ภิกขุปาติโมกข์ปาฬิ ฉบับ จปร อักษรสยาม

Page 1

ภิกขุปาติโมกข์ปาฬิ ฉบับ จปร. อักษรสยาม ปาฬิภาสา-อักษรสยาม เทียบกับ เสียงอ่าน ตามอักขรวิธเี ขียนพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรสยาม ๒๔๓๖

พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม ฉบับอนุรักษ์ดิจิทัล ๒๕๕๔



ภิกขุปาติโมกข์ปาฬิ ฉบับ จปร. อักษรสยาม จัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติ ๑๐๐ ปี วันสวรรคต

พระจุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช และ เผยแผ่เป็นธัมมทานเนื่องในโอกาสที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในงานพระราชทานเพลิงถวายสรีระ

พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี วันที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔



ภิกขุปาติโมกข์ปาฬิ ฉบับ จปร. อักษรสยาม ปาฬิภาสา-อักษรสยาม เทียบกับ เสียงอ่าน ตามอักขรวิธเี ขียนพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรสยาม ๒๔๓๖

พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม ฉบับอนุรักษ์ดิจิทัล ๒๕๕๔



คำนำในการจัดพิมพ์ ภิกขุปาติโมกขปาฬิ ฉบับ จปร. อักษรสยาม (ภิกขุปาติโมกขปาฬิ อ่านว่า ภิกขุปาติโมกขะปาฬิ) ในปี พ.ศ. 2431 เมือ่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 5 พระเจ้ากรุงสยามทรง โปรดให้จดั พิมพ์พระไตรปิฎก “ปาฬิภาสา” หรือ “ภาษาพระธัมม์” เป็นชุดหนังสือพระไตรปิฎกปาฬิ 39 เล่มนั้น ปัญหาที่สำคัญยิ่งคือ การสร้างระบบอักขรวิธีการเขียน “ปาฬิภาสา” ขึ้นใหม่ที่จะ พิมพ์ด้วย “อักษรสยาม” ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะพระไตรปิฎกปาฬิฉบับเก่าแก่ของชาติ ไทยนั้น เป็นฉบับที่เขียนด้วยมือเป็นอักษรขอมโบราณบนใบลานที่ได้สังคายนาไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2331 ในสมัยรัชกาลที่ 1 เหตุผลสำคัญที่ทรงโปรดให้ใช้อักขรวิธีการเขียนปาฬิภาสาด้วยอักษรสยาม ก็เพื่อให้คนไทย ทั่วทั้งประเทศสามารถอ่านปาฬิภาสาด้วยอักษรสยามได้โดยสะดวก แทนอักษรขอมที่ใช้บันทึกปาฬิ อยู่เดิม โดยไม่จำกัดให้รู้อยู่เฉพาะในวงการสงฆ์ หรือผู้ซึ่งคุ้นเคยกับปาฬิภาสาอักษรขอมที่มีจำนวน จำกัด เนื่องจากขอมเป็นอักษรโบราณในพระไตรปิฎกใบลานที่ประชาชนชาวไทยทั่วไปไม่สามารถ อ่านได้แล้ว ในด้านบริบททางประวัติศาสตร์ยุคนั้น มหาอำนาจตะวันตกได้ยึดครองประเทศเพื่อนบ้าน ของสยามไปหมดสิ้นแล้ว การเปลี่ย นการบั น ทึ ก อารยธรรมภู มิปัญ ญาสู ง สุ ด ของสยามในพระ ไตรปิฎกที่สืบทอดมากว่าสองพันปี จากอักษรขอมเป็นอักษรสยาม ซึ่งเป็นการริเริ่มของพระมหา กษัตริยพ์ ุทธมามกะจึงเป็นความคิดที่ก้าวล้ำนำยุคของการอนุรักษ์คำสอนในพระพุทธศาสนาในยุค ใหม่ แม้อักษรขอมเคยเป็นวัฒนธรรมในการจารึกพระคัมภีร์ในดินแดนสุวรรณภูมิเป็นเวลานับพัน ปี และเคยนิยมว่าเป็นอักษรในคัมภีรใ์ บลานทีศ่ กั ดิส์ ทิ ธิ์ แต่อกั ษรขอมก็เป็นภาษาในวัฒนธรรมเขมร ซึ่งในขณะนั้นได้ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสแล้ว การเปลี่ยนแปลงเป็นอักษรสยามที่ก้าวล้ำนำสมัย เช่นนี้จึงมิใช่เป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตามการจัดพิมพ์พระไตรปิฎกอักษรสยามก็สำเร็จลุล่วงทันเวลา มีการประดิษฐ์อักขรวิธีการเขียนปาฬิภาสาพร้อมด้วยการใช้เครื่องหมายกำกับอักษรสยามที่เป็น เอกลักษณ์ของชาติไทย และตรงกับด้านคัมภี​ีร์สัททนีติที่เก่าแก่และวิชาการด้านสัททศาสตร์สมัย ใหม่ ในการอนุรักษ์เสียงพระธัมม์ในพระไตรปิฎกปาฬิ เป็นทีอ่ ศั จรรย์วา่ ต้องใช้เวลาถึง 6 ปี ในการดำเนินงานต่างๆ ได้แก่ การตรวจทาน การปริวรรต อักษรขอมเป็นอักษรสยาม การจัดทำต้นฉบับและการจัดพิมพ์เป็นชุดหนังสือที่ทันสมัยเป็นชุดแรก ของโลก 39 เล่ม ซึ่งสำเร็จลงในปี พ.ศ. 2436 หรือรัตนโกสินทรศก ร.ศ. 112 ซึ่งเป็นปีที่สยามกำลัง มีวิกฤตร้ายแรงกับฝรั่งเศสที่หวังยึดกรุงสยาม แต่ด้วยอำนาจแห่งปัญญาบารมีของผู้นำประเทศที่ จะรักษาพระธัมมวินัย กรุงสยามจึงสามารถรักษาเอกราชและความเป็นไทมาได้ ทั้งนี้ก็ด้วยความ สุขุมคัมภีรภาพของผู้นำสยาม ที่ใช้วิเทโศบายทางการเมืองและการต่างประเทศอย่างชาญฉลาด ทำให้พระพุทธศาสนาและพระไตรปิฎกยังคงสืบทอดอยู่ในแผ่นดินไทยอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์มา จนถึงทุกวันนี้ 5


ปัจจุบันพระไตรปิฎกปาฬิชุดนี้ ได้รับการขนานนามว่า “พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้า บรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม พ.ศ. 2436” เป็นฉบับสำคัญที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็นการจัดพิมพ์ พระไตรปิฎกปาฬิเป็นชุดหนังสือชุดแรกในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และปัจจุบันพบว่าได้ พระราชทานเป็นพระธัมมทานแก่ 260 สถาบัน ใน 30 ประเทศทั่วโลก ทีส่ ำคัญยิง่ อีกประการคือได้มรี ะบบการเทียบระหว่าง “อักษรสยาม” กับ “อักษรโรมัน” พร้อม ทัง้ มีการแสดงอักขรวิธกี ารเขียนปาฬิภาสา ด้วยอักษรสยามและอักษรโรมัน เป็นคูม่ อื ในพระไตรปิฎก จปร. เล่มนี้ด้วย ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์อันเลิศของไทยที่ได้สามารถจัดสร้างพระ ไตรปิฎก จปร. อักษรสยาม ชุดนี้ได้สำเร็จเป็นมาตรฐานในระดับนานาชาติของยุค การนำเสนอ “อักษรโรมัน” เพือ่ เทียบกับอักษรสยามเป็นครัง้ แรกของการจัดพิมพ์พระไตรปิฎก นับเป็นภูมปิ ญ ั ญา ไทยสากลที่ยิ่งใหญ่ และเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์โลก ยุคนั้น นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการพัฒนา “อักษรสยาม” ควบคู่ กันต่อไปกับ “อักษรโรมัน” ที่เป็นสากลยิ่งขึ้นในอนาคตด้วย เพราะปัจจุบันก็เป็นที่ประจักษ์ดีแล้วว่าวัฒนธรรมอักษรโรมันมีทั้ง ศักยภาพทีเ่ ป็นสือ่ สากลด้านอิเล็คทรอนิกส์ และมีประสิทธิภาพในการเป็นอักษรนานาชาติทช่ี าวโลก รู้จักกันเป็นอย่างดี ใน​ปี​ ​พ.ศ​.​ ​2552​ อันเป็นวาระครบรอบ 10 ปี ของโครงการพระไตรปิฎกสากล ​กองทุน​ สน​ทนาธัมม์​นำ​สุข​ ​ท่านผู้หญิง​ ​ม.ล​.​ มณี​รัตน์​ ​บุนนาค​ ​ใน​พระ​สังฆ​ราชูปถัมภ์​สมเด็จ​พระ​ญาณ​ สังวร​ ​สมเด็จ​พระ​สังฆราช​ ​ร่วม​กับ​โครงการ​เผยแผ่​พระ​ไตรปิฎก​สากล​​ใน​สมเด็จ​กรม​หลวง​นราธิวาส​ ราช​นครินทร์​ ​ได้​นอ้ ม​ถวาย​พระ​ไตร​ปฎิ ก​ปาฬิ​ ​“​จลุ จอม​เก​ลา้ ​บรม​ธมั ​ม​ิกม​หา​ราช​ ​พ.ศ​.​ ​2436​ ​อกั ษร​ สยาม​ ​:​ ​ฉบับอ​ นุรักษ์​ดิจิทัล​ ​พ.ศ​.​ 2​ 552”​ ​ชุด​ 4​ 0​ ​เล่ม​ ​แด่​สมเด็จพ​ ระ​ญาณ​สังวร​ ​สมเด็จ​พระ​สังฆราช​ สกล​มหา​สังฆ​ปริณายก​​เนื่อง​ใน​วาระ​ที่​เจ้า​ประคุณ​สมเด็จ​พระ​สังฆ​ราชฯ​​ทรง​เจริญ​พระ​ชนมายุ​9​ 6​​ปี​ โดย​สมเด็จ​พระ​วัน​รัต​ ​วัด​บวร​นิเวศ​น์วิหาร ​เป็น​ผู้​แทน​คณะ​สงฆ์​รับ​พระราชทานพระ​ไตรปิฎก​ ​จปร​.​ ฉบับอนุรักษ์ดิจิทัล​ ชุดน​ ี้ ​ ​จาก​สมเด็จพ​ ระเจ้า​ลูกเธอ​ เจ้า​ฟ้า​จุฬาภ​รณวลัย​ลักษณ์​ ​อัคร​ราช​กุมารี​ ​ณ​ วัด​พระ​ศรีรัตนศาสดาราม​ใ​ น​พระบรม​มหาราช​วัง​ การ​​พิมพ์​​“ภิกขุ​ปาติโมกข​ปาฬิ​​ฉบับ​​จปร. ​​อักษร​สยาม​พ.ศ​.​2​ 554” ​เป็นการ​นำ​อักขรวิธี​ การ​เขียน​อักษร​สยาม​ในพระไตรปิฎก จปร. พ.ศ. 2436 ​มา​จัด​พิมพ์​ใหม่​ ​ซึ่ง​เป็น​ระบบ​การ​เขียน​ปาฬิ​ ภาสา​ที่​มปี​ ระสิทธิภาพ​สูง​​และ​เป็น​ระบบ​ที่​ประชาชน​ทั่วไป​​แม้​ผู้ที่ไม่​คุ้น​กับ​ปาฬิ​ภาสาก็​สามารถ​อ่าน​ ออกเสียง​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ​เพราะ​มี​เครื่องหมาย​ต่างๆ​ ​ที่​ใช้ใ​ น​ภาษา​ไทย​อยู่​แล้ว​ ​การ​จัดพ​ ิมพ์​ใหม่ค​ รั้ง​นี้​​ จึง​เป็นการ​อนุรักษ์​ภูมิปัญญา​ไทย​สากล​ที่​เป็น​เลิศ​ ​เพื่อ​เป็น​พระราช​ศรัทธา​นุ​สรณ์​ใน​พระบาท​สมเด็จ​ พระ​จุลจอมเกล้า​เจ้า​อยู่​หัว พ.ศ. 2553 ​ใน​วาระ​ ​100​ ปี ​แห่ง​การเสด็จสวรรคตของพระบรมธัมมิก มหาราช พระองค์นั้น ผู้ซึ่งทรงพิมพ์พระไตรปิฎกเป็นชุดแรกของมนุษยชาติ และได้พระราชทานเป็น พระธัมมทานไปในสากลโลก​​ การจัดทำ​ตน้ ฉบับ​“​ ป​ าฬิภ​ าสา​-อ​ กั ษร​สยาม​”​และ ระบบการ​เทียบ​กบั “เสียงอ่าน”​​ห​ รือสัททอักษร ดังที่มีคำ​อธิบาย​ใน​ตอนท้าย​ของ​หนังสือ​นี้​แล้ว ​ซึ่งจัดทำ​เพื่อ​เผยแผ่​วิธี​​เขียน​และ​​อ่าน​อักษรสยามตาม​ ที่​สืบทอด​มา​ใน​พระพุทธ​ศาสนาเถรวาทให้ได้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความสถิตย์​สถา​พร​ของ พระธัมม์คำสอน​ในพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า 6


ในนามของผู้ จั ด ทำต้ น ฉบั บ ขออนุ โ มทนาทุ ก ท่ า นที่ ไ ด้ ร่ ว มกั น จั ด ทำต้ น ฉบั บ นี้ ใ ห้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตลอดจนขอขอบพระคุณองค์กรต่างๆ ที่มีกุศลเจตนาอย่างแรงกล้าในการ นำต้นฉบับนี้มาจัดพิมพ์เผยแผ่ การศึกษาพระไตรปิฎกให้แพร่หลายต่อไปเป็นพระธัมมทานตาม พระประสงค์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์สังฆราชู ปถัมภ์โครงการพระไตรปิฎกสากล

นายสิริ เพ็ชรไชย ป.ธ. 9 ประธานกองทุน​สน​ทนาธัมม์​นำ​สุข​ ท่านผู้หญิง​​ม.ล​.​มณี​รัตน์​​บุนนาค ใน​พระ​สงั ฆ​ราชูปถัมภ์​ สมเด็จ​พระ​ญาณ​สงั วร​​​สมเด็จ​พระ​สงั ฆราช​สกล​มหา​สังฆ​ปริณายก​ ผู้ดำเนินการโครงการพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน 5

7

มีนาคม พ.ศ. 2554



พระอาทิตย์สว่างในกลางวัน, พระจันทร์ทอแสงในกลางคืน; กษัตริย์ทรงเกราะงามสง่า, พราหมณ์เจริญฌานสง่างาม; แต่ตลอดกาลทั้งกลางวันและกลางคืน, พระพุทธเจ้ารุ่งเรืองด้วยพระเดช

พระไตรปิฎก ธั​ัมมบท คาถาที่ 387

9



ที่พิเศษ ๒/๒๕๕๔ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เรื่อง อนุโมทนาการสนับสนุนข้อมูลพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรต่างๆ แก่มลู นิธเิ สียงธรรมเพือ่ ประชาชนฯ เรียน นายสิริ เพ็ชรไชย ป.ธ.๙ ประธานกองทุนสนทนาธัมม์นำสุขท่านผูห้ ญิง ม.ล. มณีรตั น์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ​ ​ตาม​ที่​กองทุน​สน​ทนาธัมม์​นำ​สุขฯ​ใน​พระ​สังฆ​รา​ชูป​ถัมภ์ฯ​ ​มี​หนังสือ​ถึง​ (​หลวง​ตาพ​ระ​มหา​ บัว​ ​ญาณ​สัม​ปัน​โน​)​ ​ประธาน​มูลนิธิ​เสียง​ธรรม​เพื่อ​ประ​ชา​ชนฯ​ ​ลง​วัน​ที่​ ​๗​ ​มกราคม​ ​๒๕๕๔​ ​ด้วย​มี​ จิต​ศรัทธา​ใน​การ​ดำเนิน​งาน​ของ​มูลนิธิ​เสียง​ธรรมเพื่อ​ประ​ชา​ชนฯ​ ​แจ้ง​กุศล​เจตนา​สนับ​สนุ​นวิธิีการ​ เรียง​พิมพ์​อักษร​โรมัน​สำหรับ​ปาฬิ​ภาสา​ ​ใน​โครงการ​เผยแผ่​พระ​ไตรปิฎก​สากล​ใน​สมเด็จ​กรม​หลวง​ นราธิวาส​ราช​นครินทร์​ ​พร้อม​ทั้งไ​ ด้​นิมนต์​คณะ​สงฆ์ก​ รรมการ​มูลนิธิ​เสียง​ธรรม​เพื่อ​ประ​ชา​ชนฯ​ ​เข้า​ ร่วม​ประชุมเ​รือ่ ง​ราย​ละเอียด​ของ​โครงการ​พระ​ไตรปิฎก​สากล​อ​ กั ษร​โรมัน​ต​ าม​รอย​พระ​ไตรปิฎก​จ​ ปร​.​ อักษร​สยาม​ส​ ำหรับม​ ลู นิธเ​ิ สียง​ธรรม​เพือ่ ป​ ระ​ชา​ชนฯ​จ​ ะ​ได้เ​ผยแผ่ใ​ ห้แ​ พร่ห​ ลาย​ตอ่ ไ​ ป​ด​ งั ร​ าย​ละเอียด​ แจ้ง​แล้ว​นั้น​ ​ มูลนิธิ​เสียง​ธรรม​เพื่อ​ประ​ชา​ชนฯ​ขอ​อนุโมทนา​ใน​กุศล​เจตนา​ดัง​กล่าว​​ใน​เบื้อง​ต้น​ขอ​ให้​ทาง​ โครงการ​พระ​ไตรปิฎก​สากล​ได้พ​ จิ ารณา​ตรวจ​สอบ​ขอ้ ม​ ลู ป​ าฬิภ​ าสา​ใ​ น​บท​ทำวัตร​เช้า-​ เ​ย็น​เ​ป็นอ​ กั ษร​ โรมัน​ ​เพื่อ​เผยแพร่​ทาง​สถานี​โทรทัศน์​เสียง​ธรรม​เพื่อ​ประชาชนฯ​ ​เป็นต้น​แบบ​ก่อน​ ​ซึ่ง​ต่อ​ไป​จะ​ได้​ พัฒนา​เป็น​ข้อมูล​สำหรับ​หนังสือ​สวด​มนต์​ประกอบ​การก​ระ​จาย​เสียง​ของ​สถานี​วิทยุ​ ​ตลอด​จน​การ​จัด​ พิมพ์​พระ​ธัมม​วินัย​ใน​พระ​ไตรปิฎก​​สำหรับ​เผยแผ่​ต่อไ​ ป​ด้วย​ ​ ​นอกจาก​การ​เรียง​พิมพ์​ด้วย​อักษร​โรมัน​แล้ว​ ​เนื่อง​ใน​โอกาส​ทจี่​ ะ​มี​การ​จัด​พิมพ์​ต่างๆ​ ​ใน​งาน​ พระราชทาน​เพลิงพ​ ระ​สรีระ​พระ​ธรรม​วิ​สุทธิ​มงคล​​(​หลวง​ตา​พระ​มหา​บัว​​ญาณ​สัม​ปัน​โน​)​​ขอ​ให้​ทาง​ โครงการ​พระ​ไตรปิฎก​สากล​ ​ได้​พิจารณา​รูป​แบบ​การ​พิมพ์​ปาฬิ​ภาสา​ ​โดย​เฉพาะ​การ​เรียง​พิมพ์​เป็น​​ “​อักษร​สยาม​”​ ​ด้วย​ ​ซึ่ง​เป็น​ระบบ​การ​เขียน​ปาฬิ​ภาสา​ ​ที่​มี​ความ​สมบูรณ์​และ​ทรง​คุณค่า​ที่สุด​ระบบ​ หนึ่ง​ ​เนื่องจาก​เป็น​ฉบับ​ที่​พระบาท​สมเด็จ​พระ​จุลจอมเกล้า​เจ้า​อยู่​หัว​ได้​โปรด​ให้​จัด​พิมพ์​อักษร​สยาม​ ใว้​ใน​พระ​ไตรปิฎก​​ฉบับ​​จปร​.​​พ.ศ​.​​๒๔๓๖​​รูป​แบบ​นี้​ทำให้​การ​ออก​เสียง​ปาฬิ​มี​ความ​ถูก​ต้อง​แม่นยำ​ เหมือน​ครั้ง​พุทธกาล​ ​การ​พิมพ์เ​ผย​แพร่​่​เท่ากับ​เป็นการ​ฟื้นฟู​รูป​แบบ​อัน​ทรง​คุณค่า​เหล่า​นี้​ให้ค​ ืน​กลับ​ มา​ ​เป็นการ​อนุรักษ์​และ​สืบทอด​มรดก​อัน​ล้ำค่า​ของ​พระองค์​ให้​ดำรง​มั่นคง​ถาวร​คู่​ชาติ​ไทย​สืบไป​​ การ​นำ​ปาฬิ​ภาสา​ ​อักษร​สยาม​ มา​จัด​พิมพ์​ใหม่​ให้​แพร่​หลาย​ใน​โอกาส​ครั้ง​สำคัญ​นี้​ ​นอกจาก​จะ​เป็น​ ประวัตศิ าสตร์ท​ ต​ี่ อ้ ง​จารึกไ​ ว้แ​ ล้ว​ย​ งั เ​ป็นพ​ ทุ ธ​บชู า​และ​เป็นธ​ มั ม​ า​นส​ุ รณ์ใ​ น​งาน​พระราชทาน​เพลิงพ​ ระ​ สรีระ​องค์​หล​วง​ตาฯ​​ที่​ละ​ขันธ์​เข้า​สู่​พระ​นิพพาน​ผู้​ซึ่งไ​ ด้​เคร่งครัด​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สอน​ของ​องค์พ​ ระบรม​ ศาสดา​สมั มา​สมั พ​ ทุ ธ​เจ้าต​ ามพ​ระ​ไตรปิฎก​อย่าง​งดงาม​พ​ ร้อม​ทงั้ ม​ ค​ี ณ ุ ปู การ​แก่ช​ าติแ​ ละ​ประชาชน​อนั ​ ประมาณ​มิได้​ ​ ​จึง​เรียน​มา​เพื่อโ​ ปรด​ทราบ​​ ​ขอ​เจริญพร​มา​พร้อม​นี้​ ​ ​ ​พระ​สุดใจ​​ทันต​มโน​ ​ผู้​แทน​คณะ​สงฆ์​ศิษยานุศิษย์ฯ​ ​กรรมการ​มูลนิธิ​เสียง​ธรรม​เพื่อ​ประชาชน​​ใน​พระ​อุปถัมภ์​ ​สมเด็จ​พระเจ้าล​ ูกเธอ​​เจ้า​ฟ้า​จุฬา​ภ​รณ​วลัย​ลักษณ์​​อัคร​ราช​กุมารี



พ​ ระ​ไตรปิฎก​ ​จปร​.​ ​อักษร​สยาม​ ​พ.ศ​.​ ​2436​ ​นี้​ ​ใช้เนื้อหาพระไตรปิฎกที่สังคายนาไว้ในสมัยรัชกาล ที่ 1 เป็นต้นฉบับใบลานอักษรขอม ฉบับ จปร. อักษรสยามชุดนี้เป็นฉ​ บับ​ทตี่​ ี​พิมพ์​เป็น​ชุด​ ​ชุด​แรก​ ใน​ประวัติศาสตร์​พระพุทธ​ศาสนา​ ​ซึ่ง​นับ​เป็น​พระ​ราช​ปรีชา​ญาณ​อัน​เป็น​เลิศ​ของ​สถาบัน​พระ​มหา​ กษัตริย์​พุทธมามกะ​​ที่​ได้​อนุรักษ์พ​ ระพุทธ​พจน์​ที่​ได้​สืบทอด​จาก​การ​สังคายนา​ตั้งแต่​​พ.ศ​.​1​ ​​ใว้​อย่าง​ ประเสริฐ​ ​และ​ยัง​สามารถ​เผยแผ่​พระราชทาน​เป็น​พระ​ธัมม​ทาน​แก่​สถาบัน​ชั้น​นำ​ต่างๆ​ ​ใน​นานา​ ประเทศ​ทวั่ โ​ลก​ท​ ส​ี่ ำคัญก​ าร​บนั ทึกพ​ ระพุทธ​พจน์​“​ ป​ าฬิภ​ าสา​”​ด​ ว้ ย​อกั ขรวิธก​ี าร​เขียน​เป็นอ​ กั ษร​สยาม​ ใน​ครั้งน​ ั้น​​เป็นก​ระ​บวน​การ​ทาง​ภูมิปัญญา​อัน​ล้ำเ​ลิศ​​เพราะ​ต้อง​แปลง​พระ​ไตร​ปิฎก​ปาฬิ​​จาก​อักษร​ ขอม​โบราณ​มา​เป็นอ​ ักษร​สยาม​ที่​ทัน​สมัยใ​ นรัช​กาล​ที่​ 5​ ​ ​และ​ต้อง​จัดเ​รียง​พิมพ์​ด้วย​อักขรวิธี​การ​เขียน​ ที่​ถ่าย​ทอด​เสียง​ปาฬิ​ให้​แม่น​ตรง​กับ​ต้นฉบับ​ ​ซึ่ง​ก็​สามารถ​ตี​พิมพ์​เป็น​อักษร​สยาม​ได้​อย่าง​ยอด​เยี่ยม​​ พร้อมทั้งได้มีการเทียบ ปาฬิภาสา-อักษรสยาม กับ ปาฬิภาสา-อักษรโรมัน ด้วย 13


อารัมภกถา​* ​ ​ศุภมัสดุ​พระพุทธ​สาสนา​2​ 431​ ​ ​.​..​​แต่​ก่อน​มา​ประเทศ​ที่​นับถือ​พระพุทธ​สาสนา​ ยัง​มี​อำนาจ​ปกครอง​บ้าน​เมือง​โดย​ลำพังต​ ัว​​ พระเจ้าแ​ ผ่นด​ ิน​เป็น​ผู้​นับถือ​พระพุทธ​สาสนา​ ​ได้​ทำนุ​บำรุงอ​ ุดหนุน​การ​สาสนา​อยู่​หลาย​ประเทศ​ด้วย​ กัน​คือ​​กรุง​สยาม​​เมือง​ลังกา​​เมือง​พม่า​​เมือง​ลาว​​เมือง​เขมร​​เมื่อ​เกิด​วิบัติอันตราย​​พระ​ไตรปิฎก​ขาด​ สูญ​บกพร่อง​ไป​ใน​เมือง​ใด​ ​ก็​ได้​อาศัยห​ ยิบ​ยืม​กัน​มา​ลอก​คัด​คง​ฉบับ​บริบูรณ์​ ​ถ่าย​กัน​ไป​ถ่าย​กัน​มา​ได้​​ แต่ใ​ น​กาล​ปัจจุบัน​ ​ประเทศ​ลังกา​แล​พม่า​ ​ตก​อยู่​ใน​อำนาจ​อังกฤษ​ ​ผู้​ปกครอง​บ้าน​เมือง​ไม่​ได้​นับถือ​ พระพุทธ​สาสนา​ก็​ทำนุ​บำรุงแ​ ต่อ​ าณา​ประชา​ราษฎร​ไพร่​บ้าน​พลเมือง​ หา​ได้​อุดหนุน​การ​พระพุทธ​ สาสนา​เหมือน​อย่าง​พระเจ้าแ​ ผ่นดิน​ ​ซึ่ง​นับถือ​พระพุทธ​สาสนา​แต่​ก่อน​ไม่​ ​พระ​สงฆ์ซ​ ึ่งป​ ฎิบัติ​ตาม พ​ระ​พุทธ​สาสนา​ ​ก็​ต่าง​คน​ต่าง​ประพฤติต​ าม​ลำพัง​ตน​ ​คน​ที่ชั่วม​ ากกว่า​ดี​อยู่​เป็น​ธรรมดา​ ​ก็​ชักพา​ให้​ พระ​ปริยัติ​ธัมม์​คำ​สั่ง​สอน​ของ​พระ​สัมมา​สัม​พุทธ​เจ้า​ ​วิปริต​ผิด​เพี้ยน​ไป​ตา​มอัธย​ าศัย ​ส่วน​เมือง​เขมร​ นั้นเ​ล่า​ ​ก็​ตก​อยูใ่​ น​อำนาจ​ฝรั่ง​เศส ​ไม่มี​กำลังท​ ี่​จะ​อุดหนุน​พระพุทธ​สาสนา​ให้เ​ป็นการ​มั่นคง​ถาวร​ ไป​ได้​ ​ส่วน​เมือง​ลาว​ที่​อยู่​ใน​พระ​ราช​อาณาเขต​สยาม​ ​เจ้า​นาย​แล​ไพร่​บ้าน​พลเมือง​ก็​นับถือ​พระพุทธ​ สาสนา​วิปริต​แปรปรวน​ไป​ด้วย​เจือปน​ฝี​สาง​เทวดา​​จะ​หา​เอา​เป็น​หลัก​ฐาน​มั่นคง​ก็​ไม่​ได้​.​.​.​ ​.​.​.ก​ าร​พระพุทธ​สาสนา​ยังเ​จริญม​ ั่นคง​ถาวร​อยู่​แต่​ใน​ประเทศ​สยาม​นี้​ประเทศ​เดียว​ ​จึงเ​ป็น​ เวลา​สมควร​ที่​จะ​สอบสวน​พระ​ไตรปิฎก​ ​ให้​ถูก​ต้อง​บริบูรณ์​แล้วส​ ร้าง​ขึ้น​ไว้​ให้​มาก​ฉบับ​แพร่​หลาย​ ​จะ​ ได้​เป็นห​ ลัก​ฐาน​​เชื้อส​ าย​ของ​สา​สน​ธัมม์​คำ​สั่ง​สอน​ของ​พระ​สัมมา​สัม​พุทธ​เจ้า​สืบไป​ภาย​หน้า​​ก็​ธัมมะ​ อันใ​ ด​ที่​พระ​ผู้​มพี​ ระ​ภาค​เจ้าไ​ ด้​ตรัส​สั่งส​ อน​ ​ย่อม​เป็น​ธัมมะ​วิเศษ​เที่ยง​แท้​ ​ย่อม​จะ​นำ​สัตว์​พ้น​จาก​ทุกข์​ ภัย​ได้​โดย​จริง​เป็น​ธัมม​ะวิเศษ​​อุดม​ยิ่ง​ ​ซึ่งจ​ ะ​เป็น​ที่​ปรารถ​นา​ของ​ผู้​ซึ่งม​ ี​ปัญญา​ ​ได้​เล่า​เรียน​ตริตรอง​ แล้ว​ปฏิบัติ​ตาม​ได้​รับ​ผล​มาก​น้อย​ตาม​ประสงค์​.​.​.​​ .​.​.​พระบาท​สมเด็จพ​ ระเจ้าอยู่หัว​ทรง​พระ​ราชดำริ​เห็น​การ​เช่น​กล่าว​มา​แล้วข​ ้าง​ต้นน​ ี้​ ประ​ราช​ประสงค์​ที่​จะ​ให้​ตรวจ​สอบ​พระ​ไตรปิฎก​ให้ถ​ ูก​ถ้วน​แล้ว​แล​ตี​พิมพ์​ด้วย​อักษร​สยาม​.​.​.​

​จึง​มี​ ​

​*​เ​รียง​พิมพ์​ใหม่​ตาม​รูป​ศัพท์ภ​ าษา​ปาฬิ​​เช่น​​สาสนา​​ปริยัติ​ธัมม์​​ธัมมะ​​เป็นต้น​​ตาม​ที่​พิมพ์​ใน​พระ​ไตร​ปิฎก​ปาฬิ​​อักษร​สยาม​​และ​โปรด​ดู​อักขรวิธี​ใน​ ต้นฉบับท​ ี่​ได้​ทำการ​อนุรักษ์​ไว้ท​ ี่​h​ all.worldtipitaka.info

14


อา​รัม์​ภ​กถา​ (​ถ้อยคำ​ที่​กล่าว​นำ)​ ​เป็น​ข้ัอ​ความ​ภาษา​ไทย​ที่​เรียง​พิมพ์​ด้วย​อักษร​สยาม​ ​ประกาศ​พระ​ราช​ประสงค์​ของ​พระบาท​สมเด็จ​พระ​ จุลจอมเกล้า​เจ้า​อยู่​หัว​ ​ที่​จะ​พิมพ์พ​ ระ​ไตร​ปิฎก​ปาฬิ​ ​อักษร​สยาม​ ​แก่ค​ ณะ​สงฆ์​และ​ข้าราชการ​ ​ณ​ ​วัด​พระ​ศรีรัตนศาสดาราม​ ​​เมื่อ​​ ร.ศ​.​1​ 12 (2436)​

15


การปริ ว รรตอั ก ษรสยามกั บ อั ก ษรโรมั น (Transliteration of Siam-script to Roman-script) ซึ่ ง จั ด พิ ม พ์ ไ ว้ ต อนต้ น ก่อนเนื้อหาปาฬิของแต่ละคัมภีร์ ด้วยหลักการปริวรรตอักษรสยามดังกล่าวนักวิชาการชาวต่างประเทศจึงสามารถอ่านเนื้อหา ปาฬิในพระไตรปิฎกได้ โปรดสังเกตเครื่องหมายวัชฌะการ ( ์ ) บนพยัญชนะวรรคต่างๆ (ยกเว้น ง) เพื่อแสดงการห้ามเสียงสระ และเครื่องหมายยามักการ ( ๎ ) บนพยัญชนะอวรรคเพื่อแสดงเสียงควบกล้ำ

16


ตาราง การปริวรรต “อักษร” ไทย

16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43

[ɦ]

ก [ก]

kh

จ [จ]

ch

มุทธชะ 1 ṭ ที่ปลายลิ้นมวน

ฏ [ฏ]

ṭh

ทันตชะ 1 ที่ฟนบน

ต [ต]

th

ป [ป]

ph

Velar

ตาลุชะ 1 ที่เพดานแข็ง Palatal

Retroflex

Dental

โอฏฐชะ 1 ที่ริมฝปาก Bilabial

k [k] c [c]

[ʈ] t [t̪ ] p [p]

[kʰ] [cʰ] [ʈʰ] [ t̪ʰ] [pʰ]

ข [ข] ฉ [ฉ] ฐ [ฐ] ถ [ถ] ผ [ผ]

g [ɡ] j [ɟ] ḍ [ɖ] d [d̪ ] b [b]

ทันโตฏฐชะ 1 ทีร่ มิ ฝปากกับฟน สระปาิ

Pāḷi Vowels

สูง

high

กลาง

mid

หนา / fr ont

i อิ ī อี [i][อิ] [iː][อี]

1 2

[ɡʱ]

ช [ช]

jh

ฑ [ฑ]

ḍh

ท [ด]

dh

[ɟʱ ]

[ɖʱ]

[d̪ʱ ]

พ [บ]

bh [bʱ]

ฆ [ฆ] ฌ [ฌ] ฒ [ฒ] ธ [ธ] ภ [ภ]

ṅ [ŋ] ñ [ɲ] ṇ [ɳ] n [n̪] m [m]

.

ญ [ญ] ณ [ณ]

y [j] r [ɻ ]

ก อักษรไทยปาิ

Thai Alphabet Pāḷi

[ก]

ย [ย] ร [ร ]

ḷ [ɭ ]

น [น]

l [l̪ ]

ฬ [ฬ ] ล [ล]

s [s̪ ]

ส [ส]

ม [ม]

iṃ อิํ [ĩ][อิง]ํ

.

ห [ห ]

ง [ง]

[ʋ]

a อะ [a][อะ]

low

อักษรโรมันปาิ

gh

e เอ [eː][เอ]

ต่ำ

Roman Alphabet Pāḷi

ค [ค]

v

Labio-dental

k

Fricative

Lateral

h

Glottal

กัณฐชะ 1 ที่เพดานออน

เสียงเสียดแทรก

เสียงขางลิ้น

Non-lateral

กัณฐชะ 1 ที่ชองเสนเสียง

ว [ว]

.

uṃ อุํ [ũ][ อุง]ํ

พยัญชนะ นาสิกัฎฐานชัง 1 เสียงขึน้ จมูก Nasalised

aṃ อํ [ã][ อัง]ํ

สัททอักษรไทยปาิ

.

.

Thai Phonetic Alphabet Pāḷi

[k]

หลัง / ba ck

u อุ ū อู [u][อุ] [uː][อู] o โอ [oː][โอ] ā อา [aː][อา]

2554

15

วิจินตน ภาณุพงศ โครงการพระไตรปฎกสากล กองทุนสนทนาธัมมนำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภฯ

14

ไมใชเสียงขางลิ้น

13

Nasal

12

Voiced

สกัฎฐานนาสิกฏั ฐานชัง1 เสียงนาสิก

11

Voiceless

Aspirated

10

โฆสะ 1 เสียงกอง ธนิต 1 มีลม

9

อโฆสะ 1 เสียงไมกอง Unaspirated

8

Approximant

สิถิล 1 ไมมีลม

7

Stops

Aspirated

6

อัฑฒสระพยัญชนะ 1 เสียงเปด

เสียงกัก

ธนิต 1 มีลม

5

Unaspirated

4

[ ก]

k

Manner of Articulation : Pāḷi Consonant

สิถิล 1 ไมมีลม

3

ก) และการถายถอด “เสียง” ปาิ

ลักษณะการเปลงเสียง : พยัญชนะ ปาิ

Place of Articulation : Pāḷi Consonant

2

อ2 a2 อา ā อิ i อี ī อุ u อู ū เอ e โอ o ก k ข kh ค g ฆ gh ง ṅ จ c ฉ ch ช j ฌ jh  ñ ฏ ṭ  ṭh ฑ ḍ ฒ ḍh ณ ṇ ต t ถ th ท d ธ dh น n ป p ผ ph พ b ภ bh ม m ย๎ y ร๎ r ล๎ l ว๎ v ส๎ s ห๎ h ฬ๎ ḷ อํ aṃ อิ ํ iṃ อุํ uṃ

ฐานที่เกิดเสียง : พยัญชนะปาิ

1

โรมัน (k

สัททอักษรสากลปาิ IPA Pāḷi

เปนคำที่ใชในคัมภีรสัททนีติ พ.ศ. 1456 ซึ่งไดพิมพเปรียบเทียบไวกับคำศัพททางสัททศาสตรในปจจุบัน อักษรสยามกับอักษรโรมัน จากการปริวรรตในพระไตรปฎก จปร. พ.ศ. 2436 พระไตรปฎกปาิฉบับพิมพชุดแรก

ระบบการเขียนเสียงอ่าน (Phonetic Writting) หรือ อักขรวิธีการเขียนด้วยอักษรไทย คือ ระบบการเขียนเสียงอ่านที่ไม่คำนึง ถึงเสียงสูงต่ำของอักษรที่กำหนดไว้ในภาษาไทย นอกจากนี้ยังได้กำหนดชุดสัททอักษรไทยปาฬิ (Thai Phonetic Alphabet Pāḷi) ขึ้นใหม่ แทนเสียงปาฬิภาสา ซึ่งถือกันว่าเป็นเสียงที่สืบทอดมาตั้งแต่การสังคายนาเมื่อ พ.ศ.​ ๑ และยังได้มีคำอธิบายระบบการ ออกเสียงปาฬิภาสาไว้ในคัมภีร์สัททนีติ พ.ศ. 1456 อีกด้วย 17


ตัวอย่างปาฬิภาสาหรือภาษาพระธัมม์ ที่ได้ปริวรรตเป็นอักษรสยามและอักษรโรมัน ทำให้คนทั่วโลกสามารถอ่านออก เสียงสังวัธยาย “ปาฬิ” ในพระไตรปิฎกปาฬิได้ถูกต้องตรงกัน เพราะอักษรโรมันเป็นอักษรสากล ดู ร ายละเอี ย ดเรื่ อ ง “ปาฬิ กั บ สั ท ทอั ก ษรสากล” จั ด พิ ม พ์ อ ยู่ ใ นพระไตรปิ ฎ กปาฬิ จุ ล จอมเกล้ า บรมธั ม มิ ก มหาราช ฉบับประมวลเนื้อหา เล่มที่ 40 ของชุดนี้

18


การเขียนเสียงอ่าน ปาฬิภาสา : [ สัททอักษรไทยปาฬิ ] เทียบกับปาฬิภาสา อักษรโรมันปาฬิ [ บุดโธ สุสุดโธ กะรุณามะหัณณะโว ] Buddho Susuddho karunāmahaṇṇavo [ โยจจันตะสุดธับบะระญาณะโลจะโน ] Yoccantasuddhabbarañāṇalocano [ โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก ] Lokassa pāpūpakilesaghātako [ วันดามิ บุดธัง อะหะมาดะเรนะ Vandāmi Buddhaṃ ahamādarena [ ธัมโม Dhammo

ปะทีโป

padīpo

วิยะ

viya

ตัสสะ

tassa

ตัง]

taṃ

สัตถุโน ]

satthuno

[ โย มัคคะปากามะตะเภดะภินนะโก ] Yo maggapākāmatabhedabhinnako [ โลกุตตะโร โย จะ ตะดัตถะดีปะโน ] Lokuttaro yo ca tadatthadīpano [ วันดามิ ธัมมัง อะหะมาดะเรนะ Vandāmi Dhammaṃ ahamādarena

ตัง ]

taṃ

[ สังโฆ สุเขตตาภ ​ย๎ ะติเขตตะสัญญิโต ] Saṅgho sukhettābhy ‿atikhettasaññito [ โย ดิฏฐะสันโต สุคะตานุโบธะโก ] Yo diṭṭhasanto sugatānubodhako Phonetic writing of Pāḷi sounds : [ Thai Phonetic Alphabet Pāḷi ] and Roman Script Pāḷi

ในที่นี้ คำว่า สังโฆ (Saṅgho) เขียนตามรูปศัพท์ ง สะกด ตามความนิยมของคนไทยทั่วไป แต่ในพระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช พ.ศ. 2436 อักษรสยาม เขียนศัพท์ปาฬิทเี่ กีย่ วกับพระสงฆ์ ด้วยเสียงนิคหิต ด้วยเครือ่ งหมายพินทุโปร่ง ( ํ ) ทุกครั้ง เช่น สํโฆ สํทิเสสัส์ส และ สํวัต์ถา เป็นต้น ซึ่งต่อมาในการประชุมสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. 2500 ที่ประชุม ก็ได้มีมติให้เขียนรูปศัพท์เสียงนิคหิตที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ เช่นเดัยวกับฉบับอักษรสยาม ดังนั้นในหนังสือนี้จึงเขียนคำที่เกี่ยวกับ พระสงฆ์ในรูปเสียงนิคหิต ว่า สํฆ.. ทั้งหมด เช่น สํโฆ ซึ่งเขียนเป็นอักษรโรมันว่า Saṃgho

19


วิธีอ่านเครื่องหมายกำกับอักษรสยาม 4 ประเภท จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม พ.ศ. 2436 ไม้หันอากาศ ( ั ) ไม้หันอากาศ ( ั ) แสดง “เสียง สระ-อะ ( ะ ) ลดรูปเป็น ( ั )” ซึ่งในปาฬิภาสาใช้เขียน อยู่เหนือพยัญชนะที่ตามด้วยตัวสะกด ซึ่งจะกำกับด้วย ไม้วัชฌการ ( ์ ) เสมอ เช่น อัส์โสสิ พยัญชนะเสียง อะ ที่ไม่มีตัวสะกดตามในปาฬิภาสา เช่น น (นะ) คือให้อ่านเสมือนประวิสรรชนีย์ (ใส่เครื่องหมาย ะ ) เช่น เตน สมเยน... อ่านว่า (เต-นะ สะ-มะ-เย-นะ...) แต่ในทางกลับกัน พยัญชนะเสียง อะ ทีม่ ตี วั สะกดตาม ก็จะต้องประวิสรรชนีย์ ( ะ ) ทีเ่ ป็นแบบลดรูปด้วย คือใส่ไม้หันอากาศ ( ั ) เช่น อ (อะ) ตามด้วย ส เป็นตัวสะกด จะเขียนไม้วัชฌการ ( ์ ) บนพยัญชนะตัวสะกด คือ ส์ แสดงเสียงสะกดที่ตามมาด้วย เป็น อัส์โสสิ (ดูข้อ 2)

1.

ไม้วัชฌการ ( ์ ) ไม้วัชฌการ ( ์ ) ใช้แสดง “เสียงสะกด” ในปาฬิภาสา โดยเขียน อยู่เหนือพยัญชนะ ตัวสะกด เช่น เวรั์โช หมายถึงเสียง  (ระ) +  ตัวสะกด เมื่อเขียนเครื่องหมายวัชฌการ ( ์ ) บนตัวสะกด เป็น เวรั์โช เป็นต้น วัชฌการ มาจากศัพท์ว่า วัชฌ (อ่านว่า วัขฌะ แปลว่า ฆ่า) + การ (อ่านว่า การะ แปลว่า การกระทำ) จึงหมายถึงการฆ่าเสียง อะ ทีป่ ระกอบกับพยัญชนะ ส ในปาฬิภาสา (ดูขอ้ 1) ไม้วัชฌการที่ใช้ในปาฬิภาสานี้มีหน้าที่ต่างจากเครื่องหมายที่ใช้ ในภาษาไทย ซึ่งเรียกว่า ทัณฑฆาต ซึง่ ใช้กำกับพยัญชนะ หรือ สระ เพือ่ ไม่ให้ออกเสียง เช่น จันทร์ (ไม่ออกเสียงพยัญชนะ ทร ทัง้ สองตัว), องค์ (ไม่ออกเสียงพยัญชนะ ค), และ สิทธิ์ (ไม่ออกเสียงทั้งพยัญชนะ ธ และ สระ )ิ เป็นต้น

2.

ไม้ยามักการ ( ๎ ) ไม้ยามักการ ( ๎ ) เป็นเครื่องหมายกำกับ “เสียงควบกล้ำ” ในอักขรวิธีการเขียนปาฬิภาสา อักษรสยาม มาจากรากศัพท์ว่า ยมก (อ่านว่า ยะมะกะ แปลว่า สอง) + การ (อ่านว่า การะ แปลว่ า การกระทำ ) ในภาษาไทย ไม้ยามั ก การจึ ง หมายถึ ง การกระทำให้ เ ป็ น สอง คื อ แสดง เสียงควบกล้ำสองเสียงเป็นคู่กัน เช่น สพ๎ยั์ชนํ ไม้ยามักการแสดงเสียงควบกล้ำ สัก๎ยปุต์โต ไม้ยามักการแสดงเสียงสะกดควบกล้ำต่อเนื่องกันไป สพ๎รห๎มกํ ไม้ยามักการแสดงเสียงควบกล้ำทั้งสองคู่ ในกรณีที่แสดงการออกเสียงสะกดควบกล้ำ เช่น ในคำว่า สัก๎ยปุต์โต จะออกเสียง ก เป็นตัวสะกดของพยางค์แรก และออกเสียงต่อเนื่องไปเป็น พยัญชนะควบกล้ำ ก๎ย ในพยางค์ตอ่ ไป ไม่ออกเสียงว่า (สัก-กะ-ยะ..) แต่ตอ้ งออกเสียงว่า (สัก-ก๎ยะ..) 4. พินทุโปร่ง ( ํ ) เครื่องหมาย “พินทุโปร่ง” ( ํ ) แสดงเสียงนิคหิต คือเสียงขึ้นจมูก ปรากฏหลังสระสั้น 3 เสียง ซึ่งออกเสียงต่างจาก ง ที่เกิดจากเพดานอ่อน แล้วเสียงขึ้นจมูกด้วย เช่น ภัง ใน มหาวิภัง ไม่เขียนว่า วิภํ ซึ่งเป็นเสียง นิคหิตขึ้นจมูกอย่างเดียว เป็นต้น เสียงนิคหิตนี้ เมื่อเขียนเป็นเสียงอ่าน หรือ สัททอักษร ในหนังสือนี้ จะเขียนพินทุโปร่งไว้บนพยัญขนะ ง เป็น งํ เพือ่ ให้แตกต่างจากเสียง ง เช่น เสียง อํ เขียนในปาฬิภาสาว่า สํโฆ เขียนเสียงอ่านว่า [สังํโฆ] อิํ เขียนในปาฬิภาสาว่า ตัส์มํิ เขียนเสียงอ่านว่า [ตัสมิ​ิงํ] อํ เขียนในปาฬิภาสาว่า อภิภุํ เขียนเสียงอ่านว่า [อภิภุงํ]

3.

20


ตัวอย่างจากพระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม พ.ศ. 2436

พยัญชนะเสียง อะ ที่ไม่มีตัวสะกดตามในปาฬิภาสา เช่น น (นะ) คือให้อ่านเสมือนประวิสรรชนีย์ (ใส่เครื่องหมาย ะ ) เช่น เตน สมเยน... อ่านว่า (เต-นะ สะ-มะ-เย-นะ...) เหนือพยัญชนะที่ตามด้วยตัวสะกด ซึ่งจะกำกับด้วย ไม้วัชฌการ ( ์ ) เสมอ เช่น อัส์โสสิ

สพ๎ยั์ชนํ ไม้ยามักการแสดงเสียงควบกล้ำ สัก๎ยปุต์โต ไม้ยามักการแสดงเสียงสะกดควบกล้ำต่อเนื่องกันไป สพ๎รห๎มกํ ไม้ยามักการแสดงเสียงควบกล้ำทั้งสองคู่ เช่น ในคำว่า สัก๎ยปุต์โต จะออกเสียง ก เป็นตัวสะกดของพยางค์แรก และออกเสียงต่อเนื่องไปเป็น พยัญชนะควบกล้ำ ก๎ย ในพยางค์ต่อไป ไม่ออกเสียงว่า (สัก-กะ-ยะ..) แต่ต้องออกเสียงว่า (สัก-ก๎ยะ..)

“สํโฆ” เรียงพิมพ์อักขรวิธีการเขียนตามต้นฉบับ จปร. อักษรสยาม 21

พ.ศ. 2436 เล่มที่ 1 หน้า 15


“ภิกขุปาติโมกขปาฬิ” เรียงพิมพ์อกั ขรวิธกี ารเขียนตามต้นฉบับ จปร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436 ตัวอย่าง เล่มที่ 25 หน้า 33 ตามคำว่า “ปาติโมก์เข”

“ปาฬิ” เรียงพิมพ์อักขรวิธีการเขียนตามต้นฉบับ จปร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436 ตัวอย่าง เล่มที่ 19 หน้า 290 มีคำ ปาฬิ 2 คำ

22


ภิกขุปาติโมกข์ปาฬิ ฉบับ จปร. อักษรสยาม ปาฬิภาสา-อักษรสยาม เทียบกับ เสียงอ่าน ตามอักขรวิธเี ขียนพระไตรปิฎกปาฬิ อักษรสยาม ๒๔๓๖

พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช อักษรสยาม ฉบับอนุรักษ์ดิจิทัล ๒๕๕๔


ปาฬิภาสา อักษรสยาม ตามที่พิมพ์ในพระไตรปิฎกปาฬิ จปร. อักษรสยาม 2436

ภิก์ขุปาติโมก์ขปาฬิ

a ā i ī

ปุพ์พกิจ์จํ

u ū e o

ภิก์ขุคณนา นาม อิมัส๎มิํ อุโปสถัค์เค อุโปสถัต์ถาย สัน์นิปติตา ภิก์ขู เอตัต์กาติ ภิก์ขูนํ คณนา. อิมัส๎มิม์ปน อุโปสถัค์เค จัต์ตาโร ภิก์ขู สัน์นิปติตา โหน์ติ. อิติ สัพ์เพหิ อายัส๎มัน์เตหิ ภิก์ขุคณนาปิ ธาเรตัพ์พา. (เอวํ ภัน์เต) 24

ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง

c

จ์

j

ñ

ช์ ฌ์ ์

ฏ์

k kh g gh

ch ฉ์ jh

ṭh ์

ḍ ฑ์ ṇ

ฒ์ ณ์

t

ต์

ḍh

th ถ์

d ท์ dh n

ธ์ น์

p ป์

ผ์ b พ์ bh ภ์ m ม์ ph

ย๎ ร๎ l ล ๎ v ว ๎ s ส ๎ h ห ๎ ḷ ฬ ๎ aṃ อํ iṃ อิ ํ uṃ อุํ y r

อั ก ษ ร โ ร มั น อั ก ษ ร ส ย า ม

อุ โ ปสถกรณโต ปุ พ์ เ พ นววิ ธํ ปุ พ์ พ กิ จ จํ กาตั พ์ พํ โหติ . ตั ณ์  านสั ม์ มั ช์ ช นั ์ จ ตั ต์ ถ ปที ปุ ช์ ช ลนั ์ จ อาสนปั ์  ปนั ์ จ ปานี ย ปริ โ ภชนี ยู ปั ฏ์  ปนั ์ จ ฉั น์ ท ารหานํ ภิ ก์ ขู นํ ฉั น์ ท าหรณั ์ จ เตสั์เว อกตุโปสถานํ ปาริสุท์ธิยาปิ อาหรณั์จ อุตุก์ขานั์จ ภิก์ขุคณนา จ ภิก์ขุนีนโมวาโท จาติ. ตัต์ถ ปุริมานิ จัต์ตาริ ภิก์ขูนํ วัต์ตํ ชานัน์เตหิ อารามิเกหิปิ ภิก์ขูหิปิ กตานิ ปรินิฎ์ิตานิ โหน์ติ. ฉัน์ทาหรณ ปาริสุท์ธิ อาหรณานิ ปน อิมิส์สํ สีมายํ หัต์ถปาสํ วิชหิต๎วา นิสิน์นานํ ภิก์ขูนํ อภาวโต นัต์ถิ. อุตุก์ขานํ นาม เอต์ตกํ อติก์กัน์ตํ, เอต์ตกํ อวสิฎ์ัน์ติ เอวํ อุตุอาจิก์ขนํ; อุตูนีธ ปนสาสเน เหมัน์ตคิม๎หวัส์สานานํ วเสน ตีณิ โหน์ติ. อยํ เหมัน์โตตุ อัส๎มิ์ จ อุตุม๎หิ อัฎ์ อุโปสถา, อิมินา ปัก์เขน เอโก อุโปสโถ สัม์ปัต์ โต สัต์ต อุโปสถา อวสิฎ์า อิติ เอวํ สัพ์เพหิ อายัส๎มัน์เตหิ อุตุก์ขานํ ธาเรตัพ์พํ (เอวํ ภัน์เต)

อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ


เสียงอ่าน “สัททอักษรไทยปาฬิ” a ā i ī u ū e o k kh g gh ṅ c ch j jh ñ ṭ ṭh ḍ ḍh ṇ t th d dh n p ph b bh m y r l v s h ḷ aṃ iṃ

[ ก] [ ข] [ค ] [ ฆ] [ง] [ จ] [ ฉ] [ ช] [ฌ] [ ญ] [ฏ] [ฐ ] [ฑ] [ฒ] [ณ] [ต] [ถ ] [ด] [ธ ] [น ] [ป ] [ผ ] [บ ] [ภ] [ม ] [ย] [ร ] [ล] [ว ] [ส] [ห] [ฬ] [อังํ] [อิงํ] [อุงํ]

อั ก ษ ร โ ร มั น เ สี ย ง อ่ า น

uṃ

[ะ] [า] [ ิ] [ ีิ ] [ ุ] [ ู] [เ] [โ]

[ภิกขุปาติโมกขะปาฬิ] [ปุบบะกิจจังํ] [อุโปสะถะกะระณะโต ปุบเบ นะวะวิธังํ ปุบบะกิจจังํ กาตับบังํ โหติ ตัณฐานะสัมมัชชะนัญจะ ตัตถะ ปะดีปุชชะละนัญจะ อาสะนะปัญญะปะนัญจะ ปานียะปะริโภชะนียูปัฏฐะปะนัญจะ ฉันดาระหานังํ ภิกขูนังํ ฉันดาหะระณัญจะ เตสัญเญวะ อะกะตุโปสะถานังํ ปาริสุดธิยาปิ อาหะระณัญจะ อุตุกขานัญจะ ภิกขุคะณะนา จะ ภิกขุนีนะโมวาโด จาติ ตัตถะ ปุริมานิ จัตตาริ ภิกขูนังํ วัตตังํ ชานันเตหิ อารามิเกหิปิ ภิกขูหิปิ กะตานิ ปะรินิฎฐิตานิ โหนติ ฉันดาหะระณะ ปาริสุดธิ อาหะระณานิ ปะนะ อิมิสสังํ สีมายังํ หัตถะปาสังํ วิชะหิต๎วา นิสินนานังํ ภิกขูนังํ อะภาวะโต นัตถิ อุตุกขานังํ นามะ เอตตะกังํ อะติกกันตังํ เอตตะกังํ อะวะสิฎฐันติ เอวังํ อุตุอาจิกขะนังํ อุตูนีธะ ปะนะสาสะเน เหมันตะคิม๎หะวัสสานานังํ วะเสนะ ตีณิ โหนติ อะยังํ เหมันโตตุ อัส๎มิญ จะ อุตุม๎หิ อัฎฐะ อุโปสะถา อิมินา ปักเขนะ เอโก อุโปสะโถ สัมปัตโต สัตตะ อุโปสะถา อะวะสิฎฐา อิติ เอวังํ สับเบหิ อายัส๎มันเตหิ อุตุกขานังํ ธาเรตับบังํ] (เอวังํ ภันเต) [ภิกขุคะณะนา นามะ อิมัส๎มิงํ อุโปสะถัคเค อุโปสะถัตถายะ สันนิปะติตา ภิกขู เอตัตกาติ ภิกขูนังํ คะณะนา อิมัส๎มิมปะนะ อุโปสะถัคเค จัตตาโร ภิกขู สันนิปะติตา โหนติ อิติ สับเบหิ อายัส๎มันเตหิ ภิกขุคะณะนาปิ ธาเรตับบา] (เอวังํ ภันเต) 25


ปาฬิภาสา อักษรสยาม ตามที่พิมพ์ในพระไตรปิฎกปาฬิ จปร. อักษรสยาม 2436 a ā i ī u ū e o

ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง

c

จ์

j

ñ

ช์ ฌ์ ์

ฏ์

k

26

kh g gh

ch ฉ์ jh

ṭh ์

ḍ ฑ์ ṇ

ฒ์ ณ์

t

ต์

ḍh

th ถ์

d ท์ dh n

ธ์ น์

p ป์

ผ์ b พ์ bh ภ์ m ม์ ph

ย๎ ร๎ l ล ๎ v ว ๎ s ส ๎ h ห ๎ ḷ ฬ ๎ aṃ อํ iṃ อิ ํ uṃ อุํ y r

อั ก ษ ร โ ร มั น อั ก ษ ร ส ย า ม

ภิก์ขุนีนโมวาโท ปน อิทานิ ตาสํ นัต์ถิตาย นัต์ถิ. อิติ สกรโณกาสานํ ปุพ์พกิจ์จานํ กตัต์ตา นิก์กรโณกาสานํ ปุพ์พกิจ์จานํ ปกติยา ปรินิฏ์ิตัต์ตา เอวันตํ นววิธํ ปุพ์พกิจ์จํ ปรินิฏ์ิตํ โหติ. นิฏ์ิเต จ ปุพ์พกิจ์เจ สเจ โส ทิวโส จาตุท์ทสี ปัณ์ณรสี สามัค์คีนมั์ตโร ยถาช์ช อุโปสโถ ปัณ์ณรโส, ยาวติกา จ ภิก์ขุ กัม์มัป์ปัต์ตา สํฆุโปสถารหา จัต์ตาโร วา ตโต วา อติเรกา ปกตัต์ตา ปาราชิกํ อนาปัน์นา สํเฆน วา อนุก์ขิต์ตา, เต จ โข หัต์ถปาสํ อวิชหิต๎วา เอกสีมายํ ิตา, เตสั์จ วิกาลโภชนาทิวเสน วัต์ถุสภาคาปัต์ติโย เจ น วิช์ชัน์ติ; เตสั์จ หัต์ถปาเส หัต์ถปาสโต พหิกรณวเสน วัช์เชตัพ์ โพ โกจิ วัช์ชนียปุค์คโล เจ นัต์ถิ. เอวัน์ตํ อุโปสถกัม์มํ อิเมหิ จตูหิ ลัก์ขเณหิ สังคหิตํ ปัต์ตกัล์ลํ นาม โหติ กาตุํ ยุต์ตรูปํ อุโปสถกัม์มัส์ส ปัต์ตกัล์ลัต์ตํ วิทิต๎วา อิทานิ กริยมาโน อุโปสโถ สํเฆน อนุมาเนตัพ์ โพ (สาธุ)

อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ


เสียงอ่าน “สัททอักษรไทยปาฬิ” a ā i ī u ū e o k kh g gh ṅ c ch j jh ñ ṭ ṭh ḍ ḍh ṇ t th d dh n p ph b bh m y r l v s h ḷ aṃ iṃ

[ ก] [ ข] [ค ] [ ฆ] [ง] [ จ] [ ฉ] [ ช] [ฌ] [ ญ] [ฏ] [ฐ ] [ฑ] [ฒ] [ณ] [ต] [ถ ] [ด] [ธ ] [น ] [ป ] [ผ ] [บ ] [ภ] [ม ] [ย] [ร ] [ล] [ว ] [ส] [ห] [ฬ] [อังํ] [อิงํ] [อุงํ]

อั ก ษ ร โ ร มั น เ สี ย ง อ่ า น

uṃ

[ะ] [า] [ ิ] [ ีิ ] [ ุ] [ ู] [เ] [โ]

[ภิกขุนีนะโมวาโด ปะนะ อิดานิ ตาสังํ นัตถิตายะ นัตถิ อิติ สะกะระโณกาสานังํ ปุบบะกิจจานังํ กะตัตตา นิกกะระโณกาสานังํ ปุบบะกิจจานังํ ปะกะติยา ปะรินิฏฐิตัตตา เอวันตังํ นะวะวิธังํ ปุบบะกิจจังํ ปะรินิฏฐิตังํ โหติ นิฏฐิเต จะ ปุบบะกิจเจ สะเจ โส ดิวะโส จาตุดดะสี ปัณณะระสี สามัคคีนะมัญญะตะโร ยะถาชชะ อุโปสะโถ ปัณณะระโส ยาวะติกา จะ ภิกขุ กัมมัปปัตตา สังํฆุโปสะถาระหา จัตตาโร วา ตะโต วา อะติเรกา ปะกะตัตตา ปาราชิกังํ อะนาปันนา สังํเฆนะ วา อะนุกขิตตา เต จะ โข หัตถะปาสังํ อะวิชะหิต๎วา เอกะสีมายังํ ฐิตา เตสัญจะ วิกาละโภชะนาดิวะเสนะ วัตถุสะภาคาปัตติโย เจ นะ วิชชันติ เตสัญจะ หัตถะปาเส หัตถะปาสะโต บะหิกะระณะวะเสนะ วัชเชตับโบ โกจิ วัชชะนียะปุคคะโล เจ นัตถิ เอวันตังํ อุโปสะถะกัมมังํ อิเมหิ จะตูหิ ลักขะเณหิ สังคะหิตังํ ปัตตะกัลลังํ นามะ โหติ กาตุงํ ยุตตะรูปังํ อุโปสะถะกัมมัสสะ ปัตตะกัลลัตตังํ วิดิต๎วา อิดานิ กะริยะมาโน อุโปสะโถ สังํเฆนะ อะนุมาเนตับโบ] (สาธุ)

27


ปาฬิภาสา อักษรสยาม ตามที่พิมพ์ในพระไตรปิฎกปาฬิ จปร. อักษรสยาม 2436 a ā i ī

นโม ตัส์ส ภควโต อรหโต สัม์มาสัม์พุท์ธัส์ส

สุณาตุ เม ภัน์เต สํโฆ. อัช์ชุโปสโถ ปัณ์ณรโส. ยทิ สํฆัส์ส ปัต์ตกัล์ลํ, สํโฆ อุโปสถํ กเรย์ย ปาฏิโมก์ขํ อุท์ทิเสย์ย. กํิ สํฆัส์ส ปุพ์พกิจ์จํ, ปาริสุท์ธํ อายั ิ ส๎มัน์ โต อาโรเจถ, ปาฏิโมก์ขํ อุท์ทิสิส์สามิ. ตํ สัพ์เพว สัน์ตา สาธุกํ สุโณม มนสิกโรม. ยัส์ส สิยา อาปัต์ติ, โส อาวิกเรย์ย, อสัน์ติยา อาปัต์ติยา ตุณ๎หี ภวิตัพ์พํ ตุณ๎หีภาเวน โข ปนายัส๎มัน์เต ปริสุท์ธาติ เวทิส์สามิ. ยถา โข ปน ปัจ์เจกปุฏ์ัส์ส เวย์ยากรณํ โหติ, เอวเมวํ เอวรูปาย ปริสาย ยาวตติยํ อนุส์สาวิตํ โหติ. โย ปน ภิก์ขุ ยาวตติยํ อนุส์สาวิยมาเน สรมาโน สัน์ตํิ อาปัต์ตํิ นาวิกเรย์ย, สัม์ปชานมุสาวาทัส์ส โหติ, สัม์ปชานมุสาวาโท โข ปนายัส๎มัน์ โต อัน์ตรายิโก ธัม์ โม วุต์ โต ภควตา; ตัส๎มา สรมาเนน ภิก์ขุนา อาปัน์เนน วิสุท์ธาเปก์เขน สัน์ตี อาปัต์ติ อาวิกาตัพ์พา. อาวิกตา หิส์ส. ผาสุ โหติ. นิทานุทเทโส นิฏ์ิโต. ตัต๎ริเม จัต์ตาโร ปาราชิกา ธัม์มา อุท์เทสํ อาคัจ์ฉัน์ติ.

ū e o

ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง

c

จ์

j

ñ

ช์ ฌ์ ์

ฏ์

k kh g gh

ch ฉ์ jh

ṭh ์

ḍ ฑ์ ṇ

ฒ์ ณ์

t

ต์

ḍh

th ถ์

d ท์ dh n

ธ์ น์

p ป์

ผ์ b พ์ bh ภ์ m ม์ ph

(1) โย ปน ภิก์ขุ ภิก์ขูนํ สิก์ขาสาชีวสมาปัน์ โน สิก์ขํ อั ป์ ปั จ์ จั ก์ ข าย ทุ พ์ พั ล๎ ยํ อนาวิ กั ต๎ ว า เมถุ นํ ธั ม์ มํ ปฏิ เ สเวย์ ย อัน์ตมโส ติรัจ์ฉานคตายปิ, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส. (1/1:1)

ย๎ ร๎ l ล ๎ v ว ๎ s ส ๎ h ห ๎ ḷ ฬ ๎ aṃ อํ iṃ อิ ํ uṃ อุํ

28

อั ก ษ ร โ ร มั น อั ก ษ ร ส ย า ม

u

อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

y r


เสียงอ่าน “สัททอักษรไทยปาฬิ” a ā i ī u ū e o k kh g gh ṅ c ch j jh ñ ṭ ṭh ḍ ḍh ṇ t th d dh n p ph b bh m y r l v s h ḷ aṃ iṃ

[ ก] [ ข] [ค ] [ ฆ] [ง] [ จ] [ ฉ] [ ช] [ฌ] [ ญ] [ฏ] [ฐ ] [ฑ] [ฒ] [ณ] [ต] [ถ ] [ด] [ธ ] [น ] [ป ] [ผ ] [บ ] [ภ] [ม ] [ย] [ร ] [ล] [ว ] [ส] [ห] [ฬ] [อังํ] [อิงํ] [อุงํ]

อั ก ษ ร โ ร มั น เ สี ย ง อ่ า น

uṃ

[ะ] [า] [ ิ] [ ีิ ] [ ุ] [ ู] [เ] [โ]

[นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมบุดธัสสะ] [สุณาตุ เม ภันเต สังํโฆ อัชชุโปสะโถ ปัณณะระโส ยะดิ สังํฆัสสะ ปัตตะกัลลังํ สังํโฆ อุโปสะถังํ กะเรยยะ ปาฏิโมกขังํ อุดดิเสยยะ กิงํ สังํฆัสสะ ปุบบะกิจจังํ ปาริสุดธิงํ อายัส๎มันโต อาโรเจถะ ปาฏิโมกขังํ อุดดิสิสสามิ ตังํ สับเบวะ สันตา สาธุกังํ สุโณมะ มะนะสิกะโรมะ ยัสสะ สิยา อาปัตติ โส อาวิกะเรยยะ อะสันติยา อาปัตติยา ตุณ๎หี ภะวิตับบังํ ตุณ๎หีภาเวนะ โข ปะนายัส๎มันเต ปะริสุดธาติ เวดิสสามิ ยะถา โข ปะนะ ปัจเจกะปุฏฐัสสะ เวยยากะระณังํ โหติ เอวะเมวังํ เอวะรูปายะ ปะริสายะ ยาวะตะติยังํ อะนุสสาวิตังํ โหติ โย ปะนะ ภิกขุ ยาวะตะติยังํ อะนุสสาวิยะมาเน สะระมาโน สันติงํ อาปัตติงํ นาวิกะเรยยะ สัมปะชานะมุสาวาดัสสะ โหติ สัมปะชานะมุสาวาโด โข ปะนายัส๎มันโต อันตะรายิโก ธัมโม วุตโต ภะคะวะตา ตัส๎มา สะระมาเนนะ ภิกขุนา อาปันเนนะ วิสุดธาเปกเขนะ สันตี อาปัตติ อาวิกาตับบา อาวิกะตา หิสสะ ผาสุ โหติ] [นิดานุดะเดโส นิฏฐิโต] [ตัต๎ริเม จัตตาโร ปาราชิกา ธัมมา อุดเดสังํ อาคัจฉันติ] (1) [โย ปะนะ ภิกขุ ภิกขูนังํ สิกขาสาชีวะสะมาปันโน สิกขังํ อัปปัจจักขายะ ดุบบัล๎ยังํ อะนาวิกัต๎วา เมถุนังํ ธัมมังํ ปะฏิเสเวยยะ อันตะมะโส ติรัจฉานะคะตายะปิ ปาราชิโก โหติ อะสังํวาโส] 29


ปาฬิภาสา อักษรสยาม ตามที่พิมพ์ในพระไตรปิฎกปาฬิ จปร. อักษรสยาม 2436

(2) โย ปน ภิก์ขุ คามา วา อรั์า วา อทิน์นํ เถย์ยสังขาตํ อาทิเยย์ย, ยถารูเป อทิน์นาทาเน ราชาโน โจรํ คเหต๎วา หเนย์ยุํ วา พัน์เธย์ยุํ วา ปัพ์พาเชย์ยุํ วา “โจโรสิ พาโลสิ มูโฬ๎หสิ เถโนสีติ,” ตถารูปํ ภิก์ขุ อทิน์นํ อาทิยมาโน, อยัม์ปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโส. (2/2:2)

a ā i ī u ū e o

ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง

c

จ์

j

ñ

ช์ ฌ์ ์

ฏ์

k kh g

(3) โย ปน ภิก์ขุ สั์จิจ์จ มนุส์สวิค์คหํ ชีวิตา โวโรเปย์ย, สั ต์ ถ หารกํ วาส์ ส ปริ เ ยเสย์ ย , มรณวั ณ์ ณํ วา สํ วั ณ์ เ ณย์ ย , มรณาย วา สมาทเปย์ย “อัม์ โภ ปุริส กิํ ตุย๎หิมินา ปาปเกน ทุช์ชีวิเตน, มตัน์เต ชีวิตา เสย์ โยติ,” อิติ จิต์ตมโน จิต์ตสังกัป์ โป อเนกปริ ย าเยน มรณวั ณ์ ณํ วา สํ วั ณ์ เ ณย์ ย , มรณาย วา สมาทเปย์ ย , อยั ม์ ปิ ปาราชิ โ ก โหติ อสํ ว าโส. (3/3:3)

gh

ch ฉ์ jh

ṭh ์

ḍ ฑ์ ṇ

ฒ์ ณ์

t

ต์

ḍh

th ถ์

d ท์ dh n

ธ์ น์

p ป์

ผ์ b พ์ bh ภ์ m ม์ ph

อุท์ทิฏ์า โข อายัส๎มัน์ โต จัต์ตาโร ปาราชิกา ธัม์มา, เยสํ ภิก์ขุ อั์ตรํ วา อั์ตรํ​ํ วา อาปัช์ชิต๎วา น ลภติ ภิก์ขูหิ สัท์ธํ สํ ิ วาสํ, ยถา ปุเร; ตถา ปัจ์ฉา; ปาราชิโก โหติ อสํวาโส

ย๎ ร๎ l ล ๎ v ว ๎ s ส ๎ h ห ๎ ḷ ฬ ๎ aṃ อํ iṃ อิ ํ uṃ อุํ

30

อั ก ษ ร โ ร มั น อั ก ษ ร ส ย า ม

( 4 ) โ ย ป น ภิ ก์ ขุ อ น ภิ ช า นํ อุ ต์ ต ริ ม นุ ส์ ส ธั ม์ มํ อั ต์ ตู ป นายิ กํ อลมริ ย าณทั ส์ ส นํ สมุ ท าจเรย์ ย “อิ ติ ชานามิ , อิ ติ ปั ส์ ส ามี ติ ; ตโต อปเรน สมเยน สมนุ ค์ ค าหิ ย มาโน วา อสมนุ ค์ ค าหิ ย มาโน วา อาปั น์ โ น วิ สุ ท์ ธ าเปก์ โ ข เอวํ วเทย์ ย อชานเมวํ อาวุ โ ส อวจํ ชานามิ อปั ส์ สํ ปั ส์ ส ามิ ตุ จ์ ฉํ มุ ส า วิลปิน์ติ, อั์ัต๎ร อธิมานา; อยัม์ปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโส. (4/4:4)

อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

y r


สนทนาธัมม์นำสุข กองทุนสนทนาธัมม์นำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล. มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

รายละ​เอ​ีย​ดการจัดทำต้นฉ​บับ ภิ​ก​ข​ุปาติโมกข​ป​า​ฬิ​​ฉ​บ​ับ จปร.​อักษรส​ย​า​ม​

​1​. เ​นื้อห​าต้น​ฉบับ​ ภ​ิกข​ุปาติโมกขปาฬิเล​่มนี้​​ได้​รว​ ​บ​รว​ ​ม​จา​ ​กต้​นฉบ​ับต่​างๆ ​ค​ือ 1.​“พ​ระไ​ตรป​ิฎก​ ป​าฬ​ิจ​ุ​ลจอมเ​กล้า​บ​รมธ​ั​มม​ ิกม​ห​า​ร​า​ช​​อ​ักษ​รสย​าม พ.​ศ. 2​436” โป​รด ใ​ห้พิมพ์โดยพ​ระบา​ทสมเ​ด็จ​พ​ร​ะ​จุ​ล​จ​อมเกล้าเจ้าอ​ยู่หัว ​ 2. “Mahāsaṅ​g​īti ​T​i​piṭa​k​a B​udd​hava​sse ​2500​” พระ​ไ​ตรป​ิ​ฎ​กฉบับส​ากล ปาฬิภาสา อัก​ษร​โรมัน พ.​ศ.​254​8​ (กองทุนสน​ท​นาธัมม์​นำสุขท่านผู​้หญ​ิง ​ม.ล.​มณีรัตน์ บ​ุนนาค ในพ​ระส​งั ฆรา​ชป​ู ถัมภ​ส์ ม​เด็จพระ​ญ​าณส​งั ว​ร สม​เด็จพระ​สง​ั ​ฆ​ร​า​ช​ส​ ​ก​ลมหาสังฆป​รณ ิ า​ ยก)​ 3.​“ปา​ติโม​ ​กข และ กัง​ข​า​วิตรณีอ​รร​ถกถ​า” พ.​ศ. 2​ 5​2​5 (​ ​ม​ูลน​ ​ิธ​ิภูมิพโ​ลภิก​ขุ) ​4. ​“​ภิ​ก​ฺขุป​า​ฏ​ิโม​กฺขป​าลิ​” ที่ 13​/2​5​3​3​​(​ ​มหา​มกุ​ฏราชว​ิทยา​ลัย​ )​​ ​ 2. ​ก​า​รจัดพิ​มพ​์ใหม่ พ.​ศ.​255​4 กอ​งทุน​สน​ทนา​ธัมม์น​ำสุ​ขฯ ​ในพระสั​งฆ​ราชูปถ​ัมภ์ฯ​ ได้น​ำเนื้​อหาในข้​อ 1 มาสรุปเ​รีย​งพิมพ์ใ​ หม่ เป็น “ภิ​ก​ขป​ุ าติโมกข​ป​า​ฬ​ิ ​ฉ​บบ​ั จปร.​ อักษรส​ย​า​ม” ตาม​อกั ขร​วธิ ​กี าร​เขี​ยน ปา​ฬภิ ​าสา​-อักษ​รสยา​ม ตาม​แบบฉ​บ​บั ทีใ่ ช้พมิ พ์พร​ะไต​รปิ​ฎก​ปา​ฬ​ิ “จ​​ลุ จอ​ม​เ​กล้าบ​รมธัมม​ กิ ม​ห​ารา​ช พ​.​ศ. 24​ 3​ 6​ อั​กษ​รส​ย​าม ช​ุ​ด 39​ ​เล่ม” ​ ซึ​่งในปี พ​.ศ​. 255​ 2​ ​ กอง​ทุนส​นท​นาธ​ัมม์นำ​ส​ุขฯ ​ในพร​ะสังฆราช​ูปถ​ัมภ​์ฯ ได​้ทำก​าร อน​รุ กั ​ษแ์ ละจั​ดพ​ มิ ​พใ​์ ห​ ​มเ่ ป​​น็ ​ฉบั​บอนุรกั ษ์ดจิ ทิ​ ลั ช​ดุ 40 เ​ลม่ ​​(ร​วม​ ​เล่มป​ระมวลเนือ้ หา เล่มที​่ 40) เ​พอ​่ื เป็นพระราชศรัทธานุสรณ์ใ​ นปี พ.ศ. 2553 เนื่อ​งใน 10​ 0 ปีแห่ง​วันสวรรคต ปัจจุบันในประเทศไทย ได้ถวายเพื่อเก็บรักษาไว้ ณ หอสมุดมหามกุฏราชวิทยาลัย และมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ใน พระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี 111


ปาฬ​ิภาส​า​-อั​ก​ษรสย​าม เทียบก​ั​บ เสี​ยงอ่​า​น เพ​ื่อ​ช่วยใน​การ​อ่านส​ังวั​ธ​ยา​ยแล​ะเผ​ยแผ่ใ​ห้กว​้​างข​ว​างใน​การจ​ั​ดพิม​พ์ฉบ​ับ จ​ปร. ​อัก​ษรสยา​ม​ ฉบับให​ม่น้จี​ ึง​ได้เท​ ​ียบ​เนื้อ​หาฉบ​ั​บอั​กษรสย​าม ก​ั​บ “เสียงอ่า​น” ท​ี่เข​ี​ย​นด้​วย ​“สัทท​อักษ​รไทยป​าฬิ”​ แ​ละท​ี่เ​ขียนด้วย​ “อัก​ษร​ โรมั​น” จาก​พ​ระไต​ร​ป​ิฎ​กสา​กล อักษ​ร​โรมั​น​ด้​ว​ย​​(​ด​ู​ข​้อ 4 ​และ 5)​ 3.

a ā i ī u ū

4​. เสี​ย​งอ ​ ​่าน

​ ​ “สัททอัก​ษ​รไทยปาฬิ​”​ (Th​a​i​ Pho​netic alp​hab​et Pā​ḷi) ​เป็นอ​ักข​ร​วิธ​ีการเ​ขีย​นด้วย​อักษร​ ไทย ​คือ​ ระ​บบการ​เขี​ยนเสี​ยงอ​่าน​ ที่​ไม่คำ​นึง​ถึงเส​ียง​สู​งต่ำ​ของ​อ​ักษร​ที่ก​ำหน​ดไว​้ในภาษ​าไทย​ ซึง​่ เ​ปน็ ชุด​ สัทท​ อักษ​รปา​ฬทิ ไี่​ ด้กำ​ หนด​ขน​ึ้ ใ​หม่แ​ ทน​เสียงป​าฬิภาสา ซ​ ง​ึ่ คณ​ะสง​ฆเ์ ถ​รวาทน​านา​ชาติถอ​ื ก​นั ว่าเป​น็ เ​สยี งทีส่ บ​ื ทอด​มา​ ตัง​้ แ​ ต​ ป​่ ฐมมหาสัง​ คา​ยน​า เ​มอ่ื พ​.ศ. 1​ แ​ละย​งั ได้ม​ คี ำ​อธิบา​ ยร​ะบบก​าร​ออกเสียง​ ปา​ฬิภ​าส​า​นี้​อ​ยู่ใ​น​คัม​ภีร์​ส​ัททน​ีติ​ พ.ศ.​1456 ​อีกด​้​วย ร​ะ​บบก​ารเขีย​นเส​ียงอ​่าน ​หร​ื​อส​ัท​ทอัก​ษร​ไทย ป​าฬิ​ชดุ นี้ ​ได้นำ​ เส​นอในเ​ชงิ สัททศ​า​สตร์แล้วแก่สำน​ก​ั ศิลปกร​ร​ม ร​า​ช​บณ ั ฑ​ต​ิ ยสถาน ​ตง​้ั แต​่พ.ศ. ​2551​ เป็นต​้นม​า และโ​ครงก​ารพระไ​ตร​ปิฎกไ​ด้ยึ​ดถื​อเป็น​แนวทา​งในก​า​ร​น​ำเ​สน​อการเขี​ยนเส​ี​ยงอ่​าน 5​. พระไ​ต​ร​ปิฎกสาก​ล

ฉ​บับอั​กษรโ​รมัน ​ เนื้​อหา​ที่​พิ​มพ​์ด้วย​อัก​ษรโรม​ันที​่ได้​นำ​ มาเ​ที​ยบก​ับอ​ั​กษรสยา​มน​ั้น เป็น​ผล​งานข​อง​ ​กอง​ทุนส​นท​นา ธ​ัมม์นำ​ส​ุขฯ ​ในพ​ระสังฆร​าชูปถั​มภ์​ฯ ร่วมก​ับโค​ร​งก​ารเผยแ​ผ่พ​ระไต​รปิฎกสาก​ล ใ​นสมเด็จ ก​ร​มหลวงนร​า​ธิวาสร​าชนคริน​ทร์​ ทั​้งน​ี​้สม​เด็​จพระเจ้​าพี่น​า​งเธ​อ เจ​้าฟ้ากัล​ยา​ณิ​ว​ัฒ​นา ก​ร​ม หล​วงนราธิวาส​ร​าชนค​ริน​ทร์ ได้​น้อม​เ​กล้าฯ​ ถวาย​พ​ระไ​ตรป​ิฎกสากล​ อั​กษร​โรมัน​ ที่​ได้​ตรวจ​ทาน​ และจัด​พิมพ์ใ​หม่นี้แล้วแด่พ​ระ​บาทสมเ​ด​็จพ​ร​ะ​เจ้า​อ​ย​ู่ห​ัว​ ต​ั​้งแ​ต​่ พ.ศ​.​ 25​49​ แล​ะในป​ี พ.ศ​. 2​551 โครงการเผยแผ่พระไตรปิฎกสากลได้​นำควา​มกราบบังคมทูลพ​ร​ะบาทสม​เด็​จพระเจ​้าอ​ยู่ห​ัว​ เรื่อ​ง ก​ารดำเน​ินงานตา​มพร​ะนโ​ยบา​ย​ในก​ร​มหลว​งนรา​ธิวา​สรา​ชนคริ​นทร์​ ซึ่งค​วามท​ร​าบฝ​่าล​ะอองธุล​ี พระบาท​แล้​วต​ามรายละเอ​ี​ยดห​นัง​ ​ส​ือจากร​า​ชเลขา​ธ​ิกา​ ร ​ที่​​รล​​0001.4/​26​269​​ลงว​ั​นที​่13​​ธันวา​ค​ม 2549​​แ​ละ ​ที่​​รล​0​ 003.3/11​0​63 ​ล​งว ​ ​ัน​ท​ี่1​ 0 มิถุ​น​ายน​​25​51 ​ พระ​ไตรปิฎก​​จปร. ฉ​บั​บอนุรักษ​์ด​ิจิท​ัล ​กอง​ทุนส​นท​นาธ​ัมม์นำ​ส​ุขฯ​ ในพ​ระส​ังฆราชู​ปถั​มภ์ฯ ได​้ร่ว​มก​ับโครง​การ​พระไ​ตรปิฎกสา​กล ใ​นสมเด็จก​ร​มหลวงน​ราธิ​วาส​ราชนคร​ินท​ร์ ป​ระกอบด​้​วยร​าชบ​ัณฑิต ภ​าคีส​มาชิก ผ​ู​้เช​ี่ยวชาญ​ด้าน ภ​าษา​ศาสตร์ และพระพ​ุ​ทธศ​าสนาจากราช​บัณฑิตยสถาน​​และจุ​ฬาลง​กรณ์มหาวิ​ทยาลัย ​พร้อมด​้​วย ก​ระทรวง​กลาโ​หม ไ​ด้จ​ัดพิธีส​ม​โ​ภชแล​ะน้อม​ถวายพ​ร​ะ​ไตร​ป​ิฎ​ก​ “​ส​ากลอัก​ษร​โรม​ัน”​ แล​ะ “จ​ุ​ล จอ​ม​เ​กล้า​บ​ร​ม​ธัมม​ิกมหาราช​ พ.ศ. 24​ 3​ 6 ​:​ ​ฉบับ​อ​นุรัก​ษ์ดิ​จิ​ทัล​ พ.ศ. ​2552​ อักษร​ส​ยาม​” แด่ส​มเด​็จ พ​ระส​ั​งฆร​าช ​โดยสม​เด็จพ​ร​ะวัน​รัต วัด​ บวรนิเวศ​น์วิห​าร เป็​นผู้รับ​พระราช​ท​านจา​กสม​เด็จ​พ​ระเ​จ้า​ ลู​ก เธอเ​จ​้าฟ้​าจุ​ฬาภรณวลัย​ลักษณ​์อ​ัครร​าชกุมา​รี​ซึ่​ง​เสด็จทรง​เป็​นประธาน​ในพิ​ธ​ี​ปัจจ​ุ​บันพระ​ไตร​ปิฎ​ก ทัง้​ 2​ ฉ​บบั ​สมเ​ดจ็ พ​ระวันรัตได้​มอบ​ให้หอ​้ ง​สมุดมหาว​​ทิ ยาล​ยั ม​หามก​ฏุ ราชว​​ทิ ​ย​า​ลยั ​เป็​นผูเ​้ก​บ็ ร​กั ษ​า ​ 6.

112

e o k kh g gh ṅ

อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ก์ ข์ ค์ ฆ์ ง

จ์ ch ฉ์ j ช์ jh ฌ์ ñ ์ c

ฏ์ ṭh ์ ḍ ฑ์ ḍh ฒ์ ṇ ณ์ ṭ

ต์ th ถ์ d ท์ dh ธ์ n น์ t

p ป์ ph

ผ์

bh

ภ์ ม์

b พ์ m

ย๎ r ร ๎ l ล ๎ v ว ๎ s ส ๎ h ห ๎ ḷ ฬ ๎ aṃ อํ iṃ อิ ํ uṃ อุํ y


a ā i ī u ū e o k kh g gh ṅ c ch j jh ñ ṭ ṭh ḍ ḍh ṇ t th d dh n p ph b bh m y r l v s h ḷ aṃ iṃ uṃ

writing

Writing

& Reading System of Pāḷi

[ะ] [า] [ ิ ] Writing System of Pāḷi Language in Siam Script and Roman Script 1893 [ ีิ ] (ระบบการเขียน ปาฬิภาสา ด้วยอักษรสยาม และอักษรโรมัน 2436) [ ุ] [ ู] 1. Siam Alphabet Pāḷi (อักษรสยามปาฬิ) Roman Alphabet Pāḷi (อักษรโรมันปาฬิ) [เ] Chulachomklao of Siam Tipiṭaka 1893 (พระไตรปิฎกปาฬิ จุลจอมเกล้าบรมธัมมิกมหาราช 2436) [โ] [ก ] [ข ] [ค ] [ฆ ] [ง] [ จ] [ฉ] [ช] [ฌ] [ ญ]

ฉบับ จปร. 2436 อนุรักษ์ดิจิทัลโดยโครงการพระไตรปิฎกสากล กองทุนสนทนาธัมม์นำสุขฯ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ฯ 2553

[ฏ ] 2. Roman Alphabet Pāḷi, (อักษรโรมันปาฬิ) [ฐ ] The World Tipiṭaka Edition in Roman Script (พระไตรปิฎกสากล อักษรโรมัน 2553) [ฑ] [ฒ] Vandāmi Dhammaṃ ahamādarena taṃ [ณ] Saṅgho sukhettābhy ‿atikhettasaññito Yo diṭṭhasanto sugatānubodhako [ต ] [ถ ] [ด ] [ธ ] [น ] Reading Stanzas in Phonetic Alphabets

reading

[ป ] [ผ ] [บ ] [ภ ] [ม ] [ย ] [ร ] [ล ] [ว ] [ส ] [ห] [ฬ] [อังํ] [อิงํ] [อุงํ]

(ระบบการเขียนเสียงอ่าน

ปาฬิภาสา ด้วยสัททอักษรปาฬิ ประเภทต่างๆ) 3. Siam Phonetic Alphabet Pāḷi [ สัททอักษรสยามปาฬิ ] [ วัน์ทามิ ธัม์มัง อะหะมาทะเรนะ ตัง ] [ สังโฆ สุเขต์ตาภ ​ย๎ ะติเขต์ตะสัิโต ] [ โย ทิฎ์ะสัน์โต สุคะตานุโพธะโก ]

4. Thai Phonetic Alphabet Pāḷi [ สัททอักษรไทยปาฬิ ] [ วันดามิ ธัมมัง อะหะมาดะเรนะ ตัง ] [ สังโฆ สุเขตตาภ ​ย๎ ะติเขตตะสัญญิโต ] [ โย ดิฎฐะสันโต สุคะตานุโบธะโก ] 5. International Phonetic Alphabet Pāḷi [ สัททอักษรสากลปาฬิ ] [ ʋan̪d̪aːmi d̪ʱammã aɦamaːd̪areːn̪a t̪ã ] [ s̪aŋɡʱoː s̪ukʰeːt̪t̪aːbʱj‿​at̪ikʰeːt̪t̪as̪aɲɲit̪oː ] [ joː d̪iʈʈʰas̪an̪toː s̪uɡat̪aːn̪uboːd̪ʱakoː ] 113


มู​ลเห​ตุ​ข​องก​า​ร​เผยแ​ผ่เ​​ป็นธัม​ มทานใน พ.​ศ​. 25​5​4 ใ​นเดือ​ นกุมภา​พนั ธ์ 2554 ค​ณะสง​ฆก์ รร​มการมูลน​ ธ​ิ เ​ิส​ยี ง​ธรรมเพ​อ​่ื ประช​าชน ในพระอุปถ​ม​ั ภ์สม​เด็จ​ พ​ระเ​จา้ ล​กู เธอ เ​จ​ า้ ฟ​า้ จ​ฬุ าภรณ​วลัย​ ลักษ​ณ์ อ​ คั รรา​ชก​มุ ารี ได​ป้ ร​ ารภ​ให​ ก​้ อง​ทนุ ส​นท​นาธ​มั ม์นำ​สข​ุ ฯ ใน พ​ระสังฆ​ ราชูป​ ถัมภ​ฯ์ ​พ​จิ า​รณ ​ าเร​ย​ี งพิมพ์ภ​ กิ ข​ ปุ าติโม​ กขป​าฬิ จากเ​นอ​ื้ ห​ าต้นฉบ​บั เดิมต่าง​ๆ ด​ งั น​น​้ั ก​ อง​ ทุนส​นท​นาธ​มั ม์นำ​สข​ุ ฯ​ใน​พระ​สงั ฆ​ รา​ชปู ถัมภ์ฯ​จ​งึ ได้มอ​ บให้ผ​ เ้​ูช​ย่ี วชาญ​ในสถ​าบ​ นั ต่าง​ ๆ​ ร่วมกันพ​จิ ารณ​า ด้ว​ ย​ได​้​แก่​ อ​า​จ​ารย์สิร​ิเ​พ็ชรไชย​ป.ธ​.​​9 โครงก​ารพระ​ไ​ตรป​ิฎก​ส​ากล​,​อ​า​จารย์สั​งค​ม พ​วงรา​ช ป​.​ธ​. 9​ มูลนิธิภูมิพ​ โลภิกข​ุ​, ​แ​ละ​ ศ​าสตร​าจ​า​รย์ก​ิตติ​ค​ุณ​ด​ร​.​​ว​ิจิ​นตน์ ภาณุ​พงศ์​ผ​ู้เ​ชี่ยวชาญด้​านภาษาศาสตร์​์ จา​ก จุ ฬ าลงกรณ์ ม หา​ว ​ิท ยาลั ย ​แ ​ล ะร​า ชบ​ัณ ฑิ ​ต ยสถาน เป็ น ต​้น และ​ไ ด้ ก รา​บ นม​ั​ส การเรี ​ย น ส​มเด็​จพร​ะวันรัต อ​ ​ุปนาย​กมหาม​กุฏร​าชว​ิทย​าลัย​​เ​พ​ื่อ​รับทราบอ​ีก​ด้วย ​ ​ 8​. ป​าฬิ​และ ปาติโมกขปาฬ​ิ ในการพ​ิจา​รณาเร​ียงพ​ิมพ​์​อักขรวิ​ธีก​ารเ​ขียนใ​ห​ม่ โ​ครง​การพร​ะไต​รปิฎก​สากลฯ ไ​ด้เ​ข​ี​ย​นทับ​ศัพท​์​ ว​่า ​“ปา​ฬิ” แ​ละ ​“ปา​ฬิภาส​า” ​ตา​มรู​ปศั​พท์เดิม ท​ี่ได้เขี​ย​น​ไว้ใน​พระไ​ต​รปิ​ฎ​ก​ปาฬิ​จปร.​อ​ักษรสยาม​ พ.ศ. 2436 และ​ปัจ​จุบัน​ราชบ​ัณฑ​ิตยสถ​า​น​ได้​้เขี​ยนว่า “ปาฬิ” เ​ป็น​รูปศ​ ัพท์ไ​ด้อีก​ รูป​หนึ่งด้​วย ​ดังน​ ั้นจึง เร​ียก​ต้นฉบ​ับนี​้ตาม​อักข​รวิธี​การเ​ขีย​น​ป​าฬิภาส​าเ​ป็​นอัก​ษ​รสยา​ม​ว​่า “ภิ​ก์​ขุ​ปาต​ิโ​มก์ข​ป​า​ฬิ” ซึ่งเขียน เสียงอ่านเป็นสัททอักษรว่า ​[ภิ​กขุปาติ​โ​ม​ก​ข​ะ​ปาฬ​ิ​]​ ​ โดยใ​ช้พ​ยั​ญชนะ ​ ต ​ แ​ทน ฏ ​ตามที่เ​ขีย​นไว้ ใ​นค​ัมภี​ร์ปา​ติโ​มก​ ข์แ​ละ​กังขาวิตร​ณีอ​รรถกถา​และตามพจ​นาน​ุก​รมร​า​ชบัณฑิตยถ​า​น​ 7.

9.​เ​คร​ื่อ​งหมาย​กำกับ ​ อัก​ษ​รสย​าม

​ ในกา​รเข​ยี นปาฬิภา​สา ไ​ ด้ใช​ห้ ล​กั การอักขรว​ธ​ิ ก​ี ารเขีย​ น​ ขอ​งเค​รอ​่ื ง​หมา​ย 4 ป​ระเ​ภท ทีใ่ ช​ ใ​้ น​กา​ ร​ จัด พ​ิมพ์​พร​ ะไ​ตร​ ​ปิฎก​จ​ ปร​.​อ​ ​ักษร​สยา​ม พ.ศ​.​2​43​6​​ค​ือ 1. ไม้​หั​นอา​ก​าศ​ ( ั ) ​ ​แสด​งเส​ี​ย​ง​ “สระ-อะ” เช​่น ​ ธัม์มา​ (​dhammā อ่า​นว​่า ธัม-มา​​ เขียนเสียงอ่านเป็นสัททอักษรว่า [ธัมมา] ) ซึง่ จะต้องเขียนเครือ่ งหมายวัชฌการ บนพยัญชนะตัวสะกด (ม์ ) ด้วย 2​. ไม้ว​ัชฌก​า​ร​ ( ​์ ) แสด​ง​ ​“เสียงสะกด​” เ​ช​่น ​พ​ุท​์โธ​ (Bu​ddho อ​่านว​่า ​บ​ุท-โธ​ ​เ​ข​ียน เส​ี​ยงอ่านเป็นสัททอักษร​ว​่า [บุดโธ] )​ 3​. ​ไม้ยา​มักก​ าร ​( ​​ ๎ )​ แสดง​ ​“เส​ี​ย​งค​วบ​ก​ล้ำ” ​เช​่น ​พ​๎ย​- ในค​ำ พ​๎ยั​์ชน​ํ​ ​(b‿yañjanaṃ​) โปรดสังเกต ( ‿​ ) แสดงเสียงควบกล้ำในอักษรโรมัน หรือ​ “เสี​ย​ง​สะ​กดค​ว​บ​กล​้ำ​”​ เช่​น​ เสี​ยง​​ kyaputto) เมื​่อ​ ก​๎- ทำ​หน​้าที​่ตัวส​ะกด​จะต่อ ​ เนื​่องไ​ป​เ​ป​็น​เสียง​ควบ - ักย๎​ ​-​ ใน​ค​ำ​ ส​ัก๎ยปุต​ตโต (​ sa‿ กล​้ำ​ก๎ย- ด​้ว​ย​ 4​. พินท​ุโปร่ง​​(​ ํ )​ ​แสด​ง​​“​เสียง​นิค​ หิ​ต” ​เ​ช่​น​ ​เช่น dh​ammaṃ​อ่าน​ว่า ​ธัม​-มัง​แต่​เขียนเสีย​ง อ่า​นตา​มหลักว​ิชา​ส​ัทศาสตร์​ด​้ว​ยสั​ททอ​ักษรว่า [ธั​มมังํ​] โด​ยใช้​เครื่​องหมาย​พ​ินทุโ​ป​ร​่ง​แสดงเ​สีย​งนิค​ หิต​เหนื​อ​​ง เ​​พื่​อ​ใ​ห้ต่า​ ง​จาก​เ​ส​ียง​[อั​ง] ใ​น​​[​ส​ัง​ก​ัป​ป​ัง] ​ที่​ส​ะกด​ด​้ว​ย ​ง​ ​ 114


10.​ค​ำ​ที่เข​ียนต่างกัน ​​

​ ต้นฉ​บับ ​“​ภิกขุ​ปาติโมกข” ฉบับ​เดิม เม​ื่อเท​ี​ยบ​ก​ับเ​นื้อหาส​ิกขา​บ​ทต่าง​ๆ ใน​พ​ระ​ไตร​ปิ​ฎก​สาก​ล อัก​ษรโร​มัน​ ​พ​บว่ามีค​ำท​ ี่เขียน​ต่​างกั​น (v​aria​nt​re​ading​s) ซ​ึ่งส​ ่วน​ให​ญ่ค​ำที่เขี​ยนต่า​งกัน​นั้​น ในพระ ไ​ตรป​ฎิ กอัก​ ษร​สยา​ม​ม​กั เป​​น็ การ​ใช้เ​สยี ​งสระย​าว ​เช่น ฉบับสากล​เขียน​วา่ ​att​u​p​anāy​ikaṃ (​อัตต​์ ปุ ​นายิ​ก)ํ ฉบ​ับอ​ักษร​ส​ยามเดิมเป็น อ​ั​ตต​ูปนา​ยิก​ํ attū​pan​āyi​kaṃ​ ใน​กรณีนี​้อธิบ​ายได​้ว่า​ไทย​ได้ส​ืบทอ​ดเส​ี​ยง ป​าฬ​ ิภาส​าตาม​หลัก​สน​ธิกั​น คือ​ เมื่อ​สนธิ​แล้วก​็คง​จะน​ิยมเป​ลยี่​ นเ​ป็นเส​ียงสระยาว​ เพื​่อให้อ้​ อก​เ​สียง​ สังว​ัธย​ายได​้ง่าย​ ขึ​้น คว​ามต่​าง​นี้ส​่วน​ใหญ่จ​ึงม​ิใช่​เป็น​คำต​่างที​่เข​ี​ยนผิดคว​ามหมา​ยแต่​เรี​ยกว่าเป็นกา​ร เขียน​ตา​มห​ลักท​ี่สั​งวัธยายส​ื​บทอ​ดมาใ​นกร​ุงส​ยามเ​ท่า​นั​้น ด​ังนั​้นจ​ากก​ารต​รว​จทานใ​นฉบ​ับใ​หม่นี​้จึง​ ย​ังคงพิ​มพ​์ตาม​รูปศ​ ัพท์​เดิ​ม สำ​หรั​บคำต​่างดั​งกล​่าวได​้ร​ะบุข​้อเชิ​งอัถถ​์​ไ​วเ้​​ฉพาะใ​น​ฉ​บับอัก​ษ​ร​โรมั​น​ เ​สียง​“นิ​ค​ห​ิต​” ห​รือ​“เสียง​ขึ้​นจม​ูก” ในการตรวจทานใน พ.ศ. 2554 พบว่า ​ฉบับ​ ​จปร​. อักษรสยาม​ พ.ศ.​ 2436​ ​ใช้เค​รื่อ​งหมาย​พินทุ โ​ป​รง่ ( ํ ) ​เ​ขย​ี น​เสีย​งนิ​คหิต​ ​เช่​น สํโฆ ​(หมา​ย​ถงึ ​สง​ฆ์ แ​ละรู​ปศัพท์​อ​่นื ๆ ท​​่ีมคี ​วามหมายเกีย่ วกับ ส​งฆ์​) แ​ต่หลั​ง พ​.ศ. 247​0 ในการจัดพ​ิ​มพ์​พระไตรป​ิฎกในประเ​ทศไ​ทย ได้​เปล​่ียนอ​ั​ก​ข​ร​ว​ิธี​การ เขี​ยนเป็นเ​สีย​ง ง​ ​คือ เส​ียงพ​ย​ัญชน​ะที่​เกิด​ที่เ​พ​ดานอ​่อนแล้ว​ขึ้​น​จมูกด​้​ว​ย เขียนเป็น​ร​ูปศั​พท์​ว่า​ สง​ฺ​โ​ฆ (saṅg​ho อ​่​าน​ว่า​ สั​งโฆ และเขียนสัททอักษรไทยปาฬิว่า [สังโฆ])​ เป็นต​้น ดังน​ั​้น​ในก​าร จ​ัดพิม​พ์ครั​้งนี้​จึงไ​ด้ใช​้​รูป​ศัพท์เส​ี​ยงน​ิ​ค​หิต ส​ํโฆ ต​ามต้​นฉบับ จ​ปร. อ​ักษ​รสย​าม ​ซ่งึ ​เป็น​ร​ูปศัพ​ท์ที่​ ต​รงกั​บฉบับ​สากล​ อักษรโร​มั​น ตามมติของการ​ป​ระชุ​ุ​ม​สัง​คา​ยนา​นาชาติ​ พ.ศ​.​ 25​0​0 ที่​ได้​รับ​​ ร​อง​แ​ล้ว​คื​อ ​คำว​่า saṃ​g​ho​และเขียนเป็นสัททอักษรไทยปาฬิว่า [​สั​งํโฆ] 11.

ร​ูปแบบ​ในกา​รเผ​ย​แผ่​ ใน​กา​รจัด​พิม​พ์ใ​หม่​นี้ ได​้จั​ดทำเป​็นฐา​น​ข้อม​ูลอิเล​็คท​รอ​นิกส์ด​้วย​ ซ​ึ่งสา​มารถท​ี​่จะ​เผ​ยแผ่ต่อไป อย​่า​งสะ​ดวก แ​ละมีป​ระ​สิท​ธิภ​าพในก​า​รเรีย​งพิ​มพ์​ในรู​ปแบบ​ต่า​งๆ เพื่อเผยแผ่เป็นธัมมทานด้วย

1​2.

นายสิริ เพ็ชรไชย ป.ธ. 9 ประธานกองทุน​สน​ทนาธัมม์​นำ​สุข​ ท่านผู้หญิง​ม​ .ล​.​มณี​รัตน์​​บุนนาค ใน​พระ​สงั ฆ​ราชูปถัมภ์​ ​ สมเด็จ​พระ​ญาณ​สงั วร​​​สมเด็จ​พระ​สงั ฆราช​สกล​มหา​สังฆ​ปริณายก​ ผู้ดำเนินการโครงการพระไตรปิฎกสากล พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน 5

มีนาคม พ.ศ. 2554


ภิกขุปาติโมกขปาฬิ รวบรวมเนือ้ หาจากพระไตรปิฎก จปร. อักษรสยาม เล่ม 1 และ 2 จากฉบับอนุรกั ษ์ดจิ ทิ ลั ชุด 40 เล่ม พ.ศ. 2554


ถวายพระไตรปิฎก จปร. อักษรสยาม แด่สมเด็จพระสังฆราช พ.ศ. 2552

ประดิษฐานพระไตรปิฎก จปร. อักษรสยาม ณ วัดป่าบ้านตาด พ.ศ. 2554


สน​ทนาธัมม์​นำ​สุข​ จัดทำต้นฉบับโดย ​กองทุนส​ น​ทนาธัมม์น​ ำ​สุข​ท่านผู้หญิง​​ม​.​ล​.​​มณี​รัตน์​บ​ ุนนาค​ ใน​พระ​สังฆ​ราชูปถัมภ์​ สมเด็จ​พระ​ญาณ​สังวร​​สมเด็จ​พระ​สังฆราช​​ สกล​มหา​สังฆ​ปริณายก http://society.worldtipitaka.info worldtipitaka@dhammasociety.org​

กองทุนสยามสามไตร จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 เพื่อเผยแผ่เป็นธัมมทาน​ www.siamsaamtri.ac.th siamsaamtri_fund@hotmail.com ISBN 978-974-496-723-7


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.