. มีหลักสูตรหลากหลายรองรับผูท้ ตี่ อ้ งการเข้าท�ำงาน ศึกษาต่อหรือ เรียนรู้การใช้ชีวิตในญี่ปุ่น 3. เป็นที่รู้จักของคนไทย และมีนักเรียนไทยที่ส�ำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนมาแล้วจ�ำนวนมาก
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป หลักสูตรครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียน รู้และเข้าใจทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมทั้งข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปจั จุบนั ในประเทศญีป่ นุ่ เข้าไว้ดว้ ยกัน เพือ่ ให้นกั เรียนมีความ เชี่ยวชาญทั้งทักษะภาษาญี่ปุ่น และมีความพร้อมส�ำหรับการศึกษาต่อ ในสถาบันระดับสูง
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
89
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ ค่าอืน่ ๆรวมค่าประกันอุบตั เิ หตุ ค่าประกันสุขภาพแห่งชาติ เอกสารประกอบการเรียน ค่าทัศนศึกษาและค่าบ�ำรุงอุปกรณ์
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 – 12:40 น. หรือ รอบบ่าย 13:10 – 16:50 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก โสตทัศนูปกรณ์ (วีดโี อและดีวดี )ี อินเตอร์เน็ท Wifi ห้องเรียนด้วยตนเอง เครื่องขายน�้ำดื่มอัตโนมัติ
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน โรงเรี ย นอยู ่ ต รงข้ า มสถานี น าโกย่ า โดยใช้ เ วลาเดิ น เพี ย งไม่ กี่ น าที บริเวณสถานีมไี ปรษณีย์ ธนาคาร ร้านหนังสือ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านอาหาร ร้านค้ามากมาย เป็นต้น สภาพแวดล้อมสะดวกสบาย
กิจกรรมพิเศษ
เหมาะแก่การใช้ชีวิต
การเรียนนอกสถานที่ ทัศนศึกษา
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานีรถไฟ Nagoya สาย Meitetsu Kintetsu และสถานี JR Nagoya หรือ รถไฟใต้ดนิ สาย Sakuradori และสาย Higashiyama หรือจาก ป้ายรถประจ�ำทาง Nagoya Bus Terminal เดินเพียง 3 นาที
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
หมายเหตุ
• มีโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ชั้นวางหนังสือ ตู้ใส่ของ เครื่องดูดฝุ่น และกาน�้ำร้อน มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญใช้ร่วมกัน
• ค่าส่วนกลาง 30,000 เยน / ค่าน�้ำ ไฟ แก๊ส จ่ายตามจริง
90
แนะนำ�จังหวัด
FUKUI 福井
Mascot : Kikurin
จังหวัดฟุคอุ ิ ตัง้ อยูใ่ นภาคจูบขุ องเกาะฮอนชูทางฝัง่ ทะเลญีป่ นุ่ มีเมือง ฟุคุอิเป็นเมืองหลวง เป็นจังหวัดที่มีความเป็นธรรมชาติมาก มีแหล่ง ท่องเทีย่ วชมวิวทีส่ ามารถชมได้ตลอดทัง้ ปี นอกจากธรรมชาติอนั สวยงาม จังหวัดฟุคุอิยังมีสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมหลายแห่งและยังเป็นจังหวัด ที่มีการค้นพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์จ�ำนวนมากอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศ เนื่องจากจังหวัดฟุคุอิเป็นพื้นที่เทือกเขาและมีที่ราบติดชายฝั่งทะเล ท�ำให้มีหิมะตกหนักในฤดูหนาว ฤดูร้อนอากาศร้อนชื้น และมีอากาศ เย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ
จากซ้ายไปขวา • ริมฝั่งแม่น�้ำอาสึวะ • วัดเอเฮจิ • ชายหาดมิคุนิ • ขนมเซมเบ้
สถานที่น่าสนใจ
1. ริมฝัง่ แม่นำ�้ อาสึวะ (Asuwa River) ในฤดูใบไม้ผลิ ชาวเมืองฟุคอุ ิ จะตื่นเต้นกับการชมดอกซากุระริมแม่น�้ำอาสึวะมาก เพราะได้รับ เลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 จุดชมวิวซากุระที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น มีต้นซากุระทั้ง 660 แถว โดยเวลาบานสะพรั่งจะสวยงดงามมาก จนลืมหายใจเลยทีเดียว 2. วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple) เป็นวัดนิกายเซนที่ถูกค้นพบเมื่อ 700 ปีที่แล้ว มีสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 70 หลัง แต่ละหลังเชื่อมต่อ กันด้วยระเบียงทางเดิน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 15 กิโลเมตร ในปัจจุบันยังมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ประมาณ 150 รูป นอกจากนี้ทางวัดยังอนุญาตให้คนนอกเข้าพักได้ โดยมี ค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 เยนต่อคืน ซึ่งรวมค่าที่พัก อาหารเย็น และชั่วโมงสอนปฏิบัตินั่งสมาธิ
RECOMMENDED เทศกาลลอยโคมในแม่นำ�้ ของวัดเอเฮจิ (Eiheiji Lantern Festival) เทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกวันที่ 24 สิงหาคมของทุกปี โดยเป็นการลอย โคมในแม่น�้ำเพื่อเป็นการร�ำลึกถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ได้ล่วง ลับไป เทศกาลลอยโคมของวัดเอเฮจิ จังหวัดฟุคุอินี้เป็นงานเทศกาลที่ ยิ่งใหญ่งานหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
3. ชายหาดมิคนุ ิ (Mikuni Sunset Beach) เป็นชายหาดทีส่ วยมาก แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีชอื่ เรือ่ งความปลอดภัยมากส�ำหรับผูท้ มี่ า เล่นน�้ำที่ชายหาดแห่งนี้ เป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจที่สวยงามและ ปลอดภัย ในหน้าร้อนจะมีการจัดงานแสดงดอกไม้ไฟกลางทะเล ท�ำให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจส�ำหรับผู้มาเยือนอย่างมาก
ของฝาก ขนมเซมเบ้ Satsukigase
ชาญชัย ฟ้อนงามดี (โฟม)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2014 จังหวัดฟุคุอิเป็นจังหวัดเล็กๆในเขตจูบุของญี่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่ติดกับภูเขาและทะเลท�ำให้มีวิวทิวทัศน์ที่เป็น ธรรมชาติอย่างมาก ผมคิดว่าสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การเรียนมากครับ วิถีชีวิตและผู้คนที่นี่อยู่กันอย่างสบาย ไม่รีบร้อนแบบเมืองใหญ่ ค่าครองชีพก็ค่อนข้างถูก และผู้คนที่นี่ใจดีและเป็นมิตรมากทีเดียวครับ รู้สึกมีความสุข มากที่ได้มาเรียนที่นี่ครับ นอกจากนีย้ งั มีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วและกิจกรรมต่างๆ อาทิ ทะเล สกี พิพธิ ภัณฑ์ไดโนเสาร์ โดยทางโรงเรียนมักจัดกิจกรรมเสมอ เป็นประสบการณ์ทดี่ ที ไี่ ด้พบเพือ่ นใหม่และเรียนรูข้ นบธรรมเนียมไปในตัวครับ
แนะนำ�จังหวัด
91
FUKUI UNIVERSITY OF TECHNOLOGY
92
福井工業大学
UNIVERSITY
ที่อยู่ 3-6-1 Gakuen, Fukui-shi, Fukui 910-8505 ปีที่ก่อตั้ง 1965 นักเรียน 59 คน (6 สัญชาติ)
หลักสูตรที่เปิดสอน
เป็นมหาวิทยาลัยที่สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น จากทั่วประเทศแนะน�ำให้นักเรียนที่ต้องการศึกษา ต่อในมหาวิทยาลัยสายวิศวกรรมศาสตร์เข้าศึกษา
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Fukui University of Technology เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ก่อตั้ง เมื่อปี 1965 ตั้งอยู่ในเมืองฟุคุอิ จังหวัดฟุคุอิ ทางมหาวิทยาลัยมี เป้าหมายให้มีการศึกษาทั้งในด้านวัฒนธรรม สังคม ธรรมชาติวิทยา และวิ ศ วกรรมควบคู ่ กั บ การปลู ก ฝั ง นั ก ศึ ก ษาตามคติ พ จน์ ข อง มหาวิทยาลัย นอกจากนีย้ งั มีเป้าหมายทีจ่ ะสร้างวิศวกรทีม่ คี วามสามารถ ด้านวัฒนธรรมและคุณค่าต่อสังคม อีกทั้งสามารถที่จะตัดสินเรื่อง ต่างๆ ด้วยตนเองและปฏิบัติอย่างถูกต้อง
ระดับมหาวิทยาลัย Faculty of Engineering • Department of Electrical and Electronics Engineering • Department of Mechanical Engineering • Department of Architecture and Civil Engineering • Department of Applied Nuclear Technology Faculty of Environmental and Information Sciences • Department of Environmental and Food Sciences • Department of Management and Information Sciences • Department of Design Faculty of Sports and Health Sciences • Department of Sports and Health Sciences ระดับบัณฑิตวิทยาลัย Department of Applied Science and Engineering • Electrical, Electronic and Computer Engineering Course • Space Information Science Course • Mechanical Engineering Course • Environmental and Biological Chemistry Course • Nuclear Technology Application Course Department of Social System Engineering • Civil Engineering Course • Architecture Course • Design Course • Management and Information Science Course
UNIVERSITY
93
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหลักสูตร
หลักสูตรปริญญาตรี
ภาคเรียน
ค่าสมัคร
ค่าแรกเข้า ค่าเล่าเรียน
อื่นๆ
รวม
ภาคเรียนที่ 1
30,000
250,000
465,000
201,300
946,300
ภาคเรียนที่ 2
-
-
465,000
175,000
640,000
ค่าปฏิบัติ งานทดลอง
รวม
ชื่อหลักสูตร
ภาคเรียน
ค่าสมัคร
ค่าแรกเข้า
ค่าสิ่งอ�ำนวย ความสะดวก
หลักสูตรปริญญาโท และเอก
ภาคเรียนที่ 1
25,000
320,000
92,500
20,000
457,500
ภาคเรียนที่ 2
-
320,000
98,500
20,000
438,500
รวม 1 ปี
ทุนการศึกษาแบบยกเว้น ค่าเล่าเรียนบางส่วน ส�ำหรับนักเรียนต่างชาติ ทุนส่วนตัว (ค่าเล่าเรียน หลังยกเว้น)
1,586,300
817,800
รวม 1 ปี
ทุนการศึกษาแบบยกเว้น ค่าเล่าเรียนบางส่วน ส�ำหรับนักเรียนต่างชาติ ทุนส่วนตัว (ค่าเล่าเรียน หลังยกเว้น)
896,000
535,800
หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายด้านบนยังไม่รวมค่าสนับสนุนประกันสุขภาพของสหภาพนักศึกษา หลักสูตรปริญญาโท 5,750เยน/2 ปี และหลักสูตรปริญญาเอก 8,600 เยนต่อ/3 ปี
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
การเรียนภาษาญี่ปุ่น
ห้องสมุด ห้องส่วนกลาง ห้องแนะแนวการหางาน ห้อง International Center ห้องให้ค�ำปรึกษาเรื่องการเรียน ห้องให้ค�ำปรึกษาการใช้ชีวิต ของนักศึกษา
มีการจัดชั้นเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT สัปดาห์ละ 1-2 (วิชาภาษาญี่ปุ่นไม่รวมอยู่ในหลักสูตรหลัก ฉะนั้นไม่ น�ำมาค�ำนวนหน่วยกิต)
กิจกรรมพิเศษ
สถานีที่อยู่ใกล้
ปาร์ตี้ต้อนรับนักศึกษาต่างชาติ ท่องเที่ยวสถานที่มชี อื่ เสียงของจังหวัด ฟุกอุ ิ ปาร์ตที้ านอาหารทีศ่ นู ย์อาหารของมหาวิทยาลัย งานมหาวิทยาลัย ประจ�ำปี เล่นสกี ปาร์ตี้คริสต์มาส งานปีใหม่
โดยสารรถประจ�ำทางจากสถานีรถไฟ JR Fukui ประมาณ 10 นาที และลงรถที่ป้าย Fukui Kogyo Daigaku-mae
หอพัก มหาวิทยาลัยมีหอพักหลายแห่ง โดยมีค่าแรกเข้า 50,000 เยน และ ค่าเช่าห้อง 14,000 – 35,000 เยน ภายในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศ ห้องน�้ำ ห้องอาบน�้ำ ห้องครัว อินเตอร์เนต • เนื่องจากแต่ละหอมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามกับเจ้า หน้าที่เพิ่มเติมได้
94
แนะนำ�จังหวัด
KYOTO 京都
Mascot : Chachaoukoku no Oujichama จังหวัดเกียวโต เป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศญีป่ นุ่ ซึง่ ตัง้ อยูใ่ นภูมภิ าค คิงคิมีเมืองหลวงคือเมืองเกียวโต จังหวัดเกียวโตเคยเป็นเมืองหลวง ของญี่ปุ่นในอดีตซึ่งมีอายุร่วมร้อยกว่าปีแต่ก็ยังคงมนต์ขลังของขนบ ธรรมเนียมและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้ดจี นถึงปัจจุบนั เนือ่ งจากเป็น เมืองหลวงเก่า จึงเป็นที่ตั้งของวัดและศาลเจ้ามากมาย และยังมี ธรรมชาติที่สวยงามท�ำให้เกียวโตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติตลอดทั้งปี
สภาพภูมิอากาศ สภาพอากาศทั่ ว ไปอบอุ ่ น สบายเกื อ บตลอดทั้ ง ปี แ ต่ ใ นช่ ว งเดื อ น สิงหาคมจะร้อนอบอ้าว ในฤดูหนาวจะหนาวมากและมีหิมะตก
จากซ้ายไปขวา • ภูเขาอาราชิยามะ • วัดคิโยมิซึเดระ • ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทชะ • กระดาษซับมัน Yojiya
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ภูเขาอาราชิยามะ (Arashiyama) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมาก สามารถนัง่ รถไฟ ทีเ่ รียกว่า รถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train) เพือ่ ชมธรรมชาติรมิ ผาและแม่นำ�้ ข้างทางส�ำหรับคนทีม่ โี อกาส ไปเที่ยวช่วงเดือนเมษายนจะสามารถนั่งชมดอกซากุระตลอดแนว เส้นทางรถไฟได้
เทศกาลกิอง (Gion Matsuri) เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในฤดูร้อนเดือน กรกฏาคมของทุกปี ในงานจะมีขบวนแห่ศาลเจ้ามาสร้างสีสันและมี ร้านค้ามาออกร้านมากมายเป็นเทศกาลทีม่ ชี อื่ เสียงทีส่ ดุ ของเมืองเกียวโต ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
2. วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizudera) เป็นวัดที่ได้รับความนิยมใน หมู่นักท่องเที่ยวและมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ”วัดน�้ำใส” เนื่องมา จากมีน�้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น�้ำ 3 สายซึ่งไหลมาจากเทือกเขาตาม ธรรมชาติ ว่ากันว่าถ้าได้กินน�้ำทั้ง 3 สายนี้จะท�ำให้เราประสบ ความส�ำเร็จ 3 อย่างคือ การงาน ความรัก และสุขภาพ 3. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทชะ (Fushimi Inari Taisha Shrine) สัญลักษณ์ของศาลเจ้าทีน่ ี่ คือสุนขั จิง้ จอกซึง่ เป็นเทพเจ้าด้านธัญพืช ในศาสนาชินโต เป็นวัดที่มีประตูโทริอิสีแดงนับหมื่นต้นเรียงราย ไปจนถึงยอดเขา เป็นสถานที่ที่ใครมาเกียวโตต้องไม่พลาดมา เยี่ยมชมกัน
ของฝาก
กระดาษซับมัน Yojiya
เคนโตะ อูเอซึจิ (เคน)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 เมืองเกียวโต นั้นเป็นเมืองหลวงเก่า และเป็นเมืองที่ใช้ชีวิตอยู่ได้ง่าย ไม่รีบร้อน ไม่เร่งรีบ บรรยากาศของเมือง นั้นสงบ สบาย ถ้าเข้าไปในตัวเมืองก็จะพบเจอไมโกะหรือเกอิชา(ถ้าโชคดี) มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังหลายที่ ไม่วา่ จะเป็น วัดน�ำ้ ใส (คิโยมิซเึ ดระ) วัดทอง (คินคาคุจ)ิ ป่าไผ่ (อาราชิยามะ) วัดประตูโทริอแิ ดง (ฟูจมิ อิ นิ าริไทชะ) และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่งแต่ละที่นั้นมีธรรมชาติให้ซึมซับ มีวัฒนธรรมให้เชยชม ผู้คนเป็นกันเองให้ ความช่วยเหลือคนต่างชาติเป็นอย่างดียามที่เราหลงทางหรือต้องการความช่วยเหลือ และยังมีภาษาคันไซให้ได้ เรียนรู้ และจากการทีม่ าเรียนทีญ ่ ปี่ นุ่ ท�ำให้มเี พือ่ นต่างชาติเพิม่ ขึน้ ได้รบั รูว้ ฒ ั นธรรมทีแ่ ตกต่าง ท�ำให้ความสนุกสนานใน การใช้ชีวิตนั้นมีมากขึ้นครับ
แนะนำ�จังหวัด
95
URYUYAMA ACADEMIC FOUNDATION
96
KYOTO INSTITUTE OF CULTURE AND LANGUAGE
学校法人瓜生山学園 京都文化日本語学校 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 2-116 Uryuyama Kitashirakawa, Sakyo-ku, Kyoto 606-8271 ปีที่ก่อตั้ง 1969 ระดับชั้นเรียน 7 ระดับ ห้องเรียน 16 ห้อง ชั่วโมงเรียน 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ 20 ชั่วโมงเป็นวิชาหลัก(ช่วงเช้า) ส่วนอีก 4 ชั่วโมงเป็นวิชาเลือก (ช่วงบ่าย) จำ�นวนนักเรียน 266 คน(20 สัญชาติ)
เป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับ Kyoto University of Art and Design และ Kyoto Institute of Design นักเรียนสามารถใช้ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้ และมีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยน กับนักศึกษาญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัยได้
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน Kyoto Institute of Culture and Language(KICL)ก่อตั้งเมื่อปี 1969 เปิดการเรียนการสอนมากว่า 40 ปี ตั้งแต่ปี 1972 ได้เปิด หลักสูตรญี่ปุ่นศึกษาให้กับนักเรียนจากหลายโรงเรียนในต่างประเทศ และในปี 1989 ได้เข้าร่วมกับองค์กรสนับสนุนการศึกษาและเรียนรู้ ภาษาญี่ปุ่น ต่อมาปี 2004 จนถึงปัจจุบันได้รับการอนุญาตให้จัดตั้ง หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
ลักษณะที่โดดเด่น 1. โรงเรียนมีทั้งวิชาหลักและวิชาเลือก ในหลักสูตรวิชาหลักจะ ครอบคลุมเนื้อหาการสอบเพื่อศึกษาต่อ(EJU) หรือสอบวัดระดับ ความรู้ภาษาญี่ปุ่น (N1-N5) ในส่วนของวิชาเลือก สามารถเลือก ให้เข้ากับเป้าหมายของเราได้ 2. หลักสูตรพื้นฐานเกี่ยวกับศิลปะการออกแบบ เป็นวิชาที่เรียนรู้ เกี่ยวกับด้านศิลปะจากอาจารย์ของ Kyoto University of Art and Design โดยตรงเพื่อเป็นแนวทางในการสอบเข้าสถาบันวิชา วิชาชีพหรือมหาวิทยาลัยด้านศิลปะ 3. มีชั่วโมงเรียนวัฒนธรรม และสังคมญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้นักเรียน ที่ ม าจากหลายชาติ ห ลายประเทศได้ สั ม ผั ส วั ฒ นธรรมญี่ ปุ ่ น ที่ หลากหลาย
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป (Regular Course) เหมาะส�ำหรับนักเรียนทีต่ อ้ งการพัฒนา และเพิม่ พูนทักษะความรูภ้ าษา ญีป่ นุ่ และผู้ที่มีความประสงค์เข้าศึกษาต่อในระดับสูงของมหาวิทยาลัย เวลาเรียน ช่วงเช้า 9:00 – 12:30 น. และช่วงบ่าย 13.30 – 15.10 น.
หลักสูตรเพือ่ ศึกษาต่อในสาขาศิลปะและการออกแบบ (Preparatory Class for Continuing Education in the Field of Art and Design) เป็นหลักสูตรพิเศษที่จัดเพื่อนักเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไปที่สนใจ เรียนต่อวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ในสาขาศิลปะหรือการออกแบบ ด้วยความสนับสนุนจาก Kyoto University of Art and Design เพื่อ การศึกษาต่อในด้านศิลปะหรือการออกแบบนักเรียนที่ไม่มีความรู้พื้น ฐานทางศิลปะและการออกแบบก็สามารถเรียนได้ ผูท้ จี่ ะเรียนหลักสูตร นีต้ อ้ งมีความรูภ้ าษาญีป่ นุ่ ชัน้ กลางเป็นอย่างน้อยใช้ระยะเวลาเรียน 7 เดือน (พฤษภาคม– พฤศจิกายน) สัปดาห์ละ 3 วัน เวลาเรียน วันพุธ วันศุกร์ 13:30– 16:30 น. และเสาร์ 9.00-12.00 น.
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหลักสูตร
ภาษาญี่ปุ่นทั่วไป
ระยะเวลา
ภาคเรียน
2 ปี
เม.ย./ต.ค.
1 ปี 6 เดือน
เม.ย./ต.ค.
1 ปี
เม.ย./ต.ค.
6 เดือน
เม.ย./ต.ค.
7 เดือน
พ.ค.-พ.ย.
เพื่อการศึกษาต่อ สาขาศิลปะ และการออกแบบ
ค่าสมัคร
20,000
ค่าแรกเข้า
70,000
-
ค่าเล่าเรียน
อื่นๆ
รวม
1,240,000
200,000
1,530,000
930,000
150,000
1,171,224
620,000
100,000
810,000
310,000
50,000
450,000
90,000
ค่าอุปกรณ์ จ่ายตามจริง
90,000
หมายเหตุ ค่าใช้จา่ ยอืน่ ๆ สิง่ อ�ำนวยความสะดวกกิจกรรมเสริมพิเศษและประกันสุขภาพ
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด มุมพักผ่อน คอฟฟีช่ อ็ ป โรงอาหาร ห้องพยาบาล โรงยิม พิพธิ ภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ โรงละคร แกลเลอรี่ ร้านขายเครือ่ งเขียน
ตัง้ อยูเ่ มืองเกียวโต ศูนย์กลางของศิลปะ วัฒนธรรมดัง้ เดิมอันทรงคุณค่า ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้ง ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จึงเหมาะ ส�ำหรับการศึกษาและเรียนรู้ “ญี่ปุ่น” อย่างแท้จริง
กิจกรรมพิเศษ กิจกรรม Culture Day ทัศนศึกษานอกสถานที่ เยี่ยมชมโรงเรียน ประถม แคมป์ภาคฤดูร้อน กีฬาสี กิจกรรมเข้าร่วมชั้นเรียนที่ Kyoto University of Art And Designฯลฯ
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหอพัก
ประเภทหอพัก
Shugakuin Global House Pine Field Kitashirakawa Matsuya Residence Shugakuin
ห้องเดี่ยว
ค่าเช่า
ค่าแรกเข้า
41,000
124,000
50,000
124,000
49,000
112,00
สถานีที่อยู่ใกล้ • จากสถานี Kyoto(JRKintetsuRailway) หรือสถานีSanjo (สาย Keihan) นั่งรถบัสสาย 5 • จากสถานี Kawaramachi (สาย Hankyu) นั่งรถบัสสาย 3 หรือ 5 • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Kitaoji นั่งรถบัส สาย 204 • รถบัสสาย 5 หรือ 204 และลงที่ป้ายKamihate-cho หรือ Kyoto Zokeigeidai-mae ค่าประกัน
3,000 / 6 เดือน
อุปกรณ์ในหอพัก ห้องน�้ำรวม(อาบน�้ำหยอดเหรียญ) ครัวใช้ร่วมกัน
จากโรงเรียนไปหอพัก จักรยาน 10 นาที / รถบัส 5 นาที เดิน 10 นาที
ห้องน�้ำ,ห้องอาบน�้ำ,ครัวในห้อง
รถบัส 5 นาที/ จักรยาน 15 นาที
หมายเหตุ • ทุกหอพักรวมค่าอินเตอร์เน็ตแล้ว • ค่าใช้จ่ายครั้งแรก รวมค่าเช่า6เดือน
97
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
หลักสูตรที่เปิดสอน
98
แนะนำ�จังหวัด
OSAKA 大阪
Mascot : Yumemarukun
จังหวัดโอซาก้า ตัง้ อยูใ่ นภูมภิ าคคิงคิหรือคันไซบนเกาะฮอนชู มีเมือง โอซาก้าเป็นเมืองหลวงของจังหวัด เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด อันดับ 2 รองจากโตเกียว มีเทคโนโลยี แฟชั่นที่ทันสมัยและมีการ ผสมผสานด้านวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว เป็นเมืองที่มีความ ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ การค้า และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลาก หลายเช่น ย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ร้านอาหารชื่อดัง และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
สภาพภูมิอากาศ โอซาก้ามีภูมิอากาศอบอุ่น ในหน้าหนาวอุณหภูมิลดต�่ำสุดในเดือน มกราคม ในฤดูใบไม้ผลิมีอากาศเย็นแต่จะค่อยร้อนและชื้นมากขึ้นใน ฤดูร้อน
จากซ้ายไปขวา • ปราสาทโอซาก้า • พิพิธภัณฑ์สัตว์น�้ำโอซาก้า • ย่านร้านค้าโดทงโบริ • ข้าวเกรียบรสทาโกะยากิ
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ภายในปราสาทมีนิทรรศการ แสดงหลักฐาน ภาพเขียน เครื่องแต่งกายโบราณ และบริเวณ รอบๆปราสาทก็เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้ใบไม้งาม สะพรั่งในทุกฤดู 2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น�้ำโอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) พิพิธภัณฑ์สัตว์น�้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสัตว์น�้ำให้เข้าชมกว่า 580 ประเภท จ�ำนวนกว่า 30,000 ตัว หากเข้าชมหลัง 5 โมงเย็น จะมีโอกาสชมชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์น�้ำในยามค�่ำคืน
Universal Studios Japan หรือ USJ เป็นสวนสนุกของ Universal Studios ค่ายหนังยักษ์ใหญ่จากอเมริกา ซึ่งจะมีเครื่องเล่นที่สร้างขึ้นใน ธีมภาพยนตร์ของค่าย Universal ดังๆเช่น Spider-Man, Jurassic Park, Back to the Future และในเดือนกรกฎาคม 2014 ก็ได้เปิดตัว The Wizarding World of Harry Potter ซึ่งเป็น สวนสนุกของ Harry Potter แฟนพันธุ์แท้จริงไม่ควรพลาด!
3. ย่านร้านค้าโดทงโบริ (Dotonbori) โดทงโบริเป็นย่านร้านค้าชื่อ ดังของโอซาก้า โด่งดังด้วยป้ายกูลิโกะขนาดยักษ์ ซึ่งถ้าใครไม่ได้ ถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะนี้ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงโอซาก้า ย่านนี้ เป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวานจนได้ ชื่ อว่ า “ถนนกิ น แหลก” และ “ครัวของชาติ” เลยทีเดียว
ของฝาก
ข้าวเกรียบรสโทโกะยากิ (Takoyaki Senbe)
ณัฐวีร์ เอื้อธรรมมิตร (พี)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2013 สิ่งที่ชอบในโอซาก้าคือเรื่องนิสัยของคนที่นี่ ซึ่งถ้าเราสงสัยเส้นทางหรือเวลาไปติดต่อส�ำนักงานเขต แต่ไม่รู้วิธี ด�ำเนินการเอกสาร เขาจะช่วยจนเหมือนจะท�ำแทนเราได้เลยค่ะ และอีกอย่างที่ชอบคือโอซากาไม่วุ่นวายมาก ไม่เหมือนเมืองหลักอย่างโตเกียว เราไม่ต้องรีบเดินจนเหมือนวิ่งให้ทันรถไฟ ในความไม่วุ่นวายนี้ก็ยังมีหลายๆ อย่างที่โตเกียวก็มีเช่น ห้างสรรพสินค้า อาหารจากหลากหลายชาติ(ไทย จีน เกาหลี อินเดีย เวียดนาม) วัฒนธรรม สถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว(ชินไซบาชิ ปราสาทโอซาก้า สวนบัมปะกุคเิ นนโคเอน ศาลเจ้าเทนมานกู) สวนสนุก ชื่อดังอย่างUSJ แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ตกใจมากคือการเดินข้ามถนนทั้งที่ไฟข้ามถนนยังแดงอยู่ และอีกเรื่องคือ จักรยานหาย เพื่อนๆนี่จักรยานหายบ่อยเลย คือมันตลกและแปลกดี เค้าอาจจะขอยืมไปสักพัก แต่ขอไปจอด แถวอื่นแทนก็เป็นได้ 555
แนะนำ�จังหวัด
99
ECC KOKUSAI COLLEGE OF FOREIGN LANGUAGES (JAPANESE COURSE)
100
ECC国際外語専門学校 日本語学科 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ 1-5-11 Nakazakinishi, Kita-ku, Osaka 530-0015 ปีที่ก่อตั้ง 1987 ระดับชั้นเรียน 7 ระดับ ห้องเรียน 16 ห้อง ชั่วโมงเรียน 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 260 คน (14 สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น สถาบัน ECC มีบรรยากาศที่เหมาะสมกับ การเรียนรู้อย่างจริงจัง
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน สถาบัน ECC Kokusai College of Foreign Languages มีคอร์สให้ เลือกหลากหลาย ทั้งภาษาญี่ปุ่น ธุรกิจระหว่างประเทศ ภาษาอังกฤษ ทั่วไป สายการบิน โรงแรม ท่องเที่ยว ล่าม แปล เป็นต้น เมื่อเรียนจบ หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นแล้ว นักเรียนของสถาบันจ�ำนวนมากจะเข้าศึกษา ต่อในระดับสูงทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และวิทยาลัยวิชาชีพ ซึง่ มีอตั ราการสอบเข้าศึกษาต่อได้สงู ถึง100% ทางสถาบันมีการแนะน�ำ นักเรียนให้กับมหาวิทยาลัย 17 แห่ง นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อได้ โดยทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาจากเอกสารการสมัคร หรือสอบ สัมภาษณ์เท่านั้น
1. ทางสถาบันให้การเรียนการสอนที่มีมาตรฐาน เพื่อตอบสนอง ความต้องการของนักเรียนที่มีความตั้งใจในการเรียนอย่างแท้จริง มีอุปกรณ์การเรียนการสอนใหม่ การเรียนการสอนอัดแน่น 2. อาคารเรียนตกแต่งใหม่ ซึ่งมีสิ่งแวดล้อมเอื้ออ�ำนวยความสะดวก ต่อการเรียนเป็นอย่างมาก 3. คณาจารย์ของโรงเรียนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด จึงเป็นผู้ที่ เปี่ยมด้วยความสามารถและความรู้ทางวิชาชีพ
หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ส�ำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อระดับสูง ผู้ที่ จ�ำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการท�ำงาน และผู้ที่ต้องการสอบวัดระดับ ภาษาญี่ปุ่น N1 เพื่อการพัฒนาความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นให้ได้มาก ที่สุด
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังไม่รวมค่า
หนังสือเรียน • สามารถแบ่งจ่ายได้ครั้งละครึ่งปี โดยต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบตอน สมัครเรียน
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:00 - 13:10 น. หรือ รอบบ่าย 13:40 -17:50 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
โซนคอมพิวเตอร์ WIFIฟรี ห้องนั่งเล่น ห้องสมุด มุมส�ำหรับเรียนด้วย ตนเอง ห้องพยาบาล ห้องแนะแนวการศึกษา
ตั้งอยู่ในย่านอุเมดะใจกลางเมืองโอซาก้า ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ล�ำดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น มีความสะดวกสบายในการเดินทาง การ ช็อปปิ้ง และการพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาล และ ศูนย์แสดงวัฒนธรรมในละแวกใกล้เคียงด้วย
กิจกรรมพิเศษ ทัศนศึกษานอกสถานที่ การแข่งขันโบว์ลิ่ง ชมภาพยนตร์ กิจกรรม เทศกาลทานาบาตะ และกิจกรรมในแต่ละเดือน ทั้งยังมีกิจกรรมร้อง เพลงประสานเสียงของนักเรียนต่างชาติอีกด้วย
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน นักเรียนจะได้รับส่วนลดในการซื้อตั๋วรถไฟและค่ารถในการท่องเที่ยว ระยะเกิน 100 กิโลเมตรขึ้นไป นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมสถาน ที่ทางวัฒนธรรมของ จ.โอซากา ฟรี และสิทธิพิเศษเข้าใช้ศูนย์ฟิตเนส ที่ร่วมได้
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
สถานีที่อยู่ใกล้ สถานี JR Osaka หรือ Hanshin Umeda หรือ Hankyu Umeda ใช้ เวลาเดินเพียง 8 นาที หรือ โดยรถไฟใต้ดนิ สาย Tanimachi ลงทีส่ ถานี Nakazakicho และเดินอีกเพียง 1 นาทีถงึ โรงเรียน
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
101
EHLE INSTITUTE JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
102
専門学校エール学園 日本語教育学科 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่ตั้ง 3-9-3 Namba-naka, Naniwa-ku, Osaka 556-0011 ปีที่ก่อตั้ง 1967 ระดับชั้นเรียน 6 ระดับ ห้องเรียน 33 ห้อง ชั่วโมงเรียน 25-35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับหลักสูตร) จำ�นวนนักเรียน 263 คน (10 สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น 1. หลักสูตรของ EHLE เป็นหลักสูตรที่ท�ำให้นักเรียนมีโอกาสในการ ศึกษาต่อระดับสูง
EHLE Institute มีหลักสูตรเรียนเต็มวันท�ำให้ สามารถพัฒนาภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
2. นักเรียนมีโอกาสในการท�ำงานบริษัทญี่ปุ่นสูง โดยอัตราผู้ได้งานที่ จบจากโรงเรียนในปี 2011 มี 100% และในปี 2012 เพิ่มขึ้น อีก90 % 3. ทางสถาบันร่วมมือกับองค์กรธุรกิจในท้องถิ่น จึงสามารถช่วย เหลือนักเรียนในการหางานพิเศษได้อย่างวางใจ
หลักสูตรที่เปิดสอน ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน EHLE GROUP เป็นสถาบันการศึกษานานาชาติที่มีประสบการณ์ใน การอบรมและชี้น�ำนักเรียนมากกว่า 30,000 คน ตลอดระยะเวลา นานกว่า 25 ปี เพื่อการศึกษาต่อในระดับสูง หรือเพื่อหน้าที่การงานที่ ดีในอนาคต นักเรียนจึงวางใจได้ว่าการศึกษาภาษาญี่ปุ่นที่สถาบัน จะ ท�ำให้สามารถก้าวสู่ความส�ำเร็จในอนาคตข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ด้วย การเรียนการสอนที่เอาใจใส่นักเรียนแต่ละคนอย่างทั่วถึง เพียบพร้อม ด้วยสื่อการสอนที่เลือกสรรมาให้เหมาะกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นใน แต่ละระดับ
หลักสูตรศึกษาต่อทั่วไป ในหลักสูตรเพื่อเตรียมสอบJLPTระดับ N1, N2, เตรียมเพื่อสมัครงาน อีกทัง้ ยังมีการแนะแนวตามเป้าหมายของ แต่ละคน นอกจากนีม้ ตี วิ สอบ EJU เพื่อนักเรียนที่มีความประสงค์จะ ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และมีการร่วมเข้าฟังการเรียนการสอน ในวิทยาลัยวิชาชีพส�ำหรับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในวิทยาลัยวิชาชีพ อีกด้วย หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อการท�ำงาน เป็นหลักสูตรเพื่อเตรียมความ พร้อมแก่ผู้ที่ต้องการท�ำงานในบริษัทญี่ปุ่นหรือต้องการพัฒนาหน้าที่ การงาน โดยเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มทักษะภาษาญี่ปุ่น และเรียน ควบคู่กับโรงเรียนวิทยาลัยอาชีพ EHLE ภายใน 6 เดือน(รับประกัน การได้งาน 100%)
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงค่าประกัน
ค่าอ�ำนวยความสะดวก และค่าหนังสือ
เวลาเรียน
9:30 - 14:05 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
อุปกรณ์การสอนที่หลากหลายเหมาะส�ำหรับแต่ละระดับชั้น VCRs ที่ ติดตั้งภายในห้องเรียน ข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมอินเตอร์เน็ต
โรงเรียนอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้าในเขต Namba ซึ่งเป็นศูนย์กลาง แหล่งช็อปปิง้ และความทันสมัยของโอซาก้า อยูใ่ กล้กบั Dotonbori และ Shinsaibashi ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ส�ำคัญแห่งหนึ่งของโอซาก้า ทั้งนี้ยังมี
กิจกรรมพิเศษ
สิ่งอ�ำนวยความสะดวกอย่างครบครันอีกด้วย
มีกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของญี่ปุ่นนอกโรงเรียน อย่างสม�่ำเสมอ นักเรียนมีโอกาสร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับคนใน ท้องถิน่ และในเขต Naniwa เช่น เทศกาลฤดูรอ้ น เทศกาล Shitennoji Wasso เป็นต้น
สถานีที่อยู่ใกล้
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน ตั๋วรถไฟราคานักเรียน
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
/
สถานีรถไฟใต้ดนิ Namba ใช้เวลาเดินถึงโรงเรียนประมาณ 5 นาที
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
103
104
แนะนำ�จังหวัด
HYOGO 兵庫
Mascot : Habatan จังหวัดเฮียวโกะ เป็นเมืองท่าของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ
ฮอนชู ในภูมิภาคคินคิ มีเมืองหลวงคือเมืองโกเบ เมืองที่ได้รับอิทธิพล จากวัฒนธรรมต่างชาติมากมาย เมืองโกเบได้รบั การโหวตให้เป็นเมือง ที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 5 และอันดับ 2 ในเอเชีย โกเบเป็นเมืองที่ หรูหรามีระดับ จึงถูกเลือกให้เป็นหนึง่ ใน 25 ของเมืองทีส่ วยงามที่สุด ของโลก
สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15.6 องศาเซลเซียส ด้วยภูมิประเทศที่หลาก หลาย จึงท�ำให้มีลักษณะภูมิอากาศที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ฤดูหนาว ทางตอนเหนือจะมีหิมะตกมากกว่าที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจาก ลมไซบีเรีย ฤดูร้อนทางตอนใต้ค่อนข้างอบอุ่นและมีฝนตกเล็กน้อย
แนะนำ�จังหวัด
105
จากซ้ายไปขวา • ปราสาทฮิเมจิ • อาริมะออนเซ็น • ภูเขารอคโค • โกเบ พุดดิ้ง
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมี สีขาวสว่าง ปราสาทฮิเมจิได้รับการแต่งตั้งจากยูเนสโกให้เป็น มรดกโลกและเป็นสมบัติประจ�ำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี ค.ศ.1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น และ ยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น
Kobe Luminarie งานประดับไฟที่จัดขึ้นประจำ�เกือบทุกปี ซึ่งจะจัด ในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนธันวาคม แรกเริ่มเป็นการประดับไฟเพื่อ รำ�ลึกถึงผู้ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของเมืองโกเบเมื่อ ธันวาคม ปี 1995
2. อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เป็น 1 ใน 3 แหล่งน�้ำแร่ที่เก่า แก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่8 เดินทางไปโดยรถบัสจากสถานี Shin-Kobe ใช้เวลา 35 นาที 3. ภูเขารอคโค (Mt. Rokko) อยู่ทางเหนือของเมืองโกเบ เป็น อุทยานแห่งการพักผ่อนทีด่ ที สี่ ดุ ในหมูช่ าวต่างชาติ เพราะมีรสี อร์ท เพื่อสุขภาพ สนามกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ลานสกีที่ถูกสร้าง บนยอดเขาสูง 931 เมตรเหนือระดับน�้ำทะเล และมีบริการ กระเช้าลอยฟ้าพาขึ้นสถานี Rokko Sanjo ชมวิวยามราตรีที่มี ฉายาว่า Ten Million Dollar Night View
ของฝาก โกเบ พุดดิ้ง (Kobe Pudding)
จีรณา เมฆวิชัย (นิ่ม)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 เมืองส�ำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีความแออัดวุ่นวาย มาใช้ชีวิตแบบสบายๆ แต่มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบ ครัน พร้อมการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว เฮียวโกะมีสภาพอากาศที่ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป มีทั้งทะเล และภูเขาพร้อมแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้เที่ยวกันได้ไม่เบื่อเลยค่ะ นอกจากเนื้อโกเบที่ขึ้นชื่อแล้ว โกเบที่เป็น เมืองขึ้นชื่อของจังหวัดเฮียวโกะก็ยังเป็นอีกเมืองสวรรค์ของนักชิม ทั้งพุดดิ้ง ชีสเค้ก ช็อกโกแลต และอื่นๆอีก มากมาย ส�ำหรับใครที่มาแล้วคิดถึงอาหารไทย ก็มีร้านอาหารไทยรอทุกคนอยู่ที่โกเบหลายร้านให้กินจนหาย คิดถึงกันไปเลย เรียกได้ว่า “โกเบ” เป็นเมืองที่มีพร้อมทุกอย่างจริงๆค่ะ ^^
106
INTERCULTURE LANGUAGE ACADEMY 国際語学学院
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่ตั้ง 7-5 Yonban-cho, Nagata-ku, Kobe , Hyogo 653-0004 ปีที่ก่อตั้ง 1988 ระดับชั้นเรียน 13 ระดับ ห้องเรียน 9 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 198 คน (20สัญชาติ)
ลักษณะที่โดดเด่น 1. ตั้งอยู่ในเมืองโกเบ ซึ่งสภาพแวดล้อมของเมืองนั้นมีความเป็น นานาชาติ สามารถศึกษาภาษาญี่ปุ่น และการแลกเปลี่ยนทาง วัฒนธรรมได้อย่างลึกซึ้ง 2. สอนโดยคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์ในการสอนภาษาญี่ปุ่นให้กับ นักเรียนจากนานาประเทศทั่วโลก
โรงเรียน ILA มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถ พูดภาษาไทยได้คอยดูแล ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน ILA ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์รวมนานาชาติที่เก่าแก่ ตัง้ อยูท่ างทิศตะวันตกของประเทศญีป่ นุ่ โกเบเป็นเมืองทีม่ คี วามสวยงาม เป็นเมืองที่รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามทั้งทะเลและภูเขา คณาจารย์ดูแลนักเรียนด้วยความเอาใจใส่และเป็นกันเอง มีการจัด แนะแนวเรียนต่อพร้อมให้ค�ำปรึกษา แนะน�ำ และช่วยเหลือนักเรียน ในเรื่องของการเรียนต่อระดับบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย และ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอื่นๆ ในญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ ท�ำให้นักเรียนสามารถ เข้าศึกษาต่อในสถาบันระดับสูงได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากการ เรียนในห้องเรียนแล้ว มีการจัดไปทัศนศึกษาสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ วัฒนธรรม และอุตสาหกรรมของญีป่ นุ่ เพือ่ ให้นกั เรียนมีความเข้าใจ เกีย่ วกับสังคมญีป่ นุ่ ยิง่ ขึน้ ส�ำหรับนักเรียนทีไ่ ม่ได้เรียนต่อ ก็มหี ลักสูตร เพื่อการท�ำงาน ส�ำหรับคนที่ต้องการหางานท�ำอีกด้วย
3. มีชั้นเรียนที่เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน
หลักสูตรที่เปิดสอน
หลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ และหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ชั้นต้น ตัวอักษรและไวยากรณ์พื้นฐาน การออกเสียง บทสนทนาที่ จ�ำเป็นในชีวิตประจ�ำวัน เตรียมสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นระดับ 3 ชั้นกลาง สามารถแสดงความคิดเห็นในสถานการณ์ต่างๆ อ่านและ แต่งบทความ เรียงความสั้นๆ โครงสร้างไวยากรณ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เตรียมสอบวัดระดับภาษาญีป่ นุ่ ระดับ 2 ภาษาญีป่ นุ่ วิชาการ (ระดับต้น) – เฉพาะหลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ ชั้นสูง 1 การอ่านและเขียนระดับสูง สื่ออื่นๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร การอภิปราย สุนทรพจน์ เตรียมสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ระดับ 1 ภาษาญี่ปุ่นวิชาการ – เฉพาะหลักสูตรเพื่อศึกษาต่อ ชั้นสูง 2 การฟังข่าว รายการทางวิทยุและโทรทัศน์ การอภิปราย กล่าวสุนทรพจน์ในระดับสูงขึ้น มีความเข้าใจเนื้อหาเฉพาะด้าน การ เขียนวิทยานิพนธ์ และการน�ำเสนอ ภาษาญีป่ นุ่ วิชาการ – เฉพาะหลักสูตร เพื่อศึกษาต่อ
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหลักสูตร
เพื่อศึกษาต่อ/ ภาษาญี่ปุ่นทั่วไป
ระยะเวลา
ภาคเรียน
2 ปี 1 ปี 9 เดือน
ค่าสมัคร
ค่าแรกเข้า
ค่าเล่าเรียน
ค่าประกัน
เมษายน
1,166,400
23,800
1,384,600
กรกฎาคม
1,020,600
20,825
1,235,825
21,600
86,400
อื่นๆ
86,400
รวม
1 ปี 6 เดือน
ตุลาคม
874,800
17,850
1 ปี 3 เดือน
มกราคม
729,000
14,875
1,087,050 938,275
1 ปี
เมษายน
583,200
11,900
789,500
หมายเหตุ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมค่าสิ่งอ�ำนวยความสะดวก และค่าอุปกรณ์การเรียน
เวลาเรียน
รอบเช้า 9:10 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:15 –16:35 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน
ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องพยาบาล ห้องแนะแนวศึกษาต่อ ห้องทบทวนบทเรียน
โรงเรียนอยู่ห่างจาก Sannomiya ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองประมาณ 10 นาทีโดยรถไฟ การคมนาคมสะดวก สามารถเดินทางไปโอซาก้า เกียวโต และนาราได้ง่าย
กิจกรรมพิเศษ ปาร์ตี้รับน้องใหม่ เทศกาลชมซากุระ ทัศนศึกษาเกียวโต - นารา งาน ประกวดสุนทรพจน์ งานแนะแนวศึกษาต่อ งานเลี้ยงปีใหม่ ทัศนศึกษา ก่อนจบการศึกษาและงานเลี้ยงรุ่น เป็นต้น
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน บัตรสมาชิกเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือสวนสัตว์ต่างๆโดยไม่ต้องเสียค่าใช้ จ่ายจากจังหวัดเฮียวโกะและเมืองโกเบ
สถานีทอี่ ยูใ่ กล้ • เดินจากสถานี Hyogo (รถไฟสาย JR ) มาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 15 นาที • เดินจากสถานีรถไฟใต้ดนิ Nagata ทางออกด้านทิศตะวันตกประตูที่ 3 เดินลงมาทางใต้ประมาณ 1 นาที • เดินจากสถานี Kosoku-Nagata ด้านหน้าประตูทางออกทิศตะวันออก
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหอพัก Miwaboshi (South Building)
ประเภทห้อง
ค่าเช่าห้อง/เดือน
ห้องเดี่ยว
60,000-66,000
ห้องคู่
31,000-36,000
ค่าแรกเข้า
ค่ามัดจ�ำ
อุปกรณ์ในหอพัก
จากโรงเรียนไปหอพัก
30,000
30,000
ห้องอาบน�้ำ สุขา ครัว ตู้เย็น แอร์ เครื่องซักอบผ้าหยอดเหรียญ
เดิน20นาที หรือ รถไฟ2นาที
หมายเหตุ ค่าไฟ-แก๊สจ่ายตามจริง ค่าน�้ำและค่าอินเตอร์เน็ต(Wifi)รวมอยู่ในค่าหอแล้ว
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
107
108
KOBE INTERNATIONAL UNIVERSITY 神戸国際大学
UNIVERSITY
ที่อยู่ 9-1-6 Koyocho-naka, Higashinada-ku, Kobe, Hyogo 658-0032 ปีที่ก่อตั้ง 1968 ระดับชั้นเรียน 3 ระดับ ห้องเรียน 8 ห้อง ชั่วโมงเรียน 215 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 1595 คน (6 สัญชาติ) จำ�นวนนักเรียนในหลักสูตร Kokusai Bekka 111 คน
นักเรียนที่จบการศึกษาจากหลักสูตร Kokusai Bekka จะได้รับสิทธิพิเศษ ในการเข้าศึกษาต่อคณะเศรษฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน มหาวิทยาลัย Kobe International Universtiy (KIU) เป็นมหาวิทยาลัย ทีเ่ ปิดรับนักศึกษาทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ สถาบันตัง้ อยูบ่ นเกาะ Rokko ซึ่งจะได้เห็นบรรยากาศมหาสมุทรแปซิฟิกอันสวยงาม และได้ ใช้ชีวิตร่วมกับนักศึกษาจากนานาประเทศ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตร การเรียนการสอนที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้นักศึกษาสามารถพาตัวเองไปสู่ เป้าหมายได้ในอนาคต
ลักษณะที่โดดเด่น 1. ได้รับสวนลดค่าเล่าเรียน 30% และส่วนลดค่าแรกเข้า 50% ใน ปีแรกส�ำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาหลักสูตร Kokusai Bekka และเข้าศึกษาต่อคณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย 2. มีการสนับสนุนการศึกษาต่อในระดับบัณฑิตวิทยาลัยในประเทศ ญี่ปุ่นหลังจบหลักสูตรKokusai Bekka
หลักสูตรที่เปิดสอน
• Kokusai Bekka (หลักสูตรเพือ่ เตรียมศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย) Faculty of Economic (ระดับปริญญาตรี) • Department of Economics and Management • Department of Urban Environment and Tourism Faculty of Rehabilitation (ระดับปริญญาตรี) • Department of Physical Therapy
UNIVERSITY
109
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) ชื่อหลักสูตร
ระยะเวลา
ภาคเรียน
Kokusai Bekka (หลักสูตรเพื่อเตรียมศึกษาต่อ ในระดับมหาวิทยาลัย)
1 ปี 6 เดือน
ต.ค.
1 ปี
เม.ย.
ปริญญาตรี
4 ปี
เม.ย.
หมายเหตุ • ส�ำหรับหลักสูตรหนึ่งปีนั้น นักเรียนจะต้องอยู่หอที่ทางมหาวิทยาลัยก�ำหนดเท่านั้น • ค่าใช้จ่ายอื่นๆเช่น ค่าต�ำราเรียน ค่ารักษาพยาบาล ค่าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น JLPT ประมาณ 30,000เยน และส�ำหรับนักเรียนที่เดินทางด้วยจักรยานนั้นจะมีค่า ประกันจักรยาน 5,000 เยน
เวลาเรียน
(หลักสูตรภาษาญี่ปุ่น Kousai Bekka) รอบเช้า 9:20 – 12:30 น. หรือ รอบบ่าย 13:20 – 16:30 น.
ค่าสมัคร
ค่าแรกเข้า
20,000
100,000
20,000
100,000
ค่าเล่าเรียน
รวม
825,000
945,000
550,000
670,000
746,000
866,000
• ค่าเล่าเรียนรวมค่าบ�ำรุงสถานศึกษา ค่าอุปกรณ์และสถานที่ และค่าด�ำเนินการต่างๆ • จะได้รบั การยกเว้นค่าแรกเข้าส�ำหรับนักศึกษาทีผ่ า่ นหลักสูตรภาษาญีป่ นุ่ Kokusai Bekka
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก ห้องสมุด โรงอาหาร ร้านค้า ห้องพยาบาล ห้องแนะแนวการหางาน โรงยิมฝึกซ้อม สนามกีฬา สนามเทนนิส โบสถ์ ห้องปฏิบัติการ ฟื้นสภาพทางเวชศาสตร์
คุณสมบัติของผู้สมัคร (หลักสูตร Kokusai Bekka)
สิทธิพิเศษส�ำหรับนักเรียน
1. จะต้องจบการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศของตนเป็นเวลา 12 ปี และมีคุณสมบัติที่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยใน ประเทศนั้นๆ
ตั๋วรถไฟลดราคาส�ำหรับนักศึกษา สิ่งอ�ำนวยความสะดวกส�ำหรับ นักศึกษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
2. ผู้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับ N5 ขึ้นไป หรือ J.TEST ระดับ F 3. ผูม้ คี ณ ุ สมบัตเิ ทียบเท่าและสูงกว่าข้อ 1 และ 2 ทีร่ ะดับมหาวิทยาลัย ยอมรับ
คุณสมบัติของผู้สมัคร (หลักสูตรปริญญาตรี) 1. จะต้องจบการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศของตนเป็นเวลา 12 ปี และมีคุณสมบัติที่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยใน ประเทศนั้นๆ 2. ผู้มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับ N2 ขึ้นไป หรือ J.TEST ระดับ C 3. ผูม้ คี ณ ุ สมบัตเิ ทียบเท่าและสูงกว่าข้อ 1 และ 2 ทีร่ ะดับมหาวิทยาลัย ยอมรับ
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน เมืองโกเบนั้นเป็นเมืองท่าที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจากนานา ประเทศในอดีต และเกาะ Rokko Island City เป็นเมืองมีความเป็น นานาชาติและยังมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ด้านหน้าเป็นทะเลและ ด้านหลังมีเขา Rokko และยังมีตึกอาคาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนนานาชาติ เป็นต้น ถือได้ว่ามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการ ศึกษา ท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจในที่เดียว ท�ำให้นักศึกษามี โลกทัศน์ที่กว้างไกล
สถานีทอี่ ยูใ่ กล้ สถานี Marin Park (รถไฟสาย Rokko Liner) มหาวิทยาลัยอยูต่ ดิ กับสถานี
หอพัก หอพักของมหาวิทยาลัยมีอยู่ 15 แห่ง ค่าแรกเข้า 20,000 เยน ค่าเช่า ห้องนั้นมีตั้งแต่ 259,200 - 907,200 ต่อปี ระยะทางจากหอถึง มหาวิทยาลัยใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
110
แนะนำ�จังหวัด
KOCHI 高知
Mascot : Shinjokun จังหวัดโคจิ เป็นหนึ่งในจังหวัดบนเกาะชิโกกุของประเทศญี่ปุ่น มีเมือง หลวงคือเมืองโคจิ ซึ่งเป็นเมืองแห่งการคมนาคมของเกาะชิโกกุ ทาง ทิศเหนือเป็นแนวเขาและทิศใต้จะติดกับทะเล เป็นจังหวัดทีม่ ธี รรมชาติ ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แม้จังหวัดโคจิจะอยู่บนเกาะ แต่ก็เป็นจังหวัดที่มีย่านธุรกิจและแหล่งช็อปปิ้งให้นักท่องเที่ยวได้จับ จ่ายซื้อของกัน
สภาพภูมิอากาศ จังหวัดโคจิมีอากาศค่อนข้างอบอุ่น อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 32 องศา เซลเซียล และต�่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 องศาเซลเซียล
จากซ้ายไปขวา • ปราสาทโคจิ • สวนพฤษศาสตร์ มากิโนะ • ผงโรยข้าววาซาบิ • อ่าวโทสะ
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. ปราสาทโคจิ (Kochi Castle) ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 เป็น 1ใน 12 ปราสาทเก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ นอกจากนี้ปราสาทแห่งนี้ยัง เอาชนะภัยพิบัติต่างๆและสงครามมาจนถึงทุกวันนี้ และยังคงเป็น ปราสาทที่สวยงามเหมาะส�ำหรับถ่ายภาพเป็นที่ระลึกส�ำหรับนัก ท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในเมืองโคจิอีกด้วย
เทศกาลโยซาโค่ย (Yosakoi Matsuri) เป็นเทศกาลที่ขาดไม่ได้เลย สำ�หรับฤดูร้อนของจังหวัดโคจิ โดยเด็กๆจะถือเครื่องมือให้จังหวะที่ ชื่อว่านารุโกะ (Naruko) ไปพร้อมกับเต้นไปรอบๆเมืองโคจิ เทศกาล นี้จัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน และเป็นเทศกาลที่เป็นความภาคภูมิใจของ จังหวัดโคจิเลยทีเดียว
2. สวนพฤกษศาสตร์ มากิโนะ (Makino Botanical Garden) เป็นสวนที่มีดอกไม้ให้ชมหลากหลายชนิดทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง รวมถึงดอกซากุระที่ออกดอกผลิบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ 3. อ่าวโทสะ (Tosa bay) เป็นอ่าวที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบที่จะไป ชมปลาวาฬในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนซึ่งจะมีเรือ ประมงไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย
ของฝาก ผงโรยข้าวรสวาซาบิ (Wasabi Furikake)
ปุณณวิศว์ เมธีนพอนันต์ (ซัน)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2013 ปัจจุบันผมเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมปลายในจังหวัดโคจิครับ จังหวัดนี้อยู่บนเกาะชิชูกุ ซึ่งเป็นเกาะที่มีจังหวัดแค่ 4 จังหวัดเท่านั้น จังหวัดโคจิ เป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติค่อนข้างมาก ธุรกิจหลักหรือธุรกิจส่วนใหญ่ของจังหวัดนี้คือท�ำนาครับใช่แล้วครับอ่านไม่ผิด ผู้คนอยู่อาศัยกันค่อน ข้างสงบเงียบไม่หวือหวา สาเหตุหนึ่งก็คือจังหวัดนี้ห้างสรรพสินค้าน้อยมากๆครับ ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า ส่วนการเดิน ทางในจังหวัดส่วนใหญ่แล้วใช้รถยนต์ครับ ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษาหรือวัยรุ่นก็ใช้จักรยานกันครับ และในจังหวัดนี้ก็ยังมีการใช้รถรางกันอยู่ ครับแต่มีแค่ในตัวเมืองเท่านั้น ส่วนสภาพอากาศของจังหวัดนี้ ถ้าถึงหน้าร้อนเมื่อไหร่ก็จะร้อนมากๆเนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้ของ ญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้ผลิอากาศจะเย็นสบายครับ ที่นี่ก็มีฤดูฝนครับ แต่แค่ประมาณเดือน5-6ครับ บางครั้งก็มีพายุมาบ้างครับ ส่วน ฤดูหนาวก็ค่อนข้างหนาวทีเดียวเลยครับ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหิมะให้เห็นกัน มีให้เห็นอย่างมากที่สุดก็ละอองหิมะ สิ่งที่ค่อนข้างตกใจใน จังหวัดนี่คือ ภาษาถิ่นของจังหวัดนี้ครับ ผมแทบฟังไม่ออกเลยครับเพราะมันแปลกจากเดิมไปมากๆ ฟังไม่เข้าใจแต่ก็รู้สึกสนุกดีครับ
แนะนำ�จังหวัด
111
MEITOKU GIJUKU SENIOR HIGH SCHOOL
112
明徳義塾高等学校
HIGH SCHOOL
ที่อยู่ Donoura (Main Campus):160 Shimonakayama Uranouchi, Susaki-shi, Kochi 785-0195 ปีที่ก่อตั้ง 1973 ห้องเรียน 40 ห้อง ชั่วโมงเรียน 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หลักสูตร 3 ปี / 3 ปีครึ่ง) 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หลักสูตร 1 ปี / 1 ปีครึ่ง) จำ�นวนนักเรียน 675คน (รวมนักเรียนต่างชาติแล้ว) จำ�นวนนักเรียนต่างชาติ 186 คน (10 สัญชาติ) นอกจากนี้ยัง มีนักเรียนที่มาแลกเปลี่ยนในภาคเรียนต้นและกลางจากประเทศ ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์และอื่นๆ
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน โรงเรียนเมโตคุก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ปี 1973 ทางโรงเรียนให้ ความดูแลเอาใจใส่นักเรียนทั้งทางด้านการเรียน และกีฬา ท�ำให้ นักเรียนมีความสามารถยอดเยี่ยมทั้งสองด้านควบคู่กันไป โรงเรียนแบ่งออกเป็นสองวิทยาเขต คือ Main Campus ที่ Donoura และ Ryu International Campus นักเรียนต่างชาติจะได้รับการปูพื้น ฐานภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปีที่ Ryu International Campus และในปี ที่2เป็นต้นไป จะย้ายมาเรียนร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ความต้องการและระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น เมื่อส�ำเร็จการ ศึกษาแล้วสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นโดยการสอบแข่งขัน ด้วยวิธีการสอบแบบเดียวกันกับนักเรียนญี่ปุ่น
ลักษณะที่โดดเด่น 1. มีระบบการเลือกหลักสูตรตามความต้องการและความสามารถ ของนักเรียน โดยแบ่งออกเป็น 5 หลักสูตร และมีนักเรียนต่าง ชาติที่เริ่มจากการเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นและเปลี่ยนมาเรียน ต่อในหลักสูตรภาษาอังกฤษ จนมีความช�ำนาญทั้ง 2 ภาษา 2. โรงเรี ย นเมโตะคุ เ ป็ น โรงเรี ย นนานาชาติ ที่ ใ ช้ ภ าษาญี่ ปุ ่ น เป็นหลัก ในปัจจุบันโรงเรียนรับสมัครนักเรียนต่างชาติจาก12 ประเทศ 3. นักเรียนจะอยู่หอพักร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น ท�ำให้สามารถใช้ภาษา ญี่ปุ่นได้ตลอดเวลา
4. โรงเรียนมีระบบแนะน�ำนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเพื่อเข้าศึกษา ต่อในมหาวิทยาลัย 5. โรงเรียนแบ่งชมรมออกเป็นสองประเภทคือชมรมทางวัฒนธรรม กับชมรมกีฬา (ส�ำหรับหลักสูตร3 ปี และ 3 ปีครึ่ง)
หลักสูตรที่เปิดสอน หลักสูตร 3 ปี, 3 ปีครึ่ง และหลักสูตร 1 ปี, 1 ปีครึ่ง ส�ำหรับหลักสูตร 3 ปี และ 3 ปีครึ่ง ในปีที่1นักเรียนต่างชาติจะ เรี ย นหลั ก สู ต รภาษาญี่ ปุ ่ น ที่ มุ ่ ง เน้ น ให้ เ ข้ า ใจการเรี ย นโดยใช้ ภ าษา ญี่ปุ่น หลังจากนั้นตั้งแต่ปีที่ 2 จะเรียนต่อในหลักสูตรเร่งรัด 1และ 2 เหมือนกับนักเรียนญี่ปุ่น ทั้งนี้นักเรียนสามารถโอนวิชามาเรียน หลั ก สู ต รภาษาจีนหรือหลักสูตรภาษาอังกฤษส�ำหรับผู้ที่ต้องการไป ศึกษาต่อในประเทศที่ใช้ภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษตามความต้องการ ได้ กรณีนักเรียนที่มีความรู้ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นที่ดีอยู่แล้ว จะสามารถเข้าเรียนในหลักสูตรเดียวกันกับนักเรียนญี่ปุ่นได้ตั้งแต่ปี แรก ส�ำหรับหลักสูตร 1ปี,1ปีครึ่ง จะมีการสอบเพื่อแยกชั้นเรียนก่อน เข้าเรียน และจัดการเรียนการสอนแยกตามระดับความสามารถ ทางภาษาญี่ปุ่น
เวลาเรียน
หลักสูตร 3 ปี และ 3 ปีครึ่งเรียน 6 คาบต่อวัน (คาบละ 45 นาที) หลักสูตร 1 ปี และ 1 ปีครึ่ง เรียน 8 คาบต่อวัน (คาบละ 45 นาที)
การเรียนภาษาญี่ปุ่น หลักสูตร 3 ปี, 3 ปีครึ่ง เรียน 6 คาบ หลังจากนั้นทุกคนจะต้อง เข้าร่วมกิจกรรมชมรมจนถึง 5โมงครึ่ง ในปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 2 เป็นต้นไป นอกจากคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วจะเพิ่มวิชาเรียนอื่นๆ มากขึ้น เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ สังคม ดนตรี คอมพิวเตอร์ พลศึกษารวมไปถึงคาบเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบ JLPT (สอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น) หรือEJU (ข้อสอบส�ำหรับ นักเรียนชาวต่างชาติที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น) หลักสูตร 1 ปี, 1 ปีครึ่ง เรียน 8 คาบ นอกจากคาบเรียนภาษา ญี่ปุ่นแล้ว จะได้เรียนวิชาอื่นๆด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ดนตรี คอมพิวเตอร์ พลศึกษา รวมไปถึงคาบ เรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบ JLPT (สอบวัดระดับความรู้ภาษา ญี่ปุ่น) หรือ EJU (ข้อสอบส�ำหรับนักเรียนชาวต่างชาติที่ต้องการ ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น) มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่แนะแนวการศึกษาต่อเป็นรายบุคคล ท�ำให้ นักเรียนที่จบจากโรงเรียนมีอัตราเข้าศึกษาต่อในระดับสูงได้ถึง 100% รวมถึ ง การเข้ า ศึ ก ษาต่ อ ในมหาวิ ท ยาลั ย ที่ ติ ด อั น ดับมหาวิทยาลัย ที่เข้ายาก และส�ำหรับนักเรียนต่างชาติ ถึงแม้จะเข้าเรียนหลักสูตร ภาษาญี่ปุ่นแค่เพียง 1 ปี ก็สามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของรัฐ และเอกชนได้ในอัตราที่สูง
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน)
ภาคเรียน
เทอมแรก เดือนเมษายน-เดือนกรกฎาคม เทอมสอง เดือนกันยายน-เดือนธันวาคม เทอมสาม เดือนมกราคม-เดือนมีนาคม
*ในกรณีที่เรียนหลักสูตร 1 ปีครึ่งหรือ 3ปีครึ่งจะเข้าเรียนในเดือนตุลาคม
คุณสมบัติผู้เข้าเรียน 1. หลักสูตร 1 ปี หรือ 1 ปีครึง่ ต้องก�ำลังศึกษาชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือส�ำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากประเทศของตน 2. หลักสูตร 3 ปีหรือ3 ปีครึง่ จะต้องส�ำเร็จการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี (เทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 3 ) จากประเทศของตนเอง (เมื่อจบ การศึกษา นักเรียนจะได้รับประกาศนียบัตรมัธยมปลาย)
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก หอพัก ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี โรงยิม โรงอาหาร ร้านขายของ สระว่ายน�้ำ ห้องพยาบาล สนามกีฬา สนามเบสบอล สนามฟุตบอล สนามเทนนิส สนามซ้อมกอล์ฟ โรงฝึกเคนโด คาราเต้ ยูโด ซูโม่ ยกน�ำ้ หนัก ยิงธนู ปิงปอง ห้องซักรีด อาคารวิจยั (พร้อมห้องพักค้างคืน)
กิจกรรมพิเศษ • กิจกรรมทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น จัดดอกไม้ สวมชุดกิโมโน ชงชา เขียนพู่กัน ท�ำกระดาษญี่ปุ่น จัดทัศนศึกษาเกียวโต-โอซาก้า ฮิโรชิม่า และรถบัสรับส่งไปซื้อของในตัวเมือง • ชมรมวัฒนธรรม การแสดงละครนานาชาติ ดนตรี (วงโยธวาทิต) คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ห้องสมุดชมรมกลอง (Wadaiko) ศิลปะ วัฒนธรรมญี่ปุ่น วาดการ์ตูน เป็นต้น • ชมรมกีฬา ยกน�้ำหนัก ไอคิโด กรีฑา ปิงปอง เบสบอล ซูโม่ กอล์ฟ วอลเล่ย์บอลหญิง ฟุตบอล คาราเต้ เคนโด ยูโด ซอฟท์บอล เทนนิส บาสเกตบอล
สภาพแวดล้อมของโรงเรียน โรงเรียน Meitoku ตั้งอยู่ในจังหวัดโคจิ บนเกาะชิโกกุ วิทยาเขตหลัก อยูใ่ นเมือง Susaki และ Ryu International Campus อยูใ่ นเมือง Tosa ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินโคจิ ประมาณ 50 นาที โดยรถยนต์
หมายเหตุ • สำ�หรับหลักสูตร 1 ปีครึ่ง ค่าใช้จ่ายสำ�หรับครึ่งปีที่เหลือคือ 750,000 เยน • หลักสูตร 3 ปี ในปีที่2,3 จะเสียปีละ 1,549,500 เยน
HIGH SCHOOL
113
114
แนะนำ�จังหวัด
FUKUOKA 福岡
Mascot : Shotoku Mentaishi จังหวัดฟุคโุ อกะ อยูใ่ นภูมภิ าคคิวชู มีเมืองฟุคโุ อกะเป็นเมืองหลวงของ
จังหวัด เป็นจังหวัดที่เป็นจุดศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรมของเกาะคิวชู มีความทันสมัย และค่าครองชีพก็ไม่สูงจน เกินไปเมื่อเทียบกับโตเกียวและโอซาก้า ในอดีต จังหวัดนี้เป็นจังหวัด ทีถ่ อื ได้วา่ เป็นประตูสกู่ ารติดต่อกับนานาชาติ พ่อค้าจากจีน เกาหลี และ ประเทศต่างๆในยุโรปได้มาค้าขายในจังหวัดนี้ ท�ำให้มีศิลปวัฒนธรรม ที่ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและต่างประเทศ
สภาพภูมิอากาศ ฟุคุโอกะมีอากาศที่อบอุ่น สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายได้ตลอดทั้งปี ฤดูหนาวนั้นมีหิมะตกบ้างและอาจตกมากตามภูเขา แต่ช่วงฤดูฝนนั้น จะมีฝนเยอะ
จากซ้ายไปขวา • ห้างสรรพสินค้า Canel City • ศาลเจ้าดาไซฟุ • ร้านอาหารแผงลอย (Yatai) • ไข่ปลาคอต
RECOMMENDED
สถานที่น่าสนใจ
1. ห้างสรรพสินค้า Canal City เป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใจกลาง เมืองฟุคุโอกะ ได้ถูกออกแบบให้มีคลองไหลผ่านกลางห้าง และจะ มีระบ�ำน�้ำพุที่สวยงาม นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงนั้นจะมีร้าน อาหารข้างทางคล้ายประเทศไทยมากมายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ฟุคุโอกะเท่านั้น 2. ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Tenmangu Shrine) เป็นหนึ่งในศาล เจ้าทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของญีป่ นุ่ เป็นศาลเจ้าทีส่ ร้างเพือ่ นักกวี Michizane Sugawara เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่าน คนมักจะนิยมมาสักการะ เพื่อให้เด็กๆฉลาดและเพื่อได้คะแนนดีในการสอบ
เทศกาลกิองยามาคาซะ (Gion Yamakasa Festival) เป็นเทศกาลแห่ ศาลเจ้าที่มือชื่อเสียงของจังหวัด จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-15 กรกฎาคม ของทุกๆปี โดยจะมีการแห่ ”คาซาริ ยามะคาซะ” ซึ่งตกแต่งด้วย ตุ๊กตาต่างๆอย่างสวยงาม เช่นผู้กล้าในนิทาน ยักษ์ และบางทีมจะมี ประดับด้วยตัวละครการ์ตูนด้วย “คาซาริ ยามะคาซะ”จะมีความสูงถึง 10 เมตร และมีน�้ำหนักกว่า 1 ตัน จะเริ่มแห่จากศาลเจ้าคุชิดะและ แห่ไปตามท้องถนนให้ประชาชนชม
3. ร้านอาหารแผงลอย (Yatai) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮาคาตะ โดยเป็นย่านร้านอาหารรถเข็นแผงลอยแบบญีป่ นุ่ ตัง้ อยูเ่ ลียบแม่นำ�้ ใจกลางเมือง มีร้านให้เลือกเป็นร้อยร้านและมีอาหารหลากหลาย ให้ได้เลือกทานกัน
ของฝาก ไข่ปลาคอต Mentaiko
อารีนา ทองเจือ (หนูนา)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนตุลาคม 2013 ฟุคุโอกะเป็นเมืองที่น่าอยู่ เหมาะแก่การเรียน ค่าครองชีพก็ไม่แพงมาก มีความสงบเงียบไม่วุ่นวายเหมือนกับ เมืองใหญ่ๆเมืองอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฟุคุโอกะจะไม่มีอะไรสนุกๆให้ท�ำ ในตัวเมืองก็มีแหล่งช้อปปิ้งอย่าง ย่านฮาคาตะและย่านเทนจิน มีคาเฟ่ชิคๆให้นั่งเล่น มีทะเลให้นั่งชิวเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตก นั่งรถไฟออกนอก เมืองไปนิดหน่อยก็จะพบแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย ทีเด็ดคือออนเซ็น จุดเด่นอีกอย่างของฟุคุโอกะคือ อาหารอร่อย มีของขึน้ ชือ่ หลายอย่างเลยค่ะ เรียกได้วา่ ฟุคโุ อกะเป็นเมืองทีผ่ สมผสานความเป็นเมืองและธรรมชาติได้ อย่างลงตัวและเสน่ห์ที่ส�ำคัญอีกอย่างคือ คนฟุคุโอกะใจดีให้ความช่วยเหลือได้เสมอ ประทับใจมากค่ะ
แนะนำ�จังหวัด
115
FUKUOKA YMCA JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
116
福岡YMCA日本語学校 JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
ที่อยู่ Tenjin Asahi Bldg 2F, 3-4-7 Tenjin, Chuo-ku, Fukuoka-shi, Fukuoka 810-0001 ปีที่ก่อตั้ง 1982 ระดับชั้นเรียน 5 ระดับ ห้องเรียน 3 ห้อง ชั่วโมงเรียน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำ�นวนนักเรียน 65 คน (18สัญชาติ)
โรงเรียนมีความอบอุ่น อาจารย์และลูกศิษย์ มีความใกล้ชิดกัน นักเรียนสามารถพัฒนาความรู้ ภาษาญี่ปุ่นควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรม ที่แตกต่างไปพร้อมกันได้
ลักษณะที่โดดเด่น 1. พัฒนาทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่นเพื่อเตรียมสอบวัดระดับความ สามารถทางภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ทุกระดับ 2. เน้นฝึกทักษะการสนทนาที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้นักเรียนสามารถ สื่อสาร ปรับตัวให้เข้ากับสังคมและการด�ำเนินชีวิตในญี่ปุ่น 3. เสริมทักษะความรู้ด้านอื่นๆ ที่จ�ำเป็นเพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็น บุคลากรที่มีบทบาทส�ำคัญในระดับสากล
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน
หลักสูตรที่เปิดสอน
โรงเรียนสอนภาษา Fukuoka YMCA เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนจาก หลากหลายประเทศทั่วโลกเข้ามาศึกษาภาษาญี่ปุ่น โดยแต่ละคนมี เป้าหมายทีต่ า่ งกันออกไปไม่วา่ จะเป็นการใช้ชวี ติ ในสังคมญีป่ นุ่ การท�ำงาน ในญี่ปุ่น ฯลฯ Fukuoka YMCA เป็นสถานที่ซึ่งนักเรียนจากประเทศ หลายหลากซึ่งหมายรวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่าง จะร่วมศึกษาภาษา ญีป่ นุ่ และเรียนรูว้ ฒ ั นธรรมญีป่ นุ่ ไปพร้อมๆกัน ได้เรียนรูแ้ ละท�ำความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักถึงบทบาทของตนในการใช้ ชีวิตในสังคม
หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นทั่วไป เป็ น หลั ก สู ต รภาษาญี่ ปุ ่ น เพื่ อ ใช้ ใ นชี วิ ต ประจ� ำ วั น และการท� ำ งาน เหมาะส�ำหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง โดยโรงเรียนมี การจัดแบ่งชั้นเรียนให้เหมาะสมตามระดับความรู้ของนักเรียน ตั้งแต่ ระดับต้นจนถึงระดับสูง นักเรียนจะได้รับความรู้ได้อย่างเข้มข้นและ มีประสิทธิภาพ สามารถสอบผ่านวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ระดับ N1 ได้ ภายในระยะเวลา 2 ปี
ค่าเล่าเรียน (หน่วยเป็นเงินเยน) หมายเหตุ
• ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมค่าสิ่งอ�ำนวย
ความสะดวก หนังสือเรียน ค่าประกัน อุบัติเหตุส�ำหรับนักเรียนต่างชาติ
เวลาเรียน รอบเช้า 9:00 – 12:50 น. หรือ รอบบ่าย 13:20 – 17:10 น.
สิ่งอ�ำนวยความสะดวก คอมพิวเตอร์ มุมหนังสือ ห้องทบทวนบทเรียนด้วยตัวเอง
กิจกรรมพิเศษ สภาพแวดล้อมของโรงเรียน โรงเรียนตั้งอยู่ย่าน Tenjin ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ การเดินทางสะดวก สบาย มีทั้งรถไฟ รถไฟใต้ดิน และรถประจ�ำทาง บริเวณใกล้โรงเรียน ยังมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหาร เป็นต้น เมืองฟุกุโอกะ เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม รวมถึงแฟชั่น ของภูมิภาคคิวชู สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและทันสมัย เช่นเดียวกับโตเกียวและโอซาก้า ด้วยค่าครองชีพที่ต�่ำกว่า
สถานีที่อยู่ใกล้ รถไฟใต้ดินสถานี Tenjin เดินจากโรงเรียน 3 นาที
หอพัก (หน่วยเป็นเงินเยน)
ปาร์ตี้เลี้ยงต้อนรับ ทัศนศึกษานอกสถานที่ งานแข่งขันโบว์ลิ่ง
JAPANESE LANGUAGE SCHOOL
117
118
แนะนำ�จังหวัด
NAGASAKI 長崎
Mascot : Omuran จังหวัดนางาซากิ เป็นจังหวัดหนึง่ ในภูมภิ าคคิวชู โดยตัง้ อยูท่ างตะวันตก
ของเกาะคิวชู มีเมืองนางาซากิเป็นเมืองหลวงของจังหวัด จังหวัดนี้มี ประวัติความหลังทางประวัติศาสตร์มากมาย อดีตเป็นเมืองท่าที่ใช้ ติดต่อกับประเทศจีนและเนเธอร์แลนด์ ท�ำให้เป็นเมืองที่ผสมผสาน วัฒนธรรมระหว่างญี่ปุ่น จีนและเนเธอร์แลนด์ และยังเป็นอีกเมืองที่ ถูกทหารสหรัฐฯทิ้งระเบิดปรมาณู ซึ่งฆ่าชาวนางาซากิเป็นจ�ำนวนมาก นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้วยังเป็นจังหวัดที่ยังคงความ สวยงามทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงามไว้ด้วย
สภาพภูมิอากาศ เมืองนางาซากิมอี ากาศอบอุน่ จากกระแสน�ำ้ อุน่ ช่วงฤดูหนาวหิมะตกบ้าง แต่ในบางปีอาจมีหิมะตกหนัก
จากซ้ายไปขวา • พิพิธภัณฑ์ข้อมูลระเบิดปรมาณูนางาซากิ • ฮุสเทนบอช • คุจูคุชิมะ • เค้กคัสเทล่า
RECOMMENDED สถานที่น่าสนใจ
1. พิพิธภัณฑ์ข้อมูลระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมรวมเรื่องราวต่างๆเกี่ยว กับความเสียหายจากระเบิดปรมาณู ในบริเวณยังมีสวนที่อยู่ตรง ต�ำแหน่งจุดตกของระเบิดซึ่งมีผู้คนมาวางของไว้อาลัยมากมาย 2. ฮุสเทนบอช (Huis Ten Bosch) เป็นเมืองรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดใน ญีป่ นุ่ อยูใ่ นเมืองซาเซโบะ เมืองนีไ้ ด้จำ� ลองเมืองเป็นแบบประเทศ เนเธอร์แลนด์ อาคารต่างๆในเมืองได้สร้างในสไตล์ยโุ รป นอกจาก นี้ยังนิยมใช้เป็นฉากในการแสดงต่างๆที่เป็นฉากยุโรปอีกด้วย
รถราง ถือว่าเป็นหนึง่ ในสัญลักษณ์ของเมืองนางาซากิ เป็นยานพาหนะ หลักของเมืองนางาซากิ โดยราคาตั๋วต่อวันเพียง 500 เยนก็สามารถ เที่ยวได้ทั่วเมืองนางาซากิ และการนั่งรถรางนั้นจะได้สัมผัสกลิ่นอาย แบบนางาซากิ ซึ่งหาได้ยากในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นแล้ว นอกจากจะมี รถแบบโบราณที่ใช้ไม้แล้วยังมีรุ่นใหม่ที่ทันสมัยสวยงามอีกด้วย
3. คุจูคุชิมะ (Kujukushima) เป็นที่ตั้งของหมู่เกาะเล็กๆ นับร้อย มากกว่า 208 เกาะ อยู่ที่เมืองซาเซโบะของจังหวัดนางาซากิ เป็น จุดที่ขึ้นชื่อในเรื่องจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมาก และ คุจคู ชุ มิ ะเคยถูกเลือกเป็นฉากเปิดตัวในหนังเรือ่ ง The Last Samurai อีกด้วย และเรายังสามารถนัง่ เรือชมเกาะเล็กเกาะน้อยได้ดว้ ยเช่นกัน
ของฝาก เค้กคัสเทล่า (Castella Cake)
ตมิสา เจริญกิจ (หนึ่งนุช)
S TU D EN T V O I CE
ภาคเรียนเมษายน 2014 นุ ช ได้ ส อบหลั ก สู ต รถ่ า ยโอนหน่ ว ยกิ ต มาเรี ย นต่ อ ปริ ญ ญาตรี ข องมหาวิ ท ยาลั ย คั ส ซุ ย เมื่ อ เดื อ นเมษายน ปี2014ค่ะ นางาซากิเป็นจังหวัดไม่ใหญ่มากแต่เรื่องความสะดวกสบาย และความสวยงามไม่เป็นรองใครจริงๆ ค่ะ รอบๆมหาวิทยาลัยมีสถานที่เที่ยวเยอะมากค่ะ หนูและเพื่อนๆก็ชอบไปเดินเล่นกันบ่อยๆ ผู้คนที่นี่ก็น่ารัก และใจดีมากค่ะ เวลาหลงทางเขาก็จะช่วยเหลือเราเต็มที่ค่ะ แต่ตอนที่มาถึงแรกๆสิ่งที่ตกใจมากคือ ที่นี่เนินเขา เยอะมาก แต่พอเดินทุกวันก็ชินค่ะ คิดว่าเป็นการออกก�ำลังกายค่ะ (ฮา)
แนะนำ�จังหวัด
119
KWASSUI WOMEN’S UNIVERSITY
120
活水女子大学
UNIVERSITY
ที่อยู่ 1-50 Higashiyamatemachi, Nagasaki-shi, Nagasaki 850-8515 ปีที่ก่อตั้ง 1879 จำ�นวนนักเรียน 1,400 คน จำ�นวนนักเรียนต่างชาติ 45 คน (5 สัญชาติ)
การจะเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสตรีคัสซุย มี 3 แบบด้วยกันคือ 1. เข้าศึกษาต่อในหลักสูตรระยะสั้น (6 เดือน - 1ปี) 2. เข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปกติ (4 ปี) 3. เข้าศึกษาต่อโดยการโอนหน่วยกิต (2 ปี : ต้องจบวิทยาลัยระดับ อนุปริญญาหรือสูงกว่า)
หลักสูตรที่เปิดสอน
ข้อมูลทั่วไปของสถาบัน มหาวิทยาลัยสตรีคัสซุย เป็นมหาวิทยาลัยที่มีอาคารเรียนสวยงาม ได้รับเลือกว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีสถานที่เรียนสวยงามมาก ที่สุดในญี่ปุ่น (จากหนังสือ ‘‘มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น”) ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองนางาซากิ เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ก่อตั้งเมื่อ ปี ค.ศ.1879 เป็นแห่งแรกๆของญี่ปุ่น สามารถสร้างบุคลากรที่มีชื่อเสียงจ�ำนวนมาก ออกสู่สังคมอย่างเช่น รัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น เป็นต้น มหาวิทยาลัยสตรีคสั ซุย มีการเรียนการสอนแบบใหม่ทำ� ให้เรียนภาษา ญีป่ นุ่ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนัน้ นักเรียนยังเลือกลงวิชาบรรยายทีเ่ กีย่ วกับ ญี่ปุ่นได้ (ขึ้นอยู่กับความรู้ภาษาญี่ปุ่น) การที่นักเรียนสามารถลงเรียน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นและการบรรยายควบคู่กันไปได้นี้ ถือเป็นจุดเด่น ของมหาวิทยาลัยสตรีคัสซุยและบุคคลที่เรียนจบหลักสูตรจะได้รับใบ จบการศึกษาและใบแสดงผลการเรียนด้วย
1. หลักสูตรระยะสั้น 6 เดือน - 1 ปี (หลักสูตรการเรียนภาษาและ วัฒนธรรมญี่ปุ่น) หลักสูตรนีส้ ำ� หรับนักเรียนผูม้ คี วามรูภ้ าษาญีป่ นุ่ ระดับต้นจนถึงระดับสูง และเรียนรู้เกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรม และสังคมญี่ปุ่น เป็นหลักสูตร ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี หลักสูตร “ภาษาญี่ปุ่น” แบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยนักเรียนสามารถเข้าเรียนตามระดับชั้นเรียนที่เหมาะสมกับระดับ ความรู้ของตนเอง นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังจัดเตรียมวิชาอย่างเช่น ภาษาญีป่ นุ่ เพือ่ เตรียมสอบวัดระดับความสามารถภาษาญีป่ นุ่ ภาษาญีป่ นุ่ เพื่อธุรกิจ การท�ำ Project ร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น อีกทั้งนอกจากวิชา ข้างต้น นักเรียนยังสามารถลงเรียนวิชาทั่วไปของมหาวิทยาลัยได้ อย่างอิสระ คุณสมบัติ ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N3 ขึ้นไป ภาคเรียน แบ่งเป็นภาคเรียนเดือนเมษายน และภาคเรียนเดือนตุลาคม ค่าเล่าเรียน • หลักสูตร 1 ปี : 550,000 เยน • หลักสูตร 6 เดือน : 292,500 เยน (มีกรณีช�ำระเพิ่มค่าหนังสือเรียนและค่าประกันภัย)
2. หลักสูตรปกติของมหาวิทยาลัย และหลักสูตรสำ�หรับนักเรียน โอนหน่วยกิตเข้าเรียน ปี 3 มหาวิทยาลัยสตรีคัสซุย มีทั้งหมด 4 คณะ แต่ละคณะก็จะมีสาขา วิชาแยกย่อยลงไป คณะที่เปิดสอน คณะอักษรศาสตร์
ภาควิชา ภาควิชาภาษาอังกฤษ ภาควิชาวัฒนธรรมญี่ปุ่นร่วมสมัย ภาควิชาจิตวิทยา
คณะดุริยางค์ศาสตร์
ภาควิชาดนตรี หลักสูตรการศึกษาและแสดงดนตรี หลักสูตรดนตรีบำ�บัด หลักสูตรวัฒนธรรมทางดนตรี หลักสูตรดนตรีสมัยนิยม (Popular music)
คณะพลานามัย ศาสตร์
ภาควิชาโภชนาการและสุขภาพ ภาควิชาการวางแผนและจัดการรูปแบบชีวิต ภาควิชาการศึกษาและพัฒนาการเด็ก
คณะพยาบาลศาสตร์
ภาควิชาพยาบาล
สภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสตรีคสั ซุย ตัง้ อยูใ่ นเมืองนางาซากิ บนเกาะคิวชู เป็นเมืองที่ อยู่สบาย สวยงาม ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา และทะเล ที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนสถานที่ซึ่งมีชื่อว่า “เนินฮอลแลนด์“ ด้วยความที่ เมืองนางาซากิมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศมาโดยตลอด ท�ำให้ ประชาชนมีนิสัยเปิดเผย และเป็นมิตรต่อคนต่างชาติมาก อีกทั้งเมือง นางาซากิยงั มีความมัน่ คงและค่าครองชีพทีต่ ำ�่ จึงเป็นอีกเมืองทีน่ กั ศึกษา สามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสบายๆ ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออ�ำนวยให้เรียน หนังสือได้อย่างเต็มที่
คณะที่เป็นที่นิยมส�ำหรับนักศึกษาต่างชาติ คณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น ภาควิชาวัฒนธรรมญี่ปุ่นร่วมสมัย • ภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น วรรณคดีญี่ปุ่น • อบรมทักษะการเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้แก่ชาวต่างชาติ • การจัดการวัฒนธรรม (การวิจัยและการวางแผนด้านการตลาด) ภาควิชาจิตวิทยา เรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาและสังคม คณะดุริยางค์ศาสตร์ ภาควิชาดนตรี หลักสูตรดนตรีสมัยนิยม (Popular Music) • หลักสูตรการแสดงดนตรี • หลักสูตรวิชาออร์แกน (Organ) • หลักสูตรวัฒนธรรมทางดนตรี คณะพลานามัยศาสตร์ ภาควิชาการวางแผนและจัดการรูปแบบชีวิต • แฟชั่น • Product Design • การจัดการคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ค่าแรกเข้าและค่าเล่าเรียนจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคณะ รายละเอียด ดูได้ในเว็บไซต์หรือส่งอีเมลล์ได้ที่ intersec@kwassui.ac.jp สามารถ ติดต่อได้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษส�ำหรับผู้ที่ยังไม่มีความรู้ ภาษาญีป่ นุ่ นอกจากนัน้ นักเรียนจากโรงเรียนสอนภาษาญีป่ นุ่ สามารถ เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้
หอพัก
ค่าหอพัก
ทางมหาวิทยาลัยมีหอพักที่ตั้งอยู่ใกล้และมีเครื่องอ�ำนวยความสะดวก ครบครัน เป็นห้องพักคู่
ครึ่งปี : ครึ่งแรก 291,000 เยน ครึ่งหลัง 318,000 เยน (รวมอาหาร เช้า+อาหารเย็น) หนึ่งปี : ประมาณ 609,000 เยน (รวมอาหารเช้า+อาหารเย็น) ภายในหอพักมีอินเตอร์เน็ต (แบบสายแลน) หมายเหตุ ในแต่ละปีค่าหอพักมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
UNIVERSITY
121
122
THAI STUDENTS’ ASSOCIATION IN JAPAN
Thai Students Associate in Japan
ถ้าจะนึกถึงประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม มีสถานศึกษาคุณภาพระดับโลกอยู่มากมาย และมีวิว ทิวทัศน์แหล่งท่องเที่ยวละลานตาแล้วละก็ คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นแดนพระอาทิตย์อุทัยเป็นแน่แท้ แต่ หารู้ไม่ว่าปัจจุบันนี้มีนักเรียนไทยจ�ำนวนไม่น้อยที่ก�ำลังศึกษาในทุกระดับชั้นในประเทศญี่ปุ่น ท�ำไมนักเรียนจ�ำนวนมากถึงเลือกญี่ปุ่น?
สิ่งแรกที่นักเรียนใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ สนทญ. คือ?
ในปัจจุบนั จ�ำนวนนักเรียนไทยทัว่ ประเทศญีป่ นุ่ นัน้ มีอยูจ่ ำ� นวนมาก นับว่ามีจ�ำนวนเป็นรองแค่นักเรียนจีน เกาหลี และไต้หวันเท่านั้น เหตุผลหลักๆ ที่ส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อยากส่งลูกหลาน มาเรียนในประเทศญี่ปุ่น คือ ญี่ปุ่นมีคุณภาพการศึกษาที่สูงเป็นอัน ดับต้นๆ ของโลกไม่แพ้ประเทศในยุโรปและอเมริกา และโครงสร้าง ระบบชั้นการศึกษายังเหมือนประเทศไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะจบการ ศึกษาระดับใดในประเทศไทยก็สามารถเข้าเรียนต่อได้โดยไม่ต้องเสีย เวลาซ�้ำชั้น และแน่นอนว่าการมาเรียนกับคนญี่ปุ่นจริงๆ จะท�ำให้ สามารถพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นที่สามารถใช้สื่อสารจริงได้อย่าง รวดเร็วโดยอัตโนมัติอีกด้วยซึ่งจะให้ประโยชน์ต่ออาชีพในอนาคต อย่างมาก นอกจากนีแ้ ล้วสิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ คือประเทศญีป่ นุ่ ถือเป็นประเทศที่ มีความปลอดภัยสูงมากๆประเทศหนึ่ง ดังนั้นการส่งนักเรียนหญิง มาศึกษาคนเดียวจึงไม่เป็นปัญหาแน่นอน
ก่อนเดินทางมาศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะต้องติดต่อ กับสถานศึกษาที่จะเข้าศึกษาแล้ว การติดต่อพี่ๆ นักเรียนไทยใน ประเทศญี่ปนุ่ เพือ่ สอบถามรายละเอียดและข้อสงสัยก็สำ� คัญไม่แพ้กนั โดยวิธีติดต่อก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่เข้าร่วมกลุ่มเฟสบุ๊ค ”TSAJ สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น” และโพสต์ข้อความถามข้อ สงสัย เพียงเท่านั้น โลกของการศึกษา และการอยู่อาศัยในประเทศ ญี่ปุ่นก็จะเริ่มขึ้นแม้ยังไม่ได้เดินทางก็ตาม
แต่การมาเรียนในประเทศญี่ปุ่นง่ายจริงรึเปล่า?
งานต้อนรับน้องใหม่
แม้วา่ การศึกษาในประเทศญีป่ นุ่ จะมีขอ้ ดีหลายประการ แต่อย่างไร ก็ ต ามการอยู ่ อ าศั ย ในประเทศญี่ ปุ ่ น มี ข ้ อ จ� ำ กั ด อยู ่ ไ ม่ น ้ อ ยเช่ น กั น คนประเทศนีข้ นึ้ ชือ่ ว่ามีระเบียบวินยั สูง เคารพกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวด ตั้งแต่เรื่องเล็กๆเช่น การแยกขยะ เวลาสถานที่การทิ้งขยะที่จะแตก ต่างกันในแต่ละท้องถิ่น และระบบการประกันสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งนักเรียนไทยที่มาใหม่จะยังไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ชาว บ้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้ แม้จะเป็น โอกาสในการฝึ ก ฝนภาษาญี่ ปุ ่ น แต่ ก็ ส ร้ า งปั ญ หาไม่ น ้ อ ยในการ มาอาศัยในประเทศญี่ปุ่นในช่วงแรกๆ การหาที่อยู่ควรท�ำอย่างไรจึงจะประหยัด? ในเมืองที่ห่างไกลมี คนไทยอยู่บ้างหรือเปล่า? อยากจะท่องเที่ยวในราคาประหยัด มีวิธีใด บ้าง? การเสียภาษีและประกันสุขภาพ ต้องเสียอย่างไรในสถานะ นักเรียน? และอีกหลายๆค�ำถาม ใครจะเป็นผู้ให้ค�ำตอบ ค�ำถาม เหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นให้นักเรียนไทยที่ก�ำลังศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่น รวมตัวกันขึ้นเป็นสมาคมเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ และช่วยเหลือ นักเรียนไทยในญีป่ นุ่ ในด้านต่างๆ และสร้างเครือข่ายนักเรียนในภูมิภาค ใกล้เคียงกันนั่นเอง
งานต้อนรับน้องใหม่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม และเดือนตุลาคมซึง่ เป็นช่วงเวลาทีน่ กั เรียนใหม่เพิง่ จะเดินทางมาไม่นาน งานนีจ้ ะถูกจัดขึน้ ในเมืองต่างๆทัว่ ญีป่ นุ่ ทัง้ ในโตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด ฟุกุโอกะ และเมืองอื่นๆที่มีนักเรียไทยศึกษาอยู่ กิจกรรมนี้เหมาะ อย่างยิ่งในการท�ำความรู้จักกับรุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่ศึกษาในเมือง เดียวกัน ท�ำให้สามารถลดความคิดถึงบ้านได้เป็นอย่างดี
สนทญ. คือ? นาม “สนทญ.” ย่อมาจาก “สมาคมนักเรียนไทยในประเทศ ญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์” ซึง่ ถือก�ำเนิดจากการชุมนุมกลุม่ นักเรียน ไทยในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ พ.ศ.2482 จนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 75 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของนักเรียนไทย จากภูมิภาคต่างๆในประเทศญี่ปุ่น โดยอาศัยกิจกรรมเป็นสื่อกลาง และเป็นศูนย์กลางการสื่อสารและส่งข้อมูลระหว่างนักเรียนไทยด้วย กันและสถานฑูตไทยในประเทศญี่ปุ่น
ตัวอย่างกิจกรรมของ สนทญ. เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ความสามั ค คี แ ละสร้ า งโอกาสที่ นั ก เรี ย นไทยใน ประเทศญี่ปุ่นจะพบปะเพื่อสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนความรู้ ความสามารถกัน สนทญ. จึงด�ำเนินโครงการและกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น อาทิเช่น
งานประชุมวิชาการนานาชาติประจำ�ปี TJIA
123
งานกีฬานักเรียนไทย ภายหลังจากงานประชุมวิชาการแล้ว สนทญ.ยังจัดกิจกรรม กีฬา ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนไทยจากทั่วประเทศญี่ปุ่นสมัครเข้าร่วม แข่งขันเพือ่ ความเป็นเลิศในประเภทกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล และกีฬานันทนาการอีกมากมาย นอกจากผูแ้ ข่งกีฬาแล้วยังมีกจิ กรรม เชื่อมความสัมพันธ์ส�ำหรับผู้ที่เข้ามาเชียร์เพื่อท�ำความรู้จักเพื่อนๆ ต่างสถาบันและต่างภูมิภาคอีกด้วย
งานกีฬาฤดูหนาวส�ำหรับนักเรียนไทย เมื่อการด�ำเนินชีวิตของนักเรียนใหม่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแรกใน ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออากาศเริ่มหนาวเหน็บ ในบางพื้นที่ของประเทศก็ จะถูกปกคลุมโดยหิมะขาวโพลน และกิจกรรมที่นักเรียนใหม่รอคอย มากที่สุดคือกิจกรรมกีฬาฤดูหนาวซึ่งมีทั้งการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด กิจกรรมนี้เหมาะมากๆ ส�ำหรับคนที่ยังเล่นกีฬาฤดูหนาวไม่เป็นโดย ทีมงาน สนทญ. จะจัดทีมรุ่นพี่ที่มีความช�ำนาญมาช่วยฝึกสอนให้กับ ผู้เริ่มต้นให้ได้เริ่มต้นจากศูนย์พร้อมๆกันและสามารถต่อยอดพัฒนา ด้วยตนเองได้ต่อไป นอกจากนี้ในตอนกลางคืนก็จะมีกิจกรรมสาน ความสัมพันธ์อีกด้วย
กิจกรรมชมดอกไม้ไฟนักเรียนไทย หากเคยชมภาพยนต์หรือหนังสือการ์ตูนของญี่ปุ่นแล้ว จะพบว่า ต้องมีภาพกิจกรรมทีค่ นญีป่ นุ่ ชาย-หญิง ใส่ชดุ ยูกะตะ (คล้ายๆกิโมโน) ออกจากบ้านและเดินอยู่ตามถนนหนทางเป็นจ�ำนวนมาก กิจกรรม นั้นคือกิจกรรมการชมดอกไม้ไฟนั่นเอง กิจกรรมนี้จะจัดในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนซึ่งเป็นฤดู ร้อนของประเทศญี่ปุ่น โดยทุกๆปี ทางสนทญ.จะจัดสถานที่พิเศษ (สะดวกสบายและไม่ต้องตากแดดรอ) เพื่อให้นักเรียนไทยได้ทดลอง ใส่ชุดยูกะตะและนั่งชมดอกไม้ไฟร่วมกัน ไม่เพียงเท่านี้ ทางสนทญ. ยังส่งเสริมกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เช่น งานท�ำบุญที่วัดไทยในญี่ปุ่น ประกวดภาพถ่าย ประกวดร้องเพลง เป็นต้น ทั้งนี้หากเพื่อนๆ มี กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนมาเสนอแล้ว ทางสนทญ.ก็ยินดี ที่จะเพิ่มเติมและให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน
รู้จัก สนทญ. มากขึ้นแล้ว จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ สนทญ. ได้อย่างไร? เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สามารถเป็นส่วนหนึ่งของ สนทญ. ได้โดยการลงทะเบียนนักเรียนได้ในเว็บไซต์ของ สนทญ. ได้ที่ http://tsaj.org เมื่อลง ทะเบียนแล้วจะได้รับข่าวสารที่เป็นประโยชน์ทั้งการศึกษา การท่องเที่ยว และการหางานมากมาย หรือถ้ามีข้อสงสัยอยากจะสอบถามสมาคม โดยตรงก็สามารถติดต่อได้ทาง contact@tsaj.org นอกจากนี้ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดการใช้ชีวิต การศึกษา ฯลฯ สามารถเข้าไป สอบถามได้ที่กลุ่มเฟสบุ๊ค ”TSAJ สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญีป่ นุ่ ” ได้โดยไม่ต้องเกรงใจเลย สุดท้ายนี้ ทาง สนทญ. ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะมาศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นไม่มากก็น้อย และหวังว่าเมื่อมาศึกษา ในประเทศญี่ปุ่นแล้วจะเข้ามาร่วมเป็นครอบครัวที่อบอุ่นร่วมกันกับ สนทญ. และสามารถด�ำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข ส�ำเร็จการศึกษาตามที่ ตั้งใจ และกลับมาพัฒนาประเทศไทยต่อไป โดย สนทญ. ตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและช่วยเหลือเพื่อนๆพี่น้องนักเรียนไทยให้สามารถ อยู่อาศัยได้อย่างราบรื่นและสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งเพื่อประโยชน์ของนักเรียนไทยในญี่ปุ่น โดย นายกิตติพันธ์ พงศ์มรกต นายกสมาคมนั โดย นายกิกตเรีติยพนไทยในประเทศญี ันธ์ พงศ์มรกต ่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 75 นายกสมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่นในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่นที่ 75
Thai Students Associate in Japan
(Thailand-Japan International Academic Conference) ในทุกๆปี สนทญ. จะมีการจัดงานประชุมวิชาการนานาชาติเพื่อ เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ไม่ใช่แค่ระหว่างนักเรียนไทยใน ญี่ ปุ ่ น เท่ า นั้ น แต่ ยั ง ได้ พ บกั บ อาจารย์ ทั้ ง ชาวไทยและชาวญี่ ปุ ่ น ที่ เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นๆเป็นจ�ำนวนมากอีกด้วย อีกทั้งมีการเล่า ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นและการท�ำงานจากรุ่นพี่ๆ ทีป่ ระสบความส�ำเร็จในอาชีพการงานในประเทศญีป่ นุ่ อีกด้วย และในปีนี้ งาน TJIA ครั้งที่ 7 จะจัดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2557 ณ มหาวิทยาลัยโตเกียว โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://tsaj.org/tjia2014/
124
ABK COLLEGE สวัสดีครับ ผมชื่อจิรายุ โชคไมตรี (เจย์) ตอนนี้ก�ำลังศึกษาอยู่ที่ ABK COLLEGE “อาจารย์ของที่นี่เป็นอาจารย์ที่มีประสบการณ์การสอนมานาน มีเทคนิคการสอนที่เข้าใจง่ายครับ เนื้อหาที่เรียนนอกจากไวยากรณ์ คันจิที่เรียนกันทั่วๆ ไปแล้ว ในห้องจะเน้นให้พูดคุย เสนอความคิดเห็น ในหัวข้อต่างๆ ให้การบ้านเรียงความและรายงานหน้าชั้นแบบสั้นๆ เป็นประจ�ำทุกวัน”
STUDENT VOICE
จิรายุ โชคไมตรี (เจย์)
นอกจากนีย้ งั มีกจิ กรรมกับอาสาสมัครชาวญีป่ นุ่ ท�ำให้มโี อกาสได้พดู คุยกับคนญีป่ นุ่ มากขึน้ ครับ ทีน่ จี่ ะมีสอบเป็นประจ�ำ บางครัง้ ก็จะ มีให้สอบแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า ท�ำให้ตอ้ งคอยทบทวนเรือ่ งทีเ่ คยเรียนไปแล้วเป็นประจ�ำ เจ้าหน้าที่ของที่นี่ก็ใจดี คอยช่วย เหลือเรื่องต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย การหางานพิเศษเป็นต้น และที่นี่เพิ่งเปิดได้เป็นปีแรกอาคารเรียน ของทีน่ จี่ งึ ทันสมัย และรองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้ครับ สิง่ ทีอ่ ยากจะแนะน�ำ ก่อนทีจ่ ะมาทีญ ่ ปี่ นุ่ อยากให้เรียนภาษาญี่ปุ่น จากที่ไทยมาให้มากที่สุดครับ เพื่อที่จะได้ไม่ลำ� บากเมือ่ มาอยูท่ นี่ ี่ เพราะถ้าเราไม่สามารถสือ่ สารกับใครได้เลย เราจะเหงาและ ท�ำให้หมดก�ำลังใจในการเรียน ที่นี่ได้ครับ น้องๆที่จะมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นทุกคน พยายามเข้านะครับ
ภาคเรียนเมษายน 2014
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อปรางค่ะตอนนี้ก�ำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นหลักสูตร 1 ปีอยู่ที่ ABK College การเรียนการสอนค่อนข้างเข้มงวดค่ะ มีการบ้านทุกวัน มีสอบทัง้ ไวยากรณ์และคันจิตลอด ท�ำให้นกั เรียนต้องมีความรับผิดชอบและเข้มงวดกับตัวเองในการเรียนด้วย อาจารย์ที่นี่สอนดี เข้มงวดแต่ก็ใจดีเป็นกันเองค่ะ เวลามีค�ำถามถึงเราจะพูดไม่ค่อยได้ว่าเราไม่เข้าใจอะไรยังไง แต่อาจารย์ก็ จะพยายามท�ำความเข้าใจและค่อยๆอธิบายให้เราฟัง ในคลาสเรียนก็จะได้ฝึกพูดภาษาญี่ปุ่นอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของ เจ้าหน้าทีข่ องสถาบันทุกคนใจดีและเต็มใจดูแลช่วยเหลือนักเรียนในทุกๆเรือ่ ง นอกจากนีอ้ าจารย์บางคนก็สามารถพูดภาษาไทย ได้ค่ะ เวลาเราป่วยอาจารย์ก็จะช่วยพาเราไปพบแพทย์และช่วยเป็นล่ามให้เราเพราะศัพท์ค่อนข้างยาก ส่วนกิจกรรมของทาง โรงเรียนก็จะมีให้เข้าร่วมเรื่อยๆ เช่น ไปทัศนศึกษา หรือท�ำกิจกรรมร่วมกับคนญี่ปุ่นเพื่อฝึกภาษา เป็นต้น “ส�ำหรับสถานที่ตั้ง สถาบันจะอยู่ในเขต Bunkyo เดินทางสะดวกอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ สภาพแวดล้อม บริเวณสถาบันเหมาะกับการเรียนมากค่ะ ปลอดภัย สงบ ไม่วุ่นวายแต่ก็มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบ ทุกอย่าง เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ธนาคาร ไปรษณีย์ ฯลฯ”
อัจฉราภา ควรสนธิ (ปราง) ภาคเรียนเมษายน 2014
ส่วนของหอพักทางสถาบันก็มีให้เลือกหลายแบบ แล้วแต่ความเหมาะสมของนักเรียนแต่ละคนค่ะ สุดท้ายขอให้มีความตั้งใจ ขยันและอดทนเพราะภาษาจะยากขึ้นเรื่อยๆ การใช้ชีวิตที่นี่ก็ไม่ได้ง่ายท�ำให้เราอาจจะรู้สึกท้อแท้กับการเรียนได้ แต่พี่เชื่อว่า ถ้าเรามีความอดทนและตั้งใจ และเรียนรู้ที่จะปรับตัว เรียนรู้ที่จะอยู่กับคนรอบข้าง ก็จะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ล�ำบากและ ประสบความส�ำเร็จได้ทุกคนค่ะ
UNITAS Japanese Language School การเรียนการสอนของสถาบันสอนภาษาUNITASทางโรงเรียนจะเน้นสอนเพื่อเตรียมสอบ JLPT ส�ำหรับนักเรียนที่ต้องการ จะศึกษาต่อมหาวิทยาลัย หรือคนที่ต้องการจะสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นค่ะ “อาจารย์ที่นี่น่ารักมาก ในคลาสเรียนอาจารย์จะพยายามอธิบายด้วยท่าทางต่างๆเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ ง่ายขึ้นค่ะ พอขึ้นมาคลาสสูงๆ แล้วก็จะมีการอธิบายที่มาของแค่ละค�ำของคันจิและคาตะกะนะได้ดีมาก” ถ้ามีเรื่องสงสัยก็สามารถถามได้ตลอดอาจารย์ทุกท่านใจดี บางอย่างนอกเหนือจากการเรียนทีเราสงสัย ถ้าอาจารย์ไม่รู้เขา ก็จะเอาไปท�ำเป็นการบ้านมาตอบให้ค่ะ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่นี่ดีก็ดูแลนักเรียนดีมากค่ะ เวลานักเรียนมีปัญหาหรือไม่สบายก็จะ คอยช่วยเหลือ ส�ำหรับน้องๆที่สนใจจะมาศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นนะคะใครที่ชอบบรรยากาศชนบท เงียบๆ ไม่แสงสี เหมือนในโตเกียวหรือเมืองใหญ่ก็ขอแนะน�ำที่นี่เลยค่ะ ค่าครองชีพของเมืองนี้ไม่แพง แถมถ้าอยากจะเข้าโตเกียวก็แค่ ชั่วโมงกว่าเองค่ะ เมืองนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาเลยท�ำให้เวลามีไต้ฝุ่นหรือภัยภิบัติต่างๆไม่หนักมากค่ะ ทางโรงเรียนเองจะคอย มีกิจกรรมทุกเดือน ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆสนุกมากเลยค่ะ ^^
ณัฐิยา พัฒนสุข (บิว) ภาคเรียนตุลาคม 2013
สวัสดีคะ่ โบว์เรียนอยูท่ ี่ Unitas ได้ประมาณปีกว่าแล้วค่ะ การเรียนการสอนทีน่ มี่ หี ลายระดับชัน้ ตัง้ แต่ระดับต้นจนถึงระดับสูง โดยจะสอบเลื่อนชั้นทุกๆ 3 เดือน เนื้อหาจะเน้นทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และบางครั้งก็จะมีเปิดคอร์สพิเศษส�ำหรับเตรียม สอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือสอบ JLPT และเซนเซยังคอยให้คำ� ปรึกษาทัง้ เรือ่ งเรียน แนะน�ำงานพิเศษให้ รวมถึงเรือ่ งการใช้ชวี ติ ในประเทศญี่ปุ่น หากมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเซนเซหรือเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนได้เลยค่ะ “หากพูดถึงโคฟุ ก็เป็นเมืองเล็กๆ ที่เป็นธรรมชาติ มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ทุกวันที่อากาศแจ่มใส มีห้างและ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครัน ผู้คนไม่พลุกพล่าน ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ” การเดินทางส่วนใหญ่เป็นจักรยานหรือเดินเท้า แต่ก็ถือว่าสะดวกสบายค่ะ ส่วนหอพักมีหลายแห่งค่ะ สภาพหอพักดี หอพักส่วนใหญ่อยู่ใกล้โรงเรียนด้วย ข้อดีของการมาเรียนที่นี่คือ ค่าเทอมถูก ค่าครองชีพถูก ค่าหอก็ถือว่าไม่แพง โดยส่วน ตัวแล้วเมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับเมื่อก่อนถือว่าภาษาญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมากค่ะ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น ประสบการณ์ใน การใช้ชีวิตต่างแดนการท�ำงานกับคนญี่ปุ่น ฯลฯ หากเพื่อนๆ น้องๆ ชื่นชอบเมืองไม่วุ่นวาย เงียบสงบ อากาศดีแนะน�ำให้ มาเรียนที่นี่เลยค่ะ ^^
อ�ำไพวรรณ จรรยาศรี (โบว์) ภาคเรียนเมษายน 2013
I.C.NAGOYA
125
International Communication Nagoya
เรียนกับเพื่อนๆชาวต่างชาติ ตั้งแต่เริ่มเรียนก็ค่อยๆเพิ่มความยากและการบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ ไม่หนักจนเกินไป อาจารย์เป็นกันเองและเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือเป็นอย่างดี โรงเรียนตั้งอยู่ใจกลาง เมืองนาโกย่าเลยค่อนข้างสะดวกมาก หอพักมีอปุ กรณ์ทกุ อย่างครบ เจ้าของหอดูแลทุกอย่างเรียบร้อยดี ผมว่านาโกย่าเป็นเมืองที่ไม่แออัดและเงียบสงบ อากาศดีเหมาะกับการมาเรียนเลยครับ
กิตติ ดาววัน (แซม) ภาคเรียนตุลาคม 2013
สวัสดีคะ่ น้องหญิงเรียนที่ I.C.NAGOYA ตัง้ แต่เดือนเมษายน 2013 หลักสูตร 1 ปีครึง่ ตอนนีก้ ผ็ า่ น มาจนเหลืออีก2เดือนนิดๆ การเรียนกับชีวิตที่นี่สนุกจนไม่อยากกลับเลยค่ะ มาถึงตอนแรกจะสอบ เพือ่ เทียบเข้าระดับชัน้ ของโรงเรียน โดย I.C.NAGOYA จะมีทงั้ หมด 8 ระดับค่ะ ตอนน้องหญิงสอบ คะแนนก�้ำกึ่งระหว่างระดับ 3 กับ 4 ตอนสอบพูดอาจารย์ก็เอาหนังสือของสองระดับมาให้ดูเนื้อหา ให้เราเลือกว่าเราจะไหวกับระดับไหน “ระหว่างเรียนจะเน้นทักษะภาษาทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน จะมีการพูดสุนทรพจน์ตลอด เทอม และจะต้องคอมเม้นท์เพื่อนด้วยว่าเพื่อนพูดเป็นอย่างไร” วิมลฉัตร พรหมโชติชัย (น้องหญิง) ภาคเรียนเมษายน 2013
มีสอบคันจิทุกวัน เขียนเรียงความทุกสัปดาห์ ในห้องเรียนจะเรียนไม่เกิน15คนแล้วแต่รุ่น หนึ่งห้อง จะมีอาจารย์เวียนกันมาสอนห้องละ 3 ท่าน แต่ไม่ตอ้ งห่วงค่ะอาจารย์สง่ ต่องานกันดีมาก (แม้กระทั่ง เมื่อวานมีการแซวอาจารย์เล่นยังไง อาจารย์วันนี้ก็รู้เรื่องกับเค้าด้วย 55555)
INTERCULTURE Language Academy
เลือกมาเรียนที่ ILA ที่โกเบค่ะ โรงเรียน ILA ตั้งอยู่ใกล้สถานีเลย เดินทางสะดวกมาก “ด้านหลังของโรงเรียนมีธนาคาร และไปรษณีย์ด้วย จะส่งของกลับไทยหรือท�ำธุรการ ทางการเงินก็สะดวกมาก” เดินไปอีกหน่อยก็มีร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ ช่วงพักก็สามารถเดินไปซื้อขนมได้ ส่วน อาจารย์ทุกท่านก็เป็นกันเอง พอหลังเลิกเรียนวันศุกร์กจ็ ะมีนดั กันไปกินข้าวกันบ้าง ท�ำให้ได้เรียนรู้ วัฒนธรรมของญี่ปุ่นและเป็นการฝึกภาษาด้วยไปในตัว
นฤดี ทวีงาม (พิซซ่า) ภาคเรียนเมษายน 2013
การเรียนที่ ILA ท�ำให้ได้พบปะผู้คนมากมายจากหลายๆประเทศ บรรยากาศการเรียนการสอน สนุกสนานเป็นกันเอง อาจารย์ที่นี่ให้ความช่วยเหลือและดูแลใส่ใจนักเรียนเป็นอย่างดี การเดิน ทางสะดวกปลอดภัย มีหอพักรองรับนักเรียนเป็นจ�ำนวนมาก นอกจากการเรียนรู้ทางด้านภาษา แล้วยังได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม ธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น และเรื่องราวต่างๆมากมายที่น่าสนใจ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่สวยงามน่าเรียนรู้ คนญี่ปุ่น ให้ความส�ำคัญกับการวางตัวและมารยาทในสังคม การมาเรียนในครั้งนี้รู้สึกว่าเปิดโลกกว้างให้แก่ตัวเอง มีความคิดเติบโตขึ้น ถือว่า เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิตแป๋มค่ะ
พิมพ์ศิริ อังกสิทธิ์ (แป๋ม) ภาคเรียนเมษายน 2013
STUDENT VOICE
“เนื้อหาที่ได้เรียนมีทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ครบถ้วน”
126
TOYO Language School
STUDENT VOICE
ชือ่ คิวครับ มาเรียนทีโ่ รงเรียน Toyo Language School เมือ่ เดือนตุลาคม 2013 การเรียนการสอน ของทีน่ สี่ ำ� หรับผมแล้วผมคิดว่าก็โอเคนะครับ แต่เท่าทีฟ่ งั คนไทยทีโ่ รงเรียนเดียวกันพูดคือหลักสูตร การเรียนการสอนของโรงเรียนไม่ค่อยดี หรืออาจจะเพราะผมไม่รู้ว่าที่โรงเรียนอื่นๆ หลักสูตรการ เรียนการสอนเป็นอย่างไร และผมมีความเชื่อว่าการเรียนรู้มันขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ไม่ ได้หมายความว่าครูผู้สอนหรือหลักสูตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนนะครับ เพียงแค่เป็นส่วนที่ ช่วยสนับสนุนให้การเรียนเป็นไปได้ดีขึ้น อาจารย์ที่โรงเรียนดูแลดีครับ เจอหน้ากันก็ทักทายกันพูดคุยกันยิ้มแย้มแจ่มใสกันดีครับ และทุกๆ 3 เดือนจะมีการปรึกษากับอาจารย์ว่า 3 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งรวมถึงการวางแผนการ เรียน วางแผนอนาคต และคอยให้ค�ำปรึกษาทุกๆอย่าง รวมถึงการใช้ชีวิตประจ�ำวัน ส�ำหรับที่ตั้ง ของโรงเรียนนี้คือเป็นเมืองเงียบสงบผู้คนไม่เยอะมากเกินไป ปั่นจักรยานจากหอไปโรงเรียน ก็ประมาณ 5-10 นาที และใช้เวลาในการเดินทางโดยนั่งรถไฟเมโทรเข้าเมืองเพียง 30 นาทีโดย ประมาณ ถือว่าสะดวกครับ
เจตพล ไพบูลย์บริรักษ์ (คิว) ภาคเรียนตุลาคม 2013
หอพักจะมีทั้งหอของโรงเรียนและหอที่ไปหาเช่าอยู่เอง ซึ่งทั้งสองอย่างจะมีข้อดีและข้อเสียที่ แตกต่างกันคือ หอของโรงเรียนจะเก่าหน่อยค่าเช่าหอต่อเดือนจะแพงกว่าหอทีเ่ ช่าอยูเ่ องไม่มาก ข้อดีคือ จะมีของใช้ทจี่ ำ� เป็นมาให้ครบ เช่น เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ตูเ้ ย็น เครือ่ งอบผ้า เครือ่ งซักผ้า (เป็นส่วนกลาง เพราะฉะนั้นอยากซักเท่าไหร่ก็ซักเลย น�้ำฟรี!!) หลอดไฟ อินเตอร์เน็ต ผ้าม่านฯลฯ และถ้าหอหรือ อุปกรณ์อะไรมีปญ ั หาแจ้งกับทีโ่ รงเรียนให้ชา่ งไปซ่อมได้เลย จุดเด่นของโรงเรียนนีค้ อื “โรงเรียนจะมีเครือข่ายกับโรงเรียนเซมมง(สายอาชีพ)ที่อื่นๆด้วย ซึ่งท�ำให้สามารถ เข้าได้เลยโดยขึ้นอยู่กับเปอร์เซนต์การเข้าเรียนและใบรับรองจากอาจารย์ที่โรงเรียน ที่เรียนภาษาญี่ปุ่น” ส�ำหรับผมแล้วจุดด้อยของโรงเรียนนี้ไม่มีนะครับ ส�ำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ต้องการค่า ครองชีพสูงๆแบบในเมือง และส�ำหรับคนที่อยากเรียนต่อวิทยาลัยวิชาชีพ ผมแนะน�ำโรงเรียนนี้ เลยครับ:) เหตุผลที่เลือกมาเรียนที่นี่คือสถานที่ตั้งครับ โรงเรียนตั้งอยู่ชานเมืองโตเกียว ไม่ค่อยวุ่นวาย มี ธรรมชาติรอบๆ เยอะมาก ถึงจะอยู่ชานเมืองแต่ก็มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกครบครัน และใช้เวลา เข้าเมืองประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ด้านการเรียนการสอน คิดว่าหลักสูตรของโรงเรียนในช่วงแรกรู้สึกงงอยู่บ้าง อาจจะเป็นเพราะ ตอนแรกภาษายังไม่แข็งแรง เลยไม่เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้เต็มที่ แต่พอเรียนมาซักพัก ก็รู้สึกว่า ภาษาพัฒนาขึ้นมาก อย่างไรก็ดี หลักๆอยู่ที่ความพยายามของเรามากกว่า คันจิที่เรียนรู้ส่วนมาก ก็มาจากการออกไปข้างนอก เห็นป้ายนู่นนี่ก็อ่านไปเรื่อย คิดว่าการเรียนแบบครูพักลักจ�ำเป็นสิ่งที่ ได้เปรียบมากส�ำหรับคนที่มาอยู่ที่ญี่ปุ่น เพราะมันบังคับให้เราเห็นและอ่านอยู่ทุกวัน แค่ออกจาก หอก็นับว่าเป็นการเรียนรู้แล้ว “อาจารย์ที่นี่อธิบายบทเรียนได้ดี แม้จะเปลี่ยนอาจารย์บ่อยไปหน่อยแต่ถ้ามีอะไร สงสัยก็ถามได้ แล้วอาจารย์มักจะแนะน�ำสถานที่เที่ยวและงานเทศกาลที่ส�ำคัญๆให้ พวกเราที่ไม่รู้ข้อมูลเบื้องลึกด้วย”
วีระวุฒิ รุจิขจร (วี) ภาคเรียนเมษายน 2013
หอโรงเรียนค่อนข้างแคบ แต่มคี นช่วยดูแลเรือ่ งต่างๆให้หมด ถึงราคาจะสูงกว่าหอนอก แต่ถอื ว่าเป็น ค่าความสบายใจ มีเครือ่ งใช้จ�ำเป็นจัดเตรียมไว้ให้ อีกทั้งยังสามารถติดต่ออาจารย์ที่ประจ�ำอยู่ โรงเรียนได้ตลอดเวลาอีกต่างหาก พูดถึงเรื่องการจัดเวลา นับว่าเป็นเรื่องส�ำคัญมาก เนื่องจากเป็น เมืองที่มีสิ่งหลอกล่อ (วัยรุ่น) เต็มไปหมด บางทีเล่นมากจนหลง ก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่าเรามาที่ นี่เพราะอะไร อย่าลืมจุดประสงค์อันดับหนึ่งในการมาครั้งนี้ ถ้าใครอยากเรียนต่อภาษาญี่ปุ่นลองดูโรงเรียนนี้ไว้ครับ อยู่ญี่ปุ่นทุกวินาทีนับเป็นการเรียนรู้ภาษา ได้หมด อย่าเอาแต่เรียนอย่างเดียว ออกไปเจอภาษาที่ใช้สื่อสารกันจริงๆด้วย กลับไทยจะได้สร้าง ความแตกต่างให้กับตัวเองได้บ้างครับ
การเรียนการสอนของ Toyo แบ่งการสอนตามการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ทางโรงเรียนจะ มีการสอบวัดระดับก่อนเข้าชั้นเรียนเพื่อเลือกระดับชั้นให้เหมาะสมกับความรู้จริงของเรา นอกจากนี้ยังมีวิชาเลือกให้เลือกเรียนอีกด้วย
127
“ทางอาจารย์ให้ค�ำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการเรียนต่อในระดับ วิทยาลัย วิชาชีพ ปริญญาตรี และปริญญาโท ได้ค่อนข้างดี”
พูดถึงที่ตั้ง โรงเรียนตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Nisaikasai การเดินจากสถานีมาถึงโรงเรียน ใช้เวลา ประมาณ 15 นาที ท�ำให้สะดวกพอสมควรครับ ผมอาศัยอยูท่ หี่ อพักของทางโรงเรียน เดินทาง ไปโรงเรียนด้วยรถจักรยานครับ ใช้เวลาเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้นเอง และจากหอพักเดินไป สถานี Kasai ก็ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเช่นกัน
ธิติ สุรรักษ์ (โอ้ต)
ภาคเรียนมกราคม 2013
จุดเด่นของที่นี่คือ มีวิชาเลือกให้เราเลือกเรียนเยอะ ส่วนใหญ่วิชาเลือกจะสนุก เช่น การสอน ภาษาวัยรุน่ ครับ แต่จดุ ด้อยคือ ชัว่ โมงการสอนเขียนคันจินอ้ ยมากจนท�ำให้ผมไม่สามารถเขียน คันจิได้เลย แม้แต่ค�ำง่ายๆ แต่การอ่านเยอะมากจนท�ำให้อ่านออก แต่ไม่สามารถเขียนได้ อยากแนะน�ำว่าถ้าหากน้องๆ ที่มาใหม่ไม่มีพื้นฐานมาเลยลองขอพี่ๆทาง Jeducation แนะน�ำ ให้รู้จักกับคนไทยทางนี้ไว้บ้าง จะได้คอยช่วยเหลือได้ในช่วงแรกๆครับ
การเรียนการสอนของอาจารย์แต่ละคนมีการสอนที่ต่างกัน บางคนก็สอนดี เข้าใจง่าย แต่คนที่ สอนแล้วไม่เข้าใจก็มคี ะ่ รูปแบบการสอนไม่เหมือนทีไ่ ทย และอาจารย์ทสี่ อนใช้แต่ภาษาญีป่ นุ่ ท�ำให้ รูส้ กึ ว่าอะไรทีต่ อ้ งอธิบายแบบละเอียดเราจะเข้าใจได้ไม่ 100% แต่กด็ ตี รงทีเ่ ราได้ใช้งานภาษาเต็มที่ อาจารย์ที่นี่ก็เอาใจใส่เราดีค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็เข้าไปปรึกษาได้ แต่ยากตรงที่ไม่มีอาจารย์พูดภาษา อังกฤษ ตอนมาใหม่ๆติดต่ออะไรค่อนข้างล�ำบากค่ะ
อัญชิสา ภัทรจารี (แพร) ภาคเรียนมกราคม 2014
ที่ตั้งส�ำหรับเราถือว่าโอเคเลย อยู่รอบนอกโตเกียว ไม่คึกคักเท่าในเมืองค่ะ ของที่จ�ำเป็นในชีวิต ประจ�ำวันก็มีครบทั้ง ร้านอาหาร ซูปเปอร์ ห้างสรรพสินค้า ถึงไม่ใหญ่เท่าในเมืองแต่ก็มีครบค่ะ และถ้าจะเข้าไปในเมืองนั่งรถไฟไม่เกินชั่วโมง หอพักโรงเรียนมีหลายแบบค่ะ หอที่เราเคยอยู่เป็น แบบห้องน�้ำ ห้องครัวรวม ห้องนอนเล็กๆ มีคนดูแลหอ คอยช่วยเหลือ รับพัสดุให้เราด้วย มีเวลา เปิด-ปิดครัว ราคาประมาณ 40000 เยนส�ำหรับห้องแบบนี้ แต่ถ้าหาหอนอกในลักษณะแบบนี้ไม่ ค่อยมีค่ะ ข้อดีของหอโรงเรียนคือเราไม่ต้องมาคอยดูค่าน�้ำค่าไฟหรือใบเสร็จอะไรเอง และก็มี อินเตอร์เน็ตให้ สามารถขี่จักรยานประมาน 15 นาที ถึงโรงเรียนค่ะ “โรงเรียนนี้เหมาะส�ำหรับคนที่จะต่อวิทยาลัยวิชาชีพ หรือมหาวิทยาลัยด้านศิลปะ เพราะทางโรงเรียนจะมีชั่วโมง สอนศิลปะตอนเย็นให้ด้วยค่ะ” “ที่นี่แบ่งการสอนเป็นครึ่ง คือจะสอบตามชั้นเรียนปกติก่อนครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลัง จะเป็นวิชาที่ให้นักเรียนเลือกเรียนลงด้วยตัวเอง มีวิชาเลือกที่ให้คุยกับคุณลุง คุณป้าชาวญี่ปุ่น นอกเหนือจากได้คุยกับแค่เซนเซที่โรงเรียนด้วยครับ”
สรทัศน์ แก่งหินแก้ว (ปอนด์) ภาคเรียนกรกฎาคม 2013
เซนเซทีโ่ รงเรียนเป็นกันเอง ดูแลดี มีอะไรสามารถปรึกษาได้ครับ พอมีกจิ กรรมหรือข้อมูลส�ำหรับ เรียนต่อเซนเซก็จะมาบอก ส่วนเรื่องที่เซนเซตามอย่างจริงจังก็คงเป็นเรื่องขาดเรียน ถ้าไม่ได้แจ้ง ไว้แล้วอยู่ๆขาดเรียน เซนเชจะโทรตามเลยนะครับ หอพักจะมีทงั้ หอของโรงเรียน และหอนอกคือ หาเอง แต่ถา้ มาใหม่แนะน�ำให้อยูห่ อโรงเรียนก็ดนี ะครับเพราะท�ำเอกสารต่างๆ สะดวก อาจารย์ ท�ำให้หมด ในหอมีทุกอย่างให้ครบ แต่ถ้าอยู่หอนอกจะอยู่คนละเขตกัน ในห้องไม่มีอะไรให้เลย ขนาดหลอดไฟยังต้องซื้อมาติดเอง แต่ถูกและใหญ่พอควรเลยครับ จุดเด่นของโรงเรียนนี้คือโรง เรียนเซมมง(สายอาชีพ)ที่อยู่ในเครือของ jikei group มีหลากหลาย โรงเรียนให้เลือกออกไป แต่ละสาขาย่อยๆ สามารถทดลองเรียนในสาขาที่เราสนใจได้อีกด้วย ที่สำ� คัญท�ำให้เราเข้าโรงเรียน เซนมงได้งา่ ยขึน้ ด้วยครับ แต่ทงั้ นีเ้ วลาเข้าเรียนก็ตอ้ ง 90% ขึน้ ไปนะครับ เพราะฉะนั้นอย่าขาด เรียนบ่อยนะครับถ้าคิดจะเรียนต่อเซนมงโรงเรียนนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเรียนต่อสายวิชาชีพ ด้านการเรียนการสอนก็โอเค แถมเดินทางเข้าเมือง 30 นาทีเองครับ แนะน�ำเลยครับ
STUDENT VOICE
เพียงแต่จะไม่ค่อยมีอาจารย์ที่สามารถพูดภาษาไทยหรือพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง จึงท�ำให้ นักเรียนไทยทีไ่ ม่มพี นื้ ฐานภาษาญีป่ นุ่ ไปก่อน ค่อนข้างล�ำบากหน่อย แต่อาจารย์ส่วนใหญ่ที่ผม เจอให้การดูแลดีมาก รู้สึกประทับใจครับ
128
College of Business and Communication
STUDENT VOICE
โรงเรียน CBC ตั้งอยู่ที่คาวาซากิ ที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ตรงกลางระหว่างโตเกียวกับโยโกฮาม่า จากสนามบินฮาเนดะมา โรงเรียนใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที บริเวณรอบๆโรงเรียน มีหา้ งสรรพสินค้าและร้านขายของตัง้ อยูเ่ ยอะมาก การเดินทาง ระหว่างคาวาซากิไปโตเกียวหรือโยโกฮาม่าใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก ถือว่าสะดวกมากๆค่ะ ที่ CBC หอพักอยู่ตึกเดียว กับตึกเรียน เครื่องอ�ำนวยความสะดวกทุกอย่างครบเลย หลักสูตรของโรงเรียน มีการแบ่งเป็น 5 ระดับ การแบ่งนั้นจะวัด จากการสัมภาษณ์และคะแนนสอบ ว่าแต่ละคนควรเรียนที่ระดับไหน อาจารย์ที่นี่ทุกคนใจดีมากๆ มาอยู่ที่นี่ได้รับการดูแล ที่ดีมากๆ “อาจารย์ที่นี่หลายคนสามารถพูดได้หลายภาษาค่ะ เช่น ภาษาเกาหลี ภาษาจีน ภาษาอังกฤษค่ะ เพราะ ฉะนั้นคนที่ยังไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องกังวลค่ะ” การเรียนการสอนที่นี่ค่อนข้างจะหนักค่ะ มีสอบเกือบทุกวันเลย จะมีคลาสเรียนคันจิส�ำหรับนักเรียนที่มาจากประเทศที่ ไม่มคี นั จิดว้ ย เพราะว่าทีน่ มี่ คี นจีนกับคนไต้หวันมาเรียนค่อนข้างเยอะ ถ้าเราไม่สามารถอ่านคันจิได้ ตอนเรียนหรือตอนสอบ จะล�ำบากมากๆค่ะ ทุกๆเทอมโรงเรียนจะมีการพาไปทัศนศึกษาโดยจะมีสถานที่หลากหลายสถานที่ให้เราเลือกอีกด้วยค่ะ
อลิษา ตันติสิริวัฒน์ (แก้ม) ภาคเรียนตุลาคม 2013
สวัสดีครับ ชื่อกิ๊ฟท์ครับ มาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ CBC ได้เกือบจะหนึ่งปีแล้ว อันที่จริงแล้วก็ดูโรงเรียนไว้หลายแห่งเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมาเรียนที่ CBC เพราะเห็นว่าการเรียนการสอนค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งก็เข้มงวดอย่างที่เค้าว่ากันจริงๆ เพราะนอกจากการสอบประจ�ำบทกับการสอบกลางภาค ปลายภาคแล้ว ก็ยังมีการสอบคันจิที่เรียกได้ว่าสอบวันเว้นวัน และยังมีการฝึกให้เขียนบทความ รวมถึงการฝึกพูดรายงานหน้าชั้นเรียน “ส�ำหรับนักเรียนระดับต้นถึงกลางที่มาจากชาติที่ไม่ได้ใช้ตัวอักษรจีนก็จะมีชั้นเรียนคันจิเสริม ส่วนใน ระดับกลางถึงสูงนอกจากคาบเรียนปกติแล้วยังมีวิชาเลือกที่น่าสนใจให้เลือกเรียนอีกด้วย” นอกจากในส่วนของการเรียนแล้ว ทางโรงเรียนเองก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้เข้ารวมเช่น สปอร์ตคลับ การทัศนศึกษา งานแข่ง กีฬา หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมต่างๆของญี่ปุ่น และนอกจากนี้ยังคอยแจ้งข่าวสารกิจกรรมจากภายนอกรวมถึง ของเขตอีกด้วย ซึง่ ผมเองก็ได้เข้ารวมกิจกรรมโฮมสเตย์ทที่ างเขตเป็นผูจ้ ดั โดยรูข้ า่ วจากทางโรงเรียน ตอนนีก้ เ็ ลยมีโฮสแฟมิลี่ ชาวญี่ปุ่นด้วยล่ะครับ ในส่วนของความเป็นอยู่ อันที่จริงโรงเรียนมีหอพักให้ซึ่งสะดวกสบายและทันสมัยมาก แต่ของผม เลือกที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่เอง ซึ่งที่ญี่ปุ่นเองบริษัทบ้านเช่ามีอยู่เยอะมาก โดยเฉพาะรอบๆสถานีรถไฟ ห้องเช่าก็มีให้ เลือกหลายขนาด หลายราคา บริษัทที่ให้บริการส�ำหรับนักศึกษาต่างชาติก็มีอยู่เช่นกัน การแยกออกมาอยู่คนเดียวห่าง จากเพื่อนๆ ก็มีข้อดีนะครับท�ำให้เราไม่ติดเพื่อนมากจนเกินไป และบังคับให้เราใช้ภาษาญี่ปุ่นให้มากขึ้น สุดท้ายก็ฝากถึงคนทีก่ ำ� ลังจะมาเรียนต่อทีญ ่ ป่ี นุ่ นอกจากการเตรียมพร้อมในด้านภาษาแล้ว ก็ตอ้ งเตรียมใจเปิดรับสิง่ ใหม่ๆ และจะให้ดีควรจะมีแผนการคร่าวๆ ในสิ่งที่อยากจะท�ำ สถานที่ที่อยากไป เพราะผมคิดว่าการมาเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากวิชาความรู้แล้ว อีกสิ่งที่ส�ำคัญไม่แพ้กันก็คือประสบการณ์ที่หาได้จากประเทศนั้นๆ และประเทศญี่ปุ่นเองก็มีสิ่งดีๆ รออยู่เพียบ ซึ่งหากเราพลาดไม่ได้ท�ำไปอาจจะต้องมาเสียใจที่หลังก็เป็นได้
ดุลยกฤศวร์ ภาณุเวศย์ (กิ๊ฟท์) ภาคเรียนตุลาคม 2013
เหตุผลที่ผมเลือกเรียนที่ CBC เหรอครับ เพราะผมได้ยินกิตติศัพท์ของที่นี่มาว่า “มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เข้มข้นแบบสุดๆ (บางคนเริ่มจาก 0 จนสามารถได้ N2 ภายในปีเดียว)” การเรียนของที่นี่ค่อนข้างเร็ว ควรทบทวนบทเรียนทุกวัน ถ้าไม่ทบทวนมาเหนื่อยแน่นอนครับ ส�ำหรับอาจารย์ของที่ CBC ทุกท่านใจดีมาก ไม่เข้าใจตรงไหนสามารถถามได้ทันที อาจารย์จะพยายามอธิบายจนเราเข้าใจ ในส่วนของหอพักเป็นอะไร ที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ หอพักที่นี่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบครัน พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที และที่ส�ำคัญที่สุดคือ หอพักที่นี่อยู่ติดกับโรงเรียน ต่อให้ตื่นสายแค่ไหน แต่ขอเวลาแค่ 5 นาทีก็ไปเรียนทันสบายๆเลยครับ จุดเด่นที่ส�ำคัญอย่างหนึ่งคือเรื่องสถานที่ตั้งครับ เนื่องจาก CBC อยู่ติดกับสถานีรถไฟ สามารถเดินจากหอพักเพียงแค่ 5 นาทีก็ถึงสถานีแล้ว ถือว่าเป็นสถานที่ๆมีการเดินทางสะดวกสบายจริงๆ ใครที่ชอบเที่ยว ช้อปปิ้ง คงถูกใจกันแน่นอน เพราะว่ารอบบริเวณนีย้ งั มีหา้ งสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านอาหาร และร้านขายของมือสอง (ทีร่ าคาถูกจนน่าตกใจ) เรียกได้วา่ ครบทุกอย่างจนไม่ต้องไปที่อื่นไกลให้เสียเวลาเลย ส�ำหรับผม CBC เป็นอะไรทีย่ อดเยีย่ มมากครับ ได้เรียนอย่างเต็มทีจ่ ริงๆ แม้วา่ จะเหนือ่ ยไปบ้าง แต่กถ็ อื ว่าเป็นประสบการณ์ที่ น่าจดจ�ำครัง้ หนึง่ ในชีวติ
คณิน เจตโสภณ (นิน) เข้าเรียนเดือนเมษายน 2013
“ที่ CBC จะมีหอพักที่อยู่บนโรงเรียน ท�ำให้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก หอพักใหม่มาก มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ครบครัน ทั้งเครื่องซักผ้า ครัว ห้องน�้ำ ฯลฯ สถานที่ตั้งของโรงเรียนเรียกได้ว่าหาดีกว่านี้ยากครับ โรงเรียนจะใกล้สถานีรถไฟมากเดินเพียง 1 นาทีก็ถึงสถานี Keikyu Kawasaki หรือถ้าจะเดินทางด้วย รถไฟสาย JR ก็เดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็สะดวกสบายไปหมด ถึงแม้จะอยู่นอก โตเกียวแต่บริเวณ Kawasaki มีทั้งห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหารไทยก็มีนะครับ เรียกได้ ว่าอยู่ที่นี่แล้วมีแทบทุกอย่างไม่จ�ำเป็นต้องเข้ามาในโตเกียวเลยก็ว่าได้” ส�ำหรับรุ่นน้องที่ก�ำลังจะเลือกมาเรียนนะครับขอบอกเลยว่าที่นี่นอกจากหลักสูตรจะแน่นแล้ว สถานที่ตั้งยังดีอีกด้วย แล้วก็ ทุกวันพุธทางโรงเรียนจะมีสปอร์ตคลับ พานักเรียนไปออกก�ำลังกาย ส่วนใหญ่จะเป็นแบดมินตัน และบาสเกตบอลครับ ส�ำหรับใครที่ชอบออกก�ำลังกายแนะน�ำเลยครับ (อาจารย์ที่นี่ตีแบดมินตันเก่งมาก) สุดท้ายนี้ฝากถึงคนที่จะมาเรียนที่นี่ ต้องตั้งใจเรียนให้มากๆ หาเพื่อนต่างชาติคอยคุยกับเพื่อนเยอะๆครับ เพื่อภาษาญี่ปุ่นของเราเอง อาจจะมีท้อบ้างแต่อย่า ถอยครับ สู้ๆครับ!
รวิช โสตถิยานนท์ (จ๋าย) ภาคเรียนเมษายน 2013
สวัสดีครับ ชื่อชาร์ปครับตอนนี้ศึกษาภาษาญี่ปุ่นที่ CBC มาเป็นเวลา 10 เดือนแล้ว ตอนแรกอยากไปเรียนที่จังหวัดเกียวโต แต่สมัครไม่ทัน T_T ทาง Jeducation เลยแนะน�ำ CBC มาเพราะว่ามีชื่อเสียงว่าเรียนเข้มข้น พอเริ่มเรียนแล้วก็รู้สึกว่า ค่อนข้างโหดอยู่ หลักสูตรจะแยกเวลาออกมาส�ำหรับเรียนไวยากรณ์ ฟัง พูด เขียน พอเรียนจบระดับต้นแล้วก็โดนจับเรียน ไวยากรณ์ของ JLPT N2 ทันทีเลย ตั้งแต่ระดับชั้นเรียนกลางจนถึงสูงจะมีการบ้านน้อย แต่ไม่ต้องห่วงครับจะไม่มีอาทิตย์ ไหนที่ไม่มีสอบเลย “การสอบบ่อยๆ จะกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจเรียนในห้องและกลับบ้านทบทวนเรื่อยๆ ท�ำให้มีการพัฒนา ภาษาได้เร็ว” นอกจากนี้ทางอาจารย์ก็เอาใจใส่พร้อมให้ค�ำปรึกษาเรื่องเรียนในห้อง เรียนต่อมหาวิทยาลัย การหางานที่ญี่ปุ่น และการใช้ ชีวิตที่ญี่ปุ่น แม้จะเรียนเยอะ แต่ CBC ก็มีกิจกรรมต่างๆให้นักเรียนเข้าร่วมได้เรื่อยๆเช่น เล่นกีฬา และทัศนศึกษา บางที ทาง CBC จะเอากิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นหรือที่องค์กรอื่นจัด มาเสนอให้นักเรียนเข้าร่วมและเรียนรู้วัฒนธรรม ต่างๆจากคนญี่ปุ่นโดยตรง จุดเด่นของ CBC คือโรงเรียนตั้งอยู่ที่คาวาซากิที่มีความพร้อมทุกด้าน เริ่มตั้งแต่มีสถานีรถไฟ JR และ Keikyu ที่ใช้เวลา เดิน 3-5 นาทีก็ถึงโรงเรียน ท�ำให้เวลาเดินทางเข้าตัวเมืองสะดวกมาก ร้านอาหารก็มีหลายประเภท และมีซุปเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ CBC ก็มหี อให้นกั เรียนเช่าพร้อมเฟอร์นเิ จอร์พนื้ ฐานครบ มีความปลอดภัยสูง และตัง้ อยูบ่ นอาคารเรียน ข้อเสียคือ ถ้าตื่นสายลิฟต์มีตัวเดียวแล้วจะไปเรียนสายได้ สิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากน้องๆที่อยากมาเรียนคือเตรียมใจให้พร้อมและควรจะเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเพื่อสามารถเอาตัว รอดในช่วงแรก และก่อนมาเรียนต่างประเทศควรตั้งเป้าหมายของการมาให้ชัดเจน หาเพื่อนต่างชาติเยอะๆ ฝึกภาษาให้ เต็มที่แล้วน้องๆ จะได้รับสิ่งใหม่เรื่อยๆ ขอให้โชคดีครับ
เสฏฐวุฒิ นิติภูมิเวชสกุล (ชาร์ป) ภาคเรียนตุลาคม 2013
การเรียนการสอนของที่นี่ ตอนแรกนักเรียนจะได้สัมภาษณ์กับครูทีละคน ครูจะดูระดับความรู้จากการพูดคุยของเรา และ ให้ทดลองท�ำข้อสอบ จากนั้นจะแบ่งคลาสตามระดับความรู้ของแต่ละคนค่ะ “เนื้อหาการเรียนในแต่ละวันจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วนได้อย่างพอดีๆค่ะ ไวยากรณ์ คันจิ อ่าน พูด และจะมีให้ ออกไปพูดรายงานหน้าห้องอยูบ ่ อ่ ยๆ ค่ะ แรกๆ อาจจะไม่คอ่ ยชอบ แต่นานๆไปกลับเป็นส่วนทีส่ นุกทีส่ ด ุ ” อาจารย์ที่โรงเรียนนี้ทุกคนน่ารักมากๆเลยค่ะ อาจารย์ใส่ใจรายละเอียดของเด็กนักเรียนทุกคนตอนเรียน และนักเรียนคน ไหนอ่อนตรงส่วนไหนเช่น เกรฟเคยพูดกับครูไปครั้งหนึ่งว่าไม่ชอบท�ำ Reading เพราะคันจิเยอะ ท�ำไม่ค่อยได้ จากนั้นครู ก็คอยหาชีทแบบฝึกหัด Reading มาให้ท�ำเป็นการบ้านอยู่บ่อยๆ (คนอื่นไม่ได้นะคะ) แล้วช่วยตรวจให้ค่ะ นอกจากเรื่อง บทเรียนของที่โรงเรียน คุณครูที่ปรึกษาจะช่วยเหลือเราในทุกๆอย่าง สามารถปรึกษาได้หมดเลยนะคะ เขาดูแลเราดี เหมือนลูกเหมือนหลานเลยค่ะ ถ้ามีความตัง้ ใจทีจ่ ะสอบวัดระดับผ่านหรือสอบเข้าเพือ่ เรียนต่อทีญ ่ ปี่ นุ่ โรงเรียนนีถ้ อื เป็นทางเลือกทีด่ มี ากค่ะ เพราะโรงเรียน ค่อนข้างผลักดันและเข้มงวดเรื่องสอบมากเลยทีเดียว
ธัญญารัตน์ ลิ้มโชสกุล (เกรฟ) ภาคเรียนตุลาคม 2013
STUDENT VOICE
129
สวัสดีครับ จ๋ายครับ อยูญ ่ ปี่ นุ่ มาราวๆ 1 ปีกบั อีก 3 เดือนแล้วครับ ส�ำหรับใครทีอ่ ยากเข้ามาเรียนที่ CBC ต้องบอกเลยว่า การเรียนที่นี่ถือว่าเข้มข้นเอาการเหมือนกันครับ สอบแทบทุกวัน ไม่ขยันก็ต้องขยันล่ะครับ อาจารย์ที่นี่นอกจากสอนแล้ว ยังมีมุขตลกขบขันหรือเรื่องราวต่างๆ ในสังคมญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟัง อีกทั้งยังสามารถให้ค�ำปรึกษาส�ำหรับใครที่อยากเข้าเรียน ต่อวิทยาลัยวิชาชีพหรือมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นอีกด้วย ส�ำหรับคลาสเรียนระดับกลางขึ้นไป จะมีวิชาเลือกต่างๆ เข้ามาให้ เรียนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลง หรือเกม ไปจนถึงติวสอบวัดระดับเลยทีเดียว
130
YOKOHAMA
International Education Academy
STUDENT VOICE
สวัสดีคะ่ ชือ่ ปาล์มค่ะ ตอนนีเ้ รียนภาษาญีป่ นุ่ อยูท่ โี่ รงเรียน Y.I.E.A ค่ะ ตอนที่ปาล์มตัดสินใจจะมาเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ตอนเลือกโรงเรียนก็ ค่อนข้างคิดหนักเหมือนกันค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าถ้าเลือกไปแล้ว พอ ไปเรียนจริงๆจะเป็นยังไง จากโรงเรียนมากมายในเขตคันโตก็มา ตกลงปลงใจกับโรงเรียนนี้ค่ะ เหตุผลแรกคือโรงเรียนอยู่ที่โยโกฮาม่า เพราะประทับใจกับความสวยงามของเมืองค่ะ เมืองโยโกฮาม่าก็นับ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่รวบรวมสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในทุกๆด้านไว้อย่าง ครบครันไม่แพ้เมืองหลวงอย่างโตเกียวเลยล่ะค่ะ ที่ส�ำคัญโรงเรียน Y.I.E.A ก็ตงั้ อยูใ่ จกลางเมือง จากสถานี Sakuragichou เดินมาโรงเรียนก็ ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นค่ะ การเรียนการสอนของโรงเรียนในหนึง่ วันจะเรียนประมาณ 3 ชัว่ โมงค่ะ อาจจะดูว่าน้อย แต่ส�ำหรับนักเรียนไทยประเทศที่ไม่ได้ใช้คันจิอย่าง เราก็หนักอยูพ่ อสมควรค่ะ เพราะทีน่ น่ี กั เรียนชาวจีนเยอะค่ะ จึงท�ำให้ เวลาเรียนเขาจะไปได้เร็วกว่าพวกเรา ท�ำให้เราต้องท�ำการบ้านและ เตรียมบทเรียนมากกว่าพวกเขาอีกเท่าตัวเลยก็ว่าได้ แต่นี่ก็เป็นข้อดี ที่ท�ำให้เราขยันมากขึ้นและพยายามมากขึ้นค่ะ “ในคลาสระดับสูงเราก็สามารถเลือกเรียนวิชาที่เราสนใจ เองได้ค่ะ ซึ่งทุกวิชาที่เปิดสอนก็ล้วนจะช่วยเพิ่มทักษะ และ ต่อยอดความรู้ภาษาญี่ปุ่นของเราได้เป็นอย่างดี”
รักษ์ขวัญ ปานแดง (ปาล์ม) ภาคเรียนตุลาคม 2013
อาจารย์ทนี่ ที่ กุ คนก็ใจดีมากค่ะ ค่อนข้างเอาใจใส่เป็นห่วงเป็นใยนักเรียนใน ทุกๆเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว ในเรื่องการใช้ชีวิต ข่ า วสารบ้ า นเมื อ งทุ ก อย่ า งสามารถปรึ ก ษาพู ด คุ ย ได้ ห มดเลยค่ ะ ส�ำหรับปาล์มแล้ว โรงเรียน Y.I.E.A นับว่าเป็นโรงเรียนทีด่ โี รงเรียนหนึง่ เพราะเป็นโรงเรียนที่ครบครันในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องสถานที่ตั้ง ความ สะดวกสบายในการเดินทาง หลักสูตรการเรียนการสอน ทุกอย่าง ลงตัวค่ะ หวังว่า Student Voice ของปาล์มจะเป็นประโยชน์ส�ำหรับ ใครที่ก�ำลังตัดสินใจเลือกที่เรียนอยู่นะคะ
การเรียนการสอนของ YIEA เป็นหลักสูตรที่เข้าใจง่าย สามารถเอา ไปใช้ในประจ�ำวันได้จริง อาจารย์ เจ้าหน้าที่ น่ารักและใจดีทุกคน สถานทีต่ งั้ ใกล้สถานีรถไฟสะดวกสบาย หอพักใกล้แหล่งห้างสรรพสินค้า หาชื้อของใช้สบาย ในโรงเรียนสถานที่สะอาดสะอ้านแต่มีสถานที่สูบบุหรี่น้อยก็เลยถูก รบกวนจากควันบุหรี่บ้าง แต่ก็มีเพื่อนบางกลุ่มที่ชอบส่งเสียงดังใน ห้องเรียนบ้างค่ะ อาจารย์น่ารักทุกคน “อาจารย์หางานพิเศษให้ท�ำ ใส่ใจดูแลทุกเรื่องได้ดีมาก อบอุ่นมาก” สิ่งที่ประทับใจคือเพื่อนชาติอื่นน่ารักคอยช่วยเหลือกัน อยากให้มาเรียนด้วยกันเยอะๆนะคะ เพราะโรงเรียนนี้เพื่อนนักเรียน ไทยรักกันจ้า มีปาร์ตี้กันตลอด ขอบคุณค่ะ
อินทิรา กันทาทอง (กุ้ง) ภาคเรียนตุลาคม 2013
URUYAMA ACADEMIC FOUNDATION Kyoto Institute of Culture and Language
131
เพียวมาเรียนที่โรงเรียน KICL ได้เกือบ 4 เดือนแล้วค่ะ มีความคิดเห็นว่า “เนื้อหาและการสอนของที่นี่ค่อนข้างแน่น สอนค่อนข้างเร็ว สามารถพัฒนาทักษะภาษาของตัวเราเองได้ เร็วขึ้น และต้องหมั่นทบทวนทุกวัน”
พูดถึงหอพัก หอพักโรงเรียนที่เพียวพักตอนนี้ชื่อ Shugakuin Global House เป็นหอพักหญิงล้วน ที่รวมนักศึกษาต่างชาติ จากหลายประเทศ รวมถึงนักศึกษาญี่ปุ่นที่เรียนที่ Kyoto University of Art ซึ่งเป็นเครือเดียวกับ KICL ซึ่งสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนต่างชาติ และญี่ปุ่นที่พักอยู่ที่หอได้ นอกจากนี้ที่หอพักก็มีอาหารเช้าและอาหารเย็นเตรียมไว้ ให้สะดวกสบาย ไม่ต้องล�ำบากในการหาซื้อหรือยุ่งยากในการท�ำอาหาร ห้องอาบน�้ำ กับห้องน�้ำจะใช้ร่วมกัน ซึ่งจะมีทุกชั้น ส่วนตู้เย็นกับสิ่งอ�ำนวยความสะอาดก็มีให้ทุกชั้นเช่นกันค่ะ แล้วทีห่ อนีจ้ ะมีคนดูแลเป็นคนญีป่ นุ่ ทีพ่ กั ประจ�ำอยูท่ หี่ อ คอยดูแล เรื่องต่างๆ เราสามารถพูดคุยปรึกษาเขาได้ด้วยค่ะ ความประทับใจที่ได้พักที่หอ Shugakuin Global House เพียวรู้สึกสนุก มากค่ะแถมยังได้รู้จักเพื่อนหลากหลายประเทศ ได้ท�ำกิจกรรมร่วมกัน ท�ำให้ในแต่ละวันไม่เหงาเลยค่ะ ถ้าหากเลือกอยู่ ห้องพักเดี่ยว ที่ใช้ชีวิตคนเดียวก็คงไม่ได้ประสบการณ์แบบนี้ค่ะ
STUDENT VOICE
จากที่เรียนภาษาญี่ปุ่นที่ไทยมาถ้าลองเปรียบเทียบกับที่นี่แล้ว ที่นี่เรียนค่อนข้างยากกว่า มีการบ้านให้ทบทวนทุกวัน และ สอบย่อยเกือบทุกอาทิตย์ค่ะ กิจกรรมเสริมที่นี่ก็เยอะ เช่น เรียนเสริมเกี่ยวกับวัฒนธรรม ความรู้ต่างๆในการท�ำงาน เรียน เกี่ยวกับศิลปะโดยตรงเป็นต้นค่ะ และในแต่ละเดือนจะมีการจัดกิจกรรมสังสรรค์ท�ำกิจกรรมต่างๆร่วมกันเช่น บาร์บีคิว ปาร์ตี้ ปืนเขา จุดพลุดอกไม้ไฟค่ะ
ภาพิศุทธ์ กรรถาวร (เพียว) ภาคเรียนเมษายน 2014
ผมเข้ามาเรียนที่นี่ตั้งแต่ชั้นต้นเลยครับเพราะมีพื้นฐานอยู่นิดหน่อยเท่านั้น เมื่อเข้ามาเรียนแล้วค่อนข้างตกใจในช่วงแรก เพราะเรียนค่อนข้างไวครับ แต่เราก็ตอ้ งตัง้ ใจและพยายามเพือ่ ตัวของเราเองในส่วนนีน้ ะครับ เมือ่ ผ่านขัน้ ต้น (6เดือน) มาได้แล้ว สิง่ ได้มามันคุม้ ค่าเหนือ่ ยมากครับ ทัง้ ไวยากรณ์และคันจิ ท�ำได้เยอะมากครับ และเราก็ไม่ได้พยายามอยูฝ่ า่ ยเดียวทัง้ อาจารย์ และเพือ่ นๆในห้องก็ชว่ ยกันครับ หากมีคำ� ถามก็สามารถไปถามนอกเวลากับอาจารย์ได้ครับไม่ใช่แค่เรือ่ งเรียนอย่างเดียวครับ เรื่องอื่นๆก็สามารถปรึกษาได้เช่นกัน ตอนนี้โรงเรียนได้ย้ายจากที่เก่าเข้ามาอยู่ภายในเขตของมหาวิทยาลัย Kyoto of Art and Design ครับ ท�ำให้มีโอกาสได้ พบปะพูดคุยกับคนญี่ปุ่นบ่อยครั้ง ท�ำให้ทักษะการพูดของผมพัฒนาไปเร็วมากโดยที่ไม่รู้ตัวเลยครับ (อันนี้เพื่อนที่ไทยชม มาอีกทีหนึง่ เพราะตัวเองไม่รสู้ กึ ตัวเลย) จริงๆแล้วโรงเรียนก็เป็นส่วนหนึง่ ของมหาวิทยาลัยครับท�ำให้เรามีสทิ ธิเหมือนนักศึกษาของ ที่นี่ครับ สามารถใช้ห้องสมุด โรงอาหาร เข้าชมรม หรือแม้แต่การเข้าร่วมท�ำโปรเจคกับนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วย “ผมได้มีโอกาสเข้าไปท�ำโปรเจคหนึ่งท�ำให้ได้มีโอกาสพูดคุยและท�ำงานกับคนญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ในช่วง แรกๆที่เข้าไปท�ำตอนนั้นอยู่ชั้นต้นพูดยังไม่ค่อยได้ และก็ยังอายๆที่จะพูดครับ แต่เพื่อนๆในโปรเจคก็คอย ให้ก�ำลังใจเลยพูดได้เยอะขึ้นครับถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยครับแถมได้เพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นเพิ่ม ขึ้นอีกด้วย” นอกจากนี้เกียวโตเป็นเมืองวัฒนธรรมเงียบสงบเหมาะแก่การเรียนแต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีที่เที่ยวนะครับ และทีผ่ มตัดสินใจเรียน ที่นี่เพราะมันไม่ใช่แค่เรียนในห้องเรียนอย่างเดียวแต่ยังมีคลาสเรียนอื่นๆ และการไปทัศนศึกษา หรือวันวัฒนธรรมด้วย เหมือนได้เรียนและได้ทดลองมาใช้จริงครับ
ภีร์รศักดิ์ จันทร์สุขปลั่ง (กาย) ภาคเรียนตุลาคม 2013
ตอนนี้เรียน KICL มาจะครบหนึ่งปีแล้วค่ะ มาเรียนที่นี่ได้เพื่อนหลากหลายมากเช่น ไต้หวัน อเมริกา อิตาลี อินโดนีเซีย สวีเดน เนื่องจากเกียวโตเป็นเมืองวัฒนธรรมเลยมีชาวต่างชาติค่อนข้างจะเยอะท�ำให้เราได้มีเพื่อนที่หลากหลาย KICL เป็น โรงเรียนภาษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยศิลปะ “ถ้าคนที่มีความสนใจด้านศิลปะ และวัฒนธรรมญี่ปุ่นละก็แนะน�ำค่ะ เพราะทางมหาวิทยาลัยจะเปิดโอกาส ให้เราได้เข้าร่วมท�ำโปรเจคต่างๆกับทางมหาวิทยาลัยได้ มีทั้งโปรเจคระยะสั้น และระยะยาว เราจะได้ฝึก ภาษาและได้เพื่อนญี่ปุ่นไปด้วย” เนื่องจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนภาษาเป็นเครือเดียวกัน การเข้าไปท�ำโปรเจคจึงเป็นเรื่องง่าย อุปสรรคทางภาษา อาจจะมีแต่ทางมหาวิทยาลัยและคุณครูจะคอยช่วยเหลือตลอดที่ส�ำคัญท�ำให้เราได้รู้จักการท�ำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นด้วย นอกจากนั้น ทุกเทอมทางโรงเรียนจะมีวันวัฒนธรรมหนึ่งครั้งให้เราเลือก ครั้งที่ผ่านมานี้ดเลือกการร�ำพัดญี่ปุ่นค่ะ เราจะได้ ใส่กิโมโนถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนด้วยสนุกดีค่ะ ถ้าชอบวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ธรรมชาติและเมืองที่เงียบสงบเกียวโตก็ เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
ศุภนุช ปูนบัณฑิตย์กุล (นี้ด) ภาคเรียนตุลาคม 2013
132
OISCA Senior High School “โรงเรียนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านหลังที่สอง คุณครูสอนเราให้มีความรู้ และดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนญี่ปุ่นหรือนักเรียนต่างชาติ อาจารย์จะคอยดูแลแม้กระทั่งจุดเล็กๆที่บางครั้งควรจะ ปล่อยข้ามแต่อาจารย์ที่นี่ก็ไม่ปล่อย”
STUDENT VOICE
คณุตม์ พรรณสุรักษ์ (ซัน)
เรื่องการดูแลนักเรียนต้องยกให้ที่นี่เลย ดีมากจริงๆ สถานที่ตั้งของโรงเรียนก็จะอยู่แถบชานเมือง แต่ก็ไม่ถึงกับบ้านนอก บรรยากาศถือว่าดีมาก มีภูเขาล้อมรอบ ข้างหลังมีทะเลสาบ อากาศบริสุทธิ์ ไม่พลุกพล่านจนเกินไป การเดินทางจาก โรงเรียนไปตัวเมืองก็ไม่ยาก นั่งรถบัสไปประมาณ 40-45 นาที ในเมืองมีห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารมากมาย หอพัก ก็อยู่ในระดับที่ไม่ได้ดีหรือแย่จนเกินไป ห้องอาบน�้ำเป็นห้องน�้ำรวมเข้าไปครั้งแรกก็อายครับ แต่ต้องเข้าทุกวันเลยเกิด ความเคยชิน อาหารก็ไม่ได้แย่รสชาติถือว่าโอเคเลย สิ่งที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่มาเรียนโรงเรียนนี้คือ งานโรงเรียน เป็นงาน โรงเรียนที่สนุกมาก ทุกระดับชั้น แต่ละห้องเรียนก็จะท�ำของขาย ท�ำกิจกรรมกันครับ ใครที่อยากจะมาศึกษาต่อไม่ว่าจะ เป็นโรงเรียนนี้ หรือโรงเรียนไหนก็ตามต้องมีความตั้งใจจริง ไม่ใช่คิดอยากจะมาก็มาแล้วพออยู่ไม่ได้ก็กลับ เราต้องคิดไว้ว่า เราอยู่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ รุ่นพี่ที่นั้นๆ จะคอยช่วยเหลือรุ่นน้องอย่างเต็มที่ครับ
ภาคเรียนเมษายน 2013
ทีโ่ รงเรียนนีจ้ ะให้นกั เรียนต่างชาติเรียนภาษาญีป่ นุ่ ก่อนค่ะ เรียนอยูป่ ระมาณครึง่ ปีแล้วค่อยเข้าไปเรียนร่วมกับนักเรียนญีป่ นุ่ ช่วงทีเ่ ข้าห้องเรียนแรกๆ ไม่เข้าใจอะไรเลยค่ะ ค่อยๆปรับตัว พยายามจ�ำคันจิ หาความหมาย พอใช้บอ่ ยๆก็เริม่ จ�ำได้คะ่ ครูสอน ภาษาญี่ปุ่นมีหลายคนค่ะ “ถ้าไม่เข้าใจส่วนไหนครูก็จะช่วยอธิบายให้เราเข้าใจแบบ 100% เลย ที่หอพักครูจะคอยให้รุ่นพี่คอยดูแล รุ่นน้อง คอยสอน ช่วยเหลือ และให้ความใส่ใจดีค่ะ ส่วนใหญ่จะห่วงเด็กต่างชาติเป็นพิเศษเพราะว่าต้อง เปลี่ยนการใช้ชีวิตทุกอย่างหลังจากเข้ามาในโรงเรียน” สถานทีต่ งั้ ของโรงเรียนสะดวกมากๆเลยค่ะ สามารถนัง่ รถบัสทีใ่ กล้โรงเรียนเข้าไปในเมืองไม่ถงึ 1 ชัว่ โมง ถ้าจะกลับประเทศ ก็นงั่ รถบัสจากใกล้ๆ โรงเรียนไปถึงสนามบินนาโกย่าได้เลย ออกไปไหนก็สะดวก แถวโรงเรียนมีรา้ นสะดวกซือ้ หลายร้านค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ไกลจากเมือง โรงเรียนก็ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม อากาศสดชื่นมากๆค่ะ จุดเด่นของที่นี่คือ ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีนักเรียนต่างชาติเยอะ แต่ถ้ามาเรียนที่นี่ก็ยังต้องใช้ภาษาญี่ปุ่น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมา แล้วพูดไม่ได้ จุดด้อยของทีน่ คี่ อื ความส่วนตัวจะน้อยค่ะ เพราะทีห่ อเราอยูก่ นั ห้องละ 7-8 คน เวลาว่างก็จะไปชมรม เข้าเมือง ไม่ค่อยมีเวลาให้กับตัวเองซักเท่าไหร่
นันทินี บุญคงชื่น (บิ๊ง) ภาคเรียนเมษายน 2012
สิ่งที่ประทับใจที่สุดที่ได้มาเรียนที่นี่คือ ถึงแม้ว่าเรามาเรียนที่นี่คนเดียว แต่ทุกๆคนที่นี่คอยดูแลเรา ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รักกันเหมือนพี่น้อง มันเป็นประสบการณ์ 3 ปีที่บิ๊งไม่คิดเลยว่าเวลาแค่ 3 ปี เราจะได้ความทรงจ�ำดีๆมากมาย และสนิท กับคนที่เราไม่เคยเจอได้มากขนาดนี้มาก่อน ถ้าใครอยากที่จะมาเรียนที่นี่ บิ๊งอยากแนะน�ำน้องๆว่า เราควรจะคิดถึงอนาคตตนเอง เพราะตอนที่บิ๊งมาที่นี่ บิ๊งก็อยาก กลับบ้าน ท้อ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงผลตอบแทน นึกถึงพ่อแม่ บิ๊งก็จะมีแรงสู้ต่อค่ะ พยายามพูดกับคนที่นี่มากๆ ถ้าเป็นคน เรียนหนังสือไม่เก่ง ก็เรียนจากการสนทนา ภาพยนตร์ แม้แต่อ่านการ์ตูนก็ช่วยได้มากๆเลยค่ะ ใช้เวลากับคนรอบข้างให้ มากๆ นึกถึงสิ่งดีๆ สิ่งที่เราจะได้ตอบแทน แล้วเราจะเรียนได้อย่างมีความสุขและประสบความส�ำเร็จค่ะ
ตอนที่เข้ามาปีแรก พูดและเขียนภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลยค่ะ อาศัยรุ่นพี่แปลให้ตลอด ในช่วงแรกก็เรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ท�ำให้เข้ากับคนญี่ปุ่นได้ยากเพราะว่าฟังไม่เข้าใจ แต่เวลามีกิจกรรมก็ท�ำร่วมกับเพื่อนในห้องเรียนจึงเริ่มสนิทกันมากขึ้นค่ะ “ช่วงภาคเรียนที่2 เรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เรียนเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดท�ำให้ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เพื่อนๆกับคุณครูคอยช่วยเหลือและอธิบายจนเราเข้าใจ พอขึ้นชั้นมัธยมปลายปี2 ก็มีให้เลือกสาย วิชาและเริ่มเลือกมหาวิทยาลัย คุณครูก็จะให้ค�ำแนะน�ำกับเรา” แถวโรงเรียนบรรยากาศจะร่มรื่น ข้างหน้าเป็นวิวมีทะเลสาบและภูเขา ใกล้ๆโรงเรียนจะมีร้าน Mini Mart ร้าน100เยน ร้านขายยา ร้านขายเครื่องใช้ ร้านขายเสื้อผ้า ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายต้นไม้ โดยเดินหรือขี่จักรยานไปก็ได้ค่ะ (จักรยาน ขอยืมรุ่นพี่หรือขอยืมที่หอพักได้) ช่วงไหนที่อยากจะเข้าเมืองก็นั่งรถบัสไปได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
เบญจ์ศุจินธร จิระพรชัยชาญ (มุกเนย) ภาคเรียนเมษายน 2013
ที่เลือกโรงเรียนนี้เพราะเข้าเมืองง่าย สะดวกสบาย และมีนักเรียนต่างชาติน้อย ระบบการเรียน กิจกรรมต่างๆเราได้ท�ำ และเรียนรู้เหมือนกับนักเรียนญี่ปุ่น และเพื่อนคนญี่ปุ่นก็น่ารักมากค่ะ ฝากถึงน้องๆว่าขอแค่มีความตั้งใจ ความอดทน สู้ๆเข้าไว้ อนาคตที่สดใสก�ำลังรอเราอยู่ค่ะ
KWASSUI
133
Woman’s University
STUDENT VOICE
ชื่อ ตมิสา เจริญกิจค่ะ คณะอักษรศาสตร์ปี3 สาขาวัฒนธรรมญี่ปุ่นร่วมสมัยค่ะ หนูมาเรียน หลักสูตรปริญญาตรีโดยโอนหน่วยกิตมาเรียนต่อทีม่ หาวิทยาลัยคัสซุย โดยเรียนสองปีกจ็ ะสามารถ จบปริญญาตรีได้ค่ะ การสอบเข้าจะมีทั้งการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ค่ะ อาจารย์ประจ�ำ ศูนย์นักเรียนต่างชาติก็ใจดีมากๆค่ะ ช่วงก่อนสอบหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักสูตรหรือกังวลใจ เรื่องการสอบ ก็สามารถอีเมล์ไปสอบถามได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ตอนสอบก็เตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยว กับหลักสูตรจากหนังสือคู่มือของมหาวิทยาลัยค่ะ ดูว่าคณะ สาขาที่เราอยากเรียนเปิดสอนวิชา อะไรบ้าง เราสนใจวิชาไหน แล้วก็หาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยค่ะ พอถึงวันสอบก็ได้เขียนเรียง ความเกี่ยวกับจุดประสงค์ เป้าหมาย แล้วก็สัมภาษณ์เรื่องทั่วๆไปค่ะ มาเรียนสาขาอะไร เพราะ อะไร จะท�ำอะไรบ้าง ท�ำไมอยากมาเรียนที่นี่ ประมาณนี้ค่ะ พอสอบเข้ามาก็ได้เรียนปีสาม แต่ก็ ต้องไปเรียนบางวิชากับเด็กปีหนึ่ง และปีสองด้วยค่ะ เพื่อเป็นการเก็บหน่วยกิตให้ครบค่ะ อาจารย์ที่นี่ใจดีมาก ในช่วงแรกหนูเรียนวิชาวัฒนธรรมมนุษยชาติ คาบแรกเรียนไม่ค่อยเข้าใจ เพราะเรายังไม่มีหนังสือเรียน ฟังแล้วจดกันเองพอหมดคาบก็ไปคุยกับอาจารย์ อาจารย์ท่านก็ให้ หนังสือไปถ่ายส�ำเนา เราก็สามารถอ่านก่อนมาเรียนได้ ท�ำให้รู้เรื่องขึ้นค่ะ “มีช่วงที่เรียนเยอะแล้วรู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกันค่ะ ทั้งการบ้าน ทั้งรายงาน ทั้งวิชา สัมมนาซึ่งให้มาวิเคราะห์เรื่องต่างๆร่วมกับนักเรียนญี่ปุ่น อาจารย์เห็นเราเครียดก็ เรียกไปคุยเลยค่ะ และให้ก�ำลังใจเรา”
ตามิสา เจริญกิจ (หนึ่งนุช) ภาคเรียนเมษายน 2014
เรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจ�ำวันเช่น การจ่ายประกันหรือเวลามีใบอะไรส่งมาที่หอ ก็เอา ไปให้อาจารย์ที่ศูนย์นักศึกษาต่างชาติดูค่ะ อาจารย์ก็จะบอกว่าต้องท�ำอย่างไร เวลาป่วยครั้งแรก อาจารย์ก็พาไปหาหมอด้วยค่ะ หรือเวลาที่หนูต้องย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเมนท์อาจารย์ก็ช่วยเหลือ อย่างดีคะ่ ช่วยคุยกับนายหน้าให้ เรือ่ งประกันต่างๆด้วย เวลาสงสัยอะไรก็ถามอาจารย์ได้ทกุ อย่างค่ะ
มหาวิทยาลัย Kwassui ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเนินฮอลแลนด์อันโด่งดัง นักท่องเที่ยวต่างชาติมา เที่ยวกันอย่างมากมาย แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็มาถ่ายรูป และชมเนินนี้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็น สถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ หอพักของมหาวิทยาลัยนั้นอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร สามารถไปได้โดยรถบัสโรงเรียน ซึ่งขึ้นฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากหอไปมหาวิทยาลัยนั้นใช้เวลาประมาณ 20 นาที สภาพแวดล้อมของทีน่ จี่ ะออกแนวบ้านนอกนิดหน่อย แต่กไ็ ม่ใช่ไม่มสี งิ่ อ�ำนวยความสะดวกเลยซะทีเดียว บรรยากาศดีมากเลยค่ะ เพราะมีต้นไม้ ล�ำธาร อากาศที่นี่ถือว่าดีมากๆ “อาจารย์ที่นี่ดูแลเด็กต่างชาติดีมากๆ ถ้าใครมีปัญหาอะไรก็สามารถไปขอค�ำปรึกษา ได้ทุกเมื่อ อาจารย์จะเป็นห่วง คอยดูแลเราทุกเรื่อง สบายใจได้เลยว่าจะไม่มีปัญหา เวลาที่ไม่เข้าใจแล้วไม่มีใครให้ค�ำปรึกษาแน่นอนค่ะ” จุดเด่นของที่นี่คือ โครงสร้างตึกของมหาวิทยาลัยจะเป็นทรงยุโรปทั้งหมด สวยงามมากค่ะ สิง่ ทีป่ ระทับใจทีไ่ ด้มาเรียนทีน่ คี่ อื เด็กนักเรียนทีน่ เี่ ป็นกันเองและเป็นมิตรมาก อาจารย์ญปี่ นุ่ ก็เข้าใจ เด็กต่างชาติอย่างเราซึ่งไม่ท�ำให้กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว
รุ้งแพรว เปี่ยมมุกดาเลิศ (แพรว) ภาคเรียนเมษายน 2014
134
LIFE & EXPENSE IN JAPAN ชีวิตนักเรียนและค่าใช้จ่ายในญี่ปุ่น
LIFE IN JAPAN
Welcome to Japan
ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่นนะคะส�ำหรับนักเรียน ระยะยาว (วีซ่านักเรียน) เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้วจะต้องท�ำอะไรบ้าง และค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นอย่างไรไปดูกันค่ะ
คิดเป็นเงินไทยเท่าไหร่?
มารูจ้ กั วิธกี ารค�ำนวณเงินให้เป็นเงินบาทกันก่อน คือ เอาเงินเยนตัง้ แล้วคูณด้วย 0.32 จะได้เป็นเงินบาท เช่น 20,000 เยน X 0.32 จะได้เท่ากับ 6,400 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน ประมาณ 32 บาท ณ เดือนสิงหาคม 2557)
RESIDENCE CARD
在留カード
เมื่อเดินทางเข้ามาถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น นักเรียนจะได้รับบัตร “ไซริวการ์ด” ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ สนามบิน (เฉพาะที่นาริตะ ฮาเนดะ คันไซ และชูบุเท่านั้น ส�ำหรับสนามบินอื่นจะได้รับบัตรทาง ไปรษณีย์ภายหลังจากที่แจ้งข้อมูลที่อยู่กับส�ำนักงานเขตแล้ว) ไซริวการ์ดเป็นบัตรประจ�ำตัวของคน ต่างชาติในญี่ปุ่น ซึ่งจะบันทึกข้อมูลวีซ่า การเข้าออกประเทศญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลส่วนตัว ซึ่งจะต้อง พกบัตรนี้เหมือนพกบัตรประจ�ำตัวประชาชน ซึ่งต�ำรวจอาจมีการสุ่มตรวจ และถ้าหากพบว่าไม่พก ติดตัว ถือว่ามีความผิดและจะถูกปรับไม่เกิน 200,000 เยน เมื่อได้รับบัตรมาแล้ว จะต้องน�ำบัตรไปติดต่อส�ำนักงานเขตที่พักอยู่ ภายใน 14 วัน หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกปรับไม่เกิน 200,000 เยน ถ้าไม่แจ้งข้อมูลที่อยู่ภายใน 90 วัน อาจจะถูกยกเลิกสถานะการพ�ำนักในญี่ปุ่นได้ ในกรณีที่มี การเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ เช่น เปลี่ยนแปลงที่อยู่ จะต้องน�ำบัตรไปแจ้งเปลี่ยนข้อมูลที่ส�ำนักงานเขตด้วยเช่นกัน บัตรไซริวการ์ดจะมีอายุเท่ากับ วีซา่ ทีไ่ ด้รบั ในกรณีทตี่ อ่ อายุวซี า่ ก็ตอ้ งต่ออายุบตั รด้วย และในกรณีทจี่ ะเดินทางออกนอกประเทศญีป่ นุ่ ชัว่ คราว เช่นกลับประเทศไทยช่วงปิดเทอม จะต้องแสดงบัตรนี้ที่ด่านตม.ขาออก พร้อมกับกาเครื่องหมายในช่อง Departure with special re-entry permission เพื่อขออนุญาตออกนอกญี่ปุ่น ชั่วคราว และจะต้องกลับเข้าญี่ปุ่นใหม่ภายในระยะเวลาที่ยังมีวีซ่าอยู่
ประกันสุขภาพแห่งชาติ
国民健康保険
ที่ญี่ปุ่นมีระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นระบบที่รัฐบาลจะช่วยช�ำระค่ารักษาพยาบาล 70% นักเรียนจะช�ำระเพียง 30% เท่านัน้ บัตรประกันสุขภาพท�ำได้ทสี่ ำ� นักงานเขต ฉะนัน้ เมือ่ น�ำบัตรไซริวการ์ด ไปแจ้งที่อยู่เรียบร้อยแล้ว ก็น�ำบัตรไซริวการ์ดไปแจ้งท�ำประกันที่แผนกประกันสุขภาพแห่งชาติในวัน เดียวกันได้เลย เวลาไปพบแพทย์ทคี่ ลินคิ หรือโรงพยาบาลจะต้องพกบัตรประกันสุขภาพไปด้วยทุกครัง้ และหากมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ก็ต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่นี้ เพื่อท�ำบัตรใหม่ในเขตที่อยู่ใหม่ด้วย
ค่าประกันสุขภาพ
จะแตกต่างกันไปตามเขตที่พักอาศัย ส�ำหรับนักเรียน ที่ ไ ม่ มี ร ายได้ จ ากการท� ำ งานพิ เ ศษ สามารถกรอก เอกสารเพื่อชี้แจงว่าไม่มีรายได้ ซึ่งจะท�ำให้เบี้ยประกัน ถูกลง โดยจะเสียค่าประกันประมาณ 1,200 - 2,000 เยนต่อเดือน และการจ่ายค่าประกันสามารถจ่ายได้ ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
135
การเปิดบัญชีนอกจากเพือ่ การฝากถอนเงินแล้ว ยังจ�ำเป็นต่อการซือ้ โทรศัพท์ มือถืออีกด้วย สามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่ไปรษณีย์ หรือธนาคาร พร้อมท�ำบัตร ATM เพือ่ เบิกเงินสดได้เช่นกัน การเปิดบัญชีกบั ไปรษณีย์ ท�ำได้งา่ ยกว่าบัญชีธนาคาร แต่จะมีเงือ่ นไขจ�ำกัดปลีกย่อย เช่น เปิดบัญชี 6 เดือนแรก จะยังไม่สามารถใช้ บริการโอนเงินทาง ATM ได้ และ ไม่สามารถโอนเงินจากต่างประเทศ เข้าบัญชีไปรษณีย์ได้ในขณะที่บัญชี ธนาคารจะสามารถท�ำได้ทุกบริการ ก า ร เ ป ิ ด บั ญ ชี จ ะ ต ้ อ ง ใ ช ้ บั ต ร ไซริวการ์ด บัตรนักเรียน และตรา ประทับ (แล้วแต่ธนาคาร)
วิธีที่สะดวกที่สุดคือใช้เงินจากบัญชีธนาคารไทย โดยการกดเงินสดจาก บัตร ATM ของไทยที่มีเครื่องหมาย VISA PLUS หรือ CIRRUS ซึ่ง สามารถกดเงินได้ที่ตู้ ATM ของไปรษณีย์หรือ 7Eleven Bank เงินใน บัญชีธนาคารทีไ่ ทยก็จะถูกถอนออกมาเป็นเงินเยน โดยคิดอัตราแลกเปลีย่ น ตามวันที่กดเงิน จะมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 100 บาท แนะน�ำให้เบิก เงินออกมาจ�ำนวนหนึ่งแล้วน�ำไปฝากไว้ในบัญชีธนาคารหรือไปรษณีย์ ญี่ปุ่นจะท�ำให้ประหยัดค่าธรรมเนียมลงได้ และต้องระวังด้วยว่าในการ ต่ออายุวีซ่าจ�ำเป็นต้องมีหลักฐานแสดงการได้รับเงินค่าใช้จ่ายจากไทย ด้วย ฉะนั้น การเบิกเงินจาก ATM ของไทยจะต้องเก็บหลักฐานสลิปใบ ถอนเงินไว้ด้วยส่วนหนึ่ง นอกจากนี้เวลาถอนเงินจากตู้ ATM จะไม่ แสดงจ�ำนวนเงินคงเหลือ ดังนั้นจึงขอแนะน�ำให้สมัครบริการ Internet Banking ไว้เพื่อเช็คยอดเงินคงเหลือในบัญชี
ค่าธรรมเนียมการถอนเงินสดจาก ATM
เรื่องที่ควรระวังเกี่ยวกับการถอนเงินจากเครื่อง ATM ในญี่ปุ่นคือค่าธรรมเนียม ธนาคารส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียมการถอนใน เวลากลางคืน วันหยุดธนาคารแม้เป็นบัญชีเดียวกับธนาคารที่เราเปิด โดยส่วนมากจะมีค่าธรรมเนียม 108 เยนหรือ 216 เยนต่อ ครั้ง เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบให้ดีก่อนตอนเปิดบัญชีและตอนถอนเงิน
โทรศัพท์มือถือ
携帯電話
เนื่องจากผู้ให้บริการแต่ละบริษัทในญี่ปุ่นจะ มี ก ารจ� ำ กั ด การใช้ โ ทรศั พ ท์ มื อ ถื อ เฉพาะ บริษัทตัวเอง ท�ำให้ไม่สามารถน�ำเครือ่ งจาก ไทยไปใช้ทญ ี่ ปี่ นุ่ ได้ จึงจ�ำเป็นที่จะซื้อโทรศัทพ์ มือถือใหม่ที่ญี่ปุ่น เครือข่ายที่ให้บริการหลัก คือ NTT Docomo , au KDDI และ Softban ส่วนใหญ่จะท�ำสัญญา 2 ปี เมื่อครบ 2 ปีจะ ท�ำการต่อสัญญาโดยอัตโนมัติหากยกเลิกสัญญาในช่วงเวลาทีก่ ำ� หนดจะ ต้องเสียค่ายกเลิกประมาณ หนึง่ หมืน่ เยน ตัวเครือ่ งมีให้เลือกมากมายทัง้ แบบมือถือธรรมดาราคา 0 เยน ไปจนถึง smart phone เมื่อท�ำสัญญาแล้ว ก็รับเครื่องมาใช้งานได้ทันที เอกสารที่จ�ำเป็นในการซื้อมือถือมีดังนี้ 1. บัตรไซริวการ์ด 2. สมุดบัญชีธนาคาร (อาจมีการขอตราประทับ ขึ้นอยู่กับสาขา) หรือ เครดิตการ์ด ส�ำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เปิดบัญชีธนาคารในช่วงแรก ค่าโทรศัพท์
ค่าบริการมีหลายแพคเกจให้เลือกตามวิถีการใช้งานของแต่ละคน โดยส่วนใหญ่แล้ว เดือนละประมาณ 2,000 กว่าเยนขึ้นไปจนถึงเดือนละประมาณ 6,000 กว่าเยน ซึ่ง จะสามารถใช้อินเตอร์เน็ตแบบไม่จ�ำกัด โดยใช้ในความเร็วสูงสุดในปริมาณจ�ำกัด เหมือนเมืองไทย
ค่าพาหนะ
ค่าจักรยาน คันละประมาณ 10000 เยนขึ้นไป และต้องจดทะเบียนจักรยานโดยมี ค่าจดทะเบียนจักรยาน 500 เยน ค่ารถไฟหรือรถประจ�ำทางในญี่ปุ่น แม้จะท�ำตั๋วเดือนจากบ้านไปโรงเรียน แต่ก็ต้อง มีการไปไหนมาไหนออกนอกเส้นทาง ค่ารถขั้นต�่ำประมาณ 150–200 เยนต่อเที่ยว ฉะนัน้ จะเป็นค่าใช้จา่ ยทีค่ อ่ นข้างสูงแบบทีไ่ ม่รตู้ วั ประมาณ 3,000-6,000 เยน/เดือน ฉะนั้นควรวางแผนการเดินทาง อาจดูจากเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น อย่าง Google Map Hyperdia หรือ Navitime(ภาษาญี่ปุ่น) ได้
การเดินทาง 交通手段
จักรยาน จั ก รยานเป็ น ยานพาหนะที่ ใ ช้ กั น อย่ า งแพร่ ห ลาย เพราะสะดวก ประหยัดค่าพาหนะ ได้ออกก�ำลังกาย แถมได้พบเจออะไรใหม่ๆ ระหว่าง เส้นทาง แต่ต้องระวังเรื่องการจอดจักรยานในที่ห้ามจอดด้วย ไม่อย่าง นั้นอาจจะโดนเทศกิจยกไปและต้องไปเสียค่าปรับเพื่อเอาจักรยานคืน เมื่อซื้อจักรยานจะต้องจดทะเบียนเหมือนรถยนต์ มีกฎว่าห้ามซ้อน ท้าย ต้องเปิดไฟในเวลากลางคืน ห้ามคุยมือถือระหว่างที่ขี่จักรยาน ห้ามกางร่ม ห้ามใส่หูฟังขณะขี่ และห้ามขี่สวนทางรถยนต์ รถไฟและรถประจ�ำทาง การเดินทางไปเรียนโดยรถไฟหรือรถประจ�ำทางเป็นวิถีชีวิตปรกติใน ญี่ปุ่น จากบ้านไปโรงเรียนจะใช้เส้นทางเดิมเป็นประจ�ำทุกวันอยู่แล้ว ฉะนั้ น สามารถซื้ อ ตั๋ ว เดื อ นได้ ทั้ ง รถไฟและรถประจ� ำ ทาง โดยน� ำ เอกสารรับรองทีอ่ อกโดยสถาบันทีศ่ กึ ษาอยูไ่ ปใช้เป็นหลักฐาน มีให้เลือก แบบราย 1, 3, 6 เดือน ทีต่ วั๋ จะระบุสถานีตน้ ทางและปลายทางไว้ สามารถ ขึ้นลงได้ทุกสถานีในเส้นทางที่ก�ำหนด กี่ครั้งก็ได้ไม่จ�ำกัด
LIFE IN JAPAN
บัญชีธนาคาร 銀行口座
136
ที่พักอาศัย 宿舎
LIFE IN JAPAN
เมื่อคิดจะมาใช้ชีวิตในญี่ปุ่น สิ่งแรกที่ขอให้ท�ำใจไว้ก่อนเลยคือเรื่องของ ที่พักอาศัย โดยเฉพาะในโตเกียวและเมืองใหญ่ เป็นเรื่องปรกติที่จะ ต้องจ่ายเงินค่าเช่าในราคาที่เรารู้สึกว่าแพงมากเมื่อคิดเป็นเงินไทย แต่ได้อยู่ในห้องที่เล็กกระจิ๋วหลิว ที่พักของโรงเรียน สถาบันส่วนใหญ่จะจัดเตรียมที่พักไว้ให้นักเรียน อาจจะเป็นหอของทาง โรงเรียนโดยตรง หรือทีพ่ กั เอกชนทีท่ ำ� สัญญาไว้ ถ้ามาอยูญ ่ ปี่ นุ่ ครัง้ แรก แนะน�ำอยู่หอพักของโรงเรียนจะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่จะมีเฟอร์นิเจอร์ ที่จ�ำเป็นจัดเตรียมไว้แล้ว และเมื่อมาถึงญี่ปุ่นใหม่ๆ มีขั้นตอนต่างๆ ที่ ต้องท�ำด้วยตัวเอง การอยู่หอพักของโรงเรียนจะมีรุ่นพี่ (อาจจะเป็นคน ต่างชาติ) ที่อยู่มาก่อนแล้วช่วยแนะน�ำได้ หรือหากมีปัญหาอะไรทาง โรงเรียนสามารถให้ค�ำแนะน�ำได้ง่ายกว่า เมื่อคุ้นเคยกับที่ทางต่างๆแล้ว จะหาที่พักเองก็สามารถท�ำได้ ซึ่งเราก็จะพอรู้แล้วว่าพักอยู่ย่านไหนน่า จะสะดวกส�ำหรับตัวเอง
อพาร์ทเมนท์ ส�ำหรับคนที่จะเรียนต่อระยะยาว 2 ปีขึ้นไป การหาห้องเช่าเป็นเรื่อง ที่จ�ำเป็น โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าเรียนต่อในวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย ซึ่งบางแห่งไม่มีหอพักหรือให้พักได้เพียงปีแรก โดยติดต่อผ่านนาย หน้าจัดหาที่พักหรือ Fudosan ซึ่งจะมีอยู่มากมายหลายบริษัท โดย แจ้งเงื่อนไขหรือลักษณะห้องพักที่ต้องการ และให้นายหน้าพาไปดูห้อง พักทีส่ นใจได้ แต่ตอ้ งท�ำใจด้วยว่า ต้องใช้เวลาในการหาห้องพักพอสมควร ส�ำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่นแม้จะมีเงินก็ใช่ว่าจะได้ห้องพักที่หมายตา เพราะมีอพาร์ทเมนท์จ�ำนวนมากที่ไม่รับคนต่างชาติเข้าพัก การติดต่อ นายหน้าและการท�ำสัญญาต่างๆ จะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด อีกทั้ง ต้องเตรียมเงินค่ามัดจ�ำ ค่านายหน้า เงินกินเปล่าอีกก้อนโต รวมแล้ว เป็นเงินประมาณ 4-6 เดือนของค่าเช่า ในการท�ำสัญญา หลายๆ แห่ง ต้องมีผู้ค�้ำประกันเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งมีระบบที่บริษัทนายหน้าจะเป็นผู้ค�้ำ ประกันให้โดยเสียเงินค่าบริการเพิ่ม อพาร์ทเมนท์ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง โล่งๆ ไม่มเี ฟอร์นเิ จอร์ จึงต้องเตรียมเงินส�ำหรับการใช้จา่ ยในส่วนนีด้ ว้ ย Service Apartment - Shared House ปั จ จุ บั น ในโตเกี ย วและเมื อ งใหญ่ จะมี ที่ พั ก ประเภทนี้ เ พิ่ ม มากขึ้ น ส�ำหรับชาวต่างชาติข้อดีคือไม่จ�ำเป็นต้องมีผู้ค�้ำประกัน ไม่ต้องท�ำ สัญญานานเป็นปี หลายแห่งมีคนญีป่ นุ่ พักอาศัยอยูด่ ว้ ย อีกทัง้ มีเว็บไซต์ และเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ อย่างไรก็ตาม ควรจะไปดูสถาน ที่พักจริงก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะสภาพที่พักจริงอาจไม่ตรงกับภาพที่ คิดไว้ตามที่ได้เห็นทางอินเตอร์เน็ต
ค่าที่พัก
ค่าสาธารณูปโภค
อยู่ญี่ปุ่นแบบประหยัดสามารถท�ำได้ โดยเฉลีย่ แล้ว การใช้ชวี ติ ทีญ ่ ปี่ นุ่ จะใช้เงินประมาณ 80,000 – 150,000 เยนต่อเดือน (ไม่รวมค่าเล่าเรียน) ขึ้นอยู่กับเมืองที่พักอาศัย หากจะควบคุมให้ใช้จ่ายให้น้อยลง สามารถท�ำได้ด้วยการท�ำอาหารทานเองเป็นส่วนใหญ่ ไปซื้อของในวันที่มีการลดราคา ประจ�ำสัปดาห์ ใช้จักรยานเป็นพาหนะไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ซื้อของที่ไม่ จ�ำเป็นต่อชีวติ ประจ�ำวัน เป็นต้น ทัง้ นีข้ นึ้ อยูก่ บั นักเรียนว่าจะควบคุมการใช้เงินของตัวเอง อย่างไร
ค่าอาหาร
ค่าเช่าจะแตกต่างกันไปแล้วแต่เมืองทีอ่ ยู่ ห้องเดีย่ ว หรือห้องคู่ มีหอ้ งน�ำ้ ในห้องหรือใช้สว่ นรวม ค่าหอพักเป็นค่าใช้จา่ ยคงทีข่ องทุกเดือน ห้องเดี่ยว ประมาณ 60,000 – 100,000 เยนต่อเดือน ห้องคู่ ประมาณ 30,000-70,000 เยนต่อเดือน
การหาข้อมูลศึกษาต่อ 進学情報
ได้แก่ ค่าน�้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส หอพักบางแห่งรวมค่า สาธารณูปโภคแล้ว แต่บางแห่งจะคิดตามอัตราการใช้มากน้อย ค่าไฟฟ้าจะค่อนข้างสูงในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว เนื่องจากจะ เปิดเครือ่ งปรับอากาศมากกว่าปรกติ (เครือ่ งปรับอากาศเป็นทัง้ แอร์ ทีใ่ ห้ความเย็นและฮีตเตอร์ทใี่ ห้ความอบอุน่ ในเครือ่ งเดียวกัน) โดยเฉลี่ยแล้วค่าสาธารณูปโภคจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-10,000 เยน/เดือน เป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถควบคุมได้มากที่สุด เพราะสามารถเลือก ที่จะท�ำอาหารทานเองให้มากขึ้น แทนที่จะออกไปทานนอกบ้าน โดยเฉลี่ยประมาณ 20,000 – 40,000 เยนต่อเดือน
ส�ำหรับคนที่มาเรีย นภาษาที่ ญี่ ปุ ่ น โดยมี เป้ า หมายที่ จ ะศึก ษาต่ อใน ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา (Senmon Gakkou) จะมีโอกาสมากมายทีท่ ำ� ให้เราได้ขอ้ มูลเกีย่ วกับสถาบันการศึกษา ต่างๆ รวมไปถึงเนือ้ หาของหลักสูตรนัน้ ๆ เช่น งานแนะแนวศึกษาต่อตาม สถานทีต่ า่ ง ๆ การมาให้ขอ้ มูลทีโ่ รงเรียนสอนภาษาทีเ่ รียนอยู่ งาน Open Campus และการให้ทดลองเข้าเรียนจริง ฯลฯ งานต่างๆ เหล่านีจ้ ะจัด ตัง้ แต่เดือนกรกฎาคม–ธันวาคม หรือ มกราคม การไปงาน Open Campus หรือเข้าไปทดลองเรียนที่สถาบันนั้นๆ จะท�ำให้เรามีความชัดเจนและ สามารถตัดสินใจเลือกสถาบันได้ตรงกับเป้าหมายของตัวเองมากขึ้น ค่าเล่าเรียน (ต่อปี) โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น ประมาณ วิทยาลัยวิชาชีพ ประมาณ มหาวิทยาลัยรัฐบาล,ท้องถิ่น ประมาณ มหาวิทยาลัยเอกชน ประมาณ
700,000 – 800,000 เยน 1,000,000 เยนขึ้นไป แล้วแต่สาขาวิชา 800,000 เยน 1,000,000 เยนขึ้นไป แล้วแต่สาขาวิชา
ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่น ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย สามารถอ่านได้เพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ www.jeducation.com นะคะ
LIFE IN JAPAN
137
138
SENIOR TALK
ตัวอย่างความมุ่งมั่น... สู่ความส�ำเร็จในการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น
หลายคนที่มีความคิดอยากจะไปศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น อาจจะเคยกังวลว่า เราจะตัดสินใจถูกหรือไม่ที่เลือกประเทศญี่ปุ่น อนาคตหลังจากเรียนจบแล้วจะไปทางใด โอกาสในการท�ำงาน จะมีมากน้อยแค่ไหน ฯลฯ คอลัมน์นี้จึงชวนรุ่นพี่ที่ส�ำเร็จการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นและประสบความส�ำเร็จในหน้าที่การงาน มาบอกเล่าประสบการณ์และสิ่งที่ได้รับจากการไปเรียนที่ ประเทศญี่ปุ่น ให้อ่านกัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและมั่นใจในเส้นทางที่ก�ำลังจะเลือกเดินค่ะ
SENIOR TALK ธนัช เต็งอ�ำนวย (แบ้ง)
ศิษย์เก่าสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น The Naganuma School (ภาคเรียนเมษายน 2012) Master of Business Administration (MBA) International University of Japan (IUJ) งานปัจจุบัน ผู้จัดการแผนกการตลาด / บ.อุยเฮงเฮลท์คอนซูมเมอร์ จ�ำกัด ผลิตภัณฑ์ ยาสีฟนั แก้เสียวฟัน Emoform / ยาสีฟนั Oralmed, Oralmed Kid ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในแบรนด์ Naturbiotic
ณัฐพงษ์ บุญพร(นัท) ศิษย์เก่าสถาบันสอนภาษาญีป่ นุ่ College of Business and Communication (ภาคเรียนเมษายน 2005) ผู้ก่อตั้งเว็บ j-doramanga.com และ j-doradic.com แอดมินเพจ j-doramanga & j-doradic แอดมิน Twitter @j_doramanga ก�ำลังพัฒนา Application ดิกไทย-ญีป่ นุ่ ทีร่ วบศัพท์ไว้เยอะทีส่ ดุ ในประเทศไทย งานปัจจุบัน ท�ำงานที่บริษัทอินสไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ในต�ำแหน่ง Senior japanese coordinator& Business development officer
‣‣ ท�ำไมถึงตัดสินใจไปเรียนที่ญี่ปุ่น แล้วท�ำไมถึงเลือกเรียนด้านนี้ที่ญี่ปุ่น
‣‣ ท�ำไมถึงตัดสินใจไปเรียนที่ญี่ปุ่น
จริงๆแล้วตนเองจบด้าน Industrial Design มาแล้วจับพลัดจับผลูต้องมาช่วยธุรกิจทาง บ้าน จึงท�ำให้ต้องไปศึกษาด้านบริหารธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งทางบ้านได้ให้อิสระตนในการ เลือกสถานที่จะไปศึกษาต่อได้ตามความเหมาะสม ประกอบกับความหลงใหลในงาน ออกแบบของญี่ปุ่น และความชอบในศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ จึงท�ำให้ตัดสินใจไปเรียน ที่ประเทศญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น คือ ประเทศผู้น�ำในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ คุณภาพชีวิต ใน ฐานะประเทศผู้แพ้สงคราม และถูกควบคุมโดยนานาชาติ ท�ำให้ชาวญี่ปุ่นนั้นต้องร่วม แรงร่วมใจในการสร้างประเทศขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นได้รับการปลูกฝังทั้งระเบียบ วินัย และความสามัคคีขึ้นจนสิ่งเหล่านั้นถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามของชนชาติ การไปศึกษาในประเทศที่ผ่านความเจ็บช�้ำจากการสูญเสียอย่างหนักตลอดจนถึงประสบ ความส�ำเร็จอย่างมากแทบทุกด้านในระดับโลก อย่างประเทศญี่ปุ่น เปรียบก็เหมือนเรา ได้เรียนรู้ถึงชีวิตของนักธุรกิจชื่อดังที่ผ่านชะตาชีวิตล้มลุกคลุกคลานจนวันหนึ่งเค้า สามารถประสบความส�ำเร็จได้ในระดับโลก มันช่างน่าค้นหาเสียจริงครับ
‣‣ สิ่งที่ได้รับจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น รวมถึงประโยชน์ในการน�ำมาใช้กับการท�ำงาน กับธุรกิจของครอบครัว สิ่งที่ได้จากการเรียน MBA ที่ญี่ปุ่นที่แตกต่างจากการเรียน MBA ที่อื่นคือ หลักการ บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เพราะบริษัทญี่ปุ่นมีระบบ HR ที่เป็นเอกลักษณ์และ แตกต่างจากบริษัททางตะวันตกมาก อาทิเช่น ระบบ Life Time Employment, Seniority System และ Consensus Decision Making ระบบเหล่านี้ท�ำให้บริษัทญี่ปุ่นท�ำงาน ได้อย่างมีเสถียรภาพ และพนักงานทุกคนมีความรักและผูกพันต่อตัวองค์กร ตนเองมี ความตั้งใจที่จะน�ำข้อดีของระบบ HR ของญี่ปุ่นบางส่วนมาปรับใช้ในองค์กรของตนเอง เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและเหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กรของไทย นอกจากนี้ผมยังได้ เพื่อนดีๆทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอื่นๆอีกมากมาย นอกจากจะได้มิตรภาพแล้ว เพื่อน MBA ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ท�ำงานมาแล้วหลายปี จึงท�ำให้มี โอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ในการบริหารงาน การแก้ปัญหา และประสบการณ์การท�ำงาน ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเปิดโอกาสทางธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย ‣‣ ฝากถึงน้องๆที่คิดจะไปเรียน อันดับแรกขอให้น้องทุกคนค้นหาเป้าหมายของตนเองให้เจอ ว่าตัวเองต้องการได้อะไร จากการไปเรียนทีญ ่ ปี่ นุ่ เพราะการมีเป้าหมายทีช่ ดั เจนจะท�ำให้นอ้ งเดินต่อไปได้อย่างแน่ว แน่มนั่ คง อันดับต่อมาทีอ่ าจจะส�ำคัญกว่าอันดับแรกด้วยซ�้ำ นั่นก็คือความกล้า หลายคน อาจจะมีความลังเล หรือตัดสินใจไม่ถูกว่าจะท�ำอะไรต่อไปในชีวิต ขอให้น้องกล้าตัดสิน ใจ ลองผิดลองถูก เพราะไม่วา่ อย่างไรทุกสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ จะกลายเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สอน อะไรเราได้ทั้งสิ้น ชีวิตเราจะไม่มีวันประสบความส�ำเร็จได้หากเราไม่เริ่มเดินตั้งแต่วันนี้ ดังนั้นขอให้น้องๆทุกคนโชคดีครับ
‣‣ สิ่งที่ได้รับจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น รวมถึงประโยชน์ในการน�ำมาใช้กับการท�ำงาน ปัจจุบัน ส�ำหรับผมแล้วประสบการณ์ 1 ปีในประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ และยากที่จะลืมได้มากที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่ง ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มี 4 ฤดูกาล ท�ำให้ ผู้คนที่อยู่อาศัยต้องปรับการใช้ชีวิต และเรียนรู้ที่จะอยู่อาศัยโดยสร้างความแตกต่างขึ้น ทั้งธรรมชาติ อาหารการกิน และ แฟชั่น หลักคิดก็ดี หลักการท�ำธุรกิจก็ดี ที่จะต้อง ปรับให้เข้ากับฤดูกาลที่เปลี่ยนไปส่งผลให้คนในชาติมีภูมิต้านทานที่จะรับมือกับความ เปลี่ยนแปลงได้ดีจนน�ำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆอยู่เสมอ ส�ำหรับคนที่เกิดและเติบโตจากเมือง ร้อนอย่างผมแล้วการได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนอีกชาติท�ำให้เราเติบแกร่งทั้งร่างกาย ทั้งความคิด และจิตใจ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ท�ำให้ก้าวขึ้นมาท�ำงานในระดับ แถวหน้าของสายวิชาชีพได้อย่างภาคภูมิ หลังจากกลับจากญี่ปุ่น จวบจนถึงทุกวันนี้ ผ่านมาแล้วมากกว่า 7 ปี ผมเสียใจเพียงแค่ เรื่องเดียว คือ ผมอยู่ญี่ปุ่นน้อยไปนิด (อยู่ญี่ปุ่น 1 ปี) ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะบอกกับ ตัวเองให้อยู่เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ ‣‣ ฝากถึงน้องๆที่คิดจะไปเรียน จะเป็นญาติตัวเอง คนรู้จัก หรือ ไม่ใช่คนเลือดเนื้อเชื้อไข ไม่รู้จักกันก็ตามที ถ้าคุณคน นั้นมีโอกาส ผมจะบอกเลยว่า “ญี่ปุ่น และ คนญี่ปุ่น คือสิ่งที่คุณต้องลองไปเห็นไป สัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้ง” หากคุณอยากประสบความส�ำเร็จในชีวิต ประสบการณ์ และแนวคิดอันล�้ำค่าจากชาวญี่ปุ่น คือสิ่งหนึ่งที่จะหล่อหลอมและสร้างคุณให้ก้าวขึ้นสู่ บันไดความส�ำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอน
นีรชา ชัยอารีย์กิจ (มาย)
ศิษย์เก่าสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น College of Business and Communication (ภาคเรียนเมษายน 2008) เข้าศึกษาต่อที่ Kokusai Junior College สาขา International Communication งานปัจจุบัน บริษัท คาลพิส จ�ำกัด สาขาส�ำนักงานใหญ่ โตเกียว แผนก International Beverage งานส่วนตัว เพจและคลิปสอนภาษา “I Love Japan” ‣‣ ท�ำไมถึงตัดสินใจมาเรียนที่ญี่ปุ่น ตอนแรกการมาเรียนที่ญี่ปุ่นไม่เคยอยู่ในหัวมายเลย คิดมาตลอดว่าถ้าเรียนจบจะไปต่อ โทที่อเมริกา จนกระทั่งก่อนจบปี3 มีงาน Job Fair ที่คณะ มีบริษัทใหญ่ๆมาออกบูธ มากมาย ส่วนใหญ่จะระบุว่าถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นได้จะพิจารณาเป็นพิเศษ เลยเริ่มสนใจขึ้น มาเพราะ เราเรียนอินเตอร์มาภาษาอังกฤษเราก็ได้ระดับนึงแล้ว สมัยนี้คนได้ภาษา อังกฤษก็เยอะ และคนที่พูดญี่ปุ่นเก่งๆได้จริงๆก็ยังมีไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับภาษาอื่นๆ เลยตัดสินใจโค้งสุดท้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นค่ะ พอมาแล้ว รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆ ‣‣ สิ่งที่ได้รับจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น รวมถึงประโยชน์ในการน�ำมาใช้กับการท�ำงาน ในปัจจุบัน เยอะมาก แน่นอนนอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้รู้จักเพื่อนหลากหลายเชือ้ ชาติมากมาย ทัง้ ยังได้ประสบการณ์ดๆี ทีห่ าไม่ได้หากไม่ได้มาญีป่ นุ่ เช่น กิจกรรมร่วมกับคนต่างชาติ งานถ่ายแบบ งานสอนภาษาไทย งานล่ามให้คนระดับใหญ่ๆ จัดรายการสอนภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ หลังจากเรียนจบก็คิดว่าไหนๆก็อุตส่าห์มาเรียนที่ญี่ปุ่นมาแล้ว อยากใช้ความรู้ที่ เรียนมา เลยตัดสินใจหางานที่ญี่ปุ่น สุดท้ายมายก็ได้งานที่บริษัทผลิตเครื่องผลิตแผง พลังงานแสงอาทิตย์แห่งหนึ่ง อยู่ฝ่ายขายระหว่างประเทศ แต่ด้วยเนื้องานที่หนักและ พักผ่อนไม่เพียงพอ เลยตัดสินใจลาออกมาเข้าบริษัทคาลพิส ซึ่งเป็นงานที่สามารถ จัดสรรเวลาของตัวเองได้ และตรงกับสายที่เรียนมามากกว่าคือด้านการตลาด จากการที่มายได้ท�ำงานที่ญี่ปุ่นท�ำให้มายได้เรียนรู้การท�ำงาน การท�ำธุรกิจกับคนญี่ปุ่น รวมถึงมารยาทและภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ จึงท�ำให้เราเป็นที่ไว้วางใจของคนญี่ปุ่น 7 ปีที่ อยู่ญี่ปุ่น มายได้เรียนรู้และเผชิญอะไรมากมาย อย่างไรก็ตาม พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่แล้ว ปลายปีที่ผ่านมา มายเริ่มท�ำเพจภาษาญี่ปุ่นขึ้น โดยเพจจะเน้นสอนภาษาญี่ปุ่นที่ โรงเรียนมักไม่สอน หรือค�ำศัพท์ชิคๆที่คนญี่ปุ่นใช้กัน เพราะตอนมายมาญี่ปุ่นแรกๆมี ศัพท์หลายค�ำทีไ่ ม่มใี นดิก เลยคิดว่าหากท�ำเพจนีข้ น้ึ มาคงจะเป็นประโยชน์กบั หลายๆคน ยิ่งไปกว่านั้น มายท�ำคลิปสอนภาษาเพิ่มขึ้นมาด้วย เพื่อน้องๆจะได้รู้จักคนญี่ปุ่นในอีกแง่ มุมนึง และท�ำให้น้องๆมั่นใจยิ่งขึ้นว่าภาษาที่เราสอนนั้นใช้ได้จริง ส�ำเนียงเป๊ะ ตอนนี้ ออกคลิปมาได้เกือบ100ตอนแล้ว ใครสนใจอย่าลืมติดตามคลิปได้ที่ www.youtube.com/ilovejapanth นะคะ หรือ เพจ www.facebook.com/ilovejapan.th ได้นะคะ ‣‣ ฝากถึงน้องๆที่คิดจะไปเรียน ไม่มีค�ำว่า ”สายเกินไป” ส�ำหรับการเรียนภาษา มายเองก็เพิ่งมาเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น ตอนโตแล้ว มีแฟนเพจหลายคนถามว่าเรียนภาษาญี่ปุ่นยังไงถึงเก่ง มีเคล็ดลับอะไร มายขอตอบเลยว่าแต่ละคนมีวิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเองแตกต่างกัน สิ่งที่คัญที่สุดในการ เรียนภาษาคือหาแรงบันดาลใจและเหตุผลที่เราอยากเรียนภาษานั้นๆ เช่น อาจเรียน เพราะอยากมีแฟนคนญี่ปุ่น อยากท�ำงานที่ญี่ปุ่น หรือเพราะอยากอ่านภาษาญี่ปุ่นใน เกมส์ออก ฯลฯ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันจะท�ำให้เรารู้สึกสนุกที่จะเรียน ถ้าเรามีใจ จะเรียน เรื่องอื่นๆมันก็ตามมาเอง หลังจากนั้นเราก็จะเริ่มจับจุดได้เองว่าวิธีไหนเหมาะ กับเรา ไม่ว่าเรียนภาษาอะไรมันจะมีจุดยาก พอผ่านจุดนั้นไปได้ต่อไปมันก็จะไม่ยาก เท่าไหร่แล้ว เพราะฉะนั้น อย่ายอมแพ้กันนะคะ เป็นก�ำลังใจให้น้องๆทุกคนค่ะ
ปริญญ์ สุขสมิทธิ์ (เผิง)
ศิษย์เก่าสภาบันสอนภาษาญี่ปุ่น Kyoto Institute of Culture and Language (ภาคเรียนเมษายน 2013) งานปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจลาวาบัน Phoenix Lava ‣‣ ท�ำไมถึงตัดสินใจไปเรียนทีญ ่ ปี่ นุ่ แล้วท�ำไมถึงเลือกเรียนด้านนีท้ ญ ี่ ปี่ นุ่ หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย ผมเองก็เป็นเหมือนกับคนอื่นๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากท�ำ อะไร ชอบอะไร หรืออยากจะเป็นอะไรในอนาคต ผมจึงเริ่มพยายามค้นหาตัวเองอย่าง จริงจัง การท�ำงาน 1 ปีท�ำให้ผมเริ่มตั้งข้อสงสัยกับตัวเองมากขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้ ตัดสินใจไปลองใช้ชวี ติ เพือ่ ลองอยูก่ บั ตัวเอง จึงท�ำให้ผมไปเรียนภาษาญีป่ นุ่ ทีจ่ งั หวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่นครับ ‣‣ สิ่งที่ได้รับจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น รวมถึงประโยชน์ในการน�ำมาใช้กับการท�ำงาน ปัจจุบัน ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงผมไปทุกๆอย่าง การพบเจอคนญี่ปุ่น สังเกตวิธีคิด การใช้ชีวิต ฝึกให้ เราซึมซับวินัยแบบคนญี่ปุ่นไปอย่างไม่รู้ตัว การท�ำงานพิเศษเปลี่ยนให้ผมอดทนขึ้น รับ ผิดชอบขึ้นและรู้คุณค่าของเงินที่หามาได้และการเดินทางด้วยตัวเองไปทั่วญี่ปุ่น ท�ำให้ ผมกล้าตัดสินใจ กล้าเจอปัญหา ผมน�ำวิธีคิด วินัย และความละเอียดอ่อนแบบคนญี่ปุ่น กลับมาสร้างธุรกิจที่ฝึกให้คนในองค์กร ‘คิด’ และ ‘ท�ำ’ แบบคนญี่ปุ่น ตั้งแต่การมาก่อน เวลาท�ำงาน 30 นาทีทุกครั้งเพื่อเตรียมพร้อม การโค้งให้ลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ เหนือความคาดหมาย และความละเอียดอ่อนเล็กๆน้อยๆแบบญี่ปุ่นที่เราเรียกกัน ว่า ‘omotenashi’ ‣‣ ฝากถึงน้องๆที่คิดจะไปเรียน พี่เชื่อว่าการท�ำทุกอย่างให้ดีและประสบความส�ำเร็จต้องเริ่มต้นที่การมี ‘เป้าหมาย’ การ เขียน ‘เป้าหมาย’ ลงบนแผ่นเอมะ ที่ Jeducation จัดไว้ให้น้องๆ ส�ำหรับพี่ พี่คิดว่ามัน คือ ‘จุดเริ่มต้น’ ที่ดีที่สุดที่เราต้อง commit กับตัวเอง และตั้งใจ ท�ำมันให้ได้ภายในเวลา ทีเ่ ราก�ำหนดการเดินทางไปอยูค่ นเดียวในสภาพแวดล้อมทีเ่ ราไม่คนุ้ เคย จะช่วยหล่อหลอม ให้เราแข็งแกร่งขึ้น เห็นมุมมองอื่นๆมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตมากขึ้น และอย่ากลัวที่จะผิด พลาด อย่ากลัวที่จะล�ำบาก อย่ากลัวที่จะโง่ ทุกๆความส�ำเร็จ เริ่มต้นจากความกระหาย ที่อยากจะรู้ อยากจะท�ำ อยากจะเข้าใจ
SENIOR TALK
139
140
มารยาทที่ควรรู้
มารยาทที่เข้าเมืองตาหลิ่วควร(ต้อง)หลิ่วตาตาม
ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยสูงจึงมีข้อควรปฏิบัติและมารยาทในการใช้ชีวิตในทุกอิริยาบถ ดังนั้นก่อนที่เราจะไปใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นเราควรจะ ท�ำความรู้จักมารยาทในสังคมของคนญี่ปุ่นก่อน ในคอลัมน์นี้เราจะมาพูดถึงมารยาทของคนญี่ปุ่นกัน เผื่อเวลาไปอยู่ในสังคมร่วมกับคนญี่ปุ่นจะได้ ไม่อึดอัดหรือเคอะเขินค่ะ
JAPAN LIFE
การโค้ง
1
2
3
ประเทศญี่ปุ่นมีการทักทายด้วยการโค้งค�ำนับซึ่งจะมี 3 ระดับ ตามล�ำดับความสัมพันธ์ 1. การโค้งแบบ 15 องศา ทักทายกับคนที่สนิทเป็นกันเอง ใช้ในชีวิต ประจ�ำวันทั่วไป 2. การโค้งแบบ 30 องศา ทักทายกับคนที่รู้จักกัน ใช้ในการต้อนรับ แขกและแนะน�ำตัว 3. การโค้งแบบ 45 องศา ทักทายกับผู้ใหญ่ ผู้ที่อาวุโสมากกว่า ใช้ในการขอบคุณหรือขอโทษและการบอกลาลูกค้า
มารยาทบนรถไฟ • • • •
ปิดเสียงโทรศัพท์และไม่คุยโทรศัพท์ ไม่ทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ไม่แต่งหน้า ควรวางสัมภาระไว้บนชั้นวางของ
มารยาทบนทางสาธารณะ • • •
ขึ้น-ลง บันไดเลื่อนชิดซ้าย (ภูมิภาคคิงกิชิดขวา) เดินบนช่องทางเดินเท้า ไม่เดินไป ทานอาหารไป
มารยาทบนโต๊ะอาหาร • • • •
ก่อนทานอาหารควรพูดว่าいただきます(Itadakimasu) หลังทานอาหารเสร็จพูดว่าごちそうさまでした(Gochisousamadeshita) ไม่เคี้ยวอาหารเสียงดัง ถ้าทานอาหารไม่หมดควรใช้กระดาษเช็ดปากปิดอาหารที่เหลือ
มารยาทในการเข้าห้องน�้ำ • • • •
ถ้าประตูหอ้ งน�ำ้ ปิด ควรเคาะประตูหอ้ งน�ำ้ ก่อนเปิดประตู(เคาะ2ครัง้ ) ไม่ควรยกฝารองนั่งทิ้งไว้ ถ้าเป็นห้องน�้ำแบบญี่ปุ่นจะนั่งยองๆหันหน้าเข้าหาโถส้วม ถ้ามีรองเท้าแตะในห้องน�้ำ ควรเปลี่ยนก่อนเข้าห้องน�้ำและเมื่อจะ ออกจากห้องควรเปลี่ยนมาใส่รองเท้าเดิม
เข้าเรียนที่Inter-Cultural Institute of Japan ภาคเรียนเดือน เมษายน 2014
หลายคนสงสัยว่าหนึ่งวันของนักเรียนท�ำอะไรกันบ้าง ครั้งนี้เราได้พี่นัทมาเล่าให้ฟังว่าในหนึ่งวันเราท�ำกิจวัตร ประจ�ำวันอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย !
1
8:00 น. ตื่นนอน อาบน�้ำ แปรงฟัน แต่งตัว และ ทานขนมปังที่ซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้า แต่ถ้า วันไหนตื่นสายกว่านี้นิดหน่อย ก็จะพกขนมปังไปทานที่โรงเรียน
5
16.30 น. เตรียมออกจากที่พักเพื่อไปท�ำงานพิเศษ โดยขี่จักรยานไป ซึ่งใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 10 นาที
2
9.00 น. เดินทางออกจากที่พัก ใช้เวลาจากที่พักถึง โรงเรียนประมาณ 10นาที
3
9.20 น. เริ่มเรียน ซึ่งจะมีคาบเรียนทั่วไป ที่เรียนทั้งคันจิ บทอ่าน ฟัง (เป็นคาบเรียนที่ทุกคนใน คลาสเรียนรวมกัน) และมี คาบเรียนที่เราสามารถเลือก เรียนเองได้ตามต้องการ (วิชา เลือกอิสระ) ประมาณวันละ 1-2 คาบ ขึ้นอยู่กับระดับคลาสที่เราเรียน อยู่ ยิ่งคลาสสูงก็จะได้เรียนวิชาเลือกมาก นอกจากนี้เพื่อนใน ห้องเรียนก็เป็นต่างชาติโดยส่วนใหญ่ ท�ำให้ได้พูดคุยกับเพื่อนด้วย ภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้อีกทางหนึ่ง
4
13.10 น. หลังจากเลิกเรียน ก็จะกลับที่พัก และท�ำอาหารทานเอง เนื่องจาก ประหยัดค่าใช้จ่ายหลังจากนั้นก็จะนั่งเล่นคอมฯบ้าง พัก ผ่อนตามอัธยาศัย หรือถ้าหากวันไหนไม่มีท�ำงานพิเศษ ก็จะมีไปทานอาหารกลางวันข้างนอกกับเพื่อนใน โรงเรียนบ้าง ไปเดินเล่นหาซื้อของบ้าง
6
17.00 น. เริ่มท�ำงานพิเศษ ตอนนี้ที่ท�ำอยู่จะเป็นร้านข้าวแกง กะหรี่ของญี่ปุ่น ท�ำสัปดาห์ละประมาณ 4-5 วัน ซึ่งเราสามารถ เลือกวันหยุดตามแต่ตัวเองสะดวกได้ล่วงหน้าก่อนตารางใหม่ออก ประมาณ 2อาทิตย์ ดังนั้นท�ำให้วันท�ำงานไม่มีความแน่นอน อาจจะ มีท�ำเสาร์ และอาทิตย์บ้างเช่นกัน ถ้าเป็นวันธรรมดาที่ไม่มีงานพิเศษ ช่วงเวลาประมาณ 17:00 น. ก็จะไป Sport Center ประจ�ำเขต เพื่อ ออกก�ำลังกาย และจะกลับจากที่นั่นประมาณ 20:00 น. เพื่อมาท�ำอาหารทานเอง
7
23.00 น. เลิกงาน กลับที่พัก อาบน�้ำ หลังจากนั้น ถ้าหากวันรุ่งขึ้นมีสอบ ก็จะ อ่านหนังสือ หรือถ้ามีการบ้าน ก็จะท�ำทันที แต่ถ้าหากว่างก็จะเล่น อินเตอร์เน็ต คุยกับเพื่อน กับที่บ้านผ่านทาง Social Network
8 01:00 น. ถึงเวลาเข้านอน ซึ่งปกติจะนอนวันละ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ตื่นเช้ามา แล้วรู้สึกเหนื่อยหรือง่วงจนเกินไป หรือใน กรณีที่เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และไม่มี ท�ำงานพิเศษ ก็อาจจะมีนัดเพื่อนไปเที่ยว โตเกียว หรือนัดทานข้าวทั่วๆไป
141
JAPAN LIFE
นัท ณัฐพล นิธิกมลสุนทร
ONE DAY LIFE
พร้อมรับมือแผ่นดินไหว
142
JAPAN LIFE
10
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอยู่บ่อยครั้ง การเตรียมพร้อมและรับมือจึงเป็นเรื่องสำ�คัญ สำ� ห รั บ นั ก เ รี ย น ต่ า ง ช า ติ ที่ กำ� ลั ง จ ะ ไ ป อ า ศั ย อ ยู่ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ญี่ ปุ่ น เ พื่ อ เ ต รี ย ม รั บ มื อ แ ล ะ ป้ อ ง กั น ตั ว เ อ ง ไม่ ใ ห้ ต ื ่ น ตระหนกกั บ แผ่ น ดิ น ไหวที ่ เ กิ ด ขึ ้ น เราจึ ง มี ว ิ ธ ี ก ารป้ อ งกั น และรั บ มื อ มานำ�เสนอให้ แ ก่ น ั ก เรี ย นทุ ก คนค่ ะ
ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันภัยจากเกิดแผ่นดินไหว
ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว
1.
ส�ำรวจเส้นทางหนีไฟและ จุดรวมพลส�ำหรับแผ่นดิน ไหวที่เกิดขึ้น
2. 3.
ทำ�ที่ยึดตู้และเฟอร์นิเจอร์ไว้ไม่ให้ล้ม เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ควรมีกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ยั่งชีพเก็บไว้ภายในบ้าน เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เราจะได้หยิบน�ำมาใช้ เช่น ไฟฉาย น�้ำดื่ม วิทยุขนาดเล็ก ของใช้จ�ำเป็น
ขณะเกิดแผ่นดินไหว
4.
สิ่งแรกที่ต้องท�ำคือควบคุมสติ ให้อยู่กับตัวไม่ตื่นตระหนกและ พยายามหลบในที่ก�ำบังที่แข็ง แรง เช่น หมอบใต้โต๊ะ เพื่อไม่ ให้สิ่งของตกใส่ตน
5.
อย่าออกนอกอาคารจนกว่า แผ่นดินไหวจะหยุด
6.
ควรเปิดประตูและหน้าต่างเพื่อ หาช่องทางในการหนี หลังจากแผ่นดินไหวสงบแล้ว ค่อยออกจากบ้านอย่างมีสติ
หลังเกิดแผ่นดินไหว
7.
8. ติดตามข่าวสารที่ถูกต้องทางวิทยุ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา ว่าจะต้องท�ำอะไรต่อไป
9.
หากอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดไฟไหม้ให้รีบอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยใกล้ชุมชน หากอยู่ใกล้ทะเลและสังเกตุเห็นน�้ำทะเลลดระดับให้รีบหนีขึ้นที่สูงหรือออก ห่างจากชายฝั่งทะเลให้มากที่สุดเพราะอาจเกิดคลื่นสึนามิได้
ตรวจสอบตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับ บาดเจ็บหรือไม่ ถ้ามีบาดแผลให้ท�ำการ ปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน
10. ตรวจสอบแหล่งก�ำเนิดไฟและความร้อน เช่น เตาแก๊ส หากเปิดเตาแก๊สอยู่ให้รีบปิด ทันทีเพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น
A RU BAI TO
アルバイト
143
นักเรียนต่างชาติกับงานพิเศษในญี่ปุ่น
เงื่อนไขในการท�ำงานพิเศษ
1. ต้ อ งได้ รั บ อนุ ญ าตจากกองตรวจคนเข้ า เมื อ งให้ ส ามารถท� ำ งาน พิเศษได้ 2. ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป 3. งานที่ท�ำต้องเป็นงานที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมการเรียน หาก ขาดเรียนเพื่อไปท�ำงานพิเศษจะมีผลต่อการต่อวีซ่าในครั้งต่อไป 4. งานที่ท�ำต้องไม่เป็นงานที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ประเพณี 5. จุดประสงค์ในการท�ำงานพิเศษเป็นไปเพื่อหารายได้มาช่วยเสริมค่า ใช้จ่ายทางการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายที่จ�ำเป็นอื่นๆในระหว่างศึกษา อยู่ในประเทศญี่ปุ่น 6. กฎหมายกองตรวจคนเข้าเมืองก�ำหนดว่าสามารถท�ำงานพิเศษได้ ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ประเภทงานพิเศษ
งานพิเศษส�ำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีอยู่ทั่วไปคือ งานในร้านอาหาร งานสอนภาษา งานล่าม งานแปล งานขาย และงานใช้แรงงานที่ไม่ต้อง ใช้ความช�ำนาญ อย่างไรก็ตามนักเรียนต่างชาติไม่ได้รบั อนุญาตให้ทำ� งาน พิเศษในสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ บ่อนการพนัน เกมเซนเตอร์ ฯลฯ
วิธีหางานพิเศษ
• ติดต่อสอบถามจากฝ่ายสวัสดิการของมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน การศึกษา • ติดต่อสอบถามจากศูนย์ช่วยเหลือนักศึกษาท้องถิ่นและนักศึกษา ต่างชาติ • ดูข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารแนะน�ำงาน ซึ่งจะมีวางไว้ ตามท้องถนน หรือตามสถานีรถไฟ และสามารถหยิบฟรี ซึ่งโดย ทั่วไปจะมี Townwork และ DOMO นิตยสารเหล่านี้จะออกใหม่ ทุกๆสัปดาห์ และจะแตกต่างไปในแต่ละเขตอีกด้วย • หาทางเว็บไซต์ จะสามารถหาได้ในเว็บไซต์ของร้านค้าต่างๆที่สนใจ ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ จ ะมี ส ่ ว นที่ อ ธิ บ ายลั ก ษณะของงานและลงทะเบี ย น สมัครงาน หลังจากลงทะเบียนแล้ว ทางร้านจะโทรศัพท์ติดต่อกลับ มาเพื่ อ สั ม ภาษณ์ ค ร่ า วๆและนั ด สั ม ภาษณ์ ที่ ร ้ า นอี ก ที ห นึ่ ง นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์แนะน�ำงานอย่าง Baitoru Townwork หรือ DOMO เป็นต้น • สามารถดูได้จากป้ายประกาศตามร้านค้า • ขอค�ำแนะน�ำจากรุ่นพี่
ค่าแรง
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ท�ำงานพิเศษจะได้ค่าจ้างเป็นชั่วโมง ค่าจ้างต่อชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 800-1,000 เยน มากน้อยขึ้นอยู่กับงานและเมือง ผู้ว่า จ้างบางแห่งอาจจะเพิ่มค่าเดินทางให้ด้วย
การเตรียมตัวโทรศัพท์เพื่อสอบถามงาน
เนื่องจากการสมัครงานพิเศษที่ญี่ปุ่นไม่นิยมระบบ Walk-in ฉะนั้นจะ ต้องโทรศัพท์ติดต่อ หรือทางร้านค้าจะเป็นฝ่ายติดต่อมากรณีสมัครทาง เว็บไซต์ แน่นอนการโทรศัพท์ติดต่อร้านค้าเพื่อสมัครงานนั้นไม่ใช่เรื่อง ง่ายส�ำหรับชาวต่างชาติ ฉะนั้นก่อนโทรศัพท์ควรเตรียมตัวดังนี้ • ให้อ่านเงื่อนไขต่างๆให้ละเอียดและคิดค�ำถามที่จะสอบถาม เช่น รายละเอียดของงาน เวลาท�ำงาน ค่าจ้าง เอกสารทีใ่ ช้ในการสมัคร เป็นต้น • หากเป็นฝ่ายโทรไป ให้เลือกเวลาทีเ่ หมาะสมเช่น ถ้าเป็นร้านอาหาร ไม่ควรโทรตอนร้านปิด หรือช่วงเที่ยงหรือเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ลูกค้า มาเยอะ เป็นต้น • ระหว่างการคุยโทรศัพท์ ควรพูดเสียงดังชัดเจน และฟังเจ้าหน้าที่ ให้ดี นอกจากจะตอบค�ำถามของเจ้าหน้าที่แล้ว ควรสอบถาม ค�ำถามต่างๆที่เตรียมไว้ และเจ้าหน้าที่จะนัดสัมภาษณ์ สุดท้าย ก่อนวางสายควรจะทวนข้อมูลวัน เวลา สถานที่สัมภาษณ์กับเจ้า หน้าที่อีกรอบ เพื่อกันผิดพลาด
การเตรียมตัวสัมภาษณ์
• ก่อนไปสัมภาษณ์ควรตรวจสอบสิง่ ทีเ่ อาไปให้ดี เช่น เอกสาร ปากกา แผนที่ หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อและแผนกที่จะติดต่อ • การแต่งกาย นอกจากสูทแล้วก็ยังสามารถแต่งชุดสภาพ ให้เข้ากับ กาลเทศะเช่น ควรเน้นเรือ่ งความสะอาด ไม่ใส่เครือ่ งประดับเกินควร • ห้ามไปสาย ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบวิธีการเดินทางให้ดี ควรไปถึงก่อนเวลา 5-10 นาที หากรู้ตัวว่าจะไปสายควรโทรศัพท์ แจ้งทันที
การสัมภาษณ์งาน
• ก่อนเข้าสัมภาษณ์ควรปิดโทรศัพท์ให้เรียบร้อย ตรวจดูเครื่องแต่ง กายอีกครั้ง • ควรจะเป็นฝ่ายทักทาย และแนะน�ำตัวก่อนเสมอ พูดด้วยภาษาสุภาพ • การสั ม ภาษณ์ ใ นงานพิ เ ศษจะเน้ น การสนทนาโต้ ต อบเป็ น หลั ก ฉะนัน้ ฟังค�ำถามเจ้าหน้าทีใ่ ห้ดแี ล้วตอบ ไม่ควรพูดอยูฝ่ า่ ยเดียว และไม่ ตอบแค่ ”ใช่” หรือ ”ไม่ใช่” แต่ทางเราก็ควรถามกลับในสิ่งที่สงสัย • สุดท้ายควรกล่าว ”ขอบคุณ” และออกจากห้อง หรืออาคารอย่างสุภาพ • ผลการสัมภาษณ์สว่ นใหญ่จะติดต่อกลับทางโทรศัพท์ภายใน 3-5 วัน หรือบางที่จะประกาศผลการสัมภาษณ์ทันที
หลังจากทีเ่ ราได้งานพิเศษแล้วก็ยงั คงต้องระวังในเรือ่ งเหล่านี้
• ห้ามไปสาย ในแต่ละที่จะมีธรรมเนียมแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะ ต้องถึงก่อนประมาณ 10-15 นาที เพื่อเตรียมตัว • ควรทักทายกับเพื่อนร่วมงานก่อนเริ่มงาน และกล่าวลาตอนเลิก งานให้เสียงดังฟังชัด • หากเวลาลูกค้าและหัวหน้าต�ำหนิ ควรขอโทษ ห้ามเถียงหรือหาข้อ อ้างแก้ตัว • ไม่ควรท�ำงานมากเกินไปจนกระทบเวลาเรียนและเวลาพักผ่อน เพราะจุดประสงค์ที่ไปญี่ปุ่นคือเพื่อการศึกษา ไม่ใช่ไปท�ำงาน • หากมีเหตุฉกุ เฉินไม่สามารถมาท�ำงานตามเวลาทีล่ งไป ควรโทรศัพท์ แจ้งไปที่ร้านทันทีเพื่อให้คนอื่นมาสลับเวลาแทน
JAPAN LIFE
นอกจากข้อมูลการศึกษาต่อทีป่ ระเทศญีป่ นุ่ แล้ว สิง่ ทีห่ ลายคนมีคำ� ถาม ต่อก็คือ “ผม/หนู สามารถท�ำงานพิเศษระหว่างเรียนภาษาที่ญี่ปุ่นได้ มั้ย?” ขอตอบได้เลยค่ะว่า “ได้ค่ะ ในกรณีที่น้องๆไปด้วยวีซ่านักเรียน ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป” ดังนั้นในคอลัมน์นี้ พี่จะขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับการ ท�ำงานพิเศษทีญ ่ ป่ี นุ่ นะคะ ตามกฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศญีป่ นุ่ นัน้ ถือว่าการท�ำงานพิเศษเป็นกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือสถานภาพนักเรียน ดังนั้นนักเรียนต่างชาติที่ต้องการท�ำงานพิเศษจ�ำเป็นต้องยื่นใบค�ำร้อง ขออนุญาติท�ำงานพิเศษ ( Permit to engage in Activity other than that Permitted by the Status of Residence Previously Granted) ซึ่งในปัจจุบันสามารถยื่นขออนุญาตท�ำงานพิเศษได้ที่ด่านตรวจคนเข้า เมืองทีส่ นามบินในวันทีเ่ ดินทางเข้าประเทศญีป่ นุ่ (เฉพาะสนามบินนาริตะ, ฮาเนดะ, จูบุ และคันไซ
µØ ¡µÒ´ÐÃØÁР໚¹µØ ¡µÒÅŒÁÅØ¡¢Í§ÞÕ่»Ø†¹ áÁŒ¶Ù¡¼ÅÑ¡ãˌŌÁŧ ᵋ¡็¨Ð¡ÅѺÁÒµÑ้§µÃ§ä´ŒàÊÁÍ ÃÒǡѺàµ×͹ã¨Ç‹Ò áÁŒ¨Ð¾º¡Ñº¤ÇÒÁ¼Ô´ËÇѧËÃ×ÍÅŒÁàËÅÇÊÑ¡¡Õ่¤ÃÑ้§ ᵋàÃÒÂѧÊÒÁÒöÅØ¡¢Ö้¹ÁÒãËÁ‹ä´Œá¹‹¹Í¹ ªÒÇÞÕ่»Ø†¹¹ÔÂÁ͸ÔÉ°Ò¹¢Í¾Ã¨Ò¡µØ ¡µÒ´ÒÃØÁÐ â´ÂÇÒ´µÒ´Óŧ价Õ่µÒ¢ŒÒ§«ŒÒÂáÅÐÇÒ§änj㹷Õ่·Õ่ÁͧàË็¹ à¾×่ÍãËŒÃÐÅÖ¡¶Ö§à»‡ÒËÁÒ¢ͧµ¹ÍÂÙ‹àÊÁÍ áÅÐËÒ¡¤Ó͸Ôɰҹ໚¹¨ÃÔ§áÅŒÇ ¡็¨ÐÇÒ´µÒ´ÓÍÕ¡¢ŒÒ§Ë¹Ö่§Å§ä»ãËŒÊÁºÙó
µÒááà¾×่ͨش»ÃСÒÂ... µÒ·Õ่Êͧà¾×่ͤÇÒÁÊÓàÃ็¨ ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧ´ÐÃØÁÐÊÕµ‹Ò§æ ⪤´ÕáÅФÇÒÁÊÓàÃ็¨ ¤ÇÒÁÊÓàÃ็¨·Ò§¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ ¤ÇÒÁÁÑ่§¤Ñ่§ ÊØ¢ÀÒ¾·Õ่´Õ ¡ÒäŒÒ¢Ò¤ŋͧ ¤ÇÒÁÊÓàÃ็¨·Ò§¡Òçҹ ¤ÇÒÁÃÑ¡ ¢¨Ñ´ÊÔ่§ÍÑ»Á§¤Å ÍÒÂØÂ×¹ÂÒÇ
Èٹ á¹Ðá¹ÇÈÖ¡ÉÒµ‹Í»ÃÐà·ÈÞÕ่»Ø†¹à¨àÍ็´´ÙपÑ่¹
ÊÒ¢ÒÊÕÅÁ : 287 ÍÒ¤ÒÃÅÔàºÍà µÕ้Êá¤Çà ªÑ้¹ 23 ˌͧ 2303 ¶.ÊÕÅÁ á¢Ç§ÊÕÅÁ ࢵºÒ§ÃÑ¡ ¡ÃØ§à·¾Ï 10500 ÊÒ¢ÒÍâÈ¡ : 2 ÍÒ¤ÒèÑÊÁÔ¹«ÔµÕ้ ªÑ้¹ 27 áÅÐ 28 «ÍÂÊØ¢ØÁÇÔ· 23 ¶¹¹ÊØ¢ØÁÇÔ· á¢Ç§¤ÅͧàµÂà˹×Í à¢µÇѲ¹Ò ¡ÃØ§à·¾Ï 10110 â·Ã 0-2267-7726 µ‹Í 101-104 á¿¡« . 0-2631-2040