HUNT Magazine Issue 6

ISSUE 6 : May 2013

for the best opportunities in industrial community

MAGAZINE

www.hunt-magazine.com

••COMPLIMENTARY COPY•• For Selected Persons Only

Energy, Synergy

Doom! or

2l

l3

Contents www.hunt-magazine.com

6 Editor’s Talk 78 News ข่าวประชาสัมพันธ์ 80 Event Calendar ปฏิทินกิจกรรมเดือนพฤษภาคม 2556 82 Subscribe

Lifestyle 52 Hobbies ดนตรีและเสียงเพลง ของ ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม 56 Fashion Fashionably Environmental Friendly 58 Men’s Items 60 Gadget เลือกกล้องแบบมือโปร 72 Novel

The Condo ตอนที่ 4 ดร. สอง ไชยาพร 76 Books

ไอน์สไตน์, เปิดโลกการลงทุนของคนยุค GEN Y,

ภาวะผู้นำา 5 ระดับ, เปลี่ยนมุมคิดด้วยจิตวิทยาภาคพิสดาร,

ดีลักซ์ ความหรูหราสูญสิ้นมนต์เสน่ห์ไปได้อย่างไร

Features 44 Fengshui

ลาว มังกรแห่งลุ่มแม่น้ำาโขง 46 Buddhism Management วิธีบริหารจัดการตัณหา มานะ ทิฏฐิ (ตอนที่ 1) 48 Travel

หนองคาย เมืองมหัศจรรย์ 63 Health

ศัลยกรรมการปลูกผม ทางเลือกเพื่อการรักษาศีรษะล้าน 66 Sport

2 สาวน้อยไทย มหัศจรรย์ระดับโลก 68 Automobile

เปิดสเปค 2 รุ่นมาแรง

Accord Gen 9 และ All New Vios

4l

Business 8 Cover Story เหลียวหลัง แลหน้า...พลังงานไทย 18 Biz People ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ เทคโนโลยีพลังงานลมแหลมฉบัง 20 Management บริหารอารมณ์ 24 Industry Highlight ECO Industry เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 26 Index Focus CLMV: พื้นที่ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่ไทยไม่ควรมองข้าม 28 Report Green Building & Saving Energy 31 Overview เทคโนโลยีปรับปรุงคุณภาพ...พลังงานชีวภาพ 34 Technology เครือข่าย 3G ไหน...น่าใช้สุด 38 Interview พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล

Contributors พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี

ดร. ธีรวัฒน์ ไพบูลย์กุลกร

ถื อ ได้ ว่ า เป็ น บุ ค คลที่ เชี่ ย วชาญในเรื่ อ ง เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารบุ ค คลหนึ่ ง ของเมื อง ไทย เนื่องจากร่ำ�เรียนมาทางด้านเทคโนโลยีการ สือ่ สารตัง้ แต่ระดับปริญญาตรี ทีส่ ถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้ า เจ้ า คุ ณ ทหารลาดกระบั ง ต่ อ ด้ ว ยการคว้ า ปริ ญ ญาเอกทางด้ า น Electrical Engineering จาก Florida Atlantic University ปัจจุบันนั่งทำ�งานอยู่ในตำ�แหน่งที่ปรึกษาเทค- โนโลยีสารสนเทศ บริษัท ทีโอที จำ�กัด (มหาชน) นอกเหนือจากการทำ�งาน ดร.ธีรวัฒน์ยังได้รับ การยอมรั บ ในฐานะนั ก วิ ช าการที่ มี ผ ลงานเผย แพร่ เป็นคอลัมนิสต์ และเป็นวิทยากรที่สามารถ ให้ความรู้ในเรื่องของการสื่อสารได้อย่างชัดเจน ดั ง นั้ น นิ ต ยสาร HUNT จึ ง เชื้ อ เชิ ญ ดร.ธี ร วั ฒ น์ มาเป็ น อี ก หนึ่ ง คอลั ม นิ ส ต์ กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ สำ � หรั บ ผู้อ่านนิตยสาร HUNT ที่มีความต้องการความรู้ ที่ลึกซึ้งในเรื่องของเทคโนโลยีอย่างถึงแก่น

ท่านเป็นพระนักเทศน์ นักคิด นักเขียน เจ้าของนามปากกา ว.วชิรเมธี ที่เข้าถึงคน รุ่นใหม่และทุกเพศทุกวัย โดยสามารถเผย แผ่ธรรมะที่ใครต่อใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก ให้กลายเป็นเรื่องง่าย และทำ�ให้ธรรมะได้ กลายเป็นเส้นทางนำ�ชีวิตในทุกสถานการณ์ ปัจจุบันนอกจากคงเดินหน้านำ�มวลชนให้ เข้ า สู่ เ ส้ น ทางแห่ ง ธรรม ทั้ ง ในฐานะสงฆ์ ผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ ยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน วิมุตตยาลัย ที่ตั้งขึ้นเพื่อศึกษา วิจัย ภาวนา และเผยแพร่ ภู มิ ปั ญ ญาทางพุ ท ธศาสนาสู่ ประชาคมโลก ภายใต้หลักการ “พุทธศาสนา เพื่อสันติภาพโลก”

อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ผู้ บ ริ ห ารสถาบั น ค้ น คว้ า วิ ช าการฮวงจุ้ ย แห่ ง ประเทศไทย แม้ จ ะร่ำ � เรี ย นมาทางสาย วิ ช าการอย่ า งพาณิ ช ยศาสตร์ แ ละการบั ญ ชี และรัฐประศาสนศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหา- วิทยาลัย แต่อีกด้านหนึ่ง อ.มาศ กลับสนใจใน ศาสตร์ ฮ วงจุ้ ย โดยทุ่ ม เทค้ น คว้ า ศึ ก ษาจาก บรรดาปรมาจารย์ชั้นนำ�ในเรื่องนี้อย่างเอาจริง เอาจัง กระทั่งทุกวันนี้ชื่อของ อ.มาศ เคหาสน์- ธรรม กลายเป็ น ที่ ชื่ อ ที่ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ ใน ฐานะอาจารย์ทางด้านฮวงจุ้ย ที่ให้คำ�ปรึกษา กับหลายองค์กรชั้นนำ�

อภินันท์ อภิบาลศรี เข้ า สู่ ว งการกี ฬ าโดยเริ่ ม จากการเป็ น ผู้ สื่ อ ข่ า วกี ฬ าของช่ อ ง 3 ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวกีฬาช่อง 5 ผ่านประสบการณ์การทำ�ข่าวมหกรรม กีฬามาแล้วทุกรายการ อาทิ ซีเกมส์, เอเชีย่ นเกมส์,โอลิมปิกเกมส์, ฟุตบอล โลก มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ปัจจุบันเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬา ช่อง 5 ผู้ประกาศประจำ�ศูนย์ข่าววิทยุกองทัพบก อาจารย์พิเศษภาควิชา นิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ล่าสุดเป็นหัวหน้าแผนก ประชาสัมพันธ์ ให้ทีมฟุตบอลบางกอกกล๊าส

นายพุทธิ ผาสุข

แม้ จ ะเริ่ ม ต้ น อาชี พ ในฝ่ า ยประชา- สัมพันธ์ แต่ด้วยความที่รักในเรื่องของความ เร็ ว หลั ง จากชิ ม ลางด้ ว ยการเป็ น ช่ า งภาพ นิตยสาร A CAR อยู่ 1 ปี ก็มนั่ ใจว่าสายรถยนต์ นี่ เ องคื อ คำ � ตอบ ปั จ จุ บั น พุ ท ธิ ผาสุ ข นั่ ง ทำ � งานอยู่ ห ลายหน้ า ที่ ใ นเครื อ บริ ษั ท กรั ง ด์ ป รี ซ์ อิ น เตอร์ เ นชั่ น แนล ทั้ ง ผู้ สื่ อ ข่ า ว พิ ธี ก รช่ อ งกรั ง ด์ ป รี ซ์ ชาแนล ฯลฯ การที่ มี โอกาสลุ ย ทดสอบรถทั้ ง ในประเทศและต่ า ง ประเทศ การสัมภาษณ์ตรงผู้บริหารจากหลาก หลายค่าย ทั้งในและต่างประเทศ ทำ�ให้พุทธิ เป็นอีกหนึ่งนักเขียนเรื่องรถที่รอบรู้ ติดตาม เขาได้ในคอลัมน์ Automobile ในเล่ม และ Grandprix Channel ทาง PSI ช่อง111 หรือ โหลด app ได้ทั้ง IOS และ Android

คุณานันท์ ทยายุทธ

นักอ่านตัวยง - - นี่อาจเป็นภาพลักษณ์ อี ก อย่ า งหนึ่ ง ของคุ ณ คุ ณ านั น ท์ ทยายุ ท ธ สำ � หรั บ คนรอบข้ า ง ซึ่ ง ปั จ จุ บั น ทำ � งานอยู่ ใ น ฐานะผู้อำ�นวยการฝ่ายการตลาด บริษัท CEO Channel จำ � กั ด พร้ อ มๆ กั บ เป็ น นั ก ศึ ก ษา ปริญญาเอก บริหารธุรกิจ (การตลาด) ที่มหา- วิ ท ยาลั ย รามคำ � แหง และด้ ว ยธรรมชาติ ข อง นั ก อ่ า นที่ มั ก อยากจะแบ่ ง ปั น เรื่ อ งราวดี ๆ มี สาระให้กับคนอื่น HUNT จึงอดไม่ได้ที่จะเชื้อ เชิ ญ ให้ ม าเป็ น คอลั ม นิ ส ต์ สำ � หรั บ HUNT’s Books ตั้งแต่ฉบับนี้เป็นต้นไป ส่วนใครที่เป็น นั ก อ่ า นเหมื อ นๆ กั น คุ ณ คุ ณ านั น ท์ แจ้ ง ว่ า สามารถตามอ่านหนังสือดีๆ ที่เขาอยากบอก ต่อแบบ Non-Stop ได้ที่เว็บไซต์ www.hunt- magazine.com

นิตนดา พันธุ์พิพัฒน์ บนแผงหนังสือผูห้ ญิงหลายค่าย และผลงาน โฆษณาหลากหลายชิน้ ทีผ่ า่ นมา ต้องมีสกั ชิน้ ทีเ่ ป็น ผลงานของเธอคนนี้ นิตนดา พันธุ์พิพัฒน์ ด้วย ความที่รู้รอบ และรู้สึกในเรื่องของแฟชั่น เพราะ คุ้ น เคยมาตั้ ง แต่ ยั ง เป็ น นั ก เรี ย นกราฟฟิ ค ดี ไซน์ ปัจจุบันชื่อของเธอเป็นที่รู้จักกันในฐานะสไตลิสต์ อิสระ ผู้สร้างสรรค์แฟชั่น และงานโฆษณา รวมถึง การเป็นนักเขียนเรื่องแฟชั่น และความงามให้กับ นิตยสารหลายฉบับ รวมถึงคอลัมน์แฟชั่น ใน HUNT ก็เป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตของเธอ l5

Editor’s Talk

ส่งท้ายสวัสดีปีใหม่ไทย มาลัย น้ำาอบ น้ำาหอม น้ำาปรุง ส่งถึงทุกท่านครับ... ผ่านเมษาฮาเฮกันมาแบบลุ่มๆ ดอนๆ ตอนต้น เดือนก็หวิดๆ จะไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ก็รอดมาได้สบายๆ และไม่ร้อนอย่างที่คิด มหาสงกรานต์ชุ่มฉ่ำากันด้วยสายฝนที่โปรยปราย และ สดใสราบรื่นกับการเล่นน้ำาทั้งสีลมและข้าวสาร ตามด้วยบางแสนพัทยาและพระประแดง ผสมกับราคาทองคำาที่ตกลงมาให้ปลื้มกัน สำาหรับคนที่ซื้อเพื่อใส่หรือแจก แต่คนเก็บเก็งกำาไรใจหวิวๆ กันถ้วนทั่ว... ไหนๆ ก็ไหนๆ ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นเป็นลำาดับ เราก็หวังว่า อย่าให้สิ่งที่ HUNT ฉบับเมษายนนำาเสนอต้องกลายเป็นเรื่องจริง

พฤษภาคมนี้ HUNT จึงหันมองเรื่องพลังงานซึ่งน่าจับตามาตลอด นอกจากภาพรวมพลังงาน การใช้เรายังเน้นเรื่องของ พลังงานทางเลือกใหม่ๆ ที่อาจจะมาทดแทนให้ผู้ประกอบการได้นำาไปฉุกคิดและวางแผน ซึ่งเรื่องนี้ผมมีความเห็นว่าที่ผ่านมาเรายัง ขาดการลงรายละเอียดเรื่องของวิธีประหยัดโดยเฉพาะในส่วนมหภาค อย่างปัญหารถติดเวลานี้ ผมว่าไม่ใช่แค่เรื่องเวลาเท่านั้น แต่ เป็นเรื่องการผลาญพลังงานแท้ๆ แต่เรายังไม่มองหาสาเหตุของรถติดและแก้ไขกันอย่างจริงๆ จังๆ ถ้าใครยังติดอยู่ในความคิดว่ารถ ติดเพราะรถเยอะ จงหัวเราะให้ตัวเองด้วยครับ ๕๕๕ เพราะสาเหตุของรถติดนั้นถูกบดบังด้วยคำาว่า “รถมาก” หมดเลย การวางเส้น ทางจราจร ทักษะ ระเบียบวินัยของผู้ขับขี่และวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่างหากที่ผสมโรงให้เราผลาญ “พลังงาน” เผาเงินเล่นไม่รู้ กีร่ อ้ ยกีพ่ นั ล้านบาทต่อเดือน ผมคิดว่ารถทีต่ ดิ กันทุกวันนีม้ สี าเหตุงา่ ยๆ หลายอย่าง เช่น ตีวงเลีย้ วทีละ ๔ เลนส์, เปลีย่ นเลนส์บอ่ ยๆ, จอดรับ-ส่งญาติตรง BTS หรือ MRT, ขับสวนทาง, ขวางทางกรอบเหลืองหน้าโรงพยาบาล, ขับช้าเงอะงะ, ไม่ใช้ไฟสัญญาณ, รถเมล์ นรก, เห็นแก่ตัว ฯลฯ ใครเห็นด้วย อยากเชิญให้มาเป็นแนวร่วมเสนอความเห็น สรุปประเด็นเพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ เผื่อว่าเราจะได้ร่วมสร้างสังคมเข้มแข็ง เพื่อดูแลและแก้ปัญหาที่เราต่างต้องเผชิญในเรื่องนี้ร่วมกัน ลองติดต่อกันมานะครับ...

มาว่ากันเรื่องเนื้อหาในเล่ม คอลัมน์ Management เป็นตอนที่ ๓ กำาลังเข้มเพราะมีตัวอย่างร้อนๆให้ได้เห็นจะจะถึงความ สำาคัญของงานบริการ เพราะเป็นทุกขณะของชีวิตที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกัน อีกคอลัมน์ที่ได้รับความสนใจมาก คือ the Condo ฉบับนี้จะเป็นการแนะนำาตัวละครตัวสุดท้าย ก่อนที่จะเริ่มต้นความหฤหรรษ์กันอย่างจริงตั้งแต่เล่มหน้าเป็นต้นไป และ HUNT’s Books ยิ่งนับเดือนยิ่งน่าติดตาม เช่นเดียวกับ technology ธรรมะ สุขภาพ ฮวงจุ้ย Gadget ฯลฯ ต่างก็มีแฟนประจำาของตัว เองเพิ่มมากขึ้น ทำาให้นักเขียนแต่ละท่านต้องทำางานหนักเพื่อเสนอประเด็นให้ร้อนแรงสมกับการรอคอย

ส่วนคอลัมน์ Interview คุณกฤษฎาแห่งกลุม่ มิตรผลหน้า ๔๐ ฉบับเมษายน หล่นคำาว่า “อ้อย” คำาเดียวความหมายคลาดเคลือ่ น จึงขอแก้ไขดังนี้ “ถ้าเราขยายปริมาณผลผลิตอ้อยได้ถึง ๑๕๐ ล้านตันอ้อย จากปัจจุบันที่ประเทศไทยสามารถผลิตได้ประมาณ ๙๐๑๐๐ ล้านตันอ้อยต่อป และโรงงานน้ำาตาลทุกแห่งปรับปรุงประสิทธิภาพของ Boiler อุตสาหกรรมน้ำาตาลของไทยจะสามารถผลิต ไฟฟ้าชีวมวลได้มากถึง ๒,๕๐๐ เมกะวัตต์ เทียบเท่ากับโรงไฟฟานิวเคลียร์ ๒.๕ โรง” ว๊าว!

สำาหรับท่านที่ยังไม่ Confi rm หรือยังไม่ได้สมัครสมาชิก ก็ต้องกระซิบดังๆว่าต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะขณะนี้ HUNT กำาลังจัดระบบและทำาทะเบียนสมาชิกที่แน่นอนสำาหรับการจัดส่งนิตยสารให้ถึงมือผู้รับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากท่านมิได้ ตอบรับกลับมาอาจทำาให้การรับนิตยสาร HUNT ขาดความต่อเนื่องครับ ซึ่งการยืนยันการรับนิตยสารสามารถกรอกข้อมูลใน หน้าสมาชิกท้ายเล่ม หรือกรอกในจดหมายแนบที่ส่งถึงท่านผู้อ่าน หรืออีกวิธีง่ายๆ และสะดวกคือการเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ ที่ www. hunt-magazine.com/feedback เพื่อยืนยันการรับนิตยสารเรียบร้อยครับ

พบกันในฉบับพฤษภาคม กับเรื่องราวของระบบการโทรคมนาคม การขนส่ง หรือ Infrastructure สุขสันต์วันแรงงานครับ

จากใจ HUNT Magazine ให้ถึงคุณ

บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โ¦Éณา ÊØÃÐ ¸¹Ò¹Ò¶ ¡ÃÃÁ¡ÒúÃÔËÒà Á³à¸ÕÂà ¸¹Ò¹Ò¶ ºÃóҸԡÒúÃÔËÒà ÊØªÒµÔ ªÇÒ§¡Ùà ºÃóҸԡÒÃÍӹǡÒà ·Ô¾Â ÇÃó ÈÔÅ»ŠÊ¡ØÅÊØ¢ ºÃóҸԡÒà ³ÑµµÔ¹Ò ÊØÇѲÇÔµÂÒ¡Ã ½†ÒÂÈÔÅ»¡ÃÃÁ »ÃÁÒÀó ÊÔ·¸ÔÊع·Ã ½†ายโ¦Éณา ¸ÕÃÈÑ¡´Ôì ÍÁêÑÂà¨ÃÔÞÊØ¢ • à»ÃÁªÑ «Ô§Ë เวçบมาสเตอร์ ¡ÁÅÇÃÃÉ ·Í§¼ÒÊØ¢ ½†Ò¸ØáÒà ³Ñ°¾§É ÍÍ¹Ò ¹Ñ¡à¢Õ¹¡ÔµµÔÁÈÑ¡´Ôì ¾ÃÐÁËÒÇزԪÑ ǪÔÃàÁ¸Õ • Í.ÁÒÈ à¤ËÒʹ ¸ÃÃÁ • ÍÀԹѹ· ÍÀÔºÒÅÈÃÕ ´Ã. ¸ÕÃÇѲ¹ 侺ÙÅ ¡ØÅ¡Òà • ¹Ôµ¹´Ò ¾Ñ¹¸Ø¾Ô¾Ñ²¹ • ¨ÔÃÒ¨ÒÃÕ ªÑÂÁØÊÔ¡ • ¤Ø³Ò¹Ñ¹· ·ÂÒÂØ·¸ • ¾Ø·¸Ô ¼ÒÊØ¢ ÀÒ¾»¡ µÑ맵Ñë§ บริÉัท รÕเจÕéยนลิéง¤์ จÓกัด 81,83,85 ¶¹¹¹ÃÒ¸ÔÇÒÊÃÒª¹¤ÃÔ¹·Ã á¢Ç§ª‹Í§¹¹·ÃÕ à¢µÂÒ¹¹ÒÇÒ ¡Ãا෾ÁËÒ¹¤Ã 10120 â·Ã 02 678 2224 µ‹Í 113 á¿š¡« 02 678 2229 6l แยกสÕและพิมพ์ ºÃÔÉÑ· âç¾ÔÁ¾ ÈÔÃÔÇѲ¹ÒÍÔ¹àµÍà ¾ÃÔ¹· ¨Ó¡Ñ´ (ÁËÒª¹) 125 «Í¨ѹ·¹ 32 ¶¹¹¨Ñ¹·¹ á¢Ç§·Ø‹§ÇÑ´´Í¹ ࢵÊÒ·Ã ¡Ãا෾ÁËÒ¹¤Ã 10120

l7

HUNT l Cover story

เหลียวหลัง แลหน้า...

...พลังงานไทย >> นพัช : เรื่อง >> ตั๋งตั๋ง : ภาพประกอบ

8l

•• ไทยของเรามีปริมาณน้ำ�มันสำ�รอง ประมาณ 440 ล้านบาร์เรล อยู่อันดับที่ 50 ของโลก แต่ในแง่ความสามารถผลิตน้ำ�มัน เพื่อใช้เอง เรามาเป็นอันดับที่ 32 ของโลก อยู่ที่ปริมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวัน ••

พลังงาน…นับวันมีแต่ต้องการเพิ่มขึ้น และนับวัน มีแต่จะหมดลงๆ

เรือ่ งของพลังงานเป็นเช่นนัน้ จริงๆ เพราะหากดูตวั เลข ภาพรวมของพลังงาน ปี 2555 จากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ ของสำ�นักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ (สศม.) พบว่า เราใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้น เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปี 2554 หรืออยู่ที่ระดับ 1,970 เทียบ เท่ า กั บ พั นบาร์ เรลน้ำ � มั นดิ บ ต่ อ วั น หรื อ ถ้ า คิ ด เป็น มูล ค่า การใช้ พ ลั ง งานคื อ 2,140,299 ล้ า นบาทที เ ดี ย ว (ที่ ม า: สถานการณ์ พ ลั​ั ง งานปี 2555 และแนวโน้ ม ปี 2556 มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ)

ขณะเดียวกันหากดูตัวเลขการนำ�เข้าพลังงานกลับ ปรากฏว่า มีมลู ค่ารวม 1.44 ล้านล้านบาท เพิม่ ขึน้ จากปีกอ่ น 16.7% โดยส่วนใหญ่เป็นมูลค่าการนำ�เข้าน้ำ�มันดิบถึง 78%

และถ้าจำ�กัดวงเฉพาะในอาเซียน ประเทศไทยของ เราเป็นประเทศที่บริโภคพลังงานมากเป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม อาเซียน รองจากอินโดนีเซีย แถมยังมีการประเมินกันต่อไป อีกว่าความต้องการพลังงานจะเติบโตโดยเฉลี่ยปีละ 2.3%

เป็นตัวเลขทีน่ า่ ตกใจไม่ใช่นอ้ ย ทัง้ ในแง่ความต้องการ ใช้ ที่ เ พิ่ ม มากขึ้ น ทุ ก ปี ๆ และในแง่ ที่ เราต้ อ งพึ่ ง พิ ง ซื้ อ หา พลังงานจากต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่

ยิ่งเมื่ออยู่ๆ ต้องมาเผชิญหน้ากับการประกาศภาวะ ฉุกเฉินเรือ่ งพลังงาน อันเนือ่ งมาจากการทีพ่ ม่าปิดซ่อมบำ�รุง แท่นขุดเจาะที่แหล่งแก๊สยาดานาและเยตากุน ทำ�ให้การนำ� เข้าแก๊สธรรมชาติจากพม่าขาดหายจากระบบไปถึง 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และหวั่นเกรงกันว่าในช่วงเวลานั้น จะไม่มีไฟฟ้าใช้ในบางพื้นที่

ปรากฏการณ์เช่นนี้ ทำ�ให้อดคิดต่อไปไม่ได้ว่า หาก วันใดที่เราขาดแคลนพลังงานเพียงแค่ชั่วขณะหนึ่ง จะเกิด ความโกลาหลกันขนาดไหนและจริงๆ แล้วความมั่นคงทาง พลังงานของประเทศไทยเป็นเช่นไร พลังงานทางเลือกที่เริ่ม ทำ�กันมานานพอจะเป็นพระเอกขีม่ า้ ขาวมาช่วยได้หรือไม่..... คำ�ถามเหล่านี้มีคำ�ตอบ

สถานการณ์ พลังงานไทย พลังงานโลก

ว่ากันถึงสถานการณ์พลังงานของโลก ต้องบอกว่า ความต้องการพลังงานทั่วโลกมีแต่จะเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และตราบใดที่ เ ศรษฐกิ จ เจริ ญ เติ บ โต นั่ น หมายความว่ า พลังงานจะถูกใช้เพิ่มขึ้นอีก

และยากที่จะปฏิเสธว่าพลังงานที่ใช้ในโลกนั้น โดย l9

ส่ ว นใหญ่ ม าจากพลั ง งานเชื้ อ เพลิ ง ฟอสซิ ล อั น ได้ แ ก่ น้ำ า มั น ถ่ า นหิ น แก๊ ส ธรรมชาติ ซึ่ ง อย่ า งที่ รู้ กั น ว่ า แหล่ ง พลั ง งานเหล่ า นี้ เป็ น พลั ง งานที่ ใช้ ห มดแล้ ว หมดเลย ไม่ สามารถหามาทดแทนได้ เพราะโดยกระบวนการทางธรณี วิทยาที่ทำาให้เกิดเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นต้องใช้เวลานานนับ ล้านๆ ปีทีเดียว ดังนั้น ยิ่งเราขุดมาใช้มากเท่าไหร่ พลังงาน เหล่านี้ก็จะต้องหมดไปจากโลกเร็วขึ้นเท่านั้น แล้วลองคิดดู ที่ผ่านมาเราขุดเจาะเอาพลังงานนี้มาใช้ไปแล้วมากเพียงใด

ทั้งนี้ มีผลการสำารวจปริมาณน้ำามันสำารองที่พิสูจน์ พบแล้ ว บนโลก 3 อั น ดั บ แรก ประกอบด้ ว ย ประเทศ เวเนซุเอลา ประเทศซาอุดิอาระเบีย และประเทศแคนาคา ส่วนพี่ไทยของเรามีปริมาณน้ำามันสำารองประมาณ 440 ล้าน บาร์เรล อยู่อันดับที่ 50 ของโลก แต่ในแง่ความสามารถผลิต น้าำ มันเพือ่ ใช้เอง เรามาเป็นอันดับที ่ 32 ของโลก อยูท่ ปี่ ริมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวัน

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ปริมาณน้ำามันที่มีน้อยเช่นนี้กลับ ไม่ได้ทำาให้การใช้พลังงานลดน้อยตามลงไป หากสวนทาง กันอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือไทยมีความต้องการใช้น้ำามันอยู่ที่ มูลค่าการนําเข้าพลังงาน ถ่านหิน 3% ก๊าซธรรมชาติ+LNG 10%

ไฟฟ้า 1%

น้ํามันสําเร็จรูป 9%

ปี 2555 น้ํามันดิบ 77%

มูลค่าการนําเข้าพลังงาน ปี 2555p รวม 1,442,653 ล้านบาท P ข้อมูลเบื้องต้น

ปี 2555

น้ํามันดิบ

น้ํามัน สําเร็จรูป

ก๊าซธรรมชาติ +LNG

ถ่านหิน

ไฟฟ้า

รวม

มูลค่าการนําเข้า (ล้านบาท)

1,115,366

122,634

140,348

47,204

17,102

1,442,653

อัตราการเปลี่ยนแปลง (%)

14.1

30.1

28.2

11.5

23.4

16.6

มูลค่าการส่งออกพลังงาน

1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นอันดับที่ 19 ของโลก ซึ่งสูงกว่า ประเทศผู้ ผ ลิ ต ที่ มี ป ริ ม าณน้ำ า มั น สำ า รองสู ง ๆ ด้ ว ยซ้ำ า ไป ดังนั้น เมื่อลองคำานวณดูแล้ว ผลก็คือประเทศไทยต้องนำา เข้าน้ำามันดิบประมาณ 8 แสนบาร์เรลต่อวัน และถ้าไม่มีการ ค้นพบแหล่งน้ำามันดิบเพิ่มอีก น้ำามันดิบของไทยก็จะหมดไป ในเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น

และไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ แก๊สธรรมชาติ ซึ่งเป็น อีกหนึ่งพลังงานที่สำาคัญ มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ ในปี 2555 ประเทศไทยมี ป ริ ม าณแก๊ ส ธรรมชาติ สำ า รองที่ พิ สู จ น์ แ ล้ ว ประมาณ 10-10.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นอันดับที่ 42 ของโลก แต่กอ็ กี นัน่ แหละ ประเทศไทยมีการใช้แก๊สธรรมชาติ ปีละ 1.6 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ดังนั้น หนีไม่พ้นที่ต้องนำาเข้า แก๊ ส ธรรมชาติ จ ากประเทศเพื่ อ นบ้ า น เพื่ อ ให้ เ พี ย งพอ ต่อความต้องการ และด้วยอัตราการใช้เช่นนี้ ถ้าไม่มีการ ค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติใหม่เพิ่มอีก แก๊สธรรมชาติสำารอง ของไทยจะหมดไปภายในไม่เกิน 8 ปี

เพี ย งแค่ นี้ ก็ ชั ด เจนแล้ ว ว่ า เราพึ่ ง พิ ง พลั ง งานต่ า ง ประเทศมากเพียงใด !!!

สำาหรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศไทย โดยภาพรวมจะเป็ น การพึ่ ง พาแก๊ ส ธรรมชาติ ใ นสั ด ส่ ว น 44%, น้ำามัน 36%,ถ่านหิน/ลิกไนต์ 17%,และพลังน้ำา/ไฟฟ้า นำาเข้า 3%

จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการที่เราไม่สามารถผลิตน้ำามันได้ เพียงพอกับความต้องการใช้ ทำาให้ปีหนึ่งๆ เราต้องนำาเข้า พลังงานจากต่างประเทศอย่างมากมาย

โดยคาดคะเนคร่าวๆ จากฐานพลังงานว่า 70% นั้น เป็นการนำาเข้า ส่วนอีก 30% เป็นพลังงานที่ผลิตได้เองใน ประเทศ แต่ในส่วนนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลดลงทุกวันๆ เพราะ ว่าที่ผลิตได้เองนี้ มีเพียงแก๊สในอ่าวไทยเท่านั้น จึงทำาให้ การใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้น

ไฟฟ้า 2%

เทียบเท่าพันบาร์เรลน้ํามันดิบต่อวัน น้ํามันดิบ 13%

สัดส่วน 3%

พลังน้ํา/ไฟฟ้านําเข้า

น้ํามันสําเร็จรูป 85%

17%

ถ่านหิน/ลิกไนต์

ปี 2555

ในประเทศ 67%

ในประเทศ 31%

นําเข้า69% นําเข้า 19%

44%

ก๊าซธรรมชาติ

นําเข้า 33%

ในประเทศ 81% ในประเทศ 15%

น้ํามัน

มูลค่าการส่งออกพลังงาน ปี 2555p รวม 401,564 ล้านบาท

36% นําเข้า85%

P ข้อมูลเบื้องต้น

ปี 2555

น้ํามันดิบ

น้ํามันสําเร็จรูป

ไฟฟ้า

รวม

มูลค่าการส่งออก (ล้านบาท)

52,401

341,033

8,129

401,564

อัตราการเปลี่ยนแปลง (%)

10 l ที่มา: กระทรวงพลังงาน

31.3

22.6

96.4

24.6

P ข้อมูลเบื้องต้น

การใช้ อัตราการเปลี่ยนแปลง (%)

น้ํามัน

ก๊าซธรรมชาติ

ถ่านหิน/ลิกไนต์

ไฟฟ้า

รวม

5.1

7.9

4.9

3.8

6.3

•• สำ�หรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศไทย โดยภาพรวม จะเป็นการพึ่งพาแก๊สธรรมชาติในสัดส่วน 44%, น้ำ�มัน 36%, ถ่านหิน/ลิกไนต์ 17%, และพลังน้ำ�/ไฟฟ้านำ�เข้า 3% ••

l 11

ต้นทุนไม่ว่าจะเป็นแก๊สหรือน้ำามัน จึงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่าง แน่นอนในอนาคต

ในช่วงที่ผ่านมา มักมีคำาถามเกี่ยวกับพลังงานจาก แหล่งอื่นๆอีกมากมาย เพื่อเป็นพลังงานทางเลือกต่างๆ เช่น “พลังงานนิวเคลียร์” ที่ว่ากันว่าเป็นทางเลือกที่จะ สามารถช่วยให้เกิดความมั่นคงทางพลังงาน แต่เมื่อเกิด วิกฤตการณ์โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกูชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ก็ทำาให้แนวคิดนี้เป็นข้อถกเถียงทางสังคม และหาทางออกยังไม่ได้ การสร้าง ‘เขื่อน’ ที่ต้องแลกกับการ ตัดไม้ทำาลายป่าจำานวนมหาศาล ก็ทำาให้แนวคิดนี้ต้องปิด ประตูลั่นดานกันเลยทีเดียว หรือ ‘พลังงานจากถ่านหิน’ ซึ่ง อันที่จริงประเทศไทยก็มีแหล่งถ่านหินที่ใช้ได้ แต่นำามาใช้ ไม่ ไ ด้ เพราะว่ า ทุ ก คนกลั ว ปั ญ หามลพิ ษ ที่ อ าจจะเกิ ด ขึ้ น

เหมื อ นกรณี แ ม่ เ มาะ บาดแผลที่ ต้ อ งเยี ย วยากั น อี ก นาน เป็นต้น

อันทีจ่ ริงปัญหาด้านพลังงานเป็นประเด็นสำาคัญทีม่ ผี ล ต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศในเวที โลก จึงจำาเป็น ต้ อ งมี ก ารเตรี ย มพร้ อ มทางด้ า นพลั ง งาน ในการจั ด หา พลังงานให้เพียงพอ ทัง้ จากภายในประเทศและนอกประเทศ ขณะเดียวกันต้องเปิดและสนับสนุนให้บริษัทเอกชนมาร่วม ผลิตพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทดแทน เพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้ประโยชน์จากพลังงานภายในประเทศ นอกเหนือ จากนั้นยังต้องรณรงค์สร้างจิตสำานึกให้ประชาชนและบรรดา ธุรกิจโรงงานใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า โดยคิดเสียว่าการ ประหยัดพลังงานในวันนีเ้ พือ่ ให้คนรุน่ ลูกรุน่ หลานมีพลังงาน ใช้กันต่อไปในวันข้างหน้า

แนวโน้มการใช้พลังงาน ปี 2556

แนวโน้มการใช้พลังงาน ปี 2556 การใช้น้ํามันสําเร็จรูป

การใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้น หน่วย: พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ํามันดิบ/วัน

การใช้ น้ํามัน

ก๊าซธรรมชาติ

ถ่านหิน/ลิกไนต์

พลังน้ํา/ไฟฟ้านําเข้า

2551

2552

2553

2554

2555p

2556f

1,618

1,663

1,783

1,855

1,969

2,076

634

643

652

674

708

735

2553

2554

2555p

2556f

2554

2555p

2556f

7,524

7,417

7,331

7,705

8,090

6.0

-1.4

-1.2

4.8

5.0

18,465

18,480

19,192

20,565

21,100

5.0

0.1

3.9

6.8

2.6

เครื่องบิน

4,450

4,729

5,091

5,096

5,305

-4.2

6.3

7.7

0.1

4.1

น้ํามันเตา

2,731

2,615

2,456

2,363

2,318

-16.7

-4.2

-6.1

-4.0

-1.9

682

784

810

873

942

301

303

310

317

332

347

ดีเซล

36

35

36

54

56

52

0.9

2.8

7.2

4.0

6.2

5.4

น้ํามัน

-5.0

1.4

1.5

3.3

5.1

3.7

5.4

5.2

15.0

3.3

7.8

7.9

7.7

0.7

2.4

2.1

4.9

4.5

-17.4

-1.1

2.8

48.5

3.8

-6.7

พลังน้ํา/ไฟฟ้านําเข้า

2552

648

การใช้

ลิกไนต์/ถ่านหิน

ชนิด เบนซิน

อัตราการเปลี่ยนแปลง (%)

ก๊าซธรรมชาติ

หน่วย: ล้านลิตร อัตราการเปลี่ยนแปลง (%)

LPG** รวม

2552 2553

6,894

7,587

8,178

8,930

9,466

1.2

10.1

7.8

8.9

6.0

40,064

40,826

42,247

44,673

46,326

1.6

1.9

3.5

5.5

3.7

**ไม่รวมการใช้ LPG ที่ใช้เป็น Feed stocks ในปิโตรเคมี

p ข้อมูลเบื้องต้น f ข้อมูลประมาณการ

P ข้อมูลเบื้องต้น f ข้อมูลประมาณการ

การใช้ก๊าซธรรมชาติรายสาขา

การผลิต การใช้ และการนําเข้า LPG โพรเพน และบิวเทน หน่วย : พันตัน - การใช้ ครัวเรือน อุตสาหกรรม รถยนต์ feedstock ใช้เอง - การผลิต - การนําเข้า

2551

2552

2553

2554

2555p

2556f

4,788

5,208

5,987

6,890

7,353

7,709

2,124

2,231

2,435

2,656

3,045

3,270

665

593

778

718

616

632

776

666

680

920

1,060

1,133

1,094

1,478

1,881

2,465

2,523

2,589

130

240

213

131

109

86

4,355

4,467

4,416

5,422

5,995

6,048

452

753

1,591

1,437

1,763

2,160

16.3

8.8

15.0

15.1

6.7

4.8

12.7

5.0

9.2

9.1

14.6

7.4

อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) - การใช้ ครัวเรือน อุตสาหกรรม

8.8

-10.8

31.3

-7.8

-14.1

2.5

รถยนต์

35.6

-14.1

2.1

35.3

15.2

6.9

feedstock

13.0 61.8

35.1 84.2

27.3 -11.5

31.1 -38.5

2.3

2.6

-16.4

-21.2

ใช้เอง

P ข้อมูลเบื้องต้น f ข้อมูลประมาณการ

12 l ที่มา: สำนักนโยบายและแผนพลังงานแห่งชาติ

หน่วย: ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน

สาขา

ผลิตไฟฟ้า

อัตราการเปลี่ยนแปลง (%) 2552

2553

2554

2555p

2556f 2553

2554

2555p

2,435 2,728 2,476

2,646

2,771

12.0

-9.3

7.1

4.8

2556f

โรงแยกก๊าซ

599

652

867

952

1,102

8.9

33.0

10.1

15.8

อุตสาหกรรม

387

478

569

630

670

23.5

19.2

10.9

6.3

NGV

143

181

231

279

306

26.8

27.5

21.4

9.7

4,508

4,848

13.3

2.6

9.1

7.6

รวม

3,564 4,039 4,143

หมายเหตุ : ค่าความร้อน 1 ลูกบาศก์ฟุตเท่ากับ 1,000 บีทียู

P ข้อมูลเบื้องต้น f ข้อมูลประมาณการ

พลังงานทดแทนพลังงานทางรอด

ดูเหมือนว่าแนวโน้มพลังงานของโลกจะเปลี่ยนจาก ของแข็งมาสู่ของเหลว แก๊ส และอิเล็กทรอนิกส์ โดยอาจ กล่าวได้ว่า ในวันนี้เรากำ�ลังอยู่ในช่วงปลายยุคน้ำ�มัน และ ช่วงกลางของยุคแก๊ส แต่ไม่วา่ แนวโน้มพลังงานจะเปลีย่ นไป อย่างไร ในวันนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำ�คือหาพลังงานให้เพียงพอ และมีความมั่นคงในอนาคตด้วย

เมื่อปฏิเสธกระแสพลังงานสะอาด ประกอบกับความ ไม่แน่นอนของน้ำ�มัน เวลานี้จึงต้องเหลียวกลับมาดูเรื่อง “พลังงานทดแทน” กันบ้าง

การพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังน้ำ�ขนาดเล็กชีวมวล และแก๊สชีวภาพ ไม่เพียงจะช่วยลดการพึ่งพาและการนำ� เข้าน้ำ�มัน แต่ยังช่วยลดแก๊สเรือนกระจกจากการใช้น้ำ�มัน ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรไทยมีรายได้ที่ดีขึ้น และที่สำ�คัญยัง กระจายความเสี่ยงในการจัดหาเชื้อเพลิงแก๊สธรรมชาติเพื่อ การผลิตไฟฟ้าของประเทศอีกด้วย

หากจะว่าไปประเทศเราโชคดีเพราะตั้งอยู่ในเขตร้อน ชื้น มีพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดทั้งปี จึงมีศักยภาพด้าน พลังงานธรรมชาติ เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และบางพื้นที่ ของประเทศมี ศั ก ยภาพในการผลิ ต พลั ง งานลมได้ ขณะ เดียวกัน การอยูใ่ นแถบเส้นศูนย์สตู ร ก็ท�ำ ให้สามารถปลูกพืช

ต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งความเป็นประเทศเกษตรกรรมจะมี ของเหลื อ ทางการเกษตรที่ ส ามารถนำ � ไปทำ � พลั ง งานทด แทน ชีวมวล ชีวภาพ รวมไปถึงไบโอดีเซลและเอทานอลได้

ว่ากันถึงสถานการณ์พลังงานทดแทนของไทย หากดู ในแผนแม่บทการพัฒนาพลังงานทดแทนแห่งชาติเดิมซึ่ง ได้ กำ � หนดเป้ า หมายเอาไว้ ว่ า จะต้ อ งเพิ่ ม สั ด ส่ ว นการใช้ พลังงานทดแทนให้ได้อย่างน้อย 20% ในปี 2564 แต่ดู เหมือนว่าได้มีการปรับเป้าหมาย สัดส่วนการใช้พลังงาน ทดแทนเพิ่มขึ้นจาก 7,413 ktoe* ในปี 2555 เป็น 25,000 ktoe ในปี 2564 หรือคิดเป็น 25% ของการใช้พลังงานรวม ทั้ ง หมด นั่ น หมายความว่ า ในช่ ว งที่ ผ่ า นมาการพั ฒ นา พลังงานทดแทนสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหาก ประเทศไทยสามารถก้าวไปให้ถึงเป้าหมายนั้นได้ จะทำ�ให้ ประหยัดเงินนับแสนล้านต่อปีทีเดียว

ทัง้ นีท้ งั้ นัน้ กระทรวงพลังงานได้แจกแจงเป้าหมายการ พั ฒ นาพลั ง งานทดแทนเพื่ อ ผลิ ต กระแสไฟฟ้ า เอาไว้ ว่ า พลังงานแสงอาทิตย์มีเป้าหมายในปี 2564 ว่าต้องผลิตได้ 2,000 MegaWatt (MW) โดยปัจจุบันมีกำ�ลังการผลิตรวม 75.48 MW ด้วยการสนับสนุนโครงการระบบขนาดเล็กที่ สามารถติดตั้งในระดับชุมชนและครัวเรือนให้ได้ 1,000 MW ภายใน 10 ปี และมีการปรับมาตรการจูงใจสำ�หรับการลงทุน จากภาคเอกชนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปจั จุบนั พลังงาน

*ktoe = หน่วยการวัดค่าพลังงานปริมาณเทียบเท่าน้ำ�มันดิบ 1 ล้านลิตร l 13 k=kilo / t=ton / o=oils / e=equivalents

ลมมีกำาลังการผลิตรวม 7.28 MW แต่ตั้งเป้าให้ผลิตได้ ที่ 1,200 MW ในปี 2564 ส่วนไฟฟ้าพลังน้าำ เป้าหมายคือ 1,608 MW โดยจะสนับสนุนการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำา ระดั บ ชุ ม ชนให้ อ งค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น หรื อ ชุ ม ชน เจ้าของพื้นที่มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการ และสามารถ บริหารงานและบำารุงรักษาเองได้ในอนาคต ส่วนพลังงาน จากขยะเป้าหมายคือ 160 MW

ส่วนชีวมวลซึ่งในวันนี้มีกำาลังการผลิตรวม 1,751.86 MW ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2564 ที่ 3,630 MW โดยการส่ง เสริ ม ให้ ชุ ม ชนมี ส่ ว นร่ ว มในการผลิ ต และการใช้ พ ลั ง งาน ทดแทน ให้มีการจัดตั้ง “สถานีผลิตพลังงานชุมชน (Distributed-Green-Generation-DDG (DGG))”โดยมีกลุ่มวิสาหกิจ พลังงานชุมชนเป็นเจ้าของและบริหารจัดการสถานีฯ ได้อย่าง ครบวงจร รวมถึงส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็วในพื้นที่รกร้างว่าง เปล่า พร้อมแปรรูปเพื่อจำาหน่ายเป็นเชื้อเพลิงให้สถานีผลิต พลั ง งานชุ ม ชนนำ า ไปใช้ ต่ อ ยอดในการผลิ ต ไฟฟ้ า ขณะ เดียวกันก็สนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน ด้วยการจัด ยอดจําหน่ายน้ํามันดีเซลหมุนเร็ว และไบโอดีเซล และราคาน้ํามันดีเซลหมุนเร็ว ปี 2553-2555* 2553

80

2555 16 ม.ค.55 ปรับเพิ่มอัตราเงินส่ง เข้ากองทุน 0.60 บาท/ลิตร ทําให้ ราคาอยู่ที่ 31.13 บาท/ลิตร

ราคาน้ํามันเริ่มปรับตัวสูง ตามราคาน้ํามันดิบโลก

70

ฤดูฝน และอุทกภัย

60

34 32

ปรับราคาน้ํามันดีเซลลดลง ตั้งแต่ 27 ส.ค. 54

30

50

ไบโอดีเซล

ต.ค.-พ.ย. ฤดูฝน และ อุทกภัยครั้งใหญ่

40

30

ก.พ. 54 ปรับสัดส่วน บี 100 เหลือ 2%

20

ดีเซลหมุนเร็ว

10

26 24 ตั้งแต่ มิ.ย. ปรับอัตรา เงินส่งเข้ากองทุนและ ชดเชยดีเซลให้ราคา ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

ม.ค. 55 รัฐบาลยกเลิกการตรึง ราคาขายปลีกน้ํามันดีเซล

พ.ค. 54 เพิ่มสัดส่วน บี 100 จาก 2% เป็น 3%

28

14 พ.ค.55 ยกเลิกการ ปรับเพิ่มอัตราเงินส่ง เข้าองทุนดีเซล 0.60 บาท/ลิตร

บาท/ลิตร

ล้านลิตร/วัน

2554

22 20

ต.ค. 54 เพิ่มสัดส่วน บี 100 จากขั้นต่ํา 4% เป็น 5%

18

0

16

* ธ.ค.55 ข้อมูลเบื้องต้น

ยอดจําหน่ายน้ํามันเบนซิน และน้ํามันแก๊สโซฮอล และราคาน้ํามันเบนซินเฉลี่ย ปี 2553-2555* 26 24 22 20 18 16 14 12 10 8 6 4 2 0

หมายเหตุ :

ราคาน้ํามันเริ่มปรับตัวสูง ตามราคาน้ํามันดิบโลก

2554

2555

ปรับราคาน้ํามันเบนซินลดลง ตั้งแต่ 27 ส.ค. 54

ม.ค.55 รัฐบาลเรียกเก็บเงินเข้า กองทุนน้ํามันในส่วนของเบนซินและ แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น 1 บาท/ลิตร

48 44

ราคาน้ํามัน เบนซินเฉลี่ย

40 14 พ.ค.55 ยกเลิกการปรับ เพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุน ของเบนซิน 1 บาท/ลิตร 16 เม.ย.55 ปรับเพิ่ม อัตราเงินส่งเข้ากองทุน ของเบนซิน 1 บาท/ลิตร

แก๊สโซฮอล

36 32 28

บาท/ลิตร

ล้านลิตร/วัน

2553

24 เบนซิน

ต.ค.-พ.ย.54 เกิด วิกฤตอุทกภัย

20 16

เบนซิน หมายถึงเบนซิน 91 และเบนซิน 95

แก๊สโซฮอล หมายถึง แก๊สโซฮอล 91 E10, 95 E10, 95 E20 และ 95 E85 * ธ.ค.55 ข้อมูลเบื้องต้น

14 l ที่มา: สำนักนโยบายและแผนพลังงานแห่งชาติ

เตรียมมาตรการด้านการเงินสนับสนุนการเพิม่ ประสิทธิภาพ โรงไฟฟ้าชีวมวลเดิมที่ใช้ Low Pressure Boiler ผลิตไฟฟ้า จากชีวมวลให้เป็น High Pressure Boiler เป็นต้น

แก๊สชีวภาพมีเป้าหมาย 600 MW โดยมุ่งเน้นตาม กรอบการส่งเสริมการพัฒนากล่าวคือ ส่งเสริมสนับสนุนการ ผลิตแก๊สชีวภาพในระดับครัวเรือนโดยเฉพาะชุมชนชนบท เพื่อประโยชน์ในการนำามาใช้เองในครัวเรือน ส่งเสริมสนับ สนุนการพัฒนาเครือข่ายท่อแก๊สชีวภาพในชุมชน (Biogas Network) เพื่อต่อเชื่อมระบบที่อาจมีกำาลังการผลิตเหลือใช้ ให้สามารถนำามาแบ่งปันกันใช้ได้ในชุมชน โดยกลไกการ บริหารของชุมชนเอง ส่วนการสนับสนุนการลงทุนจากภาค เอกชนได้ ส่ ง เสริ ม การผลิ ต การใช้ แ ก๊ ส ชี ว ภาพเพื่ อ การ คมนาคมขนส่ง (CBG) โดยมีกลไกราคาที่สะท้อนต้นทุนเพื่อ ช่วยสนับสนุนการนำาแก๊สชีวภาพมาใช้ในการคมนาคม

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับพลังงานรูปแบบ ใหม่ที่สามารถนำามาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และคาดว่าน่าจะมี ศักยภาพในการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ในอนาคต เช่น พลังงาน ความร้อนใต้พิภพ ซึ่งยังคงมีขีดจำากัดในการพัฒนาแหล่ง ความร้อนใต้พิภพเพื่อการผลิตพลังงาน เพราะว่าแหล่ง ภายในประเทศส่วนใหญ่ความร้อนไม่สูงนัก

สำาหรับพลังงานทดแทนในภาคขนส่งเอทานอล (เชื้อ เพลิงทดแทนเบนซิน) เป้าหมายในปี 2564 คือ 9 ล้านลิตร ต่อวัน ซึ่งปัจจุบันมีกำาลังการผลิตรวม 1.3 ล้านลิตรต่อวัน โดยจะต้ อ งพยายามเพิ่ ม ผลผลิ ต เฉลี่ ย ของประเทศต่ อ ไร่ ต่อปีของมันสำาปะหลังและอ้อยไม่น้อยกว่า 5 และ 15 ตัน ต่อไร่ต่อปีตามลำาดับ ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่า การวางแผนการ ใช้เอทานอลเพื่อทดแทนการใช้น้ำามันเบนซินในประเทศ สามารถทำาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ ไบโอดีเซล (เชื้อ เพลิงทดแทนดีเซล) เป้าหมายในปี 2564 คือ 5.97 ล้านลิตร ต่อวัน ปัจจุบันมีกำาลังการผลิตรวม 1.62 ล้านลิตรต่อวัน โดยส่งเสริมการปลูกปาล์มในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยไม่แย่ง พื้นที่พืชอาหาร แต่ก็ยังมีข้อจำากัดอยู่บ้างจากการที่ประเทศ ไทยมีวัตถุดิบที่สามารถนำามาผลิตเป็นไบโอดีเซลได้ไม่เพียง พอ ดังนั้น จึงมีการวิจัยและพัฒนาเชื้อเพลิงใหม่ทดแทนใน อนาคต เช่น สบู่ดำาและ สาหร่ายน้ำาจืด-น้ำาเค็มเป็นต้น

กระนัน้ ก็ตาม ในเรือ่ งพลังงานทดแทนนัน้ การจะบรรลุ ถึงเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความพยายามอย่าง หนัก และการสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะเทคโนโลยีใน เรื่องนี้ยังมีราคาแพง รัฐจำาเป็นต้องออกแรงหนุน ซึ่งวิถีทาง ของรั ฐ ในการพั ฒ นาพลั ง งานทดแทนที่ ผ่ า นมามี ทั้ ง การ กระตุ้นให้เอกชนเข้าไปลงทุนโดยอาศัยเครื่องมือทางการ

•• ในเรื่องพลังงานทดแทนนั้น การจะบรรลุถึงเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความพยายามอย่างหนัก และการสนับสนุนจากภาครัฐเพราะเทคโนโลยี ในเรื่องนี้ยังมีราคาแพง รัฐจำ�เป็นต้องออกแรงหนุน ••

l 15

เงิน เช่น การลดภาษี การประกันราคารับซื้อและรับซื้อใน ส่วนเพิม่ และโครงการสินเชือ่ ซอฟท์โลน โดยพยายามกระตุน้ ให้แบงก์ทำ�โครงการสินเชื่อสำ�หรับพลังงานทดแทน

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุน และส่งเสริมการลงทุน (ESCO Venture Capital) ซึง่ มีพลังงาน ทดแทนบางประเภทที่ผู้ประกอบการที่มีแนวคิดดีๆ แต่ขาด เงินทุน ก็จะเข้าไปช่วยสนับสนุนในส่วนนี้ได้ แม้ส่วนใหญ่ เป็นโครงการขนาดเล็กมีก�ำ ลังผลิต 1-2 MW เท่านัน้ แต่เทียบ เท่ากับการใช้ในครัวเรือนได้ถึง 2 พันครัวเรือน และสามารถ แทรกตัวไปได้ในหลายจุด ดีกว่าและกระจายตัวได้เร็วกว่า โครงการขนาดใหญ่

แน่นอนว่า เราอาจจะยังไม่มีโอกาสสัมผัสเรื่องพลัง งานทดแทนมากนัก แต่อยากบอกว่าในระดับบริษัทขนาด ใหญ่หรือผูป้ ระกอบการนัน้ มีความตืน่ ตัวในเรือ่ งนีอ้ ย่างมาก สนใจพลังงานทุกรูปแบบ และศึกษาถึงความเป็นไปได้ตลอด เวลา ดังจะเห็นได้จากมีการลงทุนที่หลากหลาย และมีทั้ง ผู้ ร่ ว มขบวนที่ เ ป็ น บริ ษั ท ไทย และที่ เ ป็ น บริ ษั ท ยั ก ษ์ ใ หญ่ ข้ามชาติ การใช้ NGV 2551

2552

2553

2554

2555*

127,735

162,023

225,668

300,581

374,857

104,553

133,777

191,233

260,520

331,943

23,182

28,246

34,435

40,061

42,914

2,149

3,971

5,033

6,415

7,743

ปริมาณ NGV ที่ใช้ (ล้านลบ.ฟุต/วัน)

77

143

181

231

279

ทดแทนน้ํามัน (%)

3.2

5.5

6.9

8.5

9.9

5.9

9.6

12.3

16.4

19.9

จํานวนรถ NGV (คัน) - รถเบนซิน - รถดีเซล ปริมาณ NGV ที่ใช้ (ตัน/วัน)

- เบนซิน - ดีเซล จํานวนสถานีบริการ (แห่ง)

2.1

3.8

4.6

5.1

5.5

303

382

428

465

483 * เบื้องต้น

การใช้ลิกไนต์/ถ่านหิน หน่วย: พันตันเทียบเท่าน้ํามันดิบ 2555p 2554

ปริมาณ

15,808

16,622

5.2

5,614

4,947

-11.9

100

ผลิตกระแสไฟฟ้า

4,251

4,153

-2.3

84

อุตสาหกรรม

1,363

794

-41.7

16

10,194

11,675

14.5

100

ผลิตกระแสไฟฟ้า (IPP)

2,406

3,347

39.1

29

ผลิตกระแสไฟฟ้า (SPP)

1,440

1,509

4.7

13

อุตสาหกรรม

6,347

6,819

7.4

58

ความต้องการใช้ การใช้ลิกไนต์

การใช้ถ่านหิน

เปลี่ยนแปลง (%)

สัดส่วน (%)

P ข้อมูลเบื้องต้น

16 l ที่มา: สำ�นักนโยบายและแผนพลังงานแห่งชาติ

ในมุมหนึ่ง ไทยออยล์ซ่ึงทำ�ธุรกิจโรงกลั่นน้ำ�มัน ก็มี การขยับมาผลิตเอทานอลซึ่งเป็นพลังงานสีเขียวและเป็น พลังงานทางเลือกโดยเลือกมันสำ�ปะหลัง ซึง่ เป็นอาหารสัตว์ เป็นตัวผลิตเอทานอล โดยไทยออยล์ใช้วิธีการร่วมทุนกับ บริ ษั ท ผู้ ส่ ง ออกมั น สำ � ปะหลั ง ที่ ใ หญ่ ที่ สุ ด ของเมื อ งไทยมี กำ�ลังผลิตเอทานอล 200,000 ลิตรต่อปี และยังมีการร่วม ทุนเพื่อผลิตเอทานอลจากน้ำ�อ้อยเป็นแห่งแรกในประเทศ โดยผลิตได้ 200,000 ลิตรต่อปีเช่นกัน

ส่วนล็อกซเล่ย์ก็เบนเข็มเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่นกัน มีการตั้ง “โครงการโซลาฟาร์ม” เป็น โซลาฟาร์มที่ ใหญ่ที่สุด ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยิ่งไปกว่านั้นล็อกซเล่ย์ยังลงทุน ในเทคโนโลยีผลิตแก๊สชีวภาพจากขยะเพื่อมาผลิตไฟฟ้า ซึ่ ง เป็ น เทคโนโลยี ก ารหมั ก ขยะแบบใหม่ ล่ า สุ ด จากสวิ ส - เซอร์แลนด์ และเป็นเทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก

บางจากก็ลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นการ ลงทุนทีใ่ หญ่มากของบางจากทีเดียว เพราะจะสร้างโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ถึง 118 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ชัยภูมิ และ สระบุรี อีกส่วนหนึ่งก็มีการผลิตไบโอ ดีเซลจากปาล์มน้ำ�มัน และการผลิตเอทานอลโดยใช้มัน สำ�ปะหลังเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตน้ำ�มันแก๊สโซฮอล์ ของบริษัทฯ และส่วนหนึ่งจะส่งออกไปยังประเทศจีน

ทั้งหลายทั้งปวงนี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็น ประเทศหนึ่งที่มีความตื่นตัวเรื่องพลังงานทดแทนมาก ซึ่ง เชื่ อ มั่ น ว่ า ในอนาคตประเทศไทยจะเป็ น ประเทศที่ ไ ด้ รั บ ประโยชน์ผลกำ�ไรคืนสู่ประเทศ และลดการพึ่งพิงพลังงาน อืน่ ๆ อันเป็นการช่วยลดและกระจายความเสีย่ งทางพลังงาน และสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

ผู้ประกอบการ ต้องพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพ

พลังงาน ถือเป็นต้นทุนการผลิตทีส่ �ำ คัญของภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมไม่แพ้ต้นทุนด้านอื่นๆ ยิ่งในสภาวะที่ประเทศ ต้องพึ่งพิงการนำ�เข้าพลังงานจากต่างประเทศ โอกาสที่ พลังงานจะมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น หากภาคธุรกิจอุตสาหกรรมสามารถใช้พลังงานอย่าง คุ้มค่า ย่อมไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพ ในการประกอบการเท่ า นั้ น หากยั ง มี ส่ ว นช่ ว ยอนุ รั ก ษ์ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทำ�ให้ประเทศลดการนำ�เข้า พลังงานอีกด้วย

จากสถิติการใช้พลังงาน พบว่า สาขาอุตสาหกรรม เป็นสาขาที่มีการใช้พลังงานมากที่สุด 36.7% ของการใช้

พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งหมด รองลงมาได้แก่ สาขาขนส่ง 35.6% บ้านทีอ่ ยูอ่ าศัย 15.1% สาขาธุรกิจการค้า 7.2% และ สาขาเกษตรกรรม 5.2% ตามลำาดับ

ทั้งนี้ โดยวิถีทางการบริหารจัดการพลังงาน จำาเป็น อย่ า งยิ่ ง ที่ จ ะต้ อ งยกระดั บ ประสิ ท ธิ ภ าพการใช้ พ ลั ง งาน สำ า หรั บ อุ ต สาหกรรม โดยเน้ น กระบวนการผลิ ต ที่ มี ก าร ประหยัดพลังงานมากขึ้น ลดการสูญเสียจากการใช้พลัง งานที่เกินความจำาเป็น โดยเลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องจักร ประหยัดพลังงานที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรม ลดการเดิน เครือ่ งจักรเกินความต้องการ ปรับปรุงกระบวนการผลิต เลือก วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับนโยบายการ ประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังต้องหมั่นตรวจสอบเพื่อ ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือ่ งจักร อุปกรณ์ ตามระยะเวลา การบำารุงรักษา เพื่อเพิ่มศักยภาพของเครื่องจักรและช่วย ประหยัดพลังงานในการเดินเครื่อง

เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน เช่น การใช้หลอดผอมประหยัดไฟ ใช้หลอดตะเกียบแทน หลอดใช้บัลลาสต์ซึ่งจะใช้คู่กับหลอดฟลูออเรสเซนต์ และ ง่ายๆ เลย สำาหรับมาตรการที่ไม่ต้องลงทุน คือการรณรงค์ สร้ า งจิ ต สำ า นึ ก การประหยั ด และการอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งานขึ้ น ภายในองค์กร โดยการประชาสัมพันธ์ ทำากิจกรรมต่างๆ เพือ่ กระตุ้นเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในองค์กร ทั้งพนักงาน ฝ่ายสำานักงาน และฝ่ายผลิต เช่น การปิดสวิตช์ ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เมื่อเลิกใช้งานแล้วสร้าง ให้เป็นนิสัยในการดับไฟทุกครั้งก่อนออกจากห้องทำางาน ปรั บ อุ ณ หภู มิ เ ครื่ อ งปรั บ อากาศไม่ ใ ห้ ต่ำ า กว่ า 25 องศา เซลเซียส และปิดก่อนพักเที่ยงและก่อนเลิกงาน 15 นาที รวมถึงปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาที่ไม่ใช้งาน ฯลฯ สิง่ ต่างๆ เหล่านีแ้ ม้จะดูเป็นเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ แต่เชือ่ หรือไม่ ว่าสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างมาก

ทีส่ าำ คัญ หากผูป้ ระกอบการมีศกั ยภาพพอ อาจศึกษา ถึงความเป็นไปได้ในการทำาพลังงานทดแทนไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ชีวมวล ชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งสามารถนำาเข้า มาช่วยในภาคอุตสาหกรรมประหยัดพลังงานได้ในระยะยาว

อันทีจ่ ริงไม่เพียงแต่ภาคเอกชนเท่านัน้ ทีต่ อ้ งประหยัด พลังงานเพื่อลดต้นทุนและช่วยประเทศชาติ หากภาครัฐเอง ก็ควรทำาไม่หยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งในแง่การรณรงค์เพื่อให้ ประชาชน และหน่วยงานเอกชนร่วมด้วยช่วยกันประหยัด พลังงาน และในแง่ของหน่วยงานราชการเองที่ต้องทำาเป็น ตัวอย่าง ซึง่ ดูเหมือนว่าทีผ่ า่ นมาในทุกๆ ครัง้ ทีเ่ กิดวิกฤตด้าน พลังงาน น้าำ มัน เราก็จะเห็นการลุกขึน้ มารณรงค์ในเรือ่ งนีก้ นั

การผลิตไฟฟ้า

ปี

กิกะวัตต์ ชั่วโมง

2551 2552

การเปลี่ยนแปลง กิกะวัตต์ ชั่วโมง

ร้อย ละ(%)

148,221

1,195

0.8

148,364

137

0.1

2553

163,668

15,310

10.3

2554

162,343

-1,325

-0.8

2555p

176,187

13,844

8.5

25556f

186,583

10,395

5.9

พลังงานหมุนเวียน นําเข้า 1% พลังน้ํา 7% น้ํามัน 5% 1%

ถ่านหิน/ลิกไนต์ 20%

ก๊าซธรรมชาติ

66%

P ข้อมูลเบื้องต้น f ข้อมูลประมาณการ

อย่ า งเป็ น จริ ง เป็ น จั ง โดยเริ่ ม ตั้ ง แต่ อ ย่ า งปี 2533 เกิ ด วิกฤตการณ์น้ำามัน ทำาให้รัฐบาลในสมัยนั้น เริ่มให้ความ สำาคัญกับมาตรการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง และในปี 2556 เมื่อพม่าปิดซ่อมบำารุงแท่นขุดเจาะทำาให้การนำาเข้า แก๊สธรรมชาติจากพม่าขาดหายจากระบบ รัฐบาลถึงกับ ประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องพลังงาน แต่กระนั้นหากย้อนกลับ ไปดูมาตรการต่างๆ ที่ทุกรัฐบาลพยายามรณรงค์เพื่อลด ปริมาณการใช้ไฟฟ้าก็จะเห็นว่ามีแนวทางที่ไม่แตกต่างกัน ตัง้ แต่การเปิด-ปิดไฟฟ้า การปิดไฟป้ายโฆษณา การขอความ ร่วมมือให้เปิดเครื่องปรับอากาศในอาคารและที่อยู่อาศัย เท่าทีจ่ าำ เป็นทีอ่ ณ ุ หภูม ิ 25-27 องศาเซลเซียส การจัดประกวด อาคารประหยั ด พลั ง งาน เพื่ อ กระตุ้ นให้ เ กิ ด การอนุรัก ษ์ พลังงาน รวมถึงการออกหลักเกณฑ์และวิธีการในการออก แบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานภายใต้ พ.ร.บ ส่งเสริม อนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ที่มีการแก้ไขจนมาสิ้นสุดที่การ ออกกฎกระทรวงที่กำาหนดประเภทหรือขนาดอาคาร ที่มี พื้นที่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องเป็นมาตรฐานเพื่อการ อนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น

สำาหรับภาครัฐเอง ในการประหยัดพลังงานก็มีแนว ทางคล้ายๆ กัน โดยมีเป้าหมายลดใช้พลังงานลงให้ได้อย่าง น้อย 10%-15% มีการวางมาตรการลดใช้ไฟฟ้าตั้งแต่จัดซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดต้องเป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน กำาหนดเวลาเปิดปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลา และกำาหนด อุณหภูมิ การกำาหนดการใช้ลิฟต์ให้หยุดเฉพาะชั้น และ รณรงค์ขึ้น-ลงชั้นเดียวให้ใช้ลิฟต์ ขณะเดียวกันมาตรการ ลดใช้น้ำามัน ก็พยายามรณรงค์ให้มีระบบ Car Pool และให้ รถที่ใช้เบนซินเปลี่ยนมาใช้แก๊สโซฮอล์หรือ NGV เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วการประหยัดพลังงาน จะ ได้ผลเพียงใดต้องใช้อย่างรู้ค่า และลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงจะนำาไปสู่ความยั่งยืนและเพื่ออนาคตลูกหลานต่อไป l 17

HUNT l Biz People

ดร. วิรชัย โรยนรินทร์

เทคโนโลยีพลังงานลมแหลมฉบัง >> กองบรรณาธิการ : เรื่อง

พลังงาน...ปัจจัยสำาคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนเราใน ทุ ก มิ ติ ท่ า มกลางความเป็ น ไปของโลกยุ ค ใหม่ ที่ มี ก ารใช้ พลังงานในปริมาณมหาศาลส่งผลให้เกิดกระแสความตื่นตัว และนำาไปสู่การเฟ้นหาพลังงานทดแทนกันมากขึ้น ล่าสุด มี อีก หนึ่ ง โครงการที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ นวั ต กรรมด้ า นพลั ง งาน ทดแทนที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนเมษายน ที่ ผ่านมา นั่นคือ โครงการจัดหาพลังงานทดแทนของท่าเรือ แหลมฉบั ง โดยใช้ กัง หั น ลมผลิ ต ไฟฟ้ า ต่ อ เชื่ อ มกั บ ระบบ สายส่งไฟฟ้า (Wind Turbine Grid Connected System) ใน ลักษณะทุ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ภายในการท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นผลงานการคิดค้นของ ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยพลังงานลม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

โครงการจั ด หาพลั ง งานทดแทนของท่ า เรื อ แหลม ฉบัง โดยใช้กังหันลมผลิตไฟฟ้าต่อเชื่อมกับระบบสายส่ง ไฟฟ้า จัดเป็นโครงการด้านพลังงานสะอาดที่จะใช้ประโยชน์ จากพลังงานลม เพือ่ ผลิตกระแสไฟฟ้าให้มปี ระสิทธิภาพ ซึง่ ดร.วิรชัย กล่าวว่า ที่มาของการศึกษาวิจัยและเก็บข้อมูล ของศูนย์วจิ ยั พลังงานลม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นั้น เริ่มต้นมาจากการที่เล็งเห็น ว่าพื้นที่บริเวณชายฝั่งแหลมฉบัง มีความเร็วลมเฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 5 เมตรต่อวินาที ซึ่งหากใช้กังหันลมที่มีประสิทธิ ภาพในการผลิ ต กระแสไฟฟ้ า ที่ ถู ก ออกแบบมาให้ ทำ า งาน ที่ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำานี้ก็จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเข้า สู่สายส่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งโครงการนี้มีขนาดกำาลังผลิตรวม 480 กิโลวัตต์ ที่ความเร็วลมเพียง 9.5 เมตรต่อวินาที จัด เป็นกังหันลมที่ออกแบบและสร้างมาเป็นพิเศษที่มีความ แตกต่างไปจากกังหันลมนำาเข้าจากต่างประเทศทั่วไป โดย ในครั้ ง นี้ มี ก ารจั ด สร้ า งเป็ น ลั ก ษณะทุ่ ง กั ง หั น ลม จำ า นวน 84 ต้น มีกำาลังผลิตต้นละ 10 KW ทำาเลที่ตั้งที่ท่าเรือแหลม ฉบังสามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ยประมาณ ปีละ 2 ล้านหน่วย ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้กว่า 1.5 ล้านตันคาร์บอนต่อปี 18 l

สำ า หรั บ การออกแบบทุ่ ง กั ง หั น ลมผลิ ต ไฟฟ้ า นั้ น ดร.วิรชัย ใช้หลักการทางวิศวกรรมพลศาสตร์ของไหลด้วย คอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า COMPUTATIONAL FLUID DYNAMICS (CFD) โดยใบกังหันลมออกแบบมาพิเศษ ด้วย โปรแกรมทางพลศาสตร์ของไหลและใช้อุโมงค์ลมจนได้ใบ กังหันลมที่สร้างแรงบิดได้ดีที่ความเร็วลมต่ำา ทำาให้กังหันลม สามารถหมุนด้วยตัวเองได้ที่ความเร็วลมเพียง 1.5 เมตร ต่อวินาที และเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ที่ความเร็วลมเพียง 2.5 เมตร ต่อวินาที อีกทัง้ สามารถผลิตไฟฟ้า ได้ทคี่ วามเร็วลม 9.5 เมตร ต่อวินาทีได้พลังงานไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์แตกต่างจากกังหันลม ทีน่ าำ เข้าจากต่างประเทศอย่างสิน้ เชิง ในขณะทีเ่ ครือ่ งกำาเนิด ไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับรอบการทำางานของ ใบกั ง หั น ลิ ข สิ ท ธิ์ เ ฉพาะทำ า งาน โดยไม่ ต้ อ งมี เ กี ย ร์ ท ดซึ่ ง เป็นต้นกำาเนิดเสียงของกังหันลม ซึ่งเครื่องกำาเนิดไฟฟ้านี้ เป็นชนิดแม่เหล็กถาวร (PMG) ไม่จาำ เป็นต้องป้อนไฟฟ้าขณะ ทำางาน มีประสิทธิภาพสูงสุด 95% ออกแบบมาให้มีแรงบิด ในการเริ่มหมุนต่ำาต่อตรงเข้ากับใบกังหันลมโดยตรงและมี 2 เพลา (Dual shaft) เพื่อสามารถต่อระบบเบรกได้โดยตรง

เพิ่มประสิทธิภาพการทำางานของระบบและมั่นใจการหยุด การทำางานของกังหันลมผลิตไฟฟ้า

หากมองในเรื่องของโครงสร้างใบและการทดสอบ ความแข็งแรงแล้ว ดร. วิรชัย กล่าวว่า ใบกังหันลมได้รับการ ออกแบบให้มีความทนทานต่อแรงบิดและความล้า ด้วย โครงสร้างและวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อน และทนต่อแสงยูวี โดยทุกใบที่สร้างขึ้นจะผ่านการทดสอบและทำาการสมดุลย์ เพื่อให้กังหันลมทุกตัวทำางานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และมี ความทนทานสูง นอกจากเรื่องของโครงสร้างและความแข็ง แรงของใบกังหันลมแล้ว การทำางานของระบบในการเชือ่ มต่อ กังหันลมจะเป็นการเชื่อมต่อระบบแรงดันต่ำา 380 โวลต์ ทำางานด้วยระบบ MPPT (Maximum Power Point Tracking) ที่มีประสิทธิภาพการทำางานสูงสุดทุกช่วงความเร็วลม และ มีควบคุมการทำางานอย่างมีประสิทธิภาพ ทนต่อสภาวะ แวดล้อมที่ทนต่อความชื้น และอุณหภูมิสูง ทนทานและ มี ร ะบบการทำ า งานอั ต โนมั ติ ทุ ก สภาวะการณ์ ข องระบบ สายส่งและภาวะโหลดใช้งาน

นอกจากการเชื่อมต่อด้วยระบบแรงดันต่ำาแล้ว ใน ส่วนของระบบควบคุมการทำางาน และระบบป้องกันการ เสียหาย 3 ระดับ ยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่ากังหันลม สามารถทำางานได้อย่างดี และทนต่อสภาวะอากาศ และ เหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากระบบสายส่งไฟฟ้า ควบคุมระดับกะทันหัน และการเกิดพายุ ลมกระโชกแรง โดย

กั ง หั น ลมผลิ ต ไฟฟ้ า จะสามารถควบคุ ม รอบการทำ า งาน กังหันลม หยุดการทำางานกังหันลมและเริ่มการผลิตไฟฟ้า ใหม่ได้โดยอัตโนมัติ

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการเชื่อมต่อกับสายส่งแรงต่ำาที่ ออกแบบมาเพื่ อ รองรั บ การทำ า งานอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ลดการสูญเสีย และสามารถหยุดซ่อมหรือดูแลรักษากังหัน ลมได้อย่างอิสระต่อกัน โดยระบบถูกวางให้สามารถลดการ สูญเสียแรงดันในระยะทางไกลทำาให้สามารถเชื่อมต่อกับ ระบบแรงดัน 22 kv ได้โดยไม่จำาเป็นต้องปักเสาแรงดันสูงใน พื้นที่บดบังทัศนียภาพของโครงการโดยเป็นการวางระบบ สายไฟใต้ ดิ น ทั้ ง หมดตามมาตรฐานการออกแบบระบบ ไฟฟ้า ซึ่งตลอดระยะเวลาของการทำางานจะสามารถตรวจ สอบผลการทำางานและเก็บข้อมูลการทำางาน รวมไปถึงการ ตรวจสอบสภาพการทำางานของกังหันลม สภาพอากาศที่ ฟาร์มกังหันลมได้โดยอัตโนมัติ ด้วยระบบประมวลผลระยะ ไกล Remote Monitoring System ที่ทันสมัยควบคุมการ ทำางาน และประมวลผลการทำางานได้ทุกมุมโลกด้วยระบบ อินเตอร์เน็ต และ CCTV

จากความมุ่งมั่นและทุ่มเทของ ดร. วิรชัย ทำาให้วันนี้ โครงการกั ง หั น ลมผลิ ต กระแสไฟฟ้ า ขนาด 10 กิ โ ลวั ต ต์ จำานวน 84 ชุด ที่ติดตั้งอยู่ ณ บริเวณโดยท่าเรือแหลมฉบัง เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยในการเตรียมพร้อมก้าว สู่การเป็นท่าเรือ สีเขียว ศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าทาง ทะเลในยุคเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน (AEC) โดยโครงการ ดังกล่าวสามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง ร้อยละ 20 และเป็นพลังงานทางเลือกหมุนเวียนทีม่ ศี กั ยภาพ เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการ แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนเป็นแบบ อย่างที่ดีในการนำาร่องเพื่อการใช้พลังงานทางเลือกทดแทน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง l 19

HUNT l Management

บริหารอารมณ์ >> สุชาติ ชวางกูร : เรื่อง

อารมณ์ของลูกค้า เราในฐานะผูใ้ ห้บริการจัดการไม่ได้ ทั้งหมด แต่เราสามารถกำ�หนดได้บางอย่าง เช่นขณะนี้ ผมมี ความหงุดหงิดมากๆ และหลายๆท่านก็มาบ่นให้ฟังว่ารู้สึก เช่นเดียวกันเมื่อไปใช้บริการตามที่ต่างๆ และได้ยินคำ�นี้จาก ปากและเสียงจากลำ�โพงจนเป็นกันไปทั้งประเทศยิ่งกว่าโรค ไข้หวัดนกแล้ว.....

“คุณลูกค้าเชิญเลือกที่นั่งเลยครับ จอฉายอยู่ด้านนี้ ครับ”

“คุณลูกค้ากรุณาเซ็นต์ชื่อตรงด้านนี้ด้วยค่ะ”

“คุณลูกค้าทำ�ประกันกับเรา คืนเงินเบี้ยประกันทุกปี ปีละ....”

“คุณลูกค้ามีกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่องมั๊ยคะ”

“คุณลูกค้าเราได้ท�ำ การเปลีย่ นเครือข่ายมือถือของคุณ เป็น ...เรียบร้อยแล้ว คุณลูกค้ากรุณา เรตการให้บริการด้วย ครับ”

“คุณลูกค้าจะเลือกรุ่นไหน Brand ไหนดีครับ...”,

“คุณลูกค้าจะดื่มอะไรดีครับ ก่อนสั่งอาหาร” ฯลฯ

สำ�หรับคนที่ฉุกคิด เคยรู้สึกรำ�คาญไหมที่ผู้ให้บริการ ทั้งหลายเปลี่ยนชื่ออันแสนจะไพเราะมีความหมายที่คุณ พ่อคุณแม่บรรจงจดตั้งให้ หรือชื่อที่คุณตั้งใจตั้งให้ตัวเอง แต่ กลับโดนยัดเยียดโดยกลุ่มบุคคลที่คุณนำ�เงินไปให้เขา เป็น “คุณลูกค้า” ขนาด สมณะ พระ ชี พราหมณ์ อิหม่าม โต๊ะครู ก็ยงั จะเรียก “คุณลูกค้า” ประหนึง่ ว่าเป็นคำ�ศักดิส์ ทิ ธิท์ เี่ อ่ยใช้ แล้วเมื่อตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์...เฮ้อ หากผู้ให้บริการเจอ ลูกค้าที่มีสมองฉุกคิดขึ้นได้ว่าเขา หรือเธอ ไม่ได้ชื่อโหลๆ 20 l >> sxc.hu : ภาพประกอบ

หรือไปเจอ “คุณลูกค้า” ทีเ่ รียกร้องการบริการให้คมุ้ กับค่าเงิน เวลา และการปฏิบัติ คุณอาจเจอคำ�ตอบที่ทำ�ให้คุณอารมณ์ ขุ่นมัวได้เหมือนกัน เช่น

“ดิฉันไม่ได้ชื่อลูกค้า”, “ดิฉัน Lady Gaga ไม่ใช่ชื่อ “ลูกค้า” ขนาดบ้านอยู่หลังเขา ยังรู้จัก”

“บั ต รประชาชนของผมอยู่ ใ นมื อ คุ ณ คุ ณ ไม่ อ่ า น หนังสือ, มองไม่เห็น หรืออ่านไม่ออกครับ?”

“ผมทราบดีว่าพวกคุณผ่านการอบรมเรื่องการดูแล ลูกค้ามา ผมใช้คำ�ว่าลูกค้าแทนผู้ใช้บริการในการอบรม ใน Lecture ที่แจกให้เท่านั้นนะ พวกคุณจะไม่รู้จักปรับอะไรกัน เลยเหรอ?”

หรื อ อะไรที่ แรงกว่ า นี้ ทั้ ง คำ � พู ด และอารมณ์ ที่ โ ถม ระเบิดเข้าใส่ ขนาดเขียนเป็นตัวหนังสือไม่ได้ ในฐานะผู้ให้ บริการคุณจะตอบ หรือจะจัดการอย่างไรกับอารมณ์ทอี่ าจจะ พลุง่ พล่านด้วยความโมโห ซึง่ จริงๆ แล้วคุณป้องกันเหตุการณ์ อย่างนี้ได้

นี่คือประเด็นของการบริการอย่างมืออาชีพซึ่งวิ่งเข้า สู่ ตอนที่ ๓ ที่จะช่วยให้เรา ในฐานะผู้ให้บริการ ทำ�หน้าที่ได้ ดีเยีย่ มยิง่ ขึน้ นัน่ ก็คอื การบริหารอารมณ์ ทุกๆคนมีอารมณ์ กันทั้งนั้น ซึ่งในที่นี้ ขอนิยามความหมายที่จะใช้ในบทความ นี้เสียก่อน จะได้เข้าใจตรงกัน “อารมณ์” หมายถึงความรู้สึก ที่ต้องการตอบโต้ หรือ อารมณ์ drama ติสส์แตก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ยุติธรรมกับบรรดาศิลปินทั้งหลาย เพราะสังคมไทย เชื่ อ แบบงงๆ งมงาย ว่ า การที่ ใ ครสั ก คนมี วุ ฒิ ภ าวะทาง อารมณ์น้อย สามารถกรี๊ดวี๊ดวีนแบบไม่มีป่ีมีขลุ่ย ขี้น้อยใจ

•• ดั ง นั้ น ทุ ก คำ � ตำ � หนิ ติ เ ตี ย นเป็ น กระจกเงาที่ ดี ที่ จ ะสะท้ อ นความต้ อ งการ ของลูกค้า ถึงแม้สิ่งที่ลูกค้าต้องการอาจจะบรรเจิดเกินขีดความสารถในขณะนั้น แต่ นั่นก็เป็นเพดานมาตราฐานใหม่ที่ผู้ให้บริการที่ดีควรจะนำ�ไปพิจารณา •• คิดเพ้อฟุ้งปรุงแต่ง (คือมีคำ�ถามและคำ�ตอบเองเบ็ดเสร็จใน ตัว และเชื่อว่าสิ่งรอบตัวเป็นเช่นตัวเองคิด) ระเบิดเปิดต่อม อาละวาดปานนรกแตก ว่าเป็น “อารมณ์ศิลปิน” ซึ่งนั่นไม่ใช่ ศิลปินแน่นอนขอยืนยัน เวลาที่เราต้องเผชิญกับลูกค้าที่ยาก จะเอาใจ (Difficult customer) การรักษาอารมณ์ไว้ให้มั่นคง เป็นสิ่งสำ�คัญมากๆ เช่นเวลาเราโดน complain การรับมือ กับคำ�ตำ�หนิติเตียนต้องมีสติ

เมือ่ เจอการอาละวาดตอกกลับจากลูกค้า ทัง้ ทีค่ ณ ุ ใน ฐานะผู้ให้บริการมิได้ตั้งใจหรือเจตนาจะทำ�ให้ลูกค้าระคาย เคืองทางความรู้สึกแต่ประการใด ดังนั้นคุณต้องมี “สติ” มั่นคงตลอดเวลา และสิ่งแรกที่ต้องทำ�คือ

๑ หุบปากทันที หยุดพูด หยุดอธิบาย ให้เหตุผล เพราะสิ่งที่พูดออกมาอาจเป็นทั้งข้อแก้ตัวข้างๆคูๆ ที่ไม่ใช่ เหตุผล เช่น การออกอาหารออกมาทีละจาน ทีละจาน ถ้า คุณไม่ใช่รา้ นข้างถนนเตาเดียว แต่เป็นภัตตาคาร ร้านอาหาร มีระดับ แต่ปล่อยให้มเี หตุการณ์แบบนี้ แสดงว่าต้องมีปญ ั หา การจัดการภายในครัว จะแก้ตัวว่าบังเอิญเป็นพ่อครัวใหม่, เป็นเวลาพนักงานพักทานอาหาร หรือจะแก้ตัวว่าขาดผู้ช่วย แก๊สหมด ฯลฯ ถ้าอย่างนั้นคุณเห็นลูกค้าเป็น Focus group ที่คุณเอามาทดลองแล้วต้องจ่ายเงินให้คุณอีกหรือ?

สิ่งที่พยายามให้คำ�อธิบายกับลูกค้า เพราะอาจคิดว่า เป็นเหตุผล แต่ลูกค้ากำ�ลังโกรธ เหตุผลนั้นก็อาจกลายเป็น ข้อแก้ตัว และยังเป็นเหมือนเชื้อไฟไปสุมใส่ ให้ลูกค้ามีความ ไม่พอใจหนักขึ้น หรือผู้ให้บริการเองอาจหลุดคำ�พูดออกไป ด้วยอารมณ์โกรธ ด้วยความเข้าใจความหมายของคำ�ไม่แม่น ไม่รู้จริง การเลือกใช้คำ�ที่ไม่เหมาะกับสถานะภาพของผู้ที่พูด ด้วย น้�ำ เสียง เพราะขาดความรู้ และทีส่ �ำ คัญ “ขาดสติ” อาจ ทำ�ให้สถานการณ์บานปลาย และเทคโนโลยีสมัยนีก้ ส็ ามารถ บันทึกเหตุการณ์และท่าทีของคุณผู้ให้บริการได้อย่างที่คุณ ไม่รู้ตัวแล้วนำ�มาเผยแพร่ได้ อย่างกรณีโรงภาพยนตร์นั่น ก็ จะยิ่งทำ�ให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อองค์กร ใน กรณีนี้เป็นที่น่าเสียดายที่ทางโรงภาพยนตร์ไม่ได้เห็นโอกาส จากวิกฤตินี้

๒. ขอโทษ และนิ่งฟังจับใจความ ในขณะที่ลูกค้า กำ�ลังโกรธ สิ่งที่หลุดออกมาจะมีทั้งข้อเท็จจริง และความคิด เห็น ซึ่งจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นคำ�พูดที่เกิดจาก อารมณ์ที่ต้องการตอบโต้ เราในฐานะผู้ให้บริการที่ทำ�ให้เขา รู้สึก “เจ็บปวด” ต้องไม่พยายามที่จะแย่งชิงจังหวะการพูด หรือสอดแทรกในขณะทีล่ กู ค้ายังพูดไม่จบประโยค แต่ควรจะ หาจังหวะที่จะกล่าวคำ� “ขอโทษ ขออภัย” และประโยคต่อ ไปก็สุดแท้แต่ความสามารถในการเลือกใช้ “คำ�” ที่เรียนรู้กัน มา ต้องแสดงความจริงใจในการรับฟังปัญหาของลูกค้าอย่าง กระตือรือร้น และคิดตาม ตรงนีแ้ หละทีต่ อ้ งใช้ค�ำ โบราณทีว่ า่ “เอาใจเขา มาใส่ใจเรา” รับฟังแล้วคิดตาม หากลูกค้าไม่มี ทีท่าจะสงบลงง่ายๆ และเรามีพื้นที่ให้ลูกค้าหลีกจากบริเวณ ทั่วไปให้นั่งพักได้ ควรจัดน้ำ�ให้ดื่ม แล้วพูดคุยกับลูกค้าเพื่อ รับฟังปัญหาจะยิง่ ดี อาจมีการจดบันทึกเรือ่ งราวให้เป็นระบบ เพื่อใช้ในการปรับปรุงการบริการก็จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้ ลูกค้ามากขึ้น และปัญหาเดิมก็จะไม่เกิดซ้ำ�ซาก

๓. ลูกค้าถูกต้องเสมอ---คนฉลาด หากเขายอมจ่าย แพงกว่า เขาย่อมคาดหวังสิ่งที่ดีกว่า---ลูกค้าที่ยอมจ่ายแพง กว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านอุปโภค บริโภค หรือบริการ ไม่ว่าเรื่อง รถยนต์ เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม การเดินทางเครือข่าย มื อ ถื อ หรื อ แม้ แ ต่ ดู ภ าพยนตร์ ลู ก ค้ า ย่ อ มมิ ไ ด้ ต้ อ งการ ดูเฉพาะภาพยนตร์เท่านั้น ลูกค้าต้องการที่จะนั่งสบายๆ สะอาด ไม่ร้อนอบอ้าว ไม่มีเสียงรบกวนจากโรงภาพยนตร์ ข้างๆ ฯลฯ เพราะถ้าส่วนประกอบอื่นๆ ไม่สำ�คัญ เขาก็คง ไปดูหนังกลางแปลงก็ได้ ดังนั้นทุกคำ�ตำ�หนิ ติเตียนเป็น กระจกเงาที่ดีที่จะสะท้อนความต้องการของลูกค้า ถึงแม้สิ่ง ที่ลูกค้าต้องการอาจจะบรรเจิดเกินขีดความสามารถในขณะ นั้น แต่นั่นก็เป็นเพดานมาตราฐานใหม่ที่ผู้ให้บริการที่ดีควร จะนำ�ไปพิจารณา เพราะนั่นอาจเป็น Idea ที่มีประโยชน์ได้ บ่ อ ยครั้ ง ผู้ ป ฏิ บั ติ ง านคิ ด แทนฝ่ า ยบริ ห าร ปฏิ เ สธความ ต้องการของลูกค้าเสียทุกอย่าง เลยยิ่งทำ�ให้สถานการณ์ไป กันใหญ่ เช่นกรณีโรงภาพยนตร์เป็นตัวอย่าง ถึงแม้คณ ุ จะเป็น “ผู้หญิง” มีพวกมาก มี รปภ. มีลูกน้องรายล้อม ถึงแม้ว่า l 21

คุณจะรูส้ กึ ว่าคุณขึน้ เสียงเถียงคอเป็นเอ็น คุณเถียงชนะ และ จาบจ้วงล่วงละเมิด ถึงขนาดบังอาจไปถูกเนื้อต้องตัวลูกค้า แต่ในสายตาของลูกค้าทุกคนทีอ่ ยูต่ รงนัน้ และทีด่ ผู า่ น social media ผู้แพ้และเสียหายย่อยยับ คือ ผู้จัดการคนนั้น เพราะ “ลูกค้าถูกต้องเสมอ”

๔. หาทางเยียวยาปิดคดี เมื่อรับฟังการเหวี่ยง และ ปัญหาของลูกค้าแล้ว นอกจากจะต้องกล่าวขอบคุณ เช่น ขอบคุณในการให้บทเรียนกับเราจะได้นำ�ไปปรับปรุงการ บริการให้ดขี นึ้ พร้อมทัง้ เชิญชวนให้กลับมาใช้บริการอีก อาจ มีการให้อะไรพิเศษ (ของ premium) ซึ่งต้องให้แบบจริงใจ สำ�นึกผิด การให้แบบไม่ส�ำ นึกแต่ท�ำ ท่ายะโสโอหัง เหมือนตัว ร้ายในละครหลังข่าว นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังจะสร้าง ปั ญ หาต่ อ ไปไม่ รู้ จ บ เพราะการพู ด ต่ อ บอกต่ อ สามารถ โพนทะนาด่าทอ ใส่สีตีไข่ไปกว่าความเป็นจริงทำ�ได้ง่ายและ รวดเร็ว ยิ่งในยุคการสื่อสารไฮเทค และ Social Network ที่ นับวันมีความรวดเร็วปานสายฟ้า ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่ ความไม่เป็นมืออาชีพของคุณจะถูกแพร่เผยไปอย่างทั่วถึง และควรจะตระหนักไว้ด้วยว่าการให้อะไรพิเศษนั้นไม่ใช่สิ่งที่ ลูกค้าปรารถนาตัง้ แต่แรก เขาปรารถนาบริการตามทีเ่ ขาคาด หวัง จากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ลกู ค้าเชือ่ และคาดหวัง ต่างหาก แต่คุณควรให้อะไรพิเศษเพราะคุณไม่สามารถให้ บริการกับลูกค้าได้ตามปกติ ดังนั้นท่าทียิ่งสำ�คัญ เพราะคุณ ให้เพื่อขออภัย

บางท่านถามมาว่าในประเด็น ของ Drama ผมหมาย ความว่าอย่างไร Drama คือ การกระทำ�ตามอารมณ์ เอาชอบ เอาสะใจเข้าว่า ไม่จำ�เป็นต้องนึกถึงผลกระทบที่ตามมา ถ้า ไม่พึงพอใจเสียอย่าง อย่าหวังว่าจะได้รับความใส่ใจ สังคม 22 l

ไทยเราจะไม่ Drama กันได้อย่างไร เล่นใส่เชื้อเพลิง เติม เชือ้ ไฟ กันมาตัง้ แต่ออ้ นแต่ออก ด้วยนิยายประโลมโลกจำ�กัด กรอบความคิดให้อยู่ในวงเดิมๆ ซึ่งแต่ละเรื่องเราก็ดูซ้ำ�ๆ อ่านซ้อนๆ ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จะให้สังคมไทยหลุดกรอบ ความคิดแบบ Drama เชิงคุณหนู เจ้าหญิง เจ้าชาย นาย ทาส ชิงดี ชิงเด่น ชิงรัก หักหลัง วิชามาร ผลาญตัวเองกันได้อย่างไร ในเมื่ อ เจ้ า ของธุ ร กิ จ ยั ก ษ์ ใ หญ่ สุ ด ๆ เกื อ บทุ ก แขนงของ ประเทศยังเสพความบันเทิงแบบนี้ รวมทัง้ ลูกน้องบริวาร เมือ่ เราเสพ เห็น ดู ซึมซับ แน่นอนเราก็ต้อง “ทำ�” ตามกรอบนั้น แหละ เมื่อตัดสินใจอะไรในชีวิตจริง เราก็อิงวิธีแบบ Drama ที่เห็นนั่นแหละแบบไม่รู้ตัว ซึ่งละคร Drama มีอิทธิพลแค่ ไหน? ก็แค่ท�ำ ให้ถนนว่างปราศจากรถยนต์ ยิง่ กว่ามีการปฏิวตั ิ มีเคอร์ฟิวได้ เมื่อละครเรื่องโปรดออกอากาศ

วิธีแก้ไขให้หลุดกรอบความคิดแบบนี้ ผมว่าต้องรู้ตัว ซะก่อน แล้วพร้อมที่จะก้าวออกจากกรอบความคิดนี้ และ หาทางพาตัวเองไปเข้าอบรมกับพระสงฆ์ที่ให้ปัญญา ไม่ใช่ เครื่องรางของขลัง ให้เห็นสติ และความเป็นเหตุเป็นผล มากกว่าการใช้อารมณ์ ให้เรียนรู้เท่าทันอารมณ์ด้วยสติ ซึ่ง เรื่องเหล่านี้พระสงฆ์สายสมาธิปัญญา ผู้เชี่ยวชาญจะอบรม ได้ดี และค่าใช้จา่ ยไม่สงู เพราะถ้าจะบำ�บัดสลัดคราบอารมณ์ กันจริงๆ ก็ต้องต่อเนื่อง และมีการติดตามผลเป็นระยะๆ ดู พัฒนาการด้วย หากได้รบั แรงสนับสนุนจากเพือ่ นร่วมงานใน ทีมด้วยก็จะได้ผลเร็วขึ้น การหันหน้าพึ่งวัดในลักษณะนี้ ช่วย คัดกรองและเสริมสร้างวุฒิภาวะทางอารมณ์ของบุคคลได้ดี มากจริงๆ นะ “คุณลูกค้า” หากจะทำ�เรือ่ งการบริการให้เด่น ยั่งยืน ก็ต้องมีการพัฒนาบุคลากรด้วยการอบรมในองค์กร โดยวิทยากร กูรทู งั้ หลายอย่างต่อเนือ่ ง ในประเทศเราก็เหลือ เกิน อบกันไป รมกันไป แต่ไม่มีการวัดผล

เป็นทีน่ า่ เสียดาย ทีผ่ จู้ ดั การโรงภาพยนตร์คนดังดัง่ พลุ แตกคนนั้นไม่ได้ผ่านการอบรมจากผม มิเช่นนั้นเธอคงจะได้ “ลูกค้า” ผู้ภักดีต่อโรงภาพยนตร์แห่งนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายคน และที่เขียนมาทั้งหมดก็เพื่อจะบอกว่า ๑ งานบริการนั้นไม่ ยาก แต่จะทำ�ได้ไม่ดี ถ้าไม่มี “ใจ” จะให้บริการ และ ๒ หยุด เรียกใส่หน้าลูกค้า ว่า “คุณลูกค้า” เดี๋ยวนี้ รำ�คาญมากๆ อยากจะรู้ว่าจะให้เรียกว่าอะไร ก็มาเป็น “คุณลูกค้า” ของผม ละกัน แล้วจะบอกให้ นะ “คุณลูกค้า”

ติดตามกรณีศึกษาหัวข้อบริหารอารมณ์ต่อเนื่องได้ที่ www.hunt-magazine.com

l 23

HUNT l Industry Highlight

ECO Industry

เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ >> NS.BKK : เรื่อง

Eco City เมืองน่าอยู่ เมืองยั่งยืน

Eco Industrial Town เมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม

ข้อถกเถียงในการอยู่ร่วมกันระหว่างนิคมอุตสาหกรรม กับวิถีชีวิตของชุมชน เป็นสิ่งที่มีการกล่าวถึงกันอยู่เนืองๆ หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างให้ความสนใจและ พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างเช่น ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท.จำากัด (มหาชน) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในปีที่ ผ่านมากับโครงการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศใน พืน้ ทีน่ คิ มอุตสาหกรรมเอเชีย จังหวัดระยอง ให้กลายเป็นพืน้ ที่ สีเขียว เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

มาในวันนี้ โครงการดังกล่าวยังคง

ดำาเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรม

แห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ทีผ่ า่ น

มาจากการทำางานร่วมกันระหว่างผู้ประ

กอบการในพื้นที่และชุมชนในการแก้ไข 24 l

Eco Industrial Estates & Networks เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ

Green Industry อุตสาหกรรมสีเขียว : GI Mark

ปัญหามลพิษในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทำาให้เกิดแนวทางเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในรูปแบบเฉพาะ ที่เหมาะสมกับประเทศไทย ภายใต้มาตรฐาน 5 มิติ ได้แก่ มิติ ด้านกายภาพ, เศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม, สังคม และการบริหาร จัดการ

เป้าหมายของการดำาเนินการนัน้ มีการนำาแนวคิด “เมือง อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” มาใช้เป็นยุทธศาสตร์สำาคัญ โดยใน ช่วงระหว่างปี 2554-2558 จะมุ่งเน้นการพัฒนาใน 15 นิคม ทั่วประเทศ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ทุกนิคมอุตสาหกรรมจะ ต้องเติบโตเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างสมบูรณ์ โดย มี ขอบเขตของความสัมพันธ์ และความร่วมมือกันในด้าน ต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น ความตกลงร่วมมือ ระหว่างกัน การปฏิบัติการอย่างเป็นระบบ การเชื่อมโยงไปสู่ มิติของวัฒนธรรม และการพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นเครือ ข่ายที่เข้มแข็ง โดยตลอดระยะเวลาของการดำาเนินการ กนอ. จะมีการตรวจสอบ และวัดระดับความสำาเร็จ สร้างบทลงโทษ

•• เป้าหมายของการดำเนินการนั้น มีการนำแนวคิด “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” มาใช้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ โดยในช่วงระหว่างปี 2554-2558 จะมุ่งเน้นการพัฒนาใน 15 นิคมทั่วประเทศ ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า ทุกนิคมอุตสาหกรรมจะต้องเติบโต เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ อย่างสมบูรณ์ ••

รวมไปถึงการสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้าง เครือข่ายความร่วมมือกับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางด้าน ผูป้ ระกอบการภาคเอกชน

อย่าง ปตท.ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกำาลังสำาคัญ

ในการผลั ก ดั น ให้ ต้ น แบบของเมื อ ง

อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เปลี่ยนจากภาพ

แห่งความฝันกลายมาเป็น “ความจริง”

โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธาน เจ้าหน้าทีป่ ฏิบตั กิ าร กลุม่ ธุรกิจปิโตรเลียมขัน้ ปลาย บมจ.ปตท.

(PTT) กล่าวว่า สำาหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ แห่งแรกของประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย จังหวัด ระยอง นั้น จะเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ของกลุ่ม ปตท. และพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่ 1,500 ไร่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อำาเภอบ้านฉาง และมาบตาพุด โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1,300 ล้านบาท สำาหรับการปลูกสร้างอาคารและสิ่งอำานวย

ความสะดวกพืน้ ฐาน ซึง่ นิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวจะสามารถ รองรั บ การลงทุ น ของบริ ษั ท ปตท.และบริ ษั ท ในเครื อ เป็ น หลัก โดยคาดว่าจะเริ่มดำาเนินการได้กลางปี 2557 และแม้การ ดำาเนินการตามแนวทางอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจะช่วยให้ภาค อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้ โดยการลดผล กระทบต่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม แต่ ก็ เ ป็ น ต้ น ทุ น ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น ของภาค อุตสาหกรรม อีกทั้งยังส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน สิ่งที่ต้องดำาเนินการต่อ คือ การพัฒนาให้สังคมตระหนักและ ก้าวไปสู่ระดับ Green networking ให้ได้ต่อไปในอนาคต

เช่นเดียวกับ นายบวร วงศ์สนิ อุดม

ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบัน

สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาห

กรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่กล่าว

ว่ า การที่ อุ ต สาหกรรมจะได้ อ ยู่ อ ย่ า ง

ยั่งยืน หรือเป็นไปตามภาพฝันของเมือง อุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่สมบูรณ์ ผู้ประกอบการจำาเป็นต้องให้ ความสำาคัญกับการจัดการให้เกิดความสมดุลใน 3 ด้านคือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการเปิดโอกาสให้ ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้ รับฟัง รวมไปถึงเสนอ แนวคิดเพื่อการแก้ไข สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้ “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” เกิดขึน้ ได้อย่างรูปธรรมและนำา ไปสู่การอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน l 25

HUNT l Index Focus

CLMV: พื้นที่ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่ไทยไม่ควรมองข้าม : เรื่อง

ณ ปั จ จุ บั น นี้ “อาเซี ย น” เป็ น เวที เศรษฐกิจที่มีบทบาทโดดเด่นมากขึ้น โดยมี ปัจจัยหนุนการรวมตัวทางเศรษฐกิจเตรียมตัว เข้ า สู่ ก ารเป็ น ประชาคมเศรษฐกิ จ อาเซี ย น (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 รวมทั้งยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพ มี การเติบโตค่อนข้างแข็งแกร่งภูมิภาคหนึ่งใน เวทีโลก เกื้อหนุนบรรยากาศทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนประเทศในอาเซียน จน ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุม่ คาบสมุทรอินโดจีน อันได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และ เวี ย ดนาม หรื อ ที่ เรี ย กโดยทั่ ว ไปว่ า กลุ่ ม ประเทศ CLMV ซึ่งเป็นตลาดมีศักยภาพใน การเติบโตในระดับสูงราวร้อยละ 7 ในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (เทียบกับอาเซียนโดยรวมที่คาด ว่ า จะเติ บ โตเฉลี่ ย ร้ อ ยละ 5) และมี ข้ อ ได้ เปรียบด้านต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่จะ เป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศ เหล่านี้

ด้วยความน่าดึงดูดด้านการลงทุนของ ประเทศ CLMV นี้ ทำาให้มีความเป็นไปได้ที่ จะมีผู้เล่นเข้าไปในตลาดประเทศเหล่านี้มาก ขึ้ น ในระยะนั บ จากนี้ จึ ง เป็ น ประเด็ น ที่ น่ า ติดตามว่า ในฐานะที่ปัจจุบันไทยมีบทบาท ค่ อ นข้ า งโดดเด่ น ในเวที อ นุ ภู มิ ภ าคทาง เศรษฐกิจอย่าง CLMV มาก่อน ไทยจะมีแนว โน้ ม สถานะและบทบาทอย่ า งไรนั บ จากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้จัดทำาดัชนีบทบาท ทางเศรษฐกิจใน CLMV (CLMV Economic 26 l

Presence Index หรือ CLMV-EPI) ประจำาไตรมาส 1/2556 เพื่อชี้วัดบทบาท ของประเทศในอาเซียน รวมถึงจีนและญีป่ นุ่ ทีเ่ ข้าไปมีบทบาททางเศรษฐกิจ ในประเทศ CLMV โดยประมวลจากมิติทางเศรษฐกิจ 3 ด้าน คือ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

โดยผลการประเมินพบว่า จีน เป็นประเทศที่มีบทบาทสูงที่สุด ขณะ ที่ไทย และญี่ปุ่น มีบทบาทรองลงมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำาดับ แต่ ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้านี้ มีความเป็นไปได้ว่า ญี่ปุ่น จะแซงหน้าไทยขึน้ มามีบทบาทเป็นอันดับ 2 จากบทบาททางด้านการลงทุน ของญีป่ นุ่ ทีแ่ ผ่ขยายเข้ามายัง CLMV มากขึน้ โดยเฉพาะเมียนมาร์ ซึง่ ปัจจุบนั อาจกล่าวได้ว่าเป็นปลายทางการลงทุนที่นักลงทุนจากทั้งญี่ปุ่น จีน และ ทั่วโลกหมายตาไว้ ซึ่งนั่นหมายความว่า “ไทย” ในฐานะผู้ที่เคยลงทุนสะสม รายใหญ่ในประเทศเพือ่ นบ้านอย่าง สปป.ลาว และเมียนมาร์ กำาลังมีบทบาท ลดลง อันมีนัยว่า หากสถานการณ์เป็นไปในทิศทางดังกล่าวมานี้ ไทยอาจ ถูกช่วงชิงเวทีในเศรษฐกิจประเทศ CLMV ในระยะยาวได้

ดังนัน้ ไทย จึงไม่ควรนิง่ นอนใจละทิง้ โอกาสการขยายธุรกิจเข้าสูต่ ลาด

โอกาสการลงทุนของธุรกิจไทยใน CLMV

CLMV เนื่องจากไทยสามารถใช้โอกาสจาก ข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งที่อยู่ใจกลางประเทศ CLMV และมีพรมแดนเชื่อมโยงถึงกันอย่าง ครอบคลุ ม ทั้ ง แนวเหนื อ จรดใต้ แ ละแนว ตะวันออกจรดตะวันตก จนผนึกกันเป็นผืน แผ่นดินใหญ่ของอาเซียน ซึ่งจะช่วยให้ไทย สามารถพั ฒ นาบทบาททางเศรษฐกิ จ และ ขยายโอกาสทางธุรกิจไปได้พร้อมๆ กัน โดย อาจอาศัยแนวคิดของธุรกิจญี่ปุ่นที่มองไทย เป็ น ศู น ย์ ก ลางการเชื่ อ มโยงโครงข่ า ยทาง ธุรกิจ การผลิต และการตลาดภายในภูมิภาค หรือที่เรียกว่า “Thailand Plus 4” ซึ่งในแง่มุม ของธุรกิจไทย อาจวางจุดยืนของไทยเพื่อ ผสานและเชื่อมโยงโครงข่ายทางธุรกิจ การ ผลิ ต และการตลาดของไทยกั บ ประเทศ CLMV หรื อ ในที่ นี้ จ ะเรี ย กว่ า “Thailand Plus 4”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การมอง ไทย และ CLMV ตามแนวคิด “Thailand Plus 4” นั้น เป็นแนวคิดที่สร้างโอกาสแก่ไทย ใน

2 มิติ โดยในมิติแรก “Thailand Plus 4” ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างโอกาสแก่ ธุรกิจไทยจากการปรับแนวความคิดในการรักษาตลาดและพึ่งพาการผลิต ภายในประเทศ สูก่ ารก้าวออกไปขยายตลาดและฐานการผลิตในต่างประเทศ ซึ่งด้วยภาวะปัจจุบันที่ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่า และภาระต้นทุนใน ประเทศปรับสูงขึน้ จึงเป็นโอกาสสำาหรับธุรกิจไทยในการขยายการลงทุนออก ไปใน CLMV ซึ่งนอกจากจะเกิดประโยชน์ในระดับธุรกิจแล้ว ยังเป็นผลดีต่อ สถานะโดยรวมของประเทศไทยในเวที CLMV ที่กำาลังถูกเบียดบังส่วนแบ่ง ออกไปเรื่อยๆ

และอีกมิติหนึ่งที่สำาคัญ คือ ไทย จะสามารถพัฒนาศักยภาพในการ ดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้ จากแนวคิด “Thailand Plus 4” เพือ่ ใช้ไทยเป็นสำานักงานภูมิภาคเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดกับ CLMV นอกจากนี้ ความเป็นผืนแผ่นดินใหญ่ในอาเซียนที่ไทยและ CLMV ตั้งอยู่นี้ ยังเป็นจุดแข็งสำาคัญที่สามารถเชื่อมตลาดอาเซียนกับ จีน ซึ่งเป็นตลาดผู้ บริโภคขนาดใหญ่และกำาลังทวีบทบาทความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนกับอาเซียนมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ สาขาธุรกิจที่ไทยน่าจะมีศักยภาพขยายการลงทุนในประเทศ CLMV ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจที่เน้นใช้ความพร้อมด้านทรัพยากรวัตถุดิบ และแรงงานเป็นหลัก อาทิ ธุรกิจเกษตรและเกษตรแปรรูป ธุรกิจอาหาร ธุรกิจ พลังงาน และวัสดุก่อสร้าง รวมถึงสาขาธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง เป็นต้น l 27

HUNT l Report

Green Building Saving Energy >> กองบรรณาธิการ : เรื่อง

คุณกฤษฏิ์ เทียนไชย

กลายเป็นการจุดประเด็นวิกฤตพลังงานของไทยหลัง ข่าวการหยุดจ่ายก๊าซจากแหล่งก๊าซของพม่า หลายฝ่ายหา มาตรการสำ�รองพลังงานเพื่อไม่ให้การหยุดจ่ายก๊าซมีผลต่อ ระบบการผลิต หรือการหยุดชะงักทางธุรกิจ สิ่งที่เกิดตามมา เรี ย กได้ ว่ า เป็ น โอกาสในวิ ก ฤตก็ คื อ การปลุ ก กระแสการ ประหยั ด พลั ง งาน แต่ จ ะดี ก ว่ า หรื อ ไม่ หากเราจะหาวิ ธี ประหยัดหรือลดการใช้พลังงานลง ด้วยเกิดจากการตระหนัก 28 l

ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งความจริงแล้วการหาวิธีลดการใช้ พลังงานสามารถลดต้นทุนสำ�หรับผู้อยู่ในภาคการผลิตได้

“การทำ� Green Building ของอาคารขนาดนี้ โดย คอนเซ็ปท์สามารถประหยัดพลังงานโดยลดลงถึง 40-50% เรือ่ งของน้�ำ ลดลง 35-40% work life quality ของคนในอาคาร ดีขึ้น สิ่งที่จะได้ตามมาคือ image ขององค์กร เป็น CSR ที่ นำ�ไปใช้ในการทำ�การตลาดต่างๆ เพราะเป็นการบริหารจัด การที่มีความรับผิดชอบในเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัด พลังงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ที่สำ�คัญเป็นการคืน สิ่งดีๆ ให้กับสังคมซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมขององค์กรขนาด ใหญ่ คุณกฤษฏิ์ เทียนไชย Vice President Engineering Management บริษัท ไทย โกลบอล เอ็นเนอร์จี้ จำ�กัด บริษัท ที่ปรึกษาด้านการออกแบบและวิศวกรรม Green Building กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับของการจัดการอาคารประหยัด พลังงานโดยเฉพาะอาคารทีส่ ามารถผ่านเกณฑ์ LEED องค์กร อาคารเขียวของสหรัฐฯ (USGBC) อย่างอาคารสำ�นักงาน ใหญ่บริษัทฤทธาฯ ที่ได้รับรางวัล LEED-New Construction Gold Level

ซึ่งอาคารที่จะได้รับรางวัลมาตรฐานระดับนี้ จำ�เป็น

ต้องผ่านขั้นตอนการประเมิน ผ่านการวางแผนโดยเฉพาะ เทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน ซึง่ ถือเป็นหัวใจของประหยัด พลังงาน

“การจะได้ รั บ มาตรฐานอาคารเขี ย วในระบบของ LEED นั้ น ต้ อ งเริ่ ม ตั้ ง แต่ ก ารเลื อ กสถานที่ คื อ เรื่ อ งของ Sustainable Site หมายถึ ง ที่ ตั้ ง อาคารไม่ ค วรที่ อ ยู่ ใ น สถานที่ที่เป็นป่าอนุรักษ์ หรือแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทางธรรมชาติ ควรเลือกทำ�เลที่อยู่ในชุมชนเมือง ใกล้กับ ชุมชน แหล่งสาธารณูปโภค และสิ่งอำ�นวยความสะดวก มี การฟื้นฟูแหล่งเสื่อมโทรมภายในโครงการ มีการเพิ่มพื้นที่ สีเขียว ตลอดจนมีการลดการปล่อยของเสียออกสู่ชุมชน ข้างเคียง สองคือ Water Efficiency การจัดการน้�ำ ในโครงการ อาทิ การเลือกใช้สขุ ภัณฑ์ทปี่ ระหยัดน้� ำ มีการออกแบบระบบ การรดน้ำ�ต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพ มีการจัดเก็บน้ำ�ฝนเพื่อนำ� มาใช้ ลดการใช้น้ำ�ประปา สามคือ Energy & Atmosphere การออกแบบตั ว อาคาร และระบบประกอบอาคารที่ มี ประสิทธิภาพ เพื่อการประหยัดพลังงาน เช่น การออกแบบ กรอบอาคารให้มีการป้องกันการส่งผ่านความร้อนจากภาย นอกเข้าสู่ภายในอาคาร และให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึง ภายในอาคารอย่างทั่วถึง เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงการ เลือกระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ที่มีการประหยัด พลังงาน ตามมาตรฐานที่ LEED กำ�หนดไว้ สี่ คือ Material and Recourses การเลือกใช้วสั ดุในการก่อสร้างทีม่ สี ว่ นผสม ของวัสดุรีไซเคิล ตลอดจนการจัดการกับขยะที่เกิดขึ้นจาก โครงการมีการคัดแยก จัดเก็บ และนำ�ไปจัดการอย่างถูกวิธี ห้า คือ Indoor Air Quality จะเน้นเรื่องคุณภาพอากาศ และ สิ่งแวดล้อมภายในอาคาร มีการนำ�ระบบควบคุมปริมาณ อากาศ (CO2 Sensor) เข้ามาใช้เพื่อให้ผู้ใช้อาคารรู้สึกสบาย ไม่วา่ จะอยูจ่ ดุ ไหนของอาคาร ครอบคลุมไปถึงเรือ่ งการเลือก ใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดสารระเหยภายในอาคาร เช่น สี ยาแนว วัสดุประกอบพื้น ควรมีค่าของการรระเหยของสารระเหยต่ำ�

หรือ Low-Volatile Organic Compound (VOC) ทำ�ให้อากาศ ภายในอาคารนั้นไม่เป็นพิษต่อผู้ใช้ สองเรื่องสุดท้าย คือ Innovation and Design และ Regional Priority เป็นหัวข้อที่ เพิ่มพิเศษขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้เจ้าของอาคารและผู้ออก แบบ ตระหนักถึงเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นคะแนนโบนัส หากมีการออกแบบ อาคารที่ ป ระหยั ด พลั ง งานและอนุ รั ก ษ์ สิ่ ง แวดล้ อ มให้ มี ประสิทธิภาพสูงสุด

เทคโนโลยีส�ำ หรับอาคารประหยัดพลังงานของบริษทั ฤทธาฯ นั้ น สิ่ ง ที่ เ ป็ น หั ว ใจคื อ การเลื อ กใช้ อุ ป กรณ์ ด้ า น พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับระบบการจัดการ พลังงานอัจฉริยะ จนก่อให้เกิดประสิทธิภาพและความยัง่ ยืน สูงสุด

“เรื่ อ งของระบบประหยั ด พลั ง งาน หรื อ Energy Saving ที่เราเลือกใช้ เช่น การใช้หลอดประหยัดไฟ LED แทนหลอดไฟแบบ T8 ธรรมดา โดย LED ให้ความสว่างใกล้ เคี ย งกั บ T8 แต่ กิ น ไฟน้ อ ยกว่ า และยั ง ได้ ใ นเรื่ อ งของ อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

ส่วนระบบทำ�ความเย็นเราใช้ระบบ Glycol Chiller ที่ มีประสิทธิภาพสูง มีค่า COP อยู่ที่ 5.09 โดยในช่วงเวลา กลางคืนทีม่ คี า่ ไฟต่�ำ กว่ากลางวัน เราจะใช้ Glycol Chiller ผลิต น้ำ�แข็งเก็บไว้ในถังที่เราเรียกว่า Ice Storage Cell พอเวลา กลางวัน เราก็ใช้นำ้�ธรรมดาไหลผ่านเข้าไปในน้ำ�แข็งที่ผลิต ไว้ใน Ice Storage Cell เพื่อให้เกิดการถ่ายเทความร้อน และ ได้น้ำ�ที่มีอุณหภูมิตำ่�ออกมาเข้าสู่ระบบทำ�ความเย็น เพื่อ ลดภาระการทำ�งานของ Chiller ในวันที่อากาศภายนอกสูง กว่า 38 องศาเซลเซียส จะมีระบบ Solar heat Collector ที่ ติดตั้งบนหลังคา ทำ�หน้าที่ผลิตน้ำ�ร้อนโดยใช้แสงอาทิตย์ใน เวลากลางวัน ได้น้ำ�ร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมาเก็บไว้ยังถังเก็บ จากนั้นจึงส่งต่อไปยัง Absorption Chiller ซึ่งภายในมีสารชื่อ Lithium Bromide, LiBr โดยระบบนี้จะทำ�งานโดยการดูดซับ ความร้อนจากน้ำ�ที่ผ่านเข้ามาในระบบ แล้วผลิตเป็นน้ำ�เย็น ออกมา ผ่านเข้าไปยังระบบ Chiller ต่อไป ระบบต่างๆ ข้าง ต้นที่นำ�เข้ามาผสมผสานกับระบบทำ�ความเย็นนั้นก็เพื่อ ต้องการลดภาระการทำ�งานของระบบทำ�ความเย็นลง นั่น หมายถึงการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายที่ลดลงนั่นเอง

การทำ�งานของระบบประหยัดพลังงานเหล่านี้ ไม่ว่า จะเป็น หลอดประหยัดไฟ LED ระบบ Ice Storage Cell ระบบ Solar Heat Collector มีการควบคุมการทำ�งานโดยระบบ ควบคุมอัจฉริยะ หรือทีเ่ รียกกันทัว่ ไปว่า Building Automation System (BAS) ซึ่งสามารถควบคุมการเปิด-ปิด หลอดไฟใน l 29

เวลาพัก หรือเลิกงาน ควบคุมการทำ�งานของ Chiller และ ระบบประกอบต่างๆ อีกทัง้ ยังบอกได้ถงึ สถานะในการทำ�งาน ของระบบนั้นๆว่าเป็นปกติหรือไม่ ทำ�ให้สามารถเข้าไปซ่อม บำ�รุงแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทันท่วงที ลดความเสียหายของ อุปกรณ์ได้มาก ถือเป็นความยั่งยืนอีกอย่างหนึ่งของระบบ อาคารประหยัดพลังงานของบริษัท ฤทธาฯ”

ความพิ เ ศษอี ก อย่ า งของอาคารเขี ย วของบริ ษั ท ฤทธาฯ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานภายในอาคารได้มาก คือ กรอบอาคารแบบ Double Glass Wall เป็นผนังกระจก สองชั้น ระยะห่างระหว่างกระจกทั้งสองชั้นอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร เป็นการออกแบบเพื่อลดการนำ�ความร้อนจาก ภายนอกเข้าสู่อาคารโดยการให้อากาศที่อยู่ระหว่างกระจก ทำ�หน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนไปในตัว ขณะเดียวกัน อากาศที่ปล่อยทิ้งจากภายในซึ่งยังเป็นอากาศเย็น ได้นำ�มา ปล่อยภายในช่องระหว่างผนังกระจก ช่วยเพิ่มการไหลเวียน ของอากาศ และเพิม่ ความสามารถในการดูดซับความร้อนได้ อีกด้วย ผนวกกับการทำ� Roof Garden บนหลังคาของอาคาร ก็ช่วยป้องกันความร้อนที่จะเข้ามาในอาคารได้เช่นกัน 30 l

และเนื่ อ งจากอาคารเป็ น กระจกทุ ก ด้ า น ทำ � ให้ มี ปริมาณแสงส่องเข้ามาในอาคารมาก การควบคุมแสงสว่าง ภายในอาคารทำ�ได้โดยการใช้ Daylight Sensor หากแสง ภายนอกมีปริมาณมากพอ ระบบจะลดการใช้ไฟจากหลอด ไฟลง แต่หากมีปริมาณมากเกิน ผู้ใช้อาคารสามารถดึงม่าน เพื่อปรับลดแสงที่ส่องเข้ามา เป็นการควบคุมแสงสว่างที่มี ประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่ง

เป้าหมายของการทำ� Green Building ที่สมบูรณ์ ตามมาตรฐานของ LEED อาจจำ�เป็นต้องอาศัยเจตจำ�นง เริ่ ม ต้ น เพื่ อ ที่ จ ะนำ � มาสู่ ก ารวางแผนตั้ ง แต่ ต้ น แต่ ห าก ผู้ประกอบการที่มีอาคารอยู่เดิมต้องการเพิ่มในเรื่องของ การประหยัดพลังงาน ก็สามารถทำ�ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ อาจจะมีความยาก และข้อจำ�กัดของการออกแบบระบบ มากกว่าอาคารที่ก่อสร้างขึ้นสำ�หรับการเป็นอาคาร Green Building ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาส่วนใหญ่จะมีเช็คลิสต์เพื่อตรวจ สอบเบื้องต้นว่าอาคารที่มีอยู่เดิมนั้นสามารถจัดการเรื่อง การประหยัดพลังงานได้มากน้อยเพียงใด หรือต้องใช้ระบบ ใดเข้ามาเป็นหลักในการจัดการ

นอกจากนั้ น การประหยั ด พลั ง งานและความเป็ น มิตรของสิ่งแวดล้อมของ Green Building จะเป็นไปและได้ ผลร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่นั้น อีกปัจจัยที่สำ�คัญไม่น้อยไป กว่ากันคือ ผูใ้ ช้หรือผูอ้ าศัยทีอ่ ยูใ่ นอาคารทีจ่ �ำ เป็นต้องเข้าใจ ในเรื่องของการประหยัด และนำ�มาสู่การปฏิบัติอย่างเป็น รูปธรรม ก็จะช่วยให้ Green Building เป็นอาคารเพื่อสิ่ง แวดล้อมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แม้จะเป็นระบบทีค่ อ่ นข้างซับซ้อน แต่ปจั จุบนั กระแส สีเขียวที่กลายเป็นเทรนด์ และเป็นวัฒนธรรมขององค์กร ขนาดใหญ่ ที่ ต้ อ งมี ก ารคำ � นึ ง ถึ ง เรื่ อ งของผลกระทบ ทางด้านสิง่ แวดล้อม การคืนประโยชน์กลับสูส่ งั คม หรือแม้แต่ เป็ น ข้ อ ตกลงหนึ่ ง ของการค้ า ระหว่ า งประเทศที่ อ งค์ ก ร หรือหน่วยงานต้องมีการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้ มาตรฐานระดับโลกก็ตาม ก็ได้ทำ�ให้การพัฒนาของเทคโน- โลยีเพือ่ การประหยัดพลังงานก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยัง้ เพราะฉะนัน้ ประโยคทีว่ า่ การรักษาสิง่ แวดล้อม การประหยัด พลังงานนั้นยาก และต้องลงทุนสูง อาจจะไม่สามารถนำ�มา อ้างได้อีกต่อไป เพราะเทคโนโลยี หรือระบบเพื่อพลังงานที่ ยั่งยืนนั้นนับวันจะมีความหลากหลายให้เลือกใช้ และราคา ประหยัดมากขึ้น หรือแม้ราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไป แต่เมื่อ คำ�นวณระยะเวลาการใช้กับการลงทุน เทคโนโลยีรักษ์โลก ต่างๆ เหล่านี้ ก็ถือว่าสะอาด และถูกลง จนเรียกได้ว่าคุ้มค่า และน่าลงทุนในระยะยาว

HUNT l Overview

เทคโนโลยีปรับปรุงคุณภาพ

...พลังงานชีวภาพ... >> กองบรรณาธิการ : เรื่อง

ในปัจจุบัน ขณะที่พลังงานหลักที่เป็นเชื้อเพลิงที่ต้อง มีคา่ ใช้จา่ ยของการนำาเข้า รวมถึงปริมาณทีม่ อี ยูเ่ หลือน้อยลง ทุกวัน การหาพลังงานทางเลือกจากธรรมชาติจึงกลายเป็น พลั ง งานที่ เ ป็ น อนาคตสำ า หรั บ ผู้ ป ระกอบการในภาค อุตสาหกรรม อย่างเช่น ก๊าซชีวภาพ

ปัจจุบนั ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทดแทนทีก่ าำ ลังได้รบั ความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศทั่วโลกโดย เฉพาะในแถบยุโรป ซึง่ มีเยอรมนีเป็นหัวหอกในด้านการผลิต ความนิยมและการยอมรับในเรื่องของก๊าซชีวภาพในฐานะ พลังงานทางเลือกที่มีอนาคตที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก็เนื่องจากว่า หากพิจารณาทางด้านเศรษฐกิจแล้ว การลงทุนผลิตก๊าซ ชี ว ภาพถื อ เป็ น การลงทุ น ที่ ต่ำ า กว่ า เมื่ อ เที ย บกั บ การผลิ ต เชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ รวมทั้งก๊าซชีวภาพยังสามารถนำามาใช้ ทดแทนพลังงานจากเชือ้ เพลิงอืน่ ๆ เช่น ฟืน ถ่าน น้าำ มัน ก๊าซ หุงต้ม และไฟฟ้า

การทีก่ า๊ ซชีวภาพเป็นพลังงานยัง่ ยืน และราคาถูกกว่า พลังงานจากเชือ้ เพลิงอืน่ ๆ ก็ดว้ ยเหตุทวี่ า่ ก๊าซชีวภาพนัน้ เกิด ขึ้นตามธรรมชาติ คือเกิดจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ ไม่ ว่าจะเป็นซากพืช ซากสิง่ มีชวี ติ ซากและของเสียจากสัตว์ น้าำ ทิ้ ง จากโรงงานแปรรู ป สิ น ค้ า ทางการเกษตร ฯลฯ โดย กระบวนการย่อยสลายเกิดขึ้นจากการทำางานของจุลินทรีย์ ภายใต้สภาวะที่ปราศจากออกซิเจน

สิง่ ทีไ่ ด้จากการย่อยสลายนีจ้ ะประกอบด้วยก๊าซหลาย ชนิด ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน (CH4) 45-80% ซึง่ มีคณ ุ สมบัต ิ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและติดไฟได้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ประมาณ 30-50% ส่ ว นที่ เ หลื อ จะเป็ น ก๊ า ซอื่ น ๆ เช่ น ไฮโดรเจน (H2) ออกซิเจน (O2) ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) ไนโตรเจน (N2) และไอน้ำา เป็นต้น โดยก๊าซชีวภาพนั้นจะมี ค่าความร้อนประมาณ 21 เมกะจูลต่อลูกบาศก์เมตร ที่ สัดส่วนของก๊าซมีเทน 60%

ทว่าการนำาก๊าซธรรมชาติมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมนัน้ จำาเป็นต้องขจัดสิง่ แปลกปลอม หรือก๊าซทีอ่ าจสร้างความเสีย หายต่ออุปกรณ์ในระบบการผลิต เพราะฉะนัน้ ก่อนทีน่ าำ ก๊าซ ชีวภาพไปใช้จึงจำาเป็นต้องมีการปรับปรุง เพื่อให้ได้ก๊าซ ชีวภาพที่บริสุทธิ์

ข้อแรก คือ ต้องลดปริมาณความชื้นและสิ่งแปลก ปลอมในท่อส่งกาซ เนื่องจากก๊าซชีวภาพนั้นผ่านกระบวน การย่อยสลายแบบไร้อากาศ (Anaerobic Digestion) จึงมัก จะมีความชื้นสูงจนเกือบถึงจุดอิ่มตัว เมื่อก๊าซชีวภาพไหล ผ่านท่อก๊าซที่มีอุณหภูมิต่ำา จะทำาให้ความชื้น (ไอน้ำา) ในก๊าซ กลั่นตัวเป็นหยดน้ำาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35 – 100 g/m3 หรื อ อาจจะแตกต่ า งมี ป ริ ม าณมากหรื อ น้ อ ยขึ้ น อยู่ กั บ อุ ณ หภู มิ ก๊ า ซที่ เข้ า ไป หากอุ ณ หภู มิ ก๊ า ซยิ่ ง สู ง ปริ ม าณ ความชื้นจะยิ่งมากขึ้นตามลำาดับ l 31

ข้อสอง คือ การปรับลดกาซไฮโดรเจนซัลไฟด์ H2S เนือ่ งจากก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ทปี่ ะปนมากับก๊าซชีวภาพนัน้ จะมีคุณสมบัติของความเป็นก๊าซพิษ หากสัมผัสกับน้ำาหรือ ไอน้าำ จะสามารถเปลีย่ นสถานะเป็นกรดซัลฟูรคิ ซึง่ มีลกั ษณะ เป็นไอกรดหรือฝนกรด ซึ่งจะทำาความเสียหายให้กับวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ได้ เพราะมันมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนโลหะ เพราะฉะนั้ น ก่ อ นนำ า ก๊ า ซชี ว ภาพไปใช้ ใ นระบบการผลิ ต จึงจำาเป็นต้องลดปริมาณก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ลง เพื่อว่า จะได้ไม่เกิดสารที่จะไปทำาลาย แล้วยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย

เหตุผลสุดท้าย คือ การปรับลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึง่ จำาเป็นต้องปฏิบตั กิ ต็ อ่ เมือ่ มีความจำาเป็น อย่างเช่น การมีสัดส่วนของก๊าซมีเทนต่ำามากจนอยู่ในระดับ ที่จุดไฟติดยาก

จากที่กล่าวมา การที่ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์สามารถ ทำาปฏิกิริยากับไอน้ำาในก๊าซชีวภาพ ก่อให้เกิดเป็นไอกรด ที่ มี ฤ ทธิ์ กั ด กร่ อ น ซึ่ ง ค่ า ควบคุ ม ก๊ า ซไฮโดรเจนซั ล ไฟด์ ใ น ก๊ า ซชี ว ภาพที่ นำ า ไปเป็ น เชื้ อ เพลิ ง สำ า หรั บ เครื่ อ งยนต์ เ พื่ อ ผลิตไฟฟ้าควรต่าำ กว่า 500 ppm (part per million) จึงจะเหมาะ สมสำาหรับการสันดาปภายในของเครื่องยนต์ ดังนั้น จึงต้อง กำ า จั ด ปริ ม าณความชื้ น ในก๊ า ซชี ว ภาพ ก๊ า ซไฮโดรเจน ซัลไฟด์ ซิลิกอนไดออกไซด์ และรักษาระดับของคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม (<5%) เพื่อยืดอายุ การใช้งานของชุดผลิตพลังงานไฟฟ้า ลดการสึกหรอของ เครือ่ งยนต์ ลดค่าใช้จา่ ยในการบำารุงรักษา ทำาให้ประสิทธิภาพ การเผาไหม้ดีขึ้น และเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยไอเสียสู่ ชั้นบรรยากาศลงอีกด้วย

ก่อนนำาก๊าซชีวภาพไปใช้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานความ ร้อน โดยเครื่องกำาเนิดไฟฟ้า จึงต้องมีการกำาจัดสิ่งปนเปื้อน ทีป่ ะปนมากับก๊าซชีวภาพโดยใช้ Biogas Filter ก่อนเข้าเครือ่ ง แลกเปลี่ยนอุณหภูมิ (Biogas Cooler) ซึ่งติดตั้งมาพร้อมกับ เครื่องทำาความเย็น (Biogas Chiller) ซึ่งสามารถทำาความเย็น ได้ต่ำาถึง 3 องศาเซลเซียส จากนั้นความชื้นที่กลั่นตัวออก มาจะถูกแยกออกจากก๊าซโดย Biogas Separator ซึ่งออก แบบมาให้ลดการสูญเสียความดัน (pressure drop) ทีต่ า่ำ มาก

32 l

ก๊าซชีวภาพ ก๊าซตั้งต้น Bio Methane

นอกจากนั้นก๊าซชีวภาพยังสามารถนำาไปใช้เป็นก๊าซ ตั้งต้นในการผลิตเชื้อเพลิง Bio Methane เพราะมีเทนเป็น ก๊าซที่จุดติดไฟได้ดี จนถือได้ว่าเป็นพลังงานทางเลือกใหม่ สำาหรับเชื้อเพลิงที่ใช้ในยานพาหนะในปัจจุบัน ข้อดีของการ ใช้ Bio Methane เป็นเชื้อเพลิง คือจะเป็นการช่วยลดการ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดปริมาณไนตรัสออกไซด์ และอนุภาคฝุ่นต่างๆ ที่จะออกสู่บรรยากาศ

เช่นเดียวกับกรณีของการนำาก๊าซชีวภาพมาใช้ในระบบ การผลิต ที่จะต้องมีการขจัดหรือลดสิ่งปลอมปนที่ปะปนอยู่ ในก๊าซชีวภาพ การนำาก๊าซชีวภาพใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง สำาหรับรถยนต์กจ็ าำ เป็นต้องปรับปรุงคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ก่อน คือการกรองและกำาจัดความชื้น เพื่อป้องกันการเกิด สนิมตระกรัน ลดการกัดกร่อนที่จะเกิดขึ้นใน Gas Tank สิ่ง สกปรกอุดตันที่ปั๊มลม เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน อะไหล่ในหัวจ่ายก๊าซที่เกิดความสึกหรอก่อนเวลาอันควร นอกจากนั้นยังช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ อันเนื่อง มาจากการกัดกร่อนของก๊าซชีวภาพที่ไม่ได้รับการบำาบัดให้ เหมาะสมก่อนนำามาใช้ โดยสิ่งที่ต้องกำาจัดก่อนนำามาใช้ สำาหรับการเป็นเชื้อเพลิงสำาหรับรถยนต์ คือการกำาจัดสิ่งปน เปื้อน ฝุ่นละลอง น้ำามันทาร์ และความชื้น เพื่อให้ได้ก๊าซ มีเทนที่มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น การขจัด ซิลิกอนไดออกไซด์ในกรณีที่ก๊าซ มาจากหลุมฝงกลบขยะ

นอกจากตัวก๊าซชีวภาพเองทีต่ อ้ งมีการนำามาปรับปรุง คุณภาพเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยไม่ก่อให้เกิดผล กระทบต่อระบบการผลิต และผลกระทบทางด้านสิง่ แวดล้อม แล้ว อีกขัน้ ตอนทีต่ อ้ งใส่ใจไม่นอ้ ยไปกว่ากันก็คอื การรวบรวม ก๊าซชีวภาพจากหลุมฝังกลบขยะ

ในขั้นตอนกระบวนการสันดาปจากการผลิตพลังงาน ก๊าซเชือ้ เพลิงทีผ่ ลิตได้ โดยการถ่ายเทความร้อนจากก๊าซร้อน ที่เกิดจากการเผาไหม้ขยะในเตาเผา หรือการให้ความร้อน โดยตรงเป็นเชื้อเพลิงสำาหรับผลิตไฟฟ้าโดยใช้กังหันก๊าซ กระบวนการนีจ้ ะทำาให้เกิดซิลกิ อนไดออกไซด์ (SiO2 ) ขึน้ ซึง่

ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก เนื่องจากผลึกของซิลิกอนไดออกไซด์ จ ะเคลื อ บติ ด ไปกั บ พื้ น ผิ ว ร้ อ นๆ และสั ม ผั ส โดยตรงกับก๊าซชีวภาพที่จะถูกทำาให้เย็นตัวลงในหม้อน้ำา ก่อ ให้เกิดปัญหาหลุดปะปนไปกับก๊าซ จนสามารถทำาความเสีย หายให้กับระบบได้

การลดความเสียหายนี้ก็สามารถทำาได้โดยการทำา ความสะอาดและปรับปรุงคุณภาพก๊าซก่อนนำาไปใช้ โดยใช้ กระบวนการ Adsorbtion System ทีม่ ปี ระสิทธิภาพสูงในการ กำาจัด ซิลิกอนไดออกไซด์ออกจากระบบก๊าซ ทำาให้ก๊าซมี คุณภาพดีข้ึน เท่ากับว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลและ ซ่อมบำารุงเครื่องจักร ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ต่างๆ และลดการปล่อยก๊าซไอเสียสู่บรรยากาศ ซึ่งจะทำาให้ เกิดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

แม้ ว่ า ก๊ า ซชี ว ภาพจะเป็ น แหล่ ง พลั ง งานธรรมชาติ ที่ยั่งยืน และราคาถูก ทำาให้กลายเป็นพลังงานทางเลือกที่ เป็นอนาคตในภาคการผลิตอุตสาหกรรม แต่ก๊าซชีวภาพก็ ต้องมีการนำามาผ่านกระบวนการปรับปรุงเพื่อขจัดสิ่งแปลก ปลอมและทำ า ให้ ก๊ า ซชี ว ภาพสะอาดเหมาะสมกั บ การใช้ และไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบการผลิต ซึ่งการจัดการ พลังงานธรรมชาติให้เหมาะสมพร้อมใช้กไ็ ม่ใช่เรือ่ งทีย่ ากเย็น หากได้รับการดูแลจากบริษัทที่เชี่ยวชาญ

อย่างเช่น บริษทั ดอมนิคฮันเตอร์-อาร์แอล (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบำาบัดลมอัดและก๊าซ มา ยาวนานกว่า 20 ปี เป็นบริษทั ทีม่ กี ารค้นคว้าวิจยั และพัฒนา เพิ่ ม ส่ ว นผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ นการดู แ ลและปรั บ ปรุ ง ก๊ า ซชี ว ภาพ ตั้ ง แต่ ร ะบบการกรองเพื่ อ ลดสิ่ ง แปลกปลอม (Filtration) การกำาจัดความชื้น (Moisture Removal) ลดอุณหภูมิก๊าซ (Cooling) ตลอดจนการทำาให้ก๊าซชีวภาพมีความแห้ง เนื่อง จากอุปกรณ์กำาเนิดไฟฟ้า (Cogeneration Heat Power) ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำาหรับ Bio Methane ในการบำาบัดก๊าซ Bio Methane ก่อนนำาไปใช้งาน โดยรองรับแรงดันได้ถึง 350 bar รวมถึงการบริการจากวิศวกรที่ชำานาญงาน

อง¤์ประกอบในก า«ชÕวภาพทÕ่¤วรกÓจัดทิงé 1. Hydrogen Sulphide 2. Ammonia (NH3) 3. Siloxane 4. Aromatic Hydrocarbon 5. Halogens (Chlorine, Fluorine) 6. Particulates

l 33

HUNT l Technology

เครือขาย 3G ไหน...น่าใช้สุด >> ดร.ธีรวัฒน์ ไพบูลย์กุลกร : เรื่อง

การก้าวเข้าสู่ยุค 3G ของประเทศไทยแม้จะต้องผ่าน อุ ป สรรคนานาประการกว่ า จะเกิ ด ขึ้ น ได้ จ ริ ง ในอย่ า งใน ปัจจุบัน ที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่สนใจเข้าประมูลสัญญา สั ม ปทานกั น ไปเรี ย บร้ อ ย แต่ ก็ ใช่ ว่ า ประสิ ท ธิ ภ าพของ เทคโนโลยีทที่ กุ คนรอคอยจะมีประสิทธิภาพเต็มร้อย เหตุผล ของความไม่พร้อมเป็นเพราะอะไร และอนาคตโรดแมปของ 3G ไทยจะก้าวไปยืนตรงจุดไหน และสิ่งที่หลายคนอยากรู้ก็ คือ ในฐานะผู้ใช้จะเลือกค่ายไหนถึงจะได้ทั้งประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า เพราะฉะนั้นเรามาดูกันนะครับ

จากผลของการประมูลคลื่นความถี่ 3G ที่ย่าน 2100 MHz เมือ่ วันที ่ 16 ตุลาคม 2555 ทุกบริษทั ได้รบั คลืน่ ทีม่ คี วาม กว้าง 15 MHz เท่ากันหมด โดยบริษัท AWN (Advanced Wireless Network) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ AIS บริษัท Real Future ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ทรู และบริษัท ดีแทค เน็ทเวอร์ค จำากัด บริษัทในเครือดีแทค ต่างประกาศว่าจะปฏิบัติ ตามเงือ่ นไขการประมูล โดยการติดตัง้ โครงข่าย 3G ทีส่ ามารถ รองรับประชากร 50% หรือประมาณ 34 ล้านคนภายในปี 2557 และ 80% หรือประมาณ 52 ล้านคน ภายในปี 2559 โดยใช้เทคโนโลยี HSPA+ ความเร็วสูงสุดดาวโหลดสูงสุดที่ 42 Mbps จากข้อกำาหนดนีท้ าำ ให้ผใู้ ช้บริการหวังว่าการสือ่ สาร จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ความจริงแล้วหากผู้ใช้บริการมี การใช้งาน Data เป็นจำานวนมาก ความเร็วที่จะได้รับในช่วง เวลาเดียวกันจะถูกแบ่งไป นัน่ เป็นเหตุผลหนึง่ ทีท่ าำ ให้ผใู้ ช้สว่ น หนึง่ ประหลาดใจว่าใช้บริการ 3G แล้วทำาไมประสิทธิภาพกลับ ไม่แตกต่าง

ส่วนการวิเคราะห์ Roadmap การให้บริการ 3G ของ แต่ละค่ายโดยมองทีค่ ลืน่ ความถีย่ า่ น 2100 MHz เพียงอย่าง เดียวก็ไม่สามารถทำาได้ ต้องมองสิ่งแวดล้อมข้างเคียงด้วย เช่น ย่านความถี่ 850 MHz, 900 Mhz, และ 1800 Mhz ความพร้อมของ Core Network, เสาโทรคมนาคม, และสื่อ สัญญาณไฟเบอร์ออปติก เป็นต้น 34 l >> sxc.hu : ภาพประกอบ

3G:AIS

จากตารางการครอบครองความถี่ของแต่ละค่าย จะ พบว่ า บริ ษั ท ที่ ป ระสบปั ญ หาคลื่ น ความถี่ ที่ สุ ด คื อ AIS เพราะมีผู้ใช้บริการประมาณ 34 ล้านคน ที่รวมกันอยู่ใน คลื่นความถี่สัมปทาน 1800 MHz และ 900 MHz โดยรวม ทั้งหมด 45 MHz ซึ่งสิทธิการใช้งานจะหมดทันทีเมื่อหมด สัญญาสัมปทานภายในปี 2556 และ 2558 ตามลำาดับ (ยังไม่มองถึงย่าน 2100 MHz เพราะโครงข่ายยังไม่พร้อม) เพราะการลงทุนเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการและขยายโครง ข่ายสัมปทานเต็มร้อย ผูใ้ ห้บริการเองอาจประเมินว่าสุดท้าย แล้วจะไม่คมุ้ ค่า เพราะต้องโอนสินทรัพย์ทงั้ หมดตามสัญญา สัมปทาน ทำาให้ปัจจุบันลูกค้าของ AIS ประสบปัญหาการใช้ บริการทั้ง Voice และ Internet

ด้วยปัญหาดังกล่าว AIS จึงดิ้นรนอย่างที่สุดที่จะหา ย่านความถี่ย่านใดย่านหนึ่งมารองรับลูกค้า อย่างที่ปรากฏ ในข่าวเมื่อปลายปี 2555 AIS ยอมเสนอจำานวนเงินประมูล สู ง กว่ า คู่ แข่ ง เพื่ อ ให้ ไ ด้ มี สิ ท ธิ เ ลื อ กบล็ อ กที่ ดี ที่ สุ ด ในย่ า น ความถี่ 2100 MHz และเร่งรีบสร้างโครงข่ายและเปิดบริการ 3G ทีค่ วามถี ่ 2100 MHz ให้เร็วทีส่ ดุ เพือ่ ป้องกันลูกค้าตนเอง ไหลออกไปยังคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ 15 MHz ที่ย่าน ความถี่ 2100 MHz ไม่เพียงพอกับความต้องการของ AIS เมือ่ เทียบกับคูแ่ ข่ง ผูบ้ ริหาร AIS ถึงกับประกาศจะเข้าประมูล คลื่นความถี่ทุกคลื่นที่สามารถนำามาใช้ในกิจการโทรศัพท์ เคลื่อนที่เมื่อสิ้นสุดสัมปทาน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะครอบครองคลื่นความถี่ย่านใด ก็ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม เช่น สถานีฐาน เสาโทรคมนาคม ระบบสื่อ สัญญาณ Fiber optic เป็นต้น

AIS จึงเล็งเห็นความจำาเป็นดังกล่าวจึงจำาเป็นต้องผูก มิตรกับเจ้าของโครงสร้างพืน้ ฐานรายใดรายหนึง่ ซึง่ หนีไม่พน้ TOT ทีผ่ า่ นมา AIS จึงมีการส่งสัญญาณเป็นพันธมิตรทีด่ กี บั TOT ในการร่ ว มมื อ กั น ให้ บ ริ ก ารโทรคมนาคม ไม่ ว่ า จะ

•• แม้ทุกค่ายจะประกาศว่าได้เริ่มให้บริการ 3G อย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ในภาคของผู้ใช้ต้องบอกว่าเป็นช่วงของการทดลองใช้ เหมือนเป็นการ Soft Launch ของระบบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังลงโครงข่ายหรืออัพเกรดใหญ่ในโครงข่ายหลัก (Core Network) ซึ่งต้องมีระยะเวลาของการทดลองเผื่อว่าหากพบปัญหาหรือข้อบกพร่อง ผู้ให้บริการจะได้หาวิธีแก้ไข ถือว่าเป็นการจำกัดผลกระทบให้อยู่ในวงแคบ •• เป็นการเจรจาในการใช้ทรัพยากรเสาโทรคมนาคม และสื่อ สัญญาณร่วมกัน การเจรจาการใช้อปุ กรณ์ทเี่ กีย่ วข้องกับคลืน่ สัมปทาน 900 MHz และลูกค้าหลังหมดสัมปทาน , การเลือก ย่านความถี่ 2100 MHz บล็อกที่ติดกับบล็อกความถี่ของ TOT 3G, ความร่วมมือการให้บริการแบบ Voice and Data Roaming ระหว่าง AIS 900 กับ TOT 3G, การร่วมมือกัน ทดสอบ 4G LTE ที่ความถี่ 2300 MHz ที่ TOT ถือครองอยู่ ถึง 64 MHz เป็นต้น อนาคตก็คาดเดาได้เลยว่าเราจะเห็น ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสององค์กรนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหากจะให้วิเคราะห์โรดแมปของ AIS แบบง่ายๆ ก็ สามารถอธิบายแบบง่ายๆว่า จุดหมายปลายทางมีสองข้อ คือ การครอบครองความถี่ให้มากที่สุด และใช้โครงสร้างพื้น ฐานโทรคมนาคมของ TOT แต่จะให้ลงรายละเอียดกิจกรรม หรื อ ภารกิ จ ที่ AIS จะทำ า ต่ อ ไปนั้ น ผู้ เขี ย นคงไม่ มี ค วาม สามารถที่จะคาดเดาได้ แต่ผลลัพธ์ท้ายที่สุดก็เพื่อบรรลุจุด หมายปลายทั้งสองข้อที่ว่ามานี้

3G: DTAC

ค่ายนี้มีข่าวมาว่าได้มีการลงทุนอัพเกรดโครงข่าย หลัก และแล้วเสร็จไปไม่นานมานี ้ ทำาให้โครงข่ายหลักมีความ พร้อมในการรองรับเทคโนโลยี 3G และ 4G และถ้าดูตาม ตารางจะเห็ น ว่ า มี ค วามได้ เ ปรี ย บในความกว้ า งของแถบ ความถี่มากที่สุด และระยะเวลาใบอนุญาตในการใช้คลื่น ความถี่สัมปทานยังเหลืออีก 5 ปี ทำาให้เป็นผู้ประกอบการที่ ได้เปรียบมากที่สุดในขณะนี้ ปัจจุบัน DTAC มีฐานลูกค้า ประมาณ 25 ล้านราย แบ่งเป็น ลูกค้า 2G ประมาณ 22 ล้าน ราย ที่ย่านความถี่ 1800 MHz โดยใช้ความกว้างของแถบ ความถี่ไป 25 MHz (ทั้งที่มีสิทธิใช้ถึง 50 MHz) และลูกค้า 3G

ประมาณ 3 ล้านราย ที่ย่าน 850 MHz โดยใช้ความกว้างของ แถบความถี่ 10 MHz โดยสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2561 และล่าสุดได้ใบอนุญาต 3G ที่ย่านความถี่ 2100 MHz มาอีก 15 MHz เพราะฉะนั้นหากใครติดตามข่าวก็จะ พบว่าผู้บริหาร DTAC ส่งสัญญาณชิลๆ ว่าไม่จำาเป็นต้องเร่ง รีบสร้างโครงข่าย 3G ย่านความถี่ 2100 MHz เพราะมีย่าน ความถี่เหลือเฟือ ความมั่นใจที่แสดงออกมาของค่ายนี้ไม่ใช่ เรือ่ งผิดนะครับ แต่กไ็ ม่ใช่ทงั้ หมด ถ้าพูดกันเฉพาะในเรือ่ งของ พื้นที่ที่เป็นเขตต่างจังหวัดอาจจะใช่ แต่ถ้าเป็นเขตเมืองที่มี ประชากรหนาแน่นและมีการใช้งาน Data สูงๆไม่น่าจะเป็น เช่นนั้น เนื่องจากเหตุผลสามข้อครับ

ข้อแรก DTAC ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการประมูล คลื่นความถี่ในการสร้างโครงข่ายให้รองรับการใช้งานให้กับ ประชาชน 50 % และ 80% ในปี พ.ศ. 2557 และ พ.ศ. 2559 ตามลำาดับ ข้อสอง DTAC ต้องการย้ายลูกค้าชั้นดีบนคลื่น ความถี่สัมปทาน 850 MHz ไปอยู่ที่คลื่นความถี่ 2100 MHz เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ที่สูงถึง 20-25% ของรายได้ให้กับ CAT ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้นที่ DTAC จะยอมให้ลูกค้ายังอยู่บนคลื่นสัมปทาน และข้อสาม การกระจายคลื่นที่ไปไกลกว่าที่ความถี่ 850 MHz ช่วยลด ต้นทุนในการสร้างสถานีฐานเพิ่มในต่างจังหวัด แต่ไม่ใช่ใน กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ที่มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตสูง ซึ่ง จำ า เป็ น ต้ อ งลงทั้ ง สองย่ า นความถี่ ใ นเสาโทรคมนาคมต้ น เดียวกัน ดังนั้นเราจะเห็นภาพการเร่งรีบลงอุปกรณ์ 3G ที่ ย่านความถี่ 2100 MHz ในตัวเมือง แต่สำาหรับ DTAC การ เป็นผู้ได้เลือกทางเดินเองย่อมมีความสุขกว่าการเป็นผู้ถูก เลือกปฏิบัติอย่างเช่นในอดีต l 35

ความกว้างของแถบความถี่ และระยะเวลาสัมปทาน/ใบอนุญาต

2100 MHz 15 MHz

850 MHz 15 MHz

900 MHz 5 MHz 2100 MHz 15 MHz 2100 MHz 15 MHz 3 3

1800 MHz 12.5 MHz

850 MHz 10 MHz

1800 MHz 12.5 MHz

900 MHz 12.5 MHz 1800 MHz 25 MHz) 50 MHz (

3G:TrueMoveH

ตอนนีค้ า่ ยนีด้ จู ะมีความสุขทีส่ ดุ เพราะมีคลืน่ ความถี่ มารองรับหลังสัญญาสัมปทานทีจ่ ะหมดในปี 2556 สองย่าน คือ ทีค่ วามถี ่ 850 MHz ความกว้าง 15 MHz มีอายุถงึ ปี 2568 และความถี ่ 2100 MHz ความกว้าง 15 MHz มีอายุถงึ ปี พ.ศ.

2570 รวมแล้วมีถึง 30 MHz ในการให้บริการ 3G และล่าสุด ความไม่แน่นอนในการทำาสัญญา 3G รูปแบบใหม่กับ CAT มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำาดับว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นโมฆะ เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขสัญญาบางข้อสามารถดำาเนินธุรกิจ ต่อได้เลย ทำาให้เป็นผู้ประกอบการเครือข่าย 3G ที่ได้เปรียบ รายอื่นที่สุดในเวลานี้ 36 l

•• TrueMove H ตอนนี้ค่ายนี้ ดูจะมีความสุขที่สุด เพราะมีคลื่น ความถี่มารองรับหลังสัญญาสัมปทาน ที่จะหมดในปี 2556 สองย่าน คือ ที่ความถี่ 850 MHz ความกว้าง 15 MHz มีอายุถึง ปี 2568 และความถี่ 2100 MHz ความกว้าง 15 MHz มีอายุถึงปี พ.ศ. 2570 รวมแล้วมีถึง 30 MHz ••

ล่าสุดผู้บริหาร TrueMove ให้ข้อมูลว่ามีสถานีฐานที่ รองรับเครือข่าย 3G บนคลื่น 850 MHz ประมาณ 13,000 สถานี ซึ่งสามารถให้บริการครอบคลุมถึง 51,161 หมู่บ้าน แล้ว แม้จะมีพื้นที่ให้บริการ 3G ครอบคลุมทั้งประเทศที่ย่าน 850 MHz แต่ค่ายนี้ก็ไม่สามารถละเลยที่จะไม่ลงทุนโครง ข่ายในย่านความถี่ 2100 MHz เนื่องด้วยติดเงื่อนไขการ ประมูลที่ต้องปฏิบัติตาม โดยเราจะเห็นการลงทุนและติดตั้ง อุปกรณ์ย่านความถี่ 2100 MHz ที่เน้นในกรุงเทพฯ และ หัวเมืองหลักเท่านั้น โดยอุปกรณ์ที่ลงสามารถปรับเปลี่ยน จากเทคโนโลยี 3G เป็น 4G ได้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจมีคำ�ถามว่าแล้ว TrueMove และ DTAC ที่มีย่านความถี่ที่ใกล้กันในย่าน 850 MHz ซึ่งให้บริการ 3G ได้เหมือนกัน คุณสมบัติการแพร่กระจาย คลืน่ ไปได้ไกลพอกัน แล้วใครจะได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้ามอง ในประเด็นเทคนิค แทบทุกอย่างเท่าเทียมกันครับ แต่ถ้าใน แง่ต้นทุน TrueMove จะได้เปรียบกว่า เพราะต้องไม่ลืมว่า DTAC ยังติดสัญญาสัมปทานคลื่น 850 MHz กับ CAT อีก 5 ปี ดังนั้นต้องแบ่งส่วนแบ่งรายได้จากลูกค้า 25% ให้ CAT ในขณะที่การทำ�สัญญา 3G รูปแบบใหม่ในส่วนของ CAT จะ มีรายได้ตามสัดส่วนในสัญญา 23% แต่เมือ่ หักค่าเช่าอุปกรณ์ และการจ่ายค่าเช่าให้กบั บริษทั บีเอฟเคที (บริษทั ในเครือของ กลุ่มทรู) แล้ว จะเหลือรายได้ 17% แสดงให้เห็นว่าต้นทุน ของ TrueMove ต่ำ�กว่า ส่วนผู้ประกอบการที่ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz จะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมและค่า USO รวม ไม่เกิน 6% ของรายได้

ปัจจุบัน แม้ทุกค่ายจะประกาศว่าได้เริ่มให้บริการ 3G อย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ในภาคของ ผู้ใช้ต้องบอกว่าเป็นช่วงของการทดลองใช้ เหมือนเป็นการ Soft Launch ของระบบ ซึง่ เป็นเรือ่ งปกติหลังลงโครงข่ายหรือ อัพเกรดใหญ่ในโครงข่ายหลัก (Core Network) ซึง่ ต้องมีระยะ เวลาของการทดลอง เผื่อว่าหากพบปัญหาหรือข้อบกพร่อง ผูใ้ ห้บริการจะได้หาวิธแี ก้ไข ถือว่าเป็นการจำ�กัดผลกระทบให้ อยูใ่ นวงแคบ จนกว่าการให้บริการทุกอย่างราบรืน่ จึงจะมีการ ทยอยเพิ่มจำ�นวนลูกค้าโดยการขยายจำ�นวนสถานีฐานไป เรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้จะครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ในกรุงเทพฯ และ หัวเมืองหลัก ส่วนผูใ้ ช้ในต่างจังหวัด ทัง้ สองค่ายคือ AIS และ DTAC ต่างต้องประคองสถานการณ์รักษาฐานลูกค้าไปก่อน

ด้วยการทำ�กิจกรรมทางการตลาด การออกโปรโมชั่น หรือ จัด Royalty program ที่โดนใจลูกค้า แต่ก็คาดว่าคงไม่เกิน ปีนี้โครงข่าย 3G ของทั้งสองค่ายจะมีความพร้อม

ผู้ใช้เลือกอย่างไร ค่ายไหนคุ้ม

หลังจากนี้ หากเครือข่าย 3G ของทุกค่ายมีความ พร้อม สำ�หรับผู้ใช้บริการจะเลือกอย่างไร หากจะให้แนะนำ� ผมคิดว่าอย่างแรกเลยคือ ควรศึกษาอุปกรณ์ที่ใช้ก่อนว่ามี คุณสมบัติรองรับกับเครือข่ายใด และต้องมีการปรับจูนอะไร ก่อนหรือไม่ เพราะโทรศัพท์สมาร์ทโฟนบางรุ่นมีการตั้งให้ รองรับความถี่ 900 MHz และ 2100 MHz ซึ่งเครื่องรุ่นนี้จะ เหมาะสมกับการใช้บริการของ AIS เพราะให้บริการทั้ง 2G 900 MHz และ 3G 900/2100 MHz ส่วนบางรุ่นที่ถูกตั้งไว้ ให้รองรับความถี่ 1800/850/2100 MHz MHz ก็จะสอดคล้อง กับโครงข่ายของ DTAC และ TruemoveH ที่ให้บริการ 2G 1800 MHz และ 3G 850/2100 MHz แต่ปัจจุบันเครื่อง สมาร์ทโฟนรุน่ ใหม่ๆ จะได้รบั การออกแบบให้รองรับความถี่ และเทคโนโลยีได้เกือบทุกย่าน คือ รองรับ GSM 850/900/ 1800/1900 3G 850/900/2100 MHz หรือแม้กระทั่งรองรับ 4G LTE 700/850/2100 MHz ครับ ข้อต่อมาก็คอื การดูพนื้ ที่ ครอบคลุ ม สั ญ ญาณ สั ง เกตได้ ถ้ า จำ � นวนสถานี ฐ าน 3G มาก พื้นที่ครอบคลุมการให้บริการก็จะมากขึ้น

และเพื่ อ ให้ คำ � ตอบของผมครอบคลุ ม รู ป แบบการ บริโภคไอทีของคนรุน่ ใหม่ ทีส่ ว่ นใหญ่มอี ปุ กรณ์สอื่ สารหลาก หลายชนิด จะเลือกใช้เครือข่ายและอุปกรณ์ตอ่ พ่วงให้เหมาะสม ผมแนะนำ � ว่ า หากใช้ ส มาร์ ท โฟนและแท็ บ เบล็ ต รุ่ น WiFi+3G ควรเลือก SIM CARD จากเครือข่ายเดียวกัน เพื่อ ไม่เป็นปัญหาตอนชำ�ระเงินค่าบริการ หรือการติดต่อ Call Center ครับ

สำ�หรับท่านที่ยังมีความจงรักภักดีในค่ายใดค่ายหนึ่ง ไม่อยากเปลีย่ นเพราะชอบใจการบริการทีถ่ กู ใจกว่า แต่ดแู ล้ว ระบบ 3G ของค่ายนัน้ จะเป็นไปได้ชา้ ไม่ทนั ใจ ก็อาจเลือกซือ้ ซิม 3G ค่ายอื่นมาใส่เครื่อง Tablet ของตนเองเพิ่มเติมได้ หรือไม่กต็ อ้ งยอมเปลีย่ นค่าย แต่ใช้เบอร์เดิมชัว่ คราวไปก่อน จนกว่าค่ายโปรดของคุณจะพัฒนาให้ทดั เทียมกัน ซึง่ ก็เชือ่ ว่า ไม่เกิน 1 ปี ทุกค่ายคงมีศักยภาพในการให้บริการได้ไม่ แตกต่างกันเท่าไหร่แล้วล่ะครับ l 37

HUNT l Interview

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล กับเป้าหมาย Ready for ASEAN >> กองบรรณาธิการ : เรื่อง

การก้าวข้ามพรมแดนที่จะเปิดอย่างเสรีในปี 2558 ของอาเซียน นอกจากจะทำ�ให้หลายฝ่ายต้องตระเตรียม ความพร้อมด้วยการปรับปรุงเครือ่ งไม้เครือ่ งมือ นโยบาย การ พัฒนาคุณภาพกำ�ลังคน และอืน่ ๆอีกมากมายเพือ่ รองรับการ หลั่งไหลเข้ามา ที่แน่นอนว่าไม่เฉพาะคนจากในอาเซียน เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่มองเห็นโอกาสของการเปิดเสรีนี้ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งที่ผ่านมา HUNT ได้มีโอกาสพูดคุยถึง การเตรียมความพร้อมของนักลงทุน ผู้ประกอบการ หรือ แม้ แ ต่ นั ก กฎหมายที่ จ ะต้ อ งเข้ า มาเกี่ ย วข้ อ งกั บ การ เปลี่ยนแปลงนี้ แต่ความจริงแล้วหน่วยงานภาครัฐอย่าง สำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งภารกิจหนึ่งคือ การต้อง เกี่ยวข้องโดยตรงของการเข้า-ออกประเทศไทยของผู้คน ก็ กำ�ลังมีการดำ�เนินการและเตรียมความพร้อม โดยมีเป้าหมาย คือ Ready for ASEAN ซึ่งเป็นนโยบายหลักภายใต้การนำ� ของผู้ บั ญ ชาการสำ � นั ก งานตรวจคนเข้ า เมื อ งคนปั จ จุ บั น พล.ต.ท. ภาณุ เกิดลาภผล HUNT : การปรับปรุง และการเตรียมความพร้อมของการ เปิดประชาคมอาเซียนปัจจุบนั ไม่ได้สง่ ผลถึงภาคธุรกิจเท่านัน้ ทางสำ�นักงานตรวจคนเข้าเมืองเองก็ต้องมีการปรับตัว และ มีการเตรียมการเพื่อรองรับ AEC เช่นเดียวกัน A : คำ�ว่า Ready for ASEAN ถือเป็นนโยบายหนึง่ ของ เราในการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะ สตม. เป็นหน่วยแรกของสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติที่ต้องทำ�เรื่อง พวกนี้ เพราะเมื่อมีการเปิดเสรีแน่นอนว่าจะต้องมีการหลั่ง ไหลของพลเมือง โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนสิบประเทศก็จะ มากขึ้น ประกอบกับไทยเราเหมือนเป็นศูนย์กลางอาเซียน เรามีพรมแดนทางบกติดกับ 4 ประเทศ คือมาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา มีทางอากาศติดต่อกับทุกประเทศเพราะเราเป็น ศูนย์กลางคมนาคมด้วย ดังนัน้ ความพร้อมของเราต้องสูงกว่า หน่วยงานอื่นในสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ 38 l

ซึ่งจากข้อจำ�กัดในเรื่องกำ�ลังพลของเรา และการที่ รัฐบาลส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางในหลายเรื่อง ไม่ว่าการ ท่องเที่ยว การแพทย์ การคมนาคม ฯลฯ เพราะฉะนั้นคนที่ จะเข้ามาประเทศไทยไม่ใช่พี่น้องอาเซียนอย่างเดียว แต่เป็น พีน่ อ้ งจากทัว่ โลกทีจ่ ะเยอะมากๆ ผมจึงให้นโยบายทีจ่ ะเน้น ใน 3 หัวข้อหลัก เรื่องแรกคือ เทคโนโลยี เป็นสิ่งสำ�คัญที่สุด สำ�หรับ ตม.ในด่านทุกด่าน เข้าทางไหน ออกทางไหน ตม. ต้องรู้หมด เข้าเมื่อไร ตอนนี้ทางอากาศเราพร้อม ปีที่แล้วที่ ด่านสุวรรณภูมิคนเข้ามา 47 ล้านคน ส่วนด่านชายแดนเรา มี 40 กว่าด่าน แต่ระบบของการเชื่อมข้อมูลเรายังมีไม่ครบ บางด่านคนเข้ามา ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ขึ้นเครื่องบิน สนามบินยังไม่รู้เลย เพราะระบบยังไม่เชื่อมกัน เพราะฉะนั้นเรา จึงพัฒนาเรื่องเทคโนโลยี สำ�หรับระบบที่เราใช้ดูแลการเข้า ของคนในด่านต่างๆทุกวันนี้มีสองระบบคือ PISCES บวก PIBICS

ระบบ PISCES เราก็ใช้คุมสนามบิน เดิมใช้ใน 5 สนามบิน ด่านชายแดนอีก 5 ด่าน ตอนหลังระบบ PISCES ที่ ส นั บ สนุ น โดยรั ฐ บาลสหรั ฐ อเมริ ก าจะคุ ม หลั ก ๆ คื อ ที่ สุ ว รรณภู มิ ขณะที่ สำ � นั ก งานตำ � รวจแห่ ง ชาติ จ ะมี ร ะบบ PIBICS ช่วยสนับสนุนดูแลตามสนามบินนานาชาติ และ ด่านชายแดนทั้งหมด ด่านทางน้ำ�จะมีการใช้ PIBICS แต่ยัง ไม่สมบูรณ์ เหลืออีก 22 ด่าน คาดว่าเดือนสิงหาคมนีจ้ ะเสร็จ สมบูรณ์ ด่านทุกด่านที่เป็นด่านพรมแดนกับประเทศเพื่อน บ้านจะมีระบบ PIBICS ที่เชื่อมออนไลน์ถึงกัน เช่นใครที่เข้า มุกดาหาร มาขึน้ สุวรรณภูมติ อ้ งรูท้ นั ที ว่าคนนีเ้ ข้ามาทางด่าน มุกดาหาร มาเมื่อ 5 ชั่วโมง เป็นการเพิ่มระบบเข้าไปให้ ครอบคลุม เดิมทีมีเฉพาะบางด่าน HUNT : ทั้ ง สองระบบเหมื อ น หรื อ มี ค วามแตกต่ า งกั น อย่างไร A : ทั้งสองระบบเหมือนกัน เพียงแต่คนดำ�เนินการ

คนละบริษทั เราพยายามทำาให้เป็นระบบเดียวกันทัง้ ประเทศ แต่ระบบ PISCES ซึ่งใช้ที่สนามบินก็ยังมีความจำาเป็นอยู่ ซึ่ง เราจะมีการนำาทั้งสองระบบให้เชื่อมออนไลน์กัน ปรับข้อมูล ให้ทนั สมัยเข้าหากัน เมือ่ เราพัฒนาระบบ PIBICS ครอบคลุม ในเดือนสิงหาคมทุกด่านของประเทศไทย เพื่อรองรับคนที่ จะหลั่งไหลเข้ามาในบ้านเรา เราจำาเป็นต้องขยายคลังข้อมูล ของเรา เพราะคลังข้อมูลของเราไม่น่าจะพอแล้ว ในปี 2558 เฉพาะสนามบินอย่างเดียวก็ 60 ล้าน ชายแดนอีกไม่รู้เท่าไร ก็จำาเป็นต้องขยายคลังข้อมูล PIBICS เฟส 3 ก็จะครอบคลุม ได้อีก 5 ปี ซึ่งเราก็กำาลังเร่งดำาเนินการ ปีหน้าก็น่าจะจบ เช่นกัน

นอกจากระบบรองรับการเข้าเมืองหลักๆ แล้วเรายัง มีการพัฒนาเทคโนโลยีย่อยอื่นๆ เช่น ที่จะรองรับตามด่าน ชายแดนคือระบบ Finger Print ใช้งบประมาณอีก 300 กว่า ล้าน โดยเน้นด่านทางบก ทุกวันนี้เราใช้เอกสารแต่ยังไม่ สมบูรณ์ ใช้พาสปอร์ตชั่วคราว หนังสือเดินทางชั่วคราว หรือ ระบบผ่านแดนชัว่ คราว ไปเช้าเย็นกลับ เข้ามา 7 วันแล้วออก ไป พวกนี้ เ ยอะ และไม่ ไ ด้ ผ่ า นระบบของ ตม. แต่ ผ่ า น กระทรวงมหาดไทยที่เรียก Border Pass เราจึงต้องมีระบบ พิมพ์มือเข้ามาประกอบ ให้รู้เข้ามาอย่างไร เข้ามาแล้วออก ไปหรือไม่ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มี เราจะพัฒนาให้เสร็จก่อนปี 2558 เช่นกัน

บางด่านที่มีคนเข้าออกเยอะๆ เราก็มีการใช้บัตร Smart Card สำาหรับคนที่เข้าออกทุกวัน เพื่อทำาฐานข้อมูล เบื้องต้น พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูป รูดการ์ด ตอนนี้ทดลองทำา ที่ด่านอรัญประเทศ ที่จะทำาต่อไปคือ ที่ด่านแม่สอด ด่าน หนองคาย คือ ในด่านใหญ่ๆ จะใช้แบบนี้ทั้งหมด รวมทั้งได้ ประสานกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ อยาก ให้คนไทยที่เดินทางบ่อยๆ นอกจากมีพาสปอร์ตแล้ว น่าจะ มีการ์ดอีกใบ ที่มีข้อมูลเหมือนในพาสปอร์ต เพื่อสะดวกใน การใช้ Auto Gate ซึ่งสนามบินในต่างประเทศคนที่เป็น l 39

พลเมืองของเขาจะมี Automatic Channel ซึง่ ใช้การ์ดรูด บ้าน เราใช้พาสปอร์ต แปะแล้ว เข้าไปพิมพ์มือ ไม่ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ ทุกวันนี้ Auto Gate มีเฉพาะสุวรรณภูมิ เรากำ�ลังจะ ขยายไปสนามบินนานาชาติ อย่างเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงราย เราตั้งงบประมาณแล้ว รวมถึงด่าน ชายแดน เช่น อรัญประเทศ ที่มีคนไทยข้ามไปวันละ 2,0003,000 คน บางทีถงึ 4,000 คน ก็ควรจะได้รบั การบริการ Auto Gate ด้วยเช่นกัน เพือ่ ลดความคับคัง่ เมือ่ ตอนทีท่ า่ นนายกฯ ไปตรวจเราก็ ถื อ โอกาสเสนองบประมาณตรงนี้ ไ ปด้ ว ย ประมาณ 37 ล้าน เฉพาะที่ด่านอรัญฯ เพราะที่สระแก้ว จะ ใช้งบของจังหวัดทำ� Auto Gate สำ�หรับการเข้า-ออกของ คนไทย

เรื่องของเทคโนโลยีเราต้องทำ�ให้ได้ เพราะกำ�ลังคน ของเรารับไม่ไหว ระบบคีย์การ์ดเป็นระบบที่ต้องทำ�ให้เสร็จ ก่อน งบประมาณตั้งแล้ว และดำ�เนินการแล้วบางส่วน คิดว่า ทั้งหมดไม่ว่า Finger print, Auto Gate และระบบ PIBICS ครบทุกด่าน รวมทั้งฐานข้อมูลต่างๆ ต้องเสร็จก่อน ใช้ งบประมาณเป็นพันล้าน ถามว่าเงินมีไหม เงินที่จะนำ�มาใช้ นอกจากจะเป็นการสนับสนุนจากรัฐบาล เราก็ใช้เงินค่า ธรรมเนียม ซึง่ ตม.จัดเก็บส่งกระทรวงการคลัง ปีทแี่ ล้ว 4,600 กว่าล้าน ตอนนี้ทำ�ข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง กรมบัญชี กลาง ขอส่วนหนึง่ มาซือ้ ระบบ คิดว่าไม่นา่ มีปญ ั หา ซึง่ ทีผ่ า่ น มาระบบ PIBICS เฟส 2-3 ก็ใช้เงินก้อนนี้ ไม่ได้ใช้เงิน งบประมาณ 40 l

HUNT : เรื่องเทคโนโลยีที่มีการดำ�เนินการอยู่ พบปัญหา อุปสรรคอะไรบ้าง หรือไม่ A : การวางระบบต่างๆ เรามีการทดลอง และบาง ระบบก็เป็นการเสริมจากส่วนที่มีอยู่แล้ว อย่างเช่น PIBICS เฟส 2-3 เป็นระบบที่ต่อจากระบบที่เราดำ�เนินการกันอยู่ แทบไม่ตอ้ งทำ�อะไร เพียงแต่เพิม่ ให้ครอบคลุมทุกด่าน ปัญหา มีบา้ งเล็กน้อย เช่น ด่านพรมแดนบางด่านระบบการวางสาย หรือเน็ตเวิร์คไม่มี เช่น ด่านภูสิงห์ ต้องลงทุนในเรื่องของการ วางเน็ตเวิร์ค ลากสายเข้าไป คือ Infrastructure ทำ�ให้เป็น ปัญหาอุปสรรคบ้าง นี่คือเทคโนโลยีที่เราต้องให้ทัน เป็นสิ่ง สำ�คัญ แต่แนวทางของเรามีงบประมาณรองรับก็ไม่ค่อย น่าหนักใจเท่าไร

เรือ่ งเทคโนโลยีเรายังได้การสนับสนุนทีด่ ี เช่นทางการ ท่าอากาศยานจะช่วยในระบบ APPS คือการคัดกรองผู้ โดยสารล่วงหน้า จะใช้เดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน ระบบนี้จะ ช่ ว ยลดเวลาในการตรวจสอบของเจ้ า หน้ า ที่ ป ระจำ � ด่ า น สนามบิน เมื่อผู้โดยสารเข้าเช็คอิน ซื้อตั๋ว ณ สนามบินต้น ทาง สนามบินต้นทางจะส่งรายชื่อมาให้เราตรวจสอบก่อน โหลดผูโ้ ดยสารขึน้ เครือ่ ง เรามีหน้าทีต่ รวจสอบผูโ้ ดยสาร และ ตอบไปภายในเวลาอันสั้น หากไม่มีแบล็คลิสต์ สนามบิน ต้นทางจึงจะอนุญาตให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องได้ เมื่อผู้โดยสาร ผ่านการตรวจมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อมาถึงสนามบินเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ต้องตรวจอะไรมาก แค่แสตมป์แล้วผ่านได้เลย ทุกวันนี้ มาถึงเราต้องมาเช็คแบล็คลิสต์ เช็คข้อมูลต่างๆ ก็เสียเวลาไป ส่วนหนึ่ง ระบบ APPS จะเป็นระบบที่ช่วยให้การทำ�งานเร็ว ขึน้ การท่าอากาศยานจะเป็นคนจัดหาระบบนี้ เดือนสิงหาคม ก็จะเริม่ ดำ�เนินการ เพราะฉะนัน้ การตรวจผูโ้ ดยสารขาเข้าของ สนามบิน ตม.ของเราจะเร็วขึ้น HUNT : ตอนที่ท่านเข้ามารับหน้าที่ผู้บัญชาการสำ�นักงาน ตรวจคนเข้าเมือง มีข่าวว่าท่านจะมีการปรับโครงสร้าง เพื่อ รองรับการเปิดอาเซียนด้วย A : ด้วยความรับผิดชอบที่มีอยู่ แต่กำ�ลังพลของเรามี จำ�กัด เรามีอัตรากำ�ลังพล 4,200 กว่าคน ถือว่าน้อย จึงเป็น เหตุผลที่เราเน้นเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อใช้คนน้อยลง และ ตม.เองก็ มี ก ารวิ เ คราะห์ โ ครงสร้ า งใหม่ เ พื่ อ รองรั บ อาเซียนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นนโยบายข้อที่สอง ที่เราจะทำ�เพื่อ รองรับอาเซียน โครงสร้างที่จะมีการปรับ อย่างเช่น กองสืบ ของเราควรจะเป็น 7 กอง จาก 4 กอง เพือ่ รองรับการควบคุม กำ�กับดูแลคนต่างชาติที่มาทำ�ความผิดในประเทศไทย ฯลฯ กองสืบต้องขยายมากขึน้ ศูนย์เทคโนโลยี เดิมมีรองผูก้ ารอยู่

ก็ขยายเป็นกองบังคับการ มีผู้บังคับการเป็นหัวหน้า เพื่อ รองรับเทคโนโลยีที่จะต้องดูแลอีกเยอะ ศูนย์ฝึกอบรม เรามี Immigration Academy ตำ�รวจทุกคนจะเข้ามาสู่ ตม. ต้อง มาผ่านกระบวนการนี้ เพราะวิชา ตม.ไม่มสี อนทีไ่ หน วิชาการ ดูพาสปอร์ต ดูท่าทางคน ฯลฯ เรามีศูนย์นี้อยู่ที่ดอนเมือง เดิมทีมีแค่ผู้กำ�กับเป็นหัวหน้า ก็ต้องขยายให้เป็นรองผู้การ เพื่อให้มีกองกำ�กับดูแลมากขึ้น รวมทั้ง ตำ�รวจ ตม.ตาม หัวเมืองต่างๆ เดิมทีเมื่อคนต่างชาติเข้ามาอยู่ในบ้านเรา กระบวนการดูแลเขาว่าอยู่อย่างไร ทำ�ผิดหรือไม่ ขบวนการ นี้คนตรวจสอบน้อย เราใช้ตำ�รวจท้องที่เข้ามาช่วยในการ ตรวจสอบ แต่ทักษะเขาไม่มี ตม.หัวเมืองควรจะมีหน่วยหนึ่ง ที่เรียกว่า กองกำ�กับการบริการคนต่างด้าว หรือ บคด. กอง กำ�กับที่ทำ�หน้าที่สืบสวนสอบสวน เดิมทีมีอยู่ 6-7 คน ดูแล 10 กว่าจังหวัด เราก็ขยายให้เป็นกองกำ�กับ มีกำ�ลังคนเพิ่ม ขึ้น เพื่อจะคอยกำ�กับดูแลคนต่างชาติท่ีเข้ามา ไม่ว่าเข้ามา เที่ยว มาพักอาศัย ใช้ชีวิตบั้นปลาย มาประกอบอาชีพ ทุก วันนี้ดูเหมือนไม่มีใครไปดู เข้าประเทศบางทีมาฝังตัว มาทำ� ผิด เราก็ต้องเพิ่มหน่วยงานนี้ขึ้นมา การขยายโครงสร้างเพิ่ม ขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ทำ�ไปแล้ว ผ่านขั้นตอนของ ตม.ไปแล้ว อยู่ ระหว่างการพิจารณาของสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ เดิมคาด การณ์ว่า เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาน่าจะผ่านขั้นตอน แต่ ยังล่าช้าอยู่

อีกสิ่งหนึ่งที่เรากำ�ลังทำ�คือ การยกฐานะด่านต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้เป็นพัฒนาด่านที่เป็นประตู การค้า AEC จำ�นวน 8 ด่าน คือที่ แม่สอด (จว.ตาก) เชียงของ (เชียงราย) หนองคาย มุกดาหาร อุบลราชธานี สระแก้ว สะเดา (จว.สงขลา) ปาดังเบซาร์ เพราะฉะนั้นคนที่ดูแลด่าน ตรงนีต้ อ้ งเป็นผูก้ �ำ กับทีต่ อ้ งมีก�ำ ลังพลมากพอสมควร เพราะ จะเป็นด่านการค้าทีม่ รี ถเข้าออกเยอะ ทัง้ บรรทุกคน บรรทุกของ ผมและท่านรองได้ไปคุยเรื่องนี้กับศุลกากร เพราะ ต้ อ งทำ � งานร่ ว มกั น ได้ มี ก ารดี ไซน์ ด่ า นให้ ส อดคล้ อ งกั น ว่าเข้ามาประเทศแล้วเจอ ตม. แล้วเจอศุลกากร เหมือน สนามบิน เข้ามาก็ต้องเจอใครก่อน ไม่ใช่ต่างคนต่างคิด ได้ คุยกับอธิบดีศุลกากรท่านรับปากในเรื่องของการทำ�ด่าน ร่วมกัน ท่านยกตัวอย่างด่านสะเดาที่จะเกิดขึ้นใหม่ จะเป็น ด่านในอุดมคติ ท่านจะให้เราเข้าไปร่วมดีไซน์แบบ นี่คือ ตัวด่านทีต่ อ้ งพัฒนา นอกจากนัน้ จะมีการยกระดับด่านถาวร เพิ่มอีก 3 ด่าน

การเพิ่มเทคโนโลยี การปรับโครงสร้างการทำ�งาน ต่างๆ ทำ�ให้เราต้องพัฒนาคนให้เหมาะสม โดยมีโรงเรียน ซึง่ คงจะเน้นการฝึกคนในเรื่องทักษะวิชาชีพ ด้านภาษา และ

ทักษะทางด้านเทคโนโลยี เรื่องภาษา คนที่จะเข้ามาตม. พื้นฐานภาษาอังกฤษต้องผ่านการทดสอบ เราเปิดโอกาสให้ ตำ�รวจทั่วประเทศเข้าสู่ระบบกึ่งๆ จะเสรี ถ้าต้นสังกัดไม่ ขัดข้อง แต่มขี อ้ แม้เดียวคือต้องผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษ จากเราก่อน นอกจากนั้นในบางด่าน เช่น ด่านแม่สอด ที่จะ ให้เขาเอาครูพม่ามาสอนนายด่าน ทางด่านมาเลเซีย ปาดังเบซาร์ จะมีคนมาเลเซียทีพ่ ดู ภาษาไทยได้มาสอนการสือ่ สาร พื้นฐาน HUNT : การเปิดด่านเพือ่ รองรับการค้า ปัจจุบนั มีดา่ นทีจ่ ะ ต้องเปิดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ ตม.แก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างไร A : เรื่ อ งการพั ฒ นาสถานที่ เราไปคุ ย กั บ อธิ บ ดี ก รม ศุลกากรว่าเราต้องรองรับให้ได้ เพราะบางทีความเร็วของ รัฐบาลที่เปิดด่าน เปิดสะพาน ตม.และศุลกากรก็ต้องตาม ให้ทัน เป็นกังวลนิดๆ ตอนคุยกับอธิบดีกรมศุลกากรเอา ด่านมากางกันว่าเราต้องทำ�งานตรงนี้ให้ทัน ด่านศุลกากรก็ ของบประมาณไปทางกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวง การคลังให้ศุลกากรเป็นเจ้าภาพ บางทีด่านแม่สอดมีสะพาน หนึ่ง แต่กำ�ลังเปิดอีกสะพาน ตัวด่านอยู่ตรงนี้ ก็ต้องทำ�ด่าน เพิ่มตรงนั้นอีก สะพานมิตรภาพ 1 และ 2 หรือแม่สาย 1, 2 ก็ต้องมีด่านทุกที่ คือเรื่องสถานที่ให้ศุลกากรเป็นเจ้าภาพ เราหาคนไปเติมให้ และคิดกับเขาว่าด่านจะทำ�อย่างไร สถาน ที่แบบนี้จะเป็นแบบไหนบ้าง รวมทั้งที่พัก ไม่ได้คิดเฉพาะ ศุลกากร ต้องคิดให้ตำ�รวจด้วย เพราะคนที่ไปอยู่หน้าด่าน ต้องมีที่พักให้ ก็เตรียมแล้ว เรื่องคน เรื่องสถานที่

เรื่องสุดท้าย คือเตรียมเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.คนเข้า เมืองต่างๆ มีการตัง้ คณะทำ�งานเพือ่ ยกร่างการปรับปรุงแก้ไข กฎระเบียบต่างๆ ให้มันสอดคล้อง เรามี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตั้งแต่พ.ศ.2522 บางข้อก็โบราณไม่ทันสมัย เช่น คนที่ Over Stay เมื่อก่อนเราปรับ 500 บาท ไม่เกิน 2 หมื่นบาท บางคนอยู่เกินมาสามปีไม่มีคนตรวจสอบ วันดีคืนดีอยาก กลับบ้านเขา เอาพาสปอร์ตเดินมาหาเราที่สนามบิน คุณอยู่ เกินต้องปรับ ปรับได้ 2 หมื่นบาท นี่คือความล้าสมัยของเรา คณะกรรมการยกร่างให้ พล.ต.ต.ศักดาฯ รอง ผบช.สตม. เป็น ชุดทำ�งานใหญ่ คือ แก้กฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพเพื่อ รองรับ AEC HUNT : ในการดำ�เนินการปรับปรุงทัง้ เรือ่ ง เทคโนโลยี กำ�ลัง คน สถานที่ และกฎหมาย ข้อไหนที่คิดว่าจะเป็นปัญหามาก ที่สุด A : เรือ่ งกฎหมายนีค่ งช้าทีส่ ดุ เพราะต้องผ่านกระบวน l 41

การ ตอนที่ผมคุมเรื่องจราจรผมเคยขอแก้กฎหมาย พรบ. จราจรมาตราหนึง่ ประมาณ 2 ปีกว่า อย่างอืน่ ผมไม่หว่ ง เรือ่ ง สถานที่คุยกับศุลกากร น่าจะเสร็จได้พอดี แต่กฎหมายนี่ผม ยังห่วง HUNT : การทำ�งานของสำ�นักงานตรวจคนเข้าเมืองต้อง เกีย่ วข้องไม่เฉพาะกับหน่วยงานอืน่ ๆ ในประเทศไทย แต่ตอ้ ง ทำ�งานร่วมกับต่างประเทศด้วย มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร หรือไม่ A : ที่ผ่านมาเราได้คุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เราได้คุย กันเรื่องความร่วมมือในการผ่านแดนกับ 5 ประเทศในลุ่ม แม่น้ำ�โขง คือ พม่า ลาว ไทย กัมพูชา เวียดนาม ก็เพื่อให้มี Single Visa ตอนนี้สำ�เร็จแค่ประเทศเดียว คือวีซ่าที่เข้า กัมพูชาใช้เมือ่ เดือนธันวาคมทีผ่ า่ นมา คือ ขอวีซา่ เข้ากัมพูชา สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ตอ้ งขอวีซา่ ใหม่ แต่ไม่ใช่เข้า มาเลย ต้องผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และเสียค่า ธรรมเนียมเพิ่มเติม ประเทศที่จะตามมาก็น่าจะเป็นลาว เนื่องจากบริษัทที่ทำ�พาสปอร์ตของไทย และลาวเป็นบริษัท เดียวกัน ก็จะมีความสะดวกในเรื่องของข้อมูลที่จะผ่านแดน อนาคตคนไทย และคนลาวอาจจะใช้ Auto Gate เป็นอาเซียน เลน ไม่ต้องผ่านตม.เพราะความเชื่อมโยงของข้อมูลมี เป็น ความคาดหวังในอนาคตว่าจะเกิดขึ้นก่อน แต่ไทยกับพม่า ผมยังไม่มนั่ ใจ ไทยเขมรก็ยงั ไม่มนั่ ใจ ไทยมาเลย์กย็ งั ไม่มนั่ ใจ ปัญหาคือ การเชือ่ มโยงทางด้านเทคโนโลยี แต่ทจี่ ริงเป็นเรือ่ ง ของกระทรวงต่างประเทศในการทำ�ข้อตกลง แต่ ตม.เราเป็น ผู้ปฏิบัติ HUNT : ปัญหาของการเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เป็นอยู่ทุก วันนี้เกิดจากปัญหาอะไร โดยเฉพาะในส่วนของแรงงาน ต่างด้าว 42 l

A : ประเทศเพื่อนบ้านเราปัญหาส่วนใหญ่คือ ระบบ การทำ�หนังสือเดินทางยังไม่คอ่ ยทันสมัย ความทัว่ ถึงยังไม่มี ราคาแพง ก็เป็นปัญหาในการข้ามอาเซียน คนที่เดินทางมัน มีทุกระดับ แต่ระดับล่างเยอะ การทำ�หนังสือเดินทางเสียค่า ใช้จ่ายค่อนข้างจะแพง อย่างแรงงานทุกวันนี้ ทำ�ไมถึงมี แรงงานนอกระบบเยอะ เพราะค่าทำ�พาสปอร์ตชั่วคราว เล่มละ 500 บาท แต่ไปทำ�ทางลาว กับกัมพูชา แพงกว่าเรา เท่าตัว อาจต้องเสียเป็นหมื่น ทุกวันนี้ทางพม่าจะไม่ค่อยมี ปัญหา เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า การทำ�เอกสารแสดงตน พาสปอร์ ต ชั่ ว คราวถู ก มาเสี ย ให้ ก ระทรวงแรงงานทำ � Bio data, Working Permit ค่าธรรมเนียมให้ ตม. เบ็ดเสร็จ ของพม่าไม่น่าจะเกิน 5-6 พันบาท

ในเรือ่ งนีเ้ รามีการคุยกับกระทรวงแรงงาน เพราะเป็น หน่วยหลักในเรื่องของแรงงาน ตอนนี้มีการเปิด One Stop Service จำ�นวน 12 ศูนย์ คือ ในศูนย์มีเจ้าหน้าที่ทูตออก หนังสือเดินทางชั่วคราว มีการทำ� Bio data มีการออก Working Permit โดยกระทรวงแรงงาน ขบวนการของ ตม.คือ Stamp ให้อยู่ 2 ปี เพือ่ ทำ�งาน ทัง้ 12 ศูนย์เป็นสิง่ ทีค่ นทำ�งาน ต้องได้ใช้บริการตรงนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน เขาเปิดมาตั้งแต่เดือนธันวาคม สิ้นสุด 13 เมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีแรงงานที่ตกค้างมาแสดงตนไม่ครบ ตอนนี้ก็มีการ ขยายเวลาไป 120 วัน นับตั้งแต่ 13 เมษายน ตอนนี้การ บริการนีจ้ ะมีที่ แม่สอด เชียงใหม่ ขอนแก่น ปทุมธานี ระยอง สุราษฎร์ธานี และสงขลา จำ�นวน 12 ศูนย์ เมื่อครบ 120 วัน แล้วก็จะปิด ซึ่งความเห็นของผมจริงๆ ศูนย์น่าจะมีการ ดำ�เนินการต่อ เพราะความต้องการมันยังมี บางทีนายจ้างที่ เปิดใหม่เขาก็อยากได้แรงงานอีก จะเอาจากไหน ศูนย์นี้ควร จะมีกึ่งๆ ที่กรมแรงงานเพื่อรองรับต่อจาก 120 วันแล้ว ก็ เป็นเรื่องของกระทรวงแรงงาน

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ตม. ก็คือพวกที่ต้องรายงานตัว ทุก 90 วัน ตอนนี้ที่เดินเข้ามาที่สำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง จะเห็ น ว่ า มี ค นมารอกั น ตั้ ง แต่ เช้ า ตรงนี้ จ ะเป็ น พี่ น้ อ ง 3 สัญชาติที่ทำ�งานใน กทม.ทุกคนต้องมารายงานตัวที่นี่ เราก็บอกว่าอยู่ตรงนี้มันไม่ค่อยมีระเบียบ และเป็นภาระ กับผู้ประกอบการด้วย เพราะฉะนั้นวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ เรา จะเปิ ด ศู น ย์ แ บบนี้ ใ ห้ แรงงานสามสั ญ ชาติ ที่ ต้ อ งรายงาน ตัวทุก 90 วันมาใช้บริการได้ที่บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ เปิด-ปิด พร้อมห้าง และในวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 เราจะเปิดอีก หนึง่ ศูนย์ทอี่ มิ พีเรียล ลาดพร้าว เปิด-ปิดพร้อมห้างเช่นกัน ที่ สำ�นักงานฯ เราก็จะปิด ส่วนสัญชาติอื่น เขาไปทำ�ที่ศูนย์ ราชการก็สะดวกอยูแ่ ล้ว ผูป้ ระกอบการจะได้ไม่ตอ้ งเสียเวลา

สามารถทำ�งานตอนกลางวัน ตอนเย็นก็ไปรายงานตัว HUNT : การมารับตำ�แหน่งครัง้ นีเ้ รียกได้วา่ เป็นช่วงของการ เปลี่ยนแปลงอย่างมาก A : พอดีเป็นจังหวะทีต่ อ้ งเปลีย่ น ทัง้ เรือ่ งของการเปิด เสรีอาเซียน และความต้องการของแรงงานในการขยายตัว ทางด้านของเศรษฐกิจ อย่างปัญหาเรื่องแรงงานเท่าที่ผมดู ส่วนใหญ่เกิดจากการทำ�เอกสาร เคยคุยกับแรงงานว่าทำ�ไม ไม่ระบุว่าขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การทำ� Bio data, Working Permit ฯลฯ เสียค่าใช้จ่ายรวมแล้วเท่าไร เพราะตอนนี้เสีย ค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ซึ่งก็มีการโทษว่าตม. เพราะฉะนั้นใน ความเห็น ศูนย์ที่ให้บริการแบบครบวงจรแบบนี้ควรมีต่อไป อาจจะเป็นกึ่งๆ เพื่อให้แรงงานพม่า ลาว หรือกัมพูชาได้รับ ความสะดวก ผู้ประกอบการก็ไม่เป็นภาระมาก ก็จะเป็น รายได้เข้าประเทศที่ถูกต้อง เป็นแรงงานที่ถูกต้อง นายจ้างก็ สบายใจ ผมเชื่อว่าเขายินดีจะจ่าย เป็นข้อเสนอที่นอกเหนือ จากหน้าที่ แต่ก็เป็นข้อเสนอจากสิ่งที่เราได้สัมผัส HUNT : เรื่องปัญหาที่พ่วงเข้ามากับแรงงานทุกวันนี้เป็น อย่างไรบ้าง และการแก้ไข A : ปัญหาจะไม่เหมือนกัน ลาวจะมีปญ ั หาในเรือ่ งของ ค้ามนุษย์ มาเป็นโสเภณี กัมพูชาเป็นเรื่องค้ามนุษย์ ขอทาน เด็ก แก๊งล้วงกระเป๋า จะเป็นแรงงานทีม่ ปี ญ ั หา พม่ามีปญ ั หา โสเภณี แต่แรงงานของพม่าไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร ยกเว้น เรือ่ งทะเลาะวิวาท คนพม่าเอาทีเอาตาย แทงก็แทงยีส่ บิ แผล คนพม่าเป็นแบบนั้น

ปัญหาที่เราเกรงในกลุ่มอาเซียนคือ เวียดนาม เขายัง ไม่อยูใ่ น 3 สัญชาติให้เข้ามาทำ�งานในประเทศไทย แต่ทกุ วัน นี้คนเวียดนามบุกเข้ามาประเทศไทยเยอะ เข้ามาประกอบ อาชีพหลักๆ คือ เด็กรับรถ กับร้านอาหาร จะเป็นทั้งกุ๊ก พนักงานเสิร์ฟ คนเวียดนามจะขยัน ความจำ�ดี ศึกษาเร็ว สูตรอาหารปั๊บเดียวก็รู้ ก็เป็นแรงงานที่ทำ�งานที่ถูกต้อง แต่ บางส่วนจะก้าวเข้าสู่อาชญากรรม อย่างคนที่เข้ามาทำ�เรื่อง รับรถ จะรวมกันเป็นแก๊งคอยคุมสัมปทาน แบ่งเป็นพื้นที่ มี คนคอยเก็ บ เงิ น หากขั ด ใจก็ ฆ่ า ยั ด ถั ง แก๊ ง พวกนี้ พ อมี สัมปทานแล้ว ก็จะขยายไปสู่การขโมยของตามรถ ตามร้าน หน้าที่ของ ตม.เราก็ต้องเข้มเรื่องการเข้าออก คนที่เข้าออก บ่อยเพราะอะไร ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวไม่ใช่แล้ว เราก็ให้ นโยบายไป บางด่านเกิน 4 ครัง้ ให้จบั ตาเป็นพิเศษ อาจไม่ให้ เข้า และการจับแรงงานทีป่ ระกอบอาชีพโดยไม่ได้รบั อนุญาต หรืออย่างแก๊งเวียดนาม เมื่อเร็วๆนี้เราก็มีการจับแก๊งรับรถ

พูดไทยชัด แต่จะพูดสั้นๆ พูดมากกว่านั้นไม่รู้เรื่อง หรือพระ เขมร เข้ามาเป็นร้อย แถวพุทธมณฑลสายหนึง่ แถวบางกรวย ก็มี เราก็เข้าไปดูว่าเข้ามาได้อย่างไร มีพาสปอร์ตไหม ตรวจ เหมือนคนธรรมดา เราก็ต้องไปจัดการตรงนั้น

อย่างทีเ่ ราบอกว่าตอนนีก้ �ำ ลังคนของเรามีอยู่ 7-8 คน คุม 10 กว่าจังหวัด เรากรองเขาตอนเข้าได้ แต่เข้ามาแล้วมา อยู่อย่างไร ตอนนี้ ตม.เลยมีนโยบายให้เน้น มาตรา 38 การ แจ้งถิ่นที่อยู่ของคนต่างด้าว มาตรา 37 คนต่างด้าวมีหน้าที่ แจ้ง อย่างพม่าต้องมาแจ้งเราว่าอยู่ที่ไหนอย่างไรทุก 90 วัน ที่จริงแทนที่จะบังคับ 3 สัญชาติ ควรต้องบังคับทุกสัญชาติ คือมีหน้าทีแ่ จ้ง รวมทัง้ เจ้าของบ้านพัก บ้านเช่า โรงแรม ต้อง แจ้งภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อมีคนต่างด้าวเข้ามาพัก เมื่อก่อน กฎหมายนี้ถูกละเลย ไม่มีใครไปกำ�กับดูแล เพราะคนมีน้อย ตอนนี้ ก็ เ น้ น ว่ า ตม.ทุ ก จั ง หวั ด รวมทั้ ง ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชา ทั่วประเทศ ให้เน้นมาตรา 37, 38 ซึ่งเรามีเว็บไซต์ให้แจ้ง ตอนนี้อยู่ในช่วงของการประชาสัมพันธ์ ให้มีการประชุม ผูป้ ระกอบการ กำ�ลังทำ�ทัว่ ประเทศอยู่ ก็จะเริม่ เห็นการบังคับ ใช้มากขึ้น HUNT : ภารกิจที่มากมาย และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น หากจะถามว่ า กำ � ลั ง เท่ า ไรจึ ง จะเหมาะสมกั บ ภารกิ จ ของ สำ�นักงานตรวจคนเข้าเมือง A : ถ้าให้ครอบคลุมในทุกด้านผมว่าประมาณ 1 หมืน่ คน ซึ่งเราเพิ่มเป็น 4,200 คน ก็เพิ่งได้ในยุคนี้ คือตม.นั้นมี สองบทบาท คื อ บทบาทเหมื อ นเจ้ า หน้ า ที่ ตำ � รวจ จั บ ยาเสพติด จับผู้ร้ายได้เหมือนกัน สอง บทบาทเจ้าพนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง บทบาทนี้เมื่อเข้าสู่อาเซียนจะมีความ สำ � คั ญ มาก กำ � ลั ง เราไม่ พ อ บางงานเราถึ ง ละเลย เช่ น มาตรา 38 เรียกได้ว่าหายไปเลย ไม่มีการติดตามดำ�เนินการ เลย พอเริ่มมีกำ�ลังเราก็เริ่มทำ� เปิดหน้างานใหม่ รวมทั้งบาง ด่านพอเริ่มมีกำ�ลัง เราก็เปิดด่านตั้งตรวจสอบ การสกัดกั้น HUNT : เป้าหมายการทำ�งานเรื่อง AEC A : พัฒนาใน 4 เรื่องให้ทัน ที่เป็นรูปร่างมากสุดก็คือ เทคโนโลยี สถานที่ก็คุยกับศุลกากรแล้ว กฎหมายก็มีคณะ กรรมการดำ�เนินการกันอยู่ ปรับโครงสร้างก็คดิ ว่าน่าจะเสร็จ ในปีนี้ เป้าหมายคือ พร้อมก่อน พร้อมให้เร็วที่สุด เราไม่ได้ มองเฉพาะอาเซียนอย่างเดียว แต่ต้องมองทั้งโลก ซึ่งทุก อย่างต้องผ่าน ตม.หมด เราก็จะต้องรับตรงนี้ให้ได้ ก็คิดว่า ไม่ว่าจะอยู่ปีเดียว หรือสองปี ก็ต้องทำ�ให้เสร็จ ให้รองรับได้ ไม่ตามหลัง นั่นคือ เป้า Ready for ASEAN l 43

HUNT l Fengshui

มังกรแห่งลุ่มแม่น้ำโขง >> อ.มาÈ เคหาสน์ธรรม : เรื่อง

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People’s Democratic Republic-LPDR) มังกรหลับแห่งลุ่มแม่น้ำา โขง บ้านพีเ่ มืองน้องของมังกรน้าำ แห่งลุม่ แม่นา้ำ เจ้าพระยาคือ ประเทศไทย การทีพ่ ลังของแม่นา้ำ โขงทีไ่ หลผ่านทัง้ 2 ประเทศ ก่อเกิด วัฒนธรรม ภาษา วิธีคิดที่คล้ายคลึงกันกับไทย พลัง ของฮวงจุย้ ของกระแสน้าำ ทัง้ 2 สายเป็นตัวทีเ่ กือ้ หนุนส่งเสริม ซึ่งกันและกัน เศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศจึงพึ่งพากันเหมือนทั้ง หยินกับหยาง

ฮวงจุย้ ของประเทศลาวส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง อยูภ่ าค เหนือของประเทศ อีกทัง้ เขตทีร่ าบสูง คือตัง้ แต่ทางทิศตะวัน ออกเฉียงใต้ และที่ราบสูงบริเวณภาคใต้ พลังงานจากแนว ทิวเขาทัง้ หมดจึงไหลลงมาสะสมรวมอยูบ่ ริเวณทีร่ าบลุม่ ตาม แนวฝั่งริมแม่น้ำาโขง

ซึ่งแม่น้ำาแห่งนี้ไหลผ่านประเทศลาวเป็นระยะทาง 1,835 กิโลเมตร มีความสำาคัญทั้งในด้านเกษตรกรรม การ ประมง การผลิตพลังงานไฟฟ้า การคมนาคมจากลาวเหนือ ไปจนถึงลาวใต้ การเคลื่อนตัวของมังกรแห่งแม่น้ำาโขงไหล จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก โดยช่วงกลางโค้งแอ่นต่ำา ลงเหมือนตกท้องช้าง ทำาให้เกิดเป็นถุงทีเ่ ป็นจุดล็อคพลังงาน ให้หยุดสะสมตัวได้ จึงเป็นจุดที่เจริญที่สุดของประเทศลาว นัน่ คือ พืน้ ทีข่ องนครเวียงจันทน์ ซึง่ ใจกลางตัวเมืองนัน้ ตัง้ อยู่ ในส่วนที่รับกระแสของแม่น้ำาโขงพุ่งเข้ามาตรงๆ จึงเป็นจุดที่ มัง่ คัง่ ทีส่ ดุ แต่สายน้าำ ทิง้ โค้งลงทางทิศใต้มากเกินไป ทำาให้ไม่ สามารถเก็บรวบรวมกระแสความมั่งคั่งไว้ได้นาน

ในยามทีก่ ระแสพลังชีแ่ ห่งยุคได้เปลีย่ นทิศทางไหลเข้า มาซ้อนทับมังกรของแม่น้ำาโขง ก็จะนำาพาความมั่งคั่งและ กระแสแห่งการพัฒนาที่รวดเร็ว จึงเท่ากับปลุกมังกรที่หลับ ใหลให้ตนื่ ขึน้ มา และการทีก่ ระแสไหลมาจากทิศตะวันตก จึง ทำาให้ประเทศลาวจะได้รับการช่วยเหลือจากประเทศทาง

แม่น้ำโขงโอบเมืองเวียงจันทน์เกçบกระแสพลังให้ไว้ แต่ถือว่ายังได้น้อยอยู่

จุดที่สามารถสะสมกระแสพลังของลาวได้บ้างอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์

ÅÒÇ...Îǧ¨ØŒÂã¹Í¹Ò¤µ·Õè¨ÐÊÌҧâÍ¡ÒÊ·Ò§¸ØáԨ ¢Í§¼ÙŒºØ¡àºÔ¡ ´Ô¹á´¹·ÕèÁըСÒÃàµÔºâµ·Ò§àÈÃÉ°¡Ô¨áºº ¡ŒÒÇ¡ÃÐâ´´

44 l

ตะวั น ตก และได้ รั บ สิ ท ธิ พิ เ ศษทางการค้ า (MFN) จาก สหรัฐอเมริกา และได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากร (GSP) จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป นอกจากนั้นลาวได้รับสถานะ Normal Trade Relations (NTR) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผล ให้การส่งออกสินค้าของลาวไปสหรัฐฯ มีภาษีลดลง อาทิ สิง่ ทอไหม ภาษีลดลงจาก 90% เหลือ 0.8% สินค้าหัตถกรรม จาก 45% - 60% เหลือ 0% เป็นต้น

หากถ้าจะมองถึงกิจการทีน่ า่ สนใจตามธาตุ เนือ่ งจาก ทิศตะวันตกเป็นทิศของธาตุทองจึงทำาให้ธุรกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ สิ่งของที่มีมูลค่าสูงเช่นการเงิน ธนาคาร หลักทรัพย์ โรงจำานำา เพชรพลอย ทองคำา ขายรถยนต์ ขายเหล็ก และ อุปกรณ์โลหะ ขนส่ง คมนาคม อุตสาหกรรม งานศิลป์รวม ทั้งแหล่งแร่ธาตุต่างๆ

แม้ลาวจะมีจุดด้อยทางภูมิศาสตร์ที่ไม่มีทางเชื่อมต่อ สู่ทะเล แต่หากว่าในอนาคตเกิดมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย ก็จะทำาให้การขนส่งสินค้าสะดวกยิง่ ขึน้ ทำ า ให้ พ ลั ง การเชื่ อ มต่ อ สู่ ท ะเลโดยอาศั ย การขนส่ ง ผ่ า น ประเทศไทย ช่วยให้การทำาธุรกิจการค้าของลาวมีความคล่อง ตัวเพิ่มขึ้น โดยที่ไทยก็จะได้ประโยชน์จากการขยายตัวของ เศรษฐกิจลาวแบบเต็มๆ

และการที่ลาวมีระบบการปกครองแบบสังคมนิยม คอมมิ ว นิ ส ต์ สภาแห่ ง ชาติ ล าวมี อำ า นาจเด็ ด ขาดทั้ ง ทาง ด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ จึงทำาให้มีเสถียรภาพ ทางการเมืองเป็นอย่างมาก นโยบายมีความชัดเจน ไม่เปลีย่ น ไปเปลีย่ นมาเหมือนกับประเทศไทย เมือ่ ผูบ้ ริหารประเทศเริม่ กำาหนดทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน ก็สามารถที่จะขับเคลื่อน นโยบายออกมาได้อย่างเป็นระบบ จึงส่งผลให้เศรษฐกิจเจริญ เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ท่าอากาÈยานนานาชาติวัดไต

อาคารสภาแห่งชาติลาว

เมื่อมองถึงฮวงจุ้ยของอาคารสภาแห่งชาติลาว เป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมตัน มีลักษณะเป็นธาตุดิน แสดงว่าเน้นความ มั่นคง และมีการเจริญเติบโตแบบช้าๆ มีลานด้านหน้าโล่ง แสดงถึงวิสยั ทัศน์การบริหารประเทศ ด้านหลังประกอบด้วย บ้านเรือนของประชาชน เปรียบได้กบั พลังทีส่ นับสนุนรัฐบาล ส่วนลานด้านซ้ายมีพระธาตุหลวงอยู่ในฝั่งมังกรเขียว ทำาให้ แนวคิดของสภาลาวอาจมีค่อนข้างยึดติดกับวิธีคิดแบบเจ้า ขุนมูลนาย มีกฎระเบียบที่ทับซ้อนหลายขั้นตอน กลายเป็น ประเด็นที่นักธุรกิจซึ่งจะเข้าไปลงทุนต้องคำานึงถึง และวาง แผนเผื่อ เวลาที่ ก ระบวนการทำ า งานซึ่ ง ต้ อ งติ ด ต่อ กับ ทาง ราชการของลาวอาจเสียเวลาล่าช้าไปนานกว่าที่ควรจะเป็น

สำาหรับฮวงจุ้ยของศูนย์รถประจำาทาง ที่เป็นชุมทาง การคมนาคมขนส่งทางบก ก็มถี นนสายยาวๆ ทีล่ ากพลังงาน พุ่งมา และมีลานโล่งๆ รองรับ พร้อมทั้งมีตลาดขัวดินและ ตลาดดอนจันโอบล้อม จึงถือเป็นฮวงจุ้ยที่ดี แถมได้สวน สาธารณะขนาดใหญ่กินอาณาบริเวณ 1 ใน 3 ของพื้นที่รวม ทำ า ให้ ส ามารถสะสมกระแสพลั ง งานที่ ดี ไว้ ไ ด้ ทำ า ให้ กิ จ การค้าเจริญรุง่ เรือง ส่วนการคมนาคมทางอากาศมีทา่ อากาศ ยานนานาชาติวัดไต ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เมืองเวียงจันทน์ ซึ่งจัดว่าเป็นทิศของธาตุน้ำา ส่งเสริมการ ท่องเที่ยวให้กับประเทศนี้ได้เป็นอย่างดี

ประเทศลาว...จึงเปรียบดั่งประเทศรุ่งอรุณ ที่มีแหล่ง ทรัพยากรทัง้ จากธรรมชาติและแหล่งคนงานทีม่ คี วามซือ่ สัตย์ อัธยาศัยใจคอดี อีกทัง้ ค่าแรงงานยังถูกมาก รวมทัง้ พลังงาน ฮวงจุ้ยของลาวในอีก 10 ปีข้างหน้ามีการขับเคลื่อนตัวที่เร็ว ขึ้น ปลุกมังกรที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง กลุ่มผู้ลงทุนที่ มองเห็นโอกาสนีร้ ออยู ่ ก็จะเป็นผูท้ ไี่ ด้รบั ประโยชน์อย่างมาก นับต่อจากนี้... l 45

HUNT l Buddhism Management

วิธีบริหารจัดการ

ตัณหา มานะ ทิฏฐิ ñ.ตัณหา : ¤วามอยากได้ สามารถจัดการได้ด้วยการ

๑.๑ รู้เท่าทันธรรมชาติของตัณหาว่าไม่มีที่สิ้นสุด แต่ ชีวิตของคนมีวันสิ้นสุด

๑.๒ ไม่วิ่งตามความต้องการไปเสียทุกเรื่อง

๑.๓ เมื่อต้องการสิ่งใด ให้ถามตนเองว่า เป็นเพียง เพราะ “ความต้องการ” ที่ถูกบงการโดยกิเลส หรือว่าเป็น “ความจำาเป็นพื้นฐานแท้ๆ ของชีวิต” ถ้าเป็นเพียงความ ต้องการเพราะถูกกระตุน้ ให้อยาก ก็ไม่ตอ้ งวิง่ ตาม แต่ถา้ เป็น ความต้องการพื้นฐานแท้ๆ ของชีวิต ก็ควรจัดหาสิ่งที่ตน ต้องการมาใช้กนิ ไว้ใช้ ไว้บริโภคตามสมควร โดยไม่ทาำ ตนเอง ให้เดือดร้อน

๑.๔ บริโภคสิง่ ต่างๆ ตามความต้องการคุณค่าแท้ (มุง่ ประโยชน์ใช้สอย) ไม่เน้นคุณค่าเทียม (มุ่งประโยชน์ใช้สวย)

๑.๕ พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ (ความพอในวัตถุ หรือปัจจัยสี่) แล้วใช้วันเวลาที่เหลือมาพัฒนาคุณภาพชีวิต เหมือนที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวว่า “ชีวิตของข้าพเจ้าต้องการ เพียงแค่ไวโอลินกับตำาราฟิสิกส์ก็พอแล้ว” เพราะเขามองว่า นอกนั้นเป็นความฟุ่มเฟือย นี่คือคนที่มีชีวิตอยู่กับคุณค่าแท้ ไม่ยอมเสียเวลาไปวิง่ ไล่ตามตัณหา เขาจึงอุทศิ วันเวลาพัฒนา ปัญญาและวิชาการให้กับโลกได้อย่างเต็มที่

๑.๖ ยกระดับการแสวงหาความสุขของตน จากการ หมกมุ่นตามสนองตัณหาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ยศ ทรัพย์ อำานาจ มาเป็นการแสวงหาความสุขจากการทำางาน การหาความรู้ การศึกษาค้นคว้า การอุทิศตนทำางานรับใช้ 46 l >> sxc.hu : ภาพประกอบ

(ตอนที่ ๑) >> Ç.ǪÔÃàÁ¸Õ : àÃ×èͧ

เพื่อนมนุษย์ การฝึกสมาธิภาวนา ซึ่งเป็นความสุขอย่าง ประณีตและเป็นอิสระ

๑.๗ ฝึกเจริญสติอยู่เสมอ เมื่อมีสติประจำาการอยู่ ตลอดเวลา จะไม่ถกู ตัณหาล่อลวงให้ทะยานอยากด้วยความ ลุม่ หลง เป็นอันตัดญาติขาดมิตรกับตัณหาโดยตรง ด้วยความ รูเ้ ท่า รูท้ นั ไม่เข้าไปสูก่ ารปรุงแต่งอันเป็นเครือ่ งมือของตัณหา อีกต่อไป

๑.๘ ปฏิบตั ติ ามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ อย่างต่อเนือ่ ง สม่ำาเสมอ เพราะอริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นเครื่องมือกำาจัด ตัณหาชนิดถอนรากถอนโคน เหมือนทีท่ า่ นใช้คาำ ว่า “ตณฺหกฺข โย” คือ อริยมรรคเป็นธรรมที่ “หัก” (สิ้น) ตัณหาเสียได้อย่าง สิ้นเชิง

ò. มานะ : ¤วามอยากใหÞ่ สามารถจัดการได้ด้วยการ

๒.๑ รู้เท่าทันว่าความอยากใหญ่ อยากมีตัวตนโดดเด่นเห็นชัด เป็นศูนย์รวมของความทุกข์ (ยิ่งเด่น ยิ่งเป็นเป้า)

๒.๒ รู้เท่าทันว่าความอยากใหญ่ อยากมีตัวตนโดดเด่นเห็นชัด เป็นสาเหตุแห่งการกระทบ กระแทก กระเทือน และถูกกระทำา รวมทัง้ เป็นเหตุให้ไปกระทำาผูอ้ นื่ (เป็นตัวป่วน) ให้เป็นทุกข์

๒.๓ รู้เท่าทันว่าความอยากใหญ่ อยากมีตัวตนโดดเด่นเห็นชัด เป็นเพียงมายาที่เราสร้างขึ้นมา เป็นเพียงกลุ่ม ก้อนของอุปาทานชนิดหนึ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง เหมือนพยับ แดดที่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่ตัวตนจริงๆ นั้นไม่มี

•• แม้มีความยิ่งใหญ่ขึ้นมา ก็ต้องใช้ความยิ่งใหญ่นั้นอย่างสำรวม ระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่เลินเล่อ ไม่นำไปใช้ในทางเสียหาย ก่อความทุกข์ ภยันตรายแก่ผู้อื่น แต่ใช้ความยิ่งใหญ่นั้นเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์ ••

๒.๔ รูเ้ ท่าทันว่าแม้จะอยากใหญ่ และใหญ่ได้จริงตาม ความอยาก แต่ความใหญ่ ความมีตัวตน ความมีอำานาจ เป็นต้นนั้น ก็ตกอยู่ในสัจธรรมสากลที่ว่า “ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” ไม่ใช่สงิ่ ทีจ่ ะยึดถือเอาเป็นตัวตนทีเ่ ทีย่ งแท้ถาวร ในลักษณะยึดเอามาเป็น “ตัวกู ของกู นี่กูนะ” ไปได้ตลอด เวลา

๒.๕ แม้มีความยิ่งใหญ่ขึ้นมา ก็ต้องใช้ความยิ่งใหญ่ นั้นอย่างสำารวม ระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่เลินเล่อ ไม่นำาไป ใช้ในทางเสียหาย ก่อความทุกข์ ภยันตรายแก่ผู้อื่น แต่ใช้ ความยิ่งใหญ่นั้นเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์

เหมือนเนลสัน แมนเดลา ที่ใช้ความยิ่งใหญ่ของตน รณรงค์เพื่อสร้างสันติภาพในแอฟริกาใต้ หรือในทวีปอื่นๆ ของโลก

เหมือนเจ้าหญิงไดอานา ที่ใช้ความเด่นดังของตัวเอง รณรงค์เรื่องการสร้างสันติภาพในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เหมือนพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ทรงใช้ความยิ่งใหญ่ ของพระองค์สร้างโรงทาน สุขศาลา โรงพยาบาล (อโรคยา ศาลา) และสร้างการศึกษาแก่ประชาชน ด้วยการสร้างศิลา จารึกและเผยแผ่ธรรม

เหมือนบิล เกตส์ ทีใ่ ช้ความยิง่ ใหญ่ทางการเงินบริจาค เงินมหาศาลเพือ่ ปฏิรปู การศึกษาของสหรัฐอเมริกา และช่วย เหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประเทศโลกทีส่ ามมาอย่างต่อเนือ่ ง

๒.๖ แม้ตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ความ ยิ่งใหญ่นั้นเป็นเพียงสิ่งสมมติชนิดหนึ่งเท่านั้น ถ้าอยู่ในที่ที่

คนยอมรับสมมติ ก็มีความสำาคัญ แต่หากไปอยู่ในที่ที่คนไม่ ยอมรับไม่รู้จัก ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย ๒.๗ ควรถอดถอนความพอใจในความอยากใหญ่ อยากเป็นคนสำาคัญทีโ่ ดดเด่นเห็นชัดเสีย มุง่ มัน่ ทำาการต่างๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์ไป โดยเน้นทีต่ วั ประโยชน์ทแี่ ท้ของสิง่ นัน้ โดย ไม่หวังให้ความอยากใหญ่ของตนนั้นเป็นรางวัล หรือเป็น เป้าหมายที่ตนควรก้าวไปให้ถึง โดยวิธีนี้ก็จะสามารถทำางาน และดำารงชีวติ อย่างมีความสุข เมือ่ ทำางานไป ไม่วา่ ตัวตนของ ตนจะถูกยอมรับหรือไม่ถูกยอมรับ ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ไม่กระทบทั้งตน ไม่กระทบทั้งงาน ไม่ต้องตะเกียกตะกาย แข่งขัน เบียดเบียนใครๆ มุ่งไปยังประโยชน์ที่แท้ของทุกสิ่งที่ ตนทำาก็เพียงพอ ทำางานไป ดำารงชีวิตไป เหมือนดอกไม้ที่ผลิ บานอย่างบริสุทธิ์ หรือเหมือนน้ำาก็ไหล พระจันทร์ก็ส่อง พระอาทิตย์ก็อุทัยไปตามวิถีทางอันเป็นธรรมดา ไม่เป็นห่วง ว่าใครจะประเมินค่าเป็นอย่างไร แต่ได้ทาำ ประโยชน์อย่างเต็ม เม็ดเต็มหน่วยและมีความสุขก็พอใจแล้ว

๒.๘ กำาจัดมานะหรือความอยากใหญ่ให้สิ้นเชิงด้วย การเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ เพราะเมื่ออริยมรรคบริบูรณ์ มานะก็เป็นอันถูกทำาลายลงอย่างราบคาบไม่มีเชื้อให้ยกหู ชู หาง วางก้าม ชูงวงอีก เป็นอันลุถึงความเป็นคนธรรมดาที่ เป็นอิสระจากกิเลสเป็นเหตุพองตัวอย่างสิ้นเชิง หมดมานะ ชี วิ ต ก็ ห มดเป้ า ให้ ทุ ก ข์ ก ระทบ เกิ ด ภาวะ “ฝนตกไม่ ต้ อ ง ฟ้าร้องไม่ถึง” ในชีวิต

>>โปรดติดตามต่อในฉบับหน้า<< l 47

HUNT l Travel

เมืองมหัศจรรย์ >> Ns.Bkk เรื่อง/ภาพ

จัว่ หัวมาว่า “หนองคาย...เมืองมหัศจรรย์” อาจทำาให้ใครหลาย คนอยากรูว้ า่ ความมหัศจรรย์ของทีน่ อี่ ยูต่ รงไหน? นอกจากการไปดูบงั้ ไฟ พญานาคริมฝั่งแม่น้ำาโขงในช่วงวันออกพรรษา หรือการไปไหว้สักการะ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่วัดโพธิ์ชัย แล้ว บอกตรงๆ ยังนึกไม่ออกว่า ที่ หนองคาย นี้ จะมีอะไรเด็ดขนาดต้อง เก็บมาเล่าสู่กันฟังได้อีก...

จนกระทั่งวันหนึ่งในเดือนเมษายน ที่ บริเวณหาดจอมมณี หรือ ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่าเป็น พัทยาอีสาน ถูกเนรมิตให้กลายมาเป็น ลานจัดแสดงงานศิลป์บนผืนทรายขนาดใหญ่ “Sand Art Festival 2013” ครัง้ แรกริมฝัง่ แม่นา้ำ โขง เมือ่ คติทางธรรมและความเชือ่ แห่งสายน้าำ โขงได้ หลอมรวมกั นเป็ นหนึ่งเดียว สะท้ อนผ่ านศิ ลปะทรายร่ วมสมัย ซึ่ง ชนาธิป ชืน่ บำารุง ศิลปินผูส้ รรค์สร้างได้ถา่ ยทอดจินตนาการออกมาเป็น “บัลลังก์นาคราช” งานศิลปะระดับสากลที่หาชมได้ยาก

และงานนีเ้ องทีเ่ ป็นจุดเริม่ ต้นในการเปิดประสบการณ์ใหม่กบั การ มาเที่ยวหนองคาย ที่ทำาให้เราถึงขั้นต้องเปลี่ยนความคิด เพราะที่นี่... “ของดี” เขาเยอะจริงๆ การันตีโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ที่กระซิบบอกมาดังๆ ว่า ที่นี่ได้รับการจัดอันดับ ให้เป็น เมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่ายใน สังคมแห่งมิตรภาพที่ใครๆ ก็สัมผัสได้ เห็นไหมล่ะว่า ....ไม่ธรรมดา !

48 l

วัดภูผาดัก ถ้ำ�ดินเพียง ภูนกกระบา และผาตากเสื้อ

แหล่งท่องเทีย่ วทัง้ 4 แห่งนีอ้ ยูใ่ นตำ�บลผาตัง้ อำ�เภอ สังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งแต่ละแห่งแทบจะเรียกว่า “ยัง ใหม่และสด” เริ่มกันที่ “วัดภูผาดัก” บอกตรงๆ ว่าภาพแรก ที่นึกถึงว่าจะได้มาเที่ยวชมวัด คือ โบสถ์และสิ่งก่อสร้างและ สถาปัตยกรรมต่างๆ ทีพ่ บเห็นได้ทวั่ ไป แต่ทว่า..สิง่ ทีไ่ ด้สมั ผัส คือ สภาพเส้นทางที่เป็นถนนดินลูกรังและทางขึ้นเขาที่คด เคี้ยวเป็นระยะ วัดแห่งนี้ว่ากันว่าเคยเป็นวัดร้างเก่าแก่ และ ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเขาสูงที่มีหน้าผาล้อมรอบ ชาวบ้านจึง พากันเรียกทีน่ วี่ า่ “วัดภูผาดัก” ความพิเศษของทีน่ ี่ นอกจาก จะเคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ผาง พระเกจิ อาจารย์ ชื่ อ ดั ง แล้ ว บริ เวณพื้ น ที่ นี้ ยั ง มี ลั ก ษณะของลาน หินปุ่ม และ “กุมภลักษณ์” ที่เกิดจากการกัดเซาะและการ ไหลวนของกระแสน้ำ�ที่พัดแรง โดยมีตะกอนจำ�พวก กรวด ทราย หรือหินขนาดเล็กพัดพามาครูดไถจนทำ�ให้เกิดลักษณะ ของโพรงหิน หรือหลุมทรงกระบอก ปรากฏให้เห็นโดยทัว่ ไป นายมงคล เพ็งสมภาร นายก อบต. ผาตั้ง ซึ่งมาเป็นไกด์ กิตติมศักดิ์ เล่าให้ฟังว่าบรรดาหลุมโพรงเหล่านี้เกิดขึ้นตาม ธรรมชาติ และผ่านการกัดเซาะมานานกว่า 140 ล้านปีเลย ทีเดียว

ห่างจากวัดภูผาดักไม่ไกลนักเป็นเส้นทางที่ทอดไปยัง ถ้ำ�ดินเพียง หรือ วัดถ้ำ�ศรีมงคล ซึ่งมีปากถ้ำ�อยู่ระดับ เดียวกันกับพื้นดิน ก่อนเข้าไปในถ้ำ�จะมีบริเวณที่ให้นักท่อง เทีย่ วได้กราบไหว้รปู ปัน้ ของพญานาค เพือ่ แสดงความเคารพ เพราะเชื่ อ กั น ว่ า ถ้ำ � แห่ ง นี้ เ ป็ น เมื อ งของพญานาคในสมั ย โบราณ ภายในถ้ำ�ค่อนข้างมืด เส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นทาง ลอดเล็กๆ ทีม่ นี �้ำ ท่วมขังอยูเ่ ป็นระยะๆ ลัดเลาะไปตามซอก หิน แต่ละช่วงจะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องธิดา พญานาค ห้องพระคัมภีร์ ทางช้างสามเศียร หรือ บริเวณ โลงศพพญานาค ที่มีหินขนาดใหญ่เกาะติดอยู่กับผนังถ้ำ� ระดับศรีษะ ลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายโลงศพ ชาว บ้านจึงเรียกว่า “โลงศพพญานาค” ด้วยความที่เส้นทาง ภายในถ้ำ�ค่อนข้างมืดและมีระยะทางที่ยาวมาก การเข้าไป เที่ยวชมจำ�เป็นต้องมีไกด์คอยแนะนำ� เพราะบางพื้นที่ยังไม่ ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ หากพลัดหลงเข้าไปอาจ เกิดอันตรายได้ ย้ำ�กันอีกทีว่าที่นี่ต้องมีไกด์นำ�เส้นทาง

ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่นี่ยังไม่หมด เพราะหลัง จากทีอ่ อกมาจากถ้�ำ ดินเพียงด้วยสภาพดูไม่จดื แล้ว จุดหมาย ต่อไป คือ การเดินขึ้นเขาระยะทางประมาณ 500 เมตร เพื่อ

หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย

กุมภลักษณ์ วัดภูผาดัก

บัลลังก์นาคราช หาดจอมมณี

ไปยังจุดชมวิวบนภูนกกระบา ที่ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว เนือ่ งจากเป็นพืน้ ทีอ่ นุรกั ษ์ซงึ่ มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ทีช่ าวบ้านร่วมกันดูแลไว้เป็นอย่างดี นอกจากนีย้ งั มีจดุ ชมวิว ที่ ส ามารถมองเห็ น สายน้ำ � โขงและพื้ น ที่ ข องเมื อ งในฝั่ ง ประเทศลาวได้ เช่นเดียวกับ จุดชมวิวของ “วัดผาตากเสือ้ ” ทีม่ คี วามสูงจากระดับน้�ำ ทะเล โดยเฉลีย่ ประมาณ 550 เมตร ซึ่ ง ในบริ เวณนี้ จ ะสามารถมองเห็ น สภาพภู มิ ป ระเทศริ ม แม่น้ำ�โขงฝั่งไทยและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน จากภูโล้น ถึง พันโขดแสนไคร้ อำ�เภอสังคม

หลังจากเติมพลังกับเมนูอาหารประจำ�พื้นถิ่น อย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ� และปลาเผา กันเรียบร้อย การเดินทาง เพื่อพิชิตยอดเขาภูโล้น ในตำ�บลบ้านม่วง ก็เริ่มต้นขึ้น รถตู้ โดยสารพามาหยุดอยู่ตรงบริเวณทางขึ้น ก่อนที่ต้องเปลี่ยน พาหนะมาเป็น “รถอีแต๊ก” ไต่ระดับความสูงชันแบบ 45 องศา ขึน้ ไปยังจุดชมวิวทีม่ องเห็นเกาะแก่งและโขดหินทีท่ อดตัวอยู่ กลางลำ�น้�ำ โขง บริเวณภูโล้น ใช่วา่ จะโล้นสมชือ่ เพราะบริเวณ โดยทัว่ ไปจะมีตน้ หญ้าทีเ่ รียกกันว่า “หญ้านกยูง” เพราะสมัย l 49

เรือหางยาวพาหนะล่องเรือชมพันโขด แสนไคร้

กระบวนการตากยาสูบ บ้านกองนาง

ก่อนบริเวณแถบนี้จะเป็นที่อาศัยของนกยูง, และต้นหญ้า เหล่านี้ก็เป็นอาหารอันโอชะของพวกมัน แต่เมือมีมนุษย์ที่ มุง่ หน้าเดินทางมาเพือ่ ขุดแร่ทองแดง ทำ�ให้นกยูงทีเ่ คยอาศัย อยู่ต้องอพยพย้ายถิ่นออกไป เหลือเพียงกอหญ้านกยูงที่ขึ้น อยู่กระจัดกระจายโดยทั่วไป ถามว่า “ภูโล้น” มีอะไรที่ น่าสนใจนอกจากการได้ขนึ้ ไปชมความสวยงามของแม่น�้ำ โขง บนที่สูง คำ�ตอบก็คือที่นี่เคยเป็นเหมืองทองแดง และเป็น แหล่งแร่ทองแดงทีม่ คี วามสำ�คัญทางประวัตศิ าสตร์ ซึง่ แม้จะ มองไม่เห็นภาพชัด แต่ในวันนี้ด้วยความสูงของภูโล้นก็ทำ�ให้ มีผู้ที่ค้นพบว่าที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าได้สวยที่สุด อีกแห่งหนึง่ ของเมืองหนองคาย และกำ�ลังจะกลายเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่รักการเดินทาง แบบผจญภัยได้มาสัมผัส

นอกเหนือจาก “ภูโล้น” ทีต่ �ำ บลบ้านม่วง ยังมีอกี หนึง่ แหล่งท่องเทีย่ วทีค่ นทีร่ กั การผจญภัยต้องไม่พลาดนัน่ คือ การ ไปล่องเรือชมพันโขด แสนไคร้ ... พันโขด แสนไคร้ คืออะไร แล้วทำ�ไมต้องไป? งานนี ้ ทัง้ นายสุชยั ตัง้ ชูพงศ์ นายอำ�เภอ สังคม จังหวัดหนองคาย และ นายศิรศิ กั ดิ์ เบ้าแก้ว นายก องค์การบริหารส่วนตำ�บลบ้านม่วง พากันบอกเล่าถึงความ สวยงามของเกาะแก่งและธรรมชาติโดยรอบ แบบที่เรียกว่า น่า Amazing ซะจริงๆ เพราะหลังจากลงจากภูโล้น คราวนี้ ก็ต้องเตรียมใส่เสื้อชูชีพ เดินลงไปตามหาดทรายสีขาวนวล ก่อนลงเรือประมงหางยาวลำ�เล็ก ที่สามารถรับน้ำ�หนักได้ 50 l

ประมาณ 4-5 คน ล่องไปตามลำ�น้�ำ โขง ซึง่ ในช่วงหน้าแล้งจะ มองเห็นโขดหินขนาดต่างๆ อยูเ่ รียงราย แถมมีตน้ ไคร้สเี ขียว ขึ้นแซมอยู่ประปรายมองดูคล้ายกับสวนสวยที่ธรรมชาติ เนรมิต สายน้ำ�โขงที่ไหลผ่านเกาะแก่งต่างๆ ในช่วงหน้าแล้ง จะไม่เชีย่ วกราก การล่องเรือชมธรรมชาติจงึ มีความปลอดภัย อยูม่ าก สำ�หรับจุดทีน่ กั ท่องเทีย่ วจะได้ไปเทีย่ วชมหลักๆ คือ บริเวณ “แก่งกล้า” ที่มีโขดหินขนาดใหญ่เรียงราย ซึ่งหิน เหล่านี้เป็นลักษณะของหินทรายที่นิยมนำ�ไปตกแต่งจัดสวน ตามบ้าน ถัดจากแก่งกล้า เรือจะวิ่งผ่านกระแสน้ำ�เชี่ยวไป ยัง แก่งพาล จุดชมวิวพระอาทิตย์อัสดงที่มีโขดหิน และมี ต้นไคร้กลางลำ�น้ำ�โขง ก่อนจะล่องไปยังหาดทรายขาวบ้าน ห้ ว ยค้ อ เลาะลำ � น้ำ � ที่ ไ หลนิ่ ง สงบเย็ น กลั บ ขึ้ น สู่ ฝั่ ง กั บ แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันที่สวยงาม ทางขึ้นภูถ้ำ� ตำ�บลนางิ้ว

ต้นจันผาใหญ่ ภูถ้ำ�

ปีนภูถ้ำ บ้านกองนาง ตลาดท่าเสด็จ

อย่างทีบ่ อกว่า มาหนองคายคราวนี ้ มีแต่ทเี่ ทีย่ วเด็ดๆ แบบ Unseen เพราะนอกจากความสมบุกสมบัน ขึ้นเขา เข้าถ้ำา ตามสไตล์การท่องเที่ยวแบบผจญภัยแล้ว ในอำาเภอ สังคม ยังมี ภูถา้ำ ในตำาบลนางิว้ ให้ได้ปนี ป่ายไปบนทางทีเ่ ต็ม ไปด้วยโขดหิน เพื่อไปชมวิวทิวทัศน์ และสัมผัสกับต้นจันผา ขนาดใหญ่ รวมไปถึง 9 ถ้าำ น้อยใหญ่ทอี่ ยูไ่ ม่หา่ งกันนัก ด้วย เส้นทางที่เต็มไปด้วยโขดหินและขวากหนาม (ของแท้) อาจ ทำาให้ต้องแวะพักเหนื่อยกันอยู่เป็นระยะๆ แต่เมื่อไปถึงจุด หมายสิ่งที่จะสัมผัสได้ คือ ความสวยงามของมิตรภาพที่เบ่ง บานในใจ เพราะระหว่างทางที่เดินไปต้องอาศัยน้ำาจิตน้ำาใจ ของเพื่อนร่วมทางโดยแท้ๆ ส่งท้ายความมหัศจรรย์ของ หนองคาย ด้วยการแวะเวียนไปเยี่ยมชมศูนย์คุ้มครองพันธุ์ พืชและสัตว์ปา่ ทีม่ เี จ้ากระท่าง หรือกิง้ ก่ายักษ์ และปูหนิ เป็น เจ้าถิน่ ก่อนตามไปดูหมูบ่ า้ นประมงน้าำ จืดทีเ่ ป็นแหล่งเพาะ พั น ธุ์ ป ลานานาชนิ ด ที่ บ้ า นกองนาง ซึ่ ง วั น นี้ ไ ม่ เ พี ย งแต่ ส่งป้อนตลาดในเมืองไทย แต่กลับส่งออกไปไกลในตลาด อาเซียน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้มากโข นอกจากนี้ยังมี แหล่งผลิตเส้นยาสูบ อุตสาหกรรมในครัวเรือน ที่สามารถนำา รายได้มาสู่ครอบครัวชาวบ้านได้เป็นกอบเป็นกำา ซึ่งเส้น ยาสูบตากแห้งของที่นี่ผ่านกระบวนการคัดสรร ตัดบ่ม และ ตากแห้งจนได้คุณภาพที่ดี ก่อนนำาออกมาขายในสนนราคา กิโลกรัมละ 150 บาท

นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และแหล่งท่องเทีย่ วที ่ Unseen สุดๆ สำาหรับขาช้อปพลาดไม่ ได้เลยกับ ตลาดท่าเสด็จ แหล่งรวมสินค้า ของที่ระลึก และ อาหารการกินขึ้นชื่ออย่างแหนมเนือง หรือจะเลือกแวะ จิบกาแฟ นั่งชิลล์ที่ “ร้านกาแฟ ณ ตลาดท่าเรือ” ก็ไม่ว่ากัน และก่อนจะจากลาขอบอกเลยว่าทริปนี้ “สุดฟิน” จุดแวะพักถ่ายรูปที่ “แก่งกล้า”

¨Ñ§ËÇѴ˹ͧ¤Ò ÁÕà¹×éÍ·Õè»ÃÐÁÒ³ 3,026.534 µÒÃÒ§¡ÔâÅàÁµÃ ËÃ×Í»ÃÐÁÒ³ 1,891,583 äË ÅѡɳÐ໚¹ á¹ÇÂÒÇàÃÕ§·Í´ä»µÒÁÅÓ¹éÓ⢧ «Öè§à»š¹àÊŒ¹¡Ñé¹à¢µá´¹¡Ñº »ÃÐà·ÈÅÒÇ ÁÕ¤ÇÒÁÂÒÇ·Ñé§ÊÔé¹ 195 ¡ÔâÅàÁµÃ ¤ÇÒÁ¡ÇŒÒ§ ¢Í§¾×é ¹ ·Õè ·Õè · Í´¢¹Ò¹ä»µÒÁÅí Ò ¹éí Ò â¢§â´Âà©ÅÕè  20-25 ¡ÔâÅàÁµÃ Ë‹Ò§¨Ò¡¡Ãا෾ÁËÒ¹¤ÃµÒÁ·Ò§ËÅǧἋ¹´Ô¹ ÊÒ 2 (ÁÔµÃÀÒ¾) »ÃÐÁÒ³ 615 ¡ÔâÅàÁµÃ การเดินทางไปจังหวัดหนอง¤าย รถยนต์ ¨Ò¡¡ÃØ § à·¾ÁËÒ¹¤Ã ãËŒ ã ªŒ ·Ò§ËÅǧËÁÒÂàÅ¢ 1 (¶¹¹ ¾ËÅâ¸Թ) ¶Ö§¨Ñ§ËÇÑ´ÊÃкØÃÕ ºÃÔàdzËÅÑ¡¡ÔâÅàÁµÃ·Õè 107 á¡¢ÇÒࢌҷҧËÅǧËÁÒÂàÅ¢ 2 (¶¹¹ÁÔµÃÀÒ¾) ¼‹Ò¹¨Ñ§ËÇÑ´¹¤ÃÃÒªÊÕÁÒ ¨Ñ§ËÇÑ´¢Í¹á¡‹¹ ¨Ñ§ËÇÑ´ÍØ´Ã¸Ò¹Õ ¨¹ä»¶Ö§ ˹ͧ¤ÒÂ

รถโดยสารประจÓทาง ʶҹբ¹Ê‹§Ë¹Í§¤Ò ÁÕºÃÔ¡ÒÃöâ´ÂÊÒûÃШӷҧ ·Ñ§é öâ´ÂÊÒøÃÃÁ´ÒáÅлÃѺÍÒ¡ÒÈ ·Ñ§é ö·ÕÁè Ò¨Ò¡¡ÃØ§à·¾Ï áÅШҡ˹ͧ¤ÒÂä»Âѧ¨Ñ§ËÇÑ´µ‹Ò§æ ઋ¹ ÊÒ 23 ¡ÃØ§à·¾Ï - ˹ͧ¤Ò ¢Í§ ªÒÞ·ÑÇà áÍÃ Í´Ø Ã àªÔ´ªÑ·ÑÇà 407 ¾Ñ²¹Ò ºØÉÃÒ¤ÑÁ·ÑÇà Ãا‹ »ÃÐàÊÃÔ°·ÑÇà , ÊÒ 590 ˹ͧ¤Ò - ÃÐÂͧ ¢Í§ 407 ¾Ñ²¹Ò, ÊÒ 507 ˹ͧ¤ÒÂ-àÅÂ, ÊÒ 224 ÍشøҹÕ-˹ͧ¤ÒÂ-¹¤Ã¾¹Á, ÊÒ 221 ˹ͧ¤ÒÂÍشøҹÕ, ÊÒ 776 ˹ͧ¤ÒÂ-ÀÙà¡çµ ¢Í§ªÒÞ»ÃÐàÊÃÔ°·ÑÇà ÃÇÁä»¶Ö § öâ´ÂÊÒÃÃÐËÇ‹ Ò §»ÃÐà·È ÊÒÂ˹ͧ¤ÒÂàÇÕ§¨Ñ¹·¹ áÅÐ ÍشøҹÕ-˹ͧ¤Ò–ÇѧàÇÕ§ รถไ¿ ¡ÒÃöä¿áË‹§»ÃÐà·Èä·Â ÁÕ¢ºÇ¹Ã¶ä¿¨Ò¡¡ÃØ§à·¾Ï -˹ͧ¤Ò ·Ø¡Çѹ â´ÂÍÍ¡¨Ò¡Ê¶Ò¹Õ˹ͧ¤ÒÂä»ÂѧÍØ´Ã¸Ò¹Õ ¢Í¹á¡‹¹ áÅСÃØ§à·¾Ï ÇѹÅÐ 3 à·ÕèÂÇ เ¤ร×่องบิน ŧ·Õè·‹ÒÍÒ¡ÒÈÂÒ¹¹Ò¹ÒªÒµÔÍشøҹըҡ¹Ñé¹µ‹Íö ࢌҨѧËÇѴ˹ͧ¤ÒÂÍÕ¡ 51 ¡ÔâÅàÁµÃ

¢Í¢Íº¤Ø³: Êӹѡ§Ò¹¨Ñ§ËÇѴ˹ͧ¤Ò â·Ã.042-412678 ͺµ.¼ÒµÑé§ â·Ã.042-436-923-4 ¤Ø³ÈÔÃÔÈÑ¡´Ôì ຌÒá¡ŒÇ ¹Ò¡ͺµ.ºŒÒ¹Á‹Ç§ â·Ã.087-219-550 ¤Œ¹ËÒ¢ŒÍÁÙÅà¾ÔèÁàµÔÁä´Œ·Õè www.facebook.com/nongkhainews l 51

HUNT l Hobbies

ดนตรี และเสียงเพลง ของ

ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม >> ณัตตินา สุวัฒวิตยากร : เรื่อง / ธนวัฒน์ : ภาพ

บ้านหลังใหญ่ยา่ นโยธินพัฒนาของ “ธิติ พฤกษ์ชะอุม่ ” หรือ คุณซ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำ � กั ด เปิ ด กว้ า งรอรั บ การมาเยื อ นของที ม งาน HUNT Magazine ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายในวันสบาย นอก เหนือจากการเป็นผู้บริหารแบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์การ กีฬาชื่อดังอย่างแกรนด์สปอร์ตแล้ว บางคนก็อาจรู้จักเขาใน ฐานะของนักร้องคุณภาพอีกคนหนึ่งของประเทศไทยที่มีทั้ง ผลงานการร้องเพลงและการเป็นคอรัสให้กับศิลปินชั้นนำ� ต่างๆ มากมาย 52 l

52 ปีมาแล้วที่แบรนด์ของเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา แกรนด์สปอร์ต ผงาดความเป็นเจ้าตลาดในเมืองไทย ซึ่งใน บทบาทของการเป็นผู้นำ�องค์กร คุณซ้ง ก็เต็มที่กับการสาน ต่อเจตนารมณ์ของผูเ้ ป็นพ่อ และมีมมุ มองการบริหารงานบน พื้นฐานของความไว้วางใจ ผสานกับการไม่หยุดนิ่งในการ พัฒนาสินค้าและการตลาด ซึ่งกับธุรกิจในวันนี้เขามองว่า วงการกีฬาเมืองไทยกำ�ลังเติบโตและก้าวไปสูค่ วามเป็นสากล มากขึ้น

•• ทุกแผ่นที่ซื้อ ผมต้องเก็บและอ่านทุกตัว ที่อยู่ในปก มันมีความหมายมาก ใครเป็นโปรดิวเซอร์ ใครเป็นนายทุน ใครเป็น นักดนตรี ใครแต่ง ใครรู้สึกอะไร ขอบคุณอย่างไร มันเป็นการเรียนรู้วิธีคิดของคน เรียนรู้ ความรู้สึกของศิลปิน มันไม่ใช่แค่เพลง ••

“เมือ่ ก่อนกีฬาเป็นเพียงการออกกำาลังกาย ไม่ได้คาำ นึง ถึงความเป็นเลิศ แต่ประมาณ 5 ปี มานี ้ มันเริม่ เป็นเรือ่ งของ การแข่งขันกีฬาอาชีพ เราเริม่ เห็นภาพชัดขึน้ เรือ่ ยๆ ผมมอง ว่าอีก 5-10 ปี ข้างหน้า ประเทศไทยก็จะมีนักกีฬาอาชีพเต็ม ตัวมากขึ้น ยุคนี้ถือเป็นยุคที่สร้างพื้นฐานให้กับอนาคตของ เด็กยุคใหม่ และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักกีฬารุ่นใหม่ที่ มีฝีมือ ในการก้าวไปค้าฝีมือในต่างประเทศ ซึ่งเทรนด์เมือง นอกเขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว”

กับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลายบริษัท มุ่งเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สำาหรับ แกรนด์สปอร์ตแล้ว ยังคงเน้นการทำาตลาดและคงฐานการ ผลิตหลักอยู่ในเมืองไทย ควบคู่ไปกับการทำาตลาดกับคู่ค้า ในต่างประเทศ และการกระจายสินค้าผ่านไปยังตัวแทน จำาหน่ายในจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ติดต่อกับเขตชายแดนทั้ง มาเลเซีย พม่า และลาว ฯลฯ

“แบรนด์สินค้าของเราจะติดตัวไปกับนักกีฬาอยู่แล้ว ต้องขอบคุณนักกีฬาไทยที่ทำาผลงานได้ดี เวลามีการแข่งขัน ในต่างประเทศ บางทีมีการขอเสื้อนักกีฬาไทยบ่อยๆ ตรงนี้ ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำาให้สินค้าของเราได้รับความสนใจจากกลุ่ม คนในวงการกีฬา ซึ่งหลักๆ เรามีคู่ค้าต่างประเทศที่ติดใจใน คุณภาพของแกรนด์สปอร์ตอยู่มาก ส่วนเรื่องของ AEC จังหวัดต่างๆ ทีอ่ ยูต่ ดิ ชายแดนก็เป็นตัวแทนจำาหน่ายและเป็น จุดกระจายสินค้าเข้าสู่ AEC อยู่แล้ว ซึ่งภาพรวมของธุรกิจก็ ดีขนึ้ เรือ่ ยๆ และผมก็เชือ่ ว่าเมือ่ มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน มันจะมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ”

หากจะว่าไป คุณซ้ง ก็เป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจหนุ่มรุ่น ใหม่ที่มีไฟฝัน ซึ่งนอกจากการที่ต้องดูแลในภาพรวมของ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำากัด เจ้าตลาดชุดเสื้อผ้าและ อุปกรณ์การกีฬาแล้ว ในวันว่างของเขา การร้องเพลงและการ ได้อยู่กับเสียงดนตรีที่ชื่นชอบก็เป็นความสุขที่หาได้ง่ายๆ ภายในห้องเล็กๆ ที่จัดเป็นพื้นที่ส่วนตัว และเป็นห้องที่เก็บ สะสมแผ่นเสียง เทปเพลง รวมไปถึงแผ่นซีดีนับร้อย นับพัน ชิ้นไว้อย่างเป็นระเบียบ บนผนังพิเศษ 4 ชั้นที่ได้รับการ ออกแบบให้เป็นบานเลื่อน ภาพปกอัลบั้มเพลงหลากสีสัน l 53

ผลงานของศิลปินทัง้ ไทยและต่างประเทศ ทำ�ให้หอ้ งสีเ่ หลีย่ ม เล็กๆ ดูละม้ายคล้ายร้านวางจำ�หน่ายแผ่นเสียงและซีดเี พลง เลยทีเดียว

“ถามว่าเริม่ สะสมมาตัง้ แต่เมือ่ ไหร่ คงต้องย้อนไปสมัย เด็กๆ คุณพ่อ คุณแม่ คุณอา ชอบฟังเพลงจีน ตอนนั้น ผม อายุยงั ไม่ถงึ 10 ขวบก็มหี น้าทีเ่ ป็นคนเปิดแผ่นให้เขาฟัง มัน เหมือนเป็นการซึมซับเข้ามาเรือ่ ย ๆ พอเราเริม่ มีเงินสะสม ก็ ซื้อแผ่นซีดีซึ่งสมัยก่อนราคาแพงมาก พอมีซีดีแผ่นแรกก็ซื้อ Walkman Portable รุน่ แรก ตัง้ แต่สมัยเรียนมัธยมฯ ซึง่ ความ หลงใหลในเสียงเพลงยังคงดำ�เนินไป จากที่เป็นคนฟังเพลง เล่นอิเล็กโทน พอเข้าไปอยู่ชมรมโรตาแลคท์ ของ ABAC ก็ เริม่ ได้ฝกึ ทักษะการร้องเพลงและการแสดงออก เป็นนักร้อง นำ� จนเรียนจบ ก็ไปทำ�งานเกีย่ วกับธุรกิจจิวเวอร์รอี่ ยูพ่ กั หนึง่ ทำ�งานพอมีเงินก็ไปเที่ยวคาราโอเกะ ปีแรกๆ ที่โนโวเทล สยามมีร้าน Vibration Karaoke ที่ให้แต่ละโต๊ะไปร้องด้าน หน้า พอไปร้องก็ได้ทหี่ นึง่ จำ�ได้วา่ ได้เครือ่ งเล่นวิดโี อมาเป็น ของรางวัล ด้วยความสนุก ก็ไปร้องประกวดที่สยามกลการ ซึ่งก็เข้ารอบ 60 คน แต่อาจเพราะเราเป็นมือสมัครเล่นเกิน ไป เลยไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ถงึ รอบ 20 คน เพราะคนอืน่ ๆ ที่ประกวดด้วยกัน อย่าง ฟอร์ด สบชัย เจนนิเฟอร์ อู๋ ธนาธร อัยย์ พรรณี ฯลฯ เขามีครูฝึกทั้งการร้องและการแสดง ซึ่ง การไปประกวดก็ทำ�ให้เราได้รู้จักนักร้องกลุ่มนั้นและเป็น เพื่อนกัน” 54 l

จากประสบการณ์ครั้งนั้นทำ�ให้ คุณซ้ง ได้ใช้ชีวิตใน เส้นทางบันเทิง ด้วยการเป็นนักร้องและร่วมเป็นหนึ่งศิลปิน ทีผ่ ลิตผลงานคุณภาพออกมาในหลายอัลบัม้ ซึง่ อัลบัม้ ต่างๆ เหล่านั้นก็รวมอยู่ในของสะสมชิ้นโปรดของเขา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นซีดีเพลง อัลบั้มที่มีชื่อว่า เลบง มนต์เพลงคาราบาว ซับน้ำ�ตาอันดามัน อัลบั้ม ๙ ซึ่งเป็นการทำ�เพลงที่ได้แรง บันดาลใจจากในหลวง รวมไปถึงอัลบั้มซีดีผลงานเพลงชุด แรกของเขาที่มีชื่อว่า ZONX “อัลบั้มเลบง (อ่านว่า ละ-เบง) เป็นอัลบั้มแรกที่ร้อง บันทึกเสียง แผ่นนีห้ ายากมาก ทำ�ขึน้ เมือ่ ปี 2538 ขนาดแผ่น มือสองยังมีราคาขายอยูท่ ี่ 2-3 พันบาท หายากมาก อัลบัม้ นีม้ อี าจารย์เด่น คณบดีมหาวิทยาลัยรังสิต มาเป็นโปรดิวเซอร์ ให้ นักร้องในนี้ไม่เคยมีใครได้ออกอัลบั้ม ชื่อ เลบง แปล ว่าการร้องรำ�ทำ�เพลง จากตรงนัน้ ก็เริม่ ได้ท�ำ ในสิง่ ทีไ่ ม่เคยทำ� มาก่อน ได้ร่วมร้องเพลง เป็นคอรัส จนมาทำ�อัลบั้มของตัว เองเมื่อปี 2552 ซึ่งก็ได้เข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ดด้วย ตรงนี้ เป็นประสบการณ์ เป็นความสนุกที่เราได้สัมผัส และก็เป็น ส่วนหนึ่งของชิ้นงานที่สะสม”

“การสะสมในสิ่งที่รัก...มันอิ่มใจ” คุณซ้งบอกก่อน ที่จะเล่าต่อไปว่า “ดนตรีและเสียงเพลง” เป็นส่วนหนึ่งที่ สามารถบำ�บัดอารมณ์ และทำ�ให้รู้สึกผ่อนคลาย “ความ อิม่ ใจ” ทีเ่ กิดขึน้ จึงไม่เพียงแต่น�ำ ความสุขจากการได้มองเห็น ได้สัมผัส กับความสวยงามของสีสันต่างๆ เท่านั้น แต่ยัง

•• การสะสมมันอิ่มใจ ทุกครั้งที่เข้ามาห้องนี้ ผมจะรู้สึกสบายตา เหมือนคนสะสม แสตมป์ที่เขาก็นั่งดูได้ทั้งวัน หรือคนที่สะสม ตุ๊กตา หนังสือ ผมว่าทุกคนสุดท้ายก็ไม่ได้ เอาไปทำ�อะไร แค่วางโชว์ก็สวย ก็สร้างแรงบันดาลใจ มันอิ่มใจและเป็นเครื่องเตือนความ ทรงจำ� แต่สิ่งที่เหนืออื่นใด มันคืองานศิลปะที่มีความสอดคล้องกัน มีความหมาย •• หมายรวมถึง ความสุขทางใจ ทีเ่ กิดขึน้ ได้แม้ในช่วงเวลาสัน้ ๆ

“ผมฟังเพลงในทุกแนว สะสมมาตั้งแต่สมัยเรียน ถึง ตอนนี้ก็ประมาณ 30 ปี มาแล้ว ยุคปี 80-90 ผมว่ามันเป็น ช่วงที่ Peak ทีส่ ดุ แล้ว ของเทปและซีด ี ก่อนตัดสินใจซือ้ สมัย ก่อนผมซื้อเพราะศิลปิน สมัยนี้ศิลปินใหม่ผมก็จะลองฟังถ้า ติดมีอะไรสะดุดก็ซอื้ มา บางทีกซ็ อื้ จากหน้าปก ลองดู บางที หน้าปกสามารถสื่อถึงอารมณ์เพลงด้วย รูปที่เลือกมันต้อง บอกอะไรบางอย่าง เสน่หข์ องมันนอกจากเรือ่ งของดนตรี ผม ว่ามันเป็นศิลปะด้านกราฟฟิคด้วย ไม่ใช่แค่หยิบมาฟังเพลง เด็กยุคใหม่ที่ฟัง MP3 ผมว่าเขาไม่มีทางรู้สึกถึงตรงนี้ได้เลย เพราะโหลดมาฟังอย่างเดียว ทุกแผ่นที่ซื้ อ ผมต้องเก็ บ และอ่านทุกตัวที่อยู่ในปก มันมีความหมายมาก ใครเป็น โปรดิวเซอร์ ใครเป็นนายทุน ใครเป็นนักดนตรี ใครแต่ง ใคร รู้สึกอะไร ขอบคุณอย่างไร มันเป็นการเรียนรู้วิธีคิดของคน เรียนรูค้ วามรูส้ กึ ของศิลปิน มันไม่ใช่แค่เพลง ยิง่ พอได้ท�ำ เอง

กว่าจะออกมาแต่ละชุด มันไม่ง่ายเลย แผ่นราคา 200- 300 บาท แต่มนั มีอะไรอยูใ่ นนัน้ เยอะ การสะสมมันอิม่ ใจ ทุกครัง้ ที่เข้ามาห้องนี้ ผมจะรู้สึกสบายตา เหมือนคนสะสมแสตมป์ ที่เขาก็น่ังดูได้ทั้งวัน หรือคนที่สะสมตุ๊กตา หนังสือ ผมว่า ทุกคนสุดท้ายก็ไม่ได้เอาไปทำ�อะไร แค่วางโชว์ก็สวย ก็สร้าง แรงบันดาลใจ มันอิ่มใจและเป็นเครื่องเตือนความทรงจำ� แต่สิ่งที่เหนืออื่นใด มันคืองานศิลปะที่มีความสอดคล้องกัน มีความหมาย”

ดนตรีและเสียงเพลง เป็นความผูกพัน เป็นสิง่ ทีเ่ ขารัก และไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย นี่คือ เหตุผลว่าทำ�ไมห้องสี่เหลี่ยม เล็กๆ จึงอบอวลไปด้วยความสุขทุกครั้งที่เขาได้เข้ามานั่งฟัง เพลง หรือเล่นดนตรี... ถ้าคุณอยากมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ลองมองไปรอบตัวแล้วดูวา่ อะไรคือสิง่ ทีค่ ณ ุ รักมากทีส่ ดุ เมือ่ รู้แล้ว... สิ่งนั้นแหละที่จะเป็นคำ�ตอบที่เติมเต็มความสุขให้ คุณได้ทุกวัน... l 55

HUNT l Fashion

Fashionably Environmental Friendly Long Live Fashion!

บริษัท H&M หรือ Hennes & Mauritz ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้า และสินค้าแฟชัน่ จากสวีเดน ได้จดั ทำาโครงการเชิงรักแฟชัน่ -รักสิง่ แวดล้อม ด้วยการตั้งกล่องรับเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วจากลูกค้า โดย ไม่จำากัดว่าเสื้อผ้านั้นจะเป็นยี่ห้อใด สภาพเก่ามากน้อยแค่ไหน เพียงลูกค้านำาเสื้อผ้าใส่ถุงมาหย่อนลงในกล่องที่พิมพ์ข้อความ ว่า “Long live fashion!” ที่ตั้งไว้หน้าร้าน H&M ทั่วโลก ก็สามารถ รับบัตรส่วนลด 15% สำาหรับนำาไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ภายในร้าน โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อลดจำานวนขยะในรูปเสื้อผ้าเก่า โดย H&M จะคัดเสื้อผ้าที่ลูกค้านำามามอบให้ตามแต่สภาพเพื่อนำาไป ทำาประโยชน์ทางใดทางหนึง่ เช่น หากเสือ้ ผ้าอยูใ่ นสภาพเก่ามาก ไม่สามารถสวมใส่ได้อกี บริษทั ก็จะส่งไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล เพือ่ นำาเศษผ้าไปทำาประโยชน์ดา้ นอืน่ แต่หากยังสวมใส่ได้ บริษทั จะนำาไปมอบให้กับร้านเสื้อผ้ามือสอง เพื่อนำาเงินรายได้ไปใช้ใน ด้านสาธารณกุศล โครงการนี้นับเป็นโครงการระดับโลก มีการ เปิดตัวใน 48 ประเทศที่ H&M มีสาขาอยู่ และจับมือกับองค์กร อื่นๆ ที่เป็นพันธมิตร อาทิ องค์กร Global Green USA จาก สหรัฐอเมริกา และองค์กรไอ:ซีโอ (I:CO) จากสวีเดน รายได้ทเี่ กิด จากกิจกรรมนี้จะถูกนำาไปใช้ในการให้สิทธิประโยชน์คืนกลับแก่ ลูกค้าที่นำาเสื้อผ้าเก่ามาและนำาไปใช้สนับสนุนการทำางานของ องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงผลกำาไร www.hm.com 56 l

•• ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ ¡ÒûÃÐËÂÑ´¾Åѧ§Ò¹ ÁÔ㪋à¾Õ§໚¹¡ÃÐáÊ©Òº©Ç ᵋ»˜¨¨ØºÑ¹ÍصÊÒË¡ÃÃÁῪÑè¹ ã¹ËÅÒÂáË‹§¢Í§âÅ¡ ¡çàÃÔèÁµŒ¹àÊŒ¹·Ò§ÊÕà¢ÕÂÇ ¢Í§¾Ç¡à¢ÒÍ‹ҧ¨ÃÔ§¨Ñ§àª‹¹¡Ñ¹ à¾ÃÒЩйÑé¹ ¼ÙŒºÃÔâÀ¤Í‹ҧàÃÒ àËç¹ÊÁ¤Ç÷Õ赌ͧàÃÔèÁµÃÐ˹ѡ áÅÐàÃÔèÁ¹ÓàÃ×èͧ¢Í§ÊÕà¢ÕÂÇ à¢ŒÒÁÒÊÙ‹¡‹Í¹»¯ÔºÑµÔ ••

Eco-Factory

Mark & Spencer ของอังกฤษได้กาำ หนดแผนเพือ่ ให้มคี วามเป็นกลางในเรือ่ งการ ปล่อยคาร์บอนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีการจัดงบประมาณมหาศาลเพื่อดำาเนินงาน ดังกล่าวโดยการเปิดตัวโรงงาน “สีเขียว” ที่ศรีลังกา 2 แห่ง เพื่อผลิตชุดชั้นในและ เฟอร์นิเจอร์ ส่งไปขายที่ประเทศอังกฤษ นับเป็นโรงงาน “สีเขียว” แห่งแรกของโลก ที่ นอกจากจะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในขบวนการผลิตและลดปริมาณการใช้ พลังงานแล้ว ยังใช้ปริมาณน้ำาน้อยลง อีกทั้งยังไม่ต้องทำาการฝังกลบขยะและของเสีย อีกด้วย พร้อมกับการต้องการให้เกิด “รูปแบบ” การดำาเนินการที่รักษาสิ่งแวดล้อม ให้ กับธุรกิจอื่นๆ และการขยายโรงงาน “สีเขียว”ไปยังภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก ผลที่เกิดกับ โรงงานในศรีลังกาคือ โรงงานสามารถลดค่าไฟลงได้กว่าครึ่ง ในขณะที่ไฟฟ้ากำาลังขึ้น ราคา และลดการใช้พลังงานโดยรวมลงร้อยละ 43 ลดการใช้น้ำาลงได้ร้อยละ 58 และ ลดการปล่อยก๊าซคอร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึงร้อยละ 77 www.markandspencer.com

Absolutely Waste Less

เมื่อปลายปีที่แล้ว Levi Strauss ได้แนะนำาคอลเลคชั่น ประจำาฤดูใบไม้ผลิทมี่ ชี อื่ ว่า Waste Less แก่หนุม่ สาวผูห้ ลงใหล การใส่ยนี ส์ แนวคิดอันโดดเด่นนีอ้ ยูท่ กี่ ารนำาผลิตภัณฑ์หลังการ ใช้งานจำานวน 20 เปอร์เซ็นต์มาใช้ในกระบวนการผลิต กล่าว คือ Watse Less คอลเลคชั่นจะนำาขวดพลาสติกมากกว่า 5 ใบ ไปรีไซเคิลเพื่อใช้ผลิตยีนส์ โดยขวดพลาสติกทั้งหมดเป็นการ รวบรวมจากโครงการรีไซเคิลขยะชุมชน หลังจากแยกสีขวด พลาสติกและถาดใส่อาหาร ขวดพลาสติกเหล่านี้จะถูกบดจน ละเอียดเพื่อใช้ผลิตเส้นใย polyester จากนั้นนำาไปทอกับ เส้นใยฝ้ายซึ่งช่วยลดความแข็งกระด้างของยีนส์ลง เพื่อให้ สวมใส่สบายยิ่งขึ้น ขณะที่สีของขวดพลาสติกที่ใช้ผลิตเส้นใย polyester มีเฉดสีเข้มโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คนรักยีนส์และ รักษ์โลกไม่ควรพลาด

www.levistrauss.com l 57

HUNT l Men’s Items

Go Natural

Natural

เส้นใยธรรมชาติแท้ๆซึ่งได้จากพืชและจากสัตว์อย่างฝ้าย ป่าน ปอ กัญชงและไหม สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ กระแสรักษ์โลกยังก่อให้เกิดการสร้างสรรค์เส้นใยธรรมชาติที่แปลก ใหม่น่าสนใจ เช่น ผ้าใยบัวและผ้าใยกล้วย สินค้าแบรนด์ที่คนไทย เรารู้จักดีอย่าง Levi Strauss มีการใช้ฝ้ายธรรมชาติและกะลา มะพร้าวในการผลิตผ้ายีนส์เดนิม การย้อมผ้าด้วยสีจากธรรมชาติที่ เคยถูกมองว่าให้สีอ่อนทึมไม่สดใสก็กลับมาได้รับความนิยมอย่าง มาก สีธรรมชาติที่ว่านี้คือสีที่ได้จากส่วนต่างๆ ของต้นไม้ทั้ง ราก แก่น เปลือก ต้น ผล ดอก เมล็ด ใบ โดยต้นไม้แต่ละสายพันธุ์ให้สี แตกต่างมีเอกลักษณ์

Choose Quality

การเลือกซือ้ สินค้าคุณภาพสูงคือการช่วยรักษ์โลก อีกทาง ข้อนี้ไม่ได้จำากัดเฉพาะสินค้าแฟชั่นแต่รวมไปถึง สิ น ค้ า อุ ป โภค บริ โ ภคและการบริ ก ารต่ า งๆอี ก ด้ ว ย เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพของสินค้าและต้นทุน ในการรักษาสิ่งแวดล้อมทำาให้สินค้าและบริการ “สีเขียว” มีราคาสูงกว่าสินค้าทัว่ ไป แต่กถ็ อื ว่าคุม้ ค่าสำาหรับผูบ้ ริโภค สำาหรับสินค้าแฟชั่นคุณภาพดีมีอายุการใช้งานยาวนาน เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะในอนาคตด้วย

Eco Closet

58 l

หลายปีทผี่ า่ นมามีการตืน่ ตัวเรือ่ งของภาวะโลกร้อน การ ดูแลสิง่ แวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างคุม้ ค่าเป็นอย่างมาก อุตสาหกรรมสิง่ ทอ เสือ้ ผ้าและแฟชัน่ ซึง่ ถือว่ามีความเกีย่ วข้อง กับสิ่งแวดล้อมโดยตรงก็ตระหนักถึงเรื่องนี้และมุ่งมั่นที่จะลด ปริมาณการปล่อยคาร์บอนและสารเคมีอันตรายตลอดขบวน การผลิต บางบริษทั ได้เปลีย่ นไปใช้เคมีปราศจากสารพิษทดแทน วัสดุและเส้นใยจากธรรมชาติและออแกนิกส์ถกู นำามาใช้มากขึน้ มีความพยายามในการทำาให้ของเสียจากการผลิตเป็นศูนย์หรือ เหลือน้อยมากที่สุด แบรนด์สินค้าแฟชั่นหลากหลายทั้งขนาด เล็กและใหญ่ต่างพากันประกาศความรับผิดชอบต่อสังคมใน รูปแบบต่างกันไป แต่มีจุดหมายเดียวกัน คือการสร้างสรรค์ สินค้าที่จะไม่ก่อให้เกิดมลพิษ จะดีแค่ไหนหากคุณผู้ชายจะ สามารถเลื อ กหาเครื่ อ งแต่ ง กายที่ ทั้ ง ช่ ว ยเสริ ม บุ ค ลิ ก ภาพ และยังได้มีส่วนช่วยรักษ์โลกในคราวเดียว

Less is More

Buy Less, Choose Well, Make it Last หรือ ซื้อให้น้อยลง เลือกให้ดี ใช้ให้คุ้ม แนวคิดของดีไซน์เนอร์ชอื่ ดังจากเกาะอังกฤษ Vivienne Westwood สอดคล้องกับยุคสมัย ที่ ผู้ บ ริ โ ภคใส่ ใจกั บ สิ่ ง แวดล้ อ มมากยิ่ ง ขึ้ น สิ น ค้ า ทุ ก ชิ้ น นั้ น มี Carbon Footprint (คาร์บอน ฟุตพริ้นท์) หรือปริมาณก๊าซเรือน กระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละ หน่วย ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์แตก ต่างกัน เมื่อเราเป็นเจ้าของสินค้ายิ่งน้อยก็ หมายความว่าเราช่วยโลกได้มากขึ้น การ เลือกซือ้ เครือ่ งแต่งกายคุณภาพดี อายุการใช้ งานยาวนาน ในโทนสีเบสิค เช่น ขาว ดำา เทา และน้ำาตาลที่สามารถนำาไปจับคู่กับเสื้อผ้า อื่นๆ ได้ง่าย สวมใส่ได้ในหลายโอกาสเท่านี้ คุณก็ได้รักษ์โลกอีกทางแล้ว

Support Local

แม้ว่าในประเทศไทยจะยังไม่มีการดำาเนิน การอย่างจริงจังและกว้างขวางเหมือนประเทศใน สหภาพยุ โรปและประเทศสหรั ฐ อเมริ ก าที่ ภ าค อุตสาหกรรมให้ความสำาคัญกับการขนส่ง และ การจั ด จำ า หน่ า ยที่ เ ป็ น มิ ต รกั บ สิ่ ง แวดล้ อ มมาก ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งด้วยยานยนต์แบบ Hybrid หรือการเลือกใช้น้ำามันเชื้อเพลิงที่ก่อให้ เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด การเลือก ซือ้ สินค้าแฟชัน่ และสิง่ ทอจากผูผ้ ลิตภายในประเทศ เป็นการลดการใช้พลังงานในการขนส่ง อีกทั้งยัง เป็นการส่งเสริมผลงานคุณภาพของคนไทยเป็น จุดเริ่มต้นที่ทุกคนสามารถทำาได้

Useful Creation

การนำาเครื่องแต่งกายชิ้นเก่าหรือสิ่งของเหลือใช้ มาดัดแปลงให้เกิดเป็นของชิน้ ใหม่ เป็นกิจกรรมทีท่ า้ ทาย สร้างสรรค์และเป็นการใช้ทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด คุ้มค่ากับการสร้างคาร์บอนไดออกไซต์สู่โลก หากคุณ ผู้ชายเป็นนักประดิษฐ์อยู่แล้ว สนุกกับการคิดค้นเครื่อง แต่งกายใหม่ๆจากของเหลือใช้ และหากจะต่อยอดการ นำากลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบอื่นๆ หนังสือ “1000 Ideas for Creative Reuse by Gath Johnson” มีไอเดียเท่ๆ l 59

HUNT l Gadget

เลือกกล้องแบบมือโปร >> น้าชัย : เรื่อง

ปั จ จุ บั น นอกจากโทรศั พ ท์ มื อ ถื อ ที่ ไ ด้ ก ลายเป็ น Gadget ติดกายจนเรียกได้ว่าอวัยวะชิ้นที่ 37 ของคนส่วน ใหญ่ไปแล้ว แต่ฟังก์ชั่นสำาคัญที่โทรศัพท์ยุคใหม่ที่ทุกเครื่อง ต้ อ งมี ก็ คื อ การเป็ น กล้ อ งถ่ า ยภาพ และนอกจากจะเป็ น ฟังก์ชั่นที่ต้องมีแล้ว มือถือทุกค่ายต่างระดมสมองเพื่อที่จะ พั ฒ นาฟั ง ก์ ชั่ น นี้ ใ ห้ มี ศั ก ยภาพมากขึ้ น กระทั่ ง หลายคน ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าอย่างนั้นกล้องถ่ายภาพจะหมดอนาคต อันใกล้นี้หรือเปล่า

แต่หากลองวิเคราะห์ในแง่ของการถ่ายภาพแล้ว แม้ ความสามารถของกล้องมือถือสมัยนีจ้ ะดีมากขึน้ เท่าใดก็ตาม ก็ยังไม่อาจทดแทนกล้องดิจิตอลได้อยู่ดี เนื่องจากการที่ มือถือนั้นมีข้อจำากัดเรื่องขนาดที่จะต้องง่ายต่อการพกพา ทำ า ให้ เ ลนส์ สำ า หรั บ ถ่ า ยภาพนั้ น มี ข นาดเล็ ก นั่ น แปลว่ า เซ็นเซอร์รับภาพก็มีขนาดเล็กตามลงไปด้วย ภาพที่ได้จึงมี คุณภาพด้อยกว่ากล้องดิจิตอลทั่วไปอยู่มาก อีกหนึ่งปัจจัย คือการซูมขณะถ่ายรูป กล้องมือถือทำาได้แค่ดิจิตอลซูม หรือ ขยายเม็ดพิกเซลเท่านัน้ เพราะไม่มพี นื้ ทีพ่ อทีจ่ ะขยับชิน้ เลนส์ เพื่อทำาออฟติคอลซูมได้เหมือนกล้องดิจิตอลนั่นเอง

สำาหรับคนที่ไม่ใช่นักเล่นกล้อง หรืออยากมีกล้องที่มี คุณสมบัติของความเป็นกล้องอย่างแท้จริง อาจมีคำาถาม มากมายเมื่อต้องเดินเข้าไปในร้านกล้องสักแห่ง หรือในงาน ขายสินค้าไอทีที่มีกล้องให้เลือกมากมาย เพราะฉะนั้นวันนี้ HUNT ขอถือโอกาสแนะนำาว่าหากอยากเป็นเจ้าของกล้อง สักตัวที่ซื้อแล้วคุ้มทั้งตัวสินค้า และคุ้มทั้งราคา ก่อนอื่นผม ว่าเรามาทำาความรู้จักกับกล้องแต่ละชนิดให้ดีเสียก่อนดีกว่า

กล้องดิจิตอลแบบ Compact

หรือกล้องถ่ายรูปแบบอัตโนมัติ มีลักษณะทั่วไปคือ เป็นกล้องที่มีขนาดเล็ก น้ำาหนักเบา สะดวกสำาหรับการพก พา ไม่สามารถถอดเปลีย่ นเลนส์ได้ มีจอแสดงภาพทีด่ า้ นหลัง กล้อง โดยส่วนมากจะมีระบบการบันทึกภาพแบบอัตโนมัติ (Auto) โดยเพียงแค่เปิดกล้องแล้วก็สามารถกดบันทึกภาพได้ 60 l

Nikon D3200

เลย ไม่ตอ้ งวุน่ วายกันการวัดแสง (Point and Shoot Camera) และตั ว กล้ อ งจะมี ฟั ง ก์ ชั่ น ช่ ว ยเหลื อ ในการถ่ า ยรู ป ชนิ ด ต่างๆ เช่นการถ่ายบุคคล การถ่ายวิว การถ่ายระยะใกล้ เป็นต้น กล้องชนิดนี้ราคาค่อนข้างถูก เหมาะสำาหรับมือใหม่ หรื อ คนที่ ต้ อ งการถ่ า ยรู ป แต่ ไ ม่ อ ยากวุ่ น วายตั้ ง ค่ า อะไร มากมาย โดยที่ความละเอียดทั่วไปของกล้องคอมแพ็คจะ อยู่ที่ 12-16 ล้านพิกเซล กล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflect)

หรือกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดียว เป็นกล้องทีส่ ามารถ ถอดเปลีย่ นเลนส์ได้ มีลกั ษณะทัว่ ไปคือ ขนาดทีค่ อ่ นข้างใหญ่ และมีน้ำาหนักพอสมควร มีความเร็วในการบันทึกภาพสูง คือเฉลี่ย 3-12 ภาพต่อวินาที ทำาให้สามารถบันทึกการ เคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ระบบการวัดและการ คำานวณแสงที่แม่นยำาทำาให้ภาพออกมาสมจริง ประกอบกับ ความหลากหลายของเลนส์ ทำาให้ภาพทีอ่ อกมามีคณ ุ ภาพสูง ความละเอียดทั่วไปของกล้อง DSLR จะอยู่ที่ 18-36 ล้าน พิกเซล โดยกล้องชนิดนี้มีให้เลือกหลายระดับ หลายราคา แบ่ ง ตามความสามารถและคุ ณ ภาพ โดยมี ตั้ ง แต่ Entry Level สำาหรับมือใหม่ เช่น Nikon D3200, Sony Alpha SLTA37 ที่ราคาหลักหมื่นต้นๆ จนถึง Professional ที่มีคุณภาพ เทียบเท่ากล้องฟิล์ม เช่น Nikon D4, Canon EOS 5D Mark III ที่ราคาหลักแสนกันเลยทีเดียว

Mirrorless Camera

หรือกล้องไร้กระจก หลายคนอาจจะมีคาำ ถามว่าทำาไม ต้องเรียกว่า Mirrorless มันไม่มีกระจกหรืออย่างไร คงต้อง ขอท้าวความกลับไปที่การทำางานของกล้อง DSLR สักนิด เพื่อจะได้เข้าใจการทำางานมากยิ่งขึ้น

จากภาพด้านบนจะเห็นว่ากล้อง DSLR มีการทำางาน คื อ แสง (หรื อ รู ป ภาพที่ เราจะถ่ า ย) จะวิ่ ง ผ่ า นเลนส์ ไ ป ตกกระทบที่กระจกซึ่งทำามุมให้สะท้อนเข้าสู่ช่องที่เรามอง ทำาให้ภาพทีเ่ ราเห็นจากช่องมองคือภาพจริงๆ ทีจ่ ะถูกบันทึก โดยที่เจ้ากระจกอันนี้จะบังเซ็นเซอร์สำาหรับรับภาพเอาไว้ เมื่อไหร่ที่เรากดชัตเตอร์ กระจกจะดีดตัวพับขึ้นทำาให้แสง วิง่ เข้าเซ็นเซอร์รบั ภาพ และภาพนัน้ ก็จะถูกบันทึก ง่ายใช่ไหม ครับ คราวนี้มาดูที่ Mirrorless บ้าง ซึ่งแนวคิดของกล้องชนิด นี้ก็คือ ตัดกระจกที่ว่านี้ออกไป โดยให้ทุกอย่างคงเดิม ทำาให้ กล้องชนิดนีไ้ ม่มชี อ่ งมองภาพ หรือถ้ามีกจ็ ะเป็นช่องมองภาพ แบบอิเล็กทรอนิกส์ คือใช้ภาพจากเซ็นเซอร์มาแสดงทีจ่ อแทน นี่แหละคือที่มาของคำาว่า Mirrorless

กล้องชนิดนี้เกิดมาได้พักใหญ่ แต่เพิ่งจะได้รับความ นิยมในช่วงหลังนี้ เพราะช่วงแรกกล้องชนิดนี้ยังมีหน้าตา เหมือน DSLR แทบทุกประการ แต่ระยะหลังมีการปรับ หน้ า ตาและขนาดให้ เ ล็ ก ลงมากจนแทบไม่ ต่ า งกั บ กล้ อ ง คอมแพคเลยทีเดียว ลักษณะสำาคัญของกล้องชนิดนี้คือ มี ขนาดเล็กมาก บางรุ่นเล็กกว่า Bridge Camera เสียอีก แต่มี ฟังก์ชั่นทุกอย่างเหมือนกล้อง DSLR ทุกประการ พูดง่ายๆ ก็คือมันมีคุณภาพระดับเดียวกับกล้อง DSLR คือสามารถ ปรับแต่งค่าการบันทึกได้อย่างอิสระ เซ็นเซอร์รับภาพที่มี ขนาดใหญ่ และยังสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย!! ทำาให้ กล้องชนิดนีไ้ ด้รบั ความนิยมค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น Sony NEX-5N, Olympus E-PL5 เป็นต้น

หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่ากล้องดิจติ อลมีเพียงแค่สาม ชนิดนี้ แต่ความจริงยังมีกล้องอีกหนึ่งชนิด ที่อาจจะเรียกได้ ว่าเป็นลูกครึ่งระหว่างกล้องคอมแพค และกล้อง DSLR นั่น ก็คือ Bridge Camera ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำาหรับผูท้ ชี่ นื่ ชอบการถ่ายภาพในหลายลักษณะ แต่ไม่อยาก แบกเลนส์หลายตัวไปให้หนักกระเป๋า โดยลักษณะของกล้อง ชนิดนี้คือมีหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบ DSLRLike คือเป็นกล้องที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกล้อง DSLR แต่มี ขนาดเล็กกว่า เบากว่า มีปุ่มสำาหรับปรับแต่งค่าสำาหรับการ บันทึกภาพมากมาย เลนส์ของเจ้ากล้องชนิดนี้จะไม่สามารถ ถอดเปลี่ยนได้ แต่โดยมาก DSLR-Like จะมาพร้อมกับเลนส์ ที่มีกำาลังขยายมหาศาล คือสามารถซูมได้ตั้งแต่ 24-42 เท่า (แล้วแต่รุ่น) ซึ่งด้วยความยาวช่วงเลนส์ที่ให้มา ก็เพียงพอที่ จะบันทึกภาพได้ทุกรูปแบบอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นเลนส์ที่ ครอบจักรวาลเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น Fujifi lm FinePix X-S1, Panasonic Lumix DMC-FZ200 เป็นต้น อีกรูปแบบหนึ่งจะ มีรูปร่างคล้ายกับกล้องคอมแพค แต่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งรูป แบบนีจ้ ะไม่มชี ว่ งเลนส์ทยี่ าวแบบ DSLR-Like เพราะถูกจำากัด ด้วยขนาด แต่สามารถปรับแต่งค่าการบันทึกภาพได้ทกุ อย่าง เหมือนกันทุกประการ ตัวอย่างเช่น Nikon Coolpix P310, Canon G15 เป็นต้น

จากที่อธิบายมาผมคิดว่าท่านผู้อ่านน่าจะรู้จักกล้อง ทุกชนิดกันมากขึ้นแล้ว กลับมาที่คำาถามในตอนต้นที่ว่า ถ้า จะซื้อกล้องซักหนึ่งตัว กล้องชนิดไหนดีที่สุด?

ถ้ า พู ด ถึ ง เรื่ อ งคุ ณ ภาพ แน่ น อนว่ า DSLR ระดั บ Professional นั้นดีที่สุด แต่ผมแนะนำาว่าให้ลองเริ่มจากการ สำารวจตัวเองก่อน ว่าคุณสมบัตหิ ลักๆ ทีเ่ ราต้องการคืออะไร เราถ่ายรูปเพือ่ จุดประสงค์ใด ของทีส่ วยและแพงทีส่ ดุ ใช่วา่ จะ ดีทสี่ ดุ เสมอ เพราะความพอดีของแต่ละคนนัน้ ต่างกัน กล้อง หนึ่ ง ตั ว ที่ มี คุ ณ สมบั ติ ที่ จำ า เป็ น ต้ อ งใช้ ค รบถ้ ว นตามความ ต้องการ คือการเลือกที่ดีที่สุดของผู้ซื้อท่านนั้นๆ แล้ว

Sony NEX-5N l 61

Canon PowerShot SX50 HS

ด้วยความที่ Bridge Camera ค่อนข้างจะตอบโจทย์ ทุกรูปแบบในการถ่ายรูป เนื่องจากขนาดที่ไม่ใหญ่และหนัก จนเกินไป และไม่ต้องพกเลนส์หลายตัวเหมือน DSLR และ Mirrorless แถมคุณภาพยังอยู่ในระดับที่ดี สามารถอัดขยาย ใส่กรอบได้สบายๆ สำ�หรับตัวทีอ่ ยากจะแนะนำ�สำ�หรับกล้อง ประเภท Bridge Camera ที่กำ�ลังเป็นที่นิยมให้ท่านผู้อ่านได้ รู้จักกัน

โดยขอเปรียบเทียบความสามารถและความสะดวกใน การใช้งาน ระหว่าง Canon PowerShot SX50 HS (ราคา ประมาณ 13,000 บาท) กับ Fuji X-S1 (ราคาประมาณ 20,000 บาท)

ความละเอียด กล้องทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับความ ละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซลเท่ากันพอดิบพอดี แต่ถ้าจะเทียบ จากคุณภาพของภาพที่ออกมาแล้วนั้น ต้องบอกว่า 12 ล้าน พิกเซลของทางฝั่ง Fuji X-S1 จะดีกว่าอยู่มากพอสมควร เนื่องจากใช้เซ็นเซอร์ EXRCMOS ขนาด 2/3 นิ้ว ในขณะที่ SX50 HS ใช้เพียง Digic 5 BSI-CMOS 1/2.3 นิ้ว ด้วย เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ทำ�ให้คุณภาพของภาพออกมาดีกว่า และสามารถถ่ายได้ดีกว่าในภาวะแสงน้อย รูรับแสงที่กว้าง กว่าทำ�ให้สามารถถ่ายภาพชัดตื้นได้ดีกว่าด้วย

ช่วงเลนส์ Canon PowerShot SX50 HS นัน้ เป็นกล้อง ตัวแรกในโลกที่มีกำ�ลังขยายสูงถึง 50 เท่า หรือเทียบได้กับ ช่วงเลนส์ 24-1200 mm โดยมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวใน ชิ้นเลนส์ ทำ�ให้ถึงแม้จะซูมสุดระยะก็ยังสามารถช่วยลด อาการเบลอของภาพได้ในระดับที่เรียกว่าดีมากๆ ทางด้าน Fuji X-S1 นั้นมาพร้อมกับกำ�ลังขยายที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 26 เท่า เทียบได้กับช่วงเลนส์ 24-624 แต่จุดเด่นของเจ้า Fuji X-S1 นั่นคือมีวงแหวนสำ�หรับปรับหน้าเลนส์ หรืออธิบาย 62 l

Fuji X-S1

ง่ายๆ คือ สามารถใช้ Manual Focus และ ManualZoom ได้ เหมือน DSLR

ความเร็วในการถ่ายภาพ เพื่อที่ท่านจะไม่พลาดช็อต สำ�คัญ ทาง Fuji X-S1 นัน้ ได้ใส่ความสามารถในการถ่ายภาพ ต่อเนื่องได้สูงสุด 10 รูปต่อวินาที ในขณะที่ Canon SX50 HS นั้นทำ�ได้ถึง 13 รูปต่อวินาที

ขนาดและน้ำ�หนัก Fuji X-S1 นั้นมีขนาดใหญ่กว่าถึง 1 นิ้ว ซึ่งข้อดีคือขนาดที่พอๆ กับกล้อง DSLR ทำ�ให้จับถนัด มือ แต่ก็มีข้อเสียในส่วนของน้ำ�หนักที่หนักถึง 920 กรัม ซึ่ง หนักกว่ากล้อง DSLR บางตัวซะอีก ในขณะที่ทาง SX50 HS นั้ น มี ข นาดเล็ ก และเบากว่ า ทำ � ให้ ส ะดวกในการพกพา มากกว่า

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ กล้องทั้งสองรุ่นสามารถถ่าย วิดีโอ Full HD มีแฟลชในตัว และสามารถปรับความไวแสง (ISO) ได้สูงสุดเท่ากันที่ 12800 แต่จอแสดงผลนั้นทาง Fuji X-S1 เป็นจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว สามารถปรับมุมได้ โดย Canon SX50 HS เป็นจอขนาด 2.8 นิ้ว สามารถพับจอออก มาด้านข้างได้

เมื่อดูจากข้อเปรียบเทียบทั้งหมดแล้วนั้น ทาง Fuji X-S1 ค่อนข้างที่จะเหนือกว่าในด้านคุณภาพของภาพ แต่ ข้อดีของทาง Canon PowerShot SX50 HS คือขนาดที่เล็ก พกพาสะดวกกว่า และกำ�ลังขยายของเลนส์ที่ทำ�ได้ดีจนน่า ตกใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วสำ�หรับท่านที่จะเลือกซื้อกล้อง ลอง สำ�รวจตัวเองและหาข้อมูลกล้องต่างๆ ในท้องตลาดดูครับ ว่ากล้องชนิดไหน รุ่นไหน ที่เหมาะกับตัวของท่าน ทั้งในแง่ ของราคา ความชอบ ความถนัด และลักษณะการถ่ายภาพที่ คุณต้องการครับ

HUNT l Health

ศัลยกรรมการปลูกผม

ทางเลือกเพื่อการรักษาศีรษะล้าน >> Ns.Bkk : เรื่อง / TS : ภาพ

•• ปัญหาเรื่องผมหลุดร่วง ผมบาง หรือ ศีรษะล้าน แม้ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มของผู้สูงวัย แต่ใช่ว่าหนุ่มสาววัยละอ่อนทั้งหลาย จะรอดพ้นจากปัญหานี้ได้ เพราะสาเหตุ ของศีรษะล้านนั้น เกิดขึ้นได้จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน DHT และกาลเวลา ••

ปัญหาของเส้นผม...ใครคิดว่าไม่สำ�คัญ !

การมีผมดกดำ�นอกจากจะสะท้อนถึงสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของคนเราได้อีกด้วย โดยปกติ เส้นผมจะเกิดการหลุดร่วงได้ประมาณวันละ 100-150 เส้น แต่หากใครที่มีผมร่วงมากผิดปกติ คงต้องเฉลียวใจกันสักนิด ว่า นั่นอาจเป็นสัญญาณของการนำ�ไปสู่ภาวะของ “ศีรษะ ล้าน”

ปัญหาเรื่องผมหลุดร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน แม้ ส่ ว นใหญ่ จ ะพบในกลุ่ ม ของผู้ สู ง วั ย แต่ ใช่ ว่ า หนุ่ ม สาววั ย ละอ่อนทัง้ หลาย จะรอดพ้นจากปัญหานีไ้ ด้ เพราะสาเหตุของ ศีรษะล้านนั้น เกิดขึ้นได้จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน DHT และกาลเวลา

นพ.ดำ�เกิง ปฐมวาณิชย์ ผู้ก่อตั้ง DHT Clinic (เดิม ชื่อว่า Stough Clinic) ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี และ เป็นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านศัลยกรรมปลูกถ่ายรากผม ดำ�รงตำ�แหน่ง Director หลักสูตรการผ่าตัดปลูกผมของสถาบันปลูกผม นานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery) ได้ฝึกอบรมแพทย์จากภาคพื้นเอเชียในด้านการ ผ่าตัดปลูกผมมาแล้วมากกว่า 20 ท่าน กล่าวว่า สาเหตุหลัก ของผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านนั้น ประมาณ 95% เกิด จากพันธุกรรม ซึ่งทางการแพทย์เรียกกันว่า Androgenetic Alopecia ส่วนการทีม่ รี ขู มุ ขนอุดตัน การหวีหรือสระผมบ่อยๆ หรือการใส่หมวกกันน็อคเป็นระยะเวลานานๆ แท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สาเหตุหลักของผมร่วงศีรษะล้านเลย

โดยทั่วไปจะพบว่าผู้ชายมีศีรษะล้านมากกว่าผู้หญิง นั่นเป็นเพราะลักษณะทางกรรมพันธุ์ และฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ซึ่งถูกเปลี่ยนไปเป็น Dihydrotestosterone l 63

การออกแบบพื้นที่สำหรับปลูกผม หน่วยเ«ลล์รากผมพร้อมนำไปปลูก

64 l >> sxc.hu : ภาพพื้นหลัง

(DHT) หรือฮอร์โมนตัวร้ายที่ทำาให้ผมร่วง ซึ่งมักจะเริ่มก่อตัว ขึ้นเมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว จะสังเกตได้ว่า ผมบริเวณด้าน หน้า และด้านบนของศีรษะจะค่อยๆ เป็นเส้นเล็กและบาง ลงจนกระทัง่ หลุดร่วงไป เนือ่ งจากเซลล์สร้างผม หรือ รากผม เสื่อมสภาพและฝ่อไปในที่สุด ส่วนภาวะของศีรษะล้านใน ผู้หญิงนั้นมีความซับซ้อน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่จะมีลกั ษณะของเส้นผมทีเ่ ริม่ บางลงตรงบริเวณ กลางศีรษะ ส่วนแนวผมด้านหน้ายังคงปกติ ไม่เว้าลึกเข้าไป เหมือนของผู้ชาย

แม้ในปัจจุบันจะมีวิธีการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิกผม การถักผม หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งหรือเพิ่มความหนา แน่นของเส้นผม การใช้ยาในกลุม่ Finasteride และ Minoxidil เป็นยาเพียงสองชนิดทีไ่ ด้รบั การรับรองจาก อย.ในการรักษา ภาวะผมร่วง นอกจากนีย้ งั มียาอีกหลายชนิดทีใ่ ช้ในการรักษา แต่ไม่ได้รบั การรับรองจาก อย. รวมไปถึงการศึกษาวิจยั เกีย่ ว กับการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษา แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำาเร็จ ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดย้ายเซลล์รากผม หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าการผ่าตัดปลูกผม นับเป็นการรักษาที่ได้ผลดีอย่างถาวร และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

นพ.ดำาเกิง กล่าวว่า เส้นผมที่นำามาปลูกจะนำามาจาก หนังศีรษะทางด้านหลังใบหู บริเวณท้ายทอย เพราะรากผม บริเวณท้ายทอยและด้านข้าง และไม่ถูกทำาลายจาก Dihydrotestosterone (DHT) ที่ทำาให้ผมร่วง โดยการผ่าตัดเพื่อที่ จะนำาเส้นผมออกมาเพื่อใช้ในการปลูกมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้

• Strip technique (FUT) เป็นวิธที แี่ พทย์ทวั่ โลกส่วน ใหญ่(ประมาณ 75%) ใช้ผ่าตัดมาแล้วเกือบ 20 ปี เนื่องจาก ได้ผลดีและเป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีผลข้างเคียงน้อย วิธีนี้ผู้ที่ ชำ า นาญจะมี อั ต ราการสู ญ เสี ย รากผมระหว่ า งการผ่ า ตั ด ประมาณ 1% การผ่าตัดวิธีนี้จะใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า Trichophytic Closure ในการเย็บปิดบาดแผล โดยผมจะ สามารถงอกขึ้นมาบนแผลด้านหลัง สามารถช่วยปกปิด บาดแผลได้ดี ปัจจุบันวิธีนี้สามารถทำาการผ่าตัดปลูกผมได้ 3,000-5,000 รากต่อครั้ง

• Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นวิธีที่ใช้มา ประมาณ 13 ปี และเริม่ เป็นทีน่ ยิ มในหมูแ่ พทย์ทเี่ ริม่ การปลูก ผมเนื่องจากเทคนิคไม่ซับซ้อน ทำาโดยการใช้หัวเจาะขนาด

เล็ก เจาะทีห่ นังศีรษะด้านหลัง แล้วใช้คมี ปากแหลมดึงเส้นผม ออกมา แต่อตั ราการสูญเสียเซลล์รากผมนัน้ สูง เนือ่ งจากเป็น วิธีที่ผู้ผ่าตัดไม่สามารถมองเห็นรากผมได้ (ประมาณ 5-10% โดยแพทย์ผู้ชำานาญ) ในส่วนของหัวเจาะที่ใช้ทำา FUE นั้นมี หลายชนิด เช่น เป็นแบบใช้มอื ปัน่ เอง, แบบมีเครือ่ งปัน่ , แบบ มีเครื่องปั่นพร้อมดูดเส้นผมขึ้นมาด้วย (Neograft) และการ ใช้หุ่นยนต์ (ARTAS) เพื่อใช้ในการเจาะ ซึ่งข้อดีของวิธี FUE นี้ คือ จะมีการเจ็บแผลหลังผ่าตัดน้อยกว่าวิธี FUT ส่วนข้อ เสียคือคุณภาพของเส้นผมทีน่ าำ ออกมาจะไม่สมบูรณ์เท่าทีน่ าำ มาจากวิธ ี FUT ในส่วนของแผลเป็นจากการผ่าตัดด้วยวิธ ี FUE นั้น จะเป็นจุดเล็กๆ หลายจุดบริเวณหนังศีรษะด้านหลังซึ่ง สามารถปกปิดได้ด้วยเส้นผมที่ยังมีอยู่

การผ่าตัดปลูกผมถือเป็นการผ่าตัดเล็กและใช้เวลา การผ่าตัดประมาณ 4-8 ชัว่ โมง หลังจากการออกแบบและได้ แนวผมที่ต้องการแล้ว ก่อนทำาการผ่าตัดจะใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือ อาจมีการให้ยานอนหลับ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย ซึง่ ในขัน้ ตอนของการผ่าตัดจะเริม่ จากการฉีดยาชาทีด่ า้ นหลัง หนังศีรษะ จากนั้นจะทำาการผ่าตัดเพื่อนำาเส้นผมออกมา (ด้วยวิธี FUT หรือ FUE) หลังจากนั้นจะทำาการปลูกผมตาม พื้นที่ที่กำาหนด โดยผู้รับการรักษาจะไม่รู้สึกเจ็บเลยระหว่าง การปลูก เนื่องจากมีการเติมยาชาระหว่างการผ่าตัด ซึ่งใน กระบวนการผ่าตัดเพื่อที่จะนำาเส้นผมออกมา ไม่ว่าจะเป็น วิธี FUT หรือ FUE จำาเป็นต้องอาศัยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน การเจาะรู และใส่ผมแต่ละเส้นเข้าไปในหนังศีรษะ เพือ่ ให้ได้ ผลการปลูกผมดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

หลังจากการผ่าตัดปลูกผมหนึง่ วัน แพทย์จะนัดทำาการ ตรวจแผลและสระผมให้ด้วยแชมพูอ่อนๆ ต่อมาจะเริ่มมี สะเก็ดเล็กๆ ตามบริเวณแผลที่ปลูก โดยสะเก็ดนี้จะหลุดร่วง ไป ภายใน 10-14 วัน ผมที่ปลูกในระยะแรกจะเริ่มหลุดร่วง ไป แต่รากผมยังคงอยู่ โดยจะอยู่ในระยะพักประมาณ 6-12 สัปดาห์ ซึ่งผมที่ปลูกจะงอกขึ้นมาอย่างถาวรประมาณ 4 เดือนหลังจากทำาการปลูก และจะงอกยาวขึ้นเรื่อยๆ (1-1.5

Before

After

เซนติเมตรต่อเดือน) เหมือนผมปกติ และจะเห็นผลได้ชดั เจน ภายหลังผ่าตัดไปแล้ว 1 ปี

นอกจากจะมีการผ่าตัดปลูกถ่ายรากผม เพือ่ ใช้ในการ ปลูกผมทีศ่ รี ษะแล้ว ยังสามารถทำาการปลูกผมหรือขนบริเวณ อื่นได้อีก เช่น การปลูกคิ้ว ปลูกหนวดเครา ปลูกขนหน้าอก หรือขนบริเวณอื่นตามร่างกาย รวมไปถึงการปลูกผมเพื่อ ปกปิดแผลเป็นจากอุบตั เิ หตุ (เช่น การปลูกทับแผลเป็นทีค่ วิ้ ), สามารถแก้ไขแผลเป็นของโรคปากแหว่งที่เป็นตั้งแต่แรกเกิด (โดยการปลูกหนวดทับแผลเป็น) และการแก้ไขแผลเป็นภาย หลังการผ่าตัดดึงหน้า เป็นต้น

ในพื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตร สามารถปลูกผมได้ถึง 70-100 เส้น ซึง่ ทีผ่ า่ นมาผลลัพธ์ทไี่ ด้หลังจากการผ่าตัดก็เป็น ที่น่าพอใจ เพราะ 90% ของเส้นผมที่นำาไปทำาการปลูกจะ สามารถเติบโตได้เป็นปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของ ทีมงานผ่าตัด การปลูกผมสามารถเสริมสร้างบุคลิกภาพ และความมั่นใจให้ผู้รับบริการได้เป็นอย่างดี สำาหรับสนน ราคาในการเข้ารับการรักษาจะขึ้นอยู่ปริมาณเส้นผมและ ขนาดของพื้นที่ที่จะทำาการปลูกผม

¢้อ¤วรรู้...

• àÊŒ¹¼Á·Õè»ÅÙ¡¨ÐÂÒÇ¢Öé¹àÃ×èÍÂæ áÅÐÍҨËǧËÅش仡‹Í¹ ËÅѧ¨Ò¡¹Ñé¹ 4 à´×͹¨Ö§¨ÐàÃÔèÁàËç¹àÊŒ¹¼Á§Í¡¢Öé¹ÁÒãËÁ‹ • ¡ÒûÅÙ¡¼Á¨Ðä´Œ¼ÅÅѾ¸ ·Õ蹋Ҿ֧¾Íã¨ÀÒÂã¹ÃÐÂÐàÇÅÒ 12-16 à´×͹໚¹µŒ¹ä» • ¼Á˧͡à¡Ô´¨Ò¡à«ÅÅ àÁç´ÊÕ äÁ‹ÊÒÁÒöÃÑ¡ÉÒËÃ×Íà»ÅÕè¹á»Å§ä´Œ¨Ò¡¡Òü‹ÒµÑ´ l 65

HUNT l Sport

2 สาวน้อยไทย มหัศจรรย์ระดับโลก >> อภินันท์ อภิบาลÈรี : เรื่อง

ผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปเมือ่ เดือนทีแ่ ล้ว ผมเชือ่ ว่า ทุกท่านคงได้ฉลองเทศกาลแห่งน้ำาท่ามกลางสายฝนกันอย่าง ชุ่มฉ่ำา แต่เชื่อไหมครับว่าระหว่างที่เราๆ ท่านๆ กำาลังสนุก สนานกับการสาดน้าำ กัน มีนกั กีฬาไทยระดับมืออาชีพทีย่ งั ต้อง ทำ า หน้ า ที่ ข องตั ว เองในการออกตระเวนแข่ ง ขั น อยู่ ใ นต่ า ง ประเทศ ที่เห็นผลงานอย่างชัดเจนนั่นก็คือ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวน้อยวัย 17 ปี มืออันดับ 5 ของ โลก (30 เม.ย.) กับทีมแบดมินตันไทย ที่ออกไปคว้ารองแชมป์ รายการใหญ่อย่าง AXIATA Cup ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย โดยรอบชิงชนะเลิศ น้องเมย์-รัชนก เป็นเพียงคน เดียวที่ตบชนะคู่แข่งเจ้าภาพมาเลย์ได้ นับเป็นอีก 1 ผลงานใน การแข่งขันรายการระดับโลกที่เธอทำาได้ โดยก่อนหน้านี้ น้อง เมย์ - รั ช นก สร้ า งประวั ติ ศ าสตร์ เข้ า ชิ ง ชนะเลิ ศ หญิ ง เดี่ ย ว 2 รายการใหญ่ นั่นก็คือ YONEX All England Badminton Championships 2013 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ รายการแบดมิ น ตั น ที่ เ ก่ า แก่ ที่ สุ ด ของโลกระดั บ ซู เ ปอร์ ซี รี่ ย์ พรีเมียร์ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม โดยน้องเมย์-รัชนก สร้าง ประวั ติ ศ าสตร์ เ ป็ น นั ก แบดมิ น ตั น อายุ น้ อ ยที่ สุ ด ที่ ท ะลุ เข้ า รอบชิงชนะเลิศรายการนี ้ แม้วา่ สุดท้ายจะพ่าย Tine BAUN นัก ตบสาวเดนมาร์ก มืออันดับ 7 ของโลกแบบได้ลุ้นก็ตาม และ สั ป ดาห์ ถั ด มา น้ อ งเมย์ - รั ช นก ก็ ส ามารถเข้ า ชิ ง ชนะเลิ ศ Badminton Swiss Open รายการระดับกรังด์ปรีซ์โกลด์ที่เมือง บาเซิล่ ได้อกี และสุดท้ายเธอไม่ได้สามารถฝ่ากำาแพงแห่งความ กดดันพลาดแชมป์รายการนี้อีกเมื่อต้องพ่ายให้กับ Wang Shi Xian มือ 6 จากจีนชวดแชมป์ 2 รายการใหญ่ติดต่อกันอย่าง 66 l

น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวน้อยวัย 17 ป‚

น่าเสียดายทีส่ ดุ ซึง่ หากย้อนหลังกลับไปก่อนที ่ น้องเมย์-รัชนก จะเป็ นนั ก กี ฬ าแบดมิ นตั น มื อ อาชี พ แบบเต็ ม ตั ว เธอสร้าง ประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ BWF World Junior Championships 3 สมัยซ้อน (2009-2011) แต่ทำาไมเมื่อถึงรายการระดับอาชีพ น้องเมย์-รัชนก กลับยังไม่สามารถทะลุถึงแชมป์ได้ “คิดว่าคง เปนเพราะด้วยอายุยงั น้อยและมีความกดดันทีเ่ กิดขึน้ กับตัวเอง ในระหว่างแข่งขัน ทําให้ผลงานในรอบชิงชนะเลิศทัง้ 2 รายการ (ออลอิงแลนด, สวิสโอเพ่น) ออกมาเปนอย่างนัน้ ส่วนการปรับ ตัวจากนีไ้ ปก็คงต้องใช้ประสบการณในการลงแข่งขันช่วยให้ตวั เองสามารถสูก้ บั แรงกดดันทีเ่ กิดขึน้ ได้ และก็จะไม่ทอ้ ถอยด้วย” นั่นเป็นคำาพูดจากปากของ น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ ที่บอก กล่าวถึงสาเหตุที่ทำาให้ยังมีอันดับแชมป์ติดมือ

ส่วนสาวน้อยอีกคนที่แฟนกีฬารู้จักเธอไม่น้อยไปกว่า น้องเมย์ รัชนก นั่นก็คือ น้องเม-เอรียา จุฑานุกาล สาวน้อย นักกอล์ฟวัย 17 ปีเช่นเดียวกัน ที่เพิ่งจะเทิร์นโปรและกำาลัง โลดแล่นอยู่กับวงการกอล์ฟหญิงระดับ Ladies European Tour โดยเฉพาะการคว้าแชมป์แรกของ น้องเม-เอรีย่า ใน ศึกดวลวงสวิง Lalla Meryem Cup ที่ประเทศโมร็อคโคเมื่อช่วง ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการชนะรองแชมป์ถึง 3 สโตรค ส่งผลให้อันดับโลกของ น้องเม-เอรีย่า ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 35 ของโลกทันที (17 เม.ย.) แต่เมื่อมองย้อนหลังกลับไปช่วง กลางเดือนกุมภาพันธ์ น้องเม-เอรียา เกือบที่จะคว้าแชมป์ รายการใหญ่ระดับ LPGA มาครองก่อนด้วยซ้ำา เมื่อมีโอกาส ขึ้นแท่นนำาเดี่ยวจนถึงหลุมสุดท้ายของการแข่งขัน Honda LPGA THAILAND 2013 ที่จังหวัดชลบุรี ก่อนจะฟอร์มหลุด แบบช็อค! แฟนกอล์ฟทั้งสนาม พ่าย Inbee PARK นักกอล์ฟ สาวเกาหลีแบบหวุดหวิดเพียงแค่สโตรคเดียวเท่านัน้ ทำาให้เธอ ต้องหลั่งน้ำาตาด้วยความเสียดายแบบสุดๆ แต่เมื่อผ่านมา จนถึงวันนี้ น้องเม-เอรียา พูดย้อนถึงเหตุการณ์วันนั้นว่า “ยอมรับว่ากดดัน กดดันมากจนไม่คิดว่าจะเล่นพลาดได้ขนาด นั้น ก็อาจจะเปนเพราะประสบการณยังน้อย ซึ่งแม้ว่าจะคว้า แชมปแรกได้แล้ว แต่ก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไป”

ดร.พิชิต เมืองนาโพธิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ การกีฬา คณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้ง น้องเมย์-รัชนก และ น้องเม เอรีย่า ว่าเป็นเพราะแรงกดดันที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ สามารถ เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับนักกีฬาที่อายุยังน้อย ซึ่ง ต้องได้รับการดูแลจากนักจิตวิทยาการกีฬาอย่างใกล้ชิดเพื่อ แก้ไข โดยเฉพาะขณะนี้ น้องเม-เอรียา ได้รับการดูแลเรื่อง จิตวิทยาการกีฬาจาก ผศ.ดร.สืบสาย บุญวีรบุตร จนทำาให้เธอ คว้าแชมป์แรกได้แล้ว ซึ่งก็ยังต้องดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

แต่ ที่ สำ า คั ญ นั บ จากนี้ เชื่ อ ว่ า กำ า ลั ง ใจจากคนรอบข้ า ง รวมทั้งแฟนกีฬาแบดมินตันและกอล์ฟ ที่จะร่วมกันเชียร์ทั้ง น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ และ น้องเม-เอรียา จุฑานุกาล 2 สาวน้อยไทยวัย 17 ปีที่จะช่วยกันสร้างผลงานมหัศจรรย์ ระดับโลก อย่างที่เธอทั้ง 2 ตั้งเป้าไว้ นั่นก็คือ น้องเม-รัชนก เป็นนักแบดมินตันติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกภายในปีนี้ และ น้องเม-เอรียา เป็นนักกอล์ฟที่มีอันดับอยู่ใน Top 10 ให้ได้ นั่นเองครับ !!

•• แรงกดดันที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับนักกีฬาที่อายุยังน้อย ซึ่งต้องได้รับการดูแลจากนักจิตวิทยาการ กีฬาอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไข ••

น้องเม-เอรียา จุ±านุกาล สาวน้อยนักกอล์¿วัย 17 ป‚

l 67

HUNT l Automobile

เปิดสเปค 2 รุ่นมาแรง

“Accord Gen 9” และ “All New Vios” >> พุทธิ ผาสุข : เรื่อง

ณ เวลานี้ ตลาดรถบ้านเรา แม้ว่าจะมีรถใหม่ทยอย เปิดตัวกันกว่า 10 รุ่น แต่ยอดขายรวมในไตรมาสแรกนี้ก็ยัง คงเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เหมือนปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้อานิสงส์มาจากนโยบายรถคันแรก อย่างไรก็ตามหาก มองถึงรถใหม่ที่เปิดตัวกันไปไม่นานนี้ และค่อนข้างเป็นที่ สนอกสนใจไม่น้อย ก็หนีไม่พ้น Honda Accord ใหม่ และ “All New Toyota Vios” ขอใช้พื้นที่หน้านี้มาเปิดสเปคทั้ง 2 รุ่นนี้แบบเจาะลึกกันเลยแล้วกัน 68 l

Accord ใหม่ Generation 9 หรูสุดจนต้องหันมามอง

ฮอนด้าแอคคอร์ด รุน่ ใหม่นเี้ ป็นรุน่ ที่ 9 แล้ว ซึง่ รุน่ แรก หรือเจนเนอเรชัน่ ที่ 1 นัน้ ได้มกี ารเปิดตัวสูต่ ลาดครัง้ แรกเมือ่ พ.ศ. 2519 และ ณ ปัจจุบันก็มียอดขายสะสมถึงสิ้นปี 2555 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 19 ล้านคันใน 160 ประเทศทั่วโลก และ สำ�หรับในประเทศไทย ก็มยี อดขายสะสมตัง้ แต่ปี 2527 จนถึง ปลายปี 2555 รวมเป็นจำ�นวนทั้งสิ้น 138,229 คัน

•• มาถึงรุ่นล่าสุด รุ่นที่ 9 ได้มี การออกแบบใหม่หมดทั้งคัน ดีไซน์ให้มีความหรูหรา เหนือระดับในรถรุ่นพิกัดเดียวกัน สะท้อนรสนิยมของผู้ขับ จัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยีและขุมพลังอัจฉริยะ ขับขี่ดีเยี่ยม พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน ระดับพรีเมี่ยม รองรับน้ำ�มัน เชื้อเพลิง E85 ได้อีกด้วย ••

โดยรุ่นที่ 1 (ปี 2519-2524) เป็นรุ่นบุกเบิกมีการนำ� เข้ามาขายในบ้านเราเพียงไม่กคี่ นั เท่านัน้ และมีตวั ถัง 2 แบบ คือ แฮทช์แบค (Hatchback) 3 ประตู และ ซีดาน (Sedan) 4 ประตู และมีเครือ่ งยนต์ 2 รุน่ คือ ขนาด 1.6 และ 1.8 ลิตร, รุ่นที่ 2 (ปี 2525-2528) ถือว่าเป็นโฉมแรกที่นำ�มาทำ�ตลาด ในไทยในปี 2527 ได้พัฒนาเกียร์อัตโนมัติให้ประหยัดน้ำ�มัน มากขึ้น จาก 3 เกียร์เป็น 4 เกียร์ รุ่นที่ 3 (ปี 2529-2532) หรือ โฉมท้าย 2 ชัน้ มีการเพิม่ ตัวถังคูเป้ (Coupé) เข้ามา และ แอคคอร์ ด รุ่ น นี้ เ ป็ น รุ่ น แรกและรุ่ น เดี ย วที่ ใช้ ไ ฟหน้ า แบบ ป๊อปอัพ (Popup) รุ่นที่ 4 (ปี 2533-2536) หรือโฉมตาเพชร เป็นรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น ที่เรียกว่าโฉมตาเพชรก็เพราะ ลักษณะของไฟหน้าที่แวววาวดูคล้ายเหลี่ยมเพชรนั่นเอง ทุกวันนีย้ งั พอเห็นบนท้องถนนอยูบ่ า้ ง รุน่ ที่ 5 (ปี 2536-2540) หรือ โฉมไฟท้ายก้อนเดียวและรุ่นปรับโฉมไฟท้าย 2 ก้อน มีการปรับขนาดตัวถังให้ใหญ่ขนึ้ เครือ่ งยนต์ใหญ่ขนึ้ และโฉม นี้ก็เป็นโฉมแรกที่จัดกลุ่มเป็นรถขนาดกลาง หรือ Mid-Size Car โดยรุ่ น ก่ อ นหน้ า นั้ น จั ด เป็ น กลุ่ ม รถขนาดเล็ ก หรื อ Compact Car มาต่อกันที่รุ่นที่ 6 (ปี 2541-2545) โฉมงูเห่า เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2541 เป็นรุ่นที่มีความหรูมากขึ้น และ พืน้ ทีห่ อ้ งโดยสารกว้างขึน้ และมีความจุถงั น้�ำ มันทีม่ ากขึน้ ถึง 64 ลิตร รุ่นที่ 7 (ปี 2546-2550) โฉมปลาวาฬ มีการเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น ซึ่งทำ�ให้เกียร์อัตโนมัติ ในรุ่นนี้ประหยัดน้ำ�มันได้มากขึ้น โดยในปี 2548 ก็มี Minor change เล็กน้อยและเพิ่มระบบเนวิเกเตอร์ (Navigator) เข้า ไปด้วย และรุ่นที่ 8 (ปี 2551-2555) รุ่นนี้ถูกจัดให้เป็นรถ ขนาดใหญ่ หรือ Full-Size-Car สามารถเติมแก๊สโซฮอล์ E20

ได้ และยังได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม Thailand Car of The Year 2009 การันตีคุณภาพ สมรรถนะและความยอด นิยม และมาถึงรุน่ ล่าสุด รุน่ ที่ 9 ก็ได้มกี ารออกแบบใหม่หมด ทั้ ง คั น ดี ไซน์ ใ ห้ มี ค วามหรู ห ราเหนื อ ระดั บ ในรถรุ่ น พิ กั ด เดียวกัน สะท้อนรสนิยมของผูข้ บั จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีและ ขุมพลังอัจฉริยะ ขับขี่ดีเยี่ยม พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานระดับ พรีเมี่ยม รองรับน้ำ�มันเชื้อเพลิง E85 ได้อีกด้วย

การออกแบบภายนอก ดูทันสมัย โฉบเฉี่ยว เฉียบคม มากขึน้ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟท้าย แบบLED พร้อมไฟส่องสว่างสำ�หรับการขับขีใ่ นเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ (Active Cornering Lights) ช่วยเพิ่มความสว่างด้านข้างของ รถขณะเลี้ยวในเวลากลางคืน เพิ่มความโฉบเฉี่ยวมีมิติด้วย เส้นสายด้านข้างตัวรถที่สะท้อนอารมณ์ความหรูหรา และ เพิม่ ความเคร่งขรึมด้วยเสากลางรถสีด�ำ หรูแบบเปียโนแบล็ค

ส่วนภายในห้องโดยสาร ออกแบบให้เน้นความสบาย สูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขึ้น กว่าเดิม ทีน่ งั่ ตอนหน้าและหลังมีพนักพิง เบาะนัง่ ด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำ�แหน่งเบาะนั่ง และระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร อีกทั้งยังมี ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิ แยกอิสระซ้ายขวา ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พร้อม ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้ว ที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ซึง่ ก็มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID หน้ า จอแสดงข้ อ มู ล ขนาด 8 นิ้ ว ระบบนำ � ทาง l 69

Navigator การสั่งงานด้วยระบบ Smart Interface ที่ผู้ขับขี่ สามารถควบคุมการทำ�งานของระบบเครือ่ งเสียง ระบบเชือ่ ม ต่ อ โทรศั พ ท์ แ บบไร้ ส าย และข้ อ มู ล รถยนต์ ผ่ า นหน้ า จอ ควบคุมอัจฉริยะระบบสัมผัส

สำ�หรับขุมพลังมีให้เลือก 2 พิกัด คือ เครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHCi-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร มีกำ�ลังสูงสุด 174 แรงม้า พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Earth Dream ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสมรรถนะการขับขี่ ที่คล่องตัว ประหยัดน้ำ�มัน และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำ�ลังสูงสุด 155 แรงม้า และทั้ง 2 รุ่นส่งกำ�ลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด รองรับการ ใช้น้ำ�มัน E 85

นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ถุงลมคู่หน้าและด้านข้าง ม่านถุงลมด้านข้าง ระบบช่วย ควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยูบ่ นทางลาดชัน, ระบบป้องกัน ล้อล็อคและระบบกระจายแรงเบรก กุญแจนิรภัย Immobilizer และกระจกหน้ า ต่ า งคู่ ห น้ า และกระจกมองข้ า งลด การเกาะตั ว ของหยดน้ำ � เพื่ อ เพิ่ ม วิ สั ย ทั ศ น์ ใ นการขั บ ขี่ มากขึ้น

สำ�หรับราคาจำ�หน่ายของฮอนด้าแอคคอร์ด ใหม่ มี ด้วยกัน 5 รุ่น ซึ่งก็คือ รุ่น 2.0 EL ราคา 1,299,000 บาท รุ่น 2.0 EL Navi ราคา 1,419,000 บาท, รุ่น 2.4 EL ราคา 1,549,000 บาท, รุ่น 2.4 EL Navi ราคา 1,699,000 บาท และรุ่น 2.4 Tech ราคา 1,799,000 บาท 70 l

“All New Vios 2013” จะกลับมาทวงแชมป์รถเก๋งยอดนิยม

มาต่อกันที่อีก 1 รุ่นที่มีข่าวแรงๆ มาตั้งแต่ก่อนเปิด ตัวกับ “ออลนิว วีออส” ซึ่ง “วีออส” เป็นรุ่นที่โตโยต้าได้ ออกแบบมาเพื่อทดแทน รุ่นโซลูน่า มีการผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 จัดอยูใ่ นกลุม่ Sub Compact Car และได้รบั ความ นิ ย มอย่ า งล้ น หลาม โดยรุ่ น โฉมแรกนี้ (ปี 2546-2550) ประกอบขึ้ น ในไทย ที่ โรงงานโตโยต้ า เกตเวย์ จั ง หวั ด ฉะเชิงเทรา ใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร และมีรุ่น พิเศษคือ โตโยต้า วีออสเทอร์โบ จำ�นวน 600 คัน เป็นเครือ่ ง เดิม แต่ติดตั้งเทอร์โบ และระบบอินเตอร์คูลเลอร์ เพิ่มเติม เข้ามา โดยสำ�นักแต่งรถชื่อดังของโตโยต้าประเทศญี่ปุ่น หรือ TRD (Toyota Racing Development) ทำ�ให้มีแรงม้า เพิ่มขึ้นมาเป็น 145 แรงม้า

ส่วนรุ่นที่ 2 (ปี 2550-2555) เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่น ในปี 2549 และเปิดตัวครัง้ แรกในไทยเมือ่ เดือนมีนาคม 2550 ที่สยามพารากอนนี่เอง มีการปรับโฉมรอบคันทั้งภายนอก และภายใน ยังคงใช้เครือ่ งยนต์ 1NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า เหมือนรุน่ เดิมโดยมีการเปลีย่ นระบบคันเร่งจากเดิมทีค่ วบคุม ด้วยสายเคเบิลมาเป็นระบบไฟฟ้า DBW หรือ Drive-By -Wire เรียกว่า ETCS-I โดยทำ�งานร่วมกับระบบ CAN bus และ ระบบตรวจสอบข้อบกพร่อง OBD-II

มาถึงรุ่นล่าสุด รุ่นที่ 3 มีความคลุมเครือตั้งแต่เรื่องที่ จู่ๆ ก็ได้รับสิทธิรถคันแรก ที่ขนาดสื่อมวลชนสายยานยนต์ เองก็ไม่เคยเห็นคันจริงมาก่อน แต่อะไรผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

•• โฉมใหม่ของ New Toyota Vios 2013 มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ที่ต่างจากโฉมเดิม แบบปลิดทิ้ง ดูทันสมัยมากขึ้น โฉบเฉี่ยว และมีเส้นสายที่คมมากขึ้น มีการออกแบบ ตามหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่ารุ่นเดิม ••

เพราะวันนี้ก็มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้ว เมื่อ รอบ VIP ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 และต้องยอมรับว่า วีออส ใหม่ รุ่นนี้ มาแรงมาก จริงๆ และสมกับที่หลายคนรอคอย

โดยโฉมใหม่ของ New Toyota Vios 2013 มาพร้อม กับรูปโฉมใหม่ที่ต่างจากโฉมเดิมแบบปลิดทิ้ง ดูทันสมัยมาก ขึ้น โฉบเฉี่ยว และมีเส้นสายที่คมมากขึ้น มีการออกแบบ ตามหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่ารุ่นเดิม ด้วยการดีไซน์ หลังคาแบบ Catamaran ที่จะพบเห็นได้จากการออกแบบ ท้องเรือยอร์ชที่ช่วยลดแรงปะทะของลมรอบคัน พร้อมทั้ง Fin ที่ถูกติดตั้งบริเวณกระจกมองข้างและไฟท้าย ที่ส่งผล ให้การทรงตัวดีขึ้น

ด้านของตัวถังก็มีขนาดที่ยาวขึ้นถึง 4,410 มิลลิเมตร กว้าง 1,700 มิลลิเมตร และสูง 1,745 มิลลิเมตร พร้อมกับ ฐานล้อขนาด 2,550 มิลลิเมตร ออกแบบแสดงถึงความ ทั น สมั ย และสไตล์ ที่ โ ฉบเฉี่ ย ว โดดเด่ น ด้ ว ยกระจั ง หน้ า โครเมียมรมดำ� กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตมีความคล้ายคลึงกับ GT-86ไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ�-ไฟท้ายแบบมัลติรีเฟลก เตอร์มือจับประตูโครเมี่ยม คิ้วฝากระโปรงท้ายรมดำ� มา พร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว และ15 นิ้ว ที่สำ�คัญ ยังเอาไปแต่งหล่อได้อีกเยอะ....เตรียมสตางค์เอาไว้ได้เลย

ในส่วนของห้องโดยสารก็มีการปรับภายในใหม่หมด ให้ ค วามกว้ า งขวางที่ เ พิ่ ม ขึ้ น พร้ อ มกั บ ดี ไซน์ ห รู ห ราสไตล์ สปอร์ต มีให้เลือก 2 สี คือสีเบจ กับสีดำ� โฉบเฉี่ยวด้วยแผง คอนโซลใหม่ดีไซน์สปอร์ต และตรงนี้แหละที่เจ๋งสุด เพราะ หากสังเกตและสัมผัสดีๆ จะรู้ว่าแผงประตูและคอนโซลที่ดู เหมือนหุ้มหนัง มีการขลิบด้าย แท้จริงแล้วมันคือพลาสติก ขึ้นรูปนี่เอง แต่เหมือนหุ้มหนังมากๆ นอกจากนี้ ก็ยังมี

ออปชั่นตามสมัยนิยม อย่างไฟแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ ECO เมื่อขับขี่แบบประหยัดเพิ่มเข้ามาอีกเช่นกัน

สำ�หรับขุมพลังอาจจะรู้สึกผิดหวังพอสมควร เพราะ ยั ง คงใช้ เ ครื่ อ งยนต์ เ ทคโนโลยี เ ดิ ม ทั้ ง ระบบเกี ย ร์ แ ละ เครื่องยนต์ 1NZ-FE แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOCH 16 วาล์ว VVT-i ขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า มา พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในส่วนของช่วงล่างมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนล้อหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงระบบกันสะเทือน ล้อหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกัน โคลง และในส่วนของความปลอดภัย ก็จัดให้ตามมาตรฐาน ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรง เบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA...จัดมาให้เต็มๆ แบบนี้ โตโยต้าหวังทวงแชมป์แน่นอน

สำ�หรับราคาจำ�หน่ายก็มีอยู่ 6 รุ่น คือ รุ่น 1.5S A/T 734,000 บาท, รุ่น 1.5G A/T 699,000 บาท, รุ่น 1.5E A/T 649,000 บาท, รุ่น 1.5E M/T 614,000 บาท, รุ่น 1.5J A/T 589,000 บาท และรุ่น 1.5J M/T 559,000 บาท

ก่อนจะหมดหน้ากระดาษก็อยากแนะนำ�ชาว HUNT ในฐานะที่ผู้เขียนคลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ ได้พบเจอ ทั้งผู้บริหาร เซลส์ คนซื้อรถ ช่างซ่อม หรือแม้กระทั่ง รปภ. ตามโชว์รูมรถ...รถยนต์ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร รุ่นไหน เด่นดีหรือ แย่ยังไง สุดท้ายก็ขอให้ซื้อรถโดยยึดความต้องการใช้งาน ของตัวเองเป็นหลัก รถทุกคันมีดีที่ต่างกัน ใช้แบบไหน ขับ รุ่นไหนแล้วถูกใจ ก็ให้เลือกคันนั้น เอาตัวเราเองเป็นที่ตั้ง รับรองว่าจะได้ใช้รถที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ฝากเอาไว้เป็นแง่คิด...อย่าซื้อรถเพราะคนข้างบ้านเชียร์ ไม่งั้นจะเพลียใจ l 71

HUNT l Novel

The Condo

ตอนที่ ๔ ดร.สอง ไชยาพร

“Fore!” แคดดี้สาวตะโกนบอกก๊วนกอล์ฟข้างหน้าให้ ระวังลูกที่ ดร. สอง ไชยาพร ตี Shank หลุม ๖ พาร์ ๓ ทะลุ ไปถึงแท่นทีออฟถัดไป ก่อนที่เธอจะทรุดลงนั่งนิ่งกับพื้น เหงือ่ ชุม่ หน้าแต่ตวั กลับเย็นเฉียบ สอง ไชยาพร หนุม่ ใหญ่วยั ๕๔ ทีป่ ลายจอนผมกลายเป็นสีเทาและมีเส้นผมสีเทาแซมทัง้ ศีรษะ ยกมือขอโทษก๊วนข้างหน้า หันกลับมามองแคดดี้ที่นั่ง อยูก่ บั พืน้ เขาเดินตรงไปยังเธอ ขณะทีเ่ พือ่ นในก๊วนขึน้ ทีออฟ คิ้วเขาขมวดเล็กน้อยเห็นเด็กสาวนั่งขดตัวอยู่ใต้ร่มกอล์ฟคัน โตหายใจอ่อนๆ ตาหลุบลงต่ำ�

“เป็นอะไรไป ตกใจที่ผมตี Shank หรอ” สอง หัวเราะ ขำ�ท่าหมดเรี่ยวแรงของเด็กสาวตรงหน้า

“เปล่าค่ะ หนูเป็นลม” เด็กสาวตอบเสียงค่อย 72 l

(ตอนที่ ๑ การศึกษาไทยสู่ยุคคลิก)

สอง ก้าวเข้าถึงแล้วนัง่ ลงคุกเข่า ยืน่ มือซ้ายออกไปจับ หัวเด็กสาว “ขอโทษนะ” เขาบอก แล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสวม ถุงมือกอล์ฟอยู่ จึงเปลี่ยนไปถือเหล็กด้วยมือซ้าย แล้วใช้มือ ข้างขวาที่ไม่สวมถุงมือแตะเบาๆที่แก้มอันชุ่มเหงื่อของเด็ก สาว สัมผัสผิวสาวที่อ่อนนุ่ม แต่รับรู้ถึงความเย็นเฉียบ เด็ก สาวเงยหน้าขึ้นสบตา

“นาย มียาดมไหม” เธอร้องขอ

สองลุกขึ้นยืนล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงควานหา ขวดยาดมเล็กๆทีพ่ กมาด้วย ล้วงออกมาแล้วยืน่ ส่งให้เด็กสาว “ทาที่จมูกและที่ขมับ สูดหายใจเข้าลึกๆ นะ” เขายืนมองเด็ก สาว หันไปโบกมือกับเพื่อนก๊วนเดียวกันให้เดินล่วงหน้าไป ก่อน

“เกิดอะไรขึ้น ตุ้ม ทำ�ไมถึงเกิดเป็นลมไปได้ เดินแค่ ๕ หลุมเอง” สองถาม มองเด็กสาวด้วยความห่วงใย

“หนูไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ก็บอกนายแล้วว่า วันนี้หนู ไม่ได้ลงแคดดี้ หนูมาทำ�เวรสนาม แต่นายอยากให้หนูลง หนู ก็ต้องลงให้” เด็กสาวบ่นอุบอิบ

สองกลับนั่งลงข้างเด็กสาวอีกครั้ง มองลึกลงในตาที่ จ้องตอบ หยิบหมวกแคดดี้ที่เธอถอดวางไว้ข้างตัวขึ้นโบกไป มาให้เกิดลมเย็นๆ พัดผ่านผิวกายเด็กสาว เธอหลุบตาลงต่ำ� แตะปลายนิ้ ว มื อ เล็ ก ๆ ที่ มี ไ อระเหยยาดมติ ด อยู่ เข้ า กั บ ปลายจมูกตัวเอง สอง มองหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กวัย ๑๖ ปี มองเม็ดเหงื่อเล็กๆ ซึมทั่วใบหน้าน้อยๆ นั้น ความรู้สึก เมตตาแล่นเข้าจับหัวใจอย่างกระทันหัน เขาดึงตัวเด็กสาวเข้า มากอดหลวมๆ โดยเด็กสาวไม่ได้ขัดขืน เธอเอนตัวพิงแนบ ตัวเขา ศีรษะซบกับไหล่ของสอง และวิ๊บเดียวนั้น

ดร. สอง ก้มลงจูบหน้าผากเด็กสาวอย่างแผ่วเบา

“พอจะเดินไหวไหม?” เขาถาม แต่เด็กสาวก้มหน้านิ่ง เงียบ

เขาจูบเธออีกครั้ง “เดี๋ยวก็หายแล้ว อดทนหน่อยนะ” เขาว่า คลายอ้อมกอดออก เด็กสาวทรงตัว นั่งตรง สองลุก ขึ้นยืน ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์คลับเฮ้าส์ “คุณอุ๊ แคดดี้ผมเป็นลม ช่วยส่งรถคาร์ทมารับเธอที่ หลุม ๖ ด้วย ขอบคุณครับ”

ดวงตะวันกำ�ลังจะลาลับ แสงแดดยามเย็นทาบท้องฟ้า กรุงเทพฯ สะท้อนแสงกับเหลีย่ มมุมของกระจกจากตึกระฟ้า ที่สูงเด่นตรงหน้า นั่นเป็นสถานที่พักแห่งใหม่ใจกลางเมือง หลวงราคาแพงลิ่ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณน้าผู้หญิงน้องของแม่ เช่าซื้อไว้และส่งมอบให้เขาครอบครอง คนอย่าง ดร. สอง ไชยาพร คงไม่มีปัญญาที่คิดจะมาอยู่ แม้ห้องบนคอนโดหรู แห่งนีข้ องเขาจะเป็นเพียงห้องเล็กๆอยูบ่ นชัน้ ๕ ติดกับบันได

สองเลีย้ วรถ Citroen BX คันเก่าของเขาเข้าสูล่ านจอด รถ ยามรักษาการณ์ชิดเท้าทำ�ความเคารพ พร้อมเปิดที่กั้น เปิดทางให้เขาเคลื่อนรถเข้าไป สองขับหาที่จอดรถในจุดที่ กำ�หนดให้จอด เขาพบว่ามันอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักของเขา เอง เพียงแค่เดินจากลานจอดไม่ถึงร้อยเมตรก็ถึงประตูเปิด เข้าสูอ่ าคาร เลีย้ วซ้ายมือเดินตรงไปสูเ่ ฉลียงจะมีบนั ไดหนีไฟ และถัดไปคือห้องพักหมายเลข P๕๐๕ ซึ่งคุณน้าของเขาซื้อ ไว้ก่อนที่เธอจะล้มเจ็บด้วยวัย ๙๗ และอยู่ในความดูแลของ สถานพยาบาลผู้สูงอายุเอกชนแห่งหนึ่ง

สองรับรู้ว่า ถ้าลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเขา ไม่เสียชีวิตไปตั้งแต่อายุ ๔๔ มรดกนี้ก็คงไม่ตกมาถึงเขา แต่

เพราะว่าในช่วงที่เขาเป็นอาจารย์ประจำ� สอนหนังสืออยู่ที่ มหาวิทยาลัยเอกชนย่านประชาชืน่ ตอนเวลากลางวันๆ เมือ่ เขาเกิดรู้สึกเบื่อๆ ก็จะออกจากมหาวิทยาลัย ซื้ออาหารแวะ ไปเยี่ยมคุณน้าน้องของแม่ที่เหลืออยู่คนเดียวนี้เป็นประจำ� ด้วยก่อนที่แม่จะเสียเมื่ออายุ ๗๘ คุณน้ามักจะเดินทางมา พั ก แวะเยี่ ย มแม่ ที่ บ้ า นเสมอๆ เพราะด้ ว ยมี กั น เพี ย ง สองพีน่ อ้ งทีย่ งั เหลืออยู่ แต่เมือ่ แม่เขาเสียไป คุณน้าก็ขาดคน ทีจ่ ะพูดคุยด้วย ด้วยลูกชายก็จากไปเสียแต่วยั กลางคน สะใภ้ ก็เป็นชาวอังกฤษ แม้คุณน้าจะรักหลาน แต่หลานๆ ก็มีนิสัย ครึ่งหนึ่งแบบชาวตะวันตก

การที่เขาไปมาหาสู่คุณน้าในช่วงเวลานั้นทำ�ให้เขาได้ รับความเมตตา แม้แต่ปนื พกลูกโม่ Colt Police Positive .๓๘ Special ที่มีตำ�นานปกป้องภัย สมัยที่โจรใหญ่วางแผนเข้า ปล้นบ้านคุณน้าเมือ่ ๕๐ กว่าปีนนั้ ก็กลายเป็นมรดกตกทอด มาถึงเขาด้วย

สองหยิบกระเป๋าสะพายใส่เสื้อผ้าใบย่อมออกจากที่ นัง่ เบาะหลัง พร้อมกับกระเป๋าเครือ่ งคอมพิวเตอร์พกพาและ ไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าใส่ปืน Colt ลงจากรถ แล้วเดินตรงไป ยังประตูทางเข้าอาคาร ก้าวเท้าเนิบๆพาตัวเองไปยังห้องพัก

ดร. สอง ไชยาพร เปิดประตูระเบียงห้องออกไปยืน มองมหกรรมแสงสีของแสงไฟฟ้าจากบรรดาอาคาร จากไฟ ถนนหนทางและรวมทั้งแสงไฟจากรถยนต์ที่เริ่มสว่างขึ้น เมื่อแสงตะวันลับขอบฟ้าไปสิ้นแล้ว นานมากที่ไม่ได้เข้ามา กรุ ง เทพฯ ตั้ ง แต่ เขาหมดวาระการเป็ นนั ก วิ จั ย ของมหา- วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีท่ า่ พระจันทร์และย้ายไปอยูธ่ ญ ั ญบุรี ไปเป็นอาจารย์ประจำ�อยูใ่ นมหาวิทยาลัยเอกชนย่านนัน้ เมือ่ ๖ ปีกอ่ น น้อยครัง้ มากทีเ่ ขาจะเข้ามาเห็นแสงสีในเมืองหลวง เว้ น แต่ จ ะเข้ า มาบรรยายพิ เ ศษให้ ม หาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฎ ย่านถนนราชวิถี หรือนัดหมายรับประทานอาหารกับอดีต ผู้หญิงของเขาเป็นครั้งคราว

เสียงเรียกจากเครื่องโทรศัพท์ประจำ�ห้องดังขึ้น สอง ผละจากระเบียงเดินเข้าห้องตรงไปยังทีต่ งั้ เครือ่ งรับโทรศัพท์ บนโต๊ะทำ�งานข้างเตียง เสียงเรียกยังคงดังอยู่ เขาฉงนใจไม่ อาจเดาว่าใครเป็นผูโ้ ทรฯมา เพราะยังไม่ได้แจ้งใครๆให้ทราบ ถึงการตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯในครัง้ นี้ และโดยเฉพาะการ เข้าพักที่คอนโด เขาจึงหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นรับสาย

“ครับ!”

“ดร. สอง ไชยาพร นะคะ?” เสียงผู้หญิงสูงวัย แต่ดูมี ชีวิตชีวาและออกจะร่าเริงดังถามมาทางปลายสาย

“ครับ” เขารับ l 73

“สวัสดีคา่ พีน่ มิ่ นวล เองค่ะ ...” เสียงเดิมดังตอบ ตาม ด้วยเสียงหัวเราะ “คือ พี่ได้รับทราบว่า ดร. สอง เพิ่งเดินทาง เข้ามาคอนโดเมื่อสักครู่ ...คือพอดีพี่เพิ่งกลับมาจากไปรับ แม็กซิมจากโรงเรียนพิเศษกับคุณพีณ ่ รงค์ท ี่ “พารากอน” เมือ่ ตะกี้นี้เอง ...เออ แม็กซิมเป็นหลานชายพี่เองค่ะ ...แล้วทีนี้ สมพร... เออ สมพรก็ยามรักษาการณ์ของคอนโดเราไงคะ เขาแจ้งพี่ว่า ดร. สอง เข้ามาที่คอนโดแล้ว ...” เธอเว้นจังหวะ หยุด และหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตามมา

“ครับ”

“เรา ...พี่หมายถึงเพื่อนๆที่พักอยู่ที่นี่ ได้ยินชื่อเสียง ของ ดร. สอง มานาน พอรู้ว่า ดร. สอง จะมาเป็นเพื่อนร่วม คอนโด พวกเราก็ยนิ ดี และเฝ้ารอคอยการมาของ ดร. สอง...” เธอเว้นจังหวะ และหัวเราะมาอีก

“ครับ ...เออ คุณนิ่มนวล ใช่ไหมครับ เรียกผมว่า สอง เฉยๆก็ได้ครับ...” สองขัด

“ได้เลยค่ะ ดร. สอง งั้นเรียกพี่ว่าพี่นิ่มดีกว่า สั้นดี” เธอหัวเราะ และพูดต่อโดยไม่รอคำาตอบ “คืออย่างนี้นะคะ พวกเรา ก็เพือ่ นๆทีว่ า่ นัน่ แหล่ะค่ะ เรามีประเพณีเล็กๆน้อยๆ ...” เสียงพูดผสมกับเสียงหัวเราะแจ่มใส “พี่ ปรึกษากับคุณพี่ ณรงค์ เมื่อสักครู่ ว่าค่ำานี้พวกเราจะขอเลี้ยงต้อนรับการเข้า มาร่วมเป็นเพื่อนในคอนโด...ถือเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ที่ห้อง อาหารของเรา คุณพี่ณรงค์จะเป็นเจ้าภาพ โดยเชิญเพื่อนๆ ๔-๕ คน มาร่วม เราสองคน คุณพี่ณรงค์กับพี่ จึงขออนุญาต จัดปาร์ตโี้ ดยไม่รอคำาตอบปฏิเสธ และขอบังคับเรียนเชิญ น้อง สอง มาเป็นเกียรติ กับเพื่อนๆ...” เธอหัวเราะกิ๊กๆ “ห้าม ปฏิเสธ...คืนนี้ ทุ่มครึ่ง” เธอสำาทับ

“ปาร์ต.ี้ ..” สองทวนคำา คุณนิม่ นวลพูดต่อ “ใช่คะ่ ปาร์ต ี้ ทานอาหารและดืม่ เบาๆ คุยกันสัพเพเหระ น้องสองจะได้มา รู้จักกับเพื่อนๆ...” สองขัด “ผมเป็นมังสวิรัต...”

“ทราบแล้วค่ะ...และทราบด้วยว่า น้องทานซีฟู้ดได้ ใช่ไหมคะ เคยอ่านพบจากบทสัมภาษณ์ ดร. สอง ในหนังสือ Magazine น่ะค่ะ ...มานะคะ... คุยกันสนุกๆ ...เราอยากเจอ ตัวเป็นๆ จะได้ขอฟังบรรยายเกีย่ วกับ “มุมมองด้านการศึกษา ไทย” จาก ดร. สอง เพื่อประดับความรู้...”

“โอ้...ถ้างัน้ คงไม่ใช่การคุยกันแค่สนุกๆแล้ว...” สองขัด ขึ้น และหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวต่อ

“ครับ เป็นอันว่าตกลง เพราะยังไงผมก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ ไหมครับ...” เขาหยุดคิดวิ๊บหนึ่งแล้วพูดต่อ

“เรือ่ งมุมมองต่อการศึกษาไทย ประเด็นนีข้ อยกได้ไหม ครับ ...ผมเกรงว่าจะหนักไปสำาหรับปาร์ตี้ เพราะผมออกจะ 74 l

หดหูใ่ จกับประเด็นนีม้ าก “การศึกษาไทย ตายแล้ว” นะครับ... ผมอยากจะเรียนว่า เราก้าวไปสู่ “การศึกษาแบบคลิก” ไป อย่างสิ้นเชิงแล้ว”

“หนักไปก็ไม่เป็นไรค่า...พีด่ ใี จจัง เดีย๋ วจะได้รบี ไปบอก คุณพีณ ่ รงค์ทรี่ อฟังคำาตอบอยู ่ แล้วพีจ่ ะแจ้งเพือ่ นๆ...เจอกัน ทุ่มครึ่ง ที่ห้องอาหาร แต่งตัวตามสบาย...หวัดดีค่ะ” เธอ หัวเราะดีใจ และรีบวางสายไปก่อนที่ สอง จะกล่าว “ครับ!”

ดร. หนุม่ ใหญ่ทมี่ นี ามว่าสองวางหูโทรศัพท์กลับเข้าที ่ แล้วทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียง ยกมือทั้งสองข้างสอดหนุน ไว้ใต้ศรี ษะ ตามองเพดานนิง่ อยู ่ บทสนทนาเมือ่ สักครูว่ นเวียน ไปมาในสมอง ปาร์ตกี้ บั คนแปลกหน้าทีไ่ ม่เคยรูจ้ กั คุน้ เคย ใน คืนแรกที่เข้าพักในคอนโด ช่างเป็นเรื่องที่สร้างความพิศวงใจ ยิ่ง โดยธรรมชาติแล้วเขาเป็นคนออกจะเก็บตัว ไม่ค่อยจะ สุงสิงกับใคร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับไม่คบค้ากับใคร เพียงแต่เขา ไม่ใช่คนที่ชอบเสนอตัว อย่างไรก็ดีบ่อยครั้งเหมือนกันที่เขา พบว่าเมื่อเขาได้พบกับใครสักคน เขากลับวางตัวธรรมดาๆ ง่ายๆ และออกจะตลกขี้เล่น แสดงความเป็นกันเอง โดยวิธี การที่เขาใช้คือการพูดแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เพื่อที่จะได้ เข้าถึงจิตใจตัวตนที่แท้ของคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว หากฟัง น้ำาเสียงแนวคิดรวมทั้งกิริยาอาการที่ตอบกลับมาแล้วพบ ว่าไปกันไม่ได้ เขาก็จะหลีกเลีย่ ง แต่ถา้ การโอภาปราศรัยผ่าน ไปได้ด้วยดี ไม่มีคำาโอ่อวด โกหกพกลม และมีกิริยาสุภาพให้ เกียรติกันและกัน เขาจะแอบนิยมพึงพอใจพร้อมให้โอกาส ตัวเองทีจ่ ะได้รจู้ กั คนคนนัน้ มากขึน้ และสองบอกกับตัวเอง ว่านั่นไม่ใช่การถือตัว หากแต่เพียงเป็นวิธีการเลือกที่จะคบ คนให้อยู่ในวงกลมอันเดียวกัน

ดร. สอง ไชยาพร มีวิธีการของเขา ในการรู้จักตัวตน ที่แท้จริงของคนแปลกหน้าในเวลาอันสั้นๆ แต่แม่นยำาเสมอ โดยเขาใช้การสังเกตอากัปกิรยิ า เช่นทีค่ าำ โบราณว่า “สำาเนียง ส่ อ ภาษา กิ ริ ย าส่ อ สกุ ล ” ทั้ ง นี้ เ พราะเขาจบการศึ ก ษา ปริญญาตรีและโททางด้านการสื่อสาร ทำาให้เขารู้จักที่จะ สังเกตการสื่อสารภาษาท่าทาง (Non-Verbal Communication) ร่วมกับคำาพูด (Verbal Communication) และจากการ ฝึกฝนวิชาการละครมาอย่างหนัก ช่วยให้เขาประเมินความ จริงแท้ในตัวตนคนได้เพียงแค่เห็น เขาเคยบรรยายทีเล่น ทีจริงกับนักศึกษาของเขาว่าทฤษฎีฝรั่งมี “การสื่อสารแบบ สองทาง” (Two-Way Communication) แต่ในสังคมไทย เขาบอกว่ า ต้ อ งสร้ า งทฤษฎี ใ หม่ นั่ น คื อ ทฤษฎี ที่ เรี ย กว่ า “การสื่อสารแบบสองหน้า” (Two-Faces Communication)

อาจารย์หนุ่มลุกขึ้นจากเตียง เดินไปคว้ากระเป๋าใส่

เสือ้ ผ้าทีว่ างไว้ในตูเ้ ก็บเสือ้ ผ้าออกมาเปิด เลือกหยิบเสือ้ โปโล สีขาวออกมาคลี่และวางพาดกับพนักเก้าอี้ แล้วหันกลับไป เปิดซิบข้างกระเป๋าออก ก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบกระเป๋าใส่ ไปป์และใบยาเส้นออกมาเปิด เขาหยิบกล้องสูบยาออกมา ถือไว้ ขณะที่อีกมือหนึ่งเปิดซองบรรจุยาเส้นกลิ่นเชอร์รี สำาหรับไปป์แล้วหยิบยาเส้นยัดลงในกล้อง จากนั้นจึงเดินไป ยังประตูกระจกบานเลือ่ นเพือ่ เปิดออกไปทีร่ ะเบียง และก้าว ออกไปยืนนิ่งในความมืด สองยกกล้องยาขึ้นคาบไว้ในปาก ก่อนจะสลัดฝาไฟแช๊คตัวโปรดให้เปลวไฟพุ่งขึ้นมา เขาจ่อไฟ เข้าทีต่ วั กล้องสูบยา จุดกล้องดูดลมเข้าสองสามครัง้ จนใบยา ลุกติดไฟ ควันและกลิน่ หอมฟุง้ ไปทัว่ ระเบียง เขาทอดสายตา มองออกไปยังเส้นแสงไฟสีแดงจากรถยนต์ทวี่ งิ่ ต่อเนือ่ งตาม กันไปบนทางด่วน ซึ่งทอดคดเคี้ยวผ่านตึกอาคารใจกลาง มหานครของประเทศไทย เขาอดที่จะบอกกับตัวเองไม่ได้ว่า ผู้คนต่างล้วนมีที่มาและที่ไปแห่งตน ตามแต่ที่จะเลือก โดย ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสของแต่ละบุคคล

ผู้หญิงคนที่ตรงเข้าต้อนรับจับไม้จับมือ ดร. สอง ไชยาพร ก่อนที่เขาจะยกมือไหว้ทำาความเคารพ มีอายุราว ๕๗ ปี รูปร่างสันทัด แต่งกายด้วยเสือ้ ผ้าตัดเย็บดีมรี าคาและ รสนิยม เขาเดาได้ไม่ยากว่าคือคุณนิ่มนวล ส่วนผู้ชายสูง อายุประมาณ ๖๕ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ตัวสูงแต่ผอม ดูเป็นคน เงียบสงบและใจดีคงเป็นคุณพี่ณรงค์ สองทำาความเคารพทั้ง สองคนอย่างนอบน้อม ขณะที่ก้าวเท้าเข้าไปภายในห้อง อาหาร

“Welcome to The Condo…!” คุณนิ่มนวลกล่าว ต้อนรับอย่างติดจะร่าเริง สองยิ้มให้ มองบุคคลทั้งสองด้วย ความรูส้ กึ เป็นมิตร ตอบรับกับการแสดงการต้อนรับเขาอย่าง กันเอง

“เชิญค่ะ ดร. สอง เออน้องสอง พี่นิ่มนะคะ และนี่ คุณพี่ณรงค์” เธอผายมือไปด้านหลัง ตรงเข้าจูงจนเกือบจะ เป็นโอบตัว พาสองเดินไปที่มุมด้านหนึ่งของห้องอาหาร ที่ นั่นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วกับเด็กชายอายุประมาณ ๙ ขวบ มองปราดเดียวก็รวู้ า่ เป็นลูกผสมไทยกับชาวต่างชาติ สองเดาว่าเป็นแม็กซิม ส่วนผู้ชายที่นั่งอยู่ด้วยและกำาลังช่วย เด็กชายต่อตัว Lego เป็นรูปหุ่นยนต์นั้น เขายังไม่ได้รับการ แนะนำาให้รู้จัก

“ขอแนะนำาให้รู้จักกับเพื่อน คุณปราบสมุทร เพชร กุญชรค่ะ เธอเป็นวิศวกรพลังงานไฟฟ้า...” คุณนิ่มนวล แนะนำา “คุณปราบคะ นี่ ดร. สอง ไชยาพรค่ะ เพื่อนใหม่ร่วม คอนโดของเรา...”

ปราบเงยหน้าขึ้นจากตัวต่อ Lego หันกลับมองข้าม ไหล่มาสบตากับสอง ปราบไม่ได้ลุกขึ้น เพียงแต่ยื่นมือข้าม โซฟามา สองเอื้อมมือไปจับ รับรู้ถึงแรงบีบจากมือปราบที่ ออกจะแรงเกินไปนิดหนึ่งอย่างตั้งใจ สองสังเกตว่าปราบ มีอายุนอ้ ยกว่าเขา โดยประมาณอายุ ๓๕ ปี เป็นลูกไทยผสม จีน หน้าตาออกไทยๆ คิ้วเข้ม ริมฝีปากหนา แต่ผิวขาวมาก

“คุณลุง ...เล่น ตัวต่อ ไหมครับ? มาเล่นด้วยกันซิ” ภาษาไทยออกจะติดสำาเนียงอเมริกันของเด็กชายแม็กซิม ดังขัดขึ้น สองคลายมือจากปราบ หันไปยิ้มกับเด็กชาย

“ไม่หล่ะ ลุงไม่กล้าเล่น...เดีย๋ วมันต่อยเอา” สองไม่เคย ยัง้ เลย ในการเล่นกับคำาพูดของคูส่ นทนา ไม่เลือกว่าเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ จากคำาตอบนี้ทำาเอาทุกคนในที่นั่นหน้าเหวอ โดยเฉพาะเด็กชาย

“คุณลุงสอง หมายถึงตัวต่อนะลูก” หนุ่มใหญ่เจ้าของ สถานที่มอง ดร.สอง แวบหนึ่งด้วยสายตาหมั่นไส้ ก่อนหัน ไป อธิบายให้เด็กชายเข้าใจ “ตัวต่อที่แม็กซิมพูด คุณลุงสอง คงเข้าใจว่าเป็นตัวต่อ...ที่เป็น Insect ชนิดที่มีพิษร้าย ต่อย คนได้และทำาให้เจ็บปวด ...ถึงตายก็มี” คุณพี่ณรงค์หันมา สบตาสองอีกครั้งหลังจากให้คำาอธิบายหลายชาย สีหน้าไม่ ค่อยพอใจแต่เก็บอารมณ์

“คุณลุงสอง ล้อหนูเล่นน่ะจ้ะ...” คุณนิม่ นวล เดินอ้อม ไปนั่งลงบนโซฟาข้างตัวหลาน เอามือขยี้หัวและดึงตัวเข้ามา กอด เด็กชายหายสงสัย หัวเราะร่า สายตาเป็นประกายเมื่อ มองจ้อง ดร. สอง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“คุณลุงเคยโดนต่อมันต่อยเหรอ” เด็กชายถามอย่าง กระตือรือร้น

“ช่ายยยย.....” สองตอบเด็กชาย ทำาหน้ายิ้มๆ

“เจ็บไหมครับ...แล้วทำาไมไม่ตายล่ะ” เด็กถาม

“เจ็บมาก เกือบตาย...” สองตอบ

“Wow ….! ใครจะเป็นจะตายกันหรือคะ เอเซียก็เกือบ จะตายวันนี้เหมือนกัน...” เสียงใสๆ ของหญิงสาวดังขึ้นทาง ประตูทางเข้าห้องอาหาร เธออยู่ในเครื่องแบบพนักงาน ต้อนรับจากสายการบินแห่งหนึ่ง สอง หันไปทางเสียง พบ กับ สาวสวยอายุ 27 ปี สังเกตจากเค้าโครงหน้าพอจะมอง ออกว่า เธอเป็นลูกครึง่ จมูกทีโ่ ด่งเป็นสันโดยไม่ได้ศลั ยกรรม น่าจะเป็นลูกผสมไทย-อิตาเลี่ยน

โปรดติดตามอ่านต่อใน http://hunt-magazine.com/ the-condo-chap4#cont l 75

HUNT l HUNT’s Books >> คุณานันท์ ทยายุทธ : เรื่อง

HUNT book ล่าโอกาสเพื่อผู้อ่าน มหกรรมหนังสือเดือน เมษายนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่นักศึกษาอย่างผมมีความสุขอย่าง มากที่สำานักพิมพ์ (สนพ.) ต่างๆ นำาผลงานออกวางจำาหน่ายให้ทัน กับช่วงเวลานี ้ ดังนัน้ ฉบับนีผ้ มจะนำาเสนอหนังสือเล่มทีน่ า่ เก็บไว้เป็น เครือ่ งมือไล่ลา่ หาโอกาสทีด่ ใี ส่ตวั โดยจะขอแนะนำาเป็นแบบยกโขยง องค์ความรู้ เพราะแต่ละเล่มที่ออกในช่วงนี้ ทุกสำานักพิมพ์ก็คัดสรร มาประชันกันอย่างเต็มที ่ จะว่าไปก็เหมือนหนังเข้าฉายช่วงปิดเทอม ของวงการภาพยนตร์ ดังนั้นจะมานำาเสนอเพียง ๒ - ๓ เล่มก็จะ กลายเป็นรักพี่เสียดายน้อง

ชีวประวัติ และ จักรวาล â´Â ÇÍÅàµÍà äÍ᫤Êѹ ºÃóҸԡÒÃâ´Â ÊØ·¸ÔªÑ ËÂØ‹¹ á»Åâ´Â ´Ã.ºÑÞªÒ ¸¹ºØÞÊÁºÑµÔ áÅФ³Ð / Êӹѡ¾ÔÁ¾ ๪Ñè¹ºØ ¤Ê

เรามาเริ่มเล่มแรกปลุกสมองนักคิดอัจฉริยะกันก่อนด้วย “ไอน์สไตน์” ชีวประวัติ และ จักรวาล (ฉบับสมบูรณ์) หนังสือเล่มนี้มีการเขียนแนะนำาจาก คุณสุทธิชัย หยุ่น ได้อย่างน่าติดตามจนต้องขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่านให้ต้อง อ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนที่สตีฟ จ๊อบส์อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจ คุณสุทธิชัย เขียนไว้ดังนี้ครับ “ไอแซคสัน เขียนประวัติไอน์สไตน์ ในจังหวะเหมาะเจาะยิ่ง เพราะมีรายละเอียดใหม่ๆ ทีไ่ ม่เคยปรากฏมาก่อนเพิม่ เติมขึน้ มาจนเป็น “ฉบับ สมบูรณ์” อย่างแท้จริง ไอแซคสัน เขียนหนังสือเล่มนี้ก่อนเขียนเรื่องชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ และเพราะลีลาการเขียนทีอ่ า่ นง่ายแต่มเี นือ้ หาแน่นเปรีย๊ ะสะท้อน ถึงความเป็นตัวตนจริงๆของไอน์สไตน์ ในด้านต่างๆอย่างน่าประทับใจในความ ทุ่มเท มุ่งมั่น อ่อนโยน และยโส ผมจึงระงับความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ ต้องเรียกร้อง ให้ NationBooks แปลและตีพมิ พ์เพือ่ ให้คนไทยได้อา่ นกันอย่างถ้วนหน้า เพราะ ผมถือว่านีค่ อื หนังสือทีส่ ามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กบั คนไทยได้อย่างดีเยีย่ ม ผมเชื่อของผมเองว่าสตีฟ จ๊อบส์ ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วมีแรงกระตุ้นให้เกิด ความมุง่ มัน่ ทุม่ เททีจ่ ะ “สร้างสิง่ ใหม่ให้กบั โลกใบนี”้ อย่างปฏิเสธไม่ได้ จึงอยาก จะให้นักเขียนคนดังอย่าง ไอแซคสัน เขียนประวัติของตน คณะผู้แปลได้บรรจง ถ่ายทอดเนื้อหาที่เต็มไปด้วยสาระและแง่มุมชีวิตของไอน์สไตน์ ที่ไม่เคยมีใคร เขียนเล่าได้สนุกอย่างนี้มาก่อน ผมจึงไม่รีรอที่จะชักชวนท่านได้อ่านหนังสือ เล่มนี้ และแนะนำาให้เพื่อนพ้องน้องพี่ได้อ่านกันอย่างต่อเนื่อง มิใช่เพียงเพื่อ แสวงหาความรู้ แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งความสามารถในการจินตนาการ เพราะผม เชื่อในวลีที่ไอน์สไตน์เคยพูดไว้อย่างน่าฟังว่า “ความรู้อาจพาคุณจากจุด A ถึง B ได้ แต่จินตนาการพาคุณไปทุกหนทุกแห่ง” ผมเชื่อว่าอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้ว คุณไปได้ทุกหนทุกแห่งจริงๆ” เมื่อคุณสุทธิชัยแนะนำาอย่างนี้ หามาอ่าน ได้เลยครับ เผื่อเราจะมีนักอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนโลกได้อย่าง สตีฟ จ๊อบส์ อีกคน 76 l

Gen â´Â ÍÒ¨Òàà¨ÃÔުѠäªÂ侺ÙÅÂ Ç§È Êӹѡ¾ÔÁ¾ â¾Êµ ºØ ¤Ê

เปิดโลกการลงทุนของคนยุค Gen Y อาจารย์เจริญชัยได้เขียนหนังสือสำาหรับนัก ลงทุนพันธุ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ที่ให้คำา แนะนำาแบบที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการศึกษา จากเหตุการณ์จริงทำาให้เราอ่านแล้วเหมือนได้ เรียนรูป้ ระวัตศิ าสตร์ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ทำาให้นักลงทุนหน้าใหม่สามารถลงทุนแบบ มืออาชีพ ไม่เป็นแมงเม่าให้สนิ้ เนือ้ ประดาตัว แค่เริ่มต้นการวิเคราะห์เทคนิคการลงทุนของ จอร์จ โซรอส นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการลงทุน ได้อย่างเข้าใจง่ายด้วยภาษา ของครูเก่งๆทำาให้เรือ่ งยากๆในการลงทุนเป็น เรือ่ งง่ายทีน่ า่ ลิม้ ลอง ผมว่าเพียงบทเดียวก็คมุ้ ราคา ๑๔๕ บาทแล้ว บทอื่นๆถือเป็นของ แถมที่อาจารย์คัดสรรมาให้อย่างดี ขอให้รวย กันนะครับ

เ»ลÕèยนมุมคÔ´´้Çย ¨ÔµÇÔ·ยาÀาค¾ÔÊ´าร

(Quirkology)

â´Â ÃÔªÒà ´ äÇÊ áÁ¹

â´Â ¨ÍË ¹ «Õ. áÁç¡« àÇÅÅ (John C. Maxwell) á»Å Çѹ´Õ ÍÀÔÃÑ¡É ¸¹Ò¡Ã Êӹѡ¾ÔÁ¾ ๪Ñè¹ºØ ¤Ê

ต่อไปคือสิ่งสำาคัญไม่แพ้กัน คือเล่มนี้ ครับ ภาวะผู้นำา ๕ ระดับ เขียนโดย จอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์ เขาเป็นนักฝึกอบรมผู้นำาชื่อก้อง โลก เขานำาเสนอภาพรวมของภาวะผูน้ าำ แต่ละ ระดับ พร้อมแบบประเมินผลที่เคยนำาไปใช้ อบรมผู้นำาองค์การทุกขนาดทุกรูปแบบมา แล้ว ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก จนถึงบริษัทที่ติด ๑๐๐ อันดับของนิตยสาร Fortune ตลอดจน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 120 ประเทศ เมื่ออ่านแล้วคุณจะทราบว่าคุณมีภาวะผู้นำา ในระดับไหน ระดับที่ ๑ ตำาแหน่งหน้าที่ เป็น จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้นำา และต้องพัฒนา ตนเอง ระดับที่ ๒ การยอมรับ เน้นสร้างความ สั ม พั น ธ์ กั บ ที ม งาน เพื่ อ ให้ ไ ด้ ก ารยอมรั บ ระดับที่ ๓ การสร้างผลงาน แสดงฝีมอื ให้เห็น พร้อมกับทำาให้ทีมงานสร้างผลงานออกมา ระดับที่ ๔ การพัฒนาคน มุง่ พัฒนาคนอืน่ ให้ เป็นผูน้ าำ ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ ระดับที่ ๕ จุดสูงสุด ได้เป็นผู้นำาที่สมบูรณ์แบบ จากนั้นเจาะลึก ภาวะผู้นำาแต่ละระดับ นำาเสนอข้อดี ข้อเสีย และกฏทองเรื่องของภาวะผู้นำาในระดับนั้นๆ เพือ่ ให้ผฝู้ กึ ฝนเกิดความเชีย่ วชาญและก้าวไป สูภ่ าวะผูน้ าำ ระดับต่อๆไป จนกลายเป็นผูน้ าำ ที่ ประสบความสำาเร็จ ได้รับการยอมรับ และ มีบารมีมากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายด้วยหนังสือทีม่ คี วามพิเศษ สำ า หรั บ นั ก อ่ า นที่ คุ้ ม ค่ า มากแห่ ง ปี นี้ คื อ เปลี่ ย นมุ ม คิ ด ด้ ว ยจิ ต วิ ท ยาภาคพิ ส ดาร ของริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยาชื่อดังของอังกฤษที่จะนำาสมาชิก HUNT สู่การทดลองทางจิตวิทยาเพื่อศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ในเรื่องที่คุณจะนึก ไม่ถงึ แต่เป็นประโยชน์ตอ่ นักอุตสาหกรรมอย่างมากมายทัง้ ในด้านการพัฒนา สินค้าหรือการบริหารคนในองค์กร ด้วยการรวบรวมผลการทดลองกว่า ๒๐๐ ชุด ที่คุณจะทึ่งจนมุมมองความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดใจ

´ÕลÑก«

¤ÇÒÁËÃÙËÃÒÊÙÞÊÔé¹Á¹µÃ àʹ‹Ë ä»ä´ŒÍ‹ҧäà â´Â Dana Thomas : á»Å âÊÀҾà ¤Çà « Êӹѡ¾ÔÁ¾ â¾Êµ ºØ ¤Ê

สาระของหนังสือเล่มนีจ้ ะเป็นประโยชน์ มากมายกับท่านผู้บริหารโรงงานที่ยังมีไฟใน การสร้างแบรนด์ หรือต้องการนำาสินค้าของ คุณเข้าสู่โลกของแบรนด์ระดับโลก เพราะ Dana Thomas ได้ศึกษาอุตสาหกรรมความหรูหรามาอย่างลึกซึ้ง โดยผ่าน การค้ น คว้ า ประวั ติ ศ าสตร์ สั ม ภาษณ์ สื บ ค้ น ข้ อ เท็ จ จริ ง และเบื้ อ งหลั ง อุตสาหกรรมนี้ไว้อย่างมากมาย ทำาให้คุณรู้ถึงที่มาของความยิ่งใหญ่ของ สินค้าระดับ “Duluxe” ว่าเป็นมาอย่างไร ดีไซน์เนอร์ของแต่ละแบรนด์คิด อย่ า งไร ทำ า อย่ า งไรจึ ง ทำ า ให้ แ บรนด์ ห รู ก ลายเป็ น สิ น ค้ า ในฝั น ของชนทุก ระดับชั้นทั่วโลก นอกจากนั้นคุณยังจะได้รู้ถึงกระบวนการปลอมแปลงสินค้า ทีผ่ บู้ ริหารโรงงานอย่างคุณจะได้เตรียมการรับมือได้ทนั ความสนุกจากข้อมูล จริงทำาให้คุณรู้วิธีสร้างมนต์ขลังและวิธีสูญสิ้นมนต์ขลังของสินค้าของคุณ

ถ้าท่านที่อ่านเล่มใดแล้วเห็นว่าเปนประโยชนและต้องการแนะนํากับ HUNT’s Books ก็ชว่ ยกรุณาอีเมลบอกเราด้วยนะครับ สําหรับเล่มไหนทีท่ า่ น แนะนํามา แล้วเรานําออกเผยแผ่ตอ่ สมาชิกจะมีของรางวัลมอบให้เปนทีร่ ะลึก เดือนนี้ขอให้ท่านเก็บเกี่ยวความรู้ของหนังสือที่ HUNT’s books นําเสนอ อย่างเต็มที่ครับ ถ้าไม่จุใจเชิญตามไปอ่านคําแนะนําหนังสือเล่มอื่นๆ อีก ต่อใน www.hunt-magazine.com แล้วคุณจะรู้ว่าปญญาคืออาวุธจริงๆ l 77

HUNT l News

Eco Industry : A Way Towards Sustainability

คุณณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจ ปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. พร้อมด้วย คุณวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการ นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คุณธานินทร์ ผะเอม รองเลขาธิการ สำ�นักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ คุณบวร วงศ์สินอุดม ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อเรื่อง “Eco Industry : A Way Towards Sustainability” หรือ อุตสาหกรรม เชิงนิเวศบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน ณ ห้องประชุม อาคาร 1 บริษัท ปตท. จำ�กัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

กกพ.แถลงผลการประชุม AERN คณะกรรมการกำ�กับกิจการพลังงาน (กกพ.) สรุปผลสำ�เร็จจากการเป็นเจ้าภาพ

จัดการประชุมเครือข่ายความร่วมมือกำ�กับกิจการพลังงานอาเซียนครั้งที่ 2 และการ ประชุมสัมมนาเชิงวิชาการนานาชาติ ครัง้ ที่ 4 เพือ่ มุง่ ผลักดันความร่วมมือกำ�กับกิจการ พลังงานอาเซียน (Asean Energy Regulators’Network -AERN) และร่วมกันกำ�หนด ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการพลังงานสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

Hazard คอลเลคชั่นใหม่

บริษัท สตาร์แฟชั่น (2551) จำ�กัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสุภาพบุรุษ Hazard คอลเลคชั่นใหม่ Hazard Spring & Summer 2013 ลวดลายสีสันสดใส โดดเด่นด้วย ดีไซน์ชั้นสูงที่มีทั้ง เสื้อโปโลแขนสั้นและแขนยาว เสื้อพิมพ์ลายแขนสั้นผ้าคอตตอน กางเกงขาสัน้ และขายาว นอกจากนีย้ งั มีเสือ้ เชิต๊ Linen ลายสก๊อตทีม่ ใี ห้เลือกมากกว่า 20 สี รวมไปถึงเสื้อคอจีน ลายสก๊อตและสีริ้ว กว่า 10 สี พร้อมคอลเลคชั่นสูท Linen ที่มีให้เลือกใช้ในโอกาสสำ�คัญๆ อีกด้วย ผู้สนใจสามารถเลือกชมและซื้อสินค้าได้ที่ แผนกเสื้อผ้าบุรุษ ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ� วสท. ฉลอง 70 ปีจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2556

นายหทั ย อู่ ไ ทย รองผู้ อำ � นวยการเศรษฐกิ จ อุ ต สาหกรรม กระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานการแถลงข่าวจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2556 ภายใน งานจัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ 70 ปี วิศวกรรมไทย ก้าวไกลไปกับ AEC โดยงาน ดังกล่าวจะจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน ศกนี้ ณ อาคาร 3 ศูนย์แสดง สินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

น้ำ�ทิพย์ ผนึกพลังรักสิ่งแวดล้อมกับ 7-Eleven

นายประกรณ์ เมฆจำ�เริญ ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การ ธุรกิจโมเดิรน์ เทรด บริษทั ไทยน้ำ�ทิพย์ จำ�กัด พร้อมด้วย นางสาวเพ็ญน้อย อุบลวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำ�กัด ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ผนึกพลังรักสิ่งแวดล้อมนำ�เสนอ น้ำ�ดื่ม “น้ำ�ทิพย์” ภายใต้ตราสัญลักษณ์ 7 Select เพื่อร่วมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่ง แวดล้อมอย่างยั่งยืน 78 l

เปิดตัวหนังสือ ‘สร้างเสน่ห์...จับใจคน’

นายสุชาติ ชวางกูร บรรณาธิการบริหารนิตยสาร HUNT ร่วม แสดงความยินดี กับ สำ�นักพิมพ์ดีเอ็มจี ในงานเปิดตัวหนังสือ ‘สร้าง เสน่ห์...จับใจคน The Charismatic Edge’ ผลงานของ โอเว่น ฟิตซแพทริค สุดยอดโค้ช NLP ผูเ้ ชีย่ วชาญศาสตร์ดา้ นการสร้างเสน่ห์ ชั้นนำ�ของโลก โดยได้เปิดเผยวิธีการสร้างพลังเสน่ห์ดึงดูดใจคน ด้วย ศาสตร์ NLP (Neuro-Linguistic Programming) กระบวนการบริหาร จัดการในระดับจิตใต้สำ�นึก ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือ ชัน้ นำ�ทัว่ ประเทศ และร้านดีบคุ๊ ส์ ชัน้ 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ราช ประสงค์ (บีทีเอสชิดลม) หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.dmgbooks. com สอบถามเพิ่มเติม โทร 0-2685-2255

รับมอบรางวัล Basil Hetzel Award

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำ�กัด (มหาชน) รับ มอบรางวัล “Basil Hetzel Award” จากสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสาร ไอโอดีน (ICCIDD) ในฐานะบุคคลดีเด่นที่อุทิศตนเพื่อผลักดันการป้องกันโรคขาดสาร ไอโอดีระดับโลกผ่านแคมเปญ “Iodine Please“ ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย

ทีเอ็นที จัดโปรโมชั่น First Time Trade

บริษทั ทีเอ็นที เอ็กซเพรส เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำ�กัด ผูน้ �ำ ด้านบริการขนส่ง พัสดุภัณฑ์ด่วนครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ เสนอโปรโมชั่น First Time Trade สำ�หรับลูกค้าทีใ่ ช้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของทีเอ็นทีเป็นครัง้ แรก โดยสินค้า มีน้ำ�หนัก 25 กิโลกรัมขึ้นไป รับฟรีทันที! บัตรของขวัญจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มูลค่า 500 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2556 สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่น First Time Trade ได้ที่สายด่วนทีเอ็นที 1721 ตลอด 24 ชั่วโมง

“สตาร์บัคส์” ร้านกาแฟสีเขียว

มร.เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ พร้อม ด้วยพันธมิตรสีเขียว บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำ�กัด และ บริษัท ดี- แลนด์ กรุ๊ป จำ�กัด ฉลองอีกก้าวความสำ�เร็จครั้งสำ�คัญในการพัฒนา “ร้านกาแฟสีเขียว” ใน ประเทศไทย ณ ร้านสตาร์บัคส์ สาขาพอร์โต้ ชิโน่ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED ระดับ Gold เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย

6 เฉดสีใหม่ รับซัมเมอร์

บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำ�กัด แนะนำ� 6 เฉดสีใหม่ของผลิตภัณฑ์สีน้ำ�อะคริลิกสำ�หรับทาภายนอก “จูเนียร์ 99” เพื่อสร้างสีสัน สู้แสงแดดรับหน้าร้อน ได้แก่ สีฟ้าคูลมิ้นต์ (Cool Mint) สีเขียวไลม์กรีน (Lime Green) สีเหลืองเยลโล่บีน (Yellow Bean) สีส้มแซลมอนเบอรี่ (Salmonberry) สีชมพูมิกซ์ เบอรี่ (Mixed Berry) และสีม่วงเบบี้เพอร์เพิล (Baby Purple) ซื้อหาได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป l 79

HUNT l Event Calendar

IP Fair 2013

Money Expo 2013

กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน ตลาดนัดทรัพย์สินทางปัญญา หรือ IP Fair 2012 ระหว่าง วั น ที่ 17-19 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00-20.00น. ณ ศูนย์ประขุมแห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ ภายในงานจัดแสดงนิทรรศการ แสดงผลงานทรั พ ย์ สิ น ทางปั ญ ญาในพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยูห่ วั และพระราชวงศ์ รวมไปถึงกิจกรรมการสัมมนา เวทีการเจรจาธุรกิจ คลินิกให้คำาปรึกษา แนะนำา และรับคำา ขอทรัพย์สนิ ทางปัญญาเคลือ่ นที ่ ฯลฯ สอบถามรายละเอียด ได้ที่ โทร. 0-2547-4696

พบกับตลาดนัดทางการเงินและการลงทุน เพื่อลูกค้า รายย่อย ธุรกิจขนาดเล็ก และเอสเอ็มอี ซึ่งมีบริการทางการ เงินและการลงทุนครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ระหว่าง วันที ่ 9-12 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามได้ท ี่ บริษทั มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด จำากัด โทร. 0-2691-4126-30 โทรสาร 0-2691-5825 หรือ : http://www.moneyexpo.net

Shopping Paradise Fair 2013 ครÑéง·Õè 4

LED Expo Thailand 2013

กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์ LED ชั้นนำา ร่วม นำาเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ LED ครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน LED Expo Thailand 2013 ระหว่างวันที ่ 23 - 25 พฤษภาคม 2556 ณ อาคาร 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานจัดจำาหน่าย ผลิตภัณฑ์ LED ส่งตรงถึงกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มผู้ซื้อใน ภาคอุ ต สาหกรรมและหน่ ว ยงานต่ า งๆ ทั้ ง ในและต่ า ง ประเทศ พร้อมเวทีการเจรจาธุรกิจ และการประชุมสัมมนา โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ สอบถามได้ที่ โทร.0-2833-5116 www.ledexpothailand.com

งานแสดงสินค้าจากผู้ผลิตและผู้จัดจำาหน่ายสินค้า แฟชัน่ เสือ้ ผ้า เครือ่ งแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า เครือ่ งประดับ แว่นตา นาิกา ตลอดจนสินค้าและบริการความงาม สุขภาพ เครื่องสำาอาง เครื่องใช้และอุปกรณ์ตกแต่ง ของขวัญ และ สินค้านำาเข้าจากแบรนด์ชนั้ นำา พร้อมการจำาหน่ายอาหารและ เครือ่ งดืม่ นานาชนิด ในระหว่างวันที ่ 23-26 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ สอบถาม ได้ที่ 0-2277-6310 / www.mac-exhibition.com

Sugar Asia & Fastener Fitting 2013 Thailand Travel and Dive Expo 2013

บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จัดงาน มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำาน้ำาแห่งประเทศไทย หรือ “Thailand Dive Expo” (TDEX) เป็นศูนย์กลางธุรกิจดำาน้าำ ของเอเชีย “The Real Diving Hub of Asia” ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่ง ชาติสิริกิติ์ สอบถามได้ที่ โทร. 0-2203 4221-24 / www. thailanddiveexpo.com

House and Condo Show

มหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 27 งานที่รวบรวม ทีอ่ ยูอ่ าศัยหลากหลายทีส่ ดุ สำาหรับผูท้ กี่ าำ ลังมองหาบ้านและ ที่พักอาศัย จัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ร่วมกับ สมาคม อาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระหว่าง วันที่ 9-12 พฤษภาคม 2556 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ณ ศูนย์ประขุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2440-1274-5 / www.housecondoshow.com 80 l

งานนิทรรศการและการประชุมเกี่ยวกับอุตสาหกรรม น้ำาตาลและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่ง Nexgen Exhibitions Pvt. Ltd. จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2556 ณ ห้องประชุม 1-4 ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดใน วงการอุตสาหกรรมน้ำาตาล และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกิจกรรมการเสวนาจากวิทยากรผูม้ คี วามเชีย่ วชาญ ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.sugarasia.net

Intermach 2013

สัมผัสเทคโนโลยีเครื่องจักรล่าสุดและเปิดตัวครั้งแรก ก่อนใคร กับ Intermach 2013 งานแสดงเทคโนโลยีเครื่อง จั ก รกลและอุ ต สาหกรรมรั บ ช่ ว งการผลิ ต เพื่ อ การจั ด ซื้ อ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค ที่นำาเสนอเทคโนโลยี เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ล่าสุดจากการผลิตทั่วโลก โดย ในปี นี้ เ ตรี ย มต้ อ นรั บ ผู้ ป ระกอบการในอุ ต สาหกรรมกว่ า 40,000 รายจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก 16-19 พฤษภาคม ศกนี้ ที่ ไบเทค บางนา

l 81

Subscribe issue 6

ÃѺÊÔ·¸Ô์໚¹ÊÁÒªÔ¡

¿ÃÕ 1 »‚ (12 ©ºÑº)

MAGAZINE หมดเขต 31 พฤษภาคม 2556

•• à¾Õ§¡Ã͡ẺÊͺ¶ÒÁáÅÐÊ‹§¡ÅѺÁÒ·Õ่ºÃÔÉÑ· ÃÕà¨Õ้¹ÅÔ้§¤ ¨Ó¡Ñ´ •• 81,83,85 ¶¹¹¹ÃÒ¸ÔÇÒÊÃÒª¹¤ÃÔ¹·Ã á¢Ç§ª‹Í§¹¹·ÃÕ à¢µÂÒ¹¹ÒÇÒ ¡ÃØ§à·¾Ï 10120 â·Ã 0 2678 2224 µ‹Í 113 á¿š¡« 0 2678 2229 ËÃ×Í P.O.Box 11 Queen Sirikit National Convention Center Post Office 10342 www.hunt-magazine.com ẺÊͺ¶ÒÁ¤ÇÒÁ¤Ô´àË繢ͧ¼ÙŒÍ‹Ò¹ HUNT Magazine ชือ่ (นาย/นาง/นางสาว)....................................................................นามสกุล....................................................................เพศ................. อายุ ● ต่ำากว่า 25 ปี ● 25-40 ปี

● 40-55 ปี ● 55 ปี ขึ้นไป

ที่อยู่ (สำาหรับการจัดส่งนิตยสาร)......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... โทรศัพท์มอื ถือ..........................................................Email................................................................................................................. อาชีพ ● รับราชการ ● พนักงานบริษัท ● ธุรกิจส่วนตัว ● นักเรียน/นักศึกษา ● อื่นๆระบุ........................................ ตำาแหน่ง.........................................................................................บริษทั ............................................................................................ ระดับการศึกษาสูงสุด ● มัธยมศึกษา ● ปวช./ปวส. ● ปริญญาตรี

● ปริญญาโท

รายได้ / เดือน (บาท)

● 30,000-50,000

● 50,000-100,000 ● >100,000

● LINE

● Twitter

● < 30,000

● สูงกว่า

Social Network ที่ใช้ประจำา ● Facebook

● Instagram

● Whats App

● อื่น ๆ โปรดระบุ ................................................................................................................................................................... เหตุผลที่ท่านเลือกอ่าน HUNT Magazine ● ปก

● เนื้อหาภายในเล่ม

● รูปแบบการนำาเสนอ

● อื่นๆ โปรดระบุ ................................................................................................................................................................. เนื้อหาใน HUNT Magazine ที่ท่านสนใจมากที่สุด (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) ● Cover Story ● Fashion

● Gadget

● Sport

● Interview

● Hobbies ● Industry Highlight ● Biz People

● Fengshui

● Health

● Technology ● Management

● Men’s Item

● Report

● Overview ● Novel

● Buddhism Management

● อื่นๆ...................................................................................................................................................................................... ท่านได้รับ HUNT Magazine จากที่ใด ● ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ● สภาอุตสาหกรรม ● นิคมอุตสาหกรรม

● งาน Event

● ไปรษณีย์

● อื่นๆ โปรดระบุ.....................................................................................................................

● ข้อเสนอแนะเพิม่ เติม................................................................................................................................................................

82 l

l 83

84 l