กระตุนความสนใจ
สํารวจคนหา
Engage
Explore
อธิบายความรู อธิบExplain ายความรู
ขยายความเขาใจ
ตรวจสอบผล
Explain
Expand
Evaluate
อธิบายความรู ของดนตรีจะมีควำมส�ำคัญต่อกำรบวงสรวงเทพเจ้ำ โดยชำวอินเดียมีควำมเชื่อว่ำเสียงสำมำรถใช้ สือ่ สำรกับเทพเจ้ำได้ ขณะเดียวกันดนตรียงั มีอทิ ธิพลต่อวิถชี วี ติ ของผูค้ น ทัง้ ใช้บรรเลงในงำนพิธกี ำร ทำงสังคม และใช้สร้ำงควำมรื่นเริงในลักษณะต่ำงๆ พัฒนำกำรของดนตรีอินเดีย นอกจำกควำมศรัทธำต่อเทพเจ้ำแล้ว ดนตรีอินเดียยังได้รับกำร สนับสนุนจำกพระมหำกษัตริย์ มีนักปรำชญ์และศิลปินจ�ำนวนมำก โดยช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ ๒ ท่ำนภรตมุนีได้ประพันธ์คัมภีร์นำฏยศำสตร์ว่ำด้วยต�ำรำร�ำละคร จ�ำนวน ๓๖ บท โดยมีเรื่องรำว ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ๖ บท ซึ่งกล่ำวถึงกำรจ�ำแนกกลุ่มเครื่องดนตรีไว้ ๔ กลุ่ม และกล่ำวถึงเรื่อง ลักษณะของเพลง ๒ ประเภท คือ เพลงประเภทคำนธรวะ ซึ่งเป็นบรรดำเพลงที่เทพเจ้ำมอบให้แก่ มวลมนุษย์ และเพลงประเภทคำนะ เป็นเพลงที่มนุษยโลกได้สร้ำงสรรค์ขึ้นเอง รูปแบบของดนตรีอินเดีย นอกจำกจะพัฒนำในวงวัฒนธรรมของตนแล้ว ยังรับเอำวัฒนธรรม อิสลำมและตะวันตกเข้ำมำผสมผสำน ท�ำให้ดนตรีและเพลงของอินเดียมีควำมหลำกหลำย 1 เครือ่ งดนตรีของอินเดีย นอกจำกมีใช้ในอินเดียแล้ว บำงชนิดก็แพร่กระจำยไปยังเนปำล พม่ำ ไทย กัมพูชำ ลำว ตัวอย่ำงเครื่องดนตรีอินเดียที่ควรรู้จัก เช่น ตานปุระ เป็นเครือ่ งดนตรีทมี่ บี ทบำทในกำรสร้ำงเสียงเครือ ทีเ่ รียกกันว่ำ “เสียงดรอน” (Drone) เสียงของตำนปุระจะช่วยให้นักดนตรีคนอื่นๆ ที่ร่วมบรรเลงทรำบต�ำแหน่งจังหวะของเพลง ศิลปิน อินเดียมีควำมเชื่อว่ำ เสียงของตำนปุระจะช่วยสื่อสำรระหว่ำงมนุษย์กับพระเจ้ำ ซารังกี เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่อง สำยที่ใช้กำรสี มีสะพำนหรือหย่องเป็นต�ำแหน่ง ให้ศิลปินใช้วำงนิ้วกดสำย นิยมน�ำมำใช้บรรเลง ประกอบกำรขับร้อง ซีตาร์ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสำย ใช้ดีด แต่เดิมซีตำร์มีสำยจ�ำนวน ๓ สำย ต่อมำ ได้พฒ ั นำให้มจี ำ� นวนสำยเพิม่ เป็น ๒๐ สำย ส่วน กำรจัดเรียงสำยมีทั้งด้ำนบนและด้ำนล่ำงของ ตัวเครื่องดนตรี เชห์ไน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่ำ ที่ได้รบั อิทธิพลจำกอำหรับ มีลกั ษณะเป็นปีล่ นิ้ คู่ ล�ำโพงท�ำด้วยโลหะ มีรูเปิด-ปิดนิ้ว เพื่อเปลี่ยน ซีตาร์ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายใช้ดีดของ ระดับเสียงไปตำมท�ำนองเพลง อินเดีย 9
กิจกรรมสรางเสริม ใหนักเรียนรวบรวมภาพเครื่องดนตรีอินเดีย มาจัดทําเปนสมุดภาพ พรอมเขียนอธิบายลักษณะของเครื่องดนตรี ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน
กิจกรรมทาทาย ใหนักเรียนทําตารางวิเคราะหเปรียบเทียบลักษณะของเครื่องดนตรี อินเดียกับเครื่องดนตรีของไทย โดยจําแนกประเภท คือ เครื่องดีด เครื่องสี เครื่องตี และเครื่องเปา วามีลักษณะคลายคลึงกันหรือไม อยางไร พรอมหาภาพมาประกอบเปรียบเทียบใหเห็นอยางชัดเจน ลงกระดาษรายงาน ตกแตงใหสวยงาม นําสงครูผูสอน
Explain
ใหนกั เรียนกลุม ที่ 1 ทีไ่ ดศกึ ษา คนควา หาความรู เพิ่มเติมเกี่ยวกับดนตรีในวัฒนธรรมตางประเทศ สงตัวแทน 2 - 3 คน ออกมาอธิบายความรูในหัวขอ ดนตรีในวัฒนธรรมอินเดีย ตามที่ไดศึกษามา หนาชั้นเรียน จากนั้นครูถามนักเรียนวา • ดนตรีของอินเดียมีลักษณะที่แตกตาง จากดนตรีชาติอื่นๆ อยางไร (แนวตอบ ดนตรีจะแบงออกไดเปน 2 ฝาย คือ ดนตรีประจําชาติฝายฮินดู และฝายมุสลิม อิทธิพลของดนตรีมุสลิมจะอยูทางตอนใต ของประเทศ อิทธิพลของดนตรีฮนิ ดูจะอยูท าง ตอนเหนือของประเทศ วัฒนธรรมทางดนตรี อินเดียจะแบงแยกกันอยางชัดเจนไมวา จะเปนการเรียกชื่อเครื่องดนตรี ประเภท ของเครื่องดนตรี แตมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ก็คือ ชาวอินเดียจะใชเสียงดนตรีเปนสื่อ ติดตอกับพระเจา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเอง เคารพนับถืออยู) • อิทธิพลของดนตรีในวัฒนธรรมอินเดีย ที่มีผลตอวัฒนธรรมไทยอยางไร (แนวตอบ ประเทศไทยไดรับแนวคิด และแนว ปฏิบตั ดิ า นศาสนาและวัฒนธรรมของอินเดีย มาเปนรากฐานของวัฒนธรรมไทย ทําใหเกิด การผสมผสานระหวางแนวคิด ความเชื่อ ดั้งเดิมกับศาสนาพราหมณ - ฮินดู และพระพุทธศาสนา ดังจะเห็นไดจาก ดนตรีไทยมีระบบความเชื่อเรื่องเทพเจา แหงดนตรีของอินเดีย) • เพราะเหตุใดอินเดียจึงไดรับการขนาน นามวา “จาวแหงจังหวะ” (แนวตอบ เพราะเสียงที่เกิดขึ้นจากจังหวะ ของกลองอินเดีย ไดทําหนาที่เพิ่มสีสัน เพลงอินเดียใหเราใจนาฟงยิง่ ขึน้ กลองทีน่ ยิ ม ใชในการแสดงดนตรีมีอยู 3 ชนิด คือ มริทังค ปกชวัช และตับบลา)
นักเรียนควรรู 1 เครื่องดนตรีของอินเดีย แบงออกเปน 4 กลุม คือ 1. ตะตะ (Ta ta) คือ เครื่องดนตรีที่ผลิตเสียงโดยอาศัยสายเปนสําคัญ เครื่องดนตรีในตระกูลนี้แบงได 2 ประเภท คือ เครื่องสายประเภทไมใชทํานอง และเครื่องสายประเภทใชทํานอง 2. อวนัทธะ (Avanaddha) คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องหนัง คือ กลองทุกประเภท จะเกิดเสียงเมื่อถูกตี หรือเคาะ 3. สุษิระ (Susira) คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเปา แบงออกเปน 3 ประเภท คือ ประเภทปที่มีลิ้น ประเภทขลุย และประเภทแตร 4. ฆะนะ (Ghana) คือ เครื่องดนตรีที่เกิดเสียงจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ เชน ฉิ่ง ฉาบ กรับ เปนตน
คูมือครู
9