Microsoft Excel 2007

Page 1

1

คู่มือแผนการสอนแผนกคอมพิวเตอร์ หลักสู ตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม รหัสวิชา 2201-2404

วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน


2 แผนจัดการเรียนรู้ แบบบูรณการ ชื่อรายวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 หมวดวิชาชี พ วิชาชี พสาขางาน สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ ประเภทวิชาพาณิชยกล้ ม ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) จานวน 2 หน่ วยกิต จานวนชั่วโมง รวม 80 ชั่วโมง --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------จุดประสงค์ รายวิชาเพือ่ ให้ 1. รู้ความหมายและความสําคัญของโปรแกรมตารางงาน 2. มีทกั ษะในการป้ อนข้อมูล จัดรู ปแบบการแสดงผลข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล 3. รู ้หลักเกณฑ์ในการนําข้อมูลมาทําการแก้ไข ปรับปรุ งได้ 4. มีทกั ษะในการสร้างสู ตรและฟังก์ชนั ในการคํานวณ 5. เข้าใจกระบวนการนําข้อมูลมาทําการคํานวณตลอดจนทํารายงานในรู ปของแผนภูมิชนิดต่างๆ 6. รู้หลักการนําข้อมูลในแฟ้ มข้อมูลออกทางเครื่ องพิมพ์ 7. มีกิจนิสัยและส่ งเสริ มคุณธรรม จริ ยธรรม ค่านิยมที่ดี ในการใช้คอมพิวเตอร์ มาตรฐานรายวิชา 1. อธิบายความหมาย หน้าที่ และส่ วนประกอบของโปรแกรมตาราง 2. ปฏิบตั ิการป้ อนและจัดรู ปแบบข้อมูลแต่ละชนิด 3. ทําการแสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพและเครื่ องพิมพ์ (Printer) 4. จัดเก็บและเรี ยกข้อมูลมาใช้งาน 5. สร้างสู ตรและฟังก์ชนั่ สําเร็ จรู ปทางสถิติอย่างง่ายเพื่อใช้ในการคํานวณ 6. จัดทํารายงานในรู ปแบบของตารางและแผนภูมิ

คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกับการเริ่ มต้นใช้โปรแกรมตารางงาน ส่ วนประกอบของโปรแกรมตาราง งาน การป้ อนและจัดรู ปแบบข้อมูล การสร้างสู ตรและการใช้ฟังก์ชนั ในการคาว การปรับแก้ขอ้ มูล การ จัดการจัดการฐานข้อมูลในตารางงาน การออกรายงานในรู ปแบบข้อความและแผนภูมิ การวิเคราะห์ ข้อมูล สร้างตารางสรุ ปสาระสําคัญ (Pivot Table) การสร้างแมโครเบื้องต้น


3 สารบัญ เรื่อง ตารางวิเคราะห์คาํ อธิบายรายวิชา ตารางวิเคราะห์การประเมินผลตามสภาพจริ ง แผนจัดการเรี ยนรู้ หน่วยการเรี ยนรู ้ กิจกรรมการเรี ยนรู ้ แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง รู ้จกั กับ Microsoft Excel เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 1 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การแก้ไข Worksheet เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่2 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การตกแต่ง Worksheet เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 3 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การจัดการ Workbook และ Worksheet เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 4 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การใช้สูตรคํานวณ เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 5 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ องการใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 6 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ องการใช้กราฟ เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 7 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ องการพิมพ์งาน เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 8 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ องการบริ หารข้อมูลที่มีปริ มาณมาก เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 9 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การใช้งาน Pivot Table เฉลยแบบฝึ กหัด หน่วยที่ 10 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง การใช้งาน Macro เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 11

หน้ า 5 6 8 13 19 24 30 38 44 48 54 58 64 68 75 78 85 89 95 99 105 112 118 122 128 131 137


4 เรื่อง แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ อง คุณสมบัติดา้ นอินเทอร์เน็ตใน Excel เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 12 แผนจัดการเรี ยนรู้ เรื่ องลูกเล่นใน Excel เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 13 แบบประเมินคุณธรรมจริ ยธรรม (ผูเ้ รี ยนประเมินตนเอง) แบบประเมินสาระการเรี ยนรู้ (ผูเ้ รี ยนประเมินตนเอง) แบบประเมินคุณธรรมจริ ยธรรม(ผูส้ อนประเมินผูเ้ รี ยน) แบบประเมินสาระการเรี ยนรู้(ผูส้ อนประเมินผูเ้ รี ยน) แบบสอบถามความพึงพอใจ/ความคิดเห็นต่อสื่ อการสอน

หน้ า 140 146 149 155 158 159 160 161 162


5 ตารางวิเคราะห์ คาอธิบายรายวิชา ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 จานวน 2 หน่ วยกิต ระยะเวลาเรียน 17 สั ปดาห์ จานวน 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ รวมจานวน 68 ชั่วโมง พฤติกรรมทีค่ าดหวังต่ อการเรียนการสอน 1 ครั้ง ลาดับ ชื่ อหน่ วยการเรี ยนรู้ ที่ ความรู้ ทักษะ จิตพิสัย รวม(ชม.) 1 รู้จักกับ Microsoft Excel 1 2 1 4 2 การแก้ ไข Worksheet 1 2 1 4 3-4 การตกแต่ ง Worksheet 2 4 2 8 5 การจัดการ Workbook และ Worksheet 1 2 1 4 6-7 การใช้ สูตรคานวณ 2 4 2 8 8 การใช้ ฟังก์ชั่นการคานวณ 1 2 1 4 9-10 การใช้ กราฟ 2 4 2 8 11 การพิมพ์งาน 1 2 1 4 12-13 การบริ หารข้ อมูลทีม่ ีปริ มาณมาก 2 4 2 8 14 การใช้ งาน Pivot Table 1 2 1 4 15 การใช้ งาน Macro 1 2 1 4 16 คุณสมบัติด้านอินเทอร์ เน็ตใน Excel 1 2 1 4 17 ลูกเล่ นใน Excel 1 2 1 4 18 การประเมินผลการเรียน รวม 68


6

ตารางวิเคราะห์ การประเมินผลตามสภาพจริง หน่ วยที่ 1.

12.

เครื่องมือวัดผล คะแนน หมายเหตุ ข้ อสอบอัตนัย 2 จุดประสงค์ การ เรี ยนรู้ ทไี่ ม่ ผ่าน แบบประเมิน 2 ครูผ้ สู อน แบบประเมิน 2 มอบหมายงาน แบบประเมิน 2 เพิม่ เติมเพือ่ เป็ น แบบประเมิน 2 การพัฒนา แบบประเมิน 2 ความรู้และ แบบประเมิน 2 ทบทวนบทเรียน ของผู้เรี ยน หาก แบบประเมิน 2 พบว่ ายังไม่ ผ่าน แบบประเมิน 2 จุดประสงค์ การ แบบประเมิน 2 เรี ยนรู้อีก จัด แบบประเมิน 2 สอนซ่ อมเสริม ให้ แบบประเมิน 2

13.

แบบประเมิน

2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11.

จุดประสงค์ การเรี ยนรู้

2


7

คู่มือครู และ Course Syllabus 1. รหัสวิชา 2201-2404 ชื่อวิชา การใช้โปรแกรมตารางงาน ระดับชั้น ปวช. 2. ผู้สอน ………………………………………………………………………………………… 3. จุดประสงค์ รายวิชาเพือ่ ให้ 1. รู้ความหมายและความสําคัญของโปรแกรมตารางงาน 2. มีทกั ษะในการป้ อนข้อมูล จัดรู ปแบบการแสดงผลข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล 3. รู ้หลักเกณฑ์ในการนําข้อมูลมาทําการแก้ไข ปรับปรุ งได้ 4. มีทกั ษะในการสร้างสู ตรและฟั งก์ชนั ในการคํานวณ 5. เข้าใจกระบวนการนําข้อมูลมาทําการคํานวณตลอดจนทํารายงานในรู ปของแผนภูมิชนิดต่างๆ 6. รู้หลักการนําข้อมูลในแฟ้ มข้อมูลออกทางเครื่ องพิมพ์ 7. มีกิจนิสัยและส่ งเสริ มคุณธรรม จริ ยธรรม ค่านิยมที่ดี ในการใช้คอมพิวเตอร์ 4. มาตรฐานรายวิชา 1. อธิบายความหมาย หน้าที่ และส่ วนประกอบของโปรแกรมตารางงาน 2. ปฏิบตั ิการป้ อนและจัดรู ปแบบข้อมูลแต่ละชนิด 3. ทําการแสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพและเครื่ องพิมพ์ (Printer) 4. จัดเก็บและเรี ยกข้อมูลมาใช้งาน 5. สร้างสู ตรและฟังก์ชนั่ สําเร็ จรู ปทางสถิติอย่างง่ายเพื่อใช้ในการคํานวณ 6. จัดทํารายงานในรู ปแบบของตารางและแผนภูมิ 5. คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกับการเริ่ มต้นใช้โปรแกรมตารางงาน ส่ วนประกอบของโปรแกรมตาราง งาน การป้ อนและจัดรู ปแบบข้อมูล การสร้างสู ตรและการใช้ฟังก์ชนั ในการคํานวณ การปรับแก้ขอ้ มูล การจัดการจัดการฐานข้อมูลในตารางงาน การออกรายงานในรู ปแบบข้อความและแผนภูมิ การวิเคราะห์ ข้อมูล สร้างตารางสรุ ปสาระสําคัญ (Pivot Table) การสร้างแมโครเบื้องต้น


8

6. แผนจัดการเรียนรู้ สัปดาห์ที่ หน่วยการเรี ยนรู ้/เนื้อหา 1 บทที่ 1 รู ้จกั กับ Microsoft Excel 1. รู ้จกั กับไมโครซอฟท์เอ็กเซล 2. เอ็กเซล คืออะไร 3. ส่ วนประกอบของไมโครซอฟท์เอ็กเซล 4. การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล 5. วิธีป้อนข้อมูลซํ้ากัน  6. บันทึกข้อมูล 7. ปิ ดเวิร์กบุค๊ 8. ออกจากเอ็กเซล 9. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 10. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 2 บทที่ 2 การแก้ไข Worksheet  1. การแก้ไขเวิร์กชีต 2. การเรี ยกข้อมูลที่บนั ทึกไว้กลับมาใช้งาน 3. การเลือกเซลล์หรื อกลุ่มเซลล์ 4. การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ 5. การแทรกข้อมูล  6. การลบข้อมูลในเซลล์ 7. การใช้คาํ สัง่ Undo และ Redo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด 8. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 9. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 3-4 บทที่ 3 การตกแต่ง Worksheet 1. การตกแต่งเวิร์กชีต 2. กําหนดรู ปแบบการแสดงข้อมูล 3. กําหนดรู ปแบบการแสดงวันที่และเวลา

กิจกรรม - ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ - สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ

- ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ - สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ

- ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย


9 4. กําหนดรู ปแบบและขนาดข้อมูลที่แสดง ในตาราง 5. กําหนดข้อมูลให้แสดงเป็ นตัวหนา 5

6-7

8

9-10

บทที่ 4 การจัดการ Workbook และ Worksheet 1. การจัดการเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 2. เรื่ องของเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 3. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 4. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 5 การใช้สูตรคํานวณ  1. การใช้สูตรคํานวณ 2. วิธีใช้สูตรคํานวณ 3. การย้ายและการคัดลอกสู ตร 4. การอ้างอิงเซลล์ในสู ตรคํานวณโดยใช้ชื่อหัว คอลัมน์ 5. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 6. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน บทที่ 6 การใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ  1. การใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ 2. แนะนําส่ วนประกอบของฟังก์ชนั่ 3. การใช้ AutoSum 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 7 การใช้กราฟ

-

แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา


10  1. การใช้กราฟ

2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 11

12-13

14

ส่ วนประกอบของกราฟ เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาดและลบรู ปกราฟ การเปลี่ยนขนาดรู ปภาพ การลบกราฟ การแก้ไขและปรับแต่งรายละเอียดของกราฟ ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 8 การพิมพ์งาน 1. การพิมพ์งาน 2. ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ดว้ ย Print Preview 3. การกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 9 การบริ หารข้อมูลที่มีปริ มาณมาก 1. การบริ หารข้อมูลที่มีปริ มาณมาก 2. ฐานข้อมูล 3. การเรี ยงลําดับข้อมูล 4. การคัดเลือกข้อมูล โดยใช้ AutoFilter 5. การค้นหาเรคอร์ ด 6. การหาผลรวมในรายการฐานข้อมูล 7. การสร้าง Group 8. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 9. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน บทที่ 10 การใช้งาน Pivot Table 1. การใช้งาน Pivot Table

-

หน่วยการเรี ยน แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ

- ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ - สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ - ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ - สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ

- ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน


11 2. 3. 4. 5.

ความหมายและประโยชน์ของ Pivot Table จัดรู ปแบบโดยการย้ายตําแหน่ง Field ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

15

16

17

บทที่ 11 การใช้งาน Macro 1. การใช้งาน Macro 2. การสร้าง Macro 3. การเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ ม 5. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 6. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 12 คุณสมบัติดา้ นอินเทอร์ เน็ตใน Excel 1. คุณสมบัติดา้ นอินเทอร์ เน็ตในเอ็กเซล 2. การสร้าง Link เชื่อมโยงสู่ อินเทอร์ เน็ต 3. สร้างเว็บเพจจากข้อมูลในเอ็กเซล เพื่อ เผยแพร่ ผา่ นอินเทอร์ เน็ต 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

บทที่ 13 ลูกเล่นใน Excel 1. ลูกเล่นในเอ็กเซล 2. การป้ องกันข้อมูล 3. การบันทึกข้อมูล 4. การใช้ AutoFill 5. การสร้าง Custom List

-

แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา บรรยาย แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ สรุ ปบทเรี ยน แบบฝึ กหัด/ทดสอบ

- ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ - สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ - ให้นกั ศึกษาค้นคว้าประจํา หน่วยการเรี ยน - แบ่งกลุ่มให้ไปศึกษา - บรรยาย - แสดงวิธีทาํ และยกตัวอย่าง - ให้นกั ศึกษาแสดงวิธีทาํ


12 6. การแปลงเอ็กเซลให้ใช้กบั รุ่ นต่าง ๆ ได้ 7. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 8. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

- สรุ ปบทเรี ยน - แบบฝึ กหัด/ทดสอบ


13

ครั้งที่ 1

2

หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่วยการเรี ยนรู้ จํานวนชัว่ โมง 1 4 รู้ จักกับ Microsoft Excel สาระสําคัญ 1. รู ้จกั กับไมโครซอฟท์เอ็กเซล 2. เอ็กเซล คืออะไร 3. ส่ วนประกอบของไมโครซอฟท์เอ็กเซล 4. การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล 5. วิธีป้อนข้อมูลซํ้ากัน  6. บันทึกข้อมูล 7. ปิ ดเวิร์กบุค๊ 8. ออกจากเอ็กเซล 9. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 10. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 2 4 การแก้ไข Worksheet สาระสําคัญ 1. การแก้ไขเวิร์กชีต 2. การเรี ยกข้อมูลที่บนั ทึกไว้กลับมาใช้งาน 3. การเลือกเซลล์หรื อกลุ่มเซลล์ 4. การคัดลอกข้อมูลในเซลล์ 5. การแทรกข้อมูล  6. การลบข้อมูลในเซลล์ 7. การใช้คาํ สั่ง Undo และ Redo เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาด 8. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 9. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน


14

ครั้งที่ 3-4

5

หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่วยการเรี ยนรู ้ จํานวนชัว่ โมง 3 8 เริ่มต้ นกับ Photoshop สาระสําคัญ - ทําความรู ้จกั กับ Photoshop - ความสามารถโดยรวมของ Photoshop - ความต้ อ งการระบบและการติ ด ตั้ งโปรแกรม Photoshop - เข้า สู่ โ ปรแกรมและรู ้ จ ัก ส่ ว นประกอบต่ า งๆ ใน Photoshop - ใบงานและแบบฝึ กหัด - แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 4 4 การจัดการ Workbook และ Worksheet สาระสําคัญ 1. การจัดการเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 2. เรื่ องของเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 3. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 4. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน


15 6-7

ครั้งที่ 8

5

8 การใช้ สูตรคานวณ สาระสําคัญ 1. การใช้สูตรคํานวณ 2. วิธีใช้สูตรคํานวณ 3. การย้ายและการคัดลอกสู ตร 4. การอ้างอิงเซลล์ในสู ตรคํานวณโดยใช้ชื่อหัว คอลัมน์ 5. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 6. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่วยการเรี ยนรู ้ จํานวนชัว่ โมง 6 4 การใช้ ฟังก์ชั่นการคานวณ สาระสําคัญ  1. การใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ 2. แนะนําส่ วนประกอบของฟังก์ชนั่ 3. การใช้ AutoSum 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน


16

ครั้งที่ 9-10

หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่วยการเรี ยนรู ้ 7 การใช้ กราฟ สาระสําคัญ  1. การใช้กราฟ 2. ส่ วนประกอบของกราฟ 3. เคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาดและลบรู ปกราฟ 4. การเปลี่ยนขนาดรู ปภาพ 5. การลบกราฟ 6. การแก้ไขและปรับแต่งรายละเอียดของกราฟ 7. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 8. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

11

8

12-13

9

การพิมพ์งาน สาระสําคัญ 1. การพิมพ์งาน 2. ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ดว้ ย Print Preview 3. การกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน การบริหารข้ อมูลทีม่ ีปริมาณมาก สาระสําคัญ 1. การบริ หารข้อมูลที่มีปริ มาณมาก 2. ฐานข้อมูล 3. การเรี ยงลําดับข้อมูล 4. การคัดเลือกข้อมูล โดยใช้ AutoFilter 5. การค้นหาเรคอร์ ด

จํานวนชัว่ โมง 8

4

8


17 6. 7. 8. 9.

การหาผลรวมในรายการฐานข้อมูล การสร้าง Group ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

ครั้งที่

หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่ วยการเรียนรู้

จํานวนชัว่ โมง

14

10

การใช้ งาน Pivot Table สาระสําคัญ 1. การใช้งาน Pivot Table 2. ความหมายและประโยชน์ของ Pivot Table 3. จัดรู ปแบบโดยการย้ายตําแหน่ง Field 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

4

15

11

การใช้ งาน Macro สาระสําคัญ 1. การใช้งาน Macro 2. การสร้าง Macro 3. การเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ ม 5. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 6. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

4


18

ครั้งที่

หน่ วยการเรียนรู้ ชื่อวิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 รวม 4 ชั่วโมง / สั ปดาห์ หน่วยที่ ชื่อนหน่ วยการเรียนรู้

จํานวนชัว่ โมง

16

12

คุณสมบัติด้านอินเทอร์ เน็ตใน Excel สาระสําคัญ 1. คุณสมบัติดา้ นอินเทอร์ เน็ตในเอ็กเซล 2. การสร้าง Link เชื่อมโยงสู่ อินเทอร์ เน็ต 3. สร้างเว็บเพจจากข้อมูลในเอ็กเซล เพื่อเผยแพร่ ผ่านอินเทอร์ เน็ต 4. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 5. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

4

17

13

ลูกเล่ นใน Excel สาระสําคัญ 1. ลูกเล่นในเอ็กเซล 2. การป้ องกันข้อมูล 3. การบันทึกข้อมูล 4. การใช้ AutoFill 5. การสร้าง Custom List 6. การแปลงเอ็กเซลให้ใช้กบั รุ่ นต่าง ๆ ได้ 7. ใบงานและแบบฝึ กหัดก่อนเรี ยน 8. แบบฝึ กหัดหลังเรี ยน

4

18

ประเมินผลผู้เรี ยน


19 7. กิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 กิจกรรมครู 7.1.1 จัดเตรี ยมเอกสาร หนังสื ออ้างอิง สื่ อการเรี ยนทั้งสื่ อโสตทัศน์ สื่ อสิ่ งพิมพ์ ตัวอย่างแฟ้ ม สะสมผลงานของผูเ้ รี ยน 7.1.2 นําเข้าสู่ บทเรี ยนโดยการประเมินผูเ้ รี ยนที่ หลากหลาย เช่ น ถามความรู ้ พ้ืนฐานทั้งห้อง หรื อ ทําแบบฝึ กหัดเรี ยน 7.1.3 การให้ขอ้ มูลหรื อการสอน โดยผูส้ อนให้ผูเ้ รี ยนศึกษาจากใบความรู้ แบบฝึ กหัด สรุ ป สาระการเรี ยนรู ้ ประจําหน่ วยการเรี ยน ตัวอย่างแฟ้ มสะสมผลงานรุ่ นพี่ หรื อชุ ดการเรี ยน สื่ อโสตทัศน์ แล้วทําแบบฝึ กหัดหากยังทําได้ไม่ครบให้ทบทวนบทเรี ยนให้ผเู ้ รี ยนใหม่ 7.1.4 สังเกต บันทึกพฤติกรรมผูเ้ รี ยนขณะศึกษาบทเรี ยน คอยช่วยเหลือให้คาํ แนะนําเมื่อผูเ้ รี ยน ต้องการ 7.1.5 การประยุกต์ใช้ โดยให้ใบมอบหมายงานแก่ผเู ้ รี ยน ดําเนิ นงานตามจุดประสงค์ที่กาํ หนด ไว้ในใบงาน โดยดําเนิ นงานในลักษณะของขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ เริ่ มตั้งแต่ ระบุความต้องการของ ปั ญหา ขั้นศึกษาเพื่อหาสมมติฐาน ขั้นปฏิบตั ิ และสรุ ปผลของคําตอบที่ได้จากขั้นปฏิบตั ิ 7.1.6 สังเกต บันทึกพฤติกรรมผูเ้ รี ยนขณะดําเนิ นงานตามใบงาน คอยช่วยเหลือให้คาํ แนะนํา เมื่อผูเ้ รี ยนต้อง 7.1.7 แบ่งกลุ่มผูเ้ รี ยนเพื่อดําเนิ นการตามใบงาน แล้วผูส้ อนเดินสํารวจการดําเนิ นงานตามใบ งานของผูเ้ รี ยนหากพบว่าผูเ้ รี ยนดําเนินการยังไม่ถูกต้องให้คอยชี้แนะวิธีที่ถูกต้องทันที 7.1.8 การตรวจสอบผลการเรี ยนรู ้ ให้ผูเ้ รี ยนร่ วมกันกําหนดหัวข้อที่ จะประเมิ นงานร่ วมกับ ผูเ้ รี ยนตรวจสอบชิ้นงานเพื่อประเมินและแก้ไขข้อบกพร่ อง 7.1.9 สังเกต บันทึกพฤติกรรมผูเ้ รี ยนขณะผูเ้ รี ยนทํางาน คอยช่วยเหลือให้คาํ แนะนําเมื่อผูเ้ รี ยน ต้องการ 7.1.10 หากผูเ้ รี ยนได้แบ่งกลุ่มรับผิดชอบการดําเนิ นการตามใบงานให้ตวั แทนกลุ่มหรื อสมาชิ ก ทั้งกลุ่มลุกขึ้นบอกคําตามพร้อมทั้งวิธีการได้มาซึ่ งคําตอบ 7.1.11 ครู อธิ บายเนื้อหา พร้อมแสดงวิธีทาํ ครู ให้นกั ศึกษามีส่วนร่ วมในการเรี ยนการสอน เช่น - ถามตอบ - ร่ วมกันสรุ ป - ร่ วมกันวิเคราะห์หาเทคนิคและแนวทางที่ดีและง่าย


20 - ร่ วมกันสร้างโจทย์ปัญหา และ ร่ วมกันสรุ ปวิธีการแก้ปัญหาที่กาํ หนดในแนวทางที่ ถูกต้องและเหมาะสม 7.1.12 ครู ใ ห้นักศึ กษาทําแบบฝึ กหัดทบทวนบทเรี ย นบนกระดานเป็ นรายบุ คคลพร้ อมให้ อธิ บายและสรุ ปหลักการออกมาเป็ นแนวคิดตามความเข้าใจของแต่ละบุคคล 7.1.13 ครู ให้นกั ศึกษาตอบคําถามพร้อมออกมาสาธิ ตวิธีการทําโดยวิธีการสุ่ มนักศึกษาในห้อง 7.1.14 ครู จดั ให้นกั ศึกษาทํากิ จกรรมกลุ่ม เพื่อให้เกิ ดความคิดที่หลากหลายในกระบวนการ วิเคราะห์หาเหตุและผล แล้วส่ งตัวแทนออกไปแสดงวิธีการปฏิบตั ิในชัว่ โมงเรี ยนในแต่ละภาระงาน 7.1.15 ครู สรุ ปพร้อมแนะนําเทคนิคและกระบวนการคิดที่ถูกต้อง 7.1.16 ผูเ้ รี ยนทําภาระงานทุ กหน่ วยการเรี ยนตามใบงานประจําหน่ วยส่ งในเวลาที่ กาํ หนด แล้วหลังจากครู ได้ตรวจชิ้ นงานให้ผเู ้ รี ยนทําการแก้ไขให้ถูกต้องและเก็บสะสมชิ้นงานเพื่อจัดทําแฟ้ ม สะสมชิ้นงานในทุกหน่วยการเรี ยนรู ้หลังเสร็ จสิ้ นกระบวนการเรี ยนการสอน 7.2 กิจกรรมผู้เรียน 7.2.1 จัดเตรี ยมเอกสาร หนังสื อแบบเรี ยน หนังสื ออ้างอิง ตามที่ผสู ้ อนและบทเรี ยนกําหนด 7.2.2 นํา เข้า สู่ บ ทเรี ย นโดยรั บ การชี้ แจงวิ ธี ก ารเรี ย นรู ้ ระยะเวลาที่ ท ํา การเรี ย นการสอน หลักการแนวทางการเรี ยน การประเมินผลการเรี ยน 7.2.3 จัดกลุ่มกันศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูลจากเอกสารตํารา หนังสื อเรี ยน หนังสื ออ้างอิ ง และ เรี ยนจากชุ ดการเรี ยนและสื่ อการเรี ยนต่าง ๆ และผูเ้ รี ยนร่ วมกันแลกเปลี่ยนความรู ้ ความคิดเห็นซึ่ งกัน และกันเพื่อหาความคิดรวบยอดให้เกิดในแต่ละสาระการเรี ยนรู ้ 7.2.4 การให้ข ้อมูล โดยศึ กษาเนื้ อหาจากใบความรู ้ ใบงาน หรื อสื่ อการเรี ยนต่าง ๆ แล้วทํา แบบฝึ กหัด หากยังทําได้ไม่ครบทําการทบทวนบทเรี ยนใหม่ หากมีปัญหาข้อขัดข้องให้ขอคําแนะนํา จากผูส้ อนและเพื่อนในกลุ่ม 7.2.5 การประยุกต์ใช้ โดยศึกษาใบมอบหมายงาน ดําเนิ นงานตามจุดประสงค์ในแต่ละสาระ การเรี ยนรู้ ตามใบงานที่กาํ หนดไว้โดยดําเนิ นงานในลักษณะของขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ เริ่ มตั้งแต่ ระบุความต้องการของปั ญหา ขั้นศึกษาเพื่อหาสมมติฐาน ขั้นดําเนิ นการปฏิบตั ิเพื่อให้ได้มาซึ่ งคําตอบ สรุ ปผลของคําตอบที่ได้มาจากขั้นปฏิบตั ิ หน้าห้องเรี ยน หรื อส่ งครู ตามที่ได้กาํ หนดไว้ในใบมอบหมาย งาน หากมีปัญหาให้ขอคําแนะนําจากผูส้ อนและเพื่อในกลุ่มหรื อเพื่อในห้องเรี ยน 7.2.6 การตรวจสอบผลการเรี ยนรู ้ โดยทํารายงานผลการดําเนิ นงาน ร่ วมกับผูส้ อนกําหนด หัวข้อที่ จะประเมิ นงานในแต่ละสาระการเรี ยนรู ้ และผูเ้ รี ยนมี ส่วนร่ วมในการตรวจสอบชิ้ นงานเพื่อ ประเมินและแก้ไขข้อบกพร่ อง หากมีปัญหาขัดข้องให้ขอคําแนะนําจากผูส้ อนและเพื่อนในกลุ่ม


21 8. สื่ อการเรียนการสอน 1. หนังสื อประกอบการเรี ยนวิชาการใช้โปรแกรมตารางงาน 2 .ใบงานประจําหน่วยการเรี ยนรู ้แต่ละหน่วย 3 . แบบฝึ กหัดประจําหน่วยการเรี ยนรู ้ 4 . ตัวอย่างแฟ้ มสะสมชิ้นงาน 5 . ชุดการสอน PowerPoint แต่ละหน่วยการเรี ยน 6. VCD CAI 7.บทเรี ยนออนไลน์ 8. เครื่ องคอมพิวเตอร์ 9. การวัดผลประเมินผล เก็บคะแนนระหว่างการดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ 100 คะแนน 1. คุณธรรมและจริ ยธรรม 20 คะแนน 2. ใบงาน/แบบฝึ กหัด(ชิ้นงาน/แฟ้ มสะสมผลงาน) 30 คะแนน 3. ทดสอบระหว่างเรี ยน 20 คะแนน 4. ประเมินผลผูเ้ รี ยนหลังเรี ยน 30 คะแนน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 10.2 ผูเ้ รี ยนมีความสนใจในการตอบคําถามและการสรุ ปผลการเรี ยนรู ้แต่ละหน่วยการเรี ยนได้ อย่างถูกต้อง 10.3 เกิดความคิดรวบยอดในแต่ละหน่ วยการเรี ยนรู ้ และรู ้หลัก เทคนิ ค และวิธีการหาคําตอบ ได้อย่างรวดเร็ วและถูกต้อง 10.4 ผ่านการทดสอบประจําหน่วยและประมวลผลสาระการเรี ยนรู ้ตลอดภาคเรี ยน 10.5 ผูเ้ รี ยนเกิดทักษะ 10.6 สังเกตุพฤติกรรมและการแสดงออกถึงการเล็งเห็นคุณค่าของการนําโปรแกรมตารางงาน มาใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ของผูเ้ รี ยน 10.7 ความสนใจในการเรี ยนรู ้ การค้นคว้าเพื่อแสดงความรู ้ และคําตอบ การมี ส่วนร่ วมใน กิจกรรม 10.8 การซักถามและการตอบคําถาม 10.9 แบบฝึ กหัดและกิจกรรมการฝึ กทักษะ


22 10.10 การทํางานเป็ นทีม (ให้ความสําคัญในการทํางานเป็ นทีม) 10.11 การประเมินโดยกลุ่มเพื่อน การประเมินตนเอง 10.12 การเขียนรายงานผลงาน และการแก้ไขส่ วนที่บกพร่ องในชิ้นงานที่มอบหมาย 10.13 แฟ้ มสะสมผลงานที่มอบหมายในแต่ละหน่วยการเรี ยน เครื่องมือวัดผล 1. ด้ านคุณธรรมจริยธรรม (จิตพิสัย) 1.1 การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 1.2 ตรงต่อเวลา 1.3 สนใจปฏิบตั ิงานที่มอบหมายและความกระตือรื อร้นในการเรี ยน 1.4 ความรับผิดชอบ 1.5 ความสะอาดและความเป็ นระเบียบ 1.6 ความซื่อสัตย์ 1.7 การเห็นคุณค่าและมีเจตที่ดี 2. ด้ านวิชาการ (ด้ านทักษะ) 2.1 ตอบคําถาม 2.2 หลักการและเทคนิคในกระบวนการคิด 2.3 มีความรู้ความเข้าใจ 2.4 ผลงานการปฏิบตั ิตามใบงานมีความถูกต้อง 2.5 มีทกั ษะและวิเคราะห์การใช้งานได้ 2.6 ความสามารถในการนําความรู ้ไปประยุกต์ใช้ในการทํางานกับคอมพิวเตอร์ 2.7 ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนมีความเข้าใจ 2.8 กระบวนการแก้ปัญหาและกระบวนการสื บค้นเพื่อหาคําตอบ 2.6 มีโนภาพและความคิดรวบยอดในการในกระบวนการเรี ยนรู ้ประจําหน่วย 10. แหล่ งการเรียนรู้ 10.1 ห้องสมุดสถานศึกษา 10.2 ห้องปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ 10.3 ผูป้ กครอง เพื่อน ๆ รุ่ นพี่ และบุคลากรในสถานศึกษา 10.4 หนังสื อ E-book , Elearning , Website ที่เกี่ยวข้อง


23 10.5 ครู ผสู้ อน 11. ผลงานผู้เรียน 11.1 รวบรวมผลงานที่ เ ป็ นผลงานที่ ถู ก ต้อ งในภาระงานที่ ม อบหมาย และผูเ้ รี ย นทํา การ ปรับปรุ งแก้ไขชิ้นงานที่ยงั ไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง แล้วจัดทําเป็ นแฟ้ มสะสมผลงาน 11.2 แฟ้ มสะสมผลงานการทดสอบของผูเ้ รี ยน 10. เอกสารอ้างอิ ง อ. สุ รชั ย พิ ม พ์ ส าลี , อ. อัม ริ นทร์ เพ็ ช รกุ ล . วิ ช าการใช้ โ ปรแกรมตารางงาน ระดับ ชั้ น ปวช. กรุ งเทพมหานคร: บริ ษทั ซัคเซสมีเดียจํากัด, 2545(ปรับปรุ ง 2546).


24 แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 1 เรื่อง รู้ จักการทางานของเว็บเพจเบือ้ งต้ น

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 1 เวลา 4 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทมากมาย โดยเฉพาะการใช้โปรแกรม ประยุกต์ ไมโครซอฟท์เอ็กเซล ส่ วนประกอบของโปรแกรม การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล วิธีป้อน ข้อมูลซํ้ากัน บันทึกข้อมูล ปิ ดเวิร์กบุค๊ ออกจากโปรแกรมเอ็กเซล ทําให้การทํางานด้านตารางงานได้ อย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพิม่ มากขึ้น สะดวกในการทํางานในรู ปแบบต่าง ๆ 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)  1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของโปรแกรมประยุกต์ 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่ วนประกอบของโปรแกรมเอ็กเซล 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล 4. มีความรู ้ความสามารถในการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่ องคอมพิวเตอร์ 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)  1. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายความหมายของโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซลได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายคุณสมบัติที่สาํ คัญของโปรแกรมเอ็กเซลได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกและอธิบายหน้าที่ ส่ วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรมได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถเปลี่ยนแถบเมนูระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้งาน ตัวช่วยเหลือในโปรแกรมได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนข้อมูลในโปรแกรมได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถลบ และแก้ไขข้อมูลในโปรแกรมได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถแก้ไขข้อมูลจากแถบสู ตรได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกตําแหน่งเซลล์ตามที่ระบุได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกข้อดีของการระบุตาํ แหน่งเซลล์โดยใช้คาํ สั่ง Go Toได้ 11. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนข้อมูลโดยวิธี Pick From List ได้ 12. ผูเ้ รี ยนสามารถบันทึกข้อมูลการทํางาน เพื่อเรี ยกใช้งานครั้งถัดไปได้ 13. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างเอกสารเพื่อใช้งานจริ งได้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้


25

กิจกรรมครู ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน 2. ครู นาํ เข้าสู่ บทเรี ยนโดยให้ผเู ้ รี ยนในห้องแสดงความ คิ ด เห็ น ถึ ง ความหมายของโปรแกรมประยุ ก ต์ ไ ม โ ค ร ซ อ ฟ ท์ เ อ็ ก เ ซ ล ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ข อ ง โปรแกรมเอ็กเซล การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล 3. ร่ วมสนทนา ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. ให้นกั เรี ยนแบ่งกลุ่ม 3 กลุ่มร่ วมศึกษาจากเรื่ อง กลุ่ ม ที่ 1ความหมาย ของโปรแกรมประยุ ก ต์ ไมโครซอฟท์เอ็กเซล กลุ่มที่2 ส่ วนประกอบของโปรแกรมเอ็กเซล กลุ่มที่3 การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล 3. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล 4. ครู บรรยาย และยกตัวอย่างประกอบในหัวข้อการ ตรวจสอบอุ ปกรณ์ ต่างๆ ภายในคอมพิวเตอร์ อย่า ง ชัดเจนเพื่อให้ผเู้ รี ยนสามารถจดจําและปฏิบตั ิได้ ขั้นสรุ ป( 30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ค รู แ น ะ นํ า ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ไ ป ศึ ก ษ า จ า ก ห นั ง สื อ ประกอบการเรี ยนเพิม่ เติม 4. ทดสอบหลังเรี ยน

กิจกรรมผู้เรียน 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร ตรวจสอบ 2. ผู้เ รี ยนแสดงความคิ ด เห็ น และ นําเสนอ 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ศึกษาจากกลุ่มที่อาจารย์จดั ไว้ให้ รับการประเมิน ผูเ้ รี ย นสนใจ ตั้ง ใจฟั ง ครู บ รรยาย พร้อมจดบันทึก

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท


26 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. แสดงความคิดเห็น ถึงความหมายของโปรแกรมประยุกต์ไมโครซอฟท์เอ็กเซล ส่ วนประกอบของ โปรแกรมเอ็กเซล การเลือกเซลล์เพื่อป้ อนข้อมูล ขณะเรียน 1. ศึกษาจากกลุ่มที่อาจารย์จดั ไว้ให้ 2. จดบันทึก สาระการเรี ยนรู้ 3. ร่ วมกันสรุ ปบทเรี ยน พร้อมบันทึกผลการสรุ ป แล้วลุกขึ้นนําเสนอกับครู ผสู ้ อน 4. ผูเ้ รี ยนและครู ผสู ้ อนร่ วมกันประเมินข้อสรุ ปของผูเ้ รี ยนที่ออกแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ได้ ข้อสรุ ปที่ถูกต้อง และครู ผสู ้ อนแสดงความชื่ นชมกับผูเ้ รี ยนทุกคนที่ออกแสดงความคิดเห็นและมีส่วน ร่ วมในกิจกรรมที่มอบหมาย 5. ทําใบงาน ตรวจสอบใบงาน แก้ไขใบงาน 6. ทบทวนเนื้อหา 7. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 8. ร่ วมกันเฉลยแบบฝึ กหัด 5. สื่ อการเรียนการสอนประจาหน่ วย 1. หนังสื อเรี ยนวิชา การใช้โปรแกรมตารางงาน 2. ใบความรู ้ประจําหน่วย 3. ใบงานและแบบฝึ กหัด 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 6. วัดผลประเมินผลประจาหน่ วย 1. สั ง เกตผูเ้ รี ย นมี ค วามสนใจ เกิ ด ความเข้า ใจในสาระการเรี ย นรู ้ ตลอดจนแสดงความ กระตือรื อร้นในการแสดงความคิดเห็นและสรุ ปสาระการเรี ยนรู ้ประจําหน่วย 2. ทําใบงานได้อย่างถูกต้อง ทันเวลาที่กาํ หนด ใบงานสะอาดและเป็ นระเบียบ 3. ผูเ้ รี ยนทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนได้ถูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็ นอย่างตํ่า


27 7. กิจกรรมเสนอแนะประจาหน่ วย 1. ผูเ้ รี ยนต้องให้ความสนใจในการศึ กษา เพื่อหาเทคนิ ค วิธีการ หรื อหลักการง่ า ยเพื่อให้ ปฏิบตั ิได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครู ผสู ้ อนสรุ ปในขณะที่ทาํ การสอน และนําข้อสงสัยซักถามครู ในการเรี ยนทุกครั้งที่เกิดความสับสน และไม่เข้าใจ 2. ผูม้ ีการทบทวนบทเรี ยน ตลอดเพื่อเสริ มสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริ ง 3. ผูเ้ รี ยนหมัน่ ทําใบงาน แบบฝึ กหัด และแก้ไขข้อที่ผดิ ให้ถูกต้องเสมอ 4. ผูเ้ รี ยนต้องสร้ างมโนภาพให้เกิ ดความคิดรวบยอดในสาระการเรี ยนรู ้ และเทคนิ ควิธีการ พร้อมกับความจําเป็ นในการนําไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิด่ความรู ้ความเข้าใจอย่าง แท้จริ งไม่ใช่เกิดจากการท่องจํา

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


28

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


29 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


30

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 1

ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อทีผ่ ดิ

1. โปรแกรม Excel สามารถจัดเก็บข้อมูลลงในตารางได้เป็ นจํานวนมากๆ 2. โปรแกรม Excel ไม่สามารถทําการคํานวณข้อมูลจากตารางหลายๆ ตารางได้ 3. ถ้าผลลัพธ์ของ D1= A1+B1+C1 ถ้าค่า B1 เปลี่ยนไปการคํานวณหาผลลัพธ์ที่ได้ของเซลล์ D1 จะเปลี่ยนตามไปด้วย 4. การใช้สูตรคํานวณแต่ละครั้งใน Excel ไม่สามารถกระทําการข้าม Worksheet ได้ 5 โปรแกรม Excel สามารถที่จะตกแต่งตัวอักษรเป็ นแบบต่างๆ และใส่ สีในตารางได้


31 6. โปรแกรม Excel สามารถนําข้อมูลในตารางมาสร้างเป็ นกราฟได้ 7. โปรแกรม Excel มีขอ้ เสี ยที่ไม่สามารถพิมพ์งานออกมาทางเครื่ องพิมพ์ได้โดยตรง 8. การใช้งานโปรแกรม Excel สามารถใช้งานได้เพียง 1 หน้าหากจะใช้หน้าใหม่ตอ้ งทําการเปิ ด โปรแกรม Excel ใหม่อีกครั้ง 9. ขณะที่กาํ ลังใช้โปรแกรม Excel ในโหมดภาษาอังกฤษอยู่ หากต้องการเปลี่ยนมาใช้โหมด ภาษาไทยต้องทําการออกจากโปรแกรมแล้วจึงทําการเข้าใหม่ 10. เมื่อไม่เข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานบนโปรแกรม Excel ในขณะที่ทาํ งานอยูเ่ ราสามารถดูได้จาก เมนู ช่วย 11. ช่องตารางที่เก็บข้อมูลแบ่งออกเป็ นแนวนอน (Row) และแนวตั้ง (Column) มีชื่อเรี ยกอีก อย่าง ว่า“เซลล์” 12. การใช้คาํ สัง่ เลือกเซลล์ที่กรอบชื่ อเซลล์ ถ้าเลือกเซลล์ H16 จะพิมพ์ H16 หรื อ 16H ก็ได้ 13. การป้ อนข้อมูลจะป้ อนได้ก็ต่อเมื่อมีกรอบดําปรากฏอยูท่ ี่เซลล์ที่ตอ้ งการป้ อน 14. การตั้งชื่อของข้อมูลที่จะบันทึกจะต้องเป็ นภาษาอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น 15. เมื่อออกจากโปรแกรมหากว่าข้อมูลยังไม่ได้บนั ทึก Excel จะแสดงหน้าต่างยืนยันว่า ต้องการที่จะ บันทึกหรื อไม่ โดยอัตโนมัติ ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับโปรแกรม Excel ? ก. เป็ นโปรแกรมที่สามารถใช้ในการถอดรหัสข้อมูลได้ ข. เป็ นโปรแกรมที่ไม่สามารถสร้างข้อมูลให้เป็ นกราฟได้ ค. เป็ นโปรแกรมทีส่ ามารถคานวณสู ตรได้ อย่ างแม่ นยา ง. เป็ นโปรแกรมที่สามารถแทรกสี ต่าง ๆ ลงในตารางได้แต่ไม่สามารถคํานวณสู ตรได้ 2. ข้อใดคือคุณสมบัติเด่นของโปรแกรม Excel ? ก. เป็ นโปรแกรมที่ใช้ในการพิมพ์งาน ข. เป็ นโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบรู ปภาพต่าง ๆ ค. เป็ นโปรแกรมทีจ่ ัดการข้ อมูลในตารางได้ เป็ นอย่ างดี ง. เป็ นโปรแกรมที่ช่วยในการตกแต่งภาพและตัวอักษรได้ดี 3. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้องที่สุด ? ก. Excel สามารถทีจ่ ะเรี ยงลาดับข้ อมูลทีต่ ้ องการจากตารางมาวิเคราะห์ ได้


32 ข. Excel สามารถตกแต่งตารางได้แต่ไม่สามารถคํานวณข้อมูลจากตารางที่ไม่เหมือนกันได้ ค. Excel ไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขข้อมูลในเซลล์ได้หลังจากที่เปลี่ยนเซลล์ใหม่แล้ว ง. Excel ไม่สามารถคํานวณสู ตรข้ามเซลล์ได้ 4. ข้อใดเป็ นชื่ อเรี ยกของตารางงานที่ใช้เก็บข้อมูลของโปรแกรม Excel ? ก. Worksheet ข. Sheet Tab ค. Name box ง. Title bar 5. ข้อใดคือผูท้ ี่ให้คาํ แนะนําเกี่ยวกับการใช้ Excel ? ก. About office ข. Help office ค. Office Assistant ง. Office Excel 6. เมื่อไม่เข้าใจว่าปุ่ มต่างๆ ในโปรแกรม Excel คืออะไร ข้อใดต่อไปนี้สามารถบอกให้เราทราบได้ ? ก. View Tip ข. Edit Tip ค. Search Tip ง. Screen Tip 7. ในการจัดเก็บข้อมูลของ Excel ไฟล์ที่เก็บข้อมูลเรี ยกว่าอะไร ? ก. Workbook ข. WorkSheet ค. Work Excel ง. Work Page 8. Ctrl + <Page Up> เป็ นการสัง่ ให้โปรแกรม Excel ทํางานอะไร ? ก. เปลี่ยน Worksheet ที่ใช้งานเป็ น Worksheet ที่ใช้งานอยูถ่ ดั ไปทางขวา ข. เปลีย่ น Worksheet ทีใ่ ช้ งานเป็ น Worksheet ทีใ่ ช้ งานอยู่ถัดไปทางซ้ าย ค. เปลี่ยน Workbook ที่ใช้งานเป็ น Workbook ที่ใช้งานอยูถ่ ดั ไปทางขวา ง. เปลี่ยน Workbook ที่ใช้งานเป็ น Workbook ที่ใช้งานอยูถ่ ดั ไปทางซ้าย 9. Ctrl + <Home> เป็ นการสั่งให้โปรแกรม Excel ทํางานอะไร ? ก. กลับไปที่ Worksheet ที่ 1 ข. เลื่อนเซลล์ไปคอลัมน์ A ในแถวนั้น ๆ ค. เลือ่ นเซลล์ไปคอลัมน์ A ในแถวที่ 1 ง. เลื่อนเซลล์ไปคอลัมน์ A ในแถวที่ 1 แล้วลบข้อมูลเองโดยอัตโนมัติ 10. การเลือกเซลล์ที่อยูห่ ่างไกลกันมาก ๆ ควรใช้คาํ สั่งอะไรจะทําให้ไปยังเซลล์น้ นั ได้เร็ วขึ้น ? ก. Edit > Move ข. Edit > Go To ค. Edit > Jump ง. Edit > Paste special…


33 11. การเลือกเซลล์โดยใช้คาํ สัง่ GoTo ไปที่แถวที่ 8 คอลัมน์ที่ Q คําสัง่ ข้อใดถูกต้อง ? ก. เลือก Edit > Go To แล้วพิมพ์ 8Q ข. เลือก Edit > Go To แล้วพิมพ์ Shift + 8Q ค. เลือก Edit > Go To แล้วพิมพ์ Q8 ง. เลือก Edit > Go To แล้วพิมพ์ shift + Q8 12. หากต้องการยกเลิกการป้ อนข้อมูลในเซลล์ให้กดปุ่ มคียบ์ อร์ ดใดต่อไปนี้ ? ก. <End> ข. <Del> ค. <Break> ง. <Esc> 13. หากต้องการป้ อนข้อมูลที่ซ้ าํ กันที่เคยป้ อนมาแล้วในการใช้งาน Excel จะใช้คาํ สั่งใดในการป้ อน ข้อมูล ซํ้าเหล่านั้น ? ก. Insert ข. Copy File ค. Pick From List ง. Insert Comment 14. การบันทึกข้อมูลที่ได้จากการป้ อนไว้แล้ว จะสามารถตั้งชื่อไฟล์ได้ไม่เกินกี่ตวั อักษร ? ก. 252 ตัว ข. 254 ตัว ค. 256 ตัว ง. 258 ตัว 15. การออกจากโปรแกรม Microsoft Excel ต้องทําอย่างไร ? ก. เลือก File > Exit ข. เลือก File > Close ค. เลือก Edit > Exit ง. เลือก Edit > Close ตอนที่ 3 เขียนคาตอบทีถ่ ูกต้ องลงในช่ องว่ างให้ สมบูรณ์ 1. Excel คืออะไร Excel เป็ นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต (Speadsheet) หรื อโปรแกรมตารางงานซึ่ งจะเก็บข้อมูล ต่างๆลงบนแผ่นตารางงาน คล้ายกับการเขียนข้อมูลลงไปในสมุดที่มีการตีช่องตารางทั้งแนวนอนและ แนวตั้ง ซึ่ งช่องตารางแต่ละช่องจะมีชื่อประจําแต่ละช่อง ทําให้ง่ายต่อการป้ อนข้อมูล การแก้ไขข้อมูล สะดวกต่อการคํานวณและการนําข้อมูลไปประยุกต์ใช้ สามารถจัดข้อมูลต่างๆได้อย่างเป็ นหมวดหมู่ และเป็ นระเบียบมากยิง่ ขึ้น 2. คุณสมบัติที่สาํ คัญในโปรแกรม Excel มีอะไรบ้าง 1. ความสามารถด้านการคํานวน Excel สามารถป้ อนสู ตรการคํานวณทางคณิ ตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็ นต้น รวมทั้งสู ตรคํานวณด้านอื่นๆและจุดเด่นของการคํานวณคือผลลัพธ์ของการคํานวณจะ


34 เปลี่ยนแปลงตาม เมื่ออินฟุตที่นาํ มาเปลี่ยนค่า ทําให้เราไม่ตอ้ งเสี ยเวลาเปลี่ยนแปลงค่าผลการคํานวน ใหม่ 2. ความสามารถด้านการใช้ฟังก์ชนั่ นอกจากการป้ อนสู ตรคูณทางคณิ ตศาสตร์แล้ว Excel ยังสามารถ ป้ อนฟังก์ชนั่ อื่นๆได้อีก เช่น ฟังก์ชนั่ เกี่ยวกับตัวอักษร ตัวเลข วันที่ ฟังก์ชนั่ เกี่ยวกับการเงินหรื อการ ตัดสิ นใจ สามารถเขียนฟังก์ชนั่ ในการตัดสิ นใจ ถ้าข้อมูลมากกว่า 80 ก็ให้แสดงข้อความ A ถ้าน้อย กว่าก็ให้แสดงข้อความ B เป็ นต้น ซึ่งทําให้เราสามารถนํา Excel ไปใช้งานในการตัดสิ นใจได้ดว้ ย 3. ความสามารถในการสร้างกราฟ Excel สามารถนําข้อมูลที่ป้อนลงในตารางมาสร้างเป็ นกราฟได้ ทันที มีรูปแบบกราฟให้เลือกใช้งานหลายรู ปแบบตามความเหมาะสม เช่น กราฟแท่ง แสดงยอดขายแต่ ละเดือน กราฟวงกลม แสดงส่ วนแบ่งการตลาด กราฟเส้นแสดงแนวโน้มของบริ ษทั เป็ นต้น 4. ความสามารถในการตกแต่งตารางข้อมูล Excel สามารถตกแต่งตารางข้อมูลหรื อกราฟข้อมูลด้วย ภาพสี และรู ปแบบตัวอักษรต่างๆเพื่อให้เกิดความสวยงามและแยกแยะข้อมูลได้ง่ายขึ้น 5. ความสามารถในการจัดเรี ยงลําดับ Excel สามารถคัดเลือกเฉพาะข้อมูลที่ตอ้ งการมาวิเคราะห์ได้ 6. ความสามารถในการพิมพ์งานออกทางเครื่ องพิมพ์ Excel สามารถพิมพ์งานทั้งข้อมูลและรู ปภาพ หรื อกราฟออกทางเครื่ องพิมพ์ได้ทนั ที ซึ่ งทําให้ง่ายต่อการสร้างรายงาน 7. ความสามารถในการแปลงข้อมูลในตารางให้เป็ นเว็บเพจเพื่อนํามาแสดงในโฮมเพจ 3. แถบสู ตร คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร แถบสู ตร (Formula Bar) ใช้แสดงหรื อแก้ไขข้อมูลในช่องตาราง 4. Microsoft Excel ใช้วธิ ี การระบุตาํ แหน่งเซลล์อย่างไร เซลล์แต่ละช่องในตารางสามารถอ้างอิงโดยใช้ชื่อแถวและคอลัมน์ที่ตดั กันที่เซลล์น้ นั เช่น เซลล์ B3 คือ เซลล์ ณ ตําแหน่งที่คอลัมน์ B และแถวที่ 3 ตัดกัน 5. อธิ บายการจัดเก็บข้อมูลใน Microsoft Excel ข้อมูลที่บนั ทึกใน Excel จะเก็บลงในไฟล์ซ่ ึ งเราจะเรี ยกว่า Work Book และในแต่ละ Work Book ก็อาจประกอบด้วยตารางข้อมูลหลายหน้า โดยตารางข้อมูลแต่ละหน้ามีชื่อเรี ยกว่า Work sheet เปรี ยบเสมือนกับ Work Book คือสมุดหนึ่งเล่มที่รวบรวมข้อมูลไว้หลายๆหน้า ซึ่ งข้อมูล แต่ละหน้านั้นก็คือ Work sheet แต่ละแผ่นนัน่ เอง


35 6. Office Assistant คืออะไร Microsoft Excel 2002 จะมีผใู ้ ห้คาํ ปรึ กษาเกี่ยวกับการใช้งาน Excel ซึ่ งจะเรี ยกว่า office Assistance เราสามารถค้นหาหัวข้อที่เราต้องการทราบหรื อดูขอ้ มูลเนื้อหาการใช้งาน ทั้งหมดได้ 7. ในโปรแกรม Excel “เซลล์” คืออะไร เซลล์ คือ ช่องตาราง ที่ตดั กันของแถวและคอลัมน์ 8. ในโปรแกรม Excel เมื่อกดแป้ นคียบ์ อร์ด <Home> จะเกิดอะไรขึ้น <Home> เลื่อนเซลล์ไปยังคอลัมน์ A ในแถวนั้นๆ 9. เมื่อกดแป้ นคียบ์ อร์ด <Ctrl> + <Page Down> ใน Excel ผลที่ได้จะเป็ นอย่างไร <ctrl+PageDown> เปลี่ยน work sheet ที่ใช้งานเป็ น work sheet ที่อยูถ่ ดั ไปทางขวา 10. เราสามารถเลือกตําแหน่งเซลล์ที่ตอ้ งการป้ อนข้อมูลได้วธิ ี ใดบ้าง การเลือกเซลล์โดยใช้เมาส์ การเลือกเซลล์โดยใช้คียบ์ อร์ ด การเลือกเซลล์โดยการใช้คาํ สั่ง go to การเลือกเซลล์โดยกําหนดตําแหน่งที่กรอบชื่อเซลล์


36 ตอนที่ 4 จากรู ปหน้าต่างของโปรแกรม จงเติมชื่ อของส่ วนประกอบโปรแกรม ตามหมายเลขที่กาํ หนด

1. แถบหัวเรื่ อง 2. แถบเมนู 3. แถบเครื่ องมือ 4. กรอบชื่อเซลล์ 5. Active Cell 6. แถบสู ตร 7. ตัวเลขระบุตาํ แหน่งแถว 8. ตัวอักษรระบุตาํ แหน่งคอลัมน์ 9. แท็บชีตงาน 10. แถบสถานะ 11. แถบเลื่อนแนวนอน


37 12. แถบเลื่อนแนวตั้ง 13. พื้นที่ชีตงาน


38 แผนจัดการเรียนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 2 เรื่อง การแก้ไขเวิร์กซีต สั ปดาห์ ที่ 2 เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ ในการทํางานบนโปรแกรมประยุกต์สามารถช่วยให้ทาํ งานได้สะดวกขึ้น และเลือกใช้ได้ตาม ลักษณะงานที่ ต้องการ โปรแกรมไมโครซอฟท์ เอ็กเซลก็เช่นเดียวกัน จําเป็ นต้องศึกษาถึงการ แก้ไขเวิร์กชีต การเรี ยกข้อมูล ที่บนั ทึกไว้กลับมาใช้งาน การเลือกเซลล์หรื อกลุ่มเซลล์ การคัดลอก ข้อมูลในเซลล์ การแทรกข้อมูล การลบข้อมูลในเซลล์ การใช้คาํ สั่ง Undo และ Redo เพื่อยกเลิก ข้อผิดพลาด และเกิดทักษะในการทํางาน 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)  1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขเวิร์กชีต 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกเซลล์หรื อกลุ่มเซลล์ 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทํางานบนโปรแกรมเอ็กเซล 4. มีความรู ้ความสามารถในการใช้คาํ สั่งต่าง ๆ เพื่อยกเลิกข้อผิดพลาดในตัวโปรแกรม 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)  1. ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยกข้อมูลที่บนั ทึกไว้กลับมาใช้งานได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกเซลล์แบบกลุ่มได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกเซลล์ท้ งั แถวหรื อทั้งคอลัมน์ได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกเซลล์ท้ งั ตารางได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถตั้งชื่อเซลล์เพื่อใช้งานได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถย้ายข้อมูลในเซลล์ได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอกข้อมูลในเซลล์ได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอกข้อมูลในเซลล์โดยใช้ AutoFill ได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถแทรกข้อมูลในเซลล์ได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถลบข้อมูลในเซลล์ดว้ ยวิธีต่าง ๆ ได้ 11. ผูเ้ รี ยนสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์และความสู งของแถวได้ 12. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้คาํ สั่ง Undo และ Redo ได้


39 3. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน( 30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นักศึ กษาค้นคว้าเกี่ ยวกับการแก้ไขเวิร์กซี ต การ เ ลื อ ก เ ซ ล ห รื อ ก ลุ่ ม เ ซ ล แ ล ะ ก า ร ทํ า ง า น บ น 2. ค้นคว้า เกี่ ย วกับ การแก้ไ ขเวิร์ก ซี ต การเลื อกเซลหรื อกลุ่มเซลและการ โปรแกรมเอ็กเซล ทํางานบนโปรแกรมเอ็กเซล 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับแก้ไขเวิร์กซี ต 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป( 30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาเพิ่มเติม 4. ทดสอบหลังเรี ยน

4. กิจกรรมการเรียนรู้

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท


40 ก่อนเรียน 1. ค้น คว้า เกี่ ย วกับ การแก้ ไ ขเวิ ร์ ก ซี ต การเลื อ กเซลหรื อกลุ่ ม เซลและการทํา งานบน โปรแกรมเอ็กเซล ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาแล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ทําใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 3. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 4. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 5. ผูเ้ รี ยนาสรุ ปความรู ้ที่ได้จากการเรี ยนตามความเป็ นจริ ง จากภูมิความรู ้ของผูเ้ รี ยนแต่ละคน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 5. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน

6. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 7. กิจกรรมเสนอแนะ


41 ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ยวกับหน่ วยการ เรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้ อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


42

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


43 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


44

ผลการสอนของครู

สรุ ปท้ ายบทที่ 2

เฉลยแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 2

ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อทีผ่ ดิ

..........

1. การแก้ไขข้อมูล หรื อลบข้อมูล จะต้องระบุเซลล์หรื อกลุ่มเซลล์ที่จะทํางานด้วยทุกครั้ง

..........

2. โปรแกรม Excel สามารถตั้งชื่อเซลล์ หรื อกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งใช้งานเป็ นประจําได้

.......... เขียนทับ ..........

3. เมื่อย้ายข้อมูล หรื อคัดลอกข้อมูลไปที่ตาํ แหน่งที่มีขอ้ มูลอยูก่ ่อนแล้ว ข้อมูลเดิมจะถูก โดยข้อมูลใหม่ทนั ที 4. คําสัง่ Undo สามารถย้อนการทํางานกลับไปได้ทีละ 1 การทํางาน


45 .......... ข้อความ .......... .......... ..........

5. เมื่อมีการใช้ขอ้ มูลที่เหมือนกันภายใน Worksheet เดียวกัน สามารถใช้คาํ สัง่ คัดลอก จากเซลล์หนึ่งไปไว้อีกเซลล์หนึ่งได้ 6. Excel สามารถเลือกลบข้อมูลทั้งแถวและคอลัมน์พร้อมๆ กันได้ 7. โปรแกรม Excel ไม่สามารถลบข้อมูลครั้งละหลายๆ เซลล์ได้ 8. การเลือกกลุ่มเซลล์ทาํ ได้เฉพาะกลุ่มเซลล์ที่อยูต่ ิดกันเท่านั้น

.......... ..........

9. การเลือกเซลล์ท้ งั คอลัมน์ทาํ ได้ครั้งละ 1 คอลัมน์เท่านั้น 10. โปรแกรม Excel สามารถแทรกข้อมูลครั้งละหลายๆ แถวได้

.......... 11. การลบเฉพาะข้อมูลภายในเซลล์ทาํ ได้โดย Click mouse ปุ่ มขวาที่เซลล์น้ นั แล้วเลือก <Delete> .......... 12. Excel สามารถกําหนดขนาดของคอลัมน์ท้ งั หมดให้เท่ากันได้ .......... 13. การคัดลอกข้อมูลด้วยวิธี AutoFill ใช้สาํ หรับคัดลอกข้อมูลที่เซลล์อยูต่ ิดกันเท่านั้น .......... 14. Excel ไม่สามารถป้ อนข้อมูลที่มีความยาวมากกว่าขนาดความยาวของเซลล์ได้ .......... 15. ข้อมูล ######## ที่แสดงในเซลล์ แสดงว่ามี error เกิดขึ้นที่เซลล์น้ นั ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. การเปิ ดไฟล์เอกสารที่เคยบันทึกไว้กลับมาใช้งานจะต้อง Click mouse ที่ปุ่มใด ก. ข. ค. ง. 2. การคัดลอกเซลล์ในตารางต้อง Click mouse ที่ปุ่มใดก่อน ก. ข. ค. ง. 3. การย้ายข้อมูลในตารางต้อง Click mouse ที่ปุ่มใดก่อน ก. ข. ค. ง. 4. การเลือกเซลล์หลายเซลล์ในตารางที่ไม่ได้อยูต่ ิดกัน ต้องกดปุ่ มใดร่ วมในการทําการเลือกเซลล์ ก. ปุ่ ม <Shift> ข. ปุ่ ม <Ctrl> ค. ปุ่ ม <Delete> ง. ปุ่ ม <Insert>


46 5. การเลือกเซลล์ในตารางตัวชี้เมาส์จะเป็ นรู ปใด ก. ข. ค. ง. 6. การปรับขนาดความกว้างและความสู งของเซลล์ ตัวชี้เมาส์จะเป็ นรู ปใด ก. ข. ค. ง. 7. คียล์ ดั ใดต่อไปนี้ใช้สาํ หรับการย้ายข้อมูล ก. ใช้ <Ctrl+C> ร่ วมกับ <Ctrl+V> ข. ใช้ <Ctrl+X> ร่ วมกับ <Ctrl+V> ค. ใช้ <Ctrl+X> ร่ วมกับ <Ctrl+P> ง. ใช้ <Ctrl+C> ร่ วมกับ <Ctrl+P> 8. AutoFill ใช้สาํ หรับทําคําสั่งอะไร ก. ย้ายเซลล์ ข. คัดลอกเซลล์ ค. ลบเซลล์ ง. แทรกเซลล์ 9. การลบเซลล์โดยการกดปุ่ ม <Delete> บนแป้ นคียบ์ อร์ ดผลลัพธ์จะเป็ นอย่างไร ก. ข้ อมูลในเซลล์ จะถูกลบทิง้ แต่ เซลล์ไม่ เลือ่ น ข. ข้อมูลในเซลล์จะถูกลบทิ้ง และปรากฏเมนูให้เลือกรู ปแบบการแทนที่เซลล์ ค. ข้อมูลในเซลล์จะถูกลบทิ้ง เซลล์ขา้ งๆ จะเลื่อนเข้ามาแทนที่อตั โนมัติ ง. ปรากฏเมนูให้เลือกรู ปแบบการลบเซลล์ เซลล์ขา้ งๆ เลื่อนมาแทนที่ตามที่เลือก 10. การแทรกข้อมูลทั้งแถว ข้อมูลที่อยูใ่ นแถวเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก. จะเลื่อนไปทางขวา ข. จะเลือ่ นลง ค. จะเลื่อนไปทางซ้าย ง. จะเลื่อนขึ้น 11. รู ปแบบการแทรกข้อมูลแบบ Shift Cells right ผลลัพธ์เป็ นอย่างไร ก. เลื่อนเซลล์วา่ งไปอยูด่ า้ นขวาของเซลล์เดิม ข. เลือ่ นเซลล์ เดิมไปอยู่ด้านขวาของเซลล์ ว่าง ค. เลื่อนเซลล์เดิมไปที่ตาํ แหน่งขวาสุ ดของคอลัมน์ ง. เลื่อนเซลล์วา่ งไปที่ตาํ แหน่งขวาสุ ดของคอลัมน์ 12. ข้อใดคือการปรับขนาดความกว้างของคอลัมน์ให้พอดีกบั ข้อมูลในเซลล์โดยอัตโนมัติ ก. เลื่อนเมาส์ไปที่เส้นแบ่งคอลัมน์ แล้ว Click mouse ข. เลือ่ นเมาส์ ไปทีเ่ ส้ นแบ่ งคอลัมน์ แล้ว Double Click mouse


47 ค. เลื่อนเมาส์ไปที่เส้นแบ่งคอลัมน์ แล้ว Drag mouse ง. เลื่อนเมาส์ไปที่เส้นแบ่งคอลัมน์ แล้วกดปุ่ ม <Ctrl>+Drag mouse 13. ข้อใดต่อไปนี้ผดิ ก. Excel สามารถปรับขนาดความสู งของแถวพร้ อมกันหลายๆ แถวได้ ข. Excel สามารถลบข้ อมูลทั้งแถว และทั้งคอลัมน์ พร้ อมๆ กันได้ ค. Excel สามารถเลือกเซลล์ขอ้ มูลทั้งตารางพร้อมกันได้ ง. Excel สามารถแทรกข้อมูลทั้งคอลัมน์พร้อมๆ กันหลายๆ คอลัมน์ได้ 14. หากต้องการย้อนกลับไปทํางานคําสัง่ ที่ผา่ นมาแล้วต้องกดปุ่ มใด ก. ข. ค. ง. 15. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง ก. Excel สามารถย้อนกลับไปทํางานคําสั่งที่ผา่ นกี่คาํ สั่งก็ได้ ข. Excel สามารถย้อนกลับไปที่งานคําสั่งที่ผา่ นมา โดยข้ามคําสั่งล่าสุ ดได้ ค. ถ้าย้อนกลับไปทําคําสัง่ ที่ผา่ นมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับมาคําสัง่ เดิมได้ ง. Excel จะบันทึกการทางานคาสั่ งเดิมไว้เพียง 16 คาสั่ งเท่ านั้น 


48 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 3 เรื่อง การตกแต่ งเวิร์กซีต

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 3-4 เวลา 8 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ ในการทํางานด้านเอกสารในปั จจุบนั จําเป็ นต้องทําเอกสารนั้น ๆ ให้เกิดความสวยงามน่าดู ซึ่ ง จะทําให้ ผลงานโดดเด่น สะดุดตา จึงจําเป็ นต้องมีการตกแต่งชิ้นงานในรู ปแบบต่าง ๆ เช่น การกําหนด รู ปแบบ การแสดงวันที่และเวลา ขนาดตัวอักษร ตัวหนา ตัวเอน ขีดเส้นใต้ จัดกึ่งกลางหรื อชิ ดกั้นหน้า กั้นหลัง การวางแนวตัวข้อมูล การตกแต่งด้วยสี การขีดเส้นตาราง การคัดลอกในรู ปแบบต่าง ๆ มากมายหลายประเภท 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตกแต่งเวิร์กชีต 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกําหนดข้อมูลรู ปแบบต่าง ๆ 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทํางานเอกสาร 4. มีความรู ้ความสามารถในการเลือกใช้ตวั กําหนดต่าง ๆ กับงานเอกสารที่ตอ้ งการ 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดรู ปแบบการแสดงตัวเลขแบบต่าง ๆ ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดรู ปแบบการแสดงวันที่และเวลาได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดรู ปแบบและขนาดข้อมูลที่แสดงในตารางได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถจัดตําแหน่งข้อมูลในเซลล์ได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถรวมเซลล์ขอ้ มูลได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถตกแต่งข้อมูลโดยการใช้สีและการขีดเส้นใต้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอกรู ปแบบโดยใช้ Format Painter ได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดรู ปแบบตารางโดยใช้ AutoFormat ได้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้


49 กิจกรรมครู ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(สั ปดาห์ ละ30 นาที) 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน 2. ครู นาํ เข้าสู่ บทเรี ยนโดยให้ผเู้ รี ยนในห้องแสดงความ คิดเห็ น ถึ งการตกแต่ งเวิร์ก ซี ต การกําหนดข้อมูล รู แบบต่ า งๆและขั้ นตอนการทํ า งานเอกสารใน โปรแกรมเอ็กเซล 3. ร่ วมสนทนา ขั้นดาเนินการสอน(สั ปดาห์ ละ180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(สั ปดาห์ ละ30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาเพิ่มเติม 4. ทดสอบหลังเรี ยน

กิจกรรมผู้เรียน 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร ตรวจสอบ 2. ผู้เ รี ยนแสดงความคิ ด เห็ น และ นําเสนอ 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ตั้งใจฟังและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท

4. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. แสดงความคิดเห็น ถึงการตกแต่งเวิร์กซี ต การกําหนดข้อมูลรู แบบต่างๆและขั้นตอนการ ทํางานเอกสารในโปรแกรมเอ็กเซล


50 ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาปฏิบตั ิตามแล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ทําใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 3. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 4. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 5. ผูเ้ รี ยนาสรุ ปความรู ้ที่ได้จากการเรี ยนตามความเป็ นจริ ง จากภูมิความรู ้ของผูเ้ รี ยนแต่ละคน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 5. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 6. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 7. กิจกรรมเสนอแนะ ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ยวกับหน่ วยการ เรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้ อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้


51 ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

พฤติกรรมของนักเรียน

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง


52 เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20

ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)


53

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน

ผลการสอนของครู


54

เฉลยแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 3

ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย ..........

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อทีผ่ ดิ

1. Excel สามารถกําหนดรู ปแบบการแสดงวันที่ได้หลายแบบ

.......... 2. การป้ อนข้อมูล 200% ลงในเซลล์หมายถึงข้อมูลมีค่าจํานวนเต็มเท่ากับ 2 .......... 3. Excel สามารถเพิ่มหรื อลดจุดทศนิยมได้โดยการเลือกที่แถบเครื่ องมือเท่านั้น .......... 4. หากป้ อนจุดทศนิยมจนขนาดตัวเลขยาวกว่าขนาดเซลล์ เมื่อกด <Enter> เซลล์จะขยายเอง โดย อัตโนมัติ .......... 5. หากป้ อนเลขจํานวนเต็มสองหลัก เมื่อเราคลิกเมาส์ที่ Excel จะกําหนดจุดทศนิยมให้ 2 ตําแหน่ง โดยอัตโนมัติ .......... 6. หากกําหนดรู ปแบบการแสดงผลเป็ น % อยู่ จะไม่สามารถเพิม่ หรื อลดจุดทศนิยมได้ .......... 7. รู ปแบบแสดงตัวเลขด้วยคําสั่ง Fraction เป็ นการแสดงตัวเลขเป็ นเศษส่ วนที่สามารถ กําหนดส่ วนได .......... 8. ข้อมูลในเซลล์ที่ป้อน ชิดทางด้านขวาของเซลล์โดยอัตโนมัติทุกครั้ง .......... 9. การกําหนดรู ปแบบการจัดข้อมูลในแนวตั้งด้วยรู ปแบบ Bottom คือการจัดข้อมูลให้ชิด ขอบล่าง .......... 10. Format Painter คือ การแต่งเติมสี ให้กบั ตารางข้อมูล .......... 11. เมื่อข้อมูลในเซลล์ถูกลบ รู ปแบบการแสดงผลของเซลล์ ก็จะถูกลบไปด้วย .......... 12. การกําหนดสี ใน Excel จะต้องเลือกกําหนดระหว่างพื้นหรื อข้อความเพียงอย่างใดอย่าง หนึ่ง เท่านั้น .......... 13. คําสั่ง Format>Cells ไม่สามารถกําหนดสี ได้ กําหนดได้เฉพาะรู ปแบบข้อมูลเท่านั้น ..........

14. Excel สามารถใส่ หรื อยกเลิก เส้นกรอบให้กบั ข้อมูลภายในเซลล์ได้


55 ..........

15. กลุ่มเซลล์ที่ถูกตกแต่งไว้แล้วเมื่อใช้คาํ สั่ง Auto Format จะทําให้รูปแบบเก่าถูกยกเลิก

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. เครื่ องหมาย ฿ นําหน้าตัวเลข ใน Excel หมายถึงอะไร ก. เป็ นการแสดงว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็ นค่าจํานวนธรรมดา ข. เป็ นการแสดงว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็ นค่าจํานวนเปอร์ เซ็นต์ ค. เป็ นการแสดงเครื่องหมายสกุลเงิน ง. เป็ นการแสดงสัญลักษณ์ธรรมดา 2. การเพิม่ จุดทศนิยมให้กบั ตัวเลข ต้อง Click mouse ที่ปุ่มใดบนแถบเครื่ องมือ ก. ข. ค. ง. 3. วิธีกาํ หนดรู ปแบบการแสดงตัวเลขอย่างเจาะจง ใช้คาํ สัง่ ใดต่อไปนี้ ก. Format>Cells ข. Edit>Insert ค. Format>Sheet ง. Edit>Copy 4. หากต้องการให้การจัดรู ปแบบแสดงตัวเลขชิดซ้ายเซลล์และตัดเครื่ องหมาย ”,” และ “$” ออกต้องเลือกรู ปแบบการแสดงตัวเลขแบบใด ก. Percentage ข. Special ค. Custom ง. Text 5. หากข้อมูลในเซลล์คือ 12345.4 เมื่อกดปุ่ ม บนแถบเครื่ องมือ ผลลัพธ์จะเป็ นอย่างไร ก. 12345.4 ข. 12345.40 ค. 12,345.4 ง. 12,345.40 6. รู ปแบบการจัดวางข้อมูลในแนวนอนแบบ General ผลลัพธ์ของข้อมูลจะเป็ นอย่างไร ก. ตัวเลขและวันทีช่ ิดขวา ข้ อความชิ ดซ้ ายและค่ าตรรกะอยู่กงึ่ กลาง ข. ตัวเลขและวันที่ชิดซ้าย ข้อความชิดขวาและค่าตรรกะอยูก่ ่ ึงกลาง ค. ตัวเลขและวันที่อยูก่ ่ ึงกลาง ข้อความชิดซ้ายและค่าตรรกะชิดขวา ง. ตัวเลขและวันที่ชิดซ้าย ข้อความอยูก่ ่ ึงกลางและค่าตรรกะชิดขวา


56 7. รู ปแบบการจัดวางข้อมูลในแนวนอนแบบ Center Across Selection หมายถึงข้อใดต่อไปนี้ ก. จัดข้อความที่มีหลายบรรทัดให้ชิดขอบบนและขอบล่างของเซลล์ ข. เพิ่มระยะห่างระหว่างตัวอักษรและตัดข้อความที่ยาวเกินเซลล์เป็ นหลายบรรทัด ค. แสดงข้อมูลและเว้นช่องว่างจากขอบเซลล์ตามค่าที่กาํ หนดในช่อง Indent ง. นาข้ อมูลในเซลล์ ซ้ายสุ ดมาแสดงกึง่ กลางเซลล์ ที่เลือก 8. การจัดวางข้อมูลเป็ นแนวตั้งในเซลล์ รู ปแบบคําสั่ง Justify หมายถึงข้อใดต่อไปนี้ ก. เพิ่มระยะห่างระหว่างตัวอักษรและตัดข้อความที่ยาวเกินเซลล์เป็ นหลายบรรทัด ข. จัดข้ อความทีม่ ีหลายบรรทัดให้ ชิดขอบบนและขอบล่างของเซลล์ ค. แสดงข้อมูลและเว้นช่องว่างจากขอบเซลล์ตามค่าที่กาํ หนดในช่อง Indent ง. เป็ นการนําข้อมูลในเซลล์ซา้ ยสุ ดมาแสดงกึ่งกลางเซลล์ที่เลือก 9.ในแท็บ Alignment หากต้องการให้ขอ้ มูลที่ยาวกว่าขนาดของเซลล์แสดงหลายบรรทัดจะเลือกใช้ รู ปแบบใด ก. Shrink to fit ข. Merge cells ค. Wrap text ง. Cut Text 10. ในแท็บ Alignment หากต้องการให้ขอ้ มูลที่ยาวกว่าขนาดของเซลล์แสดงข้อมูลทั้งหมดในเซลล์จะ เลือกใช้คาํ สั่งใด ก. Shrink to fit ข. Merge cells ค. Wrap text ง. Cut Text 11. การตกแต่งสี พ้นื ของตารางข้อมูล ต้อง Click mouse ที่ปุ่มใดบนแถบเครื่ องมือ ก. ข. ค. ง. 12. การคัดลอกรู ปแบบเซลล์ ไปใช้งานกับเซลล์อื่นต้อง Click mouse ปุ่ มใดบนแถบเครื่ องมือ ก. ข. ค. ง. 13. ข้อใดคือปุ่ มในการรวมเซลล์พร้อมทั้งจัดข้อมูลให้อยูก่ ่ ึงกลางเซลล์ ก. ข. ค. ง. 14. การยกเลิกเส้นประที่ Excel ขีดระหว่างเซลล์ตอ้ งยกเลิกรู ปแบบใดต่อไปนี้ใน Options View ก. Formulas ข. Row & column Header


57 ค. Gridlines ง. Outline symbols 15. คําสั่ง AutoFormat เป็ นการสั่งงานให้ Excel ทําอะไร ก. สัง่ เปลี่ยนเซลล์ให้มีขนาดเดียวกันใน Worksheet ที่ต่างกันโดยอัตโนมัติ ข. ปรับแต่ งรู ปแบบให้ กบั ตารางโดยอัตโนมัติ ค. จัดเตรี ยมพื้นที่ในการบันทึกโดยอัตโนมัติ ง. จัดเตรี ยม Worksheet ที่จะใช้งานใหม่โดยอัตโนมัติ

แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 4 เรื่อง การจัดการเวิร์กบุ๊คและเวิร์กชี ต สั ปดาห์ ที่ 5 เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทมากมาย จึงจําเป็ นต้องมีความรู้ ทางด้านโปรแกรมประยุกต์ไมโครซอฟท์เอ็กเซล ซึ่ งมีทาํ งานเกี่ยวกับการจัดการเวิร์กบุค๊ และเวิร์ก ชีต ซึ่ งจะทําให้การทํางานมีรูปแบบที่สวยงามและเป็ นที่นิยมกันอย่างมากมายเราสามารถใช้งานได้ อย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพิ่มมากขึ้น สะดวกในการทํางานในรู ปแบบต่าง ๆ 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของเวิร์กบุค๊ 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของเวิร์กชีต 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่ วนประกอบต่าง ๆ ในเวิร์กบุค๊ 4. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่ วนประกอบต่าง ๆ ในเวิร์กชีต 5. มีความรู ้ความสามารถในการทํางานตามขั้นตอนของเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)


58 1. ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยกอธิบายความหมายของเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต 2. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกใช้งานเวิร์กชีตที่ตอ้ งการได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดชื่อของเวิร์กชีตได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถลบเวิร์กชีตได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถแทรกเวิร์กชีตได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถย้ายข้อมูลในเซลล์ได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถสลับตําแหน่งของเวิร์กชีตได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถแบ่งหน้าจอเวิร์กชีตเพื่อดูขอ้ มูลแต่ละส่ วนได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดรู ปแบบการตรึ งข้อมูลได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถย่อหรื อขยายเวิร์กชีตได้ 11. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกรู ปแบบการจัดเรี ยงวินโดวส์บนหน้าจอได้ 12. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอก หรื อย้ายเวิร์กชีตไปยังเวิร์กบุค๊ อื่นได้ 13. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างเอกสารหลาย ๆ เวิร์กชีต ในเวิร์กบุค๊ เดียวได้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้


59 กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นัก ศึ ก ษาค้นคว้า ความหมายและส่ วนประกอบ ต่ า งๆในเวิ ร์ ก บุ๊ ค ความหมายและส่ ว นประกอบ 2. ค้ น ค ว้ า ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ ส่ วนประกอบต่ า งๆในเวิ ร์ ก บุ๊ ค ต่างๆในเวิร์กชีต ความหมายและส่ วนประกอบต่างๆ 3. ร่ วมสนทนาเรื่ องการจัดการเวิร์กบุค๊ และเวิร์กชีต ในเวิร์กชีต 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 4. ทดสอบหลังเรี ยน

4. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าความหมายและส่ วนประกอบต่างๆในเวิร์กบุ๊ค ความหมายและส่ วนประกอบต่างๆใน เวิร์กชีต


60 1. 2. 2. 3. 4. 5.

ขณะเรียน ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาปฏิบตั ิตามแล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น ทําใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน ผูเ้ รี ยนาสรุ ปความรู ้ที่ได้จากการเรี ยนตามความเป็ นจริ ง จากภูมิความรู ้ของผูเ้ รี ยนแต่ละคน ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้

5. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 6. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 7. กิจกรรมเสนอแนะ ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ยวกับหน่ วยการ เรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้ อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน

เกณฑ์การประเมินผล


61

วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง


62 พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20

ผูป้ ระเมิน……………………………


63 (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน

ผลการสอนของครู


64

เฉลยแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 4 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อที่ถูก และ

หน้ าข้ อที่ผดิ

.......... 1. Workbook หลายแผ่น สามารถที่จะจัดเก็บรวมอยูใ่ น Worksheet เดียวกันได้ .......... 2. เราสามารถใช้คาํ สั่ง Undo เพื่อยกเลิกการลบ Worksheet ได้ .......... 3. การเปรี ยบเทียบข้อมูลระหว่าง Worksheet ไม่สามารถกระทําได้เพราะหน้าต่างของ Worksheet จะซ้อนทับกันทําให้มองเห็นเพียงหน้าต่างเดียว .......... ..........

4. เมื่อแท็บชีตงานของ Worksheet เป็ นสี ขาว แสดงว่ากําลังใช้งาน Worksheet นั้นอยู่ 5. การลบ Worksheet ทําได้ โดยคลิกที่แท็บ Worksheet นั้นแล้วกดปุ่ ม <Delete>

.......... 6. การแบ่งหน้าจอเพื่อดูขอ้ มูลเป็ นส่ วน ไม่สามารถแบ่งได้เกิน 4 ส่ วน .......... 7. Excel สามารถขยายมุมมองของ Worksheet ได้ไม่เกิน 800% .......... 8. การจัดเรี ยง Window แบบ Tiled Window ต่างๆ จะเรี ยงซ้อนกันอยู่ 9. การคัดลอก Worksheet ไปยัง Workbook อื่นจะทําได้ก็ต่อเมื่อ Workbook ปลายทางเปิ ด ใช้งานอยู่ .......... 10. Excel ไม่สามารถย้าย Worksheet จาก Workbook หนึ่งไปยังอีก Workbook หนึ่งได้ .......... 11. การตรึ งแถวหรื อคอลัมน์ทาํ ให้เราสามารถเปรี ยบเทียบข้อมูลระหว่าง Worksheet ได้ .......... 12. การแบ่งหน้าจอออกเป็ นส่ วนๆ ทําได้โดย เลือกที่เมนู Window>Freeze Panes .......... 13. คําสั่ง View>Full Screen ให้ผลเช่นเดียวกับการขยาย Worksheet 400% .......... 14. การย้ายหรื อคัดลอก Worksheet ไปยัง Workbook อื่น จะทําให้ Worksheet ของ Workbook ปลายทางถูกแทนที่ดว้ ย Worksheet ที่ยา้ ยหรื อคัดลอกไป .......... 15.ในหนึ่ง Workbook ไม่จาํ เป็ นต้องมี Worksheet เลยก็ได้ ..........

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง


65 ก. ไฟล์ที่ใช้งานใน Excel เรี ยกว่า Worksheet ข. ไฟล์ทใี่ ช้ งานใน Excel เรียกว่า Workbook ค. ไฟล์ที่ใช้งานใน Excel เรี ยกว่า Sheetwork ง. ไฟล์ที่ใช้งานใน Excel เรี ยกว่า Bookwork 2. ไฟล์ใน Excel จะประกอบด้วยตารางข้อมูลหลายหน้า ซึ่ งตารางข้อมูลเหล่านี้เรี ยกว่า ก. Worksheet ข. Workbook ค. Worktable ง. Tabledata 3. ถ้าต้องการจัดตารางข้อมูลจํานวนมาก ๆ ให้เป็ นหมวดหมู่ควรทําอย่างไร ก. จัดให้อยูใ่ น Worksheet เดียวกันโดยแยกให้อยูใ่ น Workbook ที่แตกต่างกัน ข. จัดให้ อยู่ใน Workbook เดียวกันโดยแยกให้ อยู่ใน Worksheet ทีแ่ ตกต่ างกัน ค. จัดให้อยูใ่ น Worksheet ต่างกันโดยแยกให้อยูใ่ น Workbook ที่แตกต่างกัน ง. จัดให้อยูใ่ น Workbook ต่างกันโดยแยกให้อยูใ่ น Worksheet ที่แตกต่างกัน 4. โดยปกติแล้วใน Workbook ลําดับแรกจะกําหนดให้มีอยูก่ ี่ Worksheet ก. 1 Worksheet ข. 2 Worksheet ค. 3 Worksheet ง. 4 Worksheet 5. การสัง่ ให้เปลี่ยน Worksheet จากแผ่นที่ใช้อยูไ่ ปแผ่นทางขวามือ จะใช้คาํ สัง่ ใดต่อไปนี้ ก. <Ctrl+Page UP> ข. <Alt+Page Up> ค. <Ctrl+Page Down> ง. <Alt+Page Down> 6. การสั่งให้เปลี่ยน Worksheet จากแผ่นที่ใช้อยูไ่ ปแผ่นทางซ้ายมือ จะใช้คาํ สั่งใดต่อไปนี้ ก. <Ctrl+Page UP> ข. <Alt+Page Up> ค. <Ctrl+Page Down> ง. <Alt+Page Down> 7. การเปลี่ยนชื่อ Worksheet โดยคลิกเมาส์ขวาที่แท็บชีตงานแล้วเลือกคําสัง่ ใดต่อไปนี้ ก. Name ข. Rename ค. EditName ง. New name 8. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด ก. จํานวน Worksheet ใน Workbook ถ้ามีนอ้ ยการบันทึกข้อมูลก็จะใช้พ้นื ที่นอ้ ยไปด้วย ข. หากลบ Worksheet ไปแล้วจะไม่สามารถกูก้ ลับมาใหม่ได้ ค. หากลบ Worksheet ไปแล้ วเราสามารถกู้กลับมาใหม่ ได้ ด้วยคาสั่ ง Undo ง. การลบ Worksheet จะไม่มีผลถ้าเราปิ ด Workbook นั้นแล้วไม่ทาํ การบันทึก


66 9. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด ก. หากต้องการเพิ่มจํานวน Worksheet ก็สามารถแทรก Worksheet เพิ่มได้ ข. เราสามารถสลับตําแหน่งของ Worksheet เพื่อจัดข้อมูลให้เป็ นระเบียบได้ ค. เราสามารถแบ่งหน้าจอออกเป็ นส่ วนๆ เพื่อดูขอ้ มูลในกรณี ที่มี Worksheet จํานวนมาก ง. ถ้ าหน้ าจอถูกออกแบบเป็ น 6 ส่ วนเท่ ากันเราสามารถเลือ่ นดูข้อมูลในหน้ าจอใดก็ได้ 10. หลังจากที่เลือกคําสั่งแบ่งจอด้วย Window>Split จะเกิดอะไรขึ้น ก. Worksheet จะถูกแบ่งออกเป็ น 4 ส่ วนเท่า ๆ กัน ข. Worksheet ใหม่จะถูกแบ่งออกเป็ น 4 ส่ วนเท่า ๆ กันกับการแบ่งจาก Worksheet เก่า ค. Worksheet จะถูกแบ่ งออกเป็ นส่ วนๆ ขึน้ อยู่กบั ตาแหน่ งของเซลล์ ง. Worksheet จะถูกแบ่งเป็ น 4 ส่ วนแต่จะขึ้นอยูก่ บั กลุ่มของข้อมูลใน Worksheet นั้น 11. คําสั่งที่ใช้ในการกําหนดให้แถวหรื อคอลัมน์อยูก่ บั ที่ เราจะใช้คาํ สั่งใดต่อไปนี้ ก. Window>Freeze Panes ข. Window>Freeze ค. Window>Arrange ง. Window>Panes Freeze 12. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด ก. สามารถย่อ/ขยายมุมมองของ Worksheet ได้ เพื่อการแสดงข้อมูลได้เหมาะสม ข. สามารถย่อ/ขยาย Worksheet ได้ ตามที่ Excel กาหนดให้ เท่านั้น ค. สามารถย่อ/ขยาย Worksheet ได้ที่แถบเครื่ องมือตามที่ Excel กําหนดให้ ง. สามารถขยาย Worksheet เพื่อดูขอ้ มูลแบบเต็มจอได้ 13. คําสั่ง View>Full Screen คือการสั่งให้ Excel ทําอะไร ก. แสดง Worksheet ที่มุมมองเท่ากับมุมมองธรรมดาทัว่ ไปที่ 100% ข. แสดงข้อมูลใน Worksheet ที่มีอยูท่ ้ งั หมดให้เต็มจอพร้อมทั้งแถบสถานะ ค. แสดงข้อมูลใน Worksheet ที่มีขนาดเล็กให้มีขนาดเต็มเซลล์ขอ้ มูลทั้งหมด ง. ให้ ข้อมูลใน Worksheet มีพนื้ ทีแ่ สดงข้ อมูลมากทีส่ ุ ดแต่ จะไม่ แสดงแถบเครื่องมือและแถบ สถานะ 14. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด ก. Window ที่เราเปิ ดใน Excel จะสามารถแสดงข้อมูลได้ทีละ Workbook เท่านั้น ข. การเปิ ด Window หลายอันพร้อมกันจะทําให้เราดูขอ้ มูลได้จากหลาย Workbook ค. เราไม่ สามารถเปรียบเทียบข้ อมูลจากหลายๆ Workbook พร้ อมกันได้ ง. การเปิ ดหลายๆ Workbook พร้อมกัน เราจะใช้งานได้ทีละ Workbook เท่านั้น


67 15. ในกรอบ To Book จะเป็ นที่เก็บชื่อของอะไร ก. Workbook ค. Window

ข. WorkSheet ง. Book Data

แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 5 เรื่อง การใช้ สูตรคานวน สั ปดาห์ ที่ 6-7 เวลา 8 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ การทํางานบนโปรแกรมประยุกต์ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็ นโปรแกรมที่จะต้องเกี่ยวข้องกับการ คํานวณ ซึ่ งทําให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น งานบัญชี งานการเงิน งานเอกสารใน รู ปแบบต่าง ๆ จําเป็ นต้องรู้วิธีการใช้สูตรคํานวณ การย้ายและคัดลอกสู ตร การอ้างอิงเซลล์ในสู ตร คํานวณโดยใช้ชื่อหัวคอลัมน์จาํ เป็ นอย่างยิง่ ที่จะต้องรู ้จกั ขั้นตอนการใช้งานการคํานวณ 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สูตรคํานวณ 2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายและคัดลอกสู ตร 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ้างอิงเซลล์ในสู ตรคํานวณ 4. มีความรู้ความสามารถในการนําสู ตรการคํานวณไปใช้งานในโปรแกรมไมโครซอฟท์ เอ็กเซล 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)


68 1. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนสู ตรคํานวณในไมโครซอฟท์เอ็กเซลได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกข้อดีของการใช้สูตรในไมโครซอฟท์เอ็กเซลได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายลําดับการคํานวณได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนสู ตรการคํานวณโดยใช้เมาส์ได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนสู ตรการคํานวณผ่านแถบสู ตรได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถแก้ไขสู ตรคํานวณได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถย้ายและคัดลอกสู ตรได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิ บายความแตกต่างระหว่างRelative Addressingและ Absolute Addressing ได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ อนสู ตรแบบ Absolute Addressing ได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอกสู ตรด้วย AutoFill ได้ 11. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดลอกข้อมูลแบบ Past Special ได้ 12. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้สูตรคํานวณกับข้อมูลที่อยูต่ ่างเวิร์กชีตได้ 13. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้สูตรคํานวณกับข้อมูลที่อยูต่ ่างเวิร์กบุค๊ ได้ 14. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดชื่อกลุ่มเซลล์เพื่อนํามาใช้ในสู ตรได้ 15. ผูเ้ รี ยนสามารถนําการใช้สูตรคํานวณไปใช้ในการทํางานจริ งได้ 3. กิจกรรมการเรียนรู้


69 กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน (สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นกั ศึกษาค้นคว้าการใช้สูตรคํานวณ การย้ายและ 2. ค้นคว้าการใช้สูตรคํานวณ การย้าย คัดลอกสู ตร การอ้างอิงเซลในสู ตรคํานวน และคัดลอกสู ตร การอ้างอิงเซลใน 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการใช้สูตรคํานวน สู ตรคํานวน 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน (สั ปดาห์ ละ 180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป (สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ ประกอบการเรี ยน 4. ทดสอบหลังเรี ยน

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท

4. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าการใช้สูตรคํานวณ การย้ายและคัดลอกสู ตร การอ้างอิงเซลในสู ตรคํานวน


70 ขณะเรียน 1. จดบันทึกการเรี ยน 2. สนใจการปฏิบตั ิตามครู และกล้าในการแสดงความคิดเห็นและตอบคําถาม 3. ทําแบบฝึ กหัด 4. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการการสอน 5. ผูเ้ รี ยนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบตั ิ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจดบันทึก เป็ นลําดับขั้นตอนที่จะทําให้ตนเองไม่ลืมสาระการเรี ยนรู ้ 6. ผูเ้ รี ยนซักถามเมื่อไม่เข้าใจหรื อสังสัยเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 5. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน

6. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทัน่เวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและทําใบงานและแบบฝึ กหัดได้ถูกต้อง 3. ความสะอาดเรี ยบร้อยของใบงานและแบบฝึ กหัด 4. สนใจกระตือรื นร้ นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 7. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รี ยนต้องทบทวนบทเรี ยนทั้งก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนอยูอ่ ย่างสมํ่าเสมอ 2. ผูเ้ รี ยนหมัน่ เข้าชั้นเรี ยนเพื่อรับฟังเทคนิค วิธี และแนวทางที่ดีกบั ครู สอนอย่างตั้งใจ


71 3. ผูเ้ รี ยนสนใจทําใบงาน แบบฝึ กหัด และขยันปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้อง ทุกครั้งที่ทาํ ผิด

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


72

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


73 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


74

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 5 ตอนที่ 1 จงตอบคาถามให้ สมบูรณ์ 1. ในการป้ อนสู ตรของ Excel ทําไมต้องใส่ เครื่ องหมาย “ = ” ทุกครั้ง การป้ อนสู ตรคํานวณในตาราง Excel จะใช้เครื่ องหมาย = (เท่ากับ) ในการเริ่ มต้นการใช้สูตร มิฉะนั้น Excel จะคิดว่าสู ตรที่ป้อนเข้าไปนั้นเป็ นข้อความธรรมดา และจะไม่นาํ ไปคํานวณ 2. จงแสดงวิธีการคํานวณสู ตร =(4x4)/2^2/4+9 ตามลําดับความสําคัญของเครื่ องหมาย = 16/2^2/4+9=16/4/4+9=4/4+9=1+9=10 3. เมื่อต้องการหาผลรวมจาก D1 ถึง D10 เราจะป้ อนสู ตรอย่างไร


75 =D1+D2+D3+D4+D5+D6+D7+D8+D9+D10 4. การป้ อนสู ตรคํานวณโดยใช้แถบสู ตร (Formula Bar) แตกต่างจากการป้ อนวิธีอื่นอย่างไร แทนการเขียนสู ตรคํานวณในเซลล์โดยตรง เราสามารถพิมพ์สูตรคํานวณในแถบสู ตร (Formula Bar) ได้แทน ซึ่ งวิธีน้ ีมีขอ้ ดีเพราะ Excel จะแสดงผลลัพธ์ที่คาํ นวณได้ให้เห็นก่อนที่เราจะกดปุ่ ม (Enter) 5. จงเขียนสู ตรคํานวณหาผลคูณของข้อมูลระหว่าง C7 ใน Worksheet GoodsA และ C7 ใน Worksheet GoodsBเมื่อปั จจุบนั อยูใ่ นWorksheetNetProfit =sheet GoodsA’!c7*’ sheet GoodsB’!c7 6. จงอธิ บายความแตกต่างของการคัดลอกและย้ายสู ตรแบบ Relative และ Absolute Addressing Relative จะใช้กบั สู ตรที่ตอ้ งการตําแหน่งเซลล์เปลี่ยนแปลงไปตามการคัดลอกสู ตร ส่ วน Absolute จะ เป็ นการระบุตาํ แน่งเซลล์ในสู ตรที่ไม่ตอ้ งการให้ตาํ แหน่งเซลล์เปลี่ยนไปตามการคัดลอกสู ตร 7. จงอธิบายผลของการอ้างอิงเซลล์แบบ Absolute Addressing ต่อไปนี้ =C$12 ไม่ตอ้ งการให้แถวเปลี่ยน จะอยูใ่ นแถวที่ 12 เสมอ =$C12 ไม่ตอ้ งการให้คอลัมน์เปลี่ยน จะอยูใ่ นคอลัมน์ C เสมอ =$C$12 จะใช้เซลล์ c12 ไม่เปลี่ยนตําแหน่งตามการคัดลอกสู ตร 8. ถ้าจะอ้างอิงเซลล์ขา้ ม Workbook ชื่อ Exam Worksheet ชื่อ Sheet1 ที่เก็บในโฟลเดอร์ Project ใน ไดรว์ C: จะต้องพิมพ์อย่างไร =’ C: \Project\[Exam]Sheet1’ 9. จงอธิ บายขั้นตอนในการใช้เมาส์อา้ งอิงเซลล์ขา้ ม Worksheet หรื อ Workbook มาพอสังเขป การใช้เมาส์คลิกไปยังเซลล์ขอ้ มูลใน worksheet หรื อ Workbook ได้โดยตรง 10. วิธี Paste Special สามารถกําหนดรายละเอียดอะไรได้บา้ ง จงอธิบาย Paste All เลือกรู ปแบบทั้งหมดจากเซลล์ที่คดั ลอกมา Formulas เลือกเฉพาะสู ตรจากเซลล์ที่คดั ลอกมา Values เลือกเฉพาะค่าข้อมูลจากเซลล์ที่คดั ลอกมา Formats เลือกเฉพาะรู ปแบบของข้อมูลจากเซลล์ที่คดั ลอกมา Comments เลือกเฉพาะ Comments จากเซลล์ที่คดั ลอกมา Validation ทาการตรวจสอบการคัดลอกเพียงอย่างเดียว


76 All except borders คัดลอกมา Column width Formulas and number Formats Values and number Formats Operation None Add Subtract Multipy Divide

เลื อกรู ปแบบทั้งหมดยกเว้นรู ปแบบ Borders ของเซลล์ที่ เลือกเฉพาะขนาดความกว้างของคอลัมน์ เลือกสู ตรและรู ปแบบของตัวเลข เลือกค่าข้อมูลและรู ปแบบของตัวเลข แทนที่ขอ้ มูลในเซลล์ดว้ ยข้อมูลที่คดั ลอกมาใหม่ นาข้อมูลที่คดั ลอกมาใหม่บวกกับข้อมูลเดิมที่อยูใ่ นเซลล์ นาข้อมูลที่คดั ลอกมาใหม่ลบด้วยข้อมูลเดิมที่อยูใ่ นเซลล์ นาข้อมูลที่คดั ลอกมาใหม่คูณด้วยข้อมูลเดิมที่อยูใ่ นเซลล์ นาข้อมูลที่คดั ลอกมาใหม่หารด้วยข้อมูลเดิมที่อยูใ่ นเซลล์


77 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 6 เรื่อง การใช้ ฟังก์ชั่นการคานวน

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวส. สั ปดาห์ ที่ 8 เวลา 4 ชั่วโมง

1.สาระสาคัญ การทํางานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซลเป็ นการทํางานบนตารางงานซึ่งจําเป็ นต้องมีการ คํานวณ และมีการใช้ฟังก์ชนั่ คํานวณ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทํางาน จําเป็ นต้องรู ้เกี่ยวกับ ส่ วนประกอบของ ฟังก์ชนั่ การใช้ Autosum ขั้นตอนการทํางานในฟังก์ชนั่ ต่าง ๆ ทําให้เรา สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพิม่ มากขึ้น สะดวกในการทํางานในรู ปแบบต่าง ๆ รวมทั้งมี รู ปแบบที่เป็ นมาตรฐาน 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)  1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่ วนประกอบของฟังก์ชนั่ 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Autosum 4. มีความรู ้ความสามารถในการตรวจสอบงานที่ทาํ บนฟังก์ชนั่ การคํานวณในโปรแกรม ไมโครซอฟท์เอ็กเซล 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)


78 1. ผูเ้ รี ยนสามารถเขียนสู ตรฟังก์ชนั่ การคํานวณได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถแก้ไขสู ตรฟังก์ชนั่ การคํานวณได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ Past Function ในการสร้างฟังก์ชนั่ ที่ตอ้ งการได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ Autosum ในการหาผลรวมได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ ทางคณิ ตศาสตร์ ที่สาํ คัญได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ ทางคณิ ตศาสตร์ ที่สาํ คัญได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถตั้งชื่อกลุ่มเซลล์เพื่อนําไปใช้ในการเขียนฟังก์ชนั่ ได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ ทางสถิติที่สาํ คัญได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ VLOOKUP ในการค้นหาข้อมูลได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ เกี่ยวกับตัวอักษรที่สาํ คัญได้ 11. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ เกี่ยวกับวันที่และเวลาที่สาํ คัญได้ 12. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้ฟังก์ชนั่ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยได้ 13. ผูเ้ รี ยนสามารถขอดูผลลัพท์การคํานวณบนหน้าจอด้วย AutoCalculate 14. ผูเ้ รี ยนสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของฟังก์ชนั่ จากข้อผิดพลาดที่แจ้งได 4. กิจกรรมการเรียนรู้


79 กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้ นั ก ศึ ก ษาค้ น คว้า การใช้ ฟั ง ก์ ชั่ น การคํา นวณ 2. ค้นคว้า การใช้ฟั งก์ชั่นการคํานวณ ส่ วนประกอบของฟังก์ชนั่ และการใช้ Autosum ส่ วนประกอบของฟั งก์ชนั่ และการ 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวน ใช้ Autosum 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าการใช้ฟังก์ชนั่ การคํานวณ ส่ วนประกอบของฟังก์ชนั่ และการใช้ Autosum


80 ขณะเรียน 1. จดบันทึกการเรี ยน 2. สนใจการปฏิบตั ิตามครู และกล้าในการแสดงความคิดเห็นและตอบคําถาม 3. ทําแบบฝึ กหัด 4. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการการสอน 5. ผูเ้ รี ยนหาแนวทางและเทคนิค การปฏิบตั ิ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจด บันทึก เป็ นลําดับขั้นตอนที่จะทําให้ตนเองไม่ลืมสาระการเรี ยนรู ้ 6. ผูเ้ รี ยนซักถามเมื่อไม่เข้าใจหรื อสังสัยเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน

7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและทําใบงานและแบบฝึ กหัดได้ถูกต้อง 3. ความสะอาดเรี ยบร้อยของใบงานและแบบฝึ กหัด 4. กระตือรื นร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปบทเรี ยน และกล้าแสดงความคิดเห็น 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รี ยนต้องทบทวนบทเรี ยนทั้งก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนอยูอ่ ย่างสมํ่าเสมอ 2. ผูเ้ รี ยนหมัน่ เข้าชั้นเรี ยนเพื่อรับฟังเทคนิค วิธี และแนวทางที่ดีกบั ครู สอนอย่างตั้งใจ 3. ผูเ้ รี ยนสนใจทําใบงาน แบบฝึ กหัด และแก้ไขให้ถูกต้องทุกครั้งที่ทาํ ผิด 4. กล้าที่จะถามทุกครั้งที่เกิดความสงสัยและไม่เข้าใจหรื อตามบทเรี ยนไม่ทนั


81

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


82

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


83 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


84

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 6

ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อทีผ่ ดิ

.......... ..........

1. =E5+E6+E7+E8 มีค่าเท่ากับ =SUM(E5:E8) 2. ฟังก์ชนั่ Average ใช้สาํ หรับหาผลรวมทั้งหมดของเซลล์ที่ระบุ

.......... .......... ..........

3. ฟังก์ชนั่ MIN มีรูปแบบการใช้งานกับกลุ่มตัวเลขเพื่อหาค่าตํ่าสุ ดจากข้อมูลของเซลล์ 4. ROUND เป็ นฟังก์ชนั่ ในการแปลงข้อมูลที่เป็ นตัวเลข ให้เป็ นตัวอักษร 5. ข้อความผิดพลาด #REF คือ มีการป้ อน argument ไม่ครบตามรู ปแบบฟังก์ชนั่

..........

6. =IF(F4>10,1,2) หมายถึงตอบค่า 1 เมื่อ F4 มากกว่า 10 และตอบค่า 2 เมื่อ F4 น้อยกว่า 10


85 ..........

7. COUNTIF เป็ นฟังก์ชนั่ ที่ใช้นบั จํานวนเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไขในกลุ่มเซลล์ที่เลือก

..........

8. ฟังก์ชนั่ COUNTA จะใช้กบั ข้อมูลที่เป็ นตัวเลขหรื อตัวอักษรก็ได้

..........

9. ฟังก์ชนั่ VLOOKUP ใช้สาํ หรับการค้นหาข้อมูลในตารางข้อมูลตามแนวตั้งเท่านั้น

..........

10. AutoCalculate เป็ นการดูผลลัพธ์การคํานวณที่ไม่ตอ้ งเขียนสู ตรคํานวณในตาราง

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดคือความหมายของ =SUM(D5:D7) ก. เป็ นฟังก์ชนั่ ที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยตั้งแต่เซลล์ D5 ถึง D7 ข. เป็ นฟังก์ชั่นทีใ่ ช้ ในการหาผลรวมตั้งแต่ เซลล์ D5 ถึง D7 ค. เป็ นฟังก์ชนั่ ที่ใช้ในการนับจํานวนเซลล์ต้ งั แต่เซลล์ D5 ถึง D7 ง. เป็ นฟังก์ชนั่ ที่ใช้ในการนับจํานวนกลุ่มเซลล์ต้ งั แต่เซลล์ D5 ถึง D7 2. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นการเขียนฟังก์ชนั่ ที่ผดิ ก. =SUM(D3,D4:D5) ข. =AVERAGE(D4:D5,D6) ค. =LEN(Excel 97) ง. =NOW()-1 3. การป้ อนค่า Argument ที่เป็ นข้อความ หรื อ เวลา จะต้องอยูใ่ นเครื่ องหมายใดเสมอ ก. ( ) ข. “ ” ค. [ ] ง. < > 4. ข้อใดเป็ นวิธีหาผลลัพธ์การคํานวณโดยไม่ตอ้ งเขียนสู ตรคํานวณในตาราง ก. Autosum ข. AutoCalculate ค. Insert Function ง. Count Nums 5. ฟังก์ชนั่ VLOOKUP ใช้สาํ หรับทําอะไร ก. ค้ นหาข้ อมูลทีต่ ้ องการในตารางข้ อมูลทีก่ าหนด ข. จัดเรี ยงข้อมูลให้อยูใ่ นแนวตั้ง ค. เปลี่ยนแปลงข้อความให้เป็ นตัวพิมพ์ใหญ่ ง. ให้ค่าข้อมูลเป็ นวันที่ปัจจุบนั 6. ผลลัพธ์ของ =DATE(2001,7,37) คือข้อใด ก. #VALUE! ข. 37/7/01 ค. 6/8/01 ง. 37 July 2001 7. ถ้าต้องการรวมข้อความหลายๆ ข้อความให้เป็ นข้อความเดียว ควรใช้ฟังก์ชนั่ ใด ก. & ข. CONCAT


86 ค. TEXT ง. PROPER 8. ผลลัพธ์ “สามสองศูนย์จุดสี่ หา้ ” เป็ นผลลัพธ์จากฟังก์ชนั่ ใด ก. ThaiNumSound(320.45) ข. ThaiNumString(320.45) ค. BahtText(320.45) ง. ThaiDigit(320.45) 9. ผลลัพธ์ “สามร้อยยีส่ ิ บจุดสี่ หา้ ” เป็ นผลลัพธ์จากฟังก์ชนั่ ใด ก. ThaiNumSound(320.45) ข. ThaiNumString(320.45) ค. BahtText(320.45) ง. ThaiDigit(320.45) 10. ข้อความผิดพลาดใดที่เกิดจากเซลล์ที่อา้ งอิงในสู ตรถูกลบ ทําให้ Excel หาผลลัพธ์ไม่ได้ ก. #NULL! ข. #NUM ค. #REF ง. #DIV/0! ตอนที่ 3 จงตอบคําถามให้สมบูรณ์ 1. หากต้องการหาผลรวมของข้อมูลในเซลล์ D3,D4,D5,E4,E5,F6,F7 ต้องเขียนฟังก์ชนั่ อย่างไร = Sum(D3:D5,E4:E5,F6:F7) 2. หากต้องการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่อยูใ่ นเซลล์ D3,D4,E5,E6 และต้องการกําหนดให้คาํ ตอบของ ค่าเฉลี่ย มีทศนิยมไม่เกิน 2 ตําแหน่ง ต้องเขียนฟังก์ชนั่ อย่างไร AVERAGE(D3:D4,E5:E6)คําตอบของฟังก์ชนั่ AVERAGE เป็ นทศนิยม 2 ตําแหน่ง (ถ้าไม่ใช่ให้ กําหนด Format Cells) 3. จงอธิ บายความแตกต่างของฟังก์ชน่ั COUNT, COUNTA, COUNTIF มาพอสังเขป COUNT COUNT(กลุ่มเซลล์) นับจํานวณเซลล์ที่มีขอ้ มูลตัวเลขในกลุ่มเซลล์ที่เลือก COUNTA COUNTA(กลุ่มเซลล์) นับจํานวณเซลล์ที่มีขอ้ มูลในกลุ่มเซลล์ที่เลือก COUNTIF COUNTIF (กลุ่มเซลล์,เงื่อนไข) นับจํานวณเซลล์ที่ตรงตามเงื่อนไขในกลุ่มเซลล์ที่เลือก 4. จงเขียนฟังก์ชน่ั เพื่อตรวจสอบเวลาว่าเป็ นเวลาตอนเช้าหรื อหลังเที่ยง หากเป็ นเวลาเช้าให้แสดง ข้อความ “Good morning” หากเป็ นเวลาหลังเที่ยงให้แสดงข้อความ “Good afternoon” =IF (HOUR (NOW())<12, “Good morning”, “Good afternoon”) 5. ข้อมูลในเซลล์ D2 มีค่าเท่ากับ “11/8/01” ถ้าต้องการนําข้อมูลในเซลล์ D2 มาแสดงผลลัพธ์เป็ น 11 August 2001 จะต้องเขียนฟังก์ชนั่ อย่างไร =text(D2, “d mmmm yyyy”)


87 6. ถ้าต้องการตรวจสอบว่าวันที่ปัจจุบนั เป็ นวันที่ 30 หรื อไม่ และหากเป็ นวันที่ 30 ให้แสดงข้อความ “Check Stock” หากไม่ใช่ให้แสดงข้อความ “OK” =IF(DAY(TODAY())=30, “Check Stock”, “OK”


88 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 7 เรื่อง การใช้ กราฟ

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 9-10 เวลา 8 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ ในการใช้งานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซล จําเป็ นต้องมีการนํากราฟชนิดต่าง ๆ เข้ามา สอดแทรกในชิ้นงานเพื่อให้เอกสารสมบูรณ์น่าสนใจมากขึ้น จึงจําเป็ นต้องเรี ยนรู ้เกี่ยวกับการใช้ กราฟ ส่ วนประกอบของกราฟ การสร้างกราฟด้วยวิธีต่าง ๆ การเคลื่อนย้าย เปลี่ยน ลบรู ปกราฟ การแก้ไขและปรับแต่งรายละเอียดของกราฟ ซึ่งทําให้งานทํางานเอกสารมีความทันสมัย และ สมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้กราฟ 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่ วนประกอบของกราฟ 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการทํางานของกราฟ 4. มีความรู ้ความสามารถในการปรับแต่งและแก้ไขรายละเอียดของกราฟในโปรแกรม ไมโครซอฟท์เอ็กเซล 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิ บายส่ วนประกอบของกราฟได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างกราฟจากข้อมูลในตารางได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างกราฟจากตัววิเศษสร้างกราฟได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรู ปกราฟได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถแก้ไขและปรับแต่งรายละเอียดของกราฟได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถปรับแต่งส่ วนประกอบย่อยในกราฟได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกกราฟให้เหมาะสมกับข้อมูลได้


89 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน (สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ใ ห้ นั ก ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ ก ร า ฟ ส่ วนประกอบของกราฟและลักษณะการทํางานของ 2. ค้ น ค ว้ า เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ใ ช้ ก ร า ฟ ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ก ร า ฟ แ ล ะ กราฟ ลักษณะการทํางานของกราฟ 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการใช้กราฟ 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน (สั ปดาห์ ละ 180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป( สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าเกี่ยวกับการใช้กราฟ ส่ วนประกอบของกราฟและลักษณะการทํางานของกราฟ


90 ขณะเรียน 1. จดบันทึกการเรี ยน 2. สนใจการปฏิบตั ิตามครู และกล้าในการแสดงความคิดเห็นและตอบคําถาม 3. ทําแบบฝึ กหัด 4. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการการสอน 5. ผูเ้ รี ยนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบตั ิ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจด บันทึก เป็ นลําดับขั้นตอนที่จะทําให้ตนเองไม่ลืมสาระการเรี ยนรู ้ 6. ผูเ้ รี ยนซักถามเมื่อไม่เข้าใจหรื อสังสัยเนื้อหาการเรี ยนรู้ 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทัน่เวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและทําใบงานและแบบฝึ กหัดได้ถูกต้อง 3. ความสะอาดเรี ยบร้อยของใบงานและแบบฝึ กหัด 4. กระตือรื นร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปบทเรี ยน และกล้าแสดงความคิดเห็น 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รี ยนต้องทบทวนบทเรี ยนทั้งก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนอยูอ่ ย่างสมํ่าเสมอ 2. ผูเ้ รี ยนหมัน่ เข้าชั้นเรี ยนเพื่อรับฟังเทคนิค วิธี และแนวทางที่ดีกบั ครู สอนอย่างตั้งใจ 3. ผูเ้ รี ยนสนใจทําใบงาน แบบฝึ กหัด และแก้ไขให้ถูกต้องทุกครั้งที่ทาํ ผิด 4. กล้าที่จะถามทุกครั้งที่เกิดความสงสัยและไม่เข้าใจหรื อตามบทเรี ยนไม่ทนั

เกณฑ์การประเมินผล


91

วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง


92

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


93 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน

ผลการสอนของครู


94

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 7

ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมายหน้ าข้ อทีถ่ ูก

และใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีผ่ ดิ

.......... 1. พื้นที่ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลเราเรี ยกว่า Chart Area .......... 2. โปรแกรม Excel ไม่สามารถสร้างกราฟให้อยูใ่ น Worksheet เดียวกับข้อมูลได้ ..........

3.เมื่อข้อมูลที่ใช้ในการสร้างกราฟเปลี่ยนรู ปกราฟที่ได้ออกมาจะเปลี่ยนตามโดยอัตโนมัติ

.......... 4. การสร้างกราฟจําเป็ นอย่างยิง่ ที่จะต้องเลือกกลุ่มเซลล์ที่ตอ้ งการให้แสดงในกราฟก่อน จึง จะสามารถสร้างกราฟออกมาได้ ..........

5. สามารถเลือกรู ปแบบกราฟที่ตอ้ งการได้ในช่อง Chart Type

.......... 6. เมื่อกราฟที่สร้างแล้วมีรายละเอียดไม่ครบถ้วนตามที่ตอ้ งการสามารถเพิม่ องค์ประกอบที่ ต้องการได้ภายหลัง .......... 7. การทํากราฟในโปรแกรม Excel เราสามารถเคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาดได้ตามต้องการ .......... 8. เมื่อเราลบกราฟที่สร้างไว้แล้วข้อมูลในตารางที่มีอยูก่ ็จะหายตามไปด้วย .......... 9. เมื่อกราฟที่ทาํ ออกมาไม่เหมาะสมกับข้อมูลที่แสดงจะต้องทําการลบกราฟเดิมก่อน จึงจะ สามารถ สร้างกราฟขึ้นมาใหม่ได้ .......... 10. กลุ่มข้อมูลที่ถูกนํามาใช้ในการวาดกราฟก็คือชุ ดข้อมูลที่อยูใ่ นกราฟนัน่ เอง .......... 11. เราสามารถปรับแต่งสี หรื อขนาดตัวอักษรในกราฟได้ แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายส่ วน เหล่านี้ในรู ปกราฟได้ .......... 12. เมื่อเราเลื่อนเมาส์ไปที่รูปกราฟใน Excel จะแสดงชื่อของส่ วนประกอบนั้นออกมาให้เห็น โดยอัตโนมัติ .......... 13. Excel ไม่สามารถที่จะย้ายตําแหน่งของส่ วนประกอบย่อยในกราฟได้ .......... 14. การปรับเปลี่ยนรายละเอียดส่ วนย่อยสามารถทําได้ในเฉพาะที่เป็ นตัวอักษรเท่านั้น ..........

15. Show data table คือการบอกให้ Excel แสดงตารางข้อมูลออกมาด้วย


95 ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ถ้าต้องการแสดงยอดขายในแต่ละเดือน ควรใช้กราฟชนิดใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ก. กราฟวงกลม ข. กราฟเส้น ค. กราฟแท่ ง ง. กราฟ XY 2. Legend Key ทําหน้าที่อะไรในการทํากราฟ ก. อธิ บายสี และสัญลักษณ์ที่ใช้ในการกํากับกราฟ ข. แสดงแนวโน้มของข้อมูลโดยนําค่าทั้งแกน X แกน Y มาเปรี ยบเทียบกัน ค. ใช้เปรี ยบเทียบความแตกต่างของข้อมูล โดยเทียบที่จุดศูนย์กลาง ง. ใช้ แสดงสี หรื อสั ญลักษณ์ ทใี่ ช้ แทนข้ อมูล 3. ข้อใดคือสิ่ งที่ใช้ในการเปรี ยบเทียบตัวเลขแต่ละค่าในกราฟ ก. Chart ข. Grid line ค. Plot Area ง. Column 4. กราฟชนิดใดที่มีลกั ษณะคล้ายกับกราฟวงกลม แต่สามารถแสดงข้อมูลได้พร้อมกันหลายชุด ก. กราฟเรดาห์ ข. กราฟแท่งรู ปทรงกระบอก ค. กราฟรู ปโดนัท ง. กราฟแท่งรู ปกรวย 5. กราฟแท่งแนวตั้ง มีลกั ษณะการใช้งานอย่างไร ก. ใช้ เปรียบเทียบความแตกต่ างของข้ อมูล ข. ใช้เปรี ยบเทียบความแตกต่างของข้อมูล โดยเทียบกับข้อมูลที่จุดศูนย์กลาง ค. ใช้เปรี ยบเทียบโดยแสดงเป็ นกราฟที่มีพ้นื ผิวต่อเนื่อง ง. ใช้แสดงข้อมูลโดยนํามาเปรี ยบเทียบกับผลรวมข้อมูลทั้งหมด 6. เมื่อเลือกกราฟเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว ถ้าต้องการกลับเข้าสู่ การทํางานปกติควรกดปุ่ มใด ก. Finish ข. Esc ค. Next ง. Cancel 7. การเปลี่ยนชนิดและรู ปแบบของกราฟ จัดอยูใ่ นหัวข้อใดในบทนี้ ก. การปรับแต่งส่ วนประกอบย่อยในกราฟ ข. การเคลื่อนย้าย เปลี่ยนขนาด และลบรู ปกราฟ ค. การสร้างกราฟด้วยตัววิเศษสร้างกราฟ ง. การแก้ไขและปรับแต่ งรายละเอียดของกราฟ 8. บริ เวณพื้นที่วา่ งของกราฟ เราเรี ยกว่าอะไร


96 ก. Chart Area ข. Chart Options ค. Chart Type ง. Chart Window 9. ถ้าต้องการปรับแต่งแกนของกราฟ จะต้องเข้าไปในแท็บคําสั่งใด ก. Gridlines ข. Titles ค. Legend ง. Axis 10. แท็บคําสั่งใดที่ช่วยในการวิเคราะห์และเปรี ยบเทียบข้อมูลให้เห็นได้อย่างชัดเจน ก. Data Labels ข. Data Table ค. Titles ง. Legend 11. ต่อไปนี้ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องที่สุด ก. ในแท็บ Gridlines เราสามารถเลือกให้ แสดงเส้ นกริดในกราฟได้ ข. ในแท็บ Legend เราสามารถกําหนดให้แสดงเส้นกริ ดในกราฟได้ ค. ในแท็บ Axis เราสามารถกําหนดให้แสดงเส้นกริ ดในกราฟได้ ง. ในแท็บ Data Labels เราสามารถกําหนดให้แสดงเส้นกริ ดในกราฟได้ 12. ต่อไปนี้ขอ้ ใดกล่าวผิด ก. เราสามารถกําหนดตําแน่งของ Legend ไว้ที่ส่วนล่างของรู ปกราฟได้ ข. เราสามารถกาหนดตาแน่ งของ Legend ไว้ ทสี่ ่ วนกลางของรู ปกราฟได้ ค. เราสามารถกําหนดตําแน่งของ Legend ไว้ที่ดา้ นขวาของรู ปกราฟได้ ง. เราสามารถกําหนดตําแน่งของ Legend ไว้ที่ส่วนบนของรู ปกราฟได้ 13. ประโยชน์ของ Data Labels คืออะไร ก. สามารถกําหนดรู ปแบบการแสดงข้อมูลไฟล์ได้ ข. สามารถแสดงตําแหน่งและระบุชนิดของข้อความได้ ค. สามารถแสดงค่ ากากับข้ อมูลในกราฟ ง. สามารถบอกชื่อไฟล์ขอ้ มูลของกราฟได้ 14. ข้อใดต่อไปนี้ไม่จดั อยูใ่ นส่ วนประกอบสําคัญในกราฟที่เรา Click mouse เลือกได้ ก. ชื่อเรื่ อง , ชื่อกํากับแกน X ข. ชื่อกํากับแกน Y , Chart Area ค. Legend , Plot Area ง. ชื่อเรื่อง , Labels 15. ข้อได้ต่อไปนี้กล่าวผิด ก. การปรับแต่ งสี หรือรู ปแบบและขนาดตัวอักษรสามารถเคลือ่ นย้ ายได้ ในรู ปกราฟ ข. การปรับแต่งสี หรื อรู ปแบบและขนาดตัวอักษรไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในรู ปกราฟ


97 ค. การปรับแต่งสี หรื อรู ปแบบและขนาดตัวอักษรสามารถทําได้ใน Chart Area ง. การปรับแต่งสี หรื อรู ปแบบและขนาดตัวอักษรสามารถทําได้ใน Plot Area ตอนที่ 3 จงเติมชื่ อส่ วนประกอบของกราฟลงในช่องว่าง ตามหมายเลขที่กาํ หนดให้ 1. หัวเรื่ อง 2. แกน Y 3. แกน X 4. เส้นกริ ด 5. Legend Key 6. Legend 7. Plot Area 8. Chart Area แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 8 เรื่อง การพิมพ์งาน

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 11 เวลา 4 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซลมีรูปแบบที่หลากหลายจําเป็ นต้องรู ้ถึง ขั้นตอน การ ทํางานเกี่ยวกับการพิมพ์งาน การตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ดว้ ย Print Preview การ พิมพ์งาน การกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ ซึ่ งทําให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิ ทธิ ภาพเพิ่มมากขึ้น สะดวกในการทํางานในรู ปแบบต่าง ๆ รวมทั้งเอกสารทันสมัยเหมาะ สําหรับการใช้งานในปั จจุบนั 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)


98 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพิมพ์งาน 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ 4. มีความรู ้ความสามารถในการทํางานตามขั้นตอนการพิมพ์ในโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซล 1.1 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง)  1. ผูเ้ รี ยนสามารถตรวจสอบงานก่อนพิมพ์ดว้ ย Print Preview ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถสั่งพิมพ์งานทั้งเวิร์กชีตได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถสั่งพิมพ์งานเฉพาะบางส่ วนได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดแนวทางการพิมพ์ขอ้ มูลได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดอัตราย่อขยาย ขนาดในการพิมพ์ได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดการจัดวางข้อมูลบนกระดาษได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดข้อความหัวกระดาษ/ท้ายกระดาษในแต่ละหน้าได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนด Page Break เพื่อแบ่งข้อมูลที่พิมพ์ในแต่ละหน้า

4. กิจกรรมการเรียนรู้


99 กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้ นั ก ศึ ก ษาค้ น คว้า เกี่ ย วกั บ การพิ ม พ์ ง าน การ ตรวจสอบงานก่อนพิมพ์และการกําหนดรายละเอียด 2. ค้นคว้า เกี่ ย วกับ การพิ ม พ์ง าน การ ตรวจสอบงานก่ อ นพิ ม พ์แ ละการ เกี่ยวกับการพิมพ์ในโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซล กํา หนดรายละเอี ย ดเกี่ ย วกับ การ 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการพิมพ์งานในโปรแกรม พิ ม พ์ ใ น โ ป ร แ ก ร ม ไมโครซอฟท์เอ็กเซล ไมโครซอฟท์เอ็กเซล 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน (180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป (30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ ประกอบการเรี ยน 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท


100 1. ค้นคว้าเกี่ ยวกับการพิมพ์งาน การตรวจสอบงานก่ อนพิมพ์และการกําหนดรายละเอียด เกี่ยวกับการพิมพ์ในโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซล ขณะเรียน 1. จดบันทึกการเรี ยน 2. สนใจการปฏิบตั ิตามครู และกล้าในการแสดงความคิดเห็นและตอบคําถาม 3. ทําแบบฝึ กหัด 4. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการการสอน 5. ผูเ้ รี ยนหาแนวทางและเทคนิคการปฏิบติ ด้วยความรู้ความเข้าใจของตนเองพร้อมจด บันทึก 6. ผูเ้ รี ยนซักถามเพื่อข้อสงสัยในหัวข้อ หรื อเนื้อหาการเรี ยนรู ้ที่ยงั ไม่เข้าใจกับผูส้ อน 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและทําใบงานและแบบฝึ กหัดได้ถูกต้อง 3. ความสะอาดเรี ยบร้อยของใบงานและแบบฝึ กหัด 4. สนใจกระตือรื นร้ นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รี ยนต้องทบทวนบทเรี ยนทั้งก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนอยูอ่ ย่างสมํ่าเสมอ 2. ผูเ้ รี ยนหมัน่ เข้าชั้นเรี ยนเพื่อรับฟังเทคนิค วิธี และแนวทางที่ดีกบั ครู สอนอย่างตั้งใจ


101 3. ผูเ้ รี ย นสนใจทํา ใบงาน แบบฝึ กหัด และขยันปรั บ ปรุ ง แก้ไ ขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ ถูกต้องทุกครั้งที่ทาํ ผิด

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


102

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


103 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


104

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 8 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อที่ผดิ

.......... 1. ถ้าต้องการตรวจสอบความถูกต้อง หรื อแก้ไขข้อมูลที่อยูใ่ น Worksheet ก่อนการพิมพ์ควร เข้าไปดูใน Print Preview ..........

2. โปรแกรม Excel สามารถสั่งพิมพ์งานทั้ง Worksheet ใน Workbook ที่ใช้งานได้

.......... 3. Excel สามารถทําการเก็บผลลัพธ์เป็ นไฟล์ขอ้ มูลได้แทนการพิมพ์ออกทางกระดาษ .......... 4. Excel ไม่สามารถกําหนดความละเอียดของงานที่พิมพ์ออกมาได้ เพราะจะขึ้นอยูก่ บั เครื่ องพิมพ์ที่ใช้


105 .......... 5. การกําหนดค่าใน Page Setup จะไม่มีผลกระทบในการพิมพ์ขอ้ มูล แต่จะมีผลกระทบกับ ข้อมูล ใน Worksheet เท่านั้น .......... 6. ถ้าต้องการให้ระบุเลขหน้าที่พิมพ์ออกมา จะต้องพิมพ์ใส่ ลงไปเอง Excel ไม่สามารถระบุ เลขหน้า ได้โดยอัตโนมัติ .......... 7. การสั่งพิมพ์ใน Excel ไม่สามารถสั่งพิมพ์ได้เกินครั้งละ 7 ชุด ........ 8. Excel มีความสามารถเลือกเซลล์ที่ตอ้ งการพิมพ์ได้ .......... 9. Excel ไม่สามารถระบุตาํ แหน่งหน้าเริ่ มต้นในการสั่งพิมพ์ได้ แต่สามารถระบุตาํ แหน่งหน้า สุ ดท้ายได้ .......... 10. การกําหนดแนวการพิมพ์ในรู ปแบบ Portrait คือการพิมพ์ขอ้ มูลในแนวปกติ .......... 11. การกําหนด Margin สามารถกําหนดขนาดได้ ถ้าข้อมูลที่พิมพ์มีปริ มาณน้อยกว่า 5 หน้ากระดาษ .......... ..........

12. การจัดวางข้อมูล Horizontally คือการพิมพ์ขอ้ มูลที่ก่ ึงกลางความกว้างหน้ากระดาษ 13. Excel ไม่สามารถกําหนดข้อความหัวกระดาษท้ายกระดาษได้เหมือนการพิมพ์ Word

.......... 14. เมื่อทําการสั่งให้มีการแบ่งหน้าก่อนพิมพ์จะมีเส้นประเกิดขึ้น ณ ตําแหน่งที่ตอ้ งการแบ่ง เราสามารถใช้เมาส์เลื่อนเส้นนี้เพื่อกําหนดตําแหน่งการแบ่งหน้าใหม่ได้ .......... 15.หากต้องการกลับสู่ มุมมองปกติหลังจากใช้มุมมองดูการแบ่งหน้าให้เลือกที่ View>Normal ตอนที่ 2 จงทําเครื่ องหมาย ล้อมรอบข้อที่ถูกต้อง  1. ข้อใดคือปุ่ มในแถบเครื่ องมือที่จะเข้าสู่ หน้าจอ Print Preview ก. ข. ค. ง. 2. ถ้าต้องการกําหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ เราสามารถกดปุ่ มใดเพื่อความสะดวกรวดเร็ ว ก. Ctrl+S ข. Ctrl+O ค. Ctrl+P ง. Ctrl+N 3. เมื่อจะพิมพ์งานออกมาเฉพาะบางส่ วนจะต้องใช้คาํ สั่งใดใน Print What ก. Selection ข. Entire workbook ค. Active sheet(s) ง. Print rage


106 4. การกําหนดข้อความหัว/ท้ายกระดาษในแต่ละหน้า อยูใ่ นหัวข้อใดในเรื่ องของการพิมพ์งาน ก. กาหนดรายละเอียดการพิมพ์ ข. การพิมพ์งาน ค. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนการพิมพ์ ง. แบ่งข้อมูลออกเป็ นหน้าย่อยๆ 5. ถ้าต้องการสั่งให้ขอ้ มูลที่พิมพ์ออกมามีลกั ษณะเป็ นแนวตั้งหรื อแนวนอน ต้องเลือกที่แท็บใดใน หน้าจอ Page Setup ก. Page ข. Margins ค. Header/Footer ง. Sheet 6. เมื่อ Click mouse ที่ปุ่ม ในหน้าจอ Print Preview จะเกิดอะไรขึ้น ก. ข้อมูลก่อนพิมพ์จะถูกแบ่งออกเป็ น 2 ส่ วนเท่าๆ กัน ข. จะแสดงหน้าต่างที่ให้ใส่ ขอ้ ความหัวกระดาษและข้อความท้ายกระดาษ ค. จะแสดงเส้ นแบ่ งขอบกระดาษกับข้ อมูล และแสดงความกว้างของคอลัมน์ ต่างๆ ง. จะแสดงหน้าต่างระบุส่วนที่ตอ้ งการแบ่งข้อมูลก่อนการพิมพ์ 7. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง ก. การสั่งพิมพ์งานใน Excel สามารถสั่งพิมพ์ได้ท้ งั WorkSheet ข. การสั่ งพิมพ์งานใน Excel ไม่ สามารถสั่ งพิมพ์ได้ ท้งั Workbook ค. การสั่งพิมพ์งานใน Excel สามารถสั่งพิมพ์เฉพาะบางส่ วนได้ ง. การสั่งพิมพ์งานใน Excel สามารถสั่งให้ไปเก็บอยูใ่ นรู ปไฟล์ได้ 8. การกําหนดแนวในการพิมพ์ขอ้ ใดต่อไปนี้คือผลจากคําสั่ง Landscape ก. เป็ นการพิมพ์ขอ้ มูลในการพิมพ์แบบประหยัดหมึก ข. เป็ นการพิมพ์ขอ้ มูลให้ระบุจาํ นวนหน้า วันที่และเวลา ค. เป็ นการพิมพ์ขอ้ มูลเฉพาะตัวอักษรแต่จะไม่พิมพ์ขอ้ มูลภาพ ง. เป็ นการพิมพ์ ข้อมูลทัว่ ไปให้ มีการพิมพ์ ออกมาในแนวนอน 9. การกําหนดคุณภาพการพิมพ์ และพิมพ์งานเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนการพิมพ์จริ ง คือ ก. Adjust to: ข. Print Quality ค. Landscape ง. Save mode 10. การจัดวางข้อมูลให้อยูก่ ่ ึงกลางหน้ากระดาษพอดีมีอยูก่ ี่แบบ ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ 11. ข้อใดคือตัวช่วยในการจัดข้อมูลให้อยูก่ ่ ึงกลางหน้ากระดาษพอดี


107 ก. Left,Right ข. Top,Bottom ค. Horizontally,Vertically ง. Header,Footer 12. Footer มีไว้สาํ หรับทําอะไร ก. สําหรับแสดงข้อความที่สาํ คัญไว้ที่ทา้ ยกระดาษ ข. สาหรับกาหนดขนาดของขอบล่างกระดาษ ค. สําหรับเก็บข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในหน้านั้น ๆ ง. สําหรับแสดงสถานะการพิมพ์ขอ้ มูลส่ วนที่สอง 13. ข้อใดต่อไปนี้มีการทํางานเหมือนกันกับ Custom Header ก. Custom Bottom ข. Custom Top ค. Custom Footer ง. Custom Page 14. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ในแต่ละหน้า ก. Down, then over ข. Draft quality ค. Print Preview ง. Print area 15. การกําหนด Page Break มีไว้เพื่อทําอะไร ก. เพื่อกําหนดขนาดของกระดาษก่อนที่จะทําการพิมพ์ ข. เพื่อกําหนดตําแหน่งที่จะพิมพ์ขอ้ มูลลงในกระดาษ ค. เพื่อกําหนดขอบเขตของกระดาษก่อนการพิมพ์ขอ้ มูล ง. เพือ่ แบ่ งข้ อมูลทีจ่ ะทาการพิมพ์ ในแต่ ละหน้ าลงในกระดาษ ตอนที่ 3 เขียนคําตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ 1. จากรู ปข้างล่าง จงเติมชื่อส่ วนประกอบลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ 1.1 Top กําหนดขนาดขอบบน 1.2 Header ระบุความกว้างของหัวกระดาษ 1.3 Left กําหนดขนาดขอบซ้าย 1.4 เซลล์ขอ้ มูล 1.5 Right กําหนดขนาดขอบขวา 1.6 Footer ระบุความกว้างท้ายกระดาษ 1.7 Bottom กําหนดขนาดขอบล่าง


108 2. จากรู ปข้างล่าง จงเติมคําอธิ บายลงในช่องว่างให้สมบูรณ์

2.1 กําหนดแนวการพิมพ์ 2.2 กําหนดอัตราย่อขยายการพิมพ์ 2.3 กําหนดขนาดกระดาษและคุณภาพการพิมพ์ 3. จงอธิ บายหน้าที่ของส่ วนประกอบตามหมายเลขจากรู ปที่กาํ หนดให้


109

 1. แท็บ page กําหนดแนวการพิมพ์ อัตรย่อขยายภาพ ขนาดกระดาษและคุณภาพการพิมพ์ 2. แท็บ Margins กําหนดขนาดขอบและตําแหน่งข้อมูลในกระดาษ 3. แท็บ Header/Footer กําหนดข้อความหัว/ท้ายกระดาษ 4. แท็บ Sheet กําหนดหัวข้อมูลและลําดับข้อมูลที่พิมพ์ในแต่ละหน้า 5. ปุ่ ม Print เข้าสู่ หน้าต่างการสั่งพิมพ์ 6. ปุ่ ม Print Preview เข้าสู่ การดูตวั อย่างก่อนพิมพ์ 7. Option การกําหนดค่าเพิ่มเติม 8. Rows to repeat at top กําหนดแถวข้อมูลที่จะพิมพ์เป็ นหัวของทุกๆหน้า ซึ่ งโดยปกติคือแถว ที่เป็ นแถบชื่อเรื่ องแนวนอนของข้อมูลในตาราง 9. Columns to repeat at left กําหนดคอลัมน์ที่จะพิมพ์ทางด้านซ้ายของทุกหน้า ซึ่ งโดยปกติคือ คอลัมน์ที่เป็ นชื่ อเรื่ องแนวตั้งของข้อมูลในตาราง 10. Gridlines พิมพ์เส้นแบ่งเซลล์(เส้นตารางสี เทาที่เราเห็นบนหน้าจอ 11. Black and white พิมพ์ขอ้ มูลในตารางเป็ นขาวดํา 12. Draft Quality พิมพ์ขอ้ มูลในตารางเป็ นแบบร่ างเพื่อใช้ตรวจงานโดยเส้นกรอบ รู ปภาพและ สี ที่เรากําหนดเพิม่ เติมจะไม่ถูกพิมพ์ออกมา 13. Row and Column heading พิมพ์ชื่อแถว และคอลัมน์ที่หวั และด้านซ้ายของกระดาษ


110 14. Comments พิมพ์ขอ้ ความหมายเหตุที่สร้างไว้ในตาราง 15. Down then over พิมพ์ขอ้ มูลโดยไล่ทีละแถวลงมา 16. Over then down พิมพ์ขอ้ มูลโดยไล่ทีละคอลัมน์ก่อน


111 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 9 เรื่อง การบริหารข้ อมูลทีม่ ีปริมาณมาก

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 12-13 เวลา 8 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ  ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิง่ การ ทํางานบริ หารข้อมูลที่มีปริ มาณมาก ฐานข้อมูล การจัดเรี ยงลําดับข้อมูล การคัดเลือกข้อมูล การ ค้นหาเรคอร์ด การหาผลรวมในรายการฐานข้อมูล การสร้าง Group และการทํางานรู ปแบบอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลมีความทันสมัย สมบูรณ์แบบสําหรับงานเอกสารและการ บริ หารฐานข้อมูล 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของการบริ หารข้อมูล 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับฐานข้อมูล 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูล 4. มีความรู้ความสามารถในการหาผลรวมในรายการฐานข้อมูล 5. มีความรู้ความสามารถในการสร้าง Group 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถเรี ยงลําดับข้อมูลได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดเลือกข้อมูลได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถค้นหาเรคอร์ดได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถลบเรคอร์ดได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถหาผลรวมในรายการฐานข้อมูลได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถคัดเลือกข้อมูลด้วย AutoFilter ได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถกําหนดเงื่อนไขการคัดเลือกข้อมูลได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้าง Group ของข้อมูลได้


112 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน (สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้ นัก ศึ ก ษาค้น คว้า เกี่ ย วกับ ความหมายของการ บริ หารข้อมูล ฐานข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 2. ค้นคว้าเกี่ยวกับความหมายของการ บริ ห ารข้อ มู ล ฐานข้อ มู ล และการ 3. ร่ ว มสนทนาเกี่ ย วกั บ เรื่ องการบริ หารข้ อ มู ล ที่ มี จัดการฐานข้อมูล ปริ มาณมาก 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน (สั ปดาห์ ละ 180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป (สั ปดาห์ ละ 30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 5. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 6. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 7. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 8. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าเกี่ยวกับความหมายของการบริ หารข้อมูล ฐานข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล


113 ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาตามครู แล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ทําใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 3. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 4. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 5. ผูเ้ รี ยนาสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการสอน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้องแล้วนําส่ งครู ผสู ้ อน 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่ น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ ยวกับหน่ วย การเรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน 2. ผูเ้ รี ยนต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึ กฝนบทเรี ยนอยูเ่ สมอทั้งก่อนและหลังเรี ยน 3. ผูเ้ รี ยนควรฝึ กหัดในการเขียนสัญลักษณ์ของวงจรพร้อมนิยามของวงจรแต่ละชนิด 4. ผูเ้ รี ยนต้องมีความพยายามและมีทศั นคติที่ดีในเนื้อหาบทเรี ยน


114 3. ผูเ้ รี ยนต้องมีความกล้าที่จะถามเมื่อสงสัยทั้งในห้องและนอกห้องเรี ยนกับครู ผสู ้ อน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


115

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


116 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


117

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 9 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย .......... .......... ..........

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อที่ผดิ

1. Field คือ คอลัมน์ที่เป็ นส่ วนหัวในฐานข้อมูล 2. การใส่ ขอ้ มูลลงในฐานข้อมูลสามารถทําได้ไม่จาํ กัดชนิดของข้อมูล 3. การเรี ยงลําดับแบบ Ascending เป็ นการเรี ยงลําดับจากน้อยไปมาก

.......... 4. คลิกปุ่ ม เพื่อเรี ยงข้อมูลจากน้อยไปมาก .......... 5. การกําหนด Field ที่ใช้เรี ยงลําดับ สามารถกําหนดได้ 3 Field .......... 6. AutoFilter ใช้สาํ หรับช่วยในการค้นหาข้อมูลแบบผูใ้ ช้กาํ หนดเอง .......... 7. เมื่อเลือกเงื่อนไขในการค้นหาข้อมูลแบบ Custom...จะเป็ นการแสดงข้อมูลแบบจัดอันดับ


118 .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... ..........

8. การใช้ Filter กรองข้อมูลสามารถกรองข้อมูลได้ทุกประเภทที่อยูใ่ นฐานข้อมูล 9. ต้องการยกเลิกการใช้ Filter เลือก Data>Filter>AutoFilter 10. การคัดเลือกข้อมูลแบบจัดอันดับไม่สามารถกําหนดจํานวนการแสดงของข้อมูลได้ 11. การค้นหา Record โดยการใช้ Form จะแสดงข้อมูลครั้งละ 1 Record เท่านั้น 12. การค้นหา Record โดยการใช้ Form ไม่สามารถกําหนดเงื่อนไขในการค้นหาได้ 13. การแก้ไข Record โดยการใช้ Form สามารถแก้ไขข้อมูลที่ตอ้ งการได้ทนั ที 14. ไม่สามารถใช้ Form ช่วยในการลบ Record ได้ 15. การสร้าง Group คือการหาผลรวมของข้อมูล

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดคือความหมายของคําว่า Record ก. ข้ อมูลทีอ่ ยู่ในแต่ ละแถวของฐานข้ อมูล ข. ข้อมูลที่อยูใ่ นแต่ละคอลัมน์ของฐานข้อมูล ค. การบันทึกข้อมูล ง. การเพิ่มฐานข้อมูล 2. ข้อใดคือความหมายของคําว่า Field ก. คอลัมน์ที่อยูส่ ่ วนหัวของข้อมูล ข. ข้ อมูลที่อยู่ในแต่ ละคอลัมน์ ของฐานข้ อมูล ค. ข้อมูลที่อยูใ่ นแต่ละแถวของฐานข้อมูล ง. การเพิ่มฐานข้อมูล 3. การเรี ยงลําดับข้อมูลจะต้องเลือกใช้คาํ สั่งใด ก. Data>form ข. Data>Filter ค. Data>Sort... ง. Data>Filter>AutoFilter 4. การเรี ยงลําดับข้อมูลแบบ Descending เป็ นการเรี ยงข้อมูลในลักษณะใด ก. เรี ยงข้อมูลเฉพาะตัวอักษร ข. เรียงข้ อมูลจากมากไปน้ อย ค. เรี ยงข้อมูลเฉพาะตัวเลข ง. เรี ยงข้อมูลจากน้อยไปมาก 5. การเรี ยงลําดับข้อมูลสามารถกําหนด Field ที่ใช้ในการเรี ยงลําดับได้กี่ Field ก. 3 Field ข. 4 Field ค. 5 Field ง. 6 Field 6. ปุ่ ม ใช้สาํ หรับสิ่ งใด ก. เรี ยงข้อมูลเฉพาะตัวอักษร ข. เรี ยงข้อมูลเฉพาะภาษาอังกฤษ ค. เรี ยงข้อมูลจากมากไปน้อย ง. เรียงข้ อมูลจากน้ อยไปมาก


119 7. การใช้คาํ สัง่ Data>Filter เพื่อวัตถุประสงค์ใด ก. เพือ่ ใช้ ในการคัดเลือกข้ อมูล ข. ใช้ในการเพิ่มข้อมูล ค. ใช้ในการลบข้อมูลออกจากฐานข้อมูล ง. ใช้ในการบันทึกฐานข้อมูล 8. ข้อใดไม่ใช่การกําหนดเงื่อนไขในการคัดเลือกข้อมูล ก. All ข. Top 10 ค. Custom ง. None 9. ถ้าต้องการกําหนดเงื่อนไขในการคัดเลือกข้อมูลโดยให้แสดงข้อมูลทั้งหมด ต้องเลือกเงื่อนไขใด ก. All ข. Top 10 ค. Custom ง. None 10. ข้อใดไม่สามารถทําได้เมื่อใช้คาํ สั่ง Data>Form ก. สร้าง Record ใหม่ ข. ลบ Record ค. ค้นหา Record ง. คัดลอก Record 11. การใช้คาํ สั่ง Data>Subtotals... เพื่อวัตถุประสงค์ใด ก. ลบข้อมูลทั้งหมด ข. สร้างฐานข้อมูลใหม่ ค. ค้นหาข้อมูลที่ตอ้ งการ ง. หาผลรวมในรายการฐานข้ อมูล 12. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการหาผลรวมของข้อมูล ก. สามารถเลือก Field ที่ตอ้ งการหาผลรวมได้ ข. สามารถเลือกฟังก์ชนั่ ที่ตอ้ งการใช้ในการหาผลรวมได้ ค. สามารถเพิม่ เติมฟังก์ชั่นที่ต้องการในการหาผลรวมได้ ง. สามารถยกเลิกการหาผลรวมได้ 13. ข้อใดคือประโยชน์ของการสร้าง Group ข้อมูล ก. ข้อมูลเป็ นระเบียบมากขึ้น ข. รวมข้อมูลที่สาํ คัญไว้ดว้ ยกัน ค. จัดระเบียบการแสดงผลดีขนึ้ ง. ป้ องกันไม่ให้บุคคลอื่นทราบข้อมูล 14. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการสร้าง Group ก. สามารถสร้าง Group ทาง Rows หรื อ Columns ได้ ข. สามารถสร้าง Group หลายๆ Rows พร้อมกันได้ ค. สามารถสร้ าง Group จาก Columns ทีไ่ ม่ อยู่ติดกันได้ ง. สามารถสร้าง Group ภายใน Group ที่ถูกสร้างไว้แล้วได้


120 15. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการ UnGroup ก. การ UnGroup จะเป็ นการยกเลิก Group ทั้งหมด ข. สามารถเลือก UnGroup เฉพาะบางส่ วนได้ ค. ไม่สามารถ UnGroup ทาง Rows และ Columns พร้อมกันได้ ง. การ UnGroup ต้องมีการระบุเซลล์ที่ตอ้ งการ UnGroup ก่อน


121 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 10 เรื่อง การใช้ งาน Pivot Table สั ปดาห์ ที่ 14 เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ  ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทมากมาย จึงจําเป็ นต้องมีความรู้ เกี่ยวกับโปรแกรมตารางงาน ซึ่ งช่วยให้เราสามารถพิมพ์งานได้อย่างสวยงาม บอกถึงการใช้งาน Pivot Table ความหมายและประโยชน์ของ Pivot Table การจัดรู ปแบบโดยการย้ายตําแหน่งของ Field ซึ่ งทําให้การทํางานมีรูปแบบที่สมบูรณ์เพิม่ มากขึ้น 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)  1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของ Pivot Table 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งาน Pivot Table 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดรู ปแบบโดยการย้ายตําแหน่ง Field 4. มีความรู้ความสามารถในการทํางานบน Pivot Table 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกความหมายและประโยชน์ของ Pivot Table ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้าง Pivot Table ได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถเพิ่มสู ตรคํานวณเข้าไปใน Pivot Table ได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างแผนภูมิโดยใช้ขอ้ มูลจาก Pivot Table ได้


122 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน (30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นกั ศึกษาค้นคว้าความหมายของ Pivot Table การ ใช้งาน Pivot Table และการจัดรู ปแบบโดยการย้าย 2. ค้นคว้าความหมายของ Pivot Table การใช้งาน Pivot Table และการ ตําแหน่ง Field จัด รู ป แบบโดยการย้า ยตํา แหน่ ง 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการใช้งาน Pivot Table Field 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ ประกอบการเรี ยน 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้

5. 6. 7. 8.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท


123 ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าความหมายของ Pivot Table การใช้งาน Pivot Table และการจัดรู ปแบบโดยการย้าย ตําแหน่ง Field ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาตามครู แล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ตั้งใจฟังการอธิ บาย และแนะนําจากครู 3. ทําใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 4. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัดหลังเรี ยน 5. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 6. ผูเ้ รี ยนาสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการสอน 7. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้องแล้วนําส่ งครู ผสู ้ อน 8. กิจกรรมเสนอแนะ


124 1. ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่ น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ ยวกับหน่ วย การเรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน 2. ผูเ้ รี ยนต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึ กฝนบทเรี ยนอยูเ่ สมอทั้งก่อนและหลังเรี ยน 3. ผูเ้ รี ยนต้องมีความกล้าที่จะถามเมื่อสงสัยทั้งในห้องและนอกห้องเรี ยนกับครู ผสู ้ อน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


125

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


126 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


127

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 10 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่ องหมาย หน้าข้อที่ถูก และ หน้าข้อที่ผดิ .......... 1. Pivot Table ไม่สามารถคํานวณข้อมูลต่างๆได้ .......... 2. สามารถออกแบบการแสดงผลของ Pivot Table ได้ .......... 3. Pivot Table เหมาะสําหรับใช้กบั ฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น .......... 4. การสร้าง Pivot Table ไม่จาํ เป็ นต้องกําหนดขอบเขตข้อมูลที่ใช้ .......... 5. เมื่อสร้าง Pivot Table Report เสร็ จแล้ว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้อีก .......... 6. สามารถเพิม่ สู ตรการคํานวณใน Pivot Table ได้ทุกสู ตร .......... 7. Pivot Table สามารถเพิ่ม Field ในภายหลังได้


128 .......... .......... ..........

8. สามารถสร้างกราฟจาก Pivot Table ได้ 9. สามารถสร้าง Group ข้อมูลร่ วมกับ Pivot Table ได้ 10. สามารถสร้าง Pivot Table Report จากข้อมูลภายใน Pivot Table Report ได้

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. คําสัง่ ใดใช้ในการสร้าง Pivot Table ก. Data>PivotTable and PivotChart Report ข. Data>Form ค. Data>Table ง. Data>Sort 2. กรอบโต้ตอบขั้นที่ 1 ของการสร้าง Pivot Table จะแสดงตัวเลือกของอะไร ก. ขอบเขตของข้อมูล ข. การจัดตําแหน่ง Field ค. แผนภูมิ ง. แหล่ งข้ อมูลทีจ่ ะนามาวิเคราะห์ 3. กรอบโต้ตอบขั้นที่ 2 ของการสร้าง Pivot Table จะแสดงตัวเลือกของอะไร ก. การจัดตําแหน่ง Field ข. ขอบเขตของข้ อมูล ค. แผนภูมิ ง. แหล่งข้อมูลที่จะนํามาวิเคราะห์ 4. ในขั้นตอนที่ 4 ของการสร้าง Pivot Table ตัวเลือกใดคือการสร้างแผ่นงานใหม่ ก. External Data Source ข. Another Pivot Table ค. New Worksheet ง. Existing Worksheet

5. Ad Hoc คือข้อใด ก. การหาผลสรุ ป ข. สอบถามเร่ งด่ วน ค. สร้างรายงาน ง. การเตรี ยมข้อมูล 6. รู ปเมาส์ ในการเปลี่ยนตําแหน่งข้อมูล หมายถึงอะไร ก. ข้อมูลผิดพลาด ข. ไม่ สามารถวางข้ อมูลได้ ค. ไม่มีขอ้ มูลดังกล่าว ง. ไม่สามารถจัดรู ปแบบได้ 7. การเพิ่มสู ตรในการคํานวนเลือกคําสั่งใด ก. Pivot Table>Formulas>Caculated Field


129 ข. Pivot Table>Formulas>Caculated Item ค. Pivot Table>Formulas>Solve Order ง. Pivot Table>Formulas>List Formulas 8. Dynamic Chart คือแผนภูมิประเภทใด ก. แผนภูมิค่าคงทีม่ ีการเปลี่ยนแปลงตามข้ อมูล ข. แผนภูมิที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามข้อมูล ค. แผนภูมิที่ไม่สามารถกําหนดหัวข้อเรื่ องได้ ง. แผนภูมิที่ไม่มีค่าแสดงตามแกนต่างๆ


130 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 11 เรื่อง การใช้ งาน Macro สั ปดาห์ ที่ 15 เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ การทํางานโปรแกรมไมโครซอฟท์เอ็กเซล สามารถทํางานได้ตามที่ตอ้ งการ จําเป็ นต้องมี ความรู ้เกี่ยวกับการใช้งาน Macro การสร้างมาโคร การเปลี่ยนหน้าตาที่ปุ่ม การทํางานลักษณะเช่นนี้ ช่วยให้โปรแกรมการทํางานมีระบบและสามารถพัฒนาโปรแกรมต่อไปได้ในอนาคต สะดวกที่เรา สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ เพิม่ มากขึ้น 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของการใช้งาน Macro 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้าง Macro 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ ม 4. มีความรู้ความสามารถในการทํางานการใช้ Macro 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายการใช้งานของ Macro ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้าง Macro ได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกขั้นตอนการสร้าง Macro ได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถบอกขั้นตอนการเรี ยกใช้ Macro ได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายวิธีลดั ในการเลือกใช้ Macro ได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างวิธีลดั ในการเลือกใช้ Macro ได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถเปลี่ยนแปลงปุ่ มต่าง ๆ ของคําสั่ง Macro ได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิ บายขั้นตอนการลบ Macro ได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิ บายขั้นตอนการสร้างปุ่ ม (Botton) ได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถอธิบายการยกเลิกปุ่ มที่สร้างได้


131 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นักศึก ษาค้นคว้าความหมาย การสร้ าง Macro 2. ค้ น คว้ า ความหมาย การสร้ าง และการเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ ม Macro และการเปลี่ยนหน้าตาของ 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องการใช้งาน Macro ปุ่ ม 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าความหมาย การสร้าง Macro และการเปลี่ยนหน้าตาของปุ่ ม


132 ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาตามครู แล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ตั้งใจฟังการอธิ บาย และแนะนําจากครู 3. ทําใบงานและฝึ กหัด 4. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัด 5. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 7. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการสอน 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้องแล้วนําส่ งครู ผสู ้ อน 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่ น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ ยวกับหน่ วย การเรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน 2. ผูเ้ รี ยนต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึ กฝนบทเรี ยนอยูเ่ สมอทั้งก่อนและหลังเรี ยน


133 3. ผูเ้ รี ยนต้องมีความกล้าที่จะถามเมื่อสงสัยทั้งในห้องและนอกห้องเรี ยนกับครู ผสู ้ อน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


134

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


135 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


136

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 11 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อที่ผดิ

.......... 1. การสร้าง Macro มีจุดประสงค์เพื่อใช้งานแทนการทํางานที่ซบั ซ้อน และมีการใช้งานเป็ น ประจํา .......... 2. Macro สร้างและใช้งานได้เฉพาะใน Workbook เดียวเท่านั้น .......... 3. การตั้งชื่ อ Macro ควรเว้นช่องว่างเพื่อให้สะดวกต่อการอ่าน .......... 4. Click mouse ที่ปุ่ม เพื่อจบขั้นตอนการทํางานหลังจากสร้าง Macro เรี ยบร้อยแล้ว .......... 5. เมื่อสร้าง Macro แล้ว จะไม่สามารถลบทิ้งได้ .......... 6. การสร้าง Macro ทําได้โดยไปที่ Tools>Macro>Record New Macro


137 .......... .......... .......... ..........

7. เพื่อความสะดวกในการใช้งานสามารถสร้าง Shortcut key ในการเรี ยกใช้ Macro ได้ 8. วิธียกเลิกปุ่ ม Macro บนแถบเครื่ องมือ คือใช้ Mouse Drag ปุ่ มนั้นออกจากแถบเครื่ องมือ 9. การสร้าง Macro สามารถสร้างเป็ นปุ่ มไว้ใน Worksheet ได้ 10. การบันทึก Macro จะบันทึกเฉพาะการกระทําที่มีผลต่อข้อมูลเท่านั้น

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นวิธีการสร้าง Macro ขึ้นมาใช้งาน ก. Tools>Macro>Macros... ข. Tools>Macro>Record New Macro ค. View>Toolbars>Customize ง. View>Toolbars>Minimize 2. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นการเรี ยก Macro มาใช้งาน ก. Tools>Macro>Macros... ข. Tools>Macro>Record New Macro ค. View>Toolbars>Customize ง. Customize>Modify>Assign Macro 3. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นการกําหนดปุ่ มหน้าจอขึ้นมาใช้งาน ก. Tools>Macro>Macros... ข. Tools>Macro>Record New Macro ค. View>Toolbars>Customize ง. Customize>Modify>Assign Macro 4. ปุ่ มใดที่เมื่อต้องการจบขั้นตอนการบันทึกหลังจากการสร้าง Macro ก. ข. ค. ง. 5. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึงการยกเลิกปุ่ มที่สร้างได้อย่างถูกต้อง ก. Click mouse ที่ปุ่มเครื่ องมือแล้วกด Delete ข. Click mouse ที่ปุ่มเครื่ องมือแล้วกด Insert ค. Click mouse ทีป่ ุ่ มเครื่ องมือแล้ ว Drag ออกจาก Toolbar ง. Click mouse ที่ปุ่มเครื่ องมือแล้ว Close ออก 6. Personal Macro Workbook คืออะไร ก. การจัดเก็บ Macro ไว้ใน Worksheet ข. การจัดเก็บ Macro ให้ ใช้ งานได้ ทุกๆ Workbook ค. การจัดเก็บ Macro ใน Workbook ที่ใช้งานอยูใ่ นปั จจุบนั ง. การจัดเก็บ Macro ใน Workbook ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่อตั โนมัติ


138 7. การกําหนดประเภทของ Workbook ที่ใช้จดั เก็บ Macro แบ่งได้กี่ประเภท ก. 1 ประเภท ข. 2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 8. ข้อใดต่อไปนี้ต้ งั ชื่ อ Macro ได้อย่างถูกต้อง ก. Format_Text ข. 1stMacro ค. Format-Text ง. Form*Text 9. หากต้องการแก้ไขการทํางานของ Macro ที่สร้างมาแล้ว ต้องทําอย่างไร ก. ไม่สามารถทําได้ ข. ต้ องทาการบันทึกใหม่ อกี ครั้ง ค. Click mouse ด้านขวาแล้วเลือก Edit ง. เลือกเมนู Tools>Macro>Macros 10. คียล์ ดั ที่เรี ยกใช้งาน Macro คือ ก. Alt+F8 ข. Alt+F11 ค. Ctrt+Shift+B ง. Ctrl+Shift+Z


139 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน หน่ วยที่ 12 เรื่อง คุณสมบัติด้านอินเทอร์ เน็ตในเอ็กเซล

รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. สั ปดาห์ ที่ 16 เวลา 4 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ มีบทบาทมากมาย โดยเฉพาะการทํางานบน ระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ซึ่งเป็ นระบบที่ทนั สมัยที่สุด จึงจําเป็ นต้องรู้ถึงคุณสมบัติดา้ น อินเทอร์ เน็ตในเอ็กเซล การสร้าง Link เชื่อมโยงสู่ อินเทอร์ เน็ต การสร้างเว็บเพจจากข้อมูลในเอ็ก เซล เพื่อเผยแพร่ ผา่ นอินเทอร์ เน็ต ทําให้การทํางานมีประสิ ทธิภาพ ทันสมัย ติดต่อสื่ อสารได้ทุกที่ที่ ต้องการ 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง) 1. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายระบบอินเทอร์เน็ต 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของอินเทอร์ เน็ต 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้าง Link เชื่อมโยงสู่ อินเทอร์เน็ต 4. มีความรู้ความสามารถในการสร้างเว็บเพจจากข้อมูลในโปรแกรมเอ็กเซล เพื่อเผยแพร่ ผา่ นอินเทอร์เน็ต 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถ Link เชื่ อมโยงกับข้อมูลหน้าอื่น ๆ ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้าง Link เชื่อมโยงกับเว็บไซด์บนอินเทอร์ เน็ตได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างเว็บเพจบนอินเทอร์เน็ตจากข้อมูลในเอ็กเซลได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถประยุกต์ใช้คุณสมบัติดา้ นอินเทอร์ เน็ตในเอ็กเซลได้


140 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน(30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้ นั ก ศึ ก ษาค้น คว้า ความหมาย คุ ณ สมบัติ ข อง อิ น เทอร์ เ น็ ต และการสร้ า งลิ ง ค์ เ ชื่ อ มโยงสู่ โ ลก 2. ค้นคว้าความหมาย คุ ณสมบัติของ อิ น เทอร์ เ น็ ต และการสร้ า งลิ ง ค์ อินเทอร์เน็ตในเอ็กเซล เชื่ อมโยงสู่ โลกอินเทอร์ เน็ ตในเอ็ก 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องคุณสมบัติดา้ นอินเทอร์ เน็ต เซล ในเอ็กเซล 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิ ใน แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป(30 นาที) 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ ประกอบการเรี ยน 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้

1. 2. 3. 4.

ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม ซักถาม รับการประเมิน

1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป สาระสําคัญ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท


141 ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าความหมาย คุณสมบัติของอินเทอร์ เน็ตและการสร้างลิงค์เชื่ อมโยงสู่ โลกอินเทอร์ เน็ต ในเอ็กเซล ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาตามครู แล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ตั้งใจฟังการอธิ บาย และแนะนําจากครู 3. ทําใบงานและฝึ กหัด 4. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัด 5. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 7. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการสอน 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้องแล้วนําส่ งครู ผสู ้ อน 8. กิจกรรมเสนอแนะ


142 1. ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่ น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ ยวกับหน่ วย การเรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน 2. ผูเ้ รี ยนต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึ กฝนบทเรี ยนอยูเ่ สมอทั้งก่อนและหลังเรี ยน 3. ผูเ้ รี ยนต้องมีความกล้าที่จะถามเมื่อสงสัยทั้งในห้องและนอกห้องเรี ยนกับครู ผสู ้ อน

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


143

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


144 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


145

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด หน่ วยที่ 12 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก

และ หน้ าข้ อที่ผดิ

.......... 1. โปรแกรม Excel สามารถสร้าง Link เพื่อเชื่อมโยงไปยัง Workbook หน้าอื่นๆได้ .......... 2. Excel ไม่สามารถสร้าง link เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตได้ ..........

3. หากต้องการสร้าง Link เชื่อมโยงข้อมูล ต้องคลิกเมาส์ที่

..........

4. การกําหนดตําแหน่งเชื่อมโยงข้อมูลให้กาํ หนดที่ Link to Files or URL:

.......... 5. ไอคอน มีชื่อว่า Map .......... 6. เมื่อต้องการ Link เชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ให้ดบั เบิ้ลคลิกที่เซลล์ Link


146 .......... 7. ถ้าต้องการสร้าง Link เชื่อมโยงไปยัง Workbook หน้าอื่นๆ ต้องแปลงข้อมูลให้เป็ นเว็บเพจ ก่อน .......... 8. Web Browser หมายถึง ผูใ้ ห้บริ การอินเทอร์เน็ต .......... 9. Web Page หมายถึง ผูใ้ ช้บริ การอินเทอร์ เน็ต .........

10. การแปลงข้อมูลให้เป็ นเอกสาร HTML ต้องมีการเลือกข้อมูลก่อนใช้คาํ สั่ง Save as HTML

ตอนที่ 2 จงทาเครื่องหมาย ล้ อมรอบข้ อทีถ่ ูกต้ อง 1. ข้อใดไม่ใช่ข้ นั ตอนวิธีการสร้าง Link เชื่อมโยงข้อมูล ก. Click Mouse เลือกเซลล์ที่ตอ้ งการสร้าง ข. กําหนดตําแหน่งเชื่อมโยงข้อมูล ค. กาหนดขอบเขตของข้ อมูล ง. Click Mouse ปุ่ ม 2. ข้อใดคือคียล์ ดั ที่ใช้เรี ยก Hyperlink ในการสร้าง Link ก. Ctrl+k ข. Ctrl+l ค. Ctrl+s ง. Ctrl+t 3. คุณสมบัติทางด้านอินเทอร์เน็ตของโปรแกรม Excel มีความสามารถทางด้านใด ก. สร้างรู ป 3 มิติ ข. สร้าง Web Board ค. สร้างฐานข้อมูล ง. สร้ าง Web Page 4. หากต้องการเชื่อมโยง Workbook อื่นๆให้กาํ หนดตําแหน่งอย่างไร ก. D:\Workbook.xls ข. Workbook.exe ค. D:\Workbook.exe ง. Workbook.xls 5. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่โปรแกรม Web Browser ก. Internet Exploer ข. Netscape ค. Opera ง. MS front page 6. การนําข้อมูลจาก Excel แปลงเป็ น Web Page ต้องทําการ Save แบบใด ก. Save ข. Save As ค. Save As HTML ง. Save Workspace 7. ข้อใดหมายถึงขอบเขตของข้อมูลที่ระยะ A1-F13 ก. “$A$1:$F$13” ข. $A$1:$f#13” ค. A$1:F$13 ง. “A$1:F$13” 8. ข้อใดเป็ นโปรแกรม Web Browser ของบริ ษทั Microsoft


147 ก. Internet Exploer ข. Netscape ค. Opera ง. MS front page 9. เมื่อเลื่อน Cursor ไปอยูเ่ หนือ Link ตัวชี้จะเปลี่ยนเป็ นรู ปใด ก. ค. 10. HTML มีคาํ ย่อมาจากคําว่าอะไร ก. Hyper Text Mark Language ค. Hyper Text Markup Language

ข. ง. ข. Hyper Text Marker Language ง. Hyper Text Manager Language


148 แผนจัดการเรี ยนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ชั้น ปวช. หน่ วยที่ 13 เรื่อง ลูกเล่ นในเอ็กเซล สั ปดาห์ ที่ 17 เวลา 4 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ  ในปั จจุบนั นี้การทํางานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สามารถกระทําได้ในหลาย ๆ รู ปแบบ โปรแกรมเอ็กเซล สามารถทําได้เนื่องจากมีลูกเล่นมากมาย เช่น การป้ องกันข้อมูล การบันทึกข้อมูล โดยอัตโนมัติ การใช้ AutoFill การสร้าง Custom List การแปลงเอ็กเซลให้ใช้ได้หลายรุ่ น การเปิ ด ข้อมูลจากโปรแกรมชนิดอื่นโดยใช้ เอ็กเซล การนําข้อมูลไปใช้กบั โปรแกรมอื่น ซึ่งทําให้การ ทํางานมีรูปแบบที่พฒั นาเพิ่มมากขึ้น 2. จุดประสงค์ การเรียนรู้ 2.1 จุดประสงค์ ทวั่ ไป (จุดประสงค์ นาทาง)  . มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับลูกเล่นในเอ็กเซล 2. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้ องกันข้อมูล 3. มีความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล 4. มีความรู ้ความสามารถในการใช้งานกับโปรแกรมเอ็กเซลรุ่ นต่าง ๆ 5. มีความรู ้ความสามารถในการใช้งานลูกเล่นต่าง ๆ ในเอ็กเซล 2.2 จุดประสงค์ เชิ งพฤติกรรม (จุดประสงค์ ปลายทาง) 1. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ องกันข้อมูลในแบบ Protect Sheet ได้ 2. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ องกันข้อมูลในแบบ Protect Workbook ได้ 3. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ องกันข้อมูลในแบบ Protect and Share Workbook ได้ 4. ผูเ้ รี ยนสามารถป้ องกันข้อมูลก่อนการบันทึกได้ 5. ผูเ้ รี ยนสามารถยกเลิกป้ องกันข้อมูลได้ 6. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้การ Save อัตโนมัติได้ 7. ผูเ้ รี ยนสามารถสร้าง List ของ AutoFill ได้ 8. ผูเ้ รี ยนสามารถทํางานกับเอ็กเซลหลายรุ่ นได้ 9. ผูเ้ รี ยนสามารถใช้เอ็กเซล ดึงข้อมูลจากโปรแกรมอื่นได้ 10. ผูเ้ รี ยนสามารถนําไฟล์ขอ้ มูลเอ็กเซล ไปใช้กบั โปรแกรมอื่นได้


149 4. กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมครู กิจกรรมผู้เรียน ขั้นนาเข้ าสู่ บทเรียน( 30 นาที) 1. ให้ ค วามร่ วมมื อ กั บ ครู ใ นก าร 1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาที่เข้าเรี ยน ตรวจสอบ 2. ให้นัก ศึ กษาค้นคว้าเกี่ ยวกับลู ก เล่ นในเอ็กเซล การ 2. ค้นคว้า เกี่ ย วกับ ลู ก เล่ นในเอ็ก เซล ป้ องกันข้อมูลและการบันทึกข้อมูล การป้ องกันข้อ มู ล และการบัน ทึ ก 3. ร่ วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ องลูกเล่นในเอ็กเซล ข้อมูล 3. ร่ วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ขั้นดาเนินการสอน(180 นาที) 1. ฟัง ทําความเข้าใจและซักถาม 1. บอกจุดประสงค์การเรี ยน 2. บรรยาย อธิ บาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฎิ บตั ิใน 2. ทําความเข้าใจและปฏิบตั ิตาม แต่ ละหัวข้อการเรื ย นและให้นักศึ กษาปฎิ บตั ิ ไ ป 3. ซักถาม 4. รับการประเมิน พร้อมกัน 3. ให้คาํ แนะนํา 4. ประเมินพฤติกรรมรายบุคคลโดยอาจารย์จะซักถาม ในแต่ละบุคคล ขั้นสรุ ป( 30 นาที) 1. ครู และนั ก เรี ยนร่ วมกั น สรุ ป 1. ครู และนักเรี ยนร่ วมกันสรุ ปสาระสําคัญ สาระสําคัญ 2. เปิ ดโอกาสให้นกั เรี ยนซักถามข้อสงสัย 3. ครู แนะนําให้ผเู้ รี ยน ไปหัดทําและศึกษาจากหนังสื อ 2. นักเรี ยนสอบถามข้อสงสัย 3. ฟังและจดบันทึก ประกอบการเรี ยน 4. ทําแบบทดสอบท้ายบท 4. ทดสอบหลังเรี ยน

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ค้นคว้าเกี่ยวกับลูกเล่นในเอ็กเซล การป้ องกันข้อมูลและการบันทึกข้อมูล


150 ขณะเรียน 1. ผูเ้ รี ยนร่ วมกันศึกษาเนื้อหาตามครู แล้วตอบคําถามและแสดงความคิดเห็น 2. ตั้งใจฟังการอธิ บาย และแนะนําจากครู 3. ทําใบงานและฝึ กหัด 4. ร่ วมกันเฉลยใบงานและแบบฝึ กหัด 5. จดบันทึก เทคนิค แนวการที่เป็ นประโยชน์ต่อผูเ้ รี ยน จากข้อแนะนําของครู ผสู ้ อน 6. ผูเ้ รี ยนซักถามในหัวข้อที่สงสัยในเนื้อหาการเรี ยนรู ้ 7. ผูเ้ รี ยนสรุ ปความรู้ที่ได้จากการเรี ยนการสอน 6. สื่ อการเรียนการสอน 1. อ. สุ รชัย พิมพ์สาลี,อ. อัมริ นทร์เพ็ชรกุล. หนังสื อการใช้โปรแกรมตารางงาน 2. แฟ้ มสะสมผลงาน 3. ใบความรู ้ประจําหน่วย 4. เครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ 5. แผ่นใสและเครื่ องฉายภาพข้ามศีรษะ 6. ซีดีสื่อการสอน 7. วัดผลประเมินผล 1. ผูเ้ รี ยนปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมายเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนด 2. ตอบคําถามและสรุ ปผลงานได้อย่างถูกต้อง 3. ทําแบบฝึ กหัดหลังเรี ยนเสร็ จทันเวลาที่กาํ หนดและถูกต้อง 4. สนใจกระตือรื อร้นในการเรี ยนรู้ ตอบคําถาม สรุ ปสาระการเรี ยนรู้ และกล้าแสดงความ คิดเห็น 5. มีความพยายามปรับปรุ งแก้ไขใบงานและแบบฝึ กหัดให้ถูกต้องแล้วนําส่ งครู ผสู ้ อน 8. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ถ้าผูเ้ รี ยนมีการเตรี ยมตัวในการเรี ยนที่ดี เช่ น อ่าน และทําการศึกษาหนังสื อเกี่ ยวกับหน่ วย การเรี ยนมากก่อน ถึงชัว่ โมงเรี ยน ผูเ้ รี ยน จะสามารถเรี ยน และทํากิจกรรมต่าง ๆ ที่ครู ผสู ้ อนมอบหมาย ได้อย่างมีความสุ ข และเกิดความชอบ และสนุกกับการเรี ยนในชั้นเรี ยน 2. ผูเ้ รี ยนต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึ กฝนบทเรี ยนอยูเ่ สมอทั้งก่อนและหลังเรี ยน 3. ผูเ้ รี ยนต้องมีความกล้าที่จะถามเมื่อสงสัยทั้งในห้องและนอกห้องเรี ยนกับครู ผสู ้ อน


151

เกณฑ์การประเมินผล วัดผลสัมฤทธิ์จากแบบประเมินผลการเรี ยนรู ้ ร้อยละ 80-100 ร้อยละ 70-79 ร้อยละ 60-69 ร้อยละ 50-59 ตํ่ากว่าร้อยละ 50

หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง หมายถึง

ผลการเรี ยนดีมาก ผลการเรี ยนดี ผลการเรี ยนปานกลาง ผลการเรี ยนผ่านเกณฑ์ ผลการเรี ยนไม่ผา่ นเกณฑ์

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 8-10 คะแนน 5-7 คะแนน ตํ่ากว่า 5 คะแนน


152

แบบและเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล คําชี้แจง ให้ผปู้ ระเมินขีดเครื่ องหมายถูก ในช่องพฤติกรรมที่คาดหวังให้เกิดกับนักเรี ยน เกณฑ์ การตัดสิ น 2 1 0

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมในระดับแบบสมํ่าเสมอ มีพฤติกรรมในระดับผ่านเกณฑ์ มีพฤติกรรมในระดับไม่ผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์ การประเมิน 8 - 10 5-7 ตํ่ากว่า 5

คะแนน คะแนน คะแนน

หมายถึง หมายถึง หมายถึง

มีพฤติกรรมดี มีพฤติกรรมพอใช้ มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุ ง

พฤติกรรมของนักเรียน

เลข ชื่อ – สกุล ที่ ผูร้ ับการ ประเมิน 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ความมีวนิ ยั ความ มนุษย์ ขยันหมัน่ ความ รับผิดชอบ สัมพันธ์ เพียร รอบคอบ รวม 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20


153 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 ผูป้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

บันทึกหลังการสอน (ปัญหาและข้ อเสนอแนะ) ผลการใช้แผนการสอน

ผลการเรี ยนของนักเรี ยน


154

ผลการสอนของครู

เฉลยแบบฝึ กหัด บทที่ 13 ตอนที่ 1 จงใส่ เครื่องหมาย

หน้ าข้ อทีถ่ ูก และ

หน้ าข้ อที่ผดิ

.......... 1. การเลือกทําการป้ องกันข้อมูลให้คลิกที่ Tools>Share Workbook .......... 2. เมื่อใช้คาํ สั่งการป้ องกันข้อมูล การป้ อนรหัสผ่านทุกครั้งจะป้ อนรหัส 2 ครั้งเพื่อยืนยัน .......... 3. การป้ องกันข้อมูลแบบ Protect Sheet เราสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Sheet นั้นได้ ......... 4. การเรี ยกใช้งานใน Sheet แบบการป้ องกันข้อมูล ก่อนทําการบันทึกจะต้องป้ อนรหัสผ่าน ก่อนการใช้งาน .......... 5. การยกเลิกการป้ องกันข้อมูลแบบ Protect Sheet ให้คลิกที่ Unprotect Workbook .......... 6. การบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติจะต้อง Add AutoSave ก่อนโดยคลิกที่ Add-Ins


155 .......... 7. วิธีใช้ AutoFill โดยการ Drag mouse + กดปุ่ ม Alt ........ 8. การแปลง Excel ให้สามารถใช้กบั Excel อีกหลายรุ่ น ทําได้โดยก่อนการบันทึกให้เลือก ชนิดไฟล์เป็ น Microsoft Excel 5.0/95 Workbook .......... 9. Excel ไม่สามารถเปิ ดข้อมูลจากโปรแกรมประเภท dBase ได้ .........

10. ก่อนทําการบันทึกให้สามารถใช้ในโปรแกรมชนิ ดอื่นได้ ต้องเปลี่ยนชนิดไฟล์ก่อน


156

ภาคผนวก รู ปแบบการประเมินผลให้ คะแนน กิจกรรมการเรี ยนรู้ ทุกหน่ วยการเรียน


157 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดับชั้น ปวช. สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ วิทยาลัย (ผู้เรี ยนประเมินตนเอง) สอนโดย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้ อประเมิน 1. การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. มีความรับผิดชอบใฝ่ ดีใฝ่ รู้ 3. สนใจปฏิบตั ิงานที่มอบหมายด้วยความกระตือรื อร้น 4. สะอาดเป็ นระเบียบและมีความรอบคอบในการทํางาน 5. ซื่อสัตย์ เสี ยสละ และมีน้ าํ ใจ 6. รู้หน้าที่และตระหนักในความพอเพียงตามศักยภาพของการเป็ นนักเรี ยนนักศึกษา ............................................................................................................................................................. รู ปแบบการประเมินให้ คะแนน 5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุ ง , 1 = ร่ วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หัวข้อประเมิน 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงชื่อผูป้ ระเมิน เลขที่ ชื่อ – สกุล (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 5 ข้ อคิดเห็นจากผู้ประเมิน ……………………………………………………………………………………………………….… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (……………………………) วันที่…………เดือน……………ปี พ.ศ.………


158 แบบประเมินสาระการเรียนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดับชั้น ปวช.สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ วิทยาลัย (ผู้เรี ยนประเมินตนเอง) สอนโดย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้ อประเมิน 1. รู ้ความหมายและความสําคัญของโปรแกรมตารางงาน

2. มีทกั ษะในการป้ อนข้อมูล จัดรู ปแบบการแสดงผลข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล 3. รู้หลักเกณฑ์ในการนําข้อมูลมาทําการแก้ไข ปรับปรุ งได้ 4. มีทกั ษะในการสร้างสู ตรและฟังก์ชนั ในการคํานวณ 5. เข้าใจกระบวนการนําข้อมูลมาทําการคํานวณตลอดจนทํารายงานในรู ปของแผนภูมิชนิดต่างๆ 6. รู้หลักการนําข้อมูลในแฟ้ มข้อมูลออกทางเครื่ องพิมพ์ 7. มีกิจนิสัยและส่ งเสริ มคุณธรรม จริ ยธรรม ค่านิยมที่ดี ในการใช้คอมพิวเตอร์ ………………………………………………………………………………………………………. รู ปแบบการประเมินให้ คะแนน 5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุ ง , 1 = ร่ วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หัวข้อประเมิน เลขที่ ชื่อ – สกุล 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงชื่อผูป้ ระเมิน (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 ข้ อคิดเห็นจากผู้ประเมิน ……………………………………………………………………………………………………….… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (……………………………) วันที่…………เดือน……………ปี พ.ศ.………


159 แบบประเมินคุณธรรมจริยธรรม วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดับชั้น ปวช. สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ วิทยาลัย (ผู้สอนประเมินผู้เรียน) สอนโดย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้ อประเมิน 1. การปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของสถานศึกษา 2. มีความรับผิดชอบใฝ่ ดีใฝ่ รู้ 3. สนใจปฏิบตั ิงานที่มอบหมายด้วยความกระตือรื อร้น 4. สะอาดเป็ นระเบียบและมีความรอบคอบในการทํางาน 5. ซื่อสัตย์ เสี ยสละ และมีน้ าํ ใจ 6. รู้หน้าที่และตระหนักในความพอเพียงตามศักยภาพของการเป็ นนักเรี ยนนักศึกษา ............................................................................................................................................................. รู ปแบบการประเมินให้ คะแนน 5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุ ง , 1 = ร่ วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หัวข้อประเมิน 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม เลขที่ ชื่อ – สกุล หมายเหตุ (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 4 ข้ อคิดเห็นจากผู้ประเมิน ……………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (……………………………) วันที่…………เดือน……………ปี พ.ศ.………


160 แบบประเมินสาระการเรียนรู้ วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา 2201-2404 ภาคเรียนที่ …….. ปี การศึกษา ………. ระดับชั้น ปวช. สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ วิทยาลัย (ผู้สอนประเมินผู้เรียน) สอนโดย --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หัวข้ อประเมิน 1. รู ้ความหมายและความสําคัญของโปรแกรมตารางงาน

2. มีทกั ษะในการป้ อนข้อมูล จัดรู ปแบบการแสดงผลข้อมูล และจัดเก็บข้อมูล 3. รู ้หลักเกณฑ์ในการนําข้อมูลมาทําการแก้ไข ปรับปรุ งได้ 4. มีทกั ษะในการสร้างสู ตรและฟังก์ชนั ในการคํานวณ 5. เข้าใจกระบวนการนําข้อมูลมาทําการคํานวณตลอดจนทํารายงานในรู ปของแผนภูมิชนิดต่างๆ 6. รู้หลักการนําข้อมูลในแฟ้ มข้อมูลออกทางเครื่ องพิมพ์ 7. มีกิจนิสัยและส่ งเสริ มคุณธรรม จริ ยธรรม ค่านิยมที่ดี ในการใช้คอมพิวเตอร์ ………………………………………………………………………………………………………. รู ปแบบการประเมินให้ คะแนน 5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุ ง , 1 = ร่ วมกิจกรรม ,0 = ไม่ร่วมกิจกรรม หัวข้อประเมิน เลขที่ ชื่อ – สกุล หมายเหตุ 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม (5) (5) (5) (5) (5) (5) คะแนน 1 2 3 ข้ อคิดเห็นจากผู้ประเมิน ……………………………………………………………………………………………………….… ลงชื่อ...............................................ผู้ประเมิน (……………………………) วันที่…………เดือน……………ปี พ.ศ.………


161 แบบสอบถามความพึงพอใจ/ความคิดเห็นต่ อสื่ อการสอน วิชา การใช้ โปรแกรมตารางงาน ประจาภาคเรียนที่ ปี การศึกษา ระดับ ปวช. สาขางานคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ วิทยาลัย โดย ................................................................... เพื่อทราบผลการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้และการใช้สื่อการสอนวิชา การใช้โปรแกรมตารางงาน ซึ่ งจะเป็ นประโยชน์อย่างมากต่อการปรับปรุ งและพัฒนาให้มีประสิ ทธิ ภาพต่อผูใ้ ช้และผูเ้ รี ยนมากยิ่งขึ้น ในการดําเนินกิจกรรมการเรี ยนรู ้ต่อไป ความหมายของระดับความคิดเห็น 4 หมายถึง ระดับความคิดเห็น ดีมาก 3 หมายถึง ระดับความคิดเห็น ดี 2 หมายถึง ระดับความคิดเห็น น้อย 1 หมายถึง ระดับความคิดเห็น น้อยมาก ตอนที่ 1 โปรดกาเครื่ องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน 1. ข้อมูลทัว่ ไปเกี่ยวกับผูต้ อบแบบสอบถาม 1.1 สถานภาพ  นักเรี ยน- นักศึกษา  ครู ผสู้ อน  อื่น ๆ…………………… 1.2 ระดับกากรศึกษา  ปวช.หรื อเทียบเท่า  ปวส.  ปริ ญญาตรี  สู งกว่าปริ ญญาตรี 2. ความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่ อการสอนและผลที่ได้จากการใช้สื่อ ระดับความ รายการ คิดเห็น 4 3 2 1 2.1 ความคิดเห็นด้ านเนื้อหาสาระใบงานและ แบบฝึ กหัด 2.1.1 เนื้อหาสาระครอบคลุมตามหลักสู ตรการอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ 2.1.2 สื่ อการสอนนี้ช่วยให้ ฟื้นฟูความรู้เดิมและเกิดความเชื่อมัน่ มากน้ อยเพียงใด 2.1.3 สื่ อการสอนนี้ช่วยให้ เกิดความรู้ใหม่ เพิม่ ขึ้นเพียงใด 2.1.4 สื่ อการสอนนี้ทาให้ นักเรี ยนมีความรู้ความเข้ าใจเพิม่ ขึ้นเพียงใด 2.1.5 ช่ วยเพิม่ ให้ เกิดกระบวนการคิดเพือ่ นาไปประยุกต์ ใช้ เพียงใด


162 2.1.6 ช่ วยให้ ผ้ ใู ช้ ความเชื่ อมั่นในตนเองในหลักการทีถ่ กู ต้ องเพียงใด 2.1.7 ช่ วยเสริมสร้ างให้ เกิดความคิดรวบยอดนา ไปประยุกต์ ใช้ เพียงใด 2.1.8 การเรียงลาดับความสาคัญของเนื้อหาสาระมีความเหมาะสมเพียงใด รายการ

ระดับความ คิดเห็น 4 3 2 1

2.1.9 กิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนเหมาะสม เพียงใด 2.1.10 ใบงาน/แบบฝึ กหัดมีความเหมาะสมเพียงใด 2.2 ด้ านการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู้ของผู้สอน 2.2.1 ครูผ้ สู อนมีความรู้ความสามารถในการสอนเพียงใด 2.2.2 ครูผ้ สู อนมีเทคนิคในการสอนมากน้ อยเพียงใด 2.2.3 ครูผ้ สู อนมีการบูรณาการสอนและการจัดกิจกรรมการสอนน่ าสนใจเพียงใด 2.2.4 ครูผ้ สู อนมีการเฉลยแบบฝึ กหัดหลังบทเรี ยนในชั้ นเรี ยนเพือ่ ให้ ผ้ เู รี ยนได้ รั บรู้และปรั บปรุงข้ อผิดพลาดทุกหน่ วยการเรี ยนมากน้ อย เพียงใด 2.2.5 ครูผ้ สู อนมีการแทรกและอบรมคุณธรรมจริ ยธรรมให้ แก่ นักเรี ยนใน การจัดกิจกรรมการสอนในระดับใด 2.3 ความคิดเห็นด้ านอื่น ๆ 2.3.1 สานวนภาษาทีใ่ ช้ ง่ายต่ อความเข้ าใจเพียงใด 2.3.2 รูปแบบเหมาะสมเพียงใด 2.3.3 มีความถูกต้ องชัดเจนมากน้ อยเพียงใด 2.3.4 ผู้สร้ างสื่ อนี้มีความรู้ ทักษะ และเทคนิคในการถ่ ายทอดอยู่ ในระดับใด 2.3.5 ความพึงพอใจของท่ านจากการใช้ สื่อนี้อยู่ใน ระดับใด ตอนที่ 2 1. ผูเ้ รี ยนมีความคิดเห็นอย่างไรในการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ของครู ผสู้ อนความรู้ความสามารถในการ สร้างและใช้สื่อการสอนรวมทั้งบูรณาการจัดกิจกรรมการเรี ยนรู ้ 1.1 ข้อดีและ/หรื อ ข้อที่ประทับใจ ................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................


163 1.2 ข้อควรปรับปรุ ง ................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 1.3 ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………….................


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.