Marnie sample

Page 1




วันที่มาร์นี ไม่อยู่ Joan G. Robinson เขียน ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ แปล


วันที่มาร์นีไม่อยู่ Joan G. Robinson เขียน ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ แปล บรรณาธิการ บรรณาธิการบริหาร ศิลปกรรม ภาพปก

วิลาส วศินสังวร ชญานุช วศินสังวร ส�านักพิมพ์เอิร์นเนส จัง

Text Copyright © Joan G. Robinson 1967 Postscript Copyright © Deborah Sheppard 2002, 2014

จัดพิมพ์โดย: บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ากัด 610/35-36 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทรศัพท์: 02 223 9460-3 โทรสาร: 02 622 4419 พิมพ์ที่: บริษัท โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์ จ�ากัด 113/13 ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์: 02 424 6944 โทรสาร: 02 434 3802 จัดจ�าหน่ายทั่วประเทศ: บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จ�ากัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ต�าบลมหาสวัสดิ์ อ�าเภอบางกรวย นนทบุรี 11130 โทรศัพท์: 02 423 9999 โทรสาร: 02 499 9561-3 www.naiin.com สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559 © บริษัท เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง จ�ากัด เลขมาตรฐานสากลประจ�าหนังสือ 978-616-7691-31-2 พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2559 ราคา 280 บาท


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ When Marnie Was There เป็นเรือ่ งของเด็กผูห้ ญิง คนหนึง่ ทีช่ อื่ อันนา เธอรูส้ กึ แปลกแยกและเข้ากับใครไม่ได้จน ถูกส่งตัวมาอยูก่ บั คนรูจ้ กั ทีช่ นบท ทีน่ นั่ เธอได้พบกับเด็กผูห้ ญิง อีกคนหนึ่งที่ชื่อ มาร์นี มิตรภาพอันงดงามจึงเริ่มขึ้น พร้อม กับความลับที่เก็บซ่อนไว้มานาน ซึ่งจะเป็นกุญแจไขไปสู่หัวใจ ดวงน้อยให้เปิดออก


สำรบัญ 1 อันนำ 2 ครอบครัวเพ็กก์ 3 บนท่ำเทียบเรือ 4 บ้ำนเก่ำ 5 อันนำท�ำตำมควำมปรำรถนำ 6 “คนจืดชืดแข็งกระด้ำง...” 7 “...และยำยหมูตอน” 8 คืนเล่นเกมบิงโกของมิสซิสเพ็กก์ 9 เด็กสำวและเรือ 10 แซมไฟร์ดอง 11 คนละสำมค�ำถำม 12 มิสซิสเพ็กก์ท�ำกำน�้ำชำแตก 13 เด็กสำวขอทำน 14 หลังงำนเลี้ยง 15 “มองหำฉันอีกนะ!” 16 เห็ดและควำมลับ 17 เด็กสำวที่ โชคดีที่สุดในโลก 18 หลังจำกเอ็ดเวิร์ดมำ 19 กังหันลม 20 เลิกคบกัน 21 มำร์นีที่หน้ำต่ำง

9 17 26 34 41 47 55 63 67 75 81 90 97 106 113 121 131 141 150 158 164


22 อีกด้ำนของบ้ำน 23 ไล่ล่ำ 24 จับได้แล้ว! 25 ครอบครัวลินด์เซย์ 26 ควำมลับของซิลลำ 27 ซิลลำรู้ ได้อย่ำงไร 28 สมุด 29 คุยกันเรื่องเรือ 30 จดหมำยจำกมิสซิสเพรสตัน 31 มิสซิสเพรสตันออกไปดื่มชำ 32 ค�ำสำรภำพ 33 มิสเพเนโลปี กิลล์ 34 กิลลี่เล่ำเรื่องให้ฟัง 35 ควำมผิดของใคร 36 ตอบจบของเรื่อง 37 ลำก่อนวันเทอร์เม็นนี่ บทส่งท้ำย

169 177 184 191 197 203 209 220 228 234 241 250 256 263 271 277 282



วันที่มาร์นี ไม่อยู่



1 อันนำ

มิสซิสเพรสตันจัดหมวกของอันนาให้เข้าที่ด้วยสีหน้าวิตกกังวล เป็นปกติ “เป็นเด็กดีนะจ๊ะ” มิสซิสเพรสตันบอก “ขอให้สนุก และ...และ...เอ่อ กลับมาโดยสวัสดิภาพ มีผิวสีแทน และมี ความสุข” มิสซิสเพรสตันยกแขนข้างหนึง่ โอบอันนาแล้วจูบลา เธอพยายามท�าให้อันนารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และเป็นที่ ต้องการ ทว่าอันนารูส้ กึ ได้วา่ มิสซิสเพรสตันก�าลังพยายาม และ ปรารถนาไม่ให้เธอท�าเช่นนั้น มันก่อให้เกิดก�าแพงระหว่างคน ทั้งสอง ดังนั้นจึงเป็นไม่ได้เลยที่อันนาจะบอกลาอย่างเป็น ธรรมชาติ ด ้ ว ยการกอดและจู บ อย่ า งที่ เ ด็ ก คนอื่นคงจะท�าได้ โดยง่าย และอย่างที่มิสซิสเพรสตันคงจะชอบมาก เธอท�าได้ เพียงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างประตูตู้โดยสารรถไฟที่เปิดอยู่ มี กระเป๋าเดินทางในมือ อันนาหวังว่าจะมีสีหน้าเรียบเฉย และ 9


โจแอน จี. โรบินสัน

ปรารถนาให้รถไฟเคลื่อนขบวนเสียที เมื่อมิสซิสเพรสตันเห็นสีหน้า “เรียบเฉย” ของอันนา ซึง่ ในความรูส้ กึ ของเธอคิดว่ามันเป็น “สีหน้าไร้อารมณ์” ก็ได้แต่ ถอนหายใจ และหันเหความสนใจไปยังสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า “หนูเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขนึ้ ไปวางไว้บนชัน้ วางของ นะ ส่วนหนังสือการ์ตนู อยูใ่ นกระเป๋าเสือ้ กันฝน” มิสซิสเพรสตัน ควานหาในกระเป๋าถือ “นี่จ้ะ ช็อกโกแลตไว้กินระหว่างทาง และกระดาษเช็ดหน้าเอาไว้เช็ดปากหลังจากนั้น” เสียงนกหวีดดังขึ้น พนักงานบนรถไฟเริ่มกระแทก ประตูตู้โดยสารปิด มิสซิสเพรสตันเอานิ้วดุนหลังอันนาเบาๆ “ขึ้นรถดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวรถไฟจะออกแล้ว” อันนาก้าวขึ้นรถไฟ พลางพึมพ�าว่า “อย่าผลักสิคะ!” ก่อนจะมองลงมาจากหน้าต่าง ตู้โดยสารด้วยสีหน้าที่ยังคงปราศจากรอยยิ้ม “ฝากความรัก ถึงมิสซิสเพ็กก์กับแซมด้วยนะจ๊ะ บอกพวกเขาว่าฉันหวังจะได้ ไปที่นั่นในเร็ววัน ถ้าฉันเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว ก็ คงจะ...” รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนอย่างเชื่องช้าไปตามชานชาลา แล้วมิสซิสเพรสตันก็พูดรัวเป็นชุดว่า “เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ส่ง โปสการ์ดมาด้วยนะจ๊ะ จ�าไว้ว่าพวกเขาจะมาพบหนูที่ฮีแชม อย่าลืมมองหาพวกเขา และอย่าลืมเปลี่ยนขบวนที่สถานีคิงส์ ลินน์ละ หนูจะไม่มที างไปผิดแน่ มีการ์ดประทับตราทีอ่ ยูไ่ ว้แล้ว ในกระเป๋าด้านในของกระเป๋าเดินทางของหนู แค่เขียนมาบอก ว่าหนูถึงโดยสวัสดิภาพแล้วก็พอ ลาก่อนจ้ะ เป็นเด็กดีนะ” เมื่อมิสซิสเพรสตันเริ่มออกวิ่ง จู่ๆ ท่าทางของเธอก็ดู 10


วันที่มาร์นีไม่อยู่

น่าสงสารขึ้นมาในทันที บางอย่างในตัวอันนาจึงอ่อนยวบลง อันนาชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง พลางตะโกนว่า “ลาก่อน ค่ะ คุณป้า ขอบคุณส�าหรับช็อกโกแลตนะคะ ลาก่อน!” เธอทั น ได้ เ ห็ น สี ห น้ า วิ ต กกั ง วลของมิ ส ซิ ส เพรสตั น เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมือ่ ได้ยนิ เธอเรียกชือ่ ทีไ่ ม่คนุ้ หูนกั ว่า “คุณ ป้า” จากนัน้ รถไฟก็เร่งความเร็วขึน้ และรางรถไฟคดโค้งก็พา มิสซิสเพรสตันลับหายไปจากสายตา อั น นานั่ ง ลงโดยไม่ เ หลี ย วมองรอบตั ว เธอบิ แ ท่ ง ช็อกโกแลตทีเ่ ป็นช่องสีเ่ หลีย่ มออกมาสีช่ อ่ ง ก่อนจะเก็บทีเ่ หลือ ไว้ในกระเป๋าเสื้อกันฝนรวมกับห่อกระดาษเช็ดหน้า และเปิด หน้าหนังสือการ์ตูน อีกสองชั่วโมง...มากกว่าสองชั่วโมง...กว่า จะถึงสถานีคิงส์ ลินน์ หากเธอท�าหน้า “เรียบเฉย” บวกกับ ความโชคดีอกี สักหน่อย ก็คงจะไม่มใี ครมาคุยกับเธอตลอดช่วง เวลานัน้ เธอจะได้อา่ นหนังสือการ์ตนู จากนัน้ ก็เหม่อมองออก ไปนอกหน้าต่างโดยไม่คิดเรื่องใด ทุกวันนีอ้ นั นาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการไม่คดิ อะไรเลย ที่จริงแล้วส่วนหนึ่งเป็นเพราะนิสัยไม่คิดอะไรเลยนี่เองที่ท�าให้ เธอต้องเดินทางไปยังนอร์ฟอล์กอยู่ในขณะนี้ เพื่อไปอาศัยอยู่ กับมิสเตอร์และมิสซิสเพ็กก์...นั่นเป็นเหตุผลหนึ่ง ยังมีเหตุผล อืน่ อีก ซึง่ เหตุผลอืน่ นัน้ อธิบายได้ยาก เพราะมันช่างคลุมเครือ เหลือเกิน ทัง้ เรือ่ งของการไม่มเี พือ่ นสนิททีโ่ รงเรียนเหมือนคนอืน่ เรื่องไม่อยากชวนใครไปดื่มชาที่บ้าน และไม่สนใจสักนิดว่าจะ ไม่มีใครชวนเธอ 11


โจแอน จี. โรบินสัน

มิสซิสเพรสตันคงจะไม่เชือ่ ว่าอันนาไม่สนใจจริงๆ เธอ ชอบพูดท�านองว่า “ว้า แย่จัง! หนูจะบอกว่าทุกคนไปที่ลาน สเก็ตน�า้ แข็งโดยไม่เคยชวนหนูเลยเหรอจ๊ะ” (หรือไปดูหนัง ไป สวนสัตว์ หรือเดินเที่ยวชมธรรมชาติ หรือล่าสมบัติ) และ “ท�าไมคราวหน้าหนูไม่ขอไปด้วยล่ะ บอกพวกเขาว่าหนูอยาก ไปด้วย พูดประมาณว่า ‘ถ้ายังมีที่เหลือส�าหรับอีกคน ให้ฉัน ไปด้วยได้มั้ย’ ถ้าหนูไม่มีท่าทีสนใจ ก็จะไม่มีใครรู้ว่าหนูสนใจ นะ” ทว่าอันนาไม่สนใจ ไม่อีกต่อไปแล้ว เธอรู้ดี แม้เธอ จะไม่อาจอธิบายให้มิสซิสเพรสตันเข้าใจได้ ว่าสิ่งต่างๆ เช่น งานเลีย้ ง เพือ่ นสนิท และการไปดืม่ ชากับผูค้ น เป็นเรือ่ งปกติ ส�าหรับคนอืน่ เพราะทุกคนเป็น “คนใน” อยูภ่ ายในวงล่องหน มหัศจรรย์ของอะไรสักอย่าง แต่อันนาเป็นคนนอก สิ่งเหล่านี้ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ เรื่องมันก็ง่ายแค่นั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการไม่แม้แต่จะพยายาม นั่น เป็นอีกปัญหาหนึ่ง อันนามักถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่แม้แต่จะ พยายาม ราวกับมันเป็นค�ายืดยาวซึ่งเธอได้ยินอยู่บ่อยๆ ใน ช่วงหกเดือนที่ผ่านมา มิสเดวิสัน ครูประจ�าชั้นของเธอ พูด ตอนอยู่โรงเรียนว่า “อันนา หนูไม่แม้แต่จะพยายามด้วยซ�้า” ประโยคนีเ้ ขียนไว้ในสมุดพกของเธอตอนท้ายเทอม และมิสซิส เพรสตันก็พูดค�าเดียวกันนี้ที่บ้านเช่นกัน “หนูไม่ได้ผดิ ปกติอะไรนะ” มิสซิสเพรสตันพูด “หนูไม่ ได้พกิ ลพิการ และฉันมัน่ ใจว่าหนูฉลาดพอๆ กับเด็กคนอืน่ แต่ 12


วันที่มาร์นีไม่อยู่

การไม่แม้แต่จะพยายามนีจ้ ะท�าลายอนาคตของหนู” และพอมี ใครถามเกีย่ วกับอันนาว่าต่อไปเธอจะไปเข้าเรียนทีไ่ หนและเรือ่ ง อืน่ ๆ มิสซิสเพรสตันก็จะตอบว่า “ฉันไม่รจู้ ริงๆ ฉันเกรงว่าแก จะไม่แม้แต่จะพยายามด้วยซ�า้ มันคงเป็นเรือ่ งยากทีจ่ ะรูว้ า่ ต้อง ท�ายังไงกับแก” ตัวอันนาเองไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ เธอไม่ได้กังวลแม้แต่นอ้ ย แต่ดเู หมือนทุกคนจะพากันวิตกกังวล คนแรกคือมิสซิสเพรสตัน ตามด้วยมิสเดวิสัน แล้วก็ดอกเตอร์ บราวน์ เขาถูกตามตัวมาเมื่อเธอมีอาการหอบหืด และไม่ สามารถไปโรงเรียนได้เกือบสองสัปดาห์ “ฉันได้ยนิ มาว่าหนูวติ กกังวลเรือ่ งโรงเรียน” ดอกเตอร์ บราวน์ตั้งข้อสังเกต ประกายตาของเขาระยิบระยับดูใจดี “หนูเปล่าสักหน่อย เธอต่างหาก” อันนางึมง�า “อะฮ้า!” ดอกเตอร์บราวน์เดินไปเดินมาในห้องนอน พลางหยิบโน่นจับนี่ขึ้นมาส�ารวจก่อนจะวางลงที่เดิม “และหนู รู้สึกป่วยก่อนวิชาคณิตศาสตร์เหรอจ๊ะ” “บางครั้งค่ะ” “อะฮ้า!” ดอกเตอร์บราวน์วางเครื่องกระเบื้องรูปหมู อันเล็กกลับลงไปบนแท่นเหนือเตาผิง แล้วจ้องไปในลูกตา สีดา� ของมันอย่างเอาจริงเอาจัง “หมอคิดว่าหนูวติ กกังวล” เขา พึมพ�า อันนานิ่งเงียบ “ใช่รึเปล่า” เขาหันกลับมามองหน้า อันนาอีกครั้ง “หนูนึกว่าหมอพูดกับหมูซะอีก” เธอบอก 13


โจแอน จี. โรบินสัน

ดอกเตอร์บราวน์เกือบจะยิม้ ออกมา ทว่าอันนายังคง มีสีหน้าขึงขัง เขาจึงพูดต่อด้วยน�้าเสียงจริงจังว่า “หมอคิดว่า บางทีหนูอาจจะวิตกกังวล ซึ่งหมอจะบอกให้ว่าท�าไม หมอว่า หนูวิตกกังวลเพราะ...” เขาหยุดพูดกลางประโยค แล้วเดินมา หาเธออีกครั้ง “หนูเรียกเธอว่าอะไรนะ” “ใครคะ” “มิ ส ซิ ส เพรสตั น น่ ะ หนู เรี ย กเธอว่ า คุ ณ ป้ า ใช่ มั้ ย ” อันนาพยักหน้า “หมอคิดว่าทีห่ นูวติ กกังวลอาจเป็นเพราะคุณป้า ของหนูวติ กกังวล เป็นอย่างนัน้ รึเปล่า” “เปล่าค่ะ หนูบอกหมอแล้วว่าหนูไม่ได้วิตกกังวล” คุณหมอหยุดเดินในตอนนัน้ พอดี และยืนก้มหน้ามอง เธออย่างพินจิ พิเคราะห์ในขณะทีเ่ ธอนอนนิง่ และหายใจฟืดฟาด พร้อมสีหน้า “เรียบเฉย” คุณหมอดูนาฬิกาข้อมือและพูดอย่าง กระตือรือร้นว่า “ดีจะ้ ถ้าอย่างนัน้ ก็ไม่มอี ะไรแล้ว” ก่อนจะวิง่ ลงไปคุยกับมิสซิสเพรสตันที่ชั้นล่าง หลังจากนั้นอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เริ่มจากอันนาไม่ได้กลับไปโรงเรียนอีกทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกหก สัปดาห์กว่าจะปิดเทอม เธอกับมิสซิสเพรสตันไปช้อปปิ้ง ซื้อ กางเกงขาสัน้ รองเท้าผ้าใบ และเสือ้ ยืดเนือ้ หนาให้อนั นาแทน จากนั้นมิสซิสเพรสตันก็ได้รับจดหมายที่เธอเขียนถึงเพื่อนเก่า ซูซาน เพ็กก์ ว่า ได้เลย ยายหนูมาได้ และยินดีตอ้ นรับ เธอ กับแซมดีใจที่อันนาจะมาอยู่ด้วย ทว่าพวกเขาไม่ได้เป็นหนุ่ม เป็นสาวเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ส่วนโรคไขข้ออักเสบของ 14


วันที่มาร์นีไม่อยู่

แซมก็รนุ แรงขึน้ เมือ่ ฤดูหนาวทีผ่ า่ นมา แต่เห็นว่าอันนาเป็นเด็ก เงียบๆ และไม่ชอบเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่มากนัก พวกเขาจึงหวัง ว่าเธอจะมีความสุข “อย่างที่เธออาจจะยังจ�าได้” มิสซิสเพ็กก์ เขียน “พวกเราอยูก่ นั อย่างเรียบง่าย ณ ทีข่ องเรา ทว่ามีเตียง ที่นอนหลับสบาย และตอนนี้เราก็ไม่ต้องการอะไรอีก เพราะ เรามีทีวีแล้ว” “ท�าไมเธอถึงเขียนว่า ‘ณ ที่ของเรา’ ล่ะคะ” อันนา ถาม “มันแปลว่าบ้านจ้ะ ทีอ่ ยูอ่ าศัยของเราน่ะ พวกเขาพูด กันอย่างนั้นในนอร์ฟอล์ก” “อ๋ อ ” อั น นากระแทกประตู ป ิ ด เสี ย งดั ง อย่ า งน่ า ประหลาดใจ แล้วเดินกระทืบเท้าตึงตังขึ้นไปข้างบน “ฉันพูดอะไรให้แกโกรธอีกล่ะเนี่ย” มิสซิสเพรสตันคิด ขณะเก็บจดหมายไว้ในลิน้ ชักตูเ้ ก็บถ้วยชามเพือ่ น�าไปให้มสิ เตอร์ เพรสตันดูในภายหลัง เธออาจจะไม่รู้ ทว่าอันนาได้ท�าการ โต้แย้งฉับพลันและเกินสมควรในการถูกเรียกว่า “เด็กเงียบๆ” การไม่อยากคุยกับคนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การถูกเรียกอย่างนัน้ เป็นอีกเรือ่ ง เสียงกระทืบเท้าปึงปังบนบันไดเป็นข้อพิสจู น์วา่ เธอ ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขณะนั่งอยู่ในรถไฟ พลางแกล้งท�า เป็นอ่านหนังสือการ์ตูน (ซึ่งเธออ่านจบนานแล้ว) จู่ๆ อันนา ก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าจะมีใครในที่นี้คิดอย่างนั้นกับเธอหรือเปล่า อันนาย่นหน้าผากจนคิว้ ขมวดมุน่ ดูไม่เป็นมิตร ก่อนจะเงยหน้า 15


โจแอน จี. โรบินสัน

ขึ้นเป็นครั้งแรกและเหลียวมองรอบตัวไปยังผู้โดยสารคนอื่นใน ตูโ้ ดยสาร ผูโ้ ดยสารคนหนึง่ เป็นชายชรา เขาก�าลังนอนหลับอุตุ อยูต่ รงมุมตู้ ผูห้ ญิงซึง่ นัง่ ตรงข้ามเขาก�าลังส่องกระจกพกพาและ แต่งหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ อันนามองดูด้วยความพึงพอใจอยู่ ครู่หนึ่ง เธอตระหนักว่าคิ้วที่ขมวดมุ่นของเธอค่อยๆ คลายลง จากนั้นก็หันมาจ้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม ผู้หญิงคนนั้นหลับ อยู่เช่นกัน แสดงว่าสีหน้า “เรียบเฉย” ใช้ได้ผล ไม่มีใครสังเกต เห็นเธอด้วยซ�า้ อันนารูส้ กึ โล่งอก เธอหันไปทางหน้าต่าง มอง ไปยังทีร่ าบลุม่ ซึง่ ทอดตัวเหยียดยาว มีกระท่อมโรงนาหลังเดีย่ ว ตั้งอยู่ห่างจากกันหลายช่วงทุ่งนา อันนาไม่ได้คิดอะไรเลย

16


2 ครอบครัวเพ็กก์

อันนารู้ว่าผู้หญิงหน้ากลมตัวใหญ่บนชานชาลาที่ก�าลังโบกถุง ใส่ของมาทางเธอจะต้องเป็นมิสซิสเพ็กก์อย่างแน่นอน เธอจึง เดินเข้าไปหา “มาแล้ว ยายหนู! เยี่ยมเลย! รถเมล์มาพอดี มา ส่งกระเป๋าเดินทางมาให้ฉัน เราจะวิ่งกันละ!” รถประจ�าทางชั้นเดียวที่มีผู้โดยสารเกือบเต็มคันรถ จอดรออยู่ในลานของสถานี “มีที่ว่างตรงนั้นจ้ะ” มิสซิสเพ็กก์ หอบหายใจ “ไปนั่งเลย ยายหนู ฉันจะนั่งข้างคนขับนี่แหละ อรุณสวัสดิ์มิสเตอร์บีลส์! อรุณสวัสดิ์มิสซิสเวลส์! อากาศดีจัง เลยเนอะ สบายดีมั้ยจ๊ะ ชารอน” อันนาเบียดตัวไปตามทางเดินบนรถประจ�าทาง เธอ รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องนั่งข้างชารอน ซึ่งอายุแค่สี่ขวบ มีแก้มป่อง สีนา�้ ตาลอมแดง และผมสีอ่อนจนเกือบจะขาว อันนาไม่เคย รู้เลยว่าต้องพูดอะไรกับเด็กที่อายุน้อยกว่ามากๆ 17


โจแอน จี. โรบินสัน

ทุง่ กว้างทอดตัวยาวเหยียดสองด้าน เป็นทุง่ ลาดเอียง สีเหลือง สีเขียว และสีนา�้ ตาล ทุ่งที่ไถคราดแล้วดูเหมือนผ้า ลูกฟูกสีน�้าตาล และทุ่งกะหล�า่ สีน�้าเงินสด เมื่อรถประจ�าทาง พุ่งไปตามทางคับแคบ อันนาก็เห็นดอกป๊อบปี้สีแดงสดแต้ม เป็นจุดอยูใ่ นแนวรัว้ ต้นไม้ ไกลออกไปทางซ้ายมือเป็นแนวยาว ของทะเล อันนารูส้ กึ หัวใจเต้นแรงและเหลียวมองรอบตัวอย่าง รวดเร็วเพื่อดูว่ามีใครสังเกตเห็นหรือไม่ ทว่าไม่มีใครสนใจเลย ทุกคนก�าลังพูดคุยกัน พวกเขาคงชินกับทะเลจนมองไม่เห็นแล้ว อันนาคิดขณะจ้องตาไม่กะพริบ ก่อนจะจมลงไปในความฝันอัน เงียบงันและว่างเปล่าโดยที่ตายังลืมอยู่ ในไม่ชา้ พวกเธอก็มาถึงหมูบ่ า้ นลิตเติล้ โอเวอร์ตนั รถ ประจ�าทางแล่นลงเนินเขาชันยาว อันนาเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ ไพศาล ทะเล และหนองน�้าต้องแสงอาทิตย์แผ่กว้างอยู่ตรง หน้า รถประจ�าทางเลี้ยวหักศอกและหยุดกึก “อีกไม่ไกลแล้วจ้ะ” มิสซิสเพ็กก์บอกขณะพวกเธอก้ม ลงหยิบกระเป๋าเดินทาง แล้วรถประจ�าทางก็สง่ เสียงฮึม่ ฮัม่ แล่น ห่างออกไปตามถนนเลียบชายฝั่ง “แซมคงรอพวกเราอยู่ เขา คงจะได้ยินเสียงรถประจ�าทางแล่นผ่านไปแล้ว” “ทีบ่ า้ นหนูมรี ถประจ�าทางแล่นผ่านตลอดเวลา” อันนา บอก “หนวกหูแย่เลยสิ” มิสซิสเพ็กก์เดาะลิ้น “หนูไม่ทันได้สังเกตค่ะ” อันนาตอบ แล้วเธอก็นึกถึง คนทีอ่ ยูบ่ นรถประจ�าทาง จึงโพล่งถามไปว่า “คุณสังเกตมัย้ คะ 18


วันที่มาร์นีไม่อยู่

เวลาคุณเห็นทะเล” มิสซิสเพ็กก์ทา� หน้าประหลาดใจ “ฉันเห็นทะเลมัย้ เหรอ อ๋อ ไม่จ้ะ ไม่เคยสังเกตเลย! ฉันไม่ได้เฉียดไปใกล้ทะเลตั้งแต่ โตเป็นสาวแล้ว” “แต่เรามองเห็นทะเลจากรถประจ�าทางนะคะ” “อ๋อ นั่นน่ะเอง! ใช่จ้ะ หนูคงมองเห็น” แล้วพวกเธอก็เลี้ยวเข้าไปตรงประตูรั้วเตี้ยที่สูงไม่เกิน มือของอันนา สวนขนาดเล็กเต็มไปด้วยดอกไม้ มีผึ้งส่งเสียง ครางหึง่ ๆ อยูฝ่ งู หนึง่ ทัง้ สองเดินตามทางเดินสัน้ ๆ ไปยังประตู กระท่อมที่เปิดค้างอยู่ “กลับมาแล้วจ้า แซม กลับมาโดยสวัสดิภาพ!” มิสซิส เพ็กก์ตะโกนเข้าไปในความมืด อันนารู้ว่าหย่อมเงาขนาดใหญ่ ตรงมุมบ้านจะต้องเป็นเก้าอีน้ วมทีม่ สิ เตอร์เพ็กก์นงั่ อยูแ่ น่นอน “แต่เราจะขนของพวกนีไ้ ปไว้ขา้ งบนก่อน” มิสซิสเพ็กก์บอก และ ดุนหลังอันนาเข้าไปในสิ่งที่ทีแรกดูเหมือนจะเป็นตู้ แต่ปรากฏ ว่าเป็นบันไดวนเล็กชัน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบน มิสซิสเพ็กก์กผ็ ลัก ประตูเปิดออก ประตูเปิดด้วยกลอนแทนทีจ่ ะเป็นด้ามจับ “ถึง แล้วจ้ะ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็สะอาดสะอ้านน่าอยู่ แถมยัง มีฟกู ขนเป็ดชัน้ ยอดด้วยนะ พร้อมเมือ่ ไหร่กล็ งมาข้างล่างนะจ๊ะ ยายหนู ฉันจะลงไปเอากาน�้าตั้งเตาก่อน” อันนามองห้องขนาดเล็กทีม่ กี า� แพงสีขาว เพดานลาด เอียงต�่า และหน้าต่างบานเล็กซึ่งอยู่ต่�ามากจนเธอต้องก้มตัว ลงเพื่อมองออกไปข้างนอก จากหน้าต่างมองออกไปเห็นลาน 19


โจแอน จี. โรบินสัน

สีขาวขนาดเล็กและห้องส้วมที่มีอ่างอาบน�้าสังกะสียาวๆ แขวน อยู่บนผนัง ถัดออกไปเป็นท้องทุ่ง มีภาพแขวนอยู่เหนือเตียงนอน เป็นผ้าปักครอสติทช์ สีแดงสลับสีน�้าเงินใส่กรอบ พร้อมตัวหนังสือค�าว่า ยึดมั่นใน สิง่ ดีงาม ปักอยูเ่ หนือสมอเรือสีนา�้ เงิน อันนามองดูประโยคนี้ ด้วยความแคลงใจ เธอติดใจตรงค�าว่า “ดีงาม” ไม่ใช่ว่าเธอ เป็นเด็กซุกซนอะไร ทีจ่ ริงแล้วสมุดพกเขียนว่าเธอเป็นเด็กความ ประพฤติ “ดี” อยู่บ่อยๆ แต่เธอรู้สึกเหมือนค�าค�านั้นกันเธอ ให้เป็นคนนอกยังไงก็ไม่รู้ อันนาไม่ได้รู้สึกดีเลย แต่ถึงอย่างนั้นห้องก็ยังน่าอยู่ อันนาตัดสินอย่าง รอบคอบ เรียบๆ ทว่าน่าอยู่ทีเดียว ที่ส�าคัญห้องมีกลิ่นเดียว กับที่เธอสังเกตได้ที่ชั้นล่าง คือกลิ่นหอมหวาน เก่าแก่ และ อบอุ่น แตกต่างกันลิบลับกับกลิ่นน�้ายาขัดพื้นที่บ้านหรือกลิ่น น�้ายาฆ่าเชื้อโรคที่โรงเรียน อันนาแขวนเสื้อกันฝนไว้บนตะขอหลังประตู แล้วมา ยืนอยู่ตรงกลางห้องสักพัก พลางกลั้นหายใจและฟัง เธอไม่ อยากลงไปข้างล่างอีก แต่ก็ไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ลง อันนานับ หนึ่งถึงหก กระแอมไอเล็กน้อยก่อนลงไป “อา มาแล้ว ยายหนู!” มิสเตอร์เพ็กก์พูด พลางเงย หน้าขึ้นมองเธอ “แม่เจ้าโว้ย โตขึ้นเป็นกองเลย! จะเป็นสาว แล้วเนี่ย ใช่มั้ย ซูซาน” อันนามองใบหน้าเหี่ยวย่นของมิสเตอร์เพ็กก์ ดวงตา เล็กหยีสีฟ้าซีดจางเกือบจะซ่อนอยู่ใต้คิ้วหย่อนยานอยู่รอมร่อ 20


วันที่มาร์นีไม่อยู่

“ยินดีทไี่ ด้รจู้ กั ค่ะ” อันนาเอ่ยทักอย่างเคร่งขรึม พลาง ยืน่ มือออกไป “อะฮ้า นั่นละยายหนูของฉัน” มิสเตอร์เพ็กก์จับมือ อันนา แล้วตบเบาๆ “แล้วมารดาบุญธรรมของหนูเป็นยังไง บ้าง หืม” อันนาหันไปมองมิสซิสเพ็กก์ “แม่ของหนูน่ะจ้ะ” มิสซิสเพ็กก์ตอบอย่างรวดเร็ว “แซมถามว่าเธอสบายดีมั้ย” “คุณแม่ของหนูเสียไปแล้ว” อันนาตอบเสียงกระด้าง “แม่ตายไปหลายปีแล้ว หนูนึกว่าคุณรู้แล้วซะอีก” “ใช่ ใช่จ้ะ ยายหนู เรารู้เรื่องหมดแล้ว” แซมตอบ เสียงแหบห้าว “รวมทั้งคุณยายของหนูด้วย หนูยิ่งน่าสงสาร เข้าไปใหญ่” อันนาหน้าตึงกว่าเดิม “ฉันจึงถามถึงมารดา บุญธรรมของหนูไง...มิสซิสเพรสตันน่ะ หรือชื่อเดิมคือแนนซี่ พิกก็อตต์ เธอเป็นแม่เลี้ยงของหนูไม่ใช่รึ เป็นคนดีนะ แนนซี่ เพรสตันน่ะ จิตใจดีเสมอมา เธอจะต้องเป็นมารดาทีด่ ขี องหนู แน่ ฉันมั่นใจ เธอสบายดีใช่มั้ย” “สบายดีค่ะ ขอบคุณ” อันนาตอบอย่างเคร่งขรึม “แต่หนูไม่ชอบให้ฉันเรียกเธอว่า ‘มารดา’ ใช่มั้ย” แซมถาม ดวงตาของเขาเหี่ยวย่นตรงหางตา “แกไม่ชอบอยู่แล้วละ!” มิสซิสเพ็กก์แทรกขึ้น “ค�าว่า มารดา มันล้าสมัยแล้ว ฉันเดาว่าหนูคงเรียกเธอว่า ‘แม่’ ใช่มั้ย” 21


โจแอน จี. โรบินสัน

“หนูเรียกเธอว่า ‘คุณป้า’ ค่ะ” อันนาตอบ แล้ว พึมพ�าต่อท้ายว่า “เป็นบางครั้ง” อันนาแทบไม่เคยเรียกมิสซิส เพรสตันด้วยชื่อใดเลย เป็นเรื่องยากที่จะต้องอธิบายเรื่องนี้ มันไม่จ�าเป็น ที่บ้านไม่ได้มีคนอยู่อย่างแออัดสักหน่อย มีแค่ มิสเตอร์เพรสตัน ซึ่งเรียกภรรยาเขาว่าแนน กับเรย์มอนด์ที่ ท�างานธนาคารและจะแวะมาบ้านเป็นครั้งคราว เขาโตเป็น ผู้ใหญ่แล้ว และมักเรียกแม่ของเขาว่า “มิมส์” หรือบางครั้งก็ “มารดา” เพื่อสร้างความขบขัน อันนาคิดว่า “มิมส์” เป็นชื่อ งี่เง่าที่จะเอาไว้เรียกแม่ของตัวเอง...ขณะนี้อันนายืนนิ่งอยู่หน้า เก้าอี้ของมิสเตอร์เพ็กก์ แววตาว้าวุ่นใจ พลางนึกสงสัยว่าควร จะพูดอะไรต่อ มิสซิสเพ็กก์เข้ามาช่วยไว้พอดี “ถึงยังไงฉันก็มั่นใจว่า เธอเป็นแม่ทดี่ ขี องหนู ไม่วา่ หนูจะเรียกเธอว่าอะไร” มิสซิสเพ็กก์ พูดด้วยน�้าเสียงอบอุ่นสบายใจเต็มที่ “และฉันก็มั่นใจว่าพอทุก อย่างเข้าทีเ่ ข้าทางแล้ว หนูจะรักเธอมากจนเกือบจะเหมือนแม่ แท้ๆ ของตัวเองเลยทีเดียว ใช่มั้ย” “อ๋อ ใช่คะ่ !” อันนาตอบ “มากกว่าด้วยซ�า้ ” เธอพลัน รูส้ กึ ถึงอาการเต้นตุบๆ หลังเปลือกตาเมือ่ นึกถึงภาพสุดท้ายของ มิสซิสเพรสตันตอนวิ่งตามรถไฟ อันนานึกถึงโปสการ์ดขึ้นมา โดยพลัน “งั้นก็ดีจ้ะ” มิสซิสเพ็กก์บอก “หนูต้องไปส่งโปสการ์ด” อันนาบอก จู่ๆ เสียงของ เธอก็โพล่งขึ้น เธอกลัวเหลือเกินว่าเสียงจะแตกพร่า “คุณช่วย 22


วันที่มาร์นีไม่อยู่

บอกทางให้หน่อยได้มยั้ คะว่าต้องไปส่งโปสการ์ดทีไ่ หนหลังจาก หนูเขียนเสร็จแล้ว” มิสซิสเพ็กก์ตอบว่า ได้สิ เธอจะบอกทางให้แน่นอน อันนาไปนั่งเขียนในห้องด้านหน้าได้ระหว่างที่เธอเตรียมชาอยู่ “มานี่สิจ๊ะ” มิสซิสเพ็กก์เรียก “เดี๋ยวฉันจะพาไป” เธอเช็ดมือ ข้างกระโปรงตัวเองก่อนจะพาอันนาไปยังห้องที่อยู่อีกฟากของ ทางเดิน “ในนี้มีโต๊ะตัวเล็กอยู่ใต้หน้าต่าง” ห้องขนาดเล็กอัดแน่นไปด้วยเครือ่ งเรือนและดูมดื สลัว มิสซิสเพ็กก์ตลบผ้าม่านขึน้ ก่อนจะย้ายกระถางต้นปาล์มออกจาก โต๊ะไม้ไผ่ตวั เล็ก จากนัน้ ก็โน้มตัวมาชืน่ ชมอ่างสีขาวขนาดใหญ่ที่ เต็มไปด้วยดอกไม้ประดิษฐ์สีชมพูและสีน�้าเงิน ซึ่งกินพื้นที่ครึ่ง หนึ่งของหน้าต่าง “วิเศษใช่ม้ัยล่ะ” มิสซิสเพ็กก์ถามก่อนจะเป่าฝุ่นออก จากกลีบดอกพลาสติก “เป็นอมตะ” มิสซิสเพ็กก์จอ้ งมองดอกไม้อยูค่ รูห่ นึง่ พลางเช็ดขอบ อ่างทรงเรือด้วยมุมกระโปรง จากนัน้ ก็หนั มายิม้ ให้อนั นา ก่อน จะออกจากห้องและปิดประตูตามหลัง นีต่ อ้ งเป็นห้องทีด่ ที สี่ ดุ ในบ้านแน่ อันนาคิดขณะค่อยๆ ย่องไปบนพรมน�า้ มันและพรมหน้าเตาผิงลืน่ ๆ ห้องนีก้ เ็ หมือน ห้องนั่งเล่นที่บ้าน ซึ่งจะถูกน�ามาใช้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือเวลามีแขกเท่านั้น ทว่าแตกต่างกันมาก อันนานั่งลงตรงโต๊ะไม้ไผ่ หยิบโปสการ์ดที่จ่าหน้าถึง มิสซิสสแตนลีย์ เพรสตัน, 25 เอล์มวูด้ เทอร์เรซ, ลอนดอน 23


โจแอน จี. โรบินสัน

ออกมา แล้วเขียนลงไปบนอีกด้านว่า มาถึงโดยสวัสดิภาพแล้ว ค่ะ ที่นี่น่าอยู่มาก ห้องของหนูมีเพดานลาดเอียงกับหน้าต่าง อยู่ติดพื้น ที่นี่มีกลิ่นแตกต่างจากที่บ้าน หนูลืมถามว่าหนูขอ สวมกางเกงขาสัน้ ทุกวันได้มยั้ คะ เว้นแต่จะออกไปสถานทีพ่ เิ ศษ อันนาชะงักมือ จู่ๆ เธอก็รู้สึกอยากบอกอะไรที่แสดง ถึงความรักมากกว่าแค่ “รัก จากอันนา” ธรรมดาๆ แต่ไม่รู้ จะบอกยังไง มีเสียงงึมง�าเบาๆ ดังมาจากในครัว มิสซิสเพ็กก์กา� ลัง คุยกับแซมอยู่ “เด็กน้อยทีน่ า่ สงสาร เสียแม่ไปตัง้ แต่ตวั นิดเดียว แล้วก็มาคุณยายอีก น่าเวทนาจริงๆ ตัวก็ซีดเซียวและผอม กะหร่อง แถมยังออกจะเคร่งขรึมจริงจัง แต่ฉันหวังว่าเราจะ เข้ากันได้ดี แกก�าลังเขียนโปสการ์ดอยู่ ฉันควรไปบอกแกมั้ย ว่าชาพร้อมแล้ว” ในห้องด้านหน้า อันนายังคงนั่งกัดปากกาอยู่ นอก ห้อง ถัดจากอ่างทรงเรือใบใหญ่ยกั ษ์ทกี่ นิ พืน้ ทีเ่ กือบจะทัง้ หมด ของแนวชัน้ ทีย่ นื่ ออกมาจากผนัง อันนาเห็นเสีย้ วหนึง่ ของสวน เล็กจิ๋วที่ก�าลังฝันหวานอยู่กลางแดด ฝูงผึ้งยังคงส่งเสียงหึ่งๆ บินเข้าบินออกดอกไม้สีสด บรรยากาศภายในห้องราวกับถูก กักขัง ไม่ต่างอะไรจากแมลงวันหัวเขียวที่ปีนขึ้นลงในหน้าต่าง ที่ปิดอยู่ อันนานั่งจ้องดอกไฮเยนเดรียพลาสติก พลางสงสัย ว่าจะบอกมิสซิสเพรสตันอย่างไรดีว่าเธอรักมิสซิสเพรสตันอยู่ แล้ว...โดยไม่ให้ผูกมัดตัวเอง ตอนมิสซิสเพ็กก์มาอยูต่ รงประตูหอ้ งด้านหน้าและบอก 24


วันที่มาร์นีไม่อยู่

ว่า “น�้าชาพร้อมแล้วจ้ะ!” เธอจึงตัดสินใจใช้ค�าว่า “รักมาก” แทนที่จะเขียนแค่ “รัก” และเติมป.ล.เข้าไปอีกว่า ช็อกโกแลต อร่อยมากค่ะ หนูเก็บเอาไว้กนิ คืนนีด้ ว้ ย เธอรูว้ า่ มันคงท�าให้มสิ ซิสเพรสตันดีใจโดยไม่ดเู ป็นการ สัญญิงสัญญาอะไร เพราะเมือ่ มาคิดดู เธออาจจะยังไม่ได้รสู้ กึ รักตลอดเวลาก็เป็นได้เมื่อกลับไปถึงบ้านแล้ว

25


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.