3 minute read

Exness vs Binance เทียบกันชัด ๆ โบรกไหนดีกว่ากัน

การเลือกโบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในก้าวแรกที่สำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือนักลงทุนมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การเลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์เป้าหมายและสไตล์การลงทุนของคุณจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้อย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาเปรียบเทียบสองแพลตฟอร์มชั้นนำในวงการการเงิน: Exness vs Binance เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าโบรกไหนเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากกว่ากัน

การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

Exness เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีชื่อเสียงในด้านสเปรดต่ำ เลเวอเรจสูง และการกำกับดูแลที่เข้มงวด ส่วน Binance เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความหลากหลายของเหรียญและเครื่องมือการลงทุนที่ครอบคลุม แล้วทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ต่างกันอย่างไร? อะไรคือจุดเด่นและจุดด้อย? มาดูการเปรียบเทียบแบบเจาะลึกกันเลย!

1. ภาพรวมของ Exness และ Binance

1.1 Exness: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ชั้นนำ

Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการฟอเร็กซ์และ CFD ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อเดือนที่สูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ Exness ได้รับการยอมรับในด้านความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส โดยมีจุดเด่นดังนี้:

·        การกำกับดูแลที่เข้มงวด: ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส) และ FSA (เซเชลส์)

·        สเปรดต่ำ: เริ่มต้นที่ 0.0 pip สำหรับบัญชี Raw Spread และ Zero Spread

·        เลเวอเรจสูง: สูงสุดถึง 1:ไม่จำกัด สำหรับบางบัญชี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)

·        สินทรัพย์หลากหลาย: รองรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ (มากกว่า 100 คู่เงิน), โลหะมีค่า, ดัชนี, หุ้น และคริปโตบางส่วน

·        แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย: รองรับ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และแอป Exness Trader

1.2 Binance: ผู้นำด้านคริปโตเคอเรนซี

Binance เปิดตัวในปี 2017 และกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันที่สูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์ Binance มีจุดเด่นในด้าน:

·        ความหลากหลายของเหรียญ: รองรับคริปโตมากกว่า 350 เหรียญ รวมถึง Bitcoin, Ethereum, BNB และ altcoin อื่น ๆ

·        ค่าธรรมเนียมต่ำ: เริ่มต้นที่ 0.1% สำหรับการซื้อขายแบบสปอต และลดลงเมื่อใช้ BNB หรือมีปริมาณการซื้อขายสูง

·        ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย: รวมถึงการซื้อขายสปอต, ฟิวเจอร์ส, การ staking, NFT และกระเป๋าเงินคริปโต

·        แพลตฟอร์มที่ครอบคลุม: มีทั้งแอปมือถือ, เว็บแพลตฟอร์ม และ API สำหรับนักพัฒนา

สรุปภาพรวม: Exness เหมาะสำหรับนักเทรดที่สนใจฟอเร็กซ์และ CFD เป็นหลัก ส่วน Binance เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี

2. การเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อย

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เราจะเปรียบเทียบทั้งสองแพลตฟอร์มในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

2.1 ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล

·        Exness: ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA, CySEC และ FSA ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของลูกค้าจะถูกแยกออกจากเงินของบริษัทและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ Exness ยังมีนโยบายป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) เพื่อปกป้องนักเทรดจากความสูญเสียที่เกินเงินฝาก

·        Binance: ในฐานะแพลตฟอร์มคริปโตเคอเรนซี Binance เผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แม้ว่าจะมีการปรับปรุงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การยื่นขอใบอนุญาตในหลายประเทศ แต่การกำกับดูแลยังไม่เข้มงวดเท่ากับ Exness อย่างไรก็ตาม Binance มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) และกองทุน SAFU (Secure Asset Fund for Users) เพื่อคุ้มครองเงินของผู้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

สรุป: Exness มีความได้เปรียบในด้านการกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ ส่วน Binance มีความแข็งแกร่งในด้านความปลอดภัยของระบบ แต่ยังมีความเสี่ยงจากกฎระเบียบที่อาจเปลี่ยนแปลง

2.2 ค่าธรรมเนียมและต้นทุน

·        Exness: มีสเปรดที่แข่งขันได้ โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread และ Zero Spread ซึ่งสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip ค่าคอมมิชชันสำหรับบัญชีบางประเภทอยู่ที่ประมาณ $3.5 ต่อล็อต นอกจากนี้ Exness ยังไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนในหลายช่องทาง เช่น การโอนผ่านธนาคารในประเทศไทยหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์

·        Binance: มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำ โดยเริ่มต้นที่ 0.1% สำหรับการซื้อขายแบบสปอต และลดลงเมื่อใช้ BNB หรือมีปริมาณการซื้อขายสูง ค่าธรรมเนียมการถอนขึ้นอยู่กับประเภทของเหรียญ เช่น การถอน Bitcoin อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ $2-$5 ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลในวงการคริปโต

สรุป: Exness เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการต้นทุนต่ำในการซื้อขายฟอเร็กซ์ ส่วน Binance คุ้มค่าสำหรับการซื้อขายคริปโตในปริมาณมาก

การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

2.3 สินทรัพย์ที่ซื้อขายได้

·        Exness: รองรับการซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมถึง:

·        ฟอเร็กซ์: มากกว่า 100 คู่เงิน เช่น EUR/USD, USD/JPY

·        โลหะมีค่า: ทองคำ, เงิน

·        ดัชนี: เช่น S&P 500, NASDAQ

·        หุ้น: หุ้นสหรัฐฯ และยุโรปบางตัว

·        คริปโต: Bitcoin, Ethereum และเหรียญอื่น ๆ (จำนวนจำกัด)

·        Binance: มีจุดเด่นในด้านความหลากหลายของคริปโตเคอเรนซี โดยรองรับมากกว่า 350 เหรียญ รวมถึงเหรียญยอดนิยมและ altcoin ใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น NFT, สัญญาฟิวเจอร์ส และการ staking

สรุป: หากคุณสนใจคริปโตเคอเรนซีเป็นหลัก Binance มีตัวเลือกที่หลากหลายกว่า แต่ถ้าต้องการซื้อขายฟอเร็กซ์, CFD หรือสินทรัพย์แบบดั้งเดิม Exness จะเหมาะสมกว่า

2.4 แพลตฟอร์มและเครื่องมือ

·        Exness: รองรับ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักเทรดฟอเร็กซ์ทั่วโลกนิยมใช้ มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคครบครัน เช่น อินดิเคเตอร์, กราฟขั้นสูง และ Expert Advisors (EA) นอกจากนี้ยังมีแอป Exness Trader สำหรับการซื้อขายบนมือถือ

·        Binance: มีแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเองทั้งในรูปแบบเว็บและแอปมือถือ รองรับการซื้อขายขั้นสูง เช่น การตั้งคำสั่ง stop-loss, การซื้อขายมาร์จิน และฟิวเจอร์ส Binance ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น TradingView และ API สำหรับนักพัฒนา

สรุป: Exness เหมาะสำหรับนักเทรดที่คุ้นเคยกับ MetaTrader ส่วน Binance มีแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับคริปโตโดยเฉพาะ

3. ประสบการณ์ผู้ใช้และการสนับสนุนลูกค้า

3.1 Exness: การสนับสนุนที่รวดเร็วและหลากหลาย

Exness มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่ให้บริการ 24/7 ในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ผู้ใช้สามารถติดต่อผ่านแชทสด, อีเมล หรือโทรศัพท์ นอกจากนี้ Exness ยังมีศูนย์การเรียนรู้ที่ครอบคลุม เช่น บทความ, วิดีโอการสอน และสัมมนาออนไลน์สำหรับนักเทรดทุกระดับ

3.2 Binance: การสนับสนุนที่ครอบคลุมแต่บางครั้งล่าช้า

Binance มีศูนย์ช่วยเหลือที่ครอบคลุมและให้บริการในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมาก การตอบกลับผ่านแชทสดอาจล่าช้าในช่วงที่มีการใช้งานสูง Binance ยังมีชุมชนออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เช่น ฟอรัมและกลุ่มโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ได้

สรุป: Exness มีความได้เปรียบในด้านการสนับสนุนที่รวดเร็ว ส่วน Binance เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทรัพยากรที่หลากหลายและสามารถรอการตอบกลับได้

4. เหมาะกับใคร?

4.1 Exness เหมาะกับ:

·        นักเทรดฟอเร็กซ์และ CFD ที่ต้องการสเปรดต่ำและเลเวอเรจสูง

·        ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล

·        มือใหม่ที่ต้องการแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีทรัพยากรการเรียนรู้

·        นักลงทุนที่ต้องการซื้อขายสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น ฟอเร็กซ์, ทองคำ และดัชนี

4.2 Binance เหมาะกับ:

·        นักลงทุนคริปโตเคอเรนซีที่ต้องการความหลากหลายของเหรียญ

·        ผู้ที่สนใจการซื้อขายฟิวเจอร์ส, การ staking หรือ NFT

·        นักเทรดที่ยอมรับความผันผวนของตลาดคริปโต

·        ผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการเครื่องมือขั้นสูง เช่น การซื้อขายมาร์จิน

5. ข้อควรพิจารณาก่อนเลือก

การเลือกระหว่าง Exness และ Binance ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของคุณ:

·        เป้าหมายการลงทุน: หากคุณสนใจฟอเร็กซ์และ CFD Exness เป็นตัวเลือกที่เหนือกว่า ด้วยสเปรดต่ำ, เลเวอเรจสูง และการกำกับดูแลที่เข้มงวด แต่ถ้าคุณต้องการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี Binance มีความหลากหลายและเครื่องมือที่ครอบคลุมมากกว่า

·        ระดับความเสี่ยง: Exness เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและการปกป้องเงินทุน ส่วน Binance เหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับความผันผวนของคริปโต

·        ประสบการณ์การเทรด: มือใหม่ควรเริ่มต้นกับ Exness เนื่องจากมีทรัพยากรการเรียนรู้มากมาย ส่วน Binance เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์และเข้าใจความซับซ้อนของคริปโต

·        งบประมาณ: Exness มีเงินฝากขั้นต่ำที่ต่ำ (เริ่มต้นที่ $10 สำหรับบางบัญชี) ส่วน Binance ไม่กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ แต่ต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมการถอน

6. สรุป: Exness หรือ Binance ดีกว่ากัน?

ไม่มีแพลตฟอร์มใดที่ “ดีที่สุด” ในทุกสถานการณ์ การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ:

·        เลือก Exness หากคุณต้องการโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์และ CFD ด้วยสเปรดต่ำ, การกำกับดูแลที่เข้มงวด และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย

·        เลือก Binance หากคุณสนใจคริปโตเคอเรนซีและต้องการแพลตฟอร์มที่มีเหรียญหลากหลาย, ค่าธรรมเนียมต่ำ และเครื่องมือขั้นสูง

ไม่ว่าคุณจะเลือกแพลตฟอร์มใด อย่าลืมทำการวิจัยอย่างละเอียด ทดลองใช้บัญชีเดโม่ (ในกรณีของ Exness) หรือเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินน้อย (ในกรณีของ Binance) เพื่อทดสอบกลยุทธ์และทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม

คุณพร้อมที่จะเริ่มต้นการลงทุนแล้วหรือยัง? แบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่องคอมเมนต์ หรือลองสำรวจทั้ง Exness และ Binance เพื่อค้นหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ!

การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

อ่านเพิ่มเติม:

This article is from: