ปิดนรก เปิดสวรรค์

Page 1



ขอมอบธรรมะเลมนี้ แด ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ......................................................................................

ขาพเจาขอตั้งจิตอุทิศผล ถึงบิดามารดาครูอาจารย คนเคยรวมทํางานการทั้งหลาย ทั้งเจากรรมนายเวรและเทวัญ

บุญกุศลนี้แผไปใหไพศาล ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน มีสวนไดในกุศลผลบุญฉัน ขอใหทานไดกุศลผลนี้เทอญ.


ปดนรก เปดสวรรค บรรณาธิการ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุสัตย, เรียบเรียง : ณัฐพันธ ปนทวีเกียรติ ออกแบบปก : ธเนษฐ สัคคะวัฒนะ, รูปเลม : ทศพร ธรรมกุล ภาพประกอบ : สมควร กองศิลา, ชิชกาน ทองสิงห, ธนรัตน ไทยพานิช พิสูจนอักษร : อรัญ มีพันธ, อรทัย คําแพง

ISBN 978-616-268-137-0

สรางสรรคและลิขสิทธิ์

บริษัท สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน จํากัด 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุงครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ 02-872-7667

เชิญรวมเผยแผเปนธรรมทาน

โทร. 02-872-9191, 02-872-8181, 02-872-7227, 02-872-9898 LC2YOU@GMAIL.COM, LC2YOU@HOTMAIL.COM

WWW.LC2U.COM, WWW.พุทธะ.NET

พิมพที่ : หจก. แอลซีพี ฐิติพรการพิมพ 105/66-67 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุงครุ กรุงเทพฯ 10140 โทร./แฟกซ 02-872-9577 www.thitiporn.com


ยังมีชวิตอยูนี่ระวังใหดี อยาใหเกิดนรกขึ้นมา ใหสรางสวรรคขึ้นมา และก็จะเปนไปเพื่อนิพพาน ที่นี่และเดี๋ยวนี้ พุทธทาสภิกขุ. บรรณาธิการ : ศักดิ์สิทธิ์ พันธุสัตย เรียบเรียง : ณัฐพันธ ปนทวีเกียรติ ออกแบบปก : ธเนษฐ สัคคะวัฒนะ รูปเลม/จัดอารต : ทศพร ธรรมกุล ภาพประกอบ : สมควร กองศิลา, ชิชกาน ทองสิงห, ธนรัตน ไทยพานิช


อานิสงสการสรางหนังสือ เปนธรรมทาน ทานที่ถวายหนังสือ หรือพิมพหนังสือธรรมะแจกเปนธรรมทาน ขอให ทานจงเกิดความภาคภูมิใจเถิดวา ทานไดทําสิ่งที่มีคุณคา ๙ มงคล ดังตอไปนี้ ๑. ไดชื่อวาเปนผูมีสวนรวมในการรักษาพระพุทธศาสนา ใหมีความยั่งยืน วัฒนาถาวร ๒. ไดชื่อวาเปนผูบําเพ็ญทานบารมีที่ยอดเยี่ยม คือ ธรรมทานบารมี ๓. ไดชอื่ วาเปนผูม สี ว นรวมในการเผยแพรหลักธรรมคําสอนของพระพุทธเจา ๔. ไดชื่อวาเปนผูมีสวนรวมในการสรางความเห็นที่ถูกตอง (สัมมาทิฏฐิ) ๕. ไดชื่อวาเปนผูมีสวนรวมในการสงเสริมการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ๖. ไดชอื่ วาเปนผูม สี ว นรวมในการเสริมสรางสันติภาพและสันติสขุ แกชาวโลก ๗. ไดชื่อวาเปนผูมีสวนรวมในการสงเสริมและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม อันดีงาม ๘. ไดชื่อวาเปนผูสงเสริมในการเลือกสรรสิ่งที่ดีใหแกผูรับ (เปนผูใหที่ดี) ๙. ไดชื่อวาเปนผูแสดงออกถึงนํ้าใจอันดีงามของกัลยาณมิตร (มิตรที่ดี) ทานทีไ่ ดบาํ เพ็ญธรรมทานบารมีดงั กลาวมาแลว ยอมประสบแตความสุข ความเจริญรุง เรือง ทัง้ ในชาตินแี้ ละชาติหนา และเปนผูป ราศจากทุกข โศก โรค ภัย ทั้งปวง

อกฺขรา เอกํ เอกฺจ พุทฺธรูป สมํ สิยา* สรางอักขรธรรมหนึ่งอักษร เทากับสรางพระพุทธรูปหนึ่งองค *(ทีม� า : ศาสนวงศ์ ฉบับพระปัญญาสามี, ๒๔๐๔)


คํานํา เรื่อง “นรก-สวรรค” เปนเรื่องที่พุทธศาสนิกชนใหความสนใจ เปนอยางมาก แตจะมีสักกี่คนที่มีความรูความเขาใจในเรื่องนรก-สวรรค อยางถูกตอง เขาเคยรูหรือไมวานรก-สวรรคที่แทจริงนั้นคืออะไร ? นรก สวรรคจริงๆ แลวมีกี่ประเภท ? นรก-สวรรคที่ทุกคนสามารถพิสูจนได ดวยตัวเองนั้นเปนอยางไร ? แลววิธีที่จะทําใหคน “ปดนรก เปดสวรรค” ไดอยางแทจริงนั้นเปนอยางไร ? เรื่องนรก-สวรรคเปนเรื่องที่สําคัญกับพุทธศาสนิกชนทุกคนมาก ถาเราเขาใจเรื่องนรก-สวรรคและปฏิบัติไดอยางถูกตองแลว ทุกคน สามารถจะ “ปดนรก เปดสวรรค” ไดดวยตนเอง ดังนี้แลว สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน จึงไดนํา ธรรมบรรยายเรื่อง นรกกับสวรรค ในชุด มหาวิทยาลัยตอหางสุนัข ๑๐ ชั่วโมง ครั้งที่ ๓ ของหลวงปูพุทธทาสมาจัดพิมพใหมในชื่อวา “ปดนรก เปดสวรรค” โดยในการจัดพิมพครัง้ นี้ ไดคงบทธรรมบรรยายไวเหมือนเดิม แตไดเพิ่มเติมในสวนของบทคัดยอ ใสสีเนนคํา ทําเชิงอรรถ เสริมสาระ อธิบายขอธรรม และใสภาพประกอบ เพื่อใหอานงาย เขาใจงาย ชวยยน ระยะเวลาในการอาน เขาถึงแกนแทของธรรมะ และหยิบใชไดทันที มีสุขทันใจ จึงหวังเปนอยางยิ่งวา หนังสือเลมนี้จักเอื้อประโยชนสุขใหกับ ผูอานไดปฏิบัติตนและดําเนินตนไปสูความพนทุกข ปดนรกทั้งปวง และ ไดเขาถึงซึ่งการเปดประตูสวรรคตราบเทาเขาสู “พระนิพพาน” อันเปน บรมสุขไดในชาติปจจุบันนี้ทุกทานเทอญ


สารบัญ ปดนรก เปดสวรรค หนา ๗-๕๘ “อานาปานสติ” ลมหายใจเปดสวรรค หนา ๕๙-๗๗ “พระโสดาบัน” ผู ปดนรกไดอยางแนนอน หนา ๗๘-๑๐๓ สวดมนตปดนรก หนา ๑๐๔-๑๒๖


ธรรมะไม ใชเรื่องของคนตายแลว พระพุทธเจาทานตรัสวา ในรางกายที่ยาววาหนึ่ง ที่ยังเปนๆ มีสญญาและใจนี้ เปนเรื่องของธรรมะ นรก-สวรรคตองเปนเรื่องของคนที่ยังมีชวิตเปนๆ อยู เพราะมันรูสกได ถารูสกไมไดแลว มันก็ไมมีความหมายอะไร พุทธทาสภิกขุ.


ปดนรก เปดสวรรค* ทานที่เปนภิกษุราชภัฏ ผูที่จะตองลาสิกขาทั้งหลาย การบรรยายในชุด มหาวิทยาลัยตอหางสุนขั ๑๐ ชัว่ โมง เปนครัง้ ที่ ๓ ในวันนี้ ผมจะกลาวโดยหัวขอวา “นรกกับสวรรค” ทําไมจึงตองพูดโดยหัวขอนี้ ? เพราะมีปญ  หามาก คนทีโ่ งๆ เขลาๆ อาจจะเห็นวามันพนสมัยแลว ไมตอ งมาพูดกัน แตผมเห็นวาไมใชอยางนัน้ ในฐานะทีเ่ ปนพุทธบริษทั เราก็ตอ งรูเ รือ่ งนี้ และพูดเรือ่ งนี้ ในลักษณะทีม่ ี ประโยชนสาํ หรับจะพูดใหถกู ตอง และสําหรับจะปฏิบตั ใิ หไดรบั ประโยชน เกี่ยวกับเรื่องของนรกและสวรรค อยาเพอ๑หาวาพนสมัย และไมเกี่ยว กับเรา

Í‹Ò¹áŌǾԹԨ¾Ô¨ÒÃ³Ò áÅйíÒä»»¯ÔºÑµÔ ãˌ䴌·Ø¡¤¹¹Ð

* ธรรมบรรยายของหลวงปูพ ทุ ธทาสเรือ่ ง “นรกกับสวรรค” ในชุด มหาวิทยาลัยตอหาง สุนัข ๑๐ ชั่วโมง ครั้งที่ ๓ วันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ณ สวนโมกขพลาราม อําเภอไชยา จังหวัดสุราษฎรธานี ๑ อยาเพอ เปนสํานวนเกา มีความหมายตรงกับคําวา อยาเพิ่ง, อยาพึ่ง ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


นรก-สวรรค ความสําคัญที่คนยุคใหมมองขาม à´ÕëÂǩѹ¨ÐËÅÍ¡ ãËŒËÁ´µÑÇàŤʹ٠ÍÔÍÔ àÁ×èÍäË˨оŒ¹¨Ò¡ ¡ÔàÅʹԷÃÒ˹Í

ËÅ‹Íæ ÃÇÂæ Í‹ҧàÃÒ ÊÒÇæ µÔ´µÃÖÁ àÊÃç¨àÃÒá¹‹æ ¤×¹¹Õé ÇŒÒÇ...ËÅ‹ÍÃÇ ¶Ù¡ã¨ÊØ´æ µŒÍ§¨Ñº·íÒÊÒÁÕ ãˌ䴌 ÍÔÍÔ

อีกประการหนึ่งนั้น

¤ÇÒÁÃÙŒàÃ×èͧ¹Ã¡-ÊÇÃä ¹ÕèáËÅÐ à¤ÂÁÕ»ÃÐ⪹ Í‹ҧÂÔè§á¡‹Êѧ¤Á ¤×Í·íÒãËŒ¤¹ÁÕÈÕŸÃÃÁ´Õ ¢ŒÍ·ÕèÊÁÑÂâºÃÒ³¤¹ÁÕÈÕŸÃÃÁ´Õ ¡çà¾ÃÒÐÇ‹Ò àÃ×èͧ¹Ã¡-ÊÇÃä ¹ÕéÁÕÍÔ·¸Ô¾ÅÍÂÙ‹ เดี๋ยวนี้เรื่องนรก-สวรรคนี้ กําลังไรอิทธิพลในการควบคุมหัวใจ ของมนุษยในสังคมปจจุบัน ไมเปนเครื่องมือใหคนมีศีลธรรมเหมือน แตกาลกอน หรือวากลายเปนเรือ่ งทีใ่ ครๆ เห็นวาเกะกะรกหูไมคมุ คาทีจ่ ะ มาสนใจในระบบความเจริญแหงยุคใหม ผมจึงอยากจะทําความเขาใจกับ พวกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใหยังคงเปนเรื่องที่มีความสําคัญและมีประโยชน ศีล แปลวา ความเปนปรกติ หากเรารักษาศีลทีใ่ จเพียงขอเดียว คือ คอยมีสติระลึกรูก ายและใจ ไมหลง ไมโกรธ ไมโลภ ไมไหลไปตามกระแส แหงกิเลสตัณหา เทากับเรารักษาศีลทั้งหมด ดังนี้แลว หมั่นฝกเจริญสติ เจริญวิปสสนากรรมฐานตามแนวทางที่พระพุทธองคทรงสั่งสอนกันเถิด บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๑๐

¶Ö§Í‹ҧäà ¡ç¢Íãˌ͋ҷÔé§ ¡Òû¯ÔºÑµÔ¸ÃÃÁ ¹ÐâÂÁ¹Ð

ถาวาการศึกษาในโลก หรือโดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา ยังทําใหมคี วามรูค วามเขาใจอยางถูกตอง ในเรือ่ งเกีย่ วกับนรกหรือสวรรค แลว การศึกษาก็จะไมไปอยูในระบบสุนัขหางดวน หรือเจดียยอดดวน เปนแนนอน แตเดี๋ยวนี้เขาก็ไมมีการศึกษาเรื่องนี้ ก็ขาดไป เราใครมาเติม มาตอ ขอใหคุณไดมีความรูเรื่องนรก-สวรรคสําหรับพูดเรื่องนี้ไดถูกตอง และปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้อยางที่วามีประโยชน พระพุทธเจาตรัสสอนใหเราพิจารณารางกายใหเห็นตามความ เปนจริงวา รางกายนี้ไมใชเรา ไมใชของเรา เราไมใชรางกาย รางกาย ไมใชเรา เพราะรางกายเมือ่ ถึงคราวเสือ่ มสลาย หรือถึงแกความตายแลว รางกายทีป่ ระกอบดวยธาตุ ๔ (ดิน นํา้ ลม ไฟ) ก็กลับสลายคืนสูธ รรมชาติ เดิม ฝนบังคับไมได เปนเรื่องธรรมดา การพิจารณารางกายดวยความเปนธาตุ ๔ ประกอบไปดวยอาการ ๓๒ เต็มไปดวยสิ่งปฏิกูลโสโครก และมีความตายอยูเสมอ จึงเปนอุบายคลายจิตที่เกาะยึดวารางกายนี้เปนเรา เปนของของเรา เพราะ “จิต” (นามธรรม) คือผูที่เดินทางไปจุติตามภพภูมิที่เหมาะสมกับกรรมที่ตนไดทําไว ไมใชรางกาย รางกายเปรียบเสมือนแคเปลือกที่หอหุมชั่วคราวเทานั้น ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๑๑

คําสอน เรื่องนรก-สวรรค มีอยูในทุกศาสนา

เอาละ ขอเริ่มดวยคําวา

·Ø¡æ ÈÒʹÒÁÕàÃ×èͧ¹Ã¡-ÊÇÃä ºÃôÒÈÒʹҷÕèÊíÒ¤ÑÞã¹âÅ¡ ¡çÁÕàÃ×èͧ¹Ã¡-ÊÇÃä ´ŒÇ¡ѹ·Ñ駹Ñé¹ Áѹ¨Ð໚¹àÃ×èͧàËÅÇäËÅäÃŒÊÒÃÐâ´Â»ÃСÒ÷Ñ駻ǧ¹Ñé¹ Áѹ໚¹ä»äÁ‹ä´Œ ทุกศาสนาเคยมี สังคมมนุษยเคยไดรับประโยชนจากเรื่องนี้ ซึ่ง ก็ยังคงมีอยูในคําสอนทางศาสนา ไมวาศาสนานั้นจะเปนศาสนาที่มีลัทธิ เชื่อการเวียนวายตายเกิด เชน พุทธศาสนา ศาสนาฮินดู หรือศาสนา ที่ไมเชื่อเรื่องการเวียนวายตายเกิด เชน ศาสนาฝายเซมิติคส (Semitics) ทั้งหลาย คือศาสนายิว ศาสนาคริสต บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๑๒

ศาสนาคริสตเขาถือวา ตายแลวก็จะไปรอคําพิพากษา แลวก็ พิพากษาใหตกนรก หรือใหไดสวรรคชนิดนิรันดรไปเลย นิรันดรไมมี เปลีย่ นแปลงอีก สวนพุทธศาสนาหรือศาสนาในอินเดียนีเ้ ปลีย่ นแปลงเรือ่ ย เดี๋ยวนรก เดี๋ยวสวรรค เดี๋ยวสวรรค เดี๋ยวนรก มันสลับกันอยูอยางนี้ เรื่องนี้เปนเรื่องของความเชื่อ เมื่อพูดกันโดยภาษาคน มันเปน เรื่องวัตถุ เปนเรื่องโลกทางวัตถุ ตองอาศัย ความเชือ่ เพราะพูดถึง เรื่องหลังจากตายแลว แตถาเปนเรื่อง ภาษาธรรมที่ผมกําลัง จะพูดนี้ ไมใชเรื่องตอตายแลว ลวนแตเปนเรื่องที่นี่และเดี๋ยวนี้

ÊÇÃä 㹨Թµ¹Ò¡Òâͧ·‹Ò¹ ໚¹Í‹ҧ¹ÕéËÃ×Íà»Å‹Ò

ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๑๓

มนุษยไรศีลธรรม เพราะไมเชื่อเรื่องนรก-สวรรค ความคิดเรื่องนรก-สวรรค หรือความเชื่อเรื่องนี้ มันไดเสื่อมไป เรื่อยๆ ตามที่วัตถุนิยมเขามาครองโลกสามรอยสี่รอยปมานี้ วัตถุนิยม ครองโลกยิ่งขึ้นทุกทีๆ จนถึงบัดนี้มันครองโลกถึงที่สุด ความเชื่อในวัตถุนิยม ตองการวัตถุนิยม มันก็เขมขนพอที่จะ ไมรูไมชี้กับเรื่องนรก-สวรรคหลังจากตายแลว นี้มนุษยก็ไมตองกลัวนรก หรือไมอยากไดสวรรค มนุษยก็เปลี่ยน เปลี่ยนไปจากยุคที่มนุษยเชื่อ ตองการจะไดสวรรค หรือกลัวนรก หลีกนรก ซึ่งนั่นเปนเรื่องยึดเหนี่ยว มนุษยไวในศีลธรรม เพื่อสันติสุข เดี๋ยวนี้ปญหามันก็เกิดขึ้นในยุคปจจุบันนี้วา เมื่อไมมีความเชื่อ เรื่องนรก-สวรรค แลวอะไรจะเปนเครื่องยึดเหนี่ยวมนุษยไวในศีลธรรม เราทุกคนนี้จะตองมีความรูเรื่องนี้อยางไรจึงจะไมกลายเปนคนโงเงา คือไมไดรับประโยชนจากสิ่งที่เรียกวานรก-สวรรค หรือเรื่องนรก-สวรรค เราก็จะไมงมงาย ไมโงเงา ชนิดที่มันไมมีประโยชนอะไรก็มี แตวา...

àÃ×èͧ¹ÕéÂѧ·íÒãˌ໚¹àÃ×èͧ·Õè໚¹»ÃÐ⪹ áÅÐÁÕ¤ÇÒÁ¨íÒ໚¹á¡‹¾Ç¡àÃÒáÁŒã¹Âؤ¹Õé àÃÒ¤§äÁ‹ÊÒÁÒö¨ÐÅŒÁàÅÔ¡àÃ×èͧ¹Õé ¨¹äÁ‹ÁÕ ã¤Ã¾Ù´¶Ö§

บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๑๔

ประโยชนไมเปนหมัน หากเชื่อเรื่องนรก-สวรรคดวยสัมมาทิฏฐิ ทีนี้เราก็ตองหาวิธีที่จะทําใหนรก-สวรรคยังคงมีอยูอยางที่มี ประโยชน นี่อยางที่ผมกลาวขางตนวา เราตองมีความรูเรื่องนี้อยางที่ มีประโยชน แลวปฏิบัติอยางที่มีประโยชน เพราะฉะนั้น เราจะตองแก ปญหาเฉพาะหนาเกี่ยวกับเรื่องนี้

¡ÒÃá¡Œ»˜ÞËÒ੾ÒÐ˹ŒÒã¹·Õè¹Õé¡ç¤×Í ª‹Ç¡ѹÊÌҧÊÑÁÁÒ·Ô¯°Ô ¤ÇÒÁ¤Ô´ ¤ÇÒÁàËç¹ ¤ÇÒÁàª×èÍ ¤ÇÒÁࢌÒã¨Íѹ¶Ù¡µŒÍ§ à¡ÕèÂǡѺàÃ×èͧ¹Ã¡ËÃ×ÍÊÇÃä ¢Öé¹ã¹Çѹ¹Õé ËÁÒ¤ÇÒÁÇ‹Òã¹Âؤ¹Õé ã¹Çѹ¹Õé ก็เพือ่ วาเรือ่ งนรกเรือ่ งสวรรคนจี้ ะไมตอ งเปนหมัน หรือพระคัมภีร เกีย่ วกับเรือ่ งนีไ้ มตอ งเปนหมัน คือ ใหมปี ระโยชนแกเรา ไมอยูอ ยางเปนหมัน “à˹×ÍâÅ¡ÊÁÁµÔ” àÃÕÂ¡Ç‹Ò âÅ¡·ÕèäÁ‹ÁÕ¤ÇÒÁ·Ø¡¢ áÅÐäÁ‹ÁÕ¤ÇÒÁµÒ ÊÒ¸Ø ¾Ç¡àÃҨРÈÖ¡ÉÒ¸ÃÃÁÐ áÅеÑé§ã¨ »¯ÔºÑµÔ¤ÃѺ ÊÒ¸Ø

ÊÒ¸Ø ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๑๕

ตะวันออกกับตะวันตก เชื่อเรื่องตาย-เกิดตางกัน

ºØÞ·ÕèàÃÒ·íÒÊ‹§¼Å ¢¹Ò´¹ÕéàªÕÂÇËÃ×Í

เอาละ เราจะพูดถึงเรื่องนรก-สวรรคอยางที่มีอยูในศาสนานั้นๆ กอน เราอาจจะแบงกลุมของศาสนาออกเปน ๒ ฝาย ๒ ซีก คือฝาย ตะวันออกและฝายตะวันออกไกล ที่จริงมันก็ยังอยูในฝายที่ฝรั่งเขาเรียก วาตะวันออก ตะวันออกใกลที่เกิดศาสนายิว คริสเตียน อิสลาม นี่มันก็ เปนตะวันออกใกลของฝรั่ง อินเดียนี้เปนตะวันออกไกลออกมา นี้เรามามองเห็นวา...

«Õ¡µÐÇѹµ¡ä»¹Ñé¹ à¢ÒÁÕ¤ÇÒÁ¤Ô´à¡ÕèÂǡѺ àÃ×èͧàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´ä»Í‹ҧ˹Öè§ ¤×Í äÁ‹ÁÕ ·Õ¹Õ齆ÒµÐÇѹÍÍ¡àÃÒâ´Â੾ÒÐã¹ÍÔ¹à´Õ ÁÕ¤ÇÒÁ¤Ô´à¡ÕèÂǡѺàÃ×èͧàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´ ¹Õè¨Ö§¾Ù´àËÁ×͹¡Ñ¹äÁ‹ ä´Œ บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๑๖

นรก-สวรรค แตกตางตามความเชื่อทางศาสนา

ถาวาเปนนรก-สวรรค ฝายศาสนาฝายตะวันตก ตะวันตกคือของ เขา ซึ่งรวมเรียกวาศาสนาของพวกเซมิติคส ยิว คริสต อิสลาม นี้ เขาก็ มีสวรรคนิรันดร นรกนิรันดร เมื่อไดรับการพิพากษาใหตกนรกแลว ก็ตก นิรันดร ไมมีเปลี่ยนแปลง เมื่อไดรับการพิพากษาใหขึ้นสวรรค แลวก็เปน สวรรคนิรันดร อยางนีม้ นั เขากันไมไดกบั นรก-สวรรคฝา ยตะวันออกนี้ คืออินเดีย

àÃÒäÁ‹Áչá-ÊÇÃä ¹ÔÃѹ´Ã ÁÕᵋ¹Ã¡-ÊÇÃä ·Õèà»ÅÕè¹á»Å§àÃ×èÍ µÒÁà˵صÒÁ»˜¨¨Ñ ¢Öé¹ÁÒ¡çä´Œ ¡ÅѺ仵¡ãËÁ‹ÍÕ¡¡çä´Œ à¾ÃÒÐàÃÒÁÕËÅÑ¡àÃ×èͧàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´äÁ‹ÃÙŒ¨Ñ¡ÊÔé¹ÊØ´ ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๑๗

นรก-สวรรค ในภาษาคนและภาษาธรรม ·‹Ò¹·íÒºØÞÍÐäÃÁÒ ¶Ö§ä´ŒËÅ‹ÍÍ‹ҧ¹Õé ÍÔ¨©Ò àËÃÍ·‹Ò¹

ทีนี้เรื่องที่จะตองทราบตอไปอีกก็คือวา

ÊÇÃä ËÃ×͹á¡çµÒÁ¹Õé ÁѹÁÕ໚¹Í‹ҧÀÒÉÒ¤¹ ¤×Í ·Ò§Çѵ¶Ø ໚¹Í‹ҧÀÒÉÒ¸ÃÃÁ ¤×Í ·Ò§¹ÒÁ¸ÃÃÁ ËÃ×ͨԵ㨠ในอดีตที่แลวมา ความรูเรื่องนี้มีแตนรก-สวรรคภาษาคนเทานั้น ฝายโนนฝายตะวันออกไกลก็มสี วรรค-นรกชนิดทีเ่ ปนคนแลวไปตก แลวไป อยูกับอะไรตออะไร ตามแตวามันจะเปนนรกหรือสวรรค เปนเนื้อตัว ของคนเขาไปอยูใ นนรกหรือสวรรคนี้ ตามรายละเอียดเหลานัน้ เราเรียกวา ภาษาคน ไมมีภาษาธรรมอยางที่พระพุทธเจาตรัสวามันมีที่อายตนะ ในอินเดียมีศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ ก็กลาวถึงนรก-สวรรคอยาง ภาษาคน อยางที่ติดมาถึงประเทศไทย เปนนรก-สวรรคอยางภาษาคน ทั้งนั้นแหละ มาสูประเทศแถบนี้ เชน พมา ลังกา ไทย อะไรก็เปนนรกสวรรคภาษาคนทั้งนั้น อยางที่มาเกิดเปนหนังสือไตรภูมิพระรวงขึ้นมา นั่นก็คือความคิดเดิมๆ ในอินเดีย นรก-สวรรคภาษาคน ซึ่งเราก็จะตอง วินิจฉัยบางเหมือนกัน บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๑๘

นรก-สวรรคในโลกหนา เกิดจากการประยุกตคําสอนใหเขากับ ความเชื่อดั้งเดิม

·íÒºØÞ ´ŒÇ¨Ե·ÕèàÅ×èÍÁãÊ Ê‹§¼ÅãËŒà¡Ô´ã¹ÊÇÃä ä´Œ

ทีนี้มันมีขอที่สะดุดอยูวา

¾Ãоط¸à¨ŒÒ·‹Ò¹ä´ŒµÃÑʹá-ÊÇÃä ã¹ÀÒÉÒ¸ÃÃÁ ¤×Í ·Ò§ÍÒµ¹Ð ᵋ·íÒäÁ¾Ø·¸ºÃÔÉÑ·àÃÒ¨Ö§äÁ‹ÃÙŒàÃ×èͧ¹ÕéàÊÕÂàÅ ? ยังคงรูแตเรื่องนรก-สวรรคในภาษาคนอยางเดียวกับฝายฮินดู มันตรงกันอยางนี้ จึงถือวาเราไปยืมเขามา เขาพูดกันอยูกอน กอนจะมี ศาสนาพุทธ เขามีพดู เรือ่ งนรก-สวรรคอยางในแบบภาษาคนนีก้ นั อยูแ ลว ประชาชนก็เชื่ออยางนั้นอยูแลว ถือกันอยางนั้นอยูแลว พอพระพุทธเจาทานเกิดขึน้ ปฏิปทาของพระพุทธเจาก็เปนอยาง ทีผ่ มเคยพูดใหฟง วา ทานจะไมคดั คานใคร เมือ่ คนอืน่ เขามีอยางอืน่ ไมตรง กับของทาน ทานก็บอกวา ก็ถูกตามเรื่องของทาน แตเราจะพูดอยางนี้ ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๑๙

ทานคงจะนิ่งเฉยเกี่ยวกับนรก-สวรรคชนิดนั้น แตทานก็เขาไปเกี่ยวของ ดวยเพียงแตวา ถาทานตองการสวรรคที่เปนที่พอใจของทาน ทานก็ตอง ปฏิบตั อิ ยางนีๆ้ จึงจะไปสวรรค เชน ปฏิบตั กิ ศุ ลกรรมบถ ๑๐ ก็ไปสวรรค นี้ก็ไมละทิ้งคําสอนเกาๆ ดวยเหมือนกัน คําสอนเกาๆ นัน้ ไมใชมแี ตวา ใหบชู ายัญ หรือทําอะไรทํานองนัน้ จึงจะไปสวรรค เขามีเรื่องประพฤติดีประพฤติชอบเหมือนกัน จึงจะไป สวรรค แตยังมีความหมายนรก-สวรรคอยางภาษาคน คือ คนตายแลว ก็เขาไปสูที่แหงหนึ่ง ทนทุกขทรมานอยูในนรก หรือไปสูที่อีกแหงหนึ่ง เปนสุขสบายอยางสวรรค

¤ÇÒÁÃÙŒ·Õè¾Ãоط¸Í§¤ µÃÑÊÊ͹¹Õé ÁÕ¤ÇÒÁªÑ´á¨Œ§ ÂÔ觡NjҤÇÒÁÃÙŒ ¢Í§ÅÑ·¸Ôã´æ

บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๒๐

นรก-สวรรคในพุทธศาสนา อยูที่อายตนะทั้ง ๖ ทีนี้นรก-สวรรคทางอายตนะนี้ ทําไมจึงไมมีการเอามากลาวถึง ผมไปพบเขาผมก็สนใจวานี่มันเปนของพุทธเรา

¹Ã¡-ÊÇÃä ·ÕèµÒ ËÙ ¨ÁÙ¡ ÅÔé¹ ¡Ò 㨠¹Õé ¹Ã¡-ÊÇÃä ·Õè¹Õè ¤×ͧ͢¾Ø·¸àÃÒ Ê‹Ç¹¹Ã¡ãµŒ´Ô¹ÊÇÃä º¹¿‡Ò¹‹Ð ¢Í§¾Ç¡¡‹Í¹â¹Œ¹à¢Ò ·íÒäÁ¨Ö§äÁ‹Ê¹ã¨µÒÁËÅÑ¡¢Í§àÃÒºŒÒ§ ? ผมจึงเอามาพูดขึ้น ทําใหมันแพรหลาย แตผมจะไมถือวาผมเปน คนแรก บางทีจะเปนคนแรกที่พิมพขึ้นเปนลายลักษณอักษรเรื่องนี้ก็ได แตอยาลืมวา ปู ยา ตา ยาย ของเราโนนทานไดพดู มากอนแลววา “สวรรค ในอก นรกในใจ” สวรรคในอกนรกในใจนีป้ ยู า ตายายพูดกันมานานแลว นี้แปลวาปูยาตายายชุดนั้นนะ มองเห็นนรก-สวรรคที่แทจริง ไมพูดวานรกอยูใตดิน สวรรคอยูบนฟา อยางที่เขาพูดกันมาแตกอน หรืออยางที่เชื่อๆ กันอยู ที่ปูยาตายายของเราพูดวาสวรรคอยูในอก นรกในใจนี้ ตรงกับคําที่พระพุทธเจาทานไดตรัสไวเปนหลักวา มันอยูที่ อายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไมไดอยูใตดิน หรืออยูบนฟา àÃ×èͧÊíÒ¤ÑÞ·Õè¾Ãоط¸à¨ŒÒµŒÍ§¡ÒÃÊ͹ ãËŒÃÙŒ¡ç¤×Í ãËŒ¤ÍÂÁÕʵÔÃÐÅÖ¡ÃÙŒ¡Ò Ãٌ㨠㹷ء»˜¨¨ØºÑ¹¢³Ð áÅÐàËç¹äµÃÅѡɳ 㹡ÒÂ㨹ФРปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๒๑

¡ÒÃÃÙŒ¨Ñ¡¹Ã¡ ÊÇÃä ¾ÃйԾ¾Ò¹ ¤ÇÃÃÙŒã¹àÇÅÒ ·ÕèÂѧÁÕªÕÇÔµÍÂÙ‹¹Ð¨ Ð

¹ÕéÁѹ¡çà¡Ô´à»š¹ ò Í‹ҧ¢Öé¹ÁÒ ÊÇÃä ã¹Í¡ ¹Ã¡ã¹ã¨ µÃ§¡Ñº¤íÒµÃÑʢͧ¾Ãоط¸à¨ŒÒ·ÕèÇ‹ÒÁÕÍÂÙ‹·ÕèÍÒµ¹Ð ·íÒÍÒµ¹Ð¹Ñé¹ãˌ໚¹ÊÇÃä ¡çä´Œ ໚¹¹Ã¡¡çä´Œ Í‹ҧ¹ÕéàÃÒ¨ÐàÃÕ¡Njҹá-ÊÇÃä ã¹ÀÒÉÒ¸ÃÃÁ ¤×Í ÀÒÉÒ¹ÒÁ ÀÒÉÒ¨Ôµ ÀÒÉÒÇÔÞÞÒ³ ถานรกใตดิน สวรรคบนฟานั้น นั่นมันเปนเรื่องภาษาคน คน ธรรมดาพูดแลวก็เอาวัตถุเนือ้ หนังเปนหลัก ของเกาของเขาในศาสนาฮินดู ศาสนาพราหมณกม็ อี ยูแ ลวอยางนัน้ คงจะไดไปยืมเอามา หรือไมยมื เอามา ก็ประชาชนเราเชื่ออยูอยางนั้นแลว ไปเปลี่ยนเขาไมได เพราะประชาชน ทั้งหลายเชื่ออยูอยางนั้นแลว ก็เลยตองทําใหมันกลมกลืนกันไป บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๒๒

“ไตรภูมิพระรวง” คือ นรก-สวรรคแบบภาษาคน ทีนกี้ จ็ ะพิจารณาดูนรก-สวรรคทมี่ อี ยูก อ น ถาคุณเคยศึกษาหนังสือ เรื่อง “ไตรภูมิพระรวง” ซึ่งเปนหนังสือสําหรับระดับมหาวิทยาลัย เห็น รูปภาพเหลานั้นแลว คุณก็เขาใจไดงาย

¢Í§à¡‹Òæ ÃÙ»ÀÒ¾ã¹àÃ×èͧ “äµÃÀÙÁÔ¾ÃÐËǧ” ¹Ñé¹ÁÕËÁ´ à¡ÕèÂǡѺ¹Ã¡-ÊÇÃä ·íҹͧ¹Õé ¤×Í ÀÒÉÒ¤¹ อะไรๆ เขาก็เอาไปรวมไวที่เขาสุเมรุ จุดอยูที่เขาสุเมรุ คือ ที่ เรียกวา ภูเขาหิมาลัย เขาเรียกกันในพระคัมภีรวา เขาสุเมรุ เอาเขาสุเมรุ ตัง้ เปนหลัก แลวมนุษยเราก็อยูใ นระดับตีนเขา คือแผนดินธรรมดา ยังแบง ออกเปน ๔ ทวีป ทํานองตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต เขาเรียก ชมพู ทวีป คือฝายนี้ ฝายที่เราอยูนี่ ปุพพวิเทหะ เปนตะวันออก อมรโคยาน จะเปนตะวันตก อุตตรกุรุทวีป ก็จะอยูขางเหนือ ทางประเทศรัสเซียโนน จุดมันอยูที่ภูเขาหิมาลัย ยอดภูเขาหิมาลัยขึน้ ไป เขาก็บรรยายเปนชัน้ ๆ สําหรับพวกสวรรค คือพวกเทวดา จนสุดยอดขึ้นไปยอดเขาหิมาลัยนั้น เปนเรื่องของพวก เทวดาในสวรรคทั้งนั้น ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๒๓

สวนใตพื้นดินลงไปจากภูเขาหิมาลัยนี้ จะเปนเรื่องเมืองบาดาล เมืองนรก พญานาค อสูร อะไรนี้ก็อยูที่ชั้นบาดาลใตนั้นลงไป แลวนรก ก็อยูใ ตนนั้ ลงไปอีกเปนชัน้ ๆ หลายขุม มีตงั้ แตขมุ เล็กขุมใหญ หมายความวา ขุมทีไ่ มสรู า ยกาจลงไปจนถึงขุมทีร่ า ยกาจทีส่ ดุ แลวก็หมดจบกันเรือ่ งนรก ฉะนั้น คุณหลับตาเห็นภาพภูเขาหิมาลัย บนภูเขาหิมาลัยขึ้นไป ทางยอดเปนสวรรค รอบเชิงเขาเปนมนุษย ๔ ทวีป ใตนั้นลงไปก็เปน พวกนรก ที นี้ ก็ มี ร ายละเอียด นรกก็มีความหมาย คือเต็มไปดวยการ ทนทรมานเจ็บปวดอยางยิง่ ในรูปแบบทีต่ า งๆ กัน จนถึงทีส่ ดุ ทีจ่ ะทรมาน อยางยิ่ง ที่เขาเรียกชั้นอวิจี อเวจี หรือ อวิจี บาลีวา อวิจี ในบางนรก ก็ถูกตมในนํ้าทองแดง ใหกินนํ้าทองแดง บางนรกก็ทิ่มแทงดวยของมีคม บางนรกก็มสี ตั วกดั บางนรกก็บงั คับใหขนึ้ ตนไมหนาม บางนรกก็เต็มไปดวย ของเหม็น กระทั่งนรกนํ้าตารองไหครํ่าครวญอยูเสมอ ผมไมไดจําดอก ผมมาพูดใหเรียงลําดับไมได เพราะวาไมไดจํา เพราะไมอยากจะจํา ก็จํา เคาๆ ใหมันจบลงที่อเวจี คือรอนที่สุด อวิจี นี่แปลวา ไมมีเปลวไฟ คือไฟ ที่ไมมีเปลวไฟนี่ มันรอนที่สุดเลย โยนลงไปในไฟนั้นคือตกนรกอวิจี นี้ลองพิจารณาดูเถอะวามันจะเปนไดอยางไร แลวมันยังมีหลัก สําคัญวาถูกทําโทษจนตายลงไป แลวมันกลับเปนขึ้นมาทันที แลวก็ ถูกทรมานจนตายลงไป แลวก็กลับเปนขึ้นมาซํ้าๆ ซากๆ ใหมันสาสม ถาตายทีเดียวแลวมันเลิกกัน มันก็ไมคอยจะสาสมอะไร ฉะนั้น มันจึง มี คํ า บั ญ ญั ติว า ถูกทรมานจนตายลงไปแลว เปนขึ้นมา เพื่อรับโทษนี้ อยางซํ้าๆ ซากๆ

บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๒๔

นรก-สวรรคแบบภาษาธรรม นําไปใชใหเกิดประโยชนในชีวิตได ¡ÃÃÁªÑèÇÁÕ¨ÃÔ§ Î×Íææææ

à§Ô¹·ÕèàÃÒ⡧ÁÒ â´¹â¨Ã¢âÁ ä»ËÁ´áÅŒÇ !!

ทีนี้จะวิจารณกันบางก็ได มันก็มีทางที่จะแปลความหมายถูกตม ถูกทําใหรอน มันก็คือเมื่อมีความรอนใจ ผมแปลนรก คือ ความรอนใจ สัตวเดรัจฉาน คือ ความโง เปรต คือ ความหิว อสูรกาย คือ ความกลัว

àÁ×èÍã´àÃÒÌ͹㨡ç໚¹ÊÑµÇ ¹Ã¡ àÁ×èÍã´àÃÒ⧋ àÃÒ¡ç໚¹ÊÑµÇ à´ÃѨ©Ò¹ àÁ×èÍã´àÃÒËÔÇ ËÔÇ´ŒÇ¡ÔàÅÊ àÃÒ¡ç໚¹à»Ãµ àÁ×èÍã´àÃÒ¡ÅÑÇÍ‹ҧäÁ‹ÁÕà˵ؼŠàÃÒ¡ç໚¹ÍÊÙáÒ ã¹Ã‹Ò§Á¹ØÉ ¹Õé สวนเขายืนยันไปเปนแบบภาษาคนวา นรกก็ตองไปอยูที่วานรก ดังที่วา เดรัจฉานก็ไปเปนวัวเปนควายตามทุงนา เปรตก็เปรตอยางที่ เขาเขียนเขาพูดเขาเลาถึงกันอยู ทนทรมานดวยความหิว ผอมโซ ปาก เทารูเข็ม ทองเทาภูเขา อะไรทํานองนั้น รูปรางก็ตางๆ กัน นั้นมันเปรต อสูรกายก็คอื ผีชนิดหนึง่ ซึง่ ไมตอ งการแสดงตัวใหใครเห็น เพราะเขากลัว เขามีความขลาด ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๒๕

ถาอสูรกายนีห้ มายถึงพวกอสูรละก็ ก็มเี ลาเรือ่ งวามีอยูใ ตบาดาล ภพของเขาอยูใตบาดาล บางทีก็ขึ้นมาตั้งสํานักงานอยูที่ไหลเขาหิมาลัย แหงใดแหงหนึ่ง เพื่อรบกับพระอินทร พระอินทรรบชนะอสูร อสูรหนี ในบาลียงั มีพดู ถึงวา ทําตัวใหเล็กหนีลงไปตามรูสายบัว ลงไปเมืองบาดาล ของเขานี้ก็มี นี้มันเปนภาษาคน คนพูด เปนวัตถุ นีผ้ มชอบภาษาธรรม แตไมไดยกเลิกของเขานะ คุณชวยเปนพยาน ผมพูดตลอดเวลาวาไมไดยกเลิกเหลานัน้ ทีเ่ ขาเชือ่ กันอยางนัน้ เขาพูดกัน อยางนั้น ผมไมไดมีสิทธิ์ที่จะไปยกเลิกเขาและก็ไมไดยกเลิก แตขอใหมา เขาใจอีกอยางหนึ่งซึ่งมีประโยชนกวา ประโยชนที่เราจะเห็นได แลวเรา จะควบคุมมันได นรกรอนใจเปนไฟเผา เดรัจฉานก็ตองเมื่อโง บางทีเราโงอยางที่ เราหมดความนับถือตัวเอง บางทีเราก็หิวกระหายดวยความอยาก ดวย กิเลส บางทีเราก็กลัวอยางไมมีเหตุผล นี่ถาอยางนี้เปนภาษาธรรม บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๒๖

นรกในภาษาธรรมมีอยูที่นี่และเดี๋ยวนี้

ทีนี้ นรกในภาษาธรรม ก็ลองคิดดูเถอะ นรกที่ถูกทิ่มถูกแทง มันก็เหมือนกับเราเจ็บปวด เหมือนกับมีอะไรมาแทง เรารอนใจเพราะ ถูกตม ถูกเผา ก็คุณจะไมเคยบางหรือ ?

ºÒ§·Õ·íÒÍÐäüԴ¾ÅÒ´¨ÐµŒÍ§àÊÕÂËÒ ¨ÐµŒÍ§àÊÕª×èÍÍÐäáçµÒÁ ÁѹÌ͹㨠¹Í¹äÁ‹ËÅѺ ãËŒËÁÒ¤ÇÒÁËÃ×ͤس¤‹Ò¢Í§¤ÇÒÁÌ͹㨹Ñè¹áËÅÐ ¤×͹áẺ·ÕèÇ‹ÒäÁ‹à¼Ò ทีนี้บางคราวเราทําอะไรชนิดที่เราก็ขยะแขยงตัวเอง นั่นเรา ตกนรกเหม็น นรกที่เต็มไปดวยอุจจาระของเหม็น ก็คือเราทําเลวเสียจน เหม็นตัวเองนี้ แลวมันก็หมดสุขเหมือนกัน หรือวาเราขึ้นตนงิ้ว ตนหนาม เมือ่ เราจําเปนทีจ่ ะตองทําสิง่ ทีเ่ ราไมปรารถนาก็ทมิ่ แทงเอาเหมือนกับเรา ถูกบังคับใหขึ้นตนไมหนาม อยางนี้เปนตน แลวอวิจอี นั สุดทายนี้ มันก็คอื รอนถึงทีส่ ดุ รอนถึงกับเปนบาตาย ไปเลย ขาดใจตายไปเลย ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๒๗

ความหมายตามชื่อของนรกนั้นๆ สามารถจะแปลจากภาษาคน มาเปนภาษาธรรมไดทงั้ นัน้ ฉะนัน้ จึงขอใหคณ ุ สังเกตตัวเองตอไปขางหนา ที่จะมีความทุกขทางจิตใจในรูปแบบตางๆ กันอยางไร แลวกําหนดใหดี เถอะ จะเอามาปรับเขากับความหมายของนรกชนิดหนึ่งๆ ในพระคัมภีร นี้ไดทั้งนั้น นี่เรียกวา นรกในภาษาคน ที่วาถูกทรมานตายลงไป แลวเกิด ขึ้นมาทันที รับโทษอีก ตายลงไปเกิดขึ้นมารับโทษอีก นี้มันก็เห็นๆ อยู คนอันธพาลทัง้ หลายไมรจู กั เข็ดหลาบ มันเจ็บปวดรวดราวอยางยิง่ แลวก็ คิดวาจะเลิก แตแลวมันก็ไมเลิก โดยเฉพาะเรื่องกามารมณนี้ จะเสียหาย เจ็บปวดวินาศลงไปแลว ก็ยงั ไมเข็ดหลาบ มันก็มาเอาอีก มันก็ซาํ้ ๆ ซากๆ อยูอยางนี้ นี่เหมือนกับวา สัตวนรกถูกลงโทษจนตายแลวก็กลับเกิดขึ้นมา ทันทีอีกเพื่อรับตอไป ตายเกิดๆๆ รับโทษตอไปอยูในนรกนั้น เหมือนกับ คนอันธพาลทําบาปไมรูจักเข็ดหลาบ ทําซํ้าๆ ซากๆ ฉะนั้น...

àÃÒÁչá㹤ÇÒÁËÁÒÂÍ‹ҧ¹Ñé¹ áŌǡç·Õè¹ÕèáÅÐà´ÕëÂǹÕé äÁ‹µŒÍ§Ã͵‹ÍµÒÂáÅŒÇ áŌǡçäÁ‹µŒÍ§Å§ä»ãµŒâš㵌ºÒ´ÒÅÍÐäà ¹Õè໚¹¹Ã¡ ò ª¹Ô´´ŒÇ¡ѹ໚¹¤Ù‹¡Ñ¹¢Öé¹ÁÒ

บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๒๘

สวรรคในภาษาคน แบงเปน ๓ ระดับ ¹Ã¡-ÊÇÃä ã¹ÀÒÉÒ¤¹ áÅÐÀÒÉÒ¸ÃÃÁ Êͧ¤íÒ¹Õ鵌ͧÈÖ¡ÉÒ ãËŒ¶‹Í§á·Œ¹Ð¨ Ð

เอา ทีนี้พูดถึงเรื่องสวรรคสักที ตามที่เขาเชื่อกันอยูในอินเดีย แลวก็มาเขียนเปนรูปภาพไตรภูมพิ ระรวง คุณไปแสวงหาดูเถอะ ภาพไตรภูมิ พระรวงนี้ จะพบอยางนี้มากมายละเอียดเหลือที่จะเอามาพูด มีเรื่อง สวรรคขึ้นไปเปนชั้นจาตุมหาราช เปนชั้นดาวดึงส ดุสิต ยามา นิมมานรดี ชั้นสุดยอดเรียกวาปรนิมมิตวสวัตตี รวม ๖ ชั้นนี้เปนสวรรคชั้นกามาวจร คุณลองจําคํา ๓ คํานี้ไวบางเถอะมีประโยชน กามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร จะดูเปนศัพทในวัดครึคระอยูมาก แตคุณลองจําไวจะมี ประโยชน คือเขาจัดระดับความสุขไวเปน ๓ ชั้นนี้

¡ÒÁÒǨà ¹Ñé¹ÊØ¢´ŒÇ¡ÒÁ µŒÍ§àÃ×èͧ¡ÒÁ àÃ×èͧ¡ÒÁàµçÁໂ›ÂÁ ÍÑ´àµçÁä»ËÁ´´ŒÇ¡ÒÁ ¹ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò ¡ÒÁÒǨà ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๒๙

แลวสูงขึ้นไปจากนั้นก็สุข

ÃÙ»ÒǨà àÍÒÃÙ»¸ÃÃÁºÃÔÊØ·¸Ôì ¤×ÍäÁ‹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒÁ ÁÒ໚¹»˜¨¨Ñ¢ͧ¤ÇÒÁÊØ¢ หรือวาจะทําใหเกิดเปนสมาธิ เพราะรูปธรรมเพือ่ ความสุขนี้ ก็ยงั เรียกวารูปาวจร อยาไปเกีย่ วกับกามก็แลวกัน เกีย่ วกับสิง่ ทีม่ รี ปู อันบริสทุ ธิ์ ทีนี้ก็ยังตํ่าไป สูงกวานั้น ใหมันละเอียดประณีตกวานั้น ก็เลย

ÍÃÙ» ¤×ÍäÁ‹µŒÍ§ÁÕÃÙ» àÃÕÂ¡Ç‹Ò ÍÃÙ»ÒǨà บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๓๐

สวรรคในภาษาธรรม คนพบไดในใจของเรา ผมจะเทียบเปนตัวอยางนะ อุปมาก็ไดวา กามาวจร คือกามเพศ เรื่องเพศนี่กามาวจรมีความสุขไปแบบหนึ่ง คนเขาลุมหลงกันมากกวา พวกไหนหมด ทีนบี้ างคนไมบชู ากาม แตไปบูชาทรัพยสมบัตริ ปู ธรรมอันไมเกีย่ ว กับกาม เปนสิ่งของที่ไมเกี่ยวกับกาม แมที่สุดแตการเลนหัวอะไรตางๆ ก็ยังได นี่เขาเรียกความสุขที่คอยสะอาดขึ้นมาหนอย ทีนี้ ถาความสุขสูงขึน้ ไปอีก ไมมรี ปู ก็เปนเรือ่ งของนามธรรม เปน เกียรติยศชื่อเสียง บุญกุศล อะไรก็ได ก็มีความสุขสูงขึ้นไปอีกแบบหนึ่ง พอจะสงเคราะหในพวกอรูปาวจร อยาเห็นเปนคําครึคระ เพราะมันมีหลักดี แสดงจิตใจของมนุษย วามีอยู ๓ ระดับ ดังนี้ บางทีตัวคุณมองนั่นแหละ ไมตองใครอื่นที่ไหน ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๓๑

㹺ҧ¢³Ð¤Ø³¡çºŒÒ¡ÒÁ 㹺ҧ¢³Ð¤Ø³¡çºŒÒÇѵ¶ØŌǹæ äÁ‹à¡ÕèÂǡѺ¡ÒÁ 㹺ҧ¢³Ð¤Ø³¡çºŒÒÊÔ觷Õè໚¹¹ÒÁ¸ÃÃÁäÁ‹ÁÕÃÙ» ઋ¹ à¡ÕÂõÔÂȪ×èÍàÊÕ§ÍÐäÃÍ‹ҧ¹Õé ໚¹µŒ¹ ¤¹¤¹à´ÕÂǡѹÁÕ¤ÇÒÁà»ÅÕè¹á»Å§ä´Œ¶Ö§ ó Í‹ҧ Í‹ҧ¹Õé àÁ×èÍàÃÒ¡Å‹ÒÇâ´ÂÀÒÉÒ¸ÃÃÁ ฉะนั้น ถาเปนภาษาคนอยางที่มีมาแตกาลกอนแลวมาเปนหลัก อยูอยางนี้ เขาจัดเปนสวรรคเปนชั้นๆ เหมือนกับบานเรือนนั้น ชั้น ๖ ชั้นทีแรกนี้เปนกามาวจร อีก ๑๖ ชั้นเปนพวกรูปาวจร อีก ๔ ชั้นเปนอรูปาวจร นี่เปนชั้นๆ ไปเลย ทีนี้ เดี๋ยวนี้ เรามาชี้ที่นี่เดี๋ยวนี้ ในจิตใจของคนบางเวลามีสภาพ อยางนี้ จัดเปนกี่ชนิดก็ได บางเวลาอยูในสภาพอยางนี้ คือสูงไปกวา บางเวลาสูงกวา จะเปนกี่ชั้นก็ได นี่การจัดชั้นสวรรคโดยภาษาคนมันก็อยางหนึ่ง โดยภาษาธรรม มันก็อีกอยางหนึ่ง มีความสุขเฉพาะแบบของตน กามาวจรก็สุขเพราะ กาม รูปาวจรก็สุขเพราะรูปบริสุทธิ์ อรูปาวจรก็สุขเพราะอรูป คือไมมีรูป โปรดใชเลมนี้ใหคุมสุดคุม & อานแลว -> แบงกันอานหลายทานนะจะ

อานสิบรอบ ระดมสมองคิดสิบหน ฝกฝนปญญา พัฒนาการประยุกตใชในชีวิตประจําวัน จิตมีสติสัมปชัญญะ รูเทาทันสรรพสิ่งตามเปนจริง ฉลาดใช เฉลียวคิด ชีวิตจักสนุก สุข สงบ เย็น เฉกเชนไดสัมผัสพระนิพพานนอยๆ ระหวางวัน สํานักพิมพเลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน ปรารถนาใหทุกครอบครัวมีความสุข

บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๓๒

เทวดาทั้งหลายยังมีกิเลส โลภ โกรธ หลง ໚¹à·Ç´Ò¡çÂѧ·Ø¡¢ à¾ÃÒÐÂѧµŒÍ§àÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´

㪋æ àÃÒÁÒ»¯ÔºÑµÔ¸ÃÃÁ à¾×èͤÇÒÁ¾Œ¹·Ø¡¢ ÁØ‹§ÊÙ‹ ¾ÃйԾ¾Ò¹¡Ñ¹à¶ÍÐ

µŒÍ§»¯ÔºÑµÔ¸ÃÃÁà¾×èÍÊÔé¹ÊØ´ ¡ÒÃàÇÕ¹NjÒµÒÂà¡Ô´

แตที่มันนาหัวก็คือวา เทวดาทั้งหลายเหลานี้ยังมีกิเลส ยังมี ความโลภ ความโกรธ ความหลง ตามแบบของตน ชั้นพรหมรูปาวจร อรูปาวจร อาจจะไมมีกเิ ลสประเภทกาม หรือโลภ หรือโกรธอะไรมากนัก แตก็มีโมหะ มีตัวตนอยางยิ่ง ยิ่งกวาพวกชั้นลางๆ เสียอีก พวกพรหม ยิ่งกลัวตายกวาคนชั้นธรรมดาเสียอีก เพราะมีตัวตนที่เปนที่พอใจมาก

àÃÕ¡NjÒ໚¹ÊÇÃä ໚¹à·Ç´ÒáÅŒÇ ¡çÂѧÁÕ¡ÔàÅÊ ËÂÒº ÅÐàÍÕ´ µÒÁÅíҴѺ ¨¹¡ÃзÑè§ÅÐàÍÕ´·ÕèÊØ´ ÂÖ´¶×͵Ñǵ¹ÍѹºÃÔÊØ·¸Ôì ໚¹ªÑé¹¾ÃËÁÊÙ§ÊØ´ àÁ×èÍÂѧÁÕ¤ÇÒÁÂÖ´¶×Í ·ÕèàÃÕÂ¡Ç‹Ò Íػҷҹ Áѹª‹ÇÂäÁ‹ä´Œ¡çµŒÍ§à»š¹·Ø¡¢ ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๓๓ ¾Ç¡·‹Ò¹¨§ÅФÇÒÁÂÖ´¶×Í ã¹¡ÒÂÍѹºÃÔÊØ·¸Ôì 㹤ÇÒÁÊØ¢Íѹ»Ãгյ áŌǻ¯ÔºÑµÔà¾×è͹Ծ¾Ò¹à¶Ô´

ÊÒ¸Ø

อยางที่พระพุทธเจาทานตรัสไววา สงฺขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา ยึดถือในขันธแลวก็ตองเปนทุกข ยึดถือทั้ง ๕ ขันธก็เปน ทุกข ยึดถือเพียงขันธเดียว เชนพวกอสัญญีสัตว มีแตรูป นี้มันก็เปนทุกข เพราะมันก็ยึดถือ พวกที่เปนอรูปมีแตเวทนาขันธ ๔ ขันธ ก็ยังเปนทุกข เพราะยึดถือ ๔ ขันธนั้น ฉะนั้น เทวดาทั้งหลายก็ยังมีกิเลสและยังมีความ ยึดถือ ดังนั้นจึงมีความทุกข การเกิดเปนเทวดาหรือพรหม ลวนไมเที่ยง เพียงแคชั่วคราว เมื่อ หมดบุญก็ตอ งเวียนวายตายเกิดตอไปตามกรรม ตามบุญบาปทีไ่ ดกระทํา ไว ตายแลวอาจจะไปเกิดในอบายภูมกิ ไ็ ด นีค่ อื ความนากลัวของสังสารวัฏ พระพุทธเจาจึงตรัสสอนใหปฏิบัติธรรมเพื่อ “พระนิพพาน” บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


๓๔

สวรรคในภาษาธรรม สัมผัสไดเมื่อใจเปนสุข Êآ᷌ ÊØ¢·Ñ¹ã¨ ÊØ¢ÀÒÂã¹ ´ŒÇ “ÅÁËÒÂ㨔 ¢Í§àÃÒàͧ

เอา ทีนมี้ นั มีจดุ ทีค่ นทัว่ ไปจะยอมรับไดยาก เวนไวแตหลับตาเชือ่ อยางในสวรรคกามาวจรนี้ เทวดาผูช ายนัน้ ก็มนี างฟาตัง้ รอย ตัง้ พัน ตัง้ หมืน่ คนสวยๆ ทีเ่ ต็มไปดวยปจจัยแหงความรูส กึ ทางกามหลายๆ รอยคน มารุม กระทําแกคุณคนเดียว คุณจะทนไหวหรือ ? คุณเปนผูชายคนเดียว แลว ผูหญิงตั้งหลายๆ รอยที่สมบูรณดวยปจจัยทางเพศมารุมแกคุณคนเดียว มันคงตายเลย อยางนี้มันเขาใจยากที่เขาพรรณนาไวในสวรรค หรือวาชั้นปรนิมมิตวสวัตตีนี้ แปลวา ไมตองทําอะไรหมด ไม ตองเคลื่อนไหวอะไรหมด อะไรๆ ก็มาชวยทําให คลายกับวากินอาหาร ก็มีคนปอนให นี่สวรรคชั้นนี้เปนที่อยูของพญามารวสวัตตี เปนชั้นที่จะมี คนอืน่ ชวยทําให เขาเรียกวาปรนิมมิต คนอืน่ มาทําให คือนิมติ ให มันก็รบั ไมคอยลง คนอื่นจะไปชวยถายอุจจาระแทน ถายปสสาวะแทน มันเปน สิ่งที่เขาใจไมได มันก็เกินไป ปิ ด น ร ก เ ปิ ด ส ว ร ร ค์


๓๕ ¤Ô´´ÕàÁ×èÍã´ ¡çä»ÊÇÃä àÁ×è͹Ñé¹

ËÁÑè¹·íÒ´ÕࢌÒäÇŒ ¨ÐÊÑÁ¼ÑÊÊÇÃä ä´Œ ·Ñé§ã¹âÅ¡¹ÕéáÅÐ âš˹ŒÒ¹Ð¤ÃѺ

แลวเทวดาพวกอสัญญีมีแตรางกายลุนๆ เขาเรียกกันวาพรหม ลูกฟก แตเขาก็ตองอธิบายอยางอืน่ มีเหตุปจ จัยเปนอยางอืน่ ทีม่ นั ยังเปน สัตวอยูได ไมมีจิตมีแตกาย ผมอธิบายพรหมไมมีจิต มีแตกาย หรือเรียกวาขันธเดียวนี้ มัน เหมือนกับบางเวลา เราไมสนใจเรื่องจิตใจเลย เราทําความรูสึกสนใจแต เรือ่ งรางกายเทานัน้ มีความหมายในเรือ่ งรางกาย นีจ่ ะพอสงเคราะหสรุป รวมลงในพรหมชั้นนี้ได ทีนี้ อรูปพรหมก็ไมมีรูป มีแตจิต จะมีไดอยางไร ? ลวนแตเปน แงมุมที่เปนปมดอยใหถูกวิพากษวิจารณอยางที่ยอมรับไมไดถากลาวใน ภาษาคน ฉะนั้น ผมจึงชอบในภาษาธรรม อธิบายใหเห็นได เขาใจได ยอมรับไดในความหมายอยางนี้ ก็เรียกวาสวรรคในภาษาคนคืออยางนั้น ถาสวรรคในภาษาธรรมก็เรื่องจิตใจ เมื่อจิตใจมันรูสึกเปนสุขในลักษณะ อยางนั้นก็เรียกวาสวรรค เดี๋ยวก็จะพูดกันใหละเอียด เพราะผมตองการ ใหทุกคนเขาใจ และมีสวรรคชนิดภาษาธรรม บ ริ ษั ท สํ า นั กพิ ม พ์ เ ลี่ ย ง เ ชี ย ง เ พี ย ร เ พื่ อพุ ท ธศ าสน์ จํ า กั ด


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.