Children of white

children

of

white

p e s t i l e n c e a

r

t

o

f

p

a

n

d

e

m

i

c

contents PLAGUE - 8 SMALLPOX - 20 CHOLERA - 32 S PA N I S H F LU - 4 4 AIDS - 56 COVID-19 - 68

introduction

ในทุกยุคทุกสมัยมนุษย์เราต้องพบเจอกับภัยพิบัติมากมายไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไว น้ำ�ท่วม สึนามิ แต่หาก พูดถึงภัยที่ร้ายแรงที่สุดหนึ่งในนั้นคง ไม่พน้ ภัยจากโรคระบาด ทีพ ่ ร้อมจะมาสร้างความหวาดกลัว ทำ�ลายชีวติ และเป็นขวากหนามทีค่ อยขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของมุษย์อยูเ่ สมอ โรคละบาดเป็นสิ่งที่อยู่คูกับมนุษย์มาช้านานเพียงแต่อาจจะหลบซ่อน อยู่ตามมุมต่างๆของโลก ณ ช่วงหนึ่ง แต่โดยส่วนมากและคนเรามักจะ หวาดกลัวหรือเลือกที่จะปล่อยปะละเลยสิ่งที่ตนมองไม่เห็นหรือ ไม่เข้าใจ ฉนั้น โครงการนี้จึงได้ตีความโรคระบาดออกมาในรูปแบบของตัวละครที่ สามารถมองเห็นภาพและจับต้องได้ จึง ทำ�ให้เกิดวิธคี ดิ และความเข้าใจใหม่ ทีม่ ตี ่อ โรคต่างๆ มากขึ้น กล่าวคือทำ�ให้โรคต่างๆ เป็นสิง่ ที่สามารถต่อสู้ กับมันได้แต่ก็ไม่ควรที่จะหลงลืมถึงความน่ากลัวของมัน

ข้าพเจ้ามองไปเห็นม้าขาวตนหนึ่ง อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าผู้ขี่ม้านี้ถือธนู เขาได้รับมงกุฏแล้วควบม้าไป อย่างผู้พิชิตที่ตั้งใจออกไปพิชิตศึก

บทความส่วนหน่ึงจากพระคำ�ภีร์ อันกล่าวถึงการมาของคนม้าผู้ทรงม้าขาว

FOUR HORSEMEN OF THE A P O C A LY P S E จ ตุ ร อ า ช า แ ห่ ง วิ บั ติ

ตามตำ � นานกล่ า วว่ า การมาของคนม้ า ทั้ ง สี่ เ ป็ น ดั่ ง จุดสิ้นสุดของมวลมนุษย์ ในยามเมื่อโลกถึง วันพิพากษา ผู้ทรงม้านั้นจะนำ�ภัยพิบัติ มาสู่ผืนพิภบ อันประกอบไปด้วย ผู้ ท รงม้ า ขาวนำ � มา ซึ่ ง โรคระบาด ผู้ ท รงม้ า แดงนำ � มาซึ่ ง สงคราม ผู้ ท รงม้ า ดำ � นำ � มาซึ่ ง ความอดอยาก และ ผู้ ท รงม้ า สี ก ะเลี ย วหรื อ สี เ ขี ย วหม่ น นำ � มาซึ่ ง ความตาย โดยถู ก ปลดผนึ ก ออกมาตามลำ � ดั บ จตุ ร อาชาแห่ ง วิ บั ติ

WHITE HORSE STRIFE ค น ม้ า ข า ว

คนม้าคนแรกที่ถูกปลดผนึก และได้นำ�พาภัยจากโรคระบาด มาสู่ ม วลมนุ ษ ย์ โดยมี ท หารเอกผู้ ทำ � หน้ า ที่ ไ ด้ อ ย่ า ง ยอดเยี่ ย มด้ ว ยกั น 6 ตน อั น ได้ แ ก่ กาฬโรค ไข้ ท รพิ ษ อหิวาตกโรค ไข้หวัดใหญ่สเปน เอดส์ และ โควิด-19

P L A G U E

กาฬโรค กาฬโรค เป็ น โรคที่ มี ส าเหตุ เ กิ ด จากการ ติ ด เชื้ อ แบคที เ รี ย “เยอร์ซิเนีย เปสติส” (Yersinia pestis) โดยมีสัตว์ฟันแทะและหมัด ทีเ่ ป็นพาหะนำ�โรครวมถึง สามารถแพร่ในอากาศ ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรื อ โดยอาหารหรื อ วั ส ดุ ที่ ป นเปื้ อ น โดยตามที่ บั น ทึ ก นั้ น เกิ ด การ ระบาดใหญ่ 3 ครั้งด้วยกัน ครั้งที่ 1 เกิดในยุคกลางตอนต้นในสมัย จักรวรรดิโรมันตะวันออก คริ ส ตวรรษที่ 6 ในระหว่ า ง ปี ค.ศ. 541-542 โดยเหตุ ก ารณ์ นั้ น ถู ก เรี ย ก ว่ า “กาฬโรคแห่ ง จั ส ติ เ นี ย น” (Plague of Justinian) ช่ ว งที่ ก าฬโรคระบาดถึ ง ขี ด สุ ด ชาวคอนสแตนติ โ นเปิ ล ต้ อ ง เสี ย ชี วิ ต อย่ า งน้ อ ยวั น ละ 10,000 คน และผลจากการประเมิ น กาฬโรคแห่งจัสติเนียน ทำ�ให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน ครัง้ ที่ 2 เกิดขึน้ ในช่วง คริสตวรรษที่ 14 -19 คนในสมัยคริสตศตวรรษที่ 14 เรียกการระบาดนีว้ า่ “กาฬโรคครัง้ ใหญ” (Great Plague) โดยเริม่ ต้นจาก ตอนใต้ของประเทศอินเดีย และ ประเทศจีนระบาดไปตลอด เส้นทางสายไหม กระจาย ไปทั่ ว เอเชี ย ยุ โ รป และแอฟริ ก า คาดการว่ า มี ผู้ เ สี ย ชี วิ ต โดยประมาณ 25 ล้านคน เป็นอย่างน้อย ครั้งที่ 3 ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 ซึ่งนับว่าเป็น การระบาดครั้งสุดท้าย เริ่ ม ขึ้ น ที่ ม ณฑลยู น นานประเทศจี น ในช่ ว งประมาณปี ค.ศ. 1855 มีการแพร่ระบาดไปทั่วทุก ทวีปของโลก ทำ�ให้มีผู้เสียชีวิต มากกว่า 12 ล้ า นคน แต่ ใ นเวลาเดี ย วกั น นั้ น วิ ธี การรั ก ษาได้ ถู ก คิ ด ค้ น ขึ้ น รวมถึงวัคซีนต้านทานโรค

8

9

a n o t o m y

o f

p l a g u e

ส่วนกะโหลกและฟันหน้าของหนู และ เขาบนหัวคล้ายเขี้ยวของเห็บหมัด สิ่งมีชีวิต 2 ชนิดนี้ เป็นภาหะหลักของโรค ที่แพร่มาสู่มนุษย์

แขนทั้ง 4 ข้าง ที่เพิ่มขึ้นมาคล้ายกับแมลง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการแพร่เชื้อ ไปทั่วทั้งโลก

ช่วงลำ�ตัวของหมัดหนู หมัดสายพันธุ์หลัก ที่เกาะอยู่บนตัวหนู และเชื่อว่าเป็นที่มา ของการระบาดของเชื้อกาฬโรค

1 2

1 3

1 4

1 5

1 6

1 7

s m a l l p o x

ไข้ทรพิษ มี ก ารระบาดใหญ่ อ ยู่ ห ลายครั​ั้ ง ครั้ ง แรกที่ มี ก ารบั น ทึ ก ไว้ เ กิ ด ขึ้ น ในปี ค.ศ. 1520 โรคฝี ด าษเกิ ด จาก เชื้ อ ไวรั ส วาริ โ อลา (Variola minor) ไม่ มี สั ต ว์ เ ป็ น ภาหะ ในสมั ย ศตวรรษที่ 16 เมื่ อ คนผิ ว ขาวจากตะวั น ตกเดิ น ทาง ไปยั ง โลกใหม่ ใ นเมโสอเมริ ก า ได้ นำ � โรคฝี ด าษไปแพร่ ร ะบาดแก่ คนพื้ น เมื อ งชาวอิ น เดี ย นใน อเมริ ก าใต้ อ ย่ า งรุ น แรง ทหารที่ เ ป็ น โรคฝี ด าษได้ แ พร่ ร ะบาด โรคฝี ด าษ ไปสู่ ช นพื้ น เมื อ ง ทำ � ให้ ช นพื้ น เมื อ งที่ ไ ม่ มี ภู มิ คุ้ ม กั น โรค เลยต้ อ งตายเป็ น จำ � นวนนั บ แสนคน การสู ญ เสี ย ผู้ ค นจำ � นวนมาก เช่ น นี้ มี ส่ ว นทำ � ให้ อ าณาจั ก ร Aztec ล่ ม สลายในเวลาต่ อ มา โรคฝีดาษสามารถแพร่กระจาย ได้ผ่านทางสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อ หรือผ่านทางอากาศเนื่องจากเชื้อคงทนและปรับตัวรับสภาพอากาศ ได้เป็นอย่างดี ด้วยความสามารถในการปรับตัวและการแพร่กระจาย ส่งผลให้ มีผู้เสียชีวิตจากไข้ทรพิษ หรือ โรคฝีดาษ ไม่ต่ำ�กว่า 350 ล้าน

2 0

2 1

a n o t o m y

o f

s m a l l p o x

กะโหลกของมนุษย์ที่งอกเพิ่มขึ้นมา เปรียบได้กับตุ่มของฝีที่ผุดขึ้นตามร่างกาย อันเป็นที่มาของความตาย

เครื่องแต่งกายแบบชนพื้นเมืองอเมริกาแห่ง อาณาจักร Aztec ที่เชื่อกันว่าล่มสลายลง เนื่องจากการระบาดของโรคฝีดาษ และเป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้

2 4

2 5

2 6

2 7

2 8

2 9

c h o l e r a

อหิวาตกโรค อหิ ว าตกโรค (Cholera) คื อ โรคระบาดที่ เ กิ ด จากการติ ด เชื้ อ แบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร จะมีอาการท้องร่วงเป็นน้�ำ และ อาเจียน ทำ � ให้ ร่ า งกายมี อ าการขาดน้ำ � อย่ า งรุ น แรงจนถึ ง ขั้ น เสี ย ชี วิ ต มี พ าหะหลั ก คื อ แมลงวั น โดยเชื้ อ โรคมั ก อยู่ ใ นน้ำ � หรื อ อาหารที่ ปนเปื้อน โดยเชื่อกันว่าแหล่งกำ�เนิด ของอหิวาตกโรคอยู่ในมณฑล “เบงกอล” ในประเทศอิ น เดี ย ที่ ผ่ า นมามี ก ารระบาดใหญ่ ทั่ ว โลก 5 ครั้ ง บางครั้ ง ก็ ไ ปถึ ง ยุ โ รป อเมริ ก า และเข้ า มาในประเทศไทย ซึ่งมักจะมาโดยทางเรือจากปีนัง สิงคโปร์และมณฑลทางภาคใต้ก่อน แล้ ว จึ ง เข้ า มาถึ ง สมุ ท รปราการ เป็ น แห่ ง แรก แล้ ว ลุ ก ลามเข้ า มาใน กรุงเทพมหานครภายหลัง

3 2

3 3

a n o t o m y

o f

c h o l e r a

กะโหลกของมนุษย์ที่หลอมรวมเข้ากับ ใบหน้าของแมลงวัน สิ่งมีชีวิตที่เป็น ภาหะนำ�โรคมาสู่มนุษย์

แขนที่เพิ่มขึ้นมา มีลักษณะเป็นปล้อง เหมือนกับแขนขาของสัตว์จำ�พวกแมลง อย่างแมลงวันแป็นต้น ที่รวมเข้ากับ ช่วงแขนและมือของมนุษย์

ช่วงของลำ�ตัวที่อ้วนท้วม ซึ่งตรงกันข้ามกับ ลักษณะอาการของผูที่ติดเชื้อ ที่จะมีอาการ ขาดน้ำ�และสารอาหารอย่างรุนแรง

3 6

3 7

3 8

3 9

4 0

4 1

s p a n i s h

f l u

ไข้หวัดใหญสเปน เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึ่งที่เกิดการระบาด่ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1918 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศสเปน เป็นการระบาดของไวรัสที่ชื่อว่า ไวรั ส เอช1เอ็ น 1 (H1N1) สามารถแพร่ ก ระจายได้ ผ่ า นการไอหรื อ จาม เหมือนกับไข้หวัดโดยทั่วไป และด้วยเหตุที่ตรงกับช่วงเวลาของ สงครามโลกครั้ ง ที่ 1 ไวรั ส ได้ แ พร่ ไ ปยั ง ค่ า ยทหารที่ ซึ่ ง เป็ น แหล่ ง ที่ อัดแน่นไปด้วยประชากร ส่งผลให้จำ�นวนผู้ติดเชือเพิ่มสูงขึ้นจนเกิน การควบคุม พร้อมกับที่ทรัพยากรลดลงเรื่อยๆ จากการทำ�สงคราม ระบบภูมิคุ้มกันของทหารและประชาชนอ่อนแอลงอย่างมากเนื่องภาวะ ขาดสารอาหารและความเครียดส่งผลให้ร้างไม่สามารถรับมือไวรัสได้ และเสียชีวิตในที่สุด หลังเกิดการระบาดสองระลอกระหว่างปี 1918 และ 1920 ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช1เอ็น1 (H1N1) ค่อย ๆ หายไป และกลาย เป็นสายพันธุท์ ไี่ ม่อนั ตรายมากนักและยังคงแพร่กระจายเป็นประจำ�ทุกปี ผู้คนมากกว่า 50 ล้านคนเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สเปน

4 4

4 5

a n o t o m y

o f

s p a n i s h

f l u

ส่วขเขาของวัวสู้ศึก ถือเป็นสัตว์ประจำ�ชาติของ ประเทศสเปน แสดงถึงความดุดันและร้ายกาจ ของการแพร่ระบาด

เครื่องแต่กายแบบชาวสเปนยุคกลาง แสดงถึงความถานะที่สูงส่งและ มีอำ�นาจเหนือกว่าบุคคลทั่วไป

กีบเท้าและขาหลังของกระทิง เพื่อความว่องไว รุนแรง เปรียบได้กับ การระบาดที่รวดเร็วของโรค

4 8

4 9

5 0

5 1

5 2

5 3

a i d s

เอดส์ ถูกพบระบาดในช่วงปี ค.ศ. 1981 จนถึงปัจจุบันเป็นการแพร่ระบาด ของไวรั ส เอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus – HIV) ซึ่งถ่ายทอด ผ่านสารคัดหลังจากร่างกายหลายชนิด เช่น เลือด น้ำ�อสุจิ น้ำ�หล่อลื่นในช่องครอด หรือแม้แต่น้ำ�นมมารดา สาเหตุ การแพร่เชื้อ ส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์และการใช้ เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือ ส่งผ่านจากแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์ ผลจากการศึกษาย้อนหลัง พบว่ า โรคเอดส์ มี ต้ น กำ � เนิ ด มาจากประเทศแถบแอฟริ ก าตะวั น ตก ในปี ค.ศ.1960 และเชื่อว่าน่าจะมี ต้นตอมาจากลิงในทวีปแอฟริกา เพราะชาวแอฟริกาในบางท้อง ถิน่ นิยมรับประทานเนือ้ ลิง ต่อมาจึงมีการ ติดเชื้อไวรัสจากลิง มาสู่คนและวิวัฒนาการจนกลายเป็นสายพันธุ์ที่ เป็นอันตราย ต่อมนุษย์

5 6

5 7

a n o t o m y

o f

a i d s

ตรงกลางใบหน้าแหวกออกคล้ายคลึงกับ อวัยวะเพศ ของเพศหญิง

ส่วนเขาของแพะ สัตว์ที่ถูกเชื่อว่าเป็นสัตว์ ที่นำ�พากามและราคะจากขุมนรก ขึ้นมาสู่โลกมนุษย์

ร้างกายของมนุษย์เพศหญิง แทนเรื่องราวของ อีฟ ผู้ถูกกล่าวหาว่า ได้นำ�แอปเปิล ไปให้แก่อดัม ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งราคะ

6 0

6 1

6 2

6 3

6 4

6 5

C O V I D - 1 9

โควิด-19 โควิ ด - 19 เป็ น ไวรั ส ที่ มี ชื่ อ ว่ า ไวรั ส โคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่าง ชั ด เจนว่ า มาจากที่ ใ ด แต่ เ ป็ น ไวรั ส ที่ ส ามารถติ ด เชื้ อ ได้ ท้ั ง ในมนุ ษ ย์ และสั ต ว์ ปั จ จุ บั น มี ก ารค้ น พบไวรั ส สายพั น ธุ์ นี้ แ ล้ ว ทั้ ง หมด 6 สายพั น ธุ์ ส่ ว นสายพั น ธุ์ ที่ กำ � ลั ง แพร่ ร ะบาดหนั ก ทั่ ว โลกตอนนี้ เ ป็ น สายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่” และในภายหลังถูก ตัง้ ชือ่ อย่างเป็น ทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) โดยการระบาดนัน้ เริม่ ต้นขึน้ ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2019 โดยพบครั้งแรกในเมือง อู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ในประเทศจี น ไวรั ส มี ก ารแพร่ เ ชื้ อ ระหว่ า งคนในลั ก ษณะเดี ย วกั บ ไข้ ห วั ด ใหญ่ โดยผ่ า นผ่ า นการติ ด เชื้ อ จากละอองเสมหะจากการไอ ส่งผลให้ มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วมากกว่า 116,753,883 คนใน 213 ประเทศและดิ น แดน และ มี ผู้ เ สี ย ชี วิ ต จากโรคระบาดแล้ ว มากกว่ า 2,593,713 คน

6 8

6 9

a n o t o m y

o f

c o v i d - 1 9

บนศรีษะสวมมงกุฎ อันมีที่มาจากชื่อของ Coronavirus ที่แปลว่ามงกุฎในภาษาสเปน และเขี้ยวของค้างคาวที่เชื่อว่าเป็นต้นเหตุของ การระบาดของ COVID-19

ปอดที่ปริออกมาภายนอกร่างกาย แสดงออกถึงความผิดปกติของร่างกาย อันเป็นผลมาจากการติดเชื้อ COVID-19

7 2

7 3

7 4

7 5

7 6

7 7

r e s i n m o d e l c o v i d - 1 9

p a r t s

graphic design illustrator 3D creater fong.saris@gmail.com facebook:Fong Saris