Magazine2

Page 1


วารสารประชาสั มพันธ์

“พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นแม่และครูแห่งแผ่นดิน” แด่ สมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ิ์ฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคณ ุ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ปวงชนชาวไทย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยอุตสาหะ ทั้งในพระราชอิสริยยศที่ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถของไทย ทรง เป็นคู่พระบารมี คู่พระราชหฤทัยแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภาระ ด้วยทรงตระหนักในพระ ราชหฤทัยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว มีพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะสืบทอดพระราชภารกิจของสมเด็จพระบุรพ มหากษัตริ ยาธิราชเจ้าในการที่จะเป็นที่พึ่งบาบัดทุกข์บารุงสุขของราษฎร โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา อีกทั้ง พระอัจฉริยภาพด้านการศึกษาเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ทรงเป็นครูของพระราชโอรสและพระราชธิดา และทรง สงเคราะห์ประชาชนด้านการศึกษานานัปการ นอกจากนี้ ยังทรงเป็นครูของผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ทรงส่งเสริมการศึกษา แก่ราษฎรผู้ด้อยโอกาส โดยทรงสอนหนังสือแก่ราษฎรด้วยพระองค์เองในโอกาสที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยูห่ ัวไป ทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันบริสุทธ์ มิได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง แก่ผู้ใด กลุ่มใด แต่ทรงมีแต่ให้ อันเป็นคุณลักษณะเด่นแห่งความเป็นครู จึงทรงเป็น “ครู” เป็น “สิร”ิ เป็น และ“ศรี” แผ่นดินไทยโดยแท้ ควรอย่างยิ่งทีค่ รูทั้งหลายจะได้ระลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ดาเนินตามรอยพระยุคลบาทด้วยความมุ่งมั่น ทาหน้าที่ของครูให้สมบูรณ์ เพื่อร่วมกันสร้าง “มนุษย์” ที่สมบูรณ์ต่อไป


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 3

ผอ.เขต

พบเพือ่ นครูและบุคลากรทางการศึกษา

ปี งบประมาณ

2556 ผ่านไปอีกหนึ่งปีงบประมาณที่ผมได้ปฏิบัตริ าชการในฐานะ ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจาก เพื่อนพ้อง น้องพี่ ผู้ร่วมวิชาชีพทุกกลุ่มเป็นอย่างดีทั้งผูบ้ ริหารโรงเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ ลูกจ้างประจา ลูกจ้างชั่วคราว ตลอดจนคณะกรรมการที่ให้การสนับสนุนการ ทางานเขตพื้นที่การศึกษา ทาให้การขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสัมฤทธิ์ผลไปได้ในระดับหนึ่ง ทั้งในด้านการ บริหารงานวิชาการ ด้านบริหารงานบุคคล ด้านการบริหารการเงิน และด้านบริหารงานทั่วไป แต่ก็ ยังมีอีกหลายส่วนที่จะยังคงต้องเร่งพัฒนา และปรับปรุงการทางานเพื่อผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่าต่อไป ในการนี้ อยากเชิญชวนทุกท่าน ในแวดวงการศึกษา ได้ร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดและ วิธีการทางานให้บรรลุผลสาเร็จโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ไปที่เด็กหรือผู้เรียนเป็นสาคัญ เพราะหลักการ ทางานในทุกประเด็นในเบื้องต้น สามารถมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือ“การพัฒนาคุณภาพการศึกษา สาหรับเด็กหรือผู้เรียน”นั่นเอง และร่วมช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างกัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ พัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กับเติบโตไปด้วยกัน พร้อมสร้างสรรค์สังคมที่ ดีงามตลอดไป

นายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

“รักและพัฒนาสานักงาน ให้เหมือนบ้าน รักครูอาจารย์ เสมือนญาติมิตร รักศิษย์ ประดุจลูกหลาน”


หน้า 4

บทบรรณาธิการ

วัสดีครับทุกท่าน...

พบกันฉบับที่ 2 วารสารสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 ฉบับนี้ เป็น การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว แวดวงการศึกษาช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน 2556 และถือเป็นการส่งท้ายของปีงบประมาณ 2556 ทุกๆ ปี จะมีครูและบุคลากรเกษียณอายุ ราชการไปตามวาระ ปีนี้ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 มีผู้เกษียณอายุ ราชการ 36 คน ข้าราชการครู 31 คนลูกจ้างประจา 5 คน ทุกคนล้วนแต่เป็นพลังสาคัญอย่างยิ่ง ในการขับเคลื่อนให้งานทุกส่วนของ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 ก้าวไป อย่างมีคุณภาพแม้ว่าทุกคนจะได้อาลาชีวิตราชการ แต่ผลงานของทุกท่านก็จะปรากฏอย่างเป็น รูปธรรมเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี

“อย่าสวดมนต์ เพื่อขอสิ่งใด นอกจากปัญญา และความกล้าหาญ” (36 แผนที่ชีวติ พ่อ)

ขอให้ทุกท่านมีพลังกาย พลังใจ ใช้ชีวิตหลังเกษียณ อย่างมีความสุขกับลูกหลาน และ บุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัว และเป็นที่เคารพนับถือของคนในสังคมต่อไป ส่วนพวกเรา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จะต้องผนึกกาลังขับเคลื่อนการจัดการศึกษาที่ เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนอย่างแท้จริงตามนโยบาย เป้าหมาย และจุดเน้นของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ต่อไป

นายณรงค์ สุราลัย รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 5

ผอ.เขตพบเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา............... บทบรรณาธิการ............................................................... เสริมความรู้จากอานวยการ............................................. การลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ....................... สาระน่ารู้จากหน่วยตรวจสอบภายใน.............................. เครื่องราชอิสริยาภรณ์...................................................... ทางเลือก กบข................................................................. ความสาคัญของเอกสารหลักฐานทางการศึกษา............... วางแผนพัฒนาการศึกษา กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2558................................................................................ กฎหมายน่ารู้.................................................................... การศึกษาในศตวรรษที่ 21............................................... เล่าด้วยภาพ..................................................................... รายนามผู้เกษียณอายุราชการ พ.ศ.2556........................

3 4 6 7 8 9 10 12 13 14 16 17 20

คณะที่ปรึกษา 1. ผอ.ปราโมทย์ ภูมิพนั ธ์ 2. นายณรงค์ สุราลัย 3. นางจินตนา มูลสาร 4. นางเบญจมาตย์ ฦๅชา 5. นายศุภกฤต ไกรสกุล บรรณาธิการ

ผอ.สพม.เขต 21 รอง ผอ.สพม.เขต 21 รอง ผอ.สพม.เขต 21 รอง ผอ.สพม.เขต 21 รอง ผอ.สพม.เขต 21

1. นายณรงค์ สุราลัย

รอง ผอ.สพม.เขต 21

1. เพื่อเผยแพร่ข่าวสารความเคลื่อนไหว ของหน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษาในสังกัด สพม.เขต 21 สู่สาธารณชน

ผู้อานวยการกลุ่มอานวยการ นักประชาสัมพันธ์ชานาญการพิเศษ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ

2. เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของโรงเรียน นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึก ษาในสังกัด

ผู้ช่วยบรรณาธิการ 1. นายณัฐนนท์ ไชยสิทธิ์ 2. นางสิริมา สอนคาหาญ 3. นางสาวจามจุรี ฉลาดแย้ม กองบรรณาธิการ

1. นายสัจสิฏฐ์ ถินทะสิทธิ์ 2.นายสมฤกษ์ ใจขาน 3. นางนรมน ไกรสกุล 4.นางผ่องศรี ทับทิมทอง ผู้อานวยการกลุ่ม 7 กลุม่ 1 หน่วย 1. นางสาวดรุณสวาท มูลการ 2.นางกัญญา โทสาลี 3. นางชนานันท์ สุคันทา 4.นายมนตรี ก้องเวหา 5. นายวิทยา พันธุระ 6.นายณัฐนนท์ ไชยสิทธิ์ 7. นางวิไลลักษณ์ ณ หนองคาย ประธานสหวิทยาเขต 10 สหวิทยาเขต 1. นายชัยรัตน์ หลายวัชระกุล 3. นายสุรเดช บัวหลวง 5. นายนภดล ผดุงศรี 7. นานศักดาเดช ทาซ้าย 9. นายมงคล พระนคร

2.นายธานินทร์ อยู่ศิริ 4.นายปรีชา ตึงตระกูล 6.นายพัลลภ ปู่วัง 8.นายสุพกิจ กงบุราณ 10.นายคอมฉันท์ นาเมืองรักษ์

3. เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลีย่ นเรี ยนรู้และเป็นสื่อสัมพันธ์อันดีระหว่างห น่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและผู้เกี่ยวข้อง


หน้า 6

เสริมความรู้...จากอานวยการ

วารสารประชาสัมพันธ์

โดย : นายณัฐนนท์ ไชยสิทธิ์ ผอ.กลุ่มอานวยการ

นโยบายการศึกษา นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 1. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบให้สัมพันธ์เชื่อมโยงกัน 2. ปฏิรูประบบผลิตและพัฒนาครู 3. เร่งนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ในการปฏิรูปการเรียนรู้

“ความดี เท่านัน้ ที่ทาให้คนเป็นคน”

4. พัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษาให้มีมาตรฐานเทียบได้กับระดับสากล ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของประเทศ 5. ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาเร่งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน มากกว่าการขยายเชิงปริมาณ 6. ส่งเสริมให้เอกชนและทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดและสนับสนุนการศึกษามากขึ้น 7. เพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างมีคณ ุ ภาพ 8. พัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ยอมรับความ ผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตาหนิ และรู้แก่ใจว่า เป็นจริง (36 แผนที่ ชีวิต พ่อ )

นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายและกลไกการขับเคลื่อน เพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้สามารถคิด วิเคราะห์ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และทักษะที่จาเป็นสาหรับ ศตวรรษที่ 21 โดยภายในปี พ.ศ. 2558 จะต้องให้ผลการทดสอบ PISA ของไทย ให้อยู่ในอันดับที่ดีขึ้น ให้ สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาต่อสามัญเพิ่มขึ้นเป็น 50 : 50 ให้มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับโลกมากขึ้น และให้มีการกระจายโอกาสและเพิ่มความเสมอภาคทางการศึกษามากขึ้น โดยเน้นการส่งเสริมให้ ภาคเอกชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบจัดและสนับสนุนการศึกษามากขึ้น ที่มา : http://www.moe.go.th/websm/2013/jul/224.html


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

การลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ

หน้า 7

โดย : นางกัญญา โทสาลี ผอ.กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์

ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข้อ 152 เมื่อเจ้าหน้าที่พัสดุ ได้รับมอบพัสดุ เรียบร้อยแล้ว ให้ดาเนินการ ดังนี้ 1. ลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ แล้วแต่กรณี แยกเป็นชนิด และแสดงรายการ ตามตัวอย่างที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ ( กวพ.) กาหนด โดยมีหลักฐานการรับเข้าบัญชีหรือ ทะเบียนไว้ประกอบรายการเป็นหลักฐาน 2. สาหรับพัสดุประเภทอาหารสด จะลงรายการอาหารสดทุกชนิดในบัญชีเดียวกันก็ได้ 3. เก็บรักษาพัสดุให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และให้ครบถ้วน ถูกต้องตรงตาม บัญชี หรือทะเบียน 4. เจ้าหน้าที่พัสดุจะต้องปฏิบัติตามหนังสือสานักงบประมาณ ด่วนทีส่ ุดที่ นร 0702/ว51 ลงวันที่ 20 มกราคม 2548 เรื่อง หลักการจาแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณ ที่กาหนดว่า อะไรเป็นวัสดุ อะไรเป็นครุภัณฑ์ เพื่อประโยชน์ในการลงบัญชี หรือลงทะเบียนควบคุมทรัพย์สิน 5. กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือที่ กค 0410.3/ว 48 ลงวันที่ 13 กันยายน 2549 เรื่องการ บันทึกบัญชีวัสดุ หรือครุภณ ั ฑ์ ไว้ดังนี้ - วัสดุ หมายถึง ทรัพย์สินที่หน่วยงานมีไว้เพื่อใช้ดาเนินงานตามปกติ โดยทั่วไปมีมลู ค่าไม่ สูงและไม่มลี ักษณะคงทนถาวร เช่นวัสดุสานักงานเป็นต้น - ครุภัณฑ์ หมายถึง สินทรัพย์ที่หน่วยงานมีไว้เพื่อใช้ในการดาเนินงาน มีลักษณะคงทน และมีอายุการใช้งานเกินกว่า 1 ปี โดยบันทึกรายละเอียดของครุภณ ั ฑ์ในทะเบียนคุมทรัพย์สิน และ ให้คานวณ ค่าเสื่อมราคาประจาปีด้วย -สาหรับวัสดุที่มีมูลค่าไม่ถึง 5,000.-บาท และมีลักษณะคงทนถาวร ให้บันทึกเป็น ค่าใช้จ่ายประเภทครุภัณฑ์มูลค่าต่ากว่าเกณฑ์และให้บันทึกวัสดุดังกล่าว ในทะเบียนคุมทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์ ในการควบคุมรายการทรัพย์สินของทางราชการ โดยไม่ต้องคานวณค่าเสื่อมราคา ประจาปี 6. วัสดุต่ากว่า 5,000.-บาท ให้บันทึกในบัญชีวัสดุตามแบบเดิม ที่ กวพ.กาหนด 7. ใช้ทะเบียนคุมทรัพย์สินสาหรับบันทึกควบคุมครุภณ ั ฑ์และวัสดุที่มีลักษณะคงทนถาวร ซึ่งมีราคา ต่อหน่วยไม่เกิน 5,000.-บาท 8. ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ให้ขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ ตาม พรบ.ที่ราชพัสดุ ตามที่กรมธนา รักษ์กาหนด

“ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติ ที่สาคัญ ในการดาเนินชีวิต” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“เป็นหน้าที่ของ เราที่จะพูดให้ค น อื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของ คนอื่ นที่จะทา ความเข้าใจสิ่งที่ เราพูด ” (36 แผนที่ ชี วิ ต พ่ อ )


วารสารประชาสัมพันธ์

หน้า 8

สาระน่ารู้จากหน่วยตรวจสอบภายใน โดย : นางวิไลลักษณ์ ณ หนองคาย ผอ.หน่วยตรวจสอบภายใน

เงินประกันสัญญา

“หนังสือเป็นศูนย์รวม ปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือน ละเล่ม” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นล้วน ตามใจตัวเองทั้งสิ้น ” (36 แผนที่ ชี วิตพ่ อ )

เงินประกันสัญญาเป็นเงินนอกงบประมาณ ประเภทหนึ่งที่โรงเรียนรับจากผู้ขายหรือผูร้ ับจ้าง เมื่อทาสัญญาซื้อหรือสัญญาจ้าง ในอัตราร้อยละ 5 ของวงเงินในสัญญา เพื่อเป็นการประกันความ เสียหาย ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ผู้ขายหรือผู้ รับจ้างไม่ปฏิบัตติ ามสัญญา เงินประกันสัญญาใช้ หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ 1.เงินสด 2.เช็คที่ธนาคารสั่งจ่าย ซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ที่ ใช้เช็คนั้นชาระต่อเจ้าหน้าที่หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 3 วันทาการ 3.หนังสือค้าประกันของธนาคาร ภายในประเทศตามตัวอย่างที่ กวพ. กาหนด 4.พันธบัตรรัฐบาลไทย เมื่อสถานศึกษารับเงินประกันสัญญา จะต้อง นาเงินฝากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และเมื่อ พ้นกาหนดข้อผูกพันตามสัญญา สถานศึกษาต้อง จ่ายคืนผู้ขายหรือผู้รับจ้างโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่พ้นข้อผูกพันตามสัญญา (สาหรับหลักประกันสัญญาที่เป็นพันธบัตรหรือ สัญญาค้าประกันของธนาคารไม่ตอ้ งปฏิบัติตาม ขั้นตอนข้างล่าง) ขั้นตอนการรับเงินประกันสัญญา ให้ออกใบเสร็จรับเงินโดยใช้ใบเสร็จรับเงิน ตามแบบของทางราชการ แล้วบันทึกรายการรับ เงินในทะเบียนคุมเงินนอกงบประมาณประเภท เงินฝาก ขั้นตอนการฝากเงินประกันสัญญา 1.กรณีนาฝากส่วนราชการผู้เบิก -จัดทาใบนาฝากส่วนราชการผู้เบิกจานวน 2 ฉบับ -บันทึกการฝากในสมุดคู่ฝากส่วนราชการผู้เบิก และทะเบียนคุมเงินนอกงบประมาณประเภทเงิน ฝาก -นาใบนาฝากและสมุดคู่ฝาก พร้อมเงินประกัน สัญญายื่นต่อสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2.กรณีนาฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่เปิดเพื่อการนี้

-จัดทาใบนาฝากธนาคาร (Pay in slip) แล้วนา เงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาที่ธนาคารกรุงไทย -บันทึกการฝากในสมุดคู่ฝากส่วนราชการผู้เบิก พร้อมทั้งหมายเหตุว่า นาฝากเข้าบัญชี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และบันทึกการ ฝากในทะเบียนคุมเงินนอกงบประมาณประเภท เงินฝากด้วย -ทุกวันที่ 15 ของเดือนให้รายงานการรับและ นาส่งหรือนาฝาก ส่งสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษา พร้อมสาเนาใบนาฝากธนาคาร 3.กรณีนาฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ สานักงานคลังจังหวัด -จัดทาใบนาฝากธนาคาร(Pay in slip) พร้อม ทั้งใบนาส่งเงินนอกงบประมาณ ตามแบบที่ กระทรวงการคลังกาหนด ยื่นต่อ ธนาคารกรุงไทย พร้อมนาเงินฝากเข้าบัญชีเงิน ฝากธนาคารของสานักงานคลัง -บันทึกการฝากในสมุดคู่ฝาก พร้อมทั้งหมาย เหตุว่า นาฝากเข้าบัญชี สานักงานคลังจังหวัด และบันทึกการฝากในทะเบียนคุมเงินนอก งบประมาณประเภทเงินฝากด้วย -ทุกสิ้นเดือนให้รายงานการรับและนาส่งหรือนา ฝาก ส่ง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาพร้อม สาเนาใบนาฝากธนาคาร และคู่ฉบับใบนาส่งเงิน นอกงบประมาณ ขั้นตอนการถอนเงินประกันสัญญา -เมื่อครบกาหนด ให้โรงเรียนจัดทาหนังสือแจ้ง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้โอนเงินให้ เจ้าหนี้หรือผู้มสี ิทธิรับเงิน


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

หน้า 9

โดย : นางอรษา โฆคะวานนท์ นักทรัพยากรบุคคลชานาญการพิเศษ

การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

หลักเกณฑ์การขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 1. ผู้ขอต้องรับราชการมาแล้วไม่นอ้ ยกว่า 5 ปี 2. เป็นระดับ 2 เริม่ ต้น ขอชั้น เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.) เป็นระดับ 2 ครบ 5 ปี ขอชั้น เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.) 3. เป็นระดับ 3 เริม่ ต้น ขอชั้น จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.) เป็นระดับ 3,4 ครบ 5 ปี ขอชั้น จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.) 4. เป็นระดับ 5 เริม่ ต้น ขอชั้น ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.) เป็นระดับ 5,6 ครบ 5 ปี ขอชั้น ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) 5. เป็นระดับ 7 เริม่ ต้น ขอชั้น ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.) เป็นระดับ 7,8 ครบ 5 ปี ขอชั้น ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช) 6. เป็นระดับ 9 เริม่ ต้น ขอชั้น ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) ได้รับ ป.ม.มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี

การเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา 1.ข้าราชการผูม้ ีคุณสมบัติเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลาจะต้องรับราชการมา เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 25 ปี ด้วยความเรียบร้อย จนถึงวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา (5 ธันวาคม ของปีที่ขอ) 2.การรับราชการมาด้วยความเรียบร้อย หมายถึง ต้องไม่ถูกดาเนินการทางวินัยแม้แต่สถาน เดียว แม้ว่าจะถูกลงโทษทางวินัยและได้รับการล้างมลทินแล้วก็ย่อมถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ 3.ให้ลงรายการประวัติตั้งแต่การเริม่ รับราชการจนถึงปัจจุบัน และให้ลงรายการเฉพาะการ เลื่อนขั้นเงินเดือนในเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม เท่านั้น ถ้าปีใดไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ให้ใส่ เหตุผลในช่องหมายเหตุ เช่น เงินเดือนเต็มขั้น ลาศึกษาต่อ ลาเกิน หรือไม่ทราบสาเหตุแต่ไม่มีวินัย หมายเหตุ : ใบกากับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จะได้รับถัดจากปีที่ขอประมาณ 3 – 4 ปี

“ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียวกับที่ ต้องการให้ผู้อื่น ปฏิบัติต่อเรา” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“เมื่อไม่มีใครเกิด มาแล้ววิ่งได้ จึงทาสิ่งต่างๆ อย่าง ค่อยเป็น ค่อยไป” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ )


วารสารประชาสัมพันธ์

หน้า 10

ทางเลือก : กบข.

โดย : นางสิริมา สอนคาหาญ นักประชาสัมพันธ์ชานาญการพิเศษ

ตามที่ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2556 เห็นชอบในการหลักการตามร่าง พระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ อีกทั้งยังเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับเงิน สะสมและผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว รวมทั้งเงินบานาญส่วนเพิ่ม จากการลาออกจากการเป็น สมาชิก กบข. พร้อมทั้งนาร่าง พ.ร.บ. กองทุนบาเหน็จบานาญฯ ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป การร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการให้โอกาสแก่สมาชิกที่สมัครใจเข้า กบข. โดยสาคัญผิด (ทั้งข้าราชการและข้าราชการบานาญ) ได้มโี อกาสเลือกตัดสินใจใหม่ สมาชิก กบข. ที่มีสิทธิตัดสินใจ เลือกลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุน กบข. คือผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุน กบข.ก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540

“จงใช้ จุดแข็ง อย่ าเอาชนะ จุดอ่ อน” (36 แผนที่ ชีวิตพ่ อ)

“มนุ ษ ย์ ทุ ก คนมี ชิ้ น งานมากมาย ในชี วิ ต จงทาชิ้ น งานที่ สาคั ญ ที่ สุ ดก่ อ น เสมอ” (36 แผนที่ ชี วิ ต พ่ อ )

สาระสาคัญดังนี้ :1. กรณีเป็นข้าราชการ 1. ข้าราชการแสดงความประสงค์(ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกาหนด) ได้ ตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 2. สมาชิกภาพ กบข.สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 3. มีสิทธิรับบานาญตาม พ.ร.บ.บาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. 2494(ไม่เป็นสมาชิก กบข.) 4. ไม่มีสิทธิได้รับเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว(ได้รับ เฉพาะเงินสะสม และผลประโยชน์ของเงินสะสม) 5. หากผู้แสดงความประสงค์ ถึงแก่ความตายก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 หรือก่อนวัน ออกจากราชการ ถือว่าการแสดงความประสงค์นั้นไม่มีผลใช้บังคับ 2. กรณีเป็นข้าราชการบานาญ 1. ข้าราชการบานาญแสดงความประสงค์ (ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลัง กาหนด) ได้ตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ. มีผลบังคับใช้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เมื่อแสดงความ ประสงค์แล้ว ให้เป็นผูร้ ับบานาญตาม พ.ร.บ.บาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. 2494(ไม่เป็นสมาชิก กบข.) ตั้งแต่วันออกจากราชการ 2. ข้าราชการบานาญ ที่ต้องการรับเงินบานาญตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2494 ต้องคืนเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าว ตั้งแต่วันออกจากราชการ จนถึงวันที่30 กันยายน 2557 โดยวิธีหักกลบลบกัน กับเงินบานาญที่ได้รับเพิ่มขึน้ 3. เมื่อหักกลบลบกันแล้ว หากผู้รบั บานาญต้องคืนเงิน ให้ส่งคืนส่วนราชการผูเ้ บิก ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 จึงได้รับสิทธิ (หากรัฐต้องคืนเงินให้ผู้รับบานาญ จะคืนให้ตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่กระทรวงการคลังกาหนด) 4. หากผู้แสดงความประสงค์ ถึงแก่ความตายก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2557 หรือก่อนวัน ออกจากราชการ ถือว่าการแสดงความประสงค์นั้นไม่มีผลใช้บังคับ


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 11

ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ตัวอย่าง ข้าราชการเกษียณอายุราชการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 อายุราชการ 39 ปี เงินเดือนสุดท้ายเดือนละ 52,060 บาท เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 41,542.50 บาท กรณีไม่เป็นสมาชิก กบข. - รับบานาญตาม พ.ร.บ. บาเหน็จบานาญ พ.ศ. 2494 เดือนละ (52,060X39) =40,606.80 บาท 50 กรณีเป็นสมาชิก กบข. - รับบานาญตาม พ.ร.บ.กองทุนบาเหน็จบานาญ พ.ศ. 2439 เดือนละ (41,542.50X39) =32,403.15 บาท 50 แต่ต้องไม่เกิน 70 % ของเงินเดือนเฉลี่ย(41,542.50X70) =29,079.75 บาท 100 เป็นสมาชิก กบข.ได้รับบานาญต่ากว่าไม่เป็นสมาชิก กบข.เดือนละ =40,606.80 - 29,079.75=11,527.05 บาท ความสาคัญจะอยู่ทสี่ ่วนต่างขอบานาญกรณีเป็นสมาชิก กบข. และกรณีไม่เป็นสมาชิก กบข. ซึ่งจะใช้ เป็นข้อมูลในการคานวณในลาดับต่อไป ได้แก่จานวน 11,527.05 บาท เมื่อเกษียณอายุราชการ ได้รับเงินจาก กบข. เดือนละ 896,774 บาท ดังนี้ เงินประเดิม 288,568.61 บาท เงินชดเชย 152,042.32 บาท เงินสะสม 228,081.76 บาท เงินสมทบ 228,081.76 บาท รวม 896,774.45 บาท แต่จานวนเงินที่หายไป คือ เงินบาเหน็จตกทอด 30 เท่า และเงินช่วยพิเศษ 3 เท่า = 11,527.05 x 33 = 380,392.65 บาท ฉะนั้น หากนาเงิน กบข.ที่ได้รับขณะเกษียณอายุราชการ หักลบกับเงินที่หายไป = เงินก้อนสุทธิที่ได้รับจาก กบข. = 896,774.45 – 380,392.65 = 516,381.80 บาท กรณีรับบานาญตาม พ.ร.บ.บาเหน็จบานาญ พ.ศ. 2494 จะได้รับเงินส่วนต่างที่หายไปจากการเป็น สมาชิก กบข. เดือนละ 11,527.05 บาท หากเก็บสะสมเฉพาะส่วนต่างเพื่อให้เท่ากับจานวนเงินก้อนที่ ได้รับจาก กบข. ขณะเกษียณอายุราชการ (896,774.45 บาท) ใช้เวลา 6 ปี 6 เดือน (78 เดือน) 11,527.05 x 78 = 899,109.90 บาท ในมุมมองกลับกัน หากรับบานาญตาม พ.ร.บ. ปี 2494 ภายในเวลา 6 ปี 6 เดือน จะสามารถเก็บ เงินจานวน 896,774.45 บาท ได้หรือไม่

“ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือผู้ที่มีการอบรมสั่ง สอนที่ดี” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“เมื่อ เผชิ ญหน้ากับ งานหนัก คิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะ ล้มเหลว” (36 แผนที่ ชี วิ ต พ่อ )


วารสารประชาสัมพันธ์

หน้า 12

ความสาคัญของเอกสารหลักฐานทางการศึกษา โดย : ผ่องศรี ทับทิมทอง นักวิชาการศึกษาชานาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2555 ใกล้สิ้นสุดแล้ว สถานศึกษาทุกแห่งเตรียมการอนุมัติการจบ การศึกษาของนักเรียน

“หากล้มลง

จงอย่ากลัวกับการ ลุกขึ้นใหม่”

(36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

สถานศึกษาสามารถอนุมตั ิจบการศึกษาให้ ผู้เรียนได้ตลอดปี โดยไม่ต้องรอจนถึงปลายภาค หรือปลายปีการศึกษา โดยคานึงถึงสิทธิประโยชน์ ของผู้เรียนเป็นสาคัญ วันอนุมัติจบการศึกษา ภาคเรียนและปีการศึกษาทีส่ าเร็จการศึกษา จะต้องสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยปีการศึกษาการเปิดและปิดสถานศึกษา เมื่อพิจารณาอนุมัตจิ บการศึกษาของนักเรียน โรงเรียนต้องออกเอกสารหลักฐานการศึกษา ซึ่ง เป็นเอกสารสาคัญที่กระทรวงศึกษาธิการควบคุม และบังคับแบบ และมีประเด็นที่สถานศึกษาควร ทราบและนาไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ 1.เอกสารหลักฐานการศึกษาที่ กระทรวงศึกษาธิการกาหนด ได้แก่ ระเบียน แสดงผลการเรียน ประกาศนียบัตร แบบรายงานผูส้ าเร็จการศึกษา 2.เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษา กาหนด เช่น แบบรายงานประจาตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียน

“เพื่ อนใหม่ คือของขวัญที่ให้กบั ตัวเอง ส่วนเพื่ อนเก่า หรือมิ ต รคือ อัญมณี ท่ีนบั วันจะเพิ่ ม คุณค่า ” (36 แผนที่ชี วิต พ่ อ )

ประจารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการ เรียน และเอกสารอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ของ การนาเอกสารไปใช้ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสาร หลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนด สถานศึกษาต้องใช้แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการ เรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.1) ฉบับปรับปรุง ซึ่งเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2555 เป็นต้นไป กรณีสถานศึกษามีแบบพิมพ์ ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน(ปพ.1) เป็นแบบพิมพ์ปกติ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบพิมพ์สมบูรณ์ ครบถ้วน สาหรับใช้กรอกข้อมูลด้วยการเขียนหรือพิมพ์ดีด กรณีนี้ สถานศึกษาไม่สามารถใช้แบบพิมพ์ที่มีอยู่

เดิมได้ ต้องสั่งซื้อแบบพิมพ์ฉบับปรับปรุงใหม่ เท่านั้น ส่วนสถานศึกษาที่มีแบบพิมพ์ที่มีอยู่เดิม ได้ โดยให้ขึ้นเล่มใหม่ ไม่ควรใช้ต่อจากเล่มเดิมที่ เหลือ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและ ตรวจสอบเอกสาร การสั่งซื้อแบบพิมพ์เอกสารหลักฐาน การศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการควบคุมและ บังคับแบบ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 เป็นผูด้ าเนินการจัดซื้อ แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) และประกาศนียบัตร(ปพ.2) จากองค์การค้าของ สกสค. ให้กับสถานศึกษาในสังกัด ส่วนแบบ รายงานผูส้ าเร็จการศึกษา (ปพ.3) สถานศึกษา สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงได้ที่องค์การค้าของ สกสค. การจัดเก็บแบบรายงานผู้สาเร็จ การศึกษา (ปพ.3) ระดับมัธยมศึกษา สถานศึกษาต้องจัดทา 3 ชุด โดยเก็บรักษาไว้ที่ สถานศึกษา จานวน 1 ชุด สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จานวน 1 ชุด และสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 จานวน 1 ชุด


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 13

การวางแผนพัฒนาการศึกษา....

กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2558 โดย : นายวิทยา พันธุระ ผอ.กลุ่มนโยบายและแผน

“สถานศึกษาต้องมียุทธศาสตร์ในเชิงรุก มากกว่าเชิงรับ ต้องเร่งสร้างความรู้และทักษะให้ นักเรียน โดยสร้างความมั่นใจให้นักเรียนกล้าเรียนรู้ กล้าแสดงออกโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ที่ต้อง สร้างให้เด็กสื่อสารได้โดยไม่ต้องอายอีกทั้งต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ นามาสร้างเครือข่ายใน การติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกัน นอกจากนั้นต้องสร้างภาวะผู้นาให้เกิดขึ้นโดย ปลูกฝังให้เรียนรูเ้ พื่อเป็นผู้นามากกว่าผู้ตาม และทีส่ าคัญต้องมีความเป็นพลเมืองดี เป็นคนมีเหตุผล รู้จักวิเคราะห์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ควบคู่กับการมีคุณธรรม จริยธรรม” (บัญทิตย์ ศรีพุทธางกูร หัวหน้าผูต้ รวจสอบราชการกระทรวงศึกษาธิการ) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 เป็นหน่วยงานในกากับของสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้กาหนดมาตรการและการขับเคลื่อน การดาเนินงานดังกล่าวผ่านกิจกรรม โครงการที่ได้บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โรงเรียนซึ่งเป็นตัวจักรสาคัญที่จะขับเคลื่อนทาให้การเตรียมความพร้อมด้านการให้ ความรู้แก่นักเรียนและครู รวมทัง้ ผู้มีส่วนเกีย่ วข้องต่างๆ ได้บรรลุตามเป้าหมาย โดยในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจาปี ควรกาหนดโครงการกิจกรรมเพื่อสร้างความ ตระหนักและสร้างความพร้อมให้กับนักเรียน เพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะบทบาทใน ด้านการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งพัฒนาศักยภาพของเด็กนักเรียนให้มีความรู้ใน 3 เรื่อง คือ 1. ทักษะทางภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้านของอาเซียนซึ่งครูต้องผลักดันให้เด็กกล้าพูด กล้าแสดงออก โดยต้องเรียนรู้เพือ่ ให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงตัวของครูและบุคลากร ทางการศึกษาที่ต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาด้วย 2. ทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ครูต้องเป็นผู้นาถ่ายทอดให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ รวมถึงการสร้างเครือข่าย ร่วมกับสถานศึกษาของประเทศสมาชิก โดยส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงวัฒนธรรม ความ เป็นอยู่ระหว่างกัน 3. ทักษะวิชาชีพ โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนที่สามารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง มีฝีมือ สามารถ แข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการเปิดเสรีตลาดแรงงานในปี 2558 จะมีการเคลื่อนย้ายของ แรงงานใน 7 สาขาวิชาชีพ รวมถึงอาชีพ การบริการ 32 สาขา ในด้านการให้บริการโรงแรมและการ อาหาร

“รักษา ความลับ ให้เป็น”

(36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“จงเป็นน้าครึ่งแก้ว ตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม ได้ตลอด” (36 แผนที่ชี วิตพ่ อ)


กฎหมายน่ารู้

หน้า 14

วารสารประชาสัมพันธ์

โดย : นายสัจสิฏฐ์ ถินทะสิทธิ์ นิติกรชานาญการพิเศษ

้ “ทุกชินงานจะต ้อง กาหนดวัน แล้วเสร็จ” ่ วิตพ่อ) (36 แผนทีชี

“ถ้ าติ ดกระดุ ม เม็ ดแรกผิ ด กระดุ ม เม็ ด ต่ อ ๆไปก็ ผิ ด หมด” (36 แผนที่ ชี วิ ต พ่ อ )

วารสาร สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 ฉบับนี้ ขอนาเสนอหลักคา พิพากษา ศาลปกครองสูงสุด เรื่องหลักประกัน ความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการในการออกคาสั่ง เลื่อนขั้นเงินเดือน ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการ ปฏิบัติในระบบเปิดในการพิจารณาเลื่อนขั้น เงินเดือนเป็นขั้นตอนอันเป็นสาระสาคัญที่ กฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบตั ิ ซึ่งหากหน่วยงาน ทางปกครองมิได้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์ ดังกล่าว ถือว่าเป็นคาสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมายตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งผู้ ถูกกระทบสิทธิอาจนาไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ได้ตามมาตรา แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาล ปกครองและวิธีการพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 โดยที่เจ้าหน้าที่ผู้มหี น้าที่พิจารณาทาง ปกครอง และผู้ออกคาสั่งทางปกครองอาจถูก ดาเนินการทางวินัยหรือถูกฟ้องคดีอาญาตาม มาตรา 162 หรือมาตรา 157 แห่งประมวล กฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทา เอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความในเอกสาร อันเป็นเท็จ หรือเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละ เว้นการปฏิบตั ิหน้าที่โดยมิชอบ เพือ่ ให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งหลักเกณฑ์แนวคา พิพากษาศาลปกครองได้วางแนวปฏิบัติไว้ดังนี้ การเสริมสร้างแรงจูงใจ การเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติ ราชการประการหนึ่ง คือ การเลื่อนขั้นเงินเดือน ซึ่งเป็นการที่ ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจออกคาสั่ง ให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในขั้นสูงขึ้น เพื่อตอบ แทนความดีความชอบที่ข้าราชการผู้นั้นได้ปฏิบตั ิ ในแต่ละรอบปีงบประมาณ โดยในการเลื่อนขั้น เงินเดือนข้าราชการ พลเรือนสามัญที่กฎหมาย กาหนดให้เลื่อนปีละสองครั้งนั้น ผูบ้ ังคับบัญชาผู้มี อานาจต้องประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล การปฏิบัติงานของข้าราชการตามหลักเกณฑ์และ วิธีการตามที่กาหนดในพระราชบัญญัตริ ะเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ประกอบกับกฎ

ก.พ. ที่ นร 0708.1 / ว5 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2544 เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน ของข้าราชการ พลเรือนสามัญ นอกจากนี้ ก่อนออกคาสั่งเลื่อนขั้น เงินเดือนผู้บังคับบัญชาต้องดาเนินการตามมติ คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการ ปฏิบัติในระบบเปิดตามหนังสือสานักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205 / ว117 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2540 และหนังสือ สานักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.1 / ว16 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2540 ทั้งนี้ เพื่อให้การเลือ่ นขั้น เงินเดือนเป็นไปโดยโปร่งใส เป็นธรรมและ ตรวจสอบได้ อันเป็นหลักประกันความเป็น ธรรมให้แก่ข้าราชการผูร้ ับการประเมิน หลักเกณฑ์และวิธีการการปฏิบัตใิ นระบบเปิด สาหรับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ข้าราชการ ดังนี้ 1. ให้หัวหน้าส่วนราชการ รองหัวหน้า ส่วนราชการ หรือผู้บังคับบัญชาที่ได้รับ มอบหมายประกาศเกณฑ์และมาตรฐาน การ ประเมินความดีความชอบเพื่อการเลื่อนขั้น เงินเดือนประจาปี ให้ข้าราชการทราบโดยทั่ว กันก่อนที่จะดาเนินการประเมิน 2. ให้หัวหน้าส่วนราชการ รองหัวหน้า ส่วนราชการ หรือผู้บังคับบัญชาที่ได้รับ มอบหมายประกาศรายชื่อผู้อยู่ในข่ายได้รับการ พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นครึ่ง และสอง ขั้นในที่เปิดเผยให้รับทราบโดยทั่วกัน โดย ประกาศให้ทราบทุกครั้งที่มีการประเมิน ซึ่ง กาหนดไว้ปลี ะ 2 ครั้ง 3. ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นที่เป็นผู้ ประเมินแจ้งการประเมินและผลการประเมินให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกประเมินทราบเป็น รายบุคคลทุกครั้งที่มีการประเมินซึ่งกาหนดไว้ ปีละ 2 ครั้ง (มีต่อหน้าถัดไป)


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 15

4. ให้ผู้บังคับบัญชาที่ประเมินเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกประเมินได้ชี้แจงให้ ความเห็นหรือขอคาปรึกษาเกี่ยวกับการประเมินและผลการประเมินดังกล่าว ก่อนมีคาสั่งเลื่อนขั้น เงินเดือน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ให้มสี ิทธิพบผู้บังคับบัญชาได้ทันทีที่ รับทราบผลการพิจารณาดังกล่าว 5. ให้เวียนหรือปิดประกาศคาสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้ข้าราชการทุกคนทราบ สาหรับคดีพิพาทเกี่ยวกับคาสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนที่ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งความชอบด้วย กฎหมาย ของคาสั่งในกรณีที่ผู้บังคับบัญชามิได้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในระบบเปิด ใน การออกคาสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนนัน้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีแนวคาวินิจฉัยว่า หลักเกณฑ์และวิธีการ ปฏิบัติ ในระบบเปิดในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นขั้นตอนอันเป็นสาระสาคัญที่กฎหมาย กาหนดให้ต้องปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่นขั้นตอนการแจ้งการประเมินและแจ้งผลการประเมินรายบุคคล ให้ผู้รับการประเมินทราบเกี่ยวกับการประเมินก่อนออกคาสั่งเลื่อน / ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือน ถือเป็น สาระสาคัญของการประเมิน เลื่อนขั้นเงินเดือนในระบบเปิด เนื่องจากทาให้ผู้ถูกประเมินมีโอกาสทา ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสาคัญของผลงานที่จะประเมินและหลักเกณฑ์ในการประเมินร่วมกันอันจะ ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และก่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการสาคัญที่เป็นหลักประกันแก่ข้าราชการผูร้ ับการประเมินให้เกิด ความมั่นใจว่าจะได้รับความคุม้ ครองและความเป็นธรรมในการประเมินเลื่อนขั้น ดังนั้น คาสั่งเลื่อน ขั้นเงินเดือนที่มิได้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดไว้ ในระบบเปิดสาหรับการเลื่อนขั้น เงินเดือน จึงเป็นการออกคาสั่งโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบ ขั้นตอนหรือวิธีการ อันเป็นสาระสาคัญที่ กาหนดไว้สาหรับการกระทานั้น คาสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนนั้นย่อมเป็นคาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 81/2551 ที่ อ.103/2551 ที่ อ.409/2552 ที่ อ. 307/2553 และที่ อ.373/2553)

“ดาวและเดือน ที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน บันไดสูง” (36 แผนทีช่ ีวิตพ่อ)


วารสารประชาสัมพันธ์

หน้า 16

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดย : นางนรมน ไกรสกุล ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ

“อย่าดึงต้นกล้า ให้โตไวๆ (อย่าใจร้อน)” (36 แผนที่ชีวิตพ่อ)

“ระยะทางนับพัน กิโลเมตร แน่นอน มันไม่ราบรื่น ตลอดทาง” (36 แผนที่ ชี วิ ต พ่ อ )

ความท้าทายที่นาการศึกษาของเราเข้ามาอยู่ในศตวรรษที่ 21 เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวน ทัศน์ของ ผู้ปกครอง ครู นักเรียน ผู้บริหาร(ทุกระดับ) และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เนื่องจากลักษณะของเด็กใน ศตวรรษที่ 21 ต่างไปจากที่เคยเป็น เพราะเขามีอสิ ระ ที่จะเลือกสิ่งที่ตนพอใจ แสดงความคิดเห็นและ ลักษณะเฉพาะตน สามารถดัดแปลงสิ่งต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของตน ตรวจสอบหาความจริงที่ เป็นเบื้องหลัง เป็นตัวของตัวเองและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อรวมตัวกันเป็นเครือข่าย/องค์กร มี ความสนุกสนาน และการเล่น เป็นส่วนหนึ่งของงานการเรียนรู้และสังคม การร่วมมือและความสัมพันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของทุกกิจกรรมต้องการความรวดเร็ว ในการสื่อสาร การหาข้อมูลและตอบคาถามรวมไป ถึง ความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ดังนั้น การเตรียมผูเ้ รียนในศตวรรษที่ 21 จึงต้องมีการเตรียม คนให้ออกไปเป็นคนทางานที่มีความรู้เตรียมให้เป็นบุคคลที่พร้อมเรียนรู้ และเตรียมคนให้พร้อมเผชิญ การเปลีย่ นแปลงที่รวดเร็ว รุนแรง ในการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ให้ผลลัพธ์เกิดกับผูเ้ รียนควรมี 3 R & 7 C ได้แก่ 1.อ่านรู้เรื่อง (Reading Literacy) เรียนได้(Writing Litteracy) และมีความสามารถในการ คานวณ(Arithmetic Literacy) 2.ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving) 3.ทักษะการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม(Creativity & Innovation) 4.ทักษะความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-Cultural Understanding) 5.ทักษะความร่วมมือ/ทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา (Collaboration,Teamwork & Leadership) 6.ทักษะการสื่อสาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันสื่อ(Communication,Information & Media Literacy) 7.ทักษะคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & ICT Literacy) และการสื่อสาร 8.ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career & Learning Skillds) แต่มีสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการฝึกให้ผเู้ รียนมีวินัย มีการไตร่ตรองความคิด มีความสร้างสรรค์ การ เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน และที่สาคัญคือ มีคณ ุ ธรรมจริยธรรม เพื่อการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมี ความสุข ถึงตรงนี้ในฐานะที่เป็นครู รองถามตัวเองหรือยังว่า “เราเตรียมเด็กให้พร้อมจะเผชิญโลก วันนี้แล้วหรือยัง”


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จัดประกวดโครงงานนักเรียน ปี การศึกษา 2556 ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ณ โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร เพื่อ คัดเลือกตัวแทนระดับเขตเข้าแข่งขัน ในระดับ จังหวัดและส่งเข้าแข่งขันระดับภาค ชิงเงิน รางวัลและโล่เกียรติยศ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในวันที่ 17-18 สิงหาคม 2556 ณ อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุร นารี จังหวัดนครราชสีมา ส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน ระดับภาค ดังนี้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นโครงงาน วิทยาศาสตร์ทั่วไป ได้แก่ โรงเรียนโคกคอนวิทยาคม โครงงานคุณธรรมจริยธรรม ได้แก่ โรงเรียนพานพร้าว ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1.โครงงานคณิตศาสตร์ ได้แก่ โรงเรียนโคกคอนวิทยาคม 2. โครงงานภาษาไทย ได้แก่ โรงเรียนโคกคอนวิทยาคม 3.โครงงานประวัติศาสตร์ ได้แก่ โรงเรียนพานพร้าว 4. โครงงานคุณธรรมจริยธรรม ได้แก่ โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร

หน้า 17

สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 ดาเนินงานแข่งขันตอบ ปัญหาความรู้เกี่ยวกับรัฐสภา ประจาปี 2556 เพื่อเผยแพร่ความรู้ดา้ นการเมืองการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ให้เยาวชนเข้ามามี ส่วนร่วมในกิจกรรมของสานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรอย่างทั่วถึงทุกภูมิภาคของ ประเทศและเพื่อส่งเสริมการสร้างสื่อ ประชาธิปไตยในโรงเรียนที่สร้างสรรค์ มี คุณภาพ สามารถนาไปใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีโรงเรียนที่เข้าร่วมแข่งขัน จานวน 30 โรงเรียน และสานักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร ได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วม แข่งขันทุกคน โดยคัดเลือกตัวแทนจานวน 3 ทีม เข้าแข่งขันระดับภูมิภาค ได้แก่ ลาดับที่ 1 โรงเรียนวรลาโภนุสรณ์ ได้แก่ นายไชยรัช เพชรมะดันและ นายสันติชัย สระทองอ้วน ลาดับที่ 2 โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร ได้แก่ น.ส.สายธาร กะมะรี และ นายสุรชัย ถกลกิจสกุล ลาดับที่ 3 โรงเรียนบึงกาฬ ได้แก่ น.ส.ปวีณา วงศ์เจริญ และน.ส.ยลธิดา พุฒอามาตย์


หน้า 18

วารสารประชาสัมพันธ์

The 6th Northeastern EP/MEP Open House 2013 PATHUMTHEP WITTHAYAKARN SCHOOL 17th-19th July 2013 Explore ASEAN Through English

สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21 จัดโครงการป้องกัน ปราบรามการทุจริตและการส่งเสริม สถานศึกษาใสสะอาด วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ณ โรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย

สพม.เขต 21 ได้แจ้งสถานศึกษาในสังกัดจัดทาโครงการเพื่อเสนอ ของบประมาณโครงการส่งเสริมให้นักเรียนทางานหารายได้ในช่วงปิดภาค เรียนฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556 ซึ่งได้พิจารณาคัดเลือกและจัดสรร งบประมาณให้โรงเรียนในสังกัด จานวน 22 โรงเรียน งบประมาณทั้งสิ้น 210,000 บาท


ปี่ ที่ 1 ฉบับที่ 2

หน้า 19

สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมประสิทธิภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษา ผู้ปฏิบัติงานด้านการเงินและพัสดุในสถานศึกษา ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2556 วันที่ 30-31 กรกฎาคม 2556 ณ โรงแรมอัศวรรณ อ.เมือง จ.หนองคาย

สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จัดประชุมสัมมนาการป้องกันและเฝ้าระวังยาเสพติดใน สถานศึกษา และการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประจาปีการศึกษา 2556 ระหว่าง วันที่ 9-10 สิงหาคม 2556 ณ โรงแรมอัศวรรณ อาเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พิธีเปิดโดย นายวิเชียร ปิยะวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมได้แก่ รองผู้อานวยการ โรงเรียนหรือครูแนะแนวหรือครูที่ได้รับมอบหมาย จานวน 56 โรงเรียน


วารสารประชาสัมพันธ์

หน้า 20

รายนามผูเ้ กษียณอายุราชการ พ.ศ.2556 สานักงานเขตพืน ้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

นางจินตนา มูลสาร รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

นายสุวัฒน์ กัติยบุตร ผู้อานวยการโรงเรียนปากสวยพิทยาคม

นายเกตุแก้ว หาญเชิงชัย รองผู้อานวยการโรงเรียนพรเจริญวิทยา

นายเจริญ แก้วมะโน โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร

นายกิจจา สวรรค์สมบัติ ผู้อานวยการโรงเรียนโคกคอนวิทยาคม

นายแก้ว ธีระสาร รองผู้อานวยการโรงเรียนปากสวยพิทยาคม

นางอรุณี สรรพอาสา โรงเรียนประชาบดีพิทยาคม

นายวิทยา นาราคาม รองผู้อานวยการโรงเรียนโคกคอนวิทยาคม

นายชัชวาล สุนทรชัย โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร

นางรัตนา ตั้งศิริชัยพงษ์ โรงเรียนท่าบ่อ


ปี่ ที่ 1

ฉบับที่ 2

หน้า 21

นางจิราภรณ์ ปู่วัง โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย

นายณรงค์ ปริญญาพรหม โรงเรียนท่าบ่อ

นางกาพย์แก้ว ศิลป์ประสิทธิ์ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นายสมคิด ไชยวงศ์ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นางอัมพรรณ ชานัย โรงเรียนท่าบ่อ

นายมนูญ เปศรี โรงเรียนพานพร้าว

นางประยูร ชาญสินธุ์ โรงเรียนบึงกาฬ

นายใดอิ้ง นพเก้า โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นางวาสนา ลีเพ็ญ โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย

นายวิทยา มงคลรัฐ โรงเรียนปากสวยพิทยาคม

นางเบญจวัลย์ ศรีระษา โรงเรียนพานพร้าว

นายปรีชา โวหารเดช โรงเรียนค่ายบกหวานวิทยา

นางจินตนา ทินนะทาน์ โรงเรียนเวียงคาวิทยาคาร

นายสมชาติ เคหะฐาน โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย

นางพูลทรัพย์ แพงขวา โรงเรียนหินโงมพิทยาคม

นายสนิท ศรีทอง โรงเรียนบึงกาฬ

นางวิจิตรา พจน์พงษ์ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นางสุธิดา ร่วมชัยภูมิ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นางปรานอม ชูประยูร โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นายเฉลียว นันทโพธิ์เดช โรงเรียนท่าบ่อ

นายวัชระชัย ทิพยารมย์ โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร

นายประสาท สาฝ่าย โรงเรียนบึงกาฬ

นายบุญสง ทองโท โรงเรียนพานพร้าว

นายเสมียน พ่อโคตร ประชานิมิตรพิทยานุกูล

นายนิพนธ์ ยมโคตร โรงเรียนวังหลวงพิทยาสรรพ์

นายสุเมธ มิ่งวงษ์ยาง โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย


แด่คุณครูผู้เกษียณอายุราชการ นาวาทองล่องลอยกระแสสินธุ์ อุดมการณ์สานสัมผัสพัฒนา คุณธรรมจริยธรรมสุดล้าเลิศ นิยามย้านาสง่าอ่าอาไพ รับผิดชอบกอรปกิจพินิจรู้ จวบเกษียณอายุราชการงานแผ่นดิน พระคุณที่สามงามด้วยเกียรติยศ ร้อยมธุรสพจนาบูชาครู

รับส่งศิษย์เป็นอาจิณสู่การศึกษา สื่อความรู้คุณค่าพาภูมิใจ ชูขาติเชิดเกียรติยศอันสดใส คือครูไทยคุรุชนคนยลยิน ความเป็นครูมีอยู่มิสูญสิ้น ศิษย์ทั่วถิ่นพรั่งพร้อมน้อมเชิดชู เปล่งประกายปรากฏมิอดสู ขอจงอยู่คู่ฟ้าโลกากาล นายพุทธชาด ตุ้มมี ครู วิทยฐานะชานาญการพิเศษ โรงเรียนท่าบ่อ ****************


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.