GM - 511

Page 1

gmlive . com

Adaptability and Dynamic ปรับตัวและเลื่อนไหล เพือ่ ก้าวต่อไป

ชัชชาติ สิทธิพนั ธุ์

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปรากฏการณ์

ชัชชาติ ฟีเวอร์ th

YEAR

MAGAZINE OF THE GM GROUP

นิตยสารผูช้ าย ทีม่ ผี อู้ า่ นสูงสุดตลอด 36 ปี 2565 / 70 บาท

22 07 01

Pride Month เสียงขับขาน LGBTIQ++ จากอดีตบรรพกาล สูก่ ารเคลือ่ นไหวเพือ่ ความเท่าเทียม


MAAI by KTC ร่วมกับ

อินฟินิธัส บาย กรุงไทย ขยายช่องทางการแลกรับคะแนน MAAI ผ่านร้านค้าถุงเงิน สแกนง่าย แลกได้ ไม่จ�ากัด ‘MAAI by KTC’ ร่วมกับ อินฟินิธัส บาย กรุงไทย ขยายช่องทาง การแลกรับคะแนน MAAI ผ่านร้านค้าถุงเงิน มุ่งสร้างประสบการณ์ การแลกคะแนนที่สะดวก รวดเร็ว ผ่านระบบสแกน QR Code ใช้คะแนนน้อยได้ และไม่จา� กัดจ�านวนการแลก หวังตอบโจทย์ให้สมาชิก คุ้นชินกับการใช้คะแนน MAAI ในชีวิตประจ�าวันและเพิ่มรายได้ ให้กับร้านค้ารายย่อยของถุงเงินในเขตชุมชนทั่วกรุงเทพฯ

ประณยา นิ ถ านานนท์ ผู ้ ช ่ ว ยประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร - การตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จ�ากัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้เคทีซีมุ่งเน้นการสร้าง ‘MAAI by KTC’ ลอยัลตี้ แพลตฟอร์มใหม่ให้มปี ระสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ เพือ่ ช่วยสนับสนุน พันธมิตรธุรกิจ มุง่ เน้นการสร้าง Eco System เพิม่ มูลค่าและอิสระ ในการแลกคะแนน ให้สมาชิกได้มี โอกาสแลกรับสิทธิประโยชน์ ทีต่ อบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ ได้มากทีส่ ดุ “ส�าหรับความร่วมมือกับแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ในครัง้ นี้ MAAI by KTC ได้พฒ ั นาฟีเจอร์ QR Code เพือ่ รองรับขัน้ ตอนการแลกคะแนน กับร้านค้าของแอปฯ ถุงเงินทีม่ ปี า้ ยสัญลักษณ์ MAAI เปิดบริการน�าร่อง กว่า 20,000 แห่งทัว่ กรุงเทพฯ ซึง่ เป็นร้านค้ารายย่อยทีส่ ว่ นใหญ่จะไม่มี ระบบการช�าระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือติดตัง้ เครือ่ ง EDC เป็นการสร้าง ประสบการณ์ให้สมาชิกคุน้ ชินกับการใช้คะแนน MAAI ในการแลกซือ้ สินค้าในชีวติ ประจ�าวัน โดยใช้คะแนนแลกได้ ไม่จา� กัด ด้วยอัตราคะแนน MAAI 10 คะแนน เท่ากับ 1 บาท” สุ พ ร สุ น ทรโรหิ ต Chief Business Innovation Officer บริษัท อินฟินธิ สั บาย กรุงไทย จ�ากัด ผูพ้ ฒ ั นาแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ และ ‘ถุงเงิน’ เปิดเผยว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการพอยท์เพย์ ซึง่ เป็นปรากฏการณ์ครัง้ ส�าคัญขององค์กรชัน้ น�า ระดับประเทศ ทีม่ เี ป้าหมายเดียวกัน คือ กระตุน้ การใช้จา่ ย สนับสนุน ร้านค้ารายย่อย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นน�าเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ทีต่ อบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุม่ ให้รบั ประโยชน์สงู สุด ปัจจุบนั มีรา้ นค้า บนแอปฯ ถุงเงินกว่า 1.5 ล้านร้านค้าทัว่ ประเทศ”



tabLE Of VOLUME 36 | 2022

10 14 16 20 22 30

54 58 62

511 EditOr’S NOtE GadGEt

เช็กลิสต์ Gadgets สุดล�า้ น�าสมัย ในช่วงปลายฤดูรอ้ นย่างเข้าฤดูฝน

Car

Retro Go EV

WatCh

Timeless Design

StYLE

Summer Trends

SCOOp

adaptability and dynamic : เมือ่ เทรนด์ธรุ กิจ ‘ตืน่ ตัว’ และ ‘ปรับเปลีย่ น’ ไปสูย่ คุ สมัยใหม่ ชัชชาติ ฟีเวอร์ : ปรากฏการณ์ ‘ทีม่ าพร้อมความคาดหวัง’ pride Month : เสียงขับขาน LGBtiQ++ ‘จากอดีตบรรพกาล สูก่ ารเคลือ่ นไหวเพือ่ ความเท่าเทียม’

GM CLuB

ดร.จักรพล จันทวิมล : 10 ปีกบั การตลาดแห่งความ ‘ธรรมดา’ ของแบรนด์ ‘นันยาง’ ‘การส่งต่อความมัน่ ใจด้านสุขภาพ อาหาร และยา’ กับ เภสัชกรธัชพล ชลวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน)

trENd Biz

The Future of BANKING | FINANCE | MONEY in 2030

ENtErtaiNMENt Film : ลับ ลวง พราง บนเส้นทางอาชญากรรมอาทิตย์อทุ ยั Travel : เทีย่ ววัดร้างในเมือง

คมความคิด 68ความพลวั ต : ก้าวไปอย่างเท่าทัน และจัดการอย่างมีความสุข โดย ดร.วิชยุตม์ ทัพวงษ์ ศิลปะ : ขับเคลือ่ นมุมมอง ความคิด ชีวติ คนท�างานศิลปะ โดย สุรพร เลิศวงศ์ (Jekky Zoo)

72 74

CSV

73

NEWS & NEWS

ONE QuEStiON : หนึ่งค�าถามกับคนหนุ่ม



ดีแทคพร้อมรับกฎหมาย PDPA ยึดหลักสิทธิมนุษยชน-ธรรมาภิบาล ปกป้องข้อมูลลูกค้า ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนด้วย ‘ข้อมูล’ โดยเฉพาะข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่ส่งผลต่อการตลาดในธุรกิจต่างๆ นั้น ท�าให้ข้อมูลแปรเปลี่ยนไป เป็นสิง่ ส�าคัญทีม่ มี ลู ค่า เพราะข้อมูลเหล่านั้นสามารถน�าไปพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งประสิทธิภาพสินค้าและการบริการ ดังนัน้ จึงไม่ใช่เรือ่ งแปลกทีข่ อ้ มูลของลูกค้ากลายเป็นทีต่ อ้ งการของตลาดจนกลายเป็นการละเมิดสิทธิสว่ นบุคคล จึงเป็นทีม่ าของการบังคับใช้กฎหมาย PDPA ทีม่ กี ารประกาศใช้เมือ่ วันที่ 1 มิถนุ ายน 2565 ทีผ่ า่ นมา ซึง่ เป็นเรือ่ งทีส่ า� คัญมาก เพราะการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าทัง้ ในรูปแบบ ออฟไลน์ หรือออนไลน์ หากมีการเก็บข้อมูลไม่ถกู ต้อง อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ได้ แต่นอ้ ยคนนักจะรูว้ า่ PDPA คืออะไร

ด้วยเส้นทางจากการพัฒนาแนวนโยบายสู่หลักปฏิบัติ ผ่านการออกแบบ กระบวนการท�างาน การเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ทัง้ ยังเป็นการเน้นย�า้ คุณค่า องค์กรด้านธรรมาภิบาลและหลักสิทธิมนุษยชนทีเ่ ป็นวัฒนธรรมขององค์กร ทีด่ แี ทคยึดถือตลอดมา เพราะตระหนักดีวา่ พ.ร.บ.คุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA นัน้ เป็นหมุดหมายส�าคัญทีน่ า� พาประเทศสูส่ งั คมดิจทิ ลั อย่างยัง่ ยืน

สตีเฟ่น เจมส์ แฮลวิก รักษาการรองประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร กลุม่ กิจการองค์กร ดีแทค

PDPA หรือ การบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของประเทศไทยนั้น คือการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการ ปกป้องความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงทางข้อมูลของผู้บริ โภค โดยที่ หน่วยงานต่างๆ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งดีแทคคือหนึ่งในธุรกิจ ภาคเอกชนทีส่ นับสนุนและยินดีพร้อมปฏิบตั ติ ามเพือ่ ประโยชน์ของผูบ้ ริโภค ธุรกิจ และสังคมส่วนรวมมาโดยตลอด โดยมีการเตรียมความพร้อมมากว่า 2 ปี ซึง่ เริม่ พัฒนานโยบายความเป็นส่วนตัว ออกแนวปฏิบตั ิ และบังคับใช้ภายใน องค์กร ตามแนวทางของกฎหมายคุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป หรือ GDPR และ พ.ร.บ.คุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 (PDPA) ของไทย

“ดีแทคมีจดุ ยืนในการท�าธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยหลักการรักษา สิทธิมนุษยชน ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีหน้าทีส่ า� คัญในการเคารพ หลักความเป็นส่วนตัว (Privacy) และเสรีภาพในการแสดงออกส�าคัญ (Freedom of Expression) จึงปฏิบตั แิ ละด�าเนินงานอย่างเคร่งครัด โดยพัฒนากระบวนการ การท�างาน และความท้าทายต่างๆ กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสม�่าเสมอ การบังคับใช้พระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของไทย หรือ PDPA ถือเป็นหมุดหมายส�าคัญของประเทศไทยในการคุ้มครองสิทธิ ขั้นพื้นฐานด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงทางข้อมูล ของผูบ้ ริโภค ซึง่ ดีแทคสนับสนุนและยินดีปฏิบตั ติ ามอย่างยิง่ เพือ่ ประโยชน์ ของผูบ้ ริโภค ธุรกิจ และสังคมส่วนรวม” สตีเฟ่น เจมส์ แฮลวิก รักษาการ รองประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร กลุม่ กิจการองค์กร บริษัท โทเทิล่ แอ็คเซ็ส คอมมูนเิ คชัน่ จ�ากัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวถึงหลักการรักษาสิทธิมนุษยชน สูน่ โยบายการคุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคลของดีแทค ทัง้ นี้ ยังได้กล่าวถึงใจความส�าคัญเพือ่ สร้างความเชือ่ มัน่ ต่อกลุม่ ลูกค้าดีแทค อีกว่า “ความเชือ่ มัน่ ลูกค้าถือเป็นหัวใจส�าคัญในการด�าเนินกิจการของดีแทค โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ยุคแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น AI (ปัญญา ประดิษฐ์), IoT (อินเทอร์เน็ตสรรพสิง่ ) และ 5G จะท�าให้เกิดและต้องการใช้


ข้อมูลจ�านวนมหาศาลในการส่งมอบคุณค่าลูกค้า ดังนัน้ ความโปร่งใสจึงเป็น ปัจจัยส�าคัญที่ท�าให้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้น” และถึงแม้ว่าในยุคสังคมดิจิทัล ทีโ่ ลกก�าลังขับเคลือ่ นไปนัน้ จะน�ามาซึง่ โอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมทีส่ ามารถ สร้างมูลค่าทางการตลาดได้อย่างมหาศาล แต่ขณะเดียวกันการใช้ข้อมูล ต้องค�านึงถึงสิทธิผบู้ ริโภคตามกฎหมายเป็นส�าคัญ ดังนัน้ ความเป็นส่วนตัว ลูกค้า (Privacy) จึงเป็นสิง่ ทีด่ แี ทคให้ความส�าคัญสูงสุดในการพัฒนาสินค้า และบริการ ทัง้ นี้ ยังเป็นการตอกย�า้ ถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล ที่ดีแทคมุ่งส่งเสริมผ่านบริการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ทั่วถึง และเท่าเทียม โดยเข้าดูข้อมูลดีแทคกับการด�าเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ได้ที่ https://www.dtac.co.th/sustainability/th/rb

จากนโยบายสูแ่ นวปฏิบตั แิ ละวัฒนธรรมองค์กร ดีแทคพัฒนาสินค้าและบริการโดยยึดหลักความเป็นส่วนตัวเป็นส�าคัญ (Privacy by Design) เพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ ปลอดภัย และ ค�านึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ไม่ว่าพนักงานจะท�างานจากที่ใดก็ตาม โดยมีกระบวนการจัดการกับข้อมูลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ดังนี้ เก็บรวบรวม : จัดเก็บข้อมูลทีเ่ ป็นประโยชน์และจ�าเป็นต่อการให้บริการ ทัง้ ข้อมูลทีร่ ะบุตวั ตน ทางตรง และข้อมูลทีร่ ะบุตวั ตนทางอ้อม ใช้ : มีการใช้ขอ้ มูลตรงตามวัตถุประสงค์ทแี่ จ้ง เพือ่ น�าเสนอสิทธิประโยชน์ สินค้าและบริการทีต่ รงกับความต้องการ เพือ่ ให้ลกู ค้าได้รบั ประโยชน์สงู สุด เปิดเผย : เพือ่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงือ่ นไขการดูแลคุม้ ครองข้อมูล ตามทีก่ ฎหมายก�าหนด

กฤษณ์ ประพัทธศักดิ์ ผูอ้ า� นวยการอาวุโส กลุม่ งานขายลูกค้าองค์กร ดีแทค

มนตรี สถาพรกุล ผูเ้ ชีย่ วชาญดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ดีแทค

ขัน้ ตอนการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้หลักธรรมาภิบาล 1. การท�างานเชิงรุก (Proactive Approach) ดีแทคมีการวางแนวทางในการใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อให้เป็นไปตามเจตจ�านง ตามทีล่ กู ค้าได้อนุญาตผ่าน Privacy Checkpoint ซึง่ เป็นโครงสร้างการท�างาน เพือ่ ควบคุมและลดความเสีย่ งอันเกิดจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ โดยผู้แสดงความจ�านงต้องการใช้ข้อมูลลูกค้า (เช่น ทีมพัฒนาแอปพลิเคชัน ทีมบริหารคุณค่าลูกค้า ระเบียบการปฏิบตั กิ าร ในส่วนต่างๆ) ต้องแจ้งความจ�านงมายังเจ้าหน้าทีค่ มุ้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy Officer: DPO) ของบริษั ท เพื่อพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ ตามกฎหมาย (Legal Basis) และความจ�าเป็น (Necessity and Proportionality) ของการใช้ขอ้ มูล รวมถึงยังต้องมีการประเมินความปลอดภัยข้อมูลทางด้าน เทคนิค ซึง่ ก�ากับโดยทีมเทคโนโลยี จากนัน้ จะเข้าสูก่ ระบวนการพิจารณาและ อนุมตั ิโดยคณะกรรมการ การประเมินผลกระทบด้านการคุม้ ครองส่วนบุคคล (DPIA) ของบริษัท นอกจากนีย้ งั ได้กา� หนดโครงสร้างการท�างานของ DPO ให้เป็นอิสระ สามารถรายงานการท�างานต่อคณะผู้บริหาร (Management Committee) ได้โดยตรง เพื่อให้ความคิดเห็นของ DPO คงไว้ซึ่งหลักการ ความเป็นส่วนตัวและหลีกเลีย่ งผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทีม่ อี ทิ ธิพลต่อ ความคิดเห็นของ DPO 2. การตรวจสอบ (Investigative Approach) เพือ่ ลดความเสีย่ งการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล พนักงานด่านหน้า ทีเ่ กี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้าจะต้องมีการท�าประเมินอย่างสม�่าเสมอ จากนั้น ส่งผลการประเมินมายัง DPO นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบรายไตรมาส (Audit) ทัง้ จากคณะกรรมการภายในและภายนอก เพือ่ ให้มนั่ ใจว่ามีการปรับใช้ นโยบายสูแ่ นวปฏิบตั อิ ย่างถูกต้อง 3. การแก้ ไข (Corrective Action) เมื่อตรวจสอบพบการละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล DPO มีหน้าที่ ในการประสานงานผูเ้ กีย่ วข้อง เพือ่ ระงับ จัดการประเมินความเสียหาย ก�าหนด แนวทางการแก้ ไข รวมถึงถ้าเหตุละเมิดดังกล่าวมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูล ต้องมีการแจ้งให้สา� นักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลรับทราบและแก้ ไข

ทั้งนี้ สตีเฟ่นได้กล่าวถึงความพร้อมต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ของดีแทค ไว้ดว้ ยว่า “ดีแทคมีความพร้อมต่อการปฏิบตั ติ าม พ.ร.บ.คุม้ ครอง ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยได้พฒ ั นาเป็นนโยบายและแนวทางการท�างาน ตลอดจนบังคับใช้เป็นการภายในมาแล้วกว่า 2 ปี มีการอบรมและสร้างการรับรู้ กับพนักงานต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว 100%” ทัง้ นี้ ลูกค้าและผูส้ นใจ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวของดีแทค ได้ที่ https://www.dtac.co.th/sustainability/th/privacy/


ExclusivE

: สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์

ติดปีกให้ธรุ กิจ ก้าวสูอ่ งค์กรอัจฉริยะ ด้วย

Atos & RISE with SAP

ในการบริหารองค์กร ไม่วา่ จะภาครัฐหรือเอกชน ไม่วา่ จะในสเกลใหญ่ กลาง หรือขนาดย่อม การสร้างระบบงานทีเ่ กีย่ วข้องกันให้มปี ระสิทธิภาพ เชือ่ มโยงทุกส่วนให้สามารถท�างานได้อย่าง ลืน่ ไหล ไม่ตดิ ขัด ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์สงู สุด เพราะทุกเวลาทีห่ มุนผ่านไป การแข่งขันที่ สูงขึ้น การลดความยุ่งยากในส่วนที่ไม่จ�าเป็น และจัดสรรทรัพยากรเพื่อเพิ่มประสิทธิผล แม้เพียงนิด ก็สร้างความแตกต่างได้อย่างใหญ่หลวง และด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในยุคดิจทิ ลั การประสานระบบงานนัน้ สามารถท�าได้งา่ ย และรวดเร็วขึน้ หากได้รบั การวางแผน ติดตัง้ และสนับสนุนจากบริษทั มืออาชีพระดับโลก อย่าง Atos และ SAP โดยที่องค์กรไม่จ�าเป็นต้องใช้งบประมาณสูงเพื่อพัฒนาระบบเอง แต่เลือกใช้สงิ่ ทีม่ อี ย่างพร้อมสรรพ และปรับปรุงเพือ่ ให้เหมาะสมกับความต้องการทีแ่ ตกต่างกัน GM Magazine ได้รบั เกียรติจาก คุณปริญญา วัชระกิตพิ งศ์ Presale Lead บริษทั อาโทส ไอที โซลูชนั แอนด์ เซอร์วสิ เซส จ�ากัด (ประเทศไทย) หรือ อาโทส ประเทศไทย ทีม่ าร่วม พูดคุยถึงนิยามของ Digital Solutions, ความจ�าเป็นส�าหรับองค์กรทีจ่ ะเลือกใช้ และทิศทาง กับเทรนด์ทจี่ ะเกิดขึน้ การเลือก ‘แพ็กเกจส�าเร็จรูปส�าหรับบริหารจัดการ’ กลายเป็นอีกหนึง่ ทางเลือกส�าคัญทีช่ ว่ ยติดปีกให้ธรุ กิจ พร้อมทัง้ เสริมศักยภาพให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพและเร็วยิง่ ขึน้ ความรับผิดชอบในฐานะ Presale Lead ั ดูแลในเรือ่ ง Presale ด้านผลิตภัณฑ์จาก SAP และเทคโนโลยีตา่ งๆ ปริญญา ขอบเขตงานปัจจุบน และดูแลงานลูกค้าในการให้คา� ปรึกษาเกีย่ วกับการเตรียมการทีล่ กู ค้าต้องการปรับเปลีย่ น องค์กรสูย่ คุ ดิจทิ ลั อย่างเต็มรูปแบบด้วย SAP Solution ตัง้ แต่การวิเคราะห์ความต้องการ การเสนอ Solution ทีเ่ หมาะสม และการเสนอข้อมูลงบประมาณ รวมถึงและการถ่ายโอนงานให้กบั ทีมท�าโครงการ ในช่วงแรก อีกส่วนของงานคือการดูแลในด้านเทคโนโลยีที่จะประยุกต์ใช้ ให้ตอบสนองต่อความ ต้องการของลูกค้า และเทรนด์ในปัจจุบนั ความเชีย่ วชาญหลักของ Atos ปริญญา ต้องกล่าวว่า Atos เป็นบริษัทด้าน IT Digital Solutions ทีเ่ กีย่ วข้องกับการน�าเทคโนโลยี ทีเ่ หมาะสมมาปรับใช้กบั ธุรกิจ ซึง่ จะครอบคลุมทัง้ ในส่วนของด้านบัญชีการเงิน การผลิต จนถึงกลุม่ งานภาครัฐ งานสนับสนุนสาธารณสุข จุดนีค้ อื ภาพรวมของ Atos แต่ทงั้ นี้ ถ้าจะพูดถึง จุดเริม่ ต้นของ Atos จริงๆ แล้วนัน้ Atos ในประเทศไทยเติบโตมาจากการออกแบบและติดตัง้ ระบบ ERP หรือ ระบบจัดการทรัพยากรองค์กร ซึ่งได้ท�ามากว่า 20 ปี ทั้งการติดตั้ง การ Upgrade และการบ�ารุงรักษาด้านไอที ซึง่ แม้ในปัจจุบนั เราก็ยงั สามารถให้บริการในจุดนี้ เพือ่ ท�าการปรับปรุง พัฒนาระบบงานต่างๆ ให้สอดรับการปรับเปลีย่ นธุรกิจ ความต้องการของภาครัฐในปัจจุบนั ให้เกิด ประสิทธิผลในด้านต่างๆ ได้ จากประสบการณ์ในงานด้าน Solution Provider ของ Atos ข้อดีของการใช้ SAP Solution ทีเ่ ป็นแพ็กเกจส�าเร็จรูปในการปรับปรุงองค์กรคืออะไร ปริญญา ในด้ า น SAP Solution นั้ น มี ลั ก ษณะของการท� า งานแบบกึ่ ง ส� า เร็ จ รู ป พร้ อ มใช้ เพือ่ ตอบสนองลูกค้าแต่ละองค์กร ซึง่ จะเพิม่ เติมศักยภาพ มุมมอง และกระบวนการท�างาน ทีเ่ ป็นมาตรฐาน ทัง้ นี้ ต้องพิจารณาจากความต้องการ และข้อก�าหนดของลูกค้าก่อน ไม่วา่ จะภาครัฐ หรือเอกชน และมาท�าการวิเคราะห์กบั SAP Solution ที่ Atos มีอยู่ในมือ ว่าต้องรองรับกับจุดใดบ้าง และสิ่งที่มีสามารถรองรับต่อความต้องการ จะต้องเพิ่มขีดความสามารถในอนาคตขึ้นได้ด้วย และถ้าในความต้องการเฉพาะด้าน ทีอ่ าจจะไม่มี Solution มารองรับ ก็จะเป็นหน้าทีข่ องทีมทีป่ รึกษา


ในการพิจารณาความเหมาะสมในการสร้างเพิม่ เติมเข้าไป ซึง่ ในจุดนีก้ น็ า่ จะ สามารถตอบโจทย์ในส่วนของข้อดีส�าหรับการใช้แพ็กเกจ IT SAP Solution ทีส่ ามารถติดตัง้ ออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงได้ตามเวลา แต่ทงั้ นี้ การใช้ SAP Solution ก็มขี อ้ จ�ากัดอยูบ่ า้ ง ตรงทีร่ ะยะเวลาทีท่ างเรา จะต้องใช้ร่วมกับทางลูกค้า เพื่อท�าการออกแบบและพัฒนาระบบ รวมถึง การทดสอบให้สามารถใช้งานได้จริงได้ทกุ ๆ กรณีทางธุรกิจ เหตุนจี้ งึ มีชว่ งเวลา ทีต่ อ้ งท�างานร่วมกันของทีมทีป่ รึกษาและลูกค้าสักระยะหนึง่ ซึง่ ขึน้ กับขอบเขต และสเกลของงาน โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 6-7 เดือนขึ้นไป ถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าทางลูกค้าและผู้ใช้งานสุดท้าย จะได้ระบบ ทีส่ ามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัว ทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาว ในรอบ 2 ปีทผี่ า่ นมา ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก่อให้เกิด ผลกระทบต่อการท�างานของบริษทั มากน้อยเพียงใด ่ า่ นมา ก็ทา� ให้เกิดความยาก ปริญญา การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทีผ ล�าบากในการท�างานบ้าง แต่เรียกได้วา่ ไม่มากนัก เพราะโดยปกติ ทางบริษัท Atos จะใช้การรับแจ้งปัญหาและท�างานผ่านระบบทางไกลแบบ ออนไลน์ หรือ Remote Work รวมถึงการใช้อปุ กรณ์ Collaboration Software เพื่อแก้ ไขปัญหาให้กับทางลูกค้าได้ อาจจะเรียกว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผลกระทบกับทางทีมของ Atos & SAP น้อยมาก แต่ในส่วนของการออกแบบและติดตั้งระบบ ที่จ�าเป็นต้องเข้าไปอยู่ที่ หน้างาน ทีต่ อ้ งท�างานร่วมกับทางองค์กรและลูกค้าในสถานทีจ่ ริง ก็มผี ลกระทบ ค่อนข้างมาก ท�าให้ทางบริษัทต้องวิเคราะห์แผนงานภายใต้สถานการณ์ทมี่ ี ความเสีย่ ง เพือ่ ให้ ได้เนือ้ งานแต่ยงั มีความปลอดภัยส�าหรับพนักงาน อย่างเช่น จากเดิมทีล่ งพืน้ ทีท่ งั้ หมด ก็สลับกับการใช้ระบบออนไลน์เพือ่ ฝึกสอนการใช้ ระบบให้กบั องค์กรลูกค้า การใช้อปุ กรณ์ทางไกลเพือ่ ทดสอบระบบ ซึง่ ก็ตอ้ ง ปรับเปลีย่ นกันตามสภาพ ความแตกต่างด้านขนาดองค์กรของลูกค้ามีผลต่อการท�างานของ Atos มากน้อยเพียงใด ปริญญา ขนาดขององค์กรลูกค้ามีผลต่อการคัดเลือกแพ็กเกจ Digital Solution และการเสนองานให้กบั ลูกค้าเป็นส�าคัญครับ เพราะตัว ERP นัน้ เป็นแพ็กเกจส�าเร็จรูป ทีม่ กี ระบวนการท�างานทีเ่ ป็นมาตรฐาน เช่น การซือ้ การขาย การผลิต การบริการ และระบบงานเฉพาะกลุม่ (Industry Solution) เช่น การค้าปลีก งานด้านโรงพยาบาล สาธารณสุข เป็นต้น ซึง่ จาก ประสบการณ์องค์กรขนาดใหญ่จะค่อนข้างราบรื่นในการท�างานและติดตั้ง ERP เพราะหน่วยงานมีการจัดแบ่งแผนกและหมวดหมูท่ ชี่ ดั เจนตามฟังก์ชนั งาน แต่ส�าหรับองค์กรที่มีขนาดกลางและขนาดเล็กอาจจะมีอุปสรรคที่ต้อง พิจารณาเพิม่ เติม เช่น การเพิม่ เข้ามาของฟังก์ชนั งาน เพราะพนักงานหนึง่ คน อาจจะท�างานหลายด้าน หลายฟังก์ชนั รวมถึงพนักงานบางองค์กรยังไม่ได้ ใช้ระบบด้านคอมพิวเตอร์ หรือ Application เท่าทีค่ วร จึงจ�าเป็นต้องเพิม่ ทักษะ การใช้งานระบบพืน้ ฐานเหล่านีก้ อ่ น แต่สงิ่ ส�าคัญจริงๆ ในการพิจารณาใช้ Digital Solution ส�าหรับองค์กร ขนาดกลางและขนาดเล็กในมุมมองของ Atos คือ ระบบทีเ่ พิม่ เข้ามาจะต้อง ช่วยลดกระบวนการท�างาน องค์กรจะต้องยอมรับการเข้ามาของระบบ เพือ่ ปรับเปลีย่ นและเพิม่ ความโปร่งใส ซึง่ อาจจะต้องมีการเพิม่ ฟังก์ชนั ของงาน ลดการกระจุกอยูท่ คี่ นใดคนหนึง่ ให้เกิดความลืน่ ไหลและสอดคล้องมากยิง่ ขึน้ นัน่ คือการได้ประโยชน์ของการใช้ระบบงานอย่างแท้จริง ถ้าทางองค์กรลูกค้ามีความต้องการทีช่ ดั เจน ทีแ่ ตกต่างจาก SAP Solution ทีท่ าง Atos มีอยูใ่ นมือ ทางบริษทั พร้อมจะท�างานร่วมกับลูกค้าเพือ่ สร้าง แพ็กเกจใหม่ไปพร้อมกันหรือไม่ ้ ตอนพิจารณาเลือกใช้แพ็กเกจ SAP Solution จาก Atos นัน้ ปริญญา ในขัน จะต้องมีการวิเคราะห์ความต้องการในหลายระดับ ทัง้ จากแนวทาง ของผูบ้ ริหารระดับสูง การใช้งานของผูบ้ ริหารระดับกลาง และผู้ใช้งานทัว่ ไป จากหน้างาน เพือ่ เลือกให้เหมาะสมกับทีม่ ี แต่ถา้ ในกรณีทขี่ อ้ มูลที่ได้พบว่า แพ็กเกจอาจจะไม่ตอบโจทย์ ก็ต้องมีการท�างานร่วมกับลูกค้าส�าหรับเสนอ แนวทางการทดแทนต่างๆ เพือ่ ให้ตอบสนองต่อความต้องการ ไม่วา่ จะด้วยการ ปรับปรุง Application ทีม่ ภี ายนอก หรือการสร้างส่วนขยายเพิม่ เข้าไป แต่ทงั้ นี้ ก็ตอ้ งพิจารณาจากกระบวนการโดยรวมว่าแบบใดทีจ่ ะท�าให้เกิดความลืน่ ไหล ในกระบวนการท�างานมากกว่ากัน อีกทัง้ ไม่มผี ลกับการเพิม่ เติมฟังก์ชนั งาน การ Upgrade ระบบในอนาคตด้วย

ในอนาคตข้างหน้าคิดว่าเทรนด์ใดทีอ่ งค์กรต่างๆ ควรพิจารณาในการเลือก Digital Solution เพือ่ มาปรับปรุงองค์กร ปริญญา ถ้ามองในเทรนด์ทอี่ งค์กรควรพิจารณาในการเลือก Digital Solution มาใช้งาน ก็อาจจะมองถึงเรือ่ งความยืดหยุน่ การท�างานนอกสถานที่ มีความสามารถในการเชือ่ มโยงกับอุปกรณ์ตา่ งๆ การเข้าถึงข้อมูลทีม่ ีในปัจจุบนั รวมถึงท�าการวิเคราะห์กระบวนการต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทีจ่ ะท�าให้งานนัน้ ง่ายขึน้ ปรับเปลีย่ นแผนงานได้ตามสถานการณ์ ใช้ทรัพยากรทีม่ ีได้อย่างคุม้ ค่า ตอบสนองกับวิถชี วี ติ หลังการแพร่ระบาดทีม่ คี วามเปลีย่ นแปลง ในแวดวงของ Digital Solution นัน้ มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทาง Atos มีแนวทางทีจ่ ะพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างไรบ้าง ้ จะให้ความส�าคัญกับ 2 ส่วนหลัก ปริญญา ในส่วนของ Atos ในภาพรวมนัน คือ Industry Know-how และ Practice โดย Industry จะเป็นการ จัดกลุม่ Solution ตามกลุม่ ธุรกิจอุตสาหกรรม ส่วน Practice จะเป็นการท�า Solution ในรายละเอียดไปช่วยตอบโจทย์การท�างาน โดย Atos ประเทศไทย ก็ปฏิบตั ติ ามแนวทางมาตรฐานนี้ เพือ่ มาประยุกต์กบั การท�างานในประเทศ และกลุม่ ลูกค้าในแถบภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุดไหนทีเ่ ด่น จุดไหน ทีย่ งั ขาดก็มกี ารน�ามาวางแผนการตลาดร่วมกับคูค่ า้ ทีเ่ ป็น Solution Partner ในการเติมเต็มความต้องการของลูกค้า Atos ประเทศไทย แตกต่างจากภูมภิ าคอืน่ อย่างไร ปริญญา Atos ประเทศไทย เป็นฐานส�าคัญในการพัฒนาแพ็กเกจ Digital Solution โดยการท�าโครงการมากว่า 20 ปี ในหลายกลุม่ ธุรกิจ ท�าให้มคี วามเชีย่ วชาญ และสร้างฐานลูกค้าจากงานโครงการ งานบ�ารุงรักษา ซึง่ ท�าให้บริษัทสามารถเสนอ Digital Solution ทีห่ ลากหลาย ตามแต่ความ ต้องการและความเหมาะสมตามสภาพแวดล้อมได้ นโยบายของภาครัฐมีผลต่อการด�าเนินงานของ Atos มากน้อยเพียงใด ปริญญา ถ้าเป็นโครงการพัฒนาจากทางภาครัฐก็จะมีขอ้ ก�าหนด หรือ TOR เป็นขอบเขตทีต่ อ้ งปฏิบตั ติ าม ดังนัน้ การปฏิบตั ติ าม TOR หรือ แนวทางทีส่ อดคล้องกัน จะเป็นสิง่ ส�าคัญทีต่ อ้ งค�านึงถึงทุกช่วงของโครงการ ตัง้ แต่การออกแบบระบบ นอกจากนัน้ ก็จะมีความต้องการของแต่ละหน่วยงาน ทีแ่ ตกต่าง ดังนัน้ โดยกระบวนการการท�างานของ Atos จะค�านึงถึงการปฏิบตั ิ ตาม TOR ว่า ครบถ้วนถูกต้องตาม TOR เบือ้ งต้นหรือไม่ แล้วค่อยพิจารณาถึง ขอบเขตและความต้องการปลีกย่อยของแต่ละหน่วยงาน เพือ่ ให้ ไม่ไปกระทบ ภาพรวม ประสบปัญหากับการท�างานร่วมกับองค์กรใหญ่ทเี่ ก่าแก่และอยูม่ านานมากๆ บ้างหรือไม่ และแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร ปริญญา จริงๆ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้มแี ค่เพียงองค์กรขนาดใหญ่ แต่ขนาดเล็ก และกลางก็มีให้เห็นอยูบ่ า้ ง ส่วนมากแล้วจะเป็นในเรือ่ งของการ เพิม่ เข้ามาของกระบวนการท�างาน ความโปร่งใสของข้อมูล และความกังวล เรื่องขีดความสามารถในการท�างานของบุคลากร ว่าจะสามารถรองรับกับ ฟังก์ชนั ทีเ่ พิม่ เข้ามาได้หรือไม่ ซึง่ ถ้ามองในภาพรวมจริงจะพบว่า การปรับปรุง องค์กรด้วย Digital Solution จะช่วยลดทอนความยุง่ ยากของกระบวนการทีซ่ า�้ ซ้อน และสามารถใช้ทรัพยากรในส่วนที่เพิ่มประสิทธิผลกับองค์กรได้มากยิ่งขึ้น ซึง่ สิง่ นีค้ อื เรือ่ งทีท่ าง Atos พยายามเน้นย�า้ เป็นจุดขายมาโดยตลอด มีคา� แนะน�าอย่างไรส�าหรับลูกค้าทีจ่ ะตัดสินใจใช้ IT Solution เพือ่ พัฒนา และปรับปรุงองค์กร ั สินใจใช้ Digital Solution เพือ่ ปรับปรุงองค์กร ปริญญา องค์กรทีย่ งั ไม่ตด อาจมาจากหลายสาเหตุ ซึง่ ต้องมีการสอบถามพูดคุย และ Atos ก็พร้อมทีจ่ ะเข้าไปตอบโจทย์ตอ่ ปัญหาและความต้องการนัน้ ๆ และน�าเสนอ สิง่ ทีเ่ หมาะสมต่อองค์กรลูกค้า แต่สา� หรับองค์กรทีย่ งั ไม่ได้มแี ผนงานในการปรับปรุงโดย Digital Solution จริงๆ ก็อยากจะให้พจิ ารณาถึงแนวทางในการพัฒนาธุรกิจขององค์กรทัง้ ระยะสัน้ ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งในระยะหนึ่งอาจจะสามารถด�าเนินต่อไปได้ แต่ถา้ เมือ่ ถึงอีกจุดหนึง่ มีความเป็นไปได้ทจี่ ะเกิดความติดขัด ก็สามารถติดต่อ สอบถามทางเราได้เช่นกันครับ


e d i t o r

'

s

n o t e

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน กับนิตยสาร GM ฉบับครบรอบปีที่ 36 ก้าวสู่ปีที่ 37

ต้องยอมรับครับว่า ปีที่ผ่านมาและก้าวย่างต่อไปนับจากนี้หนักหน่วงอย่างมากกับทุกๆ ธุรกิจ และกับทุกๆ คน โดยเฉพาะกับวงการนิตยสาร เพราะแม้จะมีแฟนๆ หรือผู้อ่านอย่างเหนียวแน่น และให้การสนับสนุนเพียงพอ จนสามารถยืนหยัดอยู่ได้ แต่ทว่าร้านขายหนังสือ รวมถึงแผงขายนิตยสารที่เคยมีอยู่นั้นน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทำาให้ผู้อ่านหลายๆ ท่านที่เป็นแฟนคลับติดตามมาอย่างต่อเนื่องอาจจะซื้อหายากกว่าที่เคย นิตยสาร GM ก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน ซึ่งท่านผู้อ่านที่กำาลังอ่านสิ่งที่ผมเขียนอยู่นี้ ผมขอเริ่มต้นด้วยคำาขอบคุณอย่างสูง ที่ยังติดตามนิตยสารและสนับสนุนกันด้วยดีเสมอมา และขอยำ้าว่าจะไม่รีบหนีหายไปไหน จะพยายามทำาให้ นิตยสารของคนไทยยังคงยืนหยัดอยูใ่ ห้ได้นานทีส่ ดุ แต่ขอรบกวนบ้างในกรณีทหี่ านิตยสาร GM ในทีเ่ ดิมๆ ไม่เจอ การเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่มีร้านขายหนังสือรับรองมีแน่นอนครับ หรือจะติดต่อสอบถาม ช่องทางออนไลน์ที่ GM Live ก็ได้ครับ แน่นอนว่าด้วยความเป็นนิตยสารที่เรื่องราวไม่ได้รวดเร็วทันใจเหมือนกับสื่อบนโลกออนไลน์ แต่เนื้อหา ที่นำาเสนอนั้นเข้มข้น และลงลึกถึงเหตุและผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยเล่มนี้ยังคงมาในธีมเข้มๆ อย่าง Adaptability and Dynamic: ว่าด้วยเรื่องการปรับตัว และเลื่อนไหลเพื่อก้าวต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ กับปรากฏการณ์ที่มาพร้อมความคาดหวัง ซึ่งทางกองบรรณาธิการนิตยสาร GM ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้มีนัยสำาคัญและบ่งบอกถึง ความคิดของกลุ่มคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดีว่า...เขาคิดอย่างไร และ เขาอยากได้อะไร เช่นเดียวกับการเปิดกว้างมากขึ้นกับ ‘Pride Month’ ที่เสียงขับขาน LGBTIQ++ จากอดีตบรรพกาล สู่การเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียม ที่ดังก้องอย่างสง่าผ่าเผยมากขึ้นจนสังคมในวงกว้าง เปิดพื้นที่ในใจว่า สิ่งที่แตกต่างไม่ใช่สิ่งที่ต้องกด หรือทำาให้ไม่มีตัวตนอีกต่อไป ในขณะที่ GM Club เล่มนีไ้ ด้ธรุ กิจจากสองหนุม่ นักบริหารรุน่ ใหม่ ทีม่ มี มุ มอง แนวคิด และรูปแบบในการนำาพา องค์กรขับเคลื่อนฝ่ากระแสคลื่นลมของวิกฤติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ จากสิ่งที่เขาได้เริ่ม หรือสานต่อ โดย ดร.จักรพล จันทวิมล จะมาบอกเล่าความสำาเร็จกับ 10 ปีกับการตลาดแห่งความ ‘ธรรมดา’ ของแบรนด์ ‘นันยาง’ ขณะเดียวกันกับธุรกิจร้านยาที่หลายคนอาจจะมองว่าธรรมดา แต่ทว่ามันได้กลายเป็นธุรกิจที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์กับการส่งต่อความมั่นใจด้านสุขภาพ อาหาร และยา กับเภสัชกรธัชพล ชลวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำากัด (มหาชน) และพลาดไม่ได้กับเนื้อหาของ TREND BIZ ซึ่งมีการนำาเสนอถึงความเคลื่อนไหวในหัวข้อ The Future of BANKING / FINANCE / MONEY in 2030 โดย Mr.FinTech แซม ตันสกุล Managing Director บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำากัด กูรูผู้มีประสบการณ์มากกว่า 18 ปี ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ให้กับองค์กรชั้นนำาหลายแห่ง ส่วนคอลัมน์อื่นๆ นั้น ยังคงเน้นเรื่องราวและเกาะติดกระแสของไลฟ์สไตล์ อาทิ Car: Retro Go EV, Watch: Timeless Design, Gadget: เช็กลิสต์ Gadgets สุดลำ้านำาสมัยในช่วงปลายฤดูร้อน ย่างเข้าฤดูฝน และ Style ซึ่งเป็นการส่องโลกแฟชั่นในช่วงของการเข้าสู่หน้าร้อน Summer Trends สำาหรับกระแสความบันเทิงนั้นก็ยังมีให้อ่านเช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามกันครับ

อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์

ติดตาม GM Magazine ในรูปแบบ เว็บไซต์ได้ทาง www.gmgroup.in.th, www.gmlive.com ทาง facebook GM Live ทาง twitter @MagazineGM

* ข้อเขียน และภาพในนิตยสาร GM สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามน�าไปเผยแพร่ซ�้า ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ยกเว้นได้รับการยินยอม เป็ น ลายลั ก ษณ์ อั ก ษรจาก บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย กรุ๊ป จ�ากัด (มหาชน)

เรามีคอลัมน์เด่นๆ ประจำาเดือน ให้คณ ุ ได้อา่ นในฉบับย่อ และบทสัมภาษณ์คดั สรรแล้ว จากฉบับก่อนๆ รวมทัง้ คอลัมนิสต์ทม่ี แี ฟนคลับ ติดตามอ่านเป็นประจำา ใน GM ให้คุณได้อ่านกันอีกด้วย ลองคลิกเข้าไปกันครับ


“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ บมจ.ธนาคารกรุงศรี

เปิดตัวประติมากรรม ‘วาฬ’ ต่อยอดโครงการ Care the Whale” โครงการความร่วมมือ Care the Whale “ขยะล่องหน” มีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกด้วยการบริหารจัดการขยะ เริม่ ด�าเนินโครงการในปี 2562 มีรปู แบบการท�างานความร่วมมือเป็นเครือข่ายพันธมิตรทัง้ ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคสังคม และหน่วยงานทีเ่ ชีย่ วชาญในด้านการแก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อม จากขยะ โดยใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy มาประยุกต์ใช้เพือ่ ร่วมแก้ไขปัญหาขยะล้นโลกจนไหลลงสูท่ ะเล ทีส่ ร้างปัญหาภาวะ โลกร้อนด้วยการบริหารจัดการขยะทีเ่ หมาะสม ด้วยแนวคิด “ขยะล่องหน” ก�าจัดค�าว่าขยะให้หายไป ร่วมหาทางใช้ให้ถงึ ทีส่ ดุ ซึง่ แนวคิดการด�าเนิน โครงการ Care the Whale สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนของกลุม่ สหประชาชาติ (UNSDG)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะผูร้ เิ ริม่ โครงการ Care the Whale ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรซึง่ ปัจจุบนั มีถงึ 48 องค์กร ร่วมกันขับเคลือ่ นถ่ายทอด แนวความรู้ กลยุทธ์การบริหารจัดการ ถอดบทเรียน โดยใช้ความเชีย่ วชาญ ของสมาชิกในโครงการที่แตกต่างกัน ให้เป็นศูนย์เรียนรู้และสร้างผลลัพธ์ ทางสังคมด้านสิ่งแวดล้อม ภายในเครือข่าย ประกอบไปด้วย หน่วยงานภาคธุรกิจ ภาคสังคม และภาคนวัตกรรมทีม่ อี งค์ความรูร้ ว่ มกันออกแบบ แนวคิด หาทางออก ในการแปรรูปหรือการจัดการ ขยะอย่างเหมาะสม น�าไปสูก่ ารลดการฝังกลบขยะ หรือ Zero Waste to Landfills และลดก๊าซ เรือนกระจกได้อย่างแท้จริง นพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้า กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและพัฒนาเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า โครงการ Care the Whale เป็นการสร้างความ ร่วมมือในระดับหน่วยงานและผูป้ ระกอบการต่างๆ โดยน�าร่องจากพื้นที่หรือย่านถนนรัชดาภิเษก เป็นต้นแบบในการเรียนรูว้ ธิ คี ดิ และบริหารจัดการ ขยะ ปัจจุบนั โครงการได้ขยายการด�าเนินงานไปยัง พืน้ ทีแ่ ละชุมชนต่างๆ ได้แก่ ย่านศาลายา ย่านสาทร ย่านเพลินจิต ย่านคลองเตย ย่านวัชรพล และ ย่านสมุทรปราการ เป็นต้น ส�าหรับความร่วมมือ ในครัง้ นีท้ ที่ างตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รว่ มมือกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ�ากัด (มหาชน) เพือ่ ขยายพันธมิตรการลดขยะในย่านเพลินจิตซึง่ จะเป็นพืน้ ทีห่ ลัก ในการสะท้อนเรือ่ ง Circular Economy ในการบริหารจัดการสิง่ แวดล้อม ขยะ ของเสีย อย่างเป็นระบบ เป็นพืน้ ทีศ่ นู ย์การเรียนรูเ้ ริม่ ต้นส�าหรับองค์กรต่างๆ ทีส่ นใจการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ สามารถร่วมแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ในการบริหารจัดการสิง่ แวดล้อมและของเสียร่วมกัน พูนสิทธิ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน การพัฒนาด้านสิง่ แวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสูค่ วามยัง่ ยืน ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จ�ากัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีในฐานะสถาบันการเงินทีม่ ี

ความส�าคัญเชิงระบบ (Domestic Systemically Important Bank: D-SIB) มีความมุง่ มัน่ ร่วมแก้ปญ ั หาด้านสิง่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืน รวมถึงการลดปริมาณ ขยะและบริหารจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกทีเ่ กิดจากกระบวนการด�าเนินงานของธนาคารให้เหลือศูนย์ (Net Zero) มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก ปรับวิธคี ดิ และพฤติกรรมในการสร้าง ขยะจากต้นทาง พร้อมสร้างระบบการบริหาร จัดการขยะทีม่ ปี ระสิทธิภาพตัง้ แต่ตน้ ทาง กลางทาง ปลายทาง และวัดผลได้ โดยตัง้ เป้าลดขยะเชือ้ เพลิง (Refuse Derived Fuel) ที่จะไปสู่หลุมฝังกลบ ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2565 และมีแผนจะขยาย ไปสูพ่ นั ธมิตรบนถนนเพลินจิตภายในปี 2569 ประติมากรรม ‘วาฬ’ ทีม่ กี ารเปิดตัวต่อยอด โครงการ ‘Care the Whale’ ในครัง้ นี้ สะท้อน วิกฤติผลกระทบรุนแรงจากปัญหาขยะอย่างเป็น รูปธรรม โดยประติมากรรม ‘วาฬ’ ที่ตั้งอยู่ ณ อาคารกรุงศรี ส�านักงานเพลินจิต สร้างจาก วัสดุเหลือใช้ 100% จ�านวนทัง้ สิน้ 987 กิโลกรัม ซึ่งทั้งหมดหากถูกฝังกลบจะเป็นขยะที่สามารถ ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกปริมาณ 2,154 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2562 ถึงปัจจุบัน โครงการ Care the Whale สามารถบริหารจัดการขยะรวม 5.4 ล้านกิโลกรัม เทียบเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกได้ 16.25 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 1.8 ล้านต้น ส�าหรับองค์กรต่างๆ ทีส่ นใจการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ร่วมกัน พัฒนา ด�าเนินการ ลด แยก จัดเก็บ จัดการ เพือ่ ให้ขยะไม่ใช่ขยะอีกต่อไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาเพือ่ สังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย E-mail: socialdevelopmentdepartment@set.or.th


ผู้ก่อตั้ง ปกรณ์ พงศ์วราภา บรรณาธิการที่ปรึกษา ณิพรรณ กุลประสูตร บรรณาธิการบริหาร อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ ขนิษฐา เผือกผ่องใส กองบรรณาธิการ มนตรี จอมพันธ์, สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์​์, วิทวัส ปัญญาเลิศวุฒิ บรรณาธิการศิลปกรรม ปรีชา สอวัฒนชาติ ศิลปกรรม ทรรณทรณ์ ช่วยพนัง ฝ่ายภาพ พิชญุตม์ คชารักษ์ พิสูจน์อักษร อภิรดี นุตตะโร

บริษัท จีเอ็ม ยูนิคอร์น กรุ๊ป จำากัด (มหาชน) ประธานกรรมการบริหาร / กรรมการผู้จัดการ ปกรณ์ พงศ์วราภา รองประธานกรรมการบริหาร สายงานปฏิบัติการ อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ สายงานการเงิน พรจิตต์ พงศ์วราภา สายงานนิวมีเดีย พีศิลป์ พงศ์วราภา

บริหารฝ่ายโฆษณา / การตลาด กรองทอง สันดุษฎี ผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์การตลาด ณัฐพล ขุนเจริญ ผู้จัดการทั่วไป ภานุวัชร พงศ์วราภา ผู้จัดการฝ่ายการเงิน วิมลลักษณ์ อาศัยพานิชย์ ฝ่ายบัญชี นุชนารถ ใจประสาท, เตือนใจ พรหมจรรย์

: GURU & MENTOR MAGAZINE IS PUBLISHED BY GM UNICORN GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED

บริหารการตลาดโดย

บริษัท วันวันทู สตูดิโอ จำากัด 1/178 ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160

www.gmlive.com

112 Studio Company Limited 1/178 Bangweak Rd., Bangphai, Bangkae Bangkok 10160

ฝ่ ายโฆษณา / การตลาด

Tel. 0 8 16 5 9 7 0 0 8 Facebook.com/gmliveonline Email : editor@gmlive.com CHAIRMAN / CEO PAKORN Pongvarapa EXECUTIVE VICE PRESIDENT Chief Operation Offificer APIRAK Harnpichitwanich Finance PORNJITT Pongvarapa New Media PESILP Pongvarapa

ART DIRECTOR GENERAL MANAGER

ปกรณ์ พงศ์วราภา เจ้าของ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ในนาม บริษัท จีเอ็ม ยูนิคอร์น กรุ๊ป จำากัด (มหาชน)

PRECHA Sowattanachat PANUVAT Pongvarapa

สั่งซื้อ e-Magazine ของ GM ได้ที่ App Store และ Play Store

AIS Book Store

Ookbee

Ookbee Buffet

Magzter

จัดจำาหน่ายทั่วประเทศ : เพ็ญบุญจัดจำาหน่าย โทร. 0 2615 8625 แยกสี : กนกศิลป์ (ไทยแลนด์) โทร. 0 2215 1588 พิมพ์ที่ : โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์ โทร. 0 2434 6850-1


สิงห์ เอสเตท ชูกลยุทธ์ RISE ABOVE ส่งมอบคุณค่าการอยูอ่ าศัยเหนือระดับ รุกตลาดบ้านระดับลักชัวรี เปิดโครงการแรกกันยายนนี้ สิงห์ เอสเตท เตรียมทุม่ งบกว่า 3.2 หมืน่ ล้านบาท รุกตลาดบ้านระดับลักชัวรีเต็มรูปแบบ ต่อยอดความส�าเร็จจากโครงการสันติบรุ ี เดอะ เรสซิเดนเซส ชูจดุ ขายแนวคิดการพัฒนาโครงการคุณภาพ เพือ่ ส่งมอบคุณค่าการอยูอ่ าศัยประสบการณ์เหนือระดับ Best-in-class ภายใต้แนวคิด “RISE ABOVE” ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจพักอาศัย บมจ.สิงห์ เอสเตท ผูพ้ ฒ ั นา และลงทุ น ในธุ ร กิ จ อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ชั้ น น� า ของไทย เผยถึงแผนการพัฒนาธุรกิจพักอาศัยของ สิงห์ เอสเตท ว่า “ด้วยเทรนด์ปัจจุบันที่คนมองหาบ้านที่ส่งเสริม คุณภาพชีวติ ต้องตอบโจทย์ฟงั ก์ชนั ทีห่ ลากหลายมากขึน้ สิงห์ เอสเตท จึงได้นา� แนวคิดนีม้ าออกแบบโครงการ ที่พักอาศัยที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในความ ต้องการของผู้บริโภคตลาดระดับบน ตอกย�้าจุดยืน Enriching Life ในการสร้างคุณค่าและความยั่งยืน ให้ทกุ ชีวติ ใส่ใจในทุกรายละเอียด และมุง่ มัน่ พัฒนา โครงการให้เป็น Best-in-class ด้วยคุณภาพระดับสากล ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิง่ แวดล้อม” “เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าให้เหนือกว่า มาตรฐาน เพือ่ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี องผูอ้ ยูอ่ าศัยเป็นหลัก กลยุ ท ธ์ ใ นการพั ฒ นาของเราคื อ ‘RISE ABOVE’ ประกอบด้วย ABOVE THE NUMBER สิงห์ เอสเตท วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเน้นท�าเลทีม่ ศี กั ยภาพ ABOVE THE DESIGN & SERVICE ออกแบบบ้านให้สวยงามอยูค่ กู่ าลเวลา มีพนื้ ทีใ่ ช้สอย ที่ดีปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานส�าหรับทุกๆ คน ในครอบครัว โดยค�านึงถึงสภาพแวดล้อมการอยูอ่ าศัย ในบรรยากาศทีร่ ม่ รืน่ ในทุกๆ ด้าน อาทิ เรือ่ งของแสงแดด ความร้อน การระบายอากาศ การใช้พลังงานธรรมชาติ รวมถึงการมีระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้านทีร่ ดั กุม มี Maintenance Alert ทีแ่ จ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน

ENRICHING LIfE ตามแบบ สิงห์ เอสเตท

กลุม่ ธุรกิจทีพ่ กั อาศัย ลูกบ้านจะได้รบั สินค้าทีม่ คี ณ ุ ภาพ เน้นการส่งต่อจากรุน่ สูร่ นุ่ กลุม่ ธุรกิจโรงแรม ส่งมอบคุณค่าผ่านประสบการณ์ ทีเ่ ป็นเลิศให้กบั ลูกค้าโรงแรม ในเครือ 39 แห่งทัว่ โลก กลุม่ ธุรกิจคอมเมอร์เชียล ส่งมอบคุณค่า ด้านความคิดสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กบั ลูกค้า กลุม่ นักลงทุน ส่งมอบคุณค่าด้านความมัน่ คง ในการลงทุน เพือ่ สร้างความส�าเร็จทีย่ งั่ ยืน ผูค้ นและชุมชน ส่งมอบคุณค่าในการดูแลสิง่ แวดล้อม ทีด่ บี ริเวณรอบพืน้ ที่โครงการ

ในโทรศัพท์มอื ถือ เมือ่ ถึงเวลาทีต่ อ้ งบ�ารุงรักษา มีระบบ กรองอากาศ ระบบกรองน�้า มีนวัตกรรม ‘บ้านเย็น’ ทีช่ ว่ ยถ่ายเทอากาศให้บา้ นเย็นตลอดวัน อีกทัง้ ยังเงียบสงบ ปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอก ส่วนในด้านของการ บริการทางโครงการได้มกี ารขยายเวลารับประกันเพิม่ ขึน้ เพือ่ เพิม่ ความสบายใจในการเข้าอยูอ่ าศัย มีบริการผูช้ ว่ ย ส่วนตัวพร้อม Homecare ดูแลบ้าน แจ้งเหตุฉกุ เฉิน ตลอด 24 ชัว่ โมง ABOVE THE LIVING EXPERIENCE เติมเต็มประสบการณ์เหนือระดับกับ Privileges สิทธิประโยชน์ตา่ งๆ มากมาย ภายใต้ ‘S life’ จากบริษัท ในเครือและ Partners “จากทัง้ หมดนี้ จึงเรียกได้วา่ บ้านแบบ สิงห์ เอสเตท มีตวั ตนทีช่ ดั เจน ทัง้ ในเรือ่ งการออกแบบ ก่อสร้าง และ บริการ ทัง้ นี้ จะเปิดตัวโครงการแรกในช่วงเดือนกันยายน 2565 กับโครงการ ‘ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส’ บ้านเดีย่ ว ระดับ Super Luxury ด้วยราคา 50-100 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ท�าเลที่อยู่อาศัยส�าหรับ โครงการแนวราบเขตเมืองที่พรีเมียมที่สุดในปัจจุบัน มูลค่ารวม 2,900 ล้าน น�าเสนอแบบเอกซ์คลูซีฟ จ�ากัดจ�านวนเพียง 32 หลังเท่านัน้ ถัดมาทีจ่ ะเปิดตัว ในปีหน้า คือ บ้านเดีย่ วระดับ Luxury บน Premium Location ด้วยราคา 20-50 ล้านบาท โดดเด่น ด้วยการผสมผสานธรรมชาติ ให้เข้ากับการใช้ชีวิต เสมือนพักผ่อนในรีสอร์ต สะท้อน Stylish Luxury Lifestyle และสุดท้าย บ้านเดี่ยวระดับ Affordable Luxury 10-20 ล้านบาท ทีเ่ น้นตอบโจทย์การใช้ชวี ติ ความเป็น คนรุน่ ใหม่” ณัฐวุฒกิ ล่าวทิง้ ท้าย


GADGET

: Gadgeteers

เช็กลิสต์ Gadgets สุดล้�ำ นำ�สมัย

ฤดูรอ้ นผ่านพ้นไป และความฉ�า่ ของพายุฝนก�าลังจะย่างกรายเข้ามา เมือ่ เดือนเมษายนบอกลา พร้อมกับเดือนพฤษภาคมมาแทนที่ เช่นเดียวกับทุกครัง้ โลกของอุปกรณ์เครือ่ งมือเครือ่ งใช้ไฮเทคสุดล�า้ ไม่เคยหยุดนิง่ และยังคงร้อนแรงไม่วา่ จะเป็นฤดูกาลใดก็ตาม มาร่วมส�ารวจ เช็กลิสต์ Gadgets น่าสนใจทีพ่ ลาดไม่ได้กนั เลยครับ gocycle g 4

electric Bike

แม้ในทางปฏิบตั แิ ล้วเมืองหลวงของประเทศไทยอาจไม่เหมาะนักส�าหรับการ ‘ปัน่ จักรยาน’ ในชีวติ ประจ�าวัน แต่นนั่ ไม่ได้เป็นอุปสรรคส�าหรับคนทีร่ กั ษ์โลกและประหยัดค่าใช้จา่ ย จึงท�าให้ ‘จักรยานไฟฟ้า’ เป็นสิง่ ทีพ่ บเห็นได้โดยทัว่ ไป ซึง่ Gocycle G4 Electric Bike ก็สามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการนัน้ ได้อย่างครบถ้วน ทัง้ รูปทรงสุดเพรียว พับเก็บได้ในยามโดยสารรถขนส่งสาธารณะ, แอปพลิเคชันตรวจสอบระยะทาง ติดเครือ่ งอัตโนมัติ และเช็กแบตเตอรีค่ งเหลือ รวมถึงการออกแบบให้เหมาะสมกับสรีรศาสตร์ในทุกสภาพพืน้ ผิว Website: gocycle.com

SamSung m 8 Smart monitor

ในช่วงแรกเริ่มที่เทคโนโลยีความละเอียด ระดับ 4K เริม่ เข้าสูต่ ลาด แน่นอนว่าราคาย่อม ทะยานติดเพดาน แต่ในปัจจุบนั ทีค่ วามต้องการ เพิม่ สูงขึน้ การผลิตทีด่ ขี นึ้ ท�าให้ราคาลงมาในระดับ ทีจ่ บั ต้องได้ และ Samsung M8 Smart Monitor มอนิเตอร์ความละเอียดสูง จากแบรนด์ผผู้ ลิต สัญชาติเกาหลี ก็เป็นอีกตัวเลือกราคาประหยัด ทีน่ า่ สนใจ ด้วยความละเอียด 4K คมชัด พร้อมฟังก์ชนั เชือ่ มต่อกับทุกแอปพลิเคชันกับสตรีมมิง และ Built-in Speaker คุณภาพเสียงทีด่ ี อย่างพร้อมสรรพ Website: samsung.com


lego app - controlled a 500

mini

อุ ป กรณ์ ชิ้ น นี้ อ าจจะไม่ คุ ้ น เคยส� า หรั บ ตลาดทั่ ว ไปนั ก แต่ ‘Amiga’ คือหนึง่ ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ตามบ้าน (Personal Computer) ทีข่ ายดีและมีผใู้ ช้งานจ�านวนมากในแถบทวีปยุโรป ช่วงปลายทศวรรษ 1980 ถึงต้นทศวรรษ 1990 ด้วยความสะดวก ในการติดตัง้ ความครบเครือ่ งทัง้ การใช้งานและความบันเทิง รวมถึงความสามารถในการเขียนซอฟต์แวร์ใช้เอง (Homebrewed Software) และ ‘A500 Mini’ คือการย้อนวันวานของ Amiga ให้กลับมาอีกครัง้ แต่เน้นด้านความบันเทิงโดยเฉพาะวิดโี อเกม เป็นหลัก เพราะท�าการจ�าลองระบบปฏิบตั กิ ารของ Amiga 500, Amiga 600 และ Amiga 120 พร้อมเกมคลาสสิกอีก 25 เกม ในตัว อีกทั้งยังมีช่องเสียบ USB ส�าหรับติดตั้งเกมเพิ่มเติม และจอยแพดกับเมาส์ เพื่อรองรับความสนุกเต็มรูปแบบ Website: selfridges.com

logitech

litra glow

ประชุมทางไกล Online Conference จนถึงการอัด วิดโี อสตรีมมิง การเล่นเกม เผยแพร่ผา่ นเครือข่ายอย่าง YouTube และ Twitch ดูจะ เป็นสิง่ ทีป่ กติวสิ ยั ในชัว่ โมงนี้ ทั้ ง จากความเหมาะสม ของเทคโนโลยีการสื่อสาร และการทีต่ อ้ งอยูต่ ดิ กับบ้าน ในสภาวะ Work from Home จนแทบจะเป็นความเคยชิน แต่ถ้าจะเปิดหน้าออกกล้องทัง้ ที อย่าปล่อยให้หมองให้เทา หรือถูกมองว่าเข้าประชุมมันทัง้ ชุดนอน Logitech Litra Glow ‘เครื่ อ งฉายไฟให้ ห น้ า สว่ า ง’ จาก Logitech ชิน้ นี้ อาจเป็นสิง่ ทีด่ เู ล็กน้อย แต่ดว้ ยฟังก์ชนั การปรับแสงให้เหมาะสมกับทุกสภาพผิวหน้าและแสงสว่าง ภายในห้อง รวมถึงความเข้มแสงทีพ่ อดีในการใช้งานในระยะ เวลานานๆ จะท�าให้คุณเฉิดฉายส่องสว่างบนหน้ากล้องทันที Website: logitech.com

transformation Vehicle

เมือ่ พูดถึงของเล่นเพือ่ เสริมสร้างทักษะ แห่งการเรียนรู้ส�าหรับคนทุกวัย ‘ตัวต่อ เลโก้’ คือชื่อที่วิ่งเข้ามาเป็นล�าดับต้นๆ เพราะมีตงั้ แต่แบบทีง่ า่ ยและปลอดภัยส�าหรับ เด็กเล็ก จนถึงชุดต่อระดับหมืน่ ชิน้ มีความซับซ้อน ทางกลไกอย่างมหาศาลทีใ่ ช้งานได้จริง และ ‘LEGO Appcontrolled Transformation Vehicle’ ก็ คื อ อี ก หนึ่ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส าย Technic ที่ ไ ม่ ธ รรมดา ด้วยการประกอบสร้าง อย่ า งละเอี ย ดในทุ ก ขั้นตอน และการเชื่อม สั ญ ญาณควบคุ ม ผ่ า น แอปพลิเคชัน พร้อมสายพาน ล้อตีนตะขาบ ทีข่ บั เคลือ่ นผ่านได้ทกุ สภาพพืน้ ผิว ประยุกต์กบั การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ Website: lego.com

KoDaK luma 150

Portable Wireless Pocket Projector

นีค่ อื สิง่ ทีบ่ ง่ บอกความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการ ผลิตของยุคสมัยปัจจุบนั ทีส่ ามารถ ‘ย่อส่วน’ อุปกรณ์ที่ เคยมีขนาดใหญ่อย่าง ‘โปรเจกเตอร์’ ให้เหลือเพียงแค่ ‘ฝ่ามือ’ กับ KODAK Luma 150 Projector ทีไ่ ม่เพียงแต่จะ สามารถแสดงภาพได้กว้างถึง 150 นิว้ แต่ยงั มาพร้อม ช่องเสียบ Mini USB, Speaker ในตัว และแบตเตอรีท่ ่ี สามารถใช้ได้อย่างต่อเนือ่ งถึง 2.5 ชัว่ โมง ช่วยให้การพรีเซนต์ งานสามารถท�าได้ง่าย พกพาได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น Website: Kodak.com

1 5


Car

: ธนา เศรษฐพานิช

Retro Go EV

การมาถึงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่อนาคตส�าหรับคนใช้รถยนต์ดไี ซน์ใหม่ ทีช่ ว่ ยประหยัดพลังงานเท่านัน้ แต่ยงั เป็นความหวังดุจโอเอซิสของคนทีช่ นื่ ชอบรถยนต์คลาสสิกนับล้านคนทัว่ โลก เพราะปัญหาของคนทีด่ แู ลรถยนต์เก่าอายุรว่ มครึง่ ศตวรรษต้องเจอ คือ ค่าบ�ารุงรักษา และความจุกจิก ของเครื่องยนต์สันดาปที่พร้อมจะสามวันดีสี่วันไข้ได้ตลอดเวลา นั่นจึงท�าให้รถถูกจอดมากกว่าน�ามาขับ ซึง่ จริงๆ แล้วส�าหรับคนทีใ่ ช้รถคลาสสิกนัน้ ไม่ใช่คนขับรถเร็ว แต่ตอ้ งการแค่ขบั รถทีต่ วั เองรัก ออกไปอวดบนถนนได้อกี ครัง้ การน�ารถคลาสสิกมาดัดแปลงเป็นพลังไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกใหม่ทนี่ า่ สนใจ กับเงินลงทุนไม่กหี่ มืน่ ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ตอ้ งตามหาอะไหล่ให้ยงุ่ ยาก แถมยังได้ความแรงของพละก�าลัง และแรงบิดที่มากกว่าเครื่องยนต์เดิมติดไม้ติดมือมาด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมีเวิร์กช็อปหลายส�านักหันมาจับธุรกิจ ดัดแปลงรถคลาสสิกเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างมากหน้าหลายตา ดังที่ GM จะชวนคุณไปรูจ้ กั กับระดับท็อปของโลกกันครับ

Charge Cars: eleCtriC Mustang

ฟอร์ด มัสแตง ยุคแรก เป็นรถยนต์ที่ขับยากเหมือนม้าพยศ แต่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหญ่โต พละก�าลังสูง และหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งพอเจอกับอัตราซดน�้ามัน เจ้าของรถหลายคัน จึงเริ่มสตาร์ทเครื่องกันอย่างกระมิดกระเมี้ยน จนกระทั่งบริษัทเทคโนโลยีในลอนดอนอย่าง Charge Cars ได้น�า Ford Mustang Fastback รุ่นปี 1967 มาปรับโฉมใหม่ให้เป็น รถยนต์ไฟฟ้าสุดหรูร่วมสมัย ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่มีแรงม้าถึง 536 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.9 วินาที แล่นได้ไกล 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 รอบ ด้วยระบบ DC ของชุดแบตเตอรี่ 62 kWh สามารถ ชาร์จจาก 20 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ใน 1 ชั่วโมง Charge Cars Electric Mustang พร้อมให้จองแล้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 460,000 ดอลลาร์สหรัฐ


toteM autoMobili: alfa roMeo

อีกหนึง่ บริษทั จากเมืองเวนิส อิตาลี ทีร่ บั ดัดแปลง รถคลาสสิกเป็นพลังงานไฟฟ้า Totem Automobili เลือกจับคูส่ ปอร์ตอิตาลีอย่าง Alfa Romeo Giulia GT ปี 1970 มาบูรณะใหม่ ด้วยการถอดและแยก ชิ้นส่วนเจ้า GT ทุกชิ้น ก่อนปรับปรุงช่วงล่างและ ปรับปรุงเฟรมรถแบบแฮนด์เมดให้มคี วามแข็งแรงขึน้ ติดตั้งชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าใหม่ท�าให้รถมีพละก�าลัง ถึง 518 แรงม้า ในขณะทีเ่ ครือ่ งยนต์นา�้ มันเดิมมีกา� ลัง เพียง 192 แรงม้า เท่านัน้ ทีมงานของ Totem Automobili สร้าง หลังคาใหม่ทั้งหมดด้วยคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อให้รถ มีนา�้ หนักเบาทีส่ ดุ โดย 3D Printer ไฟหน้าทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี LED ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก รถแรลลีและกระจังหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมดนี้ ใช้กระบวนการงานหัตถศิลป์ของช่างชาวอิตาเลียน กว่า 8,000 ชัว่ โมง

eClassiCs: Volkswagen e-bulli รถโฟล์ค คาราเวล รุน่ แรกนัน้ ได้รบั ความนิยมจากนักสะสมไม่มวี นั เสือ่ มคลาย แม้เครือ่ งยนต์ จะวิง่ แทบไม่ไหว และมีอายุการใช้งานนานกว่า 60 ปี แต่ดว้ ยความช่วยเหลือของ eClassics ส�านักแต่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจากเยอรมนีได้ท�าให้รถตู้หัวแตงโมกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยการถอดเครือ่ งยนต์บอ็ กเซอร์ 4 สูบแบบเก่า ทีม่ แี รงม้า 43 ตัวออกไป แล้วแทนทีด่ ว้ ย มอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า ขับเคลือ่ นล้อหลัง เชือ่ มต่อกับแบตเตอรีข่ นาด 45 kWh ซึง่ ให้ระยะการเดินทางได้มากกว่า 220 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครัง้ และสามารถชาร์จ ได้อย่างรวดเร็วจากแบตเตอรี่ 0-80% ในเวลาเพียง 40 นาที โดย Volkswagen e-Bulli จ�ากัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 130 กิโลเมตรต่อชัว่ โมง ซึง่ แค่นมี้ นั ก็ดกี ว่าเดิมมากแล้วจริงๆ

DECEMBER 2021 - JANUARY 2022

1 75


Zero labs: land roVer อีกหนึง่ สตาร์ทอัปพลังงานสะอาดในแคลิฟอร์เนีย บริษทั ทีร่ วมวิศวกร นักออกแบบ นักวิจยั ผูท้ ชี่ นื่ ชอบรถมาไว้ดว้ ยกัน Zero Labs ช�านาญด้านการออกแบบแพลตฟอร์มไฟฟ้าทีม่ าเป็นชุดคิตของแชสซีทสี่ ามารถยกไปประกอบกับตัวถัง ของรถยนต์เครือ่ งยนต์เบนซินและดีเซลเดิมได้อย่างง่ายดาย โดยได้ทดลองติดตัง้ ใน Land Rover Series III ด้วยระบบขับเคลือ่ น 4 ล้อ แบบมอเตอร์คู่ กันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังแบบอิสระ แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 85-100 kWh สามารถแล่นได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร และมีพละก�าลังสูง 600 แรงม้า นอกจากการเปลีย่ นเครือ่ งยนต์สนั ดาปภายในเป็นแบตเตอรีแ่ ละมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว Zero Labs ยังได้ปรับโครงสร้างเครือ่ งยนต์ 4x4 แบบเก่าใหม่ทงั้ หมด ในราคาประมาณ 185,000 ดอลลาร์สหรัฐ

retro go eV @ thai

eleCtrogeniC Citroen ds

1 8

เกาะอังกฤษดูเหมือนจะมีบริษัทรับดัดแปลงรถยนต์เป็น พลังงานไฟฟ้าอยูห่ ลายแห่งมาก Electrogenic ก็เป็นหนึง่ ในนัน้ แต่ดว้ ยความมัน คือการไปหยิบเอาคลาสสิกคาร์ระดับ ไอคอนของเมืองน�า้ หอม Citroën DS ปี 1971 มารีบลิ ด์ใหม่ Electrogenic เริ่มต้นด้วยการถอดเครื่องยนต์เบนซิน และแทนทีด่ ว้ ยมอเตอร์ไฟฟ้าทีม่ พี ละก�าลัง 120 แรงม้า และ แรงบิด 173 ปอนด์-ฟุต โดยยังคงเชือ่ มระบบส่งก�าลังเข้ากับ ชุดเกียร์เดิมและระบบขับเคลือ่ นล้อหน้า โดยใช้แหล่งพลังงาน จากแบตเตอรี่ขนาด 48.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ให้ระยะทาง ประมาณ 225 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครัง้ ซึง่ การแปลงนี้ ยังคงรักษาระบบกันสะเทือนแบบ Hydro-pneumatic อันเป็น เอกลักษณ์ของ DS แต่แทนทีป่ ม๊ั ไฮดรอลิกด้วยปัม๊ ไฟฟ้าแทน ซึง่ บริษทั อ้างว่าเสียงเงียบกว่าเดิมด้วย

ในส่วนของประเทศไทยการน�ารถเก่ามาสวมหัวใจใหม่เป็นพลังงานไฟฟ้า เริ่มมีการทดลองกันในหมู่ช่างอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่จะเริ่มจาก จักรยานยนต์ก่อนเพราะความซับซ้อนน้อยกว่า แต่ที่เป็นรถยนต์ คลาสสิกจริงจังตอนนี้น่าจะมี 2 อู่ ที่ ส ร้ า งรถออกมาวิ่ ง ได้ จ ริ ง แบบ ไร้ปญ ั หา นัน่ คือ บริษัท อี วี คาร์ (ไทยแลนด์) จ�ากัด ย่านปทุมธานี ที่ปรับตัวจากธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ และซ่อมรถยนต์ทวั่ ไป หันมาให้บริการ ดัดแปลงรถเก่าให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า โดยรุน่ ทีท่ า� เสร็จออกมาแล้ว คือ BMW 700 Coupe และ Volvo รุน่ ปี 1960 ซึง่ เมือ่ แปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าสามารถ ท�าความเร็วได้ดีกว่าเครื่องยนต์เดิม โดยมีงบเริม่ ต้นคันละประมาณ 300,000 บาท รายละเอียดเพิม่ เติม https://evcar.co.th/th/ ส่วนอีกแห่ง คือ อูร่ ถไฟฟ้า ล�าพูน WP. WPEV อ�าเภอ แม่ทา ล�าพูน ทีม่ ผี ลงานด้วย การน�า Volkswagen Beetle หรือโฟล์คเต่ามาดัดแปลงเป็น พลังงานไฟฟ้า 35 กิโลวัตต์ ท�าความเร็วได้ 100 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง วิ่งได้ไกล 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รายละเอียด เพิม่ เติม https://web.facebook.com/WPEV - อูร่ ถไฟฟ้าล�าพูน


lunaZ ClassiC: บริษัทสตาร์ทอัปสัญชาติอังกฤษ Lunaz ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 british ClassiC eV โดย เดวิด ลอเรนซ์ นักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ ซึ่งต้องการที่จะหยุดวงจร

การซื้อรถยนต์ใหม่ที่มีส่วนในการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง ด้วยการน�ารถเก่าเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น รถขนขยะ รถดับเพลิง รถในสนามบิน มาดัดแปลงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และล่าสุดได้เปิดไลน์ปรับปรุงรถยนต์คลาสสิกส�าหรับนักสะสม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีรถคลาสสิกของเกาะอังกฤษหลายสิบคัน มาเข้าคิวให้ Lunaz ติดมอเตอร์ไฟฟ้าให้ อาทิ Rolls-Royce, Jaguar, Range Rover และ Aston Martin

รถยนต์คันแรกที่เสร็จสมบูรณ์ คือ โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม วี ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด และติดตั้งระบบส่งก�าลังไฟฟ้าที่ลูนาซ พัฒนาขึ้นเอง โดยมีแบตเตอรี่ขนาด 80 kWh ที่ท�าให้รถแล่นได้มากกว่า 300 ไมล์ (483 กม.) นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ ระบบน�าทาง จอ LCD ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน ฯลฯ โดยลูนาซจะเน้นที่การใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ในการตกแต่งห้องโดยสาร โดยไม่ใช่หนัง และขนสัตว์ในการตกแต่ง ด้วยความเนี้ยบที่คิวยาวแบบนี้ เดวิด เบ็คแฮม จึงไม่ลังเลที่จะเข้าไป เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุน ของ Lunaz

APRIL-JUNE

2022

1 7


wATcH : FULLMOON

Timeless Design ความโดดเด่นของงานออกแบบและสร้างสรรค์นาฬิกา ทีย่ งั คงแสดงออกถึงความดัง้ เดิมและสไตล์อนั คลาสสิก ร่วมสมัยเหนือกาลเวลา

1.

TAG HEUER MonAco GUlf SpEciAl EdiTion

กลับมาอีกครัง้ กับนาฬิการุน่ พิเศษทีม่ คี วามสวยเด่นของงานออกแบบ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความเชือ่ มโยงระหว่างแบรนด์และต�านานแห่ง Gulf ในภาพยนตร์ Le Mans รวมถึง Steve McQueen ทีส่ วมใส่ Monaco จนกลายเป็นดัง่ สัญลักษณ์รว่ มกัน โดยรุน่ ใหม่นยี้ งั คงรูปทรงตัวเรือน Monaco ดัง้ เดิม และมาพร้อมสีสนั ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของ Gulf ทัง้ สีนา�้ เงิน สีเทอร์คอยซ์ และสีสม้ รวมถึงโลโก้ Gulf สีขาวโดดเด่นเหนือต�าแหน่ง 6 นาฬิกา บรรจุไว้ดว้ ยกลไกล�า้ สมัย Heuer 02

2.

ZEniTH cHRonoMASTER SpoRT ถอดต้นแบบจากนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟอันเลือ่ งชือ่ ของแบรนด์มาสู่คอลเลกชันล่าสุดของ Chronomaster Sport ที่เปิดตัวในปี 2021 และวันนี้ยังน�าเสนอไอคอน แห่งโครโนกราฟนีด้ ว้ ยเวอร์ชนั ใหม่ โดยเฉพาะการผสมผสาน อย่างโดดเด่นของตัวเรือน 41 มม. และสายแบบทูโทน ท�าจากสเตนเลสสตีลและโรสโกลด์ รวมถึงขอบตัวเรือนทอง รับกับหน้าปัดโทนสีเงิน จัดวางหน้าปัดย่อย 3 โทนสีตา่ งกัน เพื่อการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนที่เป็นเอกลักษณ์ บรรจุด้วย กลไก El Primero ส�ารองพลังงานได้ 60 ชัว่ โมง


3.

RAdo Captain Cook HigH-teCH CeramiC Diver Captain Cook มีความโดดเด่นทัง้ งานออกแบบและสมรรถนะเหนือกาลเวลา ทัง้ ยังสามารถวิวฒ ั นาการสูก่ ารสร้างสรรค์ใหม่ๆ ได้ไม่มสี นิ้ สุด ซึง่ นัน่ รวมไปถึงนาฬิกา ด�าน�า้ รุน่ ล่าสุดทีน่ า� เสนอด้วย 2 นวัตกรรม ทัง้ การเป็นนาฬิกาด�าน�า้ ท�าจาก ไฮเทคเซรามิก ด้วยคุณสมบัตขิ องความทนทาน แต่นา�้ หนักเบา สวมใส่สบาย และกันน�า้ ได้ลกึ 300 เมตร ซึง่ ได้รบั การรับรองมาตรฐาน ISO 6425 เป็นครัง้ แรกของแบรนด์ ภายในติดตัง้ ด้วยกลไก Calibre R763 ส�ารองพลังงานได้ถงึ 80 ชัว่ โมง

4.

lonGinES tHe Longines LegenD Diver WatCH

5.

T U d o R B L a C k B ay CHrono s&g ได้ตน้ แบบจากเรือนเวลาโครโนกราฟรุน่ แรกของ แบรนด์อย่าง Oysterdate ปี 1970 มาผสมผสานไว้กบั ความเป็นมืออาชีพของนาฬิกาด�าน�า้ สมรรถนะสูง และมอบเป็นผลงานรุน่ ใหม่ทเี่ ติมความโดดเด่น จากการหลอมรวมระหว่าง 2 วัสดุ คือ สตีล 316L และเยลโลโกลด์ อันเป็นทีม่ าของชือ่ รุน่ S&G (Steel & Gold) โดยรุน่ ใหม่นมี้ าพร้อมกลไก Manufacture Calibre รวมถึงความแม่นย�าของฟังก์ชันโครโนกราฟ ภายใต้ดีไซน์สปอร์ตชิกของตัวเรือนขนาด 41 มม. คูห่ น้าปัดสีแชมเปญ ตัดกับหน้าปัดย่อยสีดา�

สืบทอดมรดกแห่งนาฬิกาด�าน�า้ Super-Compressor เรือนแรกจากปี 1959 มาผสมผสานด้วยต้นแบบของ นาฬิกาด�าน�า้ ยุคใหม่ สูค่ วามสวยเด่นของงานออกแบบ นาฬิกาสไตล์คลาสสิกสปอร์ตรุน่ ใหม่ พร้อมทัง้ ตัวเลือก ของสีสนั ทัง้ สีแซนด์เบจ สีแอชเกรย์ สีนา�้ เงิน สีนา�้ ตาล และสีดา� ภายใต้ตวั เรือน 42 มม. ท�าจากสตีล หรือเวอร์ชนั ตัวเรือนบรอนซ์คหู่ น้าปัดสีเขียวไล่เฉด ภายในขับเคลือ่ น ด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ Calibre L888.5 และฝาหลัง สลักไว้ดว้ ยสัญลักษณ์นกั ด�าน�า้ แบบรุน่ ดัง้ เดิม

2 1


Summer Trends

: Alled-Martinez

เทรนด์สำ�หรับ หน้�ร้อนนี้ : Dolce&Gabbana : Dsquared2

Show off การโชว์ขอบกางเกงในเป็นการตลาด ของแบรนด์กางเกงชัน้ ในมาตัง้ แต่ ยุค ’90s โดยเฉพาะ Calvin Klein ที่พยายามผลักดันให้ขอบกางเกงใน ทีม่ คี า� ว่า Calvin Klein นัน้ เป็นสิง่ ทีต่ ้องโชว์ ในซัมเมอร์นี้ก็เช่นเดียวกัน หลายแบรนด์ตา่ งๆ พยายามดึง สิง่ ที่ถูกกางเกงหรือเสื้อทับไว้ไม่ให้เห็น ให้ออกมาโชว์อย่างโจ่งแจ้ง ดังเช่น Dolce&Gabbana ทีม่ าพร้อมลุค เสื้อผ้าที่โชว์ขอบกางเกงอย่างตั้งใจ เช่นเดียวกันกับ Roberto Cavalli หรือ Dsquared2 : Roberto Cavalli


: Santichai Apornsri

STYLE

BEACh ViBE

: Ami

: Etro

: Prada

: MSGM

ไม่วา่ ฤดูนคี้ ณ ุ จะได้ไปทะเลหรือไม่ แต่การน�าเอาไอเทมต่างๆ ทีม่ กี ลิน่ อาย ของชายทะเลมาผสมผสาน ในการแต่งตัว แม้จะเป็นการแต่งตัว ในช่วงสุดสัปดาห์ในเมืองใหญ่กต็ าม แต่กช็ ว่ ยให้มชี วี ติ ชีวาขึน้ มานิด อย่าง เสือ้ เชิต้ ทีม่ คี วามพลิว้ ไหว บางเบา ลายพิมพ์และสีสนั สดใสในแบบ หน้าร้อน กางเกงขาสัน้ สไตล์บชี แวร์ ทั้งหลาย รองเท้าแตะ แม้กระทั่ง หมวกสาน สิ่งเหล่านี้สามารถ หยิบจับมาใช้ได้โดยไม่จ�าเป็น ว่าต้องไปทะเลอย่างเดียว เดินห้างในเมืองนีแ่ หละก็เก๋แล้ว

SkirT for MEn

: Louis Vuitton

ปัจจุบนั นีจ้ ะเห็นเด็กผูช้ ายเจนซีหลายคน ใส่กระโปรงออกจากบ้านเป็นเรือ่ งปกติเหมือนกับ ทีใ่ ส่กางเกง นัน่ เป็นเพราะแรงผลักดันของ บรรดาดีไซเนอร์หลากหลายแบรนด์ทที่ า� ให้ กระโปรงส�าหรับผูช้ ายเป็นเรือ่ งปกติธรรมดา หนึง่ ในคนทีพ่ ยายามจะน�าเอากระโปรงส�าหรับ ผูช้ ายขึน้ รันเวย์ในเกือบทุกซีซนั ก็คอื Virgil Abloh ผูล้ ว่ งลับ ดังเช่นในคอลเลกชันฤดูรอ้ น ของ Louis Vuitton ทีม่ ลี คุ กระโปรงส�าหรับ ผู้ชายหลากหลายลุค โดยเฉพาะกระโปรงยาว จับจีบทีก่ ลายมาเป็นไอเทมส�าหรับผูช้ าย รุน่ ใหม่แล้วในตอนนี้

BodY ConSCiouS

: Gucci

: Fendi

ชุดจัมป์สทู คว้านอกปักเลือ่ มของ Harry Styles บนเวที Coachella คงท�าให้หลายคน เริม่ เสาะแสวงหาชุดเด็ดมาใส่ในวันพิเศษ กันบ้างแล้ว จะเห็นได้วา่ เทรนด์ของการโชว์ ตรงนัน้ นิดตรงนีห้ น่อยของผูช้ ายนัน้ เริม่ เป็นกระแสมากขึน้ และไม่ตอ้ งแคร์วา่ จะมากเกินไปหรือเปล่า เพราะยุคนี้ คือยุคทีม่ ดี ตี อ้ งโชว์ อย่างชุดจัมป์สทู ของ Gucci ทรงเดียวกันกับที่ Harry Styles สวมใส่ ชุดคัตเอาต์เป็นวงกลมตรงช่วงใต้อกของ Courr ges หรือชุดครอปทอปของ Fendi

: Courrèges

2 3


Summer

Hair Style

: Vetements

SkinhEAd

อากาศร้อนๆ แบบนี้ ทางออกที่ง่ายที่สุดก็คืออย่ามีผม (ยาว) มันซะเลย ผมสั้นแบบติดหนังศีรษะหรือสกินเฮดอาจจะเป็น ทางเลือกที่ดีส�าหรับหนุ่มขี้ร้อน แต่สกินเฮดเองก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ไถเกลี้ยงทั้งศีรษะราวกับพระบวชใหม่ หรือจะใช้ บัตตาเลียนเบอร์ 1 เบอร์ 2 ที่พอยังให้มีผมอยู่บ้าง ไม่ก็ไถ ด้านข้างเหลือด้านบนไว้สักหน่อยเหมือนทรงทหารเกณฑ์ แต่ที่มีความครีเอทีฟขึ้นมานิดก็คือนายแบบจากรันเวย์ Vetements ที่มีการตัดแต่งทรงสกินเฮดเหมือนกับการถักเปีย ติดหนังศีรษะ

ทรงผมสำ�หรับหนุ่มๆ ในหน้�ร้อนนี้ : Dunhill

CoLorEd

หน้าร้อนมาพร้อมกับเทรนด์การท�าสีผม โดยเฉพาะที่เมืองไทย ซึ่งเป็นช่วงการปิดเทอมใหญ่ของเด็กๆ เปิดโอกาสให้ได้ไว้ผมยาวไปจนถึงการท�าสีผม และเทรนด์การท�า สีผมเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในไทย เราจะเห็นได้ว่าโทนสีแบบออมเบรก�าลังมาแรง หรือโทนสีฝุ่น โทนสีที่ท�าให้ผมดูมีมิติมากกว่าท�าสีเดียวโดดๆ สีที่ท�าให้ดูเป็นผมเสียเหมือนสีที่เกิดจากการมัดย้อมหลายสี รวมกันแต่ทว่าเป็นความตั้งใจ นอกจากนี้ยังเห็นการใช้สีเพื่อสร้างลวดลาย เหมือนกับลายเสือบนรันเวย์ของ Burberry : Burberry

: Kidill

: Yohji Yamamoto

: Doublet

BrAid

การถักเปียเดรดล็อก อาจจะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะ ช่วยเปลี่ยนลุคของหนุ่มๆ ใน : Missoni : Blue Marble ซัมเมอร์นี้ เพื่อให้ดูเซอร์มากขึ้น รีแลกซ์มากขึ้น และเป็นชาวเกาะมากขึ้น แต่อาจจะยากและต้องรักษาความสะอาดมาก สักหน่อย โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่เหงื่อออกง่ายและอุณหภูมิพุ่งทะยานทะลุปรอทขนาดนี้ แต่ก็ด้วยความร้อนนี่แหละที่ท�าให้ฤดูร้อนกลายเป็นฤดูท่องเที่ยว เป็นช่วงเวลาที่ใคร หลายคนอาจจะไปใช้ชีวิตในช่วงสุดสัปดาห์ที่เกาะหรือทะเล และจังหวะนี้เองที่การถักผม อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

: Yohji Yamamoto


BoB

ช่วงที่ผ่านมาทรงผมที่เรียกว่า Mullet นั้น มาแรง กับผมด้านหน้าสั้นเหมือนหน้าม้า ไถด้านข้างขึน้ สูงและปล่อยรากไทรด้านหลังยาว อิทธิพลของทรง Mullet ยังมีให้เห็นอยู่ นิดหน่อย แต่ที่มาแรงทุกรันเวย์จริงๆ ก็คือ ผมบ๊อบสั้นส�าหรับผู้ชาย มีทั้งแบบความยาว เลยติ่งหูหรือยาวประบ่า ทั้งแบบดัดปลาย เล็กน้อยเพื่อให้ผมมีวอลุ่ม หรือปล่อยตรง แสกกลางเหน็บผมที่ใบหูเรียบง่าย ส�าหรับหนุม่ ๆ ทีอ่ ยากจะลองไว้ผมยาวดูสกั ครัง้ อาจจะเริ่มต้นที่ผมบ๊อบแบบนี้ดูก็ได้

: Celine

: Dunhill

: Hermès

The Coming Back of Y2K : Diesel

ก�รกลับม�ของเทรนด์ Y2K เคยได้ยินค�าว่า Y2K กันบ้างไหม หลายคนที่เกิดก่อน ยุค ’90s คงคุ้นหูกับค�านี้ดี เพราะ Y2K หรือ Year 2000 หรืออีกค�าหนึ่งที่เรียกกันบ่อยๆ ก็คือ มิลเลนเนียม คือค�าที่ใช้พูดถึงปีคริสต์ศักราช 2000 ในช่วงก่อนที่จะถึง ปี 2000 ซึ่งที่จริงเป็นการพูดถึงในเชิงที่ไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค�าท�านายอนาคต หรือตัวเลข 00 รั้งท้ายปี 2000 ที่จะท�าให้ระบบดิจิทัลทั้งโลกปั่นป่วน แต่ในที่สุดเราก็ผ่านปี 2000 นั้นมาได้ ในอีกแง่หนึ่งซึ่งช่วงปี 2000 เป็นที่กล่าวถึง นั่นก็คือ เรื่องเทรนด์ ที่ค�าว่ามิลเลนเนียม หรือ Y2K นั้น ดูเป็นศัพท์เทคนิคที่มาพร้อมกับเทรนด์แห่งความล�้า ไม่ว่าจะเป็น เฉดสีเงินที่บ่งบอกถึงอนาคต ความก้าวล�้า สไตล์ฟิวเจอริสติก : Dolce&Gabbana

กับเสื้อผ้าที่ดูอวองต์การ์ด ประดับไปด้วยคริสตัลแวววาว หรือรูปทรงที่ดูผิดเพี้ยนราวกับคอสตูมในหนังอวกาศทั้งหลาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง Y2K

2 5


แต่หากมองยุค Y2K ด้วยสายตาของคนเจเนอเรชัน ปัจจุบันที่เกิดในช่วงยุคนั้น หรือหลังจากนั้นที่ยังไม่รู้ ประสีประสา ยังเด็กและจ�าอะไร ไม่ได้ เมื่อหันมองกลับไปจะพบ รูปแบบของเทรนด์อีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกางเกงหรือกระโปรง เอวต�่า การใส่เดนิมทั้งตัว เสื้อผ้าวิบวับในแบบของแบรนด์ Juicy Couture กางเกงยีนส์ ตัวใหญ่ เสื้อผ้าพิมพ์ลายที่ตอนนี้ ดูเชยเฉิ่มแล้ว เสื้อทีเชิ้ตตัวสั้น หรือชุดออกก�าลังกาย เข้าเซต : Vetements

และสิ่งเหล่านี้เองที่ท�าให้คนเกิดไม่ทันยุคนั้น ต้องกลับไปขุดมาสวมใส่อกี ครัง้ จนท�าให้เทรนด์ Y2K กลับมาฮอตฮิตในตอนนี้ : Lazoschmidl เราจะเห็ น เทรนด์ Y2K บนรันเวย์ในฤดูกาลนีท้ งั้ สิง่ ทีเ่ รียก ว่าเบบี้ทีเชิ้ต ทีเชิ้ตเข้ารูปตัวสั้น หรือครอปทอป ในแบบทีเ่ ห็นบน รันเวย์ Lazoschmidl เสือ้ ผ้าทีม่ ี ความมันวาว การใช้ความวิบวับ ต่างๆ ในแบบ Dolce&Gabbana หรือ ERL เดนิม กางเกงยีนส์ ตัวโคร่งในแบบ Diesel หรือสไตล์ ทีเ่ ห็นใน Dries Van Noten และ VTMNTS ซึง่ ได้รบั อิทธิพลมาจาก สไตล์ Y2K ทัง้ นัน้ นับเป็นความสนุกสนานของ เด็กเจนใหม่ทไี่ ด้ยอ้ นกลับไปในอดีตทีต่ นเองไม่เคย รู้จัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าเด็กยุค ’80s ยุค ’90s จะรูส้ กึ สนุกด้วยไหม หรืออยากให้สงิ่ นัน้ ผ่านไปแล้วผ่านเลย : ERL

: Dries Van Noten

: Diesel

ก้�วต่อไปของ Kenzo ภ�ยใต้ก�รทำ�ง�นของ Nigo


หลังจากการลาออกของ Carol Kim และ Humberto Leon สองคู่หูอดีตครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Kenzo ที่เคยท�าให้ Kenzo และสัญลักษณ์หัวเสือกลายเป็น ‘ของมันต้องมี’ ในระดับโลก โดยเฉพาะคอลเลกชันที่คอลแลบกับ H&M ซึ่งสร้างความฮือฮาไม่น้อย Kenzo ต้องอยู่ในสภาวะสุญญากาศมาสักพัก ก่อนที่จะประกาศชื่อ Tomoaki Nagao หรือที่รู้จักกัน ในนาม Nigo มารับต�าแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ Kenzo

หลายคนกล่าวว่า การที่ Kenzo ได้ Nigo มาท�างานให้นนั้ เป็นคน ทีเ่ หมาะสมทีส่ ดุ เนือ่ งด้วย Nigo ถือว่าเป็นเจ้าพ่อสตรีทแวร์คนหนึง่ ในวงการแฟชัน่ ก็วา่ ได้ Nigo เริม่ ต้นหนทางอาชีพของเขาด้วยการเป็นดีเจตอนอายุ 16 ปี เพราะความหลงใหลในดนตรีฮปิ ฮอป โดยตอนนัน้ เขายังไม่ได้สนใจ แฟชัน่ มากนัก แต่ชอบแต่งตัว โดยมี Hiroshi Fujiwara ดีไซเนอร์ เจ้าของแบรนด์ Fragment Design ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น โมเดิรน์ สตรีทแวร์เจ้าแรกเป็นไอดอล ซึง่ Hiroshi Fujiwara นีเ่ อง ที่ท�าให้ Nigo ตัดสินใจย้ายมาโตเกียวหลังจากเรียนจบชั้นมัธยม และเข้าเรียนที่ Bunka Fashion College ที่นี่...ท�าให้เขาได้พบกับ Jun Takahashi ซึ่งต่อมาคือผู้ก่อตั้ง แบรนด์ Undercover ทั้งคู่เข้าเรียนพร้อมกัน และตกหลุมรักกับ สตรีทแวร์เหมือนกัน Nigo นัน้ เริม่ สร้างชือ่ เสียงให้ตวั เองด้วยการเป็นดีเจในไนต์คลับ ในขณะเดียวกันการแต่งตัวที่โดดเด่นของเขาก็กลายเป็นที่พูดถึง จนไอดอลของเขา Hiroshi Fujiwara เสนอต�าแหน่งให้เขามาท�างาน เป็นผูช้ ว่ ยส่วนตัว และจากจุดนัน้ เองทีท่ า� ให้ Nigo เริม่ เข้าสูว่ งการ แฟชัน่ อย่างเต็มตัว และจากจุดนีน้ เี่ องทีท่ า� ให้เขาได้ชอื่ ว่า Nigo ซึง่ กลายมาเป็นชือ่ ทีเ่ ขาใช้มาจนถึงปัจจุบนั นี้ โดยมีคนบอกว่าสไตล์การแต่งตัวของเขาดูเหมือนกับ Hiroshi Fujiwara เลยเรียกเขาว่า Hiroshi Fujiwara Nigo ซึง่ Nigo นัน้ แปลว่า หมายเลขสอง เขาคือ Hiroshi Fujiwara หมายเลขสอง และ เขาก็หยิบเอาค�าว่า หมายเลขสอง หรือ Nigo มาใช้จากนัน้ เป็นต้นมา งานหลักๆ ของ Nigo ในช่วงแรก คือ ท�าแมกกาซีน Takarajima ซึง่ เป็นแมกกาซีนเกีย่ วกับป๊อปคัลเจอร์ ซับคัลเจอร์และเทรนด์ตา่ งๆ โดยฉบับแรกๆ ที่ Nigo ท�านัน้ ได้นา� ตัวละครทีเ่ ขาชอบมาใช้ดว้ ย ซึง่ ก็คอื ลิง จากหนังเรือ่ ง Planet of the Apes จากนัน้ ในปี 1990 Nigo ก็ได้ชว่ ย Hiroshi Fujiwara สร้างแบรนด์สตรีทแวร์ชอื่ ว่า Good Enough ซึ่งท�าให้เขาได้เรียนรู้กระบวนการต่างๆ ในการท�างาน ออกแบบและสร้างแบรนด์แฟชัน่ โดยหลังจากนัน้ 3 ปี Nigo ก็เริม่ หนทางการท�างานแฟชัน่ ของตัวเอง ในปี 1993 Nigo จับมือกับ Jun Takahashi เปิดร้านชือ่ Nowhere ซึง่ เป็นร้านทีน่ า� เอาไอเทมสตรีทแวร์เก๋ๆ จากหลากหลายแบรนด์มาขาย

ทัง้ Good Enough และของที่ Nigo เลือกมา ซึง่ ส่วนมากเป็นวินเทจ สปอร์ตแวร์ และของที่ Jun Takahashi เลือกมาซึง่ ส่วนมากเป็นสไตล์ ฟังก์ และแบรนด์ Undercover ของเขาที่เปิดตัวและวางขายที่นี่ ซึง่ ขายดี และท�าให้ Nigo เริม่ คิดแล้วว่าเขาต้องสร้างแบรนด์ของ ตัวเองออกมาเช่นเดียวกัน ซึง่ นัน่ ก็นา� มาสูแ่ บรนด์ A Bathing Ape หรือเรียกสัน้ ๆ ว่า Bape แน่นอนว่ามาจากหนังทีเ่ ขาชืน่ ชอบ Planet of the Apes นัน่ เอง Bape สร้างชือ่ ด้วยทีเชิต้ รูปหัวลิงอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ และลายพรางที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของแบรนด์ และ Bape ก็โด่งดังไปทัว่ โลกหลังจากทีแ่ รปเปอร์ Biggie Smalls ใส่เสือ้ แจ็กเก็ตลายพรางของ Bape ในปี 1994 และหลังจากนัน้ ก็มเี สือ้ ฮูดดี้ รูปฉลามทีก่ ลายมาเป็นไอเทมฮิตระดับโลก Bape กลายเป็ น สตรี ท แวร์ ที่ ส ร้ า งปรากฏการณ์ ร ะดั บ โลก ในยุค 1990s และต้นยุค 2000s และท�าให้ชอื่ ของ Nigo เป็นทีต่ อ้ งการ ในวงการสตรีทแวร์ กลับมาทีป่ จั จุบนั หลังจากทีม่ กี ารประกาศว่า Nigo มารับต�าแหน่ง ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ Kenzo ในปีทผี่ า่ นมาทุกคนต่างก็ รอคอยว่า Kenzo ภายใต้การท�างานของ Nigo จะออกมาเป็นอย่างไร แล้วผลงานแรกของเขาในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของ Kenzo ก็ปรากฏให้เห็นบนรันเวย์คอลเลกชันฤดูใบไม้รว่ งและฤดูหนาว 2022 เมือ่ ช่วงต้นปีทผ่ี า่ นมา โดย Nigo น�าเอาเอกลักษณ์ของ Kenzo มาใช้ทั้งลวดลาย ดอกป๊อปปี้ ลายหัวเสือ อาร์ไคฟ์ตา่ งๆ ของ Kenzo ในยุค 1970s สไตล์ ที่บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างกิโมโนแจ็กเก็ต มาผสมผสานกับ สิ่งที่เขาถนัดอย่างเสื้อผ้าสไตล์เวิร์กแวร์และงานเดนิม ออกมาเป็น ส่วนผสมที่น่าสนใจ และแน่นอนว่าด้วยการสนับสนุนของเพื่อน เซเลบริตีอย่าง คานเย เวสต์, ฟาร์เรล วิลเลียม และแรปเปอร์ อีกหลายคนทัง้ Pusha T, Shygirl, J Balvin, Gunna, Big Matthew, Sik-K หรือ Tyler The Creator ก็นา่ จะท�าให้ Kenzo กลับมาเป็นแบรนด์ ทีฮ่ อตฮิตอีกครัง้ แต่นนั่ อาจต้องให้เวลา Nigo อีกสักหน่อยเพือ่ สร้างคียพ์ ซี เด็ด เหมือนทีเ่ ขาเคยท�ามาแล้วไม่วา่ จะเป็นที่ Bape หรือการร่วมงานกัน กับ Louis Vuitton ในช่วงทีผ่ า่ นมา


: Saint Laurent

: Gucci : Balenciaga

แบรนด์แฟชั่น ‘ข�ดทุน’ หรือ ‘กำ�ไร’ ในปี 2021 ที่ผ่�นม�

: Dior

: Louis Vuitton


แม้เศรษฐกิจโลกจะระส�่าระสายด้วยสถานการณ์ COVID-19 มาตั้งแต่ปี 2020 จนปัจจุบันล่วงเข้าสู่ปี 2022 แล้ว ยังไม่รู้เลยว่า เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นได้หรือไม่ เพราะทั่วโลกก็ยังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับ ผลกระทบเต็มๆ ก็คือ อุตสาหกรรมแฟชั่น ที่ห้างร้านต้องปิดลง สิ่งของฟุ่มเฟือยถูกตัดออกจากรายการค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งแรก มาดูกันว่า ในปีที่ผ่านมาแบรนด์แฟชั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง รอดหรือร่วง

เริ่มกันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ LVMH ที่มีแบรนด์ดังๆ อย่าง Louis Vuitton, Christian Dior, Fendi, Celine และ Loewe โดยภาพรวม ของบริษัทในปีที่ผ่านมา มีรายได้สูงถึง 71.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึง่ สูงกว่าในปี 2020 ถึง 44% และยังสูงกว่าในปี 2019 ถึง 20% จะเห็น ได้วา่ แบรนด์แฟชัน่ ก�าลังฟืน้ ตัวขึน้ มาทีละนิด จากภาวะซบเซาทีเ่ กิดขึน้ ตัง้ แต่ปี 2019 เมือ่ COVID-19 เริม่ ระบาดไปทัว่ โลก เมื่อดูอินไซด์เข้ามาอีกนิดท�าให้พบว่า แบรนด์ที่ยังคงน�ามาเป็น อันดับหนึง่ ของเครือ LVMH คือ Louis Vuitton ซึง่ ในปีทผี่ ่านมา ท�ารายได้ 51.891 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิม่ สูงขึน้ จากปี 2020 ถึง 57.84% โดยในปี 2020 นัน้ คือ Louis Vuitton ทีย่ อดตกเป็นครัง้ แรก นอกจากนั้นยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่าไอเทมที่มียอดขายทะลุเป้า ของเครือ LVMH ในปีทผี่ า่ นมา คือ น�า้ หอม Sauvage ของ Christian Dior ซึง่ พรีเซนเตอร์นา้� หอมรุน่ นี้ คือ จอห์นนี่ เดปป์ ท�าให้เข้าใจได้แล้ว ว่าแม้ในช่วงทีผ่ า่ นมา จอห์นนี่ เดปป์ จะมีคดีการท�าร้ายร่างกายแอมเบอร์ เฮิรด์ พัวพันอยู่ (ซึง่ ผลการพิจารณาคดีเขาน่าจะพ้นผิด) จนท�าให้เขา ถูกถอดจากหนังหลายเรือ่ งทัง้ Fantastic Beasts และ Pirates of the Caribbean แต่ Christian Dior ไม่ถอดเขาจากพรีเซนเตอร์กเ็ พราะ ยอดขายน�า้ หอม Sauvage นัน้ พุง่ กระฉูดนัน่ เอง อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ยอดขายต่างๆ ที่พลิกกลับมา เพิ่มขึ้นนั้นมาจากยอดขายในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ตามมาด้วย สหรัฐอเมริกา ส่วนในยุโรปนัน้ อยูใ่ นช่วงก�าลังจะฟืน้

ในขณะทีแ่ บรนด์ฟาสต์แฟชัน่ ระดับโลกอย่าง Zara ซึง่ ร้านกว่า 6,657 ร้านทัว่ โลกทีเ่ พิง่ จะกลับมาเปิดได้ เมือ่ กลางปี 2021 นีเ่ อง แต่กส็ ามารถท�ารายได้สงู ถึง 27.7 พันล้านยูโร หรือเพิม่ ขึน้ 36% จากปี 2020 และเป็นก�าไรสุทธิถงึ 3.2 พันล้านยูโรเลยทีเดียว ถึงอย่างนั้นตัวเลขนี้ก็ยังไม่เท่ากับยอดขาย ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่วน H&M ก็ดขี น้ึ เช่นเดียวกัน โดยในปี 2021 ท�ารายได้ 23.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าในปี 2020 ที่ท�าได้ 20.84 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือ Uniqlo ก็เพิม่ ขึน้ 10.2% โดยท� า รายได้ สู ง ถึ ง 930.1 พั น ล้ า นเยน เลยทีเดียว แม้จะดูเหมือนว่าสถานการณ์กา� ลังจะดีขนึ้ แบรนด์สว่ นใหญ่ลว้ นมียอดขายเพิม่ สูงขึน้ ในปี 2021 ทีผ่ า่ นมา แต่เมือ่ เข้าสูป่ ี 2022 ทีโ่ ลกก�าลัง จะกลับสู่ความปกติ ก็เกิดเหตุการณ์สงคราม รั ส เซี ย -ยู เ ครน ซึ่ ง ก็ ต ้ อ งรอดู ว ่ า สิ่ ง นี้ จ ะท� า ให้ โลกแฟชั่นกลับไปผันผวนเหมือนเมื่อครั้งที่เริ่มมี การระบาดของ COVID-19 ในช่วงปีแรกหรือเปล่า

มาดูอีกเครือหนึ่งบ้าง นั่นก็คือ Kering ซึ่งมีแบรนด์ดังๆ อย่าง Gucci, Saint Laurent, Balenciaga หรือ Bottega Veneta ในภาพรวม Kering ก็มยี อดขายเพิม่ ขึน้ เช่นเดียวกัน โดยในปี 2021 ทีผ่ า่ นมามียอดขายทัง้ หมด 20.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึง่ สูงกว่า ปี 2020 ถึง 35% และสูงกว่าในปี 2019 นิดหน่อยที่ 13% โดยแบรนด์ที่ เป็นแบรนด์ยอดฮิตและท�ายอดขายหลักมาสูบ่ ริษทั คือ Gucci ซึง่ ในปีที่ ผ่านมา Gucci มียอดขายเพิม่ ขึน้ ถึง 31% หรือคิดเป็นมูลค่า คือ 11.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมา คือ แบรนด์ Saint Laurent ซึง่ ก็ยงั ท�ารายได้เพิม่ ขึน้ เช่นเดียวกัน ประมาณ 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิม่ สูงขึน้ ถึง 45.6% เลยทีเดียว ในขณะที่ Bottega Veneta นัน้ ท�าสถิตยิ อดขาย สูงสุดเท่าทีเ่ คยท�าได้ที่ 1.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิม่ ขึน้ 25% แต่ไม่แน่วา่ ในอนาคตอาจจะพบกับความผันผวนเนือ่ งด้วย แดเนียล ลี ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ทปี่ น้ั Bottega Veneta ให้กลับมา ฮิตฮอตอีกครัง้ นัน้ เพิง่ จะลาออกไป มาดูกนั ทีแ่ บรนด์ใหญ่ๆ แบรนด์อนื่ ทีไ่ ม่ได้สงั กัดเครือบริษทั ยักษ์ใหญ่ ทัง้ สองบริษทั ทีไ่ ด้กล่าวไปแล้วกันบ้างอย่าง Chanel แบรนด์ทขี่ นึ้ ราคา กระเป๋าแทบจะทุกซีซันนั้นมีรายได้ลดลงในปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้ 13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อยจากปี 2020 ทีเ่ คยท�าไว้ที่ 13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกันกับ Burberry แบรนด์เก่าแก่ จากอังกฤษ ทีร่ ายได้ในปี 2021 อยูท่ ี่ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง มาเล็กน้อยจากปี 2020 ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

: Bottega Veneta

: Gucci

: Louis Vuitton : Saint Laurent

2 9



SCOOP : สรพัน จรรยา

เมือ่ เทรนด์

ธุรกจิ

‘ตืน่ ตัว’

และ ‘ปรับเปลีย่ น’ ไปสูย่ คุ สมัยใหม่

เพราะโลกยังคงหมุนเวียนเปลีย่ นผ่านไปตามกาลเวลา ทุกวินาทีที่ เข็มนาฬิกาเดินไป คือการเดินไปสู่หนทางข้างหน้าของมนุษยชาติ ในด้านต่างๆ ในวันพรุง่ นีก้ จ็ ะแตกต่างจากเมือ่ วันวานหรือวันก่อนๆ โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ยุ ค สมั ย ปั จ จุ บั น ที่ ทุ ก ข้ อ มู ล ข่ า วสาร ต่างท่วมท้น ไหลบ่า และความก้าวหน้าของวิทยาการกับเทคโนโลยี ได้ผลักแนวทางทีค่ นุ้ เคยให้ถอยร่นไปสูส่ ภาวะความเก่า ทีอ่ าจไม่มี ประสิทธิภาพหรือเท่าทันกับความต้องการของคนหมู่มากในอัตรา ที่รวดเร็วอย่างน่าตกตะลึง

3 1


ใช่…ทุกสิ่งเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว แต่กฎของประสิทธิภาพยังคงท�างานตามวิสัยของมัน ธุรกิจและบริการ รวมถึงวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ถูกเร่งเครื่องให้ ‘ตื่นตัว’ ไปกับความเคลื่อนไหวของการขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน และน�าไปสู่การ ‘ปรับเปลี่ยน’ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว หากปรารถนาที่จะอยู่ในสายธารของการแข่งขัน ไม่ว่าจะด้วยการค�านึงถึง ผลก�าไร หรือการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ รวมถึงการอยู่ของตัวตนอย่างมีความหมาย และถึงแม้ค�าว่า ตื่นตัวและปรับเปลี่ยน กลายเป็นบัญญัติที่ไม่ถูกเอ่ยถึง แต่ก็ซุกซ่อนอยู่ในความเร่งของสิ่งต่างๆ รอบตัว GM Magazine ฉบับก้าวเข้าสูป่ ที ี่ 37 ขอน�าเสนอเทรนด์แห่งปี 2022 ทีผ่ า่ นการ ‘ตืน่ ตัว’ และ ‘ปรับตัว’ เพือ่ ตอบสนองต่อความต้องการเดิม รวมถึงสร้างฐานลูกค้าใหม่ เพือ่ จะพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวติ ที่จะก้าวต่อไป แม้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในวันนี้ แต่ในเวลาอีกไม่กี่ปี เชื่อว่าสิ่งที่ได้ถูกวางรากฐาน และปรับเปลี่ยน จะกลายเป็น Game Changer ที่ส�าคัญต่อไปอย่างแน่นอน

เมือ่ ระบบ ‘อัตโนมัต’ิ ทวีบทบาทความฉลาดและความส�าคัญมากยิง่ ขึน้ ในปัจจุบนั พบการใช้งานระบบอัตโนมัติ หรือหุน่ ยนต์ (Robotics) ในภาคอุตสาหกรรมหนัก เพือ่ ทดแทนแรงงาน ในส่วนทีม่ คี วามเสีย่ งสูง หรือทีต่ อ้ งการความแม่นย�าซึง่ มนุษย์ ไม่สามารถท�าได้ รวมถึงการผลิตในอัตราต่อเนือ่ ง เป็นเวลานาน หุ่นยนต์กลายเป็นสิ่งที่ปกติธรรมดา และประสิทธิภาพการผลิตก็เพิม่ สูงขึน้ ยิ่งกว่าในยุคเก่าก่อน อาจเรียกได้ว่าการมาถึง ของวิทยาการนี้ เทียบได้กบั การผลิตสายพาน อันเป็นหนึง่ ในการปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรม ยุคโมเดิรน์ เลยก็วา่ ได้

3 2

แต่ตามการคาดการณ์ของ McKinsey และ Oxford นั้น ภายในปี 2025 การใช้ ง านระบบหุ ่ น ยนต์ ใ นภาคส่ ว นต่ า งๆ ของอุ ต สาหกรรมจะมากขึ้ น อย่างมีนัยส�าคัญ และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030 ที่จะท�าให้ต�าแหน่งงานกว่า 800 ล้าน ถูกแทนทีแ่ ละสูญหายไป เป็นไปได้อย่างไร…ทีห่ นุ่ ยนต์จะเข้ามาแทนทีใ่ นต�าแหน่งงานมากถึงเพียงนัน้ หลายคนอาจตั้งค�าถามนี้ไว้ในห้วงความคิด ส่วนค�าตอบ…นั่นเพราะหุ่นยนต์ จะถูกผนวกเข้ากับระบบ ‘AI’ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ทฉี่ ลาดขึน้ จากการพัฒนา อย่างต่อเนื่องควบคู่กันจึงท�าให้การน�าระบบหุ่นยนต์เข้าสู่กระบวนการท�างาน สามารถท�าได้ในหลากหลายรูปแบบ และรองรับความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าต้องอยูภ่ ายใต้ตน้ ทุนทีต่ า่� ลง แต่กา� ลังการผลิตสูงขึน้ ผลผลิตมากขึน้ ในขณะทีค่ วามผิดพลาดน้อยลงด้วย แต่นั่นไม่ใช่จุดจบส�าหรับคนท�างาน เพราะการมาถึงของระบบหุ่นยนต์ ในภาคอุตสาหกรรม จ�าเป็นจะต้องมีแรงงานภาคฝีมอื ทีม่ คี วามเชีย่ วชาญ ซึง่ จะ ก่อให้เกิดเป็นอาชีพใหม่ทแี่ ตกต่างไปจากเดิม ดังนัน้ การตืน่ ตัวและปรับเปลีย่ น จึงไม่ได้เกิดแค่ภาคการผลิต แต่ภาคแรงงานเอง ก็ไม่อาจนิ่งเฉยนอนใจอยู่ได้ และคือโอกาสที่จะเข้ามาส�าหรับคนที่พร้อม อีกทั้งยังคือความเป็นไปได้ใหม่ๆ อย่างไม่มที สี่ นิ้ สุด


เทรนด์การ ‘ลงทุน’ ทีห่ ลากหลาย ตอบสนองต่อทุกความต้องการและปัจจัยทีแ่ ตกต่าง ในยุคสมัยแรกเริม่ การลงทุนทีง่ า่ ยทีส่ ดุ และมัน่ คงทีส่ ดุ ส�าหรับประชาชนคนท�างานทัว่ ไป คือ การน�าไปฝากไว้กบั ธนาคาร และรอให้ดอกเบีย้ ทบงอกเงยขึน้ มา เพือ่ หวังว่าในบัน้ ปลายสุดท้าย เงินทีฝ่ ากไว้จะมากเพียงพอ ส�าหรับการใช้จา่ ยในยามจ�าเป็นและยามเกษียณ

แต่ในปัจจุบนั สภาพความเสีย่ งของการน�าเงินไปฝากไว้กบั ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน มีสงู และเป็นทางเลือกทีม่ คี วามน่าเชือ่ ถือในด้านก�าไรต�า่ (ยกเว้นแต่จะมีไว้เพือ่ พักเงิน) บวกกับอัตราเงินเฟ้อทีเ่ พิม่ ขึน้ ในแต่ละปี ท�าให้ในทางปฏิบตั ิ การฝากเงินในธนาคาร คือ การ ‘ลดมูลค่า’ ของเงิน ยิง่ ฝาก มูลค่าก็ยงิ่ น้อยลง จึงไม่นา่ แปลกใจนัก ทีผ่ คู้ นในยุคสมัยนีจ้ ะมองหาช่องทาง ในการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ เพือ่ ให้สนิ ทรัพย์ทมี่ นี นั้ งอกเงยเพิม่ ขึน้ มากกว่าเดิม แน่นอน การลงทุนมีอยู่หลากหลายลักษณะ ทั้งการซื้อประกัน พันธบัตรรัฐบาล จนถึงการซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต รวมๆ แล้ว คือ ‘การลงทุนในสินทรัพย์’ แต่กย็ งั มีขอ้ จ�ากัดอยูห่ ลากหลายประการ ทัง้ เงินเริม่ ต้นทีม่ อี าจจะน้อยเกินไป หรือการทีไ่ ม่สามารถเข้าถึงโอกาสในตลาดขนาดใหญ่ในต่างประเทศ และนัน่ คือจุดทีก่ ารตืน่ ตัวและปรับเปลีย่ นของภาคการลงทุน โดยเฉพาะภาคเอกชน ได้กา้ วเข้ามาอุดช่องว่างในจุดนี้ ไม่วา่ จะเป็นผูใ้ ห้บริการการซือ้ ขายสินทรัพย์ Cryptocurrency ชือ่ ดังหลายเจ้าอย่าง Bitkub, Binance จนถึงแพลตฟอร์ม ทีช่ ว่ ยด้านการลงทุนและวิเคราะห์ความเสีย่ งอย่าง StashAway ของประเทศไทย อันเป็นแพลตฟอร์มสาย ‘Wealthtech’ ทีม่ งุ่ หวังให้ผลู้ งทุนสามารถเติบโตได้อย่างยัง่ ยืน และสิง่ ทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ในอนาคตของภาคการลงทุน การตืน่ ตัวและปรับเปลีย่ นอาจจะเกิดขึน้ อีกครัง้ เมือ่ ผูค้ นมีความรู้ และความเข้าใจทีม่ ากขึน้ รับรูค้ วามต้องการของตัวเองทีม่ ากขึน้ ผูใ้ ห้บริการด้านแพลตฟอร์มเพือ่ การลงทุน จะผนวกระบบ ทีส่ ามารถ Grooming และแนะน�าการลงทุนทีด่ ที สี่ ดุ ให้เป็นรายบุคคล โดยพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ อาทิ ฐานเงินเดือน อัตราความเสีย่ งทีส่ ามารถรับได้ จนถึงความคาดหวังในอัตราเติบโตของเงินและรายได้ทตี่ อ้ งการ และมันคือความจ�าเป็น ทีภ่ าคการศึกษา ต้องให้ความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการเงินการลงทุน เพราะนีค่ อื สิง่ ทีส่ า� คัญอย่างยิง่

โลกเสมือน สินทรัพย์ดจิ ทิ ลั และมูลค่าทีไ่ ม่อาจประเมินได้ เรารูว้ า่ การเข้ามาของโลกเสมือน หรือ Virtual Reality ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ นัน้ เป็นสิง่ ทีค่ วบคูไ่ ปกับหัวข้อ ก่อนหน้านัน้ อย่างหุน่ ยนต์และระบบปัญญาประดิษฐ์ แต่สา� หรับในอุตสาหกรรมบันเทิงกับศิลปะ โลกกึง่ เสมือนเมตาเวิรส์ (Metaverse) ยังคงมีระยะทางและย่างก้าวให้ไปส�ารวจอยูอ่ กี มาก รวมถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจทีไ่ ม่สนิ้ สุดรอคอยอยู่


ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ จากความก้าวหน้าทางด้าน การติดต่อสือ่ สารทีร่ วดเร็วของอินเทอร์เน็ต และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกัน การแพร่กระจายของ เครือข่าย Social Media ได้สร้างผู้ใช้งานที่มี ความคุ ้ น เคยกั บ ตั ว ตนเสมื อ นและความเป็ น Digital Native ทีเ่ ปิดรับกับสิง่ ใหม่ๆ ได้งา่ ยขึน้ มากขึน้ และนัน่ คือจุดทีภ่ าคอุตสาหกรรม และ ภาคธุรกิจจะต้องตื่นตัว และปรับเปลี่ยนเพื่อให้ เท่าทันกับความต้องการเหล่านัน้ สิ น ทรั พ ย์ ใ นรู ป แบบเสมื อ นหรื อ สิ น ทรั พ ย์ ไซเบอร์อย่าง Non-Fungible Token (NFT) ถูกให้ความส�าคัญในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม บันเทิง และภาคศิลปะ นัน่ คือขุมทองใหม่สา� หรับ ผูป้ ระกอบการ ไปจนถึงนักลงทุนทีเ่ ล็งเห็นถึงมูลค่า ทีจ่ ะสามารถเกิดขึน้ ได้ เช่น งานศิลปะทีถ่ กู สร้าง แบบเสมือนของพิพธิ ภัณฑ์ Sotheby ทีป่ ระมูล ขายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 หรือการใส่ Digital Footprints ลงในผลิตภัณฑ์ รองเท้าสนีกเกอร์ของ Nike และการเปิดหน้าร้าน แบบ Metaverse เป็นรายแรกๆ

ไม่นบั รวมกรณีการเข้าซือ้ บริษทั Activision-Blizzard อันเป็นบริษทั พัฒนาเกมชือ่ ดังโดย Microsoft เป็นจ�านวนเงินทีส่ งู ถึง 6.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทีเ่ ป็นดีลทีส่ งู ทีส่ ดุ ในประวัตศิ าสตร์ของแวดวงวิดโี อเกม (แม้วา่ ทาง Activision-Blizzard จะยังตกอยูใ่ นคดีออ้ื ฉาวเรือ่ งการละเมิดทางเพศพนักงาน ซึง่ เป็นเคสทีร่ า้ ยแรง โดยมี Bobby Kotick หนึง่ ใน CEO เป็นผูต้ อ้ งสงสัย และยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้จนถึงบัดนี…้ ) บ่งบอกถึงความส�าคัญในมูลค่า ของสินทรัพย์ดจิ ทิ ลั ในโลกยุคปัจจุบนั ได้เป็นอย่างดี


อย่างไรก็ตาม โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังมีข้อครหา และจุดทีย่ งั ไม่สามารถชีข้ าดได้วา่ จะเป็นทางออกหรือหนทาง ทีเ่ หมาะสมส�าหรับยุคสมัยถัดไป หลายชิน้ งานถูกประเมินขาย ในราคาที่สูงลิ่ว ที่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นเพราะคุณค่า จากตัวผลงานเอง หากแต่เกิดจากการ ‘ปัน่ ’ ของนักลงทุน กระแสปากต่อปาก และยังคงมีกรณีพิพาทระหว่างคุณค่า ในเชิงศิลปะ กับความเป็นพาณิชยศิลป์ ว่าแท้จริงแล้ว ศิลปะดิจิทัลหรืองานที่ขายแบบ NFT สมควรที่จะได้รับ การประเมินในรูปแบบใด หรือแม้แต่รูปแบบการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นเงินแบบ ดิจทิ ลั หรือ Cryptocurrency ผ่านรูปแบบ ‘Gamefi’ หรือ ‘เล่นแล้วได้เงิน (Play to Earn)’ ทีม่ ลู ค่าของไอเทมในเกม หนึง่ ๆ จะสามารถตีเป็นเงินในโลกแห่งความเป็นจริง ก็พบกับ อุปสรรคและกรณีของการ ‘ชักดาบ’ หรือ ‘Rug Pull’ ทีท่ กุ คน พร้อมเข้ามาขุดขุมทองนีด้ ว้ ยแนวคิดของการลงทุนเป็นหลัก และพร้อมจะจากไปเมื่อถึงจุดอิ่มตัว (ที่เร็วมาก) จนท�าให้ สินทรัพย์ในเกมทีเ่ คยมีมลู ค่าสูง กลายเป็นเพียง ‘ขยะดิจทิ ลั ’ ทีป่ ราศจากมูลค่าไปได้ในทันที เพราะโลกดิจิทัลนั้นตื่นตัวและเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว จึงเป็นพืน้ ทีท่ คี่ อ่ นข้างมีความสุม่ เสีย่ งอยูไ่ ม่นอ้ ย แม้โอกาสและ ความเป็นไปได้นนั้ จะมากจนเกือบจะไร้ขดี จ�ากัดก็ตาม

3 5


สุขภาพและความงามในยุคแห่งการเปลีย่ นผ่านและดิจทิ ลั ไม่วา่ จะยุคหรือสมัยไหน สุขภาพคือสิง่ ส�าคัญทีท่ กุ คนต้องใส่ใจ เพราะเงินทองทีห่ ามาได้ เวลาทีม่ อี ยูม่ ากมาย อาจจะไม่มคี วามหมาย ถ้าหากร่างกายถูกท�าร้ายด้วยโรคภัยทีย่ า่ งกรายเข้ามาเบียดเบียน การดูแลสุขภาพทัง้ ต้นน�า้ และปลายน�า้ จึงไม่เคยเก่า และยังเป็นภาคธุรกิจทีไ่ ด้รบั ผลจากความเปลีย่ นแปลง และต้องตระหนักเท่าทันมากทีส่ ดุ อีกด้วย

ในรอบระยะเวลา 2-3 ปี ที่ ผ ่ า นมา ธุ ร กิ จ ด้ า นสุ ข ภาพ ดูจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและมีนัยส�าคัญ ส่วนหนึ่งมาจาก วิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทีท่ า� ให้ผคู้ นใส่ใจกับตนเอง ดูแลรักษาสุขภาพ เว้นระยะห่าง และมีรปู แบบการใช้ชวี ติ ทีเ่ ปลีย่ นไป จากเดิม เป็น ‘New Normal’ ที่กลายเป็น ‘Current Normal’ และนั่ น ท� า ให้ ภ าคธุ ร กิ จ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ สุ ข ภาพ โดยเฉพาะ สถานพยาบาลต่างๆ ต้องตืน่ ตัวและปรับเปลีย่ นไปแบบ ‘กึง่ บังคับ’ เพราะความต้องการทีม่ าจ่ออยูต่ รงหน้า ความใส่ใจในสุขภาพของประชาชนยังคงอยูใ่ นระดับสูง แม้อตั รา การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัส COVID-19 จะลดต�า่ ลง จากการเข้ามา ของวั ค ซี น รวมถึ ง ชุ ด ตรวจการติ ด เชื้ อ แต่ วิ ถี ชี วิ ต ของผู ้ ค น ที่ ไ ม่ ป รั บ เปลี่ ย นกลั บ ไปแบบเดิ ม ก็ ยิ่ ง ท� า ให้ ธุ ร กิ จ ด้ า นสุ ข ภาพ จ�าเป็นต้องเข้าหากลุม่ ฐานลูกค้ามากขึน้ ไม่วา่ จะเป็นการตรวจสุขภาพ ด้วยระบบทางไกล การให้ค�าแนะน�าแบบ Live Service จนถึง สายด่วนเพือ่ สุขภาพ ในกรณีทเี่ กิดเหตุฉกุ เฉิน นีค่ อื สิง่ ทีโ่ รงพยาบาล ชือ่ ดังต่างๆ ได้เริม่ ลงมือท�าไปแล้ว

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและจะก้าวหน้ามากขึ้นนั้น คือการดูแลสุขภาพแบบเจาะจง เป็นรายบุคคล การเข้าถึงบริการสาธารณสุขทีต่ อ้ งรวดเร็วและมากยิง่ กว่าเดิม มีประสิทธิภาพ กว่าเดิม และไม่ได้จ�ากัดแค่เพียงการรักษา แต่ต้องรวมถึงการป้องกันและเสริมสร้าง ผ่านรูปแบบการติดตามวัดผลด้วยเทคโนโลยีกบั ฐานข้อมูลทีม่ พี ร้อม และสามารถค้นหาโรค ได้กอ่ นจะเกิดอาการเจ็บป่วย นีค่ อื สิง่ ทีเ่ ทคโนโลยีสามารถท�าได้ และได้เกิดขึน้ แล้วในยุคสมัย ปัจจุบนั แต่จะดียงิ่ ขึน้ โดยเฉพาะการน�า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ทีเ่ ข้ามามีบทบาทเคียงข้าง บรรดาบุคลากรทางการแพทย์มากยิง่ ขึน้ นอกเหนือจากนัน้ ธุรกิจด้านสุขภาพก็สามารถขยายไปยังพืน้ ทีข่ องกลุม่ ตลาดสายอาหาร สุขภาพ วีแกน หรือเฮลตีฟดู้ ทัง้ หลาย ทีไ่ ด้รบั การค้นคว้า วิจยั และตอบสนองต่อความต้องการ ได้อย่างครบถ้วน แน่นอนมูลค่าตลาดของกลุม่ อุตสาหกรรมนีส้ งู ขึน้ ตามปีทผี่ า่ นไป และเทรนด์ การกินเพื่อสุขภาพก็ไม่เคยเก่า ทั้งอาหารวีแกนแบบปลอดสารพิษ เนื้อที่ท�าจากใยพืช (Plant-based Meat) จนถึงคอร์สการกินเพื่อสุขภาพต่างๆ และแน่นอนว่าการลงเฉพาะ เจาะลงเป็นรายบุคคล คือสิง่ ทีส่ ามารถเป็นไปได้ในทางปฏิบตั ิ ทั้งหมด ส�าหรับผู้ประกอบการสายสุขภาพ จะต้องตื่นตัวเท่าทันและปรับเปลี่ยนเพื่อให้ ตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มตลาดนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องสุขภาพนั้นไม่เคยหยุด และจะยังคงเป็นประเด็นทีส่ า� คัญอย่างยิง่ ไม่วา่ จะในเวลานี้ หรือในเวลาภายภาคหน้าก็ตาม

3 6


ตืน่ ตัว เพือ่ ปรับเปลีย่ น สูย่ คุ สมัยถัดไป ทัง้ หมดทีก่ ล่าวไปข้างต้น คือคาดการณ์ของความตืน่ ตัวและปรับเปลีย่ นในภาคธุรกิจทีส่ า� คัญ ทีเ่ กีย่ วข้องกับวิถชี วี ติ ของผูค้ นในวงกว้าง แน่นอนว่า มันยังมีอกี หลายส่วน ทัง้ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ทีห่ ลีกหนีไม่พน้ วงจร ของการตืน่ รู้ และต้องพร้อมปรับเปลีย่ น ในการก้าวไปข้างหน้าทีไ่ ม่หยุดนิง่ ของโลกและมนุษยชาติ

ธุรกิจย่อมเปลีย่ นแปลง เทคโนโลยี ย่อมเปลี่ยนแปลง สมาชิกในทีม ย่ อ มเปลี่ ย นแปลง และความ เปลี่ ย นแปลงนั้ น คื อ สิ่ ง ที่ แ น่ น อน สิ่ ง ที่ จ ะก่ อ ให้ เ กิ ด ปั ญ หาอย่ า ง ถึ ง ที่ สุ ด คื อ การที่ บ ริ ษั ท หนึ่ ง ๆ ไม่สามารถทีจ่ ะท�าความเข้าใจ หรือ ยอมรับในความเปลี่ยนแปลงนั้น เมือ่ มันเดินทางมาถึง - Kent Beck -

นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผูว้ างรากฐาน ในการพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึงการท�างานแบบ Agile

ความเปลี่ ย นแปลงอาจจะ น่ากลัว อาจจะรวดเร็วเกินตั้งตัว และอาจจะท�าให้มีบางสิ่งถูกทิ้งไว้ ระหว่างทาง… แต่ มั น ก็ คื อ สิ่ ง จ� า เป็ น อย่ า งยิ่ ง เมื่อพิจารณากับคุณภาพชีวิตที่ได้ กลับมา ความก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้น และการเป็ น รากฐานที่ ม่ั น คง เพือ่ การต่อยอดไปสูส่ งิ่ ทีด่ ยี งิ่ ๆ ขึน้ สืบไป


ฟีเวอร์


SCOOP : อภิรกั ษ์ หาญพิชติ วณิชย์

ปรากฏการณ์

‘ทีม่ าพร้อมความคาดหวัง’

ถึงวันนี… ้ ชือ่ ของ รองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพนั ธุ์ ขึน้ ท�าเนียบ รับรองเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 เป็นที่เรียบร้อย โดยผลการเลือกตัง้ ผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครทีผ่ า่ นมาเขาได้รบั คะแนนเสียงกว่า 1,400,000 เสียง เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ทสี่ ดุ จริงๆ และแน่นอนว่าคะแนนที่ได้มากมายขนาดนี้นั้นไม่ธรรมดา ซึ่งผมมองว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งและเสริมให้ผลลัพธ์ออกมาอย่าง ที่เห็น จนหลายๆ สื่อมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็น ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ โดยส่งผลให้สื่อน้อยใหญ่ในวันนี้เกาะติดผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนใหม่ ประหนึ่งลุงพล-ป้าแต๋นแห่งบ้านกกกอก ซึ่งสารัตถะของ ข่าวนัน้ เรียกได้วา่ น้อยมาก เมือ่ เทียบกับสีสนั และความเคลือ่ นไหว ที่เหมือนกับเป็นของขวัญส�าหรับแฟนด้อมคุณชัชชาติ

3 9


ค�าถาม คือ ถ้ามองในแง่ของการสื่อสารมีเรื่องใดบ้างที่จะเป็นเหตุผลของปรากฏการณ์ ที่ท�าให้คุณชัชชาติชนะการเลือกตั้ง อ�านาจการเมืองทีก่ ดทับความรูส้ กึ ประเด็นแรกทีผ่ มมองว่าเป็นปฐมบท คือ ความกดทับ ทีม่ าจากบรรยากาศการเมืองในปัจจุบนั ซึง่ ต้องยอมรับว่า จุดเริม่ ต้นมาจากการรัฐประหาร ซึง่ ในช่วงต้นของหลังการ รัฐประหารส�าเร็จ ฝ่ายทีเ่ ห็นด้วยนัน้ ยังคงมีเสียงดัง และ การสนั บ สนุ น เพี ย งพอ ประกอบกั บ เหตุ ผ ลที่ น� า มา กล่าวอ้างถึงความมัน่ คง ยังคงเป็นเสียงทีม่ คี วามหนักแน่น ท�าให้กองหนุน กองเชียร์ของฝ่ายกุมอ�านาจรัฐมั่นคง แข็งแกร่ง แต่ เ มื่ อ เวลาผ่ า นมาถึ ง ช่ ว งของการเลื อ กตั้ ง ทั่ ว ไป พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และกุมสภาพบ้านเมืองอีกครัง้ แต่ทว่าคราวนี้ ยืดอกได้มากขึ้นว่าเป็นนายกฯ หรือผู้น�าประเทศที่ผ่าน กระบวนการประชาธิปไตยมาแล้ว แม้จะดูเหมือนว่ากติกา ทีร่ า่ งจะแปร่งๆ ไปบ้าง แต่กเ็ พียงพอทีจ่ ะใช้กล่าวอ้างถึง ความชอบธรรมได้ และในคราวนี้ ป ระโยคที่ นิ ย าม ตัวเองใหม่ว่าเป็น ‘นักการเมืองที่เคยเป็นทหาร’ ก็ได้ เกิดขึน้

4 0

ระหว่ า งทางของการบริ ห ารประเทศภายใต้ ก ารน� า ของรัฐบาลพรรครวมซึง่ มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมานั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ ต้องยอมรับว่าเป็นโจทย์ยาก ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งโรคระบาด เศรษฐกิจ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาล ไม่ ส ามารถพารั ฐ นาวาออกจากปั ญ หาเหล่ า นี้ ไ ด้ อ ย่ า ง รวดเร็ว แต่นอี่ าจจะไม่ใช่ปญ ั หาหลักทีก่ ระทบต่อรัฐนาวา เพราะเนือ้ ร้ายทีแ่ ท้จริงมาจากความพยายามในการสัน่ คลอน ความมัน่ คงภายในจากพรรคร่วมหรือกลุม่ อ�านาจในพรรค เดียวกันเอง จนท�าให้นายกฯ ออกอาการหัวเสียบ่อยครัง้ ซึ่งภาพลักษณ์ต่างๆ ของนายกฯ ที่เกิดขึ้น ทั้งอาการ อารมณ์เสีย กล่าวสบถ โยนข้าวของ รวมถึงท่าทีต่างๆ ที่สะท้อนบุคลิกภาพของความเป็นผู้น�า และได้กลาย เป็ น ปั ญ หาเพราะถู ก น� า ไปล้ อ เลี ย น รวมถึ ง ด้ อ ยค่ า ความเป็นผูน้ า� มากขึน้ ซึง่ ก็คล้ายกับช่วงท้ายๆ ของอดีต นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบพบเจอสถานการณ์ แบบนีด้ ว้ ยเช่นกัน เพียงแต่วา่ คุณยิง่ ลักษณ์พยายามทีจ่ ะ แก้ปญ ั หา แต่นายกฯ ประยุทธ์เลือกทีจ่ ะสือ่ สารความเป็น ตัวเองออกมา


ย้ อ นมาถึ ง ตรงนี้ … บางท่ า นอาจจะรู ้ สึ ก ว่ า ข้ อ เขี ย นนี้ ดูไม่เป็นธรรมกับ นายกฯ ประยุทธ์ เท่าไหร่ เพราะเน้นไปที่ การสือ่ สารหรือบุคลิกภาพภายนอกมากกว่ามองไปทีผ่ ลงาน ซึ่งผมขออธิบายว่าคนไทยเราโดยเฉพาะในสังคมปัจจุบัน บูชาตัวบุคคล และมองภาพลักษณ์เป็นสิ่งส�าคัญ จึงเลี่ยง ไม่ได้ทจี่ ะอธิบายปรากฏการณ์อดึ อัดของชาว กทม. ด้วยภาพ ต่างๆ ทีป่ รากฏผ่านผูน้ า� ประเทศซึง่ ก�าลังครองเก้าอีย้ าวนาน กว่า 8 ปี

เรื่องนี้สะท้อนจากสถิติของนักวิเคราะห์ทางการเมือง ซึง่ เมือ่ ทราบผลการเลือกตัง้ ผูว้ า่ ฯ กทม. หลายคน หลายส�านัก เชื่อว่า มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจ�านวนไม่น้อยจากฝ่ายหรือซีก การเลือกตัง้ ครัง้ ก่อนๆ เป็นฝัง่ เดียวกับนายกฯ นัน้ ปันใจไปให้ คุ ณ ชั ช ชาติ ด้ ว ยความหวั ง ในตั ว คุ ณ ชั ช ชาติ ที่ จ ะสร้ า ง ความเปลี่ยนแปลงให้กับกรุงเทพมหานคร โดยมองข้าม ความเป็นขัว้ การเมืองทีม่ อี ยูไ่ ว้กอ่ น

ความมุง่ มัน่ และเข้าถึงง่ายของคุณชัชชาติ

โปรโฟล์ หรือ ภูมหิ ลังของคุณชัชชาตินนั้ ไม่ธรรมดาครับ เพราะเป็นนักเรียนทุน และร�า่ เรียนมาทางวิศวกรรมศาสตร์จนจบระดับดอกเตอร์จากต่างประเทศ ทีส่ า� คัญการมีประวัตเิ คยเป็นถึง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคมนัน้ เรียกได้วา่ ไม่ธรรมดา

ซึ่งหากเมื่อเปรียบเทียบกับอดีตคู่แข่งในการลงชิงชัย สนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ มีอีก หนึง่ ท่านทีพ่ อจะเปรียบมวยได้อย่างสูสี หากจะพูดกันถึงดีกรี ดร.เอ้-สุชชั วีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ก็ไม่นอ้ ยหน้า เพราะเป็นวิศวกร ทีจ่ บจากต่างประเทศเช่นเดียวกัน แต่ตา่ งกันตรงทีภ่ าพลักษณ์ ของ ดร.เอ้ ที่เลือกยืนนั้น ในทางทฤษฎีเขาวางตัวเองเป็น เหมือน Magician ทีข่ ายฝัน และวาดภาพฝันใหม่ในแบบเป็น ผูว้ เิ ศษทีจ่ ะเข้ามาเปลีย่ นอะไรได้มากมาย ซึง่ ถ้าให้เห็นภาพ ชัดหน่อยก็ดคู ล้าย โทนี สตาร์ก ใน Iron Man นัน่ แหละครับ

โดยกรณีของ ดร.เอ้ นัน้ ผมเคยเขียนไปก่อนหน้านีแ้ ล้วว่า การเลือกจุดยืนและน�าเสนอตัวเองในฐานะผูว้ เิ ศษ โดยไม่มี บุคลิกถ่อมตน อาจไม่ถูกจริตกับคนไทย ซึ่งถ้ามองในแง่ ของการแข่งขัน ถือว่าน่าเสียดาย เพราะ ดร.เอ้ ปูทางมาดี ทั้งประวัติความเป็นมา และการเป็นความหวังใหม่ของ ประชาธิ ป ั ต ย์ แต่ ก็ ชั ด เจนในผลของคะแนนเสี ย งที่ ไ ด้ แต่ภาพลักษณ์การใส่เบลเซอร์ สแล็ค และสนีกเกอร์เป๊ะๆ ในทุ ก การปรากฏตั ว ประกอบกั บ ภาพครอบครั ว ตอน เปิดตัวนัน้ ยังซือ้ ใจคนกรุงได้ไม่เพียงพอ

4 1


กลับมาทีค่ ณุ ชัชชาติ ทีแ่ ม้จะมีโปรโฟล์นา่ เชือ่ ถือ แต่ภาพจ�า ของผู้คนจ�านวนหนึ่งนั้น เขาคือบุรุษที่มีความแกร่งที่สุด ในโลก มีภาพชีวิตง่ายๆ ในชุดกีฬาขาสั้นและเท้าเปล่า ในการท�าบุญ ซึง่ ภาพเหล่านีย้ งั คงอยูใ่ นความจดจ�า พร้อมกับ ถูกตอกย�า้ มาตลอดตัง้ แต่ชว่ งก่อนหาเสียง ระหว่างหาเสียง และหลังหาเสียง ซึง่ ต้องบอกว่ามีพลังอย่างมากในการสร้าง ความจดจ� า ใหม่ ๆ อย่ า งที่ ไ ม่ เ คยปรากฏขึ้ น มาก่ อ นใน การเมืองไทย หรือถ้าจะเปรียบก็คงจะมีสมัย พลตรี จ�าลอง ศรีเมือง ทีค่ วามต่างอย่างมีเอกลักษณ์และเป็นจุดเด่น ซึง่ น�า มาสูต่ า� แหน่งผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร 2 สมัย ประเด็นเรื่องของการให้สัมภาษณ์ก็เช่นเดียวกัน เพราะ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะเห็นการเปรียบเทียบถ้อยค�า วาทกรรม หรือ แนวคิดบ่อยมากๆ โดยเฉพาะผ่านทาง สือ่ ออนไลน์ ซึง่ การคัดเลือก การคัดสรรค�าทีค่ ณ ุ ชัชชาติใช้นนั้ ผมในฐานะพิธีกรที่เคยสัมภาษณ์เชื่อว่าในส่วนสาระส�าคัญ ดูไม่ปลอม หรือถ้าปลอมโดยการประดิษฐ์ขนึ้ มาก็ดแู นบเนียน อย่างมาก ยิ่งหลังการเลือกตั้งจะเห็นได้ชัดจากประโยคที่ว่า “คะแนนทีเ่ ลือกเข้ามา ไม่ได้หมายถึงคนจ�านวนมากสนับสนุน แต่หมายถึง สัญญาณทีส่ ง่ั ให้ไปท�างาน” เป็นต้น

นอกจากนีย้ งั ไม่ชนกับใคร แม้จะถูกเสีย้ มให้ชนหลายครัง้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นนโยบายการปิดถนน ความเห็นเรื่อง มาตรา 112 หรือแม้กระทัง่ ถูกน�าไปเปรียบเทียบกับนายกฯ ซึง่ คุณชัชชาติเลีย่ งทีจ่ ะไม่ชน แต่ทว่าก็แอบแรงแบบมีกลยุทธ์ เช่น ตอนทีน่ กั ข่าวถามว่าท�าไมไม่ไปพบนายกฯ ในงานเปิดตัว เส้นทางคมนาคมของแม่นา�้ เจ้าพระยา ซึง่ ผูว้ า่ ฯ ตอบอย่างสัน้ ๆ “ไม่ได้รบั เชิญให้ไป แต่ถา้ เชิญก็จะไป” เป็นต้น สรุ ป แล้ ว ถ้ า มองจากประเด็ น ที่ คุ ณ ชั ช ชาติ ไ ด้ รั บ ความฟีเวอร์ ผมมีความเห็นว่าก็คงมาจากตัวท่านเองที่ ประกาศตัวมานาน ประวัตกิ ารท�างานดี ลงพืน้ ทีอ่ ย่างต่อเนือ่ ง มีภาพลักษณ์การน�าเสนอทีต่ รงไปตรงมา และมีความเรียบง่าย เข้าถึงใจผูม้ สี ทิ ธิเ์ ลือกตัง้ ได้ดี และนอกจากนี้การที่ผู้สมัครสายอนุรักษ์ มีตัวเลือก ที่มากถึง 3 คน ก่อให้เกิดความไม่เป็นเอกภาพ คะแนน กระจัดกระจายออกไป ก็ถอื ได้วา่ เป็นความเสียเปรียบ และเป็น สิ่ ง ที่ ท� า ให้ คุ ณ ชั ช ชาติ ไ ด้ เ ป็ น แต้ ม ต่ อ ในสนามเลื อ กตั้ ง ผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครด้วยอีกเช่นกัน

ความเจนจัดและยุทธศาสตร์ของทีมงาน การได้มาซึง่ เก้าอีผ้ วู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครของคุณชัชชาติ หนึง่ ในปัจจัยส�าคัญทีส่ ดุ ผมมองว่ามาจากทีมงาน ซึง่ มีหลายสิง่ หลายอย่างทีเ่ ปลีย่ นแปลงการท�างานไปจากเดิม ไม่วา่ จะเป็นการร่างนโยบายทีส่ อื่ สารว่า มาจากการรับฟังประชาชนในพืน้ ทีต่ า่ งๆ จนสามารถระบุถงึ เป้าหมายทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงได้ ในระดับเขตด้วยซ�า้ และถึงแม้วา่ จะถูกแปลงออกมาเป็นรูปธรรมได้มากน้อยแค่ไหนยังไม่มใี ครให้คา� ตอบได้ แต่ทว่านัน่ เป็นความหวัง หรือ Hope ของผูค้ นจ�านวนหนึง่ ทีเ่ ชือ่ มัน่ ในกระบวนการทีไ่ ด้ฟงั มา

4 2

ซึ่งที่ผ่านมานโยบายหลายๆ อย่าง คือสิ่งที่ถูกก�าหนด มาจากระดับบนลงล่าง และคงต้องติดตามดูกนั ว่ากว่า 200 นโยบายของผูว้ า่ ฯ ทีช่ อื่ ชัชชาติ จะกลายเป็นความจริงด้วย วิธกี ารอย่างไร และจะรับั มือกับความคาดหวังของชาว กทม. ทีเ่ ทคะแนนเสียงให้อย่างไร เพราะ สือ่ สารมาก คะแนนมาก ความหวังให้เกิดผลทีเ่ ร็วจึงเป็นสิง่ ทีห่ ลีกเลีย่ งไม่ได้ นอกเหนือจากนโยบายแล้ว ยังมีอกี หลายสิง่ ทีด่ เู หมือนง่าย แต่ผา่ นกระบวนการคิดจนกลายมาเป็นผูน้ า� ในการเปลีย่ นแปลง โดยเฉพาะวิธีการหาเสียงด้วยขนาดป้ายที่ผอมลงกว่าเดิม ซึ่ ง ฐานเสี ย งและผู ้ ค นจ� า นวนหนึ่ ง ชื่ น ชม จนกลายเป็ น มาตรฐานใหม่ทผี่ สู้ มัครคนอืน่ ๆ ต้องปรับกลยุทธ์มาท�าตาม นอกจากนี้การออกแบบป้ายหาเสียงที่เป็นไวนิลให้มีรอยปรุ ก็ถอื ว่าเป็นความชาญฉลาดทีน่ า� ไปสูก่ ารเล่าเรือ่ งถึงประโยชน์ ในการน�ากลับไปใช้ใหม่ (แม้จะมีความเสี่ยงที่จะถูกตีความ ในเรื่ อ งที่ ป ้ า ยนั้ น จะกลายเป็ น สิ น น�้ า ใจตามกฎของ คณะกรรมการการเลือกตัง้ ก็ตาม)

จะว่าไปแล้วส�าหรับทีมงานนัน้ ต้องยอมรับว่าแกร่งในแง่ แนวคิดจริงๆ เพราะระยะเวลาทีไ่ ม่นานมาก แต่สามารถน�า คุณชัชชาติกอ่ นการเป็นผูว้ า่ ฯ เข้าถึงพืน้ ทีใ่ นหลากหลายกลุม่ ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นเช้าไปออกก�าลังกายที่สวนลุมพินี การปัน่ จักรยานไปท�ากิจกรรมกับคนรุน่ ใหม่ ซึง่ ทัง้ หมดนีถ้ กู พัฒนาต่อเนือ่ งมาจนถึงหลังเลือกตัง้ ได้รบั การรับรองเป็นผูว้ า่ ฯ อย่างเป็นทางการ ก็ยงั เจนจัดทางด้านการสือ่ สารในสถานที่ ต่างๆ เช่น ไปงาน Pride ทีถ่ นนสีลม และงานดนตรีในสวน ขณะเดียวกันก็ไปแก้ปัญหาการก่อสร้างที่ล่าช้า โดยคืน ผิวจราจรให้กบั ประชาชนจ�านวนมาก รวมไปถึงการไปก�ากับ การแก้ไขปัญหาน�า้ ท่วม ณ จุดบัญชาการ ส�าหรับผมสองสามประเด็นที่เรียบเรียงมานั้นน่าจะพอ สมควรแก่เหตุทจี่ ะท�าให้เห็นภาพครับว่า ต�าแหน่งนีท้ ไี่ ด้มานัน้ มาจากปัจจัยสือ่ สารด้านใดบ้าง เพียงแต่ถา้ ผมเป็นทีมงานจะห่วงอยูแ่ ค่ประเด็นเดียว คือ ภาวะ ‘การเข้าถึงง่าย’ ของผูว้ า่ ฯ จะกลายเป็น ‘แตะต้องยาก’


จากการโหมประโคมติดตามและแนวคิดในเรื่องการบูชา ในตั ว บุ ค คลมากกว่ า ดู ใ นกระบวนการท� า งานเป็ น หลั ก ซึ่งในช่วงแรกที่ทุกอย่างยังอยู่ในอารมณ์ Honeymoon Season นั้น อะไรก็ดูดี มีความหวัง แต่ด้วยวาระผู้ว่าฯ 4 ปี ยังมีระยะทางอีกยาวไกล ทีน่ า่ จับตา ว่าปรากฏการณ์ ชัชชาติฟีเวอร์นั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นคง และยัง่ ยืนได้หรือไม่ นี่จึงไม่ใช่แค่ตัววัดของคนกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว แต่ เ ป็ น การพิ จ ารณาสภาพสั ง คมไทยโดยภาพรวม ด้วยเช่นกัน



SCOOP : กองบรรณาธิการ

เสียงขับขาน

‘จากอดีตบรรพกาล

L G B T I Q ++

สูก่ ารเคลือ่ นไหวเพือ่ ความเท่าเทียม’

นิยามเรื่องของ ‘เพศสภาพ’ เคยถูกเข้าใจ และก�ากับเอาไว้ให้เป็น เพียง ‘ทวิลักษณ์’ ที่มีแค่สอง ไม่ชาย ก็ หญิง ทั้งบทบาท หน้าที่ รวมถึงพฤติกรรมที่ควรและพึงกระท�าที่ชัดเจน หากผิดไปจากนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เป็นบาปร้ายแรง จนถึงได้รับ การเหยียดหยามต่อต้านทั้งจากวงสังคม ศาสนา การเมือง และ เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สยามประเทศ หรือ ประเทศไทย อันเป็น ดินแดนที่ให้ความส�าคัญกับสิ่งที่เรียกว่า ‘จารีต’ ในระดับที่ฝัง รากลึกอยู่ในระดับวัฒนธรรม แต่เช่นเดียวกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่เดินทางผ่านเข้ามา เช่นเดียวกับทุกช่วงเวลาที่ต้องหมุนเวียน ค่านิยมและทัศนคติ

4 5


ที่ล้าสมัย จะถูกท้าทายด้วยกระบวนความคิดสมัยใหม่ ซึ่งเข้ามาปรับเปลี่ยนนิยามของสิ่งเก่าให้ลบเลือนหายไป และเปิดช่องว่างให้กับความหลากหลายที่จะเข้ามา และเรื่อง ‘เพศสภาพ’ ก็เป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหว และเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ หลังการผ่านร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต และการยื่นมติ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ก�าลังลุ้นว่าจะสามารถปรับใช้เป็น มาตรฐานใหม่ของสังคมไทยได้หรือไม่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สังคมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTIQ++

L G B T I Q

(แอล) Lesbian (เลสเบี้ยน)

(จี) Gay (เกย์)

(บี) Bisexual (ไบเซ็กชวล)

(ไอ) (ที) Trans- Intersex gender (อินเตอร์ (ทราน- เซ็กซ์) เจนเดอร์)

(คิว) Queer (เควียร์)

ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมสยามมาก่อน แต่กลับถูกซุกซ่อน ถูกหวงห้าม และถูกพูดในที่รโหฐาน ห้ามเปิดและแพร่งพรายออกไป GM Magazine ขอร่วมฉลอง ‘Pride Month’ เดือนแห่งความหลากหลาย ของกลุ่ม LGBTIQ++ ด้วยบทความที่ย้อนประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และบทวิเคราะห์ทิศทาง ความหลากหลายทางเพศของสยามประเทศที่มีความเป็นไปได้กับสิ่งที่รอคอย เป็นความท้าทายอย่างไร้ที่สิ้นสุด ว่าจะต้องพบกับสิ่งใดบ้าง เพราะเส้นทางที่ถูกเขียนและกระซิบ อย่างแผ่วเบาในวันวาน ได้ถูกขับขานขึ้นอย่างองอาจในวันนี้ แต่นี่ยังเป็นเพียง ‘ก้าวแรก’ บนหนทางอันยาวไกลเท่านั้น


จักรวาล LGBTIQ++ ในเมืองไทย สายธารของจักรวาล LGBTIQ++ บนโลกใบนี้ ทัง้ ซีกโลกตะวันตกและตะวันออก ผ่านการต่อสู้ เรียกร้อง สร้างการยอมรับจากยุคต่างๆ มาจนถึงปัจจุบนั และทีเ่ หมือนหรือคล้ายๆ กัน คือ ชุมชน ‘เลสเบียน’ จะถูกกล่าวถึงน้อยกว่า ‘เกย์’ ซึง่ ตามปกติแล้ว ไม่วา่ ทีแ่ ห่งใดในโลก เรือ่ งราวของผูห้ ญิงล้วนได้รบั การยอมรับน้อยกว่าผูช้ าย อีกทัง้ มีบทบาทเป็นรอง และเป็นเพียง ‘เพศทีส่ อง’ ของสังคมในอดีตเท่านัน้

เรือ่ งราวของ ‘หญิงรักหญิง’ เป็นแค่ ‘บางชีวติ ’ ทีซ่ กุ ซ่อน อยู่ในประวัติศาสตร์เกย์ ท�าให้เลสเบี้ยนในยุคแรกๆ นั้น แทบไม่ มี ตั ว ตนและไม่ เ ป็ น ที่ เ ปิ ด เผยมากนั ก แม้ ใ นยุ ค กรี ก โบราณที่ เ ปิ ด กว้ า งและให้ ค ่ า ของคู ่ รั ก ชายรั ก ชาย แต่การกล่าวถึงเรือ่ งหญิงรักหญิงก็เป็นเรือ่ งต้องห้าม หมุดแรกในเมืองไทย คือการจัดงาน ‘วันแห่งความ หลากหลายทางเพศ’ ขึน้ ครัง้ แรก ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2008 (ตรงกับ พ.ศ. 2551) ซึง่ ก่อนจะมี ‘วันนี’้ ต้องย้อน

กลับไป 2 ปีกอ่ นหน้าในช่วงปี 2006 (พ.ศ. 2549) มีการยืน่ ฟ้อง ต่อศาลปกครองให้พจิ ารณาถอนข้อความ ‘เป็นโรคจิตถาวร’ ในใบส�าคัญต่างๆ และใช้เวลานานถึง 5 ปี จนปี 2011 (พ.ศ. 2554) ศาลปกครองได้แก้ไขข้อความเป็น ‘ภาวะเพศสภาพ ไม่ตรงกับเพศก�าเนิด’

ในทางสากลได้ใช้เดือนมิถนุ ายนเป็น Pride Month ซึง่ กลุม่ LGBTIQ++ ทั่วโลกนิยมจัดงานเฉลิมฉลองกัน เพื่อร�าลึก ถึงการจลาจล ‘สโตนวอล’ ซึ่งเกิดขึ้นในเช้าตรู่เมื่อวันที่

4 7


28 มิถนุ ายน 1969 (พ.ศ. 2512) ณ กรีนวิช วิลเลจ รัฐแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อการโจมตีของต�ารวจน�าไปสู่ความรุนแรงกับชุมชนเกย์และเลสเบี้ยน ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้น�าไปสู่การปลดแอกเกย์ และเป็นการต่อสูใ้ นยุคใหม่ของผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศในสหรัฐอเมริกา และหนึ่งปีหลังจากนั้นก็เกิดองค์กรที่ด�าเนินกิจกรรมทั้งหลายเกี่ยวกับเกย์ มากขึน้ รวมถึงในวันที่ 28 มิถนุ ายน 1970 (พ.ศ. 2513) ได้จดั งานไพรด์พาเหรด ขึน้ เป็นครัง้ แรกในโลก

เมืองไทยเริม่ ต้นเมือ่ ใด

ณ วันนี้ สังคม LGBTIQ++ ในเมืองไทยได้รบั การพูดถึงมากขึน้ มีเรือ่ งราวมากมายหลากแง่มมุ ทีถ่ กู น�าเสนอ ผ่านหน้าสือ่ หลักและ Social Media ทัง้ ในรูปแบบขององค์กรเอกชน อิสระ และกลุม่ ไม่แสวงหาผลก�าไร แม้แต่ในพรรคการเมืองบางพรรค เช่น ‘ก้าวไกล’ ก็มนี โยบายส�าหรับคนกลุม่ นี้ และถึงแม้วา่ จะมีการพูดถึงมากจนเหมือนกับ สังคมเปิดกว้าง แต่ในความเป็นจริง ยังถือว่ามีสงิ่ ทีต่ อ้ งต่อสูก้ นั อีกมาก ทัง้ ทาง กฎหมาย (เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม) จนถึงการยอมรับในเชิงสังคม และวัฒนธรรม

อย่างไรก็ดี เมืองไทยรูจ้ กั เรือ่ งความหลากหลาย ทางเพศมาแต่ โ บราณ ผ่ า นวรรณกรรม พุทธศาสนา และวรรณคดีบางเรื่อง รวมถึง พระภิกษุสงฆ์บางรูปถูกเล่าขานในพุทธศาสนา ครั้ น พุ ท ธกาล และในบางแผ่ น ดิ น ตั้ ง แต่ กรุงศรีอยุธยา ก็มี ‘กฎมณเฑียรบาล’ และ ‘กฎหมาย’


โลกยุ ค บุ พ กาล ปลู ก ฝั ง ค่ า นิ ย มชาย-หญิ ง ต้ อ งคู ่ กั น เพือ่ ผลิตทายาทสืบทอดเผ่าพันธุ์ เป็นฟังก์ชนั ทีม่ ใี นระดับสันดาน ดังนัน้ ในยุคแรก สังคมไทยเฉกเช่นเดียวกับทัว่ โลก ทีไ่ ม่ยอมรับ พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กบั คนเพศเดียวกัน โดยถูกมองว่า เป็นเรือ่ งวิปลาส ผิดเพศ วิปริต เจ็บป่วย เรือ่ งราวของชุมชนนี้ ก็แค่เกิดขึ้น และอาจเอ่ยเพียงไม่กี่บรรทัดแล้วผ่านเลยไป ไม่ ไ ด้ บั น ทึ ก ไว้ อ ย่ า งเป็ น เรื่ อ งเป็ น ราวมากนั ก โดยในยุ ค สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงชนชั้นสูง ซึ่งมี คนไทยทั้งชายและหญิง รวมถึงชาวต่างชาติบางคนที่ท�างาน ในหน่วยราชการ ถูกเอ่ยถึงในหน้าประวัตศิ าสตร์ อาทิ กฎมณเฑียรบาล มาตรา 124 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรม ไตรโลกนาถสมัยอยุธยาตอนต้น : มีขอ้ ห้ามปรากฏในเอกสาร โบราณ ‘หากมีนางสนมก�านัลผู้ใด บังอาจละเมิดเล่นรักกัน เฉกเช่นสามีภรรยาจะต้องลงโทษด้วยการเฆีย่ นด้วยลวดหนัง 50 ที และหากยังฝ่าฝืนมีการเล่นเพือ่ นกันอีกให้จบั มาสักคอ ด้วยถ้อยค�าประณามแล้วใส่ตรวนจองจ�า และแห่ประจาน รอบๆ เมืองให้อบั อายเข็ดหลาบ’ (รัชนีชล 2553) และการ มีกฎมณเฑียรบาลมารองรับนี้ เท่ากับเป็นการชี้ให้เห็นว่า การเล่นเพือ่ นได้เกิดขึน้ แล้วตัง้ แต่โบราณ และบันทึกปรากฏ เป็นลายลักษณ์อกั ษรสมัยต้นอยุธยา บี บ คอก่ อ นเผา ‘ นายโยส เซาเต็ น ’ สมั ย พระเจ้ า ปราสาททอง : จนในยุคของพระเจ้าปราสาททอง ช่วงปี 1634 (พ.ศ. 2177) มีบนั ทึกไว้วา่ นายโยส เซาเต็น อดีตเจ้าหน้าที่ ฮอลันดา หัวหน้าสถานีการค้าดัตช์อีสต์อินเดีย ประจ�า กรุงศรีอยุธยา โดนรัฐบาลฮอลแลนด์ประหารชีวติ เผาทัง้ เป็น ทีป่ ตั ตาเวีย เมือ่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1644 เขาสารภาพว่า รั บ ตั ว อย่ า งการมี เ พศสั ม พั น ธ์ กั บ คนเพศเดี ย วกั น จากคน กรุงศรีอยุธยา ตลอด 7 ปี (ค.ศ. 1637-1644) ซึง่ ทัง้ หมดนี้ มีความสัมพันธ์กบั ชายถึง 19 คน และ 3 ใน 19 คนเป็น หัวหน้ากะลาสีเรือ, ทหาร และคนครึ่งพื้นเมืองชาวยุโรป ท�าให้ แอนโทนี่ ฟาน ดีเม็น ผู้ว่าราชการเมืองปัตตาเวีย ตัดสินให้บีบคอนายโยส เซาเต็น ให้ตายก่อนน� าไปเผา ส่วนคู่ขาทั้งสามคนถูกจับยัดใส่กระสอบแล้วน�าไปถ่วงน�้า ตามล�าดับ นอกจากนี้ นายโยส เซาเต็น ยังได้บันทึกถึง ความเจริญรุง่ เรืองของอยุธยาสมัยนัน้ ไว้ดว้ ย

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงออกกฎหมายทีพ่ าดพิงถึงพฤติกรรม รักร่วมเพศ อย่างเช่น ประมวลกฎหมายลักษณะ ร.ศ. 127 มาตรา 124 ทีก่ ล่าวว่า ‘ผูใ้ ดกระท�าช�าเราผิดธรรมดามนุษย์

ด้วยชายก็ดี หญิงก็ดี หรือกระท�าช�าเราด้วยสัตว์เดียรฉานก็ดี ท่านว่า มีความผิด ต้องระวางโทษติดคุกตัง้ แต่ 3 เดือนขึน้ ไป จนถึง 3 ปี แลให้ปรับตัง้ แต่ 50 บาทขึน้ ไปถึง 500 บาท’

หลังเปลีย่ นแปลงการปกครอง 2475 มีการพูดถึงเรือ่ งราว ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่นเดียวกับกระแสโลก และชาติต่างๆ ที่เริ่มพูดถึงความเข้มข้นในวิถีนี้ ผ่านข่าวสาร เรื่ อ งราวในหน้ า สื่ อ ต่ า งๆ ตั้ ง แต่ ห นั ง สื อ พิ ม พ์ นิ ต ยสาร จนมาถึงยุค Social Media ที่ขยายความเข้าใจ ว่าโลกแห่ง เพศสภาพ ไม่ได้มเี พียงแค่สอง สาม หรือสี่ แต่ยงั มีอกี มากมาย ในหลากหลายนิยาม

ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ ไม่วา่ จะเป็นชาติใด มักรวม และสร้างกลุม่ ของตัวเองเพือ่ พบปะสร้างสรรค์ แลกเปลีย่ น ความคิดเห็น มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง ยิง่ ในโลกทีก่ ารสือ่ สาร เชื่อมต่อ เพียงแค่คลิกเท่านั้น ทุกอย่างก็จะอยู่ตรงหน้า ยกตัวอย่างเรื่อง ‘ศัพท์แสลง’ และศัพท์วิชาการบางตัว การขานเรียกก็อาจจะเปลีย่ นไปตามยุคสมัย วันนี...้ ถ้ายังใช้ ‘พจนานุกรมเกย์’ รุน่ ‘ฉันผูช้ ายนะยะ’ ต้องบอกว่า ‘เชย และล้าสมัย’ เพราะศัพท์ประเภทนีเ้ ปลีย่ นแปลงไปเร็วมาก โดยเฉพาะยุคนี้ เกย์ เลสเบีย้ น คนข้ามเพศ สร้างโลก ของกลุม่ ผ่านบาร์และร้านอาหาร ร้านกาแฟ และต่อมาเริม่ มี การใช้ศพั ท์บางตัว อย่างตะวันตก ใช้ ‘บุตช์’ (Butch) เรียก ‘เลสเบี้ ย นที่ มี ลั ก ษณะแบบชาย ’ บ้านเราเรียก ‘ทอม ’ ซึ่งมาจาก ‘ทอมบอย’ ส่วนเลสเบี้ยนหญิง เรียก ‘เฟม’ (Femme) ส่วนเราเรียก ‘ดี’้ มาจาก ‘เลดี’้ ในอดีตสังคมไทย เรียก ‘กะเทย’ เป็นการเรียกอย่างสากลว่า Hermaphrodite ในปี 2397 จากนั้นวงการแพทย์เริ่มใช้ค�าว่า Homosexual ในสมัยรัชกาลที่ 7 ซึง่ หมายถึง บุคคลทีม่ พี ฤติแบบ ‘รักร่วม เพศ’ ส�าหรับเกย์ เรียกว่า เกย์คงิ -ฝ่ายรุก, เกย์ควีน-ฝ่ายรับ ในยุคประชาธิปไตย เรื่องราว-พฤติกรรมของบุคคลที่มี ความหลากหลายทางเพศบางคนในอดีต สื่อมวลชนได้น�า ‘ศัพท์ตงั้ ต้น’ มาใช้เรียกขานพฤติกรรมของคนทีม่ พี ฤติกรรม เดียวกันในล�าดับถัดไป และ ‘ศัพท์แสลง’ โดยมาก เป็นศัพท์ เชิงเหยียดทีใ่ ห้คา่ ลบ ดังเช่นคดี ‘นายถัว่ ด�า’ ซึง่ เป็นชือ่ เล่น ของ ‘นายการุณ ผาสุก’ ได้ตกเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์รายวัน ‘ศรีกรุง’ ฉบับประจ�าวันที่ 20 มิถนุ ายน 2478 ว่ามีพฤติกรรม ชอบสนิมสนมคบหาเด็กชายอายุ 10-16 ปี ไม่มีภรรยา เป็นตัวเป็นตน หลังไต่สวนพบว่า นายถัว่ ด�าได้พาเด็กมาส�าเร็จ ความใคร่ แล้วชักชวนให้บริการกับแขก ซึง่ เป็นเจ้าสัวคนจีนบ้าง เป็นจีนบ้าบ๋าบ้าง ใช้บ้านเปิดเป็นซ่อง โดยเจ้าบ้านได้เก็บ ค่าบริการจากผูซ้ อื้ บริการอย่างเดียวกับซ่องนางโลมทัง้ หลาย และผลตรวจของแพทย์ ร ะบุ ว ่ า เด็ ก ทั้ ง 2 คนมี แ ผลที่ ช่องทวารหนัก ศัพท์แสลงที่ใช้กันต่อมาว่า ‘ถั่วด�า’ หรือ ‘อัดถั่วด�า’ จึงเป็นศัพท์แสลงทีใ่ ช้และรูก้ นั ในความหมายว่า พฤติกรรม การร่วมเพศของกลุ่มชายรักชาย (เช่นเดียวกับค�าว่า ‘ตุ๋ย’

4 9


ก็เป็นศัพท์แสลงที่ใช้ในความหมายเดียวกัน จากข่าว ‘ผู้กองตุ๋ย’ ในปี 2541) หรืออย่างศัพท์แสลงต่างๆ อืน่ ๆ เช่น ตุด๊ แต๋ว สายเหลือง ฉิง่ ฉับ ฯลฯ ก็ลว้ นแต่ ให้คา่ เหยียดและลบทัง้ สิน้ หลัง พ.ศ. 2500 สังคมของคนทีม่ บี คุ ลิกหลากหลาย ทางเพศได้รบั การยอมรับมากขึน้ มีคนเก่งๆ เข้ามาท�า หน้าที่ต่างๆ กันไป ในวงการบันเทิง บุคคลที่สร้าง ชื่อเสียงให้กับสถานีไทยโทรทัศน์ คือ เทิ่ง สติเฟื่อง (บรรยงค์ เสนารักษ์) ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เป็นทั้ง นักโฆษณา, ผูจ้ ดั ละคร, นักแต่งเพลง เทิง่ ใช้ศพั ท์และ ส�านวนใหม่ๆ เพือ่ เป็นกันเองคุน้ เคยกับผูช้ ม จนวันนี้ สังคม ‘ดูเหมือน’ จะเปิดกว้าง เพราะเรา เห็นบุคคลทีม่ คี วามหลากหลายทางเพศรับเอานิยามและ แนวคิดเรือ่ งเพศจากสังคมตะวันตกเข้ามาในสังคมไทย และค�านิยามนั้นก็ท�าให้ความหลากหลายขยายตัว กันไปอีกมากมาย ดังทีเ่ ห็นอักษรใหม่ๆ ปรากฏพ่วงท้าย LGBTIQ++

L G B T I Q L (แอล) - Lesbian (เลสเบีย้ น) / หญิงรักหญิง G (จี)

- Gay (เกย์) / ชายรักชาย

B (บี)

- Bisexual (ไบเซ็กชวล) / บุคคลทีร่ กั ได้ทงั้ 2 เพศ

T (ที)

- Transgender (ทรานเจนเดอร์) / บุคคลข้ามเพศ / หญิงข้ามเพศ (Transwoman), ชายข้ามเพศ (Transman)

I (ไอ)

- Intersex (อินเตอร์เซ็กซ์) / บุคคลทีม่ อี วัยวะเพศก�ากวม ไม่ชดั เจนว่าชายหรือหญิง หรือมีทง้ั 2 เพศในร่างกาย

Q (คิว)

- Queer (เควียร์) / บุคคลทีม่ วี ถิ ที างเพศเลือ่ นไหล ปฏิเสธการรับอัตลักษณ์เดียวตลอดชีวติ

เชื่อเหลือเกินว่า ในอนาคตข้างหน้า ++ ต้องท�า หน้าที่ต่อไป นั่นเพราะว่า เรื่องเพศของแต่ละคนมี ความแตกต่างกัน ‘ในความเหมือนมีความต่าง’ และใน ความต่างก็อาจจะต่างกันไปอีกในรายละเอียด


ความเคลือ่ นไหวภาคประชาชนของกลุม่ LGBTIQ++ ในปัจจุบนั ในตอนนี้ ท่ามกลางการยอมรับของสังคมไทยทีม่ ตี อ่ กลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTIQ++ ทีม่ ากขึน้ ในระดับหนึง่ ความเคลือ่ นไหวเพือ่ ยกระดับความสัมพันธ์ในแง่กฎหมาย เพือ่ ให้สอดคล้องกับ คุณภาพชีวติ ทีด่ ี ก็เป็นอีกหนึง่ ย่างก้าวส�าคัญทีถ่ กู กล่าวถึงกันในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศอืน่ ๆ ทัว่ โลก

สิทธิในมรดก เป็นเรือ่ งทีไ่ ม่สามารถกระท�าได้ พระราชบัญญัติ คูช่ วี ติ ได้ปลดล็อกข้อจ�ากัดต่างๆ ทางกฎหมายดังต่อไปนี้ หน้าทีใ่ นการอุปการะเลีย้ งดูซงึ่ กันและกัน อ�านาจจัดการแทนผูเ้ สียหายในคดีอาญาเช่นเดียวกับ สามีหรือภริยา สิทธิรบั บุตรบุญธรรมร่วมกัน สิทธิรบั มรดกในฐานะทายาทโดยธรรม สิทธิและหน้าทีใ่ นการเป็นผูอ้ นุบาลหรือผูพ้ ทิ กั ษ์ หากอีกฝ่ายเป็นคนไร้ หรือเสมือนไร้ความสามารถ สิทธิเซ็นยินยอมให้รกั ษาพยาบาลอีกฝ่าย สิทธิจดั การศพ

ส� า หรั บ ประเทศไทย ความคื บ หน้ า ล่ า สุ ด ที่ เ กิ ด ขึ้ น หลังการจัดงาน Pride Month เมือ่ ช่วงต้นเดือนมิถนุ ายน ทีผ่ า่ นมา คือการลงมติผา่ นร่างพระราชบัญญัตคิ ชู่ วี ติ และ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางเพศและความ หลากหลายทางเพศ อันเป็นก้าวแรกทีจ่ ะน�าไปสูก่ ารยืน่ ต่อสภา เพือ่ ประกบร่างพระราชบัญญัตสิ มรสเท่าเทียมทีย่ งั คงรอมติ จากคณะรัฐมนตรีตอ่ ไป นีถ่ อื ว่าเป็นความคืบหน้าทีส่ า� คัญอย่างยิง่ เพราะในอดีต กลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ แม้จะใช้ชวี ติ อยูก่ นิ ร่วมกัน มานานหลายปี แต่สทิ ธิทางกฎหมายทีพ่ งึ มีในฐานะประชาชน เช่น สิทธิคา่ รักษาพยาบาล สิทธิในการขอเลีย้ งดูบตุ ร จนถึง

เป็ น ที่ น ่ า สั ง เกตและน่ า ลุ ้ น ว่ า ในความเคลื่ อ นไหว ขั้นต่อไปของพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม จะสามารถ ผ่านการรับวาระจากคณะรัฐมนตรีในสภา และก่อให้เกิด ความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยทั้งทางวัฒนธรรม และทาง กฎหมายมากน้อยเพียงใด แต่ ใ นทางหนึ่ ง กลุ ่ ม บริ ษั ท ห้ า งร้ า น องค์ ก รเอกชน หลายแห่ง ก็ให้ความส�าคัญกับกลุ่มผู้มีความหลากหลาย ทางเพศเพิม่ มากขึน้ และไม่ได้เป็นเพียงแค่การเกาะกระแส แค่อย่างฉาบฉวย หากแต่ลงลึกถึงวัฒนธรรม แนวทางปฏิบตั ิ และการใส่ใจในระดับองค์กร เช่น การให้สิทธิวันลาทาง การแพทย์ หรือการเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าทางการงาน ทีม่ ากขึน้ เป็นต้น

5 1


อย่างไรก็ตาม แม้วา่ จะเป็นข่าวทีน่ า่ สนใจ และเป็นนิมติ หมาย ทีด่ ขี องกลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศหรือ LGBTIQ++ แต่ใน สภาพความเป็นจริงแล้ว ยังมีอกี หลายประเทศทีก่ ารต่อสูเ้ พือ่ ความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศ ยังคงเป็นเรือ่ งทีย่ ากล�าบาก ถูกหวงห้าม รวมถึงมีการต่อต้านและมีบทลงโทษ ตัวอย่างของสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ อัฟกานิสถาน ภายหลังจากที่กองก�าลังตาลีบันเข้ายึดครองประเทศ ชีวิต ความเป็นอยู่ของกลุ่ม LGBTIQ++ และสตรี ตกอยู่ในความ หวาดกลัว ด้วยกฎหมายศาสนาและการใช้อ�านาจของบุรุษ เป็นใหญ่ การแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง หรือการผิดกฎ แม้เพียงนิด อาจจบด้วยชีวติ ทีด่ บั สูญ

หรือในภูมิภาคเอเชียเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน กล่าวคือ ประเทศไทย ค่อนข้างมีความก้าวหน้าในการเคลื่อนไหวและ การแสดงออกของกลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศเมือ่ เทียบ กับประเทศเพือ่ นบ้าน เช่น ประเทศ บรูไน ทีล่ งโทษประหาร ส�าหรับกลุม่ คนทีเ่ ป็นชายรักชาย, สิงคโปร์ ทีม่ กี ฎหมายลงโทษ ส�าหรับการรักร่วมเพศเดียวกัน แม้แต่ในประเทศทีม่ คี วามก้าวหน้า เช่น ญีป่ นุ่ กลุม่ คนผูท้ มี่ ี ความหลากหลายทางเพศ ถูกจัดเป็นประชากรทีแ่ ทบไม่ได้รบั การยอมรับในสังคมการท�างานปกติ และเป็นได้แค่บทบาท ตลกจ�าอวดในแวดวงบันเทิง เป็นเพียง ‘โอกามะ (Okama)’ หรือ ‘กะเทย’ ซึง่ เป็นค�าแสลงแทนความเหยียดหยามของผูค้ น ทีม่ ตี อ่ กลุม่ คนเหล่านี้ และสุดท้าย คือ ประเทศ จีน ด้วยค่านิยมของการแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกหลานสืบตระกูลเป็นฐานของวัฒนธรรม สังคมชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง หรือกลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลาย ทางเพศ ประสบปัญหาในการด�าเนินชีวติ อย่างมาก และไม่ถกู ยอมรับไม่ว่าจะในด้านในก็ตาม แม้ว่าจะมีนวนิยายสายวาย (Yaoi, Yuri) หรือสายรักเพศเดียวกัน แต่กเ็ ป็นเพียงเรือ่ งบันเทิง ประโลมใจ แต่ในทางปฏิบตั กิ ลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จะเห็นได้วา่ ความเคลือ่ นไหวเพือ่ ความเสมอภาคของกลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศหรือ LGBTIQ++ ยังมีระยะทางและ อุปสรรคอยูไ่ ม่นอ้ ยทีต่ อ้ งฝ่าฟัน แต่จะต้องค่อยๆ ดีขนึ้ ท่ามกลาง การยอมรับและความเข้าใจทีม่ ากขึน้ ตามเวลา


ย่างก้าวบนทางยาว ‘สีรงุ้ ’ อย่างทีก่ ล่าวไปแล้วว่า หนทางของกลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ ยังคงมีอปุ สรรค และความท้าทายใหม่ๆ ทีร่ อคอยอยู่ (ทัง้ กับสังคมภายนอก จนถึงภายในกลุม่ ด้วยกันเอง) และแม้วา่ ร่างพระราชบัญญัตคิ ชู่ วี ติ และสมรสเท่าเทียม จะเป็นเหมือนความคืบหน้าทีส่ า� คัญ แต่นนั่ ยังไม่ใช่ปลายทางตอนจบทีค่ รบถ้วนสมบูรณ์ เพราะการต่อสูน้ ี้ ยังต้องไปอีกไกล และไม่ใช่สงิ่ ทีเ่ พิง่ เกิดขึน้ ไม่กปี่ ี แต่ได้สะสมมาจากระยะเวลาทีย่ าวนานกว่านัน้ แต่...อย่างน้อยทีส่ ดุ ก็ได้เริม่ ก้าวเดินอย่างมีความคืบหน้า และมีความหวังแล้ว ทัง้ ในประเทศไทย หรือในประเทศอืน่ ๆ ทีก่ ลุม่ ผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศ สามารถเปิดเผยตัวตน ใช้ชวี ติ และด�ารงสถานะได้อย่างเสมอหน้าเท่าเทียมกัน ส�าหรับพวกเขา สิง่ ทีต่ อ้ งการ ไม่ใช่แค่ขบวนพาเหรดธงสีรงุ้ ความสนุกสนาน แต่งตัวเฉิดฉาย แล้วก็จากไป เพราะเหล่านัน้ เป็นเพียงสีสนั หาใช่สาระส�าคัญไม่ แต่สรี งุ้ บนธง Pride คือสิง่ บ่งบอกความหมายของความหลากหลาย ความภาคภูมิ และความไม่จา� นนต่ออคติเก่าเก็บ ทีถ่ กู ทับซ้อนให้พวกเขาต้องหลบซ่อน เป็นถนนทีค่ นทุกเพศสามารถเดินร่วมไปด้วยกัน “ขอให้ความหลากหลายจงมีชยั

และหัวใจของผูม้ คี วามหลากหลายทางเพศจงผลิบาน”

5 3


GM club

ดร. จักรพล จันทวิมล

: 10 ปีกบั การตลาดแห่งความ ‘ธรรมดา’ ของแบรนด์ ‘นันยาง’ : สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์

: สรรค์ภพ จิรวรรณธร

ในโลกยุคปัจจุบันที่ทุกสิ่งเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว ข่าวสาร ความเป็นไป และกระแสของสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในแต่ละช่วงเวลา ไหลบ่าท่วมท้น จนหลายสิ่งกลายเป็น ‘ความธรรมดา’ และผู้คนโหยหา ‘ความพิเศษ’ แม้จะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ถวิลมองสีสันใหม่ๆ แม้จะเป็นระยะสั้นๆ เมื่อสิ่งเก่าเริ่มชืดชา และหลบหายจากไป ‘ความธรรมดา’ กลายเป็นสิ่งที่ดูไม่พึงปรารถนา ในสังคมที่ทุกคนอยากจะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่ ‘ไม่ธรรมดา’ และได้รับการเหลียวมอง กลับมาบ้าง… แต่ก็อีกหลายครั้งเช่นกัน ที่ความ ‘ธรรมดา’ อันแสนเรียบง่าย สามารถยืนหยัดครองใจ แม้จะไม่มีย่างก้าวที่ฉับไว แต่เดินไป อย่างมั่นคง แข็งแรง ชัดเจนในจุดยืน และสร้างพื้นที่ส่งต่อคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น แม้ต้องใช้เวลา และไม่อาจเห็นผลได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น ก็คุ้มค่าและยั่งยืน เช่นเดียวกับแบรนด์ ‘นันยาง’ ผู้ผลิตรองเท้านักเรียน ‘นันยาง’ และรองเท้าแตะ ‘ช้างดาว’ ที่ยึดมั่นใน ‘ความธรรมดา’ แต่ครองใจ ผู้บริโภคมากว่า 70 ปี ซึ่ง GM Magazine ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จ�ากัด เกี่ยวกับตัวตน แนวทาง และอนาคตที่จะเดินต่อไปของ ‘แบรนด์นันยาง’ รวมถึงกระแส ‘คนธรรมดา’ ที่ร่วมกับแบรนด์เสื้อยืดธรรมดา ตรา ‘ห่านคู’่ จนกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานี้ ระยะเวลาที่ ได้ร่วมงานกับบริษัทนันยาง

ถ้านับระยะเวลาจริงๆ ก็เกือบจะ 10 ปีแล้วครับ แต่ทงั้ นี้ รวมถึงต�าแหน่ง ต่างๆ ก่อนหน้านัน้ ทีแ่ ตกต่างและหลากหลายในหน้าทีก่ นั ไป นั น ยางเป็ น แบรนด์ ที่ เ ก่ า แก่ โจทย์ สำ า คั ญ ที่ ต ้ อ งไปให้ ถึ ง กั บ ตลาด ยุคใหม่ ในปัจจุบันคือสิ่งใด

นันยางเปิดกิจการมาแล้วกว่า 70 ปี ในด้านคุณภาพและการใช้งาน ผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้แปลกแตกต่างไปจากเดิมมากมายนัก ไม่วา่ จะรองเท้า ผ้าใบนันยาง หรือรองเท้าแตะช้างดาว ซึ่งทางนันยางก็บริหารงานด้วย แนวทางทีช่ ดั เจนในการรักษาจุดแข็งเหล่านีไ้ ว้ และเพิม่ เติมด้วยแนวคิด กับการปรับเปลีย่ นให้เป็นสีสนั ใหม่ๆ ตามยุคสมัย สิง่ หนึง่ ทีภ่ มู ใิ จอย่างมาก คือการทีย่ งั สามารถด�าเนินกิจการพาสินค้าไปอยูใ่ นใจผูบ้ ริโภค และผ่าน ช่วงเวลาวิกฤติตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติการเมือง หรือวิกฤติ โรคระบาดทีพ่ น้ ไปไม่นาน นันยางรักษา Brand Identity ที่มั่นคงและชัดเจนได้อย่างยาวนาน มีแนวทางในการไปถึงจุดนี้อย่างไร

การทีน่ นั ยางสามารถรักษา Brand Identity เอาไว้ได้นนั้ ถ้ามองใน ภาพใหญ่ จะแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนหลักทีท่ า� ให้เกิดขึน้ หนึง่ , ท�าสิง่ ทีถ่ นัด คือ การท�ารองเท้าผ้าใบและรองเท้าแตะทีม่ คี ณ ุ ภาพในด้านการใช้งาน มีจดุ เด่น และเข้าถึงได้ง่ายเป็นตัวยืนพื้น สอง, ท�าในสิ่งที่กลุ่มผู้บริโภคต้องการ ตอบสนองต่อกลุม่ ตลาดทีช่ ดั เจนจริงๆ และปรับปรุงให้เข้ากับความต้องการ ตามระยะเวลา และสาม ข้อนีส้ า� คัญทีส่ ดุ คือ การท�า ‘สิง่ ทีค่ แู่ ข่งไม่ม’ี เพราะ การท�าธุรกิจของนันยางจะพยายามไม่ลงไปในตลาดที่มีผู้ผลิตรายอื่น ท�าได้ดกี ว่า จะศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ เพือ่ ให้แน่ใจในทุก 3 ส่วนหลักนี้ แน่นอนว่าผลตอบรับทีไ่ ด้คอ่ นข้างเป็นทีน่ า่ พอใจ ในแง่หนึง่ อาจจะดู เป็น Comfort Zone หรือระยะปลอดภัยในการท�าธุรกิจ จาก 3 ส่วนหลัก ที่กล่าวไป แต่ก็เป็นแนวทางของนันยางที่ท�าให้สามารถเติบโตมาได้ จนถึงทุกวันนี้

คิดว่าอะไรเป็นจุดแข็งของแบรนด์นันยาง

อย่างแรก คือ คุณภาพสินค้า จะใส่ใจกับจุดนีใ้ ห้ชดั เจน มัน่ ใจได้ใน ด้านการใช้งาน ส่วนที่ 2 เป็นส่วนทีเ่ ข้าไปสือ่ สารกับผูบ้ ริโภคโดยตรง นัน่ คือ ‘บุคลิก’ ทีส่ วมทับความเป็นรองเท้านันยาง เป็นภาพจ�าทีผ่ คู้ น นึกถึง เป็นภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ออกจะเกเรนิดๆ ครูไม่คอ่ ยชอบแต่เพือ่ นรัก ซึง่ ต้องย�า้ ว่านีไ่ ม่ใช่กลุม่ เป้าหมาย แต่เป็น บุคลิกที่บอกออกไป และเป็นสิ่งที่ทางบริษัทใช้ในการต่อยอดทิศทาง การตลาดอย่างต่อเนือ่ ง ให้เกิดเป็นจุดแข็งของแบรนด์ COVID-19

เพียงใด

ส่ง ผลกระทบต่อ การทำ า ธุ ร กิ จ ของนั น ยางมากน้อ ย

ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนครับ อย่างแรกคือโรงเรียนไม่เปิดเทอม ความต้องการก็ลดลง ร้านค้าก็ตดิ ปัญหา นีค่ อื ส่วนความต้องการของผูบ้ ริโภค ในส่วนของฝัง่ ผลิต ในช่วงที่ COVID-19 มาใหม่ๆ ทีช่ ดุ ตรวจยังไม่มี วัคซีน ยังไม่มา การผลิตและบุคลากรในโรงงานก็ได้รบั ผลตามไปด้วย แต่ทางนันยางก็ประเมินสถานการณ์ตามระยะต่างๆ สมมุตวิ า่ ถ้าปีนี้ ไม่เปิดเทอม หรือเปิดเทอมช้า จะกระทบมากน้อยเพียงใด กรณีทดี่ ที สี่ ดุ ทีพ่ อรับได้ ทีแ่ ย่ทสี่ ดุ ก็จะช่วยให้มองภาพออกว่า จะเกิดอะไรขึน้ อย่าง คร่าวๆ เรียกว่า ‘Prepare for the Worst but Hope for the Best’ ที่ ม าที่ ไปของความร่ ว มมื อ ระหว่ า งแบรนด์ นั น ยางและแบรนด์ เสื้อยืดห่านคู่

จุดเริ่มต้นมาจากการที่นันยางพยายามจะขยายกลุ่มตลาดของ รองเท้าแตะช้างดาว ที่เคยมีผู้บริโภคในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป ให้มา สู่รุ่นอายุที่ใหม่ขึ้น เกิดเป็นภาพจ�าที่แตกต่าง จนเกิดเป็นไอเดียที่จะ สื่อสารให้รองเท้าแตะช้างดาวมีความเป็นสไตล์เฉพาะตัว ร่วมสมัย ปรับเปลีย่ นตามกาลเวลา เป็นแคมเปญ ‘ช้างดาว Style’ ทีท่ างบริษทั ได้ดา� เนินการมาแล้วประมาณ 5-6 ปี และได้ผลตอบรับทีค่ อ่ นข้างดีและ ไปในทางบวก


ทีนี้ทางเรานันยางมองเห็นในกระแส และท�ากิจกรรมบนหน้าสื่อ มาโดยตลอด ก็เลยคิดว่าจะท�าอะไรเพือ่ ให้พอ้ งไปกับความเคลือ่ นไหว ดังกล่าว เลยเกิดเป็น ‘จดหมายตอบกลับถึงเสือ้ ยืดห่านคู’่ ไป ซึง่ ใช้ ความเข้าใจในบริบทของ ‘คนธรรมดา’ และความธรรมดา ทีม่ รี ว่ มกัน และเป็นตัวตนของทัง้ สองแบรนด์ เคยคิดว่าไวรัล ‘คนธรรมดา’ จะไปได้ ไกลขนาดนี้หรือไม่ และคิดเห็น อย่างไรกับกระแส ‘คนธรรมดา’ ที่ตามมา

ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าจะกระจายไปไกลและมากขนาดนี้ ซึ่งพอมา วิเคราะห์แล้ว ก็อาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งการที่แบรนด์นันยาง และห่านคูช่ ดั เจนในความ ‘ธรรมดา’ สารทีส่ อื่ ออกไปเลยค่อนข้างชัดเจน และอีกปัจจัยก็อาจเพราะเนือ้ หานัน้ ตรงใจกับผูค้ นในทุกระดับ ถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับกระแสทีต่ ามมา มองว่าเป็นเรือ่ งดีนะครับ เพราะถ้า เจาะลงไปที่กลุ่มฐานแฟนๆ ของแบรนด์ที่เล่นกับกระแส จะพบว่ามี การตอบรับทีด่ ขี นึ้ ไม่วา่ จะเป็นผูป้ ระกอบการรายย่อย ผูป้ ระกอบการ รายใหญ่ หรือแม้แต่สถานทูตบางประเทศก็รว่ มด้วย แนวทางในการทำาธุรกิจในอนาคตข้างหน้าของนันยาง

อาจต้องพูดถึง 3 ส่วนหลักการท�าธุรกิจที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น นันยางจะยังคงบริหารภายใต้ความไม่เสี่ยง หรือเสี่ยงในระดับที่ สามารถรับได้ ต้องรูว้ า่ ขอบเขตทีส่ ามารถไปได้นนั้ มีมากแค่ไหน และ สามารถรับผลกระทบได้มากสุดทีเ่ ท่าไร โดยเฉพาะในจุดหลัง กับค�าว่า ‘Prepare for the Worst’ เตรียมรับกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นีค่ อื สิง่ ทีส่ า� คัญมาก จริงๆ มีความเป็นไปได้ในอนาคตมีหลากหลายมาก แต่กย็ งั ต้องมอง ในมุมผูบ้ ริโภค และตอบสนองต่อความต้องการทีม่ อี ยูจ่ ริงๆ เป็นหัวใจหลัก

ทีนถี้ า้ ถามว่านันยางมาเกีย่ วพันกับเสือ้ ยืดห่านคูไ่ ด้อย่างไร อาจจะเรียกว่า เป็นโชคชะตาน�าพาเลยก็ว่าได้ นั่นเพราะว่าทั้งสองแบรนด์มีจุดเริ่มต้นที่ เหมือนกันมาก คือเริม่ ก่อตัง้ ในปี พ.ศ. 2496 ผูก้ อ่ ตัง้ เป็นชาวจีน นันยางน�าเข้า สินค้าจากสิงคโปร์กอ่ นซือ้ กิจการ ส่วนห่านคูน่ า� เข้าจากฮ่องกงก่อนตัง้ โรงงาน รวมถึงมีจุดยืนในความเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมดาที่อยู่คู่คนไทยมาเกือบ 70 ปี เลยเกิดเป็นแคมเปญ ‘ช้าวดาว x ห่านคู่ Edition’ สะท้อนการเป็นสินค้าทีแ่ ทบ ไม่เปลีย่ น แต่ยนื หยัดได้ดว้ ยความพยายาม ตัง้ ใจ และแน่นอนชัดเจนในแนวทาง อีกประการหนึง่ แคมเปญนีค้ อื ความพยายามทีจ่ ะลดช่องว่างระหว่างรุน่ อายุ ด้วยสินค้าช้างดาวและห่านคูท่ ี่ ‘ร่วมสมัย’ สามารถสานต่อเป็นการสือ่ สารจาก รุน่ สูร่ นุ่ ได้ ทัง้ หมดเป็นความร่วมมือทีเ่ กิดขึน้ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมทีผ่ า่ นมา แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องท�าความเข้าใจก่อนเลย คือนันยางไม่ได้รวมกิจการกับ ห่านคู่นะครับ จุดนี้มีคนเข้าใจผิดอยู่บ้าง แต่สองแบรนด์แค่มาร่วมงานกัน เหมือนศิลปินนักร้องมา Featuring แบบรวมกันเฉพาะกิจ แบบเพือ่ นท�างาน กับเพือ่ น พอเสร็จงานก็แยกย้ายไปตามทางครับ เช่นนั้นแล้ว ไวรัล ‘คนธรรมดา’ ที่เป็นกระแส คือหนึ่งในแคมเปญนี้ ด้วยหรือไม่

อันนี้เรียกว่าเป็นความบังเอิญล้วนๆ เลยครับ คือทั้งนันยางและห่านคู่ ไม่ได้พดู คุยตระเตรียมอะไรในจุดนี้ พอจบช่วง ‘ช้างดาว x ห่านคู่ Edition’ ก็แยกย้ายกันไป ทีนี้ทางแบรนด์ห่านคู่ได้เริ่มแคมเปญ ‘เสื้อยืดธรรมดา ทีท่ า� มาดี’ และโพสต์ ‘จดหมายถึงคนธรรมดา’ ขึน้ บนหน้า Social Media และได้เสียงตอบรับทีค่ อ่ นข้างเป็นไปในทางบวก

และในทางหนึง่ ก็พร้อมปรับถ้ามีความเปลีย่ นแปลง เช่น ถ้าในอนาคต ไม่ได้มีการใส่ชุดนักเรียนอีกแล้วจะท�าอย่างไร ซึ่งนันยางก็วางตัวเอง เป็นรองเท้าผ้าใบทีส่ ามารถใส่ได้ในหลายโอกาส ไม่ได้จา� กัดว่าจะต้องเป็น แค่รองเท้านักเรียนเสมอไป สำ า หรั บ ผู้ช ายที ่ ช ื ่ อ ดร.จั ก รพล ความเป็ น ‘คนธรรมดา’ นั้น มีนิยามอย่างไร

ส่วนตัวมองว่า คนธรรมดา คือคนที่อยู่กับปัจจุบัน คือเวลาดีใจ ก็ไม่ได้มากจนล้นเกิน เวลาผิดหวังเสียใจ ก็ไม่ได้ทนทุกข์เก็บมาคิด จนท�าอะไรไม่ได้ เข้าใจสภาวะทีเ่ กิดขึน้ จริงๆ ตามทีม่ นั เป็น และใช้ชวี ติ ในแต่ละช่วงให้เต็มความสามารถ เป็นชีวติ ในแบบทีเ่ ห็นได้ทวั่ ไปนะ

ถ้ามองว่านันยางคือ ‘ใครคนหนึ่ง’ แล้ว ‘นันยาง’ เป็นใคร

(นิง่ ) คิดว่านันยาง ‘เป็นใครก็ได้’ นะครับ จุดนีต้ อ้ งเข้าใจก่อนว่า นี่ไม่ใช่บุคลิกหรือภาพจ�าของรองเท้านันยางอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า เพราะถ้าถามว่านันยางเป็นคน แล้วคนคนนัน้ คือใคร ก็มองว่านันยาง คือ ‘รองเท้า’ ส�าหรับการใช้งาน ส�าหรับทุกโอกาส ทุกรูปแบบ ทุกสไตล์ ทีต่ อ้ งการ เป็นใครก็ได้ทอี่ ยากให้เป็น ไม่ตอ้ งทะนุถนอมอะไรมาก สวมใส่ และไปใช้ชวี ติ ให้เต็มที่ นัน่ ละครับ ความเป็นนันยาง

5 5


GM club

‘การส่งต่อความมัน ่ ใจด้านสุขภาพ

กับ

อาหาร และยา’

เภสชั กรธัชพล ชลวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) : สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์

: สรรค์ภพ จิรวรรณธร

สุขภาพร่างกายที่ดี คือสิ่งที่ส�าคัญอย่างยิ่งในการด�าเนินชีวิต การพักผ่อนที่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่สมดุล การควบคุมกิจวัตร ในแต่ละวัน ทุกสิ่งต้องประกอบควบคู่กันจะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องของโรคภัยและความเจ็บป่วย คือเรื่องที่สามารถ เกิดขึน้ ได้อย่างเป็นปกติ และถ้าไม่หนักหนาจนเกินไปแล้วละก็ ‘ร้านขายยา’ จะเป็นทีพ่ ง่ึ พิงแรกของผูป้ ว่ ยซึง่ จะเดินเข้าไปปรึกษาและซือ้ หา เวชภัณฑ์เพื่อบรรเทาอาการในเบื้องต้นให้ทุเลาลง หากแต่ความรวดเร็วในสังคม ความซับซ้อนของโรคที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงชีวิตที่เร่งรีบ ท�าให้การไปร้านขายยาเริ่มเป็นสิ่งที่ห่างไกล ไม่นับรวมค�าแนะน�าจากเภสัชกรผู้ช�านาญการในการวินิจฉัยโรคประจ�าบ้านเบื้องต้น แทนการไปพบแพทย์ตามสถานพยาบาล ซึ่งต้องได้ มาตรฐาน และถูกต้องเหมาะสม และนั่นคือ ปณิธานส�าคัญของ บริษัท เฮลท์ลีด จ�ากัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์ร้านขายยา iCare, Pharmax, Vitaminclub และ Super Drug ที่ เภสัชกรธัชพล ชลวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยึดถือเป็นแนวทาง และได้มาร่วมพูดคุยกับ GM Magazine ในแง่มมุ ต่างๆ ทัง้ ฟังก์ชนั ของร้านขายยาในปัจจุบนั ทิศทางการด�าเนินงานของบริษทั และเป้าหมายเมือ่ บริษทั เข้าสูค่ วามเป็นมหาชน ร้านยา และบทบาทของเภสัชกร

ขึ้นชื่อว่าร้านขายยา แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คน ไม่วา่ จะในระดับใด แต่ในทางหนึง่ ก็ชวนให้สงสัยไม่ได้วา่ ในกระบวนการ ท�างานของเภสัชกรในร้านขายยา แตกต่างจากการไปพบแพทย์ตาม สถานพยาบาลมากน้อยแค่ไหน ซึง่ เภสัชกรธัชพลก็มคี า� ตอบในจุดนีว้ า่ “การปรึกษาเภสัชกรเหมาะกับโรคเบื้องต้นที่มีอาการไม่รุนแรง เป็นโรคทัว่ ไปทีไ่ ม่ตอ้ งมีการตรวจทางห้องปฏิบตั กิ าร แต่ถา้ เป็นโรคเรือ้ รัง หรือมีอาการรุนแรงแนะน�าให้เริม่ จากการไปโรงพยาบาล” แต่แม้จะเป็นการแนะน�าในเบือ้ งต้น ความรูข้ องเภสัชกรทีต่ อ้ งเท่าทัน กับยุคสมัยและโรคภัยต่างๆ ก็ตอ้ งมีมากตาม และมีความตระหนักรูอ้ ยูเ่ สมอ รวมถึงการปฏิบตั ติ วั ของผูท้ จี่ ะไปพบเภสัชกรหรือแพทย์เองก็ตาม “ยุคนี้เป็นยุคที่ข้อมูลข่าวสารมาเร็วและอยู่รอบตัวเยอะมาก ดังนั้น สิง่ ทีย่ ากไม่ใช่การหาค�าแนะน�าการรับมือโรคภัยใหม่ๆ แต่เป็นการวิเคราะห์ ให้ได้วา่ ข้อมูลทีไ่ ด้มาเชือ่ ถือได้หรือไม่ ซึง่ ถ้าไม่แน่ใจในข้อมูลเหล่านีแ้ นะน�า ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรจะเป็นทางเลือกทีด่ ที สี่ ดุ ” เฮลท์ลีด กับการเป็นมากกว่า ‘ร้านขายยา’

ส�าหรับในส่วนของ บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) ทีเ่ ภสัชกรธัชพล ชลวัฒนกุล ด�ารงต�าแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารนัน้ ได้ดา� เนินกิจการ มาอย่างยาวนาน ผ่านหน้าร้านขายยาทัง้ 4 แบรนด์ อย่าง iCare, Pharmax, Vitaminclub และ Super Drug ที่มีการปรับตัวและพัฒนาในส่วน ขององค์ความรูก้ บั บริการทีเ่ ป็นมากกว่า ‘ร้านขายยา’ มาอย่างต่อเนือ่ ง ด้วยผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพและความงามอย่างหลากหลาย “บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) นอกจากประกอบธุรกิจร้านขายยา จ�าหน่ายเวชภัณฑ์ เวชส�าอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อุปกรณ์การแพทย์

และผลิตภัณฑ์เพือ่ สุขภาพต่างๆ รวมกว่า 10,000 รายการ ผ่านร้านขายยา 4 แบรนด์ ได้แก่ ‘iCare’, ‘Pharmax’, ‘Vitaminclub’ และ ‘Super Drug’ แล้ว ยังประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา และจัดจ�าหน่ายผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ ‘PRIME’ เป็นแบรนด์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพือ่ สุขภาพ และ ‘Besuto’ เป็นแบรนด์ทเ่ี กีย่ วกับ การฆ่าเชือ้ การป้องกัน และการสลายกลิน่ ” และภายใต้ระยะเวลากว่า 30 ปีที่ด�าเนินงานกับตลาดร้านขายยา ท�าให้ บริษัท เฮลท์ลีด จ�ากัด (มหาชน) มีความรอบด้านและเข้าใจ ในความต้องการด้านเวชภัณฑ์อย่างครอบคลุมในทุกบริบท “จุดแข็งของ บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) คือการอยูใ่ นธุรกิจนี้ มานานกว่ า 30 ปี ท� า ให้ มี ค วามสั ม พั น ธ์ ที่ ดี กั บ คู ่ ค ้ า ท� า ให้ ง ่ า ย ในการบริหารจัดการรายการสินค้ากว่า 10,000 รายการ นอกจากนี้ ยังเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ท�าให้เลือกสินค้าได้ ตรงตามความต้องการ และยังมีระบบ IT ที่ครอบคลุมทุกส่วนงาน ตั้งแต่จัดซื้อจนถึงระบบ Data Analytic ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ และมีชอ่ งทางออนไลน์สา� หรับรองรับลูกค้าทีต่ อ้ งการ สินค้าอืน่ ทีไ่ ม่ใช่ยาอีกด้วย” นอกจากนั้นทางบริษัทยังมีกิจกรรม CRM ส่งเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างลูกค้าและบริษทั ในหลากหลายรูปแบบ เพือ่ ให้แน่ใจว่าสามารถ ตอบโจทย์ความต้องการและเข้าใจถึงปัญหาได้แบบรายบุคคล “ทางบริษัทมีระบบสมาชิก เพื่ออ�านวยความสะดวกในการเก็บ ประวัติการใช้ยาให้ลูกค้า ซึ่งเป็นปัญหาในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องใช้ยา ต่อเนือ่ ง ท�าให้ลกู ค้าทีน่ ไี่ ม่ตอ้ งจ�ายา สามารถตรวจสอบประวัตไิ ด้ทนั ที นอกจากนีย้ งั มีกจิ กรรมพิเศษทีจ่ ดั ให้ลกู ค้า ไม่วา่ จะเป็นการบรรยายเรือ่ ง ทางการแพทย์ การสอนการเตรียมอาหารทางการแพทย์แบบต่างๆ


“อี ก ทั้ ง การที่ บ ริ ษั ท มี เ วชภั ณ ฑ์ ที่ ห ลากหลายเพื่ อ รองรั บ สั ง คม ผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันประชากรไทยร้อยละ 20 มีอายุมากกว่า 60 ปี ท�าให้ความต้องการใช้เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์มแี นวโน้มสูงขึน้ เรือ่ ยๆ ท�าให้ทางบริษทั มีระบบสอนพนักงานให้เข้าใจวิธกี ารใช้เวชภัณฑ์ แต่ละชนิด เพือ่ จะได้อธิบายให้ลกู ค้าได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน” COVID-19

กับแนวทางการบริหารในภาวะวิกฤติ

ในรอบ 2-3 ปี ที่ ผ ่ า นมา เป็ น ที่ ท ราบกั น ว่ า การแพร่ ร ะบาด ของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้สร้างผลกระทบต่อการด�าเนินธุรกิจของ กิจการต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด และธุรกิจร้านขายยาก็เป็นอีกหนึ่ง ภาคส่วนทีต่ อ้ งรับบทหนักในการให้ความเข้าใจและรองรับความต้องการ ของประชาชน ทั้งการดูแลรักษา ป้องกัน จนถึงตรวจสอบ แม้ว่า ภาวการณ์ระบาดจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม ซึง่ ทาง บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) ก็ได้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยการเตรียมตัวอย่างครบถ้วน และครอบคลุม “ช่วงวิกฤติ COVID-19 ร้านขายยาเป็นธุรกิจทีร่ ฐั บาลให้เปิดได้ปกติ จึงไม่ได้รบั ผลกระทบในแง่ธรุ กิจ กลับกันสินค้าทีจ่ า� เป็นส�าหรับช่วงวิกฤติ COVID-19 ส่วนใหญ่อยูใ่ นร้านขายยา ท�าให้จา� นวนลูกค้าเพิม่ ขึน้ อย่างมาก ที่ทางบริษัทได้จัดกิจกรรมพิเศษให้ลูกค้าและสมาชิกเข้าร่วม มีตั้งแต่ จัดอบรมความรูเ้ รือ่ งสุขภาพ, Workshop ต่างๆ, กิจกรรมเลีย้ งอาหาร บ้านเด็กก�าพร้า เป็นต้น “แน่นอนว่า ช่วงทีเ่ กิดการแพร่ระบาด กิจกรรมทีม่ กี ารรวมกลุม่ ของ ลูกค้าต้องหยุดลงทั้งหมด ช่วงนั้นได้เปลี่ยนรูปแบบเป็นการให้ความรู้ จากสือ่ ในร้าน และการให้ความรูผ้ า่ นเภสัชกรในร้านแทน”

เต็มที่กับทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาชีพที่ผมมุ่งมั่น ให้เภสัชกรเป็นที่พึ่งของสังคม และด้านการบริหารที่จะพาบริษัท ให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก เฮลท์ลีด กับก้าวต่อไปที่มากกว่า ‘ร้านขายยา’

ในปัจจุบนั บริษทั เฮลท์ลดี จ�ากัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าให้บริการ ด้านเวชภัณฑ์ผา่ นร้านขายยาทัง้ 4 แบรนด์ รวมถึงให้บริการด้านความรู้ ความเข้าใจกับสมาชิกและลูกค้า ภายใต้ปณิธานทีม่ งุ่ เน้นให้ได้มากกว่า การเป็นเพียงแค่รา้ นขายยา แต่ตอ้ งเป็นตัวแทนทีไ่ ด้รบั การยอมรับจาก ระดับสากล “เป้าหมายยังคงเหมือนเดิม เป้าหมายแรกตามปณิธานของบริษทั ทีต่ อ้ งการให้รา้ นยาเป็นทีพ่ งึ่ ของชุมชน การเป็นมหาชนช่วยให้ขยายสาขา เข้าถึงชุมชนได้ง่ายขึ้น และอีกเป้าหมายหนึ่ง คือการน�าผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมของคนไทยออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งการเป็นมหาชนก็ช่วยให้ ได้รบั การยอมรับจากต่างประเทศ” และเมื่อเอ่ยถามเภสัชกรธัชพลเกี่ยวกับการวางต�าแหน่งตนเอง ว่าระหว่างผูบ้ ริหารบริษทั มหาชน กับเภสัชกร ว่าให้ความส�าคัญอย่างไร มากกว่ากัน ค�าตอบที่ได้นั้นก็สะท้อนไปกับแนวทางบริษัทได้อย่าง สอดพ้องกัน “เต็มทีก่ บั ทัง้ 2 ด้าน ไม่วา่ จะเป็นด้านวิชาชีพ ทีผ่ มมุง่ มัน่ ให้เภสัชกร เป็นทีพ่ งึ่ ของสังคม และด้านการบริหารทีจ่ ะพาบริษทั ให้เป็นทีย่ อมรับ ระดับโลก”

5 7


TREND BIZ

The Future of BANKING | FINANCE | MONEY in 2030 : Mr.FinTech แซม ตันสกุล

เข้าสูป่ ี 2022 เห็นได้ชดั ว่าโลกการเงินเปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก เป็นโลกทีต่ อ้ งเร่งตามให้ทนั หากยังจ�าเป็นต้องใช้เงินเพือ่ การบริโภค ช�าระเงิน โอนเงิน ทัง้ ในและต่างประเทศ รวมถึงถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่วา่ จะ SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่กจ็ า� เป็นต้องเข้าใจและเข้าถึงโลกการเงินให้ทนั อยูเ่ สมอ


ประเทศไทยถื อ ว่ า เป็ น ประเทศที่ มี ชื่ อ เสี ย ง ในโลกการเงินอย่างมาก จนหลายๆ ประเทศแอบ อิจฉา หลายครั้งเมื่อผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม หรือไปพูดในงานสัมมนาทีต่ า่ งประเทศ ก็จะกล่าวถึง เทคโนโลยีทางการเงิน (Financial Technology or FinTech) ในประเทศไทยอยูบ่ อ่ ยครัง้ และมักจะได้รบั เสียงชืน่ ชมว่า ประเทศไทยเรานัน้ เหนือกว่าประเทศ อืน่ ๆ อ่านมาถึงตรงนีอ้ าจจะสงสัยว่าเรือ่ งจริงหรือไม่ ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น พร้อมเพย์ (PromptPay) บริการโอนเงินและรับเงินทีแ่ ทบทุกคน ต้องเคยใช้ ก็เป็นเทคโนโลยีแรกในการโอนเงินด้วย หมายเลขโทรศัพท์มอื ถือ หรือหมายเลขบัตรประจ�าตัว ประชาชน ทีท่ า� ให้ธรุ กรรมการเงินของคนไทยสะดวก ขึน้ มาก โดยทีส่ งิ คโปร์ เจ้าพ่อเรือ่ งการเงินก็พฒ ั นา และออก PayNow หลังจากนัน้ ในอีก 2 ปีตอ่ มา หรือ อย่างเช่นในตอนนีท้ ที่ กุ คนสามารถเปิดบัญชี สมัคร บัตรเครดิต หรือสินเชือ่ ผ่านโมบายแบงกิงแอปพลิเคชัน ด้วยเทคโนโลยี e-KYC (Know Your Customer) ทีม่ ชี อื่ เป็นทางการว่า National Digital ID (NDID) ซึง่ พัฒนาขึน้ บนพืน้ ฐานของบล็อกเชน (Blockchain) ท�าให้คนไทยใช้ชวี ติ ได้สะดวกสบายขึน้ ไม่จา� เป็นต้อง เดินทางไปท�าธุรกรรมทีส่ าขา ปัจจุบนั พบว่าปริมาณ การใช้บริการดังกล่าวสูงขึน้ มาก โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดต้องขอชื่นชมธนาคารแห่งประเทศไทย ทีเ่ ป็นหัวหอกในการพัฒนาเทคโนโลยีนขี้ นึ้ และยังมี การวางแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานอย่าง แพร่หลายมากยิง่ ขึน้ ด้วย

บัตรเดบิต (คนไทยยังนิยมการช�าระด้วยบัตรเครดิต ในขณะที่ ชาวยุโรปนิยมใช้บตั รเดบิต) จนมาเป็นการช�าระค่าสินค้าหรือบริการ ด้วยสมาร์ทโฟนทีม่ ากันทุกค่ายไม่วา่ จะเป็น ApplePay, GooglePay หรือ Android Pay ไปกระทัง่ Smart Watch อย่าง Garmin Pay โดยที่คนไทยชื่นชอบการช�าระด้วย QR Code ซึ่งเป็นรูปแบบ วัฒนธรรมการช�าระเงินเดียวกันกับคนจีนทีม่ กั จะใช้ผา่ น Alipay, WeChat Pay ถ้ามองไปในปี 2030 การช�าระเงินจะเปลีย่ นไปในรูปแบบการใช้ อัตลักษณ์ของบุคคล อาทิ การใช้ใบหน้า (Face Scan) หรือ สายตา (Ratina or Eyes Scan) หรือในบางประเทศก�าลังจะทดลองใช้ ลายนิว้ ถึงเส้นเลือด (Vein) ในการช�าระเงิน ดังนัน้ ในอีกไม่นาน กระเป๋าสตางค์หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ก็อาจจะไม่ต้องจ�าเป็น อีกต่อไป ทั้งนี้ รูปแบบการช�าระเงินก็จะเริ่มมีการน�าเสนอผลิตภัณฑ์ ทีท่ า� ให้เราในฐานะผูบ้ ริโภคมีอา� นาจการใช้เงินเพิม่ ขึน้ ทีม่ ชี อื่ เรียก กันว่า Buy Now Pay Later (BNPL) ซึง่ ก็จะคล้ายๆ กับการซือ้ สินค้า ผ่อน 0% ในบ้านเรา (ผูซ้ อื้ ต้องมีบตั รเครดิตก่อน) ในขณะที่ BNPL จะน�าเสนอให้กบั ลูกค้าทีย่ งั ไม่เคยมีเครดิตมาก่อน แต่สามารถใช้ ข้อมูลทีผ่ ขู้ ายมีหรือข้อมูลอืน่ ๆ ในการพิจารณา และอนุมตั ใิ ห้ลกู ค้า ทันทีไม่เกิน 3 นาที

LENDING TEchNoLoGy เทคโนโลยีการปล่อยสินเชื่อ

ที่ผ่านมาการพิจารณาการปล่อยกู้เป็นกระบวนการหนึ่ง ที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก ด้วยปัจจัยหลักคือเรื่อง ความน่าเชื่อถือของข้อมูล และเทคโนโลยีที่ยังไม่พร้อมมาก ท�าให้เห็นว่าการอนุมัติสินเชื่อยังคงต้องใช้เวลาในการพิจารณา หลายวัน หรือบางสถาบันการเงินอาจจะท�าได้เร็วสุดในเวลา

ทัง้ นี้ จะเห็นว่าเทคโนโลยีได้พฒ ั นาไปอย่างต่อเนือ่ ง ก็เพราะว่าทุกประเทศเห็นความส�าคัญของ FinTech เนื่องจากทุกประเทศต้องใช้เรื่องเงิน เรื่องธนาคาร เรือ่ งการคลังเป็นเรือ่ งหลักของประเทศ คราวนีล้ องมอง ไปในอนาคตข้างหน้าว่า ในปี 2030 เทคโนโลยีการเงิน จะเปลีย่ นแปลงหรือกลายพันธุไ์ ปมากน้อยเพียงใด โดยขอ แยกออกมาเป็น 4 กลุม่ เทคโนโลยีดว้ ยกัน ดังนี้

PaymENT TEchNoLoGy เทคโนโลยีด้านการชำาระเงิน

เป็นทีช่ ดั เจนว่าไม่กปี่ ที ผี่ า่ นมา เราเปลีย่ นพฤติกรรม การช�าระเงินไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จากเดิมด้วย การช�าระด้วยเงินสด มาเป็นการใช้บัตรเครดิตหรือ

5 9


30 นาที แต่กย็ งั ไม่มใี ครกล้าทีป่ ระกาศเหมือน Alipay ทีใ่ ช้เวลา ทุกเคสไม่เกิน 3 นาที ดังนัน้ การจะปล่อยสินเชือ่ ให้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพจ�าเป็น ต้องอาศัยข้อมูลมาประกอบการพิจารณา ซึง่ จะมีสตาร์ทอัปทีเ่ ก็บ ข้อมูลของลูกค้าไว้ อาทิ เครือ่ ง Point of Sales (เครือ่ งคิดเงิน) หรือ Cloud Accounting Platform (ระบบบัญชีบนคลาวด์) ข้อมูล เหล่านีจ้ ะเป็นข้อมูลล่าสุดตามยอดขายจริงทีเ่ กิดขึน้ ท�าให้สถาบัน การเงินทีร่ ว่ มมือกับสตาร์ทอัปเหล่านีส้ ามารถเห็นข้อมูล (ถ้าหาก บริษทั ทีใ่ ช้งานบนแพลตฟอร์มยินยอมให้เห็นข้อมูล) เพือ่ น�าเสนอ สินเชือ่ ได้เลยทันที ทัง้ นี้ เริม่ มีสตาร์ทอัปกระโดดเข้ามาและริเริม่ ในการท�าเทคโนโลยี ซึง่ มีใกล้เคียงกับการท�างานของฝ่ายอนุมตั ิ พิจารณาสินเชื่อของธนาคาร เช่น Kabbage ซึ่งเป็นยูนิคอร์น (Unicorn) ในสหรัฐอเมริกา ทีร่ ว่ มมือกับ Amazon หรือ eBay นับว่าเป็น 2 องค์กรทีม่ ฐี านข้อมูลของทัง้ ผูซ้ อื้ และผูข้ ายมากทีส่ ดุ สามารถทีจ่ ะร่วมกันปล่อยกูใ้ นแพลตฟอร์มตัวเองได้เลย

REmITTaNcE TEchNoLoGy เทคโนโลยี ในการโอนเงินระหว่างประเทศ

ต้ อ งยอมรั บ ว่ า ยั ง เป็ น จุ ด อ่ อ นของโลกการเงิ น อยู ่ ม าก หากต้องการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างรวดเร็วภายในไม่กนี่ าที ซึ่งปัจจุบันยังต้องใช้เวลา 1-3 วัน เนื่องจากมีข้อห้ามในการ เคลื่ อ นย้ า ยเงิ น ในแต่ ล ะประเทศ เพื่อ ป้ อ งกั น การฟอกเงิ น หรือป้องกันเสถียรภาพทางการเงิน ท�าให้ในปัจจุบันยังไม่มี สตาร์ทอัปหรือเทคโนโลยีจ�านวนมากในการแก้ไขปัญหาในจุดนี้ แม้กระทัง่ Facebook เคยจะออก เหรียญของตัวเองอย่าง Libra ก็มีอันที่ต้อง พับโปรเจกต์ไป

6 0

ในความเป็นจริงค้นพบว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถ ตอบโจทย์เรือ่ งนีไ้ ด้ ส�าหรับในการโอนเงินจากประเทศหนึง่ ไปอีก ประเทศหนึง่ ซึง่ สินทรัพย์ดจิ ทิ ลั หรือเหรียญคริบโตสามารถท�าได้ แต่สงิ่ ทีส่ า� คัญ คือ เทคโนโลยีเรือ่ ง e-KYC (Know Your Customer) ที่จะสามารถจะยืนยันตัวตนที่แท้จริง ทุกประเทศสามารถเห็น ข้อมูลเราได้ ยังไม่มี ดังนัน้ ก็คงเป็นเรือ่ งทีน่ า่ หาค�าตอบกันต่อไป ในเทคโนโลยีในการโอนเงินระหว่างประเทศว่าภายในปี 2030 จะสามารถท�าให้มนุษยชนทัง้ โลก สามารถโยกย้ายเงินได้ภายใน เสีย้ ววินาทีหรือไม่

WEaLTh TEchNoLoGy เทคโนโลยี ในการบริหารสินทรัพย์

คงปฏิเสธไม่ได้วา่ ปัจจุบนั ทัง้ สถาบันการเงินและสตาร์ทอัปได้มี การน�าเทคโนโลยี Robo Advisor (หุน่ AI) มาใช้ในการให้บริการ และดูแลลูกค้า เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมากขึ้น ซึ่งใน ประเทศไทยก็ มี บ ริ ษั ท สตาร์ ท อั ป ชั้ น น� า อย่าง ฟินโนมีนา (Finnomena) ทีใ่ ห้บริการ ด้วยเทคโนโลยีดงั กล่าวและได้รบั ความสนใจ สามารถเข้าถึงกลุม่ ลูกค้าได้อย่างแพร่หลาย จนกระทั่งในตอนนี้ หลายคนอาจจะได้ยิน ค� า ว่ า Hybrid Robo Advisor นั่ น คื อ การผสมผสานระหว่ า งคน และหุ ่ น AI เข้าด้วยกันในการให้บริการลูกค้า เนือ่ งจากว่า ลูกค้าเองต้องการผู้ดูแลที่เป็นคนมาช่วย อธิบายเรือ่ งการลงทุนให้เข้าใจมากขึน้ ท�าให้ผใู้ ห้บริการต่างปรับ มาให้บริการในลักษณะที่เป็น Hybrid Robo Advisor ส�าหรับ ลูกค้าทีม่ กี ารลงทุนจ�านวนมาก ภายในไม่กี่ปีต่อจากนี้ สิ่งที่ระบบเทคโนโลยี การบริหารสินทรัพย์จะไม่ใช่เพียงแค่การ น�าเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนเฉพาะ หุ ้ น หรื อ กองทุ น รวม


แต่จะรวมไปถึงสินทรัพย์ดจิ ทิ ลั หรือ คริปโต หรืออืน่ ๆ ทีก่ า� ลังมา ในอนาคต เพือ่ ให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้ามีความหลากหลาย มากขึ้น และสามารถเพิ่มโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น (ส�าหรับนักลงทุนทีน่ ยิ มในการลงทุนทีม่ คี วามเสีย่ งสูง) โดยทีร่ ะบบ จะช่วยให้นกั ลงทุนตัดสินใจในการลงทุนได้งา่ ยขึน้ เช่นกัน นี่คือ 4 เทคโนโลยีทางการเงินที่จะมาเปลี่ยนโลกครับ ถ้าหากไม่ปรับตัวเองที่จะลองใช้เรื่องใหม่ๆ เหล่านี้ก็จะท�าให้ ต้นทุนในองค์กรสูงขึ้นกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้ามี โอกาสควรจะรีบลองใช้ และหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับเรา ให้ได้มากทีส่ ดุ นะครับ

สุดท้ายขอฝากคติให้ทุกคนได้คิดและเริ่มเพื่อท�าอะไร ใหม่ๆ ด้วยกัน “Money

never starts an idea… it is the idea starts the Money.”

แซม ตันสกุล Managing Director บริษทั กรุงศรี ฟินโนเวต จ�ากัด บริษทั ในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ�ากัด (มหาชน) ส�าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินยิ ม ด้านการเงินและการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ประเทศไทย และ ปริญญาโทด้านการเงินและการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยบริสตอล สหราชอาณาจกัร ก่อนหน้าทีจ่ ะมาด�ารงต�าแหน่งที่ กรุงศรี ฟินโนเวต คุณแซมมีประสบการณ์มากกว่า 18 ปี ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินกับองค์กรชัน้ น�าหลายแห่ง เช่น UOB, GE Capital และ Krungsri Consumer โดยดูแลด้านการจัดการผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม ปัจจุบนั คุณแซมเป็นผูน้ า� ด้าน FinTech / Startup ในประเทศไทยและภูมภิ าค โดยมีเป้าหมายส�าคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การเร่งรัดและความร่วมมือทางวิชาการ โครงการสตารท์อปั การบริหารจัดการและการร่วมทุนของบริษทั ในเครือกรุงศรีภายใต้ MUFG มุง่ เน้นการลงทุนด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีในประเทศไทยและอาเซียน รวมทัง้ เป็นหนึง่ ในคณะกรรมการของสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย


: Fullscape

FILM

ลับ ลวง พราง

บนเสน้ ทางอาชญากรรมอาทิตย์อุทัย

Tokyo Vice

เมือ่ พูดกันถึงสิง่ ทีเ่ รียกว่า ‘องค์กรอาชญากรรม’ หรือ ‘Organized Crime’ แล้วนัน้ ไม่วา่ จะเป็นอัง้ ยี่ มาเฟีย หรือซุม้ มือปืน ความสัมพันธ์ของเหล่าทรชนทีเ่ ดินในเส้นทางทีต่ รงข้ามกับทางสายสุจริต ล้วนแล้วแต่ตอ้ งหลบซ่อน ปิดบัง และแทรกตัวเป็นส่วนหนึง่ ของช่องว่างทางกฎหมาย และผูค้ วบคุมกฎหมายเองก็มกั จะเป็นไปในแบบ ‘เอาหูไปนา เอาตาไปไร่’ เข้าท�านอง คนในท้องทีร่ กู้ นั ดี แต่ยากทีม่ อื กฎหมายจะสามารถจับได้คาหนังคาเขา


จึงกล่าวได้ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบแมวไล่จับหนู มีความซับซ้อน มีความเป็นสีเทา มีตา� รวจเลว มีตา� รวจดี มีทรชน ทีย่ ดึ ในกฎ มีคนทีไ่ ม่สนวิธกี าร ต่างๆ นานา แต่คงไม่มอี งค์กรอาชญากรรมใด ทีม่ คี วามสัมพันธ์กบั สังคม องค์กรต�ารวจ สือ่ มวลชน และวัฒนธรรมได้อย่างน่าประหลาด เทียบเท่ากับ ‘ยากูซาญีป่ นุ่ ’ อีกแล้ว… ด้วยจุดเริม่ ต้นทีย่ อ้ นกลับไปถึงสมัยทีซ่ ามูไรหมดความส�าคัญ การปรับตัวของเหล่าโรนินไร้นายเพือ่ ความอยูร่ อด การบัญญัติ กฎและระเบียบอย่างเข้มข้น และการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ ทุกองคาพยพในสังคมอาทิตย์อุทัย ท�าให้ยากูซามีสถานะ คาบเกี่ยวทั้งองค์กรอาชญากรรม และ ‘สถาบัน’ ที่สร้าง ความวุ่นวายให้กับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาโดยตลอด รวมถึง แวดวงสือ่ สารมวลชน ทีใ่ นช่วงทศวรรษ 1990 มีอทิ ธิพลระดับที่ สามารถสัง่ บัญชาบรรณาธิการได้ตามทีต่ อ้ งการ และซีรีส์ ‘Tokyo Vice’ ก็คือประสบการณ์ที่ถ่ายทอด ห้วงเวลานั้น ไม่ใช่แค่เพียงจากสายตาสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่ สัมผัสกับโลกสีเทาด้วยตนเอง แต่เป็น ‘ชาวต่างชาติ’ หรือ ‘ไกจิน’ ทีส่ ามารถล้วงลึก กัดไม่ปล่อย ได้อย่างยาวนานเกือบ 12 ปีเต็ม Tokyo Vice ซีรสี ล์ า่ สุดในการควบคุมดูแลของ J.T. Rogers สร้างจากบันทึกความทรงจ�าของ Jake Adelstein (รับบทโดย Ansel Elgort อดีตดาราหนุม่ ผูแ้ สดงเรือ่ ง The Fault in Our Stars) ‘นักข่าวต่างประเทศโต๊ะอาชญากรรม’ แห่ง Yomiuri Shinbun หนังสือพิมพ์หวั อนุรกั ษ์ทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ของญีป่ นุ่ กับประสบการณ์ ในการท�าข่าวและสัมผัสโลกแห่งอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิง่ แวดวงยากูซา ที่เขาได้อยู่ในความดูแลของ Hiroto Katagiri (รับบทโดย Ken Watanabe นักแสดงชือ่ ดังชาวญีป่ นุ่ ทีค่ นุ้ หน้า กันดี) ต�ารวจสายสืบมือฉมัง ผู้หมายจะหาหลักฐานโค่นล้ม องค์กรอาชญากรรมอย่างกัดไม่ปล่อย แต่ยงิ่ Jake ลงลึกมากเท่าไร เขายิง่ ได้พบกับความซับซ้อน ในความสัมพันธ์ของสังคมญีป่ นุ่ การคงอยูข่ องยากูซาในทุกอณู ของวัฒนธรรม และอุปสรรคทีข่ ดั ขวางในการท�างาน ไม่วา่ จะด้วย ในฐานะที่เขาเป็นเพียงแค่ ‘ไกจิน’ หรือไอ้ผีหัวแดงต่างชาติ หรือจากบรรณาธิการใหญ่ ที่ยึดมั่นกับระเบียบธรรมเนียม ‘ไม่ฟอ้ งนาย ไม่ขายน้อง’ ทีผ่ ลักให้เขาเข้าสูเ่ ส้นทางทีอ่ นั ตราย มากขึน้ ทุกขณะ ในเบือ้ งต้น ถ้าพูดกันถึงบรรยากาศโดยรวมของ Tokyo Vice ในด้ า นโปรดั ก ชั น แล้ ว ค่ อ นข้ า งจะโดดเด่ น และมี เ ทคนิ ค ในการถ่ายท�าทีค่ อ่ นข้างดีถงึ ดีมาก จังหวะในการบอกเล่าเนือ้ หา

จากจุดเริม่ ต้นของ Jake Adelstein ในฐานะนักข่าวต่างประเทศ ท่ามกลางชาวญี่ปุ่น ภาพการใช้ชีวิตสุดหรูของเหล่ายากูซา พิธกี รรมของยากูซารุน่ เก่า ไปจนถึงการเข้าไปเป็นส่วนหนึง่ ของ การท�าข่าวภาคสนามร่วมกับต�ารวจ ให้ฟลี แบบหนังอาชญากรรม ชัน้ ยอดทีด่ ไู ด้คอ่ นข้างสนุกและติดพันไม่นอ้ ย ถูกกระจายน�า้ หนัก อย่างสมดุล และค่อยๆ สร้างโลกพืน้ หลังทีป่ ขู ยายออกในตอน ถัดๆ ไปได้อย่างมีพลัง ทัง้ หมดต้องยกเครดิตให้กบั J.T.Rogers คนเขียนบทในตอน ที่ 1 และการก�ากับของ Michael Mann ผูก้ า� กับระดับต�านานเจ้า พ่อหนังสายอาชญากรรม (เจ้าของผลงานระดับขึน้ หิง้ อย่าง Heat และ The Insider) แต่ในอีก 2 ตอนทีเ่ หลือ ซึง่ ก�ากับโดย Josef Kubota Wladyka เอง ก็ไม่ได้ดอ้ ยไปกว่ากัน ในส่วนของนักแสดง การเลือก Ansel Elgort นัน้ ค่อนข้าง จะเป็น Choice ทีแ่ ปลก แต่ผลลัพธ์ทไี่ ด้กถ็ อื ว่าดี พลังการแสดง ของเขาในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างสมจริงและมีน�้าหนักในฐานะ ‘คนหนุม่ ผูป้ รารถนาทีจ่ ะพิสจู น์ตวั เอง’ ในสายงาน และการหา ที่ทางของตนเองในแวดล้อมที่แตกต่างเช่นญี่ปุ่น (แน่นอน รวมถึงไดอะล็อกภาษาญีป่ นุ่ ของเขา ทีผ่ า่ นการฝึกอย่างช�านาญ ไม่ Native จัด แต่ให้อารมณ์แบบต่างชาติพดู ซึง่ เป็นธรรมชาติ) ส่วน Ken Watanabe นั้นกินขาด ออร่าการแสดงหายห่วง โดยเฉพาะเมือ่ อยูใ่ นบทต�ารวจสายสืบทีเ่ ข้ามือ เขายิง่ เผยพลัง การแสดงออกมาจนเรียกว่าเป็นอีกตัวละครทีน่ า่ จับตา อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 ตอนแรก การเกลีย่ เฉลีย่ บทให้กบั ตัวละครรอง ยังท�าได้ไม่คอ่ ยเนียนและมากเท่าทีค่ วรนัก ไม่วา่ จะ เป็นบท Eimi Maruyama บรรณาธิการพีเ่ ลีย้ งของ Jake หรือบท ของ Samantha Porter โสเภณีหญิงแห่งย่านคาบุกโิ จ ผูเ้ ป็นทัง้ แหล่งข้อมูลและสะพานเชือ่ มของ Jake กับโลกอาชญากรรม แต่โดยสรุปแล้ว Tokyo Vice ค่อนข้างจะท�าหน้าทีไ่ ด้ดี นัน่ คือการดัดแปลงประสบการณ์ของชายชาวต่างชาติคนหนึง่ ในเรื่องราวชีวิตที่ไม่ธรรมดา กับการวนเวียนในวังวนของ โลกอาชญากรรมทีซ่ บั ซ้อนทีส่ ดุ มากจารีตทีส่ ดุ และคาบเกีย่ ว ยากจะจับต้องทีส่ ดุ อย่างเช่นยากูซาในฐานะนักข่าว (แน่นอนว่า สามารถเอาชีวติ รอดมาได้) และการได้บอกเล่าออกมา แม้จะมีการดัดแปลงบ้าง ในบางส่วน แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะท�าความเข้าใจโลก อันแสนลึกลับนี้ แม้วา่ …จะผ่านเลยไปแล้วก็ตาม

6 3


T R AV E L

เทีย่ ววัดร้าง ในเมือง

: อภิรกั ษ์ หาญพิชติ วณิชย์

6 4


ท่านผู้อ่านครับ…การเดินทางเพื่อเที่ยววัดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของผม ยังคงเกิดขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง ตัง้ แต่ชว่ งกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนถึงวันนี้ เพราะเป็นความเพลิดเพลินใหม่ ของคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แล้วต้องห่างหายจากการเดินทางไปแบบผมเพิ่งจะค้นพบ วันนี้ !! ขอเขียนถึงวัดร้างต่างๆ ทีไ่ ด้พบระหว่างการปัน่ จักรยานตามเส้นทาง ทัง้ ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี ซึง่ แต่ละแห่งมีความสนุกทีไ่ ด้สมั ผัสแตกต่างกันออกไป

วัดแรกทีจ่ ะชวนให้ทำ� ควำมรูจ้ กั คือ วัดสักน้อย ซึ่งที่นี่เหลือแต่วิหำรเก่ำ ช�ำรุด ทว่ำยังคงมีควำมงำม และมี เสน่หต์ รงทีม่ เี ถำวัลย์ปกคลุมทัว่ วิหำร วัดแห่งนีไ้ ม่ปรำกฏหลักฐำนชัดเจนว่ำสร้ำงขึน้ เมือ่ ใด แต่สนั นิษฐำนว่ำ สร้ำงขึ้นในสมัยอยุธยำ วิหำรเป็นอำคำรก่ออิฐถือปูนมีแผนผังเป็น รูปสีเ่ หลีย่ มผืนผ้ำ ฐำนอำคำรเป็นฐำนบัวแอ่นโค้งเล็กน้อย ผนังด้ำนหน้ำ เจำะช่องประตูรปู สีเ่ หลีย่ มผืนผ้ำ 2 บำน ผนังด้ำนข้ำงเจำะช่องหน้ำต่ำง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ำด้ำนละ 5 บำน ผนังด้ำนหลังก่อทึบ โครงหลังคำ เครื่องไม้มุงกระเบื้องดิน ย�้ำว่ำแม้ควำมทรุดโทรมอำจจะท�ำให้ไม่มี รูปแบบศิลปกรรมหลงเหลือให้พนิ จิ อยูม่ ำกนัก แต่กำรทีบ่ นหลังคำนัน้ มีต้นไทรและเถำวัลย์ขึ้นปกคลุมไปทั่ว เป็นควำมสวยงำมแปลกตำ ซึง่ หำกใครได้เข้ำมำเห็นจะหวนนึกถึงอดีตแทบทุกคน ...ผมเองก็เช่นกัน วัดที่ 2 วัดสุวรรณคีรี เป็นวัดร้ำงที่เหลือควำมเป็นวัดไม่กี่ ตำรำงเมตร ปัจจุบนั เป็นส่วนหนึง่ ของโรงเรียนสุธรรมศึกษำ ใกล้ๆ กับ บ้ำนศิลปินริมคลองบำงหลวง ทีห่ ลำยคนอำจจะเคยมำเทีย่ วก่อนหน้ำนี้ ตัวอำคำรได้รับกำรปรับปรุงขึ้นใหม่ ซึ่งหำกไม่สังเกตอำจจะนึกว่ำที่นี่


เป็นเพียงศำลเจ้ำจีนในโรงเรียน ทัง้ นี้ จำกหลักฐำนทีม่ อี ยู่ สันนิษฐำนว่ำวัดสุวรรณคีรสี ร้ำงขึน้ ในสมัยอยุธยำ ตอนปลำย และในสมัยรัชกำลที่ 6 ได้มกี ำรส�ำรวจวัด ครัง้ ใหญ่ในเมืองเพือ่ ท�ำกำรบูรณะ จึงได้ยบุ รวม วัดสุวรรณคีรเี ข้ำกับวัดคูหำสวรรค์ ซึง่ เป็นวัดใหญ่กว่ำ ซึง่ แม้วำ่ วัดนีจ้ ะอยูใ่ นพืน้ ทีโ่ รงเรียน แต่กย็ งั เปิดให้ ประชำชนได้เข้ำไปกรำบไหว้สกั กำระโดยเฉพำะ ขอพรในเรื่องสุขภำพ ซึ่งถ้ำหำกท่ำนผู้อ่ำนสนใจ ผมแนะน�ำให้ตงั้ ต้นมำทีว่ ดั ก�ำแพงบำงจำก หรือ วัดคูหาสวรรค์ แล้วถำมทำงไปโรงเรียน สุธรรมศึกษำ ก่อนขอเข้ำไปสักกำระ ทีด่ ำ้ นในได้เลยครับ

ส� ำ หรั บ วั ด ที่ 3 มี ชื่ อ ว่ ำ

วัดน้อยทองอยู่ ถือว่ำเป็นหนึง่ ของวัด

6 6

ในดวงใจผม เพรำะอยู่ใกล้ถนนใหญ่ มำกๆ แต่ทว่ำหลำยคนไม่เคยรูว้ ำ่ มีวดั นี้ หรืออำจไม่เคยรู้มำก่อนเลยว่ำตรงนี้ ยั ง มี สิ่ ง ปลู ก สร้ ำ งของวั ด ที่ ง ดงำม อย่ำงมำก เพรำะมีเพียงแค่ซำกมณฑป ที่หลงเหลือมำจำกกำรทิ้งระเบิดสมัย สงครำมโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนที่ผมจะ หำพบต้องสอบถำมผูค้ นแถวนีน้ ำนพอ สมควร ก่อนมีคนบอกได้ว่ำที่ตั้งของ วัดนีอ้ ยูบ่ ริเวณไหน เชือ่ ไหมครับอยูใ่ กล้


มำกๆ จนหลำยคนไม่รู้ว่ำมีอยู่ ซำกมณฑปที่กล่ำวถึงนั้นตั้งอยู่ เชิงสะพำนพระปิน่ เกล้ำฝัง่ ธนบุรี บริเวณท่ำรถเมล์สำย 81 ครับ พอได้ เข้ำไปผมอยำกจะบอกว่ำเห็นร้ำนค้ำที่มีต้นไม่รกทึบปิดทำงเข้ำ ด้ำนหน้ำแล้วเสียดำยมำก ขณะทีอ่ ำคำรด้ำนข้ำงซึง่ สร้ำงขึน้ มำใหม่นนั้ แทนที่จะเปิดช่องให้ได้เห็นควำมสวยงำมของโบรำณสถำนชัดๆ กลับสร้ำงข่ม จนท�ำให้ทนี่ ไี่ ม่ได้โชว์ควำมงดงำมของตัวเองได้เลย ส�ำหรับวัดสุดท้ำย วัดที่ 4 ทีข่ อแนะน�ำ คือ วัดภุมรินทร์ราชปักษี ซึ่งตำมนิยำมแม้จะเรียกได้ว่ำเป็น วัดร้ำง เพรำะไม่มภี กิ ษุจำ� พรรษำ และ ได้ถกู ยุบรวมกับ วัดดุสติ าราม แต่ทว่ำ วัดภุมรินทร์รำชปักษีนนั้ ถือเป็นวัดร้ำง ที่มีควำมเป็นอยุธยำที่ละเอียดมำกๆ เช่น อำคำรท้องแอ่นรูปเรือส�ำเภำ และปูนปั้นที่สมบูรณ์ซึ่งยัง คงรำยละเอียดควำมพลิ้วไหวได้อย่ำงงดงำม ขณะที่ด้ำนในวิหำร ประดิ ษ ฐำนหลวงพ่ อ ด� ำ พระปรำงมำรวิ ชั ย สมั ย อยุ ธ ยำ ด้ำยซ้ำย-ขวำมีพระอัครสำวกซึง่ เป็นงำนปัน้ นูนต�ำ่ ออกมำจำกก�ำแพง พร้อมจิตรกรรมฝำผนังรูปนกยูงกับกระต่ำย ตัวแทนของพระอำทิตย์ (นกยูง) กับพระจันทร์ (กระต่ำย) และด้ำนข้ำงของผนัง คือ ภำพเมขลำกั บ รำมสู ร ถึ ง แม้ ที่ นี่ จ ะไม่ มี พ ระภิ ก ษุ จ� ำ พรรษำ แต่ในวันส�ำคัญทำงศำสนำยังคงมีคนในชุมชนมำประกอบพิธตี ำ่ งๆ ตำมศรัทธำครับ ส�าหรับ 4 วัดทีผ่ มแนะน�านี้ ได้ชอื่ ว่าเป็น ‘วัดร้าง’ แต่ทว่าความงดงามและความศรัทธาไม่ได้รา้ งราไปตามกาลเวลา เพียงแต่วา่ น้อยคนนักทีจ่ ะรูว้ า่ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังมีสถานทีเ่ หล่านีซ้ อ่ นตัวอยูแ่ ละรอให้เราไปค้นพบครับ


ความพลวัต ก้าวไปอย่างเท่าทัน และจัดการอย่างมีความสุข

ดร.วิชยุตม์ ทัพวงษ์

6 8

หากมองย้อนกลับไปตลอดระยะเวลา 10 ปีทผี่ า่ นมา เราต่างคุน้ เคยกับตัวย่อ 4 ตัวนี้ คือ V U C A ซึง่ มาจาก Volatility ความผันผวน Uncertainty ความไม่แน่นอน Complexity ความซับซ้อน และ Ambiguity ความคลุมเครือ

ซึง่ มีการยืนยันชัดเจนว่ามาจาก โรงเรียนทหารในสหรัฐอเมริกา U.S. Army War College ทีเ่ ขาใช้กนั ตัง้ แต่ชว่ งทศวรรษ 1990 หรือประมาณปลายสงครามเย็น ทีผ่ า่ นมาการน�าค�าย่อนีม้ าใช้นอกรัว้ U.S. Army War College นัน้ ทัง้ จากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในทุกวงการ ไม่วา่ ภาครัฐหรือภาคเอกชน จุดประสงค์กเ็ พือ่ ปรับตัวให้เท่าทันและสอดคล้องกับการขับเคลื่อน ของโลกปัจจุบนั โดยแท้จริงนัน่ เอง


และหากย้อนกลับมามองที่บริบทของโลกเรานั้นจะพบว่า มีการขับเคลือ่ นตลอดเวลา หรือทีเ่ รียกว่า พลวัตของโลกนัน่ เอง ซึง่ การขับเคลือ่ นอย่างไม่หยุดนิง่ นีเ้ อง น�าไปสูค่ วามเปลีย่ นแปลง ทางด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การปกครอง รวมถึง ด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน

“อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน” เพราะโดยลักษณะทาง จิตวิทยา ประสบการณ์ครั้งแรกจะยิ่งใหญ่เสมอ ครั้งที่สอง จะรู้สึกน้อยกว่าครั้งแรก และเมื่อน�าประสบการณ์แต่ละครั้ง มาวิเคราะห์อย่างละเอียด ก็จะเกิดการเรียนรู้ เกิดคู่มือง่ายๆ ของชีวติ ในการรับมือและก้าวต่อไป

ยกตัวอย่างง่ายๆ และเห็นได้ชัดเจน คือ พลวัตทาง เทคโนโลยีดิจิทัล ท�าไมผมถึงยกเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่า เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์โลกไปแล้ว น่ะสิครับ เห็นชัดสุด ณ ช่วงปีนี้ คือ การไม่ใช้เงินสดในชีวติ ประจ�าวัน การค้าขายที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้อยู่ในตลาด หรื อ ห้ า งสรรพสิ น ค้ า อี ก ต่ อ ไป แต่ อ ยู ่ บ นโลกออนไลน์ การซือ้ ขายสินค้า ก็สามารถท�าได้ดว้ ยการผ่านโทรศัพท์มอื ถือ เพียงเครื่องเดียว และนี่ยังไม่รวมถึงแนวโน้มการลงทุนใน ตราสารดิจิทัลที่เพิ่มมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งก�าลังได้รับ ความสนใจอย่างมาก

ภายใต้พลวัตของสังคมและชีวิตที่มีการขับเคลื่อนอย่าง ต่อเนือ่ ง สิง่ หนึง่ ทีค่ วรฝึกให้เป็นนิสยั สูค่ วามสุข นัน่ คือ การรู้ เท่าทัน และสิ่งที่ส�าคัญกว่าการรู้ให้เท่าทัน คือ น�าความรู้ ทีไ่ ด้นนั้ มาเข้าสูก่ ระบวนการ ‘ตัดสินใจ ทีจ่ ะอยูอ่ ย่างไร’

ผมเชือ่ ว่าตัวอย่างนีพ้ วกคุณเห็นภาพชัดเจน ! และเมื่ อ ทั้ ง คุ ณ และผมรู ้ ว ่ า ชี วิ ต ต้ อ งด� า เนิ น ไปตาม การขั บ เคลื่ อ นในทุ ก ๆ ด้ า น การยอมรั บ และพร้ อ มต่ อ การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งส�าคัญ ถ้ารู้เท่าทันความสุขก็จะ ตามมา ความกดดันก็จะหายไป ผมเชื่อว่านี่คือกฎอันเป็น นิรนั ดร์ทเี่ กิดขึน้ ตลอดเวลาครับ

ไม่ง่ายเลยนะครับ ที่จะตัดสินใจอะไรในยุคข้อมูลข่าวสาร พรั่ ง พรู เ ช่ น นี้ ส่ ว นตั ว ผมเลื อ กใช้ แ นวทางง่ า ยๆ ส� า หรั บ การตัดสินใจในยุคทีโ่ ลกขับเคลือ่ นอย่างไม่หยุดนิง่ คือ เมือ่ ได้ยนิ เรือ่ งอะไรใหม่ๆ ทีไ่ ม่เคยได้ยนิ มาก่อน สิง่ แรกทีผ่ มท�า คือ ฟัง และไม่ดว่ นตัดสินใจ ผมจะอดทน ‘รอ’ เพือ่ จะหาข้อมูลเพิม่ เติม ก่อนการตัดสินใจ เช่น หาข่าวเดียวกัน จากแหล่งข่าวอื่น ภาษาอื่น ประเทศอื่นเพิ่มเติม เพื่อดูว่าแนวโน้มของเรื่องนั้น ว่ามีเค้าโครงเป็นมาอย่างไร และทีส่ า� คัญ ‘จ�าเป็น’ หรือเปล่า ซึง่ ค�าตอบของความจ�าเป็นอยูท่ วี่ า่ ‘คุม้ ค่า’ หรือไม่ หาจังหวะก้าวเดินของตัวเอง เปิดใจ เรียนรู้ สนุกทีจ่ ะก้าวไป ข้างหน้า ความสุขก็จะตามมาครับ

ที่จริงความเข้าใจและปรับตัวเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และการยอมรับ คุ้นไหมครับ อย่ า เพิ่ ง คิ ด ว่ า ผมมาร้ อ งเพลงให้ ฟ ั ง นะครั บ

6 9


ศิลปะ

ขับเคลือ่ นมุมมอง ความคิด ชีวติ คนท�างานศิลปะ

สุรพร เลิศวงศ์ ( Jekky Zoo ) เส้นทางบนถนนสายศิลปะของผมทีใ่ ห้นยิ ามตัวเองว่า ‘คนท�างานศิลปะ’ เริม ่ ขึน้ ตัง้ แต่วยั เยาว์ เพราะชอบการวาดรูปตัง้ แต่เด็กๆ คิดว่าก็คงเหมือน เด็กทัว่ ๆ ไปนัน่ แหละครับ ทีธ่ รรมชาติจะชอบขีดๆ เขียนๆ แต่อาจจะต่างไปหน่อยทีช่ อบจนวาดรูปเป็นนิสยั คือ คนอืน่ ๆ เลิกไปแล้ว แต่ผมไม่เลิก ก็วาดไปเรือ่ ยๆ ตั้งแต่ประถม มัธยม แล้วก็ไปต่อวิทยาลัยช่างศิลป์ และต่อปริญญาตรีทคี่ ณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็ไม่รวู้ า่ มายังไง เคยสงสัยเหมือนกันว่าท�าไม เพือ่ นแถวบ้านตอนเด็กๆ ทีว่ งิ่ เล่นด้วยกันมีผมคนเดียว ทีช่ อบเขียนรูป คนอืน่ ไม่เห็นเขียนกันเลย คือก็เล่นทุกอย่างเหมือนเพือ่ นๆ นะ แต่จะเอาสิง่ ทีช่ อบ ทีส่ นใจมาวาดเป็นรูปด้วย ชอบดูการ์ตนู ก็วาดรูป ตัวการ์ตนู มีลอกจากหนังสือการ์ตนู บ้างจากสิง่ พิมพ์บา้ ง

โตขึ้นมาหน่อยชอบฟังเพลงก็วาดภาพนักร้องนักดนตรี ทีเ่ ท่ๆ วาดภาพวงทีช่ อบ ช่วงบ้าเตะฟุตบอลก็เขียนรูป นักฟุตบอลดังๆ ผมว่าคงติดตัวมาเองตัง้ แต่เกิดนัน่ แหละ แล้วก็มีวันที่โชคดีได้เห็นรูปเขียนสีน�้าของรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว จากคุณครูทา่ นหนึง่ ตอนมัธยมต้น ตอนนัน้ รูส้ กึ ทึง่ มาก ไม่เคยเห็นภาพวาดสีน�้ามาก่อน แล้ววันนั้นเองก็ได้รู้ว่ามีโรงเรียนทีเ่ น้นวิชาศิลปะ โดยเฉพาะคือ ‘วิทยาลัยช่างศิลป์’ เหมือนเจอแสงสว่างเลย ตอนนัน้ คิดว่า “ฉันจะต้องเรียนทีน่ ใี่ ห้ได้ ฉันเจอที่ ของฉันแล้ว” ก็เลยไปสอบเข้าแล้วก็ดันติดเสียด้วย ซึง่ ผมก็ไม่เคยไปติวทีไ่ หนกับเขา ทัง้ ๆ ทีม่ สี ถานทีต่ วิ เข้า ช่างศิลป์โดยเฉพาะด้วย แต่กไ็ ม่รู้ ทัง้ ทีต่ วั เองก็อยูก่ รุงเทพฯ แต่เพือ่ นๆ ทีเ่ ป็นเด็กต่างจังหวัดทีส่ อบติด มาเรียนด้วยกันเขารูก้ นั หมด


แต่หากจะถามผมถึงประสบการณ์แรกในการท�างานสายศิลปะ ค�าตอบ คือ ‘ตอบยาก’ เพราะถ้าหมายถึงการเขียนรูปก็เขียนตัง้ แต่ ยังเล็ก ประสบการณ์แรกก็คงเป็น ‘ความสุข’ มัง้ ไม่ได้คดิ อะไร ไม่ต้องการโชว์ให้ใครดู ไม่มีใครชม เขียนเพราะอยากเขียน เพราะชอบ สิง่ นีน้ า่ จะเป็น ศิลปะบริสทุ ธิ์ (Fine Art) ของแท้เลย แต่ถ้าหมายถึงแบบอาชีพ มีการโชว์งานแสดงนิทรรศการ ก็ตอ้ งบอกว่าการหยุดท�างานศิลปะแบบ Fine Art ไปสิบกว่าปีแล้ว กลับมาเริม่ ใหม่ ก็คอื ‘ความไม่มนั่ ใจ’ นัน่ แหละ เพราะมันร้างไป นานมาก ต้องรื้อฟื้นกันพอสมควร ไม่รู้ด้วยว่าวงการศิลปะ เขาไปถึงไหนกันแล้ว ไม่มใี ครรูจ้ กั Jekky Zoo เลยด้วย ปี 2004 เป็นปีทกี่ ลับมาหารากของตัวเอง เริม่ ท�างานศิลปะ แบบจริงจังอีกครั้ง กลับมาก็แสดงนิทรรศการเดี่ยวเลย (บ้า หรือกล้าไม่ร)ู้ เป็นงาน Solo ครัง้ แรกในชีวติ ซ่ามาก ก็ตนื่ เต้นดี เพราะถือว่าคือหน้าใหม่ในวงการศิลปะ เขินๆ เหมือนกันนะ เป็นอะไรที่ ‘เคยคุน้ แต่ไม่คนุ้ เคย’ ส�าหรับผมศิลปะไม่เคยเปลีย่ นความหมายเลยจากวันทีเ่ ริม่ ต้น ไม่วา่ คนท�างานศิลปะ วงการศิลปะจะเปลีย่ นไปยังไงหรือใครจะมอง มันยังไง ศิลปะของผมคือความสุข คือสิง่ ทีผ่ ลักดันขับเคลือ่ นชีวติ ผมมาตลอด ตัง้ แต่เด็กจนถึงตอนนี้ และตอนที่กลับมาท�างานศิลปะอีกครั้งเมื่อปี 2004 ก็สนุก ไม่กดดันนะ แต่ช่วงแรกอาจไม่คล่องนัก เพราะตั้งแต่จบ จิตรกรรมฯ ก็ไปท�างานโฆษณา แล้วก็ไม่ได้ทา� ศิลปะ (Fine Art) แบบเป็นเรือ่ งเป็นราวจริงจังเลย ก็ทา� ไปตามสัญชาตญาณ ซึ่ ง ถ้ า จะให้ บ อกเรื่ อ งความต่ า งระหว่ า งศิ ล ปะที่ เ กิ ด จาก จิตวิญญาน กับที่ต้องสนองในเชิงพาณิชย์ ว่าต่างกันแค่ไหน ขอตีความว่า ‘ศิลปะทีเ่ กิดจากจิตวิญญาน’ คือ Fine Art (ศิลปะ บริสทุ ธิ)์ ละกันนะ ซึง่ ปัจจุบนั นีแ้ ยกกันแทบไม่ออกแล้วนะ ศิลปิน หรือคนท�างานศิลปะเองก็เก่งเรื่องการตลาดกันมาก รู้ว่าอะไร จะขายได้ขายไม่ได้ อะไรโดนไม่โดน ค้าขายงานกันเก่งๆ เยอะ รู้วิธีโปรโมตตัวเอง จนชักสงสัยจะเรียกว่าเชิงพาณิชย์ได้ไหม คือตอนท�าก็ท�าแบบตอบสนองตัวเองนั่นแหละ แต่ตอนคิด เรือ่ งขายก็คดิ กันแบบเชิงพาณิชย์เลย ส่วนที่ตอ้ งสนองเชิงพาณิชย์เดี๋ยวนี้บริษัทต่างๆ ก็มวี ิธสี ร้าง คอนเทนต์ให้สินค้าแล้วดึงเอางาน Fine Art มาใช้แบบเนียนๆ ด้วยการน�าศิลปินมีชื่อมาท�างานโดยไม่ต้องเล่าเรื่องสินค้า หรือเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติหรือคอนเซปต์ของสินค้าเลยก็ยังได้ เพราะฉะนั้นตอนสร้างสรรค์ผลงานศิลปินก็ท�าแบบตอบสนอง ตัวเองนัน่ แหละ เพราะครีเอทีฟทีค่ ดิ งานให้เจ้าของสินค้าเขาคิด ตัง้ แต่เลือกศิลปินคนนัน้ ๆ แล้ว ว่าจะใช้งานยังไง เอาศิลปินเข้ามา เกี่ยวยังไง แล้วก็เป็นที่นิยมกันมานานแล้ว ศิลปินหลายๆ คน ก็คนุ้ เคยกับวิธกี ารแบบนีแ้ ล้ว ศิลปินก็ตอ้ งกินต้องใช้นะ ส่วนตัวไม่เคยล�าบากใจกับการสร้างความสมดุลในการสร้าง งานศิลปะทีม่ สี ปอนเซอร์เลย เพราะยังไม่เคยมีใครจ้าง ฮ่าๆๆ แต่เคย

เป็นคนจัดงานนิทรรศการ Street Art ครั้งหนึ่ง โดยมีผู้ให้ทุน เขาก็ไม่ได้มายุง่ อะไรเลยปล่อยให้ทา� ไปตามอิสระ ตามคอนเซปต์ ทีผ่ มคิดขึน้ มา ซึง่ ก็ตา่ งกับการมีสปอนเซอร์ทเี่ ป็นตราสินค้า หลายคนอาจมองว่าจากประสบการณ์การท�างานศิลปะทีผ่ า่ น มาย่อมต้องการสิง่ ทีส่ ะท้อนความเป็นตัวเองอยูใ่ นงานนัน้ ๆ แต่ ส�าหรับคนท�างานศิลปะอย่างผมมีความต่างออกไป คือ...ผมก็ไม่รู้ นะว่าสะท้อนอะไรยังไงบ้าง ไม่เคยคิดถึงเรือ่ งนีเ้ ลย คงยังไม่เจอ ให้คดิ ตอนนีก้ ต็ อบไม่ได้ดว้ ย เพราะงานก็เปลีย่ นไปเรือ่ ยๆ อยาก ท�าอะไรก็ทา� เปลีย่ นรูปแบบเปลีย่ นเทคนิคไปเรือ่ ยๆ คิดว่ายังคง ค้นหาอยูน่ ะ เหมือนเรียนศิลปะมาทัง้ ชีวติ จนถึงตอนนีก้ ก็ า� ลังเรียน อยู...่ เอ๊ะ !! หรือว่ามันสะท้อนออกมาว่า ‘เราชอบเราสนุกกับการ ค้นหาอะไรใหม่ๆ ชอบทดลอง ชอบแก้ปญ ั หากับโจทย์’ หรือจริงๆ แล้วเราแค่ ‘ขี้เบื่อ’ ต้องไปนั่งคิดดูแล้วละครับ สรุปคือศิลปะ สะท้อนตัวตนในด้านไหนเหรอ...น่าจะสะท้อนด้านที่ ‘ไม่ต้องมี ตัวตนก็ได้มงั้ ’ เพราะไม่เคยหา แม้ว่าปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับทุกวงการ เพราะ การเข้ามาของเทคโนโลยีโลก วงการศิลปะเองก็หนีไม่พน้ มีผลงาน หลายชิ้นจากหลากหลายศิลปินถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ในฐานะคนสร้างงานศิลปะ ซึ่งผมมองว่ายิ่งมีเทคโนโลยีเข้ามา รองรับการท�างานศิลปะมากเท่าไรยิง่ ดี มันน่าตืน่ ตาตืน่ ใจ รูปแบบ การเสพงานก็เปลีย่ นไปแล้ว อยูใ่ นออนไลน์กม็ ี อย่าง NFT ทีเ่ ป็น กระแสกันมาพักใหญ่ๆ ใครชอบท�า ชอบเสพแบบไหนก็เสพไป อยากเสพแบบเดิมๆ ก็มงี านดีๆ ให้ดเู ยอะ ชอบแบบใหม่ๆ ก็หา ดูกนั ไปครับ มาถึงตรงนี้เคยมีคนถามผมว่า ถ้าไม่ได้เรียนหรือท�างานที่ เกีย่ วข้องกับศิลปะ อยากเรียนหรือท�างานด้านไหน ก็นา่ คิดนะครับ เอาเป็นว่า ถ้าไม่ได้เรียนศิลปะผมก็ไม่รวู้ า่ ป่านนีต้ วั เองจะไปท�าอะไร อยู่ที่ไหนเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คิดและก็บอกกับคนอื่น มาตลอด เพราะตัง้ แต่เด็กเป็นคนทีเ่ รียนห่วยมาก เหมือนเรียน ไม่รู้เรื่อง มีเรื่องเดียวที่ผมไม่เคยทิ้งเลยคือการวาดรูป ถ้าผม เขียนรูปไม่เป็นผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนี้ผมจะเป็นใคร ท�าอะไรอยู่ นึกไม่ออกจริงๆ ก็อย่างทีบ่ อกตอนต้นว่าชีวติ ผมถูก ขับเคลือ่ นด้วยศิลปะเริม่ จากแบบไม่รตู้ วั เป็นไปเองตามธรรมชาติ หลังจากนัน้ ศิลปะทัง้ ผลักทัง้ พาผมไปในทุกช่วงชีวติ จนถึงตอนนี้ เป็นโชคดีของผมแล้วแหละทีช่ อบศิลปะ ผมชอบศิลปะทุกสไตล์ทเี่ ป็นงานดีๆ มีคณ ุ ค่า แต่ทสี่ า� คัญคือ ต้อง ‘เป็นศิลปะ’ นะ ส่วนศิลปินทีผ่ มชอบแล้วก็ชนื่ ชมผลงานนี่ มีเยอะมากๆ ตอนวัยรุน่ ก็ชอบแบบหนึง่ พอวัยเปลีย่ นความชอบ ก็หลากหลายไปตามประสบการณ์ แต่ไอดอลด้านงานศิลปะ ของผม คือ ท่าน ‘ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรี’ แล้วก็ ‘ธรรมชาติ’ เพราะสวยงาม ยิง่ ใหญ่ จริงใจ และไม่เรียกร้องความสนใจ และผมก็ไม่ได้เป็นศิลปินเบอร์ใหญ่ชอื่ ดังนามอุโฆษ เป็นคนรัก การท�างานศิลปะคนหนึง่ ถ้าจะให้ฝากอะไรก็คง ‘ฝากเนือ้ ฝากตัว ด้วยนะครับ’

7 1


CSV

: กรรฐา

เคทีซพ ี าคุณครูโรงเรียนวัดลานบุญ ร่วมทริป ‘The Secret of พระนคร’ ส่งต่อความรูศ้ ลิ ปวัฒนธรรม เพือ่ การพัฒนาทีย่ ง่ั ยืนด้านสังคม

เพราะการศึกษาเป็นเรือ่ งส�าคัญและไม่ได้มอี ยูแ่ ค่เพียงในต�ารา การได้ออกไปนอกห้องเรียนสัมผัสกับธรรมชาติและวิถชี มุ ชน ก็ถอื เป็นการศึกษาเช่นกันทีน่ อกจากจะได้ทงั้ ความรู้ ความเพลิดเพลิน สนุกสนานแล้ว และยังเป็นการสอดคล้องกับหนึง่ ในเป้าหมายการพัฒนา ทีย่ งั่ ยืนด้านสังคมของสหประชาชาติทวี่ า่ ด้วยการสร้างหลักประกันว่า ทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรูต้ ลอดชีวติ

ดั ง นั้ น ทางเคที ซี จึ ง ได้ ร ่ ว มกั บ โรงเรียนวัดลานบุญ สังกัดกระทรวง ศึกษาธิการ พาคุณครูเข้าร่วมทริปกับ

KTC PR Press Club: The Secret of พระนคร ตอน ‘หลากหลายเรือ่ งลับ ฉบั บ ไชน่ า ทาวน์ ’ ซึ่ ง จั ด ขึ้ น เพื่ อ

7 2

ร่วมสืบสานเรื่องราวของชุมชนและ ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่นับวัน จะเลือนหายให้กลับฟื้นมีชีวิต และยังเป็นการส่งมอบความรู้อันเป็นประโยชน์นี้ ด้วยหวังให้มีการน�าประสบการณ์ที่ได้ไปถ่ายทอดและต่อยอดความรู้นอกห้องเรียน ให้กบั นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น นางกัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง ที่ปรึกษา-สื่อสารองค์กรสัมพันธ์เคทีซี กล่าวว่า “เป็นครัง้ แรกของปีนี้ โดยความพิเศษครัง้ นี้ นอกจากผูร้ ว่ มทริปจะเป็นสือ่ มวลชนแล้ว ยังได้ประสานกับทางโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงที่สังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเชิญ คุณครูที่สอนนักเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ หรือศิลปวัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรม เพือ่ รับประสบการณ์ตรงจากการได้สมั ผัสกับสถานทีจ่ ริง รวมถึงได้รบั รูเ้ รือ่ งเล่าจาก คนในพืน้ ทีแ่ ละวิทยากรผูเ้ ชีย่ วชาญ อาจารย์ธานัท ภุมรัช นักประชาสัมพันธ์ กลุม่ งาน พัฒนาการท่องเทีย่ ว ส่วนการท่องเทีย่ ว ส�านักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเทีย่ ว

กรุงเทพมหานคร ด้วยหวังว่าคุณครูจะได้นา� เรือ่ งราว ของศิ ล ปวั ฒ นธรรมที่ แ ทรกตั ว อยู ่ กั บ วิ ถี ชี วิ ต ของ ชุมชน และบางช่วงบางตอนทีส่ า� คัญในประวัตศิ าสตร์ ไปถ่ายทอดต่อให้กบั เยาวชนน้อยๆ ในโรงเรียนได้รบั ประโยชน์ทางการศึกษาต่อไป สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาทีย่ งั่ ยืนด้านสังคมของเคทีซี ในการสนับสนุน วิถกี ารเรียนรูต้ ลอดชีพ (Lifelong Learning)” โดยทริป The Secret of พระนคร เริม่ ต้นที่ วัดอุภัยราชบ�ารุง หรือ วัดญวนตลาดน้อย ห นึ่ ง ใ น วั ด ญ ว น ข อ ง ส ย า ม สร้ า งโดยชาวเวี ย ดนามอพยพ ช่ ว งรั ต นโกสิ น ทร์ ต อนต้ น โดยพระบาทสมเด็ จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้พระราชทานทีด่ นิ ให้ ต่อด้วย วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร วัดโบราณสมัย อยุธยา เดิมชือ่ ‘วัดส�าเพ็ง’ ต่อมาสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระราชทานนามใหม่ ว่า ‘วัดปทุมคงคา’ และพักทานอาหารกลางวันที่ ร้านฮงเชียงกง ห้องแถวสีนา�้ เงินคราม ซึง่ เป็นอาคาร เก่าและโบราณวัตถุทนี่ า� มาแสดง อยูท่ ว่ั บริเวณ ภาคบ่ายต่อกันที่ ศาลเจ้า โจซือกง สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2347 เพื่ อ เป็ น ศู น ย์ ร วมของ ชาวจีนฮกเกีย้ น ถือเป็นศาลเจ้า ทีม่ คี วามเก่าแก่มากทีส่ ดุ ในย่านตลาดน้อย มีเทพประธาน ของศาลเจ้าคือ เทพโจซือกง หรือพระหมอเช็งจุย้ โจซือ ซึง่ ชาวฮกเกีย้ นให้ความเคารพนับถือ ถัดมา ร้านเฮงเส็ง ทีอ่ นุรกั ษ์อาชีพท�าเบาะไหว้เจ้า มายาวนานกว่าศตวรรษให้ฟน้ื ขึน้ มาอีกครัง้ ปิดท้ายที่ บ้านเลขที่ 1 อาคารอายุกว่า ร้อยปีทเี่ ป็นตัวแทนสถาปัตยกรรมยุคนีโอ คลาสสิกแท้ๆ เดิมทีสร้างเป็นส�านักงานของบริษัท กลั่นสุราของฝรั่งเศสในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งไทย มีการติดต่อกับต่างประเทศจนรุง่ เรือง ทัง้ นี้ จ่าสิบเอก สมเกียรติ ดาสา ผูอ้ า� นวยการ โรงเรียนวัดลานบุญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “การที่เคทีซีได้เชิญทางคุณครูเข้าร่วม กิจกรรม เพือ่ รับทราบถึงเรือ่ งราวต่างๆ เช่น ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม ถือว่าเป็นกิจกรรมทีด่ แี ละส่งผลดีให้กบั การเรียนการสอน โดยน�าศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่น ของกรุงเทพมหานครสูห่ อ้ งเรียน”


ชาวเปอโยต์ เบิกบาน รับวันสบายๆ สไตล์ ‘รถที่ ใช่ กับ กาแฟที่ชอบ’

news & news

พร้อมทริกดีๆ ขับขี่อย่างมั่นใจ เพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน

‘เปอโยต์ ไลอ้อน ออโตโมบิล’ ผูแ้ ทน จ�ำหน่ำยรถยนต์เปอโยต์ อย่ำงเป็นทำงกำร ในประเทศไทย จัดกิจกรรมเอำใจสำยชิล สำวกรถยนต์ยุโรปสัญชำติฝรั่งเศส 3 รุ่น เปอโยต์ 2008, 3008 และ 5008 SUV 7 ที่นั่ง ซึ่งมีคำแรกเตอร์แตกต่ำงกันไป ตำมไลฟ์สไตล์ กับงำน ‘ดริป แอนด์ ไดรฟ์’ (Drip & Drive) ขับรถที่ใช่ ไปดื่มด�่ำกำแฟที่ชอบ ที่ร้ำนกำแฟชื่อเก๋ ‘Ministry of Roasters’ หรือ ‘กระทรวงกำรคัว่ ’ ท่ำมกลำงบรรยำกำศเป็นใจ ของวันหยุดพักผ่อนสบำยๆ นับเป็นกิจกรรมเบำๆ รับวันสบำยๆ ในช่วงฤดูฝน ทีส่ ร้ำงรอยยิม้ และเสียงหัวเรำะ และยังได้ทริกดีๆ ส�ำหรับกำรขับรถยำมฝนตก ให้ปลอดภัยยิง่ กว่ำเดิม ถูกอกถูกใจสำวกเปอโยต์อย่ำงยิง่

ชาริช เฮลท์ เปิดตัว sharismeTa (ชาริชเมทา)

เอาใจสายเฮลตี้ ไดเอท ปลูกฝังสุขภาพดีต้องมาก่อน หุ่นที่ ใช่

Sharich Health (ชำริช เฮลท์) ผู้ผลิตและ จัดจ�ำหน่ำยผลิตภัณฑ์เสริมอำหำร ที่มุ่งเน้นให้ คนไทยสำมำรถเข้ำถึงผลิตภัณฑ์สขุ ภำพดีระดับโลก โดย ม.ล.พลอยนภัส ลีนตุ พงษ์ Founder / Chief Happiness Officer และ อภิชำติ ลีนุตพงษ์ Co-founder / Chief Executive Officer บริษทั ชำริช เฮลท์ จ�ำกัด จัดงำน ‘Into The Meta by Sharisma กำรดูแลสุขภำพและรูปร่ำงอย่ำงไม่มี ทีส่ นิ้ สุด’ ต่อยอดควำมส�ำเร็จครัง้ ยิง่ ใหญ่กบั กำร เปิดตัว ‘SharisMeta’ (ชำริชเมทำ) นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เสริมอำหำรระดับพรีเมียมทีเ่ น้นกำรดูแล สุขภำพและกำรเผำผลำญระดับเซลล์ โดยนับเป็น อีกหนึ่งปรำกฏกำรณ์ครั้งส�ำคัญในประเทศไทย กั บ กำรรวบรวมสำรสกั ด ธรรมชำติ สุ ด เข้ ม ข้ น ที่ดีที่สุดและมีผลวิจัยรองรับโดยตรงจำกทั่วโลก มำไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว

‘ฟรานเชสโก ทริสตาโน’ ( Francesco TrisTano ) นักเปียโนดาวรุ่งชาวลักเซมเบิร์ก

ร่วมกับวงดนตรีรอยัลแบงคอกซิมโฟนีออร์เคสตรา ( rBso ) เปิดการแสดงในกรุงเทพฯ

‘ฟรำนเชสโก ทริสตำโน’ (Francesco Tristano) ได้มำท�ำกำรแสดงทีก่ รุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำรเปิดแสดงทัวร์ทั่วโลกเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ของเขำ On Early Music (โซนี คลำสสิคัล) ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้โดยฟรำนเชสโก โดยเปิดกำรแสดง 3 โชว์ที่แตกต่ำงส�ำหรับแฟนๆ ทั้งเพลงคลำสสิกและ เพลงอิเล็กทรอนิก โดยเริม่ ด้วยกำรแสดง Piano 2.0 ณ อำคำร AUA ในวันศุกร์ท่ี 10 มิถยุ ำยน 2022 ตำมด้วยกำรแสดง Electronic Live Set ที่ Bangkok Island ในวันอำทิตย์ที่ 12 มิถุนำยน 2022 ก่อนจะ ส่งท้ำยกำรเยี่ยมเยียนกรุงเทพฯ ของเขำใน วันจันทร์ที่ 13 มิถนุ ำยน 2022 ทีผ่ ำ่ นมำด้วย คอนเสิรต์ On Early Music ทีศ่ นู ย์วฒ ั นธรรมแห่ง ประเทศไทย โดยควำมร่วมมือกับวงดนตรีรอยัล แบงคอกซิมโฟนีออร์เคสตรำ (RBSO)

เซ็นทรัลพัฒนา รีสตาร์ทประเทศเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้าธุรกิจโรงแรมลงทุน 10,000 ล้านบาทใน 5 ปี สร้างมาตรฐานใหม่พร้อมบุกเบิก ‘เศรษฐกิจการเดินทาง’ ( Travel ecosysTem )

บริษทั เซ็นทรัลพัฒนำ จ�ำกัด (มหำชน) ผูน้ ำ� อสังหำริมทรัพย์ไทย เพือ่ ควำมยัง่ ยืน และผูพ้ ฒ ั นำธุรกิจศูนย์กำรค้ำเซ็นทรัล, ทีพ่ กั อำศัย, อำคำรส�ำนักงำน และโรงแรมทัว่ ประเทศ เดินหน้ำกลยุทธ์ ‘Retail-Led Mixed-Use Development’ พัฒนำธุรกิจโรงแรมตำมแผน 5 ปี รวม 37 โครงกำร 27 จังหวัด ด้วยงบลงทุนรวม 10,000 ล้ำนบำท มุง่ มัน่ สร้ำง มำตรฐำนใหม่กำรพักอำศัยและโรงแรม พร้อมบุกเบิก ‘เศรษฐกิจ กำรเดินทำง’ (Travel Ecosystem) เพือ่ ตอบโจทย์ทมี่ ำกกว่ำกำรท่องเทีย่ ว ครอบคลุมทุกจุดประสงค์ทั้งกำรพักผ่อน, ท�ำธุรกิจ และท�ำงำน ย�ำ้ ควำมเป็นผูน้ ำ� ของเซ็นทรัลพัฒนำในกำรส่งเสริมศักยภำพของเมือง ต่ำงๆ ทัง้ เมืองหลัก-เมืองรอง เมืองท่องเทีย่ ว และเมืองอุตสำหกรรม ช่วยกระตุน้ เศรษฐกิจท้องถิน่ พร้อมผนึกก�ำลังพันธมิตรในกลุม่ เซ็นทรัล Centara Hotels & Resorts ในกำรบริหำรโรงแรมด้วยมำตรฐำนและกำร บริกำรระดับ International Standard โดยพร้อมเปิดตัวโครงกำรแรก โรงแรม Centara Korat ในเดือนกันยำยน 2565 นี้ ชม VDO Restarting Thailand’s Travel Ecosystem คลิก https://youtu.be/L7zboGrMpDA

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งมอบ ‘The new eQs’ ให้ผู้จำาหน่ายอย่างเป็นทางการ 4 แห่ง

ตอบรับกระแสความสนใจในยานยนต์ ไฟฟ้าระดับลักชัวรีรุ่นใหม่ พร้อมย้ำาความมุ่งมั่นสู่อนาคต

เมอร์ เ ซเดส-เบนซ์ ย�้ ำ ควำมมุ ่ ง มั่ น ในกำรเดิ น หน้ ำ ท� ำ ตลำด ยำนยนต์ไฟฟ้ำในประเทศไทยด้วยกำรส่งมอบรถยนต์รนุ่ ‘The new EQS’ จ�ำนวน 4 คัน ให้กบั ผูจ้ ำ� หน่ำยรถยนต์แบรนด์ Mercedes-EQ อย่ำงเป็น ทำงกำรทัง้ 4 แห่ง ได้แก่ บริษทั เบนซ์บเี คเค กรุป๊ จ�ำกัด, บริษทั เบนซ์ พระรำม 3 จ�ำกัด, บริษทั ไพรม์มสั ออโต้เฮำส์ จ�ำกัด และบริษทั ทีทซี ี มอเตอร์ จ�ำกัด ตอบรับกระแสควำมสนใจของผู้ใช้รถในไทยที่มีต่อ ยำนยนต์ไฟฟ้ำระดับลักชัวรีรนุ่ ใหม่จำกเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลูกค้ำทีส่ นใจ สำมำรถเข้ำเยีย่ มชมและสอบถำมรำยละเอียดเพิม่ เติมเกีย่ วกับ ‘The new EQS’ ได้ทโี่ ชว์รมู ของผูจ้ ำ� หน่ำย Mercedes-EQ อย่ำงเป็นทำงกำรทัง้ 4 แห่ง ทีก่ ล่ำวมำ

7 3


GM เชื่อว่ำค�ำถำมที่ดีน�ำมำซึ่งค�ำตอบที่สร้ำงสรรค์ ค�ำตอบที่สร้ำงสรรค์สำมำรถสร้ำงแรงบันดำลใจ และเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น เรำเลยโยน 1 ค�ำถำมให้พวกเขำตอบ : กบูร

“ส�ำหรับคนไทยเรำต่ำงคุ้นชินกับกรุงเทพฯ ในทุกมุมมอง และอยำกเห็นกำรพัฒนำไปในทิศทำงที่ดี มำฟังเสียงของชำวกรุงกันว่ำเขำอยำกเห็นควำมเปลี่ยนแปลงใดในกรุงเทพมหำนครกันบ้ำง”

รศ.ดร.สือ่ จิตต์ เพ็ชร์ประสาน รองศาสตราจารย์และรองคณบดีกติ ติคณ ุ วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ผมอยากเห็น คือการน�าเทคโนโลยี มาใช้ในการบริหารกรุงเทพมหานคร อย่างเป็นรูปธรรม กรุงเทพฯ เป็นเมืองทีม่ โี ครงสร้างพืน้ ฐาน ดีอยู่แล้ว เช่น มีโครงข่าย Wi-Fi มีกล้อง วงจรปิดตามถนนหนทางต่างๆ มากมาย ดังนัน้ จึงมีการสร้างข้อมูลในปริมาณมาก (Big Data) ในแต่ละวัน หากสามารถจัดเก็บข้อมูล แบ่งปัน ข้อมูลระหว่างหน่วยงาน น�าข้อมูลปริมาณมาก เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ คิดวิเคราะห์ให้เป็น รูปธรรมก็จะสามารถแก้ปญ ั หาต่างๆ ได้อย่าง รวดเร็ว ทันท่วงทีต่อเหตุการณ์ และสร้าง การเปลีย่ นแปลงในสังคม เช่น การแก้ปญ ั หา การจราจรติดขัด โดยการควบคุมสัญญาณ ไฟจราจรและการปรับเปลี่ยนช่องทางแบบ อั ต โนมั ติ การแก้ ป ั ญ หาฝุ ่ น ควั น มลพิ ษ โดยการน�าเทคโนโลยีมาตรวจวัดว่าบริเวณใด มีการสร้างฝุ่นควันผิดปกติ การแก้ปัญหา น�้าท่วมขัง การระบายน�้าโดยการควบคุม การระบายน�า้ แบบอัตโนมัติ อีกทั้งการใช้เทคโนโลยี Big Data และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI ) เพือ่ สร้างความปลอดภัย ในชีวติ และทรัพย์สนิ น�าไปสูก่ ารปรับเปลีย่ น กรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอัจฉริยะ เพือ่ ให้

7 4

คนทุกเพศทุกวัยใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย และมีความสุข อีกเรือ่ งหนึง่ คือจัดการเรือ่ งการขายสินค้า บนทางเท้าหรือพืน้ ผิวการจราจร Street Food ต้องอธิบายก่อนว่าผมเป็นคนที่ชอบอาหาร Street Food และผมคิ ด ว่ า นี่ เ ป็ น เสน่ ห ์ อย่างหนึง่ ของการท่องเทีย่ วของประเทศไทย ผมอยากให้ มี ก ารจั ด พื้ น ที่ โ ดยน� า ร้ า นค้ า Street Food ต่างๆ รวมกันในแต่ละเขต ท�าให้สามารถควบคุมทางด้านความปลอดภัย อาหารได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้าง แหล่งท่องเทีย่ วใหม่ และคืนพืน้ ผิวการจราจร และทางเท้าได้อีกด้วย เพื่อให้ทุกคนสัญจร ไปมาได้อย่างสะดวก สิ่ ง ต่ อ มาที่ อ ยากเห็ น คื อ การพั ฒ นา อย่างยั่งยืนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ทีส่ ามารถใช้งานได้ทกุ ยุคทุกสมัย ไม่ใช่แค่วา่ เมื่อเปลี่ยนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ตอ้ งเริม่ ท�ากันใหม่หมด ผมเชื่ อ ว่ า กรุ ง เทพมหานครเป็ น เมื อ ง ทีม่ เี สน่ห์ มีอตั ลักษณ์ชดั เจน สามารถพัฒนา ให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สาธารณสุข การท่องเทีย่ วและการประชุมระดับนานาชาติ ได้อย่างแน่นอนครับ

น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ สาวน้อยคิดบวก

ธันย์อยากเห็นการเปลีย่ นแปลงทีด่ ขี นึ้ ส�าหรับคนพิการค่ะ อยากให้คณ ุ ภาพ ชีวติ ของคนพิการดีขนึ้ โดยเฉพาะสิง่ อ�านวย

ความสะดวกต่างๆ ทีถ่ กู สร้างขึน้ และคนพิการ ไม่สามารถใช้งานได้จริงได้รบั การแก้ไข และ ท�าให้คนพิการสามารถใช้งานได้ เข้าถึงโอกาส มากขึน้ ด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามที่ถูก เปลีย่ นแปลงแต่คนทีใ่ ช้งานไม่สามารถใช้งาน ได้จริง ก็ไม่ถอื ว่ามีการเปลีย่ นแปลง และกลับ เป็นการสร้างประเด็นใหม่ๆ ให้เกิดขึน้ ในสังคม ในขณะปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้รับ การแก้ไข พัฒนาหรือปรับปรุงให้ดขี นึ้

พรรณเชษฐ วิเศษโชค

ผูส้ ร้างสรรค์งานกราฟิกดีไซน์ / วิดโี อโปรดักชัน บริษทั เอกชน

ผมอยากเห็นกรุงเทพมหานครเป็น เมืองเเห่งสวนสาธารณะสร้างสรรค์ ให้กับทุกคนครับ เป็น Creative Park ที่มี พืน้ ทีส่ เี ขียวส�าหรับการพักผ่อนให้กบั ทุกเพศ ทุกวัย เป็นพื้นที่ให้เด็กๆ เยาวชนเล่นสนุก ได้อย่างสร้างสรรค์ เเละให้ผู้ปกครองได้ใช้ เวลาพั ก ผ่ อ นบริ เ วณเดี ย วกั น อย่ า งอุ ่ น ใจ พร้อมกับเป็นพืน้ ทีป่ ล่อยของให้กบั เหล่าศิลปิน ช่างฝีมือ นักดนตรี และเหล่านักออกแบบ ให้ มี ที่ ท างของตั ว เอง เพราะมองเห็ น ถึ ง พลังของความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเหมือน Soft Power สามารถน� า ไปต่ อ ยอดเพื่ อ การพัฒนาประเทศได้ครับ




Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.