2 minute read

ตั้งค่ากราฟ Exness ยังไงให้แม่น? คู่มือใช้งานสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากเห็นกำไรจริง

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้แพลตฟอร์ม Exness ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า คำถามที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอก็คือ “จะตั้งค่ากราฟยังไงให้แม่น?” เพราะกราฟคือหัวใจสำคัญของการเทรด ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์แบบเทคนิคอลหรือฟันดาเมนทัล การตั้งค่ากราฟให้ถูกต้องแม่นยำตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงลงอย่างมากบทความนี้จะพาคุณไปเข้าใจทุกขั้นตอนของการตั้งค่ากราฟบน Exness ไม่ว่าจะผ่าน MT4, MT5 หรือ Web Terminal ตั้งแต่ประเภทกราฟ, Timeframe, อินดิเคเตอร์, สี, จนถึงการเซฟเทมเพลต เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมเทคนิคเล็กๆ ที่คนเทรดกำไรรู้แต่ไม่ค่อยบอกกัน!

การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

เริ่มจากเข้าใจ “กราฟ” ที่คุณกำลังดูอยู่

กราฟในแพลตฟอร์ม Exness ไม่ได้มีไว้แค่ดูสวยงาม มันคือเครื่องมือแปลข้อมูลราคาในอดีต เพื่อช่วยให้คุณคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ ดังนั้น ความแม่นยำของการตั้งค่า มีผลโดยตรงต่อ “กำไร” ของคุณ

Exness ให้คุณเลือกใช้ได้ทั้ง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ Exness Web Terminal โดยทั้งสามตัวสามารถตั้งค่ากราฟในลักษณะคล้ายๆ กัน ต่างกันที่ลูกเล่น อินดิเคเตอร์ และความลื่นไหลในการใช้งานเท่านั้น

1. เลือกประเภทกราฟให้เหมาะกับสไตล์การเทรด

Exness ให้คุณเลือกดูกราฟได้ 3 รูปแบบหลักๆ:

  • กราฟแท่งเทียน (Candlestick): นิยมที่สุด เพราะเห็นจุดเปิด-ปิด, สูง-ต่ำของราคาชัดเจน เหมาะกับเทคนิคอลทุกแบบ

  • กราฟเส้น (Line Chart): เหมาะสำหรับคนที่อยากดูเทรนด์โดยรวม ไม่สนใจรายละเอียดมาก

  • กราฟแท่ง (Bar Chart): คล้ายกับแท่งเทียน แต่ไม่แสดงสีชัดเจนมากเท่า

ถ้าอยากเทรดแม่น แนะนำใช้กราฟแท่งเทียน เพราะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดได้ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

2. ตั้งค่า Timeframe ให้เหมาะกับกลยุทธ์

Timeframe คือช่วงเวลาของแต่ละแท่งเทียน เช่น 1 นาที (M1), 15 นาที (M15), 1 ชั่วโมง (H1), 4 ชั่วโมง (H4), 1 วัน (D1) ฯลฯ

  • สาย Scalping: ใช้ M1, M5, M15

  • สาย Day Trading: เน้น M30, H1, H4

  • สาย Swing Trading/ลงทุนระยะยาว: ใช้ D1, W1

การเลือก Timeframe ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณไม่หลงทางกับสัญญาณหลอก (False Signal) และสามารถจับแนวโน้มหลักได้แม่นยำยิ่งขึ้น

3. เพิ่มอินดิเคเตอร์เทคนิคอลอย่างมีเป้าหมาย

ไม่ต้องใส่อินดิเคเตอร์เยอะ เพราะจะทำให้สับสน แต่ควรใช้ให้ “พอดีและมีเหตุผล” เช่น

  • Moving Average (MA): ใช้ดูเทรนด์ เช่น EMA 50, EMA 200

  • Relative Strength Index (RSI): ใช้วัดความแรงของราคา

  • MACD: ใช้หาจุดกลับตัวของเทรนด์

  • Bollinger Bands: ใช้จับช่วงราคาที่แคบหรือขยาย

เคล็ดลับ: อย่าใช้ RSI กับ MACD พร้อมกันถ้ายังไม่เข้าใจดี เพราะอาจตีความผิดได้ง่าย

การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

4. ตั้งสีกราฟให้ดูง่าย สบายตา และไม่ทำให้หลงผิด

บางคนใช้พื้นหลังสีขาว บางคนสีดำ ขึ้นอยู่กับความถนัด แต่สิ่งสำคัญคือ:

  • แท่งขาขึ้น (Bullish Candle) ควรเป็นสีเขียว/น้ำเงิน

  • แท่งขาลง (Bearish Candle) ควรเป็นสีแดง/ส้ม

  • ไม่ควรใช้สีเดียวกันทั้งสองฝั่งเด็ดขาด

แนะนำให้ทดลอง 2-3 แบบ แล้วเลือกแบบที่ “มองแว้บเดียวรู้เลยว่ากราฟกำลังจะขึ้นหรือลง”

5. สร้างเทมเพลตการตั้งค่าไว้ใช้ซ้ำได้

เมื่อคุณตั้งค่าได้ตามที่ชอบแล้ว เช่น เลือกกราฟแท่งเทียน, ตั้งค่า MA 50 กับ RSI 14, สีกราฟที่ดูง่าย ฯลฯ ให้ทำการ Save Template ไว้เลย เพื่อที่ครั้งหน้าจะเปิดมาใช้ได้ทันที ไม่ต้องมานั่งตั้งใหม่

บน MT4/MT5:

  • คลิกขวาที่กราฟ → Template → Save Template

  • ตั้งชื่อไฟล์ เช่น “TrendH1” หรือ “ScalpM5”

6. ซูมกราฟให้พอดี อย่าเลื่อนมากเกิน

การซูมหรือเลื่อนกราฟไปด้านหลังมากเกินไป จะทำให้คุณมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งอาจพลาดสัญญาณสำคัญ

แนะนำ:

  • ใช้ปุ่ม + / – หรือ scroll mouse ซูมให้พอดี

  • กด Auto Scroll กับ Chart Shift เพื่อให้กราฟไม่หลุดสายตา

7. อย่าลืมเช็ค Time Zone ของกราฟ

บางครั้งกราฟ MT4 หรือ MT5 อาจแสดงเวลาไม่ตรงกับเวลาท้องถิ่นของไทย เช่น แสดงเวลาเป็น GMT+2

วิธีแก้: ดูเวลาที่เซิร์ฟเวอร์แสดง แล้วปรับจิตให้อ่านเทียบกับเวลาตลาดเปิด/ปิดของจริง เช่น ตลาด Forex เปิดเวลา 04:00 (ตามเวลาประเทศไทยวันจันทร์)

8. ใช้กราฟหลายหน้าจอ (Multi Chart View) ถ้าคุณเทรดหลายคู่

บน MT4 หรือ MT5 คุณสามารถเปิดหลายกราฟพร้อมกันได้ เช่น EUR/USD + GBP/USD + XAU/USD โดยแต่ละกราฟตั้งค่า Timeframe หรืออินดิเคเตอร์ไม่เหมือนกัน เพื่อเทียบเทรนด์ข้ามคู่เงิน

เทคนิคนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาด และช่วยให้ไม่เปิดออเดอร์สวนเทรนด์แบบไม่รู้ตัว

9. หมั่นปรับแต่งกราฟตามพฤติกรรมตลาด

ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ บางครั้งอินดิเคเตอร์ที่เคยใช้ได้ผล อาจไม่แม่นในช่วงข่าวแรงหรือเทรนด์เปลี่ยน ดังนั้น อย่ายึดติดกับการตั้งค่าเดิมตลอดไป ให้ทดลอง ปรับแต่ง และทดสอบผลการใช้งานเป็นระยะ

สรุป: ตั้งค่ากราฟ Exness ยังไงให้แม่น?

  1. ใช้กราฟแท่งเทียน

  2. เลือก Timeframe ให้ตรงกับกลยุทธ์

  3. ใช้อินดิเคเตอร์เท่าที่จำเป็น

  4. ตั้งสีให้ดูง่าย ไม่สับสน

  5. เซฟเทมเพลตไว้ใช้ซ้ำ

  6. ซูมและเลื่อนกราฟให้พอดี

  7. ตรวจสอบ Time Zone

  8. เปิดกราฟหลายคู่เมื่อเทรดหลายออเดอร์

  9. ปรับแต่งตามสถานการณ์จริง

เมื่อคุณตั้งค่ากราฟอย่างมีหลักการ และรู้ว่าทำไมถึงตั้งแบบนั้น โอกาสทำกำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แทนที่จะหวังพึ่งดวงหรือ “กราฟสวยๆ” แบบไร้ทิศทาง

ลองทำตามขั้นตอนนี้ แล้วเทรดบน Exness ด้วยความมั่นใจมากขึ้น คุณอาจค้นพบสไตล์ของตัวเอง และสร้างระบบเทรดที่แม่นยำยิ่งกว่าที่เคย!

 ✅ การลงทะเบียนบัญชี Exness👈

อ่านเพิ่มเติม:

This article is from: