ใบความรู้เรื่อง กฎของเกย์-ลูสแซก และกฎรวมแก๊ส

Page 1

กฎของเกย์ - ลูสแซก (Gay-Lussac’s Law) ปี พ.ศ. 2351 (ค.ศ. 1808) โจเซฟ หลุ ย ส์ เกย์ - ลู ส แซก (Joseph – Louis Gay - Lussac) นั ก เคมี ชาวฝรั่งเศส ได้ศึกษาทดลองวัดปริมาตรของแก๊สที่ทำปฏิกิริยาและที่ได้จากปฏิกิริยาจนสามารถสรุปว่า อัตราส่วน ระหว่างปริมาตรของแก๊สที่ทำปฏิกิริยาพอดีกัน และปริมาตรของแก๊ส ที่ได้จากปฏิกิริยาซึ่งวัดที่อุณหภูมิและความ ดันเดียวกันจะเป็นเลขจำนวนเต็มลงตัวน้อย ๆ และต่อมาได้ทำการทดลองได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความดัน กับอุณหภูมิของแก๊ส โดยให้ปริมาตรของแก๊สคงที่ พบว่า ความดันของแก๊สใด ๆ จะแปรผันตรงกับอุณหภูมิเมื่อ ปริมาตรคงที่ และสามารถเขียนแสดงความสัมพันธ์ได้ ดังนี้ P ∝ T เมื่อ V และ n คงที่ P = kT P

= k P1 P2 = T1 T2 T

ภาพที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างความดันและอุณหภูมิของแก๊ส เมื่อจำนวนโมลและปริมาตรของแก๊สคงที่ ที่มา : http://www.satriwit3.ac.th/external_newsblog.php?links=1728 กฎรวมแก๊ส (Gas Law) เนื่องจากกฎของบอยล์ ชาร์ลและเกย์ -ลูสแซกกล่าวถึงเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรกับความดัน ปริมาตรกับอุณหภูมิ และความดันกับอุณหภูมิ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติอาจเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ดังนั้นจึงมี การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊สในขณะที่จำนวนโมลคงที่ ดังนี้ 1

จากกฎของบอยล์

V∝

จากกฎของชาร์ล

V∝T

P

เมื่อ T และ n คงที่ เมื่อ P และ n คงที่


จากกฎของเกย์-ลูสแซก

P∝T

เมื่อ V และ n คงที่

เมื่อรวมกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล และกฎเกย์-ลูสแซก จะได้ความสัมพันธ์ดังนี้ V∝ T

T P

V= xk PV

P

โดย k เป็นค่าคงที่

= k โดย k เป็นค่าคงที่ T ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตร ความดัน และอุณหภูมินี้ เรียกว่า กฎรวมแก๊ส ซึ่งเขียนในรูปที่ใช้ในการ คำนวณได้ดังนี้ P1V1 P2V2 = T1 T2 โดยที่ T มีหน่วยเป็นเคลวิน (K)


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.