fgtfkldfgokiopk

Page 1

รายงาน เรื่อง ความหมายคอมพิวเตอร์ จัดทาโดย นาย วิศรุต กุลสุวรรณ์

แผนกวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิก

เสนอ อาจารย์ ชูเกียรติ วงศ์โชติวนิช

วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี 2/2555


คานา ผู้จัดทาได้เลือก หัวข้อนี้ในการทารายงาน เนื่องมาจากเป็นเรือ่ งที่น่าสนใจ รวมถึงเป็นการให้ความรู้น้องๆ และ ความฉลาดของ บรรพบุรุษ ผู้จดั ทาหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

นาย วิศรุต กุลสุวรรณ์ ปวช.3 คอมพิวเตอร์กราฟิก


สารบัญ เรื่อง คอมพิวเตอร์คืออะไร

หน้า 1

ความหมายของคอมพิวเตอร์

1-2

การทางานของคอมพิวเตอร์

2-3

ขั้นตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input) ขั้นตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process) ขั้นตอนที่ 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output)

ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์

3-4

1. หน่วยเก็บ (Storage) 2. ความเร็ว (Speed) 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) 4. ความน่าเชือ่ ถือ (Sure)

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

4-5


คอมพิวเตอร์คืออะไร คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาททีส่ าคัญยิง่ ต่อสังคมของมนุษย์เราในปัจจุบัน แทบทุกวงการล้วนนาคอมพิวเตอร์เข้าไปเกีย่ วข้อง กับการใช้งาน จนกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยทีส่ าคัญอย่างยิง่ ต่อการดาเนินชีวิตและการทางานในชีวิตประจาวัน ฉะนั้น การเรียนรู้เพื่อทาความรู้จกั กับคอมพิวเตอร์จงึ ถือเป็นสิง่ ที่มีความจาเป็นเป็นอย่างยิง่

เพื่อที่จะทราบว่าคอมพิวเตอร์คอื อะไร ทางานอย่างไร และมีความสาคัญต่อมนุษย์อย่างไร เราจึงควรทาการศึกษาในหัวข้อ ต่อไปนี้ 

ความหมายของคอมพิวเตอร์

การทางานของคอมพิวเตอร์

ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคานวณ พจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครือ่ งอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทาหน้าที่เหมือน สมองกล ใช้สาหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"


คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครือ่ งจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถกู สร้างขึน้ เพื่อใช้ทางานแทนมนุษย์ ในด้านการคิดคานวณและสามารถจาข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพือ่ การเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดย ปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยงั มีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทาง ตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครือ่ งและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้

การทางานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม จะมีลักษณะการทางานของส่วนต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กันเป็นกระบวนการ โดยมี องค์ประกอบพื้นฐานหลักคือ Input Process และ output ซึ่งมีขนั้ ตอนการทางานดังภาพ

ขั้นตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input)


เริ่มต้นด้วยการนาข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถผ่านทางอุปกรณ์ชนิดต่างๆ แล้วแต่ชนิดของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป เช่น ถ้าเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์ (Keyboard) เพื่อพิมพ์ข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง ถ้าเป็นการ เขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัดภาพกราฟิค (Graphics Tablet) โดยมีปากกาชนิดพิเศษสาหรับเขียนภาพ หรือถ้าเป็น การเล่นเกมก็จะมีก้านควบคุม (Joystick) สาหรับเคลือ่ นตาแหน่งของการเล่นบนจอภาพ เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process) เมื่อนาข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะดาเนินการกับข้อมูลตามคาสั่งที่ได้รบั มาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ ต้องการ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายอย่าง เช่น นาข้อมูลมาหาผลรวม นาข้อมูลมาจัดกลุ่ม นาข้อมูลมาหาค่ามากทีส่ ุด หรือน้อยทีส่ ุด เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output) เป็นการนาผลลัพธ์จากการประมวลผลมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่กาหนดไว้ โดยทัว่ ไปจะแสดงผ่านทางจอภาพ หรือเรียก กันโดยทั่วไปว่า "จอมอนิเตอร์" (Monitor) หรือจะพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใช้เครื่องพิมพ์ก็ได้

ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ถกู สร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการ เพื่อทดแทนข้อจากัดของมนุษย์ เรียกว่า 4 S special ดังนี้

1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจานวนมากและเป็นเวลานาน นับเป็น จุดเด่นทางโครงสร้างและเป็นหัวใจของการทางานแบบอัตโนมัติของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ทั้งเป็นตัวบ่งชีป้ ระสิทธิภาพของ คอมพิวเตอร์แต่ละเครือ่ งด้วย

2. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (Processing Speed)


โดยใช้เวลาน้อย เป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่ผใู้ ช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เป็นตัวบ่งชีป้ ระสิทธิภาพของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ที่สาคัญส่วนหนึง่ เช่นกัน

3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลตามลาดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มสี ่วน เกี่ยวข้องเฉพาะในขั้นตอนการกาหนดโปรแกรมคาสัง่ และข้อมูลก่อนการประมวลผลเท่านั้น

4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ทถี่ ูกต้อง ความน่าเชื่อถือนับเป็นสิง่ สาคัญทีส่ ดุ ในการทางานของเครือ่ ง คอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคาสั่งและข้อมูลที่มนุษย์กาหนดให้กับเครือ่ งคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือ หากมนุษย์ปอ้ นข้อมูลที่ไม่ถกู ต้องให้กบั เครื่องคอมพิวเตอร์กย็ ่อมได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถกู ต้องด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการ ทาให้ถูกนามาใช้ประโยชน์ตอ่ การดาเนินชีวิตประจาวันในสังคมเป็นอย่าง มาก ที่พบเห็นได้บ่อยทีส่ ุดก็คอื การใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซึ่งเรียกว่างาน ประมวลผล ( word processing ) นอกจากนีย้ ังมีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ อีกหลายด้าน ดังต่อไปนี้

1. งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการทาบัญชี งานประมวลคา และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนีง้ านอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่กใ็ ช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการ ควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งทาให้การผลิตมีคุณภาพดีขนึ้ บริษทั ยังสามารถรับ หรืองานธนาคาร ที่ให้บริการถอนเงินผ่านตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ ( ATM ) และใช้คอมพิวเตอร์คิด ดอกเบี้ยให้กบั ผู้ฝากเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชี เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย 2. งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในนามาใช้ในส่วนของการคานวณที่ ค่อนข้างซับซ้อน เช่น งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถีการโคจรของการส่งจรวดไปสู่อวกาศ หรืองานทะเบียน การเงิน สถิติ และ เป็นอุปกรณ์สาหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซึ่งจะให้ผลทีแ่ ม่นยากว่าการตรวจด้วยวิธีเคมีแบบเดิม และให้การรักษาได้รวดเร็วขึน้


3. งานคมนาคมและสือ่ สาร ในส่วนที่เกีย่ วกับการเดินทาง จะใช้คอมพิวเตอร์ในการจองวันเวลา ทีน่ ั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไป ยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได้ ทาให้สะดวกต่อผู้เดินทางที่ไม่ตอ้ งเสียเวลารอ อีกทัง้ ยังใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการสื่อสารก็ใช้ควบคุมวงโคจรของดาวเทียมเพื่อให้อยูใ่ นวงโคจร ซึ่ง จะช่วยส่งผลต่อการส่งสัญญาณให้ระบบการสือ่ สารมีความชัดเจน 4. งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบ หรือ จาลองสภาวการณ์ ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยคอมพิวเตอร์จะคานวณและแสดงภาพสถานการณ์ ใกล้เคียงความจริง รวมทั้งการใช้ควบคุมและติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น คนงาน เครือ่ งมือ ผลการทางาน 5. งานราชการ เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากทีส่ ุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบ ทั้งนีข้ ึ้นอยูก่ ับบทบาทและหน้าที่ ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ , กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพือ่ เชือ่ มโยงไปยังสถาบันต่างๆ , กรมสรรพากร ใช้จัดในการจัดเก็บภาษี บันทึก การเสียภาษี เป็นต้น 6. การศึกษา ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนาคอมพิวเตอร์มาช่วยการสอนในลักษณะ บทเรียน CAI หรืองานด้านทะเบียน ซึ่งทาให้สะดวกต่อการค้นหาข้อมูลนักเรียน การเก็บข้อมูลยืมและการส่งคืนหนังสือ ห้องสมุด


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.