TAP Magazine Vol. 52 OCT 2020

Page 1




ให้เช่าที่ดิน

ติดตลาดทะเลไทย เนื้อที่ 6-2-31 ไร่ ท�ำเลดี ห่างจากถนนพระราม 2 เพียง 800 เมตร

ถนนพระราม 2 拉玛2路

ตลาดทะเลไทย 海鲜市场

จุดเด่นพิเศษ -

ติดตลาดทะเลไทย แนวที่ดินด้านซ้ายติดแม่น�้ำท่าจีน เหมาะส�ำหรับท�ำโกดังเก็บสินค้า ร้านอาหาร ห่างจากถนนพระราม 2 ประมาณ 800 เมตร ห่างจากกรุงเทพมหานคร ปรมาณ 26 กิโลเมตร

ลักษณะที่ดิน - เนื้อที่ดิน 6-2-31 ไร่ ติดตลาดทะเลไทย - หน้ากว้างติดถนนประมาณ 84 เมตร ไกล้ถนนพระราม 2 ทางสัญจรหลัก

สนใจติดต่อ

บริษัท สมบัติเหลืองสุวรรณ จ�ำกัด Tel : 0-2679-9808 ต่อ 204 (คุณอริญรัตน์)

E-MAIL : SOMBAT_CT@HOTMAIL.COM


土地出租

紧邻海鲜市场,占地面积6-2-31莱, 区位优势,距离拉玛2路仅有800米。

优势 - 紧邻海鲜市场 - 左方为他钦河 - 适合建成仓库或餐饮店 - 距离拉玛2路约800米 - 距离曼谷约26公里

概况 - 占地面积6-2-31莱,紧邻海鲜市场 - 土地一面紧挨道路,长84米, 靠近主干道拉玛2路

欢迎有意者联系 The Leung Suwan Estate Co., Ltd. 电话:0-2679-9808转204(Arinrat女士)

邮箱:SOMBAT_CT@HOTMAIL.COM


Editor’s Note ถอดบทเรียนแก้จน ดูจีน..ย้อนมองไทย ทุกวันที่ 17 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันลดความยากจนของจีน และตรงกับ วันขจัดความยากจนสากล ซึ่งในปี 2020 นี้ถือเป็นปีส�ำคัญที่รัฐบาลจีนได้ตั้ง เป้าหมายที่จะขจัดความยากจนในประเทศให้หมดไป ความส�ำเร็จของจีนในการต่อสู้กับความยากจนเป็นเรื่องที่โดดเด่นมาก นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดถึงนโยบายการแก้ ปัญหาความยากจนของจีนในหลายวาระ ล่าสุด ในการหารือทางโทรศัพท์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การรับมือ COVID-19 ไทยได้แสดงความสนใจและต้องการส่ง ทีมไปศึกษาเรียนรู้ดูงานที่จีนเมื่อสถานการณ์มีความพร้อม จีนใช้กลยุทธ์อะไรบ้างเพือ่ ไปสูเ่ ป้าหมายในการขจัดความยากจน? ดูจนี .. ย้อนมองไทย มีอะไรบ้าง?ที่เป็นกรณีศึกษาน่าเรียนรู้ เพื่อ“แก้จนให้ตรงจุด” ติดตามได้จาก Cover Story ใน TAP Magazine ฉบับนี้ คอลัมน์ China-ASEAN พบกับรายงานพิเศษเกาะติดไฮไลท์การ ประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 และการ ประชุมสุดยอดความร่วมมือท่าเรือสากลอ่าวเป่ยปู้ 2020 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ นครหนานหนิง กว่างซี ประเทศจีน และพลาดไม่ได้กับบทสัมภาษณ์พิเศษ ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริก ในคอลัมน์ Interview กับ 2 ปีหลังการ เปลี่ยนแปลงผู้ร่วมทุนใหม่จากจีน และแนวทางการปรับตัวของมหาวิทยาลัย ไทยในยุค“มองจีนให้เป็นโอกาส” หวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า เนื้ อ หาสาระดี ๆ ที่ คั ด สรรมาน�ำเสนอใน TAP Magazine ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทั้งชาวไทยและชาวจีนทุกท่าน แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า

Where

กองบรรณาธิการ Authority in Charge: Thai-Biz Panorama Co., Ltd. Supported by: China-ASEAN Expo Secretarial, ASEAN-China Centre Editorial Chairman of Advisors: เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ Director/Co-Publisher: Gao Hang Publisher Editor: ธีรเทพ เหลืองสุวรรณ Editor-in-Chief: ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ MD/Co-Editor: Chen Xiaodan Assistant Editor: ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง Editor’s Team: Huang Li, Wang Yinlei, ธนพร ศรีวัฒนดิลก, ณรงค์ฤทธิ์ แซ่อือ, ชนกนันท์ สายสิงห์ Photo Editors: ปวลี อรรฆยกุล, อาทิตย์ ชูก้าน Technicians: ประวิตร เอื้อวัฒนานุกูล Editorial Coordinators/Accounting and Finance: นฤมล ผู้ภักดี Artwork Designer: จิตรลดา ชัยภักดี To Readers: • We welcome contributions related to China-ASEAN cooperation in trade, culture or tourism. Please send your articles or pictures to tap-magazine@hotmail.com • To those authors of the photographs and articles published on this issue who have not heard from us, please take the initiative to liaise with us for your remuneration.

นิตยสารรายเดือน : TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) บริษัท ไทย บิช พาโนราม่า จำ�กัด เลขที่ 1168/76 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์/โทรสาร 02-679-7036 พิมพ์/แยกสี : บริษัท มติชน จำ�กัด (มหาชน)


Editor’s Note

to Find

借鉴中国反思泰国 学习中国精准扶贫经验 每年10月17日是中国的扶贫日,同时还是国际消除贫困 日,而2020年是中国宣布的脱贫攻坚决胜之年。中国的减贫经 验备受外界瞩目。 泰国总理巴育·占奥差上将曾多次谈及中国脱贫政策,今 年7月,巴育总理同中国国家主席习近平通话,就抗击新冠肺炎 疫情交换意见,泰方希望借鉴中方有效经验,待时机成熟,将 率团前往中国考察。 中国采用的扶贫政策是什么?借鉴中国反思泰国,泰国如 何借鉴精准扶贫经验?敬请关注本期杂志《封面故事》专栏。 《中国—东盟博览》专栏聚焦于今年10月15日在中国广西 南宁举办的第十一届泛北部湾经济合作论坛暨2020北部湾国际 门户港合作峰会。 本期杂志还对泰国格乐大学校长杨金泉教授进行了专访, 随着格乐大学股东结构的改变,中国股东加入后的两年里,在 中国是机遇的时代背景下,大学如何做出调整。 更多精彩内容,敬请关注《泰国—东盟博览》杂志。 泰国东盟博览杂志编辑组委会

Authority in Charge: Thai-Biz Panorama Co., Ltd. Supported by: China-ASEAN Expo Secretarial, ASEAN-China Centre Editorial Chairman of Advisors: Theparak Leungsuwan Director/Co-Publisher: Gao Hang Publisher Editor: Teerathep Leungsuwan Editor-in-Chief: Pradit Ruangdit MD/Co-Editor: Chen Xiaodan Assistant Editor: Dulyapaween Kronsaeng Editor’s Team: Huang Li, Wang Yinlei, Thanaporn Sriwatanadilog, Narongrit Saeue, Chanoknun Saisingh Photo Editors: Pavalee Akkayakun, Artit Chookan Technicians: Prawit Auwattananukool Editorial Coordinators/Accounting and Finance: Narumon Phoopakdee Artwork Designer: Jitlada Chaipakdee สแกน QR Code เพื่อดูจุดวางนิตยสารทั้งหมด 扫码即可了解杂志投放点 本刊说明:

Monthly magazine : TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) Thai Biz Panorama Co., Ltd. 1168/76 26th Floor Lumpini Tower, Rama IV Road. Thungmahamek, Sathorn, Bangkok, 10120 Thailand Tel/Fax 02-679-7036 Printing/Colour : Matichon Public Co., Ltd.

• 本刊欢迎投稿,有关中国—东盟之间的经贸、文化、旅游等内 容的稿件和图片,可发送邮件至tap-magazine@hotmail.com。 • 本刊部分图片和文章因故未能联系上作者,请作者见刊后与本 刊联系,以便奉送样刊及稿酬。


66 CM

Contents

10

22

32

VOLUME 52 • OCT 2020 10

ถอดบทเรียนจีนแก้จนสำ�เร็จได้อย่างไร ?

22

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ ขับเคลื่อน ‘มหาวิทยาลัยเกริก’ ยุคใหม่ ผนึกไทย-จีน..สู่อนาคตการศึกษาที่เปิดกว้าง

如何借鉴中国扶贫成功经验?

杨金泉教授推动格乐大学发展,泰中共建更加开放的未来教育

26

ส่องทิศทางเศรษฐกิจไทย-จีน โค้งสุดท้ายปี 63 ผ่านผลสำ�รวจดัชนีความเชื่อมั่น ‘หอการค้าไทย-จีน’ 泰国中华总商会经济指数,展望2020年第四季度泰中经济

32

การประชุมกรอบความร่วมมือรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 จับตามองท่าเรือสากล ร่วมกันสร้างเส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ 第十一届泛北论坛:聚焦国际门户港、共建陆海新通道


Monthly News

66 CM

ศูนย์วัฒนธรรมจีนฯ จัดงาน “ชมจันทร์สานสัมพันธ์ไทย-จีน” ร่วมกันร้องเพลง “สวัสดี หนีห่าว!” เชื่อมมิตรภาพสองประเทศ “天涯共此时”欢度佳节,《萨哇迪 你好》讴歌友谊 เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ และส�ำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ จัดงาน “ชมจันทร์สานสัมพันธ์ไทย-จีน” เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยได้เชิญพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆทั้งไทยและจีนมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขร่วมกัน แขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานไทย-จีน อาทิ ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจ�ำกระทรวงวัฒนธรรม, ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์, กร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและนายกสมาคมมิตรภาพ ไทย-จีน, กู้ หงซิง ผู้อ�ำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ และส�ำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ และ เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ อุปนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน งานในครั้งนี้มีความแปลกใหม่และหลากหลาย ทั้งการร่วมกันขับร้องบทเพลง “สวัสดี หนีห่าว!” บทเพลงพิเศษเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี การสถาปนา ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ร่วมกันของนักร้องชาวไทยและชาวจีน รวมถึงการแสดงบรรเลงกู่เจิง บรรเลงเดี่ยวซอเอ้อร์หู และการขับร้องบทเพลงที่มีกลิ่นอายแบบจีน ซึ่งเข้ากับบรรยากาศของเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในงานยังจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย “เกื้อกูลผูกไมตรี สานสัมพันธ์ 45 ปี การทูตไทย-จีน” ให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมกันหวนร�ำลึกถึงภาพประวัติศาสตร์การ พัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีนตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา อาคารของศูนย์วัฒนธรรมจีนฯที่มีเอกลักษณ์ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทย-จีน และลานที่มีการตกแต่งแบบสวนจีน ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการ ชมจันทร์ในคืนเทศกาลไหว้พระจันทร์ ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านจะได้พบปะพูดคุย ลิ้มรสชาติขนมไหว้พระจันทร์พร้อมดื่มด�่ำไปกับการแสดง 为庆祝新中国成立71周年和中秋传统佳节,曼谷中国文化中心和驻曼谷旅游办事处于10月1日举办“天涯共此时”迎中秋庆国 庆晚会,邀约中泰各界友人欢聚一堂,共度幸福吉祥的团圆之夜。 泰国文化部副部长巴腊梅、泰国国家旅游局局长育塔萨、泰国前副总理、泰中文化促进委员会主席披尼、泰国前副总理、泰中 友好协会会长功.塔帕朗西、曼谷中国文化中心暨中国驻曼谷旅游办事处主任顾洪兴、泰中友好协会副会长黄喜源等出席了招待会。 招待会活动主题鲜明、内容丰富。中泰两国著名歌手联袂演绎文化中心主推的中泰建交45周年年度友谊赞歌《萨哇迪—你 好》,此外还有古筝倾情合奏、二胡独奏以及歌曲演唱为中秋佳节增添了中国特色。 在现场,中泰建交45周年图片展为来宾们提供了一个回顾中泰友好往来历史的良好契机。 在提供欣赏演出、品尝月饼、畅谈友谊的机会的同时,文化中心兼备中泰两国建筑风格和富有中国园林特色的院子为来宾们 提供了一个中秋室外赏月的绝佳胜地。

7


66 CM

Monthly News

ททท.จับมือ Alipay แจกคูปองดิจิทัล กระตุ้นคนจีนในไทยเดินทางท่องเที่ยว 泰旅局携手支付宝派发旅游消费券 鼓励在泰中国人进行“泰国本地游”

กลุ่มชาวจีนที่อาศัยและท�ำงานอยู่ในเมืองไทย หรือ Expat ราว 2 แสนคน นับเป็นอีก หนึง่ กลุม่ เป้าหมายส�ำคัญซึง่ การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องการเดินหน้ากระตุน้ เพือ่ ให้เกิดการเดินทาง และจับจ่ายใช้สอยในประเทศ เพือ่ เร่งฟืน้ อุตสาหกรรมท่องเทีย่ วไทย จากวิกฤต COVID-19 ล่าสุด ททท. ได้จบั มือร่วมกับอาลีเพย์ (Alipay) แพลตฟอร์มการช�ำระเงินดิจทิ ลั ชัน้ น�ำใน จีน พร้อมด้วยฟลิกกี้ (Fliggy) แพลตฟอร์มการให้บริการท่องเทีย่ วออนไลน์ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป จัดแคมเปญพิเศษร่วมกันในชื่อ Local Chinese Expats Domestic Travel (泰国 游游) โดยชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศและมีบัญชีอาลีเพย์จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษจาก โรงแรมทีเ่ ข้าร่วมโครงการเมือ่ จองทีพ่ กั ในประเทศไทยผ่านฟลิกกี้ เริม่ ตัง้ แต่เดือนก.ย.-ธ.ค.นี้ ส�ำหรับการจองในแต่ละครัง้ นักท่องเทีย่ วจะได้รบั คูปองดิจทิ ลั อาลีเพย์มลู ค่า 368 หยวน (ประมาณ 1,661.8 บาท) ส�ำหรับใช้กับโรงแรมและซื้อสินค้าและบริการจากห้างร้านต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ การจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวร่วมกันครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ เชิงกลยุทธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและอาลีบาบาซึ่งมีการลงนามข้อตกลงร่วมกันเมื่อปี 2561 โดยทีผ่ า่ นมา หน่วยงานภาครัฐของไทยและหน่วยงานธุรกิจส่วนต่างๆ ของอาลีบาบาท�ำงาน ร่วมกันอย่างใกล้ชิดในหลายๆ ด้าน เช่น อี-คอมเมิร์ซ ดิจิทัลโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว และ การฝึกอบรม

在泰国工作和居住的中国人约有20万人,可以说是重要目标群体 之一。泰国国家旅游局给予高度重视,并鼓励在泰中国人进行泰国本 地游,以支持泰国旅游业在疫情下的复苏。 泰国国家旅游局和阿里巴巴集团旗下的支付宝、飞猪平台于近 日联合推出“泰国本地游”活动。自今年9月至12月期间,在泰中国 籍人士可通过支付宝账户在飞猪平台上预订泰国相关旅游项目,将 获得旅游优惠券。 每次预订将获得人民币368元(约合1661.8泰铢)的电子旅游优 惠券,可在全泰国参与这项活动的酒店和商户使用。 此次旅游刺激活动是泰国政府与阿里巴巴之间的战略合作之一。自2018年泰国政府与阿里巴巴集团签署战略合作协议以来,泰国 政府机构和阿里巴巴各大业务部门在多个领域展开了合作,比如电子商务、数字物流、旅游及培训。

CPF รุกธุรกิจสุกรครบวงจรในประเทศจีน 卜蜂食品扩大在中国的养猪业务 คณะกรรมการบริษทั เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จ�ำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้มีมติอนุมัติให้เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ CTI บริษัทย่อยในจีนเข้าซื้อ ธุรกิจสุกรในจีนจ�ำนวน 43 บริษัท โดยบริษัทย่อยจะออกหุ้นใหม่เป็นการช�ำระ ราคาให้แก่ผู้ขาย เพื่อควบรวมธุรกิจขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสุกรชั้นน�ำในประเทศ จีนซึง่ เป็นตลาดสุกรใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกทีม่ มี ลู ค่าประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีอตั ราการขยายตัวร้อยละ 8.3 ต่อปี ใน 10 ปีทผี่ า่ นมา ระหว่างปี 2553 ถึง 2562 (ตามข้อมูลสถิติที่เปิดเผยโดยส�ำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน) Chia Tai Investment Co., Ltd. หรือ CTI ประกอบธุรกิจหลักคือการ ผลิตและจ�ำหน่ายอาหารสัตว์ในจีน เป็นบริษทั ย่อยทางอ้อมของซีพเี อฟผ่าน C.P. Pokphand Co., Ltd. หรือ CPP ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฮ่องกง ต้องการควบรวมธุรกิจอาหารสัตว์เข้ากับธุรกิจสุกรในจีนของ Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. หรือ “ผู้ขาย”ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จ�ำกัด หรือ CPG โดยเป็นการเข้า ซื้อกิจการบริษัทจ�ำนวน 43 บริษัท มีมูลค่ารวมประมาณ 28,140 ล้านหยวน (หรือเทียบเท่ากับประมาณ 4,109 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 131,287 ล้านบาท) การเข้าท�ำธุรกรรมครัง้ นีจ้ ะเป็นการสร้างโอกาสให้ CTI ขยายการประกอบ

8

ธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรของจีน และเป็นบริษัทที่ด�ำเนินธุรกิจสุกรครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การ ผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสุกร โรงช�ำแหละและแปรรูปสุกร ซึ่งจะท�ำให้สามารถตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการประสานประโยชน์ของทั้ง ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) 泰国正大集团旗下的卜蜂食品(CPF)董事会决议公司间接拥有 的附属公司正大投资收购43家中国猪业公司。此次收购将透过发行新 股的方式进行,以整合业务成为中国领先猪业企业之一。中国是全球 最大猪肉消费市场,估值2000亿美元。根据中国国家统计局发布的统 计数据,在过去的2010至2019年这10年间年增速在8.3%。 正大投资股份有限公司(CTI)是泰国正大集团旗下的卜蜂食品 (CPF)通过于香港联合交易所上市的卜蜂国际(CPP)间接拥有的 附属公司,其主要业务是在中国生产、销售饲料。此次收购,旨在将 饲料业与交易的卖方正大集团(CPG)拥有的全资公司正大畜牧投 资(北京)的猪业进行整合,收购43家中国猪业公司,交易价值达 281.40亿人民币,约合41.09亿美元或1312.87亿泰铢。 此次收购,将为正大投资股份有限公司(CTI)拓展中国猪业 提供机会,其业务内容横跨饲料、养殖、屠宰和食品加工,能让该 集团更能因应市场变化,利用价值链的专业知识,进一步扩大未来 施展空间。


Monthly News

66 CM

คนจีนเข้ามาทำ�งานในไทยเติบโตสวนทางญี่ปุ่น สอดรับการย้ายฐานการผลิตระลอกใหม่

新一轮产业转移下 在泰的中国劳务人员数量超日本逆势增长

ผลพวงจากการย้ายฐานอุตสาหกรรมระลอกใหม่ ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเข้ามา ท�ำงานในไทยลดลง สวนทางกับตัวเลขชาวจีนที่เพิ่มขึ้น จากการย้ายฐานการผลิต ออกนอกประเทศจีน ในอดีตหลายปีที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นถือเป็นชาวต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาตให้ ท�ำงานในไทยจ�ำนวนมากทีส่ ดุ มาโดยตลอด คิดเป็นสัดส่วน 18% ( จ�ำนวน28,560 คน ณ ไตรมาส 3 ปี 2563) โดยชาวญี่ปุ่นเริ่มหลั่งไหลเข้ามาท�ำงานในไทย นับ ตั้งแต่การพัฒนาอุตสาหกรรม ในช่วงปลายทศวรรษ 2520 จนถึงช่วงวิกฤตการณ์ ทางการเงินในเอเชียในปี 2540 จนท�ำให้ไทยมีจ�ำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นนอก ประเทศญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 4 อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ก�ำลังเปลี่ยนไป จากการเปิดเผยของ ซีบีอาร์อี บริษัทที่ ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นน�ำระดับโลก พบว่า จ�ำนวนชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาท�ำงาน ในไทยก�ำลังลดลง เนื่องจากในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงมานาน คนในท้องถิ่นเริ่มมี ความสามารถในการท�ำงานแทนชาวต่างชาติทมี่ คี า่ แรงค่อนข้างสูง รวมถึงการย้าย ถิ่นฐานของโรงงานผลิตของญี่ปุ่นไปยังเวียดนามและกัมพูชา จากข้อมูลของส�ำนักบริหารแรงงานต่างด้าว ระหว่างปี 2558 - ไตรมาส 3 ปี 2563 ชาวฟิลปิ ปินส์และชาวจีนเป็นชาวต่างชาติทมี่ จี ำ� นวนเพิม่ ขึน้ รวดเร็วทีส่ ดุ โดย เพิ่มขึ้น 38% (จาก 13,146 คน เป็น 18,472 คน) และ 31% (จาก 18,812 คน เป็น 25,811 คน) ตามล�ำดับสวนทางกับจ�ำนวนชาวญี่ปุ่นที่ลดลงถึง 22% โดยลด ลงจาก 36,666 คนในปี 2558 มาเป็น 28,560 คนในไตรมาส 3 ปี 2563 ซึ่งเป็น สถิติต�่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 รัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ หัวหน้าแผนกวิจัยและที่ปรึกษาการพัฒนาโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ชาวจีนในไทยส่วนใหญ่ท�ำงานในภาคการ ผลิต เนื่องจากบริษัทเอเชียรายใหญ่ยังคงย้ายฐานการผลิตออกจากจีนอย่างต่อ เนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงก�ำแพงภาษีของสหรัฐฯส�ำหรับสินค้าที่ผลิตในจีน รวมถึงการที่ กลุ่มประเทศอาเซียนน�ำเสนอตัวเองในฐานะฐานการผลิตใหม่ ด้านกลุ่มชาวต่างชาติที่เติบโตมากที่สุดเป็นอันดับสองซึ่งก็คือชาวฟิลิปปินส์ ส่วนใหญ่จะท�ำงานเป็นครูในโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนสองภาษาในกรุงเทพฯ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษและมีค่าแรงที่ต�่ำกว่าชาวยุโรป อเมริกัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ การขยายตัวของชาวจีนและชาวฟิลิปปินส์ที่มาท�ำงานในไทยดังกล่าว ส่งผล ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของย่านที่เป็นศูนย์รวมชาวต่างชาติในไทย โดยพื้นที่ส่วน ขยายของย่านใจกลางกรุงเทพฯ เช่น พระราม 9 และรัชดาภิเษก ได้กลายเป็น ศูนย์รวมของชาวจีน เนื่องจากมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างร้านอาหารจีน ร้านค้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน ขณะที่อ่อนนุชเป็นย่านที่ชาวฟิลิปปินส์นิยมพักอาศัย เนื่องจากมีค่าเช่าต�่ำ กว่าย่านสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลาง แต่ยังคงสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถ ไฟฟ้าบีทีเอสเช่นกัน

伴随新一轮产业转移,导致来泰的日本劳务人员数量下 降。相反,鉴于部分产业从中国移出,来泰的中国劳务人员 数量出现上升。 来泰合法务工的日本人数量常年位居第一,占外来合法 务工总人数的比例高达18%(2020年第三季度统计数据为2万 8560人)。自1977年产业发展,日本人开始涌进泰国市场。 直至1997年发生亚洲金融风暴,除日本以外,泰国成为日本 人聚居数量位居第四的国家。 不过,这样的画面正在发生改变。根据国际房地产咨询顾 问世邦魏理仕报告显示,由于在泰长期保持迅猛发展的产业, 当地劳务人员逐渐具有相关产业工作技能,可取代薪资较高的 日本劳务人员,加上日本将产业从泰国转移到越南、柬埔寨, 为此在泰的日本劳务人员数量正下降。 根据外籍劳工监察局2015年至2020年第三季度数据统计, 来自菲律宾和中国的劳务人员数量呈快速增长,其中菲律宾劳 务人员数量增长38%(由1万3146人增至1万8472人);中国 劳务人员数量增长31%(由1万8812人增至2万5811人)。相 反,在泰的日本劳务人员数量下降22%,从2015年的3万6666 人减少至2020年第三季度的2万8560人,创2012年以来新低。 泰国世邦魏理仕物业管理服务公司(CBRE)研究组负责 人及项目开发顾问叻达瓦认为,由于亚洲大型企业为躲避美国 对中国产品的关税壁垒而将产业转移出中国,加上东盟各国大 力推广本国制造业优势,为此在泰的中国劳务人员大部分从事 制造业。 外籍务工人员数量快速增长,位居第二为菲律宾人。由于 掌握英语技能且薪资低于来自欧洲、美国、澳大利亚及新西兰 的外籍务工人员,因此他们大部分在位于曼谷的国际学校或双 语学校任教。 综上所述,来泰的中国籍和菲律宾籍劳务人员数量不断 增长,在泰聚居地也随之发生改变。比如曼谷拉玛九和拉差达 披色路一带为华人聚居地,周围交通便利,中国餐馆、店铺众 多,而且还靠近地铁。 而曼谷安努一带为菲律宾人集居地,租房费用相较素坤 逸初段及中段而言便宜,交通也十分便利,可搭乘轻轨出行。

9


66 CM

Cover Story

ถอดบทเรียนจีน แก้จนส�ำเร็จได้อย่างไร ?

จากประเทศที่เคยยากจนข้นแค้น..ในช่วง 4 ทศวรรษของการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิด ประเทศ ประเทศจีนได้สร้างสถิติโลกใหม่ด้วยการช่วยให้ผู้คนมากกว่า 700 ล้านคน หลุดพ้น จากเกณฑ์ความยากจน โดยปัจจุบันจีนยังหลงเหลือคนจนอีกเพียง 5 ล้านกว่าคน ซึ่งรัฐบาล ตั้งเป้าจะยกระดับให้หลุดพ้นจากความยากจนภายในปี 2020 สหประชาชาติยกย่องให้จีนประสบความส�ำเร็จในการลดความยากจน และเป็นตัวอย่าง ที่ดีให้กับประเทศก�ำลังพัฒนาอื่นๆ ในการแก้ปัญหาความยากจน ประเทศจีนท�ำได้อย่างไร?

10

Photo : Xinhua-News

พัฒนาการการแก้ปัญหาความยากจนของจีน รัฐบาลจีนทุกยุคได้ให้ความส�ำคัญกับการแก้ปัญหาความยากจน โดย ประเทศจีนเริ่มเดินหน้าลดความยากจนด้วยวิธีการช่วยเหลือประชาชน ยากจนในรูปแบบสวัสดิการที่เท่าเทียมกันระหว่างปี 1949-1977 โดยภาค รัฐให้ความช่วยเหลือ เช่น การปฏิรูประบบการจัดสรรที่ดินในชนบท แจก อุปกรณ์เครื่องมือท�ำการเกษตร นับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา การลดความยากจนของจีนสามารถแบ่ง เป็น 4 ช่วงที่ส�ำคัญ ได้แก่ ช่วงที่ 1 (ปี 1979-1985) เป็นการลดความยากจนจากการปฏิรปู ระบบ อนุญาตชาวนาท�ำสัญญาเช่าทีด่ นิ ของรัฐ ส่งผลผลิตส่วนหนึง่ ให้แก่รฐั บาลเพือ่ เป็นค่าเช่าที่ดิน ส่วนที่เหลือสามารถจัดการเองตามความต้องการ ช่วงที่ 2 (ปี 1986-2007) เป็นการลดความยากจนด้วยการพัฒนา จัดตัง้ คณะกรรมการลดความยากจนระดับส่วนกลางและมณฑล ก�ำหนดแนวทาง การลดความยากจนโดยการอาศัยทรัพยากรท้องถิ่น พัฒนาการผลิตด้วยตัว เอง พัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐาน และยกระดับคุณภาพชีวติ ของประชาชนยากจน และศักยภาพโดยรวม ช่วงที่ 3 (ปี 2008-2012) เป็นการใช้ 2 ระบบเพื่อลดความยากจน คือ ระบบการพัฒนาและระบบความช่วยเหลือเพื่อลดความยากจน แบ่ง เขตพื้นที่ยากจนของประเทศให้เป็น 11 เขตพิเศษเพื่อระดมก�ำลังลดความ ยากจน ในขณะเดียวกัน ก�ำหนดมาตรการเพื่อรับรองให้ครอบครัวที่ยากจน มีโอกาสได้รับการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานและการมี บ้านพักอาศัย เป็นต้น ช่วงที่ 4 (ปี 2013 – ปัจจุบัน) เป็นการลดความยากจนอย่างตรงจุด (Targeted Poverty Alleviation)


Cover Story

ไขรหัส 4 กลยุทธ์ความส�ำเร็จ นโยบายแก้จนตรงจุดของ “สี จิ้นผิง” ดร.หวัง เต้าหมิง อดีตคณบดี วิทยาลัยนานาชาติจีน-อาเซียน (CAIC) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และนักวิจยั ศูนย์บริการ RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจ บัณฑิตย์ กล่าวว่า การลดความยากจนอย่างตรงจุดของประเทศจีนเริม่ ตัง้ แต่ ปี 2013 ในสมัยประธานาธิบดีสี จิน้ ผิง โดยมีเป้าหมายการลดความยากจน ให้ครอบคลุมทุกครอบครัวและหมูบ่ า้ นทีย่ ากจน สร้างกลไกลดความยากจน ตรงจุดในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน ที่ส�ำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์การพิสูจน์ ช่วยเหลือ บริหารจัดการ และการตรวจสอบอย่างตรงจุด 1. การพิสูจน์อย่างตรงจุด เป็นการพิสูจน์ครอบครัวที่ยากจนและหมู่บ้านที่ยากจนเพื่อสร้างเป็น ประวัติ โดยมีเกณฑ์การพิสูจน์ครอบครัวยากจนในชนบท ก�ำหนดเส้นแบ่ง ความยากจนที่รายได้ 2,736 หยวนต่อคนต่อปี (หรือ 12,400 บาท/คน/ปี โดยประมาณ) เพือ่ แยกกลุม่ คนจนทีแ่ ท้จริงออกมา และจัดท�ำเป็นข้อมูลโดย มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลการให้ความช่วยเหลือรายครอบครัว และมีคณะ กรรมการดูแลแก้ปัญหาความยากจนประจ�ำหมู่บ้าน 2. การช่วยเหลือเพื่อลดความยากจนอย่างตรงจุด เป็นการวิเคราะห์เชิงลึกในสาเหตุที่ท�ำให้ยากจนของครอบครัวและ หมู่บ้านที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว หลังจากนั้น ก�ำหนดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะ เพื่อจัดท�ำแผนการช่วยเหลือลดความยากจนรายครอบครัวและ รายหมู่บ้าน พร้อมระดมก�ำลังด�ำเนินการตามแผน โดยวางระบบการขับ เคลื่อนงานตั้งแต่รัฐบาลส่วนกลาง ลงมาถึงระดับเมืองและมณฑล มีคณะ ท�ำงานประจ�ำหมู่บ้าน ตลอดจนมีระบบการคัดเลือกเจ้าหน้าที่ลดความ ยากจนที่มีศักยภาพ มีการสร้างแผนลดความยากจน และสร้างแรงจูงใจในการท�ำงาน เจ้าหน้าที่ที่มีผลงานดีเด่น จะมีสิทธิ์ได้รับโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่ การงานในอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมและธุรกิจทีส่ ามารถ ช่วยลดความยากจน โดยมีโครงการหลักที่รัฐบาลส่วนกลางก�ำหนดเป็น แนวทาง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการการศึกษา โครงการสินเชื่อขนาดเล็ก และโครงการอพยพเพื่อความยากจน 3. การบริหารจัดการอย่างตรงจุด เป็นการติดตามผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือพ้นจากความยากจนอย่าง ใกล้ชิด สร้างเครือข่ายฐานข้อมูลการลดความยากจนระดับประเทศ เพื่อ แบ่งปันข้อมูลความต้องการ พร้อมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างครอบครัว และหมู่บ้านที่ยากจนในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยในการประสานงานหรือแลก เปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงช่วยให้มีการจัดสรรทรัพยากรอย่างตรง จุดได้มากยิ่งขึ้น

66 CM

4. การตรวจสอบอย่างตรงจุด เป็ น การตรวจสอบเชิ ง ปริ ม าณในผลการท� ำ งาน ตั้ ง แต่ ก ารพิ สู จ น์ ครอบครัวและหมู่บ้านที่ยากจน การช่วยเหลือและบริหารจัดการลดความ ยากจนอย่างตรงจุด เพื่อรับรองการปฏิบัติงานในทุกระดับ โดยมีการตรวจ สอบประเมินผลงานการท�ำงานลดความยากจนของผู้บริหารรัฐบาลท้องถิ่น ระดับมณฑลในทุกปีซงึ่ ถือเป็นส่วนหนึง่ ของ KPI ในการประเมินผูบ้ ริหารด้วย อ.หวัง กล่าวว่า ในช่วง 7 ปีที่จีนได้ใช้นโยบายใหม่ “แก้ปัญหาความ ยากจนแบบตรงจุด” ท�ำให้จนี ยิง่ พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถลดคนจน ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2020 จีนตั้งเป้าขจัดความยากจนในประเทศให้หมดไป ซึ่งในส่วน เป้าหมายการแก้ไขความเดือดร้อนในกรอบ “2ไม่กังวล 3 หลักประกัน” ได้แก่ ไม่กังวลเรื่องปากท้องและเครื่องนุ่งห่ม และ 3หลักประกัน ได้แก่ ที่ อยู่อาศัยขั้นพื้นฐาน การรักษาพยาบาล และการศึกษาภาคบังคับ เป้าหมาย เหล่านี้จีนสามารถบรรลุได้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจนเชิงสัมบูรณ์ ซึง่ หลงเหลือกลุม่ คนจนราว 5 ล้านกว่าคน ทีม่ รี ายได้ตำ�่ กว่าเส้นความยากจน ที่ธนาคารโลกก�ำหนดไว้ที่ 1.9 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน หรือ 58 บาท/วัน ต้อง ยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างหิน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและ ผู้พิการ ซึ่งแก้ปัญหาได้ค่อนข้างยาก บวกกับผลกระทบซ�้ำเติมจากวิกฤต โควิด ท�ำให้บางคนที่หลุดพ้นจากความยากจนไปแล้วต้องกลับมาตกงาน ขณะที่โครงการโยกย้ายหมู่บ้านยากจนไปยังที่อยู่ใหม่ก็ต้องหยุดชะงักใน ช่วงมาตรการล็อคดาวน์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ ทั้งบรรดาผู้น�ำสูงสุด และผู้บริหาร ระดับมณฑลของจีน ยังคงมุง่ มัน่ ทีจ่ ะด�ำเนินการเพือ่ ให้เป็นตามเป้าหมายการ ขจัดความยากจนให้หมดทั้งประเทศภายในปี 2020 ซึ่งหวังว่าจะสามารถ บรรลุผลได้ส�ำเร็จ

11


66 CM

Cover Story

ภารกิจ “แก้จน” ก้าวต่อไปของจีน แผนการขจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 ไม่เพียงแต่เป็น ก้าวส�ำคัญในการสานฝันของจีนทีต่ อ้ งการจะฟืน้ ฟูชาติ แต่เป็นการขจัดความ ยากจนครั้งใหญ่และครั้งส�ำคัญในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย การใช้นโยบายการลดความยากจนอย่างตรงจุดของประเทศจีน ได้ ประสบความส�ำเร็จหลายด้านตามเป้าหมายทีก่ ำ� หนดไว้ การพิสจู น์อย่างตรง จุด ช่วยให้แบ่งคนยากจน ศึกษาความต้องการของครอบครัวและหมู่บ้านที่ ยากจนอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพการใช้ปจั จัยการผลิตส�ำคัญในระยะ สัน้ ช่วยสร้างคนทีม่ คี วามรูค้ วามสามารถและเพิม่ ประสิทธิภาพการผลิตของ ท้องถิ่นในระยะยาว ก่อให้เกิดการสร้างหรือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใน ชนบท การจัดให้มีประกันภัยด้านเกษตรกรรมการปลูกป่าไม้และมาตรการ อื่น ๆ ได้ช่วยให้ครอบครัวที่ยากจนสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้มากขึ้น พร้อมมีรายได้เพิ่มขึ้น ส�ำหรับก้าวต่อไปของนโยบายการลดความยากจนของจีน มีแนวโน้ม จะพัฒนาต่อไปใน 5 ด้าน ได้แก่ การปรับปรุงระบบการลดความยากจน อย่างตรงจุดให้ดีขึ้น การพัฒนาแบบสีเขียวและส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อ ลดความยากจน ออกแบบแผนการส่งเสริมแรงงานเพือ่ สร้างอุปทานแรงงาน มากขึ้นแก่ครอบครัวที่ยากจน เปลี่ยนแนวทางการช่วยเหลือคนยากจนให้ เข้าระบบประกันสังคม และเน้นการตรวจสอบและประเมินในระยะกลาง และระยะยาวต่อไป อ.หวัง กล่าวว่า หลังจากบรรลุเป้าหมายขจัดความยากจนให้หมดไป ในปี 2020 ซึ่งเป็นแก้ปัญหาความยากจนเชิงสัมบูรณ์ ก้าวต่อไปของจีนคือ การแก้ปัญหาความยากจนเชิงสัมพัทธ์ ขณะที่ปัญหาความยากจนในเมือง และปัญหาความเหลื่อมล�้ำก�ำลังเป็นปัญหาใหม่ๆที่ท้าทาย ซึ่งคาดว่า ขั้น ต่อไปรัฐบาลจีนคงจะมีการบูรณาการการแก้ปัญหาระหว่างความยากจนใน ชนบทกับในเมืองควบคู่ไปด้วยกัน นอกจากนี้ ยังต้องค�ำนึงถึงการสร้างระบบหรือกลไกเพื่อป้องกันไม่ให้ คนทีห่ ลุดพ้นจากความยากจนไปแล้วต้องกลับมายากจนซ�ำ้ จากการถดถอย ของภาคอุตสาหกรรม การแบกภาระต้นทุนค่าครองชีพ ค่ารักษาพยาบาลที่ มีค่าใช้จ่ายสูง โดยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า รัฐบาลจีนพยายามเน้นเรื่อง ระบบประกันสังคมที่มีความครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มการจ้างงาน ในประเทศ

如何借鉴中国扶贫成功经验? 过去的中国一贫如洗,40多年过去,改革开放给中 国带来翻天覆地的变化,7亿多人脱贫创造世界奇迹,还 剩500万贫困人口没有脱贫。中国政府宣布到2020年实 现农村贫困人口全部脱贫的目标。 联合国高度赞扬中国减贫成就,为其他发展中国家树 立了榜样。那么,中国是如何做到的呢?

脱贫攻坚的中国故事 中国政府历来高度重视扶贫开发工作。自1949年至 1977年时期,中国主要通过让贫困人口享受平等社会福 利来实现。政府方面给予援助,比如全国范围内实施土 地改革、分配农业设备。 自1979年以后,中国扶贫开发工作划分为4个阶段。 (1)体制扶贫阶段(1979-1985年)。这一时期通 过实行家庭联产承包经营责任制,部分农产品将以土地租 金的形式给予政府,剩余部分则由农户自行安排。 (2)开发扶贫阶段(1986-2007年)。中央和有关 省、自治区都要建立贫困地区领导小组,利用贫困地区本 地资源优势,自力更生发展生产,改善生活的道路的发展 方式,从基础设施、生态环境、贫困人口生活质量和综合 素质着手,逐步改变贫困地区落后状况。 (3)双轨并行阶段(2008-2012年)。为开发式扶 贫和救助式扶贫双轨并行的新阶段,在全国共划分了11个 集中连片特殊困难地区。同时提出保障贫困户义务教育、 基本医疗和住房安全等一系列规划和措施。 (4)精准扶贫阶段(2013年至今)。

四个“精准”落实习近平扶贫思想的重要法宝 前泰国博仁大学中国—东盟国际学院院长、博仁大 学研究服务中心研究员王道明博士表示,2013年,中国 国家主席习近平正式提出“精准扶贫”概念,逐村逐户 制定帮扶措施,通过四个“精准”实现可持续的发展机 制,包括:精准识别、精准帮扶、精准管理、精准考核。 1、精准识别 通过一定的方式将贫困户和贫困村有效识别出来, 并建档立卡。以农民年人均纯收入2736元(约合1.24万 泰铢)的国家农村扶贫标准为识别标准。建立驻村帮扶 队伍、贫困户帮扶责任人开展帮扶工作。 2、精准帮扶 对识别出来的贫困村和贫困户,深入分析致贫原因, 落实帮扶责任人,逐村逐户制定帮扶计划,集中力量予以 扶持。扎扎实实把脱贫攻坚推向前进,由中央统筹、省负 总责,市县抓落实的管理体制。建立健全帮扶制度,充分 调动驻村干部的积极性,对工作成效显著的要提拔重用。 此外,政府还给予对参与产业扶贫的企业精准支持。

12


Cover Story

66 CM

政府提出了三个主要扶贫方式,包括:教育支持、扶贫小 额信贷、异地扶贫搬迁。 3、精准管理 对扶贫对象进行全方位、全过程的监测,建立全国 扶贫信息网络系统,实时反映帮扶情况,实现扶贫对象 的有进有出,动态管理,为扶贫开发工作提供决策支持, 做到应扶尽扶。 4、精准考核 对贫困户和贫困村识别、帮扶、管理的成效,以及 对地方政府的扶贫绩效进行考核,奖优罚劣,保证各项 扶贫政策落到实处。 王道明博士说道,7年前,中国开始全面实施精准 扶贫政策,使中国发展越快,越能有效解决贫困问题。 中国政府提出到2020年农村贫困人口全部脱贫的目 标,着力解决“两不愁三保障”突出问题,即不愁吃、 不愁穿;义务教育、基本医疗、住房安全有保障。这些 目标中国都达到了。 根据世界银行使用的贫困标准,目前剩下约500万贫 困人口每天生活费低于1.9美元(约58泰铢/天),必须承 认这是十分棘手的问题,由于大部分贫困人口是老年人和 残障人,这对解决贫困问题带来一定难度,加上疫情叠 加,导致已脱贫的部分人口又再次面临失业境遇。同时, 异地扶贫搬迁也因疫情被临时暂停。 在今年最后弯道,中国国家领导人及地方行政机构 仍在为实现2020年全部脱贫目标而努力,希望能达到预 期目标。 精准脱贫,下一步该怎么干? 2020年实现全部脱贫摘帽,不仅是实现中华民族伟大 复兴中国梦的重要里程碑,还对世界减贫有着重大意义。 中国的精准脱贫政策在多方面都已如期实现。精准识 别能够做到不漏掉“一村一屯一户一人”。 在短期内提高生产要素的使用效率,帮助地方培养 人才,使生产力得到长期发展,让农村基础设施建设得 到发展或改善,不断提升农业、林业的自然灾害应对能 力和制定其他方面措施,让贫困户能够通过土地获益, 创造收入。 中国精准脱贫的下一步将在五大方面下功夫,包括: 不断健全精准扶贫政策;绿色减贫;制定劳动力促进计 划,为贫困户创造劳动力供给;转变帮助贫困户享受社会 保障的方式;侧重中期及长期的监测和评估。 王道明博士还补充说道,当实现2020年全部脱贫目标 后,属于消除绝对贫困。接下来是解决相对贫困,城市贫 困深度和城乡发展不平衡是面临的新挑战。下一步,中国 政府可能将注重缩小城乡发展差距。 此外,从工业衰退、生活负担、高昂医疗费情况来 看,还要考虑建立防止返贫监测机制。根据过往可以看 到,中国政府高度重视人民享受社会保障,包括增加就 业岗位。

13


66 CM

Cover Story

ดูจีน..ย้อนมองไทย

แก้จนอย่างไรให้ตรงจุด

Photo : Xinhua-News

ดร.สมพันธ์ เตชะอธิก ทีป่ รึกษาและอนุกรรมาธิการติดตาม ตรวจสอบ เสนอแนะการแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล�้ำ วุฒิสภา ได้ สะท้อนมุมมองถึงแนวทางและความส�ำเร็จในการแก้ไขปัญหาความยากจน ของจีน ซึ่งมาจาก 5 ปัจจัยที่ส�ำคัญ ได้แก่ 1.รัฐบาลโดยการน�ำของ ‘ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง’ มีเจตจ�ำนงทางการ เมือง (political will) และก�ำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา ความยากจน หัวใจส�ำคัญจึงอยู่ที่ความเอาจริงเอาจังของผู้น�ำ และการให้ ความส�ำคัญของรัฐบาล ซึ่งท�ำให้เกิดการขับเคลื่อนทั้งระบบจนบรรลุไปสู่ เป้าหมาย 2.ระบอบสังคมนิยมแบบจีนที่มีลักษณะการรับฟังความคิดเห็นจาก ล่างขึน้ บน ท�ำให้เกิดการขับเคลือ่ นการแก้ปญ ั หาความยากจนไปได้ทงั้ ระบบ 3.มีนโยบายเจาะเข้าถึงระดับบุคคลและครัวเรือน เพื่อพุ่งเป้าไปที่ การวิเคราะห์ปัญหาของครัวเรือนที่ยากจน มีการสร้างระบบกลไก โดยให้ หน่วยงานของแต่ละหน่วยงานจับคูก่ บั พืน้ ทีเ่ ป้าหมาย และมีการส่งเจ้าหน้าที่ ของรัฐบาลนับล้านคนลงไปวิเคราะห์ปญ ั หาและความต้องการในพืน้ ที่ มีการ เก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เข้าไปตรวจสอบและคุยตัวต่อตัวกับคนยากจน จน ได้ข้อมูลกว่า 89 ล้านแฟ้ม/โครงการ ท�ำให้สามารถช่วยเหลือคนยากจนได้ อย่างตรงจุด เพราะมาจากความต้องการที่แท้จริงของคนยากจน 4.มีการให้เงินสนับสนุนเพือ่ ช่วยเหลือครอบครัวทีย่ ากจนครัวเรือนละ 2 พันหยวน รัฐบาลเข้าไปช่วยดูแลผูย้ ากไร้ให้มหี ลักประกันขัน้ พืน้ ฐานในการใช้ ชีวิต มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงการขนส่ง 5.การเชื่อมโยงตลาดเพื่อรองรับผลผลิตจากระดับครัวเรือน และกลุ่ม วิสาหกิจระดับเอสเอ็มอีในชุมชน โดยส่งเสริมการเชือ่ มโยงกับตลาดออนไลน์ และผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น อาลีบาบา

14

8 แนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนของจีน

1. น�ำอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยสินค้าเกษตร/ภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น ท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าสินค้า หาช่องทางระบายสินค้า ใช้อีคอมเมิร์ซชักน�ำ และให้การช่วยเหลือทางการตลาดจนมีช่องทางธุรกิจ สนับสนุนการเป็น ผูป้ ระกอบการในพืน้ ทีย่ ากจนด้วยสินเชือ่ แบบไมโครเครดิต (micro – credit) ที่ไม่ร้องขอหลักประกัน ระยะ 3 ปี โดยรัฐบาลได้ปล่อยสินเชื่อมากกว่า 5.8 แสนล้านหยวน (ราว 2.9 ล้านล้านบาท) แก่ครัวเรือนที่จัดอยู่ใต้เส้น แบ่งความยากจนราวครึ่งหนึ่ง หมายถึงผู้ที่มีรายได้ต�่ำกว่า 2,800 หยวน/ปี (ราว 14,000 บาท) 2. จัดตั้งฐานอุตสาหกรรมมากกว่า 1 แสนแห่ง ในพื้นที่ที่อยู่ใต้เส้นแบ่ง ความยากจน ครอบคลุมครัวเรือนที่มีฐานะยากจนร้อยละ 92 กระตุ้นการ จ้างงาน และฝึกให้คนยากจนหางานท�ำ จะเพิ่มทักษะวิชาชีพและรายได้ หลิว หย่งฟู่ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานป้องกันความยากจนของประเทศ กล่าว ว่า มีวิสาหกิจกว่า 40,000 แห่งจับคู่กับหมู่บ้านยากจนกว่า 30,000 แห่ง เป็นความพยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมในท้องถิ่นและชะลอการอพยพ ของเยาวชนที่มีทักษะพรสวรรรค์ 3. โยกย้ายประชากรให้มีที่อยู่ใหม่และจ่ายเงินชดเชย ลงทุนพื้นที่ให้ สร้างคนสร้างงาน 5 ล้านคน 4. ช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต สาธารณูปโภค ถนน น�้ำ ไฟฟ้า โรงเรียน โรงพยาบาล ชุมชนแข็งแรง และเชื่อมโยงเมืองต่างๆ 5. ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่ชนบทห่างไกล อัดฉีดเงินและอาสาสมคั ร จ�ำนวนมากไปช่วยสอนหนังสือ 6. ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย 7. ช่วยเหลือด้านสิ่งแวดล้อม 8. เงินช่วยเหลือด้านสาธารณสขุ และเบีย้ ยังชีพแก่ผสู้ งู อายุทไี่ ม่สามารถ ท�ำงานได้


Cover Story จากบทเรียนความส�ำเร็จของจีน เมื่อหันย้อนกลับมามองประเทศไทย ในมุมมองของ อ.สมพันธ์ ความแตกต่างอย่างแรก คือ ภาครัฐของไทยยังขาด เจตจ�ำนงทีช่ ดั เจนในการแก้ปญ ั หาความยากจนทีล่ งลึกถึงระดับครัวเรือนแบบ พุ่งเป้า นโยบายส่วนใหญ่ที่ผ่านมา ยังคงเป็นในลักษณะประชานิยมที่เน้นการ แจกเงิน เหมือนการให้ปลาที่ให้ไปเท่าไหร่ก็หมด แตกต่างจากจีนที่เน้นให้เบ็ด ไม่ได้ให้ปลา ท�ำให้คนสามารถท�ำมาหากินพึ่งพาตนเองได้ รัฐบาลจีนแก้ไขปัญหาความยากจนทั้งในเชิงปัจเจกบุคคล ครัวเรือน และชุมชน บวกกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่สร้างระบบสาธารณูปโภค ที่จ�ำเป็นให้แก่ชุมชนที่อยู่ใต้เส้นวัดความยากจนทั้งประเทศ การแก้ไขปัญหา จึงเป็นไปทั้งสองระดับควบคู่กัน โดยการน�ำของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่มี วิสัยทัศน์ ความคิด นโยบาย แนวทางการปฏิบัติที่ลงลึกถึงการวิเคราะห์ราย ครัวเรือนและชุมชน ความเชื่อมโยงกับภาครัฐทุกระดับและภาคธุรกิจเอกชน ที่มีศักยภาพไปช่วยเหลือและสนับสนุนในจุดที่คนยากจนและชุมชนท�ำไม่ได้ ทั้งการผลิต แปรรูป ตลาด การบริหารจัดการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบขนส่งและอินเตอร์เน็ต ประเทศจีนมีระบอบสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะแบบจีน ในทฤษฎี สังคมนิยม ได้เน้นหนักการขจัดการขูดรีดทางชนชั้นจากนายทุน รัฐบาลจีน ส่งเสริมคน/ครัวเรือนและชุมชนให้ลุกขึ้นมาประกอบการเอง ไม่ผ่านนายทุน จึงสามารถพึ่งตนเองขึ้นมาได้ นอกจากนี้ ยังมีการให้คนยากจนมีปัจจัยการ ผลิตเป็นของตนเอง จากเดิมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ รัฐบาลจีนเปลี่ยนแปลง นโยบายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคนยากจนและกรรมสิทธิ์ร่วมของกลุ่ม/ชุมชน โดยใครท�ำมากได้มาก จึงท�ำให้คนยากจนลืมตาอ้าปากได้และอยู่เหนือเส้นใต้ วัดความยากจนขึ้นมาได้ โดยมีรายได้ที่เป็นธรรมจากภาคธุรกิจ มีการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเกษตรทีส่ มดุล มีการสนับสนุนกันเป็น เครือข่ายเชื่อมโยงทางธุรกิจที่มีทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจลงไปช่วยเหลือกลุ่ม วิสาหกิจของชุมชนให้สามารถขายสินค้าได้ทางอินเตอร์เน็ตและมีระบบขนส่ง ที่เกื้อหนุนสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค จากการศึกษานโยบายและแนวทางการแก้ไ ขปัญหาความยากจน ของจีนดังกล่าว จึงมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทย ผ่านการน�ำเสนอต่อคณะ อนุกรรมาธิการติดตาม ตรวจสอบ เสนอแนะการแก้ไขปัญหาความยากจน และ ลดความเหลื่อมล�้ำ วุฒิสภา ดังนี้ 1.รัฐบาลไทยต้องมีวสิ ยั ทัศน์ ความคิด นโยบายและประกาศให้ชดั เจนใน การแก้จนตรงจุดอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีคนยากจนที่ต�่ำกว่าเส้นใต้ความ ยากจนไม่ถึง 10 ล้านคน จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากในการขจัดความยากจน ให้หมดสิ้นไป เพียงแต่รัฐบาลไทย พรรคการเมือง หน่วยงานราชการ องค์กร ปกครองท้องถิ่น สถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจเอกชนต้องมีทิศทางเรื่องนี้ อย่างจริงจัง 2.จัดตั้ง “ส�ำนักงานบูรณาการการแก้ปัญหาความยากจน” อาจเป็น ระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรีหรือจะเป็นระดับพระราชกฤษฎีกาหรือพระราช บัญญัติ มีงบประมาณประจ�ำปีที่มีประสิทธิภาพ ความคล่องตัว ความโปร่งใส 3.ด้านความรู้ รัฐบาลไทยควรมีมาตรการให้หน่วยงานรัฐในระดับพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจจับคู่คน/ครัว เรือนและชุมชนที่อยู่ใต้เส้นวัดความยากจน ร่วมกันศึกษาข้อมูลที่แท้จริงของ คนยากจน/ครัวเรือนและชุมชนให้ลกึ ซึง้ จริงจัง จัดท�ำแฟ้มข้อมูลและโครงการ ทีแ่ ก้ไขปัญหาความยากจนได้จริง จึงจะเป็นการใช้ความรูท้ แี่ ท้จริงในการแก้ไข ปัญหาความยากจนได้ 4.หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และ ภาคธุรกิจต่างๆสนับสนุนก�ำลังคน วัสดุอุปกรณ์ สมทบงบประมาณในแก้จน ตรงจุดด้วย, รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ท่ีจ�ำเป็นให้คนยากจน สร้างบ้านใหม่ ปรับปรุงบ้านพัก ห้อง ส้วมให้ครัวเรือนยากจน, สนับสนุนทุนคนยากจน/ครัวเรือนละ 10,000 บาท โดยอาจจะท�ำเป็นกองทุนหมุนเวียนแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงปัจเจกบุคคล และโครงสร้างพืน้ ฐานในพืน้ ทีใ่ ต้เส้นวัดความยากจน เพือ่ น�ำไปสร้างอาชีพและ

66 CM

รายได้เลีย้ งดูครอบครัว, รัฐบาลสนับสนุนการรวมกลุม่ ผลิต แปรรูป การตลาด การ บริหารจัดการและให้ภาคธุรกิจ ส่งคนทีม่ คี วามรูค้ วามเชีย่ วชาญลงไปช่วยเหลือคน/ ครัวเรือนและชุมชนยากจนโดยตรง 5.รัฐบาลต้องมีการอบรมฝึกปฏิบัติใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์เพื่อการค้าขาย และการตลาด, จัดระบบการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค, จัดให้มีอินเตอร์เน็ต ไฟเบอร์ความเร็วสูงช่วยชุมชนยากจน ฯลฯ “ สิง่ ส�ำคัญอย่างแรก คือ ผูน้ ำ� โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ต้อง มีเจตจ�ำนงและนโยบายทีช่ ดั เจน ในการแก้ปญ ั หาความยากจนแบบพุง่ เป้าทีล่ งลึก ถึงระดับครัวเรือน โดยเน้นการท�ำงานแบบเชิงรุก ไม่ใช่รอให้คนจนเดินเข้ามาลง ทะเบียน แต่ต้องรุกลงพื้นที่ไปในทุกหมู่บ้าน ส่งบัณฑิตจบใหม่หรือใช้กลไกส่วน ท้องถิ่นส่งเจ้าหน้าที่ลงไปพูดคุย เก็บข้อมูล หากเราสามารถวิเคราะห์และเจาะลึก การแก้ไขปัญหาไปทีค่ รัวเรือนได้ จัดสรรกิจกรรมอาชีพให้ตรงกับตามศักยภาพของ แต่ละคน ก็สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้ ในมุมมองของ อ.สมพันธ์ ประเทศไทยมีกลไกของรัฐและท้องถิ่นจ�ำนวนมาก พอที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนได้ในเวลา 5-10 ปี จากงบประมาณที่มีอยู่ และ สามารถท�ำได้ทันที ถ้ามีการก�ำหนดนโยบายที่ชัดเจน เริ่มจากการเข้าไปวิเคราะห์ ปัญหาความยากจนลงลึกถึงระดับครัวเรือน น�ำร่องชุมชนละ10 ครัวเรือนก่อน จาก 8 หมื่นหมู่บ้าน รวมเป็น 8 แสนครัวเรือน ครัวเรือนหนึ่งมี 3 คน ปีหนึ่งก็สามารถ แก้ไขปัญหาได้ 2.4 ล้านคน ซึง่ ไม่ควรแก้ไขปัญหาด้วยการแจกเงินให้ แต่ควรท�ำใน รูปแบบการจัดตั้งกองทุนเงินทุนหมุนเวียน ให้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ปีหนึ่งลงทุน 8 หมื่นล้านบาท ให้เงินทุนหมุนเวียน ดอกเบี้ยต�่ำ 3 ปี เพื่อให้เขาน�ำเงินไปลงทุน ประกอบอาชีพเพื่อตั้งตัวได้ และทยอยคืนเงินที่ยืมไป “ในช่วง 3 ปีรฐั บาลลงทุน 2.4 แสนล้านบาท เงินทุนก็ยงั คงหมุนเวียนกลับมา ช่วยคนยากจนให้มีอาชีพได้อีก 2.4 ล้านคน ช่วยแบบนี้ไปเรื่อยๆ ปีละ 8 แสนครัว เรือน 10 ปีก็แก้ปัญหาได้จบแล้ว แต่ที่ผ่านมา ระบบพรรคการเมืองของเรา มักจะ มองแค่นโยบายระยะสัน้ 3 เดือน 6 เดือน ไม่ได้มองแบบระยะยาว ท�ำให้แก้ปญ ั หา ไม่ส�ำเร็จ” อ.สมพันธ์ กล่าว หัวใจส�ำคัญของการแก้จนอย่างไรให้ตรงจุด จึงอยู่ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจและ การมีนโยบายที่ถูกต้องของรัฐบาล รวมถึงการลงมือปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง มี การเชื่อมโยงการด�ำเนินงานตั้งแต่ระดับมหภาค ไปจนถึงจุลภาคระดับครัวเรือน และบุคคล โดยสังคมทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วมเป็นฟันเฟือง ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย

15


66 CM

Cover Story

借鉴中国反思泰国 学习中国精准扶贫经验 中国扶贫开发取得举世瞩目的伟大成就,泰国参议院扶贫 和缩小社会贫富差距小组委员会委员和顾问颂攀·迭察阿提博 士总结了中国扶贫取得成功的五大重要因素。 1、在以习近平带领下的中国政府有明确的政治意愿, 制定了符合国情的扶贫开发政策,关键在于国家领导人非常 严肃认真对待扶贫问题,加上政府高度重视,才能让脱贫攻 坚达到预期目标。 2、中国特色社会主义民主政治制度是脱贫攻坚取得成功 的根本保证。 3、扶贫政策落实到每家每户,分析每家每户的致贫原 因。建立结对帮扶机制,落实帮扶责任人,调派上百万扶贫 工作人员实地走访、普查,掌握贫困人口基本情况和帮扶需 求,收集贫困人口各类信息,8900万贫困人口全部建档,根 据贫困人口脱贫需求,实现精准扶贫。 4、对贫困户按照每户2000元的标准给予援助,为他们提 供最基本生活保障,同时发展基础设施建设、互联网、物流。 5、与市场连接,为贫困家庭和农民合作社提供产品营 销渠道,鼓励发展线上市场,以及和如阿里巴巴等大型电商 企业合作。

中国精准扶贫八条思路 1、引进产业 援助特色农产 品地理标志产 品、旅游 业,创造附加值,借助电商平台拓展企业营销渠道。为 有创业意愿的贫困户发放小额信贷,无需抵押担保,贷 款期限可达三年,政府向现行标准下(人均年收入低于 2800元人民币)一半农村贫困人口发放人民币贷款超过 5800亿元(约2.9万亿泰铢); 2、在贫困地区建成扶贫产业基地近10万个,覆盖了 92%的贫困户 ,刺激就业, 提升贫困人口 技能,创造收 入。中国国务院扶贫办党组书记、主任刘永富说,有4万 多个合作社与3万多个贫困村形成一对一帮扶模式,努力 发展地方产业和减缓年轻精英流失; 3、异地扶贫搬迁,支付补偿金,加大地方投资,创 造500万个就业岗位; 4、在人们生 活质量、基础 设施、公路、 水电、学 校、医院、社区、城市互联互通等方面给予援助; 5、支援偏远地区教育事业,投入资金和组织支教志 愿者; 6、修缮改造旧住房; 7、生态环境治理保护; 8、向无经济 来源的老年群 体提供医疗保 障和生活 津贴。

16

借鉴中国反思泰国,颂攀博士认为,首个区别是泰国 政府仍未有强化到村到户到人的精准帮扶坚定意志。从过 往实施的政策来看,仍是注重运用发钱方式的民粹主义政 策。相反,中国做法是授人于鱼不如授人以渔。 中国真正做到脱贫路上不漏一村、不落一人,建设 现行贫困标准下全国贫困地区基础设施,属于双轨并行扶 贫模式。在习近平主席的英明领导下,逐级分解落实,实 现扶贫到村到户。同时,政府与私营企业建立连接,在生 产、加工、营销、管理、基础设施建设(交通、互联网) 等方面给予贫困村和贫困户帮助。 中国实行社会主义制度。在社会主义理论中,着重强 调消除资本家阶级,中国政府鼓励人民自力更生。此外, 还让贫困人口拥有属于自己的生产要素,过去属于国有, 后来中国政府进行制度改革,将所有权归属贫困人口和集 体,依靠辛勤劳动,多劳多得,让贫困人口能够摆脱贫 困,获取公平收入。 产业和农业实现平衡发展,政府和私营企业向农村合 作社伸出援手,形成商业网络,帮助其通过线上渠道出售 产品以及有物流系统。 借鉴中国的扶贫政策和思路,泰国参议院扶贫和缩 小社会贫富差距小组委员会向政府提出以下几点建议: 1、政府要有远见、想法和决策,宣布精准扶贫政策 并严肃认真对待。泰国现行标准下贫困人口不足1000万, 实现全部脱贫并非难事,只要政府、各政党、国家机关、 地方行政机构、教育机构和私营企业都朝同个方向发力。 2、可以考虑在总理府规章制度、法令或法案条例下 成立“综合扶贫开发办事处”,拥有有效性、流动性和 透明度的年度预算。 3、信息库。政府应该出台措施,开启地方行政机 构、教育机构、私营企业与现行贫困标准下的贫困村、 贫困家庭或贫困人形成“一对一”帮扶机制,掌握真实 信息,建立贫困信息网,制定扶贫方案,这样方能对症 下药。 4、政府部门、地方行政机构、教育机构和民营企业 给予人力、物力、财力的全方位精准扶贫支持;政府拨


Cover Story

66 CM

发预算款项,主要用于发展基础设施建设,为贫困户 购置必要家具、建房、修缮房屋和卫生间;向每个贫 困人(或贫困家庭)发放1万泰铢救助金;成立流动 资金基金会,解决现行贫困标准下贫困地区的贫困户 和基础设施建设问题,让他们能够谋生和养家糊口; 政府鼓励形成生产、加工、营销、管理的产业集群; 企业分派掌握技术和知识的工作人员走进地方援助贫 困村、贫困户和贫困人口。 5、为让贫困人口更好开展线上营销,政府安排 网络营销培训课程,同时发展物流,提供超高速网络 援助贫困地区。 针对扶贫开发工作,国家领导人尤其是总理和政 府部门尤为关键,必须坚定意志和制定明确的扶贫政 策,要落实到每家每户,采取积极主动的工作态度, 而不是等贫困户前来登记注册,安排应届毕业生或地 方扶贫人员实地走访,搜集信息,如果能够深入分析 和解决贫困问题,根据个人所掌握技能安排就业,就 能解决贫困问题。 颂攀博士认为,目前政府有专项扶贫资金,加上 政府和地方制定多项扶贫机制,如果出台明确的扶贫 政策,完全可在未来5-10年内解决扶贫问题。从深 入剖析贫困户的致贫原因入手,先以每个社区10个贫 困户作为示范,按每户有3名家庭成员,8万个村庄共 80万个贫困家庭来计算,1年将能让240万贫困人口实 现脱贫,而不该通过发钱方式解决问题,应该采用成 立资金流通基金会模式,分配每村100万泰铢,1年总 投入800亿泰铢作为资金流通,连续三年给予低息优 惠,让他们能用于投资谋生,然后再逐步偿还贷款。 “三年内,政府投入2400亿泰铢作为流动资金, 这些流动资金能帮助240万人就业,相当于每年援助 80万个家庭,那么再过10年就能实现全部脱贫。但是 一直以来,政府仅注重如3个月、6个月的短期政策, 未从长远来看,导致始终无法全部脱贫。”颂攀博士 说。 搞好精准扶贫工作关键在于政府要有信心、有 决心和制定符合国情的扶贫政策,落实到行动中,上 至政府下至家庭、个人,全国建立统一的扶贫信息系 统,社会力量通力合作,积极参与到扶贫工作中来, 早日实现脱贫目标。

17


66 CM

Focus

จับตายุทธศาสตร์ก้าวต่อไปของจีน ผ่าน 6 คีย์เวิร์ดคำ�ปราศรัย ‘สี จิ้นผิง’

การจัดท�ำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ของจีนซึ่งเป็นฉบับที่ 14 (ระหว่างปี 2021-2025) ก�ำลังได้รับความสนใจอย่างมากว่า ในอีก 5 ปี ข้างหน้าการพัฒนาของจีนก�ำลังจะก้าวไปในทิศทางใด ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯฉบับนี้ ถือเป็นแผนในช่วง 5 ปีแรกแห่งการเดินทางครั้งใหม่ไปสู่การสร้าง ประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ และเป้าหมาย 100 ปีรอบที่ 2 ที่จีนได้ประกาศไว้ ส�ำนักข่าว CRI ของจีน ได้สรุปประเด็นส�ำคัญจากค�ำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในที่ประชุมหารือด้านเศรษฐกิจและสังคมครั้งล่าสุด เพื่อรับฟังความ คิดเห็นและข้อเสนอต่อการวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมี 6 คีย์เวิร์ดส�ำคัญจากค�ำปราศรัยที่น่าสนใจ ดังนี้

ในยุคใหม่แห่งการพัฒนา สภาพแวดล้อม ทั้ ง ภายในประเทศและต่ า งประเทศที่ เ กิ ด การ เปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ได้น�ำมาทั้งโอกาสใหม่ และการท้าทายใหม่ต่างๆ วิกฤตและโอกาสจะมา พร้อมกัน กล่าวคือ ท่ามกลางวิกฤตจะมีโอกาส และเราสามารถเปลีย ่ นวิกฤตให้เป็นโอกาสได้

2.

สถานะใหม่แห่งการ

พัฒนาเศรษฐกิจ 18

1. มองโอกาสใหม่ และการท้าทายใหม่ด้วยตรรกวิภาษ 2. ท�ำให้ยทุ ธศาสตร์ฟน้ื ฟูความเจริญรุง่ เรืองของประชาชาติจนี อย่างยิง่ ใหญ่ สอดคล้องกับ สถานการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกช่วงร้อยปี ที่ผ่านมา 3. เรียนรูใ้ นระดับลึกซึง้ เกีย่ วกับลักษณะใหม่และความต้องการใหม่ทเี่ กิดจากความขัดแย้ง หลักทางสังคมที่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว 4. ตระหนักในระดับลึกซึ้งถึงความขัดแย้งและการท้าทายใหม่ที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่ มีความสลับซับซ้อน 5. เสริมจิตส�ำนึกในการกุมโอกาสและรับมือกับความเสี่ยงด้านต่างๆ 6. เข้าใจการเปลี่ยนแปลงอย่างถูกต้อง รับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามหลักวิทยาศาสตร์ มุ่งมั่นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปยังทิศทางที่ดี 7. กล้าขับเรือทวนกระแสน�้ำ มีความช�ำนาญในการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส 8. พยายามบรรลุการพัฒนาที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความเที่ยงธรรม ความถาวร และ ความมั่นคงมากขึ้น

1. 2. 3. 4.

สร้างสถานะใหม่แห่งการพัฒนาเศรษฐกิจประชาชาติทมี่ คี วามหมุนเวียนอย่างคล่องตัว ยึดแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปโครงสร้างฝั่งอุปทาน ขยายความต้องการภายใน ท�ำให้การผลิต การกระจายรายได้ การหมุนเวียน และการบริโภคพึ่งพาตลาดภายใน ประเทศมากขึ้น 5. เสริมจิตส�ำนึกในการกุมโอกาสและรับมือกับความเสี่ยงด้านต่างๆ 6. ให้ระบบอุปทานสอดคล้องกับความต้องการภายในประเทศมากขึ้น 7. สร้างความสมดุลระดับสูงระหว่างความต้องการและอุปทานที่ส่งเสริมกันและกัน

ต้องผลักดันให้เกิดสถานะใหม่แห่งการพัฒนาที่ถือการหมุนเวียนทาง เศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก และให้การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายใน ประเทศและต่างประเทศส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน สถานะใหม่แห่ง การพัฒนาดังกล่าวนี้ ก�ำหนดขึน ้ ตามขัน ้ ตอนการพัฒนา สภาวะแวดล้อม และ เงือ่ นไขด้านต่างๆ ทีเ่ กิดการเปลีย ่ นแปลง เป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ทส ี่ ร้าง ความได้เปรียบใหม่ในการด�ำเนินความร่วมมือและการแข่งขันระหว่างประเทศ

1.

โอกาสใหม่ และการท้าทายใหม่


การบรรลุ ซึ่ ง การพั ฒ นาที่ ไ ด้ คุ ณ ภาพ ควรบรรลุ ซึ่ ง การ เติบโตชนิดภายในทีข่ บ ั เคลือ่ นด้วยความคิดสร้างสรรค์ ยิง่ กว่านี้ เราควรทุม ่ ก�ำลังยกระดับความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้วยตนเองให้สูงขึ้น เร่งหาช่องทางบุกเบิกเทคโนโลยีทเี่ ป็นหัวใจ ส�ำคัญโดยเร็วทีส ่ ุด

5.

สร้างความเหนือกว่าใหม่ๆ ด้านความร่วมมือและการแข่งขัน ระหว่างประเทศ

1. ใช้การเปิดเสรีตอ่ ต่างประเทศในระดับสูง เพือ่ สร้างความเหนือกว่า ใหม่ด้านความร่วมมือ และการแข่งขันระหว่างประเทศ 2. ยกระดับการเปิดเสรีต่อต่างประเทศให้สูงขึ้นรอบด้าน 3. สร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ชนิดเปิดเสรีในระดับสูง 4. สร้างความเหนือกว่าใหม่ๆด้านความร่วมมือและการแข่งขัน ระหว่างประเทศ 5. มีส่วนร่วมในการปฏิรูประบบบริหารจัดการเศรษฐกิจโลกอย่าง จริงจัง 6. เดินหน้าสร้างเสริมระบบบริหารจัดการเศรษฐกิจสากลให้มีความ เที่ยงธรรมและสมเหตุสมผลมากขึ้น

การเชือ่ มต่อและการไปมาหาสูท ่ างเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ยังคงเป็นความต้องการตามหลักความเป็นจริงในการพัฒนา เศรษฐกิจโลก แรงขับเคลื่อนส�ำคัญประการหนึ่งในการพัฒนา เศรษฐกิจอย่างรวดเร็วต่อเนือ่ งของประเทศเราก็คือ การเปิดเสรี ต่อต่างประเทศ ซึง่ เป็นนโยบายประเทศขั้นพื้นฐาน

4.

พลังชีวิตทางการ

พัฒนาใหม่

1. ใช้การลงลึกการปฏิรูป เพื่อกระตุ้นพลังชีวิตทางการพัฒนาใหม่ 2. สร้างสรรค์ด้วยความถูกต้องเป็นธรรม สร้างสรรค์ด้วยการบุกเบิก หาทางพัฒนาตนเองในอนาคตอย่างใจกล้า 3. ยืนหยัดและปรับปรุงระบบเศรษฐกิจพื้นฐานของสังคมนิยมให้ สมบูรณ์ขึ้น 4. คุ้มครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินและสิทธิทรัพย์สินทางปัญญามากขึ้น 5. สร้างระบบการตลาดที่ได้มาตรฐาน 6. ปรับระบบการแข่งขันด้วยความเป็นธรรมมากขึ้น 7. กระตุ้นส่วนส�ำคัญของภาคการตลาดให้มีพลังชีวิตพัฒนาอีกขั้น

เมือ่ ประเทศเราก้าวสู่ช่วงการพัฒนาใหม่ การปฏิรป ู ก็เผชิญ กับภารกิจใหม่เช่นกัน ควรใช้ความกล้าหาญมากกว่าเดิม และ มีมาตรการมากขึ้น มาทุบท�ำลายอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดจาก ระบบกลไกในระดับลึก ยืนหยัดและปรับปรุงระบบสังคมนิยมที่ มีเอกลักษณ์ของจีนให้สมบูรณ์ขึ้น เดินหน้าสร้างความทันสมัย ระบบการบริหารประเทศและความสามารถด้านการบริหาร

6. “

เฟสใหม่ ข องการ พัฒนาสังคม

1. ใช้การร่วมสร้าง ร่วมบริหาร และร่วมเข้าถึงกันเพื่อต่อยอดเฟส ใหม่ของการพัฒนาสังคม 2. สร้างต�ำแหน่งงานให้มากขึ้นและได้คุณภาพมากขึ้น 3. ปรับระบบประกันสังคมที่ครอบคลุมทั่วถึงอย่างยั่งยืน 4. สร้างเสริมระบบสาธารณสุขและการควบคุมโรค 5. ให้ประชากรพัฒนาอย่างสมดุลในระยะยาว 6. ปรับปรุงระบบการบริหารสังคมที่ร่วมสร้างร่วมบริหารและร่วม เข้าถึงกันให้สมบูรณ์ขึ้น 7. เพิ่มและสร้างสรรค์การบริหารสังคมระดับรากหญ้า 8. มุ่งรักษาความเป็นธรรมความเที่ยงธรรมสังคมมากขึ้นกว่าเดิม

โครงสร้างสังคมของประเทศเราก�ำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างลุ่มลึก อินเตอร์เน็ตเปลีย ่ นวิถีการไปมาหาสู่กันของมนุษย์ อย่างลึกซึ้ง แนวคิดและจิตส�ำนึกอีกทั้งพฤติกรรมทางสังคมได้ เกิดการเปลีย ่ นแปลงอย่างลุ่มลึกตาม

1. แสดงความเหนือกว่าอันเด่นชัดของระบบสังคมนิยมของประเทศ ที่สามารถระดมก�ำลังจัดท�ำภารกิจใหญ่ 2. ให้ภาควิสาหกิจแสดงบทบาททีเ่ ป็นผูม้ สี ว่ นเกีย่ วข้องส�ำคัญในการ สร้างเทคโนโลยี 3. ทุ่มก�ำลังฝึกอบรมและน�ำเข้าบุคลากรและทีมงานวิจัยทาง วิทยาศาสตร์ชั้นหนึ่งของโลก 4. ยืนหยัดความคิดสร้างสรรค์ชนิดเปิดเสรี ด�ำเนินการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระหว่างประเทศมากขึน้

66 CM

3.

แรงขับเคลื่อน การพัฒนาใหม่

Focus

19


66 CM

Focus

中国“新发展阶段”定向

习近平给出六大关键词 中国即将进入国民经济和社会发展第十四个五年规划(2021年至2025年)(以下简称‘十四五’规划)时期,未来 五年发展方向备受关注。这是中国开启全面建设社会主义现代化国家新征程、向第二个百年奋斗目标进军的第一个五年。 8月24日,中国国家主席习近平主持召开经济社会领域专家座谈会并发表重要讲话。中国国际广播电台总结了习近平主 席的“六大关键词”。

经济新发展格局 1、以畅通国民经济循环为主构建新发展格局; 2、坚持供给侧结构性改革这个战略方向; 3、扭住扩大内需这个战略基点; 4、使生产、分配、流通、消费更多依托国内市场; 5、增强机遇意识和风险意识 6、提升供给体系对国内需求的适配性; 7、形成需求牵引供给、供给创造需求的更高水平动态平衡。

“ 20

进入新发展阶段,国内外环境的深刻变化既带来一系列新机遇, 也带来一系列新挑战,是危机并存、危中有机、危可转机。

要推动形成以国内大循环为主体、国内国际双循环相互促进的新 发展格局。这个新发展格局是根据中国发展阶段、环境、条件变 化提出来的,是重塑中国国际合作和竞争新优势的战略抉择。

2.

1、以辩证思维看待新发展阶段的新机遇新挑战; 2、统筹中华民族伟大复兴战略全局和世界百年未有之大变局; 3、深刻认识中国社会主要矛盾发展变化带来的新特征、新要求; 4、深刻认识错综复杂的国际环境带来的新矛盾、新挑战; 5、增强机遇意识和风险意识; 6、准确识变、科学应变、主动求变; 7、勇于开顶风船,善于转为危机; 8、努力实现更高质量、更有效率、更加公平、更可持续、更为安全的发展。

1.

新机遇和新挑战


1、要充分发挥中国社会主义制度能够集中力量办大 事的显著优势; 2、要发挥企业在技术创新中的主体作用; 3、要大力培养和引进国际一流人才和科研团队; 4、要坚持开放创新,加强国际科技交流合作。

实现高质量发展,必须实现依靠创新驱动 的内涵型增长。我们更要大力提升自主创 新能力,尽快突破关键核心技术。

4.

66 CM

新发展活力

1、以深化改革激发新发展活力; 2、必须拿出更大的勇气、更多的举措破除深层次体 制机制障碍; 3、坚持和完善中国特色社会主义制度; 4、要加强产权和知识产权保护; 5、建设高标准市场体系; 6、完善公平竞争制度; 7、激发市场主体发展活力。

实现高质量发展,必须实现依靠创新驱动 的内涵型增长。我们更要大力提升自主创 新能力,尽快突破关键核心技术。

5. 6.

3.

新发展动能

Focus

社会发展新局面

打造国际合作和竞争新优势

国际经济联通和交往仍是世界经济发展 的客观要求。中国经济持续快速发展的 一个重要动力就是对外开放。对外开放 是基本国策。

1、以共建共治共享拓展社会发展新局面; 2、实现更加充分、更高质量的就业; 3、健全全覆盖、可持续的社保体系; 4、强化公共卫生和疾控体系; 5、促进人口长期均衡发展; 6、加强社会治理; 7、化解社会矛盾; 8、维护社会稳定。

中国社会结构正在发生深刻变化,互联网 深刻改变人类交往方式,社会观念、社会 心理、社会行为发生深刻变化。

1、以高水平对外开放打造国际合作和竞争新优势; 2、要全面提高对外开放水平; 3、建设更高水平开放型新体制; 4、形成国际合作和竞争新优势; 5、要积极参与全球经济治理体系改革; 6、推动完善更加公平合理的国际经济治理体系。

21


66 CM

Interview

ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์

ขับเคลื่อน‘มหาวิทยาลัยเกริก’ยุคใหม่ ผนึกไทย-จีน..สู่อนาคตการศึกษาที่เปิดกว้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้ ความส�ำคัญของจีนได้เข้ามามีบทบาทในหลาย แวดวง แม้แต่การเป็น“ตลาดใหญ่”ทีส่ ำ� คัญของมหาวิทยาลัยเอกชนของไทย ก้าวใหม่ของมหาวิทยาลัยเกริกในยุคลมเปลี่ยนทิศ ภายหลังการปรับ เปลีย่ นผูถ้ อื หุน้ สูก่ ารร่วมทุนกับจีน ภายใต้การน�ำของอธิการบดีคนใหม่อย่าง ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ จึงนับเป็นก้าวที่น่าจับตา อย่างยิ่ง อะไร? ทีท่ ำ� ให้นกั บริหารอาวุโสทีม่ ากความสามารถท่านนี้ ตัดสินใจก้าว เข้ามารับต�ำแหน่งแม่ทัพใหญ่ และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเกริก ยุคใหม่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง? จุดเริ่มต้นการตัดสินใจก้าวมารับต�ำแหน่งอธิการบดี ผมเข้ามาบริหารที่นี่ได้ 2 ปีเศษแล้ว ในอดีตมหาวิทยาลัยเกริกเป็น มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของไทยที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในด้านการศึกษาภาษา อังกฤษ แต่เนือ่ งจากจ�ำนวนนักศึกษาในไทยลดลง ท�ำให้มหาวิทยาลัยประสบ ปัญหาด้านการด�ำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย เกริกไม่เคยเสียหาย เมื่อได้รับโอกาสเข้ามาท�ำงาน ผมจึงอยากผลักดันให้ มหาวิทยาลัยเกริกมีความก้าวหน้า ปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้สอดคล้องกับ ความเป็นสากลในยุคที่จีนมีบทบาทมากขึ้น เพราะถ้าเราสามารถพัฒนา มหาวิทยาลัยเกริกซึง่ ตัง้ อยูใ่ นกรุงเทพฯ ให้เป็นสถาบันการศึกษาทีม่ คี ณ ุ ภาพ เป็นที่ยอมรับโดยความร่วมมือกับจีน จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมาก

22

หลังเปิดรับพันธมิตรใหม่จากจีน ในช่วงทีอ่ .เข้ามาบริหาร มหาวิทยาลัยเกริกได้พัฒนาเปลีย ่ นแปลงไปอย่างไรบ้าง? เราได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอน และพัฒนาหลักสูตรที่มี ความเป็นสากล ทันสมัย สอดรับความสนใจและความต้องการของคนรุ่น ใหม่ เพิ่มหลักสูตรปริญญาตรี โทและเอก ภาษาจีน รวมถึงมีการปรับปรุง สถานที่ อาคารเรียน สภาพแวดล้อม และการเรียนการสอนที่มีความเป็น นานาชาติ ทั้งภาษาไทย จีน อังกฤษ หลังจากทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลง เราได้รบั การตอบรับอย่างดีจากนักศึกษา จีนทีส่ นใจสมัครเข้ามาเรียนหลักสูตรต่างๆทัง้ ปริญญาตรี โท เอก มากถึงพัน กว่าคนในปีแรก ส่วนในปีนี้ มีนกั ศึกษาใหม่จากจีนทีส่ มัครมาพันกว่าคนเช่น กัน แต่ที่ลงทะเบียนเรียนและจ่ายค่าเล่าเรียนแล้วมีประมาณ 500-600 คน เนื่องจากมีวิกฤตการแพร่ระบาดโควิดแทรกเข้ามา ท�ำให้คนที่สมัครไว้แล้ว บางส่วนติดขัดเรื่องการประสานงาน สมมติฐานที่เราตั้งไว้ว่า คนจีนยังมีความสนใจอยากมาเรียนเมืองไทย จึงเป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ แต่เราต้องมีหลักสูตรที่เหมาะสม สอดคล้องกับ ความต้องการของคนจีนรุ่นใหม่ด้วย นอกจากนักศึกษาจีนแล้ว เรายังมีกลุม่ นักศึกษาไทยทีส่ นใจเรียนภาษา จีนหรือหลักสูตรจีน ที่สนใจมาเรียนที่นี่เช่นกัน เพราะเห็นว่า อยู่เมืองไทยก็ สามารถเรียนภาษาจีน โดยได้ทั้งความรู้ และได้รู้จักเพื่อนคนจีนด้วย โดยไม่ ต้องบินไปเรียนถึงที่จีน ท�ำไมนักศึกษาจีนถึงสนใจอยากมาเรียนเมืองไทย ผมเข้ า ใจว่ า ส่ ว นหนึ่ ง มาจากความสั ม พั น ธ์ ที่ ดี ร ะหว่ า งไทย-จี น คนไทยและคนจีนมีความสัมพันธ์กันทั้งโดยสายเลือดและประวัติศาสตร์ มี การค้าขายท�ำธุรกิจ ติดต่อสัมพันธ์กันมายาวนาน อีกทั้งประเทศไทยยังเดิน ทางสะดวก มีคา่ ใช้จา่ ยทีถ่ กู และเป็นประเทศทีเ่ ปิดกว้างยินดีตอ้ นรับคนต่าง ชาติอย่างอ่อนน้อมเป็นมิตรด้วยวัฒนธรรมอันดีงาม สอง..นโยบายวั น นี้ ข องจี น ส่ ง เสริ ม ให้ ค นจี น ออกไปศึ ก ษาใน ต่างประเทศมากขึ้น สาม..ในแต่ละปีประเทศจีนมีนักเรียนจบม.6 ประมาณ 9 ล้านคน แต่มหาวิทยาลัยของจีนสามารถรองรับได้ประมาณ 6 ล้าน


Interview คน เหลืออีก 3 ล้านคน ตรงนี้จึงถือเป็นโอกาสส�ำหรับประเทศไทย หากมี เครื่องมือในการประสานงานและมีการตลาดที่เหมาะสม เพราะไทยยังมี มหาวิทยาลัยทัง้ รัฐและเอกชนอีกหลายแห่งทีส่ ามารถจะรองรับนักศึกษาจาก จีนได้อย่างดี ผมคิดว่าเรือ่ งนี้ ทางราชการไทยคงก�ำลังอยูร่ ะหว่างพิจารณาทัง้ ด้านนโยบาย วิธีการ รวมทั้งกฎหมายบางอย่างที่เกี่ยวข้องด้วย มุมมองต่อโอกาสและแนวโน้มการเติบโตของนักศึกษาจีน ในไทย แนวโน้มนักศึกษาจีนที่จะเข้ามาเรียนในไทยยังคงมีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง ถ้ามองแบบระยะสั้น อย่างน้อยภายในช่วง 5 ปีนี้ ผมเชื่อว่าจะยัง มีนักศึกษาจีนจ�ำนวนมากที่หลั่งไหลมาเรียนในประเทศไทย รวมถึงอาเซียน และทั่วโลก อีกทัง้ นโยบายของจีน โดยเฉพาะท่านประธานาธิบดีสี จิน้ ผิง ก็สนับสนุน ให้นักศึกษาจีนไปเรียนต่างประเทศมากขึ้น จีนจะสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ เพิ่มเองก็ได้ แต่เขามองว่า มหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐานมีอยู่แล้วทั่วโลก คน จีนสามารถไปเรียนได้ทุกแห่ง ซึ่งถือเป็นการเตรียมคนรุ่นใหม่ให้ออกไป รู้จักโลกภายนอกดียิ่งขึ้น ได้ไปเรียนรู้สังคม ภาษา วัฒนธรรม ประเพณีใน ประเทศต่างๆ และกลับไปท�ำประโยชน์ให้กับประเทศจีน ผมคิดว่านี่เป็นสิ่ง ที่รัฐบาลจีนและผู้น�ำจีนมองลึกและมองไกล ขณะเดียวกัน จีนก็สนับสนุน ให้ทุนนักศึกษาทั่วโลกได้ไปศึกษาในประเทศจีน นับว่าเป็นนโยบายเปิด ประเทศที่ส�ำคัญมาก นักศึกษาจีนทีม ่ าเรียนในไทย ส่วนใหญ่มาจากไหน ? นักศึกษาจีนที่มาเรียนกับเรา ไม่ได้มีแค่เฉพาะจากมณฑลตอนใต้ท่ีอยู่ ใกล้ไทย แต่มาจากทั่วทุกที่ ซึ่งต้องให้เครดิต ท่านอาจารย์หวัง ฉางหมิง ซึ่งมีเครือข่ายบริษัทส่งเสริมการศึกษาระหว่างประเทศ 28 แห่งกระจายอยู่ ตามมณฑลต่างๆทัว่ จีน พร้อมทัง้ ทีมงานทีม่ คี วามสามารถและประสบการณ์ ท�ำหน้าที่ประสานงานด้านการตลาด จุดเด่นของมหาวิทยาลัยเกริก คือท�ำเลทีต่ งั้ อยูก่ ลางเมืองกรุงเทพมหานคร เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า อีกทัง้ ยังเป็นสถาบันการศึกษาทีป่ ระวัตยิ าวนาน มีชอื่ เสียงเป็นทีร่ จู้ กั ปัจจุบนั เรายังมีการพัฒนาหลักสูตรให้มคี วามเชือ่ มโยง สอดคล้องกับความต้องการของคนจีน นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการของ

ปณิธานการท�ำงานด้านการศึกษา กับชีวิตที่ไม่มีค�ำว่าเกษียณ ในชีวิตของ ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ ผ่านการท�ำงานมาแล้วแทบ ทุกบทบาท ทั้งการเป็น “คุณหมอ” เจ้าของรางวัลแมกไซไซที่อุทิศตนเพื่อ คนยากไร้ในชนบท เป็นนักการเมือง “น�้ำดี” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ต่างประเทศ รัฐมนตรีทบวงมหาวิทยาลัย และอีกหลายกระทรวง รวมถึง นายกสภามหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัย นราธิวาสราชนครินทร์ และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นต้น นอกจากชีวิตนี้จะไม่เคยมีค�ำว่า “เกษียณ” แล้ว ในวัย 86 ปี ของ ศ.ดร.นพ.กระแส ยังคงไฟแรงอุทิศตนท�ำงานเพื่อพัฒนาการศึกษาของไทย ซึ่งเป็นงานที่ท�ำด้วยความรักและศรัทธา อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาสังคม ไทยและนานาชาติอีกด้วย เช่น เป็นประธานมูลนิธิศูนย์เตรียมความพร้อม ป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) และประธานมูลนิธิรักษ์ไทย (CARE International) เป็นต้น “ด้วยความที่ผมเกิดมาในชนบทและเคยท�ำงานเป็นหมอในชนบท ท�ำให้ผมเชื่อว่า “การศึกษาของชาวชนบท คือ อนาคตของประเทศไทย” นอกจากนี้ ผมยังเล็งเห็นถึงความส�ำคัญของการศึกษายุคใหม่ที่ต้องเน้นการ พัฒนาภาวะผู้น�ำเป็นพิเศษจึงจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จที่แท้จริง นั่นคือ การได้ ช่วยให้คนอื่นดีขึ้นและท�ำให้ตัวเองได้มีความสุขไปด้วย การจัดตั้งสถาบัน

66 CM

จีนยังได้ให้การยอมรับมหาวิทยาลัยเกริกว่าเป็นมหาวิทยาลัยทีม่ มี าตรฐานสูง ดังนั้น คนที่ส�ำเร็จการศึกษาจากที่นี่ ไม่ว่าจะปริญญาตรี โท เอก เมื่อกลับไป จีน ก็สามารถไปเทียบโอน เรียนต่อ หรือรับราชการได้เลย การปรับตัวของมหาวิทยาลัยเกริกเพือ่ รับโอกาสและความ ท้าทายจากจีน จากแนวโน้มการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของจีนในหลายๆด้าน ท�ำให้ เราต้องเร่งพัฒนาการศึกษาให้สอดรับเท่าทันการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ นโยบาย One Belt One Road หรือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งเป็นการริเริ่ม ของประเทศจีน แต่เกีย่ วข้องกับหลายประเทศ ทัง้ กลุม่ ประเทศอาเซียนรวม ถึงไทย ท�ำอย่างไรถึงจะเตรียมพร้อมให้นกั ศึกษารวมถึงอาจารย์ได้ศกึ ษาและ เข้าใจเรื่องนี้ให้ดีขึ้น ซึ่งประเทศจีนให้ความส�ำคัญกับอาเซียนมากขึ้น ดังนั้น การพัฒนาต่อไปที่จะเกิดขึ้นระหว่างกันในอนาคต ทั้งเรื่อง One Belt One Road จึงล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่มีความส�ำคัญ เมื่ อ เร็ ว ๆนี้ มหาวิ ท ยาลั ย เกริ ก ยั ง ได้ ท� ำ ข้ อ ตกลงความร่ ว มมื อ กั บ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการพัฒนาหลักสูตรการจัดการสาธารณสุข(นานาชาติ) ในระดับปริญญาโท เพื่อรองรับความต้องการด้านการศึกษาของนักศึกษา จากจีน โดยเป็นหลักสูตร 1 ปี 3 เดือน เมื่อจบแล้วได้ปริญญา 2 ใบ หลัง จากวิกฤตโควิด ผมเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างไทย-จีนจะยิ่งใกล้ชิดกันมาก ขึน้ โดยเฉพาะด้านการสาธารณสุข ซึง่ สถาบันการศึกษาของเราสามารถทีจ่ ะ เข้ามามีส่วนช่วยเชื่อมโยงในเรื่องนี้ได้มาก นอกจากนี้ เรายังมีแผนทีจ่ ะขยายวิทยาเขตในอนาคต ซึง่ มหาวิทยาลัย เกริกมีที่ดินอยู่แล้ว 60 กว่าไร่ในจ.อยุธยาที่พร้อมจะพัฒนาเป็นวิทยาเขต รองรับนักศึกษาไทยจีนที่จะเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความ เหมาะสม ผมคิดว่าโอกาสที่ไทยและจีนจะร่วมมือกันทางด้านการศึกษายังมีอีก มาก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางเยือนจีนแทบทุกมณฑล และได้ท�ำ MOU ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในจีนนับร้อยแห่ง ท�ำให้ ผมได้เห็นถึงความตืน่ ตัวของอาจารย์และนักวิชาการของจีนทีใ่ ห้ความสนใจ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของไทยและจีน รวมถึงความร่วมมือ ระหว่างไทย จีน และอาเซียน พัฒนาภาวะผู้น�ำมหาวิทยาลัยเกริก จึงเป็นแนวคิดที่ผมได้ริเริ่มขึ้น เพราะ อยากเห็นการพัฒนาภาวะผูน้ ำ� ให้เกิดขึน้ ในทุกสาขาอาชีพ” ศ.ดร.นพ.กระแส กล่าว “ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับการพัฒนาแห่งอนาคต เราจึงตั้ง สถาบัน Thai China ASEAN และ สถาบันการจัดการความปลอดภัย ขึ้นด้วย” อาจารย์ “หมอแมกไซไซ” กล่าวสรุป สถาบันการจัดการความปลอดภัยแห่งมหาวิทยาลัยเกริก เป็นหนึ่ง ในสถาบันส�ำคัญที่ ศ.ดร.นพ.กระแส ได้เข้ามาริเริ่มขับเคลื่อน ซึ่งมาจาก ประสบการณ์ที่เคยด�ำรงต�ำแหน่งประธานศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกัน ภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) ยาวนานกว่า 25 ปี จึงเล็งเห็นความส�ำคัญของ การศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นน�้ำ ท่วม ฝนแล้ง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ฯลฯ ซึ่งนับวันยิ่งทวีความ รุนแรงมากขึ้น ท้ายที่สุด ศ.ดร.นพ.กระแส ยังได้กล่าวเน้นย�้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะ ผลักดันมหาวิทยาลัยเกริกให้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี ระหว่างประเทศ ทั้งไทย จีน และอาเซียน “เรื่องต่างๆที่กล่าวมาเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าจะต้องเอาการศึกษา เข้ามาเกี่ยวข้องให้ได้ โดยใช้มหาวิทยาลัย และใช้เครือข่ายในเมืองไทย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ทั้งด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม... นี่คือความเชื่อ นี่คือความตั้งใจและ เต็มใจของผมที่จะท�ำให้เกิดขึ้น” ศ.ดร.นพ.กระแส กล่าวในที่สุด

23


66 CM

Interview 随着中国股东加入格乐大学,在杨金泉 校长带领下的两年里,大学发生了哪些 变化? 学校对教学方法进行了改革,开发具有国际视野和现 代性的课程,以满足现代人的兴趣和需求。同时增加本硕 博中文课程,改善学校教学基础设施环境。教学方法与国 际接轨,采用泰、中、英三语授课模式。 自学校进行变革后,首年就收获了热烈反响,上千 名中国学生报读本硕博专业。今年也有上千名中国学生 报名,目前完成注册报名手续的中国学生有500-600人, 另外已报名的部分中国学生因疫情影响而在办理相关手续 上存在不便。 正如我们所预测,中国人赴泰学习深造热情不减。但 前提是我们必须开设有满足新一代人需求的课程。 除了中国学生以外,学校还有对学习中文或对中文 课程感兴趣的泰国本土学生。他们认为在泰国学习中文, 不仅获得知识,还能结交到中国朋友,而不用专程飞往中 国学习。

为何中国学生赴泰国留学?

杨金泉教授推动格乐大学发展 泰中共建更加开放的未来教育 众所周知,如今的中国在泰国多个领域中发挥着极为 重要的作用,还是泰国私立高校的“大市场”。 随着泰国格乐大学股东结构发生改变,中国股东加入 该校,使得学校发展迈出新步伐。在校长杨金泉教授的英 明领导下,未来发展方向日益成为关注的焦点。 到底是何种原因让这位资深管理专家决心担此大任? 过去两年,格乐大学又发生了哪些变化?

杨金泉教授接任格乐大学校长一职 杨金泉教授说,接任大学校长一职已有两年的时间, 格乐大学建校历史悠久,以英语教育出名。随着泰国本土 生人数下降,给学校工作带来一定影响。 格乐大学的声誉一直都很好。接任校长一职后,杨金 泉教授致力于推动大学向前迈进,为顺应中国发展大势, 拥抱中国发展机遇,于是对课程结构进行调整。如果通过 泰中通力合作,将位于曼谷的格乐大学发展为获得大众认 可的教育机构,将带来更大的帮助。

24

杨金泉教授的理解是,一方面源于泰中两国长期保持 友好往来,文化相通,血脉相连,不断深化经贸合作。另 一方面来泰国很方便,消费也不高,而且泰国人以海纳百 川的热情迎接着外国友人。 如今的中国出台多项出国留学政策,鼓励本国公民 出国留学。中国每年的高中毕业生约有900万人,而中国 大学可容纳力约600万人,剩下300万人。泰国有多所能 很好容纳中国学生的公立、私立高等院校,若泰国能想办 法开展合作和采取适合的营销手段,必将转化为泰国的机 遇。杨金泉教授认为,泰国有关部门正就有关政策、方法 以及相关法律条文进行审议。

如何看赴泰留学的中国市场机遇和增长 趋势? 杨金泉教授仍十分看好中国学生留学泰国。他相信, 从短期来看,至少未来5年内,将会有越来越多中国学生留 学泰国,此外还有东盟国家和世界多国。 另一方面,与中国的政策有关,尤其是习近平主席鼓 励中国学生出国深造,其实中国有能力新建高校,但是习 主席看到全球已有多所顶级院校,中国学生可前往深造学 习,新一代人能够走出国门,了解别国的社会、语言和风 俗文化等,学有所成后能为祖国做贡献,这也是中国政府 和国家领导人目光长远的表现。同时,中国也鼓励外国学 生前往中国留学,也是重要的对外开放政策。


Interview

66 CM

中国学生赴泰留学,大部分来自哪里? 格乐大学的中国留学生,除了有来自靠近泰国的中 国南方省份,还有中国其他地区,这归功于王长明先生 拥有遍布中国各地的28家教育企业关系网,同时还有专 门的市场营销团队。 格乐大学的优势在于位于曼谷市中心,可搭乘轻轨出 行。另一方面,还是一所历史悠久、闻名国内外的教育机 构。如今,学校还开设了满足中国学生需求的课程。不仅 如此,还是中国教育部承认的泰国高校。因此,获得格乐 大学颁发相应专业的本硕博学位证书的中国学生,都能进 行课程学分对接转换、继续深造或在国家机关单位工作。

抓住中国新机遇与挑战,格乐大学做调整 如今,中国在多个领域发挥了重要作用,为与时俱 进,格乐大学要加强教育建设,尤其是由中国发起的“一 带一路”倡议,这一倡议覆盖包括东盟、泰国在内的多个 国家。为此,有必要让师生更好了解这一倡议。如今,中 国越来越重视与东盟的合作,所以未来“一带一路”建设 将成为与人们生活息息相关的重大事件。 为满足中国学生的教育需求,最近,格乐大学与玛希 敦大学签署合作协议,开设国际公共卫生硕士专业,学习 1年零3个月,当完成所修课程将获得两个学位。杨金泉教 授相信,疫情过后,泰中两国合作将更加紧密,尤其是在 公共卫生领域,而我们的教育机构能够在这方面起到建立 良好联系的作用。 格乐大学还有校园扩建计划,目前学校在大城府拥有 超过60莱的土地,正考虑将其建设为新校区,为迎接不断 增长的泰中两国学生做准备。 杨金泉教授说,泰中两国在教育领域还有着很大的合 作空间,过去两年里,我几乎走遍中国各省考察,与中国 上百所教育机构签署了谅解备忘录,让我了解到中国教师 和学者对泰中两国教育合作项目持积极态度,这得益于两 国政策,还有泰国、中国和东盟之间的合作。

教育是一项永不退休的事业 杨金泉教授的传奇一生,他是医学博士,曾获得亚洲 级别的诺贝尔奖(拉蒙•麦格塞塞奖);政治家,原泰国外 交部部长、原泰国大学事务部(教育部)部长和其他多个 部门部长;多所学校理事会主席,例如那黎宣大学、娜拉 媞瓦公主大学、正大管理学院等。 没有“退休”可言的一生,现年86岁的杨金泉教授仍 心系泰国教育事业,完全出于对教育的热爱和信念。同时 还促进泰国和国际社会发展,例如,曾担任联合国亚洲防 灾中心董事局主席、国际贫困组织驻泰代表处代表等。 “我出生在农村,曾从事乡村医生,我认为农村教育 就是泰国未来,意识到现代教育的重要性,强调培养领导 力才能取得真正的成功,要有助人为乐的精神,于是便发 起成立格乐大学领导力发展研究院,希望领导力理念被有 效运用于各行各业中。”杨金泉教授说,为迎接新发展, 还发起成立了泰国中国东盟研究院和安全管理研究院。 格乐大学安全管理研究院是杨金泉教授发起的另一 个重要研究院,源于他曾担任联合国亚洲防灾中心董事 局主席一职长达25年,意识到备灾教育的重要性,例如 区域日益遭受洪水、干旱、地震、火山爆发、海啸等自 然灾害的影响。 最后,杨金泉教授强调,致力于推动格乐大学成为增 进泰国、中国和东盟之间友好交流的战略工具。 “以上所讲述的内容,我认为需要教育的参与,通 过大学和泰国关系网,建立国家之间的良好关系,包括教 育、经济、艺术文化和环境,这是我的信念,也是我要努 力实现的愿望。”杨金泉教授说。

25


66 CM

Insight

ส่องทิศทางเศรษฐกิจไทย-จีน โค้งสุดท้ายปี 63 ผ่านผลสำ�รวจดัชนีความเชื่อมั่น ‘หอการค้าไทย-จีน’ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. หอการค้าไทย-จีน ภายใต้การน�ำของ ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ร่วมกับ รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี อาจารย์ประจ�ำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลง ผลการส�ำรวจ ‘ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน’ ไตรมาส 4/2563 ซึ่งได้ จากการส�ำรวจความคิดเห็นจากคณะกรรมการหอการค้าไทย-จีน เครือข่าย สมาพันธ์หอการค้าไทยจีน และสมาคมธุรกิจต่างๆกว่า 50 สมาคม ซึ่งเป็นผู้ ประกอบการ และเจ้าของกิจการทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ เพื่อประเมินถึง ทิศทางเศรษฐกิจไตรมาส 4/2563 โดยมีสาระส�ำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจไทย-จีน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่า เศรษฐกิจจีนทั้งการค้าและการลงทุน ไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 ส่งผลให้การน�ำเข้าและส่งออกระหว่างไทยกับจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่มุมมองถึงแนวโน้มการลงทุนจากจีนในไทยยังเป็นประเด็นที่ ต้องจับตาในอนาคต โดยนักธุรกิจที่ตอบแบบสอบถามจ�ำนวน 35.5% มอง ว่าการลงทุนจากจีนมีโอกาสเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 29.8% มองว่าทรงตัว และอีก 24.9%มองว่ามีโอกาสที่การลงทุนจากจีนจะลดลง ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจจีน ขยายตัว 3.2% ในไตรมาสที่ 2/2563 และการค้าระหว่างประเทศไทยและจีน มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นมา โดยรอบ 7 เดือน แรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.63) การส่งออกไทยไปตลาดจีนขยายตัว 4.5% หรือคิด เป็นสัดส่วน 12.8% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย จึงเป็นปัจจัยบวกในการ ขับเคลื่อนการส่งออกไทยได้ระดับหนึ่ง และเมื่อเศรษฐกิจจีนมีทิศทางดีขึ้นก็ ย่อมส่งผลต่อการค้าและส่งออกของไทยกับจีนจะเติบโตเช่นกัน แนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้าย นักธุรกิจส่วนใหญ่มมี มุ มองต่อเศรษฐกิจไทยและทิศทางตลาดหุน้ ไตรมาส

26

สุดท้ายปีนี้ว่า มีโอกาสที่จะทรงตัวและปรับตัวดีขึ้นมากกว่าโอกาสที่จะถดถอย หลังจากผ่านจุดต�่ำสุดในช่วงไตรมาส 2 ที่เศรษฐกิจไทยหดตัว 12.2% โดยคาด ว่าอัตราแลกเปลีย่ นจะเคลือ่ นไหวอยูใ่ นกรอบ 30.85-31.35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านมุมมองต่อภาคธุรกิจทีม่ คี วามแข็งแกร่งทีจ่ ะเป็นแรงขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ ไทยในไตรมาส 4/2563 จัดเรียงตามล�ำดับ ได้แก่ 1.ธุรกิจออนไลน์ 2.พืชผล การเกษตร 3.ธุรกิจบริการสุขภาพ 4.ธุรกิจโลจิสติกส์ และ5. สินค้าเกษตรแปรรูป ส่วนภาคธุรกิจที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนในไตรมาส 4 ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการท่องเทีย่ ว 2.อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง 3.อุตสาหกรรม การผลิต 4.บริการทางการเงิน 5.ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ขณะทีป่ ญ ั หาปากท้องประชาชนเป็นปัญหาอันดับหนึง่ ทีร่ ฐั บาลต้องเร่งแก้ไข โดยเร็วที่สุด รองลงมาคือการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 รอบใหม่ ด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน นักธุรกิจที่ตอบแบบส�ำรวจ จ�ำนวน 40.7% ให้ความส�ำคัญมากทีส่ ดุ กับปัจจัยด้านสถานการณ์ทางการเมืองที่ มีความมัน่ คงและการประท้วงทีค่ ลีค่ ลาย ส่วนอีก 25.7% ให้ความส�ำคัญกับปัจจัย ด้านการทดลองวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในคนได้อย่างสมบูรณ์ โดยคาดการณ์วา่ กว่าทีน่ กั ธุรกิจจะเกิดความมัน่ ใจและมีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึน้ อีกครัง้ อาจต้องใช้ เวลาอย่างน้อย 9-12 เดือน “ เรื่องโควิดเราไม่ค่อยไม่กังวลเท่ากับการเมือง เพราะถึงอย่างไรวันหนึ่ง ก็ต้องมีวัคซีนออกมา แต่การเมืองเราดูไม่ออกว่าจะไปทิศทางไหน ถ้าปัจจัย การเมืองนิง่ สักนิด ผมคิดว่าจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยไปได้อกี เยอะ” ประธาน ณรงค์ศักด์ กล่าว เสนอแนวทางเร่งกู้วิกฤตท่องเที่ยว-อสังหาฯ ในมุมมองของประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทย ในไตรมาส 2 จะหดตัวมากก็ตาม แต่เริ่มมีสัญญาณบวกจากความสามารถในการ ควบคุมโดยที่ไม่มีการระบาดของ COVID-19 ในประเทศติดต่อกันกว่า 100 วัน อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศยังไม่เพียง


Insight

พอที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ ดังนั้น จึงจ�ำเป็นที่ต้องมีการ ผลักดันมาตรการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จากการสอบถามถึงแนวทางการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกินครึ่งของนักธุรกิจที่ตอบแบบสอบถามให้ความเห็นว่า ควรมีมาตรการผ่อน คลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ แต่ต้องมาจากพื้นที่ที่ปลอดจาก COVID-19 โดยมีการกักตัวในระยะเวลาที่สั้นลง ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยง และ มีความเหมาะสมตามที่ทางการแพทย์ยอมรับได้ “ จากการประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยว มีข้อสรุป ร่วมกันว่า ควรมีการเปิดประเทศบางส่วนเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยค�ำนึง ถึงสมดุลด้านเศรษฐกิจควบคู่สาธารณสุข โดยอาจจับคู่การท่องเที่ยวในลักษณะ เมืองกับเมือง เช่น เมืองกว่างโจว หรือเมืองอื่นของจีนที่ไม่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 เกิน 100 วัน จับคู่กับเมืองท่องเที่ยวของไทย เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น โดยลดระยะเวลาในการกักตัวสั้นลงจาก 14 วัน ขึ้นกับระดับความเสี่ยง และสถานการณ์ รวมทั้งต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนในท้องถิ่น มีการ จ�ำกัดพื้นที่และมีการติดตามควบคุมอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมองถึงโอกาสในการดึงดูดกลุ่มผู้สูงอายุและนักท่องเที่ยว ต่างชาติที่ต้องการเข้ามาพ�ำนักระยะยาวในประเทศไทย(Long Stay) ขณะที่ มาตรการเร่งด่วนเพือ่ ช่วยเหลือผูป้ ระกอบการอุตสาหกรรมท่องเทีย่ ว ภาคสถาบัน การเงินควรออกมาตรการพักช�ำระหนี้ ทัง้ เงินต้นและดอกเบีย้ ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ส�ำหรับอีกหนึง่ ธุรกิจทีน่ า่ เป็นห่วง คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิ เ นี ย มระดั บ ไฮเอนด์ ที่ ลู ก ค้ า ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น ชาว ต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งจ่ายมัดจ�ำไว้แล้ว 30-50% แต่เนื่องจากข้อจ�ำกัด การเดินทางในช่วง COVID-19 และข้อกฎหมายที่เข้มงวดเรื่องการโอนเงิน ท�ำให้ มีการชะลอการโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้าต่างชาติ โดยปัจจุบัน มียอดรอโอนอยู่ ที่ประมาณ 1 หมื่นยูนิต และมีสต๊อกคงค้างสะสมประมาณ 93,882 ยูนิต จึง ต้องการเสนอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยโดยการจัดหาสภาพคล่องหรือเงินทุนระยะ สั้นในรูปแบบการจัดตั้งกองทุน วงเงินประมาณ 5,000 - 1 หมื่นล้านบาท เพื่อ ช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ป ระกอบการที่ ป ระสบปั ญ หาสภาพคล่ อ งในการรั บ โอน อสังหาริมทรัพย์ส่วนนี้ไว้ก่อน

66 CM

ส�ำหรับ “โครงการส�ำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน” เป็นการส�ำรวจความเห็น โดยวัดความรู้สึกจากผู้ประกอบการตัวจริง ที่ มี ป ระสบการณ์ ธุ ร กิ จ มายาวนานมี ค วามใกล้ ชิ ด กั บ ภาครั ฐ และเอกชน จีน และชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งได้ด�ำเนินการเพื่อสานต่อจากอดีตประธาน หอการค้าไทย-จีน โดยปรับรูปแบบและการส�ำรวจความเห็นในการตอบ แบบสอบถามพร้อมกัน และบางส่วนเป็นการตอบแบบสอบถามผ่านระบบ ออนไลน์ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ 1. ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจ ไทย- จีน 2.ตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจไทย 3.ตัวชี้วัดปัจจัยเกื้อหนุน และ 4.ประเด็นและเหตุการณ์เฉพาะกิจ

泰国中华总商会经济指数 展望2020年第四季度泰中经济 2020年9月9日,泰国中华总商会(以下简称商会) 和朱拉隆功大学经济学院联合举办“泰国中华总商会2020 年第4季度经济指数”新闻发布会。商会主席林楚钦、朱 拉隆功大学经济学院查优隆·莎帕喜副教授出席了发布 会。该调查问卷分别对商会会董、商会联谊会、50余个 商会在内的大中小型企业家就第4季度经济信心指数状况 进行调研。 泰中经济关系 大多数认为与今年第3季度相比,第4季度中国经济包 括贸易和投资将有所改善,从而使泰中两国之间的进出口 贸易也随之上升。

27


66 CM

Insight 批发存在的问题。 政府第4季度需要尽快解决的首要问题是民生问题,其次 是避免疫情反扑及出现二次暴发。 有关影响投资信心因素,40.7%受访者认为是最需要解决 的是政局和民间集会情况;25.7%受访者认为是新冠疫苗研发成 功,预计投资者重拾投资信心及再次投资至少用时9-12个月。 “相较于新冠疫情,我们更担忧的是政治局势,疫苗终有 一天会研发成功,但政局目前尚未明朗,如果政局稳定,我认 为势必能推动国家经济大步向前。”林楚钦说。 提振旅游和地产

>> 泰国中华总商会主席 林楚钦 ณรงค์ศักดิ์ พุ ทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน

针对未来中资企业在泰投资情况,35.5%受访者认为中资企 业投资将有所上升;29.8%受访者认为保持不变;24.9%受访者 认为将出现下降。 说到中泰贸易时,林楚钦说,中国经济在今年第2季度增长 3.2%,自今年4月开始,泰中两国之间的贸易逆势增长。今年 1月至7月,泰国对中国市场的出口增长4.5%,占泰国总出口的 12.8%,这将会是推动泰国总出口的积极动力。当中国经济出现 好转,势必有利于两国间贸易。 第四季度泰国经济走势 大多数受访企业家认为,尽管泰国今年第2季度经济下滑 12.2%,但相信泰国第4季度经济和股票市场趋于稳定,好转的 机会大于倒退,泰铢和美元之间的汇率在30.85-31.35铢兑换1 美元。 此外,可在第4季度推动泰国经济发展的行业包括:电子商 务、农产品及农副产品、医疗保健、物流业和农产品加工。同时 要尽快解决旅游业、房地产、建筑及制造业、金融服务、零售和

28

从林楚钦主席的角度来看,尽管泰国今年第2季度的经济 出现大幅萎缩,但泰国已连续百余日无本土新增病例,这有好 的迹象显示政府有能力控制疫情。 虽然政府已在推动刺激国内旅游业,但仍不足以推动国家 经济发展,因此第4季度有必要放宽外国游客赴泰旅游。 为促进国家旅游业发展,泰国应以何种形式开放外国游 客赴泰旅游,超过一半受访者认为有必要放宽外国游客赴泰旅 游,但必须根据各国的风险情况采取相关措施。 通过旅游业界会议结果,泰国应该谨慎打开国门迎接外国 游客,推动经济和公共卫生平衡发展。如普吉、清迈等泰国城 市可携手中国部分城市,以推动旅游业发展,例如广州或连续 100日无新增本土确诊病例的城市。隔离时间的长短需要根据游 客所在国家的风险高低来决定。同时还要与旅游目的地当地的 民众沟通说明并获得理解,对游客游览区域做出专门的规定。 此外,有意长期居留泰国的外国游客和老年群体市场潜力 巨大。同时采取紧急措施援助旅游业从业者,金融机构应采取 措施延长还款期限,至少一年。 另一值得担忧的产业是房地产和建筑业,尤其是受到大多 数海外客户青睐的高级公寓项目,特别是已支付30-50%首款的 中国人,因受疫情和外汇管理制 度的影响,导致房屋产权所有权 转让有所暂缓。目前,尚有1万 余套公寓单位待办交房手续,9 万3882套单位空置。因此,希 望政府提供50亿至100亿泰铢短 期救助资金,为受影响的业者提 供援助。 泰国中华总商会信心指数 调查是各方人士通过自己的感 受所表达的观点,他们是与中 国政府和民企有长期密切关系的 企业家以及海外华人的代表。该 调查是继续前任商会主席所实施 过的民调工作。部分调查问卷是 以网上形式进行,其中包括4个 部分:1、泰中经济关系;2、 泰国经济指数;3、支持因素指 数;4、突发事件。


39


66 CM

Movement

กระทรวงดิจิทัลฯ ผลึกกำ�ลัง ‘หัวเว่ย’ เปิดศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม โดยส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (ดีป้า) และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จ�ำกัด จัดพิธี เปิดศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC) เพื่อผลักดันการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี 5G ผสานความร่วมมือของทั้ง ระบบนิเวศ ให้ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ทีผ่ า่ นมา โดยศูนย์ 5G EIC แห่งนีจ้ ะทําหน้าทีเ่ ป็น Sandbox ช่วยพัฒนา นวัตกรรมดิจทิ ลั สําหรับแอปพลิเคชัน 5G และบริการของอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย ช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ภาคธุรกิจ ทั้ง SMEs สตาร์ทอัพ ตลอดจนสถาบันการศึกษา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การ เป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียน ภายในพิธีเปิดศูนย์ 5G EIC พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ“Incubation of 5G Ecosystem to Support the Digital Transformation of Thailand 4.0” ว่า “ประเทศไทยก�ำลังเดินหน้าสู่ก้าวส�ำคัญในการมุ่ง สู่เศรษฐกิจและสังคมรูปแบบใหม่ ไทยเป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียนที่ได้ น�ำเทคโนโลยี 5G มาใช้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงมอบการให้บริการรูปแบบ ใหม่และประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อเท่านั้น แต่ยังพลิกโฉมทุกอุตสาหกรรม สู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่ส�ำคัญที่สุดของท่าน นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล” นอกจากนี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังได้กล่าวถึง “แผน ปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G” ซึ่งเป็น

30

กรอบแนวทางปฏิบัติส�ำคัญเพื่อน�ำเทคโนโลยี 5G ไปใช้ในทุกๆ ด้านให้เกิด ประโยชน์สูงสุด “ศูนย์ 5G EIC แห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท หัวเว่ยฯ ผู้น�ำด้าน เทคโนโลยีระดับโลก ทีพ่ ร้อมด้วยประสบการณ์และความเชีย่ วชาญ และนับ เป็นอีกก้าวส�ำคัญทีจ่ ะจุดประกายให้เกิดการน�ำเทคโนโลยี 5G ไปประยุกต์ใช้ อย่างเป็นรูปธรรม เพือ่ เร่งการเปลีย่ นแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เป็นดิจทิ ลั มุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการสร้างมูลค่า โอกาส และการ เติบโตใหม่ ๆ พร้อมเพิม่ ขีดศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผูน้ ําการพัฒนา ระบบดิจิทัลในภูมิภาค” หัวเว่ยพร้อมลงทุน 475 ล้าน พัฒนาศูนย์ 5G EIC ในไทย ภายในงาน หัวเว่ยได้เปิดตัวแผนการลงทุนมูลค่า 475 ล้านบาท ในการ พัฒนาศูนย์ 5G EIC อันจะน�ำมาซึ่งโซลูชัน 5G แบบครบวงจร, พื้นที่ทดลอง และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G กับกลุ่มพันธมิตร บริษัท หัวเว่ยฯ ยังมุ่ง มัน่ ทีจ่ ะพัฒนาศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพของไทยปีละกว่า 100 ราย โดยน�ำเทคโนโลยี 5G ไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมแนวดิง่ ในอีก 3 ปีข้างหน้า “ศูนย์ 5G EIC เป็นศูนย์ฯ แห่งแรกในภูมภิ าคอาเซียน การจัดตัง้ ศูนย์ฯ แห่งนี้จึงนับเป็นก้าวส�ำคัญส�ำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ในประเทศไทย ไปจนถึงในระดับภูมิภาค” อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าว


Movement ทั้งนี้ ศูนย์ Thailand 5G EIC ตั้งอยู่ ณ ส�ำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (ดีป้า) โดยมีบทบาทส�ำคัญในการเป็นพื้นที่ทดลองการน�ำเทคโนโลยี 5G ไปใช้ในภาคธุรกิจและบริการต่างๆ เช่น บริการทางการแพทย์ด้วย 5G (5G Medical Care), การเกษตรอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี 5G (5G Smart Agriculture), ระบบท่าเรืออัจฉริยะผ่านระบบ 5G (5G Port), การศึกษา ทางไกลผ่านเทคโนโลยี 5G (5G Remote Education), ระบบการรักษา ความปลอดภัยอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี 5G (5G Smart Security) เป็นต้น ศูนย์ฯ แห่งนีจ้ ดั ตัง้ ขึน้ เพือ่ ผลักดันระบบนิเวศ 5G อย่างครบวงจร และ เพือ่ พัฒนาศักยภาพผูป้ ระกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน ดิจิทัลของไทย โดยน�ำเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่าง Cloud, AI และ IoT มา ประยุกต์ใช้เพื่อตอบสนองยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ศูนย์ 5G EIC ยังมุง่ ยกระดับทักษะดิจทิ ลั ให้บคุ ลากรด้าน ICT ของไทยให้ให้พร้อม ต่อยอดในระดับสากล

泰国与华为建设5G创新中心 泰国数字经济与社会部与华为泰国公司于9月21日 举行5G生态系统创新中心开幕仪式,旨在推动5G生态系 统。这座5G生态系统创新中心将作为一个用于发展数字 创新的沙箱,为泰国各个行业的5G应用和服务提供概念 验证,为中小企业、初创企业及教育创造新机遇,助力 泰国发展成为东盟的数字中心。 泰国数字经济与社会部部长普缇蓬在开幕式上说,这 是泰国改善经济和社会发展的重要里程碑,也是东盟地区 内首个实现5G商用的国家,该技术不仅提供无缝连接的新 服务和新体验,还让各产业向数字化转型,也是政府和总

66 CM

理的重要政策之一。 普缇蓬还提及5G技术执行计划,这是在各行各业中 使用5G技术以实现国家利益最大化的框架。 5G生态系统创新中心设置得到世界顶级科技公司华 为的支持,华为拥有强大的技术力量和丰富的经验。这 也是推广5G网络服务商业应用的重要一步,实现各行各 业数字化,推动泰国4.0计划发展,创造价值,创造机遇 和形成新增长点。同时提高泰国作为区域数字发展领导 者的潜力。 华为投资4.75亿泰铢在泰建设5G创新中心 开幕式上,华为透露将投资4.75亿泰铢在泰建设5G生 态系统创新中心,将支持试验台、技术转移和培训,以充 分利用5G生态系统。华为还致力于未来三年内开发百家泰 国中小企业和初创企业潜能。 “泰国的5G生态系统创新中心是东盟地区首个此类 创新中心,这对于泰国5G技术开发,以及升级至区域水 平来说都是很重要的一步。”华为泰国公司首席执行官 Abel Deng说。 5G生态系统创新中心设立在泰国数字经济与社会 部,在5G技术测试及各项服务应用方面起到重要作用, 比如医疗服务、智能农业技术、智能港口系统、远程教 育技术、智能安全维护系统方面等。 泰国5G生态系统创新中心的设立主要是为了推动5G 生态系统,以及通过采用云技术、人工智能、物联网现代 科技方式开发中小型企业和数字初创企业潜能。此外,5G 生态系统创新中心还将致力提高泰国ICT人员的数字技 能,为对接国际化做好准备。

31


Special Report ไฮไลท์การประชุมฯ

‘อ่าวเป่ยปู’้ ครั้งที่ 11 第11届泛北论坛亮点纷呈 ผู้เขียน เฉิน ลี่ปิง 文/记者 陈丽冰

การประชุมกรอบความร่วมมือรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11

จับตามองท่าเรือสากล ร่วมกันสร้างเส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ การประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 และการประชุมสุดยอดความร่วมมือท่าเรือสากลอ่าวเป่ยปู้ 2020 จัดขึน้ เมือ่ วันที่ 15 ต.ค. 2563 ณ นครหนานหนิง กว่างซี ประเทศจีน โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือ่ เร่งผลักดันการสร้างเส้นทางการขนส่งเชือ่ มทางบกกับทางทะเลสายใหม่ และท่าเรือสากลรอบอ่าวเป่ยปู้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีจนี -อาเซียน และภายใต้สถานการณ์ทยี่ งั คงต้องจับตาเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของ COVID-19 การประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 ในปีนี้ จึงมีความพิเศษแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา ปีที่พิเศษกับการจัดกิจกรรมที่พิเศษ เว่ย หราน รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายบริหารและเลขาธิการส�ำนักงาน วางแผนและบริหารการก่อสร้างเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ ระบุว่า หัวข้อหลัก ของการประชุมในครั้งนี้คือ “จับตามองท่าเรือสากล ร่วมกันสร้างเส้น ทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ และยุคใหม่ของกรอบ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้” โดยหารือเกี่ยวกับความร่วม มือยุคใหม่ระหว่างจีนและประเทศอาเซียน ในการสร้างท่าเรือสากลและ เส้นทางการขนส่งเชือ่ มทางบกกับทางทะเลสายใหม่ เพือ่ ส่งเสริมการพัฒนา เศรษฐกิจดิจทิ ลั และเศรษฐกิจทางทะเล รวมถึงโอกาสใหม่ๆของกรอบความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ถาน หยวนเจิน รองผู้อ�ำนวยการและสมาชิกส�ำนักงานวางแผนและ

32

บริหารการก่อสร้างเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้น หนึง่ วันเต็ม ช่วงเช้าเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ของแขกรับเชิญ ปาฐกถาพิเศษ และการอภิปรายสองหัวข้อ หัวข้ออภิปรายมุง่ เน้นไปทีก่ ารสร้างเส้นทางการ ขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก และท่าเรือสากล รอบอ่าวเป่ยปู้ ส่วนช่วงบ่ายแบ่งออกเป็นสองการประชุมย่อย เน้นหารือเรือ่ ง ความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียน ภายใต้สภานการณ์การเปลีย่ นแปลงทาง เศรษฐกิจการค้าทัว่ โลก เช่น ความร่วมมือด้านท่าเรือ การเชือ่ มต่อการขนส่ง ทางบกและทางทะเล และความร่วมมือภาคอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 การ ประชุมครั้งนี้ได้บูรณาการทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยที่รูปแบบ การประชุม หัวข้อการอภิปรายและการสัมมนาจะใช้รูปแบบออนไลน์เป็น หลัก นอกจากนี้ยังได้น�ำหัวข้ออภิปรายบางส่วนมาพูดคุยกันภายใต้บริบท ของการรับมือ COVID-19 ด้วย พัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและอาเซียน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ มีจุดประสงค์เพื่อยกระดับ การเชื่อมต่อทางทะเลระหว่างมณฑลแนวชายฝั่งทะเลตอนใต้ของจีนกับ อาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใน อนุภูมิภาค โดยมีการประชุมกรอบความร่วมมือรอบอ่าวเป่ยปู้ ซึ่งจัดขึ้นมา แล้ว 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549 เป็นหนึ่งในกลไกผลักดันที่ส�ำคัญ ภายใต้การ ผลักดันของการประชุมดังกล่าว ความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้


Photo : Xinhua-News

บรรลุผลส�ำเร็จเชิงบวกบางประการดังนี้ 1. ขอบเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งมีส่วนผลักดันการสร้าง ‘ระเบียง เศรษฐกิจจีน-คาบสมุทรอินโดจีน’ และ ‘โครงข่ายความร่วมมือเมืองท่าจีน-อาเซียน’ ผลักดันการเชื่อมโยงเส้นทาง ขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลระหว่างจีน-อาเซียน ส่งเสริมกลไกความร่วมมือทางทะเลรอบอ่าวเป่ยปู้ และความ ร่วมมือด้านก�ำลังการผลิตระดับนานาชาติ 2. เวทีและกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ในการประชุมกรอบความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสร้างเวทีและกลไกความร่วมมือที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น 3. ยกระดับความร่วมมือระหว่างกว่างซีกับนานาประเทศ กว่างซีได้ยกระดับความร่วมมือกับประเทศสมาชิกภาย ใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ผ่านการประชุมฯ มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ความร่วมมือ โดยเฉพาะ ในด้านเศรษฐกิจการค้าร่วมกัน โดยอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของกว่างซีมาหลายปีต่อเนื่อง

第十一届泛北论坛:聚焦国际门户港、共建陆海新通道 为了加快推进国际陆海贸易新通道及北部湾国际门户 港建设,第十一届泛北部湾经济合作论坛暨2020北部湾 国际门户港合作峰会于2020年10月15日在广西南宁市举 办。2020年是中国—东盟自由贸易区全面建成10周年, 同时因新冠肺炎疫情仍需统筹防控的情况,第十一届泛 北论坛的举办与往届相比出现了新亮点。 特别的年份举办特别的活动 据广西壮族自治区北部湾经济区规划建设管理办公室 党组书记、常务副主任魏然介绍,本届论坛以“聚焦国际 门户港,共建陆海新通道:泛北合作的新时代”为主题, 主要围绕新时代中国与东盟国家共建国际门户港、共建陆 海新通道,推动数字经济和海洋经济发展,中国—东盟自 由贸易区全面建成10周年给泛北合作带来的新机遇等内容 进行深入研讨。 广西壮族自治区北部湾办党组成员、副主任覃元臻表 示,本届论坛的会期为一天,上午分为嘉宾致辞、主旨演 讲和两个议题,议题研讨内容重点聚焦西部陆海新通道和 北部湾国际门户港建设,下午两个分论坛重点聚焦全球经 贸形势变化下的中国—东盟港口合作、陆海联动、产业合 作等进行研讨。

同时,基于目前全球疫情防控的形势,本次论坛主 要在会议模式、议题与研讨将采用线上为主、线上线下融 合的方式组织举办;在议题与研讨方面,论坛将把一些具 体对话议题放在全球疫情防控的时代背景下进行讨论; 推动中国—东盟次区域发展 泛北部湾经济合作(以下简称泛北合作)是旨在促进 中国南部沿海省份与东盟10国的海上互联互通和贸易合作 的次区域合作。而泛北论坛泛北合作的重要机制,从2006 年至今,已成功举行10届。在泛北论坛的推动下,泛北合 作取得了一些积极成效: 一是绘制了泛北合作的新路线图务实推动中国—中南 半岛经济走廊和中国—东盟港口城市合作网络建设、推动 中国—东盟陆海互联互通、推进泛北部湾海洋合作机制建 设以及国际产能合作等共识。 二是泛北合作的平台和机制得到新拓展。依托泛北论 坛,各方共同打造了一批成熟的合作平台和机制。 三是带动了广西的国际合作发展。广西借助泛北论坛 不断深化与泛北各国多层次多领域合作,合作共赢。特别 在贸易方面,东盟连续多年成为广西最大的贸易伙伴。

33

The 11th Pan-Beibu Gulf Economic Cooperation Foum & 2020 Beibu International Geteway Port Cooperation Summit

>> 2006年7月20日,首届环北部湾经济合作论坛在南宁隆重开幕。 ภาพการประชุม Forum on Economic Cooperation of Beibu Gulf Rim ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2549


จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไทย-จีน กระชับความร่วมมือด้านท่าเรือ ยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 และการประชุมสุดยอดความร่วมมือท่าเรือสากลอ่าวเป่ยปู้ 2020 จัดขึน้ เมือ่ วันที่15 ต.ค. 2563 ณ นครหนานหนิง กว่างซี ประเทศจีน ในฐานะเนือ้ หาความร่วมมืออนุภมู ภิ าคทีส่ ำ� คัญภายใต้กรอบความร่วม มือจีน-อาเซียน เวทีการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าว เป่ยปู้ได้มีบทบาทส�ำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือจีน-อาเซียนอย่างไร? ช่วงไม่กปี่ ที ผี่ า่ นมา ความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ทา่ เรือระหว่างไทยและ จีน มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง? ก่อนงานประชุมจะมาถึง เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษในประเด็น ดังกล่าวกับ ฯพณฯจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงพาณิชย์ Q: ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อาเซียนได้แซงหน้ายุโรปขึ้นมาเป็น คู่ค้าอันดับ 1 ของจีน ถือเป็นปรากฏการณ์ส�ำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ท่านมองความส�ำเร็จนี้อย่างไร และมอง ภาพทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีนและอาเซียนในอนาคต อย่างไรบ้าง? A: อาเซียนและจีนเชื่อมโยงถึงกันทั้งทางบกและทางทะเล ทั้งสอง

34

ฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน มีความร่วมมือที่นับวันยิ่ง กระชับแน่นแฟ้น ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างจีนและ อาเซียนอยู่ที่ 2.99 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.6% อาเซียน สร้างปรากฏการณ์แซงยุโรปขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของจีนเป็นครั้งแรก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่สะเทือนไปทั่วทั้งโลก ผลส�ำเร็จนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและความยืดหยุ่นในการปรับตัวด้าน ความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองฝ่าย ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าการ ด�ำเนินนโยบายเปิดเสรีของทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นแนวโน้ม กระแสการพัฒนาที่ไม่อาจกีดกั้นได้ Q: ท่านมองว่ากรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ มี ส่วนช่วยผลักดันความร่วมมือจีน-อาเซียนอย่างไร? และขณะนี้ไทยได้ มีความร่วมมือกับประเทศสมาชิกภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น ด้านโลจิสติกส์ท่าเรือแล้ว อย่างไรบ้าง? A: ภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมกับโครงข่ายความร่วมมือเมืองท่าจีน-อาเซียน และได้ร่วมมือ กับท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ในกว่างซีเพื่อขยายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ท่าเรือ


——泰国副总理兼商务部部长朱林∙拉萨那威西 2020年10月15日,第十一届泛北部湾经济合作论坛暨2020北部湾国际门户港 合作峰会在中国广西南宁举办。作为中国—东盟合作框架下重要的次区域合作内 容,泛北部湾经济合作论坛在推动中国—东盟合作中发挥了哪些作用?泰国与中国 近年来在推动港口物流合作等方面取得哪些积极进展?在论坛举办前夕,本刊记者 就相关问题专访了泰国副总理兼商务部部长朱林∙拉萨那威西阁下。 问:2020年上半年,东盟历史性地超越欧盟成为中国第一大贸易伙伴,成为双 边关系发展的一大亮点。请谈谈,您如何看待这一喜人的成绩,以及未来中国—东 盟双边贸易的发展前景? 朱林:东盟与中国海陆相连,双方的关系源远流长,并且合作越来越紧密,2020年上半年,东盟与中国的进出口总值 达2990亿美元,同比增长5.6%,东盟历史性地取代欧盟,成为中国第一大贸易伙伴。在新冠肺炎疫情肆虐全球的当下,表 明了东盟与中国经贸合作的韧性和潜力,也证明了双方的对外开放政策是明智的,是不可阻挡的潮流。 问:请谈谈,您如何看待泛北部湾经济合作在推动中国—东盟合作中发挥的作用?在泛北部湾经济合作框架下,泰国 与区域各国在推动港口物流合作等方面取得哪些积极进展? 朱林:在这一框架下,泰国港务局已加入中国—东盟港口城市合作网络,并积极与广西北部湾港共同探讨扩大港口物 流合作。近年来,泰国林查班港、曼谷港、拉塔克拉班港陆续与广西北部湾港开通了直航班轮,有效缓解了陆路交通拥堵 的问题。 2019年4月,首列泰国水果海铁联运集装箱冷链专列启动,为泰国生鲜水果和特色农产品输华提供更大便利。双方的港 口物流合作,正呈现出稳步发展的态势。 问:疫情之下,海运和港口在保障全球供应链畅通方面显得至关重要。在您看来,中泰两国应如何进一步开展港口物 流合作,促进双边贸易发展? 朱林:在经济全球化的今天,货物的有效流动对世界来说越来越重要。因此,我建议,一是开通或加密泰国有关港口 到北部湾港的航线,促进双方货物往来。二是希望能够拓展组货渠道,解决目前泰国到广西北部湾港集装箱空箱返程的问 题,以降低企业的运输成本。三是务实推动国际陆海贸易新通道建设,有机衔接“丝绸之路经济带”与“21世纪海上丝绸 之路”,让泰国的特色农产品可以更好地进入中国西部乃至中亚和欧洲市场。

35

th

泰中加强港口合作 促进贸易合作再上台阶

The 11 Pan-Beibu Gulf Economic Cooperation Foum & 2020 Beibu International Geteway Port Cooperation Summit

ร่วมกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพฯ และท่าเรือลาดกระบังของไทยได้ทยอย เปิดเส้นทางเดินเรือมุ่งตรงสู่ท่าเรืออ่าวเป่ยปู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรทางบกที่ติดขัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในเดือนเม.ย. 2562 ยังได้มีการเปิดตัวขบวนรถไฟขนส่งผลไม้รูปแบบ ‘เรือ+ราง’ ด้วยระบบ การขนส่งห่วงโซ่ความเย็น (Cold Chain Management) ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งท�ำให้การส่งออกผลไม้สดและ สินค้าเกษตรของไทยไปจีนเป็นเรื่องที่สะดวกมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ท่าเรือ ระหว่างสองประเทศที่ก�ำลังมีแนวโน้มพัฒนาไปอย่างมั่นคง Q: ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 การขนส่งทางทะเลและท่าเรือถือเป็นส่วนส�ำคัญทีท่ ำ� ให้ระบบห่วง โซ่อุปทานทั่วโลกยังคงขับเคลื่อนไปได้ ในมุมมองของท่าน ไทยและจีนควรจะมีมาตรการส่งเสริมความ ร่วมมือด้านโลจิสติกส์ท่าเรือ เพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างสองประเทศอย่างไร? A: ในยุคโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเช่นปัจจุบัน ประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้านับวันยิ่งมีความส�ำคัญ มากขึ้นเรื่อยๆ ผมเห็นว่า ประการแรก เราควรเปิดหรือขยายเส้นทางเดินเรือในไทยไปยังท่าเรือรอบอ่าว เป่ยปู้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการขนส่งสินค้าระหว่างกัน ประการต่อมา ขยายช่องทางรวบรวมสินค้าจากจีน เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าช่วง ขากลับจากอ่าวเป่ยปู้มายังไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับภาคธุรกิจ และประการสุดท้ายคือ ส่งเสริม การสร้าง ‘เส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่’ พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงไปยัง ‘เส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจ’ และ ‘เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21’ เพื่อให้สินค้าเกษตรของ ไทยสามารถเข้าสู่ตลาดภาคตะวันตกของจีน รวมถึงตลาดในยุโรปและเอเชียกลางได้ง่ายขึ้น


>> 泰国南荣码头大众有限公司CEO 黄喜源 เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท นามยง เทอร์มินัล จ�ำกัด (มหาชน)

ร่วมผลักดันท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้ สู่ Gateway Port ระหว่างประเทศ ขานรับยุทธศาสตร์เส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ การประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 11 และการประชุมสุดยอดความร่วมมือท่าเรือสากลอ่าวเป่ยปู้ 2020 จัดขึน้ เมือ่ วันที่ 15 ต.ค. 2563 ณ นครหนานหนิง กว่างซี ประเทศจีน เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท นามยง เทอร์มนิ ลั จ�ำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมการประชุมในครัง้ นี้ และได้ให้สมั ภาษณ์ ในประเด็นเรื่องการเพิ่มความร่วมมือด้านท่าเรือระหว่างไทย-จีน “ท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้จะถูกสร้างให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเล ระหว่างประเทศ (Gateway Port) ภายใต้ยทุ ธศาสตร์เส้นทางการขนส่งเชือ่ ม ทางบกกับทางทะเลสายใหม่ ซึง่ จะท�ำให้เกิดการรวมตัวกันของอุตสาหกรรม และการปรับปรุงพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้สถานการณ์การค้าระหว่าง ประเทศในปัจจุบนั ประเทศจีนได้ปรับเปลีย่ นรูปแบบการค้าระหว่างประเทศ และขยายการค้ากับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิม่ ขึน้ นอกจาก นี้ จากปรากฏการณ์ยา้ ยฐานการผลิตทีก่ ำ� ลังเกิดขึน้ ทัว่ โลก ส่งผลให้ฐานการ ผลิตอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจ�ำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้าหมวกและกระเป๋า ทยอยย้ายเข้ามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก ขึน้ เรือ่ ยๆ ซึง่ ถือเป็นการน�ำศักยภาพอย่างมากมาให้ประเทศจีนและประเทศ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เทพรักษ์ กล่าว ในฐานะที่เป็นประเทศชายฝั่งทะเล ประเทศไทยได้ใช้ช่องทางทางบก และทางทะเลในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศเพื่อน บ้านมาโดยตลอด โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ ‘ไทยแลนด์ 4.0’ และนโยบายการ พัฒนา เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทยทีท่ ำ� ให้ไทยมีสว่ นร่วม มากขึน้ ในการสร้างเส้นทางการขนส่งเชือ่ มทางบกกับทางทะเลสายใหม่และ Gateway Port ระหว่างประเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นามยง เทอร์มินัล กล่าวว่า “ด้านท�ำเลที่ตั้ง ท่าเรือแหลมฉบังซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จ�ำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นท่าเรือน�ำ้ ลึกทีม่ ขี อ้ ได้เปรียบทีส่ ำ� คัญในการ ให้บริการขนส่งตูค้ อนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ ในปัจจุบนั ท่าเรือแหลมฉบัง

36

คือศูนย์กลางโลจิสติกส์ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ของประเทศไทย ท่าเรือนามยง (ท่าเทียบ เรือ A5) อาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์และบุคลากรด้านเทคนิคที่ได้รับ การฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี ท�ำหน้าทีเ่ ป็นตัวกลางในการเชือ่ มการขนส่งของ ห่วงโซ่อปุ ทานระหว่างประเทศ และกลายเป็นหนึง่ ในท่าเรือทีบ่ ริการท่าเทียบ เรือเพื่อการน�ำเข้าและส่งออกรถยนต์อันดับต้นๆของเอเชีย โดยให้บริการ ขนส่งรถยนต์แบรนด์ของญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆที่ ผลิตในประเทศไทย” ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยและจีนมีการร่วมมือด้านโลจิสติกส์ท่าเรือที่ แน่นแฟ้นมากขึ้น ท่าเรือหลายแห่งในประเทศไทยได้เปิดเส้นทางเดินเรือ มุ่งตรงสู่ท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ในกว่างซี ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกมากขึ้นส�ำหรับ สินค้าไทยในการเจาะตลาดจีน ทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นว่าการสร้างเส้นทางการ ขนส่งเชือ่ มทางบกและทางทะเลสายใหม่เป็นสิง่ ทีผ่ คู้ นต้องการ และการสร้าง ท่าเรือสากลในอ่าวเป่ยปู้ก็มีแนวโน้มที่ดี “ปัจจุบนั ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีนมีความกังวลอย่าง มากเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่เชือ่ ว่าจากรากฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทีล่ กึ ซึง้ ระหว่าง อาเซียนและจีน ภาคอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองประเทศ จะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทย บริษัท นามยง เทอร์มินัล จ�ำกัด (มหาชน) พร้อมที่จะขานรับยุทธศาสตร์เส้นทางการขนส่ง เชือ่ มทางบกกับทางทะเลสายใหม่อย่างเต็มที่ ร่วมเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับการค้าไทย-จีน และร่วมแบ่งปันโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นผล ประโยชน์ที่ส�ำคัญส�ำหรับทั้งบริษัทและประเทศไทย” “ผมเชื่อว่ามิตรภาพระหว่างจีนและอาเซียนจะลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และ เชื่อว่าเส้นทางการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลสายใหม่ที่นับวันจะยิ่งมี ความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆนี้ จะส่งเสริมการขยายตัว เพิ่มความมั่นคงและ เสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน และอุตสาหกรรมระหว่างประเทศและใน ระดับภูมิภาค พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ให้ดี ยิ่งขึ้น” เทพรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย


第十一届泛北部湾经济合作论坛暨2020北部湾国际 门户港合作峰会于2020年10月15日在中国广西南宁市举 办。泰国南荣码头大众有限公司CEO黄喜源出席了本次 论坛,并就泰中两国的港口如何加强合作等问题接受了 本刊记者的采访。 “北部湾港要建设成为国际陆海贸易新通道的门户 港,离不开产业的集聚和供应链的完善。在当前国际贸 易的形势下,中国对外贸易格局有了新转变,中国加强 了与东南亚等地区的贸易往来。另外,世界制造业格局正 在进行调整。纺织、服装、鞋帽、箱包等劳动力密集型产 业逐渐转移到东南亚,由此带来中国和的东南亚展潜力巨 大。”黄喜源说。 而泰国作为临海国家,一直以来十分善于利用海上 和陆地通道,深化与周边国家的经贸往来。尤其是“泰 国4.0”战略及泰国东部经济走廊发展政策,将让泰国更 为积极地参与陆海新通道及国际门户港的建设。 “就区位而言,泰国南荣码头大众有限公司所在 地——林查班港紧邻泰国东部海岸,处于东南亚中心,且 为深水港在国际货柜运输服务上具有显著的优势。目前,

该港口是泰国最大的物流枢纽,而南荣A5码头背靠越来越 完善的基础设施和训练有素的技术人员,在国际供应链上 扮演运输的中间环节,成为亚洲数一数二的汽车滚装出口 码头,为日本、德国、美国等国家在泰生产的汽车品牌做 装船业务。”黄喜源表示。 近年来,泰国和中国间的港口物流合作越来越密切。 泰国多个港口开通了与广西北部湾港间的直航班轮,为泰 国产品走深中国市场提供更便捷的渠道,证明陆海新通道 建设是人心所向,建设北部湾国际门户港是大有可为的。 “当前东南亚各国和中国都高度关注疫后经济复苏, 基于东盟与中国深厚的经贸合作基础,恢复和畅通双方 间的产业链、供应链指日可待。因此,本公司在泰国政 府的支持下,与陆海新通道对接,将进一步做强泰中贸 易,共享巨大的商机。无论是对本公司还是泰国来说,都 是重大利好。”黄喜源说,相信东盟和中国间日渐深厚的 友谊,及日臻成熟的陆海新通道,将促进地区及区域国际 产业链供应链的开放、安全和稳定,更好地推动泛北部湾 经济合作区的发展。

>> 泰国林查班港 ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย

37

The 11th Pan-Beibu Gulf Economic Cooperation Foum & 2020 Beibu International Geteway Port Cooperation Summit

对接陆海新通道 共建国际门户港


66 CM

Education

>> 格乐大学校长杨金泉教授、格乐大学管理委员会主席王长明、研修班课程负责人出席活动。 ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี ม.เกริก พร้อมด้วย หวัง ฉางหมิง ประธาน ม.เกริก และผู้บริหารหลักสูตรฯ เข้าร่วมในพิ ธีเปิดหลักสูตร นพธ.รุ่น 1

ม.เกริก เปิดหลักสูตร ‘นักพัฒนาธุรกิจการค้าไทย-จีน’รุ่นที่ 1

สร้างผู้นำ�การค้ายุคใหม่ จับมือ‘ไทย-จีน’ก้าวสู่อาเซียน เปิดหลักสูตรแล้วอย่างเป็นทางการ ส�ำหรับ “นพธ.รุ่น1” หรือ หลั ก สู ต ร“นั ก พั ฒ นาธุ ร กิ จ การค้ า ไทย-จี น ” หลั ก สู ต รใหม่ ล ่ า สุ ด ของ มหาวิทยาลัยเกริกที่ตอบโจทย์ผู้ที่สนใจท�ำการค้าร่วมกับจีนเพื่อปรับตัว รับกับโลกยุคใหม่ทางการค้า โดย ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกริก ให้เกียรติเปิดตัวหลักสูตรปฐมฤกษ์ พร้อมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “เมื่อการค้าโลกเปลี่ยน การค้าไทย-จีน เปลี่ยน!” เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ ผ่านมา ศ.ดร.นพ.กระแส กล่าวว่า แม้วิกฤต COVID-19 จะท�ำให้โลกเผชิญการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม การเมืองระหว่าง ประเทศ แต่สกั วันหนึง่ การแพร่ระบาดไวรัสย่อมยุตลิ ง สิง่ ทีส่ ำ� คัญจึงต้องเดิน หน้าสร้างคนให้มี “ภาวะผูน้ ำ� ” เพือ่ ก้าวสูก่ ารท�ำธุรกิจในอนาคตข้างหน้า โดย เฉพาะการค้าไทย-จีน ซึ่งจะยังคงมีบทบาทส�ำคัญและขยายตัวอย่างเนื่อง “ วันนี้ ไม่วา่ จะเป็นเทคโนโลยีหรืออีกหลายๆอย่างทีเ่ ราก�ำลังตืน่ เต้นกัน ล้วนแต่ใช้เงินซือ้ ได้ แต่ภาวะผูน้ ำ� ทางการค้าทีจ่ ะน�ำพาการเปลีย่ นแปลงการ ค้าไทย-จีน เป็นสิ่งที่ซื้อกันไม่ได้ แต่ต้องสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งต้องเริ่มต้นสร้าง ความส�ำเร็จจากการสร้าง“สามัญส�ำนึก” หรือ Common Sense ในการ ท�ำการค้าระหว่างไทย-จีน... ในมุมมองของผม การจะเป็นนักพัฒนาธุรกิจไทย-จีนได้ ต้องมีความ เก่งและเชี่ยวชาญใน 3 P ได้แก่ 1.People – รู้จักคน รู้เขา รู้เรา ถ้าอยาก ท�ำการค้ากับจีน ต้องเริ่มจากการรู้จักคนจีนให้ดี และต้องมีเพื่อนที่เป็น

38

เครือข่ายคนไทยด้วย 2.Professional – มีความเป็นมืออาชีพในการเจรจา การค้า และ3.Personal Discipline – ความมีวินัยในตนเอง พูดค�ำไหนค�ำ นั้น พูดแล้วเชื่อถือได้ ผมเชื่ อ ว่ า การเปิ ด หลั ก สู ต รนั ก พั ฒ นาธุ ร กิ จ การค้ า ไทย-จี น ของ มหาวิทยาลัยเกริกในครั้งนี้ จะเป็นก้าวส�ำคัญที่ท�ำให้การศึกษามีบทบาทใน การส่งเสริมความร่วมมือ และความเข้าใจระหว่างไทย-จีน ด้วยการ “สร้าง คน”ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อมาท�ำการค้ายุคใหม่ระหว่างไทย-จีน นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการจับมือกันเพือ่ สร้างเครือข่ายเชือ่ มโยงระหว่างไทย-จีนกับ อาเซียนต่อไปในอนาคต” ศ.ดร.นพ.กระแส กล่าว ส�ำหรับหลักสูตร “นักพัฒนาธุรกิจการค้าไทย-จีน” (นพธ.รุ่น 1) เป็น หลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยเกริกที่มุ่งตอบโจทย์ผู้ที่สนใจเป็นนักธุรกิจ การค้าไทย-จีนอย่างเป็นระบบ ได้ทง้ั เพือ่ นและความรู้ รวมถึงได้ตอ่ ยอดทาง ธุรกิจกับคู่ค้าของโลกในยุคนี้คือประเทศจีน โดยเน้นการเรียนรู้ที่อัดแน่นทั้ง เนื้อหาทางวิชาการที่เข้มข้น และภาคปฏิบัติ นอกจากนี้ ยังมีพี่เลี้ยงคอยให้ปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ โดยแบ่ง เป็นการเรียนภาคทฤษฎีจากคณาจารย์ชาวจีน 6 ครั้ง และคณาจารย์ชาว ไทยอีก 6 ครั้ง รวม 12 ครั้ง ส่วนที่เหลืออีก 3 ครั้ง แบ่งเป็นงานเสวนาใหญ่ 2 ครั้ง และครั้งสุดท้าย เป็นการน�ำเสนอแผนธุรกิจในลักษณะBusiness Matching โดยมีภาคเอกชน นักลงทุนและตัวแทนจากสถาบันการเงินเข้าร่วมฟัง


Education

66 CM

泰国格乐大学开设首期泰中贸易拓展研修班 打造新一代商业领袖,中泰携手迈向东盟 泰国格乐大学“首期泰中贸易拓展研修班”已于2020 年9月19日正式开班,旨在为适应现代贸易发展,最大化 满足对中泰贸易感兴趣人士的需求。开班仪式上,格乐 大学校长杨金泉教授发表题为“全球经济巨变,泰中贸 易随之改变”的演讲。 杨金泉教授在致辞中说,虽然新冠疫情诱发全球社 会、技术和国际政治发生巨变,但是等到疫情阴霾散去 的那一天,重要问题是培育新一代伟大的商业领袖,以 引领和推动经济的发展,尤其是扮演着重要角色且保持 持续发展的泰中贸易。 “如今,引起人们无限兴趣的技术或其他事物,金钱 就能办到,但金钱却无法买到能带领泰中贸易向前发展的 商业领袖,我们要培育这方面人才,而成功的前提是要先 掌握泰中贸易知识。 杨金泉教授认为,要成为一名泰中贸易的拓展者, 须具备三种能力,分别是:1、知己知彼。要想和中国人

做生意,首先要了解中国人,还要有泰国人脉圈;2、专 业。掌握贸易谈判知识和技巧;3、自律。如果说话时紧 紧抓住“严谨得体”,会让人感到你是个值得信任的人。 “我相信,此次格乐大学开设泰中贸易拓展研修班 课程,打造新一代泰中贸易商业人才,将是教育在加强 泰中经贸合作和相互理解方面发挥重要作用迈出的重要 一步,还是建立泰国、中国乃至东盟网络的大好机会。” 杨金泉教授说。 格乐大学开设首期泰中贸易拓展研修班课程,能让对 中泰贸易感兴趣的人士,不仅可以系统地学习有关知识, 提升自身人脉圈,还能将业务拓展至中国,重点学习专业 知识和促进实践能力。 不仅如此,还给予专业顾问咨询支持。理论课程由 来自中泰两国教师分别6次面授,共计12次;剩下3次则 包括2次大型研讨会和学员介绍各自商业计划,届时将有 银行代表、投资家及金融机构代表等各界人士共同出席。

>> 格乐大学校长 杨金泉教授 ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี ม.เกริก

39





Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.