Bakery&Food

BAKERY &FOOD FRESH BAKED BREADS BAKERY@CAFE BAKING RECIPES RESTAURANT FOREIGN HEALTY&CARE

MAGAZINE

1.

3.

MAGAZINE

BAKERY &FOOD

EDITOR’s TALK

บรรณาธิการ

FRESH BAKED BREADS

กานต์ ศรีมาลีจ้อย เมธาวี มาลินี

เมษายน ..เป็นเดือนที่เหมาะกับการออกหนังสือเล่มนี้ เพราะเป็นช่วง ซัมเมอร์ ช่วงที่ครอบครัวและวัยรุ่นทั้งหลายจะหาหนังสือทำ�อาหาร สักเล่ม เพื่อมาเป็นแนวทางในการทำ�อาหารกันภายในครอบครัว หรือ ภายในกลุ่มเพื่อนๆ เพราะเป็นช่วงเดือนหยุดของเด็กๆหลายๆคน.. พิมพ์ครั้งที่ 01

“ นิตยสารเล่มนี้เกิดจากความที่เราสองคนชอบในการทานอาหารทั้งคู่ และเกิดเป็นแรงบรรดาลใจในการสร้างหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา จากการที่ เราทำ�นิตยสารเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อจัดเรียงเพราะว่าต้องการจะสื่อถึงเบเก อรี่ที่มีประวัติที่ยาวนาน มีความหลากหลายเมนูมากมาย อีกทั้งการ ผสมผสานให้เป็นของหวานและการผสมผสานเป็นของคาวที่อร่อยและ ลงตัว” “นิตยสารเล่มนี้มีการจัดเรียงคอลัมน์ 5 คอลัมน์ ซึ่งแต่ละคอลัมน์ พวกเราได้คัดสรรข้อมูลที่หวังว่ามีมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน” -ขอให้ท่านผู้อ่านมีรอยยิ้มกับการทำ�เบเกอรี่ค่ะ-

พิมพ์ที่

seek@find printandservice

สำ�นักงาน

ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12110

129/295

โทร. 029947588

ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ อ.นวพรรษ จันทร์คำ�

2.

CONTENT

6 BAKING RECIPES

32 HEALTY &CARE

4 BAKERY @CAFE

10 RESTAURANT FOREING

38

5.

บาแก็ต (Baguette) มีความหมายว่า แท่งไม้ ตามรูปทรงของขนมปังอย่างที่เราได้เห็นกัน

ทั่วไป หรือจะเรียกอีกอย่างก็คือขนมปังฝรั่งเศส ขนมปังบาแก็ตมีการกินอย่างอย่างแพร่หลายจน กลายเป็นขนมประจำ�ชาติไปซะแล้ว

ลักษณะของขนมปังบาแก็ตขนมปังบาแก็ตจะมีรูปร่างแท่งยาวๆ ขนาดจะใหญ่หน่อย ซึ่ง

รสชาติข้างนอกจะกรอบๆ ส่วนด้านในจะเหนียวๆ และมีโพลงอากาศ เราจะนิยมนำ� มาหั่นเป็นรูป เฉียงๆ เพื่อนำ�ไปรับประทานกับ แซนวิช เนย ซุป โดยปกติแล้วบาแก็ตจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 5 – 6 เซนติเมตร (2 – 2⅓ นิ้ว) และความยาวอยู่ที่ 65 เซนติเมตร (26 นิ้ว)

นอกจากนี้ขนมปังบาแก็ต

หรือที่เรารู้จักกันในชื่อขนมปังฝรั่งเศสไม่ได้มีที่มาจากประเทศ

ฝรั่งเศสแต่มาจากเมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งขนมปังฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมนั้นจะเป็นขนมปัง บูล ลักษณะจะเป็นรูปกลมๆ มีขนาดใหญ่ และสาเหตุที่ทำ�ให้คนฝรั่งเศสนั้นหันมากินขนมปังบาแก็ต

FRESH BAKED BREADS

4.

แทน เพราะว่า ‘บูล’ ซึ่งในปี 1920 ฝรั่งเศสนั้นมีข้อห้ามแปลกๆ ว่าห้ามตื่นทำ�งานกันก่อนเวลาตี สี่ ทำ�ให้ไม่ทันเวลาเปิดร้านเนื่องจากว่า บูลนั้นใช้เวลาอบนานมากกว่า ขนมปังบาแก็ต จึงทำ�ให้มีการ ออกแบบรูปทรงของขนมปังใหม่ให้สามารถทำ�และอบสุกได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลาของผู้คนที่จะมา ซื้อขนมปังไปรับประทานในเวลาเช้า และรูปทรงใหม่นี้ง่ายต่อการหั่นเพื่อทานกับแซนด์วิชและอื่นๆ *การกินขนมปังของฝรั่งเศสจึงพลิกโฉมไปนิยมกินบาแก็ตแท่งยาวจากออสเตรีย และนิยมสืบต่อ มาจนกลายเป็นขนมปังประจำ�ชาติไปซะแล้ว

01

7.

01 : MORI Osaka

BAKERY @CAFE

*ร้ า นเค้ ก น่ า กิ น สไตล์ ญี่ ปุ่ น เปิ ด ใหม่ล่าสุดโดยเจ้าของสูตรความ อร่อยนั้น คือ คุณโมริ ชาวเมือง โอซาก้าที่สะสมประสบการณ์ทำ� เค้กต่างๆมาเป็นเวลาถึง 30 ปี ตั ด สิ น ใจมาร่ ว มทำ � ร้ า นเบเกอรี่ สุดน่ารักร้านนี้ เค้กของที่นี่นั้นจะ เน้นใช้วัตถุดิบที่ดีมากเค้กเนื้อนุ่ม มากและมี เ ค้ ก ให้ เ ลื อ กมากมาย Strawberry Short Cake, Green Tea Mousse, Banana Chocolate Cake ตั ว ร้ า นตกแต่ ง แนวสไตล์ ค าเฟ่ ญี่ปุ่น เรียบง่าย น่านั่ง ตอนนี้ กำ�ลังเปิด สาขา 2 ที่เอ็มโพเรียม ที่ตั้ง : RCA บล็อค C ถนน พระราม9 แขวง บางกะปิ กทม. เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา : 11.00-22.00 น.

02 Elmar Offwhite *หากใครกำ�ลังมองหาร้านกาแฟ&เบเกอร์รี่ที่มี บรรยากาศสวยๆนั่งพักผ่อนอยู่ละก็วันนี้ Soft&Sweet ขอแนะนำ� 6 ร้านเบเกอร์รี่ บรรยากาศดี ตกแต่งใน บรรยากาศสบายๆ เหมาะแก่การนั่งพักชิมเบเกอรี่เคล้า กาแฟหอมกลุ่มในกรุงเทพฯ มาฝากกันค่ะ....

BAKERY @CAFE 6.

* ค า เ ฟ่ สุ ด น่ า รั ก ที่ ตั้ ง อ ยู่ ใ น ซ อ ย เอกมัย การเดินทางก็ง่ายๆ ที่มาของ ร้าน Elmar Offwhite เริ่มต้นจาก เจ้าของร้านที่เป็นชาวเกาหลีใต้ ตอน ที่อยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นเพราะชอบ ไปนั่งร้านกาแฟและทานขนมอร่อยๆ จากหลากหลายร้ า นและได้ ไ ปศึ ก ษา การทำ�กาแฟดริปพอมาอยู่เมืองไทย ก็ได้เปิดร้านนี้ขึ้นมาแล้วส่วนชื่อของ Elmar Offwhite นั้น คำ�ว่า Elmar เป็นภาษาสเปน เป็นชื่อจากใน หนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีเรื่องราวเกี่ยว กั บ ชาวประมงและโลมาส่ ว นคำ � ว่ า Offwhite เป็นชื่อของสีขาวชนิด หนึ่งซึ่งตรงกับสไตล์การตกแต่งร้าน ที่เน้นใช้สีขาวนวล สบาย ตา

ที่ตั้ง : ถนนสุขุมวิท 63 เดินทางจาก BTS เข้ามาทางปากซอยประมาณ 150 เมตร ร้านอยู่ตรงข้ามปั๊มเอสโซ่ ราคา : 100-200 บาท โทร : 0850558600 เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา : 10.00-22.00 น.

9.

03 : Kaffe by Library

05 : Kayha Sweet & Home Made

*อร่อยไปกับขนมปังทำ�เอง อบร้อนๆ พร้อมท้อปปิ้งหลากหลาย เสิร์ฟ คู่กับสังขยารสเข้มข้นที่มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ หรือจะลองสั่ง ‘ปังเย็น’ มารับประทานท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ บริเวณหน้าร้านติดกระจก ใส สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ภายใน ร้านยังประดับด้วยของกระจุ๊กกระจิ๊กน่ารักๆ ไว้ตามมุมต่างๆ สร้าง ความสุนทรีและความสบายสายตาเป็นที่สุด

* “Li-bra-ry” ร้านกาแฟชื่อดังย่านสุขุมวิท และพระราม 9 ที่จะยังคงคอนเซ็ปต์ความ เรียบง่ายสบายๆเอาไว้อย่างเหนียวแน่นนั้น เน้นความเก๋ของดีไซน์การออกแบบตกแต่ง แบ่ ง โซนนั่ ง ตามไลฟ์ ส ไตล์ ข องลู ก ค้ า หลาก หลายประเภท หากชอบความเป็นส่วนตัว หรื อ มาเป็ น ก๊ ว นแก๊ ง สามารถเลื อ กนั่ ง โซน ด้ า นในหรื อ จะนั่ ง บริ เ วณเคาน์ เ ตอร์ ติ ด กระจกที่มองเห็นบรรยากาศภายนอกร้าน และพลาดไม่ได้กับเมนูเด่นของที่นี่ “Li-brary” วาฟเฟิลหอมใบเตย ที่ควรรับประมานคู่ กับกาแฟแก้วโปรด

ที่ตั้ง : 288/17 หมู่ 5 ตรงข้าม หน้าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ถ.ติวานนท์ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โทร. : 0 2964 2346

ที่ตั้ง : ชั้น 1 อาคาร Noble Revolve ถ.พหลโยธิน พญาไท กรุงเทพฯ โทร : 08 1639 0802

BAKERY @CAFE

06 : Army Coffee *เติมเต็มความหึกเหิมให้กับวันของ คุณด้วยเครื่องดื่มแก้วโปรด และ เบเกอรี่ร้อนๆกับคาเฟ่สุดชิคที่เกิด จากการรวมตัวของลูกหลานทหารกองพล 93 กลิ่นอายความดิบแผ่ ซ่านไปทั่วทุกพื้นที่ด้วยดีไซน์การตกแต่งสไตล์ลอฟท์ เมนูแนะนำ�เป็น ‘Army Waffle’ วาฟเฟิลเนื้อเนียนนุ่มมี 3 รสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแลต ม็อคค่า และบัตเตอร์ สั่งเคียงคู่เครื่องดื่มรสเข้มที่มีทั้งแบบ ธรรมดาและ ‘Drip’ โดยใช้เมล็ดกาแฟออร์แกนิคที่ปลูกเอง รสชาติไม่ ผิดหวังแน่นอน ที่ตั้ง : 93 Army Coffee 43/8 ถ.พระราม 4 คลองเตย กรุงเทพฯ โทร. : 0 2712 2923

04 : Tiny Cup Cafe’

*ท่ามกลางความพลุกพล่านของย่านธุรกิจหลักยังคงมีคาเฟ่เก๋ๆ ให้เลือกมากมาย แต่สำ� หรับ “Tiny Cup Cafe” นั้น ไม่ได้โดดเด่นแค่การตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศน่ารักๆ น่านั่งจนไม่อยากลุกเท่านั้น แต่รวมไปถึง เมนูความอร่อยที่มีให้เลือกมากมาย เช่น “Fresh Fruit Tart” ทาร์ตเนื้อเนียนนุ่มท้อปปิ้งด้วยผลไม้สด, “Anti-Age” เครื่องดื่มรสเยี่ยมที่เอาเบอร์รี่ต่างๆ มาปั่นรวม และ “Spaghetti Cabonara” สปาเก็ตตี้รสชาติ เข้มข้นคลุกเคล้าด้วยครีมสดและเบคอน ที่ตั้ง : 411/2 ซ.ทองหล่อ 23 ถ.สุขุมวิท 55 วัฒนา กรุงเทพฯ โทร. : 0 2712 5112

8.

BAKERY @CAFE

11.

BAKING RECIPES

10.

13.

BAKERY 12.

15.

ส่วนผสม แป้งวาฟเฟิลออริจินัล • • • • • • • • • • • • •

นมสด 1 ถ้วย น้ำ�มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เนยสดละลาย 50 กรัม ไข่แดง 1 ฟอง กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม ผงฟู 1 ช้อนชา เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา เกลือป่นเล็กน้อย ไข่ขาว 1 ฟอง ครีมออฟทาร์ทาร์ เล็กน้อย น้ำ�ตาลทราย น้ำ�เชื่อม (หรือน้ำ�ผึ้ง) ตามชอบ สำ�หรับราด

วิธีทำ�แป้งวาฟเฟิล • 1. ผสมนมสดกับน้ำ�มะนาวเข้าด้วยกัน เสร็จแล้วนำ�ไปตีผสมกับเนยละลายและไข่แดง ใส่กลิ่นวานิลลาลงไปตีผสมเล็กน้อย • 2. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นลงไปในส่วนผสม ของเหลว ตีผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวและไม่เป็นเม็ด เตรียมไว้ • 3. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นฟองละเอียดแล้วใส่น้ำ�ตาลทรายลงไป ตีจนไข่ ขาวตั้งยอดอ่อน จากนั้นนำ�ไปตะล่อมกับส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน

waffle 14.

• 4. เปิดเตาอบวาฟเฟิลรอจนร้อน ตักส่วนผสมแป้งหยอดลงไป (ปริมาณแล้วแต่ชอบ) อบจนสุก แกะออกจากเตา จัดใส่จาน ราดด้วยน้ำ�เชื่อม พร้อมเสิร์ฟ

17.

ส่วนผสมบราวนี่ • • • • • • •

เนย 3/4 ถ้วย 150 กรัม น้ำ�ตาลทราย 1 1/2 ถ้วย ไข่ 2 ฟอง วานิลลา 3 ช้อนชา ผงโกโก้ 1/2 ถ้วย แป้งอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย ช็อคโกแล็ตชิพ 1 ถ้วย

วิธีทำ�บราวนี่ • 1. วอร์มเตาอบ 175 องศาเซลเซียส ระหว่างวอร์มนำ�อัลมอนด์เข้าไปอบประมาณ 10 – 12 นาที จนกรอบ สเปย์น้ำ�มันในพิมพ์สี่เหลี่ยม 9 นิ้ว หรือจะใช้พิมพ์ 6 นิ้วก็ได้ พร้อมกรุก ระดาษไขให้สูงขึ้นมาด้านข้างของพิมพ์ด้วย ตอนเอาขนมออกจากพิมพ์จะได้ทำ�ได้ง่ายๆ • 2. ละลายเนยบนเตาพอเนยละลายหมดปิดเตา • 3. ใส่น้ำ�ตาลใช้พายไม้คนให้เนยเย็นน้ำ�ตาลเข้ากับเนย พักให้เย็นสักครู่ • 4. ใส่ไข่และวานิลลาลงไปในส่วนผสมน้ำ�ตาล คนด้วยตะกร้อมือ หรือ พายไม้จนส่วน ผสมเนียน • 5. ใส่ผงโก้โก้และแป้งไม่ต้องร่อน คนแรงๆ และเร็วๆ ด้วยพายไม้ 2- 3 นาที จนกระทั่ง ส่วนผสมเนียนและเงา ใส่อัลมอนด์ ลงไปคนให้เข้ากัน • 6. ตามด้วยช๊อกโกแลตชิพ ลงไปคนให้เข้ากัน • 7. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ 2 พิมพ์ นำ�เข้าเตาอบที่วอร์มไว้ 175 องซาเซลเซียส อบ 30 – 35 นาที ดูจนกระทั่งหน้าขนมเริ่มแห้งและแตกเป็นแผ่น วิธีเช็คว่าเอาขนมออกจากเตาอบได้ หรือยัง ให้ใช้ไม้จิ้มสะเต๊ะจิ้มลงไปตรงกลางขนม ถ้ามีขนมติดขึ้นมาแบบเหนียวๆ นิดหน่อยเอาออก จากเตาได้ แต่ถ้าขนมที่ติดขึ้นมาเป็นของเหลวไม่มีชิ้นขนมเลยให้อบต่อไป • 8. ทิ้งไว้ให้เย็น 5 นาที ค่อยๆ ยกกระดาษไขขึ้นมา ค่อยๆ ลอกกระดาษไขออก พักไว้บน ตะแกรงจนเย็นตัดเสริฟได้

brownies 16.

19.

ส่วนผสมเค้กช็อคโกแลตลาวา • • • • • • • •

นมสด 1 ถ้วย ดาร์กช๊อคโกแลต 60 กรัม แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1/4 ถ้วยตวง น้ำ�ตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 หยิบมือ แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา

วิธีทำ�เค้กช็อคโกแลตลาวา **สูตรนี้ทำ�ได้ 3 ถ้วย • 1. เริ่มจากวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200° ไฟบน-ล่าง นาน 20 นาที • 2. เตรียมถ้วยพิมพ์สำ�หรับอบขนม ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ ตามด้วยน้ำ�ตาลทรายป่น เขย่าให้น้ำ�ตาลทรายเคลือบติดเนยจนทั่ว แล้วเคาะเศษน้ำ�ตาลออกค่ะ • 3. ละลายเนยกับดาร์กช๊อคโกแลตเข้าด้วยกันแล้วโรยเกลือลงไป พอส่วนผสมละลายเข้า ด้วยกันและหยดกลิ่นวนิลาลงไป พักไว้ให้คลายร้อนตอกไข่ไก่ลงไปตามด้วยน้ำ�ตาลทราย ป่น คนให้พอน้ำ�ตาลทรายละลาย • 4. จากนั้น ค่อยๆเทส่วนผสมเนยกับดาร์กช๊อคลงในส่วนผสมของไข่ไก่ ระหว่างเทก็คน ไปเรื่อยๆจนหมดสุดท้ายร่อนแป้งลงไป คนให้พอเข้ากันและเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ พร้อม เข้าอบค่ะ (ใช้เวลาอบแค่ 10 - 12 นาที ถ้าอบนานเกินไปขนมจะสุก เนื้อจะไม่เป็นลาวาค่ะ)

chocolate lava 18.

21. ส่วนผสมแป้งโดนัท • น้ำ�ตาลทราย 120 กรัม • ยีสต์ 15 กรัม • น้ำ� 100 มิลลิลิตร • นมสดรสหวาน 140 มิลลิลิตร • เกลือป่น 5 กรัม • ไข่ไก่ (ขนาด 50-55 กรัม) 2 ฟอง • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม • เนยจืด 30 กรัม • ไขมันถั่วเหลืองสำ�หรับทอดโดนัท วิธีทำ�โดนัท **สูตรนี้ทำ�ได้ประมาณ 17 ชิ้นใหญ่ • วิธีทำ� น้ำ�ตาลไอซิ่งสำ�หรับชุบโดนัท 1. นำ�นมสดและเนยใส่หม้อ นำ�ขึ้นตั้งไฟอ่อน คนให้เนยละลาย 2. พอนมเดือดนิดหน่อย ใส่กลิ่นวานิลาลงไป ปิดไฟ 3. ใส่น้ำ�ตาลไอซิ่งที่ร่อนแล้วลงลงไป คนผสมจนเนื้อเนียน จากนั้นใส่ผงโกโก้ ตั้งไฟต่อ ให้ร้อนแล้วคนอีก เพราะมันเย็นเร็วมาก **ต้องรีบชุบรีบทำ�นะคะ พอมันเริ่มแห้งเราก็ตั้ง ไฟต่อได้คะให้พอร้อนแล้วค่อยชุบต่อ**้ •1. นวดผสมน้ำ�ตาลทราย ยีสต์ น้ำ� นมสดรสหวาน เกลือป่น 5 กรัม ไข่ไก่ แป้งสาลี อเนกประสงค์ และเนยจืดเข้าด้วยกันในอ่างผสม นวดด้วยมือประมาณ 40 นาที แล้วพัก 30 นาที หรือจนแป้งโดขึ้นเป็น 2 เท่า ทุบไล่ลมแล้วพักต่ออีก 30 นาทีหรือขึ้นเป็น 2 เท่า •2. คลึงแป้งให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วใช้แก้วกับก้นพิมพ์คุกกี้มากดแป้ง ตัดแล้วก็พักต่ออีกให้โดนัทฟูขึ้นเท่าตัวเลย ใช้ที่ตัดขนมปังมาช่วยในการย้ายโดนัท สะดวกและไม่เสียรูปทรงค่ะ •3. ใส่ไขมันถั่วเหลืองสำ�หรับทอดโดนัทลงในกระทะหรือหม้อ เปิดใช้ไฟกลาง ทอดให้ขาวฟู ทั้งสองด้านก่อน แล้วค่อยปล่อยให้เหลืองที่ละด้านนะคะ จะได้ขอบขาว ๆ มาด้วย •4. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ�มันแล้ว นำ�ไปชุบกับส่วนผสมน้ำ�ตาลไอซิ่ง

donut 20.

23.

ส่วนผสมเค้กช็อคโกแลตลาวา • • • • • • • •

แป้งขนมปัง 500 กรัม นมผง 100 กรัม น้ำ�ตาลทราย 40 กรัม ยีสต์ 10 กรัม เกลือ 7 กรัม สารเสริมคุณภาพ (Bread Improver) 5 กรัม น้ำ�เย็น 275 มิลลิลิตร เนยสดชนิดจืด 250 กรัม

วิธีทำ�

Croissant 22.

• 1. ใส่แป้งขนมปัง นมผง น้ำ�ตาลทราย ยีสต์ เกลือ และสารเสริมคุณภาพลงในอ่างผสม จากนั้นใช้ พายยางหรือมือคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้วเติมน้ำ�เย็นลงไป จากนั้นให้นวดแป้งไปสักพักจน ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี เมื่อแป้งโดได้ที่แล้วให้นำ�ไปรีดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วนำ�ไปแช่ใน ช่องแช่แข็งของตู้เย็นทันที (ไม่ต้องพักแป้ง) แช่จนกว่าแป้งจะเย็นจัดทั่วทั้งผืน • 2. ระหว่างที่รอให้แป้งคลายตัวให้นำ�เนยที่แช่เย็นเตรียมไว้ ออกมาทุบให้แบนเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืน ผ้าให้มีขนาดเล็กกว่าแป้งที่เราจะนำ�มาห่อ เมื่อแป้งคลายตัวดีแล้ว (ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไปสามารถ นำ�มารีดเป็นแผ่นได้ และที่สำ�คัญคือแป้งต้องเย็น) ให้นำ�เนยมาวางทับบนแป้ง • 3. พับแป้งทีละข้าง เริ่มจากด้านซ้ายโดยให้ขอบแป้งแต่ละข้างนั้นมาบรรจบกันตรงกึ่งกลางพอดี แล้วจึงรีดแป้งทางยาว (รีดขึ้นบนและลงล่าง) ให้มีขนาดตามที่เราต้องการ (ส่วนขนาดให้ลองกะ ประมาณดูว่า สามารถที่จะนำ�มาพับเป็น 3 ส่วนได้หรือเปล่า) จากนั้นก็ให้เริ่มพับแป้งจากด้านซ้ายโดย ให้ขอบแป้งมาอยู่กึ่งกลาง (ตามรูป) แล้วพับแป้งจากด้านขวาให้มาบรรจบพอดีกับ เมื่อพับ 3 ทบ ครั้งที่ 2 เสร็จแล้วให้นำ�แป้งไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที ขอบแป้งด้านซ้าย • 4. พับแป้งเป็น 3 ทบโดยพับแป้งจากด้านซ้ายมือให้ขอบแป้งมาอยู่กึ่งกลางแล้วจึงพับแป้งด้านขวา ให้มาบรรจบพอดีกับขอบแป้งด้านซ้าย เมื่อเสร็จจากการพับ 3 ทบครั้งสุดท้ายแล้วให้นำ�แป้งไปแช่ไว้ ในตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน • 5. วันต่อมาก็นำ�ออกมารีดให้เป็นแผ่นบาง หนาประมาณ 3 มิลลิเมตร ส่วนขนาดของครัวซองต์ โดยปกติแล้ว จะมีความยาวมากเป็น 2 เท่าของความกว้างหรือฐาน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราวัด ขนาดความสูงของครัวซองต์เท่ากับ 6 นิ้ว ความกว้างหรือฐานก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้ว • 6. นำ�ครัวซองต์ไปเรียงใส่ถาด พักให้แป้งขึ้นจนได้ที่ จากนั้นทาไข่แล้วนำ�ไปอบที่อุณหภูมิไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยเมื่อครบ 10 นาทีแรก ให้กลับถาดครั้งหนึ่ง และอบ ต่ออีกประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าสีจะสุกเหลืองจนทั่ว

25.

FOOD

24.

27.

ส่วนผสมพาสต้า • เส้นพาสต้าแบบตามใจชอบ • เกลือ • เนื้อ 1 1/2 ถ้วย • อัลมอนด์คั่ว 1 ถ้วยสับ • มะนาว 1 ช้อนชา • พริกไทยดำ� 1/4 ช้อนชา • ใบผักชีฝรั่งสด 1/2 ถ้วยสับ • น้ำ�มันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ • พาเมซานชีส 1 กำ�มือ วิธีทำ�พาสต้า •1. นำ�หม้อขนาดใหญ่ตั้งน้ำ� ใส่เกลือลงไปรอน้ำ�เดือด ประมาณ 7-8 นาที หลังจากนั้นใส่ เส้นพาสต้าลงไปในน้ำ�เดือด ระยะเวลาควรต้มตามที่ระบุไว้ในแพคเกจห่อ ในขณะที่ต้มก็ไป เตรียมวัถตุดิบกันต่อ •2. หันเนื้อที่เตรียมไว้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือใครจะสับเนื้อก็ได้ค่ะ และหันส่วนผสมอื่นๆเป็นชิ้น เล็กๆให้เรียนร้อย •3. กับมาที่เส้นพาสต้า พอสุกแล้วน้ำ�หม้อเทน้ำ�เดือดออก และทำ�การล็อคเส้นพาสต้าโดย การเอาไปแช่น้ำ�เย็นจัด เพื่อไม่ให้เส้นเละค่ะ พักไว้เพื่อเตรียมผัด •4. ตั้งเตาใส่น้ำ�มันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ และใส่เนื้อที่เราหันลงไป พอเนื้อสุกก็นำ�เส้นพาสต้า ลงไปผัด ปรุงรสด้วยเกลือ,พริกไทยดำ�และใบผักชีผรั่ง ผัดให้ทั่วกัน ใส่เมล็ดอัลมอนด์ คั่วและชีสลงไป คนอีกหน่อยก็เป็นอันเสร็จ จัดใส่จานได้เลยค่ะ ** วัถตุดิบ สมารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบค่ะ **

pasta 26.

29.

ส่วนผสมสเต็ก • เนื้อสันนอกวัว 1 กิโลกรัม (เลือกเอาเนื้อชิ้นใหญ่ๆ) • พริกไทยป่นตรามือ 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำ�สัปปะรด 1 ช้อนโต๊ะ • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ • ซอสมะเขือเทศ 1 ทัพพี • พริกไทยดำ� 1/4 ช้อนชา • ใบผักชีฝรั่งสด 1/2 ถ้วยสับ • น้ำ�มันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ • พาเมซานชีส 1 กำ�มือ วิธีทำ�สเต็กเนื้อและสูตรหมักสเต็กเนื้อวัวนุ่มๆ •1. แล่เนื้อสันนอกให้เป็นแผ่นหนาครึ่งเซนติเมตร แล้วใช้ค้อนทุบอาหารทุบเบา ๆ •2.ใส่พริกไทยป่น น้ำ�สัปปะรด เกลือ ซอสมะเขือเทศ ผสมลงในเนื้อแล้วใช้มือขยำ�ให้ เครื่องปรุงซึมเข้าไปใน เนื้อจนทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 20 นาที •3.แยกเนื้อเป็นชิ้นใส่ถุงพลาสติก เก็บเรียงใส่กล่องทัพเพอแวร์ หมกไว้ใต้น้ำ�แข็ง •4.เมื่อจะทานจึงนำ�เนื้อมาอุ่นในเตาไมโครเวฟ แล้วย่างบนเตาจนสุก วิธีทำ� น้ำ�เกรวี่ สเต็กเนื้อ นำ�เครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อเติมน้ำ�ให้ท่วมแล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ เคี่ยวนาน 2 ชั่วโมง จนได้น้ำ�เกรวี่เหนียวข้น เมื่อย่างสเต็กเนื้อเสร็จให้ราดน้ำ�เกรวี่บนเนื้อให้ชุ่ม แค่นี้ก็พร้อมท่านแล้ว ก็มีแค่นี้ครับสำ�รับสูตรสเต็กเนื้อพร้อมวิธีทำ�สเต็กเนื้อและสูตรหมักสเต็กเนื้อวัวนุ่มๆ เดียวคาวหน้า เรามาทำ� สเต็กหมู, สเต็กปลา และสเต็กหมูไก่กัน

steak 28.

31.

ส่วนผสมสเต็ก เนื้อวัวสับ 300 กรัม เนื้อหมูสับ 250 กรัม ไส้กรอกหมูอิตาลี (salsiccia) 250 กรัม ตับไก่ 200 กรัม แครอท 1 หัว หอมหัวใหญ่ 1 หัว ผักชีฝรั่ง (sedano) 2 ก้าน (ใบไม่เอานะคะ) น้ำ�ร้อน 1/2 แก้ว ไวน์แดง 1 แก้ว มะเขือเทศสับ 800 กรัม มะเขือเทศบด 700 กรัม

ส่วนผสมซอสเบชาเมล (Besciamella) เอาไว้ทำ�ลาซานญ่าได้สำ�หรับ 6 ท่าน แป้งสาลีเอนกประสงค์ 50 กรัม เนยจืด 50 กรัม นมรสจืด 500-700 มิลลิลิตร ลูกจันทน์ เกลือ

วิธีทำ�ลาซานญ่า 1. นำ�แครอท หัวหอมใหญ่ ผักชีฝรั่งและลูกจูนิเพอร์มาสับให้ละเอียด ใครจะใช้เครื่องช่วยสับก็ สะดวกดี แต่ไม่ใช่เครื่องปั่นนะคะ 2.นำ�หม้อใบใหญ่ขึ้นตั้งไฟปานกลางใส่น้ำ�มันมะกอกลงไป พอน้ำ�มันร้อน ก็ใส่พวกผักที่เราสับ เอาไว้ คนไปสักพักลดไฟลง เดี๋ยวจะไหม้ซะก่อน หมั่นคนไปเรื่อยๆ จนผักสุกดี ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นเติมน้ำ�ร้อนสักครึ่งแก้วลงไป คนไปจนกระทั่งน้ำ�ระเหยไปหมดจนเหลือแต่ น้ำ�มัน ทำ�แบบนี้จะช่วยลดกลิ่นของหัวหอมใหญ่ไม่ให้แรงเกินไป 3.นำ�เนื้อทั้งหมดผสมรวมกัน ยกเว้นตับไก่ ใส่ลงไป เพิ่มไฟขึ้นสักนิดนึง หมั่นคนเป็นพักๆ เดี๋ยวเนื้อจะไหม้ติดก้นหม้อ จนกระทั่งเนื้อทั้งหมดเปลี่ยนสึหมายความว่าสุกดีแล้ว ค่อยใส่ไวน์ แดงลงไป คนต่อไปจนกระทั่งแอลอกอฮอล์ระเหยไปหมด 4. เติมมะเขือเทศสับกับมะเขือเทศบดลงไป ผสมให้เข้ากันดี รอจนกระทั่งเริ่มเดือดจึงใส่ ตับ ไก่ลงไป หากใส่ลงไปตั้งแต่ตอนแรกกับพวกเนื้อตับไก่จะเละซะก่อน หมั่นคนเป็นพักๆ สัก 10-15 นาทีมาคนทีนึง เปิดไฟอ่อนที่สุดไว้นะคะ ต้มไปเรื่อยๆ สัก 2 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งน้ำ� งวดลงมากๆ แล้วก็พอ ระหว่างต้มก็ชิมแล้วปรุงรสด้วยพริกไทย กับเกลือ ตามใจชอบนะคะ รวมเวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง

lasagna 30.

เปิดเตาไว้ที่ 160 °c เราใช้แบบไฟบน-ล่าง ทาเนยที่พิมพ์ขนาด 20 x 30 cm ให้ทั่ว เรียงแผ่นลาซาน ญ่าลงไป ตามด้วยซอสเนื้อ ซอสเบชาเมลและชีสพาเมซาน ทำ�เหมือนเดิมคือแผ่นลาซานญ่า ซอสเนื้อ ซอสเบชาเมล และชีสพาเมซาน บางคนจะเรียงซอสเบชาเมลก่อนก็ได้นะคะไม่มีกฎตายตัวว่าอะไรก่อนหลัง ทำ�เหมือนเดิม จนเต็มพิมพ์ที่เราใช้ วันนี้เราใช้พิมพ์ไม่สูงเลยทำ�ได้แค่ 3 ชั้น ชั้นบนสุดโรยชีสเยอะนิดนึงจะ ได้อ้วนๆ เอ้ย..จะได้อร่อยๆ เราแอบเห็นบางสูตรในชั้นบนสุดเค้าจะเอาซอสเนื้อคนผสมกับซอสเบชาเมล เลย ใส่ในเตาอบเลย ใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที ให้ไหม้ด้านบนนิดๆ เป็นอันเสร็จยกออกจากเตา แล้วตัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

33.

Res ta u ra n t Fo re i g n Country 32.

35.

“FRAME”

เป็น โรงเบียร์ ที่มี อาหารแคลิฟอร์เนีย ที่มีสัมผัส ฝรั่งเศส ใน บรรยากาศร่วมสมัย ที่คุ้มค่าของ พาร์ท

Andrew Wigger *เชฟแอนดรูเกิดและเติบโตในฟาร์มของครอบครัวของ เขาในมิสซูรีตะวันตกเฉียงเหนือที่รักของเขาสำ�หรับอาหาร เริ่มพุ่งผ่านที่ดินการล่าสัตว์และการประมงความก้าวหน้า ของเขาผ่ า นโลกการทำ � อาหารเริ่ ม เป็ น เด็ ก ฝึ ก งานที่ โ รง แรมฟิลลิปโรงแรมเพชรสี่ที่แนะนำ�ในแคนซัสซิตี้และนำ�ไป สู่​​ บทบาทต่าง ๆ และไอร์แลนด์เชฟเควิน Dundon ที่ ถนน Raglan ในปี 2009 แอนดรูตัดสินใจที่จะย้ายไป แคลิฟอร์เนียเพื่อไล่ตามความฝันของเขาทำ�อาหาร,การ เรียนรู้คลาสสิกของอาหารฝรั่งเศสภายใต้ Pascal Olhats ที่ The Brasserie ในนิวพอร์ตบีช ในช่วงเวลา ที่เขาเป็น Sous Chef ที่ Zimzala ที่ Shorebreak โรงแรมในฮันติงตันบีชแอนดรูเรียนรู้ชื่นชมสำ�หรับ อาหารแคลิฟอร์เนียโดยมุ่งเน้นที่การใช้งานของผลิตผลสดตามฤดูกาลจากฟาร์มท้องถิ่นและประสบการณ์ เหล่านี้ได้รับการพิสูจน์ที่ทรงคุณค่าสำ�หรับแอนดรูได้รับการแต่งตั้งใหม่เป็นหัวหน้าพ่อครัวที่ ‘เฟรม’, ปารีส *

34.

“Address”

เมนท์ ของ นักสะสม ศิลปะ ( ลงนามโดย สถาปนิก และ

“FRAME” Brasserie

นักออกแบบ ตกแต่งภายใน Christophe Pillet ) คุณ

Restaurant Metro 6 Bir Hakeim

สามารถลิ้มรส อาหาร ที่น่าแปลกใจ ปรุงโดยเชฟ แอนดรู

metro Passy 6 , RER C Champ de

Wigger สหรัฐ กล่าวถึงเป็นพิเศษ สำ�หรับเครื่องดื่ม

Mars Eiffel Tower.

ค็อกเทล และ สถานที่ตั้ง ของร้านอาหาร ติดกับ

01 44 38 57 77

หอไอเฟล

Daily from 8am to 1am.

37.

*วันนี้ใครที่กำ�ลังจะไปชิมอาหารหรือไปชมบรรยากาศต่างประเทศแล้วละก็พวกเราขอแนะนำ�ร้าน อาหารจากต่างประเทศ ที่อร่อยและถูกใจกันทั่วทุกมุมโลกถูกใจทั้ง รสชาติ อาหาร และ บรรยากาศ ที่จะพา คุณ ดื่มด่ำ�ไปกับการรับประทานอาหารที่แสนอร่อยและสถานที่ที่สามารถเพิ่มความสุขให้กับท่าน... สำ�หรับอาหารจานแรก และ สถานที่แรกของเรา คือ ประเทศ ญี่ปุ่น เมืองโตเกียว ถ้าพูดถึงประเทศที่มีการ ตรวจ อย. ในด้านการบริโภคที่ดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ญี่ปุ่น เพราะประเทศนี้ ใส่ใจทุกลายละเอียดในเรื่อง อาหารการกินเป็นพิเศษ อาหารที่ญี่ปุ่น จะเป็นอาหารประเภทเนื้อดิบซะส่วนใหญ่ แต่วันนี้เราจะมาเสนอ สเต๊ก ของที่นี้ ว่าร้านที่ติดอันดับ 1 ของประเทศเขานั้น จะน่าสนใจขนาดไหน...

เพลิดเพลินไปกับ เนื้อระดับสูงสุด A5 Wagyu ตามที่คุณต้องการ เรามักจะ เตรียมความพร้อม ที่มีคุณภาพสูงสุด สำ�หรับคุณ เรา Ginza สเต็ก ให้บริการคุณด้วย ฝีมือ การปรุงอาหาร ที่ดีที่สุด ทุกที่นั่ง มี ที่นั่ง เคาน์เตอร์ ที่ให้ เป็นเวที ที่ดีที่สุด สำ�หรับคุณและคุณสามารถเลือก สถานที่ที่ ผ่อน คลายสำ�หรับ โอกาสต่างๆ เช่น แผนกต้อนรับ , งานเลี้ยง และ วัน อื่น ๆ

36.

Limited Price Dinner Course to enjoy the Highest Level A5 Wagyu as you want. We are always preparing the highest quality for you. We Ginza Steak, serve you with the best Culinary Skill.

All seats are Counter Seats, which provide a best stage for the chef, and for YOU. You can choose this relaxing place for many occasions, like Reception, Party and Date etc.

Ginza Steak Fast Shop : Address : Granbell Ginza 8F,9F, 1-5-5 Shinbashi, Minato-ku, Tokyo, 105-0004, Japan.

Closing day : Sunday, Year-end and New Year holidays from Dec. 31 to Jan. 4 Seat : 8F 22 Seats (counter only) 9F 24 Seats (4 Rooms for 6 people) We can prepare the Room for 13 people (we connect the 2 rooms) Hours : 16:00 - 23:00 (L.O.22:00) Wed : http://www.ginzano.jp/steak/

HEALTHY &CARE

HEALTHY &CARE

วิธีเก็บรักษาอาหารประเภทไขมัน

ควรเก็บน้ำ�มันไว้ในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันการ เหม็นหืน น้ำ�มันที่ใช้แล้ว หากนำ�มาใช้อีกครั้งควรกรอง เศษอาหารออกก่อน ซึ่งน้ำ�มันที่มีลักณะออกเหนียว เนื่องจากผ่านการใช้หลายครั้งแล้วไม่ควรนำ�มาใช้ซ้ำ� เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เนยเหลวและเนยแข็งควรเก็บใส่กล่องพลาสติก แช่ตู้ เย็นบริเวณที่มีความเย็นปานกาง ถ้าเย็นจัดเนยจะแข็ง เกินไป ทำ�ให้ต้องเสียเวลาในการรอให้เนยอ่อนตัวเมื่อ ต้องการใช้

วิธีเก็บรักษาอาหารประเภทแป้ง หากต้องการเก็บแป้งไว้ใช้ได้นานและป้องกันไม่ให้มี กลิ่นเหม็น ให้หมั่นนำ�แป้งออกมาตากแดด แล้วเก็บใน ภาชนะที่ปิดสนิท ป้องกันฝุ่นละอองและแมลง ซึ่งวิธี เก็บแป้งต้องไล่ความชื้นแล้วเก็บใส่ขวดโหลด ปิดฝาให้ สนิท

วิธีเก็บรักษาอาหารประเภทเครื่องปรุงรส แต่งสีและแต่งกลิ่นอาหาร ควรเก็บเกลือ น้ำ�ตาล และผงปรุงรสต่างๆไว้ในภาชนะ ที่แห้งและมีฝาปิดสนิท น้ำ�ส้มน้ำ�ปลา และซอสปรุงรส ต่างๆ เมื่อใช้แล้วต้องปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันการ ระเหยของกลิ่นและป้องกันแมลงหรือเชื่อจุลินทรีย์ก่อ ตัว และควรเก็บไว้ในที่แห้ง ยกเว้นซอสพริกและซอส มะเขือเทศให้เก็บไว้ในตู้เย็นหรือบรรจุในขวดทึบแสง เพื่อ ไม่ให้สีเปลี่ยน ทำ�ให้ดูไม่น่ารับประทาน

38.

39.

HEALTHY &CARE

กินอย่างไร..ให้สุขภาพดี?

1.กินอาหารเช้าเป็นประจำ� มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำ�คัญที่สุด และควรเป็นมื้อที่มีคุณค่าครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณ

ที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและสมองแล้ว ยังช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลใน เส้นเลือด ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น 2.เลือกอาหารจากธรรมชาติไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ (มอลต์) ถั่ว ข้าวสาลี (โฮลวีต) เมล็ด ทานตะวัน เป็นต้น อาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุ วิตามิน โปรตีนที่ ปราศจากโคเลสเตอรอลและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีสารแอนติออกซิแดนท์ ใยอาหาร และปัจจัยอื่น ช่วย ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดโคเลสเตอรอลและความดันโลหิต หรืออาจเลือกอาหารที่มี ส่วนผสมของธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีต ์ เป็นต้น 4.ลดขนมขบเคี้ยวและขนมอบที่มีแต่ไขมัน เกลือ น้ำ�ตาลและสาร ปรุงแต่งอื่นๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากอยากกินขนมอาจหัน มากินขนมที่มีส่วนผสมของธัญพืช เช่น ขนมปังโฮลวีต คุกกี้หรือ แคลกเกอร์ผสมมอลต์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับ ขนมที่มีประโยชน์น้อย อย่างไรก็ตามควรกินในปริมาณที่เหมาะสม 5.กินปลา ไข่ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีน ที่ดี ช่วยเสริมสร้างร่างกายในผู้เยาว์ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อม สลายในผู้สูงวัย เป็นส่วนประกอบของสารสร้างภูมิคุ้มกันโรคติด เชื้อ นอกจากนี้ยังมีโปรตีน เหล่านี้ยกเว้นไข่แดงที่มีไขมันน้อย จึง ลดความเสี่ยงโรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง เป็นต้น

40.

HEALTHY &CARE

10 เครื่องดื่มดับร้อน แคลอรีต่ำ� ดื่มด่ำ�แบบไม่ต้องกลัวอ้วน

เครื่องดื่มคลายร้อน หนึ่งวิธีคลายร้อน ที่มอบความสดชื่นให้ทันทีที่ยกแก้วดื่ม แถมไม่ต้องห่วง เรื่องน้ำ�หนักจะขึ้น เพราะนี่คือเครื่องดื่มแคลอรีต่ำ� ดื่มด่ำ�แบบเพลิน ๆ ให้ชื่นใจ ไม่ต้องกลัวอ้วน ! อากาศชักจะร้อนขึ้นทุกวัน ๆ พาลให้รู้สึกอยากดับกระหายด้วยเครื่องดื่มคลายร้อนกันสักหน่อย แต่ร่างกายเจ้ากรรมกลับอยากจะดื่มแต่น้ำ�หวานเย็น ๆ ไม่แคร์กันเลยว่าตอนนี้กำ�ลังเคร่งครัดกับการ ลดน้ำ�หนักอย่างแรง งั้นเอาเป็นว่ามาลองพิจารณาเครื่องดื่มดับร้อน แคลอรีน้อย ๆ เอาไว้เป็นตัว เลือกดื่มคลายร้อนอย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอ้วนกันอีกต่อไปกันเถอะ 1. น้ำ�เปล่า ไดเอตหนักมากก็เลือกดื่มน้ำ�เปล่ากันไปก่อน โดยอาจจะ ดื่มน้ำ�เย็นบ่อย ๆ ช่วยทั้งดับกระหายคลายร้อน แถมยังช่วย กระตุ้นระบบเผาผลาญได้อีกทางด้วย 2. น้ำ�ส้มคั้น 100% ต่อให้น้ำ�ส้มแก้วนั้นเปรี้ยวแค่ไหนก็แข็งใจดื่มไปอย่าง สตรอง หรืออาจจะเติมเกลือเพิ่มไปเล็กน้อยพอให้รสชาติ กลมกล่อมมากขึ้นก็ไม่ว่ากัน ซึ่งแก้วนี้จะได้พลังงานประมาณ 122 แคลอรีเบา ๆ เท่านั้นเอง 3. น้ำ�มะเขือเทศ น้ำ�มะเขือเทศสด รินใส่น้ำ�แข็งเกล็ดเต็มแก้ว แค่มโนตาม ก็ชื่นใจเล็ก ๆ แล้วใช่ไหมคะ และแก้วนี้ยังให้พลังงานแค่ 41 กิโลแคลอรี 4. นมปั่น ถ้าไม่ชอบแบบปั่นจะใส่น้ำ�แข็งดื่มเพียว ๆ เลยก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นนมไขมันต่ำ�เท่านั้นนะจ๊ะ 5. กาแฟดำ� กาแฟดำ�เพียว ๆ เป็นเครื่องดื่มปราศจากแคลอรี และหาก ต้องการความสดชื่นก็เพียงแค่เติมน้ำ�แข็งเข้าไปสักหน่อย แล้วก็ดื่มให้ชื่นใจกันไปเลย อ้อ...แต่ขอสักนิดว่าอย่าดื่มหลัง บ่ายสามนะคะ ไม่งั้นอาจมีตาค้างข้ามคืนกันบ้างล่ะงานนี้

41.

42.