
3 minute read
บัญชี Zero Exness ดีไหม? รีวิวข้อดี-ข้อเสียและสิ่งที่ควรรู้
from Exness
by Exness_Blog
ในโลกของการเทรด Forex และ CFD การเลือกโบรกเกอร์และประเภทบัญชีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถกำหนดความสำเร็จของเทรดเดอร์ได้ Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยประเภทบัญชีที่หลากหลาย โดยเฉพาะ บัญชี Zero Exness ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดต่ำสุดและการดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ บัญชี Zero Exness ดีไหม? เหมาะกับใคร? และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของบัญชี Zero Exness เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

1. บัญชี Zero Exness คืออะไร?
บัญชี Zero Exness เป็นหนึ่งในบัญชีประเภทมืออาชีพ (Professional Account) ที่ Exness ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการเงื่อนไขการเทรดที่ได้เปรียบ โดยจุดเด่นหลักของบัญชีนี้คือ สเปรด 0 pip สำหรับตราสารการซื้อขาย 30 อันดับแรกในช่วงเวลา 95% ของการซื้อขาย ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเทรดได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการคำสั่งแบบ Market Execution ที่รวดเร็วและไม่มี Requote ทำให้เหมาะสำหรับการเทรดแบบ Scalping หรือการเทรดที่มีความถี่สูง
คุณสมบัติหลักของบัญชี Zero Exness
· สเปรด: เริ่มต้นที่ 0 pip สำหรับ 30 ตราสารยอดนิยม (เช่น EUR/USD, USD/JPY, ทองคำ)
· ค่าคอมมิชชัน: เริ่มต้นที่ 0.05 USD ต่อล็อตต่อด้าน (รวม 0.1 USD ต่อล็อตสำหรับการเทรดรอบเต็ม) แต่ขึ้นอยู่กับตราสารและสภาพคล่องของตลาด
· เงินฝากขั้นต่ำ: 200 USD (ต่ำกว่าโบรกเกอร์ ECN อื่น ๆ ที่อาจกำหนดขั้นต่ำสูงถึง 1,000 USD)
· เลเวอเรจ: สูงสุด 1:2000 (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและตราสาร)
· แพลตฟอร์ม: รองรับ MT4, MT5 และ Exness Terminal
· ตราสารที่เทรดได้: Forex, โลหะ, คริปโต, พลังงาน, หุ้น, ดัชนี
· Swap-Free: มีให้สำหรับบางตราสารและบัญชีที่ตั้งค่าเป็น Islamic Account
2. ข้อดีของบัญชี Zero Exness
บัญชี Zero Exness มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่เน้นการเทรดระยะสั้นหรือใช้กลยุทธ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง นี่คือข้อดีที่สำคัญ:
2.1 สเปรด 0 pip ลดต้นทุนการเทรด
บัญชี Zero มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pip สำหรับตราสารยอดนิยม เช่น คู่สกุลเงินหลักและทองคำ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดต้นทุนได้มาก โดยเฉพาะเมื่อเทรดในปริมาณมากหรือเทรดบ่อยครั้ง
2.2 การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว
ด้วยการใช้ Market Execution และการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) ทำให้บัญชี Zero มีความเร็วในการดำเนินการคำสั่งสูง ลดปัญหา Slippage และ Requote ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ Scalping ให้ความสำคัญ
2.3 เหมาะสำหรับ Scalping และ EA
บัญชี Zero ไม่จำกัดจำนวนออเดอร์และรองรับการเทรดด้วย Expert Advisors (EA) ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติหรือเทรดระยะสั้นเพื่อเก็บกำไรเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง
2.4 เลเวอเรจสูงและยืดหยุ่น
เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ช่วยให้เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนจำกัดสามารถเปิดตำแหน่งขนาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้เลเวอเรจด้วยความระมัดระวังเนื่องจากความเสี่ยงที่สูงขึ้น
2.5 ฝาก-ถอนรวดเร็วและรองรับธนาคารไทย
Exness มีระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วผ่านช่องทางที่สะดวกสำหรับคนไทย เช่น Thai QR Payment และธนาคารออนไลน์ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เทรดเดอร์ชื่นชอบ
3. ข้อเสียและข้อควรระวังของบัญชี Zero Exness
ถึงแม้ว่าบัญชี Zero จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้:
3.1 ค่าคอมมิชชันที่ผันแปร
ถึงแม้ว่าสเปรดจะต่ำมากหรือเป็นศูนย์ แต่บัญชี Zero มีค่าคอมมิชชันที่ขึ้นอยู่กับตราสารและสภาพคล่องของตลาด โดยอาจสูงถึง 3.5 USD ต่อล็อตต่อด้านในบางตราสาร ซึ่งอาจไม่คุ้มสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์นานหรือเทรดในปริมาณน้อย
3.2 เงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าบัญชี Standard
เงินฝากขั้นต่ำ 200 USD อาจสูงเกินไปสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย เมื่อเทียบกับบัญชี Standard หรือ Standard Cent ที่เริ่มต้นเพียง 10 USD
3.3 สเปรดอาจผันผวนในช่วงข่าว
ถึงแม้ว่าสเปรดจะเป็น 0 pip ใน 95% ของเวลา แต่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงข่าวสำคัญ สเปรดอาจขยับขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อกลยุทธ์การเทรดที่พึ่งพาสเปรดต่ำ
3.4 ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์ยาว
เนื่องจากค่าคอมมิชชันอาจสูงกว่าค่าสเปรดในบัญชีอื่น เช่น บัญชี Standard หรือ Pro บัญชี Zero จึงอาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เน้นการถือออเดอร์ระยะยาว
4. บัญชี Zero Exness เหมาะกับใคร?
บัญชี Zero Exness ไม่ได้เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคน เนื่องจากมีเงื่อนไขและคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อกลยุทธ์การเทรดเฉพาะ นี่คือกลุ่มเทรดเดอร์ที่เหมาะสมกับบัญชีนี้:
· เทรดเดอร์ Scalping: ผู้ที่เน้นการเทรดระยะสั้นและต้องการสเปรดต่ำสุดเพื่อเก็บกำไรจากความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของราคา
· เทรดเดอร์ที่ใช้ EA: ผู้ที่ใช้ระบบเทรดอัตโนมัติจะได้ประโยชน์จากความเร็วในการดำเนินการและสเปรด 0 pip
· เทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง: ผู้ที่เทรดในปริมาณมากจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนสเปรดที่ต่ำ
· เทรดเดอร์ที่เน้นตราสารยอดนิยม: เช่น คู่สกุลเงินหลัก (EUR/USD, USD/JPY) หรือทองคำ ซึ่งมีสเปรด 0 pip ในเกือบทุกสภาวะ
ในทางกลับกัน เทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์หรือเทรดเดอร์ที่เน้นการถือออเดอร์ระยะยาวอาจพิจารณาบัญชี Standard หรือ Pro ซึ่งมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าและไม่มีค่าคอมมิชชัน

5. เปรียบเทียบบัญชี Zero กับบัญชีอื่นของ Exness
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น มาดูการเปรียบเทียบระหว่างบัญชี Zero กับบัญชียอดนิยมอื่น ๆ ของ Exness:

จากตารางจะเห็นว่าบัญชี Zero เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดต่ำสุดและยอมรับค่าคอมมิชชัน ในขณะที่บัญชี Pro อาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการสเปรดต่ำโดยไม่มีค่าคอมมิชชัน และบัญชี Standard เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย
6. ความน่าเชื่อถือของ Exness
ก่อนตัดสินใจใช้บัญชี Zero สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Exness ซึ่งเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีจุดเด่นดังนี้:
· ใบอนุญาตและการกำกับดูแล: Exness ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA (UK), CySEC (Cyprus), และ FSA (Seychelles) ซึ่งรับประกันความปลอดภัยของเงินทุน
· ประวัติยาวนาน: ก่อตั้งในปี 2008 และมีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลก
· รางวัลและความนิยม: ได้รับรางวัลด้านความน่าเชื่อถือและการบริการลูกค้า เช่น Most Trusted Global Forex Broker 2019
· การปกป้องเงินทุน: มีระบบป้องกันยอดบาลานซ์ติดลบและการแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท
7. วิธีสมัครและเริ่มต้นใช้บัญชี Zero Exness
หากคุณสนใจเปิดบัญชี Zero Exness สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
· ลงทะเบียนบัญชี Exness: เข้าไปที่เว็บไซต์ exness.com และคลิก “เปิดบัญชี”
· ยืนยันตัวตน: อัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต เพื่อยืนยันตัวตน
· เลือกประเภทบัญชี: เลือกบัญชี Zero ในส่วนของบัญชีมืออาชีพ
· ฝากเงิน: ฝากเงินขั้นต่ำ 200 USD ผ่านช่องทางที่สะดวก เช่น ธนาคารไทยหรือ Thai QR Payment
· เริ่มเทรด: ดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม MT4/MT5 หรือใช้ Exness Terminal เพื่อเริ่มเทรด
เคล็ดลับ: ควรทดลองเทรดด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยกับเงื่อนไขของบัญชี Zero
8. เคล็ดลับการเทรดด้วยบัญชี Zero Exness
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากบัญชี Zero Exness นี่คือเคล็ดลับที่เทรดเดอร์ควรปฏิบัติ:
· เลือกตราสารที่มีสเปรด 0 pip: เช่น EUR/USD หรือทองคำ เพื่อลดต้นทุน
· จัดการความเสี่ยง: ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวังและกำหนด Stop Loss ทุกครั้ง
· หลีกเลี่ยงช่วงข่าว: สเปรดอาจผันผวนในช่วงที่มีข่าวสำคัญ
· ใช้ EA อย่างเหมาะสม: เลือก EA ที่เหมาะกับการเทรดระยะสั้นและทดสอบก่อนใช้งานจริง
· ติดตามค่าคอมมิชชัน: คำนวณต้นทุนค่าคอมมิชชันให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าคุ้มกับกลยุทธ์ของคุณ
9. รีวิวจากผู้ใช้จริง: เทรดเดอร์ชาวไทยคิดอย่างไร?
จากรีวิวของเทรดเดอร์ชาวไทยในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Pantip และกลุ่มเทรด Forex พบว่า:
· ข้อดีที่ชื่นชอบ: สเปรดต่ำ, ฝาก-ถอนรวดเร็ว, ซัพพอร์ตภาษาไทย 24/7
· ข้อเสียที่พบบ่อย: ค่าคอมมิชชันอาจสูงในบางตราสาร, สเปรดผันผวนในช่วงข่าว
· ความพึงพอใจโดยรวม: เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้คะแนนบัญชี Zero ในระดับดีถึงดีมาก โดยเฉพาะสำหรับ Scalping และการเทรดทองคำ
10. สรุป: บัญชี Zero Exness ดีไหม?
บัญชี Zero Exness เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และต้องการสเปรดต่ำสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด โดยเฉพาะสำหรับกลยุทธ์ Scalping และการเทรดด้วย EA ด้วยจุดเด่นอย่างสเปรด 0 pip, การดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็ว, และเลเวอเรจสูง บัญชีนี้สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรคำนึงถึงค่าคอมมิชชันที่ผันแปรและเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าบัญชี Standard รวมถึงความผันผวนของสเปรดในช่วงข่าว
หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ อาจเริ่มต้นด้วยบัญชี Standard หรือ Standard Cent ก่อนเพื่อฝึกฝนทักษะ แต่ถ้าคุณพร้อมสำหรับการเทรดแบบมืออาชีพและต้องการเงื่อนไขที่ดีที่สุด บัญชี Zero Exness คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
· บัญชี Zero Exness มีเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่?เงินฝากขั้นต่ำคือ 200 USD ซึ่งต่ำกว่าโบรกเกอร์ ECN อื่น ๆ
· บัญชี Zero เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?ไม่เหมาะกับมือใหม่มากนัก เนื่องจากต้องจัดการค่าคอมมิชชันและเหมาะกับกลยุทธ์เฉพาะ เช่น Scalping
· สเปรด 0 pip มีจริงหรือไม่?มีจริงใน 95% ของเวลาสำหรับ 30 ตราสารยอดนิยม แต่สเปรดอาจผันผวนในช่วงที่มีความผันผวนสูง
· Exness ปลอดภัยหรือไม่?ปลอดภัย เนื่องจากได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA และ CySEC และมีระบบป้องกันยอดบาลานซ์ติดลบ
อ่านเพิ่มเติม: