สารบูรพา ฉบับเดือน เมษายน 2563

https://issuu.com /buraphauniversity

สารมหาวิทยาลัยบูรพา

BUU NEW S ฉบับเดือน เมษายน ๒๕๖๓

น้อมถวายบังคมบรมบาท พระกนิษฐาธิราชนาถา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ครบในวาระสมภพบรรจบวัน ธ ทรงเป็นเทพรัตน์ฉัตรประเทศ ทรงปกเกศป้องไทยในขอบขัณฑ์ ปวงเทวาประชาน้อมลงพร้อมกัน ถวายอัญชุลีศรีนาคร ส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เบื้องร่มบุญบริสุทธิ์อนุสรณ์ ด้วยทรงพระเมตตาประชากร ราษฎร์เดือดร้อนเสด็จได้ไปบรรเทา ทรงรอบรู้เรื่องวัง วัด รัฐกิจ รังสฤษฏ์หลากหลายทุกสายเหล่า ด้วยทรงเพียรพัฒนามาแต่เยาว์ ช่วยแบ่งเบาภาระพระภูบาล ทรงเปรื่องปราดศาสตร์ ศิลป์ สิ้นทรงสงสัย ท่องเที่ยวในวงวรรณบรรณสาร ทุกแขนงแกร่งกล้าวิชาการ ทรงเชี่ยวชาญหลายภาษาบรรดามี

อาศิรวาทราชสดุดี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ประมวลความเป็นองค์พระทรงยศ เกียรติปรากฏเป็นประจักษ์ทรงศักดิ์ศรี สยามบรมราชกุมารี พระบารมีเหลือล�้ำจะร�ำพัน ในวาระเฉลิมชนมพรรษา ขอเทวาปกปักพิทักษ์ขวัญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาวิลาวัณย์ ชนมายุยืนมั่นนิรันดร์เทอญ ฯ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิต และนักเรียน มหาวิทยาลัยบูรพา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฉลวย มงคล ประพันธ์บทร้อยกรอง

2

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

ภาพ / เรียบเรียง พงษ์พันธ์ แก้วมณี

การประกวดดนตรีไทย ระดับนักเรียนภาคตะวันออก

ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ ๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓

การประกวดดนตรีไทย

ระดับนักเรียนภาคตะวันออก ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ ๔๐ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ณ หอประชุมธ�ำรง บัวศรี มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ผู้รักษาการแทนอธิการบดี เป็นประธานการประกวดดนตรีไทย ระดับนักเรียน ภาคตะวั น ออก ชิ ง ถ้ ว ยพระราชทานสมเด็ จ พระ กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีครัง้ ที่ ๔๐ จัดโดยคณะดนตรีและ การแสดง ร่วมกับ บริษทั ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชัน่ แนล จ�ำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยมีวตั ถุประสงค์เพื่อเผยแพร่อนุรกั ษ์ ศิลปะและวัฒนธรรม การถ่ายทอด ความรู้ทางด้าน ดนตรีไทยสู่เยาวชนต่อไป ดูผลการประกวดได้ที่ https://www.facebook.com/CMC.Eastern/

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

3

ภาพ / เรียบเรียง พงษ์ นลินรัพตันน์ธ์ อ�แก้ ำ่ ช้วามณี ง / เรียบเรียง น.ส ปรารถนา ประวัติ

สัมภาษณ์พิเศษ

โดย รศ.ดร.สุกัญญา บู รณเดชาชัย

ดร.เจนกฤษณ์ คณาธารณา ผูอ้ ำ� นวยการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวันออก (EECi)

กับการสร้างนวัตกรรมร่วมกัน เพื​ื่อสนับสนุนไทยแลนด์ ๔.๐ EECi หรือ Eastern Economic Corridor of Innovation คือโครงสร้างพืน้ ฐานด้าน นวัตกรรม หรือพู ดง่ายๆ คือ Innovation Hubs ใน EEC เป็นระบบนิเวศนวัตกรรมทีม่ คี วาม กว้างขวางครอบคลุม (Comprehensive Innovation Ecosystem) ก่อให้เกิดการท�ำงานในลักษณะ นวัตกรรมแบบเปิ ด (Open Innovation) การบู รณาการการท�ำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน ภาคธุ รกิจ สถาบันการศึ กษา สถาบันวิจัย และหน่วยงานภาครัฐ ตามแนวคิด Triple Helix Model และ Quadruple Model เพื่อสร้างนวัตกรรมร่วมกันและน�ำนวัตกรรมไป ใช้ ประโยชน์เชิงพาณิชย์

ภารกิจหลักของ EECi EECi เป็นเขตนวัตกรรมใน EEC ตอนนีร้ ฐั บาลบอกว่าจะท�ำ Eastern Seaboard เพือ่ สนับสนุนไทยแลนด์ ๔.๐ การด�ำเนินการในเรือ่ งโครงสร้างพืน้ ฐานต่างๆ ที่ EEC ด�ำเนินการอยู ่ จะเป็นส่วนที่จ�ำเป็น แต่เพื่อที่จะซัพพอร์ตในเรื่องไทยแลนด์ ๔.๐ ก็จะต้องมีนวัตกรรมเพื่อรองรับ รัฐบาลก็มอบหมายมาที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ในขณะนั้น ซึ่งตอนนี้ก็เป็นกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นรัฐบาลก็มอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นเจ้าภาพ ในการขับเคลื่อนพัฒนา EECi ให้เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ก็ได้มอบมาที่ ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ให้เป็นผูจ้ ดั การโครงการ ตอนที่ พัฒนาโครงการ EECi เราก็มองว่าควรจะต้องตอบโจทย์ของประเทศไทย ให้มาตอบ โจทย์สว่ นทีข่ าด เกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์แบบ EECi มีอตุ สาหกรรมเป้าหมายอยู่ ๖ เรือ่ ง ได้แก่ ๑.เกษตรสมัยใหม่ ๒.เคมีชวี ภาพ ๓.อิเล็กทรอนิกส์และระบบอัจฉริยะ ๔.แบตเตอรี่และยานยนต์สมัยใหม่ ๕.การบินและอวกาศ ๖.เครื่องมือแพทย์

ก�ำลังคนที่เราจะต้องผลิตเข้ามาใน EECi ทีว่ งั จันทร์วลั เลย์ จังหวัดระยอง เป็นฐานแรกของ EECi ในภาคตะวันออก เราตัง้ เป้าเรือ่ งวิจยั ขยายผล เพราะฉะนัน้ โครงสร้างพืน้ ฐานด้านวิจยั ของประเทศก็จะลงตรงนี้ เพื่อให้เกิด Cluster ใครจะมาใช้ ประโยชน์จากโครงสร้างก็สามารถมาใช้ ได้ ก็จะมีก�ำลังคนที่จะท�ำงานในตรงนี้ ท�ำงาน เต็มเวลาทัง้ ส่วนของภาครัฐและเอกชน อย่างทีเ่ รียนไปว่าประเทศไทยเราขาดส่วนไหนไป งานวิจยั จากจุดไหนก็ได้ในประเทศก็มาขยายผลที่ EECi แล้ว พอขยายผลเสร็จจะอยูใ่ น EECi หรือจะกลับไปต้นทางหรือไปตรงอืน่ ต่อก็ยอ่ มได้ เพราะฉะนัน้ EECi ก็จะเป็นจุดทีเ่ ชือ่ มงานวิจยั การลงทุนด้านนวัตกรรม ของประเทศ ในเชิงโครงสร้างพื้นฐาน ตอนนี้สิ่งแรกที่ก�ำลังจะเกิดขึ้นคือเราจะท�ำโรงงานต้นแบบ Biorefinery ให้เกิดขึ้นใน EECi เราอาจจะคุ้นเคยกับ Biorefinery การกลัน่ น�ำ้ มัน วัตถุดบิ ต้นทางคือปิโตเลียม ออกมาก็เป็นเคมีตา่ งๆ Biorefineryก็เหมือนกันแต่วตั ถุดบิ ต้นทาง เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร แล้วก็ออกมาเคมีทมี่ าจากฐานชีวภาพ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม ส่วนเรือ่ งทีด่ ำ� เนินการไปแล้วก็คอื เรือ่ งเกษตรสมัยใหม่ สมาร์ทฟาร์ม ตอนแรกทีเ่ ราจะตัง้

4

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

ภาพ / เรียบเรียง พงษ์พันธ์ แก้วมณี ภาพ/ เรี/ ยเรีบเรี ยบเรี ยงยน.ส ง พงษ์ ปรารถนา พันธ์ แก้ประวั วมณีติ

ไปท�ำงานตรงนั้นได้ แต่ว่าอันนั้นคือเรื่องของก�ำลังคนในส่วนของที่เป็น นักเรียนทุน แต่ก�ำลังคนเพื่อตอบอุตสาหกรรมก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ท�ำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยได้อีกเยอะเลย หลายอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นการเตรียมระยะต้นอาจจะไม่ใช่การเปิดหลักสูตร แต่เป็นการ เทรนเพือ่ เอาทักษะใหม่ ของ EECi เรือ่ งคนของเรามี ๔ เป้าหมาย กลุม่ ที่ ๑ ก็คอื กลุม่ คนทีท่ ำ� งานอยูแ่ ล้ว กลุม่ ที่ ๒ จะเป็นแรงงานอนาคต กลุม่ ที่ ๓ เป็น เรือ่ งการเตรียมคนระยะยาว กลุม่ นักเรียน กลุม่ ที่ ๔ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ ซึง่ ทัง้ ๔ กลุม่ ล้วนแต่ทำ� งานกับมหาวิทยาลัยในพืน้ ทีแ่ ละมหาวิทยาลัยนอกพืน้ ทีไ่ ด้

มหาวิทยาลัยบูรพาเราได้ทำ� อะไรร่วมกับ EECi ไปแล้วบ้าง มหาวิทยาลัยบูรพารับเป็นแม่ข่ายของทาง สวทช. ที่ได้รับงาน ในหมวดของ EECi ที่คณะต่างๆ ก�ำลังศึกษาในเรื่องของการประมง การเลี้ยงสัตว์น�้ำสมัยใหม่ ทางมหาวิทยาลัยบูรพาก็ให้ข้อมูลค่อนข้าง เยอะ เร็วๆ นี้ก็มีการคุยในเรื่องของเคมีชีวภาพ และนักเรียนทุนที่จัดสรร ให้มหาวิทยาลัยบูรพา ลองนึกภาพว่า EECi เป็นแหล่งวิจยั ขยายผล อาจารย์ สอนเรือ่ งวิจยั ขยายผล นิสติ ก็คงต้องอยูต่ รงนัน้ เพือ่ ใช้ประโยชน์จากเครือ่ งมือ เพราะฉะนั้นการเรียนการสอนก็อาจจะอยู่ตรงนั้น เราพยายามจะเติมเต็ม สิ่งที่ประเทศไทยขาดหายไป

EECi เรามุง่ หวังว่าคนในพืน้ ทีต่ อ้ งได้ประโยชน์ เพราะฉะนัน้ สิง่ แรกทีเ่ รา ด�ำเนินการเราเอาเทคโนโลยีสมาทฟาร์มลงไปสนับสนุน เกษตรกร ในภาคตะวันออก เกษตรกรวังจันทร์ ก็มีหลายสวนที่เป็นต้นแบบ ส่วนนั้นก็ได้ด�ำเนินการแล้ว และก�ำลังท�ำในเรื่อง Industry 4.0 ให้เกิดขึน้ และเตรียมเรือ่ งยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ยานยนต์ ไร้คนขับ ตอนนี้ก็เริ่มท�ำ pilot technology อันนี้ท�ำในกรุงเทพฯ แต่ ในอนาคตก็จะมาขยายผลในภาคตะวันออก หลักๆเราก็จะร่วมมือกับ ภาคเอกชน ภาคมหาวิทยาลัย ภาคเอกชนมีทั้งผู้ใช้ประโยชน์และ ผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยี ทั้งทางไทยและต่างประเทศ

การผลิตบุคลากรที่จะมาอยู่ ใน EECi การส่งเสริมทุนการศึกษาต่างๆ ระยะกลางที่ EECi ก็ต้องมีก�ำลังคนที่สมัยใหม่ท่จี ะตอบรับ สิง่ เหล่านีไ้ ด้ ตอนนีส้ ว่ นหนึง่ เรามีนกั เรียนทุน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่จัดสรรมาส�ำหรับการจัดตั้ง EECi จ�ำนวน ๑๐๐ ทุน ตอนนี้ก็ด�ำเนินการมาเข้าสู่ปีที่ ๓ ก็จัดสรร ไปประมาน ๑๐๐ กว่าทุน น้องๆ ก็เริ่มทยอยไปเรียน ทุนเหล่านี้ ก็ไปให้เรียนในสาขาที่สอดคล้องกับ ๖ อุตสาหกรรมเป้าหมายของ EECi กลับมาแล้วก็จะมาอยูป่ ระจ�ำที่ EECi โดยต้นสังกัดก็อาจจะเป็น มหาวิทยาลัย สวทช เพราะฉะนัน้ จุดส�ำคัญก็คอื หน่วยงานทีพ่ ดู มาที่ รับทุนไปก็จะต้องมีแผนว่าจะเข้าไปจัดตั้งหน่วยวิจัยหรือศูนย์ความ เป็นเลิศเฉพาะทางบางอย่างของ EECi พอน้องๆ กลับมาก็จะได้

ที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง หรือต้องการจะท�ำอะไรเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ไม่มปี ญ ั หาอุปสรรคอะไรส�ำคัญ แต่แน่นอนว่าอุปสรรคก็ตอ้ งค่อยๆ แก้กันไป ไม่มีการท�ำงานไหน ที่ไม่มีอุปสรรค แต่ก็ไม่มีอุปสรรคที่ข้ามไป ไม่ได้ ผมคิดว่าบรรยากาศการท�ำงานสมัยนีด้ ี ทุกคนช่วยกันท�ำงาน ไม่คอ่ ย มีเส้นแบ่งเท่าไหร่วา่ เป็นคนสังกัดไหนแล้วท�ำงานด้วยกันไม่ได้ เพราะทุกวัน นีต้ อ้ งท�ำงานด้วยกันทัง้ หมดเลย เนือ่ งจากประเทศไทยไม่เคยท�ำเรือ่ งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นการท�ำงานในต่างประเทศก็จะเป็นเรื่องส�ำคัญมาก ถ้าเรา มัวแต่คดิ ว่าจะท�ำงานแต่ในประเทศ ก็จะท�ำให้เราตามโลกไม่ทนั ในภาพรวม ประเทศไทยเราอยูก่ บั ทีไ่ ม่ได้เราต้องเคลือ่ นทีไ่ ปข้างหน้าแล้วก็สงิ่ ทีเ่ ป็นปัญหา หลักของประเทศไทยจริงๆ ก็มหี ลายเรือ่ ง ถ้าเรือ่ งเทคโนโลยีกจ็ ะมี ๔ เรือ่ ง ใหญ่ๆ เรื่องแรก ก็คือเรามักจะได้ยินก็คือเรื่องติดกับดักรายได้ปานกลาง ไม่สูงเหมือนประเทศพัฒนาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ต�่ำเหมือนประเทศพัฒนาอื่นๆ เพราะฉะนั้นปัญหาอันนี้ถ้าเราจะขยับไปให้พ้น เราก็ต้องเพิ่มขีดความ สามารถด้านนวัตกรรม เรือ่ งทีส่ อง เราเป็นประเทศแรกๆ ของโลกเลยนะครับ ที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประเทศแรกๆ ของโลกที่ก�ำลังพัฒนา ประเทศ ที่พัฒนาแล้วผู้สูงอายุก็อยู่บ้านสบายๆ เรื่องที่สาม ก็เป็นเรื่องของความ เลื่อมล�้ำ มีเยอะเลยในประเทศเรา ท�ำอย่างไรให้ได้ลืมตาอ้าปาก ได้เข้าถึง เทคโนโลยี เข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ได้มากขึ้น เรื่องที่สี่ เราก็ต้องพัฒนา อย่างยั่งยืนด้วย สิ่งแวดล้อมก็ต้องไปด้วยกัน เราคงไม่อยากมีรายได้ดีแต่ ตายเร็ว ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีนวัตกรรมจะเป็นองค์ ประกอบส�ำคัญในการช่วยพัฒนา

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

5

เรียบเรียง นลินรัตน์ อ�ำ่ ช้ าง

มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมลงนามความร่วมมือจัดตั้ง

ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC)

เพื่อเป็นแหล่งบริการเกษตรกรที่รวบรวมองค์ความรู้ ทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร

ผศ.ดร.วศิน ยุ วนะเตมีย์ ผู ้รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่าย วิทยาเขตจันทบุ รี มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมพิธลี งนามบันทึกความร่วมมือ การจัดตัง้ ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and innovation center : AIC) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ห้องประชุ ม ๑๑๕ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรุ งเทพฯ โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการลงนามร่วมกับ ๑๔ มหาวิทยาลัย ได้แก่ ๑. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๒. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๓. มหาวิทยาลัยขอนแก่น ๔. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ๕. มหาวิทยาลัย บูรพา ๖. มหาวิทยาลัยแม่ฟา้ หลวง ๗. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กรุงเทพ ๘. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ๙. มหาวิทยาลัย นเรศวร ๑๐. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ๑๑. มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ๑๒. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ๑๓. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ ๑๔.มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พิธลี งนามฯ มีวตั ถุประสงค์ของความร่วมมือเพือ่ พัฒนาขีดความสามารถ ในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพือ่ สนับสนุน และ ส่งเสริมเทคโนโลยีเกษตร การประดิษฐ์นวัตกรรม รวมทัง้ เครือ่ งจักรกลเกษตร

เพือ่ เป็นศูนย์อบรมบ่มเพาะเกษตรกร ผูน้ ำ� สถาบันเกษตรกร Smart Famer, Young Smart Farmer STARTUP เกษตร และ SME เกษตร ภายใน จังหวัด อีกทั้งเป็นการผลักดันงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านการวิจัย การพัฒนา การลงทุน การแปรรูป และการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมหาวิทยาลัยจะมีกจิ กรรมความร่วมมือ ได้แก่ การจัดให้มีที่ตั้งศูนย์ AIC ในบริเวณมหาวิทยาลัย ให้เป็นสถานที่ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งอบรมบ่มเพาะเทคโนโลยีการเกษตร ภูมิปัญญา ด้านการเกษตร และนวัตกรรมทางการเกษตรและเป็นศูนย์กลางในการ ให้บริการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเชื่อมโยงความร่วมมือ ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางด้านการเกษตรจากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และเกษตรกร โดยหลังจากนี้ กระทรวงและมหาวิทยาลัย จะมีการแต่งตั้ง ผู้ประสานงานของทั้งสองฝ่ายเพื่อด�ำเนินการก�ำหนดวิธีการปฏิบัติในการ จัดตั้งศูนย์ AIC เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ ทัง้ นี้ นายเฉลิมชัย ศรีออ่ น รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธี ลงนามฯ ว่า แนวทางการขับเคลือ่ นของศูนย์ AIC นัน้ จะเน้นการส่งเสริมเทคโนโลยีเกษตร สิง่ ประดิษฐ์ นวัตกรรมในรูปแบบต่างๆ โดยจะใช้ฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่นและ เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน โดยจะรวบรวม ช่างเกษตร ปราชญ์เกษตร ซึ่งเป็น เกษตรกรต้นแบบ ที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยี สมัยใหม่ เน้นการจัดการในพืน้ ทีแ่ ปลงใหญ่ ดึงกลุม่ Young Smart Farmer เข้าร่วม เสริมสร้างองค์ความรูท้ งั้ ด้าน e-commerce, การสร้าง Story และ Packaging, รวมถึงมาตรการ กฎระเบียบต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องด้านการเกษตร เพือ่ ให้เกษตรกรไทย มีองค์ความรู้ และมีเครือข่ายทีด่ ี ก้าวเข้าสูย่ คุ เกษตร 4.0 อย่างครบวงจร โดยต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึง่ เบือ้ งต้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ข้อมู ลโดย : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

6

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

ภาพ / เรียบเรียง นายไวทิน จิตมัน่

คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

จัดพิธีลงนาม ความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม

"ปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชด�ำริ" เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ณ ห้อง ๙๐๓ ชั้น ๙ ส�ำนักงาน อธิการบดี (อาคาร ภปร) มหาวิทยาลัยบูรพา คณะภูมสิ ารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย บูรพา จัดพิธลี งนามความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม ปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชด�ำริ โดยมี รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ผูร้ กั ษาการ แทนอธิการบดี เป็นผูล้ งนาม ร่วมกับ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผูอ้ ำ� นวยการสถาบัน ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชด�ำริ โดยสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสาน แนวพระราชด�ำริ ได้จดั ท�ำโครงการพืน้ ทีต่ น้ แบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและ พัฒนาพืน้ ที่ ต�ำบลแก่นมะกรูด อ�ำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทยั ธานี ทางสถาบันฯ ต้องการข้อมูลด้าน GIS ที่มากที่สุด จึงเกิดความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชด�ำริ และคณะภูมสิ ารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เพือ่ ร่วมวิจยั และพัฒนา ข้อมูลเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ดาวเทียม หุ่นยนต์อากาศยานไร้คนขับ แลกเปลี่ยนบุคลากร นิสิตและนักวิจัย พัฒนาหลักสูตรการบริหารจัดการ พื้นที่ชนบท โดยประยุกต์ภูมิสารสนเทศ ทางคณะภูมสิ ารสนเทศศาสตร์ได้ทำ� การลงส�ำรวจพืน้ ทีโ่ ดยท�ำการสุม่ ประชากรตัวอย่างทัง้ ๔ หมูบ่ า้ น โดยใช้ Mobile Application และ เทคโนโลยี หุ่นยนต์อากาศขนาดเล็ก (Drone) ท�ำให้ได้ฐานข้อมูลเบื้องต้น เช่น ข้อมูล การใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลสาธารณูปโภคและสาธารณูปการและข้อมูล ด้านทัศนคติและความคิดเห็นภาพถ่ายรายละเอียดสูงจากโดรน/โดรน ๓ มิติ และน�ำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ปัญหาในพื้นที่เพื่อหาแนวทางการ แก้ไขปัญหาต่อไป

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

7

ภาพ / เรียบเรียง คณะภูมิสารสนเทศ

เมืองพัทยาร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา

ประกาศแผนแม่บทดิจิทัล พร้อมเป็นองค์กรดิจิทัลสมรรถนะสูง มุ่งสู่

เมืองอัจฉริยะ

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา

นายสนธยา คุณปลืม้ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานใน การประชุ มเชิงปฏิบัติการ เพื่อรับฟั งการประกาศแผนแม่บทดิจิทัลฯ ระดมความคิดเห็น และรับฟังความคิดเห็น รวมถึง การติดตามความ คืบหน้าโครงการแผนแม่บทดิจติ อล เทคโนโลยีสารสนเทศ-การสือ่ สาร และปรับปรุ งข้อมูลทรัพยากรภูมสิ ารสนเทศขนาดใหญ่ของเมืองพัทยา (ระยะ ๕ ปี ) (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๗) เพือ่ สนับสนุนยุ ทธศาสตร์ NEO Pattaya เร่งเครื่องเดินหน้าสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) นายสนธยา คุณปลื้ม กล่าวว่า “เป้าหมายของการไปสู่ Smart City ในอนาคต ต้องเริ่มจากการจัดท�ำแผนยุทธศาสตร์ NEO Pattaya ซึง่ เป็นการด�ำเนินงานภายใต้แนวคิดทีจ่ ะพัฒนาเมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลาง เศรษฐกิจโลกแห่งใหม่ เน้นให้พทั ยาเป็นศูนย์กลางของ EEC ในทุกด้าน เป็นศูนย์กลาง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของโลก เพือ่ รองรับการหลัง่ ไหล ของประชากรในภาคพืน้ อาเซียนอย่างน้อย 90 ล้านคน ในปี 2030 ดังนัน้ การใช้นวัตกรรมดิจทิ ลั จึงมีสว่ นสาคัญในการขับเคลือ่ นให้เมืองพัทยามุง่ สู่ NEO Pattaya ได้อย่างรวดเร็ว ซึง่ ภายใต้แผนแม่บทดิจทิ ลั นี้ เราจึงวาง (ร่าง) ยุทธศาสตร์ดา้ นดิจทิ ลั ใน 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาก�ำลังคนดิจทิ ลั ( Digital Manpower) ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาการบริการดิจทิ ลั (Digital Service) ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาโครงการพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัย ด้านดิจทิ ลั (Digital Security and Infrastructure) ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมการจัดการองค์กรดิจทิ ลั สมรรถนะสูง (High Performance Digital Organization) โดย (ร่าง) แผนแม่บทดิจทิ ลั ฯ และแนวทางการพัฒนาศูนย์ขอ้ มูลภูมสิ ารสนเทศขนาดใหญ่ หรือ Big Data ดังกล่าว ได้มกี ารลงนามความร่วมมือระหว่าง เมืองพัทยาและมหาวิทยาลัยบูรพา โดยคณะภูมสิ ารสนเทศศาสตร์ รับมอบหมายให้เป็นทีป่ รึกษาในการด�ำเนินการจัดทาแผนแม่บทดิจทิ ลั ฯ ซึง่ จะมี

8

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

ภาพ / เรียบเรียง คณะภูมิสารสนเทศ

การด�ำเนินงานให้ตรงตามกรอบนโยบาย และความสอดคล้องเหมาะสม ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลให้มากที่สุด เพื่อประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เป้าหมายสูก่ ารเร่งขับเคลือ่ นยุทธศาสตร์นโี อพัทยา สู่การเป็นเมืองพัทยาสมาร์ทซิตี้ ดังนั้น การท�ำงาน ในทุกๆ มิตขิ องเมืองพัทยา นอกจากบุคลากรของเมือง พัทยาเองจะต้องเป็นก�ำลังคนสมรรถนะด้านดิจทิ ลั สูง พร้อม ให้บริการประชาชนแล้ว ยังต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงาน ต่างๆ โดยที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้มีการสร้างเครือข่ายพัฒนา พัทยา ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ภาคประชาชน ภาคสาธารณสุข และองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกๆ มิติ ทั้งนี้ ในส่วนความร่วมมือกับ EEC จะเน้นความร่วมมือเพือ่ พัฒนา ในด้านเศรษฐกิจ ด้านการค้า ด้านการ ลงทุน ด้านคมนาคม และด้านโลจิสติกส์ ให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับ นวัตกรรมดิจิทัลที่ก�ำลังจะเกิดขึ้นตามแผนแม่บทดิจิทัลฯ ต่อไป” นายสนธยา กล่าวในการประชุ มเชิงปฏิบตั กิ ารครัง้ นี้ มีวทิ ยากรและ ผูท้ รงคุณวุ ฒจิ ากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ผูแ้ ทนจากส�ำนักงานคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือน (กพ.) ผู แ้ ทนจากส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจทิ ลั (DEPA) ผู แ้ ทนจากส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมสิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) เพื่อให้แนวทาง ความรู้ ความเข้าใจ เกีย่ วกับการพัฒนาบุ คลากรและการพัฒนาเมืองพัทยาให้เป็นองค์กร ดิจทิ ลั สมรรถนะสูงมุ ง่ สูเ่ มืองอัจฉริยะ รวมถึง การใช้ GIS ในการบริหาร จัดการพืน้ ทีเ่ มืองพัทยาให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่ง อาจารย์ ดร.กฤษนัยน์ เจริญจิตร คณบดีคณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบู รพา ในฐานะประธานโครงการฯ พร้อมคณะ ได้นำ� เสนอ (ร่าง) แผนแม่บท ดิจิทัลฯ ระยะที่ 1 ภายใต้กรอบการด�ำเนินงาน 5 ยุ ทธศาสตร์ โดยมี ผู ้ร่วมฟังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ภายในเมืองพัทยา หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นักธุ รกิจ นักวิชาการ นักท่องเที่ยว และประชาชนผู ้สนใจ

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

9

เรียบเรียง น.ส ณัฐพร อัว้ นา

COVID-19 ผ่านมุมมองของ

อาจารย์ ดร. วิริยะ มหิกุล อาจารย์ภาควิชาพื้นฐานสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

COVID-19

มหัตภัยร้ายที่โลกก�ำลังเผชิญ ท�ำไมเราถึงเรียกชื่อว่า COVID-19 เนื่องจากเชือ้ นี้ มีการระบาดเมือ่ ปี 2019 ในช่ วงสิน้ ปี ทผ่ี า่ นมาท�ำให้เราตัง้ ชื่อมัน คล้ายกับโรคซาร์ส (SARS) ทีเ่ กิดขึน้ เมือ่ ก่อนหน้านีเ้ พราะมันมี ลักษณะโครงสร้างของโรคทีค่ ล้ายกัน เพราะฉะนัน้ อยากมาท�ำความ เข้าใจมากกว่าว่าโรคนีเ้ ราจะป้ องกันตัวเองและควบคุมมันยังไง ไม่ให้มีการตื่นตระหนกต่อการป่ วยเป็นโรคนี้ COVID-19 โรคนีเ้ ป็นโรคทีแ่ พร่กระจายจากฝอยละออง หรือ droplet ทีเ่ กิดจากการไอหรือจามยกตัวอย่าง เช่นเมือ่ เราป่วย เวลาเราไอหรือจามออกไปละอองฝอยจะกระจายออกไปประมาณ 2 เมตรท�ำให้คนที่อยู่ใกล้ชิดกับเรามีความเสี่ยงสูงที่จะติดได้ วิธีการป้องกันหลักๆ เลย ก็คือการใส่หน้ากากอนามัยส�ำหรับ

10

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

คนที่มีอาการป่วยแล้วก็ยืนยันแล้วว่าเป็น COVID-19 และ หน้ากากอนามัยก็ห้ามใส่ซ�้ำควรเปลี่ยนประมาณ 4 ครั้ง ถ้าเป็นผูท้ มี่ คี วามใกล้ชดิ มีความเสีย่ งสูงคนทีเ่ ดินทางไปประเทศ กลุ่มเสี่ยงก็ควรใช้หน้ากากอนามัยที่มีลักษณะที่มีการป้องกัน สารคัดหลัง่ ไม่ให้แทรกซึมได้สำ� หรับหน้ากากแบบผ้าก็สามารถ ใช้ได้เช่นกันแต่อาจไม่สามารถป้องกันการซึมของสารคัดหลัง่ ได้ แต่เป็นตัวเลือกทีค่ อ่ นข้างประหยัดและหาซือ้ ง่ายกว่าในสถานการณ์ ปัจจุบนั นี้ ส่วนความเข้าใจผิดในเรือ่ งโรคนี้ ก็คอื บางคนทีก่ ลับมา จากต่างประเทศสังคมอาจจะมีการ bully เขาว่าท�ำไมกลับมาแล้วไม่ ป้องกันตัวเอง ไม่กกั ตัวอยูท่ บี่ า้ น ซึง่ จริงๆ แล้วเขาสามารถใช้ชวี ติ แบบปกติได้ แต่ตอ้ งป้ องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อน

เรียบเรียง น.ส ณัฐพร อัว้ นา

ช้อนกลาง ล้างมือทุกครัง้ ทีจ่ ะออกไปไหน และอยากให้สงั คมยอมรับไม่ใช่ พู ดจาท�ำร้ายให้เขารูส้ กึ ไม่ดจี ะยิง่ ท�ำให้สถานการณ์ยงิ่ แย่ไปกว่าเดิม และตอนนี้ ในประเทศไทยการระบาดยังสามารถควบคุมได้ คืออยูใ่ นระยะที่ 2 ยังไม่มกี าร แพร่กระจายในวงกว้างเหมือนกับประเทศจีนหรือเกาหลีทมี่ กี ารกระจายจากคนแล้ว ไม่ได้อยูใ่ นพืน้ ทีเ่ ดียวแต่กระจายไปในหลายพืน้ ทีก่ ระจายไปเกือบทัง้ ประเทศ เพราะฉะนั้นในตอนนี้เรายังไม่ถึงระยะที่ 3 Q : เราจะป้ องกันตัวเองได้ยังไงโดยเฉพาะนิสิตนักศึ กษาหรือบุ คลากร A: ในมหาวิทยาลัยบู รพา เราก็จะมีเจลล้างมือให้ มีโปสเตอร์อธิบาย เกีย่ วกับโรค คนทีม่ อี าการแล้วให้เข้ารับการตรวจเข้ารับการปรึกษาก่อน ว่าควรจะใช้ ชีวิตต่อไปอย่างไร ส่วนระบบการเรียนการสอนนิสิตของเรา มีทงั้ 2 แบบ คือเรียนในห้องเรียนและเรียนแบบออนไลน์ การเรียนในห้องเรียน ก็ต้องป้องกันตัวเอง ถ้าใครมีอาการก็ไปตรวจ ถ้าใครรู้สึกว่าตัวเองอยู่ใน ความเสี่ยงก็ป้องกันตนเอง ส่วนเรียนออนไลน์ป้องกันได้แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ก�ำลังน�ำมาปรับใช้ ส�ำหรับโรคนี้อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับมันมาก เพราะว่าอัตราการเสียชีวิตไม่ได้สูงมากเหมือนโรคอื่นๆ คืออยู่ระหว่าง 2-3% เท่านั้น แสดงว่าถ้ามีคนป่วย 100 คนจะมีคนเสียชีวิต 2-3 คน ซึง่ คนทีม่ โี อกาสเสียชีวติ ก็ไม่ใช่คนทัว่ ไปเป็นคนทีม่ โี อกาสเสีย่ งมากจริงๆ

เช่น ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจ�ำตัว อย่างเช่นโรคปอดเรื้อรัง คนที่ปอดมีความไม่ปกติอยู่แล้วพอได้รับเชื้อเข้าไปก็จะท�ำให้เกิดฝีภายในปอดได้ ท�ำให้การท�ำงานของปอดผิดปกติแล้วมีโอกาสเสียชีวิตได้ ส�ำหรับงานวิจัยที่ผมส่งไปให้ส�ำนักวิจัยแห่งชาติและผ่านการรับรองแล้วว่าให้ท�ำวิจัย ต่อไปได้กค็ อื งานวิจยั เพือ่ สร้างแบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์เพือ่ ดูความเป็นไปได้และเตรียมความพร้อมส�ำหรับการแพร่กระจายของเชือ้ โคโรน่า ไวรัสหรือ COVID-19 ในประเทศไทยว่ามาตรการแบบไหนที่จะคุ้มค่าคุ้มทุนที่สุดที่จะกระจายในประเทศไทยเป็นไปได้แบบไหน ส�ำหรับสิง่ ทีจ่ ะฝากไว้กค็ อื การรณรงค์การป้องกันควบคุมตัวเองในการแพร่กระจายของเชือ้ นี้ เราไม่ตอ้ งตืน่ ตระหนกเพราะเป็นเชือ้ ทีส่ ามารถ ป้ องกันและควบคุมได้ เพราะฉะนัน้ ถ้าเรามีอาการก็เข้ารับการตรวจและการรักษา ป้ องกันการกระจายด้วยการกินร้อนช้อนกลางล้างมือนัน้ เราต้องท�ำเป็นจิตพิสยั อยูแ่ ล้วเพราะไม่ใช่ เพียง COVID-19 เท่านัน้ เรามีโรคอืน่ ๆ อีกส่วนคนทีใ่ กล้ชดิ กับผู ป้ ่ วยอาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอยากให้ ทุกคนเข้าใจว่าโรคนีป้ ้ องกันและควบคุมได้จริงๆ ถ้าเราทุกคนร่วมมือร่วมใจกันต้านมหัตภัย COVID-19

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

11

เรี ยบเรี/ยเรีง ยผศ.ดร.มารุ ภาพ บเรียง นลินตรัตตัน์ง้ วัอ�ฒำ่ ช้นาชุ าง ลีพร

จากวิกฤต

ถึงโอกาส

ธุรกิจ

และการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ไทย การประกาศแสนยานุภาพ COVID-19

Biological disruption

โดย ผศ.ดร.มารุ ต ตัง้ วัฒนาชุ ลีพร คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบู รพา

ผศ.ดร.มารุต ตั้งวัฒนาชุลีพร

คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ในเวลาไม่กปี่ มี านีผ ้ คู้ นล้วนแต่กล่าวถึง Technological and digital disruption ซึ่ง หมายถึงเทคโนโลยีและดิจทิ ลั ทีจ่ ะเปลีย่ น (ป่วน) โลก ซึง่ หากองค์กรใดไม่ปรับเปลีย่ นจะท�ำให้เกิด ความเสียหายถึงขั้นองค์กรพังทลายได้ แต่ ใ นทางกลั บ กั น หากองค์ ก รใด ตื่ น ตั ว และเดิ น หน้ า ปรั บ เปลี่ ย นก็ จ ะท� ำ ให้ องค์ ก รนั้ น มี ค วามเจริ ญ ก้ า วหน้ า อย่ า ง ก้าวกระโดดได้ เช่น การใช้หุ่นยนต์ในภาค อุตสาหกรรมการผลิตแทนการใช้แรงงานมนุษย์ การขายของออนไลน์ดว้ ยดิจติ อล แพลตฟอร์ม ทว่า ณ ตอนนี้ Technology disruption ทีก่ ำ� ลังเขย่าโลก ต้องหลีกทางให้คลืน่ ความเปลีย่ นแปลงทรงพลัง ลูกใหม่ นั่นคือ “Biological disruption” หรือ การเปลี่ ย น (ป่ ว น) โลกด้ ว ยชี ว ภาพที่ วันนี้ขอแสดงแสนยานุภาพ disrupt หมู่มวล เทคโนโลยีอีกทอดหนึ่ง ด้วยมหันตภัยการ

บุกโลก

ระบาดครั้ ง ใหญ่ ข องไวรั ส SARS-CoV-2 ที่ ทุ ก คนรู ้ มั ก เรี ย กกั น ว่ า ไวรั ส COVID-19 แต่ในความเป็นจริง COVID-19 เป็นชื่อโรค โดยไวรัสตัวนีจ้ ะก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบจาก การติดเชือ้ รุนแรงทีพ่ รากชีวติ คนทัว่ โลกไปแล้ว กว่า 8,784 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2563 โดย Johns Hopkins CSSE เวลา 08:53 น.) ตามรายงานทางการแพทย์ โรคนี้มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 2% และ มีอาการรุนแรง 19 % ทั้งนี้ ขึ้นกับประเทศ ที่เกิดการระบาด โดยในจีน อิตาลี อิหร่าน จะมีเปอร์เซ็นต์การตายทีส่ งู กว่าในประเทศอืน่ ๆ ดังนัน้ แสนยานุภาพ ของ การพลิกผัน ทางชีวภาพโดยเชือ้ ไวรัส ทีโ่ ลกก�ำลังเผชิญอยูน่ ี้ มีพลังมหาศาลทีจ่ ะท�ำให้ทกุ องคาพยพในโลก พังทลาย (Collapse) ลงได้ดว้ ยเชือ้ ไวรัสแค่ตวั เดียว

ความท้าทายกับการรับมือ การระบาด COVID-19 ในไทย บทเรียนที่ ‘Biological disruption’ หยิบยื่นให้บทแรก

ห า ก อ ้ า ง อิ ง จ า ก ตั ว เ ล ข ผู ้ ติ ด เชื้ อ ผูป้ ว่ ยทีอ่ ยูร่ ะหว่างการรักษา ผูป้ ว่ ยทีห่ ายป่วยและ กลับบ้านได้ จนถึงผูป้ ว่ ยทีเ่ สียชีวติ ของประเทศไทย ในตอนนี้ มีแถลงการณ์จากทางรัฐบาลไทยยืนยัน ว่าประเทศไทยยังอยูใ่ นสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชือ้ COVID-19 ยังอยูใ่ นระยะที่ 2 และทุกฝ่าย ก�ำลังด�ำเนินการป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้จ�ำนวน ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเข้าสู่ระยะที่ 3 ดังนัน้ สิง่ ทีท่ กุ ฝ่ายให้ความสนใจมากทีส่ ดุ ในตอนนี้ นัน่ ก็คอื การวางแผนรับมือการแพร่ระบาด ของเชือ้ ไวรัสตัวนีใ้ นไทย ถ้าศึกษาจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในจีน ท�ำให้ เรารูว้ า่ การวางแผนรับมือการแพร่ระบาดของโรคนี้

12

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

เรียภาพ บเรียง/ ผศ.ดร.มารุ ต ตัพ ง้ วั​ันฒ ีพร เรียบเรียง พงษ์ ธ์ นาชุ แก้วลมณี

ต้องคาดการณ์จ�ำนวนการป่วยต่อประชากร ทั้ ง หมดว่ า มี กี่ เ ปอร์ เซ็ น ต์ จ� ำ นวนการตาย มีกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากสถิติของประเทศจีน เราจะพบว่า 19% จะมีอาการป่วยจากการ ติดเชื้อไวรัสนี้ มาในบริบทของประเทศไทย เราถึงต้องคาดการณ์ออกมาว่าคนไทยจะติด เชื้อโรค COVID-19 อยู่ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ ผูเ้ ขียนขอน�ำเสนอเหตุการณ์สมมติวา่ ประชากร ไทยตอนนีม้ อี ยู่ 65 ล้านคน โดยประมาณ หาก ที่สุดแล้วเกิดการระบาดอย่างรุนแรงขึ้น แล้ว ปรากฏว่ามีประชากรไทยประมาณ 20% ที่ ติดเชือ้ และในจ�ำนวนผูต้ ดิ เชือ้ จะมีผปู้ ว่ ย 2% ที่จะเสียชีวิต ดั ง นั้ น จ� ำ นวนผู ้ ติ ด เชื้ อ อาจมี ม าก ถึง 13 ล้านคน และผูท้ มี่ อี าการรุนแรงจะมีอยู่ 2.6 ล้านคน จะมีผเู้ สียชีวติ สูงถึง 2.6 แสนคน แต่กอ่ นทีผ่ ปู้ ว่ ยเหล่านีจ้ ะเสียชีวติ พวกเขาต้อง นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วเกิดการ สะสมของคนไข้ ท�ำให้จำ� นวนเตียงในโรงพยาบาล ถูกใช้ไป มาถึงตอนนี้จึงอยากตั้งค�ำถามให้คิด เล่นๆ ว่า เรามีหอ้ งพิเศษ หรือ ห้องความดันลบ (Negative pressure) ส�ำหรับกักตัวผู้ป่วย

โรคติดเชื้อมากแค่ไหน? โรงพยาบาลมีเตียง ที่จะรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเพียงพอ หรื อ ไม่ ? และแม้ ว ่ า ล่ า สุ ด จะมี ข ่ า วดี ว ่ า ทางสถาบันวิทยสิรเิ มธี (VISTEC) คณะแพทยศาสตร์ ศิรริ าชพยาบาล และ บริษทั ปตท. จ�ำกัด (มหาชน) จะจับมือพัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ 2019 ที่สามารถผลิตใช้เองในประเทศ ได้ แต่ก็ยังผลิตออกมาใช้ไม่ได้ในทันที เพราะ ยังอยูใ่ นขัน้ ตอนการวิจยั ดังนัน้ เราจ�ำเป็นต้อง พึง่ พาชุดตรวจทีต่ อ้ งน�ำเข้าจากต่างประเทศอยู่ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อที่ปอด จะส่งผลให้ปอด ท�ำงานได้น้อยมากต้องใช้เครื่องมือทางการ แพทย์ ชือ่ ว่า ECMO (Extracorporeal membrane oxygenation) เครื่องช่วยพยุงการท�ำงานของ หัวใจและปอด ซึ่งเจ้าเครื่องนี้มีเพียงพอหรือ ไม่? นีย่ งั ไม่นบั อุปกรณ์ทางการแพทย์ ทีต่ อ้ งใช้ ช่วยชีวติ ผูป้ ว่ ย และอุปกรณ์ทอ่ ช่วยหายใจ ทีใ่ ช้ เพือ่ ประคับประคองอาการมีเพียงพอหรือไม่? และ ทีส่ ำ� คัญมี “บุคลากรทางการแพทย์” ทุกภาคส่วน มี เ พี ย งพอหรื อ เปล่ า ? ล� ำ พั ง แค่ อุ ป กรณ์ พื้นฐานอย่าง หน้ากากอนามัย ประเทศเรา ยังไม่สามารถจัดหาให้บคุ ลากรทางการแพทย์

และประชาชนได้อย่างเพียงพอเลย อย่างไร ก็ดี ถึงตอนนี้ จึงขอย�้ำอย่างที่เกริ่นตั้งแต่ ช่วงต้นว่า นีเ่ ป็นแค่การคาดการณ์วา่ ถ้าสถานการณ์ การระบาดของ COVID-19 พัฒนาไปถึง ระยะทีร่ ะบาดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุม ได้ ค�ำถามทีห่ ยิบยกมานี้ สมควรเป็นค�ำถามที่ ทุกฝ่ายทีเ่ กีย่ วข้องกับการป้องกันและควบคุม การแพร่ระบาดของโรคนี้ ควรคิดและหาค�ำตอบ ให้ได้มากที่สุดตั้งแต่ตอนนี้ ขณะเดียวกัน ประชาชนทุกคนต้องให้ ความร่วมมือกับมาตรการของภาครัฐ และปฏิบตั ิ ตามข้อแนะน�ำในการป้องกันและดูแลตัวเองให้ ปลอดภัยจากโรค COVID-19 ถ้ามีอาการต้องสงสัย ว่าติดเชือ้ ควรกักตัวเองตามมาตรการและขัน้ ตอน ทางการแพทย์ อย่างน้อย 14 วัน ปฏิบตั ติ ามหลัก Social Distancing คือ การรักษาระยะห่างทาง สังคม และถ้ายังไม่ดขี นึ้ ควรรีบไปพบแพทย์เพือ่ รักษาให้เร็วทีส่ ดุ นัน่ เองหากท�ำได้ ไม่ใช่แค่ตวั คุณ และครอบครัวที่จะรอด แต่ประเทศชาติของ เราจะรอดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ไป ด้วยกันได้อย่างแน่นอน

ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ ธุรกิจ มากๆ เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อหากเดินทาง และจะเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมทีจ่ ะเติบโต การแพทย์ รอเติบโตจากการแพร่ระบาด มาท่องเทีย่ ว หน�ำซ�ำ้ คนไทยด้วยกันเองก็ไม่ ได้อย่างก้าวกระโดดเพราะวิกฤตการระบาด อยากเดินทางไปเทีย่ วทีไ่ หนด้วยเหตุผลเดียวกัน ของโรค COVID-19 นีเ้ องและสืบเนือ่ งมาจาก COVID-19

นอกจากมิติความท้าทายด้านการ สาธารณสุขแล้ว ยังมีอกี หลายมิตทิ เี่ หตุการณ์ “Biological disruption” ในครั้งนี้ส่งผล เช่น มิตดิ า้ นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ประเทศที่ พึง่ พิงรายได้จากกการท่องเทีย่ ว เช่น ประเทศไทย อิตาลี เป็นต้น ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่าเหมือนผู้ป่วยที่อยู่ ในห้อง ICU จากพิษของโรค COVID-19 ไปเรียบร้อยแล้ว นักท่องเทีย่ วทีเ่ มืองท่องเทีย่ ว อย่าง พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ บางตา

คือกลัวติดเชือ้ แต่ความจริงทีว่ า่ ในวิกฤตก็มี โอกาสเสมอ ธุรกิจทีจ่ ะเกิดขึน้ มาและสามารถ แก้ปัญหาการระบาดของโรคได้ คือ ธุรกิจ การผลิตชุดตรวจโรค ยารักษาโรค อุปกรณ์ ทางการแพทย์และธุรกิจทีม่ แี นวโน้มจะขยายตัว และเติบโตอย่างมาก คือ การผลิตวัคซีนหรือ ยา เชือ่ ว่าจะมีมลู ค่ามากขึน้ มหาศาล เพราะ ถ้าเราผลิตวัคซีนหรือยาใช้เองในประเทศได้ ก็เท่ากับว่า ประเทศชาติจะช่วยประหยัด งบประมาณที่ใช้ไปกับการสั่งซื้อวัคซีนหรือ ยาจากต่างชาติได้มากโขทีเดียวในแต่ละปี ต่อมาถ้าวัคซีนหรือยาทีผ่ ลิตโดยประเทศไทย มีคณ ุ ภาพ มีมาตรฐานเป็นทีย่ อมรับของสากล โลก เราก็ผลิตและส่งขายไปทัว่ โลกได้ โดยจะ มีฐานลูกค้าทัว่ โลกเป็นประชากรโลกมี 7,000 ล้านคน ทีต่ อ้ งการวัคซีนหรือยาเพือ่ ป้องกัน การเกิดโรคหรือรักษาโรค สรุปแล้วมูลค่า ของอุตสาหกรรมกลุม่ นีจ้ งึ ประเมินมูลค่าไม่ได้

วิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นี้เอง ท�ำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ขอนิยามว่า เปลี่ยนความเชื่อและพฤติกรรมคนทั่วโลก โดยเฉพาะคนในโลกตะวันตกไปเลยนั่นคือ ก่อนที่เชื้อไวรัสนี้จะระบาด ชาวตะวันตก มีความเชือ่ ว่า “คนทีใ่ ส่หน้ากากอนามัย คือ คนทีก่ ำ� ลังเป็นโรค” ดังนัน้ ในสังคมยุโรป เมือ่ เรา ใส่หน้ากากอนามัย ก็จะถูกมองว่าเป็นคน ผิดปกติทันทีด้วยนิสัยและความคิดแบบนี้ จึงส่งผลให้ ประเทศอิตาลี เยอรมันนี ฝรัง่ เศส สเปน เกิดการระบาดของโรค COVID-19 อย่าง รวดเร็ว เพราะประชากรส่วนหนึง่ ไม่ปอ้ งกัน ตนเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยกอปรกับ ด้วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 นี้ มีระยะ ฟักตัวค่อนข้างนาน หลายคนติดเชื้อแล้ว ไม่แสดงอาการแต่เขาเหล่านีส้ ามารถแพร่เชือ้ ได้

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

13

เรียบเรียง ผศ.ดร.มารุ ต ตัง้ วัฒนาชุ ลีพร

เมือ่ พวกเขาไม่ปอ้ งกันตัวเอง เชือ้ จึงแพร่ กระจายไปได้เร็วมากขณะที่ คนทางโลกตะวันออก มีความเชือ่ อีกแบบหนึง่ ทีจ่ ะสวมใส่หน้ากาก อนามั ย โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ ป้ อ งกั น การแพร่ เชื้ อ จากผู ้ อื่ น ที่ เราไม่ รู ้ ว ่ า มี ใ คร ติดเชื้อบ้าง ดังนั้น เพราะวิกฤต COVID-19 นีเ้ อง ทีจ่ ะท�ำให้อตุ สาหกรรมการผลิตหน้ากาก อนามัย ขยายตัวไปทัว่ โลก เพราะพฤติกรรม คนตะวันตกจะเปลีย่ น มาเรียนรูว้ ธิ ใี ช้หน้ากาก อนามัยของชาวโลกตะวันออก ถอดบทเรียน

จากชาวเอเชีย ทีใ่ ส่หน้ากากอนามัยเพือ่ ป้องกัน การแพร่เชื้อจากคนในสังคมมากขึ้น ต่ อ มาคื อ วั ฒ นธรรมการใช้ เจล แอลกอฮอล์ ที่ผู้คนจะหันมาปรับเปลี่ยน พฤติกรรม ดูแลสุขอนามัยของตนเองด้วย การใช้เจลแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อในมือกัน มากขึ้น ธุรกิจผลิตเจลแอลกอฮอล์ก็จะได้ อานิสงส์จากวิกฤตนีเ้ ช่นกัน และถ้าวิเคราะห์ ไปถึงสินค้าทีป่ ระเทศไทยผลิตมากอีกประเภทหนึง่ โดยเฉพาะเพื่อส่งออก นั่นคืออุตสาหกรรม

น�้ำตาล โดยผลิตติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก และสิง่ ทีเ่ หลือทิง้ จากการผลิตน�ำ้ ตาลทีเ่ รียก ว่าโมลาส หรือ กากน�้ำตาล สามารถน�ำมา ใช้ท�ำเป็นแอลกอฮอล์ได้โดยไม่ใช่แค่ท�ำเป็น แอลกอฮอล์สง่ ออกเพียงอย่างเดียว แต่สามารถ ต่อยอดท�ำเป็นเจลแอลกอฮอล์สูตรพิเศษ ใส่สมุนไพรทีม่ สี รรพคุณฆ่าเชือ้ โรค มีกลิน่ หอม ตรงนี้ก็เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือ Value added ได้เช่นกัน

เหรียญสองด้าน ของ Biological ง่ายๆ คือการเรียนเกีย่ วกับวิทยาศาสตร์การ สามารถลดปริมาณผูต้ ดิ เชือ้ ป้องกันการระบาด แพทย์ หลักสูตรกายภาพบ�ำบัด หลักสูตรเทคนิค ในวงกว้างได้ดว้ ย disruption กับภาคการศึกษา

ในฐานะทีเ่ ป็นคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา บอกได้เลยว่า Biological disruption ครั้ ง นี้ ไ ด้ ส ่ ง ผลอย่ า งมากกั บ ภาคการศึกษา เรียกได้วา่ เป็นการปฏิวตั ทิ างการ ศึกษากันเลยทีเดียว ทัง้ ในแง่รปู แบบ วิธกี าร สอน โดยเฉพาะหลักสูตรการเรียนการสอน ในมหาวิทยาลัย ส�ำหรับมหาวิทยาลัยบูรพาเอง ในการ สอนคอร์สซัมเมอร์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ต้องเป็นการสอนในคอร์สออนไลน์ เท่านัน้ ท�ำให้คณาจารย์ทไี่ ม่คดิ จะท�ำการสอน แบบออนไลน์ ต้องปฏิวัติตัวเองเพื่อท�ำการ สอนแบบออนไลน์ให้ได้ หากอาจารย์ทา่ นใด ไม่คิดจะท�ำการสอนแบบออนไลน์ อาจารย์ ท่านนั้นจะไม่มีงานสอน และในท้ายที่สุด จะหมดอนาคตในสายอาชี พ อาจารย์ การพัฒนาบุคลากรการแพทย์ไทยนอกเหนือ จากนั้ น ในมุ ม ของการเรี ย นในศาสตร์ ด้านสหเวชศาสตร์นั้น ก็จะได้รับผลจากการ เกิดวิกฤต COVID-19 ด้วย ในแง่ที่ต่อไปจะ มีความต้องการบุคลากรด้านนี้เพิ่มขึ้นอีก จากเดิมทีบ่ คุ ลากรด้านนีก้ ม็ คี วามต้องการมาก อยูแ่ ล้วทีค่ ณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดสอนในหลักสูตรชีวเวชศาสตร์ หรือพูด

ก า ร แ พ ท ย ์ ห ลั ก สู ต ร โ ภ ช น บ� ำ บั ด หลั ก สู ต รพยาธิ วิ ท ยากายวิ ภ าค และ หลักสูตรใหม่ล่าสุดที่จะเปิดในปี 2563 คือ หลักสูตรรังสีเทคนิค จาก 6 หลักสูตรนี้ หลักสูตรที่เกี่ยวข้องและมีความต้องการสูง จากวิกฤตการระบาดของโรค COVID-19 คือ เทคนิคการแพทย์ เพราะนักเทคนิคการแพทย์ จะต้องเป็นผู้วินิจฉัย ว่าผู้ที่มาตรวจนั้นติด เชือ้ หรือไม่ตดิ เชือ้ ด้วยวิธใี นห้องปฏิบตั กิ าร โดยนักเทคนิคการแพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์การ แพทย์เหล่านี้ จะต้องมีทกั ษะในด้าน Molecular Technique หรือ อณูชวี วิทยา เพิม่ ขึน้ มาด้วย ต่อมา คือ บุคลากรจากสาขาวิชารังสี เทคนิค จากกรณีที่ “หมอแล็บแพนด้า” บล็อก เกอร์ชื่อดัง โพสต์ขอความช่วยเหลือมาว่า “นักรังสีเทคนิค” ของสถาบันบ�ำราศนราดูร มีความขาดแคลน ต้องการนักรังสีเทคนิค เพิ่ ม เพื่ อ มาปฏิ บั ติ ง านในช่ ว งที่ เ กิ ด วิ ก ฤต โรค COVID-19 ระบาด นี้ ด้ ว ยเหตุ นี้ ผู ้ ที่ เ รี ย นจบมาใน สาขารังสีเทคนิค จึงเป็นทีต่ อ้ งการมากแน่นอน ในอนาคต และนีร่ วมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีทักษะในวิชาชีพต่างๆ ที่จ�ำเป็นต่อการ ป้องกัน ตรวจ และรักษา ซึ่งถ้าในอนาคต เราสามารถมีบคุ ลากรเหล่านีเ้ พียงพอ ก็ยอ่ ม

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มจ�ำนวนนักศึกษา ทีส่ นใจสมัครเข้าเรียนใน คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา ก็ มี ผู ้ ส มั ค รมาเรี ย นตามจ� ำ นวนที่ ก� ำ หนด

ไว้ทุกครั้งในการเปิดรับสมัครในรอบปกติ โดยไม่ต้องเปิดรับในรอบพิเศษเลย บทความนีข้ องผูเ้ ขียนต้องการสือ่ สาร ว่า “Biological disruption” หรือการพลิกผัน ความเปลีย่ นแปลง ด้านชีวภาพ ทีถ่ กู พูดถึงกัน ไม่มาก แต่ผลกระทบของการดิสรัปนี้ท�ำให้ เกิดการ collapse ไปทั้งโลก และส่งผลถึง Technological and digital disruption ด้วย ดังนัน้ ถึงเวลาแล้วทีจ่ ะบวก “Biological disruption” เป็นอีกหนึ่งดิสรัปชันแล้วพลิก วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสของประเทศไทย และ เพือ่ รับมือกับวายร้ายตัวใหม่ทอี่ าจจะเกิดขึน้ ในอนาคต

ที่มา: https://www.salika.co/2020/03/21 /biological-disruption-covid-19/

14

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

มหาวิทยาลัยบูรพา

เข้าร่วม โครงการประชุม

Kick-off Meeting ้ ารภายใต

ตามความร่วมมือทางวิชาก

STEPup n o ti a c u d E r e h ig H in acity Building

Erasmus+ Cap

Project

ณรัฐออสเตรีย าร าธ ส M U E N N A JO H F ณ ีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ม ๗ ่ ี ท น วั ง ึ ถ ์ ธ น ั าพ ภ ม ุ ก ระหว่างวันที่ ๒๙

รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิ ก ารบดี ม หาวิ ท ยาลั ย บู ร พา และผู ้ ช่ วย ศาสตราจารย์ ดร.ศัก ดิ์ ชัย เศรษฐ์อ นวั ช รองอธิการบดีฝ่ายบริหารยุ ทธศาสตร์และวางแผน พัฒนา ได้รบั เชิญไปปฏิบตั งิ านเพือ่ เข้าร่วมประชุ ม Kick-off Meeting โครงการ Strengthening innovative social entrepreneurship practices for disruptive business setting in Thailand and Myanmar (STEPup Project) ณ FH JOANNEUM University of Applied Sciences สาธารณรัฐ ออสเตรีย ด้วยทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ภายใต้โครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง ประเทศ Erasmus+ Capacity Building in Higher Education เพือ่ ร่วมน�ำเสนอข้อมูลและยุทธศาสตร์

ของมหาวิทยาลัย ตลอดจนบทบาทของมหาวิทยาลัย ในฐานะสถาบันสมาชิกโครงการและสถาบันหลัก ในการด�ำเนินการขยายผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ทั้งนี้ โครงการ STEPup มีสถาบันการ ศึกษาทีเ่ ป็นสมาชิกจากทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ดังนี้ FH JOANNEUM University of Applied Sciences สาธารณรัฐออสเตรีย Cracow University of Economics สาธารณรัฐโปแลนด์ Breda University of Applied Sciences ราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ โดยมีมหาวิทยาลัยจากประเทศไทย เข้าร่วม ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม มหาวิทยาลัยพายัพ และมหาวิทยาลัย

สงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยจากสาธารณรัฐ แห่งสหภาพพม่า ได้แก่ Mandalay University และ National Management Degree College ร่วมกับองค์กรธุรกิจและหน่วยงานสนับสนุนด้านการ พัฒนาธุรกิจเพือ่ สังคมจากประเทศไทย มีกำ� หนด ระยะเวลาด�ำเนินกิจกรรมโครงการไม่น้อยกว่า ๓ ปี เพือ่ ร่วมพัฒนาและสร้างขีดความสามารถของ ผูป้ ระกอบการและธุรกิจเพือ่ สังคมในประเทศไทยและ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ตลอดจนการส่งเสริม มหาวิทยาลัยบูรพาในฐานะสถาบันอุดมศึกษา สมาชิ ก เป็ น ศู น ย์ ก ลางองค์ ค วามรู ้ ด ้ า นธุ ร กิ จ เพือ่ สังคม Social Entrepreneurship Knowledge Hubs (SEKHs)

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

15

บทความ www.salika.co

‘ผศ.ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล’ ชี้การท�ำงานแบบ “เคียงบ่าเคียงไหล่” หัวใจของ การขับคลื่อน

By PraornpitKatchwattana

“ความท้าทายของการท�ำงานของ EEC HDC หรือ คณะท�ำงานประสานงานด้าน การพัฒนาบุ คลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในตอนนี้ อยู ่ท่ีการเตรียมการ เดินไปสู่ Milestone หรือเป้ าหมายข้างหน้า เพราะหลังจากวิกฤตการระบาดของเชื้อ โควิด-๑๙ ผ่านพ้นไป บรรยากาศของการลงทุนก็จะกลับเข้ามา เศรษฐกิจจะฟื้ นตัว และ ความจ�ำเป็นต้องใช้บุคลากรจะเกิดขึน้ อีกอย่างแน่นอน ค�ำถามจึงตีกลับมาที่ “ตอนนีเ้ ราได้ เตรียมก�ำลังคนไว้รองรับความต้องการในอนาคตนีแ้ ล้วหรือยัง?” ผศ.ดร.ณยศ คุรุกจิ โกศล หนึ่งในคณาจารย์ท่เี ป็นก�ำลังหลักของ คณะท�ำงาน EEC HDC ให้สัมภาษณ์ไว้ชดั เจนใน ประเด็นภารกิจเร่งด่วน ที่ต้องท�ำควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ ระดับประเทศ นัน่ คือการพัฒนาก�ำลังคน นัน่ เอง

ผศ.ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล

เพราะเส้นทางแห่งการขับเคลื่อนด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรตอบสนอง ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย จ�ำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นผลในระยะยาวและด้วยหมวกอีกสองใบที่ ผศ.ดร.ณยศ คุรุกิจโกศล สวมอยู่ นั่นคือ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา ท�ำให้ อาจารย์ณยศ สะท้อนมุมมอง ในฐานะบุคลากรการศึกษาทีอ่ ยากเห็นความเปลีย่ นแปลงไปในทิศทางทีค่ วรเป็นได้อย่างตรงเป้า มีหน้าที่จัดหลักสูตรร่วมกันกับผู้ประกอบการหรือผู้ที่จะใช้บัณฑิต โดย จะร่วมกันทั้งในส่วนของการลงทุน การสนับสนุน การให้ยืมใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ในภาคอุตสาหกรรมส�ำหรับท�ำการเรียนการสอน ไปจนถึงการรับ ผู้ฝึกงานไปท�ำงานภายหลังจากที่จบการศึกษาตอนนี้มีการด�ำเนินการปรับ หลักสูตรตามหลัก EEC Model Type A อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน สถานศึกษาหลายแห่งก็พยายามทีจ่ ะพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับโมเดลนี้ มากขึน้ และได้ปรับตัวให้มคี วามใกล้ชดิ กับผูป้ ระกอบการมากขึน้ ด้วยการดึงผู้ ประกอบการเข้ามามีสว่ นร่วมในกิจกรรมของการด�ำเนินงานเกีย่ วกับหลักสูตร ต่างๆ ที่เปิดสอนมากขึ้น ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นส่วนของการด�ำเนินการใน ระยะยาว ที่ทาง EEC HDC ให้ความส�ำคัญมากมาโดยตลอด

อัปเดตภารกิจหลัก และภารกิจล่าสุดที่ประสบความส�ำเร็จ ด้วยการขับเคลื่อนของ คณะท�ำงาน EEC HDC ในฐานะหนึ่งในคณะท�ำงาน EEC HDC อาจารย์ณยศ ย�้ำว่าภารกิจ ส�ำคัญที่สุดของ EEC HDC ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของการวางแผนพัฒนา ก�ำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการทัง้ ในปัจจุบนั และในอนาคตของอีอซี ี เพือ่ รองรับการลงทุนทีจ่ ะเข้ามาใหม่ และสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและการ ลงทุนที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน “หลักการในการพัฒนาก�ำลังคนที่ทาง EEC HDC ยึดมั่นมาตลอด คือ การใช้หลัก Demand Driven หรือการที่เราเปิดรับฟังจากบุคคลที่มีส่วน ได้ส่วนเสีย อันได้แก่ ผู้ประกอบการ เป็นส�ำคัญ ดังนั้น การท�ำงาน ของคณะท�ำงาน EEC HDC จึงไปที่ภารกิจหลัก คือ” หนึ่ง การพัฒนาหลักสูตรตามรูปแบบของ EEC Model Type A ซึ่ งจะตอบสนองความต้องการของผู ้ประกอบการจริงๆ โดยสถานศึกษา

16

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

สอง การพัฒนาก�ำลังคน เป็นอีกส่วนทีม่ คี วามจ�ำเป็นเร่งด่วน ซึ่ง วิธกี ารที่ใช้ คือ การจัดหลักสูตรระยะสัน้ ตรงนีท้ าง EEC HDC ก็มมี าตรการ อยู่หลายด้าน เพื่อเสริมเรื่องการพัฒนาก�ำลังคนด้วยหลักสูตรระยะสั้น โดย ในภารกิจนี้ หมายรวมทั้งการน�ำเอาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมที่มีอยู่แต่ เดิม มาผ่านกระบวนการ Reskill คือการพัฒนาทักษะ ความรู้ ให้สอดคล้อง กับความต้องการใหม่ หรือแม้แต่การน�ำนิสิต นักศึกษา ชั้นปีสุดท้าย ที่ก�ำลัง ส�ำเร็จการศึกษาและได้ออกไปท�ำงานในภาคอุตสาหกรรม มาเติมเต็ม หรือ เรียนรู้ในทักษะความรู้เพิ่มเติม ที่อาจจะไม่ได้ระบุอยู่ในหลักสูตรของเดิม ใน รูปแบบของการ Upskill เพื่อให้พวกเขามีทักษะที่ตรงและตอบโจทย์ของภาค อุตสาหกรรมสมัยใหม่ “และในปี นี้ จะเป็นปี งบประมาณแรก ที่ทางอีอีซี จะได้จัดสรร งบประมาณไว้บางส่วนแล้ว เพื่อที่จะร่วมมือ และร่วมจ่ายกับภาคเอกชน ในการพัฒนาก�ำลังคนด้วยหลักสูตรระยะสัน้ เร่งด่วนนี้ โดยเราเรียกว่า มาตรการ ๕๐ : ๕๐ เพื่อจะสร้างหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากอีอีซี

บทความ www.salika.co

ว่ า เป็ น หลั ก สู ต รที่ พั ฒ นาก� ำ ลั ง คนได้ ต รงกั บ ความต้ อ งการของ ภาคอุ ตสาหกรรม” “ทัง้ นี้ ถ้าท�ำได้ ทางอีอีซีก็จะมีการอุ ดหนุน ในรูปแบบของการ Subsidy ค่าใช้ จา่ ยที่ใช้ ในหลักสูตรไม่เกินร้อยละ ๕๐ โดยขอความร่วมมือ จากภาคเอกชนให้ร่วมจ่ายด้วยในหลักสูตรอบรมฯนี้ ร้อยละ ๕๐” “ขณะเดียวกัน ในตอนนีเ้ ราก็ทำ� งานกับกรมสรรพากร เพือ่ จะออก มาตรการยกเว้นภาษีรษั ฎากร หรือว่าการยกเว้นภาษีให้กบั ภาคเอกชนที่ จ่ายเงินเข้ามาส�ำหรับการพัฒนาก�ำลังคนในลักษณะนีด้ ้วย” และ อาจารย์ณยศ ยังได้บอกถึงกลไกส�ำคัญ ที่ใช้ในการรับรอง หลักสูตรของอีอีซี ว่าแรกเริ่มสถานศึกษาต้องเป็นคนไปด�ำเนินการร่วมกับ ผูป้ ระกอบการ เพือ่ ให้ได้มาซึง่ หลักสูตรทีต่ รงตามความต้องการของผูป้ ระกอบการ เสร็จแล้วก็น�ำหลักสูตรนี้มาน�ำเสนอให้กับ EEC HDC พิจารณา โดยจะใช้ หลักเกณฑ์ต่อไปนี้ หนึง่ ต้องเป็นหลักสูตรทีต่ รงตามความต้องการของอุ ตสาหกรรม เป้ าหมาย 10+2 S curves โดยทางอีอซี จี ะได้เชิญทัง้ สถานศึกษาและสถาน ประกอบการ ที่ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร มาสัมภาษณ์อย่างเข้มข้น เพื่อให้ ทางภาคอุตสาหกรรมได้แสดงเจตจ�ำนง แสดงเจตนา ออกมาชัดเจนว่ามี ความตั้งใจที่จะด�ำเนินงานร่วมกันกับสถานศึกษานั้นจริงๆ และในอีกทาง หนึ่ง หลักสูตรนั้นต้องเป็นหลักสูตรที่ภาคเอกชนมีความต้องการจริงๆก่อน สอง ทางภาคเอกชนเอง ยินดีท่จี ะร่วมรับผิดชอบค่าใช้ จ่ายของ หลักสูตรไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ทาง EEC HDC ถึงจะพิจารณารับรอง หลักสูตรนี้ให้ สาม ทางสถานประกอบการต้องท�ำสัญญากับสถานศึกษาว่าภาย หลังจากที่ผูเ้ รียนส�ำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนีแ้ ล้ว โดยสถานประกอบ การจะต้องรับนักศึกษาเหล่านั้นเข้าไปท�ำงานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี “เพราะฉะนั น้ โดยหลั ก แล้ ว หลั ก สู ต รที่ จ ะผ่ า นการรั บ รอง จะต้องตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุ ตสาหกรรมอย่างแท้จริง ซึ่งใน ปั จจุ บันได้มีการประชุ มคณะกรรมการพิจารณาหลักสูตรไปแล้ว ๒ ครัง้ ” “ในขั้นแรก อย่างรายงานข่าวล่าสุดที่ได้ประกาศรับรองหลักสูตร ระยะสั้นชุดแรก 18 หลักสูตร เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา และเมื่อ หลักสูตรผ่านการรับรองแล้ว ทางอีอซี กี จ็ ะส่งลิสต์รายชือ่ หลักสูตรนี้ พร้อมทัง้ Code ID ของแต่ละหลักสูตรให้กบั หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง อย่าง กรมสรรพากร และทาง BOI หรือ ส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้ทราบ ด้ ว ย เพื่ อ จะได้ น� ำ ไปสร้ า งฐานข้ อ มู ล ส� ำ หรั บ หั ก ลดหย่ อ นภาษี ห รื อ สิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้ต่อไป” สรุปแล้วด้วยมาตรการที่กล่าวมานี้ อาจารย์ณยศยืนยันว่าจะ สามารถตอบโจทย์ความต้องการก�ำลังคนอย่างเร่งด่วนของผูป้ ระกอบการได้ เพราะสามารถเสริมทักษะหรือความรู้ใหม่ให้กับบุคลากรได้ในเวลาจ�ำกัด

รูปแบบการท�ำงานในแบบ คณะท�ำงานฯ จับมือสถานศึกษา ทุกระดับ มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างบุคลากรคุณภาพได้จริง ในปัจจุบัน คณะท�ำงาน EEC HDC มีศูนย์บัญชาการ หรือ office อยู่ที่ มหาวิทยาลัยบูรพา และในการท�ำงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ใน การผลิตและพัฒนาบุคลากรนั้น อาจารย์ณยศ ชี้แจงว่าที่ผ่านมาได้มีผู้ทรง คุณวุฒิจากทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาของคณะท�ำงานฯในแต่ละ อุตสาหกรรมเป้าหมายด้วย ประกอบด้วย 1. ผู ้ เชี่ ย วชาญช� ำ นาญงานด้ า นจากภาคอุ ต สาหกรรม เป็ น ผู้ประกอบการตัวจริง 2. ผู้แทนจากสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในแต่ละภาคอุตสาหกรรม เป็นผู้ที่คร�่ำหวอดอยู่ในวงการและรู้จริงในเรื่องนั้นๆ 3. นักวิชาการ ซึง่ ก็คอื คณาจารย์จากมหาวิทยาลัย หรือจากวิทยาลัย เทคนิค ภาคอาชีวศึกษาต่างๆ เข้ามาร่วมด้วย “ที่ผ่านมา การท�ำงานของ คณะท�ำงาน EEC HDC ไม่ได้ มี ก ารประชุ มเป็ น วาระที่ ก� ำ หนดแน่ น อนตายตั ว แต่ จ ะจั ด ประชุ มเป็ น Agenda base แต่ถ้ามีประเด็นที่เราต้องรีบจัดประชุ มขึน้ มา ทางประธาน คณะท�ำงาน EEC HDC ก็จะเป็นผู ้ประกาศเรียกประชุ มคณะท�ำงานฯ” “ด้วยวิธีนี้ ในมุ มมองส่วนตัวของผม ดีกว่าการประชุ มเป็น วาระที่กำ� หนดขึน้ มาแบบตายตัวเสียอีก เพราะพอมีประเด็นเร่งด่วนอะไร คณะท�ำงานฯ ก็พร้อมทีจ่ ะระดมสมอง พิจารณาหามาตรการตอบสนองประเด็น ที่เกิดขึน้ นัน้ ในทันที โดยเรามีคณะท�ำงานขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนา ่ า่ นมาในแต่ละกลุม่ ก็มกี ารท�ำงานกันอย่าง ก�ำลังคนในแต่ละ S-curve ซึ่งทีผ ใกล้ชิด ด้วยการติดต่อกันผ่านสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียเป็นหลัก จึง มีความแอคทีฟกันตลอดเวลา”

อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่

https://www.salika.co/2020/03/26/ dr-nayot-kurukitkosol-bu-eechdc/

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

17

ภาพ / เรียบเรียง ผศ.ดร.รชนิ นลินรัตน์ อ�มำ่ ุ ช้ขาหิง รัญสัจจาเลิศ

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรีและวิทยาเขตสระแก้ว l ร่วมหารือกับ l

บริษัท Betagro Group และบริษัท Bangkok Airways เมื่อวันที่ ๒๑ และ วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ผศ. ดร.วศิ น ยุ วนะเตมีย์ ผู ้รักษาการแทนรองอธิการบดี ฝ่ ายวิทยาเขตจันทบุ รี และผู ้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รชนิมุข หิรญ ั สัจจาเลิศ ผู ช้ ่ วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนามาตรฐานการวิจยั พร้อมด้วยคณะผู บ้ ริหารมหาวิทยาลัยบู รพา วิทยาเขตจันทบุ รี และวิทยาเขตสระแก้ว ร่วมประชุ มและลงพืน้ ที่ชุมชนบางสระเก้า กับคุณวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ และทีมงานจาก Betagro group และได้ มี โ อกาสร่ ว มหารื อ กั บ บริ ษั ท Bangkok Airways ณ สนามบินตราดและลงพืน้ ที่เลีย้ งหอยนางรมร่วมกัน น�ำไปสู่ การใช้งานวิจัยและบริการวิชาการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ ในลักษณะ Holistic Area-based Community Development หรือการพัฒนา เชิงพื้นที่แบบองค์รวม และได้รับข้อเสนอแนะที่ส�ำคัญในการ ปรับเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ในปัจจุบนั และจะน�ำไปสูก่ ารหารือแนวทางในการปรับปรุงการเรียน การสอนเป็น Cooperative and Work Integrated Education (CWIE) ในเร็วๆ นี้ต่อไป

18

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

ภาพ / เรียบเรียง พงษ์พันธ์ แก้วมณี

และ มหาวิทยาลัยบูรพาร่วมประชุมหารือ

เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพิจารณาจัดท�ำหลักสูตรด้านอุตสาหกรรมการบิน

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ณ บริษัท ไทยไฟล์ทเทรนนิ่ง จ�ำกัด อาคาร ๕ ชั้น ๔ บริษัท การบินไทย จ�ำกัด (มหาชน) ส�ำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร รศ.ดร.สุกัญญา บูรณเดชาชัย รองอธิการบดีฝา่ ยอ�ำนวยการและสื่อสารองค์กร และ ผศ.ดร.ศักดิช์ ยั เศรษฐ์อนวัช รองอธิการบดีฝา่ ยบริหารยุทธศาสตร์ และวางแผนพัฒนา ร่วมประชุมหารือเพื่อศึกษาความเป็นไป ได้ในการพิจารณา จัดท�ำหลักสูตรด้านอุตสาหกรรมการบิน โดย บริษัท ไทยไฟล์ทเทรนนิ่ง จ�ำกัด ด�ำเนินการภายใต้การ ก�ำกับของบริษทั การบินไทย จ�ำกัด (มหาชน) และเป็นบริษทั ที่ถือใบอนุญาต Approved Training Organizations (ATO) ของส�ำนักงานการบินพลเรือน แห่งประเทศไทย (The Civil Aviation Authority of Thailand: CAAT) ทีไ่ ด้จดั ท�ำร่างหลักสูตร ด้านอุตสาหกรรมการบินร่วมกับสถาบันการศึกษาตามเกณฑ์ มาตรฐานหลักสูตรปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ ของ ประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งบริษัท ไทยไฟล์ทเทรนนิ่ง จ�ำกัด ได้พจิ ารณาเล็งเห็นถึงศักยภาพ ด้านองค์ความรูแ้ ละบุคลากร ของมหาวิทยาลัยบูรพา จึงได้มกี ารร่วมประชุมหารือดังกล่าว

สารมหาวิทยาลัยบูรพา เมษายน ๒๕๖๓

19

สารอธิการบดี

เรียนนิสิต ผู้ปกครอง และบุคลากรของมหาวิทยาลัยบูรพาทุกท่าน ตามที่เรา ก�ำลังเผชิญสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 นัน้ ขอเรียนให้ทกุ ท่านทราบว่า มหาวิทยาลัยบูรพาได้ตดิ ตามสถานการณ์อย่างใกล้ชดิ และได้กำ� หนดมาตรการส�ำหรับ การป้องกันนิสติ และบุคลากร จากการแพร่ระบาด อย่างดีทสี่ ดุ ในขณะทีย่ งั คงด�ำเนินการ ตามหน้าทีไ่ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ นิสติ ยังคงเรียนและสอบตามทีก่ ำ� หนดไว้ แต่เปลีย่ น เป็นระบบออนไลน์ ๑๐๐% บุคลากรใช้ระบบท�ำงานทีบ่ า้ นและการเหลือ่ มเวลาท�ำงาน ขอให้ทกุ ท่านมัน่ ใจว่า มหาวิทยาลัยบูรพาค�ำนึงถึงความปลอดภัยของนิสติ และบุคลากร เป็นส�ำคัญ และมุง่ มัน่ ทีจ่ ะฝ่าวิกฤตครัง้ นี้ พร้อมกับการพัฒนา มหาวิทยาลัยให้กา้ วเดิน ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขอให้ทุกท่านให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำ และ มาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

“เราจะสู้ไปด้วยกัน” Dear Students, Parents, and Staff members of Burapha University, We are fighting the unpredictable spread of COVID-19. The University extremely concerns and issues the protective measures thoughtfully while we can fully operate. All final examination scheduled is now 100% delivered online, staff members work partially from home. We do our utmost to protect the health and the security of our community. BUU will emerge a stronger and more resilient organization.

We are calling all part of our individual and collective effort to strictly follow the University guidelines.

TOGETHER, WE WIN รองศาสตราจาย์วัชรินทร์ กาสลัก ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา

ที่ปรึกษา : รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา รองศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญา บูรณเดชาชัย รองอธิการบดีฝ่ายอำ�นวยการและสื่อสารองค์กร บรรณาธิการ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรกริศน์ บัวแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายอำ�นวยการและสื่อสารองค์กร ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นางภรนิษฐ์ อธิชจีราวัชร์ นักประชาสัมพันธ์ชำ�นาญการพิเศษ นางสาวตราจิตต์ เมืองคล้าย เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปปฏิบัติการ บรรณาธิการประจำ�ฉบับ : นายพงษ์พันธ์ แก้วมณี นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ กองบรรณาธิการ : นายไวทิน จิตมั่น นางนลิน​รัต​น อ่ำ�ช้าง นายพงษ์พันธ์ แก้วมณี นางพิมกานติ์ดา แนบเชย นางสาวตราจิตต์ เมืองคล้าย นางกนกนิภา ดำ�รงศักดิ์ นายสมบัติ นุชประเสริฐ นางสุพิศ อบมลี นางสาวสุภาวดี จันทร์โสม นางสาววรรณณิศา มากจันทร์ นายธีร ชัยสุทธิ นางสาวปรารถนา ประวัติ นางสาวณัฐพร อั้วนา นิสิตฝึกงาน ภาควิชานวัตกรรมและเทคโนโลยี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำ�โดย : ฝ่ายอำ�นวยการและสื่อสารองค์กร งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยบูรพา เลขที่ ๑๖๙ ถ.ลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ๒๐๑๓๑ โทร ๐ ๓๘๑๐ ๒๑๒๐-๓ โทรสาร ๐ ๓๘๓๙ ๐๓๕๓ www.buu.ac.th ออกแบบและพิมพ์ : บริษัท เก็ทกู๊ดครีเอชั่น จำ�กัด โทร. ๐ ๓๘๔๔ ๓๒๐๒ โทรสาร ๐ ๓๘๔๔ ๔๙๓๑