tong

Page 1

ความหมายของนว ัตกรรม ้ “นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบต ั ิ หรือสงิ่ ประดิษฐ์ใหม่ ๆ ทีย ่ ังไม่เคยมีใชมาก่ อน ้ ้ผลดียงิ่ ขึน หรือเป็ นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมทีม ่ อ ี ยูแ ่ ล ้ว ให ้ทันสมัยและใชได ้ เมือ ่ ้ ว่ ยให ้การทางานนัน ิ ธิภาพและประสท ิ ธิผลสูงกว่าเดิม นา นวัตกรรมมาใชจะช ้ ได ้ผลดีมป ี ระสท ทัง้ ยังชว่ ย ประหยัดเวลาและแรงงานได ้ด ้วย ั ท์มาจาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทาสงิ่ ใหม่ “นวัตกรรม” (Innovation) มีรากศพ ขึน ้ มา ความหมายของนวัตกรรมในเชงิ เศรษฐศาสตร์คอ ื การนาแนวความคิดใหม่หรือการใช ้ ้ ปแบบใหม่ เพือ ประโยชน์จากสงิ่ ทีม ่ อ ี ยูแ ่ ล ้วมาใชในรู ่ ทาให ้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือ ั การเปลีย ก็คอ ื ”การทาในสงิ่ ทีแ ่ ตกต่างจากคนอืน ่ โดยอาศย ่ นแปลงต่าง ๆ ( Change) ที่ ่ นวความคิดใหม่ เกิดขึน ้ รอบตัวเราให ้กลายมาเป็ นโอกาส (Opportunity) และถ่ายทอดไปสูแ ทีท ่ าให ้เกิดประโยชน์ตอ ่ ตนเองและสงั คม” แนวความคิดนีไ ้ ด ้ถูกพัฒนาขึน ้ มาในชว่ งต ้น ่ ศตวรรษที่ 20 โดยจะเห็นได ้จากแนวคิดของนักเศรษฐอุตสาหกรรม เชน ผลงานของ Joseph Schumpeter ใน The Theory of Economic Development,1934 โดยจะเน ้นไป ่ าร ทีก ่ ารสร ้างสรรค์ การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันจะนาไปสูก ได ้มาซงึ่ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ( Technological Innovation) เพือ ่ ประโยชน์ในเชงิ พาณิชย์เป็ นหลัก นวัตกรรมยังหมายถึงความสามารถในการเรียนรู ้และนาไปปฎิบต ั ใิ ห ้เกิดผล ั รัตน์ , Xaap.com) ได ้จริงอีกด ้วย (พันธุอ ์ าจ ชย ึ ษาของไทย คานี้ เป็ นศพ ั ท์บญ คาว่า “นวัตกรรม” เป็ นคาทีค ่ อ ่ นข ้างจะใหม่ในวงการศก ั ญัต ิ ั ท์วช ึ ษา กระทรวงศก ึ ษาธิการ มาจากภาษาอังกฤษ ของคณะกรรมการพิจารณาศพ ิ าการศก ว่า Innovation มาจากคากริยาว่า innovate แปลว่า ทาใหม่ เปลีย ่ นแปลงให ้เกิดสงิ่ ใหม่ ใน ภาษาไทยเดิมใชค้ าว่า “นวกรรม” ต่อมาพบว่าคานีม ้ ค ี วามหมายคลาดเคลือ ่ น จึงเปลีย ่ นมา ใชค้ าว่า นวัตกรรม (อ่านว่า นะ วัด ตะ กา) หมายถึงการนาสงิ่ ใหม่ๆ เข ้ามาเปลีย ่ นแปลง ้ ้ผลดียงิ่ ขึน เพิม ่ เติมจากวิธก ี ารทีท ่ าอยูเ่ ดิม เพือ ่ ให ้ใชได ้ ดังนัน ้ ไม่วา่ วงการหรือกิจการใด ๆ ก็ ้ อ ตาม เมือ ่ มีการนาเอาความเปลีย ่ นแปลงใหม่ๆ เข ้ามาใชเพื ่ ปรับปรุงงานให ้ดีขน ึ้ กว่าเดิมก็ ่ ในวงการศก ึ ษานาเอามาใช ้ ก็เรียกว่า เรียกได ้ว่าเป็ นนวัตกรรม ของวงการนัน ้ ๆ เชน ึ ษา” (Educational Innovation) สาหรับผู ้ทีก “นวัตกรรมการศก ่ ระทา หรือนาความ เปลีย ่ นแปลงใหม่ ๆ มาใชนี้ ้ เรียกว่าเป็ น “นวัตกร” (Innovator) (boonpan edt01.htm) ทอมัส ฮวิ ช ์ ( Thomas Hughes) ได ้ให ้ความหมายของ “นวัตกรรม” ว่า เป็ นการนาวิธก ี าร ใหม่ ๆ มาปฏิบต ั ห ิ ลังจากได ้ผ่านการทดลองหรือได ้รับการพัฒนามาเป็ นขัน ้ ๆ แล ้ว เริม ่ ตัง้ แต่ การคิดค ้น ( Invention) การพัฒนา ( Development) ซงึ่ อาจจะเป็ นไปในรูปของ โครงการ ทดลองปฏิบต ั ก ิ อ ่ น ( Pilot Project) แล ้วจึงนาไปปฏิบต ั จิ ริง ซงึ่ มีความแตกต่างไปจากการ ปฏิบต ั เิ ดิมทีเ่ คยปฏิบต ั ม ิ า (boonpan edt01.htm) มอร์ตน ั ( Morton,J.A.) ให ้ความหมาย “นวัตกรรม” ว่าเป็ นการทาให ้ใหม่ขน ึ้ อีกครัง้ ั ยภาพของบุคลากร ตลอดจน (Renewal) ซงึ่ หมายถึง การปรับปรุงสงิ่ เก่าและพัฒนาศก ่ หน่วยงาน หรือองค์การนัน ้ ๆ นวัตกรรม ไม่ใชการขจัดหรือล ้มล ้างสงิ่ เก่าให ้หมดไป แต่เป็ น การ ปรับปรุงเสริมแต่งและพัฒนา (boonpan edt01.htm) ไชยยศ เรืองสุวรรณ ( 2521 : 14) ได ้ให ้ความหมาย “นวัตกรรม” ไว ้ว่าหมายถึง วิธก ี าร ปฎิบต ั ใิ หม่ๆ ทีแ ่ ปลกไปจากเดิมโดยอาจจะได ้มาจากการคิดค ้นพบวิธก ี ารใหม่ๆ ขึน ้ มาหรือมี ่ ิ การปรับปรุงของเก่าให ้เหมาะสมและสงทัง้ หลายเหล่านีไ ้ ด ้รับการทดลอง พัฒนาจนเป็ นที่


ื่ ถือได ้แล ้วว่าได ้ผลดีในทางปฎิบต ่ ด เชอ ั ิ ทาให ้ระบบก ้าวไปสูจ ุ หมายปลายทางได ้อย่างมี ิ ธิภาพขึน ประสท ้ ์ ายัณห์ ( 2520 : 37) ได ้กล่าวถึงความหมายของ “นวัตกรรม” ไว ้ว่า “แม ้ใน จรูญ วงศส ภาษาอังกฤษเอง ความหมายก็ตา่ งกันเป็ น 2 ระดับ โดยทัว่ ไป นวัตกรรม หมายถึง ความ พยายามใด ๆ จะเป็ นผลสาเร็จหรือไม่ มากน ้อยเพียงใดก็ตามทีเ่ ป็ นไปเพือ ่ จะนาสงิ่ ใหม่ ๆ ่ ึ เข ้ามาเปลีย ่ นแปลงวิธก ี ารทีท ่ าอยูเ่ ดิมแล ้ว กับอีกระดับหนึง่ ซงวงการวิทยาศาสตร์แห่ง ึ พฤติกรรม ได ้พยายามศกษาถึงทีม ่ า ลักษณะ กรรมวิธ ี และผลกระทบทีม ่ อ ี ยูต ่ อ ่ กลุม ่ คนที่ ้ ้ เกีย ่ วข ้อง คาว่า นวัตกรรม มักจะหมายถึง สงิ่ ทีไ่ ด ้นาความเปลีย ่ นแปลงใหม่เข ้ามาใชได ผลสาเร็จและแผ่กว ้างออกไป จนกลายเป็ นการปฏิบต ั อ ิ ย่างธรรมดาสามัญ (บุญเกือ ้ ควรหา เวช , 2543) นวัตกรรม แบ่งออกเป็ น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 มีการประดิษฐ์คด ิ ค ้น ( Innovation) หรือเป็ นการปรุงแต่งของเก่าให ้เหมาะสมกับ กาลสมัย ระยะที่ 2 พัฒนาการ ( Development) มีการทดลองในแหล่งทดลองจัดทาอยูใ่ นลักษณะ ของโครงการทดลองปฏิบต ั ก ิ อ ่ น( Pilot Project) ระยะที่ 3 การนาเอาไปปฏิบต ั ใิ นสถานการณ์ทวั่ ไป ซงึ่ จัดว่าเป็ นนวัตกรรมขัน ้ สมบูรณ์ ึ ษา i ความหมายของนว ัตกรรมการศก ึ ษา ( Educational Innovation )” หมายถึง นวัตกรรมทีจ “นวัตกรรมการศก ่ ะชว่ ยให ้ ึ ษา และการเรียนการสอนมีประสท ิ ธิภาพดียงิ่ ขึน การศก ้ ผู ้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู ้อย่าง ิ ธิผลสูงกว่าเดิม เกิดแรงจูงใจในการเรียนด ้วยนวัตกรรมการศก ึ ษา และ รวดเร็วมีประสท ้ ตกรรมการศก ึ ษามากมายหลาย ประหยัดเวลาในการเรียนได ้อีกด ้วย ในปั จจุบน ั มีการใชนวั ่ การ อย่าง ซงึ่ มีทงั ้ นวัตกรรมทีใ่ ชกั้ นอย่างแพร่หลายแล ้ว และประเภททีก ่ าลังเผยแพร่ เชน ้ ้ นวิดท เรียนการสอนทีใ่ ชคอมพิ วเตอร์ชว่ ยสอน (Computer Aids Instruction) การใชแผ่ ี ศ ั น์ ื่ หลายมิต ิ ( เชงิ โต ้ตอบ ( Interactive Video) สอ Hypermedia ) และอินเทอร์เน็ ต [Internet] เหล่านี้ เป็ นต ้น (วารสารออนไลน์ บรรณปั ญญา.htm) ึ ษา” (Educational Innovation) หมายถึง การนาเอาสงิ่ ใหม่ซงึ่ “นวัตกรรมทางการศก ้ อาจจะอยูใ่ นรูปของความคิดหรือการกระทา รวมทัง้ สงิ่ ประดิษฐ์ก็ตามเข ้ามาใชในระบบ ึ ษา เพือ ึ ษามี การศก ่ มุง่ หวังทีจ ่ ะเปลีย ่ นแปลงสงิ่ ทีม ่ อ ี ยูเ่ ดิมให ้ระบบการจัดการศก ิ ธิภาพยิง่ ขึน ประสท ้ ทาให ้ผู ้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู ้ได ้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการ ่ การสอนโดยใชคอมพิ ้ เรียน และชว่ ยให ้ประหยัดเวลาในการเรียน เชน วเตอร์ชว่ ยสอน การ ื่ หลายมิต ิ ( Hypermedia) และอินเตอร์เน็ ต ใชวี้ ดท ิ ศ ั น์เชงิ โต ้ตอบ(Interactive Video) สอ เหล่านีเ้ ป็ นต ้น iความหมายของเทคโนโลยี ึ ษาค ้นคว ้า ความเจริญในด ้านต่างๆ ทีป ่ รากฏให ้เห็นอยูใ่ นปั จจุบน ั เป็ นผลมาจากการศก ่ ิ ั ึ ทดลองประดิษฐ์คด ิ ค ้นสงต่างๆ โดยอาศยความรู ้ทางวิทยาศาสตร์ เมือ ่ ศกษาค ้นพบและ ้ ้ ่ ทดลองใชได ้ผลแล ้ว ก็นาออกเผยแพร่ใชในกิจการด ้านต่างๆ สงผลให ้เกิดการเปลีย ่ นแปลง ิ ธิภาพในกิจการต่างๆ เหล่านัน พัฒนาคุณภาพ และประสท ้ และวิชาการทีว่ า่ ด ้วยการนา ้ จการด ้านต่างๆ จึงเรียกกันว่า ความรู ้ทางวิทยาศาสตร์ มาใชในกิ “วิทยาศาสตร์ประยุกต์” หรือนิยมเรียกกันทัว่ ไปว่า “เทคโนโลยี” (boonpan edt01.htm)


้ อ เทคโนโลยี​ี หมายถึงการใชเครื ่ งมือให ้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการแก ้ปั ญหา ผู ้ทีน ่ าเอา เทคโนโลยีมาใช ้ เรียกว่านักเทคโนโลยี (Technologist) (boonpan edt01.htm) ึ ษา (Educational Technology) ตามรูปศพ ั ท์ เทคโน (วิธก เทคโนโลยีทางการศก ี าร) + โล ึ ษา ครอบคลุมระบบการนาวิธก ยี(วิทยา) หมายถึง ศาสตร์ทวี่ า่ ด ้วยวิธก ี ารทางการศก ี าร มา ิ ธิภาพของการศก ึ ษาให ้สูงขึน ึ ษาครอบคลุม ปรับปรุงประสท ้ เทคโนโลยีทางการศก องค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธก ี าร (boonpan edt01.htm) ึ ษานานาชาติได ้ให ้คาจากัดความของ เทคโนโลยีทางการศก ึ ษา สภาเทคโนโลยีทางการศก ้ ว่าเป็ นการพัฒนาและประยุกต์ระบบเทคนิคและอุปกรณ์ ให ้สามารถนามาใชในสถานการณ์ ได ้อย่างเหมาะสม เพือ ่ สร ้างเสริมกระบวนการเรียนรู ้ของคนให ้ดียงิ่ ขึน ้ ( boonpan edt01.htm) ึ ษาว่า เป็ นการขยายขอบข่าย ดร.เปรือ ่ ง กุมท ุ ได ้กล่าวถึงความหมายของเทคโนโลยีการศก ้ ่ ื ของการใชสอการสอน ให ้กว ้างขวางขึน ้ ทัง้ ในด ้านบุคคล วัสดุเครือ ่ งมือ สถานที่ และ กิจกรรมต่างๆในกระบวนการเรียนการสอน (boonpan edt01.htm) ึ ษา ไม่ใชเ่ ครือ Edgar Dale กล่าวว่า เทคโนโลยีทางการศก ่ งมือ แต่เป็ นแผนการหรือวิธก ี าร ทางานอย่างเป็ นระบบ ให ้บรรลุผลตามแผนการ (boonpan edt01.htm) ึ ษา เป็ นการขยายแนวคิดเกีย ึ ษา ให ้ นอกจากนีเ้ ทคโนโลยีทางการศก ่ วกับโสตทัศนศก ึ ษาหมายถึง การศก ึ ษาเกีย ้ กว ้างขวางยิง่ ขึน ้ ทัง้ นี้ เนือ ่ งจากโสตทัศนศก ่ วกับการใชตาดู หฟ ู ัง ้ ั ผัส ด ้านการฟั งและการดูเป็ นหลัก จึงใช ้ ดังนัน ้ อุปกรณ์ในสมัยก่อนมักเน ้นการใชประสาทส ม ึ คาว่าโสตทัศนอุปกรณ์ เทคโนโลยีทางการศกษา มีความหมายทีก ่ ว ้างกว่า ซงึ่ อาจจะ พิจารณาจาก ความคิดรวบยอดของเทคโนโลยีได ้เป็ น 2 ประการ คือ 1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ ตามความคิดรวบยอดนี้ เทคโนโลยีทางการ ึ ษาหมายถึง การประยุกต์วท ่ เครือ ศก ิ ยาศาสตร์กายภาพ ในรูปของสงิ่ ประดิษฐ์ เชน ่ งฉาย ้ อ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ มาใชส้ าหรับการเรียนรู ้ของนักเรียนเป็ นสว่ นใหญ่ การใชเครื ่ งมือ เหล่านี้ มักคานึงถึงเฉพาะการควบคุมให ้เครือ ่ งทางาน มักไม่คานึงถึงจิตวิทยาการเรียนรู ้ ื่ ให ้ตรงกับเนือ โดยเฉพาะเรือ ่ งความแตกต่างระหว่างบุคคล และการเลือกสอ ้ หาวิชา ึ ษา ตามความคิดรวบยอดนี้ ทาให ้บทบาทของ ความหมายของเทคโนโลยีทางการศก ึ ษาแคบลงไป คือมีเพียงวัสดุ และอุปกรณ์เท่านัน เทคโนโลยีทางการศก ้ ไม่รวมวิธก ี าร หรือ ั พันธ์อน ึ ษา” นั่นเอง ปฏิกริ ย ิ าสม ื่ ๆ เข ้าไปด ้วย ซงึ่ ตามความหมายนีก ้ ็คอ ื “โสตทัศนศก 2. ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์ เป็ นการนาวิธก ี ารทางจิตวิทยา มนุษยวิทยา ื่ ความหมาย การบริหาร เครือ ้ กระบวนการกลุม ่ ภาษา การสอ ่ งยนต์กลไก การรับรู ้มาใชควบคู ่ กับผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เพือ ่ ให ้ผู ้เรียน เปลีย ่ นพฤติกรรมการเรียนรู ้อย่าง ิ ่ ้ มีประสทธิภาพยิง่ ขึน ้ มิใชเพียงการใชเครือ ่ งมืออุปกรณ์เท่านัน ้ แต่รวมถึงวิธก ี ารทาง ่ วิทยาศาสตร์เข ้าไปด ้วย มิใชวส ั ดุ หรืออุปกรณ์ แต่เพียงอย่างเดียว ( boonpan edt01.htm) ึ ษา iเป้าหมายของเทคโนโลยีการศก ั ของทรัพยากรของการเรียนรู ้ กล่าวคือ แหล่งทรัพยากรการเรียนรู ้ มิได ้ 1. การขยายพิสย หมายถึงแต่เพียงตารา ครู และอุปกรณ์การสอน ทีโ่ รงเรียนมีอยูเ่ ท่านัน ้ แนวคิดทาง ึ ษา ต ้องการให ้ผู ้เรียนมีโอกาสเรียนจากแหล่งความรู ้ทีก เทคโนโลยีทางการศก ่ ว ้างขวาง ่ ออกไปอีก แหล่งทรัพยากรการเรียนรู ้ครอบคลุมถึงเรือ ่ งต่างๆ เชน ่ ึ 1.1 คน คนเป็ นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู ้ทีส ่ าคัญซงได ้แก่ ครู และวิทยากรอืน ่ ซงึ่ อยูน ่ อก


่ เกษตรกร ตารวจ บุรษ โรงเรียน เชน ุ ไปรษณีย ์ เป็ นต ้น ่ ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ 1.2 วัสดุและเครือ ่ งมือ ได ้แก่ โสตทัศนวัสดุอป ุ กรณ์ตา่ ง ๆ เชน ่ ิ ื่ มวลชนต่างๆ เครือ ่ งวิดโี อเทป ของจริงของจาลองสงพิมพ์ รวมไปถึงการใชส้ อ 1.3 เทคนิค-วิธก ี าร แต่เดิมนัน ้ การเรียนการสอนสว่ นมาก ใชวิ้ ธใี ห ้ครูเป็ นคนบอกเนือ ้ หา แก่ ึ ษาค ้นคว ้าด ้วยตนเองได ้มากทีส ผู ้เรียนปั จจุบน ั นัน ้ เปิ ดโอกาสให ้ผู ้เรียนได ้ศก ่ ด ุ ครูเป็ นเพียง ผู ้วางแผนแนะแนวทางเท่านัน ้ 1.4 สถานที่ อันได ้แก่ โรงเรียน ห ้องปฏิบต ั ก ิ ารทดลอง โรงฝึ กงาน ไร่นา ฟาร์ม ทีท ่ าการ รัฐบาล ภูเขา แม่น้ า ทะเล หรือสถานทีใ่ ด ๆ ทีช ่ ว่ ยเพิม ่ ประสบการณ์ทด ี่ แ ี ก่ผู ้เรียนได ้ ั ้ และกระจัดกระจาย ยากแก่ 2. การเน ้นการเรียนรู ้แบบเอกัตบุคคล ถึงแม ้นักเรียนจะล ้นชน ึ ษาตามความแตกต่างระหว่างบุคคลได ้ นักการศก ึ ษาและนักจิตวิทยาได ้ การจัดการศก ้ สอนนักเรียนที พยายามคิด หาวิธน ี าเอาระบบการเรียนแบบตัวต่อตัวมาใช ้ แต่แทนทีจ ่ ะใชครู ละคน เขาก็คด ิ „แบบเรียนโปรแกรม‟ ซงึ่ ทาหน ้าทีส ่ อน ซงึ่ เหมือนกับครูมาสอน นักเรียนจะ ื่ เรียนด ้วยตนเอง จากแบบเรียนด ้วยตนเองในรูปแบบเรียนเป็ นเล่ม หรือเครือ ่ งสอนหรือสอ ้ อเร็วก็ทาได ้ตามความสามารถของผู ้เรียนแต่ละคน ประสมหลายๆ อย่าง จะเรียนชาหรื ึ ษา การใชวิ้ ธรี ะบบ ในการปฏิบต 3. การใชวิ้ ธวี เิ คราะห์ระบบในการศก ั ห ิ รือแก ้ปั ญหา เป็ น ่ ื ่ วิธก ี ารทีเ่ ป็ นวิทยาศาสตร์ ทีเ่ ชอถือได ้ว่าจะสามารถแก ้ปั ญหา หรือชวยให ้งานบรรลุเป้ าหมาย ได ้ เนือ ่ งจากกระบวนการของวิธรี ะบบ เป็ นการวิเคราะห์องค์ประกอบของงานหรือของระบบ ั พันธ์กน อย่างมีเหตุผล หาทางให ้สว่ นต่าง ๆ ของระบบทางาน ประสานสม ั อย่างมี ิ ธิภาพ ประสท ึ ษา วัสดุและเครือ ้ ึ ษา 4. พัฒนาเครือ ่ งมือ-วัสดุอป ุ กรณ์ทางการศก ่ งมือต่าง ๆ ทีใ่ ชในการศ ก ั ยภาพ หรือขีดความสามารถในการ หรือการเรียนการสอนปั จจุบน ั จะต ้องมีการพัฒนา ให ้มีศก ทางานให ้สูงยิง่ ขึน ้ ไปอีก ึ ษา ้ ฐานของนว ัตกรรมทางการศก iแนวคิดพืน ึ ษา ได ้แก่แนวความคิดพืน ปั จจัยสาคัญทีม ่ อ ี ท ิ ธิพลอย่างมาก ต่อวิธก ี ารศก ้ ฐานทาง ึ ษาทีเ่ ปลีย ึ ษาทีส การศก ่ นแปลงไป อันมีผลทาให ้เกิดนวัตกรรมการศก ่ าคัญๆ พอจะสรุปได ้ 4 ประการ คือ ึ ษาของไทยได ้ให ้ 1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล ( Individual Different) การจัดการศก ั เจนซงึ่ จะเห็นได ้จากแผนการ ความสาคัญในเรือ ่ งความแตกต่างระหว่างบุคคลเอาไว ้อย่างชด ึ ษาของชาติ ให ้มุง่ จัดการศก ึ ษาตามความถนัดความสนใจ และความสามารถ ของแต่ละ ศก ั เจนได ้แก่ การจัดระบบห ้องเรียนโดยใชอายุ ้ เป็ นเกณฑ์ คนเป็ นเกณฑ์ ตัวอย่างทีเ่ ห็นได ้ชด ้ บ ้าง ใชความสามารถเป็ นเกณฑ์บ ้าง นวัตกรรมทีเ่ กิดขึน ้ เพือ ่ สนองแนวความคิดพืน ้ ฐานนี้ ่ เชน ั้ ( การเรียนแบบไม่แบ่งชน Non-Graded School) แบบเรียนสาเร็จรูป ( Programmed Text Book) เครือ ่ งสอน ( Teaching Machine) การสอนเป็ นคณะ ( TeamTeaching) การจัดโรงเรียนในโรงเรียน ( School within School) - เครือ ่ งคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน (Computer Assisted Instruction) ื่ กันว่า เด็กจะเริม 2. ความพร ้อม ( Readiness) เดิมทีเดียวเชอ ่ เรียนได ้ก็ต ้องมีความพร ้อมซงึ่ เป็ นพัฒนาการตามธรรมชาติ แต่ในปั จจุบน ั การวิจัยทางด ้านจิตวิทยาการเรียนรู ้ ชใี้ ห ้เห็นว่า


ความพร ้อมในการเรียนเป็ นสงิ่ ทีส ่ ร ้างขึน ้ ได ้ ถ ้าหากสามารถจัดบทเรียน ให ้พอเหมาะกับ ื่ กันว่ายาก และไม่เหมาะสมสาหรับเด็ก ระดับความสามารถของเด็กแต่ละคน วิชาทีเ่ คยเชอ ึ เล็กก็สามารถนามาให ้ศกษาได ้ นวัตกรรมทีต ่ อบสนองแนวความคิดพืน ้ ฐานนีไ ้ ด ้แก่ ศูนย์การ ่ เรียน การจัดโรงเรียนในโรงเรียน นวัตกรรมทีส ่ นองแนวความคิดพืน ้ ฐานด ้านนี้ เชน ศูนย์การเรียน ( Learning Center) การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School) ั ้ (Instructional Development in 3 Phases) - การปรับปรุงการสอนสามชน ้ ึ ษา แต่เดิมมาการจัดเวลาเพือ 3. การใชเวลาเพื อ ่ การศก ่ การสอน หรือตารางสอนมักจะจัด ั ความสะดวกเป็ นเกณฑ์ เชน ่ ถือหน่วยเวลาเป็ นชวั่ โมง เท่ากันทุกวิชา ทุกวัน โดยอาศย นอกจากนัน ้ ก็ยังจัดเวลาเรียนเอาไว ้แน่นอนเป็ นภาคเรียน เป็ นปี ในปั จจุบน ั ได ้มีความคิดใน ั พันธ์กบ ้ การจัดเป็ นหน่วยเวลาสอนให ้สม ั ลักษณะของแต่ละวิชาซงึ่ จะใชเวลาไม่ เท่ากัน บาง ั ้ ๆ แต่สอนบ่อยครัง้ การเรียนก็ไม่จากัดอยูแ วิชาอาจใชช้ ว่ งสน ่ ต่เฉพาะในโรงเรียนเท่านัน ้ ่ นวัตกรรมทีส ่ นองแนวความคิดพืน ้ ฐานด ้านนี้ เชน การจัดตารางสอนแบบยืดหยุน ่ ( Flexible มหาวิทยาลัยเปิ ด ( Open แบบเรียนสาเร็จรูป ( Programmed - การเรียนทางไปรษณีย ์

Text

Scheduling) University) Book)

ิ ธิภาพในการเรียน การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลีย 4. ประสท ่ นแปลงของสงั คม ทา ึ ษาในปั จจุบน ให ้มีสงิ่ ต่างๆ ทีค ่ นจะต ้องเรียนรู ้เพิม ่ ขึน ้ มาก แต่การจัดระบบการศก ั ยังไม่ม ี ิ ธิภาพเพียงพอจึงจาเป็ นต ้องแสวงหาวิธก ิ ธิภาพสูงขึน ประสท ี ารใหม่ทม ี่ ป ี ระสท ้ ทัง้ ในด ้าน ่ ปั จจัยเกีย ่ วกับตัวผู ้เรียน และปั จจัยภายนอก นวัตกรรมในด ้านนีท ้ เี่ กิดขึน ้ เชน - ชุดการเรียน

การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์ การเรียนทางไปรษณีย ์ แบบเรียนสาเร็จรูป

มหาวิทยาลัยเปิ ด

ึ ษาทีส iนว ัตกรรมทางการศก ่ าค ัญของไทยในปัจจุบ ัน(2546) ี่ วชาญในแต่ละวงการ นวัตกรรม เป็ นความคิดหรือการกระทาใหม่ๆ ซงึ่ นักวิชาการหรือผู ้เชย จะมีการคิดและทาสงิ่ ใหม่อยูเ่ สมอ ดังนัน ้ นวัตกรรมจึงเป็ นสงิ่ ทีเ่ กิดขึน ้ ใหม่ได ้เรือ ่ ยๆ สงิ่ ใดที่ คิดและทามานานแล ้ว ก็ถอ ื ว่าหมดความเป็ นนวัตกรรมไป โดยจะมีสงิ่ ใหม่มาแทน ึ ษาปั จจุบน ึ ษา หรือนวัตกรรมการเรียนการ ในวงการศก ั มีสงิ่ ทีเ่ รียกว่านวัตกรรมทางการศก ้ ิ ปี แล ้ว แต่ก็ สอน อยูเ่ ป็ นจานวนมาก บางอย่างเกิดขึน ้ ใหม่ บางอย่างมีการใชมาหลายส บ ยังคงถือว่าเป็ น นวัตกรรม เนือ ่ งจากนวัตกรรมเหล่านัน ้ ยังไม่แพร่หลายเป็ นทีร่ ู ้จักทัว่ ไป ใน ึ ษา วงการศก ึ ษาต่างๆ ทีก iนวัตกรรมทางการศก ่ ล่าวถึงกันมากในปั จจุบน ั · E-learning ้ ยกเทคโนโลยีการศก ึ ษาแบบใหม่ ทีย ื่ ความหมาย e-Learning เป็ นคาทีใ่ ชเรี ่ ังไม่มช ี อ ั และมีผู ้นิยามความหมายไว ้หลายประการ ผศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัส ภาษาไทยทีแ ่ น่ชด แสง ให ้คานิยาม E-Learning หรือ Electronic Learning ว่า หมายถึง “การเรียนผ่านทาง


ื่ อิเลคทรอนิกสซ ์ งึ่ ใชการ ้ ื่ มัลติมเี ดียได ้แก่ สอ นาเสนอเนือ ้ หาทางคอมพิวเตอร์ในรูปของสอ ข ้อความอิเลคทรอนิกส ์ ภาพนิง่ ภาพกราฟิ ก วิดโี อ ภาพเคลือ ่ นไหว ภาพสามมิตฯิ ลฯ ” ่ ึ เชนเดียวกับ คุณธิดาทิตย์ จันคนา ทีใ่ ห ้ความ หมายของ e-learning ่​่าหมายถึงการศกษา ทีเ่ รียนรู ้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตโดยผู ้เรียนรู ้จะเรียนรู ้ ด ้วยตัวเอง ารเรียนรู ้จะเป็ นไปตาม ปั จจัยภายใต ้ทฤษฎีแห่งการเรียนรู ้สองประการคือ เรียนตามความรู ้ความสามารถของผู ้เรียน ้ เอง และ การตอบสนองใน ความแตกต่างระหว่างบุคคล(เวลาทีแ ่ ต่ละบุคคลใชในการเรี ยนรู ้) ื่ บนเครือข่ายอินเตอร์เนต โดยผู ้สอนจะนาเสนอข ้อมูลความรู ้ให ้ การเรียนจะกระทาผ่านสอ ึ ษาผ่านบริการ World Wide Web หรือเวปไซด์ โดยอาจให ้มีปฏิสม ั พันธ์ ผู ้เรียนได ้ทาการศก (สนทนา โต ้ตอบ สง่ ข่าวสาร) ระหว่างกัน จะทีม ่ ก ี าร เรียนรู ้ ู่่ ้ในสามรูปแบบคือ ผู ้สอนกับ ั พันธ์นี้ ผู ้เรียน ผู ้เรียนกับผู ้เรียนอีกคนหนึง่ หรือผู ้เรียนหนึง่ คนกับกลุม ่ ของผู ้เรียน ปฏิสม สามารถ กระทา ผ่านเครือ ่ งมือสองลักษณะคือ 1) แบบ Real-time ได ้แก่การสนทนาในลักษณะของการพิมพ์ข ้อความแลกเปลีย ่ นข่าวสาร ี ง จากบริการของ Chat room กัน หรือ สง่ ในลักษณะของเสย 2) แบบ Non real-time ได ้แก่การสง่ ข ้อความถึงกันผ่านทางบริการ อิเลคทรอนิคเมลล์ WebBoard News-group เป็ นต ้น ความหมายของ e-Learning ทีม ่ ป ี รากฏอยูใ่ นสว่ นคาถามทีถ ่ ก ู ถามบ่อย (Frequently Asked Question : FAQ) ในเวป www.elearningshowcase.com ให ้นิยามว่า e-Learning มี ึ ษาทีอ ั เทคโนโลยีมา ความหมาย เดียวกับ Technology-based Learning นัน ้ คือการศก ่ าศย เป็ นสว่ นประกอบที่ สาคัญ ความหมายของ e-Learning ครอบคลุมกว ้างรวมไปถึงระบบ ึ ษาทีใ่ ช ้ ่ ้คอมพิวเตอร์เป็ นหลัก โปรแกรม และขบวนการที่ ดาเนินการ ตลอดจนถึงการศก ึ ษาทีอ ั Webเป็ นเครือ ึ ษาจากห ้องเรียนเสมือนจริง และการศก ึ ษา การศก ่ าศย ่ งมือหลักการศก ทีใ่ ช ้ การทางานร่วมกันของอุปกรณ์อเิ ลค ทรอนิค ระบบดิจต ิ อล ความหมายเหล่านีม ้ าจาก ลักษณะของการสง่ เนือ ้ หาของบทเรียนผ่านทาง อุปกรณ ่์อเิ ลคทรอนิค ซงึ่ รวมทัง้ จากใน ั ญาณทีว ี และ ระบบอินเตอร์เนต ระบบเครือข่ายภายใน ( Intranets) การ ถ่ายทอดผ่านสญ ้ ี ึ ษา การใชซดรี อม อย่างไรก็ตาม e-Learning จะมีความหมายในขอบเขต ทีแ ่ คบกว่าการศก ั การสง่ ข ้อความหรือ แบบทางไกล (Long distance learning) ซงึ่ จะรวมการเรียนโดยอาศย ั ้ เรียนจะเกิดขึน เอกสารระหว่างกันและชน ้ ในขณะทีม ่ ก ี ารเขียนข ้อความสง่ ถึงกัน การนิยาม ความหมายแก่ e-learning Technology-based learning และ Web-based Learning ยังมี ความแตกต่างกัน ตามแต่องค์กร บุคคลและกลุม ่ บุคคลแต่ละแห่งจะให ้ความหมาย และคาด ้ กันว่าคา ว่า e-Learning ทีม ่ ก ี ารใชมาตั ง้ แต่ปี คศ. 1998 ในทีส ่ ด ุ ก็จะเปลีย ่ นไปเ ป็ น eLearning เหมือนอย่าง กับทีม ่ เี ปลีย ่ นแปลงคาเรียกของ e-Business เมือ ่ กล่าวถึงการเรียนแบบ Online Learning หรือ Web-based Learning ซงึ่ เป็ นสว่ นหนึง่ ของ Technology-based Learning n่ี่ม ่ ก ี ารเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เนต อินทรา เนต และ เอ็ซทราเนต ( Extranet) พบว่าจะมีระดับ การจัดการทีแ ่ ตกต่างกันออกไป Online Learning ปกติจะ ประกอบด ้วยบทเรียนทีม ่ ข ี ้อความและรูปภาพ แบบฝึ กหัดแบบทดสอบ และบันทึกการเรียน อาทิ คะแนนผลการทดสอบ( test score) และบันทึกความก ้าวหน ้าของ การเรียน(bookmarks) แต่ถ ้าเป็ น Online Learning ทีส ่ งู ขึน ้ อีกระดับหนึง่ โปรแกรมของ ื่ ทีเ่ ป็ นเสย ี ง ภาพจากวิดโี อ กลุม การเรียนจะประกอบด ้วยภาพเคลือ ่ นไหว แบบ จาลอง สอ ่ สนทนาทัง้ ในระดับเดียวกันหรือในระดับผู ้รู ้ ผู ้มีประสบการณ์ ทีป ่ รึกษาแบบออนไลน์


ื่ มโยงไปยังเอกสารอ ้างอิงทีม (Online Mentoring) จุดเชอ ่ อ ี ยู่ ในบริการของเวป และการ ื่ สารกับระบบทีบ สอ ่ น ั ทึกผลการเรียน เป็ นต ้น ึ ษาเรียนรู ้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การเรียนรู ้แบบออนไลน์หรือ e-learning การศก อินเทอร์เน็ ต(Internet) หรืออินทราเน็ ต(Intranet) เป็ นการเรียนรู ้ด ้วยตัวเอง ผู ้เรียนจะได ้ เรียนตาม ความสามารถและความสนใจของตน โดยเนือ ้ หาของบทเรียนซงึ่ ประกอบด ้วย ี ข ้อความ รูปภาพเสยง วิดโี อและมัลติมเี ดียอืน ่ ๆ จะถูกสง่ ไปยังผู ้เรียนผ่าน Web Browser ั ้ เรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลีย โดยผู ้เรียน ผู ้สอน และ เพือ ่ นร่วมชน ่ นความ ่ เดียวกับ การเรียนในชน ั ้ เรียนปกติ โดยอาศย ั เครือ คิดเห็นระหว่างกันได ้เชน ่ งมือการติดต่อ ื่ สารทีท สอ ่ น ั สมัย(e-mail, web-board, chat) จึงเป็ นการเรียนสาหรับทุกคน, เรียนได ้ทุก เวลา และทุกสถานที่ (Learn for all : anyone, anywhere and anytime) ั้ ผู ้ให ้ข ้อมูล : อรรคเดช โสสองชน ทีม ่ า : http://school.obec.go.th/sup_br3/t_1.htm


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.