ชีวประวัตินักบุญหลุยส์ มารีย์ กรีญอง เดอมงฟอร์ต

Page 1

โล่ หรือ Coat of Arme ทีอ่ ยูใ่ จกลางของตรานี้ เป็ นเครือ ่ งหมายแสดงเกียรติ ประวัติ อันยาวนาน และยั่งยืนของสถาบันคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ภายในโล่แบ่ง ออกเป็ นสีส่ ว่ น แต่ละส่วนมีความหมายเชือ ่ มโยงกันดังนี้ ส่วนที่ 1 A.M. คือ Ave Maria ในภาษาละติน ตรงกับภาษาไทยว่า "วันทา มารี อา" Mariaเป็ นชือ ่ พระมารดาของพระเยซูคริสต์ และช่อดอกซ่อนกลิน ่ สีขาว เป็ น เครือ ่ งหมายแสดงถึงความบริสท ุ ธิ ์ โดยอีกนัยหนึ่ง A.M. ย่อมาจาก Alma Mater (ภาษา ลาติน) หรือภาษาอังกฤษ ว่า Mother College ความหมายว่า สถาบันเราเปรียบประดุจบ้าน เกิดของเรา และเป็ นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเรา จะรักสถาบันเปรียบประดุจผูบ ้ งั เกิดเกล้า ของเรา ส่วนที่ 2 เป็ นรูปเรือใบ ซึง่ เปรียบได้กบั "นาวาชีวต ิ " ทีจ่ ะต้องต่อสูค ้ ลืน ่ ลมและ แสงแดดไปจนถึงฝั่ง และยังเป็ นการให้คติสาหรับคิดคานึงเสมอว่า "ชีวต ิ คือการต่อสู"้ ส่วนที่ 3 รูปดวงดาวอยูใ่ นท้องฟ้ าเหนือเรือทีก ่ าลังสูค ้ ลืน ่ ลม หมายถึง แสงแห่ง ความหวัง ซึง่ ก็คอ ื แสงธรรมแห่งศาสนา และแสงแห่งปัญญา จากสรรพวิทยาการทีไ่ ด้รบั จาก สถานศึกษา รวมกันเป็ นดวงประทีปส่องนาชีวต ิ ซึง่ ก็คอ ื ผูท ้ อ ี่ ยูใ่ นเรือ ไปสูจ่ ุดมุง่ หมาย ปลายทางได้ดว้ ย คุณธรรมและปัญญา ส่วนที่ 4 เครือ่ งหมาย กางเขน?และอักษร D?S ซึง่ เป็ นตัวย่อจากภาษาฝรั่งเศส Dieu Seul ทีม ่ ค ี วามหมายว่า จงทางานทุกอย่างเพือ ่ เป็ นสิรม ิ งคลแก่พระเจ้า ซึง่ เป็ นคติพจน์ ของนักบุญหลุยส์ มารี กรีญอง เดอ มงฟอร์ต (Saint Louis Marie Grignion de Montfort) ผูส ้ ถาปนาคณะเซนต์คาเบรียล โดยอีกนัยหนึ่ง D ยังหมายถึง Divinity หรือ ศาสนา ซึง่ เราทุกคนต้องมีศาสนาเป็ นหลักยึดเหนีย่ วจิตใจ เครือ ่ งหมายไม้กางเขนเป็ น เครือ ่ งหมายแห่งความรักและความเสียสละ ดังทีพ ่ ระคริสตเจ้าได้ทรงสละชีวต ิ ของพระองค์ ด้วยความรัก เพือ ่ ทีจ่ ะช่วยไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์ S หมายถึง Science ซึง่ ก็คอ ื วิทยาการ ความรู้ ทีเ่ ป็ นพืน ้ ฐานของความมีเหตุผล โดยทุกคนควรมุง่ หาความรูอ้ ยูเ่ สมอ และยิง่ มีความรู้ ้ เท่านัน ฝ่ ายโลกมากเท่าใด ก็ควรสนใจหาความรูฝ ้ ่ ายธรรมให้มากขึน ้ พวงดอกไม้และกิง่ Laurel ทีป ่ ระดับโล่ หมายถึง ชัยชนะ และความสาเร็จ ซึง่ มี ทีม ่ าจากนักกีฬาทีม ่ ช ี ยั ชนะจากการแข่งขันในสมัยโบราณจะได้รบ ั เกียรติ ให้สวมพวงมาลัย ดอกไม้จากกษัตริย์ ซึง่ ก็คอ ื เป็ นมาลัยเกียรติยศทีจ่ ะเตือนใจทุกคนให้กระทาความดี เพือ ่ เชิด ชูและจรรโลงไว้ซงึ่ เกียรติยศ ชือ ่ เสียงของสถาบันมิให้เสือ่ มสูญสลายไป คาว่า LABOR OMNIA VINCIT (Labour conquers all things) ทีอ่ ยูใ่ ต้ ชือ ่ Brothers of St. Gabriel เป็ นคติพจน์ (Motto) ประจาใจของชาวสถาบันในเครือคณะ ภราดาเซนต์คาเบรียล ทีจ่ ะ ต้อง "ชนะอุปสรรคทัง้ ปวงด้วยความวิรยิ ะอุตสาหะ" คาว่า Brothers of St. Gabriel หมายถึง ภราดาคณะเซนต์คาเบรียล ทีย่ อม สละชีวต ิ และได้ละทิง้ บ้านเกิดเมืองนอน เข้ามาช่วยเผยแพร่ความรูแ ้ ละความดีงามให้แก่ เยาวชนไทย ตรานี้จะอยูใ่ นความราลึกของเราชาวคณะเซนต์คาเบรียลทุกคน และจะช่วย เตือนใจให้ราลึกถึงชีวต ิ ในครอบครัวใหญ่แห่งคณะภราดาเซนต์คาเบรียล หรือภายในอ้อมอก ์ ละจริงใจต่อกัน เป็ นชีวต ของแม่ คือ ศาสนา เป็ นชีวต ิ ทีม ่ ค ี วามบริสท ุ ธิแ ิ ทีส่ อนให้เราเริม ่ ต่อสู้ โดยมีความหวังคือคุณธรรมและปัญญา เป็ นเครือ่ งนาทาง เป็ นชีวต ิ ทีม ่ ท ี ง้ ั ความรักและเสียสละ


และเป็ นชีวต ิ ทีส่ มบูรณ์ ทส ี่ ามารถชนะอุปสรรคทัง้ มวลได้ดว้ ยความอุตสาหะ Labor Omnia Vincit

นักบุญหลุยส์ ้ ทีห ท่านถือกาเนิดขึน ่ มูบ ่ า้ นมงฟอร์ต ซึง่ ตัง้ อยูท ่ างตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ฝรั่งเศส ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผูท ้ รงได้รบั การขนานนามว่า “สุรยิ ะราชัน” อัน เป็ น ยุคทีป ่ ระเทศฝรั่งเศสรุง่ เรืองทีส่ ด ุ ในยุโรป เทียบกับประเทศไทยตรงกับสมัยของสมเด็จ พระนารายณ์ มหาราช ท่านกลายเป็ นบุตรหัวปี ทีม ่ พ ี ีน ่ ้องๆ หลายคน เพราะพีช ่ ายคนโตเสียชีวต ิ ลง และ ท่านมีความศรัทธาต่อพระแม่มารีอาแต่เด็กๆ พ่อของท่านเป็ นคนอารมณ์ รอ้ น และบ่อยๆ จะ เอ็ดตะโรใส่มารดาของท่าน ท่านก็คอยปลอบใจมารดาของท่าน เพิม ่ จากการช่วยงานบ้าน และดูแลน้องๆ ทีท ่ า่ นทาอยู่ ท่านเริม ่ เรียนอ่านเขียนทีน ่ ี่ เมือ่ ท่านอายุได้ 12 ปี ท่านเดินทางไปโรงเรียน ในโรงเรียนของพระสงฆ์คณะ เยสุอต ิ ทีเ่ มืองแรนน์ อันเป็ นบ้านเกิดของมารดาของท่าน โดยพักอยูก ่ บั พระสงฆ์ซงึ่ เป็ น น้องชายของมารดาท่านระยะหนึ่ง เมือ่ ครอบครัวท่านย้ายมาอยูท ่ เี่ มืองแรนน์แล้ว ท่านจึงมา พักอยูก ่ บั ครอบครัว ท่านเรียนอยูท ่ โี่ รงเรียนนี้จนอายุได้ 19 ปี ท่านได้พบครูดๆ ี หลายท่าน โดยเฉพาะทีเ่ ป็ นพระสงฆ์คณะเยสุอต ิ ซึง่ ช่วยเพาะบ่มให้ทา่ นทีม ่ ค ี วามรักต่อคนตกทุกข์ได้ ้ รวมทัง้ กระแสเรียกให้เป็ นพระสงฆ์ในเวลาต่อมาด้วย ยากมากยิง่ ๆ ขึน เมือ่ ท่านอายุได้ 19 ปี ท่านตัดสินใจทีจ่ ะบวชเป็ นพระสงฆ์ จึงทาให้ทา่ นมีโอกาส ไปศึกษาต่อในบ้านเณรทีก ่ รุงปารีส โดยเป็ นเณรใหญ่ ทีบ ่ า้ นเณร แซงต์ ซูลปิ ส เป็ นเวลา 8 ปี และได้บวชเป็ นพระสงฆ์เมือ่ อายุได้ 27 ปี เมือ่ เป็ นพระสงฆ์แล้วผูใ้ หญ่อยากให้ทา่ นสอนทีบ ่ า้ นเณร แต่ตวั ท่านเองปรารถนา ทีจ่ ะเป็ นธรรมทูต ท่านจึงถูกส่งไปอยูท ่ เี่ มืองนังต์ เพือ ่ ฝึ กงานธรรมทูตกับพระสงฆ์ทเี่ ชีย่ วชาญ งานธรรมทูตแต่ชราภาพแล้ว ท่านไม่สบายใจกับการฝึ กงานนี้นกั เพราะไม่ได้ฝึกฝนอะไรเลย ต่อมาท่านมีโอกาสเดินทางไปเมืองปัวติเอร์ เพือ ่ หางานธรรมทูตใหม่ทาและได้พบชาวบ้าน ยากจนในบ้านสงเคราะห์คนยากจน ซึง่ ขอร้องให้ทา่ นดูแลพวกเขา ท่านทางานอยูท ่ บ ี่ า้ นคนอยากจนนี้ประมาณ 2 ปี แต่ในทีส่ ด ุ สถานการณ์ บบ ี คน ้ ั ให้ ท่านต้องออกจากบ้านคนยากจนนี้จนได้ ท่านจึงเดินทางไปปารีสเพือ ่ ขอคาปรึกษาจากอธิการ บ้านเณรคนเก่าของท่าน ไม่มใี ครทีป ่ ารีสสนใจท่าน ทุกคนเห็นว่าท่านเป็ นคนแปลกๆ ใส่ เสือ ้ ผ้าแบบคนยากจน ทาตัวไม่เหมือนคนอืน ่ ๆ ในสังคมในสมัยนัน ้ ช่วงวิกฤติทไี่ ม่มผ ี ใู้ ดเหลียวแลนี้ ท่านปลีกวิเวกโดยยึดห้องใต้บ ันไดเก่าๆ ไม่มี เครือ ่ ง ประดับใดๆ เป็ นทีพ ่ กั ในกรุงปารีส ท่านราพึงภาวนาและเขียนหนังสือเล่มแรกของท่าน ้ ขึน คือหนังสือ ชือ ่ “ความรักขององค์ปญ ั ญานิรน ั ดร์” ซึง่ ท่านอธิบายว่าโลกุตระปัญญา คือการ เข้าถึงความรักของพระเป็ นเจ้านัน ้ สูงส่งและเป็ นสิง่ น่ าแสวงหามากกว่าโลกียปัญญาทัง้ หลาย ท่านอยูท ่ ป ี่ ารีสประมาณ 1 ปี นอกจากปลีกวิเวกเขียนหนังสือแล้ว ท่านยังไปช่วยสอนในบ้าน


เณรคณะพระจิตและทางานแพร่ธรรมอืน ่ ๆ ด้วย งานเขียนของท่านมีปรากฏเป็ นหนังสืออยู่ หลายเล่ม ต่อมาบ้านคนจนทีป ่ วั ติเอร์เรียกให้ทา่ นกลับไปช่วยงานอีก ท่านกลับไปและ ทางานอยูท ่ น ี่ ่ น ั อีกประมาณ 2 ปี ก็ตอ ้ งแยกตัวออกมาอีกครัง้ ท่านรูส้ ก ึ สับสนเพราะดูจะทา อะไรได้ไม่ยด ึ ยาว จึงเดินทางไปกรุงโรม เข้าเฝ้ าองค์สมเด็จพระสันตะปาปาเพือ ่ ขออนุญาต ไปทางานเป็ นธรรมทูตในแดนไกล พระสันตะปาปาทรงรับฟังท่าน แต่ทรงแนะนาให้กลับไปแพร่ธรรมในฝรั่งเศส ดังเดิม โดยให้อยูใ่ นโอวาทของพระสังฆราชของเขตนัน ้ ๆ ท่านจึงเดินทางกลับไปฝรั่งเศสและ ไปทีเ่ มืองดีนงั เพือ ่ เข้าร่วมงานธรรมทูตยิง่ ใหญ่ทท ี่ า่ นเคยรูจ้ กั ท่านทางานกับคณะธรรมทูตนี้ ได้ 2 ปี ก็ตอ ้ งแยกตัวออกมาอีก ้ เอง ทางานเทศน์ ท่านเดินทางมาทีเ่ มืองนังต์และเริม ่ ตัง้ กลุม ่ ธรรมทูตของท่านขึน สอนชาวบ้านชนบทของเมืองนี้ ท่านวางแผนการแพร่ธรรมและแบ่งงานกับลูกทีมของท่าน แต่ละหมูบ ่ า้ นทีเ่ ข้าไปแพร่ธรรม กลุ่มของท่านจะมีแผนปฏิบ ัติงานตามตารางเวลา ท่านเริม ่ ประสบผลสาเร็จกับงานแพร่ธรรมและอยูใ่ นเขตเมืองนังต์ 3 ปี ท่านย้ายสนามงานไปทีเ่ ขตเมือง ลา โรแชล และเสริมงานการเทศน์สอนแพร่ ้ ท่านได้ตง้ ั คณะภคินีขน ธรรมด้วยการเริม ่ เปิ ดโรงเรียนการกุศลขึน ึ้ เพือ ่ ช่วยท่านทางานใน โรงเรียนหญิงและกลุม ่ ภราดาให้ชว่ ยดูแลโรงเรียนชาย เนื่องจากท่านยังไม่มผ ี ต ู้ ด ิ ตามทีเ่ ป็ นพระสงฆ์ ท่านจึงเดินทางไปทีเ่ มืองรูอ ัง ในปี ค.ศ. 1713 เพือ ่ ชักชวนเพือ ่ นเก่าผูเ้ ป็ นพระสงฆ์ทน ี่ ี่ให้มาร่วมงานกับท่าน ท่านเองแม้จะมี อายุเพียงต้นๆวัยสีส่ บ ิ แต่ก็รต ู้ วั ว่ากาลังวังชาเริม ่ ถอยลงไปทุกที เมือ่ ชักชวนไม่สาเร็จท่านจึง กลับไปทางานทีเ่ ก่า ในระหว่างการเทศน์แพร่ธรรมทีห ่ มูบ ่ า้ นแซงต์ ลอแรงต์ ท่านล้มป่ วยลง และสิน ้ ใจในปี ค.ศ. 1716 เมือ่ อายุได้เพียง 43 ปี การเดินทางทัง้ หมดในชีวต ิ ของท่านเป็ น การเดินทางด้วยเท้าจริงๆ ศพของท่านถูกฝัง ณ ทีน ่ ี้ พระสงฆ์ทเี่ ทศน์แพร่ธรรมร่วมกับท่านต่างแยกย้ายกัน ไป ณ หมูบ ่ า้ นทีฝ ่ งั ศพของท่านไว้นน ้ ั มีเพียงภราดาองค์เดียวยังคงอยูช ่ ่วยสอนเด็กๆ และดูแล หลุมศพของท่าน กว่าคณะนักบวชทีท ่ า่ นได้กอ ่ ตัง้ มาจะสามารถรวมตัวกันทีแ ่ ซงต์ ลอแรงต์ได้ ก็เมือ่ เวลาล่วงไป 6 ปี นับแต่ทา่ นเสียชีวต ิ ทัง้ นี้ก็โดยความพยายามของซิสเตอร์ มารี หลุยส์ ์ ละพากันมาสวดภาวนาทีห ผูค ้ นต่างเห็นว่าท่านเป็ นผูศ ้ กั ดิส์ ท ิ ธิแ ่ ลุมศพของท่าน ้ เพือ จนเลือ ่ งลือกันไปไกลถึงอัศจรรย์ตา่ งๆ นาๆ ทีเ่ กิดขึน ่ นพระสงฆ์ทท ี่ า่ นไปชักชวนมาร่วม งานเมือ่ ท่านก่อนจะสิน ้ ใจ จึงเดินทางมาดูและเมือ่ ได้ภาวนาขอพระเป็ นเจ้าผ่านทางท่านก็หาย จากโรคร้ายทีเ่ ป็ นอยู่ กอปรได้เป็ นบรรดาฝูงชนทีพ ่ ากันมาสวดทีห ่ ลุมศพของท่านอย่าง เลือ ่ มใส จึงเขียนประวัตข ิ องท่านไว้เป็ นเล่มทีส่ องในราวปี ค.ศ.1724 ท่านได้รบั แต่งตัง้ เป็ นบุญราศี เมือ่ ปี ค.ศ.1888 และได้รบั การสถาปนาเป็ น นักบุญในพระ ศาสนจักรคาทอลิกเมือ่ วันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ.1947 โดยสมเด็จพระ สันตะปาปาปี โอที่ 12


ภราดา ทีไ่ ด้ปฏิญาณตนต่อพระเป็ นเจ้าเพือ ่ ถือ ความยากจน ความบริสท ุ ธิ ์ และความนบนอบ สืบ สานอุดมการณ์ และเจริญรอยตามจิตตารมณ์ และงานที่ ท่านนักบุญหลุยส์ มารี กรีญ อง เดอ มงฟอร์ตได้รเิ ริม ่ ไว้ ภราดาคณะเซนต์คาเบรียล ประกาศตนรับใช้พระเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว (GOD ALONE) ด้วยการอุทศ ิ ตน เสียสละ รับใช้ผอ ู้ น ื่ ดั่งพีน ่ ้อง โดยมุง่ ทีจ่ ะให้บริการศึกษาอบรม ที่ เป็ นความรูท ้ ง้ ั ทางโลกและทางธรรมแก่สงั คม เฉพาะอย่างยิง่ แก่เด็กๆ ทีย่ ากจนในทุกๆ ด้าน และด้อยโอกาสในสังคม ทัง้ นี้ โดย ยึดหลักพระวรสารและอาศัยการศึกษาอบรม ภราดาจึงสามารถนาเด็กและเยาวชนให้มารูจ้ กั สัจธรรม ความจริง และการเข้าถึงธรรมที่ แท้จริง การรูจ้ กั และรักพระเจ้าการเสียสละตนเองทีจ่ ะทางานให้เป็ นประโยชน ์​์ ตอ ่ สังคม และประเทศชาติสบ ื ไป ปรัชญา นักบุญหลุยส์ มารี กรีญอง เดอ มงฟอร์ต ได้สถาปนาคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ้ ในปี ค.ศ.1705 ณ ประเทศฝรั่งเศส เพือ ขึน ่ ดาเนินการจัดการศึกษา โดยมีจุดมุง่ หมาย แรกเริม ่ ทีจ่ ะสอนให้เยาวชนอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็ นและมีหลักศาสนาเป็ นแนวทางให้ ประพฤติตนเป็ นคนดี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานทีโ่ รงเรียนได้ทาการสอนมา ย่อมเป็ นที่ ประจักษ์ แก่สงั คมแล้วว่านักเรียนได้กา้ วออกสูส ่ ังคมภายนอกอย่างมั่นใจ มีความรูด ้ ี มี ระเบียบวินยั สามารถใช้ความรูไ้ ด้ดว้ ยสติ ปัญญาและคุณธรรม โรงเรียนเชือ ่ ว่าการให้ การศึกษาอบรมด้วยเนื้อหาสารัตถะ และค่านิยมทีโ่ รงเรียนยึดถือมาโดยตลอดนัน ้ มี ้ อย่างมีคณ ความสาคญ ั เป็ นอันมากต่อพัฒนาการของบุคคลทีจ่ ะเติบโตขึน ุ ภาพเหมาะสมแก่ยค ุ สมัย โรงเรียนจึงถือเป็ นหน้าทีอ่ น ั สาคญ ั ทีจ่ ะจรรโลงเอกลักษณ์ ของโรงเรียน ในอันทีส่ ร้าง ผูส ้ าเร็จการศึกษาทีม ่ ค ี ณ ุ ภาพ และมีพื้นฐานทีด ่ ีเพือ่ การพัฒนาตนเองให้สอดคล้องเหมาะสม แก่ความต้องการของสังคม โดยมีปรัชญาในการศึกษาดังนี้คอ ื 1. จุดมุง่ หมายของชีวต ิ คือการรูจ้ กั สัจธรรมความจริง และการเข้าถึงธรรมอันสูงส่งอัน เป็ นบ่อเกิดของชีวต ิ 2. มนุษย์ทก ุ คนจะประสบความสาเร็จได้ดว้ ยการทางานอย่างอุตสาหะ วิรยิ ะ ดังปณิธาน ทีว่ า่ “Labor Omnia Vincit” พระพรพิเศษ อบรมสัง่ สอนเยาวชนโดยเฉพาะเยาวชนผูด ้ อ ้ ยโอกาส ( Educators of youth especially youth of the working class ) จิตตารมณ์ ของคณะ เป็ นหนึง่ เดียวกับพระคริสต์ องค์ปญ ั ญานิรน ั ดร์ผท ู้ รงรับเอากายโดยการ: 1. ปรารถนาพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านัน ้


2. ภาวนาเสมอๆ 3. ยินดีพลีกรรม 4. ศรัทธาภักดีอย่างแท้จริงต่อพระแม่มารีอา

วิสยั ทัศน์

ภราดาคณะเซนต์ คาเบรียลผู้ดาเนินชีวิตโดยเป็ นเครื่องมือและเจริญเติบโตทัง้ ครบตามจิตตา รมณ์ นักบุญหลุยส์ มารี เดอ มงฟอร์ ต ภราดาคระเซนต์ คาเบรียล และพระวรสาร พันธกิจ

คณะกรรมการฝ่ ายการฝึ กอบรม ส่ งเสริมกระแสเรียกและฟื้ นฟูจติ ใจ ภราดาคณะเซนต์ คาเบรียล โดยการนาขอพระจิต และวิสัยทัศน์ ภายใต้ ความดูแลของ เจ้ าคณะแขวง และความร่ วมมืออันดีของพระศาสนจักรแห่ งประเทศไทย และทุกคนที่ เกีย่ วข้ องจะ 1.มุ่งเน้ น ตระหนัก และพัฒนาคณะภราดาและผู้สมัครเข้ ารับการอบรมในด้ าน ความเป็ นมนุษย์ และคริสตชนทั้งครบ อีกทั้งการเจริญเติบโตในด้ านของการเป็ นผู้แพร่ ธรรมและ นักบวชทีด่ ี 2.ส่ งเสริมชีวติ ตามจิตตารมณ์ ของพระวรสาร ชีวติ กลุ่ม ชีวติ การแพร่ ธรรม และ ชีวติ ภาวนา 3.เป็ นประจักษ์ พยานถึงการเป็ นผู้รับใช้ และผู้สืบทอดจิตตารมณ์ ของท่ านนักบุญผู้ ก่อตั้งคณะฯ

ประวัติคณะ ปี ค.ศ. 1855 : สมัยรัชกาลที่ 4ได้ทาสนธิสญ ั ญาบราวน์รงิ่ เป็ นการเปิ ดประตูสอ ู่ ารยธรรมตะวันตก พระองค์ ทรงเริม ่ ตัง้ โรงเรียนในวัง (เป็ นการเปิ ดประเทศต่อคลืน ่ อุตสาหกรรม)


สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั กับสมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ าจุฬาลงกรณ์ กรมขุน พินิตประชานาถ

สมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเริม ่ พัฒนาประเทศตามแนวตะวันตก มีการเริม ่ หลายสิง่ หลาย อย่างในสมัยของพระองค์ เช่น ด้านการปกครอง การรถไฟ การไฟฟ้ า การเลิกทาส การ ไปรษณีย์ การศึกษา ฯลฯ

การศึกษาในสมัยรัชการที่ 5

พิธีเปิ ดการเดินรถราง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยูห ่ วั

เนื่องจากไทยเป็ นดินแดนกันชนระหว่างมหาอานาจ คือ อังกฤษและฝรั่งเศส จึง จาเป็ น ต้องเสียดินแดนอันมากมายให้กบั มหาอานาจทัง้ สองเพือ ่ แลกเปลีย่ นกับสิทธิทางศาล ปี ค.ศ.1877 : คุณพ่อเอมิล กอลอมเบต์ พระสงฆ์คณะ MEP (มิสซังต่างประเทศ) ชาวฝรั่งเศสผูเ้ ป็ นเจ้า ้ เพือ อาวาสวัดอัสสัมชัญ บางรัก ได้เปิ ดโรงเรียนไทย-ฝรั่งเศสขึน ่ สอนเด็กกาพร้า ที่ วัดอัสสัมชัญ


ปี ค.ศ. 1879 : คุณพ่อเอมิล กอลมเบต์ ได้เปิ ด แผนกภาษาอังกฤษ มีเด็กมาเรียน 10 กว่า คน คุณพ่อได้เปิ ดโรงเรียนอัสสัมชัญอย่าง เป็ นทางการ ปี ค.ศ.1885: คุณพ่อเอมิล กอลอมเบต์ ท่าน ได้จา้ งครูชาวอังกฤษมาสอน มีเด็กมาเรียน เพียง 33 คน ครูทม ี่ าสอนรูส้ ก ึ ผิดหวัง แต่คณ ุ พ่อกอลมเบต์ก็ได้ให้กาลังใจ ให้ทาการสอนต่อไป ทูตไทยทีล่ อนดอนและปารีส ได้ถวายหนังสือขอเปลีย่ นการปกครองระบอบ ประชาธิป ไตย แด่รชั กาลที่ 5 แต่พระองค์ทา่ นทรงเห็นว่าประชาชนของพระองค์ยงั ไม่พร้อม ้ เพือ่ ฝึ กสอนการปกครองในระบอบ จึงทรงให้ชะลอ ไว้กอ ่ น โดยทรงจัดให้มส ี ภาขึน ประชาธิปไตย ปี ค.ศ. 1988 : ้ ทีว่ ดั อัสสัมชัญ และเมือ่ ถึงปี คุณพ่อเอมิล กอลอมเบต์ ได้เปิ ดบ้านเด็กกาพร้าขึน ค.ศ. 190 0 โรง เรียน อัสสั มชัญ มี นักเรี ยน ทัง้ ห มด 400 คน

การรับเสด็จพระบาทสมเ์็ ด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห ่ วั ในการเสด็จนิวตั พ ิ ระนคร จากการเสด็จประพาสยุโรป ครัง้ ที่ 2


ปี ค.ศ. 1897: รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสยุโรป เพือ ่ ทรงดูงานในประเทศต่างๆ เป็ นเวลาหลายเดือน ปี ค.ศ.1901 : คุณพ่อเอมิลกอลอมเบต์ ได้กลับไปพักรักษาสุขภาพทีก ่ รุง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่าง ทีค ่ ณ ุ พ่อได้ไปเยีย่ ม โรงเรียนของคณะเยสุอต ิ ที่ Rue Vaugirarol คุณพ่อได้ ่ พบกับภราดาคนหนึงชือ ่ Aguilin ทีส่ อนอยูท ่ น ี่ ่น ั คุณพ่อจึง มีโอกาสพูดคุยกันจนได้รจู้ กั คณะภราดาเซนต์คาเบรียล ต่อมาเมือ่ คุณพ่อได้ไปเยีย่ มอัคราธิการทีแ ่ ซงต์ โลรังต์ ซัวร์ จึงได้เชิญชวนให้อ ัคราธิการส่งภราดามาเมืองไทย ภราดาอัคราธิการ มาเซียล ได้ตอบสนองคุณ พ่อกอลมเบต์โดยส่งภราดามาร์ตน ิ เดอตรูส์, ภราดา ฟ.ฮี แลร์, ภราดาอาแบล, ภราดาคาเบรียล เฟอราตี เป็ นชาว ภราดาอัคราธิการมาเซียล( Martial ) ฝรั่งเศส และอีกท่านหนึ่งคือภราดาโอกุส เป็ นชาวแคนาดา เดินทางมาโดยเรือ ภราดาทัง้ 5 ท่าน เหยียบแผ่นดินไทย เมือ่ วันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 1901 ้ ค.ศ.1902 มีภราดามาสมทบอีก 4 ท่าน คุณพ่อเอมิลกอลมเบต์ จึงได้มอบ ครัน ้ ปี รุง่ ขึน โรงเรียนอัสสัมชัญให้ดูแล ภราดามาร์ตน ิ เดอ ตูรส์ อาวุโสทีส่ ด ุ ท่านจึงรับมอบให้เป็ นอธิการ ท่านอายุ 30 ปี เศษ พูดได้แต่ภาษาฝรั่งเศส และลาบากทีจ่ ะเรียนภาษาอืน ่ ท่านมีความสามารถทางด้าน ก่อสร้าง


ปี ค.ศ.1920 :

ภราดา 5 ท่านทีเ่ ข้ามาในประเทศไทย

้ อีก 2 แห่ง คือ เกิดโรงเรียนเพิม ่ ขึน โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สามเสน โรงเรียน เซนต์ปอล แปดริว้ รวมกับอัสสัมชัญ บางรัก เป็ นสามแห่ง จึงได้แต่งเป็ น “ดิสตริค” (แขวง ้ ในปี นี้ ภราดามาร์ตน ย่อย) ขึน ิ เดอตรูส์ จึง ได้รบั แต่งตัง้ ให้เป็ นอัคราธิการเจ้าคณะแขวง ย่อยคนแรกของประเทศไทย

สาหรับภราดา ฟ. ฮีแลร์ มีอายุเพียง 20 ปี ท่านสนใจภาษาไทยมากเป็ นพิเศษจึง ได้หมัน ่ ร่าเรียนภาษาไทยจนแตกฉาน ท่านได้เขียนบทความเป็ นภาษาไทยตีพม ิ พ์ในวารสาร อัสสัมชัญอุโฆษสมัย เล่มแรกในปี ค.ศ. 1913 และได้แต่งหนังสือดรุณศึกษาเพือ ่ สอน เด็กไทย ตีพม ิ พ์ออกมาหลายครัง้ ท่านได้เป็ นปรมาจารย์ทางภาษาไทย ทัง้ นี้เพราะท่านสนใจ ใฝ่ รู้ “ปณฑิตา นญจเสวนา” ปรึกษากับปราชญ์ราชบัญฑิตของไทยเสมอๆ ท่านไม่เคยเป็ น อธิการแต่เป็ นครูฝ่ายปกครอง ป ระจาอยูท ่ โี่ รงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก จนมรณภาพ

ภราดา ฟ.ฮีแลร์ ( Hilaire )

ปี ค.ศ.1911:

ทางคณะฯ ที่ ฝรั่งเศสยังคงส่งกองหนุนมา อย่างสม่าเสมอ ภราดาหลาย ท่านทีม ่ าเมืองไทยในช่วง ต้นๆ ก็มาเสียชีวต ิ ตัง้ แต่อายุ ยังน้อย เนื่องจากโรคภัยไข้ เจ็บต่างๆ หลายท่านต้อง กลับไปรักษาสุขภาพทีย่ ุโรป บางท่านกลับไปเสียชีวต ิ ที่ นั่น สาเหตุก็เพราะอากาศ อาหารการกินอยูท ่ น ี ่ ีต ่ ่างกัน กับทางยุโรป จนมีคากล่าว ว่า “มาอยูเ่ มืองไทย 1 ปี ต้อง คิดอายุเป็ น 2 ปี ” วารสารอัสสัมชัญอุโฆษสมัย

ทางคณะสงฆ์ของมิสซังกรุงเทพฯ ได้ขอให้ภราดาไปช่วยดูแลโรงเรียนเซนต์แมรี่ ที่ จันทบุรี เมือ่ ไปถึงท่านเจ้าอาวาสทีน ่ ่น ั ไม่พอใจ เพราะไม่ได้รบั การปรึกษาไว้กอ ่ นจึงเป็ น เหตุให้เกิดการบาดหมางกับภราดาเรือ่ ยมา ท้ายทีส่ ด ุ ภราดาก็ตอ ้ งถอนตัวเมือ่ สองปี ให้หลัง


ปี ค.ศ.1912: ภราดาฮิวเบิร์ตได้เปิ ดสอนพิมพ์ดด ี ้ ขึนทีโ่ รงเรียนอัสสัมชัญ และภราดาโรเกชั่นมารับ ช่วง งาน ต่อมาอีก 17 ปี ประเทศไทยเริม ่ ทา ้ อาชีพเสมียนเป็ นทีต การค้าเพิม ่ ขึน ่ อ ้ งการมาก ้ ภราดาจึงต้องเริม ขึน ่ ตอบสนองความต้องการ ้ อย่างรวดเร็ว จึง ของสังคมไทย ทีก ่ าลังพัฒนาขึน ้ เปิ ดสอนพิมพ์ดีดขึน หนังสือดรุณศึกษา

ปี ค.ศ.1901-1913 :

ภราดาฝรั่งเศสได้เดินทางมาเมืองไทยทัง้ หมด 29 องค์ หลังจากนัน ้ เป็ นช่วง สงครามโลกครัง้ ที่ 1 กาลังหนุนภราดาจากฝรั่งเศสหมดลง ปี ค.ศ.1920-1973: ภราดาสเปน ได้เดินทางมาเมืองไทยจานวน 29 องค์ จากนัน ้ กาลังหนุนภราดา จากสเปนก็หมดลงอีก ทัง้ นี้เพราะสงครามกลางเมืองในสเปนได้คร่าชีวต ิ ภราดาในสเปนถึง 49 องค์ ปี ค.ศ.1920 : ้ ทีอ่ าเภอดุสต วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เปิ ดโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ขึน ิ ถนนสามเสน มี เด็กนักเรียนลงทะเบียน 141 คน สาเหตุทเี่ ปิ ดโรงเรียนเซนต์คาเบรียลก็เพราะมีเด็กสมัคร เรียนทีโ่ รงเรียนอัสสัมชัญบางรักมากเกินไป ในปี เดียวกันนี้เองได้เปิ ดโรงเรียนเซนต์ปอล แปดริว้ ด้วย โรงเรียนนี้ตง้ ั อยูค ่ นละฝั่งกับเมืองแปดริว้ (จังหวัดฉะเชิงเทรา) ในหมูบ ่ า้ น คาทอลิก เด็กมาสมัครเรียนน้อย ต้องรอจนภราดาลูโดวิโก มารีอา มาประจา และเริม ่ วง ้ ดุรยิ างค์และกลุม ่ นักขับร้อง เด็กจึงสมัครเรียนเพิม ่ ขึน เนื่องจากมีบา้ นนักบวชเพิม ่ การปกครองจึงได้ตง้ ั เป็ น“ดิสตริคไทย” (แขวงย่อย ้ และให้มเี จ้าคณะแขวงย่อยปกครอง ไทย) ขึน

โรงเรี ยน 1. โรงเรียนอัสสัมชัญ (แผนกประถม) 2. โรงเรียนอัสสัมชัญ (แผนกมัธยม) 3. โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ (ปี 1-5) 4. โรงเรียนเซนต์คาเบรียล (ประถม 1-มัธยม 6)


5. โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี (ประถม 1-มัธยม 6) 6. โรงเรียนอัสสัมชัญสาโรง (ประถม 1-มัธยม 6) 7. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เปิ ดสอนระดับปริญญาตรี-โท และ เอก รวม 65 สาขาวิชา) 8. โรงเรียนมงฟอร์ต เชียงใหม่ (แผนกประถม) 9. โรงเรียนมงฟอร์ต เชียงใหม่ (แผนกมัธยม) 10.โรงเรียนอัสสัมชัญ ลาปาง (อนุบาล-มัธยม 6) 11. โรงเรียนอัสสัมชัญ นครราชสีมา (อนุบาล-มัธยม 6) 12. โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ นครราชสีมา (ปี 1-3) 13. โรงเรียนอัสสัมชัญ อุบลราชธานี (อนุบาล-มัธยม 6) 14. โรงเรียนอัสสัมชัญ เทคนิค นครพนม (ปี 1-2) 15. โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา (อนุบาล-มัธยม 3) 16. โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา (อนุบาล-มัธยม 6) 17. โรงเรียนอัสสัมชัญ ระยอง (อนุบาล-มัธยม 6)

ลาดับ สถาบัน 1. โรงเรียนอัสสัมชัญ (AC) 2. โรงเรียนเซนต์คาเบรียล (SG) โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม 3. (MC) 4. โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ (ACC) 5. โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา (ACS) 6. โรงเรียนเซนต์หลุยส์ (SL) 7. ยุวลัยเซนต์หลุยส์ แมรี่ (SLJ)

ทีต ่ ง้ ั

ปี ทีก ่ อ ่ ตัง้

กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ

1885 1920

เชียงใหม่

1932

กรุงเทพฯ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี

1939 1944 1948 ์ี 1948


8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. 23. 24.

มูลนิธค ิ ณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศ ไทย(SGF ) โรงเรียนอัสสัมชัญลาปาง (ACL) โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี (ACT) โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง (ACR) โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี (ACU) โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา (ACN) โรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม (ACP) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (AU,ABAC) โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกประถม (MCP) โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ (ACSP) บ้านนักศึกษาเซนต์คาเบรียล (SGS) นวกสถาน เดอ มงฟอร์ต (MNS) โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ นครราชสีมา(ACCN ) ศูนย์พฒ ั นาบุคลากรอัสสัมชัญ (APDC ) โรงเรียนอัสสัมชัญเทคนิคนครพนม (ATSN) สมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าสถาบันเครือ (CGA) สมาพันธ์สมาคมผูป ้ กครองฯสถาบันใน เครือฯ (CGPTA )

กรุงเทพฯ

1953

ลาปาง กรุงเทพฯ ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ

1958 1961 1963 ์ี 1965 1967 1967 1969

เชียงใหม่

1970

สมุทรปราการ

1979

นครปฐม เชียงใหม่

1983 ์่1985

นครราชสีมา

1993

กรุงเทพฯ

1996

นครพนม

1998

กรุงเทพฯ

1999

กรุงเทพฯ

1999


ั .:: ตราสญล ักษณ์ของภราดาคณะเซนต์คาเบรียล ::. ตรานี้เป็ นเครือ ่ งแสดงเอกลักษณ์และความสามัคคีของบรรดาสมาชิก อัสสัมชัญและมีความสาคัญมากในฐานะเป็ นทีร่ วมหัวใจหลายพันหลาย หมืน ่ ไว ้ให ้อยู่ ภายใต ้สานึกแห่งการประพฤติปฏิบต ั ริ ว่ มกัน ซึง่ ความหมายของตราสัญลักษณ์ มีดังนี้ โล่ หรือ Coat of Arms ทีอ ่ ยูใ่ จกลางของตรานี้เป็ นเครือ ่ งหมายแสดง เกียรติประวัต ิ อันยาวนานและยั่งยืนของสถาบันภราดาและคณะเซนต์คาเบรียล ่ มโยงกัน ดังนี้ ภายในเป็ นโล่ แบ่งเป็ น 4 ส่วน ซึง่ มีความหมายเชือ

ี าว คาว่า A.M. คือ Ave Maria (ภาษาละติน) A.M. และช่อดอกลิลลีส ่ ข ่ ของมารดาของพระเยซูคริสต์ Maria เป็ นชือ Ave Maria ตรงกับภาษาไทย ว่าวันทาแม่มารี ่ ดอกลิลลีส ี าว เป็ นเครือ ชอ ่ ข ่ งแสดงถึงความบริสท ุ ธิ์

รูปเรือใบ เปรียบได ้กับ "นาวาชวี ต ิ " ของคนเราทีจ ่ ะต ้องฝ่ าฟั นอุปสรรคต่าง ๆ เหมือนเรือทีจ ่ ะต ้องฝ่ าลมมรสุม แดด และฝนในท ้องทะเลมิให ้อับปางไปจนถึงฝั่ ง เป็ นคติให ้ได ้ คิดเสมอว่า "ชวี ต ิ คือการต่อสู ้ " ดวงดาว และ เรือพาย หมายถึง แสงแห่งความหวังซึง่ มีศาสนาเป็ นแสงธรรม และสรรพวิทยาทีไ่ ด ้รับจาก โรงเรียนเป็ นแสงแห่งปั ญญา รวมกันเป็ นดุจดวงประทีปนาทาง ชีวต ิ ของคนเราให ้เดินหน ้าบรรลุจด ุ หมายของชีวต ิ

อักษรโรมันตัว D และ S D-Divinity หมายถึง ศาสนา ทุกคนต ้องมีศาสนาเป็ นเครือ ่ งยึดเหนี่ยวจิตใจ S-Science หมายถึง วิทยาการ ความรู ้ทีม ่ เี หตุผล ทีท ่ ก ุ คนต ้องขนขวาย เครือ ่ งหมายกางเขน เป็ นเครือ ่ งหมายแสดงถึงความเสียสละและความรัก ดอกไม้ และ กิง่ Olive ทีป ่ ระดับรองโล่นัน ้ เป็ นมาลัยเกียรติยศทีจ ่ ะเตือนใจทุกคน ่ ่ ให ้กระทาความดี เพือ ่ เชิดชูและจรรโลง ไว ้ซึงเกียรติยศชือเสียงของตนเองและสถาบัน ให ้มัน ่ คงยั่งยืน ดังคาว่า "Labor Omnia Vincit" (LaborConquers All Things) ่ Brothers of St. Gabriel เป็ นคติพจน์ (motto) ทีอ ่ ยูใ่ ต ้ชือ ประจาใจของสมาชิกในครอบครัวทีจ ่ ะต ้องมี ความวิร ิยะอุตสาหะ ซงึ่ จะนามาแห่งความสาเร็จ

50x50 cm 150pixel View - ruler


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.