วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
CONTENTS
64
7
23
14
48
46 60
7 President Talk คาดตลาดทองค�ำปีมะเส็งผันผวน
48 Gold Shared
9 Gold Society 14 Gold Activity
50 Gold Club
23 Gold Talk
54 Gold Article
แนะเกาะติดความเคลื่อนไหวใกล้ชิด
สมาคมค้าทองค�ำจัดสัมมนาทั่วประเทศ หวังลุยล้างบางแก๊งค้าทองปลอม เปิดวิสัยทัศน์ เลขาฯ สคบ.ท่านใหม่
26 Gold Report จับตาราคาทองค�ำ ปี 56 ใกล้ชิด เชื่อตลาดผันผวน แต่ราคายังพุ่งทะยาน 30 Gold Analysis
วิเคราะห์เศรษฐกิจและสถานการณ์ทองค�ำ กับ 5 โบรกเกอร์
42 Gold Article เจาะตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ UAE ตอนที่ 1 46 Gold Knowledge
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก...สถานการณ์ทองค�ำปีงูเล็ก
ต�ำรวจ สน.ชนะสงคราม โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดง รวบแก๊งทองปลอม พร้อมทลายโรงงานผลิต ย่านฝั่งธนบุรี
ตะลุยตลาดค้าทองค�ำย่านมีนบุรี สะท้อนการใช้ทองคนแถบนี้ผ่าน “ห้างทองแม่บุญมา”
การวัด/วิเคราะห์ทองค�ำที่ผสมด้วยปรอท,ตะกั่ว ด้วยเอ็กซ์เรย์ (X-Ray)
56 Gold Forum
ประชาคมอาเซียน ผลกระทบต่อธุรกิจและกลยุทธ์ เพื่อความอยู่รอดของประเทศไทย (2)
60 Golden Cars
10 อันดับรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก ตอนที่ 2
62 Gold IT โลกไอทีกับวงการค้าทองค�ำ 64 Gold Trips
ฝ่าลมหนาวตะลุย สามเหลี่ยมทองค�ำ ไหว้พระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน
OCTOBER - DECEMBER 2012
วารสารทองค�ำ
เปลี่ยนศักราชใหม่ไปเรียบร้อย ปีงูใหญ่ผ่านพ้นไปอย่างสงบเงียบ และปีงูเล็กเข้ามาแทนที่ ดูจาก ชื่อปีแล้วก็หวังว่าจะไม่น่ามีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง ให้บรรดาสมาชิกขวัญผวา ทั้งเหตุการณ์ในประเทศ และนอกประเทศ แต่ ทั้ ง นี้ ก็ ไ ม่ อ ยากจะให้ ทุ ก คนประมาท โดยเฉพาะภั ย ธรรมชาติ ซึ่ ง นั บ วั น จะมี การเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ฤดูกาลก็ไม่เป็นไปตามช่วงเวลาที่ควรจะเป็น และภัยจากธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นก็ดูเหมือนจะมีความรุนแรง และเหนือความคาดหมายขึ้นเรื่อยๆ ที่สำ�คัญหากว่าจะทำ�อะไร เพือ่ ทีจ่ ะช่วยรักษาสิง่ แวดล้อมก็ขอให้ชว่ ยๆ กัน แม้จะเป็นเพียงเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ แต่หากทุกคนช่วยกันทำ� เชื่อว่าจะทำ�ให้สิ่งแวดล้อมของโลกดีขึ้น มาดูในเรือ่ งของสภาวะเศรษฐกิจกันบ้าง แม้ปที ผี่ า่ นมาจะไม่มเี หตุการณ์อะไรทีเ่ ป็นสถานการณ์ใหม่ๆ ให้ต้องตื่นตระหนก แต่ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็ยังคงอยู่และยังคงต้องการการเยียวยาจากหลายฝ่าย ปีทแี่ ล้วประเทศมหาอำ�นาจยักษ์ใหญ่ทวั่ โลก ต่างได้มกี ารเลือกตัง้ เป็นทีเ่ รียบร้อย ไม่วา่ จะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งมาตรการหรือแนวทางต่างๆ จะยังไม่มีอะไรเด่นชัด แต่เชื่อว่าหลังจากที่แต่ละคน ได้ ส าบานตนเพื่ อ รั บ ตำ�แหน่ ง อย่ า งเป็ น ทางการ จะต้ อ งมี ก ารประกาศมาตรการหรื อ แนวทางการ ดำ�เนินงานเพือ่ สร้างผลงานให้เป็นทีป่ ระจักษ์แก่คนในประเทศนัน้ และสายตาชาวโลก ซึง่ จะต้องคอยจับตา อย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงตลาดทองคำ�อย่างไรบ้าง มาว่ากันด้วยเรื่องของวารสารทองคำ�กันบ้าง ในปีนี้เราก็คงจะมีการขยับปรับเปลี่ยนเนื้อหา และ รูปเล่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้อ่าน ที่สำ�คัญเนื้อหาในวารสารทองคำ�จะมี ความเกี่ยวพันกับเนื้อหาในเว็บไซด์ของสมาคมค้าทองคำ�มากขึ้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและความ น่าสนใจในการติดตาม เพราะปัจจุบันมีผู้อ่านจำ�นวนมากที่หันไปอ่านหนังสือผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ขณะเดียวกันเนื้อหาต่าง ๆ ก็จะมีความหลากหลาย และตอบสนองการทำ�งานของสมาคมค้าทองคำ� ในการใช้วารสารฉบับนี้เป็นสื่อในการเชื่อมต่อข้อมูลจากสมาคมฯ ไปยังบรรดาสมาชิก ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบการค้าของคนในวงการค้าทองคำ� รวมถึงความรู้ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับวงการค้าทองคำ� ทั้งนี้หากท่านผู้อ่านคิดว่าควรมีข้อมูล หรือเนื้อหาเรื่องใด ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ แก่ส่วนรวมและอยากให้กองบรรณาธิการนำ�เสนอ ก็สามารถแนะนำ�มาได้ กองบรรณาธิการวารสารทองคำ�
วารสารทองค�ำ • เจ้าของ : สมาคมค้าทองค�ำ เลขที่ 889 อาคาร ไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้น 20 ห้อง 207 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2675-8000 โทรสาร 0-2675-8488 • E-mail : contact@goldtraders.or.th • Website : www.goldtraders.or.th • Facebook : www.facebook.com/ goldtraders • Twiiter : @Goldprice_GTA • ที่ปรึกษา : คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี (นายกสมาคมค้าทองค�ำ) คุณจักษ์ อัศวานันท์ (ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนา วารสารและเว็บไซด์สมาคมค้าทองค�ำ) คุณธีรเดช สินธพเรืองชัย (อนุกรรมการฯ) คุณเดชนรินทร์ ภัคอธิคม (อนุกรรมการฯ) คุณสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ (อนุกรรมการฯ และเลขานุการฯ) • กองบรรณาธิการ : คุณปานะพงษ์ สุทธีวงศ์ เลขที่ 889 อาคาร ไทย ซี ซี ทาวเวอร์ ชั้น 20 ห้อง 207 ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 55 โทรสาร. 0-2675-8488 • E-mail: panapong@goldtraders.or.th • ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ที่ : คุณจิรัสสา รังษี • E-mail : jiratsa@goldtraders.or.th โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 51 • ฝ่ายสมาชิก : คุณณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์ • E-mail: nathapon@goldtraders.or.th โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 50 • ฝ่ายโฆษณา : คุณจิรัสสา รังษี • E-mail : jiratsa@goldtraders.or.th โทรศัพท์ 0-2675-8000 ต่อ 51 • พิมพ์ที่ : บริษัท สยามศิลป์ การพิมพ์ จ�ำกัด
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
คาดตลาดทองคำ�ปีมะเส็งผันผวน แนะเกาะติดความเคลื่อนไหวใกล้ชิด
ตลาดทองคำ�ของปีมะโรงได้ผ่านพ้นไปอย่างน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ราคาทองคำ � ได้ ล ดลงอย่ า งมากทำ � ให้ ต ลาดกลั บ มาคึ ก คั ก อี ก ครั้ ง ทั้ ง ที่ ส ภาพตลาดโดยรวม ของปี 2555 ไม่ค่อยจะหวือหวามากนัก โดยปัจจัยหลักที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนไหวของราคา ทองคำ�หลักๆ ก็ยังอยู่ที่มาตรการการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการออก มาตรการ QE 3 รวมไปถึงสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยุโรป ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก จากสภาพตลาดปีทผี่ า่ นมาคงจะถูกใจสำ�หรับ นักลงทุนที่ไม่ชื่นชอบความสุ่มเสี่ยงมากนัก แต่ก็ ทำ�ให้ตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สไม่สดใสมากเท่าที่ควร ซึ่ ง ก็ เ ป็ น เช่ น เดี ย วกั บ ตลาดทองออนไลน์ ที่ เริ่ ม เป็นที่นิยมของกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ ซึ่งตลาด ในส่วนนีแ้ ม้วา่ จะมีผปู้ ระกอบการเพิม่ ขึน้ หลายราย แต่การเติบโตก็ไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมค้าทองคำ� ได้เฝ้า จับตาตลาดในส่วนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะยังไม่มี หน่ ว ยงานภาครั ฐ หน่ ว ยงานใดเข้ า มากำ�กั บ ดู แ ล การค้าในส่วนนีอ้ ย่างจริงจัง สิง่ ทีก่ งั วลคือผูป้ ระกอบ การที่ไม่ได้อยู่ในวงการค้าทองคำ� เข้ามาทำ�ธุรกิจ ในส่วนนี้ เพราะหากไม่มีประสบการณ์และไม่มี ความน่ า เชื่ อ ถื อ ก็ อ าจจะส่ ง ผลต่ อ นั ก ลงทุ น ได้ 7
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
รวมถึ ง หากเป็ น บริ ษั ท ที่ ไ ม่ มี ตั ว ตน นั ก ลงทุ น อาจจะถูกฉ้อโกงได้ หรือหากเป็นบริษัทข้ามชาติ มาตั้ ง ฐานเพื่ อ ดึ ง เงิ น ออกไปก็ อ าจจะทำ�ให้ เ กิ ด ปัญหาขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งทางสมาคมฯพยายาม เร่งดำ�เนินการในเรื่องนี้อยู่ ส่วนงานด้านอื่นๆ ที่สมาคมฯเร่งดำ�เนินการ ก็คอื เรือ่ งของการกวาดล้างแก๊งค้าทองปลอม ทีผ่ า่ น มาทางสมาคมฯได้รับความร่วมมือจากสำ�นักงาน ตำ�รวจแห่งชาติ สภาทนายความ และผูป้ ระกอบการ
8
ร้านค้าทองต่างๆ เป็นอย่างดี โดยในปี 2555 ทาง สมาคมฯได้จัดสัมมนาให้ความรู้เรื่องทองปลอม ไปแล้ว 2 ครั้ง และในปี 2556 ยังมีแผนงานที่จะจัด ตามภูมิภาคต่าง ๆ อีก 3 แห่ง คือที่ จ.อุดรธานี จ.นครศรีธรรมราช และที่ จ.นครสวรรค์ ภายในงาน จะมีการให้ความรูเ้ รือ่ งของการตรวจสอบทองปลอม การให้ความรูด้ า้ นกฎหมาย ขัน้ ตอนการดำ�เนินงาน หากถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำ�ทองปลอมมาหลอกขาย ทั้งหมดข้างต้นคือเรื่องของปีที่ผ่านมา ที่ได้ เกิดขึน้ และเป็นนโยบายหลักทีท่ างสมาคมฯได้ทำ�ไป ส่ ว นในปี นี้ หลายนโยบายก็ ค งจะดำ�เนิ น ต่ อ ไป ส่วนเรื่องของตลาดทองคำ� เชื่อว่าจะเปลี่ยนไปจาก ปี ที่ ผ่ า นมา โดยคาดว่ า ในปี นี้ อ าจจะได้ เ ห็ น การ ปรั บ ตั ว ขึ้ น ลงของทองคำ�อย่ า งรุ น แรง และอาจ จะได้เห็นจุดต่ำ�สุด และสูงสุดของราคาทองคำ�ที่ เกิดขึ้นใหม่ จากสภาพตลาดที่มีการสวิงตัวอย่างรุนแรง เช่นนี้ ทำ�ให้นักลงทุนจำ�เป็นต้องเกาะติดข่าวคราว ความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด รวมถึง ต้องใช้การวิเคราะห์ให้มากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่า ในที่สุดกลุ่มเฮดฟันด์ก็จะต้องหาข่าวเพื่อที่จะทำ�ให้ ราคาทองคำ�เกิดการเคลื่อนไหว แต่จะเป็นอะไร หรือรุนแรงมากน้อยเพียงไร คงจะต้องจับตาอย่าง ใกล้ชิด เพราะการเคลื่อนไหวราคาทองคำ�ในตลาด โลกจะเล่นกับข่าวคราวที่ออกมาเป็นส่วนใหญ่ ขอ ให้นักลงทุนได้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนให้ มากขึ้น แต่ทั้งนี้เชื่อว่าทองคำ�ยังคงเป็นสินทรัพย์ ที่น่าลงทุนอยู่เช่นเคย สุดท้ายนีผ้ มขออวยพรให้กบั บรรดาผูป้ ระกอบ การร้านค้าทอง โบรกเกอร์ทองคำ� รวมถึงนักลงทุน ขอให้โชคดีตลอดทั้งปี 2556 ขอให้เงินทองไหล มาเทมา การค้าการขายลื่นไหล เจริญเติบโตขึ้น เรื่อยๆ การทำ�งานปราศจากปัญหา มีร่างกายที่ แข็งแรงไร้โรคภัยไข้เจ็บ คนที่เป็นนักลงทุนก็ขอให้ เลือกข้างถูกตามทีใ่ จปรารถนา คนทีต่ ดิ ทองในราคา สู ง ก็ ส ามารถแก้ ปั ญ หาได้ ขอให้ ทุ ก คนโชคดี ใ น ปีมะเส็งครับ
OCTOBER - DECEMBER 2012
วารสารทองค�ำ จิรัสสา รังษี : เรื่อง ณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์ : ภาพ
• แสดงความยินดีกับเลขาฯ ปปง.ท่านใหม่ นายจิตติ ตัง้ สิทธิภ์ กั ดี นายกสมาคมค้าทองคำ� พร้อมคณะกรรมการสมาคมฯ มอบของที่ระลึก และเลี้ยงแสดงความยินดีกับพ.ต.อ.ดร.สีหนาท ประยู ร รั ต น์ ในโอกาสที่ ไ ด้ รั บ การโปรดเกล้ า ฯ แต่งตัง้ ให้ดำ�รงตำ�แหน่งเลขาธิการสำ�นักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
• ร่วมระวังภัยกลุ่มมิจฉาชีพนำ�ทองปลอมจำ�หน่ายให้กับร้านทอง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ� ร่วมเป็นวิทยากร ในรายการ โรงพักระวังภัย ทางเนชั่นแชนแนล เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ กลุม่ มิจฉาชีพทีน่ ำ�ทองปลอมมาหลอกจำ�หน่ายให้กบั ร้านทอง รวมถึงชีแ้ จง นโยบายของสมาคมฯ ในการแก้ปัญหาแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้
• แสดงความยินดี กับ เลขาฯ สคบ.ท่านใหม่ ตัวแทนจากคณะกรรมการสมาคมค้าทองคำ� ร่วมแสดงความยินดีกบั นายจิรชัย มูลทองโร่ย เนือ่ ง ในโอกาสที่เข้าดำ�รงตำ�แหน่งเลขาธิการสำ�นักงาน คณะกรรมการคุม้ ครองผูบ้ ริโภค พร้อมทัง้ ได้รว่ มพูด คุยถึงแนวทางการทำ�งานร่วมกันของทั้ง 2 หน่วย งาน เพื่อร่วมกันรักษามาตรฐานการค้าทองคำ�ใน ประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค 9
วารสารทองค�ำ
• โบรกเกอร์วงการค้าทองร่วมงาน “SET IN THE CITY” โบรกเกอร์จากผูป้ ระกอบการค้าทองคำ� ร่วมออกบูธในงาน “SET IN THE CITY” เพื่อนำ�เสนอบริการ และสินค้าชนิดใหม่ๆ กับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุน ในทองคำ� ซึง่ ได้รบั ความสนใจจากนักลงุทนเข้ามาเยีย่ มชม และสอบถามข้อมูล จากตัวแทนของบริษัทต่างๆ
10
OCTOBER - DECEMBER 2012
OCTOBER - DECEMBER 2012
วารสารทองค�ำ
• ร่วมงานมรณภาพ คณะกรรมการสมาคมค้าทองคำ� นำ� โดย นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพงานมรณภาพ พระมหิสสฺ ร โพธิภิกขุ หรือ นายทวีศักดิ์ ดีมั่นคงวณิช (เสี่ยหล่อ) เจ้าของหจก. ห้างทองคุณฮั้ว (หล่อ) และ บริษัท ที.ดี.ซี โกล์ด จำ�กัด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ณ วัดประยุร วงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
• ร่วมพบปะพูดคุยกับร้านค้าทอง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนจากสมาคมค้าทองคำ� เข้าเยี่ยมพบชมรม ร้านทองจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ประกอบการค้าทองคำ� โดยได้นำ�วารสารทองคำ�ออกไปแจกจ่าย พร้อมพูดคุยถึง สภาพการค้าขายทองคำ�ในพืน้ ที่ รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะ จากเจ้าของร้าน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
11
Gold Activity วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
กองบรรณาธิการ : เรื่อง ณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์ : ภาพ
สมาคมค้าทองคำ�จัดสัมมนาทั่วประเทศ หวังลุยล้างบางแก๊งค้าทองปลอม
หลังจากทีก่ ลุม่ มิจฉาชีพได้น�ำ ทองปลอม ออกไปจำ�หน่ายให้กบั ร้านค้าต่างๆ ทำ�ให้เกิดความเสียหายกับผูป้ ระกอบการ เป็นจำ�นวนมาก ขณะทีร่ า้ นค้าทองกลับไม่ได้เอาผิดกับกลุม่ มิจฉาชีพดังกล่าว เนือ่ งจากกลัวจะเสียเวลาในการดำ�เนินคดี และ อาจจะทำ�ให้ร้านเสียชื่อเสียงได้ ทำ�ให้ในปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้เหิมเกริมออกลาดตระเวนนำ�ทองปลอมออก จำ�หน่ายในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และจำ�นวนของสมาชิกในกลุ่มได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางสมาคมประเมินว่า ปัญหาดังกล่าวได้สร้างความเสียหายกับทางร้านค้าทองจำ�นวนปีละหลายพันล้านบาท จึงต้องดำ�เนินการแก้ไขปัญหานี้ อย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการรวมถึงการดำ�เนินการกวาดล้างกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้อย่างจริงจัง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ� เปิดเผยว่า ที่ ผ่ า นมาปั ญ หาเรื่ อ งขบวนการค้ า ทองปลอมได้ ส ร้ า งปั ญ หา และความเสียหายให้กับผู้ค้าทองคำ�ทั้งในส่วนของร้านผู้ผลิต และร้านค้าปลีกมาโดยตลอด ทั้งนี้สมาคมฯ ได้แก้ไขปัญหา ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมจึงได้ ตัง้ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาทองปลอมขึน้ โดยมีนายสมศักดิ์ ตัณฑชน เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ เพื่อกำ�หนดแผนงาน และแนวทางปฎิบัติให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น 14
นอกจากนั้นยังได้รับความร่วมมือจากสำ�นักงานตำ�รวจ แห่งชาติ เข้ามาช่วยเหลือในการทำ�ลายแหล่งผลิตทองปลอม และจับกุมคนร้ายมาดำ�เนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการบุกเข้าทลาย แหล่งผลิตทองปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี และได้พยายาม สืบสวนและขยายผลเพื่อหาแหล่งผลิตอื่นๆ ด้วย ทั้ ง นี้ ส มาคมค้ า ทองคำ� ได้ รั บ ความร่ ว มมื อ จากสภา ทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแล เรื่องของคดีความด้วยการส่งทนายความที่ประจำ�อยู่ในพื้นที่
OCTOBER - DECEMBER 2012
วารสารทองค�ำ
โดยการจัดงานจะมีทั้งหมด 5 ครั้ง แบ่งไปตามภูมิภาคต่างๆ สำ�หรับในปี 2555 ได้จัดไปแล้ว 2 ครั้ง คือที่ โรงแรมปรินซ์พาเลส มหานาค กรุงเทพมหานคร และที่โรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ ส่ ว นครั้ ง ที่ 3 จั ด ขึ้ น ที่ โรงแรมบ้ า นเชี ย ง จั ง หวั ด อุ ด รธานี ตามมาด้ ว ยจั ง หวั ด นครศรี ธ รรมราช และ ไปปิดท้ายที่จังหวัดนครสวรรค์ ในเดือนพฤษภาคม จากนั้น จะมาประเมิ น ผลการดำ�เนิ น งานก่ อ นที่ จ ะกำ�หนดแผนการ ดำ�เนินงานในช่วงถัดไป อย่างไรก็ตาม ในการจัดงาน 2 ครัง้ แรก ประสบความสำ�เร็จ อย่างสูง มีผทู้ ใี่ ห้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างเกินความคาดหมาย ซึง่ ในการจัดงานครัง้ แรก นอกจากจะมีการลงนามในบันทึกความ ร่วมมือระหว่าง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ� และนายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความในพระบรม ราชูปถัมภ์ เพื่อร่วมส่งเสริม สนับสนุน และให้คำ�ปรึกษาทาง กฏหมาย รวมถึงคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทองปลอม นอกจากนัน้ ทาง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผูบ้ ญ ั ชาการ ตำ�รวจแห่งชาติ ฝ่ายกฎหมายและสอบสวน ได้กล่าวถึงการ
ทีเ่ กิดเหตุเข้าไปร่วมทำ�คดี ซึง่ จะช่วยให้การทำ�งานมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จา่ ย ทีส่ ำ�คัญยังเป็นการอำ�นวย ความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายด้วย ในส่วนของงานด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุก สมาคมฯ ได้จัด โครงการสั ม มนา “รู้ ทั น ทองปลอมสั ญ จร” ให้ กั บ ร้ า นทอง ทั่ ว ประเทศ เพื่ อ เผยแพร่ ค วามรู้ ค วามเข้ า ใจเกี่ ย วกั บ ปั ญ หา และวิธีการรับมือกับกลุ่มมิจฉาชีพที่นำ�ทองปลอมมาหลอกขาย ซึ่งจะช่วยให้ลดความเสี่ยงและลดปัญหาทองปลอมให้น้อยลง
ร่วมมือกันทำ�งานกับสมาคมฯ ในเรือ่ งการกวาดล้างกลุม่ มิจฉาชีพ ว่า ได้รับมอบหมายจากพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการ ตำ�รวจแห่ ง ชาติ ให้ ม าดู แ ลมาตรการในการป้ อ งปรามการ กระทำ�ความผิ ด ในลั ก ษณะที่ ฉ้ อ โกง ฉ้ อ ฉล ไม่ ว่ า จะเป็ น ใน เรื่องของตัวเนื้อทอง หรือการทำ�ความผิดอื่นๆ ซึ่งการปฏิบัติ หน้าที่ของตำ�รวจ ขอความร่วมมือกับท่านผู้ประกอบการ ให้ ตระหนักและเห็นโทษภัย และเข้าใจในมูลฐานความผิดต่างๆ ถึ ง แม้ จ ะเป็ น ความผิ ด ฐานฉ้ อ โกงธรรมดา ซึ่ ง เงื่ อ นไขใน 15
วารสารทองค�ำ
การดำ�เนินคดีนนั้ ท่านสามารถมอบให้ตำ�รวจดำ�เนินคดีสอบสวน จนถึงที่สุดในการเอาผิดกับผู้กระทำ�ความผิด แต่ปัญหาในทางปฏิบัติที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ต้องหา ทีถ่ กู จับได้จะเจรจาชดใช้คา่ เสียหาย และก็ไม่ประสงค์จะให้ตำ�รวจ ดำ�เนินคดีต่อไป ซึ่งเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานส่วนหนึ่ง หรือ บางรายโดนหลอกลวงแล้วก็เก็บเรื่องไว้ไม่ประสงค์จะไปแจ้ง ความ เกรงจะอับอายหรือสูญเสียเครดิตในการค้า ก็เป็นอีกเรื่อง ที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งความจริงแล้วหากเกิดปัญหาขึ้น ตำ�รวจสามารถปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเต็มความ สามารถ และขอยืนยันในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ว่า หาก มี ปั ญ หา ข้ อ ขั ด ข้ อ งในส่ ว นการปฏิ บั ติ ง านของตำ�รวจ ไม่ ว่ า จะเป็นเรือ่ งร้อยเวรไม่รบั แจ้ง รับแจ้งแล้วไม่ไปติดตามดำ�เนินการ ตนพร้อมที่จะรับแจ้งโดยตรง หรือจะติดต่อกับทางสมาคมฯ เพื่อการประสานงานโดยตรง ณ เวลานี้ตำ�รวจได้จัดชุดพิเศษ หากตำ�รวจท้องที่ทำ�งานได้ ไม่มีประสิทธภาพ ทางส่วนกลางจะลงไปดำ�เนินการด้วยตัวเอง ดังนั้นร้านค้าที่ประสบปัญหาต้องให้ความร่วมมือและจริงจัง จริงใจกับการแก้ปัญหาในจุดนี้ ลำ�พังแต่จะให้ตำ�รวจ ซึ่งมีหน้าที่ รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายหลังจากรับแจ้งความจากท่าน ไปแต่เพียงส่วนเดียว ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ก็ยอ่ มเกิดขึน้ ทัง้ สอง ฝ่ า ยต้ อ งพร้ อ มให้ ร่ ว มมื อ ร่ ว มใจในการที่ จ ะคลี่ ค ลายปั ญ หา ในส่วนนี้ให้สำ�เร็จ นำ�ผู้กระทำ�ผิดมาลงโทษ ถ้าหากว่าปล่อยปละ ละเลยก็จะลอยนวลเป็นวัฏจักร จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบสิ้น 16
OCTOBER - DECEMBER 2012
เรื่องที่สอง สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติมิได้เอาใจใส่ดูแล เฉพาะในส่วนที่ท่านอาจจะถูกกระทำ�ความผิดเฉพาะในเรื่อง การหลอกลวง เรื่องทองปลอม เรื่องแหล่งที่มาที่ไป แต่ยังให้ ความสำ�คั ญ ในเรื่ องของการป้ องกั น ปราบปรามการกระทำ� ความผิดกับผูป้ ระกอบการร้านค้าทองในลักษณะทีเ่ ป็นการกระทำ� ความผิด เช่น วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ แม้กระทั่งปล้นทรัพย์ ในจุดนีอ้ ยากจะหยิบยกมาให้ได้พงึ ระวังว่า สำ�นักงานตำ�รวจ แห่งชาติได้เน้นย้ำ�มาตรการรักษาความปลอดภัย แต่หากเกิดเหตุ ขึ้นเจ้าของร้านมีความสำ�คัญอย่างยิ่งที่จะช่วยในการดำ�เนินการ หาตั ว ผู้ ก ระทำ�ผิ ด ทั้ ง นี้ ท างส่ ว นกลางได้ มี ห นั ง สื อ สั่ ง การ หัวหน้าโรงพักทั่วประเทศ ว่าต้องให้ความสำ�คัญกับการป้องกัน ป้ อ งปรามอย่ า งไรต่ อ ภั ย ต่ า ง ๆ ของผู้ ป ระกอบการในส่ ว น ของร้านค้าทองคำ�
วารสารทองค�ำ
“หลายท่าน จากตรงนี้สักวันหนึ่งอาจจะตกเป็นเหยื่อของ ผู้ ก ระทำ�ความผิ ด ไม่ มี ใ ครการั น ตี ไ ด้ ว่ า จะไม่ มี เช่ น นี้ เ กิ ด ขึ้ น ตราบใดทองยั ง ขึ้ น ราคา ปั ญ หาเศรษฐกิ จ ปั ญ หาสั ง คมใน บ้ า นเมื อ งยั ง เป็ น อย่ า งนี้ แต่ สิ่ ง ที่ ท่ า นจะต้ อ งตระหนั ก และก็ เตรียมการไว้ก็คือการป้องกัน ในอดีตไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ใน ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้า ภาพจากกล้องวงจรปิดทำ�ให้เห็น พฤติกรรมของคนร้าย แต่หลายต่อหลายครั้งกล้องเสีย ทำ�ให้ การทำ�งานเป็ น ไปด้ ว ยความยากลำ�บาก ตรงนี้ อ ยากจะขอ ความร่วมมือในการดูแลบำ�รุงรักษา กล้อง CCTV ด้วย เพราะ เป็นการป้องกันเบื้องต้น” ต้ อ งยอมรั บ ว่ า ในปั จ จุ บั น การจี้ ป ล้ น ร้ า นทองเกิ ด ถี่ ขึ้ น แต่จะเกิดที่ไหนไม่สามารถบอกได้ แต่หากมีการป้องกันที่ดีก็จะ
ช่วยได้ และอยากให้ทุกคนทำ�ให้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสัญญาณเตือนภัย กล้อง รวมถึงระบบการป้องกันภัยอื่นๆ เพิ่ ม เติ ม ซึ่ ง ตำ�รวจก็ จ ะเข้ า ไปร่ ว มพู ด คุ ย และตรวจสอบทุ ก สามเดือน ถ้าการทำ�งานของตำ�รวจบกพร่อง เมื่อเกิดเหตุขึ้น ก็ต้องถูกลงโทษ ในขณะเดียวกันทางร้านทองก็ต้องให้ความ ร่วมมือกับตำ�รวจในพื้นที่ด้วย “การรวมตัวกันครัง้ นี้ มันต้องมีพลัง การทีใ่ ห้ขอ้ คิด ให้ขอ้ มูล ขอยืนยันว่า สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติในยุคพลตำ�รวจเอก อดุลย์ 18
OCTOBER - DECEMBER 2012
แสงสิงแก้ว เป็นผู้บริหารสูงสุด ได้ให้ความสำ�คัญกับการทำ�งาน ร่วมกันของตำ�รวจกับภาคประชาชน ผู้ประกอบการทั้งหลาย ท่ า นต้ อ งเป็ น ตำ�รวจคนแรก เมื่ อ มี ปั ญ หาเราก็ พ ร้ อ มเข้ า ไป ช่ ว ยเหลื อ อย่ า งเต็ ม ที่ เพราะตำ�รวจที่ อ ยู่ โ รงพั ก ทุ ก วั น นี้ ไม่ พ อจริ ง ๆ ปั ญ หามากมาย ทั้ ง ยาเสพติ ด ปั ญ หาสั ง คม อาชญากรรม ก็เป็นเรือ่ งตำ�รวจทัง้ นัน้ เพราะฉะนัน้ ท่านทัง้ หลาย คงจะต้องมามีส่วนร่วมในการป้องกันไม่ให้เกิด เราไม่อยาก จะให้ใครมาหลอกลวงท่านแล้วก็มาแจ้งความ การป้องกันที่ดี ที่สุดท่านต้องเป็น “ตำ�รวจคนแรก” ช่วยเหลือ ป้องกัน รีบแจ้ง รีบดำ�เนินการ แม้กระทั่งลักษณะความผิดของการประทุษกรรม และตำ�รวจจะร่ ว มทำ�งานเพื่ อให้ ก ารป้ องกั น และการติด ตาม จั บกุ ม เกิ ด ประสิ ท ธิ ภาพสู งสุ ด ขอยื น ยั น ว่ า สำ�นั ก งานตำ�รวจ
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
แห่งชาติพร้อมที่จะปฏิบัติบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด” พล.ต.อ.เอก กล่าวทิ้งท้าย ภายในงานยังได้รบั เกียรติจากวิทยากรของหน่วยงานต่างๆ ไม่ ว่ า จะเป็ น ตั ว แทนจากสมาคมค้ า ทองคำ� ที่ ไ ด้ ม าบรรยาย ให้ ค วามรู้ เ กี่ ย วกั บ วิ วั ฒ นาการทองปลอม และเทคนิ ค การดู ทองปลอม ทองด้อยคุณภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วม งานเป็นอย่างมาก นอกจากนัน้ ยังมีตวั แทนจากสภาทนายความฯ ได้มาบรรยายให้ความรูด้ า้ นกฎหมาย เกีย่ วกับเรือ่ งของการฉ้อโกง การละเมิ ด เครื่ อ งหมายการค้ า ขณะที่ ตำ�รวจได้ ม าบรรยาย เรื่องเทคนิคการป้องกันตัวและการร่วมมือกันทำ�งานระหว่าง ร้านค้าทองกับสถานีตำ�รวจ เพื่อให้การป้องกันเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ในช่วงระหว่างการถามตอบผู้เข้าร่วมงานได้ ให้ความสนใจในการร่วมตั้งคำ�ถามกับวิทยากรในแต่ฝ่ายอย่าง มากมาย ซึ่งทางวารสารทองคำ�จะได้รวบรวมเพื่อนำ�มาเสนอ ในฉบับต่อๆ ไป เพื่อที่จะได้แบ่งปันประสบการณ์ และความรู้ ด้านต่างๆ กับผู้ประกอบการร้านค้าทองด้วยกัน
ส่วนการจัดงานสัมมนาสัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ก็ได้รับความ สนใจจากผูป้ ระกอบการในพืน้ ทีภ่ าคเหนือตอนบนอย่างล้นหลาม เช่ น กั น โดยเฉพาะผู้ ป ระกอบการในจั ง หวั ด เชี ย งใหม่ และ จั ง หวั ด ใกล้ เ คี ย ง โดยเนื้ อ หาที่ ไ ด้ พู ด คุ ย กั น ในภาพรวมก็ ยั ง คงเป็นเรื่องของเทคนิคการดูทองปลอม และวิวัฒนาการของ ทองปลอม ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าต่าง ๆ ได้รู้ถึงความคืบหน้า ของการทำ�ทองปลอมในปัจจุบัน ขณะที่ทางสภาทนายความ และทางตำ�รวจในพื้ น ที่ ได้ ส่งตั ว แทนเข้ า ร่ ว มพู ด คุ ย ให้ ความรู้ ในเรื่ อ งต่ า งๆ นอกจากนั้ น ทางสมาคมฯ ได้ รั บ เกี ย รติ จ าก นายสุรพล โอวิทยากุล ประธานชมรมร้านทอง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมเสวนาถึงปัญหาและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ 20
OCTOBER - DECEMBER 2012
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และในช่วงท้ายได้ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีข้อสงสัย ได้ซักถามผู้ร่วมดำ�เนินการอภิปราย อย่างเต็มที่ นอกจากนั้ น ทางสมาคมฯ ได้ ชี้ แ จงกรณี ที่ มี ข่ า วเรื่ อ ง ทองปลอมระบาด และมีการเข้าจับกุมทลายแหล่งผลิตทองปลอม ตามข่าวที่ปรากฎทำ�ให้หลายท่านอาจมีความกังวลว่า ถ้าไปซื้อ ทองแล้วจะเจอทองปลอมหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้บริโภค เข้าใจร้านทองแบบผิดๆ ดังนั้น จึงขออธิบายทำ�ความเข้าใจ ดังนี้ 1. ปัญหาทองปลอม คือการที่คนร้ายผลิตทองปลอมนำ�มา ขายหรือขายฝากกับร้านทองเท่านั้น ไม่ได้ขายให้กับผู้บริโภค 2. เมื่อร้านทองรับซื้อทองเก่าจากลูกค้า ซึ่งอาจเป็นคนร้ายนำ� ทองปลอมมาหลอกขายนั้น ร้านทองจะไม่มีการนำ�ทองเก่า ที่ รั บ ซื้ อ จากลู ก ค้ า มาขายซ้ำ� ให้ กั บ ลู ก ค้ า รายใหม่ แต่ จ ะนำ� กลั บ ไปหลอมเพื่ อ ผลิ ต ทองรู ป พรรณชิ้ น ใหม่ แ ทนทั้ ง หมด 3. ดังนั้น ลูกค้าผู้บริโภค สามารถสบายใจได้เลยว่า หากท่าน ไปซื้อทอง กับร้านทองใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ กรุงเทพ หรือต่างจังหวัด เยาวราช หรือรอบนอก ท่านก็จะ ได้ทองคำ�แท้อย่างแน่นอน และ 4. หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือพบเบาะแสเรือ่ งทองปลอม กรุณาแจ้งได้ทสี่ มาคมค้าทองคำ�
วารสารทองค�ำ
โทร 0-2675-8000 เพือ่ ร่วมมือร่วมใจกันจัดการกับปัญหาดังกล่าว อย่างจริงจังและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวร้านทอง ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ทางสมาคมค้าทองคำ� ได้ขอขอบคุณผู้ประกอบการ ทุกท่านที่ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานสัมมนาที่จัดขึ้น รวมถึง ผู้ ใ ห้ ก ารสนั บ สนุ น การจั ด งาน ซึ่ ง ประกอบไปด้ ว ย บริ ษั ท เมทเล่อร์ โทเลโด (ประเทศไทย) จำ�กัด บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำ�กั ด บริ ษั ท มานิ ต แอนด์ ทู ล จำ�กั ด ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด ห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ จำ�กัด บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำ�กัด, บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเม้นท์ จำ�กัด บริษัท ออสสิริส จำ�กัด บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำ�กัด บริษัท ที ดี ซี โกลด์ จำ�กัด บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำ�กัด บริษัท จีแคป จำ�กัด บริษทั ห้างทองซินเจีย้ เชียง จำ�กัด บริษทั เต็กไถ่จวิ เวลรีซ่ พั พลาย จำ�กัด บริษัท พระพิราพ จำ�กัด และบริษัท ห้างขายทองเลี่ยง เซ่งเฮง แคปปิตอล จำ�กัด ส่ ว นการจั ด งานในครั้ง ต่ อ ไป สามารถติ ด ตามข่ า วสารได้ ทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ หรือโทรสอบถามที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สมาคมค้าทองคำ� โทรศัพท์ : 0-2675-8000 ต่อ 51 21
Gold Talk
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
เปิดวิสัยทัศน์
เรื่อง : มนุษย์ทองค�ำ ภาพ : ณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์
เลขาฯ สคบ.ท่านใหม่ ตลอดระยะเวลาที่ ผ่ า นมาสำ � นั ก งานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ถือเป็นอีกภาคส่วน สำ�คัญที่ได้ ทำ�งานร่วมกับสมาคมค้าทองคำ� และวงการค้าทองคำ�ใน ประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่องในการที่จะยกระดับการค้า ทองคำ�ให้มมี าตรฐานเดียวกัน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ ในโอกาสที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งขึ้นมาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ท่านใหม่ ทาง “Gold Talk” จึงได้เข้าไปสัมภาษณ์พิเศษถึง นโบายต่ า งๆ ที่ จ ะนำ � มาใช้ เ พื่ อ ทำ � ให้ ว งการค้ า ทองคำ � ใน ประเทศได้พัฒนาขึ้น • หลังจากทีม่ าดำ�รงตำ�แหน่งเลขาฯ สคบ. มีนโยบายใด ที่จะเน้นเกี่ยวกับเรื่อง การค้าขายทองคำ�เป็นพิเศษหรือไม่ งานทุกอย่างยังต้องดำ�เนินการตามนโยบายของรัฐมนตรี ก็คือการสร้างความเชื่อมั่น และความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคใน การซือ้ ขายทองคำ� ทีผ่ า่ นมา สคบ.ได้รว่ มกับสมาคมฯ จัดระเบียบ ทองให้มีเปอร์เซ็นต์ทองเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อเป็นไปตาม ที่ประกาศไว้ ซึ่งในเรื่องนี้มีพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่ดูแลทั้งใน เรื่องของการผลิตทอง การจำ�หน่ายทอง รวมถึงเรื่องของฉลาก สินค้า ก็ต้องปฏิบัติตามฉลาก ที่ระบุไว้คือ 1.ต้องมีชื่อประเภท สินค้า 2.ต้องมีชอื่ ทีอ่ ยูข่ องผูป้ ระกอบการ 3.ต้องมีเปอร์เซ็นต์ทอง 4.ต้องมีน้ำ�หนัก และ 5.ต้องระบุราคา แต่อกี ส่วนทีจ่ ะเพิม่ เติมขึน้ มาก็คอื การรับผิดชอบของผูป้ ระกอบการต่อผูบ้ ริโภค ซึง่ หากเกิด ความไม่เป็นธรรม หรือเกิดความเสียหายขึ้น ผู้ประกอบการมี มาตรการในการเยียวยา ความเสียหายอย่างนี้อย่างไร ซึ่งในจุด นี้ผมมุ่งประเด็นที่ว่า 1. การรับผิดชอบเรื่องเปอร์เซ็นต์ทอง ซึ่งที่
ผ่านมาก็ได้ไปตรวจเปอร์เซ็นต์ทองกับโรงงานผู้ผลิตทองทั้ง 64 ราย จากการสุ่มตัวอย่างก็ถือว่าไป ตามมาตรฐาน แต่สิ่งที่จะทำ� เพิ่ ม เติ ม ก็ คื อ จะสุ่ ม ตรวจมากขึ้ น และถี่ ขึ้ น ถ้ า หากพบว่ า เปอร์เซ็นต์ทอง ไม่ถูกต้องท่านจะรับผิดชอบอย่างไร • มีเรื่องอื่นที่ต้องเน้นในการทำ�งานอีกหรือไม่ อีกเรื่องคือทาง สคบ. อยากให้เน้นในเรื่องของฉลากสินค้า ซึ่งเรื่องนี้เราดำ�เนินการมาตั้งแต่ปี 2545 แต่มันถึงเวลาที่จะต้อง มากระตุ้น และดำ�เนินการบังคับกฎหมายโดยเคร่งครัด ต่อไปนี้ ผมจะไม่เตือน ถ้าทำ�ฉลากไม่ถกู ต้องก็คงต้องลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งกำ�หนดอัตราโทษ ก็คือผู้ใดจัดทำ�ฉลากไม่ถูกต้อง หรือไม่จัด ทำ�ฉลากก็มีโทษจำ�คุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทัง้ จำ�ทัง้ ปรับ ขอย้ำ�ว่า ผมเอาจริงเรือ่ งนี้ และขณะนีท้ าง สคบ. กำ�ลั ง จะซั ก ซ้ อ มทำ�ความเข้ า ใจการทำ�งานของอนุ ก รรมการ คุ้มครองผู้บริโภคประจำ�จังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าฯเป็นประธาน และจะ ต้องดูแลเรื่องนี้โดยใกล้ชิด 23
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
ทองที่ผู้ขายไปพิสูจน์เปอร์เซ็นต์ทอง โดยการเผาหรือทำ�ให้เกิด การเปลีย่ นแปลงต่อสินค้าจะต้องรับความเห็นชอบจากผูข้ ายก่อน และผู้ บ ริ โ ภคก็ ต้ อ งทำ�ใจว่ า เปอร์ เซ็ น ต์ ท องในแต่ ล ะประเภท อาจจะต่างกัน ซึ่งจุดนี้ผู้บริโภคเองก็ต้องรับทราบด้วย อันนี้ มีปัญหาที่ไปร้องเรียน ซึ่งธุรกิจค้าขายทองรูปพรรณ ไม่ใช่ขาย เฉพาะสิ น ค้ า อย่ า งเดี ย ว แต่ ยั ง มี เรื่ อ งของการเก็ ง กำ�ไรด้ ว ย เพราะฉะนั้น ในส่วนนี้ก็ฝากถึงผู้ประกอบการด้วยว่า การทำ� การค้าก็ตอ้ งโปร่งใส มิใช่เป็นลักษณะทีจ่ ะไปแสวงหาผลประโยชน์ ฝ่ายเดียว และยิ่งในปัจจุบันทองคำ�มีรูปแบบการลงทุนมากมาย ทั้งจำ�หน่ายทองออนไลน์ หรือลงทุนในกองทุนทอง ท่านต้องดูนะ ว่า มันจะไปคาบเกี่ยวกับกฎหมายอื่นหรือไม่ ซึ่งในช่วงหลังทอง ออนไลน์ก็มีมากขึ้น • ที่ผ่านมา ปัญหาการร้องเรียนเรื่องพวกนี้มีมากน้อย แค่ไหนครับ ปั ญ หาการร้ อ งเรี ย น จะมี เรื่ อ งของผู้ บ ริ โ ภคเอาทองไป ขาย แล้วไม่ได้ราคาตามที่แสดงเอาไว้ในร้านค้า นี่คือหนึ่งใน ฉลากนะ ที่ บ อกว่ า ราคารั บ ซื้ อ ทองรู ป พรรณขั้ น ต่ำ� ตามที่ สมาคมค้าทองคำ�ประกาศ แต่โดยข้อเท็จจริงร้านค้ามิได้ปฎิบัติ ตามนี้ ติดเพียงราคารับซื้อคืนตามที่สมาคมประกาศจริง แต่มี ข้ อ ปลี ก ย่ อ ยไว้ ต่ อ รอง ซึ่ ง หากมี ก ารร้ อ งเรี ย นเข้ า มาเราจะ ดำ�เนินคดีทันที เพราะมันระบุอยู่ในร่างกฎหมาย ประเด็นที่ 2 ก็คือร้านค้าต้องระมัดระวัง เรื่องการตรวจสอบทอง หากจะเอา 24
• เรื่องของทองออนไลน์ อยู่ในการดูแลของ สคบ.หรือ ไม่ และมีนโยบายในการดูแลการซือ้ ขายในช่องทางนีอ้ ย่างไร ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเริ่มมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่อง นีก้ อ็ ยูใ่ นความดูแลของ สคบ. ซึง่ ขณะนี้ ได้ให้ผทู้ เี่ กีย่ วข้องเตรียม เรียกประชุม เพือ่ หากรอบในการควบคุม เพราะเริม่ มีขอ้ ร้องเรียน เข้ามาบ้างแล้วเหมือนกัน รวมไปถึงเรื่องของการจำ�หน่ายทอง ในลักษณะการซือ้ แบบผ่อนส่ง ก็เริม่ มีปญ ั หา ซึง่ สคบ. จะเร่งเข้าไป ดู แ ลปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้ น เพราะราคาทองมั น เปลี่ ย นแปลงอย่ า ง รวดเร็ว ทำ�ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
• การที่ธุรกิจค้าทองในปัจจุบันมีความหลากหลาย มากขึ้น ปัญหาก็มีมากขึ้นด้วย ครับปัจจุบันธุรกิจมันพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง เพื่อตอบสนอง ความต้ อ งการของผู้ บ ริ โ ภค แต่ ก็ ต้ อ งคำ�นึ ง ถึ ง ความถู ก ต้ อ ง ความโปร่งใสด้วย ไม่ใช่ว่าจะมาเอาเปรียบกัน อันนั้นก็เป็น เรื่องที่ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบ • เรื่องของการควบคุมมาตรฐานทองคำ�ในประเทศ ได้ ดำ�เนินมาเกือบ 10 ปีแล้ว พอใจมากน้อยแค่ไหน ในภาพรวมผมพอใจ ทัง้ ในส่วนของผูผ้ ลิต ร้านค้าทีจ่ ำ�หน่าย ซึง่ ทุกอย่างเข้าสูก่ ระบวนการ ทีไ่ ด้มาตรฐาน ร้านค้าปลีกจะไม่ไป รับของสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะต้องรับผิดชอบสินค้าที่จำ�หน่ายด้วย • มีอีกประเด็นที่เรื่องเงียบหายไปก็คือการควบคุมร้าน จำ�หน่ายทองทีส่ นามบิน โดยเฉพาะอย่างยิง่ การเปิดประเทศ สู่ประชาคมอาเซียน และสนามบินก็เป็นด่านหน้าที่สำ�คัญ สคบ.มีแผนที่จะเข้าไปดูแลอย่างไรบ้าง สิ่งที่จะเน้นก็คือเรื่องของฉลาก เพราะฉลากมันระบุข้อมูล ไว้หมด หากเราดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มแข็งและจริงจัง ปัญหาก็ จะหมดไป และเรื่องนี้ สคบ.มีอำ�นาจเต็มในการควบคุมดูแล
ส่วนราคาก็เป็นไปตามราคาโลก ทัง้ นี้ กฎหมายเรือ่ งของฉลากจะ ควบคุมทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบิน หรือในจังหวัดไหนๆ เป็นเรื่องที่กฎหมายเดียวกันต้องปฏิบัติเหมือนกัน • มองผลกระทบจากการเปิดประเทศเข้าสู่ประชาคม อาเซียนอย่างไรบ้าง จะมีผลเสียหรือผลกระทบต่อผูป้ ระกอบ การอย่างไร เรื่ อ งนี้ เ ป็ น สิ่ ง ที่ ผู้ ป ระกอบการจะต้ อ งปรั บ ตั ว แต่ จ ะ ปรั บ ตั ว ในลั ก ษณะไหนบ้ า ง ในเรื่ อ งของคุ ณ ภาพสิ น ค้ า ต้องชัดเจน แม้ สคบ.จะคุ้มครองผู้บริโภค แต่ก่อนถึงผู้บริโภค ผู้ ป ระกอบการต้ อ งมาก่ อ น ซึ่ ง ในการผลิ ต สิ น ค้ า สคบ.ใน ฐานะหน่วยงานของราชการ ก็ต้องรับประกันในเรื่องของการ รั บ ผิ ด ชอบสิ น ค้ า ในผู้ ป ระกอบการ ซึ่ ง ที่ ผ่ า นมาเราได้ ม อบ ตราสั ญ ลั ก ษณ์ รั บ รองมาตรฐานให้ กั บ ผู้ ป ระกอบการ ก็ เ ป็ น การยกระดับในการทำ�ธุรกิจ เพื่อรองรับกับการแข่งขันที่จะไหล เข้ามา ซึ่งทางสมาคมฯ เอง ทางสคบ. เอง ต่างต้องเตรียมแผนที่ จะรั บมื อสิ น ค้ า ที่ อาจจะไหลเข้ า มา เราก็ ห้า มไม่ ได้ แต่เรื่อ ง ของเปอร์เซ็นต์ทอง เรื่องของฉลาก เป็นเรื่องที่ สคบ. ต้องกำ�กับ ดูแลอย่างเข้มงวด และต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน อยู่ภายใต้ กฎหมายเดียวกัน
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกิด ๒๐ มกราคม ๒๕๐๐ ปริญญาตรี (นิติศาสตร์บัณฑิต) มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง ปริญญาโท (รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง การทำ�งาน - ปลัดอำ�เภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี - ผู้อำ�นวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก - ผู้อำ�นวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ - รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รางวัลที่ได้รับ - ปลัดอำ�เภอดีเด่น พ.ศ. ๒๕๓๒ - ข้าราชการพลเรือนดีเด่น พ.ศ.๒๕๔๕ - เกียรติบัตร “คนดีศรีสังคมไทย” พ.ศ. ๒๕๕๔ ผลงานที่สำ�คัญ - การจัดระเบียบทองรูปพรรณให้ได้มาตรฐาน - การบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค - ทดสอบสินค้าที่ไม่ปลอดภัย - การสร้างเครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภค ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค 25
Gold Report วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
กองบรรณาธิการ : เรื่อง
จับตาราคาทองคำ� ปี 56 ใกล้ชิด เชื่อตลาดผันผวน แต่ราคายังพุ่งทะยาน หลังจากที่ราคาทองคำ�ส่งท้ายปี 2555 ได้ทิ้งตัวลงมา ทำ�ให้ตลาดได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่วนในปี 2556 ตลาดมี ทิศทางการเคลื่อนไหวอย่างไร อะไรจะเป็นปัจจัยที่จะช่วย ผลักดัน หรือดึงราคาทองคำ�ให้เป็นเช่นนั้น จะมาติดตาม มุมมองจากกูรูที่คลุกคลีอยู่ในวงการค้าทองคำ�กัน
เริ่มจาก คุณพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ� มองว่ า ในขณะนี้ นั ก ลงทุ น ยั ง กั ง วลต่ อ ปั ญ หาหน้ า ผาการคลั ง สหรั ฐ ฯที่ ยั ง ตกลงไม่ ไ ด้ อี ก ทั้ ง ภาระหนี้ สิ น ในยู โรโซนที่ ยั ง ไม่ยอมลดลง จึงทำ�ให้มีการถือทองคำ�น้อยลง และหันมาถือ เงิ น สดกั น เพิ่ ม ขึ้ น แม้ แ ต่ ป ระเทศจี น ที่ มี ก ารบริ โ ภคทองคำ� ต่อปีมากที่สุด แต่ในปีนี้ก็ยังมีปริมาณความต้องการทองคำ�น้อย กว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ของนักลงทุนในต่างประเทศ ว่าในปี 2556 จะเป็นปีทรี่ าคาทองคำ�จะอ่อนตัวลงอย่างต่อเนือ่ ง เรียกว่า อาจจะถึงจุดต่ำ�ที่สุดของราคาทองคำ�หลังจากช่วงที่ผ่านมา 9 ปี ราคาทองคำ�ปรั บ ตั ว ขึ้ น มาอย่ า งต่ อ เนื่ อ งและรุ น แรง ทำ�ให้ ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำ�หรับการลงทุนในทองคำ� สำ�หรับนักลงทุนที่มีเงินเก็บและไม่รีบร้อนใช้เงินในอนาคต อันใกล้ ก็น่าเข้าลงทุนในทองคำ�สะสมไว้ ในช่วงราคา 23,50024,000 บาท เพื่อรอทำ�กำ�ไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น
คุณพิชญา พิสุทธิกุล
26
ทางด้าน คุณบุญเลิศ สิรภิ ทั รวณิช ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษัท ออสสิริส จำ�กัด กล่าวว่า ภาพของเศรษฐกิจโลกที่จะ กระทบต่อราคาทองคำ�ในปี 2556 พอจะสรุปได้โดยแยกกลุม่ ของ ประเทศ ดังนี้ ในเอเชียโดยรวมน่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ� ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งของมาตรการทีร่ ฐั บาลญีป่ นุ่ ประกาศออกมาทัง้ การคงดอกเบี้ยต่ำ�สุดที่ไม่เกิน 0.10% และได้ขยายวงเงินผ่อน คลายเชิงปริมาณเป็น 76 ล้านล้านเยน ขณะที่จีนที่เศรษฐกิจ โดยรวมได้เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง และการเปลี่ยนแปลงผู้นำ� ในประเทศที่ สำ�คั ญ ในเอเชี ย น่ า จะส่ งเสริ ม และสนั บสนุนให้ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมดีขึ้น รวมถึงน่าจะส่งผลบวกต่อ สกุลเงินในเอเชียและตลาดทองคำ� มาดูทางฝั่งยุโรป สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มที่จะสร้าง ความกดดันต่อราคาทองคำ�อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าปัญหา หนี้สาธารณะ สถานการณ์การเมืองในกลุ่มยุโรปโดยรวมยังคง มีอยู่ และดูเหมือนจะค่อยๆ เผยปัญหาออกมาเรื่อยๆ จนถึง ปลายปี 2555 และต่อเนื่องไปในปี 2556 ซึ่งจะสร้างความกดดัน ต่อค่าเงินยูโร และราคาทองคำ�ได้ ส่วนสหรัฐอเมริกาจากการที่นายบารัค โอบามา ชนะการ เลื อ กตั้ ง เป็ น สมั ย ที่ 2 ได้ ส่ ง ผลบวกเชิ ง จิ ต วิ ท ยาต่ อ หลายๆ โครงการ และมาตรการที่ดำ�เนินการอยู่แต่ยังไม่แล้วเสร็จ โดย มองว่าจากความต่อเนื่องของการพยายามหามาตรการต่างๆ
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
คุณบุญเลิศ สิริภัทรวณิช
คุณวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี
มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะทำ�ให้สหรัฐฯ เริ่มกลับมา ฟื้นตัว และอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำ�ได้ ในทางเทคนิคทองคำ�ยังคงผันผวนในกรอบ 1,520-1,795 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ ระยะสั้นอาจมีรีบาวนด์ขึ้นเนื่องจาก แกว่งลงมาถึง Fibonacci Level 61.8% แล้วโดยจุดดังกล่าว จะเป็นแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ประมาณ 1,630 เหรียญสหรัฐฯ โดยมีแนวต้านจากกรอบขาลงอยูท่ ป่ี ระมาณ 1,690-1,700 เหรียญ สหรัฐฯ ทั้งนี้ในภาวะที่ตลาดผันผวนสูงขอแนะนำ�ให้นักลงทุน รอซื้อ ณ แนวรับที่สำ�คัญ และรอขาย ณ แนวต้านที่สำ�คัญ และ ควรจำ�กัดความเสีย่ ง โดยทุกๆ ครัง้ ของการซือ้ ขาย นักลงทุนควร ตั้งทั้งจุดทำ�กำ�ไร และจุดตัดขาดทุนควบคู่ไปด้วยทุกครั้ง ขณะที่คุณวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลีย่ น จำ�กัด มองทิศทางราคาทองคำ�ในช่วงครึง่ แรก ของปีว่า ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น แม้จะไม่สดใสเหมือนปี 25532554 โดยจะมีความผันผวนมากขึน้ เนือ่ งจากตลาดการลงทุนโลก มีความเสี่ยงทั้งในด้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สิน ของประเทศขนาดใหญ่ รวมถึงนโยบายสภาพคล่องทีเ่ พิม่ ปริมาณ เงินอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี โอกาสในการปรับตัวลดลงยัง คงมี จึ ง ทำ�ให้ นั ก ลงทุ น จำ�เป็ น ต้ อ งเพิ่ ม ความระมั ด ระวั ง ใน การลงทุนมากขึ้น ทัง้ นีป้ จั จัยทีค่ าดว่าจะส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำ�ในปี 56 ช่ ว งต้ น ปี ยั ง ต้ อ งติ ด ตามปั ญ หาของประเทศขนาดใหญ่ อ ย่ า ง สหรัฐฯ ในประเด็นเรื่องหน้าผาทางการคลังและการเพิ่มเพดาน หนี้ ซึง่ เชือ่ ว่าประเด็นดังกล่าวจะทำ�ให้ราคาทองคำ�มีความผันผวน
คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล
ขณะปัญหาหนี้ยุโรปยังเป็นปัจจัยที่อยู่คู่กับตลาดทองคำ�ตลอดปี เช่นกัน ปั จ จั ย สุ ด ท้ า ยคื อ ค่ า เงิ น บาทที่ อ าจจะได้ รั บ ผลกระทบ จากมาตรการ QE4 ของสหรัฐฯ ในมุมนี้มองว่าค่าเงินบาท อาจจะแข็งค่าขึ้นซึ่งนั่นถือเป็นปัจจัยเชิงลบกับนักลงทุนทองคำ� ในประเทศ ปิ ด ท้ า ยที่ คุ ณ ณั ฐ ฑี จุ ฑ าวรากุ ล ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ฟิวเจอร์ส จำ�กัด กล่าวว่าราคา ทองคำ�ในปี 2556 การพั ก ตั ว ปรั บ ฐานที่ เ กิ ด ขึ้ น จะจบลง และกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น แต่ในแนวโน้มขาขึ้น ย่อมจะมี การพักฐานในระยะสั้นๆ เป็นช่วงๆ ดังนั้นการแกว่งตัวผันผวน ในกรอบเคลื่อนไหวขึ้นลง 150–200 เหรียญจึงมีโอกาสที่จะ เกิดขึน้ ได้ และคาดว่าแนวโน้มในระยะยาวยังอยูใ่ นกรอบแนวโน้ม ขาขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,920 เมื่อผ่านไปแล้ว เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 2,000 USD ต่อออนซ์ คาดว่าจุดสูงสุดของปี 2556 จะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 4 การลงทุ น ทองคำ�ในช่ ว งเวลาที่ ร าคาทองคำ�มี ค วาม ผันผวนนี้ นักลงทุนควรตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน หากเป็น นักลงทุนระยะยาว ในช่วงที่ราคาทองคำ�อ่อนตัวลงมาเช่นนี้ ให้ ท ยอยสะสมที่ บ ริ เวณ 1,660–1,720 เพื่ อ ทำ�กำ�ไรในช่ ว ง ปลายปี ห น้ า หากเป็ น การลงทุ น ในระยะสั้ น นั้ น สามารถเล่ น Trading ในกรอบ โดยดู แ นวรั บ แนวต้ า นในแต่ ล ะวั น เป็ น สำ�คัญ แต่แนวโน้มระยะยาวคาดว่าจะกลับขึ้นมาเป็น Up Trend อีกครั้ง 27
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
YLG Group : เรื่อง
ภาพรวมราคาทองคำ�ปี 2555 กับแนวโน้มราคาทองคำ�ปี 2556 เริม่ ต้นในปี 2555 การเคลือ่ นไหวของราคาทองคำ�ทีผ่ า่ นมา ปรากฎว่าราคาทองคำ�ได้ปรับขึน้ จากบริเวณ 1,560 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ทำ�จุดสูงสุดในโซน 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจุดสูงสุดนี้ถูกทดสอบมาแล้ว ถึง 3 ครั้งในปีนี้ และมีจุดต่ำ�สุด ที่บริเวณ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำ�หรับปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามาชี้นำ�ราคาทองคำ�ในช่วงต้นปีนั้นอยู่ที่ความขัดแย้งระหว่าง ชาติตะวันตกกับอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหายุโรปนั้นยังคอยกดดันราคาทองคำ�อย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นปัญหาหนี้สาธารณะของยูโรโซน ดูเหมือนจะ แนวโน้มราคาทองคำ�ในปี 2556 ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะประเทศกรีซ นำ�มาซึ่งการออก มาตรการแทรกแซงตลาดพันธบัตรรัฐบาล เพือ่ ช่วยลดต้นทุนภาค การคลังของประเทศที่ประสบปัญหา และสร้างความเชื่อมั่นให้ กับนักลงทุน อีกประเด็นสำ�คัญทีช่ นี้ ำ�ราคาทองคำ� ก็คอื มาตรการ ผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ3 (QE3) ของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ช่วยผลักดันราคาทองคำ�ในช่วงเดือนกันยายน อย่างไร ก็ตาม ในช่วงท้ายของปี ราคาทองคำ�ได้อ่อนตัวลงจากแรงขาย ทำ�กำ�ไรในเชิงเทคนิค แม้ว่าทางเฟดจะมีการใช้มาตรการ QE ออกมาเพิ่มเติมทดแทนมาตรการ Operation Twist ก็ตาม ส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ�ถูกชะลอลงไปบ้าง แหล่งทีม่ า: DailyFX.com และ การประมาณการของ YLG
30
OCTOBER - DECEMBER 2012
ปัจจัยสำ�คัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ�ปี 2556 นัน้ ยังคงมาจากการเปลีย่ นแปลง และปัญหาของเศรษฐกิจ โลกอย่างเป็นสำ�คัญ รวมทั้งอุปสงค์ต่อการลงทุนทองคำ� คือ ประเด็นหนี้สาธารณะของยุโรป ที่ยังคงยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน จากการแก้ไขปัญหาที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่ามาถูกทางหรือ ไม่ เพราะการแก้ไขปัญหาโดยการอนุมัติเงินช่วยเหลือเพื่อแลก กับการที่ให้ประเทศลูกหนี้ตัดลดรายจ่ายลง หรือที่เรียกติดปาก กันว่า การรัดเข็มขัด แต่สงิ่ ทีเ่ กิดขึน้ คือการประท้วงจากประชาชน รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจ ที่จะหดตัวลงจากการรัดเข็มขัดด้วย เห็น ได้ชดั เจนจาก ประเทศกรีซ ซึง่ มีสภาวะเศรษฐกิจทีห่ ดตัวมาหลาย ปี ต่อเนื่องแล้ว อีกทั้งหนี้ที่สูงถึง 190% ของจีดีพีในปีหน้า ทำ�ให้ สะท้อนให้เห็นได้ว่า การให้ความช่วยเหลือกรีซ ไม่ได้ทำ�ให้กรีซ สามารถยืนได้ดว้ ยตัวเอง ซึง่ เท่ากับว่าปัญหาไม่ได้ถกู แก้ไขนัน่ เอง นอกจากนีป้ ญ ั หาทีเ่ กิดขึน้ ได้ลกุ ลามไปยังประเทศอืน่ ๆในภูมภิ าค ด้วย อาทิ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และสเปน สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ แม้จะกดดัน ราคาทองคำ� แต่หากมองให้ลึกลงไปจะพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น กดดันเงินสกุลยูโรให้เสื่อมค่าลง ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ ทองคำ�เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าลงทุน แม้ว่าในระยะสั้น-กลาง ราคาทองคำ�อาจถูกกดดัน จากปัญหานี้บ้างก็ตาม ประเด็นการถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึง่ เป็นทีร่ กู้ นั อยู่แล้วว่า ราคาทองคำ�ได้รับผลเชิงบวก จากประเด็นเหล่านี้มาก เพียงใด อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูงมาอย่างยาวนาน ส่ง ผลให้สหรัฐฯ ต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ อย่างยิง่ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เช่น มาตรการผ่อนคลาย เชิงปริมาณ ทีใ่ นช่วงท้ายปีทางธนาคารกลางของสหรัฐฯได้ทงิ้ ทวน ออกมาตรการ QE4 อีกครั้ง และได้ตั้งเป้าหมายในการลดอัตรา การว่างงานให้อยู่ในระดับ 6.5% ด้วย ซึ่งหากตัวเลขอัตราการ ว่างงานยังคงห่างไกลจากเป้าหมายทีว่ างได้ ก็มคี วามเป็นไปได้วา่ อาจมีมาตรการทางการเงินออกมาเพิม่ เติมอย่างแน่นอน ขณะที่ ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) จะสามารถสร้างความ ผันผวนให้กับทิศทางของราคาทองคำ�ได้ หากยังไม่มีข้อสรุป ที่ชัดเจนออกมา นอกจากนี้ปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของ สหรัฐฯ ที่ใกล้ชนเพดานตามกฎหมายก็ยังเป็น ประเด็นที่ต้อง คอยติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในปี 2555 ที่ผ่านมา ประเทศต่ า งๆ ได้ มี แ นวโน้ ม ที่ จ ะมี ก ารใช้ ม าตรการกระตุ้ น เศรษฐกิจออกมาไม่ว่าจะเป็นทางการคลัง หรือการเงินก็ตาม
วารสารทองค�ำ
โดยทางธนาคารกลางยุโรปก็ได้มีมาตรการ แทรกแซงตลาด พันธบัตรรัฐบาลออกมา หรือทางเฟดที่ออกมาตรการ QE เพื่อ ลดอัตราการว่างงานของประเทศลง ซึ่งมาตรการที่ออกมาจาก ทางฝัง่ ตะวันตก ก็ได้สง่ ผ่านมายังประเทศในแถบเอชียทัง้ ประเทศ จีน และญี่ปุ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากการชะลอตัว ของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นแล้วหากเศรษฐกิจโลกยังไม่มีแนวโน้ม ที่ดีขึ้น โอกาสที่มาตรการต่างๆ จะออกมาก็มากตามไปด้วย และย่อมเป็นนาทีทองของราคาทองคำ�ในการปรับขึ้นเช่นกัน อุปสงค์ของทองคำ�ในตลาดโลก หากย้อนกลับไปจะพบว่า นักลงทุนรายใหญ่นนั้ ยังคงเดินหน้าเข้าสะสมทองคำ� ไม่วา่ จะเป็น กองทุนเฮดจ์ฟนั ด์ทชี่ อื่ โซรอส ฟันด์ แมนเนจเมนต์ ได้มกี ารลงทุน ในทองคำ�เพิม่ ถึง 49% ในช่วงไตรมาส3 ของปี 2555 ขณะเดียวกัน ก็มีการรายงานว่า กองทุนพอลสัน แอนด์ โค ได้เข้าไป ลงทุนใน SPDR Gold Trust หรือที่เรียกติดปากกันว่า กองทุน สไปเดอร์ โกลด์ เป็นจำ�นวนถึง 3.660 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผล ให้ ก องทุ น เอสพี ดี อ่ า ร์ โกลด์ ทรั ส ต์ ถื อ ทองคำ�สู ง สุ ด เป็ น ประวัติการณ์ที่ 1,351.54 ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2555) อีกทั้งธนาคารกลางของแต่ละประเทศยังเดินหน้าซื้อทองคำ� โดยในปี 2555 ได้มีการเข้าซื้อแล้วกว่า 300 ต้น (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม) สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของ การลงทุนทองคำ�ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแล้ว การขับเคลื่อนราคาทองคำ�ในปี 2556 นั้น เบื้อง ต้นประเมินว่าราคาทองคำ�จะอยู่ระหว่าง แนวรับ 1,660-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 24,100-23,000 บาทต่อบาท ทองคำ�) และแนวต้าน 1,850 หรือ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 26,900 หรือ 28,300 บาทต่อบาททองคำ�) อย่างไร ก็ตามต้องดูแนวต้านบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือ เป็นแนวต้านใหญ่หากผ่านไปได้ถึงจะประเมินแนวต้านต่อไป ในโซน 1,900-1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 27,60028,400 บาทต่อบาททองคำ�)
โดย บริษทั วายแอลจี บูลเลีย่ น แอนด์ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.ylgbullion.com 0-2577-5520 0-2287-1155
31
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Classic Gold Group : เรื่อง
FED’s money ย้อนรอยเส้นทางการใช้เงิน มีหลายคนถึงกับล้อเลียนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing) รอบล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หรือ QE3 ว่าเป็น QEternal และหลายคนก็ไม่เห็นด้วย กับการสร้างกระแสเงินเฟ้อให้เกิดขึน้ ทัว่ โลกจนอาจก่อให้เกิด สงครามค่าเงินระหว่างประเทศได้ จึงพยายามบอกว่า QEnough เสียทีเถอะ เพราะทำ�ไปก็ไม่ดขี นึ้ เศรษฐกิจสหรัฐฯฟืน้ ตัวน้อย มากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินจำ�นวนมหาศาลที่หว่านลงไป แต่ สร้างภาระหนี้ไม่รู้จบให้กับชาวอเมริกันทั้งหมด อีกทั้งภาระ ของรัฐในแง่การจ่ายสวัสดิการการว่างงานและคูปองอาหาร อัตราการว่างงานที่สูงและยาวนาน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มที่เพิ่งจบการศึกษา
ที นี้ เรามาย้ อ นดู ม าตรการผ่ อ นคลายทางการเงิ น หลั ง เกิดวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Subprime crisis) กันบ้าง • ก.ย. 50 เริม่ ลดดอกเบีย้ อ้างอิงเป็นครัง้ แรก จากระดับ 5.25% จนเหลือ 0-0.25% ในปัจจุบัน • มี.ค. 51 ซือ้ หนีเ้ สียจากธนาคาร Bear Stearns จำ�นวน 3 หมื่นล้านเหรียญ และเปิดช่องให้สถาบัน การเงินขอรับเงินกูฉ้ กุ เฉินเพือ่ เสริมสภาพคล่อง • ก.ย. 51 รมต.คลัง เฮนรี่ พอลสัน สั่งจ่ายเงิน 4 แสน ล้านเหรียญ เพือ่ อุม้ Fannie Mae และ Freddie Mac / จ่ายเงิน 8.5 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อเข้า ควบคุมกิจการของ AIG / จ่ายเงิน 2.5 หมื่น ล้านเหรียญ เพื่ออุ้มตลาดรถยนต์ในประเทศ 32
• ต.ค. 51 • พ.ย. 51 • ม.ค. 52 • ธ.ค. 51 • มี.ค. 52 • ส.ค. 53 • พ.ย. 53
เริ่มต้นซื้อสินทรัพย์จากสถาบันการเงินเพื่อ เสริมสภาพคล่องผ่าน Troubled Asset Relief Program (TARP) ภายใต้วงเงิน 7 แสนล้าน เหรียญ / เสนอเงินช่วยเหลือ 5.4 แสนล้าน เหรียญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับกองทุน ตลาดเงิน / ตั้งวงเงิน 2.8 แสนล้านเหรียญ เพื่อประกันหนี้ให้กับ Citigroup จ่าย 4 หมืน่ ล้านเหรียญ เพือ่ เสริมสภาพคล่อง ให้กับ AIG ปธน.บารัค โอบามา กระตุ้นเศรษฐกิจด้วย วงเงิน 7.87 แสนล้านเหรียญ / ตั้งวงเงิน 1.4 แสนล้านเหรียญ เพื่อประกันหนี้ให้กับ Bank of America QE1 วงเงิ น 6 แสนล้ า นเหรี ย ญ เน้นซื้อ พันธบัตร, ตราสารหนี้ และหนี้จำ�นอง จาก สถาบันการเงิน เพิ่มวงเงินให้กับ QE1 อีก 1.05 ล้านล้าน เหรียญ มาตรการเสริมวงเงิน 2-3 แสนล้านเหรียญ เพือ่ ซือ้ พันธบัตร, ตราสารหนี้ และหนีจ้ ำ�นอง จากสถาบันการเงิน QE2 วงเงิ น 6 แสนล้ า นเหรี ย ญ เพื่อ ซื้อ พันธบัตร จากสถาบันการเงิน
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
• ก.ย.54 • ก.ค. 55 • ก.ย. 55
สว๊ อ ปพั น ธบั ต รรั ฐ บาลเพื่ อ กดดอกเบี้ ย ใน ตลาดผ่าน Operation Twist วงเงิน 4 แสน ล้านเหรียญ ประกาศใช้ Operation Twist ครั้งที่ 2 วงเงิน 2.67 แสนล้านเหรียญ QE3 ไม่จำ�กัดวงเงิน โดยจะเข้าซือ้ ตราสารหนี้ ที่มีหนี้จำ�นองค้ำ�ประกัน(MBS) 4 หมื่นล้าน เหรียญ/เดือน
รวมกันแล้วก็ไม่ใช่นอ้ ย ๆ เพราะในงบดุลของ FED ปัจจุบนั สูงถึงราว 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ มากเป็นอันดับที่ 5 ของ โลก หากนับว่า FED คือประเทศหนึ่ง แต่จากบัญชีดังกล่าว ยังมี ส่วนที่ใช้ช่วยเหลือเศรษฐกิจ แต่อยู่นอกเหนือจากมาตรการ อย่างเป็นทางการทีก่ ล่าวมาข้างต้น และก็มบี างส่วนทีม่ กี ารดึงเงิน กลับคืนแล้ว เช่น การขายสินทรัพย์บางอย่างที่เคยรับซื้อไว้ ในช่วงวิกฤติซับไพรม์ ซึ่งได้กำ�ไรพอสมควร แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ สหรัฐฯสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ให้อยู่ในระดับที่ไม่มากนัก คือ ต่ำ�กว่า 2% แม้จะมีการใช้จ่ายเงิน จากภาครัฐออกมามากมาย โดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤติซับไพรม์ แล้วเงินหายไปไหน?
หนึง่ ภาพแทนคำ�ตอบ ตลอดทศวรรษทีผ่ า่ นมา เงินดอลลาร์ สหรัฐฯด้อยค่าลงเรื่อย ๆ ในขณะที่โลหะมีค่าทุกชนิดทะยานขึ้น อย่างต่อเนื่อง มีสะดุดบ้างในช่วงวิกฤติซับไพรม์ แต่เมื่อฝุ่น จางลง ผู้คนก็เห็นแล้วว่าเงินดอลลาร์ไม่ใช่ที่พึ่งสำ�หรับพวกเขา อีกต่อไป เงินส่วนที่ต้องการรักษามูลค่าจึงหลั่งไหลเข้าสู่โลหะ มี ค่ า ดั ง เดิ ม เสริ ม ด้ ว ยเงิ น ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น จากมาตรการผ่ อ นคลาย ทางการเงินดันราคาให้อยู่ในระดับสูง ในเมื่อ FED ยืนยันจะกดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงให้ต่ำ�ติดดิน ระดับน้อยกว่า 0.25% ต่อไปอีกหลายปี พร้อมทั้งอัดฉีดแบบ ไม่จำ�กัดและไม่กำ�หนดระยะเวลาสิ้นสุด ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ ยื น ยั น รั บ รองคงตำ�แหน่ ง ประธาน FED ให้ กั บ เบน เบอร์นันเก้ รวมทั้งมีแนวโน้มที่เขาจะรั้งตำ�แหน่งต่อไปอีก หลังหมดวาระในปีหน้า ดังนั้น หากจะมี QE4 อีก ก็คงเป็น แค่ภาคขยายสำ�หรับ QE3 ที่กลายเป็น QEternity ดังฉายา ที่ได้รับ แล้วคนธรรมดาอย่างเราควรทำ�อย่างไร? มีคำ�กล่าวในทุกยุคสมัยว่า ‘ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำ�รอยเดิม เสมอ’ เงินเฟ้อก็เช่นกัน ตราบใดทีส่ หรัฐฯยังคงยึดมัน่ ในการอัดฉีด เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พองขึ้น ภาวะเงินท่วมโลกจากการ หนีเงินเฟ้อก็จะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน มีทองไว้ อุ่นใจเสมอ
โดย กลุม่ บริษทั คลาสสิก โกลด์ www.classicgoldfutures.co.th โทร. 0-2618-0808
33
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Ausiris Futures : เรื่อง
ภาพรวมการลงทุนทองคำ� ไตรมาส 1 ปี 2556 ภาพของเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อราคาทองคำ�ในปี 2556 พอจะสรุปได้โดยแยกกลุ่มของประเทศดังต่อไปนี้ ใน ฝั่งของเอเชียจากภาพทางเศรษฐกิจและการเงินที่ย่ำ�แย่และ ทรุดตัวลงของญี่ปุ่น โดยได้สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ สำ�คัญของญี่ปุ่นโดยรวมที่ได้ประกาศในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่ง ผลต่อการคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงผ่อน คลายของเอเชีย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำ�มาซึ่งปริมาณเม็ดเงิน อัดฉีดเข้าสู่ระบบ ได้ส่งผลบวกต่อการคาดหวังราคาทองคำ� ได้อย่างดี ได้แก่ ตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรม การผลิต และไม่ รวมอุตสาหกรรมการผลิตที่ประกาศ -12% จาก -3 และ 4 จาก 8 ตามลำ�ดับ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ 39.4 จาก 39.7 ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตที่ -10.3 จาก 2.5 เป็นต้น โดยที่ ตั ว เลขเศรษฐกิ จ ที่ สำ � คั ญ ของญี่ ปุ่ น โดยรวม ได้ ส่ ง ผลต่ อ การคาดการณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงผ่อนคลาย มากขึน้ และน่าจะมีแนวโน้มเช่นนีต้ อ่ ไปในใตรมาส 1 ปี 2556 ด้ า นจี น ที่ เ ศรษฐกิ จ โดยรวมได้ เริ่ ม กลั บ มาดี ขึ้ น อี ก ครั้ ง โดยสังเกตจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำ�คัญ โดยรวมที่ได้ประกาศ ออกมาสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนมากขึ้น เช่น ตัวเลขดัชนี จากการจัดซื้อ ภาคการผลิตที่ 50.9 จาก 50.5 ยอดค้าปลีก 34
รายปีที่ 14.9% จาก 14.5% ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม รายปีที่ 10.1% จาก 9.6% ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต และบริโภค รายปีที่ -2.2% จาก -2.8% และ 2.0% จาก 1.7% ตามลำ�ดับ เป็นต้น นอกจากนี้ สำ�หรับปัจจัยทางการเมืองนั้น เราคาดถึง ผู้นำ�จีนยุคใหม่น่าจะส่งเสริม และสนับสนุนให้ภาพการเมือง ในจีนได้รับการยอมรับมากขึ้น น่าจะส่งผลบวกต่อค่าเงินหยวน และทองคำ� ในปี 2556 ในฝั่งของยุโรปโดยรวม มีแนวโน้มที่จะสร้างความกดดัน ต่อราคาทองคำ�อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเรื่องของแนวทางการ จัดการหนีส้ นิ ภาคยุโรปในระดับมหภาค จากภาพของการประชุม Eurogroup หรือ Ecofin ที่ผ่านมาในรอบปี 2555 โดยรวม ได้สะท้อนภาพของการพยายามหาทางออกทีด่ ที สี่ ดุ ซึง่ ได้ปรากฏ ออกมาในแผนงานในการช่วยเหลือกรีซ สเปน และอีกหลาย ประเทศที่ดูเหมือนจะค่อยๆ ปรากฏ ความเปราะบางออกมา ประกอบกับแรงกดดันจากการต่อต้านนโยบายการเงินแบบรัดกุม ของประเทศ กลุ่มยูโร ได้สร้างความผันผวนเชิงลบต่อบรรยากาศ การลงทุนโดยรวม และราคาทองคำ�ในที่สุด ตัวเลขเศรษฐกิจสำ�คัญของกลุ่มยุโรปที่ได้เป็นปัจจัยลบ ต่อราคาทองคำ�ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ ตัวเลขดัชนีผู้ค้าส่งใน เยอรมันรายเดือนที่ประกาศ -0.7% จาก -0.6% ตัวเลขดัชนี
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
ชี้นำ�รายเดือนในอังกฤษ ที่ประกาศ -0.4 % จาก 0.1% ตัวเลข ดุลงบประมาณภาครัฐในฝรั่งเศสที่ประกาศ -9.46 หมื่นล้าน จาก -8.5 พันล้าน ตัวเลขการผลิตรายเดือนในอังกฤษที่ประกาศ -1.3% จาก 0% ได้แก่ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตในสวิตฯ รายเดือน ทีป่ ระกาศ -0.3% จาก 0.1% ตัวเลขดุลการค้าในอังกฤษทีป่ ระกาศ -9.5 พันล้านจาก -8.4 พันล้าน เป็นต้น โดยรวมแล้ว มองว่า ปัญหาหนี้สาธารณะสถานการณ์การเมืองในกลุ่มยุโรปโดยรวม ยังคงมีอยู่ และดูเหมือนจะค่อยๆ คลายปัญหาออกมาจนถึง ปลายปี 2555 และปี 2556 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างความกดดัน ต่อค่าเงินยูโร และราคาทองคำ�ได้ เข้ามาดูมหาอำ�นาจอย่างสหรัฐกันบ้าง จากการทีค่ ณ ุ Obama ชนะการเลื อ กตั้ ง เป็ น สมั ย ที่ 2 ในการเลื อ กตั้ ง ผู้ นำ�สหรั ฐ ฯ ที่ผ่านมา ได้ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหลายๆ โครงการ และ มาตรการที่ดำ�เนินการอยู่ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ก็น่าจะเป็นรูปธรรม มากยิ่งขึ้น และที่สำ�คัญ ได้แก่ มีความเป็นไปได้สูงมากสำ�หรับ การดำ�รงตำ�แหน่งต่อเนือ่ งของประธานธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี จากรายงานของ FOMC และผลการประชุมนโยบาย การเงินของธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ ล่าสุดที่ตรึงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับต่ำ�สุด อย่างต่อเนื่องนั่นคือ ไม่เกิน 0.25% และได้สร้าง ความคาดหวังในมาตรการทีจ่ ะเกิดขึน้ เพือ่ กระตุน้ เศรษฐกิจโดย การเข้าซื้อพันธบัตรในวงเงินถึง 45,000 ล้านเหรียญต่อเดือน จนกว่าระดับของอัตราการว่างงานนอกภาคการเกษตร จะลดลง เหลือที่ระดับไม่เกินร้อยละ 6.5 และอัตราเงินเฟ้อไม่เกินร้อยละ
2.5 ได้สร้างความผันผวนเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุน ในช่วงที่ผ่านมา ภาพของตลาดแรงงานที่การเติบโตยังต่ำ� และอัตราการว่างงานยังอยูใ่ นระดับสูง ได้นำ�มาซึง่ ความกังวลใน สภาวะเงินฝืดในอนาคตอันใกล้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นภารกิจ ที่ท้าทายสำ�หรับคุณ Obama ในสมัยที่ 2 นี้ จนมีการเชื่อมโยง ไปยัง Fiscal Cliff ที่มีมาตรการในการตัดงบประมาณ เพิ่มภาษี เป็นเม็ดเงินถึงกว่า 6 แสนล้านเหรียญ ล้วนเป็นการสะท้อนให้ เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจทีถ่ กู ฉุดให้ลดต่ำ�ลงหรืออาจรุนแรง ถึงขั้นเศรษฐกิจถดถอยก็เป็นได้ อย่างไรก็ดี ต้องจับตาดูถงึ ความอ่อนแอของตัวเลขเศรษฐกิจ ที่สำ�คัญหลายตัว อาทิ ตัวเลขดัชนี ราคาผู้ผลิตรายเดือนที่ ประกาศ -0.8% จาก -0.2% ตัวเลขดุลการค้า ที่ -42.2 จาก -40.3 พั น ล้ า น ว่ า จากนี้ ไ ปจะมี ทิ ศ ทางที่ ชั ด เจน และมี เ สถี ย รภาพ มากน้อยเพียงใด โดยเรามองว่าตัวเลขเศรษฐกิจสำ�คัญทีก่ ล่าวมา ข้างต้นโดยรวมยังน่าเป็นห่วง และยังน่าจะส่งผลบวกต่อราคา ทองคำ�ในปี 2556 จากกลไกการคาน กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่านั่นเอง จากภาพปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวข้างต้นที่ได้เกิดขึ้นถึงปลาย ปี 2555 เรานำ�มาคาดการณ์ถึงภาพต่อเนื่องที่น่าจะเกิดขึ้นใน ไตรมาส 1 ปี 2556 ซึ่งความผันผวนมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น โดยเรา มองว่าปัจจัยทางเอเชียและสหรัฐฯ น่าจะส่งผลบวกโดยรวม ต่อราคาทองคำ� ตรงข้ามกับยุโรป แต่ที่แน่นอนที่เราต้องยอมรับ นั่นก็คือ สภาพของข้าวยาก หมากแพงเช่นทุกวันนี้ เงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ทั้งนี้ จาก ข้อมูลของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) มิใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่เริ่มเผชิญกับ ภาวะเงิ น เฟ้ อ ทั่ ว โลกกำ�ลั ง เผชิ ญ กั บ ภาวะเงิ น เฟ้ อ (Global Inflation) เช่นกัน โดยเฉพาะกลุม่ ประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยทองคำ�ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำ�คัญในการคานกับ สภาวะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี นั่นคือ หนึ่งในปัจจัยบวกต่อราคา ทองคำ�อย่างมีนัยสำ�คัญ
โดย บริษทั ออสสิรสิ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.ausirisfutures.com โทร. 0-2633-5299
35
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Hua Seng Heng Gold Futures : เรื่อง
Gen X, Gen Y เตรียมพร้อมก่อนเกษียณ ทองคำ�ทางเลือกของการลงทุน ในช่วงวันหยุดปลายปีเป็นช่วงที่ผู้เขียนพยายามหาข้อมูลต่างๆ ทั้งเกิดขึ้นในปีก่อน เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงใน การทำ�งานในปีถดั ไป และด้วยประเด็นต่างๆ เพียงปีเดียวคงไม่เพียงพอทีจ่ ะอ้างอิง และเป็นข้อมูลในการคาดการณ์เหตุการณ์ ในอนาคต บางครัง้ บางข้อมูลจึงต้องใช้การถอยหลังย้อนเวลา กลับไปมากกว่า 10 ปี จนบางครัง้ ทำ�ให้ได้คดิ ถึงเรือ่ งราวต่างๆ ในอดีต และอาจจะส่งผลต่ออนาคตทีก่ �ำ ลังจะเกิดขึน้ ในอีกไม่ชา้ ประเด็นหนึง่ ทีเ่ ริม่ มีการพูดถึงคือเรือ่ งของโครงสร้างประชากร ซึ่งในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงมากพอสมควร และประเด็นนี้เองที่กำ �ลังจะส่งผลต่อการดำ�เนินนโยบาย ทางเศรษฐกิจ ซึง่ ท้ายทีส่ ดุ ก็จะกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ทางการเงิน และมีผลต่อความมัง่ คัง่ ของผูล้ งทุน โดยไม่สามารถ หลีกเลี่ยงไปได้ ในญีป่ นุ่ และสหรัฐเริม่ มีกระแสความกังวลเกีย่ วกับโครงสร้าง ประชากร ที่กำ�ลังจะก้าวเข้าสู่สังคมแห่งวัยชรา ซึ่งเรื่องการดูแล สวัสดิการต่างๆ ให้กับประชาชนกลุ่มนี้จะเป็นประเด็นหลัก และ อาจเป็นปัญหาต่อการบริหารประเทศ และด้วยประชากรกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มประชากรจำ�นวนมากที่เคยเป็นกำ�ลังสำ�คัญ ในการ พัฒนาประเทศในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เมื่อประชากรกลุ่มนี้ ก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ แน่นอนว่าจะกระทบต่อกำ�ลังแรงงานของ ประเทศโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คำ�ถามที่ตามมาหลังจาก ประชากรกลุม่ นี้ ผ่านเข้าสูว่ ยั เกษียณแล้ว คือ กลุม่ แรงงานรุน่ หลัง จะสามารถทดแทนแรงได้มากน้อยเพียงใด ในส่วนนี้ขออนุญาตทำ�ความเข้าใจกับท่านนักลงทุนด้วย ภาษาของนั ก สั ง คมวิ ท ยาก่ อ น เพื่ อ จำ�กั ด ความสำ�หรั บ กลุ่ ม ประชากรในแต่ละช่วงอายุเพื่อให้ง่ายต่อการทำ�ความเข้าใจ ใน ช่วงปี 1946 สหรัฐฯสูญเสียประชากรจำ�นวนมาก เนื่องจากเกิด สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงรณรงค์ให้ชาวอเมริกันมีลูกมากขึ้น และ มีการให้คำ�จำ�กัดความสำ�หรับคนที่เกิดในช่วงปีดังกล่าวว่าเป็น กลุ่ม Baby Boom Generation และประชากรกลุ่มดังกล่าว ก็เป็น กำ�ลังสำ�คัญในการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้มกี ารพัฒนา ขึ้นเป็นลำ�ดับ ซึ่งคนในยุค Baby Boom ในขณะนี้มีอายุราว 65 ปีจัดเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ
อัตราการเกิดของประชากรในสหรัฐ
38
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มประชากรยุค Baby Boom เป็นกลุ่มแรงงานที่มีส่วนสำ�คัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ สหรัฐ และต้องแบกรับภาระประชากรกลุ่มอื่นที่จัดเป็นวัยพึ่งพิง แต่เมื่อประชากรยุค Baby Boom เข้าสู่วัยชราและต้องมาเป็น กลุ่มที่ต้องพึ่งพิงประชากรวัยแรงงาน ย่อมเป็นปัญหาที่ภาครัฐ ไม่ ส ามารถมองข้ า มไปได้ โดยประชากรกลุ่ ม ถั ด มาจากกลุ่ ม Baby Boom คือกลุ่มที่เกิดระหว่างปี 1965-1976 หรือกลุ่ม ที่เรียกว่า Generation X กำ�ลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำ�คัญใน การพัฒนาประเทศ จากสถิติพบว่า มีจำ�นวนราว 45 ล้านคน ถ้าพิจารณาเพียงข้อมูลในส่วนนี้ ก็จะเริ่มเห็นปัญหาของ สหรัฐที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของอัตราส่วนระหว่างกำ�ลัง แรงงานทีม่ เี พียง 45 ล้านคน และต้องแบกรับภาระของประชากร ที่ก้าวเข้าสู่วัยเกษียณที่จะมีจำ�นวนมากถึง 78 ล้านคน ยังไม่รวม ประชากรที่เกิดหลังกลุ่ม Gen X หรืออาจเรียกว่ากลุ่ม Gen Y อีกราว 72 ล้านคน เท่ากับว่าแรงงานกลุ่ม Gen X ต้องแบกรับ คนมหาศาล รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศคงต้องลำ�บากใจ กั บ เรื่ อ งการบริ ห ารเงิ น ภาษี เ พื่ อ ให้ เ พี ย งพอต่ อ ประชากรทั้ ง ประเทศ กรณีดงั กล่าว ไม่ใช่เกิดเฉพาะในสหรัฐเท่านัน้ กรณีของ ญี่ ปุ่ น ก็ ไ ม่ ต่ า งกั น หนำ�ซ้ำ� ปั ญ หาอาจจะรุ น แรงกว่ า หากจะ พิ จ ารณาในเรื่ อ งของอายุ เ ฉลี่ ย ของคนญี่ ปุ่ น ที่ มี อ ายุ ยื น กว่ า ชาติอนื่ ๆ แต่เมือ่ พิจารณาจากลักษณะนิสยั ของชาวญีป่ นุ่ ทีม่ กี าร ออมจากรายได้ที่ได้รับในช่วงวัยทำ�งาน ก็อาจทำ�ให้รัฐบาลญี่ปุ่น สบายใจไปได้บ้าง แต่คงไม่สามารถมองข้ามปัญหาเหล่านี้ได้ จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลของทัง้ สองประเทศ ต้องจัดสรร เงินงบประมาณจำ�นวนมหาศาล เพือ่ ดูแลประชาชนกลุม่ นี้ ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐซึ่งขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ก็ยังไม่ได้ ข้ อสรุ ป ไม่ ว่ า จะแก้ ไขปั ญ หาได้ หรื อไม่ ก็ คงไม่ ใช่ สาระสำ�คัญ เพราะในกรณีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ มีการเพิ่มเพดานการ ก่อหนี้และต่ออายุมาตรการลดภาษี ย่อมมีผลให้หนี้สาธารณะ ต่ อจี ดี พี ข องสหรั ฐ ฯ เพิ่ ม ขึ้ น จากระดั บปั จ จุ บัน อี ก พอสมควร ปั จ จุ บั น หนี้ ส าธารณะต่ อ จี ดี พี ข องสหรั ฐ อยู่ ที่ ร าว 100% มี
OCTOBER - DECEMBER 2012
แนวโน้มที่จะปรับขึ้น การประเมินความน่าเชื่อถือของสหรัฐคง ต้องทบทวนใหม่ และแม้ในกรณีที่ไม่มีการต่ออายุ มาตรการลด ภาษีและไม่มกี ารเพิม่ เพดานการก่อหนีส้ าธารณะ ก็มกี ารประเมิน ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจหดตัวลง 4% ในรูป Nominal Term และแน่นอนว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง ก็จะนำ�มาสู่การ ปรับลด ความน่าเชื่อถือเช่นกัน ดังนั้น การแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff จึงดูเหมือนจะเป็น การเริ่มต้นของปัญหาใหม่ที่กำ�ลังจะก้าวเข้ามา เพราะการที่ ประชากรของสหรัฐกำ�ลังจะก้าวเข้าสูว่ ยั ชรา รัฐบาลคงไม่สามารถ ทอดทิ้งประชากรกลุ่มนี้ ซึ่งเคยมีบทบาทสำ�คัญในการพัฒนา ประเทศ การใช้เงินงบประมาณในการพัฒนาประเทศที่เป็น รายจ่ า ยปกติ ก็ ยั ง ต้ อ งดำ�เนิ น ต่ อ ไป และต้ อ งมี ก ารเพิ่ ม เงิ น งบประมาณในการดูแลสวัสดิการให้กับชาวอเมริกันที่ก้าวเข้า สู่วัยเกษียณ มีการประเมินว่าหากรัฐบาลสหรัฐต้องการดูแล ประชากรทั้ ง หมดด้ ว ยระดั บ สวั ส ดิ ก ารที่ เ ท่ า เดิ ม ต้ อ งใช้ เ งิ น งบประมาณอีกมหาศาล จนอาจส่งผลให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพี ของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ 200% ดังนั้น การแก้ปัญหานี้คงไม่สามารถ แก้ไขได้ง่ายนัก จากปัญหาทีเ่ รียนในข้างต้นหากจะนำ�มาวิเคราะห์แนวโน้ม ของราคาทองคงยังมองในทิศทางที่สดใส เพราะทั้งการแก้ไข ปัญหา Fiscal Cliff ที่อาจนำ�มาสู่การลดอันดับความน่าเชื่อถือ ของสหรัฐฯและแนวโน้มการใช้เงินงบประมาณที่อาจกระทบต่อ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีของสหรัฐฯ ทำ�ให้ทองคำ� ยังเป็นตราสารที่ น่าลงทุนในระยะยาว ในส่วนนี้คงต้องย้อนกลับมาพิจารณาสำ�หรับนักลงทุนใน บ้านเรา เพราะประเทศไทยก็มีประชากร ที่เกิดในช่วง Baby Boom จำ�นวนมาก แม้จะไม่เท่ากับสหรัฐและญีป่ นุ่ และประชากร วัยแรงงาน หรือประชากรยุค Gen X ของไทยก็มจี ำ�นวนเพิม่ มาก ขึ้นทดแทน แต่ด้วยรัฐบาลมีงบประมาณรายรับที่จำ�กัด และมี รายจ่ า ยในด้ า นอื่ น ๆค่ อ นข้ า งมาก ขณะที่ ด้ า นคุ ณ ภาพของ ประชากรก็ ยั ง เป็ น อี ก หนึ่ ง ปั ญ หา ที่ อ าจทำ�ให้ กำ�ลั ง แรงงาน ส่วนใหญ่ของประเทศอาจไม่สามารถทดแทนแรงงานที่กำ�ลัง ก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมด้วยตนเองจึง เป็นสิ่งสำ�คัญ หลายท่านอาจมองว่าการทำ�งานในภาครัฐเมือ่ เกษียณแล้ว จะมีบำ�เหน็จหรือบำ�นาญรองรับแต่ต้องไม่ลืมว่าเงินที่ได้ก็ลดลง มาก และอาจไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในชีวิตประจำ�วัน หรือใน กรณีที่มีเรื่องฉุกเฉิน และด้วยในปัจจุบันข้าราชการที่เข้าบรรจุ ในปีหลังๆ ก็ไม่มรี ะบบบำ�นาญให้เหมือนในอดีต โดยมีทางเลือก ในการลงทุนผ่านกองทุนทีม่ ผี เู้ ชีย่ วชาญคอยดูแล แต่กต็ อ้ งยอมรับ ความเสีย่ งทีม่ เี พิม่ ขึน้ และต้องมีการศึกษา ทางเลือกในการลงทุน ต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะเลือกลงทุน งานวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์จากหลายแห่งที่ทำ�วิจัยเกี่ยว กับลักษณะนิสัยของประชากรในกลุ่มที่ Gen X พบว่าเป็นกลุ่มที่
วารสารทองค�ำ
มีรายจ่ายในด้านต่าง ๆ มากขึ้น โดยมีลักษณะการใช้ชีวิตที่ แตกต่างไปจากกลุ่ม Baby Boom ส่วนประชากรในกลุ่ม Gen Y และหลังจากนั้นก็มีรายจ่ายที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น รายจ่าย เกี่ยวกับสินค้าไอทีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในงานวิจัยหลายชิ้นยังระบุว่ากลุ่มประชากรยุค Gen X และ บางส่วนของ Gen Y ที่ก้าวเข้าสู่วัยทำ�งานแล้ว ในกลุ่มที่มีรายได้ ไม่สูงมากมีสัดส่วนการออมค่อนข้างต่ำ� และยังเป็นการออมเงิน ผ่านการฝากเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ ส่วนกลุ่มที่มีรายได้ ค่อนข้างมาก จะกระจายการลงทุนไปยังตราสารอื่นๆ ทั้งหุ้น ทองคำ� และกองทุนต่างๆ ปัญหาด้านการออมเงินจึงดูจะเป็น ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต ภาครัฐเองก็มีความพยายามที่จะ ช่ ว ยเหลื อ ด้ ว ยการออกกฎหมายเกี่ ย วกั บ การออมเงิ น ด้ ว ย การตราพระราชบัญญัติการออมแห่งชาติขึ้น แต่ก็ดูจะยังไม่มี การต่อยอดพัฒนาขึ้นเท่าที่ควร ดังนั้น การเตรียมความพร้อมด้วยตัวเองจึงเป็นสิ่งสำ�คัญ และแน่ น อนว่ า ทางเลื อ กในการลงทุ น ในปั จ จุ บั น มี ค่ อ นข้ า ง หลากหลาย และหนึ่งในทางเลือกเหล่านั้น ดูเหมือนจะมีทองคำ� ทีย่ งั มีมนต์เสน่ห์ อยูเ่ สมอสำ�หรับคนไทย แต่หากว่าเป็นการลงทุน ในระยะสัน้ คงต้องยอมรับความเสีย่ งจากความผันผวน ทีเ่ กิดขึน้ จนทำ�ให้ มี ผ ลกำ�ไรหรื อ ขาดทุ น ตามการเคลื่ อ นไหวของราคา ทองในตลาดโลก แต่ ห ากเป็ น การลงทุ น ในระยะยาวซึ่ ง เป็ น การเตรียมความพร้อมสำ�หรับการก้าวเข้าสู่วัยเกษียณยังเป็น อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
โดย บริษทั ฮัว่ เซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จ�ำกัด www.hshfutures.com โทร. 0-2223-2288
39
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
GT Wealth Management : เรื่อง
ลงทุนทองปีงู รอบรู้ รวดเร็ว และเริ่มเปลี่ยนมุมมอง สวัสดีท่านสมาชิกวารสารทองคำ�ทุกท่าน และขอสวัสดีปีใหม่ไปพร้อม ๆ กันนะครับ เริ่มเข้าสู่ปี 2556 เริ่มมีกระแส ในเรื่องของทิศทางการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนทองคำ�ออกมาให้เห็น สิ่งหนึ่งที่เริ่มให้สัญญาณมาตั้งแต่ช่วงปลายปี คือมุมมองของนักลงทุนทีม่ ตี อ่ ทองคำ�เริม่ ทีจ่ ะเปลีย่ นไป จากเดิมเคยมีทศั นคติตอ่ ทองคำ�ในเชิงบวกมาก ๆ บางช่วงบางเวลา มองกันถึง 30,000 บาทต่อทองคำ�หนึ่งบาท ก็เริ่มมีการขยับปรับเป้าลงมาให้เห็น ซึ่งในประเด็นนี้ต้องเรียนว่าเหมือนกัน ทัง้ ในและต่างประเทศ นักลงทุนทีต่ ดิ ตามข่าวสารก็นา่ จะพอให้สงิ่ เดียวกับทีผ่ มสังเกตเห็น อย่างไรก็ดใี นด้านของปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดการลงทุนก็ต้องเรียนว่ายังมีปัจจัยหนุนราคาทองคำ�อยู่บ้างในหลาย ๆ ประเด็น แต่ เ รื่ อ งราวทางเศรษฐกิ จ ในยุ ค สมั ย นี้ ก็ เ รี ย กได้ ว่ า เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คำ�พูดไม่กี่คำ�อาจจะทำ�ให้มุมมองทองคำ� เปลี่ ย นแปลงไปในชั่ ว ข้ า มคื น ก็ เ ห็ น กั น มาบ่ อ ยๆ ดั ง นั้ น วั น นี้ ผมขออนุญาตใช้พื้นที่ในการวาดภาพการลงทุนทองคำ�ตลอดปี ถือว่าเป็นการแชร์มมุ มองเพือ่ ใช้ประกอบการพิจารณาลงทุนครับ ซึ่งผมขอนำ�เสนอ 3 สิ่งที่นักลงทุนรวมถึงผู้ค้าทองคำ�จำ�เป็นต้อง มีมากขึ้นในปีนี้ เรื่องแรกคือความรอบรู้ รอบรู้ในที่นี้หมายถึงการติดตาม การเคลื่ อ นไหวราคาอย่ า งใกล้ ชิ ด เพราะในปี นี้ มี ป ระเด็ น ที่ เกี่ยวข้องกับการลงทุนทองคำ�อยู่หลายประเด็นซึ่งพร้อมที่จะ เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ซึ่งหมายรวมถึงปัจจัยเก่าๆ ที่เราตามติด กันมารวมถึงปัจจัยใหม่ๆ ทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ได้ตลอดเวลา ตัวอย่าง เช่นปัญหาหนี้ยุโรป เศรษฐกิจสหรัฐฯ นโยบายสภาพคล่อง ความผั น ผวนของระบบสกุ ล เงิ น การแข็ ง ค่ า ของค่ า เงิ น บาท การเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจรวมถึงนโยบายการเงินของ ประเทศกำ�ลังพัฒนา การเข้าซือ้ ขายเก็งกำ�ไรในทองคำ� ความเสีย่ ง เรื่องเงินเฟ้อ และการแทรกแซงค่าเงินด้วยมาตรการสภาพคล่อง หรือดอกเบีย้ ต่างๆ เหล่านีล้ ว้ นแต่กระทบต่อทิศทางราคาทองคำ� รวมไปถึงการที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นและไม่สามารถผ่านจุดสูงสุด เดิมบริเวณ US$1,920 ได้ตลอดปี 2555 ยิ่งเป็นการตอกย้ำ� ในทางจิ ต วิ ท ยาว่ า ขาขึ้ น ของทองคำ�อาจจะจบแล้ ว หรื อ ไม่ นั่นหมายความว่ามีคนที่พร้อมขายอยู่เสมอ ดังนั้นถ้าปัจจัยที่ สนับสนุนราคาทองคำ�อยู่ในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง มีนัยสำ�คัญอาจจะทำ�ให้ราคาทองคำ�อ่อนตัวลงแรงๆ ก็เป็นได้ เรื่องที่สองคือความรวดเร็ว ความเร็วในทีนี้หมายถึงเรื่อง ของการซื้อขายครับ เนื่องจากเชื่อว่าราคาทองคำ�ในปี 56 นี้ จะไม่ได้มีทิศทางที่ชัดเจนเหมือนกับช่วงปี 52-54 และบางช่วง บางจังหวะอาจจะมีการปรับตัวผันผวนในกรอบกว้าง ๆ ดังนั้น 40
จังหวะในเรื่องของการซื้อขายจึงเป็นเรื่องสำ�คัญที่มีผลต่อผล ตอบแทนจากการลงทุน สำ�หรับผูค้ า้ ในเรือ่ งของการบริหารสต๊อก ทีผ่ า่ นมาก็คงเป็นทีท่ ราบกันดีอยูแ่ ล้วว่าบางวันอาจจะต้องนัง่ เฝ้า ราคาโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ราคามีความผันผวนมากตาม ตลาดใหญ่ อ ย่ า งสหรั ฐ ฯ ซึ่ ง ในด้ า นของจั ง หวะการซื้ อ ขาย นักลงทุนรวมถึงผู้ค้าอาจจะต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคเข้ามา ช่วยในการตัดสินใจ เพราะเครื่องมือทางเทคนิคสามารถบอก จังหวะการซื้อขายได้ต่างจากปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ความ
OCTOBER - DECEMBER 2012
ผันผวนของราคายังเกิดจากอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ในตลาด ที่มีต่อข่าวสารที่เกิดขึ้น เครื่องมือทางเทคนิคก็เป็นเครื่องมือ ที่สามารถบอกอารมณ์ตลาดได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องสุดท้ายที่อาจจะขัดต่อความรู้สึกของท่านผู้อ่าน หลายท่านอยู่พอสมควรคือเรื่องของมุมมองครับ เป็นที่ทราบกัน ดีว่าราคาทองคำ�ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมากหลายปี และถ้าย้อนดู อดีตกว่า 50 ปีทผี่ า่ นมาแม้จะมีบางช่วงบางจังหวะทีร่ าคาทองคำ� ตกต่ำ�ลงบ้างแต่ท้ายสุดก็สามารถกลับขึ้นมาสร้างผลกำ�ไรให้ได้ เสมอ จึงทำ�ให้นกั ลงทุนหลายท่านเริม่ รูส้ กึ ว่าทองคำ�เป็นสินทรัพย์ ที่มีความปลอดภัยสูง และเหมาะแก่การถือระยะยาว ๆ จึงได้ยิน คำ�ว่า “ทองคำ�ถือไว้ยังไงก็ได้กำ�ไร” ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเช่นนั้นจริง ครับ แต่ในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำ�มีการปรับตัวขึ้น อย่างมากโดยเฉพาะในช่วงหลังวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จึงเป็น ทีน่ า่ สังเกตว่าการปรับตัวขึน้ ของราคาทองคำ�ในช่วงเวลาดังกล่าว มาจากปัจจัยที่เกิดขึ้นเป็นปกติหรือไม่ ถ้าคำ�ตอบคือไม่แล้วถ้า ปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ�ที่มีอยู่ในปัจจุบันหมดไปราคาทองคำ� จะปรับตัวลงหรือไม่ ผมคิดว่าท่านทีต่ ดิ ตามราคาทองคำ�มาอย่าง ใกล้ชิดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาคงพอจะทราบกันดี เพียงแต่ “เวลา” เท่านัน้ ทีเ่ ป็นสิง่ ทีเ่ ราๆ ท่านๆ ไม่ทราบว่าการจบรอบการ ขึน้ ครัง้ นีห้ รือนัยหนึง่ คือปัจจัยทีผ่ ลักดันราคาทองคำ�อยูน่ นั้ จะจบ ลงเมื่อใด ปี 2556 นี้ปัจจัยต่าง ๆ ที่เคยหนุนให้ราคาปรับตัวเพิ่ม ขึ้ น ทั้ ง มาตรการทางการเงิ น วิ ก ฤติ เ ศรษฐกิ จ สภาพคล่ อ งที่ ล้นตลาดอาจจะยังไม่หมดลงไปทันทีครับแต่ผมเชือ่ ว่าด้วยจังหวะ เวลาแล้วปีนี้ความร้อนแรงของปัจจัยดังกล่าวอาจจะไม่ได้รุนแรง เหมือนหลายปีก่อนหน้า หลายปัญหาจะเริ่มให้ทางออกชัดเจน ขึ้นนั้นหมายความว่าความไม่รู้ หรือความกลัวที่เกิดขึ้นในตลาด
วารสารทองค�ำ
จะลดลง เงินทีไ่ หลเข้าเก็งกำ�ไรหรือหาทีพ่ กั เพือ่ ป้องกันความเสีย่ ง อย่างที่เกิดขึ้นจะน้อยลงไป ซึ่งจะทำ�ให้การเคลื่อนไหวของราคา ทองคำ�คงไม่ได้ปรับตัวขึน้ สูงลิว่ เหมือนเมือ่ ก่อนเช่นกัน ดังนัน้ ผม จึงประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ในกรอบปีนี้เราอาจจะเริ่มให้ ทองคำ�เข้าสู่ช่วงของขาลงในช่วงครึ่งหลังของปี และการลงทุน ยาว ๆ ในช่วงการปรับตัวลงรอบนีอ้ าจจะไม่ได้สร้างผลกำ�ไรอย่าง ที่นักลงทุนในทองคำ�เคยประสบ การจะกลับขึ้นมาในกรอบสูง อย่างนี้อีกครั้งอาจจะใช้เวลายาวนาน ในมุมนี้ท่านนักลงทุนอาจ จะต้องระมัดระวังและถ้าเห็นว่าทองคำ�เข้าสู่ช่วงของขาลงแล้วก็ คงต้องเปลีย่ นมุมมองตามตลาด อย่างไรก็ดี ในการลงทุนทองคำ� สำ�หรั บ ท่ า นที่ คุ้ น เคยกั บ การลงทุ น ในอนุ พั น ธ์ หรื อ ที่ รู้ จั ก กั น ในนาม Gold Futures อาจจะเป็นจังหวะโอกาสในการสร้าง ผลตอบแทนที่ดีในช่วงของขาลง เพราะจะเห็นว่าในช่วงที่ราคา ทองคำ�ปรับฐาน หรืออ่อนตัวลงจะใช้ระยะเวลาสั้นกว่าช่วงที่ ปรับตัวขึ้น ประกอบกับการลงทุนใน Gold Futures สามารถทำ� สถานะ “Short position” หรือขายล่วงหน้าซึ่งจะสร้างผลกำ�ไร ในช่วงทีร่ าคาอ่อนตัวลง ดังนัน้ ในช่วงทีเ่ ห็นจังหวะของการเปลีย่ น แนวโน้มการเริ่มเข้าเก็งกำ�ไรในตลาดอนุพันธ์ก็ถือเป็นโอกาส ที่ดีไม่น้อย ท้ายสุดนี้ขอให้ทุกท่านประสบความสำ�เร็จในการลงทุน ตลอดปี 2556 นีค้ รับ วันนีล้ ากันไปก่อน พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ
โดย บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จ�ำกัด www.gtwm.co.th โทร. 0-2673-9911 ต่อ 250
41
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) : เรื่อง
เจาะตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ UAE ตอนที่ 1
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates: UAE) จัดเป็นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่มีศักยภาพสูงที่สุด แห่งหนึง่ ของโลก ด้วยมูลค่าการค้าทีส่ งู ถึงปีละหลายหมืน่ ล้าน เหรียญสหรัฐ ซึ่งกลไกของตลาดไม่เพียงถูกขับเคลื่อนจาก ผูบ้ ริโภคภายในประเทศและนักท่องเทีย่ วชาวต่างชาติเท่านัน้ แต่จากการที่ UAE เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอาหรับที่เป็น ทั้งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในภูมิภาค กอปรกับการเป็นเมืองท่าปลอดภาษี และมีแหล่งขนส่งสินค้า ทางอากาศที่สำ�คัญผ่านท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (Dubai International Airport)1 ทำ�ให้ UAE กลายเป็นจุดพักสินค้า เพื่อรอการส่งออกต่อ (Re-Export) ไปยังประเทศต่างๆ เช่น รัสเซีย อินเดีย รวมถึงชาติตะวันออกกลางอื่นๆ ด้วย แม้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัญหาฟองสบู่ดูไบ จะ ทำ�ให้ UAE เข้าสู่ภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2552 และส่งผลกระทบต่อภาพรวมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ของประเทศ แต่ก็เป็นระยะเวลาเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะ หลังจากได้รบั ความช่วยเหลือจากรัฐบาลอาบูดาบี ส่งผลให้ระบบ เศรษฐกิ จ ของประเทศกลั บ เข้ า สู่ ส ภาวะปกติ การค้ า อั ญ มณี และเครื่องประดับในตลาดนี้จึงกลับมาขยายตัวได้ในปี 25532554 นับเป็นตลาดทางเลือกใหม่ที่มีศักยภาพ อีกทั้งเป็นโอกาส ให้ผปู้ ระกอบการไทยขยายการส่งออกอัญมณีและเครือ่ งประดับ เข้าสู่ตลาดนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากการส่งออกไปยังตลาดเดิมที่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจ • ศักยภาพตลาดการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จากข้อมูลของ Dubai Statistics Center ระบุว่า ภาพรวม การค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตลาด UAE ระหว่างปี 25502554 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ยกเว้นปี 2552 ที่ทั่วโลก ต่างได้รบั ผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ผนวก กับวิกฤติเศรษฐกิจในดูไบทำ�ให้มลู ค่าการค้าปรับลดลงจากปีกอ่ น หน้าร้อยละ 13.39 ซึ่งยังต่ำ�กว่ามูลค่าการค้าอัญมณีและเครื่อง ประดับในตลาดโลกที่ปรับลดลงราวร้อยละ 17) การค้าอัญมณี และเครื่ อ งประดั บ ในช่ ว งเวลาดั ง กล่ า วแต่ ล ะปี มี มู ล ค่ า อยู่ ที่ 32,117.85, 51,915.06, 44,963.07, 63,563.67 และ 83,612.79 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำ�ดับ โดยในปี 2554 เป็นรองแค่อินเดีย สหรัฐฯ ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร ทีต่ า่ งมีมลู ค่าการค้าสูงเกิน กว่าหนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐ
การค้าอัญมณีและเครื่องประดับในตลาด UAE ระหว่างปี 2550-2554
ที่มา: Dubai Statistics Center, Government of Dubai
เมื่อพิจารณาถึงโครงสร้างตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ ของ UAE ตามข้อมูลจาก Global Trade Atlas พบว่า กว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าการค้าถูกขับเคลื่อนด้วยสินค้าที่สำ�คัญ 3 ประเภท ได้ แ ก่ เพชร เครื่ อ งประดั บ แท้ และทองคำ�ที่ ยั ง ไม่ ขึ้ น รู ป รายละเอียดดังแสดงในตารางที่ 2 มูลค่าการนำ�เข้าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในตลาด UAE ระหว่างปี 2550-2554 (รายผลิตภัณฑ์)
ที่มา : Global Trade Atlas หมายเหตุ : มูลค่าการนำ�เข้าและส่งออกในตารางนี้ยังไม่รวมมูลค่าการค้า ระหว่าง UAE กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งไม่มีปรากฏในฐานข้อมูลของ Global Trade Atlas
• ฐานข้อมูลของ Global Trade Atlas เพชรเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการค้าสูงที่สุดด้วยมูลค่าเฉลี่ย ระหว่างปี 2550-2554 อยูท่ รี่ าวปีละ 19,249.63 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่ ง เป็ น การนำ�เข้ า และส่ ง ออกในอั ต ราร้ อ ยละ 46.51 และ 53.49 ตามลำ�ดับ ส่วนใหญ่เป็นการค้าเพชรที่เจียระไนแล้ว โดยมีอินเดีย และเบลเยียม เป็นแหล่งนำ�เข้าที่สำ�คัญที่สุด 2 อั น ดั บ แรก ด้ ว ยสั ด ส่ ว นรวมกั น กว่ า ร้ อ ยละ 70 ของมู ล ค่ า การนำ�เข้าเพชรโดยรวมในตลาดนี้ ซึ่งการนำ�เข้าเพชรของ UAE ส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปใช้เป็นวัตถุดิบสำ�หรับการผลิตเครื่องประดับ ในโรงงานที่ประกอบกิจการอยู่ภายใน Dubai Gold & Diamond Park (DGDP) โดยกิ จ การเหล่ า นี้ จ ะได้ รั บ การยกเว้ น ภาษี นำ�เข้าวัตถุดิบในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับทุกประเภท หากเป็ น การนำ�เข้ า มาใช้ สำ�หรั บ การผลิ ต เครื่ อ งประดั บ เพื่ อ การส่งออก
(1) จากข้อมูลของ Airport Council International รายงานว่า การขนส่งสินค้าทางอากาศผ่านคลังสินค้าของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบในปี 2554 มีปริมาณมากถึงกว่า 2.27 ล้านตัน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจาก ฮ่องกง เมมฟิส (สหรัฐฯ) เซี่ยงไฮ้ (จีน) อลาสก้า (สหรัฐฯ) และอินชอน (เกาหลีใต้) ตามลำ�ดับ
42
OCTOBER - DECEMBER 2012
นอกจากนี้ จากความได้เปรียบด้านทำ�เลที่ตั้ง สิ่งอำ�นวย ความสะดวกด้ า นการค้ า และการขนส่ ง สิ น ค้ า ตลอดจนการ สนับสนุนของรัฐบาลในการจัดตัง้ ตลาดกลางการค้าเพชรของดูไบ (Dubai Diamond Exchange: DDE) เพื่อให้บริการและอำ�นวย ความสะดวกในทุกขัน้ ตอนทีเ่ กีย่ วข้องกับการค้าเพชร ส่งผลให้ใน แต่ละปีเกิดการไหลเข้าออกของเพชรปริมาณมหาศาลในดูไบนำ� มาซึ่งการทำ�ธุรกรรมการค้าระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเพชรจาก ทั่ ว โลกก่ อ ให้ เ กิ ด เงิน สะพัดมูล ค่าหลายพัน ล้านเหรี ยญสหรั ฐ โดยปัจจุบันดูไบได้ก้าวขึ้นมาสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรที่ สำ�คัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเช่นเดียวกับนิวยอร์ก แอนต์เวิร์ป มุมไบ และรามัทกัน สำ�หรับการค้าเครือ่ งประดับแท้ในตลาดนีพ้ บว่า กว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าการค้าเป็นการนำ�เข้ามาจากต่างประเทศซึ่งเป็น เครื่องประดับทองแทบทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่ถูกนำ�เข้ามาจาก อินเดีย และมาเลเซีย ในสัดส่วนราวร้อยละ 50 และ 10 ตาม ลำ�ดับ แม้ตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ UAE โดยลำ�พังจะมี ขนาดเล็กด้วยจำ�นวนผู้บริโภคเพียงราว 5 ล้านคน แต่นับเป็น ตลาดที่มีความหลากหลายค่อนข้างมาก โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็น ชาวอินเดียทีม่ รี สนิยมการบริโภคเครือ่ งประดับทอง 22-24 กะรัต สไตล์ อิ น เดี ย ขณะที่ ช าวเอมิ เรตส์ แ ละชาวอาหรั บ ชาติ อื่ น ๆ แม้จะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 19 และ 23 แต่คนกลุ่มนี้มีฐานะ ร่ำ�รวย เครื่องประดับอันเป็นที่ต้องตาโดนใจจึงได้แก่ เครื่อง
วารสารทองค�ำ
ประดับทอง 21 กะรัต และเครือ่ งประดับแบรนด์เนมหรูหราราคา แพง อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้บริโภคชาวตะวันตกจำ�นวนหนึ่งที่อาศัย และประกอบอาชีพอยู่ใน UAE ซึ่งนิยมเครื่องประดับทอง 18 กะรัต รูปแบบทันสมัยตามแบบตะวันตกทั่วไป ตลอดจนอุปสงค์ การบริโภคเครื่องประดับที่ขับเคลื่อนโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มจำ�นวนขึ้นอย่างต่อเนื่องจากราว 4.37 ล้านคน ในปี 2545 เป็น 8.13 ล้านคน ในปี 2554 โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็น นักท่องเที่ยวชาวยุโรปและเอเชียในสัดส่วนราวร้อยละ 31.87 และ 24.85 ตามลำ�ดับ สำ�หรับรูปแบบเครื่องประดับซึ่งเป็นที่ ต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีตั้งแต่เครื่องประดับทอง 18 กะรัต ทั้งทองสีเหลืองและสีขาว ตกแต่งด้วย อัญมณีจำ�พวกเพชร และพลอยเนือ้ อ่อนหรือไม่กต็ าม ซึง่ เป็นรูปแบบทีไ่ ด้รบั ความนิยม ของผู้ บ ริ โ ภคในแถบยุ โรป เรื่ อ ยไปจนถึ ง เครื่ อ งประดั บ ทอง กะรัตสูง ทั้งทองรูปพรรณ และที่ตกแต่งด้วยอัญมณีตามแบบ นิยมของชาวเอเชีย และยังมีความต้องการบริโภคเครื่องประดับ เงินที่แฝงอยู่ภายในผู้บริโภคกลุ่มนี้ด้วย นอกจากนี้ UAE ยังนำ� เข้าเครื่องประดับส่วนหนึ่งมาเพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในภู มิ ภ าคซึ่ ง ไม่ มี ป รากฎเป็ น มู ล ค่ า การส่ ง ออกในฐานข้ อ มู ล ของ Global Trade Atlas แต่คาดว่าน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้าน เหรียญสหรัฐ ด้านการค้าทองคำ�ในตลาด UAE ระหว่างปี 2550-2554 มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 9,846.91 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าการนำ�เข้าราวปีละ 2,559.60 ล้านเหรียญสหรัฐ กว่าครึ่งหนึ่งเป็นการนำ�เข้ามาจากสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ ฮ่องกง ตุรกี และอินเดีย ขณะที่การส่งออกทองคำ�ในช่วงเวลา ดังกล่าวมีมูลค่าเฉลี่ยราว 7,287.31 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย เป็ น การส่ ง ออกไปยั ง ตลาดอิ น เดี ย มากที่ สุ ด คิ ด เป็ น สั ด ส่ ว น ราวร้อยละ 75 ของมูลค่าการส่งออกทองคำ�โดยรวมของประเทศ ทั้งนี้ นอกจาก UAE นำ�เข้าทองคำ�เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต เครื่องประดับรวมถึงเพื่อการลงทุนแล้ว การค้าทองคำ�ที่มีมูลค่า สูงยังเกิดจากความสามารถในการผลิตทองคำ�โดยผูป้ ระกอบการ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจาก The London Bullion Market Association (LBMA) ที่มีจำ�นวนทั้งสิ้น 10 ราย จึงทำ�ให้เกิด การไหลเวียนเข้าออกของทองคำ�เป็นจำ�นวนมาก นอกจากนี้ ภาคอุ ต สาหกรรมยั ง ได้ รั บ การสนั บ สนุ น ที่ ดี จ ากภาครั ฐ ด้ ว ย การจัดตั้งฝ่ายทองคำ�และโลหะมีค่า หน่วยงานในกำ�กับของ Dubai Multi Commodities Centre (DMCC) เพื่อให้บริการ และอำ�นวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการผลิต และการค้ า ทองคำ� ด้ ว ยต้ อ งการพั ฒ นาและผลั ก ดั น ให้ ดู ไ บ กลายเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำ�ในระดับนานาชาติ (อ่านต่อฉบับหน้า) 43
Gold Knowledge วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
จูเก๋อเลี่ยง : เรื่อง
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก...สถานการณ์ทองคำ�ปีงูเล็ก สวั ส ดี ท่ า นสมาชิ ก วารสารทองคำ�ทุ ก ท่ า น ย่างก้าวเข้าสูป่ ใี หม่ปงี เู ล็กในโอกาสนีผ้ มก็ขออวยพร ปีใหม่ให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำ�รวยเงินทองกัน ตลอดปีนะครับ เห็นจั่วหัวกันแล้วทุกท่านคงพอจะ เดาออกว่าผมจะเขียนถึงเรือ่ งอะไรในฉบับนี้ ใช่แล้ว ครั บ ผมกำ�ลั ง พู ด ถึ ง วลี ย อดฮิ ต เอาเป็ น ว่ า เป็ น เรื่ อ งราวแห่ ง ปี เฉกเช่ น เดี ย วกั บ บทเพลงแห่ ง ปี อย่าง Gangnam style ทีฮ่ ติ ติดอกติดใจหนุม่ เล็กใหญ่ จนถึงเด็กแนว แต่ถ้าเป็นวลีเด็ดในวงการทองคำ� ปี 2555 ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้น QE ครับ โดยเริ่ม ตั้งแต่ต้นปีก็ลุ้น QE3 กันตัวโก่ง พอ QE3 มา ก็กลับมาลุ้นกันครับว่าจะจบเมื่อไร (จะเอาไงแน่!!) แต่ ท้ า ยสุ ด FEDสร้ า ง QE3s (QE4) คล้ า ยกั บ การที่ Apple ออก iPhone5 ก็ จ ะไม่ ค ล้ า ยได้ อย่างไรครับเพราะทุกอย่างมันเหมือนกันต่างเพียง แต่ขนาด (กรณี iPhone5 คือความยาว) แต่อย่างไร ก็ดกี ารเดินหน้าสร้าง QE แบบชนิดแตกหน่อเป็นว่า เล่นแบบนี้ก็หลายคนบอกว่าดีกับทองซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ในระยะยาวจะดีจริงตามคาด หรือไม่ผมจึงขอใช้พื้นที่ในฉบับนี้คาดการณ์ปลาย ทางของ QE กันสักหน่อยครับ 46
มาตรการ QE วันนี้ฮิตไม่ต่างจาก Gangnam style กันเลยครับ เพราะ QE หรือ Qualitative easing ความหมายคือการเพิ่มในเชิงปริมาณของ เงิ น ในระบบเพื่ อ ที่ จ ะกระตุ้ น หรื อ บิ ด เบื อ นอะไร บางอย่างเช่นดอกเบี้ยในตลาด การอ่อนหรือแข็ง ของสกุ ล เงิ น ซึ่ ง ทุ ก วั น นี้ ธ นาคารกลางสำ�คั ญ โดยเฉพาะประเทศพั ฒนาแล้ ว มี ก ารใช้ น โยบาย รูปแบบนี้อย่างต่อเนื่องด้วยวัตถุประสงค์ที่อาจจะ ต่างกันไปบ้าง รวมถึงวิธกี ารในการเพิม่ ปริมาณเงิน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยูโรโซน อังกฤษ รวมถึง ญี่ปุ่น แม้จะมีเหตุผลของการใช้งานที่ต่างออกไป บ้างแต่หัวใจหลักเป็นเรื่องเดียวกันคือแก้ปัญหา เศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกากับอังกฤษมีปัญหา เรื่ อ งเศรษฐกิ จ ที่ ช ะลอตั ว ก็ ใช้ QE ไปช่ ว ยเรื่ อ ง ดอกเบี้ยที่จะกระทบต่อการบริโภคโดยตรง (ได้รับ ผลเชิงบวกต่อค่าเงินโดยอ้อม) ยูโรโซนมีปัญหา เรื่ อ งหนี้ แ ละกระทบต่ อ สถานะของเจ้ า หนี้ อ ย่ า ง ธนาคารก็เลือกใส่เงินไปในธนาคาร ญี่ปุ่นมีปัญหา เรื่ อ งค่ า เงิ น ก็ ใช้ ส ภาพคล่ อ งเพื่ อ ดู แ ลค่ า เงิ น จะ เห็ น ว่ า QE มั น มี คุ ณู ป การเปรี ย บเสมื อ นยา พาราเซตามอลก็ไม่ปาน แต่ขนึ้ ชือ่ ว่ายารับประทาน
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
มากไปหรือนานไปมันก็ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็น การรักษาโรค การทานยาติดต่อกันนานเกินไปอาจ จะทำ�ให้เกิดผลข้างเคียงอย่างเรื่องของการสะสม ในร่างกายหรือมีผลต่อไต ในเศรษฐกิจก็เช่นกัน การใช้นโยบายกระตุน้ มากเกินไปก็อาจจะส่งผลร้าย ต่อเศรษฐกิจโดยรวมเช่นกัน อย่างอาการดือ้ ยากรณี นีผ้ มขออนุญาตเทียบเคียงกับกรณีของญีป่ นุ่ ในช่วง การเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่น ดำ�เนินนโยบายแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องโดย เฉพาะนโยบายดอกเบี้ยต่ำ� จนท้ายที่สุดต้องเทกัน หมดหน้ า ตั ก แต่ เ ศรษฐกิ จ ก็ ยั ง ไม่ ต อบสนองใน เชิงบวกเท่าที่ควร และทำ�ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นแทบ จะอยู่กับที่เป็นเวลากว่าทศวรรษ หรือที่เรียกว่า lost decade แต่มากไปกว่านั้นถ้ามีการใช้ QE กันยาว ๆ (สหรัฐฯ ใช้ QE แบบไม่มีกำ�หนดระยะ เวลาโดยปล่อยสภาพคล่องเพิ่มทุกเดือนประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จาก QE3 ประมาณ 4 หมื่นล้านต่อเดือน และ QE4 ประมาณ 4.5 หมื่น ล้านต่อเดือน) สิ่งที่ตามมาคือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น กับระบบสกุลเงิน ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดสงครามค่าเงินขึ้น โดยแต่ละประเทศพยายาม ที่จะกดให้ค่าเงินตนเองอ่อนค่าลงเพื่อที่จะทำ�ให้ ประเทศมีความได้เปรียบในการแข่งขัน (ประเทศ ที่ ส กุ ล เงิ น อ่ อ นค่ า เที ย บสกุ ล เงิ น อื่ น จะทำ�ให้ การค้าขายดีขึ้น) จนทำ�ให้ 3 ประเทศมหาอำ�นาจ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส สร้าง Brenton wood system หรือมาตรฐานทองคำ�ขึ้นมาเพื่อ
รักษาสมดุลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งท่านทราบ หรือไม่ว่าการใช้ QE ในปัจจุบันกระทบต่อระบบ สกุ ล เงิ น เป็ น อย่ า งมาก ซึ่ ง เกิ ด ขึ้ น ใน 2 ปั จ จั ย หลัก ๆ ด้วยกัน ประการแรกในด้านของการเพิ่ม ปริ ม าณเงิ น ขึ้ น ในระบบถ้ า เรากล่ า วตามแนวคิ ด ทางเศรษฐศาสตร์แบบตรงไปตรงมาเมื่อปริมาณ เพิ่มมูลค่าต้องลด ดังนั้นการเพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณ นั้นจะทำ�ให้สกุลเงินนั้น ๆ มีการอ่อนค่าลงเทียบ สกุลเงินอื่น หรือในทางตรงกันข้ามสกุลเงินของ ประเทศที่ ไ ม่ ไ ด้ มี ก ารดำ�เนิ น นโยบายก็ จ ะมี ก าร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและเสียอำ�นาจในการแข่งขันไป ในที่ สุ ด ซึ่ ง เป็ น เรื่ อ งพื้ น ฐานที่ ป ระเทศเหล่ า นั้ น จะหันมาดูแลค่าเงินด้วยการเข้าแทรกแซง ประการ ที่ 2 คื อ ในช่ ว งที่ เ ศรษฐกิ จ ของประเทศพั ฒ นา ชะลอตัวลงนโยบายดอกเบี้ยที่ใช้ก็จะเป็นนโยบาย ดอกเบี้ ย ต่ำ� ซึ่ ง ในส่ ว นนี้ จ ะกระทบต่ อ เงิ น ทุ น เคลื่ อ นย้ า ย โดยวิ ธี คิ ด คื อ เงิ น จะไหลเข้ า สู่ ที่ มี ผลตอบแทนมากกว่า (โดยปรับเรือ่ งความเสีย่ งแล้ว) ดังนั้นเมื่อ 2 ประเทศมีส่วนต่างดอกเบี้ยห่างกัน มาก ๆ จะทำ�ให้เงินไหลเข้าสู่ประเทศที่มีอัตรา ดอกเบี้ยสูงกว่า ในกรณีนี้เรียก carry trade ซึ่งจะ ยิ่งทำ�ให้ประเทศที่มีดอกเบี้ยสูงค่าเงินแข็งค่าขึ้น จะเห็นว่าการใช้ QE หรือนโยบายในการเสริม สภาพคล่องเข้าสู่ตลาดแม้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ในช่วงของการฟื้นตัวแต่การใช้ในปริมาณมาก ๆ หรือระยะเวลายาว ๆ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาจจะสร้ า งปั ญ หาใหม่ ใ นอนาคต ถ้ า ในกรณี ที่ เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วธนาคารกลางอาจจะสามารถ ถอนมาตรการออกได้ทันแต่ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น เนื่องจากการตอบสนองต่อนโยบายไม่ดีเท่าที่ควร ประกอบกับปัญหาใหม่ทเี่ กิดขึน้ จากการใช้นโยบาย นาน ๆ อาจจะยิ่งทำ�ให้เศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้วกลับ แย่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงการมองในมุม ที่ค่อนไปในทางร้ายมาก ๆ ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้น สิ่ ง ที่ ต้ อ งระมั ด ระวั ง คื อ สภาพคล่ อ งที่ เ พิ่ ม ขึ้ น อย่ า งต่ อ เนื่ อ งจะทำ�ให้ ต ลาดการลงทุ น มี ค วาม ผันผวนมากขึน้ และนีห่ มายรวมถึงราคาทองคำ�ด้วย เช่นกัน ฉบับนี้ลากันไปก่อนครับ พบกันใหม่ฉบับ หน้านะครับ สวัสดีครับ 47
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
เด็กดอย : เรื่อง ณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์ : ภาพ
ตำ�รวจ สน.ชนะสงคราม โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดง รวบแก๊งทองปลอมพร้อมทลายโรงงานผลิตย่านฝั่งธนบุรี คอลัมน์ Gold Shared ฉบับนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจาก การนำ�เรื่องราวของบรรดาผู้ประกอบการร้านค้าทอง มาเล่า สู่ กั น ฟั ง เพื่ อ แลกเปลี่ ย นประสบการณ์ กั น มาเป็ น ขอนำ � ปฎิบัติการของตำ�รวจสน.ชนะสงคราม ที่เข้ากวาดล้างแก๊ง ค้าทองปลอมมานำ�เสนอ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทาง พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้รบั แจ้งจากเจ้าของ ร้านทองปภัสสร ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 154 ถ.จักรพรรดิ์ เขตพระนคร ว่ า มี ห ญิ ง สาววั ย รุ่ น ซึ่ ง เป็ น นั ก เรี ย นพณิ ช ยการแห่ ง หนึ่ ง นำ� ทองปลอมหนัก 1 บาท มาหลอกขาย จึงไปแจ้งตำ�รวจเพือ่ ควบคุม ตัวมาสอบสวนทราบชื่อคือ นางสาวพรทิพย์ สุวรรณไตย นางสาวพรทิพย์ รับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายบุญช่วย ชัยโนนตุ่น อายุ 45 ปี หัวหน้าแก๊ง และนางสมจิตร ชัยโนนตุ่น ซึ่ ง เป็ น ภรรยาของนายบุ ญ ช่ ว ย และเจ้ า ของร้ า นขายอาหาร
48
ตามสั่งอยู่ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 เป็นคนนำ�ทองปลอม ที่ทำ�ขึ้นมาซึ่งมีเพียงตะขอที่เป็นของจริงไปขาย โดยได้รับค่าจ้าง ครั้งละ 1,500 บาท และเคยทำ�มาแล้วไม่ต่ำ�กว่า 10 ครั้ง ที่สำ�คัญ ที่ผ่านมาถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็จะมีผู้มาช่วยเหลือทุกครั้ง จากนั้นตำ�รวจได้นำ�ข้อมูลดังกล่าวไปขยายผล จนสามารถ จับกุมตัวนายพงษ์พทิ กั ษ์ แสนรัตน์ อายุ 27 ปี หนึง่ ในแก๊งตุน๋ ทอง ได้ ก่อนนำ�มาสอบปากคำ�เพิ่มเติม โดยนายพงษ์ พิ ทั ก ษ์ รั บ สารภาพว่ า ได้ ถู ก ว่ า จ้ า งจาก นายบุญช่วย ให้ขับรถพากลุ่มผู้ต้องหาไปหลอกขายทองตาม สถานที่ต่างๆ ได้ค่าจ้างวันละ 1,000-1,500 บาท ที่ผ่านมา ทำ�มาแล้ว 4 ครัง้ นอกจากนัน้ ยังสารภาพว่าโรงงานทำ�ทองปลอม อยู่ ย่ า นฝั่ งธนบุ รี เบื้ องต้ น ตำ�รวจได้ แจ้ งข้ อหาร่ ว มกั น ฉ้อ โกง และซ่องโจรเพื่อสบคบทำ�สิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากมีการทำ�กัน เป็นขบวนการและทำ�กันอย่างต่อเนื่อง ก่อนส่งตัวดำ�เนินคดี พ.ต.ท.สมยศ ได้เล่าถึงการทำ�งานของแก๊งทองปลอมว่า เวลาลงมือจะทำ�เป็นทีม 5-6 คน โดยนายบุญช่วย จะเป็นคน เลือกร้านว่าจะเอาทองไปขายที่ไหน จากนั้นจะนำ�ทองปลอมมา ให้กับเครือข่าย แต่คนที่เข้าไปขายจะสลับหน้ากัน โดยจะมี หนึง่ คนทีเ่ ข้าไป ทีเ่ หลือก็จะรอในรถ แต่จะมีคนดูตน้ ทางทีบ่ ริเวณ หน้าร้านเพื่อดูว่าขายทองได้หรือไม่ ถ้าเกิดขายไม่ได้ ก็จะทิ้ง ตัวผู้ขายไว้ที่ร้านให้ถูกจับ ที่เหลือจะพากันหลบหนี จากนั้น ก็ จ ะมี ก ารเจรจาติ ด ต่ อ เพื่ อ ชดใช้ ค่ า เสี ย หายกั บ เจ้ า ของร้ า น เพือ่ ไม่ให้เป็นคดี ซึง่ ตำ�รวจได้ประสานกับเจ้าของร้านว่าอย่ายอม ความกั น เพราะเชื่ อ ว่ า น่ า จะเป็ น ขบวนการใหญ่ ที่ ห ลอกทำ� ลักษณะนี้ ต่อมา ตำ�รวจ สน.ชนะสงครามได้ขอหมายค้นจากศาล อาญาธนบุ รี ก่ อ นนำ�กำ�ลั ง เข้ า ตรวจค้ น บ้ า นเลขที่ 19/262 หมู่บ้านธารทองวิลล่า ซอยบางแวก 26 แยก 7 เขตภาษีเจริญ ซึ่ ง เป็ น ทาวน์ เ ฮ้ า ส์ 2 ชั้ น 1 คู ห า เมื่ อ ไปถึ ง พบว่ า ที่ ป ระตู หน้ า บ้ า นมี แ ม่ กุ ญ แจคล้ อ งอยู่ จึ ง ทำ�การงั ด ประตู เ ข้ า ไป โดยมี น.ส.ฉวีวรรณ พันเดช อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านที่ให้ นายบุ ญ ช่ ว ยเช่ า และเจ้ า ของร้ า นทองประภั ส สรผู้ เ สี ย หาย เข้าร่วมตรวจค้นด้วย จากการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว ในชั้นล่างพบ อุ ป กรณ์ ใ นการทำ�ทองเป็ น จำ�นวนมาก อาทิ เครื่ อ งรี ด ทอง เครื่องชั่ง ตราประทับชื่อร้านทอง เครื่องหลอม เครื่องยืดทอง
OCTOBER - DECEMBER 2012
และทองเหลืองที่ถูกเป่าแล้วอีกจำ�นวนมาก ส่วนชั้นที่สองเป็น ห้องนอนมีทั้งหมด 2 ห้อง มีเพียงที่นอน เสื้อผ้า และอุปกรณ์ เสพยาจำ�นวนหนึ่ง สภาพเหมือนเพิ่งมีคนมาเก็บข้าวของออก ไปได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่จึงยึดของทั้งหมดไปตรวจสอบ น.ส.ฉวี ว รรณ ให้ ก ารว่ า บ้ า นหลั ง นี้ ต นให้ นางสมจิ ต อายุ 50 ปี ภรรยาของนายบุญช่วย เช่าอยู่ได้ยังไม่ถึง 1 ปี โดยทราบว่าบ้านถูกเช่าเพื่อทำ�ทองแต่ไม่ได้สนใจอะไร และทั้งคู่ ก็ไม่ได้มาพักในบ้านหลังนี้ ส่วนใหญ่จะเข้ามาช่วงเย็น โดยจะมี ช่างทำ�ทองขี่รถจยย. มาที่บ้านหลายคน จากนั้นทั้งหมดก็นั่งทำ� ทองอยู่ในบ้านทั้งคืนและจะกลับออกไปในช่วงเช้า กระทั่งมี ตำ�รวจมาทีบ่ า้ นถึงรูว้ า่ ทัง้ หมดเป็นแก๊งทำ�ทองปลอมและหลบหนี ไปแล้ว พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า แก๊งนี้ถือว่าเป็นแก๊งใหญ่ คนทำ� ต้องมีความรู้ความชำ�นาญเรื่องทองอย่างมาก เพราะจากการ ตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญพบว่า คนทำ�จะใช้วิธีนำ�ทองจริงมา เคลือบบนทองเหลืองทำ�ให้ตรวจสอบได้ยาก เพราะพอทางร้าน ลองขูดหรือกระเทาะทองดู พอผ่านชั้นทองจริงไปก็จะยังคงเห็น เนื้ อ ทองเหลื อ งที่ ค ล้ า ยกั บ ทองจริ ง อย่ า งมากอี ก นอกจากนี้ ยังทราบว่าขณะนี้ก็ยังมีแก๊งเอาทองปลอมมาตระเวนขายตาม ร้ า นทองอี ก จำ�นวนมากด้ ว ย จึ ง ฝากให้ ร้ า นทองเพิ่ ม ความ ระมัดระวังให้มากขึ้น หลั ง จากนี้ ตำ�รวจจะเร่ ง ขออนุ มั ติ ห มายจั บ นายบุ ญ ช่ ว ย และนางสมจิ ต พร้ อ มติ ด ตามตั ว ผู้ ร่ ว มขบวนการทั้ ง หมดมา ดำ�เนินคดีให้ได้โดยเร็วทีส่ ดุ ซึง่ ขณะนีท้ ราบแล้วว่าเป็นวัยรุน่ ทีพ่ กั อาศัยในแถบ ซ.จรัญ 13 ชือ่ เล่นชือ่ แวว และ เจ้า ซึง่ ตำ�รวจอยาก ให้ทั้งคู่ หรือผู้ที่เคยร่วมกับขบวนการนี้ แสดงความบริสุทธิ์ใจ เข้ามามอบตัว เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยตำ�รวจจะกันไว้เป็น พยาน จะได้ไม่ต้องรับโทษอาญา เพื่อที่จะนำ�ข้อมูลไปขยายผล กวาดล้างแก๊งนีแ้ บบถอนรากถอนโคน และนำ�ตัวคนทีเ่ ป็นหัวหน้า แก๊งมาลงโทษ
วารสารทองค�ำ
การทำ�งานของแก๊ ง มิ จ ฉาชี พ ในลั ก ษณะนี้ พบว่ า มี มากกว่า 5 คน และมีคนมาแจ้งข้อหา กับผู้ต้องหาคนเดียวกัน ตำ�รวจจึงได้แจ้งข้อหาเพิ่ม นอกจากข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ หลอกขายทอง ยังแจ้งข้อหาสมคบกันกระทำ�การอันเป็นซ่องโจร เพื่อฉ้อโกง ซึ่งโทษคือจำ�คุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งเป็นโทษทางอาญา ซึ่ ง ไม่ ส ามารถยอมความได้ และหลั ง จากเราจั บ กุ ม ได้ แ ล้ ว ทางสมาคมค้าทองคำ�ได้สง่ ทีมงาน ฝ่ายกฎหมายเข้ามาตรวจสอบ ตราประทับทีท่ อง ก็พบว่ามีตราประทับของร้านทีอ่ ยูใ่ นสมาคมฯ แล้วทางสมาคมฯก็ประสานให้ทนายความมาร้องทุกข์เพิ่มเติม เรื่ อ งการปลอมเครื่ อ งหมายการค้ า เพื่ อ จะได้ ดำ�เนิ น คดี ใ ห้ สูงขึ้นด้วย “ต้องยอมรับว่า ร้านทองหลายแห่งคิดว่าทำ�ธุรกิจนีม้ านาน ทำ�ให้มั่นใจในตัวเองสูง แล้วคนร้ายก็เลือกใช้ทองแค่บาทเดียว เพราะคิดว่าเมือ่ เวลามีปญ ั หาขึน้ มา ทางร้านก็ไม่อยากแจ้งความ แล้วก็ยอมรับค่าเสียหาย เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำ�มาหากิน ในส่วนของตำ�รวจอยากจะขอให้ร้านค้าที่พบว่าตัวเองรับซื้อ ทองปลอมให้รีบมาแจ้งความ เพื่อจะได้วางแผนในการจับกุม คนร้าย บางร้านไม่อยากเสียเวลา ไม่อยากเสียชื่อเสียง แต่ถ้าไม่ อยากให้เป็นคดี ก็สามารถแจ้งข้อมูลให้กับตำ�รวจทราบ เพื่อที่ จะได้ ว างแผนจั บ กุ ม ขบวนการเหล่ า นี้ เพื่ อ ไม่ ใ ห้ ส ร้ า งความ เสียหายแก่วงการค้าทองคำ� ทั้งนี้หากมีร้านค้า 5 แห่งมาแจ้งความ โทษจะหนักมาก เพราะว่ า 1.ไม่ ส ามารถยอมความได้ 2.จำ�คุ ก ตั้ ง แต่ 5 ปี ถ้าเกิดคนเดียวโทษจำ�คุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และเป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ ศาลก็จะพิพากษา ถึงที่สุด และหากหลักฐานเชื่อมโยงกันว่าการกระทำ�ทั้งหมด เป็ น กลุ่ ม เดี ย วกั น ก็ จ ะเป็ น ความผิ ด ต่ า งกรรมต่ า งวาระกั น เวลาพิจารณาโทษ ศาลก็จะบวกเรียงกระทง จึงอยากจะขอ ความร่วมมือจากร้านค้าทองให้มาแจ้งข้อมูลกับตำ�รวจด้วย” พ.ต.ท.สมยศ กล่าวทิ้งท้าย 49
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
โกลด์เด้นบอย : เรื่อง
ตะลุยตลาดค้าทองคำ�ย่านมีนบุรี สะท้อนการใช้ทองของคนแถบนีผ้ า่ น “ห้างทองแม่บญ ุ มา” คอลัมน์ Gold Club ในฉบับนี้ ได้มาเยี่ยมเยือนและพูดคุยกับสมาชิกในแถบฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร อย่างพืน้ ทีเ่ ขตมีนบุรี ซึง่ ถือว่าเป็นจุดชุมทางสำ�คัญอีกแห่งหนึง่ ของ กทม. และพืน้ ทีใ่ นละแวกนี้ ได้มกี ารพัฒนาอย่างต่อเนือ่ ง “ร้านของเรา เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่ตลาดหนองจอก ซึ่งเปิด มากว่า 50 ปี โดยชื่อร้าน “แม่บุญมา” เป็นชื่อ ของคุณย่า แต่พอ เรามาซื้อตึกที่ตลาดมีนบุรีก็เลยเปิดกิจการ เพิ่มอีกหนึ่งร้าน โดยลู ก ค้ า หลั ก ของเราจะเป็ น ลู ก ค้ า อิ ส ลาม ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ บางส่วนก็มาจากทางหนองจอก และคนในละแวกนี้ ซึ่งมีความเชื่อถือและคุ้นเคยกัน เพราะการขายทองเรื่องเหล่านี้ เป็นสิ่งสำ�คัญมาก” คุณสุรีย์กล่าว ส่ ว นการใช้ ท องคำ�ของพี่ น้ องมุ สลิ ม นั้ น คุ ณ สุ รี ย์ก ล่า วว่า ก็จะเหมือนกับคนจีน โดยในช่วงฤดูกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงปีใหม่ แต่งงาน ก็จะใช้ทองเป็นจำ�นวนมากเหมือนกัน จะ คล้ายกับตลาดในอินเดีย หรือประเทศในกลุ่มมุสลิม ซึ่งตลาด กลุ่ ม นี้ ถื อ เป็ น ตลาดกลุ่ ม ใหญ่ เ พราะในแต่ ล ะปี จ ะมี เ ทศกาล ทางศาสนา หรืองานมงคลต่างๆ ซึง่ ถ้าไม่ซอื้ ทองเพิม่ ก็จะต้องมา เปล่ี ย นลายใหม่ ๆ นอกจากนั้ น ยั ง มี สิ น ค้ า ในกลุ่ ม จิ ว เวลลี่ ที่ชาวมุสลิมนิยมสวมใส่จำ�พวกเพชรซีก ซึ่งจะทำ�ให้มีรายได้จาก สินค้ากลุม่ นีเ้ ข้ามาประกอบด้วย ทีส่ ำ�คัญ ร้านได้รบั ความไว้วางใจ ก็ จะถู ก บอกต่ อกั น แบบปากต่ อปาก ทำ�ให้ ลูก ค้ า เพิ่ ม จำ�นวน มากขึน้ ในบางครัง้ กลุม่ คนทีอ่ ยูไ่ กลๆ อย่าง พัทยา ชลบุรี ระยอง ที่เคยซื้อกับคุณย่าก็ตามมาใช้บริการของทางร้านด้วย
โดยการเดินทางมาครั้งนี้เราได้มีโอากาสพูดคุยกับ คุณสุรีย์ ลิขิตชัย จากห้างทองแม่บุญมา ซึ่งร้านตั้งอยู่หน้าทางเข้าตลาด มีนบุรี โดยคุณสุรีย์เล่าให้ฟังว่า ได้เปิดค้าขายมากว่า 20 ปี โดยร้านนี้เปิดเป็นร้านที่ 4 ในตลาดมีนบุรี จากนั้นได้ขยายตัว เพิ่ ม ขึ้ น เรื่ อ ยๆ และช่ ว งที่ ม ากที่ สุ ด น่ า จะเป็ น ช่ ว งปี 2540 หลังจากที่ตลาดมีนบุรีได้ขยายตัวทำ�ให้การแข่งขันสูงขึ้นตาม 50
OCTOBER - DECEMBER 2012
คุณสุรีย์ ได้กล่าวถึงการค้าทองในช่วงที่ราคาสูงว่า ทางร้าน ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีฐานลูกค้าค่อนข้างมาก เมื่ อ ยอดขายทองรูป พรรณลดลง ก็ไ ด้ยอดขายจากทองแท่ ง เข้ามาเสริม ประกอบกับเรามีปรัญชาการทำ�งานที่เด่นชัดคือ สร้างความประทับใจในการให้บริการ ซื่อสัตย์ไว้ใจ ราคาซื้อขาย สมเหตุ สมผล นอกจากนี้เรายังมีสินค้าจำ�พวกเพชร อัญมณี ให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการด้วย ที่สำ�คัญการเลือกสินค้า ที่จะมา วางขายจะต้องเด่น สะดุดตา แหวกแนว เพราะปัจุบันสินค้าได้ พัฒนาขึ้น จึงต้องเลือกลายให้แปลก ๆ ใหม่ ๆ เพื่อมาให้ลูกค้า ได้เลือกตามความต้องการ ปัจจุบันตลาดทองคำ�ในประเทศได้พัฒนาไปมาก มีสินค้า ให้เลือกมากมาย ทั้งทองรูปพรรณ ทองแท่ง gold future gold online ยังไม่นับรวมถึงกองทุน ซึ่งสินค้าแต่ละตัวก็เหมาะกับ รูปแบบการลงทุน ของแต่ละบุคคลไป ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่นก็ซื้อ ตามกองทุนกัน แต่ถา้ เป็นคนรุน่ เก่าจะเน้นการลงทุนทีจ่ บั ต้องได้ คุณสุรยี ก์ ล่าวถึงปัญหาเรือ่ งทองปลอมว่า ในย่านมีกพ็ บอยู่ เหมือนกัน ส่วนใหญ่ทองปลอม ทองยัดไส้ แหวนยัดไส้ ซึ่งงาน ทำ�ออกมาค่ อ นข้ า งดี แต่ ก็ ยั ง มี จุ ด ที่ สั ง เกตุ ไ ด้ ซึ่ ง ต้ อ งใช้ ประสบการณ์ในการดูพอสมควร แต่จากที่สังเกตุคนร้ายเองก็ ต้องลงทุนพอสมควร เพราะไม่ได้ปลอมทัง้ เส้น หรือปลอม แหวน ทั้ ง วง เป็ น เพี ย งบางส่ ว นเท่ า นั้ น แต่ สำ�หรั บ ทางร้ า นแล้ ว จะ พิจารณาจากลูกค้าเป็นหลัก หากไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ� หรือ คนในย่านนี้ จะขอตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะหากพลาดขึ้น มาจะเกิดความเสียหายมหาศาล
วารสารทองค�ำ
อย่างไรก็ดี ความสมัครสมานสามัคคีของบรรดาผูป้ ระกอบการ ถือเป็นเรื่องสำ�คัญ ซึ่งผู้ประกอบการในย่านนี้แม้จะไม่มีการรวม ตัวเป็นชมรม แต่คอ่ นข้างสนิทสนมกัน เมือ่ มีปญ ั หาขึน้ มาก็จะแจ้ง ข่าวสารถึงกัน แต่เมือ่ สมาคมฯ จัดเป็นกองทุนเพือ่ ทำ�เรือ่ งนีอ้ ย่าง จริงจัง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ร้านค้าจะได้ มีคนกลางเข้ามาจัดการ ไม่เสียเวลาในการทำ�ธุรกิจ คุ ณ สุ รี ย์ได้ ก ล่ า วถึ งการค้ า ทองในอนาคตว่ า จากการที่ ราคาทองคำ�ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบ ต่อการขายทองรูปพรรณ ซึ่งจะทำ�ให้ร้านค้าปลีกน่าจะแย่ลง ประกอบกั บ เรื่ อ งของบุ ค คลากรไม่ เ พี ย งพอ ซึ่ ง ได้ ส่ ง ผล กระทบพอสมควร ทางออกก็คือพยายามหาสินค้าอื่นๆ เข้ามา สร้างรายได้เสริม ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มของจิวเวลลี่ หรือสินค้าใน กลุ่มเครื่องประดับอื่นๆ 51
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Applications of Fischer products in the field of Gold and Jewelry Analysis การตรวจจับ วัดวิเคราะห์ทองปลอม ประเภทหุ้ม หรือยัดไส้ด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ (Energy Dispersive X-Ray Fluorescence ; EDXRF)
การวัด/วิเคราะห์ทองคำ�(Au)ปลอม ฉบับที่แล้วได้นำ�เสนอการวิเคราะห์ทองคำ� (Au) ที่ผสม ด้วยโลหะบางชนิดที่จะทำ�ให้เครื่อง X-Ray วัดแล้ว ได้ค่า ทองคำ�สูงขึ้น แต่เปอร์เซ็นต์ที่ได้นั้น เป็นเพราะโลหะอื่นที่ อยูใ่ กล้ทองคำ� เช่น ตะกัว่ (Pb) ปรอท (Hg) ทังสเตน (W) อืน่ ๆ ในฉบั บ นี้ ผ มอยากจะนำ�เสนอการ วั ด และวิ เ คราะห์ ทองปลอม ประเภท หุ้ม หรือ ยัดไส้ ด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการผลิตทองปลอมประเภทนี้แพร่ หลายมากขึ้น โดยลักษณะการทำ� คือ นำ�แผ่นทองคำ� 96.5% รีดแบนหนาพอประมาณ แล้วนำ�ไปหุม้ บนโลหะเงินผสมและโลหะ วิธที จ่ี ะใช้ตรวจจับ และทดสอบทองประเภทนี้ มีดงั ต่อไปนี้ อื่นๆ ที่มีความแข็งไม่มาก โดยที่สามารถขึ้นรูปตัดลายได้ง่าย 1. วัดเปอร์เซ็นต์ทองทีผ่ วิ ของชิน้ ทองคำ�ทีต่ อ้ งสงสัยโดยตรง ลวดลายที่มักตรวจจับ พบได้เป็นประจำ� แสดงดังรูปข้างล่าง และให้สังเกตุค่าทองคำ�ที่ได้จากการวัดจะ ต่ำ�กว่ามาตรฐาน 96.5% และค่าโลหะเงินที่ได้ก็ สูงกว่าปกติที่ 3.5% ตัวอย่างผลการวัดบนผิวทองคำ� ก่อน ตะไบ Au% Ag% Cu% Zn% 94.18 5.42 0.13 0.27 หากได้ผลดังกล่าว นั้นแสดงว่า ทองคำ� ชิ้นนั้นๆ อาจจะ เข้าข่ายทองหุ้ม, ยัดไส้, ทองเปอร์เซ็นต์ตำ� ่ ให้ทดสอบขั้นตอน ที่ 2 2. จากขัน้ ตอนที่ 1 พบว่าทองคำ�อาจจะเข้าข่ายเป็นทองคำ� ปลอม, หุ้ม, ยัดไส้, ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ� อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น ให้ทำ�การจดบันทึกค่าที่วัดได้ ตรงจุดที่ต้องสงสัยไว้ก่อน แล้ว จากรู ป ทองหุ้ ม หรื อ ยั ด ไส้ ที่ แ สดงในรู ป จะเห็ น ได้ ว่ า ทำ�การ ตะไบ หรือ สะกิดผิว ทองคำ�ที่อยู่ด้านบนของชิ้นทอง ส่วนใหญ่จะเป็นทั้ง ลายโปร่ง และ ลายตัน ซึ่งเป็นที่ความนิยม ทีต่ อ้ งสงสัยนัน้ ออก โดยจะต้องเป็นบริเวณเดียวกัน หรือใกล้เคียง ใช้กนั ทัว่ ไป ความเสีย่ งก็ยอมมีมากขึน้ ทีจ่ ะถูกมิจฉาชีพนำ�มาขาย กัน เพื่อพิสูจน์ว่าเปอร์เซ็นต์ทองคำ�ที่ได้นั้นมีค่าเป็นอย่างไร ในตลาดทองคำ�ได้มากเช่นกัน หากได้ ค่ า เปอร์ เซ็ น ต์ ท องคำ�ค่ า เท่ า เดิ ม เที ย บกั บ ก่ อ นการ ตะไบ แสดงว่าเป็นทองคำ�แท้ แต่มีเปอร์เซ็นต์ทองคำ�ที่ต่ำ�กว่า มาตรฐาน 54
OCTOBER - DECEMBER 2012
วารสารทองค�ำ
แต่หากได้เปอร์เซ็นต์ทองที่ต่ำ�ลง หลังการตะไบ และได้ เพราะโดยปกติทองคำ�แท้จะมีสญ ั ญาณ กราฟแสดงระดับพลังงาน เปอร์เซ็นต์ของโลหะเงิน และโลหะอื่นๆ มากขึ้น แสดงว่าเป็น ทีว่ ดั ได้มคี า่ ทีใ่ กล้เคียงกันตลอดเวลา แต่ถา้ หากเป็นทองคำ� ทีห่ มุ้ ทองหุ้ม หรือ ยัดไส้ นั้นเอง ยัดไส้ จะมีสัญญาณที่แตกต่างออกไป แสดงดังรูปกราฟด้านล่าง ตัวอย่างผลการวัดบนผิวทองคำ� หลัง ตะไบ Au% Ag% Cu% Zn% 68.50 27.85 3.15 0.50
ตัวอย่างชิ้นทดสอบ
กราฟสีเหลือง คือสัญญาณของทองคำ�แท้ กราฟสีแดง น้ำ�เงิน และ ดำ� คือสัญญาณของทองหุ้ม อ้างอิงในรูปทองคำ�ปลอม ประเภทหุ้ม ข้างบนทั้งหมด ข้อควรระวัง ในการทดสอบวิธีไม่ทำ�ลายผิวยังคงมีข้อ จำ�กัดเกี่ยวกับความหนาของทองที่หุ้ม ควรอยู่ในช่วงที่เครื่อง สามารถวัดได้
เครื่องเอ็กซ์เรย์ที่ใช้ทดสอบทองคำ�ปลอม 3. หากตัวอย่างชิ้นงานมีการ หุ้ม หรือ ยัดไส้ ค่อนข้างหนา มากๆ จนเครื่องเอ็กซ์เรย์ไม่สามารถยิงทะลุเข้าไปจนถึงเนื้อ ของโลหะเงินที่อยู่ด้านในได้ สุดท้ายอาจจะต้องมีการตัดชิ้นงาน แล้วนำ�บริเวณ ที่ตัดนั้นไปทำ�การวัดวิเคราะห์ เปอร์เซ็นต์ของ รู ป เครื่ อ งเอ็ ก ซ์ เรย์ ที่ ใช้ ใ นการวั ด เปรี ย บเที ย บสั ญ ญาณ ทองคำ�อีกครั้ง และหากได้เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ�ลง นั้นแสดงว่าทองคำ� ทองคำ�แท้ และทองคำ�ปลอม ประเภทหุ้ม หรือยัดไส้ ชิ้นดังกล่าวมีการหุ้ม หรือ ยัดไส้ ซึ่งเป็นขบวนการที่แน่นอนที่สุด ในการตรวจจับทองประเภทนี้ 4. แต่หากว่าผู้ค้าทองคำ�ไม่ต้องการ ตัด หรือ ตะไบชิ้นงาน ดอกคูณ บุญเดช ผู้เขียน/เรียบเรียง/ทดสอบ อยากจะทดสอบด้ ว ยวิ ธี ก ารที่ ไ ม่ ทำ�ลายผิ ว งาน ก็ ยั ง มี อี ก วิ ธี DKSH Technology (Thailand) Limited www.dksh.com, www.helmut-fischer.com คื อ การวั ด และเปรี ย บเที ย บสั ญ ญาณระหว่ า งชิ้ น ทองคำ�แท้ Mobile +668 1 909 5359 กับทองคำ�ปลอม ทองหุ้ม หรือ ทองยัดไส้ ด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ email : dokkun.b@dksh.com, dokkun69@gmail.com 55
Gold Forum วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
เรื่อง : รศ.ดร. จุฑา เทียนไทย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง
ประชาคมอาเซียน ผลกระทบต่อธุรกิจและกลยุทธ์ เพื่อความอยู่รอดของประเทศไทย (2) หลังจากทีเ่ ราได้ท�ำ ความรูจ้ กั กับประชาคมอาเซียนจาก บทความในเล่มที่ผ่านมากันแล้ว มาในฉบับนี้เราจะมาดูถึง ผลกระทบทางบวก หรือผลดีตอ่ ประเทศไทยว่า จะมีอะไรบ้าง และเราควรจะใช้กลยุทธ์อะไรเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบกับ โอกาสที่เข้ามา ประการแรก ก็คือ จะมีตลาดสินค้าและบริการที่ใหญ่ขึ้น นักธุรกิจไทยจะมีตลาดการค้าทีใ่ หญ่ขนึ้ เพราะมีประชากรเพิม่ ขึน้ เป็น 580 ล้านคน นับว่าจะการเพิ่มโอกาสทางการค้าเนื่องจาก มีขนาดตลาดทีใ่ หญ่โตขึน้ และจะเอือ้ ให้การผลิตในลักษณะทีผ่ ลิต มากขึ้นต้นทุนต่ำ�ลงย่อมมีโอกาสมากขึ้นด้วย กลยุทธ์ในด้านการตลาดจะต้องทบทวนกันใหม่ เพราะลูกค้า ที่จะเข้ามาในประเทศย่อมนำ�กลยุทธ์ที่เคยประสบความสำ�เร็จ ออกมาใช้ แ ละจะนำ�วั ฒ นธรรมในการบริ โ ภคเข้ า มาให้ เราได้ เรียนรู้ การปรับตัวของธุรกิจภายในประเทศจะต้องทันต่อเหตุการณ์ และสภาพของตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประการทีส่ อง ประเทศไทยจะได้อานิสงส์ ในการทีจ่ ะกลาย มาเป็นเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้มาก ขึ้น และประเทศไทยได้เปรียบประเทศอื่นๆ หลายประการ โดยเฉพาะทัศนคติของคนไทยที่มีต่อนักลงทุนชาวต่างชาตินั้น ดีมาก อีกทั้งระเบียบกฎเกณฑ์ด้านการลงทุน เปิดโอกาสมาก กว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ กลยุทธ์ในด้านการลงทุนและการเงิน ของประเทศไทย จำ�เป็นที่จะต้องพัฒนาให้ทันการเข้ามาของต่างชาติ กฎหมาย หรือกฏเกณฑ์ต่างๆ ของภาครัฐจะต้องรื้อปรับระบบกันใหม่ เพื่อให้ประเทศได้รับผลดีอย่างเต็มที่ และต้องหามาตรการใน การลดความเสี่ยงในทุกรูปแบบ ทั้งนี้รวมทั้งกฎหมายที่ว่าด้วย การถือครองอสังหาริมทรัพย์เช่น ที่ดินเป็นต้น ธุรกิจก็เป็นธุรกิจ ของต่างชาติทเี่ ข้ามามีบทบาททำ�ให้ธรุ กิจท้องถิน่ ทีม่ มี าแต่ชา้ นาน สูญหายไปหมด โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ของไทย 56
ประการที่สาม การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนทำ�ให้ ประเทศไทยมีอำ�นาจในการเจรจาต่อรองต่อเวทีโลกได้มากขึ้น เพราะต่อไปนี้จะมีฐานประชาคมอาเซียนสนับสนุนอยู่ กลยุทธ์ ที่จะช่วยได้อาจเป็นไปในรูปการสร้างและการขยายเครือข่าย โดยมีพันธมิตรคู่ค้าที่เป็นนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มอาเซียน เพื่อ จะเป็นฐานหรือตัวช่วยในการเจรจาต่อรองมากขึ้น ประการที่สี่ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะทำ�ให้นักธุรกิจ ไทย มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจและอุตสาหกรรม ให้ดีขึ้น รวมทั้งยังสามารถเรียนรู้เทคนิคด้านต่าง ๆ ของประเทศ ในกลุม่ นีม้ าใช้เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพของประเทศในหลายๆ ด้าน กลยุทธ์ที่เหมาะสมก็คือต้องหาเทคโนโลยีในการพัฒนาคุณภาพ ของสินค้าและบริการให้ดำ�รงความเหนือกว่าให้ได้ เพิม่ การลงทุน พัฒนาและการวิจัยเพื่อสร้างความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน การสร้ า งนวั ต กรรมของประเทศไทยจะเป็ น ตั ว จั ก รสำ�คั ญ ใน การสร้างความแตกต่างและความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไทย ในวันข้างหน้า ประการที่ห้า จะมีผลต่อการจ้างแรงงาน เพราะสามารถ เข้าโรงงานอุตสาหกรรมที่ให้ค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่าเดิม รวมทั้ง การออกไปหารายได้ เ พิ่ ม ขึ้ น จากค่ า แรงงานในกลุ่ ม ประเทศ อาเซียน ส่วนสถานประกอบการจะมีรายได้มากขึน้ จากการขยาย ตลาดและในที่ สุ ด ก็ จ ะมี ผ ลต่ อ รายได้ ที่ จ ะทำ�ให้ คุ ณ ภาพชี วิ ต ของคนในสังคมไทย
OCTOBER - DECEMBER 2012
กลยุทธ์ที่เหมาะสมในประเด็นนี้ ก็คือการเพิ่มทักษะใน ด้านภาษาท้องถิน่ ของแต่ละประเทศนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น จำ�เป็นที่จะต้องมีการเรียนการสอนด้านภาษามาเลย์ เวียดนาม เขมร ลาว และพม่าให้มากขึ้น ประการที่หก เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ต้อง ปรับปรุงแรงงานฝีมือในสาขาวิชาชีพ 7 วิชาชีพ ได้แก่ วิศวกร แพทย์ พยาบาล นักบัญชี นักสำ�รวจ ทันตแพทย์ และผู้ประกอบ วิชาชีพ สถาปนิก ให้เท่าเทียมนานาประเทศ เพราะเป็นสาขา วิชาชีพหน้าด่านที่มีความพร้อมสูง มีสมาคมและการรวมตัวที่มี ประสิทธิภาพเป็นที่ประจักษ์ ที่จะวางกฏเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ หากจะมีคนในประเทศสมาชิกเข้ามาทำ�งานในกลุ่มวิชาชีพทั้ง เจ็ดนีใ้ นไทย ในทางกลับกันหากคนไทยทีป่ ระกอบวิชาชีพเหล่านี้ ก็สามารถทีจ่ ะไปทำ�งานยังประเทศอืน่ ทีม่ คี า่ จ้างแรงงานทีส่ งู กว่า ได้เช่นกัน กลยุทธ์ที่ควรนำ�มาพิจารณาในประเด็นนี้ น่าจะเป็นเรื่อง ที่จะทำ�อย่างไรให้ความรู้ในด้านภาษาของคนในกลุ่มวิชาชีพ เหล่านี้สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเทคนิคและวิธีการ ใหม่ๆ นอกจากนั้นในด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ต้องหา หนทางจูงใจให้คนดีและคนเก่งอยูใ่ นองค์การของเราให้นานทีส่ ดุ มิฉะนัน้ จะเกิดเหตุการณ์สมองไหลไปสูอ่ งค์การของต่างชาติทงั้ ใน และนอกประเทศไทยกันหมด ประการทีเ่ จ็ด ประเทศไทยสามารถอาศัยความร่วมมือช่วย เหลือกันในภาคเศรษฐกิจหรือ AEC นี้เข้าไปเสริมสร้างความ
วารสารทองค�ำ
สัมพันธ์ในด้านการเมือง การปกครองการป้องกันประเทศให้ดขี นึ้ โดยผ่ า นความร่ ว มมื อ ด้ า นการค้ า การลงทุ น และจะช่ ว ยให้ ด้านอื่นๆ มีสัมพันธภาพอันดีตามมาในที่สุด กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการเรียนรู้และการปรับตัวโดยอาศัย การศึกษาและการเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการวัฒนธรรมข้ามชาติ มาเป็นหลักเพือ่ ให้เกิดการผนึกความร่วมมือร่วมใจ ปรองดองกัน ระหว่างคนไทยและประเทศเพือ่ นบ้านให้อยูร่ ว่ มกันโดยปราศจาก ข้อขัดแย้งทางด้าน สังคม เศรษฐกิจและการเมือง ประการที่ แ ปด ประเทศไทยสามารถหาวั ต ถุ ดิ บ และ ทรัพยากรทางธรรมชาติจากแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์แทน การทำ�ลายทรัพยากรภายในประเทศ ทำ�ให้มแี หล่งนำ�เข้าวัตถุดบิ จากนานาประเทศมากขึ้น และอาจช่วยในการดำ�เนินธุรกิจที่ ลดต้ น ทุ น ในการผลิ ต และการดำ�เนิ น การลงได้ ในประเด็ น นี้ การดำ�เนินกลยุทธ์อะไรก็ตามเหล่านี้ จะต้องดำ�เนินอยู่ภายใต้ ความร่วมมือและผลประโยชน์รว่ มกัน มิฉะนัน้ เราจะได้ชอื่ ว่ามีแต่ นักธุรกิจที่ไปทำ�ลายทรัพยากรของประเทศเขา ประการที่เก้า ประเทศไทยสามารถเกิดการเรียนรู้และ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ จากประเทศสมาชิก ประชาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี รวมทัง้ กลยุทธ์ กลวิธี ทางการค้า และ Business Model เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของสังคมไทยดี ขึ้นในวันข้างหน้า กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการฝึกที่จะเป็นผู้เรียน หรือนักเรียนที่ดี รวมทั้งเป็นนักฟังที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้เพื่อนำ�มาปรับปรุงการทำ�งาน
57
วารสารทองค�ำ
ของเราให้ดีขึ้นไปจากเดิม ประการที่สิบ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จะทำ�ให้เป็น แรงผลักดันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบปรับตัว ให้ทันต่อวิถีทางการ ทำ�งานของคน องค์การ หรืออุตสาหกรรมของประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซียน ต้องหาความรู้ที่จะมาปิดจุดอ่อนของเรา ความรูเ้ ดิมๆ คงไม่สามารถเอามาใช้เพือ่ การแข่งขันได้ แต่จะต้อง ขวนขวายหารูปแบบ และวิธีการใหม่ๆ มาใช้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะ เป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษาของไทยในวันข้างหน้า
58
OCTOBER - DECEMBER 2012
ประการที่สิบเอ็ด นับเป็นโอกาสของบางสาขาวิชาชีพที่ จะไปทำ�งานในกลุ่มประเทศในประชาคมอาเซียนได้ง่ายขึ้น และ อาจเป็นหนทางหนึ่งในการขจัดความยากจนของแรงงานไทย ภายในประเทศบางส่วน ดังนัน้ กลยุทธ์กค็ อื การเตรียมตัวแต่เนิน่ ๆ พยายามสะสมความรูป้ ระสบการณ์ และทักษะมาเพิม่ เติมให้เกิด คุณค่าให้มากขึ้น ประการที่สิบสอง จากประโยชน์ที่ประเทศไทยจะปรับฐาน ภาษีให้เท่าเทียมกับประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อการแข่งขัน เท่ากับเป็นการเพิม่ ช่องทางการส่งออกของไทยให้มากขึน้ จากเดิม อันจะทำ�ให้เป็นการหาเงินตราต่างประเทศเข้าไทยได้มากขึ้น ในประเด็นสุดท้ายนี้ ภาครัฐจะต้องค้นหาวิธกี าร เพราะจาก การปรับฐานภาษีให้ลดลงมาทำ�ให้ต้องสูญเสียภาษีที่จะนำ�ไป พั ฒ นาประเทศมากพอสมควร หากไม่ คิ ด หาหนทางที่ จ ะหา รายได้มาชดเชย รัฐจะลำ�บากเพราะการพัฒนาประเทศในอนาคต หลังจากทีเ่ รารูข้ อ้ ได้เปรียบจากการก้าวเข้าสูป่ ระชาคม อาเซียน และกลยุทธ์ที่จะนำ�มาใช้ไปแล้ว ในฉบับหน้าเรา จะมาดูกันว่าผลเสียท่ีจะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างและเราควรจะ เตรียมพร้อมในการรับมืออย่างไร
Golden Cars วารสารทองค�ำ
นวพร เพชรแก้ว : เรื่อง
OCTOBER - DECEMBER 2012
10 อันดับรถยนต์แพงที่สุดในโลก (ตอนที่ 2) หลังจากที่ในฉบับที่ผ่านมา คอลัมน์ Golden Cars ได้นำ�เสนอ รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก มาแล้ว 5 อันดับ มาในฉบับนีย้ งั เหลืออีก 5 อันดับ และจะได้รกู้ นั ว่ารถรุน่ ใดครองแชมป์รถยนต์ ที่แพงที่สุดในโลก
Aston Martin One-77
เริ่มจากอันดับที่ 5 แอสตัน มาร์ติน วัน-77 (Aston Martin One-77) มูลค่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 42 ล้านบาท ซูเปอร์คาร์จากเมืองผู้ดีที่ผลิตออกมาจำ�กัดเพียง 77คันตามชื่อคันนี้ ใช่ว่าใครมีเงิน ก็จะสามารถเป็นเจ้าของได้ แต่จะต้องได้รับการเชิญจาก ทางแอสตันมาร์ตนิ เท่านัน้ และทัง้ 77 คัน มีเจ้าของครบเป็นทีเ่ รียบร้อย แล้วหลังจากเปิดตัวเพียงไม่นาน เพราะเป็นรถที่ประกอบขึ้นด้วยมือ ตัวถังทำ�ด้วยอลูมิเนียมและโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทำ�ให้มีน้ำ�หนัก เพียง 1,500 กิโลกรัม ขุมกำ�ลังซึ่งวางอยู่ด้านหน้า เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน V12 ไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 7,200 ซี.ซี. มีกำ�ลังราวๆ 750 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.5 วินาที และความเร็วสูงสุดทำ�ได้กว่า 355 กม./ชม
อันดับที่ 4 คอนิกเส็กก์ อาเกียร่า อาร์ (Koenigsegg Agera R) ซูเปอร์คาร์สญ ั ชาติสวีเดนคันนี้ ถูกตัง้ ค่าตัวไว้ราว 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 51 ล้านบาท เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงบัลลังก์สุดยอดรถยนต์ ที่วิ่งได้ เร็วที่สุดในโลก มาด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 5,000 ซี.ซี. สร้างกำ�ลังได้ถึง 1,115 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดกว่า 1,200 นิวตั้น เมตร ทำ�อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที และเครมความเร็วสูงสุดว่าจะไม่ต่ำ�กว่า 430 กม./ชม.ซึ่งเป็นตัวเลขที่ บูกัตติ เวย์รอน ซูเปอร์ สปอร์ต เป็นเจ้าของสถิติโลกอยู่ในขณะนี้
Zenvo ST1 60
Koenigsegg Agera R
อันดับที่ 3 เซนโว เอสที 1 (Zenvo ST1) ซูเปอร์คาร์จากแดน โคนมคันนี้มีค่าตัว 1.8 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ หรือราว 54 ล้านบาท โฉมภายนอกออกแบบให้มีความปราดเปรียวเป็นเหลี่ยมมุมรูปทรง เรขาคณิต แผงกระจังหน้าเป็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และออกแบบ ด้านท้ายเป็นสปอยเลอร์ในตัว มากับเครื่องยนต์ เบนซิน V8 ขนาด 7,000 ซี.ซี. ติดตั้งระบบซูเปอร์ชาร์จและเทอร์โบชาร์จ สร้างกำ�ลังออก มาได้ถึง 1,104 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,430 นิวตันเมตร ทำ�อัตรา เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3 วินาที และได้มีการเปรียบเทียบ กันว่าซูเปอร์คาร์คันนี้สามารถขับข้ามประเทศเดนมาร์กได้ภายในเวลา เพียง 18 นาทีเท่านั้น
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Ferrari 599XX
อันดับที่ 2 เฟอร์รารี่ 599 เอ็กซ์เอ็กซ์ (Ferrari 599XX) ซูเปอร์คาร์ โปรเจ็กต์พิเศษจากค่ายม้าลำ�พอง ที่มีค่าตัวสูงกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 60 ล้านบาท โดยพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น 599 GTB Fiorano แต่การจะเป็นเจ้าของรถรุ่นพิเศษนี้ได้ต้องผ่านโครงการเรียนขับรถแข่งที่ เป็นส่วนหนึง่ ของการพัฒนารถสปอร์ตรุน่ ใหม่ของเฟอร์รารีเ่ สียก่อน ตัวรถ มีความพิเศษที่ถูกลดน้ำ�หนักด้วยการใช้ คาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม พร้อมระบบแอโรไดนามิคจากเทคโนโลยีสนามแข่งฟอร์มลู า่ วัน ซึง่ สามารถ สร้างแรงกด ในระดับ 630 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 300 กม./ชม. เครื่องยนต์ วางด้านหน้าเป็นแบบ เบนซิน V12 ขนาด 6000 ซี.ซี. ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำ�ลัง 700 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดทำ�ได้กว่า 316 กม./ชม
Bugatti Veyron 16.4 Super Sports
อันดับที่ 1 ได้แก่ บูกัตติ เวย์รอน 16.4 ซูเปอร์สปอร์ต (Bugatti Veyron 16.4 Super Sports) ซูเปอร์คาร์ที่สนนราคาค่าตัว 2.4 ล้าน ดอลลาร์ ส หรั ฐ หรื อ กว่ า 72 ล้ า นบาท คั น นี้ คื อ ยนตกรรมทีแ่ พงทีส่ ดุ ในบรรดารถยนต์จำ�หน่ายจริง ที่ ใช้ บ นท้ อ งถนนได้ อ ย่ า งถู ก ต้ อ งตามกฎหมาย ภายใต้หอ้ งเครือ่ งทีอ่ ยูด่ า้ นหลัง ผูข้ บั ของซูเปอร์คาร์ แดนน้ำ� หอมคั น นี้ คื อ เครื่ อ งยนต์ W16 จาก เครือโฟล์คสวาเก้น เป็นเครื่องยนต์เบนซิน บล็อก V วางซ้อนกัน 2 ชั้น แยกเป็นแถวละ 4 สูบ ฝาสูบ แบบ DOHC 64 วาล์ว เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ เทอร์โบชาร์จ 4 ตัวทีร่ บั ผิดชอบแถวละตัว เป็นทีม่ า ของรหัส 16.4 ความกว้างกระบอกสูบและช่วงชัก 86x86 มิลลิเมตรหรือเรียกว่าห้องเผาไหม้แบบ Square ความจุรวม 7,993 ซี.ซี. มีกำ�ลังสูงสุด 1,200 4 ล้อ ตลอดเวลา โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,500 นิวตันเมตร ส่งกำ�ลัง ภายในเวลาเพียง 2.5 วินาที และความเร็วสูงสุด ผ่านเกียร์ทวินคลัตช์ 7 จังหวะ DSG และขับเคลือ่ น ทำ�ได้กว่า 430 กม./ชม.
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำ�หรับ 10 อันดับรถยนต์แพงที่สุดในโลกในขณะนี้ แต่เชื่อว่า อีกไม่นาน ก็คงจะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมา และทำ�ลายสถิติเหล่านี้ลงได้ไม่ยากเย็นนัก ส่วนเนื้อหาของ คอลัมน์ Golden Cars ในฉบับหน้า บอกได้คำ�เดียวว่าห้าม พลาด แต่จะยังไม่บอกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่รับรองว่าไม่ผิดหวัง อย่างแน่นอน
61
Gold IT วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
Yokee Plam : เรื่อง
โลกไอทีกับวงการค้าทองคำ� วารสารทองคำ�เล่มประเดิมศักราชใหม่ ปี 2556 เราได้มีเรื่องราวและคอลัมน์ใหม่ๆ มานำ�เสนอ ซึ่งคอลัมน์น้องใหม่ ล่าสุดที่เข้ามาประจำ�การเป็นประจำ�จากนี้ไป ก็คือ “Gold IT” จากชื่อคอลัมน์ก็บ่งบอกอยู่ในตัวเองแล้วว่าจะนำ�เสนอ เนื้อหาเกี่ยวกับอะไร จากนี้ไปข้อมูลข่าวสารสาระความรู้ที่เกี่ยว กับโลกของ Information Technology หรือท่ี่เรามักจะเรียกสั้นๆ ติดปากกันว่า IT จะถูกรวบรวมมานำ�เสนอภายในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งเราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า IT ได้เข้ามามีส่วนในชีวิตประจำ�กัน อย่ า งมาก จนเรี ย กว่ า หากเราสามารถเรี ย นรู้ มั น ได้ อ ย่ า ง คล่องแคล่ว ก็จะเป็นอาวุธสำ�คัญที่จะทำ�ให้เราได้เปรียบเหนือ คู่แข่ง
ประเดิมเรื่องแรกของ Gold IT จะขอเสนอเรื่องใกล้ตัวกัน ก่อนเลย นั่นก็คือเรื่องของเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ� www. goldtraders.or.th ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้คลิกเข้าไปสัมผัสกัน มาบ้างแล้ว ทั้งนี้เว๊บไซต์แห่งนี้ได้ถูกจัดทำ�ขึ้นและได้ถูกพัฒนา มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่เข้ามา 62
ใช้บริการ ซึง่ ปัจจุบนั เว็บไซต์ของสมาคมฯ มีสมาชิกของสมาคมฯ รวมถึงบุคคลทั่วไป เข้ามาดูราคาทองที่ประกาศโดยสมาคมฯ เฉลีย่ ประมาณวันละ 100,000 คน ซึง่ ถือว่าเป็นตัวเลขทีค่ อ่ นข้าง สูงเลยทีเดียว ทั้งนี้ ในหน้าเว็บไซต์ไม่ได้มีเพียงแค่ราคาทองคำ�เท่านั้น แต่ยังมีเนื้อหาส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ แก่นักลงุทนและผู้ที่มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข่าวสาร บทความ ความเคลื่ อ นไหวในแวดวงเศรษฐกิ จ และทองคำ� กิจกรรมในเรื่องต่างๆ ของสมาคมฯ กระดานสนทนา รวมถึงยัง สามารถอ่านวารสารทองคำ� ฉบับปัจจุบันและฉบับย้อนหลังได้ นอกจากนัน้ ในเร็วๆ นีก้ เ็ ตรียมทีจ่ ะเพิม่ การให้บริการในส่วนอืน่ ๆ เพิ่มเติม แต่จะเป็นอะไรบ้าง และการใช้งานในแต่ละส่วนจะเป็น อย่างไร ติดตามได้ฉบับหน้าครับ
Gold Trips วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
“ประโยคบอกเล่า” : เรื่อง ณัฐพล พงษ์วีระพัฒน์ : ภาพ
ฝ่าลมหนาวตะลุย สามเหลี่ยมทองคำ� ไหว้พระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน
คอลัมน์ Gold Trips ฉบับนี้ จะพาขึ้นเหนือไป รับลมหนาวกันทีส่ ามเหลีย่ มทองคำ�กัน สามเหลีย่ ม ทองคำ� อยู่ในเขตบ้านสบรวก อำ�เภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สาเหตุที่ถูกเรียกว่าสามเหลี่ยม ทองคำ�นั้น เป็นเพราะว่าพื้นที่รอยต่อของทั้ง 3 ประเทศ อันได้แก่ ประเทศไทย ประเทศพม่า และ ประเทศลาว มีลักษณะพื้นที่เป็นรูปสามเหลี่ยม บรรจบกัน โดยมีแม่น้ำ�โขง ตัดผ่านชายแดนไทย และลาว พื้นที่ในแถบนี้เคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและ ผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ เช่น มีโรงงานผลิตเฮโรอีน และกระจายอยู่ตามชายแดน ส่วนการลำ�เลียงฝิ่น จะไปเป็นขบวนลัดเลาะไปตามไหล่เขาพร้อมกำ�ลัง คุม้ กัน ว่ากันว่ายาเสพติด และฝิน่ จะถูกแลกเปลีย่ น ด้วยทองคำ�ในน้ำ�หนักที่เท่ากัน จึงเป็นที่มาของชื่อ สามเหลี่ยมทองคำ� ปั จ จุ บั น สถานที่ แ ห่ ง นี้ ก ลายเป็ น สถานที่ ๆ มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก โดยเฉพาะใน ฤดูหนาว ซึ่งนอกจากที่ นักท่องเที่ยวจะมาถ่ายรูป 64
คู่กับซุ้มประตูสามเหลี่ยมทองคำ�แล้ว ต้องไปกราบ ไหว้พระพุทธนวล้านตื้อ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป สีทอง ขนาดใหญ่ น้ำ�หนักกว่า 69 ตัน เฉพาะองค์พระ หน้าตักกว้าง 9.99 เมตร สูง 15.99 เมตร ประทับ อยู่บนเรือนแก้วกุศลธรรม ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมี ตุง (ธง) เฉลิมพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยูห่ วั ฯ และพระบรมราชินีนาถฯ อยู่เบื้องข้าง พระพุทธนวล้านตืน้ เป็นพระเชียงแสนสีแ่ ผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่ จมลงแม่นำ�้ โขง บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ถูกสร้างขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ปิดทองด้วยบุศราคัม ซึ่งพระพุทธนวล้านตื้นมีประวัติ และความเป็นมา ที่น่าสนใจมาก เรื่องราวมีอยู่ว่าราวปี พ.ศ. 2479 พรานหาปลาผู้หนึ่งทอดแหหาปลาอยู่กลางน้ำ�โขง บริเวณหน้าสถานีตำ�รวจภูธรอำ�เภอเชียงแสนได้ เห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ� มี พระรัศมีบนพระเกศา และเห็นส่วนพระเศียรเพียง แค่พระหนุ
วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
ต่อมาในปีพ.ศ. 2492–2493 มีชาวลาวอพยพ มาตั้งถิ่นฐานใน อ.เชียงแสน ฝันว่าพระพุทธรูป ล้มคว่ำ�พระเศียรลงหันไปทางทิศใต้ จึงได้ลงคลำ� หาพระพุทธรูปกันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากตั้งศาล เพียงตาขึ้น ในบริเวณเกาะดอนแท่น และทำ�พิธี บวงสรวงพระพุทธรูป เตรียมเรือเหล็กขนาดใหญ่ 2 ลำ� พร้อมช้าง 3-4 เชือก นิมนต์พระสงฆ์ทำ�พิธี เนื่องจากกระแสน้ำ�แรงและเย็นมากจึงไม่อาจพบ พระพุทธรูปแต่อย่างใด จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2509 บริษัท อิตาเลียน – ไทย จำ�กัด ได้สัมปทานการสร้างสนามบินใน
หลวงพระบาง มาพักอยู่ที่เชียงแสน และนายชูสง่า ไชยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้น ได้ ใ ห้ บ ริ ษั ท ฯส่ ง นั ก ประดาน้ำ� ลงงมหา และกู้ พระพุทธรูปขึ้นมา แต่บริเวณดังกล่าวเป็นน้ำ�วน เชี่ยวมาก การค้นหาจึงไม่ประสบผลสำ�เร็จ ได้เพียง พระพุทธรูป องค์เล็ก และโบราณวัตถุอนื่ ๆ อีกเพียง เล็ ก น้ อ ย จวบจนปั จ จุ บั น ก็ ยั ง ไม่ ส ามารถกู้ เ อา พระพุทธนวล้านตื้นองค์จริงๆขึ้นมาได้ แต่ได้สร้าง องค์จำ�ลองขึ้นอย่างที่เห็นกันในปัจจุบันนั่นเอง หลังจากเที่ยวทางบกกันแล้ว เรามาต่อด้วย การเที่ยวทางน้ำ�บ้าง ซึ่งที่นี่มีบริการพานั่งเรือเที่ยว อีกด้วย โดยเรือจะพาเราทวนน้ำ�ไปดูสันดอนที่ตั้ง อยูต่ รงกลางจุดบรรจบของแม่น้ำ�ทัง้ สองสายจากนัน้ เลยไปแวะ Paradise Resort และ Win Win Casino คาสิโนของประเทศพม่า และวกกลับไปเที่ยวยังฝั่ง ลาว มาเที่ยว คิงส์โรมัน ที่ถูกสร้างด้วยรูปทรงที่ สวยงาม และหรูหราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้า พบเห็นในเวลากลางคืน ที่นี่จะเต็มไปด้วยแสงสี ตระการตาเอามากๆ และมี ส่ ว นช่ ว ยให้ ก าร ท่องเที่ยวในเขตสามเหลี่ยมทองคำ�ของลาวคึกคัก จากนั้ น ก็ เ ลยไปยั ง “เกาะดอนซาว” เป็ น แหล่งขายสินค้าปลอดภาษี ที่ตั้งอยู่ที่บ้านดอนซาว ส่วนใหญ่จะขาย เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ผ้าพืน้ เมือง และของตกแต่งบ้านที่ทำ�จากไม้ ซึ่งที่ฝั่งลาวนี่เอง ที่เหมาะกับการซื้อของฝากกลับไป ในราคาถูกๆ ก่ อ นที่ จ ะเดิ น ทางกลั บ ฝั่ ง ไทย ยั ง มี ส ถานที่ ใ ห้ แวะชมอีกแห่งคือ บ้านคนประมง ที่มีเรือจอดนับ สิบลำ� ถือได้ว่า เป็นความงดงามอีกอย่างหนึ่งใน การล่องเรือเที่ยว แหล่งท่องเทีย่ วในสามเหลีย่ นทองคำ� ยังมีอกี หลายจุดที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเลือกสรร ได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง แหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น หรือ ข้ามฝั่งไปเยี่ยมชมวัฒธรรมพื้นเมือง ของชาวบ้าน ในพืน้ ที่ ส่วนคอลัมน์ Gold Trips ในฉบับหน้าจะพา ไปเที่ยวไหนกันต่อ หรืออยากจะให้เราพาไปเที่ยว ไหน ก็เสนอแนะกันมาได้ 65
Gold Update วารสารทองค�ำ
OCTOBER - DECEMBER 2012
คุยกับสมาคมฯ สวั ส ดี ค รั บ ท่ า นสมาชิกฯ ก็ผ่านไปแล้วนะครับ สำ � หรั บ ปี 2555 ในปี ที่ ผ่ า นมา สมาคมฯได้ ลุ ย งานทางด้ าน การป้องปรามและปราบปรามปัญหาทองปลอม จนเกิดผลเป็นรูปธรรมในหลายส่วน และได้มีการเชื่อมโยงเครือข่าย ในหลายมิติเข้าด้วยกัน ทั้งตำ�รวจ ทนายความ ร้านค้าทอง และหน่วยงานอื่นๆ ในส่วนของงานสัมมนา “รูท้ นั ทองปลอม สัญจร” ทีส่ มาคมฯ ได้จัดขึ้นนั้น ได้รับผลตอบรับด้วยดีเป็นอย่างมาก ทำ�ให้ร้านทอง เกิดความตื่นตัวและเข้าใจถึงปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะในส่วน ของเจ้ า หน้ า ที่ รั ฐ รวมทั้ ง ทำ�ให้ ส มาคมฯ ได้ รั บ ทราบข้ อ มู ล รวมทั้ ง ข้ อ เสนอแนะจากบรรดาผู้ ค้ า ปลี ก ทองคำ�ทั่ ว ประเทศ ทัง้ เรือ่ งของปัญหาทองปลอม รวมไปจนถึงเรือ่ งอืน่ ๆ ซึง่ สมาคมฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการเพือ่ สรุปผลการทำ�งาน และข้อมูล ต่างๆ กันเป็นประจำ�ทุกเดือน ซึง่ ก็จะมีการนำ�เรือ่ งต่างๆ มาพูดคุย สรุปผล และแก้ไขปัญหาร่วมกัน นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังได้ จัดทำ�ป้ายโปสเตอร์คำ�เตือน “การนำ�ทองปลอมมาขาย, ขายฝาก ให้ ท่ า นสมาชิ ก ฯ ก่ อ นหน้ า นี้ เพื่ อ สำ�หรั บ นำ�ไปติ ด ประกาศ มีความผิดตามกฎหมาย โทษอาญา จำ�คุก 3 ปี” ซึ่งได้จัดส่ง ภายในร้ า น เพื่ อ เป็ น การป้ อ งปรามมิ จ ฉาชี พ ที่ รั บ จ้ า งนำ� ทองปลอมมาขาย ให้ทราบถึงโทษของการกระทำ�ผิด และเกิด ความเกรงกลั ว กฎหมาย โดยสมาคมฯ ได้ รั บ อนุ ญ าตให้ ใช้ ตราสัญลักษณ์ของสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ แสดงไว้ในโปสเตอร์ ดั ง กล่ า ว เพื่ อ แสดงถึ ง ความร่ ว มมื อ กั น ระหว่ า งองค์ ก รใน การรณรงค์แก้ไขปัญหาทองปลอมอย่างจริงจัง สำ�หรั บ ปี 2556 นี้ ยั ง มี กำ�หนดการจั ด สั ม มนา “รู้ ทั น ทองปลอมสัญจร” อีก 3 ครั้ง ที่จังหวัดอุดรธานี นครศรีธรรมราช และนครสวรรค์ ซึง่ ก็จะได้พฒ ั นาปรับปรุงรูปแบบการจัดงานให้ดี ยิง่ ขึน้ ในภาพรวมของการดำ�เนินงาน สมาคมฯ ในปีทผี่ า่ นมานัน้ เนื่ อ งจากติ ด ขั ด ปั ญ หาทางด้ า นกำ�ลั ง บุ ค ลากรที่ ไ ม่ เ พี ย งพอ จึ ง ทำ�ให้ อ าจมี ข้ อ ขาดตกบกพร่ อ งไปบ้ า ง กระผมในฐานะ ผู้ปฏิบัติงานขอน้อมรับไว้ทุกประการ และจะพัฒนาปรับปรุง การทำ�งาน การประสานระหว่างร้านทองทุกภาคส่วน ให้เกิด ประสิทธิภาพอย่างสูงสุด สุดท้ายต้องถือโอกาสนี้ ขออวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพ แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และให้มีความเจริญรุ่งเรือง มีความสุขรับปีใหม่กันถ้วนหน้าครับ 66