
2 minute read
Exness กับ XM เลือกโบรกเกอร์ไหนดี? คำตอบชัดเจนในบทความนี้
from Exness
by Exness Blog
หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่หรือแม้แต่มืออาชีพที่กำลังลังเลระหว่าง “Exness กับ XM” ว่าควรเลือกโบรกเกอร์ไหนดี บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด โดยเราจะพาคุณเจาะลึกจุดแข็ง จุดอ่อน และความแตกต่างที่แท้จริงของทั้งสองโบรกเกอร์ พร้อมแนะนำแนวทางเลือกที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเทรดของคุณโดยตรง

เริ่มต้นให้ชัด: เลือก Exness หรือ XM ดีกว่ากัน?
หากคุณต้องการความเร็วในการฝากถอน ค่าสเปรดต่ำ และ Leverage ไม่จำกัด – Exness คือคำตอบที่เหนือกว่า
แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับโบนัส โปรโมชั่น และความมั่นคงระดับสากล – XM คือตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ
ดังนั้น คำตอบขึ้นอยู่กับ “สไตล์การเทรด” และ “เป้าหมายของคุณ” ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงของโบรกเกอร์เท่านั้น
ทำไม Exness จึงเป็นโบรกที่หลายคนเลือก?
1. Leverage ไม่จำกัด (Unlimited Leverage)
จุดขายใหญ่ของ Exness คือ Leverage ไม่จำกัดสำหรับบัญชี Standard และ Pro ทำให้คุณสามารถเปิดออร์เดอร์ขนาดใหญ่ได้โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อย เหมาะกับนักเทรดสาย Scalping และผู้มีทุนจำกัด
2. ฝากถอนรวดเร็วแบบอัตโนมัติ 24/7
ระบบฝากถอนของ Exness เป็นจุดแข็งอันดับหนึ่ง ใช้เวลาภายในไม่กี่วินาที โดยเฉพาะผ่านธนาคารไทยหรือ True Wallet ไม่มีค่าธรรมเนียม เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการบริหารเงินทุนแบบทันที
3. ค่าสเปรดต่ำมาก
โดยเฉพาะในบัญชี Raw Spread และ Zero ซึ่งเหมาะกับการเทรดระยะสั้นหรือเทคนิค Scalping ที่ต้องการต้นทุนการเปิดออร์เดอร์ต่ำที่สุด
4. รองรับบัญชีเงินบาท (THB Account)
ลดปัญหาความผันผวนของค่าเงินและไม่ต้องแปลงสกุล ทำให้การจัดการพอร์ตง่ายขึ้นสำหรับคนไทย
5. เทรดผ่าน MT4/MT5 ได้ทั้งมือถือและเดสก์ท็อป
ใช้งานง่าย รองรับระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) และอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ แบบครบถ้วน
แล้ว XM ดีกว่าในด้านใด?
1. โบนัสฝากเงินและโปรโมชั่นเยอะมาก
XM ขึ้นชื่อว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ “สายล่าโบนัส” ชื่นชอบ เพราะมีทั้งโบนัสต้อนรับ $30, โบนัสเงินฝากสูงสุด $5000 และโปรแกรม Loyalty Reward ที่สามารถเปลี่ยนคะแนนเป็นเงินสด
2. ใบอนุญาตและความปลอดภัยระดับสากล
XM ได้รับใบอนุญาตจากหลายประเทศ เช่น CySEC (ยุโรป), ASIC (ออสเตรเลีย), FSA (ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นการรับประกันด้านความโปร่งใสและความมั่นคงทางการเงิน
3. เหมาะสำหรับสายเทรดยาว (Swing/Position)
ค่าสวอปไม่สูง และมีบัญชีแบบ Swap Free ให้เลือก เหมาะกับคนที่ถือออร์เดอร์ข้ามคืนหรือเทรดแบบระยะกลางถึงยาว
จัดสัมมนาและอบรมบ่อยครั้งในไทยเหมาะกับมือใหม่ที่อยากเรียนรู้การเทรดจากโค้ชมืออาชีพโดยไม่ต้องเริ่มต้นลำพัง

เปรียบเทียบประสบการณ์การใช้งานจริง
หลายคนที่เคยใช้ Exness มักจะประทับใจกับความเร็วและความยืดหยุ่นของระบบการเงิน การเปิดบัญชีรวดเร็ว ไม่ต้องรออนุมัติหลายวัน ระบบหลังบ้านใช้งานง่ายมาก ทั้งผ่านแอปและเว็บไซต์ รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
ส่วนผู้ใช้ XM มักจะชื่นชมเรื่องการซัพพอร์ตที่มีความเป็นมืออาชีพ การตอบคำถามทางแชตที่รวดเร็ว การให้คำปรึกษาอย่างละเอียด เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการคำแนะนำในทุกขั้นตอน
แล้วควรเลือกยังไงดี?
ถ้าคุณเป็นนักเทรดที่ชอบความคล่องตัว ใช้ทุนต่ำ และเน้น Scalping หรือเทรดเร็ว – Exness จะตอบโจทย์มากกว่าแน่นอน
แต่ถ้าคุณเน้นความมั่นคงในระยะยาว อยากได้โบนัสเยอะ มีระบบดูแลนักเทรดมือใหม่ – XM คือตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
สรุปสุดท้าย: ใช้ Exness หรือ XM ก็ไม่ผิด ถ้าเลือกให้เหมาะกับตนเอง
ไม่ว่า Exness หรือ XM จะเป็นโบรกเกอร์ที่คุณเลือก สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจเป้าหมายและวิธีเทรดของตนเองก่อน จากนั้นจึงเลือกโบรกที่รองรับสไตล์นั้นได้ดีที่สุด เช่น:
· เทรดรายวัน → Exness
· เทรดตามข่าว → XM
· เทรดอัตโนมัติ (EA) → Exness
· เทรดถือยาวพร้อมสะสมโบนัส → XM
แนะนำ: หากยังลังเล ลองเปิดบัญชีทดลองกับทั้งสองโบรกเกอร์เพื่อเปรียบเทียบจากประสบการณ์จริงของคุณเองก่อน แล้วจึงค่อยตัดสินใจเปิดบัญชีเงินจริงอย่างมั่นใจ
ข้อคิดจากมือโปร
การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีเป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” เท่านั้น ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ “วินัย” “กลยุทธ์” และ “การบริหารความเสี่ยง” ของคุณเองต่างหาก ดังนั้น เมื่อเลือกโบรกได้แล้ว อย่าลืมฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย
อ่านเพิ่มเติม: