พลซุ่มยิง

Page 1

“พลซุ่มยิง” ซึ่ งเรี ยกชื่อตามภารกิจ ก็คือทหารราบผูช้ านาญการใช้อาวุธยิงทาลายเป้ าหมายจากตาแหน่ง ซุ่มซ่อน ด้วยระยะไกลเป็ นพิเศษเกินความคาดหมายหรื อระยะตรวจการณ์ของฝ่ ายตรงข้าม และต้องกระทาด้วย อาวุธพิเศษเฉพาะภารกิจคือ “ปื นซุ่มยิง”(sniper rifle) ประกอบกล้องเล็งและกระสุ นที่ถูกออกแบบพิเศษเพื่อการ ทาลายเป้ าหมายจากระยะไกลเท่านั้น จะไกลได้แค่ไหนก็ข้ ึนอยูก่ บั องค์ประกอบหลักๆทั้งสี่ อย่างที่กล่าวมาแล้ว คือคน ปื น กล้องเล็งและกระสุ น กองทัพของแต่ละประเทศจะกาหนดภารกิจให้พลซุ่มยิง ตามแต่หลักนิยมในการป้ องกันประเทศของ ประเทศนั้นๆ โดยส่ วนใหญ่หน้าที่หลักของพลซุ่มยิงคือการลาดตระเวนหาข่าวจากตาแหน่งซุ่มซ่อน และถ้า จาเป็ นก็ให้ลดความสามารถสู ้รบของฝ่ ายตรงข้ามได้ ด้วยการทาลายเป้ าหมายสาคัญๆโดยเฉพาะเป้ าหมายบุคคล หลักๆเช่นนายทหารผูค้ ุมกาลัง ผูส้ ั่งการระดับสู งสุ ดเช่นผูน้ าหมู่บา้ น หรื อเจ้าของเครื อข่ายค้ายาเสพติด ฯลฯ ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชดั ว่าพลซุ่มยิงมีตาแหน่งประจาการอยูใ่ นกองทัพตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่สันนิษฐานได้คือ โลกน่าจะรู ้จกั พลซุ่มยิงตั้งแต่มนุษย์รู้จกั รบกันด้วยอาวุธยิง อย่างธนูหรื อปื นคาบสิ ลาในระยะแรก เมื่อมีกระสุ น ดินดาใช้กบั ปื นระบบคัดปลอกและเกลียวลากล้อง การซุ่มยิงก็ทวีความสาคัญขึ้นเพราะผลของปฏิบตั ิการ สามารถทาลายขวัญและกาลังใจข้าศึกได้สูง ด้วยกระสุ นเพียงไม่กี่นดั ก็สามารถเปลี่ยนแปลงผลของการรบได้ สร้างผลกระทบทางจิตวิทยาได้สูงต่อพลทหาร เมื่อนายทหารถูกยิง กองกาลังต้องเปลี่ยนเส้นทางหรื อลด ความเร็ วในการเคลื่อนที่เพราะไม่มนั่ ใจในความปลอดภัยของกาลังพล ทาให้หน่วยของพลซุ่มยิงมีเวลาดาเนินกล ยุทธอื่นใดหรื อมีเวลาพอเพื่อตระเตรี ยมความพร้อมในการล่าถอย ตามปกติพลซุ่มยิงในกองทัพจะปฏิบตั ิงานเป็ นคู่ ทหารหนึ่ งนายเป็ นพลซุ่มยิงและอีกนายเป็ นพลชี้เป้ า คอยส่ องกล้องหาเป้ าสับเปลี่ยนหน้าที่กนั ในเวลาที่กาหนด เพื่อลดความอ่อนล้าสายตาจากการจ้องจับเป้ าหมาย นานๆด้วยกล้องเล็ง สาหรับกองทัพของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรซึ่ งใช้พลซุ่มยิงอย่างแพร่ หลาย ภารกิจส่ วน ใหญ่คือการลาดตระเวนและสอดแนม ต่อต้านการซุ่มยิงของฝ่ ายตรงข้าม สังหารนายทหารระดับผูบ้ งั คับบัญชา และแม้แต่ทาลายเป้ าหมายอาคารหรื ออุปกรณ์สื่อสารสาคัญ พลซุ่มยิงของกองทัพบกและนาวิกโยธิ นสหรัฐฯ สร้างผลงานได้ผลยอดเยีย่ มมาแล้วช่วงก่อนเปิ ดฉาก สงครามอ่าวทั้งสองครั้ง ด้วยการเร้นกายเข้าทาลายระบบสื่ อสารของอิรักด้วยปื นซุ่มยิงขนาดหนัก ใช้กระสุ น ขนาด.50นิ้ว. ขนาดเดียวกับที่ใช้ในปื นกลบราวนิ่ง(50 คาลิเบอร์ ) ยิงจากปื นซุ่มยิงหลากแบบ เช่นTAC-50 แมค มิลแลน,บาเรต M82A1 ระยะสังหารไกลที่สุดเท่าที่เคยบันทึกคือ 2,430 เมตรจากฝี มือของสิ บโทร็ อบ เฟอร์ลอง จากกรมทหารราบเบาพริ นเซส แพทริ เชียของคานาดา ช่วงบ่ายวันหนึ่งของเดือนมีนาคม 2002 ในอาฟกานิสถาน


ด้วยกระสุ นฮอร์นาดี A-MAXเวรี่ โลว์ แดร็ กหนัก750เกรน ขนาด.50คาลิเบอร์ จากปื นซุ่มยิง TAC-50 แมคมิล แลนด์ แม้เทคโนโลยีการสร้างปื นยุคปั จจุบนั จะทาให้พลซุ่มยิงทางานง่ายขึ้น ยิงได้ไกลขึ้น แต่ทหารหน้าที่ พิเศษนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ เอาไว้มากในสงครามใหญ่หลายครั้งที่ผา่ นมา พลซุ่มยิงฝรั่งเศสคือผูเ้ ขียนประวัติ หน้าสุ ดท้ายของพลเรื อโทโฮเรชิโอ เนลสันแห่งราชนาวีองั กฤษ ครั้งทาสงครามทางทะเลกับกองทัพนโปเลียน เยอรมันนาพลซุ่มยิงมาใช้งานได้ประโยชน์สูงสุ ดในแนวสนามเพลาะของสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยการแจก กล้องเล็งประกอบปื นให้ทหารมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่สงคราม เพียงฝ่ ายตรงข้ามยืน่ มือพ้นแนวหลุมเพลาะ เท่านั้น เขาจะตกเป็ นเหยื่อกระสุ นจากทหารเยอรมันทันที เริ่ มแรกทั้งฝ่ ายอังกฤษและฝรั่งเศสต่างคิดว่าความแม่น ของเยอรมันเป็ นความบังเอิญ จนกระทัง่ ยึดกล้องเล็งได้พร้อมปื นความจริ งอันน่าหวาดหวัน่ จึงปรากฏ ชื่อเสี ยงพลซุ่มยิงเยอรมันระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็ นที่เลื่องลือ ส่ วนหนึ่งมาจากความแม่นที่ได้จากเลนส์ กล้อง เป็ นที่ทราบกันทัว่ โลกว่าอุตสาหกรรมผลิตเลนส์ของเยอรมันเป็ นที่1ของโลก ไม่มีใครไม่รู้จกั เลนส์จาก บริ ษทั คาร์ ล ไซส์แห่งเมืองเยนา(Jena) พอรู ้วา่ เยอรมันไปได้สวยกับพลซุ่มยิง อังกฤษก็เริ่ มฝึ กพลซุ่มยิงฝ่ ายตน บ้างเพื่อลดความเสี ยเปรี ยบระหว่างฝ่ ายตนกับเยอรมัน ทั้งสองฝ่ ายต่างใช้ยทุ ธวิธีเดียวกันคือออกทางานเป็ นทีม พลซุ่มยิงและพลชี้เป้ าทีละสองคน จะมีแต่แนวรบด้านตะวันออกที่ประจันหน้ากับรัสเซี ยที่เยอรมันเด็ดชีพข้าศึก ได้คล่อง เพราะขณะนั้นรัสเซี ยยังไม่ให้ความสาคัญกับพลซุ่มยิงเป็ นเรื่ องเป็ นราว พลซุ่มยิงได้ออกศึกใหญ่อีกครั้งในสงครามโลกครั้งที่ 2 พลซุ่มยิงอังกฤษผูซ้ ่อนตัวในที่มนั่ มิดชิดสามารถหน่วง เวลากองทัพเยอรมันผูไ้ ล่ขยี้ได้จนมีเวลาอพยพจากดันเคิร์ก ผลงานนี้ทาให้องั กฤษหันมาพัฒนากิจการซุ่มยิงเป็ น การใหญ่ กระนั้นก็ยงั จากัดอยูใ่ ห้เป็ นภารกิจของนายทหารสัญญาบัตรและชั้นประทวน ใช้งานได้ไม่เต็ม ประสิ ทธิภาพ เมื่อเทียบกับคู่สงครามอย่างเยอรมันซึ่ งไม่จากัดชั้นยศของผูส้ มัครเป็ นพลซุ่มยิง ทั้งที่เป็ นฝ่ ายแพ้ สงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ความต่อเนื่องในการพัฒนาพลซุ่ มยิงของเยอรมันไม่ได้ลดหย่อนลงเลย พลซุ่มยิงเยอรมัน สร้างผลงานเด่นๆหลายครั้งระหว่างสงครามกลางเมืองสเปนและในช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเยอรมันรุ กรานโซเวียต สงครามระหว่างพลซุ่มยิงของทั้งสองชาติรุนแรงยิง่ ขึ้น สมรภูมิสตาลินกราด คือพื้นที่ห้ าหัน่ ระหว่างพลซุ่มยิงโดยแท้ เมื่ออาคารใหญ่ๆในเมืองถูกปื นใหญ่และระเบิดของเยอรมันทาลายจน เหลือแต่ซาก ทหารรบกันทุกที่ต้ งั แต่ในอาคารบนท้องถนนจนถึงท่อระบายน้ า ทั้งสองฝ่ ายต่างมุ่งสังหาร เป้ าหมายด้วยปื นซุ่มยิงจากซอกเล็กหลืบน้อยของอาคาร


รัสเซี ยดูเหมือนจะได้เปรี ยบเพราะเป็ นฝ่ ายตั้งรับที่คุน้ เคยดีกบั ชัยภูมิของตน พลซุ่มยิงรัสเซี ยทั้งบุรุษและ สตรี สังหารนายทหารเยอรมันได้มาก วาสิ ลี ซาอิเซฟ ผูใ้ ช้ปืนเล็กยาวโมซินนากันต์ปลิดชีพข้าศึกได้นบั ร้อยได้รับความสาคัญจนถูกยกเป็ นวีรบุรุษแห่งชาติ จนฝ่ ายเยอรมันต้องส่ งพันตรี ไฮนซ์).เอส.เอส( ธอร์ วลั ด์พลซุ่มยิง ชั้นครู จากโรงเรี ยนฝึ กพลซุ่มยิงเมืองซอสเซนมาปราบ เพื่อเรี ยกขวัญและกาลังใจทหารฝ่ ายตนกลับคืน แต่ก็เป็ น ที่ทราบกันว่าต้องเสี ยทีให้ซาอิเซฟแห่งกองทัพรัสเซีย (ดังเรื่ องราวที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่ อง Enemy at the Gate และหนังสื อชื่อเดียวกัน) ปื นคาร์ 98Kของเขาที่ถูกยึดได้ยงั ตั้งแสดงอยูใ่ นกรุ งมอสโก ฝ่ ายสหรัฐฯเองก็ใช้พลซุ่มยิงอย่างกว้างขวางไม่แพ้เยอรมันและอังกฤษ พลซุ่มยิงกองทัพสหรัฐฯทางานได้ผลทั้ง ในสมรภูมิอาฟริ กาเหนื อ ฝรั่งเศส และใช้ต่อต้านการซุ่มยิงของเยอรมันในช่วงรุ กเข้าสู่ กรุ งเบอร์ ลิน ปั จจุบนั กิจการนี้ยงั ถูกพัฒนาไม่หยุดยั้งทั้งยุทธวิธีและยุทโธปกรณ์ ปื นซุ่มยิงถูกพัฒนาให้เบา มีแรงถีบ ของปื นน้อย ใช้ระบบลากล้องลอย(free float barrel)เพื่อทวีความแม่น ที่ใดที่ทหารสามารถซุ่มซ่อนตัวเองได้ แนบเนียน ดัดแปลงภูมิประเทศให้เป็ นประโยชน์ต่อตนได้มากที่สุด ที่นนั่ ย่อมมีพลซุ่มยิง นอกจากกองทัพที่ตอ้ งใช้ทหารหน้าที่พิเศษนี้ ตารวจก็ตอ้ งพึ่งพาพลซุ่มยิงเช่นกันโดยจะถูกบรรจุไว้ใน อัตราของหน่วยปฏิบตั ิการพิเศษSWAT(Special Weapons And Tactics) ประกอบทีมเช่นเดียวกับทหารคือ1พล ซุ่มยิงกับ 1พลชี้เป้ าทาหน้าที่สลับกัน เพื่อเป็ นคาตอบสุ ดท้ายเมื่อการเจรจาล้มเหลวและการส่ งทีมจู่โจมเข้าที่ หมายดูจะปลอดภัยน้อยกว่า เมื่อพิจารณาจากภารกิจ พลซุ่มยิงคือทหารที่แตกต่างจากหน่วยรบปกติ เป็ นหน้าที่พิเศษจริ งๆซึ่ งไม่อาจ เป็ นกันได้ทุกคน เขาสามารถปฏิบตั ิการได้ท้ งั เดี่ยวและเป็ นทีม ต้องมีความอดทนสู งสุ ด นอนแช่ปลักหรื อหมอบ ซุ่มท่ามกลางแสงแดดแผดเผาได้เป็ นวัน เคลื่อนที่ได้ชา้ และแนบเนียน ดัดแปลงสิ่ งต่างๆในภูมิประเทศเพื่อการ ซ่อนพรางได้เก่ง ใจเย็น รอบคอบและละเอียดละออเมื่อต้องเลือกอาวุธ กระสุ น ที่ต้ งั เมื่อถึงเวลาที่ตอ้ งยิงแล้ว จะต้องทาลายเป้ าหมายให้ได้ในนัดเดียว ต้องฆ่าให้ตายด้วยกระสุ นนัดนั้น เพราะนัดต่อไปอาจไม่มีโอกาสหาก ฝ่ ายตรงข้ามรู ้ที่ซ่อน เมื่อกระสุ นนัดเดียวเปลี่ยนสถานการณ์ในสนามรบได้ มันย่อมเปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองได้เช่นกันเมื่อ ถูกนามาใช้กบั ผูน้ าประเทศหรื อศัตรู ทางการเมือง ราฟาเอล ทรู จิลโลผูน้ าเผด็จการแห่งสาธารณรัฐโดมินิกนั อเมริ กากลาง เสี ยชีวติ จากการซุ่มยิงเมื่อปี 1961 ด้วยปื นจากการจัดหาโดยซีไอเอ เมื่อทาท่าว่าจะขวางหูขวางตา รัฐบาลสหรัฐฯขณะนั้น


กระสุ นนัดเดียวเช่นกัน)แต่พงุ่ มาจากหลายที่( ที่ปลิดชีวติ อดีตประธานาธิบดีคนที่35ของสหรัฐฯ จอห์น ฟิ ตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้ในวันที่ 22พฤศจิกายน 1963 ด้วยหัวกระสุ นขนาด 6.5 มหนัก.ม.160 เกรนจากปื นเล็กยาว แมนลิเคอร์ คาร์คาโนติดกล้อง-เล็งของลี ฮาร์ วี ออสวอลด์ หนุ่มสติเฟื่ องที่ไปยืนอยูใ่ นอาคารเท็กซัส สกูล บุค ดี โพซิทอรี่ ในบริ เวณดีลียพ์ ลาซา ดัลลัส เท็กซัส แต่ภายหลังปรากฏหลักฐานว่ากระสุ นสังหารนัดสาคัญที่ระเบิด สมองท่านประธานาธิ บดีกระจุยนั้นไม่ได้มาจากแหล่งเดียว ภาพยนตร์ ที่พยานถ่ายไว้น้ นั ทาให้สันนิษฐานได้วา่ น่าจะมี “พลซุ่มยิง” วางตัวอยูอ่ ีกอย่างน้อยก็สองที่ คือที่อาคารเดียวกันชั้นต่าลงมา และบริ เวณเนินหญ้าตรงจุดที่ รถเลี้ยวแล้วเหยือ่ หันข้างศีรษะให้เห็นชัดๆ ไม่วา่ กระสุ นนั้นจะเป็ นฝี มือของออสวอลด์จริ งๆ หรื อมีใครการลงขันจ้างมือซุ่มยิงเป็ นทีม การเสี ยชีวติ ของเคนเนดี้ได้ทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพลิกผันไปทั้งโลก เมื่อลินดอน เบนส์ จอห์นสันสาบานตนเป็ น ประธานาธิ บดีแล้วส่ งเด็กหนุ่มอเมริ กนั นับแสนเข้าสู่ สงครามเวียตนาม รบต่อกันมานานนับสิ บปี ทหารอเมริ กนั เสี ยชีวติ เกือบหกหมื่น บาดเจ็บพิการนับแสน ชาวเวียตนามทั้งเหนื อและใต้เสี ยชีวติ เป็ นล้านก่อนรวมประเทศ การซุ่มยิงจึงยังเป็ นยุทธวิธีที่ได้ผลตลอดกาล ความเปลี่ยนแปลงพลิกผันจากปฏิบตั ิการนั้นมากมายจนยากจะ ละเลย กองทัพของทุกประเทศจึงมีพลซุ่มยิงประจาการ มีหลักสู ตรเข้มข้นเพื่อคัดสรรผูส้ มัครรับการฝึ ก เพื่อเค้น เอาหัวกะทิจริ งๆมาทาหน้าที่ที่พลาดไม่ได้น้ ี เมื่อพิจารณาถึงความเป็ นจริ งในประวัติศาสตร์ เราจะพบว่าพระมหาษัตริ ยข์ องเราในอดีตก็ทรงทาหน้านี้ ด้วยพระองค์เอง เมื่อทรงใช้พระแสงปื นข้ามแม่น้ าสะโตงยิงมังสุ รกรรมา แม่ทพั พม่าที่ยกพลตามบดขยี้ตกช้าง ตายด้วยกระสุ นนัดเดียวจนหยุดการรุ กไล่


Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.