การออกแบบพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม

Page 1

SDNC2019 SDNC2019 Conference Proceeding หนังสือประมวลบทความ การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” The 4 th Suan Dusit Academic National Conference 2019 (SDNC2019) “Following the King's Philosophy, Improving the Quality of Life, Increasing Productivity through Innovation, Promoting Economic Prosperity through Excellent Research” วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดโดย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ หน่วยงานเครือข่ายภายในและภายนอก
กำหนดกำรนำเสนอแบบบรรยำย กำรประชุมวิชำกำรระดับชำติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศำสตร์พระรำชำ พัฒนำคุณภำพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงำนวิจัย” วันที่ 14 มิถุนำยน พ.ศ. 2562 ณ อำคำรเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษำ มหำวชิรำลงกรณ ศูนย์วิทยำศำสตร์ มหำวิทยำลัยสวนดุสิต SDNC2019 สำขำศึกษำศำสตร์ ห้องที่ 3 สถำนที่: ห้อง ICS33 ชั้น 3 ลำดับ เวลำ รหัสบทควำม ชื่อบทควำม ผู้นำเสนอ 1 13.00 13.15 น. 294OEDU381 การออกแบบพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม โดยนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ 2 13.15 13.30 น. 496OEDU404 การส่งเสริมแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานร่วมกับ แฟ้มสะสมงานอิเล็กทรอนิกส์รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสัย น่านนที คามี 3 13.30 13.45 น. 523OEDU417 การพัฒนาชุดกิจกรรมตามแนวสะเต็มเรื่องเครื่องกลอย่างง่ายเพื่อ ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และความสุข
สารสนเทศบนฐานจินตวิศวกรรม จิระ จิตสุภา 5 14.00 14.15 น. 527OEDU427 การพัฒนาระบบโต้ตอบภาษาอังกฤษที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจในชั้นเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 วุฒิชัย พิลึก 6 14.15 14.30 น. 528OEDU428 การพัฒนาแอปพลิเคชันแสดงพื้นที่ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ของนักศึกษา ชั้นปีที่ 5 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครสวรรค์ ณิชารีย์ ป้อมสัมฤทธิ์ 7 14.30 14.45 น. 549OEDU445 การศึกษาปัญหาและความต้องการของนักศึกษาพิการที่ศึกษา ใน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ปรีดา กังแฮ 8 14.45 15.00 น. 545OEDU447 การศึกษาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน ของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ปริญา ปริพุฒ 9 15.00 15.15 น. 539OEDU449 การศึกษาสมรรถนะการเรียนรู้ของนักศึกษาครูการทามาลัยข้าวตอก ในโครงการสืบสานประเพณี แห่มาลัยข้าวตอก : กรณีศึกษา นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ชนารักษ์ เวชสวัสดิ์
ในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในห้องเรียนพิเศษ อาภรณ์ เพลินพนา 4 13.45 14.00 น. 268OEDU419 การพัฒนาสื่อการสอนภาษาอังกฤษสาหรับเด็กปฐมวัยด้วยเทคโนโลยี
รายการบทความวิจัยฉบับเต็ม (Full Paper) การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต SDNC2019 สาขาศึกษาศาสตร์ หน้า 7 การออกแบบพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต *ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ 414 8 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง โลกของเรา ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) นพรุจ จันทร์ผอง, เกศริน มีมล และ *ทิพย์วรรณ หงกะเชิญ 426 9 ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มช่วยเรียนรายบุคคล ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 *ขนิษฐา กฤชชวาสุวรรณ์ และ นิเวศน์ ค่ารัตน์ 432 10 ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค เค ดับเบิ้ลยู ดี แอล ที่มีต่อความสามารถ ในการแก้โจทย์ปัญหาและเจตคติต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 *อธิมาส นะวงค์ 439 11 การใช้กิจกรรมสะเต็มศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง และจิตวิทยาศาสตร์สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่ปะวิทยาคม จังหวัดตาก *จันทร์จิรา อยู่ยา, ทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์ และจุฬารัตน์ ธรรมประทีป 446 12 การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชโอรส โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเกม ณัฐณิชา แซ่เลา, ทิพย์วรรณ หงกะเชิญ และ *เกศริน มีมล 456
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” * ผู้ประสานงานหลัก (Corresponding author) การออกแบบพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต Design and
Instructional
by
Undergraduate Students
*ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ1 1หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต Email: chanisara_r@hotmail.com บทคัดย่อ การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนโดยใช้ รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการ สอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม โดยงานวิจัยนี้มี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในขั้นที่ 1 คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่เรียนวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางคณิตศาสตร์และ คณิตศาสตรศึกษา (4093704) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 54 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมและสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในขั้นที่ 2 คือ อาจารย์ และนักเรียน จานวน 9 โรงเรียน โดยมีผู้ประเมินเป็นอาจารย์ทั้งหมด 18 คน และนักเรียนทั้งหมด 347 คน โดยมี เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในขั้นที่ 1 คือ แบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอนตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในขั้นที่ 2 คือ แบบวัดความพึงพอใจของ อาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินต วิศวกรรม และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ความพึงพอใจโดยรวมของนักศึกษาที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตาม กระบวนการจินตวิศวกรรมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.59, S.D. =0.50) 2) ความพึงพอใจโดยรวมของอาจารย์ที่มี ต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรมอยู่ใน ระดับดี (ค่าเฉลี่ย = 4.31, S.D. =0.64) โดยด้านกิจกรรมการเรียนการสอนมีความพึงพอใจสูงสุดอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.56, S.D. =0.51) รองลงมา คือ ด้านสื่อการเรียนการสอนอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย = 4.44, S.D. =0.61) และ 3) ความพึงพอใจโดยรวมของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรมอยู่ในระดับดี(ค่าเฉลี่ย = 4.30, S.D. =0.62) คาสาคัญ : กระบวนการจินตวิศวกรรม ความพึงพอใจ 414
Development of Mathematics
Materials for Lower Secondary Students Based on Imagineering Process
Third-year
in Mathematics Teacher Preparation Program, Faculty of Science and Technology, Suan Dusit University
มัธยมศึกษาตอนต้นตามกระบวนการจินตวิศวกรรมกับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา คณิตศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และขั้ นที่ 2 การนาสื่อการเรียนการสอน คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรมไปใช้กับโรงเรียน

Abstract

This research aims to study satisfaction on: (1) learning based on Imagineering Process of undergraduate students in mathematics teacher preparation program, (2) using instructional materials developed based on Imagineering Process of lower secondary mathematics teachers, and (3) mathematics learning by using instructional material developed based on Imagineering Process of lower secondary students. This study consists of two stages. The first stage is the development of instructional materials in lower secondary mathematics based on Imagineering Process by third-year undergraduate students in mathematics teacher preparation program, faculty of science and technology, Suan Dusit University. The second stage is the implementation of instructional material developed in the first stage for teaching in school.

For the first stage of the study, sample is is 54 third-year undergraduate students in mathematics teacher preparation program, faculty of science and technology, Suan Dusit University. These undergraduate students were enrolled in a course “Innovation and Technology in Mathematics and Mathematics Education” in the second semester of 2017 academic year. Research instruments are lesson plans and instructional materials designed based on Imagineering Process. Instrument used to collect data is evaluation form of satisfaction on learning based on Imagineering Process of undergraduate students in mathematics teacher preparation program. For the second stage, samples are 18 teachers and 347 students from nine schools. Instrument used to collect data in this stage are evaluation forms of satisfaction on implementation of the instructional material developed in the first stage of teachers and students. The collected data were statistical analyzed for arithmetic means and standard deviations.

Results of the study reveal that:

1. Undergraduate students in mathematics teacher preparation program are very satisfied with learning based on Imagineering Process (Mean = 4.59, SD = 0.50).

2. Lower secondary mathematics teachers are satisfied with using instructional materials developed based on Imagineering Process (Mean = 4.31, SD = 0.64). They are very satisfied with instructional activities (Mean = 4.56, SD = 0.51) and satisfied with instructional materials (Mean = 4.44, SD = 0.61) respectively.

3. Lower secondary students are satisfied with mathematics learning by using instructional material developed based on Imagineering Process (Mean = 4.30, SD = 0.62).

Imagineering Process, Satisfaction

การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย”
บทนา ในศตวรรษที่ 21 มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและข่าวสารอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและ ยั่งยืนจะต้องให้ความสาคัญกับการพัฒนาคนในประเทศการศึกษาจึงจาเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยทักษะที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนประกอบด้วย ทักษะด้านการเรียนรู้และ นวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อเทคโนโลยี ทักษะชีวิตและการทางาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และดาเนิน ชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2556) กระบวนการจินตวิศวกรรม เป็นแนวคิดใหม่ในการจัดการเรียนรู้ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาคุณลักษณะของ ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยจินตวิศวกรรม (Imagineering) เป็นคาผสมระหว่างคาว่า จินตนาการ (Imagine) กับคาว่า วิศวกรรม (Engineering) ดังนั้น จินตวิศวกรรม จึงหมายถึง การทาสิ่งที่จินตนาการเอาไว้มาสู่สิ่งที่เป็นจริงได้ในทาง ปฏิบัติ เป็นการนาสิ่งที่สร้างภาพเอาไว้ในความคิดให้กลายมาเป็นสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่จับต้องได้ ซึ่ง กระบวนการจินตวิศวกรรมตามแนวคิดของปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรุณ. (2556). ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1.การจินตนาการ (Imagine) 2. การออกแบบ (Design) 3. การพัฒนา (Develop) 4. การนาเสนอ (Present) 5. การปรับปรุง (Improvement) และ 6. การประเมินผล (Evaluate) กระบวนการจินตวิศวกรรมสามารถนาไปใช้ในการเรียนการสอนได้ในทุกระดับชั้น เพราะจินตนาการสามารถ เกิดขึ้นได้กับผู้เรียนทุกคน ตั้งแต่อนุบาลจนไปถึงผู้ใหญ่วัยทางาน โดยผู้สอนจะทาหน้าที่เป็นผู้อานวยความสะดวก ซึ่ง กระบวนการจินตวิศวกรรมเป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างแท้จริง เนื่องจากกระบวนการจินตวิศวกรรมจะ ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สร้างสรรค์สิ่งที่ตนเองคิดจากจินตนาการ ออกแบบและสร้างชิ้นงานด้วยตนเอง ฝึกการทางาน ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนได้แสดงออกโดยการนาเสนอผลงานของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะและ คาติชมเพื่อนาไปปรับปรุงแก้ไขจนได้สิ่งที่สมบูรณ์ตามจินตนาการที่คาดหวังไว้ ทาให้ผู้เรียนเกิดความรักในการที่จะ 415
Keywords:
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม สมมติฐานการวิจัย 1 นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 2. อาจารย์มีความพึงพอใจต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้าง ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม การออกแบบการวิจัย ขั้นที่ 1 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามกระบวนการจินต วิศวกรรมกับนักศึกษาชั้นปีที่3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาคณิตศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Study) ที่ประกอบด้วยกลุ่มทดลอง 1 กลุ่ม โดยแบบแผนการทดลองมีลักษณะดังนี้ ตารางที่ 1 แบบแผนการทดลองในขั้นที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ทดสอบก่อนการทดลอง ทดลอง ทดสอบหลังการทดลอง E X ความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการ สอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม สัญลักษณ์ที่ใช้ในรูปแบบการวิจัย E แทน กลุ่มตัวอย่าง X แทน การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้การสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่เรียน วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางคณิตศาสตร์และคณิตศาสตรศึกษา (4093704) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 54 คน ขั้นที่ 2 การนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินต วิศวกรรมไปใช้กับโรงเรียน ตารางที่ 2 แบบแผนการทดลองในขั้นที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ทดสอบก่อนการทดลอง ทดลอง ทดสอบหลังการทดลอง E X ความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียน การสอนคณิตศาสตร์ ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อ การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ 417
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” สัญลักษณ์ที่ใช้ในรูปแบบการวิจัย E แทน กลุ่มตัวอย่าง X แทน การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในเครือข่ายของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต จานวน 46 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้การสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับ ฉลากโรงเรียน จานวน 9 โรงเรียน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างนี้มีอาจารย์ทั้งหมด 18 คน และนักเรียนทั้งหมด 347 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ขั้นที่ 1 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามกระบวนการจินต วิศวกรรม กับนักศึกษาชั้นปีที่3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาคณิตศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต 1) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม จานวน 4 แผน รวม 16 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอน ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ขั้นที่ 2 การนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวน การจินตวิศวกรรมไปใช้กับโรงเรียน 1) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ออกแบบตาม กระบวนการจินตวิศวกรรมโดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาคณิตศาสตร์คณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ 1) แบบวัดความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียน
และ
พอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม การดาเนินการทดลองและการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดาเนินการทดลองสอนนักศึกษากลุ่มตัวอย่างด้วยตนเอง โดยมีขั้นตอนการดาเนินการ ดังนี้ 1. ขั้นเตรียมการ 1) ผู้วิจัยสร้างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม คือ การเรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ ออกแบบและสร้างชิ้นงานด้วยตนเอง ฝึกการทางานร่วมกับผู้อื่น ฝึกการนาเสนอผลงาน และนาสิ่งที่ได้จาก ข้อเสนอแนะมาปรับปรุงแก้ไขผลงานให้เสร็จสมบูรณ์ตามจินตนาการที่คาดหวังไว้ โดยใช้กระบวนการจินตวิศวกรรม ของปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรุณ.(2556) ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การจินตนาการ (Imagine) ได้แก่ 1.1 ขั้นตอนการกาหนดโจทย์ (Problem) 1.2 ขั้นตอนการระดมสมอง (Brainstorm) 1.3 ขั้นตอนการแสดงความคิดเห็น (Discussion) 1.4 ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ (Feasibility) 418
การสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม
2) แบบวัดความพึง
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” 2. การออกแบบ (Design) ได้แก่ 2.1 ขั้นตอนการร่างแบบ (Draft) 2.2 ขั้นตอนการเขียนสตอรี่บอร์ด (Story board) 2.3 ขั้นตอนการเขียนสคริปต์ (Script) 2.4 ขั้นตอนการสร้างจาลอง (Prototype) 3. การพัฒนา (Develop) ได้แก่ 3.1 ขั้นตอนการสร้าง (Create) 3.2 ขั้นตอนการทดสอบการทางาน(Test) 4. การนาเสนอ (Present) ได้แก่ 4.1 ขั้นตอนการแสดงผลงาน (Show) 4.2 ขั้นตอนการแข่งขัน(Contest) 4.3 ขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น (Suggestion) 5. การปรับปรุง (Improvement) ได้แก่ 5.1 ขั้นตอนการแก้ไขผลงาน (Revised) 5.2 ขั้นตอนการสรุปผลงาน (Conclusion) 6. การประเมินผล (Evaluate) ได้แก่ 6.1 ขั้นตอนการประเมินตามกระบวนการทางาน (Process Evaluation) 6.2 ขั้นตอนการประเมินคุณภาพงาน (Product Evaluation) 2) ผู้วิจัยสร้างแบบวัดความพึงพอใจ ได้แก่ 1) แบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนการสอน ตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 2) แบบวัดความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม และ 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 3) ผู้วิจัยนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของเนื้อหา ภาษาที่ใช้ 4) ผู้วิจัยปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม และแบบวัด ความพึงพอใจตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ 2 ขั้นดาเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นที่ 1 การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามกระบวนการจินต วิศวกรรม กับนักศึกษาชั้นปีที่3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาคณิตศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต 1) ผู้วิจัยดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมกับนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาคณิตศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสวนดุสิตที่ เรียนวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางคณิตศาสตร์และคณิตศาสตรศึกษา (4093704) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 54 คน โดยแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม และใช้แผนการจัดการเรียนรู้จานวน 4 แผนรวม 16 ชั่วโมง โดยในการ จัดการเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมนี้นักศึกษาจะได้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ขั้นที่ 2 การนาสื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินต วิศวกรรมไปใช้กับโรงเรียน 1) เมื่อดาเนินการสอนตามเนื้อหาที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ครบ 4 แผนแล้ว ผู้วิจัยให้นักศึกษานา สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ออกแบบตามกระบวนการจินตวิศวกรรมไปใช้ทดลองกับ 419
และแบบวัดความ พึงพอใจที่สร้างขึ้นให้ผู้เชี่ยวชาญ
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาจานวน 9 โรงเรียน โดยมีผู้ประเมินเป็นอาจารย์ทั้งหมด 18 คน และนักเรียนทั้งหมด 347 คน และนักศึกษาเป็นผู้ทาการสอนให้กับนักเรียน 2) อาจารย์และนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ได้ใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ทาแบบวัดความพึงพอใจของอาจารย์และแบบวัดความพึง พอใจของนักเรียน 3) ผู้วิจัยทาการทดสอบหลังการทดลองกับนักศึกษาโดยใช้แบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียน การสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม 4) นาผลการทดสอบทั้งหมดมาทาการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยนาผลการทดสอบทั้งหมดมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยแบ่งระดับความพึงพอใจเฉลี่ยเป็น 5 ระดับ ดังนี้ 1.ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยช่วง 4.51 5.00 หมายถึง พึงพอใจมากที่สุด หรือดีมาก 2. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยช่วง 3.51 4.50 หมายถึง พึงพอใจมาก หรือดี 3. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยช่วง 2.51 3.50 หมายถึง พึงพอใจปานกลาง หรือพอใช้ 4. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยช่วง 1.51 2.50 หมายถึง พึงพอใจน้อย หรือปรับปรุง 5. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยช่วง 1.00 1.50 หมายถึง พึงพอใจน้อยที่สุด หรือไม่ดี ผลการวิจัย 1. การศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินต วิศวกรรม จานวน 54 คน ผู้วิจัยนาคะแนนจากแบบวัดความพึงพอใจ ไปหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลแสดงได้ดังนี้ ตารางที่ 3 แสดงค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนแบบวัดความพึงพอใจของ นักศึกษาที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย ( ) (S.D.) ระดับ 1 การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมมีความเหมาะสมกับ เนื้อหา 4.53 0.50 ดีมาก 2. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ผู้เรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียน 4.50 0.60 ดีมาก 3. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมมีความน่าสนใจ สนุกสนาน และทาให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียน 4.59
ดีมาก 4. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ แลกเปลี่ยนความรู้ความคิด 4.66 0.47 ดีมาก 5. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ผู้เรียนพัฒนา ทักษะการคิดที่สูงขึ้น 4.68
ดีมาก 6. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมี ส่วนร่วมในการทากิจกรรม
ดีมาก 420
0.49
0.46
4.51 0.50

= 4.44, S.D. = 0.61) ด้านการออกแบบสื่อการเรียน การสอน (ค่าเฉลี่ย = 4.33, S.D. = 0.68) ด้านเนื้อหา (ค่าเฉลี่ย = 4.28, S.D. = 0.57) ด้านผู้สอน (ค่าเฉลี่ย = 4.22, S.D. = 0.80) และด้านผู้เรียน (ค่าเฉลี่ย = 4.05, S.D. = 0.63) ตามลาดับ

การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” 7. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ผู้เรียนมีความ รับผิดชอบต่อตนเองและกลุ่ม 4.62 0.48 ดีมาก 8. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมช่วยให้ผู้เรียนสร้าง ความรู้ความเข้าใจด้วยตนเองได้
9. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมส่งเสริมการคิดและ ตัดสินใจ 4.51
ดีมาก 10. การเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ผู้เรียนเข้าใจ เนื้อหาคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น 4.64
โดยรวม 4.59
ดีมาก จากตารางที่ 3 พบว่า ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการ จินตวิศวกรรมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.59, S.D. = 0.50) โดยพบว่า ความพึงพอใจของนักศึกษาในหัวข้อการ เรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดที่สูงขึ้น มีค่ามากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.68, S.D. = 0.46) รองลงมา คือ หัวข้อการเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยน ความรู้ความคิด (ค่าเฉลี่ย
และหัวข้อการเรียนการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรมทาให้ ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น (ค่าเฉลี่ย
2. การศึกษาความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม จานวน 18 คน ผู้วิจัยนาคะแนนจากแบบวัดความพึงพอใจ ไปหา ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลแสดงได้ดังนี้ ตารางที่ 4 แสดงค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
อาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย ( ) (S.D.) ระดับ 1. ด้านผู้สอน 4.22 0.80 ดี 2. ด้านเนื้อหา 4.28 0.57 ดี 3. ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 4.56 0.51 ดีมาก 4. ด้านสื่อการเรียนการสอน 4.44 0.61 ดี 5. ด้านการออกแบบสื่อการเรียนการสอน 4.33 0.68 ดี 6. ด้านผู้เรียน 4.05 0.63 ดี โดยรวม 4.31 0.64 ดี จากตารางที่ 4 พบว่า ความพึงพอใจโดยรวมของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรมอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย = 4.31, S.D. = 0.64) เมื่อ วิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่า ความพึงพอใจของอาจารย์ด้านกิจกรรมการเรียนการสอนมีค่ามากที่สุด
คือ ด้านสื่อการเรียนการสอน
421
4.61 0.49 ดีมาก
0.50
0.48 ดีมาก
0.50
= 4.66, S.D. = 0.47)
= 4.64, S.D. = 0.48) ตามลาดับ
(S.D.) ของคะแนนแบบวัดความพึงพอใจของ
(ค่าเฉลี่ย = 4.56, S.D. = 0.51) รองลงมา
(ค่าเฉลี่ย
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” 3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม จานวน 347 คน ผู้วิจัยนาคะแนนจากแบบวัดความพึง พอใจ ไปหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลแสดงได้ดังนี้ ตารางที่ 5 แสดงค่าเฉลี่ยเลขคณิต ( )และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนแบบวัดความพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย ( ) (S.D.) ระดับ 1. สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นและสนุกกับการ เรียนมากขึ้น 4.41 0.59 ดี 2. ข้าพเจ้ารู้สึกไม่เครียด และไม่หนักใจต่อการเรียนที่ใช้สื่อการเรียนการสอน คณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินต
วิศวกรรม 4.36 0.57 ดี 3. เนื้อหาที่ใช้ในการสอนกับการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม เหมาะสมกับระดับ ความเข้าใจของข้าพเจ้า 4.35 0.62 ดี 4. สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตาม กระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้กิจกรรมในการเรียนน่าสนใจ 4.34 0.62 ดี
ทาให้ข้าพเจ้ามีโอกาส แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนมากขึ้น
6. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้ข้าพเจ้ารู้สึกอยากเรียน คณิตศาสตร์มากขึ้น 4.32 0.63 ดี 7. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้ข้าพเจ้าเข้าใจเนื้อหา มากยิ่งขึ้น 4.26 0.64 ดี 8. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ส่งเสริมบรรยากาศในการเรียน ของข้าพเจ้ามากยิ่งขึ้น 4.18 0.63 ดี 9. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้ข้าพเจ้ามีความมั่นใจใน ตัวเองเกี่ยวกับการเรียนมากขึ้น 4.23 0.65 ดี 10. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ทาให้ข้าพเจ้ามีเจตคติที่ดีต่อ การเรียนวิชาคณิตศาสตร์
ดี โดยรวม
422
5. การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม
4.37 0.59 ดี
4.24 0.66
4.30 0.62 ดี
การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” โสตทัศนูปกรณ์ จากการสารวจพบว่า ความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย=4.07) ส่วนความพึงพอใจในแต่ละ ด้านที่ประกอบด้วย ด้านผู้สอนมีความพึงพอใจสูงสุดอยู่ในระดับดี
ด้านการวัดและประเมินผลอยู่ในระดับดี
ตามลาดับ และผลการวิจัยที่ว่า ความพึงพอใจโดยรวมของอาจารย์ที่มีต่อการใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรมอยู่ในระดับดี(ค่าเฉลี่ย
โดย
ด้านสื่อการเรียนการสอนอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย = 4.44, S.D. = 0.61)และความพึงพอใจโดยรวมของนักเรียนที่มีต่อ การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่สร้างตามกระบวนการจินตวิศวกรรม อยู่ในระดับดี(ค่าเฉลี่ย = 4.30, S.D. = 0.62)สามารถอภิปรายได้ดังนี้สื่อการเรียนการสอนช่วยให้ผู้เรียนมีความสนใจใน การเรียน สร้างแรงจูงใจและทาให้ผู้เรียนสนุกกับการเรียน ทาให้เข้าใจเนื้อหาคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องซึ่งสอดคล้อง กับแนวคิดของ ยุพิน พิพิธกุล และอรพรรณ ตันบรรจง. (2531) ที่กล่าวว่า สื่อการเรียนการสอนช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียน สามารถสร้างองค์ความรู้ เข้าใจบทเรียนได้ท่องแท้และช่วยสอนผู้เรียนที่มีความสามารถแตกต่างกันให้บรรลุจุดประสงค์ ในการเรียน ช่วยประหยัดเวลาในการสอน ช่วยให้ผู้เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นรูปธรรมไปสู่นามธรรม ทาให้ผู้เรียนเกิดองค์ ความรู้ และจดจาได้นาน นอกจากนั้นสื่อการเรียนการสอนยังช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์และสร้าง เจตคติที่ดีให้แก่ผู้เรียน อีกทั้งยังสอดคล้องกับงานวิจัยที่ใช้สื่อการเรียนการสอนของ เอมอร ผาสุกพันธ์. (2559) ที่ ศึกษาการพัฒนาชุดการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแปลงทางเรขาคณิตโดยใช้โปรแกรม The Geometer’s Sketchpad (GSP) สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องการ แปลงทางเรขาคณิต โดยใช้โปรแกรม GSP สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนด 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแปลงทาง เรขาคณิต โดยใช้โปรแกรม GSP มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 57.45 และ 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแปลงทางเรขาคณิต โดยใช้โปรแกรม GSP มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อเสนอแนะ 1.ควรมีการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ในเนื้อหาอื่น ๆ หรือในระดับชั้นอื่น ๆ 2.ควรมีการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามกระบวนการจินตวิศวกรรม ในการพัฒนา ความสามารถด้านอื่น ๆของผู้เรียนเช่นความสามารถในการคิดสร้างสรรรค์ เนื่องจากการเรียนการสอนตาม กระบวนการจินตวิศวกรรมเน้นให้ผู้เรียนมีจินตนาการ คิดแก้ปัญหา เพื่อให้ได้ผลงานตามจินตนาการที่คาดหวังไว้ เอกสารอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย. จิระ จิตสุภา, ปรัชญนันท์ นิลสุข และจุฬาลักษณ์ วัฒนานนท์. (2557) การเปรียบเทียบการเรียนรู้อย่างเป็นระบบกับ การเรียนรู้แบบจินตวิศวกรรมของนักศึกษาปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์ที่มีประสบการณ์ต่างกัน วารสาร วิจัย มสด. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 1 14. ณรงค์ พลอยดนัย. (2530). คณิตศาสตร์เพื่อชีวิต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. ถนอมพร เลาหจรัสแสง.(2556). ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อพัฒนาอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สานักงาน บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 424
(ค่าเฉลี่ย=4.11) รองลงมาคือ ด้านสถานที่และ โสตทัศนูปกรณ์อยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย=4.10) ด้านกระบวนการเรียนการสอนอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย = 4.06) และ ความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ
(ค่าเฉลี่ย = 3.96)
= 4.31, S.D. = 0.64)
ด้านกิจกรรมการเรียนการสอนมีความพึงพอใจสูงสุดอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.56, S.D. = 0.51) รองลงมา คือ
2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.45/81.97

(2555).

, 149 162.

Riojas, M., Lysecky, S. and Rozenblit, J. (2012). Educational Technologies for Precollege Engineering Education. IEEE Transactions on Learning Technologies, 5(1): 20 37.

การประชุมวิชาการระดับชาติสวนดุสิต 2019 ครั้งที่ 4 “ศาสตร์พระราชา พัฒนาคุณภาพชีวิต นวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยงานวิจัย” ปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรุณ. (2556). การเรียนรู้แบบจินตวิศวกรรม. วารสารพัฒนาเทคนิคศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
มูหามัด เต๊ะยอ และมารีเย๊าะ มาแต. (2558) ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ วิศวกรรม 2 ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ การประชุม หาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6 มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
: สานักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เอมอร ผาสุกพันธ์. (2559). การพัฒนาชุดการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแปลงทางเรขาคณิตโดยใช้โปรแกรม The Geometer’s Sketchpad (GSP) สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วารสารมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
, 1 8.
, 123 134 ยุพิน พิพิธกุล และอรพรรณ ตันบรรจง. (2531). สื่อการเรียนการสอนคณิตศาสตร กรุงเทพฯ :จุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์ สร้างห้องเรียนกลับทาง. กรุงเทพฯ : เอส.อาร์.พริ้นติ้งแมสโปรส์ดักส์. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
ข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่สอง 2552 2561. กรุงเทพฯ
กระทรวงศึกษาธิการ. อัมพร ม้าคนอง. (2554). ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : การพัฒนาเพื่อพัฒนาการ.
425

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.