บัญชี Raw Spread คือ? เจาะลึกแบบชัดเจนสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมือโปร

บัญชี Raw Spread คือประเภทบัญชีที่ออกแบบมาเพื่อลดต้นทุนการเทรดให้เหลือน้อยที่สุด โดยการเสนอราคา Spread ที่ “แทบจะเป็นศูนย์” หรือที่เรียกว่า “Spread ดิบ” ซึ่งเท่ากับราคาที่โบรกเกอร์ได้รับจากตลาดโดยตรงแบบไม่บวกเพิ่ม เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความโปร่งใส ความเร็ว และความแม่นยำในการเข้าซื้อขายอย่างมืออาชีพ

✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

จุดเด่นของบัญชี Raw Spread อยู่ที่ Spread ต่ำมาก

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนการเทรดทุกจุด pip การเลือกบัญชี Raw Spread คือคำตอบที่ชัดเจน เพราะ Spread ที่แสดงบนบัญชีนี้คือราคาจริงจากผู้ให้สภาพคล่อง (liquidity providers) โดยไม่มีการ markup เพิ่มจากทางโบรกเกอร์ กล่าวคือ คุณสามารถเริ่มเทรดได้จาก Spread ต่ำสุดที่ 0.0 pip ในคู่สกุลเงินหลัก ๆ อย่าง EUR/USD, GBP/USD หรือ XAU/USD

ในขณะที่บัญชีประเภทอื่นอาจมี Spread เฉลี่ยอยู่ที่ 1 – 2 pip แต่บัญชี Raw Spread ช่วยลดต้นทุนตรงนี้เหลือเพียงศูนย์ และโบรกเกอร์จะเก็บค่าคอมมิชชันแยกแทน ซึ่งหลายคนมองว่าคุ้มค่าและคำนวณได้ง่ายกว่าการเสีย Spread แฝง

ค่าคอมมิชชันของบัญชี Raw Spread คือเรื่องที่ต้องเข้าใจ

แม้บัญชี Raw Spread จะมี Spread ต่ำมากจนแทบไม่มี แต่โบรกเกอร์ไม่ได้ให้บริการฟรี โบรกเกอร์จะเก็บค่าคอมมิชชันแยกต่างหากจากการเปิดและปิดออเดอร์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ดอลลาร์ต่อฝั่ง (เปิด 3.5 ดอลลาร์ ปิด 3.5 ดอลลาร์) รวมเป็น 7 ดอลลาร์ต่อ 1 ล็อตมาตรฐาน

สิ่งนี้หมายความว่า หากคุณเทรดด้วยล็อตเล็ก ค่าคอมมิชชันจะลดลงตามสัดส่วน และหากคุณเทรดล็อตใหญ่ ก็จะมีต้นทุนตามขนาดที่ชัดเจน จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่คำนวณต้นทุนล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ

บัญชี Raw Spread เหมาะกับใคร?

บัญชีประเภทนี้เหมาะที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ประเภทต่อไปนี้:

1.      Scalper และ Day Trader – ผู้ที่เปิดออเดอร์บ่อยและต้องการเข้าออกตลาดรวดเร็ว เพราะ Spread ต่ำช่วยให้ทำกำไรได้เร็วกว่าโดยไม่ต้องรอให้ราคา “วิ่งผ่าน Spread”

2.      เทรดเดอร์สายข่าว (News Trader) – ผู้ที่เทรดในช่วงตลาดผันผวนสูง การมี Spread ต่ำช่วยลดความเสี่ยงจาก Slippage และราคาที่ไถลในจังหวะข่าวแรง ๆ

3.      เทรดเดอร์ที่มีระบบเทรดอัตโนมัติ (EA) – เพราะระบบอัตโนมัติสามารถส่งคำสั่งแบบแม่นยำและมีความถี่สูง การใช้บัญชี Spread ต่ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์

4.      เทรดเดอร์มืออาชีพหรือกองทุน – ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดจากต้นทุน และต้องการความโปร่งใสในค่าธรรมเนียมแบบชัดเจน

ความแตกต่างจากบัญชีประเภทอื่น

บัญชี Raw Spread มักถูกเปรียบเทียบกับบัญชี Standard หรือบัญชี Zero ซึ่งแม้จะดูคล้ายกันตรงที่อาจมี Spread ต่ำหรือไม่มี Spread เลย แต่รายละเอียดภายในต่างกันชัดเจน

·         บัญชี Standard ไม่เก็บค่าคอมมิชชัน แต่มี Spread ที่ถูก markup เพิ่มไว้แล้ว ซึ่งทำให้ต้นทุนจริงอาจสูงกว่าที่เห็น

·         บัญชี Zero บางโบรกเกอร์อาจให้ Spread เป็นศูนย์เฉพาะบางคู่เงินในบางช่วงเวลา และค่าคอมมิชชันอาจแตกต่างกันมาก

ในขณะที่บัญชี Raw Spread แสดงราคาตลาดแบบตรงไปตรงมา และมีค่าคอมมิชชันชัดเจน ไม่แฝง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรู้ต้นทุนแท้จริงของแต่ละการเทรด

✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

ข้อดีของบัญชี Raw Spread ที่หลายคนมองข้าม

นอกจากเรื่องต้นทุนที่ชัดเจนแล้ว บัญชี Raw Spread ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีก เช่น:

·         ความโปร่งใสสูง – ไม่มีการปรับราคา Spread แอบแฝง ทำให้คุณสามารถวางแผนการเข้าออกออเดอร์ได้ตรงจุด

·         ประสิทธิภาพในการเทรดช่วงตลาดเร็ว – เช่นช่วงเปิดตลาดนิวยอร์กหรือออกข่าวสำคัญ

·         เสถียรภาพในการส่งคำสั่ง – โบรกเกอร์ที่ให้บัญชี Raw Spread มักเชื่อมต่อกับ liquidity provider โดยตรง ทำให้ส่งคำสั่งเร็วและแม่นยำ

ต้องระวังอะไรในการเลือกใช้บัญชี Raw Spread

แม้ว่าจะดูเหมือนมีข้อดีเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีข้อควรระวัง:

1.      คอมมิชชันอาจสูงเกินไปหากคุณเทรดบ่อยด้วยล็อตเล็ก – เพราะต้นทุนอาจไม่คุ้มกับกำไรที่ได้ในแต่ละออเดอร์

2.      เหมาะกับคนที่วางแผนชัดเจน – ถ้าคุณยังไม่มีระบบเทรดที่แน่น การเลือกบัญชีนี้อาจทำให้คุณเสียต้นทุนค่าคอมมิชชันโดยไม่จำเป็น

3.      อาจไม่เหมาะกับมือใหม่ 100% – หากยังไม่เข้าใจการคำนวณต้นทุนในแต่ละออเดอร์ บัญชี Standard ที่ไม่มีค่าคอมมิชชันอาจเหมาะกว่าในช่วงเริ่มต้น

บัญชี Raw Spread กับโบรกเกอร์ Exness

หากพูดถึงโบรกเกอร์ที่ให้บริการบัญชี Raw Spread อย่างมีคุณภาพ Exness ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ โดยบัญชี Raw Spread ของ Exness มีจุดเด่นหลายด้าน เช่น:

·         Spread เริ่มต้นที่ 0.0 pip

·         ค่าคอมมิชชันเพียง 3.5 ดอลลาร์ต่อฝั่ง

·         ความเร็วในการส่งคำสั่งสูง

·         ไม่มี requote หรือรีโควตคำสั่งแม้ในช่วงข่าวแรง

·         สามารถใช้ได้ทั้ง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

·         ใช้ได้กับ EA และเทรดแมนนวลได้อย่างอิสระ

ด้วยระบบการจัดการความเสี่ยงของ Exness และสภาพคล่องที่มั่นคง การเลือกบัญชี Raw Spread กับ Exness คือการเพิ่มศักยภาพการเทรดให้ก้าวขึ้นสู่ระดับมืออาชีพ

สรุป: บัญชี Raw Spread คือทางเลือกของคนจริงจังในการเทรด

ถ้าคุณคือเทรดเดอร์ที่ต้องการควบคุมต้นทุนให้ได้มากที่สุด มีระบบหรือกลยุทธ์ที่แม่นยำ และเข้าใจโครงสร้างของตลาด Forex บัญชี Raw Spread คือประเภทบัญชีที่เหมาะสมที่สุด เพราะให้คุณเข้าถึงราคาตลาดที่แท้จริง มีต้นทุนโปร่งใส และช่วยให้ทุก pip ของกำไรมีความหมายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บัญชีประเภทใด ควรขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ และความเข้าใจในความเสี่ยงทั้งหมด อย่าลืมทดลองบัญชีเดโม หรือเริ่มต้นด้วยทุนจำนวนน้อยเพื่อเรียนรู้ก่อนเสมอ เพราะในโลกของการเทรด ความเข้าใจที่ลึกซึ้งคืออาวุธที่ดีที่สุดในการอยู่รอดและเติบโต

 ✅ เปิดบัญชี Exness Raw Spread ตอนนี้! 👈

อ่านเพิ่มเติม:

บัญชี Raw Spread Exness ดีไหม?