โยคะสารัตถะ ฉบับเดือนสิงหาคม 2555

Page 1

¨จ´ดËหÁมÒาÂย¢ข ‹ÒาÇว âโÂย¤คÐะÊสÒาÃรÑัµต¶ถÐะ

ÊสÒาÃรÑัµต¶ถÐะ ÊสÔิ§งËหÒา¤คÁม 2555

www.thaiyogainstitute.com [1]


¨จ´ดËหÁมÒาÂย¢ข ‹ÒาÇว âโÂย¤คÐะÊสÒาÃรÑัµต¶ถÐะ ÇวÔิ¶ถÕีªชÕีÇวÔิµตàเ¾พ×ื่ÍอÊสØุ¢ขÀภÒาÇวÐะ

·ท∙Õี่»ปÃรÖึ¡กÉษÒา áแ¡ก ŒÇว ÇวÔิ±ฑÙูÃรÂย àเ¸ธÕีÂยÃร ¸ธÕีÃรàเ´ดªช ÍอØุ·ท∙ÑัÂยÇวÔิ·ท∙ÂยÒาÃรÑัµต¹น  ¹น¾พ.Âย§งÂยØุ·ท∙¸ธ Çว§งÈศ ÀภÔิÃรÁมÂย ÈศÒา¹นµตÔิ์ ¹น¾พ.ÊสÁมÈศÑั¡ก´ดÔิ์ ªชØุ³ณËหÃรÑัÈศÁมÔิ์

¡กÃรÃรÁม¡กÒาÃร ¡กÇวÕี ¤ค§งÀภÑั¡ก´ดÕี¾พ§งÉษ , ¨จÕีÃรÐะ¾พÃร »ปÃรÐะâโÂยªช¹น ÇวÔิºบÙูÅลÂย , ¹นÑั¹น·ท∙¡กÒา àเ¨จÃรÔิ­Þญ¸ธÃรÃรÁม, ÃรÑั°ฐ¸ธ¹นÑั¹น·ท∙  ¾พÔิÃรÔิÂยÐะ¡กØุÅลªชÑัÂย, ÇวÃรÃร³ณÇวÔิÀภÒา ÁมÒาÅลÑัÂย¹นÇวÅล, ÊสÁม´ดØุÅลÂย  ËหÁมÑั่¹นàเ¾พÕีÂยÃร¡กÒาÃร

ÊสÓำ¹นÑั¡ก§งÒา¹น ¾พÃร·ท∙Ôิ¾พÂย  ÍอÖึ§ง¤คàเ´ดªชÒา, ÇวÑัÅลÅลÀภÒา ³ณÐะ¹นÇวÅล, ÊสØุ¨จÔิµต¯ฏÒา ÇวÔิàเªชÕีÂยÃร

¡กÍอ§งºบÃรÃร³ณÒา¸ธÔิ¡กÒาÃร ¨จÔิÃรÇวÃรÃร³ณ µตÑั้§ง¨จÔิµตàเÁม¸ธÕี, ªช¹นÒา¾พÃร àเËหÅล×ืÍอ§งÃรÐะ¦ฆÑั§ง, ³ณÑัµต°ฐÔิÂยÒา »ป ÂยÁมËหÑั¹นµต , ³ณÑั¯ฏ°ฐ ÇวÃร´ดÕี ÈศÔิÃรÔิ¡กØุÅลÀภÑั·ท∙ÃรÈศÃรÕี, ¸ธ¹นÇวÑัªชÃร  àเ¡กµต¹น ÇวÔิÁมØุµต, ¸ธÕีÃรÔิ¹น·ท∙Ãร  ÍอØุªชªชÔิ¹น, ¾พÃร¨จÑั¹น·ท∙Ãร  ¨จÑั¹น·ท∙¹นäไ¾พÃรÇวÑั¹น, ÇวÔิÊสÒา¢ขÒา äไ¼ผ ‹§งÒาÁม, ÇวÕีÃรÐะ¾พ§งÉษ  äไ¡กÃรÇวÔิ·ท∙Âย , ÈศÑั¹นÊส¹นÕีÂย  ¹นÔิÃรÒาÁมÔิÉษ

¤คØุÂย¡กÑั¹น¡ก ‹Íอ¹น ได้มีโอกาสเจอเครือข่ายครูที่อบรมกันไปในรุ่นต่างๆ ทั้งพบกันตามงานโยคะ ได้คุยทางโทรศัพท์ หรือได้ทักทายกันทางเฟซบุค รู้สึกดี โดยเฉพาะเมื่อได้รู้ว่าทุกคนก็ยังมีโยคะเป็นเครื่องอยู่อย่างหนึ่งของ ชีวิต และทุกครั้งก็จะบอกเสมอว่า เดือนละครั้ง สถาบันฯ ก็จะสื่อสาร แจ้งข่าวคราวความเคลื่อนไหวผ่าน ทางจดหมายข่าวสารัตถะนี้ ซึ่งก็มีทั้งรูปแบบถ่ายเอกสารส่งทางไปรษณีย์ แบบ ms Word ส่งทางอีเมล์ และแบบ pdf ไฟล์ ที่อ่านกันทางเวบ ทั้งเวบสถาบันฯ และเวบ บริการที่เราเอาจดหมายข่าวนี้ไปโพสท์ ไว้ ใครสะดวกช่องทางไหน ก็ว่ากันไปนะครับ

2]


Activities update

CONTENTS

04 : âโÂย¤คÐะÍอÒาÊส¹นÐะ¢ขÑั้¹น¾พ×ื้¹น°ฐÒา¹น áแÅลÐะ âโÂย¤คÐะãใ¹นÊสÇว¹น¸ธÃรÃรÁม

06

05 : ÀภÒาÃร¡กÔิ¨จ¾พÒา¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะ ¾พÒา¤ค¹นËหÅล§ง·ท∙Òา§ง¡กÅลÑัºบºบ ŒÒา¹น กิจกรรมที่จะทำให้คุณตระหนักรู้ถึงอีกหนึ่งคุณค่าของ ครูโยคะ 06 : ¾พÔิ¸ธÕีäไËหÇว Œ¤คÃรÙู áแÅลÐะ¾พºบ»ปÐะ»ปÃรÐะ¨จÓำ»ปี กิจกรรมรำลึกพระคุณคุณครูฮิโรชิ และครูฮิเดโกะ ผู้นำ Knowledge base yoga มาสู่วิถีชีวิต 07 : §งÒา¹นÃรÓำÅลÖึ¡ก Íอ.¡กÃรØุ³ณÒา ¡กØุÈศÅลÒาÊสÑัÂย 08 : ¸ธÃรÃรÁมÐะ àเ¾พ×ื่Íอ¡กÒาÃรàเÂยÕีÂยÇวÂยÒา áแÅลÐะãใËห Œ¡กÓำÅลÑั§งãใ¨จ¼ผÙู Œ»ป †ÇวÂย ¤คÃรÑั้§ง·ท∙Õี่ 5

10

08

ÇวÔิ¶ถÕีâโÂย¤คÐะ ÇวÔิ¶ถÕีªชÕีÇวÔิµต 10 : ÍอÒาËหÒาÃร»ปÃรÐะ·ท∙Ñั§งªชÕีÇวÔิµต วิถีโยคะ ในมื้ออาหาร จากอินเดีย โดย..ครูหนู ชมชื่น สิทธิเวช 09 : ªชÇว¹น¤คÔิ´ด

15

¡กÃรÐะáแÊส·ท∙Õี่¶ถÒาâโ¶ถÁม เรียนรู้เส้นทางชีวิต ที่ยืนท่ามกลางกระแสที่ถาโถม 15 GATEWAY บทกวี ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกตเวย์ แหล่ง ช้อปปิ้งล่าสุด 18 µตÓำÃรÑัºบÂยÒา¨จÕี¹น·ท∙Òา§งãใ¨จ

¤คÍอÅลÑัÁม¹น »ปÃรÐะ¨จÓำ 12 : ¤คØุ³ณ¶ถÒาÁมàเÃรÒาµตÍอºบ

16 µตÓำÃรÒาâโÂย¤คÐะ´ดÑั้§งàเ´ดÔิÁม

14 áแ¹นÐะ¹นÓำËห¹นÑั§งÊส×ืÍอ

20 ¾พÃรÐะäไµตÃร»ป ®ฎ¡กáแ¡ก ‹¹น¸ธÃรÃรÁม

3]

18


Activities ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม´ดÕีæๆ

ÊสÔิ§งËหÒา¤คÁม 26

âโÂย¤คÐะÍอÒาÊส¹นÐะ¢ขÑั้¹น¾พ×ื้¹น°ฐÒา¹นàเ¾พ×ื่Íอ¤คÇวÒาÁมÊสØุ¢ข ÊสÓำËหÃรÑัºบ¼ผÙู้àเÃรÔิ่Áมµต้¹น

จัดวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม เวลา 9.00 – 15.00 น. ที่ชั้น 6 ห้อง 262 คณะมนุษยศาสตร์ มศว ประสานมิตร ค่าลงทะเบียน 650 บาท

âโÂย¤คÐะãใ¹นÊสÇว¹น¸ธÃรÃรÁม ³ณ ËหÍอ¨จ´ดËหÁมÒาÂยàเËหµตØุ¾พØุ·ท∙¸ธ·ท∙ÒาÊส

1

8

15

22

29

ทุกวันพุธ เวลา17.00 – 18.30 น. 1 ส.ค. ครูวิทยา ยิ่งศิริรัตน์ (หวุ่น) โยคะในสวนธรรม 8 ส.ค. ครูธนวไล เจริญจันทร์แดง (เงาะ) โยคะ สบาย สบาย 15 ส.ค. ครูวรรณวิภา มาลัยนวล (อ๊อด) โยคะ สมดุล ชีวิต 22 ส.ค. ครูณัฐทพัสส์ เพ็งกลางเดือน (ตุ๊ก) โยคะสำหรับชีวิตประจำวัน 29 ส.ค. ครูพรทิพย์ อึงคเดชา (เปิ้ล) โยคะในสวนธรรม และวันเสาร์ที่ 25 14.00 – 16.00 น. ครูธนา จินดาโชตินันท์ (ขนมปัง) หัวข้อ โยคะกับการบริหาร ความเครียด ไม่เสียค่าใช้จ่าย 4]


Ãร ‹ÇวÁม¡กÑัºบ ÀภÒา¤คÇวÔิªชÒา»ปÃรÑัªช­ÞญÒาáแÅลÐะÈศÒาÊส¹นÒา ¤ค³ณÐะÁม¹นØุÉษÂยÈศÒาÊสµตÃร  Áม.ÈศÃรÕี¹น¤คÃรÔิ¹น·ท∙ÃรÇวÔิâโÃร²ฒ»ปÃรÐะÊสÒา¹นÁมÔิµตÃร àเªชÔิ­Þญ¿ฟÑั§งºบÃรÃรÂยÒาÂย

ÀภÒาÃร¡กÔิ¨จ¢ขÍอ§ง¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะ ..

¾พÒา¤ค¹นËหÅล§ง·ท∙Òา§ง¡กÅลÑั ºบºบé้Òา¹น âโ´ดÂย.. ÃรÈศ.

´ดÃร.âโÊสÃรÕี«ซ  âโ¾พ¸ธÔิáแ¡ก ŒÇว

¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะàเ»ป š¹นàเËหÁม×ืÍอ¹นÁมÑั¤ค¤คØุàเ·ท∙Èศ¡ก  Ãร ‹ÇวÁมàเ´ดÔิ¹น·ท∙Òา§ง¡กÑัºบ¼ผÙู Œ¤ค¹น ¨จÒา¡ก¤คÇวÒาÁม·ท∙Øุ¡ก¢ข ..äไ»ปÊสÙู ‹¤คÇวÒาÁมÊสØุ¢ข ¨จÒา¡ก¤คÇวÒาÁมàเÃร ‹ÒาÃร ŒÍอ¹น..äไ»ปÊสÙู ‹¤คÇวÒาÁมÊส§งºบàเÂย็¹น ¨จÒา¡ก¤คÇวÒาÁมÂยÖึ´ดÁมÑั่¹นËห¹น ‹Çว§งàเËห¹นÕี่ÂยÇว..äไ»ปÊสÙู ‹ÍอÔิÊสÃรÀภÒา¾พ àเ»ป š¹น¡กÒาÃร¾พÒา¤ค¹นËหÅล§ง·ท∙Òา§ง¡กÅลÑัºบºบ ŒÒา¹น

ÍอÑั§ง¤คÒาÃร 25 ¡กÑั¹นÂยÒาÂย¹น 2555 16.00-17.00 ¹น.

àเÃรÒา¨จÐะàเ»ป š¹น¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะäไ»ป·ท∙ÓำäไÁม ¶ถ ŒÒาàเÃรÒาäไÁม ‹ÊสÒาÁมÒาÃร¶ถªช ‹ÇวÂย¼ผÙู Œ¤ค¹นãใËห Œàเ¡กÔิ´ด¤คÇวÒาÁมÃรÙู ŒÊสÖึ¡ก´ดÕีæๆ ¡กÑั ºบªชÕีÇวÔิµต? àเÃรÒา¨จÐะàเ»ป š¹น¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะäไ»ป·ท∙ÓำäไÁม ¶ถ ŒÒาàเÃรÒาäไÁม ‹ÊสÒาÁมÒาÃร¶ถªช ‹ÇวÂย¶ถÍอ¹นÃรÒา¡กàเËห§ง ŒÒาáแËห ‹§ง¤คÇวÒาÁม·ท∙Øุ¡ก¢ข ? àเÃรÒา¨จÐะàเ»ป š¹น¤คÃรÙูâโÂย¤คÐะäไ»ป·ท∙ÓำäไÁม ¶ถ ŒÒา¡กÒาÃรÁมÕีªชÕีÇวÔิµต¢ขÍอ§งàเÃรÒาäไÁม ‹ÁมÕี¤คØุ³ณÀภÒา¾พ äไÁม ‹ÍอÒา¨จªช ‹ÇวÂย»ปÃรÐะ¤คÑั ºบ»ปÃรÐะ¤คÍอ§งãใËห ŒâโÅล¡ก¹นÕีé้¹น ‹ÒาÍอÂยÙู ‹

5]


¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมäไËหÇว้¤คÃรÙู

สถาบันโยคะวิชาการ ร่วมกับ ภาควิชาปรัชญา และศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เชิญร่วมกิจกรรมไหว้ครู และ การพบปะประจำปี ๒๕๕๕ วันเสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม โดยเชิญชวนบริจาค สมทบทุนค่าใช้จ่ายในการจัดงาน และเพื่อมอบให้ครูทั้ง ๒ ไปใช้ใน กิจกรรมเผยแพร่โยคะต่อไป

áแÅลÐะ¾พºบ»ปÐะ»ปÃรÐะ¨จÓำ»ปÕี 2555

¢ข³ณÐะ¹นÕี้·ท∙Øุ¡ก·ท∙่Òา¹น·ท∙Õี่ÁมÕี äไÍอâโ¿ฟ¹น, äไÍอàเ¾พ´ด, ÊสÒาÁมÒาÃร¶ถ´ดÒาÇว¹น์âโËหÅล´ดÍอ่Òา¹น¤คÙู่Áม×ืÍอËหÁมÍอªชÒาÇวºบ้Òา¹น

¿ฟÃรÕี äไ´ด้áแÅล้Çว

¾พºบ¡กÑัºบ DoctorMe áแÍอ»ป¾พÅลÔิàเ¤คªชÑั¹น´ด้Òา¹นÊสØุ¢ขÀภÒา¾พºบ¹น iOS µตÑัÇวáแÃร¡ก¢ขÍอ§ง¤ค¹นäไ·ท∙Âย ãใËห้¤คØุ³ณÃรÙู้ÇวÔิ¸ธÕี´ดÙูáแÅลµตÑัÇวàเÍอ§ง ¨จÒา¡กÍอÒา¡กÒาÃรàเ¨จ็ºบ»ป่ÇวÂยàเºบ×ื้Íอ§งµต้¹น´ด้ÇวÂยµต¹นàเÍอ§ง àเªช่¹น àเ»ป็¹นäไ¢ข้ àเ¨จ็ºบ¤คÍอ »ปÇว´ดËหÑัÇว »ปÇว´ด·ท∙้Íอ§ง ÏฯÅลÏฯ âโËหÅล´ดÍอ่Òา¹นäไ´ด้·ท∙Ñั่ÇวâโÅล¡ก ·ท∙Õี่ doctorme.in.th ¤คÃรÑัºบ

6]


Ãร ‹ÇวÁมÃรÓำÅลÖึ¡ก Íอ.¡กÃรØุ³ณÒา ¡กØุÈศÅลÒาÊสÑัÂย

ขอเชิญร่วมรำลึก อ.กรุณา กุศลาสัย วันเสาร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมศูนย์วัฒนธรรมอินเดีย ชั้น ๒๗ อาคารจัสมินซิตี้ ปากซอยสุขุมวิท ๒๓ เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ๑๔๐๐ Smt. R. Narayanan ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมฯ กล่าวต้อนรับ อ.เรืองอุไร กุศลาสัย จุดโคมประทีปเปิดงาน ๑๔๑๕ ระบำอินเดีย Kathak Dance จัดโดย ICC ๑๔๓๐ เสวนาหัวข้อ “อินเดีย เห็นด้วยตา รู้ด้วยใจ” โดย อ.ประมวล เพ็งจันทร์ และ อ.คมกฤช อุ้ยเต็กเค่ง (เชฟหมี) และร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมอินเดีย ๑๖.๐๐ การแสดงดนตรีร่วมสมัย Ananda Kirtan โดยศิลปินไทยวง Govinda Bhasya & Chladni Chandi ๑๖๓๐ ปัจฉิมปาฐกถา โดยอ.สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ [7]


“¸ธÃรÃรÁมÐะàเ¾พ×ื่Íอ¡กÒาÃรàเÂยÕีÂยÇวÂยÒาáแÅลÐะãใËห Œ¡กÓำÅลÑั§งãใ¨จ¼ผÙู Œ»ป †ÇวÂย” ¤คÃรÑั้§ง·ท∙Õี่ õ๕

àเÊสÒาÃร  25 ÊสÔิ§งËหÒา¤คÁม ¡กÅลØุ ‹Áม¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁมàเ¾พ×ื่ÍอÊสÑั§ง¤คÁม Çว»ปÍอ. ¢ขÍอàเªชÔิ­Þญàเ¢ข ŒÒาÃร ‹ÇวÁมâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรÍอºบÃรÁม “¸ธÃรÃรÁมÐะàเ¾พ×ื่Íอ¡กÒาÃรàเÂยÕีÂยÇวÂยÒาáแÅลÐะãใËห Œ¡กÓำÅลÑั§งãใ¨จ¼ผÙู Œ»ป †ÇวÂย” ¤คÃรÑั้§ง·ท∙Õี่ õ๕ ÇวÑั¹นàเÊสÒาÃร ·ท∙Õี่ 25 ÊสÔิ§งËหÒา¤คÁม 2555 ³ณ ÊสâโÁมÊสÃร¹นÒาÂย·ท∙ËหÒาÃรÊสÑั­Þญ­ÞญÒาºบÑัµตÃร ÇวÔิ·ท∙ÂยÒาÅลÑัÂย»ป ‡Íอ§ง¡กÑั¹นÃรÒาªชÍอÒา³ณÒา¨จÑั¡กÃร 08.30 Åล§ง·ท∙ÐะàเºบÕีÂย¹น àเ»ป ´ดÍอºบÃรÁม áแÅลÐะ»ป°ฐÁม¹นÔิàเ·ท∙Èศ 09.00-10.00 ½ฝ ƒ¡ก¡กÒาÃรàเ¨จÃรÔิ­ÞญÊสµตÔิÀภÒาÇว¹นÒาµตÒาÁมáแ¹นÇว·ท∙Òา§งËหÅลÇว§ง¾พ ‹Íอàเ·ท∙ÕีÂย¹น: áแ´ด ‹àเ¸ธÍอ¼ผÙู ŒÃรÙู ŒÊสÖึ¡กµตÑัÇว âโ´ดÂย¾พÃรÐะÇวÔิ·ท∙ÂยÒา¡กÃร: ¾พÃรÐะÍอ¸ธÔิ¡กÒาÃร¤คÃรÃรªชÔิµต Íอ¡กÔิ­Þญ¨จâโ¹น ÇวÑั´ด»ป †ÒาÊสÑั¹นµตÔิ¸ธÃรÃรÁม ¨จ.ªชÑัÂยÀภÙูÁมÔิ 10.00-11.30 ÇวÔิ¶ถÕีáแËห ‹§งºบÑัÇวºบÒา¹น: ÇวÒา§งãใ¨จÃรÑัºบÁม×ืÍอ¡กÑัºบÁมÐะàเÃร็§งÃรÐะÂยÐะÊสØุ´ด·ท∙ ŒÒาÂยÊสÙู ‹¡กÒาÃรàเ»ปÅลÕี่Âย¹น¼ผ ‹Òา¹น·ท∙Õี่ÊสÓำ¤คÑั­Þญ¢ขÍอ§งªชÕีÇวÔิµต 11.30-13.00 ¾พÔิ¨จÒาÃร³ณÒาÍอÒาËหÒาÃร¡กÅลÒา§งÇวÑั¹น 13.00-14.00 àเ·ท∙¤ค¹นÔิ¤ค¡กÒาÃรËหÒาÂยãใ¨จ àเ¾พ×ื่Íอ¡กÒาÃรÃรÙู Œµต×ื่¹นáแÅลÐะ»ปÅล ‹ÍอÂยÇวÒา§ง, àเ·ท∙¤ค¹นÔิ¤ค¡กÒาÃร¼ผ ‹Íอ¹น¤คÅลÒาÂยÍอÂย ‹Òา§งÅลÖึ¡ก 14.00-16.30 ¡กÔิ¨จ¡กÃรÃรÁม¾พÅลÑั§ง¡กÅลØุ ‹Áมàเ¾พ×ื่Íอ¡กÒาÃรàเÂยÕีÂยÇวÂยÒา¤คÇวÒาÁมàเ¨จ็ºบ»ป †ÇวÂย 16.30 ÊสÃรØุ»ปâโ´ดÂย ¾พÃรÐะÍอÒา¨จÒาÃรÂย ¤คÃรÃรªชÔิµต Íอ¡กÔิ­Þญ¨จâโ¹น Ãร ‹ÇวÁม·ท∙ÓำºบØุ­Þญáแ´ด ‹¾พÃรÐะÍอÒา¨จÒาÃรÂย  áแÅลÐะ»ป ´ด¡กÒาÃรÍอºบÃรÁม àเ»ป š¹นâโ¤คÃร§ง¡กÒาÃรÍอºบÃรÁม¸ธÃรÃรÁม·ท∙Òา¹นäไÁม ‹ÁมÕี¤ค ‹Òาãใªช Œ¨จ ‹ÒาÂย Ëห ŒÍอ§งÍอºบÃรÁมàเ»ป š¹นËห ŒÍอ§ง»ปÃรÑัºบÍอÒา¡กÒาÈศ ¡กÃรØุ³ณÒาáแµต ‹§ง¡กÒาÂยÊสØุÀภÒา¾พ ¡กÃรØุ³ณÒาÊส ‹§งªช×ื่Íอ-¹นÒาÁมÊส¡กØุÅล àเ¾พ×ื่ÍอÅล§ง·ท∙ÐะàเºบÕีÂย¹นÍอºบÃรÁม äไ´ด Œ·ท∙Õี่ e-mail address : mukda.ndc@gmail.com ÊสÍอºบ¶ถÒาÁมÃรÒาÂยÅลÐะàเÍอÕีÂย´ด âโ·ท∙Ãร ¤คØุ³ณÁมØุ¡ก´ดÒา 081-8431115 , ¤คØุ³ณÍอ Íอ´ด 084-643-9245

[8]


ªชÇว¹น¤คÔิ´ด

¡กÃรÐะáแÊส·ท∙Õี่¶ถÒาâโ¶ถÁม ¹นÔิÃร¹นÒาÁม เช้าวันหนึ่ง ระหว่างเดินเท้าออกจากบ้าน พบเพื่อนบ้านคน หนึ่ง จึ่งแวะทักทายกันพร้อมกับเรื่องเล่า จากปากพี่เขาที่ชื่นชมผล การเรียนของหลานชาย หนุ่มน้อยที่เพิ่งผ่านพ้นการรับพระราชทาน ปริญญาบัตร ระดับปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ ภาควิชาการ เงินไปด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 จากทั้งรุ่นที่จบประมาณกว่า 80 คน จำนวนผู้ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง 3 ราย เกียรตินิยม อันดับ 2 อีกประมาณกว่า 40 ราย โดยได้เปรยให้ฟังว่า 1 ในนั้น ไม่ ได้มารับปริญญาบัตร ขนาดที่พ่อแม่ต้องร้องไห้ เพราะถูกสถาบันการ เงินต่างชาติยักษ์ใหญ่เรียกตัวให้เริ่มงานทันที โดยต้องเดินทางไปต่าง ประเทศเพื่อฝึกงานเป็นระยะเวลา 3 เดือน ด้วยอัตราเงินเดือนเริ่มต้น ที่ 50,000 บาท ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นส่วนใหญ่ถูกจองตัวโดยสถาบัน การเงิ น สั ญ ชาติ ไ ทย ด้ ว ยอั ต ราเงิ น เดื อ นเริ ่ ม ต้ น ที ่ 30,000 บาท บ่ายวันถัดมา มีโอกาสเดินทางไปติดต่อเพื่อขอยืมใช้สถานที่ จากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เมื่อเดินดูสถานที่เป็นที่เรียบร้อย รับรู้ ได้ถึงความโอ่อ่า ทันสมัย พยายามมองหาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถาม ข้อมูล แต่ไม่พบใคร มองไปพบเจอแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ให้ข้อมูลได้เพียงว่า ต้องไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่อีกฝ่าย ซึ่งประจำ อยู่ ณ อาคารฟากด้านตรงข้าม จึงได้ถามเจ้าหน้าที่กลับไปว่า แล้ว อาคารที่ข้าพเจ้ายืนอยู่เรียกว่า อาคารอะไร เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “ตึก 400 ล้าน” บัดดลข้าพเจ้าจึงถามกลับไปว่า เป็นราคาของการ ก่อสร้างหรือ เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “ใช่”

เมื่อข้าพเจ้าเดินออกจากอาคารมา พร้อมกับผินหน้าไปมอง ที่ตัวอาคาร ได้แลเห็นว่า มีชื่อติดอยู่ที่ด้านหน้าอาคาร แต่ก็ให้แปลก ใจอยู่ดีว่า เมื่อไปติดต่อกับทางผู้รับผิดชอบตามที่เจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยแจ้งไว้ ข้าพเจ้าได้แจ้งชื่อตึกไปตามป้ายชื่ออาคารที่ เห็นมา แต่ทางเจ้าของสถานที่ยังคงเรียกติดปากตอบกลับมาด้วยชื่อ “อาคาร 400 ล้าน” เย็นวันเดียวกัน มีเหตุต้องเดินทางมาอาคารกลางสี่แยก แห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง เป็นอาคารรวมศูนย์กวดวิชา เหล่า ทรัพยากรของชาติทั้งหลาย ที่อยู่ในเครื่องแบบมัธยมปลายเสียเป็น ส่วนใหญ่ พรั่งพรูเดินเข้าสู่ตัวอาคาร ข้าพเจ้าพลันเหลือบดูนาฬิกา เห็นว่าเป็นเวลาเลิกเรียนของนักเรียนทั้งหลาย พลันระลึกได้ว่าเมื่อ สมัยที่ข้าพเจ้าอยู่ในวัยเดียวกันนี้ เวลานี้เป็นเวลาที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ บ้าน รับประทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัว เล่นกับเพื่อนบ้านพอ ประมาณ อาบน้ำ ทำการบ้าน ทบทวนบทเรียนบ้าง อาจมีโอกาสได้ดู ทีวี แล้วจึงเข้านอน หากมองผ่านทะเลแห่งชีวิต โดยมีโลกใบนี้เป็นฉาก จะเห็น ความจริงว่า บางคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอาจไม่ได้ผ่าน สถาบันการศึกษาใดใด หรือบุคคลที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อ เสียง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงกับ การสร้างคุณภาพทางจิตใจ จึงยังคงกังขาต่อไปว่า การที่สภาพสังคม ณ ปัจจุบันเป็นเช่นนี้ ใครกันเป็นผู้ชี้นำให้กระแสไหลไปได้ไกลถึง เพียงนี้หนอ เรากำลังวัดค่าความเป็นคนจากความเจริญด้านไหน หนอ เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

[9]


¤คÃรÙูËห¹นÙู

ÍอÒาËหÒาÃร»ปÃรÐะ·ท∙Ñั§งªชÕีÇวÔิµต àเÃร×ื ่ Íอ §ง ¤คÃรÙู ªช Áมªช×ื ่ ¹น ÊสÔิ ·ท∙ ¸ธÔิ àเ Çวªช

ËหÅลÑั§ง¨จÒา¡ก·ท∙Õี่¾พÂยÒาÂยÒาÁมµตÑั้§งãใ¨จÃรÑัºบ»ปÃรÐะ·ท∙Òา¹นÍอÒาËหÒาÃร·ท∙Õี่àเËหÁม×ืÍอ¹น¡กÑั¹น·ท∙Øุ¡กÁม×ื้Íอãใ¹นâโÃร§งáแÃรÁม´ด ŒÇวÂย¤คÇวÒาÁมÃรÐะÅลÖึ¡กãใ¹นãใ¨จàเÊสÁมÍอÇว ‹Òา...¡กÔิ¹นÍอÒาËหÒาÃรÂยÒาÁม »ป¯ฏÔิºบÑัµตÔิ¸ธÃรÃรÁม¹นÑั้¹นàเ¾พ×ื่Íอ»ปÃรÐะ·ท∙Ñั§งªชÕีÇวÔิµต äไÁม ‹ãใªช ‹àเ¾พ×ื่ÍอàเÁมÒาÁมÑั¹น ·ท∙ ‹Òา¹นÍอÒา¨จÒาÃรÂย ªชÂยÊสÒาâโÃร ·ท∙ ‹Òา¹นÊสÍอ¹นãใËห ŒàเÃรÒาäไ´ด Œ¢ข ŒÍอ¤คÔิ´ดàเÃร×ื่Íอ§ง¡กÔิ¹น ¢ข³ณÐะ»ป¯ฏÔิºบÑัµตÔิ¸ธÃรÃรÁมäไÇว ŒÍอÂย ‹Òา§ง¹นÕี้ ©ฉÑั¹น¨จÖึ§งäไ´ด Œ¤คÇวÒาÁม¤คÔิ´ดàเ¡กÕี่ÂยÇว¡กÑัºบàเÁม¹นÙูÍอÒาËหÒาÃร¢ขÍอ§งâโÃร§งáแÃรÁม·ท∙Õี่©ฉÑั¹น¾พÑั¡กÇว ‹Òา àเ»ป š¹นàเÁม¹นÙูÍอÒาËหÒาÃรãใËห ŒàเÃรÒาäไ´ด Œ½ฝ ƒ¡ก¨จÔิµตãใ¨จ Åล´ดÅลÐะ¡กÒาÃรÅลÔิ้ÁมÃรÊสäไ´ด ŒÍอÂย ‹Òา§ง´ดÕี·ท∙Õีàเ´ดÕีÂยÇว àเ¾พÃรÒาÐะàเ»ป š¹นàเÁม¹นÙู·ท∙Õี่àเËหÁม×ืÍอ¹น¡กÑั¹น·ท∙Øุ¡กÇวÑั¹น àเªช ‹¹น »ปÙูÃรÕี่ (áแ»ป ‡§ง·ท∙Íอ´ด¤คÅล ŒÒาÂย«ซÒาÅลÒาàเ»ปÒา) áแ¡ก§ง¶ถÑั่ÇวÊสÕีàเËหÅล×ืÍอ§ง (DAL CURRY) áแ¡ก§ง¶ถÑั่ÇวÊสÕี´ดÓำ äไ¢ข ‹µต ŒÁม ¼ผÑั¡กªชØุºบ áแ»ป ‡§ง·ท∙Íอ´ด (VADA) ¨จÒา»ปÒาµตÕี (âโÃรµตÕี) áแÅลÐะàเÁม¹นÙูÍอÒาËหÒาÃรàเÂย็¹น ¼ผÑั´ดËหÁมÕี่áแºบºบ¨จÕี¹น ¢ข ŒÒาÇว¼ผÑั´ด ¼ผÑั´ด´ดÍอ¡ก¡กÐะËหÅล ‹Óำ ÁมÑั¹น½ฝÃรÑั่§ง·ท∙Íอ´ด ÁมÑั¹น½ฝÃรÑั่§งµต ŒÁมÊส ‹Çว¹น Áม×ื้Íอ¡กÅลÒา§งÇวÑั¹น ¨จÐะàเ»ป š¹นàเÁม¹นÙูµตÒาÁมÊสÑั่§ง áแµต ‹¡ก็¤ค§งäไÁม ‹¾พ Œ¹นÍอÒาËหÒาÃร»ปÃรÐะ¨จÓำ·ท∙Õี่¾พ ‹Íอ¤คÃรÑัÇว·ท∙Óำäไ´ด Œ¤ค×ืÍอ ¢ข ŒÒาÇว¼ผÑั´ด¼ผÑั¡ก HOT & SOUR SOUP ÃรÒาÂย¡กÒาÃรËหÅลÑั§ง¤ค×ืÍอ ÍอÒาËหÒาÃร´ดÕีàเ´ด ‹¹น ·ท∙Øุ¡กÇวÑั¹น·ท∙Õี่©ฉÑั¹นáแÅลÐะÊสËหÒาÂย¸ธÃรÃรÁม ¾พÑั¡กÍอÂยÙู ‹¾พÇว¡กàเÃรÒา¾พÂยÒาÂยÒาÁม Åล´ดÅลÐะ¡กÒาÃรÅลÔิ้ÁมÃรÊส ¡กÔิ¹นäไ»ปàเ¾พ×ื่Íอ»ปÃรÐะ·ท∙Ñั§งªชÕีÇวÔิµต Íอ Ðะ Íอ Ðะ ! áแµต ‹¡ก็äไÁม ‹ÇวÒาÂย ËหÂยÔิºบ¹น ŒÓำ¾พÃรÔิ¡กµตÒาáแ´ด§ง âโÃรÂยºบ¹น¢ข ŒÒาÇวáแ¢ข¡ก àเ¾พ×ื่Íอ»ปÃรÐะ·ท∙Ñั§งªชÕีÇวÔิµตàเªช ‹¹น¡กÑั¹น

[10]


วันสุดท้ายก่อนลาจากเมืองคยา ฉันและสหายธรรมจึงส่งท้ายด้วยการหาอาหารแบบลิ้มรสเพื่อประทังชีวิต และเพื่ออิ่มเอมกับ รสชาติ เดินไปพบเข้าโดยบังเอิญคือ ร้านอาหารแบบทิเบต ของคนทิเบตมาเปิดขายในเมืองคยา ตั้งอยู่ใน GUEST HOUSE ด้านหลังพระ ศรีมหาโพธิ์ เป็นร้านอาหารที่ลามะ หรือ ชาวทิเบต และชาวต่างชาติอื่น ๆ ชอบมาทานแต่ไม่มีคณะทัวร์ ฉันจึงเป็นกลุ่มคนไทยเล็ก ๆ ที่ เข้ามาทานที่ร้านนี้ ภายในร้านมีเพียง 4-5 โต๊ะ สะอาด ปลอดแมลงวัน ปลอดฝุ่น เพราะอยู่ชั้นใต้ดิน มาร้านอาหารทิเบต จึงต้องสั่งอาหารแบบคนทิเบต จะสั่งอาหารอินเดียคงถูกเชิญ ออกจากร้าน เพราะพ่อครัวเป็นคนทิเบต ฉันจึงสั่งอาหารยอดนิยมของทิเบต มาเรียกน้ำ ย่อยก่อน คือ โมโม หน้าตาคล้ายเกี๊ยวซ่า ของญี่ปุ่น หรือเกี๊ยวของจีน มีทั้งแบบนึ่งและ แบบทอดน้ำมัน อันดับต่อไปเป็นอาหารแบบหนักท้องหน่อย คือ ก๋วยเตี๋ยวทิเบต (ทุกป้า) มีทั้งแบบน้ำและแบบก๋วยเตี๋ยวผัด (ชาวเมง) เส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากแป้งเป็นชิ้นหนา ๆ ไม่ได้ เป็นเส้น ๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวแบบจีน ฉันจึงสั่งทั้ง 2 แบบมากินแบบลิ้มรส ทำให้คิดอีกว่าคน ทิเบต ถิ่นฐานอยู่บนที่สูงอากาศหนาว พืชผลคงปลูกไม่ได้ง่ายนัก เพราะฉะนั้นอาหารของ คนถิ่นนี้จึงเรียบง่ายมีเครื่องปรุงคือ พริกน้ำส้ม แบบพริกหั่น กับแบบพริกตำ แต่น้ำส้มของ ที่นี่ทำจากการกลั่นจากผลไม้ ที่มีคุณค่าทางอาหาร คนทิเบตเป็นคนร่างใหญ่ สูงโปร่ง เพราะฉะนั้น ปริมาณอาหารแต่ละจานจึงมีมาก ทำให้สาวไทยใจกล้าอย่างฉัน ไม่สมควรที่ จะสั่งอาหารให้มากไปกว่านี้ เมื่อกินแป้งเข้าไปมาก ๆ ท้องไส้มักจะอืด อาจจะเกิดลมใน กระเพาะอาหารได้ จึงลงไปนอนทำอาสนะ ปวันมุกตา ขจัดลมออกก็คงจะอาเจียนออกมา แน่ ๆ ลามะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะข้างเธออาจจะวิ่งหนีออกไป จะยุ่งกันใหญ่ จึงได้ความรู้ว่า คน ทิเบต เขาจะดื่มชาขิงกับน้ำผึ้งแบบร้อนเพื่อช่วยย่อยอาหาร จึงสั่งมาดื่มกิน ดื่มไปก็ เสีย สตางค์ เพราะมันช่างง่ายเสียจริง น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ขิงแก่หั่นซอย 4- 6 เส้น มะนาว ครึ่ง ลูก ใส่น้ำร้อน เต็มแก้ว ขณะก๋วยเตี๋ยวลงสู่ท้อง ความสำนึกรู้ขึ้นมาว่า มีผู้หิวโหยรออยู่ด้านหน้าของ GUEST HOUSE เธอร้องขอรับบริจาคทานจากเรา ก่อนหน้านี้ ฉันจึงสั่งอาหารพิเศษ คือ ก๋วยเตี๋ยวผัด ห่อพิเศษ เพื่อครอบครัวของเธอด้วย เราสื่อสารกันด้วยภาษามือและภาษาใจหญิงชราผม ยาวนั่งรอฉันเพื่อหวังแค่อาหารให้อิ่มท้อง น่าเสียดายที่พวกเราจะต้องเดินทางต่อ จึงไม่มีโอกาสรับหญิงชราผู้นี้อยู่ในความอนุเคราะห์ การให้ ทานของพวกเรา แต่อย่างไรก็ดี เธอได้ทำให้พวกเราตระหนักรู้ในความพอเพียงไม่กินทิ้งกินขว้าง เพราะ ผู้ไม่มีจะกินมีอยู่มากมายในอินเดีย ค่ะ

11!

[]


¤คØุ³ณ¶ถÒาÁม àเÃรÒาµตÍอºบ µตÔิ ´ด µตè่ Íอ ¢ขÍอ¤คÃรÙู äไ »ปÊสÍอ¹น ¶ถÒาÁม : อาจารย์จากธุรกิจบัณฑิต โทรมาติดต่อต้องการครูโยคะสอนให้กับเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย น่าจะทุกวันคะ แต่เนื่องจากหนูอยู่ไกล ราคาที่เสนอคือ 1,000 ต่อ 1 ครั้ง 1.30 ชั่วโมง เขาเงียบๆ คงมีเรื่องของงบประมาณด้วย ในกรณีเช่นนี้ เราจะตอบยังไงได้บ้างคะ

µตÍอºบ : อาจารย์ธุรกิจบัณฑิตโทรมาแล้ว ได้ให้ข้อมูลไป ผมชวนคุยว่าตัวอาจารย์รู้จักโยคะหรือยัง ซึ่งเขายังไม่รู้จัก แค่ดูแลเรื่องพลศึกษาและประสานงานให้ ก็เลยชวนอาจารย์ไปเรียนกับเราที่สวนโมกข์ (ฟรี) แล้วค่อยมาคุยกัน เพราะบ่อยครั้ง คนติดต่อมาไม่ได้รักโยคะ แค่ทำหน้าที่ แค่จะเปรียบเทียบราคา ซึ่งในกรณีแบบนี้ ผมจะไม่ตอบเรื่องราคาก่อน แต่จะ ให้เขาได้เข้าใจโยคะ ได้เข้าใจ สถาบันโยคะฯ ก่อนน่ะ ผลก็คือ คนส่วนนึงจะไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย เพราะเราไม่ตอบโจทย์เขา (และเขาก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเรา) ขณะที่คนอีกส่วนนึงจะ เข้าใจเรา เริ่มสนใจในสิ่งที่เราทำ เริ่มให้เกียรติเรา เริ่มทำการบ้านที่ตัวเองควรทำ คือ การหาข้อมูลเรื่องโยคะด้วย ไม่ใช่แค่หาเปรียบเทียบราคา กับคนกลุ่มนี้ เขาจะไม่ต่อราคา ไม่เอาเราไปเทียบราคาใดๆ จ้ะ และผมฝากอาจารย์ไปสอบถามคณะนักเรียนด้วยว่า ที่เขาสนใจจะเรียนโยคะ เขาจะเรียนอะไร ออกกำลังกายหรือโยคะ ผมบอก อาจารย์ว่า ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้การประสานงานง่าย ตรงความต้องการทั้งของคนเรียนและวิทยากร หากอาจารย์เขาโทรมาผมจะรายงานให้ทราบต่อไปครับ จะโทรมาไหมก็ไม่รู้:)

[12]


¤คØุ³ณ¶ถÒาÁม àเÃรÒาµตÍอºบ ÊสÍอ¹นâโÂย¤คÐะàเ´ดç็ ¡ก ¾พÔิ àเ ÈศÉษ ¶ถÒาÁม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดดงานไปสอนโยคะเด็กฟรี ครั้งแรก หนุกดีจัง มีเด็ก 11 คน ยังกะลิงทะโมนเลยค่ะ เด็ก ป. 2 เค้าเป็นเพื่อนร่วม ห้องเดียวกัน ในระหว่างคลาส ก็เอาวิชาที่เตรียมมา ปรับเปลี่ยนตลอด คอยดูพฤติกรรม เด็กไม่นิ่ง ก็ลองหยิบการเต้น “บาบานัมเควลัม” แบบนี โอฮิวแมนิสต์ ของ อ.เกียรติวรรณมาใช้ เด็กนิ่งและเริ่มสนใจทำตาม สังเกตพบว่า ระหว่างที่สอนท่าอาสนะสัตว์ต่างๆ พฤติกรรมความสนใจของเด็กแต่ละคนในท่วงท่านั้นไม่เหมือน กัน ถ้าเค้าสนใจท่า ไหนเค้าก็จะทำตาม แต่ถ้าเค้าไม่สนใจเค้าก็ไม่ทำตาม หลอกล่อสาระพัด (เหนื่อย แต่ก็มีความสุขจริงๆ ค่ะครู) จนเห็นพฤติกรรมของเด็กจริงๆ ค่ะ ปาเข้าไปเกือบ 40 นาที เด็กเบื่อแล้ว เลยทบทวนว่าวันนี้มีท่าอะไรบ้าง แปลกดี เด็กที่ซนสุดๆ ดูเหมือนไม่สนใจและไม่ทำตาม แต่ตอนจบ เค้าตอบได้ทุกท่าเลยค่ะ และสุดท้าย เพิ่งทราบว่าใน 11 คนนั้น มีเด็กพิเศษผสมอยู่ประมาณ 3 คน อิๆ มีทั้งไฮ, ออทิส, และลูกผสม (ออกับอะไรไม่ทราบ ไม่ คุ้นหูค่ะ) ถึงบ้างอ้อว่าทำไมเค้าทั้ง 3 ซนอย่างเอาไม่อยู่ ที่สำคัญเป็นเด็กผู้ชายด้วย และ 1 ในนั้น เป็นลูกผสม เค้าชวนเก็บเก้าอี้ มีน้ำใจสุดๆ เลยค่ะ ด้วยความซนของเค้า เค้าจะเกาะติดเราตลอด (เด็ก ป.4) จนคุณยายเค้าเข้ามาบอกหลานว่าอย่าซนให้ดูเพื่อนๆ บ้าง (ช่วง 20 นาที แรก เค้าร่าเริงพอโดนคุณยายดุ เขานิ่งเงียบน้อยใจ เราเข้าไปชวนเค้าเข้ามาในกลุ่มเพื่อเล่นต่อ เค้าบอกว่าไม่ เพียงแต่พูดว่า "ผิดหวังอย่างแรง") เลยอยากถามครูว่า ในคลาสควรจะแยกเด็กปกติกับเด็กพิเศษรึป่าวค่ะ หรือว่าก็ผสมกันไป แล้วเราจะจัดการอย่างไรในคลาสค่ะ

µตÍอºบ : ดีใจจังที่เราเริ่มสอนเด็กแล้ว ผมไม่มีทักษะในการสอนโยคะเด็กเลย ดังนั้นคำตอบนี้แค่จำเขามา และห้ามอ้างอิงนะ เท่าที่เคยดูจากโรงเรียน.อนุบาลทางเลือกทั้งหลาย เขาจะผสมกันเลยครับ เช่น เด็กปกติ ๑๕ เด็กพิเศษ ๑ คน เหตุผลคือ ในสังคมจริงๆ นั้น คนคละกัน ดังนั้นในโรงเรียน ก็ควรจะสะท้อนภาพจริงของสังคมน่ะ ครูเขาอธิบายถึงผลที่ได้ว่า เด็กพิเศษ ก็จะมีการเรียนรู้ การอยู่ในสังคมจากเด็กปกติ ขณะที่เด็กปกติ ก็จะเรียนรู้ที่จะเอื้ออาทรต่อเด็ก พิเศษ ทำให้เด็กปกติคนนั้น มีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อสังคมที่มีความหลากหลาย กล่าวคือได้ประโยชน์ทั้งคู่ แต่ก็ต้องดูด้วย ถ้าเด็กพิเศษคนนั้น เราเอาไม่อยู่จริงๆ ก็คงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การสอนในโรงเรียน คิดว่าจะมีครูพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำเราว่าจะ จัดการในสถานการณ์ทำนองนี้อย่างไร ที่สำคัญที่สุด ก็อย่างที่เราทำนั่นแหละ ฟังหัวใจของตัวเอง ณ ปัจจุบันขณะนั้น เราจะสามารถทำในสิ่งที่ดีที่สุด ได้อย่างไร ก็ให้ทำอย่างนั้น เราไปด้วยความเมตตา ปรารถนาดีต่อเด็ก ใช้จิตอันเป็นกุศลนี่แหละครับ นำพาเราไปสู่การสอนโยคะเด็ก

¤คÓำ¶ถÒาÁม (µต ‹Íอ) จะคิดค่าสอนยังไง แล้วเค้าคิดกันยังไงคะ

µตÍอºบ ครูบางคนก็มีการตั้งอัตราไว้อย่างชัดเจน ขณะที่ครูบางคนก็ว่าไป ตามอัตราของเจ้าภาพ เช่น ราชการ สอนปฏิบัติชั่วโมงละ ๓๐๐ สอนบรรยาย ชั่วโมงละ ๖๐๐ ถ้าเป็นเอกชนก็ได้ประมาณชั่วโมงละ ๖๐๐ - ๒,๐๐๐ แล้วแต่ งบประมาณของผู้เรียน และความมีชื่อเสียงของครู พูดง่ายๆ ว่าอัตราค่าสอนโยคะของบ้านเรายังหลากหลายมาก ส่วน ใหญ่ครูแต่ละคนก็ว่ากันเอาเอง เป็นข้อตกลงกันเองระหว่างครูคนนั้นกับทางผู้ เรียนคณะนั้น น่ะ

[13]


áแ¹นÐะ¹นÓำ Ëห¹นÑั§งÊส×ืÍอ àเÃร×ื ่ Íอ §ง àเ»ปÔิ ้ Åล

´ดÙูÃรÙู้ Ëห¹นÖึ่§ง¾พÃรÃรÉษÒา ¾พÃรÐะÈศØุÀภ¡กÔิ¨จ ÊสØุÀภ¡กÔิ¨จâโ¨จ ªชÁมÃรÁม¡กÑัÅลÂยÒา³ณ¸ธÃรÃรÁม

พระศุภกิจมีโอกาสได้บวชอยู่ 1 พรรษา โดยเล่าผ่านตัวอักษร ตั้งแต่แรกเริ่มได้รู้จักและมีเป้าหมายจากสมาธิในแง่มุมหนึ่ง จนกระทั่งมี โอกาสเดินทางไปสังเวชนียสถาน และได้บวชกับทีมผู้ร่วมแสวงบุญทำให้ได้เห็น และรู้จักความจริงตามกฏของธรรมชาติในเวลาต่อมา ตลอดระยะเวลาของการบวช ผู้เขียนได้เล่าถึง เรื่องที่ได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จากการฝึกปฏิบัติ ทั้งข้อธรรมคำสอนของครูบาอาจารย์ การประกาศพุทธศาสนาโดยเริ่มตั้งแต่การนุ่งห่มผ้ากาสาวะ จริยวัตรที่ประณีตงดงาม ความศรัทธาในครูบาอาจารย์ ทั้งจากตัวอย่างที่ท่านปฏิบัติ อีกทั้งกุศโลบายที่พระอาจารย์ใช้ ในการสอนโดยไม่สั่ง แต่ทำให้เห็น เป็นให้ดู ซึ่งเป็นสิ่งดีที่ครูโยคะอย่างเราควรเรียนรู้และน้อมนำมาปฏิบัติ ประโยชน์ที่ได้ ผู้เขียนสะท้อนไว้ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง และอีกหลากหลายเรื่องราวที่ล้วนเป็นประโยชน์และพลังใจต่อผู้กำลังก้าวเดินอยู่ หรือ ผู้เพิ่งเริ่ม หัดเดินบนเส้นทางธรรม อยากรู้เรื่องราวเป็นอย่างไร พระอาจารย์รูปนี้คือใคร การบวชครั้งนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตพระศุภกิจไปอย่างไร สามารถหาอ่านได้ โดยการ download ได้ฟรี ที่ www.kanlayanatam.com หรือ สั่งซื้อได้จากชมรมกัลยาณธรรม เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดทำเพื่อเผยแผ่เป็นธรรม ทาน เป็นหนังสืออีกเล่มที่ คนไม่บวชก็อ่านได้ ต่อเมื่ออ่านแล้ว รู้สึกอยากชวนคนมาบวชจัง

[14]


.................... ·ท∙Òา§งÍอÍอ¡กàเ¢ข ŒÒา »ปÃรÐะµตÙูµต ‹Òา§ง ·ท∙Òา§งªชÕีÇวÔิµต ËหÅล§ง·ท∙Òา§ง¼ผÔิ´ด ¡กÃรÃรÁมàเÅลÇวªชÑั è่Çว Áม×ื´ดÁมÑั ÇวËหÁมÍอ§ง àเÅล×ืÍอ¡ก¶ถÙู¡ก·ท∙Òา§ง ·ท∙Òา§งÊสÇว ‹Òา§ง §ง´ด§งÒาÁม¤คÃรÍอ§ง µตÒาÁม¤คÃรÃรÅลÍอ§ง ÍอÍอ¡กÁมÑั ÇวàเÁมÒา àเ¢ข ŒÒา·ท∙Òา§ง´ดÕี ....................

(เขียน ณ ห้องประชุมออฟฟิศ เปิดหน้าต่างเห็นป้ายห้างใหม่Gateway )

[15]


âโ´ดÂย ÇวÕีÃรÐะ¾พ§งÉษ  äไ¡กÃรÇวÔิ·ท∙Âย  áแÅลÐะ¨จÔิÃรÇวÃรÃร³ณ µตÑั้§ง¨จÔิµตàเÁม¸ธÕี áแ»ปÅลáแÅลÐะàเÃรÕีÂยºบàเÃรÕีÂย§ง

¤คØุ³ณÙู»ป¡กÒาÃรÊสÙู§งÊสØุ´ด ¢ขÍอ§งÊสÑั §งâโÂย¤คâโÂย¤คÐะ µตÓำÃรÒาâโÂย¤คÐะ ´ดÑัé้§งàเ´ดÔิÁม

สรุปใจความตอนที่แล้วกล่าวถึง ประกฤติหรือสรรพสิ่ง เป็ น สิ ่ ง จำเป็ น ที ่ เ อื ้ อ ประโยชน์ ต ่ อ ผู ้ ป ฏิ บ ั ต ิ โ ยคะในฐานะที ่ เ ป็ น ประสบการณ์ทางโลกที่ต้องผ่านเพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้นหรือสภาวะ ไกวัลยะ อันเป็นสภาวะเดิมแท้ที่ปุรุษะหรือผู้รู้(ที่แท้จริง)มีความบริสุทธิ์ โยคีผู้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของโยคะหรือไกวัลยะแล้ว จะเข้าถึงสภาวะ หนึ่งที่เหลือเพียงปุรุษะอันบริสุทธิ์อย่างเดียว ประกฤติถูกหลอมละลาย ลงอย่างสิ้นเชิงอย่างน้อยที่สุดก็ในการรับรู้ของโยคี แม้ว่าจริงๆ แล้วมัน ไม่ได้ถูกทำลายลงไปเพราะยังปรากฏให้เห็นได้สำหรับผู้อื่น ถัดมาประโยค ๒:๒๓ กล่าวว่า “สวะ-สวามิ-ศักตโยห์ สวะรูโปปลัพธิ-เหตุห์ สังโยคะห์” แปลว่า ความหมายที่ (๑) สังโยคะมี วัตถุประสงค์เพื่อการคืนกลับมาอีกครั้งของสภาวะเดิมแท้ของพลังหรือ ศักยภาพสองอย่างคือ ศักยภาพของการเป็นผู้ควบคุมการรับรู้ (เป็น ตัวเหตุผู้อยู่เบื้องหลังการรับรู้สิ่งต่างๆ -ผู้แปล) และศักยภาพของสิ่งที่ เป็นตัวรับรู้ หรือความหมายที่ (๒) วัตถุประสงค์ของสังโยคะคือการ ฟื้นคืนกลับมาของการรู้(awareness)โดยปุรุษะซึ่งมีธรรมชาติของการ รู้ และการปรากฏออกมาของพลังของทั้งปุรุษะและประกฤติ คำแปลในความหมายที่ (๑) ของประโยคนี้เป็นการแปลไป ตามตัวอักษรมากกว่า ความหมายของคำว่า อุปลัพธิ คือการได้มา แต่ ในที่นี้หากแปลว่า ได้คืนกลับมาอีก จะเหมาะกว่า อุปลัพธิมีความ หมายอื่นด้วย เช่น การรู้ และการรับรู้ อรรถกถาจารย์บางท่านชอบ ความหมายนี้มากกว่า และแปลความค่อนข้างไปทางความหมายที่ (๒) ข้างต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การพิจารณา บางทีความหมาย ดั้งเดิมของคำว่า ปุรุษะ ที่หมายถึง ผู้ชาย หรือ มนุษย์เพศชาย อาจ ชักนำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ คำว่าปุรุษะแม้ในการอภิปรายตามทัศนะ ของโยคะก็ถูกใช้ราวกับว่าแทนบุคคลเพศชาย สิ่งนี้สามารถเห็นได้ อย่างชัดเจนจากการใช้สรรพนามว่า “เขา” แทนปุรุษะ แต่คำว่าปุรุษะ ในสางขยะเป็นคำศัพท์เฉพาะซึ่งใช้แทนกฎอันเป็นนิรันดร์และเป็น

นามธรรม เพศที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้แทนปุ รุษะในภาษาอังกฤษควรจะเป็นกลาง(ไม่มีเพศ -ผู้แปล) ทั้งนี้เพื่อที่จะ หลีกเลี่ยงความสับสนว่า ปุรุษะมีร่างกายและมีเพศ เป็นต้น อย่างไรก็ดี น่าจะเป็นเพราะการใช้สรรพนามตามหลักการใช้ภาษาสันสกฤตและ ภาษาอินเดียอื่นๆ ที่ใช้สรรพนามเพศชายแทนปุรุษะ แม้แต่ในการ เขียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับโยคะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อาจให้อภัยได้ แต่ปัญหาก็คือว่าลักษณะเฉพาะอื่นๆ ของมนุษย์เพศชายที่เกี่ยวข้อง กับปุรุษะนี้บางครั้งก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น บ่อยที่สุดอย่างหนึ่งดูเหมือนจะเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า ปุรุษะคือตัวรู้ อรรถ กถาจารย์จำนวนมากแม้จะกำหนดให้ปุรุษะเป็นตัวรู้หรือตัวรับรู้ แต่ถ้า ปุรุษะสามารถที่จะเป็นตัวรู้ได้ มันจะกลายเป็นการรู้เกี่ยวกับประกฤติ และปฏิกิริยาลูกโซ่จะเริ่มขึ้น และมันจะได้รับผลกระทบตามที่ได้เคย อธิบายไว้แล้ว ในประ โยคที่ ๒:๒๐1 แต่ตามหลักพื้นฐานของสางขยะโยคะนั้นปุรุษะคือ อปริณามิ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถได้รับผลกระทบได้ เมื่อเป็นดังนี้ ปุรุษะจึงไม่ อาจเป็นตัวรู้ได้ โดยแท้จริงแล้วมันเป็นตัวเหตุที่อยู่เบื้องหลังของการ รับรู้ ตัวมันเองไม่ใช่ตัวรับรู้และไม่แม้กระทั่งเป็นตัวรู้ การรู้นี้ซ่อนเร้น และไม่ปรากฏตัว อย่างไรก็ตามมันเป็นแหล่งกำเนิดของการรู้ และจิต ตะเกิดการรู้ได้จากมัน(ปุรุษะ) และเพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ การรู้ที่ซ่อนเร้นอยู่นี้ คำว่า จิติ หรือ จิติ-ศักติ จึงถูกใช้แทน ปุรุษะ (ประโยค ๔:๒๒ และ ๓๔) ในความหมายที่ (๒) ข้างต้น ปุรุษะถูก กล่าวถึงในฐานะที่เป็น “รู้” และ “พลังที่กำลังพัฒนา” และสิ่งนี้ก็ขัดแย้ง กับอปริณามิตวะของปุรุษะ (ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้) ด้วยเหตุผล นี้ความหมายที่ (๑) ดูเหมือนจะดีกว่า

[16]


มีคำถามพื้นฐาน และเป็นคำถามตลอดกาลอีกอันหนึ่งที่ เกิดขึ้นในทัศนะของสางขยะ-โยคะนั่นคือ ทำไมปุรุษะซึ่งไม่มีเหตุผล ที่จะไปเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประกฤติ แต่กลับไปเชื่อมโยงกับ ประกฤติอย่างชัดเจน เนื่องจากคำถามนี้เป็นคำถามตลอดกาล ดัง นั้นจึงไม่สามารถตอบได้ ในที่นี้มันได้รับการตอบแล้วจากมุมมองอัน จำกัดของโยคะ และผู้ปฏิบัติเฉพาะบุคคล ในเมื่อไม่เคยมีใครสามารถตอบได้ว่าทำไมจึงเกิดสังโยคะ หรือความเข้าใจผิดของการเชื่อมรวมกันของปุรุษะกับประกฤติ และ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร หรืออย่างน้อยที่สุดก็ตอบในรูปแบบปกติ เช่น ตอบเป็นคำพูด ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลในการค้นหาคำตอบเช่นนั้น แต่ ความจริงที่ว่าสังโยคะมีอยู่จริงเพราะเรารับรู้ได้อย่างชัดเจน จากความทุกข์ที่เราต้องประสบ (อ้างถึงประโยค ๒:๑๗) เป็น สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นคำถามที่มีความหมาย สำหรับผู้ปฏิบัติควรจะเป็น “สังโยคะนี้มีความหมายอะไรกับ ตัวฉัน และเนื่องจากมันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นอย่างหลีกหนี ไม่ได้ ฉันจะสามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร” คำตอบต่ อ คำถามนี ้ ไ ด้ บ อกไว้ เ ป็ น นั ย แล้ ว ในประโยคนี ้ สังโยคะนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติ เพื ่ อ ที ่ จ ะบรรลุ เ ป้ า หมายสู ง สุ ด ของ เขาคือ เป้าหมายของโยคะ หรือ การ บรรลุไกวัลยะ หรือ การกลับคืนสู่ สภาวะดั้งเดิมของแก่นแท้ในตัวเขา นั ่ น คื อ ทำให้ ส วามิ - ศั ก ติ หรื อ ศักยภาพของการเป็นผู้ควบคุมการ รับรู้ (เป็นตัวเหตุผู้อยู่เบื้องหลังการ รับรู้) ที่มีอยู่ในปุรุษะ และทำให้สวศักติ หรือศักยภาพของสิ่งที่เป็นตัว รับรู้ ที่มีอยู่ในประกฤติ คืนกลับมาทั้ง สองอย่าง

สังโยคะซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์ (ประโยคที่ ๒:๑๗) ในที่นี้ กำลังถูกมองในแง่ดีอย่างมากที่สุด ในฐานะที่เป็นสิ่งซึ่งสามารถนำ ไปสู่สภาวะไกวัลยะ หรือ สวรูปะ-ประติษฐา ซึ่งจะเป็นอิสระจาก ความทุกข์อย่างสิ้นเชิง จุดยืนของปตัญชลีในแง่ดีและเป็นเชิงบวกที่ มีต่อชีวิต และความทุกข์นี้ได้ถูกตีแผ่ออก มาอย่างเห็นได้ชัดเจนใน ประโยคนี้ เอกสารอ้างอิง : Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation & Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama, p. 221-224.

1 ตัวอย่างของปฏิกิริยาลูกโซ่ในประโยค ๒.๒๐ คือ “เมื่อเรารับรู้วัตถุนั้นว่าเป็นงูหรือแมงป่อง ความกลัวและปฏิกิริยาลูกโซ่ต่างๆ เช่น เหงื่อออก หัวใจเต้นแรง ร่างกายเกร็งตึง ฯลฯ

ก็จะเริ่มเกิดขึ้นในโครงข่ายทางกาย-ใจ(มนัส)-จิตตะของเรา” (ดูสารัตถะฉบับเดือน มิ.ย. ๕๕) ดังนั้นตามความหมายที่ (๒) ข้างต้น ซึ่งปุรุษะเป็นตัวรู้ จึงสร้างปฏิกิริยาลูกโซ่ขึ้นและ จะกระทบไปถึงปุรุษะด้วย ด้วยเหตุนี้ปุรุษะจะเปลี่ยนแปลงหรือได้รับผลกระทบได้

[17]


µตÓำÃรÑัºบ ÂยÒา¨จÕี¹น ·ท∙Òา§งãใ¨จ ๑ ชมคนด้วยวาจา มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ ทำร้ายคนด้วยวาจา สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ ซุนวู ๒ คนอื่นช่วยเรา เราจะจำไว้ชั่วชีวิต เราช่วยคนอื่น จงอย่าจำใส่ใจ ฮั่วหลัวเกิง ๓ มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม ได้มาด้วยความคดโกง มิสู้ยอมเสียอย่างซื่อตรง หวังติ้งเป่า ๔ น้ำใสสะอาดเกินไป ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา คนที่เข้มงวดเกินไป ย่อมไร้ซึ่งบริวาร ปันกู้ ๕ ความไม่พอใจ ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ห่อเหี่ยวยอมจำนน ต่ออุปสรรค หลี่ต้าเจา ๖ ในชีวิตของเรา มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่างดวงหนึ่งซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม ปาจิน ๗ ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า แต่ใจสกปรกกลับไม่คิดที่จะชำระใจ หยางว่านหลี่ ๘ สุขสบายเกินไป เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน จิตใจก็พลอยขลาดกลัว หูหลินอี้ ๙ พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว ซุนซือเหมี่ยว ๑๐ คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด ลู่ซู ๑๑ ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือคนที่ดีพอ ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือผู้ที่ดีไม่พอ ฟังเสี้ยวหยู

[18]


๑๒ ความอิจฉาเป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ ความระแวงสงสัยเป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้ ซุนยาง ๑๓ ต้องกล้าที่จะมองความจริง แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ จางจื้อซิน ๑๔ ยามมีควรคิดถึงความจน ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี เจิงก่วงเสียนเหวิน ๑๕ อย่าทำความชั่วเพราะคิดว่าผิดนิดเดียว อย่าละเว้นการทำความดีเพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว เผยสงจือ ๑๖ รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน ซูลิน ๑๗ ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่นมาตำหนิตัวเอง ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเองให้อภัยผู้อื่น เจิงจิ้นเสียนเหวิน ๑๘ ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือยย่อมยากจน ขยันและประหยัดย่อมร่ำรวย ก่วนจ้ง ๑๙ สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น ขงเบ้ง ๒๐ ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น จักต้องเอาชนะตัวเองให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะว่าคนอื่น ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน หลี่ปุ๊เหว่ย ๒๑ ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด ผู้ที่รู้จักตัวเอง เป็นคนมีสติ เล่าจื้อ ๒๒ การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูงในการฝึกฝนยอดคน เหลียงฉี่เชา ๒๓ สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ จงอย่าทำกับคนอื่น ขงจื้อ ๒๔. คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้ คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้ ซือหม่าเชียน ๒๕ คนเราหนีไม่พ้นความตาย แต่ความหมายการตายนั้นไม่เหมือนกัน บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก ซือหม่าเชียน ตำรับยาจีน ที่ปรุงพร้อมดื่มโดยไม่ต้องชิม ที่เชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ สร้างคนให้มีคุณค่าในตัวเอง

[19]


http://www.84000.org/tipitaka/

¾พÃรÐะäไµตÃร»ป ®ฎ¡ก áแ¡ก ‹¹น¸ธÃรÃรÁม ¾พÃรÐะäไµตÃร»ป ®ฎ¡ก àเÅล ‹Áม·ท∙Õีè่ ñ๑÷๗ ¾พÃรÐะÊสØุµตµตÑั¹นµต»ป ®ฎ¡ก àเÅล ‹Áม·ท∙Õีè่ ù๙ ÊสÑั§งÂยØุµตµต¹นÔิ¡กÒาÂย ¢ขÑั¹น¸ธÇวÒาÃรÇวÃรÃร¤ค ø๘. ¤คÑั·ท∙·ท∙ÙูÅลÊสÙูµตÃร·ท∙Õีè่ ò๒ Çว ‹Òา´ด ŒÇวÂยÍอØุ»ปÁมÒา¢ขÑั¹น¸ธ  õ๕ ´ด ŒÇวÂยàเÊสÒาÅล ‹ÒาÁมÊสØุ¹นÑั¢ข [๒๕๘] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้ที่สุด เบื้องต้นเบื้องปลายรู้ไม่ได้แล้ว ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏแก่สัตว์ ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่. ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุนัขที่เขาผูกไว้ด้วยเชือก ถูก ล่ามไว้ที่หลักหรือเสาอันมั่นคง ถ้าแม้มันเดิน มันก็ย่อมเดินใกล้หลักหรือ เสานั้นเอง ถ้าแม้มันยืน มันก็ย่อมยืนใกล้หลักหรือเสานั้นเอง ถ้าแม้มันนั่ง มันก็ย่อมนั่งใกล้หลักหรือเสานั้นเอง ถ้าแม้มันนอน มันก็ย่อมนอนใกล้หลัก หรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้น เหมือนกันแล ย่อมตามเห็นรูปว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของ เรา ย่อมตามเห็นเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา. ปุถุชนนั้น ถ้าแม้เดิน เขาก็ย่อมเดินใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง ถ้าแม้ยืน เขาก็ย่อมยืนใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง ถ้าแม้นั่ง เขาก็ย่อมนั่งใกล้อุปาทาน ขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง ถ้าแม้นอน เขาย่อมนอนใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลาย พึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า จิตนี้ เศร้าหมองแล้วด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน. ว่าด้วยความเศร้าหมองและผ่องแผ้วของจิต [๒๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเศร้าหมองเพราะจิตเศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อม บริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภาพนิทรรศการนั้น เธอทั้งหลายเห็นแล้วหรือ? ภิกษุ ทั้งหลายกราบทูลว่า เห็นแล้วพระเจ้าข้า. พ. ภาพนิทรรศการแม้นั้นแล ช่างเขียนคิดแล้วด้วยจิตนั่นแหละ. จิตนั้นแหละ วิจิตรกว่าภาพนิทรรศการแม้นั้น. เพราะเหตุนั้น เธอ ทั้งหลาย พึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า จิตนี้เศร้าหมองด้วย ราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน. สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิตเศร้า หมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่พิจารณาเห็นหมู่สัตว์อื่นแม้เพียงหมู่หนึ่ง ซึ่งวิจิตรเหมือน อย่างสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลายนี้เลย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ดิรัจฉานแม้เหล่านี้แล คนคิดด้วยจิตนั่นแหละ. จิตนั่นแหละวิจิตรกว่าสัตว์ดิรัจฉาน แม้เหล่านั้น. เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า จิตนี้เศร้าหมองแล้วด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน. สัตว์ทั้ง หลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิตเศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ช่างย้อมหรือช่างเขียน เมื่อมี เครื่องย้อมก็ดี ครั่งก็ดี ขมิ้นก็ดี สีเขียวก็ดี สีแดงก็ดี พึงเขียนรูปสตรีหรือรูปบุรุษ มีอวัยวะใหญ่น้อยครบทุกส่วนลงที่แผ่นกระดานเกลี้ยงเกลา หรือที่ฝา หรือที่แผ่นผ้า แม้ฉันใด. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังรูปนั่นแหละให้เกิด เมื่อจะให้ เกิด ย่อมยังเวทนานั่นแหละให้เกิด เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังสัญญานั่นแหละให้เกิด เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังสังขารนั่นแหละให้เกิด เมื่อจะให้เกิด ย่อมยังวิญญาณนั่นแหละให้เกิด. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นอย่างไร รูปเที่ยงหรือไม่ เที่ยง? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ไม่เที่ยงพระเจ้าข้า. พ. เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เที่ยงหรือไม่เที่ยง? ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า. พ. เพราะเหตุนั้นแล อริยสาวกผู้ได้สดับ เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

[20]


àเ´ด×ืÍอ¹น ¡กÃร¡ก®ฎÒา¤คÁม 2555 มีผู้บริจาคสนับสนุนการทำงานของสถาบันฯ ดังนี้ ครูวรรณวิภา มาลัยนวล (ครูอ๊อด) ครูโสภิดา เทิดทำดี (ครูโส) ครูสมศักดิ์ วสุ (หมอศักดิ์) บริจาค กิจกรรมอบรมวินยาสะ บริจาค กิจกรรมจิตสิกขา 18/7/55 จากตู้บริจาคในสำนักงาน

2,000 1,000 1,800 260 640 1,153

ÊสÃรØุ»ปÂยÍอ´ดºบÃรÔิ¨จÒา¤ค»ปÃรÐะ¨จÓำàเ´ด×ืÍอ¹นÁมÔิ¶ถØุ¹นÒาÂย¹น 2555 ·ท∙Ñั้§งÊสÔิ้¹น 6,853 ºบÒา·ท∙

Ãร่ÇวÁมÊส¹นÑัºบÊส¹นØุ¹น¡กÒาÃร¨จÑั´ด·ท∙Óำ¨จØุÅลÊสÒาÃร âโÂย¤คÐะÊสÒาÃรÑัµต¶ถÐะ äไ´ด้·ท∙Õี่ ºบÑั­ÞญªชÕีÍอÍอÁม·ท∙ÃรÑั¾พÂย์àเÅล¢ข·ท∙Õี่ 173-2-32949-1 ªช×ื่ÍอºบÑั­ÞญªชÕี ÁมÙูÅล¹นÔิ¸ธÔิËหÁมÍอªชÒาÇวºบ้Òา¹น (Êส¶ถÒาºบÑั¹นâโÂย¤คÐะÇวÔิªชÒา¡กÒาÃร) ¸ธ¹นÒา¤คÒาÃรäไ·ท∙Âย¾พÒา³ณÔิªชÂย์ ÊสÒา¢ขÒาàเ´ดÍอÐะÁมÍอÅลÅล์ 3 ÃรÒาÁม¤คÓำáแËห§ง

Êส ‹§งËหÅลÑั¡ก°ฐÒา¹น¡กÒาÃรâโÍอ¹นàเ§งÔิ¹น ÁมÒา·ท∙Õี่.. Êส¶ถÒาºบÑั¹นâโÂย¤คÐะÇวÔิªชÒา¡กÒาÃร ÁมÙูÅล¹นÔิ¸ธÔิËหÁมÍอªชÒาÇวºบ ŒÒา¹น 201 «ซÍอÂยÃรÒาÁม¤คÓำáแËห§ง 36/1 ºบÒา§ง¡กÐะ»ป  ¡ก·ท∙Áม.10240 âโ·ท∙ÃรÈศÑั¾พ·ท∙  02 732 2016-7, 081 401 7744 âโ·ท∙ÃรÊสÒาÃร 02 732 2811 ÍอÕีàเÁมÅล  yogasaratta@yahoo.co.th àเÇว็ºบäไ«ซµต  www.thaiyogainstitute.com

[21]


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.