Saratha Feb 2014

Page 1

photo from: http://http://media-cache-ak0.pinimg.com/originals/ca/ed/4d/caed4d3aeb2fd9b40a62c98924f5daed.jpg

¨´ËÁÒ¢‹ Ò Ç

ÊÒÃѵ¶Ð ¡Ø Á ÀÒ¾Ñ ¹ ¸ 2557

www.thaiyogainstitute.com


ÊÒÃѵ¶Ð ÊÒÃºÑ Þ ¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹ »¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â

2 2 4

ลปะแห ง กรุ ณ า พลั ง เพื ่ อ การเยี ย วยาชี ว ิ ต

§Ò¹ÇÔ ª Ò¡ÒÃÈÖ ¡ ÉÒÇÔ ¨ Ñ Â อยากนั ่ ง วั ช ระ

5

º·¡Å͹ แก น

7

ÇÔ ¶ Õ â ¤Рรั ก หนอรั ก เจ า เอย

8

àÃ× ่ Í §¨Ò¡à¾× ่ Í ¹ เราล ว นคื อ ละมั ่ ง

10

µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á ผลที ่ ต ามมาจากการปฏิ บ ั ต ิ เ ศาจะ

12

·Õ ่ » ÃÖ ¡ ÉÒ

กวี คงภั ก ดี พ งษ แก ว วิ ฑ ู ร ย เ ธี ย ร ธี ร เดช อุ ท ั ย วิ ท ยารั ต น นพ.ยงยุ ท ธ วงศ ภ ิ ร มย ศ านติ ์ นพ.สมศั ก ดิ ์ ชุ ณ หรั ศ มิ ์

¡ÃÃÁ¡ÒÃ

กฤษณ ฟ ก น อ ย ชนาพร เหลื อ งระฆั ง ชุ ต ิ ม า อรุ ณ มาศ วรพจน คงผาสุ ข วรรณวิ ภ า มาลั ย นวล วิ ล ิ น ทร วิ ภ าสพั น ธ สมดุ ล ย หมั ่ น เพี ย รการ

ÊÓ¹Ñ ¡ §Ò¹

พรทิ พ ย อึ ง คเดชา วั ล ลภา ณะนวล สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร

¡Í§ºÃÃ³Ò¸Ô ¡ ÒÃ

จิ ร วรรณ ตั ้ ง จิ ต เมธี ณั ต ฐิ ย า ป ย มหั น ต ณั ฏ ฐ ว รดี ศิ ร ิ ก ุ ล ภั ท รศรี ธนวั ช ร เกตน ว ิ ม ุ ต ธี ร ิ น ทร อุ ช ชิ น พรจั น ทร จั น ทนไพรวั น วิ ส าขา ไผ ง าม วี ร ะพงษ ไกรวิ ท ย ศั น สนี ย  นิ ร ามิ ษ สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร

ÈÔ Å »¡ÃÃÁ

กาญจนา กาญจนากร


ÊÒÃѵ¶Ð ¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹ สวัสดีกุมภาพันธ สวัสดีฤดูรอนและโบกมือลาฤดูหนาวกันเสียที ความหนาวนี่บางคนก็มอง วาดีนะ ถึงเวลาไดปดผุนเสื้อหนาวเอามาใสกันเสียทีหลังจากที่เกาเก็บอยูในตูมาแสนนาน แตสำหรับ คนบางพื้นที่ความหนาวนั้นทรมานนัก เพราะแคเสื้อหนาวก็ไมอาจเพียงพอหากไมมีกองไฟไวผิงแลว ก็อาจขาดใจตายไดในสายลมหนาว นี่แคเรื่องของอุณหภูมิ เรายังมองไดตางกันนับประสาอะไรกับเรื่อง อื่นๆ เลา จะอยางไรก็แลวแต... ขอทุกทานรักษาอุณหภูมิใจใหอุนไวนะคะ

»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ â¤ÐÍÒÊ¹Ð¢Ñ ้ ¹ ¾× ้ ¹ °Ò¹à¾× ่ Í ¤ÇÒÁÊØ ¢ ÊÓËÃÑ º ¼Ù Œ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹ ÇÑ ¹ ÍÒ·Ô µ  · Õ ่ 23 ¡Ø · ÀÒ¾Ñ ¹ ¸ 2557 àÇÅÒ 9.00 – 15.00 ¹

ที่ชั้น 6 หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว ประสานมิตร คาลงทะเบียน 650 บาท สนใจโทร.สอบถามรายละเอียดไดที่ สถาบันโยคะวิชาการ â¤Ðã¹Êǹ¸ÃÃÁ ³ Ëͨ´ËÁÒÂà赯 ¾ Ø · ¸·ÒÊ ¿ÃÕ ·Ø ¡ àÂ็ ¹ ÇÑ ¹ ¾Ø ¸ áÅÐ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. ÇÑ ¹ àÊÒà · Õ ่ 22 ¡Ø Á ÀÒ¾Ñ ¹ ¸ 2557 §´¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ

ลงทะเบียนรวมกิจกรรมไดหนางาน ไมมีคาใชจาย รวมสมทบคากิจกรรมไดดวยการบริจาค â¤ÐÊÃŒ Ò §ÊØ ¢ ³ ËŒ Í §ÍÒÈÃÁÊØ ¢ ÀÒÇÐ ÊÊÊ ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇÑ ¹ àÊÒà àÇÅÒ 10.30 – 12.00 ¹.

สำรองที่เขารวมกิจกรรมไดที่ activity.thc@thaihealth.or.th หรือ โทร.02 343 1500 ตอ 2 และ 081 731 8270

photo from; http:http://stylesatlife.com/articles/best-yoga-asanas/

2


ÊÒÃÑ µ ¶Ð ʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡Òà ÁÙŹԸÔËÁͪÒǺŒÒ¹ ËÇÁ¡Ñº ÀÒ¤ÇÔªÒ»ÃѪÞÒáÅÐÈÒÊ¹Ò ¤³ÐÁ¹ØÉÂÈÒʵà ÁËÒÇÔ·ÂÒÅÑÂÈÃÕ¹¤ÃÔ¹·ÃÇÔâò¨Ñ´ÍºÃÁ

¤ÃÙâ¤Ðà¾×่Í¡ÒþѲ¹Ò¨Ôµ »‚ 2557

໇ÒËÁÒ ศึกษาองคความรูโยคะตามตำราดั้งเดิม ซึ่งเปนไปเพื่อ การพัฒนาจิต ปฏิบัติเทคนิคโยคะเพื่อเขาถึงประสบการณ ตามที่ระบุไวในตำราดั้งเดิม นำไปประกอบการดำเนินชีวิต บนวิถีโยคะ และเผยแพรใหผูอื่นไดรูไดเขาใจโยคะ ตามตำราดั้งเดิม à¹×้ÍËÒÀÒ¤»®ÔºÑµÔ อาสนะ ตามหลักการที่ระบุไวในตำราดั้งเดิม ปราณายามะ + มุทรา พันธะ กิริยา สมาธิ วิถีและทัศนคติตอชีวิต ÀÒ¤·ÄÉ¯Õ สรีระวิทยา กายวิภาค ประวัติและพัฒนาการของโยคะ ตำราโยคะดั้งเดิม – ปรัชญาอินเดีย วิทยากร คณะครูจากสถาบันโยคะวิชาการ ผูเรียน จำนวนรุนละไมเกิน 24 คน ยิ่งเรียนรูเรื่องราวของโยคะมากขึ้น ก็ยิ่งตื่นตะลึง กับองคความรูที่มันเกี่ยวพันกันและ ตอยอดแตกแขนงออกไปเรื่อยๆอยางที่ไมเคยนึกคิด มากอนเลยวามันจะเปดโลกของเราออกไปไดกวาง ไกลขนาดนี้ทุกสิ่งทุกอยางที่ไดเรียนรูจากตำราจากครู จากการสังเกตตัวเอง ฯลฯมันจุดประกายไฟแหง ความอยาก เรียนรูใหเพิ่มมากขึ้นทุกขณะและอยาง ที่ไมเคยเปน มากอนตลอดชวงชีวิตที่ผานมาราวกับ วาเราเพิ่งจะ เริ่มตนชีวิตนักศึกษาอีกครั้ง เคยนึก เสียดายอยูบอยครั้งในชวงเวลาที่มาเรียนโยคะวาถา หากเราคนพบสิ่งนี้ไดเร็วกวานี้บางทีมันอาจจะพลิก เปลี่ยนชีวิตของเราไปกอนหนานี้นานมากแลว แตมาคิดอีกที...ความรูสึกที่วาสิ่งใดใชหรือไมใช สำหรับเรามันก็อาจ จะขึ้นอยูกับชวงเวลาและเหตุ ปจจัยตางๆที่มาพบเจอกันในเวลานั้นอาจเปนไดวา แมจะไดมาเรียนโยคะ ตั้งแตสิบปกอนแตเราอาจจะ ไมรูสึกกับมันเทากับที่เปนอยูตอนนี้ก็ได เพ็ญศิริ จันทรประทีปฉาย อบรมครูโยคะป2556

3

หลักสูตรระยะสั้น(106ชั่วโมง) รุนที่21 ระหวางวันที่ 26 เมษายน–26 มิถุนายน 2557 อบรมเปนคายโยคะ 4 ครั้ง ที่ศูนยอบรมในปริมณฑล เชน ปทุมธานี นครปฐม คายที่ 1 โยคะเพื่ออิริยาบถในชีวิตประจำวัน 26-29 เม.ย. คายที่ 2 โยคะเพื่อความสมดุลของอารมณ 19–21 พ.ค. คายที่ 3 โยคะเพื่อการพัฒนาจิต 6-8 มิ.ย. คายที่ 4 สอบ, ฝกสอน, นำเสนองานวิจัย 24-26 มิ.ย. คาลงทะเบียน 26,000 บาท หลักสูตรระยะยาว (230ชั่วโมง) รุนที่14 ระหวางวันที่16 กรกฏาคม–8 พฤศจิกายน 2557 อบรมประจำที่ มศว ประสานมิตร เขาคาย 2 ครั้ง คายที่ 1 วิถีโยคะ เรียนทุกเย็นวันจันทร พุธ พฤหัส เวลา 17.30-20.00 น. เรียนทุกวันเสาร เวลา 8.00-15.30 น. คายที่ 2 กิริยาโยคะ เดือนสุดทาย ฝกสอน, นำเสนองานวิจัย และสอบ คาลงทะเบียน 45,000 บาท

สนใจติดตอสำนักงานสถาบันโยคะวิชาการ รามคำแหง 36/1 โทร 02 732 2016 – 7 มือถือ 081-4017744 และ 091-0036063 เวบไซท www.thaiyogainstitute.com Facebook: www.facebook.com/thaiyogainstitute, อีเมล wanlapa.tyi@gmail.com


¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â

ÊÒÃÑ µ ¶Ð

Èٹ ªÕÇÒÀÔºÒŠþ. ¨ØÌÒŧ¡Ã³ áÅÐ ªÁÃÁ¾ÂÒºÒÅẺ»ÃФѺ»ÃФͧ ËÇÁ¡Ñºà¤Ã×Í¢‹ÒªÕÇÔµÊÔ¡¢Ò ¢ÍàªÔÞ·‹Ò¹¼ÙŒÊ¹ã¨à¢ŒÒËÇÁͺÃÁ ÈÔ Å »ÐáË‹ § ¡ÃØ ³ Ò ¾ÅÑ § à¾× ่ Í ¡ÒÃàÂÕ Â ÇÂÒªÕ Ç Ô µ ÇÑ ¹ àÊÒà · Õ ่ 8¡Ø Á ÀÒ¾Ñ ¹ ¸ 2 557 ³ ËŒ Í §»ÃÐªØ Á Ê´ÈÃÕ Ç§È ¶ Œ Ç Â·Í§ ÍÒ¤Òà À»Ã. ªÑ ้ ¹ 18 âç¾ÂÒºÒÅ¨Ø Ì Òŧ¡Ã³

“Compassion is not religious business, it is human business, it is not luxury, it is essential for our own peace and mental stability, it is essential for human survival.” “ความกรุณานั้นไมใชกิจของทางศาสนา แตเปนกิจแหงมนุษยชาติ ความกรุณานั้นไมใชสิ่งฟุมเฟอย หากเปนสิ่งจำเปนสำหรับสันติและความมั่นคง ทางจิตใจ เปนสิ่งสำคัญแหงการดำรงอยูของมนุษยเรา” องคดาไลลามะ ที่14 8.30 น. ลงทะเบียน 9.00 น. “กลับมา...รูสึกตัวกลับไป...รูจักตน”ดวยการฝกเจริญสติแบบเคลื่อนไหว แนวทางหลวงปูเทียน โดยพระอาจารยครรชิต อกิญจโน ทานเจาอาวาส วัดปาสันติธรรม จ.ชัยภูมิ 12.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 13.00 น. “ลมหายใจแหงชีวิต”โดย จิตอาสาเครือขายครูโยคะ 13.30 น. “ฟงดวยหัวใจ”โดย วิทยากรเครือขายชีวิตสิกขา 15.00 น. กิจกรรมกลุม “พลังเพื่อการเยียวยาชีวิต” โดยพระอาจารยครรชิต อกิญจโน และทีมวิทยากร 16.30 น. สรุปกิจกรรม และรับพรจากพระอาจารย หมายเหตุ :การอบรมนี้จัดเปนธรรมทาน เหมาะสำหรับผูปวย ผูดูแลผูปวย และผูสนใจนำการปฏิบัติธรรมไปใชในชีวิตประจำวัน ไมมีคาลงทะเบียนเขารวมอบรม ทานเจาภาพจัดอาหารวางตอนเชา และมื้อกลางวัน สามารถรวมบริจาคไดตามกำลังศรัทธา : แนะนำการเดินทางไปรวมกิจกรรมควรใชบริการรถสาธารณะ เนื่องจากภายในโรงพยาบาลมีที่จอดรถจำนวนจำกัด (สำหรับรถไฟฟา BTS ลงสถานีศาลาแดง และรถไฟฟาใตดิน MRT ลงที่สถานีสีลม) สนใจสมัคร สงชื่อ นามสกุล ไดที่ e-mail address : jivitasikkha@gmail.com สอบถามขอมูลเพิ่มเติม คุณมุกดา 081 843-1115, คุณออด 084 643-9245, คุณพร 081 842-4391

4


ÊÒÃѵ¶Ð

§Ò¹ÈÖ ¡ ÉÒÇÔ ¨ Ñ Â

photo from; http://www.ifairer.com/articles/try-these-6-asanas-to-prevent-hair-loss-vajrasana-4-1383997940.html

ÍÂÒ¡¹Ñ ่ § ÇÑ ª ÃÐ

กวี คงภักดีพงษ

คำถาม: ผมเห็นคนนั่งทาเพชรของโยคะแลว ผมพยายามนั่งบาง แตปรากฏวานั่งไมได เขาเริ่มฝก กันอยางไรครับ? ตอบ: ทาเพชรหรือที่ภาษาสันสกฤตเรียกวา วัชระอาสนะ เปนทาโยคะในกลุมทาสมาธิซึ่งมีเปา หมายหลักคือเพื่อใหผูทำทามีรางกายที่นิ่ง มีสภาวะ อารมณที่สงบ เพื่อที่จะนั่งสมาธิใหไดนานนั่นเอง ทานี้มีจุดเดนที่หาไมไดจากทาอาสนะในกลุมสมาธิก็คือ 1) มีความผอนคลายที่หนาทองมากกวา เพราะตนขาเอียงลาดเปนมุมปานกับหนาทองไมเปน มุมฉากแบบทาสมาธิอื่นๆ คนพุงปองนั่งแลวสบายกวา 2) เปนทาที่รางกายมีความสมดุลระหวาง ซีกซายกับซีกขวามากที่สุด หากเปรียบกับทาสมาธิอื่นๆ ที่อาจมีการกดทับในขางใดขางหนึ่งมากกวาอีกขาง หนึ่ง

5


ÊÒÃѵ¶Ð อยางไรก็ตาม ทานี้ผูทำตองมีเขาและ ขอเทาที่ยืดหยุน ในกรณีของคนมีปญหาเขา คงตอง แนะนำวาให หลีกเลี่ยง ทานี้ ไปทำทาสมาธิทาอื่นๆ แทนจะดีกวา ซึ่งก็ไดสมาธิเชนกัน (นั่นเปนเหตุผลวา เขาถึงมีทา สมาธิหลากหลาย เพื่อใหคนเลือกใชทา ที่สอดคลองกับสภาพรางกายของตนเองไง) ในกรณีของคนที่ขอเทาไมยืดหยุน แนะนำใหเริ่มตนดวยการหาเบาะมารองระหวางพื้นกับ ขอเทา และหาผาขนหนูมา รองระหวางขอเทากับกน ซึ่งชวยกระจายน้ำหนัก ทำใหไมเจ็บ นั่งไดนาน และเมื่อฝกนั่งไปสัก 2 สัปดาห ความยืดหยุนของขอเทาก็จะดีขึ้น จนวันหนึ่ง เราก็สามารถนั่งไดสบายๆ โดยไมตองใชผารอง ลองไปฝกดูนะครับ

มีความสมดุลระหวางซีกซายกับซีกขวา

ตนขาเอียงลาดเปนมุมปานกับหนาทอง ขอเขาไมพรอม นั่งไมได (ใชทาอื่นแทน)

หาผาขนหนู/เบาะ รอง

6


º·¡Å͹

ÊÒÃÑ µ ¶Ð

á¡‹ ¹ ä ÁŒ ÊÑ ¡ µŒ ¹ Ë ¹Ö ่ § ¨ Ð § ´ § Ò Á ä ´Œ 㪋 à ¾Õ Â §´Œ Ç Â¡Ô ่ § ¡Œ Ò ¹ 㺠ËÃ× Í ´Œ Ç Âà»Å× Í ¡äÁŒ à ¾Õ Â §à·‹ Ò ¹Ñ ้ ¹ Ëҡᵋ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹ ¤ÇÒÁ§´§ÒÁÁÒ¨Ò¡ á¡‹ ¹ á·Œ · Õ ่ Í ÂÙ ‹ À ÒÂã¹ ¡ Ò Ã ½ƒ ¡ â  ¤ Ð ¡็ à ª‹ ¹ ¡Ñ ¹ ËÒ¡àÃÒࢌ Ò ã¨Ç‹ Ò á¡‹ ¹ á·Œ ¢ ͧâÂ¤Ð¤× Í ¡ÒÃà´Ô ¹ ·Ò§à¢Œ Ò ÊÙ ‹ À ÒÂã¹ ¤× Í ¡ÒÃÃÇÁ¡ÒÂáÅÐ¨Ô µ ࢌ Ò äÇŒ ´ Œ Ç Â¡Ñ ¹ áÅŒ Ç ã¹äÁ‹ ª Œ Ò àÁÅ็ ´ ¾Ñ ¹ ¸Ø á Ë‹ § â¤Ðã¹µÑ Ç àÃÒ ¡็ ¾ ÃŒ Í Á¨ÐàµÔ º âµà»š ¹ µŒ ¹ äÁŒ · Õ ่ § ´§ÒÁ

Í¹Ñ µ µÒ

7

photo from; http://media-cache-ec0.pinimg.com/originals/21/19/b0/2119b02b8ad15aee1a3977ef067bf680.jpg


ÇÔ ¶ Õ â ¤Ð

ÊÒÃѵ¶Ð

photo from; http://kanchana0115.blogspot.com/2010_11_01_archive.html

ÃÑ ¡ ˹ÍÃÑ ¡ ਌ Ò àÍ !! วรรณวิภา มาลัยนวล ฉันวางโทรศัพทที่เพิ่งคุยกับแมลง ดวยหัวใจ ที่อยากจะรักใหเปน รักโดยไมมีเงื่อนไขของการ เบียดเบียนตนเองและผูอื่น พึมพำกับตัวเองวา ‘ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกขจริงหนอ’ นึกถึงใบหนาแมแกๆ ที่หมนหมองอยูคนเดียวลำพังบานไมหลังเกาที่เคย อบอวล ไปดวยความสุขที่เกิดจากความรักของ พอแม ลูกและพี่นอง พื้นไมสักที่แมไดมรดกมาจากคุณยาย ยังคงสงบนิ่งรองรับทุกสรรพสิ่งในบานอยูเหมือนเดิม ขาดก็แตบรรดาลูกๆ ที่แยกยายกันออกไปมีครอบครัว กันหมด การจากพรากไปมีครอบครัวของลูกแตละคน ไมไดทำใหแมเหงาหงอยและเศราสรอยเทาไร เมื่อเทียบกับเหตุการณที่ แมเพิ่งผานมาสดๆ รอนๆ ในวันที่ลูกกลับมาเจอกัน กอนจะยกหูโทรศัพทมาเลาใหฟง ดวยน้ำเสียงที่แสดงความอัดอั้น “แมไลกลับไปหมดแลว” เสียงแมดังสนั่นมาในโทรศัพทตอนแรก จนตองรีบเอาหูออกหาง “ไลใครเหรอ?” ฉันถามดวยความแปลกใจ ไมรูที่มาที่ไปของเรื่องราว

ไอคนหนึ่งก็ไปมอบมังคลาฯ เพิ่งกลับมา ไอคนหนึ่งก็ไปมอบราชดำเนินเพิ่งเขามาเหมือนกัน มาแขงกันพูดกรอกหูแม คนหนึ่งก็จะเปดดาวเทียมชองแดงอีกคนก็บอกวาให หลานเปดอินเตอรเน็ต ตางคนก็จะใหไปฟงมันๆ แลวแมจะฟงใคร ทะเลาะกันเองไมพอ ยังจะมาลากแมไปเขาขางดวยพอไมเขาขาง ก็หาวาแมไมรักชาติ” แลวเรื่องก็ถึงบางออในแคไมกี่ประโยค “แลวแมทำไง?” ฉันพอนึกภาพบรรยากาศที่บานออก “แมก็ไลมันกลับไปบานใครบานมันใหหมดนะสิ” เรื่องดูเหมือนจบเมื่อพระนางออกไปจากเวที แตที่โทรมาเพราะเจ็บแตไมจบ “แลวตอนนี้แมรูสึกยังไง?” ฉันถาม “อืม แมก็เสียใจ” เสียงสั่นเครือ“เขานะเพิ่งมาจากเชียงใหมเมื่อวาน พออาบน้ำอาบทาเสร็จ สะพายเปขึ้นหลังแลวก็บอกแมวาจะไปมอบไมถาม แมสักคำวาแมเปนไงบาง”แมเลาตอถึง‘เขา’ ลูกชายที่แม (เคย) หวังวาจะพึ่งไดยามแก “แลวตอนที่เขาไปมอบกันนะแมรูสึกยังไง?”

8


ÊÒÃѵ¶Ð “แมก็หวงนะ กลัวเขาเอะอะกัน เดี๋ยวจะโดนลูกหลงดูในขาวสิลูกหลานใครก็ไมรูตาย” เสียงน้ำมูกน้ำตายังคงกระเพื่อมมาตามสาย “พูดกับแมไมดีเลย พูดจารุนแรง กาวราวยังไงไมรู ไมรูวาไปฟงอะไรกันมา มีแตคำหยาบคายพนๆใหฟง แมไมอยากฟง ก็เลยไลไอมอบมังคลาฯไปหนาบานใหออกไปบอกให กลับบานไปกอน แลวก็เขามาไลไอมอบราชดำเนิน บอกวาอยากนอนที่ถนนก็ไมตองกลับมาใหแมเห็นหนา” เสียงออนเบายวบในตอนทาย “นี่ออกไปกันหมดแลว” “จริงๆแลวก็อยากเห็นหนาเขาใชไหมละ?” ฉันหยั่งเชิงใหแมตอบ ทั้งๆ ที่รู อืมก็เขาหายไปอยูเชียงใหมตั้งเปนป มาทั้งทีก็นึกวาเออ! จะมานอนคางกับแม ที่ไหนได แตเขาเลือกไปนอนอยูกลางถนน กับใครก็ไมรู” “แมไมไดตั้งใจที่พูดแบบนั้นใชรึปลาว ที่ไลเขานะ” “อืม!แมไมไดตั้งใจ” “ตอนที่พูดนั่นโมโหใชไหม?” “ใช โมโหมาก” “แมแคโมโหแลวก็ไมรูจะทำยังไง แมไมอยากเห็นลูกเขาทะเลาะกันเนอะ แมก็เลยพยายามใหเขาหางกันไปกอน แมเลยเลือกที่จะออกปากไล แตที่จริงแลวแมไมไดอยากไลเขาออกจากบานสักคน แมแคพูดออกไปเพราะไมรูจะทำยังไงที่ไมใหลูกทะเลาะ กัน”ฉันลองสะทอนสิ่งที่ไดยินทั้งหมดใหแมฟง “อืม ใช” “แลวตอนนี้แมก็เสียใจที่พูดแรงกับเขา เสียใจที่ไลเขา ทั้งที่อยากใหเขาอยูที่บานดวยกันพรอมหนาพรอมตา ทั้งคูใชไหม ไมไดไลเพราะวาเกลียดเขา” ฉันจับความรูสึกจากคำพูดที่ผานมาของแม “ใช แมไมไดตั้งใจไลใคร แตไลไปหมดแลว” “ชวงนั้น แมวาไหม ลูกเขาก็คงไมไดตั้งใจจะพูดแรงกับแมเหมือนกัน ไมไดเกลียดแม เขาแคไปอยูในมอบกันมา เขาก็คงรอน นอนไมเต็มตื่น คงเหนื่อยเพลีย เลยยั้งอารมณไมอยู นี่ออกไปแลวเขาก็คงกำลังเสียใจเหมือนกันเนอะแม เนอะ”ในอีกแงมุมที่ชวนแมใหคิดวาลูกเขาก็คงไมได ตั้งใจ

9

เขาก็แคไมรูจะระบายความคับของภายในของตัวเองได อยางไร เลยออกมาเปนความกาวราวกับแม “อืม แมก็ไมไดตั้งใจจะไล แตทนไมไหว มันพูดกันคนละเรื่อง ทุกคนก็วาความคิดของตัวเองถูกไปหมด ไมมีใครฟงใคร” แมหยุดรองไหไปแลว ไดระบายความรูสึกแทจริงที่ลูกสองคนไมมีโอกาสได ‘ฟง’ ความคิดปรุงแตงกอนหนานี้คอยบางเบาลง คุยกันสักพัก เมื่อน้ำเสียงดีขึ้นแลวแอบหยอดทายถามวา “สมมตินะ สมมติวา ตอนนี้เขายังอยูกันครบทั้งสองคนเลยในบานเราหองนี้ เปดชองแดงลั่นเลย สวนหองโนนเปดราชดำเนิน สนั่นเลย แมรับไหวมะ?” “อาย! ไมไหว ไมไหว ไมเอาแมไมเอาแมวาใหกลับบาน ไปนะดีแลว เงียบดี ฮา ฮา” ฉันอดคิดตอไมไดวา..... ถาเรารัก ‘คน’ ไมได เราจะออกไปรัก ‘ชาติ’ ไดอยางไร แลวถา‘ชาติ’ พูดไดชาติอาจจะอยากบอกกับเราวา “ไมตอง-รัก-ผมก็ไดไมตอง-เสียสละ-อะไรเพื่อผมแค พวกคุณ-ละ-ความเกลียดชังในใจได ผมก็ไมทุกขแลว”

“มีความรักในสิ่งใด สิ่งนั้นแหละมันกัดหัวใจ พอไมไดอยางรักมันก็มีความโกรธ สิ่งที่เคยรักมันไมเที่ยง มันเปลี่ยนแปลง มันก็เปลี่ยนเปนไมไดอยางใจ มันก็ไดโกรธไดเกลียด ไปกำหนัดยินดีกับสิ่งใด สิ่งนั้นแหละมันกัดหัวใจ” พุทธทาสภิกขุ


àÃ× ่ Í §¨Ò¡à¾× ่ Í ¹

ÊÒÃѵ¶Ð

photo from; http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=08-2012&date=16&group=186&gblog=224

àÃÒÅŒ Ç ¹¤× Í ÅÐÁÑ ่ § อนัตตา แลวเมื่อละมั่งจาฝูงแตะกีบแรกที่อีกฝงฟาก ผีเสื้อสีเหลืองนับรอยตัวก็กระพือปกขึ้นสูฟา ...เมื่อนั้นฉันไดแตตื่นตะลึง” ฉันแตะความรูสึกนี้เมื่อครั้งที่ไดพาตัวเองเขารวมเปนห นึ่งในจิตอาสา กับกิจกรรมหอบรักไปหมปา สางหญาใหปาฟน ของโรงบมอารมณสุข กับกิจกรรมที่ใชแรงกายเปนหลักในการชวยกัน ฟาด ฟน ถาง ตัดตนหญา ในพื้นที่เขตรักษาพันธุสัตวปา หวยขาแขง สำหรับบางพื้นที่ เพื่อเปนแหลงอาหาร สัตวกีบ เชน เกง กวาง เนื้อทราย ละมั่ง ฯลฯ รวมถึงการฟนตัวของ ตนไมเล็กๆ การตัดตนหญา ชวยใหเกิดหญาระบัด (หญาระบัด คือตนหญาเล็กๆ หรือหญาออนซึ่งเปนอาหารใหกับสัตวกีบ) เนื่องจากหากสัตวปาเหลานี้ไมสามารถหากินภายใน เขตรักษาพันธุฯไดก็จะออกนอกพื้นที่หรือบางก็บุกรุก พื้นที่ของชาวบาน ซึ่งนั่นอาจทำใหสัตวปาไดรับ อันตรายได หลังจากชั่วโมงแหงการฟาดฟนไดผานพนไป ฉันยิ้มใหกับตัวเองเมื่อมองไปยังพื้นที่ที่ผองเราเหลาจิต อาสาตางชวยกันทั้งถาง ทั้งตัดอยางเต็มแรงเต็มใจ

10


ÊÒÃѵ¶Ð หลังจากชั่วโมงแหงการฟาดฟนไดผานพนไป ฉันยิ้มใหกับตัวเองเมื่อมองไปยังพื้นที่ที่ผองเราเหลาจิต อาสาตางชวยกันทั้งถาง ทั้งตัดอยางเต็มแรงเต็มใจ ในยามนี้เหงื่อที่ผุดพรายบนใบหนามันชางสดชื่นดีแท และดวงตาที่มองโลกใบนี้ก็ออนโยนขึ้นเมื่อนึกถึงยามที่ เจาของผืนปาที่แทจริงเดินมากินหญาบริเวณนี้ พลัน! ดวงตาที่ออนโยนของฉันก็ตื่นตะลึง!! เมื่อภาพที่เห็นตรงหนาเปนภาพละมั่งเจ็ดตัวกำลังเดิน เรียงแถวขามลำธาร โดยมีละมั่งจาฝูงเดินนำ (ที่คิดวาจาฝูงเพราะฉันเห็นวาละมั่งตัวนั้นมีขนาดใหญ ที่สุดในบรรดาละมั่งทั้งเจ็ดนั่นเอง) และแลวเมื่อละมั่งจาฝูงแตะกีบแรกที่อีกฝงฟาก บรรดาผีเสื้อสีเหลืองนับรอยตัวที่เกาะอยูบนพื้นดิน บริเวณนั้น ก็กระพือปกขึ้นสูฟาสรางความตะลึง พรึงเพริดใหกระจายปกไปทั่วทั้งหัวใจฉัน ในตอนนั้นฉันนึกเสียดายที่ไมมีกลอง เพื่อบันทึกภาพ จึงไดแตยืนมองเพื่อซึมซับภาพนั้นไว แตในตอนนี้ฉันนึกขอบคุณในความไมมี เพราะหากถือกลองไวในมือ ฉันคงไมลังเลเลยที่จะ มองภาพความงามนี้ผานเลนส แลวใครเลาจะเขาถึง ความงามที่แทจริงไดหากไมไดใช หัวใจมอง. . . แมกลับมาสูมหานครแลวภาพนั้น ก็ยังคงอยูในความทรงจำ ภาพวิถีของชีวิตนอยๆ ในปาใหญ กับระบบนิเวศนที่พึงพาอาศัยกัน จะมีฆา หรือรังแกกันบางก็เพียงสัญชาติญาณ และเปนไป ตามธรรมชาติของความอยูรอด หาใชทำเพื่อความ สะใจหรือเอาชนะไม วิถีชีวิตเหลานี้ชางสวยงาม ใหหัวใจขบถของฉันแอบนึกตั้งคำถาม “หากสัตวเหลานั้นไดเกิดเปนคน จะยังคงมีวิถีชีวิตที่สวยงามอยางนี้ไหม” เชานี้ถนนรามคำแหงยังมีผูคนมากมายเหมือน ทุกวัน ฉันตองนั่งรถเมลผานถนนสายนี้เพื่อไป ทำงานเหมือนทุกวันและเห็นคนยืนรอรถเหมือน เชนทุกวัน

11

พลัน! ใหตระหนกกับบางมโนภาพในหัวใจ เมื่อสิ่งที่ตางจากทุกวันคือความรูสึกที่วา ฉัน เขา เราลวนคือละมั่ง . . ไ ม ต า ง กั น เ ล ย


µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á

ÊÒÃѵ¶Ð

photo from; http://www.flickr.com/photos/philkoch/8168030081/

¼Å·Õ ่ µ ÒÁÁÒ¨Ò¡¡Òû¯Ô º Ñ µ Ô à ÈҨРวีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี สรุปใจความสำคัญของตอนที่แลว ซึ่งกลาวถึงโยคสูตร ประโยคที่ ๒:๔๐ ไววา การปฏิบัตินิยมะในขอ เศาจะหรือการชำระลาง รางกายแตละสวนจนครบ ทุกสวนดวยความใสใจ อยางละเอียด ผูปฏิบัติจะเกิด ความตระหนักมากขึ้นๆ วา อวัยวะตางๆ ของรางกายคือผูสรางของเสีย อันนารังเกียจ ไมใชสิ่งที่ควรจะลุมหลง ซึ่งจะนำไปสูความรูสึกที่ไมติดยึดตอรางกาย โดยไมยึดวารางกายนี้เปน “ของฉัน” นอกจากนี้ การสัมผัสทางกายกับผูอื่นหรืออยูใกลกับคนอื่นโดย เฉพาะในชวงที่กำลังปฏิบัติสมาธิภาวนา อาจจะใหผลในทางที่เปนประโยชนหรือเปนอุปสรรค ตอการปฏิบัติภาวนาได ขึ้นอยูกับผลรวมของสังสการะ ทั้งในชีวิตปจจุบันและ ชีวิตในอดีตชาติของบุคคลที่เรา สัมผัสหรืออยูใกลนั้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยไวกอน จึงมีคำแนะนำใหผูปฏิบัติหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกาย กับผูอื่นใหมากเทาที่จะเปนไปได

“ประโยคตอมา ๒:๔๑ ปตัญชลีกลาววา “สัตตวะ-ศุทธิ-เสามนัสไยกาครเยนทริยะ-ชยาตมะ-ทรร ศนะ-โยคยัตวานิ จะ-” แปลวา การชำระลางจิตใหอยูในสภาวะของสัตตวะ จิตจะสงบผองใส จดจอเปนสมาธิอยูที่จุดเดียว สามารถที่จะกำราบอินทรียทั้งหมด (ควบคุมอวัยวะรับรูและอวัยวะในการกระทำทั้งหลายรว มถึงจิตดวย) และมีความพรอมสำหรับการตระหนักรูภายในตนเอง เหลานี้คือผลพวงที่ตามมาจากการปฏิบัติเศาจะ ผลตางๆของการปฏิบัตินิยมะในขอเศาจะ ที่กลาว ถึงในประโยคนี้ไดนำใหอรรถกถาจารยทั้ง หลาย ตีความเศาจะวาเปนการชำระลางจิตใหบริสุทธิ์ ตามที่เคยอธิบายไวแลววาผลทางจิตที่สำคัญเหลานี้ไม อาจบรรลุถึงไดโดยปราศจากการชำระลางทั่วทั้งราง กายใหบริสุทธิ์กอน สุภาษิตที่รูจักกันดีคือ “จิตที่เบิกบานแจมใสยอมอยูในรางกายที่แข็งแรง สมบูรณ” ซึ่งเปนสิ่งที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกันนั้น

12


ÊÒÃѵ¶Ð แสดงใหเห็นวา หลักการที่กลาวถึง ในโยคสูตรประโยค นี้เปนเรื่องพื้นฐานที่รูจักกัน ในหมูคนทั่วไปดวย สัตตวะศุทธิเปนการชำระลาง บุคลิกภาพพื้นฐาน หรือธรรมชาติสวนลึกของปจเจก บุคคล ในภาษาโบราณสามารถอธิบายไดวา สภาวะของสัตตวะที่เพิ่มขึ้นๆ จะเกิดขึ้นพรอมๆ กันกับการลดนอยถอยลงของรชัสและตมัส และจิตของผูปฏิบัติโยคะจะลดความซัดสายและโงทึบซึ่ง มีสาเหตุมาจากรชัสและตมัสตามลำดับ ดังนั้นจิตจะมีความตั้งมั่นมากขึ้นและมีกำลังความสาม ารถในการเจาะลึกเพิ่มขึ้นซึ่งทำใหศักยภาพในการรูแจง แทงตลอดหรือตรัสรูเพิ่มขึ้นดวย ผลที่จิตบริสุทธิ์เชนนี้ เกิดขึ้นจากการลดลงของรชัสและตมัส รชัสซึ่งเปนเหตุปจจัยที่นำไปสูความสับสนกระวน กระวาย และตมัสซึ่งเปนเหตุที่นำไปสูความโงทึบ นั้นจะลดนอยลงก็ตอเมื่อมละหรือมลพิษตางๆ ในรางกายไดถูกขจัดใหนอยลงแลว ซึ่งจะประสบความสำเร็จไดโดยการชำระลางรางกายให บริสุทธิ์ ดังนั้นการปฏิบัติเศาจะจึงนำไปสูการลดนอย ถอยลงของรชัส และตมัส และเขาสูภาวะสัตตวะ-ศุทธิ ผลอื่นๆที่กลาวถึงหลังจากนี้เปนผล ที่เกิดขึ้น ตามมาหรือเกิดขึ้นพรอมๆ กันกับสัตตวะศุทธิ เสามนัสยะ ตามตัวอักษรแลว หมายถึง “สภาพที่ดีของจิต” ซึ่งหมายถึงสภาพจิต ที่สงบและเบิกบาน อันเปนเงื่อนไขเบื้องตน ของจิตตะประสาทนะที่ไดกลาวถึงแลวในประโยค ๑:๓๓ เมื่อพลังแหงสัตตวะเกิดขึ้นในจิต จะมีรชัสและตมัสหลงเหลืออยูในจิตนอยมาก ซึ่งสอง อยางหลังนี้เปนปจจัยที่นำไปสูสภาพจิตที่กระวน กระวายและหดหูซึมเศรา ดังนั้นเมื่อปจจัยทั้งสอง นี้ลดลงจิตก็จะแปรเปลี่ยนสูความสงบและผองใส ในความจริงแลว เสามนัสยะ ไมไดเปนผลที่ตามมา(ของสัตตวะศุทธิ)เทาไรนัก แตเปนลักษณะที่แสดงออกมาภายนอกใหเห็นภาวะ ของตัวสัตตวะศุทธิเองมากกวา ผลอันตอมา “ไอกาครยะ” เปนความเขมขนของเสามนัสยะ เพราะเมื่อความสงบตั้งมั่นอยูในจิตเปนอยางดีแลว ก็เปนการงายที่จะควบคุมจิตไปในทิศทางที่ตองการ นี่คือความหมายของ ไอกาครยะ หรือ เอกาครตะ (จิตจดจอแนบแนนกับสิ่งที่รับรูอยางเปนหนึ่งเดียว – ผู13 แปล)

เนื่องจากมลพิษถูกขจัดออกไปโดย การชำระลางรางกายใหบริสุทธิ์ อวัยวะตางๆ ของรางกายจึงทำงานไดอยางมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยไมมีความจำเปนตองใชความพยายามมากนักที่จะ บังคับควบคุมอวัยวะเหลานั้น(ใหทำงานไดดี – ผูแปล) การทำงานและผลตางๆ ที่เกิดขึ้นของรางกายจึงแทบจะเปนไปเองตาม ธรรมชาติ(โดยเกือบจะไมตองบังคับ – ผูแปล) เศาจะชวยชำระลางรางกาย และสงผลใหเกิดสัตตวะศุทธิ(สภาพจิตที่สงบผองใส) เปนตน ดังนั้นโครงสรางทางกาย-จิตทั้งหมด ของผูปฏิบัติโยคะก็จะอยูในสภาพที่สมบูรณที่สุด เหมาะสำหรับการกาวเดินไปบนเสนทางการฝกฝนใน ขั้นที่สูงขึ้นไป และนำไปสูการตระหนักรูใน “ตัวตนที่แทจริง” (อาตมะ-ตัตตวะ) ภายในตัวเขาเอง

เอกสารอางอิง : Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation & Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama, p. 278-280.


ÊÒÃѵ¶Ð

สถาบันโยคะวิชาการดำเนินการโดยมีรายไดจาก คาลงทะเบียนกิจกรรม จากการจำหนายผลิตภัณฑตางๆ สถาบัน ฯ ยินดีรับการสนับสนุนจากผูสนใจรวมเผยแพร เพื่อนำเงินมาใชดำเนินการใหบรรลุวัตถุประสงคตามที่ตั้งไว เชิญบริจาคเขาบัญชีออมทรัพย ธนาคารไทยพาณิชย สาขาเดอะมอลล 3 รามคำแหง ชื่อบัญชี มูลนิธิหมอชาวบาน สถาบันโยคะวิชาการ เลขบัญชี 173-241-6858 ÊÓËÃѺà´×͹ Á¡ÃÒ¤Á 2557 ÁÕ¼ÙŒºÃԨҤʹѺʹع¡Ò÷ӧҹ¢Í§Ê¶ÒºÑ¹Ï ´Ñ§¹Õ้

คุณพลอยจิตมณฑา อวัสดาฐิติ ครูวรพจน มาเนียม ตูบริจาคสำนักงาน เดือน ม.ค.

ÃÇÁ

620 1,000 120

1,740 ºÒ·

14


สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบาน 201 ซอยรามคำแหง 36/1 บางกะป กทม.10240 โทรศัพท 02 732 2016-7, 081 401 7744 โทรสาร 02 732 2811 อีเมล yoga.thaiyga@gmail.com เว็บไซท www.thaiyogainstitute.com


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.