บัญชี Raw Spread กับ Zero: เลือกแบบไหนคุ้มที่สุดสำหรับคุณ

หากคุณกำลังจะเริ่มเทรด Forex และพบคำว่า "บัญชี Raw Spread" กับ "บัญชี Zero" แล้วเกิดความสงสัยว่าสองแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกบัญชีไหนให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของตัวเอง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจอย่างชัดเจนตั้งแต่บรรทัดแรก

✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Zero ตอนนี้! 👈

เข้าเรื่องเลย: Raw Spread คืออะไร? Zero คืออะไร?

บัญชี Raw Spread คือบัญชีที่มีค่าสเปรดต่ำมากหรือแทบไม่มีเลย (เริ่มต้นที่ 0.0 pip) แต่จะคิดค่าคอมมิชชั่นแยกในแต่ละการเปิด/ปิดออเดอร์ นั่นหมายความว่าคุณจะจ่ายค่าเทรดในรูปแบบค่าคอม

บัญชี Zero ก็เริ่มต้นที่ 0.0 pip เช่นกัน แต่จุดเด่นคือสามารถเลือกสินทรัพย์บางคู่ที่ไม่มีค่าสเปรดเลยแม้แต่ pip เดียวในบางช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม บัญชี Zero มักจะมีค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรดที่ "สูงกว่า" Raw Spread เล็กน้อย

ทั้งสองบัญชีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์ที่ต้องการความแม่นยำในราคาซื้อขายและการประหยัดต้นทุนการเข้าออเดอร์

สรุปความต่างหลัก ๆ แบบเข้าใจง่าย

1. ค่าสเปรด:

   • Raw Spread = ค่าสเปรดต่ำมาก แต่ไม่ใช่ทุกคู่จะ 0 pip ตลอดเวลา

   • Zero = ค่าสเปรด "0 pip" จริง ๆ บางคู่/บางช่วงเวลา

2. ค่าคอมมิชชั่น:

   • Raw Spread = ค่าคอมถูกกว่า

   • Zero = ค่าคอมแพงกว่าเล็กน้อย

3. กลุ่มเป้าหมาย:

   • Raw Spread เหมาะกับเทรดเดอร์ทั่วไปที่ต้องการสเปรดต่ำและค่าคอมไม่สูง

   • Zero เหมาะกับเทรดเดอร์สายสั้นหรือ Scalper ที่ต้องการราคาคงที่ชัดเจน

4. ความโปร่งใสของราคา:

   • ทั้งคู่ใช้ราคาจากตลาดจริง (ECN หรือ STP) และไม่ผ่านการปรับแต่งจากโบรกเกอร์

ทำไมต้องมีบัญชีหลายแบบ?

เหตุผลที่โบรกเกอร์เสนอหลายประเภทบัญชีก็เพื่อให้ตอบโจทย์ "รูปแบบการเทรด" ที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละเทรดเดอร์มีเป้าหมาย ระยะเวลาในการถือออเดอร์ และงบประมาณต่างกัน เช่น

• สาย Scalping: ต้องการราคาที่เร็วและค่าสเปรดต่ำที่สุด เพื่อเข้าออกในไม่กี่วินาที

• สาย Day Trading: ต้องการราคาดีและค่าธรรมเนียมคงที่เพื่อวางแผนเทรดในแต่ละวัน

• สาย Swing/Position: ไม่เน้นค่าสเปรดมากนัก แต่สนใจเรื่อง Swap และค่าธรรมเนียมรวม

ดังนั้น การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมจึงเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จในตลาด Forex

✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Zero ตอนนี้! 👈

เจาะลึก: ข้อดี-ข้อเสียของบัญชี Raw Spread

ข้อดี

• ค่าสเปรดต่ำตลอดเวลา โดยเฉพาะคู่เงินหลัก

• ค่าคอมมิชชั่นคงที่และมักถูกกว่าบัญชี Zero

• โปร่งใส ชัดเจนเรื่องต้นทุนการเทรด

ข้อเสีย

• ต้องระวังช่วงข่าวแรง เพราะสเปรดอาจกระโดด

• ยังมีสเปรดบ้างในบางคู่เงิน โดยเฉพาะคู่ที่ไม่ค่อยนิยม

เจาะลึก: ข้อดี-ข้อเสียของบัญชี Zero

ข้อดี

• สเปรด 0 pip จริงในหลายคู่ เช่น EURUSD หรือ XAUUSD

• เหมาะกับเทรดระยะสั้นหรือ Scalping

• ลดความคลาดเคลื่อนของราคาเวลาเข้าออเดอร์

ข้อเสีย

• ค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าบัญชี Raw Spread

• มีจำนวนคู่ที่ใช้สเปรด 0 pip จริงไม่มากนัก

• ต้องเช็กว่า "สเปรด 0" มีเฉพาะช่วงเวลาไหนบ้าง ไม่ใช่ตลอดวัน

แล้วแบบไหนเหมาะกับคุณ?

1. ถ้าคุณเป็นมือใหม่

บัญชี Raw Spread อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกว่า เพราะคุณจะได้เรียนรู้การจัดการค่าสเปรดและค่าคอมอย่างคุ้มค่า ไม่ต้องเคร่งกับการดูว่า "ตอนนี้สเปรด 0 จริงไหม" เหมือนบัญชี Zero

2. ถ้าคุณเทรดระยะสั้น

บัญชี Zero จะให้ความแม่นยำของราคาในระดับ pip-to-pip ทำให้คุณได้ราคาที่ดีที่สุดเวลาเข้าออกเร็ว ๆ และสามารถวางกลยุทธ์ Scalping ได้อย่างมั่นใจ

3. ถ้าคุณเทรดระยะยาว

บัญชี Raw Spread หรือบัญชี Standard ก็อาจจะเพียงพอแล้ว เพราะคุณไม่ได้กังวลกับการเข้าออเดอร์แม่นยำระดับ 0.1 pip เท่ากับ Scalper

เลือกโบรกเกอร์ยังไงให้ปลอดภัย?

ไม่ว่าจะเลือกบัญชีไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตจากองค์กรกำกับระดับโลก เช่น CySEC, FCA, ASIC และมีระบบฝากถอนเงินที่โปร่งใส ไม่บิดเบือนราคา

คุณควรทดลองเปิดบัญชีเดโมทั้ง Raw Spread และ Zero เพื่อลองสัมผัสการเทรดจริงว่าแบบไหนถนัดกว่ากัน และค่าธรรมเนียมเหมาะกับแผนของคุณหรือไม่

สรุปสุดท้าย: Raw Spread หรือ Zero ดีกว่ากัน?

ไม่มีบัญชีไหน “ดีกว่า” โดยเด็ดขาด ขึ้นอยู่กับ "คุณเป็นใคร" และ "เทรดแบบไหน"

• ถ้าคุณต้องการต้นทุนการเข้าเทรดที่โปร่งใส สเปรดต่ำ ค่าคอมไม่แพงเกินไป → เลือก Raw Spread

• ถ้าคุณต้องการเข้าเทรดที่ความแม่นยำสูงสุด ราคาตรงเป๊ะ ๆ โดยไม่สนค่าคอมที่สูงกว่านิดหน่อย → เลือก Zero

การเลือกบัญชีที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น วางแผนเทรดได้แม่นยำ และลดโอกาสขาดทุนจากปัจจัยที่ไม่เกี่ยวกับกลยุทธ์ของคุณ

บทความนี้เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกระดับ ที่ต้องการความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับบัญชี Raw Spread และ Zero ไม่ใช่แค่รู้พื้นผิว แต่เข้าใจโครงสร้างและการใช้งานจริงเพื่อไปสู่การเทรดอย่างมืออาชีพ

หากคุณกำลังเลือกโบรกเกอร์ Forex หรือกำลังวางแผนกลยุทธ์การเทรดในระยะยาว อย่าลืมกลับมาอ่านบทความนี้อีกครั้งก่อนตัดสินใจ

 ✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

💥 เปิดบัญชี Exness Zero ตอนนี้! 👈