Unit 6 Present Perfect and Past Simple

3.3 Present Perfect Tense 3.3.1 โครงสร้าง (Structures) Active voice* = Subject + have / has + Verb3 (Verb 3 คือ Past Participle) Ex. He has spoken. | You have spoken. | I have spoken.

Passive voice* = Subject + have / has + been + verb3 Ex. He has been punished. | You have been punished.

3.3.2 รูปกริยา (Verb form) 1) ใช้ has กับประธานที่เป็น he, she, it หรือประธานเอกพจน์ ใช้ have กับประธานที่เป็น they, we, you, I หรือประธานพหูพจน์ 2) Verb 3 มีทั้งเป็น Irregular verb และ Regular verb นักเรียนต้องอาศัยประสบการณ์ และการท่องจา เช่น eat > ate > eaten เป็น Irregular verb หรือ punish > punished > punished เป็น Regular verb 3.3.3 การใช้งาน (Functions) 1) ใช้อ ธิบ ายเหตุการณ์ที่ จบลงไปแล้ ว ในอดีต แต่ ผ ลลัพ ธ์ ของการกระทาหรื อ เหตุการณ์นั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ หรือยังอยู่ในใจของผู้พูดมาถึงปัจจุบัน Ex. 1. His father has gone but he always thinks of his father. ยังคิดถึงพ่ออยู่ถึงแม้พ่อเขาจะตายไปแล้ว 2. I have opened the window. ผลลัพธ์ของการเปิดหน้าต่างก็คือ ตอนนี้หน้าต่างก็ยังเปิดอยู่ 3. Bamboo has cut his finger. ผลลัพธ์ในปัจจุบันคือ ยังเห็นเป็นรอยบาดแผลอยู่ 2) ใช้อธิบ ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและดาเนินต่อมาถึงปัจจุบัน (ขณะที่พูด ประโยคนั้น) มักจะมีคาบอกเวลา เช่น since, for, so far, up to now, up to the present time, since then, ever since, over and over.

Ex. 1. Chalermsup has lived in New York since 1985.

2. I have studied English for a lone time.

3. Nancy has been in Laos since she was one month. ข้อสังเกต since ตามด้วย จุดเริ่มต้นของเวลา for ตามด้วย ช่วงระยะเวลา อย่างไรก็ตาม since ยังสามารถตามด้วย Past Simple tense ได้ด้วย ดังตัวอย่างที่ 3 -------------------------------*หมายเหตุ โครงสร้าง Active Voice และ Passive Voice ดังกล่าวในรูปประโยคบอกเล่า (Affirmative from) สาหรับ รูปประโยคปฏิเสธ (Negative form) และคาถาม (Interrogative form) มีรูปโครงสร้าง ดังนี้ รูปประโยคปฏิเสธ (Negative form) = Subject + haven’t / hasn’t + V3. รูปประโยคคาถาม (Interrogative form) = Have / Has + Subject + V3?

3) ใช้อธิบายเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดซ้าๆ ในอดีต และอาจจะเป็นไปได้ว่า จะ เกิดซ้าๆ ในอนาคตด้วย มักมีตัวบอกเวลา เช่น many times, several times เป็นต้น Ex. 1. Muk has been absent from the meeting many times.

2. We have eaten in that restaurant several times.

3. Since my arrival in Bangkok, I have lived in small rooms.

4) ใช้แสดงการกระทาที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หรือหลายครั้ง หรือไม่เคยเลยใน อดีต มักมีตัวบอก เช่น never, ever, once, twice เป็นต้น Ex. 1. I have never seen him before.

2. Have you ever been abroad? No, never.

3. They have been to London twice. ข้อสังเกต ไม่ใช้ ever (เคย) กับประโยคบอกเล่า แต่มักใช้ ever กับประโยค คาถาม ถ้าเป็นประโยคบอกเล่า ต้องการพูดว่าเคย เราจะใช้กริยาวลี “used to” 5) ใช้อ ธิบ ายเหตุ การณ์ที่ เพิ่ง จะเสร็ จหรือจบสิ้ นไปใหม่ๆ มัก มีตั ว บอก เช่ น already, just, yet, finally, eventually, recently, lately เป็นต้น Ex. 1. I have already eaten lunch. เพิ่งกินข้าวเรียบร้อยไปหมาดๆๆ 2. I haven’t hugged her yet. ฉันยังไม่ได้กอดเค้าเลย 3. A little turtle has recently married with a goldfish. เต่าน้อยเพิ่งแต่งงานกับปลาทองไปเมื่อเร็วๆ นี้ ข้อสังเกต ใช้ yet ในประโยคคาถามและปฏิเสธ 6) การใช้กริยา “be” และ “go” ใน Present Perfect Tense 6.1) Mr Charles has gone to Chiang Mai. ผลลัพธ์ของความหมายคือ ตอนนี้ยังอยู่ที่เชียงใหม่ 6.2) Mr Charles has been in Chiang Mai. ผลลัพธ์ของความหมายคือ ตอนนี้ยังอยู่ที่เชียงใหม่ 6.3) Mr Charles has been to Chiang Mai. ผลลัพธ์ของความหมายคือ ตอนนี้กลับมาจากเชียงใหม่แล้ว 7) ความแตกแต่งระหว่าง Present Perfect กับ Past Simple Ex. 1. Mike’s uncle has been rich all his life. ลุงของไมค์รวยตลอดทั้งชีวิต 2. Mike’s uncle was rich all his life. ลุงของไมค์รวยตลอดทั้งชีวิต สองประโยคด้านบน แปลเหมื อนกัน คือ ลุ งของไมค์รวยมาทั้งชีวิต แต่ ต่างกันที่ ถ้าเราใช้ประโยคแรก จะหมายถึง ตอนนี้ลุงของไมค์ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าเราใช้ประโยคที่ 2 จะ หมายความว่า ลุงของไมค์เสียชีวิตไปแล้ว 3. He has lived there for three years. เขาอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลา 3 ปี 4. He lived there for three years. เขาอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลา 3 ปี สองประโยคด้านบนนี้ก็แปลเหมือนกันอีกครับ แต่แตกต่างกันที่ ประโยคที่ 3 เขายังอยู่ที่นั่นอยู่ แต่ประโยคที่ 4 เขาไม่ได้อยู่ที่นั้นแล้ว

ตารางที่ 7 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้ last ในรูปประโยคของ the last month หรือ last month The last month Last month ใช้กับ for ใช้กับ since แสดง ช่วงระยะเวลา แสดง จุดของเวลา ตัวอย่าง I have lived here for the last two ตัวอย่าง I have lived here since last two years. years.

3.3.4 คาสาคัญที่อยู่ในกาลนี้ (Keywords) just already yet since for recently lately up to present up to now so far over and over until the present many times several time never / ever

3.5 Past Simple Tense 3.5.1 โครงสร้าง (Structure) Active voice* = Subject + verb 2 (กริยาช่องที่ 2 ไม่ผันตามประธาน) Ex. He spoke. | You spoke. | I spoke. | They spoke. | She spoke.

Passive voice* = Subject + was/were + verb3 Ex. He was punished. | You were punished. | I was punished.

3.5.2 รูปกริยา (Verb form) กฎการเติม -ed 1) เติม d หลังกริยาที่ลงท้ายด้วย e เช่น love เป็น loved, realise เป็น realised 2) ถ้าลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed เช่น cry เป็น cried, reply เป็น replied แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น play เป็น played, stay เป็น stayed 3) ถ้ากริยาใดออกเสียงสั้นและมีเพียงหนึ่งพยางค์ให้เพิ่มพยัญชนะตัวท้ายอีกตัว ก่อนเติม ed เช่น stop เป็น stopped, plan เป็น planned กฎการเติม –ed ข้างต้นเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแบบ regular verbs นอกจากนี้ ยังมี irregular verbs อีกด้วย Irregular verbs คือ กริยาที่ไม่เปลี่ยนรูปให้เป็นไปตามกฎ (กฎคือ เติม –ed เมื่อเป็น Verb2 และ Verb3 Irregular verbs แบ่งออกเป็น 2 จาพวกคือ พวกที่มีการ เปลี่ยนรูปและพวกที่คงรูปเดิม ตัวอย่าง Irregular verbs ใน Past Verb หรือกริยาช่องที่ 2 Verb1 (Present Verb) Verb2 (Past Verb) Irregular verbs ประเภทเปลี่ยนรูป eat ate drink drank sleep slept stand stood เป็นต้น Irregular verbs ประเภทคงรูป hit hit set set put put cut cut เป็นต้น -------------------------------*หมายเหตุ โครงสร้าง Active Voice และ Passive Voice ดังกล่าวในรูปประโยคบอกเล่า (Affirmative from) สาหรับ รูปประโยคปฏิเสธ (Negative form) และคาถาม (Interrogative form) มีรูปโครงสร้าง ดังนี้ รูปประโยคปฏิเสธ (Negative form) = Subject + didn’t + Verb1 (based form) รูปประโยคคาถาม (Interrogative form) = Did + Subject + Verb1 (based form)?

3.5.3 การใช้งาน (Functions) 1) ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและจบลงไปแล้วก่อนที่จะพูดประโยคนั้น มักจะ มีกลุ่มคาวิเศษณ์ที่แสดงความเป็นอดีตอยู่ (Adverbs of Time) Ex. He came here yesterday.

2) แสดงการกระทาที่ทาเป็นประจาในอดีต Ex. 1. He always got up late when he was young.

2. He walked to school every day last year.

3. He came to her place several times a week before he went to England.

3) ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่สมบูรณ์ในอดีตกับช่วงเวลาในอดีต Ex. 1. Tada was a banker for three years and then he decided to go abroad.

2. The Skylab was in the sky for six years and then it fell down to earth.

3.5.4 คาสาคัญที่อยู่ในกาลนี้ (Keywords) yesterday last night last week last month last year ago in + ค.ศ. ในอดีต when I was a child The day before yesterday the other day when he was young

ใบงาน คาชี้แจง ให้นักศึกษาสรุปใจความสาคัญของเรื่องที่อ่านทั้ง 2 เรื่องในรูปของแผนผังความคิด (Mind Mapping) ภายในหนึ่งหน้ากระดาษ พร้อมระบายสีให้สวยงาม (4 คะแนน)