จีนสามก๊กและปรัชญา / อ.หมิง
มีคำ�กล่าวหลายคำ�เกี่ยวกับสามก๊ก เช่น “อ่านสามก๊กจบสาม รอบคบไม่ได้” “ไม่ได้อ่านสามก๊กอย่าริทำ�การใหญ่” ฟังดูแต่ละอันก็น่า คิดอยู่เหมือนกัน จริงๆแล้วผู้เขียนก็อ่านมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังมีคน คบอยู่ เรื่องสามก๊กนั้นส่วนใหญ่จะแฝงไปด้วยกลยุทธ์ กลวิธีต่างๆ เรื่อง ของเล่ห์เหลี่ยมจะมีอยู่แทบทุกตอนเลยทีเดียว เรียกว่าหลากหลาย อารมณ์ทั้งสนุกสนาน ชวนตลก บางตอนก็มีเศร้าเคล้าน้ำ�ตา บางตอน ก็บลู๊ า้ งผลาญห้�ำ หัน่ ท่าเดียว อารัมภบทเกริน่ นำ�ก็ขอเอวังเพียงเท่านีก้ อ่ น สำ�หรับตอนแรกนี้ขอเสนอในตอนที่ชื่อว่า “กบฏโพกผ้าเหลือง” “อันสถานการณ์ในแผ่นดินนี้ เมื่อแตกแยกมานานก็จักรวม สมาน รวมสมานมานานก็จกั แตกแยก” ฟังดูคล้ายสถานการณ์บา้ นเมือง เราจริงๆ แต่ไม่ทราบว่าคราใดจะได้รวมสมานกันเสียที คงภาวนาว่าขอ ให้เป็นเร็วๆนี้ ขอพาท่านผู้อ่านย้อนไปสมัยปลายแผ่นดินฮั่น ในสมัย พระเจ้าเลนเต้ ฮ่องเต้เหลวแหลกทีไ่ ม่สนใจเอาการเอางานไม่ใส่ใจราชการ แผ่นดิน ห่วงแต่สุขของตนเอง บ้านเมืองแร้นแค้นราษฎรอดอยาก ก็ ลองนึกสภาพดูแล้วกันนะครับ ฮ่องเต้เอาแต่สุขสบายอยู่ในวังไม่สนใจ ความเป็นอยู่ของราษฎร ทั้งๆที่บ้านเมืองจะล่มจมอยู่แล้ว ขุนนางผู้ใหญ่ ครัน้ จะทูลทัดทาน ฮ่องเต้กไ็ ม่ทรงฟังเอาเสียเลย เชือ่ แต่ขนั ทีคนสนิททัง้ สิบคน โดยเฉพาะขันทีเตียวเหยียงหัวหน้าแก๊งค์ที่ฮ่องเต้ยกย่องเรียกว่า เป็นคุณเตีย่ เลยทีเดียว จะว่าไปแล้วขันทีนนั่ แหละตัวดีทสี่ ร้างความวุน่ วาย ให้กับแผ่นดินจีนตลอด ทุกยุคทุกสมัย บ้างก็ทำ�เหมือนปิดตาฮ่องเต้ บ้างก็คิดแทน พูดแทนฮ่องเต้เสียอีก ครั้งนึงตันต๋ำ�ขุนนางผู้ใหญ่กับเล่า โต๋ซงึ่ เคยเป็นพีเ่ ลีย้ งฮ่องเต้ทลู ห้ามปรามฮ่องเต้อย่าให้หลงเชือ่ คำ�ขันทีมาก เกินไป ครั้นขันทีรู้เข้าก็รีบกุลีกุจอไปเป่าหูฮ่องเต้ว่าตันต๋ำ�กับเล่าโต๋นั้น อิจฉาพวกตนที่ได้ดีกว่าจึงหาทางใส่ร้าย ฮ่องเต้ก็ทรงพระหลงเชื่อไปได้ จึงโกรธเล่าโต๋นักแล้วตรัสว่า “ตัวเป็นพี่เลี้ยง ที่บ้านเรือนของตัวนั้นก็ย่อม มีคนสนิทใช้สอยอยู่ แลตัวเราเป็นเจ้าอยู่ ในราชสมบัตมิ คี นซึง่ สนิทใช้สอย บ้าง ตัวมาริษยาว่ากล่าวให้เราขัดเคืองดังนี้ ซึ่งว่ามีกตัญญูนั้นเราเห็นไม่ จริง” แล้วไล่ตันต๋ำ�กับเล่าโต๋ออกไปจากท้องพระโรง ตันต๋ำ�น้อยใจมาก จึงเอาหัวโขกกับพระทีน่ งั่ หัวแตกเลือดไหลอาบพระทีน่ งั่ (สงสัยจะน้อยใจ มากจริงๆ) ฮ่องเต้พโิ รธมากจึงให้น�ำ ตัวไปขังไว้ เป็นช่องให้เจ้าขันทีทงั้ สิบ สั่งให้ผู้คุมลอบสังหารขุนนางทั้งสอง เป็นอันว่าต้องม้วยมรณาเสียในคุก จบชีวิตขุนนางผู้ซื่อสัตย์ทั้งสองไปอย่างน่าเสียดาย
48
“
“
แรกเริ่มประเดิมชัยก็ขอกราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน ในส่วน ของคอลัมน์นี้ขอเปิดม่านนำ�เสนอเรื่องสามก๊กที่คุณแฟนๆแม่ยกงิ้วรุ่น อาม่ารู้จักกันดี แต่คนรุ่นใหม่ไม่สู้จะให้ความสนใจเท่าใดนัก ด้วยภาษา ที่เป็นความโบราณอ่านไม่รู้เรื่อง เข้าใจยาก แต่ถ้าท่านที่กำ�ลังอ่าน บทความนี้อยู่ขอให้สบายใจได้ว่า เนื้อหาสามก๊กที่จะนำ�เสนอนี้ขอเสนอ ในรูปแบบของการเล่าเรือ่ งรับรองว่าไม่นา่ เบือ่ เน้นความสนุกสนานแต่ยงั คงความมีสาระ ปรัชญาและคติธรรมครบถ้วน จะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ สุดแต่ท่านผู้อ่านจะเป็นผู้พิจารณาเอง
จีนสามก๊กและปรัชญา / อ.หมิง
ฟ้าสีฟ้าสูญสิ้นสลด ฟ้าสีเหลืองปรากฏ เลื่องลือ ปีนี้ปฐพีจะเจริญรุ่งเรือง
ในขณะที่บ้านเมืองแร้นแค้น ภัยธรรมชาติก็ซ้ำ�เติม ทั้งขุนนาง ทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ทำ�ให้ราษฎรต้องลำ�บากไปทั่วทุกหัวระแหง หนุ่มใหญ่นามเตียวก๊ก ชาวเมืองกิลกกุ๋น (ชื่อพิลึกดี) เข้าป่าหาสมุนไพร บังเอิญไปเจอเซียนเฒ่าชือ่ หนานหัวโดยบังเอิญ เซียนเฒ่าหนานหัวมอบ ตำ�ราชื่อไทแผงเยา ให้เตียวก๊กไว้ศึกษา ครั้นได้ตำ�รามาก็รีบจ้ำ�อ้าวกลับ มาบ้าน นั่งอ่านนอนอ่านจนมีความรู้แตกฉานเข้าใจ ในตำ�รามีทั้งเรื่อง คาถาอาคม ทำ�น้�ำ มนต์เป่าเสก เขียนยันต์รกั ษาโรค เรียกว่าครอบจักรวาล เลยทีเดียว ครั้นศึกษาจนชำ�นาญก็ออกรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วย เรียก ว่ารักษาการกุศลสำ�หรับชาวบ้านทีย่ ากจน ซือ้ ใจชาวประชาได้พอสมควร แต่กลายเป็นว่าขุนนางกลับอิจฉาว่ามีคนไปนับถือเตียวก๊กมากไป ขุนนาง บางคนก็กลัวจะเกิดการซ่องสุมก่อกบฏ จึงสัง่ ให้น�ำ กำ�ลังทหารหลวงออก ปราบปราม ขณะนั้นเตียวก๊กพร้อมเหล่าศานุศิษย์ออกจาริกบุญรักษาชาว บ้านตามปกติ ทั้งยังช่วยเหลือชาวบ้านด้วยแจกข้าวปลาอาหาร ก็ได้เจอ กับกองทหารหลวงทีร่ บั คำ�สัง่ มาปราบปราม ออกตระเวนทำ�บุญแท้ๆเจอ ทหารไล่ฆา่ ซะอย่างนัน้ แต่โชคดีทรี่ อดมาได้ ชาวบ้านทัง้ หลายก็ไม่พอใจ อย่างมาก พวกขุนนางทั้งกดขี่ทั้งข่มเหงรีดนาทาเร้นยังไม่พอ ครั้นมีคน ใจบุญจะมาช่วยบรรเทาความทุกข์ยาก ทางการกลับไม่สนับสนุนทัง้ ยังส่ง กองทัพออกปราบซะอีก ฮ่องเต้กไ็ ม่เคยจะมาสนพระทัยดูด�ำ ดูดชี าวบ้าน เมือ่ ความอดทนหมดลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันลุกขึน้ สู้ อ้อนวอนขอร้อง ให้เตียวก๊กเป็นหัวหน้า ให้เตียวโป้ และเตียวเหลียง น้องชายเป็นรอง หัวหน้า ระดมกำ�ลังชาวบ้านเป็นทหารในกองทัพ โพกผ้าเหลืองเป็น สัญลักษณ์ อาวุธก็สุดแท้จะหาได้ตามบ้านตามเรือนสวนไร่นา ไม่ว่าจะ เป็นจอบ เสียม หรือปังตอก็น�ำ มาเป็นอาวุธได้ (นับว่าเป็นการใช้ประโยชน์ จากเครื่องครัวได้ดีเยี่ยม) ด้วยเหตุที่โพกผ้าเหลืองนี้เอง จึงได้ชื่อว่า โจร โพกผ้าเหลือง พร้อมมีสโลแกนคำ�ขวัญที่ว่า “ฟ้าสีฟ้าสูญสิ้นสลด ฟ้าสี
เหลืองปรากฏเลื่องลือ ปีนี้ปฐพีจะเจริญรุ่งเรือง” (สีฟา้ ก็คอื สีของราชวงศ์ฮนั่ ) เมือ่ กองทัพพร้อมเสร็จสรรพก็กอ่ การจลาจล วุ่นวาย เที่ยวเผาจวนขุนนางจนวอดวายไปสิ้น จนทางการต้องระดม ทหารออกปราบปราม แต่ดว้ ยกองกำ�ลังกบฏทีม่ มี ากและกองทัพหลวงที่ อ่อนแอ จึงไม่อาจต้านทานกำ�ลังของเหล่ากบฏโพกผ้าเหลืองได้ ดังนั้น แม่ทพั โฮจิน๋ จึงมีประกาศรับสมัครทหารอาสาเพือ่ มาปราบปรามเหล่ากบฏ โพกผ้าเหลือง… ขอพักจบตอนไว้เพียงเท่านี้พอเป็นที่มาให้น่าติดตาม เหมือน ละครทีก่ �ำ ลังสนุก นัง่ ลุน้ อย่าใจจดใจจ่อหน้าโทรทัศน์ แต่อยูด่ ๆ ี หมดเวลา จบตอนไปอย่างดื้อๆ ในเนื้อหาของตอนนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้นของเรื่อง สามก๊กเท่านั้น แต่ก็น่าเห็นใจเตียวก๊กอยู่เหมือนกัน ทำ�ดีแท้ๆกลับโดน ทำ�ร้าย ปัจจุบันนี้ก็เช่นกันคนบางคนทำ�ดีแล้วไม่ได้ดี กลับโดนให้ร้าย คง เพราะอย่างนี้กระมังถึงไม่ค่อยมีใครอยากทำ�ดี ทำ�ดีแล้วไม่ได้ดี คนดีก็ เลยท้อแท้ บางคนกลายเป็นคนเลวไปเลยก็มี เสริมความรู้อีกนิดว่าเตียว ก๊กนั้นเป็นผู้กำ�เนิดนิกายไท่ผิงเต้า ในลัทธิเต๋า ซึ่งเตียวก๊กนั้นก็คือเตียว เทียนซือนั่นเองครับ สำ�หรับตอนต่อไปจะปรากฏตัวละครเอกของเรื่อง ทีจ่ ะมาร่วมเป็นกองทหารอาสาในการปราบกบฏในครัง้ นี้ ทีม่ ที งั้ พระเอก และตัววายร้าย ที่จะได้เจอกันเพื่อร่วมมือกันปราบเหล่ากบฏ ส่วนจะ เป็นผู้ใดนั้น ขอให้ท่านผู้อ่านติดตามตอนต่อไปในชื่อตอน
“คำ�สาบานในสวนท้อ”.
49