Chiang Mai Creative Workshop 2560 ถักรักจากลีซอ : Lisu Twine Knotting

Page 1


“คนไทยไม่ว่าที่ไหนมีฝีมือทั้งนั้น เพียงแต่แนะเขา เขาควรจะทำ�อาชีพยังไง เขาก็ทำ�ได้ดีมีฝีมือดีมาก ทำ�ให้เห็นว่าคนไทยนี่เก่ง” พระราชดำ�รัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๒

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำ�เนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่สูง


องค์การบริหารส่วนจั ง หวั ดเชี ย งใหม่ มี อ�ำนาจหน้ าที่ ใ นการพั ฒ นาจั งหวั ด เชี ย งใหม่ ใ นหลายด้ า น ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การสาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ และจารีต ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ให้ด�ำรงอยู่และสืบทอดสู ่ ค นรุ ่ น ต่ อ ไป เพื่ อ ให้ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในท้ องถิ่ น องค์ การบริ ห ารส่ วนจั งหวั ด เชี ย งใหม่ ได้ ว างแนวทางปฏิบัติใน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับทุนทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ใน 3 ข้อ คือ • ส่งเสริมสนับสนุนให้ท้องถิ่นด�ำเนินกิจกรรมร่วมกับองค์กรต่างๆ ท�ำงานอย่างบูรณาการ เพื่อให้เกิด ความตระหนัก ในการด�ำเนินกิจกรรมในด้านการศาสนา การฟื้นฟูจารีตประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญา ท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่และชนเผ่าที่หลากหลาย • ส่งเสริมสถาบันทางการศึกษาและสถาบันทางสังคมต่างๆ ให้มบี ทบาทส�ำคัญในการอนุรกั ษ์ ท�ำนุบ�ำรุง รักษา สืบทอด พัฒนา มรดกทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีอันดีงาม ตลอดจนสถาปัตยกรรมโบราณ และแหล่งประวัติศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ • สนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านศิลปะ วัฒนธรรมสู่ท้องถิ่น และศาสนสถาน โดยร่วมกับ องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรที่ท�ำงานเพื่อสังคมในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาเมือง เชียงใหม่สู่เมืองแห่งการสร้างสรรค์ทางศิลปะและวัฒนธรรม (Creative City of Arts and Culture) ซึง่ แนวทางปฏิบตั ขิ ององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 11 ทีใ่ ห้ความส�ำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการส่งเสริมการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) ในระดับภูมภิ าคและท้องถิน่ เพือ่ ให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางเครือข่ายการผลิต การค้า และการบริการของ ธุรกิจสร้างสรรค์ของภูมภิ าคอาเซียน (Creative Hub of ASEAN) ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดการศึกษารวบรวมและจัดท�ำข้อมูลเบื้องต้นของเมืองเชียงใหม่ เพื่อ เตรียมการเป็นเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การ UNESCO ซึ่งกระบวนการด�ำเนินงานจ�ำเป็นต้องมีการ ศึกษาทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก รวมถึงต้องมีการปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งส่วนนโยบายและการปฏิบัติการ ในการนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดท�ำโครงการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่ภายใต้ชื่อ “โครงการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การ UNESCO (สาขาหัตถกรรมและศิลปะ พื้นบ้าน)” โดยมุ่งหวังให้เกิดการท�ำงานร่วมกันอย่างบูรณาการกับองค์กรภาครัฐ เอกชน ชุมชน ภาคการศึกษาและ อาชีพของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่สามารถเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การ UNESCO (สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) อันจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล จาก ทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่


ชาติพันธุ์ลีซอ เรียกตนเองว่า “ลีซู” (ค�ำว่า “ลี” มาจาก “อิหลี่” แปลว่า จารีต ประเพณีหรือวัฒนธรรม “ซู”

แปลว่า “คน”) มีความหมายว่ากลุ่มชนที่มีขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี และมีความภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเอง ดัง นั้นหากมองในแง่วัฒนธรรมและบุคลิกภาพแล้ว อาจกล่าวได้ว่าชาวลีซอ เป็นกลุ่มชนที่รักความอิสระ มีระบบจัดการ ความสัมพันธ์ทางสังคมที่ยืดหยุ่น เป็นนักจัดการที่มีประสิทธิภาพ จะไม่ยอมรับสิ่งใหม่โดยที่ไม่ผ่านการเลือกสรร และ จะไม่ปฏิเสธวัฒนธรรมที่แตกต่างจากตนโดยไม่ผ่านการแยกแยะ ด้วยเหตุนี้เองจึงท�ำให้ชาวลีซอมีศักยภาพในการปรับ ตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็สามารถธ�ำรงรักษาอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์เอาไว้ได้เช่นกัน โดยแต่เดิมชาวลีซอมีถิ่นฐานอยู่บริเวณต้นน�้ำสาละวิน และแม่น�้ำโขงทางตอนเหนือของทิเบต และทางตะวันตก เฉียงเหนือของมณฑลยูนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ชาวลีซอได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2462-2464 จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้เมืองเชียงตุงของประเทศเมียนมาร์มาตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนครั้งแรกในประเทศไทย อยู่ที่บ้านดอยช้าง อ�ำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ชาติพันธุ์ลีซอแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มย่อย คือ ลีซอลาย และลีซอด�ำ ชาวลีซอที่อยู่ในประเทศเกือบทั้งหมดเป็น ลีซอลาย ส่วนลีซอด�ำอยู่ในประเทศจีน เมียนมาร์ อินเดีย และไทย ในประเทศไทยมีชุมชนลีซออยู่ 9 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ตาก ก�ำแพงเพชร เพชรบูรณ์ สุโขทัย และล�ำปาง มีจ�ำนวนประชากรทั้งหมดราว 30,940 คน


การแต่งกายลีซอ ลักษณะการแต่งกายของหญิงลีซอ มีความโดดเด่นมาก ตั้งแต่ผ้าโพกหัว ที่เป็นทรงป้านกลม ตกแต่งด้วยลูกปัด และพู่ประดับหลากสี สวยงาม เสื้อตัวยาวตัดเย็บด้วยผ้าสีสดใสตกแต่งด้วยริ้วผ้าเล็กๆ สลับสี สวมทับกางเกงขายาว ครึ่งน่องสีด�ำ มีผ้าคาดเอวที่เมื่อคาดแล้วจะทิ้งชายไปทางด้านหลังเป็นพู่หางม้า ท�ำจากผ้าหลากสีเย็บเป็นไส้ไก่เส้นเล็กๆ จ�ำนวนกว่า 100 เส้นขึ้นไป เมื่อเคลื่อนไหวพู่จะกวัดแกว่งไปด้วยดูน่ารักสวยงามมากและสวมสนับแข้งสีสด หญิงสาว และหญิงสูงอายุแต่งกายคล้ายกัน ต่างกันเฉพาะการใช้สี ซึ่งในกลุ่มหญิงสูงอายุจะใช้สีขรึมเข้มกว่า และผ้าโพกหัวก็ใช้ผ้า สีด�ำโพกพันไว้ ไม่มีลูกปัดและพู่ประดับ ผู้ชายสวมกางเกงสีสด และสวมเสื้อสีด�ำตกแต่งด้วยเม็ดเงินคาดเอว ประดับด้วย พู่หางม้าท�ำจากผ้าเย็บเป็นไส้ไก่สลับสี เวลาคาดเอวจะทิ้งชายลงมาทางด้านหน้า ส่วนเด็กๆ ยังคงสวมใส่ชุดประจ�ำเผ่า ให้เห็นโดยทั่วไป

การแต่งกายผู้ชายชาติพันธุ์ลีซอ

การแต่งกายผู้หญิงชาติพันธุ์ลีซอ


เชือกหางลีซอ หางลีซอ ถือเป็นส่วนหนึ่งประกอบเครื่องแต่งกายของชนเผ่าลีซอ ใช้เป็นสิ่งแสดงเอกลักษณ์ประกอบชุดการแต่ง กายประจ�ำเผ่าที่โดดเด่น ซึ่งจะสวมใส่กันเฉพาะในโอกาสพิเศษ หรือพิธีกรรมที่ส�ำคัญๆ โดยหญิงชาวลีซอจะน�ำหางลีซอ นับเป็นร้อยๆ เส้นนี้ห้อยประดับไว้ที่เอวบริเวณด้านหลังของกางเกง ส่วนผู้ชายชาวลีซอจะน�ำหางลีซอมาห้อยเอวติดไว้ ด้านหน้าของกางเกง เชือกลีซอจึงสะท้อนถึงเอกลักษณ์การแต่งกายประจ�ำเผ่าของชาวลีซอที่โดดเด่นและมีความชัดเจน เชือกลีซอจึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นและผูกพันในวัฒนธรรมการแต่งกายประจ�ำเผ่าลีซอที่มีมาช้านาน ผู้หญิงชาวลีซอเมื่ออายุ ประมาณ 7-8 ปี จะต้องเริ่มเรียนรู้และฝึกฝนการเย็บเชือกลีซอจากผู้เป็นแม่ การเย็บเชือกลีซอเป็นการเย็บด้วยมือ โดยใช้เทคนิคการเย็บหุ้มชายผ้าสีที่ตัดเป็นริ้วเล็กๆ ทั้งสองด้านให้ปิดเส้นด้ายสีขาวที่เย็บเป็นไส้ไก่ขนาดเล็กๆ อยู่ด้านใน ให้มิดจนสนิทแน่นจนมองไม่เห็นเส้นด้ายภายในและมองไม่เห็นรอยฝีเข็มที่ใช้ในการเย็บด้วย ฝีเข็มในการเย็บตลอดเส้น จะต้องถี่และละเอียดที่สุด จึงจะได้เชือกลีซอที่สมบูรณ์และสวยงาม การเย็บเชือกลีซอจึงถือได้ว่าผู้เย็บจะต้องใช้ทักษะ ฝีมือเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะเย็บได้แต่ละเส้นต้องใช้ทั้งทักษะ ความช�ำนาญ และสายตาของผู้เย็บ

หางลีซอ


ซะหยืการเย็อบคืหางลีอซแม่อ แล่ ลีซอมีความเชี่ยวชาญในการเย็บผ้าเป็นเส้นเล็กๆ ยาวประมาณ 8 นิ้ว – 12 นิ้ว มีสีสันสดใสเพื่อน�ำมามัดรวม กัน ติดปลายแต่ละเส้นด้วยกระจุกด้ายเล็กๆ สวยงาม เพื่อใช้เป็นพู่ประดับผ้าคาดเอวทั้งชายและหญิง เพื่อสวมใส่ใน โอกาสส�ำคัญ จ�ำนวนไส้ไก่มัดหนึ่งๆ ต้องมากกว่า 100 เส้น ขั้นตอนในการเย็บไส้ไก่นั้น เริ่มจากการน�ำผ้าที่ตัดได้ขนาดโดยมีความยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนความกว้างของ ผ้านั้นจะขึ้นอยู่กับความใหญ่ - เล็กของเส้นเชือก จากนั้นน�ำเส้นฝ้ายหรือเส้นเชือกมาเคลือบด้วยขี้ผึ้งเพื่อท�ำให้เส้นเชือก มีความแข็งตัว หลังจากนั้นจึงน�ำผ้ามาหุ้มเส้นเชือก และเริ่มท�ำการสอยผ้าให้พอดีกับขนาดของเส้นเชือก โดยพับริมผ้า เข้าข้างใน เมื่อท�ำการสอยจนสุดปลายเชือก แล้วจึงเย็บตกแต่งด้วยลูกไหมพรมที่มีสีสันสดใส

การเย็บหางลีซอ


อุปกรณ์ท�ำเชือกลีซอ เส้นเชือก

กรรไกร

ด้ายเย็บผ้า

ขี้ผึ้ง

ผ้า

เข็มเย็บผ้า


หางลีซอ


เงื่อนเกล็ดปลา

มัดปมสี่เหลี่ยม

วิธีถักเชือก


การมัดพิคอท (หลักซ้าย)

การมัดพิคอท (หลักขวา)


เงื่อนตามังกร 10 มุม

เงื่อนตามังกร 15 มุม


เงื่อนเหรียญคู่


เอกสารประกอบการบรรยายและฝึกอบรม : เรื่อง "ถักรักจากลีซอ" จัดทำ�โดย : โครงการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การ UNESCO (สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) ประธานที่ปรึกษาโครงการ : รศ. ดร. วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ ปีที่พิมพ์ : กันยายน 2560 พิมพ์ที่ : คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ้างอิงข้อมูลจาก : ผ้าชาวเขา : กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม บทความ "เชือกลีซอ : เส้นสายหลากหลายสีสัน หัตถกรรมเย็บมือของชนเผ่าลีซอ" โดย อัมพวัน พิชาลัย พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภาพประกอบ : อาณัฐพล ชัยศรี ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ www.robertharding.com www.lookiwasthere.com www.photoontour.com www.openbase.in.th www.oknetion.net.blong/freesoultly ออกแบบปก : อาณัฐพล ชัยศรี ออกแบบรูปเล่ม : ธนกร สุธีรศักดิ์ ติดต่อ Facebook : www.facebook.com/ChiangmaiCCFA Instagram : Chiangmai_creativecity Line @ : chiangmaiccfa Website : www.chiangmai-cityofcrafts.com



Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.