5 minute read

บัญชี Pro กับ Standard ต่างกันอย่างไร: บัญชี Exness แบบใดดีที่สุด?

การเทรด Forex และ CFD เป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยศักยภาพในการสร้างผลกำไรที่สูงและความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการเงินทุน อย่างไรก็ตาม การเลือกโบรกเกอร์และประเภทบัญชีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเทรด Exness เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากนักเทรดทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นในด้านความน่าเชื่อถือ การฝาก-ถอนที่รวดเร็ว และเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น คำถามที่นักเทรดมักถามคือ บัญชี Standard กับ Pro ของ Exness ต่างกันอย่างไร? และบัญชีใดเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ?

เปิดบัญชี Exness Pro ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Standard ตอนนี้! 👈✅ เปิดบัญชี Exness Pro ตอนนี้! 👈

ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกทุกแง่มุมของบัญชี Standard กับ Pro ของ Exness โดยเปรียบเทียบคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าบัญชีใดเหมาะกับสไตล์การเทรดและเป้าหมายของคุณมากที่สุด

1. ทำความรู้จักกับ Exness

Exness เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก ปัจจุบัน Exness มีลูกค้ามากกว่า 700,000 รายทั่วโลกและมีปริมาณการซื้อขายต่อเดือนสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งที่ทำให้ Exness ได้รับความนิยมในประเทศไทยคือ:

·        ความน่าเชื่อถือ: ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส), และ FSCA (แอฟริกาใต้)

·        การฝาก-ถอนที่รวดเร็ว: รองรับช่องทางการชำระเงินหลากหลาย รวมถึงธนาคารในประเทศไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และ PromptPay โดยการถอนเงินมักใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

·        เลเวอเรจที่ยืดหยุ่น: สูงสุดถึง 1:ไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและเงื่อนไข)

·        สเปรดต่ำ: เริ่มต้นที่ 0.0 pip ในบางประเภทบัญชี

·        แพลตฟอร์มที่หลากหลาย: รองรับ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), และแอป Exness Trade ซึ่งใช้งานง่ายและเหมาะกับนักเทรดทุกระดับ

·        เครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย: รวมถึงฟอเร็กซ์, โลหะมีค่า (เช่น ทองคำ, เงิน), คริปโตเคอร์เรนซี่, พลังงาน, หุ้น, และดัชนี

Exness มีประเภทบัญชีที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก: บัญชีมาตรฐาน (Standard) และ บัญชีมืออาชีพ (Professional) ในบทความนี้เราจะเน้นเปรียบเทียบ บัญชี Standard และ บัญชี Pro รวมถึงกล่าวถึง บัญชี Standard Cent ซึ่งเป็นตัวเลือกย่อยของบัญชี Standard เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจน

2. บัญชี Standard และ Standard Cent ของ Exness

2.1 บัญชี Standard

บัญชี Standard เป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน Exness เนื่องจากเหมาะกับนักเทรดทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นไปจนถึงนักเทรดที่มีประสบการณ์ คุณสมบัติหลักของบัญชี Standard มีดังนี้:

·        เงินฝากขั้นต่ำ: ขึ้นอยู่กับระบบการชำระเงิน ในประเทศไทยเริ่มต้นที่ $10 (ประมาณ 330 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน)

·        สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.3 pip (สเปรดลอยตัว อาจสูงขึ้นในช่วงที่มีความผันผวน)

·        ค่าคอมมิชชั่น: ไม่มี

·        เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่น ขนาดยอดคงเหลือในบัญชี)

·        ขนาดล็อตขั้นต่ำ: 0.01 ล็อต

·        แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4 และ MT5

·        เครื่องมือการเทรด: รองรับทุกประเภท รวมถึงฟอเร็กซ์, โลหะ, คริปโตเคอร์เรนซี่, พลังงาน, หุ้น, และดัชนี

·        การดำเนินการคำสั่ง: Market Execution (ไม่มีรีโควต)

ข้อดีของบัญชี Standard:

·        เหมาะสำหรับมือใหม่: เงินฝากขั้นต่ำต่ำ ช่วยให้เริ่มต้นได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เงินทุนสูง

·        ไม่มีค่าคอมมิชชั่น: ลดต้นทุนการเทรด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดด้วยความถี่ปานกลาง

·        เครื่องมือหลากหลาย: รองรับการเทรดในทุกสินทรัพย์ที่ Exness มี

·        เลเวอเรจสูง: ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรสำหรับนักเทรดที่มีเงินทุนจำกัด

·        ใช้งานง่าย: เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ MT4 หรือ MT5

ข้อเสียของบัญชี Standard:

·        สเปรดสูงกว่าบัญชี Pro: ในบางคู่สกุลเงินหรือช่วงที่มีความผันผวนสูง สเปรดอาจขยายถึง 1-2 pip ซึ่งอาจกระทบต่อกำไร

·        ไม่เหมาะกับ Scalping: เนื่องจากสเปรดที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบัญชีมืออาชีพ

·        การบริหารความเสี่ยงต้องระวัง: เลเวอเรจสูงอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็วหากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี

2.2 บัญชี Standard Cent

บัญชี Standard Cent เป็นตัวเลือกที่ออกแบบมาเพื่อนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจริงโดยมีความเสี่ยงต่ำ โดยใช้หน่วย “เซ็นต์” ในการคำนวณขนาดล็อต (1 Cent Lot = 100,000 เซ็นต์ หรือเทียบเท่า 1,000 USD) ทำให้เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก

·        เงินฝากขั้นต่ำ: เริ่มต้นที่ $10

·        สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.3 pip

·        ค่าคอมมิชชั่น: ไม่มี

·        เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด

·        ขนาดล็อตขั้นต่ำ: 0.01 Cent Lot

·        แพลตฟอร์ม: รองรับเฉพาะ MT4

·        เครื่องมือการเทรด: ฟอเร็กซ์และโลหะ (เช่น ทองคำ, เงิน) เท่านั้น

·        การดำเนินการคำสั่ง: Market Execution

ข้อดีของบัญชี Standard Cent:

·        ความเสี่ยงต่ำ: ขนาดล็อตเล็กมาก ทำให้ขาดทุนน้อยแม้เปิดออเดอร์จำนวนมาก

·        เหมาะสำหรับมือใหม่: ช่วยให้ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจริงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุน

·        ไม่มีค่าคอมมิชชั่น: ลดต้นทุนสำหรับผู้เริ่มต้น

·        เลเวอเรจสูง: ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรแม้เงินทุนน้อย

ข้อเสียของบัญชี Standard Cent:

·        เครื่องมือจำกัด: รองรับเฉพาะฟอเร็กซ์และโลหะ ไม่รวมคริปโตเคอร์เรนซี่, หุ้น, หรือดัชนี

·        แพลตฟอร์มจำกัด: รองรับเฉพาะ MT4 ไม่มี MT5

·        ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์: เนื่องจากขนาดล็อตเล็กเกินไปสำหรับการเทรดในปริมาณมาก

3. บัญชี Pro ของ Exness

บัญชี Pro เป็นหนึ่งในบัญชีประเภทมืออาชีพของ Exness ออกแบบมาเพื่อนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการเงื่อนไขการเทรดที่เหนือกว่า คุณสมบัติหลักของบัญชี Pro มีดังนี้:

·        เงินฝากขั้นต่ำ: $200 (อาจแตกต่างกันตามภูมิภาค)

·        สเปรด: เริ่มต้นที่ 0.1 pip (สเปรดลอยตัว)

·        ค่าคอมมิชชั่น: ไม่มี

·        เลเวอเรจ: สูงสุด 1:ไม่จำกัด

·        ขนาดล็อตขั้นต่ำ: 0.01 ล็อต

·        แพลตฟอร์ม: รองรับทั้ง MT4 และ MT5

·        เครื่องมือการเทรด: รองรับทุกประเภท รวมถึงฟอเร็กซ์, โลหะ, คริปโตเคอร์เรนซี่, พลังงาน, หุ้น, และดัชนี

·        การดำเนินการคำสั่ง: Instant Execution (อาจมีรีโควตในบางเครื่องมือ) และ Market Execution

ข้อดีของบัญชี Pro:

·        สเปรดต่ำมาก: เริ่มต้นที่ 0.1 pip เหมาะสำหรับการเทรดแบบ Scalping หรือ Day Trading

·        ไม่มีค่าคอมมิชชั่น: ช่วยลดต้นทุนเมื่อเทียบกับบัญชีมืออาชีพประเภทอื่น เช่น Raw Spread หรือ Zero

·        การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการความเร็ว เช่น Scalping หรือการเทรดตามข่าว

·        เครื่องมือครบครัน: รองรับทุกสินทรัพย์ที่ Exness มี

·        เหมาะสำหรับ EA: การใช้ Expert Advisors (EA) หรือระบบเทรดอัตโนมัติทำงานได้ดีกับบัญชี Pro เนื่องจากสเปรดต่ำและความเร็วในการดำเนินการ

ข้อเสียของบัญชี Pro:

·        เงินฝากขั้นต่ำสูง: $200 อาจสูงเกินไปสำหรับนักเทรดมือใหม่

·        รีโควตใน Instant Execution: อาจเกิดรีโควตในบางเครื่องมือ ซึ่งอาจกระทบต่อกลยุทธ์ Scalping

·        ความซับซ้อน: อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นและยังไม่เข้าใจการบริหารความเสี่ยง

เปิดบัญชี Exness Pro ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Standard ตอนนี้! 👈

4. เปรียบเทียบบัญชี Standard และ Pro

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลักของบัญชี Standard และ Pro:

5. วิเคราะห์การเลือกบัญชีตามสไตล์การเทรด

การเลือกบัญชีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระดับประสบการณ์, สไตล์การเทรด, เงินทุน, และ เป้าหมายการลงทุน มาดูคำแนะนำสำหรับแต่ละกรณี:

5.1 นักเทรดมือใหม่

·        แนะนำบัญชี Standard หรือ Standard Centหากคุณเพิ่งเริ่มต้นและมีเงินทุนจำกัด ($10-$100) บัญชี Standard หรือ Standard Cent เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะ:

·        เงินฝากขั้นต่ำต่ำ: เริ่มต้นเพียง $10 ช่วยให้เริ่มเทรดได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก

·        ไม่มีค่าคอมมิชชั่น: ลดต้นทุนสำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจในกลยุทธ์

·        Standard Cent ลดความเสี่ยง: ขนาดล็อตเล็กช่วยให้ฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจริงโดยขาดทุนน้อย

·        เหมาะสำหรับการเรียนรู้: ช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานของการเทรด เช่น การตั้ง Stop Loss, การบริหารเงินทุน และการวิเคราะห์กราฟ

5.2 นักเทรดที่มีประสบการณ์

·        แนะนำบัญชี Proหากคุณมีประสบการณ์และเงินทุนมากขึ้น ($200 ขึ้นไป) บัญชี Pro จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะ:

·        สเปรดต่ำมาก: เริ่มต้นที่ 0.1 pip ช่วยเพิ่มกำไรสำหรับการเทรดที่มีความถี่สูง

·        การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับ Scalping, Day Trading หรือการเทรดตามข่าว

·        รองรับกลยุทธ์ขั้นสูง: เช่น การใช้ EA หรือการเทรดในช่วงที่มีความผันผวนสูง

·        เหมาะสำหรับการเทรดทองคำ: ทองคำ (XAU/USD) มีความผันผวนสูง และสเปรดต่ำของบัญชี Pro ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร

5.3 การเทรดทองคำ (XAU/USD)

·        แนะนำบัญชี Proทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดชาวไทย เนื่องจากมีความผันผวนสูงและมีโอกาสทำกำไรในช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ บัญชี Pro มีสเปรดต่ำ (เริ่มต้น 0.1 pip) และการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเข้าซื้อ-ขายได้ในจังหวะที่เหมาะสม

5.4 การใช้ EA หรือระบบเทรดอัตโนมัติ

·        แนะนำบัญชี Proหากคุณใช้ Expert Advisors (EA) หรือระบบเทรดอัตโนมัติ บัญชี Pro จะเหมาะสมกว่า เนื่องจากสเปรดต่ำและความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับระบบอัตโนมัติที่ต้องอาศัยการเข้า-ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว

5.5 การเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่

·        แนะนำบัญชี Standard หรือ Proทั้งสองบัญชีรองรับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่ เช่น Bitcoin, Ethereum และอื่นๆ แต่:

·        บัญชี Standard: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนจำกัดและเทรดคริปโตเป็นครั้งคราว

·        บัญชี Pro: เหมาะสำหรับผู้ที่เทรดคริปโตบ่อยครั้งและต้องการสเปรดต่ำเพื่อลดต้นทุน

6. ข้อควรระวังในการเลือกบัญชี

การเลือกบัญชีที่เหมาะสมต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:

·        สเปรดในช่วงข่าวสำคัญ: สเปรดของทั้งบัญชี Standard กับ Pro เป็นแบบลอยตัว ซึ่งอาจขยายตัวในช่วงที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงข่าว Non-Farm Payroll, การประชุมธนาคารกลาง (Fed, ECB) หรือเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญ

·        เลเวอเรจสูง: เลเวอเรจ 1:ไม่จำกัดของ Exness ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญในการบริหารความเสี่ยง

·        รีโควตในบัญชี Pro: การใช้ Instant Execution ในบัญชี Pro อาจทำให้เกิดรีโควตในบางเครื่องมือ ซึ่งอาจกระทบต่อกลยุทธ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น Scalping

·        เงินฝากขั้นต่ำ: บัญชี Pro ต้องใช้เงินฝากขั้นต่ำ $200 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักเทรดที่มีงบจำกัด

·        ความรู้และประสบการณ์: บัญชี Pro เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการเทรดและสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี มือใหม่อาจรู้สึกว่าบัญชีนี้ซับซ้อนเกินไป

7. เคล็ดลับเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าคุณจะเลือกบัญชี Standard หรือ Pro นี่คือเคล็ดลับที่ควรปฏิบัติตาม:

·        ทดลองด้วยบัญชีเดโม่: Exness มีบัญชีทดลองฟรีสำหรับทุกประเภทบัญชี ช่วยให้คุณทดสอบกลยุทธ์และทำความเข้าใจเงื่อนไขการเทรดโดยไม่ต้องใช้เงินจริง

·        บริหารความเสี่ยง: ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังและตั้ง Stop Loss ทุกครั้งเพื่อจำกัดการขาดทุน

·        เลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงข่าวสำคัญ หากคุณใช้บัญชี Standard ที่มีสเปรดสูงกว่า

·        ใช้เครื่องมือวิเคราะห์: Exness มีเครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Trading Central และปฏิทินเศรษฐกิจ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้เพื่อวางแผนการเทรด

·        ติดตามผลการเทรด: บันทึกผลการเทรดของคุณและวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์

·        เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: ตลาด Forex และ CFD มีความซับซ้อน การเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร

8. ตัวอย่างการใช้งานบัญชี Standard และ Pro

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน มาดูตัวอย่างสถานการณ์จริงของนักเทรด 2 คนที่มีเป้าหมายและสไตล์การเทรดต่างกัน:

ตัวอย่างที่ 1: นาย A (มือใหม่, เงินทุน $50)

นาย A เป็นนักศึกษาที่เพิ่งเริ่มสนใจการเทรด Forex เขามีเงินทุน $50 และต้องการฝึกฝนกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยงมากเกินไป

·        บัญชีที่เหมาะสม: Standard Cent

·        เหตุผล:

·        เงินฝากขั้นต่ำต่ำ ($10) เหมาะกับงบจำกัด

·        ขนาดล็อตเล็ก (0.01 Cent Lot) ช่วยลดความเสี่ยง

·        ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนต่ำ

·        เหมาะสำหรับฝึกฝนการเทรดฟอเร็กซ์และทองคำ

·        กลยุทธ์ที่แนะนำ: เริ่มต้นด้วยการเทรดคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY โดยใช้เลเวอเรจต่ำ (เช่น 1:100) และตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน

ตัวอย่างที่ 2: นางสาว B (นักเทรดที่มีประสบการณ์, เงินทุน $500)

นางสาว B เทรด Forex มา 2 ปีและชื่นชอบการเทรดทองคำ (XAU/USD) แบบ Scalping โดยใช้ EA เพื่อช่วยวิเคราะห์และเปิดออเดอร์อัตโนมัติ

·        บัญชีที่เหมาะสม: Pro

·        เหตุผล:

·        สเปรดต่ำ (0.1 pip) เหมาะสำหรับ Scalping และการเทรดทองคำที่มีความผันผวนสูง

·        การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว ช่วยให้ EA ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

·        รองรับทุกเครื่องมือการเทรด รวมถึงทองคำและคริปโตเคอร์เรนซี่

·        กลยุทธ์ที่แนะนำ: ใช้ EA ที่ปรับแต่งมาเพื่อ Scalping โดยเน้นช่วงเวลาที่สเปรดต่ำ เช่น ช่วงเซสชั่นลอนดอนหรือนิวยอร์ก และตั้ง Stop Loss/Take Profit อย่างรอบคอบ

9. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัญชี Standard กับ Pro

·        บัญชี Standard กับ Pro รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยหรือไม่?ใช่ ทั้งสองบัญชีรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, และ PromptPay โดยไม่มีค่าธรรมเนียมจาก Exness

·        บัญชี Pro เหมาะกับการเทรดแบบถือยาวหรือไม่?บัญชี Pro เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น เช่น Scalping หรือ Day Trading มากกว่า เนื่องจากสเปรดต่ำ แต่สำหรับการเทรดแบบถือยาว (Swing Trading) บัญชี Standard ก็เพียงพอ เพราะสเปรดที่สูงขึ้นเล็กน้อยไม่กระทบมากนัก

·        เลเวอเรจ 1:ไม่จำกัด ใช้งานได้จริงหรือ?ใช่ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น มียอดคงเหลือในบัญชีไม่เกิน $1,000 และต้องผ่านการยืนยันตัวตน นอกจากนี้ควรใช้เลเวอเรจสูงด้วยความระมัดระวัง

·        สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีได้หรือไม่?ได้ คุณสามารถเปิดบัญชีใหม่ในประเภทที่ต้องการผ่านพื้นที่ส่วนบุคคล (Personal Area) ของ Exness โดยไม่ต้องสมัครใหม่

10. สรุป: บัญชี Standard หรือ Pro ดีกว่ากัน?

·        บัญชี Standard: เหมาะสำหรับ มือใหม่ หรือนักเทรดที่มีเงินทุนจำกัด ต้องการความยืดหยุ่นและไม่มีค่าคอมมิชชั่น บัญชี Standard Cent เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนด้วยความเสี่ยงต่ำ

·        บัญชี Pro: เหมาะสำหรับ นักเทรดที่มีประสบการณ์ ที่ต้องการสเปรดต่ำและการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับ Scalping, Day Trading หรือการเทรดทองคำ

ไม่มีบัญชีใดที่ “ดีที่สุด” ในทุกสถานการณ์ การเลือกขึ้นอยู่กับเป้าหมาย, ประสบการณ์, และเงินทุนของคุณ หากคุณยังไม่แน่ใจ แนะนำให้เริ่มต้นด้วย บัญชี Standard หรือ Standard Cent เพื่อฝึกฝน และเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นค่อยเปลี่ยนไปใช้ บัญชี Pro เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด

เปิดบัญชี Exness Pro ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Standard ตอนนี้! 👈

อ่านเพิ่มเติม:

This article is from: