Our Heart 6

Page 1

D

H

A

M

M

A

D

A

.

N

E

T

ค ื อ ค วา ม เรี ยบ ง่ า ย ค ื อ ธรรม ะ ค ื อ ธรรม ด า

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

เล่ม 6 UPDATE เพิ่มเติม ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2553


บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ เล่ม 6 *** บทความและข้อความจากหัวใจบริสุทธิ์ ที่นํามาเสนอนี้ ล้วนมีรายชื่อและนามสกุล จริง ของผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในฉบับนี้จะลงเพียงชื่อแต่จะไม่มีการเปิดเผยนามสกุล จริง ทั้งนี้ในฉบับที่นําถวายหลวงพ่อและแจกจ่ายต่อสื่อมวลชนจะมีการเปิดเผยตาม ความจริงทุกประการ *** 651. เมื่อเกือบสิบปีก่อนตอนที่ไปเรียน ป.โท ทิ่ออสเตรเลีย เคยไปสนทนากับเพื่อนศาสนาอื่น แล้วก็เกิดสับสนว่าแก่นธรรม ที่แท้จริงคืออะไร พระพุทธศาสนาสอนอะไร คําถามในชีวิตมากมายที่ตอบตัวเองไม่ได้ ก็มาเพียรอ่านหนังสือธรรมะแทบจะ ทุกเล่มที่หาได้...อ่านเว็บทุกเว็บ...แต่ก็ไม่ได้คําตอบที่ชัดเจน....จนได้มาเจองานเขียนของหลวงพ่อปราโมทย์บนเว็บพุทธิ อายตนะ (ตอนนั้นท่านใช้นามปากกาว่าสันตินันท์อุบาสก/อุบาสกนิรนาม) อ่านแล้วชัดเจนกระจ่างใจ...ได้พบคําตอบที่ตัว เองตามหามานาน ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนได้เจอสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต และชีวิตก็เปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น...เหมือนมีชีวิต ใหม่ คือมีจิตที่ตั้งมั่นใจศีลในธรรม... แบบที่ใครไม่ได้สัมผัสเองคงไม่มีวันเข้าใจ... วันนั้นน้อมจิตลงกราบหนังสือท่านตรง นั้น ยังไม่รู้ว่าท่านเป็นใครด้วยซ้ํา... รู้แต่ว่าท่านนี้แหละเป็นครูเรา ท่านนี้แหละเป็นพ่อทางธรรมของเรา.... หลังจากนั้นก้อ ได้เพียรตามหาว่าท่านเป็นใคร อยู่ที่ไหน จนได้มาพบท่าน ขอกราบระลึกพระคุณของหลวงพ่อปราโมชย์ค่ะ _/|\_ _/|\__/|\_ โดยคุณ น.ส.นภาดา 652. ดิฉันชื่อวาสินา สุวรรณโชติ อายุ 48ปี พักอาศัยอยู่ประเทศสวีเดนค่ะเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีกัลยาณมิตรท่านนึงส่งซีดีของ หลวงพ่อมาให้ฟัง ดิฉันรู้ซึ้งเลยค่ะว่าทั้งชีวิตไม่เคยมีสติเลย อยู่กับความหลงไปวันแล้ววันเล่า ดิฉันเริ่มเจริญสติในชีวิตประจําวันอย่างที่ท่านสอน รู้ทันมั่งไม่ทันมั่ง แต่ทุกครั้งที่มีสติรู้ทันผลที่ตามมาก็มีแต่สิ่งดีๆ ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น มีความสุขอยู่กับตัวเองได้ อารมณ์เย็นหนักแน่นขึ้น ปัญหาครอบครัวลดลง ยังอยากจะได้มีโอกาสส่งการบ้านกับท่านสักครั้งค่ะ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมค่ะ โดยคุณ วาสินา 653. เมื่อปีที่แล้วได้รับซีดีและหนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์จากกัลยาณมิตรสองท่านที่ไม่รู้จักกันในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่ม สนใจว่าหลวงพ่อท่านนี้เป็นใครและท่านสอนอะไร แต่ก็ลองฝึกตามดูกายใจไปพร้อม ๆ กับการฟังสิ่งที่ท่านสอนจากซีดี ซึ่ง เป็นคําสอนที่เรียบง่าย ทําได้ทุกวัน ทุกเวลา จึงเห็นจริง ๆ ว่ากายใจที่ดูอยู่เปลี่ยนแปลงทั้งวันไปตามสิ่งที่มากระทบ และเห็น อีกว่าถ้าเราแค่รู้แค่ดูไม่เอามาใส่ใจ กิเลสทั้งหลาย ความสุขความทุกข์ มันก็จะผ่านไปได้จริง ๆ ทําให้เกิดศรัทธาในสิ่งที่ท่าน สอน นอกจากนี้ ความศรัทธาก็เกิดจากตัวหลวงพ่อท่านเองด้วย ตั้งแต่ฟังซีดีของท่านมาไม่เคยได้ยินแม้แต่ครั้งเดียวว่า หลวงพ่อเรียกร้องอะไรจากผู้ปฏิบัติเลย ท่านมีแต่คอยบอกให้มีสติ รู้กายรู้ใจด้วยใจที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง เพื่อที่จะได้เห็น ความจริงว่ากายใจนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บังคับไม่ได้ และจะได้คลายความยึดถือยึดมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่หลวงพ่อพูดเสมอว่าท่าน นําธรรมะของพระพุทธเจ้ามาถ่ายทอดต่อ และเป็นสิ่งเดียวกับที่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลายได้สอนไว้ในพระธรรม เทศนาและหนังสือมากมาย แม้ขณะนี้ตัวเองจะยังยึดถือในกายใจนี้อยู่ แต่จะฝึกเรียนรู้ต่อไป เพราะเห็นความสุขที่เกิดขึ้น จากการยอมรับความจริงของกายใจได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ขอปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ ตลอดไป โดยคุณ วโรภาส-ดลลชา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

1


654. หลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเปรียบเสมือนทั้งพ่อแม่และครูอาจารย์ที่คอยเมตตาพร่ําสอนทั้งทางโลกและทางธรรมได้ อย่างน่าอัศจรรย์ พระคุณของท่านนั้นท่วมหัว ยากที่จะบรรยายออกมาได้หมด ผู้ใดปฏิบัติตามคําสั่งสอน ย่อมเกิดประสบการณ์ภายในบ้างไม่มากก็น้อย เป็นเครื่องยืนยังอย่างดีแต่รู้ได้เฉพาะตน ขอกราบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ด้วยเศียรเกล้า _/l\__/l\__/l\_ โดยคุณ ศรันยา 655. จากคนที่ไม่รู้จักพุทธศาสนา ไม่เคยสนใจการภาวนา กลายมาเป็นนักปฎิบัติได้ เพราะหลวงพ่อปราโมทย์ท่านได้ให้ ความกระจ่างในทุกขั้นตอนของการปฎิบัติอย่างที่ไม่เคยได้พบมาก่อนและชี้แนะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆหวังเพียงให้ ลูกศิษย์ได้ภาวนา หลวงพ่อเป็นพระแท้ๆที่กราบได้อย่างสนิทใจ จะขอภาวนาถวายแด่พระพุทธเจ้าและหลวงพ่อปราโมทย์ ตลอดชีวิตค่ะ กราบหลวงพ่อ โดยคุณ พญ.สุภาภรณ์ 656. ดิฉันได้เรียนรู้ธรรมเทศนาของหลวงพ่อปราโมทย์จากการฟังไฟล์ MP3 เท่านั้น ฟังตั้งแต่แผ่นที่ 16 จนถึงแผ่นล่าสุด (แผ่น 35) ไม่เคยได้ไปกราบท่านจริง ๆ สักครั้ง เมื่อแรกฟังรู้สึกว่ายังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าคําสอนของหลวงพ่อถูกจริต กับคนคิดมากอย่างดิฉัน ดิฉันนั่งสมาธิไม่เคยสงบกับใครเขา เมื่อได้ฟังธรรมของหลวงพ่อ ดิฉันจึงเห็นหนทางธรรมที่ตนเอง จะเดินได้ ยิ่งฟังมากก็ยิ่งแน่ใจว่า ทางนี้แหละเดินไปเถอะ รีบปฏิบัติวิปัสสนาในชาตินี้เถอะ สิ่งที่ได้จากการฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์นั้นมีมากมาย แต่จะขอสรุปความเข้าใจส่วนหนึ่งที่ได้จากการฟังไว้ดังนี้ 1. สิ่งที่สําคัญที่สุดที่หลวงพ่อสอนคือ วิธีการปฏิบัติวิปัสสนา ด้วยวิธีการง่าย ๆ ตรง ๆ การ “ดูจิต” - เมื่อฟังคําสอนของท่าน แล้ว ก็ปฏิบัติตาม ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ลงมือทําได้เลย ใครก็ทําได้ ไม่เลือกว่ารวยหรือจน และทําได้ทุกที่ทุกโอกาส (ยกเว้น เวลาทํางานที่ต้องใช้ความคิด) ดิฉันเปลี่ยนมุมมองในการมองโลกไปมากหลังจากได้ฟังธรรมของหลวงพ่อมาสักระยะหนึ่ง ดิฉันเพ่งโทษกิเลสของคนอื่นน้อยลง และเห็นกิเลสของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้ดิฉันมีจิตใจที่สงบมากขึ้น 2. หลวงพ่อสอนให้รู้ว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่ออะไร การได้มีโอกาสฟังธรรมที่เป็นสัมมาทิฐิ การได้ปฏิบัติวิปัสสนานั้น เป็นสิ่งที่ ประเสริฐยิ่งแล้วสําหรับชีวิตหนึ่งที่เกิดมา เมื่อมีโอกาสเช่นนี้ ต้องหมั่นทําความเพียรให้ได้มากที่สุด ตายเมื่อไหร่ไม่สําคัญ สําคัญที่ทุกวันที่มีชีวิตอยู่ ได้สั่งสมบุญ เจริญการปฏิบัติธรรมให้ยิ่งขึ้น ดิฉันพูดกับกัลยาณมิตรผู้แนะนําธรรมะของหลวงพ่อ ให้ดิฉันเสมอว่า ถ้าไม่ปฏิบัติธรรม ตายไปคงเสียชาติเกิด 3. หลวงพ่อสอนให้มีสติแล้วปัญญาจะตามมา ท่านสอนให้ไม่หลงงมงาย อย่าหลงในปาฏิหาริย์ ไม่ยึดติดกับตัวตนของครูบา อาจารย์คืออย่ายึดติดกับตัวท่าน ให้ฟังเฉพาะคําสอน สิ่งที่หลวงพ่อเน้นย้ําเสมอในคําสอนของท่านคือ “ให้ยึดเอาธรรมะ ของพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ” 4. หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่า การปฏิบัติธรรมนั้นได้บุญใหญ่ ส่วนการทําบุญด้วยการบริจาคทรัพย์หรือสิ่งของนั้นได้บุญ น้อยนักเมื่อเทียบกับการปฏิบัติวิปัสสนา ท่านไม่เรียกร้องให้ผู้ฟังธรรมบริจาคทรัพย์สิ่งของใด ๆ แม้แต่น้อย ดิฉันฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช อย่างตั้งใจมา 4 ปีกว่าแล้ว ฟังหลาย ๆ แผ่นอย่างต่อเนื่องและฟังหลาย ๆ รอบ ได้รับคําตอบชัดเจนเหลือเกินว่า “สิ่งที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนนั้นมุ่งให้ผู้ฟังมีสติและมีปัญญา” ตลอดเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้ ดิฉันขอทําความเพียรปฏิบัติวิปัสสนาไปอย่างไม่ย่อท้อ ด้วยเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า ธรรมะ ย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

2


กราบขอบพระคุณหลวงพ่อสําหรับธรรมะที่ช่วยให้ผู้ฟังมากมายได้พบหนทางแห่งการปฏิบัติธรรมอันประกอบด้วยสัมมาทิฐิ ดิฉันขอเป็นพยานแห่งความดีงามและบริสุทธิ์แห่งคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชค่ะ โดย คุณจริญญา 657. เคารพและศรัทธาในคําสอนของพระอาจารย์ แม้จะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น เชื่อมั่นว่าคําสอนที่ท่านถ่ายทอดตามแนว ของพระพุทธเจ้าจะไม่กระทบกระเทือนแน่นอน โดยคุณ อรพรรณ

658. พระพุทธองค์เคยตรัสสอนไว้ว่า "นัตถิ โลเก อนินทิโต คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก" ขอให้คุณความดีอันบริสุทธิ์จงรักษาพระอาจารย์ปราโมชให้ผ่านพ้นภัยนี้โดยฉับพลันเทอญ ขอแผ่เมตตาให้แก่ทุกท่านได้เกิดดวงตาเห็นธรรมและจงละเลิกในการสร้างภัยแห่งวัฏสังสารนี้เทอญ โดยคุณ สุภาภรณ์ 659. คําเทศนาของหลวงพ่อไม่ได้สร้างความอ่อนแอ ไม่เคยมีคําเทศน์ใด ๆของหลวงพ่อที่ทําให้ลูกศิษย์ติดอาจารย์ ดิฉันก็ ยังศึกษาจากครูบาอาจารย์อื่นๆ ไปปฏิบัติธรรมตามโอกาส ในวัดป่าต่าง ๆ หลากหลายแนวทาง ด้วยมีหลักในการปฏิบัติ ที่ ได้รับความเข้าใจมาจากหลวงพ่อปราโมทย์ ดั่งครูบาอาจารย์ที่นําคําสอนของพระพุทธองค์มาย่อยและสอนให้ง่ายต่อความ เข้าใจ คําสอนของหลวงพ่อไม่ขัดต่อการปฏิบัติตามแนวทางอื่น ๆ และสิ่งที่ดิฉันได้ปฏิบัตินั้น พิสูจน์แก่ตัวเองแล้วว่า คํา แนะนําสั่งสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ไม่มีสิ่งอันน่าเคลือบแคลงสําหรับดิฉันเลย มีแต่ทําให้ได้ขัดเกลาตัวเองให้พ้นไปจาก ความข้องทั้งหลายในโลก โดยคุณน.ส. วันวิสา 660. โยมเชื่อมั่นในพระธรรมและคําสั่งสอนที่หลวงพ่อได้เมตตาถ่ายทอดให้แก่พวกเรา เพื่อการปฏิบัติภาวนา เพื่อให้รู้จักทุกข์และเหตุแห่งทุกข์ และนําไปสู่การละกิเลสในที่สุด แม้วันนี้ โยมยังเดินตามรอยทางที่หลวงพ่อได้แนะนํามาได้ไม่ไกลนัก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

3


แต่ก็จะตั้งใจปฏิบัติภาวนาต่อไปอย่างไม่ท้อถอย และขอถวายบุญกุศลจากการภาวนานี้เป็นพุทธบูชา และอาจารยบูชาแด่หลวงพ่อผู้มีแต่ให้อย่างแท้จริง ศิษย์คนนี้ไม่เคยขอปาวารณาเป็นศิษย์กับหลวงพ่อด้วยวาจาแต่อย่างใด แต่จะเป็นศิษย์หลวงพ่อด้วยใจตลอดไป โดยคุณ ปรารถนา 661. กราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ฯ เป็นอย่างสูง ที่เมตตาสอนธรรมะและการปฏิบัติภาวนา ให้กับลูกศิษย์คนนี้และคนใกล้ชิดลูกฯ จากที่เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์เลย..คิดว่าเป็นเรื่องที่อ่าน แล้วเข้าใจยาก แต่เมื่อมาฟังธรรมจากหลวงพ่อฯ ทําให้เข้าใจและคิดว่า การปฏิบัติสามารถทําได้จริง และสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองจึงตั้งใจปฏิบัติตามคําสอน อย่างสม่ําเสมอทุกวันและเห็นผลการปฏิบัติ จากที่เคยทุกข์มาก ก็ทุกข์น้อยลง มองโลก ในแง่ของความเป็นจริงมากขึ้น ไม่หลงเพลินไปกับกิเลสมากเหมือนเมื่อก่อน ตั้งใจถือศีลห้าตลอด ส่วนครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้น จะตั้งใจปฏิบัติภาวนาไปตลอดชีวิต เพื่อเป็นพุทธบูชาต่อพระพุทธเจ้า และอาจาริยบูชาต่อหลวงพ่อฯ ด้วยเจ้าค่ะ ลูกฯขอกราบอาราธนาขอให้หลวงพ่อฯช่วยเมตตาสอนพวกเราต่อไปด้วยนะคะ เผื่อคนอื่น ๆ จะได้ เข้าใจและเข้าถึงธรรมะของพระพุทธองค์มากยิ่งขึ้น กราบนมัสการเจ้าค่ะ โดยคุณ จรรยา ลูกศิษย์ที่เคยมีอัตตาและโทสะแรงคนหนึ่ง 662. ขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อประโมทย์ผู้มีแต่ให้ด้วยใจเคารพ จากการที่ผมได้ศึกษาคําสอน และปฎิบัติตามแนวทางของท่านมาเกือบสองปี ทําให้ผมได้ทราบว่าจุดมุ่งหมายของพระพุทธ ศาสนาคือความพ้นทุกข์และหนทางที่จะดําเนินไปนั้นเป็นอย่างไร การปฎิบัติทําให้ผมได้มองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น ความทุกข์ใจ ความฟุ้งซ่านน้อยลง เห็นกิเลสตัวเองบ่อยขึ้น ทําให้ไม่ค่อยเพลินในความอยากของตนเองมากนัก และความสุข จากการเจริญสติก็ได้เกิดบ่อยขึ้น ความทุกข์ที่เกิดจากกิเลสก็น้อยลง เหล่านี้จึงทําให้ผมมั่นใจในคําสอนของหลวงพ่อผู้ซึ่งมี ความเมตตาสูง และเสียสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นอย่างแท้จริง สุดท้ายนี้ผมขอปฎิบัติบูชาคุณพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อปราโมทย์ตลอดชีวิตครับ โดยคุณ ธนากร 663. ได้เริ่มรู้จักกายใจและความจริงที่ปรากฏขึ้นแก่กายใจของตัวเอง จากการฟัง เรียนรู้ และปฏิบัติตามคําสอนผ่าน CD ของหลวงพ่อปราโมทย์ และไปฟังธรรมที่สวนสันติธรรมเป็นระยะๆ ถึงอาจจะยังล้มลุกคลุกคลานกับการปฏิบัติภวานาอยู่ทุก วัน แต่สิ่งหนึ่งที่ได้แน่นอนคือ จิตใจมีการเปลี่ยนแปลง คือรู้จักเข้าใจในความจริงของโลกในตัวเราเอง โลกภายนอก ไม่ ทําร้ายตัวเองและผู้อื่น รู้จักความดีและความชั่วร้ายของกิเลสที่ผ่านเข้ามาในตัวเอง หลวงพ่อเป็นผู้บอกทางให้ชัดเจนขึ้นใน พระธรรมของพระพุทธองค์ ทุกอย่างเราก็ต้องพิสูจน์และทําด้วยตัวเอง ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ผู้เป็นครูบาอาจารย์ เสมือนบิดาทางธรรม ขอปฏิบัติตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอเจริญสติภาวานา เป็นพุทธบูชาแด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บิดามารดา หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช และ ครูบาอาจารย์ ทั้งทางธรรมและทางโลกทุกท่าน ด้วยความเคารพอย่างสูง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

4


ข้าพเจ้า และสามี โดยคุณ จิตติมา และ คุณ วันชัย 664. เรื่อง เชื่อมั่นในความบริสุทธิของหลวงพ่อ ดิฉันเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ซึ่งได้ปฏิบัติตามแนวคําแนะนําสั่งสอน ทําบ้างไม่ทําบ้าง ให้มีสติรู้ตัว เพียงเวลา 3 เดือนก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตนเอง และรู้ซึ้งว่าธรรมะนั้นต้องทํา จึงจะได้ และเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่อปราโมทย์ ว่า ท่านเป็นพระแท้ๆ และเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และมีความเมตตาที่จะแนะนําสั่งสอนให้แก่คนที่ได้มีบุญและสนใจที่จะ แก้ทุกข์ให้ตนเอง โดยคุณ บุญณริญา 665. หลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระสงฆ์องค์แรกที่ทําให้ดิฉันเริ่มศึกษาปฎิบัติธรรมจากที่เคยหยุดการศึกษาการปฎิบัติมา ตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนนั้นได้ลองปฎิบัติตามหนังสือการปฎิบัติธรรมเล่มหนึ่งที่เคยได้รับตอนเด็กๆ (อายุประมาณ 12 ปี) แต่ ตอนนั้นไม่มีผู้บอกทางที่ถูกต้อง มีความเข้าใจที่ผิดอยู่ คิดว่าการสั่งสมาธิแล้วอาการของจิตจะนิ่งสงบ เพราะผลขอ งการปฎิบัติตอนนั้นคือ เห็นจิตตนเองคิดตลอดเวลา ไม่สามารถบังคับให้อยู่นิ่งๆได้เลย ตอนนั้นสรุปกับตนเองเลยว่าไม่สา มารถปฎิบัติธรรมได้ ช่วงนั้นท่านพุทธทาส ท่านยังมีชีวิตอยู่ และท่านก็มีชื่อเสียงมาก ดิฉันไม่มีโอกาสได้ไปนมัสการท่าน เพราะอยู่ไกลจากท่านมา และยังเป็นเด็กยังเดินทางไกลไม่เป็น ได้แต่อ่านหนังสือของท่าน อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจเลย ดิฉันเรียนโรงเรียนฝรั่งในเมือง ไม่เคยสวดมนต์ภาษาบาลีเลย แต่เนื่องจากคงเคยทําบุญจากชาติเก่าๆ ทําให้ไปหาซื้อ หนังสือสวดมนต์เล่มเล็กๆ ซึ่งไม่มีคําแปล มาสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน สรุปคือตั้งแต่อายุ 12 ถึง 40 ปี ดิฉันทําได้แค่นั้น (ถ้า ย้อนคิดกลับไป จะเห็นว่าเป็นระยะเวลายาวนานมากที่ดิฉันอยู่ในโลกที่ไม่ได้มีโอกาสได้ศึกษาธรรมะเลย) ได้แต่ทําบุญไป เรื่อยเปื่อย ไม่ศรัทธาในพระสงฆ์รูปใดๆ เพราะคิดแต่ว่าไม่มีพระสงฆ์จริงๆในโลกแล้ว ครั้งหนึ่งดิฉันบังเอิญได้ฟังช่องธรรมะของพี่น้อง ตอนช่วงเช้าๆ ประทับใจในคําพูดของพี่น้องในรายการ ตอนนั้นคิดต่อไปว่า ทําไมพระพุทธเจ้าท่านจึงเป็นผู้มีปัญญาอย่างนี้ ต่อมาไม่นานพี่น้องและคุณดนัยได้พาดิฉันไปกราบหลวงพ่อปราโมทย์เป็น ครั้งแรกที่กาญจนบุรี เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ตั้งแต่วันนั้นจึงนับได้ว่า พระอาจารย์ปราโมทย์เป็นผู้ดึงดิฉันจากความเสี่ยง ทั้งหมดที่เคยมีอยู่ 100% ในชีวิตโลกๆ มาสู่ความจริง ดิฉันเริ่มศึกษา และเริ่มเข้าใจในธรรมะของพระพุทธเจ้า เริ่มมองเห็น พระอริยสงฆ์องค์อื่นๆ ที่มีอยู่จริงๆในโลก มองเห็นตัวเอง มองเห็นความหวังในการหลุดพ้นจากวัฎสงสาร หลวงพ่อ ปราโมทย์จึงเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ดิฉันจริงๆ โดยคุณ รพีพรรณ 666. ไม่เคยหวั่นไหวในคําเท็จที่ผู้มีใจมืดบอดได้กล่าวร้ายต่อพระอาจารย์... ตลอดสี่ปีที่มีโอกาส(แอบ)ฝากตนเป็นศิษย์พระอาจารย์ ได้พิสูจน์แล้วด้วยตนเองว่าสิ่งที่พระอาจารย์เมตตาสั่งสอนเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นจริง แม้ไม่เคยได้ถามหรือพูดคุยกับพระอาจารย์สักครั้ง แต่หลายครั้งท่านก็ยังเมตตาตักเตือนสั่งสอนในเรื่องที่เรา แอบสงสัยหรือคิดร้าย ๆ ในใจ ไม่ว่าใครจะกล่าวร้ายต่อท่านเช่นใด พระอาจารย์ยังคงเป็นพระอาจารย์ที่ศิษย์คนนี้จะเคารพและสํานึกพระคุณไม่มีวัน เปลี่ยนแปลง และศิษย์ผู้นี้ยังตั้งใจจะทําตนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี..ไม่ว่าจะไปตกอยู่ที่ใดก็จะดํารงตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นทาง โลกและทางธรรม.. โดยคุณ ตวงรัตน์ 667. โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ ทุกวันนี้ก็ได้ไปฟังธรรมอาจารย์ปราโมทย์ ได้ความรู้จากท่าน และถ้าเราไม่ไปทางนี้เราก็ไม่มีความรู้เลย เราได้ฟัง ธรรมจากท่าน แล้วทําให้เรามีความรู้สึกดี จากที่โมโหแรงๆ ก็หายไป เวลาที่โดนใครพูดว่าเรา เราก็ไม่โกรธเขา เพราะได้ฟัง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

5


ธรรมะอาจารย์มา ทําให้จิตใจเราเปลี่ยนไปดีมาก เวลานี้จิตใจเราอยากจะไปแต่ทําบุญ ทําทาน ฟังธรรม มีความสุข ตอนนี้ ลูกๆ ทั้ง 5 คน และหลาน 6 คน ก็ฟังธรรมะอาจารย์ปราโมช โดยคุณประยูร

668. ผมรู้สึกว่าตัวเองสนใจธรรมะเมื่ออายุย่างสามสิบและก็ตั้งใจว่าจะรักษาศีลห้าข้อตั้งแต่นั้นมาจนวันนี้ ก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอีกเลย แต่ก็มีความไม่ชัดเจนว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไรเกี่ยวกับศาสนาพุทธคือยังเคว้งคว้าง อยู่เนื่องจากคําสอนต่างๆเกี่ยวกับศาสนาพุทธนั้นมีมากมายหลายอย่าง ถือศีลให้ดีแล้วเพื่ออะไร นั่งสมาธิ แล้วจะเป็นชาวพุทธหรือไง แล้วยังไงต่อ ไม่รู้แนวทาง จนวันหนึ่งเพื่อนได้แนะนําให้ฟังธรรมของพระอาจารย์ ปราโมทย์ แห่งสวนสันติธรรม ก็เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกัยหลักของศาสนาพุทธว่าเป็นคําสอนเพื่อ ความเห็นที่ถูกต้อง ธรรมวินัยนี้เพื่อการดําเนินจิตให้ไปในทางที่ถูกต้องลัดตรง มีสติระวังใจไม่ให้ผิดศีล ที่จะทะลุออกทางกายทางใจ การมีศีลก็เพื่อเป็นพื้นฐานให้กายวาจาไม่มีโทษ จิตก็ไม่ฟุ้งซ่านมากเนื่อง จากกายวาจามีความปกติ จากนั้นก็ฝึกจิตตามรู้กายใจตามรูสภาวะเพื่อให้เกิดความระลึกได้ถึงสภาวะธรรม ที่เป็นรูปกับนามเพื่อให้เห็นว่ารูปนาม คือ กายใจนี้ไม่ใช่ตัวตนอะไรเป็นธรรมชาติที่มันก็เป็นไปตามเหตุ ของมัน เราไม่ใช่เจ้าของเค้า และก็หมั่นทําอยู่อย่างนี้แหละ รักษาศีล หมั่นตามรู้กายใจเนืองๆ ฝึกกรรมฐาน ตามรูปแบบสม่ําเสมอเพื่อจะได้มีประสบการณ์และเพื่อรู้จักกับจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศล เพียรพยายามทําเหตุ เพื่อจะได้มีจิตที่เป็นกุศลที่มีปัญญาและเกิดเองแบบไม่จงใจ เพื่อวันหนึ่งจิตเองมีความรู้และตัดสิน ไปว่า ไม่มีตัวตนของใคร ละความเห็นผิดได้ว่ามีตัวเรา ละความยึดถือตัวตนได้ คืนจิตให้โลกไป เรียนจบไม่ต้องมา เวียนเกิดเวียนตาย ตั้งหน้าตั้งตาบําเพ็ญกุศลเผลอทําอกุศลแล้วก็เสวยวิบากดีร้ายไม่จบสิ้น สรุปว่า ทําให้เรามีเป้าหมายในชีวิตรู้ว่างานหลักของชีวิตคืออะไร รู้คุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์ การแสดงธรรม ของพระอาจารย์จึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับชีวิตผมครับ เป็นบุญกุศลมากที่ได้มีโอกาสสดับธรรมะ ของพระพุทธเจ้าจากพระอาจารย์. โดยคุณเกรียงศักดิ์ 669. หลวงพ่อนําธรรมะของพระพุทธเจ้ามาสอนให้เราเดินด้วยความเมตตา ท่านไม่เคยเรียกร้องหรือต้องการอะไรจากเรา เลย ตลอด3ปีกว่าที่ได้มาเรียนกับท่าน ท่านมีแต่บอกให้ภาวนานะ ภาวนา ถ้าไม่ได้พบท่านยังไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเป็น อย่างไรต่อไป ยังนึกไม่ออกเลยจริงๆ ตอนนี้มีความสุขที่ได้รู้และเข้าใจจิตของตนเองมากขึ้น ทําให้เข้าใจสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวไปด้วย อย่างน้อยที่สุด หลวงพ่อก็สอนให้เห็นว่า อาการหลงๆ เอ๋อ ต้องเหนื่อย และหนักไปกับกิเลส มันทุกข์แค่ไหน พระคุณของหลวงพ่อเกินกว่าจะเขียนออกมาได้............. โดยคุณสุภาภรณ์ 670. ฉันเป็นลูกศิษย์ทาง cd คนหนึ่งของหลวงพ่อเหมือนกับที่คนไทยอีกนับหมื่นนับแสนเป็นอยู่ เป็นคนหนึ่งที่ไปฟังธรรมที่ สวนสันติธรรมเมื่อมีโอกาส เป็นลูกศิษย์ไกลๆที่ไม่มีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อหรือลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อคนไหนเลย ฉะนั้น ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าหลวงพ่อปราโมทย์ทําอะไร ผิดจริงหรือไม่ ในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเงินบริจาคต่างๆ ฉันไม่รู้ ไม่มี ทางรู้ได้เลยจริงๆ ฉันมีแต่ความเชื่อ ซึ่งไม่ว่าจะเชื่ออย่างไร ก็ไม่มีผลต่อความเป็นจริง จึงไม่จําเป็นต้องพูดถึงในที่นี้ แต่ที่ฉันรู้จากการที่ฉันได้สัมผัสด้วยตัวเอง ฉันรู้ว่า คําสอนของท่านล้วนแต่สอดคล้องกับคําสอนในพระไตรปิฎก ไม่มีส่วน ไหนขัดแย้งหรืองอกเงยนอกเหนือจากพระไตรปิฎก ทั้งในด้านพระสัทธรรม และด้านการปฏิบัติ ฉันรู้จากการฟังท่านสอน ซ้ําๆว่า ท่านไม่ได้ปฏิเสธหรือโจมตีการปฏิบัติสมถะภาวนา ท่านสอนเสมอว่า สมถะทิ้งไม่ได้นะ ให้ทําทุกวันสม่ําเสมอ ฉัน รู้จักจิตใจตัวเองดีขึ้นมาก จากคําสอนของท่านที่ให้รู้ทันใจตัวเองไปนะ แค่ตามรู้ ตามดูนะ และที่สําคัญ ฉันรู้ว่าฉันมีศรัทธา และใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และทําให้ชีวิตฉันมีความสุขขึ้นมาก ไม่ว่าคําตัดสินจะออกมาอย่างไร ฉันรู้แต่ว่าฉันจะยังคงนําคําสอนของท่านไปปฏิบัติต่ออย่างสม่ําเสมอ ฉันจะยังคงศรัทธา และเชื่อมั่นในตัวท่านและคําสอนของท่าน และฉันจะยังคงเรียกตัวเองว่าเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อปราโมทย์เสมอไป โดยคุณพลอยชื่น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

6


671. กราบนมัสการหลวงพ่อ และสวัสดีญาติธรรมทุกท่านค่ะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้ ศึกษาและปฏิบัติในแนวทางพิจารณากาย และใจ โดยได้จากฟังคําสั่งสอน รวมทั้งอ่านจากหนังสือ ทั้ง จากหลวงพ่อ และพระอาจารย์ท่านอื่นโดยไม่ได้ยึดกับพระรูป ใดรูปหนึ่ง นอกจากคําสอนเท่านั้นที่นํามาปฏิบัติ ซึ่งจาก การนํามาปฏิบัติ ก็ทําให้ทุกข์ที่มีนั้นเบาลง เหมือนทั้งทุกข์ทั้งสุขมันจางๆ ไม่สุขมาก ทุกข์มากเหมือนแต่ก่อน จากผลที่ได้กับ ตัวเองทําให้ปัจจุบันก็ยังปฏิบัติอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้น อยากขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อ ยังคงสั่งสอนลูกศิษย์ต่อไปค่ะ ดิฉันเชื่อว่า แนวทางนี้จะทําให้พวกเราพ้นทุกข์ได้จริงๆ โดยคุณ ปุณณภา 672. ดิฉันขอร่วมโครงการนี้ด้วยคนนะค่ะ อยากตอบแทนบุญคุณหลวงพ่อท่านบ้าง ในฐานะที่เป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาธรรมะของ พระพุทธเจ้าจากท่าน และวิธีการสอนของท่านก็ทําให้ชีวิต จิตใจเปลี่ยนไปจริงๆ ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 3 แล้วที่ได้ฟังธรรมจากท่าน รวมถึงพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์ท่านอื่นๆ และปฏิบัติบูชาอยู่อย่าง สม่ําเสมอ การปฏิบัติและเจริญในธรรมเป็นการรู้ได้เฉพาะตนจริงๆ ผู้ใดตั้งใจจริงปฏิบัติจริงก็จะได้รับผลนั้นด้วยตนเอง ถึง แม้ว่าตอนนี้จะเป็นปุถุชนธรรมดาๆคนหนึ่งแต่ก็เข้าใจศาสนาพุทธและคําสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น มีความสุขและความ เพียรที่อยู่กับปัจจุบัน และทําความรู้จักตนเองให้มากๆ เพราะได้ฟังธรรมขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปราโมทโช สวนสันติธรรม เมื่อเดือนมีนาคม 2551 ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออีกครั้งคะ โดย คุณสินีรัตน์ 673. ดิฉันเป็นผู้ฟังCDและอ่านหนังสือแนวทางปฏิบัติที่เขียนโดยหลวงพ่อปราโมทย์ มาราว 3 ปี แนวทางการเทศน์และการบรรยายธรรมของหลวงพ่อทําให้คนเมืองที่ ไม่มีพื้นฐานและไม่มีความขยันมากนักเข้าใจศาสนาพุทธดีขึ้น สามารถเริ่มปฏิบัติด้วย ตนเอง และเห็นผลดี ชีวิต เปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกข์กังวล ลดลงมาก ตั้งใจว่าจะดูจิต ทุกวันตลอดชีวิตที่ยังมีสติสัมปชัญญะค่ะ โดยคุณ กาญจนา 674. เกือบ3ปีที่ผ่านมา ได้รู้จักแนวการสอนของหลวงพ่อจากพี่ที่ทํางานคนหนึ่ง ตอนนั้นชีวิตมีความทุกข์ ก็พยายามดิ้นรนหาทางออก รู้ว่าธรรมะช่วยได้ แต่ไม่รู้ต้องเริ่มจากตรงไหน ทําได้แค่หาหนังสืออ่านเรื่อยไป ดีขึ้นบ้าง แย่ลงบ้าง ยังจําความรุ้สึกครั้งแรกที่ได้ฟังซีดีก็รู้ทันทีว่า ที่ผ่านมาชีวิต30ปี คืออายุ 31น่ะค่ะตอนนั้น ไม่เคยรู้เลยว่าเรามีชีวิตอยู่อย่างไร จําได้ชัดเจนเลยว่าตอนที่ฟังหลวงพ่อนั้น เหมือนมีคนมากระตุกว่ารู้สึกตัวได้แล้ว มัวหลงมานานแล้ว ถือเป็นโชคดีที่ฟังหลวงพ่อ เพียงครั้งแรกก็เข้าใจว่าชีวิตตั้งแต่เกิดหลงมาตลอด จมอยู่กับกองทุกข์ ก็ฟังเรื่อยมา ลองฝึกปฏิบัติบ้างจากแค่การฟังซีดี แล้วก็ผ่านแต่ละจุดไปเรื่อยๆ มีความเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน มาทบทวนตัวเองอีกทีนึง ก็พบว่าศีล5นั้นเข้ามาสู่ใจโดยไม่รู้ตัว ถึงตอนนี้รู้แล้วว่าข้างในเราเปลี่ยนไปแล้ว ความกล้าในการทําบาปมันน้อยลงมาก มดแมงก็ฆ่าไม่ลง จะหยิบฉวยเอาของใครก็ละอายใจ สันโดษในคู่ของตน จะพูดไม่จริงแม้สักน้อยก็ไม่สบายใจ เมื่อก่อนชอบเที่ยวเตร่กินดื่มกับเพื่อน ก็กลายเป็นเอาเหล้าเขาปากไม่ได้ รุ้สึกมันไม่อร่อยอีกแล้ว เมื่อก่อนเสียเวลากินได้ยังไง สิ่งนึงที่เหมือนหลวงพ่อช่วยไว้ คือ ทุกข์จากปัญหาครอบครัว เราทั้งสามี ภรรยา ภาวนาไปด้วยกัน ปัญหาที่มีจนเหมือนครอบครัวต้องแตกแยก หลังจากภาวนา ดูจิตดูใจตนเอง เรากลับเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น ตอนนี้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข ตลอดเวลาที่ฝึกมาไม่เคยมีโอกาสได้รายงานการปฏิบัติกับหลวงพ่อเลย เวลาติดปัญหาส่วนมากได้ความอนุเคราะห์จาก อ.สุรวัฒน์ ทางเวปวิมุตติ ถ้าให้ทบทวนตัวเองว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ตอบได้ว่า สิ่งที่เห็นได้ด้วยตนเอง จากการภาวนาตามหลวงพ่อสอนนั้น ทําให้เกิดศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสุดหัวจิตหัวใจ เพราะพระสุปฏิปันโนที่ถ่ายทอดคําสอนของพระองค์ ทําให้ตัวเองเข้าใจว่าพุทธศาสนา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

7


สอนอะไร เป้าหมายของการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ ซึ่งตัวเองก็จะไม่เลิกเดินบนเส้นทางนี้ พระพุทธเจ้ามีจริงและพระองค์ประเสริฐยิ่ง หลวงพ่อสอนเสมอของฟรีไม่มีในโลก อยากได้ต้องทําเอา เพราะสิ่งเหล่าใดทั้งปวงย่อมเกิดแต่เหตุที่ควร ล่าสุดหลวงพ่อได้ให้คําสอนที่มีค่ายิ่งคือ ลูกศิษย์หลวงพ่อต้องตีกับกิเลสตัวเอง ไม่ใช่ตีกับกิเลสคนอื่น และโลกธรรม8คือสิ่งที่หากไม่เข้าใจแล้ว ก็อย่าหวังว่าจะเข้าใจธรรมที่จะพ้นโลกได้ ทางเดินยังมีอยู่ ร่องรอยยังไม่สูญหาย ผู้บอกทางยังเหลือ หากไม่รีบเดินในตอนนี้ ก็หมดหวังที่จะถึงจุดหมาย ขออนุโมทนากับความเมตตาของหลวงพ่อและเหล่าผู้ร่วมทางเดิน ที่ช่วยเหลือตลอดมาค่ะ สาธุค่ะ โดยคุณ สุภาพร และครอบครัว

675. การปฏับัติธรรมของผมกับใจที่ร่มเย็นขึ้น ====================== เดิมทีผมเป็นคนห่างวัด นับถือศาสนาพุทธตามทะเบียนบ้านเท่านั้น จนเมื่อประมาณ 5 – 6 ปีที่ผ่านมาอยู่ๆ ก็นึกอยาก ปฏิบัติธรรมขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ผมก็เริ่มต้นอย่างงูๆ ปลาๆ ไร้การสอนสั่งโดยการไปหาหนังสือสวดมนต์มาสวดตามแบบ ของหลวงพ่อจรัญ จากนั้นก็ต่อด้วยการสวดชินบัญชรและยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก สวดอย่างนี้สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ครั้ง หนึ่งๆ เป็นชั่วโมงๆ ทําอย่างนี้อยู่ 2 – 3 ปี ได้แต่จําบทสวดมนต์บางบทได้ขึ้นใจ ช่วงนั้นมีผู้ให้ซีดีคําสอนของครูบาอาจาร ย์หลายๆ ท่าน แต่ก็ไม่ได้เอามาเปิดฟัง จนปลายปี 2550 ได้มีโอกาสอ่านคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ซึ่งถอดมาจากการแสดงธรรมของท่านและถูกนํามาตีพิมพ์ ในวารสารวิศวกรรมศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ่านแล้วเกิดความประทับใจในความเรียบง่ายของคําสอน จึงได้ ไปดาวน์โหลดไฟล์ MP3 มาจากเวปวิมุตติ ยิ่งฟังไปยิ่งเกิดความรู้สึกว่าตัวเองได้พบวิธีการปฏิบัติและอาจารย์ของตนแล้ว คือพอฟังแล้วก็คลิกเลย มันเข้าใจ รู้เลยว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองแสวงหามาตลอด เกิดปิติว่าจะได้ปฏิบัติธรรมในทางที่ถูกต้องเสียที ก็เลยตกลงปลงใจว่าจากนี้เป็นต้นไปจะปฏิบัติภาวนาไปตลอดชีวิต พอ ตั้งใจดังนี้ก็บอกลูกเมียว่าจะเริ่มภาวนาจริงจังแล้วนะ จะถือศีล 5 เลิกดื่มสุราเด็ดขาด จะนอนพื้นทุกวันและจะถือศีล 8 ทุก วันพระ ในรถจะฟังซีดีของหลวงพ่อเป็นหลัก นี้เป็นสัจจะที่ผมตั้งใจและได้ปฏิบัติมาตั้งแต่วันนั้นจวบจนถึงทุกวันนี้ จากนั้นกลางเดือน พค. 2551 ก็มีโอกาสไปกราบและฟังธรรมะโดยตรงจากหลวงพ่อที่สวนสันติธรรมศรีราชาเป็นครั้งแรก จริงๆ อยากจะไปตั้งแต่ต้นปี แต่เข้าใจผิดว่าคิวในการขอเข้าฟังธรรมยาว จึงรีรออยู่ (จริงๆ คิวที่ยาวคือคิวเข้าอยู่วัด) ได้มี โอกาสส่งการบ้านกับหลวงพ่อและท่านได้ชี้ให้เข้าใจสภาวะอย่างแจ่มแจ้งจนจิตตื่นและเกิดสติตัวจริงเป็นครั้งแรก ท่านบอก ว่า “สู้ตายนะ” จากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเจริญสติตามที่ท่านสอน โดยการปฏิบัติในรูปแบบทุกวัน ตื่นแต่ตีสี่ครึ่ง เดินจงกรม 1 ชั่วโมง นั่งสมาธิสวดมนต์อีก 45 นาที เย็นลงกลับจากงานก็ทําแบบนี้อีก 1 ครั้ง ในรถก็เปิด CD ของท่านฟังตลอดเพื่อ ให้ใจโน้มน้อมอยู่ในธรรมะเท่าที่จะทําได้ วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตนทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เกิดสติได้ในชีวิตประจําวัน

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

8


เกือบ 3 ปีผ่านไปนับจากวันแรกที่ได้มีโอกาสรับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ ถึงตอนนี้ผมมีภาระการทํางานมากขึ้นมาก มีเวลา ในการปฏิบัติในรูปแบบน้อยลง แต่สติก็เกิดในชีวิตประจําวันบ่อยครั้ง แม้แต่จุดอ่อนที่สุดคือตอนรับประทานอาหารก็พอมี สติเกิดบ้าง จิตใจโดยรวมโปร่งสบายขึ้นตามลําดับ โทสะน้อยลง (ซึ่งมีประโยชน์มากในการเผชิญกับปัญหาการจราจรใน กรุงเทพ) ลูกเมียและลูกน้องชมว่าเปลี่ยนไปมาก หมาที่บ้านก็เริ่มมาคลุกคลี ที่ทํางานเลขาฯ ก็มาบอกว่าเลิกกลัวผมแล้ว (เมื่อก่อนผมคงน่ากลัวมาก) ที่สําคัญคือความดันโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ หากมีคนถามผมว่าหลวงพ่อท่านสอนอะไร ผมจะตอบว่าหลวงพ่อท่านสอนให้ผมเป็นคนดี รู้จักหน้าที่ รู้จักสภาวะธรรม ท่านสอนให้มีสติ ให้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ให้เคารพพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคําสอนของท่าน หลวงพ่อท่านทําให้ ผมเชื่อว่านิพพานเป็นสิ่งที่สามารถไปถึงได้จริงหากเรามุ่งมั่นดํารงค์ตนตามคําสอนของพระพุทธองค์จริงๆ เดี๋ยวนี้ผมไม่ทุกข์เหมือนเดิมแล้วครับ จิตใจตั้งมั่นแน่นแฟ้นในพระรัตนตรัย ตั้งใจว่าจะขอปฏิบัติภาวนาให้เข้าใจธรรมะ จนถึงที่สุดแห่งธรรมให้จนได้ ผมขอกราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า และจะขอปฏิบัติบูชาถวายหลวงพ่อจนกว่าชีวิตจะหาไม่

สภาวะธรรมที่ปรากฏ =========== ในช่วง 3 ปีของการภาวนานี้ซึ่งเป็นเวลาที่ผมศึกษาไตรสิกขา เร่งอินทรีย์ 5 ทําตนให้ถึงพร้อมในบารมี 10 โดยการทําทาน ถือศีลและปฏิบัติภาวนา เรียนรู้วิเศษลักษณะในเบื้องต้นเพื่อให้เข้าใจสามัญลักษณะในบั้นปลายนั้น มีสภาวธรรมเกิดให้ เห็นหลายอย่าง ผมได้เห็นจิตหนัก จิตถูกกด จิตเข้าไปยึดเกาะอารมณ์ จิตกระเพื่อม จิตไหล จิตรวบ จิตคลาย และจิตตั้งมั่น

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

9


เห็นมือเหมือนไม่ใช่มือตัวเองเมื่อตอนอาบน้ํา เห็นธาตุดิน (หัวเป็นก้อน มือเป็นท่อนเมื่อยกมือเกาศรีษะ) เห็นธาตุลม (ความตึงไหวที่เกิดขั้นเมื่อขยับตัว) เห็นจิตทุกข์เมื่อเข้าไปยึดและไม่เป็นกลาง เห็นจิตคลายเมื่อเกิดสติและรู้อารมณ์อย่าง เป็นกลาง เห็นความเป็นอนัตตาของจิตเนื่องจากบังคับไม่ได้ ผมได้เห็นโทสะพลุ่งขึ้นจากกลางอกเป็นก้อนกลมๆ และเมื่อรู้ได้อย่างเป็นกลางไม่เข้าไปร่วมโกรธด้วย ก้อนนี้ก็สลายไป อย่างรวดเร็ว ลูกชายผม (ตอนนี้อายุ 14) ได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อในรถมาพร้อมๆ กับผมก็เคยได้เห็นความอยากพูดและเห็นความดีใจที่ ซ้อนขึ้นมาเนื่องจากเห็นความอยากนั้น ลูกไม่ได้ฝึกเท่าไรและเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว แต่ผมก็หวังว่าเมื่อแกทุกข์ แกคงจะหัน มาทางนี้เองถ้าแกสะสมบุญวาสนามามากพอ ธรรมะช่วยชีวิตในยามวิกฤต =============== เช้ามืดของเสาร์วันหนึ่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเผชิญเหตุการณ์ซึ่งพิสูจน์ได้เห็นอย่างชัดเจน ว่า “สติจําเป็นในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ” จริงๆ เช้าวันนั้น ผมขับรถมุ่งหน้าไปสวนสันติธรรมโดยมีญาติธรรมอีกสองท่าน (คือฉัตรและรัตน์) นั่งไปด้วย เส้นทางก็คือวิ่ง ทางด่วนบูรพาวิถีไปลงตรงบางปะกง จากนั้นวิ่งเส้นบายพาสไปจนถึงปากทางเข้าสวนฯ (ตรงข้ามร้านแม่กิมบ๊วย) ถ้าคนที่ วิ่งแบบจับเข็มไมล์และวิ่งเส้นทางเดียวกับผมจะพอทราบว่าระยะทางจากด่านเก็บเงินทางด่วนตรงทางลงบางปะกงจนถึง ปากทางตรงแม่กิมบ๊วยนั้นประมาณ 32 กม. ถ้าวัดระยะทางแบบนี้ วิ่งมาซัก 16 – 17 กม. จากด่านทางด่วนก็จะต้องหักขวาแล้วโค้งขึ้นเนินครับ ตรงนี้เป็นสะพานสูงมี 2 เลนและจะมีเลนทางซ้ายมาร่วม (Merge) อีกที ปกติผมจะวิ่งขวาสุดครับ เพราะเลนซ้ายจ้าวถนน 18 ล้อมักจะครอบครอง อยู่ วันนั้นผมผ่านตรงบริเวณนี้ประมาณซัก 5:30 น. ครับ ยังมืดมากอยู่เลย วิ่งไม่เร็วนัก น่าจะประมาณ 100 กม. กว่าๆ (กว่า ไม่มาก) ซ้ายมือมีรถ 18 ล้อวิ่งล้ําอยู่ด้านหน้า (คือเค้าขึ้นเนินมาก่อนผม) หลังจากพ้นช่วงโค้งพอมองไปข้างหน้าผมใจหาย วูบ มีรถ 18 ล้อจอดเสียอยู่บนเลนผมกลางเนินเลย ไม่เปิดไฟหรือจุดตะเกียงให้เป็นสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น วิ่งมา 100 กว่า ระยะกระชั้นขนาดนี้ เบรคไม่ทันแน่นอน อยู่เลนขวาสุดแต่จะแซงออกขวาก็ไม่ได้อีก เพราะทางตรงนี้เป็น ทางแบบวิ่งแยก (Divided Highway) สะพานมีราวกั้นระหว่างเลน ทางเดียวที่จะรอดคือเร่งแซง 18 ล้อทางซ้ายมือให้ได้ ถ้ารอดก็พ้น ถ้าไม่รอดก็ชนจังๆ กับคันที่จอดขวางหรือถูกแซนวิชระหว่างคันที่ขวางกับคันทางซ้าย ตอนนั้นความกลัวไม่มี ความตื่นตระหนกไม่มี มีแต่สติที่ตั้งมั่นขึ้นมา ผมเร่งเครื่องแซงออกซ้ายปาดหน้ารถ 18 ล้อคันทาง ซ้ายและหลบผ่าน 18 ล้อคันที่จอดขวางอยู่มาได้อย่างหวุดหวิด ฉัตรนั่งเงียบกริบ รัตน์ที่นั่งอยู่ด้านหลังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จนเราเล่าให้ฟัง ผมรู้สึกขอบคุณหลวงพ่อที่สอนให้ผมมีสติจนนํามาใช้ประโยชน์ได้ในช่วงคับขันครับ (และช่วยให้ฉัตรได้มี โอกาสไปบวชในสัปดาห์ถัดไป :-) ท้ายที่สุดนี้ผมขอปวารณาตนดังนี้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

10


“ข้าพเจ้าขอน้อมเอาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่ตั้งในการดําเนินชีวิต ขอให้พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ช่วยนําข้าพเจ้าไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องและมรรคผลนิพพานในบั้นปลาย ขอให้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิและสัมมาทิฐิทุกชาติไป ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญกุศลอันเกิดจากการเจริญภาวนานี้เป็นอาจาริยบูชาแก่หลวงพ่อปราโมทย์ หลวงปู่ดูลย์ หลวงตาม หาบัวและพระพุทธเจ้า จะขอปฏิบัติบูชาถวายหลวงพ่อฯ หลวงปู่ฯ หลวงตาฯ และพระพุทธเจ้าจนกว่าชีวิตจะหาไม่” ==================================== โดยคุณ Pee Kay จากห้องศาสนา Pantip.COM 676. บูชาคุณ มันเริ่มจากจุดไหนกันที่ทําให้คนคนหนึ่งหันมาศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง ด้วยความสนุกสนาน เต็มอกเต็มใจที่จะเรียนรู้ด้วย ตนเอง อ่านคําสอนของพระผู้ใหญ่ต่างๆแล้วรู้สึกว่าคําสอนเหล่านั้นเข้าถึงจิตถึงใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทําไมถึง เปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ในเวลาเกือบสองปี? จริงๆก่อนหน้านี้ เราว่าเราสนใจนะ อ่านงานของท่านพุทธทาสตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ แล้วก็คิดคิดเอาว่า ทุกอย่างเป็นมายา ถ้าไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ แต่มันก็คิด แล้วมันก็ทุกข์ไปได้ซะทุกที อ่านงานของหลวงพ่อชาก็ชอบใจ แต่ยังไม่รู้จะเอามาปรับใช้ยังไง แล้วก็ไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม ผลที่ได้คือ รู้ว่าของเล่นมีจริง รู้ว่าถ้ายิ่งเล่น จะยิ่งติด จะยิ่งผยองว่าตัวเองเก่ง และก็รู้ว่าการ จะได้ของเล่น ไม่ใช่ทําเล่นๆ ต้องให้เวลาพอสมควรถึงจะได้ของเล่นเหล่านั้น พี่เลี้ยงก็หลอกล่อเราด้วยของเล่น แต่ใจเราไม่ ชอบของเล่น ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไร เพราะของเล่น มันไม่เที่ยง บางทีก็มาให้เล่น บางทีก็ไม่มา (ถ้ามันมาตลอด เราคงเพลินไปแล้วกระมัง) สุดท้าย ก็ปลง ใช้หลักอะไรยังไงก็ได้ ดิ้นรนขอให้อยู่อย่างมีความสุขก็แล้วกัน เป็นคนดีของ สังคม แค่นี้ก็พอแล้ว จนวันหนึ่งไปอ่านกระทู้เกี่ยวกับการเดินจงกรม เปิดเปิดกระทู้นั้นอย่างๆไม่ตั้งใจ แต่พออ่านแล้วสะดุดใจในการอธิบายของ หลวงพ่อ (สมัยที่ท่านเป็นฆราวาส) ภาษาที่ใช้สละสลวย เราชอบคนใช้ภาษาสวย เป็นพวกชอบจับผิดเรื่องภาษาก็ว่าได้ทั้งที่ ตัวเองไม่ได้เก่งภาษาไทยสักหน่อย คนที่เขียนหนังสือได้ดี อธิบายเรื่องยากให้ดูง่ายและใช้ภาษาที่น่าอ่าน เราคิดเอาเองว่า ระบบความคิดของเขาต้องดี และอารมณ์ก็คงดีด้วย เราคิด เราเชื่อของเราอย่างนั้น จากกระทู้สมัยสิบกว่าปีก่อน ทําให้เราตามต่อไปถึงงานเขียนที่ wimutti.net เล่มแรกคือ “แด่เธอผู้มาใหม่” ต่อด้วย “ประทีป ส่องธรรม” ยากนะ อ่านแล้วอ่านอีก ฝึกดูจิตดูใจตามไปด้วย ไม่เห็นจะง่ายเลย จนได้มา download เสียงเทศน์ของท่าน เรา ว่า เราคงเป็นเหมือนคนจํานวนมากที่คิดว่า ฟังเสียงพระเทศน์คงน่าเบื่อ (เบื่อหนักขึ้นไปอีกเมื่อฟังเสียงพระที่วัยรุ่นทั้งหลาย ชอบนักชอบหนา เพราะฟังแล้วไม่นึกขํา ไม่นึกสนุกตามสักนิด) แต่...เสียงเทศน์ของหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ใช่อย่างนั้น ฟังครั้งแรกก็ปิ๊งเลย พอจะเข้าใจว่าต้องทําอะไรยังไงบ้าง กรรมฐานไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอทําตอนบวช หรือตอนเข้าคอร์ส ไม่ใช่ เรื่องของคนที่ใกล้วัด และไม่จําเป็นจะต้องศึกษาธรรมะมากมายถึงจะมาเริ่มฝึกสติ ธรรมะเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ในทันที ง่ายขนาดนั้น จะมีใครที่ไหนอธิบายให้พวกหัวดื้อฟังแล้วยอมรับง่ายได้ขนาดนี้ หลวงพ่อทําให้คนไกลวัด คนที่แอนตี้พุทธ พาณิชย์ คนที่ไม่เชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริงและคนที่มองการเข้าถึงนิพพานเป็นเรื่องของการบวชเท่านั้นแบบเรา ได้เข้ามา ศึกษาว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร ศึกษาด้วยการลองทําทุกวัน อ่านและฟังธรรมเทศนาทุกวันได้อย่างเต็มอกเต็มใจ ยิ่งได้ฟังเทศน์มากเข้ามากเข้า ความเข้าใจในพุทธศาสนาก็มีมากขึ้น ถือศีลถือยังไง ศีล 5 ที่ท่านพูดถึงนั้น รวมกายกรรม และวจีกรรมของกุศลกรรมบถเข้าไปด้วย พอทําได้ก็มีความมั่นคงของใจมากขึ้น ละความโลภออกไปได้พอสมควร เต็มอก เต็มใจทําทานได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แปลกเนอะที่การทําทาน รักษาศีลและเจริญภาวนาของตัวเองเดินไปด้วยกันได้ดี อย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมๆกับการรู้ทันอารมณ์ร้ายๆของตัวเอง ความอวดดีอวดเก่งของตัวเอง ก่อนหน้านี้ ความลําพองว่าตัว เองดี ตัวเองเก่งไม่เคยถูกรู้ มันเลยลําพองมากขึ้นๆๆ น่าเกลียดชะมัด เราชื่นชมหลวงพ่อปราโมทย์นะ เราว่าหลวงพ่อเก่ง แหม! ใครใครก็ชื่นชมท่านทั้งนั้นแหละ ในแง่มุมของเรา เราว่าท่านสอน หนังสือเก่ง ครูที่สอนหนังสือให้เด็กรู้เรื่องน่ะ หาได้ไม่ง่ายหรอก เพราะการสอน จะมีแต่เนื้อหาอย่างเดียว คนเรียนก็เบื่อซะ ก่อน ต้องมีเทคนิค มีลูกเล่น มีตัวอย่างต่างๆ ทําให้คนเรียนไม่เบื่อและจดจําได้ง่าย หลวงพ่อเป็นครูแบบนั้น ทุกเรื่องที่ท่าน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

11


อธิบายมีความเป็นเหตุเป็นผล ลงตัวกัน รับลูกกัน เหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ เราไม่เคยเห็นความเชื่อมโยงถึงกันมาก่อน ยิ่งฟัง ก็ยิ่งซาบซึ้งถึงความเป็นเหตุเป็นผลของศาสนาพุทธอย่างมากมาย ในการถ่ายทอดความรู้ คนที่ไปนั่งฟังท่านเทศน์ เห็นได้ ชัดล่ะว่าท่านพูดออกมาจากใจ ทั้งน้ําเสียง ทั้งหน้าตา จากใจครูถึงใจลูกศิษย์ เป็นอย่างนั้น ความเพลินอีกอย่างหนึ่งสําหรับเราคือ ท่านเก่งภาษา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ท่านอธิบายคํานั้นคํานี้ สมภาร มาจาก สมะ + ภาระ มีภาระเสมอ หรือ วิเสสลักษณะ คือ ลักษณะที่วิเศษ คําทางพุทธเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ที่ท่านอธิบาย ทําให้การเรียนรู้ไม่ น่าเบื่อ หนําซ้ํายังจดจําความหมายของคําต่างๆได้ง่ายขึ้นด้วย คนที่ไม่เก่งภาษาไทยอย่างเรา ฟังท่านสอนภาษาไทย ภาษา บาลีอย่างนี้ แล้วชอบจัง ยิ่งเวลาที่ท่านพูดถึงครูบาอาจารย์ ฟังแล้วอยากตามไปเป็นหลานศิษย์ด้วย ก็เลยไปตามอ่านงานของครูบาอาจารย์เหล่านั้น อ่านแล้วเข้าใจ ซาบซึ้งกับคําสอนของแต่ละท่าน ยังอ่านได้ไม่หมดเลยนะนี่ วันก่อนไปค้นเรื่องของพอจ.บุญจันทร์ อ่านไป 2 ชั่วโมงด้วยความติดพัน คนห่างวัดอย่างเรา มารู้จักครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็จากที่ลพ.ท่านเล่าถึงน่ะแหละ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการเรียนธรรมะผ่านซีดีและผ่านตัวเป็นเป็นของท่าน ทําให้ชีวิตดีขึ้นเป็นลําดับ บางคนเขาเห็นผล ภายในเดือนเดียว ของเราต้องมองย้อนกลับไปหลายเดือน ถึงจะเห็นว่ามันดีขึ้น อาจจะเดินช้ากว่าคนอื่นกระมัง แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อย เพื่อนทั้งหลายและคนรอบตัวเราน่าจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะเราได้บ้าง เราทําตัวเราให้มีความสุขแล้วคนรอบข้างจะ เป็นสุขตาม อย่างนั้นเลยค่ะ เพื่อนบางคนมีปัญหาก็สามารถอยู่กับปัญหาได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนมากนัก เขาไม่ได้ฟังธรรมเหมือนเรา แต่เขาคุยกับเราบ่อย และเราคงฟุ้งธรรมะไปบ้างพอสมควร ฟุ้งแบบเนียนๆไง เขาเลยซึมซับไปได้ เพื่อนสนิทที่ทํางานเครียดกับงานและเครียดกับ เพื่อนร่วมงาน สองปีก่อนเราร่วมเม้าท์กับเขาด้วย แต่เมื่อเราปรับพฤติกรรมตัวเองด้านลดการนินทาลงไป เธอหาเพื่อนร่วม นินทาไม่ได้ เลยต้องลดตามไปด้วย และเมื่อใส่เรื่องดีดีเข้าไปเวลาที่เราคุยกันทุกวัน ทําให้เธออารมณ์ดีขึ้น คลอดลูกชายตัว น้อยออกมาก่อนกําหนด ลูกชายเป็นเด็กอารมณ์ดีต่างไปจากลูกคนแรก สามีเธอก็ยืนยันว่าเธออารมณ์ดีขึ้นในช่วงปีที่ผ่าน มาแม้ว่างานจะยุ่งมากกว่าเดิม เธอยกให้เรารับผลงานชิ้นนี้ไป น้องบางคนอยากจะทําอาชีพที่ล่อแหลม เขารู้ว่าเราชอบเข้าวัด ถามเราเพื่อต้องการคํายืนยันว่าที่เขาทํา มันไม่ผิดศีล 5 นี่นา เราบอกว่าไม่ผิดแต่มันไม่ใช่สัมมาอาชีวะ ไม่นึกว่าพูดไปแล้วเขาจะฟัง แต่เขาก็เปลี่ยนใจ ขายก๊วยเตี๋ยวแทนที่จะขายเหล้า สาธุนะ... “ทุกข์ให้รู้ ไม่ได้ให้หนี” นี่ก็อีกคําหนึ่งที่จําได้แม่นจากการฟังซีดีและแซวตัวเองบ่อยๆเวลาเจอแล้วไม่ยอมรู้ แต่ไขว่คว้าหา อย่างอื่นมาเพื่อหนีทุกข์ การได้เรียนธรรมะกับหลวงพ่อเป็นเรื่องสนุกออก และก็ได้ความรู้เพิ่มทุกครั้งนะ แม้จะรู้ว่า ทุกข์อยู่ที่กายกับใจของตัวเอง เรียนรู้ไปแค่นี้ทั้งชีวิตก็พอแล้ว เหมือนกับที่เคยรู้สึกที่ศาลาลุงชินคือ เราไม่ห่วงหลวงพ่อ เราว่าตัวเราน่ะน่าห่วงกว่าท่านตั้งเยอะ ก็เรายังเอาตัวเองไม่รอด เลยนี่นา อีกอย่างคือ ท่านได้สอนให้เห็นว่า แม้แต่ตัวของท่านเอง ก็ยึดไว้ไม่ได้ เพียงแต่ระลึกถึงบุญคุณของท่านมากขึ้น กราบท่านก่อนนอนด้วยความซาบซึ้งในบุญคุณและในความเมตตาที่ไม่มีประมาณ ของท่าน หลายวันที่ผ่านมา อ่านเรื่องราวจากคนโน้นคนนี้ แล้วก็...รอเวลาคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เคล็ดวิชาที่ท่านสอนไว้มีไม่ มากหรอก แค่ประโยคเดียวก็ทํากันไปทั้งชาติแล้ว... “มีสติรู้กายรู้ใจ ตามความเป็นจริง รู้ลงปัจจุบัน ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง” มาเขียนบูชาคุณ ของหลวงพ่อปราโมทย์ผ่าน blog ตัวเองค่ะ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

12


โดย คุณ บุหงาส่าหรี 677. ก่อนมาพบ คําสอนของพระพุทธองค์โดยการสอนของ(หลวง)พ่อ ชีวิตอ้างว้างไร้จุดหมาย อยู่สุขสู้ทุกข์ไปวันๆ พร่ําถามใจว่าเกิดมา หาอะไรเพื่ออะไร เหมือนเสาะหาครูบาอาจารย์มาเนิ่นนาน คิดว่าชาตินี้ต้องตายไปเปล่า เสียแล้ว ไม่มีโอกาสจะได้พบธรรมะ แน่นอน จนมาวันหนึ่งได้พบหนังสือ วิถีแห่งความรู้แจ้ง ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปี 2549 คําอธิบายในหนังสือช่าง สะดุดใจนัก จึงได้ติดต่อไปที่สวนสันติธรรม หลวงพ่อเมตตากรุณายิ่งนัก ส่งหนังสือทางเอก และซีดีมาให้ (คิดว่า โดย ความเอื้อเฟื้อจากน้องชื่อ ชมพู) หลังจากวันนั้น ด้วยการฟังจากซีดี แผ่นเดียว ความเข้าใจในการปฏิบัติธรรมอย่างเป็นธรรมชาติ ก็บังเกิดขึ้นเอง นับได้ว่า ชีวิตนี้ไม่เสียเปล่าแล้ว ลูกขอกราบแทบเท้า(หลวง)พ่อ ที่นําแสงสว่างมาสู่ชีวิต ไม่ต้องหลงทางระหกระเหิน อีกนานแสนนาน ลูกขอปฏิบัติบูชาถวายแด่พระพุทธเจ้า ตอบแทนพระคุณ(หลวง)พ่อ ตลอดไปเพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสาร โดยคุณสิริณัฐ 678. กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ฟังซีดีที่หลวงพ่อสอนแล้วมีกําลังใจอย่างยิ่งยวดในการเรียนรู้กายรู้ใจ หลังจากหัดรู้แล้วก็เห็นความจริงของกายใจเพิ่มมาก ขึ้นๆในเวลาอันสั้นค่ะ ศีล สมาธิ ปัญญา จากไม่มีก็ค่อยๆมีขึ้นค่ะ แถมยังรู้สึกว่ามีศรัทธา วิริยะเกิดขึ้นในจิตใจมากมายด้วย นะคะ มีความสุขแบบเงียบๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อก่อนหายใจทิ้ง เที่ยวเล่นไปวันๆ เดี๋ยวนี้มีร่างกายเคลื่อนไหวเป็นเพื่อนไว้ให้คอยรู้สึกตัว มีใจช่างคิดช่างพูดช่างรวนเรไว้ คอยเรียนรู้ค่ะ ก็จะเรียนรู้กายใจตลอดไปตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจในโลกร้อนๆใบนี้ ตอนนี้คุณแม่ที่บ้านก็ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อด้วย เห็นคุณแม่โกรธน้อยลง ใจเย็นขึ้นค่ะ คนที่บ้านก็สบายหู บ่นน้อย ลงจริงๆนะคะ

ปล.ลองประเมินผลการปฏิบัติตัวเองเพื่อน้อมถวายพระพุทธเจ้า และส่งการบ้านหลวงพ่อค่ะ ขอกราบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยความระลึกบุญคุณอย่างสูงค่ะ โดยคุณ วาสินี 679. ขอเป็นหนึ่งมีส่วนร่วมในโครงการแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ ได้เข้ามาเรียนและศึกษาธรรมกับหลวงพ่อมาประมาณกว่า ๒ ปี หลวงพ่อเป็นดัง ครูบาอาจารย์อีกท่านที่ได้ถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธเจ้าให้ลูกศิษย์คนนี้ได้มีความเข้าใจ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

13


เปรียบเสมือนเปิดของคว่ําให้หงาย ซึ่งแต่ก่อนตัวเองเคยเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมนั้น คือการนั่งสมาธิทําจิตให้ว่าง และ การเดินจงกลมที่ต้องมีรูปแบบ หากทําไปเรื่อย ก็จะบรรลุธรรม แต่พอได้มาเรียนกับท่าน ท่านสอนให้ถือศีล ๕ ให้มีสติ รู้กาย รู้ใจ ท่านทําให้เราได้ประจักษ์ความจริงว่าเราหลงอยู่แต่ใน โลกความคิด ท่านสอนให้ดูสภาวะธรรม ให้เห็น กิเลส ที่เกิดขึ้นในกาย ในใจตน ซึ่งก็ได้เห็นผลตามลําดับ เริ่มจากการมี สติ พอเผลอคิด ก็รู้ มีสติ เห็นกิเลสต่างๆนา เกิดขึ้นในใจและเห็นความปรุงแต่งของจิต และเห็นการดับของกิเลส เกิด ปัญญาเข้าใจ สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นดับ มันเข้าใจแจ่มแจ้งลึกซึ้ง มีคําพูดของหลวงพ่อที่ประทับใจมาก ขอให้ทุกคนพยายามปฏิบัตินะ อย่าขี้เกียจนะ ให้พากเพียรเข้าไว้ ต้องเอาชนะกิเลส หากเราพ่ายแพ้หรือประมาทในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็จะยิ่งอ่อนแอกว่านี้อีก หากเราภาวนายังแยกเป็น ๒ ส่วน นี่เป็นเวลา ส่วนตัว นี่เป็นเวลาปฏิบัติธรรม เราก็จะไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ท่านให้กําลังใจ และเตือนสติ ให้เราพากเพียรปฏิบัิต เจริญภาวนา นอกจากนั้น ท่านไม่เคยเรียกร้องเงินบริจาคใดๆ ท่านมีแต่ให้ ให้ทั้งอาหาร หนังสือ แผ่นซีดี ซึ่งก็นําไปแจกต่อเพื่อนๆ ที่ สนใจธรรม ขอกราบเคารพบูชาอาจารย์อย่างสูง โดยคุณ ดรุณี 680. เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวหลวงพ่อ เต็ม 100% ไม่ว่าข่าวจะออกมาเลวร้ายยังไงก็ไม่หวั่นไหวในศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ ถามว่าทําไมถึงเชื่อนะเหรอ ก็เพราะว่าตั้งแต่ฟังหลวงพ่อมา 2-3 ปี แอบฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ทั้งที่ไม่เคยเจอตัวจริงของหลวง พ่อเลย ได้แต่ปฏิบัติตามแบบอย่างที่หลวงพ่อสอนมา ก็มีแต่ทําให้ตัวเองดีขึ้น ๆ มีสติมากขึ้น รู้ตัวมากขึ้น เข้าใจตัวเองและผู้ อื่นมากขึ้น ทําให้เราเป็นคนที่อ่อนโยนมากขึ้นจากที่เคยเป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ทําให้เอื้อเฟ้อ อภัยให้ผู้อื่นได้ง่าย สามารถ จัดการกับปัญหาในชีวิตได้ดีขึ้น มองเห็นความผิดและนิสัยแย่ ๆ ของตัวเองได้ชัดขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ขาดดูจิตอย่างที่หลวง พ่อสอน ช่วงนั้นจะรู้ตัวเลยว่ากําลังเลวลง คําสอนของหลวงพ่อสามารถขัดเกลานิสัยส่วนตัว สันดานหยาบ ๆ ของตัวเอง ให้ กลายเป็นคนที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป คนที่สามารถเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนดีได้ คนนั้นจะเลวไปได้ยังไง จะเป็นอย่างที่คนอื่นเค้ากล่าวหานั้นเป็นไปไม่ได้ ไม่เชื่อ หรอก ถ้าใครได้ฟังคําสอนและรู้จักหลวงพ่อคงไม่เชื่อตามข่าวหรอก หลวงพ่อออกจะใจดีขนาดนั้น ไม่เคยถือโทษโกรธใคร เลย ท่านเป็นพระที่เมตตาจริง ๆ 2-3 ปีที่ฟังซีดีของหลวงพ่อ ก็ไม่เห็นจะมีเทปไหนเลยที่หลวงพ่อจะพูดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์เหมือนในข่าวที่กล่าวหาหลวง พ่อ และไม่เคยได้ยินหลวงพ่อพูดขอเรียไรปัจจัยหรือเงินทองเลยสักครั้ง มีแต่ได้ยินหลวงพ่อยกปัจจัยและสังฆทานให้กับวัด ที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาล เวลาหลวงพ่อไปเทศนาธรรมที่วัดอื่นก็เห็นแต่ยกปัจจัยให้วัดนั้นไปหมด พวกนี้นี่...ช่างไม่กลัว นรกจริง ๆ ช่างกล้าและหน้าด้านปั้นน้ําเป็นตัว โกหกหน้าตายใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อได้ ทํากับพระดีพระปฏิบัติแบบนี้ โทษทัณฑ์และกรรมที่สนองกลับมาคงแสนสาหัสสากันต์นัก...กลัวแทนเลยจริง ๆ ไม่รู้ว่าพวกนี้ศึกษาธรรมะกันมาได้ยังไงขอ เป็นคนหนึ่งของพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ โดยคุณ สุภาพร 681.ผมเป็นอีกหนึ่งคนครับที่เมื่อก่อนไม่ค่อยใส่ใจหรือสนใจในพุทธศาสนาเท่าไหร่ ศีล 5 ก็รักษาไม่ค่อยครบ เนื่องจากรู้สึก ว่า 1. ไม่เห็นความจําเป็นหรือความสําคัญของศีล 5 โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

14


2. ใครๆก็ผิดศีลทั้งนั้น 3. รักษาศีลไปแล้วได้ประโยชน์อะไร 4. ศาสนาเป็นเรื่องไกลตัว แล้วการรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัดน่าจะเป็นอุปสรรคกับการประกอบธุรกิจการค้าที่ตัว เองทําอยู่ด้วยหรือทําให้ไม่สามารถสร้าง connection ที่จําเป็นต่อการทําธุรกิจ หลังจากที่พี่ชายแนะนําให้เข้าคอร์สกรรมฐานซึ่งไม่ใช่แนวทางที่หลวงพ่อปราโมชย์สอนอยู่ในขณะนี้ ก็ดีขึ้นมาหน่อย รักษา ศีลครบบ้างไม่ครบบ้างแต่ก็ยังมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปมากขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่า พุทธศาสนาเป็นเรื่องไกลตัวอยู่ เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจและเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ยังไม่เห็นว่าเป็นแนวทางที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในแนวทางใด ยังไม่เห็นว่า เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้กับตัวเองอย่างชัดเจน หรืออาจจะบอกได้ว่ายังขาดศัทรธาที่แท้จริงอยู่ (แต่ช่วยไม่ได้นิ ก็เรายังไม่เห็นยัง ไม่เข้าใจอยู)่ ก็เป็นพี่ชายคนเดิมอีกแหละครับที่ชวนไปที่สวนสันติธรรมเมื่อ 2 ปีกว่าที่แล้ว ได้ฟังแนวทางคําสอนของท่าน เอาซีดีและ หนังสือมาอ่านมาฟัง (เห็นเขียนบอกว่าให้คนละหนึ่งชุดฟรี ถ้าจะเอาเกินก็ขอความร่วมมือช่วยทําบุญชุดละ100บาทเพื่อจะ ได้มีทุนทําเพิ่มอะไรทํานองนั้น ซึ่งเราดูเองเราก็รู้ไดว่าแค่หนังสือหนาแบบนี้ไปซื้อเองราคาก็เกิน 100 บาทแล้ว แต่นี่ได้ หนังสือมาตั้งหลายเล่มแถมมี cdและ mp3อีก) พอฟังcd แล้วก็เริ่มลองทําตามดู (คือการมีสติรู้กาย รู้ใจลงเป็นปัจจุบัน ด้วย จิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง – ตอนนั้นยังไม่รู้ไม่เข้าใจหรอกครับว่าจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางเป็นอย่างไร) พอเริ่มทําดูก็เห็นว่า ไม่ยาก และเริ่มเห็นความจริง เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างขึ้นมาเองอย่างที่หลวงพ่อบอกจริงกับตัวเอง (แต่จริงๆ หลวงพ่อก็บอกเสมอว่าไม่ใช่หลวงพ่อบอกแต่เป็นพระพุทธเจ้าหรือครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้) พอเริ่มเห็นและรู้สึกว่าธรรมะ เป็นเรื่องไม่ยากและเห็นและรู้ได้หรือพิสูจน์ได้ด้วยตนเองก็เริ่มมีความเชื่อเริ่มมีศัทรธา การภาวนาก็มีความก้าวหน้าเป็น ลําดับและเมื่อติดขัดอะไรหรือเริ่มเดินทางที่ไม่ใช่ ก็ไปหาหลวงพ่อ ก็ได้รับการชี้แนะทุกครั้ง เมื่อเริ่มเห็นเองว่าไม่ใช่เรื่องไกล ตัวก็เริ่มมีศัทรธา เริ่มเห็นว่าทําไมศีล 5 ถึงจําเป็นหากจะภาวนา ก็เริ่มเคร่งครัดรักษาเอง ต่อจากนั้นก็ได้รับการชี้แนะต่อว่า สมาธิสําคัญ หลวงพ่อบอกกับคนที่ไปทุกคนว่าการทําในรูปแบบสําคัญนะ ซึ่งตัวผมเองก็เพิ่งเข้าใจว่าสําคัญยังไง ผมขอร่วมเป็นอีกเสียงครับว่าหลวงพ่อไม่ได้บอกให้เราดูจิตอย่างเดียว แต่ค่อยๆสอนเราทั้งเรื่องจิตสิกขา ศีลสิกขา และ ปัญญาสิกขา ซึ่งตัวผมเองนั้นปัญญายังด้อย อินทรีย์ก็ยังอ่อน ซึ่งถ้าไม่ได้รับการสอนแบบนี้ (ให้เห็นจริงด้วยตัวเองก่อน ก็คง ขาดศัทรธาและมีมานะแบบนี้) คงยังไม่เห็นแนวทางว่าจะอยู่อย่างไรกับโลกต่อไปและคงยังเดินๆล้มๆหล่นๆไปอีกนานครับ แต่ตอนนี้ผมมีความรู้และความเชื่อว่าผมจะอยู่อย่างไรต่อไปบนโลกใบนี้ครับ อีกอย่างที่อยากจะขอยืนยันครับ คือหลวงพ่อ ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย จะแสดงตัวว่าจะขอทําโนน่ทํานี่ยังได้รับการปฎิเสธเลยหรือไม่รูว่าจะไปปวารณาตอนไหนเลย หลวงพ่อเอาแต่บอกว่าให้ภาวนา ไม่มีอะไรดีเท่าการภาวนาแล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในบุญคุณของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่มีโอกาสได้ฟังธรรม จากท่าน ท่านทําให้ผมมีความรักในพระรัตนตรัยอย่างลึกซึ้ง ผมขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์มีพระกรุณาดุจห้วง มหรรณพ แด่พระธรรมที่ท่านตรัสไว้ดีแล้ว แด่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทุกท่านทุกองค์ และขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อ ปราโมทย์ผู้ประกาศธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างมุ่งมั่น และผมขอปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัยและหลวงพ่อไปตลอดชีวิต โดยคุณ สุพจน์ (ต๋อง) 682. กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ, ลูก กมลวรรณ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพระอาจารย์สุธีร์ ชาคโร วัดป่าบ้านเหล่ากกหุ่งจังหวัดขอนแก่น ขณะนี้พํานักอยู่ที่รัฐ เท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พี่ชายได้ไปฟังหลวงพ่อเทศน์ที่ศาลาลุงชิน แล้วเค้าก็เอาซีดีหลวงพ่อมาฝาก ฟังใหม่ๆก็ยังไม่ เข้าใจมาก เพราะเคยทําแต่สมถะ ตอนนี้พอมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น มีสติมากขึ้น ปล่อยวางอะไรได้มากขึ้น พยายามพัฒนาให้ มีการตามรู้ ตามดูให้มากขึ้น แต่ก็มีบ่อยๆที่เผลอ และเพ่ง พยายามรักษา รู้ว่าตัวเองมีกิเลสหนาปัญญาหยาบ กิเลส มากมายสาระพัด เหมือนที่หลวงพ่อเทศน์อยู่บ่อยๆว่า เรานี่แหละตัวร้าย ไม่ต้องไปมองหาใครที่ไหน แต่ก็พยายามปรับปรุง อยู่ค่ะ ลูกได้ก็อปปี้ซีดี ชุดต่างๆที่หลวงพ่อเทศน์ที่ศาลาลุงชิน แจกให้กับหมู่คนไทยที่อยู่ที่นี่ด้วย (นําไปให้หลวงพ่อที่ สํานัก ปฏิบัติธรรมเขมาภิตาราม, เพริลแลนด์, เท็กซัส - ท่านเป็นผู้แจก) ญาติโยมที่ไปพบท่าน หลวงพ่อที่แจกท่านก็ชอบด้วย แจกไปได้หลายร้อยแผ่น พอดีเครื่องคอมฯที่บ้านเสีย จึงไม่ได้แจกไประยะหนึ่ง ตอนนี้คอม เริ่มใช้ได้แล้ว ก็จะทําแจกต่อไป โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

15


บุญกุศลใดๆ ที่ลูกได้พยายามสร้างมา ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันวันนี้ รวมถึงการแจกซีดีของหลวงพ่อเป็นธรรมทาน ลูกขอถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และ อาจาริยบูชา ถวายแด่หลวงพ่อ และครูอาจารย์ทุกๆท่านค่ะ โดยคุณ กมลวรรณ และครอบครัว 683. จากคนที่เชื่อว่าพุทธศาสนาเป็นเรื่องพ้นยุคพ้นสมัย เชื่อว่าพระไตรปิฎกเป็นเรื่องแต่งเติมเสริมแต่งให้พิสดาร เชื่อว่าพระอริยะเจ้าเป็นเรื่องของคนยุคอดีตไม่ใช่ยุควิทยาศาสตร์ ตัวผมมีแค่ศีลธรรมแบบทั่วไปตามประสาโลกๆ ตั้งแต่ผมฟังธรรมจากหลวงพ่อ ผมหันมาตั้งใจถือศีลห้าอย่างแน่วแน่ บริจาคทานตามสมควร ปฏิบัติตัวเจริญสติภาวนาตามคําสอนของหลวงพ่อ เชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด เชื่อในธรรมะว่าอกาลิโก เหมาะกับทุกคนทุกยุคทุกสมัยไม่ขึ้นกับกาลเวลา เป็นผลให้ผมมีสติมากขึ้น มีทุกข์สั้นลง ใช้ชีวิตในโลกอย่างมีความสุข มีความมั่นคงมั่นใจในอนาคตข้างหน้า โดยคุณ นายอมรศักดิ์ ศิษย์ปลายแถว 684. ขอส่งข้อความเพื่อหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ดังต่อไปนี้ด้วยค่ะ เป็นคนขี้โมโห ใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง และเครียดเก่งมาก แต่ด้วยคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ทําให้ทุกข์น้อยลง ไม่ ยึดเอาแต่ความเห็นของตัวเองว่าถูก ว่าดีกว่าคนอื่นเท่าเมื่อก่อน ตัดสินใจปัญหาต่างๆดีขึ้น เพราะยอมรับและยืดหยุ่นกับ สถานการณ์ต่างๆได้มากขึ้น ขอขอบพระคุณหลวงพ่อที่ทําให้เข้าใจธรรมะที่ใช้งานได้จริง โดย คุณ อนงค์ 685. หนทางที่หลวงพ่อบอกว่าเป็นการนําสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้มาบอกต่อ เป็นหนทางที่เป็นเหตุเป็นผลที่จะนําไปสู่ทาง พ้นทุกข์ จากคนคนหนึ่งที่ทั้งวันกลายร่างเป็นมนุษย์แบบเปรตบ้าง มนุษย์แบบเดรัจฉานบ้าง มนุษย์แบบอสุรกายบ้าง มนุษย์แบบสัตว์นรกบ้างโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้มาฟังหลวงพ่อแล้วก็ค่อย ๆ รู้ตัวได้มากขึ้น กลัวบาป กลัวกรรมมากขึ้น และได้รู้ ว่าที่ผ่านมาใช้ชีวิตแบบไม่คุ้มกับที่ได้อัตภาพมนุษย์มาเลย กําลังฝึกรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ในปัจจุบัน ด้วยใจที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ด้วยรู้แล้วว่าสิ่งที่หลวงพ่อสอนจะ ทําให้พ้นจากภพภูมิเหล่านั้นและจะถึงทางพ้นทุกข์ในที่สุด ขอเป็นอีกหนึ่งกําลังใจค่ะ กราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า โดยคุณ ธนวรรณ ถาวรเลิศรีตน์ 686. ฟัง CD หลวงพ่อปราโมชย์หลายแผ่นและหลายรอบทําให้รู้สึกสบายใจ มีกําลังใจ ที่อยากจะปฏิบัติ บางครั้งฟังแล้ว เกิดปิติ มีความสุขมาก ใจมันโล่งบอกไม่ถูก ทําให้รู้สึกว่าในขณะที่เรากําลังทุกข์ ได้ฟังคําสอนของท่าน ก็ทําให้คลายทุกข์ เพื่อมีสติในการแก้ไขปัญหาได้ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสมควร ก็ไม่เห็นว่าท่านจะสอนผิดตรงไหน ยังคงศรัทธาหลวงพ่อค่ะ โดยคุณ พักตร์พริ้ง โชคสัมฤทธิ์ผล 687. ร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์ที่เชื่อมั่นในคุณงามความดีของหลวงพ่อปราโมทย์ด้วยคนครับ สําหรับผม หลวงพ่อชี้เป้าหมายที่แท้จริงในสังสารวัฏ และให้แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ได้ฟัง ธรรมจากหลวงพ่อทําให้รู้สึกว่าตัวเองไม่หลงทางอีกต่อไป ชีวิตมีเป้าหมายอันยิ่งแล้ว จะภาวนาถวายเป็นพุทธบูชาและอา จาริยบูชาเรื่อยไป

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

16


รักหลวงพ่อ โดยคุณ จิรชัย พุทธกุลสมศิริ

688. ฉันเริ่มรู้จักพระพุทธศาสนา จากการอ่านประวัติประอาจารย์มั่น อ่านติดต่ออย่างไม่อยากหยุด เมื่ออ่านหมดเล่ม ก็ร้องไห้ เสียใจว่า มีสิ่งเหล่านี้ในโลกนี้หรือ ทําไมฉันไม่เคยได้ยินได้ฟัง หลังจากนั้น ก็เข้าวัดโน้น ออกวัดนี้ เพื่อศึกษาและค้นหา มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับฉัน ซึ่งทราบหลังจากได้ศึกษากับพระอาจารย์ปราโมทย์ว่า นั่นคือสภาวะของการแยกขันธ์ (ทราบเอง ไม่ได้ถาม หลวงพ่อ) แต่ขณะนั้น ฉันวิ่งถาม ครูอาจารย์หลายท่านเท่าที่สติปัญญาของฉันจะทราบได้ แต่ก็ไม่มีคําตอบ และได้เดินทางเพื่อไปพบหลวงพ่อพุธ หลวงพ่อพุ​ุธ พูดกับฉันว่า หลังจากนั้น ให้ดูความเป็นไตรลักษ์ ความเป็นอนิจัง ทุกขัง อนัตตา ฉันเดินออกมาด้วยความงง หลังจากนั้นก็ได้ฟังธรรมจาก mp3 ของหลวงพ่อพุธ เนื่องจากฟังแล้ว สบายใจที่สุด ฉันยังวนเวียนค้นหามาอีกเป็นสิบปี อ่านหนังสือหลายเล่ม พยายามทําสมาธิ พยาย้าม พยายาม แต่ฉันไม่มีความสุขเลย ต่อมาฉันไม่มีกําลังใจจะอ่านหนังสือ จะฟังธรรม เพราะฉันรู้สึกว่าฉันคงต่ํา เกินไป ที่จะภาวนาได้ หยิบหนังสือขึ้นอ่าน เมื่อเริ่มต้นก็รู้สึกท้อแท้ จากคําสอนในหนังสือนั้น ๆ ฉันรู้สึกว่า สอนคล้าย ๆ กัน แต่ฉันทําไม่ได้ โอกาสยังเข้าข้างฉันอยู่บ้าง ฉันได้รับเมล์ แนบทางเอกเป็นตอน ๆ มา ฉันอ่านแล้วชอบ และอยากไปเรียนบ้างทีศาลาลุงชิน แต่ก็ไม่ได้ไป หลังจากนั้น โอกาสก็มาถึงฉัน ฉันได้ไปเรียนกับหลวงพ่ออย่างจริงจัง หลังจากนั้นสภาวะที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งประจักษ์ชัดเจนว่า คําสอนของหลวงพ่อไม่ผิดแน่นอน ฉันไม่รู้ปลายทางเป็นอย่างไร แต่ต้นทางที่ฉันผ่านมา ตรงตามคําสอนของพระอาจารย์ปราโมช สอน ในเวลาไม่นาน เมื่อเทียบกับเวลาสิบปีที่ฉันค้นหามา มันช่างผิดกันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉันมั่นใจในคําสอน ผู้ที่ภาวนาเอง เรียนรู้จากสภาวะเองเท่านั้น ที่จะยืนยันกับตัวเองได้ว่า คําสอนนี้ถูกหรือผิด คําสอนของหลวงพ่อ ทําให้ฉันเข้าใจที่หลวงพ่อพุธสอน หรือ พระอาจารย์ท่านอื่น ๆ สอนไว้ แล้วรู้ว่า ตลอดเวลาที่ฉันภาวนาไม่ได้ ทําไม่ได้ ฉันไม่มีความสุข เพราะฉันเข้าใจคําสอนท่านเหล่านั้นผิดไปเอง ฉันอยากบอกว่า ผลของการภาวนาตามที่หลวงพ่อสอน เปลี่ยนแปลงฉันและส่งผลให้ภายในครอบครัวฉันมีการ เปลี่ยนแปลงไปด้วย ฉันเป็นคนขี้โมโห โมโหรุนแรง เจ้าคิดเจ้าแค้น จนเคยคิดว่า ถ้ามียางลบ มาลบความจําของฉันได้ ฉันจะยอมเสียเงินซื้อ เพราะความจําเก่า ๆ นั้น ทําให้ฉันทุกใจ คิดว่า สิ่งเหล่านี้คอยตามหลอกหลอนฉันไม่จบสิ้น แต่ทุกวันนี้ ฉันขี้โมโห แต่ฉันไม่เหวี่ยงใส่คนรอบข้าง ฉันเปลี่ยนไป เป็นที่รักของคนอื่น ๆ ฉันไม่มีความทุกข์กับความจํา ในเรื่องของอดีต ทั้งๆ ที่สิ่งพวกนั้น ก็ยังอยู่ในใจฉัน โดยคุณ พจนา 689. กราบนมัสการ พระอาจารย์หลวงพ่อปราโมชย์ ปราโมชฺโช กระผมป็นพระบวชใหม่ ก่อนบวช ได้รับเมตตาจากหลวงพ่อปราโมทย์ให้แนวทางการปฏิบัติธรรม นับจากนั้นได้น้อมนํา ปฏิบัติทุกๆวัน ถึงแม้ผลจะยังไม่มาก ก็พอจะอุ่นใจได้ว่าตนมีหนทางการปฏิบัติอันเลิศแล้ว กระผมมีโอกาสฟังธรรมสดๆ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

17


เพียงสองครั้ง นอกจากนั้นฟังจากไฟร์เสียง รู้สึกได้ถึงความเมตตา และการทุ่มเทกําลังธาตุขันธ์อย่างมากในการสั่งสอน ธรรมะ แต่ต้องขอประทานอภัยที่ต้อง ขออาราธนาสั่งสอนธรรมปฏิบัติ เป็นที่พึ่ง แก่ชาวโลกต่อไปด้วยเถิด.. กราบอาราธนาด้วยความเคารพอย่างยิ่ง โดยพระคุณเจ้า พระประศานต์ ถามวโร(กล้ากลาง)

690. ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี และให้คนที่ไม่ดีกลับตัวกลับใจค่ะ หากวันที่หนูล้มลงไม่มีข้อธรรมของหลวงพ่อ หนูคง ไม่มีโอกาสรู้ว่าสติที่แท้จริงเป็นยังไง ขอให้กําลังใจหลวงพ่อและจะปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้าและบูชาหลวงพ่อค่ะ สาธุค่ะ โดยคุณ ฐิติพร 691. ขอมาเป็นพยานอีกคนหนึ่ง จากการที่ได้ปฏิบัติการเจริญสติ การดูกายดูใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและ เป็นกลาง ตามแนวที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ได้เมตตาสั่งสอน สิ่งที่หลวงพ่อสั่งสอนเป็นแนวทางหนึ่งตามมหาสติปัฎ ฐานสูตร ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทั้งในชีวิตส่วนตัวและคนในครอบครัว ขอกราบหลวงพ่อด้วยจิตที่ บริสุทธิ์ และขอเป็นอีกกําลังใจหนึ่งให้หลวงพ่อค่ะ น โม วิมุตตานัง น โม วิมุตติยา โดยคุณ บูชนีย์ หาญพิพัฒน์ และครอบครัว 692. ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ที่เมตตาเผยแผ่ธรรมะที่ลกึซึ้งและรไู้ด้ดว้ยตนเองและขอกราบให้กาลัง ใจ...หลวงพ่อ ด้วยค่ะ หนูเป็นอีกหนึ่งในหลายๆคน ที่ได้รับผลดีที่รู้ได้ด้วยตนเอง จากการปฏิบัติตามคาสั่งสอนของหลวงพอ่ ทาง CD ค่ะ เมื่อ 24 ก.ย.50 คณุ" พ่อหนู จากไปอย่างผู้ที่พร้อมจะจากโลกนี้ไป หนูภูมิใจในตัวคุณพ่อมากค่ะ ทงั้ นกี้ ็เพราะทา่ นได้ฟัง CD ของ หลวงพ่ออยา่ งต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มไม่สบาย แมจ้ ะเป็นเวลาไม่นาน แต่ท่านก็ได้รับผลจากการฟังและปฏิบัติตามคา สั่งสอนของ หลวงพ่อค่ะ ท่านยังสั่งก่อนจะไปด้วยว่า ท่านไดเ้ ตรียมเขยี นหนังสอื ที่จะให้พิมพ์แจกในงานศพไว้แล้ว...โดย ขอให้หนูเพิ่มคา สอนของหลวงพ่อปราโมทย์ไว้ในหนังสือด้วย(3เดือนหลังท่านไม่สามารถใช้computerได้)แต่เพราะหนยูัง ไม่แจ่มแจ้งใน คาสอน จึงแจกหนงั สือของหลวงพ่อ และ อ.สุรวัฒน์ ในงานพระราชทานเพลิงศพแทนค่ะ...และก็มอี ีกหลายๆ คนทเี่ มื่อได้อา่ น หนังสือที่แจกในงานคุณพ่อ ส่งขา่ วมาบอกว่าเมื่อได้ปฏิบัติตามแล้ว...ได้รับผลดีที่พิสูจน์ได้ด้วยตนเองค่ะ หนูเชื่อมั่นว่า หลวงพ่อไม่ได้หวั่นไหวไปกับสิ่งที่เป็นอยใู่ นขณะนี้ ทา่ นคงได้แต่มองสัตว์โลกที่น่าสงสารด้วยความเมตตา ..... ความจรงิก็คือความจรงิที่ทนต่อการพิสูจน์ค่ะ..อยา่งไรก็ตามหนจูะปฏิบัติตามคาสอนของหลวงพ่อ...หมั่นรู้ความ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

18


เผลอ...หมั่นรู้ กายรใู้จตนเองตามความเป็นจรงิด้วยใจทตี่ั้งมั่นและเป็นกลางอย่างสมา่เสมอค่ะและขอถวายการปฏิบัติแด่ หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโชค่ะ โดยคุณ ฐิดายุ 693. จะภาวนาตามคําสอนของหลวงพ่อตลอดไป โดยคุณ ยุคนธ์มาศ 694. แม้ได้เคยฟังเพียง CD ของหลวงพ่อปราโมทย์ แต่จากประวัติ คําสอน การตอบปัญหาและปฏิปทาของหลวงพ่อ มัน เป็นไปได้ยากยิ่งที่จะเชื่อในข่าวลือที่เกิดขึ้น สิ่งที่หลวงพ่อพร่ําสอนและชี้แนะแก่ลูกศิษย์ลูกหา เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติที่บรรลุธรรม ชั้นสูงเท่านั้น จึงจะสามารถทําได้ สุดท้ายขอให้คุณงามความดีที่หลวงพ่อสั่งสมมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน จงส่งผลให้หลวงพ่อแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัย พิบัติทั้งปวง โดยคุณเจษฎา 695. ผมได้ศึกษาคําสอนของพระพุทธเจ้าจากหลวงพ่อมาประมาณปีครึ่ง ได้ฟัง CD มาตลอดและได้ไปกราบหลวงพ่อที่สวน สันติธรรมประมาณ4ครั้ง ผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ขอยืนยันว่าหลวงพ่อเป็นพระที่ดีมาก คําสอนของท่านไม่มีสิ่งใด้ที่นอก เหนือไปกว่ามหาสติปัฏฐาน4 ท่านมุ่งสอนให้พวกเราภาวนาตามรุ้ตามดูจิต และผมก็ตั้งใจฟังให้เข้าใจและลงมือภาวนา คํา สอนของท่านเป็นความจริงทุกอย่างหากแต่ต้องลงมือทํา ฃีวิตผมยังคงมีความทุกข์มาให้เห็นเหมือนเคยแต่จิตพรากออก จากความทุกข์ ห่างไปทุกทีทุกที บางครั้งผมรู้ทุกข์แต่จิตหรือข้างในซึ่งผมก็เรียกไม่ถูกนั้นอบอุ่นมากครับ อบอุ่นชุ่มชื่น เย็น ช่ําทั้งๆที่มีสถาวะทุกข์เกิดขึ้น ผมอยากขอเป็นอีกหนึ่งเสียงให้ทุกๆท่านที่ยังไม่ได้มาปฏิบัติลองเปิดใจพิสูจน์ดูครับ อย่า ปล่อยให้โอกาสที่มีค่านี้ลอยไปครับ อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมอยากจะขอเล่า คือผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการครูบาอาจารย์ องค์หนึ่งท่านอาวุโสมีกระแสเมตตา สงบร่มเย็นมากครับ ท่านสอนแต่เรื่องดูจิตไม่ให้เป็นไปกับมัน ให้รู้ ครูบาอาจารย์องค์นี้ ท่านได้เมตตากล่าวกับผมว่าอยู่กรุงเทพไปเรียนกับหลวงพ่อปราโมทย์ก็ได้ ใกล้กว่ามาเรียนกับท่าน ท่านเมตตากล่าวว่า หลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระที่ดี และยังฝากผมไปบอกหลวงพ่อปราโมทย์ว่าให้ช่วยสอน(พระศาสนา)ด้วยเพราะท่านแก่มาก แล้ว ผมเขียนจดหมายนี้จากความสุขที่มากขึ้นที่ผมได้รับ ผมและครอบครัวมีคุณแม่และคุณยายที่ปฏิบัติและเห็นผลซึ่งผลที่ ได้ก็ไม่ใช่ปาฏิหารแต่อย่างไรหากคือจิตที่ห่างออกจากทุกข์ทุกทีๆครับ ทั้งครอบครัวผมทีมากกว่าผมคุณแม่คุณยายที่ได้ฟัง ธรรมะของหลวงพ่อแต่มีเพียง 3 คนที่เห็นผลการปฏิบัติเพราะเราทั้ง 3 คนตั้งใจจริง ศึกษา มีความเพียรไม่เข้าใจก็ไปยกมือ ถามที่สอนสันติธรรม ท่านเรียกบ้างไม่เรียกบ้างแต่ส่วนใหญ่ท่านจะเมตตาเรียกครับ ผมอยากให้ทุกท่านที่ยังไม่เห็นผลการ ปฏิบัติอย่าเพิ่งท้อใจและอย่าเพิ่งปรามาสหลวงพ่อท่าน ขอให้ตั้งใจให้จริงฟัง CD เยอะๆ ลองภาวนา หากัลยาณมิตรแลก เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติ และวันใดที่จิตตื่นขึ้นมาก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตแล้วครับ หากภาวนาต่อไปจิตจะเริ่ง เห็นความจริงของขัธ์และปล่อยว่าไปเองครับ เราทําได้แต่เหตุดั่งที่หลวงพ่อท่านสอน ส่วนผลเขาจะมาของเขาเองครับ ผมขอ ให้ทุกท่านที่ๆยังไม่เคยลองศึกษาธรรมะของหลวงพ่ออย่างจริงจังลองดูสักตั้งนึงนะครับ สําหรับผมแม้ยังไม่ความเป็นเรา มี ความเป็นตัวตน ยังมีความยึดมั่นถือมั่นแต่ก็มีความสุขขึ้นมากเลยครับ ผมขอถืโอกาสนี้กราบขอขอบพระคุณพลวงพ่อ ปราโมทย์ขอนอบน้อมแต่พระรัตนตรัยและจะขอปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้าพระธรรมและพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเช่น หลวงพ่อปราโมทย์และครูบาอาจารย์ทุกองค์ที่เมตตาสอนผมและครอบครัวตลอดทั้งบุคคลผู้เป็นที่รักครับ ขอกราบนมัสการ เหนือเศียรเกล้าครับ โดยคุณ นายจักษ์กฤษณ์ 696. ความคิดเห็นจากพระรูปหนึ่งกรณีข่าวสวนสันติธรรม (กันยายน ๕๓) หลายวันมานี้ เราคงจะเห็นข่าวพระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ลงหนังสือพิมพ์ และเป็นข่าวทางหน้าจอโทรทัศน์ หลายช่อง มีการโหมข่าว ชงเรื่อง วิพากษ์วิจารณ์ ใส่สีกันอย่างเต็มที่จากทั้งทางผู้ร้องเรียน และจากทางสํานักข่าวต่างๆ ( นั่นเป็นสิ่งที่นักข่าวที่มุ่งแต่จะขายข่าวมักจะทําเป็นประจําอยู่แล้ว โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับพระ และอาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับพระในด้านลบมักเป็นเรื่องจริงโดยส่วนใหญ่ และสั่นคลอนศรัทธาไปมากแล้ว ) ผู้คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้จักท่าน หรือรู้จักแค่เพียงผิวเผิน เมื่อได้ฟังหรือดูข่าวนี้ ก็คงร่วมพิพากษากันตามเนื้อข่าวที่ได้รับฟัง หรือได้อ่านจากสื่อที่นักข่าว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

19


และผู้ร้องเรียนเหล่านั้นนําเสนอ ส่วนใหญ่แล้วนักข่าว และผู้เสพข่าวเหล่านั้นล้วนมีชุดคําตอบภายในใจอยู่แล้ว เมื่อเป็น ข่าวที่เขียนถึงพระสงฆ์ในแง่ลบ โดยยังไม่ทันรู้ถึงเรื่องราวข้อเท็จจริงของอีกด้านหนึ่ง ( และนั่นก็เป็นธรรมดาในสังคมโลก ) แต่เหตุการณ์นี้จะเป็นกรณีที่ทุกคนควรศึกษา เพราะทางด้านพระอาจารย์ปราโมทย์ และกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาต่าง ดําเนินชีวิตกันอย่างสงบ ทํากิจวัตรตามปกติ ไม่ออกมาเต้นผางๆ เพื่อตอบโต้ แก้ข่าวอย่างเผ็ดร้อนเดือดพล่านแบบกรณี ข่าวอื่นๆ ที่เราเคยเห็น การออกมาชี้แจงโต้ข่าวกันกลับไปกลับมา โดยเฉพาะในวงการเมือง และวงการดารา ซึ่งเป็นสิ่งที่ เข้าทางผู้นําเสนอข่าว เพราะมันขายได้ และคนส่วนใหญ่มักชอบติดตาม แต่ในกรณีนี้จะมีก็แต่คําชี้แจงต่อสื่อมวลชนอย่าง สุภาพเพียงสองสามหน้ากระดาษเท่านั้น แต่ด้วยคําชี้แจงแบบไม่โจมตีใครเช่นนี้ ผู้ที่เคยศึกษางานของท่าน และต้องการ ทราบข้อมูล หรือรอฟังอยู่ ส่วนใหญ่ก็เกิดความสบายใจขึ้นทันทีว่า “ไม่มีอะไร” แต่นักข่าว และผู้คนบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจ ในถ้อยแถลง ที่ไม่มีการตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อน ตามความคุ้นเคยจากการอ่านข่าวเรื่องอื่นๆ มา แหละนี่คือสันติวิธีใน การแก้ปัญหา ที่คนในสังคมไม่ค่อยรู้จัก ไม่คุ้นเคย และไม่ค่อยได้เห็น แต่กรณีเช่นนี้จะเกิดให้เห็นก็เฉพาะกลุ่มผู้ศึกษา ธรรม และกลุ่มนักภาวนาที่แท้จริงเท่านั้น เพราะ จิตใจของเขาจะไม่ขวนขวายที่จะเบียดเบียนใคร เพราะมีศีลคอยปกป้อง การกระทําทางกาย และวาจาอยู่ จะกล่าวไปใยกับการยื่นฟ้องร้องกล่าวโทษผู้ทรงธรรมในร่มกาสาวพัสตร์นี้ แม้คดีความ ในเรื่องนี้ยังไม่ได้จบลง แต่เชื่อเหลือเกินว่า ในสภาวะจิตใจของลูกศิษย์ลูกหาของท่าน “เรื่องนี้จบลงแล้ว” ( จบลงในทุก ขณะที่คิดถึงมัน ) เหตุผลหนึ่งที่กระแสข่าวนี้อ่อนแรงไปอย่างรวดเร็วสําหรับในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาที่เรียนธรรมะ และตั้งใจภาวนา ตามแนวทางที่ท่านสอน เพราะนี่มิใช่ครั้งแรกที่ท่านอาจารย์ปราโมทย์ถูกโจมตี เพียงแต่กลุ่มผู้โจมตีได้เปลี่ยนช่องทาง หรือเปลี่ยนแผนในการโจมตีให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น และก็ถือว่าทําได้สําเร็จในวงกว้าง ( และก็ย่อมได้สร้างกรรม เป็นวงกว้างอีกด้วย ) ข้อมูลต่างๆ ส่วนหนึ่งเคยลงโจมตีไว้ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่กลับเป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟาง ไม่ให้ผล เด่นชัด และเป็นวงกว้าง เหตุหนึ่งคงมาจากผู้รับสื่อส่วนใหญ่ ได้รับข้อมูลทั้งสองด้าน รวมถึงข้อมูลการโจมตีไม่มีน้ําหนัก และเหตุผลเพียงพอที่จะทําให้ผู้มีคนส่วนใหญ่เทใจเชื่อถือได้อีกทั้งลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ปราโมทย์จํานวนมากก็ใช้การ สื่อสารอินเทอร์เน็ต แม้ในช่วงต้นของการโจมตีอาจดูดีได้ผล และมีผู้คนหวั่นไหวเป็นอันมาก แต่เมื่อมีผู้รู้หลายท่านได้ออก มาเขียนบทความแสดงความเห็นอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเป็นเหตุเร้ากุศล เช่น พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล คุณดัง ตฤณ และท่านอื่นๆ เหตุการณ์นี้ก็สงบไปจากจิตใจของผู้ที่ยังลังเลสงสัยอยู่ในที่สุด และครั้งนั้นทางด้านลูกศิษย์ลูกหา ของท่านก็ใช้การแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี เช่นกัน ในช่วงนั้นตัวของท่านอาจารย์ปราโมทย์เองก็ยกเลิกกิจนิมนต์ภายนอก ทั้งหมดเพื่อลดกระแสการเผชิญหน้า และการมุ่งร้ายของอีกฝ่าย เว็บไซต์วิมุตติซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการเผยแผ่ธรรม ที่ เป็นผลงานของพระอาจารย์ปราโมทย์ ก็ปิดเงียบ เพื่อสร้างกระแสความสงบ ถึงแม้จะมีการเปิดเว็บไซต์บางแห่งเพื่อโจมตี ท่านโดยตรงอีกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทําให้เกิดผลในวงกว้างได้ แต่ในกรณีการโจมตีระลอกใหม่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนกลุ่มคนดังกล่าวจะมีการเตรียมการ และหาข้อมูล หลักฐานต่างๆ เพื่อนํามาประกอบการโจมตีครั้งนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งประเด็นไปทางเรื่องเงินๆ ทองๆ จํานวน มหาศาลที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และตีข้างกระทบใน ในเรื่องของแม่ชี อดีตภรรยาทางโลกผู้มีปฏิปทาในทางธรรมที่ดี โดยไม่ อธิบายรายละเอียดที่ชัดเจนในวิถีการเป็นอยู่ในสวนสันติธรรม และไม่ได้กล่าวถึงการมีคณะสงฆ์ที่มีความตั้งใจในการ ภาวนาที่ดีอยู่ที่นั่น ซึ่งแสดงถึงสถานปฏิบัติธรรมที่มิใช่มีเพียงท่านอยู่ตามลําพังกับแม่ชี ซึ่งข้อมูลแบบครึ่งๆ กลางๆ เช่นนี้ เป็นความต้องการที่จะสื่อถึงอาบัติหนักของพระภิกษุ และสิ่งที่ชาวบ้านติเตียน เพื่อให้เกิดแรงโน้มเอียงอย่างรวดเร็ว ที่จะ เกิดความเชื่อถือในข้อมูลที่ผู้โจมตีนําเสนอออกมา ทั้งประเด็นหลัก ประเด็นย่อย อีกทั้งยังห้อยท้ายด้วยความน่าเห็นใจจาก การถูกทําร้ายจิตใจก่อนจนทนไม่ไหว และเมื่อผู้นําการโจมตีเป็นผู้หญิงและคณะบุคคลผู้มีชื่อเสียง จึงสามารถเพิ่มกระแส ความน่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อเหลือเกินว่ากลุ่มผู้โจมตีก็ย่อมมั่นใจในความถูกต้องของตัวเอง และเชื่อว่าตนมีดี แหละงานนี้น่าจะสําเร็จผลตามที่ต้องการ ผู้เขียนเชื่อว่าการเปลี่ยนช่องทางการใช้สื่อใหม่นั้นต้องมีการวางแผนกันเป็นอย่างดี และรู้ถึงแนวโน้มอันเป็นผลที่ จะได้รับ เพราะถ้าช่องทางในอินเทอร์เน็ตได้ผลไม่เข้าเป้าแล้ว นี่จะเป็นช่องทางที่จะสั่นสะเทือนได้แรงกว่า เหตุผลง่ายๆ ก็ คือ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และทีวี คนไทยเข้าถึงได้กันได้แถบทุกหย่อมหญ้า เพราะในสื่อช่องทางนี้ผู้คนย่อมไม่รู้จักท่าน มากกว่าที่จะรู้จักท่านมาก่อน และระดับการรับสื่อของกลุ่มคนมีหลากหลาย และส่วนใหญ่คือ “คนนอกวงการ” ( ผู้ที่เป็น ชาวพุทธที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะ และเจริญภาวนา ) ดังนั้นมันจึงได้ผลเป็นวงกว้างกว่า อีกทั้ง เมื่อใดที่ข่าวพระภิกษุถูกเลือกลง หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ นั่นหมายความว่า เป็นที่สนใจจากทุกฝ่ายแน่นอน เพราะนั่นล้วนเป็นข่าวด้านลบทั้งสิ้น เหตุผลง่ายๆ ก็คือ มันขายได้ และเชื่อเถอะว่าไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นใด ทัศนะคติของนักข่าว และคนส่วนใหญ่มักฟันธง ปลงใจไปแล้ว ว่า “นี่คือเรื่องจริง” ( อย่างที่บอก เหตุหนึ่งก็มาจากข่าวลบที่เป็นจริงของพระนอกธรรมวินัยที่มีโอกาสขึ้นหน้าหนึ่งทั้งหลาย ที่ถอนศรัทธาผู้คนไปมากแล้ว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

20


ดังนั้นคงโทษใครไม่ได้ นอกจากจะช่วยกันดูแล ปกป้องรักษาอย่างเข้าใจ ) ผู้คนเหล่านั้นย่อมพิพากษากันตามใจ ชอบ โดยไม่แม้กระทั่งจะฟังข่าวอีกด้านก่อน และไม่มีการค้นหาข้อมูลว่า พระรูปนั้นเป็นใคร มีประวัติความเป็นมาเช่นไร ปฏิปทาท่านเป็นอย่างไร ในส่วนนี้ต้องขวนขวายเอาเอง เพราะนักข่าวย่อมไม่นํามาเสนอเป็นแน่ ( เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่รู้ จักท่าน และไม่ใช่คนเข้าวัดหรือเป็นนักภาวนากันสักเท่าไร ) สุดท้ายแม้ผลออกมาจะไม่ได้ตรงตามที่นักข่าวฟันธงเชื่อไว้ ก็เป็นไปได้ยากที่สื่อเหล่านั้นจะตามแก้ข่าวให้อย่างเป็นธรรม ให้สอดคล้องกับยามที่ตีข่าวให้ดัง จะว่าไปแล้วการโจมตีจนเป็นข่าวดังคราวนี้ ย่อมเกิดผลกระทบในวงกว้าง และแรงเสื่อมศรัทธานั้นย่อมมีอย่าง มากมายแน่ ทั้งจากกลุ่มผู้ศรัทธาทั่วไปในพระพุทธศาสนา กลุ่มผู้ประกอบบุญ กลุ่มที่เริ่มภาวนา และยังลังเลสงสัยอยู่ ตลอดจนถึงผู้ที่กําลังจะได้ศึกษางานของท่าน หรือพึ่งได้ศึกษา เพราะเกรงตนจะเดินผิดทาง หรือเป็นเป้าในการถูกตําหนิ จากบุคคลรอบข้างที่ปลงใจเชื่อข่าวนี้ไปแล้ว จึงจําเป็นต้องสงวนท่าทีไว้ แหละนี่ไม่ใช่เรื่องผิดสําหรับเขาเหล่านั้น เพราะถ้า เราตกอยู่ในสภาวะเดียวกับเขา เราก็อาจจะรู้สึกไม่ต่างจากเขาเมื่อได้รับข่าวนี้ แต่สําหรับในวงการนักภาวนาลูกศิษย์ลูก หาของท่าน ที่ภาวนาพอเห็นดอกเห็นผลบ้างแล้ว ก็คงไม่ต้องกล่าวถึงว่า จะลังเลสงสัยหรือไม่ บางทีอาจตั้งใจภาวนากัน มากขึ้นอีกด้วย เพราะเล็งเห็นถึงความเหนื่อยยากของครูบาอาจารย์ ที่เมตตาสั่งสอนด้วยใจจริง และเห็นโทษภัยของ กระแสโลก ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้จะส่งกระแสใดๆ ออกมา ก็คงเพียงเพื่อ ให้เกิดการรวมใจกันเป็นกําลังใจแด่ครูบาอาจารย์ที่ ตนเคารพศรัทธาเท่านั้น แต่สําหรับครูบาอาจารย์ท่านนี้ การปฏิบัติบูชาคุณพระพุทธเจ้า คือ กําลังใจที่ดีที่สุดสําหรับท่าน สุดท้ายนี้ ถ้าใครคิดว่าผู้เขียนเชียร์พระอาจารย์ปราโมทย์ ผู้เขียนก็จะยิ้มให้อย่างเข้าใจ แต่ถ้าใครคิดว่า ผู้เขียน กําลังนําเสนอกรณีตัวอย่างแห่งสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา ผู้เขียนก็ต้องขออนุโมทนาสาธุด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่เพียง มุมมอง และการวิเคราะห์เป็นการส่วนตัว อาจมีข้อผิดพลาดตามภูมิปัญญาอันจํากัด อย่างไรก็ดี ถ้าบทความนี้จะเป็น ประโยชน์ในการสร้างกระแสแห่งกุศลจิตของผู้ใดแล้ว ก็ถือว่าบทความนี้ยังพอมีประโยชน์บ้าง แต่ถ้าผู้อ่านท่านใดเกิด ความขุ่นข้องหมองใจ และไม่มีความเห็นร่วมกับความเห็นนี้ ผู้เขียนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หมายเหตุ ขอให้ผู้อ่านอย่าได้รู้สึกเกลียดชัง หรือโกรธแค้นกลุ่มผู้โจมตีเลย ขอให้เราเมตตาเขาดังเพื่อนมนุษย์ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายเถิด เพราะบางทีถ้าเราประมาทในสังสารวัฏนี้ และไม่สนใจการภาวนา หรือภาวนากันอย่างผิดๆ วันหนึ่งเราอาจ จะตกที่นั่งเดียวกับเขาเข้าให้บ้างก็ได้ เพราะถ้าเรายังไม่เป็นผู้แรกถึงกระแสแล้ว อย่าได้ประมาทกันเชียว อบายภูมิยังมี โอกาสเปิดกว้างสําหรับเรา “ศีลที่ดีป้องกันไม่ให้เราไปเบียดเบียนผู้อื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาเบียดเบียนเราได้เสมอไป” โดยพระผู้ศึกษาปฏิบัติธรรมรูปหนึ่ง" "

"

"

"

"

"

"

697. ถ้าจะมีใครถามว่า “อะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ” ดิฉันตอบโดยไม่ต้องลังเลใจเลยว่า การได้พบหลวง พ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของดิฉัน (ถือเป็นเป็นนาทีทองแห่งสังสารวัฎ มี บุญได้เกิดและพบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ ได้เกิดศรัทธา ได้ปฎิบัติธรรมที่ถูกต้อง) ตลอดเวลา 3 ปี ที่ได้รับฟังธรรมะจากท่าน (ฟังเป็นพันครั้ง) ได้รับรู้ถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่จากท่าน ความตั้งใจ ปฎิปทา อันแน่วแน่ของท่าน ในการสั่งสอนพวกเราให้ได้หลักในการปฎิบัติธรรมที่ถูกต้อง ตลอดระยะเวลาของการปฎิบัติตาม แนวทางของท่าน ทําให้ชีวิตของดิฉันเปลี่ยนไปมาก ไม่เฉพาะแต่ตัวเรา ยังส่งผลไปยัง ลูก ๆ ญาติ ๆ คนใกล้ชิด เพื่อนที่ ทํางาน ก็ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะ มีความเห็นถูก และมีความสุขในการดําเนินชีวิตมากขึ้น ดิฉันเกิดศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากขึ้นมาก ๆ เชื่อว่านิพพานมีอยู่จริง ธรรมะเป็นของแท้ ดิฉันมีความตั้งใจถือศีลให้ เคร่งครัดขึ้น มีฉันทะในการปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง เกิดความพากเพียรในการปฎิบัติ รู้กาย รู้ใจ มีความสุข มีสติ มีสมาธิ ไป เป็นลําดับ ๆ จากที่เคยหลงอยู่ตลอดเวลา ท่านเมตตาชี้แนะให้เราเห็นว่า (กูเก่ง) ทําให้ดิฉันเห็นมานะ อัตตา การถือดีของ ตัวเอง ซึ่งทําให้เกิดความละอายใจ มีผลทําให้เราคอยรู้เท่าทัน และเห็นแก่ตัวน้อยลง คิดถึงผู้อื่นมากขึ้น เจริญเมตตาธรรม ได้กับคนรอบตัว ชีวิตนี้และชาติต่อ ๆ ไป ดิฉันขอถวายการปฎิบัติเป็นอริยบูชาแด่พระพุทธเจ้า และอาจริยะบูชาแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ไปตลอดทุก ๆ ชาติ บุญกุศลใด ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตชาติปางก่อน และในปัจจุบัน ทั้งในอนาคตกาล ขอถวาย แด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ที่เคารพอย่างสุดซึ้ง โดยคุณ เพชรรัตน์ (เนี๊ยว) โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

21


698. มีโอกาสเรียนกับพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช มาตั้งแต่อยู่สวนโพธิฯ ที่เมืองกาญจน์ฯ สิ่งที่พระอาจารย์ฯ เทศน์สอนเหมือนกันมาตลอดคือ เริ่มต้น ให้หัดมีสติรู้กาย รู้ใจ ตนเอง (ไม่เคยให้ดูคนอื่น คือไม่ให้ไปเอาเรื่องคนอื่นให้ดูความไม่ดีของตนเองเท่านั้น ) ระหว่างเรียน ให้รู้กาย รู้ใจ ตนเอง ( คนอื่นส่งการบ้านอย่างไรเรื่องของเขาให้เราดูตัวเองเท่านั้น ) หมดเวลา ให้กลับบ้านไปดูตัวเองต่อ ไม่ให้อยู่เฝ้าครูบาอาจารย์ สิ่งที่ท่านขอมีอย่างเดียว คือ ขอให้ภาวนารู้กายรู้ใจตัวเองให้เยอะๆ พระอาจารย์ ฯ เป็นอะไรไม่สําคัญ และไม่เคยสนใจ แต่ธรรมะพระพุทธเจ้าที่ท่านเมตตานํามาสอนนั้นได้ทําให้ความทุกข์ที่เคยมีมากมายหล่นหายไปตามทางที่ดําเนินการ ภาวนามาตลอดจนแทบจะลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยทุกข์มากขนาดนั้น วันนี้ก็ยังมีความทุกข์อยู่แต่มั่นใจว่ารู้ทางที่เดินไปและจะค่อยๆเดินตามทางของพระพุทธเจ้าตลอดไป โดยคุณ เคลือวัลย์ สิทธิชัยบํารุง 699. “เดินตามหาสิ่งต่างๆ นอกตัวมาตลอดชีวิต แต่ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ตามหามาตลอด จนมาฟังหลวงพ่อถ่ายทอดคํา สอนของพระพุทธเจ้าให้ฟัง จนสามารถเริ่มภาวนาเป็น เมื่อสติ สมาธิ ปัญญาเกิดขึ้นครั้งแรก จึงรู้ว่าสิ่งที่ตามหามาตลอดคือ อะไร และจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขด้วยตัวเองมากขึ้น โดยอาศัยสิ่งภายนอกน้อยลง ความทุกข์ที่เข้ามา ในชีวิตสั้นลง” ขอเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อและทีมสวนสันติธรรมค่ะ โดยคุณ ยุวดี 700. เมื่อปี 2545 ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อที่สวนโพธิ์ฯ จ.กาญจนบุรี กับพี่ๆกัลยาณมิตรสองท่านซึ่งการไปครั้งนั้น ผมอายุ 27 ปีไปแบบไม่อยากไปเท่าไหร่เพราะเกรงใจพี่ๆซึ่งมีศรัทธามากและอีกอย่างก็ได้ไปเที่ยวด้วยออกเดินทางกันตอน ตีห้ากว่าๆจากกรุงเทพฯไปถึงสวนโพธิ์ฯผมไม่เคยพบอากาศที่บริสุทธิ์เอามากๆครับผมเลยต้องสูดอากาศแล้วสูดอากาศอีก ให้ลึกถึงปอด ไปถึงก็กราบหลวงพ่อแต่นั่งอยู่ด้านข้างฝั่งประตูทางขึ้นแล้วก็ลงไปรับประทานอาหารข้างล่าง จากนั้นก็ขึ้นไป บนศาลาฟังลูกศิษย์หลวงพ่อส่งการบ้าน รู้สึกว่าครั้งนั้นคุณลุงดําเกิงก็ไปส่งการบ้านด้วย ก่อนกลับผมก็รับซีดีกับหนังสือที่ สวนโพธิ์ฯมาด้วย ซึ่งกลับมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไม่เข้าใจธรรมะในแนวที่หลวงพ่อท่านสอน ซึ่งผมก็ปฏิเสธแนวทางการ สอนของท่านมาตลอดเพราะไม่คิดว่าจะเป็นไปได้สรุปก็คือ อ่านและฟังธรรมะของท่านไม่รู้เรื่องนั่นเอง ไปยึดติดแต่การทํา สมถะคิดว่าจะนําทางให้ขึ้นสู่วิถีแห่งความรู้แจ้งได้ ในตอนนั้นนั่งสมาธิเป็นแล้วแต่ไม่นั่งต่อเนื่องจึงสรุปตัวเองได้ว่าในตอน นั้นสมถะก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วยังไปคิดว่าธรรมะ(การปฏิบัติดูจิต)ตามแนวทางของหลวงพ่อยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย และจาก นั้นผมก็ทําแต่งานจนลืมการปฏิบัติธรรมไปเสียสิ้น ใช้ชีวิตอย่างเปลืองย้อนกลับไปคิดแล้วไม่น่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยแบบ นั้นมาเลย มันคงเป็นวิบากกรรมด้วยที่ทําให้เป็นแบบนั้น แต่ก็ยังดีที่กลับตัวได้ทันและเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดีดีดึงผมขึ้นจาก การเสี่ยงต่อปากเหวให้กลับมาปฏิบัติธรรมจนเปลี่ยนชีวิตผมมาจนกระทั่งถึงวันนี้ที่เริ่มต้นจากปลายปี 2549 การที่ผมนั่ง สมาธิแล้วจิตรวมจิตเข้าสู่กระแสของความละเอียดของจิต นับเป็นจุดเปลี่ยนของผมแล้วก็ทําสมาธิมาตลอดโดยนั่งไปจิตก็ รวมอย่างเคยคิดว่าชีวิตนี้คงหมดวาสนาที่จะได้รู้ธรรมะที่ยิ่งๆกว่านี้แน่ คงตายไปแบบไม่มีอะไรติดตัวไปคิดแล้วก็นึกน้อยใจ ตัวเองที่คิดว่าชีวิตทางธรรมช่างอาภัพนัก จนนับเป็นปีที่ 7 จากปี2545ที่ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อ มีพี่ยอด กัลยาณมิตรที่ทํางานด้วยกันไปรับซีดีของหลวงพ่อมาจากห้องสมุดบ้านอารีย์มาฝากผม ผมก็เริ่มฟังซีดีแผ่นที่25 ที่หลวงพ่อ แสดงธรรมไว้ที่สวนสันติธรรมในคืนวันที่ 7 ม.ค.52 และก็ทําให้ผมได้พบกับความรู้ใหม่และเกิดสภาวะที่จิตผมเบาและตัว โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

22


เบาไปหมดเกิดปีติอิ่มอกอิ่มใจเป็นสภาวะที่เป็นสุขใจมากครับพลังเสียงของหลวงพ่อในซีดีช่วยปลุกจิตปลุกใจของผมที่มัน หลับใหลมาเนิ่นนานให้ตื่นมารับรู้สภาวะของกายของใจได้ พอรุ่งเช้าก็นั่งรถโดยสารประจําทางไปทํางานตัวนี้อย่างเบาใจ อย่างเบา และลงจากรถตัวก็ยังเบาใจก็เบาอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน รู้สึกมีความยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดทั้งวันและกลับมาจากที่ ทํางานก็กลับมาฟังซ้ําจนจิตผมจดจําสภาวะที่เกิดขึ้นได้แม่นขึ้นและอ่านหนังสือของอ.สุรวัฒน์ประกอบ รู้ตื่นเบิกบาน ระหว่างวัน หัดรู้หัดดู ทําให้ผมมีความสุขมากขึ้นความทุกข์ลดน้อยลงจริงๆแนวทางการดูจิตตามที่หลวงพ่อท่านสอนตรงกับ จริตของผมมากที่สุดและในปัจจุบันก็ปฏิบัติตามแนวทางของท่านตลอดในระหว่างวันและนําไปแนะนําคนอื่นด้วยและก็ เปลี่ยนชีวิตไปหลายคน โดยส่วนตัวนั้นผมได้ปวารณาตนเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แล้วตั้งแต่ผมฟังซีดีของท่านจนจิตผมจําสภาวะที่เกิดขึ้นกับจิตกับใจและผมสามารถรู้การเกิด ดับของจิตรู้กฎไตรลักษณ์ รู้สิ่งที่หลวงพ่อสอนรู้ว่าสมถะและวิปัสสนานั้นเดินจิตอย่างไรต่างกันอย่างไร รู้ว่าจิตนุ่มนวลควร แก่การงานเป็นอย่างไร ความละเอียดอ่อนของจิตและจิตที่ไวต่อการรับรู้ต่างๆ จนผมเองสามารถไปรู้สภาวะจิตของผู้อื่นได้ โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผมนําคําสอนของหลวงพ่อทั้งซีดีและหนังสือไปให้คนรู้จักจํานวนสี่คนได้ปฏิบัติตามตอนแรกก็ไม่เข้าใจกัน แต่พอผ่านไปได้สองเดือนเท่านั้นเอง คนที่ผมเคยแนะนําก็สามารถรู้สภาวะและเข้าใจสิ่งที่หลวงพ่อสอนและพวกเขาก็ สามารถรู้สภาวะจิตของผมได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผมได้เปรยกับกลุ่มนักปฏิบัติด้วยกันว่าแค่พวกเราสามารถรู้สภาวะกันได้ ขนาดนี้ แล้วครูบาอาจารย์ของพวกเราท่านจะมีความรู้แจ่มแจ้งขนาดไหน และก็หมดความสงสัยในตัวท่านและธรรมะของ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่าธรรมะเป็นของจริงแท้ที่มีอยู่ในธรรมชาติใครทําใครก็ได้ใครทําใครก็เข้าถึงได้ ธรรมะ เป็นเรื่องธรรมดาและเรียบง่ายตามที่หลวงพ่อท่านสอนไว้จริงๆครับ ความจริงก่อนหน้านี้ผมไม่เข้าใจในคําสอนของหลวงพ่อ จึงปฏิเสธวิธีการสอนของท่านจนมาวันหนึ่งได้ฟังซีดีของท่านจนจิตใจเปลี่ยนในชั่วข้ามคืน และพวกเราก็ได้เป็นพยานให้กับ หลวงพ่อแล้ว ศรัทธาท่านอย่างเต็มหัวใจและเชื่อมั่นในคุณงามความดีของหลวงพ่อ ลองอ่านประสบการณ์การปฏิบัติธรรมเพียงน้อยนิดของผมที่ได้จุดเริ่มต้นของการปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช ที่ทําให้ผมได้ทําต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผมเขียนเล่าให้พี่กัลยาณมิตรอ่านครับและเป็นการสนทนา ธรรมกัน ดังข้างล่างครับ ผิดถูกประการใดและหากนําไปเผยแพร่ต่อกรุณาตัดทอนเพื่อให้ไม่ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างถึงได้รับผลก ระทบครับ และหากจะเป็นประโยชน์กับกัลยาณมิตรหมู่มากก็ไม่สงวนสิทธิ์ในข้อความทั้งหมดในการเผยแพร่ต่อ ครับ ประสบการณ์ของผมนั้นกรุณาอ่านจากข้างล่างขึ้นมาข้างบนตามลําดับเหตุการณ์ครับ ข้อคิดอย่างหนึ่งคือ การที่ผมและคนใกล้ชิดที่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อแล้วสามารถรู้เห็นอะไรได้นั้นเป็นเพียงแค่ ผลพลอยได้จากการปฏิบัติเท่านั้น สิ่งที่รู้ที่เห็นนั้นไม่ควรไปยึดติดอะไรทั้งสิ้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่เราเดินทางไปแล้วแค่ผ่านไป พบเจอถ้าสามารถเอามาใช้งานเกื้อกูลประโยชน์ให้กับตัวเองและคนอื่นได้ก็สามารถกระทําได้แต่ไม่ควรไปยึดติด รู้แล้ว วาง หน้าที่ของเราก็คือคอยตามรู้ตามรู้กายกับใจ เจริญสติในชีวิตประจําวันและปฏิบัติให้ตรงกับแนวทางที่ตนเองถนัดมาก ที่สุดถูกจริตมากที่สุด กรรมฐานที่ดีที่สุดก็คือกรรมฐานที่ทําแล้วถูกจริตกับตัวเองมากที่สุดครับ ประสบการณ์ธรรมของหนุ่ย โดยคุณ นวมาศร์ 701. กับข่าวที่เกิดขึ้น แม้เรื่องราวยังไม่จบสิ้น แต่ในใจลึกๆคิดว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี.... แม้ดิฉันจะไม่เคยฝึก ภาวนาจิตตามที่หลวงพ่อได้สอน แต่ก็มีโอกาสได้ไปฟังธรรมที่สวนสันติฯมาครั้ง บวกกับได้ฟังซีดีสอนธรรมของหลวงพ่อมา ประมาณนึง ก็ได้แง่คิดในการดํารงชีวิตมากขึ้น มองเห็นถึงเหตุและผลขอการกระทําของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น ทําให้เรา ปล่อยวางและไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆได้มากขึ้นไปด้วย. (จินดาพร เทียนรัตน์. ขอร่วมเป็นพลังใจอีกเสียงค่ะ) โดยคุณ จินดาพร 702. รู้สึกเกิดมาไม่เสียชาติเกิด และเป็นรางวัลที่มีค่าล้ําเลิศยิ่งของชีวิต ภูมิใจมาก และดีใจที่สุดในชีวิต ที่ได้มีโอกาสมาเล่าเรียนและปฏิบัติธรรมตามแนวคําสั่งสอนของพระอาจารย์ปราโมช ปราโมชโช ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมี สาระ พระอาจารย์สั่งสอนลูกศิษย์ได้ดีมาก ใช้ถ้อยคําอธิบายหลักธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้ละเอียด ลึกซึ้ง และ แจ่มแจ้งดีมาก ด้วยภาษาสละสลวย เข้าใจง่าย พระอาจารย์ยังสอนประสพการณ์การปฏิบัติธรรมของท่านให้ลูกศิษย์ได้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

23


เรียนรู้มากมาย คําสั่งสอนของพระอาจารย์ฯ นํามาเป็นบทเรียนสอนและเตือนใจข้าพเจ้าได้ทุกสถานการณ์ สามารถนําไป ใช้ในการดําเนินชิวิตให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข มีความทุกข์น้อย ๆ หรือบางเรื่องก็แทบจะไม่มีความทุกข์ เลย " ทุกวันนี้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากที่สุดในชีวีต ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้ว เพราะ ปฏิบัติธรรมตามแนวคําสอนของพระอาจารย์ปราโมชฯ " ขอบอกว่าไม่เสียใจเลยที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เพราะมะเร็งทําให้ สนใจที่จะปฏิบัติธรรม และบุญเหลือเกินที่ได้มาศึกษากับพระอาจารย์ปราโมช ข้าพเจ้าจะขอปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้าและ พระอาจารย์ปราโมชตลอดไปเท่าที่เวลายังเหลืออยู่ในชีวิตของข้าพเจ้าในชาติภพนี ้ และขอตั้งจิตอธิษฐานจะไปปฏิบัติบูชา ต่อในชาติภพหน้า และทุก ๆ ภพชาติ จนกว่าจะบรรลุหลักธรรมด้วยเทอญ. โดยคุณ บุษบา

703. หลวงพ่อ....สอนให้ผมเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนสิ่งใด หลวงพ่อ....สอนให้รู้ว่าทางพ้นทุกข์ยังมีอยู่ หลวงพ่อ....สอนให้รู้คุณค่าของชีวิตนี้ หลวงพ่อ....สอนทางเดินให้คนเมืองอย่างผม จะขอ....ภาวนาบูชาคุณหลวงพ่อตลอดไปครับ ...ยกประนม สิบนิ้ว ก้มกราบกราน แทบเท้า อาจารย์ หลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยเมตตา สอนสั่ง ชี้ประโยชน์ อีกชี้โทษ ให้ศิษย์รู้ ทางดําเนิน ศีลเป็นบาท ท่านสอนไว้ ให้รักษา ถึงเวลา ในรูปแบบ อย่าห่างเหิน ระหว่างวัน เจริญสติ มิหลงเพลิน พากันเดิน ตามทางนี้ ไม่ช้าไกล ท่านพร่ําสอน ระลึกไว้ เป็นมนุษย์ แสนพิสุทธิ์ พบศาสนา ใจเลื่อมใส สติปัฏฐาน ระลึกรู้ ดูกายใจ" หนทางไป อันเป็นเอก สู่นิพพาน ชีวิตนี้ ลูกจะขอ ภาวนา" " เพื่อบูชา คุณหลวงพ่อ อันไพศาล โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

24


ให้แจ้งผล การปฏิบัติ เป็นพยาน" " ด้วยใจหาญ มุ่งตอบแทน ทั้งใจกาย โดยคุณ ชวนพ 704. การได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เปรียบเสมือนการได้พบกับแสงสว่าง ที่ส่องให้เห็นหนทาง และจุดหมายปลายทางของชีวิต รู้ว่าชีวิตนี้ต้องทําอะไร อยู่ไปเพื่ออะไร และแม้กระทั่งตายไปเพื่ออะไร ธรรมะที่บางคนคิดว่าเป็นเรื่องยากที่เข้าไม่ถึง กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อได้ฟังคําอธิบายจากหลวงพ่อ เพราะสิ่งที่ท่านสอน ไม่มีอะไรที่นอกเหนือไปจากการทําให้พ้นทุกข์ ไม่มีอะไรที่วิเศษพิสดาร จนคนธรรมดาๆคนนึง จะไม่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไม ทุกวันนี้ท่านจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จากคนที่ไม่มีศรัทธา จากคนที่ไม่สนใจว่าพระพุทธศาสนาสอนอะไร ก็สามารถทําให้ ใครหลายๆคนหันมาสนใจปฏิบัติธรรม หาทางพ้นจากความทุกข์ สร้างกรรมดี ต่อสู้กับกิเลสกัน สิ่งที่กล่าวมานั้นมิได้ได้มาด้วยความบังเอิญ หากแต่เป็นเพราะคําสอนของท่าน สามารถนําเอาไปปฎิบัติได้จริง หาใช่เกิดจากการมีศรัทธา เพราะท่านแจกวัตถุมงคลของขลัง หาใช่การทําพิธีปลุกเสกสะเดาะเคราะห์ หาใช่การเรี่ยไรเงิน เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างหรือวัตถุมงคลใดๆ หาใช่การสั่งสอนคนให้เห็นผิดเป็นชอบ... คําสอนของท่านล้วนมาจากเจตนาที่ดีและบริสุทธิ์ ที่เราสามารถรับรู้และสัมผัสได้ และนั่นก็มีน้ําหนักมากพอที่จะเป็นคําตอบสําหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น... ขอเทิดทูนพระคุณของหลวงพ่อเหนือเศียรเกล้า ขอบูชาคุณพระศรีรัตนตรัยจนกว่าชีวิตจะหาไม่... โดยคุณ อวัตถา วิทยกุล 705. ฟังจากซีดี เรื่องวิธีปฎิบัติธรรมครั้งแรกเลยรู้สึกว่าโชคดี สิ่งที่รู้เช่น หัดรู้สภาวะบ่อยๆเพื่อให้สติเกิดเองอย่างไม่จงใจ จิตที ่ รู้ ความโกรธ คือ จิตที่ไม่โกรธ จิตที่หนักหรือแน่นๆ คือ จิตอกุศล ไม่เหมาะทําวิปัสสนา มีความเชื่อมั่นในคําสอนของหลวงพ่อ เพราะปฎิบัติแล้วความทุกข์เบาลง โดยคุณ สุวิชัย 706. ดิฉันรู้จักสวนสันติธรรมจากพี่ทางธรรมท่านหนึ่งในช่วงเริ่มสนใจการปฏิบัติ เป็นจังหวะที่จิตใจเศร้าหมอง มืดทึบเพราะ ความเศร้ากัดกร่อนมานานบุญกุศลใดๆ ก็ไม่สามารถคลายทุกข์นั้นได้นานนัก เมื่อเริ่มฟังและปฏิบัติตามแนวทางหลวงพ่อ น่าอัศจรรย์ที่ความทุกข์ถอยห่าง ความสุขความอบอุ่น ค่อยๆทยอยมาแทนที่ อย่างต่อเนื่อง ทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้นที่จิต..และสตินั้นก็เป็นเครื่องคุ้มครอง หลายปีผ่าน..มองย้อนกลับไป เหมือนไม่ใช่คน เดิม ดิฉันมองโลกอย่างเข้าใจมากขึ้นเมตตาต่อตนเองต่อเพื่อนร่วมทุกข์มากขึ้น ที่สําคัญที่สุดจิตใจเกิดเข้มแข็งมีความสุข และดําเนินชีวิตโดยมีธรรมะจากหลวงพ่อเป็นเครื่องชี้นําอย่างมีจุดหมายปลายทาง โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

25


สังสารวัฏยาวไกล แต่ชีวิตนี้สั้นนัก...ดิฉันขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อ กราบความเมตตาเหนือประมาณ กราบธาตุขันธ์ที่ท่าน เสียสละทนทุกข์ เหนื่อยยากเพื่อผู้คนทั้งหลาย กราบขออโหสิกรรมแทนผู้มุ่งร้ายทั้งที่รู้และไม่รู้ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ขอ อย่าให้การกระทําใดๆจากผู้ใดกระทบกระเทือนต่อหลวงพ่อผู้เป็นที่รักที่บูชาของพวกเราเถิด โดยคุณ ภัคพร 707. ดิฉันฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ผ่านทาง ซีดี และอ่านหนังสือของท่าน โดยที่ไม่เคยได้พบท่านเลย คําสอนของท่านมีคุณอนันต์ต่อชีวิตของดิฉัน ทําให้ชีวิตของดิฉันมีความสุขมากขึ้น เนื่องจากท่านสอนให้มีสติ และตาม รู้....คําสอนที่ฟังดูง่ายๆแค่นี้ แต่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ ....อีกประโยคหนึ่งที่ท่านพูดบ่อยๆ คือ "ทุกอย่างชั่วคราว" ประโยคนี้ทําให้ดิฉันได้คิด และนําไปเตือนตนเองบ่อยๆ ทําให้รู้จักที่จะปล่อยวาง ชีวิตจึงมีความสุขมากขึ้น คนรอบข้างก็ พลอยสบายใจไปด้วย ดิฉันโชคดีเหลือเกินที่มีโอกาสได้ฟังธรรมของท่าน ทําให้รู้สึกว่าเราเกิดมาไม่เสียชาติเกิดที่ได้พบครูบาอาจารย์ที่ดีเช่น นี้ คําสอนของท่านง่ายๆและไม่ขัดกับการดําเนินชีวิด ผู้ปฏิบัติทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ถ้าใครไม่เชื่อลอง ปฏิบัติดูก็ได้ ดิฉันไม่เคยหวั่นไหว ต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่สื่อนํามาเผยแพร่ ดิฉันเชื่อมั่นในคําสอนของท่าน เชื่อมั่นในตัวท่าน ศรัทธา ในตัวท่านไม่เสื่อมคลาย แม้จะไม่เคยพบท่านก็ตาม และดิฉันจะปฏิบัติตามคําสอนของท่านต่อไป โดยคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมพร 708. จากคนที่เคยเป็นคนดีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่แค่ใส่บาตร ทําบุญใส่ซองทุกครั้งที่เพื่อนหยิบยื่นซองผ้าป่า ซองกฐินให้ ทําบุญใส่ตู้เป็นประจําเวลาไปวัดต่างๆ สวดมนต์ไหว้พระเป็นปกติธรรมดา เป็นแค่คนดีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ในวันที่ดิฉันมีทุกข์ แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ถือได้ว่าเป็นโชคร้ายที่สุดในชีวิตที่ฉันไม่คิดว่าจะพบ ฉันก็โชคดีมหาศาลที่ฉันค้นพบธรรมะโดยมี หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชเป็นผู้ชี้แนะ อย่างที่บอก ฉันไม่เคยปฏิบัติธรรมอะไรมาก่อนเลย ศีลห้าก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไร แต่หลังจากที่ฉันได้ฟังซีดีหลวงพ่อ ใจฉันเปิดรับในทันที ฉันลองทําตามสิ่งที่หลวงพ่อสอน ลองเล่นๆ ไม่ได้จ้องจับผิดว่าหลวง พ่อพูดจริงมั๊ย หรือว่า ลองไปงั้นๆ แต่ฉันลองด้วยจิตศรัทธาหลังจากที่ได้ฟังคําสอนของหลวงพ่อจากซีดี ฉันพบว่าใจฉันเผลอคิดถึงเรื่องที่ทําให้ฉันทุกข์โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ!!!!! มันเผลอของมันเอง ฉันแอบคิดเหมือนกันในตอนนั้น ว่าเป็นไปได้ยังไง เผลอไปคิดยังไม่พอ เผลอไปตอนไหนก็ไม่รู้ เอาหล่ะซิ ฉันเริ่มสนุกในการภาวนาตามแนวหลวงพ่อ เพราะ ฉันรู้สึกว่าฉันทําได้เลยโดยไม่ต้องรอเข้าคอร์สที่ไหน และเห็นผลในทันที จากที่ฉันชอบเหม่อๆ เผลอๆ อารมณ์เลื่อนลอย เหมือนนางเอกมิวสิค ในช่วงแรกๆ ตอนนั้น พอฉันเผลอ ฉันเริ่มรู้สึกตัว และเริ่มรู้สึกตัวได้ไวขึ้นๆ หรือฉันสวดมนต์มาแต่ อ้อน แต่ออก แต่ฉันก็ไม่เคยสนใจหรือรู้เลยว่าใจของฉันมันแอบหนีไปคิดเรื่องอื่นได้ แล้วไปตอนไหน ฉันก็ไม่รู้อีกแหละ ไร เนี่ย จะบอกว่าฉันเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็ไม่เชิง แต่เหมือนว่าตัวฉันไม่​่ใช่ตัวฉันทั้งหมด จากที่ฉันทุกข์มากมาย หน้าตาเหมือนศพ ธรรมะของหลวงพ่อสอนให้ฉันเห็นความจริง ว่าฉันทุกข์เพราะอะไร ธรรมของ หลวงพ่อสอนให้ฉันรู้ว่าฉันเกิดมาเป็นมนุษย์ก็นับว่าโชคดีมากมายแล้ว และฉันยังได้ต่อยอดของการเป็นมนุษย์ด้วยการ ปฏิบัติภาวนา ถึงแม้ฉันจะยังอยู่แค่ชั้นอนุบาลก็ตาม หนทางยังอีกไกล แต่ ณ วันนี้ฉันบอกได้เลยว่านับจากวินาทีที่ฉันได้ ศึกษาธรรมตามแนวหลวงพ่อปราโมทย์นั้น จากวินาทีนั้น ชีวิตฉันได้กําไร ฉันมีเป้าหมายทางธรรมที่แน่นอนว่าฉันภาวนาไป เพื่ออะไร ในทางโลก ชีวิตฉันมีความสุขขึ้นมาก เมื่อฉันดูกาย ดูใจเป็น ฉันเริ่มเห็นการทํางานของใจฉันเอง ซึ่งจริงๆ เราควรจะรู้ซินะว่า ใจเราทํางานยังไง เพราะเราอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด แต่เราก็ไม่รู้และไม่เคยใส่ใจ เราีมีชีวิตไปวันๆ ใช้ชีิวิตตามกรอบสังคม ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าทุกข์ในชีวิตฉันยังมีอยู่ แต่ฉันไม่ทุกข์จะเป็นจะตายไปกับปัญหาที่เข้ามา ฉันมีสติ มีปัญญา มองโลกตาม ความเป็นจริงมากขึ้น เรียนรู้กายใจตัวเองไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่า โชคดีเหลือใจ คุ้มเหลือหลายที่ฉันโชคร้ายในวันนั้น แต่ฉันได้ พบธรรมะ ได้ปฏิบัติภาวนามาจนถึงทุกวันนี้ กราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ผู้เป็นดั่งพ่อทางธรรมของฉัน สิ่งที่ฉันจะตอบแทนพ่อทางธรรมได้ดีที่สุดคือ ฉันจะภาวนาไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่เพื่อแทนคุณหลวงพ่อ และปฏิบัติเป็นพุทธบูชาแ่ด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ โดยคุณ Chanunya

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

26


709. ช่วงชีวิตผมตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น มีทุกข์มาก จากปัญหาหนักรุมเร้า ผมจึงเริ่มอ่านหนังสือธรรมะ มาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 จากช่วงนั้น เวลาผ่านไปอีกกว่ายี่สิบปี ก็ยังไม่สามารถนําไปปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ได้จริง ๆ ซักที จนกระทั่งสองปีก่อน ผมได้มีโอกาสพบกับคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ เริ่มจากได้เจอหนังสือ ทางเอก พบว่าคําสอนของ ท่านเป็นแนวทางที่ผมไม่เคยพบมาก่อน และลองฟังซีดีคําสอนของท่าน ก็พยายามเริ่มปฏิบัติ จากคําสอนของหลวงพ่อ ยังทําให้เกิดกัลยาณมิตรจากลูกศิษย์หลายท่าน เช่น อ.สุรวัฒน์ คุณหมอณัฏฐ์ ฯลฯ มาช่วยให้คํา แนะนําผู้สนใจปฏิบัติท่านอื่น ๆ อีกด้วย ผมก็มีโอกาสเรียนรู้จากกิจกรรมสนทนานี้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน ผ่านมาสองปี ความทุกข์ในชีวิตน้อยลง ทุกข์สั้นลง เลิกเหล้าเบียร์ได้เด็ดขาด เปรียบเสมือนหลวงพ่อเป็นพ่อคนที่ 2 ที่ให้ชีวิตใหม่กับผม จากเดิมที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปทําไม ก็รู้แล้วว่า เราอยู่เพื่อเรียนธรรมะ โดยคุณ ปัด 710. พระธรรมเทศนาที่ศาลาลุงชินครั้งที่ 1 เป็นพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อบันทึกแรกในชีวิตที่ได้ฟังเมื่อช่วงกลางปี 2549 จากวันนั้นถึงวันนี้การภาวนาเปลี่ยนไปมาก ชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์เกิดขึ้น แต่ด้วยธรรมะที่ท่านเมตตาสอนสั่ง ทําให้ เห็นสิ่งเหล่านั้นอยู่ห่างออกไป หรืออย่างน้อยในวันที่จิตอ่อนกําลัง ก็รู้ในใจลึกๆว่าสิ่งเหล่านั้นเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ขอกราบหลวงพ่อด้วยใจบูชาครับ

โดยคุณ พิชาน พันธุ์วิชาติกุล 711. คําสารภาพของศิษย์ที่ไม่เอาไหน " ฟังเทศน์ของหลวงพ่อปราโมทย์มานานแล้ว

แต่ฟังอย่างเดียว

ไม่ได้แบ่งเวลาไว้ปฏิบัติในรูปแบบจริงจังเท่าไหร่

เวลามีเรื่องไม่สบายใจ ก็เปิดเสียงเทศน์ของหลวงพ่อฟังเหมือนช่วยปลอบใจตัวเองเป็นคราวๆเท่านั้น "

คนที่เคยเป็นทุกข์เพราะคําพูดร้ายๆของคนอื่น

เคยต้องมานั่งร้องไห้เสียใจกับคําพูดเลวร้ายที่คนในบ้านหยิบยื่น

ให้ เพิ่งมารู้ตัวว่าโง่ร้องไห้อยู่ตั้งนานหลายปี ไม่ได้รู้เลยว่าแค่รู้ทันความเสียใจที่เกิดขึ้น ความทุกข์ก็หายไปต่อหน้าต่อตา เหลือแค่เหตุผลให้ตนรับมือกับคําพูดร้ายๆเฉพาะหน้าได้แบบเสียใจสั้นลง "

คําสอนของศาสนาพุทธ

ค่อยๆคลี่คลายคําพูดร้ายๆที่พ่อแม่เคยหยิบยื่นให้

แปรเปลี่ยนเป็นความเห็นอกเข้าใจ

ความเมตตาปรารถนาดีต่อผู้มีบุญคุณบังเกิดเกล้า "

ครั้งนี้

เมื่อมีการตีแผ่เรื่องหลวงพ่อไปในทางเสียๆหายๆลงสื่อ

จนเป็นข่าวครึกโครมไปทั้งประเทศ

จึงได้มา

ตระหนักแก่ใจว่า ศาสนาพุทธแท้ๆ พร้อมจะหายไปตลอดเวลา นึกโทษตัวเองที่เคยเห็นธรรมะเป็นแค่คําปลอบใจหวานๆ ไม่ได้รู้ตัวเอาเลย ว่าธรรมะช่วยให้ชีวิตของตนร่มเย็นขึ้นเพียงใด "

หากชีวิตที่ผ่านมา ตนเคยได้ทําคุณงามความดีใดๆไว้บ้าง ก็ขอกุศลเหล่านั้นให้โอกาสตนได้มีเวลาที่จะเร่งความ

เพียร เพื่อเรียนรู้กายใจตนเองตามที่หลวงพ่อสอน ให้การปฏิบัติบูชานี้เป็นพยานให้กับพระแท้ๆท่านหนึ่ง ที่มีบุญคุณแก่ ชีวิตของตนอย่างหาที่สุดมิได้

โดยคุณ วันทนีย์ 712. เท่าที่ได้สัมผัส จากพระธรรมเทศนาของท่าน ผมเองภาวนายังไม่ไปถึงไหน..แต่ก็... ทําให้ผมรู้จักสํารวมอินทรีย์หก รู้จักละอายต่อบาปอกุศล มากขึ้นกว่าเดิมครับ โดยคุณ Sun Khanto โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

27


713.

ภาพเพ้นท์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโชเปรียบเสมือนผู้ที่มีบุญคุณสูงสุดทางจิตวิญญาณของข้าพเจ้า ทําให้ชาตินี้ข้าพเจ้ากลับมาภา วนาได้ หลวงพ่อทําให้ข้าพเจ้าเข้าใจ รู้จักพระพุทธศาสนา รู้จักพระพุทธเจ้าพระองค์จริง ว่าท่านตรัสสอนอะไร และมีความ ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าด้วยใจจริง (ที่คําสอนขององค์พระศาสดาสามารถดับทุกข์ได้จริง และธรรมะ นั้นสามารถปกป้องรักษาผู้ประพฤติธรรม) การสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ทําให้ข้าพเจ้าได้ทราบว่าการปฏิบัติหลายๆอย่าง ที่ ผ่านมาของข้าพเจ้านั้น เป็นไปในทางอัตตกิลมถานุโยค ถ้าไม่มีท่าน ข้าพเจ้าก็ยังคงหลงปฏิบัติ ค้นหาวิธีการปฏิบัติ ลูบๆ คลําๆเหมือนคนตาบอด หาไม่เจอ ค้นไม่พบเสียทีว่า สิ่งใดเป็นการปฏิบัติเพื่อทําให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ สมัยก่อนข้าพเจ้าจะ ทุกข์กว่านี้มาก ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่จําความได้ก็พยายามภาวนามาตลอด แสวงหาโมกขธรรมมาตลอด ล้มลุกคลุกคลาน จนต้นปี ๔๙ ข้าพเจ้าทุกข์หนักเรื่องการปฏิบัติธรรม และฉุกใจคิดได้ว่า เราปฏิบัติธรรมมาก็มาก แต่ทําไมไม่มีความก้าวหน้า ให้เห็นเลย มีเเต่แย่ลง อึดอัด ไม่สบายใจ ฟุ้งซ่าน โลภแรงๆ ข้าพเจ้าท้อแท้ สลดสังเวสใจอย่างมากกับผลการปฏิบัติยอดแย่ ของตัวเอง น้ําตาจากความเครียดและสงสารตัวเองอย่างมากเริ่มไหลออกมา ข้าพเจ้ายกมือขึ้นพนม อธิฐานกับพระสัมมา สัมพุทธเจ้าว่า ถ้าข้าพเจ้ายังพอมีบุญกุศลอยู่บ้าง ข้าพเจ้าไม่ขออะไรอย่างอื่น สิ่งเดียวที่ลูกต้องการคือ ขอให้พระพุทธองค์ ทรงโปรดทําให้ข้าพเจ้าได้พบครูบาอาจารย์ที่ถูกตรง องค์ที่สามารถสอนธรรมะให้ข้าพเจ้าเข้าใจได้ องค์ที่ข้าพเจ้าทําบุญมา กับท่านๆนั้น ที่จะทําให้ข้าพเจ้าสามารถมีปัญญาพอที่จะฟังธรรมะของท่านเรื่อง เพื่อการปฏิบัติภาวนาของข้าพเจ้า จะดําเนิน ได้ถูกทางและเจริญก้าวหน้าขึ้น

ภาพเพ้นท์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ตอนนี้ข้าพเจ้าเหมือนได้สิ่งที่เคยหวังไว้ตลอดชีวิต ข้าพเจ้ามีความทราบซึ้งและรู้สึกว่าตัวเองมีบุญจริงๆ ที่ได้เกิดมาร่วมสมัย กับหลวงพ่อปราโมทย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเจอสัตบุรุษ และเราจะสามารถเสพ ย่อย เข้าใจภาษา ของแต่ละท่าน ๆ ได้ ไม่ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

28


เพียงแต่หลวงพ่อปราโมทย์มีพระเมตตา แต่ท่านยังมีพระอัจฉริยะ ในการถ่ายทอดธรรมะสู่ผู้อื่นอีกด้วย สําหรับข้าพเจ้า ภาษาของท่านร่วมสมัย ตรง ง่ายต่อการเข้าใจ เมื่อนําส่ิงที่ท่านสอนมาปฏิบัติ การปฏิบัติของข้าพเจ้าลงตัวขึ้นเรื่อยๆ มีศีล และการปฏิบัติศีลก็ไม่กดข่ม การปฏิบัติธรรมก็ไม่กดข่ม มีความสบาย ไม่อึดอัด รู้เท่าทันกิเลส ไม่ออกไปทําร้ายใคร ทั้ง กาย วาจา ใจ ไม่ปฏิบัติแบบที่จะทําให้ตัวกูใหญ่ขึ้น หรือที่เรียกว่า “กูเก่งๆ” ชีวิตจึงมีความเบาสบายทั้งกายใจ รู้สึกได้เลยว่า เราดีขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม เราเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมนั้นปฏิบัติกันอย่างไร ปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นเราปฏิบัติกัน ตรงนี้ ตรงปัจจุบันที่กายใจนี้ ข้าพเจ้าจึงไม่ต้องหักหาญน้ําใจคุณพ่อคุณแม่โดยการจากท่าน่ไปวัดนาน ๆ ปลีกวิเวก ไปอยู่ป่า เป็นปีๆ ทําให้ท่านต้องเป็นห่วง ต้องร้องไห้ กลัวว่าลูกจะบวชตลอดชีวิต เสมือนลูกตายจากท่านไป ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงความที่ คุณพ่อคุณแม่มีความสุขมากขึ้น ข้าพเจ้าเองก็มีความสุขมากขึ้นที่ทําบ้านให้เป็นวัด และยังได้ทําหน้าที่ลูกที่ดีอีกด้วย เมื่อธรรมะของท่านเป็นของแท้ สําหรับข้าพเจ้า เมตตาของท่าน ข้าพเจ้าก็ได้รับโดยตรง โดยไม่ต้องฟังใคร เพราะฉะนั้นเมื่อ มีข่าวโจมตีท่านออกมา จึงรู้สึกว่าข่าวไม่ได้กระทบอะไร กับความรักความศรัทธาที่ข้าพเจ้า มีต่อหลวงพ่อ มันเป็นเพียง โลกธรรม ข่าวก็สอนธรรมะ ท่านก็สอนธรรมะอีกบทหนึ่งว่า ขนาดท่านซึ่งเราไม่เห็นว่าท่านมีข้อน่าตําหนิ หรือข้อให้ใคร เกลียดได้ตรงไหน ท่านยังหนีไม่พ้นโลกธรรมเลย! แต่ใจท่านพ้นโลก ตั้งเเต่มีข่าว ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นท่านเปลี่ยนเเปลงเลย ท่านยังคงผ่องใส เบิกบาน ไม่เคยพูดถึงใครโดยใจ ที่เจือโทสะแม้สักนิดเดียว ท่านเป็นครูที่ไม่ใช่เเค่สอนเราเพียงคําพูด แต่ท่านทําให้ดูได้ด้วย ว่า ถึงแม้สถานการณ์เป็น อย่างไร คนจะรัก จะเกลียด จะชม จะว่า ใจท่านไม่เคยเหวี่ยง ไม่เคยแกว่งเลย ยิ่งทําให้เราชื่นชมท่าน ว่าท่านงดงามจริงๆ ธรรมะอยู่ในใจท่านจริงๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ปกติวัดสายที่ข้าพเจ้าไปอยู่ จะเรียกพระอาจารย์ว่า “ท่านอาจารย์” จะไม่คุ้นกับการเรียกพระอาจารย์ต่างๆว่า “หลวงพ่อ” แต่ ข้าพเจ้าสามารถเรียกหลวงพ่อปราโมทย์ ว่าหลวงพ่อ ได้อย่าง เต็มปากเต็มคํา ไม่เก้อเขิน เพราะใจข้าพเจ้ารักและเคารพ ท่านสูงสุด เสมือนท่านเป็นบิดาผู้ให้กําเนิด ผู้ที่ทําให้ข้าพเจ้าได้เกิดใหม่ทางจิตวิญญาณ เกิดเป็นอีกคนหนึ่งที่ มีความสุขใน การปฏิบัติธรรม มีความมั่นคง มีความเชื่อมั่นที่จะปฏิบัติธรรม อยู่ในทางธรรม จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งทุกข์ หลวงพ่อเป็นผู้ที่ ทําให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า “มรรคผลนิพพาน” ไม่ใช่ของเกินเอื้อม ของที่อยู่ไกลๆ อีกต่อไป ถ้าข้าพเจ้าเขียนสิ่งใดผิด หรือทําให้ผู้ อ่านท่านใดไม่สบายใจ ต้องขอขมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

29


บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าทําให้เกิดมีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันขอถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูอุปัชฌาอาจารย์ พ่อ เเม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย คุณพ่อคุณแม่ และขอบุญกุศลจงถึงแด่ท่านผู้อ่าน ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆขึ้นไป โดยคุณ มยุรา (มะยม) ลูกศิษย์หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ตั้งเเต่ ก.ค. ๔๙ - ปัจจุบัน 714. ลูกศิษย์อยู่เยอรมัน ดิฉันอยู่เยอรมันนี มีความทุกข์มาก เคยคิดจะเปลี่ยนศาสนา ได้คําสอนหลวงพ่อโดยการตั้งจิตอธิฐาน ขอให้เจอธรรมะดีๆ กราบคอมพิวเตอร์หนี่งครั้งเปิดไปเจอคําสอนหลวงพ่อ “แด่เธอผู้มาใหม่” เมื่ออ่านแล้ว พูดกับตัวเองว่า”จริงหรือ มีด้วยหรือ” คําสอนของหลวงพ่อ สอนวิธีปัฎบัติได้ชัดเจน เข้าใจง่าย และนําไปปัฎิบัตได้เลย อยู่ในชีวิตประจําวันก็ปัฎิบัตได้ ท่านสอน เรื่องทุกข์,อริยสัจ,นิพพานได้ดีมาก (จะมีใคร่สักกี่ท่านที่สามารถสอนเรื่องนี้ได้) ตั้งแต่วันนั้นจนถีงวันนี้เป็นเวลาเกือบ ห้าปี ที่ ปัฎิบัติตามแนวหลวงพ่อ ไม่เคยเลยวันไหนที่จะไม่ปัฎิบัติ ไม่เคยขี่เกียจ ถีงต้องทํางานมากมายแต่ใช้ธรรมะที่หลวงพ่อ สอน”ดูจิตในชีวิตประจําวัน” และเข้าใจคําสอนของท่านพุทธทาส “การทํางานคือการปัฎิบัติธรรม”ดิฉันกลับเมืองไทยทุกปี สองปีแรกไม่เคยไปกราบหลวงพ่อเลย ลูกยังเล็ก,สงสัยก็ให้รู้ว่าสงสัย,ช่วยตัวเองให้มากๆน้อย(เป็นคําสอนที่ไม่เคยลืม) พอ เรี่มอย่างเข้าปีที่สาม บอกกับตัวเองว่าถีงเวลาแล้ว ประจวบกับตัวเองติดนิ่ง แต่ไม่ทราบ หลวงพ่อให้ความเมตตาบอกให้ ทราบ และให้คําแนะนําจีงเดินต่อได้ ปีที่แล้วก็ไปกราบหลวงพ่อไปขอคําแนะนํา ซีงมีประโยชน์ต่อการปัฎิบัติมาก ดิฉันได้ ตั้งใจไว้ว่ากลับเมืองไทยเมื่อไรจะไปเยี่ยมหลวงพ่อทุกครั้ง ถ้าตายไปในขณะนี้ก็จะไปเรียนกับหลวงพ่อต่อ ดิฉันโชคดีที่เกิดมาเจอหลวงพ่อ ท่านเป็นลูกที่ดีของพระพุทธเจ้า เป็นครูที่ดีของดิฉันและหลายๆท่าน, ความทุกข์ลดน้อยลง, คําถามที่เคยถามตัวเองว่า “เกิดมาทําไม?” ได้รับคําตอบแล้วจากการปัฎิบัติตามแนวทางหลวงพ่อ หลวงพ่อมีบุญคุณต่อ ดิฉันมาก จะไม่ขอทิ้งเส้นทางสายนี้ ถีงตายไปก็จะไปปัฎิบัติต่อ อยากจะขอร้องผู้ที่ต้องการทําลายหลวงพ่อว่า “กว่าเราจะเจอครูที่สอนเรื่องนิพพานได้และนําคําสอนที่แท้ ของพระพุทธเจ้า มาบอกเรานั้นไม่ใช้เรื่องง่าย” ถ้าท่านทําร้ายลูกที่ดีของพระพุทธเจ้าเท่ากับท่านได้ทําร้ายศาสนาของพระองค์ ท่านอ้างว่าคํา สอนของหลวงพ่อไม่ถูกต้อง ไม่ดี ท่านได้ทดลองปัฎิบัติแล้วหรือยัง ถ้ายัง ท่านอย่าแอบอ้างว่าไม่ดีแทนพวกเรา! หมายเหตุ ดิฉันยินดีให้ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง ที่อยู่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาถ้าเกี่ยวกับหลวงพ่อ และพระศาสนา, ดิฉัน ยินดีที่จะมีกัลยาณมิตรที่เป็นลูกศิษณ์หลวงพ่อ ติดต่อดิฉันได้ โดยคุณ รุ่งกานต์ 715. หลักธรรมของหลวงพ่อถูกกับจริตของชนชั้นกลางส่วนใหญ่ สามารถนําไปปฎิบัติได้ง่าย โดยคุณ ศักดา 716. ขอนําบันทึกนี้มาร่วมแสดงเจตนารมณ์ เพื่อกราบขอบพระคุณและแสดงกตัญญุตาต่อหลวงพ่อปราโมทย์ ดิฉันบันทึก ไว้ตั้งแต่ตอนที่หลวงพ่อโดนกล่าวหาครั้งแรก คราวนี้เป็นรอบที่สองแล้วดูจะหนักกว่าเดิมอีก เพื่อแสดงให้ประจักษ์ว่าหลวง พ่อมีพระคุณมากกว่าที่เป็นดังข้อกล่าวหาทั้งหลาย 20 มกราคม 2553 สามีให้อ่านข้อความในเว็บที่มีผู้ปฏิบัติธรรมกลุ่มหนึ่ง (เข้าใจว่าเคยร่วมงานกับหลวงพ่อมาก่อน) ลงข้อความ โจมตีหลวงพ่อแรงมาก เรารู้สึกสลดใจและงงว่าเป็นไปได้ไงเนี่ย Whatever will be will be!!! 21 มกราคม 2553 เมื่อคืนนี้นอนไม่ค่อยหลับ คิดถึงเรื่องที่หลวงพ่อโดนว่าแรงมากๆ เหมือนใช้แว่นขยายส่องหาข้อตําหนิติเตียน สงสารท่านที่อุตส่าห์พากเพียรหาทางช่วยเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากบาป จากความทุกข์อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เคย ทราบว่าท่านสอนจนท่านป่วย ไข้ขึ้น เจ็บคอ แต่ท่านก็เมตตามากใครถามอะไรท่านก็ตอบ อธิบายอย่างเอื้ออาทรเสมอมา ที่พวกเขาว่าคนที่ไปหาไปฟังหลวงพ่อเพราะ อ่อนแอ เสพติด เหมือนพวกนกที่โดนหักปีก บินไปไหนไม่ได้แล้ว เรากลับรู้สึกว่าหลวงพ่อท่านช่วยติดปีกให้เราต่างหาก เดิมทีใจเรามีแต่ทุกข์ คิดมาก วิตกกังวล ทนทุกข์ทรมาน สับสน วนเวียน อยู่กับความคิดความจําและความเข้าใจผิดของตัวเอง แต่หลวงพ่อได้แนะนําให้เรารู้จักการมองดู รับรู้อาการของ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

30


ตนตามความเป็นจริงโดยไม่แทรกแซง ซึ่งเหมือนกับทําให้เรามีปีกบินออกมาจากใจที่เป็นทุกข์ได้ เห็นทุกข์เป็นของ ธรรมชาติที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุไม่ใช่ของเราหรือของใคร หลวงพ่อท่านแจกปีกให้กับทุก ๆ คนต่างหาก ส่วนการฝึกบินเป็นภารกิจของพวกเราเอง เรากราบขอบพระคุณหลวงพ่อทุกครั้ง ที่ระลึกถึงท่านและก่อนนอนทุกคืน (จะกราบไปตลอดชีวิตด้วย) เมื่อตอนเด็ก ๆ เคยอ่านหนังสือเรื่อง “เมาคลีลูกหมาป่า” ของ รัดยาร์ด คิปลิง นักเขียนชาวอังกฤษ มีตอนหนึ่งที่ ประทับใจมากมาจนทุกวันนี้ ตอนที่หมีบาลูกับเสือดําบาฆีราช่วยกันสอน เมาคลีน้อยให้รู้จักกฎของป่า เวลาไปในที่ที่ไม่ใช่ ถิ่นของตนให้ร้องตะโกนไปก่อนว่า “ท่านกับข้าเลือดเนื้อเดียวกัน เจ้าข้าเอ๊ย !!” แล้วสัตว์อื่น ๆ ก็จะไม่ทําร้าย (แต่ถ้าเป็นคน ไม่รับประกัน) พวกเราชาวพุทธทั้งหลายเลือดเนื้อเดียวกันเป้าหมายเดียวกัน คือช่วยตนเองและเพื่อนมนุษย์ให้พบความจริงในใจ ของตัวเองให้พ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ พระพุทธองค์ได้ทรงฝากความดํารงอยู่ของพุทธศาสนาไว้กับพวกเรา พุทธศาสนิกชนทั้งหลายตั้ง 2552 ปีมาแล้ว พวกเราควรผนึกกําลังกันช่วยผดุงพระศาสนา อย่าเปลืองเวลามาขัดแย้ง กันเองอยู่เลย คําสอนของครูบาอาจารย์ท่านไหนก็เป็นหนึ่งเดียวกันเป็นของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ถ้าช่วยคนให้หยุดทําบาป พูดบาป คิดบาป และพ้นจากความยึดถือในตัวตนของตนได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทําให้ชัดใจในคําสอนของพระพุทธเจ้าเรื่อง “โลกธรรมแปด” พระพุทธเจ้าก็เคยโดนคนมาด่า มา ไล่ จนพระอานนท์ท่านชวนย้ายไปเมืองอื่น (ตามที่เราเคยเรียนพุทธประวัติมา) ทําให้ขําขําเมื่อนึกถึงที่หลวงพ่อเคยพูดว่า “คนที่ฟังซีดีของหลวงพ่อแล้วตื่น มีจํานวนมาก” เราว่าจริงอย่างที่หลวงพ่อบอก บางคนก็ตื่นมารู้เห็นใจตัวเองแล้ว หายทุกข์ก็กราบขอบพระคุณหลวงพ่อ กราบแล้วกราบอีกไปตลอดชีวิต แต่บางคนเค้ากําลังหลับสบาย หลวงพ่อไปปลุกเค้า ก็เลยตื่นมาเล่นงานหลวงพ่อซะเลยด้วยความขัดเคือง พระไม่มีตัวตนให้คนเห็น พระไม่มีไม่เป็นเช่นสังขาร พระไม่มีความหมายให้วิจารณ์ พระนิพพานดับไม่เหลือสิ้นเชื้อเอย (ท่าน ก. เขาสวนหลวง) ลดารัตน์ นั่นเป็นบันทึกและความรู้สึกของแม่บ้านผมครับ เราทั้งสองเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกันเกื้อกูลกันในทางโลกและ การปฏิบัติธรรมโดยมีหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เป็นครูบาอาจารย์ ที่เราเคารพและศรัทธาท่านรูปหนึ่ง เพราะหลวง พ่อเราถึงก้าวมาสู่เส้นทางนี้อย่างมั่นใจ เราไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อสวย เพื่อหล่อ หรือเพื่อความร่ํารวยใด ๆ แต่เพื่อละทุกข์ ในจิตใจและมรรคผลนิพพานที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา นั่นเพราะหลวงพ่อแสดงให้เราเห็นว่ามรรคผลนิพพาน มีจริง ไม่จํากัดกาลเวลา และฆราวาสอย่างเรา ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ ข้อครหาที่ว่าหลวงพ่ออวดอ้างเป็นอริยะเพื่อลาภสักการะช่างเป็นข้อครหาที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง เท่าที่จําได้ หลวง พ่อท่านไม่เคยเลยที่จะกล่าวโน้มน้าวว่าต้องทําบุญกับพระอริยะองค์ใด ๆ มีแต่บอกว่าให้มีสติมาก ๆ วันแล้ววันเล่าท่านก็ พร่ําสอนว่าให้มีสติมาก ๆ ประโยคเด็ดที่ฟังแล้ว ขนลุกซู่ซ่า ลองฟังดูซิครับ การได้ยินได้ฟังการได้ปฏิบัติสติปัฏฐาน นับ เป็นโอกาสดีไม่ใช่แค่ครั้งหนึ่งในชีวิตแต่เป็นครั้งหนึ่งในวัฏสงสาร (โอ้โฮ) ตรงไหนครับที่แสดงว่าท่านหวังลาภสักการะ อย่างนี้หรือครับที่เล่นงานท่านว่าเป็นพระไม่จริง (พูดในใจ : แล้วรูปไหนจริงครับ) สุดท้าย เรื่องราวจะออกมารูปไหนผมไม่สนแล้วครับ เพราะผมเดินทางเองได้แล้ว ด้วยธรรมะของ พระพุทธเจ้าที่สอนโดยหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ฟังธรรมมะของหลวงปู่หลวงพ่อรูปอื่น ๆ ที่ผมเคารพอีกหลายรูปที่แม้ สํานวนจะต่างกัน ต่างบริบทของผู้ฟัง ผมก็สามารถจับมาซ้อนและลงรอยกันได้หมดแล้ว นี่คือพระคุณของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช ที่สอนละเอียดละออทุกกระเบียดนิ้ว ทําให้ผมทราบซึ้งใจนัก ที่เล่ามา ไม่ได้อวดตัวว่าเก่งหรอกครับ แค่อยากจะบอกให้คนที่กล่าวหาท่านได้สําเหนียกขึ้นมาบ้าง ที่ว่าวิธีสอน ของท่านทําให้ผู้ปฏิบัติอ่อนแอ นั่นมันไม่จริง หากจะมีคนอ่อนแอคงไม่ใช่พวกผมกระมังครับ ขอระบายความในใจนี้เพื่อ เชิดชูบูชาพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช มา ณ โอกาสนี้ อธิสมัย โดยคุณ ลดารัตน์ และ อธิสมัย

717. ก่อนหน้าที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสฟังคําสอนของหลวงพ่อ ทุกๆ วันชีวิตมีความทุกข์มาก ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาจนถึงเข้านอน ใจแบกความทุกข์ไปด้วยในทุกๆ ที่ จนวันหนึ่งขณะทํางาน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

31


ได้ยินเสียงธรรมจากCD ของหลวงพ่อปราโมทย์ที่ผู้ป่วยรายหนึ่งเปิดฟังในห้อง ครั้งแรกที่ได้ยินรู้สึกเหมือนเป็นเสียงสวรรค์และบอกกับตัวเองว่า เราได้พบทางที่จะทําให้ตนเองพ้นจากทุกข์แล้ว นับจากนั้นมาก็ได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อนํามาถ่ายทอด หลวงพ่อทําให้ดิฉันเข้าใจคําสอนในพุทธศาสนามากขึ้น ทําให้รู้ว่าธรรมะคือของง่ายๆ ที่อยู่ต่อหน้าเราและสามารถเข้าถึงได้จริง ทําให้ความทุกข์ที่เคยแบกไว้มาเนิ่นนานค่อยๆ ลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด ความทุกข์ใหม่ที่มีเข้ามาก็อยู่กับดิฉันไม่นาน เพราะหลวงพ่อได้สอนให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีมากที่ได้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ทางธรรมอย่างหลวงพ่อ ขอกราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ด้วยความเคารพอย่างสูง _/|\_ โดยคุณ กนิษฐา

718. ผมเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเรียนธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังอยู่สวนโพธิ์ จ. กาญจนบุรี และยังคงศรัทธาและเชื่อมั่นในคําสอนของท่านมาจนถึงทุกวันนี้ (แม้ว่าวันนี้จะเต็มไปด้วยกระแสข่าวและความเคลือบ แคลงสงสัยจากคนเป็นจํานวนมาก หลังจากที่ได้เห็นข่าวทางหน้าจอทีวี) ด้วยเหตุที่คําสอนของท่านทําให้ชีวิตช่วงหนึ่งของ ผมดีขึ้นอย่างชัดเจน จากที่เคย "ทุกข์หนัก" ก้อเหลือ "ทุกข์น้อย" จากที่ไม่เคยมีหลักหรือยึดหลักของใจอะไรได้เลย ก็เริ่ม เห็นว่าชีิวิตนั้นควรจะให้เป็นอย่างไรและอยู่ไปเพื่ออะไร แน่นอนครับว่าคําสอนของท่านเ็ป็นประโยชน์กับคนจํานวนมาก แน่นอน :) แม่ผมเองตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก้อฟังเทศน์หลวงพ่อก่อนนอนทุกวัน ฟังด้วยจิตใจที่กระตือรือร้นจะอยากทําให้ได้เช่นที่ท่าน บอก แม่ผมเคยยกมือส่งการบ้านหลวงพ่อด้วย บอกกับท่านว่าอยากทําให้ได้... อยากภาวนาให้ได้อย่างคนที่เก่งๆ เค้าทํา กันบ้าง ท่านก้อเมตตาตอบว่าถ้ายังอยากก้อทําไม่ได้หรอก แน่นอนว่าถ้าไม่ได้คําสอนหรือการเทศน์ของท่าน แม่ผมคงไม่ ฟังเทศน์แบบเริงร่าและสนุกสนานแบบนี้แน่นอนครับ จนวาระสุดท้ายของชีวิตแม่ผมยังมีหูฟัง iPod ที่เปิดเสียงเทศน์หลวง พ่ออยู่ในหูเลยครับ _/|\_ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

32


แม้ในวันนี้ผมจะยังไม่ได้ภาวนาเก่งอย่างที่หลายๆ ท่านทํากันได้และส่งการบ้านใน CD แต่ทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับโลกได้ อย่างที่ไม่ทุกข์หนักเหมือนแต่ก่อน รู้ว่าสิ่งที่มากระทบทั้งหลาย ล้วนเกิดขึ้นและดับไป อาการของจิตทั้งหลายที่เกิดเนื่องจากสิ่งที่มากระทบ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ไม่ไปยึดติด และหลงหาทางแก้ความขุ่นข้องหมองใจ หรือหลงไปแก้ความไม่สบายใจดังแต่ก่อน (แค่นี้ก็เดินตัวเบาไปเยอะแล้วครับ ....... เพราะไม่ได้แบกตัวตนและความยึดถือไว้เยอะเหมือนแต่ก่อน) หวังไว้ว่าัวันหนึ่งจะตั้งใจภาวนาให้เก่งขึ้นเหมือนอย่างที่คนอื่นๆ เค้าทํากันครับ :) โดยคุณ อนุชิต 719. กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เรียนกรรมการสวนสันติธรรม และผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนนะคะ...หากว่าในอนาคตจะมีใครกล่าวอ้างว่าข้อความเหล่านี้มาจากการแต่งขึ้นตามใจผู้สนับสนุน หลวงพ่อหรืออะไรก็ตามแต่ ดิฉันขอยืนยันว่าดิฉันมีตัวตนและพร้อมที่จะยืนยันว่าเป็นผู้เขียนข้อความนี้จริงๆ ค่ะ ดิฉันได้ฟังธรรมของหลวงพ่อครั้งแรกเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ชีวิตก่อนหน้านั้นสเปะสปะมาก ไ้ร้สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจถึงแม้จะ ได้ชื่อเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ แต่การศึกษาและปฏิบัติที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นพุทธแทบจะไม่มีเลย มีความรู้สึก สนใจอยากปฏิบัติธรรม แต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ปฏิบัติจริงจังเนื่องจากเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมคือการหลับตาบริกรรม ภาวนา หนึ่งปีจะมีโอกาสได้เข้าวัดอย่างมากก็แค่วันสําคัญทางศาสนา ประมาณปีละไม่เกิน 5 วัน ศีล 5 ไม่เคยบริสุทธิ์ จน วันที่ได้ฟังธรรมจากไฟล์เสียงของหลวงพ่อ พยายามฟังและปฏิบัติตามมาเรื่อยๆ ไม่นาน..ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจนรู้สึก ได้ ศีล 5 ที่ไม่เคยรักษาได้อย่างบริสุทธิ์กลายเป็นศีลบริสุทธิ์โดยไม่ต้องคอยระวังรักษา เนื่องจาก หิริโอตตัปปะเกิดมีขึ้นในใจ (ประจักษ์ด้วยตัวเองว่า คําว่า"หิริ-โอตัปปะ" ที่เคยทราบความหมายตลอดมานั้น แท้จริงแล้ว ตัว เองไม่เคย "เข้าใจ" ความหมายของมันเลย จนกระทั่งวันนี้) จากนั้นหมั่นภาวนาในชีวิตประจําวันเรื่อยมา จนความรู้สึกตัว เกิดมีขึ้นตามลําดับ ชีวิตที่เคยห่างวัด กลับมีโอกาสเข้าวัดทําบุญ ฟังธรรม ได้บ่อยขึ้น จากเดิมนับได้เฉลี่ยปีละ 5 วัน ตอนนี้ เฉลี่ยเดือนละ 3 วัน หากจะมีใครกล่าวอ้างว่าหลวงพ่อทําให้ลูกศิษย์อ่อนแอต้องคอยพึ่งท่าน ต้องคอยไปฟังธรรมและถาม ปัญหาจากท่าน ดิฉันขอชี้แจงด้วยความรู้สึกของตัวเองว่า ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะต้องไปถามคําถามใดๆ จากหลวงพ่ออีก แล้ว เพราะไม่มีความรู้สึกว่าต้องคอยพึ่งท่าน สําหรับดิฉันแล้วดิฉันได้รับแผนที่และแนวทางจากหลวงพ่อมากมายเพียงพอที่ จะปฏิบัติต่อไปได้เอง ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ที่ให้ชีวิตใหม่แก่ดิฉัน ที่ทําให้ดิฉัน ผู้ซึ่งหลงทาง ผู้ ซึ่งแสวงหาทาง ได้พบหนทางที่จะดําเนินต่อไปให้คุ้มค่ากับการที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ในแผ่นดินที่มีร่องรอยแห่งพุทธศาสนาอยู่ ดิฉันพูดได้เต็มปากว่าหากไม่ได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อในวันนั้น ชีวิตของดิฉันคงไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีเช่นวันนี ้ กราบ ขอบพระคุณหลวงพ่อและขอปฏิบัติเป็นอาจาริยบูชาสืบไปค่ะ โดยคุณ พิมพ์ใจ 720. ฟังธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ตั้งปี 2551 ... เริ่มตั้งแต่เพื่อน เอา MP3 มาให้ฟัง รู้สึกธรรมมะของหลวงพ่อฟังเข้าใจง่าย ปฏิบัติตามได้ง่าย เหมือนธรรมมะ คือธรรมชาติ สามารถนํามาปฏิบัติในชีวิตประจําวันได้จริง หลวงพ่อทําให้ดิฉันเข้าใจ แนวทางการปฏิบัติธรรมในพุทธศานาว่ามีแนวทางใดบ้าง แนวทางใดเป็น สมถะ แนวทางใดคือวิปัสสนากรรมฐาน และให้ ผลต่างกันอย่างไรบ้างในการปฏิบัติ หลวงพ่อไม่เคยบอกให้เราเลือกที่จะปฏิบัติแนวทางใดแนวทางหนึ่ง แต่ให้เราปฏิบัติ ควบคู่กันตามจริตของแต่ละคน ซึ่งทําให้การปฏิบัติธรรมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวัน ดิฉันขอกราบระลึกถึงบุญคุณของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช เป็นอย่างสูงที่ทําให้เข้าใจหลักคําสอนของพระพุทธเจ้า จาก ก่อนโน้น เวลากราบพระ ก็ไม่ได้รู้สึกอย่างไร ก็กราบตามที่เรียนมา แต่หลังจากได้ปฏิบัติธรรม ดูจิตตามคําสอนของหลวง พ่อแล้ว เวลากราบพระจะรู้สึกระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ที่ท่านทรงตรัสรู้ธรรมอย่างยากลําบากและช่วยเผยแผ่ธรรมมะ ให้เราได้มาฝึกปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่เพียงแต่จะเกิดผลกับตัวดิฉันคนเดียว ยังรวมถึงคนในครอบครัวของดิฉันด้วย ได้หันมาเข้าวัดฟังธรรม และนําไปปฏิบัติ จากบางคนที่ชวนไปฟังธรรมก็จะปฏิเสธไม่อยากไป จนได้เข้ามาลองฟังธรรมจากหลวงพ่อ ก็ทําให้คนในครอบครัวเปลี่ยน โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

33


ความคิด และเห็นว่าธรรมมะไม่ใช่เรื่องยากและน่าเบื่อ แต่ธรรมมะคือส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน ให้ผลกับผู้ปฏิบัติและคนรอบ ข้างจริง ขอกราบนอบน้อมในความเมตตาของหลวงพ่อที่ชี้ทางสว่างให้พวกเราได้เดินตามรอย จะขอภาวนาเพื่อเป็นพุทธบูชา ธัมมะ บูชา และสังฆะบูชาค่ะ ขอให้ทีมงานทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้น ค่ะ โดยคุณ จันทนา 721. นับตั้งแต่ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือ ประทีปส่องธรรม ของพระปราโมทย์ เมื่อประมาณ2ปีเศษที่ผ่านมา ผมได้เปลี่ยน จากคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธเฉพาะในบัตรประชาชนมาเป็นชาวพุทธที่คอยมีสติตามดูความเปลี่ยนปลงของจิตใจตัวเอง ได้สังเกตุการทํางานของจิตใจอยู่เสมอ รู้ว่าเมื่อจิตได้รับรู้ปรากฎการณ์จากทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ถ้าชอบก็ดึงดูด เอาไว้ ถ้าไม่ชอบก็ผลักออกไป เห็นจิตเค้าทํางานของเค้าได้เอง ความรู้สึกทราบซึ้งในความโชคดีของผมที่ได้เกิดมาพบพระ พุธศาสนา ได้เกิดมาพบกัลยาณมิตรอย่างพระอาจารย์ปราโมทย์ ทําให้ผมเข้าใจความหมายของชีวิตมนุษย์ว่าเกิดมาทําไม และเกือบจะหมดความสงสัยในคําสั่งสอนของพระพุทธองค์ ผมขอเรียกพระอาจารย์ว่า หลวงพ่อ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยคุณ ภานุพล 722. กราบนมัสการพระอาจารย์ปราโมทย์ " " ดิฉันเป็นขันธ์ ๕ กองหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการฟังธรรมะจากท่านพระอาจารย์เป็นอย่างมาก คือ ดิฉัน ก็เหมือนคนทั่วๆ ไป ที่คิดว่า ธรรมะ คือการนั่งสมาธิให้จิตสงบ และแสวงหาการปฏิบัติจากที่โน่น ที่นี่ ก็ได้เพียงความสงบ ในเพียงชั่วขณะที่ปฏิบัติและหลังจากนั้นไม่นาน ความสงบก็หายไป ความทุกข์ความเร่าร้อนใจ

กิเลสทั้งหลายก็ออกมา

เยือนเหมือนเดิม ก็ทําให้เอะใจว่าทําไมยิ่งทําก็เกิดความทุกข์อีกเหมือนเดิม เราปฏิบัติถูกหรือ เปล่า ประมาณปี 2548 ได้ฟัง CD “ทางเอก” ของพระอาจารย์ ก็จุดประกายการฟังธรรม ก็ได้เรียนรู้การปฏิบัติการรู้

" กายใจ

ก็เริ่มเข้าใจธรรมะมากขึ้น

และเริ่มติดตามหา CD และหนังสือของพระอาจารย์มาศึกษา การปฏิบัติก็สามารถ

ทําได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทํางาน ที่บ้าน หรือที่วัด (ถือว่าเป็นโบนัสให้กับชีวิตมากกว่า) เมื่อมีสติ เรียนรู้ กาย เรียนรู้ใจ ชีวิตความทุกข์ ก็เริ่มน้อยลง

เพราะทุกสิ่งในโลกเกิดขึ้น และก็ดับไป เอามายึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย

อยู่ตลอดเวลา และทุกสิ่งไม่เที่ยงเป็นของชั่วคราว เป็นทุกข์ทนได้ยาก

และไม่มีเรา ไม่เป็นของเรา บังคับไม่ได้

ไม่ควร

ยึดถือ ไม่ควรแทรกแซง ท่านพระอาจารย์จะสอนธรรมะ

"

โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย กับสภาวะความเป็นอยู่ของคนสมัยยุคปัจจุบัน(กิเลส

หนา ปัญญาหยาบ) ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศที่สนใจ คือ เข้าใจง่าย ชัดเจน ตรงประเด็น ลัดสั้น กับการเข้า สู่มรรคผล นิพพาน

ถ้าเพียรปฏิบัติจริงและมีความศรัทธาต่อคําสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่น

ไหว ท้ายนี้ขันธ์ ๕ กองนี้ของกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ปราโมทย์ที่ได้เปิดตา ให้เห็นแสงสว่างแห่งปัญญา ให้เป็นผู้รู้

"

ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอานิสงส์ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เพียรปฏิบัติมา

ขอให้พระอาจารย์

และทีมงานวิมุตติทุกท่านได้พบกับความสุขอย่างยิ่งคือพระนิพพานโดยเร็วพลันเทอญ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง โดยคุณ อัจฉรา วิกรวิทย์ 723. สิ่งที่ได้เมื่อฟังธรรม จาก พระปราโมทย์ "

ก่อนฟังธรรมจากท่าน เรื่อง “การปฏิบัติ” เป็นเรื่องที่ไกลตัว นึกถึงแต่การนั่งสมาธิ และเดินจงกรม เท่านั้น แต่หลัง

จากฟังท่าน สามารถปฏิบัติได้ทุกเวลา แค่ “รู้ตัว” ทุกสถานที่ ก็สามารถทําได้ เมื่อมี

”สติ” รู้สึกตัวขึ้นมา...ความคิดก็ดับ

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

34


สามารถทําได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องรอไปวัด หรือเลือกเวลาที่ว่าง ตอนทํางานก็รู้ตัวได้ เมื่อมีสติ จะทําให้ ความโกรธ ความ ฟุ้งซ่าน ความคิดต่างๆ ความสุข ความเสียใจ จะดับทันที เพราะจิตเกิดแล้วดับทันที และรับรู้ได้เพียงอารมณ์เดียว ช่วยให้ จิตใจเห็นความไม่เที่ยง เห็นว่าจิตใจ มีแต่ กิเลส ตัณหา เมื่อรู้ตัวเร็ว กิเลส ตัณหา ก็เกิดได้น้อย ทําให้จิตใจโปร่ง สบาย เย็นใจขึ้นมา ความโกรธจะดับ... หรือหายเร็วขึ้น รู้ตัวเร็วขึ้น ความสุขก็มีมากขึ้น....คนรอบข้างเห็นว่าเรามีความ เปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีขึ้น "

คําสอนของท่าน เข้าใจได้ง่าย เมื่อฝึกฝนบ่อยๆ จะเกิดประโยชน์มาก เรื่องธรรมะ เหมือนเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย เข้า

ถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป คนที่นับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่เคยรู้เลยว่า พระพุทธเจ้าสอน อะไร คําสอนที่แท้จริงคืออะไร จะไม่ค่อยมีใครทราบ ท่านสอนให้ ละตัวตน....ไม่มเี รา....ไม่ยึดมั่นถือมั่น เป็นคําสอนที่ควร ต้องเผยแพร่ต่อไปให้มากที่สุด โดยคุณมาลิษา

724. ท่านพระอาจารย์ปราโมทย์ได้สอนวิธีที่เรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ทําให้ลดความเคร่งเครียดในการปฏิบัติธรรม เมื่อปฏิบัติ ตามที่ท่านแนะนําแล้วรู้สึกว่าเห็นกิเลสชัดขึ้น เวลาที่มีความทุกข์จะสั้นลง และจากการได้ฟังการบรรยายธรรมะและการส่ง การบ้านของลูกศิษย์ ทําให้เห็นว่า มีผู้สนใจธรรมะมาก ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชัพ ทั้งฆราวาสและนักบวช จึงทําให้เพิ่ม กําลังใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้นด้วย โดยคุณ ผ่องพรรณ

725. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหลวงพ่อปราโมทย์ "

"

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสรู้จักหลวงพ่อปราโมทย์ตั้งแต่ปลายปี 2549 และติดตามฟังธรรมมาโดยตลอด ได้นํา

คําสอนและแนวทางการสอนของท่านมาประพฤติปฏิบัติ พบว่า การปฏิบัติธรรม จากที่ตัวเองเคยสนใจมาอยู่หลายปี แต่ก็ ไม่ค่อยจะมีความก้าวหน้าเท่าไรนัก เพราะมักจะไปแทรกแซงในสภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่พอได้ฟังธรรมจากท่าน เรียนรู้จาก ที่ท่านตอบคําถามผู้ที่ส่งการบ้าน เห็นได้เลยว่า เราปฏิบัติแบบมีตัวมีตนของเรา แต่คําสอนของท่าน ให้เราได้เห็นว่า ไม่มี เรา มีเพียงสภาวะที่เกิดขึ้นมาเท่านั้น ไม่ต้องทํา เพียงแค่รู้เท่านั้น จากเมื่อก่อนที่ชอบทํา แต่กลับทําไม่ค่อยจะได้ แต่พอบอก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

35


ว่า แค่รู้ กลับทําให้รู้สึกสบายและปล่อยวางได้อย่างง่าย แต่การรู้ท่านบอกว่ามีขอบเขตนะ ไม่ใช่ว่าการทําผิดหรือทําอกุศล แล้วก็บอกว่าแค่รู้ไม่ต้องทําอะไร คืออย่างน้อยต้องอยู่บนพื้นฐานของการรักษาศีล 5 ซึ่งเป็นศีลขั้นพื้นฐานของความเป็น มนุษย์ให้ได้ ท่านสอนให้ทําอะไรอย่างรู้ตัว มีสติ อยู่กับปัจจุบัน โดยไม่ต้องไปยินดียินร้าย เพราะส่วนมากเรามักจะยินดีใน สิ่งดี และยินร้ายในสิ่งร้าย ส่วนมาก เรื่องร้ายนั้น เรามักจะผลักไสออกไป เป็นอาการของโทสะ ส่วนเรื่องดี เราก็มักจะอยาก เอาเข้ามา ซึ่งเป็นอาการของโลภะ ส่วนที่ลังเลไม่แน่ใจ ก็เป็นอาการของโมหะ

จริงๆ แล้ว สภาวะทุกอย่างเรามีอยู่แทบทั้ง

นั้น แต่บางทีเราไม่เข้าใจ ดูไม่ออก แต่ท่านก็ได้ชี้แนะว่า เป็นอย่างไร ท่านสอนว่าต้องเข้าใจด้วยนะว่าจิตเป็นกุศลหรืออกุศล เมื่อจิตเป็นกุศล แล้วรู้ว่าเป็นกุศล...ดี เมื่อเป็นอกุศล แล้วรู้ว่าเป็นอกุศล.... ดี เมื่อเป็นกุศล แล้วไม่รู้ว่าเป็นกุศล...ไม่ดี เมื่อ เป็นอกุศล ไม่รู้ว่าเป็นอกุศล...ยิ่งไม่ดี ทําให้เราเข้าใจว่าต้องเรียนรู้นะว่าจิตเป็นกุศลเป็นอย่างไร จิตเป็นอกุศลเป็นอย่างไร และในหนังสือวิมุตติมรรคท่านได้แจกแจงเรื่องของเจตสิกที่เป็นส่วนที่เป็นกุศลและอกุศลที่ประกอบกับจิตได้เป็นอย่างดี ดิฉันได้มีโอกาสเรียนอภิธรรมในเบื้องต้นมาบ้าง ได้มาอ่านทําให้มีความเข้าใจในภาคปฏิบัติได้มากขึ้น "

"

เป็นเรื่องจริงทีเดียวที่ท่านสอนว่า เมื่อ “สติ” เกิดขึ้นแล้ว คุณธรรมอื่นๆ ก็จะตามมาได้ไม่ยาก ในช่วง

แรกๆ ท่านเน้นสอนให้ดูสภาวะ ที่จะทําให้เรามีสติ ส่วนในช่วงหลังๆ นี้ ท่านจะสอนให้มีปัญญา เห็นทุกอย่างเป็นไปตามกฎ ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และมองเป็นขันธ์ในแต่ละขันธ์เท่านั้น คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ได้เป็น ตัวตนเราเขาที่ไหน มันทําให้ละในความเป็นตัวตนได้มากขึ้น นอกจากได้ฟังคําสอนแล้ว เมื่อดิฉันได้มีโอกาสปฏิบัติอย่าง ต่อเนื่อง ทําให้เข้าใจคําสอนของท่านได้ชัดเจนขึ้น และสามารถตามดูสภาวะได้ตามนั้น "

"

เมื่อฟังธรรมท่านแล้ว เกิดกําลังใจในการเข้าถึง มรรค ผล นิพพาน ได้ แต่ไม่ใช่ว่า จะอยู่เฉยๆ นะ ต้องมี

ความเพียรในการสร้างกุศล มีสติ และ มีปัญญา ในการตัดกิเลส ในที่สุด จึงต้องมีทั้งศีล สมาธิ และปัญญา การไปสวนสันติ ธรรม ได้เห็นบรรยากาศของคนหนุ่มสาวที่เข้าวัด และตั้งใจกลับไปดูจิตตัวเอง และนําการบ้านมาส่งหลวงพ่อ ดิฉันว่าเป็น ภาพที่ประทับใจมากๆ มันทําให้การเรียนธรรมะ ไม่ใช่เรื่องของคนแก่ๆ อีกต่อไป หากแต่เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว เป็นเรื่อง ของชีวิตจริง เป็นเรื่องใกล้ตัวเรา และเป็นสิ่งที่ทําให้เป็นที่พึ่งแก่ชีวิตเราได้ ไม่มีที่พึ่งอื่นที่จะประเสริฐไปกว่านี้แล้ว "

"

ในสังคมทุกวันนี้มีแต่ความเร่าร้อน ผู้คนไร้ที่พึ่ง หากจะมีที่สถานที่และผู้ที่ทําหน้าที่นําคําสอนของ

พระพุทธองค์มาบอกสอน ให้ผู้คนเหล่านั้น เกิดสติ ละความเห็นแก่ตัวลง ละกิเลส เพิ่มพูนสติปัญญา มีความเข้าใจตนเอง ทําให้เข้าใจในเพื่อนมนุษย์ เป็นมิตรไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราก็ควรที่จะให้กําลังใจ ส่งเสริมและสนับสนุน "

"

ท้ายที่สุด ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย และคุณความดีทั้งหลาย จงปกปักรักษา

หลวงพ่อและทีม

งานทุกท่าน ที่มีความตั้งใจในการน้อมนําคําสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ-เจ้า มาบอกสอนให้แก่ผู้คน ด้วยความทุกข์และยังคงเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร ได้มีความเข้าใจในธรรม ได้มีที่พึ่งอันเกษม

ที่เต็มไป

ขอให้ทุกท่านมี

สุขภาพที่ดี มีกําลังใจที่เต็มเปี่ยม และข้ามพ้นห้วงน้ําของตัณหา เข้าถึงซึ่งความสิ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง โดยเร็วพลันเทอญ โดยคุณ วิไลรัตน์ 726. ได้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อ (แม้จะกระท่อนกระแท่น ไม่ได้ต่อเนื่องนัก) แต่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง การตามดู จิต ทําให้รู้สึกตัว ลดโทสะ โมหะ ได้เป็นอย่างดี ยังเชื่อมั่นในการปฏิบัติตามแนวหลวงพ่อ โดยส่วนตัวได้ติดตามการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้มานาน และคิดว่าผู้คนหลายคนในกลุ่มนี้ ก็ได้อานิสงค์จากหลวงพ่อ ทําให้กิจการส่วนตัวเจริญเติบโต มั่งมี และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ได้แต่เวทนา ยิ่งคนเหล่านี้พูดมากขึ้นเท่าใด ก็เป็นการฆ่าตัว เองมากขึ้นเท่านั้น และได้ทําลายความน่าเชื่อถือของตัวเองลงไปเรื่อยๆ โดยคุณ สมศรี 727. ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อมา 3ปีแล้วค่ะ เมื่อก่อนดิฉันไม่เคยสนใจการเข้าวัดฟังธรรมมาก่อนเลย หลังจากได้ซีดี หลวงพ่อมา ฟังเพราะเกรงใจคนที่ให้ค่ะ ก็เลยฟังไปเรื่อยๆฟังทุกวันได้ประมาณ1เดือน ต่อมาคนที่ให้ก็บอกว่า ควรจะไปเจอ หลวงพ่อสักครั้งน่ะไปขอการบ้านท่านเมื่อก่อนยังไม่มีการจับฉลากค่ะ ไปถึงตอนเช้าตรู่ เจอคุณจูนซึ่งตอนนั้นดิฉันยังไม่รู้จัก ก็บอกว่ามาจากกระบี่ ก็เลยได้สิทธิ์ส่งการบ้าน(ขอการบ้านมากกว่า) ไปที่ศาลาลุงชิน จนถึงทุกวันนี้ จะไปเกือบทุกครั้งที่ หลวงพ่อมาเทศน์ เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ทุกวันนี้ ถ้าหากไม่เจอหลวงพ่อชาตินี้ดิฉันคงตายไปปล่อยๆ โดยไม่ได้ โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

36


อะไรติดตัวเลย ดิฉันเข้าใจแล้วว่า "ตื่น" เป็นอย่างไร "รู้สึกตัว" เป็นอย่างไร ทําให้การดําเนินชีวิตในปัจจุบันมีเป้าหมาย ปลายทางที่ชัดเจน สัมผัสความสุขใจ จากการปล่อยวางได้อย่างแท้จริง สุข ทุกข์ อยู่ห่างๆ เข้ามาไม่ถึงใจ มีเหตุมีผล เชื่อ กรรม ขอบพระคุณหลวงพ่อมากๆ ค่ะที่ทําให้ลูกเห็นฝั่ง ไม่ต้องเคว้งคว้าง อ้างว้าง ไร้ทิศทาง มีที่พึ่งที่แท้จริง สุขที่แท้จริงไม่ เดินหลงทาง ทําให้เข้าใจและรักพระพุทธเจ้าของเรามากขึ้นๆ คําสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านเมตตานํามาสั่งสอนนํามามา ปฏิบัติแล้วได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ดิฉันจะขอปฏิบัติบูชาคุณของพระพุทธเจ้า และบูชาคุณหลวงพ่อค่ะ ขอปฏิบัติไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่หายใจค่ะ โดยคุณ อัญชิสา 728. ถึงผมจะยังไม่เคยไปกราบหลวงพ่อ แต่ผมได้ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อ ทําให้ผมรู้และระลึกได้ถึงสีงที่ ผมมักจะแอบไปทําอยู่บ่อยๆ นั้นก็คือความคิดฟุ้งซ่าน ความรู้ชนิดนี้เองทําให้ผมมีการเปลี่ยนแปลง และเชื่อมั่นที่จะศึกษา และภาวณา ตามแนวทางการสอนของหลวงพ่อพระอาจารย์ต่อไปครับ โดยคุณ เสกสม 729. ด้วยแรงศรัทธาที่ผมมีต่อคําสอนของหลวงพ่อและเคารพหลวงพ่ออย่างยิ่ง คําสอนของท่านทําให้ผมตัวเล็กๆที่ไม่เคย เข้าใจและห่างไกลต่อการปฎิบัติธรรมได้มีโอกาสเข้าถึงการปฎิบัติธรรม แม้นผมไม่มีโอกาสได้ไกลชิดท่าน ผมก็เทิดทูลท่าน อย่างยิ่งไม่สามารถหาอะไรเปรียบได้กับสิ่งที่ท่านให้ผม ผมขอเป็นกําลังใจและขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ หลวงพ่อปราโมชมีแต่ความสุข ปกป้องหลวงพ่อให้ปราศจากอุปสรรคและภัยต่างๆขอให้มีแต่สุขภาพแข็งแรงตลอด เคารพนับถือ โดยคุณ พรชัย 730. กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ เป็นลูกศิษย์ห่างๆ มานานแล้วค่ะ เคยไปศาลาลุงชิน 2 ครั้ง ไปวัด 1 ครั้ง ขอขอบคุณพระอาจารย์ค่ะ ตามดูตามรู้มาซักพัก เห็นเหมือนมันรู้ เหมือนชีวิต จิตใจมันเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังไม่ชัดเจนมาก จนวันนี้มีความทุกข์มาก เรื่องครอบครัว ก็เห็นความทุกข์มันวนเวียนไปมารอบรอบตัว เห็นความเสียใจ เห็นความเศร้า เห็นมันไปไป มามา แต่จิตใจมันไม่ได้ไหลไป มันเศร้าก็รู้ มันรู้ของมันเอง จนแปลกใจว่า พอจิตใจเราเคยชินกับการรู้เห็นตามเป็นจริง ทําให้เราเหมือนทุกข์แต่ไมทรมาน มันเศร้าแต่ไม่ทุรนทุราย ทั้งยังเข้าใจชีวิต และยอมรับความจริงอย่างเข้มแข็งกว่าปกติที่เคยมา สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกําลังใจให้พระอาจารย์นะคะ ดิฉันคิดว่าสิ่งต่างๆคงไม่สามารถทําให้จิตใจของพระอาจารย์กระทบกระเทือนได้ เหมือนฝนตกลงมาฟ้าก็ไม่เปียกใช่มั้ยคะ และฝากให้กําลังใจลูกศิษย์ทุกท่านที่ทุกข์อยู่ว่า ดิฉันคิดว่าเรามาแปรวิกฤติให้เป็นโอกาสดีกว่าค่ะ แรงกระเพื่อมมันทําให้เห็นอะไรๆ ชัดเจนมากกว่าความนิ่งค่ะ สงสารก็แต่คนที่สร้างแรงกระเพื่อมและกระพือคลื่น โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

37


ธรรมสวัสดีค่ะ โดยคุณ ทิพย์สุภางค์ 731. เรียน ทีมงานพลังบริสุทธิ์ ดิฉันต้องแสดงความเห็นมาเพิ่มเติม เพราะดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่ปฏิบัติธรรมตามแนวทางหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แล้วไม่ได้อ่อนแอ อย่างที่กลุ่ม........ได้อ้างถึง ดิฉันได้แผ่เมตตาให้ตลอดแต่อาจจะไม่เพียงพอ จึงต้องออกมายืนยันอีกคนว่า หลวงพ่อท่านสอนไม่ผิดแม้แต่ข้อเดียว ถ้าตัวเองไม่อุตรคิดด้วยตนเอง ด้วยการปรุงแต่งของตัวเอง ดิฉันบรรยายไม่เก่ง แต่ขอยืยยันอีกครั้งว่าชีวิตดิฉันดีขึ้นหลังจากปฏิบัติตามคําสอนของหลวง พ่อและไม่เคยไปแย่งเพื่อเจอหลวงพ่ออย่างที่เขากล่าวอ้างเลยค่ะ ขออนุโมทนาในสิ่งที่หลวงพ่อสร้างกุศลทั้งหมดค่ะ โดยคุณ มุกดา

732. Luang Por Pramote 's teaches dhamma in simple way and this has changed my life so many ways: - I understand about Buddism more than before - I found some happiness and my suffering does not seem to bother me too much. - I found purpose of life and I know now what I have to do before I die I am impressed with LP Pramote's teaching and his kindness. I believe he is sincere and he hopes that one day everyone of us will find the ultimate happiness too.

From faithful student, โดยคุณ Aasa 733. จากประสบการณ์ที่ได้รับจากหลวงพ่อปราโมทย์ พบว่าท่านคือผู้ที่มีความเมตตาต่อคนทุกคน สั่งสอนลูกศิษย์โดยไม่ ได้หวังสิ่งตอบแทน หลวงพ่อจะคอยเตือนให้เราทุกคนมีสติ เพื่อระมัดระวังไม่ให้กิเลสหลอกเรา สําหรับตัวของข้าพเจ้าได้นํา คําสอนของหลวงพ่อมาใช้ในการภาวนา ละกิเลสในใจตนเองทุกขณะจิต จึงทําให้ทุกข์เกิดขึ้นน้อยลงอย่างอย่างน่าอัศจรรย์ ข้าพเจ้าจึงเคารพและเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่าคําสอนของหลวงพ่อช่วยให้ข้าพเจ้าพ้นทุกข์จริง

โดยคุณ น.ส. วิมลรัตน์ 734. ดิฉัน นางสาวนิยดา อาชีพรับราชการครู ดิฉันได้รับซีดีธรรมเทศนาของหลวงพ่อปราโมทย์จากกัลยาณมิตรที่แสนดี คนหนึ่งส่งมาให้ฟัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว่าเป็นธรรมะที่ถูกใจมากจนต้องตามไปเพื่อได้พบเห็นตัวจริงของ หลวงพ่อปราโมทย์ที่ศาลาลุงชิน ซึ่งดิฉันไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหนรู้จากในซีดีที่หลวงพ่อพูดว่าอยู่ตรงบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ ดิฉันนั่งรถ แท็กซี่มาจาก อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพียงคนเดียวตอนตีสี่กว่าเพื่อมาฟังธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ที่ศาลาลุงชิน ตอนนั้นมาถึงศาลาลุงชินยังไม่ถึงหกโมงเช้าและคนมาฟังธรรมะของหลวงพ่อก็ไม่ได้มากมายเป็นพันเหมือนทุกวันนี้ ตั้งแต่ได้รับซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์มาดิฉันฟังซีดีของหลวงพ่อมาโดยตลอดและพยายามที่จะดูกายดูจิตตนเองมาจนถึง ปัจจุบันนี้ คําสอนของหลวงพ่อทําให้ดิฉันรู้ว่า ดิฉันต้องฝึกที่จะตามรู้ตามดูกายใจของตนเอง เพื่อฝึกให้สัมมาสติเกิดขึ้นจนเห็น ว่ากายใจไม่ใช่ของเรา กายใจไม่ใช่ตัวตน จึงจะพ้นทุกข์ได้ ทุกครั้งที่ฟังคนที่เขาภาวนาดีส่งการบ้าน ดิฉันก็รู้สึกว่าตัวเองยัง หลงอยู่ สติตามรู้กายใจยังไม่ค่อยเกิดขึ้น เมื่อไรจะมีสติตามรู้กายใจได้ต่อเนื่อง...

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

38


แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นความเปลี่ยนแปลงของดิฉันจากการที่ดิฉันได้ฝึกภาวนาตามแนวคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ก็ คือ ดิฉันใจเย็นมากขึ้น ปล่อยวางความยึดมั่นสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ผิวพรรณหน้าตาผ่องใสขึ้น จนคนในครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรู้จักต่างก็ทักว่า ดิฉันเปลี่ยนไป (ในทางที่ด)ี ชีวิตของดิฉันมีความสุขมากขึ้น สามารถทํางานหลายอย่างในเวลาจํากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพจนตัวเองแปลกใจ แม้น้ําเสียงที่พูดก็ผิดไปจากเดิม อ่อน โยน นุ่มนวล รู้เท่าทันอารมณ์ ความคิดได้มากขึ้น มีสติในการยืน เดิน นั่ง นอน มากขึ้น มีสติรู้อารมณ์ความรู้สึกโกรธ หลง คิด ฟุ้งซ่าน ดีใจ เสียใจ ฯลฯ มากขึ้น ผลการปฏิบัติที่รู้สึกว่าได้ผลก็คือ ได้เคยเห็นความโกรธพุ่งขึ้นกลางอก เวลามีเรื่องกลุ้มใจที่ทําให้คิดฟุ้งซ่าน ก็ตามรู้ได้ว่าตนเองกําลังหนีไปคิด ทําให้ความทุกข์ขาดเป็นระยะเท่าที่รู้ว่าตัวเองหนีไป คิด คําสอนของหลวงพ่อเรียบง่าย เข้าใจง่าย กระจ่างชัด ปฏิบัติตามได้ง่าย คําสอนของพระพุทธเจ้าที่ถ่ายทอดโดยหลวง พ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ทําให้ดิฉันรู้สึกว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ได้ยากเย็นเกินเอื้อม ธรรมะของพระพุทธเจ้าช่วยให้ ความทุกข์ของดิฉันลดน้อยลง และธรรมะของพระพุทธเจ้าสามารถช่วยดิฉันหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ (หากดิฉันตามรู้กายใจจนปล่อยวางไม่ยึดมั่นในกายและจิต) ดิฉันฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์มาโดยตลอดไม่มีตอนไหนเลยที่หลวงพ่อจะกล่าวลบหลู่ครูบาอาจารย์ ได้ยินแต่ ท่านเทอดทูนครูบาอาจารย์ของท่านทุกองค์ โดยเฉพาะหลวงปู่ดุูลย์ อตุโล ไม่เคยได้ยินว่าท่านอวดอ้างว่าท่านสําเร็จเป็น พระอรหันต์ เคยได้ยิน(ในซีดี)ท่านปรามลูกศิษย์ไม่ให้ไปกล่าวอ้างว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ไม่เคยได้ยินท่านไปลบหลู่การปฏิบัติธรรมของสํานักใดมีแต่ท่านบอกคนที่มาส่งการบ้านว่า อย่าเอ่ยชื่อสํานัก/ อาจารย์ที่เคยไปปฏิบัติมา เคยได้ยินแต่ท่านพูดว่า จะเคยฝึกปฏิบัติมาทางสายไหนหลวงพ่อไม่ว่าขอเพียงตามรู้กายใจ มี สติตั้งมั่น อย่าเพ่ง หนังสือ ซีดีธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ก็แจกฟรี ไม่มีการขาย คนต้องการหนังสือ ซีดีธรรมะแต่ไม่มีเงินบริจาคก็ ไม่มีใครว่า เพราะจุดรับหนังสือแจกอยู่คนละจุดกับตู้รับเงินบริจาค ซึ่งวัดอื่น ๆ ก็มีตู้รับเงินบริจาคเหมือนกัน ธรรมะที่หลวงพ่อเคยเทศน์ให้ฟังและดิฉันจํามาเฝ้าบอกย้ํากับตนเองเสมอก็คือ หากขี้เกียจภาวนาผัดผ่อนไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็หมดเวลาไปวันหนึ่ง หมดไปเดือนหนึ่ง หมดเวลาไปปีหนึ่ง และเดี่๋ยวเวลาก็หมดไปชาติหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กล่าวร้ายหลวงพ่อปราโมทย์ขึ้น ทําให้การแสดงธรรมของหลวงพ่อต้องหยุดชะงักลง ดิฉันเชื่อมั่น ในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อ เพราะข้อกล่าวหาทั้งหมดสามารถพิสูจน์ได้ด้วยความจริง คนกล่าวให้ร้ายทําได้แต่เพียงใส่ ร้ายป้ายสี ทําลายชื่อเสียงให้เสียหาย แต่ก็สามารถทําได้กับผู้ที่ไม่ได้รู้จักหลวงพ่อปราโมทย์มาก่อน ไม่เคยฟังธรรมะของท่านมาก่อนเท่านั้น แต่สําหรับศิษย์ผู้ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ จะไม่คลอนแคลนใน ศรัทธาที่มีให้ต่อหลวงพ่อ เพราะได้รู้ ได้เห็นจริงจากผลการปฏิบัติที่หลวงพ่อได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เฝ้าสั่งสอนเพื่อให้มวล มนุษย์ได้พ้นทุกข์ ท่านจึงเป็นพระผู้มีแต่ให้ ดิฉันหวังว่าสักวันหนึ่งความจริงจะปรากฏต่อสาธารณชนและกลุ่มผู้กล่าวให้ร้ายหลวงพ่อจะสํานึกและกลับตนไม่เบียดเบียน ผู้อื่นอีก ขออธิษฐานจิตขออํานาจแห่งคุณพระรัตนตรัยได้โปรดดลบันดาลให้ธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบสามารถถ่ายทอด ไปยังมวลชนทั่วประเทศไทยและทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่องด้วยเทอญ โดยคุณ นิยดา 735. ดิฉันเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี เคยไปกราบหลวงพ่อที่จังหวัดสุรินทร์ 3 ครั้ง ยังไม่เคยไปสวนสันติธรรมและศาลา ลุงชิน ยังไม่เคยส่งการบ้าน เริ่มสนใจปรัชญาศาสนามานาน อ่านหนังสือต่างๆมากพอสมควร ตอนวัยรุ่นเคยคิดจะเปลี่ยนศาสนา เพราะมี คําถามกับตัวเองมาตลอดตั้งแต่ยังเล็กว่าเราเกิดมาทําไม และที่นี่ที่ไหน เรามาทําอะไร เริ่มสนใจพระพุทธศาสนาอย่าง จริงจัง ศึกษาจากหนังสือและหัดปฏิบัติเองที่บ้านตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 แต่รู้สึกว่าจับหลักไม่ได้และไปไม่ถึงไหน จนเมื่อต้นปี พ.ศ.2550 มีญาตินําซีดีและหนังสือหลวงพ่อปราโมทย์มาให้ เลือกฟังซีดีเสียงอ่านหนังสือเรื่อง ทางเอก เป็นแผ่นแรก ฟัง ไปแล้วได้แต่รําพึงกับตนเองว่าดีใจเหลือเกินที่ได้มาเจอพระผู้รู้จริงและตรงกับจริตเราเสียที ทําให้ทราบว่าที่ผ่านมาปฏิบัติ แบบเคร่งเครียด เพ่ง และไม่ใช่ทาง จากนั้นก็ฟังซีดีประทีปส่องธรรม ฟังเสียงอ่านหนังสือ 2 เล่มนี้หลายรอบ ได้หลักแล้ว เริ่มปฏิบัติเอง หลังจากนั้นเมื่อแรกที่ได้ฟังซีดีที่หลวงพ่อเทศน์ก็รู้สึกว่าเข้าใจทันที โดยเฉพาะเรื่องที่สงสัยมานานในหัวข้อ ธรรมเรื่องสติปัฐฐาน4 ซึ่งเป็นทางสายเอกเป็นทางสายเดียวเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น ฟังและศึกษาในหัวข้อธรรมนี้มา มากพอสมควรแต่ยังไม่เข้าใจว่าต้องทําทีละขั้นหรือ และต้องทําอย่างไร พอฟังหลวงพ่อเทศน์ให้ฟังง่ายๆ ไม่กี่ประโยคก็ เข้าใจลึกซึ้งขึ้นมาก ในช่วงแรกมีความสุขมาก โล่งใจ สบายใจ เหมือนเจอที่พึ่ง เจอผู้รู้จริง ฟังทั้งตอนเดินทางไปกลับจากทํางาน ฟังก่อนนอน หัดดูสังเกตุความรู้สึกตัวเองไปเรื่อยๆ ใช้บังคับหน่อยๆเพื่อให้สติเกิด จากนั้น 3 เดือนรู้สึก ว่าสติเกิดได้เอง เกิดบ่อยๆ ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากค่ะ จากที่รู้สึกว่าไม่รู้ว่าเกิดมาทําไม เป็นคําถามที่พยายามหาคํา ตอบมาตลอดชีวิต เหมือนชีวิตไร้จุดหมาย มาบัดนี้เข้าใจแล้วว่าเกิดมาเพื่อเรียนรู้กายและใจ ไม่เคยมีคําถามนี้คาใจอีก โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

39


เลย จากที่เคยสนุกและเบื่อกับชีวิต และมีแววว่าพออายุมากน่าจะเป็นโรคซึมเศร้าแน่นอน เมื่อมาปฏิบัติตามแนวทางที่ หลวงพ่อได้เมตตาสอนก็รู้สึกว่าชีวิตมีความนิ่มนวล มีเมตตา มีพลัง มีเป้าหมายที่แท้จริงในชีวิต มีอินทรียสังวรศีล มี ฉันทะในการปฏิบัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรมบ้าง เช้า - เย็น อ่านหนังสือธรรมะของท่านอื่นๆ ต่อยอดและเข้าใจได้ ลึกซึ้งมากขึ้น และจนปัจจุบันขณะนี้ก็ยังปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อค่ะ เหล่านี้เขียนมาเพื่อส่งการบ้านผลการปฏิบัติ เป็นพยานยืนยันว่าได้รับประโยชน์อย่างมากจากคําสอนของหลวงพ่อค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สมกับการเป็นผู้มีสติ และไม่ประมาท อยากขอแสดงความคิดเห็นด้วยหัวใจบริสุทธิ์ว่า จากข่าวคราวต่างๆที่เกิดขึ้น ดิฉันในฐานะลูกศิษย์ปลายแถวผู้ไม่ได้คลุกคลีและใกล้ชิดกับทั้งหลวงพ่อและอีกฝ่ายแต่อย่าง ใด ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบได้อย่างจริงๆว่าใครถูกหรือผิดเป็นประการใด ก็ยังคงเฝ้าดูหลักฐานและการชี้แจงเหตุผล ต่างๆอย่างใช้ใจที่เป็นกลางในการพิจารณา อาจมีหวั่นไหวไปบ้างในเรื่องต่างๆเพราะความไม่รู้ข้อเท็จจริง เว้นเสียแต่เรื่อง การปฏิบัติที่คิดว่าเป็นพยานได้อีกหนึ่งคน เพราะเห็นผลได้ด้วยตนเอง และไม่เคยได้ยินว่าหลวงพ่อหรือผู้เกี่ยวข้องเรี่ยราย เงินหรือมีเจตนาแอบแฝงเรี่ยรายผลประโยชน์หรือชื่อเสียงแต่อย่างใด รวมทั้งเมื่อฟังธรรมจากหลวงพ่อก็ไม่รู้สึกว่าหลวงพ่อ แสดงธรรมเพื่ออวดอุตตริมนุสธรรมที่มีในตนแต่อย่างใด เห็นเป็นเพียงขั้นตอนของการเล่าและสอนสภาวะธรรมในขั้นต่างๆ สุดท้ายขอให้เรื่องราวต่างๆจบลงที่ความกระจ่างแจ้งได้บังเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย หากทุกอย่างเป็นไปตามที่เราหวัง ก็ขอ ให้อีกฝ่ายจงอย่าได้ทุกข์ทรมาณกับผลของกรรมอันเกิดจากความไม่รู้นี้ และหากจบลงอย่างไม่ใช่ตามที่เราหวัง ขอให้เรา ทุกคนตั้งสติ และทําใจให้ได้ นึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย ยึดเป็นที่พึ่งอันสูงสุดของชีวิต และพึงปฏิบัติบูชาถวายแด่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัทธรรม และพระอริยะสงฆ์เถิด ให้พึงนึกเสียว่าทุกอย่างล้วนต้องเป็นไป ตามกฏ ธรรมดาของโลก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา กราบนมัสการหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชค่ะ โดยคุณอ้อยพร 736. ต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงา นกกาทํารัง มนุษย์บ้างพักหลบแดด ฝนเพื่อจะไปต่อ เมื่อพายุมา แรงเสียดทานย่อมมี (หมดเหตุก็ดับ) ประโยชน์อันใด จะกังวล ว่าที่นั่งพักจนหายเหนื่อย หายร้อน เห็นทาง หายทุกข์นั้นให้ร่มเงาจริงหรือ โดยคุณ สิริเพ็ญ 737. ไม่เคยพบหลวงพ่อแต่ได้ฟังซีดีและอ่านหนังสืออยู่บ่อยๆ รู้สึกว่าเป็นทางที่ถูกที่ใช่แล้ว ทุกวันนี้ก็พยายามปฏิบัติอยู่ ถึง แม้จะล้มลุกคลุกคลานอยู่ก็ตามแต่ก็จะเดินไปเรื่อยๆค่ะ ส่วนกระแสที่เกิดขึ้นต่างๆอาจมีส่วนทําให้เกิดความสงสัย แต่ดิฉัน เชื่อว่าถ้ามีการพิสูจน์ รวมทั้งได้ปฏิบัติเอง ก็น่าจะเข้าใจด้วยตนเองเช่นกัน อย่างไรเสียทุกสิ่งมีเกิดก็มีดับตามที่หลวงพ่อ เคยสอน ดิฉันเชื่อมั่นในคุณงามความดีของหลวงพ่อ และขอส่งพลังใจและความปรารถนาดีมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

โดยคุณ อภิชาดา 738. กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อประมาณ1-2ปีที่แล้ว หนูเคยคิดที่จะเขียนรายงานการปฏิบัติของหนูส่งมาให้หลวงพ่ออ่าน ด้วยเหตุผลของความดีใจที่ ได้ชีวิตใหม่ แต่เขียนยังไม่จบก็ล้มเลิกไป เพราะมันดับ และก็ไม่เห็นประโยชน์อื่นใด เพียงแค่ต้องการอวดจะหลวงพ่อ และ บอกเล่าถึงสิ่งดีดี ที่เกิดขึ้นในชีวิตหนู จากคําสอนของหลวงพ่อ แต่วันนี้หนูเสียใจในเหตุผลของการเขียน (น้ําตาจะไหล แล้วก็ดับ) หนูชื่อโจ๊ก หลวงพ่ออาจจะจําหนูไม่ได้ หนูเริ่มเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ตั้งแต่ได้จับหนังสือที่ชื่อ “วิถีแห่งความรู้แจ้ง” ในเดือนธันวาคมปี2548 มันเป็นหนังสือที่หนูอ่านแล้ววางไม่ลง และเป็นครั้งแรกที่ทําให้หนูเข้าใจความ หมายของ” พระธรรม” (ปิติเกิด) มันเหมือนมีดวงไฟดวงน้อยๆจุดติดขึ้น แต่มันยังไม่สว่างพอที่จะมองเห็นทางข้างหน้า

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

40


และหนูมีบุญที่ได้มากราบหลวงพ่อ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2549ที่ศาลาลุงชิน จําได้ว่าเป็นการไปเทศน์ที่นั่นครั้งที่3 ของหลวงพ่อ (เกิดปิติมากน้ําตาจะไหล)

ก่อนหน้านั้นหนูชอบที่จะศึกษาธรรมะ ได้ไปปฏิบัติธรรมมาหลายที่หลายสํานัก แต่ละที่แต่ละสํานักไปปฏิบัติธรรมแต่ละ ครั้งเหมือนได้ไปชาร์ตแบตเตอร์รี่ พอกลับมาไม่นานแบตก็ไฟหมดอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้หลายรอบ และธรรมที่ได้ก็ไม่สามารถต่อกันติดเป็นเนื้อเดียวกัน เหมือนได้จิ๊กซอมาหลายตัว แต่ไม่ สามารถต่อเป็นภาพได้ มหัศจรรย์ของสติ คําว่า ”สติ” คือการระลึกรู้ การระลึกได้ ก็รู้ได้แต่เพียงความหมายในหนังสือธรรมะหลายเล่ม มานานแล้ว รู้แบบนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่เคยเห็น หรือเข้าใจในความหมายอย่างแจ่มแจ้ง จนหนูได้มาเห็นธรรมชาติและ ตัวตนที่แท้จริง(สภาวะธรรม)ของสติ หลังจากเรียนธรรมะจากหลวงพ่อ สติ คือ การระลึกรู้ ในสภาวะธรรมที่ปรากฎขึ้นในปัจจุบัน อย่างตรงไปตรงมา ทีละขณะ และหนูยังได้เห็นความมหัศจรรย์ของสติ บ่อยครั้งที่หนูขับรถแล้วถูกรถคันอื่นปาดหน้า ก่อนหน้าที่หนูยังไม่รู้จักมีสติ ก็เป็น ต้องมีเรื่องกัน เช่นการปาดตอบ บีบแตร หรือเกิดโทสะ แต่พอหนูได้รู้จักสติจากการสอนของหลวงพ่อ ทําให้หนูสามารถเห็น ความโกรธแล้วก็ดับลงต่อหน้า บางครั้งเห็นแค่ กําลังจะผุดขึ้นมา มันก็ดับก่อน ไม่เหลือแม้แต่ความขุ่นใจให้เห็น และอีกหลายๆครั้งที่สติมาช่วยไม่ให้เกิดเรื่องเกิดราวขึ้น หรือแม้แต่ตอนทํางาน หนูจะสอนพิเศษเด็กประถมในตอนเย็น ในขณะที่สอนมีบ้างที่เด็กจะขี้เกียจเรียน หรือทําอะไรที่ไม่ เหมาะออกมา โทสะหนูก็จะเกิด พอเรา “ เฮ้ย...” ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ มันก็ดับ ถึงแม้ในขณะนั้นความโกรธดับไปแล้ว แต่ ก็ยังต้องทําเสียงดุต่อไป ”เดี๋ยวเถอาะ” แล้วก็ต่อด้วยคําสอนที่ไม่เจือด้วยความโกรธ บางครั้งก็จะมีการลงโทษ แต่เป็นการลงโทษเพื่อให้เขารู้ว่า เขา ผิด หรือให้ตั้งใจเรียน ตัวอย่างที่หนูเล่าเป็นแค่ เศษหนึ่งส่วนพันกระมัง ถ้าเอามาเขียนเป็นหนังสือ หนูว่าได้เป็นเล่ม บางเรื่องก็เป็นเรื่องขําขํา หนูมั่นใจว่าลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคนได้ประโยชน์จากคําสอนของหลวงพ่อ เช่นเดียวกับหนู นี่เฉพาะแค่เรื่องของโทสะ ยังมีเรื่องของกิเลสตัวอื่น ที่โดนสติเข้าไปกําหราบเสียราบคาบ หรือไม่ก็ บั่นทอนกําลังของกิเลสไปมากมาย เรียกได้ว่าปัญหาและทุกข์ในชีวิตของหนูหายไปมากมาย รวมทั้งนิสัยไม่ดีทั้งหลายเช่น ความใจร้อน โมโหง่าย เอาแต่ใจตัวเอง และอีกหลายๆอย่างอีกมากมาย จิต...ยากแท้...หยั่งถึง แม้ว่าหนูมีสติตามรู้การทํางานของจิตไประยะหนึ่ง เห็นการคิดของจิต แต่ก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันคืออะไร คือหนูจะเห็นความคิดที่มันแปลก หรือบางครั้งมันก็เป็นความคิดที่เลวมาก ต่ําช้ามาก หรือบางครั้งก็เป็นความคิดที่ ท้าทายอันตรายถึงแก่บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตได้ เช่น “เก่งจริงก็กระโดดลงไปซิ” โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

41


“แน่จริงก็ลองเอามือจุ่มลงในหม้อน้ําร้อนสิ” หรือเป็นความคิดในเชิงลบหลู่ครูบาอาจารย์ แต่ดีอย่างที่หนูไม่เชื่อมัน และเฝ้า ถามตัวเอง(สมัยนั้น)เสมอๆว่า “ไอ้นี่มันเป็นใคร มันไม่ใช่เรา นี่หว่า” แต่ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาสมัยพ่อขุนรามถามมากกว่า เพราะเกิดโทสะกับสิ่งที่เห็น ยิ่งปฏิบัติธรรม ก็เหมือนจะยิ่งยั่วยุให้มัน เกิดบ่อยขึ้น เล่นงานหนูหนักขึ้น เฝ้าจะคอยถามตัวเองว่า “มันมาจากไหน” เพราะตอนนั้นหนูยังไม่เข้าใจคําว่า จิต อ่าน หนังสือธรรมะมาก็เยอะได้ยินคําว่า จิต มาก็แยะ แต่ก็ไม่นึกเฉลียวใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จนหนูได้มาศึกษาธรรมะกับ หลวงพ่อระยะ หนึ่งก็ยังโง่อยู่ ก็ยังไม่สามารถนําสองสิ่งมาเป็นเรื่องเดียวกันได้ว่า มันคือจิต ในธรรมะ ที่หนูศึกษามาตลอด เหมือนจะรู้ แต่ไม่ อ๋อ จนมาถึงวันหนึ่งปลายเดือนกันยายน ในปี2549ไม่น่าเชื่อปลายเดือนนี้จะครบ4ปีเต็มพอดี(น้ําตาจะไหล-ดับ) มันเป็น เหตุการณ์ที่หนูไม่เคยลืม หนูขอเล่าให้หลวงพ่อฟังอีกครั้งนะ เช้าวันนั้นเวลาน่าจะประมาณก่อนเที่ยง ปกติหนูจะนั่งสมาธิ ก่อนไปทํางาน วันนั้นก็เช่นกัน หนูนั่งลงได้ประมาณ 10นาที หนูใช้ยุบ-พอง ขณะที่ดูอาการของท้องอยู่นั้น หนูก็เห็นแสง สว่างดวงใหญ่มากอยู่ที่มุมด้านซ้าย สว่างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สว่างกว่าแสงสว่างที่หนูเคยเจอตอนนั่งสมาธิมากๆ คล้ายดวงอาทิตย์ ที่อยู่หัวมุมของกระดาษ คือจะเห็นแค่ เศษหนึ่งส่วนสี่ของดวงที่เลยมุมเข้ามา หลวงพ่อจะงงไหมน้อ (และ หลังจากเห็นแสงสว่างดวงนี้แล้ว เวลาหนูนั่งสมาธิหนูจะไม่เคยเห็นแสงสว่างในสมาธิอีกเลย ) แล้วหนูเห็นจิตมันหนีไปคิด จําไม่ได้แน่ชัดว่าคิดเรื่องอะไร เลาๆว่าเป็นเรื่องทั่วไป ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติเลย และในขณะที่เห็นจิตมันคิดเรื่องที่ไม่เกี่ยว กับการปฏิบัติ ในสมาธิ คือ มันไปคิดของมันเอง มันเป็นเอกเทศของมันเอง ไม่ขึ้นตรงกับเรา ทั้งที่เราตั้งใจจะไม่คิดเรื่องอื่น มันก็หนีเราไป ยังไม่ทันไร จิตมันก็นึกขึ้นได้ คล้ายกับว่า ตกใจวาบ (เหมือนเราลืมอะไรไป แล้วนึกขึ้นได้ทีหลัง) แล้วจิตมันก็อุทานว่า “ เฮ้ย...มันไม่ใช่เรานีหว่า ” และทันทีทันใดมันก็เหมือนมีเหมือนแสงสว่างเกิดขึ้นที่กาย เร็วมากๆ เร็วเหมือนฟ้าแลบ 2ครั้ง ติดกัน และในขณะที่มีแสงสว่างเกิดขึ้นที่กาย2ครั้ง นั้นมันบรรยายไม่ถูก ไม่รู้จะใช้คําไหนในภาษาไทย หรือในโลกนี้ ที่จะมา บรรยาย (น้ําตาจะไหล หายใจเข้าลึกๆ-ดับ) มันเหมือนกายกับใจ มันแยกออกจากกัน แต่ยังอยู่รวมกันในกาย มันล่อนออก จากกัน คล้ายกับผลของเงาะโรงเรียนที่มีเมล็ดเงาะอยู่ข้างใน สองส่วนแยกกันอยู่ และในขณะนั้นเหมือนมันไม่มีน้ําหนัก มัน เบาตัวเบาใจ ยังไงไม่รู้ หนูไม่รู้จะใช้คําไหนมาอธิบาย ให้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พูดไม่ถูกน่ะค่ะ แต่รู้ว่ามัน โอ้โฮ้ มหัศจรรย์ ตื่นตาตื่นใจ หนูไม่เคยลืมเลยจนถึงทุกวันนี้ (น้ําตาจะไหล) สิ่งที่เล่ามามันเป็นการนึก ย้อนกลับ เข้าไประลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ เพราะในขณะที่เกิดเหตุการณ์จริง มันรวดเร็วและมันไม่มีช่วงของความคิด วิเคราะห์ ใดใดเข้ามาทันในขณะนั้นเลย มัน เป็นเวลาทีส ่ ั้นมาก สั้นเกินกว่าที่เราจะ เข้าใจ หรือ คิด ทัน และหลังจากนั้นหนูก็ออกมาจากสมาธิ ขณะที่หนูก้มลงกราบพระ มันเหมือนว่าจิตมันมีช่วงหนึ่งที่เข้าใจ และรับรู้ในสิ่งที่เกิด ขึ้น เหมือนกับว่า เขาเข้าใจและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และมันก็ดีใจ แต่แปลกตรงที่ขันธ์ (ความรับรู้ทางกายกับทางสมองของหนู) มันไม่สามารถแปลสิ่งที่จิตรู้มาเป็นภาษาพูดได้ แต่รู้ว่าจิตมี ความดีใจซ่อนอยู่ และหนูก็ลืมเหตุการณ์นี้ไปเลย หนูก็ใช้ชีวิตปรกติมาเป็นเดือน จนมาแปลกใจมากกับความรู้สึกนึกคิดของตัวเองว่ามัน เปลี่ยนไปมาก จนตกใจตัวเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เลยนึกย้อนกลับไป สะดุดกับเหตุการณ์นั้น จึงมั่นใจว่าน่าจะเกิด จากเหตุการณ์ในวันนั้น และหลังจากที่มั่นใจว่ามันเกิดจากเหตุการณ์ในวันนั้นแล้ว หนูก็เฝ้าแต่อยากจะรู้คําตอบว่า มันใช่ หรือไม่ นานเหมือนกันที่จะออกจากคําถามข้อนั้นได้ซึ่งมีทั้ง ใช่และไม่ จากหลายๆท่าน แต่ทุกวันนี้หนูไม่สนใจแล้วว่า คําตอบมันจะ ใช่ หรือไม่ ถ้าใช่มันก็แค่ จิตที่เขาเข้าใจความจริงในกายใจนี้ระดับหนึ่ง เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ก็ ไม่ใช่เรื่องแปลก และหนูก็ไม่เสียใจด้วย เพราะผลของธรรมะที่หนูศึกษาจากหลวงพ่อนั้นมันอัศจรรย์และยิ่งใหญ่ นัก ชีวิตจากวันนั้นไม่เคยมีวันไหนที่จะกลับไปเหมือนเดิม เลย(เฮ้อ..เฮ้อ..น้ําตาจะไหลอีกแล้ว) เมื่อก่อนตัวเองมีชีวิตแบบ ไม่รู้ตัวว่า “ “แอบแบกของหนักและร้อนไว้ติดตัวตลออดเวลา ”” โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

42


จะมีแค่บางช่วงหลังจากที่ได้เกิดสติ จากการสอนของหลวงพ่อ พอเกิดสติที ตัวก็เบาที เหมือนได้ วางของหนักและร้อน ทีละขณะ ทีละขณะ ไม่นานก็จะแอบไปแบกใหม่...อย่างไม่ทันรู้ตัว ตลอดเวลาตัวจะหนักๆ หนาๆ เวลามีทุกข์ทีนี่ เป็นทุกข์หนักทุกครั้ง ต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง กายใจมันไม่เคยกลับไปหนักๆเหมือนก่อนเลย (ยังมีน้ําหนักอยู่ แต่เบากว่าเดิมมากค่ะ) ความทุกข์มันตกหล่นหายไปเยอะ ความรู้สึกกับคนในครอบครัวหนูก็เปลี่ยนไป กับพ่อ-แม่ ตําแหน่งในใจก็ยังเหมือนเดิม ยังส่งเสียเลี้ยงดูเหมือนเดิม กราบ ทุกคืนก่อนนอน(หนูกราบ5ครั้ง และระลึกถึงคุณของท่านตอนกราบครั้งที่4 และระลึกถึงคุณของ หลวงพ่อและครูบาอาจารย์ ท่านอื่น ตอนกราบครั้งที่5) แต่มันมีสิ่งที่เปลี่ยนไป ในความรู้สึกต่อท่านทั้งสอง ไม่รู้จะใช้คําว่าอะไร สายใย ได้ไหม คือ เมื่อ ก่อน แม่ทุกข์หนูจะทุกข์ตามไปด้วย โกรธทุกคนที่ทําให้แม่ทุกข์ใจ แต่วันนี้มันเปลี่ยนไป มันก็ยังเหมือนหนูเป็นศูนย์กลางของ โครงข่ายใยแมงมุม มี พ่อ-แม่-พี่-น้อง -ญาติ-เพื่อน- อยู่ในโครงข่าย ลดหลั่นตามความสําคัญ แต่วันนี้โครงข่ายมัถูกตัดขาด ลง จะรู้สึกว่ามีพ่อแม่พี่น้องและคนรอบข้างก็เฉพาะตอนคุยกันต่อหน้า หรือตอนคิดขึ้นมาเท่านั้น อยู่กับโลกเหมือนแปลกแต่ไม่แยก รู้สึกตัวว่าตัวเองไม่เหมือนกับคนทั้งโลก ไม่ใช่เป็นความทุกข์ที่เห็นความต่าง แต่เป็น ความเข้าใจในความต่างนั้น หนูกลับเข้าใจและเห็นใจคนรอบข้างมากขึ้น เมื่อก่อนเห็นใครทําชั่วก็จะว่า นี่คนชั่ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น เห็นคนแยกออกจากขณะที่เขาชั่ว คือไม่เหมารวมว่า เป็น คนชั่ว แต่เป็นแค่ ขณะจิต ที่เขาชั่ว ก็เลยทําให้หนูไม่โกรธหรือเกียดใครนาน เป็นแค่ขณะๆที่เขาทําไม่ดี บางครั้งกลับจะ เห็นใจที่เขาไม่สามารถตามมายาของกิเลสทัน ทําชั่วโดยไม่รู้ตัว วิบากข้างหน้าจะเป็นเช่นไรก็ไม่เคยรู้ น่าสงสาร โลกหมุนรอบตัวเองไปพร้อมๆกับคนที่หมุนตามกิเลส โลกนี้ถูกหมุนตามกระแสของกิเลส เร็วบ้างช้าบ้างแล้วแต่การฝึกตนของแต่ละคน หนูเองก็ยังหมุนตามกิเลสอยู่ แต่ต่างกันตรงความเร็วรอบ และบางขณะก็มี การหยุดเป็นขณะ ขณะ กระทบแล้วโกรธ โลภ หลง จิตมันก็ยังทําอย่างที่มันเคยทํา แต่ความรุนแรงหรือปฏิกิริยาตอบกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง บาง ครั้ง มันโกรธ มันทุกข์ หนูก็เห็นว่าจิตมันแอบมองอยู่ มองดูกายดูใจนี้มันทํางาน เหมือนดูตัวละครตัวหนึ่งกําลังแสดง และ ความทุกข์ที่เกิดเป็นทุกข์ที่ไม่เกี่ยวกับเรา และถ้าเมื่อไหร่เผลอที่จะโกรธแรงหรือทุกข์แรง อารมณ์นั้นมันจะถูกตัดโดยอัติโนมัติ แล้วก็จะกลับมาที่กายหรือใจ เหมือนว่า จิตมันจะทิ้งเลย คล้ายว่าจิตมันมีเซ็นเซอร์ความทุกข์ นอกจากทุกข์น้อยแล้ว จิตยังคลายปมเชือกอีกทีละเปราะ ทีละเปราะ เมื่อก่อนกระทบที ก็ผูกกลับเข้าไปที ก็ทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนรถไฟเหาะที่กําลังขยับเลื่อนขึ้นบนรางสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกทีละขณะ ทีละขณะ ทั้งที่หนูไม่ได้ทําอะไรเกิดกว่า ปล่อยให้จิตตามดูตามรู้การทํางานของจิตด้วยตัวของจิตเอง ตราบใดที่กายใจนี้ยังไม่ผิดศีล5ก็จะไม่เข้าไปก้าวก่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางครั้งก็เห็นทุกข์ เห็นการเผลอดิ้นรนออกจากทุกข์ จิตก็ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก จิตระลึกได้ว่าทุกข์ ก็จะกลับมาที่กายใจ ก็พ้นทุกข์ ไปอีกขณะ บางครั้งจิตเข้าไปรู้ไปเห็น แล้วก็เกิดความเบื่อหน่ายกับความไร้สาระ บางครั้งเห็นเบื่อแล้วก็วาง ก็พ้นทุกข์ บางครั้งเห็นเบื่อ แล้วก็ทุกข์จากความเบื่อนั้น เมื่อทุกข์ จิตก็กลับมารู้ที่กายใจใหม่ ก็พ้นทุกข์ ทุกวันนี้ ได้แค่ดูมันไป เห็นแล้วบ่อยครั้งที่ ว่างเปล่า เฉยๆ เห็นจิตทํางานแบบ ไม่มีค่า ไม่มีราคา ไม่มีอะไรที่จะยึดถือหรือมีสาระแก่นสารที่จะเก็บไว้ได้ เกิดแล้วก็ดับอยู่แค่นั้นจริงๆ จิตก็วาง ก็พ้นทุกข์ หนูว่าหรือหลวงพ่อเคยสอนว่า ธรรมะ มันเป็นสิ่งที่ธรรมดาเกินกว่าที่คนธรรมดา(ที่ไม่ธรรมดา เพราะถูกความเข้าใจผิด ครอบงํามานาน)จะเข้าใจ หรือยอมรับได้ จิตไม่มีอะไรเลย เป็นเพียงแต่สิ่งที่รับรู้อารมณ์ ที่เข้าใจผิดและทําตามความคิดที่ผิดมาตลอด โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

43


นานแสนนาน นานมากที่ทําผิดซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนเลยความเคยชิน และสุดท้ายก็ ”ผิดโดยอัติโนมัต”ิ มันผิดที่ขั้นตอนแรก ทั้งกระบวนการมันก็เลยผิด วันนี้หนูพูดได้เต็มปากเลยว่า “หนูเห็นทางข้างหน้าแล้ว” (น้ําตาจะไหล) อะไรทําให้มั่นใจอย่างนั้นก็ไม่รู้ อย่างที่หลวงพ่อคอยบอกอยู่เสมอว่า “ไม่มีอะไรเกินกว่า รู้ ” วันนี้หนูมีความรู้สึกว่า ตาย ก็ไม่กลัว (แต่หนูก็ไม่สามารถเชื่อจิตได้100% พอถึงตอนนั้นเขาอาจจะ กลัวก็ได้) ตกนรกก็ไม่กลัว ไม่ใช่หนูจะปรามาส แต่หนูไม่เคยทําความชั่วที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดต้องไป ทุกวันนี้ จิตที่มีความทุกข์ มันก็เหมือน สภาพของจิตที่มันเสวยทุขติภูมิอยู่แล้ว แต่สติเท่านั้นที่จะดึงเราขึ้นจากนรก เมื่อเรามีสติ ทุกข์ก็จะแค่ผิวผิว หรือแม้แต่โมหะครอบงําตอนตาย อาจทําให้เกิดเป็นเดรัจฉาน แต่หนูเชื่อว่าก็จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ (ทุกวันนี้คนเราก็มีโมหะ ครอบงําอยู่แล้ว ) สติเท่านั้นที่จะดึงเรากลับมาเป็นมนุษย์ หนูกราบขออภัยหลวงพ่อด้วย ถ้าจ.ม.ฉบับนี้ทําให้หลวงพ่อสับสน เพราะหนูเขียนจ.ม.หรือรายงานไม่เก่ง และมันรวบลัด จนเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะหนูจะให้ทันวันที3 ่ 0 กันยายนนี้ แต่สิ่งที่หนูเล่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่อาจจะ มีการคลาดเคลื่อนจากความหมาย ก็ด้วยสาเหตุจากการใช้คําที่ไม่ถูกต้องตรงกับสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นจริง และถ้าท่านผู้อื่น ที่อ่านจ.ม.นี้ แล้วทําให้ท่านเกิดอกุศลจิตขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ขอให้ท่านอย่าได้เผลอทําผิดศีลข้อ4ออกมา และดิฉัน ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย แต่ถ้าท่านอ่านแล้วเกิดกุศลจิตก็ขออนุโมทนากับท่านด้วย หนูยินดีให้ความร่วมมือกับสวนสันติธรรมทุกเรื่อง แม้แต่การไปให้ปากคําหรือเป็นพยาน อะไรก็แล้วแต่ที่ทางสวนสันติธรรมต้องการ หนูต้องการแทนคุณและปกป้องพระพุทธศาสนาและหลวงพ่อ โดยคุณ สุนันทา

739. วันเเรกทื่ได้อ่านหนังสือวิถีเเห่งความรู้เเจ้งฃองหลวงพ่อ เป็นวันทื่รู้สึกตัวเป็น ครั้งเเรกในชีวิต เเละการปฏิบัติตามคําสอนฃองหลวงพ่อ ทําให้ค้นพบความสุฃที่เเท้จริงค่ะ ฃอกราบฃอบพระคุณหลวงพ่อจากใจ เเละฃอเป็นกําลังใจให้กับหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช - พระอาจารย์ที่รักและเคารพ โดยคุณ Suchada

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

44


740. ขอบคุณมากครับที่เป็นตัวกลางที่รวบรวมเรื่องราวของผู้ที่ภาวนาและเป็นกําลังใจให้หลวงพ่อปราโมทย์ โดยคุณ บรรเจิด

741. ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เห็นถึงความไม่แน่นอนและเริ่มปฏิบัติธรรม แต่เมื่อปฏิบัติมาได้ระยะหนึ่งดิฉันก็มีคําถามเกิดขึ้น มากมาย บางคําถามดิฉันได้คําตอบแล้วแต่ยังมีคําถามอีกจํานวนมากซึ่งยังค้างคาอยู่ ดิฉันพยายามศึกษาเพื่อค้นคว้าหา คําตอบนั้น จนกระทั่งได้มาฟังเทปและอ่านหนังสือของหลวงพ่อปราโมทย์จึงได้พบกับคําตอบที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และ มีเหตุผล เปรียบเสมือนท่านเดินผ่านทางนี้แล้วด้วยความยากลําบาก แต่ท่านยังมีความเมตตาอย่างมหาศาลในการแผ้ว ถางทางให้ตรงและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมปัจจุบัน พร้อมทั้งชักชวนให้เดินตามมาซึ่งเป็นภาระกิจที่ยากลําบากและมี อุปสรรคมากกว่าการเดินทางของท่านเองเพียงลําพัง ถ้าดิฉันต้องพยายามตอบปัญหาด้วยตนเองคงต้องหลงวนเวียนในป่า อีกยาวนาน ปัจจุบัน ดิฉันได้ซาบซึ้งในรสพระธรรมมากยิ่งขึ้นกว่าที่ดิฉันเคยคาดคิด และมีสติมากขึ้นในการดํารงชีวิต ดิฉันขอ กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่รับพระธรรม รักษาพระธรรมให้คงเดิมพร้อมทั้งนํามาปฏิบัติจนเห็นแจ้ง ด้วยตนเอง แล้วถ่ายทอดพระธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนสืบทอดมาถึงรุ่นเราในปัจจุบัน สุดท้ายนี้ ธรรมที่หลวงพ่อ ถ่ายทอดและวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเป็นประจักษ์พยานให้เห็นชัดอยู่แล้วว่าหลวงพ่ออยู่เหนือคํากล่าวหาใดๆ กราบนมัสการขอบพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพ โดยคุณ อรนุช

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

45


742. กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพรักอย่างสูง ผมและครอบครัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อมาตั้งแต่ประมาณปีพศ.2551 ตั้งแต่ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อครั้งแรก ผ่านทาง MP3 (ซึ่งผมจําได้ไม่มีวันลืมเพราะเป็นแผ่นที่หลวงพ่อสอนรื่องอริยสัจ) ผมคิดว่าเป็นบุญกุศลอันหาที่เปรียบมิได้ที่ ได้มีโอกาศได้เรียนแก่นแท้ของธรรมะที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและยังคงไว้ซึ่งคําสอน อันมิได้คลาดเคลื่อนจากคําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมและครอบครัวได้อาราธนากราบ หลวงพ่อไว้เป็นผู้ชี้ทางสว่างทางธรรมในการดํารงชีวิตให้กับผมและครอบครัวมาโดยตลอด "" ผมต้องเรียนหลวงพ่อว่า" โดยพื้นฐานของตนเองเป็นคนที่มีอัตตาตัวตนสูงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยอาชีพที่ ต้องเป็นแพทย์ที่ต้องตัดสินใจให้การรักษาผู้ป่วย การทําความเข้าใจถึงเรื่องใดๆล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยข้อมูลทางหลัก วิชาการ การคิดวิเคราะห์ แม้ว่าในระหว่างการเรียนแพทย์จะได้มีอาจารย์แพทย์ (ซึ่งเคารพรักท่านเสมอด้วยแม่บังเกิดเกล้า) ได้ให้โอกาสพาไปฝึกปฏิบัติธรรม" แต่ด้วยความที่ตัวผมเองเป็นผู้มีปัญญาน้อยจึงเรียนรู้ได้แต่เพียงสมถะ" เกิดอาการ ทางกายและจิตเช่นตัวลอย ตัวเบา ร่างกายแตกสลายเป็นชิ้นๆ แม้ว่าโดยประโยชน์ของการฝึกดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความ สามารถบางอย่างในการเรียนที่เห็นผลอย่างเด่นชัดในด้านสมรรถภาพการเรียนที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" แต่พอเลิก ปฏิบัติก็ยังคงมีอารมณ์โกรธ หลง รุนแรง บางครั้งยังหลงทนงว่าตนเองเก่ง สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้เช่นถึงขนาด ประมาทว่าทานแอลกอฮอล์ก็ได้เพราะตนเองคุมสติได้เป็นต้น" จนบางครั้งการพลั้งเผลอดังกล่าวได้เกือบที่จะส่งผลให้มี เกิดผลเสียต่อตนเองและครอบครัวในอนาคต" " หลังจากภรรยาได้เปิด MP3 แผ่นดังกล่าวซึ่งได้มาจากกัลยาณมิตร ท่านหนึ่งให้ผมฟังเมื่อฟังจนจบ" ผมขอกราบเรียนหลวงพ่อว่า" ผมเหมือนคนที่หลงทางในที่มืดมานานและได้เห็น แสงสว่างในการดํารงชีวิต มีความรู้สึกเหมือนกับว่าจากเดิมที่ตนเองเหมือนคนเร่รอนไม่มีพ่อ แม่ กลับรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับ คนที่ได้กลับมาอยู่ในบ้านที่อบอุ่นและรู้ว่าจะดําเนินชีวิตต่อไปอย่างไร จากเดิมที่เวลารับศีลจากพระต้องกดข่มกลับกลาย เป็นว่ามีอินทรียสังวรศีลขึ้นมาได้เองมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปต่อการทําชั่ว" " จากการที่เคยหลงไปในการ เพ่ง " กลับสามารถตามรู้กายและจิตของตนเองได้มากขึ้น จนพบว่ากายและจิตที่มีอยู่เป็นของที่ยืมโลกมาใช้ทั้งสิ้นแต่ ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมให้มากที่สุด(ผมยังจําได้ไม่มีวันลืมว่าขณะนั้นทั้งตกใจและดีใจจนกลั้นน้ําตาไว้ไม่อยู่ทั้งๆ ที่กําลังขับรถไปทํางาน)" และตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ขอศึกษาปฏิบัติธรรมตามคําสอนของพระพุทธเจ้าให้สมดั่งคํากล่าว ที่หลวงพ่อที่ได้กรุณาพร่ําสอนลูกศิษย์ทุกคนอยู่เสมอว่า “ต้องปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรมนะ” ผมเองก็ได้แต่หวังอยู่ลึกๆว่าสําหรับท่านที่หลงผิด และเข้าใจหลวงพ่อผิดจะได้มีดวงตาเห็นธรรมและกลับมาช่วย กันบํารุงให้ศาสนาพุทธได้มีการคงอยู่ในสังคมไทยให้นานที่สุด เพราะถ้าศาสนาพุทธหมดลงไปแล้วคงต้องรออีกนานกว่าที่ พวกเราจะได้มีโอกาสได้ฟัง ได้เรียนและเข้าถึงธรรมะแท้ๆอีกครั้ง สุดท้ายนี้ผมและครอบครัวขอกราบนมัสการหลวงพ่อปราโทย์ท่านผู้ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและเป็นที่เคารพ รักของเล่าสัตว์ผู้ยากอีกครั้งครับ โดยคุณ นพ.นิรุธและครอบครัว 743. กราบนมัสการแทบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์, เรียนคณะผู้จัดทําเว็บธรรมดาและกัลยาณมิตรทุกท่าน, "

ทุกลมหายใจของหนูมีค่ามากขึ้นเมื่อได้มาพบกับธรรมะของพระพุทธองค์ผ่านการเทศน์สอนที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย

และนําไปปฏิบัติได้จริงของหลวงพ่อเจ้าค่ะ "

หลวงพ่อสอนให้หนูรู้จักการเจริญสติในชีวิตประจําวัน สอนให้หนูรู้ ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ สอนให้หนูเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น

พอมีสติหนูก็เห็นจิตที่เป็นกุศลและอกุศลได้เร็วขึ้น รักษาศีลห้า ศีลแปดได้ดีขึ้น บริสุทธิ์มากขึ้น เมื่อใครทําให้หงุดหงิดหรือ ไม่สบายใจด้วยเรื่องอันใด หนูก็ให้อภัยได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น บางครั้งไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ตั้งแต่ปฏิบัติตามคําสอน ของหลวงพ่ออย่างจริงจัง ทําให้หนูเชื่อเรื่องกรรมและผลของกรรมมากขึ้นค่ะ ด้วยเหตุนี้กรรมใดที่หนูเคยสร้างมา หนูก็จะตั้ง รับผลของกรรมนั้นด้วยความเข้าใจ แต่หนูจะพยายามไม่ก่อเวรก่อกรรมอันใดขึ้นใหม่ หนูรู้สึกได้เลยว่าพอเจริญสติในชีวิต ประจํามากๆเข้า ไม่ใช่เพียงแค่สติที่เจริญ แต่เหมือนหนูได้ทําให้เจริญทั้งทาน ศีล และภาวนา เพราะพอมีสติเห็นจิตที่เป็น อกุศลก็จะละอายต่อบาป แม้จะแค่คิดอกุศลในใจก็ไม่กล้าค่ะ หนูเริ่มเข้าใจที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์บอกว่า “รักษาใจเพียง อย่างเดียว” ก็ตอนนี้เองค่ะ "

หนูอยู่ในบ้านเมืองที่ต้องขี่รถมอเตอร์ไซด์เผชิญหน้ากับความตายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นเมื่อก่อนถ้าตายไปก็มี

โอกาสที่จะได้เกิดในภพสัตว์เดรัจฉานสูงมากค่ะ แต่เมื่อภาวนามาจนถึงตอนนี้หนูคิดว่าถ้าเกิดตายไปหนูคงมีโอกาสได้เกิด โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

46


ในภพที่ดีกว่าสัตว์เดรัจฉานค่ะ เพราะจากที่เคยหลงคิด ลืมกายลืมใจตลอด กลับมาเป็นรู้กายรู้ใจมากขึ้น มีการแยกรูปแยก นามขณะขี่รถ แยกได้เป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร และมีจิตที่คอยรู้อยู่เบาๆ เห็นความเกิดขึ้นเอง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งอยู่ไม่ได้ บังคับไม่ได้ และในที่สุดก็ดับไปเอง หนูเห็นความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความไม่มีตัวตนมากขึ้นทุกที ทําให้หนู ไม่ค่อยยึดถือสิ่งต่างๆมากนักและใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทมากขึ้นค่ะ หนูใช้ชีวิตในโลกอย่างมีความหมายมากขึ้นและมี ความสุขมากขึ้นค่ะ แต่ในทางกลับกันหนูเห็นแต่ทุกข์จากขันธ์ห้า ทุกข์ล้วนๆเลยค่ะ หนูถูกกังขังอยู่ภายใต้อํานาจของขันธ์ห้า มาเป็นเวลายี่สิบห้าปีโดยที่หนูไม่เคยรู้เลย แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วค่ะ และหนูก็เริ่มเห็นทาง ทางที่จะทําให้หนูได้พบอิสระภาพ ทางที่จะทําให้หนูหลุดพ้นจากกองทุกข์นี้ได้จริงๆค่ะ " “หลวงพ่อ” คือ “พ่อ” ที่ชี้บอกทางพ้นทุกข์นี้ให้หนูค่ะ และหนูจะขอเดินตามรอยเท้าของพ่อจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่ และหนูคิดว่าหนูได้สร้างเหตุปัจจัยไว้เพียงพอที่จะเดินตามรอยเท้าของหลวงพ่อไปจนกว่าจะพ้นจากกองทุกข์นี้ไม่ว่าหนูจะ เกิดอีกกี่สิบกี่ร้อยชาติก็ตามค่ะ "

หนูขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ทําให้หนูได้พบทางสายนี้ ยิ่งเห็นความไม่แน่นอนในสังสารวัฏ หนูยิ่งรู้สึก

ซาบซึ้งในเมตตาอันหาประมาณมิได้ที่หลวงพ่อมอบให้ลูกศิษย์ลูกหาจํานวนมาก รวมทั้งลูกศิษย์ปลายแถวผู้ห่างไกลหลวง พ่ออย่างหนูค่ะ หลวงพ่อมีแต่ให้โดยที่ไม่ได้อะไรเลย หลวงพ่อจะไม่สอนก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่หลวงพ่อกลับทนเหนื่อยเมตตา พร่ําสอนลูกศิษย์ลูกหา โดยหวังเพียงแค่ว่าอยากให้ลูกศิษย์ลูกหาปฏิบัติตามพระธรรมคําสอนของพระพุทธองค์เพื่อว่าสักวัน นึงจะได้พ้นจากอํานาจของอวิชชา "

หนูจะตั้งใจภาวนาให้สมกับที่หลวงพ่อเมตตาสั่งสอนลูกศิษย์ที่ไม่ค่อยเอาไหนอย่างหนูมาโดยตลอดค่ะ และหนูขอ

ยกการปฏิบัติภาวนานี้ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และอาจาริยบูชาแด่หลวงพ่อปราโมทย์และพ่อแม่ครูบาอา จารย์ทุกๆท่านที่เกื้อหนุนให้หนูมีวันนี้ค่ะ และเมื่อหนูได้สร้างเหตุให้สมควรแล้วผลก็คงจะตามมาให้หลวงพ่อได้ชื่นใจในสัก วันหนึ่งข้างหน้า ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่หรือในชาติไหนก็ตาม แต่หนูเชื่อว่าหลวงพ่อจะรับรู้ได้ค่ะ "

หนูขอขอบคุณทุกเหตุปัจจัยที่ทําให้หนูมีวันนี้ ที่ทําให้หนูเกิดมาเป็นคนช่างสงสัย ชอบคิดหาเหตุและผล ไม่เชื่อ

อะไรง่ายๆ และเมื่อไม่เชื่อก็ต้องลองทําดู และเมื่อลองทําดูหนูจึงรู้ได้ด้วยตนเองค่ะว่าธรรมะของพระพุทธองค์ที่หลวงพ่อ เมตตาเทศน์สอนมีจริง เป็นของจริง แต่จะรู้ได้เมื่อได้ปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้นค่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองปฏิบัติดูนะคะ ขอให้บุญ รักษาทุกๆท่านและขอให้ทุกๆท่านมีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ " หากบทความนี้มีความผิดพลาดประการใด หนูขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หนูเรียบเรียงประโยคไม่ค่อยเก่ง สื่อสารออกมาก็ไม่ค่อยดีนัก และก็เป็นเวลานานมากแล้วที่หนูไม่ได้เขียนบทความ ฉะนั้นการใช้คํา การเรียบเรียงประโยค อาจจะไม่สัมพันธ์กันเท่าใดนัก แต่หนูก็จะอยากร่วมแสดงพลังจากหัวใจดวงนี้เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้ค่ะ ขอทุกๆท่านโปรด เข้าใจและให้อภัยหนูด้วยนะคะ

รักและเคารพหลวงพ่อด้วยชีวิต, ด้วยความเคารพ, โดยคุณนางสาวพรกนก 744. ดิฉันชื่อสุภาพรรณ เป็นคนคิดมาก ช่างวิตกกังวลต่างๆนานา จนเครียดและทุกข์เป็นระยะๆ โชคดีที่มีกัลยาณมิตรพามาสวนสันติธรรมได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อรู้สึกมีกําลังใจมากๆค่ะ ตอนนี้หัดรู้ หัดดู กายใจ ตัวเองทุกวันทั้งในรูปแบบและในชีวิตประจําวัน ยังเป็นคนคิดมากเหมือนเดิม แต่เพิ่มความรู้สึกตัวเข้าไป พอรู้ว่าจิตคิดปุ๊บ รู้สึกได้ถึงความสุขได้จากการ ที่ไม่ไปเข้าไปคลุกกับความคิดนานเท่าเดิม ความทุกข์หล่นหายไป โดยไม่ต้องเสียแรงขับไล่เลยค่ะ หากไม่ได้เจอครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐอย่างหลวงพ่อปราโมทย์ วัฏฏสงสารของดิฉันคงจะยาวนาน มากกว่านี้หลายเท่าทีเดียว ท้ายนี้ ขอนอบน้อมถวายบุญกุศลที่ดิฉันได้บําเพ็ญไว้ดีแล้ว ทั้งทาน ศีล และ ภาวนา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

47


ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และอาจาริยบูชาแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ขอให้หลวงพ่อมีความสุขกาย สุขใจ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากโรคาพาธ และภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ขอให้หลวงพ่ออยู่คู่พระสัทธรรมของพระพุทธองค์ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร แด่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่มาแล้ว และที่ยังไม่ได้มา เผยแผ่พระสัทธรรมของพระพุทธองค์ ให้ดํารงคงมั่น สถิตสถาพร คู่โลกไป ตราบนานเท่านาน โดยคุณ สุภาพรรณ 745. กราบนมัสการค่ะหลวงพ่อ โยมเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังมีความศรัทธาและเชื่อว่าคําสอนของหลวงพ่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฎิบัติตามได้จริง คําสอนของหลวงพ่อทําให้โยมมีสติและเป็นคนปล่อยวางเมื่อถูกผัสสะด้านลบมากระทบอารมณ์ได้ดีขี้น นอกจากนั้นยังทําไห้โยมหันมาสนใจธรรมะและการปฎิบัติบูชามากกว่าในอดีตอีกด้วย ขอกราบขอบพระคุณค่ะ โดยคุณ อัมพร 746. ทุกข์เมื่อได้รับฟังข่าว ทุกข์เพราะอยากบังคับให้คนอื่นเชื่อเหมือนเรา ทุกข์เพราะบังคับใครไม่ได้ ทุกข์เพราะคนที่เราไม่ชอบทําสิ่งที่เราไม่ชอบใจ ทุกข์เพราะลืมตัว ทุกข์เพราะขาดสติ ทุกข์เพราะคิดแทน ปรุงแต่งแทน ทุกข์เพราะมีเราอยู่ ลืมไปว่าผู้ที่เห็นวงจรปฏิจสมุปบาท ไม่มีทางที่ท่านจะหลงไปกับอวิชชา ไม่มีทางที่ท่านจะตอบโต้ ไม่มีทางที่ท่านจะเข้าสู่อกุศล และผู้ที่กล่าวหาเองถ้าเค้าถึงธรรมก็จะไม่ทําเช่นนี้ เพราะเค้าจะไม่หลงติดกับดักของกิเลส เมื่อคิดได้อย่างนี้ ได้แต่รู้สึกเห็นใจผู้กล่าวหาเขาช่างน่าสงสารเสียจริง และก็เตือนตนว่า เร่งเพียรพยามยาม ในทางมรรคมีองค์8 เพราะถ้าเราพลาด เราก็อาจจะเป็นเหมือนเค้าก็ได้ เคารพในพระธรรม เคารพในสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เคารพในหลวงพ่อปราโมช โดยคุณ ปาณิตา 747. นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาศึกษาธรรมะในแนวทางนี้ โดยคําแนะนําจากเพื่อนร่วมงาน ก็เป็นระยะเวลาร่วม 4 ปีกับอีก 8 เดือน ไม่มีครั้งไหนที่จะรู้สึกคลางแคลงใจในวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโชเลย ทั้งนี้ก็เพราะว่า ท่านมีเมตตาและ ความหวังดีต่อศิษย์เป็นอย่างมาก จากเดิมที​ี่เคยดําเนินชีวิตแบบโลกๆ เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์สลับกันไป และก็คิดว่าแค่การ ทําบุญก็น่าจะพอแล้วสําหรับการเป็นคนดี แต่คําสอนของท่านกลับทําให้ข้าพเจ้ามีมุมมองต่อศาสนาพุทธที่เปลี่ยนไป ไม่ตื้น เขินเหมือนอย่างที่เคยเข้าใจ และเห็นคุณค่าแห่งการเกิดมาเป็นชาวพุทธ ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมที่แท้จริง แม้ว่าการปฏิบัติ ของข้าพเจ้ายังลุ่มๆดอนๆอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ขอร่วมเป็นเสียงหนึ่งที่ยืนยันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเมื่อได้ศึกษาธรรมะกับท่าน อาจารย์ นั่นก็คือ "ทุกข์น้อยลง" โดยคุณ ทพญ.วงศ์วฤณ 748. ผมเริ่มต้นการเข้าปฏิบัติธรรมตามแนวทางนี้เมื่อราวเกือบห้าปีก่อน เริ่มจากความทุกข์ เนื่องจากเป็นคนคิดมากและ จมอยู่กับกองทุกข์ได้เป็นวันๆ กว่าจะมาพบท่านได้ ก็ยื้ออยู่นาน เนื่องจากเป็นคนศึกษาธรรมะมาก่อน เรียกได้ว่ายึดทิฐิในตัว เองอย่างมาก แต่พอมันทุกข์จนหาทางออกไม่ได้ ถึงขนาดตั้งจิตอธิษฐานว่า "ขอให้ได้พบกับครูบาอาจารย์ที่จะทําให้พ้นจาก ความทุกข์ครั้งนี้ด้วย" จึงเป็นจุดเริ่มต้น เมื่อมีเพื่อนร่วมงานได้นําซีดีของท่านมาให้ฟัง และได้ชักชวนมาพบท่านที่สวนโพธิฯ จ.กาญจนบุรี เมื่อได้พบกับท่านครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจในคําสอนของท่าน คําพูดที่ท่านสอนเป็นครั้งแรกกับผมก็คือ "คน เราทุกข์เพราะความคิด" ณ ปัจจุบันนี้ การปฏิบัติก็ยังทําไปเรื่อยๆ ครับ แต่การจมในกองทุกข์ มันไม่ได้อยู่นานเหมือนที่เคย

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

48


เป็น และเรียกได้ว่ามีความทุกข์สั้นลง ผมก็ขอภาวนาโดยยึดแนวทาง คําสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ตลอดไป ครับ โดยคุณ ทพ.กิตติชนม์ 749. “นับตั้งวันที่เจอหลวงพ่อเรียกได้ว่าเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่” วันแรกที่รู้จักหลวงพ่อปราโมทย์ครั้งเมื่ออยู่ที่จังกาญจนบุรี ตอนนั้นรุ่นพี่คนหนึ่งเป็นคนพาไปกราบท่านครั้งแรก รู้สึกดีมาก เพราะไม่เคยรับรู้ธรรมเนียมพระป่าที่ว่าเวลาท่านฉันอาหารรวมกันในบาตร วัดเป็นระเบียบเรียบร้อย พอจะกลับบ้านมี หนังสือแจกพร้อมซีดีเป็นชุด ๆ ใครอยากทําบุญก็ทํา ไม่อยากทําก็ไม่เป็นไรไม่ใครมานั่งจ้องดูว่าไม่ทําบุญห้ามรับหนังสือ หลังจากนั้นมีข่าวว่าท่านจะสร้างวัดเลยไปกราบขอหลวงพ่อว่าจะไปประกาศที่โต๊ะทํางานได้ไหมว่าร่วมบริจาคสร้างวัด หลวงพ่อท่านตอบแบบยิ้ม ๆ กลับมาว่าไม่เป็นไร หลวงไม่ชอบการเรี่ยราย ตอนนั้นฟังเหมือนจะเศร้านิด ๆ ตอนได้ยิน หลัง จากนั้นรู้สึกดีมากเลยว่าพระแบบนี้ก็มีด้วยเน้อ แรก ๆ ที่ปฏิบัติมีความตั้งใจจะปฏิบัติมากเกินไป ทําให้ภาวนาค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ท้อแท้ไปวัดเรื่อย ๆ หลวง พ่อท่านย้ํามากับเพื่อนที่ไปกันว่าให้กลับไปฟังซีดีต่อนะ ก็เอามาทําตามตลอดทําให้เริ่มเข้าใจมาก ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก ๆ ก่อนจะภาวนามีความรู้สึกว่าจิตตัวเองอ่อนแอ ขี้เหงา เศร้าง่าย มีความน้อย เนื้อต่ําใจในชีวิตง่าย ชีวิตเหมือนคนหลงทาง พอฟังธรรมะหัดไปเรียนรู้กายใจ จิตใจกลายเป็นคนมีความสุขจากตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นเหมือนเมื่อก่อน ดํารงชีวิตประจําวันอย่างมีสติ มีเหตุผล โกรธ คนอื่น โทษคนอื่นน้อยลง ย้อนกลับมาเห็นกิเลสภายในมากขึ้น หลวงพ่อท่านเน้นตลอดให้กลับมาดูกายของตนเอง ไม่ให้ไปยุ่งกับกายใจคนอื่น เพราะยิ่งเห็นกายใจของตัวเองได้มากขึ้น ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อก่อนพยายามศึกษาพระไตรปิฎกเองรู้สึกมันยากมากที่จะ เข้าใจ แต่ท่านกลับนําธรรมะของพระพุทธเจ้ามาอธิบายให้ฟังเข้าใจง่ายขึ้นมาก ๆ ชีวิตตามหาทางหลุดพ้นมาตั้งแต่ตอน อายุสิบห้าไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอเส้นทางที่ทําให้เข้าใจง่ายได้ อย่างนี้ แนะนําบอกต่อส่งซีดีให้ให้ลูกค้าต่างจังหวัดไว้เยอะมาก มีหลาย ๆ คนฟังแล้วเกิดประโยชน์ทําให้เข้าพ้นทุกข์ มีที่พึ่งทางใจ จิตใจกลายเป็นคนเข้มแข็ง ไม่จําเป็นต้องพึ่งพาหมอดูอีกต่อไป รู้สึกดีใจมากเลยค่ะ ทางสุดท้ายอยากให้ทุกคนเป็นแบบนี้ค่ะ เมื่อมีสติมีปัญญาจะดํารงชีวิตแบบมีเหตุผล มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจะได้ไม่ต้องพึ่งหมอดู นับตั้งแต่วันที่รู้จักท่านเมื่อหกปีที่แล้วจนถึงวันนี้ หลวงพ่อเป็นพระมีแต่ให้ ไม่เห็นท่านเรียกร้องอะไร นอกจากจะเน้นย้ําให้ลูก ศิษย์ขยันภาวนาอย่าขี้เกียจขี้คร้าน ขยันปฏิบัติธรรมให้เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ ท่านไม่เคยเข้าถึงยากเหมือนที่ทุกคน กล่าวอ้าง เชื่อมั่นในตัวหลวงพ่อเพราะธรรมะที่ได้รับจากท่าน จิตใจไม่สั่นไสวสะดุ้งสะเทือนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย เพราะเราใช้ธรรมะ มาทําลายกิเลสในตัวเองได้จริง ๆ เลยไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในตัวท่าน โดยคุณ สุภิดา (หมอพีร)์ 750. ขอเป็นพยานอีกเสียงหนึ่งในธรรมะที่หลวงพ่อแสดงว่าเป็นของแท้และสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเองสมกับคํากล่าวที่ว่า เป็นปัจจัตตังจริงๆค่ะ จากเดิมที่เคยมองว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องไกลตัวมากๆและไม่เคยทราบว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร ชีวิตควรมีเป้าหมายอย่างไร นับเป็นธรรมะจัดสรรจริงๆที่ได้มีโอกาสมารับฟังธรรมะแท้ๆของพระพุทธเจ้าที่หลวงพ่อนํามา เผยแพร่ หากไม่ได้หลวงพ่อปราโมทย์ช่วยชี้แนะก็คงจะหลงโง่เขลาอีกนาน ไม่เห็นโทษของวัฏสงสารว่าน่ากลัวเพียงใด หลวงพ่อสามารถขยายความให้เข้าใจสัจธรรมและหลักแก่นแท้ของพระธรรมคําสอนโดยภาษาที่สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น สอนให้รู้จักพึ่งตนเองและเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ โดยมีสติเป็นหลัก และเมื่อย้อนกลับไปอ่าน ธรรมะของครูบาอาจารย์ท่านอื่นที่เคยไม่เข้าใจกลับทําให้เข้าใจได้มากขึ้นและพบว่าแก่นแท้ของหลักธรรมไม่ได้แตกต่าง หรือผิดเพี้ยนไปจากกันเลย จึงเป็นเครื่องพิสูจน์อีกทางหนึ่งว่าธรรมะที่หลวงพ่อนํามาเผยแพร่นั้นเป็นของแท้ และเมื่อได้ลอง นํามาปฏิบัติโดยการเจริญสติในชีวิตประจําวันก็รับรู้ได้ว่าความทุกข์นั้นถึงแม้ยังมีอยู่แต่ก็สั้นลงไม่ทุกข์มากเหมือนเมื่อก่อน ทุกสิ่งที่หลวงพ่อสอนมีเหตุมีผลตามหลักของพระพุทธศาสนา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

49


นอกจากนี้การมีสติรู้กายใจยังทําให้สามารถพัฒนาตนให้มีศีลได้จริงค่ะ ถึงแม้ว่าสําหรับตนเองอาจยังไม่สมบูรณ์นักแต่ก็ มั่นใจค่ะว่าหากมีความตั้งใจจริงจิตน่าจะพัฒนาได้ ในส่วนตัวรู้สึกเคารพและศรัทธาหลวงพ่อปราโมทย์มาก หลวงพ่อมี เมตตาสูงมากและให้กําลังใจในการปฏิบัติเสมอ ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากๆที่เมตตาชี้แนะทางสว่างให้เดิน และ อานิสงส์ได้เผื่อแผ่ถึงคนในครอบครัวด้วยโดยลูกๆได้เข้ามาสนใจธรรมะด้วย นับเป็นบุญจริงๆ ขอเป็นกําลังใจและขอตั้งใจ ปฏิบัติภาวนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นอาจาริยบูชาแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ค่ะ โดยคุณ ภุมรี 751. 10 ปีก่อน ดิฉันมีความทุกข์มาก ปัญหาหนี้สิน แยกทางกับสามี มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ดูภายนอกเหมือน เป็นคนเข้มแข็ง เชื่อมั่น แต่ภายในจิตใจโศกเศร้า ดิ้นร้นอยากจะพ้นปัญหา พ้นทุกข์ ก็ได้แต่ทําบุญ ให้ทาน คิดว่าบุญและ ทานคงจะทําให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทุกข์ก็ไม่เบาบางลงเลย จึงเป็นเหตุให้สนใจการปฏิบัติธรรม แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ได้ แค่สวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ได้เจอครูบาอาจารย์ผู้จะชี้นําแนวทางการภาวนาเพื่อความพ้นทุกข์ ดิฉันทําเช่นนี้กว่า 7 ปี แล้ววันหนึ่งธรรมะก็จัดสรรให้ดิฉันได้รู้เจอครูบาอาจารย์ คือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช จากกัลยาณมิตรสวนสันติธรรม ที่นํา CD ของหลวงพ่อไปวางแจกเป็นธรรมทานที่สํานักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในศรีราชา โดยมีพี่สาวของดิฉันพาไปสวนสันติ ธรรม ก่อนหน้าที่จะเจอหลวงพ่อ ดิฉันได้เคยลองเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมสายยุบหนอ พองหนอ 2-3 ครั้ง ก็รู้สึกอึดอัด ท้อแท้ จะกิน เดิน นั่ง นอน ทําไมต้องบังคับและฝืนตนเองมากขนาดนี้ แต่พอได้ฟังธรรมะหลวงพ่อ ในใจบอกว่าเนี่ยแหละ แนวทางที่ปรารถนาซึ่งน่าจะเหมาะสมกับดิฉัน คือการไม่บังคับจิตใจ สามารถนํามาปฏิบัติในชีวิตประจําวัน โดยที่ไม่ต้องไป เข้าคอร์ส เพราะดิฉันไม่มีเวลา ต้องทํางานและเลี้ยงลูก ครั้งแรกที่เจอหลวงพ่อ ท่านเมตตาชี้ให้เห็นจิตที่ชอบรําพัน คร่ําครวญ แล้วเปลือกที่สร้างไว้ห่อหุ้มตัวเองก็ค่อยๆ หลุดลอก ทําให้พบว่าตนเองนั้นมีแต่ความอวดเก่ง อ่อนแอ และดื้อเป็น ที่สุด 3 ปีที่พากเพียร มีวิริยะ อุตสาหะ พาตนเองและลูกชาย ไปเรียนธรรมะกับหลวงพ่ออย่างสม่ําเสมอ ดิฉันรู้สึกว่าท่าน ให้ความเมตตา โดยไม่เหน็ดเหนื่อย แล้วท่านก็อดทนต่อลูกศิษย์หัวดื้อคนนี้มากทีเดียว ท่านค่อยๆ อบรมขัดเกลาดิฉัน บาง ครั้งใช้ไม้นวม บางครั้งใช้ไม้แข็ง ค่อยๆ ช่วยขุดรากถอนโคลน ดัดและแก้อนุสัยของดิฉัน จนดิฉันเห็นข้อบกพร่องและกิเลส ของตนเองมากขึ้น มีความตั้งใจที่จะปรับปรุงตนเอง ไม่เพ่งโทษความผิดของผู้อื่น เพราะหลวงพ่อบอกเสมอว่า โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

50


“…ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีบังเอิญ ทุกอย่างมันมีเหตุ ไม่มีคําว่าบังเอิญ ไม่มีคําว่าโชคดี ทุกอย่างมันมีเหตุ มันมีผล ทั้งนั้น ทุกสิ่งที่เราเจอมันยุติธรรมแล้ว เราเจอในสิ่งที่ควรเจอ มีเหตุมีผลสมควรจะเจอแล้ว เราก็ต้องเจอ ทุกสิ่งที่ปรากฎขึ้น ในชีวิตเรา อย่าไปโทษชะตากรรม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฎในชีวิตเรา พอดีแล้วทั้งสิ้น มันยุติธรรมที่สุดแล้ว...” แล้วท่านก็สอนให้ลูกศิษย์ยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “…ปัญหามันมีเหตุ มันผ่านมาชั่วครั้งชั่วคราว ปัญหาทั้งหลายกระทั่งตัวมันเองน่ะ ถ้าเราถอนตัวออกมา เป็นแค่ผู้รู้ ผู้ดู คอยรู้ คอยดู รักษาใจเรา กระทั่งปัญหาหนักๆ ในชีวิต ตัวมัน บางทีมันก็แก้ตัวมัน ค่อยๆคลายออกไปได้ อย่างบางคน อกหักไม่ต้องภาวนามันก็หาย มันจะไปหักทั้งชาติไม่ได้หรอก ปัญหาจริงๆ มันก็คลายตัวของมันตลอดเวลามันมีเหตุ ประจวบเข้ามา สําคัญเวลามีปัญหา อย่าทุกข์ก็แล้วกัน ดูเป็นแค่ปรากฎการณ์ที่ผ่านมาชั่วครั้งชั่วคราว ตั้งหลัก ตั้งสติ รักษา ใจ ให้มันมีความสงบสุขไว้ก่อน เดี๋ยวมันมีสติ มีปัญญา ก็แก้ปัญหาได้....” ดิฉันเห็นกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ ได้ละเอียดขึ้น มีสติมากขึ้น ทําให้กิเลสครอบงําจิตใจน้อยลง โทสะเบาบางลง จิตใจเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลง จากคนที่อมทุกข์เพราะความยึดมั่น เริ่มปล่อยวางได้มากขึ้น แม้ความทุกข์ยังคงผ่านเข้ามาใน ชีวิตดั่งคลื่นมรสุม แต่ความทุกข์นั้นก็สั้นลง จิตใจที่เคยหนักเพราะโทสะ พยาบาท และความดิ้นรนทางใจ กลับมีความโปร่ง โล่งเบา ให้อภัย มีความสุขมากขึ้น และมีความปรารถนาที่จะหยิบยื่นความสุขให้ผู้อื่น เริ่มยอมรับทุกอย่างตามความเป็น จริง เห็นสุข ทุกข์ เป็นของแปรปรวน ไม่เที่ยง ไม่สามารถบังคับได้ หลวงพ่อสอนให้รักษาศีล หากไม่มีศีลจิตจะฟุ้งซ่าน ทําให้จิตใจไม่สงบ และศีลเองก็เป็นคุณสมบัติขั้นต้นของพระ โสดาบัน ทําให้ดิฉันมีความตั้งใจที่จะรักษาศีล จากคนที่ไม่เคยรู้เรื่องปริยัติและภาษาบาลีเลย ก็มีความเข้าใจจากการฟัง ธรรมะหลวงพ่อ ไม่เคยรู้จักครูบาอาจารย์รุ่นก่อน ก็มีโอกาสได้อ่านและศึกษาข้อธรรมและปฏิปทาของท่าน อาทิเช่น หลวงปู่ ดูลย์ หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อพุธ เป็นต้น มีสติอยู่กับกายกับใจ มีความเข้าใจเรื่องไตรสิกขาและหลักการปฏิบัติ มากขึ้นตามลําดับ ดิฉันมีความมั่นใจที่จะเดินบนเส้นทางนี้โดยมีหลวงพ่อเป็นผู้ชี้นําแนวทางต่อไป จากชีวิตที่เคยไร้ความหมายและขาดเป้าหมาย กลับมีความหมายและเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นก็คือความปรารถนาที่ จะเดินทางสู่ความพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ดิฉันมีวินัยในการปฏิบัตตามรูปแบบ สวดมนต์ เดินจงกรม ทําสมาธิ ตามที่ หลวงพ่อสอน มีความตั้งใจจะขัดเกลาจิตใจ ขัดเกลากิเลสไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าการภาวนาของดิฉันจะห่างไกลจากนิพพานใน ชาตินี้ก็ตาม แต่ก็จะไม่ละความเพียรที่จะสะสมบารมีเพื่อเป็นเสบียงสําหรับการเดินทาง โดยจะต้องเตือนตนเองไม่ให้ ประมาท เพราะตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน ยังมีกิเลสครองใจ กิเลสก็พร้อมจะลากเราลงสู่ความตกต่ําเสมอ ดิฉันรักและบูชาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช และคุณแม่อรนุช เสมือนท่านเป็นพ่อและแม่ผู้ให้กําเนิดชีวิตใหม่ใน ทางธรรมบนเส้นทางของพระพุทธเจ้า ชีวิตที่เหลือลูกขอถวายการปฏิบัติเพื่อบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทดแทน พระคุณของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยใจบูชาอย่างยิ่ง โดยคุณ ศิริเพ็ญ

752. น้องมายด์ขอเป็นพยานในการสอนของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ครับ เมื่อก่อนน้องมายด์เป็นคนเจ้าโทสะ ขี้โมโห ถ้าโมโหแล้วจะไม่ยอมใคร ใครก็ห้ามไม่ได้ แต่เมื่อได้มาเรียนกับหลวง พ่อ น้องมายด์มีโทสะกับเพื่อนหรือกับพี่น้องน้อยลง หลวงพ่อสอนให้น้องมายด์ได้รู้ว่าถ้ามีโทสะมากจะทําให้เราเกิดเป็นสัตว์ นรก ถ้าเราหลงเล่นเกมส์ ดูทีวี มากๆ ก็จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเราไม่รักษาศีลห้า เราก็จะไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เวลา น้องมายด์สอบ น้องมายด์เห็นตัวอยากทุจริต แล้วเกิดสติรู้ความอยากทุจริต แล้วก็ไม่ทํา

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

51


หลวงพ่อสอนให้น้องมายด์เปลี่ยนไปจากเดิม ในทางที่ถูก หลวงพ่อสอนให้น้องมายด์มีสติรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็น จริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง สอนใหน้องมายด์ได้รู้จักการปฏิบัติธรรม ตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อน้องมายด์ ได้ปฏิบัติตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีหลวงพ่อเป็นผู้เผยแผ่ น้องมายด์ก็จะได้มรรคผลนิพพานครับ น้องมายด์ขอยืนยันการสอนของหลวงพ่อครับ และน้องมายด์ขอปฏิบัติธรรมเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช โดยคุณ ด.ช. อิทธิพัทธ์ (อายุ 10 ขวบ 6 เดือน) 753.ในยุคสมัยนี้ไม่มีใครจะถ่ายทอดธรรมะพระพุทธเจ้าที่ตรงแนวทางได้เท่ากับหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ข้าพเจ้าเป็น คนจนคนหนึ่งที่มีโรคประจําตัวกับร่างกายเยอะมาก ก่อนหน้าที่ยังไม่เจอธรรมะที่หลวงพ่อสอน ข้าพเจ้าเหมือนคนที่ขาดที่พึ่ง อยู่แต่ความทุกข์ของร่างกาย เหมือนคน บ้า นอนไม่หลับ คิดฟุ้งซ่านเหมือนคนขาดสติ แต่พอฟังธรรมะหลวงพ่อ ลูกได้พบทางพ้นทุกข์แล้ว สิ่งที่หลวงพ่อให้ดูกาย ดูใจ ดูแล้วให้แค่เป็นผู้รู้ และดูเขาอยู่ห่างๆ ทุกข์ของข้าพเจ้ายังอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่มีผู้ทุกข์ เพราะแค่ได้รู้ ใจก็ยอมรับ และ อยู่กับมันได้โดยไม่ทุกข์เหมือนเมื่อก่อน บุญคุณที่หลวงพ่อสอนธรรมะให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้นั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จะทดแทนด้วยอะไร ได้เพียงแค่ขอปฏิบัติบูชา พระพุทธเจ้า และหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ธรรมะที่ท่านสอนให้พวกเราและข้าพเจ้าพ้นทุกข์จริงๆ คนจนคนหนึ่งที่ได้ศึกษาธรรมะของท่าน และพบทางพ้นทุกข์จริงๆ โดยคุณ ภัทรานิษฐ์ 754. ถึงวันนี้จะทุกข์ขนาดไหน สู้ต่อไปวันข้างหน้าจะสมหวัง ถึงเหนื่อยยากต้องลําบากพากเพียรพลัน ทุกทุกวันมีความสุขสู้ต่อไป ฉันเคยคิดบางอย่างในใจฉัน ตัวเรานั้นเกิดมาความสุขหาย ทั้งพี่น้องหรือเพื่อนๆ แสนสบาย มีมากมายทั้งเงินทองของดีดี พอได้เจอดวงไฟในใจฉัน ธรรมะนั้นคอยส่องแสงให้ได้เห็น แม้ยังเป็นดวงเล็กๆ ที่ลําเค็ญ แต่ฉันเห็นความสําคัญวันต่อไป ธรรมะนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด คอยดูจิตดูใจไม่ห่างหาย แล้วดูกายที่ขยับไม่วุ่นวาย เรื่องง่ายๆ ภาวนาได้ทุกวัน แม้บางครั้งเราขี้เกียจได้แต่หลง แม่ยังคงเฝ้าเตือนและห่วงหา หลวงพ่อสอนเสมอนะให้ภาวนา โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

52


วันข้างหน้ามีความสุขหมดทุกข์ไป ในวันนี้ฉันนั้นมีความสุข ถึงมีทุกข์ทําใจไม่ใฝ่หา รู้ว่าของดีก็คือการภาวนา สุขวันหน้าคือสุขที่แท้จริง หนูขอกราบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ค่ะ โดยคุณ ด.ญ. ศุภากาญจน์ (อายุ 13 ปี)

โครงการร่วมแสดงพลังหัวใจบริสุทธิ์เพื่อหลวงพ่อผู้มีแต่ให้

D h a m m a d a . n e t!

53


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.