
3 minute read
Exness vs CoinDCX เทียบกันชัด ๆ โบรกไหนดีกว่ากัน
from Exness
by Exness_Blog
ในโลกของการลงทุนและการเทรดออนไลน์ นักลงทุนชาวไทยมีตัวเลือกมากมายให้เลือกใช้บริการ โดยสองแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ Exness และ CoinDCX ซึ่งทั้งสองมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน Exness เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ส่วน CoinDCX เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำจากอินเดีย บทความนี้จะเปรียบเทียบทั้งสองแพลตฟอร์มในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ, อินเทอร์เฟซผู้ใช้, ค่าธรรมเนียม, สินทรัพย์ที่ให้บริการ, และการสนับสนุนลูกค้า เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ

1. ภาพรวมของ Exness และ CoinDCX
Exness
Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ Forex และ CFD ชั้นนำของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลิมาสโซล ประเทศไซปรัส และได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่มีชื่อเสียง เช่น CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission), FCA (Financial Conduct Authority) และ FSA (Seychelles Financial Services Authority) Exness มีชื่อเสียงในด้านสเปรดต่ำ, การฝาก-ถอนที่รวดเร็ว และเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น รวมถึงเลเวอเรจไม่จำกัดในบางบัญชี ปัจจุบัน Exness มีลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลก และมีปริมาณการซื้อขายต่อเดือนสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2023)
CoinDCX
CoinDCX เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ก่อตั้งในปี 2018 โดยสองผู้ก่อตั้งจาก IIT Bombay ประเทศอินเดีย เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ เช่น Bitcoin, Ethereum, และ altcoins อื่น ๆ อีกกว่า 700 สกุลเงิน CoinDCX ได้รับการยอมรับในฐานะ “ยูนิคอร์นคริปโต” แห่งแรกของอินเดีย และมีจุดเด่นในด้านการให้บริการที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้, การซื้อขายแบบ P2P, และโปรแกรมการลงทุน เช่น การให้กู้ยืม (Lending) และการ staking
2. ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล
Exness
Exness เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ด้วยการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับโลกหลายแห่ง เช่น:
· CySEC (ใบอนุญาตเลขที่ 178/12) สำหรับการดำเนินงานในไซปรัส
· FCA (ใบอนุญาตเลขที่ 730729) สำหรับการดำเนินงานในสหราชอาณาจักร (เฉพาะ B2B)
· FSA (ใบอนุญาตเลขที่ SD025) ในเซเชลส์
นอกจากนี้ Exness ยังเป็นสมาชิกของ Financial Commission ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้า เงินของลูกค้าถูกเก็บในบัญชีแยก (Segregated Accounts) และมีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังว่า Exness ไม่ได้ให้บริการลูกค้ารายย่อยในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรอีกต่อไป เนื่องจากเปลี่ยนไปเน้นที่ B2B
CoinDCX
CoinDCX ดำเนินงานภายใต้กรอบการกำกับดูแลของอินเดีย ซึ่งมีกฎระเบียบที่ค่อนข้างผ่อนคลายเมื่อเทียบกับหน่วยงานระดับโลกอย่าง CySEC หรือ FCA ถึงแม้ว่าจะไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับสากล แต่ CoinDCX มีระบบรักษาความปลอดภัย เช่น การเก็บสกุลเงินดิจิทัลใน Cold Storage และการใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) เพื่อปกป้องบัญชีผู้ใช้ นอกจากนี้ CoinDCX ยังมีกองทุนประกันภัยที่ครอบคลุมความสูญเสียจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดอาจเป็นข้อกังวลสำหรับนักลงทุนบางราย
สรุป: Exness มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าในแง่ของการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับโลก ส่วน CoinDCX เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการซื้อขายคริปโตในกรอบการกำกับดูแลของอินเดีย
3. อินเทอร์เฟซและประสบการณ์ผู้ใช้
Exness
Exness มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ รองรับแพลตฟอร์มการเทรด 4 แบบ ได้แก่:
· MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการ Forex
· Exness Terminal ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบนเว็บที่พัฒนาโดย Exness
· แอปมือถือ Exness ที่ช่วยให้เทรดได้ทุกที่ทุกเวลา
แพลตฟอร์มของ Exness มีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น กราฟราคา, อินดิเคเตอร์, และการแจ้งเตือนราคา อินเทอร์เฟซได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีการสนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบ
CoinDCX
CoinDCX มีแดชบอร์ดที่ทันสมัยและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์ อินเทอร์เฟซของแพลตฟอร์มมีการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ เช่น การแจ้งเตือนราคา, หนังสือคำสั่งซื้อขาย (Order Book), และการวิเคราะห์ข้อมูลตลาด แอปมือถือของ CoinDCX ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้ในอินเดีย โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ซึ่ง 98% ของผู้ใช้ในภูมิภาคนี้รู้จัก CoinDCX และ 60% ใช้แพลตฟอร์มนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้บางส่วนเกี่ยวกับปัญหาการทำงานช้าในช่วงที่มีการซื้อขายหนาแน่น
สรุป: Exness มีอินเทอร์เฟซที่เหมาะสำหรับการเทรด Forex และ CFD ด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ส่วน CoinDCX เหมาะสำหรับการซื้อขายคริปโตด้วยแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย แต่ยังมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพในบางสถานการณ์
4. สินทรัพย์ที่ให้บริการ
Exness
Exness มีสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมถึง:
· Forex: คู่สกุลเงินมากกว่า 100 คู่ รวมถึงคู่หลัก (EUR/USD) และคู่แปลกใหม่
· CFD: หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และพลังงาน
· คริปโตเคอเรนซี่: Bitcoin, Ethereum และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
ความหลากหลายของสินทรัพย์ทำให้ Exness เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุน
CoinDCX
CoinDCX มุ่งเน้นไปที่คริปโตเคอเรนซี่ โดยมีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกมากกว่า 700 สกุล รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Ripple, AAVE, และ NEO รองรับเฉพาะสกุลเงิน fiat เป็นรูปีอินเดียเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การลงทุน เช่น การ staking และการให้กู้ยืม ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบ passive income ได้
สรุป: Exness เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดในหลายประเภทสินทรัพย์ ส่วน CoinDCX เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเฉพาะคริปโตเคอเรนซี่และการลงทุนที่เกี่ยวข้อง

5. ค่าธรรมเนียมและเลเวอเรจ
Exness
Exness มีจุดเด่นในด้านสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Standard ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.2 pips สำหรับบัญชี Standard และ 0.0 pips สำหรับบัญชี Raw Spread (มีค่าคอมมิชชั่น $3.50 ต่อล็อตต่อด้าน) นอกจากนี้ Exness ยังมีเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 หรือไม่จำกัดในบางบัญชี ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับนักเทรดที่มีเงินทุนจำกัด อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจสูงมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น
CoinDCX
CoinDCX มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่แข่งขันได้ โดยคิดค่าธรรมเนียมสูงสุด 0.1% สำหรับ taker และ maker ซึ่งลดลงตามปริมาณการซื้อขาย มีเลเวอเรจสูงสุด 1:6 สำหรับการซื้อขายแบบ spot และ 1:20 สำหรับการซื้อขายแบบ margin นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการลงทุน เช่น การให้กู้ยืมที่ให้ผลตอบแทน 1-10% ต่อปี
สรุป: Exness มีสเปรดและเลเวอเรจที่เหมาะสำหรับการเทรด Forex และ CFD ส่วน CoinDCX มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำและตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายสำหรับคริปโต
6. การฝากและถอนเงิน
Exness
Exness มีช่องทางการฝาก-ถอนที่หลากหลาย รวมถึง Thai QR Payment, Internet Banking (ธนาคารกรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย), Neteller, Skrill, และคริปโตเคอเรนซี่ การฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ $10 และการถอนเงินใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย การถอนเงินจำนวนมากอาจต้องระวังเรื่องการตรวจสอบจากธนาคาร เนื่องจาก Exness อยู่ในรายชื่อเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก RBI
CoinDCX
CoinDCX รองรับการฝาก-ถอนผ่านรูปีอินเดียและคริปโตเคอเรนซี่ การถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารในอินเดียอาจมีข้อจำกัดด้านวงเงิน และต้องยื่นข้อมูล KYC เพื่อการถอนเงินจำนวนมาก การถอนเงินผ่าน CoinDCX ถือว่าปลอดภัยและเป็นวิธีที่แนะนำสำหรับนักเทรดในอินเดียเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการอายัดบัญชี
สรุป: Exness มีตัวเลือกการฝาก-ถอนที่หลากหลายและรวดเร็วกว่าในประเทศไทย ส่วน CoinDCX เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้คริปโตและอยู่ในระบบการเงินของอินเดีย
7. การสนับสนุนลูกค้า
Exness
Exness มีทีมสนับสนุนลูกค้าตลอด 24/7 รองรับ 15 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ผ่านช่องทางแชทสด, อีเมล, และโทรศัพท์ การตอบกลับรวดเร็วและมีศูนย์ช่วยเหลือที่ครอบคลุม
CoinDCX
CoinDCX มีทีมสนับสนุนที่ตอบสนองดี โดยเฉพาะในอินเดีย มีการให้คำแนะนำผ่านบทความและวิดีโอใน “CoinDCX Academy” ซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจการซื้อขายคริปโตได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนอาจช้าในช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
สรุป: Exness มีการสนับสนุนที่ครอบคลุมและรวดเร็วกว่า ส่วน CoinDCX มีทรัพยากรการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมแต่การตอบกลับอาจล่าช้าในบางครั้ง
8. ข้อดีและข้อเสีย
Exness
ข้อดี:
· สเปรดต่ำและเลเวอเรจสูง
· การฝาก-ถอนรวดเร็ว รองรับช่องทางที่หลากหลาย
· ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ
· รองรับภาษาไทยและแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
ข้อเสีย:
· การศึกษาและทรัพยากรสำหรับผู้เริ่มต้นมีจำกัด
· อาจมีความเสี่ยงด้านกฎหมายในบางประเทศ เช่น อินเดีย
CoinDCX
ข้อดี:
· รองรับคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 700 สกุล
· มีตัวเลือกการลงทุน เช่น Staking และ Lending
· อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและมีทรัพยากรการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย:
· การกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดเทียบเท่ากับ Exness
· รองรับเฉพาะรูปีอินเดียเป็นสกุลเงิน fiat
· อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพในช่วงที่มีการซื้อขายหนาแน่น
9. สรุป: Exness หรือ CoinDCX เหมาะกับคุณ?
การเลือกแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนของคุณ:
· เลือก Exness หากคุณต้องการเทรด Forex, CFD, หรือสินทรัพย์ที่หลากหลาย ด้วยสเปรดต่ำ, เลเวอเรจสูง, และการกำกับดูแลที่เข้มงวด เหมาะสำหรับนักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพที่ต้องการความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือ
· เลือก CoinDCX หากคุณสนใจการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่เป็นหลัก โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลายและตัวเลือกการลงทุนแบบ passive income
ทั้งสองแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และการตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคลของคุณ หากคุณเป็นนักลงทุนในประเทศไทย Exness อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าด้วยการสนับสนุนภาษาไทยและการฝาก-ถอนที่สะดวก ส่วน CoinDCX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเจาะลึกในโลกคริปโต
อ่านเพิ่มเติม: