
3 minute read
10 โบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำที่สุด ในปี 2025
from Exness
by Exness_Blog
ยังคงเป็นหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยความผันผวนของค่าเงินและโอกาสในการทำกำไรที่สูง การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มี สเปรดต่ำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ โดยเฉพาะเทรดเดอร์ชาวไทยที่มองหาความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 10 โบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำที่สุดในปี 2025 โดยมี Exness ครองตำแหน่งอันดับ 1 พร้อมเจาะลึกข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับคุณ

ทำไมสเปรดต่ำถึงสำคัญในการเทรด Forex?
ก่อนที่เราจะไปดูรายชื่อโบรกเกอร์ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า สเปรด (Spread) คืออะไร และทำไมมันถึงมีความสำคัญ ค่าสเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคา Bid (ราคาขาย) และ Ask (ราคาซื้อ) ซึ่งเป็นต้นทุนหลักที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์เมื่อเปิดออร์เดอร์ ยิ่งสเปรดต่ำ ต้นทุนการเทรดก็ยิ่งน้อยลง ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการเทรดระยะสั้น (Scalping) หรือการเทรดทองคำ (XAUUSD) ที่ต้องการความรวดเร็วและต้นทุนต่ำ
นอกจากนี้ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ, การกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ, ความเร็วในการฝาก-ถอนเงิน, และแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย ดังนั้น มาดูกันว่าโบรกเกอร์ใดบ้างที่ติดอันดับในปี 2025!
10 อันดับโบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำที่สุดในปี 2025
1. Exness – โบรกเกอร์สเปรดต่ำอันดับ 1 ที่ครองใจเทรดเดอร์ชาวไทย
Exness เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยค่าสเปรดที่ต่ำมากและการให้บริการที่ยอดเยี่ยม Exness ครองอันดับ 1 ในด้านโบรกเกอร์สเปรดต่ำในปี 2025 อย่างไม่ต้องสงสัย
จุดเด่นของ Exness:
· สเปรดต่ำมาก: บัญชี Raw Spread มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips และบัญชี Standard มีสเปรดเฉลี่ยเพียง 0.3–0.6 pips สำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD และ 0.0–0.2 pips สำหรับทองคำ (XAU/USD)
· เลเวอเรจไม่จำกัด: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มโอกาสทำกำไรด้วยเงินทุนน้อย (แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง)
· การฝาก-ถอนรวดเร็ว: รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย เช่น Thai QR Payment และ Internet Banking ใช้เวลาเพียง 3-5 นาที
· ความน่าเชื่อถือสูง: ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA, CySEC, และ FSA Seychelles (หมายเลขใบอนุญาต SD025)
· แพลตฟอร์มหลากหลาย: รองรับ MT4, MT5 และ Exness Trade (แอปเทรดของตัวเอง) ซึ่งใช้งานง่ายและเหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

เหมาะกับใคร?Exness เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ที่เน้นเทรดคู่เงินหลักและทองคำ ด้วยสเปรดที่ต่ำและการฝาก-ถอนที่รวดเร็ว ทำให้ Exness เป็นตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย
ข้อเสีย:
· ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากนักเมื่อเทียบกับบางโบรกเกอร์
· ค่า Swap สำหรับการถือออร์เดอร์ Buy ทองคำค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับการเทรดระยะยาว
2. IUX Markets
IUX Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในประเทศไทย ด้วยสเปรดที่ต่ำและการฝาก-ถอนที่สะดวกรวดเร็ว
จุดเด่น:
· สเปรดทองคำ (XAUUSD) ต่ำเพียง 1.5 pips ในบัญชี Standard โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน
· เงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 USD และถอนขั้นต่ำเพียง 3 USD
· รองรับ MT5 และแอป IUX Web Trade
· ได้รับใบอนุญาตจาก FSC Mauritius และ FSCA
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่เน้นเทรดทองคำและต้องการโบรกเกอร์ที่มีเงินฝากขั้นต่ำน้อย
3. IC Markets
IC Markets เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดต่ำและการเทรดแบบ ECN
จุดเด่น:
· สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ในบัญชี Raw Spread แต่มีค่าคอมมิชชัน $3–$7 ต่อล็อต
· รองรับแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ cTrader
· ได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC, CySEC และ SCB
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่เน้นการเทรดแบบ Day Trade หรือ Scalping และยอมรับค่าคอมมิชชันเพื่อแลกกับสเปรดที่ต่ำ
4. Pepperstone
Pepperstone เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่ได้รับการยกย่องในด้านสเปรดต่ำและความน่าเชื่อถือ
จุดเด่น:
· สเปรดต่ำสุด 0.0 pips ในบัญชี ECN และ 0.6 pips ในบัญชี Standard
· รองรับการเทรดทองคำด้วยสเปรดต่ำ
· ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA, ASIC และ CySEC
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีความเสถียรสูงและไม่มีปัญหา Re-Quote
5. Eightcap
Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในด้านสเปรดต่ำและการเทรดที่หลากหลาย
จุดเด่น:
· สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ในบัญชี Raw และ 1.0 pips ในบัญชี Standard
· รองรับการเทรดคริปโตและสินค้าโภคภัณฑ์
· ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ SCB
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่ต้องการความหลากหลายของสินทรัพย์และสเปรดที่แข่งขันได้
6. XM
XM เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลมากมายและมีชื่อเสียงในด้านโบนัสและโปรโมชั่น
จุดเด่น:
· สเปรดเฉลี่ย 0.6–1.0 pips ในบัญชี Standard
· มีโบนัสเงินฝากและโบนัสเทรดฟรี $30 สำหรับผู้ใช้ใหม่
· รองรับ MT4 และ MT5
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการโบนัสเพื่อเพิ่มเงินทุน
7. FBS
FBS เป็นโบรกเกอร์ที่เน้นการให้บริการเทรดเดอร์ในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย
จุดเด่น:
· สเปรดต่ำในบัญชี Zero Spread (เริ่มต้น 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชัน)
· เงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 USD
· มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจ
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนจำกัดและต้องการโบรกเกอร์ที่มีสเปรดต่ำ
8. Tickmill
Tickmill เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับในด้านสเปรดต่ำและการเทรดฟิวเจอร์ส
จุดเด่น:
· สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ในบัญชี Pro
· มีแพลตฟอร์มโซเชียลเทรด
· ได้รับการกำกับดูแลจาก DFSA และ FCA
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ EA (Expert Advisors) และการเทรดอัตโนมัติ
9. AvaTrade
AvaTrade เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย
จุดเด่น:
· สเปรดเฉลี่ย 0.9 pips สำหรับคู่เงินหลัก
· มีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่ทันสมัย
· ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ FSC
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและสเปรดที่สมเหตุสมผล
10. HFM (HotForex)
HFM เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท
จุดเด่น:
· สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips ในบัญชี Zero
· รองรับสินทรัพย์มากกว่า 3,500 รายการ
· ได้รับการกำกับดูแลจาก CySEC และ FCA
เหมาะกับใคร?เทรดเดอร์ที่ต้องการความหลากหลายของสินทรัพย์และสเปรดที่แข่งขันได้
วิธีเลือกโบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำในปี 2025
การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมไม่ควรพิจารณาแค่สเปรดเพียงอย่างเดียว ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ควรคำนึงถึง:
· ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแล: เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA, CySEC, ASIC หรือ FSA Seychelles เพื่อความปลอดภัยของเงินทุน
· ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชัน: เปรียบเทียบสเปรดของคู่เงินหรือสินทรัพย์ที่คุณเทรดบ่อย เช่น EUR/USD หรือ XAUUSD รวมถึงตรวจสอบว่ามีค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมหรือไม่
· ความเร็วในการฝาก-ถอน: โบรกเกอร์ที่ดีควรมีระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วและรองรับช่องทางที่สะดวกสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย เช่น Thai QR Payment
· แพลตฟอร์มการเทรด: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์รองรับแพลตฟอร์มที่คุณถนัด เช่น MT4, MT5 หรือแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเอง
· การสนับสนุนลูกค้า: เลือกโบรกเกอร์ที่มีทีมสนับสนุนภาษาไทย เพื่อความสะดวกในการแก้ไขปัญหา
· เลเวอเรจและเงื่อนไขการเทรด: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีเลเวอเรจที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
· โบนัสและโปรโมชั่น: หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่เน้นโบนัส ควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีข้อเสนอที่น่าสนใจหรือไม่
ทำไม Exness ถึงเป็นอันดับ 1?
Exness ไม่เพียงแต่มีสเปรดที่ต่ำที่สุดในตลาด แต่ยังมีจุดเด่นในด้านอื่น ๆ ที่ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย:
· ประสบการณ์ยาวนาน: ดำเนินงานมากว่า 15 ปี มีผู้ใช้งานกว่า 700,000 บัญชี และปริมาณการซื้อขายต่อเดือนสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
· ความเร็วในการดำเนินการ: การฝาก-ถอนเงินที่รวดเร็วภายใน 3-5 นาที และการส่งคำสั่งซื้อขายที่เสถียร
· ความหลากหลายของบัญชี: มีบัญชีให้เลือกหลากหลาย เช่น Standard, Pro, Raw Spread และ Zero ซึ่งตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
· การสนับสนุนภาษาไทย: มีทีมงานซัพพอร์ตภาษาไทยที่พร้อมช่วยเหลือตลอด 24/5
เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดกับโบรกเกอร์สเปรดต่ำ
· ใช้บัญชีทดลอง (Demo Account): ทดลองเทรดกับโบรกเกอร์ที่คุณสนใจเพื่อเปรียบเทียบสเปรดและเงื่อนไขการเทรด
· เลือกบัญชีที่เหมาะสม: หากคุณเป็นเทรดเดอร์ระยะสั้น ควรเลือกบัญชี Raw Spread หรือ Zero Spread เพื่อลดต้นทุน
· บริหารความเสี่ยง: ถึงแม้สเปรดจะต่ำ แต่การใช้เลเวอเรจสูงอาจนำไปสู่ความสูญเสียได้ ดังนั้นควรมีแผนการจัดการความเสี่ยง
· ติดตามข่าวสารตลาด: ความผันผวนของตลาดอาจส่งผลต่อสเปรด ดังนั้นควรติดตามข่าวสารเพื่อวางแผนการเทรด
· เปรียบเทียบสเปรดตามสินทรัพย์: สเปรดของแต่ละโบรกเกอร์อาจแตกต่างกันไปตามคู่เงินหรือสินทรัพย์ เช่น ทองคำหรือคริปโต
สรุป
ในปี 2025 Exness ยังคงครองตำแหน่งโบรกเกอร์ Forex สเปรดต่ำอันดับ 1 ด้วยสเปรดที่ต่ำมาก, การฝาก-ถอนที่รวดเร็ว, และความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตามมาด้วยโบรกเกอร์อื่น ๆ เช่น IUX Markets, IC Markets, Pepperstone และ Eightcap ซึ่งล้วนมีจุดเด่นในด้านสเปรดต่ำและเงื่อนไขการเทรดที่แข่งขันได้
การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความต้องการของคุณ หากคุณเน้นสเปรดต่ำและการฝาก-ถอนที่สะดวก Exness คือตัวเลือกที่ยากจะปฏิเสธ แต่หากคุณต้องการโบนัสหรือความหลากหลายของสินทรัพย์ โบรกเกอร์อย่าง XM หรือ FBS ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
อย่าลืมทดลองใช้บัญชีทดลองและเปรียบเทียบเงื่อนไขของโบรกเกอร์แต่ละรายก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์ที่เลือกจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการเทรดในปี 2025 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
อ่านเพิ่มเติม: