HUNT Magazine Issue 1

MAGAZINE

••COMPLIMENTARY COPY•• For Selected Persons Only

The NEW ERA

of ASEAN

โฉมใหม่เศรษฐกิจอาเซียน

ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย วิเคราะห์พลังบวกในพม่า

ว.วชิรเมธี แนะเส้นทาง

ug Iss urat ue ion

หนีกับดักนักบริหาร

Ina

ISSUE 1 : DECEMBER 2012

for the best opportunities in industrial community

ผ่านแล้งไร้ได้เมฆฝนดลดินชุ่ม ผ่านเมฆคลุมฟ้าหมองค่อยผ่องใส ผ่านน้ำ�หลากจึงรู้ค่าผืนป่าไพร ผ่านผองภัยจึงรู้ซึ้งแหล่งพึ่งพา พระเมตตาอาทรดับร้อนเข็ญ น้ำ�พระทัยใสเย็นชโลมหล้า ทุกหนแห่งรอยพระบาทที่ยาตรา ชุบชีวาชื่นหัวอกพสกนิกร ๕ ธันวา มหามงคล ชนทั้งชาติ อภิวาทน์ราชสดุดีสโมสร ทุกดวงใจน้อมหมายถวายพระพร มิ่งขวัญราษฎร “ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการนิตยสาร HUNT บริษัท รีเจี้ยนลิ้งค์ จำ�กัด

คำ�ประพันธ์: จิระนันท์ พิตรปรีชา ศิลปิน: ยุทธนา พงศ์ผาสุก

4l

l5

Contents www.hunt-magazine.com

Editor’s Talk

10

Cover Story

12

The New Era of Asean โฉมใหม่...เศรษฐกิจอาเซียน

Hobbies 50 Classic Car ของสยาม เศรษฐบุตร

Fashion 52 MEN Mix & Match

Report 18

Men’s Items

Asean Business Travel card

Index Focus

จับตาเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจไทย 2013

12

20 HUNT l MEN Mix & Match

Winter Gentleman

Vision 22

Text: Nitnada Panpipat

เสน่ห์ของฤดูหนาวในเมืองไทยนั้นคืออากาศที่ไม่เย็นจัดเหมือนประเทศทางฝั่งตะวันตกแต่เย็นสบายพอดี ให้คุณผู้ชายได้เลือกหาเสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่น มาเติมสีสันให้กับการแต่งตัวในช่วงปลายปีแบบนี้ ด้วยการเลือก เครื่องแต่งกายที่มีดีเทลของไหมพรม ลายสก๊อตและการใส่เสื้อแจ็คเก็ตนั้นแลดูเหมาะสมที่สุด

• ทิศทางสู่อนาคตกับพลวัตของอาเซียน • Gateway to Asean

Charming

Look1:

Interview 28 อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร กับ AEC โอกาสใหม่ของนักลงทุนไทย

Formal

and

TNGT เสื้อเชิ้ตลายสก๊อต 2,690 บาท

เสื้อสูทผ้าวูลเพิ่มความอบอุ่น และเนื้อผ้าที่มีน้ำ หนัก และสัมผัสที่แตกต่างเพิ่มความโก้ ให้กับลุคเป็นทางการ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสูทพอดีตัว กับเสื้อเชิ้ตและเนคไทลายสก็อต ดูแปลกตาแต่นี่เป็นเวลา ของลายนี้ไม่ใช่เหรอ?

TNGT เนคไทลายสก็อต 1,990 บาท

Calvin Klein กางเกงผ้าสีดำ 10,900 บาท

พม่า กับพลังแห่งความสำ�เร็จ

52

52 l

กับดักนักบริหาร

Travel 38 Cool Experience in Swiss

Day Trip

สระแก้วขึ้นกล้อง พาท่องกาสรกสิวิทย์

44

Gadget 46 Nokia Smart Phone • ASUS Leica X2 Paul Smith • Electrolux

Technology

Cor-Tek นวัตกรรมแห่งสารเคลือบ กระจกกันความร้อนแห่งยุค สุดยอด ผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ ECO-PRODUCT

48

HUNT l Dining

6l

People 60 Change & Challenge กลกิตติ์ เถลิงนวชาติ

Health 62

อาการปวดหลัง เรื่องธรรมดา ที่ (ไม่) ธรรมดา

Dining 68 • aLL SiX to Twelve • Dune Bar & Restaurant

Movies

Twelve

“สถานที่พร้อมรอต้อนรับคุณ ไม่ว่าเวลาไหน” แค่ได้ยินใคร พูดประโยคนี้ให้ฟัง ถ้าไม่แวะเวียนมาสักครั้งคงจะใจร้ายเกินไป สักหน่อย ยิ่งเจ้าของสโลแกนอย่างร้าน aLLSiX to Twelve พร้อมรอ ต้อนรับตั้งแต่หกโมงเช้ายันเที่ยงคืน แถมอยู่ในย่านกลางเมืองอย่าง ซอยหลังสวน คงไม่มีใครอยากปฏิเสธ

ร้าน aLLSiX to Twelve หาไม่ยาก เนื่องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ของอาคารหรูเฟรเซอร์เพลสเออร์บานา หลังสวน เซอร์วิสเรสซิเดนท์ บรรยากาศรอบนอกจึงมีทั้งความสงบเงียบให้ความเป็นส่วนตัว แต่ ขณะเดียวกันก็เป็นอีกโลกของความผ่อนคลาย เพียงแค่หลบออก จากถนนสายหลักของหลังสวนเท่านั้น การเข้าสู่ตัวร้านสามารถผ่าน มาจากล็อบบี้ของอาคารเฟรเซอร์ฯ หรือจะผลักประตูไม้บานหนา หนั ก ด้ า นหน้ า เข้ า มาภายในร้ า นถู ก จั ด แต่ ง ให้ ค ล้ า ยกั บ ห้ อ งใต้ หลังคาของบ้านแบบตะวันตก เพดานสูง ปูนเปลือย บุกระจกใสโดย รอบ ขณะที่อีกมุมก็ให้อารมณ์ของความอบอุ่นด้วยการจำาลองห้อง ครัวส่วนตัวมาไว้ในส่วนของบาร์เปิด ที่สามารถเชื้อชวนผองเพื่อน ให้มาสังสรรค์ในยามว่าง

อารมณ์ของร้าน aLLSiX to Twelve ไม่ว่าจะเข้าแวะเวียน เข้ามาเวลาไหนก็ดูเหมือนจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้เข้ากันได้ในทุก โมงยามราวกับเนรมิต อาจเป็นด้วยการตกแต่งที่เน้นความเรียบ แต่ หรูอยู่ในที แถมมีมุมอารมณ์อุ่นๆ ราวกับกำาลังนั่งทานอาหารอยู่ใน

70

ตำ�นานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี / The Hobbit / Wreck It Ralph

aLL SiX

Books 71 Adaptability / What colour is your parachute Fascination of GOLF / Corvette Sixty Years บ้านส่วนตัว เสน่ห์ที่สำาคัญอีกประการของที่นี่ คืออาหารที่เรียกได้ ว่าเป็นอาหารลูกผสม ที่รวมเอาหน้าตาของหลากหลายวัฒนธรรม แต่คนที่คุ้นลิ้นกับอาหารไทยก็ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่อาหารหน้าตา จะออกสากลก็จริง แต่เน้นรสพื้นฐานแบบไทย อย่างเมนูที่ชื่อว่า โมจิลาบเป็ด ชื่อญี่ปุ่นแต่รสชาติแซบแบบไทย แซมกลิ่นเครื่องเทศ ที่เกิดจากการนำาสะโพกเป็ดสับมาคั่วกับพริกป่น รากผักชีสับ ผักชี ใบเลื่อยสับ หอมแดงสับ หอมเจียว เนื้อแป้งให้ความรู้สึกเหมือน ทานข้าวเหนียวกับลาบอย่างไรอย่างนั้น ใครที่ชอบเสต็ก สามารถ สั่งสะเต๊ะสเต็กเป็นเนื้อสันนอกจากออสเตรเลียหมักกับเครื่องปรุง และเครื่องเทศก่อนจะนำาไปย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำาจิ้มและอาจาดแบบ สะเต๊ะแบบครบเซ็ต ส่วนเครื่องดื่มที่หาที่ไหนไม่ได้ แต่ที่นี่มีให้ลอง คือ Yakuzaเสิร์ฟมาในช็อตเล็กๆ กลิ่นหอมหวานของสาเก ผสม เจลาตินและ Beer

ไม่ว่าเช้า สาย บ่าย หรือเย็น หากมาที่ aLLSiX to Twelve รับรองว่าคุณจะไม่มีเวลาของความเบื่ออีกต่อไป

aLLSiX to Twelve

68

อาคารเฟรเซอร์เพลสเออร์บานา ถ.หลังสวน ลุมพินี เปิดบริการ : 6.00 น.-24.00 น. สำารองที่นั่งได้ที่ 02 250 6799 facebook.com/allsixtotwelve 68 l

ลุ้นไทยจัดการแข่งขัน Formula1 Grandprix of Thailand

PORSCHE Panamera Platinum Edition

TNGT รองเท้าหนังสีดำ 5,990 บาท

Buddhism Management 36

Sport 58

Automobile 64

Calvin Klein สูทสีดำ 19,900 บาท

Fengshui 32

Style Hunt

56

News 72

ข่าวประชาสัมพันธ์

Events 74 ปฏิทินกิจกรรมเดือนธันวาคม 2555

Subscribe 78

l7

Contributors พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี

ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ นักวิชาการอิสระ และนักเขียนเจ้าของ นามปากกา “ยุค ศรีอารยะ” เคยมีผลงาน เขียนบันทึกกบฏ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ ความคิดของนักศึกษาในยุค 14 ตุลา ก่อน จะเดินทางไปศึกษาเรือ่ งระบบโลกในสหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นนักคิดนักเขียนที่ใช้ทฤษฎีระบบ โลกมาอธิบายปรากฏการณ์ทเี่ กิดขึน้ ในสังคม ไทยแล้ว ยุคยังสนใจเรื่องของประวัติศาสตร์ และศาสนา ทำ�ให้งานเขียนล่าสุดคือ “รื้อ ราก...ประวัติศาสตร์สยาม” ถือเป็นงานที่ ลุ่มลึกและน่าสนใจสำ�หรับผู้ที่สนใจรากของ ความเป็นเอเซีย

ท่านเป็นพระนักเทศน์ นักคิด นักเขียน เจ้าชองนามปากกา ว.วชิรเมธี ที่เข้าถึงคน รุน่ ใหม่และทุกเพศทุกวัยโดยสามารถเผยแผ่ ธรรมะที่ใครต่อใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากให้ กลายเป็นเรื่องง่าย และทำ�ให้ธรรมะได้กลาย เป็ น เส้ น ทางนำ � ชี วิ ต ได้ ใ นทุ ก สถานการณ์ ปัจจุบันนอกจากคงเดินหน้านำ�มวลชนให้ เข้ า สู่ เ ส้ น ทางแห่ ง ธรรม ทั้ ง ในฐานะสงฆ์ ผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ ยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน วิมุตตยาลัย ที่ตั้งขึ้นเพื่อศึกษา วิจัย ภาวนา และเผยแพร่ ภู มิ ปั ญ ญาทางพุ ท ธศาสนาสู่ ประชาคมโลก ภายใต้หลักการ “พุทธศาสนา เพื่อสันติภาพโลก”

ถิรพร เนาว์ถิ่นสุข ในวงการคนรักรถคุ้นเคยกันดีสำ�หรับ ชื่อ “น้าตั๋ม” หรือ “ถิรพร เนาว์ถิ่นสุข” เพราะ นอกจากจะเป็นสุดยอดนักทดสอบรถยนต์ ระดั บ หั ว แถวแล้ ว ถิ ร พรยั ง เป็ น เจ้ า ของ ธุรกิจนิตยสารราย 6 เดือน ที่มีชื่อว่า ON THE ROAD ที่มีคอนเซปท์ในการนำ�เสนอ เนื้อหาเกี่ยวกับสมรรถนะของรถยนต์ทุก ระดับ และเป็นเจ้าของรายการวิทยุ “คุยกัน หลังไมค์กับน้าตั๋ม” ออกอากาศทาง FM 101 Mhz ในวันเสาร์และอาทิตย์อีกด้วย

อภินันท์ อภิบาลศรี เข้ า สู่ ว งการกี ฬ าโดยเริ่ ม จากการเป็ น ผู้ สื่ อ ข่ า วกี ฬ าของช่ อ ง 3 ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวกีฬาช่อง 5 ผ่านประสบการณ์การทำ�ข่าวมหกรรม กีฬามาแล้วทุกรายการ อาทิ ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์,โอลิมปิกเกมส์, ฟุตบอล โลกมวยสากลสมั ครเล่ น ชิ ง แชมป์ โ ลก ปั จ จุ บั น เป็ น ผู้ ป ระกาศข่ า วกี ฬ า ช่อง 5 ผู้ประกาศประจำ�ศูนย์ข่าววิทยุกองทัพบก อาจารย์พิเศษภาควิชา นิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ล่าสุดเป็นหัวหน้าแผนก ประชาสัมพันธ์ ให้ทีมฟุตบอลบางกอกกล๊าส

ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ นักเขียนการ์ตนู การเมืองใช้นามปากกา ว่า “หมอ” มีผลงานการวาดภาพปรากฏอยู่ ในหนังสือพิมพ์ และนิตยสารชั้นนำ�มากมาย เป็ น หนึ่ ง ในที ม งานเขี ย นภาพประกอบใน พระราชนิพนธ์เรื่อง ทองแดง ฉบับการ์ตูน ได้ รับการยอมรับในระดับนานาชาติการันตีดว้ ย รางวัล The ESCAP 50th Anniversary Cartoon Exhibition, Third Prize in 1997 ในวาระ ครบรอบ 50 ปี ESCAP และ The Aydin Dogan Foundation’s Cartoon Competition Award 2007 ประเภท “Success Award” ที่ ประเทศตุรกี

8l

อ.มาศ เคหาสน์ธรรม

ผูบ้ ริหารสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุย้ แห่ง ประเทศไทย แม้จะร่ำ�เรียนมาทางสายวิชาการ อย่างพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และรัฐประศาสนศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่อีกด้านหนึ่ง อ.มาศ กลับสนใจในศาสตร์ ฮวงจุ้ ย โดยทุ่ ม เทค้ น คว้ า ศึ ก ษาจากบรรดา ปรมาจารย์ชั้นนำ�ในเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง กระทั่งทุกวันนี้ชื่อของ อ.มาศ เคหาสน์ธรรม กลายเป็ น ที่ ชื่ อ ที่ ไ ด้ รั บ การยอมรั บ ในฐานะ อาจารย์ ท างด้ า นฮวงจุ้ ย ที่ ใ ห้ คำ � ปรึ ก ษากั บ หลายองค์กรชั้นนำ�

วสุ แสงสิงแก้ว

อดีตนักร้องนำ�วงพลอย หลังจบการ ศึ ก ษระดั บ ปริ ญ ญาโทจากสหรั ฐ อเมริ ก า เข้าทำ�งานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ดู แ ลกรมอาเซี ย น, กรมยุ โรป และดำ � รง ตำ�แหน่งเลขานุการรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง การต่างประเทศ ในสมัยของนายประจวบ ไชยสาสน์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ปัจจุบันเป็นข้าราชการการเมือง ในตำ�แหน่ง คณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภา นั ก เขี ย นอิ ส ระ มี ผ ลงานเขี ย นหนั ง สื อ ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มากมาย

l9

Editor’s Talk สวัสดีครับ ผู้บริหารที่รักทุกท่าน

ขอบคุณที่เปิดอ่าน ถึงตรงนี้ ทำ�ไมต้อง “HUNT”? เป็นคำ�ถามแรกๆ ที่ได้รับเสมอ สาเหตุที่เป็น “HUNT” เพราะเรารู้ว่าธรรมชาติของผู้บริหารนั้น ต้องการอะไรที่ดีที่สุดเสมอ

สิ่งที่ดีที่สุดไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้ากันได้ง่ายๆ ซะเมื่อไหร่ ต้องขวนขวายค้นหา ล่ากัน สุดขอบฟ้าเสมอ จึงเป็นที่มาของคำ�ว่า HUNT นิตยสาร สำ�หรับการค้นหาเพื่อโอกาสที่ดีที่สุด ในทุก มุมมองของชีวิต ทั้งทางด้านธุรกิจ และชีวิต...ส่วนตัว

เราเริ่มฉบับปฐมฤกษ์ด้วยเนื้อหาที่จะช่วยคุณเตรียมตัวตั้งรับ หรือรุกไล่การเปลี่ยนแปลงที่กำ�ลัง จะมาถึงในอีก ๒ ปี ข้างหน้า โดยนำ�เสนอเป็น series ถึงผลกระทบจาก AEC หลากแง่มมุ ๓ ฉบับเข้มข้น

เริ่มที่ AEC คืออะไร? เมื่อไหร่? ใครจะมีผลกระทบอย่างไร? และ ทำ�ไมต้อง AEC? คำ�ตอบ ทั้งหลายจะถูกรวมรวมไว้ให้คุณค้นหากันได้ที่นี่

หนุ่มนักบริหารทั้งหลาย ที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องแต่งตัวกันนัก นอกจากจะมีองค์พิเศษเป็นทุน เกื้อหนุนอยู่ภายใน ก็ต้องมาแสวงหากันตอนขึ้นเป็นผู้บริหารนี่แหละครับ ซึ่ง HUNT ก็เตรียมพร้อมให้คุณ ได้เลือกหาเสื้อผ้าที่เหมาะกับคุณในทุกโอกาส รวมทั้งของเล่น gadget ต่างๆ ที่หนุ่มๆ สนใจ...

เรือ่ งของจิตวิญญาณก็ละเลยไม่ได้“กับดักนักบริหาร”คืออะไร?อ่านได้จากบทความของอาจารย์ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)

และเรื่องราวอีกมากที่คุณผู้ชายนักบริหารมืออาชีพ...ต้องใส่ใจ

แน่นอนครับ เมื่อเริ่มอะไรใหม่ ความคิดใหม่ๆ ไอเดียดีๆ ก็อยากให้คุณช่วยกันแนะนำ� บอกเล่าสิ่งเหล่านั้น เพื่อให้เราได้เป็นเพื่อนสนิทคนใหม่ของคุณวันนี้ ถึงตรงนี้ ผมขอกล่าวต้อนรับทุกท่านที่ต้องการก้าวไปค้นหา“ล่า”โอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตกับ HUNT Magazine ตามสัญชาตญาณในดีเอ็นเอของผู้ชายทุกคน

สุชาติ ชวางกูร Editor in Chief

Magazine บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา สุระ ธนานาถ กรรมการบริหาร มณเธียร ธนานาถ บรรณาธิการบริหาร สุชาติ ชวางกูร บรรณาธิการอำ�นวยการ ทิพย์วรรณ ศิลป์สกุลสุข บรรณาธิการ ณัตตินา สุวัฒวิตยากร ฝ่ายโฆษณา ธีรศักดิ์ อมรชัยเจริญสุข • เปรมชัย ซิงห์ ฝ่ายศิลปกรรม ปรมาภรณ์ สิทธิสุนทร ภาพปก ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ นักเขียนกิตติมศักดิ์ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี • ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ • ถิรพร เนาว์ถิ่นสุข • อ.มาศ เคหาสน์ธรรม วสุ แสงสิงแก้ว • อภินันท์ อภิบาลศรี • นิตนดา พันธุพิพัฒน์ บริษัท รีเจี้ยนลิ้งค์ จำ�กัด 81,83,85 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 โทร 02 678 2224 ต่อ 113 แฟ็กซ์ 02 678 2229 แยกสีและพิมพ์ บริษัท โรงพิมพ์ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์ จำ�กัด (มหาชน) 125 ซอยจันทน์ 32 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 10 l

l 11

HUNT l Cover story

The

NEW ERA of ASEAN โฉมใหม่เศรษฐกิจอาเซียน

นพัช : เรื่อง ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ : ภาพประกอบ

12 l

•• การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน (single market and single production base) จะเป็นยุทธศาสตร์ที่สำ�คัญ เพราะการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน จะช่วย เสริมสร้างศักยภาพของอาเซียนในการเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก และนำ�ไปสู่กำ�ลัง ศักยภาพที่จะแข่งขันกับนานาประเทศได้ทั้งในแง่การผลิต ส่งออก และบริการ ••

ประชากร 580 ล้านคน GDP ขนาด 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ การค้าระหว่างประเทศ 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก

นี่คือภาพคร่าวๆ ที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่ อ ประชาคมเศรษฐกิ จ อาเซี ย น (Asean Economics Community)หรือ AEC ขับ เคลื่อ นอย่า งเป็นทางการใน ปี 2558 ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำ�ไม 10 ประเทศ ในอาเซียน จึงร่วมแรงร่วมใจกันเดินหน้าในเรื่องนี้อย่าง เต็ ม พิ กั ด และในช่ ว งนี้ ใ ครต่ อ ใครต่ า งพู ด ถึ ง AEC กั น เป็นทิวแถว

ลองคิดดูสิ เมื่อจู่ๆ เรือที่ล่องหาปลาอยู่แต่ในทะเล บ้านเราจะต้องแล่นออกไปหาปลาในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้น

ด้วยเหตุนี้ในภาพใหญ่ของประเทศไทยเองจึงต้อง วางยุทธศาสตร์เพื่อบังคับหางเสือเรือนั้นให้มั่น และในภาพ เล็ก ผู้ประกอบการไทยเอง ก็ต้องตื่นตัว เตรียมความพร้อม ไม่วา่ จะเป็นในเชิงรุกเพือ่ ฉวยโอกาสขยับขยายตัวเองออกไป หาปลาในมหาสมุทรนั้น หรือในเชิงการตั้งรับกับการแข่งขัน ที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อจำ�นวนเรือมีเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายใน ท้องมหาสมุทรเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าจะมองในมุมไหน การศึกษา ทำ�ความเข้าใจ ย่อมทำ�ให้มีความได้เปรียบอย่างแน่นอน

2558 อะไรจะเกิดขึ้น

“ทำ�ไมเราจะต้องรวมตัวด้วย เมื่อทุกวันนี้ก็ค้าขาย ดีอยู่แล้ว แล้วเจ้า AEC นี่ น่าจะทำ�ให้ผู้ประกอบการเล็กๆ เดือดร้อนก็เป็นได้”

เชื่อว่าหลายคนตั้งคำ�ถามนี้ในใจ และอดคิดต่อไป ไม่ได้ว่า ถ้าเช่นนั้นแล้ว ปี 2558 อันเป็นปีเป้าหมายของ AEC จะเป็นเช่นไร ที่สำ�คัญ ก่อนที่จะถึงวันนั้นในช่วง 3 ปีต่อจาก นี้เราควรจะปรับตัวอย่างไรบ้าง

คำ�ตอบของคำ�ถามที่สั้นๆ คือ การรวมตัวกันเช่นนี้ จะนำ�มาซึ่งเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น และช่วยสร้างอำ�นาจการต่อ รองในเวทีต่างๆ ในยุคเศรษฐกิจมือใครยาวสาวได้สาวเอา มากขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดูที่แนวคิดความเป็นมาของ AEC กัน ก็จะพบว่า AEC เป็นการรวมตัวของชาติในอาเซียน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และบรูไน เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะมีร่วมกัน

ว่ากันถึงใจความสำ�คัญ ของ AEC อาจดูได้จาก AEC Blueprint หรือ พิมพ์เขียว ซึ่งเป็นแผนที่ประเทศสมาชิก ในอาเซียนทำ�ร่วมกัน เพื่อให้เห็นภาพรวมในการมุ่งไปสู่เป้า หมาย AEC ในปี 2558 ดังนี้ • การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน • การเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง • การเป็นภูมิภาคที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน • การเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก ทัง้ นี้ ดูเหมือนว่า การเป็นตลาดและฐานการผลิต เดียวกัน (single market and single production base) จะ เป็นยุทธศาสตร์ที่สำ�คัญ เพราะการเป็นตลาดและฐานการ ผลิตเดียวกัน จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของอาเซียนในการ เป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก และนำ�ไปสู่กำ�ลังศักยภาพที่ จะแข่งขันกับนานาประเทศได้ทั้งในแง่การผลิต ส่งออก และ บริการ ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนย้ายปัจจัย l 13

•• สิ่งที่อาจจะทำ�ให้ไทยต้องเสียเปรียบในการเปิด AEC และน่ากลัวกว่าการไหลเข้ามาของสินค้า ต่างประเทศ คือ ปัญหาที่ต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นจากคนไทย จนทำ�ให้ธุรกิจไทยถูกเปลี่ยนมือไปเป็น ธุรกิจของต่างชาติได้ง่ายขึ้น อย่างการเปิดเสรีการค้าบริการ ได้มีข้อตกลงให้นักลงทุนอาเซียน สามารถถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นถึง 70% •• การผลิตได้อย่างเสรีมากขึ้น AEC Blueprint จึงกำ�หนดการ เคลื่อนย้ายเสรีที่ว่านี้ ใน 5 ด้านคือ • การเคลื่อนย้ายสินค้าเสรี • การเคลื่อนย้ายบริการเสรี • การเคลื่อนย้ายการลงทุนเสรี • การเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรีขึ้น • การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรี

คำ�ว่า เสรี ใน 5 ด้านนี้มีผลให้นักลงทุนในอาเซียน สามารถลงทุน ค้าขาย ได้อย่างเสรีในสาขาอุตสาหกรรม และบริการที่ประเทศสมาชิกอาเซียนเปิดให้ โดยอาเซียนได้ กำ�หนด 12 สาขาอุตสาหกรรมสำ�คัญลำ�ดับแรกที่อยู่ภายใต้ ตลาดและฐานการผลิตเดียวกันของอาเซียน ได้แก่ เกษตร ประมง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ การขนส่งทางอากาศ สุขภาพ ท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และ e-ASEAN*

อย่างไรก็ตาม การที่จะทำ�ให้เกิดการเคลื่อนย้าย เสรี จำ�เป็นที่ประเทศสมาชิกจะต้องดำ�เนินมาตรการต่างๆ เช่น การยกเลิกภาษีศลุ กากรระหว่างสมาชิก การเปลีย่ นแปลง กฎระเบียบต่างๆ ยกเลิกอุปสรรคทางการค้าอื่นๆ โดยการ ลดภาษีระหว่างสมาชิกนั้น มีเป้าหมายคือการลดให้เหลือ 0% ในทุกสินค้า จะมีการยกเว้นเอาไว้ก็เฉพาะสินค้าที่อยู่ในบัญชี อ่อนไหว ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทั้ง ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และบรูไน ต่างยกเลิกภาษีเป็นผลสำ�เร็จแล้ว ใน ขณะที่กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะยกเลิกภาษีภายใน ปี 2558

เพียงเฉพาะแค่ยุทธศาสตร์การเป็นตลาดและฐาน การผลิตเดียวกัน ก่อเกิดการเคลื่อนย้ายเสรีทั้ง 5 ด้าน ก็ ย่อมทำ�ให้สภาพแวดล้อมการทำ�ธุรกิจแปรเปลี่ยนไป การ ลดต้นทุนธุรกรรม ทำ�ให้สามารถนำ�เข้าสินค้าและวัตถุดิบ ระหว่างประเทศอาเซียนมีราคาถูกลง ยิ่งทำ� ให้เกิดความ ตื่นตัว บรรยากาศการค้าและการลงทุนคึกคัก และที่สำ�คัญ ผู้ประกอบการมีโอกาสทางการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นในตลาด

ระหว่างประเทศ โดยมีการคะเนกันด้วยว่า การค้าขายจะ ขยายตัวอย่างน้อย 25% ในบางอุตสาหกรรม เช่น การ ท่องเที่ยว อุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น

ขณะเดียวกันการเคลือ่ นย้ายแรงงานฝีมอื อย่างเสรี ในอาเซียน ซึ่งจากข้อตกลงการยอมรับร่วมด้านวิชาชีพของ อาเซียน 7 สาขา ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกร สถาปนิก ช่างสำ�รวจ พยาบาล และนักบัญชี ย่อมทำ�ให้วิชาชีพเหล่านี้ มีโอกาสย้ายเข้าไปทำ�งานในประเทศสมาชิกมากขึ้น

ภาพการเคลื่อนย้ายเสรีที่จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปี ข้าง หน้า จึงทำ�ให้เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน อุตสาหกรรมธุรกิจ รวมถึงผู้คนในภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่คาดไม่ถึง ทีเดียว

โอกาส VS ภัยคุกคาม

เมื่อตลาด 60 ล้านคน กลายเป็นตลาดที่มีถึง 580 ล้านคน ก็แล้วทำ�ไมจะไม่กลายเป็นโอกาสอันดีสำ�หรับผู้ ประกอบการเล่า?

แต่แน่แหละว่าโอกาสที่ว่าไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกๆคน เปรียบเสมือนเหรียญที่ยังมี 2 ด้าน ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจึง ต้องมีภัยคุกคามหรืออุปสรรคควบคู่กันไปเสมอ เฉกเช่น เดียวกัน AEC ที่แม้ดูเผินๆ จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เติบโต ในตลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ�ลงอันเนื่อง มาจากการเคลื่อนย้ายเสรี แต่กระนั้น ก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะ ต้องเผชิญกับภัยคุกคามหรืออุปสรรค ซึ่งการที่จะก้าวข้าม กำ�แพงอุปสรรคนั้นไปได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเตรียมพร้อมรับมือ มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

ถ้าว่ากันถึงเรื่องโอกาส ดูเหมือนว่าที่ชัดเจนที่สุด คือสภาพภูมิประเทศของไทย ที่มีความได้เปรียบตั้งอยู่ใน จุดเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศ ที่ เชื่อมประเทศทางเหนือกับใต้ เชื่อมประเทศทางตะวันตกกับ ตะวันออกได้เป็นอย่างดี หรือพูดง่ายๆ คือ ไทยเป็น “สะพาน เศรษฐกิจ” ที่ผู้คนจะต้องข้ามผ่านสะพานนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้

*e-ASEAN คือข้อตกลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ให้มีคณะทำ�งานดำ�เนินการความร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียนใน 5 ด้าน คือการวางพื้นฐานด้าน สารสนเทศของอาเซียน โดยมีการวางผังโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำ�แสงสนับสนุนให้เกิดศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลของอาเซียน สอง การส่งเสริมและอำ�นวยความ สะดวกในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ เช่น มีกฏหมายรองรับการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล สาม การเปิดเสรีด้านการค้า การบริการ และการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านอิเล็กทรอนิกส์ สี่คือให้เกิดสังคมอิเล็กทรอนิกส์ ที่ประชาชนจะสามารถใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ห้าคือ สร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ให้บริการประชาชนโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ไม่ว่าการเสียภาษี การจดทะเบียนการค้า ฯลฯ

14 l

โอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ศูนย์กระจาย สินค้า โลจิสติกส์ รวมถึงการพัฒนาตัวเองเป็น Hub ในด้าน ต่างๆ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด

ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสุขภาพซึ่งไทยมีข้อได้เปรียบ ทั้งในแง่ความรู้ความสามารถทางการแพทย์ การบริการ ซึ่งหากสังเกตจะพบว่าคนไข้จากต่างประเทศหลั่งไหลเข้า มารักษาตัวที่เมืองไทยสูงมาก จนอาจกล่าวได้ว่ามากกว่า ประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ดังนั้น การเปิด AEC จึงเอื้อ ประโยชน์ท�ำ ให้ไทยมีตลาดทีใ่ หญ่ขนึ้ อันเนือ่ งมาจากการเดิน ทางในอาเซียนที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้การยกเลิกกำ�แพงภาษี ทำ�ให้ ผู้ประกอบการในฐานะผู้ผลิต ผู้ส่งออก สามารถใช้ประโยชน์ จากนำ�เข้าสินค้าและวัตถุดิบจากอาเซียนในราคาถูกลง มา สร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนของสินค้าและบริการ เพื่อ การส่งออกไปยังประเทศอื่นนอกอาเซียน แต่ในอีกด้าน หนึ่ง ผู้ประกอบการ อาจถูกสินค้าหรือบริการของประเทศ ในอาเซียนด้วยกันนี่แหละ ที่อาจจะมีความหลากหลายกว่า มีคุณภาพดีกว่า หรือราคาถูกกว่า เข้ามาแข่งขันหรือแย่ง ตลาดไปก็เป็นได้เช่นกัน ที่สำ�คัญคืออาจมีการย้ายฐานการ ผลิตไปยังประเทศอาเซียนอื่น เช่น ประเทศที่มีทรัพยากร และค่าแรงถูกอย่าง พม่า กัมพูชา และเวียดนาม หรือถ้าเป็น เรื่องของเทคโนโลยี นวัตกรรม ไอที การบริการ ก็อาจย้าย ฐานไปยังสิงคโปร์ และมาเลเซียก็เป็นได้

การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี ยังอาจนำ�มาซึ่งปัญหา สมองไหลไปสู่องค์การของต่างชาติทั้งในและนอกประเทศ ไทย ที่ถูกจูงใจด้วยค่าตอบแทนที่สูงกว่า เช่น การเคลื่อน ย้ายของผูป้ ระกอบวิชาชีพแพทย์ทีอ่ าจนำ�มาซึง่ ปัญหาความ ขาดแคลนในประเทศ

ทั้งนี้ ปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานนี้ ยังส่งผล ต่อไปยังฝ่ายทรัพยกรบุคคลของหลายองค์กร ต้องเตรียม ปรับตัว ในการสรรหาวิธีการที่จะจูงใจให้คนเก่งมีฝีมืออยู่ ในองค์การให้นานที่สุด ทั้งนี้เพื่อรักษาศักยภาพของตนให้ สามารถแข่งขันได้

อย่างไรก็ดี เราต้องยอมรับว่าทักษะทางภาษา อังกฤษของคนไทยอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ� ดังนั้น นี่จึงเป็น โจทย์ใหญ่ที่คนไทยต้องแก้ไขพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว เพราะท่ามกลางการเคลื่อนย้ายอย่างเสรี อาจมีทั้งการย้าย ฐานการผลิตออกไปสู่ประเทศอื่น การค้าขายกับประเทศ อื่น รวมถึงมีการจ้างงานข้ามประเทศมากขึ้น ดังนั้น ทักษะ ทางภาษาอังกฤษจึงอาจเป็นภัยคุกคามที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้

ต่อปัญหานี้ ดูเหมือนว่าสถาบันการศึกษาไม่ว่า จะเป็นระดับประถม มัธยม หรือแม้กระทั่งระดับอุดมศึกษา ก็เริม่ จะมีการเตรียมการกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย

มีการปรับปรุงหลักสูตร เพิ่มเติมการเรียนการสอนภาษา อังกฤษแทบทุกสถาบัน เพื่อมุ่งหวังผลิตบัณฑิตป้อนตลาด AEC แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากภาษาอังกฤษแล้ว ควรเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ในอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่น ภาษามาเลย์ ภาษาพม่า เพื่อสื่อสารได้หลายภาษามากขึ้น

แต่สงิ่ ทีอ่ าจจะทำ�ให้ไทยต้องเสียเปรียบในการเปิด AEC และน่ากลัวกว่าการไหลเข้ามาของสินค้าต่างประเทศ คือ ปัญหาที่ต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นจากคนไทย จนทำ�ให้ธุรกิจ ไทยถูกเปลี่ยนมือไปเป็นธุรกิจของต่างชาติได้ง่ายขึ้น อย่าง การเปิดเสรีการค้าบริการ ได้มีข้อตกลงให้นักลงทุนอาเซียน สามารถถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นถึง 70% โดยตั้งแต่ปี 2553 ไทยได้ เปิดให้ประเทศอื่นในอาเซียนสามารถลงทุนได้สูงถึง 70% ในสาขาบริการสารสนเทศและสื่อสาร สาขาบริการสุขภาพ สาขาการท่องเที่ยว ส่วนปี 2556 จะเปิดในสาขาบริการ ลอจิสติกส์ และในปี 2558 จะขยายสู่สาขาบริการอื่นๆ ตาม ลำ�ดับ

เตรียมพร้อมกันเถอะ

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ปรัชญาของ ซุนวู ก็ยังคงใช้ได้ดีในยุค AEC

เพราะการที่ AEC จะก่อให้เกิดตลาดเดียวและเขต การผลิตเดียวนัน่ หมายความว่าวิธกี ารเดิมๆในการทางธุรกิจ จะไม่สามารถก่อให้เกิดผลกำ�ไรได้เช่นเดิม

ดังนัน้ สิง่ ทีภ่ าพธุรกิจควรจะทำ�ตัง้ แต่ตอนนีค้ อื เริม่ สำ�รวจธุรกิจตนเอง ความพร้อมทั้งกำ�ลังคน เงิน เครื่องมือ และการบริหารจัดการ ควบคู่ไปกับศึกษาหาโอกาสและ

l 15

•• ภาพธุรกิจควรจะทำ�ตั้งแต่ตอนนี้คือ เริ่มสำ�รวจธุรกิจตนเอง ความพร้อมทั้งกำ�ลังคน เงิน เครื่องมือ และการบริหารจัดการ ควบคู่ไปกับศึกษาหาโอกาสและคู่แข่งขัน รวมถึงประเมินความ เสี่ยง เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ••

16 l

คู่แข่งขัน รวมถึงประเมินความเสี่ยง เพื่อปรับตัวให้สอดคล้อง กับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และที่ช่วงชิงผลประโยชน์ จาก AEC ให้ได้มากที่สุด เพราะอย่าลืมว่า ในบางธุรกิจ บาง เรือ่ งอาจจะมีความได้เปรียบแต่ในบางธุรกิจบางเรือ่ งก็อาจจะ เสียเปรียบได้เช่นกัน ส่วนแบ่งของตลาดสินค้าทีเ่ คยมีมาอาจ ต้องสูญเสียแก่นักลงทุนต่างชาติจากการที่มีผู้ค้ามากรายขึ้น และถึ ง แม้ จ ะขึ้ น ชื่ อ ว่ า เป็ น อาเซี ย น หากแต่ ล ะ ประเทศก็ มี ค วามแตกต่ า งกั น ทั้ ง วั ฒ นธรรม วิ ถี ชี วิ ต ธรรมเนียมการค้าการขาย ดังนั้น จึงต้องสำารวจ ศึกษาหา ช่ อ งทางการจำ า หน่ า ย ตลาด และรากฐานการทำ า ธุ ร กิ จ ประเทศอาเซียนต่างๆ อย่างเช่น อินโดนีเซีย มีจำานวน ประชากรมุสลิมมากที่สุด จึงเป็นตลาดนำาเข้าสินค้าฮาลาล ที่สำาคัญ เป็นต้น นอกเหนือจากการสำารวจศึกษา เมื่อรู้เขารู้เราแล้ว จำาเป็นต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจด้วย ซึ่งใน ส่วนนีอ้ าจจะต้องมีการลงทุนเพิม่ ในส่วนการวิจยั และพัฒนา รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถเพิ่ม มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนต่างชาติที่มีความพร้อม มากกว่าจะเข้ามาแข่งขันในทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น ทำาให้ SMEs แข่งขันได้ยากขึ้น และอาจจะล้มหายไปจากตลาดก็ได้ หาก

ไม่สามารถแข่งขันได้ หนทางหนึ่งที่จะสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับ SMEs คือการผนึกกำาลังกัน เพื่อแบ่งปันความรู้ หรือ ใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้ ง นี้ บทวิ เ คราะห์ จ ากศู น ย์ วิ จั ย เศรษฐกิ จ และ ธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ สรุปโอกาสหลัก 3 ประการ ที่ผู้ประกอบการสามารถนำาไปขบคิดเพื่อสร้างโอกาสให้กับ ตนเองเอาไว้ว่า 1 การเปลีย่ นแปลงเชิงพฤติกรรมในอาเซียน ประชากร ในอาเซียนจะเสียค่าใช้จ่ายสำาหรับการศึกษาของบุตรหลาน และกิจกรรมในเวลาว่างมากขึ้น เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน จะเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างของดัชนีชี้วัดหนึ่ง ได้แก่ นโยบาย ของสิงคโปร์ที่เน้นเสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผ่านการแข่งขันทางการศึกษา และการเพิ่มขึ้นของอัตราการ ท่องเทีย่ วภายในอาเซียนเฉลีย่ 7% ต่อปี ในรอบ 8 ปีทผ่ี า่ นมา 2 การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรในอาเซียน กลุ่ม ประชากรรุ่นใหม่ที่มีฐานะปานกลางซึ่งใช้จ่ายไปกับโทรศัพท์ มือถือ คอนโดมีเนียม และการช้อปปิงจะเพิ่มมากขึ้น ใน ขณะที่กลุ่มประชากรผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน 3 ปัจจัยเฉพาะต่างๆ ของแต่ละประเทศ เช่น ประชากร มุสลิมในมาเลเซียมีอำานาจซื้อสูงที่สุดเป็นอันดับสามในหมู่ ประชากรมุสลิมทั่วโลก เป็นต้น

AEC Blueprint กำหนดให้แต่ละประเทศใน AEC ให้มีจุดเด่นต่างæ ดังนี้

พม่า

: สาขาเกษตรและประมง

มาเลเซีย

: สาขาผลิตภัณ±์ยาง และสาขาสิ่งทอ

อินโดนีเซีย : สาขาภาพยนตร์และสาขาผลิตภัณ±์ไม้ ฟิลิปปินส์

: สาขาอิเล็กทรอนิกส์

สิงคโปร์

: สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาสุขภาพ

ไทย

: สาขาการท่องเที่ยว และสาขาการบิน (ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง ASEAN)

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประชากร 580 ล้าน GDP ขนาด 1.5 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ การค้าระหว่างประเทศ 1.6 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ การลงทุนโดยตรง 50 พันล้านเหรียญสหรัฐ การท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 65 ล้านคน

> = = = =

สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ 6 เท่าของไทย 60% ของจีน อันดับ 2 ของโลก รองจากฝรั่งเศส ที่มา : ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์

l 17

HUNT l Report

APEC CARD สิทธิประโยชน์เพื่อนักธุรกิจ >> สุชาติ ชวางกูร : เรื่อง / เปรมชัย ซิงห์ : ภาพประกอบ

สำาหรับนักธุรกิจ ผู้บริหาร ที่ต้องเดินทางเข้าออก ในกลุ่มประเทศที่ติดกับ มหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหลายเป็นประจำา ถ้าไม่รู้จัก APEC Card หรือ รู้จักแต่ยังไม่มีละก็ ท่านควรจะต้องอ่านต่อแล้วละครับ อันเนื่องมาจากการประชุมของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation หรือ APEC) มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วย อำานวยความสะดวกในการเดินทางติดต่อกันของนักธุรกิจในกลุ่มประเทศ APEC จึง เป็นที่มาของ บัตรเดินทางสำาหรับนักธุรกิจเอเปก (APEC Business Travel Card หรือ ABTC) หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า APEC Card ซึ่งอนุญาตให้เจ้าของบัตรสามารถเดินทาง เข้า-ออก ใน ๑๘ ประเทศ ที่มีดินแดนติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, บรูไน, ปาปัวนิวกินี, เวียดนาม, เปรู, ชิลี, และ เม็กซิโก ด้วยการใช้ประกอบ กับ passport ที่ท่านมีอยู่ได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าและสามารถผ่านเข้า-ออกด้วยช่องทาง พิเศษ โดยไม่จำากัดเหมือน Multiple Visa ในระยะเวลา ๓ ปี โดยสามารถพำานักอยู่ใน ประเทศนั้นๆ ได้ครั้งละไม่เกิน ๙๐ วัน

18 l

สำ า หรั บ นั ก ธุ ร กิ จ ที่ ต้ อ งการเดิ น ทางเข้ า ออกประเทศ สหรัฐอเมริกา แม้บัตรนี้จะใช้แทนวีซ่าไม่ได้ แต่ก็มีช่องทางพิเศษ ของผู้ถือบัตร APEC Card โดยไม่ต้องต่อแถวยาวเหยียดเหมือน คนอื่นๆ เพียงแค่นี้ก็ย่นระยะเวลาอันแสนมีค่าของท่านได้มากมาย รวมทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการขอวีซ่าแต่ละครั้งจาก ประเทศต่างๆ เหล่านี้ ได้มหาศาล

ทำอย่างไรจÖงจะมี APEC Card ได้? ๑. ท่ า นต้ อ งเป็ น สมาชิ ก ของสภาอุ ต สาหกรรม สภา หอการค้าไทย หรือ สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย องค์กรใด องค์กรหนึ่ง โดยจะเป็นสมาชิกแบบสามัญ หรือสมาชิกแบบสมทบ ก็มีสิทธิสมัคร APEC Card ได้ ทั้งสามองค์กรนี้มีค่าสมาชิก ค่าบำารุง อยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับประเภท และขนาด ของธุรกิจของท่าน ใช้เวลาอย่างน้อย ๑ เดือนกับการสมัครและ รอพิจารณาเข้าเป็นสมาชิก ๒. เมื่อท่านได้รับการอนุมัติเป็นสมาชิก ท่านก็สามารถ กรอกใบสมัคร ๒ ใบ, passport มีอายุอย่างน้อย ๓ ปี ๖ เดือน พร้อมทั้งเอกสารประกอบ และ ค่าธรรมเนียม ได้ทันทีที่ สำานักงาน เลขานุการคณะกรรมการร่วม ๓ สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ซึ่งเป็น หน่วยเลขานุการของสามองค์กรข้างต้น จากนั้น กกร.จะดำาเนิน การต่อโดยจะส่งมอบให้กรมการกงสุลเป็นผู้ดำาเนินการ เพื่อตรวจ สอบคุณสมบัติ ประวัติอาชญากรรม ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนนี้ก็จะใช้เวลา ประมาณ ๗ วัน ๓. กรมการกงสุลจะนำาหลักฐานของท่านส่งต่อไปตาม หน่วยงานที่รับผิดชอบในการออกวีซ่าของประเทศต่างๆ ซึ่งแต่ละ ประเทศอาจขึ้นอยู่กับกองตำารวจตรวจคนเข้าเมือง บางประเทศขึ้น อยู่กับกระทรวงการต่างประเทศ บางประเทศก็อยู่กับกระทรวง มหาดไทย ซึ่งความรวดเร็ว หรือล่าช้าในการตรวจสอบและให้วีซ่า จะแตกต่างกันไป แต่ท่านสามารถตรวจสอบผลได้ทาง On line ว่า ประเทศใดบ้างที่อนุมัติวีซ่าให้ ในกรณีที่ไม่ต้องการวีซ่าของบาง ประเทศ เช่น ประเทศปาปัวนิวกินี ท่านสามารถขอรับบัตร APEC Card ได้ทันทีโดยเสียค่าทำาเนียมเพิ่มจำานวน ๑ พันบาท ก็สามารถ นำาบัตร APEC Card ใช้ควบคู่กับ Passport เดินทางเข้าประเทศ ต่างๆ ได้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลา อย่างน้อย ๒ – ๓ เดือน ถึงแม้ขั้นตอนในการทำา APEC Card จะไม่สับสน แต่ค่อน ข้างวุ่นวายและใช้เวลามาก โดยเวลาตั้งแต่เริ่มต้นนับหนึ่ง รวมทั้ง การติดตาม เวลาที่ต้องเสียไปกับการ monitor ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ จำาเป็นต้องใช้เวลาหลายเดือน ดังนัน้ บริษทั รีเจีย้ นลิง้ ค์ จำากัด จึงมีบริการเพือ่ จะตอบสนอง นักธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ของการถือบัตร APEC Card โดยบริษทั มีทมี งานทีจ่ ะรับดำาเนินการและติดตามผลอย่างกระชัน้ ชิด สนใจโทร ๐๘๑ ๓๕๔ ๑๕๘๑, ๐๒ ๖๗๘-๒๒๒๔ ต่อ ๑๑๓ l 19

HUNT l Index Focus

จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แนวโน้มเศรษฐกิจไทย 2556 >> ณัตตินา สุวัฒวิตยากร : เรื่อง

ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ปรับตัวอย่างไม่ หยุดนิ่ง หลายคนกำ�ลังจับตามองกันว่าทิศทางของ การเติบโตหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้ม การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 จะเป็นอย่างไร?

ล่าสุด บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำ�กัด เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในปีหน้า ปัญหาหนี้ยุโรป ยังคงเป็นประเด็น ต่อเนื่องไปอีกหลายปี อย่างไรก็ตามคาด ว่าทางการยุโรปจะยังคงสามารถประคับ ประคองระบบเงินยูโรไว้ได้ ส่วนทางด้าน สหรัฐฯ แม้มีความเสี่ยงด้านการคลัง แต่ หลังจากการสิน้ สุดมาตรการลดหย่อนต่างๆ และจากการปรับลดรายจ่ายงบประมาณ ตามกฎหมายที่รออยู่ในช่วงปี 2556 คาด ว่าสหรัฐฯน่าจะเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff* หรือ ภาวะหน้าผาทางการคลังไปได้ ขณะที่มี การประเมินว่าเศรษฐกิจของจีนในปีหน้า จะมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากการชะลอ ตัวในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา *Fiscal Cliff หรือภาวะหน้าผาทางการคลัง คือ การที่ภาครัฐลดการใช้จ่ายจำ�นวนมาก หรือยุติการลดอัตรา ภาษีที่มีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาค ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย

20 l

ในส่วนแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปี 2556 คาดว่ายัง มีปัจจัยบวกจากภาคการส่งออกที่คงเป็นแรงส่งสำ�คัญ รวมทั้งการ บริโภคภายในประเทศจะช่วยให้อตั ราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ยังคงเติบโตได้ใกล้เคียงกับปี 2555 ในระดับ 5% (โดยมี กรอบคาดการณ์ในปี 2556 อยู่ที่ 4.5-5.5 %)แม้อัตราการขยายตัว อาจชะลอลงเล็กน้อยจากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า แต่เสถียรภาพทาง เศรษฐกิจของไทยยังคงไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ต้อง ติดตาม ทั้งแรงกดดันเงินเฟ้อ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และอัตรา การว่างงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

สำ�หรับธุรกิจที่จะสามารถเติบโตได้ดียังคงเป็นสินค้าภาค การเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร การส่งออกรถยนต์ และธุรกิจ ก่อสร้าง รวมถึงโลจิสติกส์ ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ก็มีการเติบโตบ้างพอสมควร แต่ธุรกิจที่น่าเป็นห่วง มากในปีหน้า คงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเฟอร์นิเจอร์ เพราะมีการส่งออกที่น้อยลง

จากการวิจัยแม้จะพบว่าในภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยัง ไม่มปี ญ ั หาแต่กม็ โี อกาสทีจ่ ะผันผวนตามปัจจัยต่างประเทศทีเ่ ข้ามา กระทบ รวมถึงแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อและการขาดดุลบัญชี เดินสะพัด ดังนั้น ประชาชนคนไทยจึงไม่ควรประมาทและควรมีการ เตรียมความพร้อมในการเก็บออมกันไว้ เพราะเชื่อว่าปีหน้าราคา สินค้าจะมีการปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน

ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2555-2556

l 21

HUNT l Vision

ทิศทางสู่อนาคต

กับพลวัตของ อาเซียน >> ยุค ศรีอารียะ : เรื่อง / เปรมชัย ซิงห์ : ภาพประกอบ

ทุกครั้งที่ผมถูกขอให้เขียนเรื่อง อนาคตศาสตร์ ผมมักจะชอบพูดเปรยเล่นๆ เสมอว่า อนาคต คือ ความเป็นไปได้ที่หลากหลาย แต่การวิเคราะห์ทิศทางโลกนั้นต้องคิดแบบหลายชั้น ตั้งแต่วิเคราะห์ใน ระดับโลก จนถึงระดับภูมิภาค และระดับพื้นที่ สิ่งที่สำคัญก่อนอื่น เราจะต้องรู้ว่าระบบโลก(ทั้งระบบ) และ ระบบธรรมชาติ กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางอย่างไรบ้าง ในการวิเคราะห์การเคลื่อนตัวของระบบโลก นักคิดในสายระบบโลกมักจะใช้ทฤษฎีของคอนดราทิฟ คอนดราทิฟ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียงมาก ท่านใช้ทฤษฎีลูกคลื่น ที่เรียกว่า ทฤษฎี คลื่นลูกยาว ท่านนำาเสนอว่า ระบบโลกมักจะเคลื่อนตัวเป็นลูกคลื่น แต่ละลูกคลื่นจะแยกได้เป็นช่วงเวลา 2 จังหวะ คือ

จังหวะของกระáสäหลขÖéนยาว áละจังหวะของกระáสลงยาว

ผมคงต้องขอปรับทฤษฎีนี้บ้าง เนื่องจากทฤษฎีเดิมจะใช้ “ช่วงเวลา” ค่อนข้างตายตัวไป ผมเองขอแยก ช่วงจังหวะเวลาของระบบทุนนิยมโลกเป็น 3 ลูกคลื่นขึ้นลง ลูกคลื่นแรกเริ่มจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก ต่อมาได้เกิดกระแสคลื่นขึ้นยาวประมาณ 50 ปี เริ่มประมาณปี ค.ศ.1850 ถึง 1900 ต่อมาก็มีกระแสคลื่นขาลง ก็ยาวพอๆกัน คือประมาณปี ค.ศ.1900 ถึง 1950 หลังจากนั้น ระบบโลกก็ก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมหนัก เริ่มประมาณปี ค.ศ.1950 และระบบทุนโลกก็ ก้าวสู่ช่วงขาขึ้นยาวจนถึงป 1970 ซึ่งเวลาในช่วงนี้จะสั้นกว่าช่วงแรก กินเวลาประมาณเพียง 20 ปี ต่อมาก็เกิด คลื่นหดตัวลง ยาวประมาณ 20 ปีเช่นกัน คือประมาณปี ค.ศ.1970 ถึง 1990 หลังจากปี ค.ศ.1990 ระบบโลกก็ก้าวเข้าสู่ช่วงขยายตัวใหม่ ที่เรียกกันว่า ช่วงโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีช่วง กระแสขยายตัวขึ้นจากปี ค.ศ.1990 ถึง 2008 กินเวลาประมาณ 18 ปี ปัจจุบันเราจะพบว่า ระบบโลกกำาลังก้าว สู่ช่วงการหดตัวยาวอีกครั้งหนึ่ง เริ่มประมาณปี ค.ศ.2008 ซึ่งโดยหลักการทั่วไป คลื่นหดตัวนี้น่าจะยาวไปถึง ประมาณป ค.ศ.2016

22 l

ระบบโลกนอกจากจะมี จั ง หวะลู ก คลื่ น ขึ้ น และลงยาว แล้ว การเมืองโลกก็พลิกผันเป็น 2 จังหวะ เช่นกัน ในช่ ว งขาขึ้ น ยาว ระบบการเมื อ งโลกจะอยู่ ใ นช่ ว งที่ มี เสถียรภาพสูง ช่วงนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมากนัก แต่ถ้าระบบโลกเคลื่อนตัวสู่ช่วงขาลงยาว ระบบการเมืองโลกก็จะ ก้าวสู่ช่วงไร้เสถียรภาพ และมักจะเกิดสงคราม และเกิดการเปลี่ยน ผ่านระบบทั้งในระดับประเทศและระดับโลก อย่างเช่น ช่วงขาลงยาว จากปี ค.ศ.1900 ถึง 1950 ในช่วงนี้ได้เกิดสงครามโลกถึง 2 ครั้ง คือ สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 หรือในกรณีช่วงปี ค.ศ.1970 ถึง 1990 ได้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำานาจในระบบโลกใหม่ นั่นคือ การ ล่มสลายของระบบสังคมนิยมโลก ผมมักจะถูกเพื่อนๆ ถาม “ที่ว่าช่วงคลื่นขาลงยาว จากปี ค.ศ.2008 ถึงปี 2016 จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ไหม” ผมเองได้แต่ขยายแนวความคิดของผมให้เพื่อนฟังว่า ผมก็ตอบแบบชัดๆ ไม่ได้ ผมรู้เพียงว่า ระบบโลกกำาลังก้าว สู่ช่วงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำานาจใหม่ เนื่องจากสหรัฐอเมริกา กำาลังถูกท้าทาย และกำาลังเสื่อมอำานาจลง ในขณะที่ จีน และรัสเซีย รวมทั้งกลุ่มประเทศที่เรียกตัวเองว่า BRIC (Brazil, Russia, India, และ China) กำาลังสถาปนาอำานาจใหม่เหนือระบบโลก

สงครามจึงกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ระหว่าง 2 ค่ายอำานาจในระบบโลก โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และปัจจุบัน สงครามที่เรียกว่า สงครามตัวแทน เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว ที่ย่านตะวันออกกลาง เพียงแต่ว่ายังไม่ปรากฏเป็น “สงครามโลก” เท่านั้น ทีแ่ น่ๆ ผมคิดว่าการเผชิญหน้ากันระหว่างจักรวรรดิอาำ นาจ เก่า (คือ สหรัฐอเมริกา) กับจักรวรรดิใหม่ (คือ จีนและรัสเซีย) น่าจะ หนักหน่วงขึ้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่เราต้องเข้าใจว่า การเคลื่อนตัวระบบโลก(สังคมมนุษย์) ยังขึ้นกับการเคลื่อนตัวของระบบธรรมชาติ ระบบธรรมชาติก็มีช่วง ที่มีเสถียรภาพ และช่วงวิกฤติรุนแรง เช่นกัน อย่างเช่น ถ้าเราย้อนตำานานโบราณของชาวยิว ก็จะมีเรื่อง เล่า เรื่องน้ำาท่วมโลกครั้งใหญ่ ที่รุนแรงมากๆอยู่ครั้งหนึ่ง จนนำามาซึ่ง การล่มสลายของอารยธรรมขนาดใหญ่ของมนุษย์ หมายความว่า นานๆ ทีก็จะเกิดวิกฤติธรรมชาติที่หนัก หน่วงมากสักครั้งหนึ่ง ปัจจุบนั เราพบสภาวะเสียดุลทางธรรมชาติทหี่ นักหน่วงและ เราพบว่า คลื่นวิกฤติธรรมชาติ เริ่มก่อตัวขึ้น และยังแสดงบทบาท สำาคัญต่อการกำาหนดทิศทางโลกมากขึ้นทุกที l 23

ทีน่ า่ สังเกตก็คอื ในช่วงคลืน่ ขาลงยาวทางเศรษฐกิจ(ในช่วง ปัจจุบันนี้) เราพบปัจจัยแทรกซ้อนทางธรรมชาติที่ชัดเจนมาก ซึ่ง ช่ ว ยส่ ง ผลทำ � ให้ ค ลื่ น ขาลงมี ลั ก ษณะการไหลลงที่ ห นั ก หน่ ว งด้ ว ย เนื่องจากมีคลื่นวิกฤติสิ่งแวดล้อมปรากฏขึ้น และคลื่นวิกฤตินี้ดูราว จะหนักหน่วงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ที่สำ�คัญ วิกฤติทางธรรมชาติ นอกจากจะทำ�ให้คนตาย จำ�นวนมากแล้ว ยังสามารถส่งผลด้านลบ และก่อให้เกิดสภาวะ “ข้าว ยากหมากแพง” ได้ด้วย กล่าวอย่างสรุป

ผมคิดว่า กระแสโลกกำ�ลังเคลื่อนตัวสู่กระแส Chaos ใหญ่ ทั้งทางธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจ และทางการเมือง ในเวลาเดียวกัน

แต่ทุกครั้งที่โลกก้าวสู่กระแส “ลบ” (หรือ Chaos) กระแส ด้านบวกก็มักจะก่อตัวขึ้นเสมอ ในทิศทางตรงกันข้าม อย่างเช่น ปัจจุบัน ผู้คนกำ�ลังหันไปสนใจการอนุรักษ์รักษาธรรมชาติ หรือหัน ทิศทางโลกพัฒนาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

มองในแง่ระบบโลกทั้งระบบ ทุกครั้งที่ระบบโลกเคลื่อนตัว สู่กระแสถดถอยยาว จะปรากฏว่ามีกลุ่มประเทศบางย่านสามารถ

ทรงตัว และขยายตัวได้ในเวลาเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น ในช่วงกระแสลง ปี ค.ศ.1900 ถึง 1950 ช่วง เวลานี้ สหรัฐอเมริกาถือว่าได้ประโยชน์จากกระแสลงยาว และเติบ ใหญ่ขึ้น

หรือในช่วงขาลง ปี ค.ศ.1970 ถึง 1990 ประเทศญี่ปุ่น คือ ประเทศที่สามารถขยายตัวได้ทั้งที่ระบบเศรษฐกิจโลกถดถอย จน ทำ�ให้ญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถขยายทุนมาลงในประเทศ ต่างๆ ในย่านอินโดจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือที่ประเทศไทย

ผมพบว่าคลื่นขาลงยาว ช่วงปี ค.ศ.2008 ถึง 2016 ก็เกิด ปรากฏการณ์ที่คล้ายกัน กล่าวคือประเทศจีนน่าจะอยู่ในฐานะได้ เปรียบ และกำ�ลังรุ่งเรืองขึ้น

แม้ว่า เศรษฐกิจประเทศจีนปัจจุบันเริ่มหดตัวเช่นกัน แต่ จีนก็ยังคงมีอัตราการขยายตัวถึงประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูง กว่าประเทศอื่นๆ มาก

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การขยายอำ�นาจของจีนก็ต้องเผชิญ อุปสรรคใหญ่เช่นกัน เพราะอำ�นาจของจีนที่ใหญ่ขึ้นก็ย่อมท้าทาย อำ�นาจของจักรวรรดิโลกเก่า ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลาง

อาเซียนกับพลวัตของระบบโลก

พิจารณากรณีของอาเซียนเอง ถ้าหากว่าระบบโลกทั้ง ระบบก้าวเข้าสู่ช่วงถดถอยยาวและหนัก ผมคิดว่า “อาเซียน” ไม่มี พลวัตภายในของตัวเองมากพอที่จะเผชิญกระแสวิกฤติดังกล่าวได้ ดังนั้น อาเซียนน่าจะทรุดตามระบบโลก

ประเทศไทยเองก็จะอยู่ในฐานะที่ไม่ดีนัก เนื่องจากเรา พัฒนาเป็นประเทศที่ขึ้นอยู่กับการส่งออกและการท่องเที่ยวมาก ถ้า หากว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดีการส่งออกและการท่องเทีย่ วก็จะถูกกระทบ ไปด้วย

ผมจึงคิดว่า พลวัตในอนาคตของอาเซียน และประเทศ ไทยน่าจะเคลื่อนไปสู่กระแสลงยาว และหนัก เช่นกัน

แต่ก็มีกรณีที่ “ยกเว้น” คือ การเข้ามาของการลงทุนของจีน หรือที่เรียกว่า อาเซียน บวก สาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี)

ดังนั้น การเข้ามาลงทุนของทุนจีนในย่านนี้ และ การร่วม ลงทุนระหว่างนักลงทุนชาวจีนในย่านนี้กับทุนจีนในแผ่นดินจีน น่า จะกลายเป็นพลังสำ�คัญในการทำ�ให้เศรษฐกิจอาเซียนเคลื่อนตัวไป ข้างหน้าได้

ปัจจุบัน มีการประเมินจากความเห็นของ กลุ่มตัวอย่าง CEO จำ�นวน 249 คน ที่กรุงปักกิ่งพบว่า นักธุรกิจจีนกำ�ลังคิดเคลื่อน

24 l

ทุนออกสู่ระบบโลกในทุกทาง กล่าวคือ

30.12% จะเคลื่อนเข้าสู่อาเซียน และเอเชียตะวันออก

26.50% จะเข้าสู่ลาตินอเมริกา

22.89% จะเข้าสู่ออสเตรเลีย

และ 20.48% จะเข้าสู่อเมริกาเหนือ

นี่สะท้อนภาพว่า นักธุรกิจจีนกำ�ลังคิดเคลื่อนทุนสู่อาเซียน ค่อนข้างมาก หรือกล่าวว่า น่าจะมากกว่าทิศทางอื่นๆ ทั้งหมด

ที่สำ�คัญ ภาครัฐของจีนเองก็มีนโยบายชัดเจนที่จะลงทุน และขยายเศรษฐกิจสู่จีนตอนใต้ และพยายามที่จะสร้าง “ยูนาน” เป็น ศูนย์ของการลงทุน การเดินทาง พลังงาน และการขนส่ง งบประมาณ จำ�นวนมหาศาลถึง 500,000 ล้านหยวน ด้วยโครงการประมาณ 126 โครงการยักษ์ รวมทั้งการสร้างสนามบินมูลค่าถึง 23,000 ล้านหยวน ซึ่งคาดว่า สนามบินนี้จะรองรับผู้คนได้ถึง 38 ล้านคน และสามารถ ดำ�เนินการรองรับเที่ยวบินได้ถึง 303,000 เที่ยวบินต่อปี

ดังนั้น ยูนานจึงถือว่าเป็น “ศูนย์ยุทธศาสตร์” สำ�คัญ สูงสุดของจีน ที่เข้าสู่อาเซียน และเคลื่อนทุนเข้าสู่อาเซียน 3 ทาง ทางแรกที่สำ�คัญมากคือ พม่า ทางที่สองไปทางประเทศลาว ซึ่งเชื่อม ต่อลงไปถึงกัมพูชา และอีกทางหนึ่งคือ ผ่านเข้าไทยเชื่อมลงไปถึง

•• ภาครัฐของจีนเองก็มีนโยบายชัดเจนที่จะลงทุนและขยายเศรษฐกิจสู่จีนตอนใต้ และพยายามที่จะสร้าง “ยูนาน” เป็นศูนย์ของการลงทุน การเดินทาง พลังงาน และ การขนส่ง งบประมาณจำ�นวนมหาศาลถึง ๕๐๐,๐๐๐ ล้านหยวน •• มาเลเซีย และอินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมไปถึง ฟิลิปปินส์

ดังนั้น อาเซียน ที่บวกจีน รวมทั้งบวกญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมีเงินทุนมหาศาล จึงน่าจะถือว่าเป็น “อาเซียน” ซึ่งมีพลวัตเชิงบวก มากที่สุด

อีกอาเซียนหนึ่งซึ่งเริ่มก่อตัวเช่นกัน คือ อาเซียนบวก อเมริ ก า ถื อ ว่ า เป็ น อาเซี ย นที่ มี พ ลวั ต มากเช่ น กั น เนื่ อ งจาก สหรัฐอเมริกากำ�ลังถือว่าจีนเป็นศัตรู หรือคู่แข่งที่มีความสำ�คัญทาง ยุทธศาสตร์สูงสุด

สหรัฐอเมริกาจึงพยายามสร้างพันธมิตรทางทหารเพื่อ สกัดการเข้ามาของจีน อาเซียนนี้คือ อาเซียนซึ่งมีสหรัฐอเมริกา เป็นหัวโจกใหญ่ และมีพันธมิตรสำ�คัญคือ ประเทศฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม และน่าจะมีประเทศไทยเป็นพันธมิตร (แบบจำ�ยอม) อยู่ด้วย

อาเซียน จึงไม่เป็นหนึ่งเดียวกันมากนัก กล่าวคือ กำ�ลังจะ แตกเป็น 3 ฝ่าย ฝ่ายแรกคือ กลุ่มที่ใกล้ชิดกับจีน ฝ่ายที่สองคือ กลุ่ม ที่ผูกพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา และอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นกลางๆ อย่าง เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และไทย (แบบอีแอบเช่นกัน) กล่าวอย่างสรุป

อนาคตของอาเซียน น่าจะมี 2 ทางสำ�คัญ

ทางแรก ซึ่งไม่น่าพึงปรารถนาอย่างยิ่ง คือ อาเซียนกลาย เป็นพื้นที่สงครามขนาดใหญ่ ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา (คล้ายกับ การกลับไปสู่ยุคสงครามเย็นอีกครั้งหนึ่ง)

ทางที่สอง คือการถูกผนวกบางส่วนของอาเซียน อย่าง เช่น พม่า ลาว และกัมพูชา กลายเป็นส่วนเศรษฐกิจที่เชื่อมตรงกับ จีน โดยมีศูนย์กลางที่ยูนาน อาเซียนนี้น่าจะเติบใหญ่อย่างรวดเร็ว แต่จะเป็นการเติบใหญ่ที่ขึ้นกับจีนค่อนข้างมาก

ถ้าเลือกได้ ผมคงจะไม่เลือกทั้ง 2 เส้นทาง

ผมคิดว่า อาเซียนต้องพยายามสร้างทางที่สาม โดยอาศัย การผนึ ก กั น ระหว่ า ง มาเลเซี ย อิ น โดนี เซี ย และไทย เป็ น แกน เป้าหมายสำ�คัญ “ต้องสกัด” ไม่ให้สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนอาเซียน เป็น “สนามรบ” และอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องพยายามลดอิทธิพลจีน ให้มีฐานะครอบงำ�ให้น้อยลง

ผมคิดว่า การเข้ามาลงทุนของจีนน่าจะเป็นเรื่องที่หลีก เลี่ยงได้ยาก และการขยายตัวของทุนจีนอาจจะส่งผลดีได้เช่นกัน ถ้า สมาชิกของอาเซียนสามารถวางยุทธศาสตร์ร่วมเพื่อกำ�หนดทิศทาง

และนโยบาย “เฉพาะ” ต่อจีน ว่า “จะร่วม” กับจีนแค่ไหน อย่างไร จะลดอิทธิพลจีนต่อพม่าและลาวอย่างไร และจะส่งเสริมให้ทุนจีน ให้ร่วมลงทุนในด้านไหน อย่างไรบ้าง

ที่สำ�คัญ อาเซียน ต้องพยายามสร้างอนาคตของชาว อาเซียนเอง ที่วางอยู่บน 3 ฐานพัฒนา

ฐานแรก คือ การผนวกทุนภายในอาเซียนเข้าด้วยกัน ทั้ง ทางการธนาคาร และการลงทุนทางการผลิต เพื่อขยายตลาด และ สร้างอำ�นาจในการต่อรอง อย่างเช่น การรวมกลุ่มกันในด้านผู้ผลิต สินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม อย่างเช่น ข้าว และยาง เป็นต้น

ฐานที่สอง คือ การลดการพึ่งพาลง กระจายความเจริญ และการพึ่งตลาดภายในเป็นสำ�คัญ

และฐานที่สาม คือ ทิศทางอนาคต อาเซียนควรจะมุ่งสู่การ พัฒนาด้านวัฒนธรรม และการเติบโตแบบยั่งยืน เน้นเรื่องการสร้าง วัฒนธรรมร่วมของชาวอาเซียนที่งดงาม รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนา พลังงานทางเลือก รวมทั้งเรื่องสุขภาพ ยา และอาหาร

ที่สำ�คัญยิ่ง เราควรจะสร้าง “อาเซียน” แบบคู่ขนานขึ้น ทั้ง “อาเซียนของภาคทุน” และ “อาเซียนในภาคประชาชน” เพราะลำ�พัง อาเซียนภาคทุนอย่างเดียวไม่มีพลังเพียงพอที่จะเผชิญวิกฤติโลก ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตไปได้ จำ�เป็นต้องสร้างอาเซียนภาค ประชาชนขึ้น เพราะอาเซียนภาคนี้คือ “พลังพื้นฐาน” ที่จะช่วยให้ เกิดการสร้างวัฒนธรรมอาเซียนที่งดงาม พอเพียง และร่วมสร้าง สรรค์การพัฒนาการที่ยั่งยืนได้ l 25

HUNT l Vision

GATEWAY

to ASEAN >> วสุ แสงสิงแก้ว : เรื่อง / เปรมชัย ซิงห์ : ภาพประกอบ

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสร่วมเวทีเดียวกับท่านเลขาธิการอาเซียน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อยู่หลายครั้ง ซึ่งท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่สมัยยังอยู่กระทรวง บัวแก้ว ในช่วงนี้ท่านได้รับเชิญมาบรรยายและร่วมเสวนาในหลากหลายมิติของอาเซียน และการที่ ไทยจะเข้าสู่การเป็นสมาชิกของประชาคมอาเซียนจากหลายเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก วุฒิสภา หอการค้า จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังแบบเบาๆ ก็น่าจะเป็นของว่าสำหรับสมองที่อุดมโภชนาการ ไม่เลวเหมือนกันนะครับ เพราะเดีëยวนี้ไปไหนใครๆก็พูดถึงแต่อาเซียน อาเซียน อาเซียน !! ผมจะพา คุณผู้อ่านตกเทรนด์กับเขาได้อย่างไรล่ะครับ ความจริงกรมอาเซียนนีเ่ ป็นหน่วยงานแรกทีผ่ มได้เข้าทำางานตัง้ แต่สอบเข้ากระทรวงต่างประเทศ มาเป็นนักการทูตรุ่นกระเตาะ ในปีพ.ศ.2533 ลุยมาทั้งเรื่องของอาเซียน ประชาคมยุโรป และอาเซียนกับ สหรัฐอเมริกา รวมทัง้ ต้องเรียนรูเ้ บือ้ งลึกองค์รวมของการจับกลุม่ ของประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กันอย่างละเอียดถี่ถ้วน (ในขณะนั้นยังเป็น ASEAN 6 ประเทศ) ไม่ใช่ ASEAN 10 เช่นในปัจจุบัน แต่เราจะไม่ย้อนหลังกันไปแค่ 22 ปีเท่านั้นหรอกครับ เพราะจริงๆแล้วอาเซียนนั้นเริ่มก่อตั้ง มาตั้งแต่ 8 สิงหาคม 2510 โดยต้องถือว่าเป็นมรดกทางการทูตชิ้นมหึมา หรือจะเรียกว่าเป็นการออก ไข่ฟองใหญ่ของแม่ไก่ทั้งห้าตัว อีกนัยหนึ่งก็คือการผนึกกำาลังความสัมพันธ์ของกลุ่มประเทศในภูมิภาค นี้ และรอคอยการถูกฟักตัวในอีก 48 ปีต่อมา (หรืออีก 2 ปีข้างหน้า) ที่น่าภูมิในที่สุดคือไข่ทองคำาฟอง นี้ถือกำาเนิดในรังแม่ไก่ที่ชื่อว่าไทยแลนด์นี่แหละครับ และเนื่องจากลงนามกันที่กรุงเทพฯ คำาประกาศ ฉบับประวัติศาสตร์นั้นจึงมีชื่อเรียกว่า ‘Bangkok Declaration’ หรือปฏิญญากรุงเทพฯ โดยเป็นการลง นามร่วมรัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ท่าน (เพราะเริ่มแรกมีเพียงอาเซียน 5 ประเทศเท่านั้นครับ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) รัฐมนตรีไทยที่ลงนามในขณะนั้นก็คือคุณถนัด คอมันตร์ ตำานานนักการทูตอีกท่านหนึ่งของเมืองไทย ในช่วงเริ่มต้นตั้งไข่กระเตาะกระแตะอยู่นั้น คงยังไม่มีใครในโลกคิดเป็นจริงเป็นจังสักเท่าไหร่ หรอกครับว่าการแตะมือครั้งแรกในวันนั้นจะสามารถร่วมนาวาฝ่าฟันคลื่นลมอันปันป่วนในกระแส ผลประโยชน์ทเ่ี ชีย่ วกรากของโลกทัง้ ใบมาได้จนเกือบครึง่ ศตวรรษในวันนี้ แถมยังเป็นการเติบโตทีแ่ ข็งแรง น่าภาคภูมิใจเสียด้วย ชนิดที่ในพ.ศ.นี้ทั้งโลกโดยเฉพาะมหาอำานาจต่างๆ ต้องหันมาจ้องตาเป็นมัน เพราะไม่สามารถจะมองข้ามผลประโยชน์ของกลุ่มประเทศที่มีประชากรรวมกันเกือบเจ็ดร้อยล้านคน ไปได้ ขนาดน้องๆ จีนกับอินเดียเชียวนะครับ ย้อนหลังไปในวันนั้น แม้จะไม่ได้มีความมั่นใจเต็มเปียม แต่การมองอนาคตบนเวทีโลกก็มี ทัศนวิสัยชัดเจนว่า ไม่มีประเทศเล็กที่ไหนจะสามารถยืนหยัดได้โดยลำาพังบนขาตนเองอีกต่อไป ขนาด กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปก็ยังร่วมชายคาประชาคมยุโรปกันเป็นปกแผ่น กลุ่มประเทศลาติน อเมริกาก็ร่วมสังฆกรรมกันอย่างเหนียวแน่นทางเศรษฐกิจ กลุ่มตะวันออกกลางก็แบ่งเค้กกันในนาม OPEC กลุ่มประเทศทางเอเชียและแอฟริกานั้นแต่แรกก็มีเพียงเวทีของ Afro-Asia ซึ่งเกิดก่อนหน้า อาเซียนเพียงหนึ่งทศวรรษ กลุ่ม ASA (Association of Southeast Asia) และกลุ่ม Maphilindo (Malaya, Philippine และ Indonesia) ซึ่งพึ่งพิงได้ลำาบากในความเป็นจริง เนื่องจากส่งเสียงสู่โลกกว้างได้เบาหวิว ไม่เกินกระซิบแผ่วๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุดก็คือการร่วมมืออย่างจริงจังในภูมิภาคของเรา ด้วยกันเองนี่แหละครับ

26 l

*Asean - Association of South East Asian Nations

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community :AEC) นั้น จะพัฒนาตนเองไปตามรูปแบบ หรือ Model ของประชาคมยุโรปหรือเปล่า คำตอบก็คือ EU นั้นเป็นเพียงแรงบันดาลใจที่จับต้องได้ให้กับทิศทาง ของ AEC ในอนาคตเท่านั้นครับ

คำาถามหนึ่งซึ่งผมมักจะถูกถามอยู่เสมอก็คือ ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) นั้นจะ พัฒนาตนเองไปตามรูปแบบ หรือ Model ของประชาคมยุโรปหรือ เปล่า คำาตอบก็คือ EU นั้นเป็นเพียงแรงบันดาลใจที่จับต้องได้ให้กับ ทิศทางของ AEC ในอนาคตเท่านั้นครับ เราไม่สามารถที่จะเดินตาม หินทุกก้อนของชาติตะวันตกได้ เพราะความแตกต่างในหลากมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ สังคม หรือ วัฒนธรรม แต่ แน่นอนความเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของ AEC นั้นก็จะมี เพียงหนึ่งเดียว และจะส่องประกายไปทั่วโลกได้อย่างเจิดจ้าในเวลา ไม่ช้านี้ เจิดจ้าเรืองรองได้อย่างไรหรือครับ? จากวันแรกที่ประเทศอาเซียนเริ่มแตะมือกันเพียงหลวมๆ ในเชิงเศรษฐกิจ มาถึงวันนี้ที่อาเซียนกำาลังกลายเป็น fulcrum หรือ ตัวรักษาดุลยภาพระหว่างประเทศได้อย่างเหลือเชื่อ จากวันที่ไม่มี ประเทศสมาชิกใดยุ่งเกี่ยวกันในมิติอื่นนอกเหนือจากการค้าขาย มา ถึงวันที่ปฏิญญาอาเซียน 2 หรือ Bali Concord II ได้ประกาศนโยบาย 3 เสาหลัก (Main pillars) ของ ASEAN Community (AC) อันประกอบ ไปด้วยความร่วมมือทางการเมืองและความมัน่ คง(APSC)*เศรษฐกิจ (AEC)* และสังคมวัฒนธรรม (ASCC)* จากตลาดประชากรเกือบ เจ็ ด ร้ อ ยล้ า นชี วิ ต และมู ล ค่ า การค้ า ขายระหว่ า งกั น แตะเพดาน สองล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (2 trillion USD) ไม่นับการค้ากับเวทีโลก จากทำาเลที่ตั้งที่เป็นไข่แดงท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆ ในภูมิภาค อาทิ จีน-อินเดีย กับกรณีพิพาทรัฐอรุณาจาล เกาหลีเหนือ-ใต้ กับ เส้นขนาน 38 รวมทั้งปัญหาพิพาทดินแดนกับญี่ปุ่น ปัญหาพื้นที่ ทับซ้อนเหนือทะเลจีนใต้ (ที่เวียดนามยังเรียก Vietnam East Sea และฟิลิปปินส์ยังเรียก Philippines West Sea) ปัญหาความสงบของ อีสต์ติมอร์ ฯลฯ ซึ่งคำาตอบต่อโจทย์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่ หลากหลายเหล่านี.้ ..ก็คอื การร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งของรัฐมนตรี กลาโหมอาเซียน ผ่านเวที ADMM (ASEAN Defence Ministerial Meeting) นั่นอง และแน่นอนครับว่ามหาอำานาจทั่วโลกไม่สามารถ จะพลาดรถไฟขบวนนี้ได้ด้วยประการทั้งปวง ต้องกระโดดเข้ามา

ขอร่วมวงศ์ไพบูลย์เป็นทิวแถวในฐานะคู่เจรจา ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยมี ส ามภารกิ จ หลั ก ที่ ถู ก วางนำ า ร่ อ งเอาไว้ ได้ แ ก่ ก ารรั ก ษา สันติภาพ ความมั่นคงทางทะเล และการร่วมกันช่วยเหลือพิบัติภัย ทางธรรมชาติ ยังไม่นับว่าโดยภูมิศาสตร์ของอาเซียนั้นกินพื้นที่ถึง กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของเส้นทางเดินเรือสมุทรส่งสินค้าในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ไม่มีใครบนเวทีโลกวันนี้ปฏิเสธความสำาคัญของประชาคม อาเซียนได้อีกต่อไปแล้วครับ ขณะนี้ในอาเซียนด้วยกันเองได้ยกเลิกกำาแพงภาษีสินค้า ระหว่างกันออกไปเกลี้ยงตามข้อตกลงของ AFTA (ASEAN Free Trade Area) แล้ว เรื่องความสะดวกในการเดินทางไปมหาสู่กันแบบ ไร้วีซ่าก็ตามมาติดๆ เมื่อเริ่มต้นปี ค.ศ. 2015 ทุกประเทศอาเซียน จะเข้าสู่การเป็นประชาคมอย่างเต็มตัว คำาว่า ASEAN จะกลาย เป็น Household Name หรือศัพท์สามัญประจำาบ้าน ทุกสถาน เอกอัครราชทูต และรถประจำาตำาแหน่งทูตจะปักธงรวงข้าวอาเซียน ควบคู่ไปกับธงประจำาประเทศของตน เช่นเดียวกับประชาคมยุโรป และภายในปี ค.ศ. 2022 หรืออีกหนึ่งทศวรรษต่อจากนี้ อาเซียน จะบูรณาการนโยบายต่างประเทศเข้าหากัน และจะมีนโยบายทาง การทูตเดียวกันหมดทุกประเทศทั่วโลก เปลี่ยนแปลงกันระดับมหากาพยเลยนะครับ เพราะฉะนั้นข้อดีต่างๆในระดับมหภาคจะถาโถมเข้ามา สู่คนไทยตาดำาๆนั้น ถ้าไม่เตรียมตัวกันตั้งแต่ระดับจุลภาคเล็กๆ กันให้ดีละก็..น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งเชียวครับที่เราจะรับมือกับความ เปลี่ยนแปลงต่างๆเหล่านั้นไม่ทัน และจะถูกกลืนหายไปในบริบท ใหม่ของความเป็น AEC ในที่สุด น่ากลัวอย่างไรบ้างนั้น เขียนเตือนกันเป็นเล่มก็ยังไม่พอ เอาเป็นว่าคราวหน้าเรามาดูวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย แหล่ดีกว่าครับ!

*APSC - Asean Political Security Community / *AEC - Asean Economic Community / *ASCC - Asean Socio-Cultural Community

l 27

HUNT l Interview

อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร

อธิบดีกรมอาเซียนกับ AEC โอกาสใหม่ของนักลงทุนไทย >> ทิพย์วรรณ : เรื่อง / กิตตินันท์ : ภาพ

นับตัง้ แต่สงั คมถูกกระตุน้ ให้เปิดการรับรูเ้ กีย่ วกับการทีไ่ ทยจะย่างก้าวเข้า สู่ประขาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 ก็ดูเหมือนว่ากรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศก็กลายเป็นหน่วยงานหนึง่ ทีใ่ ครต่อใครต้องติดตามความ เคลื่อนไหว เพราะเป็นกรมที่มีฐานะเป็นสำ�นักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ มีหน้าที่ ดำ�เนินความร่วมมือของอาเซียนให้สำ�เร็จตามมติที่ประชุมสุดยอด และในฐานะที่ อธิบดีกรมอาเซียน คุณอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร ผู้คลุกคลีกับงานของกรมอาเซียน มากว่า 15 ปี กับมุมมอง AEC โอกาสของประเทศไทย จึงเป็นข้อมูลที่น่ารับฟัง และ อาจนำ�มาปรับใช้เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆในวันที่อาเซียนรวมกันเป็นตลาดเดียว Q: ในเวทีการประชุมอาเซียนได้มองภาพการรวมกันของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนไว้อย่างไรบ้าง หลายคนมักจะพูดถึงภาพของความเป็นอียู จริงๆแล้วอาเซียน จะมีการพัฒนาไปในรูปแบบเดียวกันหรือไม่ A: เรามองว่าอียูเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำ�เร็จในเรื่องของเศรษฐกิจ แต่เราไม่ ได้ต้องการเป็นอียู เพราะลักษณะ เฉพาะของอาเซียนกับอียูไม่เหมือนกัน อย่างเรื่องความ แตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกของอียู รายได้ต่อหัวจะห่างกันประมาณ 2-3 เท่า แต่ในอาเซียนจะแตกต่างกันมาก เช่น ประเทศไทยรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 4 พันเหรียญสหรัฐ/ คน /ปี ของคนสิงคโปร์ หรือบรูไนอยู่ที่ 3 หมื่น ถึง 3 หมื่นห้าพันเหรียญ/คน/ปี แต่ห่างจาก ประเทศไทย 8 เท่า ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา รายได้ต่อหัวประมาณ 600 เหรียญ /คน/ปี ห่างจากไทยเกือบสิบเท่า รายได้ต่อหัวของคนพม่ากับสิงคโปร์ห่างกันเกือบ 50 เท่า การที่จะรวมตัวกันแบบอียูได้จะต้องมีระดับการพัฒนาที่ใกล้เคียงกัน นี่คือเหตุผล ว่าทำ�ไมไทยจึงสนับสนุนการพัฒนาของประเทศเพื่อนบ้านให้เขาเจริญเติบโตไปพร้อมๆ กับ อาเซียน ถ้าเพื่อนบ้านเราเติบโตขึ้น เขาก็จะมีการซื้อสินค้า มีการท่องเที่ยวได้มากขึ้น ก็จะ สนับสนุนให้อาเซียนเจริญต่อไปได้ ถ้าประเทศที่มีรายได้สูง เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน ทอดทิ้งประเทศเพื่อนบ้าน ความแตกต่างก็จะยังมีอยู่ การรวมตัวกันก็จะไม่เหนียวแน่น

28 l

l 29

•• AEC เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้นักธุรกิจไทย มีความสนใจในเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ตี่นตัวใน การหาข้อมูล หาโอกาสทางธุรกิจ หาต้นทุน หาวัตถุดิบในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดต้นทุนของตัวเอง ••

แต่เราดูอียูว่าเป็นรูปแบบการรวมตัวที่ได้ผล เพราะอียู ปัจจุบนั มีการแลกเปลีย่ นสินค้าภายในประมาณ65เปอร์เซ็นต์ขณะที่ อาเซียนค้าขายกันเองอยู่แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าดีขึ้น เพราะอดีต เราค้าขายกันเองแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เราสามารถพัฒนาไปถึง 40-60 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นโอกาสของเรายังมีอีกเยอะ แนวโน้มดีขึ้น เรื่อยๆ ในเรื่องการค้าระหว่างอเมริกาและยุโรป เขาค่อนข้างจะอิ่ม ตัวแล้ว ขณะที่อาเซียนเจริญเติบโตเฉลี่ย 5-8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

อนาคตของประเทศไทยเรามีศักยภาพในเรื่องของการ บริการ การท่องเที่ยว ปีหนึ่งมีจำ�นวน 20 ล้านคน ครึ่งหนึ่งมาจาก อาเซียน แนวโน้มจะสูงไปเรื่อยๆ การลงทุนก็เหมือนกัน ในอดีตเรา มีการลงทุนจากญี่ปุ่น ยุโรป แต่แนวโน้มการลงทุนในอาเซียนด้วย กันเองมีมากขึ้น

30 l

ปัจจุบัน บริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย เช่น ปูนซีเมนต์ไทย ซีพี ปตท. บ้านฉาง บ้านปู ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้าง เยอะ เพราะเขาเห็นโอกาส ก็ถือว่าการรวมตัวของอาเซียนเป็นการ สร้างโอกาส สร้างประโยชน์ให้กับนักธุรกิจไทยพอสมควร เพราะเรา สามารถที่จะปรับปรุงกลไกของประเทศเราให้แข่งขันกับต่างประเทศ ได้ ถ้าไม่มีเรื่อง AEC เราก็จะไม่มีการแข่งขัน AEC เป็นสิ่งที่ช่วย กระตุ้นให้นักธุรกิจไทยสนใจในเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น Q: พูดถึงความพร้อมคิดว่าประเทศไหนพร้อมกับการเปิด รับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมากที่สุด และประเทศไทยเอง มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน A: เรื่องความพร้อมแน่นอนว่าสิงคโปร์พร้อมที่สุด เพราะเขา เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีการแข่งขันกับต่างประเทศ มีการเปิดเสรีมา นาน ประชาชนก็พร้อม ภาคธุรกิจก็พร้อม นโยบายรัฐบาลก็พร้อม รองลงมาก็เป็นมาเลเซีย ก็เป็นประเทศที่มีความพร้อม แต่ไทยก็ถือ ว่าอยูร่ ะดับแนวหน้าพอสมควรแม้วา่ เราอาจจะไม่พร้อมเท่ามาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่เราก็อยู่อันดับต้นๆ เพราะเรามีศักยภาพมากกว่า สองประเทศนี้

สิงคโปร์มีข้อจำ�กัดในเรื่องของพื้นที่ ไม่มีพื้นที่เกษตร การ ตั้งโรงงานมีข้อจำ�กัด แรงงานก็แพง มาเลเซียก็เหมือนกัน ขณะที่ไทย มีข้อได้เปรียบคือที่ตั้ง เรามีพื้นที่ติดกับลาว เขมร ผิดกับมาเลเซีย หากเขาต้ อ งการไปลาวต้ อ งผ่ า นไทย พม่ า ไปลาวต้ อ งผ่ า นไทย นอกจากนั้น ผมคิดว่าภาคเอกชนไทยเองก็มีประสบการณ์ในการ แข่งขันพอสมควร สินค้าไทยเองก็เป็นที่ชื่นชม ไปเวียดนามถามว่า ชอบสินค้าไทย ญี่ปุ่น หรือจีน เขาก็บอกว่าชอบสินค้าไทย หรือการ ท่องเที่ยวที่ตัวเลขบอกว่ามาเลเซียเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน แต่ถ้า ถามกันจริงๆ คนในอาเซียนถ้าจะให้มาเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะมา เมืองไทย เพราะเรามีความหลากหลาย มีทั้งภูเขา ทะเล มีทั้งชนบท มีทั้งเมือง ทั้งสินค้าหัตถกรรมและเทคโนโลยี ขณะที่มาเลเซียเขามีข้อ จำ�กัดเรือ่ งความหลากหลายสิงคโปร์กม็ เี รือ่ งความทันสมัยอย่างเดียว

เศรษฐกิจของไทยก็เป็นเศรษฐกิจที่หลากหลาย เราไม่ ได้ เ น้ น สิ น ค้ า เกษตรอย่ า งเดี ย ว เรามี สิ น ค้ า ในภาคอุ ต สาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ เรามีเรื่องของบริการ ความหลากหลายในเรื่อง เศรษฐกิจของเรานี่เป็นจุดแข็ง ไปดูอินโดนีเซีย เขามีเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ เรื่องของเทคโนโลยี แต่สินค้าเกษตรเขาแทบไม่มี การ

ท่องเที่ยวก็สู้ไทยไม่ได้ ในระยะยาวแนวโน้มของเรา น่าจะแข่งขันได้ เพียงแต่ว่าเราต้องสนใจเรื่องของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ เพื่อนบ้านให้มากขึ้น เรื่องของภาษา ต้องพัฒนาทักษะให้เก่งเท่า กับคนฟิลิปปินส์ คนสิงคโปร์ เราต้องรู้จักประเทศเพื่อนบ้านให้มาก กว่านี้ มีโลกทัศน์กว้างไกล ไม่ใช่โลกทัศน์เฉพาะประเทศไทย ดูว่า ประเทศเพื่อนบ้านสนใจอะไร มีลู่ทางอะไร

ขณะนี้แม้จะมีคนวิจารณ์ว่าเราไม่พร้อม แต่เราก็แข่งขัน มานาน เพื่อนบ้านต่างก็ชอบสินค้าไทย ภาคเอกชนของเราไปลงทุน ต่างประเทศเยอะแยะ เพียงแต่เราต้องสนับสนุน SMEs กับคนที่อยู่ ในพื้นที่ชายแดน ที่ต้องให้ความสนใจกับประชาคมอาเซียนมากกว่า นี้ เสียงสะท้อนเหมือนกับเราไม่พร้อม แต่โดยรวมเรามีความพร้อม ศักยภาพเราเยอะ เรามีจุดเด่น และข้อได้เปรียบอยู่ แต่เราก็ต้อง พัฒนา และปรับตัวเองมากขึ้น Q: ความพยายามในการลดอุปสรรคทางการค้าด้วยการ ทำ� Single Window ปัจจุบนั มีความคืบหน้า หรือมีความเป็นจริง ได้เพียงใด A: เรื่องนี้เป็นความพยายามของประเทศต่างๆ ที่จะลดขั้น ตอนของศุลกากรให้กระชับที่สุด แต่มันมีปัญหาของรายละเอียดพอ สมควร เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศุลกากรเพียงอย่างเดียว แต่ เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงต่างประเทศ กรมการค้า ภายใน สาธารณสุข มหาดไทย ฯลฯ อดีตการใช้เอกสารจะต้องมีการ แสตมป์ มีคนเซ็นต์เยอะ ก็พยายามที่จะลดขั้นตอนทำ�ให้มีเอกสาร เดียว เป็นสิ่งที่ดีที่ประเทศไทยพยายามผลักดันในเรื่องนี้ ปัจจุบันก็มี การร่วมมือกับ 2-3 ประเทศก่อน ไม่ได้ทำ�ในกรอบของ 10 ประเทศ ผมว่าเรื่องนี้จะสำ�เร็จถ้าเราใช้กันเฉพาะ อย่างเช่น 2 ประเทศ ไทยกับ มาเลเซีย หรือ 3 ประเทศ เวียดนาม กัมพูชา ไทย แต่จะให้ทุกประเทศ ในอาเซียนคงลำ�บาก เพราะแต่ละกระทรวงมีเรื่องของกฎหมายมา กำ�กับ เรื่องของระบบอิเล็กทรอนิกส์ ต้องมีความมั่นคงพอสมควร เพราะ Single Window ต้องมีเรื่องของ IT ที่ทุกประเทศยอมรับ

การดำ�เนินงานตอนนี้มีกรมศุลกากร 2-3 ประเทศ เริ่มคุย กันแล้วว่าแนวทางน่าจะเป็นอย่างไร อาจจะมีการทดลองใช้เพื่อดู

•• ขณะนี้แม้จะมีคนวิจารณ์ว่าเราไม่พร้อม แต่เราก็แข่งขันมานาน เพือ่ นบ้านต่างก็ชอบสินค้าไทย ภาคเอกชนของเราไปลงทุนต่างประเทศเยอะแยะ เพียงแต่ เราต้องสนับสนุน SMEs กับคนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ที่ต้องให้ความสนใจกับประชาคมอาเซียนมากกว่านี้ ••

ว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน เท่าที่เราพบอุปสรรคจริงๆ อยู่ที่กฎระเบียบ ค่อนข้างเยอะ เรื่องของการพยายามลดภาษีให้ได้ 0 เปอร์เซ็นต์ ใน ความเป็นจริงภาคเอกชนยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จ าก 0 เปอร์เซ็นต์ เท่าไร เพราะขั้นตอนมันเยอะ การที่จะขอนำ�เข้าสินค้าจะต้องมีแบบ ฟอร์ม มีแหล่งสินค้า แบบฟอร์มที่มาของสินค้า คือนักธุรกิจยอมเสีย 10 เปอร์เซ็นต์มากกว่า เพราะมันก็ไม่ได้เพิ่มต้นทุนเท่าไร Q: ด้ ว ยความไม่ พ ร้ อ มในเรื่ อ งของปฏิ บั ติ เช่ น นี้ ห รื อ ไม่ ที่ทำ�ให้มีข่าวว่า AEC อาจต้องเลื่อนออกไป A: ผมว่าเรือ่ งของการกำ�หนดว่าเราจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในปี 2015 เป็นสัญลักษณ์มากกว่า เป็นการบอกว่าเราจะ รวมตัวกันมากขึ้น ด้านการเมืองจะมีกฎระเบียบ กติกา บรรทัดฐาน ร่วมกัน ด้านสังคมจะมีการพัฒนามนุษย์ ให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น ด้านเศรษฐกิจจะมีการรวมตัวเป็นตลาดเดียวมากขึ้น มีการหมุน เวียนของเงินทุนและแรงงานสะดวกขึน้ แต่ความจริงแล้วจะถามว่าต้น ปีหรือปลายปี ผมคิดว่าไม่แตกต่างกัน เพราะมาตรการบางอย่างก็ยัง ไม่อาจดำ�เนินการได้ มาตรการบางอย่างอาจจะทำ�ได้ในปี 2014 บาง อย่างทำ�ได้ในปี 2016 แต่ทุกคนพยายามเร่งรัดที่จะรวมตัวกันภายใน เป้าหมายที่ได้มีการระบุเอาไว้ใน Blueprint เรามี Timeline แต่บาง อย่างต้องดูสภาพที่แท้จริง อย่างเรื่องของการเปิดเสรี ในเรื่องของ กฎหมายยังไม่ได้แก้ไข ก็ยังไม่สามารถที่จะเปิด ก็ต้องเร่งรัดมากขึ้น การกำ�หนดเป้าหมายมันดีที่ว่าทุกคนพยายามเร่งตัวเองให้ทำ�เสร็จ ให้ทำ�ภายในเป้าหมายดังกล่าว เพราะถ้าไม่มีเป้าหมายทุกคนอาจ จะทำ�เรื่อยๆ

ในโอกาสแน่นอนย่อมมีวิกฤติ แต่การเตรียมพร้อม สำ�หรับโอกาส และศึกษาวิกฤติ (ที่อาจจะเกิด) อย่างรอบด้าน การ เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะต้องกังวล... l 31

HUNT l Fengshui

พม่กับพลัา...งแห่งความสำเร็จ >> อ.มาศ เคหาสน์ธรรม

ท่ามกลางกระแสข่าวการเปิดการค้าเสรี เพื่อก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้ ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียกำลังเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะประเทศพม่า ที่เพิ่งเปิดประเทศรับกระแสการค้าและการลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่าง เต็มรูปแบบ จากประเทศที่เคยคุกรุ่นไปด้วยกระแสความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง กลับกลาย เป็นหนึ่งในประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด!

หากมองตามหลักฮวงจุ้ย การเปลี่ยนผ่านของช่วงเวลา ทำาเลที่ตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ และกระแสพลังทางธรรมชาติ ปัจจัย เหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและความสำาเร็จได้ทั้งสิ้น “ภูเขาสร้างผู้ยิ่งใหญ่ สายน้ำาสร้างเจ้าสัว” คือ หนึ่งใน เคล็ดวิชาคัมภีร์ฮวงจุ้ย ภูเขาเป็นสิ่งที่สำาคัญมากในวิชาฮวงจุ้ย เพราะเกิดจาก พลังงานภายใต้พื้นพิภพที่ดันผิวดินให้ปูดขึ้นมาเป็นรูปทรงภูเขา ซิ น แสฮวงจุ้ ย จะดู ว่ า แนวทิ ว เขาลาดลงจนเป็ น ที่ ร าบ ณ จุ ด ใด ที่แห่งนั้นถือเป็นแหล่งรวมพลังงานอันทรงพลัง เรียกว่า...จุดมังกร เมื่อบุคคลเข้าอาศัยอยู่บริเวณนั้น ก็จะได้รับพลังงานที่ดีสะสมเข้าไป ในตัว รวมทั้งได้ใช้พลังงานนั้น สร้างความยิ่งใหญ่เหมือนดั่งขุนเขา มังกรภูเขาอันทรงพลังของภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รบั อิทธิพลมาจากเทือกเขาหิมาลัยทีส่ ง่ กระแสพลังมากลุม่ ประเทศ นี้ทั้งหมด 3 สาย โดย กระแสพลังงานหลักไหลมาทางประเทศไทย ซึ่ง มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มเหมือนแอ่ง จึงสามารถกักเก็บกระแส พลังไว้ได้ เปรียบเหมือนท้องมังกรที่เก็บกักความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้ เป็นส่วนมาก ทำาให้ไทยมีความเจริญรุ่งเรืองมากว่า 700 ปี แต่ว่า กระแสพลังบางส่วนยังไหลทอดต่อเนื่องผ่านประเทศมาเลเซีย และ ไหลหยุดรวมที่สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นจุดหัวมังกร ทำาให้สิงคโปร์กลาย เป็นหนึ่งประเทศที่ร่ำารวยที่สุดในโลก ทั้งที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ใดๆ ทั้งสิ้น

32 l

“ย่างกุ้ง”

ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ�สองสาย ได้แก่ แม่น้ำ� พะโค (หรือแม่น้ำ�หงสาวดี) และแม่น้ำ�ย่างกุ้ง โดยแม่น้ำ�ทั้งสองสายไหลมารวมเป็นสายเดียวทางด้านล่างของเมือง เป็นจุดรวมกระแสพลังที่ดี

•ศาลาว่าการเมืองย่างกุ้ง•

กระแสพลังจากเทือกเขาหิมาลัย ที่ผ่านมายังกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ศาลาว่าการเมืองย่างกุ้ง ตั้งอยู่ใกล้จุดวงเวียน ซึ่งนับเป็นจุดรวมของพลังงาน

กระแสพลังงานที่สอง ส่งผ่านมาทางประเทศลาว กัมพูชา และมาสิน้ สุดตรงทีป่ ระเทศเวียดนามจึงทำ�ให้เวียดนามเริม่ มีเศรษฐกิจ ที่มั่งคั่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

กระแสพลังงานสายสุดท้าย ส่งผ่านลงมาที่พม่า ซึ่งพื้นที่ ส่วนใหญ่อยู่ใกล้แนวเทือกเขามากเกินไป จึงทำ�ให้กระแสพลังไม่ สามารถสะสมตัวได้มากเท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องพิจารณาเป็นราย เมือง ยกตัวอย่างเช่น เมืองย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงที่มีชื่อเสียง “ย่างกุ้ง” ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ�สองสาย ได้แก่ แม่น้ำ�พะโค

(หรือแม่น้ำ�หงสาวดี) และแม่น้ำ�ย่างกุ้ง โดยแม่น้ำ�ทั้งสองสายไหลมา รวมเป็นสายเดียวทางด้านล่างของเมือง เป็นจุดรวมกระแสพลังที่ดี หมายถึงเมืองมีรายรับจาก 2 ทาง แต่เนื่องจากเมื่อแม่น้ำ�รวมสาย เดียวกลับมีขนาดใหญ่ และมีความยาวมาก ทำ�ให้ดึงพลังงานไหล ออกจากเมือง เปรียบได้กับรายจ่ายมาก ดังนั้น “ย่างกุ้ง” จึงมีการ ลงทุนธุรกิจการค้าจากหลายแหล่ง แต่ลูกค้าที่มาค้าขายจะทำ�ธุรกิจ อยู่ด้วยเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ

หากพิจารณาไปยัง สถานทีส่ �ำ คัญของพม่า เช่น ศาลาว่าการ ของเมือง ตั้งอยู่ใกล้จุดวงเวียน ซึ่งมีคนสัญจรผ่านไปมามากมาย และนับได้ว่าเป็นจุดรวมของพลังงานแห่งหนึ่ง แต่เมื่อยืนอยู่ตรง ประตูหลัก หันหน้าไปทางถนนใหญ่ จะพบว่า จุดทีต่ ง้ั ของศาลาว่าการ มีรถที่วิ่งผ่านมาในระยะทางสั้นๆ แต่ระยะทางของรถที่วิ่งจากไป ยาวมาก ตามหลักฮวงจุ้ยบ่งบอกได้ว่า ศาลาว่าการแห่งนี้ไม่สามารถ สะสมพลังงานไว้ได้ ทำ�ให้เก็บรายได้เข้ารัฐได้น้อย มีการโกงกิน และ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารประเทศมาก หากมองในส่วนของโครง สร้างอาคารศาลาว่าการ ดูแข็งแรง มีพลังดี สะท้อนถึงความเข้มแข็ง ด้านการปกครอง แต่โครงสร้างอาคารทั้งหมดกลับมีช่องว่างอยู่ ตรงกลาง ทำ�ให้คนในองค์กรไม่สามัคคีกัน

อาคารรัฐสภาของเมืองย่างกุ้ง มีสวนขนาดใหญ่เป็นลาน โล่งรับพลังงานทีด่ ีทำ�ให้มโี อกาสมากทางธุรกิจและการสร้างประเทศ แต่มีเจดีย์ชเวดากองซึ่งสร้างขึ้นจากทองคำ� มาทำ�ลายทิศทางด้าน ตะวันออกซึง่ เป็นทิศธาตุไม้ของรัฐสภาทำ�ให้คนในรัฐสภาไม่สามารถ

•อาคารรัฐสภาเมืองย่างกุ้ง• •เจดีย์ชเวดากอง• ย่างกุ้ง” อดีตเมืองหลวงของพม่า ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ�สองสาย ได้แก่ แม่น้ำ� พะโค และแม่น้ำ�ย่างกุ้ง

ทำ�เลที่ตั้งของอาคารรัฐสภาของเมืองย่างกุ้งและเจดีย์ชเวดากอง

l 33

เขตการปกครองหลายกระทรวง ตั้งกระจัดกระจายกันตามหุบเขา

จุดเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างประเทศไทย – เวียตนาม – อินเดีย

ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาได้ดีเท่าที่ควร โดยจุดนี้มีแนวทางแก้ไขคือ การสร้างสระน้ำ�ขนาดใหญ่ ระหว่างเจดีย์กับอาคารรัฐสภา เพื่อเชื่อม ประสานพลังแห่งความขัดแย้งเป็นพลังก่อเกิดให้กับอาคารรัฐสภา

จากเมืองย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงอันเลื่องชื่อ ผ่านมาถึง กรุงเนปิดอเมืองหลวงแห่งใหม่ทมี่ คี วามสำ�คัญไม่ยงิ่ หย่อนไปกว่ากัน เมื่อพิจารณาตามหลักฮวงจุ้ยแล้วพบว่า สภาพภูมิประเทศของกรุง เนปิดอ โดยรวมเป็นภูเขาสูง (อยู่เหนือระดับน้ำ�ทะเล 90-200 เมตร) ห่างจากเมืองย่างกุ้งไปทางเหนือ 320 กิโลเมตร ใกล้จุดกำ�เนิดของ แม่น้ำ�สะโตง แต่กระแสพลังเป็นการไหลผ่านไปทางตรง จึงยังไม่ สามารถเก็บกระแสพลังไว้ได้

ส่วนเขตการปกครอง และกระทรวงต่างๆ ที่ตั้งอยู่อย่าง กระจัดกระจายตามหุบเขาทำ�ให้พลังกระจายออกส่งผลให้การทำ�งาน ของฝ่ายต่างๆ ยังไม่สามารถประสานความคิดกันได้

ทางด้านขวามือของอาคารหลักของศาลาว่าการ มีอาคาร ที่โดดเด่น โดยทิศที่ตั้งของอาคารดังกล่าวถือเป็นทิศของเสือขาวที่ สื่อแทนความหมายของผู้หญิง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า “ผู้หญิง”จะมี

บทบาทและมีอำ�นาจสูงขึ้นในพม่า

ในแง่ของการตัดสินใจลงทุนทางธุรกิจในพม่า นอกเหนือ ไปจากสภาวะการณ์การเมืองแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการค้า การลงทุน นั่นคือ ความคล่องตัวในพื้นที่แลกเปลี่ยนหรือขนส่งสินค้า ซึ่งสำ�หรับพม่า “ท่าเรือเมืองทวาย” จะมีบทบาทสำ�คัญอย่างยิ่งใน อนาคต เพราะท่าเรือแห่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อทางการค้าและการ ขนส่งสินค้าผ่านไปทางอินเดีย รวมถึงยุโรปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึง่ หากมองในเชิงฮวงจุย้ ทีแ่ ห่งนีม้ สี ว่ นของพืน้ ทีซ่ งึ่ เป็นทีร่ าบสามารถ รองรับอิทธิพลของพลังจากทะเลได้เป็นอย่างดี

อาคารที่ตั้งอยู่ด้านขวาของศาลาว่าการ ถือเป็นทิศของเสือขาวสื่อแทนความหมายของผู้หญิง ใกล้กันมีบึงนำ�้ที่มาของแหล่งพลังที่สนับสนุนให้ผู้หญิงมีอำ�นาจมากขึ้น

34 l

นาทีนี้ภาพรวมของ “พม่า” ตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย สะท้อนให้เห็นถึงกระแสพลังงานต่างๆ ที่อยู่รายรอบ ซึ่งมีส่วน สนับสนุนให้พม่า มีโอกาสเติบโตได้ในหลายมิติ อย่างไรก็ตาม การที่ “พลังแห่งความสำ�เร็จ” จะเกิดขึ้นได้นั้น ยังคงจำ�เป็นต้อง อาศัยปัจจัยต่างๆ หลอมรวมเข้าด้วยกัน ทั้งในส่วนของพื้นฐาน ดวงชะตาของผู้ลงทุน ทำ�เลที่ตั้งของธุรกิจ รวมไปถึงการรู้จัก บริหารจัดการพลังงานที่ดี นั่นเอง

ท่าเรือเมืองทวาย พื้นที่แลกเปลี่ยนทางการค้าที่สำ�คัญของพม่า ข้อมูลจาก : สถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ย โทร. 02 630 6699 / 089 014 6888

l 35

HUNT l Buddhism Management

กับดักนักบริหาร >> ว.วชิรเมธี

การจากไปในวั ย เพี ย ง õö ปี ของสตี ¿ จ อ บส์ ผู้ ก่ อ ตั้ ง และ ประธานกรรมการบริหารของบริษัทแอปเป ล เม×่อวันที่ õ ตุลาคม òõõô ด้วย โรคมะเร็งตับ ก่อให้เกิดความสั่นสะเท×อนไปทั่วโลก เพราะชายคนนี้ไม่ได้เปšน แค่ นักธุรกิจคนหนÖ่งที่มีเงินมหาศาล หากแต่เขาค×อคนที่ได้รับการยกย่อง ว่าเปšน “ซีอีโอแห่งศตวรรษ” ชือ่ ชัน้ ของเขาอยูใ่ นระดับเดียวกันกับสุดยอดนักประดิษฐ์ตลอดกาลอย่างโธมัส อัลวา เอดิสัน เพราะสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ฝากไว้ในโลกนั้นก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแก่ โลกและรูปแบบการใช้ชีวิตของเราอย่างมากมาย ไม่ว่าจะ เป็น คอมพิวเตอร์แมคอินทอช คอมพิวเตอร์แม็คบุ๊คแอร์ ไอพอต ไอแพต ไอโฟน ฯลฯ โลกของเราเข้าสู่ยุคไร้กระดาษ (paperless) ส่วนหนึ่งก็เพราะเขา วงการภาพยนตร์แอนิเมชั่น มีสุดยอดภาพยนตร์ แอนิเมชั่นให้ตื่นตะลึงกันก็เพราะเขา การทำาธุรกิจ การติดต่อ การทำางาน ด้วยวิธีการ “คลิก” เพียงปุ่มเดียว แล้วอะไรต่อมิอะไรก็เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อก็เพราะเขา สตีฟ จ๊อบส์ คือ สุดยอดนวัตกรแห่งศตวรรษที่ ๒๑ อย่างไร้ข้อกังขา ขณะที่ชีวิตของเขากำาลังรุ่งโรจน์สุดๆ แต่แล้ว พญายมก็มาพรากเขาจากพวก เราไปในวัยเพียง ๕๖ ปี ข่าวนี้ ทำาให้หลายคนต้องหันกลับมาคิดใหม่ว่าอะไรคือเหตุ ปัจจัยให้คนอย่างเขาต้องป่วยด้วยโรคมะเร็ง และจบชีวิตในวัยที่ยังเต็มไปด้วยไฟแห่งการ สร้างสรรค์ ในหนังสือเล่มแรกและเล่มเดียวที่สตีฟ จ๊อบส์ เล่าประวัติตัวเองอย่างหมด เปลือก เขาสารภาพว่า ที่ตัวเองป่วยหนักสาเหตุน่าจะเริ่มมาจากการบริหารสองบริษัท พร้อมกัน ในเวลาดังกล่าวนั้นเขาแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างที่ควร จะเป็น เขาเล่าว่า ไม่มีเวลาแม้แต่จะแวะเข้าห้องน้ำาเสียด้วยซ้ำา และนั่นคือเหตุผลสำาคัญ ที่ “นาฬิกาชีวิต” ของเขาเสียสมดุล โรคร้ายคงก่อตัวขึ้นมาในช่วงนี้ - - นี่คือ ข้อสันนิษฐาน ของเขาเอง ทุกวันนี้ เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ทั้งความเครียดและการเสียสมดุลในร่างกาย มีส่วนสำาคัญเป็นอย่างมาก ที่ทำาให้ร่างกายไม่อาจเยียวยาตัวเอง และพัฒนาไปเป็นโรค ร้ายแรงอย่างมะเร็ง หรือโรคอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน สตีฟ จ๊อบส์ คือ ตัวอย่างที่ว่านี้ ในปรัชญาเซนซึ่งสตีฟ จ๊อบส์ ชื่นชอบ ศึกษา และนำามาใช้ในงานนวัตกรรม อาจารย์เซนท่านหนึ่ง เคยสอนลูกศิษย์ว่า

36 l

•• หากเราไม่อยากจากไปก่อนวัยอันควร และมีเวลาไม่จำ�กัดจนเกิน ไปนัก หนทางหนึ่งที่จะแก้ไขได้ก็คือ เราต้องหันกลับมา “ทบทวน” วิธีที่เราคิด วิธีที่เราทำ�งาน และวิธีที่เราใช้ชีวิตกันเสียใหม่••

“รู้ไหม สุดยอดแห่งปาฏิหาริย์คืออะไร ?”

“การเดินบนน้ำ� การหายตัว...” ศิษย์ตอบ

“นั่นไม่ใช่ปาฏิหาริย์” อาจารย์แย้ง ลูกศิษย์จึงถามว่า ถ้าเช่นนั้นปาฏิหาริย์ คืออะไร อาจารย์จึงเฉลยว่า

“เมื่อหิว ก็จงกิน, เมื่อง่วง ก็จงนอน, นี่แหละ คือ ปาฏิหาริย์”

สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ชอบศึกษาเซน คงลืมคำ�สอนเซนในเรื่องนี้ไป เขาจึงใช้ชีวิต อย่างสมบุกสมบัน อันเป็นเหตุให้เวลาของเขามี “จำ�กัด” อย่างยิ่ง

ลองจินตนาการดูวา่ หากเขามีเวลามากกว่านี้โลกของเราจะเปลีย่ นโฉมหน้า ไปอย่างไร?

บิล เกตส์ ดูเหมือนว่าจะเกิดปีเดียวกับจ๊อบส์ แต่เขาลาออกจากบริษัท ในฐานะผู้บริหารล่วงหน้าก่อนจ๊อบส์นับสิบปี เพราะเขารู้ดีว่า มีบางสิ่งที่สำ�คัญ กว่างาน นั่นก็คือ “สุขภาพ” และ “การแบ่งปัน”

ใช่หรือไม่ว่า หากเรามีทุกอย่าง ทว่าไม่มี “สุขภาพ” ทุกสิ่งที่มี จะมีความ หมายอะไร

ในทางพุทธศาสนาพระพุทธองค์ตรัสว่าเวลาของเราทุกคนในยุคสมัยของ พระองค์ (ซึ่งก็คือเวลาในยุคนี้) มีไม่มากนัก อายุของมนุษย์ในยุคนี้ เต็มที่ก็เพียง ๑๐๐ ปี มากไปกว่านี้ก็เพียง ๑๒๐ ปี นี่คือเวลาอันจำ�กัดของเราทุกคน แต่บางคน กำ�ลัง ทำ�ให้วันเวลาในชีวิตสั้นลงไปกว่าเส้นแบ่งที่พระพุทธองค์ทรงทำ�นายเอาไว้มาก

ใครบางคน ทำ�งาน ใช้ชีวิต เหมือนเป็นศัตรูกับตัวเอง

ทำ�งาน ทำ�งาน ทำ�งาน จนลืมไปว่า จิตใจ และร่างกาย ไม่ใช่หุ่นยนต์ คน ที่ “บ้างาน” จนกลายเป็น “เสพติดการทำ�งานหนัก” อย่างที่กล่าวมานี้ เวลาในชีวิต จะยิ่งสั้นลงไปอีกหลายเท่าตัว

“เรามีเวลาจำ�กัด” (Our time is limited)

สตีฟ จ๊อบส์ เคยพูดประโยคนี้ ตอนที่กำ�ลังป่วย และเขาพยายามยื้อเวลา เอาไว้สุดชีวิต แต่สุดท้าย เขาก็ยื้อ ได้เพียง ๕๖ ปี ก็ต้องจากโลกนี้ไป

หลายคนที่ยังคงมีสุขภาพดี สติปัญญายังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ควรนั่งลงถาม ตัวเองว่า เราจะเป็นสตีฟ จ๊อบส์ คนต่อไป ที่กำ�ลังจะจากไปก่อนวัยอันควร หรือว่า เราจะออกแบบชีวิตของเราใหม่ให้ “งานก็สัมฤทธิ์ ชีวิตก็รื่นรมย์” หรือ “งานก็ได้ผล คนก็เป็นสุข”

หากเราไม่อยากจากไปก่อนวัยอันควร และ มีเวลาไม่จำ�กัดจนเกินไปนัก หนทางหนึ่งที่จะแก้ไขได้ ก็คือ เราต้องหันกลับมา “ทบทวน” วิธีที่เราคิด วิธีที่ เราทำ�งาน และวิธีที่เราใช้ชีวิตกันเสียใหม่

ในพุทธศาสนา เรามีคำ�ที่สำ�คัญมากอยู่คำ� หนึ่ง ซึ่งเป็นคำ�ที่สตีฟ จ๊อบส์ (ในความหมายแฝงก็คือ “มนุษย์บ้างานทั้งหลาย”) อาจจะยังไม่คุ้นชิน นั่นก็คือ คำ�ว่า “ทางสายกลาง” หรือคำ�ว่า “ดุลยภาพ” คำ�ๆ นี้เป็นหัวใจประการหนึง่ แห่งคำ�สอนของพระพุทธองค์ ใครก็ตามเข้าใจคำ�ๆ นี้ เขาจะมีเวลาเหลือมากมาย สำ�หรับอยู่ในโลกนี้ต่อไปอย่างรื่นรมย์

ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ และไม่สนใจ ก็อาจมีเวลา แสนจำ�กัด และอีกไม่นาน เวลานั้นก็คงหมดลงอย่าง รวดเร็ว!

ภาพจาก jacksanferandes.com

l 37

HUNT l Travel

38 l

Cool experience in

Swiss +Story&Photo : Tippawan S.

•• รถไฟด่วนที่มีประวัติยาวนานกว่า 7 ทศวรรษที่มีสโลแกนว่า ‘รถด่วนที่ช้าที่สุดในโลก’ อย่างกลาเซียร์เอ็กเพรส (Glacier Express) หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่า รถไฟสายโรแมนติก เพราะเป็นรถไฟที่เหมือนเปิดประทุน (หลังคากระจกใสรอบห้องโดยสาร) สามารถมองทัศนียภาพที่สวยสดงดงามได้รายรอบ อารมณ์บ้านเล็กในป่าใหญ่ หรือบ้านในนิทานอย่างไรอย่างนั้น •• l 39

•• อินเตอร์ลาเกน (interlaken) เมืองที่ถูกขนาบด้วยทะเลสาบสองฟาก½ั›ง ที่นี่เราจะได้ประสบการณ์ขึ้นรถไฟ ไปชมภูสูงแห่งยุงค์ฟราว ยอดเขา ที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในยุโรป จนเรียกกันว่าหลังคาแห่งยุโรป •• รถไฟระบบขนส่งหัวใจของการเดินทางและเชื่อม Swiss ให้เป็นหนึ่งเดียว

ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง ในใจของนักท่องเทีย่ วอาจดูได้ไม่ยาก หากเดิน ไปที่ชั้นหนังสือท่องเที่ยว ไล่เรียงไปตามสัน หนังสือจะเห็นว่าประเทศอย่างออสเตรเลีย อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส จีน จะติดชาร์ต อย่างยืนยง โดยมีรัสเซียแทรกเข้ามาเป็นตัว เลือกใหม่ แล้วดินแดนระหว่างอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อย่างสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน ของคนชอบหิมะขาว แหล่งของสกีรีสอร์ต อันดับต้นๆ จะถูกก้าวข้ามไปได้อย่างไร

äม่äด้มองข้าม...áต่เข้าäม่ถÖง

เหตุ ผ ลนี้ อ าจจะเป็ น เพราะ ประเทศนี้เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่ง หนึ่ ง ของโลก แถมจี ดี พี ข องประเทศก็ สู ง เป็ น อั น ดั บ สามหากนั บ ในกลุ่ ม ประเทศ อุตสาหกรรมด้วยกัน กิจกรรมท่องเที่ยวที่ ประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะก็มักจะจับกลุ่ม เจ็ตเซ็ต ด้วยมีแหล่งสกีที่ติดอันดับหนึ่งใน สิบของโลกอยู่เสมอ ทำาให้สวิสเซอร์แลนด์ เป็น Destination ที่เหล่าคนดังจะต้องบินไป รวมตัวกันทุกช่วงฤดูหนาวของปี ส่วนใครที่คิดว่าสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนสำาหรับคนวัยเกษียณเพราะภาพ ชินตาที่มักจะเห็นกัน คือ ชาย-หญิง(สูงวัย) เหม่อมองธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศ แสนสงบเสงี่ยมริมทะเลสาบเจนีวา ขอบอก ว่านั่นคือเปลือก เพราะเท่าที่ได้สัมผัส ภาย ใต้ท่าทีแบบเฉยชา คุณอาจจะพบคนที่รัก กิจกรรมท้าทายจนถึงกับบ้าบิ่นได้ไม่ยาก

40 l

สวยแบบสวิสทิวทัศน์ที่เห็นได้ตามเส้นทางรถไฟ

บ้านชาเลย์สไตล์สวิส

This is the things that you couldn’t miss in Switzerland…

Experience Trip on track “ขอให้ทุกคนเตรียมแพ็คกระเป๋าให้เบาที่สุด เพราะเราจะเดินทางด้วยวิธีที่ชาว สวิสฯใช้ในชีวิตประจำาวัน ด้วยสองขา และรถไฟ” คุณวิวัฒน์ สุขทรัพย์ ที่ปรึกษาฝ่ายขาย สายการบินสวิสแอร์ เจ้าภาพของทริปนี้ให้ข้อมูลการเตรียมตัวล่วงหน้า เพราะสิ่งที่ได้รับ กลั บ มาแลกกั บ เสื้ อ ผ้ า น้ อ ยชิ้ น เท่ า ที่ ค วามสามารถในการแบกสั ม ภาระส่ ว นตั ว คื อ ประสบการณ์เที่ยวบนรถไฟ เพราะระบบรางของสวิสฯ เรียกได้ว่าครบวงจร และทั่วถึง ทุกภูมิภาค เพราะเป็นนโยบายของประเทศสวิสฯ ที่ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ในมุมไหน ต้อง สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะนี้ได้อย่างสะดวก และแน่นอน...ตรงเวลา เพราะฉะนั้น เป็นที่รู้กันของคนที่นี่ และคนผ่านทางต้องจำาใส่ใจ...รถไฟสวิสฯ ไม่เคยรอใคร ด้วยระบบรางที่สมบูรณ์แบบ นอกจากจะอำานวยความสะดวกในชีวิตประจำาวัน ของคนท้องถิ่นแล้ว คนผ่านทางอย่างเราก็ได้ประโยชน์และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เกือบ ตลอดเวลา ทั้งการได้โดยสารในรถไฟท้องถิ่น รถไฟข้ามเมือง รถไฟด่วนที่มีประวัติยาว

ร้านในเมืองเบิร์นจุดเชื่อมต่อรถไฟสำคัญอีกแห่งในสวิส

นานกว่า 7 ทศวรรษที่มีสโลแกนว่า “รถ ด่วนที่ช้าที่สุดในโลก” อย่าง กลาเซียร์เอ็ก เพรส (Glacier Express) หรือที่บางคนอาจ จะเรียกว่า รถไฟสายโรแมนติก เพราะเป็น รถไฟที่เหมือนเปิดประทุน (หลังคากระจก ใสรอบห้องโดยสาร)สามารถมองทัศนียภาพ ที่สวยสดงดงามได้รายรอบ อารมณ์บ้าน เล็กในป่าใหญ่ หรือบ้านในนิทานอย่างไร อย่างนัน้ โดยเฉพาะในหน้าร้อนจะยิง่ สวยสด งดงามไม่แพ้หน้าหนาว ที่บางคนอาจชอบ หิมะขาวโพลนไปทุกที่ แถมมีบริการ Audio Guide อธิ บ ายให้ ฟั ง ตลอดทางในจุ ด ที่ มี ประวัติความเป็นมาน่าสนใจ รวมถึงอาหาร และเครื่ อ งดื่ ม รสเลิ ศ รถไฟสายนี้ ยั ง เป็ น เส้นทางนำาไปสู่สกีรีสอร์ทดังๆ ของสวิสฯ เช่น เซนต์มอริส (St.Moriz) หรือแซมัทท์ (Zermatt) ฯลฯ รถไฟสายท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก เส้นทางหนึ่ง คือ สายโกลเด้น พาส (Golden Pass Line) มีต้นทางจาก ลูเซิร์น (Luzern) ไป สิ้นสุดที่มองเทรอซ์ (Montreux) และที่ไม่ ควรพลาดอย่างยิ่งคือรถไฟที่มีประวัติยาว นานนับร้อยปี เพราะเริ่มต้นโครงการครั้ง แรกเมื่อปีพ.ศ. 2439 และเสร็จสิ้นโครงการ เมื่อปี พ.ศ. 2455 โดยคนต้นคิด คือ วิศวกร ออดอฟฟ์ กูยเยอร์ เซลเลอร์ (Adolf GuyerZeller) กับรถไฟสายยุงค์ฟราว ที่ได้ชื่อว่า เป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดในโลก

รถม้ารองรับนักท่องเที่ยวและบ้านโบราณในเมืองอินเตอร์ลาเก้น

ประสบการณ์บนรถไฟจะสนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้น นักเดินทางจะต้องไม่ พลาดในการซื้อตั๋วสวิสพาส ก่อนการเดินทาง เพราะตั๋วรถไฟนี้ใช้เป็นใบเบิกทางสู่การเดิน ทางแบบเอ็กซ์คลูซีพ แม้จะเรียกได้ว่าหลายสตางค์แต่ก็คุ้มค่าเพราะประหยัดเวลา และ ประหยัดกว่าการจ่ายต่อครั้ง ขนาดประชาชนคนสวิสฯ ยังต้องซื้อตั๋วปีดีกว่าจะจ่ายเป็น ครั้งเมื่อต้องเดินทาง แถมให้อกี อย่างกับการบริการจัดส่งกระเป๋าเดินทางล่วงหน้าสูจ่ ดุ หมายปลายทาง ครั้งนี้เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิสู่สนามบินซูริค (Zurich) ต่อด้วยรถไฟในสนามบิน และไปต่อรถไฟที่เมืองเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสวิสฯ เพื่อที่จะได้ชมเมืองมรดกโลก และเมืองหลวงของสวิสฯ อย่างสบายตัวไม่ต้องกังวลกับสัมภาระ ดังนั้น กระเป๋าของชาว เราทั้งหมดจะถูกส่งตรงสู่อินเตอร์ลาเกน เมืองปลายทางในสองวันแรก เรียกได้ว่าเป็น บริการแฮนด์ฟรีทริปสไตล์สวิสฯ ก็ไม่ผิดสักเท่าไร

The Highest Peak of Europe หลังจากเพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมของเมืองเก่าในเบิร์น บ้านเรือนที่มีอายุ ยาวนานเลียบขนานไปกับถนนแคบๆ ที่มีรถรางเป็นรถสาธารณะแล่นผ่านไปผ่านมา อย่างต่อเนื่อง โอบล้อมด้วยแม่น้ำา Aare เมืองเล็กๆ ดูน่ารักในม่านน้ำาของสายฝน โปรยปราย เพียงไม่นานทุกคนก็กลับมารวมตัวกันที่ห้องเก็บสัมภาระที่สถานีรถไฟของ เมือง เตรียมพร้อมขึ้นรถไฟกันอีกครั้ง เพื่อเดินทางสู่อินเตอร์ลาเกน (interlaken) เมือง ที่ถูกขนาบด้วยทะเลสาบสองฟากฝัง ที่นี่เราจะได้ประสบการณ์ขึ้นรถไฟไปชมภูสูงแห่ง ยุงค์ฟราว ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในยุโรป จนเรียกกันว่าหลังคาแห่งยุโรป กิจกรรมประจำาเมืองอย่างหนึ่งของการมาอินเตอร์ลาเกนก่อนไปทำากิจกรรม บนภูเขาสูง คือ การชมเมืองด้วยรถม้า ครั้งแรกที่ได้ยินต่างก็สร้างจินตนาการส่วนตัว ว่ า พวกเราคงได้ ล องนั่ ง แบบรถม้ า ในเทพนิ ย าย แต่ ค วามจริ ง แม้ จ ะตรงกั น ข้ า มเป็ น รถม้าลูกผสมคือลากด้วยม้าก็จริงแต่ห้องโดยสารถูกดัดแปลงคล้ายสองแถวบ้านเรา l 41

สถานี Gornergrat ก่อนขึ้นไปสัมผัสวิวภูเขา 360 องศา

ได้ ยิ น อย่ า งนี้ อ ย่ า คิ ด ว่ า จะไม่ ไ ด้ อ รรถรส เพราะบ้านเรือนระหว่างเส้นทางแบบถนน ในหมู่บ้านชนบทนั้น ทั้งงดงาม บางหลัง เรียกว่าทรงคุณค่าด้วยอายุอานามของบ้าน บางหลั ง ก็ น่ า รั ก โดยการประดั บ ตกแต่ ง ด้วยดอกไม้สะพรั่งไปทั่วทุกบ้าน เสียงกระดึงที่คอม้า เสียงเกือก ม้ากระทบพื้นเป็นจังหวะตามฝีเท้าที่ย่าง เหยาะ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยสดงดงาม สวรรค์ในเหมันต์ฤดูของที่นี่ ก็น่าติดตรึงตรา ถ้าคุณไม่ใช่นกั สกีหรือนักเล่นกีฬา เมืองหนาว ยุงค์ฟราวก็ทำาให้คุณได้คึกคัก ไม่นอ้ ยไปกว่ากันหลังจากนัง่ รถไฟต่อเคเบิล คาร์ ไปเส้นทางกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) หุบเขาเบื้องล่างในหน้าร้อน ดูเขียวชอุ่ม สลับยอดสีขาวบนยอดเขาสูง ชมทิวทัศน์ บนจุ ด ชมวิ ว จนหนำ า ใจแล้ ว ขาลงต้ อ งไม่ พลาดกิจกรรมกระตุ้นอะดรีนาลีน ใครชอบ ความเร็วปานกลางแบบสั่งได้ (เพราะหยุด ชมวิวระหว่างทางได้) ขอให้ลองสกู๊ตเตอร์ ไบค์ หรือจักรยานสองล้อแบบยืน ซึ่งจาก จุดสตาร์ทของสถานี Bort มีจักรยานและ หมวกไว้บริการ หรืออยากท้าทายความเร็ว และความหนาวก็เลือก First Flyer คือการ ดิ่งด้วยท่านั่งบนความสูงมากกว่า 50 เมตร ไปตามสายเคเบิลระยะทาง 800 เมตร ด้วย ความเร็ ว 84 กิ โ ลเมตรต่ อ ชั่ ว โมง โดย มี เ พี ย งสายรั ด ที่ อ อกแบบมาเพื่ อ ความ ปลอดภัย ความท้าทายแบบนี้ไหนๆ มาแล้ว ก็ ต้ อ งขอลอง แต่ ไ ม่ แ น่ ใจว่ า เป็ น ผลของ

42 l

การนั่งกระเช้าสู่จุดท่องเที่ยวบนที่สูง

บรรยากาศเรียบง่ายกลมกลืนธรรมชาติในกรุงเบิร์น

การภาวนาของเพื่อนร่วมทริปหรือไม่ ที่เจ้าหน้าที่ประจำาสถานีออกมาบอกว่า วันนั้น อากาศปิด หมอกลงจัดเกินไปไม่อาจเปิดให้บริการได้ หลายคนบ่นเสียดาย แต่ก็มีหลาย คนแอบโล่งใจที่ไม่ต้องหวาด (เสียว)

Grace of Alps. Mattherhorn แซมัทท์ (Zermatt) พูดถึงเมืองนี้สำาหรับนักสกีย่อมรู้จักกันดี เพราะเป็นแหล่งสกี ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงแห่งหนึ่งของยุโรป แม้จะเป็นรองแหล่งสกีอื่นๆ ในสวิสฯ อย่าง เซนต์มอริส หรือ โบลสเทอร์ (Bolster) แต่ที่นี่ก็มีดีตรงอากาศที่รับรองว่าสะอาดบริสุทธิ์ เพราะเมืองนี้ไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์ ที่พักและที่อยู่อาศัยยังคงรูปแบบดั้งเดิม มีโรงแรม ที่ทันสมัยบ้างแต่มีจำานวนน้อย ร้านอาหารมีจำานวนมากเกือบทุกถนน ว่ากันว่ามีจำานวน ถึง 101 ร้าน ในหมู่บ้านเชิงเขาของที่นี่ โดยมีให้เลือกตั้งแต่ร้านอาหารไทย อาหารยุโรป กระทั่งอาหารฟาสต์ฟู้ดยี่ห้อแมคโดนัลด์ก็ขึ้นมาถึงที่นี่ แซมัทท์บนแผนทีส่ วิสฯจะอยูท่ างตะวันตกเฉียงใต้เป็นเขตทีจ่ ะใช้ภาษาเยอรมัน อยู่ในแคว้นที่เรียกว่าวาเลส์ ในหน้าร้อนอย่างนี้ แม้ผู้คนจะไม่คึกคักเหมือนหน้าหนาวซึ่ง เป็นช่วงไฮซีซัน แต่ห้องพักที่รวมกันแล้วของโรงแรมและบ้านพักเกือบ 11,248 เตียง ก็แทบ จะไม่พอรองรับ กิจกรรมหน้าร้อนของแซมัทท์ก็มีสีสันไม่แพ้หน้าหนาว เพราะมีพระเอก

•• กิจกรรมหน้าร้อนของแซมัทท์ก็มีสีสันไม่แพ้หน้าหนาว เพราะมีพระเอกอย่างภูเขามัทเทอร์Îอร์น (Matterhorn) ภูเขาสูงที่ไม่ว่าอยู่จุดไหนของเมืองก็สามารถเ½‡ามองได้ไม่วางตา ไม่ว่าจะยามหลับก็มายืนสั่งลา และพร้อมทักทาย อยู่ที่ริมหน้าต่างเมื่อยามเราตื่น ••

อย่างภูเขามัทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ภูเขาสูงที่ไม่ว่าอยู่จุดไหนของ เมืองก็สามารถเฝ้ามองได้ไม่วางตา ไม่ว่าจะยามหลับก็มายืนสั่งลา และ พร้อมทักทายอยู่ที่ริมหน้าต่างเมื่อยามเราตื่น แน่นอนว่าสกีบนภูเขาคือจุดขาย เพราะที่นี่มีลานสกีที่เล่นหิมะ ได้ตลอดปี มีทางสกีเชื่อมต่อไปจนถึงอิตาลี ในวันที่สภาพอากาศเป็นใจ นอกจากนั้นเส้นทางนี้สามารถชมทัศนียภาพมุมสูงของเทือกเขาแอลป์ ได้ย่างถนัดตา หรือจะลงลิฟท์ไปสัมผัสกับวังน้ำาแข็งที่มีความเย็นเยือก ติดลบ ภายในมีการสกัดน้ำาแข็งเป็นรูปปันต่างๆ พระพุทธรูปน้ำาแข็ง ก็เรียก ความสนใจของคนไทยได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเวลาเพียงไม่เกินสิบนาที เราก็ต้องต่างตะลีตะลานวิ่งกลับ เพราะอวัยวะต่างๆ เริ่มเย็นเยียบเหมือน กำาลังจะหลุดออกจากร่าง หรือจะลองอีกประสบการณ์ คือ การเดินเขาแบบมืออาชีพ หรือ มือสมัครเล่น โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟจากแซมัตต์สู่สถานี Gornergrat สถานีปลายทางนี้จะนำาไปสู่จุดชมวิว ผ่านโรงแรมสุดหรูหลังคาทรงกลม เหมือนหอดูดาวที่ชื่อ The Kulmhotel Gornergrat เป็นจุดสังเกต จากตรงนี้ จะได้เห็นยอดเขาของแอลป์แบบเต็มๆว่ากันว่าถ้าอากาศเป็นใจเราสามารถ เห็นยอดเขามองบลังค์ (Mont Blanc) หนึ่งในยอดเขาชื่อดังของแอลป์ได้ ไม่ยาก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาลงเขา ใครที่ไม่ได้ออกกำาลังขาขึ้นขอให้ลอง ตอนขาลง มือสมัครเล่นก็เดินสักหนึ่งสองสถานีแล้วค่อยต่อรถไฟกลับเข้า เมือง สิ่งที่แลกมาจากการออกกำาลังขาและความแข็งแรงของข้อเข่าคือ การ เดินทางในอ้อมกอดของภูผา มีดอกไม้ป่าเป็นกำาลังใจระหว่างการเดินทาง แถมชมฝีมือการร่อนของพวกเล่นร่มบิน โผล่โผนจากยอดเขาเป็นสีสันให้ ท้องฟ้าของแซมัทท์ไม่เงียบเหงา ที่สำาคัญความคิดระหว่างการเดินก็สว่างวาบให้ได้คิด คงไม่ต่าง จากคำากล่าวของโธมัส มานน์ นักเขียนชาวเยอรมันที่เขาเคยเอ่ยไว้ว่า “Thoughts come clearly while one walks.” ชีวิตคือก�รเดินท�ง และ ก�รเดินท�ง ให้อะไรม�กม�ยกับชีวิต เป็นก�รตอบแทนเช่นกัน... l 43

HUNT l Day Trip

สระแก้วขึ้นกล้อง...

พาท่องกาสรกสิวิทย์ >> November17 : เรื่อง/ภาพ

การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นในวันฟ้าฉ่ำ�ฝน...จุดหมายปลายทางอยู่ที่ “สระแก้ว” จังหวัดชายแดนเบื้องบูรพา ซึ่งเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ที่นี่เป็นเพียงอำ�เภอ หนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี แต่ด้วยความเข้มแข็งของชุมชน รวมไปถึงการเติบโตของ เศรษฐกิจในพื้นที่ ทำ�ให้สระแก้วได้รับการยกระดับให้กลายเป็นหนึ่งจังหวัดของเมือง ไทย ที่พรั่งพร้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่ารื่นรมย์ และสังคมแห่ง วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง...

ณัฐพล อ้นอารีย์ : ภาพ

หนังสือรวมภาพสระแก้วขึ้นกล้อง 2 มุมมองใหม่หัวใจสีเขียว

44 l

หลากแง่มุมแห่งความงามของ “สระแก้ว” ได้รับการบอกเล่าผ่านภาพถ่ายจาก คมเลนส์ ข องช่ า งภาพแถวหน้ า ของเมื อ งไทยกว่ า สี่ สิ บ ชี วิ ต ในกลุ่ ม สห+ภาพ ที่ มี จีระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ชื่อดังของเมืองไทยเป็นประธานที่ปรึกษา และมีช่างภาพ รวมไปถึงนักเขียนอิสระชื่อดังอย่าง ธีรภาพ โลหิตกุล เกรียงไกร ไวยกิจ ฯลฯ เป็น กำ�ลังสำ�คัญที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานไว้ในหนังสือรวมภาพที่มีชื่อว่า “สระแก้วขึ้นกล้อง 2 มุมมองใหม่ หัวใจสีเขียว” และหนังสือเล่มนี้เองที่นำ�ให้เราได้ไปทำ�ความรู้จักกับ “สระแก้ว” ในมุมที่แตกต่างไปจากที่เคย

“อุทยานแห่งชาติปางสีดา” เป็นตัวอย่างหนึ่งของความงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ จากความสมบูรณ์ของผืนป่าที่อุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ทำ�ให้ องค์การยูเนสโกยกย่องให้ที่นี่เป็น “ผืนป่ามรดกโลก” เป็นสวรรค์ของนักชมผีเสื้อ เพราะ มีผีเสื้ออาศัยอยู่มากกว่า 400 สายพันธุ์

จากตัวเมืองไปตามถนนสายหลักในเส้นทาง AH1 หรือ Asian Highway เพียง ไม่นาน ก็มาถึงพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติปางสีดา ก่อนที่คณะพร้อมช่างภาพในกลุ่ม สห+ภาพนับสิบชีวติ จะทยอยกันเดินไปตามเส้นทางทีท่ อดลงไปสูน่ �้ำ ตกปางสีดาเบือ้ งล่าง

เสียงสายน้ำ�ไหลกระทบโขดหินดังมาเป็นระยะ ตรงบริเวณลานหินกว้างที่อยู่ ไม่ไกลกัน มีกลุ่มผีเสื้อสีเหลืองบินอวดโฉมไปมาสร้างสีสันให้พื้นที่แห่งนี้ดูมีชีวิต ซึ่ง นอกจากการดูผเี สือ้ หลากสีสนั ทีน่ ยี่ งั มีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติให้คนทีร่ กั การผจญภัย ได้สัมผัสในหลากรูปแบบ ทั้งการเดินป่าในเส้นทางชมธรรมชาติระยะใกล้และระยะไกล ซึ่งต้องอาศัยความฟิตของร่างกายที่เตรียมพร้อมมาแล้วเป็นอย่างดี

เมฆฝนที่เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่บ่ายคล้อย เริ่มโปรยปรายเป็นสายฝน ลงมาและกระหน่าำ หนักทันทีเมือ่ เรามาถึงบริเวณลานสวนสาธารณะสระแก้ว สระขวัญ สถานที่จัดนิทรรศการภาพถ่าย “สระแก้วขึ้นกล้อง 2 มุมมองใหม่ หัวใจสีเขียว” แม้บรรยากาศจะดูชมุ่ ฉ่าำ แต่รอยยิม้ ทีเ่ ปอ นอยูบ่ นใบหน้าก็สามารถ บ่งบอกได้แล้วว่า”ความสุข”จากการเสพความสวยงามของภาพถ่ายทีแ่ ฝงไว้ ด้วย “ศิลปะ” ได้เกิดขึ้นแล้วในหัวใจของผู้มาเยือน และผู้คนในพื้นที่ซึ่งเป็น เสมือนเจ้าของบ้านหลังเล็กๆ ที่มีชื่อว่า “สระแก้ว” อย่างที่บอกว่า ที่นี่ไม่ได้มีแค่เพียงความสวยงามของธรรมชาติ เท่ า นั้ น หากแต่ ยั ง เป็น ที่ตั้ง ของ โรงเรีย นกาสรกสิวิท ย์ ซึ่งเปิดสอนทั้ง เกษตรกร และควายวัยละอ่อนที่ไม่เคยไถนา โรงเรียนแห่งนี้เกิดขึ้นมาจาก แนวพระราชดำาริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้น และในการเปิดเทอม วันแรกของทุกปี ทางโรงเรียนจะจัดให้มี “พิธีไหว้ครู” ที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ ด้วยความหมายทางวัฒนธรรมที่มากคุณค่า บนพื้นโต๊ะสีขาวขนาดไม่ใหญ่นัก มีเครื่องเซ่นไหว้ที่ใช้ในการ ประกอบพิธีวางอยู่เรียงราย ทั้งหัวหมู เหล้าขาว ไก่ต้ม ผลไม้ 3 อย่าง และ ธูปเทียนดอกไม้ ซึ่งแต่ละสิ่งนั้นสื่อแทนความหมายที่แตกต่างกัน น้ำาจันทร์ หรื อ เหล้ า ขาว เปรีย บเสมือ นน้ำา ทิพย์บูชาเทวดา ผลัดปีกหรือ ไก่ต้ม หมายถึง การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน ความรุ่งเรือง และโบยบิน ส่วนหัวหมู แทนความหมายของการทำางานที่เปียมไปด้วยความอดทนมุ่งมั่น พิธีไหว้ครูดำาเนินไปอย่างเรียบง่าย โดยมี ผู้ใหญ่นิด สมบูรณ์ ปราชญ์ชาวบ้าน ที่เป็นทั้งผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่ มาเป็นผู้นำาในการประกอบพิธี ว่ากันว่าการไหว้ครูนี้ เป็นเสมือนการมอบตัวเป็นศิษย์ และเปิดโอกาส เปิดใจ ให้ครูมีสิทธิ์สอนสั่งและว่ากล่าว ตักเตือนได้ ภาพที่ปรากฏแม้จะเป็นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพัน ของสองชีวิต ทั้งคนที่เป็นเกษตรกรกับควายที่มีชีวิต มีจิตใจ ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้ไป พร้อม ๆ กันท่ามกลางลานดิน ทุ่งนา และฟ้ากว้าง ภายในบริเวณโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ยังจัดแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็น พื้นที่นาข้าว ที่จัดแสดงให้เห็นทุกขั้นตอนของการทำานา โรงเรือนขนาดเล็กที่ใช้เก็บ รวบรวมเครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำานาจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน รวมไปถึงอาคาร บ้านดิน ที่พำานักของครูและลูกศิษย์ และสระมะรุมล้อมรัก หรือสระน้ำา ขนาดใหญ่ที่มี ต้นมะรุมและต้นดอกรัก ปลูกสลับกันไปเป็นแนวยาว นอกจากนี้ยังมีพระตำาหนักบ้านดินในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำา ซึ่งแม้จะเป็นเพียงพระตำาหนักองค์เล็ก ๆ ที่พระองค์ ไม่ได้เสด็จมาบ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นชาวบ้านที่นี่ก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำาพระทัย และ พระเมตตาของพระองค์ที่พระราชทานแก่ทุกคนเสมอ เชือ่ ได้วา่ ... ความงดงามของธรรมชาติและสีสนั แห่งวัฒนธรรม ซึง่ เกิดขึน้ ใน “สระแก้ว” ยังมีอกี หลายแง่มมุ ทีร่ อให้ใครๆ ได้เปิดใจเข้ามาสัมผัส รับรองว่าหากได้มา แล้วคุณจะรูส้ กึ ว่าเมืองเล็กๆ ชายแดนเบือ้ งบูรพาแห่งนี้ “ขึน้ กล้อง” จริงๆ

• การเดินทางไปจังหวัดสระแก้ว • จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปได้ 4 เส้นทาง • ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงรังสิต ใช้สะพานวงแหวนแยกขวา เข้าทางหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่านอ.องครักษ์ จ.นครนายก แล้ว แยกขวาใช้เส้นทางหมายเลข 33 ผ่านอ.กบินทร์บุรี ไปจนถึงจังหวัดสระแก้ว (ระยะทาง 214 กม.)

• ใช้ ท างหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิ น ) ผ่ า น อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงแยกหินกอง ประมาณกิโลเมตรที่90แยกขวาใช้เส้นทางหมายเลข 33 ผ่านอ.วิหารแดง จ.สระบุรี จ.นครนายก และ อ.กบินทร์บุรี ไปจนถึงจ.สระแก้ว (ระยะทาง 245 กม.)

• ใช้ ท างหลวงหมายเลข 304 ผ่ า นเขตมี น บุ รี จ.ฉะเชิงเทรา อ.พนมสารคาม ถึง อ.กบินทร์บุรี แยก ขวา เข้าสู่เส้นทางหมายเลข 33 ไปจนถึง จ.สระแก้ว (ระยะทาง 210 กม.)

• ใช้ ท างหลวงหมายเลข 304 ผ่ า นเขตมี น บุ รี จ.ฉะเชิ ง เทรา อ.พนมสารคาม ศู น ย์ ศึ ก ษาการ พัฒนาเขาหินซ้อน จนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 54 ให้แยกขวาไปตามทางหมายเลข 359 อีกประมาณ 65 กม.ถึง จ.สระแก้ว (ระยะทาง 204 กม.)

ขอขอบคุณ : กลุ่มสห+ภาพ และจังหวัดสระแก้ว เอื้อเ¿„œอที่พักและการเดินทาง ผู้สนใจหนังสือภาพสระแก้วขึ้นกล้อง 2 มุมมองใหม่หัวใจสีเขียว สอบถามได้ที่ 02 629 2841 l 45

HUNT l Gadgets

Leica X2 Paul Smith limited edition

The Impress

งานต้ น แบบชิ้ น หนึ่ ง จากงาน Electrolux DesignLab2012ทีอ่ าจจะจุดประกายให้กบั ผูผ้ ลิตเชิง อุตสาหกรรมได้ไม่มากก็น้อย กับผลงานที่ชื่อว่า The Impress โดยเด็กหนุ่ม Ben de la Roche ผนังเย็นนี้ ที่จะช่วยแก้ปัญหาความเคยชินของคนชอบแช่ของ ทุกชนิดที่หาซื้อมาได้ไว้ในตู้เย็น ซึ่งกว่าจะเปิดมาพบ เข้าอาจต้องทิ้งมันลงขยะเสียทุกครั้ง เบนจึงคิดค้น รูปแบบของตู้เย็นแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่ไร้ประตู แต่ทำ� ให้ประตูเป็นเหมือนช่องแช่อาหารที่สามารถมอง เห็นได้ว่าแช่อะไรไว้โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิด Impress Refrigerator ตั ว นี้ อ าจจะเรี ย กว่ า ผนั ง เย็ น ที่ จ ะ ช่วยถนอมอาหารของคุณไว้ไม่ต่างจากตู้เย็น เพียง แค่เสียบมันไว้ โดยผนังออกแบบมาให้รองรับกับ ภาชนะอย่างขวด หรือเป็นแก้ว ตู้เย็นหรือผนังเย็น ต้ น แบบนี้ อ าจจะยั ง ไม่ ร องรั บ กั บ การแช่ อ าหารที่ เป็นอาหารสด หรือพวกซุปสักเท่าไร เพราะต้อง หาภาชนะมาบรรจุ แต่อย่างน้อยผนังเย็น Impress Refrigerator ตอนนี้ก็ทำ�ให้เจ้าของความคิดเดินสาย ขายไอเดียอยู่ในมิลาน โดยหวังว่างานของเขาจะเข้า รอบสุ ด ท้ า ยในการแข่ ง ขั น ที่ อ าจทำ � ให้ Impress Refrigerator ได้อวดโฉมเป็นสินค้าของจริงในตลาด เข้าสักวัน

แค่เห็นโฉมหน้า Leica X2 ตัวนี้ไม่ใช่แค่คนที่ชอบนวัตกรรมของกล้องถ่ายภาพชั้น เยี่ยมจะหันมาให้ความสนใจเท่านั้น แต่เหล่าแฟชั่นนิสต้าก็คงไม่ต่างกัน เพราะ Leica X2 นอกจากประสิทธิภาพเพื่อการถ่ายภาพจะมาแบบฟลูฟังค์ชั่น อาทิ มีตัวเลือกในการตั้ง ค่าที่สามารถสลับไปมาตามสภาพแสงที่เป็นจริง ทั้งแบบอัตโนมัติ และแบบตั้งค่าเอง จอ มอนิเตอร์ขนาดใหญ่ถึง 2.7 นิ้ว ที่ให้คอนทราสต์สูง มีแฟลช สามารถเรียกใช้งานได้ทุก เวลาที่ต้องการแสงเพิ่มเติม ฯลฯ เรียกว่าคุณสมบัติของกล้องยังคงรักษาระดับความเป็น กล้องพรีเมียมได้อย่างเหนียวแน่น แต่รุ่นที่นำ�มาให้ชมนั้นคงต้องบอกว่าเป็นไลก้าแบบ ทรงเครื่อง ที่ผ่านการแปลงโฉมโดยดีไซเนอร์ชื่อก้อง Paul Smith ที่นำ�เอาความสดสว่าง ของเฉดสีส้มสด และเหลืองส่องสว่างมาใช้ตกแต่ง ทำ�ให้ Leica X2 ดูเทรนดี้พร้อมๆ กับ รักษาอารมณ์แบบวินเทจเข้าไว้ด้วยกัน สำ�หรับ Leica X2 โดย Paul Smith เป็น limited edition หากใครสนใจไลก้ารุ่นนี้จะเริ่มวางจำ�หน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2012 เป็นต้นไป

Tablet Vivo Asus

ดีไซน์ล้ำ�กันไปอีกก้าวแท็บเล็ตจากเอซุส เตรียมเปิดตัว Vivo Tab เด่นที่หน้าจอสัมผัส ความละเอียดสูง และคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ถอดแยกได้ รองรับการทำ�งาน Windows 8 ของ ไมโครซอฟท์ เอซุส วีโว่ แท็บ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล จาก Intel Atom RAM 2GB และ หน่วยความจำ�ภายในแบบ eMMC ความจุ 64GB หน้าจอ 11.6 นิ้ว หนาเพียง 8.7 มม. หนัก 675 กรัม อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยี TruVivid และ Corning Fit Glass ที่ช่วยเพิ่ม ความกระจ่างของสีที่จอแสดงผล ทำ�ให้ผู้ใช้เห็นภาพและตัวอักษรได้ชัดเจนทั้งในที่ร่มและกลาง แจ้ง คีย์บอร์ด QWERTY แบบ Dock ที่มีแบตเตอรี่ในตัว ให้พลังงานนอกเหนือจากแหล่งจ่าย พลังงานหลัก และสามารถแยกออกจากแท็บเล็ตได้ รองรับการสัมผัสสูงสุด 10 จุด ช่วยให้การ ทำ�งานแม่นยำ�ขึ้น

46 l

NOKIA

Smartphone

แม้จะถูกเบียดจนดูเหมือนให้กลายเป็น สิ น ค้ า ตกชั้ น แต่ โ นเกี ย ก็ ยั ง ไม่ ห วั่ น พร้ อ มส่ ง สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับเทคโนโยยีที่เลือกสรร มาให้แบบไม่น้อยหน้าแบรนด์ไหนๆ กับ Nokia Lumia 2 รุ่น คือ 820 และ 920 สมาร์ทโฟน Windows 8 เด่ น ที่ ต อบรั บ ไลฟ์ ส ไตล์ ข องคน รุ่นใหม่ที่ชอบการถ่ายภาพ ด้วย PureView เทคโน โลยีเลนส์ถ่ายภาพขั้นสูง ที่สามารถรับแสงได้มาก กว่า ว่ากันว่ามากกว่าสมาร์ทโฟนของค่ายอื่นๆ ทำ � ให้ ไ ม่ ต้ อ งใช้ แ ฟลช แต่ ว่ า ได้ ภ าพชั ด สดใส ถ่ายวิดีโอได้ทั้งในที่ร่มและยามค่ำ�คืน มีระบบ ป้องกันการสั่นไหวขณะถ่าย ยิ่งกว่านั้นโนเกียยัง เพิ่มเทคโนโลยี Nokia City Lens ที่เพียงแค่เล็ง กล้องไปที่ถนน City Lens จะขึ้นข้อมูลร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม ฯลฯ ปรากฏบนหน้าจอ เทคโนโลยี นีเ่ ป็นเพียงแค่ประสิทธิภาพบางส่วนทีห่ ยิบยกมา ฝากกัน ส่วนใครที่อยากทำ�ความรู้จักโนเกียรุ่น นี้ให้มากขึ้นติดตามกันได้ ในร้านจำ�หน่ายสินค้า ไอทีทั่วไป

l 47

HUNT l Technology

นวัตกรรมสารเคลือบกระจกกันความร้อนแห่งยุค สุดยอดผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ ECO-PRODUCT >> ณัตตินา สุวัฒวิตยากร : เรื่อง

•• Cor-Tek เป็นนวัตกรรมล่าสุดของสารเคลือบกระจกเพื่อกันความร้อน ที่เป็นนาโนเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ใน การลดความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติของสารเคมีที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบหลัก ทำให้ สามารถเคลือบยึดติดกับพื้นผิวของกระจกได้เป็นเนื้อเดียว •• 48 l

ภาพประกอบ: stock.xchng

จากต้นแบบความคิดของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณ±์ในประเทศจีน จนตกผลึก เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อน และรังสียูวี จากแสงอาทิตย์ซึง่ สามารถลดอุณหภูมใิ นห้องปรับอากาศได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ด้ ว ยปั จ จั ย ทางการตลาดจึ ง ส่ ง ผลให้ ส ารเคมี ดั ง กล่ า ว ได้รับการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วใน สาธารณรั ฐ ประชาชนจี น ซึ่ ง เป็ น เจ้ า ของแหล่ ง แร่ วั ต ถุ ดิ บ องค์ ประกอบสำาคัญในการผลิตสารเคมีดังกล่าว และได้มีโอกาสพัฒนา ผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการต่างๆ จนกลายเป็นผู้ส่งออกสารเคมี ที่ใช้ในกลุ่มธุรกิจฟิล์มกรองแสง และกลุ่มเทคโนโลยีสารเคลือบ กระจกกันความร้อนรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็ น ที่ รู้ กั น ดี อ ยู่ แ ล้ ว ว่ า แสงสว่ า งจากดวงอาทิ ต ย์ มี องค์ ป ระกอบของรั ง สี UVA, UVB และความร้ อ น ที่ ส่ ง ผลต่ อ ร่างกายและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรังสีดังกล่าวหากสะสมในร่างกายใน ปริมาณมากๆ ย่อมเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และ เป็นหนึ่งตัวการสำาคัญที่ทำาลายพื้นผิวของวัสดุ หรือเฟอร์นิเจอร์ ส่งผลให้สิ่งของต่างๆ เสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานได้น้อยลง ส่วนความร้อนมีผลทำาให้ต้องใช้เครื่องปรับอากาศอย่างหนัก ซึ่ง เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานสูง Cor-Tek เป็ น นวั ต กรรมล่ า สุ ด ของสารเคลื อ บกระจก เพื่ อ กั น ความร้ อ น ที่ เ ป็ น นาโนเทคโนโลยี ที่ ต อบโจทย์ ใ นการลด ความร้ อ นได้ เ ต็ ม ประสิ ท ธิ ภ าพ ด้ ว ยคุ ณ สมบั ติ ข องสารเคมี ที่ มี แอลกอฮอล์ เ ป็ น องค์ป ระกอบหลัก ทำา ให้สามารถเคลือบยึดติด กับพื้นผิวของกระจกได้เป็นเนื้อเดียว โดย Cor-Tek สามารถเคลือบ ได้ ทั้ ง พื้ น ที่ ด้ า นในและด้ า นนอกของกระจกเพื่ อ ประสิ ท ธิ ภ าพ สู ง สุ ด มี ค วามโปร่ ง แสง ซึ่ ง ไม่ ทำ า ให้ เ สี ย ทั ศ นี ย ภาพอั น สวยงาม ที่มองผ่านกระจก และสามารถป้องกันรังสี UVA, UVB ตลอดจน ป้ อ งกั น ความร้ อ นได้ สู ง สุ ด ถึ ง 80-90 เปอร์ เซ็ น ต์ ขณะที่ ฟิ ล์ ม กรองแสงต้องติดตั้งด้านในอาคารอย่างเดียว

à¤Ã×èͧ Spectrometer

สีของกระจกธรรมดาที่เคลือบ และไม่เคลือบจะไม่มีความต่างกันมากนัก

เป็นเครื่องตรวจปริมาณแสง โดยค่าแรก (สี¿‡า)คือค่ารังสี Ultraviolet (UV) ค่าที่สอง(สีแดง)คือค่าความร้อน หรือ เรียกว่า Infrared Radiation(IR) ค่าที่ สาม(สีเขียว) คือค่าความโปร่งใสของ กระจกหรือเรียกว่า Visual Light(VL)

ซึ่ ง จากผลการทดลองใช้ ส ารเคลื อ บกระจกในโรงแรม ชั้นนำา ศูนย์การค้า โชว์รูมรถยนต์ ท่าอากาศยาน และร้านอาหาร ชื่อดังในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฯลฯ พบว่าสารเคลือบกระจก กั น ความร้ อ นดั ง กล่ า ว มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในป้ อ งกั น รั ง สี ยู วี แ ละลด ความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี ทำาให้สามารถประหยัด ค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศลงได้มาก นอกจากคุ ณ สมบั ติ ข องผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ หนื อ กว่ า ของสาร เคลือบกระจกกันความร้อน เมื่อเทียบกับฟิล์มกรองแสงที่มีขายอยู่ ในท้องตลาดทั่วไปแล้ว Cor-Tek ยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วย รักษาสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า ECO – PRODUCT ที่ช่วยลดการใช้ พลังงาน ไม่ทำาลายสิ่งแวดล้อม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายจากการ ใช้ไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศได้ดีที่สุด โดยสามารถลดความเย็น ของห้องปรับอากาศลงได้ 2 - 4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะประหยัดค่าไฟ ได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่สำาคัญผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ยังมีอายุการใช้งานได้ มากกว่า 10 ปี หรือยืนยาวกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไปที่มีอายุการใช้ งานเพียง 5 ปี เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่า คุ้มราคา แถมการันตี ว่าเป็น ECO-PRODUCT นาโนเทคโนโลยีเต็มร้อย แบบนี้แล้ว พลาดไม่ได้จริงๆ

¨Ò¡¡Ò÷´Êͺ ¡ÃШ¡¸ÃÃÁ´Ò¢¹Ò´ 4 ÁÁ.

พบว่าค่ารังสี UV ลดลงจาก 100% เหลือ 84% (ลดลง 16%) ค่าความร้อน ลดลงจาก 100% เหลือ 83% (ลดลง 17%) ส่วนค่าความใสลดลงจาก 100% เหลือ 92%

¨Ò¡¡Ò÷´Êͺ ¡ÃШ¡¢¹Ò´ 4 ÁÁ. ·Õèà¤Å×ͺÊÒÃ

Cor-Tek พบว่าค่ารังสี UV ลดลงจาก 100% เหลือ 7.1% (ลดลง 92.9%) ค่าความร้อนลดลงจาก 100% เหลือ 12% (ลดลง 88%) ส่วนค่าความใสลด ลงจาก 100% เหลือ 73%

•• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ไตรโบเทรด จำกัด คุณชิณวัชร์ ภูวนัตถ์กุล โทร 083-006-3663 •• l 49

HUNT l Hobbies

ClassicCar สยาม เศรษฐบุตร ของ

>> ณัตตินา : เรื่อง / อนุชิต : ภาพ

“สยาม เศรษฐบุตร“ ประธานบริหารเมอร์เซเดส เบนซ์ คลับ ประเทศไทย หนึ่งใน นักสะสม Classic Car ชื่อดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่สานความรักในรถคลาสสิก ต่อมาจากรุ่นคุณพ่อ “อักษร เศรษฐบุตร” ซึ่งการได้มาเป็นเจ้าของรถแต่ละคัน ไม่เพียง แค่เรื่องของดีไซน์ที่โดนใจ หากแต่เขายังเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของ “บุพเพสันนิวาส” “มันเป็นเหมือนเนื้อคู่ที่เข้�ม�ห�เร�” เขาบอกอย่างนั้น Corvette Sting Ray ปี 1964 รถเปิดประทุน สีแดง สัญชาติอเมริกัน ดีไซน์คล้าย ปลากระเบน เป็นหนึ่งในรถคลาสสิกคันโปรดที่คุณสยามชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ด้วยความรักและ ความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด “Corvette Sting Ray ปี 1964 สีแดง คันนี้เป็นเหมือน RACE CAR สมัยนั้นทำาขึ้น จากไฟเบอร์กลาส เครื่อง V8 5300 cc. คันนี้ผมไปเจอที่พิษณุโลก เจ้าของเดิมเป็นคนอเมริกัน ซึ่งตอนที่เขาได้มาก็อยากจะซ่อม แต่พอแยกชิ้นส่วนออกมาแล้ว ปรากฏว่าอะไหล่ก็หายาก มันเป็นซากรถเลย พอเห็นก็รู้สึกสงสาร ก็เอามาชุบชีวิตใหม่ จำาได้ว่าตอนนั้นทะเบียนรถก็ ขาดต่อมา 15 ปี ต้องไปจ่ายค่าต่อทะเบียนรถเป็นแสนบาท ใช้เวลาซ่อมอยูป่ ระมาณ 13 เดือน

50 l

เริม่ จากศูนย์แล้วทำาให้ออกมาดูเหมือนรถใหม่ พอทำาเสร็จก็รู้สึกภูมิใจ เป็นประสบการณ์ที่ คุ้มค่า มันเหมือนเป็นเนื้อคู่เรา เพราะของ แบบนี้อยู่ดีๆ ไม่มีใครเอามาให้หรอก” นอกจาก Corvette Sting Ray ปี 1964 แล้ว คุณสยามยังมี Corvette Sting Ray ปี 1963 สีน้ำาเงิน อีกหนึ่งคันที่เป็น เสมือนของขวัญจากผูเ้ ป็นพ่อซึง่ จุดประกาย ให้เขาเกิดความรักในการสะสมรถคลาสสิก ต่อมานับเป็นเวลานานกว่า 20 ปี “Corvette Sting Ray ปี 1963 สีน้ำาเงิน คันนี้เป็นรถรุ่นแรกที่เป็นไฟเบอร์ กลาส ดีไซน์ทรงปลากระเบน กระจกด้าน หลังเป็นจอแบนสองจอแบบ Two Strip Windowsไฟด้านหน้าถูกออกแบบมาให้ตอ้ ง หมุนตีลังกาถึงจะเปิดได้ ส่วนตัวล้อเหล็ก เป็นดีไซน์ของรถแข่งซึง่ ในยุคนัน้ มีนวัตกรรม ขนาดนี้ก็ถือว่า “สุดยอด” BMW 502 ปี 1955 สีดำาขลับ มัน เงา ดูสุขุม สง่างาม เป็นรถสุดคลาสสิกอีก หนึ่งคันที่อวดโฉมอยู่เคียงกัน แต่ใครจะรู้ว่า ก่อนหน้านีม้ นั คือโครงรถ BMW สภาพเก่าๆ ที่ถูกทิ้งร้างอยู่ใต้ต้นมะม่วงในบ้านหลังหนึ่ง “คั น นี้ เ หมื อ นเราฝั น ว่ า จะได้ ร ถ หลังจากนั้นสองสามวันก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง มาบอกให้ไปดูรถที่จอดอยู่ใต้ต้นมะม่วงที่ บ้าน พอได้เห็นก็นึกแปลกใจว่า มีรถแบบนี้ อยู่ในเมืองไทย ซึ่งมันก็เหมือนเป็น บุพเพสันนิวาสที่ทำาให้เราได้มาเจอรถเหล่านี้ และ ทำาให้กลับมามีสภาพดีเหมือนเดิมได้” เช่นเดียวกับ Mercedes Benz 190 SL ปี 1955 สีขาว ที่มาเติมเต็มให้การ สะสม Classic Car ดำาเนินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน คุณสยามสะสมรถโบราณไว้ มากกว่า 20 คัน “เสน่ห์ของ Classic Car มันเป็น ยานพาหนะที่ มี ดี ไซน์ ทำ า ให้ เราหลงรั ก ใน ศิลปะที่พาเราไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ ซึ่ง สำ า หรั บ คนที่ เ พิ่ ง เริ่ ม เล่ น รถคลาสสิ ก ผม อยากให้เริ่มจากรถที่ไม่แพง รถที่บ้าน รถ ที่คุณปู่ซื้อ เอามาบูรณะทำาใหม่ก่อน ทำาให้

“เสน่ห์ของ Classic Car มันเป็นยานพาหนะที่มีดีไซน์ทำให้เรา หลงรักในศิลปะที่พาเราไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ ซึ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเล่น รถคลาสสิก ผมอยากให้เริ่มจากรถที่ไม่แพง รถที่บ้าน รถที่คุณปู่ซื้อ เอา มาบูรณะทำใหม่ก่อน ทำให้มันดี อย่าทำครึ่งๆ กลางๆ บางทีการซื้อรถ แพงๆ มาทำใหม่ อาจจะไม่ชอบ มันจะทำให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ มันดี อย่าทำาครึ่งๆ กลางๆ บางทีการซื้อรถแพงๆ มาทำาใหม่ อาจจะไม่ชอบ มันจะทำาให้เสีย เงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ค่อย ๆ เริ่ม และขอให้รักรถจริงๆ” ด้วยความรักและความตั้งใจที่จะแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ Classic Car ควบคู่ ไปกับการช่วยเหลือสังคม คุณสยาม และคุณคริสตินา ภรรยา จึงได้จัดทำาหนังสือ Thailand’s Ultimate Classic Cars ขึ้น เพื่อนำารายได้จากการจำาหน่ายไปซื้อรถเข็นมอบให้กบั คนพิการ โดยรวบรวมข้อมูลรายละเอียดในทุกแง่มุมของรถ คลาสสิคหายาก จำานวน 25 คัน เอาไว้ พร้อม ภาพถ่ายรถแข่งยี่ห้อ” ERA – ENGLISH RACING AUTOMOBILES หรือ “หนุมาน II ” ซึ่งเคยเป็น รถยนต์แข่งของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ ภาณุเดช (พ.พีระ) ไว้ด้วย

“¹Í¡¨Ò¡¤ÇÒÁÊØ¢·Õäè ´Œ¨Ò¡¡ÒÃÊÐÊÁ ö¤ÅÒÊÊÔ¡ àÃÒ¡çÂѧÊÒÁÒöẋ§»˜¹¤ÇÒÁÃÙŒ áÅЪ‹ Ç ÂàËÅ× Í ÊÑ § ¤Áä´Œ ´Œ Ç Â à¾ÃÒЩйÑé ¹ ÁѹäÁèä´éÊíÒ¤ÑÞ·ÕèÁÙŤèÒ áµèÁѹÁդس¤èÒ·Ò§ ¨Ôµã¨” หนังสือ Thailand’sUltimate Classic Cars

l 51

HUNT l MEN Mix & Match

Winter Gentleman

Text: Nitnada Panpipat l Photo: Kittinan Sangkaniyom

เสน่ห์ของฤดูหนาวในเมืองไทยนั้นคืออากาศที่ไม่เย็นจัดเหมือนประเทศทางฝั่งตะวันตกแต่เย็นสบายพอดี ให้คุณผู้ชายได้เลือกหาเสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่น มาเติมสีสันให้กับการแต่งตัวในช่วงปลายปีแบบนี้ ด้วยการเลือก เครื่องแต่งกายที่มีดีเทลของไหมพรม ลายสก๊อตและการใส่เสื้อแจ็คเก็ตนั้นแลดูเหมาะสมที่สุด

Charming

Look1:

Formal

and

TNGT เสื้อเชิ้ตลายสก๊อต 2,690 บาท

เสื้อสูทผ้าวูลเพิ่มความอบอุ่น และเนื้อผ้าที่มีน้ำ�หนัก และสัมผัสที่แตกต่างเพิ่มความโก้ ให้กับลุคเป็นทางการ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสูทพอดีตัว กับเสื้อเชิ้ตและเนคไทลายสก็อต ดูแปลกตาแต่นี่เป็นเวลา ของลายนี้ไม่ใช่เหรอ?

TNGT เนคไทลายสก็อต 1,990 บาท Calvin Klein สูทสีดำ� 19,900 บาท

TNGT รองเท้าหนังสีดำ� 5,990 บาท Calvin Klein กางเกงผ้าสีดำ� 10,900 บาท

52 l

Amp Up Work

Outfit

Look2:

เนคไทถักผ้านิตต์ เพิ่มลูกเล่นให้กับการแต่งตัวในวันทำ�งานได้อย่างง่ายดายและลงตัว เลือกสีสันของฤดูหนาวอย่างสีแดงมารูน สีเขียวหัวเป็ดหรือสีน้ำ�เงินไพลิน

Calvin Klein เสื้อเชิ้ตสีขาว 6,900 บาท

TNGT เนคไทผ้านิตต์ 1,990 บาท Calvin Klein เสื้อสเวตเตอร์ 17,900 บาท

Calvin Klein กระเป๋า 9,900 บาท

Prada กางเกง สอบถามราคาได้ที่ร้าน

Wool and Cashmere ผ้าวูลและแคชเมียร์ เสื้อสเวตเตอร์ทำ�เองได้ที่บ้านโดยการซักด้วยมือ เลือกใช้น้ำ�ยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน ล้างให้สะอาด บีบน้ำ�ออกอย่างเบามือและวางให้แห้งบนผ้าขนหนู (สีขาวเพื่อป้องกันการตกสี) แต่หากเสื้อมีส่วนผสม ของเส้นใยของวูลหรือแคชเมียร์จะแนะนำ�ให้จัดส่งทำ�ความสะอาดร้านบริการซักแห้งที่เชื่อถือได้จะดีที่สุด

Cole Haan รองเท้า 13,900 บาท

l 53

Look3:

Sport Man

You Are เพิ่มความทะมัดทะแมง ยิ่งขึ้นให้กับกางเกงยีนส์ตัวเก่ง ด้วยสปอร์ตแจ็ตเก็ต สีเบสิคซิปหน้า หยิบมาใส่คลุมเสื้อยืด หรือเสื้อโปโลในวันที่ ต้องการความคล่องตัว

McQ เสื้อโปโลสีขาว สอบถามราคาได้ที่ร้าน McQ Blackjack สยามดิสคัพเวอรี่

Dita แว่นตากันแดด 24,000 บาท Calvin Klein เสื้อแจ็คเก็ตสีเทา 8,500 บาท

Paul Smith กางเกงยีนส์สีอ่อน 12,000 บาท

Seiko นาฬิกาข้อมือ สอบถามราคาที่ ตัวแทนจำ�หน่าย

Down เสื้อกันหนาวขนเป็ด หากจำ�เป็นจะต้องทำ�ความสะอาดเสือ้ กันหนาวขนเป็ดจริงๆควรจะจัดส่งไปทีร่ า้ นบริการซักแห้งเท่านัน้ เพราะขนเป็ดนัน้ ไม่สามารถโดนน้�ำ ได้และการซักแต่ละครัง้ ก็จะทำ�ให้ขนเป็ดลดคุณภาพลงหากต้องการ ทำ�ความสะอาดอาจทำ�ได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำ�บิดหมาดๆเช็ดตัวเสื้อด้านนอกก็เพียงพอแล้ว

54 l

Paul Smith รองเท้าผ้าใบหนังสีขาว 7,500 บาท

Make It

Look4:

Smart Casual เลือกเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมเนื้อหนานุ่ม พอดีสำ�หรับสวมทับเสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต ในวันที่อยากแต่งตัวสบาย แต่ยังคงไว้ด้วยความเนี้ยบ โดยอาจจะจับคู่กับกางเกงยีนส์ หรือกางเกงผ้าสีกากี เพื่อลุคที่ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น Marni เสื้อสเวตเตอร์ไหมพรม สลับลายสก๊อต สอบถามราคา ได้ที่ Marni Club 21 Erawan Bangkok TNGT เข็มขัดสีน้ำ�ตาล 1,990 บาท TNGT ถุงเท้า 390 บาท

TNGT กางเกงยีนส์สีน้ำ�ตาล 3,190 บาท Tod’s รองเท้าหนังสีน้ำ�ตาเข้ม สอบถามราคาได้ที่Tod’s Siam Paragon Special Thanks : Calvin Klein -- Siam Discovery Cole Haan -- Central Chidlom Dita -- ร้านแว่นตาและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ� Prada -- Gaysorn Plaza Marni Club 21 -- Erawan Bangkok McQ Black Jack -- Siam Discovery Paul Smith -- Siam Paragon TNGT -- Central World Seiko -- ตัวแทนจำ�หน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ� Tod’s -- Siam Paragon l 55

HUNT l Men’s Items

Make Easy Street Inspire

The Sartorialist CLOSER หนังสือ เล่มใหม่จาก Scott Schuman ช่างภาพและ ผู้ก่อตั้ง thesartorialist.com ชาวอเมริกัน ผู้รวบรวมภาพถ่ายสตรีทแฟชั่นจากเมือง ใหญ่ทั้งนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิลาน โตเกียว และ โซล แบบใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม จากหนังสือเล่มแรกทีเ่ ขาตัง้ ใจจะรวมรูปภาพ สไตล์การแต่งตัวในชีวิตจริงของผู้คนที่เขา พบเจอ ควบคู่ไปกับการทำ� blog ซึ่งตอนนี้ ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็น แรงบันดาลใจให้กบั ผูค้ นทีห่ ลงรักแฟชัน่ เดิน ถนนทั่วโลก ภาพถ่ายของ Schuman ทำ�ให้ เราเห็นความเป็นปัจเจกชนซึ่งสื่อสารผ่าน การสไตล์การแต่งกายได้อย่างน่าสนใจ

การเลือกซื้อแว่นตาแตกต่าง จากการเลือกซื้อเครื่องแต่งกายอย่าง เสื้อผ้าที่สามารถแก้ไขให้เข้ากับรูปร่าง ได้ไม่ยากนัก เพราะแน่นอนต้องเลือก ที่รับกับรูปหน้าที่สุด ฉะนั้นมันหมายถึง คุณลูกค้าจะต้องไปลองสวมแว่นนั้นๆ ก่อนจะตัดสินใจ แต่เว็บไซต์ขายแว่นตา www.ditto.com อาจจะเป็นทางเลือก ใหม่สำ�หรับใครที่ชอบการซื้อหาสินค้า ออนไลน์ ความพิเศษของเว็บไซต์นี้ก็คือ ลูก ค้า นั้นสามารถเลือกลองแว่นตาได้ โดยการบันทึกรูปวิดีโอแบบ 3D Visual จากเว็บแคมของตนเองโดยการเลือก ฟังค์ชั่น See How They Fit on You แล้ว ก็ทำ�ตาม (เสียง) คำ�แนะนำ�ไปตามลำ�ดับ จากนัน้ ลูกค้าก็สามารถเลือกลองแว่นตา ดีไซน์เก๋ คุณภาพดีทั้งจากแบรนด์ชั้นนำ� อย่ า ง Elizabeth & James Chloé Jason Wu Alain Mikli Alexander Wang และ Matthew Williamson โดยการเลือก แบบและสีตามใจ ลองแล้วไม่ชอบก็ลอง ไปเรื่อยสุดท้ายไม่ซื้อก็ไม่ต้องเคอะเขิน พนักงานขายแต่อย่างใด ถึงแม้เว็บนี้จะ ยังไม่ส่งสินค้ามาประเทศไทยแต่คุณเอง ก็สามารถทดลองเทคโนโลยีสุดทันสมัย ได้ใน ditto.com

Welcome Back

หลังจากที่วัสดุ Composite อัน เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นาฬิกา Panerai ได้ขาดตลาดไปพักใหญ่เนือ่ งจากปัญหาการ ผลิต ตอนนี้ทางแบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกา สองโมเดลล่าสุด The Composite 47mm และ The Black Seal 45mm ตัวเรือน และหั ว เข็ ม ขั ด ทำ � จากวั ส ดุ Composite ที่แข็งแรงและน้ำ�หนักเบากว่าวัสดุเซรามิค รูปลักษณ์นนั้ กึง่ ลำ�ลองแต่แน่นอนคุณผูช้ าย สามารถจั บ คู่ ใ ส่ กั บ ชุ ด ทำ � งานได้ เช่ น กั น สำ�หรับรุ่น The Composite 47mm เป็น ระบบไขลานส่วน The Black Seal 45mm เป็นระบบออโตเมติก สอบถามรายละเอียด เพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ Officine Panerai สยาม พารากอน โทร. 02 610 9290

Dress to Kill

Crockett & Jones แบรนด์รองเท้า และเครื่องหนังระดับพรีเมี่ยมจากประเทศ อังกฤษคือผู้ผลิตรองเท้า 4 แบบที่ Daniel Craig นั้นสวมใส่ในบทบาทของ James Bond ภาคล่าสุด Skyfall แบรนด์ Crockett & Jones ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี1879 มาถึงวันนี้ เป็นเวลาของช่างฝีมือรุ่นที่ 5 ผู้สืบทอดวิธี การทำ � รองเท้ า ประณี ต แบบอั ง กฤษแท้ ๆ สนใจรองเท้าแบบ spy มากเสน่ห์ สนใจหา ข้อมูลทางเว็ปไซต์ crockettandjones.com

56 l

Handsome Cloth

คอลเลคชั่นโก้หรูจาก Prada Menswear AW2012 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหล่า ผู้ทรงอิทธิพลในอดีตกับแคมเปญโฆษณาที่มี 4 ดาราชายจากฮอลลีวูด Gary Oldman, Garrett Hedlund, Jamie Bell และ Willem Dafoe ร่วมนำ�เสนอเสื้อผ้าหล่ออย่างมีชั้นเชิง ทำ�ให้คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษในช่วงฤดูหนาวของแบรนด์จากอิตาลีนี้แลดูคลาสสิคแต่อัพเดทด้วย เนื้อผ้า แพทเทิร์น และแอคเซสเซอรี่อย่างเข็มกลัดและปากกาด้ามโต ชมคอลเลคชั่นเสื้อผ้า และเครื่องหนังสำ�หรับฤดูหนาวของคุณผู้ชายได้แล้วที่ Prada บูติค Gaysorn Plaza

l 57

HUNT l Sport

ลุ้นไทยจัดการแข่งขัน

Formula 1 Grand Prix of Thailand >> อภินันท์ อภิบาลศรี เรื่อง/ภาพ

มองย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว หลายท่านคงเคยได้ยินข่าวว่า ประเทศไทยได้เป็นหนึ่งตัวเลือกในการใช้สถานที่ เป็นสนามจัดแข่งขันรถ สูตร 1 (Formula 1 – F1) โดยจะสร้างสนามที่เมืองพัทยา ในครั้งนั้น มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เพราะสมัยนั้นในสนามแข่ง F1 จะ ต้องมีป้ายโ¦ษณาบุหรี่ ขณะที่เมืองไทยมีก®หมายห้ามโ¦ษณาบุหรี่ในทุก สถานที่ ÊØ´·ŒÒÂ...¢‹ÒǹÕé¡çà§ÕºËÒÂä»

•• เมื่อ 2 ปีที่แล้ว การมาของ มาร์ค เว็บเบอร์ นักขับออสซี่ จากทีม เรดบูลล์เรซซิ่ง-เรโนลต์ ที่นำรถคู่ใจมาโชว์ลวดลาย บนถนนราชดำเนิน ท่ามกลางแฟน F1 เต็มสองข้างทาง นั่นเป็นจุดเริ่มต้น ของความพยายาม ให้มีสนามแข่ง F1 ในไทยอีกครั้ง ••

58 l

ถัดมาไม่กี่ปีสนามแข่ง F1 ก็ไปโผล่ที่เซปัง ประเทศมาเลเซีย ในปี 1999 แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกรู้จักกันในนาม “มาเลเซี่ยน กรังด์ปรีซ์” ประเดิมสนาม F1 แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งที่ 2 ของทวีปเอเชีย ต่อจาก สนามซูซูกะ ที่ประเทศญี่ปุ่น และจนถึงทุกวันนี้ F1 ในเอเชียก็บูมสุดๆ และกลาย เป็นทวีปที่มีสนามแข่งถึง 8 สนาม จากทั้งหมด 20 สนามใน 1 ฤดูกาล เท่ากับ ทวีปยุโรป โดยน้องใหม่ล่าสุดคือ “บุดดห์ อินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต” ที่กรุงนิวเดลี ในประเทศอินเดีย ก็เพิ่งประเดิม “อิ น เดี่ ย น กรั ง ด์ ป รี ซ์ ” ไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง เช่นเดียวกันกระแสความนิยม F1 ในไทยไม่ด้อยไปกว่าชาติอื่น เห็นได้ชัดจากการ มาของ มาร์ค เว็บเบอร์ นักขับออสซี่จากทีมเรดบูลล์เรซซิ่ง-เรโนลต์ ที่นำารถคู่ใจมาโชว์ ลวดลายบนถนนราชดำาเนินเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ท่ามกลางแฟน F1 เต็มสองข้างทาง และ นั่นก็เป็นจุดเริ่มของความพยายามให้มีสนามแข่ง F1 ในไทยอีกครั้ง ”ฟอร์มูล่าวัน กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์” ชื่อนี้คาดว่าจะใช้เป็นชื่อในการ แข่งขัน F1 ในไทย จากที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และ ภาคเอกชนที่อยู่ในวงการ F1 ของไทย ที่นำาโดย Red Bull ของนายเฉลิม อยู่วิทยา ที่ได้พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อให้การแข่งขัน F1 ในไทยเป็นจริง จนในที่สุดหลังจบ “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์” ก็ได้รับการยืนยันจาก นายชุมพล ศิลปอาชา เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ว่า นายเบอร์นี่ เอ็คเคิ่ลสโตน CEO ของ F1 ได้แสดง ความเห็นด้วยกับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด F1 ซึ่งเร็วที่สุดน่าจะเป็นฤดูกาล 2014 และช้าสุดไม่น่าจะเกินปี 2016 โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าควรจะแข่งแบบ Street Race หรือ แข่งบนถนนในเมืองเหมือนกับ สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ และ กรังด์ปรีซ์ เดอ โมนาโค และควรจะแข่งในเวลากลางคืน หรือ Night Race เหมือนกับที่ สิ ง คโปร์ จั ด เพื่ อ ให้ ไ ด้ ช่ ว งเวลาถ่ า ยทอดสดให้ แ ฟน F1 ในยุ โรปได้ ช มการ

แข่ ง ขั น ด้ ว ย สำ า หรั บ รายละเอี ย ดเบื้ อ งต้ น เกี่ ย วกั บ สนาม แข่ ง นายสมบั ติ คุ รุ พั น ธ์ ผู้ ช่ ว ยรั ฐ มนตรี ก ระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา ก็ให้ความเห็นที่ตรงกันว่า ควรจะแข่งใน เมืองและเป็นแนวถนนราชดำาเนินในกรุงเทพมหานคร ที่ มี พื้ น ถนนดี แ ละภู มิ ทั ศ น์ ส วยงาม และยั ง ช่ ว ยประหยั ด งบประมาณมากกว่าที่จะไปลงทุนสร้างสนามใหม่ ตามที่มี กระแสข่าวออกมาเพราะต้องใช้งบจำานวนมหาศาล ส่วน งบลงทุ น จะเป็ น การร่ ว มกั น โดยภาครั ฐ 60 เปอร์ เซ็ น ต์ ส่วนที่เหลือภาคเอกชนจะเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งมีข่าวออก มาแล้ ว ว่ า กระทิ ง แดง และสิ ง ห์ คอร์ เ ปอเรชั่ น พร้ อ ม สนั บ สนุ น และขณะนี้ ก็ กำ า ลั ง ร่ า งแผนอย่ า งเป็ น ทางการ เสนอต่อฝ่ายจัด F1 ให้เร็วที่สุด นอกจากชื่อเสียงของประเทศไทยที่จะได้รับจาก การจัด F1 แล้ว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬายังได้ประเมิน ว่าจะมีรายได้จากการจัดแข่งขันประมาณ 5,000 - 9,000 ล้านบาท โดยจะต้องจ่ายให้ F1 เป็นค่าลิขสิทธิ์ 1,250 ล้านบาท ต่อปี ส่วนรายได้จะมาจากค่าบัตรเข้าชม ซึ่งบัตร ทั่วไปราคาอยู่ที่ 15,000 - 80,000 บาท บัตร VIP ราคา จะอยู่ระหว่าง 110,000 - 140,000 บาท และผู้ชมจะเข้า ชมในสนามแข่งได้ประมาณ 100,000 คน นอกจากนี้ยังมี รายได้จากการถ่ายทอดสดอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท

ด้วย นี่ถือว่าเป็นรายได้โดยตรงจากการจัดการแข่งขัน ไม่ รวมจากธุ ร กิ จ ท่ อ งเที่ ย วและการค้ า ขายอื่ น ๆ และ ภาพลักษณ์เกี่ยวกับธุรกิจยานยนต์ ที่จะได้รับประโยชน์ จากการจัด F1 ในครั้งนี้อีก แต่ยังมีการเตรียมงานที่ต้อง ระวังผลกระทบในอีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสนามแข่งขันที่ หากแข่งบนถนนราชดำาเนินจริง ก็จะต้องมีการปิดถนนที่ จะส่งผลกระทบกับการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพมหานคร ที่ตอนนี้เป็นแชมป์โลกไปแล้ว และยังมีเรื่องเสียงเครื่องยนต์ ที่ จ ะรบกวนบริ เวณโดยรอบ ก�รปรั บ พื้ น ถนนและแก้ ไข สะพ�นต่�งๆ ให้ได้มาตรฐานของ FIA และการจัดการใน เรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากที่เป็นเรื่องของรายละเอียด ซึ่งทั้งหมดต้องมีการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พยายาม เดินหน้าแบบเต็มสูบเพื่อให้ปี 2014 จะได้มี ฟอร์มูล่าวัน กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ เกิดขึ้นให้ได้ หลังจ�ก 8 ช�ติชั้น นำาในเอเชีย นำาหน้าไทยในการเป็นเจ้าภาพ F1 ไปแล้ว ซึ่งก็ เป็นการการันตีอีกทางหนึ่งว่าน่าจะมีผลดีมากกว่า เพราะไม่ เช่นนั้นชาติเหล่านี้คงไม่จัดแน่ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะ เมือ่ ไหร่ทปี่ ระเทศไทยได้จดั งานกีฬาระดับโลกมักจะมีปญ ั ห� ต�มม�ทุกครั้ง แต่ก็ต้องเอาใจช่วยเผื่อว่า F1 จะทำาให้ชื่อ ประเทศไทยดังกระหึ่มโลกได้อีกทางหนึ่ง l 59

HUNT l People

CHANGE CHALLENGE >> ณัตตินา : เรื่อง / อนุชิต : ภาพ

กลกิตติ์ เถลิงนวชาติ

เหลือเวลาอีกเพียงสองปีกับการที่ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมแห่ง ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ หลายคนตัง้ คำ�ถามว่าการเปลีย่ นแปลง ครั้งนี้เราคนไทย มีความพร้อมกันมากน้อยแค่ไหน แล้วภาพของธุรกิจจะ เป็นไปในทิศทางใด?

Kollakit Thalerngnawachart National Director BNI (Thailand) Co.,Ltd.

กลกิตติ์ เถลิงนวชาติ ประธานบริหาร BNI (Thailand) หรือ Business Network International เป็นอีกหนึ่งในผู้บริหารภาคเอกชนที่จับตาความคืบหน้าของการเปลี่ยนผ่านสู่ สังคมอาเซียนอย่างต่อเนือ่ งและยังคงขับเคลือ่ นธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวทันความเปลีย่ นแปลง นั้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจภายใต้การดูแลของ BNI Thailand ดำ�เนิน ไปกับควบคู่กับแนวความคิดของการ “ให้” เพื่อสร้างเครือข่ายมิตรภาพทางธุรกิจที่เข้มแข็ง และสามารถดำ�รงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

“ตอนนี้มีสมาชิกผู้ประกอบการไทยทั้งหมด 400 คน ในขณะที่กลุ่มสมาชิกของ BNI ทั่วโลกมีนับแสนคน พอมาทำ�ตรงนี้ เวลาไปเมืองนอก ผมเป็นเหมือนทูตการค้าที่มอง เห็นธุรกิจผ่านมือไปมา เห็นโอกาสและช่องทางที่เราสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยได้ ด้วยการเชื่อมโยงธุรกิจ มุ่งเน้นการพัฒนาเจ้าของธุรกิจให้เป็นมืออาชีพและมีความเป็นผู้นำ� ผ่านมาถึงวันนี้มียอดธุรกิจจากการสร้างเครือข่ายมิตรภาพของ BNI (Thailand) เกิดขึ้นแล้ว กว่า 700 ล้านบาท ”

เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน

“ผมมีความเชื่อเหมือนสตีฟ จ๊อบส์ ที่ว่าทำ�ในสิ่งที่เรารัก มันร่ำ�รวยได้ เมื่อก่อน ไม่มีใครเชื่อก็จะทำ�อะไรก็ได้ให้มีเงิน บางทีมีเงินแล้วไม่มีความสุข พอใจมันไม่ชอบ เวลาเจอ อุปสรรคก็ตดิ ขัดไปหมด แต่ถา้ ใจรักมีเท่าไรทุม่ หมดหนักแค่ไหนมันก็จะผ่านไปได้เพราะฉะนัน้ เราต้องเปลี่ยนความคิดก่อน ในองค์กรของบีเอ็นไอเราเปลี่ยนความคิดเป็น “การให้” เอาคอน เนกชั่นที่อยู่ข้างหลัง มาแลกเปลี่ยนกัน ช่วยกันพัฒนา และต้องทำ�งานเป็นทีม โดยเฉพาะเมื่อ อนาคตจะเปิดตลาดอาเซียน ธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ไม่มีเงินมากพอที่จะทำ�คนเดียว ได้ มันจำ�เป็นต้องอาศัยจุดแข็งของแต่ละคนมารวมกัน เมื่อเปลี่ยนความคิดและลงมือทำ�แล้ว ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามมา เป็นโมเดลง่าย ๆ ที่เรียกว่า Thought + Feel = Action ซึ่งการเปลี่ยนความคิดนี้อาจพลิกชีวิตให้คุณได้พบกับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่เลยก็ได้ ใครจะรู้”

“สร้างความต่าง” พลิกชีวิตสู่ประชาคมอาเซียน

แน่นอนว่าการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนย่อมนำ�มาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่มีทั้ง โอกาสและความเสี่ยง การปรับตัวและการเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์เป็นสิ่ง จำ�เป็น เพราะเดิมพันครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเกมหมากกระดานเล็ก ๆ หากแต่เป็นกลเกมทาง ธุรกิจที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่รายล้อมอยู่รอบด้าน

60 l

3 ตัว นี้มันจะหยุดยั้งการกระทำ�ของเราหมด เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถคิดบวกตรงนี้ ได้ ความรู้สึกอารมณ์ของเราจะดีขึ้น คนที่ ประสบความสำ�เร็จต้อง Love to Learn คือ ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ การเรียนหนังสือเป็นการ ลงทุนให้ตัวเรามีคุณค่ามากขึ้น และสามารถ ช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น เมื่ออนาคตมัน เป็นการเปิดตลาดเสรี นักธุรกิจจำ�เป็นต้อง ฟังคนอื่นให้มาก เพราะเราเก่งคนเดียวไม่ ได้ ต้องกล้ารับฟังในสิ่งที่ต้องปรับปรุงหรือ พั ฒ นา ตรงนี้ เ ป็ น ทั ก ษะหนึ่ ง ในการตอบ สนองความต้ อ งการของลู ก ค้ า และเป็ น ที่มาความสำ�เร็จของนักธุรกิจที่เกิดขึ้นได้”

Social Capital ทุนทางสังคม เส้นทางสู่ความสำ�เร็จ

“อีกสองปีเมือ่ เราก้าวเข้าไปสูส่ งั คมประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวการเปลีย่ นแปลง ที่เกิดขึ้น มันจะมีอยู่ด้วยกันหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า บริการ การผลิต และ แรงงาน โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม จำ�เป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวธุรกิจ เพราะเรา จะเป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) หรือรับจ้างผลิตสินค้าอย่างเดียวไม่ได้แล้ว การอยู่รอดในโลกอนาคตจะมีอยู่สองประการ ประการแรก เราต้องมี R&D (Research and Development) หรือการวิจัยเรื่องของนวัตกรรมและความแตกต่าง ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่าง เช่น สิงค์โปร์ รัฐมนตรีของเขาพูดเลยว่า GDP ของสิงค์โปร์ 26 % คือ อุตสาหกรรรมอิเล็ก ทรอนิกส์ ดังนั้น การที่อินเทลไปเปิดโรงงานที่เวียตนาม ทำ�ให้สิงค์โปร์ต้องสร้างความแตก ต่างจะเป็นแค่โรงงานผลิตไม่ได้ ต้องใส่นวัตกรรมอื่นๆ เพิ่มมูลค่าเข้าไป ทำ�อย่างไรที่จะพัฒนา เรือ่ งของการขนส่งให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นประการทีส่ องสำ�คัญมากคือต้องมีคอนเนกชัน่ หรือเครือข่ายทางธุรกิจดังนัน้ หนทางของการอยูร่ อดท่ามกลางความเปลีย่ นแปลงทีส่ งู มากๆ ต้องอาศัยความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด”

โอกาส การแข่งขัน และความสำ�เร็จ

“โลกปัจจุบันเป็นโลกออนไลน์ มีโอกาสมากขึ้น การแข่งขันก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน มันมีปัจจัยไม่แน่นอน แต่หัวใจสำ�คัญ คือ ต้องมองไปที่เป้าหมายอย่ามองที่อุปสรรค โรเบิร์ต ฮอปกินส์ กล่าวไว้ว่า ถ้าเราเตรียมตัว เตรียมพร้อมสำ�หรับเวลาที่เลวร้าย เราจะมีช่วงเวลาที่ ดีเพราะเราเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว

สมัยก่อนสูตรสำ�เร็จของนักธุรกิจทั่วไป ก็คือ หาลูกค้าใหม่ กับ ทำ�อย่างไรให้ลูกค้า เก่าซื้อของมากขึ้น แต่ปัจจุบัน ถ้าเราจะทำ�ธุรกิจ ต้องมีปัจจัย 3 อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง คือ ประการแรก ทำ�อย่างไรให้ลูกค้าเก่า แนะนำ�ลูกค้าใหม่ได้ ประการที่ 2 ต้องมีระบบแนะนำ� ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เพื่อทำ�ให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น ประการที่ 3 ต้องเปลี่ยนความคิดที่นำ�ไป สู่ความต้องการและการกระทำ� ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป สิ่งที่สำ�คัญที่สุด คือ ต้องมี ทัศนคติที่เป้นบวก ในความคิดคนเราจะมีซาตานอยู่ 3 ตัว คือ โทษคนอื่น บ่น ข้ออ้าง ทั้ง

ระยะเวลานานกว่า 6 ปี ในการ ส่งเสริมและพัฒนาให้คนเปลี่ยนความคิดที่ นำ�ไปสู่ความสำ�เร็จอย่างเป็นรูปธรรม ความ สำ�เร็จของกลุ่มธุรกิจ SMEs ระดับกลางที่ สร้างยอดธุรกิจให้เกิดขึ้นกว่าเจ็ดร้อยล้าน บาท ภายในระยะเวลา 8 เดือน บ่งบอกว่า โมเดลเล็กๆ จากการเติบโตของธุรกิจใน รูปแบบของการช่วยเหลือระหว่างกันนี้ จะ กลายเป็นหนึ่งฐานรากของนานาธุรกิจที่จะ ประสบความสำ�เร็จและยืนหยัดอยู่ในเวที การค้าอาเซียนได้อย่างน่าภาคภูมิ

“ต้องสร้างทีมผู้นำ� สร้างโอกาส ธุรกิจ ขยายเป็นชุมชนขึ้นมาช่วยกัน ส่งต่อ ให้เกิดความเข้มแข็ง เป็นโครงสร้างของการ ช่วยเหลือกัน เรียกว่า Social Capital หรือ ทุนทางสังคม ซึ่งเป็นจุดยืนที่ทำ�เพื่ออนาคต การเปลี่ยนความคิดคนอาจต้องใช้เวลา

การเปิดเสรีการค้า แน่นอนว่า มัน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านในด้านต่างๆ ทั้ง สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ถ้าเราไม่เริ่ม ที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ลงมือทำ� ก็ช้าเกินไป เพราะฉะนั้นต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน ถึงจะอยู่รอดได้ สิ่งสำ�คัญที่สุด คือ ต้องมี ความตั้งใจ ดังที่ แอนโทนี่ส์ รอบบินส์ บอกว่า When you commit , you will find the way “เมื่อคุณตั้งใจจริง คุณจะได้พบกับคำ�ตอบนั้น” l 61

HUNT l Health

อาการปวดหลัง...

เรื่องธรรมดาที่ (ไม่) ธรรมดา >> November17 : เรื่อง

ภาพจาก wordpress.com

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเสียงรำ�พึงถึงอาการปวดหลัง บ้างเป็นเพียงเพราะ อาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำ�งานเป็นเวลานาน ๆ หรือการยกสิ่งของที่มีน้ำ�หนักมาก เกินไปในบางช่วงเวลา ว่ากันว่าผู้ที่มี อาการปวดหลังร้อยละ 50 จะหายภายใน 2 สัปดาห์ และร้อยละ 90 จะหายภายใน 3 เดือน แต่ก็มีผู้ป่วยอีกร้อยละ 5-10 ที่มีอาการปวดเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง

นพ.สุรศักดิ์ อินทชื่น ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อ โรงพยาบาลรามคำ�แหง กล่าวว่า อาการปวดหลังทีเป็นสาเหตุสำ�คัญของโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง จากสถิติพบกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั่วโลก มักเคยประสบกับอาการปวดหลัง-ปวดเอว และมีแนวโน้มว่าอายุเฉลี่ยของ ผู้ป่วยด้วยโรคนี้จะมีอัตราลดน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนในวัยทำ�งานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นประจำ�อย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมงในแต่ละวัน โดยไม่คำ�นึงถึงการเสื่อมสภาพของหมอนรอง กระดูกสันหลัง ก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการปวดหลังมากยิ่งขึ้น รู้จักโครงสร้างของหลัง

ปกติหลังของคนเราจะประกอบไปด้วยกระดูกสันหลังทั้งหมด 33 ชิ้น เรียกว่า Vertebrae วาง เรียงซ้อนกัน ตั้งแต่กระดูกสะโพกถึงกะโหลกศีรษะ ระหว่างกระดูกแต่ละชิ้นจะมีหมอนรองกระดูกที่ มีลักษณะเป็นเนื้อนุ่มหยุ่นเหมือนฟองน้ำ� คั่นระหว่างกลาง ซึ่งทำ�หน้าที่รับแรงกระแทกของกระดูก และเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว

ส่วนของกระดูกสันหลังจะทำ�หน้าที่เป็นแกนกลางของร่างกาย โดยกระดูกจะยึดติดเป็น แนวโดยอาศั ย กล้ า มเนื้ อ และเอ็ น ซึ่ ง การหดเกร็ ง กล้ า มเนื้ อ หลั ง จะทำ � ให้ เ กิ ด การเคลื่ อ นไหว

62 l

นอกจากนี้ กระดูกสันหลังยังทำ�หน้าที่ในการเป็นทางผ่าน ของประสาทไขสันหลัง (Spinal cord) ที่วิ่งเริ่มต้นจากสมองใน กะโหลกศี ร ษะลงมาในช่ อ งกระดู ก สั น หลั ง และมี เ ส้ น ประสาท (Spinal nerve) แยกออกบริเวณข้อต่อของกระดูกเพื่อนำ�ไปเลี้ยง อวัยวะต่าง ๆ ซึ่งในทางการแพทย์จะแบ่งกระดูกหลังออกเป็น 5 ส่วน คือ กระดูกสันหลังส่วนคอ (Cervical) 7 ชิ้น, กระดูกสันหลังส่วนอก (Thoracic) 12 ชิ้น, กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว (Lumbar) 5 ชิ้น, กระดูกสันหลังส่วนกระเบนเหน็บ (Sacrum) 5 ชิ้น และกระดูก สันหลังส่วนก้นกบ (Coccyx) 4 ชิ้น โดยส่วนที่เคลื่อนไหวได้มากที่สุด คือ กระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว (Lumbar) และส่วนนี้เองที่พบว่าเป็น สาเหตุทำ�ให้เกิดอาการปวดหลังได้มากที่สุด

ที่มาของอาการปวดหลัง

ในการวินิจฉัยที่มาของอาการปวดหลัง แพทย์พบว่าแหล่ง กำ�เนิดของอาการปวดหลังนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายส่วน ได้แก่

• รากประสาทจากไขสันหลังถูกกระตุ้นทำ�ให้มีอาการปวด

• ปลายประสาทที่เลี้ยงไขสันหลังถูกกระตุ้นให้มีอาการปวด

• กล้ามเนื้อหลังอาจเกร็งอยู่ตลอด ทำ�ให้เกิดอาการปวด

• กระดูกสันหลัง เอ็น และข้อต่อกระดูกสันหลัง อาจจะเกิด โรคทำ�ให้ปวด

• โรคทีเ่ กิดระหว่างกระดูกเช่นหมอนกระดูกทับเส้นประสาท

ในแง่ของการรักษาอาการปวดหลังที่มีต้นเหตุจากโรคหมอน รองกระดูกสันหลัง นอกเหนือจาก การรักษาด้วยวิธีประคับประคอง แล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ สมัยใหม่อย่าง

เทคนิ ค ศั ล ยกรรมนำ � ร่ อ งส่ อ งกล้ อ งผ่ า ตั ด แบบแผลเล็ ก (Minimal Invasive Surgery หรือ MIS) เข้ามาช่วยเพิ่มผลสำ�เร็จใน การรักษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำ� MIS เป็นการถ่างขยายเนื้อเยื่อ บริเวณที่ทำ�การผ่าตัดแล้วจึงส่องกล้องที่มีกำ�ลังขยายสูงถึง 60 เท่า พร้อมอุปกรณ์เข้าไปทำ�การผ่าตัด วิธีนี้ทำ�ให้เกิดแผลหลังการผ่าตัด เพียง 3 เซนติเมตร หรือในบางรายอาจใช้วิธีการผ่าตัดแบบ Endoscope ซึ่งเป็นการส่องกล้องที่มีขนาดเล็กมากเพียง 3 มิลลิเมตร เข้าไปในบริเวณที่จะผ่าตัดก็สามารถทำ�การรักษาได้ นอกจากนี้ยังมี เทคนิคการรักษาด้วยคลื่นวิทยุหรือนิวคลีโอพลาสตี้ รวมทั้งการ ผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังเทียมและการผ่าตัดเชื่อม กระดูกสันหลัง ซึ่งวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการหรือระดับความ รุนแรงของโรคในผู้ป่วยแต่ละราย สำ�หรับอาการปวดหลังโดยทั่วไปสามารถรักษาได้หลายวิธี อาทิ การประคบเย็น โดยใช้ถุงน้ำ�แข็งประคบบริเวณที่ปวดอย่าง น้อย 5-15 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้น ประคบร้อน โดยใช้ผ้า ชุบน้ำ�อุ่นประคบเป็นเวลา 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง ทำ�ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 2-3 วัน

•• กระดูกสันหลังยังทำ�หน้าที่ในการเป็นทางผ่าน ของประสาทไขสันหลัง (Spinal cord) ที่วิ่งเริ่มต้นจาก สมองในกะโหลกศีรษะลงมาในช่องกระดูกสันหลัง และมีเส้นประสาท (Spinal nerve) แยกออกบริเวณ ข้อต่อของกระดูกเพื่อนำ�ไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ••

บางรายอาจรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตตามอล หรือยาในกลุ่ม NSAIDS เช่น แอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน นอกจาก นี้ การหยุดพัก เป็นระยะเวลา 2-3 วัน และพยายามนอนตะแคงโดย ใช้หมอนรองไว้ระหว่างขาหนีบ หรือนอนราบบนพื้นโดยใช้หมอน รองใต้เข่า ก็สามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี

การเดิน ถือว่าเป็นการออกกำ�ลังกายที่ดีที่สุด เพราะจะช่วย ให้ระบบหมุนเวียนสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงบริเวณหลังได้ดีขึ้นและทำ�ให้ กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง ผู้ป่วยควรเดินให้ได้อย่างน้อยวันละ 10 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาให้นานมากขึ้น

การออกกำ�ลังกายบางท่า จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง และพยุงกระดูกสันหลังได้ดียิ่งขี้น และยังช่วยในการทรงตัวได้ดี ลด การบาดเจ็บต่อหลังได้ ซึ่งการบริหารร่างกายป้องกันอาการปวด หลังนี้ ควรทำ�อย่างช้าๆ ไม่หักโหม บริหารอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

เห็นไหมล่ะว่า... อาการปวดหลัง เป็นเรื่องธรรมดาที่ (ไม่) ธรรมดาจริง ๆ

ภาพจาก Blog.eduzone.com

l 63

HUNT l Automobile

PORSCHEPanamera >> ถิรพร เนาว์ถิ่นสุข : เรื่อง

Platinum Edition

PORSCHE ทำ�มาหากินกับรถสปอร์ตมาตั้งแต่แรก ไม่เคย คิดจะทำ�รถนั่งหรือรถสไตล์อื่นออกขายให้เสียฟอร์ม เพราะความ แรงไม่ว่าใครก็อยากได้ โดยเฉพาะหากวางอยู่ในรถสปอร์ตพันธุ์ดุ เป็นรถสปอร์ตจากเมืองเบียร์ขนานแท้ไม่มีผลิตออกจากโรงงาน ในประเทศไหนๆ

คอนเซ็ปต์ประจำ�ตัวของ PORSCHE อยู่ตรงเครื่องยนต์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ห้อยเอาไว้ท้ายรถส่งเสียงดังและมี อาการโอเวอร์สเตียร์ท้ายปัดเป็นประจำ�ทุกครั้งเวลาเข้าโค้งแรงๆ จึง เหมาะกับนักเล่นรถสปอร์ตกระเป๋าหนักระดับเซียนถึงจะเอาอยู่

64 l

แต่การผลิตรถสปอร์ตออกขายสถานเดียวก็คงจะได้ลูกค้า เท้ า หนั ก ที่ ติ ด ใจสมรรถนะและความหวื อ หวา จนทำ � เอาเศรษฐี รุ่นใหญ่กระดากใจหากจะเอามาขับเล่น เพราะรูปทรง PORSCHE เป็นรถสปอร์ตเต็มตัวจะเข้าจะออกก็คงลำ�บาก ทางโรงงานก็เลย คิดหลายตลบหลังจากทำ�รถสปอร์ตขายอย่างเดียวมานานหลาย ทศวรรษ ว่าควรออกรถสไตล์อื่นมาเอาใจตลาดบ้าง โดยยัดเยียด ความแรงและความสะดวกสบายเข้าไปเต็มพิกัด

ปัจจุบันรถสปอร์ตจากค่าย PORSCHE เรียงแถวออกมา โดยเริ่มจากรุ่นเล็กเอาใจมือใหม่อยากสนุกด้วย BOXSTER และ

•• คอนเซ็ปต์ประจำ�ตัวของ PORSCHE อยู่ตรง เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ ห้อยเอาไว้ท้ายรถ ส่ ง เสี ย งดั ง และมี อ าการโอเวอร์ ส เตี ย ร์ ท้ า ยปั ด เป็ น ประจำ � ทุกครั้งเวลาเข้าโค้งแรงๆ จึงเหมาะกับนักเล่นรถสปอร์ต กระเป๋าหนัก ••

CAYMAN แน่นอนว่ารุ่นมาตรฐานอย่าง 911 กับความแรงระดับ ต่างๆ เป็นของที่ขาดไม่ได้ แต่เล็งเห็นว่ารถ SUV ระดับพรีเมียมหรือ CROSSOVER ซึ่ ง RANGE ROVER, MERCEDES-BENZ M-CLASS และ BMW X6 ครองตลาด ก็ยังพอมีโอกาสแย่งตลาดได้ ทำ�ให้ PORSCHE CAYENNE ออกมาเอาใจตลาดด้วย

นอกจากรถลุยซึ่ง PORSCHE ไม่เคยคิดว่าจะสนใจกลับ ได้รับความนิยม ทางโรงงานเลยตัดสินใจออกรถสปอร์ต 4 ประตู พันธุ์ดุลูกผสมระหว่าง CARYENNE และ CARRERA ขนาดตัว ค่อนข้างใหญ่เพื่อให้คนหลังนั่งได้สบาย กลายเป็น PANAMERA ขายกันมาพักใหญ่ ก็สามารถเรียกคะแนนนิยมจากลูกค้าเท้าหนัก กระเป๋าใบโตได้ไม่เลวทีเดียว

จนล่ า สุ ด เพิ่ ง เปิ ด ตั ว ไปได้ ไ ม่ น าน PORSCHE PANAMERA PLATINUM EDITION โดดเด่นสะดุดตาด้วยสี PLATINUM

SILVER METALIC และออฟชั่ น ต่ า งๆ ท่ ว มคั น ไม่ ว่ า ไฟหน้ า BI-XENON ระบบปรับลดแสงกระจกมองหลัง ช่องรับอากาศด้าน ข้าง ในรุ่น TURBO ไปจนถึงล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว และยางหน้า กว้างเต็มซุ้มล้อ

การตกแต่งภายในพยายามยัดเยียดความหรูหราเข้าไป โดยเฉพาะจอภาพ TFT ขนาด 7 นิ้ว และลำ�โพง 11 ตัวรอบทิศทาง ให้เสียงกระหึ่มด้วยกำ�ลังขับ 235 วัตต์ พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมโลโก้ PORSCHE เด่นชัด เกจ์วัดขนาดใหญ่และสวิตช์ ต่างๆ ครบครัน อ่านง่าย และใช้สะดวก เบาะหนังแบบบักเก็ตซีท ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดความจำ� ตอนโซลกลางรถยาวจากแผง หน้าปัดจรดเบาะนั่งหลังแยกส่วนนั่งได้ 2 คน

สี สั น บ่ ง บอกถึ ง บุ ค คลิ ก ของผู้ เ ป็ น เจ้ า ของด้ ว ยสี แ บบ BI-COLOUR ล่ า สุ ด อย่ า ง BLACK/LUXOR BEIGE ในแบบ l 65

•• PORSCHE PANAMERA PLATINUM EDITION โดดเด่นสะดุดตาด้วยสี PLATINUM SILVER METALIC และออฟชั่นต่างๆ ท่วมคัน •• A-PART LEATHER INTERIOR PACKAGE หรือ FULL LEATHER INTERIOR PACKAGE และโลโก้ PORSCHE บนพนักพิงศีรษะ ด้านหน้าและหลัง ตลอดจนแผงโครเมี่ยม PLATINUM EDTION บน บันไดด้านข้าง PORSCHE PANAMERA PLATINUM EDITION มี เครื่องยนต์ 2 ขนาด เริ่มจากเบ็นซิน V6 3.6 ลิตร 295 แรงม้า หรือ อยากประหยัดก็ต้องดีเซล V6 3.0 ลิตร 247 แรงม้า โดยสามารถ เลือกได้ว่าต้องการแบบขับล้อหลัง หรือขับ 4 ล้อ ความจริงรถ SUV ระดับพรีเมี่ยมหรูสุดๆ คงไม่มีใครอยากเอาไปลุย แต่ถ้าเอาไว้ไล่แซง รถสปอร์ตแรงๆบนทางหลวงก็ไม่แน่เหมือนกัน เครื่ อ งยนต์ เ บ็ น ซิ น V6 ทวิ น แคม 24 วาล์ ว 3,598 ซี.ซี. อัตราส่วนกำาลังอัด 12.3:1 หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ BOSCH MOTRONIC แบบ MULTI-POINT แรงม้า 295 PS/6,200 รอบต่อ นาที แรงบิด 39.2 กก.-ม./ 3,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ PDK 7 จังหวะ ความเร็วสูงสุด 257 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน เวลา 6.1 วินาที

66 l

เครื่องยนต์ดีเซล V6 ทวินแคม 24 วาลว์ 2,967 ซี.ซี. อัตราส่วนกำาลังอัด 16.8:1 หัวฉีดดีเซลอิเล็คทรอนิคส์ COMMONRAIL แรงม้า 247 PS/3,800-4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 56.2 กก.-ม./1,750-2,750 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ TIPTRONIC S 8 จังหวะ ความเร็วสูงสุด 242 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.8 วินาที PORSCHE PANAMERA PLATINUM EDITION ออกมา ให้สัมผัสเป็นเจ้าของด้วยสี 5 สี สีขาวและดำาเป็นสีแบบธรรมดา ส่วนสีเมทาลิคจะเป็น BASALT BLACK ,CARBON GREY และ MAHOGANY LACQUER ราคาในเยอรมันเปิดมาที่ 79,707 ยูโร และรุ่ น ดี เซลขยั บ เป็ น 82,206 ยู โร ส่ ว นรุ่ น ขั บ 4 ล้ อ ตั้ ง ราคา เอาไว้ 87,223 ยูโร เข้ามาถึงเมืองไทยเมื่อไหร่เศรษฐีก็คงแห่ไปจอง แน่นอน...

•• ขอบคุณ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำากัด ••

l 67

HUNT l Dining

aLL SiX

Twelve

“สถานที่พร้อมรอต้อนรับคุณ ไม่ว่าเวลาไหน” แค่ได้ยินใคร พูดประโยคนี้ให้ฟัง ถ้าไม่แวะเวียนมาสักครั้งคงจะใจร้ายเกินไป สักหน่อย ยิ่งเจ้าของสโลแกนอย่างร้าน aLLSiX to Twelve พร้อมรอ ต้อนรับตั้งแต่หกโมงเช้ายันเที่ยงคืน แถมอยู่ในย่านกลางเมืองอย่าง ซอยหลังสวน คงไม่มีใครอยากปฏิเสธ

ร้าน aLLSiX to Twelve หาไม่ยาก เนื่องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ของอาคารหรูเฟรเซอร์เพลสเออร์บานา หลังสวน เซอร์วิสเรสซิเดนท์ บรรยากาศรอบนอกจึงมีทั้งความสงบเงียบให้ความเป็นส่วนตัว แต่ ขณะเดียวกันก็เป็นอีกโลกของความผ่อนคลาย เพียงแค่หลบออก จากถนนสายหลักของหลังสวนเท่านั้น การเข้าสู่ตัวร้านสามารถผ่าน มาจากล็อบบี้ของอาคารเฟรเซอร์ฯ หรือจะผลักประตูไม้บานหนา หนั ก ด้ า นหน้ า เข้ า มาภายในร้ า นถู ก จั ด แต่ ง ให้ ค ล้ า ยกั บ ห้ อ งใต้ หลังคาของบ้านแบบตะวันตก เพดานสูง ปูนเปลือย บุกระจกใสโดย รอบ ขณะที่อีกมุมก็ให้อารมณ์ของความอบอุ่นด้วยการจำ�ลองห้อง ครัวส่วนตัวมาไว้ในส่วนของบาร์เปิด ที่สามารถเชื้อชวนผองเพื่อน ให้มาสังสรรค์ในยามว่าง

อารมณ์ของร้าน aLLSiX to Twelve ไม่ว่าจะเข้าแวะเวียน เข้ามาเวลาไหนก็ดูเหมือนจะปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้เข้ากันได้ในทุก โมงยามราวกับเนรมิต อาจเป็นด้วยการตกแต่งที่เน้นความเรียบ แต่ หรูอยู่ในที แถมมีมุมอารมณ์อุ่นๆ ราวกับกำ�ลังนั่งทานอาหารอยู่ใน

บ้านส่วนตัว เสน่ห์ที่สำ�คัญอีกประการของที่นี่ คืออาหารที่เรียกได้ ว่าเป็นอาหารลูกผสม ที่รวมเอาหน้าตาของหลากหลายวัฒนธรรม แต่คนที่คุ้นลิ้นกับอาหารไทยก็ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่อาหารหน้าตา จะออกสากลก็จริง แต่เน้นรสพื้นฐานแบบไทย อย่างเมนูที่ชื่อว่า โมจิลาบเป็ด ชื่อญี่ปุ่นแต่รสชาติแซบแบบไทย แซมกลิ่นเครื่องเทศ ที่เกิดจากการนำ�สะโพกเป็ดสับมาคั่วกับพริกป่น รากผักชีสับ ผักชี ใบเลื่อยสับ หอมแดงสับ หอมเจียว เนื้อแป้งให้ความรู้สึกเหมือน ทานข้าวเหนียวกับลาบอย่างไรอย่างนั้น ใครที่ชอบเสต็ก สามารถ สั่งสะเต๊ะสเต็กเป็นเนื้อสันนอกจากออสเตรเลียหมักกับเครื่องปรุง และเครื่องเทศก่อนจะนำ�ไปย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำ�จิ้มและอาจาดแบบ สะเต๊ะแบบครบเซ็ต ส่วนเครื่องดื่มที่หาที่ไหนไม่ได้ แต่ที่นี่มีให้ลอง คือ Yakuzaเสิร์ฟมาในช็อตเล็กๆ กลิ่นหอมหวานของสาเก ผสม เจลาตินและ Beer

ไม่ว่าเช้า สาย บ่าย หรือเย็น หากมาที่ aLLSiX to Twelve รับรองว่าคุณจะไม่มีเวลาของความเบื่ออีกต่อไป

aLLSiX to Twelve

อาคารเฟรเซอร์เพลสเออร์บานา ถ.หลังสวน ลุมพินี เปิดบริการ : 6.00 น.-24.00 น. สำ�รองที่นั่งได้ที่ 02 250 6799 facebook.com/allsixtotwelve 68 l

อิ่มอร่อย เต็มบรรยากาศที่

D une Bar & Restaurant

แบ่งปันช่วงเวลาสุดพิเศษที่ Dune Bar & Restaurant ริมสระน้ำ� ของโรงแรม Dune Hua Hin และ อิ่มอร่อยกับเมนู อาหารจานพิเศษ พร้อมสดชื่นไปกับเครื่องดื่มแสนอร่อยบน บาร์ชั้นดาดฟ้า ของบูติกโฮเต็ลแห่งเดียวใจกลางเมืองหัวหิน ที่นำ�เสนอวิวทะเล และขุนเขา 360 องศา

การตกแต่งภายในเน้นความทันสมัย อินเทรนด์ตาม กระแสรักษ์โลก ด้วยดีไซน์ชุดเก้าอี้รับประทานอาหารสุดเก๋ที่ สร้างสรรค์จากขวดพลาสติกรีไซเคิล ดูเรียบง่ายสไตล์นิวยอร์ก นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซด์ผลงานการออก แบบของ จีไอเอ็ม ดีไซน์ สตูดิโอ และ โมทีฟ : อาร์ตออฟลีฟวิ่ง ที่เน้นโทนสีธรรมชาติ อาทิ สีน้ำ�เงิน สื่อถึงความสดใสของ ฟากฟ้าและท้องทะเล แทนความงามของเกลียวคลื่นด้วยสีขาว พร้อมตกแต่งโทนสีเทาดูกลมกลืนไปกับตัวอาคารโรงแรมและ โต๊ะรับประทานอาหารทีท่ �ำ จากหินอ่อนธรรมชาติเติมเต็มความ รู้สึกของสีสันในยามรัตติกาล ด้วยเบาะนั่งลายหินแอฟริกาสีดำ�

พลาดไม่ได้กับเมนูอาหารที่ใส่ใจสุขภาพ เต็มรสชาติ ความอร่อย ทั้งเมนูอาหารไทย ยุโรป และเอเชี่ยน ฟิวชั่น ซึ่งปรุง แต่งด้วยวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อม ให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแล้วตั้งแต่วันนี้

Dune Bar & Restaurant

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำ�รองห้องพักได้ที่ โทร. (032) 515 051-3 หรือ md@dunehuahin.com l 69

HUNT l Movie ธีรศักดิ์ : เรื่อง

ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี

ตำานานการรบอันเกรียงไกรของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดำาเนินมาถึงภาคสุดท้าย และยังคง ความอลังการไว้เหมือนเช่นเคยในภาคนีเ้ ป็นเรือ่ งราวหลังจากทีส่ มเด็จพระนเรศวรทรงหลัง่ น้าำ ทักษิโณทก ประกาศความเป็นไทยไม่ขนึ้ ต่อพม่าและยังทรงใช้กลศึกกับทัพหงสาวดีในคราศึกพระยาพะสิมและพระเจ้า เชียงใหม่จนพ่ายแพ้แก่กลศึกของพระนเรศวรจากการเสียทีครัง้ นัน้ ทำาให้พระเจ้านันทบุเรงทรงขัดเคืองยิง่ นัก ทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของพระนเรศวร และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงได้นำาทัพที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดของพม่าพร้อมนายทัพผู้มีปรีชามากมายทั้งพระมหาอุปราชามังจาปะโรและลักไวทำามูหมาย ย่ำายีอโยธยาให้ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อธำารงพระเกียรติยศมิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชใน การปกครองของฝ่ายพม่า ส่งผลให้เมืองประเทศราชของอยุธยา เกิดความสั่นคลอน เพราะหวาดกลัวใน การศึกครั้งนี้ คิดจะแปรพักตร์ไปเข้าพระเจ้านันทบุเรง สถานการณ์ของอโยธยายิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อ กองทัพละแวก และกองทัพเมืองคังแปรพักตร์ ทำาให้เสียเปรียบในด้านกำาลังพล การศึกครั้งนี้จึงนำาไปสู่ การทำายุทธหัตถีครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตำานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค5ยุทธหัตถีคับคัง่ ไปด้วยนักแสดงภาคเดิมทีม่ ากันพร้อม หน้า ทั้ง พ.ท.วันชนะ สวัสดี, พ.ท. วินธัย สุวารี, นพชัย ชัยนาม, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, ฉัตรชัย เปล่งพานิช , จักรกฤษณ์ อำามะรัตน์, อินทิรา เจริญปุระ, เกรซ มหาดำารงค์กุล ฯลฯ เข้าฉายพร้อมกัน 5 ธันวาคม

WRECK-IT RALPH

ผลงานการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของวอล์ทดิสนีย์ที่จะนำาผู้ชมย้อนกลับไปสู่ยุค 90’s ที่เกมส์ 8bit เฟองฟู โดยมี Ralph ตัวร้ายในเกมส์ Wreck– it Ralph เป็นตัวเดินเรื่อง จากที่ต้องพ่ายแพ้ ให้กับ เฟลิกซ์ นักซ่อมอยู่เสมอ ทำาให้ Ralph รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเป็นตัวร้าย และเกิดความคิดอยาก เป็น ฮีโร่ จึงบุกเข้าไปในเกม First Person Shooting (เกมยิงจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง) สุดทันสมัยแต่เขา กลับไปปลดปล่อยตัวร้ายในเกมให้ออกมาป่วนเกมอื่นๆจนทำาให้โลกแห่งเกมสั่นสะเทือน และส่งผลให้ ไวรัสร้ายพบช่องทางเข้ามาคุกคามเกมเหล่านั้น ราล์ฟ จึงต้องหาทางยับยั้งมันให้ได้ ซึ่งภารกิจของราฟล์ ครั้งนี้ ทำาให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจไปกับตัวการ์ตูนเอกในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย Wreck-it Ralph กำากับโดย Rich Moore เจ้าของผลงานกำากับภาพยนตร์การ์ตูนชื่อดัง Simpson นอกจากนี้ยังได้ทีมนักแสดงชื่อดัง อาทิ John C. Reilly Jack McBrayer และ Jane lynch มาร่วมสร้างสีสันให้เสียงพากษ์ตัวละครต่างๆ มากมาย สนุกสนานไปกับ Wreck-It Ralph ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น รับช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวได้ 6 ธันวาคม

THE HOBBIT

จากมหากาพย์ภาพยนตร์ไตรภาค เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง มาถึง The Hobbit ที่บอกเล่า เรื่องราวการเดินทางในวัยหนุ่มของ บิลโบ้ (มาร์ติน ฟรีแมน) ลุงของโฟรโด้ (เอลิจาห์ วู้ด) ซึ่งออกเดินทาง ค้นหา อีรีบอร์ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของคนแคระซึ่งสูญหายไป และถูกครอบครองโดย มังกรสม็อก (เบเนดิค คัมเบอร์แบทช์) การเดินทางของบิลโบ้ครั้งนี้ มีพ่อมดเฒ่านามว่าแกนดลาล์ฟ (เอียน แม็คเคล เลน) ร่วมเดินทางไปพร้อมคณะคนแคระทั้ง 13 คน นำาโดย ธอริน โอเกนชิลด์ (ริชาร์ด อาร์มิเทจ) นักรบ ในตำานานสู่หุบเขาเดียวดาย การเดินทางของพวกเขานำาพาไปสูก่ ารผจญภัยทีต่ อ้ งเผชิญกับสิง่ มหัศจรรย์มากมายทัง้ อุโมงค์ กอบลินและอ๊อร์ก แมงมุมยักษ์ ฝูงวาร์กอันดุร้าย มนุษย์กลายร่าง และผู้วิเศษ ที่อุโมงค์กอบลินบิลโบ้ ได้พบกับ กอลลั่ม (แอนดี้ เซอร์กีส) อสุรกายที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล เมื่ออยู่ตามลำาพังที่ริม หาดทะเลสาบใต้ดิน บิลโบ้ ไม่เพียงค้นพบความกล้าหาญของตัวเองที่ไม่เพียงทำาให้เขาแปลกใจ เขายัง ได้ครอบครองแหวนอันเป็นที่รักของกอลลั่มที่เปียมด้วยพลังอำานาจ แหวนทองคำาธรรมดาที่เกี่ยวข้อง กับชะตาของมัชฉิมโลกหรือดินแดนมหัศจรรย์ เกินกว่าที่บิลโบ้จะหยั่งถึง เตรียมพบกับ The Hobbit จากฝีมือ ปีเตอร์ แจ๊คสัน ผู้กำากับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง และคิงคอง ได้ทุกโรงภาพยนตร์ ธันวาคม ศกนี้

70 l

ทิพย์วรรณ : เรื่อง Book l HUNT

Adaptability :: Max Mckeown :: ASIA BOOKS ราคา 750 บาท

Corvette Sixty

ความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ สองคำ� นี้คงไม่ได้ใช้เฉพาะกับเรื่องของชีวิตเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ สามารถใช้นยิ ามโลกของธุรกิจในพ.ศ.นีไ้ ด้ไม่ตา่ งกันดังนัน้ การจะ เอาชนะในเรื่องของธุรกิจยุคนี้จึงต้องอาศัยศาสตร์ และศิลป์เป็น อย่างสูงในการรับมือ ดังนั้น Max McKeown นักคิด นักเขียน และ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรับมือความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ เคยมีผลงานเป็นหนังสือที่ได้รับการยอมรับอย่าง Truth About Innovation จึงอาศัยความชำ�นาญ ส่งหนังสือเล่มใหม่ ที่จะมาให้ เคล็ดวิธีการปรับตัว การเปิดใจรับกับสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ ด้วยปัญญา ที่จะให้มุมมองที่แตกต่างกับมองว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหา เขายกเคสเอาสังคมของมดทีม่ กี ารสร้างสังคมทีส่ ลับซับซ้อนขึน้ มา สอนใจ แถมยังชี้ให้เห็นว่าการเฝ้าทะนุถนอมสิ่งที่คิดว่าจะยั่งยืน อยู่อย่างไม่ยอมเปลี่ยนนั้นอันตรายเพียงใด ฯลฯ เอาเป็นว่าใคร อยากเอาชนะความไม่แน่นอนของธุรกิจที่กำ�ลังเปลี่ยนหน้าไป อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่อ่านไม่ได้แล้ว :: Randy Leffingwell :: ASIA BOOKS ราคา 1,595 บาท

Ye a r s

เอาใจคนรักรถทีส่ ะสมคอลเลคชัน่ หายากโดยเฉพาะคน ที่ชอบรถสไตล์อเมริกัน Covette กับหนังสือ Covette sixty Years ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเพราะเป็นการรวมรถที่แม้จะ เป็นแค่ภาพ แต่การได้ยลรถคันสวยที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน แค่นี้ก็เย้ายวนความรู้สึกอยากครอบครองได้มากโข โดย Randy Leffingwell คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักประวัติศาสตร์ด้านรถ Covette ซึ่งเล่มนี้จัดทำ�ขึ้นเพื่อเฉลมิฉลองอายุครบ 60 ปีของเจ้าสปอร์ต คาร์ยี่ห้อนี้ ความพิเศษคือบรรดารถรุ่นต่างๆของ Covette รวม ถึงรุ่นที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน รวมถึงประวัติความเป็นมา ของการกำ�เนิดขึ้นในบรรพภิภพของ Covette ความเหนือชั้นของ มัน รวมถึงความพิเศษ และสมรรถนะต่างๆที่ทำ�ให้รถแบรนด์นี้ อยู่ในใจคนรักรถแบบไม่เสื่อมคลาย

What colour is your parachute :

A practical manual for job-hunters and career-changers

:: Richard N.Bolles :: ASIA BOOKS ราคา 595 บาท

Golf

Fascination of

:: Maria Pia Gennaro :: ASIA BOOKS ราคา 1,395 บาท

ใครที่บอกว่ากอล์ฟเป็นเหมือน โรคติดต่อ หากติดเข้าให้แล้ว เลิกยาก และโปรดอย่ า ถามหาเรื่ อ งของวั ค ซี น แก้โรคติดกอล์ฟ เพราะไม่มี ส่วนใคร อยากไขคำ�ตอบว่าทำ�ไมกอล์ฟจึงทำ�ให้ คนที่ได้ลองเล่นแล้วยากจะทำ�ใจให้เลิก จนทำ�ให้จำ�นวนคนติดกลอ์ฟขยายตัว มากขึ้ น ทุ ก วั น สำ � หรั บ คนที่ อ ยากหา คำ�ตอบแนะนำ�ให้ลองหาหนังสือ Fascination of Golf ที่ ค นเขี ย นเขาจะ บอกเล่าถึงเสน่ห์ของเกม ความสะใจ ของการวาดวงสวิง แถมล้วงลึกให้คน ที่อยากรู้ว่าจุดตายที่ทำ�ให้คนรักกอล์ฟ อยู่ ต รงไหน อ่ า นแล้ ว อยากท้ า ทาย ตั ว เองว่ า จะติ ด หล่ ม เป็ น สมาชิ ก ก๊ ว น กอล์ ฟ เหมื อ นคนส่ ว นใหญ่ ไ ปอี ก คน หรือเปล่า อาจจะต้องลอง โดยสามารถ เลื อ กสนามงามๆสั ก แห่ ง ที่ ค นเขี ย น recommend ไว้ ใ นเล่ ม แล้ ว คงจะ ประจั ก ษ์ ใจว่ า กอล์ ฟ เป็ น เหมื อ นโรค ติดต่อชนิดหนึ่งจริงหรือเปล่า

ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้คือเล่มที่ตรงใจที่สุดของปี 2013 สำ�หรับคนที่กำ�ลังตามล่าหางาน ด้วยคำ�แนะนำ� ที่ละเอียด ชัดเจน ขั้นต่อขั้นสำ�หรับคนที่ต้องการงานในฝัน หากทำ�ตามที่ริชาร์ดแนะนำ�รับรองว่าฝัน ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ความนิยมในผลงานริชาร์ด หรือรู้จักกันในนามของ Dick ก็เพราะว่าเขาเป็นคน อัพเดทกับสถานการณ์ วัฒนธรรมองค์กรรุ่นใหม่ๆ วิธีการก้าวกระโดดและเติบโตในสายงานแต่ละ ประเภท หรือแม้แต่คนที่ยังไม่แน่ใจว่าฟิลด์ที่เลือกไว้ใช่เราหรือเปล่า ดิคก็มีวิธีให้ค้นหาตัวเองก่อนจะ ก้าวเข้าสู่อาชีพที่ต้องเลือก ไม่รวมถึงวิธีการเจรจาต่อรองค่าตัว ค่าวิชาชีพ แบบสมาร์ท แบบไม่เสียลุค l 71

HUNT l News

โออิชิ

ชวนลุ้นรถ และเงินล้าน

โออิชิจับสองดาราคู่ขวัญเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และเคน-ภูภูมิ พงษ์ภาณุ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญ “รวยซ้ำ�รวยซ้อน ได้ทั้งล้านได้ทั้งรถ กับโออิชิ” บิ๊ก แคมเปญล่าสุดให้รวยแบบง่ายๆ ทั้งทองคำ�มูลค่า 1 ล้านบาทและรถยนต์หรู เพียง ส่งชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ โออิชิกรีนที โออิชิแบล็กที โออิชิฟรุตโตะ โออิชิชาคูลล์ซ่า และอะมิโนโอเคพลัส ทุกขนาด ทุกรสชาติ พร้อมกรอกชื่อ ที่อยู่ และหมายเลข โทรศัพท์ แล้วส่งมาที่ตู้ ปณ. 12 ปณศ. ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10310 หรือกล่อง รับชิ้นส่วนบนสถานีรถไฟฟ้า BTS (ยกเว้นส่วนต่อขยาย) กล่องรับชิ้นตามร้านค้า ทั่วไป จุดรับ-ส่งชิ้นส่วน ใน 9 หัวเมืองหลักทั่วไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อร่วมลุ้นรับรางวัลทองคำ�มูลค่า 1 ล้านบาท และรถยนต์มาสด้า 2 เอลิแกนซ์ รุ่นสปิริต จำ�นวน 1 คัน สนใจชมข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.oishidrink.com

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2556 นางวิ ว รรณ ธาราหิ รั ญ โชติ ประธาน กรรมการบริหาร และ ดร.เชาว์ เก่งชน กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำ�กัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงแนวโน้ม เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ปี 2556 ณ ธนาคารกสิกรไทย สำ�นักพหลโยธิน เมื่อเร็วๆ นี้

ชวนคนไทยรักษ์โลกกับ แบรนด์ “โอ” ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

ท๊ อ ป พิ พั ฒ น์ อภิ รั ก ษ์ ธ นากร พิธีกรหนุ่มฝีมือดี เจ้าของกิจการร้าน “อีโค ช็อป” (ECOSHOP) แหล่งจำ�หน่ายผลงาน ของนั ก ออกแบบที่ มี แ นวคิ ด ดี ๆ ในการ สร้ า งสรรค์ เ พื่ อ สิ่ ง แวดล้ อ ม ผุ ด ไอเดี ย ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ในแนวอีโค ด้วย ดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โดนใจ, ใช้ประโยชน์ได้ จริง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ “โอ” (O) โดยเปิดตัวสินค้าอย่างเป็น ทางการ ในงาน “เทคโนโลยีและนวัตกรรม ของไทย ประจำ�ปี 2555” (TechnoMart InnoMart 2012) ณ ศูนย์นิทรรศการและการ ประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็ว ๆ นี้

ซิตี้แบงก์

จับมือ

การบินไทย

BNI Thailand National Conference

กลกิตติ์ เถลิงนวชาติ ประธานอำ�นวยการ BNI ประจำ�ประเทศไทย จัดงาน BNI Thailand National Conference ประจำ�ปี 2555 ขึ้น ณ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) โดยภายในงานจัด ให้มีกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการเสวนาในหัวข้อ “เทคนิคการใช้ Referral Marketing ให้ธุรกิจ โตแบบก้าวกระโดด” โดย Dr.Ivan R.Misner Chairman & Founder of BNI” การมอบทุน การศึกษาแก่โรงเรียนบ้านไพรสณฑ์ โดย มูลนิธิ BNI-Misner Foundation และ BNI Thailand การ มอบรางวัลประกาศเกียรติคณ ุ แด่กลุม่ และสมาชิก ที่มีผลงานยอดเยี่ยมประจำ�ปี 2555 และการ ออกร้านแสดงสินค้าของสมาชิก

เปิดตัว “บัตรเครดิต ซิตี้แบงก์ รอยัล ออร์คิด พลัส พรีเฟอร์”

ซิตี้แบงก์ และ การบินไทย จับมือกันสร้างความสุขในการเดินทางให้กับนักท่องโลก ทั้งหลาย สิทธิพิเศษต่างๆ ที่มากกว่าเดิมจึงถูกนำ�มาบรรจุอยู่ใน “บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ รอยัล ออร์คิด พลัส พรีเฟอร์” ภายใต้คอนเซปต์ “สัมผัสที่สุดของการเดินทาง ในทุกเส้นทางของ คุณ” เพื่อการสัมผัสเอกสิทธิ์เหนือชั้น อาทิ การสะสมไมล์ที่เร็วขึ้น เอกสิทธิ์พิเศษต่างๆ เพื่อการเดินทางที่เหนือกว่า และการเลื่อนสู่สถานภาพบัตรทองรอยัล ออร์คิด พลัส ได้เร็ว ที่สุด ตอบโจทย์ผู้รักการเดินทาง ทั้งเดินทางเพื่อธุรกิจและเพื่อการท่องเที่ยว ที่ใช้บริการของ สายการบินไทย โดยจัดงานเปิดตัวบัตรนี้ขึ้น ณ Hall of Mirrors ชั้น M สยามพารากอน

72 l

“บัตรให้ไม่สิ้นสุด (Rama Give Voucher)” จากมูลนิธิรามาธิบดี มูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดตัว “บัตรให้ไม่สิ้นสุด (Rama Give Voucher)” ไอเดียสุดพิเศษ มูลค่า หน้าบัตรเปรียบเสมือนการบริจาคเงินเพื่อนำาไป ช่วยเหลือและสนับสนุนพันธกิจของมูลนิธิฯ ทั้ง 4 ด้าน อันได้แก่ การรักษา การวิจัย การสร้างแพทย์ฯ และสร้างเสริมสุขภาพ การจัดทำาบัตรดังกล่าว ถือเป็นการมอบของขวัญแห่งความสุขที่สร้างความอิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับได้ในโอกาสพิเศษต่างๆ ร่วมเป็นผู้ให้และส่งต่อบุญ ผ่าน “บัตรให้ไม่สิ้นสุด” ได้ตั้งแต่วันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ โทร.0-2201-1111 หรือ www.ramafoundation.or.th/givevoucher

บิêก แบ็ง เฟอร์รารี่

สปอร์ตโครโนกราฟ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น

สัมผัสการเดินทางเหนือระดับ กับ ‘เปอโยต์ 408’ นายพลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทยูโรเปียนมอเตอร์ คาร์ส จำากัด และบริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำากัด เปิดตัวรถยนต์เปอโยต์รุ่นใหม่ ‘เปอโยต์ 408’ รถยนต์นั่ง ขนาด Compact Car ที่ผสานความโดดเด่น 4 ประการ สะดุดตาด้วยโลโก้ “สิงห์” ด้านข้างเรียบแต่ เฉียบคมด้วยเส้นเหลี่ยมสันตลอดแนวประตู พร้อมไฟท้าย “กรงเล็บสิงห์” (Lion Claw) หรูหราและ สง่างาม เอกลักษณ์ของเปอโยต์ 408 กว้างขวางสะดวกสบาย จากการขยายฐานล้อ ช่วยสร้าง ความสบายให้กับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1,600 ซี.ซี. พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ที่ให้การตอบสนองได้ดั่งใจ พร้อมระบบ ความปลอดภัยมาตรฐานสากล

ดร.มาร์ตินส์ เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ดร.มาร์ ติ น ส์ (Dr.Martens) แบรนด์ ดั ง จากอั ง กฤษที่ ส่ ง คอลเลคชั่ น กระเป๋ า สุ ด ฮิ ป Dr. Martens Satchel Bag A/W collection 2012 ที่มาพร้อมไฮไลท์ของรูปแบบการดีไซน์ใน แนวคิดของ British Fashion ขนานแท้ ที่ดูเรียบ ง่าย แต่เท่ โดดเด่นด้วยการผลิตจากหนังแท้ ทั้งใบ ทั้งสีดำาสุดคลาสสิค หรือจะสะดุดตาด้วยสีแดงเชอรี่ (Cherry Red) ที่เป็นสีเดียวกับรองเท้า 1460 ที่ฮิตทั่วโลก ราคาตั้งแต่ 7800 – 12,000 บาท สนใจชมสินค้าได้ที่ Dr. Martens Standalone Shop โซนแฟชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา

อูโบลท์ (Hublot) นาฬิกา แบรนด์หรูสัญชาติสวิส สร้างปรากฏ การณ์ สำ า คั ญ อี ก ครั้ ง เซ็ น สั ญ ญา เป็นพันธมิตรกับ เฟอร์รารี่ (Ferrari) ยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูจากอิตาลี เปิดตัวนาฬิกาคอลเล็คชั่นใหม่ “บิ๊ก แบ็ง เฟอร์รารี่” (Big Bang Ferrari) สปอร์ตโครโนกราฟรุน่ ลิมเิ ต็ดเอดิชนั่ สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ ฟังก์ชั่น นวัตกรรมเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ ดีไซน์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งาน โดดเด่ น ด้ ว ยตั ว เรื อ นขนาดพิ เ ศษ 45.5 มม. พื้นหน้าปัดทำาจากกระจก แซพไฟร์ อวดให้เห็นการทำางานของ ยูนิโค มูฟเมนท์ (UNICO Movement) กลไกที่อูโบลท์ผลิตขึ้น สอดคล้อง กับการจัดวางเครื่องยนต์ในรถยนต์ เฟอร์รารี่ มาพร้อมสายยางออกแบบ พิเศษที่มีปุ่มปลดล็อกสายอัตโนมัติ สัมผัส “บิ๊ก แบ็ง เฟอร์รารี่” (Big Bang Ferrari) นาฬิกาสปอร์ตโคร โนกราฟสุดหรู รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น จาก อู โ บลท์ ได้ แ ล้ ว วั น นี้ ที่ PMT THE HOUR GLASS ชั้น M สยาม พารากอน โทร 02-129 4777 และ PMT THE HOUR GLASS ชั้น 2 ศูนย์การค้าเกษร โทร.02-656 1212 l 73

HUNT l Event Calendar

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Modern Furniture Fair

24 พฤศจิกายน - 02 ธันวาคม 2555 เวลา 10.30-20.30 น.

มหกรรมงานแสดงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรครั้งใหญ่ ตอบสนอง ไลฟ์ ส ไตล์ แ ละอำ � นวยความสะดวกสบายแก่ ผู้ บ ริ โ ภคสมั ย ใหม่ ที่ ชื่ น ชอบการเลื อ กซื้ อ เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ทันสมัยและคุณภาพดี อาทิ เฟอร์นิเจอร์ชุดห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว ชุดรับประทานอาหาร ชุดสำ�นักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เพื่อความ ปลอดภัยในบ้าน เครื่องสุขภัณฑ์ ตลอดจนสินค้าหัตถกรรมต่างๆ สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่โทร 0 2719 0408, 0 2314 0855 หรือ www.unionpan.com

Bonjour French Fair 2012 “Hello Europe!”

13 - 16 ธันวาคม 2555 เวลา 10.00 น. - 20.00 น.

มหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศฝรั่งเศส จัดโดยหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย, ฝ่าย การพาณิชย์ (UBIFRANCE) สถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำ�ประเทศไทย และกลุ่มผู้นำ�เข้า สินค้าฝรั่งเศสในประเทศไทย พบกับสินค้าผลิตภัณฑ์ และบริการคุณภาพเยี่ยมจากประเทศ ฝรั่งเศส พร้อมสินค้านำ�เข้าจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ร่วมช้อปร่วมชิมกับกว่า 70 บูธ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ไวน์ เครื่องแต่งกาย เครื่องสำ�อางค์ เครื่องหนัง และรับบริการอื่นๆ อาทิ บริการจองตั๋วเครื่องบิน แพ็คเก็จทัวร์ และแนะแนวการศึกษาในประเทศแถบยุโรป จับจ่าย ครบ 2,000 บาท รับสิทธิ์ร่วมสนุกชิงตั๋วเครื่องบินไปกลับนครปารีสจาก Air France และ ของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Franco-Thai Chamber of Commerce โทร 0 2650 9769 หรือ www.facebook.com/BonjourFrenchFair

Thailand Bestbuys 2012

14 - 23 ธันวาคม 2555 เวลา 10.00-20.00 น.

มหกรรมของขวัญ ของที่ระลึก ของแต่งบ้าน ที่บรรดาขาช้อปจะได้เลือกซื้อสินค้า นานาชนิด เพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี 2555 เพลิดเพลินไป กับการเลือกซื้อสินค้าดีมีคุณภาพ มีดีไซน์แปลกใหม่สวยงาม ในโซนต่างๆ มากกว่า 850 บูธ ไม่ว่าจะเป็น ของขวัญ สินค้าตกแต่งบ้านทันสมัย การ์ดอวยพร เครื่องเขียน เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องหนังแบรนด์ดัง ที่มาลดราคาพิเศษ 20-70% อาทิ Clarks, Giordano, Reebox, Triumph, Esprit, bossini, Bloom, Dortmuend, St.James และอื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 0 2203 4221-5 หรือ www.thaibestbuys.com

74 l

l 75

ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29

29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2555 เวลา 11.00 - 22.00 น.

งานแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับเครื่องยนต์, รถยนต์และ การตกแต่งรถยนต์ทั้งภายในและภายนอก พร้อมรับโอกาสดีๆ ที่ เลือกซื้อรถยนต์และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เข้าชมได้ทุกวัน จันทร์- ศุกร์ เวลา 12.00 - 22.00 น. สำ�หรับวัน เสาร์- อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00 - 22.00 น.ค่าบัตร ผ่านประตู :100 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0 2641 8444 หรือ http://www.autoinfo.co.th/motorexpo

28 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2555 เวลา 10.30-21.00 น.

มหกรรมงานแสดงสุดยอดเทคโนโลยีของกล้องดิจิตอลและ อุปกรณ์การถ่ายภาพครั้งยิ่งใหญ่ จัดโดยสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ ภายในงานมีการจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ อาทิ กล้องถ่ายภาพดิจิตอล กล้องถ่ายภาพ เครื่องปริ้นท์เตอร์, มินิแล็บ อุปกรณ์การถ่ายภาพ นานาชนิด เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำ�กรอบรูป กรอบรูป เครื่อง เคลือบ กระเป๋ากล้อง สื่อบันทึกข้อมูล คู่มือ-นิตยสารถ่ายภาพ หมึก และกระดาษอิงค์เจ็ท แบตเตอรี่ ซอฟแวร์แต่งภาพ อุปกรณ์สำ�หรับ สตูดิโอ ฯลฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0 2803 7570-1 หรือ www.photofairthailand.com

งานแสดงสินค้าเทศกาลต้อนรับปีใหม่ 2556

Jim Thompson Sale 2012

30 พฤศจิกายน-9 ธันวาคม 2555 เวลา 10.00-21.00 น.

กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จัดงานแสดง สินค้าและบริการ รวมถึงของขวัญของฝากสำ�หรับเทศกาลปีใหม่ ใน ราคาพิเศษ ณ บริเวณอาคาร 1-5 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใน งานพบกับหลากหลายสินค้า อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และของใช้ ของตกแต่งบ้าน ของใช้บนโต๊ะอาหาร ของ ขวัญ ของชำ�ร่วย ของเล่น/เกม เครื่องเขียน การ์ด/สิ่งพิมพ์ สิ่งทอ เสื้อผ้าสำ�เร็จรูป เครื่องหนัง/รองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องทำ�ความเย็นและเครื่อง ปรับอากาศ การออกร้านจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและ ความงาม สปา และบริการนวดแผนไทย โรงพยาบาล คลินิก โรงแรม รีสอร์ท บริษัทท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น (OTOP) ฯลฯ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0 2507 7760-1, 0 2507 7759, 0 2507 8198 หรือ http://www.ditp.go.th

76 l

23 th Photo Fair 2012

05- 07 ธันวาคม 2555 เวลา 10.30-21.00 น.

งานแสดงและจำ�หน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ Jim Thompson ในราคาสุดพิเศษ เลือกชมและช้อปสินค้าที่ผลิตจากผ้าไหมไทย ประเภทของขวัญ, ของตกแต่งบ้าน, เครื่องประดับ เครื่องใช้ส่วนตัว และอื่นๆ อีกมากมาย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0 2762 2600 หรือ www.jimthompson.com

Bangkok Furniture and Houseware Fair 2012

07- 16 ธันวาคม 2555 เวลา 10.30-21.00 น.

งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ สตูดิโอถ่ายภาพชั้นนำ� ชุด วิวาห์ อัญมณีและเครื่องประดับ เสื้อผ้าสำ�เร็จรูป เครื่องหนัง และ อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0 2731 1313-2 หรือ www.worldfair. co.th

l 77

Subscribe ÃѺÊÔ·¸Ôì໚¹ÊÁÒªÔ¡

¿รี 1 ปี (12 ©บับ)

MAGAZINE

•• เพียงกรอกแบบสอบถามและส่งกลับมาที่บริษัท รีเจี้ยนลิ้งค์ จำกัด ••

81,83,85 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพÏ 10120 โทร 0 2678 2224 ต่อ 113 แฟ็กซ์ 0 2678 2229

áบบสอบถามความคิดเหçนของผู้อ่าน HUNT Magazine ชือ่ (นาย/นาง/นางสาว)....................................................................นามสกุล....................................................................เพศ................. อายุ ● ต่ำากว่า 25 ปี ● 25-40 ปี ● 40-55 ปี ● 55 ปี ขึ้นไป ที่อยู่ (สำาหรับการจัดส่งนิตยสาร)......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... โทรศัพท์มอื ถือ..........................................................E-mail................................................................................................................. ● นักเรียน/นักศึกษา ● อื่นๆระบุ........................................ อาชีพ ● รับราชการ ● พนักงานบริษัท ● ธุรกิจส่วนตัว ตำาแหน่ง.........................................................................................บริษทั ............................................................................................ ● มัธยมศึกษา ● ปวช/ปวส ● ปริญญาตรี ● ปริญญาโท ● สูงกว่า ระดับการศึกษาสูงสุด ● ปริญญาโท ● อื่น ๆ โปรดระบุ............................................................................................... ● ต่ำากว่า 15,000 ● 15,001-100,000 ● 100,001 ขึ้นไป รายได้ / เดือน (บาท) ● Instagram ● LINE ● Whats App ● Twitter Social Networkที่ใช้ประจำา ● Facebook ● อื่น ๆ โปรดระบุ ............................................................................................................................... เหตุผลที่ท่านเลือกอ่าน HUNT Magazine ● ปก ● เนื้อหาภายในเล่ม ● รูปแบบการนำาเสนอ ● อื่นๆ โปรดระบุ............................................................................................................................... เนื้อหาใน HUNT Magazine ที่ท่านสนใจมากที่สุด (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ) ● Cover Story ● Fashion ● Vision ● Men’s Item ● Index Focus ● Automobile ● Interview ● Sport ● People ● Hobbies ● Fengshui ● Health ● Technology ● Buddhism Management ● อื่น ๆ โปรดระบุ...................................... ท่านได้รับ HUNT Magazine จากที่ใด ● สภาอุตสาหกรรม ● อาคารสำานักงาน ● ในงาน Metalex 2012 ● นิคมอุตสาหกรรม ● ไปรษณีย์ ● อื่นๆ โปรดระบุ.................................................................................................. ● ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................................................................

พิเศษ!

รับฟรี!

GiftVoucher

มูลคา 300 บาท

สําหรับผูสมัครสมาชิก 100 ทานแรก

l 79

80 l