GM - 512

Page 1

gmlive . com อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดมุมมองน�ำทัพ องค์กรพลังงำน สู่เป้ำ ‘Net Zero’ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดมุมมองน�ำทัพ องค์กรพลังงำน สู่เป้ำ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โลกหมุนเปลี่ยน เวียนสู่เทรนด์กำร ‘ลงทุน’ แห่งอนำคต MAGAZINE OF THE GM GROUP นิตยสารผู้ชาย ที่มีผู้อ่านสูงสุดตลอด 37 ปี 22 12 01 2565 / 70 บาท th YEAR EXCLUSIVE TREND BIZ ประพันธ์ เจริญประวัติ เสริมศักยภำพ ผู้ประกอบกำรรำยเล็ก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ปรับตัวรับมือกำรแข่งขัน ด้วยกลยุทธ์ Supercar Investment ‘รถแรงน่ำลงทุน’ CA R หนำวนี้ ต้องมีสไตล์ STYLE ส�ำรวจเทรนด์ Fall / Winter 2022 T HOUGH T ดร. วิชยุตม์ ทัพวงษ์ ‘นอนหลับ’ กำรลงทุน ที่ไม่ต้องใช้ทุน Fullscape Dilemma of the ‘Artistic with AI’ Adapt to the Challenge
512 VOLUME 37 | 2022 tab LE O f 60 คมความคิด นอนหลับ : การลงทุนที่ไม่ต้องใช้ทุน โดย ดร.วิชยุตม์ ทัพวงษ์ Dilemma of the ‘Artistic with AI’ : เมื่อ AI ก้าวข้ามสู่โลก แห่ง ‘เส้นสาย’ และข้อกังขาในด้าน ‘พาณิชยศิลป์’ โดย Fullscape 64 CSV 65 NEWS & NEWS 66 ONE QuEStiON : หนึ่งคำาถามกับคนหนุ่ม 7 Edit O r ’ S N O t E 9 Gad GE t ไอเทมน่าสนใจ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2022 12 C ar Supercar Investment ‘รถแรงน่าลงทุน’ 16 Wat C h Time to Invest 20 COVE r ma N อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดมุมมองนำาทัพองค์กรพลังงาน สู่เป้า ‘NEt ZErO’ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 26 S t YLE Cool Winter หนาวนี้ต้องมีสไตล์ 36 S COO p the trend of Future ‘investment’ โลกหมุนเปลี่ยน เวียนสู่เทรนด์การ ‘ลงทุน’ แห่งอนาคต 46 G m C L ub วิเมลือง แก้วศิริ สาวหัวใจสีเขียว กับคติ ‘ถนัดทำามากกว่าพูด’ 48 t r EN d b i Z Adapt to the Challenge ‘ปรับตัวรับมือการแข่งขันด้วยกลยุทธ์’ 52 E N t E rtai N m EN t Film : Bullet Train มหกรรมยำาใหญ่ในขบวนรถไฟหัวกระสุน Music : ลิ้นติดไฟ by TangBadVoice Travel : เกาหลีใต้...มากกว่าที่เคยรู้จัก
Future Energy : พลังงานแห่งอนาคต ในโลกยุคปัจจุบัน คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ความส�าคัญของ ‘ความมั่นคงทางพลังงาน’ คือดัชนีชี้วัดความมั่งคั่งและความมีประสิทธิภาพในก�าลังการผลิตของประเทศหนึ่งๆ ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าและอุตสาหกรรมที่ทวีขึ้นในทุกปีที่ผ่านไป ประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม จากรายงานขององค์การสหประชาชาติปี 2018 นั้น ได้พบความจริงที่น่าตื่นตระหนก เมื่อการแข่งขันทางด้านความมั่นคง ทางพลังงาน อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยได้ส่งผลร้ายกับสภาพแวดล้อมโดยรวมของโลกในรูปของ 1.5 องศาเซลเซียส และจะเกิดขึ้นในระยะเวลา ระหว่างปี 2030-2052 เป็นอย่างช้า ซึ่งนั่นเป็นระยะเวลาที่ไม่นาน เมื่อพิจารณาการกระจายตัวของ อุตสาหกรรมที่ยังใช้พลังงานแบบเก่า ที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แน่นอนว่า นานาชาติเริ่มให้ความส� า คัญและใส่ใจกับปัญหาด้าน สิ่งแวดล้อม และลงนามในความตกลงร่วมกัน เพื่อลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก เพื่อให้ถึงเป้าหมาย ‘Carbon Neutrality’ หรือความเป็นกลาง ทางคาร์บอน ที่ทางองค์การสหประชาชาติได้ท�รวมถึงการคงอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มมากไปกว่าอัตรา าการศึกษาในรายงานล่าสุด นับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายและยากจะไปถึง แต่ทุกประเทศต่างพร้อมใจ เพราะเวลาแห่งการเพิกเฉยมองผ่านได้หมดไปแล้ว เพื่อให้โลกยังคงอยู่ในระดับที่สามารถอยู่อาศัยได้ต้องเกิดขึ้นจริงและการปฏิบัติ เมื่อเป้าหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าได้รับการยอมรับและความยินยอม ร่วมกัน พลังงานฟอสซิลแบบเก่าจึงต้องถูกทดแทนด้วย ‘พลังงาน แห่งอนาคต’ ที่ทันสมัยกว่า สะอาดกว่า และปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม มากกว่า ดังจะเห็นได้จากการทดลองและรายงานเรื่องการใช้พลังงาน ดังกล่าวในประเทศฟากตะวันตกไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานลม หรือพลังงานหมุนเวียน ส�าหรับประเทศไทย กลุ่ม ปตท. ผู้ดูแลด้านความมั่นคงด้านพลังงาน ของประเทศ ได้เล็งเห็นความส�าคัญของการเปลี่ยนผ่าน และภาวะวิกฤติ ด้านสิ่งแวดล้อมที่ใกล้เข้ามา แห่งอนาคตเหล่านี้ให้ขับเคลื่อนไปพร้อมกับเป้าหมายในการไปถึงจึงเริ่มพัฒนาและเบนเข็มเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน Carbon Neutrality ที่ประเทศไทยตั้งมั่นมุ่งหมายเอาไว้เช่นกัน และการพัฒนาของกลุ่ม ปตท. ในด้านพลังงานแห่งอนาคตนั้น ก็เกิดขึ้น ในหลากหลายมิติที่น่าสนใจ ในการช่วยขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมใหม่ได้ ดีอย่างยิ่ง เช่น ในด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Value Chain) ปตท. ได้ตั้งบริษัท อรุณ พลัส จ�ากัด (Arun Plus) เพื่อรองรับการขยายฐาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา EV Ecosystem ทั้งของ ปตท. และของประเทศไทยให้ครบวงจร โดยท�าหน้าที่ ประสานการลงทุนกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ตั้งแต่ต้นน�้าจนถึงปลายน�้า รวมถึง ร่วมลงทุนกับพันธมิตรชั้นน�าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุน ให้เกิดการใช้ EV อย่างแพร่หลายในประเทศไทย ขับเคลื่อนไทยเป็นฐาน การผลิตและธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนต่อไปในอนาคต โดยมี ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทในกลุ่มที่เริ่มด�าเนินการไปแล้ว เช่น I บริษัท ฮอริษอน พลัส จำ�กัด (HorIzon Plus) บริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส และ Hon Hai Precision Industry Co., Ltd. (FOXCONN) เพื่อด�าเนินธุรกิจผลิตและประกอบรถยนต์ไฟฟ้า แบบครบวงจรรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี MIH Platform หรือ
ลิเทียมไอออนฟอสเฟต ภายใต้แบรนด์ G-Cell ด้วยนวัตกรรมการผลิต แบตเตอรี่ SemiSolid แห่งแรกของไทยและภูมิภาคอาเซียน มีจุดเด่นด้าน ความปลอดภัยในการใช้งานสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงเหมาะกับ รูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถ รีไซเคิลได้ง่ายเมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน จึงเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม I บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำ�กัด (swaP & Go) แพลตฟอร์มธุรกิจผู้ให้บริการสลับแบตเตอรี่ ส�าหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ ต้นแบบทางธุรกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ การใช้งาน โดยเฉพาะไรเดอร์ในธุรกิจเดลิเวอรี ให้สลับแบตไว ไปได้เร็ว ใช้งานง่ายผ่าน แอปพลิเคชัน Swap & Go ที่เชื่อมต่อกับ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน เพื่อสลับแบตเตอรี่เดิมที่หมดกับแบตเตอรี่ใหม่ที่พร้อมใช้งานในตู้ชาร์จ ด้วยตัวเองในเวลาไม่ถึง 3 นาที ปัจจุบันมีสถานีสวอพแบตเตอรี่ครอบคลุม กรุงเทพฯ ชั้นในแล้ว 22 สถานี ตลอดจนมีการตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ในภูมิภาคอาเซียน ที่เป็นพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติด้านการใช้งาน ที่หลากหลาย ทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน พร้อมทั้งจะขยาย ตลาดไปยังกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาชนจีน อันเป็นตลาดใหญ่ ในภูมิภาค รวมทั้งภายในสิ้นปี 2565 นี้ กลุ่ม ปตท. จะมีคลังจัดเก็บ และแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) 2 แห่ง ซึ่งขยายขีดความสามารถในการน�าเข้า LNG ของประเทศไทยเพิ่มเป็น 19 ล้านตันต่อปี กลุ่ม ปตท. ได้ด�าเนินการโดยยึดมั่นในแนวทาง ‘ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต (Powering Life with Future Energy and Beyond)’ ที่มุ่งหมายจะให้ถึงความส�าเร็จด้านความมั่นคงทางพลังงานที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตคนในสังคม อันเป็นภารกิจที่ส�าคัญ อย่างยิ่ง เพราะนี่จะเป็นรากฐานของประเทศในการขับเคลื่อนไปสู่ ความเป็นผู้น�าทางด้านพลังงานสะอาด และไม่หยุดยั้งอยู่เพียงเท่านี้ เพราะ จะด�าเนินธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงาน พร้อมดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เคียงคู่กันไปในทุกมิติ เป็นงานใหญ่ที่เกิดขึ้น และพร้อมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในระยะเวลา ที่ก� า ลังจะมาถึงนี้ Open EV Platform ซึ่งโรงงานจะตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เขต EEC โดยการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมผลิต EV สู่ตลาดภายในปี 2567 ในระยะแรกมีก� า ลังการผลิต ที่ 50,000 คัน/ปี I ออน-ไอออน (on-ion) ผู้ให้บริการธุรกิจสถานีอัดประจุส�าหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้ บริษัท อรุณ พลัส จ�ากัด มุ่งขยายเครือข่ายไปยังพื้นที่ ท�าเลศักยภาพ เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารส�านักงาน ร้านอาหาร เป็นต้น ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ รองรับการเติบโตของตลาด EV ในประเทศ ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) รองรับ รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV: Plug-in Hybrid) และรถยนต์พลังงาน ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV: Battery Electric Vehicle) ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ ที่มีหัวชาร์จ Type 2 ควบคุมการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application รองรับทั้ง Android และ iOS สะดวก ในการค้นหาสถานี และยังมีบริการติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัย เพื่อตอบโจทย์ การใช้งานของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ I อีวี มี (EVme) แพลตฟอร์มที่พร้อมมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของ EV แบบครบวงจร ด้วยบริการในรูปแบบ Subscription รายแรกในไทย โดยบริษัท อีวี มี พลัส จ�ากัด (EVME PLUS) ผ่านแอปพลิเคชัน EVme ที่จะท�าให้การใช้งาน EV เป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการ EV จากแบรนด์ชั้นน�าที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่น เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เลือกรุ่นรถ และกดจอง เพียงเท่านี้ก็สามารถรอรับรถได้ที่หน้าบ้าน ปัจจุบัน EVme ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และในปี 2566 จะขยายการให้บริการ ในพื้นที่ต่างจังหวัด และให้บริการในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติด้วย I บริษัท นูออโว พลัส จำ�กัด (nuoVo Plus) บริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ� า กัด (มหาชน) (GPSC) แกนน� า นวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าและพลังงาน อัจฉริยะของกลุ่ม ปตท. เพื่อผลิตและจัดจ� า หน่ายแบตเตอรี่ประเภท มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ล้านตันต่อปี
editor ' s note สวัสดีครับ - ท่านผู้อ่าน GM ฉบับส่งท้ายปี 2565 ไม่ว่าโลกจะมีการขับเคลื่อน หรือเปลี่ยนแปลงจากนวัตกรรมมากเท่าไหร่ ก็มักจะมีเหตุการณ์ที่เรียกให้ทุกอย่างกลับสู่สมดุลเสมอ ซึ่งเรื่องจากปก-GM อยากให้รับรู้มุมมองของบริษัทระดับโลกอย่าง ปตท. ที่ได้เปิดเผยมุมมองการน�าทัพ องค์กรพลังงาน สู่เป้าหมาย ‘Net Zero’ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่ง อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ฉายภาพให้เราได้เห็นถึงความจ�าเป็นที่ทุกองค์กรควรที่จะเดินหน้าไปในทิศทางนี้ ซึ่ง ปตท. เองก็จะขอเป็นผู้น�าที่เริ่มต้นก่อนในทุกๆ องคาพยพ ในการร่วมสร้าง สมดุลให้กับโลก แต่ค�าว่า ‘ สมดุล ’ นั้น ไม่ได้หมายถึงการถอย หรือการกลับสู่ธรรมชาติแบบ พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ทว่าคือ ‘ ศาสตร์ในการปรับสมดุล ’ ซึ่งไม่ใช่มาก หรือน้อย เร็วหรือช้า หนักหรือเบา แต่คือความพอดีทั้งในแง่ของการท�างาน การใช้ชีวิต รวมถึงเรื่องการลงทุน โดย GM Magazine เล่มส่งท้ายปี 2565 นี้ ผมและทีมกองบรรณาธิการต้องการขยายเรื่องการลงทุนอย่างชาญฉลาด หรือ Smart Investment ให้ละเอียดมากขึ้น หลังจากที่หลายคนบาดเจ็บไปกับ คริปโต หรือพลาดท่าเสียทีกับภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจ พร้อมๆ กันนี้ยังมีอีก หนึ่งบทความที่อธิบายกลยุทธ์ได้น่าสนใจ เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณรู้จักกับ ‘บลูโอเชียน’ ก็สามารถน�ามาประยุกต์กับทุกๆ ด้านของงานได้เป็น อย่างดี ในขณะเดียวกันยังมี ‘ แพลตฟอร์มส� า คัญ ’ ที่น่าสนใจอย่าง LiVE Exchange และ LiVE Platform ซึ่ง ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และ ‘ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ ’ ที่สร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายเล็กในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศไทย นอกจากเนื้อหาของเรื่องหลักเหล่านี้แล้ว คอลัมน์ประจ�าของ GM Magazine ยังเข้มข้นเหมือนเดิมครับ ทั้งเรื่องรถยนต์และนาฬิกา โดยเล่มนี้ปรับตัว เข้ากระแสเป็น Supercar Investment รถแรงน่าลงทุน และ Time to Invest กับคอลัมน์นาฬิกา ส่วน Entertainment เล่มนี้น�าเสนอมิติที่มองเป็นภาพใหญ่ กับ Bullet Train : มหกรรมย�าใหญ่ในขบวนรถไฟหัวกระสุน และ Travel กับเกาหลีใต้ มากกว่าที่เคยรู้จัก รวมทั้งทิ้งท้ายด้วย ‘หนาวนี้ต้องมีสไตล์’ กับ ส�ารวจเทรนด์ Fall / Winter 2022 ขอบคุณที่ติดตามกันครับ อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ติดตาม GM Magazine ในรูปแบบ เว็บไซต์ได้ทาง www.gmgroup.in.th, www.gmlive.com ทาง Facebook GM Live ทาง Twitter @MagazineGM เรามีคอลัมน์เด่นๆ ประจ�าเดือน ให้คุณได้อ่านในฉบับย่อ และบทสัมภาษณ์คัดสรรแล้ว จากฉบับก่อนๆ รวมทั้งคอลัมนิสต์ที่มีแฟนคลับ ติดตามอ่านเป็นประจ�า ใน GM ให้คุณได้อ่านกันอีกด้วย ลองคลิกเข้าไปกันครับ * ข้อเขียน และภาพในนิตยสาร GM สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามน�าไปเผยแพร่ซ�้า ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ยกเว้นได้รับการยินยอม เป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท จีเอ็ม ยูนิคอร์น กรุ๊ป จ�ากัด (มหาชน)

บริหารการตลาดโดย บริษัท วันวันทู สตูดิโอ จำากัด 1/178 ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160 www.gmlive.com

Tel. 08 1659 7008 ฝ่ ายโฆษณา/การตลาด

Facebook.com/ gmliveonline Email : gmlive2022@ gmail.com

: GURU & MENTOR MAGAZINE IS PUBLISHED BY GM UNICORN GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED ART DIRECTOR PRECHA Sowattanachat GENERAL MANAGER PANUVAT Pongvarapa CHAIRMAN / CEO PAKORN Pongvarapa EXECUTIVE VICE PRESIDENT Chief Operation Offificer APIRAK Harnpichitwanich Finance PORNJITT Pongvarapa New Media PE SILP Pongvarapa AIS Book Store Ookbee Ookbee Buffet Magzter

ปกรณ์ พงศ์วราภา เจ้าของ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ในนาม บริษัท จีเอ็ม ยูนิคอร์น กรุ๊ป จำากัด (มหาชน) จัดจำาหน่ายทั่วประเทศ : เพ็ญบุญจัดจำาหน่าย โทร. 0 2615 8625 แยกสี : กนกศิลป์ (ไทยแลนด์) โทร. 0 2215 1588 พิมพ์ที่ : โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์ โทร. 0 2434 6850-1 บริษัท จีเอ็ม ยูนิคอร์น กรุ๊ป จำากัด (มหาชน) ประธานกรรมการบริหาร / กรรมการผู้จัดการ ปกรณ์ พงศ์วราภา รองประธานกรรมการบริหาร สายงานปฏิบัติการ อภิรักษ์
หาญพิชิตวณิชย์ สายงานการเงิน พรจิตต์ พงศ์วราภา สายงานนิวมีเดีย พีศิลป์ พงศ์วราภา
112 Studio Company Limited 1/178 Bangweak Rd., Bangphai, Bangkae Bangkok 10160 ผู้ก่อตั้ง ปกรณ์ พงศ์วราภา บรรณาธิการที่ปรึกษา ณิพรรณ กุลประสูตร บรรณาธิการบริหาร อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ผู้ช่วยบรรณาธิการ ขนิษฐา เผือกผ่องใส กองบรรณาธิการ มนตรี จอมพันธ์, สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์์, วิทวัส ปัญญาเลิศวุฒิ บรรณาธิการศิลปกรรม ปรีชา สอวัฒนชาติ ศิลปกรรม ทรรณทรณ์ ช่วยพนัง ฝ่ายภาพ พิชญุตม์ คชารักษ์ พิสูจน์อักษร อภิรดี นุตตะโร บริหารฝ่ายโฆษณา / การตลาด กรองทอง สันดุษฎี ผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์การตลาด ณัฐพล ขุนเจริญ ผู้จัดการทั่วไป ภานุวัชร พงศ์วราภา ผู้จัดการฝ่ายการเงิน วิมลลักษณ์ อาศัยพานิชย์ ฝ่ายบัญชี นุชนารถ ใจประสาท, เตือนใจ พรหมจรรย์ สั่งซื้อ e-Magazine ของ GM ได้ที่ App Store และ Play Store
TEAC TN-280BT-A3 Turntable มาต่อกันที่อุปกรณ์จาก Samsung ซึ่งอยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะนี่ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์เสริม ส� า หรับผลิตภัณฑ์ใน Line-up แต่ส� า หรับแท่นชาร์จไร้สาย ขนาดพกพา เล็ก และเรียบหรูชิ้นนี้ สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งกับ Android และ iPhone ซึ่งการท�างานก็แสนเรียบง่าย วางชาร์จ เต็ม หยิบ จบ ขนาดเล็ก ตั้งวางสะดวก มีไฟ LED บอกเวลา ที่ส�าคัญความจุไฟฟ้า 9W ที่ท�าให้เรื่องชาร์จไฟฟ้า เป็นเพียงการพักเครื่องเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.samsung.com S A m S u N g Wireless Charger และแล้วปี 2022 ก็เดินทางผ่านมาถึงเดือนที่ 10 เข้าใกล้ช่วงปลายปี ถึงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีและเริ่มร่วงโรย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แต่ความร้อนแรงและความน่าสนใจของโลกแห่งอุปกรณ์เครื่องใช้เหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ ยังคงจัดเต็มร้อนแรงไม่แพ้ใคร ซึ่ง GM Magazine ขอน�าเสนอเพื่อติดเอาไว้ใน Wishlist ส�าหรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ตอนท้ายปีที่ใกล้จะมาถึงนี้ การนอนหลับคือช่วงเวลาอันแสนสุข แต่ส�าหรับคนที่มีปัญหาในการนอน นั่นคือความทุกข์ระทมอย่างสาหัส ที่ส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ และถ้าการดื่มชาอุ่นๆ หรือนับแกะไม่ได้ท�าให้เข้าสู่โลกแห่งนิทรา ขอแนะน�าให้หา ‘Dodow Sleep Aid Device’ มาเป็นตัวช่วยอีกแรง เพราะอุปกรณ์เล็กๆ ชิ้นนี้จะส่งผ่านไฟ Blue Light ที่อ่อนโยนต่อสมอง ในระดับความถี่ Metronomic Pace ที่พ้องเข้ากับจังหวะการหายใจไปที่เพดาน เพียงมองไปที่แสงไฟ หายใจเข้า-ออกตามจังหวะก็จะหลับไปโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อเทียบสนนราคา กับการเข้าสู่นิทราที่ง่ายขึ้น ก็เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มแล้ว เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.mydodow.com Do D o W Sleep Aid Device ช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2022 ไอเทมน่าสนใจ : Fullscape GADGET 0 9
P E rf ECT Draft Pro
Do D o W Sleep Aid Device Th E r AB o D y Thera f ace Pro

0.1 ไมครอน พร้อมฟังก์ชันการท�างาน 3 รูปแบบ คือ แบบละอองสเปรย์, แบบน�้าไหลปกติ และ แบบน�้าดื่ม โดยมีไส้กรอง 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ไส้กรอง Activated Carbon, ไส้กรอง UF Hollow Fiber Membrane, ไส้กรอง Ion Exchange Resin ซึ่งกรองเชื้อโรคต่างๆ

T or A y รุ่น SX-705V อาจดูธรรมดาแต่บอกได้เลยว่า เครื่องกรองน�้าแบบสวม ปลายก๊อกชิ้นนี้จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะมี คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด สวยงาม ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย และเปลี่ยนไส้กรองได้ง่ายด้วย ตนเอง เพียงสวมเข้ากับปลายก๊อกซิงค์ ท�าจากพลาสติก ABS แข็งแรง ทนทาน ด้วยการกรองระบบพร้อมไส้กรองที่ผลิตจากเทคโนโลยีชั้นสูง UF Hollow Fiber Membrane กรองน�้าด้วย ความละเอียดมากถึง
99.99% รวมถึงกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่คงไว้ซึ่งแร่ธาตุต่างๆ รวมถึงช่วยลดความกระด้างของน�้ามั่นใจได้ว่าดื่มน�้าที่สะอาดปลอดภัยแน่นอน เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.mazuma.co.th. TEAC TN-280BT-A3 Turntable แม้เทคโนโลยีการฟังเพลงจะก้าวล�้าน�ายุคไปสู่ระบบ Streaming ที่สามารถเลือกหาได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ และอุปกรณ์พกพา ซึ่งบรรจุเพลงได้ระดับหลักร้อยหลักพัน แต่ความคลาสสิกของ ‘แผ่นเสียงไวนิล’ กลับถูกเรียกหาพร้อมทั้งได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง และ ‘เครื่องเล่นแผ่นเสียง’ อย่าง ‘TEAC TN-280BT-A3 Turntable’ ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า หรูหรา ด้วยตัวเครื่องท�าจากวัสดุ คล้ายไม้สัก จานวางแผ่น หัวเข็มอ่านแผ่นเสียง และที่ส�าคัญมาพร้อมกับระบบ Bluetooth แบบ Built-in ที่จะรับประกันว่า จะไม่มีสายลากยาวเกะกะ และสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ของบ้าน เพื่อการตกแต่งที่สมบูรณ์แบบ เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ TEAC.jp ส�าหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ปิ้งย่าง บาร์บีคิว นอกเหนือจากการเป็น แขกเหรื่อที่รอเนื้อบนเตาย่างแล้ว การท�าตัวให้มีส่วนร่วมกับ เจ้าภาพด้วยการช่วยงานจิปาถะ เล็กๆ น้อยๆ ก็จัดว่าเป็นเรื่องที่ แสดงถึงน�้าใจและมิตรภาพ สามารถซื้อใจคนที่มาร่วมวงได้ไม่ยาก และหากเป็นการน�าเอา ‘เครื่องดื่ม’ มาแบ่งปันด้วยแล้ว ก็จะท�าให้สีสัน ของงานเลี้ยงเบิกบานมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ‘Perfect Draft Pro’ นั้นคือ ค�าตอบที่จะมาเป็นพระเอกช่วยท�าหน้าที่นี้ เพราะนี่คือ ‘ถังเครื่องดื่ม แบบ Smart’ ที่สามารถรองรับปริมาณเครื่องดื่มได้ถึง 6 ลิตร พร้อมระบบตรวจจับอุณหภูมิผ่าน Smart Phone ที่มี Settingsส�าหรับแบรนด์เครื่องดื่มชั้นน�าให้เลือกเป็นค่ามาตรฐานกว่า 50 ยี่ห้อ คราวนี้จะจิบดื่มเพลิดเพลินแค่ไหน ก็วางใจได้ ว่าการกินเลี้ยง จะสนุกต่อเนื่อง ไม่มีสะดุดเป็นอันขาด เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.Perfectdraft.com P E rf E CT Draft Pro No T hi N g Pho NE (1) ในโลกแห่งโทรศัพท์ Smart Phone สาย Android นั้น นอกเหนือจาก แบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะท�าการตลาดจนเป็นที่รู้จักมักคุ้น กันแล้วนั้น ยังมีอีกหลายยี่ห้อที่มี ลูกเล่นและความน่าสนใจอยู่ในราคา ที่สามารถซื้อหาได้ และ ‘Nothing Phone (1)’ ก็คือหนึ่งในตัวเลือกนั้น จากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมส�าหรับแบรนด์ไอที สู่ผลิตภัณฑ์ โทรศัพท์ Smart Phone รุ่นแรก ที่เน้นความ ‘โปร่ง’ และ ‘ใส’ ด้วยวัสดุ Gorilla Glass สุดทนทาน กล้องหน้า-หลัง และการออกแบบหน้าจอ พร้อม ‘Glyph Interface’ ไฟ LED เพื่อแสดงฟังก์ชันต่างๆ ทั้งสาย โทรฯ เข้า ข้อความ จนถึงระดับแบตเตอรี่ โดยเน้นให้รบกวนการใช้ชีวิต น้อยที่สุด พร้อมสนนราคาที่เป็นมิตร ระดับกลาง ซื้อหาได้สบายกระเป๋า เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ Eu.nothing.tech Therabody นับว่าเป็นแบรนด์สามัญที่เหล่า ‘คนชอบนวด’ คุ้นเคย กันดี ในท้องตลาดกับบรรดาอุปกรณ์นวดไฟฟ้าหลากชนิดที่มีวางจ�าหน่ายและเรียกว่านวดแทบจะทุกส่วนเท่าที่จะนึกออกอย่าง มีประสิทธิภาพ เช่นนั้นแล้วการที่แบรนด์นี้จะท�า ‘เครื่องนวดหน้า’ จึงมีค�าถามว่าจะมาเมื่อไร และเวลานั้นก็มาถึงแล้วกับ ‘Therabody TheraFace Pro’ เครื่องนวดหน้าขนาดพกพา ที่มาพร้อมกับซิลิโคนการนวดที่แตกต่างกัน 3 แบบ และไฟ LED บอกระดับการนวด พร้อมประสิทธิภาพในการส่งผ่านเนื้อครีม ให้ซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างนุ่มนวล (ครีมนวดหน้าไม่ได้แถม มากับตัวผลิตภัณฑ์) เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่ www.therabody.com Th E r AB o D y Thera f ace Pro 1 1
และก�าจัด แบคทีเรียในน�้าได้ถึง
Supercar Investment Supercar…สุดยอดยนตรกรรมที่นอกจากความสวย แพง และแรงแล้ว ยังเป็นตัวเลือกที่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี หากผู้ซื้อเลือกยี่ห้อและรุ่นที่เหมาะสม แถมรถบางคันพอผ่านวันเวลา ราคากลับพุ่งและเป็นที่นิยม โดยเฉพาะรถพวก Limited Editions และรถคลาสสิก ที่ผลิตออกมาเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสต่างๆ ของบริษัทรถยนต์นั้นๆ GM Magazine เล่มนี้จะพาไปรู้จัก กับเหล่ารถสปอร์ตที่น่าลงทุนไม่ต่างจากหุ้น VI กันครับ พาหนะของสายลับ 007 นั้นมีราคาเสมอ ความสวยคลาสสิกแบบอังกฤษ ที่มีแฟนคลับถาวรอยู่ทั่วโลก Aston Martin Valkyrie Spider คือ ไฮเปอร์คาร์เลือดใหม่ แถมเป็นรถเปิดประทุนที่สมรรถนะพอๆ กับ F1 ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด V12 6.5 ลิตร พละก�าลัง 1,155 แรงม้า โครงสร้างน�้าหนักเบาพิเศษ แล่นได้เร็ว 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อเปิดหลังคา และ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อหลังคาปิด รถคันนี้ขับได้คนเดียว และผลิตออกมาเพียง 85 คัน ราคาขาย ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 2.75 ล้านเหรียญสหรัฐ (82.5 ล้านบาท ไม่รวมภาษี) แต่รับรองว่าพุ่งกว่านี้แน่เมื่อขายหมด Aston M A rtin V A lkyrie s pider ‘รถแรงน่าลงทุน’ CA r : ธนา เศรษฐพานิช 1 2
Ferr A ri t est A r oss A J รถเด็กเล่นจากเฟอร์รารี เด็กขับได้ผู้ใหญ่ขับดี ที่มีชื่อว่า Testa Rossa J คือ รถจ�าลองขนาด ¾ ที่ท�าเลียนแบบสปอร์ตในต�านาน 250 Testa Rossa ปี 1957 ผลิตขึ้นจ�ากัดเพียง 299 คัน เท่านั้น ซึ่งตัวรถถึงแม้จะย่อส่วนจากรุ่นเดิมลงมาแต่ดีเทล และราคาไม่ได้น้อยลง ยังคงจัดเต็มด้วยฝีมือจากแผนก Classiche ของเฟอร์รารี ตัวถังสร้างจากอะลูมิเนียมที่เคาะขึ้นรูปด้วยมือ เบาะหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ในรถยนต์เฟอร์รารี พวงมาลัย Nardi มาตรวัดแบบคลาสสิก ขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ที่แล่นได้ราว 90 กิโลเมตร แต่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะเอาไว้ขับโชว์เท่ๆ แถมขับขี่ได้ 4 โหมด คือ Novice Comfort Sport และโหมด Race ติดตั้งดิสก์เบรกจาก Brembo ช่วงล่างของ Bilstein รถส�าหรับยุวชนม้าล�าพองคันนี้มีราคา 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 3.5 ล้านบาท กลายเป็นของสะสมในคอลเลกชันที่เดาได้เลยว่าราคาพุ่งแน่นอน รหัส CLS ท้ายรถ BMW นั้นบ่งบอกความพิเศษ เห็นแล้วซื้อเก็บได้เลย รถจากแผนก M ที่นานๆ จะท�าสักที BMW M4 CSL ย่อมาจาก ‘Competition, Sport, Lightweight’ คือ รถที่รีดน�้าหนักจนเบาแบบสุดๆ บวกกับพละก�าลัง 550 แรงม้า ของเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo ท�าให้มีแรงม้าต่อน�้าหนัก 2.95 กิโลกรัม/แรงม้า ท�าเวลาบนสนาม Nordschleife ของ N rburgring เร็วที่สุดเท่าที่ BMW เคยท�ามา ผลิตเพียง 1,000 คัน เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี BMW M สนนราคาเริ่มต้นที่ $139,900 หรือราวๆ 4.8 ล้านบาท ยังไม่รวมภาษีน�าเข้า รับรองว่าอนาคตหายากแน่นอน Bugatti Sur Mesure คือ แผนกตกแต่งพิเศษ ของ Bugatti ที่เนรมิตรถแบรนด์นี้ให้หรู ขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งเมื่อน�า Bugatti Chiron Pur Sport ที่ผลิตออกมาน้อยคันและแพงมาก มาแต่งเพิ่ม จนกลายเป็นรถที่มีคันเดียวในโลก ด้วยเครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก ก�าลังสูงสุด 1,500 แรงม้า เร่ง 0-100 ภายใน 2.3 วินาที ท�าความเร็วสูงสุดที่ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตัวรถถูกน�ามาเพนต์หมายเลข 32 ด้านข้างด้วยมือ เบาะนั่งปักอักษรลวดลาย ‘EB’ แบบเย็บหลายชั้นที่หรูหรา ประดับการ์ดข้างประตู และธรณีประตูเขียนว่า ‘Grand Prix’ เป็นสีแดง คอนโซลกลางมีแผ่นฝังที่เคลือบด้วยอะลูมิเนียมอโนไดซ์สีด�าพร้อมจารึก สีเงิน ตั้งราคาไว้ที่ 3 ล้านยูโร หรือประมาณ 106 ล้านบาท Bug A tti Chiron p ur s port g r A nd p rix e dition BMW M 4 C sl
n iss A n gt - r t - s pe C เจ้าชายกบรุ่นพิเศษที่ผลิตเพียง 750 คัน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของ Porsche Design ตัวรถมาในทรงคาร์เรร่าคลาสสิก รุ่น 911 Targa 4 GTS เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน BOXER DOHC 24 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร แบบ Twin Turbocharger ให้ก�าลังสูงสุด 480 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ดับเบิลคลัช 8 จังหวะ (PDK) ภายในตกแต่งเพิ่มด้วยเบาะหนังผสมผ้าตรงกลางลายหมากรุก Sport-Tex กับเพลตบอกความพิเศษ เฉพาะรุ่น Porsche Design 50th Anniversary Edition ที่ตะแกรงระบายความร้อนด้านหลัง พร้อมกับโลโก้ 911 สีด�า พิเศษสุด คือ ซื้อปอร์เชรุ่นนี้จะมาพร้อมนาฬิกาข้อมือ Chronograph I สุดคลาสสิกที่ออกแบบดีไซน์โดย Ferdinand Alexander Porsche ในปี 1972 ทั้งหมดมาในราคา 17.9 ล้านบาท เพิ่มความลักชัวรีส�าหรับการสะสมขึ้นไปอีกขั้น 911 e dition 50 y p ors C he d esign GT-R คือสุดยอดสปอร์ตแดนปลาดิบที่ต่อกรกับรถซูเปอร์คาร์ จากยุโรปและอเมริกาได้แบบถึงพริกถึงขิง ท�าให้ GT-R รุ่นก่อนๆ ของนิสสันเกือบทุกรุ่นมีราคาขายต่อในปัจจุบันแพงกว่า วันที่ซื้อมา Nissan GT-R T-Spec เป็นรุ่นพิเศษที่มีการปรับปรุง สมรรถนะและดีไซน์ เช่น เบรกคาร์บอนเซรามิก เพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ลดน�้าหนักและล้ออัลลอยฟอร์จ จาก RAYS ภายในหลังคาใช้วัสดุอัลคันทารา จับคู่กับเครื่องยนต์ แบบ V6 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ พละก�าลังสูงสุด 555 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาในเมืองไทย 12.2 ล้านบาท
h ond A Ci V i C t ype r Mer C edes-AM g gt t r AC k s eries ซูเปอร์คาร์จากค่ายดาวสามแฉกที่สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 55 ปี Mercedes-AMG แถมผลิตตามจ�านวนเลขปีเป๊ะ คือ 55 คัน เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ที่ปรับแต่งแบบ มอเตอร์สปอร์ตให้ก�าลังสูงสุดที่เบนซ์เคยผลิตมา คือ 734 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 850 นิวตันเมตร กับเกียร์แบบรถแข่งจาก Hewland Engineering ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบพร้อมลงแข่ง ในสนามฟอร์มูลาวัน F และติดเพลตหมายเลขของรถ 1-55 ไว้ที่บริเวณคอนโซลกลาง Mercedes-AMG GT Track Series เปิดราคาจ�าหน่ายในยุโรปที่ 369,000 ยูโร หรือประมาณ 13.7 ล้านบาท เป็นอีกคันที่คอลเลกเตอร์เล็งไว้ว่าราคาจะพุ่ง และต้องจองไว้ในโรงรถให้จงได้ หลายคนเคยเห็นรถทรงเหลี่ยม Land Rover Defender มาตั้งแต่เกิด แต่ส่วนใหญ่เป็นรถเก่าที่น�ามาปรับปรุงวิ่งกัน บนถนน แสดงว่ามีกลุ่มคนที่รัก Land Rover Defender จากอังกฤษอยู่ไม่น้อย ล่าสุด Land Rover ลุกขึ้นมาผลิต Defender อีกครั้งในชื่อรุ่น Land Rover Defender Works V8 Trophy ที่ผลิตมาเหมือน ไม่อยากขาย มีเพียง 25 คัน คลาสสิกแต่เพิ่มขุมพลังเครื่องยนต์ด้วยรูปทรง V8 5.0 399 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 515 นิวตันเมตร โดยจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และชุดแต่ง All-terrain Kit พร้อมวินช์ ที่ด้านหน้า ติดไฟสปอตไลต์ LED และยาง Mud-terrain เบาะนั่งสปอร์ต Recaro และระบบ Infotainment ที่ทันสมัย ตั้งราคาไว้ที่คันละ 195,000 ปอนด์ หรือราว 8 ล้านบาท ไม่รวมภาษี รับรองได้เลยว่า อีกไม่กี่ปี Land Rover Defender Works V8 Trophy จะมีราคาเพิ่มแน่ถ้าคุณหาซื้อได้ lA nd r o V er d e F ender Works V 8 t rophy เมื่อมีข่าวว่าฮอนด้าจะไม่ผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว ชื่อของ Honda Civic Type R ก็มีราคา ขึ้นมาทันที Civic Type R ใหม่ ถือเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ ฮอนด้า ซีวิค Type R เครื่องยนต์ขนาดความจุ 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ก�าลัง 320 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมชุด AeroDynamics ที่น�้าหนักเบาพิเศษ ผลิตมาในโอกาสครบรอบ 50 ปี Honda Civic ซึ่งแม้จะยังไม่ประกาศราคาแต่ในอนาคต น่าจะเป็นแรร์ไอเทมที่ไม่ต่างจาก Honda NSX รุ่นพี่ 1 5
: FULLMOON watch 1. ca R t IER Tank Louis Cartier ถ่ายทอดต้นแบบและรหัสงานดีไซน์ดั้งเดิมของ Tank นับจากปี 1917 ก่อนการปรับโฉม และวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงความเป็นผลงานรุ่นต�านานของแบรนด์โดยในทายาทรุ่นใหม่น�าเสนอด้วยเส้นสายอันบริสุทธิ์ รูปทรงอันสมบูรณ์แบบ และสัดส่วน อันแม่นย�า พร้อมทั้งความสง่างามของหน้าปัดสไตล์โมโนโครม ที่มีให้เลือกอย่าง สีแดง สัญลักษณ์ของ Maison นาฬิกาของแบรนด์เช่นกันและสีเทาแอนทราไซต์ซึ่งเป็นเฉดสีที่หยิบมาจากมรดกการประดิษฐ์ บรรจุไว้ด้วยเครื่องหมายบอกชั่วโมงเป็นตัวเลขโรมันรูปทรง คลาสสิก 4 ตัว ใน 4 ต�าแหน่ง และไร้สเกลนาทีแบบรางรถไฟ แต่เสริมความโดดเด่น ด้วยมิติแห่งลวดลายกราฟิกซ้อนกันจากการแกะสลักด้วยเทคนิค Electrochemical จระเข้สีแดงหรือสีเทา ส่วนภายในขับเคลื่อนโดยกลไกไขลานด้วยมือ 1917 MC Time to Invest ส�ำหรับผู้ที่ก�ำลังมองหำทำงเลือกในกำรลงทุนที่เหมำะกับตนเองในยุคนี้ โดยเฉพำะหนุ่มๆ ...และนี่คือตัวอย่ำงผลงำนนำฬิกำจำก 5 แบรนด์ชั้นน�ำ ที่ก�ำลังได้รับควำมสนใจ จำกบรรดำนักสะสมและนักลงทุนเรือนเวลำ เชื่อว่ำอำจมีสักเรือนที่เข้ำตำคุณเป็นพิเศษก็ได้ CARTIER Tank Louis Cartier 1 6
หนึ่งในรุ่นและคอลเลกชันพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของ Royal Oak ระดับต� า นาน ด้วยความโดดเด่นของนาฬิกา โครโนกราฟ ภายใต้วิวัฒนาการ งานออกแบบใหม่ของ Royal ซึ่งบรรจบอย่างลงตัวกับตัวเรือนOak สเตนเลสสตีล ขนาด 41 มม. หนา 12.4 มม. พร้อมทั้งหน้าปัด สีเขียวกากี ตกแต่งลวดลาย ‘Grande Tapisserie’ อันเป็น เอกลักษณ์ ตลอดจนหน้าปัดย่อย สีเขียวกากีเช่นกัน มาร์กเกอร์ชั่วโมงท�บรรจุไว้ด้วยาจากไวท์โกลด์ และเข็มชี้สไตล์ Royal Oak พร้อมเคลือบสารเรืองแสง บนฝาหลังนาฬิกาเป็นกระจก แซฟไฟร์ ซึ่งเปิดโชว์การท�างานของ กลไก Caliber 4401 ความถี่ 4 เฮิรตซ์ ส� า รองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง และโรเตอร์ ‘50-years’ ประกอบคู่มากับสายสเตนเลสสตีล กันน�้าได้ระดับ 50 เมตร 2. a UDEM a RS PIGUE t Royal Oak Selfwinding Chronograph ‘ 50 th Anniversary ’ 1 7
3. OMEG a Seamaster Diver 300M Co-Axial Master Chronometer 42 MM สืบทอดเอกลักษณ์ของต�านาน นาฬิกาด�าน�้านับจากปี 1993 ไว้ด้วยการผสมผสานของ สไตล์อันทันสมัยในตัวเรือน 42 มม. หนา 13.56 มม. ท�าจากสเตนเลสสตีล ผสานขอบตัวเรือนเซรามิกสีเขียว ปรับหมุนได้ทิศทางเดียว และสเกลด�าน�้าลงยาสีขาว ที่รับไปกับหน้าปัดสีเขียวขัดเงา ตกแต่งลายคลื่นด้วยการแกะสลัก เลเซอร์มีมิติและแม่นย�า พร้อมทั้งช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ต�าแหน่ง 6 นาฬิกา บรรจุเข็มชี้ แบบสเกเลตัน รวมถึงเครื่องหมาย บอกเวลาแบบนูนชุบโรเดียม และเติมด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ข้างตัวเรือนติดตั้งวาล์ว ปล่อยก๊าซฮีเลียมดีไซน์ทรงกรวย ลงตัวคู่กับสายสเตนเลสสตีล กันน�้าได้ลึกระดับ 300 เมตร ภายในท�างานด้วยกลไก OMEGA Chronometer Caliber 8800 ที่มองเห็นได้ผ่านฝาหลัง กระจกแซฟไฟร์และขอบตกแต่ง ด้วยลายคลื่น
ความสลับซับซ้อนที่น�ามาตีความใหม่ภายใต้รูปลักษณ์สปอร์ตทันสมัย สไตล์เอกลักษณ์ของ Overseas อันโด่งดัง โดยครั้งนี้ยังนับเป็น การน�าเสนอนาฬิกาทูร์บิญองแบบสเกเลตันครั้งแรกในคอลเลกชันนี้ อีกด้วย ถ่ายทอดความโดดเด่นไว้ใน 2 เวอร์ชันให้เลือกระหว่าง ตัวเรือนพิงก์โกลด์ 18K 5N หรือไทเทเนียม เกรด 5 ขนาด 42.5 มม. หนา 10.39 มม. ซึ่งในรุ่นไทเทเนียมยังเปิดตัวครั้งแรกมากับ สายสร้อยข้อมือแบบผสานท�าจากไทเทเนียม รวมถึงความพิเศษ ของคอลเลกชันนี้ที่ประกอบด้วยระบบสายถอดเปลี่ยนได้อย่าง สะดวกสบายและรวดเร็ว โดยส่งมอบมากับสายหนังวัวหรือสายยาง ส่วนภายในทั้ง 2 เวอร์ชันบรรจุด้วยกลไก Manufacture Caliber 2160 SQ ผ่านการออกแบบใหม่ และสลักเสลาแบบสเกเลตัน พร้อมทั้งบาลานซ์สปริงใหม่และ Breguet Overcoil และความไว้วางใจเชื่อถือได้ด้านความเที่ยงตรงแม่นย�เสริมสมรรถนะ า 5. V ach ERON c ONS ta N t IN Overseas Tourbillon Skeleton นาฬิการะดับ Grand Complications มาพร้อมความสลับซับซ้อนของกลไกจักรกล ซึ่งแบรนด์เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ โดยรุ่นนี้ติดตั้งด้วยกลไก Caliber CH 29-535 PS Q ที่ผสมผสานทั้งจักรกลโครโนกราฟ และปฏิทินถาวร (Perpetual Calendar) รวมถึงความโดดเด่นของหน้าปัดแล็กเกอร์ สีเขียวไล่เฉดสู่สีด�าบนขอบรอบหน้าปัด ตกแต่งด้วยมาร์กเกอร์ชั่วโมงทอง ช่องหน้าต่างและการแสดงปฏิทินที่สามารถรวมถึงบรรจุ อ่านค่าได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งการแสดง ข้างขึ้น-ข้างแรม (Moon Phases) และหน้าปัด แสดงวินาทีเล็ก หลอมรวมไว้ภายใต้ ความสง่างามของตัวเรือนแพลทินัมขนาด 41 มม. และหนา 12.4 มม. ฝาหลังกระจก แซฟไฟร์หรือสามารถเปลี่ยนเป็นฝาหลัง แบบทึบ ลงตัวคู่สายหนังจระเข้สีด�าเงาวาว 4. P at EK P h ILIPPE Ref. 5270P-014 Chronograph Perpetual Calendar 1 9
2 1 มาถึงวันนี้ ไม่อาจปฏิเสธความจริงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของโลกที่เกิดขึ้นได้ อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโลกที่ร้อนขึ้น ชั้นบรรยากาศที่ถูกท�าลาย น�้าแข็งขั้วโลก ที่ละลาย น�้ า ท่วม และดินฟ้าอากาศที่เริ่มแปรปรวนจนกลายเป็นภาวะวิกฤติ ในหลายพื้นที่ หลายสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้ปรากฏออกมาให้เห็น และความเข้าใจ ที่ว่าอายุขัยของโลกนั้นยังอีกยาวไกล ก็ดูเหมือนจะหดสั้น จนเริ่มมองเห็นอนาคต ที่ดูเหมือนสภาพไร้ความหวัง อันที่จริงย้อนหลังกลับไปประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยถึงปัญหาด้าน สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับ สากล ล้วนเห็นพ้องต้องกันเรื่องการลด ‘ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์’ ว่าเป็นสิ่งที่ สามารถท�าได้ และต้องท�าให้สัมฤทธิผล ไม่ใช่แค่น้อยลง แต่ต้องให้ติดอยู่ในระดับ ‘ศูนย์’ หรือใกล้เคียง โดยตั้งเป้ากรอบเวลาอีก 5 ทศวรรษ ที่จะมาถึงในการประชุม COP26 ณ กรุงกลาสโกว์ โดยมีการหารือกันอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย ส�าหรับประเทศไทย ภายใต้การให้ปฏิญาณและประกาศจุดยืนโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะลดปริมาณคาร์บอนฯ ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 คือเป้าหมาย ที่ท้าทายอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นเรื่องยาก แต่นั่นคือเสียงเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ออกมามีส่วนร่วม ซึ่งต้องขับเคลื่อนองคาพยพไปในทางเดียวกัน เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เปิดมุมมองนำ�ทัพองค์กรพลังง�น สู่เป้� : อัมพวา พลาธิสาร : พิชญุตม์ คชารักษ์ cover man
และกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง ‘ปตท.’ ซึ่งเป็นเสาหลักด้านความมั่นคงด้านพลังงาน ก็ได้ขานรับกับแนวทางดังกล่าวในนโยบายและทิศทาง ที่จะก้าวเข้าสู่ ‘ Net Zero ’ พร้อมผนึกก�าลังไปสู่จุดหมาย คาร์บอนฯ เป็นศูนย์ให้ได้อย่างพร้อมเพรียงด้วยเช่นกัน แต่แนวทางดังกล่าวนั้นจะมีขั้นตอนอย่างไร มีปรัชญาเบื้องหลังแบบไหน ปลายทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อองค์กรอย่างไรและตั้งเป้าเพื่อให้สัมฤทธิผล GM Magazine ได้รับเกียรติจาก อรรถพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ฤกษ์พิบูลย์ บริษัท ปตท. จ�ากัด (มหาชน) มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นต่างๆ และแนวทางที่ท้าทายโดยขณะที่คุณผู้อ่านก�าลังอ่านเรื่องราวในขณะนี้ ทาง ปตท. ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อให้บรรลุต่อเป้าหมายอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างไม่ลดละ และอย่างมีแบบแผนที่ชัดเจน เพราะส�าหรับ ปตท. แล้ว นี่ไม่ใช่แค่ท�าความดี เพื่อสังคม แต่คือ ‘พันธกิจ’ ที่มีต่อโลก ซึ่งพร้อมส่งให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป จึงต้องยอมรับว่า… เป็นเดิมพันที่สูงยิ่ง
ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงกันมานานแล้ว CEO ปตท. มองความส�าคัญของประเด็นนี้อย่างไร อรรถพล : แม้เป็นเรื่องที่พูดกันเยอะ แต่ส�ำหรับ ประเทศไทย ต้องบอกว่ำเป็นเรื่องใกล้ตัวมำกๆ มีก ำ รศึกษ ำ เรื่องผลกระทบของก ำ รเปลี่ยนแปลงสภ ำ พ ภูมิอำกำศต่อโลกตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2019 ซึ่งประเทศไทย ถือว่ำมีควำมเสี่ยงอยู่ในล�ำดับที่ 9 นับว่ำสูงมำก และยิ่งเวลำ ผ่ำนไปผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งชัดเจน ทั้งนี้ ถ้ำพิจำรณำ จำกต�ำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทย ก็ยิ่งท�ำให้ข้อมูลกำรศึกษำที่มีนั้นมีเค้ำควำมเป็นจริงและส�ำคัญมำกขึ้น ภาวะโลกร้อนกับแนวคิดในเชิงอนุรักษ์ส� า หรับคนไทย อาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวจนเกินไป โดยส่วนตัวคิดเห็น อย่างไร อรรถพล : ในมุมมองของปัจเจก อ ำ จจะมองว่ ำ ไม่ได้เกิดผลสัมฤทธิ์ในท ำ งบวก หรือเกิด ควำมเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ทั้งนี้สิ่งต่ำงๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้อง เกิดจ ำ กก ำ รขับเคลื่อนเป็นองค ำ พยพของทุกภ ำ คส่วน ไปพร้อมๆ กัน อย่ำงเช่นในงำน COP26 ที่ภำครัฐประกำศเป้ำ Net Zero ภ ำ ยในปี 2065 นับเป็นเรื่องที่ท้ ำ ท ำ ยส�ำหรับ ประเทศไทยม ำ ก โดยเฉพ ำ ะภ ำ คพลังง ำ นที่ไทยมีปริม ำ ณ คำร์บอนฯ โดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 247 ล้ำนตัน จึงถือได้ว่ำเป็น งำนใหญ่ที่ต้องให้ควำมส�ำคัญ และร่วมมือไปพร้อมกันด้วย โดย ปตท. ก็ได้น�ำเป้ำหมำยดังกล่ำวมำปรับเพื่อเป็นทิศทำง กำรด�ำเนินงำนสู่นโยบำย Net Zero Net Zero ประชาสัมพันธ์ หรือ ‘พันธกิจ’ ส�าคัญที่ องค์กรใหญ่ต้องท�าอย่างต่อเนื่อง อรรถพล : ส�ำหรับ ปตท. แล้ว ก ำ รมุ่งสู่ Net Zero ไม่ใช่เพียงก ำ รประช ำ สัมพันธ์เพียงครั้งคร ำ ว เพรำะภำพกำรด�ำเนินงำนจะไม่ชัดเจนและไม่จริงจัง รวมทั้ง ท�ำให้ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ ก ำ รมุ่งสู่ Net Zero ของ ปตท. จึงถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจหลัก เห็นได้จำก ปตท. และบริษัท ในเครือพร้อมจับมือขับเคลื่อนไปข้ำงหน้ำให้สอดคล้องกับ แนวทำงของภำครัฐที่ประกำศไว้ในเวที COP26 ซึ่งกลุ่ม ปตท. จัดตั้งคณะท�ำงำนกำรปล่อยก๊ำซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ กลุ่ม ปตท. หรือกลุ่ม G-Net (PTT Group Net Zero Task Force) อันเป็นกำรรวมตัวของบริษัท Flagship ทั้งหมดอีก 6 บริษัท ม ำ พูดคุยห ำ รือว่ ำ จะท�ำสิ่งใดเพื่อตอบสนองต่อแนวท ำ ง ดังกล่ำวได้บ้ำง และให้ผลรวมนั้นสัมฤทธิผลได้เร็วกว่ำปี 2065 ซึ่งจะเป็นกำรช่วยประเทศในทำงหนึ่งด้วย งานใหญ่แบบนี้ จ�าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการวางแนวทาง ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ปตท. ได้มองภาพ ทั้ง 3 ระยะนี้อย่างไรบ้าง อรรถพล : อย่ำงที่กล่ำวไปข้ำงต้นครับว่ำ ปตท. ตั้งใจ จะไปให้ถึงเป้ำหมำย Net Zero ให้ได้ภำยในปี 2050 แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ำไม่มีกำรวำงแผนงำนที่ดี ซึ่งเรำมีกลยุทธ์ 3P คือ 1. Pursuit of Lower Emissions : กำรท�ำธุรกิจของ ปตท. ต้องมองในเรื่องของกำรผลิตคำร์บอนฯ ต�่ำในทุกมิติ อย่ ำ งเช่นโรงง ำ นไหนที่เริ่มเก่ ำ และไปไม่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็จะระงับก ำ รผลิต ส่วนโรงง ำ นที่มีอยู่แล้วก็จะยกระดับ รวมถึงกำรใช้คำร์บอนฯ ในเชิงอนุรักษ์มีกำรน�ำกลับมำใช้ใหม่ หรือก ำ รใช้เทคโนโลยีก ำ รขุดเจ ำ ะที่ทันสมัย จนถึงก ำ รใช้ พลังงำนทดแทน 2. Portfolio Transformation : ปรับพอร์ตกำรลงทุน สู่พลังงำนสะอำดมำกยิ่งขึ้น ด้ำนพลังงำนเก่ำอย่ำงถ่ำนหิน ก็ได้ยุติกำรลงทุนและขำยออกจำกพอร์ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนพลังง ำ นจ ำ กฟอสซิลอื่น ปตท. จะเพิ่มประสิทธิภ ำ พ 2 3
กลุ่ม ปตท. จะปลูกป่�เพิ่มทั้งหมด 2 ล้�นไร่ ภ�ยในปี 2030 ซึ่งห�กสำ�เร็จลุล่วง ป่ � นี้จะมีศักยภ � พช่วยดูดซับ ก๊�ซเรือนกระจกได้รวมกว่� 4 .15 ล้�นตัน ค�ร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่�ต่อปี กลุ่ม ปตท. ทั้ง 7 บริษัท จะมีกิจกรรมกล�งที่ทำ�ร่วมกัน นั่นคือ ‘ก � รปลูกป่ � ’ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเพิ่มออกซิเจนให้แก่โลก กลุ่ม ปตท. ทั้ง 7 บริษัท จะมีกิจกรรมกล�งที่ทำ�ร่วมกัน นั่นคือ ‘ก � รปลูกป่ � ’ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเพิ่มออกซิเจนให้แก่โลก
กำรผลิตและพัฒนำผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภำพที่ดีและเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ด้ ำ นก๊ ำ ซธรรมช ำ ติถือเป็นพลังง ำ น ฟอสซิลที่สะอำดที่สุด 3. Partnership with Nature and Society : กำรเพิ่มปริมำณกำรดูดซับก๊ำซเรือนกระจกจำกชั้นบรรยำกำศ ด้วยวิธีท ำ งธรรมช ำ ติร่วมกับหน่วยง ำ นต่ ำ งๆ แน่นอนว่ ำ เรำจะมองไปถึงเรื่องกำรปลูกป่ ำ ซึ่ง ปตท. เคยได้ปลูกป่ำ 1.1 ล้ำนไร่ไปแล้วตั้งแต่ปี 2537 และดูแลฟื้นฟูป่ำเสื่อมโทรม ม ำ โดยตลอด จนถึงปัจจุบันป่ ำ ที่ปลูกนี้ส ำ ม ำ รถดูดซับ คำร์บอนฯ ได้ 2.14 ล้ำนตันคำร์บอนฯ เทียบเท่ำต่อปี รวมทั้ง ยังได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและชุมชนโดยรอบให้ส ำ ม ำ รถ ใช้ประโยชน์จำกป่ำไม้ได้อีกด้วย เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านพลังงานที่เคยเป็น ‘ข้อจ�ากัด’ ของประเทศไทย มาในวันนี้เราก้าวข้ามข้อจ� า กัด เหล่านั้นไปได้มากน้อยเพียงใด อรรถพล : ก้ำวข้ำมไปได้พอสมควรแล้วครับ แต่ทั้งนี้ ต้องประกอบกับนโยบ ำ ยของภ ำ ครัฐที่จะให้ ก ำ รสนับสนุนพลังง ำ นเหล่ ำ นี้ ซึ่งก็เป็นข่ ำ วดีที่ว่ ำ สัดส่วน พลังงำนหมุนเวียนก็จะเพิ่มมำกขึ้น ทั้งโรงงำนในประเทศและ ต่ำงประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อสภำพแวดล้อมในทำงที่ดี คุยกันในแง่แนวทางของบริษัทและหน่วยงานกันมา พอสมควรแล้ว ถ้าพูดถึงแง่ ‘ บุคคล ’ จะสามารถ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาวะคาร์บอนฯ และรักษา สิ่งแวดล้อมได้อย่างไรบ้าง อรรถพล : ส่วนตัวผมมองในแง่ของ ‘กำรบริโภค’ ก่อน เป็นอันดับแรก ในทุกๆ มิติ หรืออย่ ำ งใน ปตท. เอง แม้จะไม่ได้ออกเป็นนโยบำยบังคับกะเกณฑ์อะไร แต่ก็พย ำ ย ำ มท�ำให้เกิดเป็นแนวท ำ งเพื่อให้มีก ำ รปฏิบัติ ต ำ มๆ กัน เช่น เร ำ เชิญชวนให้ทุกคนปรับอุณหภูมิของ เครื่องปรับอำกำศไว้ที่ 26 องศำเซลเซียส โดย ปตท. ก็ท�ำให้ เห็นเป็นตัวอย่ำง โดยเพิ่มอุณหภูมิในส�ำนักงำน แม้ว่ำจะเพิ่ม แต่อำกำศก็ยังเย็นสบำยเหมือนเดิม หรือจะเริ่มจำกกำรขึ้น บันไดแทนลิฟต์ก็ได้ ได้ทั้งช่วยโลกแล้วสุขภำพแข็งแรงด้วย อีกวิธีที่ง่ ำ ยก็คือหมั่นท�ำคว ำ มสะอ ำ ดและบ�ำรุงรักษ ำ อุปกรณ์ไฟฟ้ำ รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ปิดไฟ เมื่อไม่ใช้ แค่นี้เรำก็ช่วยลดภำวะโลกร้อนได้แล้ว เรียกว่า ท�าจนกลายเป็น ‘ปรัชญา’ ของบริษัท ที่ทุกคน เห็นพ้องต้องกัน อรรถพล : เป็นเช่นนั้นครับ เรียกว่ ำ พย ำ ย ำ มให้เกิด ค่ ำ นิยมของก ำ รใช้พลังง ำ นอย่ ำ งมีคุณค่ ำ ในทุกจังหวะและทุกมิติ รวมทั้งท�ำให้เกิดคว ำ มใส่ใจต่อ สิ่งแวดล้อมและใช้พลังงำนอย่ำงรู้คุณค่ำและคุ้มค่ำที่สุด พูดถึงบริษัทหลักไปแล้ว ส�าหรับบริษัทในเครือ ปตท. นั้น ได้มีการเปิดรับแนวทางเพื่อตอบสนองต่อนโยบาย Net Zero ที่ก�าลังจะมาถึงนี้ด้วยหรือไม่ อย่างไร อรรถพล : แน่นอนครับว่ำต้องมี เพรำะกลุ่ม ปตท. ได้มี ก ำ รรวมกลุ่มกันในน ำ ม G-Net โดยจะดึง คว ำ มเชี่ยวช ำ ญของแต่ละบริษัทออกม ำ เพื่อน�ำจุดเด่น เหล่ ำ นี้ม ำ ใช้ให้เกิดประโยชน์ในก ำ รขับเคลื่อนองค์กรและ ประเทศสู่สังคมคำร์บอนฯ ต�่ำ เช่น บริษัท ปตท. ส�ำรวจและ ผลิตปิโตรเลียม จ�ำกัด (มหำชน) จะดูแลเรื่องกำรดักจับและ กักเก็บคำร์บอนฯ (Carbon Capture and Storage : CCS) เริ่มจำกแหล่งในอ่ำวไทย ปตท. มีโครงกำรที่จะน�ำคำร์บอนฯ ไปใช้ประโยชน์สูงสุด (Carbon Capture and Utilization : CCU) ทั้งนี้ ทั้ง 7 บริษัทจะมีกิจกรรมกล ำ งที่ท�ำร่วมกัน นั่นคือ ‘ก ำ รปลูกป่ ำ ’ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเพิ่มออกซิเจน ให้แก่โลก โดย ปตท. ตั้งมั่นว่ำจะปลูกป่ำเพิ่ม 1 ล้ำนไร่ และบริษัทอื่นๆ ในกลุ่ม ปตท. จะร่วมมือกันปลูกป่
ำ นไร่ ภ ำ ยในปี 2030 ซึ่งห ำ กส�ำเร็จลุล่วง ป่ ำ นี้จะมี ศักยภำพช่วยดูดซับก๊ำซเรือนกระจกได้รวมกว่ำ 4.15 ล้ำนตัน คำร์บอนฯ เทียบเท่ำต่อปี ‘พลัง ’ ในก�รขับเคลื่อนองค์กร และประเทศสู่สังคมค � ร์บอนฯ ต � ของ ปตท. นี้ เต็มเปี่ยมไปด้วย คว�มจริงจังและจริงใจ ผ่�นคำ�พูด และกลยุทธ์ที่ชัดเจนกระบวนก�รคิดพร้อมมุ่งสู่ แนวท�งปฏิบัติที่เป็นไปได้ ซึ่ง อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ หัวเรือใหญ่ ปตท. ได้ถ่�ยทอดออกม� อย่�งแจ่มชัดตลอดก�รสนทน� ในครั้งนี้ที่จะนำ�องค์กรบรรลุเป้�หม�ย ให้เร็วกว่�เป้�หม�ยของประเทศ ถึง 15 ปี เพื่อนำ�ประเทศสู่สังคม ค�ร์บอนฯ ต�อย่�งยั่งยืน 2 5
ำ อีก 1 ล้ำนไร่ เท่ำกับว่ำทั้งกลุ่ม ปตท. จะปลูกป่ำเพิ่มทั้งหมด 2 ล้
Cool Winter หนาวนี้ต้องมีสไตล์ สำารวจเทรนด์ Fall / Winter 2022
JAcket : Versace SkIRt FoR Men : Roberto cavalli : Santichai Apornsri S t Y le
SAFARI
: Y Project : Loewe : Balmain : Louis Vuitton : Vetements Shoulder t o Cr Y o n หากหน้าหนาวนี้ต้องลงทุนซื้อโค้ต หรือแจ็กเก็ตดีๆ สักตัว เพื่อไปตะลุยอากาศหนาว ในต่างประเทศ เทรนด์มาแรงที่สุดส�าหรับซีซันนี้ก็คือโครงสร้าง ของช่วงไหล่ ไม่ว่าจะเป็นแจ็กเก็ตสูท โค้ต ที่มาพร้อมช่วงไหล่ที่ใหญ่หรือแจ็กเก็ตประเภทต่างๆหรือคมกริบ เช่น Prada, Vetements หรือจะมาในขนาดโอเวอร์ร่วมด้วย อย่าง Dolce&Gabbana Y2K ( มิลเลนเนียม ) อิทธิพลของกระแส Y2K หรือยุค มิลเลนเนียมที่หวนกลับมา อีกครั้ง ท�าให้เทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น หรือเรื่อง วัฒนธรรมอื่นๆ ของช่วงยุค ต้นทศวรรษ 2000s กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ส�าหรับด้านแฟชั่นนั้น ได้เห็นการกลับมาของ กางเกงยีนส์ตัวใหญ่โคร่ง ที่รูปทรงของกางเกง ถูกน� า มาใช้ในซีซันนี้อย่าง ตรงไปตรงมา เช่น Vetements หรือ Louis Vuitton พร้อมมี การดัดแปลงเพื่อเพิ่ม ดีเทลต่างๆ ให้ดู น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น การตัดต่อผ้าของ Balmain หรือการติด กระดุมทั้งตัวของ Y Project Gentleman Wear S Pin K จากคอลเลกชันของ Valentino ที่ท�างานร่วมกับ Pantone ในการสร้างเฉดสีชมพูช็อกกิงพิงก์สุดพิเศษออกมา พร้อมทั้งน�าเสนอเสื้อผ้าบนรันเวย์ด้วยสีชมพูช็อกกิงพิงก์ทั้งหมด ท�าให้สีชมพูกลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้ง โดยเฉพาะในการสวมใส่ สีชมพูทั้งลุค อย่าง Ami หรือ Dolce&Gabbana ซึ่งมาในโทนช็อกกิงพิงก์ หรือจะเป็นชมพูโทนหวานอย่าง Tom Ford, Prada และ Alexander McQueen Dolce&Gabbana : : Prada : Vetements : Dolce&Gabbana : Prada : Ami tom Ford : : Alexander McQueen : Vetements : Alexander McQueen : Balmain : casablanca 2 7
เรียกว่าแทบจะกลายเป็น ไอเทมสามัญส�าหรับ คอลเลกชันเสื้อผ้าผู้ชายไปแล้ว ส�าหรับกระโปรงที่เด็กใน เจเนอเรชันซีไม่ได้มองว่า เป็นไอเทมของผู้ชายหรือผู้หญิง และเมื่อเจเนอเรชันซี คือลูกค้าหลักของอุตสาหกรรม แฟชั่นในปัจจุบัน จึงได้เห็น กระโปรงส�าหรับผู้ชายมากขึ้น อย่างในฤดูกาลนี้ก็มีทั้ง Off-White, Undercover และ Our Legacy ที่มาในแบบกระโปรงจีบรอบ ในขณะที่ Louis Vuitton เป็นกระโปรงผ้ามุ้งแบบยาวเต็มรูปแบบ S K irt F or m en nimal Print หากเป็นหน้าร้อน ก็จะมาพร้อม ลายพิมพ์ดอกไม้ ใบไม้ ในขณะที่หน้าหนาว ก็จะมาพร้อม ลายหนังสัตว์เป็นของคู่ฤดูกาล เช่นเดียวกับในซีซันนี้ที่ดีไซเนอร์ พร้อมใจกันน�าลายพิมพ์หนังสัตว์ โดยเฉพาะลายเสือประเภทต่างๆ กลับมาอีกครั้งทั้งในโทนสีที่คุ้นชิน อย่าง Dior หรือ Ami และในโทนสี แสบสันมากขึ้นอย่าง Versace นอกจากนี้ ยังมีลายม้าลายและลายหนังงูอย่าง Roberto Cavalli และ Dolce&Gabbana : Dolce&Gabbana : Roberto c : Roberto cavalli : Louis Vuitton : Undercover our Legacy : : Ami : Dior 2 8
: Louis Vuitton Plaid Plea S e ลวดลายตาราง คือการผสมผสานระหว่างความคลาสสิก ในแบบลวดลายตารางของผ้าที่ถูกน�ามาใช้ในการตัดสูทตามประเพณีนิยม ทั้ง Prince of Wales, Houndstooth กับความขบถเยาว์วัย เพราะลายตารางนั้นเป็นหนึ่งในสไตล์ที่แฝงมากับสไตล์กรันจ์ในยุค ’90s ด้วยเช่นเดียวกัน ในซีซันนี้จึงได้เห็นความหลากหลาย ของการตีความลายตารางหลากดีไซน์ ทั้งความคลาสสิกในแบบ Kenzo หรือสตรีทในแบบ Amiri : kenzo : Isabel Marant : Dolce&Gabbana Sa F ari Ja CK et เรามักจะนึกว่าซาฟารีแจ็กเก็ต เป็นของคนแก่ เพราะจะเห็น แจ็กเก็ตคอปกรูปทรงนี้ เป็นยูนิฟอร์มของ หน่วยงานราชการ หรือ สิ่งที่คุณปู่ คุณพ่อ ชอบสวมใส่เพื่อ เพิ่มความเป็น ทางการให้ตัวเอง ในกรณีที่ไม่ได้ใส่สูท แต่ที่จริงซาฟารี แจ็กเก็ตนั้นคลาสสิก และสามารถ ปรับเปลี่ยนให้มี อย่างในซีซันนี้จะเห็นความทันสมัยตามยุคได้ ซาฟารีแจ็กเก็ตที่มีความเป็น ยูทิลิตี เช่น Burberry หรือเน้นเส้นสายแบบงาน เทเลอร์ อย่าง Versace หรือ Ami : Ami : Bianca Saunders : Burberry : Dior Versace : eASe : Amiri : Undercover : Versace
: Vetements : Reese cooper : Louis Vuitton : Loewe Prin C e o F Print ความสนุกสนานของลายพิมพ์ ในซีซันนี้ก็คือเทคนิค การลวงตาในแบบงานป๊อป ซึ่งเป็น อิทธิพลที่ได้มาจากงานของ Jean Paul Gaultier ซึ่งถูกน�า กลับมาท�าใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะ ในคอลเลกชันของ Y Project กับการน�ารูปบอดี้ของคน มาใช้เป็นลายพิมพ์เพื่อยั่วล้อ สังคมโดยเฉพาะในประเด็น เรื่องนู้ด เช่นเดียวกันกับ Loewe ที่มาพร้อมลายพิมพ์ บอดี้ของผู้ชายที่ดูไกลๆ เหมือนว่านายแบบเปลือยอก ในขณะที่ Prada หากดูไกลๆ จะเหมือนการพ่น สีสเปรย์ แต่เมื่อดู ใกล้ๆ นั่นคือรูป สุนัขจิ้งจอก SS Daley : : JW Anderson : Loewe : Stefan cooke i n Ve S t We t ru S t ที่จริงแล้วเสื้อกั๊ก มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ซีซันที่แล้วหรือเสื้อแขนกุดนั้นเป็นเทรนด์แต่พอมาถึงฤดูหนาวก็จะถูก น�ามาปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล จากเดิมที่เป็นผ้านิตโปร่งบาง ก็เขยิบมาเป็นไหมพรม แคชเมียร์นิตที่มีความหนา และให้ความอบอุ่นมากขึ้น เช่น Jil Sander หรือ JW Anderson ในขณะเดียวกันก็พร้อมต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ที่จะมาถึงในแบบ Kenzo กับลวดลายที่คุ้นตาเมื่อคริสต์มาสมาถึง หรือในรูปแบบงานเทเลอร์จาก Alexander McQueen Jil Sander : Ba GGY l e GS จากการกลับมาของเทรนด์ Y2K ท�าให้สไตล์การแต่งตัว ในแบบวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียมนั้น ถูกน�าไปปรับใช้กับเสื้อผ้า ในรูปแบบอื่นๆ ด้วย กางเกงยีนส์ ตัวโคร่งก็ถูกปรับมาสู่กางเกง สแล็คตัวใหญ่ทรงแบ็กกีในรูปแบบ งานเทเลอร์ที่ผสมผสานกับ สไตล์สตรีท ไม่ว่าจะเป็น Vetements, Louis Vuitton หรือ Versace รีแลกซ์ขึ้นมาหน่อยกับสไตล์สปอร์ตอย่าง Off-White หรือ SS Daley : Prada : off-White
Virgil Abloh เข้ามาท�างานที่ Louis Vuitton ในปี 2018 ก่อนจะเสียชีวิตลงในเดือนพฤศจิกายน 2021 แม้จะมีเวลาท�างานไม่นานนัก แต่สิ่งที่เขาได้สร้างไว้ให้กับแบรนด์หลุยส์ วิตตอง นั้น เอามรดกของงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาผสมผสานกับงานสตรีทแวร์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนคือผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่หลอมรวม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ และเป็นผลงานระดับต�านานในแต่ละคอลเลกชัน ส� า ฤดูหนาวหรับในคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วงและ 2022 นี้ ต้องบอกว่าเป็นคอลเลกชัน เพื่อสดุดีผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของ Virgil Abloh ด้วยการน�าทุกเอกลักษณ์แห่ง งานออกแบบของเขาไม่ว่าอดีตในวัยเยาว์ แรงบันดาลใจ ค�าพูด ความฝัน ความชื่นชอบ มาหลอมรวมกันเป็นผลงานล่าสุดภายใต้ชื่อ ‘An octology according to Virgil Abloh.’ Collection 8: In the grand scheme of things. โดยแบ่งเป็น 8 เรื่องราวด้วยกัน อย่างในคอลเลกชัน 1 จะได้เห็นการน�า แรงบันดาลใจมาจากภาพวาด The Painter’s Studio ของ Gustave Courbet ใน 1855 ซึ่งต้นฉบับเป็นภาพของ ศิลปินอยู่ตรงกลาง ในขณะที่ขวามือเป็นคนชนชั้นสูงโดยซ้ายมือเป็นผู้คนจากทุกชนชั้นของฝรั่งเศส โดย Virgil Abloh แล้วน�ามา ท�าใหม่เป็นภาพของตัวเขาที่แวดล้อมไปด้วยสมาชิกในทีมของเขา เพื่อสื่อสารถึงประเด็นเรื่องความแตกต่างและหลากหลาย หรือการตีความเรื่อง The Wiz ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก The Wizard of Oz ในเวอร์ชันที่นักแสดงเป็นคนผิวด�าทั้งหมด สิ่งนี้ ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Virgil Abloh เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ เรื่องราวของเขาเป็นดีไซเนอร์ผิวด�าที่ได้ก้าวขึ้นมาท�างานในแบรนด์ ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton การใช้วัฒนธรรมแอฟริกันในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วยซึ่งรากเหง้าของเขายังปรากฏให้เห็นจากทั้งธงของ ประเทศกานา จากแอฟริกันตะวันตกเสื้อผ้าในรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจ และเรื่องราวจากเพื่อน ร่วมงานของเขาที่ถูกถ่ายทอดในรูปแบบตัวตุ๊กตา หุ่นเชิดซึ่งมีสีสันสดใสที่เห็นได้ใน Collection 5 อีกหนึ่งความน่าสนใจในผลงานของ Virgil Abloh ก็คือการผสมผสานของโลก ความเหนือจริงและโลกแห่งความจริง ไว้ด้วยกัน ถ่ายทอดสู่การใช้ดอกไม้อันเป็น ตัวแทนของความแตกต่างหลากหลาย เช่น กระเป๋า Bouquet Bags ที่ประดับ ไปด้วยดอกไม้หลากสี 3 มิติ ท�าจาก หนัง บนตัวกระเป๋าลวดลายโมโนแกรม หรือโลกแห่งความฝันของเขาที่ผ่าน ลวดลายท้องฟ้าและก้อนเมฆ ทั้ง 77 ลุคในคอลเลกชันนี้ คือ การสดุดีตัวตนของเขาในทุกมุมมอง ที่หล่อหลอมให้เกิดชายที่ชื่อว่า Virgil Abloh และการกล่าวค�าอ�าลา ด้วยผลงานที่จะท� า ให้ผู้คนจดจ� า เขา ตลอดไป คอลเลกชันบอกลา Virgil Abloh จาก Louis Vuitton The Last Farewell 3 1
แม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าของ บางอย่างนั้นขายในตลาด รีเซลได้ราคาสูง และควรค่าแก่ การลงทุน โดยเฉพาะแบรนด์ ตัว H ที่กระเป๋าในช็อปราคาอยู่ ที่ 3-4 แสน หาซื้อในช็อปได้แต่ใช่ว่าทุกคนจะ ท�าให้ต้องซื้อ ราคารีเซลนอกช็อป ซึ่งราคา เขยิบขึ้นไปกว่าเท่าตัว แต่ใช่ว่า ทุกคนจะสามารถหากระเป๋า Kelly, Birkin, Constance มาขายใน ตลาดรีเซลได้ และดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ Hermes แล้ว แม้แต่ Chanel, Louis Vuitton, Gucci ฯลฯ ก็กลายมาเป็นไอเทมท�าเงิน ในตลาดรีเซลเช่นเดียวกัน คาดการณ์กันว่าตลาดรีเซล ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อ-ขายอยู่ที่ 25-30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะ เติบโตสูงขึ้นปีละ 10-15% ในอีก 10 ปี ข้างหน้า โดยมีผู้เล่นในตลาดนี้อย่าง the RealReal, thredup, ebay และ Vinted กันอยู่ประมาณซึ่งมีมาร์เกตแชร์รวมๆ 25-30% ที่เหลือ คือบรรดาการขายรายย่อยในประเทศ ต่างๆ อย่างที่เห็นกันในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สิ่งที่ท�าให้ตลาดรีเซลกลับมาเติบโตอย่างสูง คือการเกิดขึ้น และความนิยมของแฟชั่นไอเทมในแบบ ‘ของมันต้องมี’ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton x Supreme หลายปีที่ผ่านมา หรือ Dior x Air Jordan 1 อย่างที่ได้กล่าวไป ซึ่งเป็นของเอกซ์คลูซีฟที่จะ หาไม่ได้อีกแล้ว ไม่ใช่ชิ้น คลาสสิกที่จะผลิตอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าในอนาคตจะ กลายเป็นแรร์ไอเทมมูลค่า มหาศาล ที่ก่อให้เกิดดีมานด์ อย่างสูงสุดและปรากฏการณ์ ราคารีเซลทะลุเพดาน เมื่อครั้งที่ Dior x Air Jordan 1 เตรียมวางขายครั้งแรก ซึ่งมีแค่ 8,000 คู่ทั่วโลก โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนต้องการ ซื้อสูงถึง 5 ล้านคน สนนราคาขายตอนนั้นส�าหรับรุ่น Low-top ราคาอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรุ่น High-top ราคาอยู่ที่ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่าเมื่อเปิดขาย รองเท้าทั้ง 8 ,000 คู่ ขายหมดภายในพริบตา ก็ปรากฏมีการขายรีเซลตามเว็บไซต์ที่ขายของรีเซลต่างๆและไม่นานหลังจากนั้น ในราคาคู่ละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นสนีกเกอร์ ที่มีราคารีเซลสูงสุดทะลุเพดาน กับตลาดรีเซลทั้งในแง่กลไกราคาตลาดและในแง่การลงทุนและท�าให้ผู้คนหันมาตั้งค�าถาม theRealReal ขุมทรัพย์แห่งการลงทุน ด้านแฟชั่น Dior x Air Jordan 1 ตลาดรีเซล 3 4
แฟชั่นไอเทมราคาดีไม่มีตกในตลาดรีเซล กระเป๋า Gucci รุ่น Marmont กระเป๋า Fendi รุ่น Baguette รองเท้า Gucci รุ่น Princetown Slippers รองเท้า Nike x Off-White Air Force 1 ประการต่อมาก็คือ ‘เทรนด์ ’ ของที่หาได้ทั่วไป เดินไปซื้อในช็อปเมื่อไรก็ได้ กลายเป็นของที่ใครๆ ก็ใช้ ชนกันนั้นได้รับความสนใจน้อยกว่าการได้สวมใส่ ของวินเทจแบบแรร์ไอเทมในแบบที่เดินเข้าไปซื้อในช็อป ไม่ได้ ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ที่ต้องแข่งขันเหมือน ดังเช่นดาราฮอลลีวูดที่เริ่มใส่เดรสวินเทจจากของ thierry Mugler, Jean Paul Gaultier, Salvatore Ferragamo ฯลฯ ซึ่งท� า ให้ตลาดรีเซลของวินเทจ กลับมาคึกคัก ประการที่ 3 ก็คือเทรนด์ ‘ความยั่งยืน’ ที่ท�าให้ แบรนด์ผลิตของน้อยลง และผู้บริโภคก็ซื้อของน้อยลง ใช้ของให้นานมากขึ้น ถนอมของมากขึ้น และคิดมากขึ้น หากจะต้องซื้อของใหม่ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ข้อมูลจาก the ellen MacArthur Foundation (eMF) พบว่าปัจจุบัน คนเราซื้อเสื้อผ้าลดลง 40% จากเมื่อสิบปีก่อน และคน กว่า 70% คิดมากขึ้นเมื่อต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ที่ส�าคัญ ยังเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสารท� า ให้คนตระหนักใน เรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการบริโภค เช่น หากซื้อกระเป๋ามือสองจะช่วยลดผลกระทบทาง สิ่งแวดล้อมได้สูงถึง 91% หรือหากสามารถยืดอายุ การใช้งานไอเทมต่างๆ ไปอีก 9 เดือน ก็จะช่วยลด ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไปได้อีก 30-40% สิ่งเหล่านี้ กลายมาเป็นอุดมคติในการใช้ชีวิตและการบริโภคของ Gen Z ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่มีอ�านาจการซื้อในปัจจุบันนี้ สิ่งเหล่านี้ท� า ให้ตลาดรีเซลกลายมาเป็นตลาด และขุมทรัพย์แห่งใหม่ในการลงทุน และนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการท�ทั้งจากแบรนด์เอง า ก�า ไรจากแฟชั่น ไอเทมทั้งหลาย theRealReal เว็บไซต์ขายของรีเซลที่ก�าลังมาแรง ที่สุดกลายเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในปี 2019 ที่ผ่านมามีรายได้สูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งท�าให้ Gucci ตัดสินใจเข้าร่วมกับ the RealReal ในการขายสินค้า Gucci ขณะเดียวกันก็มีอีกหลากหลาย แบรนด์ที่พยายามท�าสิ่งที่เรียกว่า circular economy ซื้อมาขายไปโดยแบรนด์เป็นคนบริหารจัดการเอง เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาดรีเซลตรงนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Valentino โดยเริ่มต้นโครงการ ที่ชื่อว่า Valentino Vintage ให้ลูกค้าน�าเสื้อผ้าเก่าของ แบรนด์ Valentino มาขายคืนได้ โดยจะมีการประเมิน ราคาให้จากช็อป และหากลูกค้ายินดีกับราคาที่จะได้ รับการประเมินก็จะได้รับเครดิตส�าหรับใช้จ่ายในการซื้อ สินค้าใหม่ในร้านบูติกของ Valentino ต่อไป ในขณะที่ Valentino ก็จะน�าสินค้าที่รับซื้อนี้ไปสร้างสรรค์ใหม่ ออกมาขายภายใต้ไลน์ที่ชื่อว่า Valentino Vintage จะเห็นได้ว่าแฟชั่น นัยหนึ่งคือของหรูหรา ฟุ่มเฟือย ที่มีมูลค่ามหาศาลแต่นัยหนึ่งกลายเป็นตลาดการลงทุน เพียงแค่ต้องรู้จักตลาดว่า ของสิ่งไหน แบรนด์อะไร ตลาดการซื้อ-ขายที่ น่าสนใจอยู่ที่ไหน บางทีคุณอาจจะเปลี่ยนจาก แฟชั่นนิสตาที่เน้นการซื้อตามเทรนด์มาสวมใส่ กลายมาเป็นนักลงทุนในตลาดรีเซลก็เป็นได้ 3 5
3 7 : บูรพา SCOOP เรียกว่าเป็นสิ่งที่ประจักษ์และเป็น ธรรมดาวิสัยของโลก ไม่ว่าจะในยุคหรือสมัยใด ที่เมื่อปรารถนาสิ่งใดย่อมต้องมีการลงแรง ใส่ใจ และ ‘ลงทุน’ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะลงทุน เพาะปลูกพืชผล ในกิจการร้านค้าเพื่อก�จนถึงลงทุน า ไร ในปลายทาง เช่นนั้น ‘ การลงทุน ’ จึงเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา มากกว่าที่คิด และไม่ได้จ�ากัด แต่เฉพาะเรื่องราวหรือแวดวง ทางการเงินแต่เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางวิทยาการที่ช่วยทุ่นแรง ในการลงทุนด้านปัจจัยจ�าเป็น และสิ่งอ�านวย โลกหมุนเปลี่ยน เวียนสู่ เทรนด์การ ‘ลงทุน’ แห่งอนาคต ความสะดวกต่างๆ ได้รับการตอบสนองอย่าง พร้อมสรรพ ‘การลงทุน’ จึงถูกเบนเข็มมาสู่ โลกแห่งการเงิน ผลก�าไร และหลักทางด้าน เศรษฐศาสตร์ ที่ไม่ได้ส่งผลแค่เพียง ปัจเจกบุคคล แต่รวมถึงระบบ เศรษฐกิจของชุมชน และของ ประเทศในภาพใหญ่ และยิ่งเวลาผ่านไป ขอบเขตของ ‘การลงทุน ’ ในภาคการเงินและ เศรษฐกิจก็ได้ขยายตัวไปสู่ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ผู้คน และสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกครั้ง เป็นความวิวัฒน์ที่มีพลวัต และไม่เคย หยุดนิ่งอยู่กับที่
november-december GM Magazine ขอเชิญคุณผู้อ่านร่วมสัมผัสกับ ‘เทรนด์การลงทุน’ ที่น่าสนใจ ที่ก�าลังเป็นที่กล่าวถึง และอาจจะกลายเป็นหัวข้อส�าคัญที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภายภาคหน้า ภายใต้ 4 หัวข้อหลักใหญ่ ของการ ‘ ลงทุน ’ ที่มีความเกี่ยวเนื่อง สอดคล้อง และจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกัน เพราะการลงทุนคือสิ่งที่ใกล้ตัว ‘จึงปฏิเสธไม่ได้’ ว่าแม้จะเป็นการลงทุนในภาคเศรษฐกิจ แต่จะมากหรือน้อย ก็ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วยเช่นกัน L i VE Exchang E and L i VE P L atform กระดานลงทุนและแพลตฟอร์ม ‘ความรู้’ คู่ธุรกิจขนาดย่อมและสตาร์ทอัป ในโลกของการลงทุนทางการเงิน คงไม่มีสถานที่ไหนที่จะบ่งบอก ถึงรูปแบบ และเป็นตัวแทน ของสิ่งนั้นของสมัยใหม่ได้ชัดเจน เท่ากับ ‘ตลาดหุ้น’ หรือ ‘ ตลาดหลักทรัพย์ ’ อีกแล้ว เพราะในทุกวินาทีที่ผ่านไป มูลค่าของบริษัทใดบริษัทหนึ่งจะเพิ่มขึ้น หรือลดลง จะร่วมทุนหรือเทขาย นั่นคือการเต้นของหัวใจเศรษฐกิจ ที่เป็นรูปธรรม และเบื้องหลัง การเปลี่ยนผ่านของกระดานซื้อ-ขาย ที่อาจจะหมายถึงความอยู่รอด ของบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งเป็นมหาชน หรืออนาคตของบริษัทเกิดใหม่ ที่พร้อมจะก้าวไปสู่ระดับที่สูงกว่า
3 9 และส�ำหรับประเทศไทย ‘ตลำดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย’ ก็ยืนหยัดในหัวใจเศรษฐกิจมำอย่ำงยำวนำนกว่ำ 5 ทศวรรษ อย่ำงไรก็ตำม แม้จะมีกำรปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และสร้ำง กระด ำ นซื้อข ำ ยส�ำหรับผู้ประกอบก ำ รขน ำ ดกล ำ งอย่ ำ ง ‘ตล ำ ด หลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ’ ภ ำ ยหลังจ ำ กวิกฤติเศรษฐกิจต้มย�ำกุ้ง ในปี 2540 มำจนถึงปัจจุบัน เงื่อนไข กติกำ และรูปแบบกำรท�ำธุรกิจของเวลำปัจจุบัน ท�ำให้ตลำดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พิจ ำ รณ ำ ถึงคว ำ มเป็นไปได้ และสร้ ำ ง โอกำสในกำรเปิด ‘ตลำดใหม่’ ที่มีควำม ยืดหยุ่น และตอบรับกับควำมต้องกำรของ ผู้ประกอบกำรมำกยิ่งขึ้นกว่ำเดิม จำกต้นทำงแนวคิดดังกล่ำว น�ำมำสู่ แพลตฟอร์ม ‘LiVE Exchange’ และ ‘LiVE Platform’ อันเป็น ‘กระดานซื้อ ขาย ’ และ ‘แหล่งความรู้ส�าหรับผู้ประกอบการ’ ที่เริ่มเปิดให้ บริกำรแล้วในขณะนี้ LiVE Exchange คือกระด ำ นลงทุนส�ำหรับบริษัท SME รำยย่อยและกลุ่มบริษัทสตำร์ทอัปที่ต้องกำรเข้ำถึงแหล่งเงินทุน และส�ำหรับนักลงทุนที่สนใจในก ำ รลงทุนร่วมกับกลุ่มบริษัท ที่มีแนวคิดอนำคตที่น่ำสนใจ ภำยใต้เงื่อนไขกำรจดทะเบียนบริษัท เข้ ำ ตล ำ ดที่ยืดหยุ่นและผ่อนปรนในข้อก�ำหนดม ำ กกว่ ำ เก่ ำ เพื่อส่งเสริมสภำพคล่องในด้ำนกำรลงทุน และช่วยให้กลุ่มธุรกิจ ร ำ ยย่อยส ำ ม ำ รถเข้ ำ ถึงแหล่งเงินทุนได้ ง่ ำ ยขึ้น จ ำ กเดิมที่เคยติดขัดในขั้นตอนใน ภำคสถำบันกำรเงินอย่ำงที่ผ่ำนมำ แต่สิ่งที่น่ำสนใจกว่ำ นั่นคือ LiVE Platform หรือ ‘ แหล่งความรู้ส� า หรับ ผู้ประกอบการ ’ ที่เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน ควำมรู้ที่จ�ำเป็นส�ำหรับผู้ประกอบกำรรำยย่อย ไม่ว่ำจะเป็นภำคกำรเงิน กำรบัญชี กำรจัดท�ำ รำยกำรสินทรัพย์ จนถึงคอร์สเรียนส�ำหรับ เจ้ำของกิจกำรที่ต้องกำรจะยกมำตรฐำนกิจกำรของตนเองให้ไปสู่ ระดับที่สูงขึ้น ซึ่งทำงตลำดหลักทรัพย์ได้เปิดพื้นที่แห่งนี้เอำไว้ให้ ผู้สนใจได้ลองเข้ำมำใช้ และเจ้ำของธุรกิจสำมำรถลงทะเบียนเรียน ในคอร์สต่ำงๆ ได้ (อย่ำงมีเงื่อนไขก�ำหนด) ปัญหาสิ่งแวดล้อม คือประเด็นส�าคัญที่ทั่วโลก ต่างให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาปัจจุบัน ที่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ในระดับที่สูงจนส่งผลกระทบต่อระดับน�้าทะเล และมีทีท่า ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นวาระส�าคัญ อันน�าไปสู่การลงนามความร่วมมือ ทั้งในภูมิภาค และในระดับสากล Wh E n c arbon m ust b E ‘ Z E ro E d ’ เปลี่ยนมลภาวะให้กลายเป็นก�าไร เปลี่ยนคาร์บอนฯ ให้กลายเป็นพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม จำกควำมร่วมมือ สู่ค�ำสัญญำ จำกค�ำสัญญำ สู่พันธกิจ และกลำยเป็น ‘แนวทำงธุรกิจ’ กับ ‘กำรลงทุน’ ที่ใส่ใจ ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง ส�ำหรับประเทศไทย กลุ่มบริษัท ปตท. จ�ำกัด (มหำชน) คือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนด้ำนควำมมั่นคงทำงพลังงำนมำอย่ำง ย ำ วน ำ น ก็ไม่นิ่งเฉยกับปัญห ำ ด้ ำ นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น น�ำไปสู่พันธกิจส�ำคัญ ในโครงกำร ‘Net Zero’ ที่พร้อม จะปฏิบัติเป็นแผนระยะยำว อันจะน�ำไปสู่เป้ำหมำยส�ำคัญ ในกำรลดปริมำณคำร์บอนฯ จนเหลือศูนย์ให้ได้ภำยในปี 2065
4 0 อย่างไรก็ตาม การไปถึงเป้าหมายของการลดคาร์บอนฯ เป็นศูนย์ ไม่ใช่แค่เพียงการปลูกป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียว วางโครงการระยะสั้นที่ไม่พร้อมจะสานต่อใดๆ หากแต่ต้องเป็นโครงสร้าง ในระยะยาวที่สืบเนื่องและสอดคล้องกันในทุกองคาพยพขององค์กร ตามแนวทางหลัก ที่ทาง ปตท. ได้วางเอาไว้ทั้งหมด 3 ประการหลักด้วยกัน คือ การท�าธุรกิจที่พิจารณาในเรื่องการผลิตคาร์บอนฯ ต�่าในทุกมิติ เน้นประสิทธิภาพการใช้ พลังงานอย่างสูงสุด ระงับโรงผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การปรับโครงสร้างการลงทุนในด้านพลังงาน ที่จะค่อยๆ ผ่องถ่ายไปสู่พลังงานสะอาด แห่งอนาคต ยกเลิกการลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงเก่าในระดับต่างๆ และพุ่งเป้าเพื่อให้ได้ก�าไร ที่มาพร้อมความยั่งยืน การท�างานร่วมกับชุมชนและคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่า การใช้องค์ความรู้ ชาวบ้าน ไปจนถึงการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนทางด้านพลังงาน เพื่อให้เกิดเป็นวัฏจักร แห่งพลังงานสะอาดที่ต่อยอดได้
f u tur E En E r gy การลงทุนหนึ่งที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต่างให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง และทวีความส�าคัญมากขึ้น ในแต่ละปีที่ผ่านไป คือการลงทุน ในด้าน ‘ธุรกิจพลังงาน’ เพราะในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น ต่างต้องพึ่งพาพลังงานเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่ ำ งที่เร ำ ทร ำ บกันดีว่ ำ พลังง ำ น แบบเก่ ำ เช่น ถ่ ำ นหิน, ฟอสซิล และ ก๊ำซธรรมชำติ เริ่มลดน้อยลง
จำกกำรใช้งำนของแหล่งพลังงำนดังกล่ำว คือควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นกับสภำพแวดล้อม ที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่ำงค่อยเป็นค่อยไป แต่ก�ำลัง เดินหน้ำไปแบบอัตรำเร่งที่มีกำรคำดคะเน กันว่ำควำมเสียหำยอย่ำงที่ไม่อำจกอบกู้คืน มำได้นั้นอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม นั่นท�ำให้ภ ำ คธุรกิจพลังง ำ นจ�ำต้อง ได้รับก ำ รคิดใหม่ท�ำใหม่ และแสวงห ำ ตัวเลือกที่มีประสิทธิภำพ พร้อมทั้งเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม หล ำ ยประเทศได้ลงน ำ ม ในสัญญำและควำมร่วมมือของกำรประชุม ระดับโลก น�ำไปสู่กำรก�ำเนิดของ ‘พลังงำน แห่งอนำคต’ ที่จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำงเลือก แต่จะเป็นท ำ งรอดที่ต้องมุ่งหน้ ำ ไปอย่ ำ ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ จ ำ กผลก ำ รร ำ ยง ำ นของ 2022 Renewable Energy Industry Outlook แห่งบริษัท Deloitte บริษัทผู้ตรวจสอบ บัญชีร ำ ยใหญ่และที่ปรึกษ ำ ท ำ งด้ ำ นธุรกิจ ระดับโลก เปิดเผยให้เห็นเทรนด์เกี่ยวกับ พลังงำนแห่งอนำคต หรือ ‘Future Energy’ เอำไว้ได้อย่ำงน่ำสนใจดังต่อไปนี้ พลังงานแห่งอนาคต ประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
และผลกระทบ
4 3 ‘พลังง ำ นสะอ ำ ด’ ที่เคยเป็นเพียงพลังง ำ นท ำ งเลือก หรือตัวส�ำรองในภ ำ คธุรกิจพลังง ำ นก�ำลังได้รับคว ำ มสนใจ อย่ำงมำกในบรรดำผู้ประกอบกำร และได้รับกำรพัฒนำให้ขึ้น มำอยู่ในอุตสำหกรรมกำรผลิตชั้นสูงที่ให้ปริมำณมำกเพียงพอ ต่อควำมต้องกำรในประสิทธิภำพที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ลดต�่ำลง ก ำ รจะเห็นแผงพลังง ำ นแสงอ ำ ทิตย์ที่เรียงร ำ ยจนเป็น Solar Farm หรือแถวของกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้ำเพื่อเป็น หัวจ่ำยหลักอำจจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเกินไปนัก เมื่อธุรกิจพลังงำนแห่งอนำคตมีประสิทธิภำพ และอยู่ใน ระดับที่สำมำรถเป็นไปได้ทำงอุตสำหกรรม (Feasible) แล้วนั้น ย่อมตำมมำด้วยธุรกิจใหม่ๆ ที่ตอบรับกับภำคกำรผลิตพลังงำน สะอำดและพลังงำนแห่งอนำคต เช่น กำรเกิดขึ้นของบริษัท จัดเก็บกระแสไฟฟ้ำส�ำรอง หรือในกรณีของประเทศไทยที่กลุ่ม บริษัท ปตท. จ�ำกัด (มหำชน) ได้เริ่มปรับพอร์ตกำรลงทุนไปสู่ ภำคพลังงำนแห่งอนำคต และจัดตั้งบริษัทเพื่อรองรับเทคโนโลยี รถยนต์พลังง ำ นไฟฟ้ ำ และแบตเตอรี่รถยนต์พลังง ำ นไฟฟ้ ำ เป็นต้น เมื่อมีผู้ผลิต และมีตลำดรองรับ ย่อมเกิดกำรกระตุ้น ให้หน่วยง ำ นภ ำ ครัฐด�ำเนินก ำ รในส่วนของส ำ ธ ำ รณูปโภคที่ เกี่ยวข้องกับอุตสำหกรรมให้เกิดกำรหมุนเวียนและควำมสะดวก ในกำรด�ำเนินธุรกิจได้อย่ำงมีนัยส�ำคัญ ไม่ว่ำจะทั้งโครงสร้ำง พื้นฐำน เงินทุนสนับสนุนกำรวิจัย ไปจนถึงกำรให้ทุนส�ำหรับบริษัท เกิดใหม่ที่จับตลำดอุตสำหกรรมพลังงำนแห่งอนำคตให้เติบโต และมีศักยภำพทั้งในด้ำนกำรผลิตและกำรแข่งขันในระดับสำกล สิ่งที่ท�ำให้พลังงำนรูปแบบเก่ำอย่ำงถ่ำนหิน, ฟอสซิล และ ก๊ำซธรรมชำติเกิดปัญหำกับสิ่งแวดล้อมอยู่ที่ขีดควำมสำมำรถใน กำรหมุนเวียนน�ำกลับมำใช้ใหม่ (Renewable) นั้นอยู่ในระดับที่ต�่ำ ซึ่งพลังงำนอนำคตและพลังงำนสะอำดจะช่วยลดข้อเสียเปรียบ เหล่ ำ นี้ ตร ำ บเท่ ำ ที่มีโครงสร้ ำ งพื้นฐ ำ นและระบบจัดก ำ รเพื่อ ให้เกิดอุตส ำ หกรรมหมุนเวียนที่ดีเพียงพอ ไม่ว่ ำ จะเป็น กำรบูรณำกำรของพลังงำนแสงอำทิตย์ น�้ำ และลม ไปจนถึง ก ำ รจัดเก็บและท�ำล ำ ยฮ ำ ร์ดแวร์ในก ำ รผลิตที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่แผงโซลำร์เซลล์ กังหันลม จนถึงแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภำพ ด้วยกระบวนก ำ รที่ได้ม ำ ตรฐ ำ น และก่อให้เกิดผลเสียต่อ สภำพแวดล้อมน้อยที่สุดเท่ำที่จะสำมำรถท�ำได้ ส�ำหรับประเทศไทย กลุ่มบริษัท ปตท. จ�ำกัด (มห ำ ชน) ได้เร่งกำรขยำยตัวไปสู่ธุรกิจพลังงำนอนำคตและพลังงำนสะอำด เพื่อตอบสนองต่อค�ำมั่นที่ได้ให้ไว้ในก ำ รประชุม COP27 ณ กรุงกลำสโกว์ ไม่ว่ำจะด้วยกำรลดปริมำณคำร์บอนไดออกไซด์และ ก๊ำซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ กำรปรับเปลี่ยนแหล่งผลิตพลังงำน ให้เป็นพลังงำนสะอำด จนถึงกำรวำงรำกฐำนอุตสำหกรรมของ ยำนยนต์พลังงำนไฟฟ้ำอย่ำงครบวงจร บูรณำกำร และเห็นผล อย่ำงเป็นรูปธรรม แน่นอนว่ำ กำรปรับเปลี่ยนไปสู่สิ่งใหม่นั้น คือเรื่องที่ยำก และต้องอำศัยเวลำในกำรจัดกำร และอำจจะเป็นค่ำใช้จ่ำยที่สูง ในช่วงเริ่มต้น แต่เทรนด์ของกำรเปลี่ยนไปสู่พลังงำนแห่งอนำคต ก็ได้รับกำรพิสูจน์แล้วว่ำ มันคือกำรลงทุนที่จะให้ผลตอบแทน คุ้มค่ำ และคืนทุนได้แบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะยำว รวมถึงกำร อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ถือเป็นก�ำไรสูงสุดที่ไม่อำจประเมินค่ำได้ หลายองค์กรและหน่วยงานในปัจจุบันให้ความส�าคัญอย่าง
จะมีอะไรคุ้มค่า เท่ากับการที่องค์กรลงทุนใน ‘บุคลากร’ h um a n I n VE แต่ในทุกการลงทุน มีอยู่หนึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ และเป็นตัวจักรส�าคัญไม่ว่าจะในภาคส่วนใดๆ ที่จะช่วยให้การลงทุนนั้นๆ สามารถงอกเงย เกิดผล และบรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และสิ่งนั้นคือ ‘บุคลากร’
4 5 และเทรนด์กำรพัฒนำบุคลำกรที่ส�ำคัญ และน่ำจะยังอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึง โลกแห่งกำรลงทุนก็มีดังต่อไปนี้ การปรับตัวขององค์กร ในรูปแบบ กำรท�ำงำนของบุคลำกร ที่มีควำมยืดหยุ่น มีก ำ รผสมผส ำ นทั้งก ำ รท�ำง ำ นในสถ ำ นที่ และก ำ รท�ำง ำ นจ ำ กที่บ้ ำ น (Work from Home) และเพิ่มเติมในส่วนของกำรใช้พื้นที่ เสมือน (Virtual Workspace) เพื่อให้ เกิดควำมยืดหยุ่นในกำรท�ำงำนมำกยิ่งขึ้น เหล่ำนี้คือควำมท้ำทำย โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง เมื่อกำรแพร่ระบำดของ COVID-19 ได้สร้ำง แนวทำงกำรท�ำงำนแบบใหม่ และบุคลำกร ได้พบว่ำ กำรท�ำงำน ไม่จ�ำเป็นต้องอยู่ใน ส�ำนักงำนแต่เพียงอย่ำงเดียว การปรับสภาพการท� า งานนอก ส�านักงาน นอกเหนือจำกตัวเนื้องำนแล้ว อำจจะรวมไปถึง ‘สิ่งที่บุคลำกรในองค์กร ค ำ ดหวัง’ ว่ ำ จะได้จ ำ กก ำ รท�ำง ำ น เช่น สวัสดิกำรค่ำรักษำพยำบำล สิทธิ์ในกำรลำ ท�ำงำนที่บ้ำน หรือโอกำสที่จะได้เข้ำเรียน เพื่อเพิ่มทักษะและองค์ควำมรู้ให้เพิ่มพูนขึ้น วัฒนธรรมองค์กรแบบ ‘ ชุดเดียว ส�าเร็จ’ ที่ส่งต่อกันมำ อำจจะไม่สำมำรถ ใช้ได้อีกต่อไป โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเมื่อบริษัท ต้องก ำ รเพิ่มขีดคว ำ มส ำ ม ำ รถท ำ งก ำ ร แข่งขันในตล ำ ดส ำ กลและตล ำ ดยุคใหม่ รวมถึงแรงงำนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ มีทัศนคติ ที่แตกต่ ำ งจ ำ กคนรุ่นก่อนอย่ ำ งหน้ ำ มือ เป็นหลังมือ ก ำ รสร้ ำ งพื้นที่ให้คนแต่ละ เจเนอเรชันสำมำรถท�ำงำนร่วมกัน และดึง ขีดคว ำ มส ำ ม ำ รถของทุกคนม ำ ใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด คือสิ่งที่องค์กรจะต้อง พิจำรณำเป็นปัจจัยเบื้องต้น ทั้งหมดนี้ คือรูปแบบการ ‘ ลงทุน ’ ในบุคลากรที่ได้เกิดขึ้น และจะยิ่งเข้มข้น ในเวลาที่ก�าลังจะมาถึง และเมื่อพิจารณา จากการแข่งขันที่สูงขึ้น ตลาดแรงงาน ที่ต้องการผู้มีทักษะใหม่ๆ มากขึ้น การที่ หน่วยงานหรือองค์กรจะพัฒนาให้เกิด ศักยภาพระดับสูงกับบุคลากร ก็ถือได้ว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และได้ผลตอบแทน ที่ดีเสมอ ยิ่งเพราะขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดในปัจจุบันไม่ได้มีแค่ เรื่องของปริมาณ หรือขนาดขององค์กร แต่อยู่ที่คุณภาพชีวิตของ บุคลากร และความรู้ความสามารถ จนถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง อย่างไม่จบสิ้น st m E nt
ในยุคเปิดกว้างทางความคิดและความเท่าเทียมอย่างเช่นทุกวันนี้ เปิดโอกาสให้ได้ภาพของคนรุ่นใหม่ ภาพลักษณ์ใหม่ แนวคิดใหม่ โดยไม่จ�ากัดว่าเป็น ‘ชาย’ หรือ ‘หญิง’ หรือว่าเพศใดในทุกสายสาขาอาชีพ เช่นเดียวกับ วิเมลือง แก้วศิริ กับชื่อเล่นแสนผู้หญิงว่า ‘เกิร์ล’ เธอคือหนึ่งในนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่อยู่ในต�าแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มานานกว่า 20 ปี พูดไม่ผิดหรอกว่าสาวร่างเล็ก ท่าทางทะมัดทะแมงคนนี้ อยู่บนเส้นทางการเมืองท้องถิ่นในต�าแหน่งนี้มานานกว่า 20 ปี ส�าหรับคนในพื้นที่จะรู้ดีว่า เธอเป็นสาวบู๊สายลุย ถนัดท�า ไม่ถนัดพูด ขึ้นเวทีปราศรัยที่ใดไม่เกิน 3 นาที ประเภทงานตัดริบบิ้น งานผูกผ้าขาวม้าจะไม่เห็นเธอแน่นอน แต่ถ้างานแนวหน้าในงานไกล่เกลี่ย แก้ปัญหา รับรองว่าเห็นเธอชัวร์ สอดคล้องกับค�าพูดของเธอที่ว่า ‘เกิร์ลเน้นท�างาน ไม่เน้นพูด ชอบงานแก้ปัญหา’ 4 6 GM club วิเมลือง แก้วศิริ เมื่อแรกวิเมลืองตั้งใจจะเป็นเกษตรกรเพราะผูกพันกับชีวิตชาวไร่ตามรอยคุณพ่อ (คุณวัฒนา แก้วศิริ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ) เกษตรกรที่หันมาโลดแล่นบนเส้นทางการเมือง แต่เพราะ คุณพ่อขอให้ลูกสาวเลือกเรียนด้านกฎหมายแทนการเรียนด้านเกษตร ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า อยากให้ใคร สักคนในครอบครัวเรียนด้านกฎหมายบ้าง จึงท�าให้วิเมลืองหันมาเรียนคณะนิติศาสตร์ กฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ตั้งแต่ปริญญาตรีจนจบปริญญาโทสาขาเดียวกัน สาวหัวใจสีเขียว กับคติ ‘ถนัดท�ามากกว่าพูด’ : บุญรัตน์ ศักดิ์บูรณพงษา : พิชญุตม์ คชารักษ์
TREND BIZ Adapt to the Challenge : อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์
เมื่อกล่าวถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นทั้งเครื่องดื่มและเครื่องแสดงสถานะ ในสังคม หนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้นไวน์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์หมักที่ท�าจากองุ่นโดยการจ�าแนกชนิดและประเภทของไวน์นั้น ส่งผลต่อการก�าหนดต�าแหน่ง ผลิตภัณฑ์และราคาในตลาดอย่างชัดเจน ทั้งนี้ โดยปกติแล้วไวน์ที่ได้รับการ ถูกระบุว่าดีและสามารถตั้งราคาสูงได้ต้องมีที่มาจาก สายพันธ์ุที่ดี แหล่งผลิต รวมถึงสะสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและโรงบ่มที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกัน ก่อนที่จะดื่มนั้นต้องใช้เวลากับการท�าให้ไวน์ได้หายใจ และการบรรจงเปิดอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบ ที่ประกอบสร้างขึ้น เพื่อสนับสนุนฐานะทางสังคมของ ผู้ดื่มไวน์ ซึ่งแน่นอนว่าขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้น ลดน้อยถอยลงและลดหลั่นกันไปตามราคาของไวน์ ที่ได้รับการระบุไว้ตามต� า แหน่งราคาและการรับรู้ของ สังคม ซึ่งในภาพใหญ่ไวน์โลกเก่านั้นมีฝั่งยุโรปและฝั่ง อเมริกาเป็นเจ้าตลาด ขณะที่ไวน์โลกใหม่มีไวน์สัญชาติ ออสเตรเลียครองส่วนแบ่งมากที่สุด ขณะที่ในตลาดเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์นั้นมีการขยายตัวทุกปีและ สัดส่วนในการท� า ก� า ไรเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์อย่าง ‘ไวน์’ ถือว่าน่าดึงดูด อย่างมาก แต่ทว่าการที่จะเข้ามาท้าชิงหรือแย่งส่วนแบ่งตลาด ในไวน์ส� า หรับผู้เล่นรายใหม่นั้นไม่ง่าย เพราะแทบทุกตลาด (Segment) มีผู้เล่นเดิมในตลาดหนาแน่น และมีเจ้าตลาด อยู่แล้วแทบทุกกลุ่ม ซึ่งการจะสร้างแบรนด์หรือเรื่องเล่า ในแบบต� า นานและกระบวนการเพื่อเจาะตลาดบนนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งไม่แตกต่างจากแบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือย อย่างกระเป๋าหรือนาฬิกา ในขณะที่ตลาดล่างซึ่งแข่งขันกัน ที่ราคาเป็นหลักนั้น อัตราก�าไรกลับน้อยมากจนแทบไม่ดึงดูด ส�าหรับการเข้าแข่งขันในตลาด 4 9 ‘ ปรับตัวรับมือ การแข่งขัน ด้วยกลยุทธ ’ ‘ เยลโล่เทล ’ กับการสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่อยู่เหนือการแข่งขัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทั้งเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งทุกๆ วิกฤตินั้นมีผู้รอดเสมอ ที่ส�าคัญจากภาวการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง กลับเป็นไปได้มากกว่าการอยู่รอด แต่กลับกลายเป็นรุ่งเสียด้วย โดยเฉพาะกับองค์กร หรือธุรกิจที่คิดแบบกลยุทธ์ โอกาสและหลบการแข่งขันได้เสมอและหนึ่งในเครื่องมือส�าคัญที่สามารถน�ามาปรับใช้เพื่อแสวงหา นั่นก็คือ ‘กลยุทธ์น่านน�้าสีคราม’ (Blue Ocean Strategy, 2004) กลยุทธ์น่านน�้าสีคราม เป็นแนวคิดที่มองข้ามตลาด และ ข้ามคู่แข่ง โดยให้ฝ่ายเราอยู่เหนือการแข่งขันที่รุนแรง จากนักวิชาการ 2 คน คือ W. Chan Kim และ Renee Mauborgne ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นอาจารย์จากสถาบันทางด้านบริหาร ธุรกิจในฝรั่งเศส โดยจุดเริ่มต้นของทฤษฎีนี้มาจากบทความเรื่อง Blue Ocean ใน Harvard Business Review โดยกล่าวถึงภาวะ Blue Ocean ซึ่งจะไม่มุ่งเน้นในการตอบสนอง ต่อความต้องการที่มีอยู่แล้วของตลาด แต่จะเน้นในการสร้างความต้องการหรืออุปสงค์ ขึ้นมาใหม่ กล่าวคือ จะเน้นสร้างความต้องการใหม่แทนที่การแข่งขันกันอย่างรุนแรง ในตลาดเดิม ซึ่งตรงกันข้ามกับ Red Ocean ที่ห�้าหั่นกันอย่างดุเดือดในตลาดนั้นๆ โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะขอหยิบยก 3 กรณี ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสื่อสารที่ผสมผสาน กับเรื่องการบริหารธุรกิจเข้าด้วยกัน
กรุงเทพมหานครที่ผ่านมานั้นในบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นผู้ว่าราชการ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ’ การตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนผู้สมัครคนอื่นๆชื่อนี้เข้าสู่ และเขา ได้ด�าเนินการลงพื้นที่หาเสียงก่อนใคร ซึ่งในช่วงแรกอาจจะ ไม่โดดเด่นในมิติของความแหลมคมมากนัก เพราะยังไม่มี คู่เทียบที่น่าสนใจจนท�าให้สื่อมวลชนหยิบยกมาเป็นประเด็น ในการสร้างเนื้อหาข่าว จะมีเพียงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนเดิม และอดีตผู้บัญชาการต�ารวจแห่งชาติเท่านั้นที่ได้มีการน�ามาพูดถึงในช่วงก่อนประกาศการเลือกตั้ง หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง คู่ชิงที่ได้รับการน�ามา เปรียบเทียบกันมากที่สุด คือ ‘ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ’ ซึ่งสื่อมวลชนได้น�าทั้งประวัติความเป็นมาและผลงานในอดีต มาเปรียบเทียบมากที่สุด ซึ่งประเด็นส�าคัญนั้นน่าจะมาจากอายุ ภูมิหลัง ประวัติการศึกษา ที่ดูแล้วไม่แตกต่างกันมาก ซึ่งทั้งคู่ จบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาเอก และเคย เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งคู่ ขณะที่ฝ่ายหนึ่งเคยเป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม อีกฝ่ายเคยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เลือกเปิดตัวโดยสร้างแบรนด์ตัวเอง อย่างมีแบบแผน (Peters, 1997) โดยเน้นภาพ เป็นเหมือนผู้ที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ในเชิงโครงสร้าง จากความรู้ความสามารถที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการสื่อสารให้ได้เห็นภาพความเป็น ตัวแทนกลุ่มชนชั้นกลางในเมือง ที่ถีบตัวเองจาก ชนชั้นกลางที่นั่งรถประจ�าทางไปเรียนจนกลายเป็น นักเรียนทุนที่ประสบความส� า เร็จใน ต่างประเทศ โดยมีภาพของครอบครัว เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งพ่อและแม่ ของคุณสุชัชวีร์ถูกน� า มาเป็น ส่วนหนึ่งขององค์ประกอบใน การแถลงข่าว กับตัวคุณสุชัชวีร์เอง ก็คุมภาพลักษณ์การส่งสาร (Boulding, 1975) ด้วยการใส่ เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบ และใส่ เสื้อเบลเซอร์ล�าลองให้รู้สึกว่า เป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่มีรสนิยม และพร้อมลุยในทุกสภาวะ ซึ่งภาพลักษณ์ที่เลือกน�าเสนอ (Goffman, 1953) ออกมานั้น จะเป็นตัวตนที่แท้จริงหรือไม่นั้น มีเพียงคนใกล้ชิด และคน ที่เคยสัมผัสเท่านั้นที่ได้รู้ แต่จากงานเขียนของ Goffman ระบุว่าการสื่อสารของมนุษย์อาจจะเปรียบได้เหมือนโลก แห่งความเป็นจริง และโลกของละครที่มนุษย์จะเลือกให้คน ส่วนใหญ่เห็นในด้านที่ตัวเองต้องการต่อสาธารณชนเสมอ ซึ่งคุณสุชัชวีร์ก็เป็นผู้หนึ่งที่เดินแนวทางนั้น ทั้งนี้ ภายหลังที่คุณสุชัชวีร์ได้เปิดตัว คุณชัชชาติกลับ ไม่เลือกที่จะถูกน� า ไปเปรียบเทียบในมิติเดียวกัน และ ไม่พยายามโจมตีหรือลงไปในสนามของวิวาทะในโอกาสต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่าคุณชัชชาติไม่เลือกพูดถึงโครงการก่อสร้าง ขนาดใหญ่แบบคนอื่นๆ แต่กลับไปเน้นที่โครงการซึ่งเรียกว่า ‘เส้นเลือดฝอย’ แทน พร้อมๆ กับเสนอ 200 นโยบายที่ ระบุว่าได้มาจากการเดินเท้าและเก็บข้อมูลภาคสนาม และก็ ไม่เน้นน�าเสนอความสามารถหรือผลงานในอดีตของตัวเอง ให้โดดเด่น แต่จะเน้นสร้างภาพลักษณ์แบบติดดิน พูดคุยกับ ผู้คน โดยย�้ า บทบาทการเป็นผู้ท� า หน้าที่ในการประสาน ความร่วมมือ โดยมีวลีติดปากว่า ‘ช่วยๆ กัน’ แทน จาก 3 กรณีที่ยกขึ้นมากล่าวอ้างนี้ ผู้เขียน เห็นว่าในการสื่อสารไม่ว่าทั้งสินค้าหรือบริการ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ให้ครบถ้วนทั้งผู้ส่งสารนั้นล้วนต้องมีการวิเคราะห์ สาร ช่องทาง และ ผู้รับสารที่สามารถน�ซึ่งในซีกของผู้ส่งสารนั้นเป็นมิติ า ความรู้และทฤษฎีทาง สังคมศาสตร์จากสาขาอื่นมา ประยุกต์ใช้ได้มากที่สุด ซึ่งถ้าหาก ผู้ศึกษาหรือผู้สร้างสรรค์ ผลงาน สามารถประยุกต์ศาสตร์ใน สาขาอื่นๆ มาประกอบด้วย เชื่อว่าจะท� า ให้เกิดผลงานที่ เป็นนวัตกรรมของการสื่อสาร ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน สิทธิพันธุ์ กับคู่แข่งคนสำ า คัญ ที่ไม่ยอมให้ถูกเปรียบเทียบ
film : Fullscape คุณคิดว่า ‘องค์ประกอบ’ ของการบอกเล่าเรื่องราว ในภาพยนตร์ที่ดีนั้น จะต้องมีสิ่งใดบ้าง ? ถ้าให้นึกโดยคร่าวๆ ก็จะต้องมี ‘ ตัวละครหลัก ’ , ‘ ตัวละครรอง ’ , ‘จุดมุ่งหมาย’ , ‘อุปสรรค’ และปิดท้ายด้วย ‘ปลายทาง’ ที่คลี่คลาย ทุกสิ่งที่ถูกปูเอาไว้ : มหกรรมย�ำใหญ่ ในขบวนรถไฟ หัวกระสุน แน่นอน อาจจะไม่จ�าเป็นต้องถูกบอกเล่าออกมาอย่างเป็นไป ตามล�าดับ อาจจะเบลอ หรือเลือนบทบาทของตัวละคร อาจจะ ซ่อนปลายทางที่น่าตกใจเอาไว้ภายใต้จุดมุ่งหมายที่เปรียบดั่งการ สับขาหลอก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคหรือชั้นเชิงในการน�าเสนอของ ผู้เขียนบท และการถ่ายทอดให้ออกมาเป็นภาพโดยผู้ก�ากับว่าจะ แปลงตัวอักษรให้กลายเป็นมายาทัศน์ที่เล่นกับผัสสะและความ เข้าใจของผู้ชมได้มากน้อยเพียงใด หรือในบางกรณี ความน่าประหลาดใจ ก็อาจถูกซ่อนเอาไว้ ภายใต้ฉากหน้าฉูดฉาด สีลูกกวาด และเสนอในขนบของหนัง แอคชันบู๊พันธุ์เดือด เช่นเดียวกับที่ ‘Bullet Train : พลิกขบวนล่า นักฆ่ามหากาฬ’ ผลงานการก�ากับโดย David Leitch ผู้ส่งให้ซีรีส์ นักฆ่าผู้รักหมาอย่าง John Wick ให้ติดลมบนมาแล้ว และถ้าคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นเพียงหนังบู๊เลือดสาด ที่เน้นเอา ดาราหน้าใหญ่มาปะเพื่อขายตลาดวงกว้าง ก็อาจจะต้องพบความ ประหลาดใจว่า...ตลอด 2 ชั่วโมงครึ่งที่หนังโลดแล่นนั้น มันสนุก กว่าที่คิด และมีจริตพร้อมลูกเล่นในการบอกเล่าที่ให้ความบันเทิง อยู่ไม่น้อย Bullet Train
by TangBadVoice ลนตดไฟ ในความเข้าใจของวัฒนธรรมเพลง ‘แรป’ ของคนทั่วไปนั้น หลายครั้งมักจะพ่วงติดมากับภาพลักษณ์ของความเถื่อน ดิบ ต้องมีค�าหยาบ ต้องมีสไตล์แบบ Gangster อวดโชว์ความร�่ารวย พูดพร�่าถึงเงินทอง หญิงสาว ความส�าเร็จทางโลก และการประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของกลุ่มก้อนพ้องเพื่อนตัวเองเป็นแกนหลัก แต่ในความเป็นจริง แรปคือความเปิดกว้าง และก็อีกหลายครั้งเช่นกัน ที่ไม่ได้จ�าเป็นต้องมีเนื้อหาที่พาดพิง ความหยาบดิบ หรือมีค�าผรุสวาททุกสี่ห้าค�าแต่อย่างใด
: Eargasm
music
ซึ่งเพลง ‘ ลิ้นติดไฟ ’ ของ TangBadVoice หรือ ตั้ง ตะวันวาด อดีตนักวาดภาพมากมีฝีมือไม่แพ้ความรัวของฝีปาก ในการแรป ได้น�าเสนอรูปแบบเพลงที่สุดแสนจะสวิง เร็ว และ ‘แทบไม่มีค�าหยาบ’ แต่ให้ความบันเทิงในระดับขั้นสุด เป็นความ สนุกติดหูจนต้องขอน�ามาบอกเล่ากันในครั้งนี้ เพลง ‘ ลิ้นติดไฟ ’ ของ TangBadVoice มีเนื้อหาว่าด้วย ‘หนูตัวหนึ่ง’ ที่ ‘ก� า ลังหางาน’ และเดินไปสมัครงานในบริษัท ‘พากย์แข่งเรือยาว’ ของลูกพี่หมี (เอ่อ...) ที่ทางผู้ว่าจ้าง ก็บอกว่า งานนี้ ไม่หมูนะเว้ย ต้องพูดเร็ว พูดรัว พูดชัด ท�าได้หรือเปล่า ? และถัดจากนั้น เป็นเวลา 3 นาที คือ การ ‘รัว’ ชุดค�าผวนที่ชวน ให้พูดผิดอย่างติดกันแบบแทบไม่พักหายใจ ที่แม้แต่พูดธรรมดา ยังมีแนวโน้มว่าจะพูดผิดๆ ถูกๆ เช่น ทั้งหมดสรุปได้ในท่อนฮุค เมื่อความเร็วและรัวเริ่มเสียดสี จนกลายเป็นสันดาป และเกิดปฏิกิริยา ‘ พ่นไวไป ลิ้นติดไฟ ไฟมันลุก พูดไวไป ลิ้นติดไฟ ไฟมันชุก (เช็ดเข้ !) พล่ามไวไป เตรียมถังดับเพลิงมาหนึ่งชุดไฟมันลุกลิ้นนี่ชิ่งเหมือนกับสนุ๊ก ไฟมันคุก มันจะคุก คุกคาม !’ ความสามารถในการรัวชุดค�าผวน ประกอบกับบีตของ เพลงแรป ผสมผสานกลายเป็นเพลงที่ฟังได้สนุก ติดกลิ่นอาย แบบพื้นๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย (ก็แน่ละ เช้าฟาดผัดฟัก ยายมีเลี้ยงหอย ส�ารวยเล่นสี มันต้องมีความคุ้นเคยกันบ้าง) อีกทั้งในพาร์ตของมิวสิกวิดีโอ ก็ท� า ได้อย่างน่ารักน่าชม จากฝีมือของ ‘ Hyphen & Slash Creative
ทีมแอนิเมชันที่ร่วมงานกับ TangBadVoice ในเกือบทุกชิ้น เป็นแอนิเมชันขนาดสั้นๆ แต่สีสันสวยงาม เนื้อหากระชับ ฉับไว และดูได้ทุกเพศทุกวัย จริงๆ แล้ว ตั้ง ตะวันวาด ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ในการเล่นค�จัดเป็นศิลปินแรปรุ่นใหม่ไฟแรง าและสอดประสานร้อยเรียง เรื่องราวในบทเพลงต่างๆ ที่เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘เหตุด่วน’, ‘เปรตป่ะ’, ‘จิตแพทย์’, ‘ซอมบี้มูฟวี่’ จนถึงเพลง ‘เดี๋ยวจะท�าตามความฝัน’ ที่เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Fast & Feel Love ที่ยิ่งบ่มเพาะและสะท้อนศักยภาพที่ไม่ธรรมดา ของแรปเปอร์คนนี้ แต่ที่ผู้เขียนน�าเพลง ‘ ลิ้นติดไฟ ’ มากล่าวถึงในบทความ ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีลักษณะคล้ายกับเพลงฉ่อยพื้นบ้าน เนื้อหาง่ายๆ ติดดิน และอีกส่วนหนึ่งคือเพลงที่แสดงพลังของ การ ‘รัว’ ท่อนแรปในฝีมือที่ไม่ธรรมดา ซึ่งใครฟังก็ต้องชอบ ต้องทึ่ง และประทับใจ แน่นอน การแต่งเพลงแรปนั้นหลากหลาย และการที่ใคร สักคนจะลุกขึ้นมาแต่งเพลงเพื่อบอกว่า ‘พ่อมึงจะเดิน’ นั้น ในทางวัฒนธรรมของแนวเพลง อาจจะไม่ผิด (หรือในภาษา แวดวงเรียกว่าการ ‘Diss’) แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริง หลายครั้งอยู่ที่ ‘ความเรียบง่าย’ แบบไม่หวือหวา ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที Coachella หรือว่า จะพ่นแข่งพากย์เรือยาวของ ‘ลิ้นติดไฟ’ ของ TangBadVoice เพลงนี้นั่นเอง แรปคือการเล่นค�า แรปคือประสบการณ์ และ ‘เป็นความบันเทิง’ ที่ชวนให้สนุกหู และยิ้มตามได้ ‘ ยายมอยเลี้ยงหมี และยายมีเลี้ยงหอย ส่วนนางลี ขายหอย และนางมอยขายหมี ยานัตถุ์ของหมอมีแก้ฝีแก้หิด แต่การแพทย์ของหมอชิดแก้หิดแก้ฝี เอาหูหมีมาใส่ในหูหมู หนูเอาหูหมูมาใส่หูหมี หูหมู หูหนี เอาหูหมีมาใส่หูหมู แต่ถ้า เธอเอาไปผัดเห็ดมันจะเป็นเห็ดหูหนู…’ เอากันแบบนี้เลย หรือ ‘ กินมันติดเหงือก กินเผือกติดฟัน กินทั้งมันกินทั้งเผือก ติดทั้งเหงือกติดทั้งฟัน เช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัก’ ‘ส�าลีขายหวย ส�ารวยขายสี ส�าลีเล่นหวย ส�ารวยเล่นสี’ หรือจะมาเป็นแบบภาษาอังกฤษ ภาษา ‘ฝรั่ง’ (เพราะ ลูกพี่หมีบอก ฝรั่งมาดูแข่งพากย์เรือยาวเยอะ ถ้าพ่นได้นิดหนึ่ง จะพิจารณาเป็นพิเศษ) ก็สู้ไม่ถอย ‘Gotta be the one that bite the bullet imma do it imma do it Like a student Like a noodle ugh She sell sea shells on the seashore but her knee sore like a senior gotta see more Peter Piper picked a peck of pickled peppers. (period)’ 5 5
Studio ’
เกาหลีใต้... มากกว่าที่เคยรู้จัก เมื่อ GM ได้รับเชิญจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี หรือ Korea Tourism Organization KTO ให้ร่วมทริปไปท่องเที่ยวเกาหลี เพื่อสัมผัสกับจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ผมก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เมื่อได้เห็นโปรแกรม เพราะเกือบทุกสถานที่นั้น เป็นย่านที่ไม่เคยไป หรือสัมผัสมาก่อนแทบทั้งสิ้น : Oil Tank Culture Park Suncheonman Bay Nature Reserve : : อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ : ขอบคุณภาพ / การท่องเที่ยวเกาหลี travel : Naganeupseong Folk Village
จากนั้นผมขอตามลายแทงไปเพื่อไปค้นหาสถานที่ซึ่ง เปรียบเหมือน Brooklyn ของกรุงโซล และเมื่อมาถึงผมเริ่มต้น ด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับ Common Ground หรือ Specialty Store ที่เน้นสินค้าสตรีทแฟชั่น โดยเฉพาะ สายรองเท้า Sneaker ตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงไว้อย่างสวยงามอย่างมีรสนิยมซึ่งร้านค้าทั้งหลายนั้นตั้งอยู่ใน และเมื่อการเดินทางเริ่มต้นขึ้น… วันแรกที่มาถึงประเทศเกาหลี เราพักกันที่กรุงโซล (Seoul) ครับ ผมท�าการส�ารวจพื้นที่ทันที เริ่มจาก มุนฮวาบีชุกกีจี หรือ Oil Tank Culture Park ซึ่งผมขอนิยามว่าเป็นสวนสาธารณะที่ผสมผสานกับพื้นที่ทาง วัฒนธรรม เพราะในปี ค.ศ. 1970 ที่นี่เคยเป็นคลังน�้ามัน ที่ส� า คัญมากๆ ที่เก็บส� า รองน�้ า มันส� า หรับเมืองหลวงไว้ใช้ ในภาวะสงคราม หลังการเลิกกิจการ สถานที่แห่งนี้ก็ปิดตัว ยาวหลายสิบปี จนต่อมาในปี ค.ศ. 2013 ทางรัฐบาลกลางได้ ประกวดแนวคิดการใช้พื้นที่ จนในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2017 ได้ปรับเปลี่ยนการใช้งานของถังน�้ า มันต่างๆ ให้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ โรงละครในร่ม โรงละครกลางแจ้ง และพื้นที่ อนุรักษ์ ซึ่งเมื่อผมได้เห็นและได้สัมผัสท�าให้ผมเข้าใจลึกซึ้ง ถึงแนวความคิดการสร้างประโยชน์ใหม่ในสิ่งก่อสร้างเดิม ซึ่งเป็นแนวทางการปรับเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นและดีอย่างยิ่ง แน่นอนว่า ย่านนี้ก� า ลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลวัต ท� า ให้ผมได้เห็นการดัดแปลงอาคารที่เคยเป็นโรงงานและ กิจการขนาดย่อมเก่าๆ ให้กลายเป็นร้านค้า ไปจนถึงพื้นที่ บริการมากมายที่มีสไตล์ในแบบที่มีสีสัน ซึ่งผสมผสานกับ อาคารที่เปลือยแบบโชว์โครงสร้าง และพร้อมจะเปลี่ยนแปลง ไปอย่างมีพลังเสมอ โดยจุดสุดท้ายส�าหรับย่านนี้คือ Flagship Store แห่งใหม่ของ Dior มีผู้คนจ�านวนมาก ผู้ผ่านทางมาให้สัมผัสด้วยสายตากันอย่างเต็มที่ทั้งลูกค้าจนถึง : Suncheonman Bay Nature Reserve 5 7 : Oil Tank Culture Park : Jeonju Hanok Village
5 8 ส� า หรับวันที่สอง ผมเดินทางไปที่ จ็อนจู (Jeonju) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัด จอลลาบุกโด เดินทางด้วยรถไฟที่สะดวก สบายอย่างมาก ส� า หรับใครที่จะเดินทาง มาเองบอกได้เลยว่าไม่ยาก และเมื่อมาถึงที่ ผมขอเริ่มจาก พิพิธภัณฑ์ สุราท้องถิ่น (Jeonju Korean Traditional Wine Museum) ซึ่งหากจะให้พูดตามตรง เมื่อเทียบกับที่ญี่ปุ่นที่ผมเคยไปมาแล้ว ต้องบอกว่าที่นี่มีบรรยากาศผ่อนคลายและ เป็นกันเองกว่าอย่างเห็นได้ชัด และประเด็น ส�าคัญที่สุด คือที่นี่อยู่ใน หมู่บ้านโบราณ หรือ Jeonju Hanok Village แห่งยุคโชซอน ซึ่งปรับปรุงบ้านกว่า 800 หลัง ให้กลายเป็น สถานที่เพื่อจ�าหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ ใครที่ชอบชุดฮันบก อาหารท้องถิ่นอย่าง บิบิมบับจะต้องชื่นชอบ เพราะมีร้านค้า ที่รองรับส� า หรับการซื้อของและการชิม เตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ ส่วนใครที่อยากจะรู้เรื่องสุราท้องถิ่น ก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างสนุก ซึ่งท� า ให้ เห็นได้ว่าการที่สินค้าสุราพื้นบ้านเกาหลี สามารถไปตีตลาดโลก และสร้างหมุดหมาย ทางวัฒนธรรมได้ คือการเริ่มต้นจาก การพัฒนาอย่างมีคุณภาพและใส่ใจ ที่เห็นได้จากการเรียนรู้ในสถานที่นี้ ในวันที่สาม ผมขอพาไปยัง ซุนชอน (Suncheon) โดยมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้าน นากานอึบซอง (Naganeupseong Folk Village) ซึ่งต้องขอเทียบอีกครั้งว่า หากคนไทยเคยไป ชิราคาวาโกของประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูบ้าน หลังคาฟางแล้ว ที่ประเทศเกาหลีคุณก็ควรมาซึ่งจุดส�าคัญของที่นี่ที่แตกต่าง คือ บ้านที่ชื่อ ในภาษาเกาหลีว่า ‘ โชกาจิบ ’ (Chogajip) เกือบทุกหลังนั้นยังมีคนท้องถิ่นอาศัยอยู่ จึงมีกลิ่นอายและเสน่ห์แห่งชีวิตให้ได้สัมผัส และแน่นอนว่า ‘ธรรมชาติ’ คือตัวชูโรงส�าคัญ ส� า หรับการเดินทางในวันนี้ ซึ่งผมขอพา ไปต่อที่พื้นที่ชุ่มน�้ า ป่าชายเลนของซุนชอน (Suncheonman Bay Nature Reserve) ที่ต้องยอมรับว่าการเก็บรายละเอียด และ ด� า รงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ งดงาม ผนวกเข้ากับการผสานด้วยกิจกรรมตามยุคสมัย เช่น การเดินท่องป่า หรือ Trekking ซึ่งต้อง บอกว่าท� า ได้อย่างผสมผสานและกลมกลืน อย่างยิ่ง : Jeonju Hanok Village และ Jeonju Korean Traditional Wine Museum : Naganeupseong Folk Village
เข้าสู่วันที่สี่ของการเดินทางโดยมี ที่หมายคือ ยอซู (Yeosu) ที่ถือได้ว่าเป็น ‘เมืองชายหาด’ ส�าหรับประเทศในเขตหนาว เป็นสวรรค์ส� า หรับคนชอบกิจกรรม กลางแจ้งเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่ม ประสบการณ์ของการเป็นนักส� า รวจ จากจุดนี้มีเส้นทางวิ่งข้ามไปยังเกาะโอดง ซึ่งใช้ระยะทางประมาณ 800 เมตร เหนื่อยพอเหงื่อซึมก� า ลังเหมาะ คุ้มมาก ในการเตรียมรองเท้ามาเพื่อวิ่งในเส้นทาง นี้ครับ ต้องยอมรับว่าประเทศเกาหลีเขาสร้าง พื้นที่ส�าหรับให้ชาวต่างชาติมาท�ากิจกรรม ต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และเข้าใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับ ศูนย์แสดงสินค้าและ พิพิธภัณฑ์ยอซู (Yeosu EXPO Convention Center & Art Museum Yeosu) ศูนย์กลางในการจัดงานแสดง สินค้าและงานต่างๆ ที่มีความพิถีพิถันแบบ มืออาชีพให้ได้สัมผัส และมีบรรยากาศ ที่เป็นสากลอย่างยิ่ง และก็มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทาง ผมและชาวคณะกลับมาที่กรุงโซลอีกครั้ง โดยเลือกพักในย่าน หมู่บ้านบุคชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village) ด้วยสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ส�ที่ถูกโอบล้อม า คัญ ของกรุงโซล ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่ง เช่น พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) และ พระราชวังชางด๊อกกุง (Changdeokgung Palace) เป็นต้น หมู่บ้านบุคชอนฮันอก จัดว่าเป็น อีกสถานที่ที่มีเสน่ห์อย่างมาก ท่ามกลาง ตึกสูงที่ทันสมัยของกรุงโซล แต่อาคาร บ้านเรือนในสมัยโบราณของขุนนางระดับสูงในยุค สมัยโชซอนกลับถูกเก็บรักษาและอนุรักษ์ไว้ได้ เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันบ้านหลายหลังในหมู่บ้าน ได้รับการดัดแปลงให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม ที่พัก นักเดินทาง ร้านอาหาร และโรงน�้าชา พร้อมเปิดให้ บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพื่อสัมผัสและ เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม ออกจะชวนให้ นึกถึงย่านตลาดน้อยของประเทศไทยที่มีทั้งความเก่า และใหม่ควบรวมกันอยู่อย่างพอเหมาะ ต้องบอกว่าการมาเยือนเกาหลีในครั้งนี้ผมรู้สึก ว่าเวลาผ่านไปเร็วกว่าทุกครั้ง แม้ว่าก่อนกลับจะได้ แวะซื้อของฝากและใช้ชีวิตในบรรยากาศของ กรุงโซลในที่คุ้นเคยก่อนการสั่งลา ทั้งที่เมียงดง โซลทาวเวอร์ อินซาดง ก็ตาม และเชื่อว่าจะต้องได้กลับมาสัมผัสเกาหลีใต้ อีกอย่างแน่นอน : Bukchon Hanok Village
: ดร.วิชยุตม์ ทัพวงษ์ เราคุ้นชินกับค�ากล่าวตักเตือน ถึงเรื่องการลงทุนอยู่เสมอว่า ‘ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง’ แต่การลงทุนเรื่องนี้ปลอดภัยและได้ก�าไร แน่นอนครับ เพราะการลงทุน ที่ผมกล่าวถึง ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตคือการลงทุนเรื่องสุขภาพ โดยแท้จริง บ่อยครั้งที่เราตั้งหมุดหมาย ใฝ่หาความรู้ในด้านวิชาชีพต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมทุนรอนให้กับ การด�าเนินชีวิตทั้งปัจจุบัน และภายภาคหน้า พร้อมๆ กับให้ความส�าคัญ กับการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การออกก�าลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี แต่ผมเชื่อว่า หลายคนมองข้าม ‘ การนอนหลับ ’ และลดความส� า คัญ ด้านนี้ลง เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ของกิจวัตรที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว นอนน้อยหน่อยไม่เป็นอะไรหรอก จะได้มีเวลาท�างานเพิ่มขึ้น บางคนคิดเลยเถิดไปถึงนอนเมื่อไหร่ ก็นอนได้ยังมีเวลาถมเถไป นอนหลับ การลงทุนที่ไม่ต้องใช้ทุน
การท�างานในโลกแห่งศิลปะ ก็คงจะเช่นเดียวกับงานด้านอื่นๆ ที่ต้องมีกระบวนการ มีขั้นตอน มีการฝึกฝน และมีการคิดราคามูลค่าของชิ้นงานตามปัจจัยต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ถ้ามองอย่างเรียบง่าย ‘ ความงาม’ ก็จะเป็นมาตรวัดที่ใช้ส�าหรับการพิจารณาราคาค่างวดของชิ้นงานนั้นๆ อะไรที่สวย อะไรที่งดงาม ย่อมมีคนให้ความส�าคัญ ให้คุณค่า ให้ราคา เมื่อ AI ก้าวข้ามสู่โลกแห่ง ‘เส้นสาย’ และข้อกังขาในด้าน ‘พาณิชยศิลป์’ Dilemma of the ‘Artistic with AI’
: Fullscape
CSV ดังนั้น มาร์ส เพ็ทแคร์ ผู้น�ำธุรกิจเกี่ยวกับกำรดูแลสัตว์เลี้ยงด้ำนสุขภำพ และโภชนำกำร จึงมีวัตถุประสงค์ที่มุ่งสร้ำงสรรค์โลกที่ดีกว่ำส�ำหรับสัตว์เลี้ยง (A Better World for Pets) โลกที่สัตว์เลี้ยงทุกตัวจะมีสุขภำพแข็งแรง มีควำมสุข และเป็นที่ยอมรับในสังคม ด้วยเหตุผลที่ว่ำสัตว์เลี้ยง ท�ำให้โลกน่ำอยู่มำกขึ้น มาร์ส จึงต้องกำรพัฒนำ สภำพแวดล้อม และสถำนที่ที่ต้อนรับและเอื้ออ�ำนวย ต่อสัตว์เลี้ยง บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จ�ากัด จึงเดินหน้ ำ สร้ ำ งสภ ำ พแวดล้อมที่เป็นมิตรให้ สัตว์เลี้ยงในกรุงเทพฯ ภำยใต้โครงกำร ‘Better Cities for Pets (เมืองที่น่าอยู่ขึ้นส� า หรับ สัตว์เลี้ยง)’ น�ำร่องควำมร่วมมือกับกรุงเทพมหำนคร ด้วยกำรปรับปรุง สวนวัชราภิรมย์ ย่านรามอินทรา เพื่อให้เป็นสวนสำธำรณะเพื่อสุนัขที่มีสิ่งอ�ำนวยควำมสะดวก และเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ส�ำหรับกำรเข้ำปรับปรุงส่วนต่ำงๆ ของพื้นที่ภำยใน สวนวัชรำภิรมย์ (สวนสุนัข) ของทำง มาร์ส เพ็ทแคร์ นั้น ใช้เวลำทั้งสิ้น 2 เดือน (ระหว่ำงวันที่ 1 ตุลำคม - 18 พฤศจิกำยน 2565) โดยมีร ำ ยละเอียดหลักๆ ได้แก่ ปรับปรุงป้ ำ ยต่ ำ งๆ ภำยในสวนเพื่อให้ควำมรู้พร้อมค�ำแนะน�ำ เพื่อช่วยให้เจ้ำของ 6 4 ดูแลสัตว์เลี้ยงและปฏิบัติตนอย่ำงมีควำมรับผิดชอบ ในกำรใช้พื้นที่สำธำรณะ ซ่อมแซมทำสีเครื่องเล่นเดิม และเพิ่มเครื่องเล่นใหม่ที่ลำนออกก�ำลังกำยสุนัขใหญ่ และสุนัขเล็ก เพิ่มสิ่งอ�ำ นวยคว ำ มสะดวกพื้นฐ ำ น เช่น ตู้กดน�้ำดื่มของสุนัข กล่องจ่ำยถุงใส่มูลสุนัข เก้ำอี้ม้ำนั่งยำวรูปกระดูกท�ำจำกถุงอำหำรสัตว์เลี้ยง รีไซเคิลจ ำ กโครงก ำ รลดขยะ ‘แลกแล้วลดเลย’ ถังขยะ และปลูกต้นไม้เพิ่ม 200 ต้น ซึ่งงำนปรับปรุง สวนวัชรำภิรมย์ ภำยใต้โครงกำร Better Cities for Pets ได้แล้วเสร็จและมีพิธีส่งมอบให้กับ กรุงเทพมห ำ นครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยท ำ ง กรุงเทพมห ำ นครจะเป็นผู้ดูแลและบ�ำรุงรักษ ำ สวนวัชรำภิรมย์ให้ดียิ่งต่อไป ทั้งนี้ มาร์ส เพ็ทแคร์ ยังคงเดินหน้ำโครงกำร Better Cities for Pets ในปีต่อๆ ไป เพื่อส่งเสริม กำรต้อนรับสัตว์เลี้ยงในสวนสำธำรณะ และมุ่งหวัง ที่จะสนับสนุนกรุงเทพมห ำ นครในก ำ รสร้ ำ ง สวนสำธำรณะที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงต่อไป : กรรฐา มาร์ส เพ็ทแคร์ ประเทศไทย ร่วมมือกับ กทม. เพราะสัตว์เลี้ยงคือเพื่อนที่ดีของมนุษย์ ซึ่งมีทั้งความน่ารัก และความซื่อสัตย์ โดยเฉพาะน้องหมา น้องแมว ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรัก 4 ขานั้น นอกจากจะสร้างความสุข ความอบอุ่นใจ ให้กับผู้เลี้ยงแล้ว ยังทาให้โลกน่าอยู่อีกด้วย ‘Better Cities for Pets’ ปรับปรุงสวนวัชราภิรมย์ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรให้สัตว์เลี้ยง เดินหน้าโครงการ
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.