[19-10-2021] หนังสือรุ่นกาลีมาตา [มารดาแห่งกาฬ]

Page 1



( ปัจฉิมบท )

ั่วช้า ดเกิดจากเหตุช แม้เรอื่ งทั้งหม าวนี้ มิ ต้นเล่าเรอื่ งร ทว่าฉันอยากเร ่ ของมนุษย์ ด้วยความดีงาม

าย าคี รี ห นึ่ ง ป ี าม เข บ ุ ห าง ล ก น า ้ บ ่ ู ม ี่ ฤทัยพุชปะ ห คน จ า ฉั น ก ลั บ ม าท โล ม รั ป าสูญเสียเพ่ือนไปหลาย อ คื เร น ั ต ิ ว งฉ ชี อ บ สิ าม ช่ื อ ข ส า ว่ ก มาก ัญซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้คน ขว น อ ื ท ะเ ส ตุ เห ด ิ เก ง ลั ห ลอันไม่อาจลบเลือน แผ าด บ ี ม ็ ..ก . ้ ด าไ ม ด อ ร ่ ี ยนั้นยังมีผู้คนซึ่งดิ้นรน า คนท ร้ น ฝั น ใ ่ แต ง ่ ยั ห าด ค กิน ของตนและคนที่รัก สิ่งที่เกิดขึ้นราวฝันร้ายเ ต ิ ว ี าช ษ ก รั อ ่ ื เพ ... าก บ ำ างอันยากล� และตัดสินใจเลือกหนท ำร้ายใคร... ป็นตัวแทนของ ยเ ลา ก ่ ี ท ่ พวกเขาไม่เคยอยากท� แม ระ าพ ช ู บ ์ ธิ ด ดอกไม้ศักดิ์สิท ดอกชบาสีแดงส แห่งฤดูใหม่ยังไม่อาจ ฝน าย ส ่ ี ท น า ้ บ ่ ู ม ห ใน ป็นชี้ตาย ค้าง ค�ำสาปแช่งและการชี้เ มฝนโปรย หยาดน�้ำซึ่ง ยา ย ี เส ญ สู าร ะก แล า ร้ ช�ำระล้างความโศกเศ �้ำตาขององค์มาตา น ยด ห บ กั าว ร ดู ... น ้ ั งน ด อยู่บนกลีบอ่อนนุ่มสีแ ลูกไว้ทั่วหมู่บ้าน ป น ค าง รบ ค ใ ่ ี ท าม งง ว ่ ดอกล�ำโพงกาสลักสีม ย บโยนชบาแดงดอกน้อ ลอ ยป อ ค ง า ้ งข ย ี เค ม งอกงา ินที่ระลึกถึงผู้เสียชีวิต ยห า ้ ป พ าร เค ป ไ ้ ไม ก อ ด ฉันเดินผ่านทุ่ง ดาชาวฤทัยพุชปะ าร งม ขอ น โย น อ ่ อ บ ซิ ระ แต่ละคน ได้ยินเสียงก ่ลูกสาวลูกชายตัวน้อย แก วล น ม ่ ุ งน า ย่ าอ เข วก บอกเล่าเรื่องราวของพ ะ การร่วมแรงร่วมใจ สล ย สี าเ เข วก พ ่ ี ท ง ่ สิ ำ � ถึงสิ่งที่พวกเขาท ระโลมใจซึ่งกันและกัน ป บ ลอ ป าร ะก แล ง อ ้ ป การปก ห้อยตัวน้อยที่บิน ง ่ ิ ะห แล ว้ งไ วา น ค าง เห็นดอกไม้ที่ใครบ กายวิบวับแวววาว ระ ป น ็ เป บ ริ ะพ ก วกนั้น สง งแ อ ส่ ลอ บอกหิ่งห้อยน้อยพ าค ต ำ ้ � น ม ้ ยิ น ฉั ” ว ล้ ม “กลับมาแ นที่ยังอยู่ กาลเวลาย่อ ค บ รั ห ำ ส� ก รั น แส า ่ เก ดุจพูดคุยกับเพื่อน สรรคผลัดเปลี่ยน ป ุ ะอ แล ง วั ห สม ข สุ ม วา ระ หมุนเวียนต่อไป ให้ค ปแล้ว พวกเขาเป็นอิส ลไ ให บ ลั ห ่ ี ท น ค น ว ส่ น มาเยี่ยมเยีย ฝันของผู้วางวาย... ม วา งค ย ี เพ น ็ ป เ ้ ี น ก จา ต่อ จากสิ่งทั้งปวง กาลเวลา วามดีงามมิรู้เลือน ยค ว ้ ด ม ย ่ ี เป ม ็ เต ... น ้ ั น ัน ฉันหวังเพียงให้ในห้วงฝ



Deva ’s Gard en after the rain.

บางวันยามอากาศดี... ชาวบ้านฤทัยพุชปะที่เข้าไปหา ((ทารุณ ออกไป!)) ดอกบัวในมือเด็กสาวสวมมาลัย ของป่าจะได้ยินเสียงแว่วหวานจากที่ไกลๆ... ชบาสีแดงฟาดใส่เจ้าทารุณตัวจ้อยที่ก�ำลังรังแกชาวบ้าน ((อสู รทารุ ณท�ำตั วเกเรอี กแล้ วหรือ?)) แต่ชาวบ้านคนนั้นไม่เห็นทั้งตัวอสูรทารุณ เด็กสาว แต่เขาฟังถ้อยค�ำนั้นไม่เข้าใจหรอก เพราะ ‘จิต’ ของเขา แสนงาม หรือดอกบัวที่ใช้ไล่ฟาดอสูรน้อยจนหยดน�้ำ ยังครบถ้วนสมบูรณ์ดี กระเด็นหรอก... ชาวบ้านผู้โชคดี (?) เพียงแค่รู้สึกหาย ((ทารุณตนนี้เป็นอสูรเยาว์วัย เพิ่งเกิดใหม่ ปวดไหล่ เขาเก็บสมุนไพรต่อ ก่อนออกจากป่ายังไม่ลืม หลังจากถูกร่างทรงของเราขับไล่)) พนมมื อ สวดมนต์ ข อบคุ ณ ผี ปู ่ ผี ย ่ า ที่ ค อยปกปั ก รั ก ษา ((ตั ว มั น ในตอนนี้ ไ ม่ มี ฤ ทธิเ์ ดช ฤทั ย พุ ช ปะให้ ส งบร่ ม เย็ น หลั ง ผ่ า นเหตุ ก ารณ์ อั น เศร้ า เที ย บเท่ า ในอดี ต ที่ มี ค นบู ช า สลดน่ า สะเทื อ นใจ หากถามว่าท� ำไมอสู รทารุ ณยังอยู่ ด้ วยการท� ำบาป)) ...ควรตอบว่า เพราะอสูรทารุณเกิดจากจิตอันทรมาน ชาวบ้ า นคนนั้ น อาจรู ้ สึ ก หนั ก หลั ง ของมนุษย์ ตราบที่มนุษย์ยังมีความรู้สึกแรงกล้า ย่อม หนักไหล่ไม่สบายเนื้อตัว อันเป็นผล หลีกเลี่ยงสิ่งซึ่งเกิดจากความรู้สึกนั้นไม่ได้...แต่เพราะ มาจากการถูกอสูรทารุณตัวเล็กจ้อย ไม่มีคนคิดท�ำเรื่องเลวร้ายเช่นในอดีต...อสูรทารุณจึง รังแกด้วยการกระโดดเหยียบหลัง เป็นเพียงอสูรตัวจ้อยๆ ที่ไม่ค่อยมีฤทธิ์เดชแล้ว เหยียบไหล่ ((...เราหวังให้ เป็นเช่นนั้ นตลอดไป...))






THE TIGER OF RAJPUTANA

แสงแดดส่องลอดม่านมาในยามเช้า, ขับให้แหวนวงบนนิ้วดูโดดเด่น เปล่งประกาย เรืองรองเป็นสีทองอ�ำพัน บนฟูกกว้างเหนือโครงไม้ที่มีเสาสี่มุมและผืนผ้าผูกประดับ—รุทธระ ยังคงนอนอยู่เช่นนั้น พลิกกายหนีจากความเจิดจ้าของดวงตะวันพลางพาดแขนแกร่งลงคล้าย จะดึงใครเข้ามาตระกองกอด “...”

แล้วนัยน์ตาคู่คมก็ปรือขึ้นเมื่อสิ่งที่ไขว่คว้า ได้มีแต่เพียงอากาศธาตุ, ครั้นไร้ซึ่งไออุ่นของนาง ผู้เป็นที่รัก ยิ่งนานวัน เตียงนี้ก็ยิ่งเย็นเยียบ… ยิ่งตอกย�้ำความจริงว่าเขาได้ผ่านราตรีกาล โดยล�ำพังมานานเกินจะนับ และนั่นก็รังแต่จะสุม เชื้อเพลิงให้แก่แรงโทสะซึ่งโหมไหม้อยู่ภายใน แต่ละวันผ่านไปอย่างเนิบช้า ทุกสิ่งอย่างขัดหูตาไปเสียหมด

จากเมืองกรุง

สู่ หุบเขามายาคีร ี

ทิวทัศน์ที่มองเห็นได้จากหน้าต่างรถไฟเปลี่ยน ผันไปเรื่อยๆ ตึกรามบ้านช่อง ถนน และรถยนต์ บางตาจนหายไปสิ้ น เมื่ อ ทุ ก อย่ า งถู ก แทนที่ ด ้ ว ย ธรรมชาติสีเขียวอันทอดยาวจนสุดครรลองสายตา ...เหตุผลที่ น� ำ พามื อ ปราบ แห่ ง ราชบั ต ส์ ม ายั ง ฤทั ย พุ ช ปะ ท้ า ทายแรงแห่ ง ชะตาที่ อ าจชั ก พาตนกลับคืนเป็นอสุรกายอันมี ถิ่นอาศัยอยู่ในผืนป่า ่ ที่สูญหาย ก็เพียง…เพื่อตามหาและทวงคืนอีกครงึ่ หนึง เพื่อให้ครอบครัว ‘ซิงห์ กัณกะ’ กลับมาครบสมบูรณ์สุข ่ … อีกครัง้ หนึง


IN MY FEELINGS รุทธระ—สามีของฉันเป็นสมิง ก่อนแต่งงานกัน เขาบอกฉันว่า เมื่อสิบสามปี ก่อนหลังผ่านเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จลิยานวาลาบาค มีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงเขาไป จากเขาคนเดิม วันหนึ่งเขาอาจกลายร่างเป็นพยัคฆ์ดุรา้ ยสิ้นสติรูค้ ิด จิตพยัคฆ์มักถูกพงไพรเพรียกหา พาเตลิดหายเข้าไปในดินแดนเขียวชอุ่มอัน ไร้ขอบเขตแห่งองค์พนัสบดี บุตรของเราก็จะสืบทอดความเป็นสมิงจากเขา ยิ่งอยู่ในร่างพยัคเฆนทร์นานเท่าใด ความเป็นสมิงย่อมยิ่งครอบง�ำทบเท่าทวี... หากความทรงจ�ำยามเป็นมนุษย์ค่อยๆ เลือนหาย รุทธระกลัวว่าเขาจะทิ้งฉันไว้คนเดียว ไม่สามารถกลับมาเป็นคู่ร่วมเรียงเคียงหมอน ลืมสิ้นทั้งเมียและลูก ฉันตอบเขาว่า ‘หากปราศจากความทรงจ�ำ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือความรูส้ ึก’ ความรักความห่วงใยซึ่งเราสองคนมีให้แก่กัน...ความรู้สึกเหล่านั้นย่อมไม่มีวัน เลือนหายไป ถึงวันหนึ่งตัวเขาในร่างพยัคฆ์จะลืมเลือนฉัน ลืมว่าเราเคยตื่นเช้ามา ด้วยการนอนเคียงข้างกัน ลืมว่าฉันท�ำอาหารเช้าของโปรดให้เขา ลืมว่าเราเคยนอน คุยกันเรื่องความฝันและชีวิตอย่างไร ลืมจูบแรกของเรา ลืมว่าฉันหลงรักเขามาก

แค่ไหน หรือเขาตกหลุมรักฉันได้อย่างไร...ทั้งหมดล้วนไม่ส�ำคัญ “สิ่งที่ฉันรู้สึก คุณซึ่งฉันเคยใกล้ชิด คุณผู้เป็นชายคนรักของฉัน ไม่ว่าอยู่ ในร่างไหน คุณก็ยังเป็นรุทธระคนเดิมที่ฉันรักหมดใจมาตลอด ใบหน้าหล่อเหลา ที่ ฉั น นึ ก รั ก แต่ แ รกเห็ น ใบหน้ า เดิ ม ปากร้ า ยๆ ทว่ า ไม่ เ คยพู ด ปดยั ง คงน่ า จู บ ความอ่อนโยนซึ่งคุณไม่ค่อยแสดงออก แต่ฉันรับรู้ได้ด้วยหัวใจ “ทุกอย่างของคุณเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะอยู่ในร่างไหนก็ตาม... “และความรักของฉัน ความภักดีต่อคุณของฉัน ความเทิดทูนแด่คุณ ความ ปรารถนาให้คุณมีความสุขของฉัน...ก็ไม่เคยเปลี่ยน” เมื่อกล่าวจบ ฉันจับสองมือใหญ่ของเขาด้วยสองมือเล็กของฉัน ยืดตัวเข้าไป บรรจงจูบที่ริมฝีปากหยักงามของเขาอย่างหลงใหลด้วยความรักหมดหัวใจ เราจูบกันเนิ่นนาน “แต่งงานกับฉั นเถอะนะคะ รุทธระที่รก ั ”

แล้วเราก็แต่งงานและมีลูกชายด้วยกันในปีนั้น ชื่อลูกชายคนแรกของเราคือ

ขันธาราม

และในตอนนี้...ที่ฉันถ่ายรูปครอบครัวพร้อมกับรุทธระและขันธาราม ฉันมี ลูกน้อยอีกคนอยู่ในอุทร ฉันจะบอกรุทธระว่า...ลูกคนที่สอง ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย ฉันอยากตั้งชื่อว่า ‘วินายกะ’ ตามชื่อลูกชายคนแรกที่จากไปนานแล้วของรุทธระ เพื่อที่พ่อเสื อของฉั น จะได้อุ้ม ‘วินายกะ’ อีกครัง้ ในอ้อมแขน

I’ll alwa ys be there for you.


กรุง๊ กรง๊ ิ ... กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระพรวนบนก�ำไลข้อเท้าพี่ดังเวลาวิ่งตามน้องชายที่รัก ก�ำไลทองค�ำวงนี้เป็นของซึ่งน้องมอบให้ในวันวิวาห์ของเราสอง... กรุ๊งกริ๊ง... กรุ๊งกริ๊ง ยามพี่กระโดดโลดเต้นไปมา อย่างที่น้องชอบเรียกว่า ‘พี่ดอกไม้มีขา’

พี่หมุนตัวเร็วๆ ท่ามกลางมวลหมู่ผกา ~ กลีบอ่อนของดอกไม้ปลิวว่อนพร้อมสุ้มเสียง กระพรวนกังวานสดใสยามพี่เต้นร�ำเพื่อน้อง ♪ “มาเถิดสามีน้อยที่รกั พี่จักร้องเพลงเพื่อท�ำให้น้องเบิกบาน

“...ดัม ดาลาดัม ดาละบัล บัล ดาลา... “พี่จะอยู่อย่างไรดี ถ้าชีวิตนี้ไม่มีน้อง...ไม่มีน้อง “โอ้ น้องชายที่รก ั

“ไม่มีน้อง แสงของพระจันทร์ก็เป็นของปลอม ...เป็นของปลอม “ไม่มีน้อง ทองค�ำก็กลายเป็นทองแดง “เพราะมีน้อง จันทร์เสี้ยวยังกลับเต็มดวง “เพราะมีน้อง ชีวิตพี่จึงมีความหมาย “พี่จะแปลงเป็นผีเสื้ อโบยบินไปหาน้อง

“หัวใจของพี่ติดตามกลิ่นหอมหวาน ของความรัก “ความรู้สึกเช่นนี้คืออะไรหนอ

“ราวกับตัวพี่ถูกจุมพิต ด้วยดวงแสง สว่างไสวของน้องชาย...” ♪


สีทองของดวงตาองค์พนัสบดีนั้น คือสีที่สะท้อนทั้งในกระจกเงาและความฝัน —ทารกน้อย หมู่ดาว และพยัคฆ์ เด็กชายผู้แต่งตัวเยี่ยงพราหมณ์ กลิ่นหอมจาง ของดอกล�ำโพงท่ามกลางป่าลึก ความเกลียดชัง ไม่พึงใจแฝงอยู่ในสายตา

ออกมาจากเงาผืนป่าอย่างไร้วี่แววนั้นก็เป็นดังค�ำตอบของ ความประมาท ราวธรรมชาติรอบกายก�ำลังหัวเราะเยาะ พวกเขาอยู่ไม่ปาน เพียงพริบตา เหยื่อรายแรกก็ถูกมัน ตะปบ ฝังกรงเล็บลึกเข้าในเนื้อแขน, คมเขี้ยวใหญ่ ยาวหลายนิ้วกัดกระชากบ่า หยาดเลือดก็กระเซ็น ในป่าลึกอันมืดมนแลหมองมัว ย้อมหย่อมหญ้า สร้างความสยดสยองแก่คน —นี่คือถิ่นพ�ำนักของภูเตศวรพนัสบดี ทุกผู้ในบริเวณ ทั้งอาวุธและเสียงปืนที่ยิงขู่ แน่นอนว่าผู้ศรัทธาแห่งบริติชราชย่อมได้รับ ล้วนไม่เกิดผลอันใดต่อตัวพยัคฆินทร์ แม้ถูก ค�ำเตือนของการเดินป่า ทว่าพวกเขาก็ยึดถือใน ตีเข้าที่ตาก็ไม่ได้ท�ำให้ผวาจนหลบหนี—ท�ำได้ หลักวิทยาศาสตร์มากเกินกว่าจะใส่ใจ ในป่ามัน เพียงให้มันปล่อยช่วงขาของคนต่างถิ่นอีกรายออกจาก ย่อมมีพันธุ์ไม้และสัตว์เป็นธรรมดา ปากมัน ขาข้างนั้นร่วงหล่นลงบนพื้น แทนที่จะกัดกินชิ้นเนื้อ เสือตัวนั้นกลับ ซึ่งเสือลายพาดกลอน เข้าท�ำร้ายเด็กชายอีกคนต่อ, จนแผ่นหลังเขาเหวอะหวะเป็นรอยกรงเล็บที่ ตัวมหึมาที่โจนทะยาน กดกรีดลงไปถึงกระดูก เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วป่า ของเหลวสีชาดกระจาย จากบาดแผลลงสู่ดิน …ดังดอกชบาที่ปกคลุมหมู่บ้านฤทัยพุชปะ ทุกแห่งหน ในที่นั้นถูกย้อมไปด้วยสีแดงสด นี่ คือราคาที่ต้องจ่ายแด่ ภูเตศวรพนัสบดี , แลกกับล�ำโพงกาสลักเพียงดอกเดี ยวที่พวกเขาต้ องการ






























ในวันที่อสูรทารุณถูกปัดเป่า จิตอสูรร้ายซึ่งสิงสู่อยู่ในเทวรูปมาตาก็ ฟ้าผ่าจนแตกเป็นเสี่ยงและพังทลายลงมากองบนพื้น พลันสลายไปด้วยอ�ำนาจแห่งองค์เทวี...เหลือไว้เพียงรูปปั้นพระแม่สิบกร หินของวิหาร บรรดาพราหมณ์ในเทวสถานเทวีมาตา อันมีร่องรอยถูกไฟเผาจนเกรียมจากเมื่อครั้งอดีต พยายามตีความลางบอกเหตุนี้กันอย่างเคร่งเครียด จิตของอสูรทารุณถูกขับไล่จากวิหารเล็กแล้ว มีฝนตกในคืนนั้น เป็น ‘พระแม่ คงมิ พึงใจให้ รูปเคารพของท่ านเป็นที่ หยาดฝนใสสะอาดราวกับต้องการชะล้างคราบคาวโลหิตที่เจิ่งนองเทวสถาน สิ งสู่ของอสูร ท่านจึงท�ำลายเทวรูปองค์น้ีเสี ย เพื่อ แห่งองค์มาตา แล้วสายฟ้าสว่างไสวน่าเกรงขามก็ฟาดผ่ายังวิหารเล็กดัง ให้การบูชาพระแม่และองค์มหาเทพซึ่งเพิ่งกลับคืน เปรี้ยง! ใหญ่จนคนสะดุ้งไปตามกัน ...รุ ง่ เช้าเมื่อฝนซา... พราหมณ์ได้ขึ้น สู่ ฤ ทั ย พุ ช ปะเป็ น ไปอย่ า งถู ก ต้ อ งครบสมบู ร ณ์ . .. ไปยังวิหารเล็กขององค์ มาตา เพื่อพบ เราจั กสร้างเทวรู ปของทั้ งสองพระองค์ ข้ึนมาใหม่ ว่าเทวรูปพระแม่กายา ด� ำ สนิ ท ถู ก เคียงคู่กัน’ นั่นคือข้อสรุปของเหล่าพราหมณ์ แล้วในวันนั้นเอง คนของรุทธระก็มาแจ้งความ ประสงค์กับเหล่าพราหมณ์ ว่านายของตนต้องการ เป็นประธานในการบูรณะเทวรูปเทวีมาตา...รวมถึง สร้างเทวรูปมหาเทพไว้คู่กัน ช่างเป็นความบังเอิญที่ใจตรงกัน

เมื่อรุทธระรับทราบว่าเทวรูปเทวีมาตาองค์เก่า ถู ก สายฟ้ า ท� ำ ลายไปแล้ ว ...เขาจึ ง สั่ ง ให้ ค นของตน หล่ อ สร้ า งเทวรู ป ขององค์ เ ทพและองค์ เ ทวี ขึ้ น มา ใหม่พร้อมกัน...โดยเป็นการสร้างใหม่ด้วยทองค�ำ หนึ่ ง ปี ผ่ า นไป เมื่ อ รุ ท ธระกั บ ปรั ม โลจากลั บ มายั ง หมู ่ บ ้ า นฤทั ย พุ ช ปะอี ก ครั้ ง บนวิ ห ารเล็ ก ก็ มี เทวรูปทองค�ำอันวิจิตรสององค์ตั้งอยู่ข้างกัน ภาพ อันเรืองรองงดงามนั้นท�ำให้ปรัมโลจาน�้ำตาซึม ความเคารพศรัทธาและความตื้นตันใจเอ่อคลอ อยู่ในดวงตาคู่งามของหญิงสาว เธออิ งแอบรุ ทธระ ชวนเขาพนมมือนบนอบสิ่ง ซึ่งรวมมงคลทั้งปวงในจักรวาล มหาเทพกลั บมาอยู่กับพระแม่ แล้ ว ดุ จดอกล� ำโพงเคี ยงข้างดอกชบา

และทั้ งสองพระองค์ จักคุ้ มครองฤทั ยพุ ชปะ จากภยันตรายทั้ งปวง




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.