Disruptive Trends 2019

การประชุมวิชาการและนำ�เสนอผลงานวิจัย และผลงานสร้างสรรค์ระดับชาติ ประจำ�ปี 2562

งานวิจัยและงานสร้างสรรค์รับใช้สังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

การประชุมวิชาการและนำ�เสนอผลงานวิจัย และผลงานสร้างสรรค์ระดับชาติ ประจำ�ปี 2562

งานวิจัยและงานสร้างสรรค์รับใช้สังคม 12-13 กันยายน 2562 ณ อาคารอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ จัดโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ร่วมกับเครือข่าย มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหามงกุฎราชวิทยาลัย

สารอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ยุทธศาสตร์ใหม่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตามพระบรมราโชบายระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) มหาวิทยาลัย ราชภัฏธนบุรีเพื่อให้บรรลุตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ผลงานการวิจัยและ งานสร้างสรรค์จึงมีความสำ�คัญต่อการชี้วัดการพัฒนาทางวิชาการ เพื่อสังคมชุมชนและท้องถิ่น แต่การจะนำ�ผลงานเหล่านั้นมาเป็นตัวชี้วัด ด้านการพัฒนาบุคคลากร การประกันคุณภาพ การพัฒนาหลักสูตรได้ นั้นจะต้องผ่านกระบวนการนำ�เสนอที่เป็นที่ยอมรับ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ธนบุรีจึงร่วมกับเครือข่ายจัดงานการประชุมวิชาการนำ�เสนอผลงานวิจัย และงานสร้างสรรค์ระดับชาติขึ้น โดยมุ่งหวังจะเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาวิชาการ งานวิจัยและงานสร้างสรรค์เชื่อมโยงสู่การพัฒนา ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ขอชืน ่ ชมยินดีกบ ั ผูส ้ ง่ งานสร้างสรรค์ทก ุ ท่าน ขอขอบคุณมหาวิทยาลัย และองค์กรในเครือข่าย ที่ร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่ดีนี้ ตลอดจนขอ ขอบคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงานที่ร่วมแรงร่วมใจ ทำ�ให้การประชุมวิชาการ ครั้งนี้สำ�เร็จด้วยดี

( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง ) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

สารรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีได้ร่วมกับเครือข่ายจัดงานประชุมวิชาการ นำ�เสนอผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ระดับชาติในชื่อ “งานวิจัยและงาน สร้างสรรค์รบ ั ใช้สงั คม” มาระยะหนึง่ นัน ้ ในปีนเ้ี ป็นโอกาสทีด ่ ไี ด้มก ี ารขยาย ไปสู่งานสร้างสรรค์เชิงวิชาการซึ่งเป็นงานอีกประเด็นหนึ่งที่จะรับใช้ สังคม ชุมชน ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยในปีนี้จะเริ่มจากงานทัศนศิลป์ และงานออกแบบ ด้วยความมุ่งหมายว่า บุคลากรของสถาบันเครือข่าย ซึ่งมีผลงาน สร้างสรรค์ทั้งในด้านทัศนศิลป์และงานออกแบบ ได้มีโอกาสนำ�เสนอ ผลงานระดับชาติและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้าน แนวความคิด เทคนิควิธีการสร้างสรรค์และการนำ�ไปใช้ทั้งด้านคุณค่า ทางความงาม และคุณค่าทางด้านการใช้สอย นอกจากนั้นยังได้จัดแสดง นิทรรศการเพื่อเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชนอีกด้วย ขอขอบคุณทุกสถาบัน ทุกหน่วยงานและบุคลากรทุกท่าน ที่ช่วย ดำ�เนินการให้งานนี้สำ�เร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และขอชื่นชม ผู้สร้างสรรค์งานทุกท่านที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้

( ดร.พรศิริ กองนวล ) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

สารผู้อำ�นวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี การจัดประชุมวิชาการและนำ�เสนอผลงานวิจย ั ระดับชาติ ปี พ.ศ. 2562 เรื่อง งานวิจัยและงานสร้างสรรค์รับใช้สังคม ซึ่งในภาคเช้ากำ�หนดให้มี การเสวนาวิชาการเรื่อง การก้าวล้ำ�ของงานวิจัยและงานสร้างสรรค์เพื่อ รับใช้สังคม (Disruptive Trends in Research and Creativity for Social Engagement) อีกทั้งในภาคบ่ายมีการนำ�เสนอผลงาน วิจัยและงานสร้างสรรค์กลุ่มย่อย ซึ่งผลงานที่ส่งเข้าร่วมนำ�เสนอใน ครั้งนี้นับเป็นผลงานที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อการรับใช้สังคม โดยผ่านการ พิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ดำ�รงตำ�แหน่ง วิชาการระดับ ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ เป็นผูพ ้ จิ ารณาให้เข้าร่วม นำ�เสนอผลงานในที่ประชุมดังกล่าวนี้ โอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะทำ�งาน กลุ่มงานสร้างสรรค์รับใช้สังคม ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ท้าทาย เป็นคณะ ทำ�งานดำ�เนินการจัดประชุมในครั้งนี้ ขอขอบคุณผู้ส่งผลงานสร้างสรรค์ รับใช้สังคมที่ส่งผลงานเข้าร่วมนำ�เสนอในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลงานที่มีความ น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการรับใช้สังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องมือ ในการพัฒนาสังคมชุมชนที่สำ�คัญ ทั้งนี้กลุ่มผู้สนใจนำ�ผลงานวิจัยและ งานสร้างสรรค์เพื่อรับใช้สังคม เป็นหน้าที่สำ�คัญยิ่งที่จะนำ�ผลงานไปใช้ เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาสังคม ขอขอบคุณผู้สนใจเข้าร่วมประชุมวิชาการในครั้งนี้ที่ได้นำ�ผลงานวิจัย แนวคิดจากงานสร้างสรรค์ไปใช้ประโยชน์ คณะผู้จัดได้จัดทำ�เอกสาร อิเล็กทรอนิคส์ เพื่ออำ�นวยความสะดวกต่อการนำ�ไปใช้ประโยชน์ หวังเป็นอย่างยิ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดเชิงวิชาการต่ออาจารย์ นักวิจัย และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนในชุมชน สังคม ตามลำ�ดับ

( นายวีรชัย คำ�ธร ) ผู้อำ�นวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

สารคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นที่ทราบกันทั่วไปในปัจจุบันว่าโลกของเรากำ�ลังมีการเปลี่ยนแปลง ขนานใหญ่ เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผัน (Disruption Era) เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ การจัดประชุมวิชาการและการนำ�เสนอผลงานวิจัยระดับชาติ พ.ศ.

2562 เรื่องงานวิจัยและงานสร้างสรรค์รับใช้สังคม ได้มีการเสวนา วิชาการ ในหัวข้อ “Disruptive Trends in Research and Creativity for Social Engagement” เพื่อนำ�เสนอมุมมองด้าน วิชาการ ที่ความก้าวล้ำ�ของงานวิจัยและงานสร้างสรรค์สามารถนำ�ไปใช้ ประโยชน์ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันจัดประชุม ในครั้งนี้ และขอบคุณผู้นำ�เสนองานวิจัยและงานสร้างสรรค์ทุกท่าน ที่ได้นำ�ผลงานมานำ�เสนอเพื่อต่อยอดนำ�ผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ และนำ�ไปใช้พัฒนารับใช้สังคมต่อไป

( ผศ.ดร.ธญวรรณ ก๋าคำ� ) คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณา บทสังเคราะห์งานสร้างสรรค์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณรสลิน กาสต์ ศาสตราจารย์ว่าที่ร้อยโท ดร.พิชัย สดภิบาล รองศาสตราจารย์พีระพงษ์ กุลพิศาล รองศาสตราจารย์ประภากร สุคนธมณี รองศาสตราจารย์ ดร.สาธิต ทิมวัฒนบรรเทิง รองศาสตราจารย์ สน สีมาตรัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญเรือง สมประจบ อาจารย์ไพโรจน์ ธีระประภา

ผลงานสร้างสรรค์ และการออกแบบ

16

จารุวรรณ นครจารุพงศ์ Charuwan Nakhoncharupong n.charuwan@hotmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

17

การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสื่อประสม : i - อุ่น Mixed Media Art Creation: i-Un บทคัดย่อ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสื่อประสม : i – อุ่น สะท้อนมุมมองความรู้สึกภายในที่ ต้องการแสดงออกผ่านผลงานสร้างสรรค์ เป็นการแสดง (การได้รับ) ความรักความอบอุ่น จากแม่ ด้วยเล็งเห็นถึงความสำ�คัญของสถาบันครอบครัว สถาบันแรกของชีวิต ที่ต้อง บรรจงบ่มเพาะชีวิต (เพื่อสร้างประโยชน์) สู่สังคม งานสร้างสรรค์นี้จึงสะท้อนความรักผ่าน การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสื่อประสม โดยใช้คำ�ว่า “i – อุ่น” ซึ่งพ้องเสียงกับคำ�ว่า “ไออุ่น” เป็นการตั้งใจเล่นคำ�เพื่อสื่อความหมายแทนเรื่องราวที่ต้องการถ่ายทอด แสดงออกถึง ความรัก ความอบอุ่นจากแม่สู่ลูก “แม่” ผู้ให้ชีวิต ความอบอุ่น ความรัก รวมทั้งเลี้ยงดูหนึ่ง ชีวิตให้เติบโตและออกเดินทางสู่โลกกว้างอย่างมั่นคง เพื่อเป็นคนดีของสังคมต่อไป ก่อเกิด เป็นเรื่องราวการเดินทางใหม่บนโลกใบนี้ “i – อุ่น” หรือ “ไออุ่น” จึงให้ความหมาย 2 ประการ ความหมายประการแรกคือ พลังความรัก ความอบอุ่นจากแม่สู่ลูก และความหมายประการ ที่สองซึ่งแฝงผ่านการใช้ภาษา คือ i ในภาษาอังกฤษ หมายถึง ตัวฉัน ฉะนั้น “i – อุ่น” จึง หมายถึง “ตัวฉัน” ซึ่งได้รับพลังความรัก ความอบอุ่นจากแม่นั่นเอง การถ่ายทอดความ รักความอบอุ่นนี้ ผ่านงานสร้างสรรค์ ซึ่งแทนคุณค่าความรู้สึกด้วยผลงานศิลปะสื่อประสม เป็นการนำ�เสนอผลงานศิลปะที่แสดงสัญลักษณ์แทนความรู้สึก การเลือกใช้วัสดุ เส้น สี มี ความหมายทางจิตวิทยาและองค์ประกอบศิลปะ ทั้งหมดล้วนสื่อแทนความรู้สึกเบื้องลึก ทุก สิ่งที่นำ�มาสร้างสรรค์งานจึงมีความหมายที่มีคุณค่าต่อจิตใจ แทนความรู้สึกที่บ่งบอกถึง ความรักที่เป็นนิรันดร์ ภาพภายในที่งดงามคือสุนทรียภาพ ภาพความงดงามในความรู้สึก ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ การรับรู้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกอ่อนไหว ซาบซึ้ง เป็น ความงดงามของชีวิต การได้สัมผัสกับประสบการณ์ความงามนั้น ได้สะท้อนความมั่นคงใน ความรักสู่ผลงานสร้างสรรค์นี้

i - อุ่น สื่อประสมบนผ้าใบ 120 x 80 ซม.

Abstract The word “i-Un” is a reflection of inner feelings that are expressed through creative works; it is an act of receiving love and warmth from a mother, with the awareness of the importance of the family institution.

The first institution of life must be nurtured to create benefits for society.

This creative work reflects the love, through mixed media art creation, by using the word “i – Un,” which is synonymous with the word “warmth.”

It intentionally, playing on words to convey the meaning to represent the stories, shows love and warmth of the mother to the child. “Mother” gives life, warmth, and love, as well as nurturing one life to grow and steadily travel throughout the world to be a good person in society, creating a new travel story on this planet. “i-Un” or “warmth” gives two meanings: The first meaning is the power of love: warmth from mother to child; and the second meaning implied, through the use of language, is the letter “i.” In English it means “me.” Therefore, “i-Un” means “me”, which receives the power of love and warmth from the mother.

This expression of love and warmth through creative work, which represents the value of the feelings within mixed media art, is a work of art that shows symbols representing feelings. The choice of materials, lines, and colors have a psychological meaning, and elements of art all represent deep feelings. Everything that is created for work has a meaning that is valuable to the mind and representative of the feelings of an eternal love.

The beautiful interior is aesthetics. The beauty of the feeling that is conveyed into a work of art. Perceptions with sensible, sentimental feelings are the beauty of life. Experiencing that beauty reflects the stability of love to this creative work.

18

ไชยพันธุ์ ธนากรวัจน์ Chaiphan Tanakornwat kanni73@hotmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

19

การสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรม ชุด “อายตนะ” Creative arts series “AYATANA”

บทสนทนาความเศร้า หมายเลข 1 สีอะคริลิคบนผ้าใบ 150 x 130 ซม. ปฐมบทแห่งนิพพาน สีอะคริลิคบนผ้าใบ 150 x 130 ซม.

วิญญาณแห่งฝัน หมายเลข 1 สีอะคริลิคบนผ้าใบ 150 x 130 ซม. บทสนทนาความเศร้า หมายเลข 3 สีอะคริลิคบนผ้าใบ 130 x 150 ซม.

บทคัดย่อ ผลงานสร้างสรรค์ศล ิ ปกรรม ชุด “อายตนะ” ผูส ้ ร้างสรรค์น�ำ กระบวนการถ่ายโยง ความรู้สึกทางสุนทรียจากสภาวะจิตภายในสู่ภายนอก เป็นภาพแห่งความทรงจำ� แม้จะเป็นการบันทึกเรื่องราวการกระทบร้าวที่ผ่านวิกฤติหลังความตาย บนเส้นทาง ของการสร้างสรรค์ มีการเรียนรู้ ทำ�ความเข้าใจ เติบโตและพัฒนาขึ้นทั้งทักษะ ความคิด เนื้อหา เป็นย่างก้าวไม่ต่างจากการขึ้นบันไดที่ก้าวต่อเนื่อง ตั้งแต่แสวงหา ทดลอง พัฒนากระบวนการสร้างสรรค์และแปรความคิดความสนใจออกมาเป็น ชิ้นงานศิลปะที่ต่างกันในแต่ละผลงาน การสร้างสรรค์ผลงานบนความเชื่อตามคติธรรม คำ�สอนทางหลักพระพุทธ ศาสนาของอายตนะ กระบวนการถ่ายโยงความรู้สึกทางสุนทรียจากสภาวะจิต ภายใน สู่ภายนอกที่สะท้อนปรัชญาพระพุทธศาสนาที่แสดงออกทางรูปทรงและ การผสมผสานกับสัญลักษณ์ต่างๆ มาสร้างสรรค์ผลงาน ตามอารมณ์ความรู้สึก ของผู้วิจัยสร้างสรรค์ด้วยเทคนิควิธีการและคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของศิลปะไทยและ ลักษณะเฉพาะตนในการสร้างสรรค์ผลงานในการวิจัยในครั้งนี้ Abstract Creative work of art titled “AYATANA” the creative process, transferring the aesthetic sense of mental conditions inside.

A memorable, despite a record of the crack through crisis after death. On the trail of creativity Are learning to understand the growth and development of thinking skills, content is no different from a step up the ladder at a pace continued. The trial seeks to develop creative process And transform ideas into interesting pieces of art in different works.

Creating works based on the belief morale. The main teachings of Buddhism sense. Processes linked to the aesthetic sense of the mental state of the inside that reflects the philosophy of Buddhism expressive shapes and symbols combined with various creative works. According to the emotions of the creative research techniques, and how to maintain the uniqueness of art in Thailand and their unique creative contributions to research in these.

20

ฐปนนท์ อ่อนศรี Thapanon Onsri

m.thapanon@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

21

การออกแบบสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม Publishing Design for Public Relations of Chandrakasem Rajabhat University บทคัดย่อ การออกแบบสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีวต ั ถุประสงค์และความมุง่ หมายของการประชาสัมพันธ์ในเชิงปฏิบต ั ิ คือ การนำ�เสนอ เนื้อหาที่เข้าใจง่าย ดึงดูดความสนใจ สร้างภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือให้กับ องค์กร ซึ่งจะทำ�ให้องค์กรสถาบันสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ นั่นคือ ประชาสัมพันธ์ให้แก่นักเรียน ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและ ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจที่จะศึกษาต่อในสาขาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม ผู้สร้างสรรค์ได้คำ�นึงถึงหลักการนำ�ปัจจัยเบื้องต้นในการออกแบบสิ่งพิมพ์มาใช้ โดยเริม ่ จากการสำ�รวจกลุม ่ เป้าหมายสำ�หรับการออกแบบสิง่ พิมพ์ การศึกษาสิง่ พิมพ์ เพื่อการประชาสัมพันธ์เดิม โดยกำ�หนดจุดประสงค์ของการออกแบบสิ่งพิมพ์ พบว่า กลุ่มเป้าหมายของสิ่งพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในครั้งนี้คือ กลุ่มนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา กลุ่มอายุประมาณ 18-25 ปี เมือ ่ ได้ผลการสังเกตแล้วจึงกำ�หนดรูปลักษณ์ของงานสิง่ พิมพ์และออกแบบ จัดวางรูปเล่มตามวัตถุประสงค์ที่กำ�หนดไว้ จนได้รูปเล่มที่สมบูรณ์ ผลงานสร้างสรรค์สง่ิ พิมพ์เพือ ่ การประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม ที่มีต่อประเด็นหลักสำ�คัญในการให้ข้อมูลและนำ�เสนอ 5 ประเด็น คือ แนะนำ�มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม หลักสูตรที่เปิดสอนของคณะ วิทยาลัย ศูนย์การศึกษา แนะนำ�หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ทุนการศึกษา และความร่วมมือ ทางวิชาการกับต่างประเทศ เป็นผลงานการออกแบบที่มีมาตรฐาน มีความเป็นสากล และประสิทธิภาพทีเ่ ป็นไปตามวัตถุประสงค์ทก ่ี �ำ หนด ตามทฤษฎีการออกแบบสิง่ พิมพ์ เพื่อการประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยให้มีภาพลักษณ์ที่ดี ทันยุคสมัยและมี คุณลักษณะและองค์ประกอบทางการออกแบบที่ถูกต้อง สื่อสิ่งพิมพ์ ประชาสัมพันธ์ Adobe Photoshop, Illustrator และ InDesign CS6 7.5 x 8.5 นิ้ว

Abstract The objectives and goals of practical public relations for publishing design of Chandrakasem Rajabhat University are the easily understanding content presentation, make the organization meet success planned. This will inform students and people who want to study in faculties the up-to-date, correct and useful information.

The designer concerns about how to bring principles of basic factors in publishing design by surveying target groups, studying former printing material objectives. The result is the target groups are at the age of 18-25. Then, the image of printing materials is designed due to the objectives until the output comes out completely.

The main point of creating the printing materials for Chandrakasem Rajabhat University has five to piece. They are : introducing Chandrakasem Rajabhat University curriculums, faculties and internal departments, scholarships and academic cooperation with foreign countries. The designs are standardized, globalized and efficient. These cause the university good image and has the correctly design.

22

ฐิฎิมา อัมพวรรณ Thidima Umpawan

thidima.u@archd.kmutnb.ac.th อาจารย์ประจำ�ภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

23

การออกแบบร้านซาลาเปาทับหลี บ้านทับหลี อำ�เภอกระบุรี จังหวัดระนอง Design of Tab-li buns Shop BaanTab-li Kraburi, Ranong บทคัดย่อ การออกแบบร้านซาลาเปาทับหลี บ้านทับหลี อำ�เภอกระบุรี จังหวัดระนอง มีวต ั ถุประสงค์ เพื่อบริการวิชาการรับใช้สังคม ด้วยองค์ความรู้ด้านการออกแบบภายใน โดยศึกษาวิเคราะห์ สภาพทั่วไปของร้านซาลาเปาทับหลี สู่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้และแนวทางการพัฒนา การมีส่วนร่วมและการยอมรับของกลุ่มชาวบ้านทับหลีและใช้กระบวนการออกแบบอย่างมี ส่วนร่วม เพื่อนำ�ไปสู่การพัฒนาและการสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านทับหลี ทั้งนี้คาดการณ์ สิ่งที่จะตามมาในอนาคตถึงการพัฒนาพื้นที่บ้านทับหลีเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผลการประเมินความพึงพอใจหลังการดำ�เนินการ สรุปดังนี้ ความพึงพอใจของชุมชน ทับหลี จังหวัดระนอง ด้านการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม ระหว่างชาวบ้านทับหลี อาจารย์ และนักศึกษา การมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.96 S.D= 0.43) การลงมือปฏิบัติ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.85 S.D= 0.44) ความรู้สึก เป็นเจ้าของมีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.95 S.D= 0.42) ด้านภาพรวมของโครงการ สถานที่จัดโครงการ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.58 S.D= 0.40) วันที่จัดโครงการมี ความพึงพอใจมาก (X=4.20 S.D= 0.62) ระยะเวลาในการจัดโครงการมีความพึงพอใจ มากที่สุด (X=4.55 S.D= 0.55) การบริการและสิ่งอานวยความสะดวก มีความพึงพอใจ มากที่สุด (X=4.39 S.D= 0.54) การประชาสัมพันธ์ข่าวสารโครงการ มีความพึงพอใจมาก ที่สุด (X=4.95 S.D= 0.42)ด้านผลงานออกแบบ ผลงานออกแบบ มีความพึงพอใจมาก ที่สุด (X=4.95 S.D= 0.50) ความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง มีความ พึงพอใจมากที่สุด (X=4.30 S.D= 0.42) และการดูแลรักษา มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.85 S.D= 0.40) แนวทางการธำ�รงรักษาและการพัฒนาร้านซาลาเปาทับหลี การสร้างความเข้มแข็งให้ กับบ้านทับหลี ด้วยการสร้างกิจกรรมและให้ความรู้ในการบริหารองค์กร การประชาสัมพันธ์ และการศึกษาดูงาน เพื่อเป็นแนวทางในการดำ�รงรักษาและพัฒนาร้านค้าต่อไป

การออกแบบร้าน ซาลาเปาทับหลี เทคนิค 3 Dimension พิมพ์ลงบนกระดาษ Photo lab 42 x 54 ซม.

Abstract The design of Tab-li buns shop, Baan Tab-li, Kra Buri, Ranong had objective was : to academic service with the knowledge of interior design by studying and analyzing the general condition of Tab-li buns shops to possibilities analysis and development guidelines. The participation and acceptance of Tab-li villagers by participatory design process for the development and identity creation of Baan Tab-li which predicts future developments in the area Baan Tab-li is a sustainable tourism destination.

The results of the satisfaction assessment after the conclusion are as follows : The satisfaction of Tab-li community, Ranong between villagers, teachers and students : participation in the design process is the most satisfied (X = 4.96 S.D = 0.43). Practice is the most satisfied (X = 4.85 S.D = 0.44) The owner’s feeling is most satisfied (X = 4.95 S.D = 0.42) Project overview : project location is the most satisfied (X = 4.58 SD = 0.40) The date of the project is very satisfied (X = 4.20 SD = 0.62) The duration of the project is the most satisfied (X = 4.55 SD = 0.55 ) Services and facilities are the most satisfied (X = 4.39 S.D = 0.54) Publicity of project news is the most satisfied (X = 4.95 S.D = 0.42) The design results of the design work are the most satisfied (X = 4.95 S.D= 0.50). Possibility of construction is the most satisfied (X = 4.30 S.D = 0.42) and a care is the most satisfied (X = 4.85 S.D = 0.40) Guidelines for preserving and developing of Tab-li buns shop.

Strengthening of Baan Tab-li by creating activities and providing knowledge in corporate services public relations and case study to be a guideline for maintaining and developing the shop.

24

ฐิฎิมา อัมพวรรณ Thidima Umpawan

thidima.u@archd.kmutnb.ac.th อาจารย์ประจำ�ภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

25

การออกแบบร้านค้าชุมชน จังหวัดระนอง Design of Ranong Community Shop บทคัดย่อ การออกแบบร้านค้าชุมชน จังหวัดระนอง มีวัตถุประสงค์เพื่อบริการวิชาการรับใช้สังคม ด้วยองค์ความรู้ด้านออกแบบภายใน เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรนำ�ประสบการณ์และความรู้ ที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานจริง ผ่านกระบวนการ ออกแบบอย่างมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความเชื่อมโยงงานบริการวิชาการกับการจัดการเรียน การสอนและการวิจัย เพื่อสืบสานและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาไทย สู่สังคมไทยและสังคมโลก โดยศึกษาวิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ สินค้าของชุมชน ความเป็นไปได้ และแนวทางการพัฒนา การมีสว่ นร่วมและการยอมรับของชุมชน และใช้กระบวนการออกแบบ อย่างมีส่วนร่วมเพื่อนำ�ไปสู่การพัฒนาและการสร้างเอกลักษณ์ ผลการประเมินความพึงพอใจหลังการดำ�เนินการ สรุปดังนี้ ความพึงพอใจของชุมชน จังหวัดระนอง ด้านการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม ระหว่างชาวบ้าน ผู้บริการวิชาการ ในด้าน การมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.98 S.D= 0.40) การลงมือปฏิบัติร่วมกันระหว่างชาวบ้านกับผู้บริการวิชาการ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.96 S.D= 0.42) ความรู้สึกเป็นเจ้าของของชาวบ้าน มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.82 S.D= 0.46) ด้านภาพรวมของโครงการ ด้านผลงานออกแบบ ผลงานออกแบบ มีความพึงพอใจมากที่สุด (X=4.8 S.D= 0.42) ความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง มีความ พึงพอใจมากที่สุด (X=4.42 S.D= 0.52) และการดูแลรักษา มีความพึงพอใจมาก (X=4.10 S.D= 0.50) แนวทางการธำ�รงรักษาและการพัฒนาร้านค้าชุมชน จังหวัดระนอง ดังนี้ การดำ�เนินการ แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการบริหารจัดการ โครงสร้างการบริหารงานร้านค้าชุมชน การสร้าง องค์กรหรือหน่วยงาน ให้เข้มแข็ง การให้ความรู้และการทำ�งานร่วมกันในด้านการประชา สัมพันธ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลอดจนการศึกษาดูงาน เพื่อเป็นแนวทางในการ ธำ�รงรักษาและพัฒนาร้านค้าชุมชม จังหวัดระนอง ต่อไป

การออกแบบร้านค้า ชุมชน จังหวัดระนอง เทคนิค 3 Dimension พิมพ์ลงบนกระดาษ Photo lab 42 x 54 ซม.

Abstract Design of Ranong Community had objectives were: to provide academic services with the knowledge of interior design and to bring experience and knowledge gained from the exchange of learning by participatory design to create a link between academic services and teaching and research management to carry on and disseminate art, culture, identity and Thai wisdom to Thai society and the world society by studying and analyzing the project location, community products feasibility and development guidelines community involvement and acceptance. Use the participatory design process to development and identity creation.

Results of the satisfaction assessment after the conclusion were as follows: The satisfaction of the community in Ranong Province with the participatory design between villagers and academic service personnel : participation in the design process is the most satisfied (X = 4.98 S.D = 0.40). The join action between villagers and academic service personnel is the most satisfied (X = 4.96 S.D = 0.42) The feeling of ownership of the villagers is the most satisfied (X = 4.82 S.D = 0.46) in the overall of the project in the part of the design results of the design work are the most satisfying (X = 4.8 S.D = 0.42). The construction possibilities are the most satisfying (X = 4.42 S.D = 0.52) and maintenance is very satisfied (X = 4.10 S.D = 0.50) The guidelines for preserving and developing Ranong community shop is as follows: The management exchange of administrative structure knowledge of community shops. Strengthening an organization or department providing knowledge and working together in public relations and community product development Including a case study to be a guideline for preserving and developing Ranong community shop.

26

ผศ.ดร.ทองเจือ เขียดทอง

Asst. Prof. Dr.Thongchue Khiatthong thongchue@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

27

2 หน้า – หลายด้าน 2 Faces – Multiple Views บทคัดย่อ งานสร้างสรรค์นม ้ี วี ต ั ถุประสงค์ 1) เพือ ่ สือ ่ สารแนวความคิดเกีย ่ วกับพุทธศาสนา ในเรือ ่ งความดี-ชัว่ ทุกข์-สุข ผ่านผลงานศิลปะบนหน้ากากผีตาโขน 2) เพือ ่ สร้างสรรค์ งานหน้ากากผีตาโขน (Mixed Media) โดยใช้วัสดุที่สื่อถึงความหลากหลายทาง วัฒนธรรมและชาติพันธุ์ การศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาและ ข้อมูลประวัติความเป็นมา วิธีการทำ�หน้ากากผีตาโขน แล้วนำ�มาประยุกต์สร้างสรรค์ หน้ากากแนวใหม่โดยใช้เทคนิค “สื่อประสม” ตามแนวคิด “2 หน้า-หลายด้าน” ได้ผลงานหน้ากาก 2 ชิ้น ที่มีการใช้วัสดุธรรมชาติ วัสดุสังเคราะห์ ผ้า เส้นใย และ สิ่งของที่เป็นตัวแทนของชาติพันธุ์ต่างๆ ปะติดวัสดุเป็น 2 โทนสี คือ ด้านที่เป็นโทนสี หม่นและโทนสีสดใส ทั้งนี้สามารถถ่ายทอดแนวความคิดที่เกี่ยวกับความเป็นธรรมดา ตามหลักของพุทธศาสนา ยังถ่ายทอดมุมมองตลอดจนสื่อถึงการมีส่วนร่วมของ ผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ต่อประเพณีผีตาโขน Abstract This creative work has the objectives 1) to communicate the concept of Buddhism in the matter of good-evil, suffering-happiness through works of art on the Phi Ta Khon mask 2) to create a mixed media mask using materials That represents cultural and ethnic diversity The study of information related to Buddhist concepts and background information How to make a ghost mask Then applied to create a new mask using the “Mixed Media Art” according to the “2 Face – Multiple View” concept. Works with 2 pieces of mask with natural materials. Synthetic materials, fibers, fabrics and articles representing various ethnicities. Covering the material in 2 tones, the color is a tarnish and bright tone. Which can convey the concepts related to the ordinary according to the principles of Buddhism Also conveying views and conveying the participation of people of various ethnicities to the Phi Ta Khon Festival.

2 หน้า – หลายด้าน สื่อประสม 58 x 110 x 35 ซม.

45 x 145 x 43 ซม.

28

ผศ.ทิพย์สุคนธ์ อิทธิประทีป Asst. Prof.Thipsukon Ittipratheep ittiok1@gmail.com อาจารย์ประจำ�ภาควิชาการเทคโนโลยีศิลปอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

29

ศิลปะสื่อผสม : พัทยา Mixed Media Art : PATTAYA

พัทยา สีอะคริลิค วัสดุ อุตสาหกรรม เข็มหมุด และเลื่อม 61 x 106.5 ซม.

บทคัดย่อ การวิจย ั เรือ ่ งนีม ้ วี ต ั ถุประสงค์เพือ ่ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสือ ่ ผสม ทีม ่ แี รงบันดาลใจ จากเมืองพัทยา ในแนวทางเฉพาะตน ผูว้ จิ ย ั ดำ�เนินการศึกษาแนวคิดและวิธก ี ารนำ�เสนอ ศิลปะป๊อบจากเอกสารและเว็บไซด์ทเ่ี กีย ่ วข้อง ศึกษาด้วยการเดินสำ�รวจและบันทึกภาพ บรรยากาศของพัทยาในเวลากลางคืน ได้แก่ ที่เที่ยวกลางคืนในพัทยาและงานปาร์ตี้ ริมหาดพัทยา นำ�บรรยากาศที่บันทึกภาพไว้ผนวกกับความรู้สึกส่วนตัวของผู้วิจัย ที่มีต่อบรรยากาศ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแนวความคิดในการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะสื่อผสม ร่างภาพความคิดและค้นหาวัสดุอุตสาหกรรมนำ�มาประยุกต์ใช้ ผลการศึกษาพบว่าแนวความคิดในการสร้างสรรค์ คือ บรรยากาศการท่องเที่ยวใน เวลากลางคืนของพัทยา เป็นบรรยากาศของความเป็นเพือ ่ นกิน เพือ ่ นคุย เพือ ่ นเทีย ่ ว และเพือ ่ นนอนสำ�หรับนักท่องเทีย ่ วทีม ่ าเยือน วัสดุอต ุ สาหกรรมทีเ่ หมาะสมในการนำ�มา ใช้นำ�เสนอเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศเหล่านั้น ได้แก่ สังกะสี ฟรอย กระดาษ เชือก หลอดไฟ เลื่อม เทคนิคผสมที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ได้แก่ จิตรกรรมและภาพพิมพ์ ผลการวิจัยมีประโยชน์สำ�หรับผู้วิจัยคือ ค้นพบวิธีการสร้างสรรค์เฉพาะตน และ ประโยชน์ตอ ่ ผูท ้ ส ่ี นใจศิลปะแนวนีก ้ จ็ ะได้ชน ่ื ชมผลงานทีม ่ ส ี น ุ ทรียภาพในแนวทางเฉพาะ ของผู้สร้างสรรค์ Abstract This research aims to create unique mixed media art inspired

by Pattaya city. The researcher studied the concept and the presentation of Pop art from documents and related websites.

The researcher also surveyed and photographed Pattaya in night time i.e. night clubs, beach parties to inspire the concept and the creation of mixed media art as well as the industrial material to be applied. The study finds that the concept of creating mixed media art is the nightlife of Pattaya city; the atmosphere, the light and sound and the activities that give friendly and sensual feelings to the tourists. The appropriate industrial materials for creating such atmosphere are zinc, aluminium, plastic, sticker, paper, dolls, lacework, lightbulbs, sequin, foam, electronic devices and waste materials. Mixed technique arts that help create the atmosphere are painting, graphics and computer graphics. The research result helps the researcher find the unique way of creating mixed media art. The research is also beneficial to those who are interested in this kind of art to have a chance to appreciate the aesthetics are guided only by its creators.

30

ผศ.ธีระชัย สุขสวัสดิ์

Asst. Prof.Teerachai Suksawas tsuksawas@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

31

การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมในรูปแบบเหมือนจริง : แผ่นดินทองใต้ร่มพระบารมี The Creative Realistic Painting : Golden Land under Royal Benevolence

แผ่นดินทอง ใต้ร่มพระบารมี สีอะคริลิคบนผ้าใบ 150 x180 x 8 ซม. เหรียญวงกลมมีเส้น ผ่านศูนย์กลาง 30 ซม. หนา1.5 ซม.

บทคัดย่อ ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม 2) สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมในรูปแบบเหมือนจริงด้วยเทคนิคสีอะครีลิก 3) ใช้ผลงานจิตรกรรม เป็นสื่อแสดงออกในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นการสร้างสรรค์ ผลงานจิตรกรรมภายใต้ชื่อ แผ่นดินทองใต้ร่มพระบารมี นำ�เสนอผลงานจิตรกรรมด้วยเทคนิคสี อะครีลิกโดยผสมผสานการใช้วัสดุอื่นๆ เพื่อเสริมให้ผลงานเกิดพื้นผิว มิติ และระนาบที่สร้างความ สมจริง และใช้รูปลักษณ์จากเหรียญกษาปณ์เพื่อสื่อแสดงออกในเรื่องความศรัทธา กับบริบทที่ สร้างสรรค์ขึ้นตามทัศนะจากแรงบันดาลใจที่ได้รับ โดยมีกระบวนการสร้างสรรค์เริ่มจากการสร้าง ต้นแบบตามกรอบแนวความคิดที่ได้กำ�หนดไว้ การจัดวางองค์ประกอบผลงานตามภาพร่าง การสร้าง พื้นผิวของผลงานด้วยเมล็ดข้าวเปลือก การระบายสีต้นข้าวและฟางข้าวด้วยเทคนิคการระบายแบบ แต้มสีทีละค่าน้ำ�หนักและการระบายสีภาพเหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 เป็นส่วน สำ�คัญที่สุดจนผลงานเสร็จสมบูรณ์ ผลการสร้างสรรค์มีการใช้ทฤษฏีและหลักการต่างๆ เพื่อให้ผลงานมีคุณภาพ ประกอบด้วยการ ใช้ทฤษฎีในการจัดองค์ประกอบภาพ คือ สัดส่วนทองคำ� สร้างความสัมพันธ์ของพื้นที่ให้มีเอกภาพ ร่วมกับการใช้ที่ว่างแบบปิดแสดงความเป็นเด่นชัดเจนและใช้องค์ประกอบของเส้นเพื่อเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปทรงวงกลมของเหรียญให้มีเอกภาพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นำ�เสนอภาพ ผลงานด้วยมุมมองจากด้านบน ซึ่งเป็นการจัดองค์ประกอบของภาพที่ให้ความเป็นอิสระเห็นพื้นที่โดย รอบได้มากกว่ามุมมองในระดับอื่นๆ สื่อความหมายของแผ่นดินได้ตรงประเด็น มีการใช้สีสร้างความ กลมกลืนด้วยหลักการใช้สีใกล้เคียงในกลุ่มสีเหลือง สีส้ม สีเขียว และสีน้ำ�เงิน ประกอบกับเลือกใช้พื้น ผิวของเมล็ดข้าวเปลือกจำ�นวนมากกองรวมกันอยู่แสดงการทับซ้อนเกิดมิติความลึก มีการใช้หลัก การสร้างสภาพแสงให้เข้าด้านหน้าวัตถุ เพราะแสงที่ส่องเข้าทางด้านหน้าจะทำ�ให้วัตถุมีความสว่าง ทั่วบริเวณมีความชัดเจนของรูปทรงความสดใสแสดงสีสัน ความมันวาวของวัตถุออกมาได้เต็มที่ โดยสรุปผลการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรมชิ้นนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และกรอบแนวความคิดที่ กำ�หนดไว้ ทั้งในด้านองค์ประกอบ การสื่อความหมายและความสวยงาม Abstract This creative work is aimed at 1) studying the creative process of painting 2) creating a realistic painting with the acrylic and 3) applying painting as a channel to express loyalty to the nation, religion, and monarchy institution by the name of “Golden Land under Royal Benevolence”. Through acrylic painting techniques, combining the use of other materials to enhance the work to create realism and by using the appearance of mint coins to express faith with the creative context based on the inspired perspective. The process begins with the prototype of the concept framework, composition by sketching, creating surface by using rice grain, colors rice stalks and rice straws by using color point design techniques, then painting the image of the King Rama IX coin and Rama 10, where it is the most important part, until the work is completed.

Theory and principles are applied in this creativity to provide quality results, including the use of the theory of composition is the golden ratio. Create a relationship of a unity with the use of a closed space to display the distinction and using the line elements to strengthen the relationship between the circle shapes of a coin to be one of the same unity. Showcase the image with a view from the top, which is an illustration of an image that gives freedom to see the surrounding area rather than other levels of view, which is convey the meaning of the land. Colors are used in harmony with the principle of using nearby colors in yellow, orange, green, and blue groups, together with the selection of the surface of grains, many of which pile together in large quantities, display overlap, dimensional depth. The lighting principle is used to get into the front of the subject, as the light shining in front will make the subject light in the area with clarity of a bright, colorful shape, in this manner, the luster of the subject is fully out. In conclusion, the creative result of this painting is based on objectives and conceptual frameworks defined in both the composition, meaning and aesthetics.

32

นิศากร เพ็ญสมบูรณ์ Nisakorn Pensomboon

nisakorn_pensomboon@msn.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

33

จากธูปสมุนไพรสู่ภาพพิมพ์ธรรมชาติ From incense herbs to natural prints บทคัดย่อ งานวิจย ั สร้างสรรค์ครัง้ นีม ้ วี ต ั ถุประสงค์เพือ ่ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะติดตัง้ จัดวาง ผ่านวัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่น สะท้อนมิติความสำ�คัญด้านระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ด้านการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน จากการศึกษาและเห็นความสำ�คัญด้านระบบนิเวศ สู่การศึกษาวัสดุธรรมชาติ จากทุนวัฒนธรรมของชุมชน ในรูปแบบศิลปะติดตั้งจัดวาง จึงเกิดการสร้างสรรค์ และพัฒนาผลงานที่ชื่อว่า“เปลี่ยนกลับ” (REVERT) ที่แสดงออกถึงความสวยงาม ทางธรรมชาติผ่านกระบวนการทางศิลปะภาพพิมพ์ ด้วยวัสดุจากธรรมชาติ คือ ธูปสมุนไพร ผสานเศษวัสดุที่ร่วงหล่นก่อร่างขึ้นเป็นโครงสร้างต่างๆ แสดงในรูปแบบ ติดตั้งจัดวาง คำ�ว่า “เปลี่ยนกลับ” จึงมีความหมายถึงการเปลี่ยนคุณค่าของวัสดุ กลับมามีความหมายเชิงความงามอีกครั้ง Abstract The purpose of this creative research is to create artwork, installation, and placement through natural materials from the local area. Reflecting the dimension of importance in ecological environment In sustainable coexistence.

From studies and appreciating ecological importance To study natural materials from cultural capital of the community In the form of installation art to creating and developing the work called “REVERT” that expresses natural beauty through the process of graphic arts with natural materials such as herbal incense combined with pieces of falling material then forming into various structures shown in the installation form. The term “revert” means to change the value of the material back to have aesthetic meanings again. เปลี่ยนกลับ ศิลปะติดตั้งจัดวาง กินระวางพื้นที่ไม่เกิน 4 ตร.ม.

34

พงศ์พินิจ พินิจดำ� Pongpinij Pinijdam

pongpinij.sat@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

35

ออกแบบเก้าอี้จากยางปัดน้ำ�ฝน Chairs Design From Wiper Rubber บทคัดย่อ งานสร้างสรรค์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์เก้าอี้จากยางปัด น้ำ�ฝน 2) เพื่อนำ�วัสดุเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดคุณค่าทางทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น โดยเป็นการใช้วัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาขยะและนำ�วัสดุมาใช้ซ้ำ� สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บิโภคได้ นำ�ไปสู่การยกระดับการใช้ ทรัพยากรอย่างคุม ้ ค่าและการพัฒนาทีย ่ ง่ั ยืน โดยศึกษาข้อมูลแนวคิดและแรงบันดาล ใจเกี่ยวกับวัสดุเหลือใช้ รวมไปถึงหลักการออกแบบผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ กำ�หนดแนวความคิดและร่างภาพก่อนที่จะเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ผลการสร้างสรรค์งานสรุปว่า ผู้สร้างสรรค์ได้เก้าอี้จากยางปัดน้ำ�ฝนและได้นำ� วัสดุเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดคุณค่าทางทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น เก้าอี้ ยางปัดน้ำ�ฝน ทรงสี่เหลี่ยม 40 x 45 ซม. ทรงกระบอก 34 x 42 ซม.

Abstract This creative work has the objective of 1) To design chair products from used rubber wipers 2) In order to use wasted materials to create more value in natural resources by using wasted materials for maximum benefit reduce waste and reuse materials able to respond to the needs of consumers leading to the enhancement of worthwhile use of resources and sustainable development by studying information, ideas and inspiration about wasted materials including product design principles from wasted materials define concepts and sketches before they become prototypes.

The result of creative works concluded that the creator got chairs from wipers and used wasted materials to create more natural value.

36

พชรมน เกิดสุวรรณ Pacharamon Kerdsuwan chamon_bsru@hotmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาออกแบบกราฟิกและอินโฟร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

37

ภาพประกอบจากความประทับใจในวัฒนธรรม “ชุมชนมอญบางกระดี่” เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร Illustration from The Impression of Culture Mon Bangkadi Community, Bang Khuntian District, Bangkok บทคัดย่อ ผลงานสร้างสรรค์น้ี เป็นการนำ�เสนอผลงานทางวิชาการในลักษณะอืน ่ ด้านสาขา ประยุกต์ศิลป์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างสรรค์ภาพประกอบจากความประทับใจใน วัฒนธรรม “ชุมชนมอญบางกระดี่” เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ที่เกิดจาก ประสบการณ์สุนทรียะและการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีงานบุญ ในเทศกาลสงกรานต์และวิถชี วี ต ิ ของชุมชนมอญ จนเป็นแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ ผลงานภายใต้แนวคิด “ปะติดปะต่อเรื่องเล่าจากความประทับใจ” ผู้สร้างสรรค์เลือกใช้ เทคนิคการวาดเส้นด้วยกลวิธีประสมประสานภาพปะติด เป็นการถ่ายทอดภาพแบบ กึ่งนามธรรมในลักษณะเป็นภาพลายเส้นสองมิติ แสดงเฉพาะเส้นรอบนอกของวัตถุ สิ่งที่วาดด้วยปากกาหมึกดำ�บนกระดาษสีขาว โดยเน้นการใช้เส้นโค้งเพื่อทำ�ให้ภาพ มีความเคลื่อนไหวนุ่มนวล ลักษณะของเส้นมีความหนาเท่ากัน โดยไม่แสดงเส้นหนัก หรือเส้นเบาและไม่แสดงแสงและเงาของภาพ การแสดงออกเรื่องราวของภาพเน้น การวาดตัวละครเป็นหลัก เพื่อสื่อถึงความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและใช้วิธีการตัด กระดาษ ตัดจากภาพที่วาด เพื่อนำ�มาแปะภาพปะติดปะต่อประกอบเรื่องราวทั้งหมด ตามหลักการจัดองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งผู้สร้างสรรค์สามารถแสดงออกทาง ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการและความจริงใจในการถ่ายทอดด้วยเทคนิคเฉพาะ ตนที่มีความประทับใจ มุ่งหวังที่จะสะท้อนอัตลักษณ์ความงามทางวัฒนธรรมมอญ และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์ สืบสานและเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามของชาว มอญบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

ความประทับใจ ในวัฒนธรรม ชุมชนมอญบางกระดี่ วาดเส้นและการปะติด บนกระดาษ 70 x 58 ซม.

Abstract This creative work Is a presentation of other academic works Applied Arts, The purpose is to create illustrations from the impression of culture “Mon Bang Kadi Community” Bang Khunthian District Bangkok, Caused by aesthetic experience and study more about culture The tradition of merit making in the Songkran Festival and the way of life of the Mon community until inspired the creation of works under the concept “the story from the impression to collage art “a semi-abstract image depicting two-dimensional lines by show only the out lines of objects drawn with black ink pens on white paper, By emphasizing the use of curves to make the image smoother the characteristics of the lines are the same thickness. By not showing heavy lines or light lines and does not show the light and shadow of the image. The expression of pictures focuses on drawing. Main character to communicate the relationships among people in the community and use the method to cut the paper from the drawing to bring together the whole piece of the story according to the principles of art composition. Which creators can express their creativity imagination and sincerity in conveying with unique techniques that are impressive, Look forward to reflecting Mon cultural identity. And is part of the conservation continuing and disseminating the good culture of some Mon Kadi people Bang Khunthian District Bangkok.

38

พัณณ์ภัสสร ภัทธภาสิทธิ์ Panpassorn Phatthapasit panpassorn14@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

39

การสร้างสรรค์จิตรกรรมร่วมสมัยจากอิทธิพลศิลปะ แบบพระราชนิยมในวัดไทยฝั่งธนบุรี The Creation Contemporary painting from the influence of Royal Style art of Thai temple in Thonburi Area Leading

Phenomenon of King Rama III Art style no.1 สีอะคริลิคบนผ้าใบ 45 x 60 ซม.

บทคัดย่อ บทสังเคราะห์งานสร้างสรรค์จต ิ รกรรมร่วมสมัยจากอิทธิพลศิลปะแบบพระราชนิยมในวัดไทย ฝั่งธนบุรี เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย อิทธิพลศิลปกรรมจีนแบบพระราชนิยมในวัดไทย ฝั่งธนบุรี สู่การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัย วัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาศิลปะแบบพระราชนิยม เพื่อสรุปข้อค้นพบรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบพระราชนิยมวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร ศึกษาศิลปะร่วมสมัยเพื่อสรุปข้อค้นพบของรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ร่วมสมัยและสร้างสรรค์จิตรกรรมร่วมสมัย โดยมีแรงบันดาลใจจากอิทธิพลศิลปะแบบพระราช นิยมสมัยรัชกาลที่ 3 วัดราชโอรสฯ ผูส ้ ร้างสรรค์ได้สร้างแบบร่างงานจิตรกรรม และแบบสัมภาษณ์ เข้าทำ�การสัมภาษณ์ศลิ ปินอิสระ อาจารย์ศลิ ปะและนักวิชาการทางด้านศิลปะ โดยใช้ทฤษฎีทศ ั นศิลป์ เกณฑ์การประเมินคุณภาพและคุณค่าของจิตรกรรม (กำ�จร สุนพงษ์ศรี, 2559 : 211-294) ประยุกต์เป็นแบบสัมภาษณ์และใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพและคุณค่าของงานจิตรกรรม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนา ผลการสำ�รวจการประเมินคุณภาพและคุณค่าของผลงาน จิตรกรรมร่วมสมัยชิ้นนี้ พบว่าสามารถสะท้อนคุณค่าทั้ง 3 ด้าน 1) ด้านคุณค่าทางความงาม การจัดองค์ประกอบมีความเหมาะสม รูปทรงที่มาจากโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม รวมถึง ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยจีน 2) ด้านคุณค่าทางด้านอารมณ์ ความรูส ้ ก ึ สร้างความประทับใจ ให้ความรูส ้ ก ึ ซาบซึง้ ถึงความเป็นมาในอดีต 3) ด้านการแสดงออก ถึงแนวความคิดที่สื่อความหมาย สามารถสื่อความหมายได้ดีทางด้านความเจริญรุ่งเรืองทาง ด้านศาสนาและความสัมพันธ์ไทยและจีน ส่วนด้านเศรษฐกิจยังสื่อความหมายไม่ชัดเจน ซึ่งจาก คุณค่าทั้งหมดที่ปรากฏในงานจิตรกรรมชิ้นนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ความงาม แบบพิเศษจากอิทธิพลศิลปกรรมจีนแบบพระราชนิยมในวัดไทย ฝั่งธนบุรี ที่เป็นความงามข้าม กาลเวลาจนถึงยุคปัจจุบัน ควรค่าต่อการตระหนักรู้และรวบรวมองค์ความรู้สู่การสร้างสรรค์ และถ่ายทอดสู่ชนรุ่นหลัง Abstract The synthesis of contemporary painting creation from the influence of royal style art in Thai temples in Thonburi side is part of the research titled “The Influence of Chinese Art According to Royal Style of Thai Temples in Thonburi Area Leading to The Creation of Contemporary Painting” aimed to; Study the royalist art in order to summarize the discoveries in the form of the creation of royalist art in the royal temple. Study contemporary art to summarize the findings of contemporary art creation styles. And creating contemporary paintings with inspiration from the influences of the popular royal arts during the reign of King Rama III. And interview form to interview independent artists Art teachers and art academics by using visual theory Criteria for evaluating the quality and value of painting. (Kamchorn Soonpongsri, 2016: 211-294) to be the interview format and quality and value assessment criteria. Descriptive analysis was used. The results of the evaluation of the quality and value of this contemporary painting Found that it can reflect all 3 aspects 1)the aesthetic value; the composition was appropriate. The shapes come from architectural structures, including unique patterns blending between Thai and Chinese culture. 2) the emotional value impressive and appreciative for the past background. 3) the conceptual value; the paintings presented a very good meaning of the prosperity of Buddhism and the relationship between Thai and China. However, the economic meaning was not so clear. Which all the values that ​​ appear in this painting can be reflected. Which all the values that ​​ appear in this painting can be reflected to the special beauty phenomenon from the influence of royal Chinese arts in Thonburi Thai temples in Thonburi area. It was the classical and timeless beauty until present and worthy of awareness and collecting knowledge leading to the creation and passing on to the next generation.

40

ดร.พิบูลย์ มังกร Dr.Phiboon Mangkorn mangkorn5@yahoo.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

41

ความเคลื่อนไหวคือความงาม Motion be Beautiful บทคัดย่อ บทสังเคราะห์งานสร้างสรรค์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำ�เสนอผลงานระบายสีผ่านเนื้อหาศิลปะการต่อสู้ ของไทย ด้วยการผสมผสานรูปแบบการระบายสีตามแนวทางของศิลปินกลุ่มฟิวเจอริสซึม ตามแนวคิด ว่าความเคลื่อนไหวคือความงาม และนำ�เสนอผลงานการระบายสีโดยไม่ใช้พู่กันตามแนวทางการลากและ ระบาย กระบวนการสร้างสรรค์ ใช้สื่อวัสดุสีอะครีลิคบนผ้าใบ เริ่มจากการระบายสีพื้นด้วยการกลิ้งสีด้วย ลูกกลิ้งฟองน้ำ� ให้เกิดน้ำ�หนักสีมากกว่าหนึ่งน้ำ�หนัก เพื่อแสดงมิติใกล้ไกลของพื้นภาพ โดยให้ความสำ�คัญ กับน้ำ�หนักอ่อนแก่และค่าน้ำ�หนักของสี ตามแนวคิดที่ว่า สีเป็นเปอร์สเปคทีฟ กล่าวคือ หากสีมีค่าน้ำ�หนัก ต่างกัน เมื่อนำ�มาระบายใกล้ๆ กัน บนระนาบเดียวกันมากกว่าสองสี จะแสดงค่าความใกล้ไกลในลักษณะ ลวงตาได้ หลังจากระบายสีพื้นภาพแล้ว ลากเส้นแสดงโครงสร้างท่าทางมวยไทยให้เกิดเส้นที่มีความซ้ำ� ซ้อนกัน โดยลากเส้นด้วยสีอะครีลิคบรรจุหลอดปลายแหลมที่ตัดปลายเล็กน้อยเพื่อให้สีไหลเป็นเส้นเล็ก หรือเส้นใหญ่ตามต้องการ และลากเส้นแบบต่อเนื่องโดยไม่ยกมือ บางเส้นแสดงลักษณะเส้นช้าแบบลาก สัมผัส บางเส้นลากเร็วแสดงท่าทางและความเคลื่อนไหวผสมผสานกัน หลังจากที่เส้นแห้งแล้วระบายสี เคลือบทับบางส่วน เว้นบางส่วนที่ต้องการแสดงให้เห็นเป็นจุดที่น่าสนใจ เพื่อให้เกิดเป็นมิติใกล้ไกลในภาพ และแสดงความสัมพันธ์ระหว่างภาพและพื้นหลัง เมื่อสีที่เคลือบทับแห้งแล้ว ลากเส้นเพิ่มเติมในลักษณะของ การซ้ำ�กันในทิศทางเดียวกัน เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวของภาพและเคลือบสีทับบางส่วนอีกครั้งหนึ่ง ด้านเทคนิคที่ใช้ในการสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 1) การลากเส้นสัมผัส 2) การลากเส้นแสดงท่าทางและ ความเคลื่อนไหว 3) การกลิ้งสี 4) การเคลือบ ส่วนวัสดุในการสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 1) แคนวาสขนาด 76.20 X 123.29 เซนติเมตร ที่มีที่มาของแนวคิดด้านสัดส่วนจากสัดส่วนทอง 2) สีอะครีลิคสำ�หรับระบาย และสีอะครีลค ิ บรรจุหลอดพลาสติกปลายแหลม 3) ลูกกลิง้ ฟองน้�ำ ทีม ่ ห ี น้ากว้าง 2 ขนาด คือ 1 นิว้ และ 3 นิว้ 4) จานสีที่มีขนาดใหญ่มากพอสำ�หรับลูกกลิ้งขนาด 3 นิ้ว ผลการสร้างสรรค์ปรากฏว่า เกิดภาพมวยไทยทีแ่ สดงความเคลือ ่ นไหวเป็นภาพลวงตา โดยมีลก ั ษณะ นามธรรม ต้องพึ่งพาการรับรู้ทางตา สามารถส่งเสริมความคิดและจินตนาการของผู้ดูให้เกิดขึ้นได้จาก การคาดเดาลักษณะของเส้น น้ำ�หนักของสี ความมืด ความสว่าง ความอ่อนแก่ ความซ้ำ�ซ้อน ต่อเนื่อง เล็กใหญ่ ใกล้ไกลของเนื้อหาในภาพ ได้ภายใต้แนวคิดที่นำ�เสนอคือ “ความเคลื่อนไหวคือความงาม”

Motion สีอะคริลิคบนผ้าใบ 123.29 x 76.20 ซม.

Abstract This synthesis of creative works have an objectives aims are to present the content of Thai martial arts by combining the coloring patterns according to the guidelines of the Futurism artist based on the idea that movement be beautiful a and presenting the painting without brush as according to the Neo drawing and painting methods.

Creative process are using media of acrylic paint on canvas. First, painting the background by rolling the color with a sponge roller to create more than 1 color weight to show the dimension of background, giving importance to light weight to according to the idea that the color is a perspective, that is, if the color has different weight values. When used to paint close to each other on the same plane more than two colors will show distant values in an illusion. Second, draw a line showing the structure of Thai Boxing to create a line that has overlap with acrylic paint containing a pointed tip that cut the tip slightly to allow the color to flow into small or large lines as needed and continuously drawing lines without lifting hands to show the characteristic line of contour drawing and some quick drag lines show a combination of gestures drawing and movements. Third, partially glazed leave some parts that need to be shown as an interesting point to create a dimension near and far in the image and show the relationship between the figure and Ground. Fourth, draw more lines in the same manner in the same direction to show the movement of the image and partially glazed again.

Techniques used in creating are 1) Contour drawing 2) Gesture drawing 3) Roller painting 4) Glaze, materials consist of 1) canvas size 76.20 x 123.29 cm. that has comes from the concept of golden mean rectangle 2) Acrylic colors and containing plastic tubes with pointed ends 3) Sponge rollers with a width of 2 sizes are 1 inch and 3 inches 4) The palette is large enough for 3-inch rollers.

Creative effect it appears that the image of Thai boxing shows the movement is an illusion with this abstract painting style, must rely on eye recognition can promote the ideas and imagination of the viewer to be derived from guessing the nature of the line, the weight of the color, darkness, brightness, lightness, continuity, small or big, near or far of the whole under the concept presented “Movement be Beautiful”.

42

ภูริน หล้าเตจา Purin La-teja

ironpurin@gmail.com อาจารย์ประจำ�ภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

43

การออกแบบศาลาปฏิบัติธรรมวัดมัชฌันติการาม ด้วยแนวคิดสำ�หรับผู้พิการและสูงอายุที่เป็นไปตาม หลักการ Universal Design Meditation Pavilion Design for Respondent to Elderly and Disabled Persons Usability under Universal Design Approach บทคัดย่อ อาคารปฏิบัติธรรมเป็นอาคารสาธารณะที่จำ�เป็นต่อการให้บริการแก่คนทุกคน จึงจำ�เป็นที่จะต้องคำ�นึงถึงหลักการใช้ Universal Design เพื่อมาตอบสนอง พฤติกรรมการใช้งานของผูใ้ ช้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูส ้ งู อายุและผูพ ้ ก ิ าร การออกแบบ จึงมุ่งเน้นใน 2 ประเด็นหลัก คือ หนึ่ง ลักษณะรูปแบบทางกายภาพของอาคารทาง ศาสนา เช่น ขนาด รูปร่าง สัดส่วน เป็นต้น รวมถึงลักษณะความเชื่อที่มีผลต่อการ ออกแบบสถาปัตยกรรม สอง ประเด็นด้านพฤติกรรมการใช้งานเชิงพืน ้ ทีใ่ นส่วนต่างๆ ของศาลาปฏิบัติธรรม โดยมุ่งเน้นเพื่อผู้สูงวัยและผู้พิการให้สามารถใช้งานได้อย่าง สะดวก และเป็นไปตามหลักการ Universal Design Abstract The dharma practice pavilion is public building that is primary right to provide services to everyone. It is necessary to take into consideration the principle of Universal design in responding to behavior of users, particularly, elderly and disabled persons. This Architecture Focuses on 2 main issues, [1] Physical characteristics of religious building, such as size, shape, proportion, etc. include beliefs that effect architecture design. [2] Issues of special usage behavior in various parts of meditation pavilion. With a focus on the elderly and disabled able to use easily toward the Universal Design approach. ศาลาปฏิบัติธรรม วัดมัชฌันติการาม เทคนิคการก่อสร้าง ระบบพื้นไร้คาน 34.10 x 43.20 x 18.50 ม.

44

วรางคณา กรเลิศวานิช Varangkana Kornloetwanich kornloetwanich.v@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

45

โคมไฟดอกพิกุล Phikul lamp

โคมไฟดอกพิกุล ไม้สัก ไม้สน ผิวไม้สน หลอดไฟพร้อมขั้วหลอด แบบแขวน 10 x 10 x 20 ซม.

10 x 10 x 30 ซม. แบบตั้งพื้น 10 x 10 x 20 ซม.

10 x 10 x 30 ซม.

บทคัดย่อ การสร้างสรรค์งานครั้งนี้เป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟ โดยได้รับแรง บันดาลใจมาจากดอกพิกุล เป็นการออกแบบที่เน้นเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่ง รวมทั้งสามารถใช้งานได้จริง งานสร้างสรรค์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อออกแบบโคมไฟดอกพิกุลไปใช้ใน การตกแต่งสถานที่ต่างๆภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี 2) เพื่อออกแบบโคมไฟ ดอกพิกุลที่สามารถสื่อถึงความเป็นอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรีได้ โดยกระบวนการการสร้างสรรค์ประกอบไปด้วย 1) ขั้นตอนก่อนการออกแบบ ผู้สร้างสรรค์ ได้ศึกษารูปแบบและลักษณะของโคมไฟรวมทั้งศึกษาเกี่ยววัสดุที่นำ�มา ใช้ในการออกแบบ 2) ขั้นตอนการออกแบบ ผู้สร้างสรรค์รวบรวมแนวความคิด แรงบันดาลใจ ออกแบบภาพร่าง พัฒนารูปแบบและออกแบบในลักษณะของ 3 มิติ เพื่อนำ�ไปสร้างต้นแบบ โดยวัสดุสำ�คัญที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน คือ ไม้สัก ไม้สน และผิวไม้สน เนื่องจากสีของเนื้อไม้มีลักษณะใกล้เคียงกับสีของดอกพิกุล ผลการสร้างสรรค์งานสรุปว่า 1) ผู้สร้างสรรค์ได้ผลิตภัณฑ์โคมไฟ ที่ได้รับแรง บันดาลใจมาจากดอกพิกุล ในการนำ�ไปตกแต่งสถานที่ต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย ราชภัฎธนบุรี เช่น ห้องประชุม หอประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น 2) ผู้สร้าง สรรค์ได้ผลิตภัณฑ์โคมไฟ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกพิกุล เมื่อบุคคลภายนอก พบเห็นหรือมีการนำ�ไปใช้งาน สามารถสื่อถึงความเป็นอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ราชภัฎธนบุรี Abstract The creation of this work is the design of lamp products.

Which was inspired by Pikul flowers Is a design that focuses on decorative products Including can actually be used. This creative work With the objective 1) to design the Pikun flower lamp to decorate various places within Thonburi Rajabhat University 2) in order to design the Pikun flower lamp that can communicate the identity of Thonburi Rajabhat University In which the creative process consists of 1) Steps before designing The author has studied the form and characteristics of lamps as well as the materials used in the design. 2) Design process The creators collect ideas, inspiration, design sketches, develop styles and design in 3D to create prototypes. With important materials used in creating works is teak, pine and pine. Because the color of the wood looks similar to the color of the Pikul flower.

The results of the creative work concluded that 1) The creator obtained the lamp product Which was inspired by Pikul flowers In bringing to decorate various places in Thonburi Rajabhat University Such as meeting rooms, auditoriums, Chaloem Phrakiat Building, etc. 2) The creator obtained the lamp product Which was inspired

by Pikul flowers When outsiders see or use Can communicate the identity of Thonburi Rajabhat University.

46

สุรพงษ์ ประเสริฐศักดิ์ Surapong Prasertsak

saho_design@hotmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

47

การตัดทอนรูปร่างรูปทรง Distortion of Shape and Form บทคัดย่อ การสร้างสรรค์ผลงานด้วยแนวคิดจากศิลปะนามธรรม การตัดทอนรูปร่างรูปทรง ของวัตถุ โดยใช้รูปทรงเรขาคณิต วงกลม วงรี เส้น และรูปทรงอิสระ โดยหยิบยก ศิลปะการแสดงพื้นเมืองภาคใต้ของไทย ได้แก่ มโนราห์ หรือ โนรา เป็นเนื้อหาใน การสร้างสรรค์ชิ้นงานนี้ Abstract Creation of artworks from abstract art concept.The Distortion shape and form with geometric form and free Form, The content from the art local perforances in southern thailand is nola.

โนรา สีอะคริลิคบนผ้าใบ 120 x 80 ซม.

48

รศ.ดร.เสาวนิตย์ กาญจนรัตน์ Assoc. Prof. Dr.Saowanit Kanchanarat ksaowanit@gmail.com อาจารย์ประจำ�ภาควิชาการเทคโนโลยีศิลปอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

49

จิตรกรรมบาติกเรื่องความสนุกสนานใต้ท้องทะเล Enjoyment under the Sea บทคัดย่อ ความประทับใจจากการเข้าร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการทำ�ผ้าบาติก และ กิจกรรมการดำ�น้�ำ เพือ ่ ชืน ่ ชมโลกใต้ทะเล เป็นทีม ่ าของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ผลงานจิตรกรรมทีส ่ วยงาม ดังนัน ้ งานวิจย ั นีจ้ งึ มีวต ั ถุประสงค์เพือ ่ สร้างสรรค์ผลงาน จิตรกรรมบาติกตามแนวทางของปัจเจกบุคคลที่ได้รับประสบการณ์นั้นๆ มา โดยการศึกษานี้มีขอบเขตของการสร้างสรรค์ด้านเทคนิค คือ การใช้เทคนิคบาติก เพือ ่ สร้างสรรค์ผลงาน ในด้านของเนือ ้ หาได้ใช้การดำ�เนินชีวต ิ ในธรรมชาติ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการใช้ชีวิตของปลาใต้ท้องทะเลเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้สึกอย่างอิสระ และจัดองค์ประกอบศิลป์ตามหลักเกณฑ์เอกภาพของสี โดยใช้สีพหุรงค์ ผลจากการ วิจัยพบว่า รูปทรง เรื่อง และเนื้อหามีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น ในขณะที่ผู้ สร้างสรรค์ผลงานก็สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมรูปลักษณ์ สีสันของแบบให้งามตาม ทัศนะของตนเองได้และใช้กฎเกณฑ์การจัดวางทัศนธาตุให้สอดคล้องกับความงาม ของเรื่อง ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ผลจากการวิจัยควรนำ�ไปสร้างสรรค์เนื้อหาที่เป็น อิสระจากเรื่องและนำ�ไปประยุกต์ใช้สอนในรายวิชาศิลปะ

ความสนุกสนาน ใต้ท้องทะเล บาติก 90 x 47 ซม.

Abstract The impression of attending the batik workshop and the diving activity to appreciate the underwater world could be the sources of the inspiration to create several beautiful paintings. Therefore, the aim of this research was to create the batik painting in according to the individual style. In this study, the scope of the creativity in the term of the technique were the using of batik technique to create the picture. In the term of content, the freedom feeling of living in the nature, particularly the living of marine fish had been used as a medium to express the feeling. The principle of art had been arranged in relation to the polychrome and the unity of color.

The results showed that Form, Theme and Content closely related to each other. Form and Colors of the paintings could be modified within the individual thinking of the painters. Meanwhile, the elements of art could be performed in accordance with the beauty of the Content. In conclusion, the findings of this research could be used for creating the Contents of Non-objective art and could be applied through the art courses.

50

องอาจ มากสิน Ong-ard Maksin

pokpok905@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

51

คลื่นชีวิต Wave of life บทคัดย่อ ผู้สร้างสรรค์สนใจวัสดุเหลือใช้ที่คนทั่วไปมองข้าม คือ สายไฟเก่า นำ�มาผ่าน กระบวนการจัดการแปลงรูปลักษณ์ เพื่อหาเรื่องราวและความงามแบบใหม่ โดยทำ� การทดลองและบันทึกผลเพื่อให้รู้ถึงข้อจำ�กัดของวัสดุ แล้วเลือกกรรมวิธีที่ตนเอง สนใจ เช่น การตัด ฉีด ถัก ม้วน แยกส่วน จากนั้นนำ�มาปะติด จัดวางองค์ประกอบที่ เน้นการสื่อสารเรื่องราวด้วยทัศนธาตุพื้นฐานทางศิลปะ คือ เส้น แสดงออกซึ่งความ เคลื่อนไหว ได้เป็นผลงานวัสดุผสม 2 มิติ ที่ถ่ายทอดให้คนเห็นคุณค่าความงามของ วัสดุเหลือใช้และเกิดมุมมองใหม่ทางด้านความงาม พร้อมทั้งกระตุ้นเรื่องราวตาม จินตนาการของผู้ชม

คลื่นชีวิต วัสดุผสม 60 x 70 ซม.

Abstract The artist is interested in waste materials that people generally overlook. Old wires are brought through the process of managing the appearance to find new meaning and beauty by the experimental process and record the results to know the limitations of the materials. After that, the artist chooses the method that interested in, such as cutting, tearing, knitting, curling, splitting, then collaging and laying out elements by emphasizing on using the line as a basic element of the art to communicate. The result is a 2D mixed material artwork that can be conveyed to people to appreciate the beauty of waste materials. Moreover, create a new perspective on beauty along with stimulating the story as per the imagination of the audience.

52

อรนุช สมคะเน

Oranooch SomKanae oranooch25@hotmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

53

รับบัว Get a lotus บทคัดย่อ งานสร้างสรรค์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างงานจิตรกรรมสีน้ำ�ด้วยรูปแบบศิลปะ อาร์ตนูโว ที่สะท้อนเรื่องราว ความผูกพันกันระหว่างวิถีชีวิตของชาวอำ�เภอบางพลี กับสายน้ำ� และความศรัทธาอย่างเหนียวแน่นในพระพุทธศาสนาของชาวมอญใน จังหวัดสมุทรปราการ ผู้สร้างสรรค์ได้ศึกษาข้อมูลประวัติความเป็นมาและความ สำ�คัญของประเพณีรับบัว และศึกษากลวิธีสร้างสรรค์งานแบบอาร์ตนูโว นำ�มา สร้างสรรค์งานจิตรกรรมสีน้ำ�เรื่อง “รับบัว” โดยใช้จุดเด่นของภาพเป็นหญิงสาว ชาวมอญที่รายล้อมด้วยดอกบัวหลวง และต้นกก สายน้ำ� ใช้ภาพกองดอกบัวที่กอง อยู่หน้าหลวงพ่อโต แทนการบูชาและความศรัทธาต่อพุทธศาสนา นำ�หงส์ สัตว์สัญลักษณ์ชาวมอญ นกนางนวลที่เป็นสัญลักษณ์ของสถานตากอากาศบางปู นำ�มาประกอบในภาพ จัดวางองค์ประกอบของภาพโดยใช้เส้นโค้งเป็นหลัก เพื่อให้ เกิดความรู้สึกเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลงดงามและเพื่อแสดงออกถึงความเชื่อมโยง กันประสานสัมพันธ์กันระหว่างชนชาติมอญกับคนไทยผ่านประเพณีรับบัวที่สืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน

รับบัว สีน้ำ�บนกระดาษ 55 x 75 ซม.

Abstract This creative work has a purpose. To create watercolor paintings with Art Nouveau art forms That reflects the story The bond between the way of life of the people of Bang Phli District and the river and strong faith in Buddhism. Of Mon people in Samut Prakan Province The author has studied Background information And the importance of the Bua Bua tradition and study of Art Nouveau creative strategies To create watercolor painting work “Rub Bua” using the distinctive points of the image as a Mon girl The pattern is surrounded by lotus flowers and reeds from the stream. Use the picture of a pile of lotus flowers that lie in front of Luang Por To. Instead of worship and faith in Buddhism Bring the swan, animal, Mon symbol The seagull that is a symbol of Bang Bu Cru Taken in the picture Align the composition using curves as the basis for a smooth, beautiful moving feeling. And to show the connection and coordination and coordination Between the Mon people and Thai people through the Bua Bua tradition that has been passed down to the present.

54

วีรชัย แก้วแกมทอง

nutdigital58@gmail.com นักศึกษาสาขาวิชาการสร้างสรรค์ศิลปะดิจิทัล

ผศ.ดร.ทองเจือ เขียดทอง

Asst. Prof. Dr.Thongchue Khiatthong thongchue@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

55

ภาพคอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติและวีดิทัศน์ เรื่อง พระตำ�หนักแพ 3D and Video For Phra Tamnak Phae Royal Palace บทคัดย่อ พระตำ�หนักแพ ซึ่งเคยมีอยู่ริมแม่น้ำ�เจ้าพระยา หน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ พระราช วังเดิม เป็นพระทีว่ า่ ราชการและเป็นทีป ่ ระทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยความเปลี่ยนแปลงและกาลเวลาจึงเป็นที่น่าเสียดายที่ ภาพความงดงามของตำ�หนักแพในสมัยธนบุรีนั้นไม่มีหลงเหลือให้อนุชนรุ่นหลังได้ พบเห็นในปัจจุบัน ผู้สร้างสรรค์จึงได้ศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างสรรค์ พระตำ�หนักแพ ซึ่งเคยมีอยู่หน้าพระราชวังเดิม โดยคอมพิวเตอร์กราฟิกในลักษณะ โมเดล 3 มิติ 2) เพื่อให้ผู้ชมได้เกิดจินตนาการถึงพระตำ�หนักแพ อันจะส่งเสริมการ ศึกษาสถาปัตยกรรมสมัยกรุงธนบุรี จากนั้นได้ศึกษาแหล่งข้อมูลศึกษาและศึกษา ภาคสนาม ทำ�การออกแบบและเขียนแบบแล้วดำ�เนินสร้างสรรค์พระตำ�หนักแพ ซึ่งเคยมีอยู่หน้าพระราชวังเดิม โดยคอมพิวเตอร์กราฟิกในลักษณะ โมเดล 3 มิติ และจัดทำ�วีดิทัศน์นำ�เสนอข้อมูลพร้อมภาพ 3 มิติทำ�ให้ผู้ชมได้เกิดจินตนาการและ เห็นคุณค่าของพระพระตำ�หนักแพ

พระตำ�หนักแพ

ภาพกราฟิก 3 มิติและ วีดิทัศน์ แสดงในหน้าจอ คอมพิวเตอร์

Abstract Former Phae Palace that used to exist Riverside Chao Phraya River In front of Vichai Prasit Fort Original palace Is the royal governor And was the residence of King Thonburi or King Tak Sin Maharaj. With change and time, it is a shame that the beauty of the Thapae Palace during the Thonburi period, there is not any left for future generations to see today The author therefore studied with the objective of 1) in order to create a floating palace which used to be in front of the original palace By computer graphics in the form of 3D models 2) for the audience to imagine the Royal Palace Which will promote the study of Thonburi architecture After that, studying the educational resources and field studies Design and draw, then proceed to create a floating palace which used to be in front of the original palace. By computer graphics in the form of 3D models and creating video presentations with 3D images, allowing viewers to imagine and appreciate the value of the Royal Palace.

56

กุมารีรัตน์ พิชญ์พัฒน์

นราดูร เมฆวัน

ดร.ภควัต รัตนราช

kumareerat.ph61@chandra.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

daffyz34@hotmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

phakawat29@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

Kumareerat Phitchaphat

Naradun Mekwan

อานนท์ ยอดพิกุล

คุณานนต์ คำ�เรือน

rickadokaka22@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

rickadokaka22@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

Arnon Yodphikul

Kunanon Kamruan

Dr.Phakawat Ratanarat

57

โฉมงานหลังม่าน

Candid DSLR canon 750d เลนส์ normal 18-55 mm

เย็บเครื่อง

Candid DSLR canon 750d เลนส์ normal 18-55 mm

ไหว้แบบจิตรกรรม

Candid DSLR canon 750d เลนส์ kit 18-55 mm

ตามรอยจิตรกรรม

Candid DSLR canon 750d เลนส์ kit 18-55 mm

ความงามจากด้านหลัง Candid DSLR canon 750d เลนส์ kit 18-55 mm

พระลอแปลงกาย

Candid DSLR canon 750d เลนส์ normal 18-55 mm

พระลอลงสวน

Candid DSLR canon 750d เลนส์ normal 18-55 mm

งานสร้างสรรค์ภาพถ่ายชุด นาฏศิลป์ไทยและการละคร Creative photo series Thai Classical Dance and Drama บทคัดย่อ วัตถุประสงค์เพื่อเก็บบันทึกภาพปรากฏการณ์เกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทยและการ ละคร และนำ�เสนอภาพเบื้องหน้าและเบื้องหลังของผู้แสดงนาฏศิลป์และการละคร แนวคิด คือ นาฏศิลป์ไทยเป็นศิลปะประจำ�ชาติไทยที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และได้รบ ั ความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ผูส ้ ร้างสรรค์จงึ นำ�เสนอภาพถ่าย ชุดนาฏศิลป์การละคร เพือ ่ แสดงถึงความงดงามและความน่าภาคภูมใิ จมรดกของไทย Abstract Objective: To record the phenomena concerning Thai dance and drama and present the front and back pictures of the actors of the dance and drama. The concept is that Thai classical dance is a national art that is a pride of Thai people and has received a lot of attention from foreigners. The creator therefore presents a series of dramatic arts and drama to show the beauty and pride of Thai heritage.

58

รัชชานนท์ บุตรไวยวุฒิ

จุฑามาศ วงษ์มะเซาะ

กวินทิพย์ เสนาชู

ฑิตยา เป๊ะต๊ะวงศ์

ธาวินี ปานพิมพ์

ดร.ภควัต รัตนราช

iceice4200@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

Traylove_2551@msn.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

sansve29@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

thawineepanpim2240 @hotmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

gamekavintip29@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

Dr.Phakawat Ratanarat phakawat29@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

59

งานสร้างสรรค์สารคดีตามติดชีวิตบุคคลที่สาม เรื่อง สาวพลัสไซต์ Biography Documentary “Plus size” บทคัดย่อ วัตถุประสงค์เพื่อผลิตสารคดีโทรทัศน์ประเภทสารคดีตามติดชีวิตบุคคลที่สาม และนำ�เสนอการใช้ชีวิตและแรงบันดาลใจของสาวพลัสไซต์ การผลิตสารคดีนี้ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากการที่ผู้สร้างสรรค์ได้ตระหนักถึงผลเสียต่อสุขภาพที่พบปัญหา ที่มาจากโรคอ้วน หรือสาวพลัสไซต์ที่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองที่จะใช้ชีวิตในสังคม ให้มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต โดยแก่นเรื่องนี้ก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำ�วัน เพื่อให้สังคมยอมรับให้ได้ Abstract Objective To produce a documentary of documentary in the type of documentary following a third person’s life. And present the life and inspiration of Girls Plus Sites The production of this documentary was inspired by the creators’ awareness of the negative health effects they encounter. Problems that come from obesity or girls. Plus, the site does not have confidence in herself to live in society To have inspiration in living In which the essence is the behavior of daily life To allow society to accept.

สาวพลัสไซต์ สารคดี

60

อธิชา ขอพึ่ง

popaticha2540@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

ชาญชิต แก้ววงษา

earthchanchit@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

วิภาดา เรืองทองดี

ดร.ภควัต รัตนราช

ทัตติยะ ผึ้งใย

phakawat29@gmail.com อาจารย์ประจำ�สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

wipada2539pla@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

zumkao.8910@gmail.com นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์

Dr.Phakawat Ratanarat

61

งานสร้างสรรค์สารคดีเชิงละคร “ปู่ภุชงค์” Drama-based documentary Creativity “Phu-Chong” บทคัดย่อ วัตถุประสงค์เพื่อผลิตสารคดีเชิงละครและเผยแพร่สารคดีในแง่ของ ความเชื่อ การทำ�ความดี การเดินสายกลาง การผลิตสารคดีเชิงละครชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจ มาจาก ความเชือ ่ ของบางคนทีศ ่ รัทธาเรือ ่ งการเข้าทรงอย่างงมงาย โดยขาดวิจารณ ญาณ สารคดีจึงนำ�เสนอตัวอย่างของความความเชื่อและศรัทธาโดยมีหัวใจสำ�คัญ คือ พระรัตนตรัยและเคารพในครูบาอาจารย์ การทำ�ความดีและเดินทางสายกลาง Abstract The objective is to produce drama-based documentary and publish documentaries in terms of beliefs, good deeds, middle path.

The production of this dramatic documentary was inspired by the beliefs of some people who believe in the aggression without judgment. The documentary therefore presents examples of faith and believe, with the heart being the key Jewels and respect for teachers, good deeds and middle path.

ปู่ภุชงค์

สารคดีเชิงละคร

ภาคผนวก

DRU วิชาการ 1 การประชุมวิชาการนําเสนอผลงานวิจัย และงานสร8างสรรค:ระดับชาติ “งานวิจัย และงานสร8างสรรค:รับใช8สังคม” ประจําป! พ.ศ. ๒๕๖๒ -----------------หลักการและเหตุผล มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป;นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาชุมชน ที่มุ'งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เป;นผู/นําการวิจัยและพัฒนาชุมชน เป;นแหล'งเรียนรู/ของชุมชน มีการบริหารจัดการที่ได/มาตรฐาน และมีการ ผลิตผลงานวิจัยและให/บริการทางวิชาการแก'สังคมอย'างต' อเนื่อง โดยมุ'งเน/นการวิจัยเพื่อรับใช/ชุมชน สร/าง สังคมฐานความรู/ โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาเป;นกลไกในการส'งเสริมการวิจัยให/มีคุณภาพและสนับสนุนการ บริการวิชาการด/านการวิจัยและงานสร/างสรรค9แก'ชุมชน ด/วยสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี โครงการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ ธนบุรี ร'วมมือกับ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราช ภัฏหมู'บ/านจอมบึง สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี คณะมนุษยศาสตร9 มหาวิทยาลัยราช ภั ฏ นครปฐม คณะมนุ ษ ยศาสตร9 มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ บ/ า นสมเด็จ เจ/ า พระยา สถาบั น วิ จั ย พุ ท ธศาสตร9 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหามงกุฏราชวิ ทยาลัยร'วมจัดประชุมวิชาการและนําเสนอ ผลงานวิจัยและงานสร/างสรรค9ระดับชาติขึ้น เพื่อเผยแพร'ผลงานทางวิชาการของคณาจารย9 นักวิชาการ นักวิจัย นักศึ กษา ของมหาวิทยาลั ย สถาบัน การศึกษาอื่ น ๆ หน'ว ยงานภาครัฐและเอกชน เพื่ อเป;นเวทีให/เกิดการ แลกเปลี่ย นความรู/ทางวิช าการ ความคิดเห็น ทางวิ ชาการ และนําเสนอผลการศึ กษาของงานวิจั ยและงาน สร/างสรรค9ในช'วงที่ผ'านมาที่เป;นประโยชน9ต'อการพัฒนาชุมชน ท/องถิ่น และประเทศ วัตถุประสงค: 1. เพื่อเผยแพร' ผลงานวิ จัย และงานสร/างสรรค9ของคณาจารย9 นั กวิ ชาการ นักวิจั ย นักศึกษา ของ สถาบันการศึกษา หน'วยงานภาครัฐและเอกชน 2. เพื่อส'งเสริมให/มีการนําองค9ความรู/ใหม' ๆ ไปประยุกต9ใช/ให/เกิดการพัฒนาในชุมชนท/องถิ่น 3. เพื่อส'งเสริมให/นักวิจัยสร/างสรรค9ผลงานวิจัยและงานสร/างสรรค9ที่มีคุณค'าให/เป;นที่ประจักษ9แก'ชุมชนสังคม 4. เพื่อเสริมสร/างความร'วมมือทางวิชาการเป;นเครือข'ายในการวิจัยและพัฒนาท/องถิ่น หัวข8อในการนําเสนอผลงานทางวิชาการและงานวิจัย กลุ่มที ( 1 การศึกษา กลุ่มที ( 2 มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ กลุ่มที ( 3 วิ ทยาการจัดการ

กลุ'มที่ 4 วิทยาศาสตร9และเทคโนโลยี กลุ'มที่ 5 งานสร/างสรรค9และการออกแบบ

DRU วิชาการ 2 รูปแบบในการจัด 1. เสนอผลงานวิจัยภาคบรรยายเรื่องละ 20 – 25 นาที 2. เสนองานสร/างสรรค9และการออกแบบ 3. เสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร9เรื่องละ 1 บอร9ด 4. การอภิปราย เรื่อง “งานวิจัย และงานสร8างสรรค:รับใช8สังคม” ค.าลงทะเบียน งานวิจัย งานสร8างสรรค:และการออกแบบ บุคคลทั่วไป 2,500 บาท บุคลากรและนักศึกษาภาคีเครือข'าย 2,000 บาท ผู/เข/าร'วมประชุม 800 บาท หน.วยงานที่รับผิดชอบ 1. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 2. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม 3. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู'บ/านจอมบึง 4. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 5. โครงการบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 6. คณะมนุษยศาสตร9 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 7. สถาบันวิจัยพุทธศาสตร9 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 8. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย 9. คณะมนุษยศาสตร9 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 10. คณะมนุษยศาสตร9 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ/านสมเด็จเจ/าพระยา วัน เวลา และสถานที่จัดประชุมฯ วันที่ 12-13 กันยายน 2562 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ ผู8เข8าร.วมประชุม คณาจารย9 นักวิชาการ ข/าราชการ นักวิจัย นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และอาจารย9 นักวิจัย นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเครือข'าย ตลอดจนประชาชนทั่วไป

DRU วิชาการ 3 กําหนดส.งผลงาน ลงทะเบียน และชําระเงิน เวลา 15 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม 2562 26 - 30 สิงหาคม 2562 30 สิงหาคม 2562 12 กันยายน 2562

รายการ ลงทะเบียน ส'งบทความและงานสร/างสรรค9 และชําระเงิน ผู/ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความและงานสร/างสรรค9 ประกาศผลการพิจารณา นําเสนอผลงานในที่ประชุมวิชาการ

ประโยชน:ที่จะได8รับ 1. อาจารย9 นักวิจัย นักศึกษา นักวิชาการ ได/เผยแพร'ผลงานวิจัยและงานสร/างสรรค9 องค9ความรู/ใหม' ซึ่งเป;นประโยชน9ต'อการพัฒนาทางวิชาการ และการพัฒนาสังคม ชุมชนท/องถิ่น 2. ผู/เข/าร'วมประชุมมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข/อมูล ประสบการณ9 องค9ความรู/ สู'การนําไปใช/ ประโยชน9เพื่อการพัฒนาสังคม ชุมชนท/องถิ่น 3. ผู/เข/าร'วมประชุมได/ความรู/ มีประสบการณ9 และมีวิสัยทัศน9ทางวิชาการที่กว/างไกล สู'การนําไปใช/ ประโยชน9สําหรับพัฒนาการทํางานอย'างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กําหนดการ การประชุมวิชาการนําเสนอผลงานวิจัย และงานสรางสรรคระดับชาติ ๒๕๖๒ “งานวิจัย และงานสรางสรรครับใชสังคม” วันที่ ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ณ อาคารอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ ................................................................................... วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ ๐๘.๓๐ – ๐๙.๑๕ น. ลงทะเบียน ๐๙.๑๕ – ๐๙.๓๐ น. พิธีเปด ณ หองประชุมชั้น ๓ ๐๙.๓๐ – ๑๑.๓๐ น. การเสวนา เรื่อง การกาวล้ําของงานวิจัย และงานสรางสรรคเพื่อรับใชสังคม (Disruptive Trends in Research and Creativity for Social Engagement) วิทยากรอภิปรายรวม โดย ๑. ศาสตราจารยปรีชา เถาทอง ศิลปนแหงชาติ สาขาทัศนศิลป ป ๒๕๕๒ ๒. ดร.อุทัย ดุลยเกษม กรรมการสภาวิชาการผูทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ๓. อาจารยไพโรจน ธีระประภา ศิลปนศิลปาธร ป 2557 ๔. รองศาสตราจารย ดร.พีรเดช ทองอําไพ ผูอํานวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ๕. ดร.มนัญญา ปริยวิชญภักดี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ดําเนินการอภิปรายโดย ดร.พรศิริ กองนวล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. การนําเสนอผลงานวิจัยระดับดีเดน การนําเสนอผลงานสรางสรรคระดับดีเดน ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. พักรับประทานอาหาร ๑๓.๐๐ – ๑๓.๓๐ น. - พิธีลงนามความรวมมือระหวางเครือขายงานประชุมวิชาการ - พิธีลงนามความรวมมือระหวางมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี กับองคการบริหารสวนตําบลแหลมฟาผา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. นําเสนอผลงานวิจัย กลุมที่ ๑ การศึกษา หอง ๑๕๓๐๑ กลุมที่ ๒ มนุษยศาสตรและสังคมศาสตร หอง ๑๕๓๐๒ กลุมที่ ๓ วิทยาการจัดการ หอง ๑๕๓๐๓ และ ๑๕๓๐๔ กลุมที่ ๔ วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี หอง ๑๕๔๐๑, ๑๕๔๐๒ และ ๑๕๔๐๓

๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ๑๓.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ๑๖.๓๐ – ๑๖.๔๕ น.

นําเสนอผลงานสรางสรรค ณ หองประชุมชั้น ๑ นําเสนอผลงานวิจัยภาคโปสเตอร ณ หองประชุมชั้น ๓ มอบเกียรติบัตร/สูจิบัตร และปดการประชุม

วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ (สําหรับผูประสงคทัศนศึกษาเสนทางทองเที่ยวในชุมชน) เสนทางที่ ๑ ๘.๐๐ – ๑๒.๐๐

เสนทางที่ ๒ ๘.๐๐ – ๑๕.๐๐

หมายเหตุ

ออกเดินทางสูปอมพระจุลจอมเกลา พิพิธภัณฑปอมพระจุลจอมเกลาและเหตุการณ ในสมัย ร.ศ ๑๑๒ และชมพิพิธภัณฑเรือหลวงแมกลอง เดินทางไปวัดบางพลีใหญใน สักการะหลวงพอโต และเดินทางกลับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ

ออกเดินทางสูเมืองโบราณที่ไดรวบรวมปูชนียสถานที่สําคัญของไทยกวา ๑๑๖ แหง ตอดวยพิพิธภัณฑชางเอราวัณ สักการะชางสามเศียรที่สรางอยางวิจิตรบรรจง เดินทางไปวัดบางพลีใหญใน สักการะหลวงพอโต เดินทางกลับมหาวิทยาลัย ราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ (เสียคาเขาชมเมืองโบราณและพิพิธภัณฑ)

กําหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม