The Adventure in India - Part 2

Page 1

สวรรคตในป ค.ศ. 1666 ตามตํานานยังกลาวอีกวา วันสุดทายของชีวิต พระองคใชเวลาทั้งวันในการจอง มองเศษกระจกที่สะทอนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนมดว ยเศษกระจกในกํามือ ทัชมาฮาลตั้งอยูในสวนริมฝง แมน้ํายมุนา ในเมืองอัครา ในป ค.ศ.1983 องคการยูเนสโกไดรับรอง ทัชมา ฮาลใหเปนมรดกโลก สวนทีม ่ ีชื่อเสียงที่สด ุ คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสรางดวยหินออนสี ขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ไดรับคํารับรองวา สรางขึ้นดวยสัดสวนทีว่ ิจิตรและงดงามที่สุด มีผูสรางและออกแบบรวม 20,000 คน การกอสรางกินเวลานานถึง 22 ป นายชางที่ออกแบบ ชือ ่ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวต ิ เพือ ่ มิใหไปออกแบบสถาปตยกรรมใด ๆ ที่สวยกวา ได

Taj Mahal (ทัชมาฮาล) --------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากชมทัชมาฮาลเสร็จ คนขับพามารานอาหารชือ ่ Indiana (คนขับนาจะไดเปอรเซ็นตจากที่ราน) รานสวยดี รูสึกดีมากไดเขาหองแอร รานนี้ไกทานโดริ (Tandoori Chicken) อรอย กินกับนาน (naan) และโรตี (roti) อาหารที่นี่จะเนน แปง-มัน-ถั่ว โดยเฉพาะขาว ขาวอินเดียจะตางกับขาวเมืองไทยมาก เพราะขาวที่นี่เม็ด จะยาวๆผอมๆ แตพอเราเดินทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆพบวาอาหารเริ่มสมบูรณขึ้น คือ มีเนื้อมากขึ้น ลักษณะขาวก็ ตางกันเลย ขาวทางเหนือเม็ดจะปอมๆกวา

ในรานอาหาร Indiana

Tondoori Chicken + Naan

ที่รานนี้เราไดเจอกับพี่คนไทย 2 คน ดีใจมากกก (ดีใจเหมือนไมไดเจอคนไทยมาเปนสัปดาห จริงๆผาน ไปยังไมถึงวันเลย) คุยทักทายวา เปนอยางไรบาง โดนหลอกกันบางไหม เขาบอกวาโดนแขกฟนราคาเละ เหมือนกัน หลังกินอาหารชวงคิดเงิน รานอาหารสวนใหญในอินเดียจะมีเหมือนเม็ดเครื่องเทศรสมิ้นทๆใหกินเปน การดับกลิ่นปาก (After Mint)


After Mint หลังจากจบมือ ้ นี้ เราบอกคนขับใหไปปอมอัครา (Agra Fort) คนขับบอกเดี๋ยวขอพาไปดูการทําหินออน กอน แบบที่ทาํ ที่ทช ั มาฮาลเลยของรัฐบาลเลยนะ ไปดูกอ  น ไมตองซื้อก็ได (แนะ ฉันรูนะ) เราก็เลยลองๆไปดูก็ ได เวลายังเหลือ ไปถึงราน หนารานจะแสดงวิธีการทําผลิตภัณฑหินออน ในรานดานในเปนที่โชวสินคา พอเรา เดินเขาไปภายในราน พนักงานถึงเปดไฟ-เปดแอร เดินๆดูมีสินคาหลายอยาง พอเราทําทาไมอยากซือ ้ เขาก็จะ พาเดินไปมุมที่ของเล็กลงมาหนอย อารมณแบบซื้อสักนิดก็ยังดี แตพิจารณาดูแลว บางชิ้นทําลวกๆเกินไป อีก ทั้งยังไมไดอยากซือ ้ ของที่ระลึก พอตอนจะกลับ เขาจะพยายามคะยั้นคะยอใหซอ ื้ ใหได และนี่กเ็ ปนอีกความ ยากของนักทองเที่ยว ถาเราไมอยากซื้อ หรือคิดวาคุณภาพของสินคาเหลานั้นยังไมไดมาตรฐานและราคายังไม เปนที่พอใจ อยากดูที่รานอืน ่ ๆกอนตัดสินใจซื้อ เราตองยืนยันไปอยางหนักแนนวา ไมซื้อคะ ตองใจแข็ง ถาไม เอา ก็คือไมเอา เพราะเขาจะมีวิธต ี างๆนานาใหคุณใจออน ยิ่งคนไทยยิ่งขี้เกรงใจใหญ

รานที่ 1 – รานขายหินออน หลังจบรานหินออน คนขับขับพาไปรานผาและของที่ระลึกแหงที่ 2 ทันใด จอดปปเดินมาเปดประตูให ลงเลย (โห) เลยตองเดินลงไปดู แตไมไดอะไรติดมือกลับมา รานคาที่รถพาเรามา ไมไดอยูใ นตําแหนงทีค ่ น เขาถึงเหมือนอยางตลาดคนเดิน รานอยูคอ  นขางกระจัดกระจาย นี่คงเปนกลยุทธเดียวที่จะทําใหมีนักทองเที่ยว มาเขาราน ถาไมทําอยางนั้น รับรองวาไมมีคนมาเขารานแน เพราะแตละรานนี่อยูในหลืบมาก แลวถนนในอินเดีย มันก็จะงงๆ ไมมีปา ยถนนทีช ่ ด ั เจน ทางเดินเทาก็ไมคอยมี


รานที่ 2 – รานขายของที่ระลึกกระจุกกระจิกกับผาสาหรี ยัง ยังไมหมดชวง สงออยเขาปากชาง หลังจบรานผา คนขับพาไปตออีกที่รานขายพรม เปนแหงที่ 3 ซึ่งคนขับนําเสนอตลอดวา คุณไมตอ  งซื้อก็ได ไปดูกอน ที่นี่มีแสดงการทําพรมใหดด ู วย เราก็เออๆ ก็ได (ไหนๆ พวงมาลัยก็อยูใ นมือแลวนิ ฉันจะทําอะไรได -*-) เขาไปในราน มีพนักงานนั่งถักพรมอยู 2 คน ถักดวยเทคนิค เฉพาะ ผืนหนึ่งทํากัน 3-4 เดือนเลยทีเดียว แลวก็มีพรมที่มาจากแคชเมียร (Kashmir) ดวย คนขายบอกของ แคชเมียร แทๆจา (แตทาํ ไมตอนไปถึงแคชเมียรจริงๆ รานขายพรมที่นั่นบอก...โอย!ที่อัครา (Agra) นะ มันถัก ไมเหมือนกับที่แคชเมียรหรอก ที่แคชเมียรสิของแท เออ...ไมเชือ ่ ใครทั้งนั้น หึๆ) จากนั้นเขาพาเดินเขาไปหอง ดานหลัง เปดไฟ พรึบ... พรมเต็มหอง แลวเขาก็ทําการกางพรมทีละอัน พรอมกับอธิบายสรรพคุณของพรมไป เรื่อยๆ เราก็เออๆออๆ..ไมเปนไรคะ ไมตอ  งกางมาหมด (ที่บานใชเสื่อคะ) แตเขาก็กางออกมาหลายผืน จนเรา บอกวา ยังไงเราคงไมซื้อ เอาไวโอกาสหนาแลวกัน คุยอยูสักพัก ถึงจะปลีกตัวออกมาได -*- (ฮือๆ เหนือ ่ ยจัง)

การถักพรม

รานที่ 3 – รานขายพรม

ในที่สด ุ เราก็มาถึงปอมอัครา (Agra Fort) ตอนซื้อตั๋ว เราโชวตั๋วทัชมาฮาลกับ passport ไทย จะ จายเพิ่มอีกแค 10 รูป ในการเขาชม ปอมที่นี่ใหญแลวก็สวยงามมาก โดยสวนตัวรูสก ึ ชอบปอมอัครามากกวาทัช มาฮาลอีก เพราะมีอะไรใหดเู ยอะดี ตามสถานที่ทอ  งเที่ยวมักจะมีไกดทองถิ่นอยูมากมาย บางทีจะคอยเดินตามและถามเราวา เราสนใจใช บริการไกดไหม? ซึ่งเรายังไมเคยลองใชบริการดูเหมือนกัน ไมรูวา แพงไหม แตที่แนๆกลัวจะโดนมัดมือชกคาทิป และคาอื่นๆอีกสารพัด เดินเที่ยวเองสบายใจกวา


สถาปตยกรรมที่สวยงาม

บนปอมมองไปทางแมน้ํายุมนาจะเห็นทัชมาฮาลอยูล  ิบๆ ----------------------------------------------------------------------------------Agra Fort (ปอมอัครา) : ตั้งอยูท  างทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทัชมาฮาล ในป ค.ศ.1983 ไดการรับรอง จากองคการยูเนสโกใหเปนมรดกโลกเชนเดียวกันกับทัชมาฮาล เปนปอมปราการทีส ่ รางขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 16 สรางเปนกําแพงลอมรอบพระราชวังของกษัตริยโมกุล


Agra Fort (ปอมอัครา) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สถานที่เที่ยวอื่นๆในเมืองอัครา (Agra)

Akbar’s Mausoleum

Itimad-Ud-Daulah

Chini-Ka-Rauza สําหรับใครทีม ่ ีเวลาเหลือ ยังมีสถานที่ทองเที่ยวอีกที่หนึง่ ที่ควรแวะไปชม นั้นก็คือ Fatehpur Sikri (พระราชวังฟาเตหปูรสก ิ รี) อยูหางจากอัคราประมาณ 40 กม.ใชเวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Fatehpur Sikri (พระราชวังฟาเตหปูรสก ิ รี) : ในอดีตเคยถูกใชเปนนครหลวงของจักรวรรดิโมกุลมาก วา 10 ป เปนเมืองทีส ่ รางผสมผสานรูปแบบอิสลามและฮินดูเขาไวดว ยกัน ซึ่งประกอบดวยโบสถสถาปตยกรรม ที่มีลักษณะพิเศษ นอกจากนี้ยังมีมัสยิดจามา (Jama Masjid) ซึ่งเปนหนึ่งในสุเหราที่ใหญที่สุดในอินเดียดวย

Fatehpur Sikri Palace (พระราชวังพระราชวังฟาเตหปูรสก ิ รี) --------------------------------------------------------------------------------------

รานขายน้ําสุดแสบหนาปอมอัครา ออกมาจากปอมอัครา หิวน้าํ มาก แวะซื้อน้ํามะมวงสักกลอง (ที่นี่ฮต ิ มากและอรอย) ถามคนขายวาเทาไร คนขายบอกทันที 50 รูป (โห...โกงราคามากกก นีก ่ ะฉันเออออหอหมก ควักตังคซอ ื้ จะขายราคานี้กันเลยใชมะ ฉันเพิ่งซื้อจากรานขางๆ กอนเขาปอมอัคราแค 20 รูป เองนะ) เราเลยตอไปที่ราคา 20 รูป คนขายก็อะๆ 20 รูป (เคยซื้อน้าํ มะมวงกลองไดถก ู กวานี้ ราคาแตละที่ไมเทากันแลวแตคนขายจะตั้งราคา ถาราคาดูเกินความเปนจริง ไปมาก ควรจะตอราคากอนดวย) หลังจากจบการทัวรในวันนี้ เราบอกใหคนขับพาเราไปหาราน Coffee Shop เย็นๆกินหนอย แบบพวก Coffee Bean, Star Buck อะไรประมาณนี้ ที่นี่มีไหม เพราะตอนนี้อากาศรอนมาก อยากหาอะไรเย็นๆกิน คนขับ ก็บอก คุณชอบกินชาไหม ชาที่นี่อรอยมากเลย เดี๋ยวเขาพาไปรานชาแลวกัน เราก็อะๆไดๆขอที่เย็นๆแลวกัน เทานั้นแหละครับ คนขับพาซอกแซกไปตามทางเรื่อยๆจนมาจอดทีห ่ นารานๆหนึ่ง เราบอกคนขับ (เฮย!) นี่มัน รานชายังไงเนี่ย ไมทันขาดคํา คนขับเดินมาเปดประตูใหเราเดินลง แลวบอกวา ที่นเี่ ปนรานเพชรพลอย ลองเขา ไปดูกอ  น ไมตองซือ ้ ก็ได (มามุกนี้ อีกแลว -*-) เราเลยตองเขาไปแบบไมมท ี างเลือก พอเขาไปในราน เขาก็จะ เปดไฟ-เปดแอร (นี่...รอเหยือ ่ โดยเฉพาะเลยชิมิ) พอคาพลอยเชิญเรานั่งกอนเลย แลวหยิบถาดอัญมณีมาใหดู มีอัญมณีหลายอยาง (จริงหรือปลอมก็ไมรู ดูไมเปน) พอคาพูดถึงความสวยงาม และคุณคาของมันวาการซื้ออัญ มณี “It’s like investment” (คิดในใจ....บังเอิญหนูไมคอยลงทุนในอัญมณีอะคะ) แลวบอกวา คุณเอาไปเปน Accessories ก็ได ผูห  ญิงสวนใหญจะชอบ เอาไปใสในแหวน ในตางหู (เอิ่ม...คือหนูไมใชคนชอบแตงตัว) นี่ๆ.. ดูความเงางามของมันสิ แลวก็อธิบายความเงางามทีต ่ างกันของแตละชนิด (ก็...สวยดีคะ แตหนูดูไมเปนจริงๆ หนูจะโดนหลอกไหมคะ) เลยถามพอคาวา แลวจะดูรูไดยังไงวาของจริงของปลอม เขาบอกใหดก ู ารสะทอนกับ แสง ของแทจะเห็นเปนประกายสวยงาม เขาเห็นเราอยากกินชา (จริงๆแลวหนูอยากกินชามากกวามาดูพลอยอีก คะ -*-) เขาบอกเดี๋ยวเขาจะเอามาให เราบอกไปวาไมเปนไรๆคะ (กลัวลําบากใจภายหลัง) แต..เขาก็ไปสั่งให ลูกนองเขาไปเอาชามาให (เอาแลวไง คราวนี้ถอยยากแหละ ฃขอเตือนทุกทาน ใหใจแข็งและหนักแนน บอก ไปอยางหนักแนนวา ไมๆ เราไมพรอมจะซื้อ จะกลับแลว เราตองไปที่อื่นตอ อยารับสิ่งใดที่ถูกหยิบยื่นมาให


เพราะจะถอนตัวลําบาก เหมือนกลับตัวก็ไมได จะเดินตอไปก็ไปไมถึง) ระหวางรอชา เขาชวนคุยนูนนี่ เนี่ย..เขา บินไปขายที่ภเู ก็ตบอยๆ ชอบมากเลยเมืองไทย บลา บลาๆ....จนชามา เรากินไปคุยไป เขาเริ่มจะ ปดการขายคะ ทานผูชม! ตะลอมตางๆนานา เม็ดใหญไมไดเม็ดเล็กก็ไดนะ เราลําบากใจ จนแบบ อะ..แลวคุณมีอยางอื่นขาย ไหม เราชวยคุณซือ ้ ไดนะ ทีไ ่ มแพงนะ ถือเปนคาชาแลวกัน (อารมณแบบ ปลอยฉันไปเถอะ เหนือ ่ ยแลวนะ) เขา เดินไปหลังรานหยิบเสือ ้ สกรีนลายทัชมาฮาลมาใหเลือก (โห! มีดว ย สุดๆอะ) เขาบอกมีหลายสีเลย (นึกในใจ คงตองซื้อสักตัวแลวละ เพราะไมงั้น คงไมปลอยเราไปแนนอน หึๆ) แตเขาดันพยายามจะใหเราซือ ้ 2 ตัวใหได เพราะเราไปกัน 2 คน เราก็ไมๆ ขอตัวเดียวพอ ตอราคาเสร็จ ไดเสื้อมาตัวหนึ่งซะงั้น (แสบจริงๆ แขกสมัยนี้ พา มากินชาในรานเพชรพลอย ฮืมมมม) จากนั้นคนขับมาสงเราทีส ่ ถานีรถไฟอัคราคานทเพือ ่ รอกลับรถไฟรอบ 20.30 น. เรานั่งรอรถไฟกันที่ รานอาหาร Comesum ในสถานี เปนรานอาหารแฟรนไชสมีหลายสาขา แตสาขาทีส ่ ถานีรถไฟอัคราคานท คอนขางเนาหนอย แมลงวันเต็มรานเลย แตยังดีกวานั่งขางนอกราน ในรานมีฝรั่ง Backpack นั่งกันอยูบาง ที่นี่ ละ ทีเ่ ราจะสถิตตัวอยู 4 ชม.เพื่อรอรถไฟ เราลองสั่งกลวยปนที่รานมานั่งกิน ซึ่งตอนพนักงานที่รานทําการปน เขาจะหยิบน้ําแข็งดวยมือประมาณหยิบหนึ่ง (นอยมาก+ความสะอาดก็นอยมากกกเชนกัน) ใสในโถปน ปนอยู นั่นแหละ จนจะละเอียดไปไหน พอเขายื่นแกวมา ดูดปป  (โห..)ไมไดความรูสึกความเย็นหรือมีนา้ํ แข็งอยูอยาง ใด เรานั่งอานนูนนี่ไปเรื่อย จนมีผูหญิงชาวอิสราเอลมาขอนัง่ ดวย เรานั่งคุยกับเขาไปเรือ ่ ย เขาอายุ 40 กวา แลว มาเที่ยวคนเดียวเลย นัง่ ไปนั่งมาเริ่มหิว เดินหาอะไรกินแถวนั้น เห็นคนขายกําลังเท lassi อยู (ประมาณนม เปรี้ยวโยเกิรต) เดินวนดู+พินิจสักพักวาจะซือ ้ ชิมดีไหม กินแลวจะทองเสียไหมเนี่ย เพราะหันไปมองตรงขาม รานจะเปนถังขยะที่มีแกว lassi ดินเผาวางกองจนลนออกมา (เออ...มันจะมีการหยิบแกวดินเผาจากกองขยะนี้ไป รีไซเคิลไหมเนี่ย เฮือก!) แตก็อยากชิม เลยตัดสินใจซื้อมาชิมแกวนึ่ง (เอานะ...จะไดถา ยคลองๆไง หึๆ) เขามี ราดน้ําสีแดงๆ แลวก็โรยอะไรบางอยาง เหมือนจะเปนผักไวขางบนดวย รสชาติเปรี้ยวๆ แตกินกับถวยดินเผาแลว .... เหมือนเศษดินเผาติดปาก+เศษดินละลายผสมใน lassi ดวยเลย (จะทองเสียไหมเนี่ย ถายคลองแนวันนี)้

รานขายลาสซี่ (lassi) เรานั่งกันจนแบบลูกคาในรานเปลี่ยนไปหลายคนมาก ก็ยังไมถึงเวลาที่รถไฟจะมา พอประมาณ 1 ทุมมีชาว ญี่ปุน 2 คนเดินเขามา อาว! (เฮย!) หนุม 2 คนที่เจอที่สาํ นักงานทองเที่ยว(ปลอม) เมื่อคืนนี่นา เรานั่งคุยกับเขา พบวาเขาก็โดนหลอกเหมือนกันแตเมือ ่ วานเขาตัดสินใจไมไปหาโรงแรมใหมแตนั่งรอจนเชา เขาแทบไมไดนอน แลวเชารถมาทีอ ่ ค ั รา สวนวันนี้เขาจะไปเมืองพาราณสี (Varanasi)ตอ รอรถไฟรอบ 5 ทุม ซึ่งเขาตองรออีก 4 ชม. จากนั้นเราคุยกันสนุกสนาน ชาวญี่ปุน 2 คนนี้เปนเพื่อนกันตั้งแตสมัยมหาลัย แตตอนนี้ทํางานกันคนละ บริษัท ทํางานดาน sale พอใกลถึงเวลารถไฟออก เราไปเอากระเปาที่ฝากไวที่หอ  งฝากกระเปาและไปรอทีช ่ าน ชาลา โดยตามคุณพี่ชาวอิสราเอลไป ซึ่งเขาขึ้นขบวนเดียวกับเราดวย


เพื่อนใหมทเี่ จอกันที่สถานีรถไฟอัคราคานท ที่ชานชาลา บรรยากาศนากลัวเหมือนกัน อาจจะเพราะดึกแลวดวย มีฝรั่งที่รอขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน อยูบาง สวนใหญจะเปนฝรั่งสูงอายุหนอยมากับไกดชาวอินเดีย คือมีไกดประกบตลอดทําใหปลอดภัยขึ้นได เหมือนกัน แลวไกดพวกนี้จะพูดภาษาอังกฤษไดดี รถไฟคันนี้แวะจอดที่อค ั รา 5 นาที ไปถึงนิวเดลี 22.30 น. พอรถไฟออกสักพัก พนักงานจะเอาอาหารมาให เปน ขาว + แกงกระหรี่ + แกงถั่ว + ผักดองถวยเล็กๆ + จา ปาตี + น้ํา 1 ขวดใหญ + โยเกิรต (ที่นี่โยเกิรต  จะเปรี้ยวกวาและเหลวกวาไทย)

อาหารบนรถไฟขากลับมานิวเดลี เราไปถึงนิวเดลีโดยสวัสดิภาพ ขึ้นรถแทกซีท ่ ี่สถานีรถไฟนิวเดลีไปโรงแรมจินเจอร (Ginger) หลับพักผอน เก็บแรงไวสก ู ับแขกตอในวันพรุงนี้ตอ


Day 3 - One Day Tour in New Delhi วันที่ 3 – เที่ยวหนึ่งวันในนิวเดลี

แผนที่ตําแหนงสถานที่ทองเที่ยวเมืองนิวเดลี (New Delhi) เนื่องจากเมือ ่ วานเราเหนื่อยกับการเดินทางและทองเที่ยวมาพอสมควร วันนี้เราเลยขอตื่นสายกันสัก หนอยเพือ ่ ชารตพลัง เราพักกันที่โรงแรมจินเจอร โรงแรมในเครือ Tata Enterprise (Ginger Hotel www.gingerhotels.com) ลักษณะโรงแรมนี้จะคลายๆกับ Tune Hotel ของ Air Asia เปนอีกโรงแรมที่แนะนํา อยูใกล Metro ดวย เดินไปไมไกลมาก แตระหวางทางจะดูวุนวายหนอยเพราะโรงแรมนี้อยูใกลสถานีขนสง (ตองเขาใจอยางวาที่อินเดีย ถึงแมในแผนที่จะเห็นวาใกลกัน เดินได แตกอ ็ าจจะเดินไมได เพราะสภาพถนน และทางเทาที่ไมอาํ นวย) สําหรับอาหารเชา+เที่ยง เราฝากทองกันที่รา นอาหาร Comesum อยูชั้นที่ 1 ของ โรงแรม (รานแฟรนไชสเดียวกับรานที่เรานั่งรอรถไฟกันที่อัครา แตบรรยากาศดีกวาเยอะเลย)


โรงแรมจินเจอร (Ginger Hotel) เราเดินเลนขางลางโรงแรม ไปเจอมุมเล็กๆดานหลังเปน Travel Desk มีตารางราคาเชารถอยู นาสนใจ มาก เพราะมีแผนจะเที่ยวทีอ ่ ักชารดัม (Akshardham) และทัวรในเมืองเล็กๆนอยๆ ซึ่งตอนแรกกะจะไปดวย รถไฟฟา (Metro) แตหลังจากเห็นสภาพทางเขา Metro (ที่จะแอบนากลัวนิดนึง) เลยคิดวา ถาเหมารถไปเลย จะดีกวาไหม เพราะสามารถไปสงไดถึงสถานที่ทอ  งเที่ยวไดแบบไมตอ  งเดินไกลและไมตองตอรองกับรถแทกซี่ ตุกๆ เลยถามรายละเอียดกับพนักงานที่โตะในการเหมารถเที่ยววันนี้ ราคาอยูที่ 1,250 รูป/9ชม. มีคนขับรถให สําหรับการเชารถที่มี Contract กับโรงแรมจะดีอยางคือ ลดโอกาสในการถูกโกงใหนอยลง สบายใจกวา สําหรับนักทองเที่ยวทีต ่ องการหาที่พักในนิวเดลี มียา นฮิตๆที่นก ั ทองเที่ยวชอบไปพัก คือ ยานพาฮา กานจ (Paharganj) อยูติดกับสถานีรถไฟนิวเดลี เปนประมาณถนนขาวสารเมืองไทย ถนนเสนนีอ ้ ัดแนนไปดวยที่ พัก แตตองเลือกหนอยเพราะมีทั้งดีและไมดีปะปนกันไป

หนาตารถเชาในวันนี้

คนยากจนตามทองถนน

จุดหมายที่แรกวันนี้ เรามากันที่อักชารดม ั เปนศาสนสถานฮินดู ถาไมไดเชารถมาก็สามารถมาไดโดย รถไฟฟา เขาไปดานในอักชารดัมจะมีดา นตรวจ เพราะเขาไมใหนําสิ่งของตองหามเขา เชน กระเปา, คอมพิวเตอร,อาหาร,กลอง,มือถือ (ดังนั้นจะไมมีรูปถายดานในเลย) ตองฝากไวดา นหนาทั้งหมด แลวคอยมารับ ตอนกลับ แตยังดีที่สามารถเอาน้ําเปลาขวดใสเขาได การเขาชมอักชารดัมนั้นไมเสียคาใชจา ย แตเมื่อเขาไป ภายในถาตองการชมอยางอืน ่ เพิ่มเติมตองจายเพิ่ม แตโชวของที่นี่กค ็ ุมมาก เขาทําออกมาไดดเี ลย มีทั้งหมด 3 โชวหลักๆ ใน 3 Hall ใชเวลาในการเขาชมที่นี่ประมาณ 3-4 ชม.(ถาดูโชวดวย) ดานในถึงแมเขาจะไมใหเอา อาหารเขาไป แตมีโรงอาหารใหซื้อของกินได ราคาไมแพงมาก เปนสถานที่แนะนําถามานิวเดลี --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------อักชารดัม (Akshardham) : รูจักกันในชื่อ เดลีอก ั ชารดัม (Delhi Akshardham) หรือ สวามีนารา ยันอักชารดัม (Swaminarayan Akshardham) ในภาษาไทยบางก็เรียกวา อักษราธรรม ไดชื่อวาเปนวัดใน ศาสนาฮินดูทใี่ หญทส ี่ ุดในโลก รับรองโดยกินเนสสบค ุ เมื่อป ค.ศ. 2007 แมจะเปนวัดที่สรางขึ้นใหม แตก็สราง ขึ้นอยางยิ่งใหญอลังการตามรูปแบบโบราณของอินเดีย โดยใชเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมที่ใชหินทรายในการ


กอสราง ไมใชโครงสรางโลหะแตอยางใด ไดรับแรงบันดาลใจจาก อักชารดัม ในเมืองคานธีนาการ (Gandhinagar) รัฐคุชราต การกอสรางนั้นใชชา งแกะสลักถึง 7,000 คน และอาสาสมัคร 3,000 คน โดยใชหิน ทรายสีชมพูกวา 6,000 ตัน จากรัฐราชสถาน หินออนสีขาวจากอิตาลี ในการตัดหินนัน ้ ใชเครื่องมือแตการ แกะสลักรายละเอียดใชฝม  ือคนทั้งสิ้น โดยเรงทํางานทั้งคืนวันจนสําเร็จเสร็จสิ้นในระยะเวลา 5 ป จากระยะเวลา สรางปกติทต ี่ องใชถึง 40 ป ผูสนใจสามารถมาเที่ยวที่อก ั ชารดัมแหงนี้ไดทุกวันอังคาร-วันอาทิตย ตั้งแตเวลา 9.00 – 19.00 น. ปดวันจันทรหนึ่งวัน

อักชารดัม (Akshardham)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หลังจากจบการชมอักชารดม ั ก็เกือบเย็นแลว เราจึงเดินทางกลับมาที่โรงแรมอีกครั้ง เพื่อเอาของที่ฝาก ไวที่ lobby ขึ้นรถไปดวย จะไดไปที่สถานีรถไฟตอนเย็นเลยไมตองยอนกลับมาอีก เราใหคนขับพาไปวนดูปอ  ม แดง (Red Fort) รอบนอก (แตไมไดเขาไปขางใน เพราะเวลาไมพอ) แวะประตูอินเดีย (India Gate) และ อาคารรัฐสภาอินเดีย (India Parliament House) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ปอมแดง (Red Fort) : คนอินเดียทัว่ ไปเรียกวา ลาล ขีลา (Lal Qila) สรางขึ้นจากหินทรายแดง เปน พระราชวังของชาห ชะฮัน พระเจาแผนดินองคหนึ่งของราชวงศโมกุล (องคเดียวกับที่ทรงสรางทัช มาฮาล) ทรงโปรดใหสรางปอมแดงในป ค.ศ. 1638 ใชเวลาสราง 10 ป นับถึงปจจุปนมีอายุกวา 350 ป ปอมแดงมีประตู ใหญ 2 ประตู คือ ประตูละฮอร (Lahore Gate) ซึ่งหันหนาไปทางเมืองละฮอรในประเทศปากีสถาน ปจจุบันปอม แดงใชเปนทีป ่ ระกอบพิธีฉลองเอกราชของอินเดีย ในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกๆ ป นายกรัฐมนตรีจะทําพิธค ี ลี่ ธงชาติ และกลาวสุนทรพจน ณ เชิงเทินของพระราชวังปอมแดงนี้

ปอมแดง (Red Fort) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ประตูอินเดีย (India Gate) : ประตูโคงที่มค ี วามสูงถึง 42.35 เมตร ออกแบบโดย เซอร เอ็ดเวิรด ลูตเยนส (Sir Edwin Lutyens) เปนสถาปตยกรรมในยุคอาณานิคมทีส ่ ําคัญแหงหนึ่งในกรุงเดลี ที่สรางขึ้นเพื่อ เปนอนุสรณแหงสงครามในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกัน

ประตูอินเดีย (India Gate) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------อาคารรัฐสภาอินเดีย (India Parliament House) : ประกอบดวยสถานที่ราชการตางๆ ทําเนียบ ประธานาธิบดี อาคารทีท ่ ําการรัฐสภา เปนอาคารเกาแกและสวยงามแหงหนึ่งของกรุงนิวเดลี ออกแบบโดย Sir Edwin Lutyens และ Sir Herbert Baker ซึ่งเปนสถาปนิกผูมีชื่อเสียง สรางขึ้นในสมัยอินเดียยังเปนอาณานิคม ของอังกฤษ ตัวอาคารจึงผสมผสานกันระหวางศิลปะตะวันตกกับศิลปะอินเดียอยางลงตัว รวมระยะเวลาในการ กอสรางทั้งสิ้น 6 ป ใชงบประมาณในการกอสราง 83,000,000 รูป

อาคารรัฐสภาอินเดีย (India Parliament House) -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------มีสิ่งที่นักทองเที่ยวตองระวังในนิวเดลี คือ - อยาจายเงินจนกระทั่งคุณมั่นใจวารถไปสงจุดหมายปลายทางที่ถก ู ตอง - ปฏิเสธคนที่จะมาเสนอขัดรองเทา หรือแคะหูให - หลีกหนีคนที่จะแกลงมาชวยเหลือ หรืออื่นๆ โดยบอกวาเขาเปนนักเรียนและตองการฝกภาษา สวน ใหญจะที่ Connaught Place - อยาเชื่อคนที่จะพาคุณไปสํานักงานทองเที่ยว (Tourist Center) รอบๆ Connaught Place - ควรมีแบงคยอ  ยติดตัวไวเสมอ เพราะพวกคนขับจะบอกวาไมมีแบงคยอ  ยทอนเสมอ - มิจฉาชีพมักอยูต  ามแหลงชุมชนนักทองเที่ยว เชน Connaught Place, Paharganj, New Delhi Train Station


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สําหรับผูท  ี่ยังมีเวลาเหลือในการทองเที่ยวนิวเดลี ยังมีอก ี หลายสถานทีใ่ นนิวเดลีที่นา ไปชมอีกมากมาย เชน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หอคอย กุตับ มินาร (Qutab Minar) : กุตับมีนาร (กุตับ-ชื่อของกษัตริย กุตับอุดดินไอบัก มีนารหอสูง) หรือเดิมชื่อ ปฤถวีสตัมภ (ปฤถวี-ชื่อของกษัตริยฮินดู, สตัมภ-เสา) เปนหอสูงที่นาจะถือเปนเครื่องหมาย ของเดลี เปนถาวรวัตถุที่มค ี วามงามได สัดสวน ภายนอกเปนหินทรายสีแดง สรางเปนลูกฟูกขึ้นไปอยางเกลี้ยง เกลา ซึ่งไดมีการสรางตอกันขึ้นไปหลายทอด หลายยุคสมัย แตละลูกฟูกจารึกเปนอักษรอาระบิกจากบทสวดใน พระคัมภีรโกหราน ใน พ.ศ. 1779 กษัตริยฟโรซ ชาห แหงราชวงศตุกลัขไดเสริมตอจนเปนรูปอยางที่เห็นอยูใ น ปจจุบัน ซึ่งนับเปนศิลปกรรมแบบมุสลิมผสมฮินดูทห ี่ าดูไดยากความสูงของหอนี้รวมทั้งหมด 238 ฟุต แบง ออกเปน 5 ชั้น ภายในโปรง มีบันไดขึ้นไป 379 ขั้น มีระเบียบบังคับวาคนคนเดียวขึน ้ ไปไมได เพราะมีคนขึ้นไป กระโดดฆาตัวตายบอยๆ จึงยอมใหคนอยางนอย 2 คนขึ้นไปได แตปจจุบันหามขึ้นแลว

หอคอย คูตับ มินาร (Qutab Minar) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------วัดบาไฮ (Bahai Temple) : วัดบาไฮหรือที่เปนที่รูจักในนามวาวัดดอกบัว (Lotus Temple) เปน สถาปตยกรรมที่นาํ สมัยมากที่สุด ชิ้นหนึ่งของกรุงนิวเดลีโดยมีลักษณะเปนรูปดอกบัวบาน ซึ่งประกอบดวยใบบัว หินออนจํานวน 27 กลีบ อาคารใหญโตนีล ้ อมรอบดวยสระน้ําจํานวนถึง 9 สระ และสนามหญาที่ไดรับการดูแล อยางดี มีขนาดกวางใหญถึงประมาณ 67.5 ไร บาไฮเปนนิกายที่มถ ี ิ่นกําเนิดจากเปอรเชีย วัดนี้จึงไดรับการ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิหรานชือ ่ วา Fariburz Sabha เริ่มกอสรางเมือ ่ ป 1980 และเสร็จสิ้นการกอสรางเมื่อ ป 1986 ภายในวัดสามารถจุคนไดถึง 1,300 คน โดยทุกคนสามารถมานั่งสมาธิที่นี่ไมวาจะนับถือศาสนา/นิกาย ใด


วัดบาไฮ (Bahai Temple) -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สุสานหุมายุน (Humayun’s Tomb) : สุสานหุมายุนเปนที่ฝงศพของกษัตริยหม ุ ายุน ซึ่งเปนกษัตริย องคทส ี่ องของราชวงศโมกุล สรางขึ้นในป ค.ศ.1565 โดยสถาปนิกชาวเปอรเชียชือ ่ Mirak Mirza Ghiyas และ อํานวยการสรางโดยมเหสีของกษัตริยหุมายนนามวา Haji Begun สุสานหุมายุนเปนแบบอยางสถาปตยกรรมโม กุลทีส ่ วยงามมากที่สด ุ แหงหนึ่ง และเปนแบบอยางในการสรางทัชมาฮาลในเวลาตอมา ภายในสุสานมีสวนที่ ไดรับการจัดแตงอยางสวยงามและดูแลเปนอยางดี หลุมฝงศพของมเหสีตางๆ ของกษัตริยหุมายุน รวมทั้ง Haji Begun เองก็อยูภายในสุสานนี้

สุสานหุมายุน (Humayun’s Tomb)


สถานที่ทองเที่ยวอื่นๆในเมืองนิวเดลี

Raj Ghat

Purana Qila

Gurdwara Bangla Sahib

Safdarjang’s Tomb

Hazrat Nizam-Ud-Din Dargah

Jantar Mantar


Lakshmi Narayan Temple

Firoz Shah Kotla

Shankar’s International Dolls Museum

Sulabh International Museum of Toilet

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


บรรยากาศในเมืองนิวเดลี สําหรับในนิวเดลีจะเห็นมีรถเข็นขายน้ํามะนาวมากมาย เหมือนจะเปนแฟรนไชส เพราะหนาตารถเข็น เหมือนกันหมด และเขียนทีข ่ างรถวา Refreshment Water Trolly เลยขอลองชิมสักหนอย ทีเ่ ห็นใสมะนาวใน แกว 3 ลูกนี่ จริงๆตอนเขาทําให เขาใสแคลูกเดียวเองละ -*- น้ําเชื่อมก็หวานเฝอนมาก (เหมือนขัณฑสกร ยังไงก็ไมรู หรือมันคือขัณฑสกร?) ไมเย็นอีกตางหาก (แลวมันจะ refresh ยังไง) ที่นี่ตามรานทั่วไป น้ําแข็งหา ยากมาก (แทบอยากจะเปดโรงน้ําแข็ง) และตูแชเย็นสวนใหญ เขาจะไมนิยมเปดใหเย็น บางที่ก็ปด  การใหความ เย็นไปเลย (งงเหมือนกันวาแลวเขาจะซื้อตูแชเย็นไวทาํ ไม) สรุปชิมน้าํ มะนาวเสร็จ (แตไมไดกินหมดนะ) เริ่มคิด วาจะทองเสียไหม ดังนั้นอาหารอะไรที่ไมเคยกิน และดูไมปลอดภัย ก็ชิมๆเฉยๆ ไมตองกินซะหมดนะคะ หึๆ

รถเข็นขายน้ํามะนาว (Refreshment Water Trolly) ----------------------------------------------------------------------------------------------


ระวัง! น้ําดื่มในอินเดีย - หลีกเลี่ยงน้ําแข็งที่คุณไมรูวา มันปลอดภัยไหม - อยาดืม ่ น้ําจากกอกน้าํ - โปรดระวังน้ําดืม ่ หรือน้าํ ผลไมที่ขายตามทองถนน เพราะแกวหรือภาชนะที่ใสอาจจะไมสะอาด - ตรวจสอบซีลของขวดน้าํ กอนดื่มทุกครั้ง - หลีกเลี่ยงการดื่มน้ําจากจุดน้าํ ดื่มฟรีตา งๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------ที่นี่เราจะไดยินเสียงบีบแตรตลอดเวลาจนเหมือนจะเปน วัฒนธรรมการขับรถในประเทศ โดยเฉพาะทาย รถบรรทุกเกือบทุกคันจะมีเขียนวา “Horn Please” “Blow Horn” (กรุณาบีบแตร) เปนการเชื้อเชิญใหบบ ี แตร ดวยซ้าํ สวนรถยนตที่นิยมใชกันมากก็คือ ทาทา (TATA) รถจะคันเล็กๆ ลอเล็กๆ รอยบุบรอบคันเนื่องจากผาน การใชงานมาโชกโชน

ทายรถบรรทุกในอินเดีย เราเดินทางตอมาที่สถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin) เปนสถานีรถไฟสายเหนือ (เนื่องจากจองที่นั่งรถไฟขบวนที่ออกจากสถานีนวิ เดลีไปอัมริตสาไมทัน เต็มซะกอน) บรรยากาศที่สถานียังไม คอยนากลัวมากนักเพราะยังสวางอยู แตพอมืดเทานั้นแหละ บรรยากาศนากลัวทันที! ชาวตางชาติแทบไมมี เรา ไปถึงสถานีกันกอนพอสมควร เลยยังไมมีไฟวิ่งแจงรอบรถไฟที่เราขึ้น เราเขาไปถามพนักงานที่สถานี ซึ่งมีชอง Inquiry ใหถาม ไดความวาเราตองรถไฟที่ชานชาลาที่ 1 ตอนนั้นเงินสดในมือใกลหมด เลยจะลองกด ATM ดู ตูท  ี่นี่สภาพนากลัวพอควร ปรากฎกดแลวเงินไม ออก! (เฮย!) เราเริ่มกังวลวาตกลงมันตัดเงินไปหรือยัง หรือมีปญหาอะไรไหม ดูรอบตูอีกที อาว…ตูนี้มันรับ visa นี่นา บัตรเรามัน master card (ตอนหลังไดไปอยูในเมืองอื่นแลวเช็คเงินใน ATM เงินยังไมไดถูกตัดไป) เลย เปนขอเตือนใจวา ถาคุณจะกดเงินในตางประเทศ โดยเฉพาะในจุดที่นา กลัวๆหนอย ตองดูสภาพความนาเชือ ่ ถือ ของตูใหดี รวมทั้งถาเปนไปไดควรลองกดดูกอ  นสักสวนหนึ่ง เพือ ่ ดูวา กดแลวเงินออกมารึปา ว! เดี๋ยวจะเครียด ปาวๆ สวนบัตรเครดิตไมแนะนําใหใชที่อินเดีย เพราะยังไมปลอดภัยนัก หรืออาจจะใชเฉพาะสถานทีท ่ ี่นาเชือ ่ ถือ อยางโรงแรมดังๆ


ตู ATM ที่สถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin) ดานหนาสถานีรถไฟมีรา นอาหาร Comesum (แฟรนไชสเจาเดิม) ใหนั่งรอ ระหวางนั่งรอในราน เขามี ทีวีใหดู ซึ่งเขาเปดเปนรายการเพลง พบวานักรองที่นี่นิยมรองกันเปนคูๆ คูชาย-หญิง แลวเตนกันเกงมากใน สไตลอินเดีย เชน เพลง Jee Karda [Singh is Kinng] (ลอง search เพลงนี้ใน you tube ได) คือเตนกันเปน แผง หลายๆคน (เกาหลีตองมาดูงานเลยทีเดียว) แลวฉากใน MV อินเดีย จะนิยมใชสถานทีท ่ องเที่ยวประเทศ ตางๆเปนฉาก ประเทศไทยก็มีดว ย ภายในรานมีอาหารใหเลือกหลายอยาง แตรูสึกเอียนเครือ ่ งเทศ และ อาหารอินเดียแบบ original มาก เลยขอกินเปนขนมปงแทน สังเกตจากทุกโตะจะมีขวดน้าํ ขวดใหญตั้งอยูบนโตกันทุกคน เพราะที่นอ ี่ ากาศรอน มาก ทุกคนแทบตองพกน้ําคนละขวดตลอดเวลา เพราะเหงื่อออกจากตัวระเหยสูบรรยากาศหมด เราเดินไปดูปา ยไฟวิ่งเปนระยะ ปรากฎวารถไฟขบวนเราจะ delay ไปประมาณ 1 ชม. เราไปนั่งรอทีช ่ าน ชาลา เพราะกลัวตกรถ รถไฟจะจอดที่นี่แค 30 นาที ดานในสถานีรถไฟ ชาวอินเดียนอนรอรถไฟกันแบบจริงจัง มาก เราพยายามยืนอยูในทีโ่ ลงๆ ถือสัมภาระไวใหมั่นตลอดเวลา หันไปหันมาไมมค ี นตางชาติเลย เดนสุดใน สถานี ในทีส ่ ุดรถไฟก็มาถึง ขางขบวนจะมีหมายเลขบอก ซึ่งรถไฟขบวนที่เราจะขึ้นนี้ยาวมาก เปน Sleeper Class (ตูนอน 3 ชั้นไมมีแอร) สักประมาณ 80% ได

ภายในสถานีรถไฟฮาซาล นิซามุดดิน (Hazart Nizamuddin) รถไฟที่เราจองเปนแบบตูนอนแอร 2 ชั้น สภาพนอนได มีหองน้ําที่พอปลอย ทุกขเบาได แตทก ุ ขหนัก คงจะลําบากหนอย มีอางลางมือใหลางหนา,แปรงฟน มีผาหมที่ไมรูหมกันมากี่คนแลว คาดวาคงจะตั้งแตวัน แรกที่รถไฟออกจากตนทาง (ตึง!) คงประมาณ 2 วันที่แลวได หึๆ แตเขามีผาปูเตียงและหมอนใหมมาแจกให กอนนอนเพื่อความปลอดภัยในทรัพยสิน เราใชโซลา มจักรยานที่พกมาดวยลามกระเปาไวกับเตียง พอเราเริ่ม นอน แขกที่นอนฝงตรงขามก็เริ่มกรน กรนเสียงดังมาก (จนอยากสละหมอนไปอุด... (เอะ!) เราโหดไปไหม หึๆ) แตเราก็ยังหลับกันได ถึงแมเสียงกรนจะดัง เพราะวันนี้เหนื่อยมาก


เอาโซจักรยานทีพ ่ กมาดวยลามกระเปาไว


Day 4 – The Great Golden Temple in Amritsar วันที่ 4 – อลังการวิหารทองที่อัมริตสา

แผนที่ตําแหนงสถานที่ทอ  งเที่ยวเมืองอัมริตสา (Amritsar) ตื่นมาประมาณ 7 โมง นอนเมื่อยไปทั้งตัว พอมองออกไปนอกรถ พบวาบรรยากาศภายนอกรถไฟเปน ชนบทไปแลว หยิบใบตารางรถไฟขึ้นมาดู พรอมมองสถานีที่เพิ่งถึง โอโห....รถไฟนาจะถึงสายไป 2 ชม.เลย นะเนี่ย เพราะอีกหลายสถานีกวาจะถึงอัมริตสา นาจะถึงอัมริตสาประมาณ 10 โมง เมืองอัมริตสาเปนเหมือนเมือง หลวงของชาวซิกข ถาเทียบก็คลายๆกับเมืองเมกกะ ทีเ่ ปนเมืองหลักของชาวอิสลามเลยทีเดียว เมืองนี้ นักทองเที่ยวตางชาตินอยไมเหมือนอัครา เพราะขนาดเมื่อวานที่เราคุยกับเพื่อนชาวญี่ปุน และคุณพี่ชาว อิสราเอลที่อค ั รา เขาก็ไมรูจก ั เมืองนี้เลย -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------เมืองอัมริตสา (Amritsar) : อยูในแควนปญจาบ (Punjab) ซึ่งเปนรัฐหนึ่งทางเหนือของอินเดีย มี เมืองหลวงชื่อ ชานดิการ (Chandigarh) มีคนอยูป  ระมาณ 24 ลานคน และรัฐนี้เปนศูนยกลางของชาวซิกข โดย มีสถานที่สําคัญ คือ สุวรรณวิหาร หรือวิหารทอง (Golden Temple) สถานทีศ ่ ักดิ์สท ิ ธิ์ของชาวซิกข ซึ่งตั้งอยูที่ เมืองอัมริตสา มีผูคนมาเยี่ยมสถานที่ศก ั ดิ์สท ิ ธิ์แหงนี้มากกวา 100,000 คนในชวงวันธรรมดา มากกวาผูเ ขา ชมทัชมาฮาลที่อค ั รา เปนเมืองที่มีเศรษฐกิจดีระดับตนๆของประเทศ โดยโดดเดนในเรื่องอุตสาหกรรมผาและสิง่ ทอ


ที่ตั้งเมืองอัมริตสา ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สถานีรถไฟอัมริตสา


จุดอะไรดําๆบนกลองเต็มไปหมด?....เฮย! แมลงวันนี่นา ขณะเดินออกมาจากสถานีรถไฟ จะมีคนเดินตามมาตลอด เพื่อใหไปขึ้นรถแทกซี่เขา เดินออกมาหนา สถานี คนขับรถรุมกันอุตลุดประมาณ 10 กวาคน เราบอกไปวา อยากไป Hotel Grace ใกลๆวิหารทอง (Golden Temple) คิดราคาเทาไร แลวก็มีคนขับรถคนหนึ่ง พูดอังกฤษพอได บอกวา Hotel Grace นี่มันไมดห ี รอก สภาพมันแยมากเลยนะ เดีย ๋ วเขาพาไปโรงแรมใหมใหไหม ดีกวากันเยอะเลย แตโรงแรมใหมนี้ไมไดอยู ใกล วิหารทอง รถเขาเปนรถยนต เขาโซนวิหารทองไมได เขาหามเอารถเขาไป เราก็แบบ....เออ อยากไปดูโรงแรม ที่เราดูไวกอนไดไหม แลวก็มีคุณลุงอีกคน พูดอังกฤษไดดเี ลย เสนอวา งั้นเขาจะพาไป Hotel Grace ใหเอง แตเขาก็ไมแนะนํา Hotel Grace เหมือนกัน โรงแรมนี้มันเกามาก เขาจะพาไปดูกอน ถาไมชอบ เขามีโรงแรมอื่น แนะนํา ที่ดก ี วา Hotel Grace แลวรถเขาเปนสามลอถีบ สามารถเขาไปโซนวิหารทองไดสบาย เราเลยตกลงไป กับคุณลุง ซึ่งคุณลุงแข็งแรงมากทีส ่ ามารถปนพาเราไปไหว จากการสังเกต คุณลุงจะมีเทคนิคโดยการปน โดย ใหแปนปนขึ้นไปอยูจุดสูงสุด และถีบลงมา ซึ่งเปนจุดทีไ ่ ดแรงมากทีส ่ ุด

รถสามลอที่จะพาเราไปโรงแรม พอปนออกมาจากสถานีรถไฟ เราพบวาอัมริตสาเปนเมืองที่ใหญทเี ดียว คุณลุงปนพามาที่ Hotel Grace พอเราเห็นสภาพหนาโรงแรมแลว (เฮย!)แยจริงๆดวย แมลงวันตรึมเลย เราเขาไปดูในโรงแรม หองไมคอยนา อยูนัก (โรงแรมนี้มีเขียนไวใน Lonely Planet ดวย) เลยใหคุณลุงพาไปโรงแรมใหมที่ลุงแนะนําให บางคน อาจจะเคยไดยินวา อินเดียแมลงวันเยอะมากๆ ที่มันเยอะ นี่มันเยอะขนาดไหน แลวเยอะจริงหรือ เมืองไทยก็ เยอะนะ หลังจากที่ไดมาสัมผัสอินเดีย ก็ขอยืนยันวา...มันเยอะมากจริงๆ เยอะทุกที่ บางทีเ่ ยอะจนนากลัว แตอยู หลายๆวันเขา จะเริ่มชินขึ้น ระวังทางทีค ่ ุณลุงปนมา มีหอ  งน้ําสาธารณะสําหรับผูช  ายอยูระหวางทาง แตมัน


สาธารณะมาก เพราะสรางไวขางถนนเลย แลวสภาพก็ย่ําแยมาก เปนแคกอ  ปูนขึ้นมาเพือ ่ กั้นใหเปนสัดสวน (เหมือนจะสรางมาเพื่อไมใหไปฉี่ริมกําแพง?)

เมืองอัมริตสา (Amritsar) คุณลุงพามาโรงแรมเลอโกลเดนท (Le Golden Hotel) อยูหนาปากทางเขาวิหารทองคํา เราเปดดูใน โพย อืมม...มีชอ ื่ โรงแรมนี้ใน list ของ lonely planet เหมือนกัน เราขอเขาไปดูสภาพหองจริงขางใน สอบถาม ราคา ทั้งหมดโอเค ตกลงเราพักที่นก ี่ ัน สําหรับการหาทีพ ่ ัก ถาเปนไปไดตอ  งขอเขาไปดูหองจริง สภาพจริง กอน ดูทั้งหองนอน หองน้ํา ดูเสร็จ ทําการประเมินสภาพกับราคา กอนตัดสินใจ เขาพักและจายเงิน โดยเฉพาะ จองผานเนต อยาไปเชื่อรูปในอินเตอรเนต บางทีมันหลอกตายังกับคนละที่ สุดยอดการ photoshop ไมใชแค เฉพาะอินเดีย ทีอ ่ ื่นก็เคยเจอเหมือนกัน เชน ทีเ่ วียดนาม รูปในอินเตอรเนตกับของจริงคนละเรื่องเลย ถาเปนไป ได หากโรงแรมนั้นใหจองโดยไมตอ  งโอนเงินมัดจํากอนได ก็จะดีมาก หรือไมควรจายเต็มจํานวน เสียแคคามัด จํา เพราะเราจะไดมีสท ิ ธิ์ ดูหองจริงกอนได ถาไมชอบก็ไมพัก และตองระวังในเรื่องการจองผานเวบกลาง (เชน พวก Agoda, Hostelworld) เพราะบางคนเคยเจอวา ขอมูลการจองในเวบกลางนั้นไปไมถึงโรงแรมที่เราจอง พอไปถึงโรงแรม ปรากฏโรงแรมเต็ม ตองหาโรงแรมใหม ถาเราไปถึงดึกการหาโรงแรมใหมจะลําบากมาก อยางไรก็ตามการจองโรงแรมผานเวบกลางควรเช็คกลับไปที่โรงแรมเพื่อยืนยันการจองของตนเองดวย


โรงแรมเลอโกลเดนท (Le Golden Hotel) ที่โรงแรมเลอโกลเดนท (Le Golden Hotel - http://hotellegolden.com) ชั้นบนของโรงแรมเปน หองอาหาร ชื่อ เดอะกลาส (The Glass) มีกระจกโดยรอบสามารถมองเห็น วิหารทองคําได ขอแนะนําเมนูซุป มะเขือเทศ อรอยมาก หลังจากเก็บของ อาบน้ํา กินขาวเรียบรอย เราลงมารอที่ lobby โรงแรม หลังจากนัดให คุณลุงพาไปเที่ยวในอัมริตสาชวงบายดวย คุณลุงยังแนะนําการเดินทางไป ดารัมศาลา (Dharamsala) สําหรับ วันพรุงนี้ใหดวย ตอนแรกจะใหลุงพาไปวิหารทอง ตอนกลางวันเลย แตลุงบอกวาแดดรอน คนเยอะ คอยไปตอน ดึกๆดีกวา เพราะเปดถึงดึก แลวเดี๋ยวลุงจะพาไปเที่ยวทีต ่ างๆในอัมริตสาเอง

หองอาหารเดอะกลาส (The Glass)

ซุปมะเขือเทศ (Tomato Soup)

ที่แรกวันนี้ คุณลุงพามาที่ จาลเลี่ยนวาลา บารค (Jallianwala Bagh) หลายคนอาจจะไมรูจัก แตถา เคย ดูหนังเรื่อง Gandhi ตองคุนตาสถานที่นี้แนนอน เพราะเปนฉากหนึ่งในหนังที่สรางจากเรื่องจริง ในชวงยุคอินเดีย ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษพยายามรักษาอํานาจจึงหาทางจับกุมตัวคานธีในทุกวิถีทาง และ พยายามทําลายภาพลักษณของคานธี แตยิ่งรัฐบาลพยายามดําเนินการดังกลาวมากเทาไร ยิ่งจะทําให เหตุการณบานปลายขึ้นเทานั้น ประชาชนที่เคียดแคนลุกฮือจนเกิดเหตุจราจลระดับประเทศ ตอมาวันหนึ่ง นาย พล Dyer ของฝายอังกฤษ ไมพอใจ จึงสั่งใหยิงกราดเขาไปในกลุมประชาชนในทีส ่ าธารณะ จนมีผูเสียชีวต ิ นับ 1,000 คน ณ ที่แหงนี้ หรือที่รูจักกันวา เหตุการณสังหารหมูที่อัมริตสา (the Amritsar massacre)


อนุสรณสถานเหตุการณสังหารหมู “จาลเลี่ยนวาลา บารค” (Jallianwala Bagh Memorial) เดินไปเรื่อยๆ จนไปถึงบอน้ําพลีชีพ ซึ่งปจจุบันมีการสรางเปนอนุสรณสถาน ครอบบอน้ําเดิมไว คุณลุง เลาวา ตอนทีท ่ หารอังกฤษยิง ผูคนตางพากันแตกตื่น หนีกันคนละทิศละทาง บางคนโดดลงบอน้าํ แลวคนก็ โดดๆตามกันลงไปเพือ ่ หนีตายจากกระสุน ทําใหมีผเู สียชีวต ิ ในบอนี้นับรอยคน (ลุงเลาจบ พรอมกับมองลงไปใน บอ...หลอนเลย) ภายในบริเวณยังคงมีรองรอยกระสุนบนกําแพงที่ยังคงเก็บรักษาไวจนถึงปจจุบัน

บอน้ําพลีชพ ี (The Martyrs' Well)


ภายในจาลเลี่ยนวาลา บารค

คานธี (Gandhi) เปนภาพยนตรชีวประวัติ สรางขึ้น จากเรื่องจริงของมหาตมะ คานธี นักการเมืองชาว อินเดีย ผูเคลื่อนไหวเพื่อปลดปลอยอินเดีย จากการ เปนเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร และไดชอ ื่ วาเปน วีรบุรุษผูยิ่งใหญคนหนึ่งของอินเดีย ออกฉายในค.ศ. 1982 และไดชนะเลิศรางวัลออสการ ถึง 8 รางวัล

จบจากจาลเลี่ยนวาลา บารค (Jallianwala Bagh) คุณลุงพามาสถานที่ ...ที่ไมคาดคิด (คิดในใจ..คุณ ลุงไมตอ  งพาหนูมาถึงแกนอินเดียขนาดนี้ก็ไดนะคะ มันนากลัวเกินอะคะ) เปนสถานทีพ ่ ักในสมัยกอนของผูมา แสวงบุญ ที่นี่พก ั ฟรี ปจจุบันเขาไปก็ยังมีคนอาศัยอยู (โห...อยูกันไปไดไงเนี่ยยย) สภาพตึกเหมือนจะถลมลงมา ไดทก ุ เมือ ่ ดานในแบงเปนหองๆ สภาพทรุดโทรมมาก มีบอน้ําเกาทีเ่ ต็มไปดวยขยะ และแมลงวันที่บินใหวอนใน ตึก คุณลุงเลาวาเมือกอนตึกนี้เปนตึกที่สวยงามมาก ดูไดจากลวดลายประตูทล ี่ ะเอียดและพิถีพิถัน


สถานทีพ ่ ักของผูม  าแสวงบุญในสมัยกอน ตอมาคุณลุงพาเราเดินทางผานตลาดทีห ่ นาแนนไปดวยผูคนที่มาจับจายใชสอย จนมาถึงวัดศรีดูรไก อานา (Sri Durgiana Temple) หรือที่รูจักกันในนาม วัดเงิน (Silver Temple) เปนวันฮินดูที่สรางเพื่อ ถวายแกเทพเจาดูการ (Dugar) หรือพระแมทุรคา อีกทั้งมีการแกะสลักแผนเงินไวทป ี่ ระตูอยางสวยงาม เปน วิหารทองแบบฮินดู เพราะสรางสไตลเหมือนวิหารทองเปะแตลดขนาดลงมา คือ มีการสรางวิหารไวกลางน้ํา ดานในวัดมีพระศิวะ พระกฤษณะ คุณลุงอธิบายรายละเอียดไดอยางกับไกดมาเอง เลาไดทั้งมหากาพยรา มายณะเลย แทบไมอยากจะเชือ ่ วาลุงเปนคนขับสามลอ ที่นี่มีคนมาขอเราถายรูปดวย คุณลุงบอกวาคนอินเดีย ชอบถายรูปกับชาวตางชาติ เขาจะเห็นวาคนตางชาติที่มาเปนดารา (จริงหรอคะ คุณลุง ☺)

ความหนาแนนในตลาด


วัดศรีดูรไกอานา (Sri Durgiana Temple) หรือ วัดเงิน (Silver Temple)

รานขายของบูชาในบริเวณวัด


จุดฝากรองเทาหนาวัด

แผนเงินสลักบนไมทป ี่ ระตู

ที่วัดฮินดู ชาวอินเดียมาขอถายรูปกันทั้งครอบครัวเลย


ตอมาคุณลุงพาเราเดินมาวัดฮินดูแหงหนึ่งที่อยูขา งๆวัดเงิน เปนวัดทีใ่ ชเผาศพ ซึ่งเขาเอาศพมาเผากัน กลางลาน หลังจากเผาที่นเี่ สร็จ เขาจะเอาเถาไปลอยอังคารที่แมน้ําคงคา คุณลุงพาทัวรในวัดและชีไ ้ ปที่ภาพๆ หนึ่งบนผนัง เปนรูปภาพอเล็กซานเดอรมหาราช ตอนมารบแถบชมพูทวีปนี้ แลวเขาก็มาตายที่นี่ ลุงบอกวา เห็น ไหม ตายแลวก็เอาอะไรไปไมได ไมวาจะมียศ มีเงินขนาดไหน สิ่งทีค ่ งอยูกบ ั เราไดกค ็ ือคุณงามความดีที่จารึก ไวจนชัว่ ลูกชัว่ หลาน (โอว...ลึกซึ้ง)

วัดขางๆวัดเงิน

สถานทีเ่ ผาศพในวัด


รูปภาพอเล็กซานเดอรมหาราชในวัด คุณลุงพาเราไปตอที่วัดมาตา (Mata Temple) หรือวัดถ้ํา (Cave Temple) เปนวัดฮินดู สรางใน ตึก ทําเปนถ้าํ ซับซอนคลายเขาวงกต สรางจากความศรัทธาในหญิงชราคนหนึ่งทีเ่ ปนที่นับถือจากชาวฮินดูจน เรียกวาแม (มาตา) ภายในวัดจะแนวๆ Adventure หนอยเพราะจะมีใหเดินขึ้น เดินลง มุดถ้าํ เดินผานธารน้ํา ภายในมีการประดับประดาดวยกระจกสี และรูปปนตางๆ ที่นี่มีคนพยายามจะถายรูปกับเราดวยละ

ภายในวัดมาตา (Mata Temple)


ความซับซอนของถ้ําภายในวัด

คนนี้พยายามจะใหตัวเองติดกลองเราใหได


รูปปนนางกาลี

การประดับประดาดวยกระจกสี

สุดปลายถ้ํา มีเหมือนใหทําพิธี เขาแตมจุดแดงที่หนาผาและคลองพวงมาลัยดอกไมให เขาหยิบขาวพองมาให 1 กํามือ ใหกินเพื่อความเปนสิริมงคล


จบจากการชมวัดมาตา เราออกมาเอารองเทาที่ฝากไว เห็นปายโฆษณาภาษาอังกฤษ ซึ่งเปนอีกสิ่งหนึ่ง ที่จะพบไดในเมือง ทําใหคิดไปวา ถาใครจะมาฝกภาษาอังกฤษที่อินเดีย เปนเดือนๆ หรือมาเรียนตอที่นี่ จะ ไมไดแคภาษาแนนอน แตไดความอึด+ถึกไปดวย เนื่องจากสภาพแวดลอมทีต ่ องสูช  ีวต ิ

ปายโฆษณาสอนภาษาอังกฤษ สําหรับการเรียนที่อินเดียนั้น เห็นปจจุบันหลายคนสงลูกหลานมาเรียนโรงเรียนอินเตอรที่นี่เพื่อฝก ภาษาอังกฤษ แนะนําใหผูทส ี่ นใจมาเรียนตอที่อินเดีย ถึงแมจะติดตอผานเอเจนซี่ ควรบินมาดูทเี่ รียนกอนวา โอเคหรือไมสําหรับผูเรียน สําหรับการศึกษาในระดับมัธยมที่อินเดีย ที่นี่เขามีหลักสูตรหลายระบบทั้ง ระบบ CBSE / ระบบ ICSE / ระบบ IGCSE ซึ่งเปนระบบการเรียนแบบอังกฤษ แตละหลักสูตรหนังสือเรียนจะไม เหมือนกัน แตเนือ ้ หาจะไปในทางเดียวกัน ถาสนใจไปเรียนในระดับมัธยม ตองลองศึกษาแตละระบบในเชิงลึก อีกที เพราะจะตางกันในชวงเวลาการเปดเทอม ชวงเดือนที่เรียน ซึ่งอาจสงผลกระทบเมื่อจบระดับม.6 แลว อาจจะศึกษาตอในปริญญาตรีไมตอเนื่อง เพราะเปดเทอมกันคนละเดือน ครั้นจะกลับมาสอบเอนทรานซที่ เมืองไทยก็คงยากอยู ตองเขาเรียนอินเตอรไปเลยถากลับมาเมืองไทย สําหรับในระดับปริญญาตรีทอ ี่ ินเดีย ถา เรียนเปนสายบริหาร ที่นี่เรียนเพียง 3 ป นี่ถาเรียนตอปริญญาโทที่อังกฤษอีก ก็สามารถรนเวลาเรียนปริญญาตรี + ปริญญาโท เหลือเพียง 4 ปเทานั้น เพราะทีอ ่ ังกฤษเรียนปริญญาโท 1 ป


จากนั้นเรามาเปลี่ยนเปนรถเกง ซึ่งคนขับหนุมเพือ ่ นตางวัยของคุณลุงจะเปนคนพาเราไปดูพิธเี ปลี่ยน เวรยามชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน (Border Ceremony) ที่ชายแดน เมืองแอทารี่ (Attari) หางจากเมือง อัมริตสา (Amritsar) ประมาณ 30 กม. ซึ่งขามฝงปากีสถานไปจะเปนเมืองละฮอร (Lahor) เราก็แอบกังวลอยู หนอยๆ เพราะเมื่อตอนกลางวันมีขาวใหญใน TV ทุกชองวา สหรัฐเพิ่งจับตายบินลาดิน (Binladin) ที่ปากีสถาน ในวันนี้ แลวเรากําลังจะไปชายแดนปากีสถาน จะเปนอะไรไหมเนี่ย? แตคุณลุงบอกไมมีอะไรหรอก ปลอดภัยๆ กอนเดินทางไปเมืองแอทารี่ (Attari) เราร่ําลาคุณลุง ถายรูป กอนจาก เพราะพรุงนี้เราเชารถเกงตอไปดารัม ศาลา (Dharamsala) คงไมไดเจอคุณลุงแลว

ถายรูปกับคุณลุงกอนจากกัน ณ ชายแดน เราไดพบกับหองน้ํา (สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1) เปนหองน้ําที่แยทส ี่ ุดในอินเดียทริปนี้ เดิน เขาไปตามทางเขาหองน้าํ ตองแหวกแมลงวันทีเ่ กาะอยูบนพื้นเปนรอยๆตัว จนมันบินกันใหวอ  น เหมือนเดินเขา ไปในฝูงนกพิราบที่สนามหลวงแลวฝูงนกแตกหือ ประมาณนั้นเลยทีเดียว เขาไมลง! และนี่ก็เปนความลําบาก สําหรับผูห  ญิงในการมาเที่ยวอินเดียอีกอยางหนึ่ง เพราะหาหองน้ํา (ดีๆ) ระหวางทางยากมาก (กินน้ําเยอะก็ ไมได เดี๋ยวเขาหองน้ําบอย บางทีตองเก็บไวจนเยี่ยวเหนียวไปเลย...ตึง!) เราเดินตามทางมาเรื่อยๆจนถึงดาน เจาหนาที่จะแยกตรวจอาวุธ ชาย/หญิง และหามนําน้าํ เขา มีการแบงโซนที่นั่งสําหรับนั่งทองเที่ยวตางชาติ โดยเฉพาะ มีการจัดที่นั่งเปนอัฒจันทรใหนั่งเชียรเหมือนมาเชียรบอล เขาเปดเพลงเสียงดังใหชาวอินเดียมาเตน ประกอบเพลงทีล ่ านดานลาง ทหารอินเดียจะใสเสือ ้ สีกาสี สวนอีกฝงใสเสื้อสีเขียวเขมเปนทหารปากีสถาน ฝง ปากีสถานคนไมเยอะเทาฝงอินเดีย พิธีเปลี่ยนกะเริ่มเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ดังนั้นควรจะเผือ ่ เวลาตอนมาจาก อัมริตสามาที่เมืองแอทารี่ดวย เพราะตองผานดานการตรวจกวาจะมาถึงทีอ ่ ัฒจรรย เราไดถายรูปกับทหารอินเดีย ที่นี่ดวย ทหารที่นต ี่ ัวใหญมาก ปกติคนอินเดียจะตัวไมใหญขนาดนี้ (เออ...หรือเราตัวเล็กเกินไปเอง -*-)


บริเวณชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน

คนมาขอถายรูป (กลายเปนรุนเดียวกับเขาซะงั้น)

โซนที่นั่งพิเศษสําหรับนักทองเที่ยวตางชาติโดยเฉพาะ (VIP)


พิธีเปลี่ยนเวรยาม ชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน (Border Ceremony) หลังจากกลับถึงโรงแรมที่อัมริตสาก็เหนื่อยมาก แตยังมีภาระกิจทีต ่ องไปเดินวิหารทอง (Golden Temple) กอนเขาไปในวัดตองใชผา คลุมหัวดวยทั้งผูห  ญิงและผูชาย (มีขายหนาวัด สําหรับคนที่ไมไดเตรียม มา ราคาผืนละ 10 รูป) เราไปเดินกันตอนดึกแลว ประมาณ 3 ทุมได คนยังเยอะอยูเลย กอนเขาตองถอดรองเทา ฝากไวและเดินเทาเปลาเขาไป ภายในวัดตอนกลางคืนสวยมาก ตรงกลางน้ําเปนวิหารทอง มีผูแสวงบุญชาว ซิกขมากมายตอแถวกันเขาไปดานในวิหาร (คนตอแถวเยอะมาก จนคิดวาถึงเชาแลวแถวก็คงจะไมหมด)

ใหคนขายผูกผาใหดวยเลย


มีคนมาขอถายรูปอีกแลว

วิหารทอง (Golden Temple)


แผนที่ภายในวิหารทอง (The Golden Temple Map)


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.