สารปวย นิตยสารรายเดือน เพื่อรำลึกและฉลอง 100 ป ชาตกาล ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ
ปที่ 1 ฉบับที่ 8 ธันวาคม 2558
อาจารยปวย บุคคลสำคัญ ของโลก
....................................................
มอง
”อาจารยปวย”
ผานแวนของ
ดร.วิรไท สันติประภพ
ผูวาการธนาคารแหงประเทศไทยคนปจจุบัน
สามารถอานฉบับยอนหลังไดที่เว็บไซต www.alumni.tu.ac.th และ www.puey.tu.ac.th Cover-puay-8 December.indd 1
23/11/2558 13:35:03
สารบัญ / CONTENTS รายงานพิเศษ
1
อาจารยปวย บุคคลสําคัญของโลก
ลูกผูชายชื่อ “ปวย”
4
เรื่องจากปก
8
มองอาจารยปวย ผานแวนของ ดร.วิรไท สันติประภพ ผูวาการธนาคารแหงประเทศไทยคนปจจุบัน
ปลายปากกาปญญาชนสยาม
15
ความเปนนักเศรษฐศาสตรของปวย อึ๊งภากรณ
บทความพิเศษ
ผูเปนตํานานอันนิรันดร
22
ปวยเสวนาสัญจร
25
รัฐไทยกับการพัฒนาเศรษฐกิจ : แนะไทยหลุดพนกับดักรายไดปานกลาง เพิ่มงานวิจัย พัฒนาทักษะแรงงาน หนุนเอกชนรวมตัวเปนกลุมหุนสวนพัฒนานวัตกรรม ปวยเสวนาสัญจรจังหวัดจันทบุรี “จริยธรรมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
ศิลปวัฒนธรรม
28
18
โขนธรรมศาสตร
ปฏิทินกิจกรรม
30
20
กวีนิพนธ
31
บุคคลผูเสียสละ
มองปวย
ปาฐกถา 100 ป คณะเศรษฐศาสตร
สู 100 ป คนดีที่โลกยกยอง
บทบรรณาธิการ
5 กุมภาพันธ 2516 อาจารยปวย กลาวถึงเรื่อง Best Wishes for Asia เอาไววามีสิ่งที่พึงปรารถนา อยู 3 ประการ ไดแก (1) สันติภาพ (2) โภชนาการ และ (3) เสรีภาพ เรื่องของ เสรีภาพ นั้น อาจารยปวย เรียกรองอยูเสมอวาสังคมในอุดมคติของทานตองมีเสรีภาพ เชนที่ทานเคยกลาววา “ไฉนเลา เราจึงจะจํากัดเฉพาะความคิดเห็นของบุคคลสวนนอย ไมเปดโอกาสใหบุคคลทั้งหลายไดแสดงความคิดเห็นตามทัศนนิยมของเขา จะได มีโอกาสเลือกไดวาวิถีทางใดจึงจะเปนประโยชนที่สุดแกสวนรวม” (เหลียวหลัง แลหนา, 2519) ในเรื่อง โภชนาการ ก็นับวานาสนใจมาก เพราะทานไมเพียงแตกลาวถึงอาหารที่ดีสําหรับรางกายเทานั้น หากยังหมายถึงสําหรับ สมองเพื่อจิตวิญญาณและบํารุงสติปญญาของมนุษย อีกทั้งเรียกรองใหสงเสริมการศึกษาและการพัฒนาทางวัฒนธรรมเปนอยางแรก ๆ และขอสําคัญคือ สันติภาพ อาจารยปวย ปรารถนาจะเห็นสันติภาพเกิดขึ้นไมแตในเมืองไทย หากครอบคลุมไปทั่วทั้งเอเชีย โดยเฉพาะก็ในสมัยนั้นยังเปนชวงสงครามเย็นที่มีฐานทัพรบกันในภูมิภาคนี้ และแนนอนวาทานยอมปรารถนาจะเห็นสันติสุขของโลกทั้งใบนี้ มิฉะนั้นคงไมเขารวมกับขบวนการเสรีไทยเพื่อนําสันติภาพกลับคืนมาสูโลก ไมเพียงเทานั้น หากพิจารณางานเขียนตางๆ ของทาน ก็จะพบแนวคิดสันติวิธีอยูเสมอ เชนที่ทานกลาวไวใน บันทึกประชาธรรมไทย โดยสันติวิธี (2516) ตอนหนึ่งวา “สันติวิธีเปนวิธีเดียวเพื่อประชาธรรมถาวร คงตองใชเวลานาน คงตองเสียสละ คงตองกลาหาญเด็ดเดี่ยว เปนพิเศษ คงเปนที่เยยหยันของผูอื่น แตถามั่นใจในหลักการจริง ความมานะอดทนยอมตามมาเอง” แลวในวันนี้เลา สงคราม และ สันติภาพ อะไรจะมาถึงกอนกัน ? กษิดิศ อนันทนาธร ขอเขียนตางๆ ในวารสารเลมนี้ เปนความคิดเห็นสวนบุคคลของผูเขียน เจาของและบรรณาธิการไมจําเปนตองเห็นพองดวยเสมอไป เจาของ: คณะกรรมการเตรียมงาน 100 ป ชาตกาล ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ที่ปรึกษา: ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย สุลักษณ ศิวรักษ บุญสม อัครธรรมกุล บรรณาธิการ: กษิดิศ อนันทนาธร กองบรรณาธิการ: มนธีร กรกําแหง วันฟาใหม เทพจันทร ปยะดา รัตนกูล ธนวันต บุตรแขก ศิลปกรรม: ธิดาพร วงษสําราญ แยกสี/พิมพ: บริษัทฐานการพิมพ จํากัด สํานักงาน ติดตอ: สํานักงานเลขานุการคณะกรรมการเตรียมงาน 100 ป ชาตกาล ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ เลขที่ 2 ถนนพระจันทร เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท 0-2613-3777 โทรสาร 0-2613-2043 E-mail: tualumnioff@gmail.com http:// www.alumni.tu.ac.th www.facebook.com/ สู 100 ปชาตกาล ปวย อึ๊งภากรณ
Inside-puay December 58.indd 1
24/11/2558 9:58:40
รายงานพิเศษ กองบรรณาธิการ
อาจารยปวย
บุคคลสําคัญของ
โลก
นับเปนขาวดีอยางยิ่ง ที่ในวันนี้ ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ ผูเปนที่เคารพรักและเปนแบบอยาง ของ ‘ผูใหญ’ ที่ดีของสังคมไทย ไดรับการประกาศยกยองใหเปนบุคคลสําคัญของโลก หลังจากที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และ มูลนิธิปวย อึ๊งภากรณ ไดนําเสนอชื่ออาจารยปวยเปนบุคคล สําคัญของโลก ตอ องคการการศึกษา วิทยาศาสตร และวัฒนธรรมแหงสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ผานทางกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลไทย เมื่อป 2557 ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย อธิการบดีมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร กลาวภายหลังยูเนสโกประกาศใหอาจารยปวย เปนบุคคลสําคัญของโลก ผูมีผลงานดีเดนทางดานการศึกษา สังคมศาสตร และมนุษยศาสตร วา นับตั้งแตมีการเดินเรื่อง เพื่อเสนอชื่ออาจารยปวยตอยูเนสโกตั้งแตป 2557 ในระหวาง รอการพิจารณา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรก็ไดจดั งานเฉลิมฉลอง
มาโดยตลอด เปนตนวาการจัดแสดงละครเวที “มังกรสลัดเกล็ด” เรื่องชีวประวัติของอาจารยปวย รวมกับ สมาคมเศรษฐศาสตร ธรรมศาสตร คณะเศรษฐศาสตร และ ธนาคารแหงประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผานมา หรือวาเชนการทํา มุมปวย ใน หอสมุดปรีดี พนมยงค การจัด ปวยเสวนาคารสัญจร ในมหาวิทยาลัยตางๆ ในสวนภูมภิ าค
1 Inside-puay December 58.indd 1
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:44:28
การจัดปาฐกถา ชุด 100 ป อาจารยปวย การทําเพลงและ สารคดีเรื่องอาจารยปวย ตลอดจนรวมกับ มูลนิธิเสฐียรโกเศศนาคะประทีป จัดทํา ‘ปฏิทินปวย 2559’ เปนตน สําหรับกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรนั้นได เตรียมดําเนินการตั้งแตบัดนี้จนถึงวันที่ 9 มีนาคม 2559 ซึ่งเปน วันครบรอบ 100 ป ชาตกาลของอาจารยปวย ก็ยังอีกมากมาย อาทิ… สรางอุทยานการเรียนรู ปวย 100 ป ที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร ศูนยรังสิต รวมกับมูลนิธิปวย จัดทําอนุสาวรียอาจารยปวย บริเวณที่จะเปนสวนศิลปอาจารยปวย ในที่ของกรมธนารักษ บริเวณตลาดนอย บานเกิดของทาน รวมกับจังหวัดชัยนาท จัดทําอนุสรณสถานอาจารย ปวยขึ้น รวมกับสมาคมอัสสัมชัญและภาคีเครือขาย ทําแสตมป อาจารยปวย รวมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแสดงดนตรีใหทาน รวมกับสมาคมผูจัดพิมพและจัดจําหนายหนังสือ แหงประเทศไทย จัดงานสัปดาหหนังสือแหงชาติ ในธีม 100 ป ชาตกาล รวมกับมูลนิธิตางๆ พิมพหนังสืออาจารยปวย นับ สิบเลม จัดกิจกรรมใหนกั ศึกษาลงไปเรียนรูแ ละพัฒนาชนบท ตามปณิธานของอาจารยปวย ฯลฯ การพิจารณาคัดเลือกบุคคลสําคัญ / เหตุการณสําคัญ ของโลก ป ค.ศ. 2016 - 2017 นี้ จัดขึ้นในระหวางการประชุม สมัยสามัญยูเนสโก ครั้งที่ 38 ระหวางวันที่ 3 - 18 พฤศจิกายน 2558 ณ สํานักงานใหญยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 2
เจาพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปย มาลากุล) ซึ่งในคราวนี้ประเทศไทยไดเสนอชื่อบุคคลสําคัญเพื่อใหยูเนสโก ประกาศยกยองเปนบุคคลสําคัญของโลก จํานวน 2 ราย คือ ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ป ชาตกาล และ เจาพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปย มาลากุล) ครบรอบ 100 ป การถึงแกกรรม ในป 2560 ในฐานะที่ทาน ทั้งสองเปนผูมีผลงานดีเดนทางดานการศึกษา สังคมศาสตร และมนุษยศาสตร ทั้งนี้ บุคคลสําคัญที่ประเทศไทยเสนอ ไดผานการ พิจารณาตามคุณสมบัติในการคัดเลือกทุกประการ ทั้งการฉลอง ครบรอบในแงของบุคคลหรือเหตุการณสําคัญทางประวัติศาสตร โดยบุคคลสําคัญของไทยนั้นถือเปนแบบอยางอันดีเลิศที่แสดง ออกอยางชัดเจนในเรื่องของการสงเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ตลอดจนความสัมพันธและความเขาใจอันดีของ มวลมนุษยตามสาขาหลักของยูเนสโก คือ การศึกษา วิทยาศาสตร วัฒนธรรม สังคมศาสตร หรือสื่อสารมวลชน บุคคลสําคัญที่จะไดรับการเฉลิมฉลองในแงของเวลา จะตองเปนวาระครบรอบชาตกาลหรือมรณกรรม ที่หารดวย
2 23/11/2558 16:44:29
ศ.พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ)
ศ.ดร.ปรีดี พนมยงค
50 ป ลงตัว และตองสะทอนใหเห็นถึงความเปนแบบอยาง ความมีคุณคา และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ไดรับ ความสนใจในระดับโลก หรืออยางนอยในระดับภูมภิ าค… สําหรับ อาจารยปวยนับวามีคุณสมบัติครบ ดังทีท่ า นไดรบั รางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ จากประเทศฟลิปปนส ในป 2508 ไดรับปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสิงคโปร ในป 2517 หรืออยาง ในทางวิชาการที่ทานไดรับคัดเลือกเปนสมาชิกกิตติมศักดิ์แหง The London School of Economics and Political Science มหาวิทยาลัยลอนดอน ตลอดจนไดรับเชิญใหเปนศาสตราจารย พิเศษ ที่มหาวิทยาลัย Princeton ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ ประเทศอังกฤษ ในชวงป 2513 - 2516 และในวาระ 100 ป ชาตกาลของทาน ไมแตเพียง ฉลองในเมืองไทยเทานั้น หากจะยังมีในตางประเทศดวย เชนที่ ธนาคารแหงประเทศไทย จะไปรวมกับ SEACEN จัดงานใหทา น ที่มาเลเซีย หรือโครงการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตรที่เตรียม จะไปเฉลิมฉลองในตางประเทศ ไมวาจะเปนในกลุมประเทศ อาเซียน หรือที่ประเทศอังกฤษ
กุหลาบ สายประดิษฐ (ศรีบูรพา)
2543 ไดแก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ ศ.ดร.ปรีดี พนมยงค ป 2548 คือ คุณกุหลาบ สายประดิษฐ (หรือที่รูจัก ในนามปากกา “ศรีบูรพา”) และ ทานพุทธทาสภิกขุ ในปตอมา สวนการฉลองเหตุการณ เชน การฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ป ของพระเจาอยูหัวรัชกาลปจจุบัน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2539 เปนตน และจากนี้ตอไป ยูเนสโกก็จะประกาศใหประชาคมโลก รวมเฉลิมฉลองไปพรอมๆ กัน ซึ่งถือเปนการเชิดชูเกียรติคุณ บุคคลสําคัญของประเทศสมาชิกที่มีความโดดเดนเปนแบบอยาง ที่ดีงามในดานตางๆ ดวย ซึ่งในสวนการเชิดชูเกียรติและเฉลิม ฉลองของอาจารยปวยนั้น นอกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และองคกรเครือขายทีเ่ กีย่ วของกับทานจะจัดกิจกรรมตางๆ แลว กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลไทยคงจะดําเนินการจัดงาน เฉลิมฉลองบุคคลสําคัญทั้งสองทานคือ อาจารยปวย อึ๊งภากรณ และเจาพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี ตอไป n
n
n
ทั้งนี้ นับตั้งแต ป 2505 จนถึงปจจุบัน ยูเนสโกได ประกาศยกยองและรวมฉลองบุคคลสําคัญ / เหตุการณสําคัญ ในประวัติศาสตรของไทย รวม 26 รายการ ชาวไทยพระองคแรกที่ไดรบั การยกยองในวาระ 100 ป ชาตกาลจากยูเนสโก คือ สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ในป 2505 ตามมาดวย สมเด็จฯ เจาฟากรมพระยานริศรานุวดั ติวงศ ในปถัดมา จนป 2531 ศ.พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) เปนสามัญชนคนแรกที่ไดรับเกียรตินี้ หลังจากนั้นก็เชน ในป
3 Inside-puay December 58.indd 3
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:44:30
ลูกผูชายชื่อ “ปวย” 2457
2477
2457 - 2461 สงครามโลกครั้งที่ 1
2476
เปนนักศึกษารุนแรกของมหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตรและการเมือง
เปนมาสเตอร สอนวิชาคํานวณและ ภาษาฝรั่งเศส โรงเรียนอัสสัมชัญ
2481
2467
สอบไดทุนไปเรียนที่ LSE มหาวิทยาลัยลอนดอน
เขาโรงเรียน โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
2479
สําเร็จการศึกษาเปน ธรรมศาสตรบัณฑิต
2477
นายปรีดี พนมยงค กอตั้งมหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตรและการเมือง และดํารง ตําแหนงผูประศาสนการ
2459
9 มีนาคม 2459 เกิดที่บาน ตลาดนอย กรุงเทพฯ เปนบุตรคนที่ 4 ของนางเซาะเซ็ง แซเตียว และนายซา แซอึ้ง
2475
คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 4
2482
จอมพล ป. เริ่มนโยบายรัฐนิยม
4 23/11/2558 16:45:36
คําวา
“ปวย” แปลตรงตัวไดวา “พูนดินที่โคนตนไม”
แตมีความหมายกวางขวางออกไปอีก คือ “บํารุง” “หลอเลี้ยง” “เพาะเลี้ยง’ และ “เสริมกําลัง”
ปวย อึ๊งภากรณ (2512)
2484
นายปรีดี พนมยงค และคณะ กอตั้งขบวนการเสรีไทยเพราะไมเห็นดวยกับการประกาศสงคราม ของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม
2487
กระโดดรมลักลอบเขาประเทศไทยเพื่อปฏิบัติงานลับของเสรีไทย
2484
2489
จบปริญญาตรีสาขา วิชาเศรษฐศาสตร และการคลัง ผลการเรียนสูงสุด เปนอันดับหนึ่ง ในบรรดาเกียรตินิยม
แตงงานกับมารเกร็ท สมิท เรียนตอปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยลอนดอน
2490
รัฐประหารโดย พลโทผิน ชุณหวัณ
2488
2484
2484 - 2488 สถานการณ สงครามโลก ครั้งที่ 2 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟค
กลับไปเจรจากับรัฐบาลอังกฤษ ใหยอมรับขบวนการเสรีไทย ไดรับยศพันตรีแหงกองทัพบกอังกฤษ
14 สิงหาคม 2488 ญี่ปุนประกาศยอมแพสงคราม
2485
รวมกอตั้งคณะเสรีไทยขึ้น ในอังกฤษ ไดชื่อจัดตั้งวา นายเขม เย็นยิ่ง
16 สิงหาคม 2488 นายปรีดี พนมยงค ลงนามประกาศสันติภาพ ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจาอยูหัวอานันทมหิดล
5 Inside-puay December 58.indd 5
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:45:47
“การยอมรับความชั่วนั้นเปนความชั่วอยูในตัว (toleration of evil is evil itself)” ปวย อึ๊งภากรณ (2511)
2505
เปนผูอํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
2500
2494
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต ยึดอํานาจ รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม
เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตรและการเมือง เปนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร มีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เปนอธิการบดีคนแรก
2492
กลับเมืองไทย เขารับราชการ ตําแหนงเศรษฐกร กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
2492
นายปรีดี พนมยงค และขบวนการ ประชาธิปไตย 26 กุมภาพันธ ซึ่งตองการฟนฟู การปกครองใหเปน ประชาธิปไตย ประสบความลมเหลว
2491
จบปริญญาเอกดวยวิทยานิพนธ เรื่อง เศรษฐศาสตรวาดวยการ ควบคุมดีบุก ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 6
2502
เปนผูอํานวยการ สํานักงบประมาณ สํานักนายกรัฐมนตรี
2496
เปนรองผูวาการธนาคาร แหงประเทศไทย
2502
2495
เปนผูวาการธนาคาร แหงประเทศไทย
ไดรับแตงตั้งเปนผูชวย ฝายวิชาการ ของปลัด กระทรวงการคลังและ กรรมการธนาคาร แหงประเทศไทย
2504
เริ่มใชแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแหงชาติฉบับที่ 1
2499
เปนที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจการคลัง ประจําสถานเอกอัครราชทูตไทยในอังกฤษ
6 23/11/2558 16:45:58
“การที่จะเกิดประชาธิปไตยไดตองใหคนเกลียดเผด็จการ เวลานี้คนยังไมไดเกลียด เผด็จการ เพราะเหตุวา หนึ่ง มีความกลัวเผด็จการ เลยไมแสดงทาวาเกลียด สอง บางคนนั้นนึกวาเผด็จการดีกวาอยางอื่นซึ่งเราเคยกันมาแลว”
2506
ปวย อึ๊งภากรณ (2520)
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต ถึงแกอสัญกรรม จอมพลถนอม กิตติขจร ขึ้นเปนนายกรัฐมนตรี
2507
เปนคณบดี คณะเศรษฐศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร
2518
ไดรับการเสนอชื่อและไดรับเลือกใหเปน อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตรคนที่ 10
2519 2508
ไดรับรางวัล แมกไซไซ สาขาบริการ สาธารณะ
ลี้ภัยการเมืองออกนอกประเทศ
2513
2520
ลาพักไปสอน ที่ ม.ปริ๊นชตัน สหรัฐอเมริกา
เดือนกันยายน ลมปวยดวยอาการ เสนโลหิตในสมองแตก ใชชีวิตอยางเรียบงายที่ประเทศอังกฤษ
2519
2510
เหตุการณ 6 ตุลาคม
รวมกอตั้ง มูลนิธิบูรณะชนบท แหงประเทศไทย
2512
2530
เดินทางกลับมาเยี่ยม บานเกิดที่เมืองไทย ครั้งแรก
2516
กอตั้งโครงการ บัณฑิตอาสาสมัคร
เหตุการณ 14 ตุลาคม
2515
กุมภาพันธ 2515 เกิดจดหมาย เปดผนึกของนายเขม เย็นยิ่ง ถึงพี่ทํานุ เกียรติกอง แหงหมูบาน ไทยเจริญ แสดงจุดยืน สนับสนุน ใหใชระบอบประชาธิปไตย ในการแกปญหาของประเทศ
Inside-puay December 58.indd 7
2542
28 กรกฎาคม ถึงแกกรรมอยางสงบ ที่บาน ณ กรุงลอนดอน รวมอายุได 83 ปเศษ
7
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:46:10
เรื่องจากปก กษิดิศ อนันทนาธร
มองอาจารยปวย ผานแวนของ
ดร.วิรไท สันติประภพ
ผูวาการธนาคารแหงประเทศไทยคนปจจุบัน ส า ร ป๋ ว ย 8
Inside-puay December 58.indd 8
23/11/2558 16:48:16
ไมนานมานี้ขาวการเขารับตําแหนงของ ดร.วิรไท สันติประภพ ผูวาการ ธนาคารแห ง ประเทศไทยคนใหม ดู จ ะเป น ที่ จั บ จ อ งของสื่ อ มวลชนอยู ไ ม น อ ย ด ว ยความที่ อ ายุ อ านามของท า นนั้ น ถื อ ว า ยั ง น อ ย เมื่ อ เที ย บกั บ การต อ งมารั บ หน า ที่ เ ป น หั ว เรื อ ใหญ ใ นตํ า แหน ง สํ า คั ญ ระดั บ ประเทศอย า งผู ว า การธนาคาร แห ง ประเทศไทย ซึ่ ง ในประวั ติ ศ าสตร ข องธนาคารแห ง ประเทศไทยนั้ น ดร.ป๋ ว ย อึ๊งภากรณ์ เปนผูวาการธนาคารแหงประเทศไทยทานหนึ่งที่เขารับตําแหนงตั้งแต อายุนอย และอยูในตําแหนงนานที่สุดคือ 12 ป 2 เดือน 4 วัน
áÅдŒÇ¤ÇÒÁÊÒÁÒö¢Í§ ´Ã.ÇÔÃä· ·Õè໚¹¤¹ àÃÕ¹ࡋ§ ¤×ÍàÃÕ¹¨º¤³ÐàÈÃÉ°ÈÒʵà ÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑ ¸ÃÃÁÈÒʵà ´ŒÇÂà¡ÕÂõԹÔÂÁÍѹ´Ñº 1 ä´ŒÃѺ¾ÃÐÃÒª·Ò¹ ÃÒ§ÇÑŷعÀÙÁԾŠáÅÐ໚¹ºÑ³±ÔµàÈÃÉ°ÈÒʵà ã¹ÇÑ à¾Õ§ 18 »‚àÈÉ ¨Ò¡¹Ñé¹ä´ŒÃѺ¾ÃÐÃÒª·Ò¹·Ø¹ÁÙÅ¹Ô¸Ô Íҹѹ·ÁËÔ´Å ä»ÈÖ¡ÉÒµ‹ÍÃдѺ»ÃÔÞÞÒâ·áÅлÃÔÞÞÒàÍ¡ ·ÕèÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑÂÎÒÇÒà ´ ÊËÃÑ°ÍàÁÃÔ¡Ò ¨º»ÃÔÞÞÒàÍ¡ ÊÒ¢ÒàÈÃÉ°ÈÒʵà àÁ×èÍÍÒÂØà¾Õ§ 24 »‚ ·Ñé§Âѧ·íÒ§Ò¹ ÊíÒ¤ÑÞæ ÁÒáÅŒÇÁÒ¡ÁÒ äÁ‹Ç‹Ò˹‹Ç§ҹÃÒª¡Òà ͧ¤ ¡Ã ÃÐËÇ‹Ò§»ÃÐà·È ËÃ×ÍÀÒ¤àÍ¡ª¹ ¨Ö§·íÒãËŒËÅÒ¤¹¹Ö¡ à»ÃÕºà·Õº·‹Ò¹à»š¹à§Ò¢Í§ ÍÒ¨Ò້Ǡ㹢³Ð·Õè ´Ã.ÇÔÃä· ºÍ¡Ç‹Ò äÁ‹ÍÂÒ¡ãËŒà»ÃÕºà·Õºઋ¹¹Ñé¹ à¾ÃÒÐ áÁŒ¨Ðä´ŒÃѺµíÒá˹‹§ÊíÒ¤ÑÞ㹪‹Ç§ÍÒÂعŒÍ¤ŌÒ¡Ѻ·‹Ò¹ ÍÒ¨Ò້Ǡᵋ¤Ø³Ù»¡Ò÷Õè·‹Ò¹ÍÒ¨Ò້ÇÂä´Œ·íÒ¹Ñé¹ ÁÕ Á Ò¡ÁÒÂàËÅ× Í ¤³Ò¹Ñ º äÁ‹ ÁÕ · Ò§·Õè ¨ Ðà»ÃÕ Â ºà·Õ  ºä´Œ ¼Å§Ò¹áÅÐá¹Ç¤Ô´¢Í§ÍÒ¨Ò້ÇÂä´ŒÊÌҧÈÃÑ·¸Ò áÅÐ໚¹ áçºÑ¹´ÒÅã¨ã¹¡Ò÷íÒ§Ò¹ãËŒ ´Ã.ÇÔÃä· ÁÒ¡·Õà´ÕÂÇ ÊÒû‰ Ç Â ©ºÑ º ¹Õé ä ´Œ ÃÑ º à¡Õ Â ÃµÔ Í Â‹ Ò §ÊÙ § ¨Ò¡¼Ù Œ Ç‹Ò¡Òø¹Ò¤ÒÃáË‹§»ÃÐà·Èä·Â¤¹»˜¨¨ØºÑ¹ ãËŒÊÑÁÀÒɳ ¶Ö§ àÃ×è Í §ÃÒǤÇÒÁ¤Ô ´ áÅÐáçºÑ ¹ ´ÒÅ㨷Õè · ‹ Ò ¹ä´Œ ÃÑ º ¨Ò¡ ÍÒ¨Ò້ÇÂ...
รู้จักอาจารย์ป๋วยตั้งแต่เมื่อไร? ผมเริ่มรู้จักอาจารย์ป๋วยตั้งแต่เข้าธรรมศาสตร์ ผมจบคณะเศรษฐศาสตร์ ดังนั้นจึงพูดได้เต็มปากว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากงานที่ท่าน อาจารย์ป๋วยได้วางรากฐานไว้ให้ ครูบาอาจารย์ของผม หลายท่านเป็นนักเรียนทุนที่อาจารย์ป๋วยได้หาทางให้ได้ไป เรียนจบปริญญาเอก แล้วกลับมาสร้างให้คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มีความแข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับของแวดวง วิชาการต่างประเทศ ผมและนักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ทุกคนจึงได้รับประโยชน์ โดยตรงจากงาน ที่ท่านอาจารย์ป๋วยได้สร้างไว้ ตอนที่อยู่ธรรมศาสตร์ผมมีโอกาสได้อ่านงานเขียน ของท่านอาจารย์ป๋วยค่อนข้างมาก มีความประทับใจใน วิธคี ดิ และความงดงามของภาษาทีอ่ าจารย์ปว๋ ยได้เขียนไว้ ในหลายๆ เรื่อง เช่น ท่านสามารถเอาทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ที่ยาก มาอธิบายท�าให้เข้าใจได้ง่าย อย่างทฤษฎีลูกโปง สามลูกสูบ ท�าให้คนที่เริ่มเรียนเศรษฐศาสตร์มหภาค สามารถเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจกับเรื่องปริมาณเงิน นโยบายการเงินของ ประเทศ ช่องทางการไหลเข้าไหลออกที่จะมีผลต่อการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และด้วยความที่เป็นนักศึกษา เศรษฐศาสตร์ งานเขียนของอาจารย์ป๋วยได้สร้างความ สนใจและท�าให้เราเข้าใจในเรื่องเศรษฐศาสตร์มากขึ้น ทั้งในแง่ของทฤษฎี และความส�าคัญของวิชาที่เรียนว่า มีนัย มีผลต่อสังคมต่อประเทศได้อย่างไรบ้าง
9 ส า ร ป๋ ว ย Inside-puay December 58.indd 9
23/11/2558 16:48:16
แสดงว่าตอนเรียนที่ธรรมศาสตร์ ก็ได้ยินเรื่องเล่าอาจารย์ป๋วย จากอาจารย์ ในคณะอยู่แล้ว? ใช่ครับ... สมัยผมเข้าเรียนธรรมศาสตร์ สมัยอยูท่ ี่ ท่าพระจันทร์ บรรยากาศอาจจะต่างกับมหาวิทยาลัยในวันนี้ เพราะนักศึกษาสมัยนั้นสนใจความเป็นไปของบ้านเมือง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองและสังคม เป็นบรรยากาศที่เช้า ขึ้นมา คนก็จะไปยืนอ่านบอร์ดที่หน้าห้อง เอ.ที. นักศึกษา สนใจที่จะอ่านและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกี่ยวกับความ เป็นไปของสังคม และหลายครั้งข้อเขียนของอาจารย์ป๋วย ก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง แม้กระทั่งในกิจกรรมรับน้อง ก็จะมีหนังสือเป็นเรื่องประวัติของอาจารย์ป๋วย มีข้อเขียน ของอาจารย์ป๋วยให้รุ่นน้องได้อ่านได้คิด หลายคนกลับ ไปค้นหาความเห็นของท่านที่เคยให้ไว้ในสถานการณ์ ที่ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นในสมัยที่ผมเรียนหนังสือ อาจารย์ป๋วยเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ สิ่งที่ท�ำให้ประทับใจอาจารย์ป๋วยจริงๆ คือจากการอ่านงานของอาจารย์ป๋วย? ใช่ครับ... ผมไม่เคยได้พบอาจารย์ป๋วย แต่ที่ ประทับใจจริงๆ คือได้จากการอ่าน ตอนนั้นอ่านหนังสือมาก ถ้าพูดถึงอาจารย์ป๋วยและงานของท่าน ส�ำหรับผมแล้ว ผมประทับใจในสิ่งที่เป็นอุดมคติในงานที่ท่านคิด ท่านท�ำ นอกจากนีป้ ระทับใจในหลักการใช้ชวี ติ และหลักการท�ำงาน ของท่าน ที่ตั้งอยู่บนหลักของความจริง ความงาม และ ความดี งานเขียนและวิถีชีวิตของท่านสะท้อนทั้ง 3 มิติ ออกมาได้ชัดเจนมาก ความจริง คือในเรือ่ งทีท่ า่ นเขียน พูด และท�ำนัน้ ท่านยึดถือหลักการ ยึดถือข้อเท็จจริง และยึดถือความ ถูกต้อง ความดี คือท่านมองเรื่องพ้นตัวตนและไม่ได้ มองเรื่องปัจเจกของท่าน แต่มองผลที่จะเกิดขึ้นกับสังคม ท่านมีภาพสังคมอยู่ในใจตลอดเวลา ท่านมี จิตสาธารณะ สูงมาก ความดีของท่านสะท้อนออกมาชัดเจนในสิ่งที่ ท่านท�ำ ในสิ่งที่ท่านคิด ในสิ่งที่ท่านเขียน ความงาม ก็เป็นมิติที่ส�ำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การใช้ภาษาของท่าน สวยงาม ท่านเขียนสุนทรพจน์เป็นกลอนแปดได้ไพเราะ มาก ทั้งวิธีการที่เล่นกับภาษาและค�ำลงท้าย ข้อเขียน
และสุนทรพจน์ของท่านนั้นประทับใจมาก เพราะสามารถ ร้อยเรียงเรื่องต่างๆ ได้ด้วยการใช้ภาษาที่มีพลัง และมีนัย ที่ท�ำให้เกิดผลอย่างที่ท่านอยากจะให้เป็น ถ้าถามว่าท�ำไมในอดีต ผมถึงชอบอ่านงานของ อาจารย์ป๋วย ผมคิดว่างานเหล่านั้นสะท้อนหลักการใช้ ชีวิตของท่านอาจารย์ ความจริง ความงาม และความดี สะท้อนออกมาในสิ่งที่ท่านเขียน สะท้อนออกมาในสิ่งที่ ท่านท�ำ และสะท้อนออกมาในสิ่งที่ท่านพูดอยู่ตลอดเวลา ท่านเคยท�ำงานทีส่ ำ� นักงานเศรษฐกิจการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาจารย์ป๋วย เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ในปัจจุบัน มุมมองอาจารย์ป๋วย ในสายตา ของคนนอกธรรมศาสตร์เป็นอย่างไรบ้าง? ในกระทรวงการคลังผมอาจจะไม่ได้รับทราบ เท่าไร เพราะเป็นช่วงที่ผมไปท�ำงานค่อนข้างสั้น และเป็น ช่วงแก้ปัญหาวิกฤต แต่เรื่องท่านอาจารย์ป๋วยกับธนาคาร แห่งประเทศไทยนั้น อาจารย์ป๋วยเป็นผู้ที่วางรากฐาน ไว้มาก ท่านเป็นผู้ว่าการฯ ที่ด�ำรงต�ำแหน่งนานที่สุด คือ 12 ปี อาจจะเรียกได้ว่าท่านเป็นผู้วางรากฐานก่อสร้าง บ้านหลังนี้ ให้มีความมั่นคงแข็งแกร่ง ความก้าวหน้าส�ำคัญหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วง ที่ท่านเป็นผู้ว่าการฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงพิมพ์ธนบัตร เรื่องการส่งนักเรียนทุนไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งผู้ว่าการฯ รองผู้ว่าการฯ หลายท่านก็เป็นนักเรียนทุนที่อาจารย์ป๋วย ได้สร้างไว้ ท่านมีวิสัยทัศน์ ไกล พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบัน การเงิน ซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันก็มีรากฐานมาจากสมัยท่าน จะเห็นว่าในยุคที่ท่านเข้ามาเป็นผู้ว่าการฯ นั้น ท่านได้ วางรากฐานที่ส�ำคัญๆ ให้กับประเทศหลายอย่าง และไม่เฉพาะในประเทศไทย แม้กระทั่งวงการ ธนาคารกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ชื่นชมกับ ผลงานที่ท่านท�ำ ท่านเป็นผู้ที่เริ่มต้นจัดตั้ง SEACEN ซึง่ เป็นสถาบันฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรของธนาคารกลาง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่มาเลเซีย ในวันที่ 14 มีนาคม 2559 SEACEN ก็จะจัดงานเฉลิมฉลองชาตกาล ของท่านด้วย จะเห็นได้ว่าท่านไม่ได้เป็นแค่บุคคลส�ำคัญ ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับจากภูมิภาค
ส า ร ป๋ ว ย 10
Inside-puay December 58.indd 10
23/11/2558 16:48:16
อาเซียนด้วยเช่นกัน และล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 องคการการศึกษา วิทยาศาสตร และวัฒนธรรมแหง สหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศ ยกย่องท่านเป็นบุคคลส�าคัญของโลกอีกด้วย ในช่วงที่ท่านด�ารงต�าแหน่งผู้ว่าการธนาคาร แห่งประเทศไทย ท่านเป็นผู้ที่ท�าให้บ้านหลังนี้มีรากฐาน ที่มั่นคง เป็นบ้านที่มีกฎเกณฑ์ กติกา และวัฒนธรรม ที่สนับสนุนพัฒนาการของระบบเศรษฐกิจไทย เชื่อมโยง กับระบบการเงินโลก ซึ่งก็เป็นรากฐานส�าคัญมาจนถึง ทุกวันนี้ ในฐานะที่ได้ด�ารงต�าแหน่งผู้ว่าการฯ ในขณะที่อายุยังน้อย และเป็นคนเก่งเหมือนอาจารย์ป๋วย เมื่อมีผู้น�าไปเปรียบเทียบกับอาจารย์ป๋วย รู้สึกกดดันหรือไม่? ไม่กดดันครับ เพราะชัดเจนว่าเปรียบเทียบกัน ไม่ได้ครับ
อาจารย์ป๋วยท่านเป็นปูชนียบุคคล ท่านมีบารมี และสิ่งที่ท่านท�ามีผลกว้างไกลมาก ผมเป็นผู้ว่าการฯ รุ่นหลังๆ ที่โชคดี ที่ผู้ว่าการฯ อย่างท่านอาจารย์ป๋วย ได้ออกแรงสร้างบ้าน สร้างกฎเกณฑ์กติกาเอาไว้ สิ่งที่ ผู้ว่าการฯ รุ่นหลังท�าคือมาต่อยอด รากฐานที่ส�าคัญๆ หลายอย่างนี่เกิดขึ้นในสมัยยุคของท่านอาจารย์ป๋วยและ การวางรากฐานสร้างบ้านใหม่ยากกว่าการต่อยอดมาก ตัวอย่างเรื่องระบบนักเรียนทุนแบงก์ชาติ ซึ่งท�า ให้สถาบันมีความแข็งแกร่งก็เป็นสิ่งที่เริ่มต้นในสมัยช่วง อาจารย์ป๋วย และผู้ว่าการฯ ในช่วงหลังๆ ก็ได้เก็บเกี่ยว ประโยชน์ การที่ท่านคิดไกล เป็นคุณูปการที่ท่านท�าให้ กับธนาคารแห่งประเทศไทยไว้สูงมาก เมื่อมองบริบทของสังคมและเศรษฐกิจในเวลา นั้นแล้ว งานของธนาคารกลางยากมากกว่าในสมัยนี้มาก เพราะว่ากฎเกณฑ์กติกาอะไรต่างๆ ก็ยังไม่ชัดเจน การวาง กฎเกณฑ์กติกาใหม่ๆ มักเป็นเรื่องการต่อสู้เชิงอ�านาจ และผลประโยชน์ด้วย การที่อาจารย์ป๋วยเป็นผู้ริเริ่มวาง กฎเกณฑ์ กติกา หลักจรรยาบรรณ เช่น เรื่องการ
11 ส า ร ป๋ ว ย Inside-puay December 58.indd 11
23/11/2558 16:48:18
กันนักการเมืองออกจากสถาบันการเงิน ซึ่งวันนี้ทุกคน ยอมรับ เป็นกฎหมายชัดเจนแล้วว่ากรรมการของสถาบัน ทางการเงินนั้นต้องไม่เป็นผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมือง ลองคิดถึงสมัยที่ท่านอาจารย์ป๋วยริเริ่มเรื่องพวกนี้ การจะ เปลี่ยนพฤติกรรมของคนในสังคม วางกฎเกณฑ์กติกาใหม่ งานแบบนี้ยากกว่างานที่มาต่อยอดมาก อี ก ด้ า นหนึ่ ง คื อ ช่ ว งนั้ น องค์ กรส� า คั ญ ๆ ด้ า น เศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจารย์ป๋วย ท่านมีบทบาทในการวางรากฐานหลายองค์กร ไม่ว่าจะ เป็นส�านักงบประมาณ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ท่านเห็นว่า งานธนาคารกลางและงานพัฒนา เศรษฐกิจต้องไปด้วยกัน ท�างานในลักษณะที่ใกล้ชิดกัน ธนาคารกลางได้มีบทบาทเข้าไปร่วมในเรื่องการพัฒนา เศรษฐกิจมาก และในวันนี้เราได้เห็นความเข้มแข็งของ หน่วยงานเหล่านั้นแล้ว ธนาคารกลางต้องกลับมามุ่งที่ ภารกิจหลักของธนาคารกลาง นอกจากการต่อยอดงานที่อาจารย์ป๋วย ได้วางไว้ อะไรคือสิ่งที่ซึมซับ หรือเป็นแรงบันดาลใจมาจากอาจารย์ป๋วย หรือเป็นข้อคิดทีน่ า� มาใช้เป็นหลักให้เดินตามบ้าง? อันแรกก็คือศรัทธาในวิชาเศรษฐศาสตร์ เราเรียน ทฤษฎีมากในห้องเรียน แต่งานเขียนของอาจารย์ป๋วย ท�าให้เห็นความส�าคัญและผลของวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ จะมีต่อชีวิตของคนหมู่มาก อาจารย์ป๋วยได้ท�าให้วิชา เศรษฐศาสตร์มีชีวิตและความส�าคัญมากขึ้น ไม่ใช่แค่ เข้าใจทฤษฎีอย่างเดียวแต่ท�าให้เราเข้าใจนัย เข้าใจผล กระทบที่จะเกิดขึ้น งานของอาจารย์มักจะโยงนัยเข้ากับ คนส่วนใหญ่ของสังคม เช่น เรื่อง คุณภาพแหงชีวิต ปฏิทินแหงความหวัง จากครรภมารดาสูเชิงตะกอน หรือ แม้กระทั่งการประสานนโยบายเศรษฐกิจ เรื่องพวกนี้ท�า ให้เข้าใจว่าวิชาเศรษฐศาสตร์สามารถสร้างคุณูปการให้ กับสังคมได้ เรื่องนี้ท�าให้ผมศรัทธาในวิชาเศรษฐศาสตร์ มากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของการเรียนในศาสตร์ที่เป็น ทฤษฎีแต่เพียงอย่างเดียว อีกด้านหนึ่งที่อาจารย์ป๋วยยึดมั่นและเป็นเรื่องหนึ่ง ที่ผมศรัทธา คืออาจารย์จะพูดถึงเรื่องธรรม อาจจะไม่ได้
เป็นธรรมแบบพุทธศาสนา เราไม่ค่อยเห็นงานเขียนของ อาจารย์เชิงพุทธธรรม แต่หลักความถูกต้อง ความงาม ความดีของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสันติประชาธรรมหรือ ธรรมคืออ�านาจ เน้นให้เราเห็นว่า ถ้าเรายึดเรื่อง สัจธรรม ความถูกต้อง ยึดในเรื่องของผลประโยชน์ของประเทศชาติ เป็นหลักแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ตราบใดที่เราไม่ได้ท�า เพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือท�าเพียงแค่เพื่อประโยชน์ เฉพาะองค์กรของเรา เรื่องนี้มีความหมายและมีพลังมาก ตลอดชีวิตของท่านได้แสดงให้เห็นแนวคิดเรื่องนี้ชัดเจน โยงกลับมาเรื่องธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันนี้ ธนาคารมีค่านิยมร่วม 4 ประการ คือ ยืนตรง มองไกล ยื่นมือ และติดดิน มีคนถามผมว่ามีตัวอย่างไหมว่าใคร มีคุณลักษณะครบตามนี้ ผมนึกถึงอาจารย์ป๋วย ท่านมี คุณลักษณะเหล่านี้ครบเลย ยื น ตรงคื อ ความซื่ อ สั ต ย์ ข องท่ า นนั้ น ชั ด เจน ท่านมองไกลมาก เห็นได้จากสิ่งที่ท่านท�าให้ธนาคารแห่ง ประเทศไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประเทศชาติ ยื่นมือคือการที่ท่านเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วท่านก็ยังเข้าไปช่วยในแวดวงต่างๆ อีกมาก ไม่ว่า จะเป็นเรื่องการศึกษาหรือการพัฒนาชนบท และวิถีชีวิต ของท่านก็ติดดิน เหมือนอย่างที่เราทราบกันอยู่ ถ้าเราพูด ถึงคุณค่าหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจารย์ป๋วย ท่านยังเป็น Living example ได้ดีมากในวันนี้ ท่านได้รับอิทธิพลอะไรจากอาจารย์ป๋วยบ้าง? ผมคิดว่าผมได้รับอิทธิพลจากอาจารย์ป๋วยผ่าน ชีวิตนักศึกษาที่คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รวมทั้ง การได้อ่านงานเขียนและประวัติของอาจารย์ ท�าให้เป็น คนที่สนใจความเป็นไปในสังคม คอยสังเกตว่าจะเกิด อะไรขึ้นในสังคม ซึ่งจะต่างกับบริบทของสังคมในปัจจุบัน ที่คนจะให้ความส�าคัญกับเรื่องเฉพาะตัว ถ้าจะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ดีต้องเข้าใจความ เป็นไปของสังคม ต้องสนใจการเปลี่ยนแปลงของสังคม เข้าใจข้อจ�ากัดและความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบ ต่างๆ ในสังคม จึงจะน�ามาสู่การก�าหนดนโยบายที่ดีได้ ต้องสามารถเชื่อมโยงความเป็นไปในสังคมเข้ากับเรื่อง ของเศรษฐศาสตร์ได้
ส า ร ป๋ ว ย 12
Inside-puay December 58.indd 12
23/11/2558 16:48:18
“
อาจารย์ป๋วย เปนบุคคลที่สังคมไทยตองยกยอง เพราะทานทําคุณประโยชน ใหกับสังคมไทยในหลายมิติ
ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย มีกิจกรรมอะไร ในวาระ 100 ป อาจารย์ป๋วยบ้าง? ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดตั้ง สถาบันวิจัย เศรษฐกิจ ปวย อึ๊งภากรณ เพื่อที่จะให้เป็นพื้นที่ส�าหรับ นักวิชาการ ไม่เพียงแต่นักวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย เท่านั้น ยังเปดโอกาสให้นักวิจัยจากภายนอกได้มาร่วม สร้างสรรค์งานวิจัย เป็นการสนับสนุนเจตนารมณ์ของ อาจารย์ป๋วย นอกจากนี้มีการจัดท�าวีดีทัศน์เชิดชูเกียรติคุณ ของอาจารย์ป๋วย วีดีทัศน์นี้จะจัดฉายในงานมอบรางวัล ธรรมาภิบาลดีเด่นแห่งปี ที่จัดขึ้นเป็นประจ�าในวันที่ 9 มีนาคม ของทุกปี มีวีดีทัศน์ 5 ตอน ที่จัดท�าภายใต้ แนวคิด “ความจริง ความงาม ความดี” เป็นบทสัมภาษณ์ อดีตผู้ว่าการฯ นักเรียนทุนที่เป็นผู้บริหารของ ธปท. และพนักงานทั่วไป เพื่อสะท้อนออกมาในภาพความจริง ความงาม ความดี ของอาจารย์ป๋วย ที่เกี่ยวข้องกับ ธปท.
”
ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้ร่วมกับอีกหลาย หน่วยงานจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลอง วาระ 100 ป ชาตกาล อาจารยปวย ทั้ง มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป สมาคมอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ธนาคารกลาง มาเลเซีย มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การจัดท�าละคร เรื่อง “มังกรสลัดเกล็ด” การท�าปฏิทิน การท�าแสตมป อาจารย์ป๋วย ตลอดไปจนถึงการสัมมนาวิชาการ เป็นต้น ค�าถามสุดท้าย คือ ในวาระ 100 ป อาจารย์ป๋วย อะไรท�าให้เราต้องมาร�าลึกถึงท่าน เพราะใครๆ ก็อายุครบ 100 ป กันหมด แต่ท�าไมจึงต้องท�าให้อาจารย์ป๋วย? อาจารย์ป๋วยเป็นบุคคลที่สังคมไทยต้องยกย่อง เพราะท่านท�าคุณประโยชน์ ให้กับสังคมไทยในหลายมิติ นอกจากนี้ถ้าเราเข้าใจหลักคิดและเรียนรู้จากวิถีการ ใช้ชีวิตและการท�างานของอาจารย์ป๋วยแล้ว จะตอบโจทย์
13 ส า ร ป๋ ว ย Inside-puay December 58.indd 13
23/11/2558 16:48:20
“
อาจารย์ป๋วย ทานเปนตัวอยางของ การมีความสุขจากภายใน โดยไมตองติดอยูกับวัตถุนิยม ลาภ ยศ สรรเสริญ
”
ปัญหาต่างๆ ของสังคมที่ปัจจุบันได้ดี เช่น ถ้าวันนี้เรา เห็นประโยชน์ของการมีจิตสาธารณะ อย่างที่อาจารย์ป๋วย ได้เป็นตัวอย่างไว้หลายเรื่อง ก็เชื่อว่าเราจะสามารถก้าว ข้ามปัญหาหลายอย่างที่ก�าลังเผชิญอยู่ไปได้ ถ้าทุกอย่าง ที่เราท�าเราพูดเราคิดตั้งอยู่บนหลักของความจริง ตั้งอยู่ บนหลักของความถูกต้อง จะเห็นทางออกจากปัญหาต่างๆ ได้ไม่ยาก เรายกย่องอาจารย์ป๋วยเพราะผลงานที่ท่านสร้าง ไว้ให้แก่สังคมไทย แต่อีกด้านหนึ่งเราสามารถเรียนรู้ ได้มากจากผลงาน จากความคิด จากหลักชีวิตของท่าน ทีจ่ ะชีท้ างออกให้กบั หลายปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบนั มิติหนึ่งที่คนอาจจะไม่ได้พูดกันมากเท่าไหร่ คือ อาจารย์ป๋วยเป็นต้นแบบของการสร้างคุณค่าให้ชีวิตจาก การท�าประโยชน์เพือ่ ส่วนรวม จะเห็นว่าท่านมีความสุขจาก
การท�างานให้คนอื่น ท่านเป็นตัวอย่างของการมีความสุข จากภายใน โดยไม่ต้องติดอยู่กับวัตถุนิยม หรือลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งการสร้างความสุขจากภายในนี้ เป็นสิ่งที่ สังคมไทยขาดมาก ถ้าคนไทยเข้าใจเรื่องความมั่นคงภายในจิตใจ ความสุขจากภายใน และยึดถือเรื่องของความถูกต้อง ไม่ยึดติดกับความสุขที่มาจากวัตถุ ลาภ ยศ สรรเสริญ เราก็จะสามารถก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ได้ไม่ยาก และ สังคมไทยจะมั่นคงยั่งยืน áÅзѧé ËÁ´¹Õ¤é Í× ·ÑȹТͧ ´Ã.ÇÔÃä· ÊѹµÔ»ÃÐÀ¾ ¼ÙŒÇ‹Ò¡Òø¹Ò¤ÒÃáË‹§»ÃÐà·Èä·Â ¼ÙŒÊÒ¹µ‹Í§Ò¹¢Í§·‹Ò¹ ÍÒ¨Ò້Ǡn
n
n
ส า ร ป๋ ว ย 14
Inside-puay December 58.indd 14
23/11/2558 16:48:22
ปลายปากกาปญญาชนสยาม ส. ศิวรักษ
ความเปน
นักเศรษฐศาสตร ของ
ปวย อึ๊งภากรณ
คุณปวย ทุมเทชีวิตใหกับการเรียน การสอนเศรษฐศาสตรอยางผูเปรียบเทียบ ไดยาก แตทานก็ไมถือวาเศรษฐศาสตรเปนคําตอบสําหรับทุกสิ่งทุกอยาง ดังพวกนัก เศรษฐศาสตรกระแสหลักที่ประชุมกันเปนประจําป ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอรแลนด ถือวาเศรษฐศาสตรเหนือการเมืองการปกครองเอาเลยดวยซํ้า ในขณะที่ คุณปวย วิพากษ ทั้งเศรษฐศาสตรทุนนิยม และเศรษฐศาสตรสังคมนิยม โดยที่ทานมีความออนนอมถอมตน พรอมที่จะฟงคําเตือนจากบัณฑิต ดัง ม.จ.สิทธิพร กฤดากร รับสั่งกับทานวา “คุณปวย เงินทองเปนของมายา ขาวปลาเปนของจริง” 15 Inside-puay December 58.indd 15
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:51:41
ทานเห็นดวยเปนอยางยิง่ และทานเคารพหมอมเจาองคนเี้ ปนอยางยิง่ อีกดวย เพราะทรงอุทศิ ชีวติ ทัง้ หมดเพือ่ ลูกหลานชาวนา ตองพระประสงคให ชาวนาอยูดีกินดี และมีการศึกษาดี นิยมวิถีชีวิตของชาวนา โดยตองไมถูก เอารัดเอาเปรียบดวยประการตางๆ หาไมเมืองไทยจะไมมีอนาคต นาเศรา ที่ไมมีใครแลเห็นคุณงามความดีของเจานายองคนี้ และไมรับฟงคําเตือน ของทานดวยมนสิการเอาเลย ก็คําวา เศรษฐ ในวิชาดังกลาวนั้นหมายถึง ความเปนเลิศ ดังคําวา เศรษฐี ไมไดหมายถึง ผูที่มั่งคั่งในทางทุนทรัพย หากหมายถึง ผูที่มีทรัพย ศฤงคารแลวนําออกมาเจือจานมหาชน ตลอดจนคนยากไรและสรรพสัตว ดังอนาถปณฑิกเศรษฐี และธนัญชัยเศรษฐีเปนตัวอยาง คุณปวย มีความเปนเลิศ ไมแตในทางวิชาการและการบริหารจัดการ หากทานมีความเปนเลิศ ทีเ่ ขาไดถงึ ความงาม ความไพเราะอยางนาอัศจรรย ยิ่งคีตศิลปดวยแลว ทานจะเปาขลุยอยูเปนนิจ ในยามวาง แมในยามเครียด ก็เปนเชนนั้น สําหรับวิจิตรศิลปนั้น ทานใชธนาคารแหงประเทศไทยเปนแหลงที่ ชวยซื้องานเขียนของจิตรกรเปนจํานวนมากมาเก็บไว ซึ่งเปนการใหกําลังใจ ศิลปนนั้นๆ นิมิตดีก็ตรงที่ธนาคารพาณิชยหลายแหงเอาอยางไปทําดวยบาง ยิ่งกรณี อาจารยศิลป พีระศรี ดวยแลว คุณปวย เห็นวา ทานอุทิศตน ใหกับศิลปในเมืองไทยอยางหาใครเทียบไดยากยิ่ง ไมแตจิตรกรรมและ ประติมากรรม หากรวมถึงการอนุรักษศิลปกรรมตางๆ อีกดวย ความขอหลังนี้ มี เฟอ หริพิทักษ และ อังคาร กัลยาณพงศ เปนสดมภหลัก ยิ่งคนหลังนี้ดวยแลว นฤมิตรกรรมของเขาแสดงออกทั้งทางวิจิตรศิลปและวรรณศิลปอยางมีความ เปนเลิศเอาเลยทีเดียว เมื่อ คุณปวย ไดรับเชิญจาก ม.ร.ว.พันธุทิพย บริพัตร ใหไปเปน ประธานกรรมการ มูลนิธิจุมภฏ - พันธุทิพย ทานสามารถเกลี้ยกลอมให คุณหญิงพันธุทิพย อุทิศเงินไปเปนจํานวนไมนอยเพื่อตั้ง หอศิลป พีระศรี บนเนือ้ ทีด่ นิ ของทาน นาเสียดายทีส่ ถาบันนี้ไมสาํ เร็จลุลว งไปไดดว ยดี เพราะ ความเห็นแกตัวของศิลปนบางคน และความมืดบอดของผูที่รับทอดงาน ดังกลาวจาก คุณปวย และ คุณหญิงพันธุทิพย ในโอกาสรอยปชาตกาลของคุณปวยคราวนี้ ธนาคารแหงประเทศไทย และกองทุนธนาคาร ตลอดจน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร โดยเฉพาะ สมาคม เศรษฐศาสตร รวมไปถึง สมาคมอัสสัมชัญ จะรวมกันลงขันตัง้ กองทุนไวเพือ่ อุดหนุนศิลปะจะไดหรือไม ไมแตอุดหนุนนักเขียนรูปและนักเขียนหนังสือ ที่มุงความเปนเลิศ ใหเขาเหลานั้นไมตองขายตัวไปพาณิชยศิลป แมเขา นั้นๆ จะแกชรา และมีพยาธิครอบงํา กองทุนดังกลาวก็นาจะอุดหนุนจุนเจือเขา ใหเขาดํารงชีพอยางสมศักดิ์ศรีของการเปนศิลปน กองทุนที่วานี้จะตองไมของแวะกับศิลปนแหงชาติ ซึ่งบางทีก็มีศิลปน กึ่งดิบกึ่งดีไดรับเลือกเขาไปดวย หรือ ซีไรต (SEA Write) ในระดับนานาชาติ กองทุนที่วานี้จะดําเนินไปดวยดีตองมีกรรมการสรรหาศิลปนจํานวนนอยที่ ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 16
16 23/11/2558 16:51:43
“
ยิ่งกรณี อาจารยศิลป พีระศรี ดวยแลว คุณปวย เห็นวา ทานอุทิศตนใหกับศิลปในเมืองไทย อยางหาใครเทียบไดยากยิ่ง ไมแตจิตรกรรมและประติมากรรม หากรวมถึงการอนุรักษ ศิลปกรรมตางๆ อีกดวย
”
ตามีแววไวคอยสอดสอง เพื่อแสวงหาความเปนเลิศใหจงได เพราะเมืองไทย เราเต็มไปดวยพวกกึ่งดิบกึ่งดีมากมายเกินไปแลว ผูที่ไดรับรางวัลดังกลาว ควรเปดโอกาสใหคนในชนบท ไมนอยไปกวา คนในเมืองกรุง และถาเปนไปได ควรเปดโอกาสใหผูคนในประเทศเพื่อนบาน ไดรับรางวัลดังกลาวนี้ดวย โดยที่รางวัลที่วานี้ควรเปนเงินกอนใหญ และให เปนกําลังใจกับผูรับรางวัล ซึ่งจะนฤมิตรอะไรๆ หรือไม ก็สุดแท มหาวิทยาลัยออกซฟอรดในประเทศอังกฤษนัน้ มีรางวัลอันประเสริฐ รายการหนึง่ ใหผมู คี วามเปนเลิศในทางใดก็ได ใหไดรบั เลือกใหเปน Fellow of All Souls College จะเปนเวลาเทาไร แลวแตกองทุนจะกําหนด การที่ไดรับ รางวัลดังกลาว ผูไ ดรบั รางวัลจะไปไหน จะทําอะไร จะผลิตงานหรือไม ก็สดุ แท แตใจรัก กลาวคือการมุงความเปนเลิศ ตองอุดหนุนจุนเจือไปในทางอิสรภาพ และเสรีภาพยิ่งกวาอะไรอื่น เพราะนี่คือพื้นฐานที่จะทําใหเกิดอัจฉริยภาพและ นฤมิตรกรรมอันมีความเปนเลิศ n
n
n
17 Inside-puay December 58.indd 17
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:51:44
บทความพิเศษ (เรียงความชนะเลิศการประกวดระดับมัธยมฯ โดยจังหวัดชัยนาท)
บุคคล
ผูเ สียสละ
มนุษยเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ดวยเหตุอันใดกัน ไมมีใครสามารถหาคําตอบอัน แนชัดได จนกวาจะรูวา ทั้งชีวิตเราผานอะไรมาบาง บางคนเกิดมาเพื่อตัวเอง บางคนเกิดมาเพื่อผูอื่น และบางคนนั้น เกิดมาเพื่อทํา คุ ณ ประโยชน ใ ห แ ก ช าติ บ า นเมื อ ง คนประเภทหลั ง นี้ นานับถือยิ่งนัก ถือวาเกิดมาใชชีวิตไดคุมคาแลว
ไม่นานมานี้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้สืบค้นศึกษาชีวประวัติ ของบุคคลท่านหนึ่ง บุคคลท่านนี้มีชื่อเรียกที่ฟังดูประหลาดอยู่ ไม่นอ้ ย ด้วยมิได้เป็นค�าที่อยู่ในภาษาไทย หากก็ท�าให้เป็นจุดเด่น ที่สามารถจดจ�าได้ไม่ยาก ท่านคือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มิเพียง ชื่อเสียงเรียงนามของท่านเท่านั้นที่ดูแปลกประหลาด ทว่าแนว ความคิดของท่านก็แปลกใหม่ไม่แพ้กัน เรื่องราวชีวิตของ ดร.ป๋วย มีความน่าสนใจอยู่ในทุกช่วงวัย เพราะท่านได้ก้าวผ่านวันเวลา แห่งการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย ทั้งยังเป็นผู้ที่มีส่วนร่วม ในเหตุการณ์ส�าคัญมากมาย ท่านเป็นคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่ออุทิศ แรงกายแรงใจทั้งหมดให้แก่การท�างานเพื่อบ้านเมือง ส�านึกรู้อยู่ เสมอว่าแผ่นดินไทยให้สงิ่ ใดกับท่านบ้าง โดยเมือ่ ครัง้ ทีท่ า่ นศึกษา จบในระดับปริญญาตรีก็ได้สอบชิงทุนของรัฐบาลได้ไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษในเมืองผู้ดี ซึ่งท่านก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนได้ เป็นนักเรียนดีเด่น อีกทั้งยังมีคะแนนอยู่ในอันดับสูงสุด เป็นการ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนไทยคนหนึ่งในขณะนั้นว่า มีความสามารถและเก่งกล้าไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งนี้ก็ต้องอาศัย ความขยันหมั่นเพียร ใฝ่เรียนรู้ และมีวินัยในตัวเองให้มาก ความ ตั้งใจมั่นของเราจะสามารถเอาชนะทุกสรรพสิ่งไปได้ ดร.ป๋วย ถือเป็นแบบอย่างที่ดีคนหนึ่งในเรื่องการศึกษาเพราะท่านมีความ พากเพียรในการเรียนรู้วิชาการต่างๆ เสมอ ในสมัยที่เรียนจบ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาแล้ว ท่านได้ทา� หน้าทีเ่ ป็นคุณครูสอนหนังสือ ให้นกั เรียนในโรงเรียนเดิมทีท่ า่ นจบออกมา กระนัน้ ท่านก็ไม่ยอ่ ท้อ ที่จะเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัย แม้จะเรียนไปด้วยและท�างาน ไปด้วย แต่ท่านก็มีการจัดสรรเวลาในการสอนและการเรียนที่ เหมาะสม ซึ่งก็ท�าได้ดีทั้งสองหน้าที่ คือ เป็นผู้ให้ความรู้ที่ถูกต้อง และเป็นผู้รับความรู้ที่ชาญฉลาด การท�าหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็มีข้อดีตรงที่ท�าให้เราได้เรียนรู้และพัฒนา
ตนเองอย่างรอบด้านอยู่เสมอ สิ่งส�าคัญอยู่ที่ว่าเราต้องไม่ละทิ้ง โอกาสแห่งการเรียนรู้เหล่านั้น เมื่อมีน�้าขึ้นมาก็จงรีบตักไว้เสีย เป็นดีที่สุด ดังเช่น ดร.ป๋วย ที่เมื่อได้รับทุนให้ศึกษาต่อปริญญาเอก เนื่องจากการมีผลการเรียนที่ดี ท่านก็ตัดสินใจเล่าเรียนอีกครั้ง อย่างไม่ท้อถอย และในขณะนั้นเองที่มหาภัยพิบัติแห่งความขัดแย้ง ครัง้ ยิง่ ใหญ่ทจี่ ะรุกรานผลาญท�าลายไปทุกแผ่นดินทัว่ โลกได้บงั เกิดขึน้ นั่นก็คือการเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ดร.ป๋วย และคนไทยที่ อาศัยอยู่ในอังกฤษถูกรัฐบาลไทยเรียกตัวให้กลับประเทศทันที ทว่าด้วยความมองการณ์ ไกลของคนรุ่นใหม่ว่า หากไทยเข้าเป็น พันธมิตรกับญี่ปุ่นและต้องท�าสงครามกับชาติมหาอ�านาจสอง เสือใหญ่อย่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา คงเห็นทีไม่มี ทางรอดพ้นเป็นแน่ จึงร่วมกันก่อตั้งคณะเสรีไทยขึ้นมาเพื่อคอย ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยในคราบของทหารอังกฤษ นับเป็นความ กล้าหาญอย่างยิ่งของ ดร.ป๋วย และคณะ เพราะจากสิ่งที่ปฏิบัติ ไปนั้นอาจถูกมองว่าเป็นกบฏ ทั้งที่บุคคลเหล่านี้ต่างก็มีจิตใจ รักชาติ ยอมพลีเลือดเนื้อเพื่อชาติไทยทั้งสิ้น การแสดงออกของ ความรักอาจแตกต่างกัน ทว่าความรักนั้นก็แทรกซึมอยู่ในสายเลือด ของคนไทยทุกคนไม่มีวันจางหายสลายเลือน หลังจากเรียนจบ ดร.ป๋วย ก็ได้เดินทางกลับแผ่นดินเกิด เพื่อมุ่งหวังจะไปช่วยดูแลประเทศ ชาวไทยเชื้อสายจีนคนนี้ตัดสินใจ เข้าท�างานราชการตามทีห่ มายมัน่ ไว้แต่แรก แม้จะมีบริษทั เอกชน เข้ามาเสนองานพร้อมเงินเดือนที่สูงลิบให้ ท่านก็หาได้สนใจไม่ จะมีสักกี่คนกันที่คิดได้แบบบุคคลผู้นี้ ยิ่งในสังคมปัจจุบันด้วยแล้ว ยิ่งหาได้ยาก คนเก่งนั้นมีมากแต่คนที่เก่งแล้วมีคุณธรรมด้วยนั้น หาได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก คนที่เห็นชาติส�าคัญ กว่าเงินทอง คนที่ใช้ความรู้ในทางที่ถูกที่ควร คนที่น�าวิชาที่มีมา ใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศ โดย ดร.ป๋วย ได้ท�างานทางด้าน
ส า ร ป๋ ว ย 18
Inside-puay December 58.indd 18
24/11/2558 10:00:05
เศรษฐกิจตามทีต่ นได้ศกึ ษามา ช่วงนัน้ เป็นยุคสมัยทีเ่ ศรษฐกิจไทย มีสภาพค่อนข้างย�ำ่ แย่เพราะผลกระทบจากเหตุการณ์สงครามโลก ครั้งที่สอง จากการท�ำงานของท่านไม่นานเศรษฐกิจก็กลับคง สภาพได้และเจริญขึ้นเรื่อยๆ ความสามารถของ ดร.ป๋วย เป็นที่ ยอมรับของเพื่อนร่วมงานทั่วไป ท่านเคยได้ด�ำรงในต�ำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่นานทีเดียว ตลอดเวลานั้น เศรษฐกิจไทยเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ท่านหมั่นขยันขนทรายเข้าวัด หาประโยชน์ให้ส่วนรวมเป็นนิจ จนได้ก้าวมาเป็นข้าราชการชั้นสูง ที่ทุกคนต่างเคารพนับถือ แม้จะมีต�ำแหน่งที่สูงขึ้นแต่ท่านก็ยัง ท�ำงานหนักและตั้งใจท�ำงานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ลงมือท�ำ ทุกอย่างด้วยความสัตย์จริงและความเป็นธรรม ไม่เคยส�ำคัญว่า ตนเองเป็นคนใหญ่คนโตแล้วต้องอยู่เหนือใคร มิเคยได้กินเศษ กินเลยเหมือนผู้ที่มียศใหญ่นิยมท�ำกัน อีกทั้งไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ของอ�ำนาจบาตรใหญ่ใดๆ เมื่อเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ท้วงติงขึ้น โดยมิสนใจว่าผู้กระท�ำผิดนั้นจะเป็นผู้ใดใหญ่มาจากไหนก็ตามที เป็นผูท้ ยี่ กความยุตธิ รรมไว้ให้เป็นใหญ่ในใจ นอกจากนีท้ า่ นยังเป็น ผู้ที่มีจิตใจอันแข็งแกร่ง คนที่ท�ำงานใหญ่ใจก็ต้องใหญ่ตามด้วย ภาระมากมายที่ถาโถมเข้าใส่จ�ำเป็นต้องแบกรับมันไว้ให้ได้ แล้ว เผยออกมาให้เห็นเพียงรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดู ใจดี ดังเช่นเมื่อ ครั้งหนึ่งที่ ดร.ป๋วย ได้ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ช่วงนั้นได้เกิดวิกฤตการณ์ความขัดแย้งขึ้นระหว่าง รัฐบาลและประชาชน เกิดการแบ่งฝักฝ่ายเรียกร้องความต้องการ ของตัวเองโดยไม่ฟงั เสียงของฝ่ายตรงข้าม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางสถานทีข่ องการชุมนุมโดยการน�ำของนิสติ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ดร.ป๋วย ที่เปรียบเสมือนพ่อของนิสิต ทุกคนก็ได้เพียงเฝ้ามองดูลกู ๆ ทีต่ อ้ งถูกท�ำร้ายด้วยความเจ็บปวด จะห้ามปรามอย่างไรก็เกินก�ำลังจะท�ำไหว เพราะทุกคนต่างก�ำลัง หุนหัน เลือดในตัวเดือดพล่านด้วยความมุ่งมั่นจะชิงชัยเพื่อความ เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นับวันเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ยิ่ง เลวร้ายขึ้นเป็นทวีคูณ ภูเขาที่ ดร.ป๋วย ทนแบกเอาไว้ยิ่งเพิ่ม น�้ำหนักลงมามากขึ้น จนใจที่สุดภูเขาก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยการลงมือใช้ความรุนแรงต่อตีกัน ชิ้นส่วนจากสะเก็ดภูเขา ที่ระเบิดออกมาคงมีไม่น้อยที่อาจตกกระเด็นไปสร้างบาดแผล เอาไว้ในใจลึกๆ ของท่าน ทุกหยาดเหงื่อของชายผู้นี้ได้อุทิศเพื่อการท�ำงานให้ ประเทศชาติอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงการท�ำงานเป็นผู้น�ำเพื่อ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเท่านั้น หากในส่วนเล็กๆ ท่านก็ ไม่ทอดทิ้งหรือวางเฉย ดร.ป๋วย ได้ร่วมมือกับคณะผู้ใจบุญก่อตั้ง มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพ สังคมและบุคคลในพืน้ ที่ไกลปืนเทีย่ งให้มชี วี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ เห็นได้ว่าท่านนั้นมีความเห็นอกเห็นใจในความล�ำบากทุกข์ยาก ของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีสิ่งใดพอช่วยได้ก็เต็มใจช่วยเหลือ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มก�ำลัง ท่านได้ไปคลุกคลีตีโมงอยู่ กับกลุ่มชาวบ้านเพื่อศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตจากพวกเขา ซึ่งไม่อาจ หาได้จากอาจารย์ชั้นสูง เพราะการเรียนรู้นั้นมิได้จ�ำกัดว่าต้อง
อยู่แค่ในห้องเรียนหรือต้องมาจากครูบาอาจารย์ที่มีความรู้มากๆ เท่านั้น การเรียนรู้โดยอาศัยประสบการณ์และใช้ทักษะจากชีวิตจริง จะท�ำให้เราสามารถเข้าใจสิ่งเหล้านั้นได้อย่างถ่องแท้ คนเราถ้า หยุดเรียนรู้ก็คงไม่ต่างอะไรกับการหยุดชีวิต ดร.ป๋วย ทุ่มเทให้กับ สิ่งที่ท�ำโดยมิได้ห่วงว่าตนเองอาจต้องตกระก�ำล�ำบากหรือยึดมั่น ถือมั่นในความใหญ่โตของตนเอง เพราะเดิมทีท่านก็เป็นผู้ที่มี ชีวติ แบบสมถะอยูแ่ ล้ว คือ การด�ำเนินชีวติ อย่างเรียบง่าย เดินอยู่ ในทางสายกลาง มีความพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กินอยู่ด้วยความมักน้อย และ ใช้จ่ายแต่น้อย นอกจากการท�ำงานดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ดร.ป๋วย ผู้นี้ก็ยังมีความสามารถในการประพันธ์อีกด้วย บทประพันธ์ ค�ำกลอนของท่านจะมีความหมายที่ล�ำลึกทว่าชัดเจน เข้าใจและ เข้าถึงอารมณ์ ได้ง่าย แต่มีผลงานการเขียนชิ้นหนึ่งที่ข้าพเจ้า อ่านแล้วก็เกิดความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนเปรียบเหมือน กระบอกเสียงที่เล่ากล่าวถึงความต้องการในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง โดยอ้างอิงตัวอย่างจากตัวเอง มนุษย์ทุกคนไม่ว่าชาติใดเผ่าพันธุ์ใด ยากดีมีจนอย่างไร ต่างก็ต้องการปัจจัยพื้นฐานในการด�ำรงชีวิต มีความเป็นอยู่ที่มั่นคง ได้รับสวัสดิการที่ครบถ้วน มีที่อยู่อาศัยให้ พักพิง มีเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มสวมใส่มีอาหารและน�้ำดื่มไว้ประทัง ยามหิว และมียารักษาโรคไว้เยียวยายามเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งนี้เพื่อ ให้ชีวิตสามารถด�ำเนินไปได้อย่างสงบสุข มีตอนหนึ่งในบทความ ที่ข้าพเจ้าซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ซึ่งเขียนไว้ว่า “...เมื่อตายแล้ว ยังมีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่ เก็บไว้ให้เมียผมพอใจในชีวิตของเธอ ถ้าลูกยังเล็กอยู่ก็เก็บไว้เลี้ยงให้โต แต่ลูกที่โตแล้วไม่ให้ นอกนั้น รัฐบาลควรเก็บไปให้หมด จะได้ใช้เป็นประโยชน์ ในการบ�ำรุงชีวิต ของคนอื่นๆ บ้าง...” ใจความบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เขียนเป็น ผู้มีความเสียสละอย่างใหญ่หลวง และท่านยังเป็นผู้ให้แม้กระทั่ง สิน้ ลมหายใจแล้ว บทความทีก่ ล่าวถึงนีค้ อื เรือ่ ง คุณภาพแห่งชีวติ ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ดร.ป๋วย แสดงให้เห็นว่าท่านได้เรียนรู้และเข้าถึงสัจธรรมของชีวิตอย่าง แท้จริง รู้ว่าอย่างไรเสียตัวเราเมื่อเกิดมาได้ วันหนึ่งก็ต้องสลาย ตายจากได้เหมือนกัน ทุกอย่างเริ่มขึ้นมาเพื่อรอวันจบลงไป มีเพียง สิง่ เดียวเท่านัน้ ทีจ่ ะคงสถิตอยูค่ อื การกระท�ำทีบ่ คุ คลนัน้ ได้รงั สรรค์ ปั่นแต่งไว้เมื่อครั้งยังมีลมหายใจอยู่ ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจเหลือเกิน กับเรื่องราวต่างๆ มากมายที่ ดร.ป๋วย ได้สร้างขึน้ มาอาจไม่ใช่สงิ่ ทีย่ งิ่ ใหญ่ลำ�้ เลิศนัก แต่ก็เป็นสิ่งสุดประเสริฐที่ท�ำให้บ้านเมืองไทยเป็นไทยดังเช่น ทุกวันนี้ จะมีคนแบบนี้อีกสักกี่คนกัน คนที่พร้อมจะถวายทั้งชีวิต ให้ชาติและแผ่นดินบ้านเกิดด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยตลอด ข้าพเจ้าจะจดจ�ำเรือ่ งราวน่าประทับใจและน�ำท่านมาเป็นแบบอย่าง ในการด�ำเนินชีวติ จะสานต่ออุดมการณ์ความตัง้ ใจในการพัฒนา ประเทศไทยของท่าน ขอน้อมร�ำลึกแด่ ศาสตราจารย์ (พันตรี) ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ n n n กัญญารัตน์ กะล้อม (ชั้น ม.5 โรงเรียนสรรพวิทยา จังหวัดตาก)
19 ส า ร ป๋ ว ย Inside-puay December 58.indd 19
24/11/2558 10:00:06
มองป๋วย ยงยุทธ หนูเนียม
ผู้เป็น
ตํานาน อันนิรนั ดร
ทานที่เคารพทั้งหลาย…ทานเคยไดยิน…ทานยังจําคํากวีกูประกาศกองกาลนี้หรือไม
นี่คือคํากวีของทานผูซึ่งเปนตํานานอันนิรันดรนั้น… ตราบบัดนี้…เราทั้งหลายยังคงศรัทธาเชื่อมั่นวา… ส า ร ป๋ ว ย 20
Inside-puay December 58.indd 20
23/11/2558 16:52:24
มิใช่ค�ำ...ระส�่ำเสียงแสวงอ�ำนาจ ใช่วาทะ...หาประโยชน์กอบโกยกิน
ใช่โวหวัง...สังวาสอามิสสิน ใช่ลมลิ้น...อหังการ์มหากวี
คือคมคิด...คนตรงในประเทศคด จึงปลุกแรงลมหายใจแห่งเสรี
เมื่ออาธรรมก�ำหนดก�ำกับชี้ เป็นปณิธานวิถี...ให้โลกฟัง
คือสัจจะ...แห่งธรรมศาสตราจารย์ เพื่อดอกไม้แห่งคุณภาพชีวิตบานจริงจัง
เพียรส่งสาส์นปฏิทินแห่งความหวัง ด้วยพลัง...แห่งสันติประชาธรรม
บนวิถี...สิทธิ...เสรีภาพ พัฒนาเอื้ออารยะนวัตกรรม
ไร้อ�ำนาจหยามหยาบคอยเหยียบย�่ำ สันติประชาธรรม...ทั่วถึงและยั่งยืน
ทั่วถึงถ้วน...วัยเยาว์ย่างหนุ่มสาว ลมหายใจทุกห้วงยามท่ามวันคืน
ตราบแก่เฒ่าจวบดับมิกลับฟื้น ต้องยั่งยืน...เสมอค่าความเป็นคน
จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน โดยเป็นธรรมด้วยเป็นไทฯ ทุกชั้นชน
คุณค่าคนทุกบทตอนมิถูกปล้น ขับไล่ล้างความมืดมน...พ้นทางไทฯ
มิใช้เพียงปณิธานหลักการกล้า เพียรทุ่มเทเอื้ออุทิศสุจริตใจ
แต่ก้าวฝ่าอ�ำนาจอันมาดร้าย ชูธงชัย...สันติประชาธรรม
ด้วยปรารถนาดีอันพิสุทธิ์ มุ่งมั่นคงด้วยศรัทธาทุกก้าวน�ำ
มีความรักเพื่อนมนุษย์เป็นหมุดย�้ำ เพื่อเปลี่ยนผ่าน...ชะตากรรมของแผ่นดิน
แม้วันนี้... ปฏิทินแห่งความหวังยังเลือนราง สันติประชาธรรมซ�้ำแผ่วยิน
คุณภาพชีวิตยังเคว้งคว้างบ้างขาดวิ่น แต่มิสิ้น...ปณิธานวิถีคน
คือวิถี...แห่งจริยธรรมอันหาญกล้า กัลยาณมิตรแห่งก้าวย่างทางผองชน
จิตวิญญาณแห่งศรัทธาอันเข้มข้น คือวิถีคน...แห่งต�ำนานอันนิรันดร์
คือแก่นต้น...สินติประชาธรรม คือตัวตน...อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ คือตัวตน...อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ด้วยศรัทธาคารวะ ผศ.ยงยุทธ หนูเนียม ณ กาลย�่ำรุ่งสิบสามตุลาคมสองพันห้าร้อยห้าสิบแปด
หมายเหตุ... ผู้เขียน ขออนุญาตต่อ ท่าน ดร.อัมมาร์ สยามวาลา เจ้าของถ้อยค�ำ “ผู้เป็นต�ำนานอันนิรันดร์” และ “คนตรงในประเทศคด” ซึ่งผู้เขียนได้น�ำมาใช้ร่วมในกวีร�ำลึก ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ครั้งนี้ ด้วยความเคารพยิ่ง
21 ส า ร ป๋ ว ย Inside-puay December 58.indd 21
23/11/2558 16:52:24
ปาฐกถา 100 ป กองบรรณาธิการ
รัฐไทย กับ การพัฒนาเศรษฐกิจ : แนะไทยหลุดพนกับดักรายไดปานกลาง
เพิ่มงานวิจัย พัฒนาทักษะแรงงาน หนุนเอกชนรวมตัวเปนกลุมหุนสวนพัฒนานวัตกรรม ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI องคปาฐกในงาน ปาฐกถา 100 ป ปวย อึ๊งภากรณ ครั้งที่ 8 หัวขอ “รั ฐ ไทยกั บ การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ ” เมื่ อ วั น จั น ทร ที่ 23 พฤศจิ ก ายน 2558 เวลา 13.30 - 15.30 น. ณ หองประชุมชั้น 5 คณะเศรษฐศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ท า พระจั น ทร กล า วว า ท า นอาจารย ป ว ย ได พู ด ถึ ง การพั ฒ นาประเทศไว ม ากมาย ที่รูจักกันดีก็คือ เรื่องของรัฐสวัสดิการ ทานพูดเรื่อง การเงินการคลัง, การพัฒนา ชนบท, การศึกษา, ศาสนาและจริยธรรม ประเทศไทยตองเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา ประเทศใหม จากการที่ เ น น พั ฒ นาอุ ต สาหกรรมแบบไม พึ่ ง เทคโนโลยี ม าเป น เวลานาน ซึ่งขณะนี้ถึงทางตัน แลว จึงตองเปลี่ยนรูปแบบมาเปนพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยภาคธุรกิจตองรวมตัวกัน เปนหุนสวนเพื่อนวัตกรรม ทั้งบริษัท SME บริษัทเกิดใหม และภาควิ ช าการ เพื่ อ รั บ บทบาทในบางเรื่ อ งแทนภาครั ฐ ที่ ห มดความสามารถทํ า ได ถื อ เป น โมเดลการทํ า โครงการร ว มภาครั ฐ และเอกชนเพื่ อ การพั ฒ นาประเทศ และเป น หนทางที่ชวยใหประเทศไทยหลุดพนกับดักรายไดปานกลางไดภายใน 10 ป
ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 22
22 24/11/2558 10:08:35
กับดักรายปานกลางนั้น เปนสิ่งที่ในทางวิชาการ ยังไมไดมีหลักฐานทางทฤษฎีที่แนชัด สวนในเรื่องกับดัก ความยากจน มีโมเดลมีแบบจําลองที่ชัดเจนวาอะไรบางที่ พอจะเปนสาเหตุใหประเทศหนึ่งจะกาวผานความยากจน เปนประเทศที่มีรายไดปานกลาง แต ในเรื่องของกับดัก รายไดปานกลางนั้น ไมไดมีตัวโมเดลที่ชัดเจน มีขอสงสัย แตขอสงสัยนี้ตอกยํ้าดวยขอเท็จจริง ยกตัวอยางเชน ในบรรดาประเทศที่พนจากประเทศยากจน ไปสูประเทศ ที่มีรายไดปานกลางแลว มีเพียง 13 จาก 101 ประเทศที่ สามารถพนจากกับดักรายไดปานกลางได ซึ่งไทยนั้นติด อยูในกับดักรายไดปานกลางและการทีจ่ ะไตขนึ้ เปนประเทศ ที่รวยนั้น ยากกวาไตขึ้นเปนประเทศรายไดปานกลาง เพราะบางประเทศที่เคยรวยก็ตกกลับมาติดกับดัก ประเด็นที่สําคัญที่ตองนําเรื่องรายไดปานกลาง เขามาพูดเพราะวาประเทศไทยนั้นกําลังจะกาวเขาสูการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญและความเปนจริงของสังคมไทยก็คือ กําลังกาวสูสังคมผูสูงอายุ โดยไทยกาวเขาสูสังคมผูสูงอายุ เร็วกวาประเทศที่กําลังพัฒนาอื่นในเอเซีย ซึ่งปรากฏการหนึ่ง ที่จะตองเกิดขึ้นในสังคมผูสูงอายุนั่นก็คือ มีการใชเงินเพื่อ สวัสดิการสังคม เรื่องของการบําเหน็จ บํานาญ เกษียณอายุ คารักษาพยาบาล ที่จะมีตนทุนสูงขึ้นนั้น รัฐบาลจะเอาเงิน มาจากที่ไหน และสวัสดิการที่ ทานอาจารยปวย พูดถึงวา อยากใหมีสวัสดิการทั่วถึงจากครรภมารดาสูเชิงตะกอน นั้นเปนของที่ไมไดมาฟรีๆ นั้นเปนของที่ตองมีตนทุนทาง การเงิ น การคลั ง เพราะฉะนั้ น ความสํ า คั ญ ของการที่ ประเทศไทยจะตองมีการเจริญเติบโตพอใหพนื้ กับดักรายได ปานกลางจึงเปนเรื่องที่มีความสําคัญอยางยิ่ง
ดร.สมเกียรติ บอกวา โมเดลพัฒนาใหมคือโมเดล ที่จะตองกาวใหพนจากประเทศรายปานกลางและตอง พัฒนาเทคโนโลยี ตองพัฒนาศักยภาพแรงงานใหแรงงาน มีมูลคาเพิ่ม รักษาสิ่งแวดลอม เชื่อมโยงการผลิตโดยการ เพิ่มกําลังซื้อภายในประเทศ จัดสรรทรัพยากรการคลัง อยางเหมาะสมและรักษาวินัยทางการคลัง สรางนวัตกรรม และพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ เพิ่ม ผลิตภาพแรงงาน ถาคนไมเกง การศึกษาของประเทศอยู ในระดับที่มีปญหาก็ยากที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาสังคม และพัฒนาการเมืองและในทุกๆ ดาน โดยการที่จะพัฒนา เศรษฐกิจนัน้ ตองพัฒนาคน ตัวอยางเชน การพัฒนากําลังคน ในสวนอาชีวะศึกษา ซึง่ แทบทุกรัฐบาลไดพดู ถึงแตวา รูปธรรม ที่จับตองไดมีนอย แนวโนมที่เกิดขึ้นในทั่วโลกไมเฉพาะใน ประเทศไทย ที่ความนิยมในอาชีวะศึกษานั้นลดลง แมแต ในประเทศที่เคยเปนอาชีวะศึกษาที่เขมแขงอยางประเทศ เยอรมันนี ที่ถือไดวาเปนประเทศตนแบบในการพัฒนา อาชีวศึกษา แตอาชีวะศึกษายังไดรับความนิยมในประเทศ ที่เปนทวิภาคีอยางเชน สวิตเซอรแลนด เดนมารก ทวิภาคีเปนการเรียนรูจ ากทัง้ ในโรงเรียนและสถาน ประกอบการ ใชเวลาเรียนในสถานประกอบการอยางนอย 25% เรียนจากปญหาจริงไมใชปญหาสมมุติ มีการเรียน สลับไปมา ในชวง 1 - 4 ป เชนเรียนในสถานศึกษา 3 วัน ในสถานประกอบการ 2 วัน เพราะตองมีการเรียนรูจริง จากสถานประกอบการกับเรียนรูในโรงเรียนในทางทฤษฏี เขาเชื่อวาเปนโมเดลที่ดีที่สุดในการเรียนรู คือตองเจอ สถานการณจริง และในขณะเดียวกันก็ตองไดความรูทาง ทฤษฏีดวย นักศึกษาเปนพนักงานของบริษัททําใหไดคาจาง
23 Inside-puay December 58.indd 23
ส า ร ป ว ย
24/11/2558 10:08:36
สรางรายไดในขณะศึกษาไดอีกดวย อยางในประเทศไทย ทีเ่ ปนวิทยาลัยทีเ่ ปนทวิภาคีแหงแรกและไดรบั ความนิยมสูง ก็คือ วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ใชวิธีการเรียนในโรงงาน เปนหลัก โดยตอนกลางวันเรียนในวิทยาลัย กลางคืนเรียน ในสถานประกอบการ มีการเลือกนักเรียนเขาโครงการ ลวงหนา เตรียมตัว 1 ป สอบไล - เรียนซอม กอนขึ้นชั้น และสงใหไปเรียนในสถานประกอบการ โดยจะมีครูนิเทศ ดูแลนักเรียนที่อยูในระหวางฝกงานอยางใกลชิด ทําให นักศึกษาที่นี่ไดรับการยอมรับในคุณภาพ เมื่อจบออกมา ก็สามารถหางานดีไดเปนอยางดี เพราะฉะนั้นแนวทาง การขยายผลทวิภาคีใหประสบผลสําเร็จของไทยก็คือตอง สรางตัวชวย เพื่อเปนตัวแทนของรัฐและเอกชน โมเดล ที่เปนไปไดคือรัฐออกเงินทุน เอกชนบริหาร ภายใตการ กํากับของรัฐ โดยทีต่ อ งมีการกํากับระบบ แรงงาน คุณภาพ จูงใจถานประกอบการใหรวมกับรัฐ จูงใจนักเรียนโดยให ประกาศนียบัตรพิเศษและประกันคุณภาพ ฯลฯ โดยสรุป ทวิภาคีเปนตัวอยางที่ทําใหเห็นวาสามารถยกระดับคุณภาพ แรงงานได แตทั้งนี้การทําทวิภาคีในเมืองไทยยังแพรหลาย นอยมาก เหตุเพราะไมมีตัวชวยขยายผล ทําใหจับคูระหวาง นักศึกษากับผูประกอบการที่มีคุณภาพยาก เพราะไมมี กลไกชวยเตรียมตัวและไมมีการประกันคุณภาพมาตรฐาน นั่นเอง ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 24
ทั้งนี้หากไมเรงดําเนินการเรื่องดังกลาว และยัง ปลอยใหการพัฒนาของไทยเปนอยางนี้ไปเรื่อยๆ จะทํา ใหเปาหมายการหลุดพนจากประเทศที่มีรายไดปานกลาง ยาวนานขึ้นไปอีกกวา 26 ป ในขณะเดียวกันยังเห็นวา ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติฉบับที่ 12 ที่ กําหนดเปาหมายใหประเทศไทยเปนประเทศที่มีรายไดสูง ภายใน 10 ป เปนไปไดดวยความยากลําบาก เชนเดียวกับ เปาหมายการสรางเศรษฐกิจใหโตปละ 5% ภาคบริการโต ปละ 7% ผลิตภาพการผลิต ปละ 2.5% และการลงทุนวิจัย และพัฒนาใหได 2% ตอจีดีพี ในป 64 ซึ่งอาจเปนความฝน ทั้งหมด เนือ่ งจากเปาหมายดังกลาวเปนการกําหนดกรอบ กวางๆ และยังไมเห็นมาตรการใหมที่จะออกมาขับเคลื่อน เปาหมายดังกลาวอยางชัดเจน ฉะนัน้ ภาคธุรกิจตองรวมตัว กันเพื่อใหภาครัฐเห็นความสําคัญและสงเสริมการยกระดับ ภาคการผลิตในระยะยาว รวมกันผลักดันใหนวัตกรรมกลาย เปนกระแสหลักของประเทศใหได เนือ่ งจากนวัตกรรมเปน เรื่องที่สําคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย แตเรื่องนี้กลับเปนเรื่องที่ไดรับความสนใจนอยมาก จนนา แปลกใจเปนอยางยิ่ง !!! n n n
24 24/11/2558 10:08:38
ปวยเสวนาสัญจร กองบรรณาธิการ
ปวยเสวนาสัญจร จังหวัดจันทบุรี
“จริยธรรมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
วงเสวนาเล็กๆ ถูกตั้งขึ้นในรั้ว มหาวิทยาลัยราชภัฎรําไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี เพื่อใหเกิดการแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องราวของผูชาย คนหนึ่ง ที่มีชีวิตเปนตนแบบ อยางมากดวยคุณคา และความหมาย หวังที่ จะทําใหคนรุนหลังที่เกิดใหมไดรูจักเขามากยิ่งขึ้น “ปวย อึ๊งภากรณ” สามัญชนที่ยิ่งใหญของแผนดินไทย อาจารยปวย อึ๊งภากรณ เปนคนที่มีความเปนมนุษย มากที่สุดคนหนึ่ง เปนนักพัฒนาที่มีพระคุณตอลูกแมโดม ทานลาออกจากผูวาการธนาคารชาติ เพื่ออุทิศชีวิตใหกับ การศึกษา เปนคนแรกที่เสนอใหรัฐกูเงินดานการศึกษา ไมเคย มีใครกลาคิดแบบนี้ เปนคนกลาหาญรักความยุติธรรม ทาน ตองการสรางบัณฑิตใหรับผิดชอบตอสังคม สรางความเปนธรรม หวานเมล็ดพันธุการพัฒนา เพื่อใหเขาถึงชาวบานไดมากขึ้น สรางเศรษฐกิจคนเล็กคนนอยในพื้นที่ตองเขมแข็งยั่งยืน
เวทีเริ่มตนดวยการกลาวเปดงานของ ผศ.กรรณิการ เผือกนําผล คณบดีคณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร “รูสึกเปนเกียรติที่มหาวิทยาลัยราชภัฎรําไพพรรณี เปน 1 ใน 10 ที่เปนสวนหนึ่งในการจัดการรําลึกถึงอาจารยปวย ตามภูมิภาค ทานเปนผูปรารถนาดีตอสังคมและประเทศชาติ หวังสรางสังคมที่มีสมรรถภาพ เสรีภาพ เมตตา ไมเคยแสวงหา อํานาจ ผลประโยชน อามิสสินจางใดๆ ทานมีเพียงความรักชาติ มีความกลาหาญทางจริยธรรม ไมยอมกมหัวใหกบั อํานาจฝายใด
25 Inside-puay December 58.indd 25
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:53:06
เปนตํานานอยู ในใจของพวกเราทุกคน ทําใหพวกเราไดเขาใจ ความคิดความอาน สรางสรรค ใหเกิดความยุตธิ รรมตอสังคม บน วิถีสันติประชาธรรม” คุณกษิดิศ อนันทนาธร กรรมการมูลนิธิเสฐียรโกเศศนาคะประทีป ผูดําเนินรายการ ไดเปดวงพูดคุยโดยเริ่มจาก คุณบุญสม อัครธรรมกุล ผูชวยอธิการบดีฝายศิษยเกาสัมพันธ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และเปนอดีตนายก อมธ. “อาจารยปวยออกจากประเทศไทยไปในป 2519 แตผม เขาธรรมศาสตร ป 2521 ซึ่งไมทันทานแลว วันนี้ผมมีขอเขียน ที่คัดมาจากบุคคลตางๆ ที่รูจักใกลชิดทาน ทั้งที่เคยเปนลูกศิษย เคยรวมงาน หรือคนที่เคยรวมชะตากรรมกับทาน มาใหเรียนรู รวมกันวา ทานเปนคนธรรมดาสามัญ ทีห่ าเงินใหตวั เอง เมือ่ เรียน หนังสือ ทานเชื่อวาคนเราจะเรียนเกงตองอยูที่ความขยัน ความ ตั้งใจ ความมุงมั่น ก็สามารถเปนคนที่เรียนเกงได อาจารยปวย เปนลูกคนจีน เวลาทานไปเรียนหนังสือมักจะถูกคนลอวา เปน เจก แตทานก็เปนลูกเจกที่รักผืนแผนดินไทยยิ่งนัก” จากขอเขียน อาจารยยงยุทธ ยุทธวงศ อดีตรอง นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีศักดิ์เปนหลานของ อาจารยปวย ทานเคย เขียนถึง อาจารยปวย ไววา “ลุงปวยเปรียบเสมือนมาตรฐานทองคําของครอบครัว เปนตัวอยางทีพ่ วกเราพยายามดําเนินรอยตาม ใครก็ตามที่ไดรบั การเปรียบเทียบวาเหมือนลุง ถือเปนคําชมทีด่ ที สี่ ดุ ทีพ่ งึ่ จะไดรบั ใครกตัญูตอ พอแม ใครอุปถัมนครอบครัว ใครรับใชประเทศชาติ ในตําแหนงทีส่ าํ คัญๆ คนคนนัน้ เขาสูม าตรฐานทองคําเหมือนลุง มีบางอยางทีพ่ วกเราในครอบครัวนัน้ ไมสามารถทดสอบตัวเอง เหมือนอยางลุงคือ ความกลาพูด กลาทําในสิง่ ทีเ่ ชือ่ มัน่ วาถูกตอง แมจะเกิดอันตรายก็ตาม” ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 26
ขอเขียนของ อาจารยนริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวง การคลัง ซึ่งก็เปนหลาน อาจารยปวย ก็ไดเขียนเลาไวอยาง นาสนใจวา “ทานเปนคนที่ชอบให ทั้งในที่ทํางาน ในหมูญาติ หลานที่พอแมมีปญหาก็จะชวยเรื่องการเงิน ในทุกปทานจะ สงเงินใหหลานทุกคน ผมไดรับเงินแตะเอียทุกป แมจะเขา มหาวิทยาลัยแลว แมในชวงเวลาที่ทานลําบากอยู ใหมาก ใหนอยก็ยังให” จากขอเขียนนี้จะเห็นวา อาจารยปวย ทําใหเราเห็นวา ชีวิตคนเราเก็บออมไวพอใช ไมตองเก็บออมเพื่อความมั่นคั่ง การดํารงตําแหนงจากหลายตําแหนงทําใหมีเงินจากหลายที่ แตทานไมเคยเก็บเพื่อมาใชสวนตัวเลย ยังแบงปนใหกับคนที่มี โอกาสนอยกวาเสมอ หรือแมแต อาจารยรังสรรค ธนะพรพันธุ ลูกศิษยกนกุฏิของ อาจารยปวย ก็เขียนไวอยางนาสนใจวา “อาจารยปว ยเกิดในตระกูลสามัญชน เติบโต ตายอยาง สามัญชน แสดงใหลูกศิษยเห็นวา วิถีแหงสามัญชนเปนวิถีที่ ยิ่งใหญและงดงามได ไม ไดขึ้นอยูกับชั้นชน ฐานะ ตําแหนง อภิสิทธิ์ที่ไดรับ แตขึ้นอยูกับความเปนมนุษย เราไดสูญเสีย คนที่มีความเปนมนุษย ใครเกิดมานอย รัฐตองหยิบยื่นใหมาก หลักของความยุติธรรมในสายตาอาจารยปวย ทานหวังจะเห็น รัฐสวัสดิการตัง้ แตแมและเด็ก ถึงวาระสุดทาย ณ บัดนี้ สังคมไทย ไดสูญเสียพลเมืองที่ดีที่สุดคนหนึ่ง ที่ไมหวังผลอะไรตอบแทน จากแผนดินไทย แมแตอนุสาวรีย” “คุณธรรม จริยธรรม เปนรากเหงาของจิตวิญญาณ ทฤษฎีทางจริยธรรม มันสะทอนอะไรบางกับตัวอาจารยปวย อึ๊งภากรณ ผมคิดวา หนึ่งประสบการณทางสังคม ปรโตโฆสะ
26 23/11/2558 16:53:08
คือการไดฟง การไดรับการอบรมจากแมและอา มีผูปกครองดี เลี้ยงดูดี หลอหลอมทําใหเกิดความเฉลียวฉลาด สติปญญา คือกุญแจดอกแรกที่ทําใหอาจารยปวยมีสัมมาทิฐิ การมีความ คิดเห็นที่ถูกตอง เห็นอยางถูกตองและเห็นตามความเปนจริง สอง มีจิตใจดีงาม สาม การรูจักคิดวิเคราะห แยกแยะ ซึ่งถา เปรียบเปนตนไม สิ่งเหลานี้คือรากที่สําคัญของอาจารยปวย กอใหเกิดลําตนที่งดงาม คือ มีความเชื่อมั่นในอํานาจตนเอง มีวิสัยทัศน มีแรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ เสมอตนเสมอปลาย ซื่อสัตย จึงสงผลคือ เปนคนดีตอสังคม” ซึ่ง ดร.เชษฐณรัช อรชุน รองคณบดี คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัย ราชภัฎรําไพพรรณี ไดวิเคราะห อาจารยปวย ผานทฤษฎี ตนไมทางจริยธรรมใหไดมองเห็นรวมกัน ปดทายวงเสวนาดวย สกลฤทธิ์ จันทรพุม ผูกอตั้ง Ma.D Club For Change พูดถึง “จริยธรรม มันเกี่ยวของอะไร กับตัวเรา หลายคนยังไมรูวา วิชาที่เราเรียนในปจจุบัน มัน ลาหลังไปกี่ปแลว แลวอยางไร สิ่งที่เราเรียนเปนความรูที่ชา ไปแลวกับโลกในอนาคต ทําไมตองมาฟงคนพูดถึงอาจารยปวย พี่ถามนองที่ออฟฟศ วาจะทําเรื่องอาจารยปวยใหคนรุนใหม รูจัก ตองทําอยางไร นองถามกลับวา ปวยเกี่ยวอะไรกับผม? ทําไมผมตองฟงเรื่องของคนคนนี้ดวย จะเห็นวาโลกเปลี่ยน ไปหมด แตสิ่งสําคัญคือกระบวนการเรียนรู คุณจะไปหาความรู ไดอยางไร ทุกอยางมันเปลี่ยนไปเร็ว คําถามคือตัวเราที่เปน คนหนึ่งในโลกที่เปลี่ยนไปเร็ว มีปญหาเยอะมาก จะทําอยางไร ยอนกลับมาที่อาจารยปวย แนวคิดของอาจารยปวย จากครรภมารดาสูเชิงตะกอน มีใครเคยไดยินชื่อนี้บาง ถาได ลองอานบทความนี้ดู จะตอบวา แนวคิดอยางนี้กับปจจุบัน มันไมลาสมัยเลย ทําไมคนคนหนึ่งเมื่อ 50 ปที่แลว สามารถ
คิดและเขียนใหแนวทางสังคมไปเปนแบบนั้น หลักแนวคิดจาก เกิดจนตาย กวาจะพัฒนาไดระบบสาธารณสุข ใครเจ็บปวย ควรไดรับการรักษา ซึ่งเมื่อ 20 ปที่แลว มีเปน 10 แบบให เราเลือก ปจจุบันสามารถทําได มีหลักประกันสุขภาพ ประเทศ ทัว่ โลกก็มาดูงาน คําถามคือทําไมบานเรายากจนจึงทําแบบนี้ได สิ่งเหลานี้มีพัฒนาการของมัน หลายคนบอกไกลตัวไมเห็นเกี่ยว แตอนาคตก็ไมแนที่จะตองเขาไปเกี่ยวของดวย ทั้งหมดทั้งมวล คือเรือ่ งการลงมือทํา การเรียนรูใ นปจจุบนั เปนเรือ่ งการลงมือทํา เปนเรื่องวิธีการหาความรู เราตองตั้งเข็มทิศไวแตเนิ่นๆ เชื่อวา คนอยางอาจารยปว ยเปนตนแบบได เปนผูส รางแรงบันดาลใจได แตสิ่งสําคัญเราตองลงมือทํา เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมาก” คุณเคยถามตัวเองไหมวาชีวิตมีเปาหมายตอสิ่งใด คุณเคยถามตัวเองไหมวาคุณศรัทธาตอสิ่งใด คุณเคยฟงหัวใจ ตัวเองไหมวาคุณตองการสิง่ ใด คําถามเหลานี้ ไดมบี คุ คลคนหนึง่ พยายามคนหาคําตอบดวยตัวของเขาเอง พยายามลงมือทําให เห็นตอศรัทธาที่เขามี พยายามบอกวาหัวใจของเขาตองการ เห็น “สันติประชาธรรม” เกิดขึ้นกับสังคมไทย… เขาผูนั้นคือ อาจารยปวย อึ๊งภากรณ กูชายชาญชาติเชื้อ กูเกิดมาก็ทีกูคาดกอนสิ้นชีกูจักไวลายเวย n
ชาตรี หนึ่งเฮย วาอาตม โลกใหแลเห็น n
n
27 Inside-puay December 58.indd 27
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:53:10
ศิลปวัฒนธรรม วันฟาใหม เทพจันทร
โขน ธรรมศาสตร ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
กลาวถึงวิทยาการหรือศิลปาการ ในรั้วธรรมศาสตรเอง ก็เปนที่เลื่องลือชื่อ โดยเฉพาะในเรื่องของศาสตรนาฏศิลป ไมวา จะเป น ‘งิ้ ว ’ ที่ ช าวโดมแสดงเสี ย ดสี ก ารเมื อ งได แ สบๆ คั น ๆ มาหลายยุคสมัยการเมือง หรือแมแตการแสดงในยุคสมัยใหม อยางเชนเมื่องานฟุตบอลประเพณี นาตื่นตาไมนอย นาฏยศาสตร ชั้ น สู ง แขนงหนึ่ ง ที่ ลู ก แม โ ดม ยังคงรักษาสืบตอมาหลายรุน และยังคงเปนที่ชื่นชม ของสาธารณชนอยูจนถึงปจจุบัน นั่นก็คือ ‘ชุมนุมโขน ธรรมศาสตร’ โดยยํ่าคํ่าในบางวันนั้น ที่หนาหอประชุมใหญ ธรรมศาสตร ทาพระจันทร หลายคนสัญจรเขาออกประตู ผานทางมา คงจะไดพบเห็นคน ‘นุงโจงแดง’ เดินเพนพาน ไปมา ทัง้ ยินเสียงตีจงั หวะหรือเสียงเพลงไทยเดิมทีบ่ รรเลง ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 28
ผานเครือ่ งเลน พรอมกับกลุม คนหลายวัยโดยเฉพาะวัยรุน หนุมสาว ซึ่งก็คือชาวโดมนั่นเอง ตางกําลังกรีดกาย รายระบํารําฟอนไปตามลีลาแบบแผนของ ‘โขน’ ทั้งตัว พระ นาง ยักษ และ ลิง โดยมีครูบาอาจารยผูเชี่ยวชาญ และมีชื่อจากวงการนาฏยศิลปเปนผูควบคุมสั่งสอน ชุมนุมโขนธรรมศาสตร มีที่มาเมื่อประมาณ ป พ.ศ. 2509 โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หรือ ‘อาจารย หมอม’ ของชาวโขนโดม ซึ่งขณะนั้นเปนที่ปรึกษาชุมนุม
28 23/11/2558 16:53:51
พุทธศาสตรและประเพณี ชุมนุมศิลปะการละคร สโมสร นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ไดรวมกันกอตั้ง ชุมนุมโขนธรรมศาสตร ขึ้น โดยใหเหตุผลวา “โขนจะ อยู ไดก็ดวยคนดู เมื่อนักศึกษาเลนโขนเปน นักศึกษาก็ จะดู โขนเปน ซึ่งถือเปนการแสดงบทบาทในเชิงอนุรักษ นั่นเอง” ในป 2510 ถึ ง 2515 ถื อ เป น ยุ ค รุ ง เรื อ งและ คึกคักที่สุด มีนักศึกษาสนใจเปนจํานวนมาก และถือเปน ปฐมเกียรติภูมิของชุมนุมโขน เมื่อไดรับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกลาฯ ใหแสดงโขนหนาพระที่นั่ง โดยถวายการแสดง ในเรื่อง ‘นาคบาศ’ เปนเรื่องแรก และไดมีโอกาสอัน ทรงเกียรตินับมาอีกหลายครั้ง มีการแสดงทั้งภายใน และตางประเทศ จนกระทั่งภาวะคับขัน เกิดเหตุการณ เรียกรองประชาธิปไตย และความวุนวายทางการเมือง เมื่อป 2516 ก็ทําใหโขนธรรมศาสตรตองปดฉากการ แสดงไปเนิ่นนาน กระทั่งเมื่อป 2538 สมัยที่ ดร.ชาญวิทย เกษตรศิริ ดํารงตําแหนงอธิการบดี ไดมีดําริใหฟนฟูโขนธรรมศาสตร กลับมาเปดฉากอีกครั้ง โดยถือโอกาสวาระ 7 รอบชาตกาล ของอาจารยหมอม จัดแสดงโขนฉลองใหในเรื่อง ‘ศึก พรหมาสตร’ แต ในปเดียวกันนั้นเองอาจารยหมอมก็ สิ้นบุญลง ทําใหชุมนุมโขนขาดเสาหลัก หรือ ‘หัวหนา คณะ’ จึงไดยุติปดฉากโขนธรรมศาสตรลงในคราวนั้นอีก จนมาถึงป 2543 ในสมัยอธิการบดี รศ.ดร.นริศ ชัยสูตร โขนธรรมศาสตร ไดกําเนิดขึ้นมาอีกครั้งโดยการ สนับสนุนจากหลายฝาย ทั้งจากบรรดาศิษยเกาและศิษย ปจจุบัน จึงไดกอตั้งและเปดตัว ‘ชุมนุมโขนธรรมศาสตร’ อยางเปนทางการ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2544 มาจน ถึงปจจุบันนี้ นับวาเปนการเดินทางมาอยางยาวนาน และยังคงดําเนินสืบไปจากใจของศิษยานุศิษยที่มีใจรัก การแสดงศิลปะชั้นสูงนี้
ตัวของผูเขียนเอง หาใชเลือดธรรมศาสตร ไม ก็ยังมีโอกาสเขามารวมชุมนุมอยูในระยะเวลาหนึ่ง เพราะ นอกจากชุมนุมโขนจะเปนแหลงวิทยาทานของสถาบัน นี้แลว ยังเปดโอกาสใหบุคคลภายนอก ทุกเพศ ทุกวัย ไดเขามาศึกษาเลาเรียนนาฏยศาสตรนี้ไดโดยไมเสียคา ใชจาย โดยมีการเรียนในทุกๆ เย็นวันจันทรและวันพุธ หยุดเมื่อชวงปดเทอมหรืออานหนังสือสอบ เมื่อกาวเขามาสูชุมนุมแลว ความรูสึกจากการ ตอนรับนั้น อบอุนราวกับเปนเพื่อนพี่นองกันมากอน ทีเดียว โดยเฉพาะนอกจากวิชาความรูที่ ไดรับจากครู อาจารยแลว โอกาสจากการแสดงในคราวตางๆ หลาก หลายครั้ง เชน เมื่อคราวไปเลน ‘ศึกนาคบาศ’ ที่จังหวัด ระนอง คราวงานฉลอง 80 ป ธรรมศาสตร ที่หอประชุมใหญ ทาพระจันทร หรืองานที่สถาบันคึกฤทธิ์ นี่คือประสบการณ ที่ไดรับจากชุมนุมโขนแหงนี้ ลาสุดไดเห็นขาวอันนาปลื้มปติ เมื่อ ชุมนุมโขน ธรรมศาสตร ไดมีโอกาสแสดงถวายหนาพระที่นั่ง ฉลอง พระชนมายุ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานวิศิษฏศิลปนสรรพศิลปสโมสร ณ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ก็นับวาเปนเรื่องนายินดี แกความสามารถของชุมนุมโขนรุนใหมๆ สําหรับใครที่สนใจ ผมเชื่อเปนอยางยิ่งวาชุมนุม โขน ยังคงเปดโอกาสตอนรับทุกคนเสมอ เพียงแคมีใจ รักในการเลนโขน แลวเดินเขาไปสอบถามพูดคุยที่หนา หอประชุมใหญ ก็จะไดรํ่าเรียนเหมือนอยางผมเปนแน หรือติดตามขาวคราวความเคลื่อนไหว ไดที่ เฟซบุค ‘โขนธรรมศาสตร - Khon TU’ เพียงแคแวะไปนั่งชม การฝกสอน ก็เพลิดเพลินยิ่งนักแลวครับ n
n
n
29 Inside-puay December 58.indd 29
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:53:56
ปฏิทินกิจกรรม
งานสัมมนาวิชาการ “รัฐศาสตรกับวิกฤตการเมืองไทย” โจทยวิจัยทางรัฐศาสตรกับสถานการณวิกฤตการเมือง โดย ศ.ดร.ชัยวัฒน สถาอานันท วิกฤตประชาธิปไตย โดย ดร.ประจักษ กองกีรติ ความเปนพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดย ผศ.ดร.นฤมล ทับจุมพล การสรางความเปนสถาบันขององคกรอิสระ โดย รศ.ดร.สิริพรรณ สวัสดี วันเสารที่ 12 ธันวาคม 2558 เวลา 09.00 - 12.00 น. ณ หองราชดําเนิน 1 โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ สํารองที่นั่งไดที่ ศูนยวิจัยดิเรก ชัยนาม คณะรัฐศาสตร มธ. โทร. 0-2696-5336 และ 0-2613-2309 ปาฐกถา 100 ป ปวย อึ๊งภากรณ ณ หองประชุมชั้น 5 คณะเศรษฐศาสตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ทาพระจันทร เวลา 13.30 - 15.30 น. ครั้งที่ 9 วันจันทรที่ 14 ธันวาคม 2558 หัวขอ “ความเปลี่ยนแปลงในชนบท : การเคลื่อนเขาสูประชาธิปไตย” โดย ศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ ภาควิชาประวัติศาสตร คณะมนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม เสวนาและปาฐกถาธรรม “ศิลปะแหงการอยูและการตาย” โดย ทานโซเกียล ริมโปเช แปลคําบรรยายเปนภาษาไทย โดย พระไพศาล วิสาโล การเสวนาในหัวขอ “เรียนรูความตาย เขาใจชีวิต” โดย นพ.สกล สิงหะ อ.คมกฤช อุยเต็กเคง อ.อนุสรณ ติปยานนท และ คุณปรียานุช ปานประดับ ดําเนินรายการโดย คุณประสาน อิงคนันท ปจฉิมกถา โดย ส.ศิวรักษ วันที่ 19 ธันวาคม 2558 เวลา 12.30 - 17.30 น. ณ หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร ทาพระจันทร โครงการอนุสรณอยุธยา - ธนบุรี 250 ป ขอเชิญฟงบรรยายเรื่อง “ตีแผภูมิปญญาชาวบาน อาหารตามฤดูนํ้าขึ้นนํ้าลง เสริมดวยการจัดสํารับอาหาร” โดย คุณดุลยพิชัย โกมลวาณิช วันเสารที่ 19 ธันวาคม 2558 เวลา 13.30 - 17.00 น. ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ พัฒน โทร. 0-91551-8606 ส า ร ป ว ย
Inside-puay December 58.indd 30
30 24/11/2558 10:31:23
กวีนิพนธ วันฟาใหม เทพจันทร
คนดี สู 100 ป
ที่โลกยกยอง
ยูเนสโก ประกาศขาว ทามกลางเรื่องราว กรุงปารีส สื่อสารสูไทย ไมกั้นกีด ‘ฟดขาว’ หนาเฟซฯ หลายเพจแชร ชื่อ ‘ดร.ปวย อึ๊งภากรณ’ ยกยองตอนนี้ เปนขาวแน ‘บุคคลสําคัญของโลก’ โดยแท แมพึ่งกลาวขวัญ ก็รูกันมานาน นึกถึง ‘เขม เย็นยิ่ง’ จริงตอนนี้ หากยังมีชีวิตจะคิดอาน ประการใด เมื่อไดรับ รางวัลงาน เพราะทานไมเคยหวังรางวัลใด 100 ป ชาตกาล ใกลผานมา คนมีคา ควรคา นาเลื่อมใส ไมสิ้นสูญ คุณงาม ความดีไป พันปหรือหาได คนเชนนี้ คอย ‘สันติประชาธรรม’ นําทาง คือแสงสวางสองไทยไปทุกที่ สิ้นอาจารยปวย ไปหลายป โลกเขายังกลาวนี่ ‘คนดีจริง’
31 Inside-puay December 58.indd 31
ส า ร ป ว ย
23/11/2558 16:54:44
“ปวยรอยป”
สมุดบันทึกนิทานมูลนิธิเด็ก ประจําป 2559
จัดพิมพในวาระพิเศษ 100 ป ชาตกาล อาจารยปวย ภายในเลมมีนิทาน เรื่อง “ปวยรอยป” เรื่องและภาพสรางสรรคโดยศิลปนอาวุโส เทพศิริ สุขโสภา และจัดพิมพงานเขียนชิ้นสําคัญ
“คุณภาพแหงชีวิต ปฏิทินแหงความหวัง จากครรภมารดาถึงเชิงตะกอน”
ราคาเลมละ 60 บาท
(รายไดสมทบทุนมูลนิธิเด็ก)
มีจําหนายที่ ศูนยหนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และศูนยหนังสือจุฬาฯ หรือติดตอที่ มูลนิธิเด็ก 02-814-1481 ถึง 7 หรือทาง www.shareforchild.com
ราคาชุดละ 80 บาท (รายไดเขาโครงการ 100 ป ฯ)
มีจําหนายที่ ศูนยหนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร รานศึกษิตสยาม รานสวนเงินมีมา หรือติดตอที่ สํานักศิษยเกาสัมพันธ 02-613-3777 หรือทาง www.alumni.tu.ac.th Inside-puay December 58.indd 32
23/11/2558 16:55:30
ด.ญ.ทวีพร พลกลางหาญ ร.ร.ผะดุงศิษยพิทยาประจันตคาม
น.ส.อรุณกมล ทองมอญ ปที่ 2 ม.ศิลปากร
นายธีรภัทร แจงมณี ร.ร.องคการบริหารสวน จ.ชัยนาท
We, economists, in the pursuit of truth and in the practice of our science, not only must be learned, efficient, we must also be honest, appear to be honest, and honest enough to urge other people to be honest. Puey Ungphakorn เรานักเศรษฐศาสตร ในการติดตามศึกษาหาความจริงและฝกฝน วิชาการ เราตองไมเอาแตศึกษา เอาแตประสิทธิภาพ แตเราตองมีความ ซื่อตรง แสดงออกซึ่งความซื่อตรง และซื่อตรงพอที่จะสนับสนุนชักชวน ผูอื่นใหซื่อตรงดวย
จากปาฐกถา Economics as a Branch of Sciences (เศรษฐศาสตร ในฐานะที่เปนวิทยาศาสตรสาขาหนึ่ง) ที่แสดง ณ สมาคมสังคมศาสตรแหงประเทศไทย วันที่ 3 ตุลาคม 2505 แปลโดย วันรักษ มิ่งมณีนาคิน Inside-puay December 58.indd 33
23/11/2558 17:08:15
๑๐๐ ป ชาตกาล อาจารยปวย คนเล็กๆ มารวมดวย ชวยกันให เงินเล็กๆ แมไมมาก แตจากใจ ศิษยทั่วไทย เทิดคา คุณอาจารย หยดฝนยอย หยาดฟา มาสูดิน ประมวลสินธุ สาครใหญ แผไพศาล สืบแนวคิด สัจจะ ปณิธาน ไดดวยการ รวมพลัง ทั้งแผนดิน… ดร.อภิชาติ ดําดี ประพันธ ธนภัทร พรรณวิไล เขียนภาพ
ในโอกาสครบรอบ 100 ป ชาตกาล ศ.ดร.ปวย อึ๊งภากรณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรขอเชิญชวนทุกทาน มีสวนรวมสนับสนุนโครงการและกิจกรรมตางๆ ผานการบริจาคเงินเขาบัญชี “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร (100 ป อาจารยปวย)” เลขที่บัญชี 091-0-16888-9 ธนาคารกรุงเทพ สาขามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร ศูนยรังสิต โดยทุกทานที่บริจาคเงิน จะไดรับ เข็มลายเซ็นอาจารยปวยสําหรับติดเสื้อ 1 ชิ้น และปฏิทินปวย 2559 จํานวน 1 ชุด และของที่ระลึกสุดพิเศษอีกมากมาย โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมไดทาง puey.tu.ac.th หรือ http://www.tu.ac.th/org/rscampus/puey/Puey-Foundation/#/0
สอบถามขอมูลเพิ่มเติมไดที่ 0-2613-3777 และ puey100.tu@gmail.com ** สําหรับการบริจาคภายในป 2558 ใบเสร็จรับเงินสามารถนําไปหักลดหยอนภาษีได 2 เทาตามกฎหมาย Inside-puay December 58.indd 34
23/11/2558 17:09:07