
2 minute read
ประเภทบัญชี Exness: แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุดในปี 2025
from Exness
by Exness Blog
Exness มีบัญชีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการสเปรดต่ำและความเร็วในการดำเนินคำสั่งสูง บทความนี้จะตอบคำถามอย่างตรงประเด็นว่า “ประเภทบัญชีของ Exness มีอะไรบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับใคร?”

1. บัญชี Standard – ทางเลือกที่เหมาะกับมือใหม่
บัญชี Standard เป็นประเภทบัญชีพื้นฐานที่ Exness แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น จุดเด่นคือไม่มีค่าคอมมิชชั่น สเปรดเริ่มต้นต่ำ และสามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยเงินฝากเพียงเล็กน้อย (ขั้นต่ำแค่ $1 ในหลายประเทศ)
ข้อดีของบัญชี Standard คือใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการฝึกฝน กลยุทธ์เทรดพื้นฐาน และเรียนรู้ระบบของ Exness โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าคอมมิชชั่น หรือความซับซ้อนของการตั้งค่าเหมือนบัญชีมืออาชีพ
สิ่งที่ต้องรู้: บัญชี Standard ยังสามารถใช้ Leverage แบบไม่จำกัดได้ (ในบางประเทศ) และรองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลาย เช่น ฟอเร็กซ์ ทองคำ น้ำมัน ดัชนี และคริปโต
2. บัญชี Cent – เหมาะกับผู้ฝึกฝนแบบจริงจัง
หากคุณยังไม่มั่นใจในการเทรดด้วยเงินจริงจำนวนมาก แต่ต้องการสัมผัสการเทรดจริง บัญชี Cent คือตัวเลือกที่ดีมาก เพราะแม้คุณจะฝากแค่ $10 คุณก็จะมีหน่วยเงินในบัญชีเป็น “เซ็นต์” เช่น $10 = 1,000 เซ็นต์ ทำให้คุณสามารถเปิดออเดอร์ได้หลายครั้งโดยไม่หมดทุนง่าย ๆ
บัญชี Cent ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับบัญชี Standard และประสบการณ์ใช้งานคล้ายกันเกือบทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกเทรดด้วยกลยุทธ์ที่ซับซ้อน เช่น การใช้ EA หรือทดลองระบบ Martingale โดยไม่เสี่ยงกับเงินจำนวนมาก
ข้อควรระวังคือ บัญชี Cent ไม่รองรับทุกผลิตภัณฑ์ เช่น ดัชนีหรือคริปโต และบางโบรกเกอร์อาจจำกัดประเภทคำสั่งหรือปริมาณสูงสุด
3. บัญชี Raw Spread – ค่าสเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชั่นคงที่
บัญชี Raw Spread ของ Exness เป็นบัญชีประเภทมืออาชีพที่มาพร้อมกับสเปรดที่ต่ำมาก บางครั้งถึง 0.0 pip ในช่วงตลาดเปิด และมีค่าคอมมิชชั่นคงที่ต่อออเดอร์ เช่น $3.5 ต่อ lot ต่อด้าน
นี่คือบัญชีที่เหมาะสำหรับนักเทรดแบบ scalping หรือผู้ที่เทรดบ่อยในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เพราะสเปรดที่แคบช่วยลดต้นทุนในการเข้าออกตลาด
ข้อดีคือความโปร่งใสในการคิดค่าธรรมเนียม และประสิทธิภาพในการดำเนินคำสั่ง แต่ต้องระวังเรื่องต้นทุนคอมมิชชั่นที่จะเพิ่มขึ้นหากเทรดจำนวนมาก

4. บัญชี Zero – สเปรด 0 สำหรับคู่เงินยอดนิยม
บัญชี Zero ของ Exness เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนักเทรดที่ต้องการต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะสำหรับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD ที่มีการให้บริการสเปรด 0.0 pip ในบางช่วงเวลาของวัน และค่าคอมมิชชั่นที่คงที่
บัญชีนี้มีจุดเด่นตรงความชัดเจนของต้นทุน และเหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนการเทรดอย่างแม่นยำ เน้นการบริหารความเสี่ยง และต้องการควบคุมทุกจุดในการเข้าออเดอร์
ควรเข้าใจว่า บัญชี Zero อาจไม่ได้มีสเปรด 0 ตลอดเวลา และคู่เงินที่มีสเปรด 0 ก็มีจำนวนจำกัด
5. บัญชี Pro – ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ประสิทธิภาพสูง
หากคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการบัญชีที่เร็ว แรง และคุ้มค่า บัญชี Pro คือคำตอบที่ลงตัว บัญชีนี้ไม่มีค่าคอมมิชชั่น มีสเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ประมาณ 0.1 pip และประมวลผลคำสั่งแบบ Market Execution
สิ่งที่ทำให้บัญชี Pro น่าสนใจคือไม่มีข้อจำกัดด้านกลยุทธ์ คุณสามารถใช้ EA, Hedging, Scalping หรือเทรดด้วยมือก็ได้ทั้งหมด และยังมีความเสถียรในการดำเนินคำสั่งสูงแม้ในช่วงตลาดผันผวน
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเทรดขนาดใหญ่ และให้ความสำคัญกับความเร็ว ความแม่นยำ และต้นทุนที่แน่นอน
แล้วคุณควรเลือกบัญชีแบบไหนดี?
คำตอบขึ้นอยู่กับระดับประสบการณ์และเป้าหมายของคุณ:
· หากคุณเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยเทรดมาก่อน → เริ่มจาก บัญชี Cent หรือ Standard
· หากคุณมีประสบการณ์แล้วและต้องการประหยัดต้นทุนจากสเปรด → ลองใช้ บัญชี Raw Spread หรือ Zero
· หากคุณเน้นความเร็ว ความยืดหยุ่น และไม่อยากจ่ายค่าคอมมิชชั่น → บัญชี Pro คือคำตอบ
อย่าลืมว่าคุณสามารถเปิดบัญชีได้มากกว่าหนึ่งบัญชีบน Exness โดยใช้บัญชีหลักเดียวกัน ลองแต่ละประเภท แล้วดูว่าแบบไหนตอบโจทย์การเทรดของคุณที่สุด
สรุป: ทำไมการเลือกประเภทบัญชีถึงสำคัญ?
ประเภทบัญชี Exness แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ความเร็วในการดำเนินคำสั่ง หรือจำนวนเงินที่ใช้เริ่มต้น หากเลือกบัญชีผิด อาจทำให้การเทรดของคุณมีต้นทุนสูงโดยไม่จำเป็น หรือขาดประสิทธิภาพในการเข้าออกออเดอร์
การเลือกบัญชีที่เหมาะสมตั้งแต่แรกจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการเทรดอย่างมั่นใจ มีต้นทุนต่ำ และมีโอกาสทำกำไรสูงสุด
ก่อนเริ่มต้น ควรทดลองเปิดบัญชีทดลอง (Demo) หรือเริ่มจากบัญชีที่มีเงินขั้นต่ำต่ำ แล้วค่อยขยับไปสู่บัญชีมืออาชีพเมื่อคุณพร้อม
Exness ให้ความยืดหยุ่นและความโปร่งใสในการเลือกบัญชี คุณสามารถเปลี่ยนแปลงประเภทบัญชีได้ในภายหลัง หรือเปิดหลายบัญชีเพื่อแยกกลยุทธ์การเทรดก็ได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการของคุณเอง
จุดเด่นสุดท้ายของ Exness
นอกจากความหลากหลายของประเภทบัญชีแล้ว Exness ยังโดดเด่นในเรื่องของ:
· ฝากถอนเงินรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที
· ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
· ใช้งานได้ทั้ง MT4, MT5, และ Exness App
· มีฝ่ายสนับสนุนภาษาไทย 24/7
ด้วยความยืดหยุ่นสูงสุดและต้นทุนต่ำ Exness จึงเป็นโบรกเกอร์ที่น่าสนใจที่สุดในปี 2025 สำหรับทั้งนักเทรดใหม่และมืออาชีพ
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มเทรดที่ให้คุณเลือกบัญชีได้ตรงกับสไตล์ของคุณจริง ๆ ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล Exness คือคำตอบที่ใช่.
อ่านเพิ่มเติม: