
2 minute read
ประเภทบัญชีของ Exness ต่างกันยังไง?
from Exness
by Exness Blog
หากคุณสงสัยว่า “ประเภทบัญชีของ Exness ต่างกันยังไง?” คำตอบคือ บัญชีแต่ละแบบใน Exness ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเทรดที่มีความต้องการต่างกัน ทั้งในแง่ของประสบการณ์ เงินทุน กลยุทธ์การเทรด และความยืดหยุ่นในการจัดการต้นทุน ซึ่ง Exness มีบัญชีให้เลือกหลายแบบ ทั้งบัญชีมาตรฐาน (Standard) และบัญชีมืออาชีพ (Professional) โดยแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อจำกัดเฉพาะตัวที่ควรเข้าใจก่อนเปิดใช้งานจริง

เริ่มต้นด้วยบัญชี Standard: เหมาะกับมือใหม่
บัญชี Standard ถือเป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเทรดมือใหม่ เนื่องจากใช้งานง่าย ไม่มีความซับซ้อน จุดเด่นหลักของบัญชีนี้คือ:
· ฝากเงินเริ่มต้นขั้นต่ำเพียงไม่กี่บาท
· ค่าสเปรดต่ำพอประมาณ และไม่มีค่าคอมมิชชัน
· เหมาะสำหรับการฝึกฝนเทรดระยะสั้น – กลาง
Exness ยังมีบัญชี Standard Cent ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่มากยิ่งขึ้น เพราะใช้เงินทุนที่ต่ำกว่าแต่จำลองการเทรดได้เสมือนบัญชีจริง ช่วยให้คุณเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริงจำนวนมาก
บัญชี Raw Spread: ค่าสเปรดต่ำแทบเป็นศูนย์
บัญชีนี้ออกแบบมาสำหรับนักเทรดที่เน้นการเข้าออกออเดอร์ไว เช่น สาย Scalping หรือ News Trader เพราะมีจุดเด่นคือ:
· ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip
· มีค่าคอมมิชชันต่อการเปิด-ปิดออเดอร์
· ความโปร่งใสสูง เห็นต้นทุนชัดเจน
ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการเห็นความเคลื่อนไหวของตลาดแบบ Real-time และต้องการจัดการต้นทุนการเทรดให้แม่นยำ บัญชี Raw Spread จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
บัญชี Zero: เหมาะกับการเทรดข่าวและกลยุทธ์แม่นยำ
บัญชี Zero จาก Exness เป็นอีกหนึ่งบัญชีมืออาชีพที่น่าสนใจ โดยมีคุณสมบัติคล้าย Raw Spread แต่มีจุดเด่นที่ต่างกันชัดเจนคือ:
· สเปรด 0.0 pip สำหรับสินทรัพย์หลักถึง 95% ของวันเทรด
· ค่าคอมมิชชันอาจสูงกว่า Raw Spread เล็กน้อย แต่แลกกับสเปรดที่นิ่งกว่า
· เหมาะกับการเทรดข่าว หรือกลยุทธ์ที่ต้องใช้ราคาเปิด-ปิดแบบแม่นยำมาก
หากคุณเทรดในช่วงข่าวแรง เช่น FOMC, Non-Farm, หรือประกาศ GDP บัญชี Zero จะช่วยลดต้นทุนการเทรดในสถานการณ์ที่ความผันผวนสูง
บัญชี Pro: ไม่มีคอมมิชชัน เหมาะกับเทรดเดอร์มืออาชีพ
บัญชี Pro ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์เทรดสูง และต้องการความยืดหยุ่นรวมถึงต้นทุนต่ำแบบรวมทุกอย่างแล้ว:
· ไม่มีค่าคอมมิชชันเลย
· สเปรดต่ำ เริ่มต้นตั้งแต่ 0.1 pip
· เปิดออเดอร์ได้รวดเร็ว ไม่มีรีโควต
· รองรับกลยุทธ์ทุกประเภท รวมถึง Expert Advisor (EA)
บัญชี Pro เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทั้งความคล่องตัว ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง และความแม่นยำในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค

คำแนะนำในการเลือกบัญชี Exness ให้เหมาะกับตัวเอง
การเลือกประเภทบัญชีควรขึ้นอยู่กับระดับความสามารถของคุณ งบประมาณ และเป้าหมายการเทรด หากคุณยังไม่แน่ใจ ให้ใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆ ดังนี้:
· มือใหม่ → เริ่มที่ Standard หรือ Standard Cent
· สาย Scalping หรือเทรดเร็ว → Raw Spread หรือ Zero
· เทรดข่าว/กลยุทธ์ที่ต้องแม่นยำ → Zero
· เทรดเดอร์ชำนาญ/มีทุนเยอะ → Pro
อย่าลืมว่า ทุกบัญชีสามารถทดลองในบัญชี Demo ได้ก่อน เพื่อดูว่าสไตล์ของคุณเข้ากับบัญชีแบบไหนที่สุด ซึ่งเป็นวิธีลดความเสี่ยงได้ดีมากสำหรับผู้เริ่มต้น
จุดแข็งของ Exness ที่ทำให้บัญชีทุกแบบใช้งานได้อย่างมั่นใจ
ไม่ว่าจะเลือกบัญชีไหน สิ่งที่คุณจะได้รับเหมือนกันจาก Exness คือ:
· การดำเนินคำสั่งรวดเร็วแบบ Market Execution
· เลเวอเรจแบบไม่จำกัด (สำหรับบางประเทศ)
· การถอนเงินแบบอัตโนมัติ 24/7 ภายในไม่กี่วินาที
· ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากถอน
· ระบบ Copy Trading สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจเทรดเอง
ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้การเทรดในทุกประเภทบัญชีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อทุนของคุณมากที่สุด
สรุป: ประเภทบัญชี Exness ต่างกันยังไง?
สรุปให้ชัดที่สุด บัญชี Exness แบ่งได้ 2 กลุ่มหลักคือ:
· บัญชีมาตรฐาน (Standard, Standard Cent) → เหมาะกับมือใหม่ เทรดง่าย ไม่ซับซ้อน
· บัญชีมืออาชีพ (Raw Spread, Zero, Pro) → เหมาะกับผู้มีประสบการณ์ ต้องการต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง
แต่ละบัญชีมีเป้าหมายผู้ใช้ชัดเจน หากคุณเลือกบัญชีได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร ลดความผิดพลาด และวางแผนการเทรดได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
อย่าลืมว่า “ไม่มีบัญชีไหนดีที่สุด มีแต่บัญชีที่เหมาะสมกับคุณที่สุด” ลองทดลองบัญชีดูสักแบบ แล้วค่อยขยับสู่บัญชีมืออาชีพในจังหวะที่คุณพร้อม เท่านี้คุณก็สามารถใช้แพลตฟอร์ม Exness ได้อย่างเต็มศักยภาพแล้ว
อ่านเพิ่มเติม: