Les voix humaines by Pattarapoj Sawangchaeng

Page 1


Princess Galyani Vadhana Institute of Music presents

Les Voix Humaines Recital

Phattarapoj Sawangchaeng

Programme Cello Suite No.1 Viola Sonata

J.S. Bach Rebecca Clarke

1st May 2017, 6pm Sangita Vadhana Hall, PGVIM



Les Voix humaines

The voice of beauty speaks softly; It creeps only into the most fully awakened souls”

Friedrich Nietzsche เสียงของความงามกระซิบเพียงแผ่วเบา และสัมผัสสู่จิตวิญญาณของผู้คนที่ตื่นแล้วเท่านั้น ในความแผ่วเบา เสียงสัมผัสถึงจิตวิญญาณของผู้คน น�้ำหนักเสียงบางเบา ความถี่สะท้อนร่างกาย ระยะเวลาของเสียงที่เกิด คงอยู่และจางหาย…. ความงามปรากฏขึ้นในจิตใจ สะท้อนถึงวิญญาณ ปลุกตื่นผู้คนจากความหลับไหล เสียงกระซิบแผ่วเบา ถ่ายทอดเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก และจินตนาการที่สรรค์สร้าง ..…เสียงของผู้คน เสียงของความปิติยินดี โศกเศร้ารันทด เสียงของความรัก เสียงของความว่างเปล่า…...

- ในจินตนาการ ดนตรีบังเกิด ในจินตนาการ ที่กระซิบเพียงแผ่วเบา -

3


J.S. Bach โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค (Johann Sebastian Bach 1685 - 1750) เป็นนัก ประพันธ์และนักออร์แกนยอดฝีมอื ชาวเยอรมัน ทีม่ ชี วี ติ อยูใ่ นยุคบาโรค บาคได้ประพันธ์ เพลงทีเ่ ยีย่ มยอดไว้มากมาย และมีอทิ ธิพลต่อนักประพันธ์รนุ่ ต่อมาเป็นอย่างมาก อาทิ โมซาร์ท เบโธเฟน และบรามส์ ซึง่ ได้นำ� เอาแนวคิดทางดนตรีของบาคมาประยุกต์กบั งาน ประพันธ์ของตนเอง แม้ว่าในช่วงชีวิตของบาคนั้น บทเพลงของเขา อาจจะไม่เป็นเป็น ที่รู้จักและโด่งดัง แม้ว่าผลงานของบาคมีความซับซ้อนที่สวยงามและมีความง่ายที่มี มนต์สเน่ห์อยู่ในเวลาเดียวกัน ด้วยองค์ประกอบของ ท�ำนอง เสียงประสาน จังหวะ ที่ ผสานรวมกันจนสมบูรณ์ จนกระทั่ง เฟลิกซ์ เมนเดิลส์โซห์น นักประพันธ์เพลงชาวเยอ รรมัน ที่มีชีวิตอยู่ภายหลังจากบาคเกือบ 200 ปี ได้ค้นพบดนตรีของบาค และน�ำมา จัดแสดง จนกระทั่งกลายเป็นบทเพลงที่ได้รับการยอมรับอย่างมากจนกระทั่งปัจจุบัน บาคเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1685 และถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1750 ณ เมือง Leipzig โดยบาคเกิดในครอบครัวนักดนตรีที่เมือง Eisenach และเริ่มเรียนดนตรีจากพ่อของเขา การเรียนดนตรีของเขา การเดินทางบาคเกิดเมื่อวัน ที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1685 บาคเกิดมาในครอบครัวของนักดนตรี บาคเป็นนักออร แกนใหกับ Grand Dukes of Weimar ค.ศ. 1717 บาคได้ย้ายไปทํางาน ณ เมือง Cothen กับเจ้าชาย ในปี ค.ศ. 1723 บาคตัดสินใจย้ายไป Leipzig เป็นเมืองสุดท้าย และ ทํางานที่ The Choir School of St. Thomas และได้จากโลกนี้ไป เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.1750 ดนตรีของบาคนั้นมีแนวคิดเกี่ยวกับศาสนา ผลงานต่างๆที่ส�ำคัญได้แก่ The 6 solo cello suites, The Brandenburg Concertos,The Concerto for Two Violins, The 48 Preludes and fugues “Well Tempered Klavier” , The Goldberg Variations, The B minor Mass และ The St. Matthew Passion

4


J.S Bach Johann Sebastien Bach (1685 - 1750) was a great German composer and Organist of the Baroque Period. Bach was Born in Eisenach in a musician family Bach begin to study music with his father. Bach was one of the most important composer of all time that compose many great piece and Bach composition had influence to many composer such as Mozart, Beethoven ,Brahms and Mendelssohn in composition technique. But in the time that Bach live his composition isn’t popular so much. Bach become popular after he passed away by Felix Mendelssohn who revive Bach to come back again until now. Bach composition have a high technique complicate and easy thing in the same time in a Harmony Melody and Rhythm. Bach was born on 21 March 1685 and died on 28 July 1750 at Leipzig. Bach famous works The 6 solo cello suites, The Brandenburg Concertos,The Concerto for Two Violins, The 48 Preludes and fugues “Well Tempered Klavier” , The Goldberg Variations, The B minor Mass และ The St. Matthew Passion

5


Cello Suite No.1 ผลงานชิน้ นีเ้ ป็นหนึง่ ในบทเพลงชุดส�ำหรับการเดีย่ วเครือ่ งเชลโล่ทบี่ าคได้ประพันธ์ ไว้ใน ช่วงปี ค.ศ. 1717 - 1723 บทประพันธ์นี้ ได้ใช้จังหวะจากการเต้นรําจากวัฒนธรรม ต่างๆ มาผสมผสานกันเป็นบทเพลงชุดทีม่ อี ทิ ธิพลมาจากบทเพลงเต้นรําของวัฒนธรรม ดนตรีในฝรั่งเศส , อิตาลี, สเปน, อังกฤษ, และเยอรมัน ซึ่ง บาคได้ประพันธ์ ไว้ ทั้งหมด 6 ชุด ในบันไดเสียง ต่างๆ ได้แก่ G major, D minor, C major, E - flat major, C minor และ D major ผลงานชุดที่หนึ่งนี้ นับได้ว่าเป็นบทเพลงที่เป็นรู้จักมากที่สุดบทหนึ่ง โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในท่อน Prelude ที่มักจะถูกน�ำไปใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ โฆษณา หรือจัด แสดงอยูบ่ อ่ ยครัง้ แม้วา่ บทเพลงนีจ้ ะประกอบไปด้วยมีทงั้ หมด หกท่อน ได้แก่ Prelude, Allemande, Courante, Sarabande, Minuet และ Gigue โดยเทคนิคทีใ่ ช้ในบทเพลง นัน้ จะประกอบไปด้วย Arpeggio ทีบ่ รรเลงในรูปลักษณะต่างๆ ประสานร่วมกับโน้ตนอก คอร์ดทีส่ ร้างการเดินทางให้กบั แนวเสียงประสาน ท�ำให้เกิดสีสนั ต่างๆในบทเพลงทีล่ งตัว ท่อนแรกได้แก่ท่อน Prelude หรืออารัมภบท ที่บรรเลงอยู่ในอัตราจังหวะ 4/4 และมี การเคลือ่ นที่ไปข้างหน้าเหมือนสายน�ำ้ สลับกันกับท่วงท�ำนองทีเ่ ข้มข้นขึน้ จนกระทัง่ ถึง ช่วงตอนจบของเพลง ทีบ่ รรเลงอยูใ่ นบันไดเสียงแบบ Chromatic ทีเ่ ปีย่ มอารมณ์ ท�ำให้ ผู้ฟังติดตามเรื่องราวไปจนช่วงสุดท้าย เมื่อเสียงทั้งหมดเดินทางไปสู่การคลี่คลายที่ สง่างาม Allemande เป็นท่อนทีใ่ ช้วฒ ั นธรรมการเต้นร�ำของเยอรมัน ซึง่ ถึงแม้จะมีอตั ราจังหวะ อยู่ในจังหวะ 4/4 แต่ว่าจังหวะที่ใช้จะมีความคล้ายกับการเต้นร�ำ และมีท�ำนองที่ไพเราะ สวยงาม โดยท่อนนี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วง ซึ่งช่วงแรกจะอยู่ในบันไดเสียง G major ตามปกติ และในช่วงครึ่งหลังก็จะใช้บันไดเสียงที่มีความสัมพันธ์เป็น Dominant ของ บันไดเสียง G ซึง่ ก็คอื D major และเพิม่ โน้ตทีเ่ ป็น Dissonance มากขึน้ ท�ำให้มคี วาม เข้มข้นของเสียงมากขึ้น ก่อนที่จะกลับมาเป็นบันไดเสียง G major โดยแนวทางในการ เปลี่ยนบันไดเสียงนี้ จะปรากฏอีกครั้งในช่วงหลังของบทเพลงด้วยเช่นเดียวกัน

6


Cello Suite No.1 ส�ำหรับท่อน Courante นี้ ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากการเต้นร�ำของฝรั่งเศส โดยมี อัตราจังหวะ 3/4 และมีอารมณ์ที่หนักแน่นดุดัน โดยช่วงแรกจะอยู่ในบันไดเสียง G major แสดงให้เห็นบรรยากาศของการเต้นร�ำอย่างสนุกสนาน จะอยู่ในบันไดเสียง E minor ท�ำให้มสี สี นั ทีม่ ดื ลงแต่ดว้ ยจังหวะทีเ่ ร่งเร้าขึน้ ท�ำให้เพลงเปลีย่ นแปร ดุดนั มาก ขึ้นก่อนที่ท่อนนี้จะ จบลงด้วยบันไดเสียง G major อย่างสว่างไสว Sarabande ได้รับอิทธิพลมาจากเพลงเต้นร�ำของ สเปน โดยอยู่ในจังหวะที่ค่อนข้างช้า และ เน้นหนักที่จังหวะที่สอง แม้ว่าจะอยู่ในอัตราจังหวะ 3/4 อารมณ์ในท่อนนี้เปี่ยม ไปด้วยความสงบ สุขุม เรียบง่าย ตลอดจนจบท่อน และมีเทคนิคการบรรเลงที่ส�ำคัญ ได้แก่เทคนิคการเล่นแบบ Double stop และการบรรเลงพร้อมกันหลายสายแบบคอร์ด น�ำไปสู่ช่วงท้ายของท่อนที่คล้ายกับการเดินทางไปสู่จุดที่สูงขึ้นจนเกินเอื้อม Minuet ในท่อนนี้ เป็นบทเพลงเต้นร�ำในจังหวะ waltz ที่มีท�ำนองคล้ายกับท่อนแรก แต่เปลี่ยนอัตราจังหวะเป็น 3/4 และมีความเร็วปานกลาง ท่อนนี้จะใช้ รูปแบบลักษณะ ของ Minuet - Trio และสร้างความรู้สึกของการเต้นร�ำ รวมทั้งบันไดเสียง G major ก็สร้างความรูส้ กึ ทีส่ ดใสต่างจากในช่วงหลังทีม่ ดื มน หดหูล่ ง ก่อนทีจ่ ะจบลงด้วยอารมณ์ ที่สดใส ท่อนสุดท้ายจะอยูใ่ นจังหวะเต้นร�ำทีเ่ รียกว่า Gigue ซึง่ เป็นจังหวะการเต้นร�ำของอังกฤษ มีจงั หวะทีเ่ ร็ว ทีอ่ ยูใ่ นอัตราจังหวะ 6/8 ท�ำให้มคี วามสนุกสนานและเต็มไปด้วยพลังงาน บทเพลงมีการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าตลอดเวลา รวมทั้งให้อารมณ์ของความคึกคัก สนุกสนาน จนกระทั่งจบเพลง

7


Cello Suite No.1 This composition was a one of six in the Cello suite by Bach ฺ.He compose this during 1717 - 1723 .Based on a Baroque Dance Style in each country from Great Britain,Spain ,France and German. Each movement are written in the key of G major, D minor, C major, E-flat major, C minor and D major In Suite No.1 the most famous of all Suite especially in Prelude movement. The overall of the piece be played by arpeggio chord mixing with non-chord tone giving the feel of tonality of the piece. Prelude give the feeling of smooth flowing water in a time signature of 4/4 and continue in a sequence.It will build up with a chromatic scale until climax with a peaceful ending. Allemande is based on German Dance with a time signature of 4/4 . This movement feels like dancing in a beautiful melody.This movement will separate into two part, the first part will start with G major and the second part will modulate to dominant key in D major.This part is more dissonance thus crates more tension and before returning back to G major.

8


Cello Suite No.1 Courante based on French dance in 3/4 with fast tempo and high energy. This movement have two parts in the first part starts with G major and second part in E minor (Relative key of G major).The colour of this movement is darker but also with energy before come back to G major. Sarabande movement use the spanish dance idea in 3 /4. The story beat will be in the second beat instead first beat.Mood of this movement will be slow and gentle like meditation in the church.Double stop and playing Chords technique are used more in this movement in order to make more colours of sound. Minuet I ,II is similar to waltz dance with the time signature of 3/4 The first part start in G major in happy mood in the form of Minuet and Trio Form.The second part starts with G minor in a dark emotion with tension and then release and end with the first part returning. Gigue - this movement is based on British dance in time signature of 6/8 with high energy until the end.

9


Rebecca Clarke Rebecca Clark (1886 - 1979) รีเบ็คก้า คลาร์ก เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค .ศ. 1886 เป็นนักประพันธ์และ นักวิโอล่าชาวอังกฤษที่มีเชื้อสายจากอเมริกาและอังกฤษ พ่อเป็นชาวอเมริกา และแม่ เป็นชาวเยอรมัน แต่ว่าได้เกิดและเติบโตที่อังกฤษ คลาร์กได้เรียนเริ่มเรียนดนตรีด้วยเครื่องดนตรี ไวโอลิน เมื่ออายุ เก้าขวบ จนกระทั่ง ปี ค.ศ.1903 ได้เข้าไปศึกษาที่ Royal Academy of Music และในปี ค.ศ.1905 พ่อ ของเธอบังคับให้เธอออกมาจากโรงเรียนเนื่องจากมีปัญหากับอาจารย์ และในปี ค.ศ. 1907 เธอก็ ได้กลับเข้าศึกษาการประพันธ์เพลงอีกครั้งที่โรงเรียนเดิม กับอาจารย์ Charles Villiers Stanford และได้มาเริม่ เรียน วิโอล่าและ ไวโอลินกับ Lionel Tertis ควบคู่กันไปด้วย แต่ภายหลังจากนั้นไม่นานเธอก็เกิดปัญหาในครอบครัว และท�ำให้ ต้องออกจากบ้าน ท�ำให้เธอต้องเริ่มหางานท�ำเพื่อเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักวิโอล่า และ แสดงตามที่ต่างๆ ด้วยความสามารถที่โดดเด่น รีเบ็คก้า คลาร์กจึงได้รับการคัดเลือก ให้เป็นนัก ดนตรีหญิงคนแรกเข้าร่วมแสดงกับวง Queen’s hall Orchestra ในปี ค.ศ.1916 เธอได้เดินทางไปอเมริกาเพือ่ มาเยีย่ มเยียนพีช่ ายและได้ ไปแสดงคอนเสิรต์ หลายที่ รวม ทั้งฮาวาย และได้ประพันธ์บทเพลง Viola Sonata ขึ้นในไป ค.ศ. 1919 เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นเธอก็ได้ย้านไปอยู่ที่รัฐ Connecticut และได้ แต่งงานกับ James Friskin ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์สอนเปียโนที่ Juilliard และระหว่างนี้ก็ได้ ประพันธ์เพลงขึ้นมาหลายผลงาน ทั้งบทเพลงบรรเลงเดี่ยว และบทเพลงส�ำหรับวงเชม เบอร์ ผลงานชิ้นสุดท้ายของเธอ คือ God made a Tree ในปี ค.ศ.1954 แต่เป็น ที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ว่าหลังจากนั้นเธอก็เริ่มมีอาการของโรคซึมเศร้าเรื้อรัง และไม่ได้ แต่งเพลงอีก จนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ.1979

10


Rebecca Clarke Rebecca Clark (1886 - 1979) Rebecca Clark was born on 27 August 1886 in England with a American father and German mother.She starts her music lesson because her father’s interest in music.Violin is her first instrument when she was nine. Untill 1903 she enter to study in Royal Academy of Music but later withdrawn from school because of her teacher.In1907 she started composition lesson in same school with Charles Villiers Stanford, She was the first female student and started viola lesson with Lionel Tertis .She later left her family home and had to support herself by starting her performing carreer. In 1916 She was recruited to be a member of Queen’s hall Orchestra , She was the first female musician in a professional ensemble. After a few years she went to America to visit her two brothers and for the concert in Hawaii as well. In 1919 She composed the Viola Sonata, the most famous of her composition and send this piece to a competition as Ernest Bloch because woman composer at that time wasn’t accepted but won a competition. When World War II began, Clarke spend all of her life in America.In early 1940, she married with James Friskin the pianist from Julliard school and she composed many pieces untill 1954 God Made a Tree was her last composition before she suffered with Dysthymia and stop composing. Rebecca Clark passed away at 13 October 1979 .

11


Viola Sonata (1919) ในบทเพลงนี้ รีเบ็คกล้า คล้าก ได้ประพันธ์เพือ่ บรรเลงด้วยตนเอง เป็นบทประพันธ์ ที่โด่งดังที่สุดของเธอ และเธอยังได้น�ำบทประพันธ์ชิ้นนี้ส่งเข้าประกวด ทว่าได้ใส่ชื่อของ Ernest Bloch แทนชือ่ ของตัวเอง เนือ่ งจากนักประพันธ์ผหู้ ญิงยังไม่คอ่ ยเป็นทีย่ อมรับ มากนักในสมัยนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผลงานชิ้นนี้ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับหนึ่ง แนวคิดของการประพันธ์อยูใ่ นรูปแบบ Impressionism และ Romantic ผสมผสาน กัน โดยเธอได้น�ำรูปแบบการประพันธ์มาจาก Ravel, Debussy, Franck ในส่วนของ สีสัน และน�ำแนวคิดทางด้านจังหวะมาจาก Bartok และเธอยังได้ใช้แรงบันดาลใจจาก ส่วนหนึ่งของบทกวีฝรั่งเศส ชื่อ La Nuit de mai (ค.ศ.1835) Poete, prends ton luth; le vin de la jeunesse Fermente cette nuit dans les veines de Dieu. Poet, take up your lute; the wine of youth Is tonight fermenting in the veins of God. บทเพลงนี้ทั้งหมดสามท่อน ในท่อนแรกที่ชื่อ Impetuoso มีความหมายถึง อารมณ์ที่ ร้อนรน เร่งรีบ บทเพลงเริ่มต้นขึ้นด้วยท�ำนองที่เหมือนเสียงของการเปิดฉากของ มหรสพ ก่อนการเกริ่นน�ำเข้าสู่แนวท�ำนองหลัก ในเพลงจะมีการใช้บันไดเสียงแบบ Whole Tone Scale เป็นหลัก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก Ravel และอารมณ์ในเพลงจะ มีลกั ษณะเหมือนความมืดค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเรือ่ ยๆ มากขึน้ ๆ และค่อยๆ รุนแรงขึน้ จนปะทุออก และค่อยๆ คลายออกออกด้วยความเศร้า ในตอนจบ ท่อนทีส่ อง Vivace ในท่อนนีเ้ ป็นท่อนจังหวะเร็วกระฉับกระเฉง เหมือนกับการเต้น และ ได้ใช้ลูกเล่นของสัดส่วนจังหวะที่ขัดกันท�ำให้จังหวะ ตื่นเต้น หยอกล้อและสร้างสีสันที่ น่าสนใจอยู่ตลอดเวลา โดยได้รับอิทธิพลมาจาก Bela Bartok ในท่อนนี้จะเป็นการใช้ เทคนิค Pizzicato ในมือซ้ายและ บรรเลงเสียง Harmonic สลับไปมาตลอด ซึ่งท�ำให้ เป็นท่อนที่ได้แสดงเทคนิคการเล่นที่น่าสนใจ ตลอดทั้งท่อน

12


Viola Sonata (1919) ส�ำหรับท่อนสุดท้าย Adagio เริ่มต้นขึ้นด้วยการบรรเลงของเปียโน จากเสียงต�่ำ ด้วยท�ำนองช้าๆ สงบ ตามมาด้วยเสียงของวิโอล่าทีเ่ ล่นท�ำนองเดียวกันซ�ำ้ อีกครัง้ ด้วย อารมณ์ที่ช้าๆ และ ค่อยๆ เพิ่มอารมณ์เพิ่มขึ้นไป โดยเริ่มจากช่วงเสียงของ วิโอล่าใน เสียงต�ำ่ สุดและค่อยๆไล่ขนึ้ สูงขึน้ ไปทีละนิดจนถึงขีดสุดอย่างเกรีย้ วโกรธ จนกระทัง่ สงบ ลง ร่วมไปด้วยเสียงประสานที่ไพเราะ จนกระทั่งเข้าสู่ครึ่งหลังของท่อน ที่จะเป็นการน�ำ ท�ำนองจากท่อนที่หนึ่งมาเรียบเรียงใหม่ น�ำไปสู่ช่วงตอนจบที่จะน�ำท�ำนองและเทคนิค ต่างๆ ของท่อนอื่นมาผสมกัน เช่นการใช้ลูกเล่นของจังหวะจากท่อนที่สอง ท�ำนองใน ท่อนหนึง่ และเป็นเหมือนเป็นการรวมเอาองค์ประกอบส�ำคัญของแต่ละท่อน มารวมกัน เพื่อเป็นการสรุปเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเพลง บทเพลงก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่เต็ม เปีย่ มไปด้วยพลัง และจบลงด้วยการปิดฉากทีป่ ระทับใจกับเสียงของวิโอล่าและเปียโนที่ ประสานกันเป็นหนึ่ง

13


Viola Sonata (1919) Rebecca Clarke she composed this sonata for her self in impressionist style mix with Romantic influence from Ravel ,Debussy, Franck and Bartok style.This piece base on the idea from French poem La Nuit de mai (1835) Poete, prends ton luth; le vin de la jeunesse Fermente cette nuit dans les veines de Dieu. Poet, take up your lute; the wine of youth is tonight fermenting in the veins of God.

This Sonata has three movements.Starting with Impetuoso which mean rushing or hurry.This movement start with a full emotion and warm melody.Viola Solo starts like a cadenza in Pentatonic scale, then piano join in to starts the story.Whole tone scale were useed throught the piece.The colors is sometimes blur and dark before build up until the climax and release with beautiful ending.

Vivace movement sounds like dancing with moving forward tempo, with Bartok’s style rhytymic passage and Tri-tone intervals. Left hand pizzicato and harmonic sound technique happen throught the piece giving more interesting color.

14


Viola Sonata (1919) Last movement start with slow tempo in Adagio with melody in the left hand of piano.Viola later join in the same melody .First climax starts with a big whole scale.The mood becomes more emotional with beautiful harmony.In this movement, the material from 1st and 2nd movements come back again and combined together and build up to a climax and end with first melody from the first movement.

15


ประวัติส่วนตัว

นาย ภัทรพจน์ สว่างแจ้ง ชื่อเล่น หลุยส์ เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1995 อายุ 21 ปี เริ่มเล่นเปียโนเมื่ออายุ 7 ขวบ และมีความสนใจที่จะเล่น ไวโอลินเลยได้ลองเรียนเมื่ออายุ 10 ขวบ ที่โรงเรียน สอนดนตรี Yamaha Music School และได้ศึกษาต่อเรื่อยๆจนกระทั่ง เรียนชั้นมัธยมศึกษาเลย ตั้งใจศึกษาไวโอลินมากขึ้น เลยได้ ไปเรียนทีโ่ รงเรียนดนตรี Viemus เรียนกับ อาจารย์ ภูกร ศรีณรงค์ เพื่อที่จะสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่ วิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และก็ได้รับคัดเลือกศึกษาต่อ ในระดับชั้น เตรียมอุดมศึกษา ด้วยเครื่องเอกไวโอลิน และได้รับการแนะน�ำให้เปลี่ยน เครื่องเอกมาเป็น วิโอล่าด้วย ขนาดที่สามารถเล่นได้ง่ายกว่าไวโอลิน และก็ ศึกษาวิโอล่าต่อ กับ Dr. Danny Keasler เป็นระยะเวลาสามปี และได้รับการ คัดเลือกเข้าวง Thailand Phillharmonic Orchestra (Season 9) เป็น ระยะเวลา 1 ปี ในระดับชั้นปริญญาตรีได้ย้ายไปศึกษาที่ สถาบันดนตรี กัลยาณิวัฒนา ศึกษาวิโอล่ากับ อ.มิติ วิสุทธิอัมพร จนกระทั่งปัจจุบัน

16


Biography

Phattarapoj Sawangchaeng or Louis was born on 23 October 1995.ŕš‡ำ He Starts study music at 7 years old, his first instrument is piano.When he was 10, he started to learn Violin and studied at Yamaha Music School for 3 years before move to Viemus Music School with Phukorn Srinarong. In Pre-college level at College of music,Mahidol University in Violin Major and switched to Viola study with Dr.Danny Keasler for 3 years, He was also a member of Thailand Phillharmonica Orchestra(Season 9) . After finish precollege he moved to study at Princess Galayani Vadhana Institute of Music with Miti Wisuthumporn.

17


ประวัติส่วนตัว ประวัติผู้ร่วมแสดง

ธนพร ทรงเกียรติศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2539 ส�ำเร็จการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียน อัสสัมชัญล�ำปาง เริ่มเรียนเปียโนที่โรงเรียนดนตรียามา ฮ่าล�ำปางตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และอิเลคโทนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยได้เริ่มเข้าร่วมการแข่งขัน เมื่ออายุ 5 ขวบ หลังจากนั้น 2 ปี ธนพรได้เข้าโรงเรียนสอนดนตรีแห่งหนึ่งในจังหวัด เชียงใหม่ และเรียนทั้งเปียโนและอิเลคโทนจนกระทั่งอายุได้ 12 ปี ก็กลับมาเรียนที่ล�ำปาง อีกครัง้ กับอาจารย์วงษ์ศริ ิ สุภายน ส�ำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา และหลัง จากนั้นก็ ได้ท�ำการสอบเข้าเรียนที่เตรียมอุดมดนตรี คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิดล โดยเรียนเปียโนกับอาจารย์ Bakhtiyor Allaberganov ตลอดเวลาทีเ่ ป็นนักเรียน มัธยมปลายในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ ธนพรได้เข้าร่วมกิจกรรมหลายกิจกรรมด้วยกัน อาทิ เช่น นักร้องคอรัสต�ำแหน่งโซปราโน่ในละครเวทีเรื่องมิคาโด้ ในคอนเสิร์ตประจ�ำปีของ นักเรียนเตรียมอุดมดนตรี นักเปียโนแอคคอมประจ�ำวงคอรัสของนักเรียนเตรียมอุดม ดนตรี อีกทั้งยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมเล่นเปียโนในวงออเคสตร้าในคอนเสิร์ต PYO’s Experiment ในปี 2014 ภายใต้การอ�ำนวยเพลงของนักคอนดักเตอร์ดา้ นเพลงร่วมสมัย ชื่อดัง Peter Veale

18


ติส่วนตัว Guest Performer

Thanaporn Songkiattisak was born in 8 April, 1996 and studied at Assumption College Lampang since when she was in kindergarten. She started her first piano study at Yamaha Lampang Music School at the age of 4 and Electone at the age of 6. Thanaporn participated first competition since she was 5 years old. After 2 years, she attended to a music school in Chiang-Mai and studied until the age of 12 then moved back to Lampang and studied with Mr.Wongsiri Subhayon, graduated Master Degree student from Illinois State University, United State of America. Later, she attended to be a student of Pre-College Program, College of Music, Mahidol University and Studied Piano with Mr. Bakhtiyor Allaberganov. Thanaporn participated many activity such as Soprano Chorus of Mikado the musical in The 8th Annual Pre-college Concert, Accompanist of Pre-College Symphonic Choir in 2012-2013, Guest Pianist in orchestra from PYO’s Experiment Concert under the baton of Peter Veale in 2014 etc.

19


Special Thanks ขอขอบคุณ สถานที่แสดงคุณภาพ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาที ขอขอบคุณ คณาจารย์​์ สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา ที่คอยสนับสนุน ขอขอบคุณอาจารย์ อโณทัย นิติพน ที่ช่วยเรื่องสูจิบัตรและโปสเตอร์เป็นอย่างเข้มงวด ขอขอบคุณอาจารย์ มิติ วิสุทธิอัมพร ที่สอนวิโอล่าให้อย่างดีเยี่ยม ขอขอบคุณ พ่อและแม่มากๆ ที่ดูแลสนับสนุนตลอดจนทุกวันนี้ ขอขอบคุณ เพื่อนพี่น้องชาว PGVIM ทุกท่าน ที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข กันตลอดมา สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคำ�ว่าขอบคุณที่ทำ�ให้ขอบคุณทุกคนได้ในวันนี้ครัช

GGWP

ภัทรพจน์ สว่างแจ้ง

20


PRINCESS GALYANI VADHANA INSTITUTE OF MUSIC 2010 Arun Amarin 36, Bang Yi Khan Subdistrict, Bang Phlat District, Bangkok 10700 TEL. +66 (0) 24478597 Fax. +66 (0) 24478598 Website: www.pgvim.ac.th Facebook: PGVIMusic

21


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.